คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)  (อ่าน 12621 ครั้ง)

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :katai2-1:
มีคนได้ลาบเลือดแน่ อิอิ

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ฆ่ามันเลย เอามันให้ตายไปเลย

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ mylittleY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คือมันดี บอกมันเลย ว่านี่เมียช้านนนน อย่ามายุ่ง!
 :hao7:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ชอบมาก สนุกมากครับ,,,

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 25---


แฟง's part

"คุนไปทำแบบนั้นตอนไหน พี่ศักปล่อยคุนนะ โอ้ย"

"ทำไมกูต้องปล่อย ผัวมึงไม่อยู่ก็มาเล่นสนุกกับกูหน่อยจะเป็นไรไป"

"ใครบอกมึงว่าผัวคุนไม่อยู่"

ผมที่หลบอยู่หลังประตูห้องนอนตะโกนออกไปในทันทีที่ไอ้เ*ยรปภโรคจิตนั้นมันบอกจะลวนลามคุนคุนของผม ผมอยากจะออกไปกระทีบมันตั้งแต่มันตะโกนใส่คุนคุนอยู่ในครัวแล้วแต่ไอ้ทัพที่ยืนอยู่ข้างกันก็ห้ามผมไว้ก่อนเพราะถ้าออกไปตอนนี้มีหวังทุกอย่างที่เตรียมวางแผนมาคงคว้าน้ำเหลว ไอ้เ*ยกูบอกเลยว่าตอนนี้พร้อมบวกมาก

"มะ มึง มึงมาได้ไง" ไอ้เ*ยพี่ศักที่กำลังคร่อมคุนคุนนอยู่บนเตียงหันมาทางผมที่ยืนอยู่ปลายเตียงทันที สีหน้ามันดูตกใจเล็กน้อย แต่ก็ถูกรอยยิ้มโรคจิตของมันเข้ามาแทนที่ในวินาทีต่อมา เป็นรอยยิ้มที่ดูน่าขยะแขยงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

"ออกมาจากตัวคนของกู!" ผมตะโกนออกไปอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่าไอ้สันดานนั้นมันจะไม่สนใจฟังสิ่งที่ผมพูดแม้แต่น้อย นอกจากมันจะไม่ขยับไปไหนแล้ว มันยังจะก้มหน้าลงไปใกล้ๆซอกคอขาวๆของว่าที่เมียกูอีก ไอ้เ*ย! วอนตีนซะแล้ว!

"ทำไมวะ มีของดีก็แบ่งๆกันใช้ไม่ได้รึไง" สันดานทรามจริงๆเลยนะมึง

"แบ่งพ่องงงง! ของของกูทำไมต้องแบ่งใคร ไอ้เ*ย!!" ผมรีบพุ่งเข้าไปเตรียมจะกระชากมันให้ออกมาจากตัวคุนคุน แต่มือผมที่ยื่นไปกลับคว้าได้เพียงอากาศ เพราะจู่ๆร่างทุเรศๆของมันก็ถูกจับกดลงบนเตียง คอถูกล็อคไว้ขยับเขยื้อนไม่ได้ มือทั้งสองข้างถูกจับไปไขว้หลังไว้แล้วจับหัวกดลงบนเตียง เ*ดแม่! ว่าทีเมียกูเป็นโทนี่จาวะ!

"ผมบอกแล้วคุนคุนมันจัดการได้พี่ก็ไม่เชื่อ" กองทัพที่ยืนหลบอยู่หลังประตูห้องนอนเดินออกมา แล้วเอามือมาตบแปะๆที่ไหล่ของผมสองถามที ส่วนผมก็ยืนอ้าปากค้างอยู่แบบนั้น คือก่อนหน้านี้ไอ้สองแฝดมันบอกผมแล้วว่าคุนคุนนะเรียนวิชาการป้องกันตัวมาพอสมควร แล้วก็คงจะเอาตัวรอดกับสถานการณ์นี้ได้ ไม่ต้องให้ผมเป็นห่วง แต่จะให้ผมไว้ใจได้อย่างไงในเมื่ออีกคนตัวเล็กนิดเดียวจะให้ไปสู้แรงควายของผู้ชายตัวใหญ่ได้หรอ แล้วไอ้เ*ยโรคจิตนี่ก็ตัวไม่ต่างจากผมเลยสักนิด แฟนใครใครก็ห่วงป่าวครับถามหน่อยเถอะ ของแบบนี้มันจะนิ่งนอนใจได้อย่างไง ขนาดโลกิที่ว่าแน่ยังพลาดท่าเสียทีธานอสมาแล้ว จงอย่าได้ชะล่าใจ

"แค๊กๆๆ โอ้ย ปล่อยกู" คนที่ถูกจับกดไว้บนเตียงร้องโวยวายเมื่อเริ่มหายใจไม่ออก หน้าเริ่มไร้สีเพราะขาดอากาศหายใจ ว่าแต่ไอ้แก้มยุ้ยนี่ก็โหดไม่เบาเลยนะเนี่ย ถ้ากูทำไรผิดมามันจะหักคอกูมั้ยวะเนี่ย ตาย ตาย ตาย แววตายก่อนแก่มาแต่ไกลเลยกู

"คุนเจ็บตรงไหนรึเปล่า" ผมไม่สนใจไอ้สันดานเลวนั่น แต่หันไปถามคนตัวเล็กที่ล๊อคคอไอ้เลวนั่นอยู่

"คุนไม่เป็นไรครับ" คนตัวเล็กยิ้มตอบกลับมาจนตาหยี แถมยังยกนิ้วโป้งขึ้นมาเป็นสัญญาณว่าสบายมากกกก มึงมันน่ารักเกินบรรยายจริงๆเด็กชายคุนคุน

"เดี๋ยวพี่จัดการต่อเองคุน มึงมานี่ ไอ้เ*ย คิดจะเคลมคนของกูหรอ มึงมาเจอตีนกูหน่อยเป็นไง" ผมกระชากตัวไอ้เลวนั่นออกมาจากเตียง ลากมันลงมาตามพื้นจนมาถึงบริเวณทางเดินห้องนั่งเล่น คนที่หายใจติดขัดเมื่อครู่ดูเหมือนตอนนี้จะเริ่มกลับมาหายใจปกติแล้ว มันเงยหน้าขึ้นมาจ้องผม สายตาไม่ได้มีความสำนึกผิดอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย ขุนพลที่หลบอยู่ในห้องน้ำเดินตามออกมาพร้อมกับกองทัพและคุนคุนที่เดินบิดข้อมือตัวเองไปมา เพราะคนตัวเล็กจับข้อมือตัวเองทำให้ผมสังเกตเห็นว่าข้อมือสองข้างของเขาแดงเถือกเป็นรอยมือ

"เมียมึงมันอ่อยกูก่อน"

"ไอ้เ*ย คิดเองเออเอง" ขุนพลเดินมายืนข้างผม หน้าตามันจริงจังขึ้นกว่าเวลาปกติหลายเท่าตัว มันเอ่ยออกไปพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก แม้ปกติมันจะดูทำตัวไร้สาระลอยไปลายมาแต่ถ้าเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับคนที่มันให้ความสำคัญมันก็จะจริงจังขึ้นมาทันที คุนคุนก็คงจะเป็นหนึ่งในนั้น

"กูพูดเรื่องจริง มึงไม่เห็นมึงจะไปรู้ได้ไง ว่าเมียพวกมึงนะชอบมาอ่อยกูชิบหาย"

ปึก!

ผมทนไม่ได้ที่มันพูดจาไม่ให้เกียรติคุนคุนเลยฝากฝ่าเท้าไว้ที่หน้าอกมันไปหนึ่งที ไอ้ห่านี่พูดจาวอนส้นตีน

"พูดจาอะไรให้เกียรติคนของกูหน่อย คุนมันไปอ่อยมึงตอนไหน มึงมันโรคจิตคิดไปเอง"

"หึ พวกมึงมันโง่ ลับหลังพวกมึงมันอ่อยกูตลอดแหละ ยิ้มให้กู ซื้อของมาให้กู แถมยังชอบมาถูกเนื้อต้องตัวกูอีก"

"มึงนี่แม่งขี้มโนได้โล่เลยวะ คุนคุนก็แค่อัธยาศัยดีกับทุกคนปะวะ" กองทัพที่ยืนอยู่ไม่ไกลคงอดไม่ได้ถึงได้พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ

"พวกมึงไม่เชื่อก็ช่าง แต่คุนเป็นของกู กูรู้จักคุนก่อนพวกมึง มันต้องเป็นของกูเท่านั้น กูรักของกูมาตั้งนาน น้องคุนของพี่ศัก" มันพยุงตัวเองขึ้นก่อนจะถลาตัวเข้ามาจะกอดคุนคุน แต่ถูกผมยันกองลงไปกับพื้นก่อน

"มันเป็นของกูของกูคนเดียว น้องคุนเมื่อคืนเรายังมีความสุขกันอยู่เลยจำไม่ได้หรอ" สายตาคนที่นอนกองอยู่บนพื้นเริ่มเลื่อนลอย แล้วก็พ่นคำพูดต่างๆนานาออกมา แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่ใช่ความจริงเลยสักนิด มันบอกว่ามันกับคุนคุนรักกันแล้วก็เป็นแฟนกันมานาน คุนบอกให้มันรอแล้วก็จะหนีตามมันไป ถุย ไอ้ขี้มโน แต่ดูจากลักษณะท่าทางไอ้สันดานเลวนี่คงจะมีปัญหาสุขภาพจิตพอสมควร เมื่ออีกฝ่ายพูดจาไม่รู้เรื่อง เราเลยจับมัดไว้กับโต๊ะกินข้าวรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจัดการดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ในระหว่างที่ถูกมัดมันกลับพูดจาลวนลามคุนคุนออกมาตลอดเวลาจนผมทนไม่ได้ ฝากรอยเท้าไปที่ตัวมันไปอีกสองสามรอย และแถมข้อมือเคล็ดให้อีกสองข้างโทษฐานที่ทำข้อมือว่าทีเมียกูแดงเถือกขนาดนั้น ไม่นานตำรวจก็มาและจับกุมตัวมันไปดำเนินคดี พร้อมกับคลิปเสียงที่เราแอบอัดกันไว้ตอนที่มันสารภาพว่าส่งพัสดุมาขู่ผมด้วย หลักฐานคาตาแบบนี้คงจะดิ้นไม่หลุด

"ตามตัวคนร้ายฟกช้ำพอสมควรเลยนะครับ" ตำรวจที่กำลังพาตัวไอ้เลวนั่นออกไปเอ่ยขึ้น

"อ้อ สงสัยสะดุดล้มชนขอบโต๊ะนะครับ" ผมตอบไปอย่างไม่ได้สนใจมากนัก เพราะรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาคงจะเห็น ก็ไอ้เลวนั่นมันพูดจาวอนส้นตีนไง ไม่ใช่แค่ผมที่ฝากรอยตีนไว้ ไอ้แฝดก็ฝากไว้พอสมควรเหมือนกัน ช่วยไม่ได้ปากหมาเอง เลือดกลบปากเพราะตีนไอ้ทัพ คิ้วแตกเพราะไอ้ขุนฝากหมัดไว้ คุณตำรวจก็เออออห่อหมกตามผมไปด้วยโดนที่ไม่ได้ทักท้วง ลุงณรงค์คงกำชับมาแล้วว่าให้จัดการให้เรียบร้อย อ้อ ลืมบอกไปครับว่าพ่อผมโทรหาเพื่อนที่เป็นนายตำรวจใหญ่ชื่อลุงณรงค์ให้ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ แกเลยส่งลูกน้องมาจับกุมไอ้โรคจิตนี่ให้ ถ้าเป็นทีมอื่นเห็นรอยฝ่าตีนตามตัวมันพวกผมสามคนคงถูกเรียกไปรับข้อหาที่โรงพักแน่ๆ แต่ดีหน่อยที่คิดได้เลยโทรให้นิรันดร์จัดการให้เรื่องเลยง่ายดายแบบนี้

"อ้อ ครับ เดี๋ยวจะได้ลงบันทึกไว้ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"

"ขอบคุณมากครับ"

ไม่นานตำรวจสองนายกับผู้ต้องหาที่อยู่ในสภาพสะบักสะบอมก็ถูกพาตัวออกไปจากคอนโด สองแฝดขอตัวกลับไปที่ห้องของตัวเองด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก เพราะยังจัดการกับไอ้คนเ*ยปากดีได้ไม่สาสมแต่ตำรวจก็มาถึงเสียก่อน แฝดพี่นะไม่เท่าไหร่หรอกเพราะมันเป็นคนเก็บอารมณ์อยู่แล้ว แต่ไอ้คนน้องนี่สิอย่าให้เซดหน้านี้มุ่ยเป็นตูดหมึกเลยตอนเดินออกจากห้องไป

.
.
.
.

24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น

"เอาช๊อตนี้ลงด้วย"

"ไม่เอา คุนอายเค้า หน้าคุนแดงแจ๋เลยครับพี่แฟง"

"กูบอกให้เอาลงก็เอาลงเถอะน่า อย่าเถียง มึงน่ารักจะตาย เชื่อกู"

ไอ้ตัวนุ่มนิ่มนั่งเบะปากแต่ก็ยอมทำตามที่ผมบอก เราถ่ายคลิปล่าสุดสำหรับลงคุนคุน ชาแนล แล้วตอนนี้เด็กดื้อปากแบะคนนี้ก็กำลังตัดต่อคลิปอยู่ สาเหตุที่นั่งคว่ำปากเป็นตูดแบบนี้เพราะผมให้เอาฉากตอนที่ผมเดินมาหอมหัวมันตอนที่มันป้อนขนมอันอันลงในคลิปด้วย คลิปนี้ไม่ใช่คลิปออกกำลังกายหรือทำอาหาร แต่คอนเทนต์ของมันคือ One Day with AnAn หรือตามติดชีวิตหนึ่งวันของอันอัน เห็นแฟนคลับเขียนมาขอให้ทำคอนเทนต์ของไอ้แมวยักษ์จอมขี้เกียจที่นอนอืดอยู่ใต้โซฟานี้ได้สักพักแล้วเลยทำตามใจแฟนคลับเสียหน่อย แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุหลักของการทำคลิปวันนี้ เพราะสาเหตุจริงๆมันคือการล่อคนโรคจิตให้เข้ามาติดกับต่างหาก การถ่ายคลิปครั้งนี้ไม่ใช่ผมหรือคุนคุนที่ผลัดกันถ่ายเหมือนทุกครั้ง แต่เป็นขุนพลกับกองทัพที่มาช่วยถ่ายให้ มีหลายช๊อตที่เกิดขึ้นเพราะเราจงใจให้เป็นแบบนั้น ทั้งช๊อตหอมหัว ช๊อตคุนถอยหลังมาชนผมแล้วผมสวมกอดจากทางด้านหลัง ช๊อตเช็ดคุ้กกี้ออกจากมุมมาก ตามมาด้วยช๊อตอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้คนดูมองออกว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน
ถามว่าทำไมผมถึงมั่นใจว่าไอ้โรคจิตที่ตามรังความส่งพัสดุมาให้ผมคือพี่ศักนะหรอ เพราะวันที่ผมไปตัดผม ขากลับผมบังเอิญช่วยพี่ศักหยิบกระดาษลงบันทึกเวรที่มันเขียนด้วยลายมือมันหราบนหน้ากระดาษ มันคือลายมือเดียวกันกับบนกล่องพัสดุอุบาทๆของผม และบนกล่องขนมที่คุนคุนได้รับทุกอาทิตย์ แถมสายตาที่มันมองผมยังดูไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัดเลยด้วย แค่นี้ก็พอจับต้นชนปลายได้แล้ว

ผู้ต้องสงสัยรายที่สาม รปภ คือ ไอ้โรคจิตตัวจริง


หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านั้น

ขุนพลส่งข้อความมาว่าเป้าหมายกำลังจะกลับบ้านแล้ว

"พร้อมมั้ย" ผมกุมมือคุนคุนที่ยืนอยู่ข้างกันในลิฟต์ไว้

"คร้าบผม"

"กลัวรึเปล่า"

"สบ๊ายยย เรื่องน่าสนุกแบบนี้คุนชอบอยู่แล้ว"

"ระวังตัวด้วย เป็นห่วง แล้วโทรศัพท์นี้ห้ามกดวางนะกูจะได้ฟังเสียงมึงได้ตลอดเผื่อไอ้เลวนั่นมันทำอะไรมึงคุนคุน" ผมจับโทรศัพท์ของคุนคุนที่ตอนนี้ต่อสายเข้ากับเครื่องผมอยู่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงคนตัวเล็ก

"คร้าบผม พี่แฟงเชื่อมือคุน คุนเอาอยู่"

"อย่าทำเป็นเรื่องสนุกเข้าใจมั้ย ระวังตัว กูไม่อยากให้มึงเป็นอันตราย กูเป็นห่วง แล้วนี่อะไรติดแก้มเนี่ย แอบไปกินคุ้กกี้มาอีกแล้วหรอ เดี๋ยวกูกลับมานะจะเอาไปทิ้งให้หมดเลย เอามาจากไหนนักหนาวะไอ้คุ้กกี้เนี่ย" ผมยื่นมือไปเช็ดเศษคุ้กกี้ที่ติดอยู่างแก้มเด็กดื้ออก นี่คงจะไปแอบหยิบกินคุ้กกี้ก่อนออกมาจากห้องแน่ๆ

"แงงง" เป็นแบบนี้ทุกทีเวลาถูกจับได้ เบะปาก ทำเสียงงอแง น่าฟัดให้จมเตียงเป็นที่สุด

"อยู่นิ่งๆ ทำไมปากมึงแดงจังวะ แล้วก็เลิกทำได้แล้วไอ้ปากแบะๆเนี่ย" พอโดนดุเข้าหน่อยก็ยิ่งเบะปากมากขึ้น แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ปากเบะๆของมันไง ปัญหามันอยู่ที่ริมฝีปากแดงๆของมันต่างหาก แรกๆตอนเห็นมันเบะปากทำตาปริบๆนะ พอมันขออะไรอ้อนอะไรก็ตามใจหมด แต่คือตอนนี้ผมเริ่มมีภูมิต้านทานลูกอ้อนของไอ้เด็กนุ่มนิ่มนี่แล้ว เลยไม่ตามใจมันมากเหมือนเมื่อก่อน

"ไม่รู้ อื้อออ" ไอ้ตัวเล็กอ้าปากทำท่าจะพูดอะไรสักอย่างแต่ริมฝีปากมันยั่วยวนผมจนทนไม่ไว้ต้องเชยคางมันขึ้นมาแล้วประทับริมฝีปากตัวเองลงไปกับปากแดงระเรื่อทันที พร้อมกับโอบเอวอีกคนดึงเข้ามาใกล้ตัว นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในลิฟต์นะจะยกมันขึ้นเป็นลิงอุ้มแตงเลยคอยดู ในลิฟต์กูก็โนสนโนแคร์อะบอกไว้เลย ที่ตกลงกันตามแผนคือผมกับคุนลงลิฟต์มาแล้วผมก็หอมแก้มคุนให้ไอ้รปภโรคจิตนั่นเห็น แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะเลยเถิดไปพอสมควร ผมจมอยู่กับริมฝีปากเล็กแดงระเรื่อนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น

ตึ้ง!

"เอ่อ..."

เสียงประตูลิฟต์เปิดไอ้เด็กดื้อสะกิดผมตรงเอวเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเป้าหมายยืนอยู่ด้านนอก จริงๆผมควรจะผละริมฝีปากออกจากคุนคุนได้แล้ว แต่ไม่รู้เพราะอะไรผมถึงยังดูดเล็มริมฝีปากคนตัวเล็กต่ออีกสักพัก อาจจะเป็นเพราะอยากเติมเชื้อเพลิงให้แผนการครั้งนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะผมต้องการบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าคุณคุณนะเป็นของผม แต่พอคนตัวเล็กเริ่มหน้าแดงหูแดงผมก็ผละออกทันที สงสารมันคงจะอายน่าดู

"เอ่อ ขอโทษครับ" เสียงเป้าหมายที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ดังขึ้น ผมถอนหายใจเสียงดังเพื่อให้คนที่อยู่ด้านนอกคิดว่าผมไม่พอใจที่อีกฝ่ายมาขัดจังหวะเวลาสวีทของผมกับคุนคุน ผมเอี้ยวตัวเดินออกมาจากลิฟต์เพื่อหันมาเผชิญกับเป้าหมาย เอาจริงๆ คือเห็นหน้ามันแล้วคันฝ่าตีนวะ แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ก่อน ทำได้แค่เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มไปพรางๆ ผมเอ่ยทักพี่ศักพร้อมกับคว้าข้อมือคนตัวเล็กให้เดินออกมาจากลิฟต์ด้ายกัน

"สวัสดีครับพี่ศัก" หน้าไอ้พี่ศักแม่งโคตรเหวอ แต่ผมแอบเห็นเหอะว่ามันกำมือแน่นเชียว

แต่การแสดงละครมันยังไม่จบแค่นี้ไง ผมเดินโอบเอวคุนคุนมาที่หน้าประตูคอนโดส่วนพี่ศักมันก็ยืนมองผมสองคนอยู่หน้าลิฟต์ ทุกบทสนทนาของเราผมตั้งใจพูดให้เสียงดังเพื่ออีกฝ่ายจะได้ยิน และมันก็เป็นไปตามแผน ไอ้พี่ศักยืนมองมาทางผมกับคุนคุนด้วยสีหน้าหลายหลายอารมณ์ ผมก้มลงกระซิบข้างหูคุนคุน ก่อนจะเดินไปขึ้นรถขุนพลที่จอดรออยู่แล้วหน้าคอนโด

"ระวังตัวด้วย"

"ครับพี่แฟง"

"ห้ามให้สร้อยเส้นนี้หลุดออกจากตัว" ผมกำชับคนตัวเล็ก เพราะถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนแล้วไอ้พี่ศักพาคุนคุนไปที่อื่นอย่างน้อยผมก็ยังใช้สัญญาณจากเครื่องติดตามในจี้ตามคุนคุนไปได้

"ครับ"

หลังจากที่ผมนั่งรถขุนพลออกไป เราก็น้อนกลับเข้ามมาที่คอนโดอีกครั้ง ซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนรอจนเป้าหมายเข้ามาในห้อง แต่ก็เกือบแผนแตกเมื่อผมกับไอ้กองทัพเบียดกันจนแขนเผลอไปชนกับประตูห้องนอนเข้า โชคดีที่คุนคุนไหวตัวทันบอกว่าเป็นเสียงอันอัน ทั้งๆที่อันอันตัวจริงตอนนี้ถูกเอาไปเก็บไว้ในห้องนอนเล็กแล้ว

ปัจจุบัน

"ข้อมือแดงมากเลย มึงเจ็บมั้ยเนี่ยคุน" ผมคว้าข้อมือคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกันบนโซฟาขึ้นมาดูใกล้ๆ

"ไม่เจ็บเลยครับ"

"กลัวรึเปล่า"

"หื่อ ตื่นเต้นดี คุนชอบ"

"มันใช่เรื่องที่จะมาชอบมั้ย มึงควรจะกลัวมากกว่า"

"คุนจะกลัวทำไม มีพี่แฟงอยู่ด้วยทั้งคน"

"เชื่อใจกูขนาดนั้นเลยรึไง"

"เชื่อครับ คุนเชื่อว่าพี่แฟงต้องไม่ปล่อยให้คุณเป็นอันตรายแน่ๆ"

"พูดขนาดนี้ถึงวันนี้มึงไม่ยินยอม กูก็คงต้องยอมติกคุกแล้ววะ มึงมันน่ารักเกินห้ามใจจริงๆ" ผมอุ้มคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกันขึ้นมานั่งบนตัก กดจมูกหนาของตัวเองลงไปบนหน้าท้องขาวๆของอีกคนเหมือนที่เคยทำประจำ

"ขนาดนั้นเลยหรอครับ"

"เออ ขนาดนั้นแหละ จำคุกกี่ปีนะถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอมอะ" จมูกก็เลื่อนไล้ไปตามหน้าท้องขาวนุ่มนุ่มพรางสูดกลิ่นหอมอ่อนๆประจำกายของอีกคนไปด้วย

"โทษจำคุก 4-20 ปี ปรับ 80,000-400,000 บาท"

"ได้ เดี๋ยวกูโทรบอกนิรันดร์ให้เตรียมค่าปรับพร้อมกับโอเลี้ยงไว้ให้กูตอนนี้เลย"

"ยังไม่หมดแค่นี้นะครับ"

"อะไรอีก"

"ถ้าผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส พี่จะต้องถูกจำคุก 15-20 ปี ปรับ 300,000-400,000 บาท"

"พูดแบบนี้อยากเจ็บสาหัสรึไง หืม"

"คริคริ"

"มึงมันร้าย"

ตัดจบกล้องแพลนไปที่โคมไฟบนเพดาน!

.
.
.



#คุนแฟง

by ppeachmm

ออฟไลน์ mylittleY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เฮียแฟงหล่ออะตอนนี้
แล้วก็อยากอ่านเรื่องตอนตัดเข้าโคมไฟคะไรท์

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
คุณๆสายอ่อยมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
จับได้แล้ว โรคจิต,,,

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 26---

แฟง's part

"ต้องไปจริงๆหรอ" ผมกดส่งงานผ่านอีเมลล์เสร็จก็คว่ำหน้าไอแพดลงบนโซฟาก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับเจ้าของกลิ่นหอมอ่อนๆที่ลอยมาเตะจมูกผมตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ผมนั่งทำงานส่งอาจารย์อยู่บนโซฟาตัวยาวนี้ มันคือการทดความความอดทนขั้นสูง ที่คนภูมิต้านทานต่ำคงทนได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วย แต่ผมมันเทพไง ทนไม่ได้ตั้งแต่หนึ่ฃนาทีแรก ผ่าม! ไร้สาระชิบหายตัดภาพข้ามไปเลย

"อะฮะ" คนตัวเล็กที่นอนเอาหัวเกยตักผม ในมือถือโทรศัพท์หน้าจอแสดงให้เห็นว่ากำลังคุยกับปาป๊าที่อยู่ไกลถึงกรุงปักกิ่งประเทศจีน ในหน้าจอแชทแสดงตัวหนังสือจีนเด่นหราเต็มหน้าจอ จะขอเสือกอ่านหน่อยก็อ่านไม่ออกอีก อยากรู้ว่าคุยอะไรกันนักหนา คุยไปหัวเราะไป ไอ้ตัวนุ่มนิ่มนี่มันโคตรของโคตรของความน่ารักอะบอกไว้เลย คิดดูเอาเองละกันว่าผมอะอยากเสือกมากแค่ไหนจนต้องไปลงคอร์สเรียนภาษาจีนออนไลน์อะ จริงจังแต่ไหนเรียกจริงจัง นายลภัสไม่ได้มาเล่นๆ!

"อย่าไปเลย" คุนคุนจะกลับปักกิ่งคืนพรุ่งนี้ครับ แล้วผมก็ไม่อยากให้มันกลับ อ้อนมันมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้ว แต่มันก็ไม่ใจอ่อน จริงๆก็เข้าใจมันแหละถ้าเป็นผมผมก็คงต้องกลับเหมือนกัน พ่อแม่ก็คงคิดถึงผมเหมือนที่ม๊ากับป๊ามันคิดถึงมันนั่นแหละ ก็ไม่มีไรมากแค่งอแงงไปตามประสาคนติดเมียแหละครับ เข้าใจความรู้สึกไอ้นาทีเลยตอนที่มายด์เวย์กลับบ้านไปหาพ่อแม่ที่ภูเก็ต มันนี่นั่งหน้าหงอยแล้วหงอยอีก บางทีก็มาสิงอยู่ห้องผมเป็นวันๆ เคยด่ามันว่าอ่อน กล้องแพลนกลับมาหากูตอนนี้คืออ่อนเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน แบบนี้เองสินะที่เขาเรียกว่าติดเมียอะ เดี๋ยวนี้เรียกเมียได้เต็มปากเต็มคำแล้วนะครับ เพราะเราสองคนฮึ่มฮ่ำกันไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่กล้องแพลนตัดไปที่โคมไฟบนเพดาน เชี่ยยย ฟินโคตร ที่เหลือขอไม่เล่านะ มันเป็นเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัว ไม่ควรเอามาตีแผ่ เดี๋ยวเมียเด็กน้อยขี้อายจะงอนเอา อดฮึ่มฮ่ำขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ

"ไม่ได้หรอกครับ สนามบินเปิดแล้ว หมาม๊ากับปาป๊าคิดถึงคุน คุนต้องกลับบ้าน"

"แต่กูก็คิดถึงมึงเหมือนกัน" นิรันดร์สอนมาว่าให้ตื๊อเข้าไว้ ได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที

"พี่แฟงไม่มีเวลาคิดถึงคุนหรอพี่แฟงต้องไปเรียนทุกวัน แต่ถ้าคิดถึงคุนก็คอลหาคุนได้ตลอดเวลา" เชี่ยมันพูดถูกวะ ตอนนี้เรียนมันแม่งทุกวัน จันทร์ถึงเสาร์ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกกูยังไม่ได้โผล่หัวออกจากโรงพยาบาล กินในโรงพยาบาล เรียนในโรงพยาบาล ขี้เยี่ยวในโรงพยาบาล ประหนึ่งเหมือนผู้ป่วย ต่างกันตรงที่กูใส่ชุดกาวน์สีขาวยาวๆ มองไกลๆนึกว่าช่างตัดผม อ้าว ด่าตัวเองเข้าไป

"แต่กูไม่มีคนกอดตอนนอนกูนอนไม่หลับ" ถึงจะอยู่ในโรงพยาบาลแทบทั้งวัน แต่กลางคืนผมก็ยังได้กลับมากอดไอ้ตัวนุ่มนิ่มนอนทุกคืนไงครับ กอดอะไรก็ไม่อุ่นเท่ากอดเมีย ต้องเอาไออุ่นจากอ้อมแขนเราเข้าล่อ เผื่อมันจะเห็นใจร่นระยะเวลาอยู่ในอ้อมกอดพ่อแม่เจียดมาให้กูบ้าง

"กอดหมอนข้างไปก่อนนะ" โว้ย! ดับฝันกูซะงั้น

"ไม่เอามันไม่อุ่น" ถ้าลูกอ้อนไม่เวิร์คก็ต้องใช้ลูกแถ แถไปจนสีข้างถลกกันไปข้างหนึ่งเลย อันนี้นิรันดร์ก็ย้ำมาเหมือนกัน

"งั้นกอดอันอันสิ" มันไม่เล่นด้วยวะ

"ไม่เอาเดี๋ยวมันแ*กหัวกู ตอนนี้มันตัวจะเท่ามึงแล้วเนี่ย ให้มึงให้มันแ*กเยอะเกิน"

"เอางี้แล้วกัน เดี๋ยวคุนให้กองทัพกับขุนพลสลับกันมานอนให้พี่กอดดีมั้ยครับ"

"เชี่ยยยย ไม่เอา ฟ้าผ่าตายพอดี" แค่คิดก็สยองนอนไม่หลับไปสามวันสามคืน ถ้าขืนตื่นมาแล้วเจอไอ้สองแฝดนั้นมาอยู่ในอ้อมกอดมีหวังได้ตาค้างไปขึ้นวอร์ดแน่ๆ เชี่ย ขนแขนสแตนอัพ!

"ฮ่าๆๆๆๆ"

"ไม่ต้องมาขำเลย มึงไม่คิดถึงกูบ้างรึไง ฮือๆๆ" ไอ้คุนแม่งนับวันยิ่งต่อรองเก่ง กูต้องเล่นใหญ่ไฟกระพริบเข้าไว้ เดินมาไกลแล้วลภัสถอยไม่ได้ บีบน้ำตาแม่งเลย! น้ำตาลูกผู้ชายที่สะสมมายี่สิบปีกูบีบมาใช้ให้หมดในวันนี้แหละ

"คุนไปแค่สามอาทิตย์เอง เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว" แต่มันไม่หลงกลกูอะ ดูดน้ำตากลับคืนแทบไม่ทัน

"มึงควรจะเปลี่ยนประโยคใหม่นะคุน ต้องบอกว่าไปตั้งสามอาทิตย์ ไม่ใช่แค่สามอาทิตย์ มันนานนะเว้ย กูใจขาดตายพอดี ไม่มีคนกอด ไม่มีคนให้เอา" อันหลังนี่สำคัญนะโว้ย ขาดเธอเหมือนขาดใจ ขาดเมียที่รู้ใจเอายังไงก็ไม่มัน ผ่าม!

"ทะลึ่ง คิดถึงแต่เรื่องอย่างว่าตลอดเวลา" เออ กูคิดตลอดแหละ ยอมรับมันตรงนี้เลย

"อ้าว กูก็ผู้ชายห่ามๆหื่นๆคนหนึ่งบนโลกใบนี้เท่านั้นเอง ไม่ใช่เสาไฟฟ้าไร้ความรู้สึกนะเว้ย"

"อะไรกันเล่า งั้นพี่ก็ทำเหมือนที่เคยทำก่อนมารังแกคุนสิ" ดูคำพูดคำจา เออ กูยอมรับว่ากูรังแกมึง แต่ตอนจบของเรื่องมึงก็ฟินพอๆกับกูแหละว้าาา เชี่ย แค่คิดก็ฟุ้งซ่านไปไกล เฮ้อ ฮึ่มฮ่ำฮึ่มฮ่ำ ยุบหนอ พองหนอ

"ไม่เอา กูลาขาดแล้วนิ้วน้องนางทั้งห้าอะ กูใส่ซองยัดเข้าจรวดส่งไปนอกอวกาศแล้วด้วย" อันนี้พูดจริงนะ ได้แต่ได้ฮึ่มฮ่ำกันวันนั้นนี่กูลืมนิ้วนางทั้งห้าไปเลย แม่งอารมณ์แบบเฉดหัวเมียหลวงแก่ๆออกจากบ้านหลังพาเมียน้อยวัยคราวลูกเข้าบ้านอะ 

"งั้นคุนก็ต้องเสียใจด้วยนะครับ เพราะพี่ต้องนอนปวดหนึบไปคนเดียวสามอาทิตย์"

"คู้นนนน ไม่เอาแบบนั้นสิ ไปสองวันไม่ได้หรอ"

"จะบ้าหรอพี่แฟง แบบนั้นหม่าม๊าตีคุนตูดลายกันพอดี ถ้าทำจริงคราวนี้คุนคงอดได้ค่าขนมจริงๆแน่ๆ"

"ไม่เป็นไรกูเลี้ยงมึงได้ เอาไปเลยกระเป๋าตังกู อะ" ผมเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่บนโต๊ะกลางหน้าทีวีมายัดใส่มือเล็กๆของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักตอนนี้ ลูกอ้อนไม่รอด ลูกแถไม่เวิร์ค บีบน้ำตาไม่เนียน ก็ต้องเอาเงินนิรันดร์มาเปย์แล้วละ ว่าแต่กูมีเงินสดอยู่เม่าไหร่วะ วันก่อนถอนมาสามพัน ซื้อของในซุปเปอร์ไปสองพัน จ่ายค่าแกร๊ปไปอีกสามร้อยกว่า จ่ายค่าของชอปปี้ให้ขุนพลไปสองร้อยกว่า อ้าวชิบหายเหลือสี่ร้อยกว่าบาท

"คุนกินจุนะ" นั่นไง สี่ร้อยจะพออะไร

"ไม่เป็นไรกูเลี้ยงไหวละกัน เมียทั้งคน" เงินสดไม่มีไม่เป็นไร เงินในบัญชีกูมีเพียบ บัตรเครดิตนิรันดร์อีกสามใบ เลี้ยงได้สบ๊ายยยย

"อวดรวย"

"ไม่ได้อวดรวยจริง"

"พี่ไม่ได้รวยซะหน่อย พี่รันต่างหากที่รวย"

"ก็เหมือนกันแหละ สมบัตินิรันดร์ก็สมบัติกู กูยักยอกเงินนิรันดร์มาให้มึงได้นะบอกไว้เลย"

"คุนจะฟ้องพี่รัน" ไอ้คนตัวเล็กที่นอนเถียงผมฉอดๆลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา เลื่อนหน้าขาวๆแก้มยุ้ยๆของมันเข้ามาใกล้

ปากแดงๆขยับไปมา ใกล้เข้ามาเรื่อยย เวร หูกูดับเฉยเลย

"คุน"

 เชี่ย มันมาอีกแล้ว

"ครับ"

ไอ้อารมณ์ฮึ่มฮ่ำตัดภาพไปที่โคมไฟอะ มันมาอีกแล้ว

"ขอรอบนึงดิ"

"อะไร ไม่เอาแล้ว เมื่อเช้าก็ทำไปแล้ว"

"ก็ทำเก็บไว้ไง เหมือนอูฐเก็บน้ำไว้ใช้กลางทะเลทรายอะ"

"เดี๋ยวนี้เป็นอูฐแล้วหรอ"

"กูเป็นได้หมดทุกอย่างแหละที่มึงอยากให้กูเป็นอะ แต่ตอนนี้มาให้กูเก็บสะสมน้ำไว้ใช้อีกสามอาทิตย์ก่อน"

"อื้ออออ ไม่เอาาาาา"

ตัดภาพไปที่โคมไฟ!
.
.
.
.
.
.

"คุน ลุกมากินข้าวก่อน"

"อื้อออ ไม่เอาคุนจะนอน"

"ตัวรุมๆนะเนี่ย ไม่สบายหรือปวดเนื้อตัวตรงไหนรึเปล่า"

"อื้อ คุนสบายดี ไม่ปวดตรงไหน คุนแค่จะนอน คุนง่วง"

"ลุกมากินข้าวก่อนดีมั้ย"

"ไม่เอาาาา คุนง่วง"

"ก็กินข้าวเสร็จก่อน แล้วค่อยนอน คราวนี้มึงจะนอนไปถึงพรุ่งนี้เช้าเลยก็ได้"

"คนที่ทำให้คุนไม่ได้นอนไม่มีสิทธิ์มาต่อรองแบบนี้นะ" ก้อนขาวๆที่นอนเปลือยหลังอยู่บนเตียง ดึงผ้าห่มที่หล่นลงไปอยู่เหนือสะโพกขึ้นมาคลุมไปถึงหัว ก่อนส่งเสียงโวยวายอะไรบางอย่างลอดผ่านผ้าห่มมา

"ขอโทษ"

"ไม่รับคำขอโทษหรอก ชอบรังแกคุณอยู่เรื่อย"

"รังแกที่ไหน มึงไม่ใช่รึไงร้องเอาอีกเมื่อกี้อะ"

"โอ้ยย"

"งือๆๆๆ พี่แฟงเอาแต่แกล้งคุน"

หมอนกระเด็นครับ แต่คนโยนหมอนนี่มุดหน้าเข้าไปซ่อนในผ้าห่มแล้วก็งอแงเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว

"โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้ว ไม่กินก็ไม่กิน จะนอนใช่มั้ย งั้นนอนเลย มานี่พี่กอด โอ๋ไม่งอแงนะ" สรุปคืนนั้นไม่มีใครได้แ*กข้าว ไอ้แก้มยุ้ยก็งอแงไปตามท้องเรื่องจนถึงสายวันต่อมา
.
.
.
.

สนามบิน

เด็กดื้อคนที่ทำปากดีเมื่อสองวันก่อน ลั่นวาจาว่าจะกลับปักกิ่งทั้งๆที่ผมอ้อนวอนว่าไม่ให้กลับ คนที่บอกให้ผมนอนกอดหมอนข้างไปเป็นเวลาสามอาทิตย์ ตอนนี้ยืนน้ำตาซึมอยู่หน้าทางเข้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง

"พี่แฟง" ดวงตาใสๆทั้งสองข้างตอนนี้คลอไปด้วยน้ำใสๆ จนเอ่อล้นออกมาทางหางตาย คุนเอ้ย ใจกูจะขาดมันตรงนี้เลย

"อะไร ไม่ต้องมาทำหน้าหงอยน้ำตาซึมเลย ไปได้แล้ว" ปากนี่บ่นออกไป แต่ใจนี่หล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มแล้ว เห็นแล้วก็สงสาร อยากหิ้วกลับบ้านตอนนี้เลย แต่ทำไม่ได้

"กอดก่อน" คนตัวเล็กที่มือถือหนังสือเดินทางกับบอร์ดดิ้งพาสอยู่โผลเข้ามากอดมาอย่างแรงจนผมเซไปด้านหลังด้วยไม่ทันได้ตั้งตัว

"ไม่งอแง อยากไปเองไม่ใช่รึไง หืม" ผมเลื่อนมือหนาของตัวเองขึ้นไปวางบนหัวของคนตัวเล็กก่อนจะขยี้มือเบาๆเพื่อปลอบใจ แต่ดูเหมือนว่าจะคิดผิด แทนที่จะปลอบใจอีกฝ่ายกลับร้องไห้โฮออกมา

"อือ แต่ไม่รู้ทำไมพอจะไปแล้วกลับคิดถึงคนนี้ ฮือๆๆ"

"พูดแบบนี้แสดงว่าไม่อยากกลับแล้วใช่มั้ยปักกิ่งอะ กูบอกเลยนะว่ากูอุ้มมึงกลับคอนโดตอนนี้เลยยังได้นะคุน"

"ปะไปกัน ฮือๆๆ"

"เอ้ย ไม่ได้สิ ป๊าม๊ารออยู่ โอ๋ๆ อย่าร้องสิเด็กดี เดี๋ยวอีกสามอาทิตย์ก็เจอกันแล้ว สามอาทิตย์เองไม่นานหรอก ใครน้าพูดแบบนี้" ผมกอดคนตัวเล็กแน่นขึ้น เสียงร้องไห้ของอีกคนจมหายไปกับเสื้อยืดสีดำของผม เสียงสะอึกสะอื้นของคนตัวเล็กทำหัวใจผมกระตุกเต้นไม่เป็นจังหวะ

"ฮึก ฮือๆๆ คุนพูดเอง แต่ตอนนี้คุนคิดถึงพี่แฟงจัง"

"ยังไม่ได้ไปเลย จะมาคิดถึงทำไม ไม่เอานะไม่ร้องนะเด็กดี"

"ฮึกฮือๆๆ ก็คิดถึงจะให้ทำไง กลับกันเถอะนะ คุนไม่ขึ้นเครื่องแล้ว"

"คุนไม่เอา ไม่ทำแบบนี้ เดี๋ยวป๊ากับม๊าเสียใจนะ ไม่งอแง คิดถึงก็คอลมา สัญญาว่าจะรับสายตลอด เรียนอยู่ก็จะออกมารับ ตรวจคนไข้อยู่ก็จะแอบคุยใต้โต๊ะ อาบน้ำอยู่ก็จะเปิดวีดีโอโชว์งูเลย เป็นไงดีมั้ย โอ้ย" แม้ใจจริงจะอยากอุ้มอีกคนยัดเข้าไปในรถแล้วขับกลับคอนโดมากแค่ไหน แต่ก็ต้องห้ามใจไว้

"ทะลึ่ง"

"มานี่พี่เช็ดน้ำตาให้ แล้วก็ไม่ต้องร้องแล้วนะรู้มั้ย" ผมผละคนตัวเล็กออกก่อนที่ตัวเองจะย่อตัวลงไปเอานิ้วโป้งปาดน้ำตาออกจากแก้มทั้งสองข้างของอีกฝ่าย เชี่ยเอ้ย ใจกูเหลวไปหมด

"ครับ ฮือๆ"

"ฮึบก่อนเร็วคนเก่ง"

"ฮือๆๆ ฮึบ ฮึบ"

"ดีมาก"

"ถึงแล้วก็ไลน์มาบอกด้วย พี่จะได้สบายใจ แล้วก็หมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆ แมสนี่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องถอด"

"ครับ"

"ไปได้แล้ว ชักช้าเดี๋ยวหิ้วกลับคอนโดเลย"

"โอเคครับ บ๊ายๆ อย่าลืมคิดถึงน้องคุนด้วยนะ"

"หึ ไม่ลืมหรอก ยังไม่ไปพี่ก็คิดถึงคุนแล้ว"

"คุนก็เหมือนกัน"

"รีบกลับมาหาพี่นะคุน"

"คุนจะกลับพรุ่งนี้เลย"

"อย่าน่ารักให้มันมาก ไปได้แล้ว"

คนตัวเล็กหันหลังให้ผมก่อนเดินเข้าไปในส่วนตรวจพาสปอร์ต มีหันหลังกลับมาผมแล้วโบกมือให้บ้าง ส่วนผมก็ยืนมองแผ่นหลังเล็กๆนั้นห่างออกไปเรื่อยๆ ทำให้เห็นว่าอีกคนยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาเป็นระยะ เห็นแล้วก็สงสารจับใจ ทั้งสงสารคนตรงนั้น แล้วก็สงสารตัวเองด้วย กูจะอยู่อย่างไงโดยไร้คนกอดสามอาทิตย์ เชี่ย กูจะนอนหลับได้มั้ยเนี่ยคุนคุนมันวางยากูไว้ขนาดนี้ เฮ้อ นี่กูมาถึงจุดนี้ได้ยังไงวะเนี่ย ไอ้แฟงคนห่ามหายไปไหนแล้ววะเนี่ย ถ้าพูดให้นิรันดร์ฟังนิรันดร์จะเชื่อกูรึเปล่าวะ หรือจะหาว่ากูบ้า

"อ่อน" เสียงทุ้มของเพื่อนสนิทของผมดังขึ้นทันทีที่คนตัวเล็กหายเข้าไปด้านใน นาทีติดรถผมมาสนามบินด้วยเพราะมันเอารถไปเข้าศูนย์ แล้วมายด์เวย์ก็ไม่มีเรียนวันนี้ เช้านี้เลยได้สัมภเวสีตามติดมาหนึ่งตัว

"เออ ยอมรับ"

"ฮะๆๆๆๆ กูนับถือน้องถั่วงอกจริงๆเลยวะที่ทำให้คนอย่างมึงมายืนน้ำตาซึมแบบนี้ ทำไมวะ คิดถึงเค้าอ๋อตัวเอง~" เชี่ยกูเกลียดเสียงตอแหลของมึงจริงๆ

"อย่าเหยียบย่ำ" ได้ทีแล้วเอาคืนกูเชียวนะมึง ไอ้นาทีเพื่อนเ*ย กูไม่น่าไปล้อมันไว้เลย

"เช็ดน้ำตาแล้วก็ไปได้แล้ว มีราวด์วอร์ดเช้า อีกชั่วโมงครึ่ง เดี๋ยวไปไม่ทัน"

"เออ ไปก็ไปดิวะ แล้วมึงก็เหยียบไว้เลยนะเรื่องที่กูยืนน้ำตาซึมเนี่ย"

"เออ คนอย่างนาทีเพื่อนรักลภัสซะอย่าง กูเหยียบแน่ เหยียบมึงจบดินเลยคอยดู"

"ไอ้หัวค*ย ไอ้เพื่อนเ*ย กูไม่น่าให้มึงติดรถมาด้วยเลย"

"ประกาศ ประกาศ เวลา 6:45 น. นายลภัสยืนน้ำตาซึมที่สนามบิน"

"สัสสส มึงวิ่งไปอย่าได้หยุดเลยนะ ถ้ากูจับมึงได้กูสาบานว่าจะเหยียบมึงจมดินเลยคอยดู ไอ้เ*ยนาที!!!"


#คุนแฟง

by ppeachmm

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่---


"หน้ามึงเหียกมากแฟง ไปทำเ*ยไรมา" เสียงทุ้มติดแหบดังแทรกประตูเข้ามาทันทีที่ผมเดินเข้ามาในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนหรอกครับ เสียงกวนตีนติดแหบแบบนี้คงหนีไม่พ้นไอ้ธันวาเพื่อนร่วมรุ่นที่ชอบแวะมาลับฝีปากกับผมประจำ ไม่รู้มันเป็นไรของมันนักหนา เจอผมทีไรชอบหาเรื่องให้โดนด่าตลอด เชี่ยนี่มันคงจะจิตอ่อนๆระดับหนึ่งแหละผมว่า มันบอกว่าวันไหนไม่ได้ยินเสียงด่าผมแล้วนอนไม่หลับ เออ ช่างหัวมึงเถอะ

"เสือก"

"อะ หยอกๆ ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง กลัวจะตายห่าไปก่อนกู" นอกจากจะพูดจาวอนส้นตีนแล้วยังเสือกเดินเอามือมาพาดไหล่กูอีก ได้ข่าวว่ากูกับมึงไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะเว้ย แค่เพื่อนร่วมรุ่นที่ทักทายลับคมฝีปากกันกับคนที่เดินผ่านกันในร้านเหล้าเฉยๆ

"กูจะตายก่อนหรือหลังมึงมันก็เรื่องของกู แต่ที่แน่ๆถ้ากูเลือกได้กูไม่ขอตายพร้อมมึงละกัน กูคงนอนตายตาไม่หลับวะ" วันนี้กูก้าวเท้าไหนออกมาจากคอนโดวะถึงได้ซวยเจอไอ้ธันวาตั้งแต่เช้า เมื่อคืนกูยิ่งนอนไม่หลับอยู่ คิดถึงคุนคุนชิบหาย สามวันแล้วที่ไม่มีคนตัวนุ่มๆให้กอดตอนนอน บอกเลยว่าอาการผมหนักกว่าที่คิดไว้เยอะ ปกติหัวถึงหมอนดึงคุนมาไว้ในอ้อมกอดไม่ถึงห้านาทีก็หลับลึกไม่เคยฝัน ตื่นอีกทีเช้าวันต่อมา แต่สามวันมานี้ผมใช้มันสารพัดวิธีที่ทำให้นอนหลับ มึงวานถึงขนาดเซิร์สกูเกิ้ลทำตามวิธีที่มันเขียนไว้สารพัดก็ยังไม่หลับ หลอกลวงชิบหาย กูจะให้นิรันดร์สั่งปิดกูเกิ้ล!

เฮ้อ! ถ้าคืนนี้ยังนอนไม่หลับอีกคงตื่นขึ้นมาสภาพเป็นศพเดินแน่ๆ เพราะตอนนี้แบตเตอรี่ชีวิตกูเหลือไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์

"ฮะๆๆๆๆ มีปากก็พูดไป มีใจก็พูดมา" โถไอ้เ*ย มึงก็คิดได้เนาะ มโนเก่งเหลือเกิน เต๊าะกูได้ทุกทีที่เจอ ตัวมึงกับกูก็พอๆกัน ประสาทจะกินหัว ลองนึกภาพกล้ามชนกล้ามดู เชี่ยยย ขนลุกสัส

"มีใจพ่องงงงง ไปไกลๆตีนกู ยิ่งหงุดหงิดอยู่" ผมสะบัดหัวไหล่เอาแขนหนาๆของมันออกไปจากตัว ไอ้สัส กูอยากจะด่ามึงด้วยคำหยายคายสารพัดที่นึกได้แต่คือตอนนี้ไม่มีแรงโต้ตอบมันต้องเก็บแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่น้อยนิดไว้ไปต่อปสกต่อคำกับเจ๊จูอีก แค่หอบสังขารตัวเองมาราวด์วอร์ดตอนเช้าได้นี่ก็บุญของกูแล้ว ใครก็ได้ช่วยกูออกไปจากตรงนี้ที

"ไอ้แฟง" เชี่ย เสียงสวรรค์ที่แท้ทรู ผมรีบหันควับไปหาต้นเสียงทันที ไอ้คุณนาทีเพื่อนรักนี่เอง

"ไงมึง" ผมเอ่ยทักทายมันตามปกติ แต่พอมันเห็นว่าใครยืนอยู่ข้างผมบวกกับสายตาผมที่ส่งขอความช่วยเหลือให้เลยสงเคราะห์ให้ผมออกจากขุมนรกนี้ทันที

"เฮ้ยกินข้าว หิว ไปแฟง ไปธันวา กูหาเพื่อนแ*กข้าวเช้าพอดี เล็ทส์โกมายด์เฟรนส์"

ถุย!

มายเฟรนด์พ่องงง

ไอ้เพื่อนเวร มึงก็รู้กูไม่อยากสุงสิงกับไอ้ธันวา มึงยังจะชวนมันไปแ*กข้าวร่วมโต๊ะกับกูอีก เจริญพรญาติโยม สงสัยเมื่อเช้ากูก้าวเท้าขวาออกจากห้องแน่ๆ เห็นเค้าลางความวายป่วงมาแต่ไกล ไอ้หน้าด้านนั่นยังเสือกเดินตามมาอีก ไม่มีเพื่อนรึไงวะ

แต่ชีวิตคนเราก็ต้องดำเนินต่อไป วอร์ดเช้าก็ต้องราวด์ ข้าวก็ต้อวแ*ก เดี๋ยวแรงไม่มีจะเคี้ยวหมาก ผ่าม!

"กินไร" ไอ้นาทีเพื่อนเวรประจำวันนี้เอ่ยถามขึ้นเมื่อเราสองคนกับหนึ่งตัวเดินเข้ามาในโรงอาหารโรงพยาบาล

"โจ๊ก อยากกินไรที่ย่อยง่ายๆ ฝากซื้อหน่อย กูจะไปจองโต๊ะ"

"ไม่อยากเคี้ยวก็กินน้ำสิ ไม่ต้องย่อย" เสียงนรกแทรกขึ้นทันที ไอ้เ*ยเอ้ย ชาติก่อนกูไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้นักหนาวะถึงได้เกิดมาเจอมันในรั้วมหาวิทยาลัยเนี่ย

"*วย" สั้นๆได้ใจความ ด่ามันเสร็จก็สอดส่งสายตามองหาโต๊ะว่างทันที ส่วนไอ้นรกธันวานั่นก็หัวเราะลั่น เชี่ยนี่แม่งโรคจิต ชอบให้ด่า ไม่โดนด่าแล้วแม่งนอนไม่หลับรึไงไม่รู้ อย่าไปสนใจมันเลย ปล่อยแม่งยืนหัวเราะเหมือนคนบ้าไปคนเดียว ก่อนจะสาวท้าวยาวๆเดินมานั่งที่โต๊ะที่ว่างด้านในสุดริมหน้าต่าง ช่วงเช้ายังดีหน่อยที่พอมีโต๊ะว่างอยู่บ้าง ถ้าเป็นข่วงกลวงวันนะเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรียังไงไม่รู้ เห็นโต๊ะไหนว่างนี่คือต้องรีบวิ่ง 4*100 มาจองโต๊ะเลยเหอะ รากเลือดชิบหาย บางครั้งก็ไม่แน่ใจว่านี่โต๊ะในโรงอาหารหรือบ่อทอง แย่งกันจัง

รอสักพักไอ้นาทีเพื่อนนรกประจำวันก็ยกชามโจ๊กหมูสับไม่ตับไม่ขิงใส่พริกไทยเยอะๆมาให้ เป็นเพื่อนกันมานานไม่ต้องพูดมากว่าชอบแ*กอะไรไม่ชอบแ*กอะไร แค่บอกว่าจะแ*กอะไรอีกฝ่ายก็รู้ว่าต้องสั่งแบบไหน มันก็เป็นเพื่อนที่ดี...บางเวลา ขอย้ำว่าบางเวลาเท่านั้น!

"นอนไม่หลับอีกแล้วอะดิ" นาทีถามขึ้นทันทีที่หย่อนก้นลงบนเก้าอี้ พร้อมกับจ้วงผัดกระเพราหมูกรอบพริกหนึ่งสวนเข้าปากในนาทีต่อมา ไอ้นี่ก็ซาดิสแ*กของเผ็ดแต่เช้า

"เออดิ สามวันแล้ววะมึง กูจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย"

"อือ มองก็รู้ มึงก็พยายามนอนหน่อยดิวะ อาจจะลองนอนเร็วขึ้นกว่าเวลาปกติหน่อยมั้ย หรือแบบลองออกกำลังกายให้ตัวเองเหนื่อยๆก่อนนอนอะ"

"นาที กูลองมาหมดทุกวิธีแล้ว นี่กูทำขนาดเซิร์สหาวิธีช่วยให้นอนหลับในอากู๋เลยนะเว้ย"

"เชรสสส น้องถั่วงอกไม่อยู่นี่มึงเป็นเอามากขนาดนี้เลยหรอวะ คิดถึงเค้าอ่อ"

"เออ กูแม่งคิดถึงมันจะตายห่า"

"ว้ายยย นายแฟง นายคิดถึงเราเหรอ" โอ้ยย ใครเอาอีนี่ไปเก็บที กูรำคาญ ตัวอย่างกับควาย ใช้เสียงสองแปดหลอดตะโกนมาข้างหูกูอีก บอกแล้วว่าอยู่กับมันแล้วประสาทจะแดก กรี๊ดมาได้ไม่เกรงใจหน้าตาตัวเองเลย หน้าแม่งเถื่อนชิบหาย เถื่อนกว่ากูตอนยังไม่ตัดผมโกนหนวดอีก กูละเอือมกับมึงจริงๆ ธันวา เห็บหมา!

"สัสธันวา แหกปากทำพ่อง แก้วหูกูจะทะลุ ทำไรเกรงใจเสื้อกาวน์มึงบ้าง"

"หยอกๆๆ" ไอ้หมอปัญญาอ่อน บางทีก็สงสัยว่ามันจับฉลากมาเรียนคณะนี้หรือไงวะ

"อย่าไปสนใจมัน สรุปแล่วนี่มึงจะทำไง ถ้านอนไม่หลับอีกคืนพรุ่งนี้มึงตื่นมาเป็นศพแน่แฟง"

"ไม่รู้ กูคิดไม่ออก"

"แล้วเมียมึงรู้รึเปล่าเนี่ยว่ามึงตาค้างเป็นซอมบี้มาสามคืนแล้ว"

"รู้"

"นี่มึงมีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ทำไมกูไม่รู้" อะไรของมันวะ เมื่อนาทีที่แล้วยังกรี๊ดแต๋วแตกอยู่เลย ทีนี้ละมาทำเสียงเข้ม มึงควรไปเรียนการแสดงนะขอบอก คงรุ่งแน่ๆ

"เรื่องของกูมั้ย ละทำไมมึงต้องรู้ด้วยวะ สัสธัน"

"สัสแฟง กูก็แค่อยากถามไถ่เรื่องของเพื่อนเฉยๆมั้ยละ"

"แถวบ้านกูเรียกเสือก แ*กเสร็จยัง จะถึงเวลาราวด์วอร์ดเช้าแล้ว ไปสายเดี๋ยวเจ๊จูตบกะโหลกกูอีก วันก่อนก็โดนมาทีนึงแล้ว เป็นไรกับกูนักหนาไม่รู้ เอะอะก็เรียกกูให้ตอบคำถาม คนในห้องมีเป็นสามสิบสี่สิบ หวยมาออกที่กูตลอด"

"ก็มึงลูกรักอาจารย์จุไรรัตน์แกไง"

"ลูกรักพ่อง"

"เออๆ คำสุดท้ายแล้ว ไปๆ"

"ไปนาที"

"เออ แ*กน้ำก่อน อย่าเร่งดิวะ"

หลังจากนั้นผมก็ใช้เวลาแปดชั่วโมงในการคลุกคลีกับคนไข้ ซักประวัติคนไข้วนไปจนน้ำลายแตกฟอง ไม่พอยังต้องมาถูกอาจารย์ซักถามต่อจนกูขาวเป็นชุดนักเรียนมัธยม บ่ายเข้าคลาส เย็นมาราวด์วอร์ดต่อ วนลูปเดิมไปทุกวันจนจะอวก ยิ่งคนไม่ได้นอนมาสามคืนติดแบบผมนี่สมองคือเบลอแล้งเบลออีก ภาพอาจารย์แม่งกลายเป็นภาพซ้อนเหมือนทะลุมิติออกมาจากเตียงคนไข้สามร้อยตลบ กว่าจะจบวันแทบสำลักออกมาเป็นเลือดกว่าจะลากสังขารตัวเองกลับมาที่ห้องได้ก็เลือดตาแทบกระเด็น ดีหน่อยที่ให้สองแฝดผลัดเวรกันมาป้อนข้าวป้อนน้ำอันอันให้ ไม่งั้นถ้าอยู่กับผมมันคงอดตายเข้าสักวันเพราะผมกลับไม่เคยตรงเวลาเลยสักวัน เห็นแมวแล้วก็นึกถึงแม่มันวะ เชี่ยคิดถึงอีกแล้ว ชีวิตกูแม่งวนลูปเดิมอีกแล้ว เช้าคิดถึงคุน กลางวันคิดถึงคุน กลางคืนอยากแดกคุน ผ่าม!

ครืด ครืด

นอนแผ่หลาพักสายอยู่บนโซฟาตัวยาวได้สักพักโทรศัพท์คู่ใจก็สั่นครืดจนต้องเด้งตัวขึ้นมานั่งหลังตรง รู้เลยว่าใครโทรมาในเวลานี้

"พี่แฟง" ไอ้ตัวน่ารักแก้มย้อยโผล่หน้าเข้ามาในโทรศัพท์ที่เปิดเป็นวีดีโอคอล ปากเคี้ยวอะไรสักอย่างหมุบหมับ

"ไง" มองหน้าตัวเองในโทรศัพท์แล้วแม่งโคตรตกใจ หัวเหอะกระเซอะกระเซิง อดไม่ได้ที่เอามือขึ้นมาลูบตัดทรงผมเสียหน่อย ส่วนอีกฝ่ายนี่คือแม่ง...น่ารักอีกแล้ว หน้าขาวๆ แก้มยุ้ยๆ ปากแดงๆ อยากดึงออกมาจากหน้าจอโทรศัพท์ทำไงดี

"คิดถึงพี่แฟงจังเลยครับ"

"คิดถึงเหมือนกัน" เชี่ยเอ้ย เชื่อมั้ยครับ นาทีที่หน้าคุนคุนมันโผล่ขึ้นมาบนโทรศัพท์ ความเหนื่อยที่มีมาทั้งวันเสือกหายเป็นปลิดทิ้ง เนี่ยไง ถึงบอกว่ามันป้ายยาผม แล้วตอนนี้มันก็มาป้ายเพิ่ม เอนเนอร์จีที่แห้งเหือดกลับมาเต็มในทันใด

"วันนี้คุนไม่ได้นอนกับหมาม๊าแล้วนะ"

"อ้าวทำไมละ ไม่ต้องกอดม๊านอนแล้วหรอ"

"ไม่ครับ วันนี้คุนจะมากอดพี่แฟงนอนหลับปุ๋ย เดี๋ยวพี่แฟงนอนไม่หลับอีก คุนสงสาร" โอ้ยน้อ คำพูดคำจามึงนี่น้าาา ทำใจกูสั่นระริกเลยนะคุนคุน

"ไม่เป็นไร นอนกับม๊าได้ ม๊าคงคิดถึงแหละ" กัดฟัดพูดดีไปสิมึง ถ้ามันไปนอนกับม๊าจริงละจะหนาว

"แต่พี่แฟงคิดถึงคุนมากกว่า ใช่มั้ยครับ"

"อือ ใจจะขาดแล้วเนี่ยกู"

"โถๆ น่าสงสาร เดี๋ยววันนี้คุนจะตบตูดพี่แฟงนอนเอง เชื่อใจคุนนะ"

"อือ" จ้าาา จะทำอะไรก็ทำเลยกูยอมมึงหมดแล้วคุนเอ้ย เราคุยกันต่ออีกสักพักเราก็ต่างคนต่างไปอาบน้ำก่อนที่ผมจะคอลหาคุนกลับไปใหม่หลังอาบน้ำเสร็จ

"พี่แฟง" เสียงใสๆลอดออกมาจากโทรศัพท์คู่ใจทันทีที่อีกฝ่ายกดรับวีดีโอคอลของผม อีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นชุดนอนลายแมวมารีสีขาว ส่วนผมก็เหมือนเดิมมีอค่กางเกงนอนขายาวตัวเดียว วันนี้ห้องที่อีกคนอยู่มันดูแปลกตาไปจากทุกวัน เพราะสามวันที่ผ่านมาคุนคุนไปนอนที่ห้องหม่าม๊า แต่วันนี้กลับมานอนห้องตัวเองหน้าตาภายในห้องเลยดูแปลกไป อืม สมเป็นคุนดี ตุ๊กตาแมวมารีเต็มเตียงเลย แล้วนั่นจะมีที่ตรงไหนให้มึงนอนวะ

"วันนี้ไปทำไรมา" เราสองคนแลกเปลี่ยนเรื่องราวในแต่ละวันของกันและกันแบบนี้ทุกวัน ถึงผมจะไม่ได้ไปอยู่ที่ปักกิ่งกับอีกคน แต่ฟังจากเรื่องที่คุนเล่ามามันก็เหมือนว่าผมได้เดินทางไปกับอีกคนในทุกที่ ทุกเวลา

"วันนี้หมาม๊าพาคุนไปบ้านอากงครับ เพิ่งจะกลับมาตอนเย็นนี่เอง...."  แล้วเรื่องราวตั้งแต่เช้าจนเย็นก็ถูกเล่าออกมาโดยละเอียดยิบ ผมก็ได้แต่นั่งฟังอีกคนขยับริบฝีปากแดงระเรื่อไปมาอยู่ในหน้าจอโทรศัพท์ คิดถึงริมฝีปากนั้นเหลือเกิน คิดถึงรสสัมผัส คิดถึงกลิ่น คิดถึงทุกๆอย่าง และที่สำคัญ คิดถึงคุนคุนที่สุด เราคุยกันนานจนเวลาบนหน้สปัดนาฬิกาล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่มกว่าโดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยสักนิด จำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเมื่อสองสามชั่วโมงก่อนหน้านั้นเรี่ยวแรงแทบไม่มี แขนขาแทบอ่อนแรง แต่ตอนนี้กลับกระชุ่มกระชวย เออ....แปลกดีแท้

"พี่แฟงปิดไฟสิครับ คุนจะตบตูดกล่อมนอนให้" ผมตบมือปิดไฟอัตโนมัติก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงไว้เพื่อคุนคุนจะได้มองเห็นผม ส่วนอีกฝ่ายก็ปิดไฟในห้องเรียบร้อยแล้วเหลือแต่ไฟบนหัวเตียงสีส้มเหมือนกัน

"เปลี่ยนจากตบตูดกูเป็นจับตูดมึงแทนได้มั้ย"

"ทะลึ่ง"

"ทะลึ่งที่ไหนกัน ก็พี่คิดถึงตูดคุนนี่นา"

"อีก 18 วันคุนก็กลับแล้ว"

"ลงแดงตายพอดี"

"ยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครไม่มีเซ็กซ์ 3 อาทิตย์แล้วตายเลยนะครับ"

"กูคงเป็นคนแรก"

"ฮ่าๆๆ พี่แฟงตลกจัง"

"กูไม่ใช่คนตลก กูแค่เป็นคนที่คิดถึงมึงเท่านั้น"

"คุนก็คิดถึงพี่แฟงเหมือนกัน"

" กูนอนไม่หลับ"

"พี่แฟงดูเพลียมากเลยรู้มั้ยครับ"

"หรอ"

"ขยับหน้าเข้ามาใกล้หน้าจอสิครับ คุนจะหอมแก้มชาร์ตพลังขั้นสูงสุดให้" ผมหยิบโทรศัพท์ที่วางพิงหมอนไว้ขึ้นมา ขยับหน้าตัวเองเข้าไปใกบ้หน้าจอโทรศัพท์อย่างที่อีกฝ่ายบอก ไม่นานก็มีเสียง จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ รัวๆ ดังลอดมาจากปลายสาย

"คุนเอาปากมาให้พี่หอมบ้างสิ" อีกฝ่ายขยับหน้าเข้าทาใกล้หน้าจอเหมือนที่ผมทำเมื่อกี้ไม่มีผิดเพี้ยน ต่างกัรตรงที่ส่วนที่ค้างอยู่บนหน้าจอตอนนี้คือปากสีแดงระเรื่อชุ่มฉ่ำที่ผมมักดูดกินก่อนนอนทุกคืน

"วันนี้คุนจะต้องทำให้พี่แฟงหลับให้ได้ เชื่อใจคุน"

"อือ ลองดู"

"คุณลิสต์เป็นข้อๆมาด้วยนะ นี่คือห้าวิธีในการกล่อมเด็กให้นอนหลับ" ผมหัวเราะออกมาทันทีที่อีกฝ่ายยกกระดาษที่เขียนวิธีกล่อมนอนขึ้นมาให้ดู บ่งบอกว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับผมแค่ไหน มีไม่กี่คนบนโลกใบนี้หรอกครับที่จะเป็นห่วงเป็นใยเรา และผมก็ดีใจที่ผมมีคุนคุนเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น เราคุยกันไปอีกชั่วโมงกว่าๆ และอีกฝ่ายก็ลองใช้วิธีทั้งห้าอย่างที่ลิสต์มาในกระดาษจนหมด และผลที่ได้ตอนนี้คือ ผมหาว ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอก และบอกไว้เลยว่าไม่ใช่ห้าวิธีเหล่านั้นหรอกที่ทำให้ผมง่วงนอน แต่เพราะคุนคุนต่างหาก เสียงคุนคุนที่ดังอยู่ข้างหูตลอดเวลามันเลยทำให้ผมเหมือนมีใครอีกคนนอนอยู่ข้างกันตรงนี้ ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เช้าวันใหม่ตอนที่นาฬิกาหัวเตียงดังบ่งบอกว่าได้เวลาทำหน้าที่ของวันนี้แล้ว

ผมลืมตาขึ้นมาด้วยความสดชื่น มองดูโทรศัพท์เครื่องเดิมที่วางอยู่ที่เดิมก่อนที่ผมจะผลอยหลับไป อีกฝ่ายไม่ได้วางสายไปทำให้ผมเห็นคุณคุณที่กำลังนอนขดอยู่บนเตียงสีขาวหลังใหญ่ คงจะเผลอหลับไปพร้อมๆกับผม ผมหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยโทรศัพท์วางไว้แบบนั้นปล่อยให้มันรันเวลาคอลต่อไปเรื่อยๆ

call time : 7  ชั่วโมง 5 นาที

แบตเตอรี่เหลือ 12%

เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จปลายสายก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา สงสัยจะหลับหลังจากผมแหงๆ เพราะปกติคุนไม่ใช่เด็กตื่นสาย ผมเลยกดวางสายไป ก่อนจะส่งข้อความไปหาอีกคนที่กำลังหลับฝันดีอยู่ ขอให้เขาฝันถึงผมเหมือนที่ผมฝันถึงเขาเมื่อคืนนี้

"ไปโรงพยาบาลแล้วนะ คิดถึงมาก เดี๋ยวกลางวัลคอลหา อย่ากินขนมหวานเยอะ แก้มยุ้ยแล้ว"

.
.
.
.
.



#คุนแฟง

by ppeachmm


----+++--++---
เราขอข้ามช่วงกักตัว14 วัน self quarantine ไปนะคะ ไม่งั้นคงยาวเหยียดแน่ๆ

ออฟไลน์ KhunYingJung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชอบเรื่องนี้ แต่เพิ่งอ่านไปแค่ 4 บทเอง แต่มีคิวต้องอ่านอีกหลายเรื่อง สัญญาว่าจะมาอ่านต่อให้ทัน  :o12:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
คิดถึงคุณๆเหมือนกัน งื้อ

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
คุนคุนน่ารักมาก,,,

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 28---


แฟง's part

หลังจากที่เมื่อคืนนอนหลับเต็มอิ่มครั้งแรกในรอบสี่วัน ผมก็ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เดินทางมาราวด์วอร์ดที่โรงพยาบาลในมหาวิทยาลัยด้วยความสุข แต่ความสุขมันมักอยู่กับเราไม่นานหรอกครับ

"โอ้โห เช้านี้ลภัสมันดูเปล่งปลั่งเว้ยเฮ้ย"

มันมาอีกล่ะ เสียงสัมภเวสีแหบแห้งตัวเดิม นี่เมื่อเช้าก่อนออกจากคอนโดก็ดูแล้วนะว่าใช้เท้าซ้ายก้าวออกจากห้อง ยั้งงงงจะมาเจอไอ้สัสเห็บหมานี่แต่เช้าอีก

"เรื่องของกู" ผมหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์พร้อมกับสวมเสื้อกาวน์แล้วกดล๊อครถก่อนจะเดินไปยังลิฟต์ของอาคารจอดรถโรงพยาบาลไม่หันไปมองเสียงหมาเห่าหอนจากรถที่จอดอยู่ข้างกัน ปล่อยให้มันเห่าต่อไป กูจะไม่ยุ่ง! อุตส่าห์อารมณ์ดีได้นอนกอดคุนคุนในโทรศัพท์ทั้งคืน เสือกมาเจอไอ้ธันวาตามหลอกหลอนแต่เช้า อารมณ์ดีๆเริ่มจะขุ่นมัวขึ้นมาซะงั้น

"นั่น ต่อปากต่อคำ เมื่อคืนได้ยาดีหรอตะเอง" เอออ!

"ตะเองพ่องงง ไปไกลๆตีนกูธันวา"

"ปะไปกินเบรคฟาสต์กันตะเอง" ไล่ไม่ยอมไป พูดอย่างเดียวไม่พอยังเอาแขนมาพาดบ่ากูอีก ใครจะไปแ*กเบรคฟาสต์กับมึ้งงงงง

"ลภัส" เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง

"อ้าวพี่ยู สวัสดีครับ" พี่ยูเดือนคณะแพทย์ในตำนานครับ ตอนนี้แกอยู่ปี6ละ แต่ความหล่อกับความฮ๊อตนี่ไม่เคยดร๊อปลงเลย

"กราบสวัสดีตอนเช้าครับพี่ยชญ์ชวินทร์" เรียกเขาซะเต็มยศเชียวนะไอ้ธันวา เดี๋ยวก็โดนโบกหรอก ได้จ่าวว่าพี่แกไม่ชอบให้รุ่นน้องมาปืนเกลียวเสียด้วย

"กวนตีนแต่เช้าเลยนะธันวา" นั่นไง สงครามเริ่มมาคุ กูจะไม่ห้าม ขอเชียร์ข้างสนาม พี่ยูสู้ๆๆๆ

"ทำด๊าาา" ไอ้เ*ยนี่นอกจากจะชอบกวนตีนผมแล้ว นี่มันยังปีนเกลียวกวนตีนพี่ปีหกอีกหรอวะ ทำด๊าาาที่ไหน อย่างมึงนี่เรียกว่าธรรมดาได้ด้วยรึไง

"กินมื้อเช้ากันมายัง ไปกินข้าวกัน" พี่ปีหกเอ่ยชวนในขณะที่เราเดินเข้ามาในลิฟต์ อ้าว ทำไมไม่บวกกันวะ ไอ้ธันมันกวนตีนพี่นะเว้ยยย เสีย'รมย์จริงๆ!

"ยังครับ"

"เฮียเลี้ยงปะ ถ้าเลี้ยงผมก็กิน"

"หลอกแดกจากกูประจำเลยนะธัน"

"มีเฮียหล่อรวย ก็ต้องเกาะแข้งเกาะขาไว้"

"รำคาญ นี่มึงคบกับมันได้ไงวะลภัส"

"มันใช่เพื่อนผมที่ไหนละพี่ ตัวสัมภเวสีดีๆนี่เอง ไล่ไม่ยอมไป นี่ก็กะว่าจะเอาเดทตอลมาล้างฆ่าเชื่ออยู่เนี่ย" เอาซี้วันนี้กูพกเอนเนอร์จีมาพร้อม แบตเตอรี่กูเต็ม พร้อมสู้ไม่ถอย

"ว้ายย ตายแล้วที่รัก ตัดเยื่อใยกันแบบนี้ทำไม" แต่ดูเหมือนเอนเนอร์จีของมันจะเยอะกว่าผมล้านเท่า เชี่ย กูสู้ไม่ไหวจริงๆถ้ามึงจะเล่นเบอร์นี้ เกาะกูยังกะลูกลิง ไม่พอยังเอาหัวมาถูแขนกูอีก เขี่ยขนลุก ผมแข็งชิบหาย ใช้อะไรสระผมวะ

"สัสธัน เสียงมึงนี่โคตรแสบแก้วหูเลย ขยับไปไกลๆตีนกู" ผมผลักมันออกไปไกลๆตัว มันก็ยอมแต่โดยดี แต่มันไม่จบแค่นั้นอะครับ มันดันไปเกาะแขนพี่ยูต่อ ไอ้นี่สงสัยขาดความอบอุ่น ที่บ้านไม่รัก

ไม่รู้ระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้น อยู่เฉยๆภาพตัดเป็นผมมานั่งแ*กเบรคฟาสต์ที่โรงอาหารของโรงพยาบาลกับพี่ยู สัสธัน แล้วก็นาทีที่เพิ่งตามมาเมื่อกี้ คุยไปคุยมาถึงได้รู้ว่าไอ้ธันวามันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่ยูอดีตเดือนคนหล่อลากดินของคณะเรา ใครจะไปดูออกว่าเป็นญาติกันก็หน้าตามันนี่ไม่ได้ขี้เล็บพี่ยูแกเลยสักนิด นี่ถ้าบอกว่าเป็นคนขับรถของพี่แกก็ค่อยดูเข้าท่าหน่อย

"เออ ไหนๆก็อยู่กันพร้อมหน้าแล้ว กูมีเรื่องให้พวกมึงช่วยหน่อยวะ"

"เรื่องไรพี่"

"กูกำลังทำโปรเจคหาเงินเข้าสโมสรอยู่ พอดีมีโรงเรียนทางภาคเหนือติดต่อมาขอความช่วยเหลือให้ช่วยบริจาคอุปกรณ์กีฬากับเครื่องดนตรี...."  แล้วพี่ยูก็เล่าต่อว่าสมาชิกสโมสรนักศึกษาแพทย์ได้ลงมติกันว่าหาเงินบริจาคโดยการทำคลิปโคฟเวอร์แดนซ์ให้สาวๆเข้ามาบริจาค มันก็ฟังดูเข้าท่าดี การหาเงินแบบขายเสื้อขายหมวกสมัยนี้มันเรียกยอดบริจาคได้น้อย แต่ถ้าทำอะไรอินเทรนด์แบบนี้สาวๆที่ชอบตามติดผู้ชายหน้าตาดีๆก็จะเข้ามาเปย์กันเยอะ

"น่าสนใจดีนิพี่ ให้พวกผมช่วยไรละ" นาทีที่กำลังโซ้ยผัดพริกแกงไก่เข้าปากเอ่ยถามขึ้น

"กูจะให้พวกมึงสามคนไปร่วมเต้นโคฟเวอร์ไง"

พร๊วดดด

สามพรวดเลยครับ

ทั้งผม ทั้งนาที แล้วก็สัสธันวา

"เฮ้ย เฮียไม่เอ๊าาาา" หัวกุ้งกระเด็นตกลงบนโต๊ะกินข้าวทันที เสียงสูงเป็นนกแก้วนกขุนทองเลยนะมึง นี่เป็นครั้งแรกในรอบสามปีเลยนะที่ผมมีความเห็นตรงกันกับธันวา

"ไม่ไหวหรอกพี่ ผมเต้นไม่เป็น" ผมรีบปฏิเสธไป จะบ้าหรอ ใครจะไปเต้นแรงเต้นกาโชว์ให้คนอื่นดูวะ

"แต่มึงร้องเพลงได้ไงลภัส" รู้อีก สงสัยเตรียมตัวมาหว่านล้อมผมเต็มที่ แต่ผมไม่มีวันหลงกลหรอก ต่อให้กระทืบผมจนจมดินผมก็ไม่มีวันทำเด็ดขาด

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

"หมอแฟงดูเท่ห์มากเลยนะคะ" พี่พยาบาลสาวสวยที่ยืนคุยกันอยู่ตรงหน้าลิฟต์เอ่ยขึ้นเมื่อผมเดินมาถึง

"หมอนาทีก็ด้วยคะ พี่ไม่รู้เลยนะคะว่าหมอทั้งสองคนจะมีพรสวรรค์แบบนี้ เพชรผมวิบ วิบ วิบ~~" พูดไม่พอยังร้องออกมาแล้วทำท่าเลียนแบบคลิปอีก เฮ้อออ อยากมุดดินหนี

ผมกับนาทีที่ยืนมองหน้ากันได้แต่ยิ้มเจื่อนให้แก๊งค์พยาบาลสาวไปก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์ โชคดีหน่อยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตามเข้ามาทำให้เหลือเพียงผมกับนาทีกันแค่สองคน นาทีไม่ได้ดูเดือดร้อนอะไรเท่าไหร่ มีแต่ผมนี่สิที่ดูไม่ชอบใจกับฟีดแบ็คเลย การเป็นคนที่มีคนให้ความสนใจมันก็ดี แต่บางทีความส่วนตัวมันก็ลดน้อยลง

"กูสาบานว่ากูจะไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว" เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าต่อให้กระทืบผมให้จมดินผมก็จะไม่มีวันทำ แต่เจ้จูคู่ปรับเก่าดันบอกว่าจะหักคะแนนยี่สิบคะแนนถ้าไม่ช่วยสโมสรนักศึกษาแพทย์หาเงินบริจาคในครั้งนี้ ซวยในซวยจริงๆที่อาจารย์ที่ปรึกษาของสโมดันเป็นอาจารย์จุไรรัตน์ผู้ไม่ค่อยชอบขี้หน้านายลภัสคนนี้

"เฮ้ยทำไมวะ สาวๆชอบออก กูเดินไปไหนมาไหนนี่มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยนะเว้ย"

"มึงลองมาใส่แหวนเพชรเม็ดโตบนนิ้วเหมือนกูมั้ยละ สัสนาที ใครๆก็พูดถึงหมอแฟงเพชรเม็ดเป้งถุย"

"ฮ่าๆๆๆๆ อย่าคิดมาก มันเข้ากับมึงจะตายเพื่อนรัก"

เพื่อนรักพ่องงงงง!

ตึ้ง!

ตั้งแต่คลิปโคฟเวอร์เพลงวิบวับของ mindset ออกมาสู่สายตาชาวโลกในชื่อคลิปว่า The D4 วิบวับ เชี่ย ชื่อโคตรเสี่ยว D ย่อมาจาก Doctor ส่วน 4  ก็ง่ายๆตายตัวคือพวกผมสี่คน ชีวิตผมกับผู้ร่วมชะตากรรมอีกสามคนก็ไม่สงบสุขอีกต่อไป ทุกสายตาในโรงพยาบาลจับจ้องมาที่เราเป็นหนึ่งเดียวกันในทุกก้าวที่ย่างไป เชี่ยเอ้ย ไอ้พี่ยูแม่ง ทำกูสาหัสจริงๆ แต่ดูเหมือนว่าจะมีแค่ผมคนเดียวที่รู้สึกเหมือนตกนรก เพราะอีกสามชีวิตที่เหลือดูจะมีความสุขเหลือเกิน ดูอย่างไอ้นาทีที่เดินอยู่ข้างๆกันนี่สิ ยิ้มจนปากจะฉีกทักทายชาวบ้านเขาไปทั่วมันเิดนไปไหนมาไหนพยาบาลก็โปรยยิ้มให้ ส่วนไอ้นรกธันวาก็เหมือนกันชอบใจนักที่สาวๆพากันมาขอถ่ายรูป ไม่ว่าจะเจอมันตรงซอกหลืบมุมไหนของโรงพยาบาลก็เห็นยืนแอคท่าให้คนถ่ายรูป มีความสุขจริงงงงนะมึ๊งงงง ทีตอนแรกร้องไห้จะเป็นจะตายบอกไม่ทำไม่ทำ ถุย! ส่วนพี่ยูประธานสโมฯ เจ้านั้นก็ไม่ได้มีปฎิกริยาอะไรมากมายเพราะพี่แกเป็นดาราอยู่แล้ว การเป็นจุดสนใจมันเลยเป็นเรื่องปกติต่างจากผมที่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเป็นที่สุด ความสงบสุขในชีวิตนายลภัส วิสุทธิ์รังสรรค์หายไปในวินาทีที่คลิป The D4 วิบวับ ออกสผู่สายตาชาวโลก ทั้งFB,IG, Twitter แจ้งเตือนมันทั้งวนจนต้องปิดโนติหนี น่ารำคาญชิบหาย กูก็นึกว่าคุณคุยไลน์หากูทั้งวัน

ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น พอหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมาก็เลยหันไปบอกไอ้นาทีให้เข้าห้องเรียนไปก่อน บ่ายนี้มีเรียนในโรงพยาบาลนี่แหละครับ คลาสเจ้จูเจ้าประจำ

"ว่าไงไอ้ดื้อ"

"พี่แฟงงงงง"

"อะไร ทำเสียงตื่นเต้นอะไรนักหนา หรือชักว่าวแล้วนึกถึงหน้ากูอยู่"

"พี่ทะลึ่งอีกแล้ว น้องคุนเคยทำที่ไหนกันเล่า เดี๋ยววางซะเลย"

"ฮะๆๆๆ โอ๋ๆๆ ไม่วางนะเด็กดี คิดถึงพี่เลยโทรมาหรอ"

"ใช่ครับผม พี่แฟงทานข้าวรึยังครับ"

"เรียบร้อยแล้ว นี่กำลังจะเข้าเรียน"

"มีเวลาให้คุนกี่นาทีเนี่ยวันนี้"

"ทั้งชีวิต"

"พี่แฟงบ้า"

"บ้าแล้วแล้วรักมั้ยละ"

"อื้อ รักที่สุดเลย"

"คิดถึงมึงวะไอ้ตัวเล็ก"

"คุนก็คิดถึงพี่แฟงเหมือนกัน พี่แฟงครับ"

"ครับ"

"พูดครับอีกแล้ว น้องคุนเขิน"

"ก็เขินต่อไป"

"นี่ๆ คุนเห็นพี่แฟงเต้นวิบวับด้วย" เชี่ยยยย คลิปกูไปไกลถึงปักกิ่งเลยหรอวะ นี่กะจะปิดเป็นความลับไม่ให้คุนคุนเห็นแล้วนะเนี่ย ใครมันบังอาจเอาความทุเรศของกูไปตีแผ่ให้ที่รักกูเห็นเนี่ย อย่าให้กูรู้นะกูจะจับตบกะโหลกแตกเลยคอยดู

"ใครส่งให้ดู"

"พี่รันครับ" เชี่ย พ่อบังเกิดเกล้า!!!! แล้วนี่นิรันดร์มีคลิปนั้นได้ไงวะ สงสัยกูต้องไปตบกะโหลกคนที่ส่งให้นิรันดร์แทนแล้วละ มันต้องมีที่ระบาย!

"คุนชอบ พี่แฟงหล่อมากกกก เพชรผมวิบวิบวิบวิบวิบ~~~...เพลงผม hit hit hit hit hit~~~ ...พวกผมแม่ง fucking lit~~.." ไอ้เชี่ย ท่อนนี้มันตามมาหลอกหลอนกูอีกแล้ว กูจะไปตามลบมันออกจากยูทูป จากทวิตเตอร์ จากไอจี จากทุกอย่างบนโลกนี้ ปิดบัญชีเงินบริจาคไปเลย ได้แค่ไหนแค่นั้น ที่เหลือกูจะบังคับให้นิรันดร์บริจาคเพิ่มเอง!

"คุนชอบนะครับ พี่แฟงอะดูดีมากๆๆเลย ร้องเพลงเพราะฝุดๆๆ" เฮ้ย จริงดิ? บ้า เอาความจริงมาพูดอะไรตอนนี้เล่าาาา~~~

"อือ กลับมาเดี๋ยวร้องให้ฟัง"

"เย้! ก่อนนอนทุกคืนเลยนะครับ"

"อือ"

นี่กูเป็นอะไรอีกแล้ววะเนี่ย ถูกป้ายยาอีกแล้ว พอคุนคุนบอกว่าชอบกูเสือกรู้สึกดีกับคลิปโคฟเวอร์ขึ้นมาเฉยเลย เชี่ยยย คุนคุน มึงนี่มันเป็นข้อยกเว้นของทุกอย่างบนโลกใบนี้จริงๆ ผมคุยกับคุนคุนต่ออีกหน่อยก็วางสายก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเรียนไปนั่งลงข้างกับนาทีที่จองที่แถวกลางๆไว้ให้ผมแล้ว

"บ้าแล้วรักมั่ยละ~~" เอาแล้วไง ไอ้เ*ยธันมันเล่นกูอีกแล้ว ผมหันไปหามันที่นั่งอยู่ด้านหลัง ผมว่าผมเดินไปคุยในที่ที่ไม่มีใครเดินผ่านแล้วนะ ไอ้ขี้เสือกนี่ยังเสือกจะตามมาได้ยินอีก มันได้ยินนะไม่เท่าไหร่หรอก แต่เอามาล้อกูนี่คือกูเคืองบอกไว้เลย ไอ้สัสหมา!

"กลับมาเดี๋ยวร้องให้ฟัง" มันพูดทวนประโยคที่ผมคุยกับคุนคุน

"มึงยืนแอบฟังกูรึไง"

"เออดิ"

"สัสธัน"

"บ้าแล้วรักมั้ยละตัวเองงงงง~~~"

"ไอเ*ย!"

"นักศึกษาตรงกลางช่วยเงียบเสียงด้วยคะ อาจารย์จะเริ่มสอนแล้ว ส่วนเธอลภัสทำตัวให้เหมาะกับเป็นนักศึกษาแพทย์หน่อยนะคะ ช่วยเอาเท้าลงมาจากโต๊ะด้วย หักหนึ่งคะแนน" อย่าาาาา เจ้จู~~ คะแนนผมจะไม่เหลือแล้วววววววววว!!!

.
.
.
.
.
.

คุน's part

"คุนลูก นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรอยู่คนเดียวคะ"

"หม่าม๊าาาา"

"คะลูก ดูอะไรอยู่ขอหม่าม๊าดูบ้าง'

"หมาม๊ามานั่งข้างๆน้องคุนครับ มาดูคลิปนี่"

เย้เยเย เย้เยเย เยเยเย้เย
เพชรผมวิบวิบวิบวิบวิบ
เพลงผม hit hit hit hit hit
พวกผมแม่ง fucking lit
Man she loves my drip drip drip drip
เพชรผมโคตรวิบวับวิบวับ
ผู้หญิงอยากจะเข้ามาจับ
เยอะจนผมปวดขมับ
Man she loves my drip drip drip drip

"นักร้องสมัยนี้นี่หล่อๆกันทั้งนั้นเลยเนอะ"

"ไม่ใช่นักร้องครับ พวกพี่ๆเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยคุนเอง"

"อ้าวตายจริง นี่ถ้าน้องคุนไม่บอกหม่าม๊าไม่รู้เลยนะเนี่ย เห็นหล่อๆกันทั้งนั้น ม๊าก็นึกว่าเป็นดารานักร้องกัน"

"ใช่มั้ยละครับ พี่แฟงอะหล่อจะตาย"

"หืม พี่แฟงไหน ใช่คนที่มาอยู่ห้องน้องคุนรึเปล่าลูก"

"ใช่ครับ คนนี้ไงครับพี่แฟง คนที่ใส่เพชรเม็ดโตๆคนนี้"

"ตายแล้ว หล่อขนาดนี้เลยหรอลูก อุ้ยย ถ้าหล่อขนาดนี้เป็นหมาม๊า ม๊าก็ให้อยู่ที่ห้องเหมือนกันแหละคะลูก ว่าแต่แม่ขอได้มั้ยคนนี้เนี่ย สเป็คม๊าเลย"

"หม่าม๊าาาาา คนนี้ไม่ได้"

"ขี้หวง"

"ใช่ หวงมากกกก"

"อยากเจอตัวจริงซะแล้วว่าคนที่ทำให้ลูกหมาม๊านั่งเฝ้าโทรศัพท์ทั้งวัน นั่งเหม่อทั้งวัน นั่งคุยโทรศัพท์น้ำตาซึมทุกวันเนี่ยเป็นคนแบบไหนกันน้าาาา"

"หมาม๊าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกพี่แฟงเลยนะครับ น้องคุนอุตส่าห์ไม่ทำให้พี่แฟงเห็นแล้วว่าร้องไห้คิดถึงพี่แฟง"

"จ้าาาาา แต่ตอนนี้ม๊าของดูคลิปอีกหน่อยสิ คนใส่เสื้อสีขาวก็หล่อใช่ย่อย"

"คนไหนครับ อ้อออ นั่นพี่นาที เพื่อนสนิทพี่แฟง"

"ว้ายตายแล้ว เดี๋ยวนี่จะคบกันเป็นเพื่อนต้องเลือกแต่หน้าตาดีๆรึยังไงน้าหนุ่มๆสมัยนี้"

"หม่าม๊ามาดูคนนี้สิครับ คุ้นมั้ยเอ่ย"

"หือ นั่นอาธันนี่"

"ใช่ครับ เฮียธัน"

"หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย หม่าม๊าไม่เห็นมาหลายปี เกือบจำไม่ได้แหนะ"

"น้องคุนก็จำไม่ได้เหมือนกัน แต่พอพี่แฟงพูดชื่อขึ้นมาน้องคุนเลยร้องอ๋ออออ นี่เฮียธันลูกป้ากรองแก้วนี่เอง พี่ชายผมมมมมม"

"ตายแล้วนี่หลานชายหม่าม๊าหล่อขนาดนี้เลยหรอเนี่ย กลับไปเมืองไทยครั้งหน้าต้องให้พี่แก้วเรียกตัวลูกชายกลับมาบ้านซะแล้ว ไปทีไรก็ไม่เคยอยู่บ้านสักทีเลยไม่เจอเลย ไม่นึกไม่ฝันว่าหลายชายของตัวเองจะหล่อขนาดนี้"

"ที่เฮียธันไม่กลับบ้านนี่ต้องติดสาวแน่ๆ หม่าม๊าเชื่อน้องคุน นี่ๆคนนี้ก็หล่อครับม๊า นี่พี่ยูเห็นพี่แฟงบอกว่าเป็นดารา"

"หล่อกันจัง แต่แม่ชอบคนที่ชื่อนาทีมากกว่า ขอจองคนนี้ละกัน สเป๊คม๊า"

"เสป็คอีกแล้วหรอครับ แต่เสียใจด้วยนะครับเพราะพี่นาทีมีพี่มายด์เวย์แล้ว หม่าม๊าจองไม่ได้"

"งั้นจองคนนี้แทนละกันได้มั้ย ลูกชายหม่าม๊าก็น่ารักน้อยซะที่ไหนกัน"

"ได้ครับ คนนี้จองได้ตลอดเลยยยย เพราะน้องคุนเป็นลูกชายหมาม๊า"

"ลูกชายหม่าม๊าน่ารักเท่าโลกเลยยย"

"พี่แฟงบอกว่าน้องคุนน่ารักเท่ากาแล็กซี่"

"จ้าาาาา เท่ากาแล็คซี่ก็เท่ากาแล็คซี่"

.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm







ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 29---


"เหม่อๆๆ"

"แฟง"

"สัสแฟง"

"เชี่ยแฟงเว้ย"

"อะไร สัสธัน มึงจะตีหัวกูทำพ่องงง" นั่งคิดถึงคุนคุนอยู่ดีๆ ก็มีมารผจญจนได้ ภาพ 3D full HD คุนคุนของกูลอยหายวั๊บไปกับตา เพื่อนกูก็ไม่ใช่ เสือกเอามือใบพายมาโบกหัวกูอีก เดี๋ยวปั๊ด!

"สัสแฟง กูกับนาทีเรียกมึงตั้งนานแล้วเนี่ย นั่งเหม่ออยู่ได้ จะทำมั้ยงานกลุ่มเนี่ย" ยัง ยัง ยังไม่รู้ตัวอีกว่าทำอะไรผิด รำคาญหน้ามันชิบหาย นี่ถ้าเจ้จูไม่บังคับผมให้อยู่กลุ่มเดียวกับมันจ้างให้ผมก็ไม่มีวันญาติดีกับมันหรอก แล้วดูสาระร่างการแต่งตัวของมัน เสื้อยืดอาแปะสีขาว กางเกงบอลสีดำ คีบแตะสีชมพู โคตรจะเอ้าท์ ไม่เข้ากันสุดๆ แม่งไม่ให้เกียรติสถานที่คอนโดใจกลางเมืองสุดหรูของกูเลย ทำตัวอย่างกับอยู่บ้านตัวเอง สาบานได้ว่านี่คือการแต่งตัวออกจากบ้านเพื่อมาทำรายงานกลุ่มไม่ใช่คีบแตะมาซื้อน้ำเต้าหู้หน้าปากซอย ถุย!

"เออ ก็ทำอยู่นี่ไง แหกตาดู" ผมยื่นแมคบุ๊คที่อยู่บนตักให้มันดู จะมาหาว่ากูอู้ไม่ได้นะเว้ย นี่ไงพิมพ์งานอยู่เชิญแหกตามึงดูเดี๋ยวนี้

"ก็เพราะแหกตาดูไงถึงเห็นว่ามึงนั่งพิมตัวค.ควายเต็มหน้า ไอ้คนติดเมียเอ้ย" เอ้าาา ไอ้ที่กูพิมพ์มาเมื่อกี้นี่หายไปไหนหมดวะ ทำไมมีแต่ตัวค.ควายเต็มหน้าจอ เอ่อ....

"เชี่ยยยย มึงนี่เป็นเอามากนะเนี่ย"

"พูดมาก ไอ้นาที ทำงานของมึงไปเถอะ"

"คร้าบบบบ"

เมี้ยวววว!

"เฮ้ย เดี๋ยวกูมา อันอันหิวข้าวแล้ว" ผมรีบลุกขึ้นจากพื้นหน้าทีวีทันทีที่อันอันเดินมาอ้อนหิวข้าว ไม่รู้จะเรียกว่สอ้อนได้มั้ย เพราะถ้าหากมันอ้าปากกว้างกว่านี้อีกนิดหนึ่ง คือแ*กหูกูได้แล้วอะ พูดเลย ว่าแล้วก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน่องไก่ที่อยู่ในกล่องออกมาสี่ชิ้น เดี๋ยวนี้ให้สามชิ้นมันจ้องหน้าหาเรื่องครับ บ่งบอกว่า ไอ้เชี่ย กูแ*กไม่อิ่ม เออๆ แ*กเข้าไป แ*กละก็นอน นอนละก็ตื่นมาแ*ก ชีวิตแม่งโคตรสุขสบาย ผิดกับชีวิตกูเวลาเจอเจ้จูลิบลับ

"แหมๆๆๆ นอกจากเป็นทาสเมีย แล้วยังเป็นทาสแมวอีกหรอมึง" ไม่พูดก็ไม่ได้มีใครหาว่ามึงเป็นไบ้หรอกนะ นาทีเพื่อนเลิฟ

"เชี่ยยย นั่นแมวหรอวะ" ไอ้นี่ก็อีกคน ความรู้สึกโคตรช้า ถ้าเป็นงูเหลือมมันคงดิ้นแด่วๆอยู่ในท้องอันอันเป็นที่เรียบร้อย เออวะ ฟังแล้วดูดี หรือกูเสกอันอันเป็นงูเหลือมดีวะจะได้แ*กสัสธันวาเข้าท้องไปเลย

"เออ แมวเมียมัน"

"เ*ดแม่ เมียมันเป็นคนประเภทไหนวะ ทำไมสัตว์เลี้ยงแม่งดูโหดสัส สาบานว่านั่นคือแมว"

"นินทาไรกู เดี๋ยวกูสั่งให้อันอันกัดหัวมึงนะเว้ย สัสธัน แล้วก็อย่ารื้อของห้องเมียกู ซนจริงนะมึง" เชี่ยยย มันถือวิสาสะเปิดลิ้นชักหน้าทีวีรื้อของในนั้นดูหน้าตาเฉย มารยาทมึงอยู่หนายยย!

"รื้อของไร ก็แค่เปิดดูว่าในนี้มีซีดีหนังอะไรน่าดูบ้าง" หราาาาา

"ไม่มี ปิดลิ้นชักเลยมึง แล้วก็อย่าหยิบของในนั้นมาเล่นด้วย ไอ้คุนมันขี้หวงของ ยังอีก ยัง!" อันนี้ไม่ได้โม้ คุนมันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของของมัน ขนาดผมยุ่งยังมีมองหน้าแล้วทำปากแบะๆใส่เลย เชี่ยพูดแล้วก็คิดถึงอีกละ โว้ยยยยยย!

"เออๆ วางก็ได้ไรวะ แล้วนี่คือไร มึงติดกล้องวงจรปิดไว้ในห้องด้วยหรอวะ หรือว่าต้องรายงานตัวผ่านกล้องให้เมียเห็นตลอดเวลา ว้ายยยย นี่มึงเป็นคนกลัวเมียหรอวะลภัส" มันปิดลิ้นชักหน้าทีวีแล้วก็เดินสำรวจห้องประหนึ่งว่ามาเดินเล่นดูห้องตัวอย่าง ถุย! แล้วนี่อะไร เกลียดจริงๆเวลามันทำท่ากรี้ดแต๋วแตกเนี่ย ช่วยดูสาระร่างถึกๆของมึงทีเถอะ กูขอร้องในใจ

"มึงจะกรี๊ดทำพ่อง รำคาญ ซวยชิบหายต้องได้มาทำงานกลุ่มเดียวกับมึงเนี่ย"

"ทำไมครับคุณลภัส ทำงานกับผมมันยังไง" ยีงจะมีหน้ามาถามอีก

"มันรำคาญลูกกะตาอะ มึงเข้าใจมั้ย เห็นหน้ามึงละคิ้วกระตุก"

เมี้ยว!

อ้าวๆ แล้วไอ้อันอันมันจะมองหน้ากูเหมือนหาเรื่องแบบนี้ทำไมวะ นี่มึงเข้าข้างคนอื่นอีกแล้วหรอ หาาาา?

แกร๊ก!

เสียงประตูหน้าคอนโดเปิดออก พร้อมกับร่างเด็กแฝดตัวโข่งที่เดินโซซัดโซเซเข้ามา ในขณะที่ผมกำลังรบราฆ่าฟันกับลูกไม่รักดีอยู่

"อ้าว อันอัน มึงจะกัดกูทำไมเนี่ย ไอ้แมวไม่รักดี มึงรักทุกคนบนโลกนี้แต่มึงแม่งไม่เคยรักกูเลยนะอันอัน เสียแรงที่กูป้อนข้าวป้อนน้ำมึง"

"โหพี่ พูดออกมาได้ว่าป้อนข้าวป้อนน้ำอันอัน ผมต่างหากที่ให้น่องไก่อันอันกิน นั่นไง แมวมันรู้ เนอะอันอันเนอะ" นั่นไง เห็นคนอื่นดีกว่ากูอีกแล้ว มันรักทุกคน ยกเว้นกู!

เมี้ยววว!

"มึงมาก็ดีแล้วขุน ฝากพามันไปเดินเล่นด้านล่างด้วย วันนี้กูต้องทำงานกลุ่ม" ในเมื่อไอ้ขุนมามันมาได้เวลาพอดี ก็ถือโอกาสใช้มันหน่อยละกัน ผมจะได้กลับไปทำงานกลุ่มที่ยังไม่กระเตื้องไปไหนเลยสักนิด

"เออๆ เดี๋ยวพาไปให้ แต่ตอนนี้ขอนอนพักก่อน ไปข้างนอกมาเหนื่อย ร้อนชิบหาย แล้วนั่นใครอะ เพื่อนพี่หรอไม่เคยเห็นหน้า"

"ไอ้นั่นชื่อธันวา ไม่ใช่เพื่อนกูหรอก มันมาขอทำงานกลุ่มกับกู ส่วนสัสธันนี่ขุนพล มันอยู่ห้องบนหัวกูนี่แหละ"

"อ้าววว พูดดีๆนะเชี่ยแฟงกูมาขอทำงานกลุ่มกับมึงที่ไหน จารย์จุไรรัตน์ให้กูมาช่วยมึงต่างหาก"

"หรออออ ทำไมคนอย่างกูต้องให้มึงช่วยวะ"

"มึงเล่นกวนตีนอาจารย์จนเจ้แกหักคะแนนมึงวันเว้นวันขนาดนั้น ยังจะมาทำพูดดีอีกนะ"

"พี่ทะเลาะกันต่อไปนะ ผมง่วงขอไปนอนก่อน พี่ใช้โซฟากันงั้นผมไปนอนบนเตียงนะ" ไอ้คนที่มาใหม่เดินไปตรงโซฟาที่ประจำที่มันชอบมาเอนตัวนอนเวลาคุนคุนอยู่ แต่พอเห็นกระดาษกองชีทกับหนังสือสารพัดวางเกลื่อนอยู่บนนั้นมันก็เลนเข็มเดินเข้าห้อฃนอนทันที

"เออๆๆ รีบไสหัวไป รำคาญหน้า" ทำตัวยังกะห้องตัวเอง

เมี้ยว!

"ไป อันอัน ไปนอนกัน" เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะมึง เรียกปุ๊บเดินตามปั๊บ ทีกูเรียกจนคอจะแตกหูไม่เคยกระดิกด้วยซ้ำ แมวไม่รักดี กํจะบีบไข่มึงแตก!

เมี้ยว!

ไอ้แมวไม่รักดี ตามผู้ชายเข้าไปนอนในห้องเฉย แต่จะว่าไปคือมันชอบผู้ชายทุกคนยกเว้นผมนะเนี่ย เอ๋หรือว่าจริงๆอันอันมัรแอบรักผมวะ แบบว่ารักนะแต่ไม่แสดงออกไรงี้
.
.
.
.
.

"เหม่ออีกละ คิดไรนักหนาวะ" ทำงานกันจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ขุนพลกลับมาจากพาอันอันเดินเล่นตอนทุ่มกว่าๆ พวกเราเลยสั่งแกร๊ปร้านอาหารไทยเจ้าดังแถวๆนี้มากินกัน

"คิดถึงคุน มันชอบกินกุ้ง" เห็นต้มยำกุ้งก็คิดถึงเมียนัก มันชอบกินกุ้ง แต่ไม่ค่อยชอบแกะ กลายเป็นผมที่ต้องทำหน้าที่แกะให้คุนคุนกินประจำ

"โอ้ย ไม่ต้องคิดถึงมันหรอกพี่ อยู่โน่นมันคงได้กินกุ้งมังกรแทบทุกมื้อ"

"เรื่องของกู กูจะคิดถึงคุนแล้วมันหนักหัวมึงรึไงเฮาะไอ้ขุนพล"

"คร้าบบๆ ไม่หนักหัวผมหรอก สรุปจะกินมั้ยไอ้กุ้งในจานอะ ถ้าไม่กินผมขอนะ" ยังไม่ทันจะได้อนุญาต ไอ้แฝดนรกนี่ก็ยื่นส้อมมาจิ้มกุ้งตัวเดียวในจานผมเรียบร้อย

"หยุด เอาช้อนมึงออกไป นี่กุ้งกู อย่ามาแย่ง" แต่คนอย่างกูมีหรือจะให้ กูจะเอาแ*กไม่แ*กก็อีกเรื่องหนึ่ง เขี่ยเลยครับ เขี่ยส้อมมันออกจากจานผมทันทีทันใด

"ไรวะ ขี้หวงวะ" เอะไอ้นี่ ไม่ได้ของก็ทำปากแบะ

"อะ เอาของกูไป กูไม่แ*กกุ้ง" จู่ๆกุ้งตัวใหญ่ๆหนึ่งตัวที่เคยอยู่ในจานของธันวาก็ถูกเคลื่อนย้ายมาอยู่ในจานของขุนพลทันที น้ำใจงามสัสสัส

"เฮ้ย พี่แม่งใจดีวะ มาๆ เอามาให้หมดจานนั่นแหละ ผมเลิฟมากกุ้งตัวงอๆเนี่ย" โวะไอ้นี่ ได้คืบจะเอาศอก ใครจะไปให้วะ ไอ้ธันวามันยังไม่ได้แ*กสักคำเถอะ

"เออ อะ เอาไป กูไม่แ*กกุ้ง" อ้าวไอ้นี่ เสือกใจดีได้โล่อีกวันนี้

"มึงเนี่ยนะไม่แ*กกุ้ง วันก่อนกูยังเห็นมึงสั่งกระเพราะกุ้งอยู่เลยไอ้ธัน" กูจำได้ ความจำกูดี วันก่อนมึงสั่งกระเพราะกุ้งพิเศษขอกุ้งตัวโตๆด้วยซ้ำ แล้วไหงวันนี้มากระแดะไม่แ*กกุ้งวะ คนเรามันเปลี่ยนความชอบชั่วข้ามคืนได้ด้วยรึไง งงกะมัน

"กูเลิกกินแล้ว กินเยอะเบื่อ" อย่างนี้ก็มีด้วยยยย

"หรออออ" กูไม่เชื่ออออ

"เออพี่ พรุงนี้เครื่องคุนมันแลนดิ้งกี่โมงวะ"

"สองทุ่มกว่า"

"ไปรับด้วยดิ คิดถึงวะ อยากหยิกแก้ม"

"ไม่ต้องสะเออะไป กูจะสวีทกับเมียกู" อย่าได้เสนอหน้าไปเชียวนะ กูจะพาเมียไปดินเนอร์ใต้แสงเทียน ถ้ามึงจะไปกูจะเจาะยางรถยนต์มึง!

"ไอ้เชี่ยพี่แฟง พี่มึงเรียกเพื่อนผมว่าเมียเต็มปากเต็มคำเลยนะ ได้เค้าละหรออออ ถึงสะเออะเรียกคุนมันว่าเมียเนี่ย ว้ายยย ขี้ตู่" ปากยื่นปากยาวเดี๋ยวกูดึงปากออกมาดีดแม่งเลย ไอเนี่ก็อีกคน เอะอะกรี้ดๆ จะได้ไม่ได้กันดูจำเป็นต้องเอาเรื่องบนเตียงไปตีแผ่ให้มึงฟังรึไง เรื่องสิ

"เสือก"

"โอ้ยย เจ็บจังโดนด่าว่าเสือกเนี่ย"ท่าทางตอแหลชิบหาย เดี๋ยวก็ถีบตกเก้าอี้ซะเลีย ว่าแล้วก็ง้างขารอเลยละกัน ถ้ามันพูดไม่เข้าหูอีกรอบจะได้พร้อมถีบ

"เชี่ยขุนอย่าไปแหย่มัน ช่วงนี้อารมณ์หมาบ้าของมันยิ่งขึ้นๆลงๆอยู่ โดนตีนขึ้นมาอย่าหาว่ากูไม่เตือนนะเว้ย" ไอ้นาทีนี่ก็แสนรู้

"แ*กเข้าไปกุ้งเนี่ย แ*ก็ให้คลอเรสเตอรอลขึ้นไปเลย เอาไป" อยากกินนักใช่มั้ยกุ้งเนี่ย เอาไปเลย มองอยู่นั่นแหละกุ้งในจานกูเนี่ย มองจนกูรู้สึกผิดเลย ไอ้ชิบหาย!

"อ้ำ!"

"แ*กแล้วก็ไม่ต้องสะเออะไปโผล่หน้าที่สนามบินละพรุ่งนี้"

"อือ รู้แล้วน่า ไอ้คนขี้หวง ใช่ซี้ความสัมพันธ์พี่น้องของเรามันสั้น ฮือๆๆ" บีบน้ำตาอีก รำคาญ!

"รีบแ*กแล้วก็กลับห้องมึงไปซะรำคาญ"

"ไรว้าาา พอใช้งานเราเสร็จ เราหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง เค้าเสียใจนะตัวเอง"

"นาที ตอนมึงกลับลากมันไปด้วย เกลียดชิบหายเสียงสองเสียงสามของมันเนี่ย"

"เออๆ ว่าแต่ทำไมมึงทำเสียงสูงได้วะ สอนกูบ้างดิ จะเอาไปเล่นกับมายด์เวย์บ้าง"เอ้า ไอ้นี่ ไปย้าจี้เล่นกับมันอีก

"สนใจอ่อพี่ นี่ๆต้องทำแบบนี้ อ้าปากกว้างๆ ....."

รอบตัวกูมีแต่คนไม่เต็มบาท ชาติที่แล้วสงสัยทำบุญให้พวกปัญญาอ่อนเยอะ เกิดมาชาตินี้ถึงมีแต่พวกนี้รายล้อม ได้

"พี่ๆ นี่ๆ เพื่อนผู้หญิงผมนี่ชอบมากกกก พวกพี่กลายเป็นไอดอลชั่งข้ามคืนเลยรู้ป่าว" ผมทำเป็นไม่สนใจที่ขุนพลพูด จ้วงอาหารเข้าปากเหมือนคนหิวมาสามวันไม่มีอะไรตกถึงท้อง แต่ไอ้ที่กลืนลงคอเกือบสำลักออกมาทางเดิมเมื่อไอ้ขุนพลเปิดคลิปเวรนั่นอีกแล้ว เชี่ยยยย มึงตามมาหลอกหลอนกูอีกแล้วหรอวะ

เย้เยเย เย้เยเย เยเยเย้เย
เพชรผมวิบวิบวิบวิบวิบ
เพลงผม hit hit hit hit hit
....

มึงรู้อยู่แล้ว
ว่ากูนะมีอะไร(มีอะไร)
แต่พอคนถามกูบอกว่าไม่เท่าไหร่(ไม่เท่าไหร่)
มึงลองมองดิ

"เปิดทำห่าไร ปิดซะ เอามานี่"

"เฮ้ยๆๆ ไม่ให้ๆ ไอ้พี่ ผมจะฟัง พี่นาทีช่วยผมด้วยยย"

"มันเขิน" เขินพ่องงงง อยากจะถีบเพื่อนักให้กระเด็นตกเก้าอี้อีกคน

"เฮ้ย เขินแรงไปมั้ยเนี่ย โทรศัพท์โผมมมม" ผมดึงโทรศัพท์ที่อยู่ในมือขุนพล แต่มือใันเหนียวชิบหาย ถ้าบอกว่าเป็นตุ๊กแกนี่กูเชื่อนะ

"สัสแฟง มึงก็ให้น้องมันเปิดไปจะเป็นไรไปวะ มีแต่คนชมว่ามึงหล่อกันทั้งนั้น จะเขินทำหอกอะไร"

"สัส เรื่องของกู"

"มันอายเพชรบนนิ้วมัน ฮ่าๆๆๆ" นาทีหัว*วย!

"เออ แต่เพชรแม่เม็ดใหญ่จริง ไปเอามาจากไหนวะพี่ ฮ่าๆๆๆ" ไอ้นี่ก็ล้อกูจังเรื่องเพชรเนี่ย กูยิ่งเกลียดๆอยู่

"กูไม่รู้วะ พี่เชอรี่รองประธานสโมเป็นคนหาพร๊อพให้"

"เฮ้ย แต่ไอ้พี่ พี่มึงแม่งหล่อสัส ขยับเอวทีนี่สาวกรี้ดทั้งมอเลยนะเว้ย นี่ผมพูดจริงนะ พี่สองคนด้วย นี่ๆ ท่อนนี้ผมชอบ ที่พี่ธันแร๊พอะ แม่งสุดตีน"

มึงรู้อยู่แล้ว
ว่ากูนะมีอะไร(มีอะไร)
แต่พอคนถามกูบอกว่าไม่เท่าไหร่(ไม่เท่าไหร่)

"หน้าพี่แม่งเข้ากับท่อนนี้มาก อยากกราบตีนโปรดิวเซอร์เลยผมอะ"

"ไปกราบทำเ*ยไรโปรดิวเซอร์ มากราบกูนี่กูคนร้อง กูหล่อกูรู้" ไอ้ธันนี่ก็บ้ายอ โดนชมเข้าหน่อยดูทำหน้าทำตาเข้า

"เ*ดดด อวยตัวเอง เฮ้ย ผมชอบๆๆๆ"

"ถ้าชอบขนาดนั้นก็กลับบ้านกับกูเลยมั้ยละ" เอ้าไอ้นี่ ว่าไปโน่น ว่าแต่ไอ้ธันมันบ้ายอตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

"เฮ้ย เอาผมไปทำไรที่บ้าน ผมถูบ้านไม่เป็นหรอกนะเว้ยไอ้พี่"

"ไม่เป็นไร เอามึงไปไว้อุ่นเตียงก็ได้" เชรดดดดดด กูว่าละสายตาไอ้ธันมันมองขุนพลแปลกๆ ที่ไหนได้มันจ้องจะเคลมไอ้แฝดนี่เอง เชี่ยตัวโตไซส์ควายทั้งคู่ ฟ้าไม่ผ่าหรอวะ

"หึ" ช่างแม่ง กูขอขำในลำคอหน่อยละกัน เชี่ยธันแม่งออกตัวแรงชิบหาย ไอ้ขุนจะมีผัวววว!!!

"หึ" ส่วนนี่ก็เสียงนาทีที่แกล้งทำเป็นตักผัดกระเพราะเข้าปากไม่รู้ไม่ชี้ มันคงมองออกเหมือนผมแหละ มึงเสร็จแน่ไอ้ขุนพล กูอยากจะหัวเราะให้ปากฉีกกกกกก

"อุ่นทำแป๊ะอะไรพี่ ชอบนอนร้อนๆหรอ ประสาทวะ" อ้าว ใช้ศัพท์ยาก เด็กมันเลยไม่รับมุกวะธันวา ฮ่าๆๆๆๆๆๆ สงสัยต้องลงทุนลงแรงมากกว่านี้ละมั้ง
.
.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm

------++++-----
คำว่า อุ่นเตียง มักใช้ในนิยายจีนโบราณ มีความหมายคล้ายๆ ฮึ่มฮ่ำ อะคะ :)

ช่วงนี้คุนคุนหายนะคะ นานๆออกมาที ค่าตัวนางแพงนีสสสนึง


ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ธันนี่ยังไงอะ ตามจีบใครรึเปล่า

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
งานนี้มีเฮ!!!

สนุกมากครับ,,,,

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 30---


"เจ้จูแม่งฝอยนานอีกละ" ผมบ่นอุบเมื่ออาจารย์จุไรรัตน์เจ้าเดิม ส่วนเข็มนาฬิกาบนข้อมือก็เดินไปจนล่วงเลยเวลาเลิกคลาสมานานพอสมควรแล้ว

"รีบหรอ" นาทีที่ยืนอยู่ข้างๆผมถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมยืนอยู่ไม่เป็นสุขมาสักพักแล้ว ดีนะที่ตอนนี้เราสองคนยืนอยู่ด้านหลังห้อง ไม่งั้นคงโดนเจ้จูหักคะแนนอีกตามระเบียบ

"เออ วันนี้คุนคุนกลับ"

"อ้าว เครื่องแลนดิ้งกี่โมง"

"สองทุ่มครึ่ง"

"เจ้แกพูดไม่จบง่ายๆหรอก มึงก็แอบเนียนออกจากห้องไปเลย"

"เอางั้นหรอวะ"

"เออ เดี๋ยวกูรับหน้าให้ไม่ต้องห่วง ถ้ามึงไม่ออกตอนนี้มึงจะถึงสนามบินทันเวลาได้ไงวะ รถติดจะตายห่า" นาทีตบไหล่ผมเบาๆสองสามที

"เออ ขอบใจมากมึง"

แล้วผมก็ใช้จังหวะที่อาจารย์จุไรรัตน์ก้มลงไปหยิบกระดาษอะไรบางอย่างบนโต๊ะแอบย่องออกไปทางหลังห้องเงียบๆ พอออกมาจากห้องได้ก็รีบสาวท้าวยาวๆของตัวเองไปยังรถที่จอดไว้ในอาคารจอดรถด้านหลังทันที

ครืด ครืด

"ว่าไงนิรันดร์" ผมหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อกาน์ออกมาดูว่าใครโทรมาในใตภาวนาว่าไม่ใช่นาที เพราะถ้าเป็นนาทีโทรมาคงไม้พ้นเรื่องอาจารย์จุไรรัตน์จับได้ว่าผมแอบเนียนโดนคลาสแกออกมา พอเห็นหน้าจอแสดงชื่อพ่อยังเกิดเกล้าก็กดรับทันที

(เลิกเรียนแล้วหรอไอ้เสือ)

"ยังหรอก แต่แอบโดดออกมา" ผมไม่เคยโกหกนิรันดร์ เราไม่เคยมีความลับต่อกัน ถ้าผมโดดเรียนผมก็จะบอกว่าโดด ถ้าผมมีเรื่องชกต่อยกับใครแล้วถ้าผมเป็นฝ่ายเริ่มก่อนผมก็จะบอกไปตามความตริง ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก นิรันดร์ไม่เคยสปอยล์ผม ถ้าทำผิดก็ถูกลงโทษไปตามท้องเรื่อง นิรันดร์ไม่ใช่คนเคร่ง ำม่เคยบังคับว่าผมจะต้องตั้งใจเรียน ไม่เคยขีดกรอบชีวิตให้ผม ให้เฮียเกอร์ หรือนิวเยียร์ เราสามคนใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความเข้าใจของนิรันดร์และแม่ ถูกตามใตตามประสาพ่อแม่ที่รักลูก และถูกลงโทษหากทำอะไรที่เลยเถิดเกินพอดี ซึ่งเราทั้งสามคนก็โดนกันทั่วหน้า

"ไรวะ กูส่งเรียนนะไม่ได้ส่งให้โดดเรียน กูควรภูมิใจมั้ยเนี่ย"

"ภูมิใจเถอะนะ ลูกหล่อขนาดนี้" รู้แหละว่านิรันดร์ก็บ่นไปงั้น ปากก็บ่นเหอะ แต่ใจจริงไม่เห็นนิรันดร์จะโกรธผมจริงๆสักครั้ง คงเพราะเขารู้แหละว่าผมรู้หน้าที่ตัวเอง ถึงแม้ผมจะเกเรบ้าง โดดเรียนบ้าง แต่ผลการเรียนผมก็ยังติดอันดับท๊อปๆของรุ่นอยู่ดี

"หลงตัวเองชิบหาย"

"เหมือนใครละ"

"นั่นสินะ เหมือนใครกัน เออแฟง เมื่อกี้นิวเยียร์โทรมาหากูบอกตอนนี้อยู่ห้าง x น้องล้มข้อเท้าพลิกเดินไม่ได้ กูโทรหาไทเกอร์แล้วแต่มันไปสัมมนาต่างจังหวัด มึงแวะไปรับน้องหน่อยสิ"

"แม่ละ" ที่ถามออกไปแบบนั้นไม่ใช่เพราะไม่ห่วงน้องนะ แต่คือห้าง x มันอยู่ใกล้บ้านแม่มาก ถ้าแม่มารับอาจจะเร็วกว่สผมไปถึงด้วยซ้ำ เพราะถ้าน้องเป็นอะไรมากแม่จะได้รีบพาไปโรงพยาบาลได้เลย

"ไม่อยู่ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ภูเก็ต"

"อ้าว ทำไงดีวะแม่ง"

"มึงติดธุระหรอ"

"คือผมกำลังจะไปรับคุนคุนอะนิรันดร์  คุนมันกลับมาจากปักกิ่งวันนี้ อีกไม่ถึงสองชั่วโมงเครื่องก็จะแลนด์แล้ว"

"ก็ไลน์ไปบอกให้รอก่อน มึงไปรับนิวเยียร์ที่ห้างก่อนรู้สึกตอนนี้ข้อเท้าเริ่มจะบวมแล้วด้วย แล้วตอนนี้เพื่อนที่ไปด้วยกันก็กลับหมดแล้ว หรือมึงเห็นว่าที่เมียสำคัญกว่าน้องรึไง"

"ป่าว ก็สำคัญเท่ากันนั่นแหละ งั้นเดี๋ยวแวะไปรับนิวเยียร์ก่อนละกัน นิรันดร์โทรบอกให้นิวเยียร์หาร้านนั่งรอสบายๆไปก่อนนะ อีกชั่วโมงหนึ่งผมถึงจะถึง ตอนนี้รถติดอยู่หน้ามหาลัย"

"เออ เดี๋ยวบอกให้น้องรออยู่ที่ Greyhound รีบไปละกัน มึงก็รู้นิวเยียร์ชอบงอแง"

"ครับ" พอนิรันดร์พูดหน้านิวเยียร์ที่งอแงน้ำตาซึมหางตาก็ลอยเข้ามาในหัวทันที นิวเยียร์เป็นน้องคนสุดท้องที่มีนิสัยตามแบบฉบับลูกคนสุดท้องมาเต็มๆ ขร้อ้อน ขี้งอแง และที่สำคัญคือจุ้นจ้านสุดๆๆ

ผมกดวางสายพรางเหลือบมองนาฬิกาดิจิตัลในรถแล้วถอนหายใจ ถ้าแวะไปรับนิวเยียร์ก่อนแล้วเลยไปสนามบินนั่นหมายถึงว่าคุนคุนต้องรอผมชั่วโมงครึ่ง แม้จะรู้สึกผิดแต่ตอนนี้น้องสาวผมก็ต้องการผมเหมือนกัน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ผมเชื่อว่าคุนคุนคงจะเข้าใจ กดส่งข้อความผ่านไลน์ไปหาใครอีกคนที่กำลังอยู่บนท้องฟ้าก่อนจะหักรถยูเทิร์นเปลี่ยนเส้นทางไปยังห้าง x ที่อยู่คนละทางกับทางไปสนามบิน

FanG: พี่จะไปถึงช้าสักชั่วโมงนะคุน รอพี่หน่อย ต้องไปรับนิวเยียร์

FanG: อย่าโกรธนะ

FanG: ห้ามเรียกแทกซี่กลับเองด้วย ยังไงพี่ก็จะไปรับ อย่าดื้อเข้าใจมั้ย มาถึงแล้วโทรมาด้วย

เวลาที่คนเรารีบๆ มันมักเหมือนจะมีอะไรมาประดังเข้ามาขวางทางอยู่ตลอดเวลาอย่างเช่นที่ผมกำลังเจออยู่ตอนนี้

ฝนตกหนัก

พ่วงด้วยรถติดแสนสาหัส

และรถบนถนนไม่มีวี่แววว่าจะขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย ผมจอดรถแช่อยู่ตรงสี่แยกไฟแดงก่อนถึงห้าง x มาร่วมยี่สิบนาทีแล้ว แล้วอีกไม่ถึงชั่วโมงมันก็ถึงเวลาที่เครื่องของคุนคุนจะแลนด์ดิ้งแล้วด้วย โถ่เว้ย ถ้าจะซื้อถนนสายนี้เป็นของตัวเองตอนนี้มันจะสานเกินไปมั้ยวะ หงุดหงิดชิบหาย นิวเยียร์ก็รอผมอยู่ คุนคุนก็เหมือนกัน ทำไมฝนห่ารากนี่ต้องมาตกเอาวันนี้ด้วยวะ

19.35 น.

FanG: รอหน่อยนะนิวเยียร์พี่รถติดอยู่ใกล้ๆนี่เอง ฝนตกหนักรถเลยติด


ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ต่อคร่า

FanG: รอหน่อยนะนิวเยียร์พี่รถติดอยู่ใกล้ๆนี่เอง ฝนตกหนักรถเลยติด

????N*Y????: ไม่เป็นไรคะ น้องรอได้

FanG: ขาเป็นไงบ้าง

????N*Y????: ปวดคะ แต่ทนได้

FanG: หาอะไรกินรองท้องไปก่อนนะ เดี๋ยวโรคกระเพาะกำเริบอีก พี่จะรีบไป

????N*Y????: คะ ไม่ต้องห่วงน้องหรอกคะพี่แฟง น้องรอได้จริงๆ ตั้งใจขับรถเถอะคะ

FanG: KK


19.55

ผมเพิ่งจะหาที่จอดรถในห้างได้ ห้างในกรุงเทพเย็นวันศุกร์มันคือตลาดนัดดีๆนี่เอง แต่โชคดีหน่อยที่ช่วงนี้คนยังกลัวการระบาดของโควิดถึงได้ยังไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากนัก ทำให้พอจะหาที่จอดรถได้ง่ายกว่าทุกครั้ง ไม่งั้นละก็เชื่อเหอะวนรถสามรอบยังหาที่จอดไม่ได้เลย ผมรีบจอดรถแล้ววิ่งขึ้นไปหาน้องสาวที่นั่งรออยู่ในร้านอาหารชั้นห้าของห้างแห่งนี้ มองดูลิฟท์โดยสารที่มีคนยืนรอมากมายก็เลือกใช้บันไดในลานจอดรถแทนเพื่อย่นระยะเวลา วิ่งผ่านร้านขายยาก็เข้าไปซื้อเจลประคบเพื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พอได้ของทร่ต้องการ ขาก็สาวเท้าจ้ำเอ้าเพื่อไปให้ถึงร้านที่นัดกับน้องสาว ส่วนตาก็เหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือไปด้วย แต่พอเข้ามาในร้านอาหารขายาวๆของผมที่เคยสาวถี่ยิบกลับช้าลงเหมือนมีอะไรมาฉุดรั้งไว้ ที่โต๊ะด้านในสุดของร้านอาหารไม่ได้มีเพียงน้องสาวของผมที่นั่งอยู่ แต่ยังมีนิรันดร์ แล้วก็คนตัวเล็กที่ผมคิดว่าเขากำลังอยู่บนฟ้าในตอนนี้ ผมก้มลงมองข้อเท้าของนิวเยียร์ที่ควรจะบวมช้ำจากการข้อเท้าพลิกแต่ก็พบว่าข้อเท้าเธอไม่ได้มีอาการบวมเลยแม้แต่น้อย แทบอยากจะขว้างถุงยาในมือทิ้งลงมันตรงนั้น

"คุน"

"พี่แฟงงง"

"มาได้ไง"

"พี่รันไปรับครับ" นิรันดร์สินะที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

"นี่มันเรื่องอะไรกันนิรันดร์ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่งานการไม่มีทำรึไง แล้วคุนคุนมาถึงตอนไหน"

"นั่งก่อนอย่างเพิ่งถาม วิ่งมาเหนื่อยๆไม่ใช่รึไง เหงื่อโชกเลยนะมึง"

"ก็ผมรีบวิ่งมาหานิวเยียร์ ก็พ่อบอกน้องขาเจ็บ ผมก็เป็นห่วงมั๊ยละ นี่แวะซื้อเจลประคบมาด้วย แต่ยัยตัวดีคงไม่ต้องใช้แล้วละมั้ง"

"น้องไม่เป็นไรคะพี่แฟง"

"เล่นไรกันเนี่ย ผมอุตส่าห์รีบขับรถมา ถ้าแหกโค้งขึ้นมาจะทำไงวะ"

"หนูไม่เกี่ยวนะคะ คนนี้ให้หนูทำ" นิวเยียร์ยกมือขึ้นมาสองข้างเหมือนสารภาพผิด ก่อนจะชี้นิ้วเล็กๆของเธอไปยังทิศทางที่พ่อบังเกิดเกล้าของผมนั่งอยู่ คนเจ้าแผนการทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบ

"จะเอาที่ไหนมาแหกโค้ง รถติดจะตายห่า เหยียบเกินสี่สิบได้กูก็นับถือมึงละ"

"ฝนตกโคตรหนักเลยด้านนอก"

"เออเห็นละ สั่งอาหารก่อน จะกินไร"

"ไม่อะ นิรันดร์สั่งเหอะ แล้วมึงก็เล่นกับเค้าด้วยหรอคุน" ผมหันมาหาคนที่นั่งอยู่ด้านข้สง ยกมือขึ้นมาขยี้หัวคนตัวเล็กเบาๆ

"คุณก็ถูกบังคับมาอีกทีเหมือนกันครับพี่แฟง"

"ไหนบอกเครื่องแลนด์ดิ้งตอนสองทุ่มครึ่งไง"

"แหงะ...." เป็นแบบนี้ทุกที พอตอบไม่ได้ก็ยิ้มตาหยีจนเป็นเส้นตรง ยิ่มแบบนี้ทีไร ลักยิ้มบนแก้มสองข้างก็เด่นหราขึ้นมา มันน่าเอานิ้วจิ้มให้จมลงไปในแก้มเลยจริงๆ

"กูบอกให้คุนมันบอกมึงไปแบบนั้นเอง"

"ทำไปเพื่ออะไรเนี่ยนิรันดร์ คนรีบมันเหนื่อยนะเว้ย" ผมแหวไป เหนื่อยจริงนะเหนื่อยใจอะ ไหนจะห่วงน้อง ไหนจะกังวลว่าคุนคุนจะรอนานอีก แถมเมื่อครู่ยังวิ่งมาจนเหนื่อย รถจอดอยู่ชั้นใต้ดินแต่วิ่งขึ้นบันไดลานจอดรถมาถึงชั้นห้า คิดดูละกัน เหนื่อยขาลากเลยเหอะ

"อ้าว ก็กูอยากเห็นว่ามึงจะเห็นว่าทีเมียสำคัญกว่าน้องรึเปล่า"

"ใช่เรื่องหรอมาเล่นแบบนี้ น้องผมผมก็ห่วงรึเปล่าวะ"

"เห็นมั้ยนิวเยียร์บอกแล้วว่าพี่ชายนะรักน้องที่สุด น้องรักพี่แฟงที่สุดเลยคะ"

"ไม่ต้องพูดเลยยัยตัวดี พี่ต้องคิดบัญชีเราด้วย ข้อหาสมรู้ร่วมคิด" ผมยื่นมือไปเขกหน้าผากน้องตัวดีที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน

"อู้ยยย ช่วยหนูด้วยพี่รัน" ส่วนเจ้าตัวดีพอโดนเขกหัวไปก็รีบไออ้อนซบอกนิรันทร์ทันที

"อย่าไปทำอะไรน้อง น้องตัวเล็กนิดเดียว เนอะตัวเล็กเนอะ" แถมยังกอดนิวเยียร์จนจมเข้าไปในอกอีก นี่ถ้ามากันสองคน คนอื่นคงมองว่าเสี่ยมากินข้าวกับเด็กเลี้ยงแน่ๆ เล่นกอดกันจมขนาดนี้ แถมยังไม่ให้เรียกพ่ออีก คนนอกนี่คิดไปไกลเลยแหละครับ

"ช่ายยย นิวเยียร์ตัวเล็กนีสสสเดียว แล้วตอนนี้คนตัวเล็กก็หิวมากแล้วด้วยคะพี่รัน"

"อยากกินอะไรสั่งเลยตัวเล็ก"

"งั้นหนูสั่งเลยนะคะ"

"อือ คุนอยากกินอะไรก็สั่งเลยนะไม่ต้องเกรงใจพี่"

"ครับพี่รัน"

"ไม่ต้องมามองหน้าทำตาละห้อย กูก็ต้องคิดบัญชีมึงด้วยเหมือนกัน" ผมหยิบเมนูขึ้นมาดูก่อนจะหันไปมองหน้าคุนคุนที่นั่งอยู่ข้างกัน อีกฝ่ายแอบมองลอดเมนูมามองผมเป็ยระยะ คงกลัวว่าผมจะโกรธเจ้าตัวนั่นแหละ ผมเลยยกมือขึ้นมายื่นไปเตรียมจะดีดหน้าผากไอ้แก้มยุ้ยซะหน่อย

"พี่รันครับ พี่แฟงจะลงโทษคุน" พอเห็นว่าอ้อนผมไม่สำเร็จก็เรียกหาตัวช่วยเลยนะ....แล้วสองคนนี้ไปสนิทกันตอนไหนวะ ลภัสรู้สึกงง

"ฮะๆๆๆ เฮ้ยอย่าลงโทษน้องตรงนี้ มีอะไรก็กลับไปทำที่ห้องโน่น อายเค้า" นิรันดร์มองดูผมจับคุนคุนเข้ามาดีดหน้าผสกก็หัวเราะชอบใจออกมา คุนเอ้ย ร้องขอความช่วยเหลือผิดคนแล้ว นิรันดร์อะไม่ช่วยหรอก ฝ่านนั้นนะชอบดูคนทะเลาะกันเป็นที่สุด

"พี่รัน!"

"มึงไม่รอดแน่คุน"

.
.
.
.
.

เราใช้เวลาทานอาหารมื้อค่ำไปกว่าสองชั่วโมง ส่วนผมก็หายหงุดหงิดไปได้บ้างแล้ว เพราะคุนคุนแอบกุมมือผมไว้ที่ใต้โต๊ะอาหารตลอดเวลา ไอ้คนตัวเล็กคงกลัวว่าผมจะโกรธจัดที่มันร่วมมือกับนิรันดร์มาแกล้งผม พูดตามตรงคือผมก็โกรธแหละ แต่เพราะรู้จักนิสัยขี้แกล้งของนิรันดร์อยู่แล้วก็เลยไม่ได้อะไรมาก แต่ก็ต้องวางฟอร์มว่าตัวเองยังโกรธอยู่ให้คนตัวเล็กรู้สึกผิด กลับไปจะได้หาเรื่องลงโทษได้ยังไงละครับ ส่วนเหตุผลในการแกล้งครั้งนี้ของนิรันดร์มันก็มีความห่วงใยซ่อนอยู่เหมือนทุกครั้งแหละ นิรันดร์แค่ต้องการให้คุนคุนมาร่วมทานอาหารกับครอบครัวเราจะได้ทำความรู้จักสนิทสนมกันไว้ แต่ที่น่าเสียดายคือเฮียเกอร์กับแม่ไม่อยู่เลยได้ทานอาหารกันแค่สี่คน

"ถ้าว่างคุนก็ไปเที่ยวบ้านเราบ้างนะ" นิวเยียร์เอ่ยก่อนจะเดินขึ้นลิฟต์ไปกับนิรันดร์ แม้นิวเยียร์จะอยู่ชั้นม.6 แต่ก็อายุเท่ากับคุนคุนต่างฝ่ายต่างไม่มีใครเรียกพี่ หวยเลยมาออกที่เรียกชื่อกันเองอย่างสนิทสนมแบบที่เห็น ส่วนผมก็ดีใจที่คนที่ผมรักเข้ากันได้ดีกับคนในครอบครัวผม

วันนี้นิรันดร์ตั้งใจมาทานมื้อค่ำกับพวกเราโดยเฉพาะ นั่งเครื่องมาจากเชียงใหม่เครื่องลงในเวลาใกล้เคียงกับคุนคุนเลยมาที่ห้างนี้พร้อมกัน แล้ววันนี้นิรันดร์ก็จะไปอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนนิวเยียร์เพราะแม่ไม่อยู่ ยัยน้องสาวตัวแสบก็เลยได้ทีอ้อนนิรันดร์ให้ไปเดินช้อปปิ้งเลือกซื้อเครื่องสำอางค์กับเสื้อผ้า นึกภาพออกเลยว่าอีกชั่วโมงข้าฃหน้ายัยตัวดีคงหิ้วถุงเต็มสองมือพร้อมกับยิ้มแก้มปริ ส่วนผมกับคุนก็ขึ้นลิฟต์อีกตัวมายังลานจอดรถที่อยู่ชั้นบนสุด

"ได้เลย"

"มานี่เลยตัวดี แล้วกระเป๋าเดินทางอยู่ไหน"

"พี่รันให้คนเอาไปฝากไว้ที่คอนโดแล้วครับ"

"เค ก็ดี แต่ตอนนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว"

.
.
.
.
.
.



#คุนแฟง

by ppeachmm









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-05-2020 22:29:26 โดย Ppeachmm »

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
พี่รันนี่ชอบแกล้งจริงๆเนาะ,,,

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด