#โอมกินเตอร์ ตอนที่ 19 / 100% [24/06/2021]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 19 / 100% [24/06/2021]  (อ่าน 4416 ครั้ง)

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 12 / 50% [1/04/2021]
«ตอบ #30 เมื่อ01-04-2021 20:00:56 »

ตอนที่ 12

เด็กอนามัยอย่างคุงโอมนั้นรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเกือบแปดโมงเช้า จัดว่าตื่นไวเอาเรื่องเมื่อคิดถึงว่าวันนี้เป็นวันหยุด  และคงไม่มีเพื่อนคนใดของเขาตื่นมาในเวลานี้แน่ๆ สิ่งแรกที่คุงโอมทำเมื่อลืมตาก็คือจับมือถือมาเช็คดูว่าน้องเตอร์ของเขานั้นยังอยู่ในสายหรือเปล่าด้วยการเข้าไปดูและเอาหูมาเสียบหูไปพร้อมกัน

เสียงลมหายใจเบาๆ ที่เป่ารดไมค์ฝั่งตรงข้ามทำให้คุงโอมรับรู้ว่าเตอร์ยังคงอยู่กับตนไม่ได้หายไปไหน หนำซ้ำยังไม่ตื่นอีกตามเคย เขาไม่แปลกใจหรอก เพราะเตอร์เองก็คงนอนดึก เลยตื่นสายเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่า...การตื่นมาแล้วรู้สึกว่าคนที่ตัวเองชอบนั้นอยู่ใกล้ๆ มันก็รู้สึกดีแบบชิบหายเลยเนอะ

คุงโอมยิ้มแย้มอารมณ์ดีอยู่กับตัวเองได้พักหนึ่งก็ลุกจากที่นอน เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะเอาหูฟังมาเสียบพร้อมทำอย่างอื่นไปด้วย ต่อให้ในหูฟังนั้นจะมีแค่เสียงหายใจแผ่วเบาของน้องเตอร์ แต่เขาก็จะฟัง เพราะเขารู้สึกว่ามันคือการอยู่กับเตอร์ตลอดเวลา

คุงโอมนั่งลงที่หน้าโต๊ะคอมพ์พร้อมกับอาหารเช้าอย่างง่ายๆ ที่มีประโยชน์และไขมันต่ำ เรียกว่าเป็นอาหารคลีนทำเองก็ไม่ผิดนัก จากนั้นเปิดคอม ฯ เตรียมตัวทบทวนงานระหว่างกินข้าวเช้า แต่จะว่าก็ว่าเถอะ โอมอดไม่ได้ที่จะเข้าโซเชี่ยลเพื่อเช็คดูความเคลื่อนไหวต่างๆ ของสังคมและกลุ่มแคลนที่ตนอยู่

(งื้อออออคุงโอม) เพราะเสียงจานที่วางกระทบกับโต๊ะทำให้เตอร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

“อ่าวตื่นแล้วเหรอครับ มอนิ่งนะ”

(คุงโอมทำเตอร์ตื่น) เตอร์งอแงเบาๆ

“โอ๋ ขอโทษ พี่ทำอะไรๆ เสียงดังไปเหรอครับ” แอบรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่อีกใจก็แอบรู้สึกดีที่ได้คุยกับเตอร์

(ไม่หรอกคุงโอม เตอร์ลืมเอาหูฟังออกอะ เสียงมันเลยชัดเจนไปหมดเลย หาววววววว) น้องเตอร์ของคุงโอมหาวยาว

“เผลอหลับตอนดึกเหรอครับ ถึงได้ลืมถอดหูฟังแบบนั้นน่ะ จริงๆ มันไม่ดีเลยรู้มั้ย ถ้าเกิดมันพันคอขึ้นมาพี่ก็ไม่ได้คุยกับเตอร์อีกสิ”

(นี่ๆ มันไม่พันคอเตอร์ตายหรอกหน่า คุงโอมอะพูดเวอร์เกินไป แล้วก็...ไม่ได้นอนดึกมากหรอก จริงๆ นะ)

“งั้นกี่โมงครับ”

(ง่า...ไม่รู้อะ ลืม)

“แอบเลี่ยงไม่บอกพี่ละสิหืม” ระหว่างที่พูดกับเตอร์อยู่โอมก็กดเข้าเฟซบุ๊ก

หน้าฟีดข่าววันนี้ดูแปลกประหลาดไปนิดหน่อย แต่สิ่งที่แปลกตายิ่งกกว่าก็คือแชตกลุ่มแอดมินที่มันมีข้อความเป็นจำนวนมากกว่าทุกวันอย่างเห็นได้ชัด ปกติกลุ่มผู้ชายอย่างพวกเขามันไม่ค่อยได้คุยอะไร อย่างมากก็สิบกว่าข้อความ นี่เล่นเป็นร้อย โอมรีบคลิกเข้าไปดูเนื้อหาด้านใน

“เมื่อคืนนี้มีปัญหาอะไรเหรอน้องเตอร์” โอมถามทั้งที่ยังไล่อ่านข้อความต่างๆ ในหน้าเมสเสจ

(คุงโอมเห็นแล้วเหรอ...) เสียงของเตอร์ดูมีความหวั่นๆ อยู่

“พี่เห็นแชตเฟซ...” พูดไม่ทันจบโอมก็พอจะเข้าใจในเนื้อหา เขารีบเปิดแอพพลิเคชั่นดิสคอร์ดเพื่อดูด้านในนั้น
แล้วคุงโอมก็ได้เห็นข้อความของเมลที่เต็มหน้าแชตดิส โอมรีบเลื่อนไปยังบนๆ เพื่อหาข้อความแรกที่เมลได้แทร็กเขามา จากนั้นก็ไล่อ่าน ทั้งคำด่าทอ คำต่อว่าสารพัด จากที่ดูเหมือนงอนก็เริ่มเป็นโกรธและด่าเขาหยาบคาย โอมไม่เคยเจออะไรแบบนี้ นี่ทำให้เขารู้สึกหน้าชาไปไม่น้อย

(คุงโอม...) เตอร์เรียกเพราะได้ยินแต่เสียงเม้าท์คลิกๆ ยกเว้นโอมที่เงียบไป

“นี่น้องเมลสร้างปัญหาขนาดนี้เลยเหรอ น้องเตอร์รู้เรื่องนี้ตอนไหน” จะบอกว่าเตอร์ไม่รู้ก็คงไม่ได้ เพราะในนั้นมีเตอร์พิมพ์ตอบโต้ด้วย

จากการที่เตอร์บอกให้เมลหยุดเพราะสร้างความรำคาญ เมลก็ต่อว่าและด่าว่าเตอร์น่ะแย่งคุงโอมไป คิดว่าตนไม่รู้เหรอว่าเตอร์แรดเงียบ ทำเหมือนตัวเองเป็นผู้ชายแต่ที่จริงแล้วก็แค่ตุ๊ดกะโปกที่อยากได้ผู้ชายของตนจนตัวสั่น เตอร์ไม่ได้ตอบโต้อะไรลงไป ปล่อยให้เมลพิมพ์ด่าตนเสียๆ หายๆ อยู่อย่างนั้น

ว่าก็ว่าเถอะ...พอเห็นเตอร์โดนด่าแบบนั้นแล้วโอมก็อารมณ์เสียอย่างบอกไม่ถูก ไม่พอใจที่เขาไม่รับรักก็ควรจะด่าเขาคนเดียว และทางที่ดีก็ควรด่าในพื้นที่ส่วนตัวไม่ใช่พื้นที่สาธารณะอย่างนี้ ขนาดวัตที่เป็นเจ้าของแคลนพูดแบบนั้นแล้วแต่เมลก็ไม่คิดจะฟัง ยังหาว่าปกป้องโอมอีก

(คุงโอมอย่าเงียบแบบนี้สิ) เสียงอ้อนๆ ของเตอร์เรียกสติโอมให้กลับมา

“ขอโทษครับ พี่มัวแต่อ่านอยู่เลยไม่ได้ฟัง เตอร์รู้เรื่องตั้งนานแล้วสินะ ทำไมไม่บอกพี่ล่ะ พี่จะได้มาเคลียร์กับเขาให้มันจบ จะได้ไม่ลามบานปลายแบบนี้ นี่น้องเตอร์ต้องมาโดนด่าเพราะพี่ มันไม่ควรเป็นอย่างนี้เลยนะครับ” โอมแอบดุเตอร์ไม่ได้ เขาไม่อยากให้เตอร์มาโดนแทนเขา

(ถ้าบอกคุงโอมก็จะไม่ได้นอนอะสิ เตอร์ไม่เป็นไรสักหน่อย ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่พานด่าคนอื่นเพราะตัวเองโดนเมิน)

“ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่พี่ก็ควรออกมาเคลียร์ นี่เขาเล่นด่าคนอื่นไปทั่วเลยนะ”

(ก็ใช่พี่ แต่ทุกคนก็รอพี่แหละ พวกเราตัดสินใจกันว่าจะแบนเธอออกจากดิส แต่...ก็อยากถามพี่ก่อนว่าโอเคมั้ย) เตอร์มีน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ

“ไม่ต้องถามพี่หรอกนะเอาจริงๆ เตอร์เห็นว่าควรเอาออกก็เอาออกไปเลย คนแบบนี้พี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน”

(งั้น...เตอร์ประกาศนะ)

“ครับ” พอสิ้นเสียงของโอมก็ขึ้นคำว่า HRxTher กำลังพิมพ์...

HRxTher

@everyone ทางเหล่าแอดมินได้ประชุมกันแล้วนะครับว่าสิ่งที่คุณ @ไอ้โอมคนเหี้ย ได้กระทำลงไปนั้นเป็นการสร้างความร้าวฉานในดิส ทั้งยังใช้คำหยาบคายด่าผู้อื่นในดิสโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ทางเราจึงจะทำการแบนเธอออกจากดิสเป็นการลงโทษ ในกรณีที่เธออยากเคลียร์ปัญหากับแอดมินของเรา ก็แนะนำให้ทักไปเคลียร์กันเป็นการส่วนตัว การทะเลาะเบาะแว้งของบุคคลบางคนก็ไม่ควรนำมาโวยวายในที่สาธารณะเช่นนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้นทางเราเหล่าแอดมินต้องขอโทษสมาชิคคนอื่นๆ ด้วยนะครับ สำหรับความวุ่นวายในครั้งนี้

ไอ้โอมคนเหี้ย

เลือกแบนฉันเนี่ยนะ นี่เหรอสิ่งที่แอดมินแคลนใหญ่เขาทำกัน แบบนี้เหมือนหนีปัญหามากกว่าการแก้ปัญหา อย่างว่าแหละ...แย่งแฟนคนอื่นเขาแล้วก็คงไม่มีหน้าที่จะมาเผชิญหน้าหรอก ก็หน้าตัวเมียกันทั้งทีมงาน กูเป็นผู้หญิงยังแมนกว่ามึงเลย

HRxTher

เขาเป็นแฟนคุณตอนไหนครับ?

ไอ้โอมคนเหี้ย
เขาเป็นแฟนกูมานานละอีตุ๊ด
HRxTher
ไม่เห็นมีใครเขารู้เรื่องนี้เลยนะ คุณเพิ่งจะประกาศบอกรักเมื่อวานแล้วเขาก็ไม่ได้ตอบอะไรคุณ คุณยังมีหน้ามาบอกว่าเขาเป็นแฟนอีก ใครกันแน่ครับที่หน้าด้าน?
ไอ้โอมคนเหี้ย
มึงเป็นคนนอกมึงไม่รู้อะไรไง กูกับโอมเขาคุยกันกระหนุงกระหนิงตลอด ที่เขาไม่มาตอบกูก็เพราะมึงนั่นแหละ
HRxTher
คุณเนี่ยแถจริงๆ เลยนะ ยังไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแล้วยังมาติต่างว่าเขาเป็นแฟนคุณอีก เพื่อนๆ คุณโอมกเขาก็รู้กันหมดแหละว่าที่เขาอยู่กับคุณทุกวันนี้ก็เพราะเป็นหน้าที่ของแอดมินที่ต้องดูแลลูกแคลน ลองไม่มีหน้าที่นั้นคุณโอมเขาก็ไม่ยุ่งกับคนแบบคุณหรอก
ไอ้โอมคนเหี้ย
นั่นเป็นความเหี้ยของแฟนฉันไง!!!
HRxTher
เหรอครับ จริงเหรอครับ อ่อเหรอครับ ฮ่าๆ ตลกจังเลยครับ
ไอ้โอมคนเหี้ย
ถ้าแค่คนอย่างมึงไม่มายุ่งกับคู่ของกู เรื่องมันก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก พวกมึงมันเสือกอีแอดมิน ปกป้องอีตุ๊ดนี่เข้าไป ทั้งๆ ที่รู้ว่าอีนี่มันแย่งแฟนชาวบ้านเขาแท้ๆ
HRxTher
คุณเป็นโรคจิตเวชเหรอครับ ถึงมาอ้างว่าคนอื่นเขาเป็นแฟนคุณ ทั้งที่เขาไม่ได้เป็นอย่างที่คุณกล่าวมาเลย แม้แต่เฉียดคำว่าแฟนก็ไม่มี จริงๆ ผมว่าคุณหน้าหนาไปเสียหน่อยนะ ผู้ชายเขาเมินคุณแบบนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเขาไม่เอาผู้หญิงแบบนี้ ควรเก็บหน้าแตกๆ นั่นกลับไปอยู่ในที่ของตัวเองได้แล้วมั้งครับ
ไอ้โอมคนเหี้ย
คนที่แย่งแฟนคนอื่นอย่างมึงน่ะแหละที่ควรเก็บหน้าด้านๆ ไปให้พ้นสายตากูซะ
HRxCookkie
@ไอ้โอมคนเหี้ย ขออนุญาตแบนนะครับ
พิมพ์จบโอมก็กดที่ชื่อของเธอแล้วแบนออกจากดิสทันที ไม่มีโอกาสให้เธอได้พิมพ์อะไรตอบโต้กลับมาได้ เพราะว่าสิ่งที่เธอพิมพ์ๆ มาไม่ได้มีสาระแล้วก็วนไปวนมาอยู่ในอ่าง หาว่าเขาเป็นแฟนงั้นงี้ เตอร์แย่งเขาไปงั้นงี้

(คุงโอมโอเคหรือเปล่า) เสียงเตอร์ถามมาดูหวาดๆ เล็กน้อย

“พี่จะไม่โอเคเรื่องอะไรล่ะครับ อ่อไม่สิ ถ้าจะไม่โอเคก็ตรงที่เขาใช้คำหยาบคายแล้วด่าคนอื่นแบบไม่มีเหตุผลอย่างนี้ นี่ถ้าพี่เข้ามาเคลียร์กับเขาตั้งแต่ตอนแรกมันคงไม่เป็นแบบนี้ คนอื่นก็จะได้ไม่เดือดร้อนในเรื่องส่วนตัวของพี่ด้วย” ว่าจบโอมก็ถอนหายใจยาว

ในหน้าแชตหลักของดิสคอร์ดผู้คนเริ่มเข้ามาพิมพ์วิจานณ์ผู้หญิงคนนั้น พวกเขารู้และเห็นอยู่แล้วว่าเธอสร้างเรื่องสร้างราวให้โอมดูเป็นผู้เสียหาย แต่ในขณะเดียวกันหลายคนก็เชื่อไปแล้วว่าเมลเป็นแฟนของโอมเพราะเมลชอบมาอยู่กับโอมสองต่อสองในดิสประจำ

- 50% -

ช่วงนี้ไรท์ยังคงวุ่นวายกับการจัดรูปเล่มนิยายอยู่เหมือนเคยค่ะ ฮา
มีใครเคยอ่าน 'รักร้าย ๆ ของนายซาตาน' ไหมคะ
ไรท์กำลังจัดรูปเล่มกับพิสูจน์อักษรเรื่องนี้อยู่ค่ะ
คาดว่าเร็ว ๆ นี้คงได้ลงรูปเล่มอีบุ๊กแล้วค่า ฝากผลงานด้วยน้า > <

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 12 / 100% [3/04/2021]
«ตอบ #31 เมื่อ04-04-2021 20:05:17 »

ตอนที่ 12 [100%]

   (มันไม่ใช่ความผิดของคุงโอมหรอก แล้วต่อให้คุงโอมมาตอบ เธอก็จะงอแงใส่คุงโอม หรือไม่ก็โวยวายใส่คุงโอมเรื่องเมินเธออยู่ดี คุงโอมอย่าคิดมากเลยนะ ไม่เป็นอะไรหรอก ทุกคนเขาเข้าใจพี่ ส่วนคนที่ไม่เข้าใจเดี๋ยวพวกเราก็ช่วยกันทำให้เขาเข้าใจดีมั้ยครับ) เตอร์พูดแบบนี้เพราะว่าบางคนก็เริ่มแทร็กโอมแล้วว่าคนนั้นไม่ใช่แฟนโอมจริงเหรอ เห็นอยู่ด้วยกันบ่อยๆ

   “ก็คงเป็นแบบนั้น...แต่ช่างเถอะเนอะ น้องเตอร์ลุกจากที่นอนไปอาบน้ำดีกว่า” โอมตอบแชตของคนเหล่านั้น คลายข้อสงสัยทุกข้อโดยไม่อิดออด

   (ก็ได้ๆ ย้ายไปดิสกันพี่ ไม่มีใครกวนแล้ว)

   “คร้าบ” ว่าจบโอมก็ตัดสายจากไลน์ย้ายเข้าดิส ซึ่งเขาเข้าห้องสังสรรค์เพื่อจะได้พูดคุยกับคนอื่นที่สงสัย

   เตอร์ย้ายเข้ามาในดิสตามแต่เจ้าตัวปิดไมค์เพื่อไปทำธุระส่วนตัว โอมนั้นพิมพ์ประกาศไปว่าสงสัยอะไรให้เข้ามาถามเขาได้ เขาจะอธิบายให้ฟังเท่าที่เขารู้ มีคนตามเข้ามาในห้องตั้งแต่โอมยังไม่ได้พิมพ์ประกาศเลยด้วยซ้ำ พวกนี้ก็อยากรู้ บางคนก็อยากเคลียร์ให้รู้เรื่องไปเลยว่าโอมนั้นเล่นกับความรู้สึกฝ่ายหญิงจริงไหม

   แทบจะกลายเป็นการประชุมแคลนขนาดย่อมๆ เมื่อคนเข้ามาในห้องเป็นสิบๆ คน โอมมองหน้าดิส ไล่นับจำนวนแล้วก็ต้องงงงวยว่าอะไรจะสนใจเรื่องของเขาเยอะขนาดนี้ แล้วพอเยอะแบบนี้ก็เริ่มประหม่าหน่อยๆ ปกติเขาซ้อมทีมกับน้องๆ ก็ไม่ได้มีคนเยอะเป็นสิบ

   “อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน รอคนอื่นๆ ก่อนมั้ยแล้วค่อยอธิบายกันยาวๆ” โอมเอ่ยถามคนในดิส มีเสียงตอบรับ บ้างก็พิมพ์บอกเอา

   (เตอร์มาแล้วววววว) เสียงของเตอร์สดใส (ว้าวววว คนเยอะจัง อยากรู้อยากเห็นละเซ่)

   (แฮะๆ นิดหนึ่งพี่เตอร์ นี่เป็นทอร์กออฟเดอะดิสเลยนะพี่) ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา

   “ขนาดนั้นเลยเหรอ นี่พี่ชักเกร็งแล้วนะ พี่เองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรด้วย ว่าแต่...คนมาเยอะยัง เอาหรือยัง”

   (พูดเลยก็ได้คุงโอม เดี๋ยวน้องๆ ก็เอาไปเล่าต่อเอาก็ได้ ไม่งั้นก็เดี๋ยวเตอร์พิมพ์ลงหน้าแชตหลักเอง)

   “โอเค...”

   โอมเริ่มอธิบายเรื่องราวตั้งแต่ตอนที่เมลเข้าหาเขาแรกๆ ทั้งเรื่องที่เข้ามาขอให้เขาสอนเล่นหรือชวนคุยนู้นนี่นั่น เขารู้ว่าเมลนั้นชอบพอเขาอยู่ แล้วเพื่อนๆ เองก็เชียร์ด้วยให้โอมนั้นลองคบกับเมล โอมนั้นโสดก็จริง เพียงแต่เขามีคนที่แอบชอบอยู่แล้ว เขาอยากสานสัมพันธ์กับคนที่เขาแอบชอบมากกว่า โอมพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ตอนที่เมลเข้ามารุกนั้นเขามีความสัมพันธ์กับคนที่แอบชอบไม่ดีเลย จากที่ค่อยๆ คืบหน้าแล้วก็ห่างเหินกันไปอีก เขาเองก็ไม่รู้จะทำยังไง เมลไม่ได้บอกกับเขาตรงๆ แต่รุกให้เขาอึดอัดเสียมากกว่า เรื่องที่ไม่เข้ามาตอบเมื่อวานก็เพราะไม่รู้จะตอบยังไง ถ้าปฏิเสธต่อหน้าคนเยอะๆ ก็สงสารน้องจะอาย อีกอย่างงานเขาเยอะและเพลียด้วยเลยพักผ่อนก่อน และมาเจอเรื่องราวก็ตอนเช้านี่เอง

   น้องๆ ยังคงถามจี้โอมอีกหลายคำถาม แต่โอมก็ไม่บ่ายเบี่ยงที่จะไม่ตอบ เขาตั้งใจตอบพอๆ กับเตอร์ที่ตั้งใจพิมพ์คำอธิบายเป็นข้อๆ ในกรณีที่เกิดขึ้น ในระหว่างนี้น้องที่ไม่เปิดไมค์ก็พิมพ์สนทนากันในกลุ่มดิส บทสนทนาส่วนใหญ่ก็เป็นเชิงติดลบเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น

   กว่าจะเคลียร์เรื่องราวทุกอย่างจบก็เป็นชั่วโมงๆ เมื่อน้องไม่มีไรจะถามแล้วเตอร์ก็ชวนทุกคนเล่นสร้างห้องตีกันเอง ทุกคนดูเฮฮามากและพร้อมจะบวกกับคนในแคลนสุดๆ ยกเว้นโอมที่ขอตัวทำงานก่อน

   ถึงจะทำงานแต่ก็...อยู่ดิส

   โอมฟังเสียงเตอร์เล่นกับน้องๆ เสียงดังโวยวายจนน่าปวดหัว เขาเลยอดไม่ได้ที่จะเบาเสียงทุกคนยกเว้นเตอร์ที่ยังคงความดังเอาไว้เท่าเดิม ระหว่างที่เตอร์เล่นโอมก็มีหยอกมีแซวไปตามประสา พูดคุยกันจนคนอื่นรู้สึกว่า หรือนี่คือคนที่โอมแอบชอบ?

   (พี่โอมชอบพี่เตอร์ใช่มั้ยเนี่ยยยยยย) มีน้องคนหนึ่งแซวขึ้นมา เป็นเสียงเบาๆ แว่วๆ แต่โอมได้ยินอยู่

   “ใครบอก” โอมทำเสียงเข้ม

   (อ่าวไม่ใช่เหรอ)

   (บ้า จะใช่ได้ไงล่ะ พี่เขาเป็นผู้ชายทั้งคู่นะ)

   (แต่พี่เตอร์เหมือนเคะน้อยๆ มากเลยนะ)

   (มึงอะเลิกจิ้นดิ้)

   (ใช่ๆ เลิกจิ้นๆ คุงอมเป็นของฉันย่ะ)

   “ฮ่าๆ ไม่ต้องเถียงกานนนนน” โอมรีบแบรกเหล่าลูกแคลน

   (งั้นพี่ก็ให้คำตอบสิจะได้เลิกเถียงกันไง) น้องคนหนึ่งถาม

   “อืม...ก็ไม่ได้ชอบ” โอมตอบเสียงนิ่ง

   (เห็นมั้ยๆ พวกแกอะมั่ว) เสียงใครสักคนที่ไม่ใช่เตอร์ และโอมก็พอจะรู้ว่าถึงไม่ได้ยินเสียงเตอร์ในตอนนี้แต่เตอร์ตั้งใจฟังแน่

   “แต่รักเลยต่างหากล่ะ”

   (กรี๊ดดดดดดดดดดด) เสียงหวีดของใครสักคนดังขึ้นมา ดีนะลดเสียงคนอื่นนอกจากเตอร์เอาไว้แล้วอะ ไม่งั้นหูแตกแน่

   (จริงปะเนี่ย จริงๆ ใช่มั้ย ไม่นะ พี่จะหักอกหนูอีกคนไม่ได้นะ กระซิกๆ) เสียงอ้อนแอ้นของน้องผู้ชายงอแงขึ้น

   (ไม่อยากจะเชื่อ​ โอ้วมายก๊อชชช)

   (คุงโอมหยอกน้อง) เสียงเตอร์นิ่งๆ แต่รู้เลยว่ายิ้มอยู่

   “ใช่ พี่หยอกน้องเตอร์อยู่ แล้วเมื่อไหร่น้องเตอร์จะหยอกพี่โอมบ้าง” เขาพยายามเนียนหัวเราะ ทำเหมือนแกล้งเตอร์แต่ที่จริงมันคือเรื่องจริงทั้งหมดเลย

   เฮ้อ...ถ้าเขาพูดได้โดยไม่ต้องหัวเราะกลบเกลื่อนคงดี

   (คืนนี้ห้องผมว่าง พี่ล่ะ...ว่างมามั้ย)

   “แค่กๆ....” โอมถึงกับสำลักน้ำลายตัวเองเมื่อเจอเตอร์พูดแบบนี้ นี่ไม่รวมเสียงกรี๊ดของเหล่าลูกแคลนในดิสอีกนะ

   (ฮ่าๆ ผมหยอกบ้างแล้วสำลักอากาศเลยเหรอ...ว้ายๆ กิ้วๆ)

   “อย่าน่าฟัดเยอะครับ” โอมพยายามกลั้นยิ้ม และไม่อยากยอมรับว่าตัวเองคิดไปไกลเกินไป

   (น่ารักเหอะ)

   “น่าฟัดแหละถูกแล้ว”

   (ตรงไหน)

   “ตรงที่มันมากว่าน่ารักไง”

   คาดว่าคนที่ฟังอยู่ไม่ว่าจะเป็นเตอร์หรือลูกแคลนทั้งหลายแหล่กำลังจะตายกับการหยอกแรงไม่บันยะบันยังของคุงโอม แม้แต่คนพูดเองยังเขินเองเลยในตอนนี้ สุดท้ายเมื่อมีคนเสียอาการไปหลายคน เตอร์ก็ต้องกระแอมแล้วเรียกสติคนอื่นมาเล่นเกมต่อให้ได้ แม้ว่าตัวเองจะยังไม่หายเสียอาการก็ตามที

   ลูกแคลนตั้งสติเล่นเกมต่อได้ แต่ก็ไม่วายส่งเสียงหยอกแซวคู่โอมและเตอร์ โอมคิดว่าแบบนี้มันก็ดีนะ มันน่ารักแล้วก็สนุก การมีกองเชียร์อยู่ด้วยทำให้ความฮึกเฮิมเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก น้องๆ ก็น่ารัก ชงให้เขาแล้วชงให้เขาอีก นี่ถ้าเป็นเหล้านะ โอมน่าจะเมาตายไปแล้ว

   พวกเขาเล่นเกมกันอย่างสนุกสนาน กินเวลาจากตั้งแต่เช้ายันบ่ายกว่า กระทั่งตอนแรงก์ก็ยังอยู่เป็นกองเชียร์ให้คนสองคนนี้เขินกันเล่น โอมรู้สึกดีนะ เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่นานๆ ทีจะมีกับคนในแคลน หัวเราะกันแบบทำงานแทบไม่รู้เรื่อง แถมทุกนาทีจะมีแต่เรื่องชวนขำทั้งนั้นเลย

   “น่าเซฟเวลาเหล่านี้ไว้จัง...” จู่ๆ โอมก็พูดขึ้นมา ตอนนี้น้องๆ หลายคนแยกย้ายกันไปทำอย่างอื่น ทิ้งเขากับเตอร์เอาไว้ตามลำพัง มีการบอกอีกว่าสองคนจะได้สวีทกันนนน

   (นั่นสิคุงโอม สนุกดีเนอะ)

   “ใช่มะๆ เสียดายที่ไม่รู้จะเก็บช่วงเวลาเหล่านี้เอาไว้ยังไงดี”

   (อืมมมม มีสิคุงโอม เราก็แค่สตรีมเกมไง เวลาที่น้องๆ มารวมตัวเล่นกันแบบวันนี้ เราก็สตรีมเกมเอาไว้ เราก็จะเซฟช่วงเวลาดีๆ แบบนี้เก็บไว้ดูย้อนหลังได้แล้ว) ความคิดของเตอร์บันเจิดมาก แต่...ทำยังไง

   “พี่ทำไม่เป็นอะสิ”

   (เดี๋ยวเรามาทำด้วยกัน เตอร์เป็นอยู่ เดี๋ยวเตอร์สอนคุงโอมสตรีมเองงงง ดีมั้ยๆ)

   “ดี เวลาพี่ลงแรงก์กับเตอร์ พี่ก็จะสตรีมเอาไว้”

   (ทำไมล่ะ)

   “ก็...มันเป็นช่วงเวลาดีๆ ของพี่ไง”

   (อ่า...เตอร์ก็ด้วย) ทั้งคู่จมลงไปกับเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นระรัว



tbc.

วันนี้ฝนตกด้วยแหละค่ะ! ไรท์ค่อนข้างชอบเวลาฝนตกมากเลย

ถึงอากาศจะน่าง่วงนอน แต่กลับกันรู้สึกร่าเริงเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 13 / 50% [9/04/2021]
«ตอบ #32 เมื่อ09-04-2021 18:00:13 »

ตอนที่ 13 [50%]

(งื้อออออ หิว) เตอร์งอแงออกมาหลังจากตาสุดท้ายของแรงก์วันนี้จบลง

(เฮ้ยๆ สวีทกันทั้งวันเลยเว้ยเฮ้ย) แต่ก่อนที่โอมจะได้ตอบอะไร แจ็กก็เข้ามาโวยวายในห้อง

(ไม่มีมั้งเลยอิจฉาว่างั้น) อันนี้เสียงมอสโอมจำได้ แล้วไหงเข้ามาที่ห้องเขาเต็มเลยล่ะ ปกตินี่ไม่ค่อยเข้ามายุ่งแท้ๆ

(ใครว่ากูไม่มี กูอะนะ อยากได้กี่คนก็แค่กระดิกนิ้วเรียก สาวๆ ก็กรูกันเข้ามาหากูแล้ว)

(สาวหรือหมาวะ) วัตว่าเพื่อนเสียงนิ่ง

(รวมตัวกันหรือไงพี่) เตอร์ว่าขำๆ

(ก็เพิ่งแรงก์เสร็จ เออ พวกมึงมัวแต่สวีทกันคงไม่เห็นข่าวในกลุ่มเกมไอเดน)

“ข่าวไรวะมอส” โอมถามพลางเก็บคอม วันนี้งานคืบหน้าไม่มากเท่าไหร่ ค่อยโหมทำพรุ่งนี้น่าจะได้อยู่

(น้องเมลสุดที่รักของมึงไง มันเอาเรื่องพวกมึงไปประจาน ว่าแอดมินแคลนนี้แย่งแฟนนางไป แล้วก็พิมพ์ยาวเล่าเป็นนิยายเลยห่าน) มอสดูหัวเสีย

(อ่า...เพราะเตอร์สินะ)

“ไม่เห็นเกี่ยวกับเตอร์เลย เขาอยากจะด่าอยากจะว่า เขาก็หาเรื่องจนได้แหละ” โอมไม่ยอมให้เตอร์รับผิดในเรื่องที่ไม่ผิด

(พวกกูก็ไม่อะไรหรอก คนเชื่อเมลก็มี คนไม่เชื่อแล้วถามๆ จนโดนด่าก็เยอะ ซึ่งเอาจริงๆ กูก็เห็นคนด่ามากกว่าคนชมนะ เพราะคนในแคลนที่รู้เรื่องเองก็ไม่ใช่น้อย อีกอย่างมันโป๊ะเพราะนางก็เที่ยวด่าคนที่ไม่เชื่อนางด้วยคำหยาบอะ เพื่อนๆ นางก็ร่วมด่าด้วย เฮ้อ...พวกผู้หญิงนี่อะไรก็ไม่รู้) วัตร่ายยาว ถึงจะดูเฉยชาแต่ก็มีความไม่พอใจ คนเป็นเพื่อนสนิทกันมันรู้ดี

(ไอ้โอมมีแฟนซะก็จบละ) มอสว่า

(เออ ถ้ามึงมีแฟนก็ตัดปัญหาเรื่องหญิงสาวขาดแคลน กูก็จะได้เป็นสุดหล่อของพวกเธอ)

“ตลอดอะมึง” โอมว่าแจ็ก “แต่เรื่องนั้นช่างมันเหอะ น้องเตอร์ไปกินข้าวกันไหม”

(เอ๊ะ...? เตอร์เหรอ)

“ใช่ครับ เมื่อกี้บ่นหิวหนิ ไปหาไรกินกัน เดี๋ยวพี่ไปรับก็ได้”

(แฮ่ม พวกกูก็อยู่นะเพื่อน) แจ็กนี่ไม่ยอมบทน้อยเลยเนอะ

“แต่กูชวนเตอร์ไง”

(ฮ่าๆ สมน้ำหน้าไอ้แจ็ก) มอสขำเป็นบ้าเป็นหลัง

(คุงโอมไม่ต้องมารับเตอร์ก็ได้ เดี๋ยว...คุงโอมจะกินร้านไหนอะ ไปเจอกันที่นั่นก็ได้) แม้จะยังขำๆ กับการที่ฟังรุ่นพี่ตีกันแต่เตอร์ก็ตอบคำถามของโอม

“อืม งั้นน้องเตอร์อยากกินไรอะ”

(อะไรก็ได้)

“งั้น...กินพี่ปะ”

(แฮ่มมมมมมม แฮ่มๆๆๆๆ)

“ตีนติดคอตายแล้ว” โอมว่าแล้วก็นั่งขำ

(พอๆ ไม่เอาไม่เล่นแล้ว เตอร์หิว...กินร้านไหนก็ได้ ร้านอิ่มจังมึงก็ได้นะคุงโอม อร่อย ฮ่า...แค่คิดถึงก็น้ำยายใหย)

(มึงเขินอะเตอร์) วัตฟาดเข้าให้หนึ่งที

(เขินไรพี่ โอ้ย ไม่คุยด้วยแล้ว เจอกันที่ร้านนะคุงโอม เตอร์แต่งตัวดีกว่า ไม่คุยกับคนกาก)

(เดี๋ยวเตอร์ กากที่สุดในนี้ก็ไอ้โอมนะ) มอสแย้ง

(คนพิเศษไม่นับ!)

ครับ...ผมคนพิเศษครับ!!!

โอ้ยยยย ไอ้โอมคนนี้ละอยากจะกรี๊ดให้ลั่นห้อง ให้มันรู้กันไปเลยว่าข้านี่แหละคือคนพิเศษของเตอร์ยังไงล่า ใจหนอใจ สั่นไหวขนาดนี้เกิดแผ่นดินไหวข้างในอย่างนั้นหรือ แต่เอาเถอะ คำพูดของเตอร์มันก็ดาเมจแรงพอจะให้หัวใจของเขาละลายได้

“กูอยากกินเตอร์วะ”

(มึง เตอร์ยังอยู่) มอส...มึงบอกเร็วๆ ก็ได้ไอ้แสด

(ผมไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น) เตอร์บอกหล่กๆ แล้วกดออกดิสไปเลย

(กูว่ามีหวังวะ)

(หวังเหี้ยไร นี่มันได้ชัวร์ๆ อยู่แล้ว) วัตตอบมอส

(ไม่นะ น้องเตอร์ของพี่) แจ็กทำเสียงเหมือนเสียใจนักหนาที่รุ่นน้องจะต้องเป็นตกเป็นของโอม

“ของกูไอ้สัส” โอมหมั่นไส้แจ็ก ด่าเสร็จก็ไม่อยู่ให้มันสวนด้วยนะ กดออกดิสแม่งเลย

โอมแต่งตัวง่ายๆ ที่ไม่ง่าย ทั้งที่มันก็แค่ออกไปกินข้าวไม่ไกลจากคอนโดของตัวเองแต่คุณโอมเล่นพิถีพิถันราวกับกำลังจะไปออกเดต เขายืนจ้องหน้ากระจก ดูผมเพ้าของตัวเองเล็กน้อย ลังเลอยู่ว่าควรจะใส่แว็กส์เซทผมหน่อยไหม แต่คิดไปคิดมาก็ไม่เอา กลัวมันจะดูเนี้ยบเกินกว่าไปกินข้าวใกล้ๆ นี้ หมุนซ้ายหมุนขวาจนพอใจแล้วก็คว้าเอากระเป๋าเงินกับโทรศัพท์ เดินออกจากห้องไปด้วยอาการลั้นลา

อะไรจะสุขใจเท่าได้กินข้าวกับคนที่ตัวเองชอบล่ะคร้าบ!

โอมใช้เวลาเดินทางแค่สิบห้านาทีก็มาถึงร้านอาหาร ร้านนี้ชื่อเท่เกินบรรยาย อิ่ม.จัง.มึง สำเนียงแบบเกาหลีๆ หน่อย ส่วนอาหารก็เป็นแบบฟิวชั่นที่ผสมผสานอาหารไทยเกาหลีนั่นแหละ เอกลักษณ์นอกจากรสชาติแล้วก็การจัดจานบวกปริมาณที่เยอะจนดูคุ้มค่า อย่างว่าขายให้นักศึกษาเป็นหลัก

มาถึงโอมก็ยืนรออยู่หน้าร้านอีกพักหนึ่ง ประมาณห้านาทีกว่าๆ เขาก็เห็นเตอร์เดินมาจากปากทาง เตอร์ใส่เสื้อยืดสีดำง่ายๆ กับกางเกงขาสั้นธรรมดา ใช่...มันธรรมดา แต่มันก็น่ารักอยู่ดีในสายตาโอม ทั้งที่เขาไม่ได้เจอหน้าเตอร์แค่วันสองวัน แต่เขากลับรู้สึกเหมือนไม่ได้เจอนาน คิดถึงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เรื่องการคาสายไม่นับ ไม่ได้เห็นหน้าอะคับผม

“คุงโอมมานานยังอะ” พอเตอร์เห็นเขายืนรออยู่แล้วก็รีบเดินฉับๆ มาหา

“ไม่นานครับ เพิ่งถึงได้สักพักนี่เอง”

“เตอร์ก็รีบออกมาแล้วน้า ทำไมช้ากว่าคุงโอมได้เนี่ย” เตอร์เดินขนาบข้างกับโอม ใกล้อีกนิดคือไหล่ชนไหล่ หนำซ้ำยังมีการมาเงยหน้ามองพร้อมเบะปากนิดๆ ใส่อีก

อ่า...น้องงอแงน่าฟัดจังครับ

“เพราะพี่เก่งกว่าน้องเตอร์ยังไงล่ะ”

“เรื่องนี้นับเป็นความเก่งได้ด้วยเหรอคุงโอม เตอร์ว่ามันไม่ได้น้า...”

“ได้ดิ ก็พี่จะนับอะ”

“ถ้ายอมให้เก่งกว่าจะเลี้ยงข้าวปะ”

“ฮ่าๆ ไม่ยอมก็เลี้ยงครับ” ทั้งคู่นั่งในมุมร้านที่เงียบสงบ

“ล้อเล่น เตอร์จะช่วยออก ไม่ต้องดื้อเลยด้วย ไม่งั้นเตอร์จะงอน”

“เอ้า เมื่อกี้ยังร้องให้เลี้ยงอยู่เลย”

“ล้อเล่นมั้ยเล่า ตีเลยคุงโอม” เตอร์หน้างอใส่แล้วหยิบเมนูมาดู

ระหว่างที่เตอร์งุ้งงิ้งกับการเลือกหาอาหารที่ตัวเองอยากกิน ไม่ใช่ว่ามันเลือกยากอะไรหรอกนะ เพียงแค่เตอร์หิวมากเห็นอะไรก็อยากสั่งเต็มไปหมด ก็เลยต้องมานั่งชั่งใจว่าจะกินอะไรดี แล้วจะกินหมดไหม ตอนนี้นี่เองที่โอมแอบเอามือถือขึ้นมากดถ่ายคลิปเตอร์ไว้สั้นๆ เป็นสตอร์รี่เล็กๆ ของเขา พอเตอร์เงยหน้าขึ้นมองเหมือนถามว่าทำไมเขาไม่สั่ง โอมก็ทำเป็นกดๆ อะไรแล้วเก็บมือถือ ของแบบนี้มันต้องเนียนหน่อย

“พี่ไม่รู้จะกินไรอะ เตอร์แนะนำพี่หน่อยสิ” โอมเท้าคางมองหน้าเตอร์

“งั้น...พี่กินอันนี้เลย” เตอร์หันไปสั่งสิ่งที่อยากกินแต่กลัวกินไม่หมดมาให้คุงโอม

“มันอร่อยมั้ย”

“อร่อยสิพี่ เตอร์ชอบกิน”

“แล้วทำไมเตอร์ไม่สั่งอันนั้นให้เตอร์เองด้วยล่ะ”

“เตอร์ก็อยากกินอันที่เตอร์สั่งไปแล้วด้วยอะ” เตอร์ยิ้มอ้อน

“คืออยากกินสองอย่างเลย แต่กินไม่หมดใช่มั้ย”

“อย่ามารู้ทัน”

“ฮ่าๆ โอเคๆ แบ่งกันกินก็ได้ จะได้กินได้หลายๆ อย่างอะเนอะ”

“ถูกต้องคุงโอม นั้นคือวิธีการที่ดี” เตอร์หันไปคอนเฟิร์มเมนูกับพนักงานแล้วหันมายิ้มแป้นแล้นใส่คุงโอม

เพื่อนเตอร์อย่างโจ้กอยู่คงได้ด่าว่าคิดว่าน่ารักมากมั้ง เพราะเตอร์ชอบโดนเพื่อนด่าคำนี้บ่อยๆ และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เตอร์ทำใส่โอมแล้วโจ้กด่า คุงโอมนี่ตอบกลับอย่างไวเลยว่าน่ารักมากครับ คิดแล้วก็เขินแปลกๆ เตอร์เลยเผลอเกาปลายจมูกตัวเองเบาๆ แก้เก้อแต่ก็ยังหุบยิ้มไม่ได้อยู่ดี



- 50% -



ห่างหายกันไปนาน (?) ในที่สุดไรท์ก็กลับมาแล้วค่ะ!

ช่วงนี้ไรท์ลองฝึกวาดรูปดูด้วยนะคะ ไปได้สวยเลยค่ะ

รู้สึกสนุกจนลืมอัพนิยายไปเลยล่ะค่ะ ฮา




ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 13 / 100% [21/04/2021]
«ตอบ #33 เมื่อ21-04-2021 22:59:11 »

ระหว่างรออาหารเตอร์ก็ถามโอมว่างานวันนี้ไปได้ด้วยดีมั้ย คืบหน้าตามที่กำหนดหรือเปล่า ทั้งที่อยู่ในดิสด้วยกันทั้งวัน คาสายมาด้วยกันก็ทั้งคืน แต่เตอร์ไม่ได้ถามเรื่องนี้เลยเพราะมัวแต่เล่นเกมแล้วก็คุยกับน้องๆ ในดิสไปด้วย โอมสาภาพไปตามตรงว่างานวันนี้ไม่ได้คืบหน้าอย่างที่ควรจะเป็นเท่าไหร่ เตอร์เกือบดุแล้ว แต่พอคิดอีกทีมันก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละเพราะคุงโอมคุยเล่นด้วยไม่หายไปไหนเลยนี่นา

“เตอร์ทำให้คุงโอมทำงานช้าเลยอะ”

“ไม่หรอก พี่ช้าเอง เดี๋ยวพี่สปีดเอาคืนนี้ก็ได้ งานมันไม่ได้รีบขนาดนั้น ทำเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เสร็จตามกำหนดได้”

“ให้เตอร์ช่วยไหมคุงโอม” ก็อยากให้ช่วย...ช่วยมานั่งตักพี่ตอนทำงานหน่อย อุ๊บส์...เก็บคำพวกนี้ลงไปเลย

“ช่วยนั่งอยู่เป็นเพื่อนก็พอ”

“เป็นเพื่อนหรืออะไร...” เตอร์พูดไม่เต็มเสียงนัก

“อ่า...” แค่คำพูดเบาๆ นั้นโอมก็หน้าแดงขึ้นมาเฉย แล้วพอโอมเขิน คนพูดอย่างเตอร์ก็พลอยเขินไปด้วยเลย

บรรยากาศเก้อเขินถูกทำลายด้วยพนักงานเสิร์ฟ หญิงสาวหน้าตาบอกบุญไม่รับค่อยๆ วางอาหารลงตรงหน้าของทั้งคู่ มีอาหารชุดสองแบบกับของทานเล่นสองอย่างที่เตอร์สั่งมาเพราะความอยากกินล้วนๆ และเมื่อกลิ่อาหารตรงหน้าลอยขึ้นมากระแทกจมูก น้ำลายก็สอ ตาเตอร์เป็นประกายซึ่งอดทำให้โอมขำไม่ได้

ทั้งคู่ลงมือทานอาหารมื้อค่ำด้วยกัน พร้อมกันนั่งคุยไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องส่วนตัวในตอนเด็กๆ คุยกันไปก็หยอกกันไป มันก็เป็นการหยอกเชิงน่าหมั่นไส้มากกว่า เตอร์นี่ค้อนคุงโอมไปหลายดอก ไอ้หน้างอนๆ นั่นน่ะน่ารักน่าฟัดซะไม่มี คุงโอมมองสีหน้า ท่าทางของเตอร์ราวกับว่าเขากำลังอยู่ในภวังก์มากกว่าร้านอาหาร

สายตาที่สื่อความหมายยามมองมานั้นเตอร์รับรู้มันได้เต็มๆ เพราะว่าเขานั่งอยู่ตรงข้ามกับโอม กั้นด้วยโต๊ะกินข้าวขนาดไม่ใหญ่ ดีนะ ยังมีอะไรกั้น ถ้าไม่มีเตอร์ต้องหหน้าร้อนมากไปกว่านี้แน่ๆ เอาจริง...ตอนที่เขาไม่รู้ เขาก็คิดว่าโอมเป็นแบบนี้กับทุกคน สิ่งที่โอมทำกับเขามันก็คือทำให้ทุกคนเหมือนกัน แต่พอได้รู้เรื่องเมื่อวานนี้หัวใจของเตอร์มันก็ไม่ค่อยรักดีเสียเท่าไหร่ เล่นเต้นแรงจนแทบจะเจ็บหน้าอกตลอดตอนที่เจอกับสายตาสื่อความหมายของโอม

ก็จะไม่ให้ใจเต้นแรงได้ไง ในเมื่อตัวเตอร์เองก็รู้สึกไม่ได้ต่างอะไรจากคุงโอมเลย ความใกล้ชิดนี่มันน่ากลัวจริงๆ เลยนะ ทั้งที่ตอนแรกเตอร์ก็ไม่คิดอะไร แต่พออยู่ใกล้ ได้รับการดูแลเทคแคร์มากเข้า ความรู้สึกของเขามันก็กลายเป็นแบบนี้ไปตอนไหนก็ไม่รู้

มื้ออาหารจบลงตอนสามทุ่มกว่า โอมและเตอร์ช่วยกันออกค่าอาหารคนละครึ่งตามที่เตอร์ได้ขอเอาไว้ในตอนแรก โอมเสียดายเวลาที่ต้องหมดลงนี้ ถึงกลับไปจะได้คาสายกันอีกก็เถอะ แต่มันไม่เหมือนตอนได้อยู่กันต่อหน้านี่นา

“พี่ไปส่งนะ”

“ก็ได้ครับ” เตอร์ตอบทันทีด้วยรอยยิ้ม ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่แต่ก็คิดอยู่ดี

ทั้งคู่เดินออกมาจากร้าน พ้นตัวร้านไปหน่อยรอบข้างก็เริ่มมืด เสาร์ไฟข้างทางไม่ได้สว่างไสวอะไรสักเท่าไหร่ โอมเดินแทบจะเบียดเตอร์อยู่รอมร่อ เขาดันให้เตอร์เดินชิดด้านในเพราะกลัวรถจะมาคาบไปกิน

ท่ามกลางเสียงรบกวนด้านนอกและไฟที่ริบหรี่ โอมเผลอฉวยมือของเตอร์ขึ้นมาจับเอาไว้อย่างเงียบเชียบ ในใจก็ลุ้นละทึกไม่น้อยเลยล่ะว่าเตอร์จะดึงมือออกไหม ที่จริงโอมก็หลอกจับมือเตอร์บ่อย แต่มันไม่ได้โจ่งแจ้งแบบนี้

เหตุการณ์เรื่องเมลในรอบนี้ทำให้โอมคิดเข้าข้างตัวเองหนักมากกว่าที่เคย มันมีความมั่นใจอะไรบางอย่างว่าเตอร์เองก็น่าจะรู้สึกไม่ต่างอะไรกับเขา เตอร์ไม่ได้พูดออกมาหรอก มันเป็นแค่สัญชาตญาณเท่านั้นที่ทำให้โอมกล้ากับเตอร์มากขึ้นไปอีกขั้น
ซึ่งเตอร์ก็ไม่ได้ดึงมือตัวเองออก หนำซ้ำยังขยับเข้ามาเดินไหล่ชิดไหล่กับโอมด้วย...

ภายใต้ความวุ่นวายของรอบข้าง ความรู้สึกของพวกเขากลับพุ่งทะยานขึ้นจนมันชัดเจน สำหรับโอมน่ะมันชัดเจนมานานมากแล้ว แต่กับเตอร์เนี่ย...มันแจ่มชัดมากกว่าครั้งไหนๆ

“ทำไม...ตอนนั้นถึงหลบหน้าพี่เหรอ” โอมถามขึ้นมาเบาๆ หันหน้าไปมองเตอร์เพื่อรอคำตอบแม้ว่าสองขาจะยังคงก้าวเดิน

“ต้องตอบเหรอ” เตอร์เงยหน้าถาม ไม่รู้ว่าสายตาแย่ไปหรือเปล่าถึงได้เห็นว่าแก้มของเตอร์นั้นขึ้นสีจางๆ

“ไม่ได้เหรอ”

“ก็...” เตอร์หลบตา ในใจมันมีคำตอบอยู่แล้วแหละแต่มันไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ที่จะพูดออกไป

“พี่อึดอัดมากเลยนะตอนนั้นน่ะ ต้องฝืนทำหน้าที่แอดมินแล้วอยู่กับเมล มันคงจะไม่มากจนแทบทนไม่ได้ถ้าเตอร์อยู่ด้วย แต่พอเตอร์เริ่มหลบหน้าพี่ เริ่มห่างเหินจากพี่ มันก็...แย่มากเลย” ในเมื่อเตอร์ไม่ยอมบอกเขา โอมก็เลือกจะเป็นฝ่ายลองกล้าพูดความรู้สึกโดยไม่หยอกเล่นเหมือนก่อน น้ำเสียงที่จริงจังนั้นหวังเพียงเตอร์จะรับรู้ความรู้สึกของเขา

“พี่กลัวว่าเตอร์จะห่างออกไปเหมือนเมื่อก่อนที่พี่ไม่ได้เล่นเกมกับเตอร์ ตอนนั้นถึงจะเห็นเตอร์แทบทุกวันแต่ก็ไม่ได้พูดไม่ได้คุย ทั้งที่พยายามจะเล่นเกมด้วย อยากจะเข้าใกล้เตอร์มากกว่านี้ แต่มันก็ไม่สำเร็จ ก็...พี่เล่นกากมากเลยนี่นะ เพื่อนไล่ตลอดเลย”

โอมขำเบาๆ มันไม่ได้ฝืดฝืนหรอก เพราะเอาเข้าจริงการฝืนเล่นเกมที่ตัวเองไม่ชอบมันก็อึดอัดอยู่

“แต่ตอนนี้คุงโอมก็เล่นเก่งแล้วนี่”

“เพราะใครล่ะ”

“เพราะเตอร์ไง” เตอร์ยิ้มโดยที่สายตามองออกไปข้างหน้า

“ใช่ เพราะเตอร์...เพราะเตอร์อยู่ข้างๆ พี่แล้ว พี่ไม่อยากให้ข้างๆ พี่ไม่มีเตอร์อีก” ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะสารภาพอะไรกับเตอร์ แต่ว่าพอบรรยากาศมันพาไป คำพูดคำจา หรือความในใจมันก็หลุดรอดออกไปจนได้

“เหมือนกัน...” เตอร์พูดเบาๆ เบาจนโอมไม่ได้ยินคำพูดนั้น

“หืม เมื่อกี้น้องเตอร์ว่าอะไรนะ” โอมต้องก้มหน้าลงมาหน่อย พร้อมหยุดเท้าเพื่อจะได้ฟังสิ่งที่เตอร์พูด ดีที่ถนนทางเดินตรงนี้ไม่มีใครเลยนอกจากรถราที่วิ่งไปมานิดหน่ออย

“เตอร์ก็เหมือนกัน” เตอร์สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเงยหน้ามาสบตากับโอมทั้งที่แก้มขึ้นสีแดงเจือจาง

“เตอร์ไม่อยากให้ใครมาอยู่ข้างคุงโอมแบบที่เมลมาอยู่ เตอร์ไม่ชอบเลย เตอร์...หงุดหงิด เตอร์รู้สึกว่าตรงนั้นมันควรเป็นของเตอร์ไม่ใช่ของใครทั้งนั้น แต่ว่าตอนนั้นที่เตอร์หลบหน้าก็เพราะคิดว่าคุงโอมก็คงให้ความสำคัญกับทุกคน เตอร์ก็เป็นแค่คนหนึ่งในนั้น”

“ไม่ใช่นะ”

“เตอร์รู้แล้ว...วันนั้นที่ร้านนม”

“อ่า...” โอมหน้าแดงหนักกว่าเดิมเพราะหัวใจเขากำลังเต้นระรัว

“เตอร์ได้ยิน”

“แล้ว...”

“ก็...เตอร์ก็เหมือนกัน”

“เหมือนกันยังไง”

“เหมือนที่คุงโอมรู้สึกกับเตอร์” เตอร์จ้องหน้าโอมนิ่ง แก้มแดงจัดแต่แววตากลับมั่นคงเพื่อสื่อความหมาย

“งั้นคบกับพี่นะ” เสียงโอมสั่นมาก สั่นจนน่าอาย แต่ว่าโอกาสมาแล้ว นี่คือสิ่งที่เขาเฝ้าฝัน

“ครับคุงโอมของเตอร์” รอยยิ้มกว้างๆ จนตาปิดกับคำตอบมัน...เหมือนฝันเลย

- TBC -

ขออภัยที่หายไปนานนะคะ ในที่สุดก็กลับมาแล้วค่ะ!
ไรท์หายไปไหนมา? เอ่อ...ติดธุระนิดหน่อยในช่วงวันสงกรานต์ค่ะ
พอหลุดช่วงนั้นไป(ช่วงที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต) ก็รีบกลับมาอัพทันทีเลยค่ะ!

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 14 / 50% [28/04/2021]
«ตอบ #34 เมื่อ28-04-2021 17:30:21 »

ตอนที่ 14 [50%]


“พวกมึงยังไม่เบื่อขี้หน้ากันอีกเหรอ ดิสก็อยู่ด้วยกัน ข้าวก็ออกไปกินด้วยกัน นี่มามอมึงยังมานั่งตัวติดกันแต่เช้าอีก เป็นกูนะ กูเบื่อขี้หน้าไอ้โอมไปนานแล้ว” มาถึงแจ็กก็บ่นใส่โอมกับเตอร์แต่เช้า แค่แฟนมานั่งกินข้าวเช้าด้วยกันนี่มันจะอะไรนักหนา

“มึงเบื่อหน้ากูเพราะมึงหล่อสู้กูไม่ได้ล่ะสิ” โอมว่าพลางยักคิ้วใส่

“เฮ้ยๆ หลงตัวเองให้มันน้อยๆ หน่อยนะบางที มึงก็ไม่ได้หล่ออะไรขนาดนั้น แถมยังเล่นเกมกากอีกต่างหาก เตอร์มึงก็เลิกแบกไอ้โอมได้แล้ว แบกไปก็เหนื่อยเปล่า” ดูเพื่อนกันมันพูดสิ น่ากระโดดเตะปากจริงๆ เลยให้ตาย

“พี่แจ็กไม่มีคนแบกล่ะซี่ ถึงมาว่าพี่โอมแบบนั้นน่ะ” โจ้ก เพื่อนเตอร์ว่าเข้าให้ ถึงจะมาทีหลัง แต่เมื่อมีจังหวะว่ารุ่นพี่ก็เอาซะหน่อย

“กูเก่ง กูแบกตัวเองได้ไม่เหมือนโอมเหอะ”

“อ่อเหรอ...เหรออ่อเหรอ” โจ้กทำหน้าทำตามล้อเลียนจนโดนแจ็กไล่เตะจนได้

คนอื่นๆ เริ่มทยอยมาที่โต๊ะประจำเพื่อหาอาหารเช้าใส่ท้อง ทุกอย่างดูปกติมาก แม้ว่าโอมและเตอร์จะนั่งไหล่ชนกันก็ยังเป็นเรื่องปกติในสายตาพวกเขาทั้งหมด ก็เพราะพวกนี้มันตัวติดกันมาได้ระยะใหญ่ เห็นชินตาไม่ตกใจอะไรทั้งนั้นแล้วล่ะ ที่สำคัญ พอมันสองคนคุยกันคนอื่นก็ไร้ตัวตนอยู่ดี

“เตอร์เติมเงินซื้อสกินใหม่ดีมั้ยอะคุงโอม เนี่ย...สกินนี้สวยมากเลยนะ” เตอร์เอารูปสกินตัวละครในเกมที่มีประกาศวางขายในอาทิตย์นี้ให้โอมดู ถามว่าสวยมั้ยก็สวย เพราะตัวเกมต้องการให้คนซื้อยังไงล่ะ

“มันไม่แพงไปหน่อยเหรอ พี่ว่าเก็บเพชรม่วงซื้อดีเปล่า”

“ไม่พออะสิคุงโอม มันแพงง่ะ” เตอร์เงยหน้าอ้อน

“ไม่ต้องอ้อนเลยครับ อ้อนไปพี่ก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี”

“ทำไมเล่า เตอร์ไม่ค่อยได้เติมเลยนะ ปกติเตอร์เติมแค่สามสิบบาทซื้อเต๋าสามสิบวันเอง น้า...ให้เตอร์เติมนะครับ”

“น้องเตอร์ดื้อเหรอ”

“ง่า...”

“เงินไอ้เตอร์มึงนี่ก็เสือกจริง” แจ็กสอดปากหาเท้าอีกแล้ว คราวนี้เพื่อนมอสตบกะโหลกไปหนึ่งที

“มึงต่างหากที่เสือกไอแจ็ก”

“เอ้าไอ้นี่ ตบกูแล้วด่ากูอีก มึงต้องด่าเพื่อนมึงนู้นที่เสือกเรื่องการเติมเกมของเตอร์” แจ็กนี่ก็โง่แล้วโง่อีก คนทั้งโต๊ะแทบจะรู้หมดแล้วว่าสองคนนี้น่าจะไม่ใช่แค่พี่น้องเหมือนเมื่อก่อน

“มึงโง่หรือมึงโง่อะแจ็ก” วัตถามแค่สั้นๆ ง่ายๆ แต่เจ็บจึ้กไปถึงใจ

“คำถามมึงเหมือนมีตัวเลือกให้กูเลยเนอะ”

“ฮ่าๆ พวกพี่นี่ตีกันได้ตีกันดีจริงๆ” เตอร์ละความสนใจจากคุงโอมไปที่รุ่นพี่ตีกัน

“แต่ถ้าเราแอบเติมไม่บอกก็จะโดนพี่ตีนะ”

“อะไรเล่า...” เตอร์หันขวับมามองค้อนคุงโอมทันที

อย่าคิดนะว่าโอมคนนี้ไม่รู้ว่าเตอร์น่ะเติมเกมเก่งขนาดไหน ที่บอกว่าเติมแค่ลูกเต๋าสามสิบวันน่ะมันก็ใช่ แต่เตอร์ไม่ได้บอกทั้งหมด สกินบางอันน่ะมันต้องใช้เงินจริงในการซื้อ เตอร์ก็แอบไปกดซื้อมาโดยไม่บอกเขา ตอนนั้นน่ะมันว่าอะไรไม่ได้เพราะน้องคือน้อง ตอนนี้น้องคือแฟน ต้องว่าได้บ้าง โอมรู้ว่าเตอร์ชอบเล่นและอยากได้ของในเกม เป็นเรื่องธรรมดามาก แต่ถ้ามันมากเกินไปมันก็ไม่ดี สิ้นเปลืองเกินไป ยิ่งสกินทองนี่ใช้เงินจริงเป็นพัน

“เดือนนี้เติมไปเท่าไหร่แล้วล่ะ” โอมจำได้ว่าต้นเดือนเตอร์ซื้อสกินทองไปหนึ่งชุด เป็นสกินที่บ่นแล้วบ่นอีกว่าอยากได้จนเก็บเงินเพื่อซื้อเลย

“พันสี่เอง” คำว่าพันสี่เองนี่หลบตาอย่างไวเลยนะ

“ใช่ แค่พันสี่เองมึง กูนี่ล่อไปสองพันล่ะ” แจ็กยิ้มระรื่น

“นั่นมันมึงมั้ยล่ะ ใช้เงินอย่างกับเบี้ย”

“ค้าบ พ่อคนดี พ่อคนใช้เงินเป็น เตอร์มึงอย่าเอามันทำพันธุ์นะ ปวดหัวตายห่า” เอ้าไอ้แจ็กนี่ปากหาเรื่องจริงๆ

“พูดเหมือนเคยเป็นแฟนกูนะ”

“มึงมันขี้งก”

“เขาเรียกใช้เงินเป็น”

“เหรอ ใช้เงินเป็นหรือเรียกว่าไม่ได้ใช้เลย นอกจากซื้อกินก็ไม่เห็นมึงใช้จ่ายกับอะไรสักอย่าง ถามจริง มีอะไรที่มึงชอบบ้าง”

“เตอร์ไง” เพียงสองพยางก์ง่ายๆ ก็ทำให้ทั้งโต๊ะอยู่ในความสงบได้ แม้แต่เตอร์ก็ยังก้มหน้าหลบสายตาคนอื่นเพราะว่าเขิน

“เอ่อ...อันนั้นกูรู้ล่ะ ถ้าชอบมากนะ เตอร์! มึงอ้อนให้มันซื้อให้เลย”

“ไม่เอาพี่ เงินคนอื่น”

“คนอื่น...” คำว่าคนอื่นทำให้โอมหันหน้ามามอง เตอร์แม่มปากแน่นก่อนจะกอดแขนคุงโอม

“ขอโทษค้าบ ไม่ซื้อก็ได้” การกระทำที่ชัดเจนนี้เล่นเอาทั้งกลุ่มรู้โดยทั่วกันแบบไม่ต้องป่าวประกาศเลยว่าทั้งสองคนนี้เป็นอะไรกันแล้ว

“แล้วเงินเดือนนี้อะเหลือเท่าไหร่ถึงคิดจะเติมน่ะ” พอเตอร์หงอคุงโอมก็ใจอ่อนยวบลงมาอย่าง่ายดาย

“ก็...สองสามพัน” สองสามพันที่กินทั้งเดือน

“พอกินถึงสิ้นเดือนใช่มั้ยครับ”

“พอสิ”

“เติมเท่าไหร่”

“ก็...พันสาม”

“แล้วจะพอกิน?”

“อ่า...ไม่เติมแล้วไงค้าบ” โดนจี้แบบนี้ก็ต้องยอมจำนนต่อการไม่มีเงินกินจนได้

“ดีแล้วครับ เอาไว้ถ้าเดือนหน้ามันยังขายอยู่ค่อยซื้อ น้องเตอร์ก็เก็บเงินหยอดกระปุกเอาไว้ ไม่พอจะได้มีของเดือนหน้าสมทบแล้วก็ไม่ลำบากที่จะต้องเอาไว้กินไว้ใช้ด้วย โอเคมั้ยแบบนี้” โอมจัดแจงคิดให้เสร็จสรรพ ทั้งที่ควรจะห้ามน้องเด็ดขาดว่าไม่ให้ซื้อของสิ้นเปลือง แต่ก็...นี่น้องเตอร์เลยนะ น้องเตอร์ของเขาเลยนะ เขาใจแข็งไม่ได้จริงๆ

“จริงนะ” เตอร์เงยหน้ามามองตาเป็นประกาย

“จริงครับ”

“โอเค ตกลงตามนี้ คุงโอมให้เตอร์ซื้อแล้วนะ ห้ามดุน้องเตอร์ด้วย” เตอร์ใช้น้ำเสียงอ้อนโดยไม่รู้ตัว และไม่ได้สนใจเลยว่าคนอื่นรอบโต๊ะจะมองแปลกๆ

คบกันแค่แป็บเดียวนี่อ้อนออกหน้าแบบนี้เลยเหรอ? หรือว่าจริงๆ เตอร์ก็อ้อนอยู่แล้วเวลาอยู่กับโอมสองต่อสอง พอคบกันก็เลยไม่ต้องเก็บอาการที่จะอ้อน นั่นแหละ มันเป็นอย่างที่ทุกคนคิด นอกจากเตอร์อ้อนโอมแล้วโอมเองก็ไม่น้อยหน้าเตอร์หรอกเวลาเล่นเกมน่ะ มันแค่สลับบทอ้อนกันในบริบทที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง

เหล่ารุ่นพี่รุ่นน้องร่วมแคลนพากันกินข้าวและคุยเรื่องไร้สาระจนกระทั่งได้เวลาแยกย้ายกันเข้าคลาสเรียน ก่อนจะไปก็ต้องมาเหม็นเบื่อคู่รักที่ไม่ได้ประกาศตนเองอ้อนกันก่อนอีก พวกเขาละเซ็งจริงๆ รู้สึกเป็นส่วนเกินอยู่ได้ทุกวี่ทุกวันสิหน่า

บ่ายสามสี่สิบกลุ่มของโอมเดินบ่นกระปอดกระแปดออกมาจากคลาสเรียน เนื่องจากอาจารย์ปล่อยเรทไปสิบนาที แค่สิบนาทีก็มากพอให้เด็กขี้เกียจเรียนหัวเสียกันได้ ยกเว้นโอมที่เฉยชากับเรื่องปล่อยช้า เพราะว่าน้องเตอร์ของโอมนั้นเลิกช้ากว่ายังไงล่ะ

“มึงจะกลับเลยปะ” มอสหันมาถามตามประสาคนรู้ทัน

“ยังอะ พวกมึงกลับกันก่อนเลย”

“รอเตอร์อะดิ” วัตพูดสั้นๆ แล้วโบกมือลา

“งั้นพวกกูกลับก่อน” มอสบอกพลางกอดคอแจ็กเดินไปด้วยกัน ซึ่งแจ็กแค่โบกมือให้เพราะสายตากำลังไล่อ่านข้อความที่สาวส่งมาให้

โอมเดินไปยังศาลาที่ประจำ ที่เขามักจะนัดเตอร์มาเจอหลังเลิกเรียน อากาศร้อนดีที่มีลมคอยพัดทำให้ไม่รู้สึกร้อนจนเกินไป โอมเอามือถือตัวเองออกมากดดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยเปื่อย โดยเฉพาะเฟซของเตอร์เนี่ยส่องจนเฟซจะพรุนเป็นรูอยู่แล้ว ทั้งที่ในนั้นมันก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนอกจากสกินเกมไอเดนที่เตอร์แชร์เอาไว้ โอมมองมันอย่างพินิจพิเคราะห์ สกินสวยมาก ยิ่งเป็นตัวละครที่เตอร์ชอบด้วยแล้ว เข้าใจเลยว่าทำไมเตอร์ถึงอยากได้นักอยากได้หนา แต่ก็นะ แพงเกินไป

ระหว่างที่ดูเฟซไปเรื่อยเปื่อยก็ไปเห็นโพสต์ในกลุ่มเกมไอเดน เป็นโพสต์ประจารณ์ใครสักคน โอมอ่านมันผ่านๆ แล้วมาสะดุดตรงรูปดิสคอร์ดที่เอามาลงในคอมเมนต์ ทำให้โอมรู้ว่าคนที่กำลังโดนด่าออกสื่ออยู่นั้นก็คือน้องเมล คนที่เพิ่งก่อเรื่องไปเมื่อวานนี้นี่เอง โอมแอบรู้สึกสงสารเมลเบาๆ แต่ละคนที่ด่าก็ใช่ว่าจะด่าเบาเสียด้วย อย่างว่า ถ้าไม่สร้างเรื่องให้คนอื่นเกลียดก็คงไม่โดนแบบนี้หรอก

แล้วดูท่าคนโดนด่าอย่างเมลเองก็ไม่ได้สำนึก หนำซ้ำยังด่ากราดคนที่โพสต์อีก หาว่าทางนั้นน่ะใส่ร้ายตัวเอง โยงมายันแคลนของโอมว่าทางนี้แหละไปเป่าหูคนอื่นจนคนอื่นมาด่าตน โอมเห็นเพื่อนเตอร์ที่ชื่อโจ้กไปคอมเมนต์ในข้อความนั้นอยู่ ว่ามาใส่ร้ายแคลนเขาเดี๋ยวเรื่องก็ไม่จบหรอก ที่จริงโอมว่าการที่โจ้กไปต่อปากต่อคำก็อาจจะไม่จบนะ

“คุงโอม....” เตอร์เดินไวๆ มาที่ศาลา เหงื่อซึมตาใบหน้าและไรผม แถมแก้มยังแดงระเรื่อเพราะอากาศร้อนอีก



- 50% -

ขออภัยที่มาช้าค่ะ แต่ก็มาแล้วนะคะ > <

ช่วงนี้ฝนตกบ่อยอย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ

ด้วยความเป็นห่วงจากไรท์เองค่า




ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 14 / 50% [28/04/2021]
«ตอบ #35 เมื่อ29-04-2021 21:40:41 »

 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 14 / 50% [05/05/2021]
«ตอบ #36 เมื่อ05-05-2021 18:00:56 »

ตอนที่ 14 [100%]

โหย น่ากินไปไหนครับ!

“รีบเหรอ” โอมถามเตอร์พยักหน้า “รีบทำไมเล่า พี่รอได้ ดูซิ ร้อนจนหน้าแดงหมดแล้วเนี่ย”

“โทษอากาศเลยคุงโอม มันร้อนจนเตอร์หน้าแดงแบบนี้เพราะอากาศเลยนะ ไม่ผิดที่เตอร์เลย”

“คร้าบ ไม่ผิดครับ” โอมดึงเตอร์มานั่งข้างๆ พลางยิ้มขำกับการพาลใส่อากาศเมืองไทย

“นั่นคุงโอมดูอะไรอยู่เหรอ” เตอร์อดชะโงกหน้ามามองหน้าจอมือถือในมือโอมไม่ได้ ก็ไม่ได้อยากสู่รู้หรอกแค่โพสต์มันคุ้นตา

“โพสต์ในกลุ่มไอเดนอะ” โอมขยับมือถือให้เตอร์มองได้ง่ายขึ้น

“โพสต์เกี่ยวกับพี่เมลที่ไปสร้างปัญหาให้กับคนในแคลนอื่นใช่มะ เตอร์เห็นโจ้กไปนัวอยู่ แล้วมันก็บ่นๆ ว่าเมลน่ะไปอยู่ที่ไหนก็สร้างปัญหาที่นั่น ไปปั่นหัวให้แคลนอื่นเขามาเกลียดแคลนเรา พอทางนั้นเขาไม่โอเคกับสิ่งที่เมลบอก เมลก็ไปด่าเขา ว่าเขาว่าเข้าข้างแคลนเฮียร์ อะไรของพี่เมลเขาก็ไม่รู้” เตอร์เล่าพลางเลื่อนหน้าจอดูแชตในโพสต์นั้น เตอร์จะรู้ตัวไหมว่าสิ่งที่เตอร์เล่าน่ะมันก็เข้าหัวหรอกนะ แต่ตัวของเตอร์ที่แทบจะเกยมาบนตัวของโอมเพื่อดูมือถือเนี่ย...มันน่าสนใจกว่าเยอะเลย

แฮ่กๆ อยากกินน้องจังครับ!

“คุงโอม...คุงโอม”

“ฮะ!” เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับการใกล้ชิด โอมเลยเผลอเหม่อไปนิด นิดเดียวเองจริงจริ๊งงงง

“คุงโอมสนใจเรื่องพี่เมลเหรอ” เตอร์ขยับนั่งตรงๆ แบบปกติ ไม่ได้เท้าแขนกับขาเขาเพื่อดูมือถือแบบเมื่อกี้

“อ่อ เปล่าอะ”

“ใช่เหรอ”

“ครับ พี่แค่เลื่อนมาเจอก็เลยแวะอ่านดูว่าดราม่าอะไรกัน” โอมอธิบายไปตามตรง เพราะเจ้าหนูเตอร์เล่นหรี่ตาปากคว่ำแล้ว

“โกหกเปล่า”

“โกหกเรื่องไรอะครับ”

“ก็...คุงโอมอาจจะสงสารพี่เมลอะไรเงี้ย” จริงๆ เตอร์รู้แหละว่าโอมไม่ได้อะไรกับเมล แค่แกล้งเฉยๆ ดูสีหน้าคนเอ๋อแล้วมันชื่นใจ

“ก็สงสารนะ”

“น่ะเห็นมั้ย คุงโอมสนใจเรื่องพี่เมล”

“เปล่า ก็...ก็หมายถึงว่าพออ่านแล้วก็สงสาร แต่ก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย เพราะเมลเขาก็ทำตัวเอง พี่ไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งสักหน่อย” พอเห็นคนเอ๋อลนลานอธิบายเตอร์ก็สนุกใหญ่ ทำเป็นเชิดหน้าหนี แกล้งงอนอย่างกับไม่เชื่อใส่โอม

“อืม”

“อะไรอ่า...น้องเตอร์หึงเหรอ”

“ใครหึง”

“น้องเตอร์ไง หึงพี่เหรอครับ พี่ปิดโพสต์ก็ได้ นี่ไงๆ ปิดแล้ว...” โอมปิดเฟซทิ้งเลย เตอร์หรี่ตามมองมาแล้วก็ยิ้มกว้างมากกกก

“คุงโอมน่ารัก” น่ารักได้ไม่เข้ากับตัวใหญ่ๆ ของเจ้าตัวเลย

“อ่า...”

“โอ๋ เอ๋อเลยเหรอ ฮ่าๆ น้องเตอร์แกล้งเฉยๆ น้องเตอร์รู้ว่าคุงโอมไม่ได้สนใจพี่เมลหรอกครับ น้องเตอร์เชื่อที่คุงโอมอธิบาย จริงๆ นะ” เตอร์เคลื่อนใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มซุกซนเข้าใกล้

เนี่ย...ทำตัวน่าฟัดแบบนี้ใครจะงอนลง!

“แล้วหึงไหม” โอมถาม ใบหน้าและแววตาไม่ได้มีความงอนหรือนอยอะไร มีแต่ความอยากรู้ เตอร์เม้มปากนิดหน่อยก่อนจะกอดแขนคุงโอมเอาไว้

“หึงครับ” สั้นๆ ง่ายๆ แต่เอาใจคุงโอมไปเลยค้าบบบบ

“อย่าน่าฟัดเยอะสิครับ”

“งื้ออออ น้องเตอร์เปล่านะ” พูดคำว่าเปล่าตาใสเชียวนะ

“คร้าบๆ หาไรกินกันมั้ย หิวหรือยัง”

“กินคุงโอม” ก็รู้นะว่าพูดเล่นน่ะ แต่อย่ามาพูดเล่นหน้าซื่อตาใสแบบนี้ ใจไม่ดี รู้มั้ย รู้บ้างมั้ยยยยย

“งั่มมมมม” ขณะที่โอมกำลังใจเต้นแรงอยู่ หนูเตอร์ของคุงโอมก็กักไหล่เข้าให้เต็มๆ

“โอ้ย เจ็บนะครับ”

“ฮ่าๆ คุงโอมไม่อร่อยเลย”

“ยังไม่ได้กินพี่ทั้งตัวจะบอกว่าไม่อร่อยได้ไง”

“เตอร์อยากกินก๋วยเตี๋ยว” แล้วดู พอเขาเอาบ้างก็เฉไฉไปเรื่องอื่น มันน่านัก...เจ้าหนูตัวนี้เนี่ยยยย

“ไม่กินพี่แล้วหรือไง”

“งืมมมม น้องเตอร์หิวเตี๋ยว น้องเตอร์อยากกินก๋วยเตี๋ยวแล้วครับคุงโอม พาน้องเตอร์ไปกินนะ” เตอร์เขย่าแขนคุงโอมเบาๆ พลางยิ้มออดอ้อนเต็มที่ คุงโอมก็ใจอ่อนยวบไปหมดนั่นแหละถึงได้นั่งนิ่งให้เตอร์อ้อนต่อ

“แล้วพี่อะ ตอบไม่ตรงคำถามพี่เลยหนิ”

“ง่ะ อันนั้นมันกินไม่ได้นี่ครับคุงโอม”

“ได้สิ”

“ไม่ได้ ตรงนี้ไม่ได้...” เตอร์ว่าเขินๆ ริมฝีปากสีพีชเม้มกันแน่นพร้อมกับที่แก้มนวลขึ้นสีแดงระเรื่อ

แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ใช่เตอร์คนเดียวที่หน้าแดง

โอมจำต้องลุกขึ้นยืนโดยมีเตอร์เปลี่ยนมาจับมือหนาของเขาแทนกอดแขน สีหน้าเลิ่กลักที่เขินแล้วเขินอีกของทั้งคู่ต่างก็มองไปนอกศาลาเพื่อเบี่ยงเบนความรู้สึกตื้อในอก ก็ใจเต้นแรงมากขนาดที่ว่ามันอึดอัดไปหมดเลยน่ะสิ

หลังเดินไปได้สักพักเตอร์ก็บอกร้านก๋วยเตี๋ยวที่ตนอยากกินให้โอมพาไป ทั้งคู่จึงก้าวเดินจับมือกันไปแบบไม่แคร์สายตาของนักศึกษาคนอื่นที่มองมา บ้างก็หันไปซุบซิบกัน ในคณะมีน้อยมากที่จะไม่รู้จักโอมและกลุ่มรุ่นน้อง การที่เห็นโอมเดินจับมือถือแขนรุ่นน้องในกลุ่มแบบนี้มันคงเดาเป็นอย่างอื่นไปได้ยาก นี่สินะ เหตุผลที่สาวๆ ในคณะและต่างคณะอกหักไปตามๆ กัน

“แปลกๆ เนอะ คนมองเต็มเลยอะ” เตอร์กระชับมือโอมแน่นขึ้นเพราะรู้สึกแปลกกับ สายตาที่จับจ้อง ปกติเตอร์เป็นเด็กหนุ่มที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ถึงจะโดนมองบ่อยตอนที่เดินกับรุ่นพี่อย่างโอม มอส แจ็ก แต่นี่มันแตกต่างออกไป

“อายหรือเปล่าครับ” โอมหันไปถามเจ้าหนูเตอร์

“ก็...นิดหนึ่ง กลัวแฟนคลับคุงโอมมาตบเตอร์มากกว่านะ” เตอร์คิ้วขมวด โอมเอานิ้วจิ้มหว่างคิ้วให้คลายออกแบบไม่แคร์สายตาใคร ณ จุดๆ นี้ โอมสนแค่น้องเตอร์ของเขาคนเดียวเท่านั้นแหละ!

“ไม่มีใครทำอะไรน้องเตอร์ของพี่หรอก เชื่อใจพี่สิ”

“หวานเก่งงงงง” เตอร์หัวเราะออกมาพร้อมกับที่เอนหัวพิงไหล่คุงโอมเบาๆ เป็นการบอกว่าเขาโอเคแล้ว

โอมยีหัวเตอร์เล่นเพื่อให้เตอร์ได้คลายความกังวลในใจลง เอาจริงๆ เขาไม่แคร์เลยด้วยซ้ำว่าใครจะมองเขายังไง หรือพูดถึงเขายังไง ที่ผ่านมาเขาเองไม่เคยรับรักใคร ไม่ได้ทำร้ายความรู้สึกใครด้วยการหลอกลวงด้วย โอมเชื่อว่าเขาปฏิบัติตัวเองดีแล้ว และความดีตรงนั้นคงได้รับการตอบแทนที่ดีเช่นกัน



- tbc -

ช่วงนี้ไรท์มรสุมงานทับถมมากๆ เลยค่ะ

อาการออฟฟิศซินโดรมกลับมาอีกแล้ว TwT

อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ




ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 14 / 50% [05/05/2021]
«ตอบ #37 เมื่อ09-05-2021 10:38:19 »

 :pig4:
 o13

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 15 / 50% [13/05/2021]
«ตอบ #38 เมื่อ13-05-2021 19:07:29 »

ตอนที่ 15 [50%]


“สุมหัวทำไรกันวะ” มอสเดินมากอดคอโอมที่สุมหัวกับเตอร์ดูคลิปอะไรสักอย่างในยูทูป

“วิธีสตรีมเกมน่ะพี่มอส พอดีผมกับคุงโอมจะสตรีมเกมในเพจ พี่คิดว่าไง”

“ก็ดีอยู่นะ เอ็งเล่นดี โอมเล่นไก่ เออ...สมดุลดี ฮ่าๆ” มอสนั่งลงเก้าอี้ข้างโอม เจ้าตัวไม่ได้มองหน้าเพื่อนเลยว่ามีสีหน้าอย่างไร เอาแต่สนใจเมนูนมในร้านเสียมากกว่า

“แซะกูได้ตลอดอะพวกมึง ถึงกูจะไก่ แต่กูก็ไก่เคเอฟซีนะเว้ย”

“อร่อยเชียว” เตอร์ว่ายิ้มๆ

“แต่สตรีมในมือถือเสียดิสคอร์ดมันไม่เข้านะเว้ย ต่อให้เข้าได้แต่เสียงเกมก็หาย มึงต้องคอลดิสเครื่องอื่นหรือไม่ก็สตรีมผ่านคอมอะ ไม่งั้นเสียงที่ได้มันจะไม่ครบ ภาพก็ไม่ค่อยชัด” วัตผู้รู้งานบอกขึ้นมาบ้าง

“เตอร์ก็ว่างั้นแหละพี่ นี่ก็พยายามให้พี่โอมดูโปรแกรม OBS ที่ใช้สตรีมในคอมอยู่ แล้วก็ต้องใช้แอพแชร์มือถือเข้าคอมด้วย วุ่นวายตอนเริ่มอยู่นะคุงโอม ไหวไหมอะครับ” หืม...น้องเตอร์ถามซะน่ารักขนาดนี้ คุงโอมคนนี้มีหรือจะไม่ไหว

“ทำไมไม่ให้เตอร์มันทำวะ เตอร์มันทำเป็นหนิ” แจ็กทำหน้าเป็นหมางงทั้งที่ยังกอดคอโจ้กรุ่นน้อง

“คุงโอมอยากทำอะพี่ เอางี้ก็ได้คุงโอม เดี๋ยวน้องเตอร์ไปช่วยคุงโอมเซทติ้งโปรแกรมดีกว่า ยังไงวันนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรอยู่แล้ว พรุ่งนี้ก็หยุดด้วย”

“ดีครับ” โอมตอบแบบไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองเลยแม้แต่น้อย เพราะหลังจากที่ได้คบกับเตอร์มาอาทิตย์หนึ่ง เตอร์น้อยของเขาก็ไม่ได้ไปเหยียบที่ห้องเขาอีกเลย นี่เป็นโอกาสดีไม่ใช่น้อย

“เก็บสีหน้านิดหนึ่ง” วัตบอกเสียงเรียบ ดรีมที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับขำออกมาจนเกือบสำลักน้ำ ส่วนเจ้าคนโดนแซวและแฟนของเขานั่นก็หน้าขึ้นสีน้อยๆ

นี่...พวกคุณจะใสๆ กับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เกินไปไหมนะ เอะอะเขิน เอะอะหน้าแดง บ้าบอ นี่มันดูปัญญาอ่อนสุดๆ ไปเลย แต่ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อคนมันเขิน มันไม่ค่อยได้ใช้เวลาส่วนตั๊ววววส่วนตัวด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็อยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูง หรือไม่ก็แค่คาสายกันตอนเลิกเรียนแล้วเท่านั้น

“อะไร๊ กูไม่ได้คิดอะไรเลยนะเว้ย”

“กูก็ยังไม่ได้บอกว่ามึงคิดปะวะ มึงอะร้อนตัวอะไร” วัตตอบกลับหน้านิ่ง คนอื่นก็ได้แต่กลั้นขำ

“กูเปล่า”

“เปล่าเหรอ...เตอร์มึงตัดสินใจเอาเองละกันว่าคุงโอมของมึงน่ะคิดหรือไม่คิด ไปก็ระวังด้วย” วัตมึงพูดแบบนี้น้องมันจะกลัวเอานะเนี่ยยยย

“เออเนอะ คนยิ่งของขาดอยู่” มอสได้ทีเสริมทับ

“น้องเตอร์ก็ของขาดนะ” แล้วน้องครับ...น้องจะพูดอะไรก็เกรงใจความคิดอีพี่นิดหนึ่งนะ ไม่ต้องมามองหน้าซื่อตาใส เพราะว่าคุงโอมคนนี้อยากกินน้องเตอร์ใจจะขาดแล้วค้าบ

“เอิ่ม...ไม่ดี ไม่มีไร” โอมได้แต่เก็บอาการแล้วเลี่ยงสายตาเย้าหยอกของน้องเตอร์

นี่มันทำให้เขาดูเป็นเมะที่กากยังไงชอบกล...เฮ้ออออออ ขอถอนหายใจยาวถึงดาวอังคารเลยได้หรือเปล่า รู้สึกเหนื่อยใจจะอดทน หนูเตอร์ผู้อ่อยหน้าซื่อตาใส อ่อยยังไงให้หนูดูเป็นเด็กเรียบร้อยไร้เดียงสาขนาดนี้

“น้อยหน่อยไอ้เตอร์ มึงเพิ่งเว่าไปเมื่อวาน” เพื่อนตัวดีของหนูเตอร์พูดขึ้นมาหลังจากมองเตอร์ยิ้มแกล้งแฟนมันได้

“แค่กๆ” อา...คุงโอมถึงกับสำลักน้ำลายไปแล้ว

“เหี้ยโจ้ก! ไอ้สัส...มึงพูดไรเนี่ย” หนูเตอร์แทบจะเอาแก้วนมปั่นปาใส่หน้าเพื่อน แล้วดูมัน สะทกสะท้านที่ไหน แลบลิ้นปลิ้นตาโดยการเอาร่างถึกถึนของพี่แจ็กบังตัวเองเอาไว้ เนี่ย แล้วต้องมามองหน้ากับคุงโอมต่อ...มันจะมองกันติดไหมละเฮ้ย

ณ.วินาทีนี้ เตอร์สำนึกได้ว่าไม่น่าไปตอบตอนที่มันหลอกถามเขาเลยให้ตาย

“แล้วทำจริงมั้ย”​ หลังจากเตอร์พยายามจะเอาคืนไอโจ้กเพื่อนเวร คุงโอมก็ขยับมากระซิบถามให้ได้ยินกันแค่สองคน

“ไม่ตอบ”

“นะ...ตอบหน่อยนะครับ”

“ไม่เอา”

“จริงแน่เลย”

“อะไรเล่าคุงโอม น้องเตอร์เขินเป็นมั้ย หรือพี่ไม่เคยทำเล่า บ้าจริง” หนูเตอร์อยากกัดคุงโอมมมมม หมั่นเขี้ยวมาซักไซ้ทำไมเนี่ย

“ฮ่าๆ เดี๋ยวเขินเป็นแฟน”

“เป็นเพื่อนก็พอ”

“ไม่เอา เป็นแฟนแล้วไม่เป็นเพื่อนแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นได้แค่อย่างเดียวคือสามีน้อง”

“พอเลย”

“พอจริงอ๋อ”

“คุงโอมมมมม” น้องเตอร์ขึ้นเสียงแล้วตีแขน โอมขำอย่างเอร็ดอร่อยกับการเห็นแฟนตัวเองงอแง

ขอโทษนะ...พวกกูยังมีตัวตนหรือเปล่า?

“ถ้าจะขนาดนี้ก็เชิญกลับไปเถอะพวกมึงอะ ไปเคลียร์เรื่องสตรีมเหอะ เรื่องกิจกรรมเดี๋ยวพวกกูคุยกันเอง แล้วจะสรุปให้ในเมสเซจเจอร์กลุ่มแล้วกัน” มอสทนไม่ได้ ผลักหัวไอ้คุงโอมที่ยิ้มกว้างด้วยความรักจนหัวเกือบทิ่ม

แต่คุงโอมก็ไม่ได้ต่อว่าเพื่อนตัวเองแต่อย่างใด แล้วก็ไม่ปฏิเสธด้วยเรื่องที่โดนไล่กลับบ้าน เพราะว่าวันนี้เขามีน้องเตอร์กลับไปด้วยยังไงล่ะ หึหึ รีบกลับให้ไวเลย คุงโอมคว้าสิ่งของบนโต๊ะด้วยรอยยิ้มอันน่าหมั่นไส้ขั้นสุด น้องเตอร์สิได้แต่ทำหน้าเอ๋อเหรอหรา บทจะไปไวก็ไวจนตั้งตัวไม่ทัน ร่างเล็กต้องรีบเก็บของตามคุงโอมไปอย่างช่วยไม่ได้ โอมคว้ามือเตอร์ไว้เป็นอย่างสุดท้ายแล้วโบกมือลาแบบไวๆ ให้กับทุกคนบนโต๊ะ

ทั้งคู่เดินทางกลับบ้าน ไร้ซึ่งบทสนทนา จริงๆ มันไม่ควรจะรู้สึกตื่นเต้นเพราะก็เคยไปนั่งเล่น นั่งทำรายงานด้วยกันที่ห้อง ทว่าตอนนั้นมันไม่ใช่สถานนะนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพียงแค่สถานะเปลี่ยนไป การไปที่ห้องสองต่อสองก็กลายเป็นอีกอารมณ์หนึ่งอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะโอมหรือเตอร์ต่างก็คิดไปต่างๆ นาๆ ไม่รู้จะว่าจะวางตัวยังไงดี มันรู้สึกเกร็ง ตื่นเต้น มือเย็นไปหมด ขนาดที่ว่าจับมือกันอยู่ยังรับรู้ได้ถึงอุณภูมิที่ลดต่ำของอีกฝ่าย

ก่อนขึ้นห้องโอมเสนอให้ซื้อมื้อเย็นขึ้นไปกิน ซึ่งเตอร์ก็เห็นด้วยเลยแวะเซเว่นใต้คอนโด หาอาหารเวฟง่ายๆ สองสามอย่างบวกของทานเล่นเช่นขนม น้ำอัดลม ทั้งที่ตอนแรกก็ว่าจะไม่ซื้ออะไรเยอะแยะ แต่พอหยิบไปหยิบมาของก็เต็มตะกร้าได้อย่างไรก็ไม่รู้ แถมส่วนใหญ่ยังเป็นขนมของเตอร์เสียด้วย

“เราจะแรงก์ก่อนหรือว่าทำก่อนแล้วสตรีมแรงก์ไปเลยดีล่ะ...” มาถึงห้องโอมก็ถามน้องเตอร์ที่ช่วยปิดประตูห้องให้

“ทำก่อนมั้ย จะได้สตรีมแรงก์ของเรา” หูย...แรงก์ของเรา ได้ยินอะไรแบบนี้แล้วชื่นใจจริงๆ เลย

“ก็ดีครับ” โอมคนนี้เห็นด้วยกับน้องเตอร์ทุกอย่างอะคร้าบ

คุงโอมเดินไปเปิดแล็ปท็อปเครื่องเก่งของตนที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน เขาลากเก้าอี้อีกตัวมาวางข้างๆ เกากี้ที่เขาใช้ประจำเพื่อให้เตอร์นั่งข้างกันกับเขาได้ ระหว่างนั้นน้องเตอร์ที่แสนน่ารักน่าชังก็แกะขนมกิน เคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มนี่ยุ้ยออกมาได้น่าบีบน่าขย้ำสุดๆ

“แก้มจะพองไปไหนหนูเตอร์” คุงโอมทนไม่ไหวแล้วคร้าบ เดินไปหยิกแก้มคุณแฟนหนึ่งทีด้วยความรัก

“งื้อออ น้องเตอร์เจ็บนะ คุงโอมอะมือหนัก แก้มน้องช้ำหมดแล้ว” น้องเตอร์ลูบแก้มตัวเองเบาๆ จะว่าทำแรงไปไหมก็ไม่น่า แล้วถ้าแก้มมันจะแดงเพราะคุงโอมทำแรงไปก็น่าจะแดงแค่ข้างเดียว ไหงมันแดงสองข้างได้

อ๋อ...หนูเตอร์เขินนี่เอง!



-TBC-

กลับมาแล้วค่ะ เหนื่อยกันไหมคะ?

ช่วงนี้ไรท์จะอัพโอมกินเตอร์วันพฤหัสกับศุกร์น้า

รอติดตามกันได้เลยค่ะ!




ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 15 / 100% [14/05/2021]
«ตอบ #39 เมื่อ14-05-2021 19:42:08 »

ตอนที่ 15 [100%]



เขินไรหว่า ปกติเขาก็แกล้งน้องเตอร์แบบนี้บ่อยๆ นี่ แล้วปกติก็ไม่เขินจนหน้าแดงแบบนี้แต่แกล้งกลับเสียมากกว่า คุงโอมคนกากแอบงงๆ กับหนูเตอร์ของเขานิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร แล็ปท๊อปราคาแพงเปิดเสร็จสมบูรณ์ น้องเตอร์ตรงเข้าไปนั่งประจำที่เพื่อลงโปรแกรมสำหรับสตรีมเกม ส่วนคุงโอมนั้นก็นั่งข้างๆ น้องเตอร์ เฝ้าดูหน้าจอและหน้าแฟนเด็กไปพร้อมกัน

ตอนแรกคุงโอมกะจะนั่งดูน้องเตอร์ทำไปเรื่อยๆ โดยคิดว่าตัวเองน่าจะไม่ต้องทำอะไร แต่ที่ไหนได้ พอน้องเตอร์โหลดโปรแกรมเสร็จแล้วก็สลับตำแหน่งให้คุงโอมมานั่งหน้าคอม คุงโอมถึงกับเอ๋อเหรอหราไปชั่วครู่ ด้วยไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อ เขาหันไปมองหน้าเตอร์ เจอรอยยิ้มขำๆ ของทางฝ่ายนั้นก่อนที่เตอร์จะบอกให้คุณโอมจัดการกับโปรแกรม

น้องเตอร์สอนคุงโอมให้ทำโปรแกรมสตรีมเป็น ไล่สอนทีละขั้นตอนอย่างช้าๆ ง่ายๆ ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรสำหรับคุงโอมนัก การเล่นเกมให้เก่งยังยากเสียกว่า ผ่านไปราวๆ หนึ่งชั่วโมงทุกอย่างก็พร้อมสำหรับการสตรีม มีต้องพ่วงสายจากมือถือเข้าคอมพ์นิดหน่อยไม่ยากอะไร

“ตั้งชื่อสตรีมว่าอะไรดีล่ะ” คุงโอมหันไปถามความคิดเห็น

“อืม...นั่นสิ เป็นสตรีมเมอร์มือใหม่ดีมั้ยคุงโอม แบบ...สตรีมเมอร์มือใหม่ By HRxCookkie”

“ดีๆ แต่ต้องเติมชื่อน้องเตอร์ด้วย เป็น สตรีมเมอร์มือใหม่ By HRxCookkie & HRxTher เป็นไง ชื่อดีเนอะ”

“โอเคฮะ เอาตามนี้ก็ได้” พอตกลงเรื่องชื่อสตรีมเสร็จ คุงโอมก็รีบพิมพ์ชื่อสตรีม พร้อมๆ กับที่เข้าเกม

“เรียบร้อยเปิดสตรีมแล้ว แล้ว...ต้องทำไงต่ออะ” โอมหันไปถามหาความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญอย่างน้องเตอร์

“แป็บนะพี่ เดี๋ยวน้องเตอร์แชร์สตรีมก่อน อ่อใช่ น้องเตอร์ตั้งค่าให้สตรีมแจ้งเตือนในดิสคอร์ดด้วยแหละ ดูสิ ขึ้นหน้าดิสคอร์ดเลยว่าเพจเรามีการสตรีมเกม” น้องเตอร์เอามือถือมาให้ดู มีน้องๆ ในดิสหลายคนให้ความสนใจสตรีมเป็นอย่างมาก

เมื่อหันกลับมาที่หน้าจอแล็ปท็อปก็เห็นว่ามีคนเข้ามาคอมเมนต์ทักทายในสตรีมกันมากมายหลายคน โอมชี้ให้เตอร์ดูแล้วเตอร์ก็เป็นฝ่ายส่งเสียงทักทายคนที่เข้ามาดูสตรีม แถมยังสะกิดโอมยิกๆ ให้ทักทายคนดูด้วย

“เอ่อ....สวัสดีคร้าบ สวัสดีคนที่เข้ามาดูสตรีมด้วยนะครับหืม...พี่เสียงหล่อจัง ฮ่าๆ ขอบคุณคร้าบ เสียงพี่นี่หล่อมาตั้งแต่เกิดเลยครับ” คุงโอมทักทาย อ่านสตรีมแล้วก็ตอบกลับอย่างเป็นกันเอง

“ระวังนะครับ คนนี้ชอบเอาเสียงไปหลอกล่อสาว” เตอร์ส่งเสียงแหย่

“บ้า พี่เอาเสียงพี่ล่อเตอร์เท่านั้นแหละ”

“คุงโอม!” เตอร์ตีแขนคุงโอมเข้าให้

“โอ้ยเจ็บ ทำไมต้องตีพี่ด้วยอะ พี่ทำไรให้เนี่ย แค่พูดความจริงเอง”

“สตรีมอยู่นะพี่”

“เออ...วะ แฮ่ๆ ไม่มีไรครับทุกคน ไม่มีใครโดนตีทั้งนั้นเลยครับ ไม่มีจริงๆ นะครับ ไม่เชื่อกันเลยเหรอครับ” เพราะคอมเมนต์มีแต่คนไม่เชื่อ คุงโอมเลยได้แต่ทำหน้าตาอ้อนวอนน้องเตอร์ไม่ให้งอน แล้วก็โดนน้องเตอร์งับเข้าที่ไหล่อีกที

“เล่นเกมได้แล้วพี่”

“คร้าบๆ เอ๋...พี่กับเตอร์เป็นอะไรกันงั้นเหรอ” โอมอ่านคอมเมนต์แล้วมองหน้าเตอร์

“อะไรเล่า”

“เราเป็นอะไรกันอะ”

“เป็นเพื่อนมั้งคุงโอม”

“ฮะ เพื่อนเหรอ...”

“อ่า...เป็น....” น้องเตอร์สบตาโอมแต่ก็อึกอัก นี่มันหน้าสตรีมนะ จะให้พูดมันก็เขินไหม

“เป็นความลับครับคุณผู้ชม อิอิ มาดูเกมดีกว่า...” คุงโอมกดชวนเตอร์เข้าห้อง แล้วก็เริ่มแรงก์ในเวลาหนึ่งทุ่ม

สตรีมของโอมได้รับการแชร์ไปตามเฟซและกลุ่มต่างๆ รวมถึงเหล่าแอดมินของเกมเมอร์แลนด์อย่างก๊วนเพื่อนๆ ที่สนิทก็ยังแชร์ไปหน้าเฟซ ทำให้เพื่อนในมหาลัยคนอื่นๆ ได้เห็น บ้างก็แชร์เพราะเพิ่งเคยเห็นโอมสตรีมเกม บ้างก็แชร์เพราะข่าวลือเมื่อไม่กี่วันก่อน

เผลอแป็บเกียวคนที่มามุงดูสตรีมไก่ๆ ของคุงโอมก็เหยียบหลักร้อยคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งโอมก็สะกิดให้เตอร์ดู ทั้งคู่กล่าวทักทายคนที่เข้ามาชมใหม่ ตอบคอมเมนต์บ้างประปรายเพราะว่าเวลาที่เกิมเริ่มทั้งคู่จะไม่สามารถตอบได้ ต้องตั้งใจเล่นให้ดีไม่งั้นแรงก์ร่วงกราวแน่นอน

“พี่โอมกับน้องเตอร์มีซัมติงกันหรือเปล่าคะ ทำไมพี่โอมเสียงหล่อขนาดนี้ พี่เตอร์งุ้งงิ้งน่าร้าก...อยากจิ้นคู่นี้ จะพายเรือนี้ โห...พายเรือนี้เลยเหรอครับ พี่ว่าไม่ต้องแล้วนะ เรือพี่ติดเทอร์โบ ฮ่าๆ” โอมไล่อ่านคอมเมนต์ก่อนจะตอบคอมเมนต์หนึ่ง

“อย่าไปเชื่อคุงโอมเขานะครับทุกคน เรือของคุงโอมเป็นเรืออัปปาง”

“ไม่จริง เรือพี่ติดเทอร์โบ ไม่เชื่อไหนใครเชียร์ให้โอมกินเตอร์กด 99 สาธุ มาครับ ฮ่าๆๆๆ” สิ้นเสียงของโอม คำว่า 99สาธุ ก็มาเต็มหน้าสตรีม อีกทั้งอิโมจิรูปหัวใจ

“เห็นมั้ย เรือพี่ติดเทอร์โบนะหนูเตอร์” เจ้าของชื่อหนูเตอร์หน้าแดงหน่อยๆ แต่ก็ไม่วายเชิดทำเป็นไม่ยอมรับความจริง

“ใครคิดลงเรือเตอร์กินโอมพิมพ์เลขหนึ่งมาครับ” น้องเตอร์เอาบ้าง ไม่ยอมหรอกของแบบนี้

“ไม่ๆ น้องเตอร์ต้องโดนพี่โอมกิน เรือโอมกินเตอร์จงเจริญ #โอมกินเตอร์ หนูเตอร์ดูสิ มีแต่คนเชียร์ให้พี่กินเรานะ ไม่มีใครเชียร์ให้เรากินพี่เลยอะ ทำไงดีน้า...”

“ไม่ให้กินหรอก”

“จริงเหรอครับ” คุงโอมทำหน้าอ้อนใส่เตอร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ทั้งที่คอมเมนต์ให้ความสนใจเสียงอ้อนของคุงโอมมากก็ตามที

“จริงครับ”

“ไม่ให้พี่กินหนูเตอร์คนนี้จริงๆ อะเหรอ...” ยัง คุงโอมยังไม่วายทำเสียงอ้อน ยื่นหน้าเข้าไปจ้องตาใกล้ๆ อีกด้วย

“พอเลยคุงโอม ไม่ต้องยื่นหน้ามาใกล้เตอร์เลย” น้องเตอร์รู้มั้ย ว่าการที่น้องทำแบบนี้ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่หวีดกันไปหมดเพราะมันทำให้ทุกคนรู้ว่าตอนนี้ทั้งคู่กำลังเอาหน้าใกล้กัน

“ให้กินก่อนสิ”

“ไม่ให้ ออกไปเลย”

“แงงงงง ทุกคน หนูเตอร์ไม่ยอมให้เค้ากินอะ” โอมส่งเสียงอ้อนไปทางสตรีม หวังว่าแม่ยกทั้งหลายจะให้กำลังใจ ซึ่งก็ได้รับกำลังใจอย่างล้นหลาม แต่อีกด้านก็มีคนออกมาปกป้องน้องเตอร์ ห้ามคุงโอมใจร้ายกับน้องเด็ดขาดไม่งั้นจะจับตีเลย

ทั้งคู่เล่นเกมไปหยอกกันไป ทำเอาผู้ชมหวีดกันถ้วนหน้า นี่สาวๆ ในมหาลัยต่างก็กระจ่างในสิ่งที่เห็นกันเมื่อไม่กี่วันก่อนแล้ว การที่โอมจูงมือกับเตอร์เดินในมหาลัยนั้นเป็นเพราะซัมติงแน่นอนร้อยเปอร์เซ็น แต่ก็ไม่มีใครโจมตีทั้งคู่ กลับมองว่าน่ารักเพราะเสียงที่หยอกกันในเกมมันน่าเอ็นดูไปหมด

พอหมดแรงก์แล้วโอมกับเตอร์ก็รับคนในสตรีมมาเล่นสร้างห้องด้วยกันต่ออีกร่วมสองชั่วโมง ความสนุกสนานที่ได้เล่นกับคนที่ตัวเองรักและคนดูในสตรีมนั้นทำให้หลงลืมเรื่องเวลาไปได้อย่างน่าตกใจ กว่าจะมาคิดได้ว่าควรพักก็ตอนที่ท้องของคุงโอมร้องจ้อกๆ ออกมาเสียงดัง เล่นเอาน้องเตอร์ขำลั่นห้องเพราะว่ามันประท้วงดังมาก

“น้องเตอร์ว่าวันนี้เราพอแค่นี้เถอะ ให้คุงโอมไปทานข้าวก่อนนะครับ”

“ทานข้าวหรือทานน้องเตอร์คร้า ฮ่าๆ ดูคอมเมนต์ดิ เขาเชียร์ใหญ่เลย” โอมทำหน้าทะเล้นใส่เตอร์

“ไม่ต้องเลยพี่อะ น้องเตอร์ไม่ให้กินหรอก ไปกินข้าวนู้นเลยครับ”

“ฮ่าๆ โอเคๆ หนูเตอร์ไม่ให้คุงโอมคนนี้กิน คุงโอมก็ต้องยินยอมหนูเตอร์ไปนะครับ ยังไงไว้ว่างๆ คุงโอมจะลากหนูเตอร์มาสตรีมด้วยใหม่ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับชมแล้วก็อยู่พูดคุยกับเราทั้งสองคนนะครับ วันนี้ขอบคุณมากๆ ขอตัวไปกินเตอร์ เอ้ย...กินข้าวก่อนนะครับ ไว้เจอกันใหม่ จุ้บๆ”

“คุงโอม! จุ้บเตอร์ไมเนี่ยยยยย” แล้วเสียงนั้นก็เป็นเสียงปิดสตรีม พร้อมกับที่คนหลังกล้องได้แต่นั่งหน้าแดงก่ำอยู่ข้างกายกำยำ

ก็...แอบจุ้บแก้มน้องเตอร์จริงๆ ไปอะจิ แฮ่ๆ

“พี่ให้จุ้บคืน” คุงโอมไม่ว่าเปล่า เอาแก้มยื่นให้น้องเตอร์อีก

“ไม่จุ้บเป็นการเอาคืนน่าจะดีกว่าครับ” น้องเตอร์วางมือถือลงแล้วเอาสองมือกุมแก้มแดงๆ ของตัวเองเพื่อหลบ

น่าร้ากกกกกกกก หนูเตอร์น่าร้ากที่สุดเลย

โอมได้ยิ้มขำกับตัวเอง ในขณะที่เตอร์ลุกไปยังถุงเซเว่นที่ซื้อของมากิน จริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะจุ้บแก้มน้องหรอก แต่แบบ...ไหนๆ โอกาสก็มาแล้ว ขอฉวยโอกาสหน่อยไม่เป็นไรมั้งครับ แค่จุ้บแก้มแฟนตัวเองเองเท่านั้นอ่า

“เคืองเหรอ...” โอมลองถาม หน้าแดงแบบนั้นไม่เคืองเขาหรอก แต่ก็อยากรู้ว่าน้องรู้สึกยังไง

“เปล่าครับ”

“แล้ว...”

“เขินครับ” คร้าบบบบ น้องเขินอะคร้าบบบบ ฮิ้ว ใจคุงโอมนี่พองโตคับอกไปหมดแล้วคร้าบ

“มาทำให้พี่เขินคืนสิ”

“ไม่เอาไง คุงโอมอ่า...คุงโอมจะทำให้น้องเตอร์ใจสั่นแบบนี้ตลอดไม่ได้นะครับ เดี๋ยวน้องเตอร์หัวใจวายตายไม่มีใครอยู่แบกคุงโอมนะ”

“ยิ่งพูดแบบนี้ยิ่งน่าทำต่อนะครับ” สีหน้าโอมจริงจังมาก ก็ดูหน้าหนูเตอร์สิ หนูหน้างอนแบบเขินๆ นั้นสิ...โอ้ยใจ อยากกินเตอร์คร้าบ อยากกินเตอร์ที่สุดในสามโลกเลยคร้าบ

“หนีกลับบ้านนะครับ”

“ง่า...ไม่ทำแล้วคร้าบ ยอมแล้วคร้าบ” โอมเดินหน้าหงอที่ปนรอยยิ้มขำเข้าไปนั่งข้างๆ เตอร์ก็ไม่ได้ขยับหนี แต่ทำเป็นเอาอาหารมาให้คุงโอมแทนเพื่อเลี่ยงอาการเขินของตนเอง



- TBC -



มาอัพตามสัญญาแล้วค่าาา ช่วงนี้ปวดคอมากเลยค่ะ

แต่ก็พยายามที่จะพักผ่อนอย่างเต็มที่เลยนะคะ!






CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 15 / 100% [14/05/2021]
« ตอบ #39 เมื่อ: 14-05-2021 19:42:08 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 16 / 100% [25/05/2021]
«ตอบ #40 เมื่อ25-05-2021 18:28:14 »

ตอนที่ 16 คืนที่มีเราแค่สองคน...?

หน้าแชตดิสคอร์ด
HRxMos
วันนี้ครับ

HRxJack
ทำไมครับ

HRxMos
มีอยู่คู่หนึ่ง

HRxJack
ยังไงครับ

HRxMos
เขาสวีทกันหน้าสตรีมครับ!

HRxJack
จริงเหรอครับ!!!!

HRxMos
ใช่แล้วครับ!!!

HRxJack
โอ้วววววไม่น่าเชื่อเลยนะครับเนี่ย ทั้งๆ ที่เขาทั้งสองคนก็ยังไม่ได้ประกาศตัวเองเลยใช่มั้ยครับ โอ้วโหวววว นี่มันเรื่องเด่นเรื่องดังประจำวันนี้เลยนะครับเนี่ย!!!

HRxMos
ใช่แล้วครับเพื่อนแจ็ก พวกเขานั้นสวีทวี้ดวิ้วววววกันได้แบบไม่แคร์สาวๆ ที่เข้ามากรี๊ดเสียงของพวกเขาเลยล่ะครับ ผมละเชื่อเลย พี่น้องกันอยู่ดีๆ หวานกันได้อย่างไรอันนี้กระผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับเพื่อนแจ็ก

HRxWTF
พวกมึงเป็นบ้าเหรอ?

HRxJoker
นั่นดิ สมองกระทบกระเทือนเหรอพี่ ปกติคู่นั้นเขาก็สวีทออกสื่อมาตั้งนานแล้วเหอะ แค่ตอนนี้มันยิ่งงงงงงหวานเท่านั้นเอง แปลกตรงไหน พวกพี่ยังไม่ชินกับการไร้ตัวตนตอนพวกเขาอยู่ด้วยกันหรือยังไง

HRxDream
ฮ่าๆ ไอ้โจ๊กพูดตรงใจจริงๆ

HRxJack
พวกกูก็แค่แหย่เล่นมั้ยอะ พวกมึงมาตอกย้ำทำไมวะ

HRxJoker
อยากตอกย้ำคนไม่มีคู่อะครับ

HRxJack
ปากมาก เดี๋ยวโดนจับแดกหรอกไอ้ห่าน

HRxJoker
ก็มาดิครับ คิดว่าผมกลัวพี่มากมั้งพี่แจ็ก ตัวตัวเลยดีกว่ามา มา มาดิมา

HRxJack
มึงรอกูอยู่ห้องนะไอ้สัส

HRxWTF
ปัญญาอ่อน

HRxMos
555555555555555555555555555555555555

“น้องเตอร์ทำอะไรเหรอ” คุงโอมเดินเข้ามานั่งข้างหนูเตอร์บนโซฟาตัวยาว เพราะเห็นน้องเตอร์ของเขากำลังอ่านอะไรสักอย่างในมือถือ แล้วก็หัวเราะคิกๆ คักๆ อยู่คนเดียวได้สักพักหนึ่งแล้ว

“ดูพวกเขาทะเลาะกันน่ะคุงโอม คุงโอมลองอ่านสิ ดูสิๆ” หนูเตอร์เอนกายพิงคุงโอมพร้อมทั้งเอามือถือให้คุงโอมได้อ่านหน้าแชตดิสคอร์ด จากนั้นโอมก็ขำไม่ต่างอะไรกับเตอร์

บนๆ มันก็มีเขินอยู่บ้างอะนะที่เพื่อนมาแซวกันอย่างนั้น แต่มันก็เป็นการแซวที่โต้เถียงอะไรไม่ค่อยได้หรอก มันชัดเจนอยู่แล้ว แถมโดนค่อนขอดเรื่องนี้มาก็นานแล้วด้วย แต่อันหลังๆ นี่แบบ...เขาละอยากเชียร์ให้ผีผลักเจ้าสองตัวแสบนั่นจริงๆ เถียงกันเก่ง กัดกันเก่ง เป็นแฟนกันคงตีกันเก่งอีกด้วยแน่นอนเลยล่ะ

HRxTher
กูขอให้พวกมึงล้มทับกันแล้วได้กัน

โอมเผลอตัวใช้มือถือของเตอร์พิมพ์ประโยคกัดแซะเข้าไปในหน้าดิสคอร์ด ซึ่งคนอ่านก็รับรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เตอร์อย่างแน่นอน เพราะถ้าเตอร์ไม่ได้กำลังถกเถียงกับเพื่อนอยู่เตอร์จะไม่ใช้กูมึงกับใครในดิสคอร์ดก่อน แล้วคนที่กล้ากูมึงด้วยประโยคแรกแบบนี้ก็คงไม่พ้นเพื่อนซี้ของเหล่าแอดมินอย่างโอม

HRxJack
แหม ทำเป็นเอามือถือเตอร์มาพิมพ์ มือถือมึงไม่มีเหรอไงไอ้ห่าโอม

นั่นแหละโอมถึงได้รู้ตัว เขาหันไปขำใส่เตอร์เพราะเผลอไปแล้ว แต่เตอร์ก็ไม่ได้ว่าอะไรทั้งยังให้โอมใช้มือถือของตนตอบโต้พี่แจ็กได้ด้วย โอมก็เลยจัดหนักจัดเต็ม โต้เถียงกับแจ็กจนขี้เกียจจะพิมพ์ ไอ้คนที่ได้กำไรมากสุดคงจะเป็นเตอร์ เพราะเจ้าตัวนั่งอ่านไปขำไปจนน้ำตานี่ไหลเป็นทาง

“สนุกเกินไปแล้วเราอะ” โอมอดไม่ได้ที่จะหันมาหยิกแก้มหนูเตอร์ของเขา

“อะไรอ่า ก็พวกพี่ทะเลาะกันทีไรก็ตลกทุกที กัดกันอ่านสนุกยิ่งกว่าการ์ตูนบางเรื่องอีกนะคุงโอม”

“เรากับเพื่อนก็ใช่ย่อยที่ไหน”

“ไม่เท่าพวกพี่หรอกหน่า” หนูเตอร์ทำหน้าทำตาทะเล้นใส่ ไอ้ปากแดงๆ ที่เด่นหราอยู่ตรงหน้าโอมเนี่ยมันน่า...

โอมลดมือถือลงพร้อมกับที่สายตาจับจ้องไปที่ริมฝีปากของเตอร์ จากที่นั่งขำนั่งหยอกกันกลายเป็นความเงียบงันขึ้นมาเสียอย่างนั้น โอมก็รู้ตัวนะ แต่เขาละสายตาไม่ได้ หนำซ้ำยังรู้สึกว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างที่พาใบหน้าของเขาเข้าใกล้กับริมฝีปากเตอร์

ส่วนหนึ่งในสมองก็บอกให้หนูเตอร์ขยับหนีก่อนที่เขาจะล่วงเกินหนูเตอร์ แต่อีกใจเนี่ยกลับอยากรั้งร่างเตอร์ทั้งร่างเข้าสู่อ้อมแขน แล้วบดปากสีหวานนั้นด้วยปากตัวเอง เอาให้ปากหนูเตอร์ที่น่าหลงใหลนั้นช้ำแดงก่ำไปซะให้รู้แล้วรู้รอด

แต่หนูเตอร์ไม่ได้ถอยออกและโอมก็ไม่ได้ทำอย่างใจคิด ร่างสูงแค่ใช้มือจับท้ายทอยของเตอร์เอาไว้แผ่วเบา พร้อมกับที่ประทับริมฝีปากลงไปบนปากสีสดนั้น ความนุ่มนิ่มแผ่กระจายไปทั่วริมฝีปาก โอมมองหนูเตอร์ที่หลับตารับสัมผัสของเขา ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อทำให้ยิ่งน่ามองเข้าไปใหญ่ โอมอดไม่ได้ที่จะขยับปรับองศาแล้วบดริมฝีปากตัวเองกับปากเตอร์เบาๆ อีกหลายหน

ภวังค์หวานหอมของหนูเตอร์ทำให้คุงโอมที่ตั้งใจจะสัมผัสเบาๆ แล้วถอยออกกลับทำอย่างที่ตั้งใจไม่ได้ คุงโอมค่อยๆ ใช้ลิ้นตัวแตะที่ริมฝีปากเตอร์เบาๆ เพื่ออขออนุญาตเข้าไปในนั้น ซึ่งหนูเตอร์ก็เปิดปากรับเรียวลิ้นของเขาเข้าไปอย่างง่ายดาย

จังหวะนี้คงบอกได้แค่ว่า...ความปรารถนาในร่างกายมันพุ่งขึ้นมาสูงจนยากจะดับจริงๆ

เรียวลิ้นของโอมที่สัมผัสกับของเตอร์ สร้างกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ให้ร่างทั้งคู่ ความหวิวไหวถาโถมเข้ามา พร้อมทั้งชีพจรเต้นระรัว เสียงหัวใจดังกระหึ่มอยู่ในอก พร้อมกับที่เสียงลมหายใจของทั้งสองประสานกันปนเปจนแทบจะแยกเสียงไม่ออก โอมไล่ต้อนลิ้นที่ไม่ประสีประสาของหนูเตอร์ จากแผ่วเบาก็เริ่มหนักหน่วงไปด้วยห้วงอารมณ์ที่พุ่งสูง

เขาควรหยุด...คุงโอมบอกกับตัวเองแบบนั้น เขารู้ว่าถ้าเขาไปต่อมันจะเลยเถิดไปถึงเรื่องที่ดูจะไม่ควรให้มันเกิดขึ้น แต่เขาก็ดึงสติตัวเองไม่ไหวเหมือนกัน มันมีแต่คำว่าขออีกหน่อย ขออีกหน่อยอยู่เหนือคำว่าหยุดไปจบไม่สิ้น

“แฮ่ก...อื้อคุงโอม...อะ...พอ” และเพราะด่ำดิ่งจนลืมตัวรุกไล่เตอร์จนน้องหายใจไม่ทัน แต่นี่แหละที่ดึงสติคุงโอม

เสี้ยววินาทีหนึ่งที่โอมมองใบหน้าแดงก่ำกับดวงตาฉ่ำหวานของหนูเตอร์ เขารู้ได้ในทันทีเลยว่าเขาต้านทานสีหน้าของเตอร์ในตอนนี้ไม่ได้ โอมรีบหลับตาลงแล้วซบกอดเตอร์แทนที่จะสบตาคู่นั้น

คู่ที่จะทำให้กดเตอร์จมโซฟา...

โอมค่อยๆ ผ่อนลมหายใจหอบถี่ของตนเอง ไม่ต่างอะไรกับเตอร์เลยแม้แต่นิด ทั้งคู่นั่งกอดกันเงียบๆ ให้เสียงหายใจและหัวใจกระหึ่มอยู่รอบตัวของทั้งคู่ไปครู่ใหญ่ หลังอารมณ์วาบไหวก็เป็นความเก้อเขินที่ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไรต่อจากนี้

“พี่ขอโทษ...” โอมคิดว่าเขาควรพูดคำนี้ เพราะเขามัน...ไม่พอเอง ถ้าแค่จบที่จูบปากเบาๆ อารมณ์เขาเองก็คงไม่เลยเถิดขนาดนี้

“ไม่เป็นไรครับ หนูแค่หายใจไม่ออก” เตอร์พูดเสียงอ้อมแอ้ม มือทั้งสองก็จิกเสื้อด้านหลังคุงโอมแน่น

“นั่นก็ขอโทษครับ” โอมทำใจกล้า เงยมาสบตากับหนูเตอร์ที่ตอนนี้หน้าก็ยังแดง ไม่ได้ยั่วยวนขนาดนั้นแล้ว

“ตีเลยครับ” ไม่ว่าเปล่า เตอร์ตีไหล่คุงโอมเสียงดังฟังชัด ซึ่งมันเจ็บ แล้วมันก็ไล่อารมณ์ลามกออกจากตัวโอมได้ประมาณหนึ่งเลยทีเดียว

“ตีอีกก็ได้ ยอมให้ลงโทษเยอะๆ เลยครับ” หน้าคุงโอมในตอนนี้สำนึกผิดจริง ก็แบบ...ปล่อยให้อารมณ์มันพาไปซะขนาดนั้น น้องไม่หนีเขาไปก็ดีเท่าไหร่แล้ว

“ไม่เอาอะ เดี๋ยวคุงโอมวกมาฟัดหนูทำไง ไม่เอาหรอก กลับบ้านดีกว่า ดึกแล้วด้วย” น้องเตอร์เบี่ยงหน้าไปทางข้าวของบนพื้นห้อง ที่มีแค่กระเป๋าใส่รายงานกับสายชาจ

“ง่า....กลับเหรอครับ”

“ครับ”

“เคืองก็เลยกลับใช่มั้ยครับ”

“เปล่า...” จะให้พูดได้ไงว่าชอบเหมือนกัน ที่กลับเพราะเขินแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อเท่านั้นเองคร้าบ น้องเตอร์งอแงในใจเบาๆ เงียบๆ ไม่มีใครรู้

“งั้นค้างกับพี่สิ”

“ได้ที่ไหนเล่า หนูไม่ได้เอาเสื้อผ้ามานะ”

“งั้นไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องหนูเตอร์แล้วมานอนนี่”

“นี่คุงโอม ถ้าจะขนาดนั้นหนูนอนห้องไม่ดีกว่าเหรอ ดึกแล้วด้วย” เตอร์ส่ายหน้าขำๆ กับความอ้อนให้ค้างนี่ของคุงโอม

“งั้นก็ใส่ชุดพี่”

“ชุดคุงโอมใหญ่จะตาย” อันนี้โอมไม่เถียง เพราะขนาดตัวต่างกันเยอะทีเดียว เจ้าหนูเตอร์ตัวเล็กแถมยังผอมบางอีก ต่างกับเขาที่ร่างสูงใหญ่เพราะชอบออกกำลังกาย

“ใส่ได้ หลวมๆ ใส่สบายออก นะ...ค้างนี่เถอะ” อ้อนด้วยเสียงไม่พอ จังหวะนี้คว้าเอวเล็กๆ ของหนูเตอร์ไว้ด้วย

เอ่อ...มันยิ่งทำให้ดูไม่น่าไว้ใจหรือเปล่านะ?

“หน้าคุงโอมดูไม่น่าไว้ใจง่า”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ช่าย”

“ง่า...พี่ไม่ทำอะไรจริงๆ ครับ มันดึกแล้ว พี่นอนอีกห้องก็ได้นะถ้าหนูเตอร์ไม่ไว้ใจ” โอมพยายามแสดงออกให้เตอร์รู้ว่าตนเองไม่ได้หวังเรื่องแบบนั้นเลยสักกะตี๊ดดดดเดียว

ก็แอบหวังแหละเอาตรงๆ

หนูเตอร์น่ากินเองไม่ใช่ความผิดเขานะ จริงๆ นะ!

โอมพยายามทำหน้าอ้อนวอนหนูเตอร์ของเขาเองสุดชีวิต มันดึกแล้ว แล้วเขาก็อยากมีเวลาอยู่กับแฟนเยอะๆ เท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าในใจมันจะแอบคิดเรื่องแบบนั้นแต่เอาเข้าจริงเขาก็รู้แหละว่ามันไม่สมควร พวกเขาเพิ่งจะคบกัน จะมารีบเร่งอะไรในเรื่องแบบนั้น อีกอย่างต่อให้ต้องการแต่เตอร์ไม่โอเคเขาก็ไม่ทำหรอก เขาให้เกียรติเตอร์อยู่แล้ว

“ก็ได้คร้าบ ถ้าจะอ้อนขนาดนั้นหนูอยู่ก็ได้ แต่ห้ามทำอะไรหนูนะ” น้องเตอร์ว่าพลางใช้สายตาออกคำสั่ง คุงโอมพยักหน้ารัวๆ ทั้งยังยิ้มกว้างจนน่าหมั่นไส้

“รู้มั้ยว่าเรียกตัวเองว่าหนูเยอะมากเลย” โอมอยากจะพูดเรื่องนี้มาสักพักแล้วตั้งแต่น้องเริ่มพูดคำนี้บ่อย เรียกว่าตั้งแต่เขาจูบน้องนั่นแหละ

“อ่า...ก็ ไม่ชอบเหรอครับ”

“ชอบสิ” ว่าแล้วก็ยิ้มมมมมม แถมยังกอดแน่นอีก

“ฮ่าๆ พอแล้ว หนูตัวจะหักแล้วคุงโอม”

“ก็ได้ งั้นหนูไปอาบน้ำก่อน เอาเสื้อผ้าในตู้พี่ไปใส่ได้เลย ตามสบายงับ”

“โอเค๊” เตอร์พยักหน้ายิ้มๆ พยายามทำสีหน้าเหนือกว่าใส่แต่มันกลับดูเป็นอะไรที่ขำขันกันมากกว่าจะเป็นเรื่องจริงจัง

น้องเตอร์วางกระเป๋าตัวเองให้เป็นที่เป็นทางมากขึ้น จากนั้นเดินเข้าห้องนอนคุงโอมโดยมีเจ้าของห้องเดินตามมา ปากก็บอกให้เอาเสื้อผ้าไปใส่ได้เลยตามสบาย แต่ก็เข้ามาด้วยเพื่อช่วยให้เตอร์หาเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น

โอมเอาเสื้อยืดสีดำกับกางเกงเอวยางยืดสีดำให้น้อง มันก็ไม่เล็กหรอก เพราะร่างโอมใหญ่ ดังนั้นชุดที่น้องจะได้ใส่มันก็จะหลวมเอาเรื่อง แต่ว่าชุดนี้มันมิดชิดแล้วก็ไม่ล่อแหลม สามารถปกป้องน้องได้ในระดับหนึ่ง เพราะเมื่อไม่ล่อแหลเขาก็ไม่มีอารมณ์ เอ๊ะ...หรือก็มีอยู่ดี?

HRxCookkie
ขอวิธีทำให้นอนหลับโดยไม่...หน่อยครับ?

ระหว่างที่รอเตอร์ไปอาบน้ำ โอมนั่งลงบนที่นอนแล้วหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความเล่นในหน้าดิสคอร์ด แม้ว่าตอนนี้เวลาจะล่วงเลยเข้ามาสี่ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว แต่ห้องต่างๆ ในดิสคอร์ดก็ยังคงคึกครื้น แม้กระทั่งหน้าแชตก็ยังมีผู้คนพิมพ์ข้อความคุยกัน แล้วดูข้อความของเขาสิ โดดเด่นเป็นสง่าขึ้นมาในทันที

HRxMos
ไม่อะไรวะ มึงไขข้อข้องใจในจุดจุดจุดของมึงด้วยครับ

HRxJack
เงี่ยยยยยยนเหรอครับ

HRxWTF
สัส คนเยอะ

ทันทีที่วัตส่งข้อความนั้นมา ข้อความล่อแลมของแจ็กก็บินไปอย่างเป็นปริศนา แต่ว่าคนอื่นที่อยู่เฝ้าหน้าดิสคอร์ดก็รู้อยู่ดีว่าแจ็กได้พิมพ์ไปก่อนหน้านี้ ส่วนคุงโอมผู้นี้มันเขี้ยวกับความรู้ดีของแจ็กจริงๆ

“คุงโอมไปอาบน้ำได้แล้วครับ” น้องเตอร์เดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูของโอมเอง เจ้าตัวเช็ดหัวเบาๆ

อ่าห์...การได้เห็นแฟนตัวเองใส่ชุดเรานี่มัน แหม...ฟินจริงๆ เลยนะ!

“คร้าบ” โอมเก็บความฟินนั้นไว้ในใจ แล้วรับผ้าเดินไปยังห้องน้ำบ้าง โดยไม่ลืมที่จะเอาอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปในนั้นด้วยเลย ก็จะให้แต่งตัวในห้องนอนเหมือนตอนอยู่คนเดียวมันก็ไม่ดีใช่มั้ยล่า

จะว่าก็ว่าเถอะนะ คุงโอมคนนี้อาบน้ำแบบปกติในวันนี้ไม่ได้จริงๆ เพราะว่าอารมณ์ของเขานั้นมันคั่งค้างอยู่ในร่าง มันก็ต้องมีการเอาออกบ้าง ยิ่งคิดว่าข้างนอกมีเตอร์อยู่ด้วยหัวใจก็ยิ่งเต้นระรัว ให้ตายเถอะ...ข้ามบรรยายส่วนที่น่าอายนี้ไปแล้วตัดวาบไปที่โอมเดินออกจากห้องน้ำด้วยใบหน้าแดงๆ ดีกว่า

“คุงโอมขอวิธีนอนหลับโดยไม่อะไรเหรอครับ” น้องเตอร์ลดมือถือลงแล้วมองหน้าเขาเพื่อหาคำตอบ

“อ่อคือ...”

“คือ...” เตอร์นั่งจ้องตาแป๋ว ก็ทิ้งท้ายให้สงสัยแล้วก็ต้องคลายความสงสัยสิ ไม่งั้นจะยิ่งสงสัยนะ

“ตื่นเต้นครับ แฮ่ๆ น่าอายมั้ย” โอมเกาท้ายทอยตัวเองเบาๆ ขณะนั่งลงข้างเตอร์บนเตียงนอน

“อ่า...หนูก็ด้วย” นั่นแหละ แค่หนูพูดแบบนี้ก็ว่าแย่แล้ว นี่ยังเอาหน้าเขินๆ มามองอีก โหย...อยากบึ้มตัวเองตายเลยจริงๆ

โอมจัดที่นอนให้เตอร์นอนชิดติดกับหน้าต่างห้อง ส่วนเขานอนริมเตียง มันอาจจะดูแปลกไปเสียหน่อยที่ทั้งคู่นอนข้างกันแต่เล่นมือถือกันคนละเครื่อง ไฟในห้องถูกดับไปแล้ว เวลานี้มีแค่ไฟจากหน้าจอมือถือเท่านั้นที่ให้ความสว่าง ซึ่งมันดีมาก แสงน้อยนี่แหละที่จะกลบซ่อนความประหม่าที่ต่างคนก็ต่างมี

!!!

โอมสะดุ้งขึ้นมาเมื่อเจ้าตัวเล็กข้างๆ ขยับเข้ามานอนใกล้ น้องเตอร์ของเขาทำเนียนเล่นมือถือต่อ ทั้งที่หัวนี่นอนพิงไหล่ของเขาเอาไว้แล้ว โอมหุบยิ้มไม่ลง มันห้ามไม่ได้จริงๆ เมื่อเห็นแฟนตัวเองทำตัวน่ารักขนาดนี้ โอมลองขยับแขนสอดเข้าไปใต้ลำคอเล็ก แล้วเตอร์ก็ขยับนอนหนุนอย่างรู้หน้าที่ แต่ก็นั่นแหละ...ในทุกการกระทำหนูเตอร์ยังเอามือถือบังหน้าตัวเองเอาไว้อยู่

ฟอดดดดด!!!

“อ๊ะ คุงโอม...หนูตกใจนะ” มันอดไม่ได้นี่ น่ามันเขี้ยวเกินไป ใครให้เขินแล้วเอามือถือบังหน้าล่ะ มันน่านัก

“ก็หนูไม่สนใจพี่อะ”

“ใครบอก”

“คนสนใจเขาไม่เอามือถือบังหน้าหรอกนะ” โอมวางมือถือไปแล้วเรียบร้อย วางตั้งแต่หนูเตอร์ขยับเข้ามานอนพิงไหล่นั่นแหละ

“ก็...เขินนิดหนึ่ง” หนูเตอร์วางมือถือลงบ้าง แต่ก็ไม่กล้าเงยหน้ามาสบตาคุงโอม

“ซุกอกพี่ไว้สิ เอาอกพี่บังแทนเผื่อจะเขินน้อยลง” ไม่ว่าเปล่า โอมดึงร่างของเตอร์เข้ามาแนบชิด ใบหน้าหวานก็ซุกเข้าอกกำยำ

“อื้อ เขินเหมือนเดิมเลย ฮ่าๆ” ถึงจะยังเขิน แต่เตอร์ก็ขำออกมาเบาๆ ทำให้คุงโอมขำตามไปด้วย

“จริงๆ เลยเรา”

ทั้งสองหัวเราะเบาๆ แล้วก็แผ่วบางจางหายไป เหลือเพียงเสียงลมหายใจและสองร่างกอดกันในความมืด ความเงียบทำให้ต่างฝ่ายต่างสงบลงได้มาก เหมือนคูลดาวน์อารมณ์ตัวเองจนเหลือเพียงความสุขใจที่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก

“พี่รักหนูเตอร์นะ” โอมบอกผ่านความเงียบงันก่อนจะประทับริมฝีปากตัวเองไปที่หน้าผากนวล

“ครับ หนูก็รักคุงโอม...ฝันดีนะครับ”

“ฝันดีครับหนูเตอร์ของพี่” คำพูดง่ายๆ กับการกอดกันนิ่งๆ นี่ก็เป็นการกล่อมนอนที่วิเศษที่สุดแล้วสำหรับพวกเขาทั้งสองคน...

….100%….

สองคนนี้เขามุ้งมิ้งกันจังเลยค่า น่าร้ากกกกนุ่มนิ่ม
ปล.น้องแอดมินที่อัปเรื่องนี้ให้ไม่สบายก็เลยไม่ได้อัปตามตารางที่น้องเขาแจ้งไว้นะคะ เราต้องขออภัยด้วยค่ะ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 17 / 100% [10/06/2021]
«ตอบ #41 เมื่อ10-06-2021 22:01:41 »

ตอนที่ 17 ผีผลัก! (แจ็กxโจ้ก)

ในค่ำวันหนึ่ง...วันไหนไม่รู้

โจ้กเด็กหนุ่มหน้าตาดีฝีปากกล้า ตัวไม่ใหญ่แต่ใจนักเลงกำลังนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงของตนเอง วันนี้รูมเมทไม่อยู่ บอกเลยว่าห้องโล่งๆ มันคือสวนสวรรค์ของคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับรูมเมทเกือบตลอดยกเว้นตอนเรียน

ตรึ๊งงงง!

[แจ็กๆ รถเป็นไรอะ : มึงว่างปะ] โจ้กอ่านข้อความไลน์ของรุ่นพี่ในกลุ่มที่สนิทกัน รุ่นพี่คนนี้จัดเป็นเสือผู้หญิงที่มักจะแห้วมากกว่าได้กินใคร ไม่ใช่ไม่หล่อ แต่หน้าหม้อคนเลยยี้มากกว่าต้องการ

[โจ้กหมูอร่อยสัส : ว่าง พี่มีไร] โจ้กตอบกลับไปแบบไม่ใช้สมอง และถึงแม้โจ้กจะปากดี ปากจัด กล้าต่อล้อต่อเถียงตลอดตอนที่หยอกเล่นกันในกลุ่ม แต่พอทักมาเป็นการส่วนตัวแบบนี้เขาก็ไม่กล้าแหย่หรอก

[แจ็กๆ รถเป็นไรอะ : มาร้านนั่งชิลล์หน่อยดิ]

[โจ้กหมูอร่อยสัส : ไปทำไรอะพี่]

[แจ็กๆ รถเป็นไรอะ : เออหน่า มาก่อน]

[โจ้กหมูอร่อยสัส : เคๆ เดะรีบไป] ไอ้เพราะความเป็นรุ่นพี่นี่แหละ ที่ทำให้โจ้กตอบตกลงไปอย่างจำยอม โถ สวรรค์ชั้นเจ็ดของโจ้ก

โจ้กลุกไปหยิบเสื้อแขนยาวมาใส่ก่อนจะสวมกางเกงสามส่วนทับกับบ็อกเซอร์สีน้ำตาลของตนเอง จากนั้นสวมแตะแล้วเดินเตาะแตะไปยังร้านที่ว่า ร้านนั่งชิลล์นี้เป็นร้านเหล้าสำหรับนักศึกษาสายชิลล์ มักเปิดเพลงที่มีแต่ดนตรีคลอไปกับบรรยากาศสลัวๆ แถมยังเป็นร้านเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ แต่ไอ้ความคนน้อยนี่แหละกลุ่มของรุ่นพี่ถึงชอบมา ที่สำคัญ...มันอยู่ใกล้หอของเหล่านักศึกษามากกกกกก

เดินประมาณสิบนาทีก็มาถึงร้านที่ว่า มันตั้งเข้าไปในซอยที่มีแต่ร้านเหล้าเรียงรายกันอยู่ ร้านนี้อยู่ต้นซอย มีชั้นสอง แล้วไอ้รุ่นพี่คนดีนี่ก็นั่งหัวโด่อยู่ชั้นสองของร้าน ริมระเบียง ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สงสัยบนนั้นมันจะมีสาวๆ นั่งอยู่ละสิท่า

“เรียกผมมาไม” โจ้กนั่งลงตรงข้ามกับแจ็ก ซึ่งแจ็กก็หาได้มองหน้าโจ้กไม่ มองแต่สาวโต๊ะข้างหลัง โจ้กหันไปมองตาม ก็น่ารัก แต่แล้วไง...เรียกเขามาไมเนี่ย

“เรียกมานั่งดื่ม”

“ดื่มเชี่ยไรพี่ ผมไม่กิน ผมไม่ชอบ ไม่อร่อย รสชาติแย่แดกนมปั่นดีกว่าเยอะ” โจ้กได้ทีบ่นยาว

“แหม ได้ทีบ่นใหญ่นะมึง แล้วที่กูกินมันก็เป็นเบียร์ มันไม่ขมดิแปลก มึงก็สั่งอย่างอื่นมาสิวะ ของในร้านเยอะแยะ”

“เปลือง”

“กูเลี้ยง กูสั่งให้ด้วย น้องๆ พี่ขอเมนูหน่อย”

“เฮ้ย เดี๋ยวดิพี่”

“อย่าเยอะ กินกับกูเนี่ยแหละ ไอ้มอสแม่งไม่ว่างส่วนวัตเพิ่งโดนไอ้โอมเรียกเก็บงาน แม่งเลยต้องนั่งปั่นงาน จะว่าไป...เพื่อนกูนี่ก็งงๆ เนอะ วัตแม่งดูเรียนเก่งกว่าโอม ดูเนิร์ดกว่ามาก แต่เสือกเรียนเด๋อ เออ...ให้มันได้อย่างนี้” แจ็กบ่นไปสั่งเมนูให้รุ่นน้องไป แถมยังไปสั่งไอ้เมนูที่ดูน่ารักน่ากินแต่ดีกรีแรงซะด้วย

“พี่ก็ด้วยเหอะ ท่าทางก็ไม่น่าทำงานเสร็จก่อนพี่วัต”

“ไรวะ กูติดสาวแต่ก็เอาการเอางานนะมึง เนี่ยถ้างานเสร็จกูก็จะออกมาลั้นลาได้”

“มีจุดประสงค์แอบแฝงแบบนี้นี่เอง เกือบดีแล้วพี่” โจ้กเอามือถือวางลงบนโต๊ะ จากนั้นนั่งเท้าคางมองหน้ารุ่นพี่

หน้าตาก็ดี...โจ้กคิดพลางสำรวจใบหน้ารุ่นพี่ แจ็กจัดเป็นหนุ่มที่รูปร่างดี ติดผอมไปหน่อยด้วยนิดหนึ่ง แต่ก็หล่อ ตัดผมตามสมัยนิยมผิวค่อนข้างขาวทำให้เขาโดดเด่น นิสัยก็ขี้เล่น ชอบเย้าชอบหยอกแต่ไม่ยักจะเห็นลงเอยกับใครเลย

“มองหน้ากูมีไรวะ” แจ็กดื่มเบียร์ไปอึกใหญ่แล้วก็ส่งสายตาสงสัยไปยังโจ้ก

“ผมเคยสงสัยนะว่าหล่อๆ แบบพี่โอมทำไมไม่มีแฟน ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าพี่โอมแอบชอบไอ้เตอร์มันก็เลยครองโสด แล้วพี่ล่ะ...หน้าตาก็ดีทำไมไม่มีเป็นตัวเป็นตนวะ” เหล้าในถังน้ำขนาดกลางถูกนำมาวาง น้ำสีฟ้าโรยด้วยพวกเยลลี่มากมาย โจ้กมองมันอึ้งๆ คือไม่เคยกิน

“มีแฟนเป็นตัวตนก็ต้องหยุดที่คนเดียว แต่ถ้าไม่มีก็ได้เรื่อยได้หลายคน มึงว่าอย่างหลังมันไม่ดีกว่าเหรอวะ” แจ็กมองหน้าเอือมละอาของโจ้ก ทั้งที่ปากสีชมพูอ่อนนั้นกำลังคาบหลอดสีฟ้าใส

“อึ้ก พี่แม่ง...มีความคิดที่เชี่ยจริง” โจ้กกลืนเหล้าลงแล้วกัดรุ่นพี่ซ้า เออ...แต่เหล้านี้อร่อย เหมือนกินน้ำอัดลมมากกว่า ทำไมตอนมาดื่มรุ่นพี่ไม่สั่งอะไรแบบนี้ สั่งแต่เหล้าไม่ก็เบียร์ พวกรุ่นน้องกินได้กระจึ้ง ไม่งั้นก็กินเหล้าผสมโค้ก

“ฮ่าๆ มึงมันยังใสซื่อ”

“แก่กว่าผมปีเดียวอย่าพูดเหมือนตัวเองกร้านโลกเลยวะพี่ มันดูไม่น่าเชื่อถือ”

“แต่มึงยังใสซื่อจริงหนิ ถามจริง เสียซิงยัง” แจ็กเท้าคางมองหน้าโจ้กจริง แต่ดวงตานี่กำลังแกล้งคนตัวเล็กชัดๆ

“ยังอะ ต้องรีบเหรอ ผมแค่สิบเก้าเองนา”

“ไม่มีเด็กสิบเก้าที่ไหนเขายังซิงแล้วไอ้ห่า” พูดไปแจ็กก็ดื่มไป เผลอแป็บเดียวก็ต้องเปิดขวดใหม่แล้ว

“แล้วพี่อะ เสียซิงตอนอายุเท่าไหร่” อะ เมื่อพี่ดื่มน้องดื่มด้วย ดูดอึกๆ เลยนี่แหละ อร่อยดี

“กูอ่อ...สิบสี่มั้ง น่าจะ เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ โคตรดีอะมึง มึงเคยแค่มือตัวเองไม่มีทางเข้าใจหรอก แต่กูเชื่อว่าถ้ามึงได้ลองละก็...หึหึ ติดใจเหมือนกูอะ” หน้าพี่แม่งอย่างฟิน

“หาแฟนก่อนค่อยลองละกัน” โจ้กไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน เพราะเคยคบแต่แฟนในโลกออนไลน์ ไม่เคยคบคนจริงๆ แบบใกล้ชิดกัน

“ไม่ใช่แฟนก็ได้ กูหาให้เอาไหม”

“โนววววว ไม่ต้องเลยพี่”

“ฮ่าๆ เด็กหนอเด็ก แล้วทำไมมึงไม่มีแฟนอะ”

“ผมอ่อ ก็มีนะ คนในเกมอะไรเงี้ย แต่ก็...คบไปคบมาก็เลิกกันอยู่ดี ไม่รู้ทำไม แต่มันต้องทะเลาะกันทุกที อย่างคนเก่าผมเงี้ยคบไปคบมาก็เริ่มห่าง พอผมถามว่าหายไปไหนบ่อยๆ ทำไมไม่เหมือนเดิมเธอก็ว่าผมน่ารำคาญ ถามเยอะ อะไรก็ไม่รู้ ผมนี่งงเลย แล้ววันสองวันก็มาบอกเลิก เอาจริงผมไม่เศร้าหรอก มันโหวงๆ เหมือนกิจวัตบางอย่างมันหายไป แต่ไม่นานก็หายอะ ยิ่งเจอคนคุยใหม่ก็ยิ่งมูฟออนได้ไว”

“มึงก็มีความสัมพันธ์ที่ฉาบฉวยไม่ต่างอะไรกับกูหรอก แค่คนละรูปแบบเท่านั้นเอง”

“ไม่ ผมก็รัก ผมก็มีแฟนคนเดียวนะพี่ ไม่ได้เจ้าชู้หรือไปคิดทิ้งเธอเสียหน่อย เธอต่างหากที่ทิ้งผมเอง” โจ๊กคิดว่ามันต่างกับแจ็กเยอะ แจ็กอะสายฟันไปเรื่อย แต่เขาน่ะคบนะแค่โดนทิ้งเร็วเท่านั้นเอง

“แล้วไม่คิดเบื่อกับความสัมพันธ์แบบนั้นบ้างหรือไงวะ”

“ไม่นะ ผมคิดว่าสักวันก็เจอคนที่เป็นของเราเองแหละ”

“เหยดดดด โลกสวยจริงๆ” พูดจบแจ็กก็ดื่มเบียร์ในแก้วจนหมดแล้วเติมใหม่ โจ๊กมองการกระทำอีกฝ่ายโดยที่ดูดเหล้าในถังเช่นกัน

แต่พี่แจ็กก็คือพี่แจ็ก นั่งดื่มอยู่กับโจ๊กไปได้ไม่ถึงชั่วโมงก็ถือแก้วเดินไปยังโต๊ะที่มีสาวๆ มานั่ง รู้สึกจะส่งสายตาให้กันมาพักใหญ่แล้ว มีเหรอว่ารุ่นพี่สายม่ออย่างแจ็กจะปล่อยให้รอดพ้นเงื้อมือไปได้ โจ๊กหันไปมองเล็กน้อยก่อนจะหันมาสนใจถังเหล้าของตัวเองที่พี่แจ็กสั่งมาเติมให้

แล้วเรียกรุ่นน้องมาทั้งที กลับไปนั่งม่อสาว เรียกเขามาเพื่อ โจ๊ะส่งข้อความไปยังแชตกลุ่มก่อนจะบ่นยับๆ ตามสไตล์เจ้าตัว ซึ่งเพื่อนตัวดีทั้งสองก็พร้อมใจกันหัวเราะเยาะเขา ไม่สิ ต้องบอกว่าแค่เตอร์ แต่ดรีมน่ะหัวเราะสักแป็บก็ถามว่าเขาต้องการเพื่อนไปนั่งด้วยไหม โจ๊กเกรงใจเลยปฏิเสธไป โดยระหว่างที่พิมพ์คุยกับเพื่อนๆ อยู่นั้นโจ๊กคาบหลอดเหล้าเอาไว้แทบตลอด

เสียงหัวเราะของพี่แจ็กดังแว่วเข้ามา มันใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนโจ๊กต้องหันไปมอง แล้วก็พบว่ารุ่นพี่เขาเดินกลับมาที่โต๊ะด้วยรอยยิ้มกว้างเต็มใบหน้า มือถืออยู่ในมือพี่แจ็กแถมค้างไว้ที่หน้าจอไลน์ น่าจะได้ไลน์กันแล้วถึเดินกลับบมาที่โต๊ะ

“นึกว่าเรียกมาทิ้ง ผมจะหนีกลับอยู่แล้ว รุ่นพี่อะไรเรียกน้องมาแล้วก็ทิ้งไปม่อสาว”

“ได้ทีก็บ่นเป็นเมียกูเลยไอ้ห่าน” แจ็กว่าขำๆ ไม่จริงจังอะไร แก้วเบียร์อันว่างเปล่าถูกเติมจนเต็มก่อนจะถูกกระดกไปครึ่งหนึ่ง

“ก็มันน่าบ่นไหมพี่ ผมก็เหงาเป็นเว้ย ถ้าเอามาแล้วทิ้งไปม่อสาวงี้คอลดิสเอาเถอะ อย่าเรียกมาให้เสียเวลาอยู่ในสวนสรรค์ของผมเลย”

“สวรรค์ห่าไรวะ?” แจ็กถึงกับคิ้วขมวด

“ห้องนอนที่ไม่มีรูมเมทไง สวรรค์ของผม”

“เหรอ กูได้ยินแล้วกูนึกว่าไรรู้ปะ”

“อะไรอะ?”

“ก็นึกว่าสวรรค์ของมึงคือการนอนเว่าตอนที่รูมเมทไม่อยู่” แจ็กเล่นพูดจี้ใจเข้าอย่างจัง โจ๊กนี่ถึงกับหน้าขึ้นสีแดงจัดในทันที

“บะ...บ้าอ่อพี่” อะ ดูดเหล้าแก้เขินแป็บ

“ฮ่าๆๆๆ นี่สวรรค์มึงคืออย่างนั้นจริงดิ เชี่ยอย่างเอาวะ”

“เปล่าสักหน่อย”

“หน้ามึงฟ้องหมดแล้ว จะมาแก้ตัวอะไรก็หัดดูหน้าแดงๆ ของมึงมั้งไอ้หนู” พอแจ็กบอกแบบนั้นโจ๊กก็เผลอจับแก้มร้อนๆ ทั้งสองข้างของตัวเอง

“แดงเพราะเหล้าเหอะ!” เรื่องไรจะยอมรับว่าเขาเขินขึ้นมาจริงล่ะ มันไม่ได้ มันน่าอายเกินไป

“รู้ดีอยู่แก่ใจวะเรื่องแบบนี้ เนอะ”

“รู้ว่าพี่อะมั่ว”

“เอ้าไอ้นี่ ปากดีจริงๆ เลยนะ ทำก็แค่ยอมรับมันจะแถเอาโล่หรือไงวะ มันก็แค่เรื่องธรรมดา ผู้ชายทุกคนเขาก็ทำกัน อายเป็นผู้หญิงเลยห่าน” แจ็กส่ายหน้าระอากับรุ่นน้องที่ดูจะใสเกินบรรยาย ใสประหนึ่งว่าตัวเองเป็นสาวน้อยแรกแย้มทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่

โจ๊กบ่นรุ่นพี่ตัวดีอุบอิบคนเดียว พอโดนจ้องมองเพื่อจับผิดก็รับหันหน้าหนีไปทางด้านนอก ปากที่บ่นก็เปลี่ยนเป็นงับหลอดมาดูดเหล้าแทน แต่แจ็กยิ่งจ้องเข้าไปใหญ่ โจ๊กผู้ทำอะไรไม่ถูกแล้วดื่มเหล้าอึกใหญ่ต่อเนื่องพร้อมกับเอามือถือมากดเล่น

โจ๊กไม่รู้เลยว่าท่าทาหล่กๆ ของตนเองนั้นทำให้แจ็กยิ้มไม่หุบ เด็กอะไร...เวลาเขินน่ารักชิบหาย!

แจ็กนั่งมองโจ๊กจนพอใจ จากนั้นเขาก็เริ่มบทสนทนาอื่นเพื่อไม่ให้โจ๊กต้องเบี่ยงหน้าหนีไปมากกว่านี้ เดี๋ยวการดื่มเหล้ามันจะแกร่วเสียก่อน โจ๊กพอเห็นว่ารุ่นพี่เปลี่ยนเรื่องก็วางมือถือแล้วคุยด้วย

แม้ว่าจะมีกันแค่สองคนรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่ทั้งคู่ต่างก็หัวเราะเฮฮา มีเรื่องให้คุยเรื่องให้เม้าท์ไม่จบ มีเหล้ากับเบียร์นี่แหละที่หมดบ่อยจัด โจ๊กไม่ให้แจ็กสั่งเหล้าเพิ่ม ตนมึนเอาการ คิดว่ากินต่อน่าจะไม่รอด ติดที่แจ็กยังไหว เลยกลายเป็นสั่งเบียร์มาให้โจ๊กกินระหว่างรอแจ็ก

การเอารุ่นน้องที่กินเหล้าจนมึนมาเจอเบียร์ มันคือความผิดพลาด เพราะสิ่งนี้นี่เองที่ทำให้โจ๊กเมาไม่รู้เรื่องอีกต่อไป เจ้าตัวเล็กบ่นงุ้งงิ้งว่าพี่มอมเขา ซ้ำยังจิกกัดที่ทำให้เขาเมาจนง่วง บ่นกระทั่งลากออกมาจากห้องที่ปราศจากรูมเมท

“พี่รู้ไหม วันนี้ผมควรได้อ่านการ์ตูน H แล้วก็วู้วฮูอย่างมีฟามสุข แต่เพราะพี่ เพราะพี่แจ็กเลยนั่นแหละ ฮื่อ...เฮนไตที่รัก” ความเมารีดความจริงออกจากปากโจ๊กได้อย่างง่ายดาย แจ็กยิ้มขำกับความงุ้งงิ้งนั้น ขำไม่พอ ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย เสียดายที่อัดคลิปไม่ทัน

แจ็กรีบดื่มขวดที่เหลืออยู่ให้หมด เรียกบริกรมาเคลียร์ค่าใช้จ่าย เพราะถ้าต้องอยู่ต่อนานกว่านี้แจ็กเองก็จะเมาแล้วไม่มีใครลากรุ่นน้องคนนี้กลับบ้านแน่ๆ ระหว่างที่เคลียร์ทุกอย่าง หนุ่มน้อยก็ยังคงบ่นอ้อแอ้ไม่จบไม่สิ้น

“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” แจ็กดูเหมือนไม่เมา อาการดูปกติทั้งที่จริงก็เริ่มเมาแล้ว

“ได้ที่ไหนเล่า! หอผมมันปิดแล้วไอ้พี่บ้า เพราะพี่อะแหละ...พี่ลากผมมา พี่ทำให้ผมกลับห้องไม่ได้ พี่อึ้ก! พี่มันคลเลววว” เจ้าตัวเล็กเงยหน้ามางอแงใส่แจ็กที่ยืนอยู่เบื้องหน้า แจ็กกะว่าจะประครองแต่โจ๊กจิกเสื้อตรงท้องเขาแล้วบ่นงุ้งงิ้งตาปิด

“งั้นก็ไปห้องพี่ก็ได้ งอแงเป็นเด็ก”

“ก็ผมเป็นเด็ก ผมเป็นเด็กน้อยน่าย้ากกก”

“เด็กเลื้อนอะสิ” แจ็กส่ายหน้ายิ้มๆ เขาค่อยๆ ดึงมือที่จิกเสื้อตนอยู่ออก แล้วประครองโจ๊กให้เดินไปขึ้นรถ

แจ็กมีรถแต่ไม่ขับรถ เพราะแจ็กชอบไปดื่มก็เลยไม่อยากขับกลับ ดังนั้นวันนี้แจ็กก็ต้องใช้บริการแท็กซี่เหมือนทุกครั้งที่มาดื่ม เมื่อขึ้นรถ โจ๊กก็เอนตัวนอนพิงอกแจ็กทันที ต้องเรียกว่าโจ๊กเมาจนไม่สามารถนั่งตรงๆ ได้นั่นเอง แจ็กโอบโจ๊กไว้ด้วยมือหนึ่ง อีกมือปิดประตูพร้อมบอกที่หมายกับแท็กซี่

นี่เป็นอีกวันที่แจ็กขึ้นคอนโดของตัวเองด้วยความทุลักทุเล ในแขนข้างหนึ่งหิ้วรุ่นน้องคออ่อน อีกมือก็ต้องควานหากุญแจห้อง ประตูเปิดได้แจ็กรีบลากโจ๊กไปยังเตียง เขาใช้ขาตัวเองถีบประตูซึ่งมันล็อกอัตโนมัน จากนั้นดิ่งไปห้องนอนอย่างไว กะเอาเจ้าโจ๊กที่ตัวย้วยไปหมดโยนลงเตียง

“เฮ้ยยยย!” แจ็กเผลอร้องลั่น ก็ประครองมาตั้งนานไม่สะดุดอะไร พอจะเหวี่ยงรุ่นน้องลงเตียงกลับสะดุดพรมห้องตัวเอง ทำให้แจ็กล้มพร้อมกับโจ๊กลงบนเตียงนอน

โจ๊กครางออกมาเบาๆ มือคาอยู่บนคอของแจ็กไม่ยอมหลุด หนำซ้ำยังกระชับกอดอีก ทำเอาแจ็กที่พยายามใช้แขนข้างหนึ่งค้ำตัวเอาไว้ถึงกับแขนอ่อน ใบหน้าวูบเข้าใกล้กับรุ่นน้องจนลมหายใจเป่ารดกัน

อาจจะเพราะความเมา...ที่ทำให้เลือดในการสูบฉีดอย่างหนัก เหล่าเลือดวิ่งพล่านทำให้ทุกส่วนในร่างกายตื่นตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งส่วนของความเป็นชาย แจ็กพยายามที่จะดึงตัวเองออกมาจากวงแขนของโจ๊กที่เมาไม่ได้สติ แต่มันก็ดูจะล้มเหลว เล่นล็อกเสียแน่น ซ้ำยังเบียดร่างกายเข้าเหมือนกับว่าแจ็กเป็นหมอนข้าง ติดที่ว่าหมอนข้างนี้ใหญ่กว่าหมอนข้างที่เตียงโจ๊ก เจ้าตัวเล็กเลยขยับแล้วขยับอีกเพื่อหามุมถนัด

แต่...ขามันถูกับส่วนนั้นของแจ็กเขาเต็มๆ

“อื้ออออ” เสียงติดรำคาญดังออกมาจากลำคอ หมอนข้างดื้อ แล้วโจ๊กไม่ชอบเลย

แจ็กมองใบหน้าหวานที่ปกติจะแสดงออกถึงความดื้นรั้น ยามนี้เจ้าตัวเล็กใต้ร่างเขาไม่มีความดื้อรั้นอยู่ จะมีก็แค่...ความน่ามองบางอย่าง กับเรียวคิ้วที่ขมวดมุ่นเพราะหมอนข้างไม่ได้ดั่งใจ ริมฝีปากสีพีชเผยอเล็กน้อย เหมือนจะบ่นอะไรสักอย่างแต่ก็ฟังไม่เป็นคำ แจ็กจ้องมัน...ดูมันขยับ

แล้วมันก็เหมือนกับอะไรบางอย่างกดให้หัวของแจ็กใกล้กับหัวของโจ๊กมากยิ่งขึ้น มันคงเป็นความต้องการของแจ็กเอง ริมฝีปากนุ่มนิ่มถูกแจ็กสัมผัส ในหัวมันว่างเปล่า ขาวโพลน มีเพียงความรู้สึกที่เดือดพล่านอยู่ในร่างกาย ความต้องการ ความหลงใหล ความติดอยู่ในภวังค์ที่ชื่อว่าโจ๊ก

สติแจ็กเลื่อนลอยเต็มที เจ้าตัวกดปากตัวเองลงบนปากของโจ๊กหนักหน่วงขึ้นกว่าตอนแรกที่เพียงสัมผัส คำว่านี่เป็นจูบแรกแว้บเข้ามาในหัว พลันหัวใจก็ระรัวราวกับมีการเล่นกลองชุดอยู่ข้างในนั้น

ในเมื่อโจ๊กไม่ยอมปล่อยเขา...เขาเองก็คงไม่ปล่อยโจ๊กเช่นกัน!

แจ็กสอดมือเข้าไปสัมผัสผิวกายใต้เสื้อยืด โจ๊กไม่ได้ตัวนุ่มนิ้มเหมือนผู้หญิงที่แจ็กนอนด้วย แต่ผิวก็เรียบเนียนลื่นมือ ยิ่งลูบก็ยิ่งรู้สึกไม่พอ เหมือนริมฝีปากที่เขากำลังฉกชิมอยู่นี่ แจ็กสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็ก โจ๊กดื้อดึงเล็กน้อย พยายามหันหน้าหนีแต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นได้ เมื่อแจ็กใช้ลิ้นตัวเองเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กด้านใน โจ๊กก็กอดแจ็กแรงขึ้นพร้อมกับเสียงหายใจหอบถี่

“อื้อ...อ๊ะ...อื้อ” เสียงครางในลำคอของโจ๊กหลุดออกมา ทั้งที่ไม่ได้สติ แต่ก็ตอบสนองไปตามธรรมชาติ

แจ็กตัดสินใจยื้อตัวเองออกจากแขนโจ๊กเพื่อถอดเสื้อยืดของโจ๊กจากกาย เพิ่งได้เห็นเนื้อตัวของรุ่นน้องคนนี้จริงๆ ทั้งที่นี่ก็มืดแต่กลับเห็นเลยว่าขาวเนียน โจ๊กเป็นคนที่มีหุ่นลีน ไม่อ้วน แต่ก็ไม่ผอม มีกล้ามเนื้อที่ไม่มากอะไรทว่าสวยแล้วก็น่าสัมผัส แจ็กอาจจะเมาเกินไปก็ได้ถึงได้มีความรู้สึกอย่างนั้น

แจ็กก้มลงไปมอบจูบที่ดุดันยิ่งขึ้นให้คนเมา ใบหน้าหวานส่ายไปมาเพื่อหนีแต่แจ็กไม่ยินยอม เขาใช้ปากเขาเนี่ยแหละไล่ต้อนจนเจ้าตัวเล็ก มือไม้เองก็ใช้ว่าจะอยู่เป็นสุก มันเลื้อยไปสัมผัสส่วนนั้นที ส่วนนี้ที ยิ่งยอดอกเล็กๆ นี่ที่นิ้วลากผ่าน ยิ่งเป็นจุดที่ละไม่ได้ แจ็กกดมัน ขยี้มันเบาๆ แล้วก็ได้พบกับปฏิกิริยาอันใสซื่อของคนเมา

“อ๊ะ...ฮื่ออออ๊า” เสียงครางทำให้แจ็กเผลอลงแรงไปมากยิ่งขึ้น

“อื้ออออ” โจ๊กร้องเสียงกว่าเดิม พร้อมกับดวงตาคลอหยาดน้ำปรือมามองในความมืด

แจ็กสบสายตานั้น แต่เขาก็ไม่หยุด ซ้ำยังเล้าโลมต่อจนคนที่ลืมตามาด้วยความมึนเบลอดำดิ่งไปกับอารมณ์ซาบซ่าน เสื้อผ้าของโจ๊กและแจ็กถูกพรากออกไปจากเงื้อมือคนไม่เมา จากนั้นผิวเนื้อก็สัมผัสกับผิวเนื้อ โจ๊กมีสติที่เลือนราง สับสน งงงงวย แต่เหนือกว่าทุกสิ่งคืออารมณ์อยากกระหายในกิจกามดันพุ่งสูง ซึ่งนั่นไม่ได้ต่างอะไรกับแจ็กเลย

ทุกอย่างกำลังเลยเถิด เส้นแบ่งความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกำลังพังทลาย แต่คนทั้งคู่กลับไร้ซึ่งสติที่จะหยุดยั้งเรื่องนี้ให้สิ้นสุดลง

ถุงยางถูกหยิบออกมาจากลิ้นชักข้างหัวเตียง สายตามากอารมณ์จับจ้องเรือนกายใต้ร่างอย่างโจ๊กไม่ละไปไหน ทั้งที่เป็นร่างกายของผู้ชายที่ตื่นตัวเต็มที่แบบนี้ไม่น่าทำให้เขามีอารมณ์ได้ ทว่าตอนนี้แจ็กกลับกระหายในร่างกายนี้เหลือเกิน

แจ็กไม่รู้แม้กระทั่งวิธีการที่จะทำเรื่องแบบนี้กับเพศเดียวกัน เขาปล่อยให้สัญชาตญาณนำทางเขา ท่อนขาเรียวของโจ๊กถูกจับมาวางที่หน้าขาแจ็กเพราะเจ้าตัวแทรกกายไปที่กลางลำตัวของเจ้าตัวเล็ก สายตาไล่มองตั้งแต่ดวงตาที่ฉ่ำปรือ ริมฝีปากบวมเจ่อและแก่นกายที่ไม่เคยผ่านใครเด่นตระหง่าน มือนำถุงยางเข้าปาก ฟันงับขอบซองก่อนนำมาสวม แจ็กชำนาญกับมัน ทำมันได้โดยที่ไม่ต้องหยุดมองโจ๊กเลยด้วยซ้ำ

“พี่...จะ...ทะทำอะไร” เสียงงัวเงียไม่ได้สติของโจ๊กดังแผ่วเบา เจ้าตัวเหมือนจะตื่นแต่ก็ไม่ตื่น เหมือนจะหลับแต่ก็ไม่หลับ มันเป็นความเมาที่ทำให้เด็กหนุ่มสติลางเลือนเต็มที ติดที่ความอยากกระหายในร่างกายมันฉุดรั้งให้ยังรู้สึกตัว

แจ็กไม่ได้ตอบคำถาม ไม่ได้พูดอะไรออกเลยแม้แต่คำเดียว ปากตอนนี้มีหน้าที่พ่นลมหายใจร้อนผ่าวกับเลียริมฝีปากที่แห้งผากเท่านั้น แจ็กจ้องมองความเป็นชายของตัวเองที่ถูกมือของตัวเองอีกนั่นแหละจับจ่อไปที่ช่องทางลับ เขาถูไถมันเล็กน้อย พร้อมกับเทเจลในซองไปที่ส่วนนั้นให้ชุ่มโชก...

“อ๊ะ...อื้อออออ” ความเป็นชายชำแรกผ่านเข้าไปเชื่องช้า และเพียงแค่สอดใส่โจ๊กก็จิกผ้าปูที่นอนจนยับยู่

ความเมามายเป็นยาระงับความเจ็บปวดชั้นเลิศ แต่ก็ไม่ทั้งหมด โจ๊กพยายามพลิกกายหนี แจ็กจึงคว้ามือของโจ๊กมากุมเอาไว้ด้วยมือหนึ่ง อีกมือจับความเป็นชายของโจ๊กพร้อมกับลูบไล้มันขึ้นลง สร้างความซาบซ่านให้ปะทุอย่างต่อเนื่อง

แจ็กเฝ้ามองส่วนสำคัญเชื่อมต่อกัน สายตาเลื่อนลอยของเขามองอีกฝ่ายด้วยความหลงใหล ความต้องการในตอนนี้สูงจนไม่อาจระงับตัวเองได้อีก ทันทีที่สอดใส่เข้าไปจนสุด แจ็กไม่สนความฝืดฝืน เขาเริ่มขยับเอว...เริ่มกระแทก...เริ่มกระทั้น...แล้วเมาไปกับความเสียวซ่านและเสียงครางของโจ๊ก

สิ้นสุดค่ำคืนที่เมามายนี้จะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป...

….100%….

เร็วๆ นี้เรื่องนี้จะมีการตีพิมพ์นะคะ ยังไงขอฝากผลงานด้วยค่า

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 18 / 100% [18/06/2021]
«ตอบ #42 เมื่อ18-06-2021 17:58:18 »

ตอนที่ 18 ไหนบอกหมอซิ?

“เอ่อ....บอกกูซิ ว่ากูต้องรู้สึกยังไง?” มอสโพล่งออกมาในเช้าวันจันทร์ที่แสนจะสดใสของโอมคนเดียว

สาเหตุที่ทำให้มอสต้องพูดคำถามนี้ออกไปก็เพราะว่า ตอนนี้เพื่อนของเขาแต่ละคนอยู่ในหมวดหมู่ที่แตกต่างกันอย่างหาตรงกลางไม่ได้ หรือต้องบอกว่าตัวเขาเองที่เป็นตรงกลางของทุกคนดี? วัตตาโหลเป็นซอมบี้เข้าไปเต็มที รู้เลยว่าอดหลับอดนอนกับการทำรายงานและไต่แรงก์ไปพร้อมกัน ทำให้เวลานอนนั้นไม่เพียงพอ โอมนี่ก็นั่งยิ้มหน้าบาน เรียกว่าบานเกือบจะเท่าสนามฟุตบอลของโรงเรียนเข้าไปทุกที เข้าใจนะว่าคนมันอินเลิฟอยู่ ได้นอนกอดแฟนเด็กไปตั้งหนึ่งคืนก็ต้องมีความสุขเป็นธรรมดา แต่...แจ็ก มึงทำหน้าเหมือนโลกจะแตกทำไม?

“คนหนึ่งจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ อีกคนนั้งยิ้มคนเดียวเป็นคนบ้า ส่วนอีกคนก็...มึงปวดขี้เหรอไอ้ห่า” ท้ายประโยคมอสหันไปถามแจ็กที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ สีหน้าคือไม่ไหวแล้ว ใกล้จะตายหรืออะไรทำนองนั้น

“กูเปล่า” เสียงหงอยเป็นหมาหิวอย่างนี้นี่เรียกเปล่า

“กูเชื่อก็โง่เต็มทีแล้วเพื่อน”

“นั่นดิ มึงเป็นไรวะ” โอมออกจากภวังค์มาให้ความสนใจกับเพื่อนได้เสียที ไม่ต้องสนวัต ให้มันนั่งหลับไปเถอะ

“กู...เครียดๆ น่ะ” แจ็กก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน พูดได้เหรอวะว่าไปเมาแล้วหนึ่งสองซั่มกับน้องมาเนี่ย

“คนอย่างมึงมีเรื่องเครียดด้วยเหรอ วันๆ เห็นแต่ส่องนมสาวๆ” โอมจิกกัดไปที

“กูก็คนมั้ยล่ะเพื่อน กูก็มีเรื่องต้องคิดต้องเครียดบ้างเป็นเรื่องธรรมดามั้ยละเพื่อน” แจ็กทำหน้างอนใส่โอม อารมณ์แบบน้อยใจอะไรทำนองนั้น

“โอ๋ๆ นะ” โอมก็อะ...ลูบหัวโอ๋ไปหนึ่งที แต่แจ็กก้ปัดมือโอมออกแล้วนั่งหงอยเช่นเคย

“มีอะไรก็พูดดิวะ มึงจะอมพะนำไว้ทำไม พวกกูก็เพื่อนมึงนะ” แจ็กมองหน้ามอส เห็นความจริงใจแหละแต่มันก็พูดไม่ได้

“เย็นนี้ไปกินเหล้ากัน” แจ็กเปลี่ยนเรื่องเสียเฉยๆ

“ถามไอ้โอมเหอะ พวกกูยังไงก็ได้” มอสหันไปมองวัตที่นั่งหลับ แต่วัตคนนี้ยังไงก็ได้แหละ

“แต่นี่มันวันจันทร์นะมึง” จะเมากันในวันจันทร์เนี่ยนะ พรุ่งนี้ก็มีเรียนด้วยนะ อะไรกันครับเนี่ย

“ทำอย่างกับเมื่อก่อนไม่เคยเมาแม่งทุกวันงั้นแหละ กูเครียดนะเว้ย ดื่มกับกูหน่อย ไปห้องมึงก็ได้ มึงไม่ไหวมึงจะได้นอนก่อนเลยไง น้า...พี่โอมคร้าบ” แจ็กอ้อนโอมเต็มที่ เพราะว่าจริงๆ แล้วโอมเป็นคนไม่ค่อยดื่มนั่นเอง

จริงที่เมื่อก่อนโอมออกไปดื่มกับเพื่อนๆ แทบทุกวัน บางทีก็ดึกดื่นจนไปเรียนไม่ไหว แต่ต้องเข้าใจก่อนว่านั่นมันเมื่อตอนปีหนึ่งที่ยังเห่อการเที่ยวการดื่มหรือการสังสรรค์กับเพื่อนฝูงอยู่ ไม่ใช่ตอนนี้แล้ว แล้วจากพ้นปีหนึ่งมาโอมก็ไปดื่มแค่แก้วสองแก้วแล้วก็กลับ เขาเบื่อตอนแฮงก์มาก ตื่นจะไม่ไหวเอาก็เลยไม่ค่อยชอบ อีกอย่างเป็นพวกรักษาหุ่นด้วยล่ะนะ

“อืมๆ ก็ได้ กูเรียกหนูเตอร์มาด้วยนะ แต่หนูเตอร์มาพวกน้องก็มาด้วย ดีเลยจะได้นั่งดื่มกันเป็นหมู่คณะ” ไม่ได้นั่งดื่มเหล้ากับรุ่นน้องนานแล้ว อยากเห็นหนูเตอร์ตอนเมาเสียด้วยสิ

ช่วงที่เตอร์เข้ามาสนิทกับพวกกลุ่มเขาก็มีได้ไปดื่มด้วยกันบ้าง ได้เห็นเตอร์เมาบางหน ซึ่งเตอร์ก็ไม่ค่อยดื่มเท่าไหร่ถ้าไม่โดนขยั้นขยอ โอมนั่งนึกย้อนไปถึงช่วงที่ได้เห็นเตอร์เมาแรกๆ น้องเตอร์นี่อ้อนไปดรีมเพื่อนสนิทจนจะเหมือนแฟนกันอยู่แล้ว ตอนนั้นอิจฉา อยากโดนอ้อนแบบนั้นบ้างงงงง

“ไม่!” แจ็กโพล่งขึ้นมาซะเสียงดัง เล่นเอาวัตที่นั่งหลับถึงกับสะดุ้งตื่น ไอ้คนอื่นก็สะดุ้งไปด้วย

“อะไรของมึงวะ จะตะโกนทำเพื่อ!” มอสอดดุไม่ได้

“นั่นดิ มึงเป็นเหี้ยไร น้องๆ มาดื่มด้วยไม่ดีตรงไหน” โอมไม่เข้าใจ ปกติออกจะดี้ด๊า

“ไม่ๆ รอบนี้ไม่ได้....ไม่เอา อย่าเลย ขอแค่พวกมึงเหอะ” เนี่ย ก็มีท่าทางแบบเนี้ยจะไม่ให้สงสัยได้ยังไง หล่กลนลานขั้นสุด

“แต่กูก็อยากให้หนูเตอร์มา”

“ไม่...กูขอ” โอมกับมอสมองหน้ากัน อาการแจ็กคือแบบว่าแปลกประหลาดมากมายก่ายกอง แต่ก็นึกไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“อ่า...”

“ทำไมวะ ห่างแฟนสักวันไม่ตายหรอกห่าน มีเวลาให้กูบ้าง” แจ็กเห็นแล้วว่าโอมทำหน้าแบบ...หนักใจ เข้าใจว่าอยากพาน้องมามอมเมา

“เออ ก็ไม่อะไรขนาดนั้นหรอกแค่เสียดาย แล้วนอกจากเสียดายตอนนี้กูอะสงสัยสัสๆ เลยว่ามึงเป็นอะไรของมึง เรื่องที่ทำให้มึงเครียดอยู่นี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของครอบครัวมึงหรือยังไงวะ ถึงไม่อยากให้น้องๆ มันรู้เรื่องอะ” โอมคิดได้แค่เรื่องที่บ้านแจ็กเลย เพราะว่าปกติเรื่องสาวๆ แจ็กไม่ค่อยอายน้องหรอก แต่ถ้าเป็นเรื่องครอบครัวมันก็อีกเรื่อง

“เออหน่า กูพร้อมเดี๋ยวกูบอก” เมื่อแจ็กพูดมางี้ มอสกับโอมก็ทำได้แค่เออออแล้วปล่อยให้มันผ่านไป

ทั้งสี่หนุ่มนั่งเล่นกันอยู่อีกพักใหญ่ ซึ่งคุงโอมคนนี้ทำเพียงแชตคุยกับน้องเตอร์ที่เพิ่งตื่น วันนี้เตอร์มีเรียกสิบเอ็ดโมง ทำให้ตอนเช้าพวกเขามีเวลาไม่ตรงกัน แต่โอมก็ไม่ลืมที่จะทักไปหาน้องหรอก แถมยังบอกด้วยว่าวันนี้เขาอาจจะไปดื่มกับเพื่อนนะ มันเป็นคำที่แปลกประหลาดเมื่อออกมาจากโอมแหละ น้องเตอร์จึงถามใหญ่เลยว่าไปดื่มกับเพื่อนไหน ใช้พวกพี่มอสหรือเปล่า พอบอกว่าใช่ พ่วงด้วยแจ็กมีเรื่องเครียดๆ เตอร์ก็เลยโอเค ไม่ได้ว่าอะไร

คนมันเพิ่งมีแฟนใหม่ๆ หมาดๆ อาการมันก็จะดูเหมือนคนเพ้อหน่อยๆ แถมยังหมกมุ่นอยู่กับมือถือเสียส่วนใหญ่ แต่พอต้องเข้าเรียนจริงๆ โอมก็ไม่ได้มานั่งตอบแชตเตอร์ตลอด แค่บอกว่าเข้าเรียนแล้วก็เป็นอันเข้าใจกันดี โอมเป็นคนตั้งใจเรียนเพราะงั้นโอมจะไม่แว้บมาตอบแชตสักเท่าไหร่

ความจริงวันนี้ตารางเรียนแน่นเอี๊ยดจนถึงห้าโมงกว่า ทว่าอาจารย์คาบสุดท้ายไม่ว่างและมอบหมายงานทางออนไลน์ให้แทน ทั้งสี่หนุ่มจึงเดินทางไปคอนโดของโอมตั้งแต่บ่ายสองครึ่ง แล้วแจ็กก็พร้อมบวกกับแอลกอฮอล์หนักมาก มาถึงซื้อ ขึ้นห้องได้เปิดขวดเลยทีเดียว

“มึงอดอยากเหรอวะ” วัตมองแจ็กนิ่งๆ มือเจ้าตัวยังทำหน้าที่วางกระเป๋าอยู่เลย แจ็กนี่เล่นเปิดเบียร์กรอกปากก่อนแล้ว

“ไม่ แค่เครียด”

“มึงเอาแต่พูดว่าเครียดๆ ตั้งแต่เมื่อเช้า ยันตอนนี้กูก็ยังไม่รู้เลยว่ามึงเครียดเรื่องอะไรกันแน่” โอมว่าพร้อมกับวางของลงบ้าง เขาไม่ลืมส่งข้อความบอกเตอร์ว่าถึงห้องแล้ว จะดื่มอาจไม่ค่อยตอบ

“แต่กูว่าต้องเรื่องใหญ่แหละ ไม่งั้นมันไม่มีอาการแบบนี้หรอก ตอนอกหักมึงยังไม่อาการเท่านี้เลยปะวะ หรืออาการมันเหมือนกัน อันนั้นมันเศร้าเนอะ อันนี้มันดู...ตึงๆ เครียดๆ อะ” มอสเปิดขวดเบียร์บ้าง แต่ไม่ได้ยกดื่มเหมือนแจ็กหรอก มอสเอาแก้วมาใส่เบียร์แล้วแจกจ่ายให้วัตกับโอม

“เออหน่า ไม่ต้องมาโฟกัสปัญหากูมากก็ได้ คนอื่นอะไม่มีปัญหามั้งไง โอมเงี้ย...มีมั้ยๆ มึงพูดปัญของมึงตอนนี้มั้งดิ้ เผื่อจะหลงลืมปัญหาของกูบ้างเนี่ย” แจ็กพูดปัดๆ หน้านิ่วคิ้วขมวด ราวกับไม่อยากจะเอ่ยถึงปัญหาของตนเองในเวลานี้เป็นอย่างมาก

“อะโอม มันโยนให้มึงล่ะ” มอสพยักหน้าไปทางโอม พร้อมกับที่ส่งแก้วเบียร์มาให้ โอมรับแล้วเดินไปนั่งโซฟาตัวยาวข้างวัต มอสนั่งพื้นข้างๆ แจ็ก

“กูเหรอ อืม...ก็มีอยู่เรื่องนะ” หลังคิดไปสามสี่วิ โอมก็ติ๊งบางอย่างขึ้นมาได้

“ว้าว มึงมีปัญหาเหมือนกันวะ นึกว่าพี่โอมของหนูเตอร์จะแฮปปี้ดี้ด้า ไม่มีปัญหาใดๆ มากวนใจเพราะว่าได้รักกับคนที่ตัวเองแอบรักมานาน อะ...ไหนบอกหมอซิ อาการเป็นยังไง” มอสใส่จริตของความเป็นหมอ วัตหันไปมอบสายตาเอือมระอาให้เป็นรางวัลแด่คนกวนตีน

“คืองี้ครับหมอ...คือผมอะมีปัญหาหนักมากกกกกก มากถึงมากที่สุดครับ”

“อ่าฮะ หมอรอฟังอยู่ครับ”

“มันก็แบบ...เป็นเรื่องที่แบบว่า...เงี้ยอะหมอ”

“เงี้ยมันคือยังไงวะครับคนไข้!”

“คือแบบว่ามัน...มันอ่า...มันหูยมากอะหมอ”

“ไอ้...” มอสเซ็นเซอร์คำของตนเอง แต่โอมก็ดูออกว่ามันอ่านว่าไร

“ถ้ามึงมาแบบว่าอีกรอบ...” วัตช่วยมอสในการยุติความกวนประสาทของโอมด้วยการยกแก้วเบียร์ขึ้นสูง ให้รู้ไปเลยว่าถ้ามึงยังเล่นลิ้นอีกมึงโดนราดหัวแน่ๆ

“ฮ่าๆ โอเค ยอมแล้ว”

“ยอมแล้วก็เล่าได้แล้ว” มอสถอนหายใจใส่ ตอนแรกอุส่าห์สนุกที่ได้เล่นสวมบทบาท เจอนังโอมแบบนี้ไปเซ็งเลย

“ก็ไม่เชิงเครียดหรอกหมอ แค่...หิววะ”

“อ่าว มึงหิวแล้วมึงไม่ซื้อข้าวมาแดกวะไอ้คนไข้” มอสสวนอย่างไว

“กูหิวเด็กไอ้สัส”

“อ่อ...อู้ว...เรื่องใหญ่” ทุกสายตาหันมาจับจ้องโอมเป็นตาเดียวเมื่อได้ยินคำนี้เข้าไป

“มึงยังไม่ได้กินเหรอ เห็นมาค้างสองต่อสองกูนึกว่าเสร็จไปแล้วนะเนี่ย” แจ็กจากที่ซึมๆ ก็ถามขึ้นมาบ้าง

“นั่นดิ วันนั้นมึงยังพิมพ์ว่าแบบอยากอยู่เลย ไม่ใช่ว่าหลังจากหายไปไม่ได้สองซั่มเหรอวะ เฮ้ย...เป็นไปได้ด้วยเหรอ” มอสนี่แทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยครับ

“อะไรวะ ทำไมพวกมึงถึงคิดแบบนั้นกันเนี่ย”

“ก็หวานกันขนาดนั้น มันต้องเสร็จแล้วดิ หรือมึงล่มปากอ่าวแบบที่ไอ้แจ็กว่าจริงๆ ไวอากร้าไหม น่าจะช่วยได้อยู่นะมึง” สายตามอสคือสงสารเพื่อนจัด

“ไม่ๆ ขึ้นอะมันขึ้น แต่...มันไม่ได้ปะวะ เพิ่งคบเองนะเว้ย”

“กูว่าไม่เกี่ยวกับเวลาหรอกวะ มันเกี่ยวที่มึงอะ” แจ็กพยักหน้าเห็นด้วยกันมอส

“น้องเขาไม่ยอมมั้ยล่ะ เขาบอกชัดเจนว่าห้ามทำอะไรเขา”

“มึงก็ไม่ทำจริงๆ?” มอสถาม โอมพยักหน้า

“ใช่สิ เขาห้ามแล้วยังจะทำอีกมันก็ทุเรศไปปะ เหี้ย...ดูเป็นพวกหื่นตัญหากลับ”

“มึงแม่งไม่น้ำยาในการหว่านล้อมเล้ยยยยยยย” มอสเซ็งจนยกเบียร์จนหมดแก้ว

“หว่านล้อมยังไงวะ กูก็ไม่อยากจะขืนใจน้องมันปะ ถ้าน้องมันบอกชัดเจนแล้วว่าไม่ให้ทำ ก็ต้องไม่ทำดิวะ”

“ไอ้คนดี!” แจ็กว่าเข้าให้

“ดีเกินไป” วัตช่วยเสริม

“อ่าว การเป็นคนดีก็ไม่ดีเฉย อะไรวะ คนแบบกูดิที่ควรรักษาเอาไว้ ไม่ใช่คนอย่างพวกมึง”

“คนอย่างพวกกูมันทำไม” แจ็กถามทันที

“นั่นดิ คนอย่างพวกกูเขาเรียกว่าช่ำชองไอ้ห่าน” มอสก็ไม่ยอมให้โอมด่า

“แล้วความช่ำชองที่ว่ามันเป็นยังไง” ไหนๆ พูดมาแบบนี้โอมก็เลยถามมันเสียเลย เผื่อได้ใช้

“มึงก็ต้องสร้างบรรยากาศก่อน เวลาเล่นเกมก็เล่นแม่งบนที่นอนเลยก็ได้ แล้วจากนั้นก็ค่อยนัวเนียไง ให้อารมณ์และบรรยากาศพาไป พอน้องมันมีอารมณ์ร่วม มึงค่อยขอดีๆ ตามสไตล์คนดีของมึงก็ได้ ผู้ชายอารมณ์ขึ้นง่ายจะตายมึงก็รู้ เพราะมึงก็เป็นผู้ชายถูกมั้ยล่ะ แล้วพอถึงจังหวะนั้นแล้วน้องมันปฏิเสธเสียงกระท่อนกระแท่นมึงก็ค่อยอ้อนเอา แต่ถ้าน้องมันไม่โอเคจริงๆ นะ น้องมันจะยืนยันเสียงแข็งกับมึงเองอะ มึงต้องดูอาการกับน้ำเสียงน้องแล้วค่อยตัดสินใจ” แจ็กผู้ช้ำนาญการร่ายยาวเป็นบทความวิชาการด้านการล่อลวง โอมเป็นลูกศิษย์ที่ดี ตั้งใจฟังและมาร์กไว้ในหัว

มันก็ดูเป็นอะไรที่ง่ายๆ แล้วก็เป็นธรรมชาติมาก แต่ตอนที่น้องมาอยู่ด้วยน่ะไม่ได้คิดขนาดนั้น กลัวน้องมันโกรธแล้วจะหนีไป อย่างตอนจูบแล้วน้องห้าม เขาก็รู้สึกผิดจนไม่กล้าคิดอะไรแบบนั้นต่อแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ มีใครบ้างวะไม่อยากกินแฟนตัวเองอะ มันไมได้ ส่วนนั้นเองก็ยังทำงานได้ดีไม่ได้มีปัญหาในการตื่นใดๆ เสียด้วย

“อืม...งั้นกูควรชวนน้องมาห้องยังไงดีวะ จู่ๆ จะไปแบบ...ไปนอนห้องพี่กันเถอะ อะงี้มันก็ดูล่อแหลมไปปะ” โอมถามต่อ

“มึงก็หาข้ออ้างให้น้องมาช่วยมึงสิ ทำงานก็ได้ พวกรายงานอะ หรือป่วยดีวะ หมอว่าการแกล้งป่วยก็ดีนะ” มอสลูบคางตัวเองประหนึ่งว่าความคิดเขาแจ่มสุดๆ ไปเลย

“ไม่ดี น้องจับได้ละก็โกรธยาว” อันนี้วัตออกความเห็น

“เออวะ ถ้าเอาเรื่องป่วยมาอ้างมันก็ดูจะเล่นกับความเป็นห่วงของน้องเนอะ อืม...” โอมพยักหน้าแล้วทบทวนแผนในหัว

โอมหลุดเข้าไปในระบบความคิดของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย แจ็กเองก็อยู่กับตัวเองไม่ไปไหน วัตกับมอสก็เลยต้องกอดคอกันหาเรื่องคุย ซึ่งคนอย่างวัตอะนะจะคุยเยอะ เห่อๆ ไม่มีทาง มีแต่มอสเนี่ยพูดแล้วพูดอีก กลายเป็นคนพูดเยอะแทนแจ็กไปเสียอย่างนั้น แต่การที่มีสองคนจมอยู่ในความคิดของตัวเองก็ไม่ได้ทำให้เบียร์นั้นมันหมดช้าลงแต่อย่างใด กลับกันเลย มันหมดเร็วขึ้น เรียกได้ว่าคิดในหัวแต่คอเสือกแห้ง ต้องเอาเบียร์มาดับความกระหาย

จากบ่ายสามมุ่งหน้าสู่ห้าโมงครึ่งอย่างรวดเร็ว วัตกับมอสลงไปซื้อเบียร์เพิ่มเพราะที่หิ้วมาหนึ่งลังได้หมดลงไปเป็นที่เรียบร้อย โอมเองก็หลุดจากภวังค์แล้วแต่ที่ไม่ได้ลงไปด้วยเพราะขอเวลาคุยกับเตอร์ หนูเตอร์เพิ่งเลิกเรียน ไอ้คนบ้าแฟนก็รียบแจ้นไปโทรหาทันที คิดถึงมากแหละดูออก

(เสียงคุงโอมไม่เหมือนเดิม)

“ยังไงอ่า...”

(ก็ไม่รู้ดิ แต่ไม่เหมือนเดิมอะ เสียงคุงโอมดูยานคาง เมาหรือยังครับเนี่ย)

“ยังนะ พี่แค่มึนๆ นิดหน่อย ไม่ค่อยดื่มก็งี้”

(เย็นนี้คุงโอมไม่ต้องลงแรงก์นะ เดี๋ยวหนูลงกับดรีมกับโจ๊กเอา คุงโอมใช้เวลากับเพื่อนๆ นะครับรู้มั้ย)

“ทำไมอ่า อยากเล่นด้วย”

(คุงโอมจะเมาอยู่แล้ว จะมาดึงแรงก์หนูเหรอ ไม่ได้น้า แล้วไหนว่าพี่แจ็กมีเรื่องเครียด อยู่กับพี่แจ็กเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเล่นกับหนูก็ได้)

“อ่า...ก็ได้ครับ แต่ว่าพี่จะทักไปหาเรื่อยๆ นะ”

(ได้คร้าบ ไปอยู่กับเพื่อนเถอะ เดี๋ยวหนูไปอาบน้ำแล้ว)

“คร้าบ แต่ก่อนไปจุ้บก่อน”

(จุ้บไร....)

“จุ้บๆ แบบเนี่ย”

(เมาแล้วอ้อนเหรอครับ)

“ยังไม่เมา”

(อ่าๆ ยังไม่เมาก็ยังไม่เมา จุ้บๆ นะคร้าบ)

“คร้าบ จุ้บๆ หนูเตอร์คร้าบ”

หุหุ สวีตกับหวานใจเสร็จแล้วก็เดินกลับมายกแก้วดื่มอึกๆ ด้วยรอยยิ้ม โอมคิดในหัวไว้เรียบร้อยแล้วว่าเขาจะนักหนูเตอร์มาที่ห้องสักวันศุกร์ มาสตรีมเกมร่วมกัน แล้วก็หาไรกิน อาจจะหมูกระทะแล้วก็ดื่มนิดหน่อย เอาแค่เบาๆ ก็พอ เพราะถ้าชวนดื่มเยอะจริงจังเลยหนูเตอร์น่าจะไม่เอาด้วย แล้วจากนั้นก็ค่อยๆ สร้างบรรยากาศและอารมณ์ ง่อววว เป็นความคิดที่โคตรจะดีและสร้างสรรค์เป็นที่สุด โดยระหว่างนี้ก็จะเตรียมของสำหรับการนั้น อ่า...อยากกินหนูเตอร์แล้ว

มอสและวัตกลับเข้ามาพร้อมเบียร์ลังกว่า ขนมคบเคี้ยวอีกส่วนหนึ่ง โอมเข้าไปช่วยเพื่อนถือและจัดเบียร์ใส่ตู้ เวลาหยิบออกมาเปิดดื่มมันจะได้เย็นชื่นนนนใจ ระหว่างนี้ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย โดยเฉพาะอาการของแจ็ก

ต้องเรียกว่าแจ็กในเวลานี้ค่อนข้างเมาเลยทีเดียว ทั้งที่แจ็กเองเป็นสายดื่ม ดื่มได้เยอะอยู่แล้ว แต่ว่าวันนี้เท่าที่เห็นแจ็ก ดื่มจะดื่มเร็วมาก ไอ้การดื่มเร็ว แป็บๆ หมดแก้วเนี่ยแหละที่ทำให้พวกคอแข็งทั้งหลายตายกันระนาวมานับไม่ถ้วน ไม่เว้นแม้แต่แจ็กที่เจ้าพ่อร้านเหล้าเบียร์

“มึงไหวไหมเนี่ย” โอมเมื่อเปิดขวดใหม่เทให้แจ็กแล้ว ก็ถือโอกาสนี้ถามไปด้วย

“ไม่...”

“อาการเป็นยังไงไหนบอกหมอซิ” มอสยังไม่หยุดการเป็นหมอ แถมยังนั่งกอดคอแจ็กอีก

“กู...กูต้องรู้สึกยังไงวะ” เอ้า มึงต้องรู้สึกยังไงนี่คือยังไงก่อน เรื่องอะไรก่อน จู่ๆ จะมาพูดงี้หมาที่ไหนจะไปเข้าใจ

“ไม่ๆ คำนั้นควรเป็นของพวกกู” โอมว่าเข้าให้ แล้วก็ยกแก้วดื่มอึกๆ ไปทีเดียวครึ่งแก้ว

“กู...พลาดไปมีอะไรกับคนคนหนึ่งวะ” เอาล่ะ ทั้งวงตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนตั้งใจฟัง รวมถึงหมอมอสที่พร้อมรับฟังคนไข้ตัวเองอย่างมาก

“มึงก็มีอะไรกับใครไปทั่วอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ เรื่องนี้มึงต้องซีเหรอ” โอมพูดไปตามตรง เพราะเอาจริงๆ คนที่วันไนท์ไปเรื่อยแบบแจ็กน่าจะกลัวแค่การโดนผูกมัดมากกว่านะ

“อืม แต่คนคนนี้มันรู้จักกันมานาน แล้ว...อืม มันคงเป็นเพราะกูโดนเขาพูดใส่ว่า เรื่องเมื่อคืนไม่มีอะไรทั้งนั้น เราแค่ต่างเมาและหลับไป มันก็แค่นั้น เขายิ้มแล้วก็ออกไป คือ...มึงเชื่อมั้ย ภาพที่เขายิ้มแล้วเดินออกไปมันแทงใจกูยังไงบอกไม่ถูก หรือว่าเพราะกูไม่เคยโดนพูดแบบนี้ใส่วะ กูไม่เข้าใจตัวเองอะ แล้วเนี่ยกูก็นอนไม่หลับเลยนะเว้ย เพราะคำเนี้ยมันวนเวียนอยู่ในหัวกูตลอด กูอะพยายามแล้วที่จะทำอย่างที่เขาพูด แต่แม่งทำไม่ได้อะมึง กูทำไม่ได้ กูคิดแบบนั้นไม่ได้ แม่งแย่วะ...วันไนท์มาตลอดแท้ๆ แค่นี้เสือกสลัดออกจากหัวไม่ได้เฉย” เนี่ยแหละหนา...คนอัดอั้นอาการมันก็จะประมาณนี้ ระบายเสียหมดเลย ถึงจะไม่รู้ว่าคนที่แจ็กพูดมันใครก็ตาม

แต่...

“เขา...เขา....ผู้ชายเหรอมึง” โอมถาม ก็ติดที่คำว่าเขาอะ ถ้าใช้แทนบุคคลอื่นว่าเขาก็ต้องผู้ชายปะวะ ผู้ต้องเธออะไรเงี้ย

“....” แจ็กไม่ตอบแต่ยกเบียร์ซัดจนหมดแก้ว หนำซ้ำยังเทเพิ่มแล้วกระดกต่ออีกด้วย

“เอางี้ หมอขอแนะนำว่าให้คุณมึงหาคนใหม่นอนเล่นสักคืนสองคืน เดี๋ยวมึงก็ลืมได้เองแหละ มึงผ่านมาก็เยอะ มึงจำคนที่ห้าหกของตัวเองได้ปะล่ะ มึงก็จำไม่ได้ใช่มะ นั่นแหละ วิธีการนี้น่าจะเป็นวิธีการที่ดีและเหมาะกับมึงแล้ว อีกอย่างกูว่าที่มึงคิดเรื่องคนนั้นน่ะเพราะว่ามึงไม่เคยเจอใครทำแบบนี้กับมึงมากกว่าใช่มั้ยล่ะ ไม่ต้องคิดเยอะหรอก แค่คนคนหนึ่งที่มีอะไรกับมึงอีกคนแค่นั้นเอง...” มอสตบบ่าเพื่อนหลังให้คำแนะนำที่...เรียกว่าดีหรือเปล่าวะ รู้แต่คนดีแบบโอมไม่โอเคเท่าไหร่ ทำไงได้...เพื่อนโอมมันก็แบบนี้

“อืม ก็เป็นความคิดที่ดีนะ ทำไมกูไม่คิดให้ได้ก่อนหน้านี้วะ เมื่อวานจะได้หาสักคน”

“มึงคิดมากเรื่องเขาไง มึงเลยลืมนึกวิธีการแก้ตามสไตล์ตัวเองไป” มอสตบบ่าอีก ทำหน้าภูมิใจที่เป็นหมอที่ดี รักษาเพื่อนตัวเองได้ตั้งสองคน

“ขอบใจเว้ย อะ...กูโอเคละ มาชนแก้ว” แจ็กยื่นแก้วตัวเองมาข้างหน้า คนบ้าไร บทจะมูฟออนได้ก็ได้เลยงี้ อะ...อย่าถือคนบ้าอย่าคนเมา อีแจ็กเมาก็อย่าไปว่ามัน

“เอ้าชนนนนนนน” แล้วทั้งสี่ก็ชนแก้วกันก่อนจะซดเสียหมดแก้วนั้น

เมื่อความหม่นหมองมลายหายไปความครื้นเครงของเหล่าหนุ่มๆ ก็คลืบคลานตามมาอย่างรวดเร็ว....

….100%….




ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: #โอมกินเตอร์ ตอนที่ 19 / 100% [24/06/2021]
«ตอบ #43 เมื่อ24-06-2021 18:35:41 »

ตอนที่ 19 หนูอยากกิน...?

“โอมกับไอ้เตอร์นี่มันขยันสตรีมจนเพขเปิดรับโดเนตได้แล้วแฮะ” หลังจากผ่านการแฮงก์ในวันอังคารที่ผ่านไป นี่ก็ล่อมาวันศุกร์แล้ว แล้วโอมกับเตอร์ก็ลงแรงก์พร้อมสตรีมที่เพจไปด้วยทุกวันผ่านการคอลดิสคอร์ด

มอสนั่งดูกราฟของเพจที่พุ่งขึ้นสูงรวมถึงยอดดาวที่มีคนส่งมาให้คู่รักน่าหมั่นไส้นั่น ต้องยอมรับละนะว่าเวลาที่ทั้งคู่เล่นเกมอยู่ด้วยกันมันน่ารัก มีมุมหยอดกันอ้อนกัน เป็นโมเมนต์หวานๆ ที่ทำเอาสาวๆ พากันหวีด นี่เพจเกมเลยเต็มไปด้วยผู้หญิงมากมายที่เข้ามารอดูโอมกับเตอร์เปิดสตรีมตอนหกโมงเย็นของทุกวัน

“รายได้พวกนี้มึงก็เอาไปละกัน” วัตบอกพลางดูดกาแฟเย็นในแก้ว

“เห็นด้วยนะ ยังไงก็รายได้ของพวกมึง” มอสเห็นด้วยกับวัตอย่างแรง ทั้งมอส วัต หรือแจ็กเองไม่มีใครสตรีมแล้วก็ทำแค่หน้าที่แอดมินอยู่เบื้องหลัง

“กูว่าเอามากินเป็นกองกลางดีกว่า พวกมึงก็ทำหน้าที่นี่ ไม่ใช่กูกับหนูเตอร์สักหน่อย” แต่โอมกลับไม่เห็นด้วย ตนมองว่าเพจมันร่วมมือกันทำหลายคน ถ้าไม่ได้เหล่าแอดมินมาช่วยแชร์ให้มันก็อาจจะไม่มีคนดูขนาดนี้ก็ได้ เขาคิดว่าทุกคนที่ทำก็เหนื่อยเหมือนกัน ควรได้อะไรที่เท่าเทียมกันไป

“คุยอะไรกันหน้าเครียดแต่เช้าเลย” เตอร์เดินเข้ามาที่โต๊ะประจำของเหล่าหนุ่มๆ ผู้ติดเกมทั้งหลาย รวมถึงดรีมและโจ๊ก

“นั่นดิพี่ เป็นเมนกันอ่อ อิอิ” โจ๊กกวนประสาทรุ่นพี่ ก็เห็นเครียดกันเลยช่วยผ่อนคลายบรรยากาศ

แจ็กจากที่ตอนแรกนั่งพิมพ์แชตอยู่กับสาวๆ พอเห็นโจ๊กก็นิ่งไป ท่าทางลังเลว่าควรจะเก็บมือถือหรือเล่นมันต่อ โจ๊กนั้นกลับเฉยชา ไม่ได้มีอาการอะไร ทำเหมือนเรื่องระหว่างทั้งคู่ในคืนนั้นมันไม่มีอะไรจริงๆ โจ๊กเก่งมากเลยนะในสายตาแจ็ก เป็นรุ่นน้องคนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป กลายเป็นแจ็กเสียมากกว่าที่ไม่สามารถทำตัวปกติได้เมื่อมีโจ๊กอยู่ในกลุ่มสนทนา

“คุยเรื่องเงินโดเนตครับหนูเตอร์” โอมหันไปดึงแขนเตอร์ให้นั่งข้างกัน

“อ่อ ทำไมอะ เงินนั่นควรเป็นของกองกลางหนิพี่ แล้วพวกพี่จะทำหน้าเครียดกันทำไม”

“ก็วัตอยากจะยกเงินนั้นให้พวกเราไง” โอมพูดไปก็ดันอาหารที่ตนซื้อมาเผื่อให้เตอร์ได้กินเป็นมื้อเช้า แซนวิชง่ายๆ กับนม

“ไม่เอาอะ เป็นกองกลางนี่แหละพี่ ไว้กินด้วยกัน หรือไม่ก็เก็บไว้เป็นทุนทำแข่งดีมั้ย” เตอร์เสนอความคิดเห็น

“แข่งก็ยังไม่เคยแข่ง แต่จะทำแข่งเองแล้วเนี่ยนะ” วัตว่าเสียงนิ่ง

“อ่าว มันก็ไม่เกี่ยวสักหน่อยพี่ การแข่งอะเตอร์ก็ดู ศึกษาเพิ่มเติมอีกสักหน่อย ทีมแอดมินเราจัดทัวร์กันเองได้อยู่แล้ว ยิ่งเราจัดใหญ่เท่าไหร่ เราก็จะยิ่งดังนะพี่ เตอร์ว่าดีออกน้า ตอนนี้แคลนเราก็อันดับต้นๆ ของเกมแล้วด้วย ต้องทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่หน่อยซี่ เนอะๆ คุงโอม” อ่า...หันมายิ้มอ้อนแบบนี้ก็ต้องตามนั้นเลยล่ะคร้าบน้องเตอร์

“หนูว่าไงพี่ก็ว่างั้น”

“อ่าวๆ มึงจะเข้าข้างกันโดยไม่พูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้นะ” มอสแย้งเข้าให้ บอกแล้วว่าอีคู่นี้มันน่าหมั่นไส้

“ต้องได้ดิ”

“ไม่ได้”

“ได้”

“ไม่”

“ได้”

“ไม่”

“ได้”

“ไม่”

“ไม่ต้องเถียงกันแล้วไอ้ห่า” วัตทนไม่ไหวกับการต่อปากต่อคำของมอสกับโอม จะมาได้ไม่ได้อยู่เงี้ยวันนี้ก็ไม่จบ น่ารำคาญอีกต่าง

“ฮ่าๆ พวกพี่นี่ทำตัวเป็นเด็กเลย” เตอร์นั่งขำ อยู่กลุ่มนี้มีเรื่องให้เฮฮาได้ตลอดจริงๆ

“งั้นมึงสรุป” มอสหันไปหาวัต

“กูเห็นด้วยกันเตอร์ แต่ก็คงยังไม่ได้ทำแข่งเร็วๆ นี้หรอกนะ เราไปลองลงแข่งแล้วกวาดรางวัลเยอะๆ ก่อนดีกว่า จากนั้นค่อยทำแข่งกันเอง”

“อืม แบบพี่วัตก็ดีนะ พอเราแข่งบ่อยๆ คนก็จะเห็นเราเยอะขึ้น ยิ่งเราชนะ คนก็จะยิ่งรู้จักเรามากขึ้นไปอีก ผมว่าการที่เราแสดงให้คนอื่นรู้ว่าพวกเราเก่งจะทำให้เรามีฐานอำนาจมากขึ้นอีกด้วย เอางี้ไหมพี่ อาทิตย์หน้ามีการแข่งเล็กๆ เราไปลงกันไหม ทีมหนึ่งมีได้ทั้งหมดเจ็ดคน เนี่ยเราครบทีมเลยนะพี่” หนูเตอร์ตาวาวเป็นประกาย เพราะมันน่าตื่นเต้นสุดๆ ไปเลยกับการได้ลงแข่งขัน

“เอาดิ ได้นะ แล้วเราจะให้ใครไปสมัคล่ะ” มอสมองหน้าผู้ร่วมแย่งอากาศหายใจบนโต๊ะ

“ผมทำก็ได้พี่” ดรีมเป็นคนเสนอ หลังจากนั่งฟังเงียบๆ มาพักใหญ่

“โอเค งั้นพี่ฝากด้วย อืม...หลังจากนี้ก็แค่ต้องซ้อม สักสองทุ่มครึ่งเป็นไง” คราวนี้มอสต้องหันไปถามวัต

“ก็ดีนะ”

“แต่ไม่เอาวันนี้นะ” โอมรีบปฏิเสธที่จะซ้อมในวันนี้

“กูยังไม่ได้บอกเลยจะเอามึงเข้าทีมแข่ง” วัตสวนกลับ

“อ่าว...ใช่ซี่ กูมันอ่อนนี่ แม่งเสียใจนะ” โอมกระซิกๆ ใส่เพื่อน หนูเตอร์นี่ก็รักคุงโอมจัดเลยนั่งกลั้นขำใหญ่

“แหมทำเป็น กูไม่เอามึงก็ยัดเหยียดตัวเองเข้ามาอยู่ดีปะวะ”

“แต่การที่ต้องยัดเหยียดตัวเองเข้าไปก็ไม่ได้รู้สึกดีปะวะ” คราวนี้โอมพูดจริงจังขึ้นมาหน่อย ซึ่งคนอื่นๆ ก็รับรู้ได้แหละว่าโอมน้อยใจจริงๆ

“เออๆ กูขอโทษ กูพูดเล่น ยังไงก็เอามึงลงอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ไก่อ่อนแล้วหนิ” วัตก็ต้องยอมไป เพราะก็รู้แหละว่าเพื่อนคงมีนอยด์บ้างอะไรบ้าง

“แน่นอน แฟนกูเก่ง”

“น่าหมั่นไส้ให้น้อยๆ หน่อย” มอสส่ายหน้าระอาใจ ผิดกับหนูเตอร์ที่ยิ้มไม่หุบ ซ้ำยังหันไปส่งยิ้มให้โอมตรงๆ อีกด้วย

งื้อ...จะทานแล้วนะคร้าบบบบบบ

ได้แค่คิดนะ ไม่สามารถทำจริงได้ โอมยิ้มตอบเตอร์แล้วยีหัวหนูเตอร์เบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยวสุดๆ นี่ตั้งแต่วันที่จูบกันในห้องวันนั้น เขากับเตอร์ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบที่เป็นตัวเป็นๆ เลย มีแต่คาสายในดิสคอร์ดเท่านั้น มันน่าน้อยจุย อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้มีโอกาศสวีทวี้ดวิ้ววว ได้

ขณะที่ทุกคนร่วมพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โจ๊กเม้าท์ดรีมที่ไปแจกแต้มในแรงก์ ดรีมก็สวนโจ๊กเรื่องที่โจ๊กโยนเกม เถียงกันไป เถียงกันมา มอสก็เข้าไปร่วมวงด้วย ปล่อยวัตนั่งเล่นเกม โอมกับเตอร์งุ้งงิ้งกันอยู่สองคน คงมีแต่แจ็กที่ผิดแปลกไป ไม่สิ ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ถ้าโจ๊กอยู่ในโต๊ะแจ็กจะมองโจ๊กแล้วก็นิ่งๆ อยู่แบบนี้เลย บางทีก็ลุกหนีไปเสียดื้อๆ ครั้งนี้ก็เช่นกัน...

“กูไปก่อนนะ” แจ็กหยิบกระเป๋าขึ้นสะพาย

“ไปไหนอะ ไม่เข้าคลาสพร้อมกันวะ” มอสรีบหันไปถาม แต่แจ็กเดินลิ่วๆ หนีไปแล้ว

“มันเป็นบ้าอีกแล้วเหรอวะ” โอมพูดแบบงงๆ อาการมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันอังคารได้ล่ะ ตอนที่รุ่นน้องไม่อยู่ก็ลั้นลาคุยเรื่องสาวได้ แต่พอรุ่นน้องมากลับหงอยเฉย

“ผมว่าจะพูดหลายทีแล้วว่าพี่แจ็กแกแปลกๆ นะ หรือผมคิดไปเอง เวลาพวกผมมาแกจะซึมๆ แล้วก็เดินหนีออกไปก่อนทุกรอบเลยอะ แกเป็นอะไรกันแน่พี่” เตอร์ถามสิ่งที่สงสัย สังเกตมาก็ตั้งนานแต่ไม่กล้าถามเนี่ยแหละ

“พวกพี่ก็ไม่รู้วะ ยังไม่เข้าใจเลยว่ามันเป็นบ้าอะไร” มอสจนปัญญาจะตอบ

จากที่นั่งเถียงกันเรื่องใครโยนมากกว่าก็กลายเป็นวิเคราะห์แจ็กแทน เตอร์เข้าร่วมบทสนทนานี้ ปล่อยให้โอมนั่งโอบเอวไป เล่นมือถือไป มันเป็นเรื่องที่น่าสนุกแล้วก็ตื่นเต้น เรียกว่าไงดี...เรียกว่าเหมือนได้ร่วมกันเป็นนักสืบละมั้ง แต่ขณะที่ทุกคนสนุกกับหัวข้อนี้มีคนหนึ่งค่อยๆ เฟดตัวเองออกจากบทสนทนาด้วยการเล่นมือถือเงียบๆ ซึ่งคนนั้นก็คือโจ๊ก

ตอนบ่ายสามโอมและผองเพื่อนเลิกคลาสกัน สภาพสะโหลสะเหลสุดๆ ยกเว้นโอมที่ตื่นเต้นกับการได้เลิกคลาส ไม่มีเหนื่อยไม่มีเพลียเลยแม้แต่นิด ดูสภาพมอส แจ็ก วัต ตาอย่างลอย ดูออกเลยสมองหายไปหมดแล้วเพราะโดนบทเรียนกัดกิน

เดินๆ กันอยู่สี่หนุ่มสี่มุม แจ็กก็ชวนเพื่อนไปดื่มอีก ตามประสาสายดื่มแหละ วันนี้วันศุกร์เหมาะแก่การดื่มสุราเคล้านารีสุดๆ มอสกับวัตโอเค แต่โอมไม่ พอถามโอมก็บอกว่าวันนี้อยากจะไปอยู่กับเตอร์ แค่นั้นแหละ สายตารู้ทันของเพื่อนทั้งสามก็ทิ่มแทงเข้ามาแบบพร้อมเพรียงกัน โอมเลิ่กลั่กเล็กน้อยแล้วรีบชิ่งทันที!

โอมกับเตอร์มักจะนัดกันไปทานข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน แม้ว่าวันนั้นจะมีคนใครสักคนเลิกเร็วกว่า เลิกช้าว่า หรือแม้กระทั่งไม่มีเรียนก็ตาม วันนี้ทั้งคู่จะเลิกเวลาใกล้กัน ก็จะไปหากันตามสถานที่ที่ได้นัดไว้

แต่ว่า...วันนี้โอมจะทำมากกว่าการไปกินข้าวเย็น

โอมอยากกินเตอร์ครับ!

นี่โอมดูเป็นพวกของขาดหรือเปล่านะ? เอาเข้าจริงโอมก็แอบระอายใจนิดหน่อยที่แบบมาคิดอะไรอย่างนี้กับแฟนที่เพิ่งคบได้หมาดๆ แต่จะมานั่งปฏิอิเสธความคิดตัวเองมันก็ไม่ใช่ มันก็ต้องยอมรับว่าโอมหมายปองจะครอบครองเตอร์เหมือนคนที่เป็นแฟนกันทั่วไป โอมเดินไปคิดไป ว่าจะเอายังไงดี คือไม่อยากเป็นคนไม่ดีที่คิดแต่จะเอาแฟนของตัวเองอย่างเดียวอะ

ในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน ตีกันวุ่นวายทั้งฝ่ายชั่วฝ่ายดี อยากถนอม แต่ก็อยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหนูเตอร์ไว้แต่เพียงผู้เดียว แล้วรู้อะไรมั้ย ทุกวันนี้ที่คาสายอยู่กับหนูเตอร์เนี่ย หนูเตอร์ก็ชอบเปิดเพลงที่แบบ...ถอดออกทีละชิ้น ได้มั้ย อะไรเงี้ย เขาฟังเขาก็คิดไง เขาฟังเขาก็จิตนาการอะ บางทีเตอร์ก็ร้องมันออกมา แล้วทุกวันอะ นี่ยังไม่รวมบางทีที่หนูเตอร์ทำเสียงอ้อนๆ เสียงแหบอ้อนๆ เสียงพ่นลมหายใจที่ฟังแล้วขนลุก...ไอ้นั่นลุกอะ

แม่ง...ปกติก็อยากฟัดอยู่แล้ว เจอแบบนี้ทุกวันยิ่งเริ่มจะกลายเป็นคนชั่วเข้าทุกที ให้ตายเถอะ ควรเป็นคนดีที่ไม่ได้แดกไหมนะ อดทนต่อไป เป็นสุภาพบุรุษอะไรเงี้ย โอ้วเป็นเครียดแท้หนอชีวิต

“คุงโอมเป็นอะไรอะ?” โอมเดินเครียดจนมาถึงที่หมายไม่รู้ตัว สีหน้านี่ออกเลยว่าใช้สมองอย่างหนัก เรียกว่าหนักกว่าตอนเรียนก็ตอนนี้เนี่ยแหละ

“อะ...เอ่อเปล่าครับ วันนี้หนูอยากกินอะไร” โอมยื่นมือไปให้หนูเตอร์จับ แต่หนูเตอร์เลือกจะกอดแขนแล้วซบไหล่แทนซะอย่างนั้น เนี่ยยยย พ่อคุณแม่คุณ อยากฟัดคร้าบบบ

“อืมมมม กินอะไรดีอะ”

“ไม่รู้สิครับ” โอมก้มลงมองใบหน้าน่ารักของแฟนที่กำลังเงยหน้ามองเขาอยู่

“คุงโอมไม่มีอะไรที่อยากกินมั้งเหรอ ให้หนูคิดทุกวันเลยอะ เอาเปรียบหนูน้าแบบเนี่ย” ขอโทษได้มั้ยล่ะ ก็ไอ้ที่อยากกินมันเป็นหนูอะครับ จะให้พูดยังไงดี

“ฮ่าๆ อะไรกัน พี่ตามใจหนูมันไม่ดีเหรอครับ หนูอยากกินอะไรก็ได้กินงี้”

“ก็ดี แต่วันนี้หนูคิดไม่ออก”

“เอาที่หนูคิดขึ้นมาแว้บแรกเลยก็ได้”

“เบียร์”

“ฮะ???” โอมถึงกับชะงักแล้วมองหน้าเตอร์ เบียร์เนี่ยนะหนูเตอร์ ไม่นะไม่ หนูอย่าพูดจาว่าอยากกินอะไรเช่นนั้น เพราะนั่นคือสิ่งที่จะทำให้คุงโอมคนนี้คิดอะไรชั่วๆ อีก

“ฮ่าๆ ก็คุงโอมให้หนูคิดอะ แล้วที่แว้บเข้ามาก็เป็นเบียร์ เฉยเลยแฮะ...เอาไงดีล่ะ”

“มันก็กินได้ แต่กินข้าวดีกว่ามั้ย”

“งืม...” หนูเตอร์ทำหน้าคิดอีกแล้ว วันนี้มันคิดหนักขนาดนั้นเลยเหรอ

“งั้นกินไข่เจียวกุ้งสับ” หนูเตอร์เงยหน้ามายิ้มหวานตาปิดให้

“โอเค งั้นไปร้านป้ากัน”

“ไม่ๆ”

“อะไรอะ ไม่กินร้านป้าเหรอ” โอมงงอีกรอบ วันนี้หนูเตอร์งุ้งงิ้งนะรู้ตัวไหม แล้วมันก็...เออ...มันน่าฟัดแหละ

“หึ ไม่เอาอะ”

“แล้วกินร้านไหน”

“ร้านที่...มีเชฟชื่อคุงโอม” โอมมองหน้าที่ขึ้นสีของเตอร์หน่อยๆ ด้วยสายตาที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน โอ้วก๊อด...น้องน่าแดกมาก แฮ่กๆ

“งั้นก็ต้องไปกินที่ห้องพี่แล้วล่ะ” เอาวะ ตอนแรกนี่คิดไปคิดมา คิดจนล้มเลิกแผนการล่อลวงน้องไปแล้ว แต่ตอนนี้ บอกเลยว่า...ล้มเลิกยาก

“คร้าบ พอดีเลย กินแล้วก็ค่อยสตรีม เนอะ”

“โอเค แล้วจะเอาเบียร์ไหม ถ้ากินที่ห้องพี่ก็ได้นะ”

“ได้เหรอ”

“ได้ครับ” พอโอมอนุญาต หนูเตอร์ก็พยักหน้าหงึกหงักด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสองพากันไปซื้อของที่จะทำกิน ระหว่างนี้ก็คุยกันว่าคุงโอมทำอาหารเป็นมั้ย ทำอะไรเป็นบ้าง แน่นอนว่าลูกแม่ค้าร้านข้าวแกงไฮโซอย่างโอมทำอาหารเป็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ดูแม่ทำมาเยอะ ช่วยแม่ทำมาก็เยอะ หนูเตอร์ดูจะตื่นเต้นมากๆ เพราะว่าถ้าทำอร่อยตนก็จะมีให้อ้อนเวลาอยากให้ทำอะไรให้กินแล้ว

ไข่หกฟอง กุ้งครึ่งโลและเบียร์สามขวดถูกวางลงที่เคาน์เตอร์ครัว เตอร์ช่วยเอาเบียร์ไปเก็บและหุงข้าว ส่วนโอมนั้นหยิบถ้วยออกมาตอกไข่ สับกุ้ง ตั้งกระทะ เทน้ำมัน รอมันเดือด ระหว่างรอก็ปรุงรส หนูเตอร์ที่ทำหน้าที่ตัวเองเสร็จแล้วก็นั่งอีกฝั่งของเคาน์เตอร์ครัวดูคุงโอม

เวลาเห็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ อยู่ในครัวทำอาหารสนี่มันมีเสน่ห์จริงๆ ต่อให้ทำคล่องหรือไม่คล่องก็ยังน่ามอง แล้วเตอร์ก็เผลอมองแบบจับจ้องไม่ละสายตา เล่นเอาคุงโอมตะกุกตะกักไปนิดหนึ่ง เพราะมันเกร็งที่โดนแฟนจ้องซะขนาดนั้น

“คิดยังไงอยากกินไข่เจียว” เพื่อไม่ให้ตัวเองเกร็งไปมากกว่านี้ โอมจึงเปิดบทสนทนาขึ้นมา

“อยากกินอาหารฝีมือคุงโอมแหละ แต่ไม่รู้ว่าคุงโอมทำอะไรเป็นบ้าง ก็เลย...เอาไข่เจียว ง่ายๆ ทำได้แน่นอน” สีหน้าเตอร์ตอนพูดเต็มไปด้วยความสุข รอยยิ้มน่ารักๆ เต็มแก้มขาวผ่อง

“แล้วหนูทำอาหารได้มั้ย” โอมเอากุ้งใส่เข้าไปในไข่ จากนั้นตีมันแรงๆ ให้ขึ้นฟูประมาณหนึ่ง เวลาทอดจะได้ฟูๆ กรอบๆ

“ก็พื้นฐานมั้ง ไข่ดาว ไข่เจียว ต้มมาม่า”

“แหม มาม่าไม่ต้องนับก็ได้มั้ง อันนั้นมันแค่ต้มน้ำเอง”

“เอ้า ต้มน้ำก็ถือว่าทำแล้วน้า ใส่ไข่ด้วย อร่อยสุดๆ” น่าตาน่าเอ็นดู พี่อยากพาหนูไปดูเอ....ช่างมัน

“คร้าบ ทำก็ทำ หนูว่าไงพี่ก็ว่างั้นอะ”

“พี่ขัดหนูบ้างก็ได้เหอะ ตามน้ำตลอด”

“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวแฟนไม่รัก” โอมยิ้มทะเล้นใส่ เห็นแก้มนั้นขึ้นสีนิดๆ แล้วชื่นใจจริงๆ

“ถ้าสมเหตุสมผลก็ไม่เห็นต้องกลัวเลย รักอยู่ดีแหละ” เตอร์ไม่ได้มองหน้าโอม แต่มองที่อื่น

“เช่น...เรื่องเติมเกมเป็นไง”

“ง่า...เรื่องนั้นตามใจก็ได้ครับ” รีบหน้าทำหน้าแบ๊วอ้อนเลยน้า

“เรื่องนั้นอะน่าขัดที่สุดแล้วครับ หึหึ” โอมขำเบาๆ ก่อนจะเทไข่ใส่กระทะที่ร้อนจัด

ไข่เจียวกุ้งหอมๆ สีทองเหลืองกรอบถูกตักขึ้นมาใส่จานใบสวย ตอนนี้ในสายตาเตอร์ไม่ได้อยู่ที่หน้าคุงโอมอีกแล้ว มันอยู่ที่ไข่เจียวในจาน น้ำลายเหมือนจะไหลยังไงบอกไม่ถูก แต่ก็ต้องมานั่งรอข้าวสุกก่อนไม่งั้นก็อดกิน เตอร์เอื้อมมือไปหมายจะดึงตรงขอบมากินเล่น แต่ก็โดนตีมือเสียก่อน

“รอข้าวก่อนครับ”

“แค่ชิมเองงงงง”

“โนวๆ”

“คุงโอมใจร้าย”

“อ่าว ไหนว่าให้ขัดบ้างไง พอขัดก็งอน แก้มพองจนตาหายแล้ว” โอมอดไม่ได้ที่จะจิ้มแก้มเตอร์เล่น

“อันนี้ไม่ต้องก็ได้ เตอร์อยากชิม ขอชิมคำหนึ่ง”

“คำหนึ่ง?”

“ใช่ คำหนึ่ง” มีชูนิ้วขึ้นบอกจำนวนคำที่ต้องการตรงหน้าด้วย

“ได้ครับ” โอมจับมือที่ชูเลขออกจากหน้าเตอร์ จากนั้นเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆ ประทับริมฝีปากของตัวเองไปที่ปากนุ่มนิ่มของเตอร์ สัมผัสเบาๆ ค่อยๆ คลึงปากด้วยปากก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของหนูเตอร์ สอดเข้าไปในนั้นนิดหนึ่งแล้วก็ถอยออก...

คำหนึ่งของเตอร์หมายถึงไข่เจียว แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นจูบนุ่มนวลของคุงโอมเสียอย่างนั้น หนูเตอร์หลุบตาลง เบี่ยงหน้าหลบนิดหน่อยเพราะไม่อยากให้คุงโอมเห็นว่าตอนนี้หน้าของเตอร์แดงขนาดไหน มันไม่พ้นหรอกเพราะหูหนูเตอร์ก็แดงจนเห็นได้ชัด

“อร่อยไหมครับ” โอมใช้โอกาสที่หนูเตอร์เขินขยับเข้ากระซิบเสียงเบาที่ใบหูแดงๆ

“...อื้อ...อะอร่อยครับ” หนูเตอร์ถึงกับเอาสองมือปิดหน้าก่อนจะพยักหน้าแล้วตอบเสียงอู้อี้

….100%….

____ช่วง~ Gukak ขายของค่า____

Rre-Order เกมเมอร์มือวางอันดับกาก #โอมกินเตอร์ (แนวมหาลัยน่ารักกรุบกริบ)

สั่งซื้อได้ที่

เทพช๊อป /> https://bit.ly/2OUrk08

inbox เพจ /> https://bit.ly/37av9Jl

ทดลองอ่าน /> https://bit.ly/35bG6KC

Ebook #ฟ้องป๊าแน่ (แนวรับซินรับพอร์น)

ลิงก์/> https://bit.ly/3xmyEIw

~ฝากอุดหนุนผลงานด้วยนะคะ สมทบทุนค่าขนมและค่าคอมมิชชั่นค่า~

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด