เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...  (อ่าน 182938 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
วันอังคารเลยหรอ  :z3: นานจัง

ranny

  • บุคคลทั่วไป
นานมากจริง ๆ

เค้าคิดถึง

 :z3:

ออฟไลน์ Loin_diciz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
พึ่งมาอ่าน ชอบมากกกกก  :impress2:

ออฟไลน์ akichan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
น่ารักจริ้งจริง~~>.<~~
 :o8:

SunLoveMoon

  • บุคคลทั่วไป
รอคอยมานานแสนนาน ทรมานวิญญาณหนักหนา ระทมในอุราแก้วกานดาฉันรอเธอผู้เดียว   :o12:

ranny

  • บุคคลทั่วไป
^

^

ตามมา :beat: อิเด็กคนนี้





@@@@@@@@@@@@@@


คิดถึงคุณเพื่อนง่ะ
:กอด1:


@@@@@@@@@@@@@@

 :z6:

V

V

V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2008 10:50:19 โดย ranny »

SunLoveMoon

  • บุคคลทั่วไป
^
^
แอบเอาไม้หน้า 19 มาทุกป้า
ตีๆๆๆๆ
ตี ให้หายแก่ไปเลย  :z2:

เบื่อยายแก่แล้วแก่เลยข้างล่างมาก
อย่าให้เจอ
เอาก้อนหินขว้างใส่เลย นี่ๆๆๆ

V
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2008 10:57:25 โดย SunLoveMoon »

Bg LoVe NT

  • บุคคลทั่วไป
^
^

เอาไม้เขี่ยป้าสองคนข้างบน


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


หน้า 1 9

ต้องมีส่วนร่วม

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
เพิ่งได้อ่านครับ

ชอบมากมายเลยอ่า หวาน  จริง ๆ

สังหรณ์ใจว่ามันจะเศร้ายังไงก็ไม่รู้

 :L2:

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
ตามทันแย้ววววววววววววววว     


ชอบเรื่องนี้จัง  น่ารักอ่ะ   

พระเอก(?)  เราก็ขี้งอนซะ  นายเอก(?) เราก็ใช่ย่อย   


ขอบคุณคุณเพื่อนที่สร้างตัวละครที่น่ารักๆออกมา 

+1  เยย 


น้องกาย  หายอกหักยั ง  เดี๋ยวพี่ดามใจให้  อิอิ   


รอตอนต่อไปฮับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
มารอคุณเพื่อน เดี๋ยวบินไปตามที่อังกฤษซะเลย อิอิ

ตั๊กแตนปาทังก้า

  • บุคคลทั่วไป
 :z10: มารอคุณเพื่อน

ใกล้คริสมาสต์ จิงกาเบล ลัลล้า ปาจิงโกะ แระนะ


(ไม่มีไรแค่อยากจะบอก อิอิ)


คิดถึงงงงงงงงงเน้อ มาให้หายคิดถึงไวๆๆๆ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

  ก็ยังงงๆ อยู่ว่ามันเข้าใจไปได้ยังไง  แต่เราก็เข้าใจกันนะว่าหมายคามว่า...."พี่ขวัญ  วันนี้สองจะพาเจซึ่งเป็นเพื่อนของแนนซึ่งเป็นเพื่อนของสองอีกทีกับนันเพื่อนของเจเนี้ย  ไปทานข้าวเป็นเพื่อนสองกับยัยหวานเพื่อนของสองนะ"


  นึกแล้วก็นึกถึงเรื่อง สี่แผ่นดิน  ตอนที่เสด็จพระองค์หญิงให้พลอยไปบอกข้าหลวงของเสด็จพระองค์หญิงอีกตำหนักหนึ่งว่า...

     "พลอยไปบอกเขานะว่า  เสด็จฝากมาให้ไปทูลเสด็จว่า...ถ้าเสด็จจะเสด็จ  เสด็จจะเสด็จด้วย"

อ่านแล้ว งง  กันไหม?

อิอิ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

แถวบ้านก็พูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่นะ  :laugh:


มารอคุณเพิ่อน วันอังคารแล้ว  :mc4: รีบมาต่อนะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เออ เนอะหนึ่งเนอะ  เพราะบ้านเราอยู่ใกล้ๆ กัน อิอิ


ปล. อยากรบกวนให้เจ้าของเรื่อง เอารูปมาลงประกอบการเล่าเรื่องด้วยอะ  แบบว่า อยากดูรูปด้วย นะๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

แถวบ้านก็พูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่นะ  :laugh:


มารอคุณเพิ่อน วันอังคารแล้ว  :mc4: รีบมาต่อนะ

เวลาเจอเพือนสมัยเด็ก ก็พูดแบบแทนตัวเองว่าเพื่อนเหมือนกัน  สงสัยตอนเด็กๆๆเราจะอยู่แถวเดียวกัน :laugh:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เออ เนอะหนึ่งเนอะ  เพราะบ้านเราอยู่ใกล้ๆ กัน อิอิ

ปล. อยากรบกวนให้เจ้าของเรื่อง เอารูปมาลงประกอบการเล่าเรื่องด้วยอะ  แบบว่า อยากดูรูปด้วย นะๆๆๆๆๆๆ

เจ้ อยากดูรูป คุณเพื่อนกะนนท์ หรืออยากดูรูปสถานที่จ๊ะ  :z1: จะไปตามรอยแบบหนังเกาหลีหรอเจ้


เวลาเจอเพือนสมัยเด็ก ก็พูดแบบแทนตัวเองว่าเพื่อนเหมือนกัน  สงสัยตอนเด็กๆๆเราจะอยู่แถวเดียวกัน :laugh:
อุ้ย เจอคนบ้านใกล้เรือนเคียง  :laugh:


เข้าเรื่อง

คุณเพื่อน วันนี้อังคารแล้ว หรือจะรอเวลา 23:59 นาที จ๊ะ  :z3:

คุณเพื่อน

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 12


วันนี้ผมกับนนท์ไปสมัครสอบ IELTS ที่ Brighton …
ที่นี่ เป็น Test Center ที่ใกล้เมืองที่ผมอยู่มากที่สุด
วันสอบก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟเที่ยวเช้าสุดโดยไม่ต้องไปค้างคืนได้
อีก 1 เดือน ... เราจะกลับมาที่นี่อีกครั้งเพื่อมาสอบ

หลังจากสมัครสอบเรียบร้อย ... เลยถือโอกาสเดินเล่นเปิดหูเปิดตาซักหน่อย
เดินเรื่อยเปื่อยมาถึง Churchill Square
ซึ่งเป็นย่านการค้าใหญ่ของ Brighton
... นนท์เลือกหมวก Cap สีน้ำตาลของ Gap ใบหนึ่ง
ใส่แล้วน่ารักมาก ... หน้าเหมือนผู้หญิงเลย
เห็นแค่จมูกแหลม ๆ กับปากแดง ๆ คู่นั้นโผล่ออกมา

              “เอาใบนี้แหละ … ใส่แล้วน่ารัก” ผมบอกนนท์ ... นนท์ยิ้มกว้าง
              “เหมือนผู้หญิง” ผมพูดต่อ ... นนท์หุบยิ้มทันที
              “’เพื่อน’เป็นผู้ชายนะครับ ... ” นนท์พูด ... หน้างอ ... จนทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
                        “ เพื่อนแหละ ... ขนาดไม่ใส่หมวกยังแทบแยกไม่ออกว่าเนี่ยะผู้ชายหรือผู้หญิง”
นนท์พูดแล้วหยิบหมวกมาใส่ให้ ... พลางพูดต่ออีกว่า ...
            “ดูสิยิ่งใส่หมวกยิ่งเหมือน ................... ทอม !”  ผมหุบยิ้มทันที …
หยิบหมวกออกส่งคืนนนท์
              “งอน ...” นนท์ล้อ ...
            “เพื่อนก็ผู้ชายเหมือนกันครับ ...” ผมบอกนนท์เสียงเข้ม ...
            “ไปจ่ายตังค์ได้แล้ว” ผมบอก ... แล้วดันหลังให้นนท์ไปจ่ายเงิน

หลังจากจ่ายเงินเสร็จ ... เดินออกมาจากร้านก็สังเกตเห็น …
ผู้คน ... ที่ต่างเดินออกจากบริเวณนั้นอย่างเร่งรีบ ...
นนท์ลากข้อมือผมให้ข้ามไปอีกฝั่งถนน ... แล้วยืนรอดูเหตุการณ์
มีคนยืนรออยู่จำนวนหนึ่ง ...
ซักพักได้ยินเสียงประกาศว่าพบกระเป๋าต้องสงสัยวางอยู่ใต้เก้าอี้ ...
ตำรวจจึงเกณฑ์ให้คนออกห่างบริเวณนั้นให้มากที่สุด
เหตุการณ์แบบนี้พบได้บ่อยในเมืองใหญ่  ๆ ในอังกฤษ
เนื่องจากขบวนการ IRA (Irish Republican Army)
ต้องการแบ่งแยกดินแดนประเทศไอร์แลนด์เหนือออกจากสหราชอาณาจักร ...
หรืออาจจะไม่ก็พวกผู้ก่อการร้าย (ซึ่ง ... ชาวอาหรับมักจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเสมอ)
ทำให้ผมนึกถึงประเทศไทย ... เหตุการณ์ที่มีการวางระเบิด
และลอบยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐเพราะต้องการแบ่งแยกดินแดนเหมือนกัน

.... คนกลุ่มหนึ่งอยากเป็นอิสระ แต่ต้องทำลายชีวิตคนอื่น ... โดยเฉพาะคนบริสุทธิ์

นนท์จับข้อมือผม ... ลากให้เดินออกห่างจากเหตุการณ์ ...
ที่อาจจะกลายเป็นเหตุการณ์ร้ายหากมีอะไรผิดพลาด
              “กลับกันเถอะ” นนท์บอก ... แล้วพาผมเดินมุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟเพื่อกลับเมือง

เมื่อถึงบ้านผม ... นนท์ก็จะแวะที่ห้องก่อนกลับบ้านเสมอ ... วันนี้ก็เช่นเดียวกัน
เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ... ผมหยิบซองจดหมายวางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาอย่างสงสัย
ใครส่งมา ... พลิกด้านหลังก็ไม่มีเขียนรายละเอียดผู้ส่ง ... ผมฉีกซองออก
ยังไม่ทันหยิบกระดาษออกจากซองจดหมาย ... นนท์คว้าซองในมือผมเอาไปถือไว้
             “ของเพื่อนนะ” ผมแย้ง ... ยื่นมือขอซองคืน ... แต่คนตัวสูงชูซองจดหมาย
ไว้จนสุดแขน ... ผมพยายามคว้าแต่ไม่ถึง ก็นนท์สูงกว่าผมตั้งเยอะนี่
              “อือ ...ก็ของ ‘เพื่อน’ ไง” นนท์พูดยิ้ม ๆ พลางหยิบกระดาษออกจากซอง ...
แล้วยื่นบัตรเข้างานรับประกาศนียบัตร 2 ใบที่แนบมาพร้อมกับจดหมายให้ผม
อ่านจดหมายเสียงดัง
             “เพื่อนครับ ... เราส่งบัตรมาให้สองใบนะ ...” แล้วเสียงนนท์ก็เงียบไป ... ชั่วอึดใจ
หลังจากกวาดสายตาอ่านจดหมายจบ ... นนท์ยื่นจดหมายคืนให้ผม แล้วบอกว่า
             “เราจะไปงานของธีร์ด้วยกัน ...”
นนท์เงียบไปครู่หนึ่ง ... ผมก็มัวแต่ก้มลงอ่านจดหมายจนลืมสังเกต ...
            “... กลับก่อนนะ” นนท์พูดแล้วเดินไปที่ประตู ...
            “อ้าววว ..” วันนี้ยังไม่ได้กอดลากันเลย ...
นนท์ต้องเป็นอะไรแน่ ...
หรือว่าหงุดหงิด ... แต่เรื่องอะไรล่ะ ... หรือว่าอะไรที่ว่านั้นมันอยู่ในมือของผมตอนนี้รึเปล่า
ผมมองจดหมายของธีร์ที่อยู่ในมือ ... ธีร์เขียนเป็นจดหมายสั้น ๆ
หรือจะเรียกให้ถูกว่าก็แค่บันทึกข้อความสั้นเท่านั้นเอง ... ไม่ได้เขียนอะไรเป็นพิเศษ
ไม่มีรายละเอียดอะไร นอกจากวัน เวลา และสถานที่จัดงาน
แล้วก็ประโยคสุดท้ายที่บอกว่า ... เจอกันหลังเลิกงาน ... เท่านั้นเอง
หรือว่าประโยคนี้จะทำให้นนท์หงุดหงิด ... แต่ประโยคนี้เนี่ยะนะ ... ไม่มีอะไรเลยนะ
ไม่มีการสื่อถึงอะไรเลย ... แล้วเป็นเพราะอะไรล่ะ ....
ผมได้แต่ คิด คิด คิด .... ถ้าไม่รู้ ... สงสัยคืนนี้จะนอนไม่หลับ (อีกตามเคย)

… ตัดสินใจโทรหานนท์ทันที
          “เป็นไร” ผมถามนนท์ทันทีที่นนท์รับโทรศัพท์
          “เปล่า ... แค่ ....” นนท์พูดไม่จบประโยค ... แล้วเงียบไป
          “แค่อะไร” ผมถาม
          “หงุดหงิดนิดหน่อย ...” ในที่สุดคนขี้งอนก็ยอมเปิดปากพูด
           “เรื่องจดหมายเหรอ” ผมถาม
          “เปล่า” นนท์พูด
          “งั้นเรื่องอะไรล่ะ”
          “ไม่รู้ ... แค่เห็นเพื่อนอ่านจดหมายแล้วยิ้ม ... ก็หงุดหงิดแล้ว” นนท์พูดจบ
          “งั้น ... ทำไงถึงจะหาย” ผมถามเด็กขี้หงุดหงิด
          “ตอนนี้หายแล้ว …” นนท์ตอบเสียงอ่อย ๆ
           “ดีมาก ... ห้ามเป็นอีกนะ ... รู้ไว้ด้วยนะ ... ‘เพื่อน’ น่ะสำคัญที่สุดสำหรับเพื่อน
ผมพูดซะยืดยาว ... ก่อนหัวเราะขำ  ๆ
   “งั้นฝันดีนะ ... จะให้เดินกลับไปกอดมั๊ย” นนท์ถามเสียงเหมือนสำนึกผิด
   “ไม่ต้องแล้ว ... เจอกันพรุ่งนี้นะ ... นี่เดินถึงไหนแล้วเนี่ยะ” ผมถาม ...

นนท์เงียบไม่ตอบ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก .... ผมหันไปตามเสียงเคาะประตูบ้าน ...
           “เปิดประตูให้หน่อย ... ” เสียงนนท์ดังกรอกมาตามสายโทรศัพท์ ... ไอ้ ... ไอ้ ...
ไอ้ขี้งอน ! ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ... ผมยิ้มนิด ๆ ก่อนวางหูโทรศัพท์ แล้วเดินไปเปิดประตูบ้าน
   “ไม่ได้ไปไหน ... ยืนอยู่ตรงนี้ตลอดเลย” นนท์พูดยิ้ม ๆ แล้วโผเข้ามากอด ...
   “จะให้กลับบ้านได้ไง ... ยังไม่ได้กอดเลย ...”

…..

วันนี้ตอนเช้าผมกับนนท์ไปเรียนตามปกติ  ...
ช่วงบ่ายไม่มีเรียน  ... หลังจากอิ่มจากอาหารกลางวันแล้ว ...
เราก็กลับมาที่บ้านของผม ... ทำกิจวัตรที่ทำเป็นประจำทุกวัน ... คือ ...

อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ ...

             “ง่วง” นนท์อ้าปากหาว ... บิดขี้เกียจ ... จากนั้นวางหนังสือ
แล้วเดินไปที่เตียง คนที่บอกว่าง่วงเมื่อครู่ล้มตัวลงนอน ... หลับตา ...
ผมหันไปมองนนท์นิดนึง ... แล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ
               “เพื่อน ...” นนท์เรียกผมเบา ๆ ทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ... ผมเฉย
               “เพื่อนคร๊าบเพื่อน” นนท์เรียกชื่อผมซ้ำ ๆ เมื่อเห็นว่า
การเรียกครั้งแรกไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากผมได้ ... ผมหันไปมองนนท์ ...
            “เพื่อนมานั่งใกล้ ๆ หน่อยสิ” คนที่ตั้งท่าจะนอน ... ตอนนี้กลับมองผมตาแป๋ว ...
บอกเสียงออดอ้อน ... ผมยิ้ม ... แล้วส่ายหน้า
               “เพื่อนคร๊าบ” เสียงคนขี้อ้อนเรียกชื่ออีกครั้ง … ผมหันไปมองหน้า ..
ตัวโตแต่ขี้อ้อนชะมัด ... นนท์กวักมือเรียก ผมเดินไปหา (ถ้าไม่ไปหาคงเรียกทั้งวัน) ...
แล้วนั่งลงบนพื้นใกล้ ๆ กับเตียง คนตัวโตถึงยอมหลับตา ... แต่ยังไม่หลับ ...
นอนพลิกไปมาอยู่หลายตลบ
               “เพื่อน ...” นนท์เรียกอีก ... ทำให้ผมต้องละสายตาจากหนังสือเป็นครั้งที่สาม
               “ง่วง .. แต่นอนไม่หลับ” นนท์บอกพลางยื่นหน้าทำแก้มป่อง
               “Goodnight kiss” นนท์พูด ... ผมยิ้มแอบขำคนตัวโตขี้อ้อน
ทำไมขี้อ้อนขนาดนี้นะ ... แต่ผมก็จูบแก้มนนท์เบา ๆ 2 ครั้งซ้ายขวา
               “Afternoon Kiss ต่างหากเพราะนี่เพิ่งจะบ่ายโมงครึ่งเอง” ผมบอก
นนท์หัวเราะก่อนดึงมือไปจูบ ... แล้วดึงแขนพยายามลากให้ขึ้นไปบนเตียง
               “มานอนกลางวันด้วยกันก่อน ... หลังอาหารกลางวันต้องงีบ 15 นาที
จะทำให้สมองแจ่มใส ...” นนท์พูดเสียงจริงจัง
                “เหรอ...” ผมทำเสียงล้อนนท์แต่ก็ยอมซุกตัวลงในผ้าห่มนวมผืนหนา 
เบียดกับคนตัวโตบนเตียง ... ก็อากาศมันเย็นอยู่ใต้ผ้าห่มกับคนตัวอุ่น ๆ นี่มันสบายเหลือเกิน ...
นนท์โอบเอวผมไว้ ... แล้วจุมพิตที่หน้าผาก
                “นอนนะ” นนท์พูด ... แล้วหลับตา ... กระชับอ้อมกอด
                “อือ” ผมก็รู้สึกง่วงเหมือนกัน ได้พักซักงีบตื่นมาจะได้สดใส ...
ผมกอดตอบคนตัวโตที่ตอนนี้ทำเสียงงึมงำเหมือนง่วงเต็มที ... ผมมองหน้านนท์
ยื่นหน้าจูบเบา ๆ ที่จมูกแหลม ๆ กับปากอุ่น ๆ อีกครั้ง ...
แล้วกระชับวงแขนกอดคนตัวอุ่นแน่นขึ้น ... หลับตาลงอย่างเป็นสุข

ประมาณ 10 นาที …
หลังจากเคลิ้มหลับไป เสียงโทรศัพท์มือถือของนนท์ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ...
นนท์งัวเงียหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อแล้วส่งให้ผม ... ผมรับมาอย่างงง ๆ  อ่านชื่อ
                “ธีร์โทรมาเหรอ ...” ผมบอกเบอร์โทรของนนท์ให้แก่ธีร์ ...
เผื่อว่าตอนที่ไปงานรับประกาศฯ ของธีร์ เราจะได้ติดต่อนัดหมายกันได้
                “หวัดดีธีร์ ... มีไรเหรอ” ผมกรอกเสียงลงไปตามสาย พยายามไม่ให้งัวเงีย
                “ดูงานแล้วเป็นไงบ้าง ... ได้ถ่ายรูปเราตอนรับประกาศฯ รึเปล่า” ธีร์พูดยาวเหยียด  ...
ผมหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง … ซวยแล้ว วันนี้วันอะไรเนี่ย 
ผมคิดแล้วหันไปมองนนท์ที่นอนมองผมคุยโทรศัพท์ ...
              “วันนี้วันอะไร” ผมถามธีร์
                 “วันศุกร์ …” ธีร์ตอบด้วยน้ำเสียงผิดหวังปนโกรธนิด ๆ
                 “เพื่อนลืมเหรอ ...”
ผมพูดได้แค่คำว่า ‘ขอโทษ’ ... ผมจำวันผิด  มันเป็นความผิดของผมเอง ...
ธีร์บอกว่าจะโทรมาเตือนล่วงหน้า 1 วัน ... แต่จะโทษธีร์ก็ไม่ได้ ... ผมเลินเล่อเอง
                “เพื่อนไม่ใส่ใจเราเลยนะ” ธีร์ตัดพ้อมาตามสายโทรศัพท์ ...
             “เย็นนี้มีเลี้ยงกับรุ่นพี่ ... ยังไงวันพรุ่งนี้ต้องไปเจอกันที่ลอนดอนนะ ...
คราวนี้ห้ามลืม” ธีร์พูดย้ำ
                “ขอโทษนะ” ผมบอกธีร์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะผมรู้สึกผิดกับธีร์มาก
ก็ธีร์อุตส่าห์ย้ำนักหนาว่าบัตรหายาก ... ไม่น่าจำผิดเลย ... นึกโกรธตัวเองขึ้นมานิด ๆ

หลังจากวางสายกับธีร์
ผมบอกนนท์ว่าลืมวันรับประกาศของธีร์ รู้สึกผิดจัง     
                  “... ไม่น่าจำผิดเลย” ผมบอกนนท์ ... ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี
                  “เรื่องมันผ่านมาแล้ว เพื่อนก็ขอโทษแล้วนี่ ไม่มีอะไรแล้วล่ะ เลิกคิดได้แล้ว”
นนท์บีบมือผมเบา ๆ เหมือนให้กำลังใจ
         “พรุ่งนี้ไปลอนดอนกันนะ” ผมบอกนนท์ ...

วันรุ่งขึ้น ...
ผมกับนนท์ออกเดินทางด้วยรถไฟเที่ยว 9.30 น.
ไปถึงลอนดอนเกือบเที่ยง ... แล้วขึ้น Tube ไปลงที่สถานี bayswater
ไปทาธีร์ที่ร้านที่นัดหมายไว้ ...

... ร้านเป็ด Four Season …

ธีร์ยืนรออยู่ที่หน้าร้าน ... ร้านนี้คนค่อนข้างเยอะ (โดยเฉพาะคนไทย) ก็เลยต้องรอคิวเล็กน้อย
หลังจากได้โต๊ะแล้ว … ระหว่างรออาหารผมก็บอกขอโทษธีร์อีกครั้ง (เป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั๊ง)
หลังจากนั้นพวกคุยกันเรื่อยเปื่อย ...
โดยที่ธีร์ไม่พูดถึงเรื่องที่ผมลืมนัดเมื่อวานอีกเลย ... ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
   “พักกันที่ไหนล่ะ” ธีร์ถาม ... เพราะหลังจากทานอาหารกลางวัน
พวกเรามีโปรแกรมจะไปเดินเล่นที่ Covent Garden และอาจดู  Play ซักเรื่อง ...
และคงจะกลับเมืองพรุ่งนี้
   “โทรจอง BB แถว Earl’s Court ไว้แล้วล่ะ” นนท์ตอบ

หลังจากทานอาหารเสร็จ พวกเราก็ไปเดินเล่นย่อยอาหารที่  Covent Garden
โดยขึ้น Tube ไปลงที่สถานี Covent Garden เลย
ที่นี่มีร้านค้ามากมาย มีตลาดขายสินค้า และมีการแสดงดนตรีคลาสสิค
การแสดงตลก ศิลปินริมถนน และนักเล่นกลด้วย เดินดูได้ซักพัก ...
ธีร์ขอตัวกลับก่อน ... เพราะมีธุระด่วน

เย็นมากแล้ว ... หลังจากดูโน้นดูนี่จนเหนื่อย
สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าจะไม่ดู Play
   “ไว้เป็นคราวหน้าเนอะ” ผมบอกนนท์ นนท์พยักหน้า ...
เราจึงหาอาหารเย็นทานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ...

เกือบ 2 ทุ่ม เดินทางไปที่พักที่ได้จองไว้ ...
ไม่มีคนที่อยู่ที่หน้าเคาร์เตอร์แล้ว ... ต้องกดกริ่งเรียก ...
ซักพักก็มีคนเดินออกมาแล้วยื่นกุญแจห้องให้ ...

ห้องพักต้องขึ้นบันไดไปชั้นสาม ที่นี่ไม่มีลิฟท์ ...
ก็ไม่ใช่โรงแรมนี่นา ... แต่ก็ไม่เกินความสามารถของเรา
เดินไปกลับบ้านกับโรงเรียนวันหนึ่งเป็นหลายกิโลสบาย ๆ กับแค่นี้ ... สบายมาก

เมื่อเข้าไปในห้อง ...
                  “อ้าวจอง double room เหรอ” ผมถามนนท์
เพราะเตียงเป็นเตียงขนาดใหญ่หนึ่งเตียง นนท์ยิ้ม ...
                 “... ก็อยากนอนกอดเพื่อนนี่นา”

พอมองไปที่ห้องน้ำก็ต้องตกใจหันมามองหน้านนท์ ...
                 “เฮ้ย ... ทำไมห้องน้ำเป็นอย่างงี้ล่ะ”   
นนท์หัวเราะ “... ตอนจองไม่รู้นะว่าห้องน้ำจะเป็นแบบเนี้ยะ ...”
                    “เปลี่ยนได้ปะ ... ทำใจไม่ได้” ผมบอกนนท์

ก็ห้องน้ำเป็นผนังแบบใส ...
ลักษณะเหมือนตู้อาบน้ำ แต่มีอ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์อยู่ด้วย
ผนังรอบห้องน้ำเป็นแบบขุ่นสลับใส
ไม่ว่าจะทำอะไรในห้องน้ำ (อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน หรือทำธุระส่วนตั๊ว ส่วนตัว)
คนที่อยู่นอกห้องน้ำมองเข้ามาก็เห็นหมดว่าทำอะไรอยู่
คนที่อยู่ในห้องน้ำก็มองออกมาเห็นคนที่อยู่ข้างนอกห้องน้ำได้อย่างชัดเจน

                   “อืมมมม ถ้าเพื่อนอยากเปลี่ยนก็ได้นะ” นนท์พูด “เดี๋ยวไปถามให้”
นนท์หายไปครู่หนึ่ง ... แล้วกลับมาบอกว่า ห้อง twin เต็ม ...
(ห้องแบบมีสองเตียง ... ห้องน้ำ (น่าจะ) มิดชิด)
                “ไม่งั้นก็ต้องเอา single room 2 ห้อง” นนท์บอก ...
               “ตกลงนอนห้องนี้นะ ... เพื่อนทำอะไรในห้องน้ำ .. ‘เพื่อน’ รับรองว่าจะไม่แอบดู …”
นนท์พูดยิ้ม ๆ
 
                  “งั้นคืนนี้ไม่อาบน้ำดีกว่า ...” ผมบอกนนท์ ...
จะว่าไปผมก็ไม่เกี่ยงเรื่องนอนเตียงเดียวกับนนท์หรอก ... แต่ไม่ชอบเรื่องห้องน้ำ ... มันโป๊เกินไป
                  “… งั้น .... ไม่อาบด้วย” คนตัวโตพูดแล้วกระโดดขึ้นเตียงทันที
                  “นอนเร็ว ...ง่วงแล้ว” นอนไม่นอนเปล่า ... เร่งให้ผมต้องรีบนอนด้วย
                   “ล้างหน้าก่อนสิ  ...” ผมบอกนนท์ ...
ถึงแม้ลอนดอนจะไม่มีฝุ่นควันให้เห็นมากนัก ...
แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีมลพิษเยอะมากเหมือนกัน ...
ลองพิสูจน์ง่าย ๆ หลังจากผจญภัยในลอนดอนตั้งแต่เช้า
ใช้กระดาษทิชชูซับเข้าไปในจมูกเบา ๆ ไม่ต้องถู ... แค่เบา ๆ
ก็จะมีเขม่าควันสีดำมากติดออกมาแล้ว ...

ผมเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกได้ว่าอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ 
... แต่โชคดีที่เมืองที่เรียนอยู่อากาศค่อนข้างดี มลพิษน้อย ...
ทำให้สุขภาพดีขึ้นเยอะ

หลังจากล้างหน้า ... เมื่อเห็นคราบความสกปรกจากมลพิษที่ออกมา
รู้สึกอยากอาบน้ำชะมัด ...
มองออกมานอกห้องน้ำ ... คนตัวโตนนอนหลับปุ๋ยไปแล้ว ...
 .... ถ้าปิดไฟห้องน้ำแล้วก็ปิดไฟในห้อง …ให้แสงสว่างจากข้างนอกห้องเข้ามาพอมองเห็น
... ก็คงพอจะอาบน้ำได้ ... ไม่อายมาก

‘อาบแบบคร่าว ๆ ละกัน แค่พอล้างความสกปรกออกให้หมดก็พอ’
ผมคิดในใจ น่าจะอาบไม่เกิน 2-3 นาที ... หันหน้าเข้าผนังซะ ...
หลังจากถอดเสื้อผ้าแล้วก็รีบเปิดฝักบัว ... ถูสบู่ ... อาบเสร็จแระ ...
เอื้อมมือไปจะหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ที่ประตู

หาผ้าเช็ดตัวไม่เจอ ...

พอเหลือบตามองหาผ้าเช็ดตัว ... ก็ต้องเจอกับคนตัวโตยืนถือผ้าเช็ดตัวจ้องมายิ้ม ๆ
              “จะอาบน้ำก็ไม่บอก ... จะอาบให้ ...” นนท์พูด
              “เอาผ้าเช็ดตัวมานี่ หนาวจะแย่แล้ว” ผมพูดแต่ไม่ยอมหันหน้าไปหาคนที่ยึดผ้าเช็ดตัวไว้
... ก็ได้แต่หันข้างและเอื้อมมือพยายามคว้าผ้าเช็ดตัว ...
            “ไม่ให้” คนขี้แกล้งยังไม่ยอมให้ ... ชูผ้าเช็ดตัวซะสูง ... สุดแขน
ผมเห็นว่าคงแย่งคืนมาไม่ได้แล้ว ... ยืนเฉย ก้มหน้า ทำท่าเหมือนโกรธดีกว่า …
ยังคงหันหน้าเข้าผนัง ...

...

ซักครู่ ... ก็รู้สึกถึงน้ำหนักของผ้าเช็ดตัวผืนโตที่คลุมลงมาบนร่างจากทางด้านหลัง
พร้อมคนตัวโตเข้ามาสวมกอด ...
           “หายหนาวแล้วนะ …” เสียงคนที่แกล้งยึดผ้าเช็ดตัวเมื่อครู่กระซิบข้างหู
ผมยังยืนเฉย รวบผ้าเช็ดตัวเข้ามากระชับ ...
           “โกรธเหรอ ... ” คนตัวโตกระซิบอีกครั้งยังไม่ยอมคลายอ้อมกอด
แต่กลับจูบเบา ๆ ที่ไหล่ ...
           “ออกไปก่อน ... จะแต่งตัว” ผมพูดเสียงดุ ...
ยังไม่ยอมหันหน้าไปหาคนที่กอดอยู่ทางด้านหลัง

            “งั้น ... จะไถ่โทษ ...

           ... แต่งตัวให้นะ ... นะครับ”

เสียงคนที่พูดอยู่ตอนนี้ช่างออดอ้อนซะเหลือเกิน ... ใครจะไปโกรธลง

นนท์คลายอ้อมกอด ... แล้วจับไหล่ให้หันหน้าไปหา
ผมจ้องหน้าคนที่บอกว่าจะแต่งตัวให้ ... นนท์จ้องตาผมนิ่ง ...
สายตาเว้าวอน ... อ่อนหวาน ...
ตอนนี้ ... ผมรู้สึก .... ร้อนที่ใบหู
คงเพราะอาย ... ก็ในสภาพแบบนี้ ... 
ไม่เคยมีใครจ้องแบบนี้ ... ใกล้ขนาดนี้ ... และชิดมากขนาดนี้
ชิดซะจนลมหายใจอุ่น ๆ ปะทะเบา ๆ ที่ข้างแก้ม ....

นนท์บรรจงประทับริมฝีปากอุ่นบนริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบา
และเริ่มรุนแรงขึ้นทีละน้อย ... ทีละน้อย … ผมจูบตอบนนท์ .....
ตอนนี้ร่างกายของผมร้อนไปทั่วร่าง ... ใจสั่น ... หวิว ... ไหว ... ขาอ่อนแรง
เกือบจะทรุดลงตรงนั้น ...   

   แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก เสียงคนไขกุญแจห้อง .. แล้วจะเปิดเข้ามา ...
นนท์ชะงักหันไปมองที่ประตู
กึก ... แต่เปิดประตูเข้ามาไม่ได้เพราะติดโซ่คล้องประตู ...

   "Who is it?" นนท์ตะโกนถาม แล้วกระซิบให้ผมแต่งตัว ...
ผมรีบหยิบเสื้อและกางเกงขึ้นมาใส่แบบลวก ๆ ...
ไม่มีเสียงตอบ ... มีแต่เสียงไขประตูและเสียงกระชากประตูให้เปิดออกอีกครั้ง ...
แต่เข้ามาไม่ได้ ...

   "Who is it?" นนท์ตะโกนถามอีกครั้ง ... กระซิบบอกให้ผมซ่อนในตู้เสื้อผ้า ...
ผมไม่ยอม ... ก็เลยเดินตามนนท์ที่กำลังเดินไปที่ประตู ...
มองหาของพอจะหยิบฉวยเป็นอาวุธป้องกันตัวได้ ...
แต่ไม่มี ... หยิบปากกาออกมาจากเป้ ... อย่างน้อยก็ใช้แทงได้แหละ ... ผมคิด ...

   ปัง ! ปัง ! ปัง ! เสียงเคาะประตูถี่ ๆ เหมือนจะพังประตูเข้ามา ...

ผมหลบอยู่ด้านหลังนนท์ ... กำปากกาไว้ในมือแน่น

ตอนนี้หัวใจผมก็เต้นถี่รัวไม่แพ้เสียงเคาะประตูเหมือนกัน ... 




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2008 22:20:43 โดย คุณเพื่อน »

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
จิ้มๆ คุณเพื่อน

ทำไมในเล้าเป็ดทอมเยอะจริงๆๆๆ :m20:

ปล. แอร๊ย ค้างๆๆ ยิ่งอ่าน นนท์ยิ่งน่ารักกกก แอร๊ยยย

ปล.แล้วใครๆๆมาเคาะประตู..ค้างอย่างแรง :serius2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2008 22:19:08 โดย RN »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
กรี๊ดดดดดดดด ไม่ทันป้าแก่รีบน  :z3:


ค้างงงงงงงงงงงงงง เจ้าค่ะ  :z3: ใครว่ะมาขัดจังหว่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2008 22:20:46 โดย Poes »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

แถวบ้านก็พูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่นะ  :laugh:


มารอคุณเพิ่อน วันอังคารแล้ว  :mc4: รีบมาต่อนะ

เวลาเจอเพือนสมัยเด็ก ก็พูดแบบแทนตัวเองว่าเพื่อนเหมือนกัน  สงสัยตอนเด็กๆๆเราจะอยู่แถวเดียวกัน :laugh:




ว้าย!  บ้านนอก

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

แถวบ้านก็พูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่นะ  :laugh:


มารอคุณเพิ่อน วันอังคารแล้ว  :mc4: รีบมาต่อนะ

เวลาเจอเพือนสมัยเด็ก ก็พูดแบบแทนตัวเองว่าเพื่อนเหมือนกัน  สงสัยตอนเด็กๆๆเราจะอยู่แถวเดียวกัน :laugh:




ว้าย!  บ้านนอก

  เคอะ..อิเจ้ฯ กะเทยเริงเมือง

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
^
ii
ii
ii

ปากดี


ปล.  เมื่อไหร่จะเอารูปมาใส่ให้ดูบ้างอะคะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

แถวบ้านก็พูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่นะ  :laugh:


มารอคุณเพิ่อน วันอังคารแล้ว  :mc4: รีบมาต่อนะ

เวลาเจอเพือนสมัยเด็ก ก็พูดแบบแทนตัวเองว่าเพื่อนเหมือนกัน  สงสัยตอนเด็กๆๆเราจะอยู่แถวเดียวกัน :laugh:


ว้าย!  บ้านนอก

  เคอะ..อิเจ้ฯ กะเทยเริงเมือง

เล่นไรกันค่ะ เดี๋ยวทู้เค้ากลายพันธุ์  :laugh: จะโดนกันมิใช่น้อย

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586


ไม่นะ



เขามาทวงรูปตะหาก อิอิ  เนอะ แป๋วแหววเนอะ  :laugh:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :oni1: หนีก่อน เดี๋ยว จขกท จะด่าเอา ให้เจ้รับหน้าไว้นะ ได้รุปมาดูก็แบ่งกันมั่ง

จะไปตามแบบละครเกาหลี เผื่อจะได้เจอ เพื่อนกับนนท์  :-[

อยากไปอังกฤษ จัง เจ้ แป๋ว ไปกะเค้ามั้ย ไปให้เจ้าเทมสมานเลี้ยงข้าว  :laugh:


ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
พี่เพื่อน เหมือนๆว่าค้างป่าว
ง่าเค้ากำลังลุ้นอ่าว่าใครที่อยู่ที่ประตู
มาเคาะประตูอะไรตอนนี้เค้ากะลังง้อๆ กันอยู่ ชิส์
อิๆ รออ่านนะจ๊ะ

ออฟไลน์ Mint

  • นิสัย!!
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +881/-17
Re: [นิยาย] เรื่องเล&#
«ตอบ #387 เมื่อ23-12-2008 22:36:03 »

^
^

แอร็ยยยยยยยยย ไม่ทราบว่ารีฯบนๆคนแก่ๆ เค้าเล่นอะไรกันเคอะ

 :laugh: :laugh:

ชอบๆๆ ชอบนนท์

กีซซซซซซ ค้างๆๆค่ะค้าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2008 22:42:55 โดย Mint »

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
^

^

^

จิ้มคุณมิ้นท์  โทษฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวตั้มกับพาย   :laugh: :laugh: :laugh:



คุณเพื่อน  ค้างอย่างมากมาย :sad4:

ใครอ่ะมาเคาะประตู ขัดจังหวะ :serius2:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2008 22:50:11 โดย imageriz »

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
เหอ เหอ ค้างมหาศาล  ออกแนวสยองขวัญป่าวหว่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด