คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)  (อ่าน 12666 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 17---


"ทำอะไรเนี่ยนิรันดร์!" ผมพูดออกไปด้วยเสียงที่ดังพอประมาณ นึกโกรธอีกคนอยู่เหมือนกันที่จู่ๆก็โผล่มาอยู่กันคนของผมแบบนี้ แต่อีกใจก็โล่งใจไปได้มากโขเมื่อคนที่คิดว่าอยู่ในอันตรายกลับมายืนยิ้มหน้าสลอนอย่างไม่ยุบสลายแถมยังมากับพ่อบังเกิดเกล้าของผมอีก ถ้าอยู่กับนิรันดร์ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง คุณคุณคงจะปลอดภัยมากกว่าอยู่กับผมเสียด้วยซ้ำ

"ฮะ?/ อะไรนะ?/ ว่าไงนะครับ?" กองทัพ ขุนพล และคุนคุนร้องออกมาพร้อมกัน จ้องผมกับชายวันกลางคนคนนั้นสลับไปสลับมาคล้ายไม่เชื่อว่าผู้ชายคนนี้คือพ่อบังเกิดเกล้าของผม คนใกล้ตัวผมที่สนิทกับต่างก็รู้ว่านิรันดร์คือบิดาสุดที่รักของนายลภัส วิสุทธิ์รังสรรค์คนนี้ แม้ผมจะไม่ค่อยเรียกผู้ชายวัยกลางคนตรงนี้ว่าพ่อให้ใครได้ยินบ่อยๆ ออกจะติดเรียกชื่อจริงมากกว่าเพราะนิรันดร์ชอบให้ผมเรียกแบบนี้ นิรันดร์เป็นพวกไม่อยากแก่ เวลาออกไปไหนมาไหนไม่เคยให้ลูกเรียกพ่อเลยสักที นิรันดร์บอกว่าจะให้เรียกพี่ก็ดูกระดากปากไปซะหน่อย เลยให้ลูกๆเรียกชื่อจริงตัวเองแทน เวลาไปหลีสาวแล้วมีลูกตามติดไปด้วยจะได้เนียนไปบอกเป็นน้องไรงี้ ร้ายมั้ยครับพ่อผม ผมตอบให้เลยว่าร้ายซะยิ่งกว่าร้าย แล้วดูเอาเถอะผู้ชายอายุขึ้นเลขสี่แล้วแต่หน้าตานี่ไม่ได้ร่วงโรยไปตามอายุเลยสักนิด บอกใครต่อใครว่าเป็นพี่ผมใครก็เชื่อ แล้วมันไม่ใช่แค่นั้นไง นิรันดร์แบบหน้าตาโคตรดีอะ แนวแด๊ดดี้แซบๆอะบอกเลย ทุกวันนี้หัวกะไดบ้านไม่เคยแห้งเลยสักวัน สาวน้อยสาวใหญ่ในเชียงใหม่ตามติดกันค่อนเมือง ก็นั่นแหละนะ ไปลองดูกระปุกครีมเซรั่มที่ในห้องน้ำสิราคารวมกันเป็นแสน กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมที่นั่งรอนี่หลับแล้วหลับอีก บำรุงดีชิบหาย เอาจริงนะอีกสิบปีข้างหน้านี่ผมอาจจะดูแก่กว่าพ่อตัวเองก็ได้เพราะผมแทบไม่ได้บำรุงอะไรเลยด้วยซ้ำ ส่วนหุ่นที่ผู้ชายวันสี่สิบควรจะมีกันคือมันต้องมาพร้อมพุงกับความท้วมหน่อยๆใช่มั้ยละ ขอบอกเลยว่านั่นไม่ใช่นิรันดร์ ถึงแม้จะยุ่งแค่ไหนกลับบ้านดึกแค่ไหนนิรันดร์ก็ต้องออกกำลังกายก่อนนอน บอกได้เลยว่าในเสื้อเชิ้ตที่เปิดกระดุมสองเม็ดนั่นมีก้อนแข็งๆหกลูกบรรจุเรียงตัวอยู่อย่างสวยงาม วินัยในการออกกำลังกายดีชิบหาย แล้วดูการแต่งตัว เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มแขนยาวพับขึ้นมาถึงศอกกับกางเกงขาสั้นสีครีมยาวแค่เข่า ตบด้วยรองเท้าผ้าใบที่ซื้อมาคู่กับผมตอนไปญี่ปุ่น เฮ้อ มีพ่อแอ๊บเด็กแม่งหนื่อยวะ!

"ปล่อยไอ้ขุนเถอะ เพื่อนผมเอง" ผมรีบพูดออกไปเมื่อเห็นว่าตอนนี้แฝดคนน้องเริ่มหน้าเขียวแล้วเพราะขาดอากาศหายใจจากแขนที่ล็อคคออยู่

"อ้าว นี่เพื่อนมึงหรอ กูไม่รู้นี่หว่า เห็นพุ่งถลาเข้ามาจะต่อยกู เกือบไปแล้วมั้ยละ" นิรันดร์ปล่อยวงแขนหนาออก ทำให้ขุนพลหล่นลงไปกองที่พื้นอีกรอบ ผมถอนหายใจที่ห้ามไว้ได้ทัน ไม่งั้นละก็ขุนพลอาจจะกลายเป็นผีเฝ้าคอนโดนี้เป็นเพื่อนพี่ศักแน่ๆ ถ้านิรันดร์เอาจริงขึ้นมาอะนะ

"พะ พี่รันเป็นพ่อพี่แฟงหรอครับ" คุนคุนที่ยืนอ้าปากงงอยู่ถามขึ้นมาตะกุกตะกัก นั่นไงหลอกเด็กว่าตัวเองยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่สินะ ผมเห็นประจำแหละมุขนี้นะ เออ เอาเหอะ หน้านิรันดร์ก็ยังได้อยู่ แต่ให้คุนคุนเรียกตัวเองว่า พี่รัน มันเกินไปมั้ยพ่อ! เอาไว้ให้สาวๆเรียกเถอะ แล้วนี่ไปสนิทกันอีท่าไหนถึงให้เด็กผมเรียกชื่อตัวเองอย่างสนิทสนมขนาดนี้

"แหะ ถูกจับได้แล้วสินะ" คนที่รู้ตัวว่าแผนหลอกโกงอายุของตัวเองไม่ได้ผลก็ต้องจำใจยอมรับหน้าตาเฉย

"อะไรกันวะพี่ ผมงงแล้วนะเนี่ย นี่พ่อพี่จริงๆหรอ"

"เออ นั่นดิพี่ หน้าไม่เห็นเหมือนกันเลย"

สองแฝดพูดออกมาพร้อมกัน แต่ผมเห็นนะว่ามันสองตัวแอบก้วถอยห่างนิรันดร์ออกไปอีกคนละก้าวสองก้าว ไอ้ขุนคงกลัวโดนล็อคคออีก ส่วนไอ้ทัพคงกลัวจะโดนเหมือนแฝดมัน เพราะเมื่อกี้มันก็ง้างมือเตรียมจะต่อยนิรันดร์แล้วดีที่ชักกำปั้นกลับมาทัน ไม่งั้นผลลัพธ์คงกลายเป็นมะนลงไปกองที่พื้นข้างน้องแฝดของทันแน่ๆ

"อืือ ทุกคน นี่นิรันดร์ พ่อกูเอง ถ้ากูหน้าเหมือนแม่ตำรวจจะจำกูรึไง ประสาท" ทำท่าตกใจทำไมวะ อย่างน้อยกูก็หน้าเหมือนแม่ มั่นใจได้ว่าพ่อแม่กูไม่ได้หยิบมาผิดจากโรงพยาบาลแน่ๆ

"สะ สวัสดีครับ/ หวัดดีครับพ่อ" สองแฟนพนมมือขึ้นมาแทบจะก้มกราบนิรันดร์ที่อมรอยยิ้มนึกสนุดยืนอยู่ที่เดิม นิรันดร์คงเห็นแหละว่าไอ้สองตัวนั้นสั่นเทาดูเหมือนจะกลัวตัวเองแค่ไหน

"ไม่ต้องไหว้ ฉันไม่ใช่พ่อพวกเธอ" คนมีอายุที่สุดเอ่ยเสียงเรียบติดเย็น คนนอกฟังคงรู้สึกเหมือนนิรันดร์กำลังไม่พอใจอยู่ นั่นยิ่งทำให้สองแฝดแทบจะทรุดเข่าลงไปกราบแทบเท้าพ่อบังเกิดเกล้าของผมแค่ไหน มันคงทั้งกลัวทั้งรู้สึกผิดที่หวังจะทำร้ายพ่อผมแหละ โถ เด็กหนอ พ่อกูจะไปโกรธอะไร นี่ก็แกล้งทำแอ๊บเสียงเย็นชาใส่ไอ้สองตัวนั้นอีกเล่นใหญ่ไฟกระพริบอีกละพ่อกู วันๆไม่หำห่าไรหรอกนิรันดร์อะ แกล้งคนไปเรื่อนเปื่อย สนุกเขาละ

"คะ คร้าบบบบ"

"ผมขอโทษครับที่เข้าไปต่อยพ่อ"

สองแฝดเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกผิด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตา เข่าสองข้างทรุดลงบนพื้น นั่งสำนึกผิดไปสิ ส่วนคนที่ควรจะโกรธกลับยิ้มอย่าสนุกสนาน มีแค่ผมที่ยืนเฉยไร้อารมณ์ใดๆเพราะรู้ว่าไอ้สองตัวนี้กำลังโดนนิรันดร์เล่นอยู่ ส่วนเจ้าคุนคุนของผมก็ยืนนิ่งสีหน้าหลากหลายอารมณ์มากเพราะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แล้วก็ยังเห็นอีกด้วยว่านิรันดร์อะยกนิ้วชี้ขึ้นมาจ่อที่ปากตัวเองเพื่อบอกให้คุนคุนเงียบไว้ อือ...ไม่ต้องบอกอะไรมันก็เงียบอยู่แล้วละไอ้แก้มยุ้ยนั่นนะ ผมปล่อยให้พ่อเล่นสนุกไป ส่วนผมก็จับข้อมือคนตัวเล็กให้เกินออกมาจากตรงนั้นทันที

"ไปไหนมา มึงรู้รึเปล่าว่ากูตามหามึงให้วุ่น" ผมบ่นออกไปแต่ทว่าสายตาก็สำรวจตามร่างกายคนตัวเล็ก เผื่อแผ่ไปถึงแมวยักษ์ข้างๆกันด้วย ทั้งสองดูมีสภาพเหมือนเมื่อตอนหัวค่ำที่ออกจากคอนโดไม่มีผิดเพี้ยน เห็นเท่านั้นผมก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

"คุนขอโทษ" คุนคุนเอ่ยเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิดที่ท่วมท้น ถามว่ารู้ได้ไง ลองมองตามันดูสิ คงรู้สึกผิดจนแทบบ้าแล้วมั้งนั่นนะ เห็นแบบนั้นผมก็รีบดึงคุนคุนเข้ามาไว้ในอ้อมกอดทันที ไอ้เด็กตัวนิ่มก็ยกแขนสองข้างขึ้นมาโอบรอบคอผมไว้

"กูเป็นห่วงมึงรู้มั้ยคุน อย่าหายไปแบบนี้อีก"

"ครับพี่แฟง"

.
.
.
.
.

"มานั่งนี่เดี๋ยวกูเช็ดผมให้" ผมเรียกคนตัวเล็กที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำให้มานั่งระหว่างขาตัวเองที่นั่งรออยู่ที่ปลายเตียงได้สักพักแล้ว  พอกลับมาที่ห้องผมก็ไล่คุนคุนให้ไปอาบน้ำ ส่วนสองแฝดกับนิรันดร์ก็เพิ่งกลับมาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว นิรันดร์คงเล่นกับพวกมันหนักน่าดู เสื้อนี่เปียกมาเชียว คงไม่พ้นถูกสั่งให้วิ่งรอบสนามหลังคอนโดแน่ๆ ที่ผมรู้เพราะเจอมากับตัวบ่อยๆ แล้วก็เห็นลูกน้องของพ่อโดนแบบนี้ประจำ ไม่รู้โดนไปคนละกี่รอบคนที่ออกกำลังทุกวันอย่างกองทัพกับขุนพลถึงได้หมดเรี่ยวแรงนอนตายกองอยู่บนโซฟาเหมือนอาจารย์ใหญ่ไม่มีผิด ส่วนคนที่เป็นตัวการนั่งเหยียดขาผิวปากสบายใจเฉิบอยู่บนเก้าอี้เอนข้างประตูระเบียงตรงข้ามกับห้องนอน มือก็ลูบท้องอันอันไปด้วย มันต้องเป็นคนประเภทไหนวะขนาดแมวที่น่ากลัวแบบนั้นถึงยอมนอนเฉยไม่ส่งเสียง ขนาดผมเจอหน้ามันทุกวันกว่ามันจะยอมให้ลูบท้องได้แบบนั้นก็เป็นเดือนนะขอบอก ไอ้อันอันก็เหลือเกินใจง่ายชิบเป่ง หรือนิรันดร์ป้ายยามันวะ

"พี่แฟง คุนเจ็บ" คนที่นั่งอยู่ตรงหว่างขาผมบนเตียงพูดขึ้น

"เออ โทษๆ" ผมเอ่ยออกไปพรางรู้สึกผิดที่ลงน้ำหนักมือไปบนหัวคนตัวเล็ก แม่ง หงุดหงิดไอ้อันอันแมวสองหน้าไง ดูมัน ฟินเชียวนะมึง แถมเอาหน้าถูกับอกนิรันดร์ไปมาอีก โอ้โห มันจะมากไปมั้ย

"พี่แฟงคุยขอโทษจริงๆนะครับ คุนไม่น่าลืมมือถือไว้ในห้องเลย" คุนคุนหันหน้ามามองผมด้วยหน้าที่สลดลงเหลือแค่สองนิ้ว

"อือ ไม่โกรธแล้ว แล้วทำไมไม่ขึ้นมาเรียกกูลงไปช่วยหา" ตอนนี้ผมเส้นเล็กสีดำสนิทของคุนคุนแห้งเก็บหมดแล้ว ผมจึงโยนผ้าเช็ดผมลงไปใส่ตะกร้าหน้าห้องน้ำ ก่อนวางมือลงบนกลุ่มผมสีดำของคนตัวเล็กตรงหน้าที่ตอนนี้โชยกลิ่นหอมฟุ้งเตะจมูกไม่หยุด

"คุนจะขึ้นมาหาพี่แฟงแล้ว แต่พี่รัน เอ้ย พ่อพี่แฟงผ่านมาก่อน เขาบอกจะช่วยหา" คุนคุนเอียงคอเอามือสองข้างขึ้นมาคล้องคอผม คุนคุนบอกว่าอันอันหลุดหายวิ่งตามนกไปตามหาอยู่นานก็ไม่เจอ

"แล้วไปเจออันอันที่ไหนละ" ผมเอามือสองข้างเลื่อนลงมสโอบเอวเล็กๆของคุนก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กให้ขยับท่าหันตัวมาหาผมเอาขาสองข้างนั้นเกี่ยวไว้ที่เอวผม เพราะตอนนี้ผมนั่งอยู่ปลายเตียง ถ้าไม่เกี่ยวไว้ สักพักคงต้องหล่นลงไปกองที่พื้นแน่ๆ

"พี่แฟงรู้มั้ยว่าอันอันวิ่งไปไกลมาก โน่นไปถึงคอนโดสีเทาสูงๆตรงโน้น" โห ไอ้แมวนี่มันวิ่งไปไกลวะ คอนโดสีเทานั่นมันอยู่ห่างไปตั้งหลายซอย

"ฮะแฮ่ม เกรงใจกูบ้าง จะทำอะไรนะ" เสียงทุ้มติดแหบของนิรันดร์ดังเข้ามาในห้อง ร่างสูงใหญ่ของพ่อบังเกิดเกล้ายืนพิงขอบประตูอยู่ คนตัวเล็กรีบเอาแขนที่คล้องคอผมออกทันที แต่ผมไวกว่าคว้ามือสองข้างนั้นวางกลับไปไว้ที่เดิม

"เกรงใจทำไม นี่ห้องคุน ไม่ใช่บ้านนิรันดร์" ผมดึงชายเสื้อคุนคุนลงมาเมื่อเห็นสายตาของนิรันดร์ที่มองมายังคนตัวเล็กของผม มันคงเลิกขึ้นมาตอนผมจับคุนคุนพลิกกลับมาหาผม ว่าแต่นิรันดร์เห็นแค่ไหนวะ หวังว่าเสื้อที่เลิกขึ้นมาเมื่อกี้คงไม่ขึ้นมาสูงมากนะ แล้วนิรันดร์จะมามองคนของผมแบบนี้ไม่ได้นะ!

"งั้นมึงก็กลับห้องสิ กูจะได้อยู้ห้องที่เป็นชื่อกูไง" นิรันดร์เลิกคิ้วขึ้นอย่างกวนๆ ผมบอกนิรันดร์ไปตอนที่คุนคุนอาบน้ำอยู่ว่าผมย้ายมาอยู่ห้องนี้ได้สักพักแล้ว ส่วนเหตุผลคืออะไร อันนั้นผมก็บอกไป แล้วสิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงหัวเราะดังๆของนิรันดร์ พร้อมกับประโยคที่ว่า 'เจ้าแผนการเหมือนกูไม่มีผิด ภูมิใจจริงเว้ยไอ้ลูกชาย' อืม นี่แหละครับพ่อผม ชอบนักละเรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นพ่อคนอื่นผมอาจจะถูกกระทืบไปแล้วโทษฐานที่ไปหลอกลวงลูกชาวบ้านเขาแถมยังจ้องจะจับลูกเขากินอีก แล้วลูกชางบ้านนี้ก็นะ อายเขินม้วนซบลงมาตรงอกอมจนจะจมเข้าไปอยู่ละ แม่งเอ้ย ถ้าไม่มีใครอยู่นี่ขอจับฟัดทีหนึ่งเหอะ! เอะ มีใครอยู่แล้วทำไม่ได้หรอวะ มึงแค่ปิดประตูห้องนอนก็ได้แล้วมั้ยแฟง....ฮะ? ไม่ได้หรอ...เคๆ ไม่ได้ก็ไม่ได้

"นิรันดร์!" ผมพูดออกมาเสียงดัง พรางส่งสายตาขอร้องว่านิรันดร์อย่าพูดอะไรให้มันมากกวานี้อีก ไม่งั้นละก็ความได้แตกกันพอดี ชายวัยกลางคนที่ยืนพิงขอบประตูอยู่ยกมือขึ้นมาสองข้างคล้ายคนยอมแพ้ พร้อมกระตุกยิ่มอย่างคนเจ้าเล่ห์ ก่อนสาวเท้าก้าวออกไป

ผมปล่อยคนที่ซบจมอกผมไว้แบบนั้นสักพัก กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำกับยาสระผมโชยเตะจมูกผมเป็นระรอกไม่ขาดสาย กูอยากจับมึงฟัดจริงๆแล้วนะคุน

"คุน"

"ครับ พี่แฟง" ไอ้ตัวเล็กผละออกจากอก ทำให้ตอนนี้หน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน

"สัญญากับกู คราวหน้าอย่าลืมโทรศัพท์เด็ดขาด"

"ครับ" ปากแดงๆ ขยับไปมาอยู่ห่างจากผมเพียงคืบ

"คุน มึงรู้มั้ยว่ากูเป็นห่วงแค่ไหน"

"..."

"กูคิดไปถึงเรื่องเลวร้ายสารพัดที่อาจจะเกิดขึ้นกับมึง"

".."

"กูแม่งเป็นห่วงมึงโคตรๆ มึงสำคัญกับกูมากนะคุน"

"พี่แฟง"

"จำไว้ว่ากูรักมึงชิบหาย"

"ฮะ?"

"รักกูบ้างรึเปล่า"

"คุน...."

"ไม่ต้องรักกูมากก็ได้ รักแค่พอที่มึงจะคิดถึงกูบางครั้งเวลาที่กูไม่อยู่ใกล้มึงแค่นั้นพอ"

"ถ้าคิดถึงบางครั้งแบบนั้นมันคือความรักระดับไหนหรอครับ"

"อืม..คิดถึงบางครั้งหรอ...อืม...ถ้าเต็ม 10 ก็คงระดับ 3-4 มั้ง"

"ถ้างั้นคุน...."

"หืม?"

"คุนคงชอบพี่ระดับ 8 แล้ว เพราะคุนคิดถึงพี่แฟงตลอดเวลา"

 

#คุนแฟง

by ppeachmm








ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
 o13 ระดับแปด อาจจะเกิด สึนามิ ได้

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
คุนๆทิ้งละเบิดลูกใหญ่ดังตู้ม 5555

ออฟไลน์ mylittleY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เด็กหนอเด็ก ระดับแปดนี่เยอะนะลูก

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 18---



"ถ้างั้นคุน...."

"หืม?"

"คุนคงชอบพี่ระดับ 8 แล้ว เพราะคุนคิดถึงพี่แฟงตลอดเวลา" ดูเอาเถอะคำพูดคำจาชวนให้หัวใจผมเต้นเป็นเด็กหัดมีป๊อปปี้เลิฟอีกจนได้ ไอ้คำพูดลอยหน้าลอยตา ทำตาใสๆแล้วก็มุดหน้าเล็กๆลงไปในอกกูแบบนี้แหละทำกูหลงจนโงหัวไม่ขึ้นอีกละ

"รักกูแล้ว นี่ไงกูดูออก" ไอ้เด็กตัวนิ่มคงอายที่พูดแบบนั้นออกมา ดูจากหน้าแดงๆของมันก็พอเดาออก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันอยู่ตรงอวัยวะสีแดงเล็กๆบนใบหน้านั่น เห็นทีไรอยากกัดให้เลือดออกทุกที ผมรีบวางลูกหมีโคล่าแบร์ที่เกาะเอวอยู่ลงบนเตียงก่อนเดินไปปิดประตูห้องนอนเบาๆ ไม่ให้สามหน่อขี้เสือกได้ยิน ก่อนปิดประตูก็สังเกตสิ่งมีชีวิตด้านนอกก่อน ศพอาจารย์ใหญ่ยังไม่ฟื้นยังนอนแอ้งแม้งอยู่ที่เดิมอันนี้ผ่าน ส่วนนิรันดร์ อืม..ไปไหนวะ..อ้อ ยืนคุยโทรศัพท์อยู่นอกระเบียงอืม..ก้างตัวนี้ก็ผ่าน เคร ประตูพร้อมคนพร้อม ลงกลอนประตูกันไว้แม่งเลย หากพวกนั้นได้ยินอะไรแปลกๆจะได้ไม่พรวดพราดเปิดประตูเข้ามา กันไว้ก่อนยิ่งขี้เสือกเป็นสันดานอยู่

"ล็อคประตูทำไมครับ" คุนคุนที่ถูกผมจับนั่งอยู่ปลายเตียงเอ่ยถามด้วยความสงสัยที่จู่ๆผมก็เดินไปล็อคประตู

"ก็กูจะฟัดมึง"

"แล้วตอนฟัดคุน เปิดประตูไว้ไม่ได้หรอ" เด็กน้อยเอียงคอถามด้วยความสงสัย สงสัยจะไม่เข้าใจคำว่าฟัด โอเค ภาษาไทยวันละคำวันนี้ขอเสนอคำว่า ฟัด เป็นคำกริยา แปลว่า....นั่นแหละ เติมคำในช่องว่างเอาเอง

"หึ ถ้ามึงชอบโชว์ ก็คงเปิดได้แหละ แต่กูไม่ชอบไง" ผมก้าวขึ้นมาบนเตียงก่อนจับคนตัวเล็กยกขึ้นมาวางบนตักจัดท่าทางให้เหมือนตอนก่อนปิดประตู พร้อมคว้าเอวบางเข้ามาแนบชิด จับขาเรียวเล็กๆสองข้างเกี่ยวไว้รอบเอวตัวเอง

"อึ๊ย ทำไรอีกเนี่ย คุนหิวแล้ว จะไปทำกับข้า....อิ้อ" ผมไท่เปิดโอกาสให้ร่างบางได้พูดต่อจนจบประโยค ใช้ปากหนาๆของตัวเองประกบไปบนปากแดงๆที่ขยับเคลื่อนไปมาทันที ครั้งนี้ไม่ต้องใช้ลิ้นดันเปิดทางโพรงปาก เพราะมันอ้าไว้อยู่แล้วจากการที่อีกฝ่ายกำลังเปิดปากพูด ไม่รอช้าลิ้นร้อนของผมแทรกเข้าไปตวัดชิมความหวานของคนตรงหน้าเหมือนคนโหยหาที่ไม่เคยได้ช่วฃชิมริมฝีปากนี้มาก่อนทั้งๆที่เราก็จูบกันวันละหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งเพราะผมตั้งใจให้มันมากกว่านั้น

"อื้ออ" เสียงร้องประท้วงดังรอดออกมาตามไรฟันเมื่อรสจูบที่ผมหยิบยื่นให้มันหนักหน่วงและร้อนแรงมากดว่าทุกครั้ง แค่คิดว่าคุนคุนได้รับอันตรายเมื่อชั่วโมงก่อนมันก็ทำให้ผมแทบบ้า โกรธตัวเองชิบหาย แค่คิดว่าผมเกือบจะไม่ได้จูบปากแดงระเรื่อนี้อีกมันก็ยิ่งทำให้ผมอยากตักตวงมากขึ้น รสหวานจากโพรงปากเล็กเปลี่ยนเป็นกลิ่นคาวคลุ้งเมื่อผมเผลอกันริมฝีปากบางเบาๆจนเลือดซิบ

"พี่ขอโทษ" ผมผละปากหนาออกมาดูผลงานความผิดพลาดที่ตัวเองทำไว้ น้ำสีแดงเจือปนกับน้ำใสซึมอยู่ตรงขอบปากล่างของคุนคุน ด้วยความรู้สึกผิดที่เผลอทำรุนแรงไปจึงยกมือขึ้นมาหวังจะเช็ดเลือดที่กำลังซึมออกมาจากปากบางนั้นออกให้ แต่คนตัวเล็กนั้นกลับยื่นปากแดงระเรื่อของตัวเองมาประกบปากผมในทันที คุนคุนไม่ได้ลุกล้ำเข้าไปในโปรงปากผมเหมือนที่ผมทำกับเขา เจ้าตัวเล็กขบเม้มปากบนสลับกับปากล่างผมอย่างอ่อนโยนอยู่หลายนาที เดี๋ยวนี้คนตัวเล็กดูเหมือนจะช่ำชองจังหวะจูบที่ผมพร่ำพรูสอนให้มากโขแล้ว และยังกล้ามาแล่นกับริมฝีปากผมแบบนี้อีก

"พี่แฟงใช้ปากทำคุนเลือดออก ก็ต้องใช้ปากเช็ดให้เราสิ" อืม เอาเข้าไป อายตัวเองมั้ยนั่นนะที่พูดออกมา หน้าเอยหูเอย แดงเถือกเชียว ผมได้แต่ขำในใจในท่าทางน่ารักของเจ้าตัวนุ่มนิ่มที่อยู่บนตัก

"ปากเก่งเกินไปแล้วเดียวนี้" ผมพูดจบก็ไม่รอช้าบดริมฝีปากตัวเองกับริมฝีปากอ่อนนุ่มนั้นอีกครั้ง เราแลกลิ้นอุ่นๆกันอยู่เนิ่นนาน มือบางที่คล้องคอผมไว้ในทีแรกเริ่มสอดแทรกนิ้วเรียวไปตามกลุ่มผมของผมแล้วขยี้มันแรงขึ้นแรงขึ้น ตามจังหวะจูบที่ผมมอบให้ เสียงหายใจหอบหืดของร่างเล็กที่บ่งบอกว่าแทบขาดใจแล้วทำมห้ผมต้องผละริมฝีปากออกเพื่อให้อีกคนสูดจังหวะหายใจ แต่ตอนนี้ผมไม่ใช่คนใจดีที่เว้นช่วงไว้นานๆ คนเราไม่ต้องใช้เวลาเป็นนาทีในกายโกยลมหายใจหรอก แค่สองวิพอ เพราะผมให้ได้มากสุดเท่านั้นตอนนี้ คุนมันไม่ได้จูบเก่งหรอกนะบอกเลย จูบที่เก้ๆกังๆของคนอ่อนประสบการณ์ในตอนแรกๆ ที่ตอนนี้พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เด็กสมัยนี้เรียนรู้เร็วชิบหาย คอยดูเถอะสอนอีกไม่กี่ครั้งคงได้เก่งล้ำหน้าอาจารย์อย่างผมไปแล้วแน่ๆ แต่ก็นะแม้ตอนนี้จะไม่ได้เก่งกาจอะไร แต่มันก็ทำให้ผมโคตรติดใจในรสหวานจากปากเล็กๆของมันได้ในทุกครั้งไป

เสื้อยืดตัวโคร่งที่อีกคนชอบสวมใส่เวลานอนถูกถอดออก ตามมาด้วยเสื้อยืดสีเทาของผมตัวเดิมที่ใส่ไว้ตั้งแต่เช้าเพราะยังไม่ได้อาบน้ำเลยทั้งวัน

"ไม่ต้องทำหน้าตกใจ ไม่ทำไรมากหรอกน่า" ผมพูดออกไปเมื่อเห็นอีกคนหน้าถอดสีทันทีที่เสื้อของเราสองคนถูกถอดออกทิ้งไว้บนพื้น คลาสนี้ไม่ใช่คลาสบรรยาย มันคือคลาสปฏิบัติ! เอาน่า ไม่ได้จะพาไปถึงดวงจันทร์วันนี้เสียหน่อย แค่พาไปแตะเส้นขอบฟ้าเฉยๆ ขอเหอะนะ อย่าทรมานนายลภัสคนนี้อีกเลย

ร่างเล็กถูกวางลงบนเตียงนุ่มโดยมีผมทาบทับอยู่ด้านบนในท่าเดิม แขนเล็กก็ยังตวัดรอบเอวหมเหมือนเดิม เราแค่เปลี่ยนจากแนวตั้งแกนโลก เป็นแนวราบตามพื้นโลกเท่านั้น ริมฝีปากผมที่เคยช่วงชิมความนถ่มจากปากแดงระเรื่อ เลื่อนลงมาที่ซอกคอขาวของคุนคุน ด้วยความที่เป็นลูกครึ่งจีน ทำให้ผิวของคุนขาวคว่าคนไทยทั่วไป ขาวจัดขนาดที่ว่าถ้าเอาไฟส่งอาจจะมองทุลุเห็นอีกฝั่งได้ ขาวจนมันทำผมตาพร่ามัวมาหลายครั้งแล้วที่เสื้อตัวโคร่งๆนั้นเลิกขึ้นเวลาเจ้าของร่างขยับตัวโดยไม่ระวัง ซึ่งถามว่าคุนคุนเคยทำอะไรระวังตัวด้วยรึไง คำตอบก็คือไม่ แบะความจริงก็คือ ผมตาพร่ามัวตลอดเวลาเพราะเสื้อของคุนนั้นเลิกขึ้นทุกสิบนาที ไม่ตาบอดให้มันรู้ไป นี่คิดไว้ว่าก่อนมหาลัยเปิดอาจจะต้องมีการไปวัดสายตาตัดแว่นกันแล้วละ

"อื้ออ" เสียงหวานครางขึ้นเมื่อผมขบเม้มปากดังคอขาวๆนั่นจนมันขึ้นสีกลีบกุหลาบ มีหนึ่งรอย ก็ต้องมีสองรอย สามรอยตามมาไล่เรี่ยกัน ปากก็ทำหน้าที่ดูดเม้มไปตามเรือนร่างเนื้อนุ่มนิ่มที่ไร้ซึ่งกล้ามเนื้อแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีส่วนไหนของร่างกายนี้ที่เรียกได้ว่าส่วนเกินเลยสักนิด กลิ่นครีมอาบน้ำที่ติดตามตัวของคุนคุนมันกำลังสูบสติที่เหลืออยู่น้อยนิดของผมให้หายไป
ผมจรดจมูกหนาลงบนหน้าท้องขาวไปสูดกลิ่นกายของคุณคุณเข้าไปเต็มปอดก่อนเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างที่นอนบิดอยู่บนเตียงด้วยปากที่แดงระเรื่อและบวมเจ่อจากฝีมือของตัวเองอยู่สักพัก ผอมรับในต้อนนี้เลยว่าไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน และยิ่งไปกว่านั้นคือไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมีความรู้สึกดีๆดีจนถึงขั้นรักเพศเดียวกันได้ขนาดนี้ แต่ถ้าจะให้มองผู้ชายคนอื่นหรือรู้สึกแบบนี้กับคนอื่นคงต้องบอกว่าผมคงทำไม่ได้วะ เพราะมันคงมีได้แค่กับคนนี้คนเดียว ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย ผมแค่ชอบคุนคุน ที่ชื่อแปลว่าแผ่นดินคนนี้

เมี้ยว!

เมี้ยว!

"อะ อันอัน" คุนคุนสะดุ้งเฮือก ยันตัวขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วดันผมออกจากตัวอย่างเร็ว เมื่อได้ยินเสียงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาร้องโวยวายอยู่ข้างเตียง ผมที่โดนผลักออกลื่นตกลงมาข้างเตียงอย่างไม่ได้ตั้งตัว โดยมีเจ้าของเสียงเหมียวๆง่าวยืนอยู่ข้างๆ

มึงเข้ามาตอนไหนวะไอ้อันอัน!

เมี้ยว

เมี้ยว


เมี้ยวพ่อง!

กูเกลียดแมว!

#คุนแฟง

by ppeachmm



ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จับแมวกินดีมั้ง ขัดจังหวะเนี้ย

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
โดนอันอันขัดซะได้

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อันอันไม่ปลอดภัยซะแล้ว 5555555555555

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 19---


.
.
.
.
.
มึงเข้ามาตอนไหนวะไอ้อันอัน!
.
.
.


เมี้ยว
.
.
.

เมี้ยว
.
.
.

เมี้ยวพ่อง!
.
.
.
กู---เกลียด---แมว!

กูจะพูดอะไรได้ในเวลานี้ ประท้วงได้มั้ย ลงไปชักดิ้นชักงอแล้วบอกให้ม๊ามันอัญเชิญมันออกไปจากห้องตอนนี้ได้มั้ยวะ คือกูกำลังเข้าได้เข้าเข็มอยู่ไง กูไม่ได้จะจัดการม๊ามึงถึงขั้นนั้นซะหน่อย แค่จะขอกินนมเฉยๆไง แต่นี่อะไรกูอุตส่าห์เก็บของดีไว้แ*กตอนสุดท้าย นมก็ยังไม่ได้แ*ก และเสือกยังไม่ได้จับอีก! นี่แหละน้าที่เขาบอกกันว่าอย่าเก็บของดีไว้กินทีหลัง รู้ซึ้งก็วันนี้แหละ อดแ*กขอรับ!

ผมปรายตามองคนบนเตียงด้วยสายตาเชิงขอร้อง มึงอย่าปล่อยกูค้างแบบนี้ มันไม่ดี๊ไม่ดี แต่อีกคนไม่สนใจหยิบเสื้อยืดตัวโคร่งสีขาวของตัวเองมาใส่ก่อนจะก้าวเท้าลงมาจากเตียง เอามือมาลูบหัวแมวยักษ์ตัวเขื่องที่ยืนอยู่ข้างผม แถมยังจ้องหน้าผมเหมือนอยากจะเขมือบอีก กูไม่ได้จะทำอะไรม๊ามึงนะเว้ย แค่เล่นกันตามวิถีมนุษย์อะมึงเข้าใจม้ายยยย

"อันอันเด็กดี"

"เด็กดีพ่อง!"

"พี่อย่าว่าอันอันสิครับ อันอันตกใจนะ"

ตกใจพ่อง!

ไอ้ตัวนุ่มนิ่มอุ้มแมวตะเล็กตะน้อยในสายตามันขึ้นมาไว้แนบอก ตัวเล็กตายละ อีกนิดจะสิบโลละแ*กเข้าไปสิน่องไก่อะ คนตัวเล็กเอามือขาวๆบางๆของมันลูบไปบนหัวของไอ้ขนเตียนนั้นเบาๆ ส่วนคนที่ถูกลูบก็เอาหัวถูอกคุนคุน อืม อืม สิ่งที่กูเก็บไว้กินแต่มึงสึกสอยไปซะได้นะไอ้อันอัน หมั่นใส้แมววะ

"สักวันกูจะบีบไข่มันแตกเลยคอยดู เนี่ยมึงทำกูค้างด้วยนะคุน จะไม่รับผิดชอบหน่อยรึไง" ผมเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเง้างอน หวังลึกๆว่าคนที่มันห่วงใยแมวจะหันมามองกันสักนิด เรื่องบีบไข่กูพูดจริงเถอะ ม๊ามึงเผลอละเจอกัน!

เมี้ยว!

มองหน้ากูหาเรื่องอีกนะมึง รู้รึไงว่ากูคิดไร อ้าวๆ จ้องหน้าอีก คิดว่ากูกลัวนักรึไงไอ้ตาแมวป่าสีฟ้าๆของมึงเนี่ย! เออ กลัว!

"อะไรนะ อันอันหิวข้าวหรอ เครคร้าบเดี๋ยวปาป๊าพาไปหาอะไรอร่อยๆกินเนอะ" เปลี่ยนเรื่องเก่ง

เมี้ยว!

เจ้าของแมวสาวท้าวตรงไปหน้าประตูห้องนอนโดยไม่สนใจหันกลับมามองว่าที่ผัวที่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นเลยสักนิด พูดไปเหอะ ไม่รู้จะได้เป็นมั้ยเหอะไอ้ผัวเนี่ย ดีไม่ดีอีกห้าสิบปีข้างหน้ากูอาจจะนอนตายอย่างสงบอยู่บนเตียงทั้งที่นมยังไม่ได้ดูดก็เป็นได้ แค่คิดชีวิตก็เศร้า หนทางแม่งลำบากยากเย็น จะกินเด็กทั้งทีกลับมีอุปสรรคต่างๆเหนือคณานับ ยุบหนอ พองหนอ

พอคิดถึงอนาคตข้างหน้าที่แสนเศร้านักศึกษาแพทย์ปีสามอย่างผมก็ต้องปลงไปสิครับ ทำไงได้ เขาเดินหนีเรา! ต้องจำใจยอมลุกขึ้นมาจากพื้นทั้งๆที่โคตรพ่อโคตรแม่พร้อมจะรบอะบอกเลย ก้มลงมองลูกชายตัวเองที่ดุดันออกมานอกกางเกงก็อยากจะร้องไห้ เกือบแล้วเชียว อีกนิดเดียว อีกนิดกูก็จะได้บอกลานิ้วน้องนางทั้งห้าแล้วเหอะ น้ำตาตกในมันเป็นแบบนี้เองสินะ

"พี่แฟง" เสียงติดหวานดังอยู่หน้าประตู ผมที่ยืนหันหลังหยิบผ้าเช็ดตัวอยู่ไม่ได้หันไปมองทางต้นเสียง คือตอนนี้งอนอะ ให้มันรู้ซะบ้างว่าคนอย่างนายลภัสโกรธเป็นนะ!

"พี่แฟงครับ" ยวบเลยกู มันส่งเสียงอ้อนๆมาทีหนึ่ง กูก็แทบอยากพุ่งเข้าไปซุกพุงขาวๆนุ่มนิ่ม หางกูนี่กระดิกแล้วนะบอกเลย แต่เอามือจับลิ้นชักไว้กลัวห้ามตัวเองไม่อยู่

"พี่แฟงคร้าบบบ"

อ้อนชิบหาย!

 เสียงติดหวานร้องเรียกอีกครั้ง มันคงยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนที่เดิมนั่นแหละ ไม่ได้หันไปดูหรอกนะเห็นผ่านกระจกติดประตูตู้เสื้อผ้าเฉยๆ

"อะไร" ใจแข็งเข้าไว้ ต้องทำเป็นไม่สนใจ นะโม พุทโธ

"คืนนี้" เจ้าตัวนุ่มนิ่มพูดออกมาเบาๆ แต่ทว่ามันก็ดังพอให้ผมได้ยินแหละ แต่ผมก็แกล้งทำเป็นเมินไม่สนใจ มือไม้ทำเป็นควานหาชุดนอนอยู่ในเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะไปอาบน้ำ ให้มั้นง้อ! ให้มันง้อ! เด็กมันจะได้สำนึกว่านายลภัสก็ควรค่าแก่การสนใจ!

"ทำไม"

"คืนนี้เดี๋ยวคุนมาทำต่อให้นะครับ"

โอ้โห!

บู้ม!

แล้วช็อคโกแลตลาวาก็ระเบิดออกมากระจายทั่วห้อง เด็กมันทิ้งระเบิดไว้วะ ไอ้เ*ย! พูดแล้วเดินหนีเฉย เออ..อืม..เดี๋ยวนี้มันแพรวพราว

ผมเดินผิวปากฮัมเพลง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย เ*ดแม่ กูแม่งโคตรดีใจ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จจะรีบไล่ไอ้ก้างสองตัวกับพ่อบังเกิดเกล้าให้กลับไปโดยเร็ว นายลภัสมีความสุขชิบหาย

วิ่งวุ่นหาคุนคุนทั่วคอนโดจนเหงื่ออกเปียกเสื้ออะ แต่โชคดีหน่อยที่ไม่ใช่คนมีกลิ่นเหงื่อแรง ไม่งั้นไอ้คุนคงหยีไปแล้วที่ผมไปซานตามตัวมัน คิดแล้วก็ น้อนนนน คิดถึงแก้มย้วยๆของมันอีกแล้ว! ห่างกันไม่ถึงยี่สิบเมตรก็ยังคิดถึงอีกหรอวะ มึงป้ายยากูแน่ๆไอ้แก้มยุ้ย

ผมใช้เวลาในการอาบน้ำไปกว่าครึ่งชั่วโมง อาบน้ำอะไม่นานหรอก แต่ทำอย่างอื่นสินาน ทำไงได้ก็น้องชายมันพร้อมรบขนาดนั้น จะให้นั่งจงกรมรอมันลงเองหรอ นานเหอะ คนแมนๆคูลๆอย่างเราก็ใช้นิ้วน้องนางทั้งห้าวนไปสิครับ เศร้าชิบหายชีวิยนายลภัสเนี่ย เฮ้อ!

"หอมจังวะ ทำไรกินอะ" กลิ่นหอมของอาหารหลายอย่างลอยวนอยู่ในห้อง แค่ได้กลิ่นน้ำย่อยก็ทะลักออกมาทักทายละ

"หลายอย่างเลยครับ อยู่บนโต๊ะโน่น" คนตัวเล็กที่กำลังตักแกงอะไรซักอย่างออกจากหม้อใส่ลงไปในถ้วยเอ่ยขึ้นเมื่อผมเดินเข้ามาใกล้ๆ

"ทำเยอะจังวะ จะเอาไปทำทานที่ไหน" ผมถามออกไปเมื่อเห็นอาหารสี่ห้าอย่างวางอยู่บนโต๊ะอาหาร

"ก็เรามีแขกนี่ครับ" คนตัวเล็กหยิบถ้วยชามออกมาจากตู้ ส่วนผมก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำเปล่าออกมา

"ก็ไล่มันกลับดิวะ ไม่รู้จักเกรงใจเจ้าของห้อง มาเนียนแ*กฟรีอยู่ได้ทุกวี่วัน ความเกรงใจมันคงฝังไว้ใจกลางโลกแล้วละมั้งนั่นนะ" ปากก็ด่ามันนะ แต่มือนี่ยื่นไปหยิบแก้วน้ำออกมาจากชั้นสี่ใบด้วยความเคยชิน ก่อนจะเอื้อมไปหยิบอีกใบให้นิรันดร์ด้วย

"ว่าแต่เขา ตัวมึงละ มาอาศัยอยู่ห้องเขาเนี่ย ความเกรงใจมึงคงฝังในชั้นแก่นโลกแล้ววะ" ฟังแล้วแทบอยากจะขว้างแก้วใบที่ห้าทิ้ง แต่มันคือความจริงวะ กูเถียงนิรันดร์ไม่ออกด้วยสิ

"โหนิรันดร์ นี่ลูกนะเข้าข้างกันบ้าง" ผมเหวพ่อตัวเองทันที มีอย่างที่ไหนเข้าข้างคนอื่นเนี่ย ส่วนไอ้คนที่เหลือก็หัวเราะออกมาอย่างได้ใจ สนุกมากใช่มั้ยเห็นพ่อด่าลูกเนี่ยพวกมึง เดี๋ยวจับมาตบปากรายตัวเลย ตกแล้วโรยเกลือด้วยอะ เอาให้แสบไปถึงทรวงเลย

"อ้าว นี่มึงลูกกูหรอ กูนึกว่าตัวเองโสดนะเนี่ย" นั่น ยังจะเล่นอีกนะ

"งั้นวันนี้เลิกเป็นพ่อลูกกันหนึ่งวันก็ได้ ว่าแต่พวกมึงเหอะโดนไรมาวะถึงได้นอนตายเป็นอาจารย์ใหญ่แบบนั้น ซ้อมตายหรอ" ผมถามขึ้นเมื่อสองแฝดนรกเดินลากขามานั่นร่วมโต๊ะอาหาร

"ก็คุณพี่รันเนี่ยให้พวกเราวิ่งรอบสวนหย่อมสิบรอบอะ" ไอ้ขุนพลที่นั่งตรงข้ามกับผมเอ่ยขึ้น เรียกพี่รันซะเต็มปากเต็มคำ สงสัยถูกข่มขู่ให้เรียก ส่วนแฝดพี่นี่ไม่พูดไม่จามาถึงก็โซ้ยอาหารบนโต๊ะอย่างเดียว ตายอดตายอยากมาจากไหนวะมึง

"แค่นี้ยังน้อยไป เป็นเด็กเป็นเล็กเข้ามาหาเรื่องผู้ใหญ่แบบนั้นไม่ได้"

"คร้าบบ" หงอเลยนะมึง นิรันดร์พูดแล้วหน้าซีดชิบหาย สงสัยโดนสั่งสอนมา สมน้ำหน้าเหอะ

"นิรันดร์ก็ไปแกล้งมัน ดูดิ หอบจนลิ้นห้อยแล้วมั้ยละ"

"ไม่ใช่หมาไอ้พี่"

"อ้าว ไม่ใช่หรอ เห็นหน้าเหมือน หูลู่ หางตก กูก็คิดว่าสปีชี่ส์เดียวกัน"

"ผมจะไม่โต้ตอบ"

"ฮ่าๆๆๆๆ"

"ว่าแต่นิรันดร์มาทำไม แล้วไปเจอคุนคุนได้ไง" ผมเอ่ยถามสิ่งที่สงสัยออกไป ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะมาหาลูกชายคนนี้สักที

"กูขึ้นมาทำธุระ แล้วก็ว่าจะแวะมาชวนมึงไปหาไรกิน แต่ตอนขับรถผ่านหน้าคอนโดเห็นเด็กมันยืนร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่เลยจอดรถแล้วลงไปดู อื้ออันนี้ อร่อยวะ ทำอาหารอร่อยนะเรา" นิรันดร์พูดเสียงเรียบก่อนตักต้มยำกุ้งซดเข้าปากคำโต ส่วนคนถูกชมก็ยิ้มแก้มบานตาตี่เหลือเพียงเส้นโค้งสองเส้นบนหน้าเท่านั้น

"อือ คุนมันทำอาหารอร่อย แล้วนี่มึงไปยืนร้องไห้หน้าคอนโดหรอ" ผมหันไปหาเด็กแก้มยุ้ยที่ตอนนี้กำลังจ้วงข้าวผัดต้มยำเข้าปาก แก้มที่ยุ้ยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกลับพองขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อมีอาหารอนู่ในนั้น มันพองจนปิดลักยิ้มไปจนหมด น่ารักชิบหาย ลภัสมึงจะมองทุกอย่างที่มันทำว่าน่ารักไม่ได้นะเว้ย!
 
"ก็เราหาอันอันไม่เจอไง"

"มึงนี่น้า กินเลอะอีกแล้ว เช็ดก่อน" ผมหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็คมุมปากให้คุนคุนที่นั่งอยู่ด้านขวา มีพริกเผาติดอยู่ตรงมุมปาก

"เบาหวานจะขึ้นตากู เพลาๆลงหน่อยเหอะมึง ตั้งแต่ในห้องละ"

"นี่ยังเบาะๆนะพี่รัน มียิ่งกว่านี้อีก พวกผมเห็นทุกวันจนจะเตรียมนัดหมอตัดขากันอยู่แล้วเนี่ย" ฟ้องเก่งนักนะไอ้ขุน ช่างแม่ง อยากฟ้องไรก็ฟ้องไป กูหน้าด้าน อะไรก็ทำร้ายกูไม่ได้บอกไว้ตรงนี้เลย

"ขี้ฟ้อง ส่วนนิรันดร์อะ อายมั้ยเนี่ย ให้เด็กรุ่นลูกมันเรียกพี่"

"อายทำไม กูยังหนุ่มยังแน่น อีกอย่างเด็กมันก็เต็มใจเรียก" คนเป็นพ่อเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ อยากจะ หรอออออยาวไปถึงดาวอังคาร บังคับมันละสิไม่ว่า

"สี่สิบกว่าแล้วเหอะ"

"หะ? พี่รันสี่สิบแล้วหรอครับ คุนนึกว่ายี่สิบกว่าๆ" คุนคุนมีสีหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด นั่นมันเชื่อจริงๆนะนั่นนะว่านิรันดร์อายุยี่สิบกว่า โถๆๆ

"โถไอ้คู้นนน"

"ฮ่าๆๆๆๆ" สองแฝดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

"เฮ้ย กูชอบวะแฟง คนนี้กูให้ผ่าน สินสอดเอาเท่าไหร่บอกมากูจ่ายไม่อั้น พร้อมขบวนขันหมากยาวเป็นกิโลเลยอะ เอ้า คุน กินนี่เยอะๆจะได้โตไวๆ" คนถูกชมว่าหนุ่มตักไข่เจียวปูที่อยู่ในจานหน้าตัวเองไปวางไว้ในจานข้าวคุนคุนทันที เขาพอใจของเขาแหละ คนชมว่าหนุ่มแบบนั้นนะ ดูสิยิ้มหน้าบานตีนกาขึ้นเลย ยี่สิบห่าเหวอะไร ถุย ส่วนอีกคนพอได้ยินว่าพูดถึงเรื่องสินสอดก็คิ้วขมดทำหน้าฉงนขึ้นมาทันที สงสัยยังไม่รู้จักคำนี้ ดีแล้วละ ไม่งั้นได้ม้วนย้วยลงไปดิ้นใต้โต๊ะกินข้าวแน่ๆ

"มึงก็พูดไปคุนคุน ถ้าตอนนี้พ่อกูอายุยี่สิบกว่า งั้นแปลว่าพ่อกูมีกูตอนสี่ขวบนะมึง ถึงพ่อกูจะหมกมุ่นเรื่องอย่างว่า แต่สี่ขวบนี่ไม่ไหวนะ"

"จริงด้วย แฮะ"

"เด็กมันตาแหลม มึงอย่าไปขัดจินตนาการเขา คุน เอาใหม่ เอาความคิดเดิมใส่กลับเข้าไปใหม่นะ ส่วนข้อมูลที่ไอ้แฟงมันยัดเยียดให้เอาลบทิ้งถังขยะไปซะ กู้คืนข้อมูลเก่าด่วนๆ"

"ครับ?"

"ฮ่าๆๆๆ พ่อ มันฟังไม่รู้เรื่องหรอก เอาศัพท์ง่ายๆ" ผมหัวเราะออกไปเมื่อคนข้างข้างมีสีหน้างงงวยกับประโยคยาวๆ ที่นิรันดร์พูดออกมา

"เอ้าหรอ งั้นช่างแม่ง จำแค่ว่าคนนี้ชื่อพี่รันพอ อย่างอื่นไม่ต้องจำ"

"ได้ครับผม"

นิรันดร์หัวเราะชอบใจกับท่าทางไร้เดียงสาของคุนคุน เราใช้เวลาในการทานมื้อค่ำกันนานกว่าทุกวัน จริงๆมันควรจะจบลงตั้งแต่เมื่อชั่วโมงที่แล้วๆ แต่นิรันดร์กลับยกเรื่องน่าอายสมัยเด็กๆของผมมาเผาซะงั้น พ่อเขาประจานลูกแบบนี้หรอทุกคน ผมไม่ยอมนะ! คอยดูนะไอ้แฝดนรกร่วมคอนโดเดียวกันมันต้องยกเรื่องพวกนี้ขึ้นมาล้อผมสนุกปากแน่ๆ แม่งเอ้ย เห็นอนาคตเลยกู

"ผมแม่งชอบพ่อพี่เลยวะ" ไอ้ขุนที่เร่งจังหวะยัดห่าอาหารในจานตัวเองจนเกลี้ยงนั่งลูบท้องตัวเองปุ้ยๆเอ่ยขึ้น

"มึงอยากได้มั้ย กูยกให้" เอาไปเหอะ แถมแตงโมให้อีกหนึ่งกระสอบ! ไอ้คนถามพอได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าหงึกๆขอบใจ ทำเหมือนการขอพ่อคนอื่นมาเป็นของตัวเองมันทำได้ด้วยการขอปากเปล่าอย่างนั้นแหละ

"อ้าว ไม่หวงพ่อบังเกิดเกล้าหน่อยหรอวะ ไอ้ลูกเวรนี่" นิรันดร์ที่กำลังโซ้ยแตงโมอยู่เหวขึ้นมา แถมยังโยนเม็ดแตงโมงมาใส่หน้าผมอีก

"ก็บอกแล้วไงว่าวันนี้เราเลิกเป็นพ่อลูกกันหนึ่งวัน หยี! แล้วโยนมาทำไมสกปรกนะนิรันดร์" ผมตอบไปด้วยความหมั่นใส้ ตัวเองพูดเองเหอะว่าไมามีลูกอะ นี่ความจำดีจะตายจำได้ทุกประโยคแหละ

"พี่แฟงขยับมานี่ครับ คุนเช็ดให้ ฮะๆๆ เต็มหน้าเลยครับพี่แฟง" คุนคุนที่พูดตามใครเขาไม่ทันได้แต่นั่งหัวเราะแก้มยุ้ยอยู่ข้างๆผมดึงชายเสื้อผมเข้ามาใกล้ตัวเองก่อนหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดเม็ดแตงโมงที่แปะอยู่ตามใบหน้าผมให้ โห นี่โยนมาห้าเม็ดก็แปะอยู่บนหน้าผมห้าเม็ดเลยหรอวะ นิรันดร์แม่งโคตรแม่น รู้ว่าเป็นนักแม่นปืนนะ แต่นี่เป็นนักแม่นเม็ดแตงโมงด้วยหรอวะ พ่อกูแม่งยอดมนุษย์มาเกิดแน่ๆเลยวะ ถุย!


#คุนแฟง


by ppeachmm

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
พ่อให้ผ่านแล้ว ลุยต่อเลยพี่แฟง

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
คุณพ่อวัยรุ่นมากอ่ะ ชอบๆ

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่---


"พี่รันนอนนี่ใช่มั้ยครับ" คนตัวเล็กที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับอันอันตรงประตูระเบียงที่แง้มไว้เล็กน้อยเอ่ยถามนิรันทร์ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ที่นอกระเบียงกับผม ผมไม่ได้สูบนะแค่ออกมายืนคุยกับพ่อเฉยๆ ส่วนสองแฝดก็ขอตัวกลับไปแล้วหลังจากล้างจานจ่ายค่าข้าววนไป จริงๆมันก็ไม่ได้มาแ*กฟรีหรอก พวกมันก็หอบวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารมาใส่ตู้เย็นไว้ให้ตลอดแหละ บางครั้งก็แอบเอาเค้กเอย ขนมหวานๆชวนตัดขาทั้งหลายแหล่มาให้คุนคุน เข้าขากันดีจริงๆ วันไหนว่าที่เมียกูต้องตัดขาเพราะเบาหวานละก็ พวกมึงสองตัวเตรียมตัวไว้เลยกูจะตัดเอาขาพวกมึงมาสวมขาคุนคุนของกู สาบานต่อหน้าพระจันทร์ดวงกลมๆบนฟ้ามันตอนนี้เลย  แล้วไอ้สองแฝดมันไม่ชอบทำอาหารกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยมาอาศัยให้ว่าทีเมียกูทำให้ เมื่อก่อนตอนที่ขุนพลมันยังหวานแหววกับแฟนมัน เห็นทัพบอกว่าแฟนมันก็แวะเวียนมาทำอาหารให้กินบ่อยๆ แต่รู้สึกว่าพักหลังนี้จะทะเลาะกันค่อนข้างบ่อยอีกฝ่ายเลยไม่ได้เข้ามาที่คอนโด ความรักแม่งก็งี้ เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก อะไรก็ไม่จีรังยั่งยืน

"นอน"

"ไม่ๆ นอนไม่ได้"

"ทำไมจะไม่ได้วะ ก็เจ้าของห้องเขาถามเชิงอนุญาตแล้วไง"

"นิรันดร์ไปนอนห้อง(โน้น)ไป เถอะนะขอร้อง"

เราสองคนทะเลาะกันอยู่สักพัก ผมพยายามกดเสียงตัวเองให้เบาลงเพื่อไม่ให้เสียงมันลอดเข้าไปในห้อง

"ตกลงนอนใช่มั้ยครับ คุนจะได้ไปเตรียมที่นอนให้" คนตัวเล็กที่นั่งหันหน้าออกมาระเบียงตะโกนถามอีกครั้ง ส่วนนิรันดร์ที่ตอนนี้หันหน้ามามองผมที่ทำหน้าเว้าวอนแล้วกระตุกยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบออกไป

"ไม่ละ เดี๋ยวไปนอนที่อื่น" ค่อยยังชั่ว!

"โอเคคร้าบ" คุนคุนตอบรับแล้วก็ก้มลงไปนอนเล่นกันอันอันต่อ ไอ้แมวป่าตาฟ้าศรัตรูหัวใจตัวเดิมมองมาที่ผม เหมือนมันรู้อะ จู่ๆมันก็เอาหัวไปถูไถหน้าอกคุนคุนอีกแล้ว ผมจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าตอนที่มันเอาหัวถูๆแล้วมันไม่หันมามองหน้าผม เวร นี่มึงเยาะเย้ยกูหรอ!

"ไอเแมวเ*ย วันนี้มันกวนตีนจริงๆ ไม่รู้เป็นเ*ยอะไร วางท่าเป็นศัตรูผมตั้งแต่ค่ำมาละ ทุกทีก็รักกันดีอยู่นี่หว่า" ผมบ่นออกไปอย่างอดไม่ได้ วันก่อนๆเราก็สงบศึกกันแล้วนี่หว่า วันนี้ไม่รู้มันเป็นไรของมัน ขัดขวางผมจัง ไปโดนใครป้ายยามารึไงวะ

"หึ! ขนาดแมวยังจัดการไม่ได้ มึงจะทำไรได้วะไอ้แฟง อย่าไปบอกใครนะว่าเป็นลูกกู" มือหนายกบุหรี่ขึ้นมาอัดนิโคตินเข้าปอดก่อนหัวเราะออกมาในลำคอ

"ทำอย่างกับทุกวันนี้เวลาไปไหนมาไหนกับนิรันทร์ให้ผมบอกคนอื่นได้งั้นแหละว่านิรันทร์เป็นพ่อผม" ชอบบอกว่าเป็นน้องชายตลอดเหอะ

"พูดมาก เอากุญแจคอนโดมึงมา กูง่วงละเนี่ย เดินตามหาแมวช่วยเมียมึงจนเหนื่อย"

"เดี๋ยวไปเอาให้"

"ว่าแต่มึงเหอะ จริงจังหรอคนนี้"

"พ่อ"

"อะไร จู่ๆมาเรียกพ่อ ขนลุกวะ" ดูเข้าเถอะพอผมจะพาเข้าโหมดจริงจังเสียหน่อยก็มาล้อเลียนเอามือมาโอบโหล่ตัวเองลูบแขนไปมา เรียกพ่อมันน่าขนลุกตรงไหนวะ แค่ผมไม่ได้เรียกบ่อยเท่านั้นเอง

"..."

"อ้าว เรียกแล้วเงียบ เงียบทำไม"

"ผิดหวังรึเปล่าที่ผมชอบผู้ชาย"

"แฟง  กูผิดหวังกับมึงมาก็เยอะนะแฟง"

"..." ผมคิดตามไปถึงเรื่องเ*ยๆที่ผมเคยก่อไว้ตอนเด็กๆ ตั้งแต่สมัยเรียนม.ต้นแล้ว หาเรื่องต่อยตีกับชาวบ้านไปเรื่อย ทำตัวกร่างเป็นหัวโจกในโรงเรียน ห้องปกครองเรียกพ่อแม่เข้าพบรายอาทิตย์ จนพ่อสนิทกับครูณรงค์ฝ่ายปกครองมาจนถึงทุกวันนี้คิดดูเอาเถอะ กว่าจะจบม.3ได้นี่พ่อต้องบริจาคอุดหนูนการศึกษาให้โรงเรียนประจำจังหวัดไปมากโขอยู่ กลัวเขาไล่ออกไง แต่พอขึ้นม.ปลายผมก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมาหันมาตั้งใจเรียนจนสอบเข้าคณะแพทย์ติด

"แต่เรื่องที่มึงทำให้กูภูมิใจในตัวมึงก็มีไม่ใช่น้อย"

"..." เราสองพ่อลูกสนิทกันมากแต่ก็มีน้อยครั้งที่จะมีโมเมนต์มานั่งชมกันแบบนี้ ได้ยินแล้วเหมือนตัวลอยวะ นิรันดร์เคยพูดที่ไหนว่าภูมิใจในตัวผม ขนาดตอนผมสอบติดหมอ นิรันดร์ยังพูดแค่ว่า 'หรอ' ผมก็นึกว่าไม่ดีใจกับผมซะอีก แต่มารู้ทีหลังจากน้องสาวจอมพูดมากว่านิรันดร์ไปโม้ทั้งจังหวัดว่าลูกชายสอบติดแพทย์ แหมๆๆๆ ภูมิใจก็ไม่เคยบอกกันนะนิรันดร์นะ

"กูถามว่ามึงจริงจังหรอคนนี้ มึงตอบกูมาก่อนสิ แล้วกูถึงจะตอบคำถามมึงได้"

"ถ้าผมบอกว่าไม่จริงจังพ่อจะบอกว่าไง"

"กูก็ไม่ว่าอะไร"

"แล้วถ้าผมบอกว่าผมโคตรจริงจังละ"

"กูก็คง...." อีกฝ่ายเงียบไป มือหนากดบุหรี่สูตรเย็นกลิ่นมิ้นลงในแก้วก่อนหันหน้ามามองผม

"..."

"ดีใจแหละมั้ง ไม่รู้สิ แต่ไม่ผิดหวังหรอก"

"..."

"แค่รู้สึกว่า ดีใจวะ ลูกกูโตเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็รักใครเป็นสักที"

"นิรันดร์" แม่งซาบซึ้งจนน้ำตาจะไหลแล้วเนี่ย

"มึงก็รู้กูรักมึงที่สุดในบรรดาลูกๆของกู เพราะมึงอะดื้อเหมือนกูไม่มีผิด มึงจะรักใคร ผู้หญิง ผู้ชาย หมา แมว ผี คน กูก็รักกับมึงแหละ กูไม่ดราม่าเหมือนละครไทยหรอกนะเว้ย ไม่ต้องคิดมาก"

"ขอบคุณมากนะนิรันทร์ ผมแม่งรักนิรันดร์วะ" ตัวชายวัยกลางคนถลาด้วยแรงกอดจากร่างใหญ่อย่างผม เราสองคนตัวสูงใหญ่พอๆกันนั่นแหละ แต่เพราะอีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซไปหน่อย

"อย่ามาทำซึ้ง กูจะอวก" ปากก็บอกไม่ชอบแต่แขนที่โอบรอบตัวผมแล้วเหอะ

"ทำไมวะ เข้าโหมดพ่อรักลูกหน่อยไม่ได้รึไง" ผมกระชับวงแขนของตัวเองแน่นขึ้น ด้วยที่เราเป็นผู้ชายทั้งคู่ ผมเลยไม่ค่อยได้แสดงความรักกับพ่อด้วยการกอดกันมากนัก ต่างจากแม่ที่เจอกันทีไรก็กอดกันทุกที ส่วนผมกับนิรันดร์นั้นจะเป็นการตบไหล่ตบหัวกันซะมากกว่า

เราสองคนยืนอยู่ตรงนั้นกันสักพัก ก่อนที่นิรันดร์จะพูดบางอย่างออกมา

"แฟง"

"ครับ"

"ถ้ารักเขา ก็อย่าหลอกเขาอีกเลย มันไม่ดี ของแบบนี้มันสนุกแค่ตอนแรกๆแหละ นานๆไปมันจะถลำลึกนะเว้ย ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนั้นมันจะถอนตัวลำบาก เรื่องของความรักนะ อย่าให้มีเรื่องโกหกหรือปิดบังกันจะดีที่สุด มึงเข้าใจมั้ย" อย่างที่นิรันดร์พูดผมก็พอเข้าใจนะ คิดไว้อยู่แล้วว่าจะบอกคุนคุนเร็วๆนี้แหละเรื่องที่หลอกน้องมันว่าไม่มีตังค์จ่ายค่าเช่าอะ หวังว่ามันคงจะไม่โกรธนะ

"อื้อ"

"แฟง"

"ครับ"

"เรื่องจดหมายขู่ มึงก็รีบจัดการซะ ดีแค่ไหนที่วันนี้คุนหายไปกับกู ถ้าเกิดวันนี้ไม่ใช่กูแต่เป็นไอ้โรคจิตนั่น มันจะจบยังไง"

"ผมก็คิดว่าจะรีบจัดการให้จบในเร็วๆนี้แหละ"

"ถ้าอยากให้ช่วยอะไรก็บอก กูรู้จักตำรวจผู้หลักผู้ใหญ่เยอะ"

"เอาไว้ถ้าผมอยากให้ช่วยจะบอกละกัน แต่ตอนนี้ขอผมจัดการด้วยวิธีของตัวเองก่อนละกัน"

"เค งั้นกูไปก่อน ง่วงชิบหาย"

ผมเดินเข้ามาหยิบกุญแจคอนโดยื่นให้นิรันดร์ที่กำลังยืนร่ำลาคุนคุนกับอันอันอยู่ อีกสักพักก็กอดกันกลม เฮ้ยแบบนี้ก็ได้หรอวะ แหมสนิทสนมกันเร็วเหลือเกินนะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้านี่จะเข้าไปยืนกั้นกลางซะหน่อย แล้วนี่อะไรยืดกอดว่าที่เมียผมแถมยังยกยิ้มมุมปากเยาะเย้ยผมอีก เหมือนไอ้อันอันไม่มีผิด

"ไว้เจอกันใหม่นะครับพี่รัน"

"เค เดี๋ยวแวะมาหาบ่อยๆ"

"ได้เล้ยยย"

"ไปได้แล้วนิรันดร์ แล้วก็ไม่ต้องแวะมาบ่อยๆ งานการไม่มีทำรึไง" ผมรีบดันคนตัวหนาที่ยืนแจกยิ้มให้กับไอ้แก้มย้อยที่ยืนฉีกยิ้มอุ้มแมวยักษ์อยู่หน้าห้อง นี่ก็อีกคน ผลิตง่ายนักรึไงวะรอยยิ้มมึงเนี่ย เที่ยวแจกชาวบ้านเรี่ยราดไปหมด หวงเว้ย! กับพ่อก็หวง!

"คุนล็อกห้องนะ เดี๋ยวกูไปส่งนิรันดร์แป๊บ"

"ครับผม!"

แกร๊ก!

"พอเลยนิรันดร์ นั่นว่าที่เมียผมนะเว้ย จะมายืนร่ำลากอดกันนานๆแบบนั้นได้ไง"

"โหไอ้กระจอก อยู่กับเขามาตั้งเป็นเดือนๆ ยังไม่ได้เขาอีก อย่าบอกใครนะว่าเป็นลูกกกูเนี่ย"

"อะไรเล่า ผมเป็นสุภาพบุรุษเหอะ"

"สุภาพบุรุษแล้วอดแดกกูไม่เอาด้วยหรอก เอากุญแจมา"

"เดี๋ยวผมเปิดให้" กุญแจดอกเดียวในมือที่ห้อยคล้องอยู่กับพวงกุญแจแจแมวที่คุนคุนซื้อมาไว้คู่กันถูกหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกง

"แล้วจะนอนกี่คืนนิรันดร์" ผมเดินเข้ามาในห้อง ตรงไปยังห้องนอนเพื่อหาเสื้อผ้าไว้ให้นิรันดร์ใส่นอน นิรันดร์เคบมาค้างที่นี่สามสี่ครั้งแล้ว มาทีไรไม่เคยเอาเสื้อผ้ามาหรอก เพราะด้วยที่หุ่นเราใกล้เคียงกันนิรันดร์เลยเอาเสื้อผ้าผมไปใส่ตลอด ขนาดกางเกงในยังไม่เอามาเลยเหอะ ส่วนผมก็ต้องมีกางเกงในสำรองไว้หนึ่งแพคสำหรับนิรันทร์ คนนี้นะอยากจะมาก็มาปุบปับไม่เคยบอกล่วงหน้าหรอก นี่ถ้าไม่บอกนะไม่มีใครรู้หรอกว่าผู้ชายคนนี้จบวิศวะการบินมา นึกว่าเด็กนิเทศทำตัวติสๆไปวันๆ

"คืนเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปนอนกับไทเกอร์" คนตัวหนาเดินมาหยิบผ้าเช็ดตัวที่ผมวางไว้ให้บนเตียงขึ้นมาห่อเอวตัวเองก่อนจัดแจงถอดเสื้อผ้าตัวเองออก

"ได้หรอ ช่วงนี้มันไม่ได้ติดเมียไปอยู่คอนโดเมียรึไง" ไทเกอร์คือพี่ชายคนโตของผมครับ เรียนวิศวะที่มหาลัยเดียวกันกับผมนั่นแหละเพิ่งจบเมื่อปีที่แล้วแต่ตอนนี้ต่อโทอยู่ พ่อเรียกตัวให้กลับไปช่วยบริหารโรงแรมที่เชียงใหม่แต่มันไม่อยากกลับเลยหาเรื่องอยู่ต่อด้วยการเรียนปริญญาโท เหตุผลคือติดเมีย จบข่าว!

"เมียที่ไหน ทำไมกูไม่รู้" นิรันดร์ที่เดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วโผล่หน้าออกมาด้วยความสงสัย อ้าวเวรแล้วกู นี่นิรันดร์ยังไม่รู้หรอวะ

"เอ่อ..."

"แฟง บอกกูมา" น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่สายตาที่ส่งมานั้นดุดันกว่ามาก

"นิรันดร์ถามมันเองดีกว่า ก่อนเข้าไปโทรหามันก่อนก็ดี"

"กูโทรแล้วตอนเย็น มันบอกไปได้ ไม่เห็นว่าอะไร เมียมันคือใครกูรู้จักมั้ย" นี่ก็ยังไม่เลิกอยากรู้อีก โอ้ย!

"นิรันดร์จะรู้จักทุกคนบนโลกใบนี้ไม่ได้นะเว้ย"

"มึงพูดแบบนี้แสดงว่ากูรู้จักชัวร์ จะเป็นใครก็ได้ขอแค่อย่าให้เป็นลูกไอ้จุมพลพอ"

"แค๊กๆๆๆๆ" เชี่ย เหมือนรู้ มีตาทิพย์รึไงวะ ใครคือจุมพล คำตอบคืออดีตเพื่อนนิรันดร์ที่ทะเลาะกันมาร่วมยี่สิบปีเพราะแย่งผู้หญิงคนเดียวกันมาก่อน และผู้หญิงคนนั้นก็คือแม่ผมเอง เรื่องแม่งซับซ้อนอีรุงตุงนัง ไม่เล่านะขอผ่าน

"..." อ้าวนิ่ง มองหน้าเหมือนจับผิดผมอีก ทำไงดีวะ

"ไม่รู้ ไม่เคยเห็น จริงๆนะนิรันดร์ ไปถามมันเองเหอะ ผมกลับละ มีแมวนอนรอในห้อง.ห้กลับไปกล่อมอีก ฝันดีนะนิรันดร์ ไปละ" เผ่นครับเผ่น ไปเคลียร์กันเอง แฟงไม่รู้แฟงจะไม่ยุ่ง

"เออ"

ผมวางชุดนอนกับชุดสำหรับพรุ่งนี้ไว้บนเตียงให้นิรันดร์ก็หันหลังเตรียมจะเดินกลับมาห้องข้างๆ

"แฟง"

"คร้าบผม" เชี่ย เสียงเรียบๆแบบนี้ดังมาจากข้างหลังฟังแล้วหลอนสัส พ่อคร้าบบอย่าจับผมเค้นความจริงเลยนะครับ ผมไม่รู้เรื่องเลยจริงจิ้งงงง ไปถามเฮียเกอร์เองสิ

"ว่าที่เมียมึงขาวสัส ตากูนี่พร่าไปหมด"

"นิรันดร์!" กูว่าแล้วว่านิรันดร์ต้องเห็น! แม่งเอ้ย

"อ้อ อีกอย่าง"

"อะไรอีกเล่า!"

"กูเป็นคนปล่อยอันอันเข้าไปในห้องก่อนมึงจะล็อคประตูเองหละ"

"นิรันดร์!"

จับได้แล้วผู้ร้ายตัวจริง หนอยๆๆๆๆๆๆ ฝากไว้ก่อนเถอะ! ตอนนี้เรามีความผิดติดตัวต้องรีบเผ่นอย่างเดียวเลยครับ ถ้าอยู่ต่อมีหวังโดนสอบสวนเรื่องเมียเฮียเกอร์ยาวแน่ๆ

พอเปิดประตูห้องคุนคุนเข้ามาก็เดินตามหาโทรศัพท์ตัวเองทันที จำได้ว่าเอาวางไว้โต๊ะกลางหนาทีวีทำไมไม่มีวะ มองหาโทรศัพท์เครื่องสีดำของตัวเองรอบห้องไม่เจอ เลยกะว่าจะเข้าไปดูในห้องนอนซะหน่อย แต่ยังเดินไปไม่ถึงห้องนอนก็เห็นโทรศัพท์เครื่องคุ้นตาวางอยู่โต๊ะหน้าห้องนอนที่ตอนนี้กำลังเสียบชาร์ตแบตอยู่ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ห้องนี้บอกไว้เลยว่าโทรศัพท์ผมไม่เคยแยตหมด เพราะคุนคุนชาร์ตให้ทุกวัน แล้วตอนนี้โทรศัพท์สองเครื่องที่หน้าตาเหมือนกันสีเดียวกันต่างกันตรงสีปลอกโทรศัพท์ก็วางชาร์ตแบตอยู่ข้างกัน ทุกครั้งที่ไอ้ตัวนุ่มนิ่มชาร์ตแบตของตัวเองก็มันจะเอาของผมมาชาร์ตให้เสมอ ผมถึงบอกว่าคุนมันน่ารักไง แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เพราะมันเป็นคนใส่ใจคนอื่นถึงเก็บรายละเอียดเรื่องเล็กน้อยพวกนี้มาทำให้ผมยิ่งรักมันมากขึ้นไปอีก

เจอโทรศัพท์ของตัวเองแล้วก็รีบหยิบขึ้นมากดเข้าแอพพลิเคชั่นชั้นไลน์ แล้วค้นหาแชตล่าสุดที่คุยไว้กับพี่ชายคนโตของตระกูลวิสุทธิ์รังสรรค์ทันที

FanG: เกอร์
TiGeRR: ว่าไงแฟง
FanG: งานเข้า
TiGeRR: ไปทำไรไว้อีกแล้วเนี่ย
FanG: ขอโทษวะ
FanG: ขอโทษจากใจดวงน้อยๆของนายลภัสคนนี้
TiGeRR: มาขอโทษพี่ทำไม
FanG: นิรันดร์จะไปหาพรุ่งนี้รู้ยัง
TiGeRR: รู้แล้ว นิรันดร์โทรมาแล้ว
FanG: เกอร์
TiGeRR: ทำไมครับน้องชาย เรียกจัง
FanG: เกอร์
TiGeRR: ถ้าไม่บอกพี่จะนอนละนะ เฟิร์สงอแงแล้วเนี่ย
TiGeRR: ทำไมเงียบละ
FanG: เกอร์ คือกู....
TiGeRR: นอนก่อนนะ บาย
FanG: เกอร์ กูหลุดปากเรื่องเมียมึงให้นิรันดร์ได้ยินอะ
TiGeRR: ....
TiGeRR: ....
TiGeRR: ....
FanG: แต่นิรันดร์ยังไม่รู้หรอกนะว่าเมียมึงคือพี่เฟิร์สอะ
TiGeRR: อืม แล้วไป เดี๋ยวที่เหลือพี่จัดการเอง ขอบใจนะที่บอก
FanG: ครับผม ไปนอนละนะ บาย

โทษทีวะพี่มึง โชคดีละกันนะ หวังว่านิรันดร์จะไม่อาละวาดละกัน คืนนี้กูจะสวดมนต์ภาวนาเผื่อมึงทั้งคืนเลย แด่พี่ชายสุดที่รัก!
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ทำไมอะ คนกันเองไม่ได้หรอ

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 21---


ผมวางโทรศัพท์ไว้บนตู้อันเดิม ก่อนจะเดินไปปิดไฟในห้องครัวและห้องนั่งเล่นเหลือไว้เพียงไฟดวงสีเหลืองดวงเล็กที่ตรงทางเดินเท่านั้น เอาไว้เวลาออกมาดื่มน้ำกลางดึกจะได้ไม่เดินชนข้าวของ และที่สำคัญคือไม่ต้องตกใจเวลาแมวยักษ์มันเดินเดินเพ่นพล่านไปมาในห้องด้วย ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าห้องนอนก็เหลือบมองอันอันที่นอนอุตุอย่างสบายอยู่บนโซฟา นอนหลับสบายจนน่าหมั่นใส้เชียวนะมึง แกล้งกูทั้งวันแล้วยังจะหลับสบายอีกหรอก คิดในใจว่าจะเดินไปบีบไข่มันเล่นก่อนเข้านอนแต่ก็เปลี่ยนใจเดินเข้าห้องไปเพราะเหลือบไปเห็นก้อนกลมๆขาวนอนขดอยู่บนเตียง เห็นแล้วน่าจับมาฟัดชิบหาย กูไปฟัดแมวในห้องกูก่อนดีกว่า ปล่อยมึงรอดไปก่อนละกันนะอันอัน

ไอ้ลูกหมาคุนเอ้ย ไหนบอกจะทำไรให้กูเนี่ย มาชิ่งหลับก่อนแบบนี้ได้ยังไงวะ

ผมปิดประตูห้องนอนตามหลังก่อนเดินเข้าไปใกล้เตียง ก้มลงมองคนตัวขาวๆเล็กๆที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงกว้าง น่ารักชิบหาย ขนาดนอนนิ่งๆยังโคตรของโคตรของความน่ารักเลยวะ ยืนมองสักพักก็หยิบผ้าห่มที่อีกคนถีบไปไว้ปลายเตียงขึ้นมาคลุมให้ ก่อนเดินไปปิดไฟแล้วปีนขึ้นเตียงแล้วคว้าร่างนุ่มๆเข้ามาใกล้ๆ เหมือนที่ทำอยู่ทุกคืน

"อื้อ" คนที่ผลอยหลับไปแล้วส่งเสียงขัดใจที่มีคนไปรบกวนเวลานอนหลับ แถมยังย่นคิ้วเข้าหากันอีก

"ฮึๆ มึงมันน่ารักเกินบรรยายคุน วันนี้จะปล่อยไปก่อนละกัน" ผมดึงร่างเล็กเข้ามาฝังในอ้อมกอดก่อนจะก้มลงไปหอมกลิ่มผมสีดำหอมฟุ้งด้วยนยาสระผมกลุ่มดอกไม้อ่อนๆ คิ้วที่ขมวดเข้าหากันในคราแรกคลายออกทันที พร้อมกับแขนเล็กที่ย้ายมาโอบกอดรอบเอวหนาของผม

"วันนี้จะยกผลประโยชน์ให้จำเลยหนึ่งวันละกัน"

ผมไม่ใช่คนโหยหาความรักเหมือนบางคนที่ขาด ไม่ใช่หนุ่มคลั่งรักเหมือนไอ้นาที ไม่เคยคิดโหยหาอ้อมกอดหรือสัมผัสที่อบอุ่นจากใคร เพราะคนในครอบครัวผมก็ให้ผมไม่เคยขาด แต่ไม่รู้ทำไมตั้งแต่มีคุนคุนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดผมกลับไม่เคยคิดอยากจะปล่อยมันไปเลยสักวัน ถ้าวันไหนที่ไม่มีคนข้างๆนอนอยู่ด้วยกัน เดาไม่ถูกเหมือนกันว่าคืนนั้นผมจะรู้สึกขาดอะไรบางอย่างไปรึเปล่า
.
.
.
.

"พี่ ผมร้อนวะ"

"เออ ทนอีกแป๊บ"

"แป๊บนี่นานแค่ไหนวะ"

"เออ อีกแป๊บนึง"

"พี่พูดแบบนี้มาตั้งแต่บ่ายละนะ"

"โวะ มึงนี่ ความอดทนโคตรต่ำ ไอ้ทัพไม่เห็นมันบ่นอะไรเลย นั่งเฉยๆ ไม่ปากมากเหมือนมึง"

"โถพี่ พี่รู้ได้ไงว่ามันไม่บ่น มันอาจบ่นในใจก็ได้ กลับกันเถอะนะ ผมหิวแล้ววะ"

"เออน่า อีกแป๊บนึง"

"..." ไอ้ห่า ทำหน้างอแงใส่กูอีก น่ารักตายละ ตัวใหญ่อย่างกะควาย มันเข้ากันรึไงหน้างอนๆของมึงกับกล้ามล่ำบึกของมึงเนี่ย

"สิบนาที อะ"

"ห้ามเกินแม้แต่วินาทีเดียวเลยนะพี่ ผมแม่งโคตรร้อนเลย" แบะปากอีก อยากจะดึงปากล่างมันออกมาดีดจริงๆ

ผมละสายตาออกจากไอ้แฝดนรกตัวน้องคนนี้ตัวขี้บ่นที่นั่งอยู่ข้างๆผมในรถ มองทอดออกไปยังทางเข้าออกคอนโดสลับกับบริเวณโดยรอบคอนโด แม้ลึกๆจะนึกสงสารไอ้สองแฝดคู่นี้ที่ต้องสลับวันกันมาสอดส่องโรคจิตที่ด้านหน้าคอนโดกับผมเป็นเวลาสี่วันแล้ว พูดได้ว่ากินนอนในรถตั้งแต่บ่ายโมงจนถึงเวลาที่คุนคุนกลับขึ้นคอนโดหลังจากพาอันอันมาวิ่งเล่นเสร็จ ผมให้นิรันดร์ส่งรถ SUV คันใหญ่ที่กระจกดำสนิทมาให้ใช้ในช่วงสอดแนมนี้ เพราะรถที่ผมใช้ประจำนั้นกระจกใสแล้วก็คับแคบเกินไปจะขยับตัวทีแม่งก็แทบหายใจไม่ออก ลองนึกภาพผู้ชายสูงเกือบ190ตัวโตสองคนนั่งอยู่ในรถยนต์สองที่นั่งด้วยกันเป็นเวลาห้าชั่วโมงดูสิคับ อึดอัดชิบหาย อย่าว่าแต่ห้าชั่วโมงเลย ครึ่งชั่วโมงจะอยู่ถึงรึเปล่าเถอะ แล้วถ้าจะให้สตาร์ทรถไว้ตลอดมันก็ดูจะเพิ่มมลพิษให้โลกนี้เกินไป ก็นั่งร้อนมองหน้ากันวนไปสิครับ

จากที่สอดแนมมาวันนี้เป็นวันที่สี่พบผู้เข้าข่ายต้องสงสัยสองคน คนแรกคือ ไอ้ผู้ชายหน้าเนิร์ดๆ ตรงข้ามห้องที่เป็นเจ้าของหมาเวรที่มาแ*กรองเท้าที่ผมรัก มันชอบพาหมาลงมาเดินในเวลาใกล้เคียงกับคุนคุน แล้วก็ชอบเข้าไปคุยกับคุนอยู่บ่อยๆ ส่วนคนที่สองคือผู้ชายวัยกลางคนที่มาวิ่งออกกำลังช่วงห้าโมงเย็นทุกวัน ไอ้นี่น่าสงสัยกว่าคนแรกอีกเพราะมันชอบนั่งจ้องคุนคุนเล่นกันอันอัน ไอ้นี่ออกแนวหื่นสายตาที่มันมองคุนคุนนั้นราวกลับจะกลืนกินคนของผม แต่คือมันเอาแต่มองไงไม่เคยเข้าใกล้คุนคุนสักที เราเลยเอาผิดมันไม่ได้ ลวนลามทางสายตาไม่ผิดกฎหมายวะ แต่ถ้าวันไหนมึงเข้าใกล้คุนคุนของกูละก็มึงตาย กูพูดได้แค่นี้!

"พีี่"

"อะไร"

"ผมว่าพี่แฟรงค์เฟิร์ตไม่น่าใช่ไอ้โรคจิตนั่นหรอก"

"ทำไม กูว่ามันแหละมีความเป็นไปได้สูงอยู่นะ"

"เฮียแกเป็นลูกครึ่ง เรียนเมกาตั้งแต่เด็ก จะเขียนภาษาไทยได้หรอวะ อีกอย่างนะ ไม่เคยได้ยินคุนมันบอกว่าเฮียเฟิร์ตมายุ่มยุ่มอะไรกับมันเลยนอกจากทักทายกันเวลาพาอันอันออกมาวิ่งเล่น"

"มึงเชื่อกู มันนี่แหละเข้าข่าย เพราะมันใช้หมาหน้าตาน่ากลัวของมันมาทำลายรองเท้าคู่เลิฟของกู"

"โถ ที่แท้ก็แค้นเรื่องนี้นี่เอง นี่แหละน้าพวกมีอคติ"

"หุบปาก แล้วใช้สายตากับสมองมึงให้มีประโยชน์สักที โน่น มองไปรอบๆ" อย่างที่มันพูดก็ถูกแหละ จริงๆไอ้หน้านิ่งตรงข้ามห้องมันก็ไม่ได้ดูมีพิษมีภัยขนาดนั้นหรอก แต่ตัดมันทิ้งออกจากผู้ต้องสงสัยไม่ได้เพราะหมามันกัดรองเท้ากู!

"พี่"

"อะไร เรียกกูเก่งจังเลยเว้ยเฮ้ย"

"พี่ว่าพี่ศักแกแปลกๆมั้ย"

"ยังไงวะที่ว่าแปลก" ผมหันไปมองหน้าขุนพลด้วยความสงสัย

"พี่ลองดู คนพักอาศัยเดินเข้าออกตั้งมากมายไม่เห็นพี่แกเอ่ยทักใครเลยด้วยซ้ำ นี่แล้วพี่ดู พอไอ้คุนกำลังจะเดินเข้าคอนโดนะ พี่แกรีบวิ่งมาหาเลย ดูดิ" ผมมองไปยังประตูหน้าคอนโดอย่างที่ไอ้ขุนมันบอก จริงๆผมก็เคยคิดว่าสายตาพี่ศัก รปภ ของคอนโดที่มองผมกับไอ้สองแฝดมันดูมีอะไรบางอย่าง

"มึง"

"ไรพี่"

"พี่ศักแกเคยทักพวกมึงรึเปล่า" ผมเคยยิ้มให้แกหลายทีละแต่แกไม่เห็นยิ้มตอบมาสักครั้ง ตอนแรกก็นึกว่าแกเป็นคนอัธยาศัยไม่ค่อยดี แต่เคยได้ยินคุนคุนบอกหลายทีละว่าพี่ศักนะชอบชวนมัยคุย ตอนแรกก็นึกว่ามีรปภที่ชื่อศักหลายคน แต่ที่ไหนได้ดันมีคนเดียว และเป็นพี่ศักคนเดียวกันสะอีก แต่ทำไมถึงได้ปฏิบัติต่างกันแบบนี้วะ กูงง

"โอ้ย แกไม่ค่อยชอบขี้หน้าพวกผมเท่าไหร่หรอก ขนาดผมถือของหนักๆเข้ามายังไม่เปิดประตูให้เลยบางที"

"ทำไมวะ"

"ไม่รู้สิ สงสัยเคยไปกวนตีนอะไรพี่แกละมั้งจำไม่ได้เหมือนกันวะ"

"หน้ามึงมันไม่ถูกระเบียบไง เดินไปไหนก็วอนโดนตีน" หน้าตามันดีนะ แต่คิ้วหนาๆกับหน้ากวนเบื้องล่างของมันนี่สิ เห็นแล้วตีนกระตุกทุกที ไม่ใช่แค่ไอ้พี่ศักหรอกที่ไม่ชอบขี้หน้ามึง กูยังอยากเสยปากมึงเลยบางที

"โถๆๆ คุณแฟงครับ คุณรู้มั้ยว่าเบ้าหน้านี้นี่สาวคณะผมยกให้เป็นเดือนนะเว้ย พูดแล้วจะหาว่าคุย" แล้วที่มึงพูดอยู่นี่ไม่ได้คุยโวโอ้อวดเลยว่างั้น

"สาวคณะมึงแม่งตาบอด ช่างแม่งเรื่องหน้าตาวอนบาทาของมึงก่อน ช่วยกลับมาที่เรื่องความปลอดภัยว่าทีเมียกูสักหน่อยเถอะ" ผมดึงไอ้แฝดที่ชอบชวนคุยออกนอกเรื่องกลับเข้ามาหาประเด็นเก่าที่เราคุยกันอยู่ก่อนหน้า ส่วนสายตาก็ยังจับจ้องอยู่ที่รปภหนุ่มกับคุนคุนตัวนุ่มนิ่มของผมที่ยืนคุยกันหัวเราะดังลั่นอยู่หน้าคอนโด คุยไรกันนักหนาวะ จนคิ้วกูกระตุกแล้วกระตุกอีก เมื่อไหร่จะเลิกคุยวะ แม่ง!

"มึง กูว่าพี่ศักแม่งแปลกจริงวะ เออ กูก็เพิ่งสังเกตุเห็นวันนี้แหละ" รปภหนุ่มคุยกับคุนคุนได้สักพักก็รีบวิ่งไปที่ไหนสักที่แล้ววิ่งกลับมาด้วยถุงกระดาษเล็กๆในมือ ผมจำได้ดีว่าถุงนั้นคืออะไร

"เฮ้ย นั่นพี่แกเอาไรให้คุนวะ"

"กล้วยทอด"

"พี่มองเห็นได้ไงวะ รถจอดอยู่ไกลขนาดนี้ แม่งยอดมนุษย์วะ"

"ใช่ที่ไหนละ โว๊ะ กูเห็นคุนเอากลับมาที่ห้องบ่อยๆ แล้วกูก็ชอบเอาไปทิ้ง" คุนคุนมักจะถือถุงกล้วยทอดกลับมาที่ห้องตอนค่ำแทบทุกวัน แต่ผมไม่เคยถามสักทีว่าเอามาจากไหนเพราะนึกว่าอีกฝ่ายซื้อกลับมา เพิ่งมารู้ความริงเอาวันนี้ว่าพี่ศักเป็นคนให้มา ให้กล้วยทอดมันไม่แปลกหรอก แต่ที่แปลกคือพอคุนคุนกลับเข้าคอนโดไปพี่มันมองตาตามเยิ้มเขียว ขนาดลูกบ้านคนอื่นๆเดินผ่านไปพี่มันยังไม่หันมาทำหน้าที่เปิดประตูคอนโดให้ด้วยซ้ำ

ผู้ต้องสงสัยรายที่สาม รปภ.คอนโด พี่ศัก
.
.
.
.
.
.

"เฮ้ย เหนื่อย" ผมทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาทันทีที่เข้ามาในห้อง ส่วนขุนพลก็ขอตัวกลับห้องตัวเองหลังจากที่แยกกัน เห็นบอกว่าต้องกลับไปกินข้าวที่บ้านแม่โทรตามบอกคิดถึง สองแฝดเลยต้องถ่อสังขารขับรถกลับบ้านแสดงความเป็นลูกกตัญญูเมื่อคุณณาสมรศรีโทรเรียก แม่มันเป็นคุณหญิงครับ ดูไม่ออกเลยใช่มั้ยละ ผมเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยถ้าไม่เคยเห็นว่าแม่มันตีโป่งใส่ชุดผ้าไหมราคาแพงมาหามันที่คอนโด ใครจะไปเชื่อวะ

"ดื่มน้ำครับพี่แฟง วันนี้มีอะไรคืบหน้าบ้างรึเปล่าครับ" คนตัวเล็กเดินมาพร้อมกับแก้วน้ำดื่มเย็นๆ ผมรีบหยิบแก้วน้ำมากระดกจนหมดในทันที เฮ้อ เย็นชื่นใจจริงๆ

"ก็ได้ผู้ต้องสงสัยใหม่อีกราย ส่วนมึงละ ตอนพาอันอันไปเดินเล่นมีอะไรน่าสงสัย หรือมีใครที่มีท่าทางแปลกๆมั้ย" ผมถามออกไปพรางเอนตัวลงนอนราบยาวบนโซฟาโดยที่เอาหัวที่บรรจุหน้าหล่อๆของตัวเองวางบนตักนุ่มๆของเด็กตัวขาวนุ่มนิ่ม ตักมันนุ่มครับ เหมือนแก้มมันแหละ

"อืม....จะว่าไปก็มีนะครับ"

"หืม?" ตาที่กำลังจะปิดลงเพราะความเหนื่อยล้าเปิดโพลงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินปากเล็กๆแดงๆนั้นเอ่ยประโยคเหล่านั้นออกมา คือผมว่าผมก็ดูดีแล้วนะ แถมยังใส่แว่นสายตาที่ปกติจะใช้แค่ตอนอ่านหนังสือเท่านั้นไปด้วย นี่ผมพลาดช็อตไหนไปวะ กูว่ากูสแกนทุกอย่างใส่เมโมรี่ในหัวแล้วนะเว้ย

"ก็มีอาซิ่มในแก๊งไทเก็กอะครับ"

"อาซิ่ม?" ใช่หรอวะ อาซิ่มเป็นโรคจิตเนี่ยนะ อึ๋ย ก็ไม่แปลกหรอกที่จะหลุดรอดสายตากูไปนะ

"ใช่ครับ อาซิ่ม วันนี้แกเดินกะเผลก เพราะบอกว่าลื่นล้มในห้องน้ำ อันนี้ละครับที่แปลกไปจากเมื่อวาน"

"คุน ไม่ใช่แปลกแบบนั้น"

"แล้วแปลกแบบไหนละครับที่พี่แฟงเรียกว่าแปลก"

"ก็อย่างเช่นมีคนหน้าแปลกๆมาวนเวียนรอบตัวมึง หรือมีใครที่ทำตัวน่าสงสัยอะไรแบบนี้"

"อืม ถ้างั้น....ก็...คุนคิดว่าคงไม่มีแล้วนะครับ" ไอ้ตัวเล็กทำท่าคิดหนัก อืม พอเถอะ แค่มึงคิดว่าการที่อาซิ่มเดินกะเผลกมานั่นคือสิ่งแปลกที่มึงควรจะเก็ยมาใส่ใจในกรณีที่มีโรคจิตตามติดชีวิตดาวขนาดนี้ กูก็หมดคำจะพูดแล้ว กูขอนอนพักสายตาดีกว่า

"พี่แฟงตัดผมมั้ยครับคุนมีกรรไกรนะ ผมพี่ยาวมากเลย" มือบางจับผมผมขึ้นมาก่อนเอียงคอเอาหน้าก้มลงมาชิดกับหน้าผมมำให้ตอนนี้เหลือระยะห่างระหว่างจมูกเราไม่ถึงคืบ

"ไม่เอา เดี๋ยวกูหมดหล่อ ไอ้ขุนบอกร้านตัดผมเปิดแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้กูออกไปหาพี่ชายกูแล้วแวะตัดขากลับ"

"เอางั้นก็ได้ครับ แต่ว่า ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ"

"หื่อ อย่ามาหลอกล่อกูหน่อยเลย กูไม่หลงกลมึงหรอก คิดจะเอากรรไกรตัดขนอันอันมาตัดผมกูรึไง หืม จุ๊บ" ผมเอื้อมมือขึ้นไปคว้าหน้าจิ้มลิ้มของคนตรงหน้าลงมาประกบริมฝีปากนิ่มๆหนึ่งที

"อื้อ รู้ทันได้ไงอะ"

"ฮะๆๆๆ ไอ้นุ่มนิ่ม คิดว่ากูโง่รึไง ฮะ"

"ครับ"

ดูคำพูดคำจา นอกจากยอมรับหน้าตาเฉยยังมีหน้ามายิ้มกรุ้มกริ่มอย่างคนพอใจในคำตอบตัวเองเหลือหลายอีก จะน่ารักเกินไปแล้ว

"อื้อ อื้อ พีาแฟง อะ อ๊ะ ไม่เอาาาาา ปล่อยคุนนนนน" ร่างนุ่มนิ่มดิ้นพล่านอยู่บนโซฟาเมื่อผมจับคุนคุนลงมาฟัดหน้าท้องขาวๆของมัน มือบางปัดป่ายหัวผมจนมันยุ่งเหยิงไปหมด

"ไม่" ผมซุกไซร้จมูกหนาลงรอบเอวนิ่มๆที่มีกลเามเนื้ออยู่เพียงน้อยนิด

"คุนจะไปทำกับข้าวแล้ว มะ มะ ไม่เอา คุนจั้กจี้" ผมไม่สนใจเสียงติดหวานที่ร้องลั่นอยู่บนโซฟาตัวยาว ยังเลื่อนไซร้จมูกโด่งๆของผมไปทั่วหน้าท้องขาว

"ข้าวปลาอาหารไม่ต้องทำมันหรอก เดี๋ยวกูโทรสั่งแกร๊ปเอา ขอฟัดต่ออีกหน่อยเถอะ!"

"ม่ายยยย ยะ อย่า คุนจั๊กจี้ หนวดพี่แฟงแข็ง อะ อ้ายยย"

"จะดิ้นหนีไปไหน คิดว่าหนีกพีาพ้นหรอ หืม?"

"ฮะๆๆๆ อะ อ้ายย"


.
.
.
.
.



#คุนแฟง

by ppeachmm



ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เค้าจะได้กันแล้วๆ

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 22---


"วันนี้ไม่ต้องออกไปข้างนอกนะเข้าใจรึเปล่า" พี่แฟงที่ก้มลงสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดคู่ใหม่อยู่หน้าประตูคอนโดเอ่ยขึ้น

"ครับผม"

"ครับผมแล้วก็ต้องทำตามด้วย วันนี้กูไม่อยู่ ไอ้แฝดก็ไม่อยู่ห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาดเข้าใจมั้ย"

"เข้าใจแล้วครับคุณลภัส!"

"อย่ามาทะลึ่งเรียกชื่อจริงกูไอ้คุนคุนที่แปลว่าแผ่นดิน"

"โอ้ย แงๆๆๆ" มือหนาส่งนิ้วสองนิ้วมาดีดเข้าที่หน้าผากผมสองทีก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวผมเล่นจนผมที่จัดทรงไว้เสียทรงผม โถ่เอ้ย ทรงคอมม่าคูลๆของน้องคุนเสียทรงหมด อุตส่าห์ตั้งใจทำตั้งครึ่งชั่วโมง พี่แฟงนะพี่แฟง งอนดีมั้ยเนี่ย

"ไม่ต้องมาทำปากแบะ ไม่เกินห้าโมงกูก็กลับมาแล้ว ห้ามดื้อห้ามซน"

"ครับผม! ถ้าไม่เชื่อก็เปิดกล้องดูได้"

"ไม่ต้องบอกกูก็เปิดดูอยู่แล้ว ไปละ ล็อคประตูดีๆ"

"ครับ ขับรถดีๆนะครับ"

"อืม"

หลังจากเหตุการณ์ที่ผมหายไปขาดการติดต่อเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่ผมวิ่งตามหาอันอันแล้วก็ไปเจอพี่รันพ่อของพี่แฟงเข้า พี่แฟงก็เอากล้องมาติดไว้ตามจุดต่างๆของบ้านเผื่อไว้นะครับ กลัวว่าผมจะเป็นอันตราย แล้วก็ยังใส่แอพลิเคชั่นอะไรสักอย่างไว้สำหรับติดตามตัวผมไว้ในโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่หม่าม๊าถอยให้น้องคุนเมื่อสี่เดือนที่แล้วด้วย

วันนี้พี่แฟงไม่อยู่ครับ เห็นบอกว่าจะไปธุระที่คอนโดของพี่ชายแล้วก็จะแวะตัดผมด้วย ส่วนผมเมื่อไม่ได้ออกไปไหน ขนาดจะลงไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำพี่แฟงยังไม่อนุญาตเลย ก็เลยต้องอยู่ห้องคนเดียววนไป แต่คุนจะไม่นั่งเล่นมือถือไร้ประโยชน์ คุณจะดูตงหัวตี้จวิน! แล้วก็จะตัดต่อคลิปด้วย ถ่ายคลิปมาสองคลิปแล้วแต่ยังไม่ได้มีเวลาตัดต่อแล้วอัพโหลดขึ้นคุนคุน ชาแนลเลย แฟนๆก็เริ่มถามหาแล้วด้วย เพราะฉะนั้นเป้าหมายของคุนวันนี้คือลงคลิปหนึ่งคลิป แล้วดูตี้จวิน 10 ตอน! อ้อ คุนลืมบอกไปครับว่าตอนนี้คุนเปลี่ยนมาดูลิขิตเหนือเขนยแล้ว เพราะเริ่มเบื่อภาคแรกแล้วด้วย มีฉากตี้จวินน้อยเกินไป คุนเลยต้องมูฟออนมาดูภาคถัดมา คราวนี้แหละเห้นตี้จวินทุกฉากไม่ต้องกดข้ามด้วย คนอะไรหล่อจริงๆ ไม่เคยคิดเลยว่าพี่ชายห่างๆคนนี้จะหล่อขนาดนี้ งงละสิครับ ใช่ครับ  เฮียเกาที่แสดงเป็นตี้จวินนั้นเป็นญาติของน้องคุนเอง หล่อใช่มั้ยละ หม่าม๊าก็บอกเหมือนกันว่าเราสองคนนะหน้าคล้ายกัน แต่คนละแนว เฮียเกานะหล่อบาดใจสาว ส่วนน้องคุนอะน่ารักน่าหยิก หม่าม๊าบอกมาแบบนี้แล้วน้องคุนก็จำได้!

นั่งตัดคลิปไปได้หนึ่งคลิป คุนก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจพร้อมกับอันอันที่ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากนอนกลางวันไปจนอิ่ม

"อยากกินหรอ ไม่น่าจะกินได้นะ นี่ปาป๊ายังแอบกินเลย เพราะพี่แฟงไม่ให้กิน" ผมหยิบบราวนี่ออกมาจากตู้เย็น กัดเข้าปากหนึ่งคำ ในขณะที่อันอันก็กระโดดขึ้นมาบนเคาน์เตอร์กลางแล้วจ้องหน้าผมเหมือนอยากจะกินบราวนี่ด้วย

เมี้ยว!

"อึ๋ย ปาป๊าบอกว่าไม่ได้ไงครับ นี่มันของคน แมวกินไม่ได้"

เมี้ยว!

"อันอันดื้อจัง"

เมี้ยว!
.
.
.
.
.

"อันอัน ไปนั่งเล่นระเบียงกัน" ผมเอ่ยเรียกแมวอ้วนที่นอนอยู่ข้างกันบนโซฟา ฝนที่กรมอุตุฯ อะไรสักอย่างจำชื่อจริงไม่ได้ จำได้แค่อุตุเพราะขุนพลบอกว่ากรมนี้ชอบนอนอุตุอยู่ที่บ้านเลยพยากรณ์อากาศเพี้ยนตลอด อุ้ย!...จะอะไรก็ช่างเถอะครับ สรุปว่ากรมนี้เค้าพยากรณ์ไว้ว่าฝนจะตกตั้งแต่สามวันที่แล้วแต่ไม่เห็นตกเลยสักหยดแต่กลับมาตกเอาวันนี้ทั้งที่พยากรณ์อากาศเช้านี้บอกว่าบ่ายนี้อากาศแจ่มใส อืม อืม...นั่นแหละครับ สรุปว่าฝนเพิ่งหยุดตกไปครับ อากาศด้านนอกกำลังดี เลยอยากชวนอันอันแมวอ้วนออกไปสูดอากาศดีๆด้านนอกด้วย แต่ดูเหมือนอันอันจะยังงอนผมอยู่ที่ไม่ยอมให้กินบราวนี่ ผมเรียกไม่ยอมหันแถมยังตีหางแปะๆ อีก งอนจริงไรจริง เด็กดื้ออันอัน น่าตีนัก!

"อันอันดื้อ ปาป๊าไม่รักแล้ว" พูดจบผมก็เดินออกไปสูดอากาศด้านนอกทันที อื้อ อากาศหลังฝนตกนี่ดีจัง เย็นสดชื่น หอมไอฝน ได้กลิ่นแล้วสบ๊าย สบาย คุนชอบจัง

แกร๊ก!

เสียงประตูห้องเปิดออก

"อ๊ะ  สงสัยพี่แฟงจะมาแล้ว" ผมที่อยู่ห้องเหงาๆคนเดียวมาทั้งวันรีบวิ่งเข้ามาในห้องทันทีที่ได้ยินเสียงประตูหน้าห้องเปิดออก คุนไม่ได้คิดถึงพี่แฟงขนาดนั้นหรอกนะ ที่วิ่งอยู่นี่เพราะอีกฝ่ายสัญญาว่าจะซื้อบัวลอยนมสดเจ้าดังมาฝากต่างหาก แต่ก็ต้องชะงักงันเมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงประตูคือใครก็ไม่รู้ ที่ไม่คุ้นหน้าเลยสักนิด

"คะ คุณ มาหาใครหรอครับ" ผมถามผู้ชายคนนั้นออกไปด้วยความสงสัย แต่ เอ๋ คนคนนี้เข้ามาในห้องน้องคุนได้อย่างไง น้องคุนลืมล็อคประตูอย่างนั้นหรอ ตายแล้ว ถ้าพี่แฟงรู้ต้องดุน้องคุนแน่ๆ

"ไม่ได้มาหาใคร" อีกฝ่ายตอบกลับมา และนั่นยิ่งทำให้คุนงงขึ้นไปอีก อ้าว...ไม่ได้มาหาใคร แล้ว...

"แล้วมาทำไมอะครับ"

"อะไรของมึงเนี่ย ยืนทำหน้างงอยู่นั่นแหละ" แต่เอ๋ ทำไมเสียงคนคนนี้ดูคุ้นจัง รองเท้าก็คุ้น แต่เสื้อผ้าไม่คุ้นแฮะ แถมคนคนนี้ยังดูดีมาก ถึงมากที่สุด เต่งตัวก็ดี หน้าตาก็ดี ดูสะอาดสะอ้าน เกลี้ยงเกลา ไร้หนวดเครา ดูดีมีชาติตระกูลจริงๆ ดูน่าคบหาสุดๆ

"..."

"นี่กูเอง จำไม่ได้รึไง"

"กูไหน หรอ ครับ เราไม่เคยรู้จักคนชื่อ กู"

"ไอ้คู้นนน"

"คะ ครับ?"

"จะมองอะไรกูนักหนา นี่มึงเพิ่งตื่นนอนใช่มั้ย ถึงยังเบลอๆอยู่ กูจะไปอาบน้ำแล้ว โดนฝนมานิดหน่อยด้วย" ผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นถอดรองเท้าออกแล้วทำท่าจะเดินเข้าไปในห้องนอนของผมทันที

"คะ คุน จะทำอะไรนะ" ผมรีบเอาตัวไปขวางทางไว้ นี่คนคนนี้จะถือวิสาสะเกินไปรึเปล่า เข้ามาห้องผิดแล้วยังจะถือวิสาสะเดินเข้าห้องนอนคนอื่นอีกหรอ มันจะมากเกินไปแล้วนะครับ คุนขอถอนคำพูดที่พูดไปเมื่อกี้ด้วยว่าคนคนนี้ดูน่าคบหาคืนมาให้หมด ทำไมไม่เกรงใจกันแบบนี้ น้องคุนไม่ชอบนะ จะฟ้องพี่แฟง!

"กูเปียกเห็นมั้ย จะอาบน้ำ" อีกฝ่ายยกตัวผมที่ยืนขวางประตูขึ้น แล้วจับวางไว้ที่หน้าตู้วางของ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนต่อ

"แต่นี่ห้องเรา คุนเข้าไปไม่ได้นะครับ คุนเข้าห้องผิดนะรู้ตัวรึเปล่า" ผมรีบเดินตามผู้ชายร่างสูงใหญ่คนนั้นทันที แต่เขากลับไม่มีท่าทีสนใจสิ่งที่ผมพูดเลยแม้แต่น้อย ถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้าหยิงชุดของพี่แฟงออกมาแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่ที่ราวหน้าห้องน้ำมาพาดไว้ที่ไหล่ตัวเอง แต่เอ๋ ทำไมท่าทางดูคุ้นๆจัง

"ทำไมจะเข้าไม่ได้ ห้องนี้กูก็นอนกอดกับมึงทั้งคืน จำไม่ได้รึไง"

"ฮะ?"

"จำกูไม่ได้รึไง"

"..."

"คนที่มึงนอนกอดทุกคืนนะไอ้ตัวนุ่มนิ่มคุนคุน"

"พะ พะ พี่แฟง!" ผมมองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า จะให้น้องคุนจำได้ได้อย่างไง ในเมื่อพี่แฟงตอนก่อนออกไปข้างนอกหนวดเฟิ้ม ผมยาวมัดผมทรงแมนบันขึ้นไปกลางหัว ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น แต่คนตรงนี้กลับดู เอ่อ... ตรงกันข้าม คนที่ยืนอยู่หน้ากลับดูแตกต่าง หน้าตาเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้านไร้ซึ่งหนวดเครา ผมสั้นเซ็ททรง อันเดอร์คัท ไถข้างเรียบแปล้ ด้านบนเซ็ททรงอย่างดีถึงแม้จะเปียกฝนหน่อยๆแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารับกับรูปหน้าหล่อๆของเขาได้ดีทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มกับกาเกงขายาวสีขาวตัวนี้กลับทำให้เขาดูดีมีสไตล์ขึ้นไปอีก ขอยืนยันว่านี่ไม่ใช่พี่แฟง!

"เออกูเอง"

แปะ!

"ทำไมถึง?..." อ้าว ใช่จริงๆ อะ เสียงนี้ หน้าแบบนี้ ขมวดคิ้วแบบนี้ แถมยังดีดหน้าผาดผมแบบนี้อีก อู้ย เจ็บ นายลภัสตัวจริงเสียงจริง!

"ทำไมอะไร ถอยไปขออาบน้ำก่อน ตัวเปียก"

"อะ เอ่อ คือ"

"อะไร อยากอาบน้ำกับกูรึไง ได้นะ มาสิ กูอาบให้ มาเร็ว"

"เปล่าๆ ครับ คุนยังไม่อาบ พี่แฟงอาบเลยตามสบาย" ผมปัดเป่ามือไปมาเพื่อปฏิเสธสิ่งที่อีกคนคิดไปเอง ใครจะอยากอาบน้ำกับพี่แฟงกันเล่า อึ๋ย ไม่เอาด้วยหรอก อายตายเลย!
.
.
.
.
.
.

"จะแ*กมั้ยข้าว นั่งจ้องหน้ากูอยู่นั่นแหละ" พี่แฟงที่กำลังใช้ตะเกียบคีบลูกชิ้นเข้าปากเอ่ยถามออกมาเมื่อผมเอาแต่เท้าคางมองหน้าพี่เขาอยู่ ร้านบัวลอยนมสดปิดเลยได้ก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังมา แต่คุนอยากกินบัวลอย ร่างกายต่องการบัวลอย!

"กิน คุนกิน กินอยู่นี่ไง"

"กินห่าไร ตะเกียบคีบอากาศรึไง ใครเขาคีบนอกชามกัน คีบวิญญาณลูกชิ้นหรอ"

"อู้ยยยย" ผมมองตามตะเกียบของตัวเองตามที่พี่แฟงบอกทันที อย่างที่พี่เค้าพูดแหละครับ ผมเอาตะเกียบไปคีบโต๊ะอยู่นั่นแหละ มิน่าละคีบเท่าไหร่ไม่มีอะไรติดตะเกียบขึ้นมาสักที

"นี่มึงเพิ่งตื่นนอนใช่มั้ยเนี่ย หรือเมาบราวนี่ ตลกนะมึงเนี่ย"

"ใช่ที่ไหนละครับ เมา..." พี่แฟงนี่แหละ ไม่เคยคิดว่าพี่แฟงตัดผมแล้วก็โกนหนวดแล้วจะหล่อขนาดนี้ พี่นาทีที่ว่าหล่อแล้วยังต้องชิดซ้ายไปเลย กองทัพกับขุนพลสมบัติคณะนิติศาสตร์อินเตอร์ของผมยังเทียบไม่ติดแม้เส้นผม

"อะ อ้ำ แ*กซะ" มือหนาคีบลูกชิ้นมาจ่อปากผม

"..."

"อ้าปากสิ ก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้อร่อยนะเว้ย ดังมากด้วย กูต้องไปต่อคิวตั้งครึ่งชั่วโมง อยากให้มึงลองกิน"

"อื้ม อร่อย" ผมงับลูกชิ้นที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ก่อนลงมือเคี้ยวตุ้ยๆ อร่อยแบบที่อีกฝ่ายคุยไว้จริงๆ โหน ลูกชิ้นร้านนี้อร่อย งะ คุนจะเอาอีก!

"อร่อยก็กินเยอะๆ ด้วย"

"ครับผม" ว่าแล้วผมก็รีบโซ้ยลูกชิ้นในชามเข้าปากแล้วเคี้ยวหงับๆทันที แต่ก็ยังไม่วายที่จะเหลือบมองคนที่นั่งตรงข้ามกัน แถมยังเผลอยิ้มออกมาอีกต่างหาก

"แล้วนี่เป็นไร ยิ้มอยู่ได้ มึงเมาบรางนี่ใช่มั้ยเนี่ยคุน สารภาพมา"

"ใช่ที่ไหนเล่า....."

"แล้วเป็นไร" พี่คุนจ้องหน้าผม แล้วขมวดคิ้ว คงกำลังงงกับอาการที่ผมเป็นอยู่

"ก็พี่แฟงหล่ออะ" กล่อจริง จนผมละสายตาออกไม่ได้เลย

"..." อีกฝ่ายเงียบไปทันทีที่ผมเอ่ยออกไป หน้าที่งงงวยอยู่กลับกลายเป็นเรียบเฉยขึ้นมาทันที

"จริงๆ ไม่ได้โกหก"

"ฮะๆๆๆๆๆๆๆ"

"...."

"ฮ่าๆๆๆๆ"  อ้าวหัวเราะอะไรอะ หัวเราะไม่หยุดเลย หรือร้านนี้ใส่กัญชาในก๋วยเตี๋ยวกันนะ กองทัพเคยบอกว่าบางร้านเขาก็ใสเข้าไปในน้ำซุปให้รสชาติกลมกล่ม ให้ลูกค้าติดลูกค้าหลง ท่าทางพี่แฟงตอนนี้ต้องใช่แน่ๆ

"เอ่อ...."

"ทำไม กูหล่อขนาดนั้นเลยรึไงคุนคุน"

"อื้อ หล่อมากกกกกกกกก เลยครับ"

"เมื่อก่อนกูไม่หล่อรึไง" คนที่หยุดหัวเราะแล้วถามขึ้นมา

"ก็...หล่อ...แต่ตอนนี้หล่อกว่า"

"แล้วมึงชอบแบบไหนละ"

"แบบนี้" ผมชี้มือไปที่คนที่นั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามทันที ไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยครับ คุนชอบคนสะอาดสะอ้าน คุนจะเอาคนนี้! แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่คุนไม่ชอบพี่แฟงคนเมื่อเช้านะ คนนั้นคุณก็ชอบมากเหมือนกัน แต่แค่ชอบคนนี้มากกว่าเท่านั้นเอง

"พี่แฟงไม่มีหนวด ต่อไปน้องคุนก็ไม่ต้องจั้กจี้ คันคัน เวลาพี่แฟงฟัดพุงคุนแล้ว"

"ใครบอกมึง งับ"

"อื้อ กัดนิ้วคุนทำไมเนี่ย" คุนรีบดึงนิ้วกลับทันที พี่แฟงเล่นอะไรเนี่ยจู่ๆก็มางับนิ้วน้องคุนเฉยเลย อู้ยๆๆ นิ้วขาดมั้ยเนี่ย

"นิ้วมึงน่ากัดนี่หว่า แล้วก็ไม่ต้องดีใจไป มีหนวดไม่มีหนวดเวลากูฟัดพุงมึงมึงก็จั้กจี้เหมือนเดิม"

"ไม่จริง คุนไม่เชื่อ"

"หึ พิสูจน์มั้ยละ"

"อื้อ ไม่เอา ม่ายยย อ้า  ฮะๆๆๆๆ" อีกฝ่ายไม่ฟังคำทักท้วงอุ้มน้องคุนขึ้นจากเก้าอี้มาวางไว้บนโต๊ะทานอาหาร แล้วถลกเสื้อยืดสีฟ้าของคุนขึ้น ก่อนซุกหน้าลงไปฟัดพุงคุนเหมือนที่เคยทำทันที

"เป็นไง เหมือนรึเปล่า"

"อะ ฮะๆๆๆๆ มะ มะ เหมือน ไม่เอาแล้ว คุนจั้กจี้ อะ อะ ฮะๆๆๆๆ" อีกฝ่ายไม่ยอมถอนหน้าออกไปทั้งที่ผมพยายามดันหัวทุยๆของคนผมสั้นออกไปแล้วหลายครั้ง ว่าแต่พี่แฟงผมสั้นแบบนี้คุนไม่ชินเลย ดึงก็ไม่ค่อยได้ ไม่เหมือนพี่แฟงตอนผมยาว

"ยอมรึยัง"

"ยะ ยอ ยอมแล้ว ยอมแล้วครับ ฮะๆๆๆๆ"
.
.
.
.
.

"นอนได้แล้ว จะนอนจ้องหน้ากูอีกนานมั้ย"

"อู้ย พี่แฟงรู้ได้ไงว่าคุนมอง" พี่แฟงที่นั่งชันเข่าหลังพิงหัวเตียงที่กำลังอ่านอะไรบางอย่างจากในไอแพดอยู่เอ่ยขึ้น

"จ้องกูซะขนาดนี้ กูจะมีสมาธิอ่านหนังสือมั้ยเนี่ยคุนคุน จ้องพี่ทำไมครับ หืม?" ไอแพดในมือคนร่างสูงถูกวางลงบนโต๊ะหัวเตียงก่อนพี่แฟงจะหันมาจ้องหน้าผมไม่ละสายตา

"อย่าพูดครับสิครับพี่แฟง คุนใจไม่ดี"

"ทำไม ไม่ชอบให้พี่พูดเพราะๆหรอครับน้องคุนคุน"

"กะ ก็ชอบ แต่...."

"แต่อะไร ครับ หืม?"

"แต่มันเพราะเกิน คุนไม่ชิน คะ คุนจะละลายเอา"

"ใครสอนให้พูดแบบนี้ไอ้ตัวเล็ก"

"ไม่มีใครสอนคุนจำมาจากทีวี"

"สงสัยต้องล็อคทีวีไว้แล้วมั้ง เนื้อหาไม่เหมาะสมกับเด็กอย่างมึง"

"อื้อ พี่แฟงจะทำอะไร"

"จูบ พี่จูบหน่อย ไม่เจอทั้งวัน คิดถึง"

"คิดถึงอะไรเล่า ห่างกันยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ"

อื้อ อื้อ

อีกฝ่ายไม่สนใจคำประท้วง บดริมฝีปากตัวเองลงมาบนริมฝีปากอุ่นๆของผมทันที แถมยังดึงตัวผมเข้าไปไว้บนตัวของตัวเองอีก จูบของพี่แฟงมันเริ่มจากเนิบนาบ อ่อนโยน เชื่องช้า ก่อนจะเริ่มรุกล้ำ และหนักหน่วง จนตอนนี้หัวใจของน้องคุนเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว

"ใจแต้งแรงจัง ตื่นเต้นรึไง" พี่แฟงผละริมฝีปากตัวเองออก ก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมา พี่แฟงเวอร์ชั่นสองก็ไม่ต่างอะไรกับพี่แฟงเวอร์ชั่นหนึ่งเลยสักนิดเวลายกยิ้มแบบนี้ มันดูร้ายกาจจนน้องคุนเสียวสันหลังวาบ

"อื้อ"

"ง่วงยัง"

"ง่วงแล้วครับ"

"งั้นนอนกัน"

"อื้อ พี่แฟง"

"อะไร"

"เอาคุนลงไปจากตัวก่อน"

"ลงทำไมนอนแบบนี้แหละ อุ่นดี"

"เดี๋ยวหนักนะ"

"ไม่หนักหรอก"

"ตามใจนะ ถ้าพรุ่งนี้ตื่นมาชาเป็นอามาพาสคุนไม่รู้ด้วยนะ"

"อามาพาสอะไรของมึง หืม เขาเรียกว่า อัม มะ พาต เว้ย"

"อือ นั่นแหละ คำเดียวกัน"

"เคๆ นอนๆๆ เอาแขนมาโอบคอกูไว้"

"แบบไหนครับ"

"วางแบบนี้" พี่แฟงจับแขนผมทั้งสองข้างขึ้นมาวางพาดหัวไล่ยาวไปถึงกลังคอ แล้วเอาหัวผมซบไปตรงอกตัวเอง ส่วนเขาเอาแขนวางพาดตรงเอวผมแบบนั้น ก่อนที่จะตบมือ ไม่นานไฟอัตโนมัติในห้องก็ดับลง พร้อมกับเราทั้งคู่ที่จมสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา

พี่แฟงเวอร์ชั่นหนึ่งหรือพี่แฟงเวอร์ชั่นสองก็ยังกอดอุ่นเหมือนเดิม


#คุนแฟง

by ppeachmm








ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
หล่อถึงขนาดจำไม่ได้ 555

ออฟไลน์ mylittleY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อั้ยยะ หล่อขนาดไหนกันเนี่ย :hao7:

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 23---



"อะ ให้" ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมยื่นกล่องกำมะหยี่สีเทาใบเล็กมาให้ ก่อนจะก้มลงไปจัดการกับสลัดแซลมอลรมควันในจานของตัวเองต่อวันนี้พี่แฟงเป็นคนทำอาหารเช้าครับ เจ้าตัวบอกว่าจะทำมื้อเช้าแสนพิเศษให้ผมทาน ส่วนผมไม่ต้องทำอะไรเลยให้นั่งรอที่โซฟาเฉยๆ อืม...การนั่งรอใครสักคนทำอาหารให้ทานมันรู้สึกดีแบบนี้ี่เอง  แล้วตอนนี้ก็มีสลัดแซลมอลรมควัน ขนมปังโฮลวีทพีนัทบัตเตอร์กับกล้วยหอมน่าตาน่ากินสุดๆ วางอยู่บนโต๊ะ

สงสัยต้องให้พี่แฟงเวอร์ชั่นสองทำแบบนี้บ่อยๆซะแล้ว

"อะไรหรอครับ"

"ของขวัญ"

"ของคุนหรอ"

"ของหมามั้ง สุขสันต์วันเกิด" ตาผมเบิกกว้างด้วยความแปลกใจ ส่วนคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยิ้มกว้างให้ผมทันทีที่ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา ไม่รู้มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มของคนคนนี้มันอบอุ่นเหมือนแสงอาทิตย์ในฤดูหนาว คล้ายรอยยิ้มของหมาม๊ากับปาป๊า ต่างกันตรงที่รอยยิ้มของผู้ชายคนนี้มันพิเศษกว่านั้น เพราะมันทำให้ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของคุนเต้นแรง จนบางทีก็กลัวว่ามันจะระเบิดออกมาไม่วันใดก็วันหนึ่ง

"พี่แฟงรู้"

"รู้สิ เรื่องของมึงกูรู้ทุกอย่างแหละไอ้ตัวนุ่มนิ่ม"

ตึก

ตัก

"พี่แฟงเวอร์ รู้ทุกอย่างไหนลองบอกซิครับว่าวันนี้เราใส่กางเกงในสีอะไร" ใจมันเต้นแรงเกินจนต้องหาอะไรบางอย่างพูดแก้เขินออกไป

"ขาว"

"อึ๋ยยยย นี่แอบดู กกน คุนหรอ"

"ใช่ที่ไหน ในตู้มึงมีแต่กางเกงในสีขาว ถ้ามึงใส่สีอื่นแสดงว่ามึงเอาของกูไปใส่แล้วคุนคุน"

"แงะ จริงด้วย แต่ของพีแฟงคุนไม่น่าใส่ได้หรอกมันตัวใหญ่"

"แหงละ ก็ *กูใหญ่"

"เฮ้อ ขี้โม้"

คนตรงข้ามหัวเราะในลำคอ ส่วนผมก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับประโยคห่ามๆขี้อวดที่อีกฝ่ายชอบอวดอ้างสรรพคุณอยู่บ่อยๆ ใครจะอยากรู้กัน ผมงับขนมปังโฮลวีทคำสุดท้ายเข้าปากก่อนจะเช็ดมือกับผ้าเช็ดมือบนตัก แล้วเอื้อมมือไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีเทาที่วางอยู่ด้านหน้ามาเปิดดูของข้างใน เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในแล้วผมก็ยิ้มออกมาอย่างหยุดไม่ได้ พี่แฟงไม่ใช่คนอ่อนหวาน พี่แฟงไม่ใช่คนพูดเพราะ พี่แฟงเป็นคนห่ามหยาบคายที่สุด พี่แฟงไม่เคยตามใจคุนเวลาคุนอ้อนกินขนม แต่พี่แฟงกลับเป็นคนละเอียดอ่อนที่สุด นี่แหละที่เขาเรียกว่าความโรแมนติกของผู้ชายห่ามๆ

"ชอบมั้ย"

"ไม่อะ" คนตรงหน้าหน้าถอดสีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ผมก้มลงมองของที่อยู่ในมือผมก็รู้ว่าเขาตั้งใจกับมันมากแค่ไหน คงผิดหวังน่าดูที่ผมบอกว่าไม่ชอบมัน

ใช่อยู่ว่าผมไม่ชอบสร้อยเส้นนี้

"..."

แต่ผมนะ....

"คุนรักเลยละ" สร้อยเงินที่มาพร้อมจี้รูปแมว มันไม่ใช่สร้อยกับจี้ธรรมดาที่มีอยู่ทั่วไป มันพิเศษกว่าเส้นอื่น และคงเป็นเส้นเดียวบนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ ตรงที่จี้อันนี้เป็นจี้ที่หล่อขึ้นมาจากหน้าอันอัน เหมือนกันอย่างกะเกะ ส่วนตรงดวงตายังมีเพชรเม็ดเล็กๆอีกสองเม็ดประดับอยู่ด้วย นี่ไงครับผมถึงบอกว่าพี่แฟงละเอียดอ่อน

"ไอ้ตัวนุ่มนิ่มแกล้งพี่หรอ" อีกฝ่ายที่หน้าถอดสีกลับยิ้มกว้างทันทีที่ผมพูดออกไปว่ารักสิ่งที่เขามอบให้

"อื้อ แกล้ง หยอกๆ พี่แฟงดูผิดหวังมากเลย"

"ร้ายนักนะเดี๋ยวนี้ มานี่เลย"

"ก็ร้ายกับพี่แฟงคนเดียวแหละครับ จุ้บ" ผมเดินไปนั่งลงที่ตักของพี่แฟง แล้วก็แถมคิสคิสให้พี่เขาตรงหน้าผากด้วยหนึ่งที

"เอามานี่ พี่ใส่ให้" มือหนาหยิบสร้อยที่อยู่ในมือผมไป

"จับผมขึ้นด้วย ยาวแล้ว" ก่อนจะบรรจงสวมมันลงไปในคอผม

จุ้บ จุ้บ จุ้บ

ตบท้ายด้วยคิสคิสตรงหลังคอน้องคุนอีกสามสี่คิส ริมฝีปากพี่แฟงอุ่นจัง มันทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่ริมฝีปากอุ่นไปนั้นสัมผัสไปตามร่างกาย

"กูตั้งใจทำมานะจี้อันนี้ ด้านหลังสลักชื่อกูด้วย"

"ทำไมเป็นชื่อพี่ละ ต้องเป็นชื่อคุนสิ"

"อ้าวดูจ่ายตังค์ก็ต้องเป็นชื่อกูอะถูกแล้ว"

"อย่างนี้ก็ได้หรอครับ"

"เออ เวลามึงเห็นชื่อกูจะได้คิดถึงกูไง"

"ไม่เห็นชื่อ ก็คิดถึงอยู่แล้วมั้ย" ประโยคนี้ผมไม่ได้ตั้งใจพ฿ดให้อีกคนได้ยิน มันเป็นเพียงประโยคพึงพำที่ติดอยู่ที่ลำคอเท่านั้น

"แล้วก็ ใส่ไว้ตลอดห้ามถอดเข้าใจมั้ย"

"ครับผม"

"กูใส่เครื่องติดตามไว้ในจี้ด้วย"

"โห นี่คุนหนีไปไหนไม่ได้เลยนะเนี่ย"

"มึงเพิ่งรู้ตัวหรอว่าหนีกูไม่พ้น"

"แงะ งั้นถอดคืนดีกว่า ขืนใส่ไว้คุนก็แอบไปซื้อชานมไข่มุกร้านฝั่งตรงข้ามคอนโดไม่ได้แล้วสิเนี่ย"

"เห็นชานมไข่มุกสำคัญกว่าของขวัญกูหรอ เฮอะ ไอ้เด็กอ้วน"

แปะ

"อู้ยยย คุนพูดเล่น ทำไมชอบดีดหน้าผากคุนจัง แดงหมดแล้วเนี่ย" ผมเอามือขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองสองสามที จริงๆมันก็ไม่เจ็บหรอกครับ แค่แกล้งพี่คุนเล่นเฉยๆ

"เจ็บมากใช่มั้ย งั้นเอาไปอีกที"

"ม่ายยย หยอกๆ คุนหยอกไง"

"มึงมันตัวน่ารัก น่าฟัดชิบหาย" อีกฝ่ายกอดผมแน่นขึ้นจนแทบจะหายใจไม่ออก แถมยังเอาหน้ามาซุกไซร้คอผมจนจั้กจี้ไปหมด

"อื้อ รู้ตัวดี"

"หึ คุน"

"คร้ามผม" ผมก้มลงหยิบจี้ขึ้นมาหมุนดู มันน่ารักมากเลย คุนชอบที่สุด จะใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา

"คือ..กู....มีเรื่องจะสารภาพ" มือที่รัดเอวผมแน่นในคราแรกตอนนี้คลายออกเป็นแรงกอดหลวมๆจากทางด้านหลัง หน้าที่เคยซุกไซร้อยู่ที่หลังคอถูกเอามาวางพาดไว้บนไหล่ผม ทำให้ตอนนี้หน้าเราอยู่ชิดกัน หูผมได้ยินลมหายใจของอีกคนที่พ่นลมเข้าออกได้ชัดเจน

"พี่ไปทำผู้หญิงท้องมาหรอ" คุนเคยเห็นในละครที่คุนชอบเปิดดูเพื่อรียนภาษาไทยนะว่าเวลาที่ผู้ชายบอกว่ามีอะไรจะมาสารภาพ 99% บอกไว้ว่าเขาไปทำผู้หญิงท้องมา คุนรู้คุนจำได้ แล้วฉากที่เกิดขึ้นหลังจากนี้คือนางเอกจะต้องหันไปตบหน้าผู้ชายคนนั้นทันที อึ๋ย รุนแรงชะมัด

"ดูละครไทยมากไปรึเปล่า สงสัยกูต้องล็อคโปรแกรมทีวีให้มันเหมาะสมกับวัยมึงจริงๆแล้วเนี่ย เอาแบบ 13+ ละกัน"

"แล้วใช่มั้ยละครับ" หวังว่าชีวิตพี่แฟงจะไม่เหมือนในละครนะ

"ใช่ที่ไหนเล่า กูอยู่กับมึง 24 ชั่วโมงขนาดนี้ ถ้าจะมีคนท้อง คงต้องเป็นมึงแล้วละ"

"พี่ทำคุนท้องหรอ"

"กูจะบ้าตาย"

"..." อ้าวแล้วสรุปใครท้องอะ

"หรือมึงอยากท้องละ"

"ได้หรอ"

"ได้สิ กูทำให้ได้ แต่เราต้องเริ่มทำลูกกันก่อนมึงถึงจะท้องได้"

"เพ้อเจ้อแล้ว คุนไม่ใช่เด็กนะ ผู้ชายท้องได้ที่ไหนเล่าพี่แฟงนี่"

"ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้เด็กน้อยเอ้ย"

"แล้วสรุปมีไรจะสารภาพละครับ"

"คือ กูโกหกมึง เรื่อง...."

"คอนโดกูอะ ไม่ใช่ว่ากูไม่มีตังค์เช่าหรอก จริงๆกูไม่ได้เช่าด้วยซ้ำเพราะพ่อกูซื้อให้ แต่กูอยากมาอยู่กับมึง ก็เลยสร้างเรื่องหลอกมึง กูขอโทษ"

"..."

"โกรธใช่มั้ย"

"..."

"คุน อย่าเงียบดิ กูให้มึงลงโทษเลย จะทำอะไรก็ได้กูยอม แต่คุนต้องยกโทษให้พี่ นะครับ นะครับคุนคุน"

"..."

"คุน น้องคุน น้องคุนคุน ไม่เอาสิครับ อย่าเงียบแบบนี้ พี่ใจไม่ดี คุนคุน" พี่แฟงหน้าถอดสียิ่งกว่าตอนที่ผมบอกว่าไม่ชอบสร้อยที่เขาให้เป็นของขวัญวันเกิดเสียอีก  อีกฝ่ายอุ้มผมวางไว้บนโต๊ะก่อนจะจับให้ผมหันหน้าเข้าหาตัวเขา เพิ่งเคยเห็นพี่แฟงคนโหดทำหน้าหมาหงอยก็วันนี้แหละ เขาพยายามพูดจาออดอ้อนให้ผมยกโทษให้ ส่วนผมได้ทีก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมา

แชะ แชะ แชะ

"คุน! ทำอะไร"

"ฮะๆๆๆ ถ่ายรูปคนหน้าหงอยไว้ดูเล่นแก้เบื่อไงครับ"

"แกล้งพี่หรอ"

"ใช่ คุนรู้อยู่แล้วว่าพี่แฟงโกหกคุน"

"มึง......รู้ได้ไง แล้วรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่"

"ก็ตั้งแต่ตอนแรกเลย สองแฝดบอกน้องคุน" ใช่ครับ ถ้าทุกคนจำได้วันนั้นคุนเขียนไปบอกสองแฝดว่าให้มาช่วยย้ายของเพราะพี่ชายข้างห้องจะย้ายมาอยู่ด้วย คุนรู้ตั้งแต่วันนั้นแหละครับ

"อ้าว แล้วมึงไม่โกรธกูรึไง"

"ก็โกรธนิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ กินเค้กไปคำเดียวก็ลืมแล้ว"

"หึ สมเป็นมึงจริงๆ แล้วไอ้สองแฝดมันบอกรึเปล่าว่ากูขอย้ายมาอยู่ห้องมึงทำไม"

"รู้ครับ แฝดบอกว่าพี่แฟงจะมาจับคุนกิน" คุนจำได้เลยว่าวันนี้ทะเลาะกับกองทัพและขุนพลยกใหญ่เลย เพราะไม่ว่าอย่างไงสองแฝดก็ไม่ยอมให้พี่แฟงย้ายเข้ามาห้องน้องคุนเด็ดขาดกลัวจะถูกจับกิน แต่คุนดื้อไง แล้วน้องคุนซะอย่างเรียนการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ปาป๊าส่งน้องคุนเรียนยูโด เทควันโด มวยไทย มาตั้งแต่จำความได้ ถ้าพี่แฟงจะทำอะไรคุนจริงๆ มีหรือที่คุนจะเอาตัวรอดไม่ได้ ยกเว้นคุนจะยอมเอง ซึ่งมันก็จะกลายเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า อุ้ยยย จะโดนไม้เรียวมั้ยเนี่ย

"มึงนี่ร้ายกว่าที่กูคิดอีกนะเนี่ย รู้ว่ากูจะมาจับมึงกินก็ยังกล้าให้กูเข้ามาอยู่ด้วยเนี่ยนะ แถมยังให้นอนเตียงเดียวกันอีก เกินไปแล้วคุน มึงมันเกินไปจริงๆ"

"คุนร้ายที่ไหน พี่แฟงต่างหากที่ร้ายวางแผนเจ้าเล่ห์ แต่ถึงจะร้ายยังไง ก็ยังไม่เห็นจับคุนกินได้สักที โอ้ยย กัดพุงคุนทำไมเนี่ย"

"เดี๋ยวกูจะจับมึงกินตอนนี้นี่แหละ กัดพุงขาดเลยดีมั้ย พุงขาวๆของมึงเนี่ย เอาให้จมเขี้ยวเลย หมั่นใส้"

"โอ้ย เจ็บๆๆ ยอมแล้ว ไม่เอาๆๆๆ อื้ออ"

"ถึงกูจะยังไม่ได้จับมึงกิน แต่กูก็จีบติดละกัน ใช่มั้ย"

"ก็...คงงั้นมั้งครับ"

"แล้วให้จับกินได้ยัง วันนี้สิบแปดแล้วนะ กูไม่ติดคุกแล้วด้วย" ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอก คุนเพิ่งจะอายุสิบแปดเอง คุนเข้าเรียนเร็วครับแล้วก็ข้ามชั้นด้วยเลยเข้ามหาวิทยาลัยเร็วกว่าคนอื่นหนึ่งปี และวันนี้เป็นวันที่คุนอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์

"ใครบอกว่าไม่ติดคุก"

"อ้าว ก็มึงสิบแปดแล้ว"

"ถึงจะสิบแปดแล้ว แต่กฎหมายบอกไว้ว่าถ้าไม่เต็มใจ ก็ผิดกฎหมาย ถูกจำคุกโทษฐานกระทำชำเราอยู่ดีครับคุณลภัส" ถึงผมจะไม่เก่งภาษาไทย แต่ศัพท์ทางกฎหมายน้องคุนถนัดนะขอบอก ก็เรียนมานิคร้าบบบบ

"ก็เต็มใจซะสิ กูจะได้ไม่ต้องติดคุก นะ นะ กูจะตายเอาแล้วเนี่ย ขอเหอะ นะคับน้องคุนคุน" มือหนาที่โอบเอวผมอยู่ลูบไล้ไปตามหน้าท้องและข้างลำตัวผมไม่หยุดขณะที่พูดจาออดอ้อนหว่านล้อมผม ผมชอบสัมผัสของผู้ชายคนนี้นะ ไม่เข้าใจว่าทำไมมือที่หยาบกระด้างมันจะสร้างความอบอุ่นในสัมผัสได้ขนาดนี้ ผมก้มหน้าลงไปประทับริมฝีปากตัวเองบนปากหยักหนาของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เบื้องล่าง ขบเม้มปากบนสลับกับปากล่างก่อนจะลุกล้ำเข้าไปในโพรงปากตามแบบฉบับที่อีกคนสอนมาไม่ผิดเพี้ยนจนคุณครูหนุ่มรูปหล่อถึงกับคำรามอย่างถูกใจในลำคอ

"หึ จูบกูขนาดนี้ยังจะบอกอีกหรอว่าไม่เต็มใจ"

"ก็เต็มใจให้แค่นี้ไปก่อนไงครับ ส่วนอย่างอื่นคุนยังไม่พร้อม"

"อืม เข้าใจ ไม่เป็นไร กูรอได้ ทนกอดมึง แบบ*แข็งๆต่อไปก็ได้"

"ลามก"

"อะไร ลามกที่ไหน กูพูดเรื่องจริง มันเรื่องธรรมชาติล้วนๆ นักศึกษาแพทย์อย่างกูพูดเรื่องสรีระคนเป็นปกติในบทสนทนาอยู่แล้ว"

"หรออออออออ"

"เออ"

"จับมั้ย"

"จับอะไรละ ไม่เอาาาา!"

.
.
.
.
.
.
กว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาอาหารเช้าแสนอีโรติกมาได้ก็แทบหอบจับ อย่าคิดลึกครับไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ แค่น้องคุนวิ่งหนีพี่แฟงเวอร์ชั่นสองจนเหนื่อยหอบต่างหากละครับ แล้วตอนนี้ก็นอนกองกันอยู่ที่พื้นในส่วนห้องนั่งเล่นกันทั้งสองคน นี่เหนื่อยกว่าตอนที่พี่แฟงบังคับให้คุนออกกำลังกายอะนะเนี่ย เหนื่อยจุง เวลาเหนื่อยๆแบบนี้ร่างกายต้องการน้ำตาล หันไปสบตากับคนที่นอนข้างกันก็เหมือนเขาอ่านใจเราออก เอานิ้วมาจิ้มแก้วแล้วก็ส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่า อย่าได้แม้แต่จะคิดแตะขนมหวานเด็ดขาด นั่นปะไร ไม่น่าหันไปสบตาเลย รู้งี้แอบย่องทำท่าเป็นดื่มน้ำแล้วหยิบคุ้กกี้ช๊อคชิพออกมาจากตู้เย็นก็สิ้นเรื่อง เออ ความคิดดีเฮะ เริ่มแผนเลยดีกว่า

"คุน" เสียงทุ้มดังตามหลังมา มือที่กำลังแง้มฝากล่องคุ้กกี้ต้องรีบชักออกโดยด่วน

"อึ๋ยยยยย" พี่แฟงรู้ทันอะ งือๆๆ

 "นี่กล่องอะไร" อีกฝ่ายยกกล่องที่วางอยู่ตรงชั้นรองเท้าข้างห้องครัวขึ้นมา ลืมไปเลยนะเนี่ยว่าได้กล่องนั้นมาตั้งแต่เมื่อวาน หาอยู่ตั้งนานไม่เจอ ที่แท้ก็ลืมวางไว้ตรงชั้นรองเท้านี่เอง แฟนคลับรู้ต้องเสียใจแน่ๆ น้องคุนผิดไปแล้ว งือๆๆ

"กล่องขนมแฟนคลับส่งมาให้น้องคุนครับ"

"หืม?"

"ส่งมาสามสี่ครั้งแล้วครับ"

"ลายมือด้านหน้าคุ้นจังวะ"

"ก็ส่งมาให้คุนหลายครั้งแล้วไงครับ พี่แฟงก็อาจจะเคยเห็นผ่านๆนะครับ"

"หรอ...วะ" อีกฝ่ายยืนจ้องกล่องใบนั้นเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่างอยู่

"อะฮะ"

"คุน"

"คร้าบบบ"

"มาถ่ายคลิปใหม่ลงคุนคุน ชาแนลกัน"

"วันนี้อะนะ"

"อือ ตอนนี้เลย"

"เฮ้ยยยย"
.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm

.
.
.
ช่วยเม้นต์ติชมกันด้วยน้าาาา

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 24---


คุน's part

"ถ้างั้นอาทิตย์หน้าพี่ก็ต้องเริ่มเรียนแล้วหรอวะ" ขุนพลที่นั่งเล่นเกมส์อยู่ตรงโซฟากลางห้องเอ่ยขึ้น

"เออ"

"โหดสัส แบบนี้เรียกปิดเทอมได้ไงวะ" กองทัพเอ่ยเสริมทันทีหลังจากที่พี่แฟงบอกว่าต้องเริ่มเรียนแล้วตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป ต่างกับพวกผมที่ปิดเทอมไปอีกเดือนกว่าๆ

"ก็กูเรียนหมอมั้ย" เจ้าของประเด็นเอ่ยขึ้นในขณะที่ถอดเสื้อสวมกางเกงกีฬาตัวเดียวนอนออกกำลังกายอยู่ที่พื้นหน้าประตูระเบียง ออกมาสักพักแล้วครับ เนื้อตัวนี่มีแต่เหงื่อเต็มไปหมด

"แต่มันเกินไป คนเรามันก็ต้องพักป่าววะ จะเรียนอะไรขนาดนั้นวะไอ้พี่ นี่มึงเตรียมตัวไปออกรบรึไง ยังกะฝึกทหาร" ขุนพลหันมามองพี่แฟงด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

"ใช่ครับ พี่แฟงควรจะได้พักบ้าง" เพราะผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนเราจะต้องเรียนอะไรหนักขนาดนั้น

"นี่ยังน้อยไป พอกูเริ่มขึ้นวอร์ดแล้ว อย่าว่าแต่เวลาปิดเทอมเลย เวลานอนกับเวลาแ*กข้าวกูยังไม่รู้จะมีรึเปล่า คุนมานี่หน่อย"

"ครับ"

"ไอ้เ*ยเป็นหมอนี่แม่งโคตรทรหดเลยวะ มีลูกมีหลานกูจะสั่งห้ามจะไม่ให้เข้าใกล้เลยนะคณะนี้เนี่ย ใครอยากเรียนกูจะตัดออกจากกองมรดกให้หมด"

"ขุน มรดกมึงคืออะไร ช่วยบอกกูที ตอนนี้ยังขอเงินคุณแม่ท่านใช้อยู่เลย" กองทัพส่ายหน้าเอือมระอาให้กับฝาแฝดของตัวเอง คงไม่เข้าใจว่าตอนนี้น้องชายฝาแฝดของตัวเองมีอะไรเป็นมรดก เพราะรถเอยคอนโดเอยล้วนแล้วแต่เป็นของคุณนายสมรศรีทั้งนั้น

"เออน่า เดี๋ยวก็มี เฮ้ย! ทำไรกันวะ" ขุนพลหันมาเห็นผมนั่งอยู่บนขาพี่แฟงแล้วถูกยกขึ้นยกลงก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ คงจะไม่เคยเห็นแหละครับ เพราะน้องคุนเองก็ยังไม่เคยเห็นใครออกกำลังกายแบบนี้สักคน ก็พี่แฟงนะสิครับให้คุนมานั่งตรงขาแล้วตัวเองก็ยกขาขึ้นลงทั้งๆที่คุนเองก็นั่งอนู่ตรงขาแบบนั้น ตอนแรกที่ถูกขอให้มานั่งแบบนี้แทบล้มแล้วล้มอีก ตัวเอียงกะเท่เร่ แต่ตอนนี้ชินแล้วครับ เริ่มจะบาลานซ์ตัวให้ไม่เอนไปเอนมาเวลาถูกยกขึ้นลงได้

"ออกกำลังกาย"

"แล้วเอาเพื่อนผมไปทำอะไรตรงนั้นไอ้พี่ ส่วงมึงก็นะไอ้คุนไปนั่งขามันทำไม เดี๋ยวกูไปหาไม้เรียวมาก่อนเถอะ จะตีให้ก้นลายเลย นังลูกไม่รักนวลสงวนตัว!"

"ทำไม ก็แฟนกู กูจะให้มันนั่งตนไหนบนตัวกูมันหนักหัวมึงรึไง ทะเลาะกับแฟนมาแล้วอย่ามาทำนิสัยขี้อิจฉาแบบนั้นขุนพล"

"สัสไอ้พี่ จี้ใจดำกูเหลือเกิน"

"แล้วเอาคุนคุนไปนั่งแบบนั้นมันช่วยอะไรหรอพี่"

"เสริมกล้ามเนื้อขา หน้าท้องด้วย เนี่ยยกขึ้นลงแบบนี้ เหมือนเอาดัมเบลมาวางไง"

"แต่ดัมเบลอันนี้หกสิบกว่าโลเลยนะพี่มึง"

"กูสะดวกแบบนี้มึงจะทำไม" คนตอบดูไม่ได้สนใจเสียงนกเสียงกาที่ดังมาจากโซฟาเลยสักนิด แถมยังยกขาที่มีผมนั่งอยู่ขึ้นลงเหมือนไม่ได้หนักอะไรเลยด้วยซ้ำ

"โคตรจะขี้อวด"

"ส่วนมึงก็โคตรจะขี้อิจฉาไอ้ขุนพล พี่มึงไม่เห็นว่าอะไรสักคำ"

"มันจะว่าไรละ ความรักกำลังเบ่งบาน ไม่เห็นหรอรอบตัวมันเป็นสีชมพูสว่างจ้าาาาาซะเหลือเกิน" ผมรีบหันควับไปมองกองทัพที่ถูกพาดพิงทันที เฮ้ยทุกคนนี่คือข่าวใหม่เลยนะครับ

"ทัพ อะไรยังไง เราไม่เห็นรู้เรื่องเลย" ผมรีบลุกขึ้นจากขาพี่แฟงแล้วกระโจนไปนั่งแทรกกลางระหว่างขุนพลและกองทัพที่นั่งอยู่บนโซฟาทันที

"โห กูกราบความอยากรู้อยากเห็นของมึงจริงๆ"

"ก็ไม่มีอะไร แค่คนที่เจอกันตอนไปแคสติ้งงานนะ"

"อะเนอะ แล้วก็บังเอิญอยู่คอนโดเดียวกันด้วย พรหมลิขิตชัดๆ"

"จริงหรอ ใครอะ น่ารักมั้ย"

"แม่งโคตรน่ารักเลย มีวันหนึ่งกูแอบตามไปส่องดูมันที่ซุปเปอร์ด้านล่าง น่ารักพอๆกับมึงนั่นแหละคุน"

"หรอๆๆ แล้วๆๆ..คือ..."

"คุน กูยังออกกำลังกายไม่เสร็จเลย กลับมานี่ก่อน"

"แงๆๆ คุนคุยกับทัพก่อนสิพี่แฟงอะ" ชอบขัดตลอดเลยพี่แฟงนี่ น่าตีจัง!

"มานี่เลยมา มีไอ้ขุนอยู่เสือกแทนมึงแล้วไง เดี๋ยวมึงก็รู้ทุกเรื่องเองแหละ ไม่ต้องไปเสียเวลาถามไอ้ทัพมันด้วยซ้ำ ปากหนักอย่างมันจะบอกอะไร รอฟังจากไอ้พวกปากไม่มีหูรูดดีกว่า"

"จริงด้วย ขุนจอมวุ่นวาย"

เมี้ยว!

ดูสิขนาดอันอันยังเห็นด้วยเลย พออันอันส่งเสียงออกมาทุกคนก็มองหน้ากันแล้วขำออกมาเสียงดังพร้อมเพรียงกัน จนอันอันที่นอนเอนกายอยู่หน้าห้องนอนมองหน้าเราทุกคนสลับกันไปมาอยู่สักพัก สงสัยจะงงว่าเราหัวเราะอะไรกันนักหนาไม่ยอมหยุดสักที
.
.
.
.
.
"อะไรติดแก้มเนี่ย แอบไปกินคุ้กกี้มาอีกแล้วหรอ เดี๋ยวกูกลับมานะจะเอาไปทิ้งให้หมดเลย เอามาจากไหนนักหนาวะไอ้คุ้กกี้เนี่ย" คนตัวหนาที่ยืนอยู่ข้างๆผมในลิฟท์ก้มหน้าลงมาใกล้ๆ ก่อนจะเอามือมาเช็ดอะไรบางอย่างออกจากข้างแก้มผม ถ้าให้เดาคงเป็นเศษคุ้กกี้ที่ผมพึ่งแอบกัดมาหนึ่งคำก่อนออกจากห้องมาแน่ๆ

"แงงง"

"อยู่นิ่งๆ ทำไมปากมึงแดงจังวะ แล้วก็เลิกทำได้แล้วไอ้ปากแบะๆเนี่ย" มือหนาปัดไปมาบนแก้มผมอยู่แบบนั้นไม่เคลื่อนมือออกสักที นี่คือผมกินเปื้อนขนาดนั้นเลยหรอ

"ไม่รู้ อื้อออ" ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากตอบคนตัวสูงไป ริมฝีปากหยักหนาก็บดเบียดลงมาบนปากที่อีกคนบอกว่ามันสีแดงเกินไป ไม่ใช่แค่ริมฝีปากที่ถูกกลืนกิน มือหนายังโอบเอวผมเข้าไปประชิดตัวเองแล้วก็กอดผมไว้แน่นๆอีกต่างหาก โอเค ยอมรับว่ารสจูบของพี่แฟงมันหวานหอมเป็นอย่างมาก แล้วยิ่งพี่แฟงเวอร์ชั่นสองตอนนี้ที่ไม่มีหนวดเคราแล้วด้วยคือมันดีงามมากจนผมยอมรับเลยว่าไม่เคยจะปฏิเสธได้เลยสักครั้ง แต่ประเด็นคือนี่มันใช่ที่ๆควรทำแบบนี้ที่ไหนเล่าพี่แฟง!

ตึ้ง!

"เอ่อ..."

นั่นไงพูดยังไม่ทันขาดคำ ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกบุคคลที่สามที่ยืนอยู่ที่หน้าลิฟต์ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ แต่คนที่เป็นผู้กระทำกลับยังไม่หยุดสิ่งที่ทำอยู่ หรือพูดง่ายๆว่าไม่คิดจะหยุดเลยด้วยซ้ำ ลิ้นร้อนยังตวัดชิมโพรงปากผมไม่หยุดหย่อนอย่างไม่อายสายตาคนอื่น แหงสิก็ตัวเองยืนหันหลังให้ประตูลิฟต์หนิ ต่างกับผมที่หันหลังเข้าตัวลิฟต์และหันหน้าออกไปทางประตูลิฟต์ และผมที่เห็นบุคคลที่สามยืนอยู่ด้านนอกลิฟต์ก็แทบอยากซุกแผ่นดินหนี พยายามใช้มือทั้งสองข้างดันคนตัวหนาออกแต่อีกคนไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด นอกจากไม่ขยับเขยื้อนยังดึงตัวผมเข้ามาชิดอีก โถ่เอ้ย แล้วน้องคุนทำอะไรได้ช่วยบอกที คงไม่กล้าลงมาจากห้องอีกหลายวันเลยเนี่ย ฮือๆๆๆ

"เอ่อ ขอโทษครับ" บุคคลที่สามที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ตัดสินใจพูดขึ้นเมื่อเราสองคนไม่มีท่าทีจะออกจากลิฟต์สักที จะพูดว่าเราสองคนไม่ได้สิต้องบอกว่าพี่แฟงต่างหากที่ไม่ยอมออกจากลิฟต์! ดูเหมือนเสียงทักท้วงของผู้ชายคนนั้นจะทำให้พี่แฟงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ คนร่างสูงถอนหายใจเสียงดังก่อนจะกัดริมฝีปากล่างผมแรงๆครั้งสุดท้าย แล้วก็ยอมละริมฝีปากออกจากกัน และปล่อยผมออกจากอ้อมแขนอย่างไม่ยินยอมเท่าไหร่ เนี่ยหงุดหงิดดูออก เวลาหงุดหงิดทีไรเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มทุกที

"สวัสดีครับพี่ศัก" พี่แฟงส่งยิ้มทักทายผู้ชายคนนั้นด้วยท่าทีเรียบเฉยไม่มีความเขินอายปรากฎบนใบหน้าเลยแม้แต่น้อย ส่วนผมนั้นหลบไปอยู่ด้านหลังคนตัวหนาด้วยไม่กล้าสบตาพี่รปภคนนั้นเพราะรู้สึกอายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เหลือเกิน คนตัวสูงไร้ยางอายจูงมือผมออกมาจากลิฟต์แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยทักคนที่ยืนอยู่ที่หน้าลิฟต์ และเป็นบุคคลที่ยืนเป็นพยานความรักของเราอยู่นานแสนนาน

"เอ่อ ครับ" อีกฝ่ายตอบกลับมาทั้งที่สีหน้ายังดูตกใจอยู่ใบหน้าแดงก่ำคงจะเขินกับสิ่งที่เพิ่งเห็นไปแน่ๆ อย่าว่าแต่พี่ศักแกเลยผมเองก็หน้าแดงไม่ต่างกันไม่ใช่แดงเฉยๆนะยังรู้สึกร้อนไปทั้งหน้าทั้งตัวเลยด้วย รู้ได้อย่างไงนะหรอ ก็เห็นหน้าตัวเองที่แดงเถือกสะท้อนอยู่บนผนังลิฟต์ที่เป็นกระจกนะสิครับ

เราสองคนเดินออกไปจากตรงนั้น ส่วนพี่ศักรปภหนุ่มประจำคอนโดนั้นยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน สงจะสตั้นกัยสิ่งที่เห็นอยู่แน่ๆ เฮ้อ ขอโทษนะครับที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้

"ซื้อของเสร็จแล้วก็รีบกลับห้องอย่าไปเถลถไลที่ไหนเข้าใจมั้ย"

"โอเค ครัชชช"

"ครัชเคิดอะไร ลิ้นพันกันรึไง คุนกว่ากูกับไอ้สองแฝดจะกลับมาก็ดึกๆเลยนะ แล้วก็ไม่ต้องพาอันอันออกไปเดินเล่นด้วย ไม่งั้นกูจะตีให้ขาลายเลย" โดนเขกหัวไปทีหนึ่งอีกต่างหาก อะไรกันก็มันศัพท์วัยรุ่นนะ โถววว พี่แฟงไม่เข้าใจวัยรุ่นเซ็ง

"โอเค รู้แล้วน่า สั่งคุนรอบที่สามร้อยแล้วนะ"

"ก็ต้องย้ำบ่อยๆ มึงมันดื้อไง"

"ดื้อที่ไหนเล่าาา"

"ก็ดื้อที่หน้านี่ไง ดูหน้าตัวเองในกระจกบ้าง ไอ้หน้าดื้อๆแบบนี้เมื่อไหร่จะเลิกทำสักที"

"งืออ หน้าคุนไม่ได้ดื้อสักหน่อย พี่หยิกแก้มคุนอีกแล้ว คุนเจ็บนะ" ผมยกมือขึ้นไปลูบแก้มตัวเองเบาๆ รู้สึกเจ็บนิดๆเมื่ออีกฝ่ายเอานิ้วมาบิดเนื้อแก้มของผมเบาๆเหมือนที่ทำเป็นประจำเวลาที่เขาหมั่นเขี้ยวผม ผมละก็อยากบิดพี่แฟงคืนบ้างแต่ไม่ว่าจะบิดไปตรงไหนก็มีแต่กล้ามเนื้อแข็งๆหาตรงนุ่มๆไม่ได้สักจุด ขนาดแก้มยังแข็งเลยคิดดู คุนเซ็ง! แล้วหน้าคุนมันดื้อตรงไหนถามหน่อย!

"ไปแล้วนะ ไอ้แฝดเอารถมารอแล้ว"

"เคคร้าบ บ๊ายบาย"

"บาย" พี่แฝงขยี้ผมของผมสักพักก่อนผละตัวออกจากผม เดินไปขึ้นรถ BMW คันสีดำของขุนพลที่จอดรออยู่ที่หน้าคอนโด ผมมองรถคันนั้นเคลื่อนออกไปจากคอนโดจนลับสายตาไป ก่อนที่ตัวเองจะมุ่งหน้าไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ชั้นหนึ่งของคอนโดแทน วันนี้เป้าหมายน้องคุนคือซื้อวัตถุดิบทำสุกี้ชาบูน้ำดำ!
.
.
.
.
.
.

"อื้อ หนักจังเลย" ถุงผ้าใบใหญ่สองใบที่บรรจุของสดมากมายเอาไว้ถูกวางลงตรงพื้นทันทีที่เดินมาอยู่ที่หน้าลิฟต์คอนโด ระยะทางจากซุปเปอร์มาเก็ตมาถึงลิฟต์คอนโดนั้นก็เป็นระยะทางพอสมควร ผมยกแขนขึ้นบิดไปมาขณะที่รอกดลิฟต์อยู่ ถือถุงหนักจนแขนแทบเคล็ดแหนะ

"เฮ้อ เมื่อยจัง"

"คุณคุน" เสียงทุ้มของใครบางคนดังมาจากด้านหลัง ผมเลยหันไปดู พบว่าเป็นพี่รปภหนุ่มเจ้าเดิมที่เป็นสักขีพยานรักของผมเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน

"อ้าวพี่ศัก ยังไม่กลับหรอครับ"

"เปลี่ยนกะพอดีครับ กำลังจะกลับ แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลยครับเนี่ย"

"ของสดครับ สงสัยจะซื้อเยอะไปหน่อย เป็นแบบนี้ทุกทีครับเวลามาซื้อของที่ซุปเปอร์คนเดียว เห็นอะไรก็อยากหยิบไปหมด แต่เวลามาซื้อกับพี่แฟงนี่ต้องหยิบเฉพาะของที่จะใช้เท่านั้น ไม่งั้นจะโดนบ่นยาวเหยียดเป็นชั่วโมงเลย บางทีบ่นจนคุนหูชาไปสามวันเลยนะครับ" ผมเล่าให้พี่ศักฟัง ส่วนแกก็ยิ้มรับ ยืนฟังผมบ่นเรื่องพี่แฟงให้ฟังโดยไม่ขัดอะไรเลย

"อ้อครับ"

ตึ้ง!

"ลิฟต์มาแล้ว คุนไปก่อนนะคร้าบบบพี่ศัก" ประตูลิฟต์เปิดออก ผมก้มลงหยิบถุงผ้าทั้งสองขึ้นมา แต่ด้วยความที่ของด้านในมันเยอะมาก ทำให้ของหลายอย่างหล่นออกมาด้านนอก มะนาวสองสามลูกกลิ้งไปโน่นแล้วด้วย โอ้วโนววว

"ให้ผมช่วยถือขึ้นไปบนห้องมั้ยครับ"

"พี่ศักใจดีจัง คุนเกรงใจ แต่ถ้าไม่เป็นการรบกวนพี่ศักจะช่วยคุนจะโอเคมากๆเลยครับ"

"ไม่รบกวนเลยครับ งั้นผมช่วยนะครับ" พี่ศักหยิบถุงผ้าขึ้นมาก่อนจะก้มลงเก็บลูกมะนาวสามสี่ลูกที่กลิ้งอยู่บนพื้นก่อนเดินตามผมเข้ามาในลิฟต์

"ขอบคุณคร้าบบบ" พี่ศักกับผมเราไม่ได้พูดอะไรกันต่างคนต่างยืนเฉย ผมเพิ่งสังเกตวันนี้เองว่าพี่ศักมีกล้ามแขนด้วยนะเนี่ย ทุกครั้งที่เจอก็จะเห็นแกใส่ชุดรปภแขนยาวเต็มยศ แต่วันนี้แกคงถอดเสื้อยูนิฟอร์มออกเหลือแต่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงทำงาน พี่ศักคงอายุไล่เลี่ยกับพี่แฟงแต่ผิวพรรณดูหยาบกร้านกว่ามาก คงเพราะต้องทำงานตากแดดตากลม


แกร๊ก!

"เชิญครับ เข้ามาในห้องเลย ไม่ต้องถอดรองเท้าก็ได้ครับ" ผมเปิดประตูคอนโดออก เดินนำพี่รปภคนมีน้ำใจเข้าไปในห้อง อีกฝ่ายเดินตามเข้ามาติดๆ และทำท่าจะถอดรองเท้าผมเลยต้องห้ามไว้ กลัวแกเสียเวลาถอดรองเท้าเข้าออก

"อ้อครับ แล้วให้ผมวางไว้ตรงไหนครับ"

"อ้อ วางไว้ตรงเคาน์เตอร์ครัวเลยคร้าบบบพี่ศัก"

"ครับ"

"วันนี้คุนจะทำซุปเสฉวนให้พี่แฟงกิน พี่แฟงชอบครับ"

"หรอ...ครับ"

แกร๊กๆๆ

"เสียงอะไรครับ" พี่ศักที่กำลังช่วยผมหยิบของออกมาจากถุงผ้าเอ่ยถามขึ้นเมื่อได้ยินเสียงอะไรตะกุกตะกักอยู่ในห้องนอน

"อ้อ สงสัยอันอันเล่นของเล่นอยู่ในห้องนอนละครับ" ผมหันไปตามเสียง ก่อนจะตอบอีกฝ่ายไปด้วยน้ำเสียงเรียบ

"คุณคุนอยู่คนเดียวหรอครับ"

"วันนี้มีคุนคนเดียวครับ พี่แฟงกลับมาดึกๆโน้นเลย ออกไปเตะบอลกับสองแฝดนะครับ"

"คุณแฟงอยู่กับคุณคุนที่ห้องนี้หรอครับ"

"ใช่ครับ พี่แฟงก็นอนกับคุณทุกคืนในห้องนอนใหญ่แหละครับ"

"..."

"พี่ศักชอบทานอะไรครับ เผื่อวันไหนคุนทำให้พี่แฟงทานจะได้เอาไปฝากพี่ศักด้วย"

"หึ"

"ว่ายังไงครับพี่ศัก"

"นี่มันนอนกับคุนทุกคืนเลยหรอ" สีหน้าของพี่ศักดูแปลกไป คนที่มักหัวเราะและยิ้มด้วยความอ่อนโยนให้คุนทุกครั้งที่เจอกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าเย็นชาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

"เอ่อ หมายถึงพี่แฟงหรอครับ"

"ใช่ หรือว่ามีคนอื่นอีกหรอที่มานอนที่นี่"

"ก็มีนะครับ บางทีขุนพลกับกองทัพก็มา" ผมที่กำลังเก็บของเข้าตู้เย็นยืนหันหลังให้พี่ศักจู่ๆก็รู้สึกว่าน้ำเสียงของอีกคนดูหงุดหงิดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

"แรดจริงๆ"

"ฮะ? อะไรนะครับ คุนได้ยินไม่ค่อยถนัด"

"กูบอกว่ามึงแรดไง ไม่ได้ยินหรอ อ่อยผู้ชายไปทั่ว ทำไมมึงต้องมีคนอื่น มีกูคนเดียวไม่ได้รึไง"

"เอ่อ พี่ศักพูดอะไรนะครับ คุนไม่เข้าใจ" พี่ศักที่เมื่อครู่ยืนอยู่อีกฝั่งของครัว ตอนนี้กลับเดินเข้ามายืนอยู่ด้านหลังของผมแล้ว

หมับ!

"ร่านนักใช่มั้ย มึงนะ!" ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พี่ศักในตอนนี้แตกต่างจากคนที่ให้กล้วยทอดผมทุกเย็นราวกับคนละคน เขาคว้าข้อมือผมไว้แล้วก็บีบมันอย่างแรง

"พี่ศักทำอะไรครับเนี่ย"

"ก็ทำอย่างที่ผู้ชายคนอื่นทำกับมึงไง"

"พี่ศักปล่อยคุนนะคุนเจ็บ" เขาบีบข้อมือผมแน่น ก่อนจะดึงผมออกมาจากครัว ลากผมไปยังห้องนอนอย่างทุลักทุเลเพราะผมพยายามแกะมือเขาออก แล้วก็ขืนตัวเองไว้

"ไอ้แฟงก็หน้าด้านหน้าทน กูส่งของไปขู่มันมากมายมันไม่สนใจเลยสักนิด มึงคงลีลาเด็ดสินะ มันถึงไม่กลัวคำขู่ของกู"

"โอ้ย พี่ศัก คุนเจ็บ พี่เป็นคนสั่งพัสดุพวกนั้นมาหรอ"

"ใช่กูนี่แหละเป็นคนส่งมาให้มัน มึงไม่ต้องมาทำเป็นดิ้นเรียกร้องความสนใจกู อ่อยกูทุกวันแล้วยังจะไปอ่อยคนอื่นต่ออีกนะ ร่านจริงๆ" เขาลากผมมาถึงปลายเตียงแล้วโยนผมลงไปบนเตียงหนานุ่มในทันที ก่อนจะกระโดดตามขึ้นมา แล้วพ่นคำหยาบคายมากมายใส่ผมไม่หยุดหย่อน พี่ศักคนนี้ไม่ใช่คนที่ผมเคยพูดคุยด้วยเลยสักนิด เขาเปลี่ยนไปจนผมเองก็ตกใจพอสมควร

"คุนไปทำแบบนั้นตอนไหน พี่ศักปล่อยคุนนะ โอ้ย" ผมดิ้นไปมาจนเขาเอามือมาจับข้อเท้าผมทั้งสองข้างไว้

"ทำไมกูต้องปล่อย ผัวมึงไม่อยู่ก็มาเล่นสนุกกับกูหน่อยจะเป็นไรไป"

"ใครบอกมึงว่าผัวคุนไม่อยู่"
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm


----++++-----
อึ๋ยยย ทุกคน มาจัดการไอ้โรคจิตกัน!!











ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด