ขอโทษที่ทำค้างมาหลายชั่วโมง อย่าโกรธผมน้า
มาต่อและ
บทที่ 3 เสาร์ที่อบอุ่น กับ อาทิตย์ที่สดใส
ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าผมควรจะทำอย่างไรกับตัวเองและไอจอนดี ก็มันเล่นเป็นใจให้ขนาดนี้ ฝ่ายเทวดาและฝ่ายปีศาจในใจ
“จอนมันอุตส่าห์ทำเพื่อแกขนาดนี้แล้วนะแชมป์ ถ้าปล่อยไป ทั้งแกจะเสียใจ จอนจะเสียหน้าด้วยนะ จอนมันรักแกนะ” ฝ่ายปีศาจเริ่มเสนอ
“ก็เพราะรักไง แกคิดว่ามันถูกแล้วเหรอ แกสัญญาว่าจะจบม.6 ก่อนไง แกจะหมดความน่าไว้วางใจนะ แค่อารมณ์ชั่ว.. ตูม.” ฝ่ายเทวดาเสนอ แต่มันเหมือนฝ่ายปีศาจยิงปืนใหญ่ถล่ม
ก็อารมณ์ผมมันกระเจิงไปแล้ว เพื่อนๆคงรู้ว่าเวลาหน้ามืดนี่มันควบคุมยากนา
ผมไม่คิดอะไรอีกแล้ว เริ่มที่จะซุกหน้าลงไปที่ติ่งหูไอจอน ตอนนั้นบรรยากาศมันเบลอๆ นี่ผมกำลังจะผิดสัญญาใช่มั้ย
“กูรักมึงแชมป์ กูไว้ใจมึงนะ” เป็นประโยคที่จอนมันพูดทั้งที่มันปิดตา หน้ามันดูเหมือนจะร้อง
ผมทนไม่ได้หรอก ที่จะทำอะไรพวกนี้กับคนที่ผมรัก แม้เขาจะเป็นคนเสนอ แต่ผมรู้ส่วนลึกๆ เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะให้
“กูชอบมึงนะ จอน” ผมขยับหน้าไปประทับลงที่หน้าผากมันแทน
“กูว่ากูล่มปากอ่าวก่อนแน่เลย อย่าเหอะวันนี้ กูยังไม่พร้อม” ผมบอกไปทั้งที่มันอึดอัดนะที่ต้องทนกดความรู้สึก ผมนั่งหันหลังให้มัน ไม่อยากนั่งมองภาพที่มันยิ่งยั่วกิเลสผม
“แชมป์.....” มันสวมกอดผมมาจากข้างหลัง
“ขอบใจ” มันเป็นคำพูดสั้นๆที่ช่วยยืนยันว่าการกระทำของผมไม่ผิด มันก็คงกังวลเหมือนผม เผลอๆมากกว่าผมหลายเท่า ทั้งที่ตัวมันจะเป็นคนโดน และสิ่งแวดล้อมอีกหลายๆอย่างที่มันค้ำชีวิตพวกเราอยู่
“กูต้องขอบใจมึงมากกว่าจอน มึงทำให้กูเข้าใจอะไรๆได้ดี”
“นี่ มึงคงไม่ได้คิดว่ากูรังเกียจมึง หรือไม่ไว้ใจ...” ก่อนมันจะพูดจบผมก็เอามือไปปิดปากมัน ผมไม่เคยคิดซักนิด สิ่งที่ผ่านๆมามันยืนยันได้อยู่แล้ว ว่าความรัก ความไว้ใจ และความรู้สึกดีๆที่ผมได้จากมันนั้นมากขนาดไหน
“มึงอย่าพูดให้กูรู้สึกผิดมากขึ้นอีกหน่า กูแค่รู้ว่ากูควรจะห้ามความรู้สึกตัวเอง ก่อนจะทำอะไรโดยไม่คิดถึงความรู้สึกมึง ก็แค่นั้น” ผมรู้สึกว่าตัวเองพูดไม่รู้เรื่อง
“ นอนดีกว่ามั้ย เด็กเตรียมเอนท์ต้องพักผ่อนเยอะๆ เดี๋ยวต้องมาฟิตอ่านหนังสือกันแล้วนะ” ผมยิ้มให้มัน แต่มันกลับนิ่งเงียบ
ทำหน้ายังกะแบกโลกไว้อยู่
“มึงบอกว่ากูไม่ควรมีความลับกับมึง ใช่มั้ยแชมป์ กูมีเรื่องจะบอก” จอนพูดมา ผมถึงกับอึ้ง มิน่ามันถึงตามใจผมนัก วันนี้มันถึงจะยอม.... นี่คงเป็นเรื่องที่แย่มากแน่ๆ
ผมคิดไปมากถึงหลายๆเรื่อง รวมถึงว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่กันอย่างนี้
ในสถานะนี้ ผมไม่สามารถที่จะเอ่ยคำอะไรออกไปได้ ได้แต่นิ่งเงียบรอฟังมัน ต่างคนต่างเงียบ ต่างคนต่างไม่กล้าที่จะเริ่ม ตอนนั้นผมไม่รู้หรอก แต่ผมอยากทำอะไรก็ได้ที่ทำให้มันสบายใจที่สุด
มันอาจดูเว่อร์ที่จะทำให้คนอื่นมีความสุข โดยฝืนตัวเอง แต่สักวันจะเข้าใจ เมื่อคุณรู้สึกดีที่สุดกับคนๆหนึ่ง เมื่อเวลามันมีความสุข นั่นก็คือความสุขของคุณเหมือนกัน
ผมยิ้ม แล้วถามมัน “อือ กูพูดเอง เราจะไม่มีความลับต่อกัน พูดมาเหอะ ไม่เห็นต้องทำหน้าเครียดยังงั้นเลย กูรับได้หน่า ขนาดเรื่องฉี่รดที่นอนกูยังรับได้เลย” ผมหัวเราะ
จอนมันหัวเราะเจื่อนๆ ดูมันไม่เต็มใจนัก
“พ่อกู ...” มันตาแดงๆ ผมเลยจับมือมันมากุม แล้วจับมันมานอนตักผม ผมไม่อยากเห็นน้ำตามันแล้ว เค้าบอกว่าเวลานอนน้ำตามันจะออกมายากนี่
“แอ่ะ จะร้องอีกและ ไรขี้แยหว่ะ พูดมาหน่า อะไรมันก็แก้ได้” ผมบอกมัน พลางรูปหัวมันไปด้วย
“พ่อกู บอกว่าจะให้กูไปเรียนต่อที่อังกฤษ กูมีญาติที่นู่น” มันบอกมาทั้งที่หลบตาผมอยู่ ผมเงียบก็ไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องที่เราต้องไกลกัน ปกติแต่ละคนก็มีไปเที่ยวต่างประเทศ แต่มันเป็นช่วงสั้นๆ แล้วมันก็ไม่ได้นาน ขนาดไปเรียน
“กูก็ขอพ่อกูแล้ว แต่...” มันทำหน้าเหมือนจะร้องอีกแล้ว
“เฮ้ย อังกฤษก็แค่ใกล้ๆ กูไปเยี่ยมมึงได้บ่อยๆอยู่แล้ว”พูดไปนู่น ความจริงก็รู้ๆอยู่ ถึงจะรวยยังไงก็เหอะ การนั่งเครื่องบินไปๆกลับๆอังกฤษบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนี่ จอนมันคงจับเสียงสั่นๆของผมได้ มันก็ไม่มีการต่อความยาวสาวความยืด
“กูขอพ่อกูว่าขอเรียนให้จบที่นี่ก่อน พ่อกูก็อนุญาต” มันบอก
อ่าวไอสาดพ่อมึงให้ แล้วจะตีหน้าร้องหาสวรรค์วิมานอะไร ทำหัวใจกูตกไปที่ตาตุ่ม
“แต่กูต้องได้อันดับหนึ่งเท่านั้น” มันบอก อย่างน้อยคำพูดเหล่านี้ก็ทำให้ผมโล่งไปได้เยอะ
“แล้วมึงก็ต้องไปคุยกับพ่อแม่กู ว่าทำไมกูควรเรียนที่นี่” มันยังสาธยาย
เอื๊อก “เกี่ยวไรกะกู ทำไมกูต้องคุยกะพ่อแม่มึงอ่ะ” ผมรีบถามมัน
“ก็ มึงเป็นแฟนกู” มันบอกหน้าตาเฉย
“มึงบอกพ่อแม่มึง”ผมตกใจถามมัน
“เออดิ กูก็ต้องบอกดิ” มันยังหน้าตาเฉย
“อ่าว ไอสาด ก็คุยกันแล้วไง ไหนบอกว่า” ผมถาม
“กูบอกว่ามึงเป็นเพื่อนที่กูรักที่สุด กูจะเรียนกับมึง” ได้ยินอย่างนั้นค่อยโล่งอก
“สาด แล้วมาหลอกกู วันนี้มึงมีอารมณ์ขันเนอะ เอาเหอะกูไปคุยกะพ่อแม่มึงก็ได้”
“นอนเหอะ”ผมเอื้อมมือไปปิดไฟ
“กูไม่ได้อารมณ์ขันไรหรอกกูเครียดนะ กูไม่รู้ว่าไมพ่อกูยอมง่ายขนาดนั้น แล้วไมต้องคุยกะมึง ปกติพ่อกูไม่เห็นเคยสนใจเพื่อนกูเลย กูกลัวพ่อกูอาจรู้เรื่องมึงกับกู” มันบอกมาท่ามกลางความมืด
“คิดมากหน่ามึง พ่อมึงจะรู้ได้ไง กูกับมึงก็เป็นเพื่อนสนิท ออกจะปกติอยู่แล้ว”
“เพื่อนสนิทที่คุยกันทุกคืน อยู่ด้วยกันตลอด และกูก็ไม่เคยมีท่าทีสนใจใครเนี่ยนะ” มันพูดให้ผมเริ่มกังวลไปกับมัน
“กูว่ามันออกจะปกติ อย่าคิดไรมากเลย ยังไงตอนนี้เรายังอยู่ด้วยกัน” ผมหันไปกอดหมอนข้างๆตัว โดยหันไปคนละฝั่งกับมัน
“แล้วอีกอย่าง มึงก็ติดอยู่แล้ว อันดับหนึ่งนั่นหน่ะ เชื่อกู” ผมพูดไปแต่ตัวผมก็กังวล ทั้งๆที่รู้ว่าโอกาสติดมันเกือบร้อยเปอร์เซนต์ แต่นะ มีเรื่องอย่างนี้ใครก็กังวล
อยากทำให้จอนสบายใจ ทำไงดีนะ
ผมค่อยๆเอื้อมมือไปจับ มือจอน ดูมันสะดุ้ง ผมตกใจเลยดึงมือกลับ
“ ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบซะหน่อย” มันพูดเบาๆอีก
“....” ผมพูดไม่ออกเลยตอนนั้น ไม่รู้จะย้อนอะไรมัน
เราเงียบไปนาน จนผมว่าจอนหลับไปแล้ว ผมพลิกตัวกลับมาดูหน้าจอน
จอนนอนหลับตาพริ้ม ตอนนอนนี่ก็น่ารักไปอีกแบบ ทำไมมันดูช่างน่าแกล้งจัง
ความคิดที่อยากแกล้ง กลับยื่นหน้าไปแทบชิด จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่รดกับริมฝีปากผม
ตื่นเต้น จูบก็เคย ทำไมมันตื่นเต้น แล้วทำไมรู้สึกดีอย่างนี้
ผมค่อยๆเอามือวางบนตัวจอน ค่อยๆเลื่อนตัวไปใกล้มากขึ้น
หน้าห่างแค่นิดเดียว
ไม่กล้าขยับส่วนล่าง กลัวบางอย่างจะทำให้จอนมันตื่น แต่ขาอีกคนกลับคร่อมมาผ่านสะโพกผม
“กอดได้นะ กูชอบ” เสียงที่ทำให้รู้ว่ามันไม่ได้หลับ
“เออ....กู”
“ทำยังกะ เด็กถูกจับผิดอ่ะ มึง”
“.............” อายครับ เหมือนถูกแม่จับผิดได้ว่าขโมยกินไอติม
“เด๋ว พุ่งนี้มาติวหนังสือกันให้เข้มเลยดีกว่า จะได้ชัวร์ทั้งมึงทั้งกู” ดูคราวนี้จะเป็นทีของมัน
“.............”
“ไม นอนกับกู พูดไม่ออกเลยเหรอ” จอนมันเพิ่งลืมตามามองหน้าผม เพิ่งเห็นว่าสายตามันดูประหม่า และตื่นเต้นไม่ต่างกัน
“เหอะ กูไม่ได้เหมือนมึง นอนกะกูคืนแรก ก็ แ ต ก ซะและ”ผมเริ่มกล้าที่จะแซว
“มึงว่าไรนะ”
“ มึง แ ต ก คืนแรกที่มานอนกะกู” ผมเน้นมาก
“มึงรู้ได้ไง นอกจากดูของกู มึงยังทำไรกูอีก”
“ป๋าว กูแค่เห็นจากกางเกงมึงตอนเช้า” ผมทำแป๋ว
“ไหนมึงบอกว่ามึงไม่ได้มายุ่งกะเสื้อผ้ากู”
“ก็.....” ผมไม่รู้จะบอกไง
“วันนั้นกูก็กลัวอยู่แล้ว กูไม่รู้ตัวนี่หว่า ช่างแม่ง งั้นคืนนี้ถึงคราวมึง มาให้กูดูมึงแตกซะดีๆ”
“ไม่ อย่าๆ อย่ามายุ่งกะกู” ผมเขยิบหนีแล้วก็เกิดศึกชุลมุนอีกทีก่อนนอน
(ต่อบทที่ 4 เพื่อนร่วมสาบาน) แล้วก็ยังไม่เข้าฉาก.... ซักที รอนานแน่ครับ กว่าจะได้ลงเอย
รีบมาลงแล้วนะค้าบ หวังว่าจะหายค้างคากันแล้วนะคับ ว่าสุดท้าย มันก็ยังไม่...
เน้นความใสซะมากกว่า
รอครับรอ สักวัน วันนั้นคงมาถึง