#โอมกินเตอร์ ตอนที่ 19 / 100% [24/06/2021]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 19 / 100% [24/06/2021]  (อ่าน 4413 ครั้ง)

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ   ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ 
 
 1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่ 
 
 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
 หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
 หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
 และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
 ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
 
 เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ 
 3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ 
 4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ 
 5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว 
 6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 
 7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
       7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
       7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
       7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
             - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ 
 8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง). 
 9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ 
 10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวปhttp://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป 
 11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
 
 บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
 นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป 
 12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด 
 13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ 
 14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 
 15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
 (1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
 (2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง ....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
 - ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
   (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
 - ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
 - ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
 - ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
 - ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail   
 16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข  17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
  เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ admin thaiboyslove.com.......................................                                                             
 วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7 วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย 
 
 
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2021 18:34:54 โดย GukakST »

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
เกมคือหนทางเดียวที่จะทำให้เข้าใกล้น้องเตอร์ คุงโอมคนกากจำต้องต้องพยายามอย่างหนักในการลากตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมเตอร์ แต่ดูท่าคุงโอมจะเป็นได้แค่ตัวถ่วงทีมนะ!

คุงโอม...หรือโอมรูปหล่อ พ่อรวย เรียนดีกีฬาไม่เลิศแต่เฟรนลี่เป็นที่หนึ่งดันตกหลุมรักรุ่นน้องในคณะของตัวเอง คุณสมบัติของเขานั้นน่าจะเป็นพระเอกของเรื่องได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าถ้ามันง่ายคุงโอมคงไม่ต้องรักข้างเดียวมาร่วมปีหรอก ทำไมน่ะเหรอ คำตอบมันง่ายมาก เพราะเขาน่ะเพอร์เฟ็กแต่กากไง กากทั้งความกล้าและการเล่นเกม!

น้องเตอร์...หรือเตอร์ รุ่นน้องที่แสนจะจืดชืด เรื่องเรียนจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ขยัน ตั้งใจ แต่ไม่เก่ง เจ้าหนูเตอร์ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยแม้แต่นิดเมื่อเห็นเพียงครั้งแรก หรือต่อให้หลายครั้งก็สามารถหลงลืมเด็กหนุ่มคนนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่...อย่าเข้ามาในโลกของเกมนะ เตอร์น่ะไม่เป็นรองใครหรอก!

เมื่อรุ่นพี่ที่เล่นเกมกากมาตกหลุมรักรุ่นน้องที่เล่นเกมเก่ง งานนี้สงสัยต้องตั้งใจเล่นเกมมากกว่าเรียนแล้วล่ะ

สวัสดีค่ะ กูกากคนเดิมเพิ่มเติมคือไม่มีจะกิน ก็เลยต้องมาขยันขันแข็งในการเขียนนิยายอีกครั้ง ว่าไปนั่น ฮ่าๆ ที่จริงแล้วที่หายไปก็เพราะว่าติดเกมหนักมากค่ะ นอกจากเกมแล้วก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ตัวเองจมอยู่กับเกมมากกว่านิยาย คล้ายว่าเล่นแก้เครียด เล่นไปเล่นมาติดเลยค่ะ ติดจนหายหน้าหายตากันไปนาน หวังว่านักอ่านที่น่ารักยังคงให้โอกาสนิยายเราอีกครั้งนะคะ

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักใสๆ อ่านเรื่อยๆ พอฆ่าเวลาได้ค่ะ ลองดูนะคะ...หวังว่ามันจะสนุกสำหรับผู้อ่าน

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
นี่คือหน้าแชตเกม... I dentity V

HRxCookkie : ส่งข้อความเสียง 6 วิ (รักเตอร์คนเดียวนะครับ ฮ่าๆ ...บ้าจริง เขิน)

HRxTher : ส่งข้อความเสียง 3วิ (เขินไรเมื่อคืนก็พูดตั้งเยอะ)

จังกึม : อร๊ายยยย ไม่ได้พี่อมต้องเป็นของฉาน

แสนซน : พี่อมเป็นของกูเถอะอีลอก

สาววายหมายเลข1 : กรี๊ด สาววายนิพพานแล้วค่า

บ้าบอที่สุด : เฮียคุกกี้หลายใจ!

HRxCookkie : ส่งข้อความเสียง 5วิ (อะไรที่เป็นเตอร์ก็เขินหมดอะ)

จังกึม : ไม่เขินน้องบ้างเหรอคะ เสียใจ

แสนซน : เขาจะเขินมึงทำไมอีบ้า

HRxTher : ส่งข้อความเสียง 4วิ (ให้มันจริงเถอะครับพี่โอม)

HRxCookkie : ส่งข้อความเสียง 5วิ (ไม่เชื่อเตอร์ก็มาดูพี่เขินที่ห้องพี่สิครับ)

มิลาน : โอ้ยยยย เต๊าะกันเกรงใจคนโสดด้วยค่ะ

HRxMos : ส่วนตัวกันเถอะพวกมึง

HRxWTF : เล่นจนพวกกูคิดจริงละ

HRxCookkie : ฮ่าๆ กูก็คิดจริงนะมึงไม่รู้เหรอ

[AH] Ning : เฮียมารวมตัวกันเยอะจัง

HRxMOs : หวัดดีหนิง

Gujack : แก๊งเฮียกาก

HRxJack : กากบนหัวมึ.งเหรอ

HRxTher : เอ่อใจเย็นๆ พี่แจ็ก

HRxDream : เออ กากบนหัวมึ.งเหรอ

นี่คือหลังจอมือถือ...

โอมนั่งอ่านข้อความที่กำลังดุเดือดขึ้นเพราะมีเด็กเกรียนบางคนส่งข้อความมาด่าแคลนที่เขาอาศัยอยู่ สัญลักษณ์ HRx เป็นอักษรย่อของคำว่า HERE บางคนอื่นก็เอามาผวนเสียงแบบหอหีบไม้โท

แต่ในขณะที่ทุกคนในแคลนกำลังเดือดดานโมโหไอ้คนที่มาว่าแคลนตัวเองอยู่ ชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของนามว่าโอมนี้กำลังนั่งยิ้มกริ่ม กดฟังเสียงเตอร์ที่ส่งเป็นข้อความเสียงมาให้วนไปวนมา และเพื่อให้เสียงนี้ยังคงอยู่กับเขาได้นานๆ เขาก็เลยตัดสินใจอัดเก็บไว้มันซะเลย!

เพื่อนอยากด่ากันเหรอ? เออ ด่ากันไปเลย โอมผู้นี้ไม่สนใจใครหน้าไหนแล้วทั้งนั้น เซฟเสียงเตอร์เสร็จก็นั่งอ่านข้อความเตอร์ที่คอยห้ามทัพรุ่นพี่และเพื่อนตัวเองไม่ให้รุมด่าไอ้เด็กเกรียนนั้น แต่ไม่รู้นะ ห้ามไปห้ามมาอีท่าไหนถึงได้ลงไปด่ากับเขาเฉยเลย

เอาเถอะ….เตอร์เป็นไงโอมก็ร้ากกกกกก

ต้องกล่าวกันก่อนว่าโอมกับเตอร์นั้นไม่ได้เป็นอะไรกัน จริงจริ๊ง เขาเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องที่อยู่คณะเดียวกันเท่านั้น แต่โอมมันอยากกินน้องเตอร์ ติดที่ไม่กล้าพอจะจับน้องกินนั่นเอง

โอมคนเก่ง (ประชด) ได้แต่เฝ้ามองน้องเตอร์ตาหวานมานานร่วมหนึ่งปีเต็ม ตั้งแต่น้องเข้าเรียนปีหนึ่ง เป็นน้องรหัสของเพื่อนสนิทนามว่ามอส ตอนแรกคิดว่าเออ น้องน่ารัก ก็เลยชอบมอง ดูเป็นเด็กเรียนเรียบร้อย ตากลมขนตางอน โอ้ย...สเป็ก มองไปมองมาสักพักเริ่มกลายเป็นแฟนคลับแบบเงียบๆ หลงรักเขา ชอบเขา แต่เก่งไง...เลยแต่แอบชอบอยู่ร่ำไป

ทั้งที่กลุ่มโอมและกลุ่มของเตอร์นั้นสนิทกัน โดยเฉพาะแจ็กเพื่อนโอมนั้นซี้กับดรีมที่เป็นเพื่อนเตอร์ เวลาว่างๆ จับกลุ่มนั่งเล่นเกมด้วยกันตลอด ตีปงตีป้อมเนี่ยงานประจำ งั้นก็น่าสงสัยใช่ไหมว่าทำไมใกล้ชิดกันแต่ไม่ได้พัฒนาความสัมพันธ์

ก็…จะไปพัฒนาอะไร โอมเล่นเกมเก่งจนเพื่อนเนรเทศทุกรอบอะ โฮ้ก...แค่คิดโอมก็เศร้าแล้ว

ไม่เข้าใจอะว่าทำไมถึงเล่นเกมไม่เก่งเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาสักที ก็เล่นมันทุกเกมที่เพื่อนเล่น พอเกมใหม่ออกแล้วน่าสนใจ เพื่อนๆ ก็จะกรูกันไปเล่นเกมนั้น เขาก็ตามไปเล่นด้วย เล่นไปเล่นมาโดนถีบหัวส่งเฉยเลย

ทุกวันนี้ก็ยังอยู่นอกวงโคจรของเพื่อนๆ ทุกคน พวกนัดเล่นเกมกันก็ไม่เคยนัดโอมเลยสักครั้ง ได้ปล่อยโอมเอาไว้อย่างโดดเดี่ยวและเดียวดาย มันเศร้า ชีวิตคุงโอมที่แสนจะหล่อเหลาและเพอร์เฟ็กคนนี้มันเศร้ายิ่งกว่านิยายเรื่องไหนๆ

ว่าแล้วก็ไปหัดเล่นเกมแป็บ...นี่ชีวิตต้องมาโฟกัสเรื่องเกมขนาดนี้ไหม?

เอาเถอะ ขอโฟกัสที่เกมจริงจังสักครั้งเพื่อหัวใจก็แล้วกัน เมื่อก่อนเพื่อนเล่นเกมก็แค่เล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไรกัน ตอนนี้ถึงขนาดตั้งแก๊งตั้งแคลนอะไรก็ไม่รู้ อารมณ์เหมือนกิลล์ เขาเองก็ได้รับการเชื้อเชิญให้เข้ามาอยู่ อืม...เพื่อนเชิญเหรอ?

เปล่า เชิญตัวเอง ตึ๊งโป๊ะ!

ปาดน้ำตาแป็บ เอาเป็นว่าโอมอันเชิญตัวเองเข้ามาอยู่ในกิลล์นี้กับเพื่อนๆ เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับน้องเตอร์ที่เขาหมายปอง และเพื่อจะเข้าไปอยู่ในวงโคจรของเหล่าคนเล่นเกมเก่งทั้งหลายให้ได้ ก็ต้องฝึกฝนและพยายามเล่นเกมให้เก่งๆ เหมือนคนอื่นเขา

โอมกดเริ่มเกม...

หนึ่งนาทีต่อมา…โอมตาย!

____100%____

เพิ่งกลับมาอัพ เปิดด้วยบทนำเบาๆ นะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้ข้าน้อยด้วยยย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2020 16:22:13 โดย GukakST »

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
ตอนที่ 1

ใครๆ ก็บอกว่าเขาหล่อ อ่านะ...เขินจัง โอมไม่สามารถปฏิเสธข้อเท็จจริงว่าเขาสูงยาวเข่าดี หล่อล่ำและมีเสน่ห์มากอย่างที่ใครๆ เขาว่ากัน ก็มันเป็นเรื่องจริงจะต้องปฏิเสธอะไรล่ะใช่ไหม ถึงแม้ว่ามันจะแอบเขินๆ หน่อยที่ต้องยอมรับข้อเท็จจริงนั้นต่อหน้าสาวๆ ที่เข้ามาขายขนมจีบก็เถอะ

โอมปฏิเสธหญิงสาวรุ่นน้องปีหนึ่งตรงหน้าที่เข้ามาขอจีบเขาแบบตรงไปตรงมา คนสมัยนี้นี่ใจถึงจนเขาเองยังแอบตกใจ ฝ่ายหญิงรุกจีบผู้ชายเองจนเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ว่ารายไหนต่อรายไหนก็ต้องกินแห้วไปตามๆ กัน

เพราะว่า...โอมไม่ได้ชอบผู้หญิง

ทำไมผู้ชายหล่อๆ ต้องเป็นเกย์กันหมด!

อันนี้โอมไม่สามารถตอบคำถามได้ เขานั้นครองโสดมาจะสองปีได้แล้วเพราะยังไม่เจอคนที่หัวใจเรียกร้องจนกระทั่งมาเจอเด็กคนหนึ่งเข้าเมื่อปีที่แล้ว เรียกว่ารักแรกพบก็คงไม่ผิดอะไร อืม..แค่เลี่ยนหน่อยๆ เท่านั้นเอง

เขาไม่ใช่คนโรแมนติดอะไรนะ แล้วก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นแบบนั้นได้ด้วยซ้ำ แต่เขารู้สึกกับเด็กคนนี้แบบวิ้งวับจริงๆ มันคืออะไรนะไอ้วิ้งวับเนี่ย ช่างมันเถอะ ปล่อยให้ความไร้สาระนั้นได้ไหลผ่านไปเพื่อเข้าเรื่องสำคัญเลยดีกว่า

ทำไมสุดหล่ออย่างโอมถึงไม่ได้คนที่หมายปอง?

คำตอบอยู่ที่....ตรงนี้ไง

“เฮ้ย! มึงจะยืนค้างเป็นรูปปั้นอยู่ตรงนั้นอีกนานไหมเพื่อน” มอสตะโกนทักทายเขาเสียงดัง ขณะที่เพื่อนทุกคนกำลังนิ่งกินข้าวและเขาเองถือจานข้าวเอาไว้

คือ...ข้างเพื่อนซี้เขามันคือคนที่เขาชอบยังไงล่ะ!

ใจเต้นแรงเกินไปแล้วพี่น้องเอ้ย!

“พี่โอมไม่มานั่งเหรอครับ” เตอร์ทักทายรุ่นพี่ยิ้มๆ

จุ้ๆ นะ โอมมักแปลกไปตอนเจอหน้าเตอร์ทุกทีเลยล่ะ!

“เอ่อ...นั่ง...นั่งครับนั่ง” โอมละลำละลั่กบอก

“จะนั่งก็เข้ามาสิ มึงจะยืนค้างเติ่งเพื่ออะไรวะ” วัตเพื่อนอีกคนของโอมบ่นขึ้น สีหน้าเครียดขมึงเพราะกำลังจดจ่ออยู่กับเกม

โอมเดินเข้าไปนั่งตรงที่ว่าง โต๊ะของเขารายล้อมไปด้วยเพื่อนสามคนและรุ่นน้องอีกสาม รวมเขาแล้วเท่ากับเจ็ด เป็นไง เขาคิดเลขเก่งอะดิ เขาเก่งทุกวิชานะไม่อยากบอก ที่ไม่เก่งมีอยู่อย่างเดียว...เก่งกับเตอร์ไง

ไม่แน่ใจว่าจะมีคนเข้าใจเขาไหม โอมสามารถระริกระรี้กับรุ่นน้องและคนอื่นๆ ได้หมดโดยไม่เกร็งไม่ประหม่าอะไรเลย แต่พออยู่ต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบดันประหม่าขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขาละเซ็งตัวเองจริงๆ

กลุ่มเพื่อนของโอมและเตอร์นั้นค่อนข้างจะสนิทกัน เนื่องจากมอสเพื่อนสนิทของโอมนั้นเป็นพี่รหัสของเตอร์ อีกทั้งแจ็กเพื่อนโอมอีกคนก็อยู่หอเดียวกับดรีมที่เป็นซี้ของเตอร์เช่นกัน และนอกเหนือสายสัมพันอันสนิทกันไปมานี้ก็ยังมีเรื่องของเกมเข้ามาเกี่ยว

เรียกได้ว่าทุกคนในที่นี้บ้าเกมเหมือนกันนั่นเอง และที่เหมือนกันมากไปกว่านั้นคือ...เล่นเกมเก่งกว่าเรียนหนังสือครับผม ควรภูมิใจไหม อ้อ ไม่เป็นไร โอมสามารถภูมิใจได้เพราะโอมไม่ได้เหมือนคนอื่นๆ เขา

ก็ทุกคนเล่นเกมเก่งน่ะ...ยกเว้นโอม

“งี้เราก็เป็นเซอร์เหมือนกันหมดไม่ได้อะดิพี่” โจ้กเพื่อนคนหนึ่งของเตอร์เอ่ยขึ้นมา สายตาของเด็กคนนั้นยังคงจับจ้องหน้าจอแล้วเล่นเกมอย่างจริงจัง

“ใช่ พวกมึงก็แบ่งๆ กันดิว่าใครจะเล่นเซอร์หรือฮัน ลองเล่นก่อนก็ได้ว่าชอบแบบไหน” มอสวางมือถือ ตักข้าวเข้าปาก โอมได้มองซ้ายมองขวาด้วยความสงสัยสุดหัวใจ เขาคุยเรื่องอะไรกันน้า

“เกมใหม่เหรอ” พอโอมถามวัตก็เงยหน้ามองโอมทันที

“ใช่ เกมใหม่ แต่กูว่าไม่เหมาะกับมึงหรอก” วัตว่า

“ทำไมอะ กูอยากเล่นมั้งอะ เล่นด้วยดิ” โอมกดออกเกมทำฟาร์มที่เล่นค้างเอาไว้แล้วเข้าเพลสโตร์

“หายนะแล้วมึง ใครแบกไอ้โอมได้นี่กูว่าชิงแชมป์โลกได้เลยอะ” วัตส่ายหัวเบาๆ บอกแล้ว...โอมเล่นเก่งจนเพื่อนๆ ต้องการตัวทั้งน้าน

“ฮ่าๆ พี่วัตว่าพี่โอมแรงไปนะ พี่โอมแค่เล่นพับจีไม่เก่ง อาร์โอวีก็ไม่ถนัดแค่นั้นเอง เร็คนาร็อคพี่โอมก็เล่นได้นะ” ที่เตอร์ว่ามานั้นคือเหล่าเกมที่โอมกระโจนลงไปเล่นกับเพื่อนๆ

“พี่ว่าน้องเตอร์ก็ว่าพี่ตอนนี้” โอมว่าบ้าง แต่เขาหัวเราะและก็ยิ้มกว้างจนน่าหมั่นไส้

ทำไม...เตอร์จะน่ารักทุกอิริยาบถในสายตาโอมมันผิดตรงไหนเหรอ!

“โอ๋ๆ ผมหยอกเฉยๆ มาลองเล่นกันดูก็ได้ครับพี่โอม มันชื่อเกม I dentity V พี่ลองหาในเพลสโตร์ดูนะ” เห็นมั้ย น้องเตอร์น่ารักที่สุดอะ นอกจากน่ารัก เล่นเกมเก่ง ยิ้มสวยโลกละลายเพราะไอร้อนแล้วเตอร์ยังใจดีมากอีกต่างหาก

ไม่รักได้ไง บ้าจริง!

โอมรีบหาเกมนั้นตามที่เตอร์บอกในทันที ระหว่างที่โหลดเกมเข้ามาในเครื่องอยู่เขาก็รีบซัดข้าวในจานจนมันเกลี้ยง ตามด้วยน้ำอึกใหญ่ๆ เสียงพูดคุยของเพื่อนเขาและเพื่อนเตอร์ดังคลออยู่ตลอด ก็เพราะพวกนั้นเล่นเกมกันอยู่ ที่พูดๆ กันนี่โอมไม่รู้เรื่องเลยสักเรื่องเดียว

ด้วยความที่แพทเกมมันค่อนข้างจะใหญ่ ถึงเน็ตแรงก็ยังต้องใช้เวลาอยู่อีกพอสมควร โอมก็เลยใช้เวลานี้ในการนั่งเท้าคางมองเตอร์เล่นเกม เตอร์จริงจังมาก แต่ก็ยังมีรอยยิ้มน้อยๆ ประดับอยู่บนใบหน้าไม่หายไปไหน เพื่อนโอมต่างหากที่ดูจะเครียดๆ กับตัวเกมจนบางทีก็ได้ยินเสียงสบถคำหยาบคายออกมา

“เกมมันเล่นไงนะ” พอเข้าเกม สมัคไอดีเรียบร้อยโอมก็เอ่ยถามขึ้นมาอีก เพื่อนและรุ่นน้องนี่ก้มหน้ามองจอกันหมดไม่มีใครสนใจใยดีเขาเลย ร้องไห้แป็บ...โอเคหายละ

“พี่ต้องรอแนะนำการเล่นก่อน จากนั้นพี่ก็เล่นบทแนะนำของมันให้หมดอะพี่” เตอร์ผู้ใจดีได้เอ่ยแนะนำเขาอีกแล้ว

“อ๋อๆ โอเค...” โอมก็เล่นตามที่เตอร์บอก

ทีนี้สภาพของคนทั้งโต๊ะมันกลายเป็นนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นเกมใหม่ล่าสุดกันอย่างจริงจัง จานข้าวว่างเปล่าถูกวางเอาไว้ไม่ได้รับการเหลียวแล แม้แต่โอมที่อยากแอบมองเตอร์ยังจริงจังกับการสอนเล่นของตัวเกมเลย

ก็ถ้าเล่นเป็นแล้วเขาจะได้ไปเล่นกับเตอร์ไง!

“โอ๊ะ ไอ้เชี่ยเตอร์จะเข้าเรียนแล้วมึง” เดี๋ยวววว จะรีบเข้าเรียนไปไหนง่ะ โอมรีบเงยหน้าขึ้นมองเตอร์ทันทีเพราะเขายังเล่นแบบฝึกหัดไม่จบเลย

“เออวะ เดี๋ยวพวกผมไปก่อนนะพี่” เตอร์รีบบอก

“เจอกันในดิสก็แล้วกันนะพี่” ดรีมซี้เตอร์บอกกับพี่ๆ จากนั้นรุ่นน้องทั้งสามก็ยกมือไหว้ก่อนรีบจากไป

“ดิสคืออะไรวะ?” โอมผู้ยังงงงวยกับระบบและเตอร์ที่ไปเอ่ยถามขึ้นมา

“ดิสคอร์ดไง มึงไม่รู้จักหรอกเพราะพวกกูเพิ่งจะสร้างกันเอง” มอสบอก ทั้งยังหันหน้าจอให้โอมดูแอพพลิเคชั่นในมือถือ

“มึงจะเล่นเกมนี้จริงเหรอวะโอม มึงรู้ไหมว่ามันเล่นยังไง”

โอมมองหน้าวัต “เหมือนดบดลไง ใช่มะ กูลองเล่นอยู่เนี่ย กูว่าเหมือนเลยนะ แต่กูก็ไม่เคยเล่นดบดลน่ะ”

“เออหน่าไอวัต มึงก็อย่าอะไรกับคนกากอย่างไอโอมมากนักเลย สงสารมันเถอะ ทุกวันนี้มีเพื่อนก็เหมือนไม่มี เล่นเกมกับเพื่อนไม่ได้สักกะเกมหนึ่ง ให้มันเล่นๆ ไปเหอะ ฝึกเยอะหน่อยก็เก่งแล้ว ส่วนดิสถ้ามึงจะเข้ามึงต้องตั้งชื่อตัวละครของตัวเองโดยมี HRx นำหน้าชื่อมึงด้วย ดูของกูเนี่ย” แจ็กยื่มือถือให้โอมดู

ถึงเพื่อนๆ จะชอบว่าชอบแซะที่โอมเล่นเกมไม่เก่งสักแค่ไหน แต่เพื่อนก็คือเพื่อน ทั้งสามยังคงช่วยโอมเล่นเกม แนะนำเกี่ยวกับตัวเกมต่างๆ ให้ ทั้งยังส่งลิงก์ดิสคอร์ดที่เพิ่งก่อตั้งกันสดๆ ร้อนๆ ให้กับโอมด้วย

โอมเพิ่งมารู้ว่าเกมนี้มันเข้ามาได้สักสามสี่วันแล้ว และก็เป็นที่สนใจของคอเกมมือถือเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้หนิ เขาเล่นมันแต่เกมทำฟาร์มกับเกมเลี้ยงสัตว์อะไรก็ไม่รู้ รู้แค่มันพอจะฆ่าเวลาไปได้บ้างเวลารอเพื่อนเล่นเกม ส่วนดิสคอร์ดที่สร้างขึ้นมาก็เพราะว่าเล่นเกมกับรุ่นน้องบ่อยมาก อยากจะสร้างแคลนที่สามารถเข้ามาพูดคุยเรื่องเกมกันโดยเฉพาะ รวมถึงเอาไว้คอลหากันตอนเล่นเกมด้วยกัน

อธิบายดิสคอร์ดและตัวเกมให้โอมฟังจบก็หมดเวลาพักกันพอดี พวกเขาต้องเข้าเรียนในคาบต่อไป และกว่าจะเลิกเรียนก็ล่อไปห้าโมงครึ่งเข้าไปแล้ว ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน ดูเหมือนเพลียอยากพักผ่อนอะไรงี้?

หึ...ไม่ใช่อะ กลับไปเล่นเกมต่างหาก!

โอมรู้มาจากเพื่อนว่าเตอร์เลิกเรียนตั้งแต่บ่ายสอง ฝ่ายนั้นคงกลับบ้านไปแล้วเรียบร้อย พอโอมลองเข้าไปดูในดิสคอร์ดแคลนตัวเองก็พบว่าเตอร์และเพื่อนอีกสองคนคอลกันอยู่ในปาร์ตี้หนึ่ง เขาอยากเข้าไปเสือกมาก ติดที่เรียนอยู่ เพราะงั้นทางที่ดีที่สุดคือกลับบ้านไปเล่นเกม ทีนี้ก็จะได้เข้าดิสคอร์ดได้โดยมีข้ออ้างในการเล่นเป็นใบเบิกทางเสือกแล้ว!

“สวัสดีคร้าบ....” โอมกดเข้าห้องที่มีเตอร์และเพื่อนๆ อยู่ จากนั้นคอนเน็คเรียบร้อยก็ส่งเสียงเข้าไปทักทาย

(สวัสดีครับ นั่นใครเอ่ย...พูดเพราะแบบนี้นี่ต้องเดาหน่อยแล้วล่ะ) โอมไม่แน่ใจว่าใครพูดประโยคนี้ขึ้นมา

(พี่โอม พี่เลิกเรียนแล้วเหรอ) แต่อันนี้เสียงเตอร์ โอมจำได้!

“ครับ พี่เลิกเรียนแล้ว แล้วก็หัดเล่นเกมแล้วเรียบร้อย พี่แจมด้วยได้ไหม” ปากถามแต่มือแอบสั่น คือได้คุยกันนุ้งเตอร์เลยนะเว้ย เขาตื่นเต้นจัง

(พี่โอมเหรอ ว้าว เตอร์เดาถูกเว้ยเฮ้ย เข้ามาดิพี่ เอาไอดีมา พวกผมเล่นเซอร์นะ) ใครคนหนึ่งบอกเขา คุ้นๆ ว่าน่าจะเป็นดรีมเพื่อนซี้ของเตอร์นะ

“พี่ก็เล่นเซอร์ แต่เล่นไม่เก่งนะ”

(ข้อนั้นผมรู้ ฮ่า) เตอร์ตอบกลับมาก่อนหัวเราะเสียงสดใส เอาเลย...หนูเตอร์จะหัวเราะเยาะพี่ยังไงก็ได้ พี่ยอมหมดเลยจ้า

จากนั้นโอมก็เอาไอดีเกมของตัวเองให้เตอร์แอดมาดึงเขาเข้าปาร์ตี้ ฝ่ายเซอร์จะมีด้วยกันทั้งหมดสี่คน และสามารถรวมตี้สี่เข้าสู่เกมไปเผชิญหน้ากับเหล่าฮันเตอร์ได้ โดยเกมนี้จะแบ่งผู้เล่นเป็นสองฝั่ง

คือฮันเตอร์ ผู้ล่า ที่จะต้องคอยตามล่าและฆ่าผู้รอดชีวิตให้ได้ก่อนที่ประตูจะออก หน้าที่ของฮันมีอย่างเดียวคือฆ่าให้ได้มากที่สุดก่อนประตูเปิด ฆ่าสามขึ้นไปเท่ากับชนะ ฆ่าได้สองเท่ากับเสมอ แต่ถ้าฆ่าได้แค่คนเดียวก็แพ้ไป ส่วนสกิวของฮันเตอร์นั้นจะมีทั้งหมดสองถึงสามสกิวขึ้นอยู่กับตัวละคร และวิธีใช้ก็ต่างกัน

ส่วนเซอร์ไวเวอร์นั้นคือผู้รอดชีวิต ที่ต้องทำในเกมคือหนีผู้ล่าให้ได้และอย่าถูกจับนั่งเก้าอี้ แล้วก็ต้องทำการถอดรหัสเครื่องที่อยู่ตามจุดต่างๆ ให้ได้ห้าเครื่องจึงจะสามารถเปิดประตูออกไปได้ หนีรอดมากกว่าสามคือชนะ สองเท่ากับเสมอและรอดคนเดียวหรือไม่รอดเลยก็แพ้ และการนั่งเก้าอี้ของเซอร์ไวเวอร์นั้นมีจุดสำคัญของมันอยู่คือ เมื่อถูกจับนั่งจะมีพื้นหลังสีเหลืองๆ เกิดขึ้นอยู่ในไอคอนของผู้เล่น หากเพื่อนเข้ามาช่วยทันก่อนแถบสีเหลืองนั้นจะเลยครึ่ง เมื่อโดนจับนั่งอีกครั้งก็จะยังไม่ตาย มีโอกาสเข้ามาช่วยใหม่ได้ แต่ถ้าหากช่วยไม่ได้ทันครึ่ง โดนนั่งอีกครั้งก็คือตาย ว่าง่ายๆ การจะนั่งได้ครั้งเดียวหรือสองครั้งนั้นขึ้นอยู่กับเพื่อนร่วมทีมเข้ามาช่วยทันครึ่งแรกหรือไม่

ดีเทลของเกมยังมีส่วนของเลเวลและเปิร์ค ซึ่งเป็นเหมือนสกิวติดตัวต่างๆ ทั้งฝั่งเซอร์และฮันต่างก็มีเปิร์กที่แตกต่างกันไป และตัวเปิร์กเองไม่นับเป็นสกิวติดตัว เพราะสกิวติดตัวนั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละอาชีพ

อารมณ์ของเกมจะคล้ายๆ การวิ่งไล่จับ ซึ่งถ้าจะไล่ให้เก่งหรือหนีให้ได้นั้นก็ต้อง...ฝึกครับผม!

โอมพยายามเล่นโดยจำวิธีการเล่นมากจากนักแคสเกมคนหนึ่ง เกมนั้นจะเป็นเกมในคอมแต่มันก็สามารถนำมาประยุคร่วมกันได้ แต่ถึงอย่างนั้น การควบคุมตัวละครให้หนีได้อย่างลื่นไหลโดยใช้แค่นิ้วโป้งควบคุมมันก็ยากนะ

“โอ้ยติดๆ” โอมบ่นออกมาขณะที่เขานำตัวละครที่ชื่อว่า สตีฟ อาชีพโจรวิ่งติดแผงไม้จนโดนตีเข้าไปหนึ่งจึ้ก ในเวลาไม่ถึงห้าวินาที

(พี่โอมพับไม้ๆ) เตอร์ส่งเสียงบอกและโอมก็ทำตาม แต่เขาดันพับไม้ผิดฝั่ง แทนที่จะวิ่งเลยไปก่อนแล้วค่อยพับเพื่อกันไม่ให้ฮันเตอร์เข้ามาตีตนเอง เขากลับพับฝั่งเดียวกับตัวเอง กลายเป็นขังตัวเองให้อยู่กับฮันและโดนฮันตีล้มไปในที่สุด

“ขอโทษ...ง่า พับยังไงนะ”

(พี่ต้องวิ่งเลยไม้ไปหน่อยหนึ่ง ให้ฮันเตอร์มันอยู่หลังพี่อะแล้วค่อยพับ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเข้าไปช่วยเอง) เตอร์บอกกับโอมอย่างใจเย็น

“ครับ ขอโทษนะ ถ่วงทีมเลย”

(ไม่เป็นไรพี่ หัดเล่นก็แบบนี้แหละ) เพื่อนเตอร์คนหนึ่งบอกกับเขา

(เดี๋ยวผมดึงพี่เสร็จพี่วิ่งออกไปทางขวานะ เดี๋ยวผมกันให้หนึ่งที พี่รีบเข้ากำแพงเลย โดดข้ามตรงที่เว้าๆ ไว้อะ)

“ครับๆ” โอมรีบขานรับน้องเตอร์ของตัวเอง

เตอร์เล่นตัวพยาบาลซึ่งมันสามารถรักษาตัวเองได้ ในขณะที่คนอื่นต้องวิ่งเปิดกล่องเพื่อหาเข็มฉีดยามารักษาตัวเอง เมื่อเตอร์วิ่งเข้ามาดึงโอมจากเก้าอี้ก่อนเฟตแรกได้ โอมก็วิ่งไปตามที่เตอร์บอก เขาบังคับให้ตัวละครเลี้ยวไปทางขวา จากนั้นกระโดดข้ามกำแพง ส่วนเตอร์โดนฮันเตอร์ตีไปหนึ่งทีก่อนวิ่งฉีกไปอีกทาง

(พี่โอมๆ มันตามพี่โอมไปนะ มันไม่เอาผมอะ) อยากบอกว่ามันไม่เอาน้องแต่พี่จะเอา ไม่ได้...พี่ตอบแบบนั้นไม่ได้!

“ครับๆ พี่จะหนีให้ได้นะ”

(ฮ่าๆ พี่โอมงุ้งงิ้งวะ) เพื่อนเตอร์แซว แล้วโอมก็อยากบอก ถ้างุ้งงิ้งแล้วเตอร์รัก พี่จะงุ้งงิ้งทั้งวันเลยน้องเอ้ย!

โอมพยายามจดจำสิ่งที่เกมมันสอนให้เล่นตอนแรก แล้วนำมาประยุคใช้ให้ได้มากที่สุด แต่ความยากของเกมคือการควบคุมตัวละครให้เดินไปในทิศทางที่ต้องการ เขาไม่ชำนาญเป็นอย่างมาก ตาก็เซ่อ เล่นก็กาก ขนาดพับจียังต้องวิ่งเข้าไปหาศรัตรูเพื่อยิงในระยะประชิดเพราะไม่สามารถบังคับให้เป้าตรงกับศรัตรูได้เลย สิบวินาทีต่อมาฮันเตอร์ก็สามารถตีโอมล้มได้อีกครั้ง

ตานั้นโอมตายเป็นคนแรก...

มันเล่นยากมาก ไม่เหมือนกับที่ตัวเองคิด ตัวเองน่ะคิดไปนู้นนี่นั่นแล้ว แต่ตัวละครที่ควบคุมยากมันไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันเลย น้องๆ ปลอบใจโอมเพื่อไม่ให้โอมคิดมากกับการหัดเล่นในครั้งแรก และพวกเขายังใจเย็นมากพอที่จะสอนให้โอมค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

ถ้าเป็นเพื่อนเขาน่ะเหรอ...มันเตะออกตี้ไปแล้ว!

ประมาณสามทุ่มเพื่อนทั้งสองของเตอร์ก็ขอตัวไปกินข้าวและทำการบ้านให้เรียบร้อยก่อน ส่วนเตอร์ยังคงอยู่ในห้องนั้นไม่ได้ไปไหน แต่ก็ไม่ได้เล่นเกมแล้ว โอมยังคงหัดเล่นอยู่โดยสิงดิสคอร์ดห้องเดียวกับเตอร์

นี่เป็นโอกาสที่ได้คุยกับเตอร์สองต่อสองเลยน้า

“ทำไมพี่เล่นไม่เก่งเหมือนเราเลยอะ” โอมบ่นเซ็งๆ เขายังพยายามหัดหนีฮันเตอร์อยู่

(พี่โอมต้องใจเย็นๆ เกมแบบนี้มันต้องฝึกฝนอะพี่ พวกผมเล่นเดดบายเดย์ไลท์มาก่อนก็เลยเอามาปรับได้ ส่วนพี่ยังใหม่กับเกมแบบนี้อยู่ ก็ไม่แปลกที่พี่จะเล่นไม่คล่องล่ะนะ พี่โอมอย่าคิดมากล่ะ เล่นไม่เก่งเดี๋ยวผมสอนเองเนอะ) เตอร์บอกมาอย่างอารมณ์ดี ดูไม่ได้หัวร้อนหัวเสียอะไรกับความกากของเขาที่ทำให้น้องๆ ไม่สามารถเอาชนะฮันเตอร์ได้ ไม่สิ...เรียกว่าเขาตายอยู่คนเดียวมากกว่า

“ถ้าเล่นเก่งแล้วจะเลิกสอนหรือเปล่า...” โอมถามออกไปเบาๆ

(ถ้าเล่นเก่งแล้วพี่อาจไม่ต้องการผมก็ได้นะ)

“ไม่จริงอะ ต้องการตลอดแหละ” โอมเผลอหลุดปากออกไป

(อ่า...หยอดเก่งนะพี่อะ)

“ไม่เก่งหรอก ถ้าเก่งก็มีแฟนไปแล้วดิ”

(อย่ามา พี่มอสบอกสาวๆ ขายขนมจีบพี่ทุกวันแต่พี่ปฏิเสธหมด เอ...ปฏิเสธหมดหรือแอบเอาไปกินโดยไม่บอกเพื่อนกันน้า) เตอร์หยอกกลับตามประสารุ่นพี่รุ่นน้อง แต่คนคิดไม่ซื่อกลับรีบตอบอย่างร้อนรน

“บ้า ไม่มี...ไม่มีจริงๆ พี่มีเตอร์คนเดียว” และความร้อนรนของเขาก็ทำให้ทุกอย่างนิ่งงัน....

อืม...เหมือนได้ยินเสียงยุงบินผ่าน

…………100%…………

สวัสดีค่า นุ้งไก่เอง หายไปนานเกินอาทิตย์/ก้ยังไงกัน แงง ขอโทษนะคะ งานเยอะมากๆ เลยล่ะค่ะ ช่วงนี้นุ้งไก่จะมาอาทิตย์ละตอนนะคะ ไว้แต่งได้เยอะจะมาถี่กว่านี้ ห่างหายกับการเขียนไปนาน ไม่มั่นใจตัวเองจัดๆ เลยค่ะ หากเขียนได้ไม่ดีก็ออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า

ปล.ลืมเลยด้วยว่าอัพนิยายในนี้ต้องทำยังไง แฮ่ๆ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
....ตอนที่ 2 [100%]....

หลังจากโอมเผลอหลุดพูดออกไปแบบนั้นทั้งสองต่างก็เงียบไป เรียกว่าหาคำพูดตัวเองต่อจากนี้ไม่ถูก โชคยังดีที่โอมรู้จักใช้เสียงหัวเราะอันฝืดฝืนของตัวเองผ่านพ้นความเงียบงันนั้นมาได้ แต่ว่ากันตามตรง หลังจากแยกย้ายกันไปนอน โอมก็นอนตาค้างมันทั้งคืน

และนี่คือสภาพของคนอดนอน...

“มึงเดินดีๆ หน่อยโอม หิ้วปีกมึงนี่ก็หนักพอแล้ว ยังจะมาเดินไปหลับไปอีก” มอสที่รับหน้าที่แบกหามคนอดนอนอย่างโอมอดบ่นไม่ได้ เขาต้องให้โอมใช้ไหล่ของตนเป็นที่ประครองร่างใหญ่ๆ ของมันเนี่ย

“ก็กูง่วง”

“ใครใช้ให้มึงอดนอน หรือว่าเกมมันสนุกมากจนเล่นแม่งทั้งคืนเลย” แจ็กสุดหล่อถามทั้งที่ยังมองภาพของสาวน้อยในชุดนอนไม่ได้นอนในเฟซ

“กูเห็นมันอยู่ในดิสกับเตอร์” หลังจากวัตบอกแบบนั้น สายตาของเพื่อนอีกสองคนก็มองไปที่โอมอย่างไว

แหม...พร้อมเพรียงเหมือนตอนจะซ้ำเติมอะไรกูสักอย่างเลยนะ!

“ถามจริง...” มอสมองแบบมีเลศนัย เพราะมอสพอรู้อยู่ว่าโอมไม่ได้ชอบผู้หญิง ถึงลุ๊คจะดูเจ้าชู้เจ้าสำราญและหว่านเสน่ห์ไปทั่ว แต่ดูได้เลยมันไม่เอาสาวๆ ที่ไหนมาทำเมียสักคน

“ไม่ได้อยู่ดึกขนาดนั้น กูนอนไม่หลับเองแหละ คิดๆ ไรนิดหน่อย”

“คนอนามัยสุดอย่างมึงนี่คิดอะไรได้ดึกดื่นปานนั้นวะ ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายของใครสักคน” โอมอยากบอกแจ็กละเกินว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายของตนเองนี่แหละ แต่เอาเถอะ....ไม่พูดดีกว่าเดี๋ยวเพื่อนจะช่วยเขาตอกย้ำและซ้ำเติม

โอมไม่ตอบคำถามของเพื่อนอีกนอกจากเดินหาวไปตลอดทางจนขึ้นอาคารเรียน ซึ่งระหว่างทางเขาก็ส่งยิ้มง่วงๆ ให้คนที่เข้ามาทักทาย ไม่ว่าจะรุ่นน้องรุ่นพี่หรือเพื่อนๆ กันที่เป็นผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ โอมผู้นี้แจกจ่ายความเป็นมิตรให้ทุกคนเสมอจนชิน ใครทักใครหยอดใครแซวนี่โอมไม่พลาดที่จะตอบโต้เลยแม้แต่คนเดียว

แค่วันนี้ตอบโต้ได้เชื่องช้าหน่อยเท่านั้นเองอ่านะ

HRxTher
พวกพี่เลิกเรียนกันกี่โมงหนิ @everyone

ประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่งมีแจ้งเตือนจากดิสคอร์ด โดยเตอร์ที่เป็นคนแท็กหา โอมกดเข้าไปดูทั้งที่ตอนแรกแค่เลื่อนแถบบนจอมาดูเฉยๆ ว่าเตือนอะไร แต่พอเห็นชื่อเตอร์เท่านั้นเขาก็รีบเข้าดิสคอร์ดอย่างไวเพื่อจะไปตอบข้อความให้เตอร์ทั้งที่ตัวเองเรียนหนังสืออยู่

ทว่ามีคนไวกว่าโอม นั่นคือแจ็กเพื่อนของเขาที่ได้ตอบเตอร์ไปแล้วเรียบร้อยว่าเลิกบ่ายสาม ส่วนโอมที่ทำได้แค่นั่งอ่านก็รับรู้ว่าเตอร์นั้นเลิกเรียนแล้วเป็นที่เรียบร้อย พวกน้องๆ จะกลับหอพักกันเลยแล้วค่อยให้เจอกันตอนลงแรงก์เย็นนี้ ไม่ก็ถ้าพวกรุ่นพี่ว่างค่อยมาเล่นกัน

สรุป....คนเก่งอย่างโอมไม่ได้คุยเลยแม้แต่ประโยคเดียว!

โคตรเศร้า โอมอยากป้องปากตะโกนว่าเศร้าเว้ย แต่ทำไม่ได้ ถ้าทำอาจารย์น่าจะไล่ให้ออกไปให้พ้นๆ จากคาบของแก ซึ่งโอมไม่สามารถขาดชั่วโมงเรียนได้ ไม่ใช่ขาดบ่อยจนหมดแล้วหรอกนะ แค่ไม่อยากให้ประวัติการเรียนอันดีงามของตนเองนั้นด่างพร้อยเท่านั้น

นี่พระเอกเรื่องนี้เนิร์ดไปปะนะ?

หรือพระเอกเรื่องนี้มันเคะน้อยๆ กันแน่?

ไม่รู้ โอมไม่สนใจ นอกจากจะรีบไปหาข้าวกินแล้วเขายังต้องมานั่งเล่นเกมอีกด้วยนะ ไม่ต้องถามว่าใครเชิญเล่น เช่นเคย...โอมเชิญตัวเอง คือเพื่อนสามคนนี่จับตี้กันลงแรงก์ไปแล้ว มันน่าจะได้อีกหนึ่งที่ถูกมะ แต่เพื่อนไม่ยอมให้เขาลงเพราะคิดว่าถ้าเขาลงจะกลายเป็นตัวถ่วงทีมเสียเปล่าๆ โอมจึงเล่นคนเดียว ตายคนเดียว และแต้มแรงก์ไม่ขึ้นอยู่คนเดียว

HRxCookkie
ทำไมเกมบ้านี่มันเล่นยากจังโง้ยยยยยยย

โอมไม่ได้แท็กใคร แค่อยากระบายในดิสคอร์ดแทนอาการหัวร้อนจากการเป็นเครื่องสังเวยให้เพื่อนๆ ในปาร์ตี้ที่เขาไปสุ่มเล่น ไม่รู้ทำไม ฮันเตอร์ไล่เขาคนแรกตลอด แถมยังไล่เขาทั้งเกมอีกต่างหาก คนอื่นๆ นี่ฮันเตอร์ไม่สนใจใยดีบ้างเลยงั้นเหรอ ไอ้โอมเองก็หนีฮันได้ไม่เกินสิบวิ เอะอะล้ม เอะอะล้ม อนาถใจ

HRxTher
@HRxCookkie พี่โอมใจเย็นๆ ถ้าหัวร้อนผมแนะนำว่าควรพักก่อนนะ

แต่ไม่ถึงสิบวิที่โอมบ่นในดิสคอร์ด เตอร์ก็รีบแท็กเข้ามาตอบเขาอย่างไวจนโอมนี่แอบตกใจ เพื่อนเขากำลังเล่นเกมอย่างตั้งใจส่วนโอมเหรอ ตาโตวาวพร้อมยังยิ้มแก้มบานให้กับเตอร์ที่ใส่ใจเขาอีก

HRxCookkie
พี่พยายามใจเย็นแล้วน้า พยายามเล่นแบบที่เตอร์บอกแล้วด้วย แต่พี่ชอบวิ่งติดไม้ ติดกำแพงติดต้นไม้อะไรก็ไม่รู้อะ แถมยังโดนฮันไล่คนเดียวทั้งเกมอีก

HRxTher
ฮันเตอร์มันไล่คนแรกตลอดแหละพี่ ไล่จนกว่าจะตายอะ นอกจากพี่จะจู๊คจนหลุดได้เอง

HRxCookkie
งั้นก็ไม่รอดต่อไป

HRxCookkie
T_T

HRxTher
เข้าตี้ 4 มาพี่ เล่นกับผมมา

โอมรีบกดหาห้องที่สี่อย่างไว ในนั้นมีแค่เตอร์คนเดียวที่ปิดไมค์อยู่ เขาเข้าไปในห้อง ส่งเสียงทักทาย อีกฝ่ายก็เลยเปิดไมค์มาคุยด้วย ทว่าเสียงรอบด้านของโอมค่อนข้างดัง เจ้าตัวยังอยู่ในโรงอาหารของมหา’ลัยอยู่ โอมตัดสินใจเดินออกไปจากกลุ่มโดยบอกเพื่อนเอาไว้ว่าจะไปนั่งเล่นที่อื่น แต่เพื่อนผู้แสนดีทั้งสามก็หาได้สนใจโอมไม่ ก็ตั้งใจเล่นเกมอยู่อะไม่มีเวลามาใส่ใจ

(พี่เล่นได้แป๊บเดียวใช่ปะ เข้าอีกทีกี่โมงอะ) เตอร์ส่งเสียงถามโอม

“อีกครึ่งชั่วโมงน่ะ”

(ได้สักสี่ห้าตามั้ง มาๆ เล่นกับผมดีกว่า เดี๋ยวผมแบกพี่เองน้า) เสียงของเตอร์ทำให้โอมหุบยิ้มไมได้เลย

“คร้าบ เข้าเกมอยู่น้า”

ตอนแรกก็หัวร้อนจนไม่อยากจะเล่นแล้วล่ะ แต่พอเตอร์ชวนมา ใจมันก็เข้าไปเล่นเกมด้วยแล้ว ดังนั้นกายหยาบก็ต้องตามหัวใจไปอย่างช่วยไม่ได้ เตอร์ทำให้การเล่นเกมยากๆ อย่างนี้สนุกสนานมากขึ้น เวลาที่โอมล้มเร็วเตอร์ก็จะหัวเราะเบาๆ แล้วบอกว่าตนกำลังวิ่งงงงง มีการลากเสียงยาวๆ ให้โอมได้รู้สึกว่าตนไม่ได้ถูกทอดทิ้ง นี่เกมหรือชีวิตจริงนะ?

เตอร์คอยไกด์ไลน์ให้โอมตลอดระยะเวลาที่เล่นด้วยกัน เริ่มเกมมาให้โอมย่อตัวเอาไว้ แล้วก็คอยบอกว่าต้องเล่นยังไง วิ่งไปทางไหนหรือว่าถอดรหัสตรงไหนยังไง พอโอมเล่นกับเตอร์แล้ว เขาก็ไม่ได้ตายเป็นคนแรกๆ โอมหนีฮันไม่เก่งแต่ก็เริ่มที่จะซ่อนตัวจากฮันเตอร์ได้ดีขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยเขาก็เริ่มตายเป็นคนที่สองหรือสามแทน

“เดี๋ยวพี่ต้องเข้าเรียนแล้ว เตอร์จะอยู่ในดิสต่อปะ?” โอมกดออกจากเกมมาแล้วเพราะว่าได้เวลาเข้าเรียน

(อยู่พี่ ผมนั่งเล่นเกมไปฟังเพลงไปนี่แหละ พี่ไปเรียนเถอะ เลิกเรียนแล้วมาลงแรงก์กับผมก็ได้ เดี๋ยวผมแบกพี่ให้แรงก์สูงๆ เลยดีมะ พี่จะได้เอาไปขิงใส่พี่วัตได้บ้าง) โอมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวขณะที่ฟังเตอร์พูด

“อืม...แบกเก่งนะเรา”

(ไม่เก่งหรอก แต่ถ้าเทียบกับพี่ผมก็เก่งอยู่น้า)

“หมั่นไส้อะ”

(ฮ่าๆ หมั่นไส้ผมเดี๋ยวผมไม่แบกนะพี่ พี่ต้องเอ็นดูผมเยอะๆ แล้วก็เลี้ยงหนมผมด้วยรู้เปล่า)

“เลี้ยงวันนี้เลยกินมะ”

(ไม่เอาอะ ผมขี้เกียจออกจากหอแล้ว ไว้พรุ่งนี้ดิ พรุ่งนี้ถ้าผมจำไม่ผิดพวกพี่น่าจะเลิกเวลาใกล้ๆ ผมนะ)

“เราเลิกกี่โมง”

(ผมเลิกบ่ายสองอะพรุ่งนี้)

“พรุ่งนี้พี่ก็เลิกบ่ายสอง งั้น....ต้องตอบแทนอาจารย์เตอร์สินะ”

(แน่นอนครับคุงโอม ฮ่าๆ เรียกแบบนี้โดนตีปะเนี่ย) ใครมันจะกล้าตี โอมได้แค่คิดในใจพร้อมรอยยิ้มกว้างจนเต็มแก้ม

“ตีไม่ลงหรอก” แต่ฟัดลงแน่ๆ ข้อนี้ก็ได้แค่เก็บไว้ในใจเช่นกัน

(ดีแล้ว อย่าตีผมเลย ผมออกจะบอบบางอะเนอะ ส่วนพี่เข้าเรียนได้แล้วครับ)

“ฟังเพลงด้วยละกันนะ เดี๋ยวพี่ปิดไมค์เอา”

(เค~)

“ไปไหนมาวะมึง” มาถึงห้องเรียนมอสก็เอ่ยถาม โอมกำลังเก็บหูฟังให้ดูเรียบร้อยไม่เด่นจนอาจารย์หันมาเห็นแล้วด่าเอา

“ไปเล่นเกมมา”

“จริงจังปะ?” แจ็กเงยหน้ามองงงๆ

“ไปให้ไอ้เตอร์แบกมาอะดิ กูเห็นอยู่ในดิส” วัตเสือกรู้ดีขึ้นมาซะงั้น

“มึงนี่เล่นเกมยังว่างไปส่องดิสอีกนะ” โอมผลักหัวเพื่อนเบาๆ ด้วยความรักและหมั่นไส้

“ก็ต้องดูแลดิสปะวะ ว่างก็เข้าๆ ไปดู เนี่ย มึงยังสิงดิสอยู่ในห้องเดียวกับเตอร์อยู่เลย” วัตมีการเปิดหน้าจอให้เพื่อนดูอีก มอสอมยิ้ม ส่งสายตาล้อเลียนโอมอยู่ในทีจนโอมต้องถลึงตามอง

“ก็ฟังเพลง” โอมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เขานั่งลง ตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือเหมือนทุกๆ คาบที่เขาทำ

ระหว่างนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเตอร์ตั้งใจหรือว่าเผลอตัว เพราะเตอร์กำลังร้องเพลงตามเพลงที่เปิดเอาไว้ฟังเล่นๆ ตอนแรกโอมก็ไม่สนใจจะฟังเพลงที่เตอร์เปิดสักเท่าไหร่หรอก เรื่องเรียนมันสำคัญที่สุด แต่พอเตอร์ร้องเพลงแบบนี้ บอกตรงๆ...เมื่อกี้จารย์ว่าไรนะ?

เอาแล้ว บทเรียนลอยออกจากหัวของโอมแล้วเป็นที่เรียบร้อย สายตาจับจ้องไวท์บอร์ดทว่าในหัวกำลังลอยล่องด้วยเสียงร้องเพลงของเตอร์ มันเป็นเรื่องแปลกนะ เวลาที่ชอบใครสักคนน่ะ ต่อให้คนคนนั้นทำอะไรก็อยากจะดูอยากจะเห็นอยากจะได้ยินมันไปเสียหมด แล้ว...มันก็ดีต่อใจไปทุกอย่างเลย

กว่าจะดึงสติมาตั้งใจเรียนและฟังเสียงเตอร์ไปด้วยกันได้เขาก็แทบจะตามบทเรียนไม่ทัน นี่ถ้ามอสไม่สะกิดโอมก็ยังคงนั่งฟังเสียงเตอร์เพลินไม่ตั้งใจเรียนอยู่ดี ช่วยไม่ได้นะ แอบชอบมาตั้งนานแล้วนี่นา เพิ่งจะได้มาใกล้ชิดกันแบบนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ใกล้เตอร์มากขึ้นไปอีก

ช่วงท้ายชั่วโมงอาจารย์สั่งงานอย่างกับมีเวลาให้ทำทั้งชาติ ทั้งที่เวลาทำมีไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ด้วยซ้ำ โชคยังดีได้ทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม แถมอาจารย์ยังให้รวมกลุ่มกันเองโดยไม่มีการสุ่มจับฉลากอะไร

แต่ว่า...เพื่อนโอมแต่ละคนดูหน่วยก้านดีจ๊าดดดดด

สงสัยงานกลุ่มทำคนเดียวอีกแหงแซะ!

“รอบนี้กูไม่ทำคนเดียวแน่ๆ” โอมรีบพูดทันทีที่อาจารย์เดินออกจากห้องเรียนไป

“เรื่องงานแล้วมึงรีบออกปากเลยนะ งั้นมึงก็แจงงานมาจะให้พวกกูทำไรก็บอก” มอสว่ายิ้มๆ ส่วนในมือนั้นกำลังกดเข้าดิสคอร์ดเพื่ออ่านข้อความต่างๆ

“เดี๋ยวกูส่งให้ในไลน์แล้วกัน แล้วพวกมึงก็ต้องทำงานให้ทันด้วยนะเว้ย”

“คร้าบคุณโอม” แจ็กพูดทั้งที่ตายังไม่ละออกจากหน้าจอมือถือ มองแต่โตนม สงสัยมันอยากจะมีอย่างนั้นบ้างแต่แม่ไม่ได้ให้มา!

“โหลๆ น้องเตอร์ร้องเพลงเพลินเลยนะ” โอมหันไปมองมอสทันที เล่นเข้ามาในตี้แล้วทักเตอร์แบบนี้ได้ไง เขาฟังเตอร์ร้องเพลงอยู่นะเว้ยเนี่ย!

(อ่าว เชร้ดดดดดผมลืมปิดไมค์ พี่โอมอยู่ปะเนี่ย โอย....มุดดินหนีแป็บ) ดูท่าคนฝั่งนั้นจะลืมปิดไมค์จริงๆ

“หนีไม เพราะออก ฟังเพลินเลยเนี่ย” คราวนี้มอสหันมามองหน้าโอมบ้าง โอมก็ทำหน้าแบบว่าอะไร...ทำไมมีไร

“ที่มึงเหม่อตอนนั้นนี่....”

“แฮ่มๆ แค่ก...ลมติดคอ” โอมส่งเสียงกระแอบเสียเวอร์เพื่อห้ามเพื่อน

“ลมหรือตีนนะโทษที” วัตถามได้หน้านิ่งมาก

“คนนี้น่าวะมึง สอยมาดีมะ” ส่วนไอ้แจ็กก็ม่อไม่ดูเวลาเล้ย

“เฮ้อ....กูกลับบ้านละ เบื่อพวกใช้หัวล่างในการใช้ชีวิตวะ”

“มึงไม่เคยได้ใช้หัวล่างมึงอะดิไอ้โอม หรือว่า...มึงมันล่มปากอ่าววะ แน่เลย มึงเลยไม่มีใครสักที เอางี้กูพามึงไปเก็บเกี่ยวประสบกามเอาปะ กูมีที่ดีๆ รับรองเลยว่ามึงจะต้องได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดแน่นอน” แจ็กร่ายมาเป็นชุด จนโอมนี้ปั้นหน้าไม่ถูกเลย แต่ที่ทำถูกคือการเอาหลังเท้าปะทะเข้าไปที่ก้นของไอ้แจ็กตัวดี

“ไปคนเดียวเหอะ กูจะอยู่กับเตอร์”

“โอม...”

“ไรวะ”

“มึงไม่ได้ปิดไมค์” สิ้นคำมอสเท่านั้นแหละ โอมและมอสก็มองหน้ากันนิ่งๆ แจ็กนิ่งตามส่วนวัตมองทุกคนสลับกัน

“กูกลับบ้านล่ะ” ไม่อยู่ละโว้ยยยยยย ปิดไมค์ด้วย แม่ม...ชีวิตกูช่างอนาถจริงๆ เลย

เมื่อคืนก็เผลอ วันนี้ก็เผลอ นี่ถ้าคุยกันมากกว่านี้จะเผลอมากกว่านี้หรือเปล่า ไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่เลย แล้ว...เตอร์จะขยาดเขาไหมนะ การที่เตอร์มารู้ว่ารุ่นพี่คนนี้คิดไม่ซื่อมันจะทำให้เตอร์ถอยห่างออกไปหรือเปล่า

ในสายของทั้งสองยังคงมีเสียงเพลงดังคลออยู่เบาๆ ไม่จางหาย จากเพลงนี้ไปเพลงนั้น จากเพลงนั้นก็เปลี่ยนไปอีก ทว่านอกจากเสียงเพลงแล้วก็ไม่มีเสียงสนทนาอะไรหลังมอสบอกว่าพวกเขาจะกลับกันก่อน เตอร์ตอบแค่ครับ

โอมเห็นว่าเตอร์ยังอยู่ในดิส เห็นด้วยว่าเตอร์ปิดไมค์ไม่ต่างจากเขา แต่โอมก็ไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี เขายังใจเต้นแรงกับการเผลอหลุดปากบอกเพื่อนไปทั้งที่ไม่ได้ปิดไมค์แบบนั้น ถ้าเตอร์คิดว่านี่คือการหยอกเล่นมันก็คงดีอย่างที่เตอร์จะไม่อึดอัดแล้วหนีไป ข้อเสียมันก็แค่...มีความเป็นไปได้ยากมากขึ้นกับการขยับความสัมพันธ์

ระหว่างนั่งรถกลับคอนโด โอมกดเข้าไปในเกมแล้วเลื่อนดูหน้าแชตของเกม มันเต็มไปด้วยข้อความเชิงหาแฟน หาตี้หรืออะไรที่โคตรจะไร้สาระ โอมเล่นแต่เกมทำฟาร์มเลยไม่คุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้เท่านั้น แต่นั่นไม่ได้สำคัญหรอก...

หน้าแชตเกม

HRxCookkie : คิดถึงเสียงเตอร์จัง

(คิดถึงผมก็บอกกับผมตรงๆ สิ ไม่เห็นต้องพิมพ์แชตในเกมเลย...) ยังไม่ทันได้หายใจให้ทั่วท้องหลังส่งข้อความเข้าสู่แชตเกม เตอร์ที่ปิดไมค์อยู่ก็ดัน...พูดกับโอมแบบนี้

HRxCookkie : ใจสั่นหมดแล้ว!

และรู้ทั้งรู้ว่าเตอร์จะเห็น แต่...ยั้งมือยั้งใจในการพิมพ์ไม่ทันเลย

....100%....

สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนักอ่านที่น่าร้ากกกทุกคนค่า ขอให้ปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมานะคะ เพราะไก่ก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน ขออภัยด้วยที่อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้มาอัปนิยายเลย เพราะมัวแต่ปาร์ตี้ยาวๆ ช่วงวันหยุด บอกตามตรง การก๊งติดต่อกันเกือบอาทิตย์นี่กินพลังงานไม่น้อยเลยทีเดียว แฮ่ๆ ดูขี้เมาเลย

หวังว่าตอนนี้จะทำให้นักอ่านยิ้มมุมปากกับความน่ารักของคู่นี้ได้บ้างนะคะ แล้วไว้ว่างๆ จะเอาเสียงคุณโอมบอกรักเตอร์มาฝาก ติดได้ที่เพจ Gukak นะคะ ^^

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
....ตอนที่ 3 [40%].....

“เล่นเกมกับเตอร์ทั้งคืนนี้พัฒนาขึ้นไหม” วัตถามในตอนเช้าที่พวกเขาเจอหน้ากัน โอมมองหน้าเพื่อนตัวเองด้วยสายตาที่...ลุกลี้ลุกลนสุดๆ ไอ้นี่มันว่างมานั่งส่องดิสหรือไง ไหนว่าติดเกม แล้วไมไม่เล่นแต่เกมวะ

“แน่นอนอยู่แล้ว” โอมก็พูดไปงั้น เตอร์ยังคงแบกโอมลงแรงก์อยู่ร่ำไป แม้จะเล่นด้วยกัน ฝึกด้วยกันแค่ไหนเขาก็พัฒนาขึ้นได้ช้ามากๆ ดีหน่อยที่ตอนนี้วิ่งไม่ติดอะไรแล้ว แต่ยังวิ่งมองหลังไม่ได้

เตอร์บอกว่าเกมนี้สำคัญคือการวิ่งแล้วมองหลังดูฮันที่ตามมาไปด้วย จะได้หลบการตีของฮันเตอร์ได้ถูก เวลาโอมตาย โอมก็คอยไปดูเตอร์เล่นต่อเพื่อจะได้เอามาปรับใช้กับตัวเอง แต่เขาก็ยังทำไม่ได้ เอาเป็นว่าวิ่งไม่ให้ติดไม้ติดหินได้ก็พอแล้วในตอนนี้

แล้วนอกจากลงแรงก์กับเตอร์จนถึงสองทุ่ม เล่นโหมดธรรมดาต่อจนถึงสี่ทุ่ม โอมก็ยังคงสิงดิสเพื่อฟังเพลงกับเตอร์ขณะที่ตัวเองต้องแจกแจงรายงานให้เพื่อนๆ ได้ทำ เรื่องเรียนโอมมักจะไว สามารถเคลียร์หน้าที่ให้เพื่อนๆ ได้โดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผิดกับเวลาเล่นเกมอย่างกับคนละคน แล้วพอเคลียร์งานแล้วเขาก็สิงดิสกับเตอร์ต่อจนกระทั่งต่างฝ่ายต่างก็หลับกันไป ตื่นเช้ามาทั้งโอมและเตอร์ยังคงอยู่ในห้องนั้นไม่หายไปไหน

“แล้วไอ้ดรีมกับโจ้กมันไม่เล่นเซอร์กับเตอร์อ๋อวะ โอมมันถึงไปสิงอยู่กับเตอร์แค่สองคน” แจ็กตั้งคำถามทั้งที่ตัวเองมองสาวนักศึกษาเดินผ่านหน้าไปแบบเหลียวหลัง

“ช่วงนี้ดรีมกับโจ้กมันเล่นฮันเตอร์น่ะ เห็นว่าช่วงเปิดเกมแบบนี้เซอร์ยังไม่เก่งก็อยากไต่ฮันเตอร์ก่อน เดี๋ยวเซอร์เริ่มดุเมื่อไหร่ค่อยย้ายฝั่ง” วัตอธิบายยาวยืด เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะรู้ความเป็นไปของเด็กในดิสดีที่สุด ดียิ่งกว่ามอสที่เป็นคนก่อตั้งเฮียร์ขึ้นมาเสียอีก

“เหมือนมันเป็นหัวดิสอะ” โอมหยอก

“เออ ให้มันเป็นไปเถอะ” มอสกลับไหวไหล่ไม่ยี่ระ
“ไรวะ มึงจะพูดแบบนี้ไม่ได้ หัวดิสที่แท้จริงอย่างมึงยังไงก็ต้องดูแล นี่กูว่าจะให้ตั้งกลุ่มเกมขึ้นมาด้วย เพจด้วย แล้วก็จะได้หาคนเข้าดิส ไอ้โอมเนี่ยมันหล่อก็ให้มันน่ะถ่ายรูปตัวเองพร้อมถือป้ายของกิลล์เราไปโพสต์ กูว่าลากสาวๆ เข้ามาได้เยอะ ยิ่งได้คลิปสั้นๆ มีเสียงเชิญชวนเข้าหน่อยนะ ตั้งรับกับคลื่นของสาวๆ ได้เลย” ความคิดของวัตนั้นดีมากจนมอสต้องยกนิ้วให้

“สาวๆ จะเข้ามาเหรอวะ เฮ้ยดีเลย...มึงทำเลยดิ นะนะนะนะ” ส่วนแจ็กนั้นก็ยังคงกระตือรือร้นกับคำว่าสาวๆ อยู่ดี เพื่อนแต่ละคนงี้ส่ายหน้าให้กับความหน้าม่อของเพื่อนตัวดีอย่างพร้อมเพรียงกัน

“หน้าอย่างมึงก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ ทำไมมึงดูอดอยากจังวะ” โอมถามจริงจัง แต่มันเป็นการจริงจังที่แอบด่าไปในตัว

“กูอะกินเท่าไหร่ไม่พอ คนล่มปากอ่าวอย่างมึงไม่เก็ตฟิวหรอก” แจ็กก็ตอบหน้าระรื่นขึ้นมาเชียว

ไม่มีใครอยากเถียงแจ็ก ยิ่งโอมยิ่งไม่อยากยื่นปากเข้าไปยุ่งเพราะเขาเองก็ไม่เคยควงสาวๆ คนไหนเลย ว่าง่ายๆ จะเถียงจะแก้ตัว แต่หลักฐานมันไม่มีไง ในใจนี่แบบ....ถ้ากูได้กินเตอร์กูว่ากูก็ไม่พอในรอบเดียว หรือไม่กูจะพิสูจน์กับเตอร์ให้ดูว่ากูไม่ได้ล่มปากอ่าว ความคิดโอมนั้นมันออกมาทางแววตาแต่ออกมาทางวาจาไม่ได้

กลุ่มโอมเข้าเรียนกันในทันทีไม่มีการแวะกินมื้อเช้ากันก่อน เพราะพวกเขาต้องเข้าเช้ามาก มาถึงก็ได้เวลาเข้าเรียนในทันที โอมน่ะเป็นคนเตรียมตัวมาก่อนเสมอ เขาจะหาอะไรกินตั้งแต่เช้าไม่คาดหวังว่าจะต้องมากินที่โรงอาหารของคณะ แต่เพื่อนๆ ของโอมกลับไม่ใช่แบบนั้น พวกนี้ไม่หาอะไรกินรองท้องมาก่อน ดังนั้นพอเวลาร่วงเลยไปเรื่อยๆ พวกมันต่างก็บ่นหิวโหยกันใหญ่

ดิสคอร์ดกลายเป็นที่ที่พวกนี้โอดครวญถึงความอยากกินข้าว เด็กๆ ที่อยู่ในดิสจึงส่งรูปอาหารมายั่วน้ำลายของรุ่นพี่ นั่นทำเอามอสเกือบจะแบนพวกเด็กนี้ออกด้วยความรักเลยทีเดียว รู้ไหม การเห็นของกินตอนหิวนี่มันจะยิ่งทำให้หิวนะเฟ้ย โอมได้ยินมอสบ่นแง้วๆ อยู่ข้างหูเพราะนั่งใกล้กัน

จนแล้วจนรอดอาจารย์ก็ปล่อยนักศึกษาผู้หิวโหยให้ไปหาอะไรใส่ท้องตนเองเสียที มอสเดินคล้องคอโอมไปยังโรงอาหาร ท่าทางหมดแรงจนยากจะลากขาไป วัตและแจ็กก็มีอาการใกล้กัน แจ็กคล้องคอโอมอีกฝั่ง แล้ววัตก็คล้องคอแจ็กอีกทีจนกลายเป็นว่าโอมนั้นต้องแบกเพื่อนอีกสามคนด้วยความยากลำบาก

“พวกมึงคิดบ้างไหมว่ากูจะเหนื่อย”

“ไม่” ทั้งสามประสานเสียงตอบอย่างแข็งขัน โอมนี่ส่ายหน้าหวืดเลย

“มึงดูมีเรี่ยวมีแรงสุดแล้วอะ ทั้งที่เข้าเรียนพร้อมกัน ข้าวก็ไม่ได้กิน” มอสบ่นอุบ

“กูกินแล้ว ซื้อหน้าคอนโดกินมาระหว่างทาง พวกมึงอะไม่เตรียมตัวกันเองก็เลยมีสภาพแบบนี้นี่ไง” ได้ทีโอมก็ว่าพวกมันบ้าง เรื่องเกมน่ะโอมอาจจะสู้ไม่ได้ แต่นอกจากเกมแล้วพวกมันก็สู้โอมไม่ได้สักอย่างเดียวเลยจ้า

“เอ่อ...ฮ่าๆ” จู่ๆ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นเบื้องหน้า โอมละสายตาจากเพื่อนทั้งสามที่ตอนนี้ทำตัวเหมือนปลิงไปมอง เตอร์ยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน กำลังมองมาทางเขาเหมือนที่เขามองรอยยิ้มของเตอร์

บอกตรงๆ ความเหนื่อยหายไปเลยอะ!

“แทนที่จะขำอะเข้ามาช่วยพี่ได้ไหม” โอมบอกเตอร์ยิ้มๆ

“เออ พวกมึงมาช่วยกูเลย ไม่ดิ...ไปซื้อข้าวให้กูดีกว่า” แจ็กบอกกับรุ่นน้อง

“มาถึงก็ใช้น้องเลยไอ้เลว มีมือมีเท้าก็ต้องซื้อเองสิวะ” ไม่ได้ จะมาใช้เตอร์ของโอมไม่ได้ โอมต้องปกป้องน้องเตอร์เว้ย

“กูมีมือมีเท้าแต่ยังเอาตัวเองไม่รอด” วัตยอมรับสภาพตัวเอง

“พวกมึงแค่หิวไม่ได้กำลังจะตายปะวะ ไปๆ แยกย้ายไปซื้อข้าวเลย” โอมทำท่าสะบัดตัวออก มอสเป็นคนที่ยอมปล่อยไปแต่โดยดี ตามด้วยวัตแต่แจ็กกลับไม่ยอม

“มึงซื้อร้านไหนกูขอเกาะไปด้วย”

“เตอร์กินข้าวยัง” แต่โอมเมินเพื่อนเพื่อจะใส่ใจน้องเตอร์แทน

“ผมกำลังจะไปซื้อข้าวเลยล่ะครับ พี่โอมกับพี่แจ็กจะกินอะไร ผมซื้อให้ก็ได้นะ”

“ไม่ได้ เป็นรุ่นน้องไม่ได้เป็นเบ๊ น้องเตอร์อยากกินไรล่ะ นำพี่ไปเลยก็ได้เดี๋ยวพี่กินอย่างเดียวกับเตอร์ พอดี...ขี้เกียจคิด” โอมยิ้มบางๆ ให้ ซึ่งเตอร์ก็ยิ้มให้เขาพร้อมทำหน้าครุ่นคิด

“ข้าวมันไก่ไหมพี่”

“ดีๆ กูกินด้วยขี้เกียจคิดเหมือนกัน” แจ็กแทรกขึ้นมากลางปล้อง แต่ทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร

มอสกับวัตไปร้านข้าวราดแกงเพื่อซื้อข้างราดแกงแบบพูนๆ ส่วนที่เหลือก็ไปสุมหัวอยู่ที่ร้านข้าวมันไก่ โดยสั่งข้าวมันไก่แบบพิเศษเพิ่มข้าวเพิ่มไก่จนพูนจานไม่ต่างอะไรกับข้าวราดแกงของอีกสองคนที่นั่งประจำที่แล้ว

โอมขยับที่ข้างกายเพื่อให้เตอร์ได้นั่งด้วย พวกเขานั่งเคียงกันโดยไม่ต้องพูดเลยว่ามานั่งกับพี่หรือมานั่งกับผมอะไรอย่างนั้น เตอร์มองไปรอบๆ มองรุ่นพี่กินข้าวด้วยความหิวโซแล้วก็นั่งขำเบาๆ เพื่อนเตอร์นี่บ่นรุ่นพี่ทั้งสามไปแล้วว่าจะรีบกินอะไรขนาดนั้นเดี๋ยวก็ข้าวติดคอตายกันพอดี แต่ไม่มีใครว่างมานั่งฟังเพราะหิวกันเกินไป

“พี่โอมดูไม่เหมือนพี่ๆ เขาเลย พี่ไม่หิวขนาดนั้นเหรอ” เตอร์เอียงคอถามคนข้างกาย โอมน่ะนั่งกินข้าวชิวๆ ไม่รีบเร่งโซ้ยเอาๆ เหมือนเพื่อน

“พี่กินมื้อเช้ามาแล้ว พวกมันอะไม่ได้กินอะไรมาก็เลยหิวขนาดนั้น แล้วเตอร์ล่ะ...หิวมากเปล่า” สีหน้าโอมเป็นห่วงเตอร์จริงๆ จนเห็นได้ชัด เตอร์ยิ้มหวาน หวานยิ่งกว่าน้ำชาเขียวที่โอมชอบเสียอีก

“ผมไม่ค่อยหรอกพี่ เมื่อเช้าผมก็กินข้าวมาแล้วเหมือนกันมื้อเช้าสำคัญยังไงก็ต้องกินอะเนอะ”

“ใช่ เตอร์สำคัญยังไงก็ต้องกินเตอร์” คำพูดของโอมราวกับนาฬิกาหยุดเวลา เพราะทุกคนบนโต๊ะนิ่งสนิทเมื่อได้ยิน

….40%....

แหม...เอะอะก็จะกินเตอร์ท่าเดียวนะคะคุงโอมมมม ไหนว่าไม่กล้า นี่หรือคนไม่กล้า หยอดได้หยอดดี หยอดไม่ดูสถานการณ์เลยน้า

วันนี้เอามาฝากเบาๆ ฝากทั้งนิยายและแอดมินใหม่ด้วยค่า พอดีงานเยอะจัดต้องหาคนช่วยอัปนิยายแหล่ว แฮ่ๆ


ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
….ตอนที่ 3 [100%]….

“อะไร? กูพูดไรผิด ก็บอกข้าวมันสำคัญไง” โอมมองหน้าทุกคนด้วยความแปลกใจ แล้วเขาก็เห็นว่า...หน้าคนข้างตัวเขามันแดงๆ เนอะ

“ไม่ๆ เมื่อกี้มึงไม่ได้พูดว่าข้าวอะโอม มึงพูดว่าเตอร์....มึงพูดว่ามึงจะกินเตอร์” ครับ...นั่นแหละครับ มอสเหมือนเอาความจริงมาฟาดหน้าจนโอมนี่ชาวาบไปทั้งร่างกายเลย

“อะ...อะเอ่อ...” โอมหันไปมองหน้าเตอร์ที่ยังคงยิ้มบางๆ เขาปั้นหน้าไม่ถูก รู้แค่ว่าตัวเองเหวอมาก แล้วก็ร้อนผ่าวไปทั้งหน้า เขาพูดผิดอะ เขาดันพูดคำที่อยู่ในใจตัวเอง บ้าเอ้ย อายุเท่าไหร่แล้วยังมาเปิ่นกับเรื่องแบบนี้อีก!

“พี่โอมแค่หยอกเหอะพี่ กินๆ ไปเลยข้าวอะ” เตอร์แก้ต่างให้แบบขำๆ ทั้งยังมีการมามองหน้าคนที่ไปต่อไม่ถูกอีก

“อื้อ ใช่ๆ พี่หยอกเล่น” แล้วไง มารูปนี้ก็ต้องไหลไปตามนี้แหละ ไม่งั้นคงหนีไปจากสถานการณ์แบบนี้ได้ยากมากโคตร

เมื่อคลี่คลายประโยคหยุดเวลานั้นไปได้ทุกคนก็หันมาสนใจกับอาหารตรงหน้าอีกครั้ง โดยครั้งนี้ประเด็นหลักเป็นเรื่องของเกมที่พวกเขาตั้งใจเล่นกันอยู่อย่างไอเด็นติตี้ไฟวท์ ถึงแต่ละคนจะแยกกันลงคนละหมวด แต่ด้วยความที่มันเล่นเกมเดียวกันก็เลยคุยกันรู้เรื่อง ไม่มีใครไม่มีบทพูดและถ้าจะต้องใส่บทพูดทั้งหมดลงไปมันคงเปลืองหน้ากระดาษอย่างไม่น่าเชื่อ

คนอื่นเป็นเพียงตัวประกอบที่บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องมีบทบาทโดยเฉพาะในเวลาที่เตอร์กำลังนั่งพิงไหล่ของโอมเพื่อดูหน้าจอเกม เสียงนุ่มของเตอร์แว่วอยู่ข้างหูเพื่อบอกให้โอมบังคับทิศทางอย่างนี้อย่างนั้น เสียงหัวเราะดังออกมาเบาๆ เมื่อโอมหน้าหงิกที่ไม่สามารถหนีฮันเตอร์ได้อย่างที่เตอร์บอก แต่เตอร์ก็ยังคอยบอกโอมอยู่ดี ต่อให้โอมพัฒนาขึ้นช้าหรือเล่นไม่เก่งขึ้นนัก

รอยยิ้มและน้ำเสียงเย้าหยอกของเด็กหนุ่มข้างกายนี่แหละที่ทำให้ไม่เหลือใครอยู่ในสายตาของโอมทั้งนั้นนอกจากเตอร์ มันโคตรเลี่ยนและดูเสี่ยวมากหากพูดออกไป แต่ยังไงซะ ก็โกหกตัวเองไม่ได้อยู่ดีว่าในตอนนี้ทั้งหู สายตา ร่างกายและความรู้สึกมันมีแค่เตอร์เลยล่ะ

ช่วงเวลาพักเที่ยงผ่านไปพร้อมกับคำบ่นอันหนาหูของรุ่นพี่และรุ่นน้อง พวกเขาต่างก็เล่นเกมแล้วพ่ายแพ้ให้กับฮันเตอร์ ถึงจะได้รับชัยชนะมากกว่าแต่ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นเพื่อนที่เล่นไม่ดีเท่าไหร่ โอมมองเตอร์ส่วนเตอร์กำลังขำรุ่นพี่และเพื่อนที่หัวร้อน แง้วๆ ใส่กันเป็นเด็กน้อย

“วันนี้พี่โอมนัดอะไรเตอร์ไว้น้า...” ก่อนจะแยกย้าย เตอร์เปรยขึ้นมาเบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน โดยที่เตอร์ยังเดินไหล่เคียงไหล่กับโอมไม่ห่าง

“วันนี้พี่นัดเตอร์ไว้เหรอ” โอมทำตาตื่น เตอร์หน้าหงิก

“เปล่า”

“โอ๋ๆ หยอกนะ จำได้สิ ต้องเลี้ยงหนมอาจารย์เตอร์หน่อย เหนื่อยแบกพี่ตลอดเลยนี่เนอะ ยังไงถ้าเตอร์เลิกก่อนก็ทักมานะ ถ้าพี่เลิกก่อนก็จะทักไป โอเคไหมครับ” โอมอธิบายยิ้มๆ เพราะเตอร์เปลี่ยนจากหงิกเป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะเจ้าเล่ อารมณ์แบบอยากจะฟาดขนมจนเขากระเป๋าฟีบ

“ได้เลยครับพี่ งั้นผมไปเรียนก่อนนะ อย่าแอบเล่นมือถือล่ะ”

“ใครจะแอบเถอะ” เตอร์ส่งสายตาประมาณว่าพี่มากกว่าที่จะทำแบบนั้น แต่โอมก็ยังคงยิ้มเหนือใส่ราวกับจะบอกเป็นนัยๆ ว่าพี่ไม่มีทางทำแบบนั้น

นี่มันช่วงเวลาแห่งการโทรจิตสิน้า...

ทั้งหมดเข้าประจำที่ก่อนอาจารย์จะเข้าสอนห้านาที ระหว่างที่รอนี้โอมก็เตรียมสมุดปากกามาเพื่อจดเลคเชอร์ตามหน้าที่ของตนไม่มีขาดตกบกพร่อง ขณะที่เพื่อนที่แสนดีของโอมแต่ละคนกลับนั่งหาววอดๆ ซ้ำยังเอาแต่คุยกันไม่สนใจเตรียมความพร้อมในการเรียนอีก

มันก็เป็นของมันแบบนี้แหละ จะตั้งใจเรียนได้ต่อเมื่ออาจารย์จี้เป็นรายบุคคล โอมไม่สนใจนัก เรื่องแบบนี้ต้องเอาตัวรอดกันเอง เขาแค่สนว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะเลิกเรียนเสียที นี่อาจเป็นครั้งแรกๆ ในการเรียนของโอมด้วยซ้ำที่เขาเอาแต่คิดถึงเวลาหมดคาบสุดท้าย และก่อนหมดคาบครึ่งชั่วโมงอาจารย์ก็ให้งานไปทำมาส่ง มีการบอกว่าถ้าสั่งงานเสร็จเร็วก็ปล่อยเร็ว ทว่าเอาเข้าจริงอาจารย์ดันสั่งงานจนเลยเวลาเลิกคาบมาตั้งสิบห้านาที

“ไปร้านพี่ตุ้นกันปะ” แจ็กเปิดประเด็นหลังอาจารย์เดินออกไป โอมได้ยินแต่ไม่ได้ตอบเพราะมัวแต่ตอบข้อความของเตอร์ที่ส่งมาในดิสคอร์ด

“ไปดิ” มอสตอบแบบไม่ลังเล

“ก็ดีนะ พรุ่งนี้เข้าบ่ายด้วย” วัตโอเคตามเพื่อน แล้วเมื่อทุกเสียงพร้อมไปเมากันก็เหลือโอมคนเดียว

“กูไม่ไปนะ” แต่โอมดันดับฝันเพื่อน วัตมองหน้าโอมแว้บหนึ่งและเข้าไปในดิสคอร์ดเพื่อดูความเป็นไป เรื่องโอมไม่ไปดื่มเนี่ยเดี๋ยวให้มอสกับแจ็กมันจัดการประมาณนั้น

“ไมวะ นานๆ ไปดื่มทีเองนะมึง ไปเหอะอย่าอนามัยเยอะ” แจ็กกอดคอโอมเพื่อลากไปด้วย

“กูมีธุระ”

“ธุระที่ว่าคือไปกินหนมกับเตอร์?” วัตดันโพล่งขึ้นมาเสียอย่างนั้น แล้วสายตาเพื่อนก็ส่งคำถามเดียวกันมาให้โอมในทันที

“แปลกๆ ปะวะ ไปกินหนมเนี่ยนะเพื่อน? พูดจริง นี่กูหูฝาดไปหรือว่ามึงพูดผิดเหมือนตอนพูดว่าจะกินเตอร์วะเพื่อน” แจ็กถาม

“เอาเตอร์ไปกินด้วยสิ เนี่ยเดี๋ยวกูชวนเลย” วัตเสนอ

“อย่าเลย เราไปกันเองนี่แหละ มึงก็ไปเหอะ” มอสที่รู้ใจคุงโอมกลับบอกปัดทุกคนให้ เข้าข้างกันแบบนี้สงสัยต้องเปย์เพื่อนคืนบ้าง โอมยิ้มแล้วตบบ่าเพื่อนรักเบาๆ แล้วขอตัวก่อน

โอมเดินไปหาเตอร์ตรงศาลาที่ได้นัดกันเอาไว้ในดิสคอร์ด ซึ่งหลายๆ คนก็เห็นว่าสองคนนี้เขานัดกันไปเที่ยวแต่ไม่ได้มีใครสงสัยอะไรเท่าไหร่ นอกจากเพื่อนๆ ในกลุ่มเท่านั้นที่รู้สึกว่ามันแปลก แต่บอกตรงๆ ว่าโอมนั้นหาได้แคร์จุดจุดนี้ไม่

แต่เอ่อ...

ภาพที่เตอร์นั่งปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาจนเกือบครึ่งตัว ซ้ำยังจับสาบเสื้อเพื่อกระพือให้ลมมันพัดเข้าหาตัวนี้มันเป็นภาพที่เหนือกว่าการคาดหมายเกินไปไกล ให้ตาย...รู้ไหมว่าความโอโม่นี้มันแทงลูกตา!

อิโมชั่นในหัวโอมตอนนี้คือมันสำลักเลือดกำเดานอนกระแด่วๆ ใกล้ตายเต็มทีแล้วโง้ย!

“อ่าวพี่โอม” เตอร์หยุดกระพือเสื้อแล้วนั่งหลังตรง สีหน้ายิ้มแย้มทั้งที่แก้มออกแดงเพราะอากาศมันร้อน

“อากาศโคตรร้อนเลยเนอะว่าปะ” ร้อนรุ่มไปทั้งตัวและหัวใจเลยน้องเตอร์คร้าบ โอมอยากตะโกนแบบนนี้แหละ แต่ต้องคีพลุ๊ค

“มากพี่ ผมนี่แทบจะแก้ผ้าแล้วอะ ตอนเรียนมันก็ดีหรอกนะเรียนในห้องแอร์ พอออกมานี่ผมจะกลายเป็นน้องเตอร์แดดเดียวอยู่แล้วอะคร้าบคุณพี่ ว่าแล้วก็ไปเถอะ...ผมร้อนอะ” ไม่ว่าเปล่าเตอร์เดินเข้ามาจับที่แขนของโอมแล้วลากให้เดินตาม

เสื้ออะเสื้อ ติดกระดุมเสื้อก๊อนนนนน

“พี่ชอบกินบิงซูปะ อากาศร้อนๆ แบบนี้นะต้องร้านบิงซูเท่านั้นพี่โอม สตอร์เบอร์รี่กับเมล่อนเย็นๆ โอย...แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว” เตอร์ยิ้มตาแทบปิด ราวกับตรงหน้ามันเป็นบิงซูอย่างที่เตอร์กำลังจินตนาการอยู่ทั้งที่ตรงหน้าเขานี้มีแต่แดดร้อนๆ และรถราเต็มท้องถนน

ห้างสรพสินค้าที่เตอร์จะพาไปนั้นต้องนั่งรถสองแถวต่อไปอีกสักหน่อย ถ้าเดินกลางแดดกลัวว่าโอมกับเตอร์นั้นจะกลายเป็นคนแดดเดียวอย่างที่เตอร์ได้บ่นเอาไว้จริงๆ ระหว่างที่ยืนรอนั้นเตอร์ก็ยังกระพือสาบเสื้อของตัวเองไม่หยุด อาจเพราะร้อนมาก หรือว่าคนที่ป้ายรถเมลล์มันไม่เยอะเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ โอมแทบเห็นทั้งตัวแล้วน้องเตอร์จ๋า

“อดทนหน่อยสิ” โอมพูดทั้งที่ตัวเองทนไม่ได้ ต้องไปยืนตรงหน้าเตอร์แล้วดึงมือขาวๆ นั้นออกจากสาบเสื้อนักศึกษา โอมไม่สบสายตากับเตอร์ที่มองอย่างสงสัยใคร่รู้ เขามองแค่กระดุมแล้วติดมันจนมันกลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะอยู่

โอมพลาด...โอมไม่เห็นรอยยิ้มน่ารักนั้น

รถสองแถวที่พวกเขาต้องการนั้นมาจอดเทียบป้ายหลังโอมติดกระดุมเสร็จไม่ถึงห้าวินาที ทั้งคู่ก้าวขึ้นไปบนรถ ที่นั่งทั้งสองฝั่งอัดแน่นไปด้วยผู้คน เมื่อไม่มีที่นั่งก็ต้องยืนไปตามระเบียบ โอมดันให้เตอร์เข้าไปยืนด้านในแล้วตนก็ยืนประกบเตอร์อีกทีหนึ่ง

“พวกพี่ๆ เขาไปร้านพี่ตุ้นกันนี่พี่โอม พี่โอมไม่ไปกับพวกเขาเหรอ” เตอร์อ่านข้อความในดิสคอร์ดแก้เก้อ แล้วก็เจอกับความความชักชวนให้ไปดื่มด้วยกันของแจ็ก

“พี่อยากกินหนม”

“อยากกินหนมหรืออยากกินผมนะเอาดีๆ” เตอร์หยอกกลับ โอมก้มมองหน้าเตอร์ยิ้มๆ

“กินได้ปะล่ะคนนี้?”

“บ้า กินไม่ได้ดิพี่! คนนะไม่ใช่ขนม” เตอร์ก้มหน้าไปดูหน้าจออีกครั้งเพื่อหลบสายตาจริงจังนั้น

“ก็ไม่ได้มองว่าเตอร์เป็นขนมสักหน่อย” โอมบ่นลอยๆ สายตาก็มองออกไปยังนอกรถ
น่าแปลก...ความเงียบทำให้พวกเขาเขินได้เสียอย่างนั้น

ร่างใหญ่อย่างกับหมีที่เพื่อนชอบว่าของโอมเคลื่อนเข้าชิดกับเตอร์มากยิ่งขึ้น ทั้งคู่ต่างก็รับรู้ถึงความใกล้จนไหล่ติดกันนั้น แต่กลับไม่มีใครคิดจะถอย โอมน่ะไม่ต้องพูดเลยเพราะตั้งใจขยับเข้าไป แล้วเตอร์ล่ะ...ไม่ถอยเพราะอะไร?

….จบตอน….

เอ…หรือว่านุ้งเตอร์เค้าก็มีใจ ไม่หรอกๆ นุ้งเตอร์ใสๆ มีจงมีใจอะไรกันบ้าบอ เนอะๆ
ปล.ขออภัยในการอัพช้านะคะ ฝากเป็นกำใจให้ด้วยน้าาาาา

ออฟไลน์ mister

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • https://www.facebook.com/JJSonkFanclub
ฮือ เขิลลลลล :ling3: :ling3: :ling1: :ling1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
คนอ่านเขิลตามเลยเด้อ  :hao6:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
 ตอนที่ 4 [50%]

“นัดไปกินขนมกันตอนไหนไม่เห็นบอกเพื่อนเลยวะเตอร์ กูก็อยากกินมั้งนะบิงซูอะ” ช่างเป็นการต้อนรับเช้าวันใหม่ที่ดีเหลือเกิน แค่เตอร์เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะประจำเขาก็โดนเพื่อนตัวเองบ่นทันที

“กูบอกแล้วแต่พวกมึงไม่ได้ฟังที่กูพูดเลย มึงเอาแต่เออๆ ไปเหอะ แล้วก็เล่นเกม สนใจกูที่ไหน พอพี่เขามาเลี้ยงกูมึงก็มาบ่น บ้าปะเนี่ย” เตอร์บ่นกลับบ้าง อย่าคิดว่าเขาต้องยอมให้เพื่อนสิ เขาน่ะตัวจี๊ดเลยนะจะบอกให้

เตอร์ภายนอกเป็นคนเรียบๆ จืดชืด เน้นเรียนไม่เน้นกีฬาและกิจกรรมใดๆ ถ้าเปรียบเทียบเตอร์เองก็คงไม่ต่างอะไรกับเต้าหู้ขาวที่แสนจะจืดสนิท แต่คนสนิทจะรู้ว่าเต้าหู้ขาวชิ้นนี้น่ะสอดไส้พริกขี้หนูเอาไว้ เวลาที่เตอร์เล่นเกมเตอร์ไม่เหมือนเตอร์ที่ทุกคนเห็น รวมถึงเวลาต่อปากต่อคำกับเพื่อนด้วยเช่นกัน

โลกออนไลน์เป็นอณาเขตที่เตอร์เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโลกของเกม เขาเล่นเก่งและเล่นแทบทุกเกมที่มีมาให้เล่น ช่วงนี้ดูเขาจะติดไอเด็นติตี้วี แต่เอาเข้าจริง ก่อนหน้านี้เตอร์ก็เป็นโปรในหลายเกม รวมถึงการเป็นเกรียนในเกมต่างๆ

“มึงต้องย้ำสิวะว่าพี่โอมเขาเลี้ยง ถ้ามึงย้ำกูสักนิดรับรองเลยว่าพวกกูไม่ปฏิเสธแน่ๆ” โจ้กยังคงต่อว่า หน้านี้หงิกเป็นมะแหงกเลย

“เขาบอกจะเลี้ยงกูไม่ใช่พวกมึง”

“แล้วไมเขาต้องเลี้ยงแค่มึงล่ะ”

“ก็กูเล่นเกมกับเขาไง”

“พวกกูก็เล่นนะ”

“พวกมึงเล่นฮันเตอร์ กูเล่นเซอร์กับพี่โอม เมื่อคืนก็เล่น แบกเขาจนขึ้นแรงก์ได้เขาก็เลยเลี้ยง ขืนเอาพวกมึงไปผลาญเงินเขาอีกมันก็ดูไม่ดีปะวะ ถ้ากูเอาพวกมึงไปด้วยพวกมึงต้องออกเงินเองอยู่ดี ไว้รอบหน้าค่อยไปดีกว่าไหมละ” เตอร์ว่าเพื่อนตัวเองยาวเหยียด

“กูเห็นด้วยกับเตอร์นะ” ดรีม คนพูดน้อยประจำกลุ่มพ่วงด้วยเพื่อนสนิทของเตอร์พูดขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นว่าโจ้กยังไม่ยอม ตั้งท่าจะเถียงเตอร์ต่อ

“เฮ้อะ!” พอเถียงไม่ได้โจ้กก็สะบัดหน้าหนีไปมองนกมองไม้ รอให้เพื่อนง้อทั้งที่รู้ดีอยู่เต็มอกว่าไม่มีใครมานั่งง้อหรอก กลุ่มนี้น่ะ ถ้างอนไร้สาระก็ต้องง้อตัวเองเอาเอง

เตอร์เข้าดิสคอร์ดไปดูความเคลื่อนไหวต่างๆ รวมถึงตอบคำถามของคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เด็กๆ ส่วนใหญ่จะถามเกี่ยวกับเกม เกี่ยวกับเทคนิคการเล่นนู้นนี่นั่น เตอร์มักจะตอบส่วนนี้ให้แทนพี่ๆ ที่เป็นคนก่อตั้งกลุ่ม เหมือนว่าเตอร์และเพื่อนๆ มีหน้าที่เป็นแอดมินกลุ่มร่วมกับพี่เขา

ระหว่างที่ตอบคำถามอยู่นั้นพี่โอมก็เข้ามาบอกมอนิ่งทุกคนรอบแชต เตอร์ก็เลยมอนิ่งกลับแถมยังถามด้วยว่าทำไมตื่นเร็วจัง เพื่อนพี่โอมไปดื่มกันหมดจนป่านนี้ก็ยังไม่ตื่นกันเลยด้วยซ้ำ อ้อใช่...พี่โอมนั่งเล่นอยู่กับเขายันดึกดื่นนี่นะ ไม่ได้ไปดื่มเสียหน่อย

คุยกันไปมาสองคนก็มีสาวๆ บางคนเข้ามาคุยแทรก หลายคนแทร็กเรียกพี่โอมเพื่อถามว่าพี่ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ บ้างก็ขอจีบกันตรงๆ มันหน้าแชตของดิสคอร์ด เตอร์นั่งอ่านไปอ่านมาคิ้วเริ่มกระตุก ไม่อยากตอบเลยว่าทำไมต้องกระตุกด้วย

“เฮ้อ...พี่โอมเสน่ห์แรงจริงนะ” เขาบ่นออกมาลอยๆ

“ก็รู้อยู่แล้วนี่วะ ตั้งแต่เราเข้าเรียนยันทุกวันนนี้มีวันไหนบ้างที่พี่โอมแม่มไม่โดนขายขนมจีบ กูเห็นพี่แจ็กบ่นตลอดว่าจีบแต่ไอ้โอมไม่จีบกูบ้าง กูจะจับทำเมียให้หมด พี่แจ็กนี่แม่มจังเลยจริงๆ” โจ้กตอบตามสิ่งที่เห็น แล้วทุกคนก็รู้ดีว่าพี่โอมนั้นฮอตไม่น้อยเลยในคณะ

“แต่ก็ไม่เห็นเขาคบใครเลยนะ” ดรีมตั้งข้อสังเกตหลังจากเงียบมาพักใหญ่ เตอร์พยักหน้า ไม่ได้ตอบเพื่อนเพราะเขามัวแต่แทร็กเรียกบางคน

HRxTher
@HRxCookkie พี่โอม.....

ก็เห็นนะว่าโอมกำลังตอบคำถามของสาวๆ ที่ขายขนมจีบแบบออกหน้าออกตาสองสามคน แต่เตอร์ก็ยังแทร็กเรียกพี่โอมโดยที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแทร็กเรียกแล้วเขาจะพูดอะไรกับพี่โอมต่อ เขาแค่รู้สึกหงุดหงิด พี่โอมตอบคำถามทุกคน เฟรนลี่กับทุกๆ คนเสมอจนน่าหมั่นไส้เลย

HRxCookkie
@HRxTher คร้าบน้องเตอร์ นี่ยังไม่เข้าเรียนเหรอครับ

HRxTher
@HRxCookkie ยังอะ อีกสักพักผมก็ไปเข้าเรียนแล้ว พี่โอมอะทำไมตื่นเช้าจังครับ

HRxCookkie
ตื่นมารอเล่นเกมกับเตอร์ไง

HRxTher
แต่ผมเรียนเช้านะพี่

HRxCookkie
พี่รอได้ อีกอย่างเตอร์ชอบแอบเล่นมือถือ เดี๋ยวเตอร์ก็ต้องแอบมาคุยกับพี่แน่ๆ

HRxTher
มั่วแล้วพี่โอม ผมตั้งใจเรียนเถอะ

HRxCookkie
จะไม่แอบอาจารย์มาตอบพี่จริงๆ เหรอครับ
เสียใจจัง
พี่คิดถึงนะ

“เตอร์ๆ หุบยิ้มทีไอ้เหี้ยกูหลอน” โจ้กเจ้าเดิมเอ่ยทักขึ้นมาจนเตอร์ที่ชะงักในตอนแรกรีบหุบยิ้มแล้วทำหน้าหงิกใส่เพื่อนแทน

“ใครให้มึงจ้องกูละไอสัส รีบๆ ปั่นรายงานไปเหอะอย่ามายุ่งกับกู”

“ใช่ๆ อย่ายุ่งมันคุยกับพี่โอมอยู่” เพื่อนดรีมก็ช่างแทรกขึ้นมาได้จังหวะจริงๆ

“คุยกับพี่โอมมันต้องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขนาดนั้นเหรอวะ ตางี้วิ้งๆ เชียว ไม่บอกกูนึกว่าคุยกับสาว” โจ้กเห็นว่าเตอร์คุยกับรุ่นพี่ก็เลิกหยอกเลิกแซว กลับไปนั่งปั่นรายงานที่ต้องส่งอาจารย์ในคาบแรกต่อไปอย่างหัวหมุน ส่วนเตอร์เหรอ...พี่โอมสอนจนเสร็จไปแล้วเมื่อคืน

HRxTher
พิมพ์แบบนี้สาวๆ เข้าใจผิดหมดพี่โอม
โอ๋ๆ สาวๆ ทุกคนนะครับ ผมยังโสด...จีบได้

HRxCookkie
อ่า....

ในหน้าแชตมันขึ้นว่าโอมกำลังพิมพ์อยู่ เตอร์นั่งมองมันยิ้มๆ รอว่าพี่โอมของเขาจะตอบโต้มาว่ายังไง แต่รอแล้วรออีก ข้อความนั้นก็ไม่ถูกส่งมา แถมโอมยังไม่ตอบข้อความของใครและหายไปในที่สุด

รอยยิ้มหายไปจากหน้าเตอร์ในทันที กลายเป็นคิ้วขมวดแทนความสดใสที่มีอยู่เมื่อครู่นี้ เขาทำอะไรผิดเหรอ? เขาก็แค่หยอกพี่โอมกลับเหมือนที่พี่โอมหยอกเขาเล่นเท่านั้นเอง เตอร์เลื่อนกลับไปอ่านทวนข้อความที่เขาส่งไปและพี่โอมส่งมา เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เขาว่าเขาพิมพ์สุภาพมากๆ ไม่ได้ปีนเกลียวจนพี่โอมต้องไม่พอใจแน่ๆ

ส่วนสาวๆ ในแชตยังแทร็กหาพี่โอม แม้ไม่ได้รับข้อความตอบกลับก็ยังหยอกยังแซว จีบกันแบบไม่เกรงใจคนอื่นที่เขาเข้ามาอ่านเรื่องเกมในนี้ เตอร์ไม่อยากจะสนใจ เขาเลื่อนไปดูแถบที่แสดงการออนไลน์ของสมาชิกแต่ละคน เขาเห็นพี่โอมออนอยู่ แค่ไม่ตอบใครเท่านั้น

HRxTher
@HRxCookkie เป็นอะไรอ่าพี่โอม เห็นพิมพ์แล้วก็ไม่ยอมส่ง
ผมไปเรียนก่อนนะพี่

เพราะเพื่อนเรียกให้เข้าเรียนได้แล้ว เตอร์ต้องเก็บมือถือเข้ากระเป๋าเพื่อจะถือรายงานที่จะต้องส่งอาจารย์ในวันนี้ เพื่อนทั้งสองของเขาบ่นถึงรายงาน อาจารย์ให้งานพวกเขาเยอะ นี่ยังมีงานอีกชิ้นที่ยังไม่ได้เริ่มแถมต้องส่งมันวันจันทร์นี้แล้วด้วย

เอาตรงๆ ช่วงนี้เตอร์และเพื่อนๆ ต่างก็ติดเกมจนไม่เป็นอันทำงานทำการกันเลย รายงานที่อาจารย์สั่งไว้ก็เลยเข้าไหดองจนมันใกล้จะเน่าเต็มที ถ้าวันจันทร์นี้พวกเขาไม่มีงานส่ง รับรองเลยว่าได้กินไข่เน่าแน่นอน

HRxCookkie
@HRxTher ตั้งใจเรียนนะครับ พี่จะรอเตอร์แอบอาจารย์มาตอบนะ ^^

เตอร์หยิบมือถือขึ้นมาอ่านหลังเข้าเรียนไปได้ห้านาที สุดท้ายเตอร์คนนี้ก็แอบอาจารย์เล่นมือถือเพราะพี่โอมจนได้ เตอร์แซะพี่โอมนะว่าพี่เป็นพี่แบบไหนถึงได้สอนให้น้องแอบอาจารย์เล่นมือถือ คำตอบที่ได้คือ...พี่ที่คิดไม่ซื่อ

....50%...

น้องรู้ตัวมั้ยว่าที่น้องทำลงไปนั้น...น้องกำลังออกอาการน้าาาา

ออฟไลน์ mister

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • https://www.facebook.com/JJSonkFanclub
อุ๊ย เค้าใจตรงกันอะ :mew3:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
….ตอนที่ 4 [100%]….

(ตายแน่มึง..ตายแน่พวกเราตายแน่...!!!)

เสียงโหยหวนเป็นสิ่งแรกที่โอมได้ยินหลังจากเข้าห้องคอลดิสกับเตอร์ มันเป็นห้องประจำของเขาทั้งคู่ไปแล้วเพราะไม่ว่าจะนั่งเล่นเกมหรือฟังเพลงพวกเขาก็จะเข้ามาในห้องที่เขียนว่า Party 3

“พี่เชื่อแล้วว่าจะตายกันแน่ๆ อะนะ ฮ่าๆ” โอมหยอกแทนคำทักทาย

(อ่าวพี่โอม กำลังมาเรียนปะเนี่ยพี่) เตอร์จำเสียงโอมได้จึงรีบทักกลับ

“ครับ พี่กำลังเดินเข้ามหาลัย เตอร์เพิ่งเลิกเรียนใช่ปะถึงเพิ่งเข้ามาในนี้” ตลอดการเรียนโอมนั่งคุยกับเตอร์หน้าดิส ไม่ได้คอลกันอย่างนี้

(ใช่พี่ พี่จะเข้ามาหาอะไรกินที่โรงอาหารก่อนเข้าเรียนไหมอะ เห็นพี่แจ็กบ่นในดิสว่าโคตรหิว พี่วัตบอกโคตรแฮงก์ พวกพี่นี่ดี๊ดีเนอะ)

“นั่นเพื่อนไม่ใช่พี่สักหน่อย พี่อะเป็นคนดีนะเตอร์ไว้ใจได้” โอมพูดจบก็อยากตบปากตัวเอง ทำไมช่วงนี้คุยกับเตอร์ทีไรเขาเผลอตัวพูดจาอะไรแบบนี้ใส่น้องมันทุกทีเลยวะ

หรือว่า....หัวใจมันเรียกร้อง!

ใจเย็นทุกคน อย่าเพิ่งแหวะกับความหวานเลี่ยนที่โอมได้มีต่อเตอร์เลย เขาตั้งใจแล้วที่จะไม่ทำแบบนี้ ตั้งใจจะมีสติและไม่หยอดน้องเหมือนหยอดสาวๆ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงห้ามไม่ได้ บางทีเขาอาจจะต้องช่างแม่ม!

(คร้าบ ผมเชื่อพี่เสมอ แล้วยังไง มากินข้าวไหม...)

“กินสิ ไอ้วัต แจ็กแล้วก็มอสมันไปรอแล้วน่ะ เราไปที่โต๊ะประจำพวกมันเลยก็ได้พี่กำลังไปนะ”

(ได้เลยคร้าบพี่โอมสุดฮอท พี่โอมๆ เพ่โว้ยยยยย ช่วยพวกผมทำรายงานหน่อยพวกผมจะตายแล้วววววว) ไม่ทันที่เตอร์จะแซวโอมได้จบประโยค เพื่อนตัวดีอย่างโจ้กก็ดันตะโกนเข้ามา โอมได้ยินเสียงโอ้ยไอ้เชี่ยเตอร์ กูเจ็บตามมาเบาๆ เขาว่านี่น่าจะเป็นคนที่เขาได้ยินเสียงในตอนแรก คนที่บอกตายๆ แล้วนั่นแหละ

“ปล่อยตายดีไหม”

(ดีพี่โอม ปล่อยแม่งตายไปเลย เอ้ย...ไม่ได้ดิ มันตายผมก็ตาย ทำกลุ่มเดียวกัน แง... ไม่ กูงอแงใส่พี่โอมได้คนเดียว มึงไม่เกี่ยวไอเวรโจ้ก!) น้องเตอร์จะรู้ตัวไหมว่าที่น้องคุยกับเพื่อนน่ะมันเข้ามาทางนี้

งุ้ยยยยย น้องจะงอแงกับเค้าแค่คนเดียวแหละ!

โชคดีแค่ไหนที่ได้ยินตอนโทรหากัน ถ้าได้ยินตรงหน้า เขาคงทำตัวไม่ถูกแน่ๆ คงไม่รู้จะวางมือวางไม้ยังไงดี จะยิ้มหรือจะเก๊กหล่อต่อไป อ้อ โอมหล่อ...โอมรู้ตัวไม่ต้องมาหมั่นไส้เลย เอาเป็นว่าเขาคงทำตัวไม่ถูกสุดๆ ถ้าได้ยินเตอร์พูดแบบนี้ต่อหน้าของเขา

โอมเดินขำไปตลอดทางเพราะเตอร์กับเพื่อนกำลังแง่งๆ ใส่กันอยู่ เหมือนแมวตีกันมากๆ ในความรู้สึกของโอม เพียงไม่นานเขาก็มาถึงโต๊ะประจำ รุ่นน้องอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาไม่ต่างอะไรกับเพื่อนของเขา เพียงแต่เพื่อนโอมแต่ละคนหน้านี้เหมือนซอมบี้มากกว่า

“กินไม่บันยะบันยังเลยเหรอพวกมึง” โอมวางกระเป๋าเป้ของตนไว้ข้างเตอร์

“คนไม่ไปกับพวกกูอย่างมึงน่ะเงียบไปเลย มึงรู้ปะ เมื่อวานมีคนมาทักพวกกูด้วยนะว่าโอมไม่มาเหรอ คิดดู พวกกูอยู่ตั้งหลายคนเสือกถามหามึงเฉย เฮ้อ...คิดแล้วเซ็ง” แจ็กส่ายหัวดุกดิกทั้งที่ยังนอนหนุนแขนตัวเองอยู่

“คราวหลังบอกเขาดิพี่ ว่าพี่โอมไม่อยู่เอาน้องเตอร์คนน่ารักไปก่อนได้ไหม” เตอร์ว่าจบก็ขำ แต่โอมมองด้วยสายตาที่ไม่ขำด้วยน้องเลยงง

“ไปให้คนอื่นเอาจะโดนตี” โอมว่าแล้วเดินไปซื้อข้าว

“หวงก้าง” แต่ก่อนจะได้เดินไปไกลเขาก็ได้ยินเสียงมอสเอ่ยขึ้นมาลอยๆ

กลับมาที่โต๊ะอีกทีเพื่อนของโอมทั้งสามคนก็แยกย้ายกันไปซื้อข้าวมากิน นั่งเอ้อระเหยตั้งนานกว่าจะลุกกันได้ แล้วไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมแต่ละคนที่มาพร้อมชามก๋วยเตี๋ยว เพราะของร้อนๆ มีน้ำให้ซดและรสชาติแซ่บๆ นี่มันจะช่วยแก้อาการแฮงก์ได้ในระดับหนึ่ง โอมคิดนะว่าพวกนี้มันกินกันขนาดไหนถึงได้แฮงก์กันยันเที่ยงวันแบบนี้ได้

“พี่โอม....” ดรีมเพื่อนของเตอร์เรียกเบาๆ ท่าทีเกรงอกเกรงใจ เตอร์นี่ถลึงตาใส่เพื่อนแล้วเพื่อนก็ขยิบตา หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนส่งซิกอะไรกันบางอย่าง แต่คงเป็นบางอย่างที่ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันแน่ๆ

“ครับ?”

“พี่จำอาจารย์พิมพ์ได้มะ” ดรีมยังเกรงใจไม่กล้าพูดออกไป

“คืองี้พี่ พวกผมทำงานกันไม่ทัน มันเป็นงานของอาจารย์พิมพ์อะ พวกพี่พอจะช่วยพวกผมหน่อยได้ปะอะ คือถ้าทำกันเองนี่ไม่น่าทำทันกันแน่นอนเลยอะพี่” โจ้กพูดแทนเพื่อน ก็ใครให้มันยึกๆ ยักๆ กลัวโอมเหมือนกลัวหมากัดขนาดนั้น โอมหันไปมองเตอร์ที่ยังถลึงตาใส่เพื่อน ปากขมุบขมิบตีความได้ว่า ‘ไอ้เฮีย’

“งานกลุ่มเหรอ”

“ใช่ กลุ่มพวกผมนี่แหละ แต่ทำกันไม่ทัน” โจ้กเล่าต่อ ทั้งยังยิ้มหน้าบานไปหมด

“ฮ่าๆ พี่เหมือนจะรู้ว่าเพราะอะไรมันถึงไม่เสร็จนะ”

“ไอ้เตอร์มันไม่แจกงาน มันติดเกมพี่” โจ้กโบ้ยไปที่เตอร์

“ไม่แจกบ้านป้ามึงอะ กูแจกนานแล้วพวกมึงอะไม่ยอมทำ” เตอร์แยกเขี้ยวทันที

“แล้วเถียงดิว่ามึงก็ติดเกมอะ งานของมึงก็ไม่เสร็จ”

“ก็กูเล่นกับพี่โอม”

“นั่นแหละพี่โอมถึงต้องช่วยพวกเราทำรายงาน” โจ้กอาศัยช่องโหว่นี้สวนเข้าไปจนเตอร์แทบจะงับหัว

“ฮ่าๆ โอเค ได้สิ...เดี๋ยวพี่ช่วย แล้วส่งวันไหน” โอมจงใจมองหน้าเตอร์เพื่อให้เตอร์เป็นคนตอบ

“วันจันทร์นี้อะพี่ แฮ่ๆ”

“น่าตีนะครับ วันจันทร์ต้องส่งแล้วเพิ่งมาทำ อ่า...งั้นเอางี้นะ เดี่ยวไปทำที่ห้องพี่แล้วกัน งานอาจารย์พิมพ์ไม่น้อยอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ” โอมกินน้ำพลางส่งสายตาใส่เตอร์ว่าเถียงสิว่าน้อยน่ะ เขาเคยเรียนกับอาจารย์มาก่อน หามรุ่งหามค่ำกันแทบทุกงาน

“พวกกูไปด้วย” คนตอบกลับเป็นเพื่อนโอมทั้งสาม พวกนี้นั่งฟังมาพักใหญ่แล้วและมองหน้ากันเพื่อลงความเห็นเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย

“งั้นเย็นนี้ไปห้องพี่นะ โอเค ตามนั้นเลย รอดแล้วเว้ยยยยพวกกูไม่ตายแล้ว” โจ้กชูมือราวกับได้รับชีวิตใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง เตอร์เนี่ยสิได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอากับเพื่อนตัวเองจนต้องขยับใกล้โอมอีกนิดเพื่อกระซิบ

“ผมขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะพี่ เดือดร้อนพี่เลยอะ”

“ไม่เป็นไรหรอก เพื่อเตอร์อะพี่เต็มใจ...” โอมใช้ไหล่กระแซะไหล่เตอร์เบาๆ เตอร์ทำได้แค่ยิ้มแล้วขำนิดๆ

“ผมเป็นสาวนี่หลงไปแล้ว”

“ไม่ต้องเป็นสาวก็หลงได้นะ” โอมต่อคำของเตอร์แล้วก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพราะพูดเอง

….100%….

น้องหลงพี่ไหมไม่รู้ แต่พี่อะ…หลงน้องจนโงหัวไม่ขึ้นแย้ว


ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
….ตอนที่ 5 [100%]….

ถ้าเป็นเพื่อนสนิทกันจะไม่มีทางดูไม่ออกเลยว่าโอมในยามนี้นั้นอารมณ์ดีสักแค่ไหน เล่นเรียนไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วยจนเหมือนคนบ้าซะขนาดนั้น เหตุผลที่โอมอารมณ์ดีมีเพียงข้อเดียวคือวันนี้เตอร์จะไปห้องของเขา!

แหม...ทำเหมือนไปอยู่กันสองต่อสองเลยอะเนอะ

แต่ว่าก็ว่าเถอะ คนที่ตัวเองชอบมาห้องนี่จะให้รู้สึกเหมือนปลาขาดน้ำมันคงเป็นไปไม่ได้ ใครๆ เขาก็ชอบกันทั้งนั้น เพราะหมายถึงจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันแบบใกล้ชิดสนิทสนม หรืออาจจะได้นอนด้วยกัน ถึงไม่สองต่อสองก็เถอะ เชื่อได้ว่าร้อยทั้งร้อยอารมณ์ดีแบบนี้ทั้งนั้นแหละ

หลังจบคลาสสุดท้ายโอมกับเพื่อนทั้งสามก็ไปเจอน้องๆ ที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ กับรั้วมหาลัย เพราะว่ารุ่นน้องนั้นเรียนเสร็จตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว ส่วนพวกเขานั้นเพิ่งจะจบคลาสเอาตอนสี่โมงกว่า

พอไปถึงที่นัดหมายก็พบว่าน้องๆ เปลี่ยนเสื้อผ้ากันมาหมดแล้ว รวมถึงได้แบกเอาชุดที่จะใช้เปลี่ยนสำหรับค้างคืนมาด้วย โจ๊กมีท่าทีดี้ด้าที่สุด ต่างกับเตอร์ที่ทำหน้าเอือมระอาและดรีมที่ดูเฉยๆ กับการได้รุ่นพี่มาช่วยทำรายงาน พวกเขาพากันไปซื้อของกินเล่นในห้างกันก่อนจะเดินทางด้วยรถประจำทางไปยังคอนโดของโอม

“โห...ห้องพี่โคตรใหญ่เลยอะ บ้านพี่นี่น่าจะรวยเอาเรื่องนะ” โจ๊กตกตะลึงกับห้องพักของโอมที่อยู่ชั้นบนสุดของคอนโด เป็นห้องที่กว้างขวางแล้วก็มีพื้นที่แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน

“ไม่หรอก บ้านพี่ทำร้านข้าวแกงเอง”

“ข้าวแกงไฮโซอะสิ แม่งมีแบ่งเป็นสาขาๆ ขายเฟรนไชน์ด้วยนะมึง ไม่ใช่ร้านข้าวแกงเล็กๆ เลยนะจะบอกให้” แจ็กพูดจบก็เดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวแอลนุ่มๆ กลางห้องนั่งเล่นที่รวบยอดเป็นห้องโถง

“งี้พี่โอมต้องทำอาหารเก่งแน่เลย” เตอร์เงยหน้ามองโอม

“ม่ายอะ พี่ทำไม่เก่งเลยครับ ไม่ค่อยได้เอาวิชาที่บ้านติดตัวมาด้วยเท่าไหร่อะนะ” พอโอมพูดจบเตอร์ก็ขำเบาๆ

“พี่นี่น้า...”

“เออ เดี๋ยวพวกมึงทำรายงานกันไปนะ มอสมึงโทรสั่งเหล้ามาเลยมึง ร้านเดิมๆ ปะ...แฮงก์ๆ อย่างนี้มันต้องถอน” แจ็กบอกทั้งที่นอนเล่นมือถือ

“ตลก มาช่วยน้องๆ ทำรายงานดิเฮ้ย” โอมนี่เดินเอาเท้าไปเขี่ยร่างของเพื่อนอย่างไม่เกรงใจ ก็ทีแจ็กมันยังจะกินเหล้าไม่เกรงใจเจ้าของห้องเลย

“กูเห็นด้วยกับโอมในข้อนี้”

“มึงก็เห็นด้วยกับไอเชี่ยโอมตลอดอะมอส” แจ็กทำท่าเหมือนจะงอน แล้วยังไง...ใครจะไปนั่งง้อมัน ไม่มีหรอก!

โอมให้น้องๆ เอาของและรายงานที่ต้องทำมานั่งทำมันหน้าทีวี ทั้งยังไล่ให้แจ็กลุกขึ้นนั่งหรือไม่ก็ไปนอนห้องนอนแขกแทนที่จะมานอนขวางคนอื่นๆ เขา แต่แจ็กกวนประสาท มันยอมนั่ง แต่นั่งแบบเหยียดขายาวเต็มโซฟา มอสเห็นแบบนั้นจึงเอาหมอนอิงปาใส่หัวเพื่อนแล้วไล่ให้เข้าห้องไปถ้าไม่อยู่ช่วยกัน

มันเป็นความวุ่นวายเล็กๆ ที่เกิดขึ้นก่อนที่รุ่นพี่และรุ่นน้องจะช่วยกันทำรายงานเพื่อให้ทันส่งอาจารย์ในวันจันทร์นี้ โอมดูจะตั้งใจและใส่ใจกับรายงานมากกว่าคนอื่นๆ เพราะเขาเป็นพวกสนใจและรักในการเรียน ช่างเหมาะสมกับการเป็นนักเรียนดีเด่นมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเลยจริงๆ เตอร์นั้นก็ใช่ว่าจะน้อยหน้าไปกว่าโอมเสียที่ไหน จะบอกว่าเห็นอนาคตเด็กเรียนเกียรตินิยมในตัวเตอร์ก็ไม่ผิดอะไรเลย

โอมนั่งติดกับเตอร์ ไหล่แทบจะชนไหล่เพราะต้องคอยดูงานในคอมพ์ให้กับเตอร์ ส่วนเพื่อนเตอร์อีกสองคนนั้นก็แย้วๆ เกี่ยงกันทำงาน บ้างก็บ่นไม่เข้าใจ บ้างก็ขอพัก ไปๆ มาทั้งกลุ่มก็ลากกันไปลงแรงก์ไอเดนทั้งที่งานยังกองอยู่ตรงหน้า

“ไอ้สาส ทำงานก่อนดิวะ” เตอร์ปาปากกาใส่หัวโจ้กกับดรีม ซึ่งเพื่อนรักทั้งสองทำแค่มองหน้าเตอร์แล้วหันหลังให้ไปเลย

“ไม่เสร็จแล้วม้างวันนี้” โอมบ่นลอยๆ

“เสร็จดิพี่ มีเวลาพรุ่งนี้อีกวัน เดี๋ยวลงแรงก์เสร็จพวกผมทำต่อแน่นอน ว่าแต่พี่กับเตอร์ไม่ลงแรงก์กันเหรอ เห็นลงด้วยกันบ่อยๆ” โจ้กพูดทั้งที่ไม่ได้หันหน้ามามอง

“กูแยกงานกับเกมออกจากกันได้ไอ้สัส” เตอร์หัวเสีย เขาก้มหน้าทำรายานต่อโดยไม่สนใจเพื่อนๆ ซึ่งโอมก็อยู่ข้างๆ คอยช่วยบอกนั่นบอกนี่ บางทีก็ช่วยทำชิ้นง่ายๆ ให้เตอร์

แต่ละคนมีหน้าที่จัดการรายงานกันคนละส่วน เมื่อเพื่อนเตอร์อีกสองมัวแต่เล่น เตอร์ก็ใช้เวลานั้นในการทำรายงานในส่วนของตัวเองจนเสร็จ แต่ต้องยอมรับว่าถ้าไม่มีโอมคอยช่วยอยู่ตรงนี้งานเตอร์อาจจะล่าช้ากว่านี้ก็ได้ หลังจากนี้ก็แค่เอาส่วนที่เหลือจากเพื่อนมารวมกันก็จะจบงาน แต่ให้ทำไงในเมื่อพวกนั้นเพิ่งจะลงแรงก์กันเสร็จ

“น่าเบื่ออะ ตั้งใจทำรายงานอยู่คนเดียวเลย” เตอร์บ่นเบาๆ กับโอมที่นั่งอยู่ใกล้

“เอาหน่า งานเราเสร็จก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็มีเสร็จแล้วตั้งหนึ่งคนนะ เตอร์หิวไรเปล่าเดี๋ยวพี่หาไรให้กิน”

“พี่อะไม่หิวเหรอ พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยหนิ” เตอร์เงยหน้ามองรอยยิ้มบางๆ ของโอม

“รอกินพร้อมเตอร์ไง” หยอดอีก...หยอดเข้าไป ห้ามปากตัวเองไม่ได้เหมือนๆ กับที่ห้ามใจตัวเองนั่นแหละ โอมเกาท้ายทอยตัวเองเบาๆ เพราะเตอร์ยิ้มเย้าใส่เขา

“กูหิววววววววว” แจ็กเพื่อนโอมตะโกนออกมาหลังวางมือถือ

“ไอ้เชี่ย จู๊กห่วยทำทีมแพ้แล้วหนีเลยนะ” วัตเอาหมอนอิงปาใส่หัวแจ็กอีกครั้ง ทั้งที่แจ็กเพิ่งจะเดินออกมาจากห้องนอนแขก

“กูเต็มที่แล้ว” แจ็กไม่ใส่ใจ

“หาไรกินแล้วค่อยทำงานต่อก็ดีนะ” มอสเสนอ

“หมูกระทะเลยพี่ คนเยอะๆ อย่างนี้ต้องหมูทะเท่านั้นเลยล่ะ” โจ้กบอกหน้าระรื่น

“กูเห็นด้วย” แจ็กยกนิ้วโป้งใส่รุ่นน้อง

“เตอร์ล่ะอยากกินอะไร” แต่โอมกลับหันมาถามเตอร์แทนที่จะสนใจเพื่อนของเขา

“เอาหมูกระทะก็ได้นะพี่ ผมก็อยากกินเหมือนกันอะ” ว่าแล้วเตอร์ก็ยิ้มหวานใส่ ใจละลายแล้วพ่อคุณทูลหัวววววว

“โอเค เดี๋ยวพี่สั่งแป็บ”

“กระทะไฟฟ้าอยู่ไหนวะ เดี๋ยวกูไปเอามาให้” มอสลุกขึ้นยืน บิดขี้เกียจเล็กน้อยเพราะนั่งก้มหน้าเล่นเกมติดกันเป็นชั่วโมงๆ

“ที่เดิมเลยมึง” ว่าแล้วโอมก็ลุกบ้างเพื่อจะไปช่วยเพื่อนเตรียมของ

“ผมไปด้วยดิ ผมช่วยนะ” ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเผลอไป เพราะเตอร์เล่นคว้าแขนของโอมเอาไว้ทั้งยังสายตาอ้อนอีก

“อ่า...เอาสิ” โอมก็ไม่ดึงแขนออกด้วยนะ ดึงทำไม นี่มันโอกาสดีเชียวนะเหวยยยย

เพื่อนเตอร์อีกสองคนวางมือถือแล้วหันมาทำรายงานในส่วนของตัวเอง ใช่ว่าตั้งใจอะไร ดรีมเป็นคนบ่นให้โจ้กเริ่มทำงานได้แล้วต่างหาก ส่วนแจ็กกับวัตนั้นจ้องหน้าจอมือถือกันคนละความหมาย แจ็กน่ะแซวหญิง ส่องหญิงตามประสาขาหื่นที่อยากฟันดะไปเรื่อย วัตนั้นกำลังคุยกับคนในดิสคอร์ด ซึ่งส่วนใหญ่ก็ถามหาโอมที่หายไปไม่เข้ามาอีกเลยตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน นอกนั้นก็ถามเรื่องเกม เรื่องแรงก์หรือหาคนเล่นเกมเป็นเพื่อนอะไรก็ว่าไป

เรียกง่ายๆ นอกจากโอม เตอร์มอสแล้วก็ไม่มีใครช่วยพวกเขาจัดโต๊ะสำหรับมื้อเย็นเลย ช่างเป็นแขกที่น่าเดินตบหัวเรียงตัว ยกเว้นน้องๆ ที่นั่งทำรายงาน ตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้างก็ยังถือว่าได้ทำอะไรที่มีประโยชน์

“เพื่อนผมแม่งไม่ได้เรื่องเลย เพราะงี้ผมเลยไม่อยากให้พวกพี่มาช่วยทำรายงาน” เตอร์หยิบจานลงมาจากชั้นวางอยู่กับโอม ส่วนมอสเอากระทะปิ้งย่างไฟฟ้าออกมาจากที่เก็บ

“อย่างว่าแต่เพื่อนมึงเลยเตอร์ พวกกูก็มีโอมเนี่ยที่เป็นเสาหลัก เวลาทำรายงานทีก็ไม่ต่างอะไรกับมึงเท่าไหร่หรอก” มอสว่าขำๆ เขาเห็นภาพแบบนี้จนชินแล้ว

“ถามกูยังว่าอยากเป็นเสาหลักให้พวกมึงหรือเปล่าน่ะ” โอมหันไปว่าเพื่อนสนิท

“นั่นสิพี่มอส พวกพี่กินแรงพี่โอมเกินไปนะ ทีเล่นเกมนี่ไล่พี่โอมไม่ให้เล่นด้วย ทีทำรายงานละเรียกหาพี่โอม พี่โอมเลิกคบไปเหอะคนแบบนี้น่ะ” มอสถึงกับถลึงตาใส่เตอร์ที่กล้าดีมาว่ารุ่นพี่อย่างตน ว่าเสร็จไม่พอ หนีไปอยู่หลังโอมอีกต่างหาก

“เลิกคบกับพวกนี้แล้วไปคบกับเตอร์ใช่ไหม...” แต่คำตอบของโอมเล่นเอาพี่น้องรหัสทั้งสองนั้นนิ่งงัน มอสไม่อยากเชื่อว่าเพื่อนตัวเองจะหยอดแรงเบอร์นี้ ส่วนเตอร์ถึงกับตั้งตัวไม่ถูกก็เลยนิ่งไป

“แฮ่มๆ โทษ...ตีนติดคอ” มอสทำลายความเงียบนั้นแล้วเดินหนีออกไปจากโซนครัวเพื่อเอากระทะไฟฟ้าไปวางไว้ตรงโต๊ะเล็ก

“ฮ่าๆ โอ้ยไอ้พี่มอสสสส ตีนใครมันไปติดคอพี่แก เอ้อ...” เตอร์ใช้จังหวะนี้หลบสายตาแพรวพพราวของโอมไปหยิบจานชาม

“สงสัยจะเป็นตีนพี่เองมั้ง ปะ เดี๋ยวหมูกระทะก็มาแล้ว” ในเมื่อทุกคนพยายามเมินคำหยอดของโอมไป โอมก็ต้องทำใจแล้วเดินไปทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี ทั้งที่ข้างในก็แอบแป๋วไปเหมือนกัน

รุ่นน้องที่ทำรายงานกันอยู่จำเป็นต้องเอาสิ่งของทั้งหมดย้ายไปไว้ที่อื่นก่อน หมูกระทะชุดใหญ่สองชุดถูกนำมาส่งหลังโทรสั่งไปได้แค่สิบห้านาที อาจเพราะร้านมันอยู่ใกล้ก็เลยมาไว โอมให้วัตกับแจ็กไปเอาเพราะพวกเขาเตรียมของไว้ให้พวกมันแล้ว วัตไม่อิดออดยกเว้นแจ็กที่บ่นกระปอดกระแปดเหมือนเวลาแม่ใช้ให้ไปทำงานบ้าน

โอมนั่งอยู่ในตำแหน่งเดิมที่เคยนั่งช่วยเตอร์ทำงาน รุ่นน้องที่น่ารักก็ลงมานั่งข้างกายอย่างตอนแรกไม่ผิดเพี้ยน เว้นแต่มันใกล้ชิดจนไหล่ติดกันกว่าครั้งแรกที่นั่งทำรายงาน โอมพยายามไม่คิดอะไรมากมาย แจกจ่ายจานชามไปตามตำแหน่งของแต่ละคน รวมถึงแก้วใส่น้ำด้วย เมื่อวัตกับแจ็กขึ้นมาถึง ทั้งหมดก็พร้อมที่จะนำหมูนุ่มๆ ลงกระทะ

“ได้นะพี่...” ขณะที่คนอื่นกำลังแย่งหมูบนกระทะ  เตอร์กลับพูดขึ้นมาโดยหันมากระซิบให้โอมได้ยินแค่คนเดียว

“หืม?” โอมที่กำลังตักผักในหม้อต้มหันมามอง แล้วรู้สึกพลาดมากเพราะหน้าเตอร์แม่งอยู่ใกล้ไป!

“ก็พี่บอกว่าถ้าเลิกคบกับเพื่อนๆ พี่แล้วพี่จะมาคบกับผมไง” เตอร์ยิ้มหวาน จากนั้นทำทีเป็นแย่งผักในถ้วยของโอมมากิน

‘พี่ไม่ได้จะคบเตอร์เป็นเพื่อนนะ...’

มันเป็นคำที่อยู่ในหัวของโอมแต่โอมกลับไม่กล้าพูดมันออกไป เวลาที่พูดหยอดให้ติดตลกเขาสามารถทำได้ แต่พอต้องพูดเรื่องนี้แบบจริงจังโอมดันเขินจนไม่กล้าที่จะบอกความในใจออกไป สิ่งที่โอมทำได้ตอนนี้ก็คือ...แย่งหมูเพื่อนมาให้เตอร์กิน

“ไอ้เฮียยยยหมูกู!” ดันไปแย่งหมูแจ็กเข้าให้ เจ้านี้นี่ตัวโวยวายชัดๆ

แล้วไง...เมินสิครับรออัลลัย~

“พี่โอมแย่งเพื่อน นิสัยไม่ดีเลย”

“เดี๋ยวพี่จะแย่งเตอร์กินด้วย” ว่าแล้วโอมก็จับข้อมือของเตอร์ที่คีบหมูกับผักอีกคำมาใส่ปากตัวเอง ท่ามกลางสายตาของเพื่อนและรุ่นน้องทุกคน

“ไม่เดี๋ยวแล้วปะวะพี่! โง้ย...เตะเลย”

“แน่จริงลุกมาเตะสิ ถ้าไม่กลัวพี่สวนนะมาได้เลยครับน้องเตอร์” โอมลอยหน้าลอยตากวนประสาท

“ผมจะงอน”

“ไม่ง้อนะ”

“ไม่ได้ดิ พี่ต้องง้อผมสิ ต้องง้อผมนะพี่โอม!” เตอร์หมั่นไส้ก็เลยตีไหล่โอมไปหนึ่งที

“ฮ่าๆ อะ...พี่เอากุ้งมาง้อ” โอมคีบกุ้งตัวใหญ่สุดในกระทะมาแกะเปลือกแล้วจ่อปากเตอร์ เลิกตาประมาณจะกินไหม?

“หายงอนก็ได้ เห็นว่าพี่ง้อผมหรอกนะ” เตอร์งับกุ้งจากนิ้วมือโอมแล้วเคี้ยวอย่างสบายใจ

“ที่ง้อเพราะเดี๋ยวพี่ไม่มีคนแบกลงแรงก์หรอกนะ”

“โห่ ผมไม่น่าแบกพี่เลย ต่อไปนี้เล่นเองเลยนะ ผมไม่สนใจแล้ว ปล่อยพี่ฝ่าแรงก์ไปคนเดียวเลย”

“เอ้า พี่ง้อแล้วไง ง้อแล้ว เตอร์ก็หายงอนแล้วเพราะงั้นเตอร์ต้องแบกแรงก์พี่ต่อนะครับคนดี” โอมหยิกแก้มเตอร์เบาๆ

“ผมคายกุ้งคืนแป็บ”

“เดี๋ยวตีเลย”

“ฮ่าๆ ล้อเล่นหน่า ใครเขาจะกล้างอนพี่จริงจังกัน” เตอร์เอนหัวซบไหล่โอมทั้งที่ยังส่งยิ้มให้โอมอยู่

พวกเขาทำเหมือนอะไรรู้ไหม? พวกเขาทำเหมือนตรงนี้มีแค่พวกเขาแค่สองคนไง

“เพื่อนๆ ยังมีความหมายอยู่ไหม โทษที” มอสเอ่ยขึ้นมาลอยๆ หลังส่งเสียงกระแอมแล้วถูกเมิน

แต่นั่นแหละ...เสียงนั้นมันคือการดึงโอมและเตอร์ออกมาจากโมเมนต์ส่วนตัว

“พี่ก็เห็นว่าพี่โอมแกล้งผมก่อนนะ” เตอร์ว่าแก้เขิน ส่วนโอมตคีบหมูคีบผักมากินสบายใจเฉิบ

“กูเห็นว่าพวกมึงสวีตกัน” คำนี้ตรงไปตรงมายิ่งกว่า เล่นเอาเตอร์และโอมแทบจะสำลักของกินในปากกันทั้งคู่

“คิดไปเอง พวกมึงอะช่างจินตนาการ”

“เหรอโอมเหรอ พวกกูจินตนาการเหรอ” แจ็กลากเสียงยาว

“แปลกตรงไหนวะ โอมแม่งก็เล่นงี้กับทุกคน” คำพูดวัตเหมือนเตะตัดขาโอมจนล้มหน้าคะมำไปกับพื้น เตอร์เองยังนิ่งไปเลย

“นั่นสิ” แจ็กเพิ่งคิดได้ก็เลยหันไปสนใจหมูกระทะต่อ

วัตไม่ได้รู้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียวว่าได้ทำลายบรรยายกาศระหว่างโอมกับเตอร์ให้พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง โอมเองก็ปฏิเสธไม่เต็มปากว่าเขาไม่เคยหยอดคนอื่นหรือเล่นกับคนอื่นแบบนี้ เพียงแต่เขาไม่เคยเล่นกับใครใกล้ชิดและหยอดจริงจังเท่าเตอร์ แล้วจะให้แก้ตัวตอนนี้มันก็ไม่ได้ใช่ไหมละ

หมูกระทะแม่งไม่อร่อยแล้วล่ะตอนนี้

โอมหันไปมองเตอร์ ตอนนี้ฝ่ายนั้นกินไปเข้าเกมไป สักพักเตอร์ก็เริ่มพิมพ์อะไรบางอย่างในหน้าแชตเกมโดยไม่ได้หันมาให้ความสนใจกับโอม ราวกับเด็กน้อยตอนนี้กำลังงอนจริงจังแล้ว

หน้าแชตเกม I dentity V
HRxTher : เบื่อเลย

แชตเกมไหลไปเรื่อยๆ รวมถึงแชตของเตอร์ก็เริ่มไหลหายไปตามการพูดคุยของคนอื่นๆ ไม่ได้มีใครให้ความสนใจกับแคลนเล็กๆ ที่เพิ่งเปิดตัวและผู้เล่นที่แรงก์ไม่เยอะเท่าไหร่นัก ทว่าโอมที่รีบตามเข้ามาในเกมนั้นอ่านข้อความของเตอร์ทัน

HRxCookkie : ผมเลิกหยอดคนอื่นนานแล้ว

โอมพิมพ์เสร็จก็หันไปมองเตอร์ เป็นจังหวะเดียวกับที่เตอร์เงยหน้ามามองเขา โอมพยายามยิ้มให้ก่อนจะก้มหน้าก้มตาไปพิมพ์ข้อความในหน้าแชตเกมต่อจากข้อความเดิม ระหว่างที่พิมพ์เขาก็เห็นว่าเตอร์ก้มหน้าไปดูหน้าจอมือถือแล้ว

HRxCookkie : พอได้หยอดน้องก็เริ่มไม่อยากหยอดใครอีก

HRxTher : น้องไหนนะ?

HRxCookkie : น้องเตอร์ไงครับ เลิกนอยด์นะ...แกะกุ้งมาง้อแล้ว

โอมสะกิดไหล่เตอร์เบาๆ ทำให้เตอร์ต้องเงยหน้าจากหน้าแชตเกมมามองคนข้างกาย ในมือของโอมนั้นมีกุ้งตัวใหญ่ที่ดูน่ากินมากๆ ยื่นมาใกล้ปาก เตอร์ยิ้มตอบแล้วก็งับกุ้งนั้นจากมือของโอม ไม่ต่างจากครั้งแรก แค่ครั้งนี้...พวกเขาใช้ความเงียบแทนคำพูด

….100%….

เวลาเขาอยู่กันสองคนละมันหวานนนนน หวานไปหมดเลย หมูกระทะก็คงหวาน กุ้งที่ถูกเอามาง้อก็น่าจะหวานเหมือนกุ้งเชื่อมแน่เลย >\\\\<

ฝากคอมเมนต์&แชร์เป็นกำใจให้ข้าน้อยด้วยนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
....ตอนที่ 6 [100%].....

มอสหนีเข้าห้องพักแขกตอนเที่ยงคืนกับวัต แจ็กหลับคาโซฟา ตอนนี้ที่เหลือมีชีวิตอยู่ก็แค่สี่คนตรงโต๊ะเล็กกลางห้องนั่งเล่น โดยมีโอมที่เป็นรุ่นพี่คอยช่วยทำรายงานอยู่แค่คนเดียว แม้ว่าตอนนี้เวลาจะล่วงเลยเข้าสู่ตีสามอย่างเป็นทางการแล้วก็ตามที

“เสร็จแล้วโว้ยยยย เชี่ย ง่วงจะตายแล้วเนี่ย” โจ๊กหงายหลังลงไปนอนกับพื้นห้องหลังคีย์ข้อความในหน้าสุดท้ายเรียบร้อย

“ก็ใครให้ทำไปเล่นไปวะ ดูดิ้ กว่าจะเสร็จปาไปกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย” เตอร์ว่าโจ๊ก คิ้วขมวดตาดุเพราะเขาไม่พอใจที่เพื่อนๆ ไม่ค่อยตั้งใจทำรายงานอย่างที่ควรจะเป็น

“เดี๋ยวพรุ่งนี้กูเอาไปเข้าเล่มเองละกันนะ ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว นอนตรงไหนได้อะพี่โอม” ดรีมช่วยเก็บของตรงโต๊ะที่กระจัดกระจาย ทั้งดินสอปากกา สมงสมุดต่างๆ

“นอนกันในห้องพี่ก็ได้”

“นอนห้องพี่แล้วพี่นอนไหนล่ะ พวกผมนอนกันข้างนอกก็ได้นะ นอนพื้นมันนี่แหละพี่ง่ายดี แค่นี้ก็รบกวนพี่มากพอแล้ว ดูดิ...หาวจนตาแดงหมดแล้วอะ” เตอร์หันไปมองหน้าโอม เขาเห็นแล้วล่ะว่าพี่โอมน่ะหาวแล้วหาวอีกแต่ก็ยังจะอยู่ช่วยทำรายงานให้เสร็จ

“ไม่เป็นไร พวกเราไปนอนห้องพี่เถอะ เดี๋ยวพี่ไปเบียดไอ้มอสกับวัตมันนอนก็ได้ ส่วนแจ็กปล่อยมันไว้ตรงนี้แหละ”

“เดี๋ยวดิ จะรีบนอนแล้วเหรอ ไม่ลงแรงก์ตีสามต่อกันสักหน่อยเหรอพี่” ไอ้คนที่นอนยืดเส้นยืดสายไปเมื่อครู่อย่างโจ๊กดีดตัวขึ้นมาถาม

“มึงยังจะชวนพี่โอมเล่นเกมอีก แค่นี้เขาก็ง่วงจะแย่แล้วเฮ้ย” เตอร์ว่าเพื่อน

“ก็แค่ชวน พี่โอมไม่เล่นก็ไม่ได้ว่าอะไรปะวะ” โจ๊กเถียงกลับ

“ชวนเชี่ยไรเกรงใจบ้าง เขาช่วยทำงานในขณะที่พวกมึงเอาแต่เล่นไปทำงานไป มีอย่างที่ไหน พิมพ์ได้แค่หน้าสองหน้าก็เข้าเกมเล่นมันอีกและ ไม่เล่นก็มัวแต่คุยแชตในเกม นี่ถ้าตั้งใจทำมันก็เสร็จนานแล้วเหอะ”

“บ่นไรหนักหนามึงเนี่ย พวกกูก็ทำงานงี้มาตลอด”

“ตลอดไม่ได้ดิวะ เกรงใจคนช่วยบ้าง”

“พี่โอมยังไม่พูดไรเลยมึงนี่ออกตัวแทนพี่โอมทุกอย่าง”

“มารยาทอะมึง หัดมีบ้าง”

“อ่า...ทะเลาะกันจะไม่ได้นอนนะ” โอมรีบห้ามทัพ

“พี่โอมอะอย่าใจดีกับมันดิ มันทำพี่ปวดหัวตั้งหลายรอบนะคืนนี้อะ ดุมันสิดุมัน!” เตอร์ทำเสียงเข้มใส่โอมแบบไม่จริงจังนัก ทีกับโจ๊กนี่เถียงเอาเป็นเอาตาย พอหันมาพูดกับโอมกลายเป็นแมวน้อยเถียงเจ้านายขึ้นมาเลย

“พี่ดุไม่เป็น” โอมตั้งศอกกับโต๊ะเล็กเพื่อเท้าคางมองหน้าเตอร์ยิ้มๆ

“ไม่เป็นก็ต้องหัดดุบ้างสิพี่ ยอมให้น้องๆ แบบนี้มันก็ดีหรอกนะ แต่มากไปมันก็ไม่เวิร์กหรอกพี่ เนี่ย ดูไอ้โจ๊กดิ มันได้ใจหมดแล้วเพราะพี่ใจดีอะ” ในสายตาโอมตอนนี้เตอร์งอแงจริงๆ

“พี่ดุพวกเราก็กลัวพี่สิ ไม่อยากให้กลัวนะ”

“พี่โอมอะ!” เตอร์หน้างอเพราะไม่รู้จะพูดยังไงกับพี่โอมแล้ว

“เอาหน่า พี่เข้าใจ พวกพี่ยังเป็นเลย ทำงานไปเล่นไป มันเสร็จช้าหน่อยแต่ก็ผ่อนคลายดีไม่ใช่เหรอ ยังไงซะพรุ่งนี้น้องๆ ก็หยุดกันนะ” ว่าจบโอมก็ยีหัวเตอร์เบาๆ เตอร์มองโอมหน้าหงิกแต่ก็ไม่ได้ปัดมือโอมออกจากหัวตัวเอง

“พรุ่งนี้พี่ต้องไปไหนปะ”

“ไม่ล่ะ นอนยาว....”

“งี้ผมตื่นสายได้”

“แน่นอน เตอร์ตื่นสายได้ ถ้าตื่นก่อนก็ปลุกพี่ด้วยเดี๋ยวหาอะไรให้กิน”

“อยากกินกุ้งกระเทียม”

“น้องเตอร์จะได้กินกุ้งกระเทียม” เตอร์ขำนิดหน่อย เขาโน้มกายเข้าใกล้โต๊ะแล้วนอนหนุนแขนตัวเองมองหน้าหน้าโอมในระยะประชิด

“พี่โอมใจดีไปรู้ไหม...”

“ไม่ได้ใจดีกับทุกคนนะ” พอได้ยินโอมพูดงี้เตอร์ก็ย่นจมูก

“เท่าที่เห็นมาก็ทุกคนนั่นแหละที่พี่โอมใจดีอะ” โอมขำกับท่าทางแบบนั้น

“อยากให้พี่ใจดีกับเตอร์คนเดียวเหรอครับ”

“อืม...มันคงดีนะ”

“ใช่ มันคงดี...คงดีมากถ้าพวกคุณไม่ทำเหมือนพวกผมสองหน่อตรงนี้ไร้ตัวตนไปอย่างสิ้นเชิง คือถ้าไม่เล่นเกมพวกผมก็จะได้ไปเล่นกันเองในห้องนอน เล่นเสร็จแล้วหลับ แต่ถ้าเล่นด้วยก็มาจอยกันเถิดคุณทั้งสอง” โจ๊กพูดแทรกขึ้นมาเพราะทนเห็นทั้งสองคนคุยกันงุ้งงิ้งตามลำพังไม่ไหว จะเอายังไงก็ควรบอกเพราะโจ๊กกับดรีมนั้นเข้าเกมเพื่อรอทั้งคู่อยู่แล้ว

“ฮ่าๆ โทษทีนะ พวกเราเล่นกันเลยก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน กลับมายังไม่ได้อาบน้ำเลย” โอมยืดตัวขึ้นนั่งมองหน้าน้องอีกสองคนตรงข้าม จากนั้นยืดแขนบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วค่อยลุก

“แล้วมึงจะเล่นไหม” โจ๊กถามเตอร์

“เอาดิ ไม่กี่ตานะ ง่วงวะ” เตอร์หยิบมือถือตัวเองมากดเข้าเกม

ทั้งสามเข้าไปรวมเป็นปาร์ตี้สามคนกันในเกม ซึ่งรอบนี้แอบแปลกไปเล็กน้อยเพราะว่าเพื่อนของเตอร์ดันมาลงเซอร์ร่วมกัน ปกติแล้วดรีมกับโจ๊กจะไปเล่นฮันเตอร์เพื่อไล่ล่าเซอร์เสียมากกว่า แต่ก็ใช่ว่าเพื่อนเตอร์ทั้งสองจะมีแรงก์เซอร์ที่ต่ำกว่ามากนัก พวกนี้ใช้เวลาครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงในการลงเซอร์ก่อนแยกย้ายไปเก็บแรงก์ฮัน

ขณะที่นั่งรอห้องอยู่นั้น...

“กูว่า...พี่โอมมองมึงแปลกๆ” ดรีมก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของห้อง จะมีก็แต่เสียงสายน้ำที่ดังออกมาจากห้องนอนของโอมเอง

“เหรอวะ กูว่าไม่นะ” โจ๊กจับจ้องอยู่ที่หน้าแชตโลกพลางตอบเพื่อนสนิท

“แปลกยังไง” เตอร์มองหน้าดรีม

“ก็แบบ...มองเหมือนมองแฟน หรือเปล่าวะ กูว่าไม่เหมือนมองรุ่นน้องอะ” คือ...แค่พูดมาแค่นี้เตอร์ก็ดันเขิน

“บ้า มึงอะคิดมาก พี่โอมแกเป็นคนเฟรนลี่แบบนี้เฉยๆ หรอก ไม่ได้มีอะไร มันอาจเป็นนิสัยแก”

“แต่เขาไม่เคยมองเพื่อนหรือพวกกูแบบนั้นนะมึง” ดรีมยังพูดต่อ

“ก็พวกมึงอาจไม่ได้สนิทกับเขาเท่ากูที่ช่วยนี้เล่นกับพี่โอมบ่อยก็ได้ปะวะ”

“เป็นงั้นเหรอ?”

“เออ แบบนั้นแหละ อย่าคิดมากเลยไม่มีไรหรอก”

“อืมๆ”ดรีมไหวไหล่ไม่ใส่ใจ

แต่ไอ้คนบอกไม่มีไรน่ะ…ตัวคิดเลย!

เตอร์ก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่นัก พี่โอมน่ะเฟรนลี่ สาวๆ และหนุ่มๆ ต่างเข้าหาเพื่อขายขนมจีบพี่โอมมาตั้งแต่พวกเขาเข้าปีหนึ่ง ยันทุกวันนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ เพื่อนพี่โอมเองยังพูดทำนองว่าอิจฉาที่พี่โอมมีแต่คนมารายล้อม ต่างจากพวกตนเองที่จะหาแฟนสักคนยังยากแล้วยากอีก จะว่าหน้าตาไม่ดีก็ไม่ใช่ มันก็แค่พี่โอมหน้าตาดีกว่าเท่านั้นเอง

แล้วคนแบบนี้น่ะเหรอจะมาคิดอะไรกับเด็กรุ่นน้องแถมเป็นผู้ชายอย่างเตอร์...มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก

“มีใครหิวอะไรไหม” โอมเดินออกมาจากห้อง สวมเสื้อกล้ามกับกางเกงผ้าร่มขาสั้น เตอร์เพิ่งเคยเห็นเนี่ยแหละว่าพี่โอมเวลาอยู่บ้านแต่งตัวแบบนี้นี่เอง

“มีอะไรให้กินมั้งอะพี่” โจ้กเงยหน้าถาม

“มาม่า...”

“ฮ่าๆ” พอโอมตอบ เตอร์ก็ขำ เพราะสีหน้าของเพื่อนแต่ละคนคือคาดหวังว่าจะมีของกินที่ดูดีกว่านี้

“งั้นเอาไว้ก่อนพี่ ยังไม่ค่อยหิว” เตอร์เป็นคนตอบ จากนั้นทั้งสามก็นั่งเล่นเกมกันอย่างเมามันโดยมีโอมนั่งอยู่ข้างเตอร์ สายตาจับจ้องหน้าจอโทรศัพท์และหน้าเตอร์สลับกัน

ผ่านไปราวๆ หนึ่งชั่วโมงรุ่นน้องทั้งสามก็เริ่มจะอยู่เล่นเกมต่อไม่ไหว โอมน่ะเหรอ ใกล้หลับเต็มทีแล้ว อยากจะชวนนุ้งเตอร์มานอนด้วยกันแต่มันดูล่อแหลมเกินไปก็เลยฝืนง่วงมองเตอร์เล่นเกม โอมรู้สึกว่าเวลาเตอร์เล่น นิ้วมือของเตอร์จะพลิ้วมากๆ สามารถควบคุมตัวละครที่ตนเองใช้เล่นในเกมได้อย่างลื่นไหลราวกับไปวิ่งเองในนั้นเลย เขาอิจฉานิดหน่อยเพราะโอมไม่สามารถทำแบบนั้นได้

“พี่โอมจะนอนไหน” เพื่อนเตอร์ทั้งสองขอตัวไปนอน โอมให้นอนที่ห้องตัวเองไป ห้องแขกนี่วัตกับมอสนอนกันทีก็เต็มเตียงแล้ว

“พี่ว่าจะนอนนี่แหละ มีพรมอยู่แล้วด้วยเดี๋ยวเอาหมอนกับผ้าห่มมาก็นอนได้สบายมาก”

“ทำไมพี่ไม่ให้พวกผมนอนนี่แล้วพี่ไปนอนในห้องตัวเองละครับ แบบนี้พวกผมเกรงใจนา”

“เตอร์เกรงใจก็มานอนเป็นเพื่อนพี่ตรงนี้สิ” โอมหยอดไปงั้น เขากำลังเคลื่อนย้ายเอาโต๊ะเล็กที่ทำมาจากเหล็กและกระจกไปวางห่างๆ เดี๋ยวเขาจะนอนข้างโซฟาที่แจ็กมันนอนอยู่

“ได้เดี๋ยวผมนอนข้างพี่โอมนะ อ้อ...ไปเอาหมอนกับผ้าห่มมาให้ด้วยดีกว่า” โอมถึงกับชะงักไป คิดว่าเตอร์จะนอนในห้องกับเพื่อนซะอีก ไหงมานอนกับเขาได้ หรือว่า...เพราะเตอร์ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง แถมยังเป็นผู้ชายทั้งคู่อีกต่างหาก

เตอร์หอบหิ้วเอาผ้าห่มผืนใหญ่มาหนึ่งผืนกับหมอนอีกสองใบ ในห้องของโอมนั้นไม่ได้มีผ้าห่มเยอะ ถ้าเอามาสองผืนโจ๊กกับดรีมก็จะไม่มีเอาไว้ห่มกัน โอมตัดสินใจนอนติดกับโซฟาแล้วถัดไปก็เป็นเตอร์ที่นอนอยู่ข้างๆ

“ไม่อาบน้ำจริงอะ” โอมเอนกายนอนหนุนหมอนของตนเอง มองเตอร์ที่นั่งตบหมอนแปะๆ

“อาบดิพี่ แต่โจ๊กกับดรีมมันอาบน้ำอยู่ เดี๋ยวรอให้พวกมันอาบเสร็จแล้วผมค่อยเข้าไปอาบ”

“กว่าจะได้นอนนี่พระอาทิตย์ขึ้นก่อนเปล่า” โอมว่าขำๆ

“ผมก็ว่างั้นอะพี่ แย่เลยเนอะ...พวกผมมาทำให้พี่นอนเช้าเลยอะ” เตอร์วางหมอนเอาไว้ข้างโอมแล้ว แต่ยังนั่งอยู่เพราะถ้านอนเลยเดี๋ยวจะขี้เกียจไปอาบน้ำได้

“ม่ายเป็นรายยยย คิดมากอะเรา” โอมจิ้มพุงเตอร์เบาๆ เตอร์หน้าหงิกใส่แล้วจิ้มพุงโอมกลับบ้าง ทว่าสิ่งที่เตอร์เจอนั้นล้วนเป็นกล้ามเนื้อทั้งสิ้น

“ไม่น่าจิ้มพุงพี่เลย นั่นเรียกพุงเหรอ...พุงน่ะมันต้องแบบนี้สิพี่โอม” ว่าแล้วเตอร์ก็เปิดเสื้อขึ้นเพื่อโชว์พุงของตัวเอง เล่นเอาโอมชะงักไปอีกครั้งเพราะความขาวมันกระแทกตาเข้าอย่างจัง

“พุงเตอร์น่าฟัด” แค่คำพูดง่ายๆ ของโอมก็ทำให้เตอร์เสหน้าไปทางอื่นแล้วปิดเสื้อลงไป

“ไม่ให้ฟัดหรอก แบร่!” เตอร์รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปในห้องนอนโอมเพื่ออาบน้ำ

ทิ้งให้โอมอยู่กับภาพพุงขาวๆ ที่แสนจะตรึงตราตรึงใจอยู่กับที่เดิม มันน่าฟัดมากเลยนะ...น่าเอาหน้าจุ่มเข้าไปในพุงขาวๆ นั้นแล้วจูบไปมาเบาๆ โอย แค่คิดก็สยิวกิ้วแล้วไหมละเนี่ย โอมถูหน้าตัวเองแรงๆ หนึ่งทีแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้มีน้ำลายไหลออกมาตามมุมปาก

เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ...เห็นหน้าเพื่อนแล้วความหื่นที่มีเมื่อครู่นี้ได้หายไปหมดจนจนไม่เหลือความหื่นเอาไว้เลยแม้แต่เสี้ยวเดียว อนาถจิต อนาถใจ อายุเท่าไหร่แล้วเพื่อนเขาก็ยังดูเหมือนเด็กน้อยอยู่ดี นี่ที่คิดแบบนี้ไม่ได้เอ็นดูเพื่อนตัวเองนะ แค่รู้สึกว่ามึงโตให้สมตัวหน่อยเถอะ

มองหน้าเพื่อนจนหายหื่นแล้วก็หาอะไรในเฟซบุ๊กดูไปเรื่อยเปื่อย และที่โอมไม่ค่อยพลาดเลยก็คือการถ่ายรูปตัวเองเพื่ออัปเดตสเตตัสในแต่ละวัน เขาถ่ายรูปตัวเองที่นอนอยู่บนที่นอนพร้อมรอยยิ้มหวานๆ กดอัปไปหน้าเฟซกับสเตตัสว่า

‘ถ้าไม่ใช่คุณ...ผมไม่นอนเอาเช้าแบบนี้หรอกจะบอกให้’

เสร็จก็ยิ้มขำกับตัวเอง เขานี่ชอบหยอดชอบเสี่ยวแบบนี้มันทุกทีสิหน่า แต่ก็นะ...มันห้ามยาก ด้วยลักษณะนิสัยที่เป็นแบบนี้มานานแล้ว บวกกับเวลาอยู่กับเตอร์เขาจะรู้สึกอยากหยอดน้อง อยากแกล้งน้อง อยาก...กินน้อง

โอ้ย น้องไม่ใช่ของกิน!

แอบเคาะกะโหลกตัวเองเบาๆ ที่คิดไม่ซื่อกับรุ่นน้อง คือ...มันก็คิดไม่ซื่ออยู่แล้วแค่มากกว่าเดิมเท่านั้นเอง ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งคิดดีไม่ได้เลย ทั้งที่ตอนแรกโอมค่อนข้างเก้อเขินเวลาเจอหน้าน้อง หรือว่าทำตัวไม่ถูกเวลาที่น้องเข้ามาใกล้ แต่ดูเหมือนว่าพอได้เล่นเกมด้วยกัน คุยด้วยกันบ่อยๆ อาการเหล่านั้นมันก็หายไป แทนที่ด้วยความอยากจับน้องทำ...แค่กๆ

ความคิดนั้นโปรดหยุดเถิด...

“พี่โอมเตอร์ปิดไฟเลยนะ” เสียงของเตอร์ดังขึ้นเรียกสติ โอมตวัดสายตาไปมองร่างเล็กกว่าที่ยืนยีหัวตัวเองในชุดนอนที่

อ่า...คิดดีไม่ได้จริงๆ

เตอร์ใส่เสื้อยืดคอวีสีขาวบางๆ กับกางเกงที่เอ่อ...ขาสั้นเหรอ หรือน้องใส่บ๊อกเซอร์อันนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่เลย เอาเป็นว่าชายเสื้อน้องมันปิดกางเกงเสียมิดจนพี่คนนี้คิดว่าน้องไม่ได้ใส่กางเกง โอมพยักหน้าเบาๆ ให้เตอร์ปิดไฟได้ การปิดไฟทำให้ไม่เห็นดังนั้นมันคงเป็นการดีที่จะไม่คิดอกุศลกับน้อง

แต่ครับแต่...นั่นเป็นเพียงความคิดที่ว่ามันจะดีกว่า ทว่าในความเป็นจริง เมื่อเตอร์ล้มตัวลงมานอนข้างๆ หมอนชิดหมอนเพราะพรมที่ปูเอาไว้หน้าทีวีนี้ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น อีกทั้งน้องยังต้องห่มผ้าห่มผืนเดียวกับโอมอีก นี่มันหายนะยิ่งกว่าการเห็นในระยะเอื้อมไม่ถึงอีกนะ

“พี่โอม...” เตอร์นอนตะแคงหันหน้าเข้ามาหา รอยยิ้มสดใสนั้นถูกส่งมาให้แม้ว่าแสงในห้องจะน้อยนิด

“ครับ”

“สบู่ที่พี่โอมใช้หอมมากเลยอะ พี่ซื้อจากที่ไหนเตอร์อยากใช้บ้าง” นอกจากกลิ่นสบู่ที่หอมกว่าเดิมเมื่อไปอยู่บนตัวเตอร์แล้ว เตอร์ยังเรียกตัวเองว่าเตอร์อีก แล้ว..แล้ว...แล้วมันเยอะไปหมดเลยโว้ย ไอ้เสื้อคอวีเวรเนี่ยก็กว้างจ๊างงงง เห็นครับโอมเห็นแล้ว...ขาวผ่อง

“ฮัลโหลพี่โอม พี่ยังตื่นอยู่ไหมเนี่ย ต้องตื่นสิก็พี่มองผมอยู่อะ ว่าไงจะบอกเตอร์ได้ยังว่าพี่ซื้อสบู่จากที่ไหน เตอร์อยากได้บ้างแต่ไม่เคยเห็นในเซเว่นเลย” เตอร์เอื้อมมือมาจิ้มแก้มโอมเพราะโอมเอาแต่มองเตอร์นิ่งๆ

“พี่ซื้อจากแวลู่ ไว้...เดี๋ยวพาไป”

“อ้อ โอเคเลย แต่ว่าพี่โอมได้ยินเสียงไรปะ ไม่ใช่เสียงซืดน้ำลายของพี่แจ็กนะ มันดังแบบดุ้บๆ ยังไงไม่รู้อะพี่” โอมไขข้อสงสัยของเตอร์ด้วยการจับมือของเตอร์มาวางที่…

…หน้าอก

“เสียงหัวใจพี่เอง”

....100%....

ข้าเจ้าชอบโมเมนต์ที่สองคนนี้คุยกันจังเลยง่าาาาา มันน่ายัก นุ้บนิ้บหัวใจจุง คุงโอมก็ขยันหวาน นุ้งเตอร์ก็ขยันอ่อย เฮ้อออออ ใจข้าเจ้าละลายแย้ว

แล้วนักอ่านละคะ ฟินเหมือนข้าเจ้าไหมง่ะ?
ปล.อภัยที่อาทิตย์ที่แล้วหายไปนะคะ พอดีตีกับตัวเองอยู่ แฮ่ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-02-2021 16:18:10 โดย GukakST »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
….ตอนที่ 7 [100%]….

พวกรุ่นน้องแยกย้ายกันไปตอนบ่ายกว่า คือหลังจากตื่นมาลงแรงก์ด้วยกันค่อยชิ่งน่ะว่างั้นเถอะ ดูเหมือนทั้งเพื่อนโอมและรุ่นน้องโอมทั้งหมดต่างก็ติดเกมนี้กันอย่างจริงจัง ถึงขั้นฝึกปรือฝีมือเพื่อไต่แรงก์กันแบบเข้มงวด โอมที่ได้ลงกับเพื่อนๆ ด้วยในวันอาทิตย์นี้ถึงกับโดนวัตบ่นแล้วบ่นอีกกับการล้มไวในเกม

ก็เขาเล่นไม่เก่งนี่...

จะมีก็แต่เตอร์ที่คอยบอกว่าให้ใจเย็นๆ แล้วค่อยบอกค่อยสอน ค่อยประคองให้โอมเล่นเซอร์ด้วยความใจเย็นและไม่มีท่าทีเบื่อหน่ายกับความกากของโอม ทั้งคู่นั่งเล่นด้วยกัน แทบจะนั่งชิดไหล่ติดกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะนั่งเล่น นั่งดูโทรศัพท์ธรรมดาหรือแม้แต่นั่งกินข้าวก็ตามที

ช่วงเวลาเหล่านั้นสำหรับโอมมันมีความสุขมากๆ เขาไม่อยากให้มันผ่านไป แน่ล่ะ ใครจะอยากอยู่ห่างกับคนที่ตัวเองชอบกันล่ะ เขายังอยากเล่นกับเตอร์ ต่อให้เขาเล่นกากหรือไม่พัฒนาเขาก็จะพยายามเพื่อจะไม่ถ่วงเตอร์ โอมไม่สนคำว่าทีมด้วยซ้ำนะเอาจริงๆ

ทว่าการแยกย้ายกันไปห้องใครห้องมันก็ไม่ได้ทำให้โอมกับเตอร์นั้นห่างกันหรอก เพราะทั้งคู่ก็ยังคงคอลดิสอยู่ด้วยกันแทบจะทั้งวัน นั่งกินข้าวก็คุยกัน เล่นเกมก็คุยหรือโอมนั่งทำรายงานก็คุยกัน บางจังหวะน่ะมันก็แค่...ฟังเสียงอีกฝ่ายทำอะไรบางอย่างไปตามเรื่องตามราว โดยไม่ได้มีคำพูดใดๆ หลุดออกมา

แต่แค่รู้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่ในปลายสาย...มันก็ดีต่อใจมากแล้ว

หน้าแชตดิสคอร์ด V Home

HRxCookkie
ทำไงดีครับ ตอนนี้เพื่อนของผมทั้งหมดนั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับพวกมันโดนมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวไปยังที่ใดสักที่เพื่อทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ผมนั้นเป็นห่วงเพื่อนของผมสุดใจ โดยเฉพาะว่าถ้าพวกมันตายไปจากการทดลองมันจะมาหลอกหลอนผม ผมหวังว่าพวกมันจะไม่มาเพราะผมจะไปเอาพระมาไว้ในห้องให้เยอะๆ

โอมนั่งพิมพ์ข้อความไปขำไปกับความเกรียนของตนเอง ตอนนี้เขาเลิกเรียนแล้วและนั่งเล่นอยู่ในศาลาหน้าคณะ ส่วนเพื่อนๆ ของเขานั้นก็แยกย้ายกันไปเรียนวิชาเลือก ยกเว้นแจ็กที่ไปกับกลุ่มอื่นเพื่อม่อสาวในกลุ่มนั้นตั้งแต่เลิกเรียนแล้ว

HRxWTF
มึงเป็นบ้าเหรอวะไอ้โอม ไม่มีเพื่อนทีนี่เหงามากช้ะ

HRxMos
นั่นดิ น้องเตอร์ไม่ว่างเหรอครับเพื่อน ถึงมางอแงอะไรอยู่หน้าดิส

HRxWTF
ว่างมากไปหัดเล่นเกมให้เก่งๆ ทีนะเพื่อนนะ

HRxCookkie
@HRxWTF กูเล่นจนปวดนิ้วไปหมดแล้วเหอะ ให้กูว่างนั่งทำหน้าโง่ๆ อยู่ใต้แสงแดดอันร้อนแรงหน่อยไม่ได้เหรอวะ
@HRxMos น้องเตอร์ติดเรียนครับผม

นุ้นนิ้นนักโนม
@HRxCookkie พี่โอมงอแงน่าร้ากกกก มางอแงใส่น้องได้ตลอดเลยนะคะพี่ขา หนูจะปลอบพี่เองแฮ่กๆ

HRxCookkie
@นุ้นนิ้นนักโนม ขอบคุณนะครับ

HRxTher
@HRxCookkie พี่โอมหันมาทางซ้ายหน่อยสิครับ

โอมชะงักมือที่กำลังจะกดพิมพ์เพราะเห็นเตอร์กำลังพิมพ์อยู่ เขายังไม่ทันพิมพ์ทักทายเตอร์ก็โดนเตอร์ให้หันไปมองก่อน กะว่าเตอร์อาจจะหลอกให้หันไปมองหรือเปล่า ทว่าเขานั้นก็ทำตามที่เตอร์บอกก่อนจะคิดว่าเตอร์หลอกตัวเองด้วยซ้ำ

“ว้าย...มีคนโดนทิ้ง” เตอร์ส่งเสียงเย้าทันทีที่โอมหันมาเจอ รอยยิ้มกว้างๆ อันสดใสของเตอร์กระแทกตาโอมจนเกือบตาบอด เวอร์...แดดมันแรงหรอก

“ว่าพี่แล้วเพื่อนเตอร์ล่ะไปไหนหมด”

“ก็...ผมก็โดนทิ้งไงพี่ ฮ่าๆ ผมนั่งด้วยนะ” เตอร์เดินมานั่งข้างโอมในศาลา

“น้องเตอร์โดนทิ้งแบบนี้พี่ต้องปลอบใจหน่อยแล้ว ปลอบใจด้วยอะไรดีล่ะ...” โอมมองหน้าเตอร์

“อืม เล่นเกมเป็นเพื่อนผมก็พอ”

“แค่เป็นเพื่อนเองเหรอ”

“หยอดเก่งงงงงง” เตอร์ใช้ไหล่กระแทกไหล่โอมเบาๆ

“แล้วเราจะเล่นกันตรงนี้อะนะ พี่ว่าเราไปหาที่เล่นที่มันไม่ร้อนขนาดนี้ดีไหมล่ะ”

“ผมไม่รู้จะไปเล่นไหนอะ ไม่อยากกลับหอ อ๋อ...เล่นห้องพี่ไง ไม่ไกลจากนี่ด้วย ได้ไหม เตอร์ขอไปเล่นห้องพี่โอมนะ” น้องเตอร์ขอไปห้องแบบนี้...น้องใสๆ นะโอม น้องไม่คิดอะไรนะโอม โอม...โอมจงอย่าคิด...โอมอย่า...

บ้าเอ้ยยยย มันคิดดีไม่ได้เลย!

“ห้องพี่ต้อนรับน้องเตอร์เสมอ”

“ต้อนรับทุกคนด้วยก็บอก ไม่ต้องมาเตอร์สมงเสมอเลย” เตอร์ยิ้มขำจนตาแทบจมหายไปกับแก้ม

“เอ้าเป็นงั้นไป ห้องพี่ต้อนรับเฉพาะบางคนหรอก ถ้าต้อนรับทุกคนงี้ห้องพี่ก็เป็นห้องสาธารณะสิ”

“ก็จริงของพี่นะ ปะ...ผมอยากตากแอร์ในห้องพี่แล้ว” น้องเตอร์จะแก้ผ้าตากแอร์ในห้องพี่ก็ได้นะ แฮ่กๆ โอ้ว...ความคิดที่แว้บเข้ามาในหัวโอมมันช่างชั่วร้ายจริงๆ เขาไม่ควรคิดชั่วร้ายกับหนูตัวน้อยๆ อย่างเตอร์นะ

เคยเป็นไหม...ยิ่งห้ามยิ่งทำน่ะ

พอห้ามไม่ให้คิดอกุศลก็ยิ่งคิดอกุศกับน้องเตอร์เข้าทุกวี่ทุกวัน แค่ได้ยินเสียงโอมยังตีความได้มากมาย ยิ่งตอนไหนเตอร์ไปกินอะไรเผ็ดๆ มานะ แม่เจ้าโว้ยยยย ความคิดดีๆ ไม่เคยมีอยู่ในหัวอะบอกเลย มีความจังเลยที่ใครรู้ต้องมองโอมด้วยสายตาไม่ดีแน่นอน เพราะงั้นอย่าให้ใครรู้เด็ดขาด!

โอมกับเตอร์เดินเท้าไปยังหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อขึ้นรถไฟฟ้าไปยังห้องของโอม ซึ่งมันอยู่ใกล้มากๆ แค่สถานีเดียวก็มาลงที่หน้าคอนโดหรูได้แล้ว ระหว่างทางขึ้นคอนโดโอมได้แวะซื้อขนมนมเนยต่างๆ มาเพื่อเอาไว้กินด้วย โดยเฉพาะมื้อเย็นที่เขาและเตอร์ยังไม่ได้กินกันมาเลย

พอมาถึงห้องเตอร์ก็ดิ่งไปเอนหลังบนโซฟารูปตัวแอลกลางห้องนั่งเล่นทันที มีการส่งยิ้มหวานๆ ให้โอมด้วยเพราะเจ้าตัวเล่นไม่ช่วยโอมถือของหรือเอาของไปเก็บ ว่าง่ายๆ คือเตอร์น่ะจะแหย่โอมเล่นนั่นแหละไม่ได้ขี้เกียจตัวเป็นขนอะไรขนาดนั้นหรอก

โอมเอาของบางอย่างไปแช่ตู้เย็น และอีกส่วนก็เอามาวางจัดใส่จานเพื่อให้ตัวเองกับเตอร์ได้กินตอนนั่งเล่นเกมด้วยกัน ทว่าเมื่อเดินกลับมายังโซฟาก็เห็นเตอร์นั้นเหยียดยาวทางขวางจนเต็มโซฟาไปส่วนหนึ่ง ประเด็นอยู่ที่เตอร์ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของตนเองออกจนเห็นแผงอกขาวๆ โอมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง เขาต้องตั้งสติ วางของกินลงกับโต๊ะเล็กหน้าโซฟาแล้วพาตัวเองไปนั่งโซฟาด้านแนวยาว

“พี่โอมเห็นในดิสยัง มีแต่สาวๆ แท็กพี่เต็มเลยอะ บางคนก็บ่นๆ ว่าไม่ทันมาตอนพี่โอมออน ช่วงนี้นี่สาวเข้ามาในแคลนเราเยอะมากแล้วก็เต๊าะพี่โอมกันน่าดูเลยน้า” เตอร์มองหน้าโอมพลางลุกขึ้นนั่งดีๆ

“เหรอ พี่ไม่ค่อยได้สนใจเลยอะ นานๆ จะไปบ่นเล่นหน้าแชตสักที”

“อีกหน่อยสาวๆ ต้องเข้ามาคุยกับพี่โอมเวลาเราคอลดิสกันแน่นอน” เตอร์นั่งพิงหนักโซฟา โอมเองก็ขยับมานั่งพิงพนักข้างเตอร์แล้วเหยียดขายาวไปตามโซฟาตัวแอล

“พูดเหมือนหึงอะ”

“ใครหึง ไม่มีเลยเหอะ พี่มั่วแล้วนะพี่โอม” เตอร์เห็นโอมนั่งแบบนั้นก็ขยับแล้วไถลตัวลงนอนต่อ ที่จริงร่างเล็กพยายามจะกระถดตัวไม่นอนหนุนตักโอมแต่พอเขาเอนกายลงไปโอมก็จับให้เขาหนุนตักแกร่งจนได้

“คร้าบ พี่มั่วเองแหละ”

“ปะ เล่นเกมกันเถอะ เตอร์ได้ที่ล่ะ”

“ที่สบายด้วยนะ”

“ฮ่าๆ ที่นี่เป็นของผมคนเดียว....” เตอร์พูดอย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่าคำพูดของเขานั้นทำให้คนฟังยิ่งกว่าสุขเสียอีก

น้องเตอร์ครับ...น้องเตอร์จะทำให้ใจพี่เต้นแรงขนาดนี้บ่อยๆ ไม่ได้!

โอมเหลือบสายตาไปมองเตอร์ที่นอหนุนตักตัวเองอยู่ จากนั้นก็เหมือนสายตามันจะสำรวจร่างกายอีกฝ่ายอย่างอัตโนมัติ โดยเฉพาะคอเสื้อที่โดนปลดกระดุมออกไปสามเม็ดนั้นมันทำให้เขาเห็นหน้าอกขาวๆ ของเตอร์อย่างชัดเจน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นพอเตอร์ขยับแขนเพียงเล็กน้อยเสื้อมันก็ร่นลงจนเกือบจะเห็นหัวนม....

โอมกำลังอยากเห็นมัน อ๊ากกกกกก!!

ต้องแฮชแท็กใต้ความนิ่งเฉยคือความหื่นหรือเปล่า โอมในตอนนี้นิ่งสนิท นิ่งแม้กระทั่งลมหายใจของตัวเองพร้อมกับความลุ้นละทึกว่ามันจะร่นลงไปมากกว่านี้ไหม เขาจะเห็นตรงนั้นของน้องเตอร์หรือเปล่า แฮ่กๆ อยากเห็น...อยากจับถลกให้เห็นเลย!

“คุงโอมคร้าบน้องเตอร์เข้าเกมแล้ว” เตอร์เงยหน้าขึ้น มันสบเข้ากับดวงตาคู่มคที่จับจ้องบางอย่างอย่างชัดเจน

“อะ..เอ่อพี่เข้าเดี๋ยวนี้” เหมือนโชคยังเข้าข้างน้องเตอร์อยู่บ้าง ที่เอ่ยทักคุงโอมในจังหวะที่เหมาะเจาะ ไม่อย่างนั้นน้องเตอร์อาจจะโดนคุงโอมจับกดลงโซฟา ณ เดี๋ยวนี้

มือโอมสั่นน้อยๆ มันเป็นการสั่นที่มาจากความตื่นเต้น เพราะเขาดันคิดไม่ซื่อไปไหนต่อไหน มันโคตรไม่ควรเกิดขึ้น แต่ให้ตายเถอะ เขาหักห้ามความคิดของตัวเองไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ช่างน่าเศร้า ความใกล้ชิดที่มากขึ้นนี้ทำให้โอมแทบจะตบะแตกอยู่แล้ว

ไหนว่าเขากากไง...ไหนว่าเขาไม่กล้ายามอยู่ต่อหน้าเตอร์ไง นี่มันอะไรกัน ความคิดที่ไม่ซื่อมันผุดขึ้นมารวดเร็วยิ่งกว่าเชื้อราเสียอีก เขาละอยากจะตบหัวตัวเองแรงๆ ที่คิดไม่ดีกับน้อง ทว่าเขาทำไม่ได้เพราะมันคือสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ เขาอยากจับเตอร์กิน...อยากกินเตอร์โง้ย!

“เราไม่จำเป็นต้องเข้าดิสเนอะวันนี้ ลงดูโอ้เอาได้อยู่มั้งพี่โอม” เตอร์กดชวนโอมเข้าปาร์ตี้ทันทีที่โอมเข้าสู่ตัวเกม

“ได้สิ พี่ไม่มีปัญหาอยู่แล้วเพราะน้องเตอร์ต้องแบกพี่”

“โอย แบกจนหลังจะหักแล้วพี่โอม แต่เดี๋ยวนี้พี่ก็จู๊กได้หกสิบวิแล้วหนิ พัฒนาขึ้นเยอะเลยนะพี่ จากการที่พี่เอาแต่วิ่งติดนู้นนี่นั่นแล้วโดนฮันเตอร์ตีคนแรกตลอดน่ะ” เตอร์กดเริ่มเกม

“พี่ได้อาจารย์ดีน่ะครับน้องเตอร์”

“อาจารย์คนนั้นชื่ออะไรนะ ไหนบอกให้เตอร์รู้หน่อย” เตอร์เงยหน้าสบตาโอม แววตาแปร่งประกายราวกับกำลังหยอกเย้าโอมอยู่

“อาจารย์ของพี่ชื่อน้องเตอร์ครับ”

“โหย...คุงโอม ใจละลายเลยนะเนี่ย” เตอร์ว่าแล้วรีบหลบสายตาไปยังหน้าจอเกม เพราะเขาได้ห้องแล้วและอีกเหตุผลก็คงหนีไม่พ้นเขินรุ่นพี่คนนี้ แต่คนกากอย่างโอมดั้นนนไม่เข้าใจ

“ละลายงี้กับทุกคนเปล่าน้า”

“ใครจะมาหยอดผมนอกจากพี่เนี่ย แต่ไอ้หมอคนนี้ชื่อคุ้นมากเลยอะพี่ ใช่คนที่ด่าเรารอบนู้นปะ เห็นว่าเล่นกับตี้ไหนก็ด่าตี้นั้น” โอมอยากส่ายหัวแรงๆ เพราะเขาจำใครไม่ได้เลย

“ไม่รู้สิ พี่ไม่เคยจำคนอื่นเลย”

“ไม่จำแบบนี้เดี๋ยวสักพักก็จำผมไม่ได้ละมั้ง”

“เตอร์อยู่ในใจพี่ตั้งนานแล้วพี่ไม่ลืมหรอกหน่า”

“....”

“....”

ครับ...เป็นอาการหลุดที่รุนแรงของโอมอีกครั้ง เรียกว่านี้โป๊ะแตกไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบกับการตอบรุ่นน้องโดยไม่ตั้งสติให้ดี พอรู้ตัวว่าหลุดก็อยากตบปากตัวเองแต่ก็ไม่กล้าทำ กลัวเจ็บเหรอ? เปล่า กลัวเตอร์หาว่าตนเองเป็นบ้าไปแล้วที่มานั่งตบปากตัวเอง

โอมทำลายความเงียบด้วยการหัวเราะแห้งๆ จากนั้นก็เริ่มเกมด้วยกัน โอมโดนฮันเตอร์เจอเป็นคนแรกเขาจึงต้องทำการหนีฮันเตอร์อย่างเอาเป็นเอาตาย แถมยังต้องระวังไม่วิ่งเข้าไปยังจุดที่เพื่อนคนอื่นกำลังถอดรหัสเครื่องอยู่ไม่งั้นเพื่อนก็จะถอดรหัสไม่ได้และทุกคนก็จะไม่ชนะนั่นเอง

“พี่ระวังๆ” เตอร์ส่งเสียงเตือนเพราะโอมกำลังจะโดนฮันเตอร์ตีมาจากด้านหลัง

“ไม่ได้แล้ว พี่เข้าไม้ไม่ทัน โอ้ย…บ้าเอ้ย ทำไงดี…ทำไงดี โอ้ยอย่าตามสิวะ พอแล้วววววพอแล้วกูตายแล้ว”

“ฮ่าๆ พี่โอมใจเย็น ผมอยู่ใกล้ๆ พี่ล้มเดี๋ยวผมช่วยเอง” เตอร์ละสายตาจากการถอดรหัสเครื่องเพื่อมองหน้าตางอแงของโอม

โอมก็รู้ตัวนะ เวลาเล่นเกมน่ะเขามักจะงอแงบ้างในบางครั้งที่ตัวเองเล่นไม่ได้เล่นไม่ดีหรือรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะทำให้ทีมแพ้ ปกติเพื่อนๆ โอมจะด่าหรือไม่ก็บ่น ทว่าพอเป็นเตอร์ เตอร์มักจะบอกให้โอมใจเย็นแล้วตนเองก็จะเข้ามาใกล้ๆ เพื่อคอยช่วยเหลือโอมอีกแรง

สำหรับเตอร์น่ะ...การได้เห็นมุมนี้ของรุ่นพี่คนนี้มันดีมากเลย มันทำให้เขารู้สึกว่าเขาพิเศษ แม้ว่าอีกใจจะบอกกับเตอร์ว่าเพื่อนๆ ของโอมก็เป็นคนพิเศษนี้เช่นกัน เอาเป็นว่าเตอร์มีความสุขกับการได้เล่นเกมกับโอมก็แล้วกัน

โอมยังคงลนลานตอนที่ฮันเตอร์เข้ามาใกล้ เขาวิ่งหนีจนลืมดูไปแล้วด้วยซ้ำว่าตอนนี้เครื่องถอดรหัสเหลือเพียงเครื่องเดียว และพวกเขากำลังจะคว้าชัยชนะมาได้ในไม่ช้านี้ ในตอนที่โอมล้มหลังโดนตีครั้งที่สอง เตอร์ก็มาอยู่ใกล้ๆ เพื่อนอีกสองคนประจำตำแหน่งประตูและเครื่องที่ถอดรหัสเอาไว้ พอเตอร์ดึงโอมออกจากเก้าอี้ เตอร์รับดาเมจแทนโอมหนึ่งครั้งจากนั้นเครื่องสุดท้ายก็ถูกจุด เปิร์กที่ทำให้หายเจ็บทำงานและยังสามารถวิ่งได้ไวชั่วขณะหนึ่ง

ทว่าฮันเตอร์ยังคงไล่โอมต่อไปไม่ลดละ ต่อให้คนอื่นจะวิ่งหนีออกไปนอกประตูกันแล้วก็ตาม โอมโดนตีจนล้มและเกมก็จบลงด้วยชัยชนะที่มีโอมเป็นเครื่องสังเวยหนึ่งชีวิต โอมลดมือถือลง ถอนหายใจออกมาแรงๆ หนึ่งทีด้วยความโล่งอก

“คุงโอมรู้ไหมว่าคุงโอมได้จู๊กไปทั้งหมดห้าเครื่องเนี่ย สุดยอดไปเลย....” เตอร์เงยหน้าส่งยิ้มกว้างให้โอม

“ฮ่าๆ เหนื่อยมากเลยอะ กดดันด้วย นึกว่าจะพาทีมแพ้อีกแล้วนะเนี่ย”

“คุงโอมต้องมั่นใจในฝีมือตัวเองนะครับ น้องเตอร์ยังมั่นใจในฝีมือคุงโอมเลย...” โอมก้มหน้ามองสบตากับเตอร์ เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามอีกฝ่าย

“ขอบคุณน้องเตอร์ครับ ฮ่าๆ”

ตรงนี้มีเพียงพวกเขาสองคน และเมื่อสายตาประสานกับสายตา มันก็ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่าตรงนี้มีแค่พวกเขาจริงๆ ทุกอย่างรอบด้านมันหายไป เหลือเพียงความอบอุ่นจากการที่เตอร์นอนหนุนตักโอมอยู่เท่านั้น

เธอหยุดเวลาด้วยสายตา...ท่อนเพลงท่อนหนึ่งที่โอมเคยฟังมันแว้บเข้ามาในหัว ตอนที่ฟังโอมไม่เข้าใจเลยว่ามันเป็นไปได้เหรอเรื่องของการหยุดเวลาเพียงเพราะสบตาใครสักคน แต่เตอร์เป็นคนที่ทำให้โอมรู้ว่าเพลงนั้นมันพูดถูก

เพราะเตอร์สามารถหยุดเวลาของโอมเอาไว้ได้เพียงเพราะโอมสบตากับเตอร์เท่านั้น...

‘พี่ชอบเตอร์’

มันเป็นคำพูดง่ายๆ แค่สามพยางค์ที่ก้องอยู่ในหัวใจของโอม แต่ว่ามัน...พูดไม่เหมือนง่ายเหมือนคำสะกดของมันเลย โอมอยากจะบอกความรู้สึกนี้ให้เตอร์รับรู้ อยากบอกว่าเขาคิดกับเตอร์ยังไง แต่มันก็ติดอยู่ที่ใจของเขามันไม่กล้าพอ นี่แค่คิดนะ...หัวใจยังกระหน่ำแรงขนาดนี้เลย

“เสียงหัวใจของคุงโอมดังจังเลย...” เตอร์พูดออกมาเบาๆ เป็นเสียงเบาที่แหบพล่าและน่าหลงใหล

“รำคาญเหรอ”

“เปล่า แค่แปลกใจว่าทำไมมันถึงเต้นแรงขนาดนั้น” เตอร์มองหน้าโอมเพื่อรอคำตอบ แต่นั่นแหละ...แค่สามพยางค์ที่อยู่ในใจ...แค่คำง่ายๆ ที่เขียนง่ายๆ

แต่...พูดไม่ง่ายเลย

“ตื่นเต้นกับเกมตาเมื่อกี้น่ะ” สุดท้ายโอมก็ต้องหาทางลงที่ดูจะเป็นแถ-ลงเพื่อเอาตัวรอดในครั้งนี้

เฮ้อ...เกมน่ะเล่นไม่กากแล้ว แต่หัวใจน่ะเมื่อไหร่จะเลิกกาก

….100%….

ตั้งใจจะอัปตอนค่ำ แล้วก็…ค่ะ เที่ยงคืน แฮ่ๆ

ปล.คำผิดเยอะต้องขออภัยนะคะ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
....ตอนที่ 8 [100%]....

“เอาจริงเหรอวะเนี่ย แล้วใครจะมานั่งดูแลพวกนี้วะ?” โอมนั่งมองเพจที่เพื่อนๆ สร้างขึ้นมา ทั้งยังดึงเขาเข้าไปเป็นแอดมินในเพจ ยังไม่พอ เพื่อนยังเพิ่มความวุ่นวายด้วยการสร้างกลุ่มขึ้นมาอีกหนึ่งกลุ่มเกี่ยวกับเกมนี้ด้วย

แล้วเพราะไอ้เพจกับกลุ่มที่เพื่อนๆ เขาสร้างขึ้นมาโดยไม่บอกอะไรเขาเลยเนี่ยแหละเลยทำให้เขาต้องมานั่งสุมหัวกันในห้องโอม แล้วดันมากันในคืนวันศุกร์เสียด้วย แทนที่โอมจะได้สิงดิสอยู่กับเตอร์สบายๆ แล้วนอนดึกหน่อยเพื่อตื่นสายในวันพรุ่งนี้ กลับต้องมานั่งเครียดกับเพื่อนเฉย

“ก็พวกเราแล้วก็รุ่นน้องไง มึงจะคิดมากทำไมวะ เรามีกันตั้งหลายคนดูแลไหวอยู่แล้วหน่า ทั้งเราสี่คนแล้วก็กลุ่มเตอร์อีกสาม รวมๆ แล้วมีตั้งเจ็ดคนเลยนะเว้ย” วัตว่าแล้วก็ดื่มน้ำเก๊กฮวยมีฟองเข้าปาก พวกนี้ไม่ห่วงหรอกว่าจะเมาไหมเพราะว่าเลยเวลาลงแรงก์มาแล้ว แต่โอมเนี่ยสิ ใจมันอยู่ในดิส ก็เตอร์ยังนั่งฟังเพลงอยู่ในนั้นอยู่เลย

“แล้วน้องๆ มันรู้แล้วเหรอว่าพวกมึงจะโยนงานให้เนี่ย”

“ดรีมกับโจ๊กอะรู้เรื่องแล้ว เหลือเตอร์มั้ง มันคลุกอยู่แต่กับมึงอะไม่รู้จะไปพูดตอนไหน พวกกูเองก็คุยกับน้องมันตอนลงแรงก์เมื่อเย็นนี้นี่แหละ” วัตยังคงเป็นคนอธิบายเหมือนเดิม

“แทนที่มึงจะบอกกูตอนนั้นเลย”

“ไม่อยากขัดเวลาแบกแรงก์ของมึงกับเตอร์น่ะ” มอสเป็นคนอธิบายต่อ

“แค่เรื่องเรียนยังเอาตัวกันไม่รอด เสือกหางานเพิ่มนะพวกมึงเนี่ย”

“เลิกบ่นเหอะ เขียนชื่อแคลนเราแล้วถ่ายรูปมาให้หน่อย พวกกูจะเอาไปโปรโมต” วัตตัดรำคาญหลังดื่มแก้วเมื่อครู่นี้หมด แถมยังเติมต่อทันทีไม่รีรอให้แก้วนั้นว่างเปล่า เห็นจะมีแต่โอมเนี่ยแหละที่เบียร์แก้วเดียวยังไม่หมดเสียที

“กูต้องทำเหรอ?”

“มึงมีดีแค่นี้อะ ทำๆ ไป” แจ็กว่าแล้วก็ยิ้มขำใส่

ทุกคนน่ะเล่นเกมเก่งมาก ไม่ว่าจะเป็นแนวยิงปืน แนวโมบ้า แนว MMORPG เรียกว่าแตะเกมไหนก็เทพเกมนั้น เพียงแค่ไม่เคยเอาจริงเอาจังอะไรกับเกมเหล่านั้นเลย แค่เล่นมันไปวันๆ เพื่อความสนุกสนาน ไม่รู้ว่าที่มาเอาจริงเอาจังกับเกม I dentity V นี้มันเป็นเพราะยุคนี้อีสปอตกำลังมาแรงหรืออย่างไรเหมือนกัน

แล้วทั้งที่ตัวเกมมันเพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน เพื่อนโอมทั้งสามก็มีระดับแรงก์ที่สูงจนติดอันดับต้นๆ ของเซิร์ฟเวอร์กันแล้ว ถ้าเข้าไปเช็กอันดับของเซอร์ไวเวอร์หรือฮันเตอร์จะต้องเห็นชื่อของเพื่อนโอมคนใดคนหนึ่งติดอยู่หนึ่งในสามแน่นอน

โดยระดับแรงก์นั้นมีทั้งหมด 6 ระดับด้วยกัน อีกทั้งในแต่ระดับก็ยังมีขั้นของมันอีก ต้องสะสมแต้มเพื่อเพิ่มดาว เมื่อได้ครบหกดวงก็จะขึ้นในระดับต่อไปเรื่อยๆ ทว่ายิ่งขึ้นไปสูงเท่าไหร่ หากแพ้แต้มนั้นๆ ก็จะหายไปและระดับขั้นก็จะลดลง

โอมที่ไต่อยู่ในหมวดหมู่ของเซอร์ไวเวอร์นั้นอยู่ในแรงที่สามจากทั้งหมดหกตัว แล้วที่ขึ้นมาได้ขนาดนี้ก็เพราะได้เตอร์แบกทั้งนั้น โดยเตอร์มีระดับที่สูงกว่าโอมไปหนึ่งขั้น และเพื่อนของเขาสูงไปกว่าเตอร์อีกหนึ่งขั้น เรียกว่าถ้าโอมไม่ถ่วงเตอร์ป่านนี้เตอร์ก็อยู่ในระดับเดียวกับเพื่อนตนเองหรือเพื่อนๆ ของเขาแล้ว

กราบขออภัยในความกากนี้ด้วย...

“เออๆ ก็ได้วะ” เมื่อคิดได้ว่าตัวเองนั้นถ่วงเพื่อนและรุ่นน้องแค่ไหน โอมก็ยอมทำตามที่เพื่อนบอกโดยไม่คิดจะบ่นหรือพูดอะไรอีก

โอมไปหากระดาษเอสี่มาหนึ่งแผ่น เขาบรรจงเขียนชื่อแคลนของตนเองลงไป โชคดีที่ลายมือของโอมนั้นไม่ได้แย่อะไรนัก เขาจึงทำกระดาษที่มีชื่อแคลนตนเองออกมาได้สวยงาม แค่...ดูโง่ๆ ไปหน่อยเท่านั้นเอง ก็มันเป็นแค่กระดาษเอสี่ที่ใช้ปากกาเขียนชื่อแคลนตัวใหญ่ๆ ธรรมดาเท่านั้นเอง

จากนั้นโอมก็ไปหามุมดีๆ สักมุมเพื่อถ่ายรูปตัวเองกับกระดาษที่มีชื่อแคลน ต้องบอกกันตรงนี้เลยนะว่าโอมชอบถ่ายรูปตัวเองมาก ถ่ายบ่อยเพราะงั้นการที่เขาจะส่งยิ้มหวานๆ ให้กล้องโดยไม่เคอะเขินนั้นเป็นเรื่องปกติสุดๆ ของคุงโอมเขาเลย

“อะเสร็จละ” โอมกดส่งภาพให้มอสเพื่อจะได้เอาไปอัปโหลดลงเฟซบุ๊กตามที่เพื่อนต้องการ

“ใจมากเพื่อน เดี๋ยวพวกกูจะทำปาร์ตี้สำหรับไว้เอาให้สมาชิกได้เข้ามาซ้อมเล่นกันด้วยนะ อืม...ต้องมีคนเก่งๆ ประจำปาร์ตี้เหล่านั้นวะ เอาไงดีไอ้วัต” มอสหันไปถามวัต

“เอาไงไรอะ ก็มีแค่มึงกับกูแล้วก็น้องๆ นั่นแหละ”

“โอมละมึง” แจ็กโยนคำถามที่รู้คำตอบดีอยู่แล้วให้เพื่อน

“มึงยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ ถ้าให้ไอ้โอมมาเป็นตัวอย่างของคนเล่นกากอะได้อยู่นะมึง” วัตนี่ก็ช่างตอบไม่รักษาน้ำใจเพื่อนเลย

“พวกมึงใจร้ายกับกูจังวะ กูแค่เล่นไม่เก่งเองนะเว้ยเนี่ย”

“อย่ามาน้อยใจ นี่มึงไม่ได้น้องช่วยมึงคงไม่ขึ้นแรงก์มาขนาดนี้หรอก เรื่องนี้ยังไงมึงก็ต้องยอมรับล่ะวะ” วัตยังไม่วายตอกย้ำโอมอีก

“กูต้องหาคนฟ้องละ…มึงอะใจร้าย” โอมเบะปากใส่เพื่อน ซึ่งเป็นภาพที่ไม่น่าเอ็นดูเท่าไหร่นัก

“ทำยังไงดีครับ ผมโดนเพื่อนว่าตลอดเลยว่าเล่นเกมไม่เก่ง ผมแค่ไม่ถนัดการเล่นเกมนี่ผมผิดมากหรือเปล่า หรือว่าการจะเป็นเพื่อนกับพวกมันต่อผมต้องเล่นเกมเก่งมากๆ แต่ผมเล่นไม่เก่งนี่ครับ ผมเสียใจ พวกมันไม่รักผมเลย” โอมเล่นส่งเป็นข้อความเสียงของตนเองลงไปในห้องแชตโลกของเกมไอเด็นติตี้

“เอางี้เลยนะเพื่อน” มอสว่าแล้วก็ขำ โอมยักคิ้วให้สองจึ้ก

“แน่นอน กูต้องบอกให้โลกรู้ถึงความใจร้ายของพวกมึง”

“กูไม่เคยใจร้ายกับมึงนะโอม” มอสขยับเข้ามาโอบไหล่ โอมก็เอนซบแล้วทำท่ากระซิกๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ

แล้วไง...ใครสน ไม่มี๊!

“เลิกอ้อนตีนกันทีดิ๊ ขนลุก ถ้าไอ้โอมกับน้องเตอร์ว่าไปอย่าง แม่งยังมีความไปกันได้ พวกมึงสองคนมันไม่มีความไปกันได้ตรงไหนเลย ควายถึกทั้งคู่” แจ็กผลักหัวโอมออกจากไหล่ของมอส แล้วเอาตัวเองเข้ามาเบียดตรงกลางแทนเสียอย่างนั้น

แต่โอมให้อภัยเพื่อนได้นะ เพราะเพื่อนพูดถูกใจโอมมาก...เขากับเตอร์ไปด้วยกันได้แหละ โง้ยยยย แค่คิดตามว่าเขาเอนซบไหล่เตอร์ก็เขินแล้วอะ อยากทำเลย เรียกเตอร์มาหาตอนนี้ดีไหมนะ

“ผมอยากซบไหล่เตอร์จังทำไงดี” โอมกดส่งข้อความเสียงไปในแชตโลกอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เพื่อนๆ ของเขาหันมามองกันเป็นตาเดียว

“เป็นบ้าเหรอโอม” วัตถามด้วยความไม่เข้าใจ

“ผมเป็นบ้าเพราะรักเตอร์นะ” โอมยังกดส่งข้อความไปอีกทั้งที่ตัวเองไม่ได้มองหรอกว่ามีคนหวีดเสียงพูดของเขามากแค่ไหน โดยเฉพาะสาวๆ ที่หลงเสียงโอมกันเป็นแถบๆ ทั้งส่งเสียงทักกลับมา ทั้งหวีดทั้งกรี๊ดหรือแม้กระทั่งแอดเพื่อนมาหาโอมกันเพียบในเวลาแค่ไม่กี่นาที

“ไม่กลัวน้องมันเห็น?” มอสชะโงกหน้าเล็กน้อยเพื่อมองโอม

“น้องไม่ออน ฮ่าๆ!” ขำมันอยู่คนเดียว ลั้นลาคนเดียวจนน่าหมั่นไส้เลย มอส วัตและแจ็กต่างมองหน้ากันและส่ายหน้าให้กับความรั่วของโอม ทีน้องๆ ไม่อยู่ละแม่งไม่เหลือความเท่อะไรเล้ย...

“แต่ถ้าน้องมันออนแล้วยังไงวะ พวกมึงแค่หยอกกันไม่ใช่อ๋อ” แจ็กดูจะซื่อบื้อจนดูไม่ออกว่าโอมนั้นไม่ได้มองน้องเหมือนน้อง

“หยอกซะกูคิดว่ามันจะกินน้องจริงๆ แล้ว” วัตส่งสายตารู้ทันไปให้เพื่อนโอม เป็นการบอกว่ากูรู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่ ซึ่งมอสยกนิ้วให้วัตในประโยคนี้

“โอมกินเตอร์เงี้ยเหรอ? ไม่คิดว่าไอ้เตอร์มันจะกินโอมมั้งเหรอ เขาว่าชายกับชายมันพลิกไปมาได้นี่มึง” แจ็กยังคงพูดไปเรื่อยด้วยความไม่รู้ต่อไป

“แล้วมึงจะมาสนใจทำไมวะ ไม่ต้องสนเรื่องกูมากก็ได้เพื่อน น้องๆ โนตมของมึงต่างหากที่มึงต้องสนใจน่ะนะ” โอมผลักหัวเพื่อนก่อนจะลงไปนั่งที่พื้นข้างๆ วัต

วัตกำลังดำเนินการเรื่องเพจกับกลุ่มอยู่ โอมเข้าไปนั่งข้างๆ ก็เลยได้ดูเพื่อนทำ เขาไม่ได้ช่วยอะไรมากนักหรอกเพราะว่าเอาเข้าจริงก็รู้เรื่องพวกนี้น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย โอมเป็นแค่คนคนหนึ่งที่เล่นเกมตามเพื่อน ไม่ได้เข้าสู่วงการเกมใดเกมหนึ่งอย่างเต็มตัว

พอวัตเปิดเพจเปิดกลุ่มที่มีชื่ออย่างงดงามว่า GamersLand เสร็จเขาก็แชร์ลิงก์ของดิสคอร์ดไปตามเพจและกลุ่ม ส่วนมอสนั้นนั่งจ่ออยู่หน้าคอม จัดการทำดิสคอร์ดให้เป็นระบบระเบียบมากขึ้น คอยต้อนรับสมาชิกที่จะเข้ามาหลังจากนี้ โดยโพสต์ที่วัตแชร์นั้นเด่นหราด้วยรูปโปรหล่อๆ ของโอม

หน้าที่โอมคือ...ทำหน้าหล่อๆ แล้วก็ดื่มเบียร์กับเพื่อนไป

หลังจากเปิดเพจและกลุ่มไปได้ราวๆ หนึ่งชั่วโมงพวกรุ่นน้องตัวดีทั้งสามก็เข้ามาในดิสคอร์ด ตอนแรกโอมกะว่าจะชิ่งทิ้งเพื่อนๆ ให้ดื่มกันไปแล้วตนจะไปนอน กลายเป็นนั่งเล่นอยู่ในดิสคอร์ด โดยน้องๆ และเพื่อนเขาคอลดิสกัน พูดคุยเรื่องทำเพจนู้นนี่นั่นไปตามประสา ไอ้คนไม่รู้เรื่องอะไรอย่างโอมก็นั่งฟังเสียเตอร์ไปตามเรื่องตามราว

ทั้งที่เมื่อเย็นก็ลงแรงก์ด้วยกันไปแล้ว ได้ยินเสียงกันก็นานหลายชั่วโมง แต่เขาก็ยังอยากได้ยินเสียงเตอร์อีก อยากคุยอีก หรือเป็นไปได้อยากให้เตอร์มานั่งเล่นอยู่ข้างๆ ไม่อยากให้หายไปไหนเลย

อย่างวันก่อนที่เตอร์มานั่งเล่นเกมด้วยที่ห้องน่ะ โอมอยากหยุดเวลาเหล่านั้นเอาไว้ชะมัด นี่ถ้าไม่ติดว่าน้องต้องไปเรียนในเช้าวันต่อไป เขาจะหาเรื่องให้เตอร์นั่งเล่นกับเขาดึกๆ แล้วจะชวนน้องนอนนี่ ดูเป็นตาแก่หัวงูยังไงบอกไม่ถูก แต่ก็นั่นแหละ...อยากนอนด้วย

ด้วยอิทธิฤทธิ์ความหล่อของโอมและแรงก์ที่สูงของคนในดิสคอร์ดทำให้แคลน HERE เป็นที่สนใจของคนที่เล่นเกมนี้ ดิสคอร์ดที่ตอนแรกมีสมาชิกแค่ไม่มาก อาจจะมีคนที่ตามมาจากในเกมจำนวนหนึ่ง ตอนนี้กลายเป็นมีคนหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย คนให้ยศอย่างดรีมกับโจ๊กถึงกับบ่นใส่รุ่นพี่ว่าพวกเขาใส่ยศให้ไม่ทันแล้ว

โอมได้รับหน้าที่เป็นแอดมินคอยตอบคำถามเบื้องต้นของน้องๆ หรือคนที่เข้ามาใหม่ และคอยทักทายเทคแคร์เหล่าสมาชิกใหม่แทบจะทุกคน โอมละอยากบอกเพื่อนมากว่า...กูไม่ได้ว่างมานั่งทำหน้าที่นี้นะเว้ย แต่ก็นั่นแหละ โอมตอบแค่ที่ตอบได้ ทักทายเท่าที่มีเวลาว่างเท่านั้น ส่วนเตอร์ก็เข้ามาช่วยโอมทำหน้าที่นี้ด้วยเหมือนกัน สลับไปมาหากใครไม่ว่าง

ทุกอย่างดูจริงจังมากขึ้น โอมเองก็ต้องตั้งใจเล่นเกมนี้อย่างจริงจัง นอกจากลงแรงก์กับเตอร์แล้วเขายังต้องฝึกพิเศษกับเพื่อนๆ และน้องๆ ในห้องซ้อมของเหล่าแอดมิน วัตบอกว่าถ้าให้คนอื่นรู้ว่าหนึ่งในแอดมินกากขนาดนนี้มันจะเสียชื่อแคลนตัวเองหมด น่าน้อยใจมากๆ แต่ถ้าน้องเตอร์อยู่คุงโอมก็จะพยายามต่อไป!

ทว่านอกจากเล่นเกมจริงจังขึ้นแล้ว เรื่องเรียนโอมก็ไม่สามารถละทิ้งได้แม้ว่าเพื่อนของเขาทั้งสามจะไม่สนใจมันเลยก็ตามที โอมต้องเหนื่อยคอยเข็นพวกมันอยู่เรื่อย ไหนจะรายงานกลุ่ม ไหนจะรายงานส่วนตัว โอมนี่จิกถามเป็นประจำ อ้อ...ยกเว้นงานเดี่ยวที่โอมจะถามแค่รอบเดียว ใครไม่ทำก็ปล่อยแม่มแดกเอฟไป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรับผิดชอบเองนะฮ้าฟ

(บ่นได้ไหม...เตอร์บ่นได้ไหมคุงโอม) เห็นสรรพนามนั่นไหม...นั่นคือสรรพนามที่น้องเตอร์ที่น่าพามาดูเอ็นเปลี่ยนมาเรียกโอมได้พักใหญ่ หลังเล่นกันทุกวัน คอลดิสกันตลอดหรือแม้แต่แชตคุยกันหน้าเกมก็ทำแทบทุกวันเลย

“น้องเตอร์อยากบ่นอะไรล่ะ” โอมเอนกายลงบนที่นอน เขากับเตอร์เพิ่งลงแรงก์เสร็จ ผลของแรงก์วันนี้ยังงดงาม คว้าชัยชนะมามากกว่าครึ่งของที่ลงทั้งหมด ส่วนอื่นๆ นั้นเป็นเสมอ ผลแพ้แทบไม่มีเพราะเตอร์แบกเก่งยิ่งกว่าอะไรดี

ที่สำคัญตอนนี้โอมขึ้นมาอยู่ในแรงก์ระดับสี่แล้ว เขาจะขึ้นระดับห้าในอีกไม่ช้า ขาดแค่สองดาวเขาก็จะมีแรงก์ระดับเดียวกับเตอร์แค่คนละขั้นกันเท่านั้น เพื่อนโอมและรุ่นน้องคนอื่นอยู่ในระดับหกกันหมดเป็นที่เรียบร้อย

(คุงโอมเห็นคนในดิสไหมอะ มันเยอะมาก มันเยอะม๊ากกกก วันก่อนอะเตอร์โดนเด็กในดิสว่าด้วยว่ากากอะ ไรฟร้ะ แค่แรงก์ผึ้งงานมาว่ากริฟฟินอย่างเตอร์กากเนี่ยนะ โง้ย...เตอร์ไม่อยากตอบดีๆ เลยอะ แต่ทำไงได้ เราเป็นแอดมินก็ต้องพูดดีๆ ช้ะ) เรื่องนี้โอมไม่รู้ เพราะว่าวันนั้นของเตอร์น่าจะเป็นวันที่โอมติดเรียนอยู่แน่นอน แชตมันไหลเร็วจะย้อนอ่านทีนี่ตาลายก่อนตลอด

“น้องเตอร์บอกมันเลยว่าถ้าน้องเตอร์กากคุงโอมคนนี้กากยิ่งกว่านะจ๊ะ”

(บ้าเหรอ ใครจะไปบอกว่าคุงโอมกากกว่าเตอร์ล่ะ ไม่เอาหรอก คุงโอมไม่กากสักหน่อย เด็กอะมันปากเสีย มันอยากท้าทายอำนาจของเตอร์หรอก) น้องเตอร์ปกป้องโอมอีกแล้ว ไม่ใครจะว่าโอมยังไง...เตอร์ก็จะบอกว่าโอมเก่งเสมอ

“งี้น้องเตอร์ของพี่ต้องลงแรงก์ฮันเตอร์เพื่อโชว์ความเทพสักหน่อยแล้วล่ะจริงไหม ทารันทูล่าที่ไหนตบอัศวินร่วงกราวขนาดนั้น” แรงก์อัศวินที่โอมหมายถึง คือแรงก์ของเซอร์ไวเวอร์ที่อยู่ในระดับหกหรือเรียกว่าระดับสูงสุดของสายเซอร์ ส่วนทารันทูล่าคือแรงก์ที่ต่ำที่สุดของสายฮันเตอร์

ไล่ระดับแรงก์ฮันเตอร์โดยไม่เรียกตัวเลขคือ ทารันทูล่า[1] งู[2] จระเข้[3] เสือเขี้ยวดาบ[4] มัลติคอล[5] และสุดท้ายคือมังกร[6]

ส่วนระดับแรงก์ของเซอร์ไวเวอร์โดยไม่เรียกตัวเลขคือ ผึ้งงาน[1] ฮาวด์[2] กวาง[3] ช้าง[4] กริฟฟิน[5] และสุดท้ายคืออัศวิน[6]

(เตอร์อยากลงแรงก์เซอร์ให้สุดทางก่อนค่อยลงฮันนี่คุงโอม ฮันอะมันไต่ไม่ยากหรอก...)

(ขอโทษนะคะ เล่นด้วยได้ไหม) ขณะที่เตอร์กำลังพูดเรื่องการไต่แรงก์ฮันเตอร์อยู่นั้นก็ได้มีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาในห้อง เป็นเสียงหวานใสที่ฟังยังไงก็รู้สึกน่ารักน่าเอ็นดู ทว่าเสียงนั้นทำให้เตอร์และโอมเงียบบทสนทนาของตนเองไป

“ได้สิครับ ว่าแต่ชื่ออะไรอายุเท่าไหร่เอ่ย” โอมด้วยความที่เป็นหนึ่งในแอดมินและอัธยาศัยดีมากเอ่ยทักทายกลับเป็นคนแรก

(ชื่อเมลค่ะ อายุยี่สิบ หนูเพิ่งเข้ามาใหม่ยังงงๆ อยู่เลยน่ะค่ะ)

“พี่ชื่อโอมครับ อีกคนชื่อน้องเตอร์”

(อ๋อ หวัดดีนะคะ พวกพี่เป็นพี่หนูเนาะ)

“เตอร์เป็นน้องนะ เตอร์สิบเก้าครับ” โอมทำหน้าที่ตอบแทน

(โอเคค่า หนูเข้าเกมแล้วน้า) เธอส่งเสียงหวานใสแสนน่ารักเรียกให้หนุ่มทั้งสองเข้าเกม

โอมยังคงทำหน้าที่แอดมินอย่างดีด้วยการขอไอดีและแอดเธอไป ชวนเธอเข้ามาเล่นพร้อมกับเตอร์ เมลมีน้ำเสียงที่ตื่นตาตื่นใจกับแรงก์ของโอมและเตอร์ แต่เธอแสดงออกชัดเจนมากว่าชื่นชมโอมมากกว่าเตอร์ที่แรงก์สูงกว่าโอม โดยเธอเองมีแรงก์อยู่แค่ระดับสองและเวลน้อยกว่าโอมและเตอร์มาก

ตลอดการเล่นเกมเสียงของหญิงสาวมักจะวี๊ดว๊าย เธอค่อนข้างจะงอแงและเรียกหาโอมตลอดเวลา ต้องการให้โอมวิ่งเข้าไปช่วยเหลือเธอยามที่เธอโดนฮันเตอร์ไล่หรือโดนตีจนเจ็บ โอมที่เล่นโคตรไม่เทพก็ต้องเข้าไปตามที่เธอเรียก โชคยังดีตรงโอมนั้นก็ไม่ได้กากขนาดเมื่อก่อนแล้ว จึงช่วยเธอได้ตามที่เธอต้องการ

แต่...เตอร์กลับดูไร้ตัวตนไปเลย

เตอร์รู้เรื่องนี้ เขาสัมผัสได้ว่าหญิงสาวให้ความสนใจโอมมากกว่าตนเองอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่รู้หรอกนะว่าโอมน่ะรู้เรื่องนี้ไหม แต่เขาโคตรไม่พอใจเลยที่อะไรๆ เธอก็เรียกหาแต่โอมๆ เตอร์แบกความไม่พอใจเล่นเกมไปด้วย เขาไม่พูด เอาแต่เงียบแล้วฟังอย่างเดียว จนหลายครั้งที่โอมต้องเป็นฝ่ายเรียก เตอร์จะขานรับแค่เสียงของโอม

(คุงโอม เตอร์ไม่เล่นแล้วนะ) เสียงของเตอร์ไม่สดใสเลย ออกจะนิ่งกว่าปกติไปมาก

“อ่าว น้องเตอร์จะไปไหนล่ะ ไม่เล่นกับพี่แล้วเหรอครับ” โอมที่ได้ยินแบบนี้ก็ใจหายวาบ เขายังอยากเล่นกับเตอร์อยู่นี่

(ทำการบ้านน่ะคุงโอม)

“น้องเตอร์ทิ้งพี่อะ”

(ไม่ทิ้ง ผมอยู่นี่แหละแค่ไม่เล่นเกมแล้ว คุงโอมเล่นกับพี่เมลไปเถอะ) เตอร์กดออกเกมทั้งที่เกมยังไม่จบ แต่เขากลับไม่ยอมตายเพื่อจะได้ออกก่อน

“คร้าบๆ จะไปก็บอกพี่ก่อนนะ”

(คร้าบคุงโอม) สิ้นเสียงเตอร์ เมลก็ร้องเรียกให้โอมไปช่วยเธอทันที

โง่ขนาดไหนก็เชื่อว่าดูออก ผู้หญิงคนนี้คงมีใจให้คุงโอมของน้องเตอร์ แต่ทำไรได้ล่ะ น้องเตอร์เป็นแค่น้องไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้นเสียหน่อย เตอร์เข้าเฟซ เลื่อนดูอะไรไร้สาระไปเรื่อยเปื่อยพร้อมกับโฟกัสแค่เสียงของโอมคนเดียว เขารู้ เขาได้ยินทุกอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นพูดกับโอม ซึ่งเตอร์ไม่พอใจกับมันเลย

เมื่อเป็นแอดมิน หน้าที่สำคัญก็คือการดูแลสมาชิกที่อยู่ในแคลนหรือเพจตัวเองให้ดีที่สุด ดังนั้นต่อให้บรรยากาศระหว่างโอมกับเตอร์จะดูมาคุไปเสียเล็กน้อย แต่โอมก็ยังต้องทำหน้าที่ดูแลลูกแคลนของตนต่อไป และเตอร์ก็ทำไรไม่ได้มากนอกจากปิดไมค์แล้วสบถอยู่คนเดียว

(งื้อ...พี่โอมขา...) เสียงออดอ้อนของเมลทวีมากขึ้น

“ครับ?”

(ทำไมพี่น่ารักขนาดนนี้...รักได้ไหมคนนี้อะ) เธอหยอดโอมเข้าอย่างจังโดยไม่สนใจว่าใครจะได้ยินบ้าง เตอร์ที่นอนฟังอยู่เงียบๆ คิ้วขมวด ปากก็สบถคำว่าฟักวนไปวนมา

ก็เขาหัวเสีย จะให้เขายิ้มร่าเริงแล้วส่งเสียงแซวคุงโอมเหรอว่าว้ายๆ โดนสาวหยอก ทำไม่ได้หรอก หัวเสียขนาดนี้ เปิดไมค์พูดทีคงมีแต่คำหยาบเท่านั้นแหละ เตอร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ บอกให้ตัวเองใจเย็น จะมาหัวเสียงเพราะผู้หญิงมาจีบคุงโอมไม่ได้ เขากับคุงโอมเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันเท่านั้น...แค่เท่านั้นจริงๆ

....100%....

น้องจะรู้ไหมว่าการที่น้องหงุดหงิดแบบนี้น้าน มันหมายความว่ายังไงน้าาา?

นิยายเรื่องนี้ออกจะเอื่อยๆ เรื่อยๆ ไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่เราก็ตั้งใจทำนะคะ แงงง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
….ตอนที่ 9 [100%]….

เตอร์พยายามคิดแบบนั้นอยู่นานเป็นชั่วโมง แต่ยิ่งฟังพวกเขาคุยกัน ก็ยิ่งหงุดหงิดจนไม่สามารถทนอยู่ในดิสคอร์ดต่อไปได้ เตอร์ตัดสินใจออกจากดิสโดยไม่บอกโอม ก็รู้นะว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนแค่ไม่เล่นแต่กลับหนีหายไปแบบนี้ แล้วให้ทำยังไงในเมื่อเขาทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ

และถึงแม้จะวางสายมาแล้ว เตอร์ก็ใช่ว่าจะอารมณ์เย็นลง เขายังหงุดหงิดหัวเสีย เสียงพูดคุยของทั้งสองนั้นยังคงวิ่งวนในหัวจนเตอร์ต้องลุกจากที่นอน ออกไปหาอะไรทำเพื่อจะได้ลืมๆ หรือรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ใช่...เขาหวังแค่จะรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเท่านั้นเอง

ควาหมวังของเตอร์พังทลายลงเมื่อเขาไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ยิ่งอยู่เงียบๆ คนเดียว ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน สุดท้ายเขาก็ต้องข่มตานอนทั้งที่ยังคงคิดเรื่องของโอมและเมลอยู่ในหัว คืนนี้ช่างเป็นคืนที่หลับลงยากเสียจริง ไม่ว่าจะพลิกตัวเท่าไหร่ สลัดเรื่องนั้นออกอีกแค่ไหน มันก็ไม่ค่อยช่วยให้การหลับนอนเป็นไปได้ง่ายได้ขึ้น

เรียกว่าเช้านี้...ตาโหลกันเลยทีเดียว

เตอร์เข้าดิสคอร์ดตอนเช้าเพื่อเช็กข้อความต่างๆ หรือการพูดคุยของคนในดิส เขาทำแบบนี้เป็นประจำ แล้วรู้ไหม เช้านี้เตอร์เจออะไร เตอร์เจอข้อความที่เมลและโอมคุยกันอยู่หน้าดิส คุงโอมน่ะเตอร์เข้าใจว่าตอบด้วยความเป็นมิตรสไตล์เจ้าตัว แต่เมลสิ...หยอดจนทุกอย่างดูหวานแหววและไม่มีใครเข้าไปแทรกได้ เตอร์กดออก ไม่ส่งคำว่ามอนิ่งเหมือนเคยเพราะอารมณ์โคตรจะไม่ดี

“เป็นไรวะ หน้าเป็นตูดเลยมึง” ทันทีที่เตอร์เดินเข้ามาที่โต๊ะประจำในโรงอาหาร ดรีมก็เอ่ยทักด้วยความแปลกใจ

“กูนอนไม่ค่อยหลับ”

“ทำไมวะ อย่าบอกนะว่านอนไม่หลับเพราะมึงไม่ได้เล่นกับพี่โอมอะ เมื่อวานนะเว้ย กูเห็นพี่โอมอยู่กับเด็กใหม่ยันดึกเลย แถมยังนั่งคุยแชตกันอีก สงสัยงานนี้จะมีคู่รักเกิดขึ้นวะมึง” โจ๊กเล่าเรื่องเมื่อวานเป็นฉากๆ เห็นภาพจนคิ้วเตอร์ขมวดเป็นปม

“เรื่องของเขามึงไปเสือกทำไม”

“กูกลัวเพื่อนกูเป็นหมาหัวเน่า” โจ๊กแทงเพื่อนตายด้วยคำพูดคำจาแสนเจ็บแสบ

“....” เตอร์พูดไม่ออก เพราะดูจากสถานการณ์เมื่อคืนนี้เขาก็เป็นหมาหัวเน่าจริงๆ

“มึงก็ไปว่าเพื่อน พี่โอมก็ต้องเทคแคร์เด็กใหม่เป็นธรรมดาเปล่าวะ เขาเป็นแอดมินนะมึง อีกอย่าง..พี่แกก็เป็นงี้อยู่แล้ว” ดรีมพูดถูก โอมเป็นแบบนี้อยู่แล้ว

คำว่าเป็นแบบนี้อยู่แล้วมันอธิบายอะไรได้หลายๆ อย่าง ทั้งดูแล เทคแคร์ ใส่ใจคนที่เล่นด้วย หรือเป็นมิตรไปหมดกับทุกๆ คน นั่นเป็นจุดเด่นของโอมที่ทำให้คนอยู่ใกล้รู้สึกดีๆ ด้วย ทั้งที่จริงแล้วโอมก็แค่ทำมันไปเพราะเป็นนิสัยประจำตัวเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรมากกับใครสักคนเลย

รวมถึงเตอร์ด้วย...ใช่ไหม

เตอร์ไม่สนใจเพื่อนที่พูดคุยกัน เขาฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ความรู้สึกแย่มันเอ่อล้นขึ้นมาจนจุกอยู่ที่คอ ความจริงในนิสัยของโอมนั้นตอกย้ำกับเตอร์ว่า...เตอร์เป็นเพียงคนหนึ่งที่โอมเทคแคร์เท่านั้น ไม่ใช่แค่เขา คนอื่นๆ ก็ได้รับสิ่งนี้ไม่ต่างกัน

รู้สึกแย่ชะมัด!

เสียงพูดคุยของเพื่อนหรือแม้แต่คนอื่นรอบกายไม่ได้เข้าหูของเตอร์เลยแม้แต่คำเดียว เขากำลังคิด ที่ผ่านมาเขาเป็นแค่รุ่นน้องคนสนิทที่พี่โอมเทคแคร์เท่านั้น ตอนนี้พี่โอมคนนั้นต้องเทคแคร์คนอื่นมากมาย จะมีคนจำนวนไม่น้อยได้รับสิ่งเดียวกับที่เตอร์ได้รับ

จู่ๆ ขอบตามันก็ร้อน...เขารู้สึกแบบนี้กับพี่โอมไปทำไม น้อยใจทำไม รู้สึกแย่ทำไม พี่โอมก็แค่เป็นพี่โอมอย่างที่เคยเป็นเท่านั้นเอง หรือมันอยู่ที่เขา...ที่ไม่ได้เป็นเหมือนเดิม เตอร์พยายามปฏิเสธคำคำหนึ่งในหัวของตัวเองแล้วบอกกับตัวเองว่าเขาก็แค่น้อยใจที่พี่โอมไม่เล่นด้วยเฉยๆ

ทำไมคำโกหกที่มอบให้ตัวเองมันเด็กน้อยจังวะ หรือต้องบอกว่าเขาก็แค่หวงเพื่อน...แบบเพื่อนรุ่นพี่เท่านั้น

แต่ถึงเตอร์จะหาเหตุผลมาให้ตัวเอง มันก็ไม่ช่วยให้อารมณ์ของเขาดีขึ้นเลย เตอร์หงอย อารมณ์ไม่ดี ไม่ค่อยคุย ไม่ค่อยกิน อารมณ์เหมือนหมดอาลัยตายอยากทั้งที่มันไม่ควรเป็นอะไรอย่างนี้เลย

HRxJoker
@HRxCookkie พี่มาจับเตอร์กินข้าวที มันไม่ยอมกินข้าววววว

เที่ยงวันแล้ว ปกติเพื่อนๆ จะรวมตัวกัน รวมถึงรุ่นพี่ที่มีโอมอยู่ด้วย แต่ยังไม่ทันที่พวกรุ่นพี่จะเลิกคลาสกัน โจ๊กก็แท็กพี่โอมเพราะเตอร์ไม่ยอมกินข้าวเที่ยง เตอร์มองหน้าแชตดิสคอร์ดแล้วค้อนขวับไปที่เพื่อนตัวดี

“ทำไรของมึงเนี่ย กูแค่ไม่หิวปะวะ”

“นอกจากไม่หิวมึงยังซึมด้วยเตอร์ กูเป็นห่วงนะเนี่ยเลยเรียกพี่โอมมาดูแล เห็นอยู่กับพี่แกทีไรสดใสทุกที” โจ๊กลอยหน้าลอยตาตอบ

เตอร์ก้มหน้าอ่านแชตดิสคอร์ด หลังจากที่โจ๊กแท็กพี่โอมแล้วเมลก็แท็กพี่โอมเช่นกัน บอกว่าตนหิวข้าว อยากให้โอมมานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อย แต่ทั้งสองแท็กนั้นไม่ได้รับการตอบรับจากโอมสักคนเดียว

“เขาไม่มาหรอก” เตอร์บ่นลอยๆ

“หันไปข้างหลังดิ ไวกว่าสี่จีประเทศไทยอีก” โจ๊กพูดลอยๆ บ้าง เตอร์หันขวับไปทางที่โจ๊กบอก เขาก็ได้เห็นพี่โอมกำลังวิ่งเข้ามาในโรงอาหารพร้อมกับเหงื่อที่เกือบจะชุ่มร่างกาย

“ทำไมไม่กินข้าวครับน้องเตอร์” โอมนั่งลงข้างๆ มือก็ปาดเหงื่อไปด้วย

“คุงโอมไปเชื่อมันเนี่ยนะ มันแค่แกล้งพี่” เตอร์โบ้ยเพื่อน แต่ใจน่ะ...กำลังพองโตขึ้นมา

“น้องเตอร์ของพี่มันโกหก มันยังไม่กินข้าวเลยพี่ ทั้งมื้อเช้าและเที่ยง นี่ผมเป็นห่วงมันมากเลยนา...เดี๋ยวมันเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาผมกับดรีมขี้เกียจแบก” ช่างเป็นความหวังดีที่น่าตอบแทนเสียจริง เตอร์ประชดในใจ

“เป็นอะไรหรือเปล่า กินข้าวเถอะนะ...กินกับพี่ก็ได้ พี่หิวมากเลยน้องเตอร์” โอมส่งรอยยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงละมุนเพื่อนหลอกล่อ เตอร์รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กที่กำลังติดกับรอยยิ้มหวานๆ นั้น

“แต่เตอร์ไม่หิว”

“พี่หิว กินเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ” โอมไม่ใช้คำที่บังคับ แต่เป็นขอร้อง

“อ่า...คนอื่นก็มี”

“อยากให้เตอร์กินเป็นแฟน เอ้ย...เพื่อน” หยอดแบบนี้ทำให้ใจคนฟังมันกระตุกนะ แต่ก็...พี่โอมทำกับเตอร์บ่อยๆ นี่

“จงใจพูดผิดชัดๆ ก็ได้ เตอร์กินเป็นเพื่อนก็ได้”

“งั้นไปซื้อกัน เกาเหลาก็ดีนะ กินกับข้าวเปล่าได้ตั้งสองคนเลย” โอมไม่พูดเปล่า เขาลุกขึ้นแล้วคว้ามือเตอร์ไปจูง

พอโอมกับเตอร์ลุกจากโต๊ะ เพื่อนของโอมอีกสามคนก็เพิ่งมาถึง ถามไถ่รุ่นน้องถึงสิ่งที่ทำให้โอมต้องวิ่งมาก่อนเพื่อนเพื่อหาเตอร์นั้นมันเรื่องอะไรกัน ถามไปถามมาก็แยกย้ายไปซื้อข้าว ส่วนเตอร์กับโอมกลับมานั่งกินข้าวด้วยกันที่โต๊ะ

“ผมเห็นพี่เมลแท็กพี่ด้วย” กินไปสักพักเตอร์ก็พูดขึ้น

“อ่อพี่เห็นแล้ว แต่ไม่ว่างตอบอะ แท็กโจ๊กเรื่องเตอร์สำคัญกว่า”

“สำคัญแต่ไม่ได้ตอบนะ”

“รีบวิ่งมาหานี่ไง วิ่งไปตอบไปไม่ได้นะน้องเตอร์ครับ” โอมยิ้ม เตอร์เองก็พลอยยิ้มไปด้วย

“แล้วเมื่อคืนเตอร์หายไปตอนไหนอะ พี่เล่นกับเมลอยู่ดีๆ ก็ไม่เห็นเตอร์แล้ว” โอมถามถึงสิ่งที่คาใจเมื่อคืนนี้

“ผม...ง่วงอะ เผลอหลับแล้วดิสมันก็หลุด โทษทีนะพี่” เตอร์โกหก ก็เพราะว่าความจริงมันบอกออกไปไม่ได้อะสิ ใครเขาจะกล้าพูดว่ารำคาญพี่กับผู้หญิงคนนั้นสวีตกัน

“อ๋อ งั้นคืนนี้ห้ามหลับหนีพี่อีกแล้วนะ ถ้าหลับหนีนี่พี่งอนจริงๆ ด้วยบอกไว้ก่อน”

“คร้าบๆ ไม่หลับหนีแล้ว ไม่อยากให้คุงโอมงอน ขี้เกียจง้อ”

“ใช่ซี่ กับพี่ละขี้เกียจง้อ”

“ไม่ต้องมาเสียงสูงเลยคุงโอม!” เตอร์หน้ายู่ใส่ไปหนึ่งที เล่นเอาโอมขำออกมาจนไหล่สั่น

เสียงหัวเราะของคุงโอมมันทำให้เตอร์มีความสุขจริงๆ

โอมกับเตอร์นั่งคุยกันเหมือนอยู่กันแค่สองคนอีกแล้ว ตักหมู ตักลูกชิ้นให้กันอยู่ท่ามกลางเพื่อนเป็นฝูง จะว่ามันเป็นภาพที่ดูชินตามันก็ใช่ จะว่ามันไม่ค่อยชินนักมันก็ใช่อีก ทั้งเพื่อนโอมและเพื่อนเตอร์ต่างมองคนทั้งคู่ด้วยสายตาจับผิดในพฤติกรรม

แต่นั่นแหละ...ใครคนแคร์ล่ะ?

ถ้าเตอร์บอกว่าบรรยากาศระหว่างโอมกับเมลในสายเมื่อคืนนี้หวานแหววแล้ว คนอื่นคงอยากจะบอกกับเตอร์ว่าบรรยากาศระหว่างโอมกับเตอร์นั้นหวานแหววยิ่งกว่า จะมองให้เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องคนสนิทมันก็มองได้ แต่มองไปมองมาแววตาที่ทั้งสองมองกันมันไม่ใช่น่ะสิ หวานจนอีกห้าตัวที่นั่งร่วมโต๊ะรู้สึกเป็นส่วนเกินได้อะคิดดู

จบมื้ออาหารก็ต้องต่อด้วยการลงแรงก์ร่วมกันในตอนเที่ยง และเนื่องจากแรงก์เซอร์ระดับห้าขึ้นไปนั้นไม่สามารถจัดปาร์ตี้สี่คนได้ จับได้แค่คู่สองคนเป็นดูโอ้ และเตอร์เองก็อยู่แรงก์ระดับห้า เขาจึงลงแรงก์กับโอมสองคน ส่วนคนอื่นก็แยกย้ายกันลงเซอร์บ้างฮันเตอร์บ้างแล้วแต่คนไป

นั่งอยู่ข้างกันจนไหล่ติดกันแบบนี้ ดิสคอร์ดจัดว่าไม่จำเป็นอย่างสิ้นเชิง ถึงเสียงรอบด้านนั้นจะดังไปเสียหน่อย ทว่าโอมกับเตอร์ก็สามารถสื่อสารกันได้ไม่มีติดขัด พวกเขามีเวลาแค่ชั่วโมงเดียวก็แยกย้ายกันไปเข้าเรียน

พอได้คุยกับโอม ได้นั่งเล่นเกมด้วยกัน ความเครียดที่เตอร์มีมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ก็คล้ายจะมลายหายไป เขาเอาแต่นึกถึงการเล่นเกมของเขากับคุงโอมสลับกับคำหยอดที่คุงโอมชอบใช้กับเขา เตอร์กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง นี่เดี๋ยวหงอย เดี๋ยวยิ้มขำ จนเพื่อนในกลุ่มแทบจะมองว่าเตอร์เพี้ยนไปแล้วด้วยซ้ำ

นั่นสิ...เตอร์ก็แอบคิดว่าตัวเองเพี้ยนไปแล้วเหมือนกัน

หลังเลิกเรียนวันนี้เตอร์เลิกก่อน ส่วนโอมและเพื่อนๆ ทั้งกลุ่มนั้นต้องอยู่เรียนยันเย็นเนื่องจากมีโครงงานต่างๆ ต้องจัดการ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ไม่เกินหกโมงเย็นโอมก็ทักหาเตอร์ เรียกให้เข้าดิสเพื่อจะไปลงแรงก์ด้วยกันสองคน

ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนทุกๆ วัน สนุกสนานและมีความสุขแม้จะอยู่กันแค่สองต่อสองในดิสคอร์ดก็ตาม เตอร์ชอบที่เป็นแบบนี้ ชอบที่คุงโอมเล่นกับเขา งอแงอยู่กับเขา ยิ่งเวลาคุงโอมโดนไล่ตบไล่ตีทีไร คุงโอมต้องวี้ดว้ายเป็นเด็กน้อยทุกที แล้ว...มันก็เป็นแบบนั้นแค่ตอนเล่นกับคนสนิทเท่านั้นด้วย นั่นหมายความได้ว่าเตอร์กลายเป็นคนที่คุงโอมสนิทด้วยแล้ว

(ก๊อกๆ ขอเล่นด้วยได้ไหมคะ) เสียงหวานใสที่เตอร์จำได้ดีเอ่ยขึ้นมาขัดเสียงหัวเราะของเขาและคุงโอม

(พวกผมลงแรงก์กันอยู่เลยครับ) โอมตอบ

(อ่า...น้องเมลลงแรงก์ด้วยไม่ได้เหรอคะพี่โอม) อ้อนทันทีเลยนะ เตอร์คิดอยู่ในใจทั้งที่มือก็ยังควบคุมตัวละครหลักของตนวิ่งไปช่วยเพื่อนจากเก้าอี้

(น้องเตอร์แรงก์กริฟแล้วครับ จับตี้ได้แค่สองคน อีกอย่างน้องเมลแรงก์แมลงเองด้วย ลงด้วยกันไม่ได้จริงๆ ครับ)

(เสียใจจัง งั้น...เมลขอสิงอยู่ในห้องด้วยละกันนะคะ เหงาน่ะ ตี้อื่นเขาเต็มหมดแล้ว น้องเมลไม่มีตี้ลงเลย) เป็นแค่แรงก์แมลงก็โซโล่ไปสิ ไม่เห็นจะยากเลย เตอร์ขมุบขมิบบ่นก่อนเบ้ปาก

(คร้าบ น้องเตอร์ๆ มาซ้ำเครื่องพี่ให้หน่อยน้า จะเสร็จแล้วเครื่องนี้) หลังตอบเมลเสร็จโอมก็เรียกเตอร์

“ผมกำลังวิ่งไปครับคุงโอม คุงโอมเข้าไปรอซัพเพื่อนก่อนเลย”

(โอเช ภาวนาไม่ให้พี่โดนตีด้วยนะน้องเตอร์ ฮ่าๆ)

(เมลภาวนาให้คุงโอมไม่โดนตีนะค้า) เดี๋ยวนะ คุงโอมเหรอ...คำนี้เหรอ....ได้เหรอ!

(ครับ ขอบคุณนะ) โอ้ยหงุดหงิด! เตอร์นี่อารมณ์เสียจนหน้ายู่ไปหมดอีกแล้ว ก็ดูเมลเรียกคุงโอมสิ คำนั้นน่ะเตอร์เรียกได้คนเดียวสิ แล้วถ้าคนอื่นจะเรียกก็ต้องเป็นคนสนิทของคุงโอมปะ ไม่ใช่ใครหน้าไหนจะเรียกก็ได้อะ แถมมันเป็นคำที่เขาคิดขึ้นมาเรียกคุงโอมโดยเฉพาะเองด้วยนะ

โว้ย!!!

อยากตะโกนออกไปแบบนี้เสียเหลือเกิน ติดที่ทำไม่ได้ ถ้าจะทำก็ต้องปิดไมค์ก่อน แต่ตอนนี้มันเล่นกับคุงโอมอยู่จะให้ปิดไมค์ไปตะโกนดื้อๆ มันคงน่าเกลียดน่าดู เอาวะ ทำเหมือนเมลไม่มีตัวตนไปแล้วกัน เตอร์ตั้งสมาธิ จดจ่ออยู่กับการแก้สถานการณ์ในเกมที่กำลังดุเดือด

(งื้ออออ คุงโอม อ๊าย ไม่นะ...อย่าตีเค้า คุงโอมมันตีเค้า) แล้วสมาธิก็พังทลายพร้อมกับลมปราณที่แตกซ่าน เมลเล่นตะโกนขึ้นมากลางปล้องพร้อมเสียงหวานๆ อันยั่วเย้าของเธอ คนอะไรขัดจังหวะเก่งจริงๆ

(สู้ๆ ครับเมล เตอร์ๆ น้องเตอร์...โอ๊ยพี่โดนตี ดูฮันดิน้องเตอร์ มันไล่พี่ ไม่! อย่าไล่...อย่าไล่ เตะแม่ม!)

“ฮ่าๆ คุงโอมใจเย็น น้องรอจุดเครื่องอยู่”

(หืม เดี๋ยวนะ เมื่อกี้คุงโอมน่ารักจัง ฮ่าๆ) เอ่อ ไอ้แขกไม่ได้รับเชิญแทรกขึ้นมาอีกแล้ว

(แฮ่ๆ) และเหมือนคุงโอมจะรู้ตัวว่าหลุดมาดทั้งที่มีคนอื่นอยู่ในดิส มันไม่ทันแล้วไหมล่ะ เธอได้รับรู้ถึงโมเมนต์ติงต๊องของคุงโอมแล้ว

แล้วมันก็ไม่เพียงแค่นั้น หลังจากที่เมลเข้ามาในดิสคอร์ด เตอร์ก็แทบไม่ได้พูดอะไรกับคุงโอมเลยเพราะเธอชอบพูดแทรกขึ้นมา ทุกครั้งที่แทรกไม่เคยมีชื่อของเตอร์อยู่ในนั้น เสียงหวานๆ ที่ชอบพูดขึ้นมามันทำให้เตอร์หงุดหงิด นี่เขาลงแรงก์อยู่นะ เขาต้องการสมาธิหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เธออะ

เตอร์อยากจะเทเกมแล้วหนีไปไม่เล่นแล้ว ก็ทำได้แค่อยาก ทิ้งคุงโอมให้เผชิญกับการลงแรงก์คนเดียวมีหวังวันนี้คุงโอมคงได้ความพ่ายแพ้ยาวเต็มหน้าบันทึกแน่ๆ เตอร์ไม่ได้หมายความว่าโอมกากขนาดนั้น แต่หมายถึงเพื่อนร่วมทีมมันไม่ค่อยเก่งกันสักเท่าไหร่

ใจเย็น เตอร์บอกให้ตัวเองสงบสติอารมณ์แล้วตั้งใจเล่นกับโอม โฟกัสที่เกมและโอมเท่านั้นโดยไม่สนใจเสียงของหญิงสาว รู้อะไรไหม...คิดน่ะมันง่ายแต่ทำอะมันยาก เตอร์รู้ว่าต้องทำแบบนี้ๆ ทว่าเอาเข้าจริงเขาเล่นได้แย่กกว่าทุกวันที่เคยเล่น บางครั้งก็พลาดในจุดที่ไม่ควรพลาด

แต่โอมไม่เคยว่าเตอร์เลย...

(สุดยอด น้องเตอร์ดูพี่สิ...ดูซี่) เสียงของคุงโอมสดใสและร่าเริงมาก เพราะคุงโอมนั้นก้าวข้ามแรงก์สี่มาอยู่แรงก์ห้าได้อย่างสวยงาม พร้อมๆ กับการที่เวลาลงแรงก์ได้หมดลงไป

“หมั่นไส้กริฟจังเลยน้า”

(น้องเตอร์หมั่นไส้ตัวเองก็เป็นเหรอครับ ฮ่า)

“โหย ผมหมั่นไส้คุงโอม ไม่ได้หมั่นไส้ตัวเองสักหน่อย ว่าผมมากๆ ระวังผมจะพากลับไปอยู่ช้างนะคุงโอม”

(ไม่น้า น้องเตอร์ห้ามใจร้ายกับพี่แบบนั้นนะครับ ถ้าน้องเตอร์ใจร้ายกับพี่แบบนั้นพี่จะไม่เลี้ยงขนมน้องเตอร์แล้วน้า)

(เลี้ยงขนมน้องเมลด้วยสิคะคุงโอม) เขาคุยกันสองคนก็แทรกขึ้นมาอีกแล้ว!

(น้องเมลคงต้องมาหาพี่แล้วล่ะจังหวะเนี่ย)

(ได้สิ น้องเมลจะไปหา เอาที่อยู่มาถ้าแน่จริงอะ) เมลเล่นกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจและท้าทายคุงโอมอยู่ในที ส่วนคนที่ชื่อเตอร์นี้...เซ็งชิบ

(เอาจริงอ๋อ พี่ล้อเล่นนะ แล้ว...มาเล่นไหม พี่กับน้องเตอร์ลงแรงก์เสร็จแล้ว) เมื่อโอมถามแบบนี้ คิดว่าคนที่รออยู่แล้วจะตอบว่าไงล่ะ?

(เล่นสิคะ น้องเมลรออยู่เลย...) เสียงสดใสคูณร้อย แต่คนชื่อเตอร์นี้อยากจะออกเกมออกดิสคอร์ดให้รู้แล้วรู้รอด

หงุดหงิดอีกแล้วโว้ย!!!

….100%….

เนื้อเรื่องอืดเอื่อยไปหน่อยไหมคะ อ่านฆ่าเวลาจริงๆ ถ้าใครไม่มีเวลาให้เทละก็คงไม่น่าจะอ่าน แฮ่ๆ

เมื่อไม่กี่วันก่อนเราได้มีโอกาสคุยกับน้องนักเขียนคนหนึ่ง คุยไปคุยมาเขาก็ให้เราตั้งชื่อตอนให้ เราก็ตั้งค่ะ ทีนี้น้องเอาไปแต่งละลงชื่อตอนเป็นชื่อที่เราตั้งให้ ปรากฏว่า…ยอดวิวน้องจากพันห้าถึงสองพันพุ่งพรวดขึ้นไปหลายหมื่นวิวในเวลาไม่ถึงวัน แถมยอดวิวรวมยังปาไปสองแสนกว่า ฮื่อออออ เราอิจฉาง่ะ คนตั้งชื่อตอนให้น้องอย่างเรายอดวิวตะปิ๋วดิ๋วเอง กระซิกๆ
ปล.งอแงขำๆ นะคะ ^^

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 10 / 100% [19/03/2021]
«ตอบ #23 เมื่อ19-03-2021 12:01:52 »

ตอนที่ 10

รู้อะไรไหม...โอมไม่ได้อารมณ์ดีหรอกนะ

หลังจากเมลเข้าตี้ที่มีโอมและเตอร์ได้ประมาณชั่วโมงนิด ๆ เตอร์ก็หนีออกไป โอมเห็นว่าเตอร์ยังออน เห็นด้วยว่าไปพิมพ์เล่นหน้าแชตโลกว่าเซ็งงั้นงี้ โอมตอบโต้แชตกับเตอร์ ถามน้องว่าเป็นอะไรหรือเปล่า คำตอบที่ได้มีแค่เปล่า ถามว่าเล่นอีกไหม ก็บอกว่าไม่เล่น ชวนเข้าดิสก็ไม่เข้า บอกจะนอนแล้ว

เนี่ย! จะให้อารมณ์ดีได้ยังไง ก่อนเมลเข้าดิสทุกอย่างมันยังดีอยู่เลยอะ พอเมลเข้ามาปุ้บ บรรยากาศมันก็แย่ลงจนเห็นได้ชัด โอมอยากอยู่เล่นกับเตอร์สองคนนะ...เหมือนเมื่อก่อนที่ในดิสห้องนี้มีแค่เขากับเตอร์เท่านั้น พอมีคนอื่นเข้ามา จะปฏิเสธการมาของเขามันก็ไม่ได้เพราะโอมเป็นแอดมินของดิส

“เฮ้อ....” เขาถอนหายใจออกมาหนัก ๆ หลังพยายามวางสายจากเมลเพื่อหนีไปนอนบ้าง

เมลไม่อยากให้เขาไปนอน อยากให้เขาสอนเธอเล่นต่อ หรือถ้าเขาไม่เล่นก็จะชวนคุยอยู่อย่างนั้นไม่ให้ไปไหน เขารำคาญอะ พูดแบบคนเห็นแก่ตัวเลยคืออยากอยู่กับเตอร์แค่สองคน แล้วไง…จะให้ไล่รึไงล่ะ ทำได้ก็ดีสิ

โอมกล่อมตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็ดีขึ้น เมลอาจจะเบื่อไปในสักวันหรือไม่เมลก็จะได้เพื่อนใหม่ในเร็วๆ นี้ เขาพยายามทำตัวให้เหมือนเดิม ไปเรียนก็ต้องแวะเวียนหาเตอร์ คุยกับเตอร์เป็นการส่วนตัวกับเตอร์ประจำ ระหว่างที่เขาไม่เข้าดิสกัน ทุกอย่างยังคงราบรื่นเหมือนเคย ทว่าพอเข้าดิสแล้วเมลเข้ามาเตอร์มักจะหนีออกไป

มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้วนะ ไม่ว่าโอมจะพยายามถามเตอร์แค่ไหนว่าเตอร์เป็นอะไร เตอร์ก็ไม่ยอมตอบ เอาแต่บอกว่าไม่ได้เป็นไรอยู่อย่างนั้น เมลเองก็ขยันเข้าดิสมาหยอดเขาเหลือเกิน พอถึงเวลาแรงก์เธอจะเข้ามาในดิสที่โอมกับเตอร์อยู่ด้วยกัน แล้วเป็นไง เตอร์หนีไง แบบหนีออกจากดิสแต่ยังเล่นเกมด้วยกัน

วันศุกร์นี้เตอร์ไม่มีเรียน ช่างแตกต่างจากโอมที่มีเรียนลากยาวยันหัวค่ำเพราะต้องเคลียร์งานกลุ่มร่วมกับเพื่อน ๆ เขาอยากเจอเตอร์ ถ้าเตอร์มาเรียนยังไงก็ได้เห็นหน้ากัน แต่ก็ไม่เป็นไร ถึงไม่ได้เจอหน้าก็ยังแชตหากันอยู่ล่ะนะ

“พักนี้กูไม่เห็นเตอร์อยู่ในห้องดิสกับมึงเลยนี่ หรือว่ามึงติดหญิงจนเทน้องมันไปแล้ว” มอสถามขณะพักเบรกกันตอนบ่ายสอง

“เฮ้อ.... ขอถอนหายใจยาวจนถึงดาวอังคารเลยได้ไหมวะ” พูดเรื่องนี้แล้วมันจี้ใจดำ

“เตอร์มันคงเบื่อแบกไอ้โอมมันแล้วมั้ง” วัตพูดแบบไม่ใส่ใจ

“ก็เล่นด้วยกันอยู่ แต่น้องมันไม่อยากเข้าดิสอะ เวลากูถามก็บอกเปล่า หูฟังไม่ดี” โอมว่าเหตุผลของเตอร์มันฟังไม่ขึ้น แต่ไม่ว่าจะ
ซักไซ้เตอร์แค่ไหนเขาก็ไม่ได้คำตอบอื่นเลย

“แล้วกับน้องเมลที่น่ารักคนนั้นน่ะ ยังไงเหรอเพื่อน” แจ็กไม่สนเลยว่าความสัมพันของเตอร์กับโอมจะดูแย่ลงไหม เขาสนว่าจะเกิดคู่รักในดิสคอร์ดหรือเปล่า น้องเมลก็แสนจะน่ารัก เป็นแจ็กจะฟาดไม่ให้เหลือไปถึงใครเลยล่ะ

“ไม่ไงอะ กูเฉย ๆ” ก็ไม่ได้ชอบผู้หญิง จะให้โอมไปรู้สึกอะไรกับเธอ คนที่โอมต้องใส่ใจตอนนี้มันคือเตอร์คนเดียวเท่านั้นแหละ

“น้องมันไม่เข้าดิสเพราะเมลเปล่าวะ” จู่ ๆ มอสก็โพล่งเรื่องนี้ออกมา

“มึงเอาอะไรมาคิดงี้วะ” วัตนี่มองหน้าเพื่อนอย่างไว

“นั่นสิมอส มึงคิดบ้าอะไร เตอร์มันไม่ใช่เด็กงี่เง่าแบบนั้นนะ เอ้ย ไม่ดิ...เป็นไปได้นะเว้ยว่าที่น้องมันไม่เข้าดิสกับไอ้โอมแล้วเพราะเมล แบบเปิดทางให้โอมกับเมลสวีทกันไงมึง แน่ๆ กูว่าน้องมันต้องหวังดีกับมึงอยากให้มึงมีเมียเป็นตัวตนชัวร์ป้าบ!” โอมมองหน้าแจ็กที่พล่ามยาวด้วยสายตาระอาใจ อยากตะโกนอัดหน้ามันว่า...กูชอบผู้ชาย!

แต่ที่มอสพูดมันก็มีความน่าจะเป็นไปได้อยู่นะ ตอนแรกที่เล่นกันแค่สองคนน่ะเตอร์ก็ดูเป็นเตอร์ที่อยู่กับเขาปกติทุกอย่าง แต่พอเมลเข้ามาเตอร์กลับพูดน้อย บางครั้งไม่พูด หนักเข้าก็ไม่ยอมเข้าดิสคอร์ดคอลกับเขาเลย แล้วที่เป็นงั้นก็เพราะเมลอยู่ในดิสกับเขาตลอดนั่นแหละ

แล้ว...เขาควรทำไงดี

“ไม่ต้องเอาตาละห้อย ๆ นั้นมามองหน้ากูเลยโอม” มอสแทบจะดันหน้าโอมไปอีกทางเพราะโอมเล่นหันมามองหน้า แววตานี่คือหาความช่วยเหลือแน่นอน

“อะไรวะ รู้ไรกันสองคนหรือไง” วัตมองทั้งคู่ก่อนละสายตาไปจ้องจอมือถือ ที่แสดงหน้าดิสคอร์ดเพื่อดูความเคลื่อนไหวภายในแคลนของตนเอง

“เปล่า” โอมตอบแล้วทิ้งตัวลงกับเก้าอี้แบบหมดแรง

“มึงได้ทักไปคุยกับน้องมันมั้งปะล่ะวันนี้อะ” มอสถาม

“ทัก ก็ทักทุกเช้าอะ แล้วก็บอกว่าวันนี้ไม่ได้ลงแรงก์เที่ยงด้วย น้องมันเลยไปลงฮัน”

“ทักหาทุกเช้า...” แจ็กเลื่อนสายตาจากสาวมามองหน้าโอม คิ้วขมวดด้วยความงงงวย

“อืม” โอมแค่พยักหน้า ไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจปฏิกิรยาคนอื่นนักเท่าไหร่

แรก ๆ ที่เตอร์ไม่เข้าดิสมาอยู่ด้วยก็ว่าเซ็งแล้ว ยังดีที่เวลามาเรียนก็ยังได้เจอกัน ในแชตส่วนตัวก็ยังสนทนากันได้ดี เรียกว่าราบรื่นไม่ได้มีอะไรผิดปกติ แต่ตอนนี้ดิ...ยิ่งเมลเข้ามาอยู่ด้วยมากเท่าไหร่ เข้ามาทักทายเขาในดิสมากเท่าไหร่ เตอร์ก็มีท่าทีเหินห่างมากขึ้นจนแทบจะกลายไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน ตอนที่เขาไม่ได้เล่นเกมกับเตอร์

โอมพยายามใจเย็น ไม่คิดมาก แต่เอาเข้าจริงมีใครไม่คิดได้มั้งล่ะ คนที่ตัวเองชอบเปลี่ยนไปมากเลย โอมอยากให้เขากับเตอร์กลับมาคุยกันบ่อย ๆ เหมือนเดิม ตอนที่ช่วยกันไต่แรงก์ ลงแรงก์ด้วยกันด้วยการคอลสาย มันเป็นช่วงเวลาที่ดีจนโอมอยากให้เวลานั้นมันมีสักยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ

แล้วดูตอนนี้ดิ ถ้าไม่เจอเตอร์ที่มหาลัยก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงเตอร์แล้ว เล่นเกมด้วยแต่ไม่คอลดิสมันเหงามากนะ คิดถึงจัง โอมถอนหายใจออกมาอีกรอบ และอีกรอบในหนึ่งนาทีถัดมา

“มึงถอนหายใจรัวขนาดนั้นก็ไม่มีไรดีขึ้นมาหรอก” วัตพูดทั้งที่ตายังคงมองหน้าดิสและมือกดพิมพ์ข้อความไปด้วย

“นี่ ๆ น้องเมลแทร็กหามึงอีกแล้ววะ บอกคิดถึง...แหม ผมล่ะหมั่นไส้คนหล่อจังเลยครับ” แจ็กดูจะเป็นคนเดียวที่ดี้ด้า

“อืม”

“แค่เนี้ย...น้องบอกคิดถึงมึงแค่อืมเนี่ยนะ” แจ็กแทบจะถลึงตามอง

“มอส....”

“มึงไปอ้อนไกลตีนกูเลย” มอสส่ายหน้า รู้แหละว่าเพื่อนเครียดน่ะ แต่ให้ทำไง

“มึงก็บอกความในใจไปก็จบแล้ว ยึกยัก” วัตตอบปัด เก็บมือถือ เก็บของทุกอย่างแล้วเดินกลับเข้าคลาส

“อะไรวะ กูตามอะไรไม่ทันหรอ?” แจ็กมองวัตและเพื่อนอีกสองคนข้าง ๆ

“ฉลาดน้อยต่อไปอะมึงอะ” มอสเก็บของบ้างและตามมาด้วยโอม

โอมแทบจะไม่มีกะจิตกะใจในการเรียน สมาธิไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างที่เคยเป็น แต่ไม่ว่าตัวเองจะฟุ้งซ่านมากแค่ไหนเขาก็ยังตั้งสติขึ้นมาสนใจบทเรียนที่อาจารย์สอนได้ แม้มันจะยากและใช้พลังงานสูงกว่าปกติไปเสียหน่อยก็ต้องทำ

เวลาแห่งการเรียนการสอนไหลไปเรื่อย ๆ จนร่วงเลยเข้าสู่ช่วงเย็น วันนี้อาจารย์ปล่อยช้ากว่าปกติเพราะมีการคุยกัยเรื่องโปรเจ็กที่ต้องทำกันเป็นกลุ่ม โดยให้นักศึกษาเลือกหัวข้อที่จะทำกันภายในคลาสให้เรียบร้อย พร้อมแจกแจงหน้าที่ที่ต้องทำในกลุ่มทันที จากนั้นส่งรายชื่อให้อาจารย์ถึงจะสามารถกลับบ้านได้

ทั้งสี่ตกลงกันว่าจะไปนั่งพักผ่อนคลายให้สมองที่ร้านนมใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย นอกจากพักยังได้หาอะไรกินและคุยสรุปงานกลุ่มกันอีก เนื่องจากตอนอยู่ในคลาสพวกเขาเร่งรีบเลยยังไม่ได้คุยรายละเอียดกันจริงจัง โอมกะว่าถ้าแจกงานภายในวันนี้เสร็จ เสาร์
อาทิตย์นี้พวกเพื่อน ๆ ก็น่าจะมีความคืบหน้าในงานได้ไม่มากก็น้อย

พวกเขาหย่อนกายที่ร้านนมตอนหกโมงสี่สิบนาที หลังจากที่สั่งเครื่องดื่มและขนมแล้วทุกคนยกเว้นโอมก็เข้าเกมไปลงแรงก์ก่อนเป็นอย่างแรก เนื่องจากวันนี้ทั้งวันพวกเขายังไม่ได้ลงแรงก์เกมนี้กันเลย อย่างน้อยสักสามตามเพื่อเอาไอเทมก็ยังดี

“มึงลงกับกูไหม” มอสถามโอมที่นั่งมองมือถือตาละห้อย ไม่มีข้อความจากเตอร์เลยแม้แต่ข้อความเดียว

โอมกดเข้าแอพพลิเคชั่นดิสคอร์ด เขาไม่ได้นั่งกวาดสายตาอ่านข้อความต่าง ๆ ที่คนในดิสพูดคุยกันตรงแชตหลัก โอมเลือกที่จะไล่ดูห้องพูดคุยว่ามีใครสิงอยู่บ้าง และเขาก็ได้เห็นเตอร์สิงอยู่ปาร์ตี้เกมสามกับเพื่อนอีกสองคน
คงเล่นเกมอยู่เลยไม่ได้สนใจเขาสินะ...

“ไอ้โอม ลงกับกูไหมเนี่ย” มอสเอาศอกมากระแทกศอกโอมเพื่อเรียกสติ วัตละสายตาจากเกมมามองทั้งสองโดยที่แจ็กยังคงพิมพ์คุยกับสาว ๆ หน้าแชตโลก

“ไม่อะ ลงเลย ไม่มีสมาธิวะ” โอมบอกกับเพื่อนตรง ๆ ในใจโอมอยากกดเข้าไปฟังเสียงเตอร์ในดิสมาก แต่ตรงนี้มันเสียงดังและเขาเองก็ดันเกิดอาการไม่กล้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“เพราะเตอร์...” วัตพูดลอย ๆ แล้วกลับไปเล่นเกมของตนเองต่อ

โอมได้แต่จด ๆ จ้อง ๆ อยู่กับหน้าจอมือถือ สายตาโฟกัสแค่ห้องที่มีเตอร์ เขาสามารถจิ้มทีเดียวก็คอนเน็กกับอีกฝ่ายได้ แต่ไอ้การกดจึ้กเดียวเนี่ยมันยากเย็นยิ่งกว่าตั้งใจเรียนในวันที่ไม่มีสมาธิเสียอีก


เวลา 19.14น. หน้าแชตดิสคอร์ด

HRxWTF
มีคนนั่งมองหน้าจอเป็นหมาหงอยด้วยวะ @HRxCookkie

HRxMos
ใช่ ๆ กูก็เห็นเหมือนกัน ปากคาบหลอดชานม ตามองปาร์ตี้เกมวะ

@HRxWTF น้องเมลของพี่โอม

@HRxWTF @HRxMos ไหน ๆ น้องเมลอยากเห็นพี่โอมกินชานม พี่  ๆ ถ่ายรูปมาให้หนูดูหน่อยยยยยยย

HRxTher ...?

HRxMos
@น้องเมลของพี่โอม ต้องขออนุญาตเจ้าตัวก่อนน้า
น้องเมลของพี่โอม

@HRxMos แงงงงง งั้นไม่เป็นไรค่ะ

@HRxCookkie พี่โอม....น้องเมลคิดถึง น้องเมลมีเรื่องจะบอกพี่โอมด้วยนะ พี่โอมขา...น้องเมลรักพี่โอม!

HRxJack
เอาวะ...เยดโด้ว มีคนสารภาพรักกันหน้าดิสโว้ย!

“ไอ้โอม ๆ มึงดูนี่ดิ มึงเห็นที่น้องแทร็กมึงยังเนี่ย” แจ็กตื่นเต้นเป็นการใหญ่ ในขณะที่มอสและวัตต่างก็มองหน้าเจื่อน ๆ

“...” โอมมองหน้าจอที่แจ็กให้ดูแว้บหนึ่ง

“อะไรวะปฏิกิริยาแบบนี้อะ” แจ็กไม่เข้าใจ มีคนมาสารภาพรักมันไม่ดีตรงไหนวะ

“เห็นแล้ว”

“เห็นแล้ว? แค่เนี่ยอะนะเพื่อน เออ...ใช่ซี่ มึงมันมีคนมาสารภาพรักเยอะหนิ มึงเลยเย็นชา โถน้องเมลของพี่ ไอ้โอมไม่รักก็มาซบอกพี่เถอะ” แจ็กพูดพล่ามไม่พอยังทำท่าทำทางน่าหมั่นไส้ใส่โอมอีก ทั้งที่โอมดูไม่มีอารมณ์ร่วมซ้ำยังมีสีหน้าไม่สู้ดีอีก

“หน้าแชตหลักเลยนะมึง” มอสบอก

“อืม...”

“ตอบไรน้องมันหน่อยดีมั้ยวะ”

“ให้ตอบไรอะ” โอมหันหน้าไปมองมอส แววตามีความเฉยชากับเรื่องสารภาพรัก

“ก็ตอบรับรักน้องมันไปดิวะ น้องมันน่ารักดีนะเว้ย” แจ็กเชียร์

“รับรัก...” รับรักใครก็ไม่รู้เนี่ยนะ โอมคิดแล้วก็หยิบชายนมมากิน

“มึงเคยเห็นมันรับรักสาวไหนปะล่ะ” วัตถามแจ็ก

“ก็ไม่เคย แต่คบกับคนในโลกออนไลน์สักคนมันคงไม่เสียหายไรมั้ง คุย ๆ กันไป ไม่ใช่ก็แค่เลิก ยากอะไร ไม่กระทบกับคนอื่นที่จะเข้ามาจีบไอ้โอมมันด้วย” ความคิดเห็นของแจ็กนั้นสมกับเป็นตัวพ่อด้านความเจ้าชู้สุด ๆ

“พูดง่ายนะมึง กูไม่ชอบน้องเขา แล้วจะให้กูไปรับรักเนี่ยนะ”

“ไม่ชอบแล้วอยู่กับเขาทุกวันอะนะ” แจ็กสวน

“ไม่อยู่ได้ไงวะ กูเป็นแอดมินนะ คิดว่ากูอยากอยู่หรือไง แค่ไม่มีเตอร์ก็อยากออกดิสล่ะ” โอมถอนหายใจลากยาว

“ทำไมอะไร ๆ ก็เตอร์วะ” ประเด็นนี้มันบ่อยมากจนแจ็กหันมาเผชิญหน้ากับโอมตรง ๆ

“ก็กูชอบเตอร์”

“อ่อ...ชอบเตอร์ ฮะ!!!” แจ็กพยักหน้าอ่อ ก่อนจะรีบหันขวับไปมองหน้าโอมอย่างตกตะลึง ในขณะที่มอสและวัตกลับไม่ได้มีสีหน้าที่แปลกใจอะไร

ก็จะมีอะไรให้แปลกใจ อาการโอมมันออกขนาดนั้นว่ารักน้องหลงน้อง มองมาจากดาวอังคารแม่งยังรู้เลยว่าชอบเตอร์ขนาดไหน เห็นจะมีแต่แจ็กเนี่ยแหละที่ตาถั่วมองไม่ออก ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชเพื่อนตัวเองดีที่มองเพื่อนด้วยกันไม่ออกขนาดนั้น

“อ่า...”

ท่ามกลางความตกใจของแจ็กกลับมีร่างของสองหนุ่มรุ่นน้องยืนนิ่งค้างอยู่ไม่ไกล
ดรีมกับโจ้กจ้องหน้าโอมตาค้าง พวกเขากะจะมาช่วยงานรุ่นพี่เพราะว่าแจ็กแอบไปบ่น ๆ กับดรีมที่เป็นรุ่นน้องคนสนิทว่างานโคตรเยอะ รอบก่อนรุ่นพี่ก็ช่วยพวกเขา รอบนี้จึงอยากมาช่วยรุ่นพี่บ้าง แต่คงมาได้จังหวะพอดี ถึงได้ยินช็อตเด็ด

ดรีมแอบหันไปด้านหลัง เตอร์แอบอยู่หลังเสาไม่ห่างจากโต๊ะนี้มากนัก แน่นอนว่าคำพูดของโอมต้องเข้าหูเตอร์อย่างแน่นอน เพราะระยะของทั้งหมดไม่ได้ห่างอะไรกันเลย

“โป๊ะสัส” มอสพ่นลมหายใจออกมา สี่หนุ่มรุ่นพี่ประสานสายตากับสองรุ่นน้อง

“คือพวกผมกะมาช่วยทำงาน แบบว่า...พี่แจ็กมันไปทักไปบ่น” ดรีมรีบอธิบาย

“อ่อ ขอบใจนะ” วัตบอกเรียบ ๆ

“แล้วเตอร์...” โอมจากตอนแรกดูหงอยเหงาเปลี่ยนมาตื่นตระหนกได้ภายในเสี้ยววิ เขากลัวน้องได้ยินในสิ่งที่หลุดพูดออกไปโดยไม่ทันตั้งตัวนั้น แล้วหากเตอร์ไม่โอเคขึ้นมามันจะมองหน้ากันไม่ติด

“เตอร์...” ดรีมแอบเหลือบมองไปด้านหลัง เห็นเตอร์ส่ายหน้าเบา ๆ แล้วขยับปากบอกว่ากูกลับก่อน “ไม่ได้มาอะพี่ มันไม่ว่างออกมา”

“อ่อ เออเข้ามานั่งมา” โอมยิ้มให้ อย่างน้อยก็สบายใจที่เตอร์ไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาหลุดพูดไป
โอมกลัวจริง ๆ นะ กลัวว่าถ้าเตอร์รับไม่ได้แล้วความสัมพันของเขากับเตอร์จะแย่ลง เขาไม่อยากห่างเตอร์ ไม่อยากให้เตอร์หายไปจากชีวิตของเขา ต่อให้ต้องอยู่ในฐานะรุ่นพี่ต่อไปมันก็ยังดีที่มีเตอร์อยู่ด้วยในทุก ๆ วัน

“แต่พวกผมได้ยินนะเมื่อกี้” โจ้กโพล่งขึ้นมาหลังจากนั่งล้อมรอบโต๊ะ

“พวกผมไม่บอกไอ้เตอร์หรอก ไม่ต้องห่วงพี่” ดรีมใช้ศอกกระแทกไหล่โจ้กเบา ๆ

“ใช่ ๆ ไม่บอกหรอก”

“พวกมึงดูไม่น่าเชื่อถือนะ” วัตพูดเสียงเรียบ

“เรื่องนี้ผมไม่ยุ่งจริง พี่ไม่ต้องห่วง มันเป็นเรื่องของพี่โอมต้องไปเคลียร์เองนะครับ” โจ้กยิ้มใส่สีหน้าเย็นชาของวัต

“แล้ว...เมื่อไหร่วะ เมื่อไหร่ที่มึงไปชอบน้อง” แจ็กดูเหมือนเพิ่งฟื้นคืนสติถามขึ้น

“ต้องพูดตอนนี้เหรอวะ” คิ้วโอมขมวดเป็นโบแล้ว

“ต้องตอนนี้ดิวะ!” แจ็กอยากรู้จัด แทบจะจัดให้เป็นวาระแห่งชาติเลยก็ว่าได้ เมื่อได้รู้ว่าหนุ่มฮอตของกลุ่มตนเองนั้นเป็นพวกชอบเพศเดียวกัน

“นานแล้ว ก็...มองมาเรื่อย ๆ แล้วก็เริ่มรู้สึกดีอะไรทำนองนั้นแหละ”

“นานแล้ว? มองมาเรื่อย ๆ ? นี่ต้องนานขนาดไหน” แจ็กยังซักไซ้เหมือนตัวเองเป็นพนักงานสืบสวนสองสวนผู้ต้องหาคดีร้ายแรง

“ก็ที่เริ่มรู้จักแหละ” แล้วทั้งหมดก็กระจ่าง โอมชอบเตอร์มานานจนน่าตกใจ

ทั้งกลุ่มพูดอะไรไม่ออก ต่างก็พากันเงียบราวกับจมอยู่ในห้วงแห่งความคิด ไม่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรยังไงดี จริง ๆ ปัญหานี้มันก็ไม่ได้ชวนกระอักกระอ่วนขนาดนั้นหรอก เพราะยังไงซะหญิงสาวก็เป็นเพียงคนในโลกออนไลน์ ปฏิเสธเธอไป หรือไม่สนใจเธอก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรตามมา แต่เรื่องที่โอมรู้สึกกับเตอร์เนี่ยสิ...ดูจะเป็นเรื่องน่าหนักใจมากกว่า

“มึงจะเอาไงต่อวะ” มอสถามหลังปล่อยให้ความเงียบครอบงำมาได้พักหนึ่ง

“ไม่รู้ดิ กูไม่เข้าดิสตอนนี้แน่ ๆ อะ“

“ปฏิเสธไปก็จบเรื่อง ยากตรงไหนวะ” วัตบอกชิว ๆ ก็จะไม่ชิวได้ยังไง โอมมันปฏิเสธหญิงมาตั้งเยอะแยะแค่นี้ไม่ยุ่งยากใจนักหรอก

“ก็ไม่ยาก แค่ขี้เกียจอะ” มัวแต่คิดเรื่องเตอร์มากกว่าจนไม่ได้ใส่ใจหญิงสาวคนนี้ด้วยซ้ำ

‘ตรึ๊งงง’

เสียงไลน์มือถือของโอมดังขึ้น เจ้าตัวก้มหน้ามองแบบเซ็ง ๆ ก่อนที่แววตาจะทอประกายออกมา ชื่อของคนส่งข้อความที่ทำให้โอมดูมีชีวิตชีวาได้มันจะเป็นใครกันล่ะ

[เตอร์ไงจะใครล่ะ : คุงโอมเข้าดิสกัน]

[เตอร์ไงจะใครล่ะ : เตอร์อยากเล่นเกม]

[เตอร์ไงจะใครล่ะ : เร็ววววววววววววว]

[คุงโอม : คร้าบ ๆ เดี๋ยวนี้เลยครับน้องเตอร์]

“ยิ้มเฉย...” มอสส่าหน้าเบา ๆ กับอาการผีเข้าผีออกของเพื่อน

ขณะที่โอมหยิบหูฟังมาเสียบเข้ากับมือถือ เพื่อนที่เหลือก็นั่งคุยกับน้อง ๆ ปล่อยโอมให้ดูเหมือนไม่มีตัวตนในวงสนทนา เพราะพวกเขารู้ดีว่าหลังจากที่โอมได้คุยกับเตอร์แล้ว โอมจะไม่สนใจใครทั้งนั้น

(คุงโอมช้าอะ) เตอร์บ่นเบา ๆ เมื่อโอมเข้าไปอยู่ในห้องปาร์ตี้เกมหนึ่ง ห้องประจำของพวกเขาทั้งสองเวลาเล่นเกมด้วยกัน

“ขอโทษคร้าบบบบ หูฟังมันพันกันอะ” สายตาหลายคู่หันไปจับจ้องโอม ก็ดูเสียงมันดิ...ร่าเริงผิดกับโอมหมาหงอยเมื่อครู่นี้อย่างสิ้นเชิง

(คราวหลังคุงโอมก็เก็บดี ๆ สิครับ เตอร์บอกหลายรอบแล้วน้าว่าอย่าขยำยัดใส่กระเป๋าเสื้อ แบบนั้นหูฟังมันจะพังง่ายแถมพันกันอีก คุงโอมก็ไม่เชื่อเตอร์อะ) ทั้งที่เตอร์บ่น แต่โอมกลับยิ้มหวาน ยิ้มแก้มบานจนน่าหมั่นไส้

“เตอร์ก็มาคอยเก็บหูฟังให้พี่ดิ”

(ทำได้แค่ท้าแต่ไม่กล้ามาให้เตอร์เก็บอะ อย่าพูดเลย) น้ำเสียงเตอร์ดูเย้าหยอก โอมคิดว่า...เขากำลังคิดไปเองว่าน้องเตอร์หยอกเขา

“รู้ได้ไงว่าพี่ทำได้แค่ท้า”

(แน่จริงก็มาดิค้าบบบบบบ)

“ถ้าไปนะ...”

(ทำไมเหยอ)

“จะฟัด...”

(คุงโอมมมมมมมม เมลคิดถึง) แล้ว...บทสนทนาที่หวานหยดก็สะดุดราวกับมีคนเดินมาเตะปลั๊กไฟ


...


สวัสดีค่ะ วันนี้ทุกคนเป็นยังไงกันบ้างคะ ส่วนไรท์นอนน้อยมากเลยค่ะ แง
ถึงจะนอนน้อย แต่ร้อยเปอร์เซ็นต์นะคะ อย่าลืมพักผ่อนกันด้วยน้า > <


ออฟไลน์ Sorrowkung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 10 / 100% [19/03/2021]
«ตอบ #24 เมื่อ20-03-2021 00:08:43 »

เมลมาขัดจังหวะตลอดเลย :ruready

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 10 / 100% [19/03/2021]
«ตอบ #25 เมื่อ23-03-2021 13:40:34 »

 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 11 / 50% [25/03/2021]
«ตอบ #26 เมื่อ25-03-2021 19:51:22 »




… ตอนที่ 11 [50%] …



“...”

(...) เสียงหวานใสของหญิงสาวควรเป็นเสียงที่ทำให้หัวใจของหนุ่ม ๆ กระชุ่มกระชวย ทว่าเสียงของเมลนั้นกลับทำให้ทั้งสองที่อยู่ในดิสคอร์ดพากันเงียบโดยไม่ได้นัดหมาย

(คุงโอมได้ยินน้องเมลไหมคะ ฮัลโหล...) เหมือนว่าความเงียบจะทำให้เมลคิดว่าไมค์ของเธอไม่ดี รู้มั้ยว่าที่จริงแค่ไม่มีใครอยากตอบเท่านั้นเอง

“ครับ ๆ ได้ยินครับน้องเมล”

(คุงโอม....) เตอร์รีบแทรกทันทีที่โอมตอบกลับ

(เย้ ๆ คุงโอมได้ยินน้องเมลด้วย น้องเมลคิดว่าคุงโอมจะไม่ได้ยินน้องเมลแล้วนะเนี่ย....)

“ครับน้องเตอร์” โอมตอบกลับเสียงเรียกของเตอร์โดยที่เมลยังไม่พูดไม่จบ คือเขาไม่ได้จะเสียมารยาทนะ แค่จะรีบตอบเตอร์เท่านั้นเอง

(เตอร์ชวนคุงโอมเข้าตี้แล้วทำไมไม่กดเข้าครับ อยากให้เตอร์งอนเหรอ)

“เดี๋ยว ๆ ส่งมาใหม่จะรีบเข้าเดี๋ยวนี้เลยครับน้องเตอร์ ห้ามงอนเด็ดขาดพี่ไม่อนุญาตนะ”

(ไม่อนุญาตก็จะงอน)

“งั้นเอาขนมไปง้อ โอเคมั้ย?” โอมยิ้มหวาน ต่อให้เตอร์งอนก็จะง้อแล้วง้ออีกนั่นแหละ คนอะไร...งอนก็ยังน่ารัก

(อืม...ขนมอะไรน้า?) น้ำเสียงลากยาวของเตอร์ดูยียวนกวนหัวใจโอมซะเหลือเกิน

(เลี้ยงขนมน้องเมลบ้างสิคะคุงโอม)

“น้องเตอร์อยากกินอะไรละครับ นมมั้ย...ตอนนี้พี่อยู่ร้านนมหน้ามอ”

(อ่อ ที่ว่าไปนั่งคุยเรื่องโพรเจกต์นั่นน่ะเหรอคุงโอม) เตอร์ทำเนียนเหมือนไม่รู้เรื่องราวทั้งที่ตัวเองเพิ่งจะชิ่งจากร้านไปเมื่อเร็วๆ นี้

“ใช่อยู่นี่กันครบเลยครับ มามั้ย เดี๋ยวเลี้ยงหนมเลย น้องเตอร์จะกินทั้งร้านเลยก็ได้นะพี่ไม่ว่าแค่ระวังอ้วน...”

(อ้วนแล้วจะไม่รักเหรอ)

“รักสิ”

...

..

.

ราวกับเวลามันหยุดนิ่งลงไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่ว่าจะโอม เตอร์ หรือแม้แต่เพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่รายล้อมก็พากันหันมามองคนที่ก้มหน้าก้มตาพูดกับคนในดิสคอร์ด ซึ่งสภาพคนพูดว่ารักตอนนี้ก็คือนิ่งสนิทอย่างกับหยุดหายใจไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

อยากตบปากตัวเองจริงจริ๊งงง ไอ้นิสัยเผลอพูดอะไรออกไปโดยไม่ยั้งคิดนี่มันแก้ไม่หายเลยจริง ๆ ยิ่งกลัวว่าเตอร์จะไม่โอเคกับเขาอยู่ ก็ยิ่งเผลอพูดทุกทีที่ได้อยู่ด้วยกันตลอด โอมหันหน้าไปเพื่อนร่วมโต๊ะ บางคนกลั้นขำ บ้างก็นิ่ง ๆ บ้างก็เหวอไป แต่ไม่ว่าใครจะหน้าไหนตอนนี้ช่วยเขาก๊อนนนน

“แหม หวานกันเก่งจริงนะมึง” มอสรีบส่งเสียงแหย่ทำลายความเงียบ

“หวานจนชาไข่มุกผมจืดละพี่” ดรีมพูดบ้าง

“เห่อๆ” ส่วนวัตแค่ส่งเสียงขำแล้วไม่สนใจใยดีอะไรต่อทั้งนั้น

(โอ้ย! จะหัวเราะกันนักหนา สนในน้องเมลบ้างไหมเนี่ย!!!) เมลโวยวายขึ้นมาท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนอื่น น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของเธอทำให้เตอร์และโอมเงียบลงในทันที

โอมลำบากใจกับน้องเมลอยู่แล้ว ยิ่งเมลมาโวยวายสาดความไม่พอใจใส่เขากับเตอร์แบบนี้ก็ยิ่งทำให้เขาอยากจากดิสคอร์ดแล้วไปคอลที่อื่นแทน ที่ที่ไม่มีคนชื่อเมล ความคิดเขาดูติดลบชะมัด โอมพยายามสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นไปแล้วหาคำพูดมาหว่านล้อมน้องเมล

ทว่ายังไม่ทันได้ทำอะไรเสียงเรียกเข้าจากไลน์ก็ดังขึ้น! คุงโอมยิ้มบาง ๆ แล้วกดออกจากดิสคอร์ดเพื่อรับสายเรียกเข้านี้โดยไม่ต้องใช้ความคิดให้เยอะรกสมองเลยล่ะ เพราะอะไรน่ะเหรอ...เพราะคนที่โทรเข้ามาคือคนเดียวที่เขาอยากคุยด้วยยังไงล่ะ

(ตามตรงนะคุงโอม เตอร์รำคาญ) เตอร์ส่งเสียงหน่าย ๆ มาให้ ซึ่งเป็นอารมณ์เดียวกับโอมไม่ได้ผิดเพี้ยนกันเลย

“แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ”

“แต่กูว่า สร้างห้องล็อกให้เข้าได้เฉพาะคนมียศมันจะไม่ง่ายกว่าเหรอ ถ้าแค่จะกันคนนอกออกไปจากการสนทนาของพวกมึงอะ” วัตที่เห็นทุกอย่างเอ่ยขึ้น

“เหมือนกูทำเป็น” ปกติโอมก็ใช้ดิสคอร์ดเอ๋อ ๆ อยู่แล้ว มาพูดเรื่องสร้างห้องอะไรกัน ทำเป็นที่ไหนเล่า

“เออ ๆ เดี๋ยวกูทำให้ จะเอาห้องส่วนตัวของพวกมึงสองคนด้วยเลยมั้ยล่ะ” วัตก้มหน้าก้มตากดอะไรสักอย่างในหน้าดิสคอร์ด

“ได้เหรอออออออ” คุงโอมนี่ตาวาววววเลย แต่เอ๊ะ เขาจะให้เพื่อนทำห้องส่วนตัวให้โดยไม่ถามความสมัคใจของเตอร์ก่อนมันก็คงจะไม่ดี

“ได้ดิ”

“น้องเตอร์เอาห้องส่วนตัวของเรามั้ย” พูดอะไรไปไม่ได้ดูรูปประโยคเลยว่ามันเหมือนใช้กับคนรักขนาดไหน เตอร์แอบขำเบา ๆ กับคำพูดนั้นของคุงโอม

(เอาสิครับ) เตอร์ตอบกลับมาแทบจะทันที

“เอาๆ”

“เออ ทำให้แล้ว”

“ขอบใจเพื่อน” ว่าจบโอมก็หันมาสนใจน้องเตอร์ของเขา

(ดูเหมือนเราจะลงแรงก์ไม่ทันแล้วล่ะคุงโอม) ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มสองนาที นั่นหมายความว่าแรงก์เย็นได้หมดไปแล้วอย่างน่าเสียดาย

“นั่นสิ แต่ไม่เป็นไร พี่จะได้เคลียร์งานกับเพื่อน ๆ ต่อ พวกมันมาถึงก็เอาแต่เข้าเกมเพื่อลงแรงก์ก่อนเลย นั่งมาชั่วโมงกว่างานก็ไม่กระดื้บ” คุงโอมบ่นเบา ๆ แล้วเอาโน้ตบุ๊กของตนเองออกมาเปิด

(ให้เตอร์วางสายไหม คุงโอมจะได้ทำงาน)

“ม่ายอะ อยู่นี่แหละ”

(ทำไมล่ะ คิดถึงล่ะซี่)

“ครับ...คิดถึง” แม้คำว่าคิดถึงจะแผ่วเบาแค่ไหน แต่คนปลายสายก็ได้ยินมันชัดเจน และดูเหมือนว่าคุงโอมจะไม่คิดเขินหรือแก้ต่างอะไรกับคำคำนี้เลย

โอมหันไปเรียกเพื่อน ๆ มาสนใจงานที่ต้องทำ โดยปล่อยให้รุ่นน้องทั้งสองคนนั่งดูดนมกันตาละห้อย มองคุงโอมที่มีท่าทีเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน นี่แหละคุงโอม เมื่อเป็นเรื่องเรียน เรื่องรายงานทีไรจะจริงจังและขึงขังน่าเกรงขาม ความเป็ฯผู้นำจะแผ่ออร่าออกมาราวกับไม่ใช่คนที่เล่นเกมเด๋อด๋าคนนั้น แม้กระทั่งแจ็คที่งอแงชอบเลื่อนเฟซดูรูปสาว ๆ ยังต้องสละเวลาอันมีค่านั้นมาให้โอม เพราะถ้าไม่สนใจงานที่โอมให้...เอาเอฟไปกินได้เลยวิชานั้น

การทำงานที่ร้านนมวันนี้มันไม่ได้มีอะไรเยอะนัก แค่เป็นรายละเอียดของงานที่ไม่เคลียร์ในคลาสแล้วก็แจกแจงงานให้แต่ละคนนำไปทำ ไอ้งานที่ใช้สมองเยอะ ๆ เป็นโอมที่นำมารับผิดชอบเอง ส่วนเพื่อนของเขาก็แค่งานที่ต้องลงแรงทำเสียมากกว่าสมอง แต่ก็ไม่เชิงว่าจะไม่ให้สมองทำงานหรอก เพราะในงานใช้แรงเหล่านั้นก็มีงานที่ต้องใช้สมองในหาความคิดอันบรรเจิดเลิศล้ำมานำเสนอด้วย

ประมาณสามทุ่มเกือบสี่ทุ่มทุกคนก็เข้าใจแล้วว่าต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง เรียกได้ว่าโอมแจงทุกอย่างเสร็จสรรพให้เพื่อน ๆ ได้มีงานทำจนไม่ว่างในเสาร์อาทิตย์นี้แน่นอน ส่วนรุ่นน้องอีกคนก็อาสาจะช่วยเหลืองานรุ่นพี่ แต่โอมยกลูกมือเหล่านี้ให้เพื่อน ส่วนเขาน่ะ...



- 50% -



กลับมาแล้วค่ะทุกคนนนน! ช่วงนี้ไรท์เข้าออฟฟิศแทบทุกวันเลย

วงการออฟฟิศซินโดรม เข้าแล้วออกยากจริง ๆ ค่ะ ฮา

เป็นยังไงกันบ้างคะ มาเล่าสู่กันฟังได้น้า > <






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 11 / 50% [25/03/2021]
«ตอบ #27 เมื่อ25-03-2021 21:39:25 »

 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ Sorrowkung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 11 / 50% [25/03/2021]
«ตอบ #28 เมื่อ25-03-2021 22:35:51 »

ขอบคุณครับ รักกันชัดเจน :mc4:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 11 / 100% [27/03/2021]
«ตอบ #29 เมื่อ27-03-2021 19:49:42 »



ตอนที่ 11 [100%]

“น้องเตอร์มาช่วยหน่อยสิ” ส่งเสียงอ้อนคนที่อยู่ปลายสายเสียอย่างนั้น

(เตอร์จะทำเป็นไหมเนี่ย คุงโอมนี่หาอะไรมาให้เตอร์ก็ไม่รู้) บ่นเบา ๆ แต่ก็รู้แหละว่าบ่นด้วยรอยยิ้มน่ะ น้ำเสียงเปลี่ยนมันจับได้น้า

“หยอกเล่นหน่า มาอยู่คุยกับพี่ก็พอแล้ว”

“ให้มาอยู่เป็นแฟนก็บอกไป” แจ็คแหย่เข้าเต็ม ๆ หมั่นไส้คุงโอมกับเตอร์แหละ อะไรจะต้องคาสายด้วยกันขนาดนั้น!

“ไอ้แจ็ค! ปากนะมึง” โอมแทบจะเดินไปตบปากเพื่อน

“อะไร หยอกหน่อยก็ไม่ได้ เตอร์ยังไม่โกรธเลยเนอะๆ” แจ็คส่งเสียงเข้าไป แม้จะได้ไม่ยินเสียงจากทางเตอร์ก็ตาม

(ฮ่า ๆ พี่แจ็คนี่น่าตีจริง ๆ เลย อย่าให้มาเล่นเซอร์นะ เตอร์จะไปเล่นฮันแล้วไล่ตบเขาคอยดู)

“น้องบอกจะเอาฮันตบหน้ามึงอะ” โอมดันตีความแบบนั้น ยิ่งทำให้เตอร์ขำเข้าไปใหญ่

“อ่าว ๆ ห้าวเหรอไอ้น้อง ได้ดิ มาดิ เหมือนกลัวอะคร้าบ” แจ็คไม่วายส่งเสียงดัง ๆ ไปแหย่

“โอ้ยพี่จะอะไรกับเตอร์ ฮันอ่อนแบบนั้นตีได้แต่ลมกับต้นไม้เท่านั้นแหละ” โจ้กเพื่อนของเตอร์ก็ไม่วายเอากับแจ็คด้วย แล้วดู มีการแท็กมือกันเป็นเรื่องสนุกกันเชียว

(โง้ยยยย เตอร์หมั่นไส้ คุงโอมกลับบ้านเลย ไม่ต้องอยู่กับพวกมัน)

“ฮ่า ๆ โอเค ๆ พี่กลับก็ได้คร้าบ”

“อะไรวะ น้องให้กลับก็กลับเลยงี้”

“แน่นอน” โอมขยิบตาให้มอสที่มองหน้าหน่าย ๆ

“ไอ้เตอร์มันอยากให้พี่โอมกลับเพราะมันไม่อยากฟังเสียงพวกเราขิงมันอะดิ มันสู้ได้มันเลยต้องหนี โด่วววว” โจ้กไม่วายพูดเกทับ

(หนอยไอ้โจ้ก แม่งงงงงงง คุงโอมเตะมันเลย)

“เอ่อ...ไม่ดีมั้ง พี่ว่าพี่กลับก่อนดีกว่า” โอมรีบเก็บของแล้วเมินเสียงแง่ง ๆ กันทั้งสองฝ่าย คือมันก็ขำนะ แต่ว่าไม่รู้จะต้องทำตัวยังไงดีเหมือนกันเมื่อต้องเป็นตัวกลางระหว่างคนกัดกันเนี่ย

เอิ่ม...ไม่ได้ว่าน้องเตอร์นะ ฮ่า ๆ

(คุงโอมอ่า เตะมันให้เตอร์ก่อนซี่) เตอร์งอแงในตอนที่โอมเดินออกมาจากร้าน น้ำเสียงงุ้งงิ้งของเตอร์น่ารักน่าฟัด มันเหมือนจะอ้อนกันกลาย ๆ ถ้าไม่ติดว่าอ้อนให้เตะเพื่อนน้องมันก็เถอะ

“ไม่เอาหน่า เตะเพื่อนไม่ดีนะครับ”

(หรือคุงโอมไม่อยากเตะเพื่อน)

“อ่า...ก็อยากในบางครั้ง”

(เห็นมะ เตอร์ก็อยากเตะเพื่อนบ้างในบางครั้งเช่นกัน แต่ช่างมันเถอะ คุงโอมเดินกลับใช่มั้ย) เตอร์ถามด้วยรู้ดีว่าร้านนมหน้ามอนั้นมันไม่ได้ไกลจากคอนโดของโอมเท่าไหร่นัก

“คร้าบ เดินนี่แหละ จะว่าไปสี่ทุ่มแล้วคนก็ยังเยอะอยู่เลยเนอะ” โอมมองดูผู้คนที่สัญจรไปมา บ้างก็รู้จักโอมแล้วโบกมือทักทาย บ้างก็หันมามองเพราะรูปหน้าตาโอมแล้วกระซิบกระซาบกับเพื่อน

(ธรรมดาแหละคุงโอม เวลานี้เวลาหิวเลย เตอร์ยังหิวเลยเนี่ย)

“กินไรยังอะเรา”

(ยัง กำลังคิดอยู่ว่าจะสั่งอะไรมากิน คุงโอมจะกินอะไรมั้ยอะ)

“ทำไมเหรอ”

(อยากสั่งตาม)

“ฮ่า ๆ พี่คงกินนมแหละครับ ดึกแล้วไม่ทานแล้วเดี๋ยวอ้วนนนน” โอมไม่วายแหย่น้องเตอร์ ฟังเสียงกระเง้ากระงอดของทางนั้นแล้วอารมณ์ดีบอกไม่ถูก

วันนี้เป็นอีกวันที่ตลอดการเดินกลับบ้านนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่าแทบทั้งวันที่ผ่านมาจะอมทุกข์ไปหน่อยก็เถอะ แต่แค่น้องเตอร์กลับมาเป็นน้องเตอร์ที่สดใสร่ารเริงกับเขามันก็คุ้ม

ในที่สุดน้องเตอร์ก็สั่งอะไรมากินจนได้ เพราะไม่กินข้าวเย็นถึงได้มาหิวเอาตอนนี้ ส่วนคุงโอมน่ะเหรอ ได้นมกับขนมปังที่ร้านจนอิ่มเรียบร้อย ทั้งคู่คุยกันจนโอมถึงที่พัก โอมขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน วันนี้เหนื่อยกับหลาย ๆ อย่าง เขากะเอาไว้ว่าอาบน้ำเสร็จเขาจะมานอนคุยกับเตอร์สบายใจแล้วค่อยนอน

เมื่อโอมกลับมาจากอาบน้ำ โอมก็ได้ยินเสียงน้องเตอร์ฮัมเพลงเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี และเมื่อตั้งใจฟังเนื้อหาที่น้องเตอร์ร้องออกมานั้นเขาก็ถึงกับรู้สึกเขินขึ้นมาอย่างไรบอกไม่ถูก ก็...จะไม่ให้เขินได้ไงเล่นร้องเพลงที่มันชวนคิดขนาดนี้

(ถอดออกทีละชิ้น...ได้ไหม ถอดออกละชิ้น..I’m gonna stay with you all night ถอดออกทีละชิ้น...ได้ไหม...ถอดออกทีละชิ้นและฉันสัญญาจะกอดเธอไว้) *เพลง ทีละชิ้น-SOYBAD* เมโลดี้ที่นุ่มนวลชวนให้คิดเรื่องบนเตียงกับน้ำเสียงแผ่วเบาชวนเคลิ้มนั้นมันทำให้เกิดอารมณ์แปลก ๆ เขาค่อยล้มตัวลงนอนแล้วข่มความรู้สึกเอาไว้

“จะกอดจริงเหรอ” น้ำเสียงคุงโอมสั่นไหวจนตัวเองยังรู้สึกได้

(เฮื้อก!!!) และสิ่งที่ตามมาคือเตอร์สะดุ้งจนโอมได้ยิน

“ฮ่า ๆ ตกใจเหรอ...พี่ขอโทษ”

(คุงโอมมมมมม ทำอะไรเนี่ย มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ตีเลย) เตอร์รีบปิดเพลงที่ตัวเองเปิดเมื่อครู่นี้ทันที ก็เพลงมันล่อแหลมอยู่ แม้เขาจะชอบมันมากก็เถอะ

“ก็...เพลงมันเพราะ” แถมเพลงมันยังชวนให้คิดซะด้วย

(เพลงเพลิงไรเตอร์ไม่เห็นรู้เรื่องเลย คุงโอมเถอะ อาบน้ำแล้วก็พักผ่อนได้แล้ว ดึกแล้วครับ) ก็ไม่เถียงว่าดึก นี่ก็จะห้าทุ่มอยู่แล้ว

“ถ้าพี่นอนแล้วเตอร์จะวางสายมั้ย”

(วางทำไม...) เสียงนั้นดูจะติดเขิน เอ...หรือคุงโอมจะคิดไปเอง

“งั้นนอนก็ได้ครับ”

(เด็กดี~ ฮ่าๆ)

“เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวจะทำให้เตอร์เป็นเด็กพี่” โอมพูดทั้งที่หลับตา และให้เดา ตอนนี้เตอร์ต้องแอบทำหน้าทำตาท้าทายเขาแน่ ๆ

(ก็มาดิคับ อิอิ)

“กลัวกันบ้างคร้าบ...”

(ไม่อะค้าบบบบ)

“ไรอะ ไม่แฟร์เลย”

(ไม่แฟร์ยังไงเหรอคุงโอม) โอมมุดตัวเข้าซุกผ้าห่ม ความง่วงครอบงำเขาได้อย่างรวดเร็วสมกับที่นอนไม่เกินห้าทุ่มทุกวัน

“ก็พี่ยังกลัวเตอร์ไม่รักเลย” ครับ...และเมื่อความเบลอครอบงำ ปากก็ไปไวเท่ากับใจ แต่เล่นทิ้งสมองไว้ที่ไหนก็ไม่รู้

(อันนั้น...) เตอร์ไม่ตอบอะไร แล้วหันไปเปิดเพลงแว่ว ๆ แทน

คุงโอมนอนฟังเสียงน้องเตอร์ฮัมเพลง ในบางประโยคก็ดูเหมือนจะเน้นเสียงเป็นพิเศษ แต่คุงโอมก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าไม่มีสมองจะคิดอะไรทั้งนั้นในตอนที่ใกล้จะหลับอย่างนี้ รู้แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้...มันมีความสุข

(ฝันดีนะคุงโอม)

“ฝันดี...น้องเตอร์ของพี่”

(...บ้า) คำนั้นมันแว่วผ่านหู คุงโอมยิ้มบางกับอาการที่เหมือนเขินนั้นก่อนจะไม่รับรู้อะไรอีก

โดยเฉพาะ...ความวุ่นวายในดิสคอร์ด!

น้องเมลของพี่โอม

@HRxCookkie คุงโอมเมินน้องเมลแบบนี้ได้ยังไง เตอร์มันไปเป่าหูอะไรคุงโอมใช่มั้ยถึงได้ไม่สนใจน้องเมลแบบนี้ หรือว่าเพราะพี่เห็นว่าน้องเมลเป็นเด็กเลยมาเล่นกับความรู้สึกของน้องเมล พี่มาให้ความหวังน้องเมลแล้วก็เหมือนน้องเมลไม่มีตัวตน นี่คุงโอมมีหัวใจหรือเปล่า หรือไม่มีหัวใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ควรมายุ่งกับน้องเมลตั้งแต่แรก ไม่น่ามาให้ความหวังน้องเมล

น้องเมลของพี่โอม

@HRxCookkie ไม่คิดจะออกมาพูดอะไรเลยเหรอ ไม่คิดจะออกมาอธิบายเลยใช่มั้ย เห็นมีแต่คนรักเลยจะทำอะไรกับเมลก็ได้หรือไงฮะ! นี่ ออกมาเคลียร์กันเดี๋ยวนี้นะ ทำตัวเป็นเต่าที่หดหัวอยู่แต่ใรกระดอง หน้าด้าน หน้าไม่อาย ผู้ชายอะไรไม่มีความเป็นผู้ชายขนาดนี้ เล่นกับความรู้สึกของคนอื่นเสร็จก็หนีหาย มึงมันลูกตุ๊ดจริง ๆ

ไอ้โอมคนเหี้ย!

@HRxCookkie ถ้ามึงไม่ออกมาเคลียร์กับกูนะ กูจะเอาไปป่าวประกาศให้หมดเลยว่ามึงทำอะไรกับกูบ้าง ไอ้คนเลว!

HRxงงจังแก

เกิดอะไรขึ้นเนี่ย...

HRxSun

ผมไม่รู้เหมือนกัน ตอนเย็นยังเห็นบอกรักกันอยู่เลย

ไอ้โอมคนเหี้ย

ก็ไอ้พี่โอมแอดมินคนดีประเสริฐนั่นมันเมินเมล เพราะอีเตอร์แน่ ๆ ใช่...คนชื่อเตอร์นั่นแหละที่ปั่นประสาท ถ้าโอมมันไม่ออกมาอธิบายหรือมาพูดอะไรเลยเรื่องนี้จะต้องไม่จบ คอยดูนะ กูจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด คิดว่ากูจะหาที่อยู่ที่มึงเรียนไม่ได้งั้นเหรอ หึ...แคลนที่มีแอดมินเหี้ย ๆ เล่นกับความรู้สึกคนแบบนี้นะแม่งต้องพังพินาศ!!!

แมสเสจเจอร์กลุ่มแคลนเอชอาร์เอ็กซ์ตอนนี้กำลังพูดถึงแต่เรื่องของเมลที่เข้ามาโวยหลังจากที่โอมและเตอร์ออกจากดิสคอร์ดไปเมื่อค่ำ เธอไม่พอใจมาก และต้อง

การให้โอมออกมาพูดอะไรสักอย่าง โดยไม่รู้เลยว่าโอมนั้นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนคนที่รู้ก็คือคนที่นั่งอ่านหน้าแชตดิสคอร์ดอย่างเตอร์

ตลอดเวลาที่สนทนากับโอม เตอร์พยายามเก็บอารมณ์โมโหที่เห็นที่เมลด่าคุงโอมของเขาเสีย ๆ หาย ๆ แล้วคนอื่นก็ต้องมารับรู้ แคลนของพวกเขาไม่ใช่เล็ก ๆ นี่เป็นเรื่องเสื่อมเสียไม่น้อย และมันค่อนข้างกระทบต่อชื่อเสียงของแคลน

HRxWTF

@everyone ขออภัยทุกท่านสำหรับข้อความของหญิงสาวคนนี้ด้วยนะครับ และผมก็คิดว่าคุณ @ไอ้โอมคนเหี้ย ควรจะทักส่วนตัวไปคุยกับคุณโอมเองแทนที่จะมาโวยวายตรงนี้ แม้ว่าโอมนั้นจะเป็นแอดมินแต่ว่าเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ นั้นจัดเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรมาโวยวายในที่สาธารณะอย่างแชตแคลนนะครับ

ไอ้โอมคนเหี้ย

HRxWTF ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็โอมมันเพื่อนพวกแก พวกแกก็แค่อยากปกป้องมันเลยออกมาพูดว่านี่คือเรื่องส่วนตัวงั้นงี้ ทั้งที่พวกแกมันก็เหี้ยเหมือนกัน ยังหัวเราะกันคิก ๆ คัก ๆ เหมือนมันเป็นเรื่องตลกอะไรนักหนา

HRxWTF

ขอโทษนะครับ ที่คุณได้ยินนั้นผมหัวเราะกับเพื่อน ๆ ในเรื่องส่วนตัวของกลุ่มผม มันไม่ใช่เรื่องของคุณเลย แล้วผมก็ไม่เอาเรื่องของคุณไปพูดคุยเหมือนเป็นเรื่องตลกอะไรเลยด้วยซ้ำ การที่โอมมันไม่ได้ชอบคุณ ไม่ได้รักคุณ มันเกี่ยวกับแคลนเหรอครับ มันเป็นเรื่องของคุณและโอมมันล้วน ๆ เลยนะ

ไอ้โอมคนเหี้ย

งั้นก็ไปเรียกไอ้มันมาเคลียร์สิ ถ้ามันมาเคลียร์เรื่องก็จบไปแล้ว

HRxTher

ยังโวยวายไม่จบอีกเหรอครับ คนอื่นเขารำคาญนะ

เพียงแค่เตอร์พิมพ์คำว่า...คนอื่นรำคาญ ก็เหมือนทำให้หญิงสาวสติแตกและพิมพ์ด่ากราดไม่ไว้หน้าใครอีกต่อไป



tbc.



ช่วงที่ผ่านมานี้ ไรท์ลองจัดรูปเล่มดูด้วยละค่ะ

ตอนแรกนึกว่ายากนะคะ แต่ไม่ยากเลย ง่ากยว่าที่คิด

ทำเพลิน ๆ ตั้งแต่เช้ารู้ตัวอีกทีตีสองซะแล้วค่ะ ฮา






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด