❤… ลูกคู่สื่อรัก ...❤ จบแล้ว ... ย้ายได้ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤… ลูกคู่สื่อรัก ...❤ จบแล้ว ... ย้ายได้ค่ะ  (อ่าน 11209 ครั้ง)

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก 13

วันนี้ลมตื่นสายกว่าจะได้ลงมาจากชั้นสองก็เกือบเจ็ดโมงแล้ว เลยตั้งใจจะไปหากาแฟดื่มสักแก้วและตอนนี้รักษ์เองก็คงตื่นแล้วเป็นแน่คงจะอยู่ในครัวอย่างเคย ลมเลเลยมุ่งไปที่ห้องครัวทันที แต่เมื่อไปถึงก็ต้องตกใจเพราะพี่เลี้ยงของลูกเขายื่นอยู่บนราวบันไดสูงมือข้างหนึ่งถือหลอดไฟไว้อยู่

               “ทำอะไร” ถามเป็นทั้งที่พอจะเดาได้อยู่ก่อนแล้ว

               “อ่ะ! เปลี่ยนหลอดไฟนะครับ ดวงนี้มันไม่ติดแล้ว”  รักษ์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออยู่ก็มีเสียงเอ่ยขึ้น

รักษ์ไม่ได้สนใจลมเลต่อหันมาสนใจกับการใส่หลอดไฟแทนจับๆ หมุนๆ อยู่ครู่หนึ่งก็เรียบร้อยก่อนจะไต่ราวบันไดเหล็กลงมาแต่เมื่อถึงสองขั้นสุดท้ายดันก้าวพลาดจนร่างกายทรงตัวไม่อยู่เลยร่วงลงมา รักษ์ตกใจมากคิดว่าคงได้ตกไปนอนบนพื้นเย็นๆ อย่างงแน่นอน แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะลมเลที่อยู่ใกล้ๆ คว้าร่างของรักษ์ไว้ทันเลยรั้งร่างบางงมาแนบออกไว้

               “ซุ่มซ่าม” ลมเลดุคนในออมกอดเบาๆ ดีเท่าไหร่ที่เขารับไว้ทันไม่อย่างนั้นคงได้เจ็บตัวไปแล้ว

               “ผมเปล่าซูมซ่ามสักหน่อย แค่พลาดไปนิดเดียวเองครับ” รักษ์แหงนหน้าขึ้นไปเถียงอีกคน

               “ก็นั้นแหละซูมซ่าม” ลมเลเถียงต่อพร้อมกับกระชับเอวอีกคนเข้ามาใกล้

               “มะ ไม่ครับ” รักษ์ใจแกว่งขึ้นมาทันเมื่อลมเลรั้งเข้าไปจนชิดตัวขนาดนี้ แถมยังโน้มหน้าเข้ามาใกล้อีก พยายามดิ้นตัวให้หลุดแต่กลายเป็นว่าลมเลยิ่งโอบแน่นขึ้นแถมยังมาส่งยิ้มยียวนมาให้อีก แบบนี้แกล้งกันชัดๆ รักษ์

               “ปล่อยผมได้แล้วครับ” รักษ์บอกทั้งยังก้มหน้าเพราะไม่กล้ามองหน้าลมเลแค่นี้หัวใจก็ทำงานหนักมากแล้ว

               “แล้วถ้าฉันไม่ปล่อย หึหึ” ลมเลยังคงแกล้งอีกคนรู้สึกชอบใจไม่น้อยที่ได้เห็นใบหน้าขาวๆ นั้นขึ้นสีแดงระเรือง

               รักษ์พอได้ยินลมเลว่าแบบนั้นก็มองค้อนแก้มป่องใส่อีกคนทันทีอย่างให้รู้ว่าเขาเคืองจริงๆ นะ แต่ลมเลไม่ได้สะทกสะทานอะไรเลยยังคงยิ้มกวนประสาทและไม่ยอมปล่อยรักษ์ กลับชอบที่รักษ์แสดงอาการแบบนี้มันดูน่ารักราวกับเด็กโดนขัดใจ ซึ่งนานๆ จะได้เห็นรักษ์แสดงออกมา แต่ช่วงนี้ดูเหมือนจะเห็นบ่อยขึ้นเพราะมีหลายครั้งที่เขาแกล้งอีกคนจนต้องเป็นอย่างวันนี้

               ครู่หนึ่งลมเลก็ปล่อยรักษ์ให้เป็นอิสระและได้รับสายตาดุจากคนตัวขาวมาอีกครั้งและมันก็ไม่ได้ทำให้เขากลัวกลับหัวเราะอย่างชอบใจ ผิดกับรักษ์ที่ดูหัวเสียหน่อยๆ

               “จะเปลี่ยนหลอดไฟทำไมไม่บอกฉัน” ลมเลหาเรื่องมาคุยเพื่อแก้สถานการณ์

               “ผมเปลี่ยนได้ครับไม่ได้ยากอะไร” เรื่องแค่นี้รักษ์ทำได้สบาย

               “แต่มันอันตราย” ลมเลบอกอย่างนึกเป็นห่วงจริงๆ เมื่อกี้ถ้าเขาไม่รับไว้ก็เจ็บตัวไปแล้ว

   “ผมไม่เป็นอะไรครับ” รักษ์ยังเถียงทั้งเก็บบันไดไปวางมุมห้องครัว ลมเลได้แต่สายหัวกับความดื้อของอีกคนใครว่าลูกเขาดื้ออย่างเดียวละพี่เลี้ยงก็ดื้อด้วยเหมือนกัน 

               “เย็นนี้ไม่ต้องทำกับข้าวนะเดี๋ยวไปกินบ้านแม่” ร้องบอกรักษ์ที่กำลังจัดเตรียมอาหาร ก็นึกสงสารอีกคนเหมือนกันทั้งดูแลสองแสบ ทั้งทำงานต่างๆ ในบ้านแทนป้าอุ่นที่ป่วย ลมเลคุยกับรักษ์แล้วว่าจะจ้างคนอื่นมาทำแทนป้าอุ่นไปก่อนแต่รักษ์ก็ไม่ยอมยืนกรานว่าจะทำเอง ถึงรักษ์จะบอกว่ามันไม่ได้หนักหนาอะไรแต่เอาจริงๆ แล้วเขาคิดว่ามันก็ไม่เบาเลยนะเท่าแต่ดูแลสองแสบก็พอได้เหนื่อยยังงานบ้านสารพัด ความจริงเขาจะไม่ยอมฟังคำพูดของรักษ์ก็ได้แต่พอเห็นอีกคนตั้งอกตั้งใจทำแถมยังสอนให้สองแฝดได้สองทำงานต่างๆ ลมเลเลยหยุดความคิดที่จะจ้างคนอื่นมาทำ

               “ดีเลยครับ ไม่ได้ไปหาคุณป้าหลายวันแล้ว” รักษ์ตอบรับทั้งตักข้าวต้มหมูหอมๆ ใส่จาน

               “นายไปตามเจ้าแฝดเถอะ เดี๋ยวฉันตักให้เอง” ลมเลมักช่วยอะไรเล็กๆ น้อยนี้เสมอ

               “ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวน้องอินทร์กับน้องจันทร์ลงมาเองครับ” รักษ์ขึ้นไปปลุกสองแฝดให้อาบน้ำแต่งตัวนานแล้วเดี๋ยวก็คงลงมา

               “เดี๋ยวก็มัวนอนไม่ยอมตื่น” พูดแล้วก็นึกถึงนิสัยขี้เซาของลูกๆ กว่าจะยอมตื่นยอมลงมาก็นานต้องไปตามตลอด

               “ตื่นอาบน้ำกันเสร็จแล้วละครับนี้ก็คงเสริมหล่อกันอยู่ละครับ” รักษ์นึกถึงสองแสบที่พอแต่งตัวเสร็จก็ชอบไปแย่งกันส่องกระจกหวีผมจัดผม แล้วคอยถามเขาว่าหล่อหรือยัง เพราะทำตัวน่ารักแบบนี้รักษ์ถึงหลงนัก

               “หรือ มาฉันยกไปเอง” ตอบรับก่อนอาสายกจานข้าวไปที่โต๊ะอาหาร รักษ์บอกขอบคุณเบาๆ ก่อนจะหยิบน้ำตามอีกคน

               “อารักษ์ครับบบบบบบ” เสียงสองแสบร้องเรียกดังมาแต่ไกลก่อนจะวิ่งเข้ามาหารักษ์จนต้องปราม

               “อย่าวิ่งครับเดี๋ยวล้ม” ว่าแต่ก็ยกมือรับเด็กทั้งสองที่เข้ามาเกาะเอว “ไหนให้อารักษ์ดูหน่อยครับแต่งตัวหล่อหรือยัง” พอได้ยินแบบนั้นเด็กทั้งสองรีบหมุนตัวโชว์ทันที รักษ์มองพิจารณาแล้วก็ต้องยิ้มเพราะสองแสบแต่งตัวเรียบร้อยดีไม่มีใส่กลับหน้ากลับหลังแล้ว

ลมเลมองการกระทำของทั้งสามแล้วรู้สึกคิ้วกระตุกแปลกๆ เขานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารนี้ด้วยแท้ๆ แต่ทำไมถึงได้รู้สึกไร้ตัวตนนัก ก่อนหน้าที่รักษ์จะมาอยู่สองแสบจะต้องตะโกนร้องเรียกเขาเข้ามาวุ่นวายจนต้องได้โต้ฝีปากแต่มาเดี๋ยวนี้เขากลายเป็นพ่อที่ไร้ตัวตนในสายตาลูกไปแล้วหรือ ทั้งที่นึกน้อยอกน้อยใจลูกตัวเองแต่กลับยกยิ้มอย่างพอใจที่สองแสบเข้ากับรักษ์ดีแบบนี้อะไรๆ มันก็ง่ายขึ้น

               “อะแฮ่ม มากินข้าวกันได้แล้ว” ร้องบอกทั้งสามที่เอาแต่คุยกัน

               “ไปครับกินข้าวกัน” รักษ์บอกสองแสบรีบเข้านั่งที่ประจำของตัวเองทันที

ข้าวเช้ามื้อนี้ก็อร่อยและสนุกเฮฮาอย่างเช่นทุกวันเพราะสองแสบมักเล่านู้นนี้นั้นให้ฟังตลอดทั้งที่บอกประจำว่าอย่าคุยตอนกินข้าวแต่สองแสบก็ไม่เคยทำได้สักครั้งเลยมักโดนดุเวลากินข้าวทุกครั้งไปแต่ก็ไม่เคยหลาบจำเลยจริงๆ

               ตอนนี้ก็สายแล้วรักษ์จัดการเตรียมข้าวของสำหรับพาสองแสบเข้าสวนใช่แล้วฟังไม่ผิดกัน เพราะวันนี้ลมเลเอ่ยชวนพวกเขาไปเที่ยวในสวน เห็นว่าวันนี้จะมีใส่ปุ๋ยปาล์มน้ำมัน รักเองก็อยากไปดูบ้างสองแสบที่ไม่อยากไปในตอนแรกก็รีบเสนอตัวทันทีเมื่อเห็นว่าอารักษ์ของตนอยากไป

               “อันนี้เอาไปด้วยหรือเปล่า” ลมเลร้องถามถึงตะกร้าใส่ขนมหลายๆ อย่าง รักษ์ทำเพียงพยักหน้ารับแล้วจัดการห่อข้าวเที่ยงต่อเพราะไม่อยากให้ลมเลรอนาน

               “เสร็จหรือยัง” หลังจากนำของไปใส่รถเรียบร้อยก็เดินเข้ามาหารักษ์ในครัวอีกครั้ง

               “ใกล้แล้วครับ คุณลมช่วยหยิบผักในกล่องที่อยู่ในตู้เย็นให้ผมหน่อย” บอกก่อนจะวานอีกคนให้ช่วยจะได้เสร็จเร็วๆ เมื่อก่อนรักษ์ก็ค่อนข้างเกรงใจลมเลเวลาจะให้ช่วยอะไรแต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้วอะไรที่ลมเลช่วยได้รักษ์ก็ให้ช่วยเพราะเจ้าตัวเป็นคนบอกเองว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอกกันไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม

               “น้ำแดงนี้เอาไปด้วยหรือเปล่า” ลมเลร้องถามอีกเมื่อเห็นขวดน้ำแดงในตู้เย็น

               “เอาไปครับผมเตรียมไว้ให้คุณนั้นแหละ ในสวนอากาศร้อนมีน้ำแดงกินน่าจะสดชื้นครับ” รักษ์บอกทั้งหันมายิ้มให้ พอดีกับที่ลมเลมองมาพอดี

               “ขอบใจ” ตอบรับทั้งรอยยิ้มทำให้คนมองต้องรู้สึกเขินอายกับรอยยิ้มนั้น

               “เสร็จแล้วไปกันเถอะครับ” รีบหันมาจัดการเอากล่องอาหารจัดใส่ตะกร้าแล้วร้องบอกอีกคนจากนั้นก็เดินออกมาโดยไม่รอคนที่ยืนยิ้มอยู่ ลมเลเห็นอาการของรักษ์แล้วชอบใจรักษ์มักเก็บอาการไม่เก่งเพราะแบบนี้เวลารู้สึกอะไรลมเลเลยรู้หมดไอ้อาการเขินอายจนต้องรีบเดินไปนั้นก็ด้วย ทำตัวน่ารักแบบนี้ไงเขาถึงได้เผลอตัวเผลอใจไปกับเด็กเมืองกรุงคนนี้

...

ตอนที่ 13 มาแล้วน่าาาา ก็ยังคงเรื่อยๆๆๆๆๆๆ แต่งไปยิ้มไปตลอดเลยยยยย รักลูกคู่ ใครรักลูกคู่เหมือนกันขอเสียงหน่อยจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 14

   "น้องอินทร์ น้องจันทร์ อย่าไปไกลอารักษ์นะครับ" รักษ์ร้องบอกเด็กทั้งสองที่วิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆ มือก็จับเม็ดปุ๋ยเล็กๆ หว่านไปตามโคนต้นปาล์มน้ำมัน

   "คุณรักษ์ครับเอามาให้ผมต่ะ เดี๋ยวนายหัวมาเห็นผมถูกด่า" เสียงสำเนียงใต้พูดบอกรักษ์รอบที่สิบได้แล้ว

   "ผมแค่ใส่ปุ๋ยเองคุณลมจะมาว่าทั้วทำไมละครับ" รักษ์บอกอีกคนที่เอาแต่เกาหัวไม่เลิก ไม่เข้าใจว่าทั้วจะกังวลอะไรขนาดนี้

   "แต่มันงานผมครับ"

   "ทั้วก็ไปเอากระถังอีกอันมาใส่ อันนู้นว่างอยู่นะ" รักษ์บอกทั้งชี้มือไปที่กระถังสีดำข้างกระสอบปุ๋ย

ทั้วยิ่งกุมขมับกว่าเดิมคิดในใจ 'ทำไมพี่เลี้ยงนายดื้อจังว่ะ'

   "คุณรักษ์ไปอยู่กับน้องแฝดเถอะครับ" ทั้วยังคะยั้นคะยอไม่เลิกเพราะกลัวนายหัวลมจะแพ่งกระบาลเอา

   "ไม่เป็นไรสองแสบอยู่ใกล้ๆ ตรงนี้เอง" รักษ์ยังเถียงต่อจนทั้วเหนื่อยจะพูด กังวลก็แต่นายหัวจะแพ่งกระบาลเพราะให้พี่เลี้ยงลูกแกมาทำงาน

   "อารักษ์น้องอินทร์ช่วย"

   "น้องจันทร์ช่วยด้วย"

สองแสบเลิกวิ่งเล่นหันมาสนใจอารักษ์ที่กำลังใส่ปุ๋ยปาล์มน้ำมันแทน เล่นกันสองคนก็สนุกดี แต่อยู่กับอารักษ์มีความสุขกว่า

   "ไม่เป็นไรครับน้องอินทร์น้องจันทร์ ตามอารักษ์มาเฉยๆ ก็พอเดี๋ยวเปื้อนครับ" รักษ์บอกสองแสบ มือก็หยิบเม็ดปุ๋ยเล็กๆ ใส่โคนต้น

ตั้งแต่มาถึงสวนลมเลก็หายไปเลยรักษ์ก็เลยมาขอทั้วลองใส่ปุ๋ยเพราะดูแล้วน่าจะสนุกดีและตอนนี้ก็ใส่ไปได้หลายต้นแล้วด้วย อากาศร้อน เหงื่อก็เริ่มออก มือที่จับเม็ดปุ๋ยก็เริ่มชื้นจนรู้สึกคันยุบยิบๆ ตามมือแต่รักษ์ก็ไม่ได้สนใจยังคงใส่ปุ๋ยต่อไปเรื่อยๆ โดยมีสองแฝดอยู่ข้างๆ ชวนคุยนู้นคุยนี้ หัวเราะบ้างเวลาแฝดทำท่าทางตลก ทั้วเองก็ใส่ปุ๋ยอยู่ต้นปาล์มแถวถัดไป คอยมองรักษ์อยู่ตลอดหน้าตากังวลเป็นอย่างมาก ปากก็บ่นอะไรขมุบขมิบไม่หยุดเห็นแล้วก็ตลกดี

   "หิวกันไหมครับ" รักษ์ร้องถามเด็กทั้งสอง

   "น้องจันทร์หิวววววว" มีเสียงขุนจันทร์ร้องกลับมาเสียงดังคงจะหิวมากๆ เพราะนี้ก็เดินมาไกลแล้ว

   "โอเคครับ เดี๋ยวเราเดินใส่ปุ๋ยวนกลับไปเนอะ แล้วไปกินของอร่อยกันนะครับ"

พอได้ยินแบบนั้นสองแสบก็ร้องเย้เสียงดัง รักษ์ชวนสองแสบคุยอะไรไปเรื่อยเพราะกลัวเด็กทั้งสองเบื่อ ดีมีทั้วคอยช่วยแกล้งสองแสบจนหัวเราะดังไปทั่วทั้งสวน

   "ทำอะไรกัน" เสียงของลมเลถามขึ้นเมื่อเดินมาอยู่ใกล้ๆ ต้นปาล์มที่รักษ์กำลังใส่ปุ๋ยอยู่

   "อุย! นายหัว" ทั้วร้องอย่างตกใจ เห็นสีหน้านายแล้วเสียวสันหลังแปลกๆ

   "เออฉันเอง แล้วนายทำอะไร" ตอบลูกน้องไปก่อนจะถามอีกคนที่ใส่ปุ๋ยอยู่อย่างไม่สนใจเขาที่เข้ามา ลูกเขาเองก็ไม่ได้สนใจพ่อมันเลย

   "ก็ใส่ปุ๋ยไงครับ" รักษ์บอกอย่างไม่มีอะไรทั้งยกถังปุ๋ยขึ้นโชว์อีกคน สองแสบก็เกาะเอวอยู่ซ้ายขวา

ลมเลเห็นแล้วคิ้วกระตุกทันที ก็มือขาวๆ นั้นแดงไปหมดคงเพราะโดนปุ๋ยกัด แล้วเจ้าตัวไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือยังไงกัน

   "ใครให้นายทำ"

   "ไม่มีครับ ผมทำเอง"

   "เห้อ ให้มันได้อย่างนี้สิ" ว่าแล้วก็ไปคว้ากระถังปุ๋ยจากมืออีกคนเอายัดใส่มือลูกน้องก่อนจะออกแรงรั้งให้รักษ์เดินตาม รักษ์เองก็เดินตามไปอย่างงงๆ เหลือไว้เพียงสองแสบและลูกน้องที่ยังงงกับเหตุการณ์ 'อะไรของนายหัว' ทั่วคิด

   "พี่ทั้วพ่อพาอารักษ์ไปไหน" ขุนอินทร์ถามทั้วขึ้นอย่างสงสัย ก็อยู่ๆ พ่อมาพาอารักษ์ไปเฉยเลย

   "พี่ก็ไม่รู้ครับ" ทั้วบอกทั้งเกาหัวแกรกๆ

   "พ่อทำหน้ายักษ์ด้วย" ขุนจันทร์ว่าทั้งยกนิ้วชี้สองข้างมาไว้ข้างปาก

สองแสบหันมองหน้าอย่างรู้กันว่าจะไม่ตามอารักษ์ไปเพราะพ่อของเด็กทั้งสองเล่นทำหน้ายักษ์ขนาดนั้นซึ่งสองแสบรู้ดีว่าควรอยู่ห่างๆ แต่ก็แอบเป็นห่วงอารักษ์กลัวพ่อจะดุ แต่ทั้งสองก็ห่วงชีวิตตัวเองเช่นกัน อิอิ

   "เราไปเล่นตรงนู้นรออารักษ์ดีกว่าพี่ทั้ว" ขุนจันทร์ร้องบอกทั้งกระโดดเกาะหลังทั้วจนตัวเซ

   "เออ พี่ก็ว่าเราไปตรงนู้นกันดีกว่า" ว่าทั้งรับขุนจันทร์ขึ้นหลังให้ดี เอากระถังปุ๋ยไปส่งให้คนงานใกล้ๆ แล้วตัวเองก็พาสองแสบไปเล่นเพราะยังรักชีวิตตัวเองถ้าไม่ไปมีหวังสองแสบแผลงฤทธิ์ ซึ่งทั้วรู้ดีว่ามันน่ากลัวขนาดไหน ร้ายพอกันทั้งพ่อทั้งลูก ก่อนไปทั้วหันไปมองทางที่รักษ์กับลมเลเดินจากไปก็ได้แต่สะท้อนในใจ 'โชคดีนะครับคุณรักษ์'



   ทางด้านลมเลนั้นพารักษ์มาที่ถังเก็บน้ำรีบจับมืออีกคนมาล้างเอาคราบปุ๋ยออก รักษ์มองการกระทำของอีกคนอย่างงงๆ จะขัดขึ้นก็กลัวเพราะลมเลมีสีหน้าไม่พอใจเอามากๆ เขาแค่ใส่ปุ๋ยทำไมต้องโกรธขนาดนี้

   "เอ่อ ผมล้างเองก็ได้ครับ" รักษ์บอกไปอย่างเกรงใจ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือสายตาดุๆ จากอีกคน รักษ์เลยจำยอมอยู่เฉยๆ ให้ลมเลจัดการไปจนล้างมือสะอาด

   "ทีหลังอย่าไปใส่อีก" ลมเลร้องบอกเมื่อปล่อยมืออีกคนเป็นอิสระ

   "ทำไมละครับ ก็ไม่ได้ลำบากอะไรเลยนะครับ ผมทำได้" รักษ์บอกทั้งสะบัดมือเอาน้ำออก รู้สึกคันมือจนต้องแอบเอามือลูบ

   "รู้ว่าทำได้แต่ดูมือเสียก่อนแดงไปหมด แล้วอย่าไปเกามัน" ว่าทั้งปัดมืออีกคนไม่ให้ลูบ

   "ก็ผมคัน" อุส่าห์แอบลูบยังรู้อีก

   "ก็เพราะนายดื้อไปทำไง ดูถูกปุ๋ยกัดจนแดงไม่หมด เดี๋ยวไปหายาทา" ว่าอีกคนที่ดื้อไม่เข้าเรื่อง

รักษ์มองการกระทำของลมเลแล้วรู้สึกอยากคิดเข้าข้างตัวเองเหลือเกินที่ลมเลเป็นห่วงเขาแบบนี้ ที่ทำหน้าไม่พอใจก็เพราะเห็นอาการไม่ดีที่มือของเขาสินะจนอดยิ้มขึ้นมาได้

   "ยังจะมายิ้มอยู่อีกไม่คันแล้วหรือไง" ลมเลว่า ทั้งหลบรอยยิ้มจากอีกคน ให้ตายเถอะ รอยยิ้มนี้มันกวนใจเขาจริงๆ

   "ขอบคุณครับ" รักษ์บอกขอบคุณทั้งรอยยิ้ม รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ลมเลก็น่ารักเหมือนกันรักษ์คิด

   "ไปที่เสื่อเถอะได้เอายาทา สองแสบทำไรกันอยู่ก็ไม่รู้" ลมเลนึกถึงลูกชายที่ไม่รู้จะไปเล่นซนอะไร เมื่อกี้เป็นห่วงรักษ์จนลืมดูสองแสบไปเลย อาการเขาท่าจะหนักลืมลูกได้ขนาดนี้

   "อ่ะ! จริงด้วยน้องอินทร์ น้องจันทร์อยู่ไหนกันแล้ว"

ทั้งสองตกใจก่อนจะรีบพากันเดินกลับมาแถวที่ปูเสื่อไว้ ไม่ได้กังวลว่าสองแสบจะหายไปไหนเพราะยังไงนี้ก็สวนของตนเอง ที่กังวลนะคือความป่วนไม่รู้ไปป่วนอะไรใครที่ไหนแล้วมันก็ไม่ได้ต่างจากที่ลมเลกังวลเลย

   "พวกเอ็งทำอะไรกัน!" ลมเลมองสองแสบที่กำลังใช้ปุ๋ยไม่ต่างกับกับดิน เพราะปุ๋ยที่ควรอยู่ในกระสอบดีๆ ตอนนี้มันกระจายเต็มพื่้นดินไปหมด มีเอามาก่อกองทรายเล่นด้วยเป็นเกือบสิบกอง คนเป็นพ่อถึงกับต้องยกมือกุมขมับ ไอ้แสบบบบบบบ

   "ว๊ากกกกกกกกกก" เสียงทั้วแหกปากดังลั่นเมื่อกลับมาถึงหลังจากลมเลแค่แปบเดียว นายน้อยสองแฝดเล่นไอ้ทั้วแล้วไหมละ แบกสอบปุ๋ยไปให้คนงานแปบเดียวกลับมาปุ๋ยทั้งกระสอบกระจายเต็มไปหมด ตายๆๆๆไอ้ทั้วตาย

รักษ์เห็นปฎิกิริยาของนายจ้างและลูกจ้างแล้วพูดไรไม่ออก ได้แต่เดินไปหาสองแสบที่นั่งหน้าสลดต่อหน้าผู้เป็นพ่อ

   "ขอโทษนะครับคุณลมเพราะผมไม่ดูน้องเอง" รักษ์บอกอย่างรู้สึกผิด ลมเลมองพี่เลี้ยงก่อนจะเอามือตบหน้าผากตัวเองอย่างปลงๆ มันไม่ใช่ความผิดของรักษ์ก็เขาเป็นคนลากรักษ์ไปเอง

   "พวกเอ็งมานี้เลย" ลมเลร้องเรียกสองแสบ เด็กทั้งสองสะดุ้งทันทีเพราะกลัวพ่อดุ

   "น้องจันทร์ขอโทษครับ"

   "พี่อินทร์ก็ขอโทษ" สองแสบยืนก้มหน้าสำนึกผิด พ่อต้องลงโทษพวกเขาแน่ๆ ในใจได้แต่คิดกลัว กลัวได้ขุดแปลงผักอีกกกกก

   "รู้ว่าผิดแล้วเล่นทำไม" ลมเลถามนิ่งๆ สองแสบก็ยืนนิ่งเช่นกัน รักษ์เองก็เข้ามาสำรวจร่างกายของเด็กทั้งสองอย่างเป็นห่วงเพราะกลัวจะโดนปุ๋ยกันเหมือนตน

   ลมเลมองการกระทำของรักษ์ก็ต้องถอนหายใจแรงๆ ไม่ใช่ว่าไม่พอใจแต่เพราะพอใจมากๆ ที่เห็นรักษ์ใส่ใจลูกเขาทั้งสองเป็นอย่างดี จากจะเอาเรื่องสองแสบเลยต้องยอมถอย เพราะลมเลเองก็ผิดที่ไปพาตัวพี่เลี้ยงมาแล้วทิ้งสองแสบไว้

   "ไปล้างเนื้อล้างตัวให้เรียบร้อยไปเลย ได้มากินข้าว" ว่าเสร็จก็เดินไปสั่งให้ทั้วจัดการเก็บซากปุ๋ยที่กระจายเต็มพื้นไปหมดก่อนจะไปนั่งรอที่เสื่อ ขุนอินทร์ ขุนจันทร์ และทั้วหายใจอย่างโลงอก รอดแล้วเราาาาาาา วันนี้พ่อใจดี ทางทั้วก็ว่านายหัวของมันใจดี

   หลังจากจัดการล้างเนื้อล้างตัวเรียบร้อยสองแสบก็ร่าเริงอย่างเดิมเพราะไม่ถูกพ่อดุ และตอนนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวอย่างอร่อยไม่สนใจอะไรเลย ลมเลมองลูกตัวเองแล้วได้แต่สายหัว ไปแฝดเอยยยยยยยย

   "ข้าวครับคุณลม" รักษ์ยื่นจานข้าวมาให้ มีหมูทอดส่งกลิ่นหอมชวนให้กิน รักษ์เป็นผู้ชายที่ทำกับข้าวอร่อยมากลมเลยืนยันได้เลย ถึงลมเลจะทำเป็นแต่ก็พอกินได้ไม่ได้อร่อยอะไรมากและทำเป็นเฉพาะพวกง่ายๆ แต่รักษ์ทำเป็นแทบทุกอย่าง ทำให้นึกถึงน้องสาวขึ้นมารายนั้นเจียวไข่ได้ก็ดีสุดแล้ว

   "แล้วของนาย" ถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนไม่ได้ตักข้าวของตัวเองเอาแต่ดูแฝด

   "ผมยังไม่หิวเลยครับ" รักษ์บอกทั้งรินน้ำแดงใส่แก้วส่งให้

   "ขอบคุณ ไม่หิวได้ไงนี้เที่ยงแล้วตักมาเลย" ลมเลว่าแกมดุ รักษ์เป็นคนตัวเล็กแถมยังกินน้อยอีก

   "แต่..."

   "ไม่ต้องมีแต่" ลมเลว่าจนรักษ์ต้องยอมตักข้าวมากินเพราะสายตาดุๆนั้น

   "เดี๋ยวบ่ายไปส่งบ้านแม่นะ ได้ให้สองแสบไปนอนด้วย"

   "ดีเลยครับผมได้ไปช่วยคุณป้าทำกับข้าว"เพราะวันนี้เย็นมีนัดกินข้าวกับพ่อแม่ของลมเลเลยไปช่วยน่าจะดีรักษ์คิด

   "ก็ตามใจนาย ขอน้ำพริกกับคั่วกลิ้งด้วยนะ" ว่าแล้วก็หันมาสนใจกินข้าวของตัวเองต่อ รักษ์ทำเพียงยิ้มรับก่อนจะคิดถึงเมนูอาหารที่อีกคนขอมาซึ่งมันคือเมนูโปรดของลมเลรักษ์รู้ดีถึงเจ้าตัวไม่ขอเขาก็ตั้งใจว่าจะทำให้อยู่แล้วละนะ ความจริงนั้นลมเลกินอะไรได้ทั้งนั้นเขาไม่เคยเก่ียงนี้คงเป็นครั้งแรกละมั้งที่ร้องขอสิ่งที่อยากกินจากใครสักคน

.............................................

มาแล้วจ้าาา ลูกคู่มาแล้วน่าาาาาา ฝากลูกคู่ด้วยนะจ้ะ. ลูกคู่รักคนอ่านทุกคนนนนนนนนน

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 15

   “มากันแล้วหรือลูก” ญาดาร้องทักลูกชายที่เดินเข้าบ้านมาไม่พูดไม่จาเธอถามก็เดินพ้นไปราวกับไม่ได้ยินเสียง “อะไรของตาลม”

   “คุณย่า! สวัสดีครับบบบ” เสียงสองแสบร้องเรียกญาดามาแต่ไกลจนโดนรักษ์ดุเบาๆ

   “สวัสดีครับคุณป้า” รักษ์ที่เดินเข้ามาพร้อมสองแฝดเอ่ยทักทาย

   “สวัสดีจ้ะลูกคู่ หนูรักษ์” เอ่ยรับทั้งอ้าแขนรับเด็กแสบที่เข้ามาเกาะ “ลมเขาเป็นไรละลูกเดินมาไม่พูดไม่จาเลย” เธอถามรักษ์ถึงอาการแปลกๆ ของลูกชายไม่รู้ไปหงุดหงิดอะไรมาหรือเปล่าเธอคิดเพราะน้อยครั้งที่จะเห็นลมเลเป็นแบบนี้

   “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับเมื่อกี้ก็ปกติดีนะครับ” รักษ์บอกไปก่อนจะพากันไปนั่งคุยที่โซฟา

   “วันนี้ลูกคู่ของย่าไปไหนกันมาเอ่ย” ญาดาถามขณะลูบหัวสองแสบที่นั่งอยู่ขนาบข้างซ้ายขวา

   “น้องจันทร์ไปช่วยพ่อใส่ปุ๋ยยยย”

   “พี่อินทร์ก็ช่วยด้วยยยยย” เด็กทั้งสอบตอบอย่างแข่งขัน

   “ช่วยหว่านปุ๋ยทิ้งนะหรือพวกเอ็ง” ลมเลที่พึ่งเดินเข้ามาพูดแทรกขึ้น จนสองแสบหน้ายู่เพราะถูกพ่อเหน็บ รักษ์เองก็มีสะดุ้งเพราะเรื่องนี้รักษ์เองก็มีความผิดด้วยเหมือนกัน

   “แล้วนั้นอะไรตาลม” ญาดาถามถึงของในมือลูกชายแต่พอเห็นว่าคืออะไรก็ถามต่อ “ใครเป็นอะไร” ก่อนจะสำรวจสองแสบว่าเป็นแผลอะไรตรงไหนหรือเปล่า

   “เอามือมา” ลมเลไม่ได้ตอบคำถามญาดาแต่หันมาสนใจพี่เลี้ยงที่นั่งอยู่ข้างๆ แทน ทางญาดาหันมองตามทันที

   “อ้าว! รักษ์เป็นอะไรลูก” ญาดาร้องถามอย่างเป็นห่วง นึกถึงลูกชายที่เข้ามาไม่พูดไม่จาตอนแรกก็เข้าใจได้ทันทีว่าคงเป็นห่วงรักษ์มากน่าดูเธอเลยกังวลว่าจะเป็นอะไรร้ายแรง

   “ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากครับ” รักษ์บอกก่อนจะหันมาทางลมเล “ผมไม่ได้เป็นอะไรมากครับ”

   “บอกให้เอามือมาจะดื้อทำไม” ลมเลว่า

   “ดูไปดุน้องเข้า น้องกลัวหมดแล้วตาลม” ญาดาว่าลูกชายที่ดุพี่เลี้ยงเสียจนทำตัวไม่ถูก “ให้พี่เขาดูหน่อยเถอะลูก อุส่าต์เดินหน้าเครียดไม่พูดไม่จาไปเอากล่องยามา” บอกกับรักษ์ทั้งไม่ลืมเหน็บลูกชายไปหนึ่งทีก่อนจะหันชวนสองแสบไปหาขนมกินกันในครัวปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันลำพัง แต่ก็ไม่ลืมสังเกตอาการลูกชายที่เป็นห่วงอีกคนจนผิดปกติ

   “เอามือมาได้หรือยัง” ลมเลนั่งลงโซฟาข้างๆ แล้วร้องบอกกับคนที่ยังนั่งนิ่งอีกครั้ง รักษ์ขี้เกียจต้องมาเถียงกับอีกคนเลยยอมยื่นมือให้ ลมเลจับมือขาวมาพลิกดูก็พบว่าตอนนี้ขึ้นผืนแดงเล็กน้อย และคาดว่าต้องมีอาการคันด้วยเป็นแน่เพราะเห็นรอยแดงเป็นทางยาวเหมือนกับรอยเกา

               ลมเลหยิบยาขึ้นมาทาให้อย่างเบามือ ทั้งสองต่างไม่พูดไม่จาอะไรมีแต่ความเงียบที่ปกคลุมแต่ความรู้สึกห่วงใยกลับแพร่กระจายออกมาทางสายตาจนรักษ์หัวใจเต้นแรง

   “พ่อ!”

   “เฮ้ย!”

   สองแสบตะโกนร้องเรียกลมเลเสียงดังจนตกใจรีบละมือจากการทายาทันทีรู้สึกทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะเอาไม้เอามือไปวางตรงไหน สองแสบเห็นพ่อตกใจก็ชอบใจใหญ่โตหัวเราะลั่นบ้านกันเลยทีเดียว ส่วนญาดาได้แต่สายหน้าให้กับอาการลูกชายที่หลุดได้ถึงขนาดนี้หมดกันมาดนายหัวแห่งสวนสายลมเจ้าตัวจะรู้บ้างไหมว่าตัวเองเป็นเอามาก

   ลมเลเห็นท่าไม่ดีเลยรีบลุกหนีออกมาก่อนนับวันเขายิ่งไม่เป็นตัวของตัวเองเข้าไปทุกที ขนาดเดินออกมาไกลก็ยังได้ยินสองแสบหัวเราะเยาะเขาดังมาอยู่จนมีเสียงรักษ์ที่ร้องห้ามปราบให้ตายเถอะวันนี้เขาทำอะไรขายหน้าหลายอย่างเกินไปแล้ว

   ทางสองแสบพอถูกอารักษ์ห้ามก็รีบเก็บเสียงหัวเราะทันทีแต่ยังแอบยิ้มขำเบาๆอยู่ ญาดาเองก็เป็นกับหลานชายไปด้วยอีกคน จนรักษ์รู้สึกเก้กังไปหมด

   “พอแล้วลูกพ่อเขาไปนู้นแล้ว” ญาดาบอกสองแสบทั้งหันมามองรักษ์พร้อมยิ้มแปลกๆ ทำเอารักษ์หวั่นๆ แม้รอยยิ้มนั้นจะไม่ได้แสดงถึงความไม่พอใจก็ตาม

   “พ่อตลก”ขุนอินทร์ร้องบอก

   “ไม่เอาครับพอแล้ว ไหนมีขนมอะไรมาให้อารักษ์กินบ้างครับ” รักษ์ห้ามก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง

   “กล้วยบวชชีครับ” ขุนจันทร์ยกถ้วยโชว์

   “น่าทานจังเลยครับ คุณป้าทำเองหรือครับ” กล้วยบวชชีสีขาวนวลในถ้วยนั้นน่ากินมากจริงๆ

   “ใช่จ้ะ รักษ์ลองทานดูสิลูก” บอกทั้งส่งถ้วยขนมที่ตักมาให้กับรักษ์

   ทั้งสี่นั่งกินขนมและพูดคุยกันไปอย่างสนุกสนานก่อนจะพากันเข้าครัวเพื่อช่วยกันเตรียมอาหารเย็น

   “วันนี้ทำอะไรกินกันดีเอ่ย” ญาดาร้องถามสองแสบ

   “น้องจันทร์อยากกินต้มจืดสาหร่ายยย” พูดขึ้นเสียงดังทั้งกระโดดชูมืออย่างต้องการเสนอเมนูโปรดของตัวเอง

   “พี่อินทร์อยากกินหมูทอด หมูทอด” แฝดพี่ก็รีบเสนอด้วยเช่นกัน

   “ได้เลยครับย่าจัดให้” ญาดาตอบรับทั้งหัวเราะอยากเอ็นดูหลานชายทั้งสอง “แล้วรักษ์ละลูกอยากกินอะไรไหม”

   “ผมว่าจะทำน้ำพริกกับคั่วกลิ้งให้คุณลมนะครับ เขาอยากกินอยู่” รักษ์ตอบทั้งหยิบจับของที่ต้องการออกจากตู้เย็น โดยไม่ได้สังเกตเห็นสายตาแปลกใจของญาดาเลยแม้แต่น้อย

   “ป้าหมายถึงรักษ์ไม่ได้ถามถึงพี่ลมเขา อะไรกันสองคนนี้” เธอว่าอย่างอ่อนใจ คนผ่านน้ำร้อนมาก่อนอย่างเธอมีหรือจะดูไม่ออกว่าเด็กทั้งสองมีใจให้กัน มีก็แต่เจ้าตัวนั้นแหละรู้ตัวกันบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้

   “ผมกินอะไรก็ได้ครับ” รักษ์ตอบกลับมาอย่างรู้สึกขัดเขิน

   “จ้ะ ป้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เรามาทำอาหารกันดีกว่า”

   รักษ์กับญาดาช่วยกันเตรียมอาหารกันคนละไม้ละมือโดยมีลูกมือเป็นสองแสบที่คอยจับนู้นหยิบนี้ให้ บ้างก็ช่วยล้างผัก ทำในส่วนที่เด็กตัวเล็กอย่างพวกเขาทั้งสองพอช่วยได้โดยไม่รู้สึกอิดออด สองแสบตั้งใจทำกันเป็นอย่างดีถึงจะวุ่นกันจนทำจานตกแตกไปหนึ่งใบก็ตาม

   “ลูกคู่ไปบอกพ่อให้เก็บใบมะกรูดให้ย่าหน่อยเร็ว” ญาดาที่ง่วนอยู่กับการตำเครื่องแกงคั่วกลิ้งร้องบอกเด็กทั้งสอง รักษ์เองที่กำลังสับหมูก็ละมือมาหยิบถ้วยใบเล็กส่งให้เด็กชาย ซึ่งพอรับได้ก็รีบวิ่งออกจากห้องครัวจนรักษ์ต้องร้องห้าม

   “อย่าวิ่งครับพี่อินทร์ น้องจันทร์”

   “ดูเข้าสนุกกันใหญ่ลูกคู่” ญาดาว่าทั้งสายหน้าด้วยรอยยิ้มเพราะเอ็นดูเด็กทั้งสอง ก่อนหน้านี้ไม่มีหรอกที่ลูกคู่ของเธอจะเข้ามาช่วยแบบนี้ มาที่ไรก็เอาแต่วิ่งเล่นให้ผู้ใหญ่ปวดหัว ตั้งแต่รักษ์มาเป็นพี่เลี้ยงหลานชายทั้งสองของเธอดูจะเอาการเอางานมากขึ้นไม่ห่วงแต่เล่นอย่างแต่ก่อน และที่สำคัญคือลูกคู่มีระเบียบมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

   “ใบมะกรูดใหญ่ๆ มาแล้วครับบบบบ” หายออกไปครู่หนึ่งก็มาพร้อมกับใบมะกรูดกิ่งงามหนึ่งกิ่งในมือของขุนอินทร์ ถ้วยที่รักษ์ให้ไปในมือขุนจันทร์นั้นว่างเปล่า

   “เอามาให้อารักษ์ครับ”

   “ดูตาลมหักทั้งกิ่งมาให้เลย ให้ตายเถอะลูกคนนี้” ญาดาบ่นลูกชายเบาๆ

   “ไม่เป็นไรหรอกครับถ้าเหลือเดี๋ยวเอาใส่ตู้เย็นไว้นะครับ” รักษ์บอกทั้งยิ้มอย่างนึกตลกเจ้านายตัวเองโตแล้วยังชอบทำตัวให้แม่บ่นอยู่ได้

   “ช่วยกันเข้าไป ชักจะยังไงแล้วนะป้าว่า” พูดอย่างต้องการดูท่าทีของชายหนุ่ม

   “มะ ไม่มีอะไรนะครับ” รักษ์รีบตอบอย่างร้อนใจ

   “ไม่มีก็ไม่มีจ้ะ” ญาดาว่าทั้งรอยยิ้ม ชัดเจนขนาดนี้เธอคงไม่ต้องถามอะไรมาก

   “อารักษ์หน้าแดงเลยยย” ขุนอินทร์ร้องบอก

   “อารักษ์สับหมูเหนื่อยหรือออออ” ขุนจันทร์ถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะอารักษ์ของเขาหน้าแดงตอนสับหมู คงจะเหนื่อยมากๆ แน่เลย

   “ลูกคู่ ฮาๆ” ญาดาร้องเรียกทั้งสองอย่างนึกเอ็นดูช่างคิดได้นะว่าอารักษ์เขาหน้าแดงเพราะสับหมู เด็กนี้ช่างใสซื่อจริงๆ พอหันมองทางรักษ์ก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาสับหมูไม่พูดมาจาคงเพราะรู้สึกเขินอายก็หน้าแดงๆ นั้นเป็นตัวบอกเธอ

   เธอไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไรถ้าทั้งสองรักกันคนเป็นแม่อย่างเธอก็พร้อมยอมรับ ลมเลก็โตแล้วเธอเชื่อว่าลูกชายเธอคิดมาดีแล้วเป็นแน่ยิ่งเคยผ่านชีวิตครอบครัวที่ล้มเหลวมาแล้ว



...

ลูกคู่มาแล้วน่าาาาาาา ใครคิดถึงลูกคู่กันบ้างเอ่ยยยย ตอนนี้ก็เรื่อยๆๆๆๆ เหมือนเดิมจ้าาาาาาา







 

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 16

บนโต๊ะอาหารเย็นของบ้านนายหัวใหญ่แห่งไร่สายลมวันนี้ครึกครื้นไปด้วยเสียงของลูกคู่ที่เล่าเรื่องราวต่างๆ อย่างออกรส ทั้งที่ถูกเตือนอยู่หลายครั้งก็ไม่เชื่อฟังกันจนผู้ใหญ่อ่อนใจปล่อยให้คุยกันไปยังไงก็นานๆ ครั้งที่สองแสบจะคุยอย่างสนุกแบบนี้

    “พูดมากพวกเอ็ง” ลมเลว่าลูกชายทั้งสองที่วันนี้ไม่รู้อารมณ์ดีอะไรพูดได้ไม่หยุด สองแสบหมุ่ยหน้าใส่พ่อไปทีก่อนพูดต่อ

      “พี่อินทร์ช่วยอารักษ์ซักผ้าด้วยนะครับ”

      “น้องจันทร์ก็ช่วยด้วย ยังช่วยกวาดบ้านด้วยยย”

     “พี่อินทร์ก็กวาด”

     “จ้า ลูกคู่ของย่าเก่งที่สุดเลยช่วยอารักษ์เยอะแยะเลย” ญาดาชมหลานชายที่เที่ยวคุยอวดเรื่องช่วยงานพี่เลี้ยง ซึ่งตั้งแต่พูดมาก็แข่งกันอวดนี้แหละว่าใครช่วยงานอะไรอารักษ์กันบ้าง ไม่เคยมีสักครั้งที่ลูกคู่จะพูดคุยเรื่องราวทำนองนี้ที่ผ่านมามีแต่เล่าความแสบว่าวันๆ ไปป่วนอะไรกันมาบ้าง พอเห็นหลานชายเป็นแบบนี้ก็อดชื่นชมรักษ์ไม่ได้

     “น้องจันทร์ช่วยทำทุกอย่างเลยยย”

     “พี่อินทร์ก็ช่วยทุกอย่าง”

ยิ่งได้รับคำชมเด็กน้อยก็ยิ่งภาคภูมิใจอย่างโอ้อวดสิ่งที่ทำให้ผู้ใหญ่ได้รู้เพราะหวังจะได้รับคำชมมากขึ้นไปอีก

     “ขี้โม้” ลมเลพูดดักคอลูกชายทั้งที่ยังสนใจแต่จานข้าว ให้ได้ขัดลูกสักนิดคนเป็นพ่อก็สบายใจแล้ว คนอื่นบนโต๊ะอาหารถึงกับหัวเราะออกมาพร้อมกันเพราะสองแสบหันมองหน้าพ่ออย่างเซ็งๆ ราวกับต้องการบอกว่าพ่ออย่าขัด

     “อารักษ์ว่าเราตั้งใจทานข้าวก่อนดีกว่านะครับ พี่ต้มจืดกับพี่หมูทอดน้อยใจแล้วนะครับพี่อินทร์กับน้องจันทร์ไม่ตั้งใจทานเลย” รักษ์ร้องบอกสองแสบเพราะกลัวว่าจะเกิดศึกระหว่างพ่อลูกขึ้นมาก่อนได้ทานข้าวอิ่ม

     “โอ๋ๆ พี่ต้มจืดอย่าน้อยใจนะเดี๋ยวน้องจันทร์กินให้หมดเลยยยยย” ว่าจบก็รีบตั้งข้าวคำโตเข้าปากจนต้องเอามือมาช่วยดันเข้าไปจนแก้มฟองโตทำเอาผู้ใหญ่ต้องสายหน้า

    “กินได้แล้วดูแสบอยู่นั้นแหละ” เสียงบอกกล่าวที่มาพร้อมกับหมูทอดชิ้นโตวางลงในจานข้าวของรักษ์ ซึ่งการกระทำนี้เรียกให้รักษ์ และผู้ใหญ่อีกสองคนที่ร่วมโต๊ะอยู่ด้วยต้องหันมองลมเล เจ้าตัวพอถูกมองก็ทำเป็นไม่สนใจหันมาตักคั่วกลิ้งใส่จานตัวเองอย่างไม่มีอะไร แต่การกระทำนี้มันทำให้หนึ่งหัวใจนั้นสั่นไหว อีกสองใจนั้นใคร่สงสัย

     “ขอบคุณครับ” รักษ์เอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนจะสนใจทานข้าวของตัวเองต่อแต่สายตายังคงแอบเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามพอเห็นอีกคนเอื้อมมือมาตักอาหารที่อยู่ไกลรักษ์ก็จะช่วยตักให้ทันที ขนาดน้ำพริกผักจุ่มก็ยังหมวดให้พอดีคำก่อนจะส่งให้คนด้านหน้า บางช่วงก็หันมาดูแลสองแสบ

     ทุกการกระทำของรักษ์และลมเลตกอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองท่านที่นั่งมองดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ จนนายหัวใหญ่อย่างคุณพายุต้องสงสัยสายตาใคร่สงสัยให้กับผู้เป็นภรรยา ซึ่งญาดาทำเพียงยิ้มรับราวกับต้องการบอกว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็กๆ เขา

     หลังจบมื้ออาหารรักษ์ออกปากช่วยล้างจานให้โดยมือสองแสบเป็นลูกมืออย่างเคยผลที่ได้ก็คือแก้วแตกไปหนึ่งใบเพราะสองแสบแย่งกันล้าง ไม่รู้ด้วยความขยันหรือแค่นึกเล่นสนุกกันซึ่งรักษ์ก็ไม่ได้ว่ากล่าวอะไรแค่เตือนให้สองแสบทำอย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะได้รับบาด สองแสบก็เชื่อฟังอารักษ์เพราะแก้วจานหนึ่งใบก็ช่วยกันจับกันยกอย่างเบามือเพราะกลัวตกแตกอีก

     “เสร็จกันแล้วหรือลูก” ญาดาร้องถามขึ้นเมื่อเห็นทั้งสามเดินออกจากห้องครัว

     “เสร็จแล้วครับคุณย่า” ขุนจันทร์บอกทั้งวิ่งไปนั่งข้างๆ ขุนอินทร์ก็ตามมาติดๆ

     “ไปทำไรมาอีกละพวกเอ็ง” ลมเลเห็นอาการลูกชายที่วิ่งมาประจบญาดาก็ร้องถามทันที

     “พี่อินทร์เปล่าทำไรนะพ่อ” ขุนอินทร์รีบปฏิเสธทันควัน โดยมีขุนจันทร์ผยักหน้าช่วยยืนยัน

     “แล้วเสียงออะไรดังลั่นบ้าน” ลมเลถามนิ่งๆ เด็กน้อยทั้งสองรีบฉีกยิ้มกว้างก่อนตอบพร้อมกันว่า

      “แก้วกระโดดดดดด”

      “แล้วทำไมลูกคู่ไม่จับไว้ละลูก” ญาดาแกล้งถาม

      “น้องจันทร์จับไม่ทันครับ แก้วมันกระโดดเร็วมากเลย”

     “ใช่ๆ พี่อินทร์ก็ช่วยจับไม่ทันครับ”

เด็กแสบทั้งสองลงโรงช่วยกันจนผู้ใหญ่อดเอ็นดูไม่ได้เล่นใหญ่อะไรขนาดนี้

     “ลูกใครว่ะ” ลมเลว่าอย่างสายหน้า

     “ก็ลูกคุณลมไงครับ” รักษ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอบกลับด้วยรอยยิ้มแต่กลับได้รับสายตากรอกกลับมาจากนายจ้างจนรักษ์อดหัวเราะไม่ได้เลยได้รับสายตาดุจากลมเลกลับมาซึ่งมันก็ไม่ได้จริงจังอะไร

      “ได้พ่อมันมาลูกคู่นะ” เสียงทุ่มจากนายหัวใหญ่อย่างคุณพายุที่นั่งเงียบอยู่นานทำเอาลมเลร้องท้วงเสียงดัง

    “ผมใช่บ้าแบบไอ้สองแสบเถอะพ่อ”

    “อย่าเรียกลูกว่าไอ้ครับ” รักษ์ก็ดุดันทีที่ลมเลว่าจบแถมไม่ว่าเปล่ายังตีเบาๆ ที่แขนใหญ่ของลมเล คนถูกดุหันบอกอย่างตกใจไม่ได้โกรธแต่ใจมันกระตุกแปลกๆ กับการกระทำของรักษ์แบบนี้ไม่ได้รู้สึกแย่แต่กลับรู้สึกดีเพราะบนใบหน้าหล่อนั้นประดับไปด้วยรอยยิ้ม

     “ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณลูกชายทั้งสองจะกลับบ้านได้หรือยังครับผม พูดแบบนี้ได้ไหมครับคุณพี่เลี้ยง”ลมเลล่อเลียนจนรักษ์รู้สึกหมั่นไส้ แต่การกระทำแบบนี้ของลมเลเป็นอะไรที่แปลกตาสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่างพายุและญาดามากเหลือเกิน พวกเขาไม่เคยเห็นลูกชายทำตัวทะเล้นแบบนี้มาก่อนเลย

     “ล้อผมหรือครับ” รักษ์ว่าทั้งทำแก้มพองลมอย่างที่ทำประจำเมื่อถูกลมเลกวนใจ

      “ฉันเปล่าสักหน่อย แก้มจะแตกเอานั้น” ว่าแล้วก็ใช้มือใหญ่ตบลงบนแก้มทั้งสองข้างอย่างหยอกล้อโดยลืมไปว่าที่ตรงนี้ไม่ได้มีแค่เขาสองคน เหตุการณ์ตอนนี้เลยเงียบลงดื้อๆ มือใหญ่ค่อยๆ ปล่อยจากสองแก้มเมื่อลมเลหันไปสบสายตาของพายุและญาดาที่มองมาอย่างต้องการถามว่ามันคืออะไร ลมเลทำเพียงเกาท้ายทอยแล้วยิ้มให้ท่านทั้งสองแล้วตีเนียนทำว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางรักษ์ก็ดูเลอะละไม่รู้จะทำสีหน้ายังไงออกมาดี

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ลูกคู่มาแล้วนะคะ ไหนขอเสียงคนคิดถึงลูกคู่หน่อยจ้าาาาาาาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2020 07:58:15 โดย ตั้งโอ๋ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 17

   หลังจากวันที่ไปทานข้าวบ้านของญาดาและพายุนายหัวใหญ่ของสวนสายลมก็ผ่านมาสามวันแล้ว รักษ์ยังคงดูแลสองแสบและทำงานทุกอย่างในบ้านเองอาจจะเหนื่อยไปบ้างแต่รักษ์มีความสุขที่ได้ทำได้ดูแลและคอยสอนให้สองแสบทำงานต่างๆ อย่างวันนี้ก็เช่นกัน เห็นว่าตอนบ่ายแดดไม่แรงประกอบกับลมเลก็อยู่บ้านด้วยรักษ์และเอ่ยชวนสามพ่อลูกทำแปลงผักกันเพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนรักษ์แอบเพาะเมล็ดผักไว้ตอนสองแสบหลับ

   “พวกเอ็งมาเก็บหญ้าตรงนี้บ้าง” ลมเลร้องบอกลูกชายที่เอาแต่รอเก็บหญ้าจากที่รักษ์ดายออกมา ไม่มีมาเก็บฝั่งเขาบ้างเลย

   “พ่อก็เก็บเองสิ” ขุนอินทร์บอกทั้งเก็บหญ้าที่รักษ์ดายใส่ในถังขยะ

   “ใช่ๆ น้องจันทร์กับอินทร์ต้องช่วยอารักษ์” ขุนจันทร์ตอบ

   “เอาเข้าไปตกลงใครเป็นพ่อพวกเอ็ง” ลมเลยืนจับจอบพูดนิ่งๆ อย่างต้องการกวนลูกชาย

   “ก็พ่อไง” สองเสียงตอบพร้อมกัน

   “อ่อเหรอ นึกว่าลืมแล้วว่านี้เป็นพ่อ” ลมเลยังพูดลอยหน้าลอยตา

   “พ่องอนหรือ” ขุนจันทร์ถามหน้าสงสัยอย่างน่าเอ็นดูจนรักษ์อดยกมือลูบหัวไม่ได้ แต่ผิดกับคนพ่อพอได้ยินลูกพูดแบบนั้นก็หน้าง้อทันทีใครมันจะไปงอนกัน

   “ใครงอน รักษ์นายไม่ต้องดายแล้วเดี๋ยวฉันทำเอง ส่วนพวกเอ็งมาเก็บหญ้าตรงนี้ไปทิ้งเลย” ว่าจบก็ตั้งหน้าตั้งตาดายหญ้าต่อสองแสบก็ว่าง่ายมาช่วยเก็บหญ้ากันคนละไม้ละมือรักษ์ก็ช่วยเด็กทั้งสองด้วยเช่นกัน ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ แปลงผักก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างลมเลทำได้รวดเร็วมากเพราะทุนเดิมเป็นชาวสวนอยู่แล้ว

   “เฮ้ย!”

อยู่ๆ รักษ์ร้องเสียงดังลั่นก่อนจะวิ่งมาเกาะอยู่ด้านหลังของลมเลที่กำลังขุดแปลงผักอยู่ทำเอาตกใจตามไปด้วย สองแสบก็ตกใจจนเผลอกระโดดหลบตามมาเกาะรักษ์อยู่ข้างๆ

               “มีอะไร!” ลมเลถามขึ้นอย่างตกใจ

               “นั้น” มือขาวชี้ไปตรงแปลงผักด้านหน้าลมเลก็มองตาม สองแสบก็ชะโงกหน้าออกมามองคนละด้านและทั้งสามก็ร้องออกมาพร้อมกันอย่างสงสัย

               “กิ้งกือ”

               “แค่กิ้งกือเองเดี๋ยวพี่อินทร์จัดการให้” ขุนอิทร์หนุ่มน้อยใจกล้าก็ก้าวไปหยิบไม้มาเขี่ยๆ แต่ก็ต้องร้องลั่นวิ่งกลับมาเกาะรักษ์ที่เกาะแขนลมเลอยู่แน่นเพราะไอ้เจ้าตัวมากขานั้นมันดิ้นกลิ้งไปมาจนน่าขนลุกทำเอาลมเลหัวเราะลูกชายเสียงดัง

               “พวกเอ็งมันอ่อน” ว่าสมทบลูกชายไปทีก็เตรียมจะก้าวไปจัดการไอ้ตัวขามากที่เดินสบายอกสบายใจในแปลงผักเพราะรู้ดีว่ารักษ์กลัวเจ้ามากขาขึ้นสมองเขายังจำเหตุการณ์ครั้งก่อนได้ดี แต่พอก้าวเดินแขนกลับถูกแขนขาวๆ ของอีกคนเกี่ยวไว้แน่น “นายปล่อยก่อน เดี๋ยวฉันเอามันออกไปให้” ลมเลร้องบอกรักษ์ที่พึ่งรู้ตัวว่าเกาะแขนลมเลอยู่ก็รีบปล่อยอย่างตกใจรู้สึกอายขึ้นจนต้องยกมือมาเกาแก้มแก้เขิน

               “อารักษ์กลัวมากหรือ หน้าแดงเลยครับ” ขุนจันทร์ที่เกาะเอวรักษ์อยู่แหงนหน้าขึ้นถาม แถมลมเลยังมาแอบหัวเราะเยาะกันอีกรักษ์ยิ่งไปไม่เป็นเข้าไปอีก

               “เรียบร้อย” ลมเลว่าเมื่อใช่จอมตักเจ้ามากขาไปโยนทิ้งไกลๆ รักษ์รู้สึกโล่งอกขึ้นมาแต่ก็ยังแอบระแวงอยู่ตลอด

               “เราทำต่อกันเถอะครับเดี๋ยวเย็น” รักษ์เอ่ยชวนเพราะเวลาก็ลวงเลยมามากแล้วเดี๋ยวต้องไปเตรียมข้าวเย็นกันอีก

   ทั้งสี่ช่วยกันทำแปลงผักอยู่กันจนถึงบ่ายแก่ก่อนจะหยุดมือเพราะถึงเวลาต้องไปเตรียมข้าวเย็นถ้าช้ากว่านี้คงได้กินข้าวเย็นกันดึกแน่ๆ

               จัดการให้สองแสบไปอาบน้ำโดยมีคุณพ่อของทั้งสองช่วยดูแลให้ รักษ์เองก็มาจัดการเตรียมอาหารอยู่ในครัวมองของในตู้เย็นแล้วก็คิดเมนูที่จะทำขึ้นมามันก็เป็นอะไรที่สนุกไม่น้อยการได้คิดเมนูให้สามพ่อลูกกิน รักษ์ชอบมากเพราะไม่ว่ารักษ์จะทำเมนูไหนสองแสบก็จัดการจนหมดทุกครั้งเลยมีกำลังใจทำอาหาร ระหว่างหยิบจับวัตถุดิบอยู่ก็มีสายเข้ามาพอดีหยิบโทรศัพท์มาดูก็พบว่าเป็นน้ำฟ้าโทรเข้ามา

               “ว่าไงฟ้า” รักษ์กรอกเสียงไปเมื่อรับสาย

               “โทรหาเพื่อนต้องมีอะไรด้วยหรือค่ะ” เสียงกวนๆ ตอบกลับมา

               “กวนนะเรา” รักษ์ว่าเพื่อนทั้งหัวเราะไปด้วย

               “ทำอะไรอยู่แก” น้ำฟ้าถาม

               “กำลังทำอาหารเย็น”

               “ไม่เหนื่อยหรือไงทั้งดูแลสองแสบแล้วยังเรื่องงานในบ้านอีก” น้ำฟ้าถามอย่างเป็นห่วง เพราะตั้งแต่ป้าอุ่นประสบอุบัติเหตุรักษ์ก็จัดการทำเองหมดทุกอย่างเลยอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ พอพูดเรื่องนี้ก็นึกหงุดหงิดทุกทีกับความดื้อของรักษ์ทั้งที่พี่ชายเธอจะจ้างคนใหม่มาทำแทนป้าอุ่นแท้ๆ แต่รักษ์ก็ไม่ยอม พี่ชายเธอก็กะไรยอมรักษ์ไปเสียหมดไม่ว่ารักษ์จะพูดอะไร

               “ก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร สนุกดี” รักษ์ตอบไปทั้งท่าทีสบายเพราะรู้สึกดีที่ได้ดูแลสามพ่อลูกด้วยตัวเอง

               “ดื้อ มีใครเคยบอกแกไหมว่าแกดื้อมาก”

               “ก็ฟ้าไง ว่าเราประจำ” รักษ์ตอบกลับ คนในสายกรอกตาขึ้นอย่างระอากับคำตอบของเพื่อนชาย

               “ฉันไม่เถียงกับแกแล้วปวดหัว แค่จะโทรมาบอกว่าฉันกลับบ้านพรุ่งนี้นะ แกจะเอาอะไรไหม” น้ำฟ้าเบื่อจะเถียงเลยเปลี่ยนมาพูดถึงจุดประสงค์หลักที่ตั้งใจตั้งแต่แรก

               “ไม่รู้จะเอาอะไร อ่อฝากซื้อฝอยทองกับทองหยอดที่เพชรมาให้หน่อย” รักษ์นึกได้ว่าตอนนั่งรถทัวร์มารถจอดให้พักตรงช่วงเพชรบุรีพอดี

               “อยากกินหรือ” น้ำฟ้าถามอย่างสงสัย

               “เปล่านะ จะเอามาทำเค้กให้ขุนอินทร์กับขุนจันทร์ อ่อฝากซื้อหมึกหยองให้ด้วยนะ” จากที่ว่าไม่เอาอะไรกลับสั่งไปเสียหลายอย่างเลย

               “หมึกหยอง” น้ำฟ้าทวนถามขึ้นอย่างสงสัย

               “ใช่ๆ หมึกที่เขาทำเป็นเส้นๆ ไง” รักษ์อธิบาย

               “ฉันรู้ แต่ที่สงสัยคือเอาไปทำไมแกไม่ชอบกินสักหน่อย”

               “เอาให้คุณลม วันมาที่นี้ซื้อมาฝากเห็นชอบทานนะ” รักษ์บอกไปเมื่อนึกถึงวันที่มาจำได้ว่าหมึกหยองห่อใหญ่หมดตั้งแต่เที่ยงของอีกวันเพราะนายจ้างของเขาหยิบกินไม่ได้หยุด

               “อ่อ เออใช่พี่ลมชอบ เคๆ เดี๋ยวซื้อไปให้แล้วแกไม่เอาไรแน่นะ นึกถึงแต่คนอื่นตลอด แม่ฉันโทรมาบ่นอยู่นะว่าแกนะดูแลแต่ไอ้แสบไม่ค่อยดูแลตัวเองเลย”

               “ฉันไม่ได้เป็นอะไรไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรมาก” รักษ์ตอบกลับไปอย่างใจคิดเขาก็เป็นของเขามาแบบนี้

               “จ้าพ่อหนุ่มจิตใจงดงาม แล้วกับพี่ลมนี้ยังฉันรู้นะ” น้ำฟ้าเหน็บไปเบาๆ ก่อนจะมาจิกเรื่องพี่ชายเพราะได้คุยกับญาดามาว่าสองคนที่มีอะไรที่ดูจะแอบลึกซึ่งกัน

               “มะ ไม่มีอะไรสักหน่อย” รักษ์ตอบไปไม่เต็มเสียงนัก

               “อย่ามาโกหกค่ะ” น้ำฟ้าตอบกลับทั้งหัวเราะชอบใจที่เห็นเพื่อนอ่ำอึ่ง

               “ก็ไม่มีอะไรจริงๆ” จะให้บอกไปว่ารู้สึกมีใจให้กับพี่ชายเพื่อนใครมันจะกล้ากันละรักษ์คิด เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยิ่งเขาเป็นผู้ชายแบบนี้ด้วยแล้วยิ่งยากเข้าไปอีก ตอนนี้เลยทำได้แค่พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้ถลำลึกไปมากกว่านี้

               “ไม่มีก็ไม่มี แต่ก็จำไว้นะว่าเพื่อนอย่างฉันพร้อมรับฟังแกเสมอ” น้ำฟ้าไม่อยากจะไปคาดคั้นอะไรเพื่อนมากไม่ใช่ยอมแพ้แต่เพราะเข้าใจรักษ์ดี ละอีกอย่างพรุ่งนี้เธอก็กลับบ้านค่อยมาเค้นเอาความจริงตัวต่อตัวเลยดีกว่า หึหึ

               “ขอบใจนะฟ้า” รักษ์รู้สึกขอบคุณที่เพื่อนเข้าใจกัน

               “เปล่าเดี๋ยวฉันไปเค้นแกที่นู้นเองดีกว่า ฮาๆๆ” ว่าจบน้ำฟ้าก็วางสายไปเสียดื้อๆ ปล่อยให้รักษ์หัวเสียอยู่คนเดียวรักษ์ก็อุตส่าห์หลงคิดดีใจ น้ำฟ้านี้ไว้ใจไม่ได้จริงๆ ถึงใจนึกต่อว่าเพื่อนแต่รักษ์กลับยิ้มออกมา

...



ลูกคู่มาต่อแล้วน่าาาาาาา  ฝากเป็นกำลังใจและติดตามลูกคู่ด้วยนะจ้าาาาา ลูกคู่รักทุกคนจ้าาาาาาาา

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 18

   “นอนกันได้แล้วครับสุดหล่อของอารักษ์” รักษ์บอกทั้งยกผ้าห่มให้เด็กชายทั้งสอง “วันนี้จะฟังเรื่องอะไรดีครับ” จัดการห่มผ้าให้เรียบร้อยก็ถามถึงนิทานที่สองแสบอยากจะฟังก่อนนอน

   “น้องจันทร์ฟังอะไรก็ได้” ขุนจันทร์บอก

   “เรื่องอะไรก็ได้มีที่ไหน”

   “พ่อ!” ขุนอินทร์ ขุนจันทร์ ร้องเสียงดังเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เปิดประตูเข้ามา

   “เสร็จแล้วหรือครับคุณลม” รักษ์ถามคนตัวโตที่มานั่งอีกด้านหนึ่งของเตียงตรงข้ามกับรักษ์ เพราะก่อนหน้านี้ลมเลจัดการเอกสารอยู่

   “อืม ไหนใครอยากฟังอะไรวันนี้พ่อเล่าให้ฟังเอง” ตอบรักษ์ทั้งรอยยิ้มก่อนจะหันไปถามลูกชาย

   “พี่อินทร์อยากฟังคุณยักษ์ใจดี” ขุนอินทร์เสนอ

   “แต่น้องจันทร์อยากฟังพี่สาวผมยาววววว”

เมื่อความต้องการไม่ตรงกันก็เกิดเหตุวุ่นขึ้นมาทันทีเพราะสองแสบต่างร้องขอกันไปคนละเรื่องจนคนเป็นพ่อปวดหัว แต่พี่เลี้ยงอย่างรักษ์กลับนั่งยิ้มขบขันกับอาการของสามพ่อลูก

               “พอๆ ไม่ต้องแย่งเดี๋ยวพ่อเลือกเอง ปวดหัวกับพวกเอ็งจริงๆ” ว่าจบก็รื้อหานิทานแต่พอหยิบเล่มไหนขึ้นมาสองแสบก็ทำหน้าเหม็นเบื่อจนลมเลรวบรวมนิทานส่งให้รักษ์เก็บ รักษ์เองก็งงๆ คิดว่าลมเลจะไม่เล่าเสียแล้ว

               “ไม่เล่าแล้วหรือครับ” รักษ์ถาม

               “ก็ดูสองแสบทำหน้าเบื่อแบบนั้นจะให้ฉันเล่ายังไง” ลมเลว่า รักษ์ยิ้มรับทันทีเพราะจริงอย่างลมเลว่า

               “ก็พี่อินทร์เคยฟังหมดแล้วนิพ่ออออออออออ” ขุนอินทร์ร้องบอก

               “เรื่องมากพวกเอ็ง ไม่ต้องฟังมันจบ นอนๆ” ลมเลว่าบ่นลูกชายอย่างไม่จริงจัง

               “แต่น้องจันทร์จะฟังงงง”

               “ก็พวกเอ็งเรื่องมาก” ลมเลว่ากลับ

               “มาครับเดี๋ยวผมเล่าให้ฟังเอง” รักษ์เห็นว่าสามพ่อลูกเถียงกันอยู่นาน กลัวว่าจะดึกไปมากกว่านี้เลยอาสาเล่าเอง

               “ไม่ต้องๆ เดี๋ยวฉันเล่าเองนึกออกพอดี เอ้าใครจะฟังก็นอนดีๆ” ลมเลร้องห้ามเพราะเขานึกเรื่องที่จะเล่าขึ้นมาได้พอดี ก่อนจะสั่งสองแสบให้นอนดีๆ พร้อมกับตัวเองเอนตัวนอนลงข้างๆ ขุนจันทร์และรักษ์เองก็นั่งพิงหัวเตียงข้างๆ ขุนอินทร์

               “พ่อเริ่มเล่าละนะ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...นาน...จนพ่อก็จำไม่ได้ว่ะ”

               “พ่อ!” สองแสบร้องเสียงดังเมื่อโดนคนเป็นพ่อแกล้งทั้งที่อุตส่าห์ตั้งใจฟัง

               “ฮาๆ พ่อแค่ลองดูว่าพวกเอ็งตั้งใจฟังหรือเปล่า ฮาๆ มาๆ เอาจริงแล้ว กาลครั้งหนึ่ง ณ อาณาจักรสายลม”

               “ชื่อเหมือนสวนบ้านเราเลยครับพ่อ” ขุนจันทร์ขัดขึ้นมา

               “เอ็งจะฟังไม่ฟัง ถ้าฟังอย่าขัด” ลมเลว่า เด็กน้อยก็รีบปิดปากนิ่งทันที ลมเลก็ได้ทีเล่าต่อ “ในอาณาจักรสายลมมีราชาผู้หล่อเหล่าที่ใครก็หล่อสู้ไม่ได้ และมีลูกชายเป็นเจ้าชายตัวน้อยสองคนมีชื่อว่า เจ้าชายอินทร์ เจ้าชายจันทร์” สองแสบฟังไปก็ตื่นเต้นไปยิ่งมีชื่อของตัวเองอยู่ด้วยก็ยิ่งชอบใจ เพราะเด็กน้อยได้เป็นเจ้าชายเลยตั้งใจฟังลมเลเล่าต่ออย่างตั้งใจ

               “เจ้าชายอินทร์และเจ้าชายจันทร์นั้นแสนซนมากทำให้ราชาสุดหล่อนั้นปวดหัวสารพัด”

               “พี่อินทร์กับจันทร์ไม่ได้ซนสักหน่อย”

               “ใช่ๆ พ่อนะมั่ว” สองแสบขัดขึ้นมาอีก

               “พวกเอ็งนิขัดจังว่ะ” ลมเลว่าทั้งเกาหัวแกรกๆ รักษ์ที่มองอยู่ก็ได้แต่นึกขำ

               “ก็พ่อว่า แล้วพี่อินทร์หล่อสุดไม่ใช่พ่อสักหน่อย” ขุนอินทร์ยังเถียงเพราะมั่นใจว่าตนเองหล่อสุดไม่ใช่คนเป็นพ่อ

               “เอ็งจะฟังไม่ฟัง” ลมเลถามอย่างกวนๆ ลูกชายช่างขัด

               “ฟังครับๆ น้องจันทร์ให้พ่อหล่อสุดก็ได้ พ่อเล่าต่อน่า” ขุนจันทร์พูดอย่างออดอ้อนยอมให้พ่อหล่อสุดเพราะอยากฟังนิทานต่อ ขุนอินทร์ก็พยักหน้าสมทบอย่างต้องการบอกว่ายอมก็ได้ รักษ์เลยยกมือไปลูบหัวเล็กอย่างเอ็นดู

               “นั้นก็เงียบๆ อย่าขัด ถึงไหนแล้ว อ่อ เจ้าชายทั้งสองโคตรซน โคตรดื้อ จนราชาสุดหล่อปวดหัวมาก แล้ววันหนึ่งราชาสุดหล่อก็ได้หาเจ้าหญิงเพื่อมาดูแลเจ้าชายทั้งสอง เจ้าหญิงคนนั้นใจดีมากๆ และน่ารักมากๆ” ลมเลเล่าไปก็เหลือบไปมองรักษ์ด้วยจนรักษ์รู้สึกเขินอาย แอบคิดว่าที่ลมเลเล่ามานั้นใช่ตนเองหรือเปล่า

   “ใช่ๆ อารักษ์เป็นเจ้าหญิงใจดีมากๆ ” ขุนจันทร์ว่า

   “เป็นเจ้าหญิงที่สวยมากๆ ด้วยครับ” ขุนอินทร์เสริม

   “อารักษ์ไม่ใช่เจ้าหญิงสักหน่อยครับ คุณลมเล่าต่อเถอะครับ” รักษ์บอกสองแสบก่อนจะบอกให้ลมเลเล่าต่อ รักษ์รู้สึกเขินอายที่ลมเลเอาแต่มองแล้วก็ยิ้มจนรักษ์ต้องหลบสายตาลมเลถึงจะยอมเล่าต่อ

   “ขัดได้ขัดดีจริงๆ นะพวกเอ็ง เจ้าหญิงต่างเป็นที่รักของทุกคนในอาณาจักร เจ้าชายทั้งสองรักเจ้าหญิงมากๆ เจ้าหญิงเองก็รักเจ้าชายมากๆ เช่นกัน”

   “ใช่ๆ น้องจันทร์รักอารักษ์”

   “พี่อินทร์ก็รักด้วยยย”

   “ถ้าพวกเอ็งขัดอีกทีพ่อไม่เล่านะ” ลมเลว่าอย่างหน่ายๆ กับลูกชายทั้งสอง วันนี้จะจบกันไหม

   “อารักษ์ก็รักเจ้าชายทั้งสองครับ ไม่เอาไม่ขัดพ่อแล้วนะครับวันนี้ไม่จบพอดี” รักษ์บอกเด็กทั้งสองด้วยรอยยิ้ม

   “พี่อินทร์จะฟังเงียบๆ”

   “น้องจันทร์ด้วย”

   “ให้มันจริงเถอะ” ลมเลว่า “มาๆ ต่อๆ ในอาณาจักรอยู่กันอย่างมีความสุขเพราะทุกคนรักกันรวมถึงราชาสุดหล่อเองก็รักเจ้าชายทั้งสอง และเจ้าหญิงก็รักราชาสุดหล่อด้วย”

   “ใครบอกว่าผมรักคุณกันละ” พอเล่ามาถึงนี้รักษ์พูดขัดขึ้นมาเพราะลมเลเริ่มจะเล่าเพ้อเจ้อไปเรื่อย ถึงจะจริงก็เถอะแต่เรื่องอะไรรักษ์จะยอมรับกัน

   “อารักษ์อย่าขัดพ่อเดี๋ยวพ่อไม่เล่านะครับ” ขุนอินทร์แหงนหน้าขึ้นบอก รักษ์เลยต้องนิ่งไปทั้งที่ใจยังคงเต้นแรง ยิ่งเห็นรอยยิ้มของลมเลที่มองมาอย่างยียวนยิ่งสั่นไหว

   “ฮาๆ พ่อเล่าต่อนะ เวลาดำเนินไปเรื่อยมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในอาณาจักรสายลม จนสุดท้ายราชาสุดหล่อก็ได้ครองรักกับเจ้าหญิงอย่างมีความสุขตลอดไป เอ้าจบนอนๆ”

   “พ่อ! เจ้าหญิงต้องคู่เจ้าชายสิ” ขุนอินทร์เถียงมีขุนจันทร์พยักหน้าเห็นด้วย ก็พ่อมัวมีที่ไหนตอนจบเจ้าหญิงคู่กับราชา นิทานพ่อก็สั้นนิดเดียวเอง

   “นิทานอะไรของคุณครับ” รักษ์ว่าทั้งใบหน้าแดงๆ ทำไมลมเลถึงชอบทำให้เขาหวั่นไหวได้ตลอดเลย ทำแบบนี้รักษ์กลัวเหลือเกินกลัวว่าจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าลมเลก็คิดเช่นเดียวกันกับตนเอง

   “ก็พอใจให้จบแบบนี้พวกเอ็งจะทำไม ก็ราชาสุดหล่อก็รักเจ้าหญิงด้วยนี้หว่า” ลมเลว่ากลับไปทั้งเตรียมลุกขึ้นจากเตียงนอนของลูกชาย แต่แล้วลมเลก็ต้องตกใจเมื่อเสียงของสองแสบดังขึ้นพร้อมกัน รักษ์เองก็สะดุ้ง

   “พ่อรักอารักษ์หรา”

ลมเลนิ่งนึกในใจเวรแล้วไหมละ หันไปมองทางรักษ์ก็เห็นนั่งมองเขานิ่งใบหน้าแดงไปหมด ลมเลรู้สึกว้าวุ่นมากไม่รู้จะแก้สถานการณ์นี้ยังไงดี สุดท้ายก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กลบเกลื่อนแล้วรีบเดินออกจากห้อง ก่อนออกมาก็แอบเห็นใบหน้าของรักษ์เศร้าลงจนรู้สึกใจคอไม่มีนึกเป็นห่วงอีกคนขึ้นมา ลมเลรู้ดีว่ารักษ์รู้สึกยังไงกับตนเพราะการกระทำและสีหน้าของรักษ์แสดงออกชัดเจนแต่เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าตนเองอ่านออกง่ายขนาดนั้น ลมเลเองก็คิดไม่ตกเขาจะปล่อยให้เรื่องนี้มันเป็นไปแบบนี้เรื่อยๆ ไม่ได้ หรือเขาควรจะจัดการมันให้ชัดเจนเสียที ลมเลได้แต่คิดทบทวนทั้งคืน



"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ลูกคู่มาแล้วจ้าาาาาา ฝากติดตามและให้กำลังใจลูกคู่กันเยอะๆ นะคะ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :3123:
 :pig4:

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0

                                     ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 19                                 

 เช้านี้ลมเลตื่นมาในเวลาปกติตั้งใจว่าจะไปหากาแฟดื่มสักแก้วแต่เมื่อผ่านห้องครัวก็เห็นรักษ์กำลังทำอาหารเช้าอยู่ เป็นเรื่องปกติที่รักษ์จะตื่นแต่เช้ามาทำอาหารแบบนี้แต่วันนี้ลมเลกลับรู้สึกไม่ปกติตอนจะก้าวเท้าเข้าไปหาอีกคนเรื่องเมื่อคืนกลับย้อนขึ้นมากวนใจ ยอมรับเลยว่าลมเลว้าวุ่นใจมากที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำให้เขาวุ่นวายและกังวลใจได้มากขนาดนี้มาก่อนเลย ลมเลเองก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร

               “โอ๊ย!”

เสียงร้องที่ดังจากในครัวทำให้ลมเลต้องละทิ้งความคิดรีบเดินไปดูรักษ์ทันที และเมื่อไปถึงก็พบว่านิ้วขาวมีเลือดสีแดงไหลออกมาคงเพราะหั่นผักพลาดไปโดน

               “ไปล้างแผลก่อน”ลมเลจับมือที่เป็นแผลขึ้นดูก่อนจะพารักษ์ไปที่อ้างเปิดน้ำล้างแผลให้เสร็จก็เดินจูงมืออีกคนไปที่โซฟาโดยที่ไม่ให้โอกาสรักษ์ได้พูดค้านอะไรเลย แผลไม่ได้ใหญ่อะไรมากแท้ๆ รักษ์คิด

   “เดี๋ยวฉันไปเอากล่องพยาบาลแปบหนึ่ง”

   “เอ่อ” รักษ์จะเอ่ยค้านแต่อีกคนกลับไม่ฟังอะไรเลย รักษ์แค่จะบอกว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมากแท้ๆ แต่อีกคนกลับทำท่าทีเป็นห่วงเป็นใยทำอย่างกับเขาเจ็บสาหัสทั้งที่ก็แค่แผลมีดบาดเล็กนิดเดียว ซึ่งรักษ์รู้ดีว่าที่ตนเองได้แผลก็เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องลมเลทำให้ไม่มีสมาธิ

   “เอามือมาฉันทำแผลให้” รักษ์ก็ว่าง่ายทำตามที่ลมเลบอกทุกอย่างเพราะสีหน้าเป็นห่วงของลมเลนั้นทำให้รักษ์ไม่กล้าปฏิเสธมัน แต่จริงๆ แล้วรักษ์รู้ดีว่ามันเป็นเพราะใจของเขาเองที่ไม่อยากปฏิเสธยิ่งเห็นอีกคนเป็นห่วงรักษ์ก็ยิ่งอยากกอบโกยความรู้สึกดีนี้ไว้ให้มากที่สุด รักษ์ไม่รู้หรอกว่าที่ลมเลแสดงออกมานั้นเพราะอะไรกันแน่อาจจะเป็นแค่เจ้านายห่วงลูกน้องแต่รักษ์ก็เต็มใจจะยอมรับความห่วงใยนี้แม้จะไม่ใช่ความรู้สึกที่รักษ์หวังก็ตาม

   “ขอบคุณครับ” รักษ์บอกเบาๆ เมื่อลมเลแปะพลาสเตอร์ยาให้เสร็จ

               “ไม่เป็นไร ทีหลังก็ระวัง อย่าทำให้ฉันเป็นห่วง” ลมเลบอกไปด้วยสีหน้าห่วงใจจากใจจริงๆ ทำเอารักษ์รู้สึกสับสนไปหมดว่าตกลงแล้วลมเลคิดหรือรู้สึกยังไงกันแน่เพราะการกระทำบางครั้งมันก็ทำให้รักษ์แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าลมเลก็รู้สึกดีกับตนเอง แต่บางครั้งก็ทำราวกับไม่ได้รู้สึกอะไร รักษ์อยากบอกลมเลเหลือเกิน ‘หากคุณไม่คิดอะไรอย่าทำให้ผมคิดไปไกลและหวังไปมากกว่านี้เลย’ แต่รักษ์ก็ทำได้แค่คิด

               “เอ่อ ผมขอไปทำอาหารต่อนะครับ” ว่าจบรักษ์ก็รีบลุกขึ้นทันทีไม่อยากอยู่ตรงนี้ให้รู้สึกว้าวุ่นใจไปมากกว่านี้

               “ที่บอกว่าเป็นห่วงฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ” ลมเลพูดขึ้นขณะรักษ์กำลังเดินออกไป รักษ์ทำเพียงหยุดฟังแล้วก็เดินต่อไปทำให้ลมเลไม่เห็นว่ารักษ์ทำสีหน้าอย่างไร ลมเลแค่ต้องการย้ำให้อีกคนรู้ว่าเขาเป็นห่วงจริงๆ ลมเลไม่สบายใจเลยที่เห็นรักษ์เอาแต่ทำหน้าหม่นหมองและยิ่งสาเหตุเป็นเพราะตัวเขาแล้วยิ่งไม่สบายใจเข้าไปใหญ่ ตอนนี้ก็มาคิดวุ่นวายอีกว่าจะตามเข้าไปช่วยรักษ์ในครัวดีหรือเปล่า ถ้าเข้าไปแล้วจะทำอะไรยังไงดี เห้ออออ ชีวิตไอ้ลมจะมีรักทั้งทีทำไมวุ่นจังว่ะ ลมเลคิด จนแล้วจนรอดก็ตัดสินใจเดินตามรักษ์เข้าครัวไปก็ในเมื่อ เมื่อคืนเขาตัดสินใจแล้วว่าจะรุกก็ต้องรุกให้มันสุดๆ

‘เอาว่ะเป็นไงเป็นกัน’ บอกกับตัวเองก่อนจะเดินตามอีกคนไป

               เมื่อเข้ามาในครัวก็เห็นรักษ์กำลังจะเอาผักไปล้างก็อาสาไปทำแทนให้เพราะกลัวแผลอีกคนโดนน้ำ รักษ์ดูงงๆ ว่าอยู่ดีๆ ลมเลเข้ามาช่วยในครัวทำไมปกติเคยมีที่ไหนกัน

               “ผมทำเองได้ครับ” รักษ์บอก

               “ไม่ได้ มือนายเป็นแผลอยู่”

               “แผลแค่นี้เองครับ” รักษ์ยังคงเถียงต่อ

               “ไม่ได้คือไม่ได้ อย่าดื้อ” ลมเลาฃว่าอีก จนรักษ์ต้องยอมแพ้ หันไปทำอย่างอื่นต่อ

ทั้งสองช่วยกันทำอย่างเงียบๆ มีบ้างที่ลมเลร้องถามว่าต้องทำอะไรอย่างไร ซึ่งไม่ได้ทำให้ทั้งสองรู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด รู้สึกดีเสียด้วยซ้ำที่ได้คอยแอบชำเลืองมองกันไปมา พอนึกแล้วก็ตลกดีเหมือนกัน

               “ได้เวลาปลุกสองแสบแล้ว” รักษ์ร้องขึ้นเมื่อดูนาฬิกาข้อมือ และเตรียมจะไปปลุกเด็กชายทั้งสอง

               “เดี๋ยวฉันไปปลุกเองนายทำต่อเถอะ”

เมื่อได้ยินลมเลบอกแบบนั้นรักษ์ก็สนใจทำอาหารตรงหน้าต่อซึ่งใกล้จะเสร็จแล้ว ต้องขอบคุณลมเลที่อุตส่าห์มาช่วยทำให้เสร็จเร็วกว่าปกติเล็กน้อย รักษ์ก็พึ่งรู้วันนี้ว่าลมเลก็พอมีทักษะในการทำอาหารอยู่บ้างเพราะทำบ่อยตอนสมัยเรียน

               หลังเสร็จมื้อเช้ารักษ์ตั้งใจว่าสายๆ จะชวนสองแสบทำขนมไว้ให้น้ำฟ้าที่จะมาในวันนี้ สองแสบพอได้ยินก็ดีใจใหญ่เพราะคิดถึงอาฟ้าคนสวย

               “พี่อินทร์ทำคุณทุเรียนให้อาฟ้าได้ไหมครับ” ขุนอินทร์นึกถึงบัวลอยรูปทุเรียนที่เคยทำให้พ่อกิน เลยอยากทำให้อาฟ้าลองชิมดูบ้าง

               “น้องจันทร์ก็อยากลองทำคุณเต่าดูบ้าง” ครั้งก่อนคุณกระต่ายครั้งนี้จะเอาคุณเต่าเพราะขุนจันทร์เห็นคุณเต่าในทีวีมันน่ารักดี

               “พวกเอ็งช่วยสงสารคนกินหน่อยเถอะ” ลมเลว่าเขายังสยองคุณทุเรียนกับคุณกระต่ายไม่หายเลย

               “ต้องสงสารคุณเต่าสิพ่อ คุณเต่าถูกกินน่า” ขุนจันทร์ว่าอย่างใสซื่อ ทำเอาคนเป็นพ่อกรอกตาอย่างระอา

               “ถ้าอย่างนั้นเราทำเป็นอย่างอื่นดีกว่าไม่ครับ คุณเต่าไม่ถูกกินด้วย” รักษ์เสนอ

               “น้องจันทร์ไม่ทำคุณเต่าแล้วก็ได้ครับ”

               “แล้วคุณทุเรียนของพี่อินทร์ละ” ขุนอินทร์ยังอยากทำคุณทุเรียนอยู่เลย

               “ทำเม็ดทุเรียนพอเอ็งนะ” ลมเลร้องบอกลูกชาย

               “เม็ดทุเรียนกินไม่ได้นะพ่ออออ” ขุนอินทร์ท้วง

               “นั้นก็ไม่ต้องทำ” ลมเลรีบบอกเพราะกลัวได้กินบัวลอยดิบอีก

               “เอาไว้ค่อยทำคุณทุเรียนกับคุณเต่าวันหลังนะครับ วันนี้เราทำบัวลอยสีรุ้งสวยๆ กันดีกว่า ดีไหมครับ” รักษ์ว่าเป็นการสรุปทั้งบอกเมนูที่จะทำวันนี้

               “ดีครับบบบบบ” สองแสบร้องรับเสียงดัง คนเป็นพ่อต้องสายหน้าให้อย่างหน่ายๆ เบื่อลูกตัวเองผิดไหม

               “วันนี้คุณลมเข้าสวนไหมครับ” ละจากเด็กๆ หันมาถามคนเป็นพ่อ

               “ไม่” ลมเลบอก

               “ดีเลยครับได้อยู่ทำขนมด้วยกัน สองแสบคงดีใจ” รักษ์บอกทั้งยิ้มยินดีสองแสบคงมีความสุขถ้าได้ทำอะไรกับพ่อบ้าง และรักษ์เองก็ดีใจเช่นกัน

   ตอนสายรักษ์จัดเตรียมของสำหรับทำขนมโดยมีลูกมือเป็นสามพ่อลูก รักษ์ตั้งใจจะทำบัวลอยสีรุ้งฉะนั้นจึงต้องทำแป้งหลายๆ สี โดยเอาสีจากธรรมชาติแทนสีผสมอาหารซึ่งหาได้ง่ายจากรอบๆ บ้าน มีสีเขียวที่เอาจากใบเตย สีน้ำเงินจากอัญชัน สีแดงจากดอกเฟื้องฟ้า สีส้มจากแครอท และสีขาวคือสีของแป้งปกติ

   สองแสบสนุกและตื่นเต้นกับการคั่นน้ำจากพืชต่างๆ มาก มีขอลองทำเองรักษ์ก็ไม่ห้ามให้เด็กทั้งสองได้ลองทำดูถึงจะพลาดจนทำให้น้ำสีเขียวหกไปจนหมดก็ตาม เดือดร้อนให้ลมเลไปเก็บใบเตยมาทำใหม่อีกรอบ

   รักษ์นวดแป้งแบ่งแยกเป็นสีๆ ก่อนจะนำออกมาปั้นทีละสี สอนให้สองแสบปั้นเป็นก้อนเล็กๆ เท่าปลายนิ้ว สองแสบก็ทำอย่างตั้งใจคอยวัด คอยเทียบให้แต่ละลูกเท่าๆ กัน ลูกไหนไม่เท่าก็เอามาปั้นใหม่ ถึงจะเสียเวลาไปหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไรให้สองแสบได้ค่อยๆ เรียนรู้อย่างเต็มที

   “พวกเอ็งมานี้สิ” ลมเลเรียกลูกชายเบาๆ สองแสบหันมองแต่ก็หันไปสนใจปั้นต่อ รักษ์เองก็ตั้งหน้าตั้งตาปั้นไม่ได้สนใจอะไร

   “มานี้ก่อนเดี๋ยวเลี้ยงติม” ลมเลเอาของกินมาล่อ เพราะรู้ดีว่าสองแสบไม่ปฏิเสธแน่นอน ไม่เชื่อก็ดูตอนนี้สองแสบเสนอหน้ามาที่เขาเรียบร้อยแล้ว ลูกใครว่ะเห็นแก่กิน

   “พ่อทำไร” ขุนอินทร์ถาม

   “เอานี้ไปให้อารักษ์ บอกรับของพ่อไปด้วย” ลมเลวางสิ่งที่ตั้งใจทำไว้บนมือขุนจันทร์ เมื่อเด็กน้อยทั้งสองเห็นก็ตาวาวทันทีอยากทำแบบพ่อบ้าง

   “น้องจันทร์อยากทำบ้างงงง”

   “ไม่ได้ พ่อทำให้อารักษ์ได้คนเดียว ไปเลยรีบนั้นอดติม” ลมเลกระซิบบอกไม่วายขู่ลูกชายอีก สองแสบด้วยความกลัวว่าจะอดกินไอศกรีมก็ยอมทำแต่โดยดี เดินไปหารักษ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว

   “อารักษ์” สองแสบร้องเรียก รักษ์เลยต้องหยุดมือหันมาสนใจเด็กทั้งสองแทน

   “ว่ายังไงครับ”

   “พ่อให้เอามาให้ครับ” ขุนจันทร์บอกทั้งแบมือให้เห็นสิ่งที่ถูกฝากมา ทำเอารักทำสีหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว

   “พ่อบอกว่ารับของพ่อไว้ด้วยครับบบ” ขุนอินทร์บอกเพิ่ม

   “หัวใจๆ หัวใจพ่อให้อารักษ์” ขุนจันทร์บอกทั้งรอยยิ้มยืนมือส่งไปให้รักษ์

รักษ์หยิบก้อนแป้งสีแดงเล็กๆ ที่ถูกปั้นเป็นรูปหัวใจเบี้ยวๆ ขึ้นมาก่อนหันไปมองลมเลอย่างสงสัยระคนแปลกใจ แต่กลับได้รอยยิ้มจากอีกคนกลับมาทำให้รักษ์รู้สึกเขินอายไม่น้อย นี้ลมเลกำลังจีบเขาอยู่หรือเปล่า รักษ์ไม่อยากคิดไปเองเลย แต่ไอ้ก้อนหัวใจเบี้ยวๆ นี้เป็นตัวยืนยันว่าลมเลกำลังจีบรักษ์แน่ๆ รักษ์ไม่ได้ซื่อขนาดดูไม่ออก ถึงมันจะเป็นความรู้สึกเหลือเชื่อแต่รักษ์ก็ยินดีรับมันก็รักษ์ชอบเหมือนกัน เลยหยิบแป้งสีขาวมาปั้นเป็นรูปหัวใจแล้วฝากเด็กน้อยทั้งสองนำไปให้คนเป็นพ่อพร้อมกับคำพูดที่ทำเอาลมเลเสียอาการอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

               “บอกพ่อว่าอารักษ์ให้แล้วไม่รับคืนนะครับ”

...

ลูกคู่มาต่อแล้วน่าาาาาาาาา แอบประชุมมาลงลูกคู่กันจ้าาาาาา ขอเสียงคนรักลูกคู่หน่อยจ้าาาาาาาาาา พ่อเขาจีบกันนนนนนน

   

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เขาจีบกันน่ารักเชียว   :mew2:

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 20

   “รักษ์ ยายฟ้าใกล้ถึงแล้ว เตรียมออกไปรับกันเลยนะ” ลมเลเดินเข้ามาบอกรักษ์ในครัว

   “เดี๋ยวผมตักบัวลอยแปบหนึ่งครับ” ร้องบอกรับลมเลทั้งรีบตักบัวลอยใส่กล่องให้น้ำฟ้า และพ่อแม่ของลมเล เพราะเดี๋ยวต้องเข้าไปส่งน้ำฟ้าที่บ้าน เตรียมของเรียบร้อยก็ออกมาดูสองแสบที่ลมเลจัดการให้เรียบร้อยแล้ว

   “เสร็จแล้วหรือ”

   “ครับ”

   “นั้นไปกัน”

ทั้งสี่มุ่งไปรับน้ำฟ้าที่หน้าถนน ซึ่งเป็นทางเข้าสวนพอดี ไปรออยู่ได้สักครู่หนึ่งรถทัวร์ก็มาจอดพร้อมกับร่างเล็กระหงเดินลงมารักษ์รีบเปิดประตูรถลงไปหาเพื่อนสาวทันทีรวดเร็วชนิดที่ว่าลมเลร้องทักไม่ทัน

      “ฟ้า” รักษ์ร้องเรียกเสียงดัง ก่อนจะเข้าไปช่วยถือของที่เต็มไม้เต็มมือไปหมด

      “รักษ์ คิดถึง” น้ำฟ้าร้องบอกอย่างดีใจ

      “ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี้ย” รักษ์ถามเพราะของในมือเยอะมาก

      “ก็พวกของฝากนี้แหละ” คุยกันไปทั้งเดินไปที่รถที่จอดอยู่ใกล้ๆ โดยมีสองแสบและลมเลยืนรออยู่ สองแสบพอเห็นว่าอาฟ้าคนสวยเดินมาใกล้ถึงก็ร้องเรียกเสียงดัง

     “อาฟ้า!” เด็กชายทั้งสองวิ่งไปเกาะน้ำฟ้าทันที     

      “ว่าไงสองแสบมาให้อาหอมที” ว่าแล้วก็ก้มลงหอมแก้มใสๆ ไปคนละทีทำเอาสองแสบดีใจใหญ่

      “ให้มันน้อยๆหน่อยพวกเอ็งนะ” ลมเลที่ยืนนิ่งอยู่พูดขึ้น แต่ละคนไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรหนักหนา

      “ยืนเก๊กอยู่นั้นแหละคุณพ่อลูกสอง” น้ำฟ้าว่าเพราะรู้สึกหมั่นไส้พี่ชายตัวเองที่ชอบทำเป็นเก๊ก ถ้าถามว่าลมเลสนไหมก็ไม่ หันไปช่วยรักษ์ถือของแทน น้ำฟ้านี้รีบมองแรงทันทีอะไรคือไม่ช่วยเธอทั้งที่ของในมือเธอมากกว่ารักษ์อีก นายหัวลมนี้ชักจะยังไงๆ กับเพื่อนของเธอแล้วจริงๆ สินะ เลยแกล้งแซ่วไปนิดหน่อย

      “น้องนุ่งไม่คิดช่วยเลยนะ ได้สิเดี๋ยวนี้เขามีคนของใจแล้ว” แนะยังทำเป็นไม่สนใจอีกพี่ชายคนนี้ แล้วไอ้เพื่อนเขานี้อะไรเขินทำไม แกล้งอีกคนแต่อีกคนกลับมาหน้าแดงเขินอายแทนเออเอาเข้าไปดูไม่ออกเลยว่าชอบเขานะรักษ์ เพื่อนฉันให้มันได้แบบนี้ แล้วดูพี่ลมยังมีหน้าไปยิ้มแหย่รักษ์มันอีก หนักแล้วสองคนนี้ น้ำฟ้าไม่คิดเลยว่าทั้งสองจะเป็นเอามากขนากนี้

      ตอนนี้ทุกคนกำลังอยู่กันบนรถโดยมีลมเลเป็นคนขับและมีรักษ์นั่งอยู่ข้างๆ ส่วนน้ำฟ้าและสองแสบนั่งอยู่ด้านหลัง น้ำฟ้าตอนแรกตั้งใจจะนั่งหน้าคู่กับลมเลแต่พี่ชายตัวดีนั้นใช้ให้เธอขึ้นไปนั่งด้านหลังกับสองแสบ น้ำฟ้าก็ไม่ได้อะไรเข้าใจดีว่าพี่ชายอยากอยู่ใกล้รักษ์มีหรือเธอจะขัด แต่ตอนนี้น้ำฟ้าขัดใจมาก เพราะเมื่อเธอจะคุยกับรักษ์ตามประสาเพื่อนที่รักและคิดถึงมากกลับโดนพี่ชายตัวดีของเธอขัดตลอด ได้พี่ลมได้จะเอากันแบบนี้ใช่ไหม น้ำฟ้าคิดหมายมั่นในใจ

      “รักษ์หยิบน้ำให้ฉันหน่อย” ลมเลที่ขับรถอยู่ร้องบอกคนนั่งข้างๆ

      “นี้ครับ” รักษ์หยิบน้ำยื่นไปให้ พร้อมเปิดฝาให้เรียบร้อย

      “อารักษ์น้องจันทร์กินด้วยครับ” ขุนจันทร์ยื่นหน้าเข้าไป รักษ์ยิ้มให้ก่อนจะรับน้ำจากลมเลมาส่งให้น้องจันทร์

      “พี่ลมวันนี้ฟ้าไปนอนบ้านด้วยนะ” น้ำฟ้าร้องบอกคนขับ

       “ห้องไม่ว่าง นอนบ้านนั้นแหละ” ลมเลร้องบอกเพราะยกห้องให้รักษ์ไปแล้ว

       “ฟ้านอนกับรักษ์ก็ได้ แกฉันนอนกับแกนะ”

       “ไม่ได้” ลมเลรีบร้องห้ามเสียงดังจนรักษ์สะดุ้ง

       “ทำไมละพี่ลม” น้ำฟ้าร้องถามอย่างสงสัย

       “เอ่อ ไม่ได้คือไม่ได้ไง” ลมเลยังยืนยันคำเดิม

       “ทำไมฟ้าจะนอนกับรักษ์ไม่ได้” น้ำฟ้ายังคงเถียงไม่ใช่ว่าเธอจะไม่เคยนอนกับรักษ์สักหน่อย เคยมีอยู่ครั้งสองครั้งที่รักษ์ไปค้างที่ห้องเธอ จำได้ว่าบังคับให้เพื่อนชายมานอนบนเตียงด้วยตั้งนานสุดท้ายเพื่อนก็นอนข้างเตียงอยู่ดี

      “ไม่คือไม่ เอ่อ เออใช่ รักษ์เป็นผู้ชายแกจะนอนด้วยได้ไง ใช่ๆ แบบนั้นแหละ”

       “แบบนั้นแน่หรือพี่ลม ทำไมต้องรนขนาดนั้น” น้ำฟ้าว่าอย่างจับผิดพี่ชาย รักษ์เองก็ได้แต่นั่งมองสองพี่น้องเถียงกันเงียบๆ ยังไงรักษ์ก็ไม่ได้คิดจะนอนด้วยกันกับน้ำฟ้าอยู่แล้วเพราะกลัวจะดูไม่ดี

       “รนอะไรก็ปกติ” ลมเลว่าทั้งขับรถต่ออย่างไม่สนใจน้องสาว ขับรถมาอีกไม่นานก็มาถึงบ้านซึ่งพายุและญาดานั่งชะเง้อคอรออยู่ก่อนแล้วคงเพราะคิดถึงลูกสาว น้ำฟ้าเมื่อถึงบ้านก็รีบวิ่งไปกอดญาดาทันที

      “คิดถึงจังเลยค่ะคุณแม่” ว่าแล้วก็หอมแก้มคนเป็นแม่ไปสองที

      “เป็นยังไงบ้างลูกเหนื่อยไหม” เธอถามลูกสาว น้ำฟ้าทำเพียงสายหน้าตอบ

       “คุณลุง คุณป้า สวัสดีครับ” รักษ์สวัสดี

       “คุณปู่ คุณย่า สวัสดีครับ” สองแสบที่อยู่ข้างๆ รักษ์เอ่ย

       “แม่สวัสดีครับ” ลมเลเอ่ยตามมาทีหลังสุดเพราะมัวหยิบของลงมาด้วย

      “จ้ะลูก แล้วนั้นขนอะไรมาเยอะแยะ” ญาดาถามเพราะในมือลูกชายมีของเต็มไปหมด

      “ถามลูกสาวแม่นู้น ไม่รู้จะซื้อมาทำไมเยอะแยะ” ตอบคนเป็นแม่ไปแต่ก็ไม่วายบ่นน้องสาว

      “ก็ของคนแถวนี้แหละ” น้ำฟ้าว่าทั้งหันมองรักษ์ รักษ์ถึงกับทำหน้างง ถ้าจำไม่ผิดเขาฝากน้ำฟ้าซื้อไม่กี่อย่างเอง

       “แล้วไหนของที่พี่ฝากซื้อ” ลมเลไม่ได้สนใจหันมารื้อถุงข้าวของหาของที่ตนเองฝากซื้อ

       “ตอนแรกละทำบ่นทีนี้ละมาถามหาของนะพี่ลม” น้ำฟ้าว่า

       “เถียงกันเป็นเด็กๆ ไปได้สองพี่น้องนี้” ญาดาว่าลูกทั้งสองก่อนจะหันมาชวนรักษ์เข้าบ้าน “หนูรักษ์เข้าบ้านกับป้าดีกว่า เมื่อเที่ยงป้านึ่งมันไว้ ไปลูกคู่เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า” สองแสบพอได้ยินเรื่องของกินก็ดีใจใหญ่

       “เดี๋ยวครับผมไปหยิบบัวลอยก่อน พอดีวันนี้ชวนสามพ่อลูกเขาทำขนมกันนะครับ” รักษ์ว่าก่อนจะเดินไปหยิบกล่องบัวลอยในรถแล้วเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับญาดาและสองแสบ เสียงพูดคุยเรื่องทำอาหารไม่ขาดสายทิ้งให้อีกสามคนด้านหลังมองอย่างงวยงง พายุมองหน้าลูกสาวและลูกชายอย่างล้อเลียนก่อนจะเดินตามเข้าบ้านไป

       “อะไรคือเมินลูกสาวที่ไม่ได้เจอกันนาน” น้ำฟ้าว่า เธอเองชักจะสงสัยตกลงพี่ชายหรือแม่เธอกันแน่ที่หลงรักษ์

       “คนไม่สำคัญก็งี้” ลมเลว่าแล้วเดินตามเข้าบ้านไปอีกคน น้ำฟ้าได้แต่มองบนเอาเข้าไปคนบ้านนี้ เธอไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไรแต่เรื่องอะไรเธอจะยอมให้ยืดรักษ์ของเธอกัน หัวร้อนเสร็จก็รีบเดินเข้าบ้านตามคนอื่นๆ ไป

      “อาฟ้ามากินบัวลอยสีรุ้งครับ” ขุนอินทร์พอเห็นว่าอาฟ้าคนสวยเดินเข้าบ้านมาก็รีบชวนทันที

      “น้องจันทร์ทำเองเลยน่า อร๊อยอร่อยยยย” แฝดน้องก็ช่วยชงด้วยอีกแรง น้ำฟ้าเลยฟัดแก้มหลายชายไปคนละที

      “อาฟ้ากินแล้วจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับสุดหล่อทั้งสอง” แกล้งแหย่สองแสบไป

      “อาฟ้าอ่า อารักษ์ดูอาฟ้าสิครับ” สองแสบหันไปกระเง้ากระงอยรักษ์ทันทีที่ถูกแหย่กลายเป็นเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนสองแสบโหมดนี้ก็น่ารักกก

      “ฮาๆ อาฟ้าล้อเล่นไหนๆ เอามาให้อาฟ้าชิมหน่อยสิ ไหนใครทำสีอะไรบ้าง” น้ำฟ้าว่าทั้งรับชามขนมบัวลอยหลากสีตัดกับน้ำกะทิขาวชวนให้ลิมลอง

       “น้องจันทร์ทำสีเขียว สีฟ้าด้วย สีแดงก็ด้วย ทำทุกสีเลยครับ”

       “พี่อินทร์ก็ทำทุกสีเลยครับ” สองแสบต่างโอ้อวด

       “โอ้โห่สุดหล่อของอาฟ้าเก่งกันจริงๆ เลย” น้ำฟ้าเอ่ยชมเอาใจหลานชาย

       “ตอนแรกน้องจันทร์จะทำคุณเต่าให้อาฟ้าด้วยน่า”

      “พี่อินทร์ก็จะทำพี่ทุเรียนให้ด้วย” สองแสบยังคงคุยโวไม่หยุด

      “แล้วไหนละครับ ทำไมไม่ทำให้อาฟ้าละ” น้ำฟ้าถามอย่างสงสัย

      “พ่อไม่ให้ทำ” สองแสบพูดขึ้นพร้อมกันเสียงดังทุกสายตาเลยไปหยุดที่ลมเลที่เอาแต่ตักบัวลอยเข้าปากไม่สนใจอะไรจนต้องหยุดชะงัก

       “ทำไมพี่ลม หลานอุส่าห์จะทำให้ฟ้าพี่ห้ามทำไม” น้ำฟ้าแกล้งว่าพี่ชาย

       “เพราะฉันยังห่วงชีวิตแกไง” ลมเลว่าแล้วตักกินบัวลอยต่ออย่างไม่สนใจ ทุกคนต่างสงสัยคงมีแต่รักษ์ที่เข้าใจเรื่องนี้ดีก้อนแป้งโตๆ ยังหลอนเขาอยู่เลย

       “พ่อนะชอบห้ามแถมขี้หวงด้วยยย” ขุนอินทร์บ่นพ่อ

       “ใช่ๆ พ่อชอบห้าม อาฟ้ารู้ไหมวันนี้น้องจันทร์อยากทำบัวลอยรูปหัวใจให้อารักษ์เหมือนพ่อบ้าง พ่อก็ไม่ให้ทำ” ว่าจบคนเป็นพ่อถึงกับสำลักน้ำบัวลอย

      “ใช่ๆ หัวใจส๊วยสวยยย” สองแสบยังไม่จบยังคงพูดต่อลมเลอยากเคาะกระบาลลูกตัวเองเหลือเกินไว้หน้าพ่อบ้างเถอะพวกเอ็ง แต่ก็นะมันคงช้าไปเพราะทุกสายตาหันมองเขาอีกแล้ว

       “มุกจีบเห่ยไปนะไอ้ลูกชาย หึหึ” คำพูดของนายหัวใหญ่แห่งสวนสายลมทำเอาลูกชายหน้าขึ้นสีไปเลยยยยย



""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ลูกคู่มาลิ้วววววววววว



               
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2020 21:46:03 โดย ตั้งโอ๋ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 21

      หลังพูดคุยกันไปตามประสาครอบครัวสุขสันต์เพราะมีสองแสบเป็นสีสันของครอบครับก็ได้เวลาเตรียมอาหารเย็นซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจากญาดากับรักษ์ที่เป็นผู้ทำหน้าที่นี้โดยมีลูกมือเป็นสองแสบเช่นเดิมเพิ่มเติมก็คงจะเป็นน้ำฟ้าที่มาช่วยเสริมอีกคน

      “ใครจะไปเก็บกระเพรากับอาฟ้าบ้างเอ่ย” น้ำฟ้าร้องถามสองแสบแต่กลับได้การสายหน้าเป็นคำตอบเอาแต่เกาะโต๊ะดูรักษ์แกะเปลือกกุ้ง “ไม่มีใครไปจริงๆ หรือ” น้ำฟ้าถามย้ำอีกครั้ง ซึ้งคำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิม น้ำฟ้ามองสองแสบอย่างสงสัยปกติแทบจะไม่ต้องชวนแท้ๆ

       “ลูกคู่ไม่ไปหรอกลูก ไปๆ รีบไปเก็บเร็วๆ เข้า” ญาดาร้องบอกเมื่อเห็นว่าลูกสาวยังรออยู่

       “ทำไมละแม่” เธอถามอย่างสงสัย

       “ก็ติดอารักษ์เขาจะตาย” ญาดาบอกทั้งรอยยิ้ม

      “ไม่ขนาดนั้นสักหน่อยครับคุณป้า”  รักษ์ค้านขึ้นมา

       “เกาะไม่ห่างขนาดนี้ไม่ใช่ได้ไง นี้ฉันกลายเป็นอาตกกระป๋องไปแล้วหรือ” น้ำฟ้าว่าทั้งทำหน้าน้อยใจที่ใครมองก็รู้ว่ามันไม่จริงสักนิด แต่กับสองแสบกลับคิดเป็นจริงเป็นจังว่าอาฟ้าคนสวยน้อยใจเลยรีบไปเกาะเอวซ้ายขวาประจบทันที

       “โอ๋ๆ ไม่น้อยใจน่าอาฟ้า น้องจันทร์ไปด้วยก็ได้”

       “พี่อินทร์ก็ไปด้วยน่า ไม่งอนน่า” สองแสบเอาใจใหญ่ ทำเอาผู้ใหญ่ยิ้มเอ็นดู

       “นั้นไปกัน ใครถึงสุดท้ายแพ้” น้ำฟ้าบอกแล้วรีบวิ่งออกจากครัว โดยมีสองแสบวิ่งตามหลัง ให้รักษ์ต้องร้องเตือนแต่คงไม่ทันเพราะวิ่งหายไปกันแล้ว

      “พอกันเลยทั้งอาทั้งหลาน” รักษ์บ่นเพื่อนสาวเธอนี้ไม่เปลี่ยนไปจริงๆ เล่นได้ตลอดแบบนี้จะไม่ให้หลานแสบได้ไงอาก็ใช่ย่อยแบบนี้

     “เพราะอาเป็นแบบนี้หลานถึงได้ซนนัก” ถึงคำพูดเหมือนจะบ่นแต่น้ำเสียงและรอยยิ้มที่แสดงออกมานั้นก็ทำให้รู้ว่าญาดารักและเอ็นดูลูกสาวและหลานมาก

       “นั้นสิครับ” รักษ์ตอบทั้งรอยยิ้ม เพราะน้ำฟ้าและสองแสบร่าเริงแบบนี้เขาถึงได้มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆรักษ์หันมาตั้งใจแกะเปลือกกุ้งตรงหน้าต่อเพราะยังเหลืออีกหลายตัว

       “แม่ใบกระเพรา” เสียงลูกชายคนโตร้องบอกเมื่อเดินเข้ามา ญาดาเลยพยักหน้าไปทางรักษ์ เป็นอันรู้กันว่าให้เอาไปให้รักษ์เพราะเธอกำลังแกงกะทิอยู่ สองเท้าเลยก้าวเดินเข้าไปหาอีกคนก่อนจะเอาใบกระเพราวางไว้ให้ใกล้ๆ

      “ขอบคุณครับ แล้วฟ้าละครับ” ถามหาคนไปเอาที่ไม่รู้หายไปไหน ทำไมลมเลถึงเอามาให้แทน

      “อยู่เรือนกล้วยไม้กับพ่อนะ”

      “ดูลูกสาวคนนี้” พอได้ยินลมเลตอบญาดาก็บ่นขึ้นมาทันทีเพราะฟังอยู่ด้วย

      “ให้ช่วยพ่อถอนหญ้าดีแล้วแม่ มาในครัวเดี๋ยวครัวพัง” ลมเลว่า คนฟังยิ้มพยักหน้าเห็นด้วยกับลมเล ก็น้ำฟ้านะเห็นหน้าตาน่ารักแบบนั้นแต่เรื่องในครัวนี้ไม่ได้เลย

       “รักษ์หยิบน้ำตาลในตู้ให้ป้าหน่อย” ญาดาร้องบอกทั้งยังดูหม้อแกงไม่ห่าง รักษ์ทำท่าจะไปล้างมือเพราะแกะกุ้งอยู่ก็ถูกมือใหญ่แตะไหล่เสียก่อน

       “เดี๋ยวฉันหยิบเองแกะต่อเถอะ” บอกแล้วก็เดินเลี่ยงไปทางตู้ใส่ของ รักษ์ก็หันมาแกะกุ้งต่อก่อนจะต้องสะดุ้งเพราะเสียงของลมเลที่ร้องถามอยู่ใกล้ๆ

      “ให้ฉันช่วยอะไรไหม” ความจริงลมเลตั้งใจจะเดินออกไปแล้วแต่อีกใจก็อยากอยู่ต่อเลยมาหาอะไรทำคงจะดีกว่ายืนเฉยๆ

       “ทำหมึกเป็นไหมครับ” รักษ์ถาม ในเมื่ออยากช่วยรักษ์ก็ให้ช่วย เมื่อเห็นว่าลมเลพยักหน้ารักษ์ก็เดินไปหยิบหมึกตัวโตในตู้เย็นออกมาให้อีกคนทำ ลมเลก็รับไปทำโดยไม่ได้พูดอะไร มือใหญ่ค่อยๆ หยิบหมึกตัวขาวขึ้นมาอย่างเบามือก่อนจะดึงหัวหมึกออกเบาๆ แต่ก็ไม่ยอมหลุดเลยออกแรงมากขึ้นมือที่จับตัวหมึกอยู่ก็จับแน่นพอใช้แรงดึงเพิ่มขึ้นกลับกลายเป็นว่ามากเกินไปจนทำให้น้ำในตัวหมึกกระเด็นกระจายไปทั่วไม่เว้นแม้แต่ที่ตัวรักษ์

      “คุณลม!” รักษ์ร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นน้ำสีดำๆ กระเด็นมาเกาะตามแขน ต้องทำรุนแรงขนาดไหนถึงขี้หมึกแตกกระจายกระเด็นไปทั่วขนาดนี้

     “เอ่อ โทษทีดึงแรงไปหน่อยนะ” ลมเลบอกอย่างรู้สึกผิดทั้งในมือยังถือซากหมึกที่ตอนนี้ดำไปทั้งตัว

     “ไม่ต้องมายิ้มเลยครับ ไปล้างก่อนเลยเลอะหมดแล้ว” รักษ์บอกทั้งเดินไปที่อ้างแต่ลมเลกลับยืนนิ่งไม่ตามมาจนรักษ์ต้องร้องเรียกอีกครั้ง “มาล้างก่อนครับ ชอบหรือไงหน้าดำแบบนั้น”

       “หน้าดำ” ลมเลทวนอย่างงงๆ หน้าดำอะไร หน้าเขาหรือ ถามตัวเองอย่างสงสัยพร้อมทั้งก้มมองมือตัวเองที่เริ่มดำไปหมดเพราะขี้หมึก

       “ล้างเลยครับ” รักษ์หลบให้อีกคนเข้ามาล้างเมื่อตนเองล้างเสร็จเรียบร้อย ลมเลก็ไม่รอช้ารีบล้างมือที่มีคราบดำออก รักษ์เองก็ไปเคลียร์กับซากหมึกดำๆ ตัวนั้นเก็บเอาไปล้างก็ใช้ได้ แต่พอมาที่อ่างกลับเห็นลมเลยืนยิ้มอยู่ทั้งที่หน้ายังไม่ล้าง หรือไม่รู้กันว่าขี้หมึกติดอยู่ที่หน้า ทางญาดาหันมาเห็นก็ต้องสายหัวให้ลูกชายถึงจะหล่อแต่ขี้หมึกติดแบบนั้นก็ไม่ไหว

       รักษ์หยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาก่อนจะยื่นไปเช็ดหน้าให้ลมเลทำเอาคนตัวโตตกใจยืนนิ่ง รู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะ มือใหญ่ค่อยๆ ยกขึ้นมาจับมือเล็กที่กำลังเช็คหน้าเขาอยู่ก่อนจะเอ่ยขอบคุณเบาๆทั้งรอยยิ้ม รักษ์พอเห็นแบบนั้นก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาเพราะสายตาแพรวพราวจากคนตัวโต ลมเลเองก็เขินอายไม่ต่างกันแต่พยายามเก็บมันไว้

       “เมื่อกี้หน้าดำตอนนี้หน้าแดงแล้วไอ้ลูกชาย” ญาดาเอ่ยแทรกความเงียบขึ้นมาจนทั้งสองต้องหันมองก็เห็นว่าญาดากำลังถือกระบวยยืนยิ้มล้อเลียนอยู่ รักษ์เลยต้องเดินหลบไปแกะกุ้งต่อ ลมเลเองก็ยืนเกาหัวอย่างเก้อๆ แม่นะแม่

      “แกงไหม้หมดแล้วแม่” ลมเลหาเรื่องเปลี่ยน

       “หม้อแกงหรือใครกันที่ไหม้” ญาดาย้อนถามทั้งรอยยิ้ม

      “อะไรของแม่ไม่รู้” ลมเลว่าทั้งหันมาช่วยรักษ์ต่อ แต่ครั้งนี้เด็ดใบกระเพราแทนหลาบกับหมึก

จากที่วุ่นกันอยู่นานอาหารเย็นก็เสร็จรักษ์ยกมาจัดที่โต๊ะเรียบร้อยก่อนจะเดินไปตามสองแสบที่เรือนกล้วยไม้ข้างบ้าน ก็เห็นว่าพายุกำลังตัดแต่งกล้วยไม้ สองแสบก็ช่วยน้ำฟ้ารดน้ำอยู่ใกล้ๆ

      “ข้าวเย็นพร้อมแล้วนะครับ” รักษ์ร้องบอก สองแสบพอเห็นว่าเป็นอารักษ์ก็รีบวิ่งเข้ามากอดทันที น้ำฟ้าก็จัดการเก็บสายน้ำแล้วเดินมาที่รักษ์

      “อารักษ์น้องจันทร์ให้” รักษ์ก้มมองตามเสียงก็เห็นว่ามือเล็กๆ ยื่นดอกกล้วยไม้สีแดงมาให้ทั้งกิ่งจนรักษ์ตกใจเพราะรู้ดีว่าเจ้าของนั้นทั้งรักทั้งหวง

      “ไปเก็บของคุณปู่มาได้ไงครับ” รักษ์ร้องถาม แต่ขุนจันทร์กลับยิ้มเป็นคำตอบแล้วไอ้ยิ้มแบบนี้รู้เลยว่าต้องไปซนมาแน่ๆ

      “ทั้งลูกทั้งหลานซนพอกันเลย” พายุพูดแล้วชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ที่ทั้งสามหยอกล้อกันจนไปเกี่ยวกิ่งกล้วยไม้ที่ชูช่อสวยงามหักลงมา

      “พ่ออ่าฟ้าไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย” น้ำฟ้าว่าอย่างอ้อนๆ

      “แบบนี้น่าตีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่เลยนะครับ” รักษ์พูดทั้งมองเพื่อนสาว

      “เพื่อนรักษ์อย่าทำอะไรเค้าเลยน่า” พูดอ้อนเพื่อนอีกคน สองแสบก็พยักหน้าช่วยอาฟ้าคนสวยอีกแรง

      “คนทำผิดต้องถูกลงโทษ ตอนออกมาก็วิ่งทีหนึ่งแล้ว” รักษ์บอกทั้งลูบหัวสองแสบ แต่ทำน้ำฟ้าหน้ายู่เมื่อได้ยินประโยคต่อมา “เย็นนี้ล้างจานเลยนะอาฟ้าคนสวย ฮาๆ” ว่าแล้วก็พาสองแสบไปล้างไม้ล้างมือกินข้าวและไม่ลืมย้ำสองแสบให้ไปช่วยน้ำฟ้าล้างจานหลังกินข้าวเสร็จเพราะมีส่วนผิดด้วยเช่นกัน

      “นี้แกกุ้งตัวโต ฉันรู้แกชอบ” น้ำฟ้าบอกด้วยน้ำเสียงประจบประแจงตักนู้นตักนี้ให้รักษ์ไม่หยุด รักษ์เองก็ไม่ได้สนใจเพราะรู้จุดประสงค์ของน้ำฟ้าดี แต่เสียใจด้วยนะเพื่อนวิธีนี้ไม่ได้ผลคนผิดก็ต้องโดนรับโทษ

       “พี่อินทร์น้องจันทร์ วันนี้ต้องกินผักเพิ่มนะครับ เพราะซนมาก” รักษ์บอกทั้งตักผักในต้มจืดให้สองแสบที่หน้ามุ่ยเมื่อเห็นผักแต่ต้องรีบยิ้มเมื่อรักษ์มองมา ถึงไม่อยากกินก็ต้องกินเพราะอารักษ์อยากให้กิน

       “แกเอาเต้าหู้” ว่าจบก็ตั้งใจวางเต้าหู้ไข่ลงบนจานข้าวรักษ์แต่ลมเลกลับเอาจานข้าวตัวเองมารับแทน

      “ขอบใจ” ลมเลบอกอย่างไม่สนใจว่าน้ำฟ้าจะทำหน้ายังไงแต่ลมเลรู้สึกขัดใจมากๆ ที่น้ำฟ้าเอาแต่ตักนู้นตักที่ให้รักษ์ไม่หยุด

       “พี่ลม” น้ำฟ้าว่า ลมเลก็ยังคงทำเป็นไม่สนใจ แต่พอน้ำฟ้าตักอะไรให้รักษ์ลมเลจะยื่นจานไปรับแทนตลอด แล้วตักใหม่ให้รักษ์เอง จนน้ำฟ้ารู้สึกหมั่นไส้นึกอยากแกล้งพี่ชายขึ้นมา

      “แกฉันอยากกินหมูทอด แกตักให้หน่อยฉันตักไม่ถึง” น้ำฟ้าร้องบอกรักษ์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามให้ตักให้ รักษ์เองก็ทำให้อย่างไม่อิดออด พอหมูทอดชิ้นโตถูกวางลงบนจานน้ำฟ้าก็หันไปยักคิ้วอย่างผู้ชนะให้ลมเล ลมเลเองก็นึกหงุดหงิดขึ้นมาเขาก็อยากให้รักษ์ตักให้บ้าง

      “นายตักกุ้งให้ฉันหน่อย” ลมเลร้องบอกรักษ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ รักษ์เองก็หันมองลมเลก่อนจะหันมองจานผัดกระเพราทะเลที่อยู่ตรงหน้าลมเล ไม่เข้าใจอยู่ใกล้แค่นี้ทำไมต้องให้เขาตักให้ด้วย แต่รักษ์ใช่คนคิดอะไรมากก็เลยตักกุ้งตัวโตไปให้คนตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆ พอได้ก็ยิ้มเสียยกใหญ่ มันต้องดีใจขนาดนั้นเลยหรือรักษ์คิด แบบนี้คงต้องตักให้บ่อบๆ เพราะรักษ์ชอบเวลาลมเลยิ้มแบบนี้ที่สุด แต่ทางน้ำฟ้ามองบนอย่างระอากับพี่ชายตัวเอง ส่วนพายุและญาดาได้แต่สายหัวให้กับเด็กๆ ในร่างผู้ใหญ่ เล่นอะไรกันก็ไม่รู้

...

ลูกคู่มาลิ้วววววววววววววววววววววววว ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเช่นเดิมมม เรื่อยๆๆๆ อีกลิ้วววววววว อิอิอิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2020 21:52:02 โดย ตั้งโอ๋ »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0

ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 22

               เมื่อวานกว่าจะกลับจากบ้านนายหัวใหญ่แห่งสวนสายลมก็ปาไปสามทุ่ม สองแสบงอแงจะนอนอย่างเดี๋ยวเลยต้องพากลับมานอน น้ำฟ้าไม่ได้ตามมานอนด้วยเพราะลมเลไปยอม แต่เดี๋ยวเย็นนี้นัดกันว่าจะไปเดินตลาดนัดที่ริมทะเล ซึ่งรักษ์ยังไม่เคยไป มาอยู่ก็พักหนึ่งแล้วยังไม่ค่อยได้ไปไหนเลย และเช้านี้อากาศสดชื่นดีมากหลังทานข้าวเช้าเสร็จรักษ์เลยชวนสองแสบมารดน้ำแปลงผัก ส่วนลมเลก็เข้าสวนไปตั้งแต่กินข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยเห็นว่าวันนี้ต้องตัดแต่งกิ่งทุเรียนแต่จะกลับมาตอนบ่ายๆ

               “อารักษ์ผักกินได้ยังครับ” เสียงของขุนอินทร์ร้องถามทั้งถือสายยางรดน้ำสายไปมา

               “ยังครับ ต้องรอให้มันโตกว่านี้ก่อน”

   “ต้องให้โตๆ เท่านี้ก่อนหรือครับ” ขุนจันทร์บอกทั้งวาดแขนเป็นวงกว้าง

   “ใช่แล้วครับ ต้องโตๆ เท่านี้ก่อน” รักษ์บอกทั้งรอยยิ้มเอ็นดู ก่อนจะก้มลงถอดหญ้าตอนเล็กๆ ที่แซมขึ้นมา

   “จันทร์รดบ้าง” ขุนจันทร์บอกทั้งแย่งสายยางจากมือขุนอินทร์

               “ไม่ อินทร์จะรด” แฝดพี่แย่งกลับ

               “จันทร์อยากรดบ้าง” แฝดน้องว่าทั้งแย่งสายยางอีกรอบแต่แฝดพี่ไม่ยอมเลยต้องยื้อกันไปยื้อกันมาจนน้ำที่ออกจากสายกระจายไปถูกเด็กทั้งสองจนเปียก และไม่เพียงเท่านั้นพี่เลี้ยงอย่างรักษ์ที่อยู่ข้างๆ ก็พลอยเปียกไปด้วย รักษ์จ้องมองเด็กทั้งสองที่แย่งสายน้ำกันไปมาอย่างใจเย็นมีไม่บ่อยที่สองแสบจะแย่งอะไรกันแบบนี้

               “พี่อินทร์ น้องจันทร์” รักษ์เรียกเด็กทั้งสองนิ่ง แต่กลับไม่ได้รับการสนใจเลยต้องเรียกซ้ำอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังและนิ่งกว่าเดิม ซึ่งมันได้ผลเพราะเด็กทั้งสองหยุดมือทันทีและหันมามองรักษ์อย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะเสียงอารักษ์นิ่งมาก สองแสบรู้ได้ทันทีเลยว่าทำอารักษ์โกรธเข้าให้แล้ว

               “เอ่อ อารักษ์” ขุนอินทร์เรียกทั้งยังถือสายยางรดน้ำอยู่ สายน้ำที่ไหลออกมารดโดนตัวจนเปียกไปหมด ขุนจันทร์เองก็ปล่อยมือจากสายน้ำมายืนข้างๆ ขุนอินทร์ ตอนนี้สองแสบหน้าตาสลดมากแทบจะร้องไห้เพราะรู้ดีว่าทำผิด แย่งสายน้ำกันไม่พอยังเปียกกันอีกแถมทำอารักษ์เปียกด้วย

               “เอ่อ น้องจันทร์ขอโทษครับ”

               “พี่อินทร์ก็ขอโทษครับ” สองแสนร้องบอกทั้งก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด รักษ์เองยังคงมองสองแสบนิ่งจนเด็กทั้งสองกลัวอารักษ์โกรธ ตั้งใจจะอ้อนสักหน่อยมือของรักษ์ก็ยื่นมาขอสายยางเสียก่อน ขุนอินทร์และขุนจันทร์มองมือขาวที่ยื่นมาทั้งยังทำหน้านิ่งด้วยความรู้สึกไหวเกรงเพราะอารักษ์น่านิ่งมากจนสองแสบแอบกลัว มือเล็กๆ เลยค่อยๆ ยื่นสายยางไปให้ แต่เมื่อรักษ์รับไปรักษ์ก็ยิ้มกว้างทำเอาสองแสบงงไปหมดแต่ก็ต้องตกใจเมื่อรักษ์ฉีดน้ำใส่

               “นี้แนะๆ ซนกันจริงๆ เลย ฮาๆ” รักษ์ฉีดน้ำใส่สองแสบอย่างต้องการแกล้ง ตอนเห็นสองแสบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้รักษ์ต้องกลั่นไม่ให้หลุดขำออกมาแทบแย่

               “ฮาๆ อารักษ์” เด็กทั้งสองร้องเสียงดังหลบหยดน้ำที่ฉีดเข้าใส่กันให้วุ่น จากที่เคยรู้สึกสลดตอนนี้หัวเราะชอบใจกันดังลั่นไปหมด อารักษ์แกล้งงงงงง

               เล่นฉีดน้ำใส่กันจนหมดแรงทั้งสามก็พากันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากลายเป็นว่าเช้านี้อาบน้ำสองรอบกันไปเลยแถมผักก็ไม่ได้รดน้ำอีก

               “พี่อินทร์ น้องจันทร์มาเอาผ้าไปตากได้แล้วครับ” รักษ์ร้องบอกเด็กทั้งสองที่ยืนรออยู่ใกล้ๆ เครื่องสักผ้า เพราะเล่นน้ำจนเสื้อผ้าเปียกเลยต้องซัก และรักษ์ก็ต้องการให้สองแสบรู้จักจัดการกับข้าวของของตัวเองเลยให้ตากผ้าของตัวเอง สองแสบมีใจดีเอาของรักษ์ไปช่วยตากให้ด้วย รักษ์มองเด็กทั้งสองที่จับหูตะกร้ากันไปคนละข้างด้วยสายตาเอ็นดูไม่ว่าจะสอนอะไรสองแสบก็ตั้งใจทำและช่วยเหลือกันดีเสมอ ยกเว้นเมื่อเช้าที่แย่งสายน้ำกันละนะ

               “ต้องเอาด้านในออกมาไว้ด้านนอกก่อนครับ แล้วก็สะบัดๆ ก่อนเอาไปตากนะครับ”

               “แบบนี้ใช่ไหมครับ” ขุนอินทร์ทำให้รักษ์ดู

               “ใช่แล้วครับ เก่งมากๆๆ” พอได้คำชมเด็กน้อยก็ยิ้มหน้าบานเลย

               “แล้วลิงๆ นี้ละครับ” ขุนจันทร์ร้องถามทั้งโชว์กางเกงในสีขาวที่มีลายซุปเปอร์แมนให้รักษ์ดู รักษ์ยิ้มขำก่อนจะบอกให้เอาไปตากที่พวงไม้หนีบ ใช้เวลาไม่นานก็จัดการกับผ้าในตะกร้าจนหมดและพอดีกับมีเสียงมอเตอร์ไซต์วิ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน สองแสบก็รีบวิ่งไปดูว่าเป็นใคร

               “อาฟ้า!” เมื่อเห็นว่าเป็นอาฟ้าคนสวยสองแสบก็รีบไปรับถึงมอเตอร์ไซต์กันเลยทีเดียว

               “ทำไรกันสุดหล่อ”

               “น้องจันทร์ไปตากผ้ามาครับ”

               “พี่อินทร์ก็ด้วย” สองแสบรีบโอ้อวด

               “เดี๋ยวนี้พัฒนาทำงานเองได้ด้วย” น้ำฟ้าแกล้งพูด

               “พี่อินทร์เก่ง”

               “น้องจันทร์ก็เก่ง” ชมตัวเองก็มา

               “จ้า หลานอาฟ้าเก่งที่สู๊ดดดดดด” ว่าทั้งรั้งแก้มเด็กทั้งสองเบาๆ

               “ไปเข้าบ้านกันก่อนครับ ตรงนี้ร้อน” รักษ์ที่เดินตามมาทีหลังร้องบอก เลยพากันเข้าบ้าน

               “เอานี้ของที่ฝากซื้อ” น้ำฟ้าวางของที่หิ้วมาไว้บนโต๊ะ

               “ขอบใจ เมื่อวานลืมเลย” รักษ์ร้องบอกทั้งเปิดของในถุงดู “ทำเค้กกันไหม” รักษ์เอ่ยถามน้ำฟ้าแต่กลายเป็นสองแสบที่ตอบแทนทำให้ตอนนี้ทุกคนเลยย้ายกันมาอยู่ในครัวเพื่อจะทำเค้กฝอยทองกัน ซึ่งแต่ละคนก็ช่วยกันอย่างขยันขันแข็ง

               “พี่อินทร์ไม่เป่าแป้งเล่นสิครับ” รักษ์ร้องเตือนแฝดคนพี่ที่เอาแป้งเค้กใส่มือแล้วเป่าลมใส่ให้แป้งฟุ้งไปในอากาศ รักษ์เองก็ยุ่งอยู่กับการร่อนแป้ง

               “น้องจันทร์นั้นเขาเอาไว้ตีไข่ครับ จะเอาไปทำไม้คอมแฝกไม่ได้” หลุดจากคนพี่ก็คนน้อง

               “ย๊าก อักคีสาดแสง” ว่าทั้งทำท่าทางประกอบ ไม่ได้ฟังที่ห้ามกันเลยจนรักษ์ต้องบอกอีกครั้ง

               “ยังไม่หยุดเล่นนะครับน้องจันทร์” เพื่อให้สองแสบได้อยู่นิ่งรักษ์เลยต้องหางานให้ทำโดยการให้เช็ดพวกอุปกรณ์

   รักษ์ตั้งใจทำเค้กนึ่งง่ายๆ โดยใส่หน้าฝอยทองที่ฝากน้ำฟ้าซื้อจากเพชรบุรี ต้องบอกเลยว่าขนมเมืองเพชรอร่อยอย่าบอกใครเลย เพราะถ้าไม่อร่อยน้ำฟ้าคงไม่ตั้งหน้าตั้งตากินฝอยทองอยู่หรอกครับ

   “ฟ้า ฉันให้แกเอาฝอยทองมาใส่จานไม่ใช่ใส่ปาก”

   “แค่ชิมนิดเดียวเอง” บอกไปทั้งหยิบกินอีกคำโต รักษ์ได้แต่สายหน้าอย่างระอา

   “นี้แก ว่าจะถามสักหน่อย ตกลงอะไรยังไงกันแน่กับพี่ฉันนะ” อยู่ดีๆ น้ำฟ้าก็เลิกสนใจฝอยทองหันมาถามรักษ์เรื่องที่สงสัยอยู่ ทำเอารักษ์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะบอกปัดไป

   “อะ อะไร ไม่มีอะไรสักหน่อย”

   “อย่ามาโกหก ไม่มีแล้วจะเขินทำไม” น้ำฟ้าว่าเพราะเห็นรักษ์เขินจนหน้าแดง จะให้เชื่อได้ไงว่าไม่มีอะไร

   “ก็ไม่มีจริงๆ” รักษ์ยังยืนยันคำเดิมทั้งที่ในใจปั่นป่วนไปหมด

   “นั้นถามใหม่ แก่ชอบพี่ลืมหรือเปล่า” น้ำฟ้าถามทั้งรอยยิ้ม ยิ่งเห็นอาการอ้ำอึ้งของเพื่อนก็รู้ได้เลย

   “เอ่อ คือ” รักษ์ไม่รู้จะตอบว่ายังไงดี จะบอกออกไปยังใจคิดก็กลัวเกินกว่าจะพูดมันออกมา

   “ไหนแกว่าเราสองคนจะไม่มีอะไรปิดบังกันไง” น้ำฟ้าทวงสัญญาที่เคยพูดกันไว้เมื่อเห็นว่ารักษ์ไม่ยอมตอบสักที

   “คือฉัน เอ่อ ฟ้าคือฉันกลัว” รักษ์บอกออกมา

   “แกจะกลัวอะไรรักษ์”

   “ฉันกลัว ไม่อยากคิดเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้” ใช่รักษ์กลัวจริงๆ เพราะรู้ว่ามันคงเป็นไปได้ยากฉะนั้นอยู่แบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว กลัวว่าถ้าคิดมากไปกว่านี้จะกลายเป็นว่าเขาต้องเสียมันไป

   “แกรู้ได้ไงว่าเป็นไปไม่ได้”

   “เอ่อ คือ”

   “รักษ์ แกฟังฉันนะ ฉันรู้ว่าแกคิดอะไร แกรู้สึกยังไง แกไม่ต้องกลัวอะไรแกแค่ทำตามความรู้สึกของตัวเองจะกลัวไปทำไมเจ็บสุดก็แค่เสียใจ อกฉันว่างมาซบได้ฮาๆ”

   “ใครจะไปซบอกแกกัน” รักษ์บอก

   “ทำไมเดี๋ยวเถอะ อย่ามานอกเรื่องตกลงว่า”

   “คือฉัน” รักษ์ก็ยังคงไม่กล้าอยู่ดี

   “แค่บอกว่าชอบหรือไม่ชอบมันยากตรงไหนรักษ์” น้ำฟ้ากอดอกว่าอย่างกดดัน จนรักษ์ต้องหลบสายตา น้ำฟ้าไม่เข้าใจหรอกว่ามันตื่นเต้นแค่ไหนแค่คิดว่าเขาชอบลมเลเขาก็ตื่นเต้นจะแย่นี้ให้มาพูดอะไรแบบนี้รักษ์ก็อดคิดหนักไม่ได้

   “ช่างมันเถอะ ฟ้าจะอยากรู้ทำไมมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย” รักษ์ยังคงเลี่ยงที่จะตอบ

   “เพราะฉันเป็นเพื่อนแกไงฉันถึงอยากรู้ และนั้นก็พี่ชายฉันด้วยไง”

   “แกไม่ต้องกังวลหรอกฉันไม่พาพี่ชายแกมาตกต่ำหรอก” ใช่รักษ์ไม่ได้ต้องการให้ลมเลดูไม่ดีในสายตาใครๆ

   “ฉันไม่ได้กังวลเรื่องนั้น ไม่ได้สนใจด้วยใครจะมองยังไงแต่ที่ฉันสนใจคือความรู้สึกของแก ฉันอยากให้แกมีความสุขถึงได้ถามไงละ อยากได้ยินจากปากแกเองไม่ใช่ฉันคิดไปเอง”

   “ถ้าฉันตอบไปแล้วไงละฟ้า ใช่ว่าคุณลมจะคิดเหมือนกันกับฉัน เก็บไว้คนเดียวแบบนี้ก็ดีแล้ว” รักษ์บอกทั้งใบหน้าหมองลงต่อให้หลายๆ ครั้งการกระทำของลมเลทำให้รักษ์คิดไปไกลแต่รักษ์ก็พยายามเตือนตัวเองเสมออย่าให้นึกฝันไปไกลเพราะถ้ามันไม่ใช่สุดท้ายก็รั้งแต่จะทำให้ตัวเองเสียใจ

   “อย่างน้อยแกก็มีเพื่อนคอยรับฟังแกไง แล้วแกแน่ใจได้ไงว่าพี่ลมไม่ได้ชอบแก ชอบคิดไปเอง” น้ำฟ้าว่าทั้งจิ้มนิ้วลงบนหน้าฝากของรักษ์เบาๆ

   “ก็ฉันเป็นผู้ชาย”

   “ผู้ชายแล้วไง พี่ลมก็ผู้ชายแกยังชอบได้” น้ำฟ้าว่า

   “ไม่เหมือนกันสักหน่อย แล้วฉันบอกตอนไหนว่าชอบ” รักษ์เถียง

   “หรือแกจะเถียงว่าไม่จริง ตกลงชอบไม่ชอบ ถ้าไม่ตอบนี้ขอให้ขึ้นคานตลอดชีวิตเลย” น้ำฟ้ากอดอกว่า

   “ถ้าฉันขึ้นคานฉันจะลากแกไปด้วย” รักษ์เถียงไม่ยอมตอบสักทีจนน้ำฟ้าต้องถลึงตาใส่อีกรอบ “เออๆ บอกก็ได ใช่ฉันชอบ ได้ยินไหมว่าฉันชอบ พอใจยัง” รักษ์ตะโกนบอกเสียงดัง น้ำฟ้าพยักหน้ารับอย่างพอใจ รักษ์เลยหันมาร่อนแป้งต่อแต่สายตาดันไปเห็นใครอีกคนที่เวลานี้ควรจะอยู่ในสวนกลับมายืนอยู่ตรงนี้

   “คุณลม” รักษ์เอ่ยเรียกเบาๆ น้ำฟ้าก็หันไปมองด้วยก็เห็นว่าเป็นพี่ชายทำหน้าสลดอยู่ ก่อนจะเดินออกไปดูก็รู้ว่าสีหน้านั้นผิดหวังมากแคไหน จนรักษ์เองทำตัวไม่ถูกเพราะไม่เคยเห็นลมเลทำสีหน้าแบบนี้มาก่อนสีหน้าที่ราวกับโลกทั้งใบถล่มลงมาและนั้นมันทำให้รักษ์รู้สึกใจคอไม่ดีเลย

...

ลูกคู่มาต่ออีกแล้วน่าาาาาาาาา แสบน้อยๆๆๆ แต่อารักษ์ดูท่าจะงานเข้า 

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 23

 

ตั้งแต่ช่วงสายลมเลก็ดูเงียบไปอย่างผิดปกติ มาเล่นตลาดนัดก็เว้นระยะห่างอย่างที่ไม่เคยเป็น ปกติมาตลาดลมเลมักถามรักษ์เสมอว่าจะซื้ออะไร เอานั้นนี้หรือเปล่า แต่วันนี้คนตัวโตเอาแต่เงียบจนรักษ์รู้สึกไม่ดี

“อารักษ์ พี่อินทร์อยากกินโตเกียวครับ” ขุนอินทร์ร้องบอกทั้งชี้ไปที่ร้านตรงหน้า รักษ์เลยต้องละสายตาจากคนตัวโตที่เดินเยื้องๆ กันอยู่

“ได้เลยครับ น้องจันทร์เอาด้วยไหม” พยายามตอบรับสองแสบให้เป็นปกติแต่รักษ์รู้ดีว่ากำลังฟืน

“น้องจันทร์อยากกินแพนเค้กครับ”

“นั้นอาฟ้าพาไปซื้อแพนเค้กนะครับ รักษ์แกพาขุนอินทร์ไปซื้อโตเกียวก็ได้ได้เสร็จเร็วๆ” น้ำฟ้าบอกก่อนจะจูงมือขุนจันทร์ไปอีกทาง แต่เมื่อเห็นว่าลมเลจะก้าวตามมาก็บอกให้อยู่เป็นเพื่อนรักษ์ “พี่จะตามมาทำไม ไปอยู่เพื่อนรักษ์มันนู้น” ว่าจบก็เดินกันไปอย่างไม่สนใจ ลมเลเลยกลับมายืนข้างรักษ์ ลมเลรู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูกเพราะเรื่องที่ได้ยินมามันรบกวนใจเขาเหลือเกิน ไม่คิดเลยว่าที่ตั้งใจจะรุกรรักษ์กลับต้องมาเจอตอใหญ่รวดเร็วเช่นนี้ และดูเหมือนเขาจะไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปได้อีก เพราะเขาคงไม่สามารถแย่งความรักของน้องสาวมาได้ นึกแล้วก็เจ็บไปทั้งใจ เขาไม่ทันนึกถึงเรื่องที่รักษ์ชอบน้องสาวเขามาก่อนเลย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมารักษ์ไม่ได้แสดงออกอะไร แล้วยังไอ้อาการที่แสดงออกกับเขาอีกมันหมายความว่าอะไรกันคิดแล้วก็ตื้อตันไปหมด

“ได้แล้วครับ” เสียงพ่อค้าร้องบอกมือใหญ่เลยเลื่อนไปรับ เพราะมัวแต่คิดเลยไม่ทันเห็นว่ารักษ์ยื่นมือมารับเช่นกันจนมือทั้งสองสัมผัสกันลมเลตกใจรีบชักมือกลับราวกับโดนของร้อน แต่ก็ไม่เท่ากับรักษ์ที่ใจเสียไปแล้วกว่าครึ่งเมื่อเห็นอาการของคนตัวโต แต่จะให้ทำไงได้นอกจากทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นหันมาสนใจขุนอินทร์และพากันเดินดูของต่อ แม้ภายนอกดูจะไม่มีอะไรแต่ในใจสองดวงกลับปั่นป่วนวุ่นวายไปหมดพาลให้บรรยากาศรอบตัวทั้งสองดูหมองลง จนเด็กชายตัวเล็กรู้สึกแปลกๆ ขุนอินทร์ไม่ชอบแบบนี้เลย อารักษ์ไม่ค่อยยิ้ม พ่อก็เงียบ

“พ่อ อารักษ์” เสียงเล็กเรียกผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนจะยื่นมือเล็กไปจับมือลมเลและรักษ์คนละข้างพร้อมกับยิ้มโชว์ฟัน เพราะเชื่อว่าถ้าตัวเองยิ้มพ่อกับอารักษ์ต้องยิ้มด้วยแน่ๆ และมันก็ได้ผลรักษ์ยิ้มให้เด็กน้อย คนเป็นพ่อก็ยกมือยี่หัวเล็ก ทั้งสองเลยได้รู้ตัวว่ากำลังทำให้เด็กน้อยกังวล

“รักษ์ พี่ลม” น้ำฟ้าที่เดินมาสมทบทีหลังร้องเรียก แอบยิ้มล้อทั้งสองนิดๆ ที่ดูขัดเขินกัน แม้บรรยากาศจะแปลกๆ ไปก็ตาม “แกฉันซื้อขนมไข่นกมาฝากเจ้านี้อร่อยมากบอกเลย” น้ำฟ้าร้องบอกอีกครั้งเมื่อเห็นว่ามันเงียบผิดปกติ

“ขอบใจ” รักษ์บอกเบาๆ ก่อนจะรับขนมไป

“กลับกันเลยไหม” ลมเลร้องถาม เพราะนี้ก็เดินกันมานานมากจนเย็นแล้ว เมื่อเห็นว่าทุกคนพยักหน้าก็เลยพากันกลับ ระห่างทางกลับลมเล และรักษ์ยังคงต่างเงียบ น้ำฟ้ามองสองคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าแล้วกังวลใจ มันต้องมีอะไรแน่ๆ รักษ์เงียบนะไม่แปลกแต่ไอ้หน้าหงอยๆ เนี้ยแปลก ทางลมเลก็นิ่งเกินไปปกติต้องกวนๆ แต่ก็ทำได้แค่เฝ้าดูสถานการณ์

น้ำฟ้าอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนจะกลับและตั้งใจไว้ว่าพรุ่งนี้ค่อยมาคุยกับรักษ์อีกครั้งแต่เอาเข้าจริงๆ เธอกลับต้องเข้าเมืองพร้อมกับพายุและญาดาทำให้ไม่ได้มาที่บ้านของพี่ชาย ทักไปคุยกับรักษ์ก็รู้เลยว่าเพื่อนชายเธอกำลังรู้สึกไม่โอเคซึ้งน้ำฟ้าก็กังวลใจไม่น้อยเพราะรักษ์ดูแย่มากๆ เลยตั้งใจว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้ เพราะทั้งรักษ์และลมเลต่างเงียบไม่ยอมจัดการอะไรเลย คนนอกอย่างน้ำฟ้าเห็นแล้วหงุดหงิดแปลกๆ

“เป็นอะไรลูก” ญาดาร้องถามลูกสาวที่นั่งหน้ายู่อยู่กับโทรศัพท์

“ก็พี่ลมกับไอ้รักษ์นะสิแม่เป็นไรกันไม่รู้ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” เธอพูดทั้งรู้สึกหงุดหงิด

“มันเรื่องของเขาสองคนลูกจะไปวุ่นวายทำไม” พายุที่นั่งอยู่ข้างๆ ญาดาร้องเตือนลูกสาว

“ก็มันขัดใจนิค่ะพ่อ ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าชอบกันแท้ๆ แล้วอยู่ๆ พี่ลมก็มานิ่งใส่รักษ์มัน พี่ลมนะพี่ลม” น้ำฟ้านึกขุ่นเคืองพี่ชายตนเอง

“พี่เขาคงมีเหตุผลของเขา”

“มันต้องมีเรื่องสิจ้ะนั้นมันจะเกิดได้ไง” ญาดาบอกกับลูกสาว น้ำฟ้าเองก็เก็บคำพูดมาคิด ถ้าลองคิดย้อนดูดีๆ ที่ลมเลเป็นแบบนี้ก็ตั้งแต่ตอนที่กลับมาจากสวน แล้วตอนนั้น

“ใช่แล้ว!” น้ำฟ้าร้องขึ้นมาเสียงดังจนผู้ใหญ่ทั้งสองตกใจ ก็เธอพึ่งจะนึกออกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน นี้อย่าบอกนะว่าพี่ชายเธอกำลังเข้าใจอะไรผิดๆ

ทางรักษ์และลมเลยังคงปกคลุมไปด้วยความขมุกขมัวจนสองแสบหงอยลงเพราะอารักษ์ดูไม่สดใสร่าเริง ทางพ่อก็รีบออกไปเข้าสวนแต่เช้าไม่รอกินข้าวพร้อมกัน มืดแล้วก็ยังไม่กลับมา เด็กน้อยไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงแค่ว่าทั้งสองไม่ชอบเลยที่พ่อกับอารักษ์เอาแต่เงียบ ไม่พูดคุยสนุกเหมือนแต่ก่อน

“อารักษ์” เสียงเล็กๆ ของขุนจันทร์เอ่ยเรียกทั้งเกาะเอวของรักษ์ ขุนอินทร์ก็เดินมากาะเอวอีกข้าง

“ว่ายังไงครับคนเก่ง” รักษ์ถามทั้งลูบหัวเล็กๆ อย่างเอ็นดู แต่เด็กน้อยกลับไม่ตอบอะไรเอาแต่ถูหน้าไปกับเอวบางๆ สองวันมานี้ขุนอินทร์ ขุนจันทร์ไม่สดใสเลยและรักษ์ก็รู้ดีว่ามันเป็นเพราะอะไร

“ไปอาบน้ำกันดีกว่าครับวันนี้อารักษ์อ่านนิทานให้ฟังสองเรื่องเลยเอาไหม” พอบอกแบบนั้นสองแสบก็ยิ้มขึ้นรีบพากันไปอาบน้ำ รักษ์ตั้งสติกับตัวเองครู่หนึ่งก่อนจะตามเด็กทั้งสองไป รักษ์รู้ดีว่าไม่ควรเป็นแบบนี้มันทำให้สองแสบหงอยไปด้วย

สองแสบอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยรักษ์ก็ให้รออยู่ในห้องก่อนจะมาจัดการอาบน้ำด้วยเช่นกัน เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยกับรีบเดินไปห้องเด็กทั้งสองทันที เสียงดังได้ยินตั้งแต่อยู่หน้าห้องกันเลยไม่รู้ว่าเล่นสนุกอะไรกัน

“เล่นอะไรกันครับ” เปิดประตูเข้ามาก็ร้องถาม แต่สองแสบกลับยิ้มโชว์ฟัน วิ่งเข้าหาพร้อมกับหนังสือนิทานคนละเล่ม รักษ์รับมาก่อนจะพากันไปนอนบนเตียง รักษ์จัดการห่มผ้าให้เด็กทั้งสองที่ตั้งใจรอฟัง แต่รักษ์ก็ยังไม่เริ่มเล่าเพราะใจยังจดจ่อรออีกคนที่ดึกแล้วก็ยังไม่กลับมา

“อารักษ์เอาพี่สาวผมยาวก่อนนะครับ” เสียงของขุนจันทร์เรียกสติรักษ์ให้กลับคืนมาก รักษ์ยิ้มให้เด็กทั้งสองแล้วก้มลงหอมแก้มที่ทาแป้งจนขาวคนละทีเด็กน้อยชอบกันยกใหญ่ กว่าจะได้เริ่มเล่าเลยเสียเวลานานไปหลายนาที รักษ์ค่อยๆ เล่านิทานไปอย่างช้าๆ จบเรื่องหนึ่งก็หยิบอีกเรื่องขึ้นมาเล่าต่อแต่ยังไม่ทันได้จบสองแสบก็หลับไปเสียแล้วรักษ์เก็บหนังสือนิทานไว้บนหัวเตียง จัดท่านอนสองแสบให้ดีก่อนจะเอนตัวลงพิงหัวเตียงจ้องมองเด็กนอนที่หลับตาสนิท มือขาวลูบไล้ไปตามเรือนผมนุ่นจนตัวเองเผลอหลับตามเด็กชายไป

ลมเลที่พึ่งกลับเข้าบ้านเพราะวุ่นพาเครื่องสูบน้ำไปซ่อมในเมืองจนทำให้กลับบ้านดึก เข้าบ้านมาเห็นไฟในบ้านยังสว่างอยู่ก็คิดว่ารักษ์คงยังไม่นอน แต่เมื่อเดินดูในบ้านกลับไม่เจอพี่เลี้ยงของลูกชาย บ้านก็เงียบสนิท เลยเดินขึ้นไปดูด้านบนเพราะคิดว่าพาสองแสบเข้านอน พอเปิดประตูห้องลูกชายลมเลก็ต้องเบาเสียงลงเมื่อเห็นว่าบนเตียงนอนนั้นมีสองเด็กน้อยและหนึ่งผู้ใหญ่นอนหลับอยู่ ลมเลยกยิ้มกับภาพตรงหน้า นึกสงสารรักษ์ที่เอนตัวพิงหัวเตียงอยู่ดูแล้วน่าจะเมื่อยไม่น้อยเลยจับให้รักษ์นอนลงให้ดีๆ คนถูกก่อกวนส่งเสียงออกมาจนลมเลกลัวว่าจะตื่นแต่เมื่อเสียงเงียบไปพร้อมกับลมให้ใจที่สม่ำเสมอก็รู้สึกโล่งอกไม่ได้นึกเอ็นดูอีกคนอดไม่ได้ที่จะยกมือไปรั้งแก้มขาวๆ เบาๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหน้าตาแบบนี้จะทำให้เขาวุ่นวายใจได้ขนาดนี้ พอนึกถึงเรื่องก็พาลให้โมโหตัวเองที่แสดงออกไปแบบนั้นทั้งที่เอาจริงๆ แล้วเขาไม่ได้มีสิทธิ์อะไรที่จะไม่พอใจอีกคน รักษ์จะชอบใครมันก็สิทธิ์ของรักษ์ ถึงจะรู้อย่างนั้นแต่เขากลับทำใจไม่ได้ ยิ่งเห็นใบหน้านี้มันก็ยิ่งปวดใจเขาถึงต้องพยายามหลบหน้ารักษ์ ‘ขอเวลาให้ฉันตัดใจสักนิดแล้วฉันจะกลับไปเป็นเจ้านายอย่างที่ควรจะเป็น’

“อืม คุณลม”อยู่ๆ คนที่หลับสนิทก็เอ่ยเรียกขึ้นมาจนลมเลตกใจ แต่เมื่อมองดูก็เห็นว่าอีกคนยังหลับสนิท ลมเลเลยยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมอย่างต้องการกล่อมอีกคนให้หลับ และมันก็ได้ผลเมื่อคิ้วที่ขมวดนั้นดูคลายลง ลมเลเลยจัดท่านอนให้ดี ก่อนจะแบ่งผ้าห่มจากสองแฝดมาห่มให้รักษ์ด้วย

ลมเลเดินอ้อมมาอีกทางก้มจูบกลุ่มผมลูกชายคนละทีก่อนจะเดินอ้อมมาที่รักษ์ เขามองก่อนจะค่อยๆ ก้มลงหมายจะจูบหน้าผากมนนั้น แต่แล้วก็ต้องหยุดการกระทำลงเมื่อนึกได้ว่ามันไม่ควร รักษ์เป็นของน้องสาวเขา ฉะนั้นเขาไม่ควรทำแบบนี้

......................................................................................

ลูกคู่มาแล้วนะค้าบบบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 24

   เช้าวันใหม่มาเยือนแต่ใจสองดวงยังคงว่าวุ่นไม่เปลี่ยนเมื่อต่างฝ่ายต่างอ้ำอึ้งใส่กันจนไม่มีใครยอมพูดอะไร สองแสบรู้สึกว่าข้าวเช้าวันนี้ไม่อร่อยเหมือนทุกวันที่ผ่านมาเลยทั้งที่รสชาติก็เหมือนเดิม คงเพราะไม่ชอบใจที่พ่อและอารักษ์ของเขาเอาแต่เงียบไม่ค่อยพูดสนุกเหมือนทุกที หลายมื้อแล้วที่เป็นแบบนี้สองแสบไม่ชอบเลยอยากให้พ่อพูดกวนเหมือนเดิม อยากให้อารักษ์ยิ้มเยอะๆ ไม่ใช่เอาแต่นั่งเหม่อเขี่ยข้าวแบบนี้ ขุนอินทร์ ขุนจันทร์จ้องมองคนเป็นพ่อกับอารักษ์สลับไปมาแล้วก็ถอนหายใจจนผู้ใหญ่ที่นั่งร่วมโต๊ะทั้งสองคนต้องมอง

   “เป็นไรพวกเอ็ง” ลมเลถามลูกชายที่ถอนหายใจกันเฮือกใหญ่

   “พ่อกับอารักษ์นั้นแหละเป็นอะไรกัน” ขุนอินทร์ว่า

   “ใช่ๆ ไม่พูด เอาแต่อืมมมมมมม กัน” ขุนจันทร์พูดเสริมด้วยสีหน้าจริงจัง

พอได้ยินคำพูดของเด็กๆ ทั้งสองหันมองหน้ากันทันทีรักษ์รู้สึกกระวนวายขึ้นมาที่ทำให้สองแสบดูเป็นกังวลทั้งที่โตเป็นผู้ใหญ่แต่ไม่รู้จักจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง

               “พ่อกับอารักษ์โกรธกันเหรอ” เสียงแผ่วเบาของขุนอินทร์ดังขึ้นทำเอารักษ์และลมเลสะดุ้งทำสีหน้าไม่ถูกเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าที่ทั้งสองเป็นจะเรียกว่าโกธรกันได้ไหม

               “เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกครับ ใช่ไหมครับคุณลม”

               “อืม”

               “กินข้าวกันเถอะครับมีแต่ของชอบของพี่อินทร์ กับน้องจันทร์ทั้งนั้นเลย” รักษ์พยายามดึงบรรยากาศให้กลับมามือขาวตักอาหารให้สองแสบไม่ขาดสาย แต่เมื่อเห็นสองแสบเอาแต่มองจานกับข้าวสลับกับหน้าพ่อของตนเองก่อนจะหันมามองรักษ์ รักษ์รู้ได้ทันทีเลยว่าสองแสบข้องใจเรื่องอะไร

               “เอ่อ หมูทอดครับคุณลม” เมื่อหมูทอดชิ้นโตถูกวางลงบนจานสองแสบก็ยิ้มชอบใจ เมื่อก่อนอารักษ์ชอบตักอาหารให้เด็กทั้งสองและพ่อ แล้วพ่อก็จะยิ้ม และก็เป็นอย่างที่สองแสบหวังเมื่อลมเลค่อยๆ ระบายยิ้มขึ้นก่อนจะกลับไปหน้านิ่งอย่างเดิมทั้งที่ดีใจมากแท้ๆ ที่รักษ์ตักอาหารให้

               เหมือนบรรยากาศบนโต๊ะอาหารจะดีขึ้นถูกใจสองแสบไม่น้อยเพราะระบายยิ้มกันถึงจะไม่เหมือนที่ผ่านมาก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ สองแสบหมายมั่นไว้แล้วว่าพวกเขาจะต้องทำให้พ่อกับอารักษ์ดีกันให้ได้ถึงอารักษ์จะบอกว่าไม่มีอะไรก็เถอะแต่สองแสบรู้ดีว่ามันไม่เหมือนเดิม

               หลังจากมื้อเช้าลมเลก็เตรียมเข้าสวนวันนี้เขามีเรื่องหลายอย่างต้องไปทำไหนบ่ายจะต้องเข้าเมืองอีก ช่วงนี้ลมเลรู้ดีว่าตนเองไม่ค่อยมีสมาธิเสียเท่าไหร่อยากจะจัดการเคลียร์เรื่องที่ค้างคาใจให้มันจบไปแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี ถึงจะคิดแบบนั้นแต่จริงๆ แล้วลมเลก็แค่กลัวคำตอบถึงได้นิ่งเฉยไม่พูดถึงเรื่องของรักษ์กับน้องสาวของตนเสียที

   “มื้อเที่ยงครับ” รักษ์เดินมายื่นห่อข้าวให้

               “ขอบใจ” ก่อนจะยกมือหมายจะลูบผมสวยที่เคยทำอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ต้องชะงักเมื่อคิดได้ว่ามันไม่ควรมือที่ค้างอยู่กลางอากาศเลยต้องเก็บลงข้างตัว ก่อนจะขอตัวออกมา

               รักษ์จ้องมองร่างใหญ่ที่เดินจากไปอย่างเศร้าสร้อยนึกเสียดายที่มือใหญ่ไม่ได้ลูบผมอย่างเคยแม้มันจะเคยทำให้รู้สึกเขินอายจนแอบหลบหลายครั้งแต่วันนี้รักษ์ต้องการมันเหลือเกิน ไม่ใช่ไม่รู้ว่าที่มันเป็นแบบนี้เพราะอะไรแต่ไม่รู้จะทำยังไงต่างหากมันถึงยังเป็นอยู่แบบนี้ รักษ์คุยกับน้ำฟ้าแล้วซึ่งเพื่อนสาวบอกว่าลมเลคงเข้าใจผิดเรื่องในครัววันนั้น ฟ้าบอกว่าให้อธิบายให้ลมเลฟังให้เข้าใจทั้งที่มันเหมือนง่ายแต่จนแล้วจนเหล่ารักษ์ก็ไม่สามารถอธิบายให้อีกคนเข้าใจได้เลย ไม่รู้จะเริ่มพูดยังไงอยู่ๆ จะเข้าไปบอกเลยมันก็ออกจะแปลกๆ คิดแล้วก็กลุ้มจนต้องถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่

               “อารักษ์เป็นอะไรครับ” ขุนจันทร์ร้องถามทันทีเมื่อเห็นอารักษ์หน้าเหี่ยวเฉา

               “อารักษ์ไม่ได้เป็นอะไรครับ เราไปท่องคำศัพท์กันดีกว่า” ยิ้มให้สองแสบคนละทีก่อนจะพากันไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวี สองแสบก็รู้หน้าที่ดีจัดการหยิบสมุดคำศัพท์มาท่องกันโดยที่รักษ์ไม่ต้องบอก และเมื่อได้อยู่กับตัวเองก็พาลให้คิดมากอีกแล้ว กังวลไม่เสียหมด พยายามนึกหาวิธีที่จะคุยกับลมเลแต่มันก็ว่างเปล่าเหมือนเดิม

               “อารักษ์ อารักษ์ครับ” เสียงสองแสบเรียกอยู่หลายครั้งแต่อารักษ์ของเด็กชายกลับนิ่งเฉยราวกับไม่ได้ยินเสียงเลยมือเล็กๆ จึงช่วยกันเขย่าคนที่เอาแต่นั่งเหม่อจนสะดุ้ง

               “อะ ว่าไงครับ” รักษ์สะดุ้งอย่างตกใจ

               “พี่อินทร์เรียกอารักษ์ไม่ตอบ” เด็กน้อยตอบเสียงอ่อน รักษ์นึกโมโหตัวเองที่เอาแต่เหม่อ

               “อารักษ์ขอโทษครับ ไหนมีอะไรให้อารักษ์ช่วยเอ่ย”

               “นี้ๆ พี่อินทร์อ่านไม่ออกครับ”มือเล็กยืนหนังสือให้ดูรักษ์หยิบมาก่อนจะสอนให้เด็กๆ อ่าน รักษ์สอนอ่านอยู่หลายคำเลยทำให้ไม่ต้องคิดมากอีก

               “เด็กๆ ทำอะไรกัน”

               “อาฟ้า”

               “อ้าว จะมาไม่เห็นบอกเลย” รักษ์ร้องถามเพื่อนสาวที่พึ่งเดินเข้ามา

               “เมื่อวานก็บอกเถอะ” เธอเถียง

               “เหรอ ทำไมจำไม่ได้” รักษ์บอกทั้งนึกย้อนไปถึงเมื่อวานที่คุยกัน

               “มัวแต่สนใจอย่างอื่นละสิ”

               “เปล่าสักหน่อย” รักษ์เถียง

               “จ้าๆ สองแสบทำอะไรกันเอ่ย” น้ำฟ้าตอบรับก่อนจะหันไปถามสองแสบ

               “น้องจันทร์กำลังอ่านคำศัพท์ครับ”

               “พี่อินทร์อ่านได้หลายคำแล้วน่า”

               “โอ้โห่ หลานอาฟ้าเก่งจังเลย” สองแสบพอได้รับคำชอบก็ยิ้มชอบใจใหญ่ “อาฟ้ามีขนมมาให้คนเก่งด้วยนะครับ” พอบอกว่าขนมสองแสบก็ตาโตทันที หันไปมองรักษ์อย่างต้องการข้อร้อง

               “พักทานขนมกันก่อนดีกว่านะครับ” เมื่อได้ยินรักษ์บอกแบบนนั้นก็ร้องดีใจกันยกใหญ่รีบเก็บของเข้าที่กันจ้าละหวั่นก่อนจะพากันไปล้างมือแล้วมานั่งทานกันเรียบร้อย รักษ์ดีใจที่สองแสบจำที่เขาสอนได้ดีไม่ต้องพูดบอกหรือเตือนสองแสบก็รู้ว่าต้องทำอะไรมือขาวเลยอดยกไปลูบหัวเล็กๆ ของทั้งสองไม่ได้ สนใจแต่กินขนมจนแก้มพองเลย

               “ตกลงว่าไงได้คุยกับพี่ลมหรือยัง” น้ำฟ้าถามแต่ได้รับการสายหน้ากลับมา “ทำไมแกยังไม่คุยอีก”

               “ก็ฉันไม่รู้ว่าจะต้องคุยยังไง”

               “พ่อกับอารักษ์โกธรกันๆ” อยู่ๆ ขุนอินทร์ก็พูดแทรกขึ้นมา

               “น้องจันทร์ไม่ชอบเลย พ่อกับอารักษ์ไม่ค่อยคุยกัน” เด็กน้อยพูดหน้าเศร้า

               “อารักษ์บอกแล้วไงครับว่า อารักษ์กับพ่อไม่ได้โกธรกัน” รักษ์บอกทั้งยกมือลูบหัวขุนจันทร์ที่ถือขนมค้างอยู่ในมือ แม้ใบหน้าจะเศร้าสร้อยแต่มือเล็กๆ ยังคงส่งขนมเข้าปากไม่ขาดสาย

               “แล้วทำไมไม่ค่อยคุยกันละครับ” เป็นขุนอินทร์ที่ถามขึ้น

               “เอ่อ อารักษ์กับพ่อมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยนะครับ” คำตอบที่ได้ไม่ได้ทำให้เด็กทั้งสองเข้าใจอะไรมากนัก

               “สองแสบอยากให้พ่อกับอารักษ์ดีกันไหม” อยู่ๆ น้ำฟ้าก็ถามขึ้นมา

               “อยากครับ” สองเสียงตอบกันอย่างแข็งขัน

               “งั้นไปนอนบ้านย่ากับอาฟ้า” สองแสบดูงงๆ ไปนอนบ้านย่าแล้วจะทำให้พ่อกับอารักษ์ดีกันได้ยังไง

               “จะพาพี่อินทร์กับน้องจันทร์ไปนอนนู้นทำไม” รักษ์ถามอย่าสงสัย

               “เออน่า แกไม่ต้องรู้หรอก” น้ำฟ้าบอกทั้งหันไปพูดคุยซุบซิบกับสองแสบโดยที่รักษ์ไม่มีสิทธิ์ไปรู้ด้วยเลย

               ตกเย็นทั้งสี่ก็พากันไปบ้านของพายุและญาดา รักษ์ตั้งใจจะโทรบอกลมเลแต่ก็ถูกน้ำฟ้าสั่งห้ามไม่ให้บอกเพราะบอกว่าจะเป็นคนโทรบอกเองโดยที่รักษ์ไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วน้ำฟ้านั้นไม่ได้ทำอย่างที่บอก

               ทางลมเลกลับจากในเมืองมาถึงบ้านก็ค่ำแล้วและต้องแปลกใจเมื่อพบว่าบ้านที่ควรเปิดไฟสว่างกลับมืดสนิททั้งหลัง ถ้าจะนอนกันไปแล้วก็เป็นไปไม่ได้เพราะนี้พึ่งจะสองทุ่มและต่อให้รักษ์และสองแสบนอนไปแล้วไฟหน้าบ้านก็ควรเปิดไว้ เหตุแปลกๆ นี้ทำให้ลมเลเป็นกังวลนึกเป็นห่วงทั้งสามคนขึ้นมา เดินไปดูประตูบ้านก็ถูกล็อคเรียบร้อย

               “ไปไหนกัน” ร้องถามกับตัวเองก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาพี่เลี้ยงแต่ปรากฏว่าปิดเครื่อง เลยโทรเข้าเบอร์น้องสาวตนเองแทน ระหว่างรอสายลมเลรู้สึกจิตใจว่าวุ่นมากภาวนาให้ทั้งสามอยู่บ้านของพ่อและแม่เขาอย่างที่หวังไว้

               “พี่ลม” ปลายสายรับ

               “ฟ้ารักษ์ เอ่อ สองแสบอยู่ที่นั้นไหม” รีบถามกลับไปอย่างร้อนรน

               “ใจเย็นๆ พี่ลม สองแสบกับรักษ์อยู่ที่นี้” คำตอบที่ได้ราวกับยกภูเขาออกจากอก

               “ไปบ้านนู้นแล้วทำไมไม่โทรบอกพี่ บอกสองแสบเดี๋ยวพี่ไปรับ”

               “ไม่ต้องพี่ลม คืนนี้สองแสบกับรักษ์นอนที่นี้” น้ำฟ้าตอบกลับมาเสียงร่าเริงผิดกับความรู้สึกของลมเลที่คุกรุ่น รักษ์คงอยากไปอยู่ใกล้คนที่ตนเองชอบสินะ คิดแล้วอย่างจะไปพาอีกคนกลับมาเสียเดี๋ยวนี้ แต่ถ้าทำแบบนั้นมันก็คงแย่เกินไปทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ารักษ์ชอบน้ำฟ้าถ้าไปขว้างทางเขาคงเป็นพี่ชายที่แย่มากๆ

               “พี่ลม พี่ลม”

               “วะ ว่าไง”

               “ฟ้าเรียกตั้งหลายรอบ เอาเป็นว่าคืนนี้พี่ก็นอนบ้านคนเดียวไปนะ ฟ้าช่วยไม่ได้พี่อยากทำให้สองแสบโกรธเอง”

               “โกรธ สองแสบโกธรอะไร” ลมเลถามอย่างงุนงง เขาไปทำอะไรให้สองแสบมันโกรธตอนไหน

               “ไม่บอก ไปคิดเอาเองเลย แล้วก็เลิกทำตัวบ้าๆ สักที มีอะไรหรือสงสัยอะไรก็หัดพูดหัดถามไม่ใช่เอาแต่คิดเองเออเองไปเสียทุกอย่าง” น้ำฟ้าว่าจะไม่พูดแล้วแต่ก็อดไม่ได้ที่จะว่าพี่ชายซื่อบื้อ

               “ที่พูดหมายความว่าไงยายฟ้า”

               “ไม่รู้ ไม่บอกหัดคิดเอาเองสิค่ะ แค่นี้นะพี่ลม”

               “ดะ เดี๋ยว…” ไม่ทันได้พูดอะไรน้ำฟ้าก็ชิงวางไปเสียก่อน “อะไรว่ะ” ลมเลสะทบอย่างหัวเสียงงไปหมดว่าเรื่องอะไร สองแสบก็มาโกรธ แล้วยังเรื่องที่น้ำฟ้าพูดอีก คิดเองเออเอง เขาไปคิดอะไรเองตรงไหน ไม่หัดพูดหัดถาม เออก็อยากถามเหมือนกันแต่มันไม่กล้าไงคิดแล้วก็ปวดหัวพยายามนึกย้อนคำพูดของน้ำฟ้า

               “ชอบ หรือว่าเรื่องวันนั้น” พอนึกขึ้นได้ลมเลก็รีบขึ้นรถขับไปบ้านนายหัวใหญ่ของสวนสายลมทันที คุยก็คุยว่ะ เอาให้มันรู้เรื่องกันไปเลย อย่างมากก็แค่อกหักกลัวไร ลมเลคิด



...

ลูกคู่มาแล้วน่าาาา ใครคิดถึงก็มากันจ้าาาาา ช่วงนี้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคนนนน อยู่บ้านอ่านนิยายเพื่อชาติกันจ้าาาาาาาา

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 25

         ลมเลใช้เวลาไม่นานก็มาหยุดอยู่หน้าบ้านของนายหัวใหญ่แห่งสวนสายลม บ้านถูกปิดประตูไว้หมดแล้วหากแต่แสงไฟภายในยังส่องสว่าง พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็ได้ยินเสียงสองแสบพูดคุยกันเสียงดัง มีเสียงผู้ใหญ่หัวเราะดังเป็นระรอกดูแล้วมีความสุขกันเหลือต่างกับเขาที่ใจร้อนรน ไม่อยากให้เสียเวลาไม่มากกว่านี้มือหนาเลยเคาะประตูเรียกคนด้านในไปสองสามทีก่อนประตูบานใหญ่จะเปิดออกเผยให้เห็นคนทุกคนที่อยู่กันพร้อมตาพร้อมตาซึ่งขาดก็แต่เพียงเขาคนเดียว

               “พ่อมาทำไม” ขุนอินทร์กอดอกถามคนเป็นพ่อ

               “ก็มารับพวกเอ็งกลับบ้าน ไปๆ ดึกแล้ว” ลมเลเลือกที่จะไม่สนใจคำบอกของน้ำฟ้าที่ว่าสองแสบจะนอนที่นี้ เพราะมันสามารถนำเป็นขออ้างที่จะพารักษ์กลับบ้านได้

               “พี่อินทร์ไม่กลับ”

               “น้องจันทร์ก็ไม่กลับ จะนอนนี้น่า” สองแสบยืนยันหนักแน่น อาฟ้าบอกว่าอย่ายอมกลับกับพ่อ

               “ถ้าพวกเอ็งไม่กลับพ่อพาอารักษ์กลับนะ” เมื่อเห็นว่าสองแสบไม่ยอมก็เอารักษ์มาขู่

               “อารักษ์ก็ไม่กลับใช่ไหมครับ” ขุนจันทร์ถามทั้งยังกอดแขนอ้อน อาฟ้าบอกว่าอย่ายอมให้อารักษ์ไปกับพ่อ เพราะพ่อทำอารักษ์เสียใจ พ่อต้องถูกอยู่คนเดียว นิสัยไม่ดี

               “พี่อินทร์กับน้องจันทร์นอนที่ไหนอารักษ์ก็นอนที่นั้นครับ” ว่าทั้งยกมือขึ้นลูบหัวน้อยๆ

               “เย้ๆ อารักษ์อยู่กับน้องจันทร์”

               “เข้าใจแล้วนะพี่ลม อิอิ นั้นก็กลับไปได้แล้ว” น้ำฟ้าว่าทั้งนึกตลกสีหน้าของพี่ชาย

               “ใครบอกพี่จะกลับ คืนนี้พี่นอนนี้ด้วย”

               “แต่ห้องพี่ ฟ้าให้รักษ์มันนอนแล้วนะ”

               “ก็แล้วไง ห้องฉันเตียงใหญ่นอนสองคนได้” คำพูดของลมเลทำเอารักษ์ทำสีหน้าไม่ถูก แค่นึกว่าคืนนี้จะต้องนอนร่วมห้องกับลมเลก็แย่แล้ว

               “เอาๆ ตกลงกันได้แล้วก็เข้ามานั่งกันให้มันดีๆ”

               “แต่พ่อค่ะ”

               “พอแค่นี้แหละยายฟ้า ที่เหลือให้เขาจัดการกันเอง ลูกคู่มาหาปู่มา” ผู้ใหญ่บอกแบบนั้นน้ำฟ้าก็ต้องยอม ถึงจะเสียแผนก็ตาม

               “กินข้าวมาหรือยังละตาลม” ญาดาร้องถามลูกชายที่นั่งลงข้างๆ คนถูกถามก็สายหน้าเป็นการตอบ

               “เอ่อ เดี๋ยวผมไปหาอะไรให้ทานครับ” รักษ์รีบเสนอตัวเพราะนึกเป็นห่วงดึกปานี้แล้วลมเลยังไม่ได้ทานข้าวเลย

               “ไปสินั่งอยู่ทำไม น้องอุตส่าห์หาอะไรให้ แล้วมีเรื่องอะไรก็คุยกันไม่ใช่เอาแต่เงียบ” ญาดาบอกเมื่อรักษ์เดินเข้าครัวมาแล้ว

               “ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรครับแม่”

               “แต่ที่แม่รู้มาไม่ใช่แบบนั้นนะ จริงไหมยายฟ้า”

               “ใช่ค่ะแม่”

               “ยายฟ้า แกนะมาคุยกับพี่เลย” ว่าแล้วก็ลากน้องสาวออกมาคุยที่หน้าบ้าน

               “คุยในบ้านก็ได้ไหม พี่จะออกมาทำไมหน้าบ้านเนี้ย” น้ำฟ้าโวยวาย

               “เอาน่า พี่มีอะไรจะถาม”

               “ถามไรอ่ะ”

               “เอ่อ แกกับรักษ์เป็นอะไรกัน”

               “ก็เพื่อนกันไงพี่ก็ถามแปลกๆ”

               “แกแน่ใจนะ แล้วแก แกชอบรักษ์หรือเปล่า”

               “มันเพื่อนฟ้า ฟ้าก็ต้องชอบมันสิ”

               “ชอบแบบเพื่อนนะเหรอ”

               “ก็ใช่ไง จะให้ชอบแบบไหน”

               “เหรอ เออดีฉันจะได้ไม่รู้สึกผิด” ว่าจบก็เดินเข้าบ้านทิ้งให้น้ำฟ้างง ไม่รู้สึกผิดอะไร พูดอะไรไม่เคยเคลียร์

               ลมเลรู้สึกใจชื้นขึ้นอย่างน้อยก็ตัดเรื่องที่ว่าฟ้ารักกับรักษ์ไปได้แล้วทีนี้ก็เหลือแต่รักษ์ซึ่งต่อให้รักษ์จะบอกว่าชอบน้ำฟ้ามากกว่าเพื่อนลมเลก็ไม่คิดถอยเขาจะทำให้รักษ์หันมาสนใจเขาแทนให้จนได้

               “มาแล้วหรือครับ ผมกำลังจะออกไปตามพอดีเลย” รักษ์ว่า เมื่อเห็นลมเลเดินเข้ามาในครัว

               “มีอะไรกินบ้าง” ลมเลถาม ซึ่งรักษ์รู้สึกว่ารอบตัวลมเลบรรยกาศแตกต่างไปจากหลายวันที่ผ่านมาทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนเคย

               “มีต้มจืดกับน้ำพริกครับ คุณป้าได้สะตอมาด้วยเม็ดใหญ่มากเลย ผมทำไข่เจียวเพิ่มให้อีกอย่างหนึ่ง” รายเมนูอาหารให้อีกคนฟังทั้งตักข้าวใส่จานยื่นให้คนที่นั่งลงพร้อมจะกิน คงจะหิวมากรักษ์คิด จัดการตักข้าวให้เรียบร้อยรักษ์ตั้งใจจะออกไปจากครัวหากแต่

               “เดี๋ยว อยู่เป็นเพื่อนฉันก่อน”

               “เอ่อ ก็ได้ครับ” เห็นว่าลมเลขอให้อยู่รักษ์ก็นั่งลงตรงข้ามอีกคน นั่งมองคนตัวโตที่ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวไม่พูดไม่จาราวกับหิวมาก

   แค่กๆๆๆ

   “น้ำครับ” เพราะรีบกินมากเกินไปจนสำลักวุ่นให้รักษ์ต้องรีบหาน้ำมาให้

               “ขอบใจ”

               “กินช้าๆ ก็ได้ครับ” รักษ์บอกอย่างเป็นห่วง

               “พอดีหิวไปหน่อยนะ ตั้งแต่เที่ยงพึ่งได้กิน” บอกทั้งยังสาละวนกับการตักอาหาร ตอนนี้ไข่เจียวสองฟองหมดไปแล้วแต่ดูเหมือนคนตัวใหญ่ยังไม่อิ่ม รักษ์เลยลุกไปเจียวมาให้อีกสองฟอง

               “ไข่เจียวครับ”

               “ขอบใจ”

               “ทำไมไม่ยอมกินข้าวละครับ มื้อเที่ยงผมก็เตรียมไปให้แล้ว” รักษ์สงสัยเพราะก่อนลมเลจะเข้าสวนรักษ์เอากล่องข้าวให้อีกคนไปแล้ว

               “ไปทำธุระในเมืองนะเลยไม่ได้กิน ฝากให้ไอ้ทั่วจัดการแทน” บอกทั้งตักข้าวเข้าปากคำโต

               “ก็เลยหิวแบบนี้” รักษ์ว่าดุๆ จนลมเลชะงัก

               “เป็นห่วงฉันเหรอ หึหึ”

               “เอ่อ ก็ครับ” นี้ลมเลคนเดิมกลับมาแล้วใช่ไหม หายโกรธเขาแล้วใช่ไหมรักษ์นึกสงสัย ที่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนไปทั้งที่เมื่อเช้ายังไม่ค่อยจะคุยด้วยอยู่เลย รู้สึกตามอารมณ์ไม่ค่อยทันหรือเพราะลมเลแก่แล้วเลยอารมณ์แปรปรวน

               “เป็นอะไรของนายดูทำหน้า” ร้องถามเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่

               “เอ่อ เปล่าครับ” รักษ์สะดุ้งร้องบอกออกไป

               “แล้วจะคิ้วขมวดทำไมแบบนั้น มีอะไรก็บอก” ลมเลเลิกคิ้วอย่างสงสัย

               “ได้เหรอครับ” ถามอย่างไม่แน่ใจ ลมเลพยักหน้ายืนยันอีกครั้ง “ผมแค่สงสัยว่าคุณลมแก่แล้วเหรอ” รักษ์บอกไปอย่างที่สงสัย ไม่ได้ตั้งใจจะกวนอะไรแต่ทำเอาคนฟังสำลักอีกครั้ง

               แค่กๆๆๆ

               “น้ำครับๆ”

               “คิดอะไรของนายเนี้ย” ลมเลว่า อดนึกไม่ได้ว่ารักษ์กำลังกวนกันอยู่หรือเปล่าแต่สายตาใสนั้นบอกว่าอีกคนสงสัยจริงๆ บางที่ความคิดรักษ์เขาเองก็เข้าใจยากจริงๆ

               “ก็ผมเห็นคุณอารมณ์แปรปรวนแปลกๆ เอ่อ ขอโทษครับ ถะ ถ้ามันไม่ควรถาม” รักษ์ว่าอย่างรู้สึกไม่มั่นใจนึกกังวลว่าจะทำให้คนตัวโตโกรธกันอีก

               “ฉันยังไม่เลขสามเลยนะ นายจะให้ฉันรีบแก่ไปไหน หึหึ” ถึงตอนแรกจะตกใจแต่นึกไปแล้วก็ตลกดีคิดได้ไง พูดอย่างกับเขาเป็นวัยทอง

               “ขอโทษครับ”

               “ไม่เป็นไรหรอก” บอกทั้งขยี้ผมรักษ์จนยุ้ง

               “ผมไม่ใช่เด็กนะครับ”

               “หึหึ ฉันอิ่มแล้ว ขอบคุณมาก”

               “ครับ คุณลมไปอาบน้ำเถอะครับดึกแล้ว” บอกทั้งจัดการเก็บจานข้าวไปล้าง

               “ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”

               “คุยกับผม เรื่องอะไรเหรอครับ”

               “เอ่อ คือ” ลมเลรู้สึกว่ามันพูดออกมาลำบากเหลือเกินทั้งทีตอนแรกยังรู้สึกมั่นใจแท้ๆ

               “ครับ? มีอะไรเหรอครับ” รักษ์สงสัยเมื่ออีกคนเอาแต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดเสียทีเลย

               “เอ่อ เรื่องยายฟ้านะ”

               “ครับ ฟ้าทำไมเหรอครับ”

               “ฉันเข้าใจว่าการรักใครข้างเดียวมันเจ็บปวด” ก็จริงอย่างลมเลว่า แต่ลมเลจะพูดเรื่องนี้ทำไมรักษ์คิด “ยิ่งเมื่อรู้ว่าเขาไม่มีทางตอบรับความรู้สึกของเราได้ เพราะฉะนั้นอย่าเสียใจไปเลยนะ ไม่ใช่ว่าใครจะตอบรับความรู้สึกของเราได้ทุกคน” ลมเลเข้าใจดีว่ารักษ์คงเสียใจที่ทำได้แค่รักษ์น้ำฟ้าข้างเดียว

               “เอ่อ...” รักษ์รู้สึกว่าความรู้สึกมันตีตื้นขึ้นมาจุกอยู่ในอกราวกับอยากจะร้องไห้ออกมา เมื่อคำพูดของลมเลนั้นเหมือนกับต้องการบอกอ้อมๆ ว่าให้เขาตัดใจ นี้เขายังไม่ทันเริ่มลมเลก็ดักมันเสียก่อนแล้ว แล้วแบบนี้รักษ์ยังจะมีหวังอะไรได้อีก แม้แต่ความคิดก่อนหน้าที่ว่าตั้งใจจะสารภาพกับคนตรงหน้าก็ต้องพังลง

               “ฉันรู้ว่านายชอบน้ำฟ้ามาก” ลมเลว่าต่อ

               “ห่ะ! ผะ ผมชอบน้ำฟ้าเหรอ” รักษ์ทวนอีกครั้งอย่างงุนงง

               “ก็ใช่ไงวันนั้นฉันได้ยินนะที่นายบอกชอบน้ำฟ้าในครัวนะ” ลมเลบอกทั้งนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นที่ยังทำให้เจ็บในอกไม่หาย

               เมื่อนึกทบทวนดูก็จำได้ว่าเป็นตอนที่น้ำฟ้าถามเรื่องลมเล อย่าบอกนะว่าลมเลเข้าใจผิดว่าเขาชอบน้ำฟ้าจริงๆ นี้เขาทำตัวดูเหมือนว่าชอบน้ำฟ้าเหรอรักษ์ได้แต่สงสัย

               “เพราะเรื่องวันนั้นคุณถึงแปลกไปเหรอครับ”

               “ก็ใช่ ตกใจนิดหน่อยนะ”

               “เอ่อ คงห่วงฟ้ามากสินะครับ”

               “ยายฟ้านะเหรอ ไม่น่าห่วงสักนิด กลัวแต่จะขึ้นคาน”

               “เอ่อ แล้วทำไม...”

               “ตกใจนะเหรอ ก็จะพูดยังไงดีละ คือนายมักจะใจดีกับใครๆ รวมถึงฉันด้วย บางครั้งการกระทำของนายก็ทำให้ฉันคิดเข้าข้างตัวเองว่านายก็ชอบฉันเหมือนกัน แต่เหตุการณ์วันนั้นก็ทำให้ฉันเข้าใจว่าฉันแค่คิดไปเอง นายไม่ได้ชอบฉัน”

               “....” รักษ์อยากตะโกนสวนกลับไปว่าชอบลมเลจริงๆ แต่ติดที่ไม่กล้าพอ และยังกลัวอีกด้วยว่าลมเลจะไม่ได้ชอบตน เลยเลือกที่จะเงียบฟังอีกคน

               “ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว เอ่อ ฉันก็แค่อยากบอกนายว่า ต่อให้นายจะชอบยายฟ้าฉันก็ไม่สนใจ”

               “….” ใช่ลมเลไม่จำเป็นต้องสนใจเลย ในเมื่อเขาไม่ได้มีความสำคัญอะไร รักษ์คิด

               “ฉันจะจีบนาย”

               “ห่ะ! จะ จีบผม” รักษ์ตกใจรู้สึกมึนงงกับสถานการณ์

               “ใช่ ฉะ ฉันชอบนาย”

               “ห่ะ! ชอบผม” นี้รักษ์ตกใจรอบที่เท่าไหร่กันแล้ว เริ่มสับสนกับสิ่งที่ลมเลพูดตกลงยังไง ตอนแรกก็มากล่าวหาว่าเขาชอบฟ้า ยังมาบอกว่าจะจีบเขาอีก แล้วยังบอกว่าชอบอีก รักษ์รู้สึกมึนงงไปหมด คิดตามไม่ค่อยทันเลยจริงๆ

               “ใช่ ฉันอยากบอกให้นายรู้ไว้” ว่าจบก็เดินออกมาไม่ทันได้ให้รักษ์ตอบอะไร

...

ลูกคู่มาแล้วจ้าาาาา ทำไมนายหัวลมมึนจังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 26



“เสร็จแล้วหรือลูก ป้ากำลังพาลูกคู่ขึ้นนอน รักษ์อยู่คุยเล่นกับยายฟ้าก็ได้” ญาดาร้องบอกรักษ์ที่พึ่งเดินออกจากครัว ไหนๆวันนี้ลูกคู่มานอนด้วยทั้งทีเธอเลยอยากพาหลานเข้านอนเอง

“ขอบคุณครับคุณป้า”

“ไม่เป็นไรจ้ะ นานๆ ลูกคู่จะมานอนด้วย” ว่าแล้วก็พาสองแสบที่ยืนหาวอยู่ข้างๆ ขึ้นชั้นบน

“เป็นไงแก เคลียร์กันยัง” น้ำฟ้าร้องถามทันทีเมื่อญาดาพ้นสายตาไปแล้ว

“ก็คุยกัน”

“แล้วตกลงว่าไง”

“ก็ไม่ว่าไงนะ”

“อะไรแกไอ้รักษ์ ตกลงคุยกันแล้วแน่หรา”

“ก็คือแปบ ก็คุยกัน แต่ว่า”

“แต่อะไรอีก” น้ำฟ้าเริ่มปวดหัวกับเพื่อนชาย

“ก็ฉันงงอยู่ไง” ใช่รักษ์ยังรู้สึกงุนงงตามอารมณ์ลมเลไม่ทัน

“งง! งงไร นี้แกกับพี่ฉันตกลงคุยอะไรยังไงค่ะ”

“ก็แบบว่า ก็คุณลมพูดเอาๆ ไม่ให้ฉันได้มีโอกาสแทรกขึ้นมาเลย พูดเสร็จก็ไป ฉันก็เลยงงอยู่นี้ไง” รักษ์บอกไปตามใจคิด คนอะไรเอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียวไม่ฟังคนอื่นบ้างเลย แถมคิดไปเองเก่งอีก

“แล้วพี่ลมว่าไงบ้างล่ะ”

“ก็ไม่ว่าไงแค่บอกว่าฉันชอบแก”

“ห่ะ! แกชอบฉัน” น้ำฟ้าทวนขึ้นอย่างตกใจ

“ก็ใช่ไง คุณลมเข้าใจว่าฉันชื่อแก”

“เออเอาเข้าไป นี้ฉันมีพี่ชายซื่อบื้อหรือ” น้ำฟ้ารู้สึกหน่ายใจกับพี่ชายตัวเอง ดูยังไงว่ารักษ์มันชอบเธอกัน สรุปเข้าใจผิดจริงๆ

“อืมมม” รักษ์เห็นด้วยกับน้ำฟ้า คุณลมซื่อบื้อจริงๆ

“แล้วแกไม่บอกความจริงไปละ”

“จะให้ฉันบอกตอนไหน ก็บอกแล้วว่าคุณลมพูดเอาๆ อยู่คนเดียว ไม่ให้ฉันได้พูดเลย แถมยังมาบอกว่าจะจีบฉันด้วยนะ” รักษ์นึกถึงเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมา

“จีบแก!” น้ำฟ้าตกใจอีกครั้ง

“ก็ใช่ไง”

“ให้มันได้แบบนี้สิ ฮาๆ” น้ำฟ้าว่าทั้งหัวเราะชอบใจ

“ยังจะมาหัวเราะอีก ฉันเครียดนะ”

“แกจะเครียดทำไม ก็พี่ลมชอบแกแล้วนิ จะจีบแกอีก แกรอตอบรับพี่ลมได้เลย” ว่าทั้งตบบ่าเพื่อนชาย

“ฉันไม่คุยกับแกแล้ว ไปนอนดีกว่า” ว่าแล้วก็รีบเดินขึ้นชั้นบนแต่ไม่วายได้ยินเสียงแซวจากน้ำฟ้าตามหลังมาให้รู้สึกเขินอาย ยายเพื่อนบ้า

“รีบไปนอนกับพี่ลมเหรอออออ”

รักษ์ขึ้นมาบนห้องด้วยใจที่เต้นรัว ใบหน้ายังขึ้นสีแดงระเรืองจากการเขินอายไม่หายก็ต้องแดงเพิ่มขึ้นอีกเมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้วพบว่าลมเลอยู่ในชุดผ้าขนหนูผืนเดียว ท่อนบนที่เปลื่อยเปล่ามีหยดน้ำเกาะอยู่รำไรบ่งบอกได้ว่าคนตัวใหญ่พึ่งอาบน้ำเสร็จ รักษ์จ้องมองเรือนร่างใหญ่ที่อวดกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนสวยยิ่งมีหยดน้ำที่ร่วงหล่นจากเส้นผมดำมากระทบหมัดกล้ามยิ่งขับให้น่ามอง รักษ์หลงใหลไปกับภาพเบื้องหน้าอย่างไร้สติ นึกอยากสัมผัสกล้ามเนื้อนั้น มันคงแน่นไม่น้อย

“มาแล้วเหรอ”

“คะ ครับ” เพราะเสียงของลมเลทำให้รักษ์ต้องดึงสติกลับมา

“คนอื่นๆ นอนกันหมดใช่ไหม” ลมเลร้องถามทั้งรือหาเสื้อผ้าในตู้

“ขึ้นนอนกันแล้วครับ” รักษ์บอกก่อนจะรีบเดินมาที่เตียงนอน พยายามกวาดสายตาไปทั่วห้องหากแต่สุดท้ายก็มาจบที่ร่างของลมเล รักษ์เลยเลือกที่จะมุดผ้าห่มเข้านอนเสีย

“จะนอนแล้วหรือไง” เมื่อหันมาเห็นรักษ์มุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเรียบร้อยก็อดที่จะถามไม่ได้

“คะ ครับ” รักษ์ตอบทั้งรีบหลับตา ตอนนี้ใจรักษ์เต้นแรงมาก แรงจนกลัวว่าใครอีกคนจะได้ยิน ลมเลเมื่อเห็นว่ารักษ์จะนอนแล้วก็รีบแต่งตัวแล้วขึ้นมาอยู่ข้างๆ โดยไม่ได้สนใจผมที่ยังคงเปียกอยู่

“ผมยังไม่แห้งเลยนะครับ” พอเห็นอีกคนขึ้นมาบนเตียงทั้งผมยังเปียกเลยร้องทัก

“ช่างมัน ฉันจะนอนแล้ว” ว่าแล้วก็หยิบหมอนมาจัดให้เข้าที่เข้าทาง

“ไม่ได้นะครับเดี๋ยวจะไม่สบาย” นึกเคืองคนตัวโตที่ไม่ค่อยใส่ใจดูแลตัวเอง รักษ์เลยลุกขึ้นลงจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ลมเลแขวนอยู่หน้าตู้มา ลมเลมองการกระทำนั้นอย่างสงสัยแค่ไม่เช็คผมแค่นี้ไม่ทำให้เขาป่วยได้หรอกแต่สำหรับอีกคนดูแล้วจะไม่คิดอย่างลมเลก็เล่นถือผ้าเช็ดตัวทำหน้าดุอยู่ปลายเตียง

“ฉันขี้เกียจเช็ด” ลมเลร้องบอก รักษ์ถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะบอกว่า

“มาครับผมเช็ดให้” เพราะกลัวว่าคนตัวโตจะป่วยเลยช่วยเช็ดให้ในเมื่อเจ้าตัวขี้เกียจ ทางลมเลดูเหมือนจะรู้สึกแปลกใจไปนิดหนึ่งแต่แปบเดียวรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็โผล่ขึ้นมาจนรักษ์รู้สึกว่าตนเองคิดผิดหรือเปล่าที่จะช่วยอีกคน

“หึหึ เอางั้นก็ได้” ลมเลขยับมานั่งปลายเตียงให้รักษ์ยืนเช็คผมให้ ระหว่างนี้ไม่มีใครเอื้อนเอ่ยอะไรออกมามีเพียงความเงียบที่ปกคลุมหากแต่ถ้ามองไปที่ใบหน้าของคนสองคนจะเห็นรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาจากกายใหญ่และสีหน้าเขินอายจากคนตัวเล็ก

รักษ์ค่อยๆ เช็คผมอย่างเบามือเพราะกลัวว่าจะทำให้คนตัวใหญ่เจ็บ ไม่นานผมก็แห้งแม้ไม่สนิทแต่ก็ดีกว่าในตอนแรกมาก รักษ์เช็ดอยู่อีกครู่หนึ่งก็ละมือออก

“เสร็จแล้วครับ” บอกทั้งเตรียมเอาผ้าไปแขวนไว้ที่เดิม แต่เมื่อจะหันตัวออกเดินมือใหญ่ก็รั้งเอวไว้จนร่างเซไปทางลมเล ด้วยความตกใจมือเล็กเลยยกขึ้นเกาะไหล่หนาทั้งสองข้างทำให้ตอนนี้หน้าของรักษ์อยู่ใกล้ลมเลมากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน รักษ์ตั้งสติแล้วจะขยับตัวออกแต่ลมเลกลับใช้สองแขนกอดรอบเอวรักษ์แน่นแถมยังรั้งให้รักษ์เข้ามาแนบชิดมากกว่าเดิมจนใบหน้าแถมจะชนกัน รักษ์รู้สึกทำตัวไม่ถูกจะออกจะอ้อมแขนก็ออกไม่ได้ พยายามหาที่วางสายตาตรงอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าของลมเล แต่ก็ทำไม่ได้สุดท้ายก็หันกลับมาสบตาคมเหมือนเดิมรักษ์เห็นแววตาขบขันในตาคมคู่นั้น ปากหนาก็เอาแต่ยิ้มจนรักษ์นึกหงุดหงิดพาลให้ใบหน้าเล็กต้องนิ่วหน้า

“อ่ะ!” รักษ์ตกใจที่อยู่ๆ ปลายจมูกคมจิ้มลงบนแก้ม หัวใจที่ทำงานหนักอยู่แล้วก็ทำงานหนักเพิ่มเข้าไปอีกรู้สึกตัวเองสติหลุดลอย และมันกลับมาอีกครั้งเมื่อปากหนาค่อยๆ ทับลงบนเรียวปากสวยของรักษ์ รักษ์รู้แค่ว่าตัวเองถลึงตาโตมากเพราะตกใจ พยายามถอยหนีแต่ก็ไม่พ้นสุดท้ายก็ถูกปากหนาครอบครองตอนนี้เหมือนความคิดของรักษ์นั้นว่างเปล่าปล่อยตัวปล่อยใจไปตามการชักจูงของลมเล จนเมื่อรักษ์รู้สึกได้ถึงลิ้นร้อนที่กำลังสอดแทรกเข้ามาจึงได้สติอีกครั้ง มือเรียวกำลังจะดันตัวออกจากอ้อมกอดแต่เหมือนลมเลจะรู้เท่าทันความคิดของรักษ์แขนใหญ่ที่รวบเอวเล็กอยู่กระฉับแน่นขึ้นจนรักษ์ไม่สามารถหลุดรอดได้

ความวูบวาบที่ได้รับดึงให้สติรักษ์หลุดลอยอีกครั้งปล่อยใจให้หลงมัวเมาไปกับรสจูบแสนนุ่มนี้จนเผลอตอบรับรสสัมผัสไปอย่างเผลอไผล ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ทั้งสองต่างมอบความหอมหวานผ่านเรียวปากแต่มันนานพอให้รักษ์รู้สึกหายใจลำบากจนต้องทุบไหล่หนาให้หยุด ลมเลก็ยอมหยุดแม้จะนึกเสียดายก็ตามแต่ไม่วายจูบหนักๆลงบนเรียวปากแดงอีกครั้งก่อนจะผลักตัวออก

รักษ์ไม่รู้เลยว่าเวลานี้ควรทำตัวอย่างไรดี เขาทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ หน้าลมเลก็แทบไม่กล้ามองเพราะรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก

“ก็บอกแล้วไงว่าจะจีบ” ลมเลพูดผ่าความเงียบขึ้น มือหนาค่อยๆยกขึ้นจับคางรักษ์ให้หันหน้ามามองกัน ตอนนี้ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรือง ปากก็บวมขึ้นเล็กน้อยซึ่งมันน่ามองมากในความคิดของลมเล

“แล้วจะ จะ จูบทำไมละครับ” พยายามรวบรววมสติถามไป ลมเลชอบทำให้รักษ์เสียสติอยู่เรื่อยจริงๆ

“จูบกับจีบก็เหมือนกันนั้นแหละ หึหึ”

“ไม่เหมือนกันสักหน่อยครับ!” ว่าแล้วก็โยนมาเช็ดไว้บนตักลมเลส่วนตัวเองก็ขึ้นเตียงรั้งผ้าห่มมาปิดจนถึงคอ รักษ์แอบได้ยินลมเลหัวเราะแยะเบา

เมื่ออีกคนหนีไปนอนแล้วลมเลก็รีบเอาผ้าเช็คไปแขวน เช็คความเรียบร้อยของห้องก่อนจะปิดไฟแล้วขึ้นเตียงนอนตามอีกคน ที่เอาแต่หันหลังให้เขา ลมเลสอดตัวนอนใต้ผ้าห่มเรียบร้อยก็รั้งคนข้างกายมานอนกอด ในตอนแรกรักษ์ก็ขัดขึนแต่สุดท้ายก็ยอมให้ลมเลนอนกอดแต่โดยดี และในคืนนั้นจากที่คิดว่าหลับไม่ลงเพราะนึกตื่นเต้นกลับหลับอย่างสบายเพราะอ้อมกอดที่อบอุ่นจากกายใหญ่

....,.....................,.....,...................................

ลูกคู่มาแล้วนะจ้าาาาา 

ออฟไลน์ ตั้งโอ๋

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ลูกคู่สื่อรัก ตอนที่ 27

“อารักษ์ครับ พี่อินทร์ขอหมูทอดด้วยนะครับ”

“ได้ครับ แต่ตอนนี้อารักษ์ว่าสองแสบควรไปอาบน้ำได้แล้วครับ ได้ลงมากินข้าวกัน” เพราะเช้านี้สองแสบตื่นไวเลยมาวุ่นอยู่ในครัวกับรักษ์และญาดา

“ไปลูกคู่รีบไปอาบเลยแล้วเรียกพ่อเราด้วยละ” ญาดาบอกหลานอีกทีและไม่ลืมให้ปลุกคนพ่อที่ยังไม่ตื่น ถึงจะยังแค่หกโมงกว่าก็ตามเพราะปกติปานี้ลมเลตื่นนานแล้ว

“พ่อตื่นสาย” ขุนอินทร์ร้องบอกญาดา

“วันนี้ตื่นก่อนทำมาว่าพ่อเขานะเจ้าแสบ” พายุที่พึ่งเดินเข้ามาว่าขึ้น “รักษ์ลุงขอกาแฟแก้วสิลูก”

“ได้ครับคุณลุง” รับคำเสร็จก็จัดการให้อย่างรวดเร็ว ครู่เดียวกาแฟร้อนๆ ที่ส่งกลิ่นหอมก็อยู่ในมือของพายุ

“ขอบใจมาก ไปลูกคู่ออกไปพร้อมปู่” แล้วสามคนปู่หลานก็พากันเดินออกมาจากครัว พายุแวะส่งสองแสบขึ้นบันไดรอดูจนหลานชายทั้งสองขึ้นไปจนสุดทางก็ไปนั่งจิบกาแฟ ฟังข่าวที่หน้าโทรทัศน์ ซึ่งมีลูกสาวนอนอยู่ตรงโซหาตัวยาวไม่เข้าใจว่าจะตื่นมาทำไมถ้าจะมานอนต่อบนโซฟา พอมองหน้าลูกสาวแล้วนึกถึงเพื่อนชายของลูกที่มีนิสัยผิดกับลูกสาวเขานัก

“ยายฟ้าไม่ขึ้นไปนอนบนห้องให้มันดีๆ” พายุร้องบอกลูกสาว

“ฟ้าขี้เกียจขึ้นไปค่ะพ่อ” เสียงงัวเงียตอบกลับไป น้ำฟ้าไม่ได้หลับเพียงแค่ยังรู้สึกง่วง

“ก็ลุกขึ้นไปช่วยแม่กับรักษ์ในครัวไป” ว่าแล้วก็ยกกาแฟขึ้นจิบ

“โห่! พ่อค่ะ ฟ้าพึ่งโดนไล่ให้ออกมาเองนะคะ” หญิงสาวบอก ก็ก่อนหน้านี้น้ำฟ้าเข้าไปช่วยในครัวอยู่แต่ถูกญาดาไล่ออกมาเพราะบอกว่าเกะกะ ก็เธอทำครัวไม่เก่งเลยไม่รู้ว่าจะต้องช่วยอะไรบ้างเลยกลายเป็นว่ายืนขวางทางคนทำงานเสียแทน นี้ถ้ารักษ์ไม่อยู่ด้วยน้ำฟ้าก็คงไม่คิดเข้าไปช่วยให้แม่บ่นหรอก แต่เพราะนานๆ ได้เจอเพื่อนสักทีเลยอยากทำอะไรด้วยกันหลายๆ อย่าง

“ก็เรามันไม่ได้เรื่อง ดูอย่างรักษ์เขาบ้างผู้ชายแท้ๆ ยังทำได้” พายุว่าลูกสาว

“กับรายนั้นฟ้ายอมค่ะพ่อ” ว่าทั้งลุกขึ้นนั่งตัวตรง “พี่ลมละค่ะ”

“พ่อไม่เห็นลงมาที”

“สงสัยยังไม่ตื่น”

“อืม สองแสบไปปลุกแล้ว”

ทางสองแสบพากันมาห้องของลมเลเพราะต้องปลุกคนเป็นพ่อ มือเล็กยกขึ้นเปิดประตูออกทำให้เห็นร่างใหญ่นอนอยู่บนเตียง สองสองหันมองกันก่อนจะค่อยๆ ย่องเบาๆ เข้ามาในห้องแล้วปีนขึ้นเตียงคนละฝั่งอย่างเงียบก่อนจะกระโดดทับลมเลทั้งตัวทำเอาคนที่นอนหลับอยู่สะดุ้งตื่น รู้สึกจุกที่ท้อง

“ไอ้แสบ ทำอะไรของพวกเอ็ง” ลมเลร้องถามลูกชายทั้งสองที่นอนทับเขาอยู่

“ปลุกพ่อไง พ่อตื่นสายยยย” ขุนอินทร์รับหน้าที่ตอบ

“แล้วใครสอนให้พวกเอ็งปลุกคนอื่นแบบนี้ ทับมาได้คิดว่าตัวเบากันหรือไง” ลมเลบ่นๆ ทั้งเกาหัวเซ็งๆ มีลูกก็แสบแถมคูณสองอีกปวดหัวจริงๆ

“กลัวพ่อไม่ตื่นนน” ขุนจันทร์บอกทั้งมุดผ้าห่มเข้าไปอยู่กับลมเล ขุนอินทร์เห็นแบบนั้นก็มุดตามบ้าง ลมเลได้ทีก็แกล้งรัวมือตีลงบนสองแสบที่อยู่ในผ้าห่ม เด็กทั้งสองพยายามหลบมือใหญ่โดยมุดไปนู้นทีนี้ที หัวเราะชอบใจกันใหญ่จนตอนนี้กลายเป็นสามพ่อลูกเล่นกันเสียงดังเดือดร้อนให้คนที่อยู่ในครัวต้องขึ้นมาดุ

“หยุดเล่นกันได้แล้วครับ” รักษ์เดินขึ้นมาบอก ทั้งสามเลยพร้อมใจกันเงียบ “คุณลมพาสองแสบอาบน้ำเลยครับได้ลงไปทานข้าว”

“นายเอากระบวยมาทำไม หึหึ” ลมเลถามทั้งยิ้มขำ รักษ์เลยต้องมองมือตัวเองแล้วก็ต้องตกใจเพราะดันถือกระบวยติดมือมาด้วย ก็เมื่อกี้กำลังทำต้มจืดพอได้ยินเสียงสองแสบเล่นกันอยู่นานเลยรีบขึ้นมาดูจนเผลอถือกระบวยมาด้วย สองแสบพอเห็นก็พากันหัวเราะชอบใจ แต่ก็แอบกลัวว่าอารักษ์จะเอากระบวยมาตีพวกเขาหรือเปล่า

“ก็ผมทำกับข้าวอยู่ สองแสบไปอาบน้ำเลยครับ” รักษ์แก้ตัวทั้งความอายและไม่ลืมบบอกสองแสบให้ไปอาบน้ำแล้วรีบลงมาห้องครัว

“อารักษ์ตลก ฮาๆ” ขุนจันทร์พูดขึ้นเมื่อรักษ์เดินออกมาแล้ว

“ระวังเถอะพวกเอ็งจะโดนกระบวยทุบเอา หึหึ” ลมเลว่าทั่งยกมือเคาะหัวสองแสบคนละที

“พ่อ!” สองแสบโวยวาย

“ไปๆ ไปอาบน้ำ” ว่าแล้วก็ใช้เท้าดันสองแสบให้ลงจากเตียง แล้วพากันไปอาบน้ำพร้อมกันทั้งสามคนพ่อลูก

ในห้องน้ำขนาดกลางที่อัดแน่นไปด้วยสามหนุ่ม ลมเลส่งแปรงสีฟันให้สองแสบคนละอันจัดการแปลงฟันกันให้เรียบร้อยก่อนอาบน้ำ ระหว่างนี้ก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกเพื่อที่จะอาบน้ำด้วย เมื่อเสื้อนอนตัวใหญ่ถูกถอดออกก็เผยให้เห็นกายกำยำที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ

“พ่อด๊ำดำสู้อารักษ์ก็ไม่ได้” ขุนอินทร์ร้องบอกเมื่อเห็นคนเป็นพ่อถอดเสื้อ ลมเลเห็นด้วยกับสองแสบรักษ์ผิวขาวมากจริงๆ เพราะเคยเห็นมาแล้ว

“แต่ไอ้นี้ของอารักษ์เล็กกว่าพ่ออีก” ขุนจันทร์ว่าทั้งชี้ไปที่ความเป็นชายของลมเล ทำเอาลมเลตกใจ

“พวกเอ็งรู้ได้ไง เดี๋ยวเถอะๆ”

“ก็น้องจันทร์เห็น”

“ใช่ๆ อาบน้ำกับอารักษ์สบายๆ อารักษ์สระผมให้ด้วย” คำพูดของสองแสบทำให้ลมเลรู้เลยว่ารักษ์ก็เคยอาบน้ำกับสองแสบด้วยเช่นกัน

“ต่อไปนี้จำไว้เลยนะพวกเอ็งห้ามอาบน้ำพร้อมกับอารักษ์อีกเด็ดขาด” ลมเลว่าอย่างจริงจัง สองแสบนะสองแสบบังอาจมาอาบน้ำกับรักษ์ของเขาได้

“ทำไมละพ่อ”

“ไม่ได้คือไม่ได้ ถ้ามีนะพวกเอ็งเตรียมขุดแปลงผักได้เลย” พอได้ยินแบบนั้นสองแสบหน้ายู้ทันที แค่อาบน้ำด้วยทำไมพ่อต้องห้ามทีกับพ่อยังอาบได้เลยสองแสบไม่เข้าใจจริงๆ

ลมเลรีบพาสองแสบอาบน้ำไม่นานทั้งสามก็จัดการทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อย ลมเลรื้อหาเสื้อผ้าในตู้ให้เด็กทั้งสองซึ้งเอามาทิ้งไว้ที่นี้หลายชุด เขาไม่ได้สนใจว่าเสื้อผ้าที่หยิบมาจะเข้าชุดกันหรือไม่แค่ให้เป็นเสื้อกับกางเกงก็ถือว่าโอเคได้ยินสองแสบบ่นว่าคนละชุดลมเลก็ไม่ได้สนใจยังไงก็ใส่ได้เหมือนกัน

“ใส่ๆ ไปเถอะไอ้แสบเรื่องมากจริง” ลมเลว่าเมื่อสองแสบบ่นเรื่องเสื้อผ้าไม่เข้าชุด

“มันไม่หล่อพ่อออออ” ขุนจันทร์ร้องบอกหน้ามุ้ย พ่อไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย

“ไม่เท่เลย” ขุนอินทร์ว่า

“ไม่เท่ตรงไหนออกจะแนว พวกเอ็งไม่รู้ไรเสียแล้ว” ลมเลหาขออ้างไปเรื่อยเพราะขี้เกียจหาเสื้อผ้าชุดใหม่ให้สองแสบ ตัวแค่นี้รู้จักแต่งตัวหล่อทั้งที่ความจริงหล่อสู้พ่อมันไม่ได้เลยแท้ๆ

“ไม่เห็นแนวเลย”

“บอกว่าแนวก็แนว สาวหลงตรึมเชื่อพ่อ”

“อารักษ์หลงด้วยเปล่า” ขุนจันทร์ถามตาใส เด็กชายชอบอารักษ์มากๆ

“เสียใจอารักษ์ของพ่อโว้ย หลงพ่อคนเดียวพอ” ลมเลพูดอย่างจริงจัง

“อารักษ์แฟนพี่อินทร์”

“แฟนน้องจันทร์ต่างหาก” สองแสบเถียงกันต่างฝ่ายต่างไม่ยอม

“หยุดเลยพวกเอ็งไม่ใช่แฟนใครทั้งนั้น ก็บอกอยู่ว่าของพ่อๆ” ลมเลปรามอย่างเซ็งๆ

“ไม่ใช่!” สองเสียงประสานพร้อมกันดังจากปากของสองแสบ

“ถ้าให้อารักษ์เป็นแฟนพ่อเดี๋ยวพาเลี้ยงไอติมเลยวันนี้” ลมเลหลอกล้อลูกชายด้วยของชอบ

“…” สองแสบมองพ่อตัวเองนิ่งไอติมก็อยากกิน อารักษ์ก็ไม่อยากให้พ่อ

“เดี๋ยวซื้อหุ่นยนต์ให้ด้วยเอ้า” ลมเลเสนออีกเมื่อเห็นสองแสบเงียบ

“ขอรถบังคับด้วยได้ไหมพ่อ” ขุนอินทร์ร้องถาม

“เอาตุ๊กตาตัวใหญ่ๆด้วยได้ไหม” ขุนจันทร์ลองขอบ้าง

“ได้ อยากได้อะไรเอาเลยเต็มที แต่อารักษ์ต้องเป็นแฟนพ่อนะ” ลมเลทุ่มสุดตัวให้ขนาดนี้ถ้าสองแสบไปเอาก็แปลกแล้ว

ขุนอินทร์ ขุนจันทร์แอบจะลังเลหน่อยๆ อารักษ์ก็หวง ของเล่นก็อยากได้ จะตัดใจจากอะไรสักอย่างมันก็ดูจะทำได้อยากเหลือเกิน ขุนอินทร์สะกิดแฝดน้องก่อนจะปรึกษาหารือว่าจะเอาไงกันดี และสุดท้ายก็ได้คำตอบ

“ก็ได้ให้อารักษ์เป็นแฟนพ่อก็ได้” สองแสบยอมตกลง ให้อารักษ์เป็นแฟนพ่อแล้วเป็นแฟนสองแสบด้วยเลยแต่สองแสบไม่บอกพ่อหรอก

“เยี่ยม บ่ายเดี๋ยวพาไปซื้อเลย อ่อแต่พวกเอ็งต้องช่วยพ่อจีบอารักษ์ด้วยนะ”

สองพยักหน้างึกงักๆ ไม่ได้ตั้งใจฟังดีเพราะมัวนึกถึงแต่สิ่งของที่อยากได้ พ่อบอกให้จีบๆอารักษ์ใช่ไหม

“เอาเสร็จแล้วก็เสริมหล่อกันหน่อย” ว่าจบก็บีบแป้งฝุ่นใส่เต็มฝามือก่อนจะทาลงบนหน้าสองแสบจนหน้าของเด็กชายขาวไปทั้งหน้า

“พ่อ!” สองแสบร้องอยากตกใจ หมดหล่อกันพอดี

“ไปๆ ลงไปกินข้าว ฮาๆ” ว่าแล้วก็ดันหลังลูกชายทั้งสองที่หน้างอง้ำลงมาด้านล่าง เห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ การได้แกล้งลูกถือเป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งที่ลมเลชอบทำ

สองแสบเดินจับมือหน้ายู้แถมหน้าขาวกันมาอีก เล่นเอาผู้ใหญ่ที่อยู่โต๊ะอาหารต้องยิ้มขำ

“อารักษ์ พี่อินทร์โกรธพ่อแล้ว”

“น้องจันทร์ก็ด้วย” มาถึงก็รีบฟ้องอารักษ์ทันที รักษ์ดูจะงงๆ กับอาการของเด็กทั้งสอง พอมองคนพ่อรายนั้นก็ลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ

“มีอะไรกันครับ โกรธคุณพ่อทำไม” รักษ์ถามเด็กทั้งสอง

“ก็พ่อแกล้งพี่อินทร์”

“ใช่ๆ ดูๆ หมดหล่อเลยยยยยย” ขุนจันทร์ว่าทั้งชี้หน้าตัวเองที่ขาวไปด้วยแป้ง รักษ์ถึงกับร้องอ่อ คงพราะถูกลมเลแกล้งกันมานี้เอง พอกันทั้งพ่อทั้งลูกจริงๆ

“ไหนพวกเอ็งอยากหล่อพ่อก็ทำให้แล้วไง” ลมเลร้องบอก

“พ่อไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย” สองแสบว่าอย่างเซ็งๆ ยกมือลูบหน้าตัวเองถูแป้งออกอีกรอบแต่ก็ยังขาวมากอยู่ดี

“หลานปู่เป็นวัยรุ่นแล้วหรือเนี้ย” พายุที่นั่งอยู่หัวโต๊ะร้องขึ้น

“ตัวกระเปี๊ยกเดียวริจะเป็นวัยรุ่น หมายังสูงกว่าอยู่เลย” ลมเลว่า

“พี่อินทร์สูงกว่าพี่เบิ้มอีก”

“ใช่ๆ น้องจันทร์สูงกว่า” สองแสบเถียงเมื่อนึกถึงพี่เบิ้มสุนัขพันธุ์ไทยตัวอ้วนที่โรงเรียน

“ครับๆ อารักษ์ว่าวัยรุ่นควรกินข้าวเช้าได้แล้วครับ” รักษ์ห้ามศึกครั้งนี้เพราะดูแล้วคงจะยาวถ้าไม่รีบจบ

“ก็ได้ น้องจันทร์กินก็ได้ครับ” ว่าแล้วก็ปีนขึ้นเก้าอี้เตรียมกินข้าวเพราะหิวมากๆ แล้ว

“ทำเป็นพูดดี หิวก็บอกไอ้แสบ” ลมเลว่าลูกชาย

“นี้ก็ต่อลูกจริงๆ” ญาดาว่าทั้งตีลูกชายไปที สองแสบนี้ยิ้มชอบใจเลย

“รักษ์แกไม่ปวดหัวบ้างหรือกับสามพ่อลูกนี้” น้ำฟ้าร้องถามขึ้น เธอแค่นั่งฟังก็ปวดหัวจะแย่แล้ว

“ก็ไม่นะ น่ารักดี” รักษ์บอกทั้งตักอาหารให้สองแสบ น้ำฟ้านี้รีบหันมองสองแสบทันที อืมสองแสบก็น่ารักดี แต่พอหันมามองทางลมเลเธอต้องสายหน้า ผู้ชายตัวโตๆ นั่งเกาหัวจนผมยุ่งทั้งในมือก็ยังถือช้อนอยู่มองยังไงก็หาความน่ารักในตัวพี่ชายไม่เจอจริงๆ

“มองอะไรยายฟ้า” ลมเลร้องถามเมื่อเห็นน้องสาวมองมา

“รักษ์ ฉันว่าแกเปลี่ยนใจยังทันนะ” น้ำฟ้าไม่ตอบแต่หันมาพูดกับรักษ์ ซึ่งคงมีแต่รักษ์ที่เข้าใจว่าน้ำฟ้าหมายความว่ายังไง เลยได้แต่นึกขำถึงจะทันก็คงไม่เปลี่ยนหรอกก็ในเมื่อใจมันเลือกไปแล้ว รักษ์คิด

ตอนบ่ายของวันลมเลพาสองแสบไปกินไอศกรีมตามสัญญา

“ปากเลอะหมดแล้วครับ” รักษ์ร้องบอกทั้งเช็ดปากเล็กของขุนจันทร์

“อารักษ์อร่อยไหมครับ” ขุนจันทร์ร้องถามทั้งมองไอศกรีมหลากสีในถ้วยของรักษ์ รักษ์เลยตักป้อนให้ไปคำโตเพราะรู้ว่าเด็กน้อยอยากลองชิมไอศกรีมเรนโบว์ของเขา

“พี่อินทร์ชิมบ้างๆ” ขุนอินทร์เมื่อเห็นว่าน้องชายได้ชิมก็เลยขอบ้าง รักษ์ก็ตักป้อนให้ไปอีกคน

“ฉันชิมบ้างสิ” ลมเลพูดขึ้นทั้งนั่งเท้าคางมองรักษ์ที่อยู่ตรงหน้า รักษ์ทำตัวไม่ค่อยถูกไม่รู้ว่าลมเลพูดเล่นหรือพูดจริงแต่ในเมื่อคนตัวโตร้องขอรักษ์เลยเลื่อนถ้วยไอศกรีมให้ตรงหน้าอีกคน

“นี้ครับ” พอรักษ์บอกแบบนั้นลมเลรีบหยิบหนังสือนิตยสารที่วางอยู่ใกล้ๆ มาถือทันทีก่อนจะบอกรักษ์ออกไป

“มือไม่วาง” รักษ์ตกใจไม่คิดว่าลมเลจะใช้ไม้นี้ เลยจำยอมตักไอศกรีมคำโตป้อนให้ น้ำฟ้าที่นั่งมองอยู่ถึงกับแบะปากมองบนกับการกระทำของพี่ชายไม่คิดเลยว่าคนอย่างลมเลจะทำอะไรแบบนี้

“อร่อยดี หึหึ” ลมเลบอกทั้งมองหน้ารักษ์จนรักษ์รู้สึกเขินอายสายตาคมนั้น แต่น้ำฟ้าแทบจะสำรอกไอศกรีมที่กินเข้าไปเมื่อเห็นพี่ชายตัวเองจีบเพื่อนของเธอได้โคตรเลี่ยน

“อารักษ์จีบน่าๆ” ขุนจันทร์เอ่ยขึ้นทำเอารักษ์งุนงง

“ว่าไงครับน้องจันทร์”

“จีบอารักษ์น่า พ่อบอกให้จีบอารักษ์” ขุนจันทร์เอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อรักษ์ถาม

“เฮ้ย! ไอ้แสบ ใช่ที่ไหนกัน” ลมเลร้องขึ้นอย่างตกใจไอ้แสบเล่นเขาแล้วไหมละ

“อะ อะไรกันครับคุณลม”

“จีบอารักษ์ๆ เป็นแฟนๆ” ขุนอินทร์ร้องบอกอีกเมื่อเห็นว่าอารักษ์ดูไม่เข้าใจ

“พอเลยๆ พวกเอ็ง” ลมเลร้องห้ามลูกชายก่อนจะพากันพังไปมากกว่านี้

“อะไรพี่ลม คุยอะไรกับสองแสบเนี้ย สองแสบไหนบอกอาฟ้าสิว่าพ่อเราบอกว่าไง” น้ำฟ้าว่าลมเลก่อนจะถามกับสองแสบไม่รู้พี่ชายเธอไปพูดอะไรกับหลานชายเธอ

“พ่อบอกให้จีบอารักษ์” สองแสบบอกอีกครั้ง ทำไมอาฟ้ากับอารักษ์ไม่เข้าใจสองแสบก็บอกไปแล้วแท้ๆ

“ใช่ที่ไหนเล่า พ่อบอกว่าให้พวกเอ็งช่วยจีบโว้ยยยยย” ลมเลรีบแก้คำพูดของสองแสบแต่ดูเหมือนมันจะทำให้ยิ่งวุ่นไปกว่าเดิมหรือเปล่า ตอนนี้ทั้งรักษ์และน้ำฟ้าจ้องมองลมเลนิ่งเพราะตกใจคำพูดของลมเล

“….”

“เอ่อ…ไม่มีไร กินๆ” เมื่อนึกได้ถึงสิ่งที่เผลอพูดไปก็รีบหาทางเปลี่ยนเรื่องทันนี้นึกเคืองสองแสบทำแผนแตกหมด

“อย่ามาเบี่ยงประเด็นพี่ลม” น้ำฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม ผิดกับรักษ์ตอนนี้ที่ทำหน้าไม่ถูกถึงลมเลเคยบอกว่าจะจีบแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะออกมาแบบนี้

“ให้อารักษ์แฟนพ่อ”

“พ่อบอกให้กินติม” สองแสบจำได้พ่อบอกให้อารักษ์แฟนพ่อแล้วจะได้กินไอติมอร่อยๆ

“คุณลม!” รักษ์ร้องขึ้นอย่างเขินอาย แต่ก็แอบนึกเคืองที่ลมเลแอบติดสินบนสองแสบ สองแสบก็กะไรเห็นรักษ์มีค่าแค่ไอศกรีมเองหรือนึกแล้วมันน่าน้อยใจนัก

...........,.......................................

ลูกคู่มาแล้วจ้าาาาาาาาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด