พิมพ์หน้านี้ - เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: คุณเพื่อน ที่ 25-11-2008 23:52:26

หัวข้อ: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 25-11-2008 23:52:26
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



----------------------------------------------------------

ตอนที่ 1

ผมมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเล็ก ๆ ในอังกฤษ
เรียนภาษาที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่นี่มีคนไทยแค่ 4 คน
เป็นผู้หญิง 1 คน ชื่อ หนิง
แต่คนที่ผมสนิทที่สุดคือ นนท์ เพราะอยู่บ้าน (host family) ใกล้กัน
แต่ขอบอกว่าไกลจากโรงเรียนมากกกกกก ต้องเดินประมาณ 20-30 นาที
ส่วน กาย บ้านอยู่ใกล้กับโรงเรียนและใกล้กับบ้านของหนิง
พวกเรา 4 คนค่อนข้างสนิทกันพอสมควรเพราะเมืองนี้ก็มีคนไทยอยู่แค่นี้

วันแรกที่ไปถึงเป็นวันอาทิตย์ พวกเรานัดกันว่าจะไปกินข้าวร้านอาหารไทยที่มีอยู่แห่งเดียวในเมือง
ก็อุตส่าห์ถ่อสังขารเดินไปถึงอีกด้านหนึ่งของเมืองปรากฏว่า ......
.... ร้านปิด .....
คนที่นี่ไม่ค่อยทำงานกันวันอาทิตย์ เพราะเมืองนี้เป็นเมืองเล็ก ๆ
ไม่ใช่ลอนดอนที่เปิดตลอด ซึ่งก็จะคล้ายกับเมืองไทย

สุดท้ายก็ต้องกินแมคโดนัล
“มาอังกฤษแต่ต้องมากินอาหารเมกัน” ผมบ่นออกมาดัง ๆ ก็ผมไม่ค่อยชอบอาหารจั๊งฟูดซักเท่าไหร่
ราคาก็แพงแถมคลอเรสเตอรอลก็สูง
“เมิงแปลกกว่าอีก ... มาถึงอังกฤษวันแรก เรียกร้องจะกินอาหารไทย” กายด่าผม แต่ยิ้ม ๆ ผมว่ามันคงแกล้งด่าผมมากกว่า กายเป็นผู้ชายรูปร่างไม่ค่อยสูงมากเท่าไหร่ ก็สูงพอ ๆ กับผมเนี่ยแหละ

หลังจากกินอาหารเย็นเรียบร้อยพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน กายกับหนิงไปทางเดียวกัน
ส่วนผมกับนนท์ก็กลับบ้านทางเดียวกัน บ้านของนนท์อยู่เลยบ้านของผมไปอีกค่อนข้างไกล
ก็ต้องเดินประมาณ 15 นาที นนท์มาส่งผมที่หน้าบ้าน
“พรุ่งนี้จะเดินมารับตอน 8 โมง” นนท์พูดแล้วก็เดินกลับบ้าน ผมพยักหน้าแล้วเดินเข้าบ้าน

เช้าวันจันทร์ แปดโมงตรง เสียงกริ่งดังที่หน้าบ้าน
ผมรีบบอกลาโฮสมาเตอร์
ผมลืมบอกไปว่าบ้านที่ผมอยู่ มีโฮสมาเตอร์อยู่กับลูกสาว
โฮสมาเตอร์ ชื่อ แคธี่ และลูกสาวชื่อแคทรีน่า อายุ 14  
พอผมลาแคธี่แล้ว ผมก็รีบคว้าผลไม้ที่แคธี่เตรียมไว้ให้แล้ววิ่งออกมาหานนท์
เห็นมันยืนยิ้มรออยู่ แต่ปากมันก็เร่งผมว่าให้เร็ว ๆ เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย

การเดินไปโรงเรียนวันแรกมันแสนทรมาน
ก็คนไม่เคยเดินทางไกลขนาดนี้ อีกอย่างลมแรงมาก เพราะเมืองที่เราอยู่มีทะเล
แถมอากาศก็เย็นมาก พระอาทิตย์ก็ยังไม่ขึ้นดีเลย คงเพราะเป็นหน้าหนาว
พระอาทิตย์ขึ้นช้าตกเร็ว
มืดมากกว่าสว่าง

นนท์ตัวสูงมาก สูง 185 ขามันก็เลยยาวกว่าผมเยอะ ผม 2 ก้าวมันก้าวเดียวเองก็เลยเดินนำผมไปไกล
   “รอด้วยดิวะ”
   “ก็เดินเร็ว ๆ สิ ก้าวให้มันยาว ๆ ” มันหันมามองหน้าผมแว๊บนึง แล้วก็ยังก้าวยาว ๆ ต่อไป
กว่าจะไปถึงโรงเรียนเล่นเอาหอบ ผมเห็นนนท์นั่งคุยกับหนิงและกายแล้วอยู่ที่สนามหน้าโรงเรียนแล้ว
   “ไม่รอเลยนะเมิง” ผมด่านนท์ มันก็เอาแต่หัวเราะ
   “เมิงอะ ขาสั้น”
   “ไม่สั้นโว๊ย ... สมส่วน” ผมโวยวาย ก็นนท์สูงกว่าผมตั้งเกือบ 20 เซนต์จะให้ขายาวเท่ามัน
ก็ไม่สมประกอบกันพอดี แต่ถึงจะไม่สูงมากแต่ก็มั่นใจในรูปร่างหน้าตาพอสมควร ถึงบางคนจะบอกว่า
ถ้าผมเป็นผู้หญิงจะจีบ เพราะคงจะน่ารัก แต่ผมก็เชื่อว่าถึงผมเป็นผู้ชาย ก็เป็นผู้ชายที่น่าตาน่ารักเหมือนกันนะ

หลังจากคุยกันนิดหน่อย พวกเราก็เข้าสอบจัดระดับ ผมได้เรียนคลาสขั้นสูง
ส่วนนนท์กับหนิงเรียนขั้นกลาง และกายเรียนขั้นต้น หลังจากที่พวกเราได้รับตารางเรียนของวันพรุ่งนี้แล้ว
ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน นนท์บอกผมว่าให้กลับเอง เพราะมันต้องไปเป็นเพื่อนเบรานีส
เพื่อนผู้หญิงที่อยู่บ้านเดียวกันกับมัน เป็นคนฝรั่งเศสก็สวยดี พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก
ไปหาเพื่อนที่ถนนอะไรก็ไม่รู้ผมไม่ได้สนใจจะฟัง ผมก็บอกมันว่า    
   “ไม่เป็นไร ... กูกลับเองได้” ผมบอกมันไปอย่างงั้น เพราะมั่นใจว่าจำทางได้
แต่ก่อนกลับนนท์ก็ส่งแผนที่เมืองให้ผม แล้วชี้ทางบอกว่าให้เดินไปทางไหน
ผมก็มั่นใจแหละนะว่าพอจะจำทางได้ อยู่เมืองไทยก็ไม่เคยหลง จำทางแม่น มั่นใจมาก

ผมเดินทางกลับบ้านด้วยความมั่นใจ แต่หลังจาก 45 นาทีแล้วยังเดินไม่ถึงบ้าน บวกกับมันมืดมาก
แม้จะเป็นเวลาแค่ 5 โมงเย็นก็ตาม ทำให้จำทิศทางไม่ได้ ผมก็เริ่มปอด (แหก) ทำไงดีวะ
ใจเสียสิครับ “นี่กูหลงทางเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ”
ตอนนั้น ... อยากบอกว่ากลัวมาก คงไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง
ผมเริ่มหาทางไปแมคโดนัล ร้านที่เมื่อวานเพิ่งไปกินกัน
ถ้าเจอแมคฯ  ผมก็มั่นใจว่าผมต้องกลับบ้านได้แน่ ...

หลังจากเดินหาทางอยู่อีก 20 นาที
ฝนก็เริ่มตกปรอย ๆ หนาวก็หนาว มืดก็มืด กลัวก็กลัว
ถึงผมจะเป็นผู้ชายก็ใช่ว่าผมจะไม่กลัว เพราะมันก็อยู่ต่างบ้านต่างเมือง
ผมจะโดนปล้นมั๊ยเนี่ย ก็คิดไปต่างๆ แหละครับ
สุดท้ายก็เห็นป้ายชี้ทางบอกทางไปแมคฯ
ผมใจชื้นขึ้นเยอะ พอเห็นแมคฯ ผมก็รีบเดินขึ้นเขาเพื่อกลับบ้าน (บ้านผมต้องเดินขึ้นเขาไปเล็กน้อย)

สุดท้ายก็ใช้เวลาเดินทางกลับบ้าน 1 ชั่วโมงครึ่ง
กลับมาถึงบ้าน แคธี่ทักว่าทำไมหน้าแดงจังเลย ก็แหงแหละหนาวขนาดนั้น หน้าแดง
หูแดงไปหมดเลย เย็นจนเหมือนกับว่าหูจะหลุดซะให้ได้ มันชาไปหมด แต่ในบ้านอุ่นมาก
... พอทานอาหารเย็นเสร็จผมก็นอนหลับเป็นตายเลย เหนื่อยจากการผจญภัย

บางคนอาจบอกว่าแค่นี้ก็เรียกว่าผจญภัยแล้วเหรอ
ก็ที่บ้านผมที่เมืองไทยน่ะ ผมไม่เคยต้องทำอะไรเลย
ไม่เคยต้องกลัวอะไร เพราะพ่อกับแม่จะคอยปกป้องทุกอย่าง
และที่สำคัญไม่เคยต้องเดินไกลขนาดนี้
มีรถคอยรับส่งตลอด
จะว่าไปการมาอยู่ที่นี่ก็ดีตรงที่ว่าเราจะได้ทำอะไรเองบ้างก็ดีเหมือนกัน อย่างวันนี้ …

หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เคยต้องเดินกลับบ้านคนเดียวอีก
เพราะนนท์กลับพร้อมผมตลอด ...
นอกจากเดินกลับบ้านพร้อมกัน นนท์ยังเดินมารับผมที่บ้านทุกเช้าด้วย
ผมก็ไม่เคยเล่าให้มันฟังหรอกนะว่าวันนั้นผมหลงทางน่ะ เสียฟอร์ม

ตอนเย็นก่อนกลับบ้าน พวกเรา 4 คนมักจะแวะไปมั่วสุมกันที่บ้านของกาย
ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีหรอก ... เรามาเล่นเกม  Play Station กันน่ะ ...
นอกจากพวกเราคนไทย 4 คนแล้ว ยังมีเพื่อนชาวเกาหลีและญี่ปุ่นอีกหลายคน
มาเล่นเกมแข่งกัน ก็พวกเกมต่อสู้ชิงความเป็นยอดฝีมือ ชาติไหนเก่งที่สุด
กายกับนนท์เล่นเก่งมาก ส่วนพวกเกาหลีกับญี่ปุ่นก็เป็นยอดฝีมืออยู่แล้ว
เพราะที่เกาหลีกับญี่ปุ่นนี่มีการแข่งขันชิงแชมป์กันเลยทีเดียว
ผมรู้แล้วก็ทึ่ง ... ในความบ้าเกมของคนพวกนี้มาก
เกิดมาผมก็ไม่เคยเล่นมาก่อน ... เลยได้แต่ดูอย่างเดียว แต่แค่ดูก็สนุกมาก
พอเล่นเกมเสร็จได้เวลาต้องกลับบ้าน
คนบ้าเกมอย่างนนท์กลับเป็นคนชวนผมกลับบ้าน
ได้เวลาไปกินข้าวเย็นแล้ว เดี๋ยวแคธี่รอ ... นนท์ต้องเป็นคนเตือนผมทุกที
   
ทุกวันที่กลับบ้านพร้อมกัน นนท์ก็จะแวะเข้ามาที่บ้านผมทุกครั้ง
ทำความรู้จักกับแคธี่และแคททรีน่า
แคธี่จะชอบมันมาก เพราะนนท์เป็นคนคุยเก่ง เอาใจผู้ใหญ่เก่ง ชอบเสนอตัวช่วยโน่น ช่วยนี่ ซ่อมถังขยะ แบกของ สารพัด แคธี่มักจะพูดกับผมเสมอว่า “นนท์เป็น คนมีน้ำใจมาก ... ชั้นชอบเค้ามาก” ผมก็ได้แต่ค้านในใจ เพราะผมก็ไม่เคยเห็นมันทำอะไรให้ผมเห็นว่ามันมีน้ำใจซักที
 
อยู่มาวันหนึ่ง ... เราสองคนไปห้องสมุดของเมือง (public library) ขณะที่กำลังคุยกับบรรณารักษ์
ผมก็เห็นคนตาบอดเดินผ่านหน้าผมไปกำลังจะเดินไปที่ประตูเพื่อออกจากห้องสมุด
ผมแค่คิดในใจว่าน่าจะมีคนเปิดประตูให้คนตาบอดนะ ...
แต่ที่เร็วกว่าความคิดของผมก็คือ ไอ้นนท์ ... วิ่งไปเปิดประตูให้คนตาบอดเรียบร้อยแล้ว
บรรณารักษ์ยิ้มให้มันแล้วหันมาพูดกับผมว่า “He’s very sweet - เค้าน่ารักมาเลยนะ”
ตอนนั้นผมก็ได้แต่ยืนอึ้ง .. ก็ทึ่งนิด ๆ แหละ พอนนท์เดินกลับมาผมก็บอกว่า
   “บรรณารักษ์ชมเมิงด้วย ... ”
   “กูทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติเลยนะเนี่ย” นนท์อวดเสียงภูมิใจ แล้วก็ตบหัวผม
“ไม่เหมือนเมิง .. อย่างว่าขาเมิงสั้นก็ต้องใช้เวลาวิ่งนานกว่าจะถึงประตู ... กูแค่ 3 ก้าวก็ถึงแล้ว”
มันหัวเราะเยาะผมเสียงดัง นี่มาว่าผมเตี้ยอีกแระ แถมเดี๋ยวนี้พูดคำตบหัวคำ มันเจ็บนะ
เกิดมาไม่เคยโดนใครตบหัว มีมันเนี่ยแหละ
   
ส่วนแคทรีน่าลูกสาวของแคธี่ก็ท่าทางชอบนท์มาก เพราะแคทรีน่าบอกว่า
   “He’s so cute - เค้าหล่อจัง”
และชอบมาถามผมว่านนท์มีแฟนรึยัง
ผมก็ไม่รู้ว่า ... ผู้ชายเอเชียตัวสูง ๆ หน้าตี๋ ๆ ตาเล็ก ๆ ยิ้มกว้าง ๆ นี่เป็นสเปคของฝรั่งด้วยเหรอ
เพราะเวลาเดินไปไหนมักจะมีฝรั่งผู้หญิง (ส่วนมากจะวัยรุ่น) มองแล้วยิ้มให้มันเสมอ
บางคนก็ถึงกับทักทาย บางคนขอเบอร์เลยก็มี

ส่วนผมเหรอไม่อยากจะคุย ..
ไม่เลย ไม่เคยเลย ไม่เคยมีใครมามองเลย
บางทีผมก็อิจฉามันนะ บางทีก็แอบหมั่นไส้มันเหมือนกัน

บางวันที่เรียนแค่ครึ่งวัน พวกเราก็มักมานั่งทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารจีน
อาหารจีนร้านนี้อร่อยมาก ชื่อร้าน เปี๋ยจิง
ขายไม่แพง เฉพาะมื้อกลางวันขายให้กับนักเรียน ... จานละ 3.5 ปอนด์
อาหารก็จะเป็น Egg Fried Rice with Chicken in Black Bean Sauce
(ข้าวผัดไข่กับไก่ผัดซ้อสถั่วดำ) หรือ sweet and sour sauce (ผัดเปรี้ยวหวาน) หรือ
Chicken Fried Noodle (ก๋วยเตี๋ยวผัดใส่ไก่ – เส้นก่วยเตี๋ยวจะเป็นแบบจีนเส้นกลม ๆ หนาๆ )
ทุกเมนูอร่อยมาก ... และจานใหญ่มาก ขนาดเท่ากับจานเปลที่เมืองไทย วันแรก ๆ ผมกินไม่หมดหรอก
เหลือกว่าครึ่ง ก็แบ่งให้นนท์แหละ ก็ตัวมันใหญ่ กินเยอะ
    “แล้วเมื่อไหร่เมิงจะโต ...” นนท์พูด พลางตบหัว (อีกแระ) แต่ก็ตักกินจากจานของผม

   
เวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน
นนท์ ชวนหนิง กาย และผมไปลอนดอน
มันบอกว่าเพื่อนมาจากเยอรมันเป็นผู้หญิง ผมกับกายก็กระตือรือร้นอยากไปเจอหน้าเพื่อนของนนท์
เพราะนนท์บอกว่าไม่สวยหรอก แค่น่ารัก …
ทริปนี้หนิงไม่ไปเพราะจะต้องไปรอรับญาติที่มาจากเมืองไทย

เพื่อนของนนท์ชื่อ บี เรียนวิศวะอยู่ที่เยอรมัน บีมาเยี่ยมเพื่อนที่ลอนดอนก็เลยขอนัดเจอกับนนท์
บีเป็นผู้หญิง น่าตาน่ารัก ตัวเล็ก ตา-กลมโต ผมยาวประบ่า มีลักยิ้มเวลายิ้มเห็นฟันเรียงสวย
บีพาพวกเราไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารอิตาเลียนแห่งหนึ่งในลอนดอน อาหารอิตาเลียนอร่อยดี
ผมชอบ แต่กายทำหน้าไม่อร่อย เบ้หน้าบอกว่า “เลี่ยนสมชื่อ”
พอทานเสร็จ เชพชาวอิตาเลียนเดินมาถามว่า
“อาหารอร่อยมั๊ย”
“Very nice – อร่อยมาก” บีตอบพลางส่งยิ้มหวานให้เชพ ส่วนผมแอบเห็นกายทำหน้าเซ็ง
   
บี เป็นคนคุยเก่ง แต่คุยกับนนท์คนเดียวเท่านั้น และเดินกับนนท์ตลอด
ไม่ค่อยหันมาคุยกับผมกับกายเท่าไหร่
ส่วนผมก็เดินเกาะติดอยู่กับกายไม่ค่อยได้คุยกับนนท์
แต่บางทีก็รู้สึกเซ็ง ๆ เหมือนกัน ไม่รู้เป็นอะไร ...

เกือบ 1 ทุ่ม พวกเราเดินมาหยุดที่หน้าโรงละครที่คืนนี้จะมีการแสดงเรื่อง “มิสไซง่อน”
   “อยากดูเรื่องนี้จังเลย” พูดพลางเอียงคอเกาะแขนนนท์ ทำหน้าเว้าวอน นนท์หันมามองพวกผม
   “พวกเมิงอะ อยากดูเปล่า” นนท์ส่งซิกบอกว่าให้พวกผมปฏิเสธ
   “กูอยากดู ... แต่มันต้องจองล่วงหน้าไม่ใช่เหรอ” ผมไม่สนใจที่นนท์หันมามองตาขวาง
ประโยคหลังหันมาถามบี ส่วนกายหัวเราะเสียงดัง คงจะขำที่ผมทำเป็นไม่สนใจซิกที่นนท์ส่งมาให้
“ยังไงก็ได้ ... ถ้าดูพวกเราก็ต้องค้างที่นี่ รถไฟจะหมดแล้ว” กายตอบพลางเอามือมาเกาะไหล่ผม
“เออ .. ดูก็ได้” ประโยคนี้นนท์หันไปพูดกับบี
บียิ้มดีใจ หันไปมองที่คนต่อแถวกันหน้าโรง “ต่อแถวหน้าโรงก็ได้ ไม่ต้องจองหรอก ... เราน่ะอยากให้นนท์ดูมากรู้มั้ย มาถึงลอนดอนก็ต้องดูเพล” ประโยคแรกพูดกับผม แต่ประโยคหลังหันไปพูดกับนนท์  (เพล – play คือ ละครเวที)

ระหว่างที่นนท์กับบีกำลังต่อแถวรอเพื่อซื้อตั๋ว ผมกับกายก็นั่งริมฟุตบาทคุยกัน
“เมิงว่าบีชอบไอ้นนท์ปะ” กายถาม
“ไม่รู้” ผมตอบ
“กูว่าชอบชัวร์ ไม่งั้นคงไม่วางแผนพาไปโน่นไปนี่หรอก” กายยังยืนยันความคิดตัวเอง
“กูไม่รู้ ... แต่บีก็น่าจะรู้ว่านนท์มันมีแฟนแล้ว” ผมตอบ
“แต่แฟนมันอยู่เมืองไทยนะเว้ย”
ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ... นนท์เดินมาเรียกพวกผมบอกว่าตั๋วขายหมดแล้ว ต้องมาดูพรุ่งนี้แทน  
   “ดึกแล้วไปหาที่พักกันเถอะ ...”

หลังจากส่งบีที่หอพักของเพื่อนบีที่อยู่แถว ๆ South Kensington
พวกเราสามคนก็นั่ง underground มาเชคอินที่ BB (คือ Bed and Breakfast ก็คือ เตียงกับอาหารเช้า เหมือนโรงแรมแต่ไม่ใช่โรงแรม เพราะราคาถูกว่า) อยู่แถวย่าน Earl’s Court ราคาไม่แพงห้องสามคน ตกคนละ 15 ปอนด์เท่านั้น แถมอาหารเช้าด้วย  
“พรุ่งนี้เมิงจะดูเหรอ ... กูขอกลับบ้านนะ วันจันทร์มีเรียนเช้า” กายถามนนท์ พลางรื้อของออกจากเป้
 “กูคงบอกบีว่า ... พวกเราคงดูกันไม่ได้ เพราะวันจันทร์มีเรียน” นนท์ตอบ
   “... บีคงเสียใจแย่ ... เห็นเค้าอยากพาเมิงไปดูเพล” ผมบอกนนท์
   “ถ้าเมิงอยากดูนะ ... เมิงไปเลย” นนท์ด่า พร้อมเดินมาตบหัวผม
   “ไมเมิงชอบตบหัวกูจังวะ ... ไมไม่ตบหัวไอ้กายบ้าง”
   “ก็เมิงตัวเล็กดี ... น่าแกล้ง” นนท์พูดยิ้ม ๆ แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
   “ไอ้กายก็ตัวพอ ๆ กับกู ... วันนี้กูแอบดีใจที่ทั้งวันเมิงไม่ตบหัวกูเลย …” ผมบ่นพร้อมลูบหัว
ผมไม่ชอบให้ใครมาตบหัว นอกจากมันเจ็บแล้ว ผมว่า ... มันยังแสดงออกถึงความไม่มีมารยาทเลย ... แต่...........ผมรู้สึกแปลก ๆ ที่วันนี้ตอนที่นนท์อยู่กับบี ผมอยากให้มันเล่นตบหัวเหมือนเดิม  
   “... พรุ่งนี้กูคงไม่ไปเจอเค้าแระ กลับบ้านดีกว่า ... เดี๋ยวกูจะโทรไปบอกเค้า” นนท์ตะโกนออกมาจากห้องน้ำ พูดไม่ทันขาดคำเสียงโทรศัพท์มือถือของนนท์ก็ดังขึ้น    
“ใครก็ได้รับโทรศัพท์ให้ที”
   “บี ... แค่โทรมาถามว่าเมิงถึงโรงแรมเรียบร้อยปลอดภัยดีแล้วใช่มั๊ย ... แล้วเค้าจะโทรมาใหม่พรุ่งนี้” กายซึ่งเป็นคนรับโทรศัพท์ ... เดินไปบอกนนท์หน้าห้องน้ำ
   “บี ... นี่เค้าใส่ใจเมิงเกินไปเปล่า ...” กายถามคำถามที่คาใจมาตั้งแต่อยู่หน้าโรงละคร
   “เฮ้ย เพื่อนกัน ... เพื่อนกันตั้งแต่ประถม ... ไม่มีไร”

หลังจากวันนั้นพวกผมก็เรียน ๆ เล่น ๆ เหมือนเดิม ... ผ่านไปอีก 1 เดือน พวกเราวางแผนว่าจะไปสก็อตแลนด์กัน ... งานนี้มีคนไทย 4 คน และเพื่อนของหนิงที่เป็นคนญี่ปุ่นอีกคนชื่อเคียวโกะ ... ตอนขาไปก็ไม่มีเรื่องอะไรหรอกครับ ... เรื่องราวมันเกิดขึ้นตอนขากลับนี่แหละ ...

... วันนั้นเป็นวันสุดท้ายที่พวกเราจะอยู่ที่สก็อตแลนด์ และจะเดินทางกลับพรุ่งนี้ ... เราแวะเดินเล่นกันที่ห้างแห่งหนึ่ง ...

ผมเดินไปกับเคียวโกะ ... ผมเห็นกระป๋าเป้ไปหนึ่งเท่ห์มากเป็นหนาม ๆ เหมือนขนเม่น .... ปกติผมดูเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ ไม่น่าที่จะอยากได้ของแบบนี้ ... เคียวโกะยุให้ผมซื้อ บอกว่าดู rock ดูบ้าดี อารมณ์นั้นผมก็อยากหลุดโลก อยากจะมัน ๆ อยากจะบ้า ๆ ... ไม่รู้อะไรเข้าสิง ยอมจ่ายเงิน 150 ปอนด์ซื้อกระเป๋าเป้ที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะใช้  ... เพราะปกติผมเป็นคนค่อนข้างเนี๊ยบ นิดนึง ... ในใจตื่นเต้นมากอยากเอาไปอวดเพื่อน  ก็เลยรีบซื้อ เพราะกลัวเพื่อนมาเห้นก่อนจะไม่เซอร์ไพร ... ผมรีบจ่ายตังค์ แล้วเอามาแบกเดินไปเดินมา อารมณ์นั้นขอบอกว่าภูมิใจมาก เท่ห์โคตร ...
  
พอเดินมาเจอกับเพื่อน ๆ ก็ได้รับการทักทาย โห่ ฮา กันอย่างที่คาดคิดไว้แหละครับ ... เกือบทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“So cool !”    

 ยกเว้นคนเดียว ... ไอ้นนท์ ... มันไม่แม้แต่จะมองหน้าผมเลย ... ผมรู้ว่ามันกำลังโกรธ แต่ไม่เข้าใจว่าโกรธอะไร ... ผมรีบเดินไปหามัน ... แต่มันเดินหนีผม ...
   “เป้กูไม่เท่ห์เหรอ ไม่เห็นชม” ผมเดินไปข้าง ๆ มัน แต่มันเหมือนไม่เห็น
   “กลับโรงแรมเหอะ ... เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย” มันหันไปบอกทุกคน แล้วเดินลิ่วไปเลย ผมงง ไม่เข้าใจว่านนท์โกรธอะไร ... ทำไมไม่บอก เพื่อนทุกคนต่างก็อึ้ง ... แต่ก็ได้แต่เดินตามมันไป ....
   “เมิงโกรธไรกูเปล่า” ผมถามนนท์หลังจากกลับถึงโรงแรมแล้ว
   “เปล่า ... กูจะโกรธไร”   
“ทำไมกูจะไม่รู้ว่าเมิงโกรธ ... สองเดือนมานี่กูอยู่กับเมิงวันละ 20 ชั่วโมง เจอกันทุกวัน ไมกูจะไม่รู้ว่าเมิงเป็นไร ... ถ้าทำไรผิดก็ขอโทษด้วยละกัน” ผมถามนนท์ไม่ตอบ ... ผมก็เลยห่มผ้านอน ไม่สนใจแระ ... ผมได้ยินเสียงปิดประตูห้อง ปัง ...
“มันเป็นไรวะ ... กูว่า ... เมิงไปเคลียร์กับมันดีกว่า” กายพูด
“ไม่ได้ทำไรผิดนี่หว่า ... ช่างมันเดี๋ยวก็หาย … ถ้ามันไม่อยากคุยก็ช่าง … ง่วงแระ” พูดจบผมก็หลับตาทำท่าจะหลับ ... แต่คืนนั้นทั้งคืนผมนอนไม่หลับ ... คิดแต่ผมทำอะไรให้นนท์โกรธขนาดนั้นเลยหรือ ...  
[/color]
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 25-11-2008 23:58:48
มาเจิม
พร้อมให่กำลังใจ(+1)
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: watermoonj ที่ 26-11-2008 00:05:45
มาต้อนรับเรื่องใหม่  :mc4:


ประสบการณ์จากต่างแดน เป็นแนวเรื่องที่ชอบอ่านมากๆ  :impress2:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 26-11-2008 00:18:45
 :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 26-11-2008 00:26:43

เจิมก่อนไปนอน

 :mc4:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 26-11-2008 00:31:27
นนท์เป็นไรอ่าาาาาา เพื่อนซื้อเป้ใหม่ ทำไมนนท์ต้อง upset ล่ะนั้น :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 26-11-2008 00:43:27
 :impress3:


มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 26-11-2008 00:46:41
จิม เรื่องใหม่คราบ  :mc4: :mc4:

คือว่าเรื่องนี้นี่ เขียนจากชีวิต จริง ปะ อิๆ แล้วระรออ่านต่อนะคราบ

การเล่าเรื่องอ่านลื่นมาก ชอบ คำเดียวพอ

 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: melody ที่ 26-11-2008 01:00:10
เรื่องนี้น่าสนุกอีกแล้ว...

มาจิ้มเรื่องใหม่คะ

ขึ้นว่าเป็นนิยาย...แต่เหมือนเป็นเรื่องจริงนะเนี่ย o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 26-11-2008 01:10:06
อ่ะๆ
 มาให้ลังใจ
ต่อเร็วๆนะค่ะ
อย่าให้ค้างคา....ใจ
อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 26-11-2008 01:33:26
 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: muhan ที่ 26-11-2008 01:56:17
 :pig2:เรื่องใหม่...

จะรออ่านต่อนะคะ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 26-11-2008 02:14:41
 :mc4: เรื่องใหม่ๆ วู้ฮู  :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: palpouverny ที่ 26-11-2008 02:28:11
เจิมมมมมมม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: ผักกาด ที่ 26-11-2008 03:25:57
เจิม

และ

รอค่ะ

 :impress3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 26-11-2008 04:24:44
มาให้กำลังใจเรื่องใหม่จ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 26-11-2008 08:22:04
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 26-11-2008 09:08:14
ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 26-11-2008 10:04:03
ให้กำลังใจต้อนรับเรื่องใหม่  :L2:

ไอ้นนท์โกรธไรว่ะ กระเป๋ากับgreen peace

มาอัพบ่อยๆนะครับ ลงยาวๆแบบนี้ชอบๆ o13

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 26-11-2008 13:19:49
สงสัยว่าจะโกดเรื่องทำตัวร๊อคไปหน่อยแน่ๆ
นนท์คงไม่ค่อยชอบ ชอบแบบเนี๊ยบๆ น่าเเกล้งเหมือนเดิมมากกว่า
เป็นกำลังใจให้เรื่องใหม่จ๊า แล้วรีบมาต่อเร็วๆ น่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 26-11-2008 13:48:15
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 26-11-2008 17:01:17
                                                          หุหุหุ ... 'ผู้ชาย'ขี้งอน

                                                           ชอบคับชอบ   :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 26-11-2008 17:05:35
สงสัยนนท์โกรธที่ไปเดินเที่ยวกะสาวอิอิ ต่อเร็วๆน้า o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 26-11-2008 18:17:22
 o13 ให้กำลังใจจ่ะ

มาต่อเร็วๆนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 26-11-2008 19:22:48
มาให้กำลังใจ และก็รออ่านด้วย
มาต่อไวไวน๊า :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 27-11-2008 00:06:53
ตอนที่ 2

ตอนเช้า ... ผมตื่นมาเห็นนนท์นั่งดูแผนที่อยู่บนเตียง ...
ผมยังไม่อยากคุยกับนนท์ ... ผมมีนิสัยอย่างหนึ่งคือ ไม่ค่อยโกรธใคร (ให้คนอื่นรู้สึก) ซักเท่าไหร่
แต่ถ้าโกรธแล้วจะหายยากมาก ... ผมเดินถือผ้าเช็ดตัวเตรียมตัวจะเข้าห้องน้ำ ... ผ่านหน้านนท์
           “ตื่นแล้วเหรอ” นนท์เงยหน้าจากแผนที่ ทักผม แต่ผมทำเป็นไม่ได้ยิน .. เดินเข้าห้องน้ำ  ...
กำลังโกรธกันอยู่ไม่รู้รึไง ไม่อยากคุยด้วยเข้าใจไม๊  ... เมื่อคืนไม่ยอมคุยกับผม เป็นไรก็ไม่บอก
ตอนนี้จะมาพูดดีด้วย ไม่พูดด้วยหรอก .... ให้มันรู้ซะบ้าง คนอื่นพูดด้วยแล้วไม่พูดด้วย ... มันเซ็ง ....
เข้าใจมั๊ย ...
   “อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ” นนท์ทักผมอีก หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ
‘เมิงจะทักไรเนี่ย ไร้สาระ’ อันนี้ผมคิดในใจ ... ตั้งใจว่าจะไม่พูดกับมัน กลับไปจะเลิกคบกับมันแระ คนไม่มีเหตุผล ...
   “เป็นไรหน้าบึ้ง” นนท์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ถามยิ้ม ๆ
   “เปล่า” ผมพูดสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้

พวกเราเดินทางกลับจาก สก๊อตแลนด์โดยเครื่องบินมาลงที่สนามบิน Stansted Airport
เครื่องบินที่พวกเราขึ้นเป็นเครื่องบินขนาดเล็ก ของสายการบิน low cost สายการบินหนึ่ง
เหตุที่เลือกนั่งเครื่องบินเพราะใช้เวลาเดินทางไม่นาน และราคาไม่แพงมาก
ที่นั่งบนเครื่องบินแบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งละ 2 ที่นั่ง ผมเลือกนั่งริมหน้าต่าง
โดยนั่งติดกับหนิงและนั่งหลับตาตลอดทาง ในใจคิดอย่างเดียวว่าเลิกคบกับนนท์แน่นอน
ผมไม่ชอบคนที่ไม่มีเหตุผล ... แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมไม่เข้าใจก็คือ ทำไมผมต้องโกรธมันขนาดนี้ ...
ทำไมต้องคิดถึงขั้นเลิกคบกัน
 
ตลอดทางผมได้ยินเสียงเพื่อน ๆ กระซิบกระซาบกันแต่ไม่รู้ว่าพูดอะไรกัน ซักพักหนิงก็สะกิดผม
ผมเฉยไม่ตอบ ซักพักหนิงก็สะกิดผมอีก ผมลืมตาแกล้งทำงัวเงีย .. ไม่ใช่หนิง
คนที่นั่งข้างผมตอนนี้คือ ... นนท์

“เป็นไร …” นนท์ถามผม
“เปล่า” ผมตอบแล้วหลับตา
“เป็นดิ ... อยู่กันมานาน ทำไมจะไม่รู้” นนท์ยังคงเซ้าซี้ต่อ ทำเสียงทะเล้น
“นายแหละเป็นไร” ในที่สุดผมก็โพล่งคำถามที่คาใจออกมา
“โกรธจริง ๆ ด้วย ... ไม่งั้นไม่พูด ‘นาย’ หรอก” นนท์ยิ้ม ทำหน้าเป็น ผมหมั่นไส้อาการไม่รู้ว่าตัวผิดนี้ซะจริง ๆ 
“จะตอบไม่ตอบ ...” ผมพูดทำหน้าเซ็ง ก็เซ็งจริง ๆ มีไรทำไมไม่บอก นนท์ก้มหน้า ... เงียบไปพักนึง ...
“ก็แค่ไม่ชอบที่นายซื้อของไม่คิด”
ผมมองหน้านนท์ “เรื่องแค่เนี้ยต้องโกรธด้วย”
“เออ … ก็แค่ไม่ชอบ ใช้เงินไร้สาระ”
“เกี่ยวไรด้วย เงินเรา” ผมพูดห้วน ๆ
“ถ้าพ่อแม่นายรู้คงไม่ชอบ ... ไร้สาระ ใช้เงินไม่เป็น” ผมก็งงกันนท์ นนท์ลูกคนเดียว พ่อแม่ทำรีสอร์ท
อยู่ที่กระบี่ เรียกว่ามีตังค์แหละ ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงได้มาย่งวุ่นวายกับผมเหลือเกิน
“ ... ตอนนี้ ... เงินหมดแล้วใช้มั๊ย” ด่าเสร็จหันมาถาม
“เออ ... เดี๋ยวกลับถึงเมืองว่าจะกดจากเมืองไทยซัก 600 ปอนด์” ผมตอบ
แต่อารมณ์ตอนนั้นรู้สึกผิด
“นายอะ ใช้เงินไม่คิด ... เรา .... รู้สึก .... ผิดหวังนิดหน่อย ... ก็เลยโกรธ ... แค่นั้นแหละ ....
ตอนนี้หายแล้ว ... ต่อไปนี้เวลาจะใช้เงินต้องมาขอทุกครั้งเข้าใจมะ” นนท์พูด พลางเอามือมาขยี้หัวผม
ผมพยักหน้า ยิ้มให้มัน คิดว่า ... ก็มันหวังดี ... ผมใช้เงินไม่ค่อยเป็นจริง ๆ แหละ ... อยู่ที่เมืองไทย
แม่จะให้เงินก่อนออกจากบ้านเสมอ ไม่เคยเข้าแบงค์ ไม่เคยมี ATM กดเงินก็ไม่เป็น
ในชีวิตเพิ่งเคยกดเงินครั้งแรกก็ตอนก่อนมาอังกฤษไม่กี่วัน ....
ตอนทำบัตรบัวหลวงพรีเมียร์ ของธนาคารกรุงเทพ แล้วลองกดเงินหน้าธนาคาร
(นั่นเป็นการกดเงินจากตู้ ATM ครั้งแรกในชีวิต)

บัตรบัวหลวงพรีเมียร์เป็นบัตร ATM ประเภทหนึ่ง
(ธนาคารอื่นก็มีนะ เช่นของกสิกรฯ นนท์ใช้ของกสิกรฯ
กดได้ครั้งละ 100,000 บาท เสียค่ากดครั้งละ 100 บาท)
ด้านหลังบัตรมีเครื่องหมาย plus+ ที่แสดงว่าสามารถกดเงินได้จากตู้ที่มีเครื่องหมาย plus + ได้ทั่วโลก
เสียค่ากดเงินครั้งละ 75 บาท แต่กดได้ครั้งละประมาณ 50,000 บาท ...
แต่จะว่าไปจำนวนเงินที่แน่นอนก็จำไม่ค่อยได้ เพราะเวลาจะกดเงินจากตู้ของธนาคารในอังกฤษ
แต่ละตู้ก็มักจะจำกัดให้กดได้ครั้งละไม่เกิน 600 ปอนด์ (ประมาณ 40,000 บาท) สุดท้ายก็เลยไม่รู้ว่าจริง ๆ
กดเงินได้ครั้งละเท่าไหร่กันแน่ ทุกครั้งที่กดเงินจากแบงค์ที่เมืองไทย ... ผมก็จะนำเงินก้อนนั้นไปฝากที่ธนาคาร
บาเคลย์ (Barclays bank) ซึ่งเป็นธนาคารที่โรงเรียนติดต่อให้มาเปิดบัญชีให้กับนักเรียนในโรงเรียน ...
การเปิดบัญชีของธนาคารที่นี่ค่อนข้างยากมากเพราะว่าต้องมีหนังสือรับรองจากทางโรงเรียนถึงจะเปิดได้ ...
รู้สึกว่าเมืองไทยจะเปิดง่ายกว่ามาก แค่มีบัตรประชาชนเท่านั้น ...

วันแรกที่มาถึงสก๊อตแลนด์ ... ผมก็กดเงินจากตู้ ATM ของ Barclays Bank ประมาณ 50 ปอนด์
เพื่อเอาไว้เป็นกองกลางในการเดินทาง ... ผมจำไม่ได้ว่า เงินในธนาคารของผมเหลืออยู่เท่าไหร่ ...
แต่ประมาณว่าน่าจะเหลือซัก 40-50 ปอนด์ กายบอกว่า ถ้าเงินเหลือไม่ถึงจำนวนที่กดเงินก็จะไม่ออกมา
แต่นี่เงินออกมาตามจำนวนที่กด ก็เลยเข้าใจว่าน่าจะเหลือพอดี
   “เคยจำบ้างมั๊ยว่าเหลือเงินในแบงค์เท่าไหร่” นนท์ถาม
   “ไม่” ผมตอบแล้วก็นับเงิน
   “แล้วทำไมไม่กด mini statement มาดู ...”
   “เออ ... ลืม ... ช่างเถอะถ้ามีเงินไม่พอ เงินมันก็ไม่ออกมา” ผมตอบ
   “รู้ได้ไง”
   “กายบอก ...”
   “เคยอ่านเอกสารบ้างมั๊ยเนี่ย” นนท์พูดพลางขยี้หัวผม
   “เอกสารไร” ก็ผมไม่รู้หนิ
   “ก็ของแบงค์ไง ... มัน overdraw (ถอนเงินเกินบัญชี) ได้โว้ย … โดนดอกเบี้ยบานแน่”
นนท์พูดแล้วตบหัวผม (อีกแระ)
   “ทำไมต้องรุนแรงด้วยวะ ซาดิสรึไง”

กลับมาเรื่องบนเครื่องบินต่อ … ตอนนี้ผมหายโกรธนนท์แระ (ง่ายจัง) ...
ก็นนท์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมที่นี่นี่นา ... และนนท์ก็เป็นห่วงผมด้วย หลังจากลงจากเครื่องบิน
พวกเราก็ขึ้น underground เพื่อไปต่อรถไฟกลับเมือง ... ระหว่างรอรถไฟ เห้นว่ามีเวลาเหลือเกือบชั่วโมง ...
ผมก็เลยเดินไปกดเงินจากเมืองไทย 600 ปอนด์ ... แล้วโทรบอกแม่ว่ากำลังจะกลับเมืองและกดตังค์มา 600 ปอนด์ ......นนท์เดินมาหาผมที่ตู้ ATM แบะมือ
   “เอาเงินมา ... เก็บให้ เดี๋ยวหาย พอไปถึงเมืองค่อยเอาไปฝากแบงค์ ... ทำไมกดเงินตอนนี้นะ
น่าจะไปกดที่เมือง” นนท์บ่นแล้วตบหัวผมอีก
   'เออ ... กูผิดอีกแระ' ผมคิด แต่ก็ยื่นเงินให้นนท์แต่โดยดี ... คราวนี้พอผมจะซื้ออะไรก็ต้องขอนนท์
   “หิวน้ำ .. ขอตังค์”
   “อยากกินชอคโกแลต ... ขอตังค์”
ทุกครั้งที่ผมขอ ผมก็จะทำท่าน่าสงสาร (ทำไมฟระ) แววตาเว้าวอน ... ก็กลัวมันไม่ให้ (เงินใครกันแน่)
ก่อนจะให้นนท์จะทำท่าแสตมป์ที่หัวผมแล้วบอกว่า “Approve … (อนุญาต) ...”

   ระหว่างที่เดินทางกลับเมือง …. รถไฟว่างมาก ... ผม หนิงและเคียวโกะ นั่งด้วยกันที่นั่งตอนหน้า .... ส่วนกายกับนนท์นั่งด้วยกันที่ที่นั่งตอนหลัง หนิงถามผมว่า
   “ทำไม ... ต้องยอมให้นนท์เก็บเงินด้วยหละ”
   “นนท์บอกว่า เราใช้เงินไร้สาระ” ผมตอบพลางแกะชอคโกแลตกิน
   “ไร้สาระอะไร ....... แค่ซื้อกระเป๋าเป้บ้า ๆ บอ ๆ เนี่ยนะ” หนิงพูดยิ้ม ๆ
   “ไม่รู้ดิ … นนท์บอกว่า ... เราใช้เงินไม่เป็น”
เคียวโกะสวนขึ้นมาทำหน้าจริงจัง “ไม่รู้สิ ... ชั้นว่าคุณก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วนะ …
ทำไมเราจะใช้เงินของเราเองไม่ได้ ... คนเราความชอบไม่เหมือนกัน”

ผมก็ได้แต่นั่งฟัง ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ทำไมต้องให้นนท์เก็บเงินให้ ทำไมเวลาซื้อของต้องขอ ... 
เวลาจะซื้ออะไรต้องให้มันอนุญาตก่อน .... แปลก .. ที่ผมก็รู้สึกดี ... ผมชอบให้มีใครมาดูแล ...
เหมือนแม่มั้ง

 
เมื่อกลับถึงเมือง หนิง เคียวโกะ และกายลงก่อน 1 สถานี เพราะเป็นสถานีที่ใกล้บ้านมากกว่า ส่วนผมกับนนท์
ลงสถานีถัดไป
   “เอาของไปเก็บที่บ้านแล้วค่อยไปแบงค์” นนท์บอก แล้วเราก็เดินกับบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านผมก็เห็น
กองจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงผมหลายซอง ซองหนึ่งเป็นของ Barclays Bank ผมรีบเปิดออกอ่านถึงกับชะงัก
   “ว่าไง” นนท์ยื่นหน้ามาถาม
   “เรา ... overdraw จริงๆ ด้วย ... ถอนเกินไป 10 ปอนด์ ... โดนดอกเบี้ยอีก 10 ปอนด์ โหย ... แพงว่ะ”
   “บอกแล้ว ... ชอบใช้เงินไร้สาระ ... เสียดายมั๊ยล่ะ ... ต่อไป ... จะใช้ไรต้องมาถามก่อน เข้าใจมั๊ย” นนท์สั่งเสียงเด็ดขาด ผมพยักหน้า
   “เข็ดแล้ว ... เสียดายตังค์ว่ะ” ผมบ่น เพิ่งเบิกเงินไปเมื่อ 6 วันก่อนโดนดอกเบี้ยสิบปอนด์ ...
ถ้านานกว่านี้คงท่วมหนี้แน่
   “ไปแบงค์กัน ... ไปฝากเงินแล้วก็เคลียร์หนี้กับแบงค์ ได้บทเรียนแล้วนะ คราวหลังต้องรอบคอบ”
นนท์พูดแล้วเอามือขยี้หัวผม
   “ค๊าบบบบบบบ .. พี่คร๊าบบบบบบ” ผมตอบ
   นนท์ตบหัวผม (อีกแระ)
 
หลังจากวันนั้นพวกผมก็ไปเรียนกันตามปกติ ... อยู่มาวันหนึ่ง แคธี่บอกว่า ... จะมีนักเรียนชาวเม๊กซิโกมาอยู่
ร่วมบ้านกับผม ... เป็นผู้หญิง ... เธอชื่อริต้า ... ริต้าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผิวสีน้ำผึ้ง ตาโต ริมฝีปากอวบอิ่ม ...
ที่สำคัญ ... ตลกมาก .... แม้ริต้าพูดภาษอังกฤษยังไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ แต่เธอทำให้ผมหัวเราะได้ตลอดเวลา .... ห้องของเราอยู่ติดกัน เธอมักจะเข้ามาคุยกับผมอยู่เสมอ เวลาไปโรงเรียนตอนเช้า ...
นนท์ก็จะเดินมารับผมกับริต้าเพื่อเดินไปเรียนด้วยกัน .... ถ้าวันไหนที่ตอนเช้าผมไม่มีเรียน
แต่ริต้าและนนท์มีเรียน นนท์ก็จะแวะมารอรับริต้าด้วย
 
เช้าวันเสาร์ ริต้าเข้ามานั่งในห้องของผม เพราะผมกำลังรื้อของในเป้เพื่อหาบัตร Young person rail card (บัตรลดราคาค่าตั๋วรถไฟสำหรับนักเรียน (หรือคนที่อายุไม่ถึง 26 ปี)) พวกเราสามคนคือ ผม ริต้า นนท์
ตกลงกันว่าจะไปเที่ยวที่ Brighton เมืองท่องเที่ยวริมทะเล ที่อยู่ไม่ห่างจากเมืองที่ผมอยู่ซักเท่าไหร่
อยู่ ๆ ริต้าก็ถามว่า

“นนท์... เป็น your boy friend หรือเปล่า”
“จะบ้าเหรอ ... ผมเป็นผู้ชายนะ” ผมตอบเสียงตกใจ
“แล้วไง ... ไม่เห็นแปลก” ริต้าขยิบตาแล้วถามต่อ “คุณชอบเค้ารึเปล่าล่ะ”
“ชอบ ........... แบบเพื่อน ... best friend น่ะ รู้จักเปล่า” ผมตอบ
“วู้ .... best friend ....” ริต้ายักคิ้ว
ไม่ทันได้คุยอะไรมากกว่านี้ ... แคธี่ตะโกนขึ้นมาเรียกผมให้รับโทรศัพท์ ... ผมก็เลยรีบวิ่งลงไปรับ
   “หนิงนะ ... วันนี้ว่างมั๊ย” เสียงหนิงดังมาตามสาย
   “เรากำลังจะไป Brighton กับนนท์แล้วก็ริต้าอะ ...ไปด้วยกันป่ะ”
   “คงไม่ไปหรอก .... ไม่เป็นไร ......... เราแค่เหงา .. อยากคุยกับนายอะ”
   “เราเหรอ …” ผมตอบแบบงงงงว่าทำไมหนิงไม่ชวนกายล่ะเห็นสนิทกัน …. หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง    หนิงก็ถามว่า “ไม่ไป brighton ได้ป่ะ อยากคุยด้วยมาก”
จะว่าไปผมก็เคยไปมาหลายทีแระ ... คราวนี้ที่ไปก็เพราะริต้ายังไม่เคยไป ก็เลยจะพาไป อีกอย่าง ...
ผมเห็นว่าหนิงคงมีเรื่องทุกข์ใจจริง ๆ ก็เลยรับปาก
   “งั้นเราไปหามั๊ย ...” ผมถาม
   “เดี๋ยวเราไปหานายเอง” หนิงตอบ
หลังจากวางโทรศัพท์จากหนิง ... ผมก็ขึ้นไปบอกริต้าว่าผมไปไม่ได้แล้ว ... ต้องอยู่เป็นเพื่อนหนิง ........
ซักพัก ... นนท์มาถึง นนท์กับริต้าก็ออกไปด้วยกัน นนท์ถามผมก่อนไ ป
   “เอาอะไรเปล่า ... ผมส่ายหน้า เคยไปมาตั้งหลายหนแระ เอาเหอะ ขอให้หนุกนะ”
            “Bye …”
          “มีไร ... ก็รีบโทรหาเราเลยนะ” นนท์สั่งก่อนออกจากบ้าน

 
ผมนั่งรอหนิงอยู่ในห้อง ซักพักหนิงก็มา ท่าทางร่าเริง
“เมื่อกี้เสียเศร้าเชียว ... ตอนนี้หายแล้วเหรอ” ผมถาม
“เปล่า ... แค่พยายามน่ะ” แล้วหนิงก็ทำหน้าสลดลง จนผมตกใจ ... หนิงร้องไห้ ...
   “เป็นไร ...” ผมดึงหนิงเข้ามากอดปลอบใจ (ผมไม่ได้ฉวยโอกาสนะค๊าบ)
หนิงร้องไห้เงียบ ๆ อยู่แป๊บนึง หนิงปาดน้ำตา แล้วพูดว่า
“หายแระ ...”
‘... ไรว่ะ ... ผู้หญิงเป็นอะไรที่เข้าใจยาก’ ผมคิดนะแต่ไม่ได้พูด
“แค่รู้สึกเศร้า ๆ น่ะ ....... วันนี้ ......... เป็นวันครบรอบ 1 ปี ......... ที่ ........... คู่หมั้นเราเสีย ...”
ผมอึ้ง ตกใจนิด ๆ ... ผมไม่เคยรู้เลยว่าหนิงเคยมีแฟน ... ไม่ใช่สิ ... คู่หมั้น ...
(คู่หมั้นเชียวนะ คู่หมั้นแปลว่าคนที่เรากำลังจะแต่งงานด้วย ... ) แล้ว ... ก็เสียไปแล้ว
หนิงเล่าให้ผมฟังคร่าว ๆ ผมไม่ได้ถามอะไรเลย นอกจากนั่งจับมือหนิงอยู่อย่างนั้น
หนิงเล่าว่าที่มาที่นี่เพราะทำใจไม่ได้ เห็นแต่ของเดิม ๆ ที่เดิม ๆ ที่ที่เคยไป ...
มันเศร้า .... ต้องกินยานอนหลับทุกคืน ไม่งั้นจะนอนไม่หลับ ... แต่พอมาที่นี่อาการก็ดีขึ้น ....
หนิงที่ผมรู้จัก 3 เดือนมานี้ ทั้งตลกและร่าเริง .... ผมรู้สึกเศร้าจัง ... รู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก
ในเวลาที่เรากำลังจะไปเที่ยว ในเวลาที่เรากำลังมีความสุข มีคนที่กำลังมีความทุกข์อยู่เต็มไปหมด
... แต่เราไม่รู้
 
หนิงกลับบ้านไปแล้ว .... ผมยังนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาในห้อง มองออกไปนอกหน้าต่าง ...
ผมนั่งอยู่นานแค่ไหนก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีตอนที่ริต้าเปิดประตูห้องเข้ามา นนท์ก็มาด้วย หัวเราะร่าเริงกันมาเชียว
แต่จิตใจผมยังหดหู่เหมือนเดิม ...
‘ยังสนุกอยู่ได้ไม่รู้รึไง ... มีคนกำลังเศร้า’ นนท์กับริต้าผลัดกันเล่าเรื่องที่ไปเจอมาวันนี้อย่างสนุกสนาน
หัวเราะเสียงดัง ... ผมมองหน้านนท์แล้วถามนนท์ว่า
   “จะกลับบ้านได้รึยัง”
นนท์กับริต้าเงียบ หันมามองผม ... ผมเห็นนนท์กำหมัดแน่น แล้วบอกลาริต้า เดินออกจากห้องไปไม่มองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ ... ปัง ... นนท์กระแทกประตู
 
ผมนั่งอยู่อย่างนั้นไม่รู้นานเท่าไหร่ มารู้ตัวอีกที ... ริต้าเคาะประตูเข้ามาในห้องแล้วยื่นหนังสือให้ ...
   “หนังสืออะไร” ผมถามงงงง
   “นนท์ซื้อมาฝาก .. นนท์บอกว่า ... คุณอยากได้”
ผมมองไปที่หนังสือ ในมือริต้า ... เป็นหนังสือที่ผมเคยบ่นอยากได้อยู่บ่อยๆ เป็นเล่ม First Edition
(พิมพ์ครั้งแรก) หายากและแพง ... ผมอึ้งที่นนท์ยังจำได้
   “เราไปร้านขายหนังสือเก่าตั้งหลายร้าน ... นนท์บอกว่าอยากหาให้คุณ ...
เพราะคุณชอบหนังสือเรื่องนี้มาก .... เค้านึกถึงคุณตลอดเลยนะ เดินไปไหนเค้าก็บอกว่าคราวที่แล้ว
ที่มาด้วยกันพวกคุณไปร้านไหนกันมาบ้าง”
ริต้าพูดไม่หยุด ได้ฟังถึงตอนนี้ ผมรู้สึกอึ้ง ... น้ำตามาจากไหนไม่รู้ ... คลอเต็มตาไปหมด …
ทำไมผมต้องโกรธนนท์ด้วย ... ตอนนี้ผมรู้สึกผิดต่อนนท์มาก .... ผมมันคนไม่มีเหตุผล ...
ผมเป็นอะไร … ผมรีบลุกออกจากห้อง ... คว้าเสื้อแจ๊กเกตกันหนาว เดินออกจากห้อง ...
ผมจะไปหานนท์ที่บ้าน ...
 
ผมกดกริ่งหน้าบ้านนนท์ ... รอซักพัก เบรานิส (house mate ของนนท์) เดินมาเปิดประตูให้ ยิ้มหวาน
   “มาหานนท์เหรอ อยู่ในห้องแหนะ” สาวฝรั่งเศสคนสวยพูด
   “Thanks” ผมกล่าวขอบคุณ เธอบอกว่า “ขึ้นบันได ห้องแรกซ้ายมือ” ผมก็เดินขึ้นบันได
ไปที่ห้องนนท์แล้วเคาะประตู
   “Yes” (แปลว่า เชิญ) นนท์ตอบ คงนึกว่าผมเป็นใครซักคนในบ้าน ผมก็เลยผลักประตูเข้าไป ...
นนท์กำลังนั่งยู่บนเตียงเขียนไดอารี่ ... เงยหน้ามองผมแวบนึง ผมเดินเข้าไปใกล้นนท์แล้วพูดเบา ๆ
   “ขอโทษ”
   นนท์เงียบ
   “ขอโทษ”
นนท์ยังเงียบเหมือนเดิม ก้มหน้าเขียนไดอารี่เหมือนไม่มีผมอยู่ในห้อง ... ตอนนี้ในใจคิดว่ากลับดีกว่า
ทำไมต้องทนคนที่ไม่มีเหตุผล อุตส่าห์ขอโทษแล้วนะ (ใครกันแน่ไม่มีเหตุผล) ...
ผมทำท่าจะเดินออกจากห้อง
   “นายอะ เป็นไร ...” นนท์พูดออกมา (จนได้) (เดี๋ยวนี้เราเปลี่ยนสรรพนามเรียกกันว่า
นายกับเราตั้งแต่เมื่อไหร่จำไม่ได้ )
   “เปล่า ... แค่หดหู่” ผมตอบพลางเดินไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ
   “เรื่องอะไร”  นนท์ถาม พร้อมวางไดอารี่ลง .... ผมเล่าเรื่องหนิงให้ฟัง ...
เรื่องของหนิงทำให้ผมเศร้า ผมคิดว่าทุกคนควรเศร้ากับเรื่องของหนิง ...
พอผมเห็นนนท์กับริต้ากลับมาจาก Brighton หัวเราะกันอย่างมีความสุข ผมเลยโกรธ ....
ผมคิดว่า .. ผมคงโกรธที่ทำไมไม่มีใครเข้าใจคนอื่น คนอื่นกำลังมีความทุกข์นะ

   “คราวหลังไม่ต้องไปฟังเรื่องของหนิงแล้วนะ” นนท์ออกคำสั่งเสียงเด็ดขาด
ผมงงกับคำสั่งของนนท์ ...    นนท์ยังพูดต่อ
             “ … ถ้า ... ยังชอบแบกเรื่องของคนอื่นไว้อย่างนี้ ... นายน่ะ ช่วยได้ก็แค่รับฟัง ...
ไม่ใช่รับมาเป็นความทุกข์ของตัวเอง” ผมมองหน้านนท์ เข้าใจสิ่งที่นนท์พูด นนท์ลุกจากเตียงเดินมาใกล้ ...
ลูบหัวผม
   “เด็กเอ้ยยยย”
   “ขอโทษ ... คราวหลังไม่ทำอีกแล้ว”
   “รู้มั๊ย ... ตอนที่นายไล่เรากลับบ้านน่ะ เราโกรธมากเลย ... ถ้าเป็นคนอื่นเราคงต่อยไปแล้ว ... ”
   “ขอบใจนะ”
   “อะไร” นนท์ทำหน้างง
   “ก็ที่นายไม่ต่อยเราไง ... ไม่งั้นเราคงตาย ...” ผมพูด
   “ไป ... กลับบ้าน เดี๋ยวเดินไปส่ง” นนท์พูดเอื้อมมือมาขยี้หัว (อีกแระ)
   “ค๊าบบบบบบ”
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 27-11-2008 00:43:46
น่ารักครับ ทั้งสองคนอ่ะ  :impress: :impress:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-11-2008 00:51:53
แนวหลงรักเพื่อนรึยัง มานคงแบบว่าเริ่มๆซึมทีละนิดๆ มารู้ตัวอีกที หมดใจไปแล้ว

รออ่านต่อนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 27-11-2008 01:05:58
เพื่อนสนิท(คิดไม่ซื่อ) หรือเปล่าเนี่ย
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 27-11-2008 01:30:12
แหมมม นนท์โกรธเพราะใช้เงินไม่เป็นน่ะเอง
ทำไมนิสัยดีอย่างงี้เนี้ยยยยย :-[

แถมทำตัวน่ารักโดยการไปหาหนังสือ first edition ให้เพื่อนด้วยเป็นเรา เราดีใจตายเลยนะเนี้ยยย

รอตอนต่อไปนะค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 27-11-2008 01:31:54
นนท์ น่ารักจัง แต่งอนบ่อยงะ

แล้วจะมารออ่านนะคราบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: ผักกาด ที่ 27-11-2008 02:33:54
ชักจะติดใจ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 27-11-2008 06:07:32
ก็ชอบนะที่นนท์ดูแลดีขนาดนี้ ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าคิดเกินเพื่อนเนี่ย
.
.
แฟนสาวนนท์ที่เมืองไทยจะทำยังไง
ไม่อยากให้เกิดกรณีรักสามเศร้าหรือรักแท้แพ้ใกล้ชิดเลยค่ะ  :sad11:

แฟนสาวเค้าไม่ผิดอะไรด้วยเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 27-11-2008 07:21:23
ขยันงอนกันจริงๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 27-11-2008 09:45:43
ชอบนนท์ไปแล้วทำไงดีล่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 27-11-2008 10:31:49
หูยยย นนท์นี้น่ารักนะเนี่ย คิดถึงกันตะหลอดดดด  o18
ไปเที่ยวยังมีกะใจหาของหายากมาฝากอ่าน อิอิ หลงนนท์เข้าแล้ว

อ่านมาสองตอนแล้ว ยังไม่รู้ว่า คนเล่าชื่อไรเลยอ่า บอกหน่อยได้ไหมเนี่ย 5555
หรือว่าเราอ่านข้าม ตกหล่นไปหวา อิอิ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: watermoonj ที่ 27-11-2008 12:54:52
เรื่องกดเงินต่างแดน เขียนบรรยายได้ละเอียดดี ได้สาระ  o13

มีเพื่อนช่วยเป็นห่วงเรื่องเงินอย่างนนท์นี่ดีจริงๆ น๊า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 27-11-2008 13:39:04
เป็นห่วงเป็นใยกันดีจัง  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 27-11-2008 17:30:59
น่ารัก
ดูแลกันดีมากๆ
นนท์ดูแล ใส่ใจในทุกๆเรื่องๆเลย
แบบนี้
ปล่อยไกลตาไม่ได้แล้วนะ
ระวัง คนแถวนี้ เขาจะลักพาตัว นนท์ :o8:
น่ารักมาก รักทั้งคู่เลย :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 27-11-2008 19:00:57
                                                     โอ้ว ม้ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

                                                      น่ารักมากมายเลยค้าบบบบ  :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 27-11-2008 23:21:40
ตอนที่ 3

วันนี้ ... ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนชื่อ ธีร์ ... เรารู้จักกันที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่เมืองไทย
ธีร์มาอังกฤษก่อนผมประมาณ 1 ปี สมัยที่เรียนภาษาเราค่อนข้างสนิทกัน เพราะหลังเลิกเรียน
ก็มีโอกาสไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆ ธีร์ .. เป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม ตลก เฮฮา ตอนที่ผมมาอังกฤษ
ช่วงแรก ๆ (ตอนนี้ก็เพิ่งอยู่มาได้ 3 เดือนเอง) ธีร์ก็โทรมาคุยด้วยบ่อย ๆ เวลาที่ผมไปเที่ยวที่ไหน
ผมก็มักจะเล่าให้ธีร์ฟังเสมอ เพื่อนที่นี่รู้จักธีร์
(แต่ไม่เคยเจอตัว) และธีร์ก็รู้จักเพื่อนที่นี่ (ทั้งที่ไม่เคยเจอกันเหมือนกัน)
   “เสาร์นี้ว่างมั๊ย ... จะมาหา” ธีร์ถามผม
   “ว่าง ... มาเลย ... จะค้างรึเปล่า นอนบ้านเราก็ได้เดี๋ยวบอกโฮสให้” ผมตอบเสียงกระตือรือร้น
ก็แน่ล่ะสิเพื่อนมาทั้งคน จะไม่ดีใจได้ยังไง
   “หา BB (Bed and Breakfast) แถว ๆ บ้านนายให้เราก็ได้ สะดวกกว่า” ธีร์ตอบ
 
วันเสาร์ ผมไปรอรับธีร์ที่สถานีรถไฟ ... พอเจอหน้ากัน ... ธีร์เดินเข้ามาจับไหล่แล้วพูดว่า
“ดีใจจังที่ได้เจอ”
   “หิวรึยัง ... เดี๋ยวพาไปกินข้าวร้านจีน ... อร่อยมาก” ผมบอก
แล้วผมก็พาไปทานอาหารกลางวันที่ร้านประจำของนักเรียน คือ ร้านเป่ยจิง นั่นเอง
ระหว่างที่กำลังรอสั่งอาหาร ... นนท์และกายก็เดินเข้าประตู้ร้านมา
   “นึกแล้วว่าต้องมาเจอกันที่นี่” กายทัก นนท์กับกายเดินมายืนที่โต๊ะ
ผมยิ้มให้แล้วแนะนำธีร์ให้ทุกคนรู้จัก
   “แล้วจะพาเพื่อนไปเที่ยวไหน” กายถาม
   “คงไป old town ล่ะมั้ง ... แล้วก็ชายหาด ไปด้วยกันมั๊ย” ผมตอบ
   “ไม่ดีกว่า นัดพวกฮิโรชิเล่นพลู แล้วก็กะจะเล่นเกมยิงไดโนเสาร์ซะหน่อย วันนี้เอาเหรียญมาเพียบ”
กายพูดพลางตบกระเป๋า
   “นั่งด้วยกันสิ” ผมพูดพลางลากเก้าอี้ให้นนท์ นนท์นั่งลงข้างผม ส่วนกายนั่งข้างธีร์
   ระหว่างรออาหารที่สั่ง พวกเราก็นั่งคุยกัน เสียงประตูร้านเปิด ... มีนักเรียนผู้หญิงคาดว่าจะเป็นฮ่องกงหรือไม่ก็ไต้หวันเดินเข้ามาในร้าน 2 คน (เดาจากที่พูดจีนและการแต่งตัว)
   “โคตรน่ารักเลยอะ” นนท์พูด แล้วหันไปสะกิดกายให้มองด้วย
   “อือ .. ก็โอ” กายหันไปมองแวบนึง แล้วหันมาจิบโค้กต่อ 
   “แบบนี้น่าจะขอเบอร์ ... กาย เมิงไปขอเบอร์สาวซิ” นนท์พูดแต่ตายังมองสาวไม่เลิก
หลังจากกำลังนั่งทานอาหารก็มีสาว ๆ เดินเข้ามาในร้านหลายคน
นนท์ก็จะแสดงอาการสนใจสาว ๆ ทุกครั้ง จนกายต้องเอ่ยปาก
   “วันนี้เมิงเป็นไรเนี่ย ... ตั้งแต่รู้จักเมิงมา ไม่เคยเห็นมองใคร” กายบ่น
ผมมองหน้านนท์ ... วันนี้นนท์แปลกจริง ๆ ด้วย ตั้งแต่รู้จักนนท์มา 3 เดือน นนท์ไม่เคยชมใครเลย
ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหน ไม่เคยชมใครว่าน่ารัก ... ไม่เคยชมว่าใครสวย  ... ปกติต้องเป็นกายต่างหาก
ที่มักจะเหล่สาวไปทั่ว

หลังจากทานอาหารเสร็จ... ผมกับธีร์ก็แยกกับนนท์และกาย ... ผมพาธีร์ไปที่ Old Town เป็นย่านเมืองเก่า
ที่ผมเองก็ไม่เคยมาเหมือนกัน ... เราเข้าไปในร้าน antique shop (ร้านขายของเก่า) แล้วธีร์ก็ซื้อแผ่นไม้
ที่มีสลักข้อความเกี่ยวกับแม่ ... ธีร์บอกว่าคิดถึงแม่ อ่านแล้วน้ำตาจะไหล ... หลังจากเดินเล่นซื้อของ
และถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว ผมก็พาธีร์ไปทานอาหารเย็นที่บ้าน แคธี่ทำเนื้อแกะอบและมันฝรั่งอบ
พร้อมซ้อสแอปเปิ้ล เรานั่งทานอาหารกัน ก็มีแคธี่ ริต้า ผม และธีร์
เมื่อทานอาหารเรียบร้อยผมก็ไปส่งธีร์ที่ BB ที่จองไว้
   “เรามีไรจะให้” ธีร์ส่งของห่อเล็ก ๆ ให้ผม
“แกะดูสิ” ผมรับมาอย่างงงงง แล้วก็แกะห่อกระดาษสีน้ำตาลนั้นออก
   “ขอบใจมาก” ผมพูดยิ้ม ๆ มองกล่องเล็ก ๆ ในมือที่มีลักษณะคล้ายๆ กล่องไม้ขีด มีลวดลายสวยงาม และก็มีเครื่องดนตรีเล็ก ๆ ไขลานได้อยู่ข้างใน
   “เพลงเพราะจัง” ผมลองไขลาน ยกกล่องเล็ก ๆ ขึ้นมาแนบหูใกล้ ๆ เพื่อฟังเพลง
“เราจะเก็บไว้อย่างดีเลย ... เป็นที่ระลึก”
    “นึกแล้วว่านายต้องชอบ ... น่ารักเนอะ” ธีร์เอียงคอเอาหูมาแนบใกล้ ๆ กับกล่องเพลง
       “ซื้อจากร้าน antique shop ที่ old town เมื่อตอนกลางวันนั่นแหละ” ธีร์บอก

พอกลับไปถึงบ้าน ... ผมก็เจอริต้านั่งรออยู่ในห้องแล้ว ผมเอากล่องเพลงที่เพิ่งได้มาอวดริต้า
   “น่ารักมั๊ย ...”
   “น่ารักจัง ... เพลงเพราะมาก” ริต้าพูดพร้อมกับเอาหูมาแนบใกล้ กล่องดนตรี
   “อยากได้บ้าง ... ซื้อที่ไหน”
    “ร้าน antique shop ที่ old town น่ะ ... ธีร์ซื้อให้”
   “ธีร์ … เค้าหล่อดีนะ ... Nice Butt … ผู้ชายไทยนี่ Nice Butt กันทุกคน” ริต้าพูดยิ้ม ๆ   
“แถมยังสูงมากด้วย หุ่นดี ... นนท์กับธีร์ใครสูงกว่ากัน” ริต้ายังถามต่อ
   “นนท์มั้ง ... ธีร์น่าจะสูงซัก 183” ผมคาดคะเน
   “ผู้ชายไทยน่ารักเยอะแยะเลย ... อยากไปเมืองไทยบ้าง ... อยากมีแฟนเป็นคนไทย” ริต้ายังพูดต่อ
ไม่หยุดผมก็ได้นั่งแต่หัวเราะขำริต้า

เช้าวันอาทิตย์ ... ผมไปส่งธีร์ที่สถานีรถไฟ ... แล้วนัดหมายกันว่าวันเสาร์หน้าจะไปเจอกันที่ลอนดอนเพื่อไปดูเพล เรื่อง ‘The Phantom of the opera’ ผมบอกว่า... จะชวนนนท์ กาย และหนิง ไปด้วย
   “ดูกันหลาย ๆ คนสนุกดี ... แล้วจะพาไปกินเป็ดโฟร์ซีซั่น” ธีร์พูดก่อนขึ้นรถไฟ

เย็นวันศุกร์ผมกำลังเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวไปลอนดอน โดยมีริต้านั่งอยู่ใกล้ ๆ
ส่วนนนท์กำลังนั่งดูทีวีอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่ก็อยู่ในห้องเดียวกันนั่นแหละ
พรุ่งนี้นัดกับธีร์ว่าจะไปดูละครด้วยกันที่ลอนดอน ผมชวนหนิงกับกายแล้วแต่ไม่มีใครว่าง
นนท์บอกว่าจะไปด้วย นนท์บอกว่าอยากดูละคร เพราะหลังจากที่เคยไปต่อคิวเพื่อดู ‘มิสไซ่งอน’
กับเพื่อนของนนท์ที่ชื่อบีคราวก่อน นนท์ก็กลับมาศึกษาเรื่องเกี่ยวกับละครทำให้อยากดูบ้าง ...
   “จะไปกับนนท์ด้วยรึ” ริต้ากระซิบถามผม
   “ใช่สิ ...ไรเหรอ” ผมตอบริต้าด้วยเสียงระดับปกติ
   “ก็ไม่มีอะไร ... ชั้นแค่กังวล” ริต้ายังกระซิบกระซาบ
   “กังวลอะไร” ผมตอบริต้าด้วยเสียงระดับปกติเหมือนเดิม ไม่เข้าใจว่าริต้าจะกระซิบทำไม
   “คุณไม่กลัวนนท์จะ jealous เหรอ” ริต้าก็ยังคงกะซิบ (jealous = หึง)
   “ทำไมต้อง jealous ด้วยล่ะ” ก็ไม่เข้าใจจริง ๆ
   “คุณนี่ bad girl จริง ๆ” ริต้าพูด 
   “ยังไง ...” ผมสงสัย ก็ผมเป็นผู้ชายนะ จะ bad girl ได้ไง
   “ก็คุณจะให้ผู้ชายสองคนเจอกัน” ริต้าก้ยังคงกระซิบ แต่คราวนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมริต้าต้องกระซิบ
            “จะบ้าเหรอ… เราเป็น best friend กัน เข้าใจมั๊ย best friend น่ะ” ผมตอบ คราวนี้กระซิบบ้าง
   “คุณแน่ใจนะ” ริต้าถาม
   “คอยดูละกัน ... จะพิสูจน์ให้ดู” ผมตอบริต้า คราวนี้กระซิบเหมือนกัน

หลังจากนั้นนนท์ก็ปิดทีวี เก็บของ ... แล้วบอกผมด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า
   “พรุ่งนี้ไม่ไปแล้วนะ”
   “ทำไมล่ะ” ผมถามทำหน้างง
   “ขี้เกียจ” นนท์ตอบขณะเดินลงบันไดมาชั้นล่าง ผมเดินตามมาส่งที่หน้าประตู
   “อยากดูไม่ใช่เหรอ” ผมถาม
   “ก็บอกว่าไม่อยากดูแล้วไง” นนท์ยังตอบผมด้วยเสียงหงุดหงิดเหมือนเดิม
   “เป็นไรรึเปล่าเนี่ย”
   นนท์เงียบไปแป๊บนึง แล้วก็พูดขึ้นมาว่า
   “นึกว่าเราไม่ได้ยินเหรอ”
   “เรื่องอะไร” ผมก็ยังงงไม่หาย (จะงงอะไรกันหนักกันหนา)
          “ก็เรื่องที่คุยกันน่ะ … ห้องเล็กแค่เนี่ย ... นึกว่าเราไม่ได้ยินรึไง”
   “ก็ไม่มีไร ทำไมต้องโกรธด้วยล่ะ” ผมพูดแล้วอธิบายว่าคุยอะไรกับริต้าบ้าง
            “ไม่ชอบให้ใครพูดถึงลับหลัง เข้าใจมั๊ย”
            “งั้นขอโทษนะ … พรุ่งนี้ไปลอนดอนด้วยกันเหมือนเดิมนะ”
           “ก็บอกแล้วไงว่าไม่อยากไปแล้ว ... เข้าใจมั๊ย” พูดจบนนท์ก็ปิดประตูบ้าน ...
ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นซักพัก ได้ยินเสียงฝีเท้าของนนท์เดินห่างออกไป ...
ผมเดินกลับไปที่ห้องยังเจอริต้านั่งอยู่ ริต้าถามผมว่านนท์เป็นอะไร ผมเล่าให้ริต้าฟัง ...
แล้วบอกว่าคราวนี้ผมไม่ผิด และจะไม่สนใจด้วย ใครจะทำอะไรก็ช่าง ยังไงพรุ่งนี้ผมก็จะไปลอนดอน

ตอนเช้าผมเดินไปที่สถานีรถไฟ ... ซื้อตั๋วและขึ้นไปนั่งรอบนรถไฟ อีก 10 นาทีรถไฟจะออกจากสถานี ...
ผมนึกถึงนนท์ ... ผมจะเจอนนท์บนรถไฟมั๊ย  เพราะนนท์รู้ว่าผมจะนั่งรถไฟขบวนไหน
ถ้าไม่มา ... แสดงว่านนท์ยังไม่หายโกรธ 
หรือว่าผมควรโทรหานนท์ ผมรู้นิสัยนนท์ดี ถ้าโทรไปหา ... นนท์น่าจะมา ... เอาไงดี
แต่ถ้าโทรไปแล้วนนท์ยังไม่หายโกรธ ผมก็เซ็งดิ ... คิดไปคิดมาจนได้เวลาที่รถไฟจะออกจากสถานี
สุดท้ายผมก็ไม่ได้โทรหานนท์ .... และนนท์ก็ไม่มา ............

มาถึงลอนดอน ... ธีร์มารับที่สถานีรถไฟ หลังจากไปทานอาหารจีนที่โซโห ... ผมโทรหานนท์
“ตอนนี้อยู่ที่โซโห ...” ผมบอกนนท์
นนท์เงียบไปแป๊บนึงแล้วพูดว่า
“ทำไมเมื่อเช้าไม่โทรหา ... เรารอให้นายโทรมา ... แต่งตัวรอด้วย ... ถ้าโทรมาก็จะไปด้วย”
“ก็กลัวนายยังไม่หายโกรธน่ะ … เลยไม่กล้าโทร นึกว่า ... ถ้าหายโกรธแล้วจะมารอที่สถานีรถไฟ …
นายก็มาตอนนี้สิ ละครยังไม่เล่น อีกตั้งนาน” ผมชวนนนท์
“ไว้คราวหลังละกัน ... จะกลับคืนนี้เลยรึเปล่า หรือว่าจะค้าง” นนท์ถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน ... ถ้าไม่ดึกมากก็คงกลับมั้ง” ผมตอบ
“งั้น ... ถ้าจะกลับ ... โทรมาด้วยนะ ... จะไปรับ ...” นนท์บอก
“ได้ ... งั้นแค่นี้ก่อนนะ“ ผมบอก แล้วก็วางสาย ...... รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น  ....
ออกจากตู้โทรศัพท์เจอธีร์รออยู่
“ต้องรายงานด้วยเหรอ ...” ธีร์พูดล้อ ๆ 
“ไม่มีอะไร ... ก็เมื่อวานทะเลาะกันนิดหน่อย ... เรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ … ตอนนี้เคลียร์แล้ว”
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 27-11-2008 23:31:12
อืม
สงสาร นนท์อ่ะ  :m15:
ดูละครเสร็จแล้วรีบกลับมานะ
เด่ว นนท์เขาจะไปรอรับ  :-[

พีเอส.ริต้า น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-11-2008 23:50:03
สงสัยนนท์จะหึงอย่างริต้าร์ว่า  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 27-11-2008 23:53:19
I don't know why ,but i think Non is really cute lol


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 28-11-2008 00:12:35
อ่ะ
มาต่ออีกแล้ว
มาๆๆ ตอนที่ 4 เลยย
รออยู่เน้อออออ  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 28-11-2008 01:12:40
ชอบๆๆมาต่ออีกนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: ผักกาด ที่ 28-11-2008 01:26:45
ชักยังไงๆ แล้ว

 :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 28-11-2008 02:02:22
มานมีกลิ่นแหม่งๆนะเนี่ย
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 28-11-2008 10:03:33
โธ่ นนท์หึงแน่ๆ แต่ว่ายังปากแข็งอยู่
คุณเจ้าของเรื่องก็ เเอบไม่รู้เลยนะเนี่ย นนท์แสดงออกซะขนาดนั้น 5555
รีบกลับมาเร็วๆ นะ นนท์รอเป็นห่วงแน่แล้ว อิอิ
ยังไงก็เชียร์นนท์ซำเมออออออ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 28-11-2008 11:11:24
นนท์น่ารักดีออก ขี้งอน อิอิ :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 28-11-2008 13:46:47
แค่เพื่อนจริงๆเหรอ :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 28-11-2008 14:30:06
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 28-11-2008 15:42:50
ชอบ ๆ ซาบซึ้งกินใจดี หุหุ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 28-11-2008 16:30:11
ชอบๆอ่ะ  :กอด1:
ยิ่งประโยคที่ริตาร์พูดว่า You're a bad girl ยิ่งชอบใหญ่  :z1:
.
.
.
อิฉัน อยากเป็น bad girl แบบนี้มั่งจังเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 28-11-2008 16:44:53
ความรู้สึกช้าจริง ๆ แอบสงสารเจ้านนท์มันหน่อย ๆ นะเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 28-11-2008 19:03:05
                                                จะเกิดศึกชิงนายรึเปล่าเนี้ย

                                                      นนท์ VS. ธีร์   :z6:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 28-11-2008 19:23:19

อร๊ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

นนท์น่ารัก

ขอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


แลกกะดอกไม้  :L2:

ปล. คิดถึง SoHo  อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: muhan ที่ 28-11-2008 21:54:19
บอกเค้าไปดิว่าเป็นเพื่อน...

เพื่อน(ที่เป็น)ผู้ชาย=บอยเฟรน :m20: :z2:

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 3)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 28-11-2008 23:16:23

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน และคอมเม้นทุกคอมเม้น
เป็นกำลังใจที่ดีเหลือเกิน

พวกคุณสุดยอดมาก




ตอนที่ 4

ธีร์ซื้อตั๋วละครเรียบร้อยแล้ว
โดยซื้อจากร้านขายตั๋วลดราคา (discount ticket) ซึ่งมีหลายร้านในบริเวณ Leister Square
ร้านพวกนี้จะขายตั๋วละครที่จะเล่นในวันนั้น ๆ ในราคาที่ถูกว่าครึ่ง
ผมเข้าใจว่าเป็นที่นั่งที่ค่อนข้างไกลราคาจึงค่อนข้างถูก
แต่การดูละครมันต้องดูภาพรวมๆ อยู่แล้ว นั่งห่างออกมาหน่อยก็น่าจะเห็นเวทีได้ทั้งเวทีอย่างชัดเจน

ละครเรื่อง The Phantom of the opera เป็นละครยอดฮิตเรื่องหนึ่งที่ (ครั้งหนึ่งในชีวิต)
จะต้องไปดูให้ได้ (อันนี้ผมคิดเอง ... คนอื่นอาจคิดถึงเรื่องอื่น ... แล้วแต่รสนิยม)
นอกจากฉากที่สวยงามเนื่องจากนำเอาโรงละคร มาทำเป็นเสมือนฉากหนึ่งของโรงโอเปร่า
สถานที่ที่ทำการแสดงก็สวยงามมาก เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในยุคโบราณเลยที่เดียว
(ใครมีโอกาสต้องมาดูให้ได้)
เพลงที่ใช้ในการแสดงก็ไพเราะมาก ... เรียกว่า ได้รับอรรถรสทั้งทางตาและทางหูครบ …

หลังจากดูละครจบก็เป็นเวลาเกือบห้าทุ่ม ....ไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายแล้ว   
เลยตัดสินใจค้างที่ลอนดอนหนึ่งคืน ... แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับรถไฟเที่ยวเช้า ...
ผมคิดว่านนท์น่าจะหลับแล้ว ... ก็เลยไม่ได้โทรบอก

เช้าวันอาทิตย์ ... ผมตั้งใจว่าจะขึ้นรถไฟเที่ยว 9 โมงเช้า ... คิดว่าน่าจะถึงเมืองไม่เกินเที่ยง
... ถ้าซื้อตั๋วรถไฟเรียบร้อยแล้ว .... จะโทรหานนท์
ปรากฏว่า ... กว่าจะซื้อตั๋วเสร็จรถไฟก็ใกล้จะออกแล้ว ... ‘ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปถึงค่อยโทรหาก็ได้’

ปกติรถไฟจะใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่ง
วันนี้ก็เป็นวันปกติวันหนึ่งเหมือนกัน
ไม่มี Engineering work หรือว่าการซ่อมแซมรางรถไฟ
เพราะโดยปกติวันอาทิตย์มักมีการซ่อมแซมรางรถไฟ
ถ้ามีการซ่อมที่สถานีไหน .. บางทีก็ต้องนั่งรถเมล์ ... ที่การรถไฟเตรียมไว้ให้
นั่งไปลงอีกสถานีนึง ... เพื่อต่อรถไฟอีกขบวนนึง ... ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกดี
แต่ก็มักจะเจออยู่เสมอ ๆ จนรู้สึกไม่ค่อยแปลก

รถไฟแล่นตามปกติ ...
อยู่ ๆ ... ก็รู้สึกว่ารถไฟมีการเบรกอย่างแรง …. เอี๊ยดดดดด ... ฉึกฉัก ฉึกฉัก ...
แล้วซักครู่รถไฟก็สงบนิ่งอยู่บนราง (เสียงอาจจะเหมือนรถไฟไทยมากไปหน่อยแต่ก็ประมาณนี้แหละ)
ไม่นาน ... ผู้ชาย (ฝรั่ง) วัยรุ่น วิ่งลงจากรถไฟ .. แล้วมีพนักงานรถไฟประมาณ 2-3 คน วิ่งไล่ตาม
วิ่งไล่กันอยู่ครู่หนึ่ง (คนบนรถไฟก็เดินไปยืนออกันอยู่ด้านเดียว ก็ด้านที่มองเห็นการไล่ล่ากันนั่นแหละ)
ซักพักพนักงานรถไฟก็จับชายคนนั้นได้ ...
คนบนรถไฟพูดกันเสียงดังจอแจ
‘เกิดอะไรขึ้นเนี่ย’ ผมคิด (เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร)
แต่หลังจากได้ยินคนอื่นคุยกัน ... ก็พอจับใจความได้ว่า
มีคน (ก็คงเป็นผู้ชายฝรั่งวัยรุ่นที่โดนจับมานั่นแหละ) ดึงสัญญาณให้หยุดรถไฟ
สัญญาณให้หยุดรถไฟเหมือนเป็นเบรกฉุกเฉิน ... รถไฟก็เลยเบรกอย่างรุนแรงเพื่อหยุด …
คราวนี้จากที่คำนวณว่าน่าจะถึงเมืองก่อนเที่ยง ก็ไม่รู้ชะตากรรมแล้วว่าจะถึงกี่โมง

เสียงคนขับรถไฟประกาศว่าถ้าออกเดินทางได้เมื่อไหร่จะบอก
‘อย่างงี้ไม่ต้องบอกก็ได้ เพราะถ้าออกเดินทางได้ ... ก็รู้เองแหละ’ ผมคิดอีกเช่นเคย เพราะขี้เกียจคุยกับคนอื่น
เวลาผ่านไปนานเหมือนเป็นชาติ เพราะหลับแล้วตื่น .. ตื่นแล้วหลับ .. หลับแล้วตื่นใหม่ ..ไม่รู้กี่รอบ
ก็ยังไม่มีทีท่าว่า ... รถไฟจะมีการเคลื่อนขบวนแต่อย่างใด
เข้าใจ (ไปเอง) ว่า ที่ล่าช้ามากเพราะต้องมีการแก้ไขเวลาของขบวนรถไฟที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด
ถ้าขบวนหนึ่งหยุด ... ก็พลอยทำให้ขบวนอื่นต้องเลื่อนเวลาไปด้วย
จนกว่าจะได้เวลาที่เหมาะสมถึงจะเดินทางต่อได้ ...

ได้ยินคนอื่นคุยกันว่า .. ถ้ามีเหตุฉุกเฉินให้ดึงสัญญาณได้ ...
ผมอยากถาม ..ไอ้คนที่ดึงสัณญาณเหลือเกิน .. ว่ามันมีเรื่องฉุกเฉินอะไรนักหนา
และถ้ามันตอบไม่เข้าหู .. ผมก็จะเบิร์ดกะโหลกมันซักที ... โทษฐาน  ... ทำให้ผมเดือดร้อน
แต่คิดอีกทีมันก็เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้บ่อยนักหรอก … เล่าให้ใครฟังน่าจะมีคนทึ่งหลายคน
ผมตั้งใจจะเก็บเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่จะเล่าให้นนท์ฟัง ... นอกจากเรื่องละครที่สนุกมาก

รถไฟกลับถึงเมืองเกือบ 4 โมงเย็น ... พอลงจากรถไฟปุ๊บผมก็รีบวิ่ง ...... ตั้งใจจะวิ่งไปห้องน้ำ
เพราะปวดฉี่มาก ... ไม่ไหวแล้ว ... แต่ห้องน้ำปิด ... ‘โอ้ พระเจ้า’
ผมก็กะจะวิ่งไปเข้าที่บ้านแหละครับ
แต่เหลือบเห็นตู้โทรศัพท์ ... โทรหานนท์ซะหน่อย ‘have a quick chat’
ก็เลยแวะไปที่ตู้โทรศัพท์ทันที ... กดโทรศัพท์หานนท์
... สายไม่ว่าง ...
ลองอีกทีน่า ...
... สายก็ยังไม่ว่างเหมือนเดิม ...
ไม่เป็นไร ... กลับไปโทรที่บ้านก็ได้ เพราะตอนนี้ผม ... ไม่ไหวแล้ว ...

วิ่งสี่คูณร้อยกลับบ้าน ... อันที่จริงบ้านกับสถานีรถไฟก็ไม่ไกลกันเท่าไหร่
ถ้าเดินเล่น ๆ ก็ซัก 10 นาที
นาทีนี้ ... ผมวิ่งไปไม่เกิน 3 นาทีถึงบ้าน .. เจอริต้านั่งอยู่ที่ living room ก็ทักแค่ “Hi !”
แล้วก็กระโดดขึ้นชั้นสองเพื่อเข้าห้องน้ำ
...
เฮ้อ ... สบาย ... มิน่าล่ะ ... เค้าถึงเรียกว่าปลดทุกข์ ... ก็เพราะเวลาปวดแล้วมันมีทุกข์จริง ๆ
แล้วผมก็ค่อย ๆ เดินลงมาหาริต้าที่ชั้นล่าง ริต้าบอกว่า ... เมื่อหนึ่งนาทีที่แล้วนนท์โทรมา
(ช่วงที่ผมกำลังอยู่ในห้องน้ำ ... อะไรมันจะพอดีกันขนาดนี้)
“นนท์เค้าบอกว่าเค้าจำได้ว่าชั้นอยากดูหนังเรื่องนี้ ... เค้าเลยชวนชั้นไปดูหนัง ...
ชั้นก็เลยถามเค้าว่าให้ชวนคุณไปด้วยมั๊ย … เค้าถามว่าคุณกลับมาแล้วเหรอ ... ชั้นบอกว่ากลับมาแล้ว ...
นนท์บอกว่าเค้าไม่อยากดูหนังแล้ว ... แล้วเค้าก็วางหูไปเลย …” ริต้าพูดจบ เดินมาจับมือผม บอกว่า
“โทรหานนท์ซะ”
ผมคิดว่า วันนี้นอกจากซวยแล้ว … ก็เป็นความผิดของผมด้วย ถ้าผมโทรหานนท์
มันก็คงไม่เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันแบบนี้ 

“ขอโทษนะ” ผมพูดหลังจากนนท์รับสาย แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้นนท์ฟัง ทั้งหมดจริง ๆ
และเป็นเรื่องจริงด้วย ถึงแม้เรื่องรถไฟจะไม่น่าเชื่อไปซักหน่อย
“รู้ตัวว่าผิดก็ดีแล้ว ... คราวหลังอย่าทำอีกนะ  ... เป็นห่วงรู้มั๊ย” นนท์พูด ... จะว่าไป ... ถึงนนท์เป็นคนที่
หงุดหงิดง่าย ขี้โมโห เอาแต่ใจ (เดาว่าเพราะเป็นลูกคนเดียว) ไม่มีเหตุผลบางที (หรือว่ามีแต่ผมไม่รู้เหตุผล)
แต่ก็หายเร็ว เพราะเวลาที่ผมขอโทษ เค้าก็หายง่าย ๆ ทุกที ซึ่งต่างจากผมมาก ผมไม่ค่อยโกรธใครหรอก
ถ้าโกรธก็ยาวล่ะ
“จะไม่ทำอีกแล้วค๊าบบบ … ถ้างั้นมาดูหนังกันนะ ...”
ตกลงว่า ... เย็นวันนั้น ริต้าก็ได้ดูหนังสมใจ ... โดยมีผมกับนนท์ไปด้วย ...

หลังจากดูหนังจบนนท์ก็เดินมาส่งผมกับริต้าที่บ้าน ... ก่อนขึ้นไปที่ห้อง
ผมทักทายกับแคธี่ และเล่าว่า ... เมื่อวานไปลอนดอนเพื่อดูละคร ...
แคธี่บอกว่ารู้แล้วเพราะเมื่อวาน ... นนท์มาที่บ้าน

“Poor Nont”  (แปลว่า นนท์ที่น่าสงสาร ... ไม่ได้แปลว่านนท์ที่ยากจนนะครับ ..
เพราะจริง ๆ นนท์ค่อนข้างรวย)
“เมื่อวานเค้านั่งดูหนังอยู่กับชั้นและริต้า (ดูหนัง series เรื่องโปรดของแคธี่) ...
พอได้ยินเสียงโทรศัพท์ทีไร ... เค้าก็จะถามว่าคุณโทรมารึเปล่า …
เผื่อว่าจะให้เค้าไปรับ  ... กว่านนท์จะกลับก็เกือบเที่ยงคืนแหนะ ...
เค้าบอกว่ารถไฟเที่ยวสุดท้ายมาถึงแล้ว ... คุณคงไม่กลับวันนี้” แคธี่พูดจบ ...
ผมก็หันไปมองหน้าริต้า ... ริต้าพยักหน้า ...
น้ำใส ๆ มันเอ่อออกมากลบลูกกะตาอีกแล้ว ... ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่
แต่ที่แน่ๆ ผมรีบเดินลงไปที่ห้องข้างล่าง คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์นนท์
หลังจากเสียงนนท์ตอบรับ ผมบอกนนท์ไปว่า
“ขอบคุณนะนนท์ ...”
“ไอ้เด็กติงต๊อง ... เป็นอะไรอีกล่ะ …” เสียงแสดงความอาทรดังมาตามสาย ...
น้ำเสียงคนเรานี่แสดงความอาทรได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ  
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 28-11-2008 23:34:05
ยิ่งอ่าน ยิ่งชอบนนท์  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 28-11-2008 23:40:06
Oh my ,Nont is sooooo friggin' cuteeeee :-[
gotta love him :man1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 29-11-2008 00:02:41
คนอะไรช่างแสนดี  :-[

ป.ล. ใคร ๆ เค้าก็มีชื่อกันหมดแล้ว อยากรู้ว่าผมเนี่ย ชื่ออะไร อ่านมา 4 ตอนแล้วไม่เห็นมีโผล่มาสักจี๊ด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 29-11-2008 00:06:32
นนท์แสนดีที่หนึ่งเลย :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 29-11-2008 00:15:01
นนท์ น่ารักจังเลย

ไมไม่เหมือน นนท์ที่รู้จักเลยอะ มันกวนตีนอิๆ อย่างว่าคนละคนกัน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: melody ที่ 29-11-2008 00:27:22
เรื่องนี้พระเอกของเราน่ารักจังเลย

+1เป็นกำลังใจให้คนเขียนคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 29-11-2008 00:29:44
เมื่อไรจะบอกรักกันละ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 29-11-2008 00:29:58
นนท์ดีจริงๆอ่ะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 29-11-2008 01:59:35
รักแท้แพ้ใกล้ชิด กิ้ววว ว ว ว
มาต่ออีกนะ จุ๊บๆ :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: ผักกาด ที่ 29-11-2008 04:01:13
หวานโดยไม่รู้ตัว

รักโดยไม่ได้ตั้งใจ

กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ทั้งคู่เลย

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 29-11-2008 07:11:50
น่ารักจริงๆ :man1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 29-11-2008 10:39:21
                                                  very nice guy.

                                                     :man1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 29-11-2008 11:03:30
นาทีนี้ต้องนนท์
นนท์น่ารักอ่ะ
ตกหลุมรักนนท์ :o8:
รอ มากมาย
ติดเรื่องนี้แล้ว
คนเขียนมาลงบ่อยๆนะ
เป็นกำลังใจให้ ต้องให้คะแนนความน่ารัก  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 29-11-2008 13:12:19
คงต้องเลื่อนตำแหน่งนนท์จาก best friend เป็น boyfriend แล้วละ

 :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 29-11-2008 21:23:44
ผมชอบเรื่องนี้จังเลยครับ o13

ดูเป็นธรรมชาติดี

อยากมีเพื่อนแบบนนท์จังเลย

มาต่อเร็วๆนะครับจะรอ

ปล.กลัวเรื่องนี้จะจบแบบเศร้าจัง ขอให้อย่าเป็นอย่างที่คิดนะสาธุ :call:

กทม. หนาวววววววววมาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: gargoyle ที่ 29-11-2008 23:46:05
น่ารักเกิน....

นนท์น่ารักมาก

ชอบริต้าอ่ะ ดูเป็นสาววายดีเนอะ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 4)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 30-11-2008 17:04:12
ขอให้มาต่อด่วนเลยงับ

อยากอ่านอะเรวๆนะ

จะรอนะคุณเพื่อน :really2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 30-11-2008 18:20:06
ตอนที่ 5

สัปดาห์หน้าจะเป็นวัน easter ซึ่งโรงเรียนจะหยุดหลายวัน นนท์ ริต้า และผม
จะไปลิเวอร์พูลด้วยกัน .... ก่อนที่ริต้าจะไปเที่ยวต่อที่สก๊อตแลนด์อีก 1 สัปดาห์   
หนิง ไม่สามารถร่วมเดินทางได้ เพราะญาติมาหาจากเมืองไทย ... อีกตามเคย ...
ส่วนกายบอกว่าจะท่องโลกโดยลำพังแถว ๆ ยุโรป แต่ไม่ยอมบอกว่าไปไหน ...
ได้แต่บอกว่าจองทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว

การเดินทางครั้งนี้ ริต้าแบกของกินไปเยอะมาก
ราวกับว่าจะไม่จ่ายเงินซื้ออะไรอีกเลยนอกจากค่าเดินทาง
ทั้งที่ของที่แบกไปก็เป็นจำพวกขนมปังและแยม (แบกทำไมให้หนักเนี่ย ...
แต่จริง ๆ คนที่แบกคือนนท์ เพราะตัวใหญ่สุด และริต้าขอร้องแกมบังคับ)
... เพราะผมกับนนท์แทบไม่เอาอะไรไปเลย ... นอกจากเสื้อผ้าแค่ 2-3 ชุด และกล้องถ่ายรูป
   “หนักชะมัด ..แบกหินมารึงัย” นนท์บ่น ท่าทางหงุดหงิด
   “ผู้ชายต้องแบกของให้ผู้หญิง ... ห้ามบ่น” ริต้าตอบยิ้มๆ แล้วเดินไปดูหนังสือที่ร้านค้าในสถานีรถไฟ
   “ใจเย็น ๆ รู้น่าว่าหงุดหงิด ... เดี๋ยวกินหมดก็เบาแล้ว” ผมหัวเราะพร้อมตบบ่านนท์
   “แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแบก ... หาซื้อกินง่ายกว่าเยอะ ... ขวดแยมน่ะหนักมาก” นนท์พูดท่าทางยังไม่หายหงุดหงิด ...   

เราเดินทางไปถึง Liverpool ตอนเย็น ... ตามเคย ... ไม่ได้วางแผนหรือจองโรงแรมล่วงหน้า
ถึงสถานีรถไฟเมือง Liverpool ก็กดแผนที่เมืองจากเครื่องขายแผนที่หยอดเหรียญ
ในแผนที่เมืองจะมีบอกจุดท่องเที่ยวสำคัญ และที่พัก
หลังจากหาโรงแรมที่ดูน่าพอใจได้แล้ว ... ก็โทรสอบถามว่ามีห้องพักหรือไม่
พวกเราจองห้อง 3 เตียง เพราะจะสามารถสุมหัวคิดเรื่องไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้ได้
อย่างที่บอก ...ไม่มีการวางแผนกันมาก่อนเลยว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
แต่สิ่งที่ริต้าขอว่า ... ต้องไปดูก็คือ พิพิธภัณฑ์ the BEATLES

หลังจากได้ห้องพักแล้ว ... ผมกับนนท์ก็ชวนริต้าไปทานอาหารเย็น
   “ชั้นมีขนมปังกับแยมอยู่แล้ว ...พวกคุณไปกับเถอะ … ไม่ต้องห่วง” ริต้าบอก
   “กินอย่างนี้ทุกวัน ... ต้องแย่แน่ ๆ น่าจะหาอะไรดี ๆ กินนะ” นนท์เตือน
   “รีบไปเถอะน่า ชั้นจะกินแซนวิชแยมแสนอร่อยของชั้น” ริต้าบอก ก่อนที่จะไล่ให้เรารีบไป

หลังจากเดินไปเรื่อยเปื่อยประมาณ 15 นาที พวกเราก็เห็นร้าน Chinese take away ไม่ต้องถามกันให้เสียเวลา
ผมกับนนท์เดินเข้าไปในร้าน ... สั่งอาหารทันที ข้าวผัดไข่ และกับอีก 2 อย่าง เพื่อเอาไปกินที่โรงแรม

กลับถึงห้อง .... เห็นริต้ากำลังทำแซนวิชแยม ... แต่ยังไม่ได้กิน
“อืม ... Smell Good ...” ริต้าบอก ... แล้วมองตามกล่องอาหาร ...  นี่ขนาดแค่เดินถือเข้ามาในห้องนะ
ยังไม่ได้กล่องอาหารเลยด้วยซ้ำ
“มากินด้วยกันสิ” ผมชวนหลังจากแกะอาหารเรียบร้อยแล้ว  ... ริต้าตอบตกลงทันทีโดยไม่ต้องให้ชวนซ้ำ
“แพงมั๊ย” ริต้าถาม ข้าวเต็มปาก …. หลังจากบอกราคา ... ริต้าทำตาโต
“ถูกมากกกกกกกก” ริต้าอุทานออกมา  ... คงคิดได้แล้วสิ ... ‘ทำไมต้องแบกของมาให้หนักด้วยนะ’   

ตอนเช้า ... พวกเราตกลงกันว่าจะไปพิพิธภัณฑ์ the BEATLES เป็นอันดับแรก
ผมกับนนท์แม้จะเคยฟังเพลงของ the BEATLES มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้จักผลงานของ the BEATLES มากนัก
   “เกิดไม่ทัน” นนท์บอกยิ้ม ๆ
    “ชั้นก็เกิดไม่ทันเหมือนกัน … แต่เพลงไม่มีอายุหรอกนะ” ริต้าบอก ... แล้วหันไปชื่นชมเปียโนสีขาว
ของจอน เลนนอน ไปพร้อม ๆ กับฟังเพลงอิมเมจิ้น
   
   “ไปทัวร์ต่อมั๊ย” ริต้าถามหลังจากดูพิพิธภัณฑ์และซื้อของที่ระลึกเสร็จแล้ว
   “ไปสิ” ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ไหน ๆ ก็มาแล้วก็น่าจะต้องซึมซับความเป็น the BEATLES ซักหน่อย
เมื่อนนท์ก็ไม่ขัดข้อง ... พวกเราก็เลยจองทัวร์ตามรอย the BEATLES

หลังจากขึ้นไปนั่งบนรถทัวร์ขนาด 24 ที่นั่ง โดยมีคน (ส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง) นั่งอยู่เกือบเต็ม
ทุกคนมีกล้องถ่ายรูปและกล้องถ่ายวีดีโอ เพื่อบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับ the BEATLES
ดูทุกคนมีความสุขและกระตือรือร้นที่จะได้ออกทัวร์ในครั้งนี้ซะเหลือเกิน
รายการทัวร์เริ่มขึ้น..ไกด์พาเราไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ the BEATLES
เช่น บ้านหลังแรกของจอน เลนนอน โรงเรียนเก่าของพอล แมคคาร์ทนี่ ที่ทำงานแห่งแรกของริงโก สตาร์
หรือร้านที่จอร์จ  แฮริซัน ทำงาน … แล้วก็จะมีการเปิดเพลงของ the BEATLES คลอไปตลอดทาง ...
ที่ชอบมากก็คือ ...
เมื่อเปิดเพลงที่กล่าวถึงสถานที่ไหน ... รถก็จะพาไปสถานที่นั้น ... ไกด์เล่าประวัติ
และให้ลงไปถ่ายรูป ...
   “รู้จักเพลงนี้เหรอ” ผมถามนนท์ ... เพราะเห็นนนท์ถ่ายรูป Penny Lane (ซึ่งก็เป็นถนนสายหนึ่ง
ที่เป็นชื่อเพลงของ the BEATLES) ... แต่ที่สงสัยก็คือ .. นนท์รู้จักเพลงนี้เหรอ ... ถึงถ่ายรูปสถานที่
   “เปล่า” นนท์ตอบยิ้ม ๆ ลดกล้องลง “แค่อยากถ่ายบรรยากาศ ... ของคนที่ชอบ the BEATLES น่ะ”

สายวันรุ่งขึ้น ... ผมกับนนท์ไปส่งริต้าที่สถานีรถไฟ ... เพื่อไปสก๊อตแลนด์
ส่วนผมกับนนท์ตั้งใจว่าจะเดินทางกลับเมือง ...
แต่ระหว่างทางก็แวะลงจากรถไฟ ... เพื่อถ่ายรูปเกือบทุกเมืองที่รถไฟผ่าน
แล้วก็กระโดดขึ้นรถไฟเที่ยวต่อไปเพื่อมาลอนดอน ...
กว่าจะถึงลอนดอนก็ดึกมากแล้ว ... ประมาณ เกือบเที่ยงคืน ก็ตกลงกันว่าจะแวะทานอาหารที่โซโห ...
ผมอยากทานอะไรร้อน ๆ ที่เป็นน้ำ ๆ เพราะอากาศค่อนข้างเย็น 

หลังจากทานอาหารเสร็จ ... ก็เดินกะจะไปขึ้น underground ปรากฏว่า ...... สถานีปิด .....
   “เรียก TAXI มั๊ย” ผมถาม
   “ดึกป่านนี้ ... ไปถึงสถานี (รถไฟ) ก็เข้าไปไม่ได้อยู่ดี (เพราะสถานีก็ปิดแล้วเหมือนกัน) ” นนท์พูด
   “หรือว่าจะหาที่พัก” ผมเสนออีกความคิดหนึ่ง
   “อีกแค่ 4 ชั่วโมงก็จะมีรถไฟขบวนแรกกลับเมือง ... อยากเดินเล่น ... ดูบรรยากาศลอนดอน
ตอนกลางคืนมั๊ย” นนท์ถาม ... ผมพยักหน้า ว่าไงว่าตามกัน ... อีกอย่างผมก็ไม่เหนื่อยและไม่ง่วงเลย ...
นนท์เปิดแผนที่ LONDON A-Z แล้วออกเดินนำ
   “เดี๋ยวก็ก็จะถึง Buckingham Palace” นนท์ชี้ไปข้างหน้า ... ลอนดอนยามค่ำคืนนี้ก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย
... ปกติผมเป็นที่ไม่ค่อยไปไหนตอนกลางคืน เพราะไม่ค่อยชอบบรรยากาศเท่าไหร่
และคิดว่ากลางคืนน่ากลัวและไม่ค่อยน่าปลอดภัย ... แต่แปลก ... ที่คืนนี้ผมกลับรู้สึกว่า ...
มันมีเสน่ห์ แถมยังรู้สึกอบอุ่น ... และปลอดภัยด้วย

หลังจากเดินมาประมาณ เกือบ 2 ชั่วโมง
   “นั่งตรงนี้กันเถอะ” นนท์บอก ... ผมนั่งลงบนเก้าอี้ที่ตั้งล้อมรอบต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
   “ง่วงมั๊ย” นนท์ถามพร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ห่างผมไป 2-3 ตัว ...  ผมส่ายหน้า ...
ก็ผมไม่รู้สึกง่วงเลยซักนิด ... ทั้งที่เลยเวลานอนมานานมาก
   “มานอนนี่ ... ให้พักแป๊บนึง” นนท์เรียกให้มานอนใกล้ ๆ กับที่ที่นนท์นั่งอยู่ ...
   “ก็ไม่ง่วงนี่นา ... ไม่อยากนอน” ผมบ่น ... แต่ก็ยอมเดินไปนั่งใกล้ ๆ นนท์
   “นอนซะดี ๆ” นนท์บอก แล้วบังคับให้ผมนอน ... เอาเป้วางให้หนุนแทนหมอน
ผมก็เลยยอมนอน (ก็ได้) ... ผมหลับตา ... ซักพัก ... ด้วยความที่อากาศหนาวมากก็เลยลืมตาและลุกขึ้นนั่ง ...
ควานหาเสื้ออีกตัวในกระเป๋า ตั้งใจว่าจะ เอามาใส่ทับบน jumper (หรือที่เมกันเรียก ‘สเวตเตอร์’ นั่นแหละ)
   “ทำอะไร” นนท์ถาม พลางลุกขึ้นยืน ... ท่าทางหงุดหงิด
   “… อากาศมันหนาวก็เลยจะหาเสื้อมาใส่เพิ่ม”  ผมตอบ
   “เป็นอะไรอีกล่ะ” ผมถาม ... ก็ไอ้อาการโมโหหงุดหงิดของนนท์น่ะ  ...
แม้แต่นิ้สเดียวผมก็รู้สึกได้แล้ว
   “เปล่า” ตอบเสียงห้วน และยังคงแสดงอารมณ์ขุ่นมัวให้เห็นชัดเจน
   “ทำไมเราจะไม่รู้ว่านายโมโห ... แต่เราไม่รู้ว่านายโมโหอะไร” ผมพูดเสียงดุ ๆ
นนท์เงียบไปแป๊บนึง ...
   “เรา ......... โกรธตัวเอง”  นนท์พูดเบา ๆ แต่ท่าทางโมโหคลายลง
   “…. โกรธตัวเอง ?”  ผมถามกลับแบบงงงง ... ก็นั่งกันอยู่ดี ๆ อยู่ ๆ ก็อารมณ์ (โมโห) ขึ้นซะงั้น   
   “เราโกรธตัวเอง ... ที่ .... พานายมาลำบาก” นนท์พูด ... ผมหัวเราะออกมาเสียงดัง
“นึกว่าอะไร ... เราไม่รู้สึกว่าลำบากอะไรเลย ... สนุกด้วยซ้ำ” ผมตอบ
   “ไม่รู้สิ  ... ตอนที่นายนอนน่ะ ... น่าสงสารมาก ... รู้สึกผิดก็เลยโกรธตัวเอง” นนท์พูด
“........ แต่ในเมื่อ....นายสนุก ... เราเดินต่อกันเลยมั๊ย” นนท์ถามกลับ...ผมเปลี่ยนอารมณ์ตามแทบไม่ทัน
   “อีกแป๊บสิ ... ขี้เกียจเดิน … ” พอได้นั่งซักพักผมก็เริ่มขี้เกียจเดินซะแล้ว
   “ยืน” นนท์สั่งทำเสียงดุ .... ผมส่ายหัว “ไม่”  .... นนท์เดินมาใกล้แล้วพูดว่า
   “ยืนบนเก้าอี้ซิ ...”
   “ทำไมอะ” ผมถาม
   “... ขึ้นมา” พูดจบ ... นนท์ก็หันหลังให้
   “จะดีเหรอ ... เดี๋ยวพอเหนื่อยนายก็โมโหอีก ... เหมือนตอนแบกของให้ริต้าไง ”  ผมพูด แต่ก็กระโดดขึ้นไปอยู่บนหลังนนท์เรียบร้อยแล้ว ...
   “มันไม่เหมือนกัน” นนท์พูด แล้วจับมือผมให้กอดคอแน่น ๆ แล้วบ่น “เกาะดี ๆ เดี๋ยวก็ตกลงมา ...”
   “ไม่เหมือนยังไง” ผมถาม

   “ก็ตอนที่แบกของให้ริต้าน่ะ ... เรา ...ไม่เต็มใจนะสิ ...”   
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 30-11-2008 19:00:08
 :o8: :-[ เขินแทนเลยยยยยยยยยย  มารอนะค่ะ  o18 :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 30-11-2008 19:06:38
เหอะเหอะ หวานซะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 30-11-2008 19:23:14
หวานอีกละคู่นี้ แล้วเมื่อไหร่จะตกลงอะไรเป็นเรื่องเป็นราวอะ

อิๆ แล้วจะรออ่าน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 30-11-2008 19:31:38
 o13 ชอบมากกก

ขอบคุณจ่ะ

รอตอนต่อไปอยู่จ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: gargoyle ที่ 30-11-2008 19:37:29
อ๊ากกกกกกก...........!!!!!

น่ารักได้อีก

ฮิๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 30-11-2008 19:41:19
*screams*  :-[
Why Nont has to be sooo sweeeet?
The guy is sooo sweet.

I wish i had one like you LOL
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 30-11-2008 19:56:48
อ้างถึง
จะดีเหรอ ... เดี๋ยวพอเหนื่อยนายก็โมโหอีก ... เหมือนตอนแบกของให้ริต้าไง ”  ผมพูด แต่ก็กระโดดขึ้นไปอยู่บนหลังนนท์เรียบร้อยแล้ว ...
   “มันไม่เหมือนกัน” นนท์พูด แล้วจับมือผมให้กอดคอแน่น ๆ แล้วบ่น “เกาะดี ๆ เดี๋ยวก็ตกลงมา ...”
   “ไม่เหมือนยังไง” ผมถาม

   “ก็ตอนที่แบกของให้ริต้าน่ะ ... เรา ...ไม่เต็มใจนะสิ ...”
วี๊ดดดดดดดวิ้ววววววววว หวานจริงๆ
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: jibi ที่ 30-11-2008 20:01:14
 :-[  น่ารักกันจังนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 30-11-2008 20:10:30
ยังหวานได้อีกนะนนท์ :haun4:

ชอบเขาก็รีบบอกๆไปเถอะ

ลุ้นๆมาต่ออีกนะจะรอนะคับ คุณเพื่อน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: b_hihi ที่ 30-11-2008 20:33:33
เลิศ

จะแบกกันทัวร์เมืองรึอย่างไร
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 30-11-2008 20:46:02
นนท์คิดไม่สื่อแระ  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 30-11-2008 21:14:51
แมนมั่ก ๆ  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 30-11-2008 21:19:55
ขออนุญาติค่ะ :m13:







กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดมีแบกกันด้วย  น่ารักจังเลย :m3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: white coat ที่ 30-11-2008 21:36:33
นายเอก ชื่อไรอะ

คุณเพื่อนชื่อไรเหรอครับ  :z1:

เรื่องน่ารักมากเลย +1  :กอด1:

มาต่อไวๆนะ

ขอสมัครเป็นแฟนคลับด้วยคน  :mc4:

ปล.ว่างๆแล้วมาต่อนะครับ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 30-11-2008 21:39:24
น่ารัก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 30-11-2008 22:05:05
นนท์สุดจะเจ๋งอ่า ได้ใจไปเต็มๆ โคดเท่โฮกกกกกกกกกกกกก
รักนนท์มาก เป็นเราเจอคำนี้เข้าไปหลงเลยนะเนี่ย กรี๊ดดดดดด
เเพ้พวกเจนเทิ่ลแมน ฮิ๊วววววววววววววว
ว่าแต่คุนเจ้าของเรื่องชื่อไรอ่า ไม่เคยรู้เลย อ่านมาห้าตอนแย้ววววว
บอกหน่อยไม่ได้เหยอ อิอิ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: Pongkemon ที่ 30-11-2008 22:09:59
อ๊ากกก อ่านแล้วอิจฉาเจ้าของเรื่องจัง  :fire:
อยากได้แบบนนท์มั่งจัง น่ารักม๊ากกกก  :m1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 30-11-2008 22:51:01
อยากได้ เค้าอยากได้แบบนี้บ้างอ่ะ  :-[

คนอะไรน่ารักชะมัด

แต่......แฟนสาวนนท์ที่เมืองไทยจะเป็นยังไงอ่ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 30-11-2008 23:18:38
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: muhan ที่ 30-11-2008 23:21:58
โอ๊ย...อยากมีแฟน

เฮ้อ..
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 30-11-2008 23:59:19
นนท์ก้อน่ารักดีนิ :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 01-12-2008 07:36:43
อิจฉาจังเลย :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-12-2008 11:53:50
ตามอารมณ์นายนนท์ ไม่ทันจริงๆ

ปล.ผมกำลังจะไปเที่ยวลอนดอน ช่วงต้นปีหน้า ไว้จะรบกวนแนะนำที่เที่ยว ร้านอาหารถูกๆ ให้ดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 01-12-2008 12:18:25
เพ้ออออออออออออ
ตอนนี้ถึงขั้นเพ้อ หา นนท์แล้ว
นนท์น่ารักอ่ะ
ม่ายไหวแล้ววว
เป็นอะไรที่โรแมนติกที่สุด  :-[

ให้(+1)  :L2: ในความน่ารักของนนท์ กับ ความขยันของคุณเพื่อน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 01-12-2008 17:25:15
                                                   มีแฟนแบบนนท์นี่รักตายเลยคับ !!!!!!

                                                                so gentle.

                                                                         :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 01-12-2008 20:40:49
มาต่อโดยด่วนอยากอ่านแล้วนะคุณเพื่อนรัก :monkeysad:

Please o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าชายสายเสมอ ที่ 01-12-2008 21:56:20
นนท์น่ารักโคตร ๆ อ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 01-12-2008 22:04:59
ช่วยบอกนะว่านายเอกเรื่องนี้ชื่ออะไร

อ่านมา 5 ตอนแล้วยังหาไม่เจอ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: monticello ที่ 01-12-2008 22:44:44
น่ารักทุกคนเยยย
แล้วเมื่อไหร่สองคนนี้จะ "จิ้มจิ้ม" กันซะทีอะค้าบ :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 5)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 02-12-2008 09:01:00
“มันไม่เหมือนกัน” นนท์พูด แล้วจับมือผมให้กอดคอแน่น ๆ แล้วบ่น “เกาะดี ๆ เดี๋ยวก็ตกลงมา ...”
“ไม่เหมือนยังไง” ผมถาม

“ก็ตอนที่แบกของให้ริต้าน่ะ ... เรา ...ไม่เต็มใจนะสิ ...”

อิอิ เมื่อไหร่นายเอกจะเข้าใจนนท์สักที   :o8:  นนท์พยายามเข้าน่ะ  :กอด1:

 :bye2:

edit :ขออภัยผู้เขียนด้วยครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 02-12-2008 22:54:29
ป.ล. ชื่อของนายเอก จะปรากฏในไม่ช้า ... ต้องมาเป็น step
     
ป.ล.2 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ... พอดีช่วงนี้เป็นไข้หวัด ... อาจจะเขียนได้ไม่ทันใจ ...แต่จะพยายาม
        พวกคุณเป็นกำลังที่ดีมาก ... ขอบอกว่าสุดยอด






ตอนที่ 6

อากาศค่อนข้างหนาว ... แต่ผมกลับรู้สึกอุ่นจัง
รู้สึกสบาย ... จนเผลอหลับไป
ไม่นานก็ถึงสถานีรถไฟ ... ตี 5 เกือบครึ่ง
…………
“สถานีรถไฟปิด”   นนท์พูดเบา ๆ เหมือนบ่นกับตัวเองมากกว่า 
“ตื่นได้แล้ว”   นนท์ปล่อยผมลง ... ผมงัวเงียเล็กน้อย
“ไอ้เด็กขี้เซา ...ไหนบอกไม่ง่วงไง”  นนท์พูด พลางจับตัวผม ... เขย่า
“ตอนนั้นไม่ง่วง ... แต่ตอนนี้ง่วงนี่นา” ผมพูด เอามือปิดปากหาว
“สถานียังปิดอยู่เลย ... ไปแมคฯ กัน” นนท์ชวน

เราไปแมคฯ ที่อยู่ติดกับสถานี เพื่อทานอาหารเช้า ผมชอบอาหารเช้าของแมคฯ
(ถึงแม้จะไม่ชอบอาหารอื่นๆ ของแมคฯ ซักเท่าไหร่ ... ก็อย่างที่เคยบอก คลอเรสเตอรอลสูง)
เพราะคล้ายกับ English breakfast มีขนมปัง /scramble egg/ hush brown/ มะเขือเทศทอด
คือ คล้าย ๆ กับอาหารเช้าของอังกฤษ ถึงจะเป็นร้านของเมกัน ... แต่ตั้งอยู่ที่อังกฤษก็เลยมีอาหารเช้า
ตามแบบฉบับอังกฤษ ... คงเหมือนกับเมืองไทยที่มีเบอเกอร์ไก่กระเพราล่ะมั้ง
 
หลังจากทานอาหารเสร็จ ... สถานีรถไฟเปิดพอดี พวกเราก็เดินไปที่ห้องขายตั๋ว
 .... ปิด .....
ดูตารางรถไฟ ... เลื่อนจากกำหนดเดิม .... เป็นรถไฟเที่ยวแรกออกจากสถานี 8 โมงเช้า
คงเพราะวันนี้เป็น Good Friday ละมั๊ง แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่หยุดให้บริการ
ระหว่างรอ ... ทั้งง่วงทั้งเหนื่อย ... พวกเราก็เลยตัดสินใจหาที่นั่งรอเวลารถออก …

... เก้าอี้เต็ม ....

นั่งพื้นละกัน ... ใคร ๆ ก็นั่งพื้นกัน เพราะเก้าอี้เต็มหมด  .... และรถไฟทุกขบวนก็เลื่อนเวลาออกจากสถานี
ก็คงเพราะเป็นวันหยุด ... ไม่มีใครอยากมาทำงานตอนเช้าขนาดนี้ … เราก็เลยนั่งลงบนพื้น ...
ใกล้กับห้องขายตั๋ว

    “ง่วงมั๊ย” นนท์ถามมองหน้าผม ... ผมพยักหน้า
            “ง่วงเหมือนกัน ...”    นนท์พูด .... หลับตาแล้ว ... เอียงหัวซบลงมาบนไหล่ผม
           “ .. หนัก ..”
นนท์หลับตานิ่ง ... ไม่ยอมขยับ ยิ้มมุมปาก พูดออกมาเบา ๆ     
           “แค่นี้ .. ห้ามบ่น”
 
เกือบได้เวลาขึ้นรถไฟ ... ผมปลุกนนท์ …
บนรถไฟ คนน้อยมาก
เราจองที่นั่งคนละเบาะ นอนเหยียดยาวจนถึงเมือง … 

เมื่อเดินถึงหน้าบ้านผม ...
“... ง่วงมากเลยไม่อยากเดินแล้ว ของีบหน่อย บ่าย ๆ ค่อยกลับดีกว่า” นนท์พูดแล้วเดินตามเข้ามาในบ้าน
 
หลังจากที่เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว …
“ขอนอนตรงนี้แหละ ... ง่วงมากเลย” นนท์พูด ... พลางทรุดตัวลงบนโซฟา
“ไปอาบน้ำก่อนนะ ... จะได้หลับยาว ๆ” ผมบอกนนท์ แล้วเดินเข้าห้องน้ำ …
นนท์พยักหน้า แล้วหลับตาลง
 
หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้วผมกลับมาที่ห้องเห็นนนท์นอนหลับสนิท …
‘นอนบ้างดีกว่า’ ... กำลังจะก้าวขึ้นเตียง ...
... เห็นนนท์สะดุ้ง เหมือนคนนอนละเมอหรือตกใจอะไรซักอย่าง
“นนท์” ผมเรียกชื่อนนท์เบา ๆ  แล้วถาม “เป็นอะไรรึเปล่า”
“อือ ...” เสียงตอบ แต่ไม่เห็นลืมตา
“เป็นอะไร ...” ผมเดินเข้าไปดูนนท์ใกล้ ๆ
“ไม่มีอะไร ... หลับดี ๆ นะ” ผมพูดแล้วลูบหัวนนท์เบา ๆ   ... ซักพัก ผมก็เดินไปนอนที่เตียง .... 
หลับสนิท ....
 
วันเปิดเรียน  ... ผมเจอกายที่โรงเรียน ...
“มีของฝากมาให้” กายบอกแล้วยื่นของฝากมาให้
“ขอบคุณคร๊าบ ... ตกลงไปไหนมา” ผมถาม
“ปารีส” กายตอบสั้น ๆ
“โหย ... คนเดียวเนี่ยนะ” ผมถามต่อ
“จะให้ไปกับใครล่ะ … อ่ะฝากให้นนท์ด้วย” กายพูดเศร้า ๆ แต่ก็ยิ้มแล้วเดินจากไป ...
ผมก็เดินไปหานนท์ที่สนามหน้าโรงเรียน ...
“กายฝากมาให้” ผมยื่นของฝากให้นนท์
“ขอบใจนะ” นนท์ตอบพลางเก็บของฝากใส่กระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ต
“กายไปฝรั่งเศสคนเดียว ... เป็นอะไรรึเปล่าไม่รู้ ... แปลก ๆ” ผมเปรย
“ไม่รู้เหรอ” นนท์หันมามองหน้าผม … แล้วพูดต่อ “ก่อน Easter … กายอกหัก ...” 
“ไม่เห็นรู้เรื่องเลยอะ ...” ผมตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน
“เคยรู้อะไรบ้างมั๊ยเนี่ย  ...” นนท์พูดพลางหัวเราะ
“แล้วเรื่องมันเกิดตอนไหนล่ะ” ผมถามด้วยความอยากรู้ .. ก็เรื่องของเพื่อนนี่นา
“พุธที่แล้ว ... ที่เราไปผับกันอ่ะ …” นนท์เริ่มเล่าเรื่อง ...

ที่เมืองนี้มีผับเล็ก ๆ (เป็นผับแบบเปิดเพลง dance) อยู่ที่หนึ่ง .. วันพุธจะลดครึ่งราคาให้นักเรียน ..
นักเรียนของโรงเรียนเราก็เลยมักจะนัดกันไปวันพุธ …
ตอนอยู่เมืองไทยผมเคยไปผับแค่ไม่กี่ครั้ง ... เพราะผมเป็นโรคแพ้ควันบุหรี่อย่างรุนแรง
ถ้าต้องถูกรมด้วยควันบุหรี่ทีไร ... รุ่งขึ้นก็จะป่วยทุกที และไม่ใช่ป่วยธรรมดานะ
ป่วยหนักมาก ... เรียกว่าเป็นเหมือนไข้หวัดใหญ่เลยทีเดียว ปวดหัว เจ็บคอ และน้ำมูกไหล
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ... บวกกับเพื่อน ๆ นัดกันว่าน่าจะลองไปสัมผัสซักครั้ง
หลังจากเข้าไปสัมผัสแสงสีและลีลาการแดนส์ของหลาย ๆ เชื้อชาติ ได้ไม่ถึง 10 นาที
ผมก็ต้องขอตัวออกมาสูดอากาศข้างนอกกับเคียวโกะ ...
ตอนที่ออกมาคนที่เฝ้าประตูก็แสตมป์ที่แขนไว้ว่าจ่ายเงินแล้ว
ถ้าอยากกลับเข้ามาอีกก็ให้โชว์ที่เค้าแสตมป์ให้ดูแล้วก็เข้ามาได้อีกโดยไม่ต้องเสียเงิน
(เหมือนเมืองไทยแหละ ...)
   
ผมคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กับเคียวโกะอยู่บนดาดฟ้าของผับ ... ลืมเล่าว่า ... ผับอยู่ริมทะเล
บรรยากาศด้านนอกดีมาก .. แต่ด้านใน ... ปิดไฟมืด แต่เปิดไฟสีม่วงน่าอึดอัด
ประมาณครึ่งชั่วโมงกายกับนนท์ออกมาจากผับ
   “เห็นหนิงมั๊ย”  กายถาม  ผมกับเคียวโกะส่ายหน้า
   “ไปไหนวะ” กายบ่น … ท่าทางเป็นห่วงมาก ๆ หลังจากนั้น ...
กายก็ขอตัวไปตามหาหนิงที่บ้าน ... นนท์ไปเป็นเพื่อนกาย ...ไม่ยอมให้ผมกับเคียวโกะตามไปด้วย   
   “กลับบ้านไป …” นนท์บอก ผมก็สงสัย .. แต่ในเมื่อไม่อยากให้รู้ผมกลับบ้านก็ได้
   “ห้ามไปที่อื่นนะ ... เดี๋ยวจะโทรไปเช็ค” นนท์สั่ง ... ก่อนเดินแยกไปกับกายอีกทาง

นนท์เล่าว่า ... หลังจากนั้นนนท์กับกายก็ไปตามหาหนิงที่บ้าน ... แต่ไม่เจอ ..
“กลับบ้านไปเถอะ .. เดี๋ยวจะรออยู่อีกซักพัก” กายบอกนนท์
“จะรอเป็นเพื่อน” ... นนท์นั่งเป็นเพื่อนกายจนเกือบเที่ยงคืน ... หนิงเดินกลับมาพร้อมกับ ...
ฮิโรชิ (หนุ่มญี่ปุ่น)
“ไปไหนทำไมไม่บอก .. ”  กายถามเสียงโมโหมาก ...
“ไม่มีอะไร ... แค่ไปคุยกับฮิโรชิ …มีเรื่องต้องเคลียร์นิดหน่อย” หนิงตอบ ... หลังจากวันนั้น
ก็จะเห็นหนิงไปไหนมาไหนกับฮิโรชิตลอด ...
   “ฮิโรชิกับหนิงเป็นแฟนกัน ... กายเลยอกหัก ... คราวนี้เข้าใจแล้วใช่มั๊ย ... ทำไมกายต้องไปปารีส
คนเดียว” นนท์หันมาถาม … ผมก็ได้แต่พยักหน้า ... เข้าใจ

กลับถึงบ้าน ... นนท์แวะเข้ามาทักทายแคธี่
ระหว่างนั่งคุยอยู่กับแคธี่ ... แคทรีน่า (ลูกสาวของแคธี่) และเพื่อนอีก 2 คน (ผอมคนอ้วนคน) ลงมาจากบนห้อง
และชวนผมกับนนท์เล่นเกม ‘I dare you …’
ผมกับนนท์กับไม่ค่อยอยากเล่นเกม (เด็ก ๆ) ซักเท่าไหร่ ... แต่ก็ตกลง (เป็นมารยาท)
วิธีเล่นเกมนี้คือ คนแรกจะจับสลากเลือกว่าจะท้าทายใคร ... แล้วพูดว่า ‘I dare you to …’
แล้วก็บอกสิ่งที่จะให้คนที่เราเลือกทำ .... ต้องเป็นเรื่องที่ตลก ๆ
ถ้าไม่ทำจะต้องถูกลงโทษ ... โดนลงโทษแบบตลก ๆ เหมือนกัน
เช่น นนท์สั่งให้เพื่อนของแคทรีน่าเอาหัวเดินลงบันได หลังจากที่โดนสาว ๆ แกล้งให้ทำอะไรตลก ๆ หลายครั้ง
   “แกล้งดีนัก” นนท์หันมาพูดยิ้ม ๆ
แต่คำสั่งของนนท์ก็ไม่มีใครทำได้ ... ทุกคนก็หัวเราะสนุกสนานกันดี
 หลังจากเล่นกันได้ครู่ใหญ่ ... แคททรีน่า  ... ก็จับได้ชื่อผม
   “I dare you to rub his nose” แคทรีน่าพูดพร้อมกับชี้ไปที่นนท์ ผมกับนนท์มองหน้ากัน ... งงครับ
   “rub his nose … หมายความว่าอะไร” ผมถามแคทรีน่า
   “ก็หมายความอย่างงี้” พูดจบ แคทรีน่าก็เอาจมูกไปถูกับจมูกของเพื่อนคนตัวผอม
   “ไม่กล้า ... ” ผมบอกแคทรีน่าแล้วหัวเราะ ...
   “ไม่ได้ … I dare you ... ไม่งั้นโดนลงโทษ ...” แคทรีน่าขู่
   “งั้นลงโทษก็ได้ ...” ผมตอบ
   “ให้เลือกว่าจะ kiss แคธี่ (โอ้ว ... เล่นคุณแม่เลยรึ) หรือจะเลือก kiss นนท์ ...”
   “งั้นเลือก .....” ผมลากเสียงยาว ... ทุกคนหันมามองหน้าผม .... ลุ้นล่ะสิ ....
   “…. แคธี่ ...” ผมตอบยิ้ม ๆ 
แคทรีน่าส่ายหน้า  “ไม่เอา”
   “ผมเลือกแล้ว” ผมตอบพลางหัวเราะ
   “ชั้นไม่อาวววว” แคธี่ (คุณแม่) ตอบแล้วหัวเราะเสียงดัง ... แล้วก็สั่งให้เลิกเล่นเพราะดึกแล้ว

   
“แค่หอมแก้ม ...ไม่เห็นเป็นไรเลยเนอะ” นนท์พูดแล้วหัวเราะ ๆ หลังจากที่ขึ้นมานั่งเล่นที่ห้องของผม  ...
   “เค้าให้จูบ ... ไม่ใช่หอม …จูบกับหอมไม่เหมือนกันนะ” ผมอธิบาย
   “แล้วมันต่างกันยังไงอะ” นนท์ถามต่อ
   “kiss ก็คือจูบ ... ไม่ใช่หอม ... หอมใช้จมูก ... แต่จูบใช้ปาก ...” ผมตอบอีก
   “แล้วหอมต้องที่แก้ม ส่วนจูบต้องจูบปากใช่มะ” นนท์ถามต่อ ...
“จูบที่แก้มก็ได้ ... แต่หอมที่ปากไม่เคยได้ยินนะ” ผมตอบ (ราวกับผู้รู้)
“อย่างงี้รึเปล่า ...” พูดพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ... ห่างจากหน้าผมไม่ถึงเซนต์
“เฮ้ย ... ไม่เล่น” ผมพูด ... เบี่ยงตัวหลบ    
“แค่นี้ก็กลัวเหรอ ...  ฮ่า ฮ่า ฮ่า ... ไม่กล้าทำหรอกน่า … กลัวโดนเตะ” พูดจบก็คว้าคอผม ...
ดึงตัวเข้าไปกอด ... แล้วกระซิบว่า “แกล้งแค่นี้ต้องเขินด้วยเหรอ”
“ไม่เล่นนะ” ผมพูด .. สะบัดตัวหลุดมาได้ .... นนท์เอาแต่หัวเราะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: white coat ที่ 02-12-2008 23:01:02
น่ารักๆๆๆๆ

 :z1:

ไว้รอ นายเอก เผยนาม

เออว่าแต่ เมือง ที่อยู่ อะเมืองไรเหรอ เผื่อรู้จัก  :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 02-12-2008 23:06:14
โห นึกว่าจะได้จูจุ๊ฟกันแล้ว   :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 02-12-2008 23:12:35
ใกล้ความจริงแล้ว :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 03-12-2008 00:00:35
ละลายยยยยย
นนท์น่ารักมากมาย
ไม่ไหวววแล้ววว
อยากเจอ แบบนนท์
หาได้แถวไหน  :-[

อีกนิดเดียว
แค่นั้น
ก็จะ
 :z1:
อดใจรอตอนหน้าจะไม่ไหวแระ
คุณเพื่อน
มาเร็วๆนะ
อะให้ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 03-12-2008 01:01:29
นนท์ ไมน่ารักอย่างงี้เนี่ย อิๆ

แล้วจรออ่านต่อนะคราบ

ชอบตอนนี้ +1 ให้นะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: ~Kalianeko~ ที่ 03-12-2008 02:37:10
ตามอ่านงับ

นนท์น่ารักมากเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าชายสายเสมอ ที่ 03-12-2008 09:45:38
เกมนี้น่ารักดีครับ

อะไรอ่ะ  ทำไมนายเอกผิดกติกา  ชิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 03-12-2008 11:40:53
น่าร้ากกกกกกกกกกกก

นนท์ เทห์ มากกกกกกกกกก ปกป้องสุดๆ  :กอด1:

เข้ามาให้กำลังใจ "ผม "  ด้วย

อยากรู้เหมือนกันชื่อไร

เมือ่ไหร่น้า จะเผยใจซะที แต่แบบนี้ก็น่ารักนะ

เป็นมากกว่าเพื่อน..... :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 03-12-2008 13:58:32
เมื่อไหร่เจ้านนท์จะทำอะไรให้มันชัดเจนซะทีน้อ มัวแต่ทำหมาหยอกไก่อยู่ได้ คนอ่านลุ้นอยู่นะเฟ้ย  :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 03-12-2008 15:09:43
ลุ้นเหมือนกันว่าเมื่อไหร่"นนท์" จะเปิดหัวใจให้"ผม"รู้ซักที

 :z1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 03-12-2008 16:32:36
น่รัคะ
แตอย่าจบเศร้น้า
ไม่เอาๆ  :a5:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 03-12-2008 18:39:04
                                            ทำไม นนท์ ไม่จูบ เลยอ่ะคับ !!!!!!!  :z1:

                                                    เฮ้อ น่ารักทั้งคู่เลยเนอะ

                                                                :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 03-12-2008 20:17:20
อ๊ากกกกก นนท์น่ารักอีกแล้ว หูย อิตอนเล่นเกม
นนท์คงลุ้นน่าดูเเหละเราว่า o22
อิอิ ไอ้เราคนอ่านก็ลุ้นไปด้วยคน ฮี่ๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้มาต่อเร็วน่าๆ จ๊า
ขอให้หายป่วยเป็นไข้หวัดเร็วๆ น่า
อยากอ่านแบบยาวๆ อิอิอิ  :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 03-12-2008 20:33:57
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 03-12-2008 20:43:13
ขอเป็นกำลังใจให้ผุ้เขียนนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 03-12-2008 22:33:25
kiss kiss kiss kiss ซิค่ะ โฮะๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 03-12-2008 22:34:39
น่ารักดี


รออ่านต่อไป






บอกชื่อด้วย
คนไรชื่อ..ผม...

ไม่ร้ชื่อ เล่นเอาเครียดได้เหมือนกัน

แปลกดี....

 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 03-12-2008 22:36:14
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย   :-[   น่ารักสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ+++++++++++++++++

ท่าทางนายเอกเป็นคุณหนูน่าดู แต่น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกมั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ    :กอด1: :m3: :จุ๊บๆ::-[

นนท์ก้อน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกสุดๆๆๆๆๆเหมือนกัน  เอาใจใส่ดีมากเลยค่ะ  ไอมีแฟนแบบนี้รักตายเลยอ่ะ   :จุ๊บๆ: :m3: :กอด1: :o8:

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะคะ   :L2: :กอด1: :c5:

เกือบได้จุ๊ฟๆๆกันแล้วเชียว   :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:   :z2:   มีเขินๆๆ  อิอิ~~~   :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 03-12-2008 23:52:16
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้

เพราะแม่นาง SunLoveMoon แนะนำมา

โฮะ...โฮะ.....น่ารักสมคำร่ำลือจริงๆ

นนท์ น่ารักมากมาก

ทั้งหวง ทั้งห่วง ดูแลนายเอกของเราดีมากๆ

 :กอด1: เมื่อไหร่จะตกลงปล่องชิ้นกันน๊า




+1 ให้กำลังใจคนเขียน...น่ารักมากมายจริงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 04-12-2008 08:29:06
นนท์น่ารักมากกกก........ :impress2:

อยากได้แบบนี้บ้างอ่ะ  ทำไงดี


มาต่อเร็วๆนะคะ มีคนอ่านรออยู่เยอะแยะเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 04-12-2008 08:40:24
ไม่น่าพลาดเลย :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 04-12-2008 15:23:19
มาเป็นกำลังใจอีกหนึ่งเสียงค่า   :L2:
เขียนเรื่องได้น่ารักมากๆ
ถึงช่วงนี้อากาศหนาวแล้ว แต่อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกสบายๆ อบอุ่นบอกไม่ถูก (เน่าไปไม๊เนี่ยตรู)
จะหาแบบนนท์ได้แถวไหนคะ  :impress2:  ต้องไปหาไกลถึงอังกฤษเลยไม๊เนี่ย  อยากได้มากกกกกกกกกก
ตอนที่6 นี่ อ่านแล้วลุ้นสุดใจเลย เสียดายยยยยย
นนท์อ่ะ  น่าจะกล้าๆหน่อย จ๊วบไปเล๊ย
โธ่ๆๆ เจ๊ลุ้นค้างเลย   :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 04-12-2008 19:49:12
 :กอด1:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 6)
เริ่มหัวข้อโดย: gargoyle ที่ 04-12-2008 21:23:19
น่ารักดีอ่ะ ฮึๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 04-12-2008 22:10:38
ตอนที่ 7

 
หลังจากนั้นหลายวัน ... เป็นวันศุกร์ ... ระหว่างเดินกลับบ้านด้วยกันกับนนท์
           “เสียงโคตรแมนเลย ... ” นนท์ล้อ เพราะเสียงผมแห้งและเปลี่ยนเป็นแหบเนื่องจากเริ่มเป็นหวัด
           “กลับถึงบ้านรีบกินยาแล้วนนอนเลยนะ ... เดี๋ยวจะโทรไปเชค” นนท์สั่งอีก
           “ค๊าบบบบ … แค๊ก ๆ ” ผมพูด ... แต่พูดจบก็ไอ ...
         “ว่าอะไรนะ ... ก๊าบบบบบ .... เสียงเหมือนเป็ดน้อย” นนท์พูดพลางลูบหัวผมเบา ๆ


กลับถึงบ้าน ... ทานอาหาร ... นนท์โทรมาเตือนให้กินยาและบอกว่าจะมาเยี่ยมพรุ่งนี้ ...
หลังจากกินยาและนอน … ตอนเช้า ... อาการไม่ดีขึ้นเลย กลับแย่ลงกว่าเก่า ... คราวนี้มีไข้ด้วย
นนท์มาเยี่ยมและนั่งเฝ้าตลอด ... ผมก็ได้แต่นอน ... ตื่นขึ้นมาทานอาหารกลางวันที่แคธี่ยกมาให้บนห้อง ...
   “กินยาก่อน ... แล้วค่อยนอน” นนท์พูดหลังจากที่ผมทานอาหารเสร็จ ... พอทานยาแล้ว
ผมก็หลับไปอีก ... นอนไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ... รู้สึกตัวอีกทีตอนที่นนท์เอามือมาอังที่หน้าผาก ...
คงจะบ่ายมากแล้ว
   “ดีขึ้นแล้วนะ ... เด็กน้อย” นนท์พูดยิ้ม ๆ
   “ลุกขึ้นมาทานซุปหน่อยมั๊ย ... แคธี่ทำมาให้” นนท์ถามอีก ... ผมส่ายหน้า ... แล้วก็หลับตาลงอีกครั้ง
   “หายเร็ว ๆ นะ” นนท์นั่งเก้าอี้ข้างเตียง ... เอื้อมมือมาลูบหัวเบา ๆ ...

ค่ำมากแล้ว ... ผมลืมตาขึ้นเห็นนนท์นั่งอยู่เก้าอี้ข้างเตียง ..... หลับ ...
   “ขอบคุณมาก ...” ผมบอกนนท์เบา ๆ .. บอกตอนที่หลับ ๆ นี่แหละ ... นนท์ตอนหลับน่ารักมาก ...
ผมเอื้อมมือไปเขี่ยที่จมูกนนท์ เบา ๆ ... นนท์ลืมตามองผม 
   “คนเฝ้าไข้ … หลับได้ไง” ผมถามยิ้ม ๆ
   “หายแล้วเหรอ ...” นนท์ถาม ... ผมพยักหน้า ... นนท์เหลือบดูเวลา
   “กลับก่อนนะ ... อย่าลืมกินยานะ ... แล้วจะโทรมาถาม” นนท์ลุกขึ้น ... ขอตัวกลับบ้าน
   “ขอบคุณมาก ...” ผมบอกนนท์อีกครั้ง ... ‘นายดีกับเราจัง’


บ่ายวันอาทิตย์
             “Hi! I’m back.”  ริต้าเข้ามาทักทายผมให้ห้องหลังจากที่กลับมาจากสก๊อตแลนด์ ...
           “สนุกมาก สวยมาก ... ชอบมั่กมาก”  ริต้าเล่าเรื่องไปเที่ยวสก๊อตแลนด์ให้ฟังด้วยน้ำเสียง
สนุกสนาน ... พร้อมโชว์รูปถ่ายที่บังเอิญ (หรือตั้งใจ) ไปถ่ายผู้ชายที่เป่าปี่สก๊อตที่ยืนอยู่แถว ๆ 
Edinburgh Castle … ก็เป็นคนเดียวกับที่ผมถ่ายมาคราวที่ไปเที่ยวสก๊อตแลนด์เหมือนกัน
ชั้นเห็นภาพที่คุณถ่ายมาแหละ สวยดี ก็อยากได้บ้าง
             “แบบนี้ก็ก๊อบกันน่ะสิ” ผมบอก ขณะดูรูปถ่ายของริต้า .... ริต้าหัวเราะขยิบตา
    “เอาของไปเก็บก่อนนะ” ริต้าพูด ... นี่แวะมาอวดรูปที่ห้องผมก่อนกลับห้องตัวเองอีกหรือนี่ ...
เสียงฝีเท้าของริต้าเดินห่างออกไป .... ตึง ตึง ตึง อยู่ ๆ ก็ใกล้เช้ามาแต่เป็นเสียงวิ่งแบบรีบร้อน

            “มาที่ห้องชั้นหน่อย” ริต้าพูดด้วยน้ำเสียงโกรธ ๆ
            “มีไร” ผมถามลุกขึ้นเดินตามริต้าไปที่ห้อง
            “ใจร้ายมาก” ริต้าบอกผม ... หลังจากเปิดประตูให้เห็นภายในห้อง ... ในห้องของริต้า ...
ตอนนี้มีกลุ่มควันสีขาว ๆ เต็มห้องไปหมด ... และกลิ่นเหมือนสเปรย์อะไรซักอย่าง
            “ควันอะไรเนี่ย” ผมถาม ... เอามือปิดจมูก ... ริต้าหยิบขวด foot spray ที่วางอยู่บนพื้น ..
ให้ผมดูแล้วชี้ร่องรอยบนเสื้อแจ๊กเกตสีดำที่แขวนอยู่ที่ประตู ... ที่มีข้อความว่า Bitch! … เป็นรอยที่เกิดจาก ...
สเปรย์ขวดที่ริต้าถืออยู่แน่นอน
           “ชั้นรู้ว่าใครทำ ...” ริต้าบอกเสียงโมโห
           “ใครรึ” ผมถาม ... ริต้าชี้มือขึ้นไปข้างบน ... ซึ่งเป็นห้องของลูกสาวของแคธี่ ... ก็แคทรีน่านั่นเอง
เสียงเพลงดังกระหึ่มประกอบด้วยเสียงกระทืบเท้า ... และเสียงกรีดร้องด้วยความเมามัน .. เหมือนมีผับแดนส์
อยู่ในห้องนั้น  …
          “ถึงเค้าจะไม่ชอบชั้น ... แต่แบบนี้มันก็มากเกินไป” ริต้าพูด น้ำเสียงยังคงโมโห ... แต่ผมรู้สึก ...
เหมือนริต้ารู้สึกอึดอัดจนแทบจะร้องไห้ ... ผมก็ไม่รู้ว่าแคทรีน่าไม่ชอบริต้าเพราะอะไร
แต่ที่แน่ ๆ ทำอย่างนี้มันก็ดูจะเกินไป ...
         “แล้วคุณจะทำยังไง” ผมถามริต้า
           “ไม่รู้สิ ...”  ริต้าพูดเหมือนปลง ๆ พลางเดินไปเปิดหน้าต่างระบายควันที่เกิดจากสเปรย์ขวดนั้น
           “รู้มั๊ย ... เค้าเคยขโมย my underware ด้วยนะ ... หรือว่าชั้นควรไปพูดกับแคธี่ดีมั๊ย” ริต้าบอก ...
ที่รู้เพราะแคธี่มาถามว่าของริต้ารึเปล่า ... แคธี่เจอที่ลิ้นชักในห้องของแคทรีน่า ... แคธี่คิดว่าไม่ใช่ของลูกสาว
เพราะมันดูเซ็กซี่เกินกว่าเด็กอายุ 14 จะใส่ได้ ... ผมว่าเด็กอายุ 14 ทำไมจะอยากเซ็กซี่บ้างไม่ได้
           “จะพูดว่าอะไรดีล่ะ” ริต้าถามผม ... ทำท่าคิด .. แล้วพูดว่า “ลูกสาวคุณน่ะ ... เลว … ดีมะ”
           “จะดีเหรอ ...” ผมตอบ ...   


ขณะที่คุยกัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ... นนท์โทรมา ... ผมเล่าเรื่องให้นนท์ฟัง
           “ทำไมนิสัยอย่างงี้ล่ะ” นนท์พูดด้วยเสียงหงุดหงิด
           “ริต้าจะไปฟ้องแคธี่ ... แต่เรากลัวแคธี่เสียใจ” ผมบอกนนท์
           “ขึ้นไปพูดกับแคทรีน่าให้รู้เรื่อง … แน่ใจนะว่าเป็นเค้าแน่ ๆ” นนท์พูด ... นนท์ขอพูดกับริต้า
           “... แน่ใจนะว่าเป็นแคทรีน่า” นนท์ถามริต้า
           “แน่สิ ... เค้าหาเรื่องชั้นบ่อยจะตาย” ริต้าตอบ
           “งั้นก็ขึ้นไปถามเค้าเลยว่า ทำบ้าอะไร ..ให้มันขอโทษ” นท์พูดด้วยเสียงฉุนเฉียว
           “ถ้าเค้าไม่ขอโทษล่ะ” ริต้ายังถามต่อไปอีก
           “อย่างน้อยก็ให้รู้ ... ว่าเราน่ะรู้นะ .. ไม่งั้นก็จะรังแกเราเรื่อยแหละ” นนท์พูด ก่อนที่จะบอกว่า ...
เดี๋ยวจะไปหา ที่บ้าน ‘ก็จริง ...’ ผมคิดว่านนท์พูดถูก ...

ริต้าก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสาม ... ห้องของแคทรีน่า ... โดยมีผมเดินตามไปติด ๆ เพื่อเป็นกองหนุน
เสียงเพลง ... ดังลอดออกมาจากห้องของแคทรีน่า ... ริต้าจับมือผม ... สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่
‘ก๊อก ... ก๊อก ...  ก๊อก ...’  ริต้าเคาะประตู
           “What ?” แคทรีน่าถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ... เปิดประตู ... ในห้องมีเพื่อนอยู่ราว 5-6 คน
มองมาที่พวกเรา (2 คน) หลายคนมอง .. แล้วพยักหน้าให้กันก่อนจะหัวเราะ คิก คัก ...
ตอนนี้ริต้ามาหลบหลังผม ... อ้าว!
         “ชั้นไม่กล้า ...”  ริต้ากระซิบ
           “ผมสงสัยว่าทำไมถึงมีควันในห้องริต้า ... และก็มีข้อความด่าเธอบนแจ๊กเกตที่แขวนอยู่ที่ประตู”
ผมเลยต้องรับหน้าที่ถาม
          “ชั้นจะรู้ได้ไง” แคทรีน่าพูด ... ยักไหล่ ... แล้วก็หัวเราะ ... เพื่อนทั้งกลุ่มหันมาหัวเราะ
          “เราแค่จะเล่าให้คุณฟัง ... ว่าตอนนี้ .... มันมีคนโรคจิต....เข้ามาทำอะไรแบบนี้ ... ในบ้าน ....
ซึ่งผมเห็นว่ามันน่าจะเป็น ‘คนเลว’ ... ก็เลยอยากเตือนให้คุณระวังด้วย .... และเรากำลังจะไปบอกแม่คุณ ...
ให้ระวัง .... ก็แค่นั้น” ผมพูดยาวเหยียด ... โดยไม่รอให้แคทรีน่าพูดอะไรอีก ... ผมก็จูงมือริต้าลงมาที่ห้อง
แอบเห็นแคทรีน่าทำหน้าเจื่อน ๆ
   

เสียงกริ่งดังที่หน้าบ้าน ...  ผมกับริต้าเดินไปเปิดประตู
          “เป็นไงบ้าง ...”  นนท์ถาม ... หลังจากที่เราขึ้นมานั่งรวมตัวกันที่ห้องของผมแล้ว
          “ก็แค่ได้ด่าไปนิดหน่อย”   ริต้าพูดพลางยิ้มให้ผม ... แล้วริต้าก็เล่าเรื่องราวให้นนท์ฟัง
          “ชั้นจะไปฟ้องแคธี่” ริต้าพูดอีก
          “น่าจะมีวิธีพูด ... ที่ไม่ทำให้เสียความรู้สึกกันทั้งสองฝ่าย” นนท์ตั้งข้อสังเกต
          “พูดให้ที”   ริต้าขอร้อง .. แล้วมองหน้าผม
ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ... “แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของเราจะดีเหรอ”
          “พูดได้แต่ต้องพูดแบบกลาง ๆ นะ” นนท์เตือน
 

ริต้าลากผมเข้าไปพบแคธี่ที่ห้อง (ของแคธี่) ... ผมเริ่มเล่าให้แคธี่ฟังว่า ... วันนี้พอริต้ากลับมาถึงบ้าน
เจอควันเต็มห้อง ... แล้วก็พบว่าเป็นควันจาก foot spray แล้วก็ก็ยังมีคำด่าที่แจ๊กเกตด้วย ...
        “แคทรีน่าใช่มั๊ย ...”  แคธี่ถามเสียงตกใจ
         “พวกเราไม่รู้ ...”  ผมพูด
         “ชั้นรู้จักลูกสาวชั้นดี ... ขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย” แคธี่พูด
         “ไม่เป็นไร ... เราแค่มาบอกอยากให้คุณรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในบ้านเท่านั้นเอง”  ผมพูด
         “พวกคุณน่ารักมา ...”  แคธี่พูด ... แล้วก้มหน้า ... ผมเห็นแคธี่ร้องไห้ ...
     
           
หลังจากเหตุการณ์นั้น 2-3 วัน ...
       “ชั้นหาที่พักใหม่ได้แล้ว” อยู่ ๆ ริต้าก็เดินมาบอกผมในห้อง
        “จะย้ายไปไหน …” ผมถาม ... ตกใจนิด ๆ เพราะริต้าไม่บอกให้รู้ล่วงหน้าเลย  .. ริต้าบอกที่อยู่ใหม่
        “ชั้นจะย้ายออกวันพรุ่งนี้  ...  คงคิดถึงคุณกับนนท์มาก” ริต้าพูดเศร้า ๆ
        “เราก็ยังเจอกันที่โรงเรียนนี่นา” ผมบอกริต้า …ใจหายเหมือนกัน ... คนเคยเจอกันทุกวัน
        “แต่คงไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกันบ่อย ๆ เหมือนอย่างตอนนี้”  พูดจบริต้าก็กอดผมแน่น ..
      “ชั้นจะคิดถึงคุณ ...” ริต้ากระซิบ
       
         
วันรุ่งขึ้น ... ริต้าเก็บของ... ผมกับนนท์ช่วยริต้าขนของไปที่ใหม่ ...
ที่อยู่ใหม่ของริต้า ... ไม่ใช่บ้านของ host family แต่เป็นแฟลตให้เช่า ... ซึ่งเป็นของโรงเรียน
(อังกฤษเรียก ‘แฟลต’ ส่วนเมกันเรียก ‘อพาร์ตเมนต์’) บรรยากาศดีมาก ... อยู่ห่างจากทะเลแค่เดินข้ามถนน
และห่างจากโรงเรียนแค่เดิน 3 นาที …
 

หลังจากช่วยริต้าขนของไปที่ใหม่แล้ว ... ผมกับนนท์ก็ไปทานอาหารเย็นที่บ้านของกาย ...
วันนี้หนิงจะทำเกี๊ยวน้ำกับข้าวราดแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ... (ก็กำลังจะเป็นสะใภ้ญี่ปุ่นนี่นา) ...
วันนี้มีพวกเราคนไทย 4 คน เคียวโกะ ฮิโรชิ และเพื่อนญี่ปุ่นอีก 2-3 คน ...
                “อยากกินไวน์ .. ไปซื้อกันมั๊ย”   เคียวโกะบอกกับผม
                   “ได้สิ” ผมตอบ
แล้วผมกับเคียวโกะก็ไปเลือกซื้อไวน์ ... ที่ร้านค้าใกล้บ้านของกายนั่นเอง
                   “เอาหวาน ๆ ไม่ค่อนชอบแบบขม”  เคียวโกะพูดพลางเลือกไวน์ .. ผมไม่ปฏิเสธ
เพราะปกติก็ไม่ดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อยู่แล้ว ... ถ้าหวาน ๆ ก็น่าจะพอกินได้
                   “เอาแบบนี้มั๊ย ... ถูกดี ... แล้วหวานด้วย” เคียวโกะเลือกไวน์ลดราคาที่ฉลาก
ระบุว่าความหวานค่อนข้างมาก ... เราหยิบไวน์ 4 ขวด แล้วเดินกลับไปที่บ้านกาย …


                  “เร็ว ๆ ... รออยู่” กายตะโกนบอกผมที่กำลังปิดประตูบ้าน ... ทุกคนนั่งกันที่โต๊ะอาหาร
เว้นที่ว่างไว้ 2 ที่คือข้างหนิงกับข้างนนท์ ... นนท์เอามือตบเก้าอี้ ...
               "นั่งนี่" นนท์ออกคำสั่ง
... ผมเดินไปนั่งข้างนนท์ ... (ว่าง่ายอยู่แล้ว) ... ส่วนเคียวโกะก็นั่งลงข้างหนิง ...                   
                 “หวาน ... อร่อยมาก”   เคียวโกะพูดหลังจากจิบไวน์ที่ซื้อมา
                  “ไวน์หวานไม่เห็นอร่อยเลย”  กายบอกแต่ก็จิบไวน์เป็นแก้วที่สอง
                  “แล้วทำไมไม่ซื้อเองล่ะ”  เคียวโกะบ่น ... รินไวน์ให้ผม
                  “เอามานี่”  นนท์บอก ... หยิบแก้วของผมไปดื่ม
                  “ขอจิบมั่งดิ” ผมบอก
                  “ไม่ได้ ... ห้ามกิน” นนท์หันมาพูดเสียงเบา
                  “ทำไมล่ะ” ผมพูดเสียงเบาเหมือนกัน
                  “ไม่ดี ... ไม่น่ารัก” นนท์พูด ... ขยิบตาให้ผม
แต่ผมก็แอบจิบบ้างเล็กน้อย ก็เป็นไวน์ที่หวาน อร่อยดี ...
               “บอกแล้วไง ... เอามานี่” นนท์พูดแล้วก็แย่งไวน์อีกแก้วที่เคียวโกะรินให้ใหม่ ... ไปดื่มจนหมด
หลังจากทานอาหารเสร็จ ... ก็เล่นเกม PSP ... ผ่านไปราว 2 ชั่วโมง ... หนิงขอตัวกลับบ้าน ...
               “ดึกแล้ว”  หนิงบอก
                  “งั้นกลับกันเถอะ ...”  ผมชวนนนท์ ซึ่งตอนนี้หน้าแดงมาก คงเพราะ (แย่งผม)
ดื่มไปเยอะนั่นเองหลังจากที่โทรเรียกแท็กซี่ได้ประมาณ 5 นาที  ... เสียงกริ่งหน้าประตูบ้านก็ดังขึ้น ...
               “แท็กซี่มาแล้ว”  ผมบอก ... ผมกับนนท์ก็ขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน ... ถึงแม้ระยะทางจะไม่ไกลมาก ...
แต่ถ้าเดินกลับบ้านทั้งที่นนท์สภาพเป็นแบบนี้ ... ผมคงแบกนนท์ไม่ไหวแน่ ...
แถมยังทั้งดึกและหนาวมาก ก ก ก ... กลัวจะเดินกลับไม่ถึงบ้าน ...
 

ระหว่างทางที่นั่งแท็กซี่มาที่บ้านผม ...
นนท์เอียงหัวมาซบ ... ที่ไหล่ ...
               “ขอพิง ..” นนท์พูดเบา ๆ แล้วหลับตา .....
                  “ให้ไปส่งที่บ้านนายก่อนมั๊ย”  ผมถาม ก็เห็นสภาพของนนท์แล้วอดเป็นห่วงไม่ได้
นนท์เอียงหน้ามาใกล้ ... กระซิบข้างหู ... “ไม่” ... ผมรู้สึกหน้าร้อน ๆ ยังไงไม่รู้ ..สงสัยเพราะดื่มไวน์
(แค่นิดเดียวเองนะ) … แท็กซี่จอดที่หน้าบ้านผม ... ผมขยับตัวลงจากรถ พยายามพยุงหัวนนท์ให้ตั้งตรง ..
                “นั่งดี ๆ”  ผมบอก … แล้วก็ก้าวลงจากรถ ... นนท์เดินตามลงมา ... จ่ายค่าแท็กซี่
               “ขออยู่ที่นี่ซักพัก ... ไม่อยากกลับบ้านสภาพนี้ ... เดี๋ยวโฮสมาเตอร์ตกใจ  ... เกรงใจเค้าน่ะ”
พูดจบ ...นนท์ก็เดินเกาะไหล่ผมเข้าบ้าน ...
                “เบา ๆ ... ดึกแล้วนะ ... เกรงใจแคธี่”  ผมบอกนนท์ ตอนนี้น่าจะราว ๆ ตีหนึ่ง
แคธี่น่าจะนอนแล้ว และผมก็ไม่อยากรบกวนแคธี่ด้วย ...
 


หลังจากที่พยายามเดินให้เบาที่สุด พวกเราก็ถึงห้องโดยสวัสดิภาพ ... โดยไม่ตกบันไดลงไปซะก่อน
นนท์เอนตัวนอนบนโซฟา ... หลับตา
                “หมดสภาพเลยเหรอ ...ไม่น่าเชื่อว่าจะคออ่อนขนาดนี้”   ผมพูดยิ้ม ๆ เอามือไปเขี่ย ๆ
ที่หน้านนท์ ... นนท์จับมือผมทันที ... แล้วกระชากอย่างแรง ... ผมเสียหลักล้มลงบนตัวนนท์ ...
นนท์กอดผมแน่น
                   “เอ้ย ...”  ผมดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของนนท์
                   “ซ่านักเหรอเราน่ะ ...” นนท์พูด ... หัวเราะเบา ๆ  ... หน้านนท์ห่างจากหน้าผมไม่ถึงคืบ ...
ผมพยายามดึงตัวให้ลุกขึ้นแต่ทำไม่ได้ ...
                “สู้เหรอ ...” นนท์พูดยิ้มๆ แล้ว พลิกตัวขึ้นคร่อมผมไว้  .... ผมพยายามดิ้น ... แต่นนท์ตัวใหญ่กว่าผมเยอะ ... 'สู้ไม่ไหว' ... ผมก็เลยเอานิ้วจิ้มไปที่เอวของนนท์ (รู้ว่านนท์น่ะบ้าจี้มาก) ...
แล้วก็ไถลตัวลงจากโซฟาทางด้านข้าง ... มาตกบนพื้น ... อึ๊ก ... รู้สึกขาไปฟาดอะไรบางอย่าง
                    "โอ๊ย" ผมร้องเสียงดัง ... นนท์เอามือปิดปากผม .. กลัวเสียงดัง .. เกรงใจแคธี่
                    “เจ็บเปล่า” นนท์ถาม พลางดึงมือผมให้ยืนขึ้น ... ผมสะบัดมือเบา ๆ ไม่ยอมลุก นั่งกอดเข่า
อยู่อย่างนั้น
                    “เจ็บล่ะสิ ...” นนท์ลงมานั่งข้าง ๆ แล้วลูบหัวผม
                    “เจ็บตรงไหน ... ไหนดูซิ”  นนท์ดึงมือผมออกจากขาที่ผมจับอยู่ ...
นนท์จับที่ขาของผมเบา ๆ
                    “ตรงนี่รึเปล่า ...” นนท์กดขาตรงที่เจ็บพอดี ... ผมพยักหน้า ... นนท์ก้มลง ...
ทำท่าเป่าตรงขาที่เจ็บ
                    “หายแล้วววว ...”  คงเห็นผมยังทำหน้าจ๋อย ... นนท์ดึงผมเข้าไปกอด ...
                 “หายแล้วววว นะ ...  หายแล้ววววว ....”  ผมกอดตอบนนท์ ... น้ำตาไหล ...
                 “เจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ”   นนท์ถามเบา ๆ
                    “เปล่า ... แค่ ... คิดถึงแม่ .... แม่ก็เป็นห่วงเราอย่างเงี้ยะเหมือนกัน ...”  ผมพูด ...
เสียงยังเครืออยู่ ... ผมยิ้ม ...ก่อนจะพูดต่อว่า
                     “แต่แม่ไม่แกล้งเราแบบนาย ...”
... นนท์คลายอ้อมกอดออก ... เปลี่ยนเอามือล็อคคอผมจากด้านหลัง ...
                “เจ็บแล้วยังจะมากวนประสาทอีกนะ ... ไอ้เด็กติงต๊อง”
         “เจ็บนะ” ผมบอกแล้วพยายามสะบัดตัวออก
         “เจ็บ ... แล้วยังจะซ่าอีก” นนท์กระซิบข้างหู ... ยังคงไม่ปล่อยมือ ...
        “กลับบ้านไปได้แล้ว ...” ผมไล่ให้นนท์กลับบ้าน
        “วันนี้ ... จะนอนที่นี่แหละ ...” นนท์พูดก่อนที่จะปล่อยมือ ... แล้วกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียง ...
ห่มผ้าแล้วหลับตา ... แกล้งทำเสียงกรน เบา ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 04-12-2008 22:25:48
^
^
ได้จิ้มๆๆ :laugh:

อยากบอกคนแต่งว่า
มา รอ อ่านทุกวัน ชอบ
เรื่องน่ารักและสนุก :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 04-12-2008 22:28:35
หยอกล้อน่ารักกันจังเลย นนท์น่ารักมากๆๆๆ :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-12-2008 22:30:01
นนท์รุกแล้ว  :z1: จะมีอะไรต่อจากนี้มั้ยน๊า  :-[ รอลุ้น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 04-12-2008 22:47:47
                                                      ทำไมน่ารักกันจังอ่ะคับ

                                                            ไม่มีอะไรจะมอบอ่ะคับ

                                                                           :L2:

                                                                  รักกันมากเน้อๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 04-12-2008 22:48:12
อิๆ แกล้งหลับหล่ะสิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 04-12-2008 22:50:34
นนท์น่ารักกกก
เมาแล้วกล้าาาาาาา
ช้อบบบบบบบบบบบบ
หึหึ
ตอนต่อไป :-[
บอกได้คำเดียวว่า
ไม่อยากรอแล้วม้ายยยยยยยยยย
นนท์สู้ๆ :ped149:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: cmos ที่ 04-12-2008 22:53:19
นนท์น่ารักเนอะ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 04-12-2008 22:53:45
 :-[

น่ารักมากมาย

นนท์ น่ารักจัง

ดูแล ดีมากๆ

ชอบตอนปลอบอ่ะ

เป่าฟู่ๆ กอดปลอบ

หายแล้ว..หายแล้ว


นนท์ มานี่มา เค้าก็เจ็บขา

มาเป่าให้เค้าหน่อย :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 04-12-2008 23:01:25
 :impress2: อะฮิอะฮิ นนท์ นอนนี้หรออออ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 04-12-2008 23:10:21
คืบหน้าล่ะ อิอิ
ตอนแรกคิดว่าจะคืบหน้าไปไกลกว่านี้ซะแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 04-12-2008 23:12:49
ขอบคุณ คุณเพื่อนมากกกกกกกกกกกครับที่มาต่อให้ได้อ่าน :really2:

ตอนหน้าขอยาวๆแบบนี้อีกนะคุณเพื่อนรักกกกกกกกกกกกก

นนท์เริ่มรุกกกกก แล้วงานนี้นายเอกของเราจะรอดดดดดดด...

พ้นค่ำคืนอันแสนยาวนานได้ไหมน้าลุ้นนนนนนนนนนน

ปล.ยิ่งฉันใกล้เทอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ ยิ่งอยากจะเผยใจ เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: phung ที่ 04-12-2008 23:41:17
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด

ขอมากรี๊ด กรีดร้องกะเรื่องนี้ด้วยคน

น่ารักม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


พี่นนท์ หยอกเล่นตลอดเวลา

ฮิ้ววววววววววววววววววววว

ทีเล่นทีจริง เสร็จจริง 5555555555+

อยากรู้ชื่อนายเอกแล้วววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 05-12-2008 00:31:03
นนท์ยังน่ารักเหมือนเดิม  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 05-12-2008 07:21:17
อ่านไป....ลุ้นไปสุดฤทธิ์

กะให้มีฉากหวานๆ

ปรากฏไม่มีอะไรเกิดขึ้น :เฮ้อ:
.
.
.
ตอนหน้าขอแบบหวานๆปนเสียเลือดนิดๆนะคะ  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 05-12-2008 09:55:13
จะก้าวหน้าไปอีกขั้นรึเปล่าเนี่ย :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 05-12-2008 12:30:43
 :z2:

น่าร้ากกกกกกกกกกก เอาไปเลย +1

รอเรื่องนี้ตลอดเลยนะ หลงรักความใจดีของนนท์

และความน่ารักของ "ผม"  ด้วย

ลุ้นๆๆ จะลงเอยเมื่อไหร่หนอ

มาบ่อยๆ นะ เพราะมีคนรออยู้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 05-12-2008 14:39:36
กรี๊ดดดดด.....น่ารัก น่าอิจฉาที่สุด แอร๊ยยยย  :impress2:
นนท์ขี้แกล้งอ่ะ  แต่อยากโดนแกล้งแบบนี้บ่อยๆ (จริงป่าวคะคุณเพื่อนขา...อิๆๆ)
ลุ้นๆๆ  ตอนต่อไปมาเร็วๆนะจ๊ะ   :L1:
ติดเรื่องนี้ซะแล้วเรา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: ~Kalianeko~ ที่ 05-12-2008 14:46:19
นนท์เมาแล้วน่ารักจัง

ถ้าไม่แกล้งจี้เอว   จะเกิดอะไรขึ้นรึเป่าหว่า  :-[

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 07-12-2008 02:57:32
หายยย ไปไหนนนนนนนนนนน :fire:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 07-12-2008 05:04:06
อยากบอกว่า นนท์ น่ารักเกินไปแล้วน๊า คลั่งยูจังเลยนนท์ อิๆ

แล้วจะรออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 07-12-2008 11:57:29
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ดดดดดดดดดดดดดดด

พึ่งมาอ่าน

น่ารักอ่ะ

นนท์จะน่ารักไปหนายยยยย

อิอิ คืนนี้นอนค้างโด้ยยยยย

ลุ้นๆๆ จะมีรัยเกิดขึ้นป่าว :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: MaryGoesRound ที่ 07-12-2008 12:32:33
อ่านแล้วใจเต้นได้เหมือนกันนะนี่เรื่องนี้

น่ารักดี




รู้จักนนท์แล้ว เมื่อไหร่จะได้รู้ว่าผมน่ะ ชื่ออะไรสักที





อ่านๆ ไป จะเจอชื่อเอง แบบห้ามเผลอ แหงๆ  555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: tvemmyxq ที่ 07-12-2008 13:15:37
อ้ากกกก

เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ
อ่านรวดเดียวเลย ><~~

บอกได้คำเดียวว่าน่ารักมั่กม้ากกก
ชอบบรรยากาศจังเลยค่ะ ได้จินตนาการถึงบรรยากาศที่นู่นด้วย

ติดตามนะคะ มาต่อเร็วๆน้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 07-12-2008 13:51:55
เคี๊ยกกกก พ่อนนท์ผู้อบอุ่น นี้ไม่อยากจะเชื่อว่ากำลังเล่าถึงตอนหน้าหนาว
เเหม มีนนท์อยู่ด้วยอย่างนี้อุ่นตายชัก กร๊ากกกกกก
อยากจะกรีดร้อง ตอนหน้าจะนอนด้วยกันแล้ว ครั้งแรกด้วย อ่า จิ้นนนนนนนน
ร๊ากกกก นนท์ที่ซู๊ดดดดดด คุณเจ้าของเรื่อง มาต่อเร็วๆ น่า ชอบมากอ่า เรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 07-12-2008 20:15:21
ง่า ยังม่มาต่ออีกหรอนี่

อุส่าต์ทำการบ้านรอจนทำเสดแล้วนี่

งอนคนเขียนและน้าไม่ต้องมาง้อเขาเลย

ปล.ถ้าอยากให้หายงอนมาต่อเลยนะขอแบบยาวววววววววววววมิดด้ามเลย :z10:

หรือไม่ก็ต่อทีเดียว10ตอนรวด OK ป่าว :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 07-12-2008 21:59:04
นนท์เริ่มรุกหนักขึ้น

เมาจริงหรือป่าว  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 08-12-2008 00:02:09
ก่อนอื่น ...
1. ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม .. ทุกความเห็นทำให้มีกำลังใจในการมาอัพบ่อย ๆ

2. ตอนนี้ (ตอนที่ 8 ) อาจจะสั้นไปหน่อย .. แต่พรุ่งนี้รับรองจะมาต่อแน่นอน ... เพราะเขียนเตรียมไว้แล้ว
แต่ถ้าเอาลงวันนี้จะไม่ค่อยสมบูรณ์ ...

3. พวกคุณสุดยอดจริง ๆ




ตอนที่ 8


... ผมเดินออกจากห้องน้ำ ... หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน เรียบร้อยแล้ว ...
นนท์ครอบครองเตียงโดยไม่เว้นที่ว่างไว้ให้เลย …
ผมยืนข้างเตียงที่คนตัวโตนอนกินที่แล้วคิด ‘นอนโซฟาก็ได้’ ...
ผมค้นผ้าห่มที่มีอยู่ผืนเดียวในตู้ออกมา ล้มตัวลงนอนห่มผ้า

คืนนี้อากาศค่อนข้างเย็น แม้กำลังจะย่างเข้า Spring แล้วก็ตาม ...
อุณหภูมิไม่น่าจะเกิน 10 องศา ... พยายามข่มตานอน ... แต่อากาศเย็นชะมัด ...
รู้สึกหนาวเข้าไปถึงกระดูก
ผ้าห่มก็บางเหลือเกิน ... เหลือบตาไปที่เรดิเอเตอร์ที่เร่งความร้อนจนสุด
ก็ดูจะไม่มีอนาคตที่จะทำให้รอดตายจากคืนนี้ได้ ...
(เรดิเอเตอร์ คือ เครื่องทำความร้อนที่ใช้พลังงานความร้อนจากไอน้ำร้อน โดยมี boiler
เป็นตัวต้มน้ำและปล่อยความร้อนผ่านท่อเหล็กไปรอบ ๆ ตัวบ้าน)
คงเป็นเพราะโซฟาตั้งอยู่ใกล้หน้าต่างมาก ... ลมเย็น ๆ (จริง ๆ สมควรเรียกว่า ‘ลมหนาว’ จะถูกต้องกว่า)
แทรกตัวผ่านช่องหน้าต่างที่แม้จะปิดสนิทแล้วเข้ามา ... แถมยังทะลุผ่านเสื้อผ้าเข้ามาทำร้ายกันได้อีก

หันไปมองคนที่แย่งเตียงกับผ้าห่มอุ่น ๆ ... ‘หลับเป็นตายเลยนะ’ …
แย่งเตียงคนอื่นแล้วยังหลับได้หน้าตาเฉย
คิดพลางเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ... ตั้งใจจะรื้อเสื้อแขนยาวที่พับเป็นระเบียบในตู้มาใส่เพิ่ม ...

           “มานอนนี่ ..” เสียงคนนอนเตียงออกคำสั่ง .... แล้วเลื่อนตัวไปนอนชิดผนัง พร้อมเปิดผ้าห่มออก
ผมหันไปมองแว๊บนึง ... ก้มหน้าค้นหาเสื้อกันหนาวต่อ ... เหมือนไม่ได้ยิน ...
ซักครู่ ... ผมลุกขึ้น ... ถือเสื้อกันหนาวที่เพิ่งหยิบออกจากตู้ติดมือไปด้วย 2 ตัว ... เดินไปที่โซฟา

   “ไปนอนที่เตียงเถอะ ... เรานอนนี่เอง” นนท์เดินมานั่งบนโซฟา ... เอนตัวลงนอน ...
หยิบผ้าห่มผืนบางขึ้นห่ม … ผมเดินไปที่เตียง ... นั่งมองนนท์ครู่หนึ่งก่อนล้มตัวลงนอนห่มผ้า …
… ‘อุ่นจัง’ ... คงเป็นไออุ่นที่หลงเหลืออยู่จากคนที่นอนเมื่อครู่
'อืมม .. กลิ่นหอมอะไรนะ ... ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากผ้าห่ม ... คงเป็นกลิ่นสบู่ของนนท์ ...'
คิดเพลินจนเคลิ้ม ... กำลังจะหลับ ... รู้สึกถึงมือเย็นเฉียบที่สะกิด

   “เถิบไปหน่อยดิ ... โซฟามันหนาว.... ” คนที่นอนบนโซฟาเมื่อครู่ ... ก็ทนหนาวไม่ไหวเหมือนกัน
‘ตัวโตซะเปล่า’ …. คิดพลางเลื่อนตัวจนเกือบชิดผนัง ...
เตียงข้างตัวยวบลงเล็กน้อย ... นนท์เปิดผ้าห่มออก ... เบียดตัวเข้ามาในผ้าห่ม
   “อย่างนี้ค่อยอุ่นขึ้นหน่อย” นนท์พูดยิ้ม ๆ และหลับตาลง ... ผมไม่ได้ตอบอะไร ...
เพราะง่วงจนไม่อยากจะลืมตา ... นนท์ขยับตัวมาใกล้จนชิด ... ผมเลื่อนตัวไปอีกจนติดผนัง
มือใหญ่แข็งแรงเอื้อมมาโอบ .. รั้งผมเข้าไปหา ... กระซิบข้างหู
   “นอนนะ ………..”      … ถึงจะรู้สึกแปลก ... แต่ก็อบอุ่นเหลือเกิน ...
... แล้วผมก็หลับไป  …

… รู้สึกตัวอีกที ... ก็ตอนที่ ... ริมฝีปากอุ่น ๆ ประทับที่ข้างแก้มเบา ๆ อย่างอ่อนโยน ...
นนท์กระชับอ้อมแขนให้ผมซุกหน้ากับแผ่นอกกว้าง
 .... ... ตอนนั้น ....... ผมรู้สึกงง ๆ มึน ๆ ง่วง ๆ แต่ก็รับรู้ถึงสัมผัสของริมฝีปากที่ข้างแก้มอีกครั้ง ...
นนท์กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ...
   “อืม ม ”  ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่าอะไร ... บอกได้แต่ ‘รู้สึกดีจัง’ …
คราวนี้ผมซุกหน้าเข้าไปในอ้อมแขนนั้นอย่างเต็มใจ … อยากอยู่แบบนี้ไปนาน ๆ …

เกือบเช้าแล้ว ...
   “ … เพื่อนครับ ...” นนท์เรียกชื่อเบา ๆ ... ผมลืมตาอย่างงัวเงีย ... นนท์กำลังมองหน้าผม ...
ตาเป็นประกาย ... แล้วก็เลื่อนหน้ามาใกล้  .... จมูกของนนท์สัมผัสกับจมูกของผม
   “rub the nose” จมูกของนนท์ถูกับจมูกของผม .. เบา ... เบา ..
   “อืมม ... rub the nose …” ผมหัวเราะ ... ‘ถ้ามันทำให้รู้สึกดีขนาดนี้ ... ตอนที่เล่นเกม I dare you … คงทำไปแล้วล่ะ’ .... นนท์เลื่อนจมูกไปที่แก้ม ... อีกครั้งก่อนจะพูดว่า
   “รู้มั๊ย ... ตอนที่ ‘เพื่อน’ หลับ ... โดนหอมแก้มไปเป็นร้อยทีแล้ว ...” พูดจบทำหน้าสลดพูดต่อ
   “เราเสียเปรียบ ... เพื่อนไม่หอมแก้ม ‘เพื่อน’ เลยซักครั้ง” ... นนท์เรียกชื่อผม
และแทนตัวเองโดยใช้สรรพนามว่า ‘เพื่อน’ …
ผมยิ้ม ... แล้วซุกหน้าลงในอ้อมแขนนนท์อีกครั้ง ... ไม่พูดอะไร
นนท์จูบที่หน้าผากเบา ๆ … ‘นี่คงเป็น... ครั้งที่ร้อยหนึ่งแล้วสินะ ...’
แล้ว … เราสองคนก็หลับไปอีกรอบ ... หลับ ๆ ตื่น ๆ ไปจนเช้า ....

   “เพื่อนครับ ... ตื่นเถอะ ... เช้าแล้ว” นนท์กระซิบข้างหู ... .. ไล้จมูกไปมารอบ ๆ ใบหู...
   “จั๊กจี้ ...” ผมหดคอ ... หัวเราะเบา ๆ …
            “เหรอ ... ท่าจมูกพิฆาต” คนพูดไม่หยุดแกล้ง ... ส่วนคนโดนแกล้งก็ทั้งผลักทั้งดัน ‘จมูกพิฆาต’
   “… ต้องกลับแล้วล่ะ ...” นนท์พูดหลังจากหยุดแกล้ง ... คนให้ ‘จั๊กจี้’ จนเหนื่อย ... พลางลุกขึ้นนั่ง
   “อือ ...” ผมตอบในลำคอ
   “ไม่รั้งไว้หน่อยเหรอ” นนท์ถาม ... แกล้งทำหน้างอ ... ผมส่ายหน้า
นนท์ลุกขึ้นยืนข้างเตียง ... ดึงมือผมให้ลุกขึ้นนั่ง ... ผมขืนตัวไว้ไม่ยอมลุก ...
          “ขี้เกียจแต่เช้าเลยนะ ...” นนท์เก๊กเสียงดุ ... ผมลุกขึ้นนั่ง
            “กลับจริง ๆ แระ ...” นนท์พูดหลังจากคว้าเสื้อแจ๊กเก็ตมาสวม  ...
แล้วโน้มตัวลงมาจูบลาที่หน้าผาก ... หันหลังกำลังจะเดินไปที่ประตู ...
   “เดี๋ยว ...” ผมเรียก ... ก้าวเท้าเข้าไปหานนท์ ...
โน้มคอคนตัวสูงกว่าลงมา ... จูบแก้มเร็ว ๆ ทีหนึ่ง
คนโดนจูบทำตาโต ... แล้วยิ้ม
   “... ไม่เสียเปรียบแล้วนะ” ผมพูด ... ก้มหน้ามองพื้น  






หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 08-12-2008 00:03:29
^

^


ได้จิ้มคุณเพื่อนซะที

 :mc4:


กีสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

น่ารักไม่ไหวแล้วว
มันโฮกกกกกกกกกมากกกกกกก
      [b]“เราเสียเปรียบ ... เพื่อนไม่หอมแก้ม ‘เพื่อน’ เลยซักครั้ง” [/b]    
“เดี๋ยว ...” ผมเรียก ... ก้าวเท้าเข้าไปหานนท์ ...
โน้มคอคนตัวสูงกว่าลงมา ... จูบแก้มเร็ว ๆ ทีหนึ่ง
คนโดนจูบทำหน้าโต ... แล้วยิ้ม
   “... ไม่เสียเปรียบแล้วนะ” ผมพูด ... ก้มหน้ามองพื้น   [/color]

นายเอกของเรา ฮาๆๆๆ....."เพื่อน" นี่เองงงงงงงงงงง
มีน่ารักกว่านี้อีกม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
 :กอด1:


+1 ให้ ความน่ารัก ของคุณเพื่อน กับ นนท์
รักนะจุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 08-12-2008 00:11:02
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คุณเพื่อน
คุนเพื่อนนั่นเอง
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด :m25:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 08-12-2008 00:15:41


...น่ารักว่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 08-12-2008 00:17:05
อิอิ
เขินแทน
และแล้วก็รู้ชื่อล่ะ
เพื่อน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 08-12-2008 00:52:45
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ดดดดดดดดดดดดดดดดด

ว๊ายยยยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เขินอ่ะ

คุณเพื่อนแก้มช้ำหมดแล้วมั๊งงง

คราวหน้าต้องเอาคืนให้เท่าๆกันดิ เสียเปรียบแย่ คิคิ

 :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 08-12-2008 02:13:30
 :z1: :o8: :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 08-12-2008 02:58:09
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-12-2008 03:02:14
แล้วก็รู้ชื่อแล้ว มีจุ๊ฟรับอรุณกันด้วย  :-[ ไม่ไหวแล้ว 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 08-12-2008 04:13:36
 :-[ :-[ :-[

ถึงสั้นแต่ก็สั้นโดนใจ อิๆ แล้วจะรออ่านตอนต่อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 08-12-2008 05:50:09
หมายความว่ายังงัยนี่ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: tvemmyxq ที่ 08-12-2008 06:03:33
อ้ากกกกก

คุนเพื่อน และ เพื่อน น่ารักจังเลยยย ><~~~~

อบอุ่นจัง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 08-12-2008 10:00:45
 :m25:

กรีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส น่าร้ากกกกกกกกก

เพื่อนรู้ไหมว่าเพื่อนกันเขาไม่ทำ ไม่ทำ ไม่ทำ งั้นหรอก

ชื่อก็น่ารัก ตัวจิงต้องน่ารักกกกกกกกแน่ๆเลย

นนท์อ่ะ หวานจัง อิจฉาเพื่อนสุดๆๆๆๆ

อ่านไปบิดไป เขิลลวุ๊ย

เอาไปอีก +1 ชอบโดยส่วนตัว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 08-12-2008 10:06:38
^
^
กระโดดโหม่ง แม่นางตั๊กแตนปาทังก้า
ตอนนี้มาแบบมีสติ
เมื่อคืนอ่านแล้ว เขิน แทบบ้าไปเลย
เม้นไม่รู้เรื่องเลย
หวานนนนมาก
นนท์น่ารักมาก
คุณเพื่อน ของ นนท์ก็คงจะน่ารักมากเหมือนกัน
หอมแก้ม รับอรุณนี่
ฆ่าคนอ่านได้เลยนะ  :m25:
แต่ตอนนี้
ขอ บอก คุณ เพื่อน (ของคุณเพื่อน)ว่า
รอ ตอนใหม่ มากมาย
ช่วยมาลงด้วย
มีคนรออยู่
อย่างใจจดใจจ่อ   :z2:

ไม่ลืมที่จะให้กำลังใจ(+1)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 08-12-2008 10:36:15
น่ารักมากๆเรื่องนี้ ขอบคุณ...คุณเพื่อนค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 08-12-2008 10:41:58
ชอบคำนี้จังเรย   คุณเพื่อน

หวาน ด้ายอีก


รอตอนต่อ ไป นะค่ะ     :-[



 :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: phung ที่ 08-12-2008 10:55:28
โอยย

น่ารักโฮกกกกกกกกกกกกก

คุณเพื่อนนน

เพื่อนนน


เพื่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 08-12-2008 11:18:33
 :-[
น่าร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: torto ที่ 08-12-2008 11:27:39
ก้อติดตามอ่านเรื่องนี้อยู่นะ  เพียงแต่เรารอดูก่อนว่าเรื่องจะออกมาแนวไหน  นายเอกกะพระเอกของเรานิสัยเป็นงัย

อ่านมาเรื่อยก็เริ่มชอบนะ  แล้วจะติดตามต่อไป :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 08-12-2008 12:31:11
อ่านทันแล้ว :mc4:

มีพรายมากระซิบบอก



อร๊ายยยยยยยยยยยยยย :-[


น่ารักเวอร์  กรี๊ดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 08-12-2008 12:40:25
^

^

ในที่สุด เจ๊ ก็ตามมา

55555

เรื่องนี้น่ารักเนอะ


 :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 08-12-2008 13:03:34
อ่ะโฮกกกกกกกกกก คุณเพื่อนทั้งสองคนเน้ น่ารักไปม๊อยยยยยยยย
การี๊ดดดดดดดดดด ไม่ถึงขนาดลุ้นไว้ แต่ว่าน่ารักกว่าที่คิด กรี๊ดดดดดด
คุณเพื่อน นนท์ของคุณเพื่อนน่ารักที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ออดอ้อนดูแลเก่งมากมาย อิจฉาคุณเพื่อนอ่า อยากได้นนท์มาอยู่ใกล้ๆ บ้างจัง ฮิ๊ววววว
คุณเพื่อนมาต่ออีกเร็วๆ น่าชอบมากมายเลยอ่า เรื่องเน้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 08-12-2008 13:31:53
กรี๊ดดดดดดดดด น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก หอมก้งหอมแก้ม  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 7)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 08-12-2008 14:19:30
นิยายรักหวานแนวใส  :-[

น่ารักมาก น่ารักละลายหัวใจเลยวุ้ย :jul3:

+1 ให้คนเขียน

กอดนิดหอมหน่อยสุขใจจริ๊งจริง :o8:
 :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 08-12-2008 14:21:30
รู้ชื่อนายเอกของเราแล้ว  "เพื่อน"

น่ารักจังมีการผลัดกันหอมแก้มด้วย

อิจฉา...... :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 08-12-2008 14:43:55
+1 ให้น๊า
น่ารักมากๆ อุ่นขึ้นมาในทันที
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 08-12-2008 14:46:01
โอย...หวานมั่กมากกกก  ใจละลายหมดแล้ว
แค่หอมแก้ม(101ครั้ง)กันแค่เนี๊ยะ    :o8: เรายังเขิลเกือบตาย
ชอบนนท์ที่ซู๊ดดดด
 :pig4: คุณเพื่อนมากค่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 8)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 08-12-2008 17:44:44
คุณเพื่อนนนนนนนนนนนนนนน  :กอด1:
เพื่อนของคุณเพื่อนน่ารักกกกจริงๆ  :-[

คุณเพื่อนก็น่ารักมากกกกกกกกกกกก


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 08-12-2008 22:18:21
ตอนที่ 9



หลังจากทานอาหารเช้า ... ผมนั่งที่โซฟา .... มองออกไปนอกหน้าต่าง
นึกถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ...
รู้สึกแปลก ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ... ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ... งงและสับสนไปหมด 
คิดไปเรื่อยเปื่อย ... ไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อไป ... ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ... ดีหรือไม่ดี
เพราะจริง ๆ แล้ว ดีหรือไม่ดี ... มันเป็นอัตวิสัย ... ขึ้นอยู่กับคนมอง
บอกตรง ๆ ว่าสับสนมาก ... ควรจะทำยังไงต่อไป
ควรเลิกคบกับนนท์มั๊ย ... แล้วไอ้ที่ทำไปน่ะผิดรึเปล่า (ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้ทำอะไรนักหนา) ...
ไหนจะแฟนของนนท์อีกล่ะ ...
ทำร้ายจิตใจ ... เจ็บกว่าทำร้ายร่างกายอีกนะ
... แล้วนนท์ทำไปเพราะอะไร ... คิดมาก .... ปวดหัว ... เครียด ... จนเผลอหลับไป

สะดุ้งตื่นเพราะแคธี่เรียกให้ลงไปรับโทรศัพท์ ...
“มากินข้าวเที่ยงที่ร้าน ‘King Fish’ กัน ... มีเรื่องอยากคุยด้วย”  เสียงของกายดังมาตามสาย
“ได้สิ ...”  ผมตอบ
“อยู่กับนนท์รึเปล่า” กายถาม
“เปล่า ... มีไร ... ให้โทรชวนมั๊ย”
“ไม่ต้องดีกว่า ... มีเรื่องอยากคุยด้วย ... ไม่รู้จะคุยกับใคร”  เสียงกายดูเหมือนมีเรื่องทุกข์ใจจริง ๆ …
ผมออกจากบ้านไปหากายที่ร้าน ‘King Fish’ ตามนัด ... นึกถึงนนท์ ... น่าจะหลับอยู่
กลับบ้านค่อยโทรหาก็ได้ ... นนท์จะได้นอนนาน ๆ

.....

ที่ร้าน ‘King Fish’
กายสั่ง Fish and Chips (บางทีเรียก fish 'n' chips)
ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของร้าน ...
ร้านนี้เป็นร้านที่ Fish and Chips อร่อยที่สุดในเมือง ...
ส่วนผมสั่ง Soup กับ Chicken and Chips
ไม่ค่อยชอบ Fish and Chips ซักเท่าไหร่ ... เพราะไม่ชอบปลาทอดลักษณะแบบนั้น
ทั้งที่ Fish and Chips ถือเป็นอาหารต้นตำหรับของอังกฤษก็ว่าได้
วิธีการทาน Fish and Chip ก็จะโรยเกลือ ... เหยาะ Vinegar
(น้ำส้มสายชูที่มีสีออกน้ำตาลเกิดจากการหมัก รสเปรี้ยว และมีกลิ่นฉุน)
เล็กน้อย ... เพื่อให้มีรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ
การทานอาหารของคนอังกฤษ ... จะไม่ใส่ซอสมะเขือเทศ
ซึ่งต่างจากคน ‘เมกัน’ ที่ชอบซอสมะเขือเทศเป็นที่สุด 
บางคนก็ว่าอาหารอังกฤษไม่มีรสชาติ จืด ๆ เละ ๆ แต่ผมว่ามีหลายอย่างที่อร่อยมาก
หรือเพราะว่าผมชอบอาหารรสชาติค่อนข้างจืดอยู่แล้วก็ไม่รู้นะ
ที่สำคัญคือไม่ชอบซอสมะเขือเทศเอาซะเลย ... ก็เลยถูกใจกับรสชาติของอาหารอังกฤษ
อยู่หลายอย่าง (ยกเว้น Fish and Chips) แต่ผมก็ชอบ Chips นะ ...
เพราะมันก็คล้าย ๆ กับ French Fried
ต่างกันที่ Chips จะมีชิ้นที่หนากว่า กัดลงไปจะรู้สึกว่าตรงกลางชิ้นจะนุ่ม
ส่วน French Fried ชิ้นจะเล็ก ๆ บางๆ และกรอบมากกว่า

หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ...
   “มีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่า” ผมถามกาย
             “รู้ได้ไง”
             “เสียงเศร้ามาก .... ”
              “รู้สึกได้เลยหรือ”  กายยิ้มเศร้า ๆ ... แล้วเล่าว่า .... เมื่อเช้าได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนที่เมืองไทย
แจ้งข่าวว่า ... แฟนเก่าของกายเสียชีวิต
             “เราว่า ... เราจะกลับเมืองไทย ... ไปงานศพเค้า”
             “เสียใจด้วยนะ”  ผมนิ่งไม่รู้จะหาคำพูดอะไรมาปลอบกายได้ดีกว่าการนั่งอยู่เป็นเพื่อนเงียบ ๆ
             “เราเสียใจว่าตอนที่มีชีวิตอยู่ ... ไม่ค่อยได้ทำดีกับเค้าเท่าไหร่เลย ... ทำให้เค้าเสียใจบ่อย ๆ ...
นี่ก็เพิ่งเลิกกันตอนก่อนมาที่นี่ไม่กี่เดือน ... ถ้า .... เรารู้ว่าเค้าจะไปเร็วอย่างนี้  ....
เราคงจะทำดีกับเค้ามากกว่านี้” กายพูดเสียงเศร้า ก้มหน้าตลอด “...  ชีวิตมันสั้นนะ ...
อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ...”

... เรื่องของกายทำให้ผมคิดถึงเรื่องที่ทำให้ผมสับสนเมื่อเช้า …
… จริงสินะ  ... ชีวิตคนเราบอบบางจะตาย ... พริบตาเดียวก็อาจไม่ได้เจอกันแล้ว ...
สิ่งที่เราจะทำได้ก็คือ ... ต้องทำในวันที่มีเค้าอยู่ ... เท่านั้น ...

กายขอตัวกลับบ้านเพื่อไปเตรียมตัวกลับเมืองไทย
“ขอบคุณมาก”  กายบอก ... หลังจากเดินออกจากร้าน
“ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย”
“แค่มีคนรับฟัง ... ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ”

ผมเดินอ้อยอิ่ง ... ไม่รีบร้อน ...
อากาศสดชื่น ... หายใจเข้าลึก ๆ เต็มปอด
แวะซื้อสตรอเบอร์รี่สด ... ลูกโตที่ Mark & Spencer ซักกล่องก่อนกลับบ้านดีกว่า
(Mark & Spencer ที่อังกฤษไม่แพงเท่าเมืองไทยหรอก ...
อาหารหรือผลไม้แม้จะแพงกว่าที่อื่นบ้างแต่คุณภาพดีสุด ๆ ... โดยเฉพาะสตรอเบอร์รี่
ลูกโต รสชาติดี สด อร่อย .... และที่สำคัญนนท์ชอบ)
ตั้งใจว่า ... กลับถึงบ้านจะโทรหานนท์

... พอกลับถึงบ้าน ... แคธี่บอกว่านนท์มาหาและออกไปแล้ว ...
ผมรีบโทรหานนท์ทันที  ... แต่นนท์ไม่รับ
 ‘เป็นไรอีกแระ’ ผมคิดในใจ ... นนท์เนี่ยะขี้งอนชะมัด
ต้องโกรธที่ผมออกจากบ้านไปไหนแล้วไม่ยอมบอกแน่ ...
... ผมพยายามโทรอยู่ 2-3 ครั้ง
 ... ในที่สุด .... นนท์ก็ยอมรับโทรศัพท์
   “อยู่ไหนอะ …” ผมถาม
            “มีไร” นนท์ไม่ยอมตอบ ... แต่ถามกลับมาเสียงห้วนและดูหงุดหงิด ...
นึกแล้วเชียว ต้องหงุดหงิดเรื่องที่ผมออกไปข้างนอกแล้วไม่บอกชัวร์
            “เดี๋ยวจะไปหา” ผมพูด
           “ไม่ต้อง”  นนท์พูดก่อนกดตัดสาย ...
ผมก็ไม่ละความพยายาม ... เพราะรู้สึกว่า ... เรื่องนี้ผมก็มีส่วนที่ทำให้นนท์โกรธ
ผมรู้จักนนท์ดี ... เดี๋ยวก็หาย
           “ ‘เพื่อน’ คร๊าบ ... มาหาเพื่อนที่บ้านหน่อย ... เพื่อนอยากคุยกับ ‘เพื่อน’ ”  นนท์เงียบ .. ไม่ตอบ
           “ ‘เพื่อน’ จะมาเปล่า ... ” ผมถามซ้ำไปอีกครั้ง .. นนท์กดตัดสาย (อีกแระ) …
ผมพยายามโทรหานนท์อีก ... นนท์ปิดโทรศัพท์ไปแล้ว ... ตอนนี้ผมเริ่มหงุดหงิดเล็ก ๆ กับคนไม่มีเหตุผล ...
หรือเราไม่มีเหตุผล (เริ่มสับสนในตัวเอง) ... ตัดสินใจไม่โทร ... กลับห้องดีกว่า ...

หลังจากเดินไปมาในห้องเกือบยี่สิบรอบ ... เวลาผ่านไปแค่ 5 นาที ...
ดูเหมือนนานซัก 5 ชั่วโมง ... จนผมทนไม่ไหว
เดินลงมาที่ห้องข้างล่างอีกครั้ง ... กดโทรศัพท์หานนท์
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงกริ่งหน้าบ้านดัง ... ผมวางโทรศัพท์เดินไปเปิดประตู ...
   นนท์ยืนอยู่ที่หน้าประตู ... ไม่ยิ้มซักนิด ... ผมลากแขนนนท์ให้เดินตามไปคุยกันในห้อง ...
   “ไปไหน ... ทำไมไม่บอก ‘เพื่อน’ ... ตั้งใจมาชวนไปทานข้าวกลางวัน ... โมโหหิวรู้มั๊ย”
นนท์พูดน้ำเสียงหงุดหงิดแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา ... ผมปิดประตูห้อง ... นั่งลงข้าง ๆ นนท์ ...
ผมเล่าเรื่องกายให้นนท์ฟัง รวมถึงเรื่องที่ผมคิดมากเมื่อเช้า ... และบทสรุปที่คิดได้หลังจากได้ยินเรื่องของกาย
   “คิดมาก ...”  นนท์รั้งตัวผมเข้าไปกอด ... กดหัวผมให้ซบลงบนไหล่
   “แต่ตอนนี้ไม่คิดแล้ว ...”  ผมพูด
... ผมไม่อยากคิดไปไกลกว่านี้ อนาคตก็คือเรื่องของอนาคต
ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ ... มันอาจจะดูเหมือนคนเห็นแก่ตัว ...
แต่ผมว่า ... ถ้าปัจจุบันเราไม่มีความสุข
เราจะมีอนาคตที่มีความสุขได้ยังไง ...
มัวแต่คิดถึงอนาคตมาก ๆ อย่างเดียว ... แล้วถ้าไม่มีอนาคตล่ะ ... เราต้องมานั่งเสียใจอีกไหม ...
เราจะต้องคอยบอกตัวเองซ้ำ ๆ รึเปล่าว่า .. what if …ถ้ารู้อย่างงี้เราคงจะทำ ...
แต่ผมก็เสียใจนะ ... ถ้าความคิดของผมจะต้องทำให้ใครเสียใจ
และไม่ใช่แค่เสียใจอย่างเดียว ... รู้สึกผิดด้วย ...
 
นนท์เอื้อมมือมาลูบผมที่ปรกหน้าออก ...  จูบเบา ๆ ที่แก้มสองข้าง ...
   “ไม่ชอบให้คุยกับกายเลย …ไม่ชอบ”  นนท์พูดงอน ๆ เหมือนเด็กเกเร
   “กายเนี่ยนะ”  ผมถามเสียงสูง
   “ไม่ชอบให้คุยกับใครทั้งนั้น ... ถ้ามันทำให้เพื่อนคิดมาก” นนท์พูด ...
   “งั้นเพื่อนก็คุยกับ ‘เพื่อน’ ไม่ได้สิ” ผมบอกนนท์ยิ้ม ๆ ... นนท์หยิกแก้มหนึ่งที
ก่อนดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น ...
   “ร้ายนักนะเรา .. ” นนท์กัดฟันพูดเหมือนคนหมั่นเขี้ยว ... แล้วหัวเราะ
   “กินผลไม้ป่ะ” ผมถามแล้วชี้มือไปที่โต๊ะตัวเตี้ยใกล้เตียง
   “ซื้อสตรอเบอร์รี่มาขอโทษใช่มั๊ย” … นนท์พูดแล้วปล่อยให้ผมเป็นอิสระ ...
นนท์เดินไปหยิบกล่องสตรอเบอร์รี่ 
   “ป้อนหน่อย …” นนท์หยิบสตรอเบอร์รี่สด ... สีแดงจัด ... ลูกใหญ่ที่สุดในกล่องมายื่นให้ ...
‘คนตัวโตนี่ขี้อ้อนชะมัด’ … ผมแกะขั้วของสตรอเบอร์รี่ออก ... ยื่นให้นนท์ ... นนท์หยิบสตรอเบอร์รี่ ... 
ยิ้มท่าทางเจ้าเล่ห์ ...
   “ต้องป้อนแบบนี้” นนท์คาบสตรอเบอร์รี่ด้านหนึ่งแล้วยื่นหน้ามาใกล้ ... ทำท่าให้ผมกัดอีกด้านหนึ่ง
ผมกัดสตรอเบอร์รี่ ... ทำให้ริมฝีปากของเราต้องสัมผัสกันอย่างช่วยไม่ได้ ... นนท์ยิ้มก่อนถามว่า
   “อร่อยมั๊ย”
   ผมยิ้มแล้วแกะขั้วสตรอเบอร์รี่อีกลูก “อร่อยมาก” … ยังไม่ทันป้อนสตรอเบอร์รี่ลูกที่สอง ...
นนท์ก็ยื่นหน้ามาจนชิด ... ริมฝีปากอุ่น ๆ ของนนท์สัมผัสกับริมฝีปากของผมแผ่วเบา ...
แบบนี้สินะที่เรียกว่า ‘จูบ’ ... จูบของนนท์แสนจะนุ่มนวล ... อ่อนหวาน ...
และอร่อย ... ‘จูบ’ รสสตรอเบอร์รี่ ...


   หลังจากกินสตรอเบอร์รี่หมดกล่องด้วยวิธีการป้อนแบบของนนท์ ...
นนท์ลุกขึ้น ... ดึงมือผมให้ลุกตาม แล้วพูดว่า
   “ไปบ้าน ‘เพื่อน’ กัน ... มีอะไรจะให้ดู”
... เมื่อถึงที่ห้องนนท์ ... นนท์ค้นหาอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ... แล้วยื่นให้ผม ...
เป็นการ์ดใบหนึ่งส่งมาจากเมืองไทย ... ผมพลิกดูหน้าซอง  ... ทำหน้าสงสัย
   “เปิดดูสิ” ... นนท์บอกแล้วนั่งลงข้าง ๆ
ผมเปิดซองการ์ดออกดู ... การ์ดสีชมพูมีกลิ่นหอม ... ลักษณะเหมือนการ์ดแต่งงาน …
ผมมองหน้านนท์แล้วถามว่าเป็นการ์ดของใคร
เพราะชื่อในการ์ดใบนั้นผมไม่รู้จักซักคน …
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสาว เจ้าบ่าว หรือพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย
นนท์ชี้ให้ดูชื่อของเจ้าสาวแล้วบอกว่าเป็นชื่อของแฟนนนท์ ... ไม่ใช่สิ ...
ต้องเรียกว่าชื่อของ .. แฟนเก่า .. ของนนท์ ...
จะว่าไป ... ผมเองก็ไม่รู้จักแฟนเก่าของนนท์ ... หรอก ...
เคยได้ยินแต่ชื่อ ... ตอนที่รู้จักนนท์แรก ๆ ที่อังกฤษนี่แหละ
ผมดูวันที่จัดงานแต่งงาน .. นี่มันตั้งแต่เดือนที่นนท์มาอยู่อังกฤษเดือนแรกเลยนี่นา
และพลิกดูวันที่ประทับตราไปรษณีย์ ... ก่อนวันแต่งงานไม่กี่วัน ...
ผมมองหน้านนท์ ...
             “จำวันที่บี (เพื่อนของนนท์ที่อยู่เยอรมัน) มาที่นี่ได้มั๊ย ... ที่เราไปลอนดอนกันน่ะ ...
พอบีรู้ข่าว ... บีก็รีบมาเลยอังกฤษเลย ... คงจะมาปลอบใจน่ะ ...
ก็เห็นแววตั้งแต่ก่อนจะมาแล้วว่า ... ไม่นานคงเลิกกัน ... แต่ไม่คิดว่าจะเลิกกันแบบนี้ ... ”
ผมจับมือนนท์บีบเบา ๆ เชิงปลอบใจ ... นนท์ยิ้มไม่แสดงอาการเสียใจซักนิด ...
‘หลายเดือนแล้วคงทำใจได้แล้วมั้ง’ ...
   “แต่ ‘เพื่อน’ รู้สึกโชคดีมากกว่า ... ที่ไม่ต้องเป็นคนทำร้ายเค้า ... เพราะตอนนั้นก็สับสนอยู่เหมือนกัน”
นนท์มองหน้าผม ... ยิ้มให้อย่างมีความหมายก่อนพูดว่า
   “ก็ตอนนั้น ... ‘เพื่อน’ รู้สึกแปลก ๆ ... บอกไม่ถูกว่าเป็นอะไร” นนท์เอื้อมมือมาโอบเอว
แล้วดึงผมเข้าไปกอด ...
          “อยากอยู่กับคนนี้ ... คนเดียวเท่านั้น” นนท์พูดจบ ... ก้มลงจูบเบา ๆ ที่แก้ม ... ผมรู้สึกหวิว ๆ
ใจสั่นบอกไม่ถูก ... น้ำตาไหลมาจากไหนไม่รู้ ... คงเป็นเพราะความสับสน กังวลใจ
และความวุ่นวายใจ รวมถึงความรู้สึกผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า ... มันหายไปหมดแล้ว ...
มันคงเป็นน้ำตาแห่งความสบายใจสินะ ... นนท์เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตา ...  แล้วริมฝีปากอุ่น ๆ
ก็ประทับที่เปลือกตาทั้งสองข้างแผ่วเบา   นนท์กอดผมแน่น ... กระซิบข้างหู
   “ขอโทษนะ ... ที่กอดเพื่อนบ่อยมาก  .. อยากกอดเพื่อนมาตั้งนานแล้ว ...
 ‘เพื่อน’ รู้สึกดีมากเลย ... เหมือนกอดใครซักคนที่จะต้องคอยปกป้องยังไงก็ไม่รู้ ...
 ... แม้บางที ... เพื่อนอาจไม่ต้องการให้ ‘เพื่อน’ ปกป้องขนาดนั้นก็ตาม” นนท์พูด
แล้วก้มลงไล้จมูกรอบ ๆ ใบหูอย่างเชื่องช้า อ่อนโยน ...
   “ขนลุก ...” ผมพูดแล้วหัวเราะ ... นนท์จูบแก้ม ... เอื้อมมือมาจับบ่าให้หันหน้าไปหา ...
ริมฝีปากอุ่นของนนท์ประทับลงมาบนริมฝีปากของผม ... รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงจนเกือบทะลุออกมา
มือสั่น และร้อนผะผ่าวที่ใบหน้า ... มันเป็นความรู้สึกที่ซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก ...
   ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูที่ห้องนนท์ ... โฮสมาเตอร์เรียกให้นนท์ไปทานอาหารเย็น
... นนท์ขานรับ ...
   “ต้องกลับแล้วล่ะ …แคธี่คงรอเหมือนกัน” ผมพูดพลางลุกขึ้นยืน ... นนท์ลุกขึ้นตาม ...
ผมก้าวข้นไปยืนบนเตียงนนท์ ...
   “มานี่ซิ ..” ผมเรียก ... นนท์เดินมาที่เตียง ... ผมก้มลงกอด ... คนที่ตัวสูงกว่า
   “แบบนี้ค่อยถนัดหน่อย ...” ผมพูดทั้งที่ยังกอดนนท์อยู่ ... นนท์กอดตอบ ... ผมลงจากเตียง
หยิบแจ็กเก๊ตมาสวม ... นนท์ยื่นหน้าด้านหนึ่งให้ .. ทำแก้มป่อง ... ชี้มือไปที่แก้ม
   ผมหอมแก้มนนท์ทีหนึ่ง ... คนตัวโตเอียงแก้มอีกข้างให้ .. ผมจูบแรง ๆ ที่แก้ม ... ก้าวไปที่ประตู
   “เดี๋ยวก่อน …” นนท์พูด เดินมาใกล้แล้วก้มตัว ยื่นหน้ามาใกล้ ... ชี้ที่หน้าผาก ... บอกว่า
   “ตรงนี่ด้วย ..”
ผมโน้มคอนนท์ลงมา จูบเบาๆ ที่หน้าผาก ... นนท์ยิ้มท่าทางเหมือนเด็กน้อย ... ผมเอื้อมมือกำลังจากเปิดประตู ... นนท์ดึงตัวผมกลับเข้าไปกอด … แล้วจูบแรงๆ ที่แก้มอีก 2 ครั้ง ... กว่าจะออกจากห้องได้ ...
นนท์เดินไปส่งผมที่หน้าประตูบ้าน ... เจอเบรานิส (housemate) สาวฝรั่งเศสคนสวยและโฮสมาเตอร์
นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว ... ผมบอกลาทั้งสองคน ...  เบรานิสพูดยิ้ม ๆ เสียงค่อนข้างดังว่า

   “สองคนนี้หายเข้าไปทำอะไรในห้องตั้ง 3 ชั่วโมง”    

   ผมกับนนท์สะดุ้ง (เหมือนคนมีความผิด) ตอบเกือบพร้อมกันว่า

             “Nothing ! ” ( ไม่มีอะไรจริง ๆ นะ ! )
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 08-12-2008 22:30:46
^
^
กอดดดดดดด
..................

เป็นลม :jul1:
จมกองความหวาน
เรียก รถพยาบาล หน่วยกู้ชีพ มาด่วนเลย
นนท์ๆๆๆๆ
น่ารักเกิ๊น งอนยังน่ารัก
ทำเอาคนอ่านน้ำตาลในเลือดพุ่งเลยทีเดียว
ตอนที่ 9
แน่นนอนมาก :-[
คนอ่านก็โล่งด้วยนนท์ไม่มีพันธะ ใด ใด กับ ใคร
เง้ออออออออออออ
จะบอกคุณเพื่อน ของคุณเพื่อนว่า
หวานกว่านี้
ก็ยังรับได้อีก ได้อีก
ส่งมาเลย
ตอนนี้ countdown รอ ตอน 10 แระ
รัก นนท์ รักคุณเพื่อน ให้กำลังใจทั้งคู่เลยนะ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 08-12-2008 22:46:01
กี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซ สารภาพรักกันแล้ววววววววว อย่างงี้ต้องฉลองงงงงงงงง  :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 08-12-2008 22:47:30
สงสัยจะช้ำกันทั้งเรื่องล่ะ
จูบกันบ่อยเกิน แต่เราก็ชอบ เหอะเหอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 08-12-2008 22:49:49
 :man1:

 :L1:

 :กอด1:


เฮ้อ!! มึความสุข

สำลักความหวานของ สตรอเบอร์รี่ :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 08-12-2008 22:52:31
เหอะๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: lovetaehee ที่ 08-12-2008 23:00:29
ลงชื่อก่อนอ่านตอน9 ค่ะ   :L1:

ติดในความหวานของเรื่องนี้มากๆๆ
คาดไว้แต่แรกละว่า "คุณเพื่อน"  ต้องชื่อ "เพื่อน" แน่ๆเลย อิอิ
เขินนนน   :-[ :-[ :-[


โฮกกกกกก อ่านตอนเก้าแล้ว
น้ำตาลพุ่ง  :pighaun:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-12-2008 23:02:30
 :-[ หวานมากมายตอนนี้ อ่านไปยิ้มไป 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: cmos ที่ 08-12-2008 23:15:05
กรี๊ดดดดดด หวานมากมายอ่ะ

อิจฉาชะมัด :o8:

 :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 08-12-2008 23:34:14
พระเจ้าช่วย บอกได้คำเดียวว่า  2  ตอนนี้ หวานได้ใจผมมากกกกกกกกกกกกกก :z3:

เอาเปนว่าเราให้อภัยเพื่อนและกัน ที่ลง 2 ตอนรวด ขอบใจจจจจริงงงงงงงงงงงงงงงงง

รอตอนที่ 10 อยู่นะ อิจฉาเพื่อนมาก นนท์รุกคาดเร็วกว่าที่คิดไว้สุดยอดดดดดดดด

ข้าน้อยขอคาราวะ :z10:

ปล. อืมๆพรุ่งนี้ตอนที่ 10 ด่วนเลยนะเพื่อนรัก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 08-12-2008 23:39:31
น่ารักมากมาย ถึงแม้นนท์จะขี้งอน แต่ก็น่ารักขี้อ้อนจนให้อภัยค่ะ :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 08-12-2008 23:56:33
อยากกินสตอร์เบอรรี่

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 09-12-2008 00:00:00
เพื่อน กับ เพื่อนของเพื่อนจะทำให้คนอ่านเป็นเบาหวานตายแล้วคร่าาาาา  :-[


ชอบตอนนี้มั่กกกกกกกกกกก  :L1:

นอนรอตอน สิบ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 09-12-2008 00:11:48
หาคนมาป้อนสตอร์เบอรรี่มั่งดีกว่า :o8:

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ดดดดดดดดดดดดดดดดดด

หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


กีสสสสสสสสสสสสสสสสส

ตอนที่ 9

ได้เม้นท์แรกในหน้า 11

แถมยังได้รีที่ 200

 :z2: ท่าทางจะโชคดีหาคนป้อนสตอร์เบอรรี่ได้ในเร็ววัน คิคิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 09-12-2008 00:34:07

เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ อ่านรวดเดียวเลยคร้าบบบบ น่ารักมากๆๆๆๆ


สมัครเป็นแฟนประจำเลยนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: phung ที่ 09-12-2008 00:37:45
    “Nothing ! ”

คิดภาพตอนนี้ออก

5555555555++

คงฮาน่าดู พิรูธเลยทีเดียววว

แต่ สตรอเบอรี่

โฮกกกกกกกกกกกกกกกก

หวานนนนน เนอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 09-12-2008 00:45:46
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

นนท์น่ารัก มากๆ ชอบจังเลยอะ แล้วจะรออ่านต่อนะอิๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: antoniorey ที่ 09-12-2008 01:00:44
 :impress2:  โอ้วววๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m25:สุดยอด หวานซ้าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 09-12-2008 01:06:11
 :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 09-12-2008 01:16:53
ตามทันแล้ว :mc4:

'จูบรสสตอร์เบอร์รี่'  :-[

คุณเพื่อนน่ารัก นนท์ก้ออบอุ่น :กอด1:

+1ให้กับความหวานค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 09-12-2008 02:39:26
 :3123:

คำเตือน ผู้ที่มีความดันสูงหรือผู้ที่เป็นเบาหวานไม่ควรอ่าน

3 ชัวโมงเพื่อนๆทำอารายกาน  :z3:

กอดๆหอมๆจุ๊บๆ ปาเข้าไป 3 ชัวโมง  :m10:

ถ้าทำอย่างที่คุณก็รู้ว่าอะไร ไม่ทำกันเป็นวันเหลอ o22
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 09-12-2008 05:24:47
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อ่านทันแล้ววววววววววว

น่ารักตลอดทางงงงงงงงงงงงงง
ทำไมน่ารักอย่างนี้
เมื่อยแก้มเป็นที่สุด ต้องยิ้มตลอดดด

นนท์ กะ คุณเพื่อน.......

PS. สตรอเบอรี่หวานม๊ายยย แอร๊ยย   :-[........
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 09-12-2008 08:05:39
หวานมากมายจริงๆๆๆๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 09-12-2008 08:28:33
เรื่องนี้รสสตอเบอรี่


ชอบ ชอบ





:กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 09-12-2008 14:21:20


ชอบตอนนี้ที่สุด กับคำว่า จูบรสสตอเบอรี่
กิ้ว ว ว ว วววว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 09-12-2008 14:30:03
หวานมากกกกกกกก ชอบจัง :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 09-12-2008 16:14:10
อ๊าากกกกกก

อยากมีงี้กะเค้ามั่งอ่า

อิจฉาโว้ยยย :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 09-12-2008 16:34:47
^
^
^
^
กีสสสสสสสสส อิจฉาด้วยยยยยยยยยยย เอามาคนนึง ด่วน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ผักกาด ที่ 09-12-2008 16:36:10
"Notthing" เช่นกัน

 :jul1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 09-12-2008 21:28:39
 :z10:

คุณเพื่อน วันนี้ไม่มาหรอ

เค้าคิดถึง เพื่อน และ นนท์  :serius2:

ตอนที่9 เลขดีเป้นมงคล อ่านแล้วอมยิ้มตลอดดด

รู้ไหมว่าน่าร้ากกกกกกกกก มาก



หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 09-12-2008 21:36:43
หูยยยยยยยยยยย หวานเเหว่วอีกแล้วววว กร๊าชชชชช
นี้ นี่มันรักเเห่งอิงเเลนด์ชัดๆ อิย่ะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
รักกันอ่อนละมุน หวานละมัยแต่  :L2:

แต่ว่าตะขิดตะขวงใจ ทำไมต้องเเทนตัวเองว่าเพื่อน กันอยู่ตลอดเวลา
อ่านแล้ว ให้ความรู้จี๊ดๆ ในหัวใจยังไงชอบกัน
เหมือนตอกย้ำว่าที่ทำๆ กันอยู่นี้ ในฐานนะเพื่อนเท่านั้นอ่า เเอบคิดมาตรงนี้นิดหน่อย 555+

อ่า สรุปนายเอกในเรื่อง ชื่อเพื่อนชิมิ ไม่ค่อยแน่ใจ 5555
เอาเป็นว่าจะเข้าใจว่าชื่อ คุณเพื่อนแล้วกันน่า ถ้าชื่อนี่จิงๆ ชื่อน่ารักจังเลยอ่า หูยยยยย
มาต่อตอนต่อไปเร็วๆ น่าชอบเรื่องนี้มาก  :impress2:

รักเเห่งอิงเเลนด์ อิอิ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 10-12-2008 00:20:31
อ๊ายยยยยยย.....หวานไม่ไหวละ

น่าอิจฉามากๆ.... :-[
รักเเห่งอิงเเลนด์ อิอิ
:laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 10-12-2008 00:32:51
มาลงชื่อ "รอ"

คุณเพื่อน รับผิดชอบด้วย

มาทำให้เค้าติด ทำให้เค้าตั้งตารอ

เพื่อนเค้าอีกตั้งหลายคนที่เค้าไปตาม

มันมาอ่าน...แล้วทุกคนก็มาตกน้ำ(สตรอเบอร์รี่)เชื่อม ตายที่นี่กันหมด..หุหุ

มารับผิดชอบชีวิตของพวกเค้าโด้ยยยยย.......เค้าขาดน้ำตาลลลลลลล

 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 10-12-2008 12:54:49
 :z3: เมื่อไรจะมาซะที่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 10-12-2008 13:50:27
 :z3: :z3: :z3:มาช่วยทุบ  :laugh:



คุณเพื่อนยังไม่มาเหรอค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 10-12-2008 14:02:18
มาทวงตอน 10 ของคุณเพื่อนอย่างเป็นทางการ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 10-12-2008 14:30:27
เพิ่งเข้ามาอ่าน

เป็นกำลังใจให้ :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 10-12-2008 15:22:54
อ่านจบแล้ว

น่ารักมาก ๆ

+

หวานอีกต่างหาก


มาอัพต่อนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: GajonG ที่ 10-12-2008 20:14:40
 o13

 :pig4:

เขิลนะนิ ไม่ใช่ไม่เขิล :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 10-12-2008 21:06:23
 :z10: มาซะที่เถอะเพื่อน

เพื่อนรออยู่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: cmos ที่ 10-12-2008 21:23:02
 :z10: :z10:

มารอตอนต่อไปคร้าบ

 :z10:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 10-12-2008 21:38:12
เพื่อนคับ หาแบบนายนนท์ได้ที่ไหนบ้างเนี่ย แนะนำผมหน่อยเถ้อะ

อ่านแล้วมดขึ้นเต็มคีย์บอร์ดเลย  :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 10-12-2008 22:44:25
ตามทันแล้ววววววว น่ารักๆๆๆๆๆๆ

ป้อนสตอเบอร์รี่กันแบบนี้ ดูท่าจะหวานเอามากๆเลยนะเนี่ย  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 10-12-2008 22:56:40
 :serius2:คุณเพื่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


เข้ามาตะโกนดังๆ ให้ถึงอังกฤษ



คุณเพื่อนนน.....อยู่หนายยยยยยยยยยยไหงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :z3: :z3:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 10-12-2008 23:52:40

เอาขนมมาฝากคนแต่งคะ

มาต่อด่วนๆ เลยนะ

(http://hilight.kapook.com/imghilight1/1_913.jpg)


อิเจ้  กะเทยระเริงกาม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 11-12-2008 00:48:09
 :m25: :z1: มารอตอนที่สิบน้าค่ะ  :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 11-12-2008 00:58:47
รอด้วยยยยย

ชอบจริงจัง เรื่องเพื่อนๆเนี่ย
อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 11-12-2008 01:52:53
คุณเพื่อนนนน อยากอ่านเรื่องของคุณเพื่อนกับเพื่อนต่อแล้ววววววว

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 11-12-2008 02:44:31
รออยู่ รู้ไว้ด้วยนะ เชอะๆ

:a14:  :a14: :a14:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 11-12-2008 11:55:26
ยังไม่มาเหรอค่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ben~ya ที่ 11-12-2008 14:10:57
น่ารักชะมัดเลย
รอคุณเพื่อนมาเติมความหวาน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 11-12-2008 16:23:47
 :z10:

คิดถึงเพื่อน เมือ่ไหร่ คุณเพื่อนจะมาอัพ

เห็นแวบๆ ทำไมไม่อัพอ่ะ

มารอเพื่อน และ นนท์

 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 11-12-2008 16:58:51
 :z2: :z2: :z2:
มาวิ่งเล่น หุหุ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 12-12-2008 01:30:31
คุณเพื่อน

หายไปไหน...........

เค้าคิดถึง เพื่อน คิดถึง นนท์


"เพื่อน" มาทิ้ง เพื่อน อย่างนี้ได้ไง


 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 12-12-2008 07:36:31



ตอนที่สิบ ... จะมาคืนนี้ (ดึก ๆ) แน่นอน !




ขอบคุณทุกคน ... ที่ติดตาม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 12-12-2008 08:49:16
อรุณสวัสดิ์ค่ะ...คุณเพื่อน


ดีใจเห็นคุณเพื่อนมาแล้วววว


คืนนี้จะมาตั้งหน้าตั้งตารอกันเลยทีเดียว


 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 12-12-2008 09:13:49
^
^
ทะลวงป้า ถึง คุณเพื่อน
ดีใจจัง
คืนนี้แล้วซินะ
 :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 12-12-2008 09:13:56
จะมารอครับเพื่อน :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 12-12-2008 09:16:13
ไม่รู้จะพูดยังไงดี......บอกได้อย่างเดียวว่า.........   :m3:

น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก & หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน กันสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไปเลยค่ะ !

 :L2: :กอด1: :กอด1: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :c5: :m1: :z1:

ปล.ชื่อเพื่อนนี่เอง   ^^   :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 12-12-2008 14:29:43
 :L2: :L2:
เป็นกำลังใจให้ต่อไป

ปอลอ. นนท์หวานมากๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 12-12-2008 14:41:36
มารอคุณเพื่อนด้วยคนนะ

 :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 12-12-2008 19:56:50
รอออออออออออออออออออออออออออออ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 12-12-2008 21:29:31
ดึกมากมั้ยอ่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 13-12-2008 00:09:17
รออออออออออออออออค่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 9)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 13-12-2008 00:12:40
ตอนนี้ดึกแล้ว
ดึกมากแล้ว
ดึกแล้วดึกอีก
แต่ยัง รอ
มิได้นำพาความง่วง  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 13-12-2008 00:25:34
ตอนที่ 10

เช้าวันเสาร์ ... ริต้าโทรมาถามว่าวันนี้แคทรีน่าอยู่บ้านหรือไม่ ...
อยากจะมาเยี่ยมแคธี่ ... แต่ไม่อยากเจอคู่ปรับเก่า
โชคดีของริต้า ... แคทรีน่าไปบ้านเพื่อนกลับค่ำ

ก๊อก !   ก๊อก !   ก๊อก !    ... หลังจากคุยกับแคธี่พักใหญ่ ... ริต้าก็โผล่มาหาผมในห้อง ...
   “I miss you sooooooooooooo much” ริต้าโผเข้ากอดผม ... ผมกอดตอบริต้า
   “I miss you too” ถึงแม้จะเรียนโรงเรียนเดียวกันแต่ไม่ค่อยได้เจอกันซักเท่าไหร่
เพราะเรียนคนละห้อง และเวลาเรียนก็ไม่ค่อยตรงกัน ... ตอนนี้ผมกับนนท์เลือกวิชาเลือกเหมือนกัน
คือเตรียมตัวสอบ IELTS ... สอบ IELTS ก็คล้าย ๆ กับสอบ TOEFL นั่นแหละ
ต่างกันที่ IELTS เป็นการสอบสำหรับการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในอังกฤษและออสเตรเลีย
ส่วน TOEFL ใช้สำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในอเมริกา ...
ทักษะที่ใช้ในการสอบ IELTS คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ...
คะแนนแต่ละทักษะเต็ม 9.0 และคะแนนรวม 9.0 ด้วย ... สำหรับการเข้ามหาวิทยาลัย
ได้คะแนนรวมประมาณ 6.5 -7.0 ก็จะสามารถเข้าเรียนได้อย่างสบาย ...

หลังจากที่คุยกับริต้าได้พักใหญ่ ... นนท์มาหาที่บ้าน ....
เป็นจังหวะเดียวกับที่ ... แคธี่เรียกให้ผมรับโทรศัพท์พอดี … ผมทักทายนนท์เล็กน้อยก่อนรับโทรศัพท์
แล้วบอกนนท์ว่าริต้าอยู่บนห้อง ...

ธีร์โทรมานั่นเอง ... ธีร์โทรมาคุยกับผมบ่อย ๆ และวันนี้ธีร์โทรมา ...
ชวนไปงานรับประกาศนียบัตร (Certificate) ของธีร์
หลักสูตรที่ธีร์เรียนเกี่ยวกับศิลปะเป็นหลักสูตร 1 ปี ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ...
ธีร์บอกว่างานนี้ขอบัตรเพื่อเข้างานยากมาก
เพราะจะมีการแสดงงานของผู้ที่เรียนจบหลักสูตรด้วย ...
   “ขอบัตรสองใบละกัน ... จะพาเพื่อนไปด้วย” ผมบอกธีร์ ... ตั้งใจจะพานนท์ไปด้วย
   “เดี๋ยวหาให้...แล้วจะส่งให้ทางไปรษณีย์ก็แล้วกัน” ธีร์บอก พร้อมกับบอกวัน เวลา และสถานที่จัดงาน

หลังจากคุยโทรศัพท์กับธีร์เรียบร้อยแล้ว ... ผมกลับขึ้นไปบนห้อง … ริต้ากับนนท์นั่งคุยกันอยู่
   “ใครโทรมา ...” นนท์ถามทันทีที่ผมเดินเข้าไปในห้อง
   “ธีร์ไง ... จำได้ใช่มั๊ย”
   “มีอะไรรึ ...”
   “ชวนไปงานรับ Cer. น่ะ” ผมบอกรายละเอียดเกี่ยวกับงานของธีร์ ... และชวนนนท์ไปด้วย
   “ใครว่าจะไป” นนท์พูดเสียงห้วน ... รู้นะว่า...งอนอีกแระ ... จะง้อตอนนี้ก็ไม่ได้ ...
ริต้านั่งจ้องตาแป๋วเชียว ... พูดได้แค่ว่า
   “จะให้เพื่อนไปคนเดียวจริง ๆ เหรอ ตั้งไกลนะ” ผมพยายามง้อแล้วนะ ... แต่แสดงออกมากไม่ได้ …
ไม่ได้อยู่กันสองคน ... ถ้าอยู่กันสองคนนะ .. ฮืมมมม ......
   “แค่ชวนไปงาน...ทำไมคุยนานจัง” นนท์เสียงเริ่มอ่อนลงเล็กน้อย ...
   “จะไม่ให้ถามทุกข์สุขบ้างเลยเหรอ ... แต่ก็แค่ 15 นาทีเองนะ” ผมตอบนนท์ ..
   “พูดอะไรกันน่ะ ... ENGLISH PLEASE ! (พูดภาษาอังกฤษเถอะนะ ได้โปรด ชั้นอยากรู้เรื่องด้วย) ”
 ริต้าถาม ... ผมบอกริต้าเรื่องที่นนท์บอกว่าคุยนาน
   “ใช่ ... นานมากกกกกกกกกกกก” ริต้าบอกแล้วขยิบตาให้นนท์

เกือบบ่าย 3 โมง ... ริต้าขอตัวกลับเพราะมีนัดไปตีเทนนิส ...
“กลับด้วย ...” นนท์พูด ... ผมมองนนท์งงเล็กน้อย ทำไมรีบกลับจัง
“อย่างเพิ่งกลับสิ มีเรื่องจะคุยด้วย” ผมบอกนนท์ ... สงสัยยังงอนไม่หาย
“ปกติคุณก็อยู่จนเย็นนี่นา ... จะรีบกลับไปไหน” ริต้าถามขึ้นมาบ้าง
“อย่าเพิ่งกลับนะ” ผมมองหน้านนท์

...

“เป็นไรรึเปล่า” ผมถาม ... นนท์เฉยไม่ตอบ ... ผมจี้เอวนนท์หนึ่งครั้ง ...
เป็นการทดสอบอารมณ์ของนนท์ ... ถ้านนท์กำลังหงุดหงิด ... หรืออารมณ์ไม่ดีนนท์จะไม่บ้าจี้
..... คราวนี้ .... นนท์เฉย
“เป็นไร ...” ผมถามซ้ำอีกรอบ  … นนท์ทรุดตัวนั่งบนโซฟาก่อนตอบว่า
“หงุดหงิดนิดหน่อย”
ผมเดินอ้อมไปด้านหลังนนท์แล้วบีบที่ไหล่เบา ๆ ...
“เรื่องอะไร ... เรื่องธีร์เหรอ” ผมถามนนท์
นนท์เงียบตามเคย ก้มหน้ามองพื้น ... ผมยื่นหน้าไปข้างหูนนท์แล้วพูดเบา ๆ
“เพื่อนไม่ไปงานของธีร์ก็ได้”
“มันไม่ใช่แบบนั้น ...คือ .... แค่ไม่ชอบที่เพื่อนคุยโทรศัพท์นาน ๆ ไม่รู้ทำไมหงุดหงิดชะมัด”
ในที่สุด... ปริศนาถูกไขกระจ่างแล้ว
“ธีร์ก็เป็นเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นเอง” ผมตอบ
“ไม่รู้สิ” นนท์หันไปมองออกนอกหน้าต่าง ... ผมจับหน้านนท์ให้หันมา ..
“หายหงุดหงิดรึยังครับ” ผมถาม
“หายแล้ว”  นนท์ตอบ ... ยังหันไปมองนอกหน้าต่างอีกรอบ สีหน้ายังดูหงุดหงิด
ยังไม่หายซักหน่อย ... ก็ไม่ยิ้มซักนิด ... ทำไมจะดูไม่ออกนะ ...  ผมจี้เอวนนท์อีกรอบ
“ไม่เล่น” ทำเสียงดุ ... กลับมาอีก
“กอดหน่อยซิ”  ผมเดินไปด้านหน้านนท์แล้วกางมือออกกว้าง ... นนท์เฉย ….
ผมโอบแขนรอบคอนนท์ .... ดึงคนขี้งอนเข้ามากอด ....
พยายามถ่ายทอดความรู้สึกที่อยากจะให้นนท์สบายใจ ... ผ่านทางอ้อมกอดของผม
“คราวนี้หายรึยัง” ผมถามอีกครั้ง
นนท์ยิ้ม หัวเราะเบา ๆ ทำเสียงงอน ๆ ตอบว่า “ยัง”
ผมจี้เอวนนท์อีกครั้ง .... คราวนี้คนตัวโตลงไปดิ้นกับพื้น ... หัวเราะเสียงดัง
แสดงว่าหายโกรธแล้ว ไม่งั้นไม่หัวเราะขนาดนี้หรอก ...
“หายโกรธแล้วใช่มะ” ผมถาม
“ไม่” นนท์ยังยืนยันคำเดิม
ผมทำท่าจะจี้เอวอีก ... นนท์เลยยอมบอกว่า ... หายโกรธตั้งนานแล้ว
“การทดสอบว่าเพื่อนหงุดหงิดรึเปล่า สามารถทำได้โดยการจี้เอว” ผมบอกแล้วชูนิ้วชี้ขึ้นทำท่าจะจี้เอว
นนท์ยิ้ม ... ดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น ... แน่นมาก .... แน่นมาก ๆ ... มาก .... จนผมเจ็บไปหมด
“หายใจไม่ออก ... แค้ก แค้ก (เสียงไอ)” ผมบอกนนท์ให้ปล่อย
“โกรธเพื่อนมากขนาดจะฆ่ากันเลยรึไง” ผมถามหลังจากนนท์คลายอ้อมกอดแน่น ๆ ออกแล้ว
“ขอโทษ ... ก็เวลาที่กอดเพื่อน .... ไม่รู้เป็นไร อยากกอดแน่น ๆ แบบนี้” นนท์พูด แล้วทำท่าจะกอดอีก
“ไม่เป็นไรหรอก ... ลูกหมี” ผมพูด ... นนท์ทำหน้างง
“สมัยเด็ก ... เคยอ่านนิทานอีสปมั๊ย” ผมถาม ...นนท์ส่ายหน้า
“มีเรื่องนึง ... จำได้แม่นเลย ... เรื่องหมีกับหมาจิ้งจอก ... หรืออะไรทำนองนี้แหละ
จำไม่ค่อยได้แระ ...”
นนท์เอื้อมมือมาลูบหัวผม ... “ตกลงจำได้แม่น หรือจำไม่ได้เนี่ย ...”
   “แหะ แหะ จำเนื้อเรื่องได้ แต่จำไม่ได้ว่าหมีกับหมาป่า หรือหมีกับหมาจิ้งจอกอะ ...
สมมุติว่าเป็นหมาจิ้งจอกละกัน”
“แล้วไงต่อ ...”
“หมีกับหมาจิ้งจอกรักกันมาก  ... สองคน ... เอ้ย .... สองตัวอยู่ด้วยกัน … วันหนึ่งหมีออกไปทำงาน
พอกลับบ้านมาเจอหมาจิ้งจอก ... ด้วยความคิดถึงมาก ... รักมากแหละ .... ก็เลยกอดแน่นมาก ...
แน่นซะจนหมาจิ้งจอกขาดใจตาย … จบ”
นนท์ทำหน้าตกใจ “ขาดใจตายเลยเหรอ”
“ช่าย .... เพราะหมีมีแรงมากกว่าหมาจิ้งจอกเยอะไง …. เหมือน ‘เพื่อน’ แหละ
แรงเยอะกว่าเพื่อนเยอะเลย  ... เมื่อกี้เกือบตาย ....” ผมพูดขำ ๆ
“ตอนเด็กก็ไม่เชื่อหรอกนะว่าจะเป็นไปได้ .... ใครจะกอดใครจนตายได้เลยเหรอ ...
แต่ .... เมื่อกี้นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเลยแหละ ...” ผมยังพูดต่อเนื่อง
“แล้วนิทานอีสบต้องมีบทสรุปไม่ใช่เหรอ ....  เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ... ” นนท์ถาม
“ไม่รู้สิ .... สอนว่า .... อย่าไว้ใจทาง .... อย่าวางใจหมีมั้ง” ผมตอบมั่วซั่ว เพราะจำไม่ได้
นนท์หัวเราะ ... แล้วบอกว่า
“แต่ ‘เพื่อน’ เป็นแค่ลูกหมีเองนะ ... ‘เพื่อน’ ไม่ทำให้เพื่อนตายหรอก”
“... ช่าย .... แค่ลูกหมีตัวน้อย ๆ ที่น่ารัก”  ผมพูดพลางลูบหัวลูกหมีของผมเบา ๆ
นนท์ค่อย ๆ โอบเอวผมเข้าไปหาแล้วกอดอีกกรั้ง คราวนี้ไม่แน่นจนอึดอัด ...
แต่อบอุ่นและอ่อนโยนอย่างที่สุด ผมซบหน้าลงบนบ่าของนนท์
“เพื่อนจะไม่ยอมให้เพื่อนเป็นอะไรหรอก”  นนท์กระซิบ
“เพื่อนก็เหมือนกัน” ผมบอกนนท์
รู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน ....  เรากอดกันไม่รู้นานเท่าไหร่ .... รู้แต่นานมาก ....
    “กอดไม่แน่น ... แต่นาน .. พอจะชดเชยกันได้มั๊ย” ผมพูด หลังจากเงยหน้าจากบ่าของนนท์
นนท์พยักหน้า ... กดหัวผมให้ลงไปซบบนบ่าเหมือนเดิม
“ขอกอดอีกหน่อยนะครับ ...”   

“มีอะไรรึเปล่า” ผมถามเพราะรู้สึกแปลก ๆ 
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ” นนท์ถามแต่ก็ยังคงกอดไม่ปล่อย
“ก็ไม่รู้สิ .... ก็เพราะรู้จัก ‘เพื่อน’ ดี ... ‘เพื่อน’ รู้สึกยังไง ‘เพื่อน’ เป็นอะไร ... ทำไมจะไม่รู้” ผมตอบ

ในที่สุด ... นนท์ก็เล่าให้ฟังว่า ... เมื่อเช้าแม่ของนนท์โทรมาให้ย้ายที่เรียน ... ไปอีกเมืองหนึ่ง
... เพราะ collage นี้ มีคอร์สสำหรับเรียน Pre MBA ถ้าเรียนจบหลักสูตรก็สามารถเข้า MBA ได้เลย
จะว่าไปนนท์ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเอายังไง ... เพราะถ้าไม่ไปเรียนที่ใหม่
ก็ตั้งใจสอบ IELTS แล้วสมัครเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้ ...
แต่นนท์บอกว่ากลัวจะได้คะแนนไม่ดี ... และเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้
อีกอย่างที่ผมแปลกใจก็คือ... ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านนท์อยากเรียน MBA ...
นึกว่าจะต่อโทวิศวะเหมือนกัน นนท์บอกว่า ... อาอยากให้กลับไปช่วยงานที่บริษัทของอา ...
เลยอยากให้เรียน MBA
...

“แล้ว ‘เพื่อน’ ต้องทำไงบ้าง” ผมถาม ... รู้สึกเศร้าขึ้นมาในทันที ... ถ้าต้องอยู่ห่างกัน ... จะเป็นยังไงนะ
นนท์บอกว่า ตอนนี้ บี (เพื่อนของนนท์) มาที่อังกฤษและพักอยู่ลอนดอนกับเพื่อน ...
เค้าจะพานนท์ไปที่โรงเรียนใหม่ ... และไปคุยกับ Director ด้วย
“เพื่อนไปกับ ‘เพื่อน’ นะ” นนท์ชวน .... ผมส่ายหน้า ... ไปไม่ได้จริง ๆ พรุ่งนี้มี test ...
ผมบอกนนท์ว่าแล้วมาเล่าให้ฟังก็แล้วกัน ...
“ไม่อยากไปเลย” นนท์บ่น ผมรู้ว่า ... ถึงจะบ่นยังไง ... นนท์ก็ต้องไปอยู่ดี ... คงไม่ขัดคำสั่งแม่แน่นอน

....

ดึกมากแล้ว ...
นนท์กลับบ้านไปตั้งแต่ตอนเย็น ... ผมยังนอนไม่หลับ ... พลิกตัวไปมา
คิด ๆ ก็ใจหาย ถ้านนท์ต้องไปเรียนอีกเมืองนึง
‘คงจะคิดถึงแย่’ … ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ... เรายังไม่เคยต้องห่างกันแม้แต่วันเดียว
แล้วพรุ่งนี้ ... ผมก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอนนท์รึแปล่า
นนท์บอกว่าต้องขึ้นรถไฟขบวน 9 โมงเช้า … ผมบอกนนท์ว่าไม่ต้องมารับไปโรงเรียนหรอก
กลัวนนท์จะตกรถไฟ …  ถ้าตกรถไฟก็ต้องรอรถไฟเที่ยวต่อไปอีกชั่วโมงครึ่ง
ถ้าไปถึงช้า ... ก็จะไม่ทันเวลานัดคุยกับ director  เวลาบ่ายโมง
และอาจทำให้ต้องนัดใหม่อีกรอบ ... ผลกระทบมันมาเป็นลูกโซ่เลยล่ะ
....
นนท์ไม่พูดอะไร แค่กอดผมแน่นก่อนกลับ และจูบ เบา ๆ ที่แก้มและหน้าผาก


....
7 โมงครึ่ง ... ผมเตรียมตัวจะไปโรงเรียนแล้ว ... ปกตินนท์ต้องมารับเวลา 8.15 น.
ผมตัดสินใจออกจากบ้านก่อนเวลาเพราะรู้สึกเบื่อ ๆ
ไม่รู้จะทำอะไร ... อยู่ในห้อง .... ตื่นตั้งแต่ตี 5 แล้ว ...
จะว่าไปนอนไม่หลับซะมากกว่า ... แล้วจะทำข้อสอบได้มั๊ยเนี่ย

หลังจากคว้าแอ้บเปิ้ล ใส่กระเป๋าแล้วก็เปิดประตูบ้าน  ตั้งใจจะไปโทรหานนท์ที่โรงเรียน...

ผมก็ต้องผงะ  “อ้าว ว ว ว ว ว”

.....นนท์ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ...

“ทำไมไม่กดออด” ผมถาม
“ก็มันยังเช้าอยู่นี่นา ...”
“มายืนนานรึยัง”
“เพิ่งมาถึง … กำลังลังเลว่าจะกดกริ่งหรือว่าจะโทรเข้าบ้านดี ... แคธี่คงหลับอยู่เกรงใจ”
... ปกติแคธี่ตื่นค่อนข้างสาย และไม่ลงมาจัดอาหารเช้าให้ผมตั้งแต่วันที่สามที่ผมมาอยู่ที่นี่
แต่บอกให้หาอะไรกินเองตามสบาย ...ในตู้เย็นมีอาหารที่เตรียมไว้ให้ผมเต็มตู้อยู่เสมอ
...

“งั้นเพื่อนเดินไปส่งที่สถานีรถไฟละกัน” ผมบอกนนท์  ... นนท์พยักหน้า
แต่กลับคว้ามือ ... ลากผมขึ้นไปบนห้อง
“มานี่ก่อน” นนท์บอก

หลังจากปิดประตู้ห้องแล้ว ... นนท์เข้ามากอดและซบหน้าลงบนไหล่ของผม
“เผื่อคืนนี้ต้องค้างที่โน่น ... วันนี้ก็จะไม่เจอเลยนะ” นนท์พูดเสียงอู้อี้
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกัน” ผมพยายามทำใจแข็ง ... ไม่งั้นคงร้องไห้กันทั้งคู่
“แค่คิดว่า .... จะไม่เจอกัน .... วันเดียวก็จะตายอยู่แล้ว ...” นนท์พูดทั้งที่ยังกอดอยู่ ....
แล้วทรุดตัวลงนั่งทำให้ผมต้องนั่งตาม  .... นนท์มองผมด้วยสายตาเว้าวอน แต่ทว่าอ่อนหวานเหลือเกิน  ...
ผมจูบแก้มนนท์เบา ๆ ... หวังว่าจะส่งความรู้สึกให้นนท์รับรู้ว่า
ผมก็รับรู้ .... ถึงความรู้สึกของนนท์เหมือนกัน
นนท์ดึงผมไปกอดอีก .... ก่อนจะประทับริมฝีปากอุ่น ๆ ลงบนริมฝีปากของผม ... เนิ่นนาน ...
เต็มไปด้วยความเศร้า
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวตกรถไฟ” ผมพูดทำลายความเงียบ ...
หลังจากถอนริมฝีปากของผมจากริมฝีปากอุ่นเศร้าคู่นั้น  ... นนท์พยักหน้า
เราเดินออกมาจากบ้าน ... ตามทางที่จะเดินไปสถานีรถไฟ
โดยไม่พูดกันซักคำ ....


ก่อนอาหารเย็น ...

นนท์โทรมาเล่าให้ฟังถึงโรงเรียนที่ไปดูและไปคุยกับ director ... นนท์เล่าว่า ...
ต้องเรียน 1 ปี แล้วจะสามารถเข้า U. ได้เลยโดยไม่ต้องสมัครเข้ามหาวิทยาลัยอีกรอบ
ที่นี่มีโครงการร่วมมือกับหลายมหาวิทยาลัยเหมือนกัน
ผมว่ามันก็ง่ายดี ... ผมไม่รู้หรอกว่าสอบ IELTS มันจะยากหรือง่าย  … ยังไม่เคยสอบ
แต่ถ้ามันมีอะไรที่เข้ามหาวิทยาลัยได้แน่ ๆ แบบนี้ ... ก็น่าทำมิใช่หรือ ... ดีกว่าต้องเสี่ยง
อีกอย่างเพื่อนของนนท์ (บี) ก็เป็นคนหาโรงเรียนให้ด้วย น่าจะดี ... มั้ง
สำหรับผม ... ก็ไม่ได้อยากเรียน MBA นี่นา ผมยังอยากเรียนวิศวะเหมือนเดิม
ผมคงไม่ไปเรียนโรงเรียนนั้นหรอก ... ถ้านนท์จะไปเรียนก็คงได้เจอกันแค่เสาร์อาทิตย์แหละ




หลังอาหารเย็น

เสียงกดกริ่ง ... 
ผมวิ่งออกจากห้องลงไปเปิดประตู ... เป็นเพื่อนของแคทรีน่า
.... ผมเดินกลับไปที่ห้อง ...


เสียงกริ่งที่ประตูอีกครั้ง
ผมวิ่งออกจากห้องลงไปเปิดประตู ... เป็นเพื่อนของแคทรีน่าอีกคน ..
สงสัยนนท์จะไม่มาแล้วล่ะ
.... ผมเดินกลับไปที่ห้อง ...


เสียงกดกริ่ง ...  คราวนี้ผมไม่ลงไปเปิดแล้ว คงเป็นเพื่อนเป็นของแคทรีน่าอีกคนแน่  ..
เพราะเสียงเงียบไป ... ซักพัก ...  ได้ยินเสียงเดินมาใกล้ประตู
ผมอดใจที่จะไม่เปิดไปดูไม่ได้ ...
เพื่อนของแคทรีน่าจริง ๆ ด้วย ....
ตกลงว่านนท์จะค้างที่ลอนดอนรึเปล่า ... หรือว่าจะกลับก็ไม่เห็นบอก
บอกแต่ว่าต้องไปทานอาหารเย็นกับบี ... อุตส่าห์มาจากเยอรมัน ... ฮึ ...
ผมนึกไปถึงตอนที่เจอกันคราวก่อน ... ก็น่ารักดี ... แต่ดูเหมือนไม่ค่อยอยากเป็นมิตรกับผมซักเท่าไหร่ ...
แล้วจู่ ๆ ผมก็นึกถึงตอนที่ผมไปนั่งอยู่ริมฟุตบาทหน้าโรงละคร ... นึกถึงคำพูดของกายวันนั้น

“เมิงว่าบีชอบไอ้นนท์ปะ” กายถาม
“ไม่รู้” ผมตอบ
“กูว่าชอบชัวร์ ไม่งั้นคงไม่วางแผนพาไปโน่นไปนี่หรอก” กายยังยืนยันความคิดตัวเอง

ผมส่ายหน้าแรง ๆ คิดอะไรเนี่ย ... เค้าเพื่อนกัน ไม่มีไรหรอก


เสียงเคาะประตู ...
“Yes” ผมขานรับ ... บอกให้เปิดประตูได้ …
นนท์ยิ้มโผล่หน้าเข้ามา .... ปิดประตูห้อง ... แล้วโผเข้ากอดผม ...
ด้วยความที่ไม่ได้ระวังตัว ผมเลยล้มลงกับพื้น

 
“เล่นแรงอีกแล้วนะ .. มาเมื่อไหร่ไม่รู้เลย” ผมพูดเสียงดุ
“ก็มันคิดถึงนี่นา … ไม่เจอกันตั้งหลายชั่วโมง ...” นนท์พูดพลางใช้จมูกซุกไซ้บนแก้ม ...
แล้วเล่าว่าเข้ามาพร้อมเพื่อนของแคทรีน่า ...
“เว่อร์ไปเปล่าเนี่ย ...  เดี๋ยวก็ต้องอยู่ห่างกันแล้ว ... ต้องฝึกซะให้ชิน” ผมดันตัวนนท์ออกห่าง
“ไม่ไปแล้ว .... ทนไม่ไหว ... แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันก็จะบ้าตายอยู่แล้ว …” นนท์พูดเว่อร์อีกแระ
แค่ไม่เจอกันไม่มีใครบ้าหรือตายหรอกน่ะ ...
“คุยกับเค้าแล้ว ... ‘เพื่อน‘ รู้แล้วล่ะว่าจริง ๆ เรียนหลักสูตรอื่นจะดีกว่า …” นนท์เล่าให้ฟังว่า
ไปคุยกับdirector แล้ว ... ได้ความรู้อะไรอีกเยอะมาก ...นนท์เลยตัดสินใจว่าจะสอบ IELTS
แล้วค่อย apply เข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเรียนคณะอื่นที่ชอบมากกว่า

...

“เพื่อนไม่ไปแล้วจริงเหรอ” ผมถามแล้วกอดนนท์ ..
“ไอ้ลูกลิง ... กอดซะแน่นเลยนะ”  นนท์กอดผมแล้วลูบหัวเบา ๆ ...
“หมีโคอะล่าต่างหาก ...” ผมพูดแต่ยังเกาะแน่น ... นนท์ลุกขึ้นยืน .... ผมยังคงเกาะแน่น
เหมือนหมีโคอะล่าเกาะต้นไม้
“เกาะดี ๆ เดี๋ยวตกลงมา” นนท์พูดพลางเดินไปที่เตียง ... แล้วนนท์โยนผมลงบนเตียง ...
“... นี่ถ้าเพื่อนตกเตียงนะ”  ผมโวยวาย
“แล้วจะทำไรได้ ... ตัวแค่นี้เนี่ยะ”  นนท์หัวเราะเสียงดัง  ใช้มือนึงกดตัวผมไว้ไม่ให้ลุกขึ้น
ใช้มือข้างที่เหลือรวบแขนของผมทั้งสองข้างไว้
“ก็จะโกรธอะดิ” ผมขู่
“ขู่เหรอ ... นี่แหนะ ...” นนท์จูบแก้มผมแรง ๆ หนึ่งที
“ปล่อยนะ ... เก่งจริงสู้กันตัว ตัว ดิ”    ผมโวยวายอีก (แล้วนี่มันไม่ตัว ตัว รึไง)
“ยังขู่เหรอ .... นี่แหนะ ...” นนท์จูบแก้มผมแรง ๆ เหมือนหมั่นเขี้ยว ... นนท์ปล่อยมือ
ข้างที่กดตัวผมไว้ตอนแรก ... จี้ที่เอวแทน ... ผมดิ้นพลาด ๆ หัวเราะเสียงดัง
“ไม่เอา .... ไม่เล่นแบบนี้” 
   “งั้นเล่นแบบนี้ละกัน” พูดจบนนท์โถมตัวลงมาทับบนตัวผม ...

   “.... หนัก ... ลุกขึ้น” ผมพูด ใช้มือทั้งสองข้างดันตัวนนท์ออก ...หนักชะมัด ….
คนตัวหนักไม่ขยับซักนิด

นนท์จับมือที่พยายามทั้งผลักทั้งดันเหมือนปรามไว้ให้อยู่เฉย ๆ  .... ผมมองหน้านนท์  …

.... นนท์จ้องหน้าผม ...... สายตาของนนท์ที่มองมาหวานฉ่ำ ... มีประกายวิบวับ ...

... เราสบตากันนิ่งนาน ... เหมือนมีมนต์สะกด

รู้สึกเหมือนรอบกายเงียบสนิท ... ได้ยินเพียงเสียงหัวใจเต้น ... ไม่เป็นจังหวะ ...

นนท์ก้มหน้าลงมาชิด ....... จมูกของนนท์สัมผัสที่แก้ม .... แผ่วเบา ...

และไล้เรื่อยรอบวงหน้า .... ผะแผ่ว ....

ซาบซ่านจนเกือบลืมหายใจ ….

คนตัวโตกุมมือผมไปจับที่หัวใจ  ...

   “รู้สึกมั๊ย ...”  หัวใจของนนท์เต้นแรง .... จนเหมือนจะทะลุออกมา ....

 
   
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 13-12-2008 00:35:20


กีสสสสสสสสสสสสสสสสสส คุณเพื่อนมาแล้ว Miss you so much

ไปอ่านก่อนเน้  :z2:

เอาไปหนึ่งกอดด้วย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 13-12-2008 00:38:00
วี๊ดดดดดด หวานจริงๆ อิจฉาวุ้ย  :-[ :o8: อยากมีมั้งอ่ะ เค้าจะเอาแบบนี้ๆๆๆๆ
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 13-12-2008 00:45:07

   “รู้สึกมั๊ย ...”  หัวใจของนนท์เต้นแรง .... จนเหมือนจะทะลุออกมา ....
   
^
^
ตอบว่ารู้สึก
รู้สึก
ว่า
ตอนนี้
มัน วิงเวียน หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม
โฮกกกกกกกกกกกกกกก
หวานนนนนนนนน
มากกกกกกกกก
ตายๆๆๆๆๆ
ใครอ่านจบแล้วจะนอนได้นี่เก่งมาก
ยิ้มแก้มแตกไปแล้วหลายเสี่ยง
คุณเพื่ออออออออออออออออ
วันนั้น
คุณเพื่อนเป็นไง
สบายดีไหม๊?

ส่วนคนอ่าน
อ่านจบ พร้อมเป็นลม จมความหวาน  :jul1:
[ไม่ลืมที่กด +1 ให้กับ ความหวานให้กับคุณเพื่อนของคุณเพื่อน]
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 13-12-2008 00:54:44



อ่านแล้ว ใจเต้น ระทึก ตึกตัก ตึกตัก รู้สึกได้



 :กอด1:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 13-12-2008 00:55:07
วุ้ยยยย หวานๆๆ :o8:

นนท์กับเพื่อนน่ารักอะ :กอด1:

+ให้ความหวานค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 13-12-2008 00:56:57
รู้สึกมั้ย.....................

รู้สึกสิ.....รู้สึกว่ายังอ่านไม่พอ

รู้สึกสิ.....รู้สึกว่ามันโฮกกกกกกก

รู้สึกสิ.....รู้สึกว่าน่ารักเหลือเกินนน

รู้สึกสิ.....รู้สึกว่า เพื่อนกับเพื่อน น่ารักมากกกกกกกกกก

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: GajonG ที่ 13-12-2008 01:02:06
เอร๊ยยย กริ๊สสส
ไม่ไหวระ  :o8: เขิล เขิล
 :pig4:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-12-2008 01:19:27
ไม่ไหวแล้วอ่านแล้วจะละลาย ในปากไม่ละลายในมือ  :-[ เขิลลลลลลลลลลลลแทน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 13-12-2008 01:30:53
 :-[ :-[ :-[ :-[

อ่านแล้วมีความสุขจัง หวานกันซะ

แอบดีใจที่นนท์ไม่ย้ายไป ไม่งั้นอะไรๆก็คงยากขึ้น

แต่รู้สึกว่า บี จะเจ้ากี่เจ้าการจังเลยนะเนี่ย

แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: ผักกาด ที่ 13-12-2008 01:46:58
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

รู้สึกกกกก มากกกกกกก ด้วยยยยยยยย

 :impress2:

ชอบ ....

จะหวานไปหนายยยยยยยยยยยยยยยย ???

  :กอด1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 13-12-2008 02:07:07
โฮกกกกกกกกกกกกกกก

Gresssssssssssssssss

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด

@#@$!@$%^!@#$%^

รู้สึกสิ......

รู้สึกจนไม่รู้จะกรี๊ดดดเป็นภาษาอะไรดี

หวานนนนนนนนนนน

น่ารักอะไรมากมายขนาดนี้

 :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 13-12-2008 03:11:10
รู้สึกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


รู้สึกค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :z3:


หวานมากเลยอ่ะ

หวานน้ำตาลท่วมจอเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 13-12-2008 06:31:56
รู้สึกจ้ะ ใจเต้นจังหวะแซมบ้าไปพร้อมคุณเพื่อน หวานได้อีก มดเกาะเต็มจอเลย  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 13-12-2008 07:06:29
:o8:คุณเพื่อนขอรับ คับ ครับ

เคยได้ยินโฆษณา M&M หรือเปล่า

ละลายในปากแต่ไม่ละลายในมือ

 o13เหมือนกันเลยดิ

ละลายเวลาอ่านแต่่ไม่ละลายเวลาเขียน

เขิลลลลลลล โว๊ยเขิลลลลลลลลลลลลลลลลลล :-[


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 13-12-2008 08:23:19
ห่างกันไม่ได้อยู่แล้ว :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 13-12-2008 10:33:15
ทำไมอ่านแล้วเขิลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
:-[ :-[ :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 13-12-2008 10:44:46
อ่านแล้วใจเต้นตึกตัก น่าร๊ากกกกกกกกก กริ๊บกริ๊วววววววว :m3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 13-12-2008 10:53:35
ว้าววววว อย่างหวาน อีกแล้ว ชอบมากกกกกกกกก
รอให้คุณเพื่อนมาต่อทุกวันเลย ฮิ๊ววววววววว
นนท์ของช้านนนนน(หรอ?/คุณเพื่อน) น่ารักที่สุด
จูบกันอ่อนหวานละมุนละไม สัมผัสกันน่ารักน่าชัง
ดูเหมือนจะมีแต่ความรักจริงๆ เรื่องนี้ อ่านแล้วมีแต่สีชมพูลออยอบอวนไปหมด
 :impress2: :-[ :o8: :-[ :impress2: :o8:
อ่านแล้วก็ใจเต้นตาม หน้าบานยิ้มไม่หุบบบบบ
มาต่อตอนสิบเอ็ดเร็วๆๆๆ น่า รอจ๊า
เริ๊บนนท์เเอนด์คุณเพื่อนมากมาย :L1: :z2: :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 13-12-2008 12:57:11
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย~~   :-[  อ่านแล้วจาบร้าตายยยยยยยยตาม 

ตอนที่นนท์บอกว่าต้องย้ายไปเรียนอีกเมือง ไอเศร้าไปด้วยเลย...........

แล้วก็ดีใจไปด้วยเลยค่ะ พอนนท์บอกจะไม่ย้ายไปเรียนแล้วอ่ะ  :a2:

แบบว่า..กลัวบีจะทำไรขึ้นมาอ่ะนะ  :m26:  ผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวจะตาย  (อ่าว! กรูก็ผู้หญิงนี่หว่า!!! o22)

 :เฮ้อ:  เฮ้อ~~อ่านเรื่องนี้แล้วรับรู้ถึง"ความรัก"จริงๆเล้ย~~~  :o8: :give2: :c5: :m3: :m1: :m3:  ~~อิอิ

 o13   :กอด1: :กอด1: :L2: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :L1:

ปล. :interest:  รอคอยตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อนะคะ !
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 13-12-2008 13:17:19
 :z3: หนาวว่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 13-12-2008 14:48:58
หวานมากๆเลย นนท์+เพื่อน

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 13-12-2008 16:57:18
กรี๊ดสสสสสส ยิ้มจนแก้มจะแตกแล้ววววววว.....
คุณเพื่อนกำลังจะโดนนนท์จับกดชิมิเคอะ  :z1:
หวานได้อีกค่า  หวานได้อีก
กินกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แกล้มเรื่องนี้ก็หวานได้จ้า  :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 13-12-2008 18:02:29
 :-[อ๊ายยยยยยย

ไม่ไหวๆ  หวานๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 13-12-2008 18:43:30
"รู้สึก"....อร๊ายยยยยย....ขอตอบแทนได้ไหมอ่ะ?  :-[

นนท์น่ารักจังเลย....

อ่านแล้วเหมือนคนบ้าเลย  มานั่งกรี๊ดคนเดียว....
น่าร๊ากกกกกกก.... :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 13-12-2008 19:13:28
คุณเพื่อน....

คืนนี้คุณเพื่อนจะแวะมาอีกป่าว

อยากรู้ว่า คุณเพื่อน จะตอบ "เพื่อน"

ว่า ยังไง...  รู้สึกยังไง....

มานะ..นะ  :call: นะ..นะ....คนดี
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 13-12-2008 19:15:32
^
^
ยกมือเห็นด้วยกับ ป้า ranny
คุณเพื่อน มานะ นะคนดี :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 14-12-2008 01:13:06
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

"เพื่อน" ไม่ไปเรียนที่อื่นเพราะอยากอยุ่กะเพื่อนนั่นเอง

เย้..
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: Iextraordinary ที่ 14-12-2008 09:08:01
มาแปะไว้ก่อน  :mc4:




พี่หนึ่ง พี่สาวสุดที่ร๊ากก แนะนำมา :z2:



ว่าแต่ น้องอยู่เมืองไหนหรอคับ  :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 14-12-2008 09:42:33
โอ๊ย ลุ้นแทน เขินด้วย  :-[

รีบมาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 14-12-2008 12:42:38
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ร้องออกมาเพราะความริษยาตาร้อนผ่าว  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 14-12-2008 21:19:49
เย่ๆๆ อ่านทันแล้ว

เรื่องนี้น่ารักมากมาย

อ่านไปยิ้มไป

โอ้ยยยย น่ารักกกกกกกกกกกกกกก

หวานๆๆ กำลังดีๆๆ o13
+ให้คนเขียนเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 14-12-2008 21:26:12
Need+ ตอนต่อไปงานนี้มีเสียเลือดแน่ๆ :haun4:

ชอบมากกกกกกกกนนท์ได้ใจผมไปเต็มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 15-12-2008 00:49:17
แวะมาทักทาย คุณเพื่อน

เพื่อน คนนี้ ยังรอ

คุณเพื่อน กับ "เพื่อน" อยู่นะคะ

 

:กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 15-12-2008 09:09:03
กอดป้ารีบน
 :กอด1:
กร๊ากกก แก่แร้ว
คงต้องการความอบอุ่น

รอคุณเพื่อนด้วย

อยากยิ้มแร้ววว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 15-12-2008 10:21:18
คุณเพื่อน เค้าคิดถึงนนท์อ่า คิดถึงคุณเพื่อนด้วย
อย่าลืมมาต่อน่า จุ๊บๆๆๆๆๆ รอ ร๊อ รอออ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 15-12-2008 13:09:00
รอ..ร๊อ.. รอ นนท์ เอ๊ย   :z1: รอคุณเพื่อนอยู่นะคะ
รีบมาเติมความหวานให้หัวใจแฟนคลับเร็วๆนะจ๊ะ คุณเพื่อนคนดี
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: Mint ที่ 15-12-2008 15:39:56
กีซซซซซซซซซ


นนท์จะน่ารักไปไหนเนี่ย


 :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: epochii_upfun ที่ 15-12-2008 17:27:17
 :-[
อ่านไปยิ้มไปจริงๆนะเรื่องนี้
ขอบคุณป้าหลายๆๆ
เขิลอ่า  ตอนหน้า นี่จะเปงงัยเนี่ย
โอ๊ยๆๆ มิอยากจิคิดรุย  :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: ( = ___ = ) ที่ 15-12-2008 18:27:09


โฮกกกกกกกกกก น่าร๊ากกกกกกกกกก :m1:

กด+1 ให้เป็นกลจ.เยยจ้า


ฮิ้ววววววววววววววว


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 15-12-2008 22:05:19
คิดถึง
คุณเพื่อน และ คุณเพื่อน ของคุณเพื่อน
เมื่อไหร่คุณเพื่อน จะมาสักที :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 15-12-2008 23:23:13
 :sleep2:


มานอน รอ คุณเพื่อน

กับ เพื่อน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: melody ที่ 16-12-2008 01:40:33
+1ให้กับคนแต่ง...
เรื่องนี้น่ารักสดใสได้ใจมากกกกก :impress2:
แล้วเรียกกันว่า"เพื่อน"เนี่ย..น่ารักจังเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 16-12-2008 10:36:57
มารอคุณเพื่อนมาเล่าเรื่องเพื่อน :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: m_myca ที่ 16-12-2008 14:44:22
อ่านทันแล้ววว

น่ารักมากมาย

555555++++
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 16-12-2008 21:58:16
เพื่อนคับ
อยู่ไหนคับ
คิดถึงคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 17-12-2008 10:12:09
คิดถึงคุณเพื่อนแล้ว ยังไม่มาเหรอค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: m_myca ที่ 17-12-2008 12:36:06
รอคุณเพื่อนมาต่อนะครับบ

55555555++

คิดถึงนนท์กะคุณเพื่อนเจงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 17-12-2008 13:12:06
Waiting för k.Peun nä!
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 17-12-2008 14:19:53
มาตามหาคุณเพื่อน

แค่มาเม้นท์ช้าหน่อยเดียวไม่มาต่อเลย อิอิ

ตอนนี้อ่านไปม้วนไป อยากรุ้จังคุณเพื่อนจะเป็นยังไง

หรือ จำอะไรไม่ได้เลย เก็บรายละเอียดหน่อยนะ อิอิ

แล้วมาต่อไวๆ ด้วย คนทางนี้รออยู่ตรึมๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 17-12-2008 16:46:11
เพื่อนจ๋า...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 17-12-2008 18:38:57
คุณเพื่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 17-12-2008 18:46:47
เรื่องนี้น่ารักจัง  ^___^

ว่าแต่ช่วงนี้คนแต่งหายไปไหนน้า  ...  คิดถึงมาก ๆ แล้ว ~!!

ขอบคุณนะครับ  ...   รอเรื่องน่ารัก ๆอยู่น้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 17-12-2008 21:49:32
คุณเพื่อนจ๋า

ยังไม่ต้องมาอัพเรื่องต่อก็ได้

แต่มาทักทายกันบ้าง

อย่าเงียบหายไปอย่างนี้เลยนะ

 :call:

แวะมาคุยกันบ้างอะไรบ้างก็ได้

คิดถึงเน้อ!!!!!
:กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 10)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 17-12-2008 22:25:40
ไม่ได้มาเม้นหลายวัน ตอนใหม่ช่างอร๊ายยยยยยยเหลือเกินค่ะ  :impress2:

นนท์จะน่ารักไปไหนคะะะะะะ คุณเพื่อนนนนนนนนน


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 17-12-2008 23:35:28

คนตัวโตกุมมือผมไปจับที่หัวใจ  ...

   “รู้สึกมั๊ย ...”  หัวใจของนนท์เต้นแรง .... จนเหมือนจะทะลุออกมา ....


.............





ตอนที่ 11



หัวใจของผมเต้นเร็วและรัวไม่เป็นจังหวะ ... รู้สึกหวิว ... สั่น ...

ผมจับมือของนนท์ขึ้นมาทาบลงบนหัวใจของผม ... แทนคำตอบ ....

   “เหมือนกันใช่มั๊ย ... ” ผมกระซิบ ...

นนท์ยิ้มบาง ๆ ... แล้วประทับริมฝีปากอุ่นบนริมฝีปากของผมอีกครั้ง ...
นุ่มนวล ... อ่อนโยน .... ลึกซึ้ง ...
นนท์ปล่อยให้ลิ้นสัมผัสกับริมฝีปากของผม ... ผมรู้สึกตกใจ ... ผงะเล็กน้อย
   “หือ ... ” 
ผมมองหน้านนท์ ... นนท์มองกลับมาด้วยสายตาหวานฉ่ำ ... กระซิบข้างหู
             ”French Kiss …” 
แล้วนนท์ก็กดริมฝีปากลงบนริมฝีปากของผมอีกครั้ง ... 
ปลายลิ้นของนนท์ไล้เรื่อยรอบริมฝีปาก ... กัดเม้มเบา ๆ ... หัวใจของผมเต้นถี่รัว ... ผมดันนนท์ออกห่าง ...
   “ทำไม่เป็น ...”
นนท์ยิ้ม ... เอื้อมมือมาปิดตาแล้วกระซิบว่า ...
   “ปล่อยตามธรรมชาติ ... นะครับ”
นนท์ไล้จูบรอบใบหูอย่างเชื่องช้า ... ผมรู้สึกขนลุกจนต้องหดคอ ... หัวเราะเบา ๆ
นนท์ก็รู้นะว่าทำแบบนี้ผมขนลุก ... แกล้งกันได้ ...

เสียงโทรศัพท์ของนนท์ ... ดังขึ้นมาทำลายความเงียบ ... นนท์ชะงัก ... มองหน้าผม
   “ใครโทรมาเนี่ย ...”
นนท์ปล่อยให้โทรศัพท์ดังจนสายตัดไป ...
   “ไม่ดูหน่อยเหรอ ... ” ผมถาม ... นนท์ส่ายหน้าก่อนตอบว่า
   “ใครจะโทรมาป่านนี้ ... 5 ทุ่มแล้วนะ”
   “ลองดูก่อนสิ”
   “อยากรู้ล่ะซี่ ..” นนท์พูดยิ้ม ๆ เอื้อมมือมาจี้เอว ... ผมหัวเราะดิ้นไปมาอยู่บนเตียง
นนท์เอื้อมมือมาปิดปาก ... ผมจี้เอวนนท์บ้าง ... ทำเอาคนตัวโตหัวเราะเสียงดัง

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
            “รับเถอะ .... อาจเป็นเรื่องสำคัญก็ได้” ผมพูดยิ้ม ๆ มองคนตัวโตทำท่างอแง
ไม่อยากรับโทรศัพท์ ... นนท์บีบจมูกผมเบา ๆ เหมือนหมั่นเขี้ยว ....
ก่อนควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อแจ๊กเก็ตที่วางบนเก้าอี้
... นนท์กดปุ่มรับโทรศัพท์ แล้วกรอกเสียงลงไป

             “อือ ... มาถึงได้ซักพักแล้ว … มีไรรึเปล่า ... ไม่รู้สิ  .... ยัง ..... ยังไม่ได้บอก .....”

นนท์วางสายหลังจากคุยพักใหญ่ ... แล้วเล่าว่า ‘บี’ โทรมาถามว่าตัดสินใจยังไง ...
นนท์บอกว่า ... ตัดสินใจแล้วว่า ... จะสอบ IELTS แล้วเรียนวิศวะต่อ ...
ไม่เรียน MBA แล้ว ... ดูเหมือน ‘บี’ไม่ค่อยจะเห็นด้วยซักเท่าไหร่ ...
‘บี’ บอกว่าการเข้าเรียน pre MBA
จะทำให้นนท์สามารถเข้าเรียน MBA ที่ดี ๆ ได้ ...
และก็สำคัญสำหรับการเข้าไปทำงานที่บริษัทของอาด้วย

....... ผมบีบมือนนท์เบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ ... และบอกนนท์ว่า
             “... ถ้าได้ทำในสิ่งที่ชอบก็จะดีกับตัว ‘เพื่อน’ เอง ... และเชื่อว่า
‘เพื่อน’ ตัดสินใจถูกต้องแล้ว ...”

นนท์มองหน้าผม แววตาอ่อนโยน .... ก่อนจะพูดว่า
            “เพื่อนเป็นสาเหตุสำคัญ .... ที่ทำให้ ‘เพื่อน’ อยากอยู่ที่นี่” นนท์ดึงตัวผมเข้าไปกอด ...
          “แต่ ... ถ้าเพราะสาเหตุนี้ทำให้เพื่อนต้องเสียโอกาสทางการศึกษา
หรือโอกาสอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง .... เหมือนที่ ‘บี’ บอก ....
เพื่อนว่า .... มันอาจไม่คุ้มก็ได้นะ” ผมพูดเบา ๆ
            “ ‘เพื่อน’ ต้องเป็นคนตัดสินใจเองนะ ... ไม่ใช่คนอื่น …
และ ‘เพื่อน’ ก็เห็นว่า ... เรื่องการเรียน ... ‘เพื่อน’ ต้องเป็นตัดสินใจจากความชอบด้วย
... ถ้าไม่ชอบจะเรียนได้ดีได้ยังไง … ” นนท์พูดยาวเหยียด 
   “...  คร๊าบบบบ” ผมเอามือปิดปากนนท์ให้หยุดพูด ... นนท์หัวเราะขำ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง .... นนท์เหลือบมองที่หน้าจอแล้วพูดว่า
            “private number … สงสัยจะโทรมาจากเมืองไทย ...” ที่โน่นน่าจะ 6 โมงเช้าแล้ว ....
นนท์กดรับโทรศัพท์
            “หวัดดีครับ ... แม่เหรอ ... ‘บี’ บอกล่ะสิ ... เดี๋ยวโทรกลับครับ ...”
หลังจากวางสาย ... นนท์บอกว่าคงต้องขอตัวกลับบ้านแล้ว ... เพราะแม่โทรมาจะคุย
เรื่องที่นนท์ไม่ยอมเรียนหลักสูตรที่เพิ่งไปดูมาวันนี้ ...
          “สงสัยจะยาว ...” นนท์บอก ....
          “เจอกันพรุ่งนี้นะครับ ...” นนท์พูด ... แล้วจูบลาเบา ๆ ที่หน้าผาก
...... ผมพยักหน้า ... กอดให้กำลังใจนนท์หนึ่งครั้ง
             “ไม่ว่า ‘เพื่อน’ จะทำอะไร ... เพื่อนเป็นกำลังใจให้ ‘เพื่อน’เสมอนะ”
นนท์กอดผมอีกครั้ง ก่อนที่จะออกจากบ้านไป ... ผมได้ยินเสียงนนท์แว่ว ๆ...
           “หวัดดีครับแม่... ‘บี’ บอกว่าไงบ้างล่ะ ......”

ผมเดินกลับมาที่ห้อง รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ... ผมอยากเป็นกำลังใจให้นนท์
อยากอยู่ข้าง ๆ แต่ผมรู้ว่า ... นนท์ก็คงไม่อยากให้ผมไม่สบายใจเหมือนกัน ...
            “เฮ้อ … ” ผมถอนหายใจออกมาดัง ๆ เผื่อว่าจะสบายใจขึ้นบ้าง .
           “... เฮ้อ ......... เฮ้อ ......... เฮ้อ ........” ผมถอนหายใจติด ๆ กันอีกหลายที ....


เช้าวันรุ่งขึ้น ... นนท์มารับผมที่บ้านเพื่อไปโรงเรียนพร้อมกัน ...
ด้วยความอยากรู้เรื่องที่นนท์คุยกับแม่เมื่อคืน ... ผมหยิบของลงมารอนนท์ที่ห้องทานข้าวข้างล่าง
พอนนท์กดกริ่ง ... ผมก็รีบหยิบของและออกไปหานนท์ทันที
   “บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้รอข้างบน” นนท์พูด
   “เพื่อนลืม” ผมบอกนนท์ตามตรง ... ก็เพราะอยากรู้เรื่องของนนท์นั่นแหละ ... ผมเป็นห่วงนนท์นะ
   “ลืม” นนท์ทวนคำตอบของผมเสียงสูง ... ก็ผมลืมจริง ๆ ลืมว่านนท์สั่งนักสั่งหนาว่าให้รอบนห้อง ...
ถ้าแคธี่ตื่นแล้วและอยู่ห้องข้างล่าง .. แคธี่ก็จะเป็นคนเปิดประตูให้นนท์ ... นนท์ก็จะขอขึ้นไปตามผมที่ห้อง ...
แต่ถ้าแคธี่ยังไม่ลงมาข้างล่าง ... ผมต้องเปิดประตูให้นนท์เอง
ห้ามเอาของลงมาก่อน ... นนท์จะได้หาเรื่องเดินไปหยิบของที่ห้องด้วย
   “เช้านี่เลยไม่ได้ ‘กอดเพื่อน’ ...” นนท์บ่นเหมือนเด็กถูกขัดใจ … ก็เหตุที่นนท์สั่งให้รอบนห้อง
เพราะจะได้ ‘กอด’ กันก่อนไปโรงเรียน ... ผมหัวเราะ ... จูบมือตัวเองแล้วแตะที่ปากนนท์
   “เช้านี้ ... เอาอันนี่แทนไปก่อนละกัน”
   “ครับ”  นนท์หันมายิ้มกว้าง ... เอื้อมมือมาขยี้หัวเบา ๆ

หลังจากเดินไปเงียบ ๆ ซักพัก ... ผมถามนนท์ในเรื่องที่ค้างคาใจ .. ขอให้นนท์เล่าเรื่องที่คุยกับแม่ให้ฟัง
นนท์ไม่ตอบ ... บอกเพียงว่า ... ไว้ค่อยเล่า ...
เราคุยกันเรื่อยเปื่อยจนถึงโรงเรียน ...
อันที่จริงเช้านี้ผมมีเรียน class ที่สอง ส่วนนนท์เรียน class แรก ... ในวันที่มีเรียนไม่ตรงกันอย่างนี้
นนท์จะบังคับ (แกมข่มขู่ ... แต่ผมก็เต็มใจ) ให้มาพร้อมกัน ... โดยอ้างว่า
   “ไม่อยากให้เพื่อนเดินมาคนเดียว”
เมื่อมาถึง ... ผมก็จะนั่งอ่านหนังสือใน Quiet Room ซึ่งเป็นห้องเล็ก ๆ ขนาดนั่งได้ไม่เกิน 3-4 คน
ที่โรงเรียนจัดไว้ให้นั่งอ่านหนังสือ มีหลายห้องกระจายทั่วโรงเรียน ...
นนท์เดินมาส่งผมที่ห้องที่เรานั่งประจำ ... ผมนั่งลงวางของและหยิบหนังสือออกมาเตรียมอ่าน ...
ก็ผมมีเวลาตั้งชั่วโมงกว่าก่อนเข้าเรียนนี่นา
   “ตั้งใจอ่านหนังสือนะ ... เดี๋ยวมา” คนตัวโตออกคำสั่ง
   “คร๊าบ บ บ” ผมลากเสียงยาว ... ตอบรับคำสั่ง
นนท์ก้มลงเอาจมูกมาชนแก้มผมเร็ว ๆ หนึ่งครั้ง ก่อนกระโดดออกจากห้องไป ...

นั่งอ่านหนังสือได้ซักพัก ... ก็เริ่มคิดเรื่อยเปื่อย ... เรื่องเมื่อคืน ...
แต่ดูจากท่าทางของนนท์วันนี้ ... คงทำความเข้าใจกับแม่เรียบร้อยแล้ว
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ร่าเริงขนาดนี้ ... ก็ผมรู้จักนนท์ดีนี่นา ... ทำไมผมจะดูไม่ออก
เวลานนท์มีความสุขหรือทุกข์ไม่เคยปิดผมได้ซักที

เกือบหมดเวลาของ class แรก ... ผมเก็บของเตรียมตัวไปเรียน ...
ได้ยินเสียงเปิดประตู ผมหันไปมองตามเสียง
   “Hi !” เสียงของเพื่อนชาวสวีเดนทักทาย ... เธอถามผมว่านนท์จะมาที่นี่รึเปล่า ...
คงอยากเจอนนท์ ... ก็เธอชอบนนท์มาก ... เที่ยวบอกกับใคร ๆ อย่างนั้น
รวมทั้งบอกรักนนท์หลายครั้ง ...
แต่นนท์กลัวเธอมาก .... เพราะเธอมีลักษณะท่าทางที่ผู้ชายทุกคนควรจะกลัว ...
คือ ตัวใหญ่กว่าผู้ชายธรรมดาซัก 2 เท่า
และมีสายตาโรคจิตคอยมองแบบอีโรติกอยู่ตลอดเวลา ...
ผมปดไปว่า ... ไม่รู้ ... แล้วผมก็รีบขอตัวไปเรียน
แต่จริง ๆ วิ่งออกไปดักรอนนท์ที่หน้าห้องเรียน ...
   “ทำไมมารออยู่นี่ ...” นนท์เดินออกมาจากห้องหลังจากเลิก class แล้วถามผมอย่างสงสัย
   “มีสาวสวยรออยู่ที่ Quiet Room อย่างเจอมะ” ผมบอกนนท์ ... แล้วยักคิ้วให้
นนท์เลิกคิ้ว ... ทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม
   “ก็สุดที่รักของ 'เพื่อน’ ไง” ผมพูดขำ ๆ ... นนท์ทำท่านึกออก ... จับหัวผมโยกไปมา
   “แล้วก็ไม่บอก ...จะได้รีบไปหา” นนท์ยื่นหน้ามาใกล้ ... ทำท่าขนลุก
   “เพื่อนไปรอที่ Town Center ละกัน ...” นนท์พูดมองซ้ายมองขวา แล้วแบกเป้ขึ้นบ่า ...
   “ไม่ไปหาหวานใจแล้วเหรอ ...” ผมตะโกนไล่หลัง .. ยืนหัวเราะ
 ... รู้สึกขำกับท่าทางลุกลี้ลุกลนของนนท์เหลือเกิน

หลังจากเลิกเรียน ... ผมเดินไปหานนท์ที่ Town Center ... แวะทานอาหารร้าน ’เป่ยจิง’
ผมสั่ง ‘Chicken fried noodle’
   “เมื่อไหร่จะเล่าซักที ...” ผมถามนนท์พร้อมกับคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก
นนท์ยิ้มก่อนจะพูดว่า
   “อยากรู้เหรอ ...”
   “ก็ใช่นะสิ” ผมตอบ ... กระตือร้นล้น
   “งั้นไม่เล่าดีกว่า”  … อ้าว ...
   “ตามใจ” ผมไม่อยากรู้ก็ได้
          “งอน ... งอน” นนท์ยั่ว (โมโห)
          “เปล่า” ผมตอบสั้น ๆ ... จริง ๆ นะไม่ได้งอนซักนิ๊ด

หลังจากทานอาหารกลางวันเรียบร้อย ...
   “ซื้อผลไม้ ... ไปทานที่บ้านเพื่อน ... แล้วจะเล่าให้ฟัง” นนท์จับข้อมือผม
แล้วลากเข้า Mark & Spencer ซื้อผลไม้ ... สุดโปรดของนนท์ (และผมด้วย)

... ‘สตรอเบอร์รี่’ ....

กลับมาถึงบ้าน ... ริต้านั่งรออยู่ในห้อง
   “ ‘สตรอเบอร์รี่’ น่ากินจัง ...” เป็นประโยคแรกที่ริต้าทักทายเมื่อเจอหน้า
   “ก็กินสิ” ผมชวน ... แล้วแกะกล่อง ‘สตรอเบอร์รี่’ ยื่นให้ริต้า ...
ริต้ายิ้มพร้อมหยิบ‘สตรอเบอร์รี่’ เข้าปาก... เคี้ยวแก้มตุ่ย ...
น่ารักดี ...  ผมคิด ... ริต้านี่ ... ไม่มีมารยาหญิงหลายร้อยเล่มเกวียน
เหมือนผู้หญิงคนอื่นเลยซักนิด ... หันไปเห็นนนท์ที่กำลังมองริต้าอยู่เหมือนกัน ...
แต่คงคนละความรู้สึก ... เพราะนนท์ตาขวางชอบกล ...
   “มีอะไรถึงมานี่” นนท์ถาม
   “ชั้นมีเรื่องอยากปรึกษากับเพื่อน ... ไม่ใช่คุณ” ริต้าแกล้งว่านนท์ ...
แล้วหันมายักคิ้วให้ผมทีหนึ่ง ...
ริต้ามาหาผมเพราะจะคุยเรื่องเรียนนิดหน่อย ... หลังจากที่คุยเสร็จ
พร้อมกับ ‘สตรอเบอร์รี่’ หมดกล่อง (ก็กินกันทั้งสามคนแหละ)
   “คุยเสร็จแล้วใช่มั๊ย ...” นนท์ถามริต้า ... ริต้าพยักหน้า
   “มีอะไรอีกรึเปล่า” นนท์ถามอีก .. ริต้าส่ายหน้า
   “งั้นกลับบ้านได้แล้ว” นนท์พูดยิ้ม ๆ เหมือนได้แกล้งคืน ...
   “เราสองคนจะอ่านหนังสือเตรียมสอบกันเข้าใจไหม” นนท์พูดพร้อมดึงมือริต้าให้ลุกขึ้น
แล้วดันหลังริต้าให้ออกจากห้อง ... เดินไปส่งที่ประตูบ้าน
   “Nont … you are very crazy !!!” (นนท์ ... แกนี่ท่าจะบ้าใหญ่แล้ว) ริต้าบ่น ... แล้วบอกลาผม

   “อดกิน ‘สตรอเบอร์รี่’ ที่เพื่อนป้อนเลย ...” นนท์พูด ... หลังจากปิดประตูห้อง ...
   “ไม่เล่าให้เพื่อนฟังแล้ว ... เซ็ง” คนตัวโตนอกจากงอแงแล้ว ... ยังพาลไม่เลิก ...
แต่หันมาทำหน้าเจ้าเล่ห์ ...
   “อยากฟังป่ะ”
   “เฉย ๆ อยากเล่าก็เล่า ...” ผมทำเป็นไม่สนใจ
   “ไม่อยากฟัง ... ไม่เล่าก็ได้” นนท์หันไปหยิบหนังสือออกจากเป้ ... ทำท่าตั้งใจอ่าน ...
   “ไม่อยากฟังจริงเหรอ ...” นนท์ยื่นหน้ามาถามอีกครั้งเมื่อเห็นผมทำเฉย
   “อยากเล่ารึเปล่าล่ะ” ผมหันไปถามยิ้ม ๆ ... นนท์ส่ายหน้า
   “ตามใจ” ผมตอบแล้วก้มลงอ่านหนังสือ ...

นนท์มองหน้าผม ... วางหนังสือ เดินไปนั่งบนเตียง ...
   “มานี่หน่อยสิ ... ‘เพื่อน’ ปวดหัว” นนท์เรียกแล้วเอามือตบบนเตียงเบา ๆ เรียกให้ผมไปนั่งข้าง ๆ
อ้อนอีกแล้ว ... คนตัวโตนี่ขี้อ้อนจัง ... ผมยิ้มแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ นนท์ ... นนท์เอนตัวลงมานอนหนุนตัก
   “ปวดหัว ... ตรงนี้ ... นวดให้หน่อย” คนพูดนอนหลับตาพริ้ม ... น่าตีชะมัด
ผมใช้ปลายนิ้วนวด .. วน .. เบา ๆ ที่ขมับทั้งสองข้าง
   “อืมม ... สบายจัง”   คนที่บ่นปวดหัวเมื่อครู่พูด ... ยังหลับตาสนิท ...ผมลอบมองริมฝีปากสวย
น่าสัมผัสคู่นั้น ... เผลอใช้ปลายนิ้วลูบไล้รอบริมฝีปากแผ่วเบา ...
แล้วโน้มตัวลงค่อย ๆ บรรจงจูบสัมผัสริมฝีปาก ...
อย่างแผ่วเบาและทะนุถนอมที่สุด .. นนท์จูบตอบกลับมา   
ผมจะขยับตัวออก ... มือใหญ่โอบรอบคอผมกดไว้ ...ไม่ยอมคลายริมฝีปากจากจุมพิต ....

   “ ‘เพื่อน’ ดีใจ ... ที่ได้อยู่กับเพื่อน ....” นนท์พูด

..........

หลังจากนั้น นนท์ก็เล่าให้ฟังว่า ... แม่ของนนท์เข้าใจเหตุผลของนนท์แล้ว
แต่ก็ยังกังวลถ้าทำคะแนนสอบ IELTS ไม่ดี ... จะเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้
   “งั้นต้องรีบอ่านหนังสือแล้ว” ผมบอกนนท์ ... นนท์พยักหน้าดูสีหน้ามุ่งมั่น
   “ขอกำลังใจก่อน ...” นนท์ยื่นหน้ามาหอมแก้มทีหนึ่ง... ก่อนหันไปทำท่าตั้งใจอ่านหนังสือ
ผมยิ้ม ... เอาใจช่วยนนท์นะ ... หวังว่าสิ่งที่นนท์เลือกจะไม่ทำให้แม่ของนนท์ผิดหวัง ...





(* A French Kiss is a kiss, usually romantic or sexual in nature, in which one participant's tongue touches the other's tongue and usually enters his or her mouth. It is also known as tongue kissing, tongue fighting)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 17-12-2008 23:41:50
คุณเพื่อนนนนนนนนนนนนนนน

กีสสสสสสสสสสสสส


คิดถึงงงงงงงงงงงงงงง




ไปอ่านก่อน

อ่านเสร็จแระ

โฮะ..โฮะ

ไม่มีอะไรจะกล่าวว........นอกจากกก


โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกก :o8:



+1 ให้กับความหวานของคุณเพื่อน กับ "เพื่อน" :n1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 17-12-2008 23:46:52
น่ารักน่าอิจฉาจริงๆคู่นี้ :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-12-2008 23:50:49
หวานๆๆๆๆๆ  :-[ น้ำตาลขึ้น เบาหวานถามหา แต่ชอบ  :m3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 17-12-2008 23:57:36


...อืมมม....อืมมมม...อืมมมมม :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: epochii_upfun ที่ 17-12-2008 23:58:25
แอบจิ้นเฟรนช์คิสเนี่ยแหละ
ได้อ่านทำ หั้ยเราคิดไปถึงนู่นๆๆๆ
 :-[
พออ่านๆๆไปเอ๊ะยังงัย :a5:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 17-12-2008 23:59:14
กว่าจะมา
ต้องโดนทำโทษนะคุณเพื่อน :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: ~Kalianeko~ ที่ 17-12-2008 23:59:30
ผมอยากมี  French Kiss   บ้างจังคับ


เสียดายนนท์เลยไม่ได้กินสตอเบอร์รี่ที่เพื่อนป้อนให้เลยนะคับ


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: tvemmyxq ที่ 18-12-2008 00:09:34
จูบของเพื่อน กับ "เพื่อน"


ฮร้ากกกกกกกกกกกกก จิกกบาลลเดินออกกระทู้ไป


รอตอนต่อไปค่า โรแมนติก บริทิ้ช เลิฟ สตอรี่มากๆๆ งื้อออ >v<~
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 18-12-2008 00:13:40
 :fire:  น่าอิจฉาจังเลยอ่ะ


หวานกันเข้าไป


น่ารักดีนะคู่นี้

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 18-12-2008 00:17:27
 :-[ :-[ :-[
หวานกันจนน่าอิจฉาเลยอ่า โอ๊ย เบาหวานกินหลายเรื่องแระ จะตายมั้ยเนี่ย หมอจ๋าช่วยเค้าด้วย
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 18-12-2008 00:19:23
ว้าเสียดาย อดกินสตอเบอรี่เลยยย

ไว้วันหน้า  ซื้อมากิน ใหม่เน้อ  หุหุ

ปล.หวานกันจริงคู่นี้ ชอบๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 18-12-2008 00:31:37
เด็กใหม่รายงานตัวคับ  ขอบคุณที่มาต่อนะงับ  หวานกานจังเยยอยากมีแบบนี้มั่งจัง (ไปเกิดใหม่ก่อนเถอะแก)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 18-12-2008 00:38:25
อ่านไปยิ้มไป^_________^

หวานมากกกกกกกกกกก :o8:

เพื่อนกับ'เพื่อน'น่ารักมาก

 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: melody ที่ 18-12-2008 00:52:32
เพื่อนคู่นี้เค้ารักกันน่ารักดีเน้อ
 :กอด1:น่ารักทั้งคู่เลยอะ
ชอบๆอ่านแล้วโลกเป็นสีชมพู :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: m_myca ที่ 18-12-2008 01:03:41
5555555++

น่ารักอ่าครับ

หวานเกิ๊นนนน... :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 18-12-2008 03:04:56
อ่านแล้วมีความสุขจางเลย

ท่าทางในตอนหน้าๆ บี จะมีส่วนสำคัญแน่เลย

จัดได้ว่าเป็นตัวร้าย ได้เลยนะเนี่ย เข้าถึงแม่ตัวพระได้เนี่ยอิๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 18-12-2008 07:12:16
ดีใจที่มาต่อแล้ว  :impress2:

หวานอีกแล้ว หวานมันทุกตอน

อยากได้แบบนนท์  นนท์มีพี่ชายมั้ยเอ่ย  :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 18-12-2008 08:08:56
น่ารักกันจริงๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 18-12-2008 08:40:11
หวาม เอ๊ย หวานมากก ประทับใจ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 18-12-2008 08:54:35
^
^
^

จิ้มอิดาว

---------------------------------

เพื่อนดีใจที่ได้อยู่กับเพื่อน

จุ๊บๆ

กรี๊ดดดดดดดดดดดดด

โฮกกกกกกกกก :man1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 18-12-2008 09:56:46
ดีใจที่มาต่อแล้ว  :impress2:

หวานอีกแล้ว หวานมันทุกตอน

อยากได้แบบนนท์  นนท์มีพี่ชายมั้ยเอ่ย  :o8:
ว๊ากกกกกกกกกกกกก :jul3:
นู๋BeePedจ๋า นนท์เค้าลูกคนเดีียวอ่ะ
หมดสิทธิ์ o18

เพื่อนเรารักนายว่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 18-12-2008 10:51:15
กรี๊ดดดด ดีใจมากมายที่คุณเพื่อนมาต่อแล้ว ร๊อ รอ รอให้คุณเพื่อนมาต่อเร็วๆ ทุกวัน คิดถึงนนท์อิอิ :z2:
ตอนนี้ก็หวานอีกแล้ว มีงงมีงอนกันด้วย ฮี่ๆๆๆ นนท์ท่าจะชอบเเต๊ะอั๋งคุณเพื่อนเป็นพิเศษ
ตอนนี้เลยอดกินสตอเบอรี่แล้วงอนเลย อยากให้คุณเพื่อนป้อน กร๊ากกกกก
อ้ายยยย ตอนนี้ขัดใจนิดหน่อย เกือบได้เห็นฉากเพื่อนxเพื่อนแล้ว (รึเปล่า?) ฮี่ๆๆๆๆ
เสียดาย เชียร์นนท์ ตอนหน้าอย่างให้พลาดน่าจ๊า กร๊ากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 18-12-2008 10:58:55
หวานกันแบบสุด ๆ กู่ไม่กลับแล้ววววววว  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 18-12-2008 11:35:05
นับวันยิ่งหลงรัก คุณเพื่อน ของคุณเพื่อน และ คุณเพื่อน
หวานนนน แบบที่เข้า อากาศช่วงนี้
นาทีนี้ไม่นีอะไรจะมอบ
นอกนอกจาก  :L1: ให้ คุณเพื่อนและเพื่อนของคุณเพื่อน
มา บ่อยๆน้า พวกเราคิดถึงมากมาย
กด+1 เสมอ สำหรับความหวาน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 18-12-2008 11:53:02
หัวใจของผมเต้นเร็วและรัวไม่เป็นจังหวะ ... รู้สึกหวิว ... สั่น ...



คนอ่านทั้งหวิว ทั้งหวาม ทั้งสั่น แถมอิจฉา แกมริษยา

น่าร้ากกกกกกกกกกกกก ปายยยยยม้ายยยยยยย

หวานเหลือเกิ๊น อ่านแล้วมีความสุข เอาไปเลย+1

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: power** ที่ 18-12-2008 12:24:17
อู๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

หวานน้ำตาลหยด ม่ายไหวแระ ไปเช็คเบาหวานก่อน

กรี๊ดดดดดดดดดดดดด

เค้าอยากมีเพื่อนแบบนี้บ้างงงงงงงงงง

อร๊ายยยยย

น่ารักม่ายหว๋ายยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 18-12-2008 13:07:03
พี่นนท์กะพี่เพื่อนน่ารักจัง
พี่นนท์อยากมีเวลาอยู่กะพี่เพื่อนเยอะๆ น่าอิจฉาจัง
ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 18-12-2008 14:31:11
ITS FRENCHKISS,BABE!!!!!

ฮิ้วววววววว  :กอด1:

ชอบตอนนี้อ่าาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 18-12-2008 14:46:35
^^
คุณก็สุดยอด  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 18-12-2008 14:54:51
น่ารักจัง นนท์+เพื่อน

 :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 18-12-2008 15:14:35
แอร๊ยยยยยยย หวานแหวว  วาบหวิวที่ซู๊ดดดดด  :-[
อ่านไปอยากกรี๊ดดดดไปด้วย  แต่กลัวชาวบ้านแตกตื่น  กร๊ากกกกกก
ดูท่าคุณเพื่อนต้องฝึกอีกเยอะนะเนี่ย   ก็ french kiss ไง  :o8:
'เพื่อน' ของคุณเพื่อนคงต้องพยายามสอนให้บ่อยๆหน่อยละ  อิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: tommy ที่ 18-12-2008 16:21:54
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบอ่า  มาต่ออีกนะครับ  รอๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 18-12-2008 17:35:43
 :L1: A French Kiss  is a kiss, usually romantic or sexual in nature, in which one participant's tongue touches the other's tongue and usually enters his or her mouth. It is also known as tongue kissing, tongue fighting
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 18-12-2008 18:27:06
เอ่อ.. อ่า 

 :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 18-12-2008 22:54:12
ครั้งหน้าซื้อสตอเบอร์รี่มากินคู่กัน  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: cassper_W ที่ 18-12-2008 23:56:36
น่ารักกกกกจังเลยอ่ะ เรื่องนี้   แต่ว่าความสัมพันธ์เหมือนจะใช่ แต่ยังคลุมเคลือ เพราะยงไกรขอเป็นแฟน 

เอะ หรือว่า การกระทำไปก่อนเป็นพอ กร๊ากกกกกกก :m20:

ความจิง เอาเชอรี่มาบ้างก็ได้น่ะ คิคิ  แบบว่า กินเสร็จแล้วช่วยกันผูกก้านเชอรี่ซะเลยยยยยยยย   

อ้ายยยยยยยยยย :-[ 

ปล. สรุปว่าตัวนายเอก ชื่อเพื่อนเหรอ???   เอะ หรือว่าชื่อจิงๆๆยังไม่ปรากฎออกมา   :really2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 19-12-2008 09:14:46
^


จิ้มรีบน  จอมเอ๋อ   :m20:

ปล.คุณเพื่อนเมื่อไหร่จะมาอ่ะ รอๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 19-12-2008 12:36:48
เพื่อนคับ มาต่อได้แล้วคับ :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 19-12-2008 16:39:58
 คิดถึงFrench kissเอ๊ยคุณเพื่อนแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 20-12-2008 00:09:19

ริต้าน่ารัก...ฮาาาา

นนท์เหมือนเด็กขี้อิจฉาเลย...น่าร๊ากกกกกกกก  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 20-12-2008 02:51:03
คิดถึง คุณเพื่อน

 :monkeysad:

 :L2:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 20-12-2008 08:58:56
 :oni3: :oni3: :oni3:

จงมา จงมา จงมา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 20-12-2008 09:01:22
ตามมาจิ้มคุณ Poes อิอิ :jul3:

เพื่อนคับคิดถึงคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: TinaJunior ที่ 20-12-2008 13:36:12
รอคุณเพื่อนคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 20-12-2008 19:45:49
คุณเพื่อนคิดถึงเพื่อนบ้างไหม  ถ้าคิดถึงก็มาต่อได้แล้วนะคร๊าบ   :m15:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 20-12-2008 20:36:25
ทันแล้ว ชอบมากเลย  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: uME_HeRo ที่ 20-12-2008 20:50:11
อิจฉาคู่นี้มั่กมาก


หวานจังอ่ะ  :o8:


เมื่อไรจะเจอยังงี้ซะที
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Mint ที่ 21-12-2008 12:56:45
รอคุณเพื่อนอยู่นะคะ

 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: tommy ที่ 21-12-2008 14:09:04
เข้ามาให้กำลังใจคุณเพื่อนครับ :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: RE
เริ่มหัวข้อโดย: HeVeN ที่ 21-12-2008 16:20:36
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆครับ ขอต่อว่าคุณเพื่อนหน่อยนะครับ คุณน่ะใจร้ายจังนะ ก็มาทำให้ผมยิ้มจนเมื่อยแก้มไปหมดเลยนี่ครับ ชอบภาษาที่คุณใช้จัง อ่านแล้วอยากลองไปอังกฤษดูสักครั้งเลยครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 21-12-2008 17:52:44
คุณเพื่อน
คิดถึงคุณเพื่อนของคุณเพื่อนและคุณเพื่อนมากมาย :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 21-12-2008 19:47:55
ขอบคุณทุกคนมาก

จะมาต่อให้วันอังคารตอนดึก ... ดึก ...

รักทุกคน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-12-2008 19:50:40
วันอังคารเลยหรอ  :z3: นานจัง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 21-12-2008 22:30:33
นานมากจริง ๆ

เค้าคิดถึง

 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Loin_diciz ที่ 22-12-2008 00:01:41
พึ่งมาอ่าน ชอบมากกกกก  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: akichan ที่ 22-12-2008 09:36:24
น่ารักจริ้งจริง~~>.<~~
 :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 22-12-2008 10:37:07
รอคอยมานานแสนนาน ทรมานวิญญาณหนักหนา ระทมในอุราแก้วกานดาฉันรอเธอผู้เดียว   :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 22-12-2008 10:42:43
^

^

ตามมา :beat: อิเด็กคนนี้





@@@@@@@@@@@@@@


คิดถึงคุณเพื่อนง่ะ
:กอด1:


@@@@@@@@@@@@@@

 :z6:

V

V

V
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 22-12-2008 10:46:04
^
^
แอบเอาไม้หน้า 19 มาทุกป้า
ตีๆๆๆๆ
ตี ให้หายแก่ไปเลย  :z2:

เบื่อยายแก่แล้วแก่เลยข้างล่างมาก
อย่าให้เจอ
เอาก้อนหินขว้างใส่เลย นี่ๆๆๆ

V
v
v
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 22-12-2008 10:49:26
^
^

เอาไม้เขี่ยป้าสองคนข้างบน


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


หน้า 1 9

ต้องมีส่วนร่วม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 22-12-2008 14:18:07
เพิ่งได้อ่านครับ

ชอบมากมายเลยอ่า หวาน  จริง ๆ

สังหรณ์ใจว่ามันจะเศร้ายังไงก็ไม่รู้

 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 22-12-2008 18:18:55
ตามทันแย้ววววววววววววววว     


ชอบเรื่องนี้จัง  น่ารักอ่ะ   

พระเอก(?)  เราก็ขี้งอนซะ  นายเอก(?) เราก็ใช่ย่อย   


ขอบคุณคุณเพื่อนที่สร้างตัวละครที่น่ารักๆออกมา 

+1  เยย 


น้องกาย  หายอกหักยั ง  เดี๋ยวพี่ดามใจให้  อิอิ   


รอตอนต่อไปฮับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-12-2008 10:57:25
มารอคุณเพื่อน เดี๋ยวบินไปตามที่อังกฤษซะเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 23-12-2008 11:20:13
 :z10: มารอคุณเพื่อน

ใกล้คริสมาสต์ จิงกาเบล ลัลล้า ปาจิงโกะ แระนะ


(ไม่มีไรแค่อยากจะบอก อิอิ)


คิดถึงงงงงงงงงเน้อ มาให้หายคิดถึงไวๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 23-12-2008 13:42:25

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

  ก็ยังงงๆ อยู่ว่ามันเข้าใจไปได้ยังไง  แต่เราก็เข้าใจกันนะว่าหมายคามว่า...."พี่ขวัญ  วันนี้สองจะพาเจซึ่งเป็นเพื่อนของแนนซึ่งเป็นเพื่อนของสองอีกทีกับนันเพื่อนของเจเนี้ย  ไปทานข้าวเป็นเพื่อนสองกับยัยหวานเพื่อนของสองนะ"


  นึกแล้วก็นึกถึงเรื่อง สี่แผ่นดิน  ตอนที่เสด็จพระองค์หญิงให้พลอยไปบอกข้าหลวงของเสด็จพระองค์หญิงอีกตำหนักหนึ่งว่า...

     "พลอยไปบอกเขานะว่า  เสด็จฝากมาให้ไปทูลเสด็จว่า...ถ้าเสด็จจะเสด็จ  เสด็จจะเสด็จด้วย"

อ่านแล้ว งง  กันไหม?

อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-12-2008 15:57:52

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

แถวบ้านก็พูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่นะ  :laugh:


มารอคุณเพิ่อน วันอังคารแล้ว  :mc4: รีบมาต่อนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 23-12-2008 21:03:31
เออ เนอะหนึ่งเนอะ  เพราะบ้านเราอยู่ใกล้ๆ กัน อิอิ


ปล. อยากรบกวนให้เจ้าของเรื่อง เอารูปมาลงประกอบการเล่าเรื่องด้วยอะ  แบบว่า อยากดูรูปด้วย นะๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 23-12-2008 21:18:48

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

แถวบ้านก็พูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่นะ  :laugh:


มารอคุณเพิ่อน วันอังคารแล้ว  :mc4: รีบมาต่อนะ

เวลาเจอเพือนสมัยเด็ก ก็พูดแบบแทนตัวเองว่าเพื่อนเหมือนกัน  สงสัยตอนเด็กๆๆเราจะอยู่แถวเดียวกัน :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-12-2008 21:32:47
เออ เนอะหนึ่งเนอะ  เพราะบ้านเราอยู่ใกล้ๆ กัน อิอิ

ปล. อยากรบกวนให้เจ้าของเรื่อง เอารูปมาลงประกอบการเล่าเรื่องด้วยอะ  แบบว่า อยากดูรูปด้วย นะๆๆๆๆๆๆ

เจ้ อยากดูรูป คุณเพื่อนกะนนท์ หรืออยากดูรูปสถานที่จ๊ะ  :z1: จะไปตามรอยแบบหนังเกาหลีหรอเจ้


เวลาเจอเพือนสมัยเด็ก ก็พูดแบบแทนตัวเองว่าเพื่อนเหมือนกัน  สงสัยตอนเด็กๆๆเราจะอยู่แถวเดียวกัน :laugh:
อุ้ย เจอคนบ้านใกล้เรือนเคียง  :laugh:


เข้าเรื่อง

คุณเพื่อน วันนี้อังคารแล้ว หรือจะรอเวลา 23:59 นาที จ๊ะ  :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 23-12-2008 22:04:22
ตอนที่ 12


วันนี้ผมกับนนท์ไปสมัครสอบ IELTS ที่ Brighton …
ที่นี่ เป็น Test Center ที่ใกล้เมืองที่ผมอยู่มากที่สุด
วันสอบก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟเที่ยวเช้าสุดโดยไม่ต้องไปค้างคืนได้
อีก 1 เดือน ... เราจะกลับมาที่นี่อีกครั้งเพื่อมาสอบ

หลังจากสมัครสอบเรียบร้อย ... เลยถือโอกาสเดินเล่นเปิดหูเปิดตาซักหน่อย
เดินเรื่อยเปื่อยมาถึง Churchill Square
ซึ่งเป็นย่านการค้าใหญ่ของ Brighton
... นนท์เลือกหมวก Cap สีน้ำตาลของ Gap ใบหนึ่ง
ใส่แล้วน่ารักมาก ... หน้าเหมือนผู้หญิงเลย
เห็นแค่จมูกแหลม ๆ กับปากแดง ๆ คู่นั้นโผล่ออกมา

              “เอาใบนี้แหละ … ใส่แล้วน่ารัก” ผมบอกนนท์ ... นนท์ยิ้มกว้าง
              “เหมือนผู้หญิง” ผมพูดต่อ ... นนท์หุบยิ้มทันที
              “’เพื่อน’เป็นผู้ชายนะครับ ... ” นนท์พูด ... หน้างอ ... จนทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
                        “ เพื่อนแหละ ... ขนาดไม่ใส่หมวกยังแทบแยกไม่ออกว่าเนี่ยะผู้ชายหรือผู้หญิง”
นนท์พูดแล้วหยิบหมวกมาใส่ให้ ... พลางพูดต่ออีกว่า ...
            “ดูสิยิ่งใส่หมวกยิ่งเหมือน ................... ทอม !”  ผมหุบยิ้มทันที …
หยิบหมวกออกส่งคืนนนท์
              “งอน ...” นนท์ล้อ ...
            “เพื่อนก็ผู้ชายเหมือนกันครับ ...” ผมบอกนนท์เสียงเข้ม ...
            “ไปจ่ายตังค์ได้แล้ว” ผมบอก ... แล้วดันหลังให้นนท์ไปจ่ายเงิน

หลังจากจ่ายเงินเสร็จ ... เดินออกมาจากร้านก็สังเกตเห็น …
ผู้คน ... ที่ต่างเดินออกจากบริเวณนั้นอย่างเร่งรีบ ...
นนท์ลากข้อมือผมให้ข้ามไปอีกฝั่งถนน ... แล้วยืนรอดูเหตุการณ์
มีคนยืนรออยู่จำนวนหนึ่ง ...
ซักพักได้ยินเสียงประกาศว่าพบกระเป๋าต้องสงสัยวางอยู่ใต้เก้าอี้ ...
ตำรวจจึงเกณฑ์ให้คนออกห่างบริเวณนั้นให้มากที่สุด
เหตุการณ์แบบนี้พบได้บ่อยในเมืองใหญ่  ๆ ในอังกฤษ
เนื่องจากขบวนการ IRA (Irish Republican Army)
ต้องการแบ่งแยกดินแดนประเทศไอร์แลนด์เหนือออกจากสหราชอาณาจักร ...
หรืออาจจะไม่ก็พวกผู้ก่อการร้าย (ซึ่ง ... ชาวอาหรับมักจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเสมอ)
ทำให้ผมนึกถึงประเทศไทย ... เหตุการณ์ที่มีการวางระเบิด
และลอบยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐเพราะต้องการแบ่งแยกดินแดนเหมือนกัน

.... คนกลุ่มหนึ่งอยากเป็นอิสระ แต่ต้องทำลายชีวิตคนอื่น ... โดยเฉพาะคนบริสุทธิ์

นนท์จับข้อมือผม ... ลากให้เดินออกห่างจากเหตุการณ์ ...
ที่อาจจะกลายเป็นเหตุการณ์ร้ายหากมีอะไรผิดพลาด
              “กลับกันเถอะ” นนท์บอก ... แล้วพาผมเดินมุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟเพื่อกลับเมือง

เมื่อถึงบ้านผม ... นนท์ก็จะแวะที่ห้องก่อนกลับบ้านเสมอ ... วันนี้ก็เช่นเดียวกัน
เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ... ผมหยิบซองจดหมายวางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาอย่างสงสัย
ใครส่งมา ... พลิกด้านหลังก็ไม่มีเขียนรายละเอียดผู้ส่ง ... ผมฉีกซองออก
ยังไม่ทันหยิบกระดาษออกจากซองจดหมาย ... นนท์คว้าซองในมือผมเอาไปถือไว้
             “ของเพื่อนนะ” ผมแย้ง ... ยื่นมือขอซองคืน ... แต่คนตัวสูงชูซองจดหมาย
ไว้จนสุดแขน ... ผมพยายามคว้าแต่ไม่ถึง ก็นนท์สูงกว่าผมตั้งเยอะนี่
              “อือ ...ก็ของ ‘เพื่อน’ ไง” นนท์พูดยิ้ม ๆ พลางหยิบกระดาษออกจากซอง ...
แล้วยื่นบัตรเข้างานรับประกาศนียบัตร 2 ใบที่แนบมาพร้อมกับจดหมายให้ผม
อ่านจดหมายเสียงดัง
             “เพื่อนครับ ... เราส่งบัตรมาให้สองใบนะ ...” แล้วเสียงนนท์ก็เงียบไป ... ชั่วอึดใจ
หลังจากกวาดสายตาอ่านจดหมายจบ ... นนท์ยื่นจดหมายคืนให้ผม แล้วบอกว่า
             “เราจะไปงานของธีร์ด้วยกัน ...”
นนท์เงียบไปครู่หนึ่ง ... ผมก็มัวแต่ก้มลงอ่านจดหมายจนลืมสังเกต ...
            “... กลับก่อนนะ” นนท์พูดแล้วเดินไปที่ประตู ...
            “อ้าววว ..” วันนี้ยังไม่ได้กอดลากันเลย ...
นนท์ต้องเป็นอะไรแน่ ...
หรือว่าหงุดหงิด ... แต่เรื่องอะไรล่ะ ... หรือว่าอะไรที่ว่านั้นมันอยู่ในมือของผมตอนนี้รึเปล่า
ผมมองจดหมายของธีร์ที่อยู่ในมือ ... ธีร์เขียนเป็นจดหมายสั้น ๆ
หรือจะเรียกให้ถูกว่าก็แค่บันทึกข้อความสั้นเท่านั้นเอง ... ไม่ได้เขียนอะไรเป็นพิเศษ
ไม่มีรายละเอียดอะไร นอกจากวัน เวลา และสถานที่จัดงาน
แล้วก็ประโยคสุดท้ายที่บอกว่า ... เจอกันหลังเลิกงาน ... เท่านั้นเอง
หรือว่าประโยคนี้จะทำให้นนท์หงุดหงิด ... แต่ประโยคนี้เนี่ยะนะ ... ไม่มีอะไรเลยนะ
ไม่มีการสื่อถึงอะไรเลย ... แล้วเป็นเพราะอะไรล่ะ ....
ผมได้แต่ คิด คิด คิด .... ถ้าไม่รู้ ... สงสัยคืนนี้จะนอนไม่หลับ (อีกตามเคย)

… ตัดสินใจโทรหานนท์ทันที
          “เป็นไร” ผมถามนนท์ทันทีที่นนท์รับโทรศัพท์
          “เปล่า ... แค่ ....” นนท์พูดไม่จบประโยค ... แล้วเงียบไป
          “แค่อะไร” ผมถาม
          “หงุดหงิดนิดหน่อย ...” ในที่สุดคนขี้งอนก็ยอมเปิดปากพูด
           “เรื่องจดหมายเหรอ” ผมถาม
          “เปล่า” นนท์พูด
          “งั้นเรื่องอะไรล่ะ”
          “ไม่รู้ ... แค่เห็นเพื่อนอ่านจดหมายแล้วยิ้ม ... ก็หงุดหงิดแล้ว” นนท์พูดจบ
          “งั้น ... ทำไงถึงจะหาย” ผมถามเด็กขี้หงุดหงิด
          “ตอนนี้หายแล้ว …” นนท์ตอบเสียงอ่อย ๆ
           “ดีมาก ... ห้ามเป็นอีกนะ ... รู้ไว้ด้วยนะ ... ‘เพื่อน’ น่ะสำคัญที่สุดสำหรับเพื่อน
ผมพูดซะยืดยาว ... ก่อนหัวเราะขำ  ๆ
   “งั้นฝันดีนะ ... จะให้เดินกลับไปกอดมั๊ย” นนท์ถามเสียงเหมือนสำนึกผิด
   “ไม่ต้องแล้ว ... เจอกันพรุ่งนี้นะ ... นี่เดินถึงไหนแล้วเนี่ยะ” ผมถาม ...

นนท์เงียบไม่ตอบ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก .... ผมหันไปตามเสียงเคาะประตูบ้าน ...
           “เปิดประตูให้หน่อย ... ” เสียงนนท์ดังกรอกมาตามสายโทรศัพท์ ... ไอ้ ... ไอ้ ...
ไอ้ขี้งอน ! ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ... ผมยิ้มนิด ๆ ก่อนวางหูโทรศัพท์ แล้วเดินไปเปิดประตูบ้าน
   “ไม่ได้ไปไหน ... ยืนอยู่ตรงนี้ตลอดเลย” นนท์พูดยิ้ม ๆ แล้วโผเข้ามากอด ...
   “จะให้กลับบ้านได้ไง ... ยังไม่ได้กอดเลย ...”

…..

วันนี้ตอนเช้าผมกับนนท์ไปเรียนตามปกติ  ...
ช่วงบ่ายไม่มีเรียน  ... หลังจากอิ่มจากอาหารกลางวันแล้ว ...
เราก็กลับมาที่บ้านของผม ... ทำกิจวัตรที่ทำเป็นประจำทุกวัน ... คือ ...

อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ ...

             “ง่วง” นนท์อ้าปากหาว ... บิดขี้เกียจ ... จากนั้นวางหนังสือ
แล้วเดินไปที่เตียง คนที่บอกว่าง่วงเมื่อครู่ล้มตัวลงนอน ... หลับตา ...
ผมหันไปมองนนท์นิดนึง ... แล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ
               “เพื่อน ...” นนท์เรียกผมเบา ๆ ทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ... ผมเฉย
               “เพื่อนคร๊าบเพื่อน” นนท์เรียกชื่อผมซ้ำ ๆ เมื่อเห็นว่า
การเรียกครั้งแรกไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากผมได้ ... ผมหันไปมองนนท์ ...
            “เพื่อนมานั่งใกล้ ๆ หน่อยสิ” คนที่ตั้งท่าจะนอน ... ตอนนี้กลับมองผมตาแป๋ว ...
บอกเสียงออดอ้อน ... ผมยิ้ม ... แล้วส่ายหน้า
               “เพื่อนคร๊าบ” เสียงคนขี้อ้อนเรียกชื่ออีกครั้ง … ผมหันไปมองหน้า ..
ตัวโตแต่ขี้อ้อนชะมัด ... นนท์กวักมือเรียก ผมเดินไปหา (ถ้าไม่ไปหาคงเรียกทั้งวัน) ...
แล้วนั่งลงบนพื้นใกล้ ๆ กับเตียง คนตัวโตถึงยอมหลับตา ... แต่ยังไม่หลับ ...
นอนพลิกไปมาอยู่หลายตลบ
               “เพื่อน ...” นนท์เรียกอีก ... ทำให้ผมต้องละสายตาจากหนังสือเป็นครั้งที่สาม
               “ง่วง .. แต่นอนไม่หลับ” นนท์บอกพลางยื่นหน้าทำแก้มป่อง
               “Goodnight kiss” นนท์พูด ... ผมยิ้มแอบขำคนตัวโตขี้อ้อน
ทำไมขี้อ้อนขนาดนี้นะ ... แต่ผมก็จูบแก้มนนท์เบา ๆ 2 ครั้งซ้ายขวา
               “Afternoon Kiss ต่างหากเพราะนี่เพิ่งจะบ่ายโมงครึ่งเอง” ผมบอก
นนท์หัวเราะก่อนดึงมือไปจูบ ... แล้วดึงแขนพยายามลากให้ขึ้นไปบนเตียง
               “มานอนกลางวันด้วยกันก่อน ... หลังอาหารกลางวันต้องงีบ 15 นาที
จะทำให้สมองแจ่มใส ...” นนท์พูดเสียงจริงจัง
                “เหรอ...” ผมทำเสียงล้อนนท์แต่ก็ยอมซุกตัวลงในผ้าห่มนวมผืนหนา 
เบียดกับคนตัวโตบนเตียง ... ก็อากาศมันเย็นอยู่ใต้ผ้าห่มกับคนตัวอุ่น ๆ นี่มันสบายเหลือเกิน ...
นนท์โอบเอวผมไว้ ... แล้วจุมพิตที่หน้าผาก
                “นอนนะ” นนท์พูด ... แล้วหลับตา ... กระชับอ้อมกอด
                “อือ” ผมก็รู้สึกง่วงเหมือนกัน ได้พักซักงีบตื่นมาจะได้สดใส ...
ผมกอดตอบคนตัวโตที่ตอนนี้ทำเสียงงึมงำเหมือนง่วงเต็มที ... ผมมองหน้านนท์
ยื่นหน้าจูบเบา ๆ ที่จมูกแหลม ๆ กับปากอุ่น ๆ อีกครั้ง ...
แล้วกระชับวงแขนกอดคนตัวอุ่นแน่นขึ้น ... หลับตาลงอย่างเป็นสุข

ประมาณ 10 นาที …
หลังจากเคลิ้มหลับไป เสียงโทรศัพท์มือถือของนนท์ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ...
นนท์งัวเงียหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูชื่อแล้วส่งให้ผม ... ผมรับมาอย่างงง ๆ  อ่านชื่อ
                “ธีร์โทรมาเหรอ ...” ผมบอกเบอร์โทรของนนท์ให้แก่ธีร์ ...
เผื่อว่าตอนที่ไปงานรับประกาศฯ ของธีร์ เราจะได้ติดต่อนัดหมายกันได้
                “หวัดดีธีร์ ... มีไรเหรอ” ผมกรอกเสียงลงไปตามสาย พยายามไม่ให้งัวเงีย
                “ดูงานแล้วเป็นไงบ้าง ... ได้ถ่ายรูปเราตอนรับประกาศฯ รึเปล่า” ธีร์พูดยาวเหยียด  ...
ผมหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง … ซวยแล้ว วันนี้วันอะไรเนี่ย 
ผมคิดแล้วหันไปมองนนท์ที่นอนมองผมคุยโทรศัพท์ ...
              “วันนี้วันอะไร” ผมถามธีร์
                 “วันศุกร์ …” ธีร์ตอบด้วยน้ำเสียงผิดหวังปนโกรธนิด ๆ
                 “เพื่อนลืมเหรอ ...”
ผมพูดได้แค่คำว่า ‘ขอโทษ’ ... ผมจำวันผิด  มันเป็นความผิดของผมเอง ...
ธีร์บอกว่าจะโทรมาเตือนล่วงหน้า 1 วัน ... แต่จะโทษธีร์ก็ไม่ได้ ... ผมเลินเล่อเอง
                “เพื่อนไม่ใส่ใจเราเลยนะ” ธีร์ตัดพ้อมาตามสายโทรศัพท์ ...
             “เย็นนี้มีเลี้ยงกับรุ่นพี่ ... ยังไงวันพรุ่งนี้ต้องไปเจอกันที่ลอนดอนนะ ...
คราวนี้ห้ามลืม” ธีร์พูดย้ำ
                “ขอโทษนะ” ผมบอกธีร์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะผมรู้สึกผิดกับธีร์มาก
ก็ธีร์อุตส่าห์ย้ำนักหนาว่าบัตรหายาก ... ไม่น่าจำผิดเลย ... นึกโกรธตัวเองขึ้นมานิด ๆ

หลังจากวางสายกับธีร์
ผมบอกนนท์ว่าลืมวันรับประกาศของธีร์ รู้สึกผิดจัง     
                  “... ไม่น่าจำผิดเลย” ผมบอกนนท์ ... ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่ดี
                  “เรื่องมันผ่านมาแล้ว เพื่อนก็ขอโทษแล้วนี่ ไม่มีอะไรแล้วล่ะ เลิกคิดได้แล้ว”
นนท์บีบมือผมเบา ๆ เหมือนให้กำลังใจ
         “พรุ่งนี้ไปลอนดอนกันนะ” ผมบอกนนท์ ...

วันรุ่งขึ้น ...
ผมกับนนท์ออกเดินทางด้วยรถไฟเที่ยว 9.30 น.
ไปถึงลอนดอนเกือบเที่ยง ... แล้วขึ้น Tube ไปลงที่สถานี bayswater
ไปทาธีร์ที่ร้านที่นัดหมายไว้ ...

... ร้านเป็ด Four Season …

ธีร์ยืนรออยู่ที่หน้าร้าน ... ร้านนี้คนค่อนข้างเยอะ (โดยเฉพาะคนไทย) ก็เลยต้องรอคิวเล็กน้อย
หลังจากได้โต๊ะแล้ว … ระหว่างรออาหารผมก็บอกขอโทษธีร์อีกครั้ง (เป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั๊ง)
หลังจากนั้นพวกคุยกันเรื่อยเปื่อย ...
โดยที่ธีร์ไม่พูดถึงเรื่องที่ผมลืมนัดเมื่อวานอีกเลย ... ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
   “พักกันที่ไหนล่ะ” ธีร์ถาม ... เพราะหลังจากทานอาหารกลางวัน
พวกเรามีโปรแกรมจะไปเดินเล่นที่ Covent Garden และอาจดู  Play ซักเรื่อง ...
และคงจะกลับเมืองพรุ่งนี้
   “โทรจอง BB แถว Earl’s Court ไว้แล้วล่ะ” นนท์ตอบ

หลังจากทานอาหารเสร็จ พวกเราก็ไปเดินเล่นย่อยอาหารที่  Covent Garden
โดยขึ้น Tube ไปลงที่สถานี Covent Garden เลย
ที่นี่มีร้านค้ามากมาย มีตลาดขายสินค้า และมีการแสดงดนตรีคลาสสิค
การแสดงตลก ศิลปินริมถนน และนักเล่นกลด้วย เดินดูได้ซักพัก ...
ธีร์ขอตัวกลับก่อน ... เพราะมีธุระด่วน

เย็นมากแล้ว ... หลังจากดูโน้นดูนี่จนเหนื่อย
สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าจะไม่ดู Play
   “ไว้เป็นคราวหน้าเนอะ” ผมบอกนนท์ นนท์พยักหน้า ...
เราจึงหาอาหารเย็นทานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ...

เกือบ 2 ทุ่ม เดินทางไปที่พักที่ได้จองไว้ ...
ไม่มีคนที่อยู่ที่หน้าเคาร์เตอร์แล้ว ... ต้องกดกริ่งเรียก ...
ซักพักก็มีคนเดินออกมาแล้วยื่นกุญแจห้องให้ ...

ห้องพักต้องขึ้นบันไดไปชั้นสาม ที่นี่ไม่มีลิฟท์ ...
ก็ไม่ใช่โรงแรมนี่นา ... แต่ก็ไม่เกินความสามารถของเรา
เดินไปกลับบ้านกับโรงเรียนวันหนึ่งเป็นหลายกิโลสบาย ๆ กับแค่นี้ ... สบายมาก

เมื่อเข้าไปในห้อง ...
                  “อ้าวจอง double room เหรอ” ผมถามนนท์
เพราะเตียงเป็นเตียงขนาดใหญ่หนึ่งเตียง นนท์ยิ้ม ...
                 “... ก็อยากนอนกอดเพื่อนนี่นา”

พอมองไปที่ห้องน้ำก็ต้องตกใจหันมามองหน้านนท์ ...
                 “เฮ้ย ... ทำไมห้องน้ำเป็นอย่างงี้ล่ะ”   
นนท์หัวเราะ “... ตอนจองไม่รู้นะว่าห้องน้ำจะเป็นแบบเนี้ยะ ...”
                    “เปลี่ยนได้ปะ ... ทำใจไม่ได้” ผมบอกนนท์

ก็ห้องน้ำเป็นผนังแบบใส ...
ลักษณะเหมือนตู้อาบน้ำ แต่มีอ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์อยู่ด้วย
ผนังรอบห้องน้ำเป็นแบบขุ่นสลับใส
ไม่ว่าจะทำอะไรในห้องน้ำ (อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน หรือทำธุระส่วนตั๊ว ส่วนตัว)
คนที่อยู่นอกห้องน้ำมองเข้ามาก็เห็นหมดว่าทำอะไรอยู่
คนที่อยู่ในห้องน้ำก็มองออกมาเห็นคนที่อยู่ข้างนอกห้องน้ำได้อย่างชัดเจน

                   “อืมมมม ถ้าเพื่อนอยากเปลี่ยนก็ได้นะ” นนท์พูด “เดี๋ยวไปถามให้”
นนท์หายไปครู่หนึ่ง ... แล้วกลับมาบอกว่า ห้อง twin เต็ม ...
(ห้องแบบมีสองเตียง ... ห้องน้ำ (น่าจะ) มิดชิด)
                “ไม่งั้นก็ต้องเอา single room 2 ห้อง” นนท์บอก ...
               “ตกลงนอนห้องนี้นะ ... เพื่อนทำอะไรในห้องน้ำ .. ‘เพื่อน’ รับรองว่าจะไม่แอบดู …”
นนท์พูดยิ้ม ๆ
 
                  “งั้นคืนนี้ไม่อาบน้ำดีกว่า ...” ผมบอกนนท์ ...
จะว่าไปผมก็ไม่เกี่ยงเรื่องนอนเตียงเดียวกับนนท์หรอก ... แต่ไม่ชอบเรื่องห้องน้ำ ... มันโป๊เกินไป
                  “… งั้น .... ไม่อาบด้วย” คนตัวโตพูดแล้วกระโดดขึ้นเตียงทันที
                  “นอนเร็ว ...ง่วงแล้ว” นอนไม่นอนเปล่า ... เร่งให้ผมต้องรีบนอนด้วย
                   “ล้างหน้าก่อนสิ  ...” ผมบอกนนท์ ...
ถึงแม้ลอนดอนจะไม่มีฝุ่นควันให้เห็นมากนัก ...
แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีมลพิษเยอะมากเหมือนกัน ...
ลองพิสูจน์ง่าย ๆ หลังจากผจญภัยในลอนดอนตั้งแต่เช้า
ใช้กระดาษทิชชูซับเข้าไปในจมูกเบา ๆ ไม่ต้องถู ... แค่เบา ๆ
ก็จะมีเขม่าควันสีดำมากติดออกมาแล้ว ...

ผมเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกได้ว่าอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ 
... แต่โชคดีที่เมืองที่เรียนอยู่อากาศค่อนข้างดี มลพิษน้อย ...
ทำให้สุขภาพดีขึ้นเยอะ

หลังจากล้างหน้า ... เมื่อเห็นคราบความสกปรกจากมลพิษที่ออกมา
รู้สึกอยากอาบน้ำชะมัด ...
มองออกมานอกห้องน้ำ ... คนตัวโตนนอนหลับปุ๋ยไปแล้ว ...
 .... ถ้าปิดไฟห้องน้ำแล้วก็ปิดไฟในห้อง …ให้แสงสว่างจากข้างนอกห้องเข้ามาพอมองเห็น
... ก็คงพอจะอาบน้ำได้ ... ไม่อายมาก

‘อาบแบบคร่าว ๆ ละกัน แค่พอล้างความสกปรกออกให้หมดก็พอ’
ผมคิดในใจ น่าจะอาบไม่เกิน 2-3 นาที ... หันหน้าเข้าผนังซะ ...
หลังจากถอดเสื้อผ้าแล้วก็รีบเปิดฝักบัว ... ถูสบู่ ... อาบเสร็จแระ ...
เอื้อมมือไปจะหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ที่ประตู

หาผ้าเช็ดตัวไม่เจอ ...

พอเหลือบตามองหาผ้าเช็ดตัว ... ก็ต้องเจอกับคนตัวโตยืนถือผ้าเช็ดตัวจ้องมายิ้ม ๆ
              “จะอาบน้ำก็ไม่บอก ... จะอาบให้ ...” นนท์พูด
              “เอาผ้าเช็ดตัวมานี่ หนาวจะแย่แล้ว” ผมพูดแต่ไม่ยอมหันหน้าไปหาคนที่ยึดผ้าเช็ดตัวไว้
... ก็ได้แต่หันข้างและเอื้อมมือพยายามคว้าผ้าเช็ดตัว ...
            “ไม่ให้” คนขี้แกล้งยังไม่ยอมให้ ... ชูผ้าเช็ดตัวซะสูง ... สุดแขน
ผมเห็นว่าคงแย่งคืนมาไม่ได้แล้ว ... ยืนเฉย ก้มหน้า ทำท่าเหมือนโกรธดีกว่า …
ยังคงหันหน้าเข้าผนัง ...

...

ซักครู่ ... ก็รู้สึกถึงน้ำหนักของผ้าเช็ดตัวผืนโตที่คลุมลงมาบนร่างจากทางด้านหลัง
พร้อมคนตัวโตเข้ามาสวมกอด ...
           “หายหนาวแล้วนะ …” เสียงคนที่แกล้งยึดผ้าเช็ดตัวเมื่อครู่กระซิบข้างหู
ผมยังยืนเฉย รวบผ้าเช็ดตัวเข้ามากระชับ ...
           “โกรธเหรอ ... ” คนตัวโตกระซิบอีกครั้งยังไม่ยอมคลายอ้อมกอด
แต่กลับจูบเบา ๆ ที่ไหล่ ...
           “ออกไปก่อน ... จะแต่งตัว” ผมพูดเสียงดุ ...
ยังไม่ยอมหันหน้าไปหาคนที่กอดอยู่ทางด้านหลัง

            “งั้น ... จะไถ่โทษ ...

           ... แต่งตัวให้นะ ... นะครับ”

เสียงคนที่พูดอยู่ตอนนี้ช่างออดอ้อนซะเหลือเกิน ... ใครจะไปโกรธลง

นนท์คลายอ้อมกอด ... แล้วจับไหล่ให้หันหน้าไปหา
ผมจ้องหน้าคนที่บอกว่าจะแต่งตัวให้ ... นนท์จ้องตาผมนิ่ง ...
สายตาเว้าวอน ... อ่อนหวาน ...
ตอนนี้ ... ผมรู้สึก .... ร้อนที่ใบหู
คงเพราะอาย ... ก็ในสภาพแบบนี้ ... 
ไม่เคยมีใครจ้องแบบนี้ ... ใกล้ขนาดนี้ ... และชิดมากขนาดนี้
ชิดซะจนลมหายใจอุ่น ๆ ปะทะเบา ๆ ที่ข้างแก้ม ....

นนท์บรรจงประทับริมฝีปากอุ่นบนริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบา
และเริ่มรุนแรงขึ้นทีละน้อย ... ทีละน้อย … ผมจูบตอบนนท์ .....
ตอนนี้ร่างกายของผมร้อนไปทั่วร่าง ... ใจสั่น ... หวิว ... ไหว ... ขาอ่อนแรง
เกือบจะทรุดลงตรงนั้น ...   

   แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก เสียงคนไขกุญแจห้อง .. แล้วจะเปิดเข้ามา ...
นนท์ชะงักหันไปมองที่ประตู
กึก ... แต่เปิดประตูเข้ามาไม่ได้เพราะติดโซ่คล้องประตู ...

   "Who is it?" นนท์ตะโกนถาม แล้วกระซิบให้ผมแต่งตัว ...
ผมรีบหยิบเสื้อและกางเกงขึ้นมาใส่แบบลวก ๆ ...
ไม่มีเสียงตอบ ... มีแต่เสียงไขประตูและเสียงกระชากประตูให้เปิดออกอีกครั้ง ...
แต่เข้ามาไม่ได้ ...

   "Who is it?" นนท์ตะโกนถามอีกครั้ง ... กระซิบบอกให้ผมซ่อนในตู้เสื้อผ้า ...
ผมไม่ยอม ... ก็เลยเดินตามนนท์ที่กำลังเดินไปที่ประตู ...
มองหาของพอจะหยิบฉวยเป็นอาวุธป้องกันตัวได้ ...
แต่ไม่มี ... หยิบปากกาออกมาจากเป้ ... อย่างน้อยก็ใช้แทงได้แหละ ... ผมคิด ...

   ปัง ! ปัง ! ปัง ! เสียงเคาะประตูถี่ ๆ เหมือนจะพังประตูเข้ามา ...

ผมหลบอยู่ด้านหลังนนท์ ... กำปากกาไว้ในมือแน่น

ตอนนี้หัวใจผมก็เต้นถี่รัวไม่แพ้เสียงเคาะประตูเหมือนกัน ...   



หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 23-12-2008 22:05:57
จิ้มๆ คุณเพื่อน

ทำไมในเล้าเป็ดทอมเยอะจริงๆๆๆ :m20:

ปล. แอร๊ย ค้างๆๆ ยิ่งอ่าน นนท์ยิ่งน่ารักกกก แอร๊ยยย

ปล.แล้วใครๆๆมาเคาะประตู..ค้างอย่างแรง :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-12-2008 22:07:37
กรี๊ดดดดดดดด ไม่ทันป้าแก่รีบน  :z3:


ค้างงงงงงงงงงงงงง เจ้าค่ะ  :z3: ใครว่ะมาขัดจังหว่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 23-12-2008 22:07:46

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

แถวบ้านก็พูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่นะ  :laugh:


มารอคุณเพิ่อน วันอังคารแล้ว  :mc4: รีบมาต่อนะ

เวลาเจอเพือนสมัยเด็ก ก็พูดแบบแทนตัวเองว่าเพื่อนเหมือนกัน  สงสัยตอนเด็กๆๆเราจะอยู่แถวเดียวกัน :laugh:




ว้าย!  บ้านนอก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 23-12-2008 22:20:49

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

แถวบ้านก็พูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่นะ  :laugh:


มารอคุณเพิ่อน วันอังคารแล้ว  :mc4: รีบมาต่อนะ

เวลาเจอเพือนสมัยเด็ก ก็พูดแบบแทนตัวเองว่าเพื่อนเหมือนกัน  สงสัยตอนเด็กๆๆเราจะอยู่แถวเดียวกัน :laugh:




ว้าย!  บ้านนอก

  เคอะ..อิเจ้ฯ กะเทยเริงเมือง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 23-12-2008 22:24:22
^
ii
ii
ii

ปากดี


ปล.  เมื่อไหร่จะเอารูปมาใส่ให้ดูบ้างอะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-12-2008 22:24:41

อ่านแล้วคิดถึงสมัยเราเด็กๆจัง

เพราะมีธรรมเนียมที่บ้านว่าพวกเด็กๆ มักจะแทนตัวเองว่า "เพื่อน"  ซึ่งพอโตมาแล้วก็งงแสนงงว่าเราทำไมต้องแทนตัวเองแบบนั้นและออกจะเข้าใจอยากอยู่ไม่น้อยเวลาสื่อสาร เช่น  วันหนึ่งบอกพี่สาวว่า...

    "พี่ขวัญ  วันนี้เพื่อนจะพาเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนกับเพื่อน  ไปกินข้าวเป็นเพื่อนเพื่อนกับเพื่อนของเพื่อนนะ"

แถวบ้านก็พูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่นะ  :laugh:


มารอคุณเพิ่อน วันอังคารแล้ว  :mc4: รีบมาต่อนะ

เวลาเจอเพือนสมัยเด็ก ก็พูดแบบแทนตัวเองว่าเพื่อนเหมือนกัน  สงสัยตอนเด็กๆๆเราจะอยู่แถวเดียวกัน :laugh:


ว้าย!  บ้านนอก

  เคอะ..อิเจ้ฯ กะเทยเริงเมือง

เล่นไรกันค่ะ เดี๋ยวทู้เค้ากลายพันธุ์  :laugh: จะโดนกันมิใช่น้อย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 23-12-2008 22:27:09


ไม่นะ



เขามาทวงรูปตะหาก   อิอิ  เนอะ แป๋วแหววเนอะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-12-2008 22:33:06
 :oni1: หนีก่อน เดี๋ยว จขกท จะด่าเอา ให้เจ้รับหน้าไว้นะ ได้รุปมาดูก็แบ่งกันมั่ง

จะไปตามแบบละครเกาหลี เผื่อจะได้เจอ เพื่อนกับนนท์  :-[

อยากไปอังกฤษ จัง เจ้ แป๋ว ไปกะเค้ามั้ย ไปให้เจ้าเทมสมานเลี้ยงข้าว  :laugh:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 23-12-2008 22:33:52
พี่เพื่อน เหมือนๆว่าค้างป่าว
ง่าเค้ากำลังลุ้นอ่าว่าใครที่อยู่ที่ประตู
มาเคาะประตูอะไรตอนนี้เค้ากะลังง้อๆ กันอยู่ ชิส์
อิๆ รออ่านนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล&#
เริ่มหัวข้อโดย: Mint ที่ 23-12-2008 22:36:03
^
^

แอร็ยยยยยยยยย ไม่ทราบว่ารีฯบนๆคนแก่ๆ เค้าเล่นอะไรกันเคอะ

 :laugh: :laugh:

ชอบๆๆ ชอบนนท์

กีซซซซซซ ค้างๆๆค่ะค้าง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 23-12-2008 22:48:00
^

^

^

จิ้มคุณมิ้นท์  โทษฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวตั้มกับพาย   :laugh: :laugh: :laugh:



คุณเพื่อน  ค้างอย่างมากมาย :sad4:

ใครอ่ะมาเคาะประตู ขัดจังหวะ :serius2:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 23-12-2008 23:14:27
เหอ เหอ ค้างมหาศาล  ออกแนวสยองขวัญป่าวหว่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Natavishi ที่ 23-12-2008 23:19:42
 :m31: :m31:

อ่า

จะเจอไรอ่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-12-2008 23:43:55
 :serius2: เกิดไรขึ้นเนี่ย ขโมยยยหรือธีร์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 23-12-2008 23:52:03
อร๊ายยย ~!! ~     อะไร ? .. ใคร ? ..  มาทำไมเนี้ยะ ! !! น่ากลัวด้วยอ่ะ

ลุ้น ๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป  ...   ขอบคุณนะครับ ^__^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 23-12-2008 23:57:15
คุณเพื่อน !!!!

มันเกิดอะไรขึ้น????

อยากรู้มากมายยย

ใครบังอาจมาเคาะประตู

รู้ม้ายยย....ข้างในเค้ากำลังง้องอนกันอยู่

อารมณ์เสีย....ชิส :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 23-12-2008 23:58:52
อยากจะบ้าตาย :z3: :z3: :z3: ค้าง

มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย คุณเพื่อน แล้วจะรออ่านนะคราบ อิๆ

หัวข้อ: RE
เริ่มหัวข้อโดย: HeVeN ที่ 23-12-2008 23:59:22
ใครมาขัดความสุขล่ะครับ ค้างอย่างรุนแรงเลยนะครับคุณเพื่อน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 24-12-2008 00:15:34
มันจะเกิดอะไรขึ้น อ้ากกกก อยากรู้ๆ อย่าทำแบบเน้  :sad4: :sad4:
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: ~Kalianeko~ ที่ 24-12-2008 00:33:05
ใครมาเคาะประตูเนี้ย

เซ็งจริงๆ


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 24-12-2008 01:06:16
จิ้มๆ คุณเพื่อน

ทำไมในเล้าเป็ดทอมเยอะจริงๆๆๆ :m20:

ปล. แอร๊ย ค้างๆๆ ยิ่งอ่าน นนท์ยิ่งน่ารักกกก แอร๊ยยย

ปล.แล้วใครๆๆมาเคาะประตู..ค้างอย่างแรง :serius2:

ยาย ยาย ยาย ยาย

อ่านเรื่องนี้ด้วยหรอ อ่านไปยิ้มไประวังหมากติดคอนะยายแก่แล้วต้องอ่าน

หนังสือธรรมมะถึงจะเหมาะนะยาย 5555+

ชอบตอนนี้จังคุณเพื่อนรัก กำลังจะ..กันทีไรต้องมีมารผจญตลอดกำแท้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 24-12-2008 01:39:52
who is it ? :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 24-12-2008 01:41:56
ขออ่านเรื่องนี้ด้วยคนนะครับ
+1 ให้ครับ เรื่องน่ารักดี   :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 24-12-2008 06:41:33
:angry2:มันเป็นใคร
บ้านอยู่ไหนตามไปฆ่าซะดีไหม :fire:
 :3125:แม้งเอ้ย เค้าจะ...กันอยู่แล้วมาขัดจนได้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 24-12-2008 08:13:05
ใครมาขัดซะได้ ช่างไม่รู้เวลาเลย :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 24-12-2008 10:40:35
คุณเพื่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  o22
แถวบ้านเรียกว่าค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :sad4:
โปรดกลับมา  :o12:
ได้โปรดกลับมา กด+1 ให้กับความค้าง  :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 24-12-2008 12:51:49
ม่ายยยยยยยยย  :serius2:
คุณเพื่อนทำไมตัดจบแบบนี้ กรี๊ดดดดดด.......
คร๊ายย ใครบังอาจมาขัดจังหวะ
คนเค้ากำลัง love love กันอยู่
รมณ์เสียอย่างแรง ชิส์ๆๆ   :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Ferfa ที่ 24-12-2008 13:10:03
 :m16: ครายมาขัดจังวะเนี่ย  :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 24-12-2008 14:01:16
โอ๊ะโอ ผู้ใดมานั่น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 24-12-2008 14:39:05
แว๊กกก ใครหวา ทำตัวเหมือนจะมาฆ่าเลยอ่ะถามก็ไม่ตอบ
หึ๊ยยยย ค้างมากอ่า คุณเพื่อน รีบมาต่อเร็วๆ น่า
ตอนนี้ รอ ร๊อ รอ อ่า ดีใจเห้นมาต่อตอน 12 แล้ว
แถมจะถลาเข้ามาคลิก โฮะๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 24-12-2008 14:43:55
จิ้มๆ คุณเพื่อน

ทำไมในเล้าเป็ดทอมเยอะจริงๆๆๆ :m20:

ปล. แอร๊ย ค้างๆๆ ยิ่งอ่าน นนท์ยิ่งน่ารักกกก แอร๊ยยย

ปล.แล้วใครๆๆมาเคาะประตู..ค้างอย่างแรง :serius2:

ยาย ยาย ยาย ยาย

อ่านเรื่องนี้ด้วยหรอ อ่านไปยิ้มไประวังหมากติดคอนะยายแก่แล้วต้องอ่าน

หนังสือธรรมมะถึงจะเหมาะนะยาย 5555+

ชอบตอนนี้จังคุณเพื่อนรัก กำลังจะ..กันทีไรต้องมีมารผจญตลอดกำแท้ๆๆๆ

อ่านดิ เรื่องน่ารักๆ เหมาะกับคนน่ารักๆๆเยี่ยงเรา  ซึ่งมันไม่เหมาะกับแกเลย :laugh:

ปล.คุณเพื่อนรอตอนต่อไปอยู่นะๆๆๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: sleepless ที่ 24-12-2008 15:05:21
คาดว่าจะเป็นธีร์รึเปล่า o18

คนนั้นอาจจะกลัวเพื่อนไม่ปลอดภัยเวลาอยู่กับนนท์ :z1:
เลยต้องมาสะกัดดาวรุ่งพุ่งแรง :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 24-12-2008 15:11:47
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ว๊ายยยยๆๆๆ    โทษทีค่ะ

เคาะผิดห้อง

--------------------------------



(http://i356.photobucket.com/albums/oo7/Bogiecoco/merry-christmas-myspace-glitter-gra.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 24-12-2008 15:20:13
 :serius2: o21  ใครอ่ะ!? คนร้ายๆ! เหมือนจะพังประตูเข้ามาฆ่าให้ได้เลยอ่ะ! ถามก็ไม่ตอบด้วย!!  โอมมมมมม~~ขอให้ปลอดภัยเถิดนะ  :amen:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-12-2008 18:53:50
(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/Merry_Christmas_Glitter_Wreath.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 24-12-2008 21:19:19
HAPPYๆๆๆๆๆ+++++++++++++

Merry  X'mas !!!!!!!!!!!!!!!!!

&

Happy New Year !!!!!!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 24-12-2008 22:02:14
ใครบังอาจ................. o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 24-12-2008 22:06:41
(http://i265.photobucket.com/albums/ii215/allmyheart/christmas/817671nqj8c2wh9k.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 24-12-2008 23:32:31
(http://)(http://dl4.glitter-graphics.net/pub/715/715254le2lt5t6g2.gif) (http://www.glitter-graphics.com)

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 24-12-2008 23:57:06
ใครรรรรรรรรรรรร!!!

ขัดจังหวะมากมาย  o9

(http://widget.sanook.com/static_content/widget/full/graphic_1/0964/264964/9f9b5375e409c0c64dffccce73fbd20c_1229419246.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 25-12-2008 00:12:47
คัางงงง ! Merry x' mas ka
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 25-12-2008 01:09:29
M e r r y  X' m a s

มีความสุขนะคะ

คุณเพื่อน...'เพื่อน'

 :L2: :L1: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Loin_diciz ที่ 25-12-2008 01:46:20
MERRY X'MAS :L2:

 
นนท์น่ารักมาก 55
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 25-12-2008 09:01:36
Merry Christmas & Happy New Year 2009 :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 25-12-2008 09:48:28
Merry X'mas  


 :กอด1: :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 25-12-2008 14:36:27
Merry Christmas ครับ คุณเพื่อน  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: cassper_W ที่ 25-12-2008 15:21:03
อร้ายยยยยยยยยยยยย

ค้างคา ทำงี้ได้เยี่ยงไรค่ะ  :z3:

เอาคนขัดจังหวะไปประหารหัวสุนัขเด๋วนี้    จิส์  :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 25-12-2008 16:44:31

°º©©º°•*•★♥Merry Christmas★♥*•°º©©º°
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 25-12-2008 16:48:29
ใครมาเคาะประตูเนี่ย ?   :z6:

คู่นี้น่ารักใสๆดี  ไอ้ครั้นจะเชียร์ให้รีบ  ...จึ๊กๆ?กัน ..  ก็กระไรอยู่ o18

รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นป้าหื่นยังไงไม่รู้ :m2:   
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 25-12-2008 18:21:12
Merry X'Mas มีความสุขมาก ๆ จ้า

จากคนที่สวยกว่า

ไม่เชื่อ?

ดูหลักฐานเลยคะ

ii
ii
ii
v

(http://i132.photobucket.com/albums/q8/oaw_eang/Catoon/x-mas111.jpg)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล&#
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 25-12-2008 18:24:59
^
^

แอร็ยยยยยยยยย ไม่ทราบว่ารีฯบนๆคนแก่ๆ เค้าเล่นอะไรกันเคอะ

 



แก่ตรงไหนค่ะ?

ไม่เชื่อ?

ดูหนังหน้าเดี๋ยนได้จากรีบนคะ อิอิ


ปล.  ยังไม่มีกระแสตอบรับเรื่องรูปจาก จขร.  :sad4:

ปลล. ยัยหนึ่งยะ  ที่หล่อนว่ามาเจ้ อนุมัติ คะ  ว่าแต่เราจะไปกันเมื่อไหร่ดีคะ  เจ้จะได้หา ผ. เป็น กัปปิตัน  ไว้รอท่า อิอิ


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: Mint ที่ 25-12-2008 18:44:45
^
^
ดูจากหนังหน้ารีฯบนแล้ว

ไปดึงมากี่รอบแล้วเคอะ

ตรงหนังหน้าไม่เหี่ยว แต่ลองให้หันหลังสะเคอะ

ศูนย์รวมแหนมป้าย่นเลยทีเดียว

กร้ากกกกกกกกกก :laugh:


ป.ล. รอคุณเพื่อนเหมือนเดิม :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 25-12-2008 18:48:14
^
^
ดูจากหนังหน้ารีฯบนแล้ว

ไปดึงมากี่รอบแล้วเคอะ

ตรงหนังหน้าไม่เหี่ยว แต่ลองให้หันหลังสะเคอะ

ศูนย์รวมแหนมป้าย่นเลยทีเดียว

กร้ากกกกกกกกกก :laugh:


ป.ล. รอคุณเพื่อนเหมือนเดิม :-[

เจ๊ สอง คนนี้เค้าว่าเจ๊สอง  แก่ เหี่ยว..(แบบนี้ต้องให้กินยำทีนน จัดการมันเลยเคอะ)

ปล.แน่ใจเหรอเคอะ ว่ารูปคุณเจ๊ จากที่เคยเจอเจ๊แบบตัวเป็นๆ แบบมีลมหายใจ แบบเป็นสิ่งมีชีวิต

อิเจ๊ สวย ง่ามมมม กว่านี้นะเคอะ

ปล. ยังรอคุณเพื่อนต่อไป รีบมาต่อนะคุณเพื่อน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล&#
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 25-12-2008 19:34:01
ปลล. ยัยหนึ่งยะ  ที่หล่อนว่ามาเจ้ อนุมัติ คะ  ว่าแต่เราจะไปกันเมื่อไหร่ดีคะ  เจ้จะได้หา ผ. เป็น กัปปิตัน  ไว้รอท่า อิอิ

งั้นเจ้ หาไว้เลย ให้เวลาหา ครึ่งปีนะเคอะ  :z1:

มารอคุณเพื่อน อยากเห็นรูปด้วย  :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 25-12-2008 20:14:49
Merry X' Mas คราบบบ...ผม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 25-12-2008 20:20:41
Merry X'mas  


 :กอด1: :-[


ยายยยยยยยยยยยยย

ได้ข่าวว่าเมื่อคืน ยาย ได้ของขวัญจากลุงซานต้าเป็น...


หมาก กับ พลู พร้อมเสื้อคอกระเช้า

555+ รักนะจุ๊บ ๆ ..BM
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 25-12-2008 22:37:50
Merry X'mas  


 :กอด1: :-[


ยายยยยยยยยยยยยย

ได้ข่าวว่าเมื่อคืน ยาย ได้ของขวัญจากลุงซานต้าเป็น...


หมาก กับ พลู พร้อมเสื้อคอกระเช้า

555+ รักนะจุ๊บ ๆ ..BM

เจอกันนอกกระทู้แกตาย ไอเอ็ม+ปั๋วแกด้วย :beat:

ปล.และก็ยังรอคุณเพื่อนต่อไป

รอดูรุปเมืองด้วยยยยย เอามายลๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-12-2008 14:09:30
 :z3:   มาต่อ ไวไว น่ะ




คอย อ่าน อยู่



ดีมากเรย เนื้อเรื่อง อ่ะ สร้าง ความแปลกใหม่ ดีดี
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 26-12-2008 14:11:45
ใครมานนนนมาเคาะประตู  :serius2:

มาต่อด่วนค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 12)
เริ่มหัวข้อโดย: uME_HeRo ที่ 26-12-2008 22:00:51
หายไปไหนอ่ะ


รีบมาต่อด่วน


สายตาเว้าวอน


อิจฉาจัง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 27-12-2008 11:43:29
- Merry Christmas and Happy New Year 2009 ทุกคนเลย
- ขอบคุณทุกคำอวยพร ... ขอให้สิ่งดี ๆคืนแก่ตัวท่าน
- เรื่องรูปเมือง ... ขอเวลาหาซักครู่ ... แล้วจะเอามาลงให้ชมกัน

รักทุกคน ...



ตอนที่ 13

เสียงเคาะประตูเงียบไปแล้ว ... พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เดินห่างออกไป
นนท์เดินไปที่ประตู ...
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง
แต่ไม่ดังเหมือนครั้งแรก ๆ
พวกเราถึงกับสะดุ้ง ... หันมามองหน้ากัน ...
   “ไปหลบตรงโน้น ...” นนท์สั่งพลางชี้มือให้ผมไปหลบในซอกเล็ก ๆ หลังห้อง
ผมไม่ไป ... แต่ยืนนิ่งไม่ขยับ ... มองตามนนท์ที่เดินไปเปิดประตู
นนท์ชะโงกหน้าออกไปมองนอกห้อง
   “ไม่เห็นมีใครเลย” .. นนท์หันมาพูด ... แล้วเดินออกจากห้อง
นนท์หายไปไหนแล้ว ...
 
ผมนั่งรอนนท์อยู่บนเตียง ...
นนท์หายไปนานจัง ...
จ้องมองนาฬิกา ...
รู้สึกว่า ...แม้แต่เข็มวินาทีก็เคลื่อนที่ช้าเหลือเกิน ... อย่าพูดถึงเข็มยาวหรือเข็มสั้นเลย
คงเหมือนทฤษฎีสัมพันธ์ภาพที่ไอสไตน์เปรียบเทียบทำให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า
รู้สึกว่าเวลา 1 ชั่วโมงเดินเร็วเหลือเกินเมื่ออยู่กับสาวสวย
และเวลาแค่ 1 นาทีก็ยาวนานเหลือเกินเมื่อต้องถือของร้อน
ผมรู้สึกซาบซึ้งถึงทฤษฎีนี้ ... ก็วันนี้แหละ
เพราะจริง ๆนนท์หายไปไม่ถึง 2 นาทีเลยนะ ...
แต่ผมรู้สึกเหมือนนนท์หายไปซัก 2 ชั่วโมงแหนะ ...
   
นนท์เดินกลับเข้ามาในห้องสีหน้าดูหงุดหงิดเล็กน้อย ...
   “มีอะไรเหรอ” ผมถามนนท์
   “มีคนมาหาแหนะ ... รออยู่ข้างนอก” นนท์บอกแล้วนอนลงบนเตียง ...
ห่มผ้า หลับตา แล้วหันหลังให้ผม ...
   ‘ใครมาหา’ ผมงง แต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้ ... คงไม่มีประโยชน์ที่จะถามอะไรตอนนี้
... ไปดูด้วยตาตัวเองดีกว่า ... สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมกล้าไปพบคน ๆ นั้น
เพราะผมว่ามันไม่น่าจะมีอันตราย ... ไม่งั้นนนท์คงไม่ยอมให้ผมไปแน่
   
ผมเปิดประตูออกไป ... ไม่เจอใคร ... เดินไปตามโถงทางเดินเรื่อย ๆ จนถึงบันได
              “อ้าว ...” ผมทัก …
‘ธีร์’ นั่นเอง ... นั่งรอผมอยู่ที่บันได ... ธีร์ส่งยิ้มให้ผม
             “รู้ได้ไงเนี่ยว่าอยู่นี่” ผมถามอีก เพราะไม่ได้บอกชื่อโรงแรม ...
เท่าที่จำได้ ... บอกแต่เพียงว่าพักย่านไหนเท่านั้น ...
   “มีอะไรรึเปล่า ...” ธีร์ยังไม่ทันตอบคำถาม ... ผมก็ถามเข้าไปอีกคำถามหนึ่ง
   “อยากเจอ … มาก ... ทนไม่ไหว ....” ธีร์พูดเสียงเครียด ... ตอนนี้ผมงงมากกว่า
เพราะคำตอบของธีร์ไม่ได้ตอบคำถามของผมซักข้อ ...
   “เมื่อกี้นายเองเหรอที่พยายามจะเปิดประตูน่ะ ...” ผมถามอีกคำถาม
ธีร์พยักหน้า ...
             “ขอให้พนักงานมาเปิดให้น่ะ” ธีร์ตอบ ... ยิ่งทำให้ผมงง ...
เริ่มเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเอง ... รู้สึกไม่ค่อยพอใจโรงแรมซักเท่าไหร่ ...
ถ้าคนที่มาขอให้เปิดไม่ใช่เพื่อนของผม แต่เป็นโจรล่ะ ... ผมไม่แย่หรือ
   “แล้วไปพูดยังไง ... ทำไมเค้าถึงยอมมาเปิดให้” ผมยังคงถามคำถามที่คาใจอยู่
   “เรามีวิธีของเราก็แล้วกัน” ธีร์พูดตัดบทเหมือนไม่อยากให้ถามคำถามนี้ต่อไป
ก็คงเพราะมีเรื่องที่ธีร์คงจะคิดว่า ‘สำคัญ’ มากกว่า ... และธีร์อยากพูดมากกว่า
   “เพื่อน ...” ธีร์เรียกชื่อผมเสียงเข้ม
   “... มีไร “
   “อาทิตย์หน้าเราจะกลับเมืองไทยแล้ว ... จะกลับมาที่นี่อีกทีก็อีกหลายเดือน” ธีร์พูด
ผมพยายามมองหน้าธีร์ แต่ธีร์ก้มหน้าตลอด “เรากลัวว่าจะไม่ได้เจอเพื่อนอีก” 
   “ทำไมล่ะ … Don’t be silly ... ยังไงเราก็ต้องเจอกันอยู่แล้ว” ผมพูด
... เอื้อมมือจับไหล่ธีร์ ...
ธีร์ไม่ตอบคำถามผม (อีกแล้ว) แต่กลับมองหน้าผมนิ่ง ... แล้วถามขึ้นมาว่า
   
              “เป็นแฟนนนท์เหรอ .. ”

ผมตกใจเล็กน้อย ... ก่อนจะตอบไปแบบอัตโนมัติว่า
   “เปล่า ... จะบ้าเหรอ ... อย่าให้นนท์ได้ยินนะ ... เดี๋ยวมันด่า”
   “จริงนะ” ธีร์พูดเสียงตื่นเต้น ... แววตาดูสดใสขึ้นมาเล็กน้อย ... ผมพยักหน้า
   “แล้วเมื่อกี้ทำไรอยู่ ...” ธีร์ยังคงซักไม่เลิก
   “อาบน้ำ ...”
   “ไม่ใช่ ... หมายถึงตอนที่เราเคาะประตูน่ะ ... เพื่อนทำอะไรอยู่”
             “แต่งตัว ...” ผมตอบไปมั่ว ๆ ลำดับเวลาไม่ค่อยถูกนักหรอก
             “ทำไมต้องแต่งตัว ... ”
             “อ้าวววว  ... เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็ต้องแต่งตัว ... ตกลงจะมาคุยเรื่องไรเนี่ย”
ผมเริ่มโมโห เพราะธีร์ถามโน่นถามนี่ ... เหมือนคาดคั้นอยากรู้อะไรก็ไม่รู้  ...
ผมรู้สึกว่าจะละเมิดความเป็นส่วนตัวของผม ... ผมจะทำอะไรแล้วจะทำไม
   “ไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้ดีมั๊ย … ดึกแล้ว ...” ผมพูดตัดบทแล้วหันหลังจะเดินกลับห้อง
   “เดี๋ยว” ธีร์เรียกเสียงเศร้า ... ผมชะงักหันไปมองธีร์
   “มีอะไรโทรหาเราที่บ้าน ... ไม่ก็มือถือนนท์ก็ได้ ...” ผมหันไปบอกธีร์
เสียงอ่อนลงเล็กน้อย ...
   “จริงสิ ... เมื่อกี้ทำไมไม่โทรเข้ามือถือนนท์ ... จะได้ไม่ต้องลำบากมาถึงนี่”
ผมถามธีร์ ก็เริ่มสงสาร ... คงต้องใช้ความพยายามพอสมควรกว่าจะหาเจอ ...
เพราะโรงแรมในย่านนี้ก็มีหลายสิบแห่ง
   “มือถือคงปิดมั้ง ... โทรไม่ติด ... เลยยิ่งเป็นห่วง” ธีร์พูด ... ทำให้ผมรู้สึกผิด ...
ธีร์คงเป็นห่วงผมเพราะโทรเข้ามือถือนนท์ไม่ได้ …
คงกลัวว่าผมกับนนท์จะเป็นอะไรไปรึเปล่า ... เลยต้องมาดูว่าพวกผมสบายดี
ผมนี่นิสัยแย่มาก ... ไม่น่าทำท่ารำคาญธีร์อย่างเมื่อกี้เลย
ธีร์คงเสียความรู้สึก ... อุตส่าห์หวังดี
   “ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง” ผมกล่าวขอโทษธีร์ ก็มันรู้สึกผิดนี่นา
ธีร์ยิ้มให้ผม ...
   “พรุ่งนี้จะไปส่งที่สถานีรถไฟนะ ...” ธีร์พูดยิ้ม ๆ ผมพยักหน้า
             “แล้วเจอกัน ... กลับดี ๆ นะ ... จะให้ลงไปส่งข้างล่างมั๊ย” ผมบอก
ธีร์ส่ายหน้า ... อมยิ้มเล็กน้อย
   “ไม่เอา ... เดี๋ยวเราก็เป็นห่วงเพื่อน ... ต้องเดินมาส่งข้างบนอีก”
   “งั้นพรุ่งนี้เจอกัน” ผมบอกธีร์ ก่อนยืนมองร่างสูง ๆ เดินลงบันไดจนลับสายตาไป

ผมกลับเข้าไปในห้อง ... นนท์นอนหันหลังให้กับประตู ...
   “หลับแล้วเหรอ ...” ผมถามเบา ๆ เงียบไม่มีเสียงตอบ
ผมเลยชะโงกหน้าไปดูคนที่นอนบนเตียง ...หลับตาสนิท ... เสียงหายใจสม่ำเสมอ
... เลยพยายามย่องให้เบาที่สุด ...
เปลี่ยนกางเกงและเสื้อยืดเนื้อนิ่มสำหรับนอน ...
แล้วเข้ามาซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคนที่นอนหลับอยู่ก่อนแล้ว
(double room ก็แบบนี้แหละ ... เตียงเดียวกัน ... ผ้าห่มผืนเดียวกัน)
พยายามให้เบาและเงียบที่สุด ... แล้วหลับตา
   “คุยอะไรนานจัง” เสียงค่อนข้างงัวเงียของคนข้างตัวพูดขึ้น
   “ไม่มีอะไร ...” ผมบอกเสียงเบา
   “ไม่ชอบเลย ... คุยนาน” เสียงงัวเงียเสียงเดิมแต่มีปนงอน ๆ หน่อย ๆ
สงสัยนนท์จะรับรู้ถึงทฤษฎีสัมพันธ์ภาพอีกคน ... ในวันนี้ ...
   “ไม่มีอะไรจริง ๆ คุยแป๊บเดียวเอง” ผมยังคงรักษาระดับเสียงเบา ๆ ไว้
   “อืมมมม” เสียงนนท์เหมือนละเมอ ... เอื้อมมือมากอดเอวรั้งตัวผมเข้าไปจนชิด
จูบเบา ๆ ที่แก้ม ...
          “นอนนะครับ” นนท์พูดเสียงแผ่ว ...
   “ขอโทษนะ ... ที่ทำให้รอนาน” ผมกระซิบ ...
   “อืมมมม” เสียงคนตัวโตงึมงำเหมือนง่วงจัด ...  ผมจูบแก้มนนท์เบา ๆ
แล้วกอดคนตัวโตแน่น
   
รุ่งเช้า ... ผมตื่น ... ตอนที่รู้สึกว่ามีจมูกเขี่ยไปมาข้างแก้ม
   “ตื่นได้แล้ว ... ไอ้เด็กขี้เซา” คนที่นอนข้าง ๆ พยายามปลุก
   “กี่โมงแล้ว” ผมถามเสียงงัวเงีย ... เมื่อคืนกว่าจะหลับก็ดึก
   “จะ 8 โมงแล้ว … รีบลงไปทานอาหารเช้ากัน” นนท์ชวน ...
แต่ตัวเองกลับไม่ยอมลุกจากเตียง ...
   “ขออีก 15 นาที ... ไปแปรงฟันก่อน ...แปรงเสร็จค่อยมาปลุก” ผมต่อรอง
   “ไม่อาวววว ... อยากอาบน้ำ” คนตัวโตไม่ยอมรับข้อเสนอ
   “งั้นก็ไปอาบดิ” ผมบอกทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตา
   “อยากอาบกันเพื่อนน่ะ” คนตัวโตกระซิบ ... แล้วจูบเบา ๆ ข้างแก้ม
   “อาบแล้วเมื่อคืน … เช้านี้ไม่อาบแล้ว ... ไว้กลับไปอาบที่บ้าน” ผมบอก
แล้วเอาหมอนมาปิดหน้า ... ไม่อยากอาบน้ำที่ห้องน้ำที่นี่แล้ว ..
ยิ่งตอนนี้เป็นตอนกลางวัน ... สว่างมาก ... เห็นชัดเกินไป ... อาย ...
นนท์ดึงหมอนที่ปิดหน้าออก
   “จะไปดี ๆ หรือจะไปทั้งน้ำตา” คนตัวโตทำหน้าเจ้าเล่ห์ ... พูดเสียงโหด ...
   “ไม่อาวววว” ผมพูดแล้วแย่งหมอนคืน ... คนตัวโตดึงหมอนแล้วขว้างออกไป
ก้มหน้าลงมา ... ผมกระเด้งตัวขึ้นนั่งทำให้หัวโขกกับปากของคนที่กำลังโน้มตัวลงมาพอดี
   “โอ้ยยย” เสียงคนที่โดนหัวกระแทกปากร้อง
   “เป็นไรเปล่า ...” ผมรีบถาม ... รู้สึกเจ็บที่หัวเหมือนกัน …
นนท์ส่ายหน้า ... แล้วมาจับที่หัวผม
           “ไอ้เด็กบ๊อง ... แล้วเจ็บมั๊ยเนี่ย ...”
ผมส่ายหน้า ...
   “ ’ปาก’ น่าจะเจ็บมากกว่า ‘หัว’ นะ” ผมพูดแล้วเอามือลูบปากที่แดงจัดเหมือนห้อเลือด
เบา ๆ ... ดูซิ ... ยังจะมาห่วงคนอื่นอีก
   “แล้วนี่รีบลุกทำไม ...” นนท์ถาม
   “อ๋อ ... นึกได้ว่านัดธีร์ไว้น่ะสิ ... เลยรีบลุกดีกว่า” ผมบอก
   “... อืม ...” นนท์ทำเสียงรับรู้ … ถามต่อไปว่า “นัดไว้กี่โมงล่ะ ...” 
ผมบอกนนท์ว่าไม่ได้นัดหมายว่ากี่โมงแน่ ... เพียงแค่ธีร์บอกว่าจะไปส่งที่สถานีรถไฟ
เพราะอาทิตย์หน้าธีร์จะกลับเมืองไทยแล้ว ... กว่าจะได้เจอกันคงอีกนาน ... หลายเดือน
   “งั้นรีบไปแปรงฟันสิ ... เดี๋ยวจะได้ลงไปกินข้าวเช้า” นนท์พูด
แล้วดึงมือผมให้ลุกจากเตียง ... ดันหลังไปที่อ่างล้างหน้า ...

หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย ... โทรนัดหมายกับธีร์
พอไปถึงสถานีรถไฟก็เจอธีร์รออยู่ก่อนแล้ว
หลังจากทักทายกันนิดหน่อย ... ธีร์บอกกับนนท์ว่าขอคุยกับผมซักครู่
นนท์จึงขึ้นไปนั่งรอบนรถไฟ ...
   “เพื่อน ... เอามือถือเราไปเลย” ธีร์ยื่นมือถือของธีร์ให้
   “ไม่ ...” ผมบอกปฏิเสธ ก่อนบอกธีร์ว่าผมไม่เห็นความจำเป็น
ของการใช้โทรศัพท์มือถือที่นี่ ... ไม่มีใครต้องโทรหามากนัก ...
ใครอยากคุยก็ให้โทรเข้าบ้านก็แล้วกัน
   “ขี้เกียจพกน่ะ” ผมบอกปัดอีกรอบ
   “พอเรากลับมาที่นี่เพื่อนค่อยเอามาคืนเราก็ได้ ...
ไม่อยู่หลายเดือน ... ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว ” ธีร์พยายามพูดจาหว่านล้อม ... แต่ไม่สำเร็จ
   “เก็บไว้เถอะ” ผมบอก “ไม่ต้องกลัวว่าจะติดต่อไม่ได้ ... ยังไงเราก็เพื่อนกันนะ”
ผมพูดแล้วขอตัวขึ้นรถไฟ เพราะรถไฟใกล้จะออกแล้ว
   “บาย ... ” ผมบอกธีร์
   “เดี๋ยว ... “ ธีร์เรียก ... ก่อนจะพูดว่า
“ขอกอดลาหน่อยสิ …”
   “ไม่ดีมั้ง ... ” ผมพูด ... น้ำเสียงลังเล ...
   “ลาแบบเพื่อนกันไง ... อย่างน้อยก็เพราะว่าเราจะกลับเมืองไทยแล้วนะ”
   “ก็ได้ ...” ผมพูดแล้วกอดธีร์หลวม ๆ ... ตบบ่าเบา ๆ
   “เดินทางโดยปลอดภัยนะ” ผมบอก
   “เพื่อนก็เหมือนกัน” ธีร์พูดแล้วโบกมือ ...

ผมเดินไปหาที่นั่งบนรถไฟ ... คนค่อนข้างว่าง ... ทั้งตู้มีแค่ 2-3 คนเท่านั้นเอง
มองไปเห็นนนท์นั่งหน้างออยู่ใกล้ประตูทางออกอีกด้าน …
ผมนั่งลงบนเบาะข้าง ๆ นนท์ ... รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากชานชลา
   “เป็นไร” ผมถาม
   “เปล่า ...” คนตัวโตพูดปฏิเสธ ... เสียงแสดงออกชัดเจนว่า ... ‘งอน’
   “ ‘เปล่า’ ... แปลว่ามีไรแน่” ผมบอก ...
   “ ... กอดกันกลมเชียวนะ” สุดท้ายก็ยอมบอกจนได้ ... น้ำเสียงประชดเล็ก ๆ
   “ไม่มีอะไร .... “ ผมบอก
   “ก็ไม่ได้ ‘ว่า’ อะไร ... ” เสียงยังงอนไม่เลิก ...
   “แต่ ... น้ำเสียงแบบนี้แปลว่ากำลัง ‘ว่า’ อะไรแน่ ๆ ” ผมพูด ...
แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนขี้งอน ... แต่คนขี้งอนกลับหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง
   “เฮ้อ ... แค่นี้ก็ไม่รู้ ...” ผมพูดขึ้นลอย ๆ  ...
   “ไม่รู้เรื่องอะไร ...” คนตัวโต ... แต่ขี้งอนหันมาถามทันควัน
   “ก็ไม่รู้ว่า ... กอดแบบเพื่อน .. กับกอดแบบ ... ‘คนพิเศษ’ ... ต่างกันยังไง”
ผมพูดยิ้ม ๆ คนตัวโตที่ตั้งท่างอนเมื่อครู่ ... หันมาทำหน้าเจ้าเล่ห์ (อีกแล้ว) …
นี่ผมพูดเปิดช่องอะไรรึเปล่าเนี่ยะ
   “ก็ไม่รู้น่ะสิ ... แล้วเมื่อกี้น่ะแบบไหน” คนตัวโตถามยื่นหน้าเข้ามาใกล้ … อมยิ้ม ...   
ก่อนจะพูดต่ออีกว่า

           “งั้นต้องสาธิต ... ขอลองแบบ ‘คนพิเศษ’ …. อย่างเดียวนะ”

พูดจบ ... คนพูดก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่น ... 




หลายสัปดาห์ผ่านไป ...

พรุ่งนี้เป็นวันสอบ IELTS ...
ตอนเย็นนนท์มาหาผมที่บ้านบอกว่าคืนนี้จะมาค้างด้วย
เพราะพรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า ... ผมจึงขออนุญาตแคธี่ (ทั้งที่ปกติไม่เคย ... ที่จริงไม่ควรทำ
ต้องเกรงใจเจ้าของบ้าน ...)  แคธี่ยิ้มก่อนเอ่ยปากอนุญาต
            “แคธี่เค้ารัก ‘เพื่อน’ จะตาย … ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว” ผมบอกนนท์
ก็แคธี่น่ะทั้งรักทั้งเอ็นดูนนท์มากจริง ๆ
   “มาเตรียมของกันดีกว่า ...” ผมบอกนนท์แล้วถามถึงเอกสารที่ต้องเตรียมไปพรุ่งนี้
ส่วนเรื่องการเตรียมตัวสอบน่ะ ... เตรียมมาตลอดอยู่แล้ว ...
ผมมองว่าการเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษ ... ต้องสะสมทีละเล็กทีละน้อย
เพราะเป็นเรื่องของทักษะและความชำนาญ
ซึ่งแตกต่างจากการสอบแบบอื่น (บางอย่าง) ... ที่สามารถท่องไปได้

การสอบ IELTS มี 4 ทักษะ คือฟัง พูด อ่าน เขียน
อยากให้ทักษะไหนได้คะแนนดีก็ต้องฝึกฝนให้มาก ๆ
อยากพูดเก่งให้พูดเยอะ ๆ
อยากเขียนเก่งให้เขียนให้มาก ๆ
อยากอ่านเก่งก็ต้องอ่านทุกวัน
อยากฟังเก่งก็ต้องฟังบ่อย ๆ

มีเพื่อนผมคนหนึ่งชอบฟังเพลงมาก ... อยู่มาวันหนึ่งให้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที
ปรากฏว่าร้องแพลงหลงคีย์ ... ลงจากเวทีมามันก็บ่น ...
“ทำไมร้องไม่เหมือนต้นฉบับวะ ... ขนาดฟังทุกวันนะ”
“อยากร้องเก่งก็ต้องร้องสิ ... ไม่ใช่ฟังอย่างเดียว ...”
นอกเรื่องมากไปแล้ว ...

   “เพื่อน ...” นนท์เรียกน้ำเสียงออดอ้อน ...
หลังจากที่เตรียมของเสร็จและเตรียมตัวเข้านอน
   “มีไรอีกล่ะ” ผมถามกลับ ... เวลานนท์เรียกด้วยน้ำเสียงแบบนี้แสดงว่า
จะอ้อนเอาอะไรซักอย่างแน่นอน
   “ขอนอนกอดเพื่อนได้เปล่า” นนท์พูด ...
   “พรุ่งนี้สอบ ... เพื่อนอยากนอนสบาย ๆ น่ะ” ผมตอบนนท์สั้น ๆ  ดูเหมือนใจร้าย
แต่เวลาต้องนอนเตียงเดียวกัน ... ผมรู้สึกว่าหลับไม่ค่อยสนิท ... ยังไงไม่รู้ ...    
อาจจะกังวลมั๊ง … ที่สำคัญ ... วันก่อนสอบร่างกายต้องพร้อมที่สุด
   “ก็ด้ายยยย” นนท์ก้มหน้าทำท่าน่าสงสาร ... ก็เป็นท่าไม้ตาย
ทำทีไรผมอดสงสารไม่ได้ ... ต้องตามใจทุกที
   “ดีมาก ... เดี๋ยวเพื่อนให้กอดวันอื่น ...” ผมบอกนนท์ ... พยายามทำใจแข็งเข้าไว้
พูดจบผมก็คว้าผ้าห่มมาห่มแล้วหลับตา ...
วันนี้นนท์ต้องนอนโซฟาเหมือนเคย ... แต่พอขออนุญาตแคธี่แล้ว ...
แคธี่ที่แสนจะใจดีก็เอาผ้านวมและเบาะรองนอนมารองให้นนท์ ...
เรียกได้ว่าเป็นที่นอนที่สบายมาก ๆ  ทั้งนุ่มและอุ่น ...
   
หลังจากนอนได้ไม่กี่ชั่วโมง ... ผมได้ยินเสียงนนท์เรียก ...
   “เพื่อน ...... ”
            “เป็นไรรึเปล่า” ผมลุกขึ้นนั่ง ... มองไปตามเสียงเรียกแล้วถาม
            “ฮือ ... ” เสียงครางเบาๆ … ผมเดินไปที่โซฟา ... ก้มมองนนท์ .. ตาปิดสนิท
            “...เป็นไร” ผมถามเบา ๆ อีกครั้ง ... ไม่มีเสียงตอบ ...
    “สงสัยละเมอ” ผมรำพึงกับตัวเองแล้วเดินกลับไปที่เตียง

   “ฮือ ... ” เสียงนนท์คราง (อีกแล้ว)  ... และมีเสียงร้องไห้เบา ๆ ในลำคอ ...
ผมเดินกลับไปที่โซฟาอีกครั้ง  ... นั่งลงข้าง ๆ แตะแขนเบา ๆ เหมือนปลอบใจ ...
คนที่ร้องครางเมื่อครู่ลืมตามอง ... โผเข้ากอดผมแล้วซุกหน้าลงบนตัก

   “เครียด ...” นนท์พูดเสียงแผ่ว ...
   “ขอนอนกับเพื่อนนะ” ... นนท์พูดเสียงเบา ... ผมพยักหน้า ...
รู้สึกสงสารคนตัวโตขึ้นมาจับใจ
   “งั้นไปนอนที่เตียงเถอะ ... สบายกว่า” ผมบอกนนท์ ...
แล้วเดินนำจูงมือคนเครียดไปที่เตียง ... คนตัวโตล้มตัวลงนอนชิดผนัง
ผมห่มผ้าให้แล้วเอื้อมมือไปลูบหัวคนตัวโตเบา ๆ
และจูบที่หน้าผาก ...
   “ไม่ต้องเครียดนะ ... เตรียมตัวพร้อมสุด ๆ แล้วนี่” ผมให้กำลังใจ ...
นนท์มองหน้าผมแล้วจูบแรง ๆ ที่แก้มสองข้าง ... โอบเอวรั้งตัวเข้าไปกอด ... แน่น ....
แล้วกระซิบว่า
   “ขอบคุณครับ … “
   ก่อนหลับตาลง ... ผมเห็นนนท์ยิ้ม ... ไม่มีวี่แววความเครียดเลยซักนิด ...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 27-12-2008 11:51:08
ได้จิ้มคุณเพื่อนด้วย อิอิ  :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Ferfa ที่ 27-12-2008 11:59:34
 :กอด1: รออยู่น้า ฟากกอดนนท์ด้วยนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 27-12-2008 12:11:44
จิ้มๆ ฟะ

แอร๊ย ยิ่งอ่าน นนท์น่ารัก

เจ้าเล่ห์ไปมั้ยไอคนตัวโตนี่

แต่ไม่เป็นไรให้อภัย น่ารัก :impress2:

ปล.แต่คุณเพือนน่ารักกว่า  อิอิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 27-12-2008 12:15:08

...ขอบคุณ..คุณเพื่อนครับ   :pig4:
...มันช่าเป็นสัมผัสที่ละมุนละไมจริงๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 27-12-2008 12:17:43


นนท์ช่างขี้งอน ขี้หวงเนอะ
แต่ก้อชอบ 
 :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 27-12-2008 12:22:57
ธีร์จะตื้อ เอาโล่ห์เหรอค่ะ แอร๊ยย


แต่นนท์กะเพื่อนน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกก

นนท์งอนน่ารัก อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 27-12-2008 12:28:01
นนท์ขีหึงด้วย ขี้งอนด้วย แต่ก็น่ารักนะ :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 27-12-2008 12:33:19
อร๊ายยยยยยยยยย

น่ารัก


แต่ธีร์ไรนั่น..แอบน่ากลัวนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 27-12-2008 12:34:12
คุณเพื่อน

คราวหน้าถ้าธีร์มาถามอีกว่า คุณเพื่อน กับ 'เพื่อน'

เป็นอะไรกัน....ตอบไปเลยนะ ว่า "แฟน" :n1:

ธีร์จะได้เลิกคิดอะไรๆ กับคุณเพื่อนง่ะ

เค้าไม่ยอมนะ...อย่าให้ใครมาแทรกกลาง

ระหว่าง คุณเพื่อน กับ 'เพื่อน' นะ..... :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: hula-hoob ที่ 27-12-2008 13:38:13

อ่านมานาน  เพิ่งเม้นท์   
เรื่องน่ารักมากๆ 


เป็นกำลังใจให้  :]
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: ~Kalianeko~ ที่ 27-12-2008 13:59:45
น่ารักได้อีก


ว่าแล้วว่าต้องเป็นธีร์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 27-12-2008 14:01:58
น่าร๊ากกกม๊ากกก..นนท์ ^^

อ่านไป ๆ ชักสงสารธีร์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 27-12-2008 14:12:44
แผนร้ายนะเนี่ย งิงิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: cassper_W ที่ 27-12-2008 14:14:30
ต๊ายย ตายย  ขนาดเป็นเพื่อนกัน ธีร์ ยังกล้าทำการอุกอาจ ขนาดนี้นนนนนนนนนน

ไม่ยอมค่ะ  จิส์   มาขัดลาภคนอ่านได้ไงค่ะ  

นอนกอดกานนน  มันอุ่นแต่ไม่พอค่ะ  ๕๕๕๕๕ :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 27-12-2008 14:27:27
อ่านแล้วอบอุ่น  น่ารักดี   :กอด1:


จะมาขัดใจก็ตรงธีร์นี่แหละ  ขัดจังหวะก็นะ  แล้วยังมาขอกอดลาเพื่อนอีก  :beat:


ไม่เกรงใจเพื่อนนนท์เลย   :angry2:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 27-12-2008 15:43:12
 :haun5: เหอะเหอะ นนท์จ๋าอย่างนี้เค้าเรียกว่าลีลาป่ะ
หัวข้อ: RE
เริ่มหัวข้อโดย: HeVeN ที่ 27-12-2008 15:51:08
ชอบคุณนนท์ที่หึงแต่ยังมีสติจังครับ

เวลาผมเครียดอยากได้ใครมากอดอย่างนี้ชะมัด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 27-12-2008 16:32:52
แอร๊ยยย นนท์จ๋า  เจ้าเล่ห์มากมาย ได้ใจไปเลยค่ะ  :-[
คุณเพื่อนเสน่ห์แรงเกิ๊นนนน  สงสัยนนท์ต้องออกแรงหวง และงอนบ่อยๆแน่เลย



ปล. ขอ   :beat: ไอ้คุณธีร์ซะหน่อย ขัดจังหวะจริงจิ๊ง
      เสียรมณ์มากมาย ชิส์ๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 27-12-2008 16:36:12
นนท์เอ๊ยยย สุดๆ เลยอ่า
แบบว่ามารยาร้อยเล่มเกวียนนน กร๊ากกกก
แต่ว่าน่ารักกกก ทำเพื่อนหลงๆ ไปหมด ทั้งเพื่อนในเล้า และ คุณเพื่อน
โฮะๆๆๆๆๆๆ ดีใจจัง คุนเพื่อนมาต่อ เค้าร๊อ รอ รอ ตลอด ฮิฮิ

ธีร์ ก็น่าสงสารน่ะ ดูเหมือนจะรักคุณเพื่อนข้างเดียวซะแล้วอ่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 27-12-2008 17:20:30
ได้กอดหน่อยหายเครียดเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-12-2008 17:34:37
นนท์เจ้าเล่ห์  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 27-12-2008 17:51:13
เย้ !!  ตอนนี้เพื่อน นนท์ น่ารักอีกแล้ว ^___^

ขอบคุณนะครับ ..  อ่านแล้วยิ้มได้ มีความสุขมากมาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 27-12-2008 19:46:12
นั่นเป็นแผนพี่นนท์ช่ายป่ะ
 o13
อิๆ ในที่สุดก็ได้นอนใกล้ๆกัน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 27-12-2008 21:28:25
เจ้าเล่ห์จริงๆเลย  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: fellow ที่ 27-12-2008 23:46:27
 :z1:เจ้าเล่ห์ได้ใจเลยนนท์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: epochii_upfun ที่ 28-12-2008 00:17:02
แอบเจ้าเล่รึป่าวเนี่ย นนท์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 28-12-2008 00:40:56
นนท์ นายเครียดจริงหรอ อิๆ

แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ คุณเพื่อน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 28-12-2008 00:50:26
 :กอด1:

น่ารักอ่ะ แบบว่าไม่ไหวแล้วว
อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 28-12-2008 00:57:10
น่าร้ากกกกก อิจฉาๆ
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 28-12-2008 02:26:53
ธีร์แอบน่ากลัวอ่ะ มาขัดจังหวะ :beat:

นนท์ทั้งขี้หวง ขี้งอล  เจ้าเล่ห์ แต่ก้อขี้อ้อนน่ารักอะ

แต่คุณเพื่อนน่ารักกว่า :กอด1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 28-12-2008 12:34:42
ขัดใจธีร์อย่างแรง  :m16:
จะมาเพื่อออออออออออ
แต่ นนท์ยังคงน่ารักที่สุด
คุณเพื่อน จริงๆก็ บอกไปเลยนะ ว่าคนพิเศษของคุณเพื่อนอะ คือคุณเพื่อนของคุณเพื่อน
เพื่อ ธีร์ จะกลับมาทำใจที่เมืองไทย
แต่ ตอนสุดท้ายนี่
นนท์น่ารักที่สุด
กอดแบบคนพิเศษ บร้าาาา :-[
มาต่อไวๆเน้อ
คุณเพื่อน  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: melody ที่ 28-12-2008 13:26:14
ทำไมมันน่ารักแบบนี้เนี่ยไอ้เพื่อนคู่นี้
 :o8:อ่านไปแล้วก็ยิ้มไปเข้ากับบรรยากาศปีใหม่จังเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 28-12-2008 13:33:52
น่ารักจังคู่นี้   :กอด1:
เพื่อน :L1:นนท์


รอตอนต่อไปฮับ :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 28-12-2008 14:04:01
มาแปะไว้ก่อนครับ (กำลังไล่ตามอ่านอยู่นะ)
ขอโทษคุณเพื่อนอีกครั้งนะครับ ที่หายไปนานเลย  o1

ป.ล. ขอบคุณที่ไม่ลืมกัน :กอด1:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: spare ที่ 28-12-2008 21:55:24
น่ารักดีครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 28-12-2008 22:07:05
^
^
^มารอคุณเพื่อนเลยได้เจาะไข่เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 29-12-2008 02:12:57
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
มาใหม่ค่า ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานาน
วันนี้อ่านเอง รวดเดียวจบ (ดึกมากกกก  คือ..ตอนนี้ก้อตีสองแล้ว  เวิ่นมากไม่ได้)

คุณเพื่อนและ'เพื่อน'ของคุณเพื่อนน่ารักไม่ไหวแล้วค่ะ

มารอคุณเพื่อนมาต่อเร็วๆ นะคะ  :L2:
เป็นกำลังใจให้ นนท์กะเพื่อนค่ะ  :กอด1: :กอด1:

ป.ล. จัดการ ธีร์ ให้เรียบร้อยนะคะ บอกให้ชัดเจนเคลียร์คัทไปเลยค่ะ
ว่า คุณเพื่อนมี เพื่อนสนิท(คิดไม่ซื่อ)ที่รักหมดใจไปแล้วววว
ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง ส่งมาทางนี้่เลยค่ะ จัดการให้ :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 29-12-2008 10:29:02
^

^

คุณนาย

ใจเย็นม้ายยยย

เดี๋ยวคุณเพื่อนตกใจหมด



 :impress:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 29-12-2008 13:29:32
 
^
^
^
o1 o1

ขอโทษคุณเพื่อนด้วยค่า
ที่เสียงดังโวยวาย

ห้ามใจไม่ได้กะความน่ารักของ เพื่อนกะนนท์

กรี๊ดดดดดดดดดดด
(ว่าจะไม่กรี๊ดแล้วนะ)

 
:m23: พี่แขอ่ะ  ไปบอกเค้า อายคุณเพื่อนเค้าม๊ายยยย
v
v
v
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 29-12-2008 18:14:37
^
^
^

น่ารักใช่มั๊ยล่าาาาา

กรี๊ดดดดดดในนี้ไม่พอนะคุณนาย

มีมากรี๊ดดดในโทสับเค้าอีก อิอิ


 :z13: >> กร๊ากกกกกกกตัวนี้ตลกดี
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: wickedwoman ที่ 29-12-2008 23:14:57
เข้ามาอ่านครั้งแรกค่า

ชอบมากๆเลย

ทั้งคุณเพื่อนทั้งนนท์น่ารักมากเลย

แอบชอบนนท์นะเนี่ย ตัวโตๆแต่ขี้อ้อนจริงๆ

แล้วจะรออ่านต่อนะค้า :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 30-12-2008 00:48:46
น่ารักจังทั้งเพื่อนทั้งนนท์

 :กอด1:

 :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 30-12-2008 01:48:08
โอย ไม่ไหวแล้ว

น่ารัก หวานจนมดกัดแล้วค้าบ

น่ารักกันทั้งคู่เลย อ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 30-12-2008 15:14:39
 :call:ชอบมากมาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 30-12-2008 17:26:59
คุณเพื่อนไปไหนอ่ะ

HAPPY NEW YEAR naka

 :กอด1: คุณเพื่อน
 :กอด1: นนท์

มาไวไวนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 30-12-2008 20:04:26
สงสารธีร์เหมือนกันนะ  สงสันจะแอบชอบเพื่อนมานานอ่ะ   :sad11:

แต่ไงก็ยังเชียร์นนท์เหมือนเดิม   :-[

HAPPY NEW YEAR
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 31-12-2008 05:55:37
(http://i299.photobucket.com/albums/mm293/daokajaii/27-12-2008_02.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 31-12-2008 05:59:45
(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/hny3.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 31-12-2008 09:05:35
Greetings of the New Year 2009. Wishing you all success in the next.
(http://th.upload.sanook.com/embed/27cd94a836b587f2bec247cb9fb2e53c.gif)

หวังอะไรได้ดั่งที่วาดหวัง
ขอพลังจงอยู่คู่เสมอ
ให้ก้าวมั่นสิ่งใดสมใจเธอ
มีความสุขอยู่เสมอ..ทุกคืนวัน
:bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 31-12-2008 10:15:25

คิดถึงคุณเพื่อนกะนนท์แล้วค่า

ไปฉลอง New Year's eve ที่ไหนกานนนน :-[
ขอให้สนุกนะคะ

รออ่านอยู่น้า
รักคุณเพื่อนกับ 'เพื่อน' ของคุณเพื่อนค่ะ
:L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 31-12-2008 10:54:14
(http://glitter2.postjung.com/data2/2008123110/495aec2c8d73b.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 31-12-2008 11:42:28
(http://i356.photobucket.com/albums/oo7/Bogiecoco/happy_new_year_10.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 31-12-2008 11:47:53
(http://i475.photobucket.com/albums/rr112/ranny19/47_80838_27476d7bca8d641.gif)



 :กอด1: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 31-12-2008 12:42:46
(http://)(http://dl2.glitter-graphics.net/pub/848/848652g0t9giwgk6.gif) (http://www.glitter-graphics.com)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: maggy ที่ 31-12-2008 13:13:47
ขอตามมาอ่านด้วยคนก๊าบบบบบบบบบบบบ

ชอบคุณ 'เพื่อน' กะ คุณเพื่อนมักมากกกกกกกกกกกกกก

หวานสุดๆ หวานระเบิดระเบ้อ หวานได้อีกอะ ได้อีกกกกกกก แอ๊คโคกระจายยยยยย

เป็นกำลังใจให้นร้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 31-12-2008 23:58:24
(http://i242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/glitter/newyear/30-12-2008_04K.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Mint ที่ 01-01-2009 00:30:12
(http://i242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/glitter/newyear/30-12-2008_04K.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 01-01-2009 02:58:07
HAPPY NEW YEAR 2009

(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/tree.jpg)

******************************

คุณเพื่อน  คิดถึงกันบ้างอะไรบ้าง  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 01-01-2009 08:03:33
 :L2:สวัสดีปีใหม่ค่ะ :L2:



ขอให้มีความสุขมากๆสุขภาพแข็งแรง :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 02-01-2009 13:54:57
มาตามคุณเพื่อน กับ 'เพื่อน'
.........อยู่ไหนน้า???..........



คิดถึง

:monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 02-01-2009 14:13:32
^
^
จิ้มมมมม



สวัสดีปีใหม่คุณเพื่อนและเพื่อนนะคะ

แฮบๆๆๆปี้ๆๆๆ นิวเยียร์เน้อ

จ๊วบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 02-01-2009 14:29:29
สวัสดีปีใหม่ คุณเพื่อน+นนท์ และทุกๆคนน

มีความสุขเน้อ

ปล.คิดถึงคุณเพื่อน+นนท์แล้วไปฉลองปีใหม่ที่ไหนอ่ะ  หุหุ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 02-01-2009 15:37:05
(http://i242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/glitter/newyear/30-12-2008_01K.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 02-01-2009 21:53:03
 :L1:                                                                       :L1:                                                                          :L1:


.:*¨¨*:• -may the coming year bring for you happiness success and be filled with peace togetherness of your family and friends¸.•´¯)  


 :L2:                                                                      :L2:                                                                         :L2:



º¤ø,¸¸,ø¤  Happy º¤ø,¸¸,ø¤º New º¤ø,¸¸,ø¤ºYear ¤ø,¸,¸¸,ø¤ºº
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 02-01-2009 21:59:20
แฮปปี้ปีใหม่น๊า..ทั้งเพื่อนและก็นนท์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 03-01-2009 17:36:34
 :mc2:  เข้ามาสวัสดีปีใหม่ครับคุณเพื่อน  ..  มีความสุขมาก ๆ ยิ้มได้ตลอดปีนะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 03-01-2009 17:51:34
(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/Waiting.jpg)

The agony in living is waiting.
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: princehoo ที่ 03-01-2009 22:51:59
มีพรายบอกให้ลองอ่านเรื่องนี้

อ่านแล้วอมยิ้มตลอด..อะไรจะหวานขนาด

 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 03-01-2009 23:25:54
มารอคุณเพื่อน ไปเที่ยวกะนนท์ยังไม่กลับหรอ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 03-01-2009 23:46:09
 o4 รอนะคร๊าบ

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 04-01-2009 21:14:27
:o12:


เข้ามาดัน

เด๋วคุณเพื่อนหาทู้ไม่เจอ

หายไปนานเกิ๊น

 :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 04-01-2009 21:21:39

เมื่อไหร่เพื่อนจะเอารูปมาลงให้ดูบ้างน้อ

อยากดูๆ

จะได้ 'จิ้น' ถุก

อิอิ

อิเจ้  :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 05-01-2009 09:42:41
มะไหร่คุณเพื่อนจะมา......รึฉลองปีใหม่เพลิน..
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 13)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 05-01-2009 13:30:11
^
^
^

จื้มนังหนูดาว  ไปฟ้องพี่โมฯ ให้ตามหาคุณเพื่อนด่วน

คิดถึง คิดถึง
 :monkeysad:
 :m15: :m15:
 :sad12: :sad12: :sad12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่&am
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 05-01-2009 17:31:05
Happy New Year 2009 ทุกคน ... ขอให้มีความสุขตลอดปีและตลอดไป



ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่”

ปกติเป็นคนที่ไม่ชอบไปที่ไหนในวันหยุดยาว ๆ
ด้วยเหตุผลว่าคนเยอะเกินไป
   “ไป Countdown กัน” นนท์เอ่ยปากชวน ... ขณะที่กำลังนั่งดูทีวี
ในเย็นวันที่ 30 ธันวาคม
   “ไม่อยากไปเลย ... คนเยอะ” ผมปฏิเสธทั้งที่รู้ว่า ...
ไม่ว่าจะปฏิเสธยังไงก็ต้องไปอยู่ดี ... คนตัวโตมีวิธีการข่มขู่เกมบังคับ
จนสุดท้ายก็ต้องไปด้วย ... ทุกที ... และทุกที่ ...
นนท์หันมามองยิ้มเจ้าเล่ห์ ...
   “ยังไงเพื่อนก็ต้องไป ...เข้าใจมั๊ย” นนท์พูด ... เหมือนที่ผมนึกไม่มีผิด
   “ที่ไหนล่ะ …ขอที่คนน้อย ๆ นะ” ผมยังคงต่อรอง
   “คร๊าบ ...” นนท์รับคำ
   “งั้นที่ไหน”
นนท์ไม่ตอบแต่หันมายักคิ้วให้สองทีก่อนตั้งหน้าตั้งตาดูทีวีต่อไป

วันรุ่งขึ้น ...
นนท์พาผมขึ้นรถไฟไป ... ลอนดอน
   “ไหนว่าจะพาไปที่คนน้อย ๆ” ผมงอแง
   “ยังไม่ถึงเลยรู้ได้ไงว่าพาไปไหน” นนท์พูดแล้วโอบบ่าเหมือนบังคับให้เดินขึ้นรถไฟซะที

... ไม่ต้องเดาให้เหนื่อย ... พวกเราไป countdown ที่ LONDON !! นั่นแหละ

นนท์บอกว่านัดรุ่นพี่เอาไว้ ... พอไปพบกันรุ่นพี่ตามที่ได้นัดหมายแล้ว ...
ก็เดินเล่นแถว ๆ Leicester Square
ดูโน่นนี่เพื่อรอเวลา ... ไม่ใช่เวลา Countdown หรอก
แต่เป็นเวลาที่ผับเปิดต่างหาก ... ผับแห่งนี้เป็นผับของคนไทย
มีชื่อว่าเป็นร้านอาหาร ... แต่ด้านล่างเป็นผับ ... ค่อนข้างใหญ่
อยู่เกือบใจกลางกรุงลอนดอนเลยทีเดียว ...
รุ่นพี่ของนนท์นัดพบกับกลุ่มเพื่อนไว้ที่นี่ก่อนจะไป Countdown ด้วยกัน

นั่งได้ซักพักก็มีคนเข้ามาเต็มไปหมด ...
โดยเฉพาะคนไทย ...
ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่จะรวมคนไทยได้มากมายถึงขนาดนี้ ...
ได้เจอคนไทยเยอะ ๆ ก็สนุกดีนะยิ่งมาต่างบ้านต่างเมืองอย่างนี้ด้วยแล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้ผมทนไม่ไหวต้องลากนนท์ออกมาคือ ...

 ... บุหรี่ ...

ก็ผมแพ้ควันบุหรี่นี่นา .. ถ้าโดนรมอยู่ในนั้นคงต้องไม่สบายกันมั่งแหละ
แค่เจอคนเยอะ ๆ ก็แย่อยู่แล้ว ... ยังต้องถูกควันบุหรี่อบด้วย
คงไม่สนุกแน่ ๆ

นนท์ขอตัวออกมาก่อน
รุ่นพี่ของนนท์บอกว่าให้เจอที่ Big Ben .. ถ้าไม่เจอก็ไม่เป็นไร ...
ว่าง ๆ ค่อยคุยกันใหม่ ... ตอนแรกผมก็งงว่าทำไมจะไม่เจอกัน ...
มือถือก็มี ...
แต่พอเดินไปถึง ๆ Trafalgar Square ก็ทำรู้ว่า
ที่อาจจะไม่เจอกันน่ะ
เพราะอะไร ...

เพิ่งจะสี่ทุ่มเท่านั้นแต่คนเยอะมาก ... เรียกได้ว่าไม่ต้องเดิน
แต่ ... ‘ไหล’ ... แทนการเดิน
แม้คนเยอะมากแต่ทุกคนมีสีหน้าสดชื่น ดูมีความสุข
...
ด้วยความที่คนเยอะ .. จนต้องเบียดและไม่ต้องเดินแต่ 'ไหล' ไปแทน
นนท์ก็เลยเดินอยู่ด้านหลังของผมแล้วโอบผมเอาไว้ ...
รู้สึกอบอุ่น ... ทั้งที่อากาศเย็นยะเยือก ...
อุ่นเหมือนมีแจ็กเก็ตตัวโตสวมทับไว้
แต่เป็นเสื้อแจ็กเก็ตที่มีอุณหภูมิอบอุ่นถึง 37.5 องศา
ทำให้นึกถึงหนังสือล่มหนึ่งที่บอกว่า ...
   
            ‘Hug is a jacket with a heart inside’

หลังจากที่พยายาม ’ไหล’ ให้ไปอยู่ในมุมที่สามารถมองเห็น
หอนาฬิกา Big Ben ได้ชัดเจนที่สุดแล้ว
เป็นครั้งแรกก็รู้สึกว่า การหมุนของเข็มของนาฬิกาเรือนใหญ่เรือนนี้
น่าลุ้นน่าติดตามอยู่ไม่น้อย
ยิ่งเวลาใกล้เที่ยงคืนที่เข็มยาวค่อย ๆ เคลื่อนที่ไป
จนเกือบจะปิดบังเข็มสั้นมิดพร้อม ๆ กับเสียงนับถอยหลังนั้น

9 ... 8 ... 7 ... 6 ... 5 ... 4 ... 3 ... 2 ... 1

Happy New Year !!!


เสียงผู้คนโห่ร้องยินดี ... พร้อมกับเสียงพลุที่ดังขึ้น
แสงของพลุนับร้อยดอกส่องแสงสว่างทั่วท้องฟ้าในกรุงลอนดอน
ผมรู้สึกมีความสุขอย่างประหลาด ...
นี่เราได้นับถอยหลังกับนาฬิกาเรือนใหญ่ที่สุดในโลก …

ผู้คนที่มาร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ดึงคนข้างตัวมากอดบ้างจูบบ้าง
เป็นบรรยากาศที่สนุกสนานดี
...
ชายหนุ่มฝรั่งผมยาวที่ยืนอยู่ข้างผม ... ดึงผมเข้าไป ... จะกอด
แต่คนตัวโตมือไวกว่าดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น
ไม่สนใจสิ่งรอบข้างใด ๆ คนตัวโตก็ประทับริมฝีปากลงบนแก้มทั้งสองข้าง
แล้วกระซิบ “Happy New Year นะครับ …”
ผมกอดคนตัวโตแน่น ... จูบแก้มเบา ๆ 2 ข้าง

ตอนนั้น ... มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าเราสองคนได้ก้าวข้ามผ่านปีไปด้วยกัน

และเราจะก้าวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าดีหรือร้ายด้วยกันตลอดไป ...

   
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 05-01-2009 17:35:47
ู^
^
^

จิ้มมมมมมมมมมมมม

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

คุณเพื่อนมาแล้ววววววววววว


คิดถึง :กอด1:




ตอนนั้น ... มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าเราสองคนได้ก้าวข้ามผ่านปีไปด้วยกัน

และเราจะก้าวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าดีหรือร้ายด้วยกันตลอดไป ...



ชอบจัง ความรู้สึกแบบนี้

Happy New Year
คุณเพื่อนกะนนท์ มีความสุขมากๆนะคะ

+ 1 ให้กับความน่ารัก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 05-01-2009 17:36:31
คุณเพื่อนมาแล้ว
HAPPY NEW  YEAR !!

คิดถึงมากมายยยย ดีใจที่กลับมาพร้อมเรื่องเล่า  countdown สุดสวีต
(แหม...แอบห่วงสวัสดิภาพนิดหน่อย แต่ไปแอบจู๋จี๋กันหน้า Big Ben
อิจฉาหอนาฬิกาและคนอังกฤษแถวนั้นวุ้ยยย  :-[ )

    ‘Hug is a jacket with a heart inside’ --- That's the best New Year present one can have  :-[


มาต่ออีกเร็วๆ นะคะ เค้ารอคุณเพื่อนกันใหญ่เลย

รักคุณเพื่อนกะนนท์ค่า  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: ~Kalianeko~ ที่ 05-01-2009 17:41:31
น่ารักจริงๆคับ


ชอบคำว่า   ‘Hug is a jacket with a heart inside’   มาก


และผมก็เชื่อว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ


ยังไงก็สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังให้กับทั้งคู่ด้วยนะคับ   รักกันนานๆนะคับ  อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 05-01-2009 17:47:37
ข้ามผ่านปีแบบอบอุ่น
+1 ให้กับความอบอุ่นของปีใหม่จร้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 05-01-2009 17:53:54
ว้าววววคุณเพื่อนมาแล้ว   แต้งค์สำหรับตอนพิเศษฮับ 

เรื่องนี้น่ารัก   :man1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: MonkeYMauS ที่ 05-01-2009 17:55:12
น่ารักมากมายคับ
:m15:
คิดถึงคนเขียน มาต่อบ่อยๆน้าาาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: Ferfa ที่ 05-01-2009 18:04:43
อยากมีคนกอดมั่งอะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 05-01-2009 18:12:05
แอร๊ยย ช่างเป็นปีใหม่ที่น่ารักโฮก มาก

น่ารักอบอุ่นนนนนนน

มีความสุขมากๆเน้อ ทั้งคุ่เลย :กอด1: สวัสดีปีใหม่ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 05-01-2009 18:13:56
  :o8: หวานไม่เกรงใจใครเลยน้าาาาาาา

แต่ไหงมาน้อยจังอ่ะ คิดถึงใจจะขาดตายแล้ว :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: MaryGoesRound ที่ 05-01-2009 18:24:06



อบอุ่นดีจัง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 05-01-2009 18:31:37
น่ารักดี  :กอด1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 05-01-2009 18:48:38
ประท้วง
ขออีกกกๆๆ :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-01-2009 18:59:21
จะน่ารักไปไหนคู่นี้  :-[ ว่าแล้วคิดถึงตอนสิ้นปี กอดๆ จูบๆ กะทุกคนที่อยู่ใกล้  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 05-01-2009 19:29:57


....คู่นี้อะไรเนี๊ยะ...แค่หอมแก้มก็>>>> :pighaun: :haun4: :jul1:

ปล.มีความสุขในทุกๆวันของทุกๆปีน่ะครับ :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 05-01-2009 19:34:52
อบอุ่นดีพิลึกค่ะคุณเพื่อน  น่ารักมากกกกกกกกกกก




คิดถึงตอนเราอยู่ที่นั่น................




(เพ้อแระตู)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 05-01-2009 20:16:49
Happy New Year ย้อนหลังเหมือนกันค้าบ
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 05-01-2009 20:43:52
ตอนนั้น ... มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าเราสองคนได้ก้าวข้ามผ่านปีไปด้วยกัน

และเราจะก้าวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าดีหรือร้ายด้วยกันตลอดไป ...


สั้นๆ แต่หวานไปถึงสุดใจ  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: princehoo ที่ 05-01-2009 20:58:39
หวานไปม๊าย..จะน่าร๊ากกกไปไหนคู่นี้

 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 05-01-2009 21:10:19
นนท์อะ...น่ารัก...อบอุ่น...และ........หวง คุณเพื่อนไปถึงไหน

(แต่เค้าชอบนะ)

หาน่ารักๆ อย่างนี้ได้อีกที่ไหนหนอ

ปีใหม่ปีหน้า(จะอยู่ถึงป่าวหว่า?)..จะได้มีอ้อมกอดอุ่นๆ กะเค้าบ้าง :-[


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: fellow ที่ 05-01-2009 21:11:41
กอดกัน ข้ามปี :-[

อบอุ่นๆ  :-[ :-[

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 05-01-2009 22:30:29
สักขีพยานอื้อเลยงานนี้   :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: spare ที่ 05-01-2009 22:32:41
หวาน กันข้ามปีไม่เกรงใจใครเลยอ่ะคู่นี้  :o8:


Happy New Year  :mc4: :mc4:

มีความสุขมากๆ ทั้งสองคนนะครับ



หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 05-01-2009 23:15:32
น่ารักจัง

 :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 06-01-2009 00:47:33
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

อ่านกี่ตอนๆก็มีความสุขจัง อิๆ

แล้วจะรอตอนต่อน๊า คุณเพื่อน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 06-01-2009 05:04:52
แต่คนตัวโตมือไวกว่าดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น
ไม่สนใจสิ่งรอบข้างใด ๆ คนตัวโตก็ประทับริมฝีปากลงบนแก้มทั้งสองข้าง
แล้วกระซิบ “Happy New Year นะครับ …”
ผมกอดคนตัวโตแน่น ... จูบแก้มเบา ๆ 2 ข้าง
.
.

.
.
.
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

มันน่ารักมากอ่ะ


สวัสดีปีใหม่ด้วยคนนะคะ

แล้วมาต่อบ่อยๆ ล่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 06-01-2009 07:59:47
 :impress: น่ารัก คร๊าบ  :o8:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: mma419109 ที่ 06-01-2009 11:31:15
    โอ๊ยยยอิจฉาตาร้อนผ่าว มีคนกอด+หอมแก้มข้ามปีด้วย  :mc3: โชคดีปีใหม่ ไม่เจ็บ ไม่จน นะจ๊ะทั้งสองคน :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 06-01-2009 18:12:15
มารอคุณเพื่อน วันนี้จะได้อ่านมั้ย  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 06-01-2009 19:18:58
สุดยอดดดดดดเกินคำบรรยายยยยยยยย

สำหรับตอนนี้ ฮิอิ มาต่อไวๆๆนะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 06-01-2009 20:16:35
วุ้ย อิจฉา  :-[


หนาววว...วว..ว   :o12:

อยากได้ a jacket with a heart inside ซักตัวเนอะ



หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 06-01-2009 21:38:01
น่ารักตามเคย :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 07-01-2009 00:53:33
อิจฉาๆๆ

น่ารักดี หวานซะ :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 07-01-2009 12:39:08
มายังคะ

คิดถึงนะ
 
 


 :กอด1: คุณเพื่อน
 :กอด1: นนท์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 07-01-2009 16:10:36
แอร๊ยยยยย.....หวานเจี๊ยบกันสุดๆ
ต่อมอิจฉาทำงานหนักเลยอ่ะ  อยากได้คนมา  :man1: มั่งจัง
แต่.......






แปลกใจตัวเราเองนิโหน่ยนะ
แค่นนท์กะคุณเพื่อนกอดกันนิด  จุ๊บกันหน่อย แต่ไหงใจเรามานหวิวๆอ่า  :haun4:
นี่ขนาดยังไม่ตะลึ่งตึ่งโป๊ะกัน เรายังใจสั่นกะความหวานของทั้งคู่ขนาดนี้
แล้วถ้าเกิด......ขึ้นมาวันไหน
มีหวังเรา   :m25: แหงๆ




ปล.  สวัสดีปีใหม่คุณเพื่อนกะนนท์ด้วยจ้า
ขอให้มีความสุขมากๆน้า
Happy new year  :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 08-01-2009 09:30:27
คิดถึง คุณเพื่อนและเพื่อนของคุณเพื่อน หรือ คุณเพื่อนกับนนท์นั่นเอง :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 08-01-2009 12:51:29


....คู่นี้อะไรเนี๊ยะ...แค่หอมแก้มก็>>>> :pighaun: :haun4: :jul1:


เห็นด้วยกะรีนี้จัง คู่อื่นทั้ง... และ... ยังไม่หื่นเท่านเลยดิ :pighaun:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 09-01-2009 09:23:16
 :z13: คุณเพื่อน เอิ้กๆ

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 10-01-2009 10:12:40
คุณเพื่อนหายยยยย.....ไปไหน แอบไปกุกกิ๊กกันแล้วไม่บอกเหรอ :z1:

กลับมาด่วนคิดถึงงงงงง :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 10-01-2009 21:30:27
คูณเพื่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หายไปปปปปปปปปปปปปปป
นานแล้วม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 11-01-2009 00:20:56
(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/Waiting.jpg)

Still, the agony in living is waiting.
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 11-01-2009 00:40:31
 อ่ะ

รอกันต่อไปปปปปปปปป

 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: epochii_upfun ที่ 11-01-2009 02:29:14
หวีดกันกลาง ลอนดอนอีกแว้ววววววววว
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 11-01-2009 13:51:01
มาตามคู่หื่นประจำเล้า :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 11-01-2009 16:06:12
แวะมาเยี่ยมนะ

รออ่านต่ออยู่นะ

ขอเป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 11-01-2009 19:07:42
รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ
จะได้อ่านไหมหนอในคืนนี้
  :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 12-01-2009 03:02:14
คุณเพื่อนจ๋า..คุณเพื่อน

คุณเพื่อนหายไปนานแล้วน๊า

รู้ป่ะว่า คนทางนี้เค้าคิดถึง

คุณเพื่อนมานะ..นะ...นะ (อ้อนวอนสุดฤทธิ์)

 :call:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 12-01-2009 08:59:00
 :กอด1:  :undecided:

 :bye2:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนพิเศษ “Countdown ... นับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่” )
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 13-01-2009 21:22:01
คุณเพื่อน ! นนท์ของของคุณเพื่อน!
 :serius2: :serius2:
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
 :monkeysad: :monkeysad:
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 13-01-2009 23:20:15
ถึงผู้อ่านที่รักทุกคน

มี 2 เรื่อง ... ขอโทษกับขอบคุณ

1.ขอโทษสำหรับความล่าช้า ...
2.ขอบคุณสำหรับทุก ๆ กำลังใจ ... ทุกคนน่ารักมาก

รักทู๊กกกกคน ... take care ...




ตอนที่ 14



นนท์ปลุกผมตั้งแต่ยังไม่ตี 5 ด้วยการกอดและจูบแรง ๆ ที่แก้ม
   “ตื่นได้แล้ว ... ไอ้เด็กขี้เซา” เสียงนนท์พูดข้างหู ...
ก่อนจะไล้จมูกไปมารอบใบหู ... จั๊กจี้ ... ผมหดคอ
แล้วต้องลืมตามองหน้าคนปลุก ... คนปลุกใช้ริมฝีปากอุ่น ๆ จูบเร็ว ๆ
ที่ริมฝีปากของผมอีกครั้ง
   “Morning …”
   “กี่โมงแล้ว” ผมถามเสียงงัวเงีย ... ก็ยังไม่อยากตื่นเลยนี่
   “ลุกได้แล้ว” นนท์พูด ... พลางดึงมือผมให้ลุกขึ้น
จากเตียงอันแสนจะอบอุ่น ... อากาศค่อนข้างหนาว ...
ทำให้ไม่อยากออกจากผ้าห่มเลย ... ก็เลยงอแงขอซุกตัวอยู่ในผ้าห่มอุ่น ๆ
อีกซักพัก ... คนตัวโตไม่ยอม ... ยื้อกันอยู่ครู่นึง ... จนนนท์ทำท่าจะอุ้ม
พาเข้าไปในห้องน้ำนั่นแหละ... ถึงได้ยอมลุกจากที่นอนในที่สุด
   “เพิ่งจะตี 5 จะรีบไปไหนเนี่ย” ผมบ่นเพราะตั้งนาฬิกาไว้ตีห้าครึ่ง ...

ไม่นานเราสองคนก็ออกจากบ้านเดินมุ่งหน้าไปที่สถานีรถไฟ ..
รถไฟขบวนแรกที่ไปไบรตันออกจากเมืองประมาณหกโมงเช้า
พอได้ขึ้นรถไฟก็นอนหลับยาวจนถึงไบรตันนั่นแหละ ... ขอพักเอาแรงอีกหน่อย
ไปถึงที่สอบยังไม่แปดโมง ... ก็นั่งรอและเตรียมตัวอยู่หน้าห้องสอบ ...
จะว่าไปก็ไม่รู้จะเตรียมตัวอะไรเพราะหนังสือก็อ่านหมดแล้ว
อีกอย่างก็มีความเชื่อ (เป็นความเชื่อของผมคนเดียว) ว่า ...
สำหรับการสอบที่เกี่ยวกับการใช้ภาษา
ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมานั่งท่องกันก่อนสอบแล้วจะจำได้ ...
แต่เป็นเรื่องของการฝึกฝนที่จะต้องมีอยู่อย่างสม่ำเสมอ ...

ได้เวลาเริ่มสอบ ... สอบ Listening ก่อน
มี Tips เล็ก ๆ ที่อาจารย์ที่สอนวิชา listening ท่านบอกว่า
ให้จิบกาแฟก่อนสอบวิชา Listening ซักเล็กน้อยจะช่วยเปิดประสาทหูได้
ผมก็เลยจิบกาแฟไป 2 จิบ (นอกนั้นยกให้นนท์) ...
อีกอย่างผมเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ เกรงว่าถ้าดื่มก่อนสอบมากไป
แทนที่จะเปิดประสาทหูกลายเป็นใจสั่นทำข้อสอบไม่ได้ไปซะ
 
หลังจากนั้นก็สอบ reading และ writing … แล้วก็พักเที่ยง
... เราสองคนเดินไปดูประกาศเวลาที่จะสอบ speaking ในช่วงบ่าย
ผมกับนนท์ได้สอบเวลาเดียวกันคือ บ่ายโมงครึ่ง .. แต่สอบคนละห้อง
... หลังจากทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว ...
เราก็มานั่งเตรียมตัวเตรียมใจที่ใกล้ ๆ กับห้องสอบ …
คนที่สอบพูดคนแรกของแต่ละห้อง
จะเริ่มสอบเวลาบ่ายโมงตรงโดยจะใช้ในการสอบประมาณ 15 นาที ...
ระหว่างที่นั่งรอสอบก็ได้คุยกับนักเรียนชาวจีนคนหนึ่ง ชื่อ ‘Jack’
‘Jack’ เล่าว่ามาสอบเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ... คะแนนไม่ดีซักที
โดยเฉพาะสอบพูด .. ทั้งที่อยู่อังกฤษมา 2 ปีแล้วยังสอบ Speaking ได้แค่ 5.0
ทำให้ผมกังวลมากเพราะเพิ่งมาอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือน ...
‘Jack’ บอกว่าที่ได้คะแนนไม่ค่อยดีคงเป็นเพราะ
ทุกวันอยู่แต่ในสังคมของคนจีน เช่าบ้านอยู่กับคนจีน
ที่โรงเรียนมีแต่คนจีน ... ตกเย็นทำงานที่ร้านอาหารจีน
วัน ๆ พูดแต่ภาษาจีน ... ไม่ค่อยได้พูดภาษาอังกฤษเท่าไหร่เลย 
ผมเสียดายแทนคนที่มาอยู่ที่นี่ เพราะมีโอกาสได้ฝึกภาษาอังกฤษมาก
ก็เรามาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
แต่ต้องมาเสียโอกาสไป ... นึกถึงตัวเอง ..
โชคดีที่ได้อยู่กับครอบครัวชาวอังกฤษ ... เลยได้พูดภาษาอังกฤษตลอด ...
ไม่งั้นคงได้แต่พูดภาษาไทยเหมือนกัน

การสอบผ่านพ้นไปด้วยดี ... รู้สึกว่าทำได้ดีเท่าที่คาดหมายไว้
รู้สึกมั่นใจ ... รอผลสอบอีก 2 อาทิตย์ ให้ศูนย์สอบส่งผลมาที่บ้าน
2 อาทิตย์จะว่าไปก็ไม่นานซักเท่าไหร่ ... ระหว่างรอผลพวกเราก็เลย
เตรียมกรอกใบสมัครของมหาวิทยาลัยที่สนใจขอใบสมัครมาแล้ว
พร้อมกับเตรียมหลักฐานทั้งหมด พอผลสอบภาษาอังกฤษมาจะได้ส่ง
ไปที่ U. เลย ...

แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง … นนท์มาหาที่บ้านตอนสาย ๆ
พร้อมกับซองจดหมายสีขาว ที่เราต่างก็รู้ว่าคือผลสอบ
ก่อนมาถึงบ้านนนท์โทรมากำชับห้ามเปิดผลสอบก่อนเด็ดขาด
ผมก็ได้แต่พยายามส่องกับไฟแต่ก็มองไม่เห็น
พอนนท์มาถึง ... คว้าเอาซองจดหมายของผมไปถือไว้ในมือ    
   “เดี๋ยวเปิดให้” นนท์บอก
   “กลัวจัง” รู้สึกตื่นเต้นมาก ... มือเย็นไปหมด ...
แต่คิดว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดหรือผมประเมินตัวเองผิด ..
คะแนนที่ได้ไม่น่าจะผิดจากที่คาดหมาย    
            “กลัวอะไร” นนท์เอื้อมมือมายีหัวจนผมของผมยุ่งไปหมด ...
แล้วก็หันไปมองที่ซองทั้งสองอันในมือ
   “แกะของใครก่อนดี” นนท์พูดยิ้ม ๆ
   “ของ ‘เพื่อน’ ก็ได้” ผมบอก (ผมหมายถึงผลสอบของนนท์)
นนท์หันมามองหน้า
   “ได้แกะของเพื่อนก่อนละกัน” แล้วนนท์ก็ฉีกจดหมายที่มีผลสอบ
ของผมออก ... ค่อย ๆ ดึงกระดาษแผ่นบาง ๆ ออกมาจากซองสีขาวนั้น
   “Overall 7.0” นนท์บอก ... ผมดีใจมากถึงมากที่สุดกอดนนท์แน่น
เพราะได้คะแนนอย่างที่ต้องการ (เรียกได้ว่าคะแนนดีมากที่เดียว ...
แต่ไม่ขอแจกแจงรายวิชานะ ... ขออวดนิดนึงว่า Speaking ได้ 8.0 คะแนนเต็ม 9.0)

ตอนที่นนท์เริ่มแกะซองผลการสอบของนนท์นั้นผมยังกอดนนท์แน่น หลับตาปี๋
รู้สึกเหมือนเวลานั้นผมลืมหายใจไปชั่วขณะ ... ลุ้นคะแนนของนนท์
นนท์ก้มลงดูผลคะแนนของตัวเองแล้วเงียบไป
   “ไหนดูซิ” ผมยื่นมือขอดูกระดาษผลคะแนนของนนท์ ...
นนท์มองหน้าผมดึงผมไปกอดแน่น แล้วจูบแก้มแรง ๆ ทั้งสองข้างก่อนจะยิ้มแล้วบอกว่า
   “เพื่อนได้  6.5” นนท์ยิ้มท่าทางดีใจ
   “ไม่เห็นยากอย่างที่ใคร ๆ ขู่เลยเนอะ ...” นนท์พูดอีก ... เพราะ
ส่วนใหญ่ U. จะต้องการคะแนนประมาณ 6.0 – 6.5 ก็ถือว่าผ่านเกณฑ์แล้ว
แต่ที่ต้องลุ้นอีกก็คือ U. ที่นี่ไม่ได้ดูผลการสอบภาษาอังกฤษอย่างเดียว
หรือการเรียนจบเกียรตินิยมก็ไม่ได้ทำให้ได้รับการตอบรับเสมอไป
การพิจารณารวมถึงหนังสือรับรองจากอาจารย์ที่มหาวิยาลัย
หรือจากที่ทำงานด้วยก็สำคัญ ...

ผมกับนนท์สมัครไปหลาย U. ซึ่งส่วนใหญ่เราก็เลือก U. เหมือน ๆ กัน
แต่ไม่เลือก U. ใน London เลยเพราะผมอยากอยู่ในที่อากาศดี ๆ
(ก็เป็นภูมิแพ้นี่นะ) อยู่ในที่สงบ ๆ เพราะไม่รู้ว่าพอกลับเมืองไทยแล้วจะต้องอยู่กรุงเทพหรือเปล่า ...
ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ต้องผจญกับมลพิษอีกเยอะ

ระว่างที่รอการตอบรับจาก U. ทำให้เกิดอารมณ์ไม่อยากเรียนหนังสือ
ทั้งที่เหลือเวลาอีกตั้ง 2 เดือนกว่าจะจบหลักสูตร ...
คนเราก็อย่างแหละ … (โดยเฉพาะผมกับนนท์)
เมื่อเราบรรลุเป้าหมายแล้ว .. ก็ไม่รู้ว่าระหว่างทางจะสนใจไปทำไมอีก
ในเมื่อใส่ใจไป ... ก็ไม่ได้ทำให้เป้าหมายที่สำเร็จแล้วเปลี่ยนแปลงไปได้
... วิชาที่เรียนก็มีน้อยลง ..
อีกอย่างวิชาที่เราเรียนอยู่ตอนที่ส่วนใหญ่เป็นวิชาเลือกที่เกี่ยวกับดนตรี ศิลปวัฒนธรรม
และข่าวสารบ้านเมืองอะไรทำนองนั้น ... แต่ก็สนุกดี เช่น วิชาดนตรี ..
ผมกับนนท์ present เรื่อง วิวัฒาการของเพลงในประเทศไทย ...
ก็เอาเพลงไทยเดิมไปเปิดจนถึงเพลงยุคปัจจุบัน
ที่มีทั้งเพลงแร๊ป เพลงร็อค และ R&B … ต่างชาติก็ทึ่งนะ
เพราะหลายคนไม่รู้จักประเทศไทย ..
บางคนพอบอกว่ามาจาก Thailand … บอกว่า อ๋อ ... Taiwan !!!

อยู่ ๆ หลังเลิกเรียนในวันหนึ่ง ... ขณะที่กำลังนั่งดูทีวีในห้องของผม
นนท์ก็บอกว่า ..
       “ไปเที่ยวยุโรปกันซัก 2 อาทิตย์มั๊ย ...”
       “ไม่” ผมตอบสั้น ๆ ไม่มองหน้านนท์ ...
      “เพื่อนคิดว่าจะปฏิเสธ ‘เพื่อน’ ได้เหรอ” นนท์พูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ (อีกแล้ว)
     “งั้นจะถามทำไม ...
ในเมื่อก็รู้อยู่แล้วว่ายังไงเพื่อนก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว” ผมพูดแล้วมองหน้านนท์แบบกวน ๆ
   “มองหน้าเหรอ ...” นนท์ยิ้มเดินเข้ามาใกล้ ...
   “ดื้อเหรอ .. นี่แน่” แล้วนนท์ก็จี้เอว .. เป็นการทรมาณที่ทารุณที่สุด
เพราะทำให้ผมต้องลงไปดิ้นพลาด ๆ บนพื้นห้อง
   “ตกลงไป ... หรือไม่ไป” นนท์ถาม ... หยุดจี้ให้ผมพักหายใจสิบวินาที
   “ไปแล้วคร๊าบบบบบ” ผมบอกนนท์ … เห็นนนท์ยิ้มหน้าบาน
   
   “เพื่อนน่ะอยากให้เพื่อนตอบอย่างเต็มใจรู้มั๊ย ...” นนท์พูดอารมณ์ดี

   “ … ”

ผมไม่พูดอะไรนึกในใจว่า ... การจี้เอวแล้วให้ผมพูดเนี่ยนะ ...
... แฮ่ม ... เต็มใจมากเลย

นนท์ดึงแขนผมให้ลุกจากพื้น ...      
   “แล้วจะไปที่ไหนบ้าง” ผมถาม ... เดินไปนั่งบนโซฟา ...
   “ไปเยอรมันก่อน … .ไปหา ‘บี’ แล้วค่อยไปที่อื่นต่อ” ผมมองหน้านนท์ ...
แค่ฟังว่าจะไปเจอใคร ผมก็รู้สึกเซ็งเล็กน้อยถึงปานกลาง อยากจะปฏิเสธ
แต่ก็รู้ดีว่าไม่ว่าจะปฏิเสธยังไง ... สุดท้ายก็ต้องไปอยู่ดี ...
ผมคิดว่าที่ผมรู้สึกเซ็งอาจเป็นเพราะยังไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนของนนท์คนนี้ก็ได้
หรือว่าจริง ๆ แล้วเพื่อนของนนท์คนนี้ ... ไม่มีทีท่าว่าอยากจะรู้จักผม
ซักเท่าไหร่ล่ะมั๊ง ... ผมก็เลยไม่มีความรู้สึกอยากจะรู้จักด้วย       
   “งั้นก็ไปเถอะ ... จะไปหาเพื่อนไม่ใช่เหรอ” ผมพูดออกไปจนได้ ...
ก็มันไม่อยากไปนี่นา ... แค่คิดก็ไม่สนุกแล้ว
   “กลัวอึดอัดน่ะ ... ไม่ค่อยสนิท” ผมพูด
   “จริง ๆ บีเป็นคนน่ารักมากนะ ...ถ้าเพื่อนรู้จักมากขึ้น
รับรองต้องชอบแน่ ๆ” คนชวนพยายามหว่านล้อม
   “เอาเป็นว่าการไปเที่ยวครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้เพื่อน
รู้จักบีมากขึ้น ... เพื่อนต้องลองให้โอกาสเค้านะ” ฟังเหตุผลที่นนท์หว่านล้อม
แล้วผมจะปฏิเสธยังไงล่ะ ... ผมรู้ว่าต้องไป ... แต่ก็ยังเฉยไม่ตอบอะไร
คนตัวโตเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วเอนหัวมาซบที่ไหล่ทำท่าออดอ้อน แล้วบอกว่า
   “จะปล่อยให้ ‘เพื่อน’ ไปคนเดียวจริง ๆ เหรอ ...”
ใครเจอไม้ตายของนนท์อันนี้แล้วจะไม่ใจอ่อนบ้างล่ะ ... นนท์พูดต่ออีกว่า
   “จะมีเพื่อนอีก 3 คนมาจากอเมริกา และอีก 2 คนมาจากฝรั่งเศส …
บางคน ’เพื่อน’ ก็ไม่รู้จักเหมือนกัน …” นนท์มองผม ... ทำหน้าเศร้า (ท่าไม้ตายที่สอง) ...

   “ไปก็ได้”

ผมหลุดปากพูดไปแล้ว ... เอาก็เอาวะ ... ผมคิดง่าย ๆ
ลองดู ... อาจจะสนุกก็ได้ ... คนหน้าเศร้าเมื่อครู่หันมากอด ...
ยิ้มอย่างดีใจ ... แล้วพูดต่ออีกว่า

   “รู้แล้วใช่มั๊ย ... ไม่ว่ายังไงเพื่อนก็ต้องไป”

แล้วคนพูดก็หันมายักคิ้วให้สองที ...  





หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 13-01-2009 23:25:23
 :กอด1:






ไปเที่ยวคราวนี้ หวังว่า "บี"
คงไม่ทำให้มีเรื่องราวไรเกิดขึ้นนะ





คิดถึงคุณเพื่อนกับ'เพื่อน' ........ที่ซู๊ดดดดดดดดดด


 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 13-01-2009 23:28:31
 :กอด1:คิดถึงคุณเพือนกับนนท์

ปล. หุหุ น่ารักกันจริงๆคู่นี้ ไปหาบี  จะมีเหตุการณ์อะไรอีกนี่

หุหุ รอลุ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนน :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 13-01-2009 23:33:02
ยังไงก็ต้องไปอยู่ดี

อิอิ   :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-01-2009 23:36:16
มาต่อแล้ว  :กอด1: รอนานเลย

ไปยุโรป จะมีไรหวานๆที่นั้นมั้ยน๊าา เพื่อนกะบีจะเข้ากันได้ป่าวหว่า หรือจะมีเรื่องไรมาอีก ลุ้นๆ  :z10:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 13-01-2009 23:39:29
^
^
จิ้มคุณเพื่อน 

คิดถึงคุณเพื่อนกะนนท์จัง :กอด1:  :กอด1:

ไปยุโรป โ้อ้ว...โรแมนติคอ่ะ :impress2:

ว่าแต่ บี เนี่ย ได้โปรดเถอะ -- บี ไนซ์! :angry2:

ขอบคุณสำหรับอีกหนึ่งตอนน่ารักๆ นะคะ
รีบมาต่อน้า รอ ร๊อ รอ

you too, take care ja  :bye2:

ป.ล. สาวๆ 1*9  คะแนนคุณเพื่อนใกล้จะสวยแล้ว ใครมีโควต้า จัดให้หน่อยสิ
  :n1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 13-01-2009 23:39:57
คุณเพื่อนมาแล้ววววววววว

รอคอยยยยย  กอดให้หายคิดถึง


ตอนลุ้นคะแนนน่ารักจัง  ความจริงน่ารักหมดแหละคู่เนี้ยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: fellow ที่ 13-01-2009 23:47:49
 :z2:

ไปเที่ยว น่าสนุกเนอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 14-01-2009 00:06:20
มาต่อแล้ว
 :กอด1:
ยังไงก็ต้องไปด้วยกันอยู่ดี นี่หน่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: Ferfa ที่ 14-01-2009 00:10:57
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 14-01-2009 00:16:36
คุณเพื่อนมาแล้ววว

คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงง

 :กอด1:

ยังคงความน่ารักเหมือนเดิม

บี คงน่ารักอย่างที่นนท์ว่านะ

อย่าสร้างปัญหาล่ะ "บี"
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 14-01-2009 00:21:07
กรี๊ดดดดดดดดด หนู on hiatus แปปเดียวปาไปกี่ตอนแล้วเนี้ยยยยยยยยยยย
แต่อ่านตอนนี้แล้วเครียดคะ เครียดส่วนตัว เพราะเพิ่งไปสอบ IELTS มาเหมือนกัน

speaking เป็นอะไรที่แบบทั้งกังวลทั้งตื่นเต้น  ไปติดอ่างใส่คนสัมภาษณ์ ฮือๆ its something like  uhhh yeah...uhhh เกือบจะตลอดการสอบ

อร๊ายยยยยยยยย

ตอนนี้น่ารักมากคะ (จริงๆน่ารักทุกตอน ฮ่าๆ )

เพื่อนกับคุณเพื่อนเป็นอะไรที่  :กอด1:

รอทริป ยุโรป นะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 14-01-2009 00:30:42
ชอบเวลานนท์อ้อนจัง  ขออะไรคุณเพื่อนก็ต้องยอมละม๊างงง :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 14-01-2009 00:40:28
น่ารักๆ นนท์ขี้อ้อนจัง

:กอด1:คุณเพื่อนกับนนท์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 14-01-2009 00:52:04
โหมดอ้อนไม่ว่ารายไหนก็เสร็จ งิงิ   :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 14-01-2009 01:37:09
คิดถึงจังคุณเพื่อน :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 14-01-2009 08:17:35
คุณเพื่อน อุปสรรคกำลังจะมาแล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 14-01-2009 11:25:54
ซ้อม  :beat: ไว้ก่อน

รอดูซิ...บี..จะทำเรื่องอะไรอีก







 :กอด1:คุณเพื่อน  :กอด1: นนท์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 14-01-2009 12:43:48
 o22 o22

ต้องเจอ ยัยบีอีกแล้วหรอเนีย  :เฮ้อ:

ท่าทางงานนี้ต้องมีไรอีกแน่เลย อะกลัวจัง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 14-01-2009 14:18:18
นนท์บ้า ไม่รุ้ใจเพื่อนเลย  :z3: แต่ก็ดี หนีบเพื่อนไปด้วย จะได้รุ้สักทีว่าของใคร  o18

จะรอฮันนีมูนอินยุโรปนะจ้ะ  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 14-01-2009 14:34:26

นั้นสิ  จะได้รู้กันไปเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  o18 o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 14-01-2009 15:52:57
WoW !!!   :oni2: :oni2:   :m4: :m11:   ว๊าววววววววววววววววว !

คะแนนคุณเพื่อนสูงจริงๆค่ะ   o13 o13 o13

 :m12:  มีเคล็ดลับอาไรมาบอกกันมั่งสิคะ   :m26:   

:m3: :interest:   :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 14-01-2009 19:09:23
เย้
คะแนนออกมาผ่าน
เด็กไทยเก่งจัง
ฮา..



มารออ่านตอนหวานๆ
ตอนไปเที่ยวนะคะ
ถึงแม้จะมีบีก็ตาม
มินำพาอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: princehoo ที่ 14-01-2009 20:00:58
ตอนหน้าท่าทางจะหวาน

แต่มีบีด้วยอะซิ..จะป่วนอะไรอีกหรือเปล่าน้า

ซ้อมด้วยคน

 :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: Glucose ที่ 14-01-2009 23:11:19
สองคนนี้ ก็ยังน่ารักเหมือนเดิมนะ
แต่บี น่ะ ชอบนนท์ อยู่มะช่ายหรอ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะอึดอัด มันต้องเป็นงั้นอยู่แร้วอ่ะ

หึ... ไงก็ตอบตกลงไปแร้วนินา
เปงไงก็เปงกานซิเนอะ

 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: FiZZ ที่ 14-01-2009 23:16:47
โห คุณเพื่อนเก่งมากเลยค่ะ

เราก็กำลังจะไปสอบอยู่ ต้องให้ได้ overall 7 ยังไม่รู้จะรอดหรือเปล่าเลย

เฮ้อ  :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 14-01-2009 23:48:14
เก่งทั้งคู่เลย..

ไปเจอบีหรอ....ไม่น่าไว้ใจเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 15-01-2009 11:29:04
ว้าว ~! ~!!   คุณเพื่อนมาต่อแว้วววว

ยังเป็นคู่น่ารัก ใส ๆ เหมือนเดิมเลย  ...  เก่งอีกต่างหาก  ....  ชอบเพื่อน นนท์ มากมาย

รอตอนไปเที่ยว  ...  มี บี ด้วย  ...  เพื่อน กะ นนท์  จะยังไงน้า ? ?

ขอบคุณคุณเพื่อนนะครับ  ^__^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 15-01-2009 14:25:18

นนท์นี่น่ารักดีนะ   

แสดงออกชัดเจนดี  รู้สึกไง  ก็แสดงออกอย่างงั้น 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 15-01-2009 15:03:14
คุณเพือน ไปเยอรมัน ขอหวานๆ นะค้า
คิดถึงคุณเพื่อนกับนนท์นะจ๊ะ


 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 15-01-2009 15:18:29
 :L2:...อ่านรวดเดียวจบเลย..
..เป็นอีกคู่นึงที่น่ารักมากๆๆ...พ่อแง่แม่งอน..
..ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดี อารมณ์ไม่รุนแรง พูดจากกันสุภาพทั้งคู่...
..ขอบคุณที่เอาเรื่องราวดีๆๆมาเล่าสู่กันฟัง อ่านแล้วลื่นไหลดี..
....คู่นี้เป็นอีกคู่นึงที่แสดงความรักด้วยการ..กอด..และ หอมแก้มกัน..เยอะมากๆๆ..
....น่ารักจังเลย..แต่ทำไม..ต้องมีมารมาขัดขวางตอนเค้าจะ..หวีด.กันทุกครั้งฟะ..ขัดใจ.
....แล้วเมื่อไหร่จะได้ อ่านตอนเค้า NC กันซักทีล่ะ...ใครก็ได้จับมารพวกนี้ไปฆ่าที..
....เป็นกำลังใจให้..เพื่อน..ได้..เพื่อน..ซะที..
...เอ๊ย!..ม่ายช่ายเป็นกำลังใจให้คนแต่งจ้า... :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: minilove ที่ 15-01-2009 18:36:01
น่ารักอะ
หวานนนมัก :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCE1975 ที่ 16-01-2009 13:25:13
 :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: epochii_upfun ที่ 16-01-2009 13:28:04
แอร๊ยยยยยยย
แอบลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 17-01-2009 00:41:29
มาทักทายประจำวันจ้ะ

อากาศหนาวมากอ่ะ อังกฤษเป็นงัยหนอ
หนาวแย่เลย 


'เพื่อน'กะคุณเพื่อนอย่าลืมใส่แจ็กเก็ตกันนะ จะได้อุ่นอุ่น
ขอเป็นแจ็กเก็ตตัวนั้นด้วยนะ
that very special jacket with a heart inside. :m1:


(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/hug_a_cat.jpg)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-01-2009 06:00:41
http://media.imeem.com/m/lrmf3_wOq_

เอาเพลงมาฝากคุณเพื่อนและนนท์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 17-01-2009 07:02:33
หึหึ...นนท์ใช้ท่าไม้ตายแค่สองท่า คุณเพื่อนก็ต้องยอมแล้ว วิ้ววว~  :-[

ผลการสอบ เราคนไทยก็ไม่อายใครๆ  o13
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: wickedwoman ที่ 17-01-2009 20:53:13
ได้คะแนนกันสูงน่าดูเลยนะค่ะเนี่ย

แต่แหม...มีการจะไปเที่ยวยุโรป

แอบอิจฉาเลยนะเนี่ย

พยายามกับการรู้จักบีให้มากขึ้นนะค้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 18-01-2009 20:52:42
จะยังติดตามต่อไปนะ สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 18-01-2009 20:55:55
 :z10: รีกที่601 เลยเรา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 18-01-2009 21:08:16
คิดถึงคุณเพื่อน


 :กอด1: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 18-01-2009 21:15:40
คู๊ณณณณเพื่อนนนน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 18-01-2009 22:27:47
คุณเพื่อนนนนนนนนนนนน


ทริปยุโรปปปป


ด่วนนนนนนนนนนนน


 :กอด1:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 19-01-2009 00:21:17
คุณเพื่อนกะนนท์แพ็คกระเป๋าเสร็จรึยัง
ตื่นเต้น ตื่นเต้น
เป็นกำลังใจเให้กับทริปยุโรปเหมือนเดิมนะจ๊ะ

 :mc1: :mc1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 20-01-2009 23:46:48
ทริปนี้ จะทำให้ความสัมพันธ์ของเพื่อนกับเพื่อนเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้างน้า ลุ้น ๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 21-01-2009 00:20:38
 :m26: แอบไปจู๋จี๋กันสองคนรึเปล่านี่คุณเพื่อนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 21-01-2009 16:05:08
^
^
^
นี่แน่ะ  ขอ  :z13: คนข้างบนซักที อิๆๆ


มาเติมความหวานให้กับชีวิต  ได้ที่เรื่องของคุณเพื่อนได้ตลอดเลย
เห็น(อ่าน)เค้าจุ๊บกัน  :กอด1: กันแล้วได้แต่อิจฉาฮ่ะ
รอตอนสวีทหวานที่ยุโรปนะจ๊ะ
อิจฉากันให้สติแตกไปข้างเลยตรู.... :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 21-01-2009 22:27:29
คุณเพื่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
มันนานแล้วม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
คิดถึงนนท์มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คิดถึงคุณเพื่อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 14)
เริ่มหัวข้อโดย: minilove ที่ 21-01-2009 23:08:48
คุณเพื่อน
คุณเพื่อรออ่านอยุ่นะ เพื่อนรุ้บ้างมั้ย?
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 21-01-2009 23:20:58

ตอนที่ 15  …. การเดินทางเพิ่งจะเริ่มต้น



ข้ามขั้นตอนการขอเชงเกนต์วีซ่า (Schengen Visa) ไปเลยก็แล้วกัน
เพราะไม่มีอะไรยุ่งยาก ...
เล่าให้อ่านคร่าว ๆ ก็คือ
เชงเกนต์วีซ่าเป็นวีซ่าที่ทำทีเดียว
แต่สามารถเข้าได้ 15 ประเทศในยุโรป
ประเทศที่ไปขอเชงเกนต์วีซ่าก็ต้องเป็นประเทศที่จะเข้าไปเป็นประเทศแรก
หรือเป็นประเทศที่อยู่นานที่สุดในการท่องเที่ยวครั้งนั้น
...
วันเดินทาง
ออกจากบ้าน 9.30 น. เพื่อเตรียมตัวขึ้นรถไฟขบวน 10.11 น.
ไปถึงลอนดอนประมาณเที่ยงครึ่ง แล้วก็รีบต่อ tube
ไปที่ London Heathrow Airport …
เพื่อบินไปมิวนิค (Munich ภาษาอังกฤษ) หรือ มึนเช่น (Muchen ภาษาเยอรมัน)
...
17.45 น. เครื่องแลนด์ดิ่งลงอย่างปลอดภัยที่เมืองมิวนิค
ตามเวลาประเทศเยอรมัน (ซึ่งเร็วกว่าที่อังกฤษ 1 ชั่วโมง)
ผ่านกระบวนการเกี่ยวกับคนเข้าเมืองต่าง ๆ เรียบร้อย
ก็ออกมารอ ‘บี’ ...
เกือบหนึ่งทุ่ม ... ยังไม่มีวี่แววของ ‘บี’ ... นนท์เริ่มกระวนกระวาย
   “สงสัยต้องไปเที่ยวกับเพื่อน 2 คนแล้วมั๊ง” นนท์บ่นสีหน้าดูเป็นกังวล
และน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย ...
ผมแอบยิ้ม ในใจภาวนาว่า ... ‘อย่ามาเลย’
ไม่ใช่เพราะอยากไปเที่ยวกับนนท์แค่สองคนหรอกนะ
แต่ผมรู้สึกไม่อยากไปเที่ยวกับคนที่ไม่ค่อยสนิทเท่านั้นเอง
ก็บอกแล้วว่าผมเข้ากับคนยาก ... ผมไม่ใช่คนมนุษยสัมพันธ์ดีมากนัก
แต่เพราะการมาเที่ยวครั้งนี้นนท์สัญญากับผมว่า

          ‘ ‘เพื่อน’ จะดูแลเพื่อน ... จะไม่ปล่อยให้เพื่อนเหงา’

มือถือของนนท์ใช้การไม่ได้ ... นนท์ให้ผมไปแลกเหรียญเพื่อหยอดโทรศัพท์
ผมกับนนท์มีเงินยูโรแต่เป็นแบงค์ ... ก็เลยซื้อไอติมหนึ่งแท่งเพื่อแลกเหรียญ
นนท์หยอดเหรียญไปที่ตู้โทรศัพท์แล้วกดเบอร์ ...
   ‘ติดต่อไม่ได้’ ผมคิดในใจ ... แต่ ... 
   “กำลังหาที่จอดรถ” เสียงบีตอบกลับมา
รอซักพักบีเดินมาพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน ... พี่อูกับพี่โม่
เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของบี ... มาจากอเมริกา ...
พี่อูเป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารัก ปากบางได้รูป
รูปร่างบอบบางท่าทางเซอร์ ๆ ผมยาวม้วนเป็นมวยไว้ด้านหลัง
ส่วนพี่โม่เป็นผู้ชายผิวขาวจัด ปากแดง ผมยาวประบ่า
ท่าทางลุย ๆ ... พี่สองคนเป็นแฟนกัน ...

หลังจากแนะนำตัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็ขึ้นรถที่เช่ามาเพื่อขับไปเที่ยวตลอดทริปนี้
รถที่เยอรมันเป็นรถพวงมาลัยซ้าย และขับรถเลนขวา
ทำให้ผมรู้สึกงงและสับสนกับทิศทางเล็กน้อย ...
บีให้พี่อูเป็นคนขับรถเพราะตอนที่อยู่อเมริกาพี่อูก็ขับรถตลอด
เลยค่อนข้างชินกับการขับรถด้านขวา ... พี่อูขับรถเก่งมาก
นิ่มนวลและไม่กระตุกเลยทั้ง ๆ ที่เป็นรถเกียร์ธรรมดา ...
ส่วนบีนั่งข้างคนขับคอยดูแผนที่
เรียกว่าทริปนี้ .. บีเป็นเนวิเกเตอร์ ...
ส่วนด้านหลังสามคนซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ชายทั้งสามคน คือ นนท์ ผม และพี่โม่ ...
นั่งเป็นผู้โดยสารอย่างเต็มใจ ...
   “คืนนี้เราจะไปนอนที่ Salzburg (ออสเตรีย) ก่อน”  ‘บี’บอก
พร้อมกับดูแผนที่ และบอกทางให้คนขับ

ระหว่างเดินทางก็แวะทางอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
เป็นอาหารจำพวกไส้กรอกกับขาหมูเยอรมัน
   “นนท์อยากทานอะไร” บีถามนนท์ก่อนอ่านรายการอาหารให้ฟัง
   “แนะนำมาเลย… อะไรก็ได้” นนท์บอก
   “เพื่อนล่ะอยากทานอะไร” พี่อูถามผม
   “เพื่อนทานอะไรก็ได้ ... เหมือนผมละกัน” นนท์ก็ตอบคำถามแทน
บีเลยสั่งอาหารเป็นขาหมูเยอรมันให้พวกเราคนละจาน
อาหารรสชาติใช้ได้และให้ปริมาณเยอะมากจนกินไม่หมด
ระหว่างทานอาหารผมแทบไม่ได้พูดเลยซักคำ
ส่วนบีก็ชวนนนท์คุยตลอด ...

... เดินทางไปถึง Salzburg เกือบเที่ยงคืน
โรงแรมที่พักเป็นโรงแรมที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาที่มีหิมะปกคลุมและทุ่งหญ้ากว้าง
สวยงามมาก ... เราจองห้องพัก 2 ห้อง
   “ผู้ชายนอนด้วยกัน 3 คน” บีบอกพลางลากกระเป๋าเข้าไปในห้องหนึ่ง
   “แต่พี่อยากอยู่ห้องเดียวกับอู” พี่โม่แย้งขึ้นมา
   “ไม่ได้.. แล้วจะให้บีนอนไหน …” บีเถียงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ
   “จะแยกแฟนเค้าไม่ให้อยู่ด้วยกันได้ไง” พี่โม่ยังบ่นต่อไปอีก ...
แต่ไม่จริงจังอะไรนัก .. ท่าทางเหมือนอยากจะแกล้งมากกว่า
   “งั้นน้องบีไปนอนคนเดียวสิ ... อุตส่าห์มายุโรปก็อยากจะสวีทกับแฟนอะ”
พี่โม่พูดต่อ ...
   “เลิกแกล้งน้องได้แล้ว ...” พี่อูพูดตัดบท ... ท่าทางง่วงมาก
ก็ขับรถคนเดียวตั้งเกือบ 6 ชั่วโมง ... พูดจบก็ลากกระเป๋าตามบีเข้าไปในห้อง
ก่อนจะหันมาโบกมือให้พี่โม่แล้วบอกว่า
   “เหนื่อย ... ง่วงด้วย ... good night ...” แล้วปิดประตู ...

ในห้องที่พักมีเตียงสามเตียง ... เข้าใจว่าตอนที่จองก็จองห้องแบบมีสามเตียงมาแต่แรก
   “ ‘ยศ’จะตามมาอีก 3-4 วันนี้แหละ ...” พี่โม่บอกกับนนท์ ...
นนท์บอกว่า ‘ยศ’ คือเพื่อนอีกคนที่อยู่ที่อเมริกา
และนนท์ก็บอกอีกว่าจะมีเพื่อนมาจากฝรั่งเศสอีก 2 คน
จะตามมาสมทบในวันเดียวกันกับยศ ...
จะมีคนที่ผมไม่รู้จักมาเพิ่มอีกกี่คนเนี่ย ...
แค่นี้ผมรู้สึกเซ็งเล็กน้อย ... ก็แทบไม่พูดไม่จากับใคร ... เพราะพูดไม่ทัน
ทุกคนดูเหมือนรู้จักและสนิทกันหมดเลย
   “บางคน ‘เพื่อน’ ก็ไม่รู้จัก” นนท์บอกเหมือนรู้ความคิดของผม
   “ใครที่ ‘เพื่อน’ ไม่รู้จัก ...” ผมถาม
   “ก็คนที่มาจากฝรั่งเศสไง ... เคยได้ยินแต่ชื่อ ...
รู้แต่ว่าเป็นเพื่อนของบีเท่านั้นเอง” นนท์บอก ... ผมพยักหน้ารับรู้
รู้สึกเหงานิดหน่อย ... ไม่รู้ทำไม

รุ่งขึ้น ... เราตื่นกันค่อนข้างสาย ...
คงเป็นเพราะเหนื่อยจากการเดินทางเมื่อคืน
ลงมาทานอาหารเช้าซึ่งเป็นขนมปัง style เยอรมัน
มีแฮม และแยม หมูบดทากับขนมปัง ... ผมว่าไม่อร่อยเลย
ขนมปังก็แข็งมาก ... ผมวางขนมปังลงหลังจากกัดได้แค่คำเดียว ...
“อิ่มแล้วเหรอ ... กินให้หมดจะได้มีแรงเที่ยว” พี่อูบอกแล้วหันมายิ้มให้ ...
รอยยิ้มของพี่เค้าทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นจัง ... ผมหยิบขนมปังก้อนโตมากินจนหมด

ออกเดินทางต่อ ... ไปดูรอบ ๆ เมือง Salzburg มีปราสาทบนภูเขา
และมีรูปปั้นของ Mozart …
   “Salzburg เป็นเมือง The Sound of Music ไง”
บีพยายามให้ความรู้กับทุกคน ... ผมทำหน้างงกับ The Sound of Music
   “ก็หนังที่มาถ่ายทำที่นี่น่ะ ... เป็นหนังเรื่อง classic เลยนะ”
พี่อูยื่นน้ำให้ผม ... และขยายความเรื่อง The Sound of Music ให้ฟัง
   “ที่นางเอกร้องเพลงบนภูเขาด้วย ... เขาลูกโน้น ...” ผมมองตามมือพี่อู
อืม ... สวยจริง ๆ มีหิมะปกคลุมอยู่ชั้นหนึ่งด้วย
เหมือนกับอยู่ในฝันเลยไม่แปลกใจที่เอามาเป็นโลเคชั่นถ่ายหนัง

ตลอดการเดินไปรอบ ๆ เมือง ผมถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อยคนเดียวอย่างเซ็ง ๆ
เพราะบีเดินกับนนท์และขอให้นนท์ถ่ายรูปให้ตลอด ...
ผมรู้สึกเหงานิด ๆ …
ตั้งแต่มาถึงเยอรมันและถึงตอนนี้ ... นนท์ดูไม่ค่อยสนใจผมเลย
เราคุยกันน้อยมาก ๆ จนบางทีผมรู้สึกว่า
‘ไม่น่ามาเลย’
และอยากกลับไปอังกฤษซะตอนนี้ ....

   “เป็นไร” เสียงคุ้นเคยทักขึ้น ... นนท์นั่นเอง ...
   “เปล่า” ผมตอบแต่แอบน้อยใจนิด ๆ อยากบอกนนท์เหลือเกินว่า
ก่อนมาใครนะบอกว่า
 
‘ ‘เพื่อน’ จะดูแลเพื่อน ... จะไม่ปล่อยให้เพื่อนเหงา’

... แต่ผมก็ได้แค่คิด ... ยังไม่ทันตอบอะไรมากกว่านั้น
   “นนท์ …. ถ่ายรูปให้หน่อย” เสียงบีเรียกนนท์ให้ไปถ่ายรูป ...
นนท์หันมามองหน้าผมแล้วลูบหัวผมเบา ๆ ก่อนเดินไปตามเสียงเรียก

ผมอยากจะร้องไห้จริง ๆ ไม่รู้ทำไม ...
ได้แต่พูดอยู่ในใจว่า
   ‘เรามาทำบ้าไรที่นี่วะเนี่ย’
   
“เพื่อน ... ถ่ายรูปให้พี่หน่อย” พี่อูเรียกเสียงดังให้ผมไปถ่ายรูปคู่ให้ ...
   “คร๊าบ” ผมบอก ... แล้ววิ่งไปตามเสียงเรียก พลางนึกในใจว่า
ต่อไปนี้ผมจะไม่สนใจนนท์แล้ว ...
ผมมาเที่ยวผมจะต้องสนุกกับการเที่ยวครั้งนี้
ให้สมกับที่เสียเวลาและเสียเงินมา
ความสนุกของผมไม่ต้องขึ้นอยู่กับใคร ผมต้องสนุกด้วยตัวของผมเอง
...
แวะทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารจีน
กินพวกติ่มซำ ... ฮะเก๋า ขนมจีบ อร่อยดี
อาจจะเป็นเพราะว่าผมชอบกินติ่มซำมาก ๆ อยู่แล้ว ...
แต่ชามะลิกับน้ำเก็กฮวย ... รสชาติประหลาด

พวกเราออกเดินทางต่อ
เนวิเกเตอร์บอกว่าที่ที่จะไปต่อ คือ เวียนนา
พี่อูขับรถและบีดูแผนที่ตามเคย ...
ส่วนผู้โดยสารสามคนด้านหลังนั่งหลับตลอดทาง ...
เกือบถึงเวียนนา แวะจอดถามที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเรื่องที่พัก
เพราะยังหาที่พักไม่ได้ ... เต็มทุกที่

จนในที่สุด ... หลังจากหลงทางและหาที่พักอยู่นานจน 3 ทุ่ม
ก็ได้ที่พักเป็น Youth hostel
ในห้องมีเตียงสองชั้นเรียงกันประมาณ 15 เตียง
ห้องนั้นสามารถนอนได้ 30 คน ...
... และตอนนี้ก็มีคนนอนอยู่เกือบเต็มแล้ว ...
หลังจากวางของใช้จำเป็นบนเตียงชั้นบนแล้ว
ผมเดินออกมาเพื่อไปห้องน้ำ …

เห็นนนท์นั่งอยู่ที่โซฟาใกล้กับห้องนอน
ท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย
คงเพราะไม่ได้ทานอาหารเย็นและที่พักก็ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่
แต่ช่างนนท์เถอะ ... ผมไม่สนใจอยากจะถามนนท์หรอก
เพราะตอนที่กำลังจะเดินไปหานนท์นั้น
เห็นบียื่นแซนวิชให้นนท์แล้ว

หลังจากเดินออกจากห้องน้ำ มองไปที่โซฟาตัวเดิมก็ไม่เห็นนนท์แล้ว
   “เพื่อน” เสียงหวาน ๆ เรียกขึ้น ผมหันไปมองตามเสียงเรียก
   “หิวมั๊ย” พี่สาวที่แสนดีถามพลางยื่นแซนวิชและน้ำส้มมาให้ ...
ผมส่ายหน้า ... ผมไม่หิวจริง ๆ รู้สึกแต่ว่าเหนื่อย อยากนอนมากกว่า
ผมกล่าวขอบคุณ ... ไม่รับแซนวิชและน้ำส้มที่พี่อูยื่นมาให้ …
พี่อูเลยยื่นให้พี่โม่ ... พี่โม่หยิบแซนวิชกับน้ำส้ม ... แต่กลับยื่นน้ำส้มให้ผมอีกครั้ง
    “น้ำส้มละกัน” พี่โม่พูด ... “จะได้มีแรง”
ผมหยิบน้ำส้มจากมือพี่โม่มาดื่มจนหมด ... รู้สึกตื้นตัน
พี่สองคนนี้ผมเพิ่งรู้จักแท้ ๆ
ยังใส่ใจผมมากกว่าใครบางคนที่ผมรู้จักและสนิทมากซะอีก

   ‘ ‘เพื่อน’ จะดูแลเพื่อน ... จะไม่ปล่อยให้เพื่อนเหงา’

... คนที่พูดประโยคนี้ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน ...

ผมเดินกลับเข้าไปในห้อง
โดยไม่ลืมบอกราตรีสวัสดิ์พี่สาวและพี่ชายที่แสนดีของผม ...
เข้ามาในห้องก็พยายามก้าวเท้าให้เบาที่สุด
เพราะเกรงใจคนอื่น ๆ ที่นอนแล้ว
แค่หัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย ...
คงเพราะทั้งเหนื่อย ... และเหงา

เช้าวันรุ่งขึ้น ... ตื่นสาย (อีกแล้ว)
ไปอาบน้ำ ... แล้วมาทานอาหารที่ห้องอาหาร
   “หลับสบายมั๊ย” พี่อูทักแล้วชี้ให้นั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ
   “หลับเป็นตายเลยพี่ ... สงสัยจะเหนื่อยมาก” ผมตอบพี่อู
   “พี่ก็หลับสนิทเลย ... ตอนเช้าตื่นมาตกใจ
ในห้องมีผู้ชายเต็มเลย” พี่อูพูดยิ้ม ๆ เพราะในห้องที่นอนได้ 30 คนนั้น
ตอนเช้าเพิ่งได้เห็นชัด ๆ ว่ามีผู้หญิงแค่ 4 คนเท่านั้นเอง
คือ พี่อู บี และผู้หญิงฝรั่งอีก 2 คน
   “มิน่าล่ะ เมื่อคืนก็คิด ๆ ว่าทำไมเค้าถึงนอนถอดเสื้อกันทั้งนั้นเลย”
พูดจบก็หัวเราะคิก
   “หัวเราะอะไรคร๊าบ” พี่โม่เดินถือจานอาหารเช้าแบบอังกฤษ
มาวางที่โต๊ะ 2 จาน
   “เดี๋ยวไปหยิบน้ำส้มมาให้” พี่โม่พูดกับพี่อู ... แล้วหันมาถามผม
“... เพื่อนเอาน้ำอะไร … เดี๋ยวหยิบมาเผื่อ”
“ผมจัดการเองพี่ ... ขอบคุณครับ” ผมกล่าวขอบคุณพี่โม่
แล้วเดินไปตักอาหารบุพเฟ่แบบอังกฤษ ... เห็นอาหารอังกฤษแล้ว
‘คิดถึงอังกฤษ ... อยากกลับเมือง ... โว๊ย ....’ ผมคิดในใจ …
มาอยู่ที่นี่แค่ไม่กี่วัน ‘คิด’ วาจาหยาบคายไปหลายรอบแล้ว

หลังจากตักอาหารเสร็จ ... ผมก็กลับมานั่งทานที่โต๊ะกับพี่อูและพี่โม่
มองหานนท์ ... เช้านี้ผมตื่นมายังไม่เจอหน้านนท์เลย
   “นนท์กับบีไปไหนอะ” พี่โม่ถามขึ้นมาลอย ๆ
ไม่ได้เจาะจงตัวว่าถามใคร... ผมมองหน้าพี่อู
เพราะคงเป็นคนเดียวที่น่าจะรู้คำตอบ ... 
   “ไปสถานีรถไฟ ...” พี่อูตอบ
   “อ๋อ …” พี่โม่ตอบสั้น ๆ
ผมมองหน้าที่อูกับพี่โม่สลับกันไปมา ... ถามสั้นตอบสั้น
แต่รู้เรื่องกันด้วยแฮะ ...
‘พี่ครับผมไม่รู้เรื่องเลยครับช่วยขยายความด้วยครับ ...‘
ผมคิดในใจอีกแหละ ... ไม่ได้ถามใคร
รู้สึกงง .. ไปสถานีรถไฟทำไม ... ทำไมทุกคนรู้เรื่องยกเว้นผม
ไว้รอถามนนท์ก็ได้ ...    
‘แต่เค้าจะกลับกันมากี่โมงล่ะ’
ผมคิดในใจอีกแหละ ... แต่เหมือนพี่โม่รู้ใจผม ... พี่โม่ถามขึ้นมาก่อน
ก็ดีผมจะได้ไม่ต้องถามเอง
   “เค้าจะกลับกันมาเมื่อไหร่ล่ะ”
   “เดี๋ยวก็มาแล้วล่ะ ... เดินไป ... สถานีอยู่แค่ใกล้ ๆ นี้เอง” พี่อูบอก
แต่เค้าไปกันทำไมนะ ... นนท์กลับมาเมื่อไหร่จะต้องถามนนท์ซะแล้ว
   
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-01-2009 23:28:42
 :z13: :z13:
จิ้มคุณเพื่อน ยาวได้ใจเลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: ooICEoo ที่ 21-01-2009 23:46:26
 :angry2: ไมนนท์ทำตัวงี้เนี่ย  :m16:

แอบไปรับคนมาเพิ่มแน่เลย

นนท์ไม่สนใจ

ทางนี้ยังว่างนะคับคุณเพื่อน  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 21-01-2009 23:47:05
ง่ะ ~!   อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเหงาเป็นเพื่อนเพื่อนจัง  :monkeysad:

ขอบคุณนะครับ  ...  รอนนท์กลับมาดูแลเพื่อน ^__^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 21-01-2009 23:55:52
 :angry2:ทำไมนนท์ถึงทำยังงี้ ทำไมปล่อยให้เพื่อนเหงา 

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 22-01-2009 00:01:28
 :beat: ตบคนไม่รักษาสัญญา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 22-01-2009 00:07:47
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เฮ่อไมนนท์ทำ เพื่อน ได้ละ

รอต่อไปดูว่าจะมีเหตุผลไหม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 22-01-2009 00:11:39
คุณเพื่อน

มันสั้นไปม้ายยยยยยย

มันค้างคา............ :เฮ้อ:

ไม่เข้าใจนนท์

คุณเพื่อนรีบมาไขข้อข้องใต เดี๋ยวเน้!!!! :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 22-01-2009 00:33:57
นนท์ทำงี้ได้ไง 

 :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 22-01-2009 00:39:21
คุณเพื่อนมาอ่ะ

แต่เห็นเม้นต์แล้ว เริ่มจิตตกอ่ะ

เค้าจะนอนแล้ว อ่านดีมั๊ย เดี๋ยวนอนไม่หลับเพราะค้าง




เอางัยดีเนี่ย :sad4:


ตัดสินใจ...อ่านพรุ่งนี้ดีกว่า
คิดถึงคุณเพื่อนน้า ยังไม่คิดถึงนนท์ ท่าทางนนท์จะถูกตั้งข้อหา (ดูจากคอมเม้นท์อ่ะนะ :เฮ้อ: )

Until tomorrow naja
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 22-01-2009 01:35:49
เซ็งเลยนิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 22-01-2009 01:37:48
เฮ้อ นนท์ทำเพื่อนเสียใจนะเนี่ย พูดแล้วไม่ทำตามคำพูด

 :angry2: ไม่ค่อยชอบบีหละ นึกว่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก

 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 22-01-2009 01:43:47
แอร๊ยยยยย

นนท์

ไหนบอกเพื่อนจะดูแลเพื่อนไง

ทำไม ทำแบบนี้

 :กอด1:คุณเพื่อนๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 22-01-2009 02:00:22
อ่าว
ทำไมทำงี้  ทำไมไม่ดูแลกันอ่ะ
 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 22-01-2009 02:05:32
อ๊ายย

อุตส่าห์มาเที่ยวกัน

ทำไมเป็นซะอย่างนี้

หมดกัน...รอนนท์กลับมาเคลียร์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 22-01-2009 02:54:33
เพื่อนของเพื่อนจะสัญญาทำไมเนี้ยยย ถ้าทำไม่ได้ คนอ่านโมโหนะเนี้ยยยยย :angry2:

แต่พี่อูกับพี่โม่ดีจังเลยยยยยย ประทับใจ

ถ้าตอนหน้าเพื่อนของเพื่อนยังทำตัวแบบนี้ สงสัยหนูคงจะต้องบอยคอตซะแล้วว

กอดเพื่อน :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 22-01-2009 03:32:29
ทำไมนนท์ทิ้งเพื่อน

ให้อยู่คนเดียวแบบนี้ละ :angry2:

คุณเพื่อน :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 22-01-2009 08:30:24
รมณ์เสีย
นนท์  :angry2:
โกด นนท์  :serius2:
ทิ้ง คุณเพื่อน
ชิ ยัย บี ก็อีกคน
ถ่ายอะไรนักหนา
เกิดมาถ่ายรูปรึไง
เหมือนคนไม่เคยถ่าย
ขอให้กล้องพัง
น่าสงสารคุณเพื่อนที่สุด  :o12:
นนท์ไม่ทำตามสัญญา
แล้วอย่า มาบังคับไร คุณเพื่อนอีกนะ
คุณเพื่อน งอนเลย ไม่ต้องสนใจนนท์  :sad4:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 22-01-2009 08:36:06
ยาวได้ใจแต่ค้างว่ะเพื่อน :m16:
สงสัยเพื่อนนี้จะเป็นญาติกะเอก
คนเขียนเรื่อง [เรื่องเล่า]รักจากpanic!!
หรือเปล่า ค้างได้ใจมาก
ได้ใจแบบน่าฆ่าให้ตาย :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 22-01-2009 08:58:42
...อึดอัดแทนเพื่อน...
...นนท์มันจะเอาเพื่อนมาทำไม...
...นนท์จะรู้สึกไหมว่าทำให้ใครคนหนึ่ง
ที่น่าจะมีความสุข กับมีความทุกข์ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 22-01-2009 08:59:48
ขอให้แฮปปี้ๆนะคับ ถือว่าไปเที่ยวชมธรรมชาติ ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 22-01-2009 09:21:58
นนท์คงมีเหตุผล.. อย่าน้อยใจเลยนะคร้าบ

ผมว่านนท์เป็นห่วงคุณเพื่อน มากกว่าใครๆ  :กอด1:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 22-01-2009 09:23:31
คุณเพื่อน ตอนหน้ามาเมือ่ไหร่ ค่อยมาอ่าน 2 ตอนรวดนะ

ทำใจไม่ได้ หลังจากอ่านเม้นท์ กะ ฟังเพื่อนเล่าคร่าวๆ

คุณเพื่อนสู้ๆ นะ เอาคืนนนท์ให้สาสม

 :fire:

นังบี ไรนักหนาเนี่ยฟังแล้ว อรส
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 22-01-2009 10:37:04

^
^
จิ้มพี่สาว  กอดดดดดดดด คิดถึงน้า :กอด1:

ไม่กล้าอ่าน แต่ละเม้นต์ ตรูจะบร้า   o22

ทำไมนนท์ทำอย่างนี้  :angry2:(ได้ข่าวยังไม่ได้อ่าน)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 22-01-2009 10:57:35
อิคุณนนท์ ตอนนี้ทำช้านขัดใจมากเลยทีเดียว สัญญาแล้วไม่เป็นสัญญา
ใจร้ายมากมาย เหงาเเทน เข้าใจความรู้สึกคุณเพื่อนเลย แบบว่าไปเที่ยวกับเพื่อนของเพื่อน
อันนี้ก็เหงาพอแล้ว แล้วเพื่อนก็ยังเมินๆ เราเสียอีก ฮืออออ เหงาใจแทน
บีเอ๊ย เดี่ยวจะโดน กร๊ากกกกกกกกกกกก :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 22-01-2009 11:08:22
 :serius2: หงุดหงิดแทนเลย
 ไปเที่ยวแบบนี้มากันเป็นพรวนแล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาสวีทวิ๊ดวิ้ว
 แถมยังมียัยบีมาแจมอีก  :z3:
แล้วทำไม๊นนท์ทำแบบนั้นกับเพื่อน ไม่ยอมจริงๆด้วย :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 22-01-2009 11:17:01
แค่เริ่มทริป ก็เริ่มนอยด์ซะละ แต่ยังดีนะยังเจอคนดี ๆ น่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 22-01-2009 12:24:12
ตรูว่าเดี๋ยวมีงอนกันแหงม
ดูท่าทางแล้ว
แต่พี่อูกะแฟนน่ารักกะเพื่อนมากๆ เลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: cassper_W ที่ 22-01-2009 15:27:36
อยากอ่านอีกเป้นคำตอบสุดท้าย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 15)
เริ่มหัวข้อโดย: C2U ที่ 22-01-2009 17:32:25
นนท์  ทิ้งเพื่อนอ่ะ   น่าโมโห   :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 24-01-2009 00:59:41



ตอนที่ 16


นนท์กับบีกลับมาจากสถานีรถไฟ ...
และกำลังเดินตรงมาที่โต๊ะที่ผม พี่อู และพี่โม่กำลังนั่งทานอาหารเช้าอยู่
   “กินไรอะ” นนท์ทักผมแล้วลากเก้าอี้ตัวที่อยู่ติดกับผมออก
ทำท่าจะนั่ง … ผมมองหน้า ... กำลังจะอ้าปากถามว่าไปสถานีรถไฟทำไม
   “นนท์ … ช่วยหิ้วกระเป๋าหน่อยสิ” เสียงบีดังขึ้นมาขัด ...
เรียกนนท์ให้ไปช่วยยกกระเป๋าที่อยู่ในห้อง ... นนท์ชะงักนิดนึงก่อนก่อนพูดว่า
   “เออ .. ไปสิ” แล้วนนท์ก็ยิ้มให้ผมทีนึงก่อนเดินตามบีไปเก็บของ

… เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ... พี่อูกับพี่โม่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
หันมาถามผม
   “เพื่อนเก็บของรึยัง”
   “เรียบร้อยแล้วครับ ...” ผมบอก
   “กินเสร็จ ... เราก็ค่อยเอาของไปไว้ที่รถ” พี่อูบอก
   “ผมอิ่มแล้ว ...” ผมบอกพร้อมกับดื่มน้ำส้มปิดท้ายมื้ออาหาร
   “ไม่ต้องรีบนะ ... ไม่ได้เร่ง” พี่โม่พูด ...
   “อิ่มแล้วจริง ๆ พี่” ผมยืนยันอีกครั้ง
เราสามคนก็เลยเดินกลับไปที่ห้องเพื่อเอากระเป๋าไปไว้ที่รถ ...
เดินไปที่ห้องนนท์กับบีไม่อยู่แล้ว
‘สงสัยไปที่รถแล้วมั๊ง’ ผมคิด
เป็นจริงอย่างที่ผมคิด ... นนท์กับบีกำลังยกกระเป๋าเก็บที่ท้ายรถ
ผมเดินไปยืนใกล้ ๆ แล้วยื่นกระเป๋าให้นนท์ ... นนท์รับกระเป๋า
(จริง ๆ คือเป้ใบเดียว) แล้วจัดการเก็บไว้ท้ายรถ …
หลังจากนั้นก็จัดการเก็บกระเป๋าของพี่อูกับพี่โม่ ...
ระหว่างนั้นผมก็เลยไปนั่งรอในรถ

หลังจากที่ทุกคนขึ้นมานั่งในรถครบเรียบร้อย บีก็แจ้งกำหนดการว่า
วันนี้เราจะไป ‘พระราชวังเชินบรุนน์’ (Schönbrunn Palace)

พระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในออสเตรีย
ในอดีตเป็นที่ประทับของจักรพรรดิราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ออกแบบก่อสร้าง
โดย Johann Bernhard Fischer von Erlach และ Nicolaus Pacassi
เป็นสถานที่รวบรวมผลงานทางศิลปะการตกแต่งมากมาย
และปัจจุบันมีการประกาศให้เป็นเป็นมรดกโลกแล้ว …

‘พระราชวังเชินบรุนน์’ (Schönbrunn Palace)
และสวนในพระราชวังมีความสวยงามมาก
ผมเดินดูตามห้องต่าง ๆ และฟัง audio ภาคภาษาอังกฤษไปด้วย
ทำให้ได้ความรู้ว่าแต่ละห้องมีการตกแต่งและมีความเป็นมาอย่างไร

ออกจากพระราชวัง ... ด้านหน้ามีขายของที่ระลึกแต่ไม่มีใครซื้ออะไร
เก็บทุกอย่างไว้ในความทรงจำและภาพถ่าย ...
ซึ่งภาพที่ผมถ่ายส่วนใหญ่เป็นภาพวิว สวน และอาคาร ...
อาจมีรูปของผมบ้างที่พี่อูกับพี่โม่ถ่ายให้
มีรูปคู่ของผมกับพี่อู รูปผมกับพี่อูและพี่โม่
และมีรูปหมู่บ้างเล็กน้อย ...
ตอนนี้ที่ขาดอยู่อย่างเดียวคือ ‘ภาพคู่ของผมกับนนท์’
เรามาเที่ยวด้วยกันแต่ยังไม่มีรูปถ่ายคู่กันซักรูป
แต่ก็ช่างเถอะ ... ‘ยังมีเวลาอีกตั้งหลายวัน’ ผมคิดในใจ ...

ออกจาก ‘พระราชวังเชิร์นบรุณ’
เราจะดินทางเข้าไปชมเมือง ‘เวียนนา (Vienna)’
หรือ วีน (Wien) ในภาษาเยอรมัน

‘เวียนนา (Vienna)’ เป็นเมืองหลวงของประเทสออสเตรีย
... เวียนนาเป็นหนึ่งในเมืองในฝันของผม ...
ผมอยากมา ... อยากอยู่ ... อยากดู ... อยากสัมผัสใจจะขาด
มีรูปปั้น อนุสาวรีย์ ปราสาท และพิพิธภัณฑ์
ซึ่งผมอยากไปเดินดูมาก โดยเฉพาะ Stephansdom
โบสถ์สไลต์โกทิกที่เคยได้ยินว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์สไตล์โกทิกที่สวยที่สุด
เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ดู ...
เพราะผมได้เห็นแค่เมืองแบบผ่าน ๆ บนรถ ...
แค่ผ่าน ๆ ผมยังรู้สึกว่าสวยเหลือเกิน
ผมอยากดูสถาปัตยกรรม ...
ผมอยากสุดกลิ่นอายของเมืองที่ได้ชื่อว่า …
เป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลกเมืองนึง

ผมอยากสัมผัสความเป็นเมืองแห่งดนตรีคลาสสิก
อยากรู้ว่าเดินไปตามถนนจะมีแต่คนถือไวโอลีน หรือเครื่องดนตรีคลาสสิกอื่นๆ
(ที่ถือได้) เดินไปมาขวั่กไขว่รึเปล่านะ
ผมอยากเดินเล่น ...  อยากเข้าร้านอาหารเก๋ ๆ
อยากชิมอาหารพื้นเมือง ... แต่รู้มั๊ยอาหารกลางวันของผมคืออะไร
อาหารกลางวันวันนี้คือ ‘hot-dog’
เพราะคนนำเที่ยวไม่ต้องการให้เสียเวลา ... ในการเดินทาง
   “ต้องไป Innsbruck ต่อ … เดี๋ยวไม่ทัน”
คนนำทางบอกเหตุผลที่ทำให้ผมฝันสลายไม่ได้สัมผัสเมืองในฝัน ...

ผมเริ่มเคืองคนนำทางขึ้นมานิด ๆ แล้ว ...
ผมมาเที่ยวโดยไม่ซื้อทัวร์  .... แต่ไม่นึกว่า ... มันจะเหมือนชะโงกทัวร์
ที่ซื้อตามบริษัททัวร์ ... 5 วัน 7 ประเทศ … เฮ้อ !
ผมมาเที่ยวกับเพื่อน ... แต่เหมือนมาเที่ยวคนเดียว
เพราะที่นี่มีแต่คนแปลกหน้า ... ก็รู้สึกเหมือนมากับบริษัททัวร์
มารู้จักกันกับคนที่บังเอิญซื้อทัวร์เดียวกัน ...
....
ผมนึกโกรธตัวเอง ... ที่ไม่รู้ว่าคนนำทัวร์คนนี้
จะจัดรายการทัวร์ให้พยายามเห็นทุกอย่างให้มากที่สุด
โดยใช้เวลาน้อยที่สุด ...
ผมคิดว่าผมจะก่อกบฏแล้วล่ะ
ในเมื่อ ... ผมมาเที่ยวคราวนี้ก็เหมือนมาเที่ยวคนเดียว
ทำไมผมไม่ไปเที่ยวคนเดียวซะเลย ... เผลอ ๆ อาจจะสนุกกว่าด้วยซ้ำ
....
   “ขอโทษนะ ... พี่อูช่วยจอดรถให้ผมที” ผมเอ่ยปากขึ้น
ขณะที่พี่อูยังทำหน้าที่สารถีขับรถไปตามคำสั่งของเนวิเกเตอร์
วนรอบเมืองเวียนนา ...
   “เป็นอะไรรึเปล่า ... เมารถหรือ” พี่สาวคนดีของผมถามขึ้น
หลังจากพยายามหาที่จอดรถ ... นนท์มองหน้าผมเชิงตั้งคำถาม
   “ขอไม่ไปด้วยได้มั๊ย ... เมือง Innsbruck น่ะ” ผมพูดขึ้น
คราวนี้ทุกคนหันมามองหน้าผม ...
   “ถ้าเพื่อนไม่อยากไป Innsbruck ... เราไม่ต้องไปก็ได้” พี่อูบอก
   “พี่ก็ไม่อยากไป ... พี่อยากอยู่เวียนนาอีกซักคืน” พี่โม่พูดสนับสนุนความคิดของผม ...
บีมองหน้าคนโน้นทีคนนี้ทีอย่างไม่รู้ว่าจะเถียงอะไร
แล้วถามความเห็นของนนท์
   “ยังไงก็ได้” นนท์พูด ... ถึงนนท์จะไม่สนับสนุนความคิดของผม ...
ผมก็ไม่รู้สึกอะไรซักนิด ... คงจะชินแล้วมั้ง
“... งั้นแวะถ่ายรูปที่นี่ก็ได้” บีพูดออกมาในที่สุด ...
คงพยายามจะประนีประนอม 
“ผมตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่ซัก 2-3 วัน” ผมพูด
“ใครจะไปไหนก็ไม่ต้องห่วง ...”
ผมพูดแสดงเจตนาของผมอย่างชัดเจนที่สุด ... ก็ผมไม่ต้องแคร์ใครแล้วนี่
แล้วผมก็ขอทางนนท์ซึ่งนั่งติดประตู ... เพื่อลงจากรถไปเอากระเป๋าที่อยู่ท้ายรถ ...

นนท์ออกจากรถเดินตามผมไปที่ท้ายรถ ...
เข้าใจว่าตอนนี้ ... ทุกคนคงกำลังอึ้งและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม
เกิดอะไรขึ้นกับเด็กน้อย ... ที่นั่งเงียบ ...
ไม่มีปากเสียงมาตลอดระยะเวลา 2-3 วันนี้

   “เพื่อนเป็นอะไร …” นนท์ถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ...
ผมไม่สนใจ ‘น้ำเสียง’ ของนนท์ตอนนี้หรอก ...
ผมมองหน้านนท์ ... ตลอด 2-3 วันมานี่เคยถาม เคยเป็นห่วงผมบ้างไหม
ผมไม่อยากพูดกับนนท์ พูดไปก็มากเรื่องเปล่า ๆ ผมเลยตอบไปว่า
   “เปล่า ... แค่อยากอยู่เวียนนานาน ๆ หน่อย ...
‘เพื่อน’ คงไม่รู้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองในฝันของเพื่อน
จะให้เพื่อนนั่งรถผ่าน ๆ เพื่อนทำไม่ได้ ... ก็แค่นั้น”
   
นนท์จับแขนผมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ...
   “ไม่ได้ ... เพื่อนต้องไปกับ ’เพื่อน’”
   “เพื่อน ... จะอยู่ที่นี่ซัก 2-3 วัน” ผมยังยืนยันคำเดิมด้วยน้ำเสียงเรียบ
...

นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมไม่ยอมตามความคิดนนท์ ...
นนท์ก็คงจะงงเหมือนกันที่อยู่ ๆ ผมก็แสดงออกแบบนี้
ผม ... ที่ไม่เคยมีปากมีเสียง
   ผม ... ที่ไม่เคยเรื่องมาก
   ผม ... ที่ไม่เคยขัดใจนนท์
ผมก็รู้สึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ ‘ผม’ ไม่แคร์ซักนิดว่านนท์จะรู้สึกยังไง
ก็ในเมื่อนนท์ก็ไม่แคร์ผมเหมือนกันนี่นา ...

ผมเดินไปที่ด้านหน้ารถด้วยสีหน้ายิ้มแย้มบอกลาพี่อูกับพี่โม่
และ ... บี (บอกลาคนนี้ ... เพื่อรักษามารยาท)
   “เกรงใจถ้าทุกคนต้องผิดแผนเพราะผม ...” ผมพูดยิ้ม ๆ
ดูทุกคนผ่อนคลายขึ้น
   “แผนอะไร ... แผนน้องบีคนเดียว ... น่าจะยืดหยุ่นได้”
พี่โม่พูด ... แล้วหันไปมองหน้าบี ซึ่งตอนนี้ทำท่าลำบากใจแต่ก็ไม่พูดอะไร
   “แล้วจะไปยังไงคนเดียว .. พวกเราพาเพื่อนไปหาที่พักก่อนดีมั๊ย”
พี่อูยังพูดแสดงความเป็นห่วงออกมา
   “ไม่เป็นไรหรอก ... ผมเป็นผู้ชายนะ ... อีกอย่างไม่ใช่เด็กด้วย …
แค่ขออนุญาตไปเที่ยวคนเดียวซักครั้ง ... อนุญาตนะครับ”
ผมพูดกับพี่อู ... เพื่อให้พี่อูสบายใจ ...
‘พี่ดีกับผมจริง  ๆ ผมซาบซึ้งนะ’ ส่วนข้อความนี้ผมคิดในใจ


“งั้นก็ช่วยไม่ได้ …” เสียงนนท์ดังขึ้นจากทางด้านหลัง …


ผมหันไปมองตามเสียง ... ไม่เข้าใจที่นนท์พูด ...

ผมหันไปมองนนท์ ... แต่พอมองไป ...

ก็เห็นนนท์แบกเป้ของนนท์ไว้บนบ่า ...

‘นนท์จะไปกับผมเหรอ’

“จะไปกับเพื่อนเหรอ ...” พี่โม่ถาม
นนท์ยิ้มไม่พูดอะไร ... ผมยังงงกับท่าทีของนนท์เล็กน้อย
ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
   “ดีเหมือนกัน ...” พี่อูพูดท่าทางดีใจ
   “ไปสองคนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ...” พี่อูพูดต่อ ... 
   “ ’เพื่อน’ ไปตามกำหนดการเดิมเถอะ ... ไม่ต้องห่วง” ผมบอกนนท์
   “ก็นี่แหละกำหนดการของ ‘เพื่อน’ ...” นนท์พูดยิ้ม ๆ
ก่อนจะโบกมือให้ทุกคน ... พี่อูค่อย ๆ ขับรถออกไป …
“แล้วเจอกัน …”

หลังจากที่รถเคลื่อนที่ผ่านไปแล้วผมก็ถามนนท์ว่า
“ที่บอกว่า ... ‘ช่วยไม่ได้’... หมายความว่ายังไง”
นนท์บอกว่า ... ที่พูดออกมาแบบนั้นน่ะมีสาเหตุ ....
... พรุ่งนี้หลังจากไปเที่ยวที่ Innsbruck แล้วตามกำหนดการ
ก็จะเข้าไปสวิสเซอร์แลนด์ …

แต่ผมกับนนท์ไม่มี Visa เข้าสวิสฯ ... (สวิสฯ ใช้เชงเกนวีซ่าไม่ได้)
เพราะไม่เคยรู้เลย ... ว่าจะไปสวิสฯ ...นนท์ไม่ได้บอกว่าจะไป
ก็เลยไม่ได้ขอวีซ่าไว้ ...

นนท์บอกว่า ... ตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะไม่ไปสวิสฯ ...
ช่วงที่เค้าไปสวิสฯ กันก็จะไปเที่ยวกับผม 2 คน
โดยมองไว้ว่าจะไปเยอรมันซัก 2-3 วันแล้วก็ไปฝรั่งเศส ...
... เมื่อเช้าไปที่สถานีรถไฟเพื่อไปถามเรื่องการจองตั๋ว ...
จาก Innsbruck ไป Munich …
   “ได้ยินว่าวิวจาก Innsbruck ไป Munich
ไปทาง Mittenwald  สวยมาก ... อยากให้เพื่อนเห็นน่ะ”  นนท์บอก
   “แต่ก็ ‘ช่วยไม่ได้นะ’ คงต้องไปมิวนิคจากเวียนนาซะแล้ว”
นนท์พูดแล้วเอื้อมมือโอบไหล่
   “ไม่รู้ว่าอยู่ ๆ เด็กดื้อจะออกฤทธิ์วันนี้ ... รออีกวันก็ไม่ได้”
ตอนนี้ ... ผมได้แต่ยิ้ม ... ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าที่ทำท่าทีเฉยชาไม่สนใจน่ะ
เพราะกำลังมีแผนการ (ร้าย) อยู่เต็มหัว ...
ก็มัวแต่คิดแผนเลยลืมสนใจกันอย่างนี้ ... จะไม่ให้น้อยใจได้ไง ...
   
 
 
   


      
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 24-01-2009 01:01:33
 :z3:


อ่านแรกๆแอบเคือง

อ่านๆไปๆๆ เรื่อยๆ คุณเพื่อน เก่งมากๆๆ

ได้ใจมากๆๆ อิอิ

อ่านจบ มีความสุข ยิ้มๆๆ :กอด1: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-01-2009 01:02:14
ไวนะยายดำ

 :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Mint ที่ 24-01-2009 01:06:05
อ่านตอนแรกๆๆแล้ว

 :fire:

หลังๆมาเริ่มมมมมมม

 :-[ :-[

แอร้ยยยยยยยทำไมเราอารมณ์แปรปรวนเยี่ยงนี้

 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 24-01-2009 01:08:55
อ่อ ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง



-------------------

แอร๊ยยย  แต่คุณเพื่อนทำเอาร้องเรยค่ะ
เข้าใจอารมณ์เวลาคนน้อยใจ

แง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 24-01-2009 01:10:15
เฮ้อออ :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 24-01-2009 01:16:43
อิๆๆ มีแผนนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 24-01-2009 01:22:35
.....อ่านตอนต้นมา เครียด...อึดอัด..
.....อ่านตอนสุดท้าย...ยิ้ม...หัวเราะ...
.....ให้มันได้อย่างนี้สิ...เพื่อน..นนท์...มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน.. :n1:
......สะใจ..บี(โอเวอร์)..คงเป็น..บีเหวอ..... :fire:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 24-01-2009 01:28:24
มีแผนการอะไร ก็ไม่บอกกันบ้าง นนท์นะนนท์
ทำให้คุณเพื่อนน้อยใจ เห็นมั้ย!!

เกือบโกรธนนท์ แทนคุณเพื่อนแล้วนะ
 :เฮ้อ:


คราวนี้ เที่ยวกันสองคนแล้ว...หุหุ
เตรียมตัวรับน้ำตาลกันได้แล้วพี่น้องงงงงงง

 :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 24-01-2009 01:44:30
 :เฮ้อ:

โล่งอกไปทีคิดว่านนท์จะ ลืมเพื่อนแล้วซะอีก

นี่มองการณ์ไกลดีนะเนี่ย นนท์นี่ อิๆ :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 24-01-2009 01:55:28
เกือบไปแล้ว

อ่านตอนแรกโกรธนนท์มาก

สงสารคุณเพื่อน

แต่พออ่านจบ

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ได้ไปเที่ยวกันสองคนแล้ววววว :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 24-01-2009 02:10:45
เพื่อน  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 24-01-2009 02:47:24
ไม่โมโหเพื่อนของเพื่อนแหละ   :-[

ตอนแรกอ่านเนี้ยเคืองนะ แต่ตอนนี้  :man1: ให้อภัยๆ

PS.ผ่าน IELTS พอดีเป๊ะเลยแหละคุณเพื่อน อยากจะกรีดร้องงงง  คะแนน Reading กับ Listening ช่วยดึง Speaking ให้รอดมาได้จริงๆ o18 (พูดแล้วก็นึกถึงเหตุการณ์การติดอ่างตอนสอบ อรั๊ยยย)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 24-01-2009 03:25:44
อ่านตอนแรกนี่โกธรนนท์นะ

ทำไมทำกับเพื่อนแบบนี้

พอมาอ่านตอนหลัง โอ๊ยยย นนท์น่ารักอะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 24-01-2009 03:28:54
 :เฮ้อ:

เล่นทำเซ็ง &  :m16: :m31: :fire: ไปสักพักนึงเลย

ยังไงก้อน่าจะบอกกันหน่อยจริงๆนั่นแหละ   :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 24-01-2009 03:32:05
นนท์มีเซอไพรส์ก้อไม่บอก ปล่อยให้เพื่อนเครียดอยู่คนเดียวตั้งนานเน๊อะ

น่าจับทำโทษว่าป่ะคุณเพื่อน แต่ทำโทษไงแล้วแต่เจ้าทุกข์หละกัน

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: tawornfung ที่ 24-01-2009 04:44:23
แอบมีแผลแล้วไม่บอกเพื่อน แบบนี้เพื่อนน้อยใจแย่เลย
ถ้าเป็นเราอย่างนี้ต้องทำโทษ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 24-01-2009 09:37:24
ยังไม่อยากให้คเพื่อนหายงอนเร็วนัก น่าจะเอาคืนไปบ้าง ฐานทอดทิ้งไปหลายวัน  :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 24-01-2009 09:52:19
 :เฮ้อ: นึกว่านนท์จะไม่สนใจเพื่อนซะแล้ว

ดีใจที่นนท์ทำให้เพื่อนกลับมายิ้มได้อีกครั้ง  :กอด1:

+1 ให้คุณเพื่อน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 24-01-2009 09:52:52
เพื่อนสุดยอดจริงๆ ถ้าไปเที่ยวเองแล้วกลายเป็นชะโงกทัวร์แบบนี้เราก็คงเซ็ง
เวียนนาไม่ใช่เมืองเล็กๆที่แค่รถวิ่งผ่านแล้วดูอ่ะ  ได้ใจมากๆเลยเพื่อน  o13

ส่วนนนท์ยังไม่ให้อภัยนะ จะมาคิดแผนการณ์คนเดียวได้ยังไงปล่อยให้เพื่อนไม่สนุกไปตั้งหลายวัน  :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 24-01-2009 10:00:29
ช่วยไม่ได้อ่ะ นนท์ โกดไปแล้ว หุหุ

ทำคุณเพื่อน(ของชั้น) น้อยใจไมอ่ะ

คุณเพื่อนทำดีมาก ต้องเป็นตัวของตัวเองแบบนี้แหละ


เฮ้อออ โล่ง  :เฮ้อ:

สะใจ นังบี อิ๊ๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: uME_HeRo ที่ 24-01-2009 10:40:29
เพื่อนไม่รักเพื่อนตอนนี้



 จะรักตอนไหน     :n1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 24-01-2009 10:43:22
^
^
เสียบกระซวก แม่นางปาทั้งก้าข้างบน

ถูก เรา โกด นนท์ไปแล้ว
ไม่หายงง่ายๆหรอก
ชิล์ๆๆๆๆๆๆ
เราไม่ลืม
ทำคุณเพื่อนเราน้อยใจ
ถ้าจะให้เรา ลืม ต้องมี ฉาก หวานๆมาให้เรา คริๆ
คุณเพื่อนเยี่ยมมาก
ต้องแบบเน้ พูดน้อย ต่อยหนัก
นนท์ดูไว้ซะ ว่าคุณเพื่อนเสื้อน้อยนะ อย่ามาทำแบบนี้อีก
ต้องเอาใจ พาไปเที่ยวเยอะๆ ชดเชยความรู้สึกที่เสียไป
ส่วนนัง บี ตอนนี้ กาลยเป็นศันตูหมายเลยหนึ่งไปแระ
อย่าให้เจอนะ
มี ตายสถานเดียว  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 24-01-2009 11:02:43
ผิดแผนเก่า ก็เริ่มแผนใหม่เยยก็ได้นินา งิงิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: princehoo ที่ 24-01-2009 11:40:49
ในที่สุดก้อได้เที่ยวสองคนซะที

แอบสะใจยังไงไม่รู้

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 24-01-2009 13:45:41
 o13 เก่งมากนนท์เกือบได้เลิกกันแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: april ที่ 24-01-2009 13:54:56
เก่งมากคุณเพื่อน ต้องอย่างนี้สิ  o13

แต่เคืองนนท์ไปแล้วนะ มาทำเพื่อนน้อยใจได้ยังไง

ต่อไปต้องดูแลดีๆนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 24-01-2009 14:14:24
หายโกรธนนท์ละ จะเซอร์ไพร์สก็ไม่บอก  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 24-01-2009 15:41:18
โอ้ว  ตอนแรกอ่านไปใจเสียเลย

แหมนนท์มีแผนเด็ดทำไมไม่บอกกันก่อน ทำเอาใจหายเลย

นึกว่าไม่สนใจเพื่อนซะแล้ว

 :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 24-01-2009 16:22:00
น่ารักมากกก  จริงๆเเอบตามอ่านมาหลายตอนจนตามอ่านทัน

อ่านไปม้วนตัวด้วยความเขินอายไปด้วย หึหึหึหึหึ :-[

เเหม 'เพื่อน'มีเเผนไว้เเล้วก็ไม่บอก คุณเพื่อนเกือบตุ๊ปป่องหนีไปเที่ยวเวียนนาคนเดียวเเล้ว

รอติดตามด้วยใจจดจ่อค่ะ :กอด1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 24-01-2009 17:51:59
เอร๊ยยยย  :serius2: เพื่อนของคุณเพื่อน ยังไม่ทำให้เค้าหายโกดอ่ะ
ถ้าเค้าเป็นคุณเพื่อนนะ เค้าจะงอนไปสามวันเเปดวัน
จะดีขึ้นกว่านี้ถ้าตอนหน้า เพื่อนของคุณเพื่อนทำตัวน่ารักขึ้น
ชริ  :z2:
แตเเอบดีใจ สะลัดคุณบีได้เสียที อืม เป็นอะไรกันมากไหมเนี่ย กร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 24-01-2009 18:12:43
จิ้มบวกหนึ่งให้คุณเพื่อนค่า  อิอิ  :z13:

นนท์นี่น่าจะบอกกันก่อน  เล่น  ทำเอาเราเซ็ง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 25-01-2009 12:02:40
มารายงานตัวนะ คุณเพื่อน

คิดถึงจัง ติดภารกิจสำคัญอาทิตย์ที่ผ่านมา เลยไม่ได้อ่านสองตอน (จะอ่านก้อกลัวนอยด์ เลยเก็บไว้รอภารกิจลุล่วง) ตอนนี้กลับมาเวิ่่นได้เหมือนเดิมค่า ไปอ่านก่อนนะ

**************

Chapter 15
:a5:  :a5: เปลี่นสาย เปลี่ยนสาย    :angry2: ไม่อยู่แล้วสายนนท์
โกรธนนท์ โกรนนท์...  ทำไมไม่ดูแลเพื่อน ทำไมไม่รักษาสัญญาปล่อยให้คุณเพื่อนเหงา :angry2:
ถ้าไม่ดูแลก้้อเอาคุณเพื่อนคืนมา  :m15:
คุณเพื่อนสู้สู้ อย่าไปสนใจ ชิส์  :a14:

อยากจะ  :fcuk:  :โป้ก1: :pigangry2: เนวิเกเตอร์นัก  -- เป็นไรมากป่ะ
****************

Chapter 16

ดีกันก้อดีอ่ะนะ

แต่(คนอ่าน)ยังไม่หายงอนนนท์(แทนคุณเพื่อน)
มีเซอรไพรซ์ แต่ปล่อยให้คนสำคัญของเราเหงาเนี่ยนะ
นนท์ทำงี้ไม่ถูก 

คุณเพื่อน... o13 สุดยอดดดดด
เก่งมาก ไม่ต้องแคร์ใคร IELTS ได้ตั้ง 7.0  แค่เที่ยวยุโรปคนเดียว เรื่องขี้ปะติ๋วใช่มะ

เอาเถอะ ดีกันก้อดีแล้ว นนท์ดูแลคุณเพื่อนดีดีด้วยยยยยย
(คุณเพื่อนยังงอนต่ออีกหน่อยได้นะ สอนบทเรียนนนท์บ้างอะไรบ้าง)

ป.ล. คุณเพื่อนเรียบร้อยจัง...แค่ 'โว๊ย' เนี่ย ก้อถือว่าหยาบคายแล้วเหรอ  อิอิ เป็นคุณหนูเชียว
 :eiei1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: GajonG ที่ 25-01-2009 17:40:09
 :o8:

 :a2:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 25-01-2009 17:55:10
 :เฮ้อ:

ในที่สุดก็ได้เที่ยวด้วยกัน
เย้ๆ
ดีใจที่เพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน
งานนี้บีจ๋อยเลย
ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: somathic ที่ 25-01-2009 20:20:03
ต่อเร็วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อ่านแล้วอุณหภูมิขึ้นสูง

ความดันพรุ่งปรี๊ดดดดด

ปรอทความอิจฉาแตกกระจุย T^T

รอน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 25-01-2009 21:14:56
นนท์คนเจ้าแผนการ  :jul3:

เฮงๆ รวยๆ มีความสุขวันตรุษจีน นะคร้าบ  :กอด1:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 25-01-2009 22:14:47


ยังติดตามอ่านอยู่ตลอดนะค๊า อาจจะไม่ได้เข้ามาคุยทักทายบ้างอะไรบ้าง  :z2:

ชอบตอนบรรยายเรื่องท่องเที่ยวจังเลย เหมือนได้มีส่วนร่วมทัวร์ยุโรปกับคุณเพื่อนด้วย สนุกๆๆ


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 26-01-2009 23:39:18
 :กอด1:  กอดนนท์  ...  เจตนาดี แสดงออกอาจจะยังไม่ใช่นัก  ...   อภัยได้  ^__^  ...   ก็เพื่อนยังอภัยให้หายงอนเลยนิ   :o8:

ขอบคุณ คุณเพื่อนนะครับ  ...  อ่านแล้วมีความสุขมากมาย  ...  +1  เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 27-01-2009 22:57:39
คุณเพื่อน มารึยังงงง

คิดถึงค่ะ มาต่อเร้ววววว  คิดถึงเพื่อนกะนนท์อ่ะ :m17:
 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 28-01-2009 11:10:48
คิดถึงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: OISHI ที่ 29-01-2009 09:47:32
เข้ามารอคุณเพื่อนกับ"เพื่อน" ด้วยคน

ชอบสไตล์การเขียนของคุณเพื่อนจัง
มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 29-01-2009 22:20:30
อ่านทันแล้ววววววววววว


น่ารักมากมายยยย   แต่ตอนสุดท้ายนี่  ให้มีัแผนยังไงก็ยังเคืองอยู่ดีแหละ  :a14:




ปล.ป้าค๊าบบบ  เพียวตามทันแล้วน้าาาาา  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: minilove ที่ 30-01-2009 00:58:27
69

อ่าว ผิดทู้หรอ ทู้นี้เค้าหวาน อ้อๆๆๆ ขอโทษษษษ

คิดถึง :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 30-01-2009 09:20:27
คิดถึงนะ  :กอด1:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 31-01-2009 20:42:16
คุงเพื่อนยอดมากๆ เลยคร้าบ ขอปรบมือให้เลย

นายเอกยุคใหม่มากๆ

"อย่าได้แคร์ !!!" ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 01-02-2009 22:54:26
มาดันคุณเพื่อน จะหล่นหน้า2 แล้ว

รออยู่นะจ๊ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 02-02-2009 03:51:16
หายไปไหนน้าาาาาาาาาา

รออยู่นะค๊าบบบบบบบบบ


 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 02-02-2009 21:13:41
รอนะคร้าบบ  :impress:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 02-02-2009 22:31:15
(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/bear_by_ohhdahhling.jpg)

คุณเพื่อน หายไปไหน
เมื่อไหร่จะมา เหงา หงอย รอคอยต่อไป

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 03-02-2009 00:41:56
มารอคุณเพื่อนด้วยคนเน้อ

คิดถึงอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 03-02-2009 00:43:14
เข้ามารอคุณเพื่อนด้วย  ^__^

คิดถึงแล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 04-02-2009 02:57:46
 o9

คุณเพื่อน

หายไปไหน????


คิดถึงนะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 04-02-2009 17:41:49
คิดถึงคุณเพื่อน  รีบกลับมาเร็ว ๆ นะ  :กอด1:

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 04-02-2009 18:14:09

^
^
^
เข้ามาดันทู้

คุณเพื่อน คิดถึงคุณเพื่อนกับ 'เพื่อน' มากอ่ะ
 :เฮ้อ:

มาทักกันบ้างไรบ้าง  ไม่ต้องโกรธนนท์แล้วก็ได้
กลับมาเถอะ
คิดถึง คิดถึง
 :m15: :m15: :m15:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 05-02-2009 19:26:34
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ในที่สุดก้ออ่านทันแล้วอ่ะ


16 ตอน รวดเดียวเลย


น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก  ที่สุดเลยนะเนี่ย

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 05-02-2009 21:57:28

^
l
l
l
l
l
l
l
จิ้มพี่รันนนนนนนนนนน


รอพี่คุณเพื่อนอยู่นะค๊าบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 07-02-2009 14:53:20
:ped144: คุณเพื่อน 
               :ped144: นนท์

กลับมาได้แล้ว :z12: :z12:

:sad12: :sad12:  คิดถึง :sad12: :sad12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 07-02-2009 15:06:03
มาช่วยรอ
ช่วยคิดถึง
คูณเพื่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :ped144: :ped144:
คิดถึง ได้ยินม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 07-02-2009 18:28:56
ขอโทษทุกคนที่หายไปนาน ... ช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อย
สำหรับตอนนี้ (ตอนที่ 17) อาจไม่ค่อยมีอะไร
เน้นเที่ยว ... กับนอน ...
เพราะเหนื่อยมาก
คิดว่าอ่านสารคดีท่องเที่ยวแล้วกัน

take care




ตอนที่ 17


ก่อนที่จะเดินเที่ยวก็ต้องหาที่พักกันซะก่อน ...
ตอนแรกคิดว่า ... หาที่พักสำหรับสองคนน่าจะง่าย
แต่ไปที่ไหน ๆ ก็เต็มหมด
ยกเว้นแต่โรงแรมแพง ๆ ที่เกินความจำเป็น
และเกินกำลังของนักเรียนอย่างเรา

สุดท้ายก็เลยต้องกลับมาพักที่ youth hostel ที่เดียวกับเมื่อคืน
ห้องนึงนอนได้ 30 คน ยังมีเตียงเหลืออีกหลายเตียง
เก็บของเรียบร้อยแล้วก็เตรียมตัวตระเวนรอบ ๆ  ‘กรุงเวียนนา’
ให้เต็มอิ่มสมกับที่อยากมาที่นี่เหลือเกิน

เวียนนามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น
โบสถ์ Stephansdom ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของเวียนนา
พระราชวัง Hofburg เป็นที่ประทับของราชวงศ์ Habsburg
Kunsthistorisches museum พิพิธภัณฑ์ศิลปะ
ที่มีงานศิลปะซึ่งราชวงศ์ Habsburg สะสมมาหลายร้อยปี
Natural History Museum
Belvedere Palace (พระราชวังอีกแห่งหนึ่ง)
เป็นสถานที่ที่ผมตั้งใจว่าจะเข้าไปชมด้านในด้วย
ดีใจที่มีโอกาส ... ก็อุตส่าห์มาถึงทั้งทีจะพลาดได้ยังไง

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว
บรรดาตึกต่าง ๆ ก็มีความงามทางศิลปะที่สวยงามมากจริง ๆ
ดูแล้วเพลินมาก ... ถ่ายรูปเยอะแยะไปหมด
ตึกแต่ละตึกก็สร้างสรรค์โดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงมาก
บางคนเดินตามล่าหาตึกที่สถาปนิกคนโปรดเป็นคนออกแบบ
ตัวอย่างสถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่ผมชื่นชอบและตามดูอยู่หลายตึก
ก็คือ ... Otto Wagner
(ใครอยากเห็นงานของเขาก็ลอง search ดูภาพถ่ายได้มีเยอะแยะ)

อีกวันหนึ่งเราก็ขึ้น tram (รถราง) สาย 1 กับสาย 2
โดยรถรางสองสายนี้จะสามารถพาเราวิ่งรอบ ๆ Ringstrasse
ที่มีตึกสวย ๆ อยู่เต็มไปหมด
เห็นมั๊ย ... แค่ตึกรามบ้านช่องก็ดูได้เป็นวัน ๆ แล้ว
ยังไม่รวมร้านอาหารที่ขายอาหารที่ทั้งหน้าตาดีและอร่อยมากอีกหลายร้าน
อย่างงี้จะให้อยู่แค่วันเดียวได้ยังไง
   “ขอบคุณนะ” อยู่ ๆ นนท์ก็พูดออกมา
ระหว่างที่เรานั่งชมเมืองอยู่บน tram สาย 1
   “เรื่องอะไร” ผมถาม
   “ก็ที่พาชมเวียนนาซะทะลุปรุโปร่งขนาดนี้”
   “เมืองในฝันของเพื่อนเลยนะ ...
ตอนเด็ก ๆ เคยอยากมาเรียนดนตรีที่นี่” ผมบอกนนท์ยิ้ม ๆ
   “เว่อร์ไปรึเปล่าเนี่ยะ ...” นนท์พูดพลางหัวเราะ
   “ก็ช่ายอะดิ .... คิดว่าถ้าเรียนดนตรีอาจจะอดตายได้ ...
ก็เลยไม่ได้เรียนไง”
   “เรื่องจริงเหรอเนี่ย ... hi-so นะเรา” นนท์พูดพลางดึงจมูกผมแรง ๆ ที่นึง
   “โอ๊ย” ผมร้อง ... เจ็บจนจมูกแดง
   
พวกเราอยู่เวียนนาทั้งหมด 3 วัน
บ่ายแก่ ๆ ของวันที่ 3 ขณะที่กำลังเดินพุงกางออกมาจากร้านกาแฟ
(ผมไม่ได้ดื่มกาแฟหรอกนะ ... แต่ดื่มโกโก้กับเค้ก)
ร้านกาแฟเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของ ‘ชาวเวียนนา’
ซื้อกาแฟแก้วนึง … จะนั่งในร้านอ่านหนังสือ
จะนั่งคุยกับเพื่อน หรือทำอะไรยังไงไม่มีใครไล่

นนท์ก็ถามผมว่า
   “เต็มอิ่มกับเวียนนารึยัง ...”
ผมพยักหน้า ... ตอบนนท์ว่า
   “จริง ๆ อยากอยู่อีกซักเดือน ...”
   “เดือนนึงก็เกินไปครับ .. คุณเพื่อน” นนท์พูดแกมประชด
   “ล้อเล่น ... แต่อยากอยู่ต่อจริง ๆ นะ ... แต่ตัดใจไปเยอรมันก็ได้”   
   “ก่อนไปเยอรมันจะพาไปที่หนึ่งสวยมาก … เพื่อนต้องชอบแน่”
นนท์พูดยิ้ม  ๆ
   “ที่ไหนเหรอ”
ผมถาม ... นนท์ยิ้มเฉย ... ไม่ตอบ
   “ไม่บอกเหรอ ... เดี๋ยวก็ไม่ไปซะเลย” ผมขู่นนท์
คนตัวโตยังยิ้มไม่ตอบอะไร ...
   “ก็ได้ ...ก็ได้ …. เดี๋ยวก็รู้” ผมพูด ... คร้านที่จะถามต่อ
เพราะถ้านนท์ไม่ยอมบอกถามไปก็ไม่บอกอยู่ดี
   “ใช่เดี๋ยวก็รู้” นนท์พูดยิ้ม ๆ

เราออกเดินทางจากเวียนนาตอนประมาณ 6 โมงเช้าโดยรถไฟ
ไปถึง Salzburg ตอนเกือบ 9 โมง
   “เราจะเที่ยวที่ Salzburg อีกเหรอ” ผมถามนนท์
นนท์ยิ้มแล้วส่ายหน้าลากมือผมไปขึ้นรถบัส
รถบัสใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็ถึงที่ที่นนท์บอก ...
 
   นนท์พาผมไปลงที่เมืองแห่งหนึ่ง ... เป็นเมืองเล็ก ๆ น่ารัก
ตึกสีอ่อนหลากสีสวยเหมือนลูกกวาด
มองไปด้านหน้ามีทะเลสาบแห่งหนึ่ง ...  “Mondsee” หรือ “Moonsee”
“ทะเลสาบพระจันทร์” นนท์กระซิบ
“สวยมาก ... ใสเหมือนกระจกเลย” ผมบอกนนท์อย่างตื่นเต้น
ทะเลสาบแห่งนี้สวยงามมากจนไม่รู้จะบรรยายยังไง
“ ทำไมถึงชื่อ “Mondsee”” ผมถามนนท์
““Mondsee” หรือ “Moonsee” … เหตุผลที่ถูกตั้งชื่อเช่นนี้
 เพราะถ้ามองจากมุมสูงจะเห็นเป็นแนวโค้งเหมือนเสี้ยวพระจันทร์”
   นนท์อ่านจากหนังสือให้ฟัง
   “สวยมาก ... อากาศก็ดี ... สดชื่น”
ผมพูดพลางสูดลมหายใจสะอาด ๆ เข้าเต็มปอด
   
   “ถ่ายรูปหน่อยสิ” นนท์พูดยิ้ม ๆ 
ผมยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปนนท์รูปหนึ่ง
   “ไม่ใช่ ... เพื่อนหมายความว่าถ่ายรูป ‘คู่กัน’ หน่อยสิ”
คนพูดก้มหน้าทำท่าเขิน

   “หือ” ผมทำเสียงสูงซึ่งหมายความว่า “ว่าไงนะ”

   “ก็ตั้งแต่มาที่นี่ .. เรายังไม่มีรูปคู่กันซักรูปเลยนะ”

ได้ฟังนนท์พูดก็อึ้งเล็กน้อย นนท์ก็รู้สึกเหมือนกันเหรอเนี่ยะ

   “ ‘เพื่อน’ ก็รอว่าเมื่อไหร่จะได้ถ่ายรูปคู่กันเพื่อน .. ไม่มีโอกาสซักที”

ผมยิ้ม .. รู้สึกดีใจที่นนท์ก็ใส่ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้เหมือนกัน

นึกว่า .. ผมเป็นคนเดียวซะอีกที่อยากได้รูปคู่กับนนท์

นนท์ก็อยากมีรูปคู่กับผมเหมือนกัน ..

            “แต่เราจะให้ใครถ่ายให้ดีล่ะ”

มองไปมองมาไม่มีใครอยู่ใกล้รัศมีเลยซักคน มีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งก็อยู่ไกลมาก ๆ

สุดท้ายเหลือบไปเห็นเก้าอี้ตั้งอยู่ไม่ไกลตัวนึง ...
เลยเอากล้อง ... วางบนเป้เพื่อหนุนให้กล้องสูงขึ้น
... ได้มุมที่สวยแล้ว ...
นนท์กดปุ่มให้ถ่ายภาพอัตโนมัติ แล้ววิ่งมายืนติดกับผม
กว่ากล้องจะถ่ายก็ยิ้มรอหลายวินาที ...
แต่บังเอิญ ... ที่ริมทะเลสาบลมแรงมาก  ...
ตอนที่กล้องกระพริบจะถ่าย ... ลมพัดมาแรงมากจนกล้องขยับหันไปอีกด้าน

   “เอ้ย ... ” นนท์ตะโกนพร้อมกับกระโดดไปหากล้อง (กลัวกล้องตก)

นนท์คว้ากล้องทัน ... แต่ช้ากว่าความเร็วชัตเตอร์

ภาพคู่ภาพแรกของผมกับนนท์ก็เลยเห็นแค่ ...

... ครึ่งตัวของผมอ้าปากกว้างเพราะตกใจที่ลมพัดกล้องขยับ

และมือของนนท์ที่เอื้อมจะไปหยิบกล้อง ...

   “ห้ามลบรูปนี้นะ ... ตลกดี” นนท์ยิ้มขำกับรูปคู่รูปแรกของเรา

   “ไม่ลบหรอก ... จะได้จำได้ไง …” ผมพูดขำ ๆ เพราะยังรู้สึกตลก

กับโมเม้นท์ที่กล้องขยับ

   “หาคนถ่ายรูปให้เราใหม่ดีกว่า” นนท์บอกพร้อมกับมองหา
ในที่สุดหลังจากพยายามยามอยู่เกือบสิบนาที
ก็ได้คุณลุงท่าทางใจดีคนหนึ่งเป็นเหยื่อ ...
ในที่สุดก็ได้รูปคู่แบบสมประกอบกับเค้าซักที ...
นนท์บอกว่า

   “รูปนี้เพื่อนยิ้มน่ารักที่สุดเลย” แล้วเอื้อมมือมาจับหัวผมเขย่าเบา ๆ

   “ ‘เพื่อน’ ก็เหมือนกัน .... น่ารักที่สุดเลย” ผมบอกนนท์ยิ้ม ๆ 


หลังจากเดินเล่น ชื่นชมความงาม และถ่ายรูปที่ทะเลสาบพระจันทร์เรียบร้อยแล้ว
เราก็เดินไปที่โบสถ์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โบสถ์แห่งนี้มีชื่อเสียงมาก
เพราะเป็นฉากแต่งงานของพระเอกและนางเอก
ในภาพยนต์เรื่อง “THE SOUND OF MUSIC”
(อะไร อะไร ก็  “THE SOUND OF MUSIC” ต้องไปหามาดูบ้างซะแล้ว)

เราก็ออกจากเมืองแห่งทะเลสาบพระจันทร์เวลาประมาณ บ่าย 2 โมง
นั่งรถบัสกลับไปที่สถานีรถไฟที่ Salzburg เพื่อไปเยอรมัน ... Munchen
หรือ Munich นั่นเอง

จาก Salzburg ไป Munchen (Munich) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
“คงจะไปถึงที่โน่นประมาณ 3 โมงนะ” นนท์บอก ... แล้วพูดต่ออีกว่า
“เที่ยวที่ Munchen (Munich) 2 วัน .. คืนวันที่สองนั่งรถไฟไปฝรั่งเศสนะ”
ผมพยักหน้า ... ก็ต้องเป็นไปตามแผน (ของนนท์) แหละ
ก็นนท์ตามใจมาตั้ง 3 วันแล้วนี่นา
แถมวันนี้ยังพามาที่ทะเลสาบสวย ๆ อีกด้วย

ไปถึง Munchen (Munich) ก็เดินหาที่พัก ...
ที่พักวันนี้แตกต่างจาก youth hostel ที่เคยพัก
ไม่ต้องนอนรวมกับคนอื่น ๆ เพราะเป็นโรงแรม
ฝากของไว้ที่โรงแรมก่อนเพราะห้องยังไม่เรียบร้อย

แล้วพวกเราก็ออกไปเดินเล่นราว ๆ 1 ชั่วโมงหาอะไรกิน
เดินกลับมาที่โรงแรมพรอ้มไส้กรอรกแดงกับขาวอย่างละอัน
(มาเยอรมันต้องกินไส้กรอก)
แล้วก็ไก่ครึ่งตัว  ...
หลังจากทานอาหารเรียบร้อย ... ก็อาบน้ำ
   “มานอนนี่ …” นนท์ตบที่นอนข้างตัว ...
สั่งให้นอนใกล้ ๆ แล้วเอื้อมมือมากอด
   “ไม่ได้กอดเพื่อนตั้งหลายวันแล้ว ... คิดถึงจัง” แล้วก้มลงจูบแก้มเบา ๆ
ก่อนจะหลับตาลง ... และหลับสนิทในเวลาไม่นาน ...
เหมือนกันกับผม ... หัวถึงหมอนก็หลับทันที
ก็เพราะเหนื่อยจากการเดินทางเกือบทั้งวันนั่นเอง
อีกอย่างนอนที่ Youth hostel ก็นอนหลับไม่ค่อยสนิทนัก
เพราะคนเยอะมีเสียงคนเดินเข้าออกจากห้อง
เสียงปิดเปิดกระเป๋า เสียงหาของกุกกัก เสียงคุยกันเบา ๆ ตลอดเวลา

ตื่นมาราว ๆ 5 โมงครึ่ง (ตอนเย็น)
ออกไปเดินเล่นถ่ายรูป …
ที่ Munchen (Munich) สถาปัตยกรรมต่าง ๆ อยู่บนถนนเส้นเดียวกันหมด
เดินเล่นดูร้านค้า ... แต่ทำได้แค่ Window shopping
เพราะเย็นมากแล้ว ร้านค้าปิดหมด ...
แต่แค่นี้เราก็ถ่ายรูปกับเยอะมาก
กว่าจะเดินเล่นและถ่ายรูปเสร็จก็เกือบ 4 ทุ่มแล้ว

รุ่งขึ้นออกจากโรงแรม 9 โมงเช้า
Check out และเอากระเป๋าไปฝากไว้ทีสถานีรถไฟ
เพราะวันนี้ต้องขึ้นรถไฟไปฝรั่งเศสตอนประมาณ 2 ทุ่ม
ยังมีเวลาไปดูโน่นดูนี่ได้อีกเยอะ ...

ตั้งใจว่าไปที่ถนนสายเดิมที่เดินเมื่อวาน
ถนนเส้นนั้นจะมีโบสถ์รูปหัวหอม
กับหอนาฬิกาที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง
หอนาฬิกาจะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำน่ารักดี
นาฬิกาเป็นกลไกแบบโบราณ  โดยเริ่มจากการตีระฆัง
แล้วจะมีทหารของสองเมืองมาต่อสู้กัน
โดยจะมีทหารฝั่งละประมาณ 3 คน
หลังจากต่อสู้กันแล้ว ... ดูเหมือนอีกฝ่ายจะโดนหอกแล้วก็หยุดหมุน
แล้วจะมีตุ๊กตาลักษณะเหมือนตัวตลก … ออกมาเฉลิมฉลอง
จากนั้นจะมีนกฮูกทองคำออกมาร้องสามที ... จบ
ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เห็นว่านาฬิกานี่แหละ ... จุดเด่นที่สุดของเมือง
ที่นักท่องเที่ยวต้องมาชม

หลังจากนั้นก็ซื้อตั๋วขึ้นตึกสูงเพื่อชมวิวเมือง

ตอนเดินขึ้นไปเหนื่อยมาก
แต่พอเห็นวิวของเมืองทั้งเมืองแล้วหายเป็นปลิดทิ้ง
 ... สวยงามมาก

หลังจากลงมาจากตึกสูง ..
เราก็แวะทานไอศกรีม ... กินไส้กรอก
(มาเยอรมันต้องกิน ... ขาหมูกับไส้กรอก)
จนได้เวลาขึ้นรถไฟไปปารีส ฝรั่งเศส
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: RN ที่ 07-02-2009 18:31:21
 :z13:

แอร๊ยยยยย น่ารักอีกแล้ววววววววววววว

เที่ยวกันสองคน หุหุ

ความทรงจำดีๆๆ :man1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 07-02-2009 18:34:27
:z13:

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

คุณเพื่อนมาแล้ววววววว


น่ารักกกกกกกกอ่ะ

ในที่สุดก็ได้รูปคู่กันแล้วนะ

อยากเห็นจังเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 07-02-2009 18:35:42
 :z13:
จิ้มรีบน อิๆ
แหมอ่านตอนนี้แล้วอยากไปบ้างงะ
อยากเห็นรูปจัง
จะได้รู้ไงว่าโมเมนต์ที่เกินมันฮาแค่ไหนอิๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-02-2009 18:43:33
แอร๊ยยยส์ อยากไปมั้งจัง  :impress2: ไปตามรอยคุณเพื่อนและนนท์ แบบหนังเกาหลีอีกแระ  :laugh:

มีใครจะไปยกมือขึ้น  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 07-02-2009 18:50:10
^
^
จิ้มคุณเพื่อน
เง้อ คิดถึุง :กอด1:

อยากดูรูปคู่ถ่ายที่ Mondsee อ่ะ ต้องสวยแน่ๆ
อันนี้ใช่ป่าว
(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/mondsee.jpg)

มาต่อเร็วๆ นะคะ อยากไปปารีสแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 07-02-2009 18:51:40
น่าไปเที่ยวบ้างจังเลย  :3130:
เที่ยวกันสองคน น่ารักกันจริง ๆ เลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 07-02-2009 18:55:48
เหงาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  อ่ะ


ไม่ได้กอดเพื่อนตั้งหลายวัน
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 07-02-2009 18:58:56
ชอบทะเลสาบพระจันทร์มากๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 07-02-2009 19:00:37
คุณเพื่อนมาแระ
ชื่นใจจัง
ได้ถ่ายรูปคู่แล้ว ได้ไปทะเลสาปสวยๆ มันช่าง  :-[
ใช่เนอะ ไม่นอนกอดตั้งหลายคืน งั้นก็กอดแน่นๆนะ
ยังคงน่ารักเสมอ คุณเพื่อน และ เพื่อนของคุณเพื่อน  :really2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 07-02-2009 20:20:46
บีโอ เราใจเดียวกัน

Mondsee   ทะเลสาปพระจันทร์

(http://i475.photobucket.com/albums/rr112/ranny19/2924190.jpg)

(http://i475.photobucket.com/albums/rr112/ranny19/2924167.jpg)

(http://i475.photobucket.com/albums/rr112/ranny19/1127006-Mondsee-Mondsee.jpg)


บรรยากาศโรแมนติกมากมายย
หุหุ..คุณเพื่อนกับนนท์  :-[

Mondsee - the Sound of Music - church
(http://i475.photobucket.com/albums/rr112/ranny19/1127044-Mondsee_the_Sound_of_Music_.jpg)


ภาพประกอบสารคดีท่องเที่ยวของคุณเพื่อน
อิอิ...ช่วยในการจินตนาการ
บรรยากาศดี สวยมาก แต่จะให้ดี
มันต้องมีคนสองคนอยู่ในภาพด้วยเน๊าะ


+ 1 คืนให้ ไม่เป็นไร จาก 109 เป็น 110 ยังรับได้อยู่บีโอ...อิอิ
+ 1 ให้คุณเพื่อนเป็นค่านำเที่ยวด้วยนะคะ   :กอด1:
v
v
v
v
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 07-02-2009 21:02:28
 ^
^
พี่ก้อยยยย เป็นภาพปลากรอบตามรอยคุณเพื่อนกะนนท์จิงๆ
จะได้นึกตามได้งัย เพราะเวียนนา สวยมากกกก
ส่วน Mondsee เนี่ย romantic เกินกว่าจะเก็บไว้ดูคนเดียวอ่ะ

เหลือก็แต่รูปคู่ของสองคนนั้นแหละ :o8:

ป.ล. นู๋ขอโต๊ดดดด +1 ไปเขยิบจาก 109 ไปแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล&#
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 07-02-2009 21:27:02
เย่พี่คุณเพื่อนมาแว้ววววววววววววววววววววว
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 07-02-2009 21:30:27
น่ารักสุดสุด :m3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 07-02-2009 21:43:24
เย้ ~!!  คุณเพื่อนมาแว้ว  ... [~ กอด ~]

 หวานนิด ๆ กำลังดี ^__^

จากที่คุณเพื่อนบรรยาย + ดูรูปที่เพื่อน ๆ นำมาโพสประกอบแระ  อยากไปเที่ยวบ้างจัง

ขอบคุณนะครับ (^_^)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: OISHI ที่ 07-02-2009 22:47:53
น่ารักจัง

ดีใจที่มาต่อแล้ว กำลังคิดถึงเพื่อนกับคุณ"เพื่อน"อยู่พอดี

รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: GajonG ที่ 07-02-2009 22:48:43
 :m1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 07-02-2009 23:17:07
กลับมาหวานแย้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: power** ที่ 07-02-2009 23:18:48
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

คุณเพื่อนมาแล้วววว

น่าร๊ากกกก เกิ๊นนนนนน ม่ายไหวแร้นนนนนนนนนนน

รูปคู่ อร๊ายยยยยยย รูปคู่ ในที่สุดดดดด อิอิ

รอตอนต่อปายน้าาาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 07-02-2009 23:33:42
น่าร๊ากกก..ทู๊กกกกทีที่มาต่อ

นะคู่นี้เนี้ยยยย...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 07-02-2009 23:43:08
 :impress2: :impress2: :impress2:

หวานกันอีกแล้ว คราวนี้ไม่มีใครมาเป็นก้างด้วย

อยากไปมั้งอ่า แต่หาตังก่อน ตอนนี้ขาดเงินทุนในการไป

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 08-02-2009 11:01:08
อยากไปมั่งจังเลย เที่ยวแบบนี้คงสนุกดี สถานที่ก็สวยงาม ไปกับคนที่รัก อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 08-02-2009 12:14:49
สวยจังเลย อยากไป พร้อมทุกอย่าง ขาดแค่ทุนทรัพย์และคนร่วมทาง กร๊ากกกก  :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 08-02-2009 12:46:05
น่ารัก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: masanobu ที่ 08-02-2009 21:23:17
 :laugh:
น่ารักโคดๆ อยากเอาแบบนี้บ้างอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 08-02-2009 23:20:17
ตอนถ่ายรูปน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกอะ

เขิลล
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 08-02-2009 23:25:12
คูณเพื่อนนนนนนนนนนนนนนนน
ยู้ฮู คิดถึงจัง
มายังเอ่ย  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 09-02-2009 00:04:26
นึกว่าคุณเพื่อนจะมาแล้วซะอีก
take good care เช่นกันนะคะ คุณเพื่อน (และนนท์)
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 09-02-2009 00:32:47
มีแอบหวาน  :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 09-02-2009 09:22:18
หวานๆ น่ารักดี :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 09-02-2009 10:37:40
น่ารัก คร้าบบ บรรยากาศก็ดี สถานที่ก็สวย  :m13:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 09-02-2009 13:45:20
โอยยยยยยยยยยยยยย
น่ารักอ่ะ
เที่ยวสองคนมันดีอย่างงี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 09-02-2009 23:29:05
 :-[  น่ารักจัง

ภาพสวยมากมายอ่ะ  อยากไปมั่ง

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 10-02-2009 20:08:18
มารอคุณเพื่อนค่า (แหะ แหะ มาดันทู้)

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 12-02-2009 10:28:53
แวะมารอ คุณเพื่อน กับ นนท์ด้วย วันนี้จะมาไหมนี่  :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 12-02-2009 10:59:23
คิดถึงคุณเพื่อนอีกแล้ว

เมือไหร่จะมาซักทีอ่ะ

รอ ร้อ รอ นะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 12-02-2009 11:01:01
^
^
^
ทะลวง 3 สาว ข้างบน
เอิ๊ก..เอิ๊ก

มารอบ้าง

คิดถึงคุณเพื่อน กะ เพื่อนคุณเพื่อนนนนนนน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 13-02-2009 12:49:06
คุณเพื่อน  นนท์

ไปเที่ยวปารีสลืมคนอ่านป่าวเนี่ย
 :m15: :m15: :m15:

พรุ่งนี้วันวาเลนไทน์ จะมีตอนพิเศษกะเค้ามั๊ยเนี่ย
สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะ มีความสุขมากๆ รักันมากๆ ดูแลกันดีๆ นะคะ
 :L2: :L2:

รักคุณเพื่อน   :กอด1: รักนนท์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 13-02-2009 17:21:41
น่ารักเสมอต้นเสมอปลายทั้งคุณเพื่อนกับ"เพื่อน" ของคุณเพื่อนอ่ะ   :o8:
รอคุณเพื่อนมาต่อเสมอน้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 14-02-2009 01:23:10
(http://i188.photobucket.com/albums/z128/Ray_marz/Valentine_card.jpg)

Happy Valentine ka
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 14-02-2009 01:27:59
(http://www.up-pic.com/2/pic/1322009-23568-61403.gif) (http://www.up-pic.com)
ขอให้มีความสุขในวันแห่งความรักมากๆนะคราบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 14-02-2009 01:29:47
สุขสันต์วันวาเลนไทน์  ขอให้มีความสุขมากๆนะคับ  รักตัวเอง ครอบครัว เพื่อนพ้องพี่น้องและคนรอบข้างมากๆนะคับ   :L2:   :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 14-02-2009 01:35:25
(http://i475.photobucket.com/albums/rr112/ranny19/g9-1.jpg)

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 14-02-2009 01:57:24
Happy Valentine's day
ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันแห่งความรักค่ะ
ขอให้คนมีความรักดูแลความรักของตัวเองให้ดีและขอให้ความรักแข็งแรงตลอดไป
ขอให้คนอยากมีความรัก(เป็นตัวเป็นตนอย่างคนอื่นเค้า) ...สมหวังนะคะ

ขอบคุณเรื่องราวความรักทุกเรื่องในเล้าแห่งนี้ที่ให้ความสุข สร้างรอยยิ้มและเรียกน้ำตา มาตลอด

รักเล้าฯ
รักเพื่อนกะ'เพื่อน'
รักคนอ่าน

รักคุณเพื่อนกะ 'เพื่อน' ตัวจริงคนนั้น

:กอด1:

(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/valentines.jpg)
Painting by Jonathan Bush
Copy&picture edited by Knight_king
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 14-02-2009 09:04:28
Happy Valentine's day นะคร้าบบ คุณเพื่อน  :L1:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 14-02-2009 09:13:02
(http://)(http://dl10.glitter-graphics.net/pub/1914/1914560arybskqvox.gif) (http://www.glitter-graphics.com)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 14-02-2009 11:22:13
(http://i367.photobucket.com/albums/oo111/taan19/10-01-2009_05.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 14-02-2009 11:24:53
(http://i242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/glitter/valentine/13-02-2009_07.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 16-02-2009 13:44:50
รอพี่คุณเพื่อนอยู่นะค๊าบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 16-02-2009 15:30:46
 :z3: มาต่อซักที่เถอะเพื่อนรอจนจะ...ตายแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 16-02-2009 20:15:40
หายไปนานเลยอ่ะ
ลืมเล้าเป็ด ลืมคนอ่านไปรึยังจ๊ะ คุณเพื่อน

ไปนานไม่ว่า แต่กลับมา ขอทั้งตอนพิเศษวาเลนไทน์ ขอทั้งน้ำเชื่อมจากปารีสเลยน้า

คิดถึงนะคะ  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 18-02-2009 21:12:05
คิดถึง   ....  "คุณเพื่อน"  .....   คร้าบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 18-02-2009 22:01:19
มาคิดถึงคุณเพื่อนด้วยคน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: faire ที่ 19-02-2009 05:49:53
อ่านทันแล้ว o7

น่ารักมากๆทั้งคู่เลย คุณเพื่อนถ่ายทอดได้ดีมากๆเลย ภาษาก็สวย  o13

รอตอนต่อไปด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Jeremy_F ที่ 19-02-2009 05:57:22
 :L2:  :กอด1:

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 19-02-2009 09:02:52
เพื่อนจ๋า
คิดถึง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 19-02-2009 09:28:11
^
^
จิ้มแม่นาเบว  คิดถึง คิดถึงว่ะ

นี่แกไปหนิทหนมกะคุณเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ ไปเรียกคุณเพื่อน  เพื่อนจ๋า
ชั้นหวงคุณเพื่อน (แทนนนท์) :ซูโม่::ซูโม่: :ซูโม่:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 20-02-2009 14:13:02
^
^
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คุณนายยยยยยยยยย

คิดถึงว่ะ
เจอกัน เดอ มาสเตอร์ เดอมันนี่ เดอ มอนสเตอร์
ฮา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: ตั๊กแตนปาทังก้า ที่ 21-02-2009 11:13:22
^
^
^
^
^
เจออีกละ

มาย้างงงงงงงงง คุณเพื่อนนนนนนนนนนน รู้ไหมมีคนคิดถึง

หายไปนานแล้วนะ  เอาเพื่อนกะนนท์ มาซะที  :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 21-02-2009 11:51:34
^
^
จิ้มทะลุทะลวง พี่ตั๊กแตน แม่นาเบว
เง้ออออ เจอกันเดอะ มอนสเตอร์อ่ะ  o22

คุณเพื่อนไปไหน  :เฮ้อ:
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 24-02-2009 12:44:07
:serius2:  พี่คุณเพื่อนหายปายยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 25-02-2009 00:07:22
:monkeysad:

 :m15:  :m15:

 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 25-02-2009 10:53:46
คิดถึงงงงง :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 25-02-2009 13:32:11
ประกาศคนหาย

นามว่า 'คุณเพิ่อน'

ใครเจอเบาะแสโปรดแจ้งด้วย
ให้กลับมาต่อเรื่องซะที
ช้าคนนี้คนอ่านอาจถึงขั้นขาดใจได้
ความผิดนั้นจะร้ายแรงมิใช่น้อย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 25-02-2009 20:21:40
มาได้แล้ว ๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: minilove ที่ 25-02-2009 23:06:43
ช่วงนี้ขาดน้ำตาล
Want ความหวานอย่างแรง
รอ&รัก คุณเพื่อนเสมอ :กอด1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: poii ที่ 26-02-2009 22:04:10
กรี๊ดดดดดดดดดดด เหอะ

น่ารักเกินไปแล้วคู่นี้

ขอมาเก็บไว้ในกล่องของเจ้ซักคนเหอะ อิอิ :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 27-02-2009 02:11:27
ยังคงรอตอนต่อไปอยู่นะครับ

คิดถึงคุณเพื่อนครับ ..^^..
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 27-02-2009 15:30:13
จะ 20 สิบวันแล้วนะ
คุณเพื่อนหายไปไหน เป็นไรป่าว ลืมกันไปแล้วเหรอ
 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 27-02-2009 21:06:29
มาเถ๊อะ..รออยู่ ๆ

 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 17) ขอโทษสำหรับความล่าช้า
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 27-02-2009 23:08:33
ได้ข่าวว่า รอมานานแล้ว ได้โปรดกลับมาเถิด คิดถึงจริงๆนะไม่หลอกด้วย....คุณเพื่อนนนน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 28-02-2009 13:04:03
ขอโทษสำหรับความล่าช้าอีกครั้ง
ไม่ได้เข้ามาอ่านนานมาก
พอมาอ่านคอมเม้นแล้ว
รู้สึกเหมือนเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบยังไงไม่รู้
ปล่อยให้คนอื่นรอ ...

เดือนหน้าก็กำลังจะสอบ
อาจจะหายไปอีก
แต่จะหาโอกาสมาเขียนอีกแน่นอน

ขอบคุณที่รอกัน
ขอบคุณที่ให้กำลังใจ

จากใจจริง




ตอนที่ 18


รถไฟไปฝรั่งเศสที่เราขึ้นเป็นรถนอน ... โบกี้นึงแบ่งเป็นล็อค ๆ
แต่ละล็อคมี 6 เตียง เตียง 3 ชั้น มี 2 ฝั่ง
อัดอึดพอสมควรแต่ก็พออยู่ได้
นนท์นอนเตียงชั้นล่างส่วนผมนอนเตียงชั้นบน
รถไฟออกจกสถานีได้ซักระยะหนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่มาเก็บ Passport ไป
รถไฟแล่นไปเรื่อย ๆ ผมนอนมองเพดานรถไฟได้ซักพักก็หลับไป

....

ตื่นมาราว ๆ 6 โมงเช้า ... รถไฟเกือบถึง Paris แล้ว
เจ้าหน้าที่เอา Passport มาคืน
ตอนแรกนึกว่าจะมีการ Stamp ตราเข้าประเทศฝรั่งเศส
แต่ปรากฏว่าไม่มีอะไรเลย ....

....

ถึง Paris ก็ขึ้น taxi ไปที่โรงแรมที่ได้จองไว้
ตอน ที่นั่ง taxi รู้สึกว่าคนที่นี่ขับรถแย่
อาจจะแย่กว่าที่กรุงเทพซะอีก ...
เพราะทั้งปาด แซง และจองขวางทางซะเฉย ๆ อย่างงั้นแหละ

....

เราไปถึงโรงแรมเล็ก ๆ ที่บีจองเอาไว้ให้
พรุ่งนี้บี พี่โม และพี่อูจะมาเจอกันอีกครั้ง
พร้อมกับเพื่อนของนนท์ที่ผมยังไม่รู้จักอีก 2 คน...
ไปถึงโรงแรม 8 โมง แน่นอนว่ายัง check in ไม่ได้
เพราะเวลา check in คือ บ่าย 3 โมง
แต่ก็เก็บของไว้ที่ห้องเก็บสัมภาระ
หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว
เราก็เดินไปเรื่อย ๆ เจอ McDonald
   “กินอาหารเช้ากัน” นนท์ชวน ...
แล้วดึงมือผมเข้าไปในร้านโดยไม่รอคำตอบซักนิด
ชุดอาหารเช้าราคาถูกมากเทียบแล้วราคาประมาณ 2.5 ปอนด์เท่านั้น
ให้เยอะมาก ๆ มีชา น้ำส้ม ชุด pancake และโยเกิร์ต
“อิ่มมาก”

หลังจากนั้นเราก็ซื้อตั๋ว Metro เพื่อนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมือง
ลงจาก Metro ก็เดินเรื่อยเปื่อย .... ไม่รู้จุดหมาย
เพราะไม่ได้เตรียมตัวว่าจะมาเที่ยวเองแบบนี้
รู้จัก Paris อยู่ไม่กี่ที่ ... หอไอเฟล ประตูชัย และ พิพิธภัณฑ์ลูฟ
แต่เราก็ยังหยิ่งนะไม่ซื้อหนังสือคู่มือท่องเที่ยว  ...
หยิบแผนที่ attraction มาอันเดียว ... เป็นรูปการ์ตูนซะด้วย
แต่อย่างน้อยก็มีอะไรมากกว่าที่เรารู้กันแหละ
   “.. ‘เพื่อน’ จะพาเพื่อนเที่ยวเอง ... ‘นนท์ทัวร์’ … รู้จักเปล่า” นนท์หันมาพูดยิ้ม ๆ
             “เดินไปเรื่อย ๆ เห็นอะไรสวยก็หยุดถ่ายรูปก็แล้วกัน”
นนท์ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นหัวหน้าทัวร์บอก ... ถ้าทัวร์จริง ๆ เป็นแบบนี้ลูกทัวร์คงด่ากันน่าดู

เราเดินเลียบเลาะเรื่อย ๆ ไปตามแม่น้ำแซน ... แล้วผมก็สะดุดตากับสิ่งก่อสร้างหน้าตาเหมือนโบสถ์
            “อันโน้นอะไรน่ะ ... สวยมาก” ผมชี้
            “ไปดูกัน” นนท์หันมาชวน ... ทำตาม concept ของ ‘นนท์ทัวร์’ เป๊ะ
คือ ‘เห็นที่ไหนสวยก็เดินเข้าไปถ่ายรูป’ แล้วค่อยไปอ่านชื่อและประวัติเอาเอง
            “เอ่อ ... นนท์ครับ ... ไม่รู้ว่าการเที่ยวแบนนี้มันถูกต้องรึเปล่า ...
เราไปแวะหาคู่มือซักเล่มแล้วอ่านดีมั๊ยอะ”
   “Learning by Doing” นนท์หันมาขยิบตาให้ ...

เดินไปจนถึง ... ก็เลยรู้ว่า คือ ‘Notre Dame de Paris’
หรือ ‘มหาวิหารนอร์ทเธอดาม’ นั่นเอง คำว่า Notre Dame หมายความว่า ‘Our Lady’
‘มหาวิหารนอร์ทเธอดาม’ เป็นมหาวิหารที่มีความเก่าแก่และสวยงามที่สุดในปารีส
เป็นสถาปัตยกรรมแบบ French Gothic

พวกเราเดินเข้าไปชมภายในมหาวิหาร
เห็นผนังด้านบน ... ใกล้กับหลังคา .... มีกระจกสีรุ้งเจ็ดสี
ทำหน้าที่กรองแสงที่สาดส่องเข้ามาให้สลัว ...
แต่แปลกที่กลับทำให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวาเหลือเกิน

หลังจากชื่นชมความงามของมหาวิหารแล้วเราก็เดินเล่นเรื่อยเปื่อย
ขอบอกว่าเดินเรื่อยเปื่อยจริง ๆ เมื่อยก็หยุดนั่งจิบชาและชิมเค้กที่ café ในสวนสาธารณะ
ชมธรรมชาติดื่มด่ำกับบรรยากาศของ Paris
ตอนนี้ยังเป็นตอนกลางวันแดดแรงมาก 
แต่ไม่ร้อน ... มีลมเย็น ๆ พัดมาให้ยะเยือกบ้างเป็นบางเวลา
เลยยังไม่เห็นความโรแมนติคของ Paris ซักเท่าไหร่

เดินไปเรื่อยก็พบกับ Louvre โดยบังเอิญ
แวะเข้าไปดู ...
พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ หรือ Musee du Louvre
ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน
เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
และเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะ
ที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก
เช่น ภาพเขียนโมนาลิซาของเลโอนาร์โด ดาวินชี
               “ใหญ่มากเลยเนอะ” ผมบอกนนท์
               “ถ้าจะดูทั้งหมดคงใช้เวลาเป็นวัน” นนท์หันมาพูด
                “เพื่อนของเพื่อนน่ะเค้ามาดูตั้ง 5 วันแหนะถึงจะหมด”
                “5 วันเลยเหรอ ...” นนท์ทำเสียงตกใจผมพยักหน้า
               “เพื่อนคงดูไม่ถึง 5 วันหรอก ... ” ผมพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะพูดต่อว่า
               “3 วันก็พอ ... ไม่รู้จักงานศิลปะมากจนต้องอยู่นานขนาดนั้น”
หัวหน้าทัวร์หันมามองหน้าทำตาโต ... ผมเลยตอบกลับไปยิ้ม ๆ
             “ล้อเล่นน่ะ ... ขอดูที่สำคัญ ๆ ก็พอ ... ไว้ค่อยมาใหม่ ... คนเดียวก็ได้”
ผมย้ำคำว่า “คนเดียว
   “ไม่ได้ ... ถ้าจะมาอีก ... ‘เพื่อน’ จะมาด้วย ... เข้าใจมั๊ย
ห้ามมา ‘คนเดียว’” หัวหน้าทัวร์สั่งเสียงเฉียบขาดและย้ำคำว่า “คนเดียว
   “คร๊าบ … แหม ... ล้อเล่นก็ไม่ได้”
   “ไม่ได้ ... เข้าใจมั๊ย” นนท์ยังทำเสียงดุ
   “ไม่ล้อเล่นแล้ว .... คร๊าบ”
             “ดีมาก ... ว่าง่าย ๆ โตเร็ว ๆ ” นนท์เอื้อมมือมาลูบหัวผมเบา ๆ
             “งั้นไปดูโมนาลิซ่าก่อนเถอะ” ผมบอกพร้อมกับกางแผนที่ของพิพิธภัณฑ์


Louvre กว้างมากจริง ๆ ผมกับนนท์เดินดูงานศิลปะที่มีชื่อเสียงที่เราพอจะรู้จัก ...
ได้เห็นชิ้นงานของจริง ๆ แล้วรู้สึกอิ่มใจยังไงก็ไม่รู้ ...
มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

ออกจาก Louvre ก็เย็นมากแล้ว
พระอาทิตย์กำลังจะตกเราเดินเรื่อยเปื่อย (อีกแล้ว) ไปจนถึงถนน Champs Elysees
และถ่ายรูปกับประตูชัย หรือ Arc de triomphe de l'Étoile   
‘ประตูชัย’ ตั้งอยู่กลาง Charles de Gaulle หรือ จัตุรัสแห่งดวงดาว (Place de l'Étoile)
อยู่ทางทิศตะวันตกของ Champs Elysees
และ ‘ประตูชัย’ เป็นส่วนหนึ่งของ "แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์" (L'Axe historique)
ซึ่งเป็นถนนจากสวนของ Louvre ไปยังชานเมืองปารีส

ถ่ายรูปและซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแถว ๆ  Champs Elysees แล้ว
ก็ค่ำแล้ว ... เราแวะทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารเล็ก ๆ  น่ารักบรรยากาศดี
ทานอาหารเสร็จ ... ก็กลับโรงแรม
นั่ง Metro กลับไปยังสถานีเมื่อเช้าที่ใกล้โรงแรมมากที่สุด

เหนื่อยมาก ....

ระหว่างทางที่เดินจาก Metro  กลับไปที่โรงแรม
... เราต้องเดินเลาะจากถนนใหญ่เข้าสู่ถนนเส้นเล็ก ๆ
ตอนนี้ฝนกำลังตกปรอย ๆ ...
นนท์หันมามองหน้าแล้วจับมือผมเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า
   “ รู้แล้วล่ะ ... ทำไมที่นี่ ... ถึงเป็นเมืองที่โรแมนติคที่สุดในโลก”
ผมมองหน้านนท์ .... เชิงถาม ... นนท์พูดต่อเบา ๆ ว่า
   “ เพราะตั้งแต่มาที่นี่ก็เห็นคนจูบกันเยอะมาก ๆ ”
   “อือ จริงด้วย ...” ผมหันไปมองรอบ ๆ ตัว ...

อาจเป็นเพราะเวลาที่ค่ำมากแล้ว
ไฟบนท่องถนนวิบวับไปทั่ว ... ทำให้บรรยากาศบนถนนเส้นเล็ก ๆ สายนี้
ดูสงบและอบอุ่นเหลือเกิน ...
หรืออาจเป็นเพราะการที่มีคนจูบกัน
ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ ตัวเรามีแต่กลิ่นไอของความรัก

เราเดินไปหยุดที่เสาต้นหนึ่ง ... นนท์มองหน้าผมแล้วดึงตัวเข้าไปกอดหลวม ๆ
ผมกอดตอบนนท์ ... แล้วจูบแก้มนนท์เร็ว ๆ ทีนึง
คนถูกจูบยิ้มนิดนึงก่อนก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบา
เนิ่นนาน ...

ถ้ามีคนเดินผ่านไปมาบนถนนเส้นนั้น ... ในวันนั้น

... คงรู้สึกเหมือนผมกับนนท์ ....

ที่รู้สึกว่าถนนสายนี้ “โรแมนติค” เป็นบ้าเลย  







หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 28-02-2009 13:14:24
^

^

 :z13: คุณเพื่อน

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด

มาแล้วววววววววววว


ไปอ่านก่อนนนนนนนนน




โรแมนติคจริงๆด้วย :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 28-02-2009 13:23:30
ไม่ต้องเดินผ่านแค่อ่านก็โรแมนติคแล้ว สมกับที่รอคอย  :impress2:


อยากไปเดินมั่งขอไปหาคนไปด้วยก่อนนะคะ :really2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 28-02-2009 13:29:44
โรแมนติคมากกกกกกกกกกกกกกกกก

อยากบอกคุณเพื่อนว่า Je t'aime bien et merci beaucoup
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 28-02-2009 13:38:19
คุณเพื่อนมาแว้วววว    :กอด1:

ว้าว ~! ว้าว~!   เที่ยวกันสองคน ... มีจุ๊บ ๆ ... โรแมนติกจัง   :-[

ขอบคุณนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: ranny ที่ 28-02-2009 13:47:50
 :กอด1:

คิดถึงคุณเพื่อนกับนนท์มากมาย
 :pig4:ที่มาต่อให้ในช่วงเวลาที่กำลังขาดน้ำตาล

ปารีสโรแมนติกเนอะคุณเพื่อนเนอะ :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 28-02-2009 13:57:00
 :pig4: ที่มาต่อนะคุนเพื่อน
รอบนี้ โรแมนติกซะ :o8: อิจฉา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: Ferfa ที่ 28-02-2009 14:19:33
 :sad4:อยากไปมั่ง แต่รอให้หาคนไปเดินด้วยได้ก่อนนะคะ

เอ๊ะหรือว่าจะไปหาเอาที่นั่นดีกว่านะ o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: ||WiTHOuT_YoU|| ที่ 28-02-2009 14:38:50
 :-[ :-[ :-[

โรแมนติกเจงๆ ทำคนหลายคนแถวนี้อิจฉานะเนี่ยคุณเพื่อน

อยากไปเที่ยวกะเค้ามั้ง แต่คงได้ไปคนเดียว เพราะยังไม่มีคนๆนั้นไปด้วย

 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: GajonG ที่ 28-02-2009 16:08:46
กริ๊สสสส   :-[

 :m1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 28-02-2009 16:39:21
 :-[ หวานซะ จุ๊บๆด้วย อยากไปเดินอีกจังเลย
ห้องน้ำสาธารณะที่ Paris
(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/WC.jpg)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: snow_queen ที่ 28-02-2009 17:05:35
 :L2: น่ารักกันจัง ทั้งเพื่อน&นนท์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 28-02-2009 18:07:41
คุณเพื่อนมาแล้ว มาพร้อมความน่ารัก+ความโรแมนติกของเพื่อนกับเพื่อนนนท์ :-[

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 28-02-2009 21:43:55
เย้ๆๆ ได้อ่านแล้วดีใจ  :o8: :-[ :impress2:
สดใส่ แช่มชื่นหัวใจเป็นที่สุด
เรื่องนี้รอคอยอ่ะ เพราะว่าคุณเพื่อนเล่าแบบค่อยเป็นค่อยไป แล้วมีเสน่ห์
อย่าหายไปนานอีกนะ หรือว่ามันแต่ไปเที่ยวกับ 'เพื่อนนนท์'

ตอนนี้ก็หวานซะ โรแมนซ์สุดๆ ชอบบบบบบ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: Sith ที่ 28-02-2009 21:54:27
เอาไปทำ MV ได้เยยนะเนี่ย  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 28-02-2009 23:30:06
 :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 28-02-2009 23:43:31
น่ารักจังเลย :L2: โรแมนติคจริงๆด้วย

คุณเพื่อนมีสอบตั้งใจน้า สอบเส็จแล้วค่อยมาต่อก็ได้  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 01-03-2009 01:35:50
น่ารัก  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 01-03-2009 03:30:26
  คุณเพื่อนมาแล้ว ปารีส Je t'aime ด้วยคน
กรีสสสสสสสน่ารักอ่ะ

แล้ว 'นนท์ทัวร์' จองได้ที่ไหนอ่ะ หรือรับลูกทัวร์แค่คนเดียว คือ คุณเพื่อนอ่ะ  :o8:
รอตอนที่ 19 อย่างใจจดใจจ่อ ถ้าติดสอบ ก้อรอได้จ้ะ แวะมาทักทายกันบ้างอะไรบ้างนะ เป็นห่วงจ้ะ

 :กอด1: คุณเพื่อน  :กอด1: นนท์

แวะไปฉกภาพสวยๆ มาด้วย ไม่ครบ มาให้พอเป็นกระสัยค่ะ คงรู้จักกันแล้วแหละแต่ก้ออยากลง อิอิ

(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/paris_view.jpg)
Le tour Eiffel หอไอเฟล

(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/arc-de-triumphe-ga.jpg)
L'Arc de Triomphe ประตูชัย

(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/2-juillet-06-seine.jpg)
La Seine แม่น้ำแซน

(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/paris08.jpg)
Musee du Louvre พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (สองคนนั่น ใช่คุณเพื่อนกะหัวหน้าทัวร์รึป่าวอ่ะ)

(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/notre-dame_thumbnail.jpg)
Notre Dame de Paris โบสถ์นอร์ทเทรอ ดาม

(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/rainingparis.jpg)
ถนนในปารีสในคืนที่ฝนตก

และ สิ่งที่ทำให้ปารีสเป็นเมืองโรแมนติิค

(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/baiser-kiss-poster.jpg)
Le baiser = The Kiss  :o8:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 01-03-2009 17:04:43


เข้ามากรี้ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้กับรูป

สวยมากๆๆๆๆๆๆ

ขอยืนยันว่า  สถานที่จริงสวยมากๆ

โดยเฉพาะ  ภาพสุดท้าย  ชอบๆๆๆๆๆๆๆ


อิเจ้  กะเทยชราภาพ  ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 01-03-2009 21:05:25
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกจังเลย

ขอบคุณที่มาต่อจ๊ะ

เรื่องสอบสู้ ๆ นะจ๊ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 01-03-2009 21:14:34
อ่านทันแล้วคร้าบบบ


 :mc4:

อ่านไปอ่านมา

รู้สึกว่า

"เฮ้ยย อยากไปทัวร์ยุโรปกะแฟนมั่ง"


(แต่คงต้องหาแฟนให้ได้ก่อนน่ะ ต่อไปก็หาตังค์ เหอะๆ)

ผมว่านะ

ไม่ใช่แค่ถนนสายนั้นหรอก

เรื่องนี้ ก็ "โรแมนติกเป็นบ้าเลย" เหมือนกัน

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 02-03-2009 09:32:49
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คุณเพื่อนมาต่อแว้ววววววว

รูปสวยมาก
แล้วคุณเพื่อนก้อน่ารักมากเช่นกัน

 :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 02-03-2009 11:19:42
 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 02-03-2009 11:56:06
หวานมั่กๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: ~~GigaBYTE~~ ที่ 02-03-2009 13:53:08
ได้บรรยากาศหวานๆ + อบอุ่นในคราวเดียวกันเลย  :impress3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: pequena ที่ 03-03-2009 01:39:09
เย้ๆๆๆๆๆ  ในที่สุด คุณเพื่อนก็มาต่อแล้ว  :impress3:

โอ๊ย หวานเจี๊ยบ สมกับที่คอย
น่ารักทั้ง "หัวหน้าทัวร์" และ "ลูกทัวร์"

คุณเพื่อนบรรยายแบบง่ายๆแต่เห็นภาพตามชัดเจน

ขอบคุณ knight_king สำหรับภาพปลากอบที่สวยงามนะคะ

เฮ้อ คงต้องบอกว่า C’est très romantique   :-[

โชคดีในการสอบนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้
จะรอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: zilveria ที่ 03-03-2009 02:02:11
เข้ามาเปนสมาชิกใหม่คร้าบบบ

เพิ่งตามทัน  เรื่องน่ารักดีคับ

รออ่านต่อนะคับ  'คุณเพื่อน'
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 03-03-2009 21:44:06
เย้ๆๆๆๆๆ  ในที่สุด คุณเพื่อนก็มาต่อแล้ว  :impress3:

โอ๊ย หวานเจี๊ยบ สมกับที่คอย
น่ารักทั้ง "หัวหน้าทัวร์" และ "ลูกทัวร์"

คุณเพื่อนบรรยายแบบง่ายๆแต่เห็นภาพตามชัดเจน

ขอบคุณ knight_king สำหรับภาพปลากอบที่สวยงามนะคะ

เฮ้อ คงต้องบอกว่า C’est très romantique   :-[

โชคดีในการสอบนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้
จะรอตอนต่อไปค่ะ
^
^
ยินดีค่า

เมืองปารีส ไม่โรแมนติค เท่าคุณเพื่อนกะนนท์หรอกค่ะ :o8:

รอคุณเพื่อนต่อไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: OISHI ที่ 07-03-2009 00:20:45
โรแมนติคจังเลยอ่า :-[
เพื่อนกับ"เพื่อน"น่ารักอ่า

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 08-03-2009 01:49:05
:amen: :amen: :amen:

ขอให้คุณเพื่อนทำข้อสอบได้คะแนนดีๆ แล้วรรีบกลับมาต่อตอนต่อไปโดยเร็ว

 :amen: :amen:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 10-03-2009 21:11:04
คิดถึงคุณเพื่อน

ยังไม่มาอีกเหรอ


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 12-03-2009 00:19:51
 ฟังเพลงนี้ คิดถึงคุณเพื่อนกะนนท์นะ
(ใครแปะลิงค์เป็นช่วยหน่อยค่ะ เอาเพลงลงไม่เป็นอ่ะ)


Lucky - Jason Mraz
I'm talking to you
Across the water across the deep blue ocean
Under the open sky oh my, baby I'm trying
Boy I hear you in my dreams
I feel your whisper across the sea
I keep you with me in my heart
You make it easier when life gets hard

I'm lucky I'm in love with my best friend
Lucky to have been where I have been
Lucky to be coming home again
Oooohhhhoohhhhohhooohhooohhooohoooh

They don't know how long it takes
Waiting for a love like this
Every time we say goodbye
I wish we had one more kiss
I'll wait for you I promise you, I will

I'm lucky I'm in love with my best friend
Lucky to have been where I have been
Lucky to be coming home again
I'm lucky we're in love in every way
Lucky to have stayed where we have stayed
Lucky to be coming home someday

And so I'm sailing through the sea
To an island where we'll meet
You'll hear the music, fell the air
I'll put a flower in your hair
Though the breezes through trees
Move so pretty you're all I see
As the world keeps spinning round
You hold me right here right now

I'm lucky I'm in love with my best friend
Lucky to have been where I have been
Lucky to be coming home again
I'm lucky we're in love in every way
Lucky to have stayed where we have stayed
Lucky to be coming home someday

Ooohh ooooh oooh oooh ooh ooh ooh ooh
Ooooh ooooh oooh oooh ooh ooh ooh ooh

********************************

I think you're lucky, aren't you?  :m1:
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: nakahiro ที่ 12-03-2009 15:45:50
ตามอ่านแบบมาราธอน ตั้งแต่เมื่อวานตอนดึกๆ ยันเช้า หุหุ

คุณเพื่อนกะนนท์น่ารักจิงๆ

ขอให้คุณเพื่อนสอบเสร็จไวๆ ได้คะแนนสอบดีๆ

แล้วรีบมาต่อให้อ่านเร็วๆนะค๊า

รออยู่คะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-03-2009 12:54:52

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยศื  สอบเสร็จเร็วๆ นะคะคุณเพื่อน

เจ้สอง  :bye2:
ปล. ขา  สอบเสร็จ เขียนแบบนี้คะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: Ferfa ที่ 19-03-2009 14:58:40
คุณเพื่อนเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหมค่ะ

สอบเสร็จยังค่ะ

สู้ๆๆนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: faire ที่ 20-03-2009 21:34:39
Paris J'taime, on vous aime aussi  :o8:

Bonne chance  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 20-03-2009 23:54:46
คิดถึงเจ้าของเรื่องนี้จริง ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 22-03-2009 02:19:02
คุณเพื่อน สัปดาห์ที่ผ่านมาชีวิตยุ่งมาก งานราษฎร์ งานหลวง
ตอนนี้กลับมารอได้เหมือนเดิม



เมื่อไหร่คุณเพื่อนจะสอบเสร็จน้า คิดถึงมากมาย  


(http://i400.photobucket.com/albums/pp90/beo7580/Miss20you2022.jpg)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: zilveria ที่ 25-03-2009 00:01:40
น่านดิคับ

คุณเพื่อนหายไปไหนนานเลย


มารอค้าบบบ

 :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: knight_king ที่ 26-03-2009 23:26:37
คุณเพื่อน  จะหนึ่งเดือนแล้วนะ





 :เฮ้อ:

 :เฮ้อ:

 :เฮ้อ:



  :monkeysad:  คิดถึง มาเร็วๆ น้ า :monkeysad:   


:m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: Nichdia ที่ 28-03-2009 05:11:07
รอตอนต่อไปอยู่นะครับ

รีบมาลงไวๆนะครับ

สนุกมากเลยอ่า

อ่านตั้งแต่ตีหนึ่ง

อ่านบ้าง เล่นบ้าง จนตามทัน หุหุ  :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: zilveria ที่ 28-03-2009 22:43:59
คนแต่งหายไปไหนละค้าบบบบบบบ



 :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: SunLoveMoon ที่ 30-03-2009 14:26:39
คุณเพื่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
นานมากแล้วนะ
ได้โปรด
เห็นใจ
คนที่คิดถึง คุณเพื่อน และเพื่อน ของคุณเพื่อน บ้างไรบ้าง

กด+ ให้กำลังใจ
มาเร็วๆเน้อ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: Bg LoVe NT ที่ 30-03-2009 14:28:00
เข้ามาตามหาคุณเพื่อนด้วย

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 30-03-2009 22:21:17
มารอคุณเพื่อน

สอบเสร็จยังคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 31-03-2009 09:00:45

หายไปเลย
รอตอน 19 อยู่

ไม่ยุ่งแล้วรีบมานะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 31-03-2009 13:24:44
เข้ามาบอกว่า...
กฏข้อที่ 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณถูกแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด  คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกัน

การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน
แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต
และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น

ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ    เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ
ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง

***ส่วนการพูดคุยนั้น  ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์
ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย
ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่ห้องอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ***


ต่อไปนี้จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของดิฉันในฐานะโมฯ นะคะ
เพื่อธำรงไว้ซึ่งกฏระเบียบของเล้าฯ  ไม่ได้ทำไปเพราะสาเหตุส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น
ถ้าใครไม่สบายใจได้การปฏิบัติหน้าของดิฉัน  เชิญตั้งกระทู้เพื่อสอบถามได้ที่ "ห้องพูดคุยทั่วไป" นะคะ
เพราะห้องนั้นเรามีไว้ให้พูดคุย ซักถาม แสดงความคิดเห็น-คิดถึง ต่อกันได้อย่างอิสระ
ผิดจากห้องนี้ซึ่งเป็นห้องนิยายที่เปรียบไปก็คล้ายกับห้องสมุดกลายๆ
ดังนั้นหากต้องการจะพูดคุย-ไต่ถามกันก็เชิญได้ที่ห้องพูดคุยนะคะ
แล้วดิฉันจะได้เรียนชี้แจงเป็นรายบุคคล และถี่ถ้วนนะคะ
หวังว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากผู้อ่าน  แฟนคลับ  นักโพสต์ และนักเขียน นะคะ


โพสต์ได้  เล่นได้  แต่อย่าพากระทู้ออกทะเลก็พอ
สงสารคนที่จะเข้ามาอ่านนิยายบ้าง  หาเนื้อนิยายอ่านยากมากกกกกกกกกกกกกกกกก
เราเตือนคุณแล้วนะคะ
เจ้สอง  กะเทยอาวุโส  อิอิ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: Nichdia ที่ 31-03-2009 17:50:57
ที่ลอนดอนเปนไงมั่งครับ

รีบมาอัพต่อนะครับ

เปนกำลังใจให้  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: originalprincessaae ที่ 31-03-2009 22:08:15
รีบๆมาอัฟนร้าอ่านแล้วอยากมีแฟนแต่มันหาไม่ได้T^T
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: minilove ที่ 02-04-2009 21:33:22
 :กอด1:
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: popper ที่ 11-04-2009 21:04:32
อ๊า

รอพี่เพื่อนเสมอค่ะ

คิดถึงน่ะค้ะ

เทคเเคร์ค่ะ

 :n1: :n1: :n1: :n1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: pequena ที่ 11-04-2009 21:42:54
คุณเพื่อนคะ หายไปนานมากกกกกก   
ไม่ทราบสอบเสร็จแล้วหรือยัง
หรือยังยุ่งๆ เป็นห่วงค่ะ     :L1:
อยากบอกว่าคิดถึงมากๆเลย   
คิดถึงทั้งคุณเพื่อน และ "เพื่อนของคุณเพื่อน" จังค่ะ    :monkeysad:
ฝากบอก"เพื่อนของคุณเพื่อน" ด้วยค่ะ   

ยังรอคุณเพื่อนมาเล่าต่อนะค๊า
   :n1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 18 : Paris Je t'aime)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 15-04-2009 17:21:20
คิดถึงคุณเพื่อนจังเลยค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 24-04-2009 23:10:10
สวัสดีทุกคนนนนน ...
1. ขอโทษที่หายไปนาน
2. ขอบคุณที่ยังคิดถึงกัน
3. ขอให้ทุกคนมีความสงบสุข
4. ขอให้คนไทยรักกัน
ป.ล. ใครที่ติดต่อคุณ knight_king อยู่ ... รบกวนส่งเรื่องนี้ update ให้ คุณ knight_king ด้วย ...



ตอนที่ 19


นนท์โอบบ่าผมไว้หลวม ๆ ระหว่างที่เราเดินกลับโรงแรมด้วยกัน
เมื่อเดินมาถึงหน้าโรงแรม
มีรถยนต์คันหนึ่งขับมาปาดหน้า
เกือบเฉี่ยวผมกับนนท์ ...
นนท์โวยวายลั่น ... แถมด้วยคำด่าเป็นภาษาไทย
แล้วเดินตรงไปที่รถที่จอดสนิทด้วยท่าทางเอาเรื่องเต็มที่
ผมดึงแขนนนท์ไว้ ...
   “’เพื่อน’ ... อย่า” ผมพูดสั้น ๆ แค่นั้น ... แต่ไม่ทันคนตัวโต
ที่เดินก้าวยาว ๆ อย่างเอาเรื่องไปถึงรถคันนั้นแล้ว
คนที่นั่งในรถเปิดประตูก้าวออกมา ...
แล้วเราก็ต้องตกใจ ... เพราะคนที่ก้าวลงมาจากรถ ....
เป็น .... พี่อูกับพี่โม่ ...
คนตัวโตใจร้อนยัง ‘แกล้ง’ ทำท่าขึงขังไม่เลิก
   “เอ้า ... ต่อยเลยสิ” พี่อูคนสวยของผมท้าพร้อมยื่นหน้าให้
   “………..” นนท์ไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้ม ๆ เดินไปทักพี่โม่แทน ...
แล้วบ่นเบา ๆ ว่า
   “ไม่ทำร้ายผู้หญิงคร๊าบ”
   “ทำไมเปลี่ยนรถล่ะพี่” ผมถาม “จำไม่ได้ ... เกือบมีเรื่องกันแล้ว”   
             “คันนั้น ... บีขับ .... ซักพักคงมาถึงน่ะ”
ผมพยักหน้า ...
   “หนึ่งกับบอยก็มาคันโน้นแหละ ...” พี่อูหันไปบอกกับนนท์
   “ไหนว่าจะมาพรุ่งนี้ไงพี่” นนท์ถามพี่อู
   “แผนมันเปลี่ยนกันได้ ...” พี่อูพูด
พลางเปิดหลังรถหยิบกระเป๋าของตัวเองและของพี่โม่ลงมาด้วย
ผมสะกิดนนท์ให้ช่วย wonder woman คนเก่งของผม
พี่อูเป็นผู้หญิงที่ man มาก ๆ ไม่เคยบ่น ไม่เคยเกี่ยง
และไม่เคยขอความช่วยเหลือ แต่ก็มีมุมอ่อนโยน น่ารัก
และเป็นคนที่คอยเอาใจใส่คนรอบข้างดีมาก ๆ  ...

          ‘พี่โม่ .. โชคดีชะมัด ... ที่ได้แฟนแบบนี้’      อันนี้ผมคิดในใจ

   “มองไรอะ” นนท์สะกิดถาม
ในมือยังถือกระเป๋า 2 ใบที่ดึงมาจากมือพี่อูเมื่อครู่
พี่อูกับพี่โม่เดินเข้าไปใน Lobby ของโรงแรมแล้ว ...
   “หือ ... เปล่าไม่มีไร” ผมหันไปมองหน้านนท์ ...
นนท์ทำหน้ายิ้ม ๆ ... สะกิดผมอีกรอบ ... แล้วพูดว่า ...
   “เค้ามีแฟนแล้วนะ ... เลิกหวังซะเถอะ” ทำหน้าทะเล้นล้อเลียน ...
   “เปล่า ... ไม่ได้คิดอะไร” ผมขึ้นเสียงสูง ... ปฏิเสธพัลวัน
(ทำไมต้องปฏิเสธพัลวัน ... พิรุธนะเนี่ย ... แต่ผมไม่ได้คิดไรนะ ... แค่ ‘ปลื้ม’ เฉย ๆ )
   “แล้วไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ” นนท์ยังคงแกล้งผมไม่เลิก
             “เว่อร์แระ ... ใครหน้าแดง ... อย่า .... อย่ามั่ว” ผมพูดพลางก้มหน้า
             “แหนะ ๆ หน้าแดงอีกแระ ... เอ้า ... แดงถึงหูแล้วนั่น”
             “ ‘เพื่อน’ ... อย่าล้อเล่นแบบนี้ ... เพื่อนไม่ชอบ” ผมทำเสียงดุแกล้งทำเป็นโกรธซะเลย
            “โหย ... โกรธแล้ว โกรธแล้ว กลัวจังเลย ...” นนท์ยังยั่ว (โทสะ) ไม่เลิก
ผมมองหน้านนท์นิ่ง ... ทำท่าโกรธจริงจัง
นนท์ยิ้ม ... เดินมาใกล้ ... เอียงไหล่มากระแทกเบา ๆ
แล้วพูดลอย ๆ ก่อนจะวิ่งปรู๊ดเข้าไปในโรงแรมว่า ...

           “สนใจคนแถวนี้ดีกว่านะ ... ยังไม่มีแฟน”

   ‘ ไอ้  … ‘เพื่อน’ ....  บ้า ’ … ผมคิดในใจ ...

           ‘แล้วทำไมไม่รอคำตอบ ...’


หลังจากพี่อูกับพี่โม่ check in เรียบร้อยแล้ว
ผมกับนนท์ก็เอาเป้จากห้องที่ฝากกระเป๋า เข้ามาเก็บในห้องพัก ...
(เมื่อเช้าเรายังไม่ได้ check in)
   “พรุ่งนี้ต้องตื่นกี่โมง” ผมถามนนท์ระหว่างที่นนท์กำลังปิดประตูห้อง
นนท์ส่ายหน้า ...
   “เช้ามั๊ง ... ไม่รู้สิ … ซักพักก็คงมีคนมาบอก” พูดพลางโยนเป้ลงบนพื้น
แล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง ...
   “เหนื่อยจัง” คนตัวโตบ่นดัง ๆ พร้อมกับทำเสียงถอนใจยาว
ผมโยนเป้ลงบนพื้น ... แล้วทิ้งตัวลงบนเตียง .... ตามแบบนนท์บ้าง ... พร้อมพูดว่า
             “เหนื่อยจัง” แล้วทำเสียงถอนใจยาวเหมือนต้นแบบที่ได้ยินเมื่อครู่
แล้วหลับตา ...
คนตัวโตหันมามองหน้า ...
   “นี่เลียนแบบเหรอ ...”
   “ปล่าว ...” ผมพูด ...ยังหลับตาอยู่ ...

          ‘สบายดีเหมือนกัน การได้นอนแผ่บนเตียงแบบนี้’ ผมคิด

   “นี่เลียนแบบใช่มะ” คนตัวโตพูดเสียงดังขึ้นอีกนิด แล้วพูดต่ออีกว่า
             “อย่างงี้ต้องทำโทษซะแล้ว” พลางลุกขึ้น ... กระโดดข้ามเตียงมาเตียงข้าง ๆ
แล้วก็ลงมือ ... จั๊กกะจี๋ ...
.... แกล้งซักพักจนเหนื่อย ... เพราะโดนแกล้งกลับเหมือนกัน
หัวเราะกันจนท้องแข็ง ...
สุดท้ายต้องทำสัญญาสงบศึกชั่วคราว ...
นอนพักเหนื่อย ๆ นิ่ง ๆ  ... บนเตียงเดียวกัน
                   “อารมณ์ดีจังนะ” ผมหันไปมองหน้าคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้าง ๆ
                   “หือ ....” คนที่นอนข้างลืมตา ... หันมาจ้องหน้า ...
               “ก็หัวเราะตลอดเลย” ผมตอบยิ้มๆ
                  “มีความสุขมั๊ง” คนตอบยังจ้องตาไม่เลิก
ผมมองหน้าเชิงถาม ... เพราะยังไม่ค่อยเข้าใจกับคำตอบที่ได้รับ
                 “ก็อยู่ด้วยกันแบบนี้ไง .......
               มานี่สิ ....” พูดพลางดึงตัวผมเข้าไปใกล้
เอื้อมมืออีกข้างมาโอบไว้หลวม ๆ
                 “แบบนี้ไง “
แล้วคนพูดก็จูบเบา ๆ ที่หน้าผาก
ผมยิ้ม .. จูบกลับที่ปลายคางเบา ๆ
คนตัวโตกระชับอ้อมกอด .. แน่น
ผมเองก็ซุกเข้าไปในอ้อมอกอุ่น ๆ นั้น ... อย่างเต็มใจ
                 “หลับซะนะ ...” นนท์กระซิบที่ข้างหูเบา ๆ แล้วหลับตา 
                “ยังไม่ได้อาบน้ำเลย” ผมตอบเสียงแผ่ว
                “แล้วจะอาบเหรอ” นนท์ยังคงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู
                “อืม ...” ผมตอบเบา ๆ เพราะรู้สึกง่วงแล้ว
                “งั้นขอกอดอีกซักพักนะ .............. แล้วค่อยไปอาบ ... ด้วยกัน”
                   “อืม ...”

ผมรู้สึกง่วงมาก ... คงเพราะเพลียกับการท่องเที่ยวมาทั้งวัน
แล้วเมื่อคืนนอนบนรถไฟก็หลับไม่ค่อยสนิท
เผลอหลับไป ... นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้
.... จนได้ยินเสียงเคาะประตู

   ก๊อก ! ก๊อก ! ก๊อก !

ผมเงยหน้ามองนนท์ ... ยังคงหลับตาสนิท ... เหมือนไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู
ผมเลยลุกขึ้นไปดู ...
เห็นคนที่ยืนอยู่นอกห้องเป็นผู้ชาย 2 คน ...
แต่ไม่รู้จักว่าเป็นใคร .. รู้แต่เป็นคนเอเชียแน่ ๆ
หรือว่าเป็นเพื่อนของนนท์ที่ตามมาพร้อมกับบี
ที่พี่อูบอกว่าชื่อหนึ่งกับบอย
ผมเดินกลับไปที่เตียง
               ‘ปลุกนนท์ให้ไปดูดีกว่า ...’
สะกิดนนท์แล้วพูดเบา ๆ ว่า
               “ ‘เพื่อน’ ไปดูหน่อยสิ ... รู้จักคนที่มาเคาะประตูรึเปล่า”
   “อือ ...” นนท์ตอบรับอย่างงัวเงีย ... แต่ยังไม่ยอมลุกจากเตียง
   “กี่โมงแล้ว ...” นนท์ถามผมทั้งที่ยังหลับตาอยู่
   “ตีสามกว่าแล้ว” ผมพูด ...
หลังจากนั้นผมก็หยิบชุดนอนออกจากเป้ ... เดินเข้าไปในห้องน้ำ
ระหว่างที่อาบน้ำ ... นนท์ตะโกนบอกผมว่า
จะไปห้องของหนึ่งกับบอย
   “เดี๋ยวมานะ”

ผมออกมาจากห้องน้ำได้ซักพักแล้ว ... นนท์ก็ยังไม่กลับ
เริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาอีกครั้ง ... ตัดสินใจนอนดีกว่าไม่รอนนท์แล้ว
พรุ่งนี้จะได้มีแรงเที่ยว
ต้องไปที่ไหนก็ไม่รู้ ...

รุ่งเช้า ....

ผมตื่นขึ้นมาก็ยังไม่เห็นนนท์
รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา ...  ก็เลยรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ...
ไปเคาะห้องพี่อูกับพี่โม่
คนที่มาเปิดเป็น ... บี
   “Morning จ๊ะ” บีพูดเสียงหวาน ... คงเห็นผมทำหน้างงเลยขยายความต่อ
   “เรานอนห้องเดียวกับพี่อูน่ะ … พี่โม่ไปนอนห้องหนึ่งกับบอย”
ผมพยักหน้า ...
   “มาถึงกี่โมงล่ะเมื่อคืน” ผมถามบี
   “เกือบตีสามแหละ ... พอดีแวะไปหาเพื่อนน่ะ
... ก็เลยดึกไปหน่อย” บีตอบ
   “มาแต่เช้าเลยนะ”  พี่อูออกมาจากห้องน้ำมาพอดี
   “แล้วนนท์ล่ะ” พี่อูถาม
   “ก็หาอยู่เหมือนกัน”  ผมตอบ
            “อยู่ที่ห้องบอยกับหนึ่งมั๊ง” บีพูด “ไปตามหนุ่ม ๆ ไปกิน breakfast กันมั๊ย”
แล้วเราสามคนก็เดินไปที่ห้องของหนึ่งกับบอย
หลังจากที่เคาะประตูห้องชายหนุ่ม ... คนที่มาเปิดเป็นพี่โม่
พี่โม่พอเจอหน้าพี่อูก็ทำท่าโผเข้ากอด ...
   “คิดถึง .... ไม่เจอกันตั้ง 4 ชั่วโมง”
พวกเราก็เลยได้หัวเราะกันแต่เช้า
   ‘น่ารักจังนะคู่นี้’ ผมคิดแล้วแอบยิ้ม
พี่โม่บอกว่า ... “เมื่อคืนคุยกันทั้งคืนเกือบไม่ได้นอน …
เจ้านนท์นอนที่นี่ด้วยนะ ... แต่เพิ่งกลับที่ห้องเมื่อกี้นี้เอง ...
อ้าว ... มาโน่นแล้ว”      
ทุกคนหันไปมองตามมือพี่โม่ที่ชี้ไปทางนนท์
   “เข้าห้องไม่ได้ ...” นนท์เดินเข้ามาใกล้แล้วพูด
โรงแรมที่เราพักมี key card ให้คนละอันเหมือนกันโรงแรมในเมืองไทยนั่นแหละ ...
ตอนที่นนท์ออกมาจากห้องเมื่อคืน ... นนท์เอา key card ติดตัวไปด้วยอันหนึ่ง
แต่มันใช้การไม่ได้
   “เอ้า ... เพื่อน ... ไปเปิดห้องให้นนท์หน่อย” พี่อูพูด
ทุกคนหัวเราะตลกนนท์ที่เปิดห้องไม่ได้ ... บางคนแซวว่าเปิดไม่เป็นรึเปล่า

ระหว่างที่เดินกลับไปที่ห้อง …
   “ตอนที่กลับไปที่ห้องรอบแรกเข้าไม่ได้ … เคาะประตูเพื่อนก็ไม่ได้ยิน
... คงยังอาบน้ำไม่เสร็จ ... ก็เลยไปคุยที่ห้องหนึ่งกับบอยซะนานเลย
กะว่ากลับไปเพื่อนคงอาบน้ำเสร็จแล้ว … เคาะห้อง ... เพื่อนก็ไม่ได้ยินอีก”
เซ็งเลย ... คิดว่า card อันนี้คงเสียมั๊ง” นนท์พูดพลางชู card ที่อยู่ในมือ
   “เปิดไม่เป็นรึเปล่า ...” ผมแซวนนท์
   “มันเสียจริง ๆ ” นนท์ยืนยัน
   “แต่ประตูที่นี่มันเปิดยากนะ” ผมยังไม่ค่อยเชื่อว่า card จะเสีย
   “เพื่อนไม่เชื่อเพื่อนเหรอ”
             “เปล่า” ผมพูดยิ้ม ๆ (... แสดงว่าไม่เชื่อนั่นแหละ) “ต้องลองดูใหม่อีกที”
แล้วนนท์ก็พูดขึ้นว่า
              “ถ้า card เพื่อนเสียจริง ๆ เพื่อนจะว่ายังไง”
               “ก็ไม่ว่ายังไง ... แต่เพื่อนว่าเพื่อนเปิดไม่เป็นต่างหาก”
เราต่อล้อต่อเถียงกันเหมือนเด็กทะเลาะกัน ... ก็แค่รู้สึกว่าได้แกล้งนนท์
แบบนี้สนุกดีนี่นา
              “card มันเสียจริง ๆ” นนท์ยังไม่ยอมแพ้
             “มั๊ง ...” ผมก็ยังไม่เลิกแกล้ง
              “ถ้าเสียจริง ๆ ล่ะ” นนท์พูดเสียงเข้ม
            “ไม่เสียหรอก” ผมพูด ... รู้สึกสนุกดีที่ได้แกล้งนนท์แบบนี้
             “ถ้ามันเสียจริง ๆ ถือว่าเพื่อนแพ้นะ”
             “ทำไมต้องถือว่าแพ้” อ้าว ... เกี่ยวอะไรกันเนี่ย
            “ก็เพื่อนไม่เชื่อเพื่อน” คนตัวโตยังหาเรื่องต่อได้อีก
            “เพื่อนนี่งอแงชะมัด ... ง่วงอะอิ” .... ผมเริ่มสงสารแล้ว ... เลยยอมอ่อนข้อให้
            “พอง่วงก็เลยเปิดไม่ออก” .... ฮา ..... ก้ยังอยากแกล้งต่ออีกนิด
เมื่อเราเดินมาถึงห้อง
ผมใช้ card ของผมเปิดห้อง ...
ตื๊ด เปิดได้ ....
ลองปิดประตูอีกที
นนท์ใช้ card ของนนท์เปิดห้อง ...
เงียบ เปิดไม่ได้
                  “บอกแล้วว่า card เสีย” นนท์พูดน้ำเสียงยินดี ...
แล้วนนท์ก็คว้า card ของผมเอาไปเปิด ...
ตื๊ด เปิดได้ ....
               “เห็นไม๊ ... card อันนี้เสียจริง ๆ”
ลองปิดประตูอีกทีไหนลองดูใหม่ซิ ...
ผมหยิบ card ของนนท์เอามาเปิด ...
เงียบ เปิดไม่ได้
               “.... เสียจริง ๆ ด้วย” ผมหันไปมองหน้านนท์ หัวเราะแหะ แหะ
                “มานี่” นนท์ยิ้มดึงมือผมเข้าไปในห้อง
              “เพื่อนแพ้แล้ว” นนท์พูดเสียงจริงจัง
             “เพื่อนขอโทษ … card เสียจริง ๆ ... ‘เพื่อน’ ไม่ได้เปิดไม่เป็น” ผมกล่าวขอโทษนนท์
แล้วหัวเราะ แหะ แหะ
               “เพื่อนต้องโดนลงโทษ ... เพื่อนมีความผิด 3 กระทง
              หนึ่ง ... เมื่อคืน ‘เพื่อน’ เข้าห้องไม่ได้ เพราะเพื่อนไม่ยอมตื่น
              สอง .... ว่า ‘เพื่อน’ ว่าเปิดประตูไม่เป็น และ
             สาม ... ไม่ยอมเชื่อ ‘เพื่อน’ ว่า card เสีย”
             “ขอโทษแล้วไง ….” ผมพูดเสียงอ่อย ... แล้วกระโดด ... โน้มคอนนท์ลงมา ...
จูบแก้มเบา ๆ
               “น๊า ..... ขอโทษน๊า” พยายามทำน้ำเสียงสำนึกผิดสุดชีวิต

              “มานี่ .... ต้องลงโทษ ....” นนท์พูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ...

พลางลากข้อมือเข้าไปในห้องน้ำ ....
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: kiss88 ที่ 24-04-2009 23:30:27
คุณเพื่อนมาต่อแล้ว เย้ ดีใจจจัง

น่าร๊ากกกกไม่เปลี่ยนเลยคู่นี้ น่าอิจฉาชะมัด  :-[

แล้วอย่าหายไปนานอีกนะคะ เพื่อนๆคิดถึง   :impress3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 24-04-2009 23:33:19
 :-[ :-[ :-[
คุณเพื่อนมาต่อแล้วมีความสุขจังที่ได้อ่าน
เครียดๆมาเจอหวานๆ กวนๆ เข้าไปหายหมด
ขอบคุณมากนะคราบ
+1 ให้เลยชอบมาก แล้วจะรออ่านต่อ อิๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 24-04-2009 23:41:09
ยังคงความหวานไม่เปลี่ยน
อ่านไปยิ้มไป  :impress2:
ขอบคุณนะคะที่มาต่อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Ferfa ที่ 24-04-2009 23:45:57
 :serius2:

ทำไมเพื่อนทำแบบนี้

ค้างอะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 24-04-2009 23:51:52
ดีใจที่คุณเพื่อนมาต่อแล้ว แล้วยังน่ารักเหมือนเดิมอีก

แล้วคุณเพื่อนจะลงโทษเพื่อนยังไงละ  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: zilveria ที่ 25-04-2009 00:47:39
ในที่สุดเคาก้กลับมาแว้ววววววววววววว :fire:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 25-04-2009 01:01:07
เพิ่มอีกหนึ่งข้อหา โทษฐานไม่ยอมรออาบน้ำด้วยกันเมื่อคืน  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 25-04-2009 01:28:52
นึกว่าจะไม่ได้อ่านต่อซะแล้วสิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: panpan ที่ 25-04-2009 08:50:06
ยังไม่ได้อ่านตอนนี้ แต่อยาดบอกว่าคิดถึงสุดๆ นึกว่าจะไม่ได้อ่านแระ :impress3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: sooyuu ที่ 25-04-2009 09:23:05
หายไปนานมากเลย ดีใจจังในที่สุดก็กลับมา
นนท์กับเพื่อนยังน่ารักเหมือนเดิม
คงไม่หายไปนานๆ อีกน่า แบบว่า รอน๊าน นานอ่า คิดถึงม๊ากกกก
อิอิ  :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 25-04-2009 09:30:04
กลับมาแล้วคุณเพื่อน น่ารักกันเหมือนเดิมเลย :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 25-04-2009 16:26:41
กรี๊๊ดดดดด มาแล้วว


แล้วว

แล้วว


อารายยในห้องน้ำ

ค้างง
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 25-04-2009 19:47:05
อาบน้ำๆๆๆ
เพื่อนทั้งคู่ยังน่ารักไม่เปลี่ยน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: OT ที่ 25-04-2009 19:52:08
โอ๊ะ..มาแล้ววววววว

ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: pequena ที่ 25-04-2009 21:21:50
เย้ๆๆๆๆๆ คุณเพื่อนกลับมาแล้ว
คิดถึงคุณเพื่อน กะ "เพื่อนของคุณเพื่อน"ที่ซู้ด   
โอ๊ย น่ารักมากๆๆๆๆๆทั้งคู่เลย   :-[

"เพื่อน"ของคุณเพื่อนเนี่ยอ้อนน่าดูเหมือนกันนะ
เวลาที่สองคนอยู่ด้วยกัน สุดจะน่ารัก    :n1:
สมกับที่ตั้งตารอมานาน  หวานมากกกกกกกกกกก
แล้วมาต่อนะคะ ยังรอเสมอ
ฝากความคิดถึงไปให้"เพื่อน"ของคุณเพื่อนด้วยน๊า  :L2:

ส่วนเรื่องของคุณ Knight_king ได้จัดการ forward ไปให้แล้ว
จะ update ให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 26-04-2009 12:11:19
คุณเพื่อนหายไปนานมาก  :serius2: แต่ก็กลับมาแบบหวาน  :impress2: ให้อภัย
แต่ว่านนท์ลากเพื่อนเข้าห้องน้ำด้วยเนี่ย อยากไปดูในห้องน้อยจัง  :laugh: เค้าทำไรกันน๊า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Nichdia ที่ 26-04-2009 13:08:32
เย่ เย้ คุณเพื่อนมาอัพต่อแล้ว คิดถึงมากๆเลยนะคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 26-04-2009 20:57:14
คุณเพื่อนกับนนท์กลับมาแล้ว โย่ว โย่ว


หวานกันจังเล้ย  อิอิ  นนท์น่ารักจังเนอะ 


รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 27-04-2009 05:20:20
 :serius2: แล้วไงเข้าห้องน้ำแล้วไงต่อ มาต่อเลยเพื่อน
รอเป็นชาติเลย ค้างอีกแล้วโว๊ย :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: faire ที่ 27-04-2009 05:27:40
คุณเพื่อนกลับมาแล้วววววว  o13

ยังน่ารักมากๆๆๆๆเหมือนเดิม

เข้าห้องน้ำไปทำอะไรกันน้อ  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 27-04-2009 09:58:08
เย้ คุณเพื่อนมาแล้ว

ขำเพื่อนที่เข้าห้องนอนคุณเพื่อนไม่ได้

งานนี้โดนลงโทษเลย

ว่าแต่โดนไรหรอ  คริๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 05-05-2009 21:10:59
แวะมาเยี่ยม และรออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: minilove ที่ 11-05-2009 17:10:30
ตั้งกล้องในห้องน้ำด้วยความไว :interest:

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Nichdia ที่ 20-05-2009 00:10:42
แวะมาดันเรื่องนี้

ยังรออยู่นะคับ คุณเพื่อน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 20-05-2009 15:37:09
แวะมาเยี่ยม

และจะรอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: ducky fan ที่ 29-05-2009 22:13:46
เรื่องเล่าจากคุณเพื่อน  น่ารักน่าติดตามมาก....อ่านไปยิ้มไปอ่ะ 

แอบหลงรักเพื่อนของคุณเพื่อนได้ป่าว... :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ตอนที่ 19 : Paris Je t'aime ตอนที่ 2) (24/04/2009)
เริ่มหัวข้อโดย: Nichdia ที่ 03-06-2009 01:14:43
แวะมาดันให้เรื่องนี้คับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณเพื่อน ที่ 13-06-2009 10:06:54
ถึงคนอ่านที่น่ารักทุกคน ...


ขอโทษที่ต้องมาโพสข้อความทำร้ายจิตใจคนอ่านหลาย ๆ คน

เนื่องจากตอนนี้ติดภารกิจสำคัญ

ซึ่งทำให้ไม่อาจจะสานต่อเรื่องราวจนจบได้

ขอโทษที่ไม่รับผิดชอบและต้องปล่อยเรื่องให้ค้างคา

ไม่รู้จะกล่าวขอโทษยังไงถึงจะเพียงพอ ... และสาสม


... นึกย้อนไปไม่น่ามาเขียนเลย ... ถ้ารู้ว่าจะเขียนไม่จบ

ความรู้สึกตอนนั้น ... อยากแบ่งปันความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นก็เท่านั้น

ความรู้สึกที่นึกถึงทีไรก็อมยิ้มทุกที



ชีวิตตอนนี้ต้องเจอกับสิ่งที่ต้องเลือก ...

และก็ได้เลือกแล้วว่า ... ต้องไปทำ research ที่ประเทศโลกที่สาม

ประเทศที่ในเมืองใหญ่มีความสะดวกสบายอยู่บ้าง

แต่ต้องไปในที่กันดาร ... ไม่ได้มีความสะดวกสบายอะไรเลย

(ช่วงที่หายไปคือไป servey มาหนึ่งเดือน)

ต้องนั่งรถฝุ่นแดง ๆ เป็นวัน ๆ เพื่อเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ

ที่แม้แต่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ... แหล่งน้ำก็แทบจะไม่พอเพียงให้ใช้

เนื่องจากองค์กรระหว่างประเทศแห่งหนึ่งที่ได้ติดต่อไว้เห็นความสำคัญของ

research ที่เสนอไปและคิดว่าจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้

ก็เลยได้โอกาสที่จะต้องไป ...

2 ปี .... จะว่าไปก็ไม่นาน ...


สุดท้ายหวังว่าจะเป็นกำลังใจให้กัน ... ตลอดไป

ในเมื่อในอนาคตไม่รู้ว่าจะได้มาเขียนต่ออีกหรือไม่ ... ขอสรุปเรื่องราวให้ฟังเป็นข้อ ๆ


1. นนท์กับเพื่อน ... เข้า U. เพื่อเรียนโทคนละที่กัน ... ห่างกันนั่งรถไฟราว 4 ชั่วโมง


2. ช่วงที่เรียนโท ... นนท์กับเพื่อนก็ยังคงคุยกันและไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ


3. หลังจากจบโท ... นนท์กลับเมืองไทย ... ส่วนเพื่อนเรียน PhD. อยู่ที่ U. เดิม


4. นนท์เข้าทำงานที่บริษัทของอา ... และถูกส่งไปประจำที่อเมริกา


5. เพื่อนเรียน PhD. ตอนนี้ได้ 2 ปีแล้ว และกำลังจะไปทำ research ที่ประเทศโลกที่สามเป็นเวลา 2 ปี


6. นนท์กับเพื่อนไม่เคยมีอะไรกันถึงขั้นเสียเลือดเนื้อ ... เคยแต่เกือบ ๆ ... เท่านั้น


7. ปัจจุบัน ... นนท์มีแฟนแล้ว ... เป็นผู้หญิง ...


8. ส่วนเพื่อน ... ก็มีแฟนแล้ว ... เป็นผู้หญิงที่น่ารักที่สุดในโลก ... คนที่ทำให้รู้สึกว่า


"ไม่ว่าชีวิตจะเคยเจอเรื่องเลวร้ายมาแค่ไหน ... แค่ได้เจอเธอคนนี้ ... รู้สึกว่าชีวิตช่างโชคดีที่สุด"


รักเธอนะ ... (ขอโทษ ... แอบหวานเล็กน้อย ... ความรู้สึกมันล้นออกมาเอง)


9. ชีวิตของธีร์ (ถ้ายังจำได้) ... ชีวิตมีแต่ ... งาน งาน งาน งาน และงาน ... และธีร์กับเพื่อนยังคงติดต่อกันเสมอ


10. สุดท้ายยอมรับว่าขณะนั้น .... ช่วงเวลาดี ๆ ของเพื่อนกับนนท์ ... มีอยู่จริง ๆ


เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นสุดแสนน่ารัก ... so real but nice ... ชีวิตที่เหมือนนิยาย ....

ความรักของเพื่อนกับนนท์เป็นความรักที่ไม่มีเพศ ... รู้แต่ว่า ... รู้สึก "รัก" คน ๆ นี้เหลือเกินเท่านั้น

เคยอ่านเจอที่หนึ่ง (ขอโทษที่จำที่มาไม่ได้เลยไม่ได้ให้เครดิต)


ความรักไม่มีเพศ ... คนต่างหากที่ไปแบ่งเพศให้ความรัก

...


รักทุกคนเสมอ


ถ้ามีโอกาสหวังว่าจะได้เขียนเรื่องราวต่อให้จบ


TAKE CARE ...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 13-06-2009 10:42:15
ชีวิตของคนเราก็ดำเนินต่อไปนะคะ  แต่ก็ดีใจด้วยที่คุณเพื่อนบอกว่า ช่วงเวลาดีๆ มีอยู่จริงๆ และทำให้คุณเพื่อนมีความสุขมาก คิดทีไรก็อมยิ้มทุกที

ไม่แต่งต่อเพราะไม่ว่างก็ไม่เป็นไร แค่มาสรุปให้ฟังถึงความเป็นไปของแต่ละคน  และทราบว่าคุณเพื่อนมีความสุขก็ดีแล้ว

ขออวยพรให้โชคดีในการเรียน และสมหวังในความรักค่ะ   :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: zilveria ที่ 13-06-2009 10:44:46
ง่าาาา  :o12:

น่าเสียดายนะคับ ผมชอบเรื่องที่คุณเพื่อนเขียนมากอะ


ไม่น่าเลยง่าาาา    :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: Nichdia ที่ 13-06-2009 11:47:04
ขอบคุนที่มาอัพเดตข่าวคราวให้ฟังนะคับ

ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขนะคับ

โชคดีๆ รักษาสุขภาพด้วยคับ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: kuraki ที่ 13-06-2009 11:56:21
ขอบคุณ คุณเพื่อนที่ share เรื่องราวดีๆให้เราอ่านนะคะ

ถึงปัจจุับันจะไม่ใช่แบบที่เราหวัง แต่เราก็มีความสุขที่ได้ิอ่าน และยินดีที่ึุคุณเพื่อนมีความรักที่ดีมากในปัจจุบัน

รอยินดี กับ PhD. ในอีก 2 ปีข้างหน้านะคะ    o13

รักษาตัวนะคะ จะเดินทางไกลมากๆอีกแล้ว  :กอด1:

โชคดีนะคะ   :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 13-06-2009 11:58:48
เข้ามาอวยพรให้ทุกอย่างเป็นไปตามหวังค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: GajonG ที่ 13-06-2009 12:49:01
ขอให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำและทุกเรื่องนะคะ
ขอบคุณมากค่ะที่มาเล่าเรื่องราวน่าประทับใจให้ได้อ่านกัน
ถึงแม้ตอนปัจจุบันจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นกัน
แต่อย่างน้อยเรื่องราวของคุณเพื่อนก็ทำให้เราอมยิ้มมีความสุขที่ได้อ่านค่ะ
ขอให้คุณเพื่อนกับคุณนนท์และคนที่ทั้งสองรักมีความสุขมากๆนะคะ :L2:

 :pig4: (อีก 2 ปีค่อยว่ากันใหม่ก็ได้แต่ว่าเหงาๆอยากเขียนก็ไม่ว่ากัน  ^^)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 13-06-2009 14:07:21
ยังไงก็สู้ๆๆนะคุณเพื่อน

เป็นกำลังใจให้

แล้วก็จะรอนะ

  :กอด1: :L2:

หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 13-06-2009 18:43:09
สู้ๆครับผม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: maggy ที่ 13-06-2009 19:25:50
ความรักของคุณเพื่อนกับนนท์เป็นอีกหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้มากเลยหล่ะค่ะ
หวังว่าคุณทั้งสองจะมีความสุขและรักกันตลอดไป ไม่ว่าจะรักกันแบบไหนก็ตาม แต่กี้คิดว่า
มันช่างเป็นความรักที่สวยงามและอบอุ่นมากๆเลยหล่ะค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ(จากเรื่องที่คุณเพื่อนเล่า)
และหวังว่าจะได้พบกันอีกค่ะ
สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 17-06-2009 22:56:33
พลาดการอัพเดทไปได้อย่างไร คุณเพื่อนไม่รุ้จะได้เข้ามาอ่านไหม แต่ขอให้การเดินทางและการทำวิจัยประสบความสำเร็จลุล่วงด้วยดีดังหวัง แล้วเจอกันจ้า ถ้าฟ้ายังมีเวลา  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 30-06-2009 21:44:50
ชีวิตคนเราต้องดำเนินต่อไป..........

อย่างน้อยก็ยังมีช่วงเวลาหนึ่งที่เรามีความรู้สึกดีๆระหว่างกัน

ขอบคุณที่มาแชร์ความรู้สึกและประสบการณ์ความรักดีๆให้กันนะคะ

แม้สุดท้ายจะไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันแต่ก็มีช่วงเวลาหนึ่งที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกัน มีความรู้สึกดีๆให้กัน แค่นั้นก็ดีแล้วค่ะ

แล้วตอนนี้คุณเพื่อนก็มีคนๆหนึ่งที่คุณเพื่อนว่าน่ารักที่สุด ขอให้ความรักครั้งใหม่นี้มีแต่ความรู้สึกดีๆนะคะ


ขอให้โชคดี  มีความสุขมากๆๆๆๆๆค่ะ!!


take care yourself na ka    :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: Yokung ที่ 01-07-2009 14:26:59
โว๊ะ!!conclusionคือเช่นนี้นี่เอง ฮ่าๆ
พยายามเข้านะคร้าบ เรื่องการทำ research ฮะๆ
อยากไปเที่ยวมั่งแหะ ตั้งแต่อ่านมา ฮ่าๆ
น่าหนุกมากมาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 01-07-2009 23:35:13
อ่านเรื่องเล่าของคุณเพื่อนแล้วยิ้มตลอด มีความสุขที่ได้อ่านนะคับ

ขอบคุณมากนะคับ

 o13

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: mayoomay ที่ 06-07-2009 16:18:15
อ่านรวดเดียวจบ....บอกได้คำเดียวว่า หวานได้อีก :impress2:

ยังไงก็ขอบคุณมากนะค่ะ  ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้ 

หวังว่าคงมีเวลาเข้ามาทักทายกันบ้างนะค่ะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: POR_KA_DUN ที่ 11-07-2009 02:04:27

อ่านข้อความสุดท้ายที่คุณเพื่อนทิ้งไว้แล้วใจหายจะร้องไห้
จะรอไหวไหมครับนี่ตั้งสองปี
ตามอ่านและรอคอยเรื่องราวตลอด
และสงสัยว่าเรื่องของคุณเพื่อนหายไปไหน
แต่แล้ว  วันนี้ก็เจอ
ขอให้คว้าPhDกลับมาสำเร็จนะครับ
เอามาฝากคนที่อยากเรียนแต่ไม่โอกาศเหมือนคุณเพื่อนนะครับ
รักและปรารถนาดีครับ ปอร์
 :L1:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 02-08-2009 22:26:34
ตอนนี้พี่ 2 คนมีความสุขก็ก็ดีแล้วครับ

ถึงตอนจบจะไม่เป็นดังหวัง  อย่างน้อยมันก็เป็นช่วงเวลาดี ๆๆๆ

มีโอกาสก็เข้ามาทักทายกันมั่งนะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 07-08-2009 21:15:42
 :monkeysad:
พึ่งเข้ามาเห็นว่าคุณเพื่อนติดภารกิจ 2 ปี เลยเข้ามาเม้นท์ช้า
อยากจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องอ่านแล้วประทับใจในแง่ของความรู้สึก
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงของคนสองที่มาเจอกัน รักกัน
มันไม่ได้มีอะไรอื่นเลย แค่ความรู้สึกดีที่คนสองคนจะมีให้กัน
จากเพื่อน เป้นความรู้สึกที่บอบบางพัฒนามาเป็นความรัก...
รักแบบหวานๆงอลง้อกันตามโอกาส ยิ่งอ่านแล้วยิ่งชอบอ่านไปยิ้มไป
บรรยากาศในเรื่องสถานที่ในเรื่องทำให้รู้สึกว่าความรักทำให้โลกดูสดใส
อบอุ่นขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆกัน แม้จะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลานึงก็ตาม
อย่างน้อยๆก็ยังเป็นความทรงจำดีๆที่เราจะไม่มีวันลืมมันซึมซาบ
มันหนักแน่นแต่อิ่มเอิบและเบิกบานในช่วงชีวิต ณ ขณะนั้น
หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องราวฉากต่อๆมาของชีวิตซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องมี
ต้องผ่านมันไปให้ได้ และมีความสุขกับฉากชีวิตของตัวเองที่ทั้งเลือกเอง และมีคนเลือกให้
มองโลกอย่างคนที่เข้าใจเลือกจะหยิบยกบางความรู้สึกที่บางครั้งเคยลืมเลือนเข้ามานึงถึง
มองให้ตัวเองมีความสุขเหมือนกับ ช่วงชีวิตที่ คุณเพื่อนมีนนท์
กลับมาอ่านเรื่องราวที่ตัวเองได้บันทึกเอาไว้ในสถานที่ที่อบอุ่นและเป็นครอบครัวขนาดย่อมๆ
แล้วหวังว่าคุณเพื่อนจะมีความสุขกับชีวิต นับจากนี้ และตลอดไป
ขอให้รีเสิร์ชที่ไปทำออกมาดี และเจอแต่คนดีๆเพื่อนดีนะคราบบบบบบบบบบ
รักและจะนึกถึงเรื่องนี้ตลอดไปเพราะมันน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

นิว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: WEERACHOT ที่ 15-08-2009 22:14:56
เป็นกำลังใจให้ทุกเรื่อง แม้ท้อก็อย่ายอมแพ้น่ะครับ สู้ต่อไป

สักวัน....คนเจอกัน


ครับ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: Soulmate ที่ 23-08-2009 09:10:26
อ้างถึง
ในเมื่อในอนาคตไม่รู้ว่าจะได้มาเขียนต่ออีกหรือไม่
:o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 23-08-2009 23:32:13
รอจะสองปีก็รออ่านจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: nine-poo ที่ 24-08-2009 02:47:10
เป็นกำลังใจให้อีกหนึ่ง+ นะคราบ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: nine-poo ที่ 24-08-2009 21:24:58
ข้อสรุปสุดท้ายของความรักที่ใครๆ  บอกว่าความรักไม่มีเพศ ไม่มีพรมแดน มันต้องจบแบบนี้เรื่อยไปใช่ไหมคับ (ความรักของเพศที่สาม)

โดยเฉพาะความรักอย่างพวกเรามันต้องจบแบบนี้จริงๆ

ใจลึกๆ อยากถามว่าแล้วมันจะมีความสุขจริงๆ เหรอครับ...


แต่ก็นะถ้าคุณเพื่อนสรุปมาแบบนี้ก้ต้องบอกว่ายินดีด้วยมากๆ ครับ ที่ต่างคนก้มีแฟนที่สังคมยอมรับใจคุณเพื่อนและนนท์ก็ยอมรับ


แค่อดเปรียบเทียบมะได้ครับว่าถ้าเป็นผมต้องแยกกันกับคนที่เรารู้สึกดีมากๆ รุ้สึกพิเศษ รู้สึกรักมาก มันจะทรมานแค่ไหน เฮ้อ...

ไม่เอาไม่คิด เราต้ัองยินดีและเป็นกำลังใจให้คุณเพื่อน กับคุณนนท์เค้า เย้ๆ..


  o13:bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 25-08-2009 12:58:46
ใกล้ถึง 2 ปียัง  o3
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 25-09-2009 15:54:26
 ตกข่าวได้ไงล่ะเนี๊ย  :z3: :z3: :z3:
ยังไงก็ขอให้คุณเพื่อน โชคดีนะค่ะ   :L2:
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารัก ๆ นะค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ... (ขออนุญาตหยุดเขียน 2 ปี)
เริ่มหัวข้อโดย: Champsung ที่ 07-10-2009 18:33:18
ขอให้ คุณเพื่อนมีความสุขมากๆนะครับ

เรื่องราวน่ารักมากเลย

ขอบคุณที่มาแบ่งปันเรื่องราวดีๆให้กันนะครับ

โชคดีในการงาน และ ความรักนะครับ

ผมขอเป็นกำลังใจให้

^O^

 :pig4:

หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 15-10-2010 08:53:11
 :L2:

ตามอ่านจนจบ

เป็นความรักที่น่ารักดี อ่านแล้วเห็นภาพยิ้มได้ตลอด

แต่สรุปสุดท้ายกาลเวลาเปลียนคนเปลียน

หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ดีที่เปลียนทั้งคู่เลย (win win) หรือเปล่า

สุดท้ายขอให้ทั้งคู่มีความสุขกับชีวิตนะคะ

 :bye2:


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 15-10-2010 10:07:05
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
อยู่กับปัจจุบันและมีความสุขอยู่เสมอนะครับ

ขอบคุณมาก
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Flowersteel ที่ 15-10-2010 20:16:54
ขอบคุณครับสำหรับประสบการณ์ๆ

ถ้ามีโอกาศก็อยากให้เข้ามาต่อ

ขอบคุณมากครับๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: บีบีจัง ที่ 18-10-2010 22:40:57
ไอ้หยา
เสียน้ำตาอีกจนได้ค่ะ
รู้สึกว่าช่วงนี้บ่อน้ำตาตื้นๆอยู่แล้ว
แล้วพอมาอ่านบทสรุปที่คุณคนเขียนเอามาลง
เลยรู้สึกว่าเจ็บปวดนิดๆ
เพราะเราเข้าใจความรู้สึกที่แบบว่า "รักนะ แต่ไม่ได้คบกัน"
มันน่าเสียใจจริงๆนะคะ ที่เคยมีเรื่องราวดีๆร่วมกัน
เคยได้สัมผัส ได้รู้สึกถึงอีกฝ่าย
พอเอาเข้าจริง ก็ไม่ได้คบกัน มันน่าเศร้าจริงๆค่ะ
ถึงแม้จะให้เก็บเอาไว้เป็นช่วงเวลาที่ดี เพื่อที่วันนึงนึกถึงจะได้อมยิ้ม ทว่าหากเป็นเรา คงยิ้มไม่ออกอะค่ะ T^T
แต่ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของผู้เขียน
ผู้อ่านแบบเราก็จะยอมรับค่ะ

ขอให้โชคดีนะคะ >w<b
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 19-10-2010 13:44:42
แค่ได้รู้ว่าทุกคนมีความสุข

ก็มีความสุขและดีใจด้วยค่ะ


 :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: BossoM ที่ 21-10-2010 22:31:23
เพิ่งจะเข้ามาอ่านค่ะ
ประทับใจมากๆ
น่ารักมากๆ
ถ้ากลับมาแล้ว ว่างๆก็ช่วยมาเล่าต่อด้วยนะค้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: info001 ที่ 22-10-2010 13:23:39
หวานและโรแมนติกมากที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่ได้เคยอ่านมา
ถึงแม้ตอนท้ายจะเศร้าเล็กๆ แต่ก็ต้องยอมรับสภาพตามความเป็นจริง ว่าชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้
ชีวิตคนเรา บางครั้งก็คล้ายดั่งนิยาย แต่ตอนจบอาจไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวังไว้เสมอไป
อย่างน้อยก็ดีใจ ที่ทั้งคู่คงมีความสุขในเส้นทางชีวิตที่แต่ละคนได้เลือกแล้ว  และหวังให้มีความสุขเช่นนั้นตลอดไป
"รัก" เมื่อเกิดกับใคร ไม่ว่าในรูปแบบไหน ก็เป็นสิ่งสวยงามเสมอ และจะยังคงอยู่ในใจของคนๆนั้น...ตลอดไป  ผมเชื่อเช่นนั้น  :bye2:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: cheeryunjae ที่ 23-10-2010 00:48:16
ขอให้ทั้งคุณเพื่อนและคุณนนโชคดีน่ะค่ะ

ชีวิตต้องเจอกับอะไรอีกมากมาย ซึ่งเราไม่สามารถคาดเดาได้

เพียงแค่เราลองที่จะเจอกับมันแค่นั้น

ความจริงตอนนี้เค้าอยู่ที่ฝรั่งเศสนะ เปนนักเรียนแลกเปลี่ยนนะ

อยู่นี่ได้ประมานสองเดือน พูดยังไม่ได้เลย ที่นี่คนจูบเยอะจริงๆแหละ ฮ่าๆๆๆๆ

โชคดีค่าาา
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: toscana ที่ 26-10-2010 16:49:02
ง่าห์์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ชอบมากๆเร่ยอ่ะครับ

แต่ไหงกลายเป็นว่ามวยพลิกสะงั้น?

แต่ชอบครับ

ชอบที่บอกว่า "ความรักไม่มีเพศ แต่เราไปแบ่งเพศให้มัน"

จริงครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: eyerabbit ที่ 29-10-2010 00:57:49
เป็นเรื่องที่หวานมากๆ

แต่พออ่านมาถึงสรุปแล้วน้ำตาคลอเลย

ขอให้โชคดีกับ reserch นะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Fill ที่ 06-12-2010 12:52:58
Y__Y
ประทับใจเรื่องนี้มากๆ ครับ
อ่านแล้วรู้สึกว่าจบแบบเศร้านิดหน่อย แต่ก็มีความสุข
นี่คงจะเป็น
"ความรู้สึกดีๆที่เรียกว่า...รัก"
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 07-12-2010 13:10:33
อ่านจบรวดเดียวครึ่งวัน ...อ่านแล้วรู้สึกดีๆไปกับช่วงเวลาดีๆของคุณเพื่อน  อ่านบทสรุปแล้วรู้สึกเศร้าเล็กๆ  แต่ก็เป็นกำลังใจให้กับสิ่งที่คุณเพื่อนเลือก
รอ 2 ปี ไม่นานเท่าไหร่เนอะ.... :z2:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: ♫~Eristneth~♪ ที่ 26-04-2011 23:30:57
ขอบคุณที่เอาเรื่องราวดีๆมาเเบ่งปัน  :L2:

ชอบมาก น่ารักๆ  :-[

ขอให้มีความสุขค่ะ   o13
 :bye2:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: jujill8 ที่ 27-04-2011 00:29:26
อยากอ่าน แต่ไม่อยากอ่าน --'; ... ทำงัยดีอ่า T^T
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: โชคชะตา ที่ 27-04-2011 23:51:34
พี่เพื่อน .. ใกล้จะครบสองปีแล้วน๊า
ทางนั้นเป็นยังไงบ้างคะ? สบายดีใช่มั้ย?

คิดถึงถึงพี่เพื่อนและเพื่อนพี่เพื่อนเลยฮับ ^^ :n1:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: beebeekung ที่ 28-04-2011 17:11:10
สู้ต่อไปนะค่ะ
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม
ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 30-04-2011 16:47:39
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่มาแบ่งปันกันนะคะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านไปยิ้มไปไม่หุบจนแก้มแทบแตก ความรู้สึกดีๆ ในช่วงเวลาที่มีกันแม้มันจะไม่ยาวนานนักแต่มันก็คือสิ่งดีๆที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตเราเมื่อยามที่เรารู้สึกว่าท้อแท้ ไม่มีใครแต่เมื่อหวนคิดถึงวันเวลาดีๆ ที่งดงามมันก็สามารถทำให้เราสามารถเดินต่อไปได้

ขอให้คุณเพื่อนมีความสุขกับชีวิตนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Soulmate ที่ 02-05-2011 00:24:06
ใกล้จะ2ปีละเห่ย
ลุ้นนนนนนน
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: GeTOuTNoW ที่ 17-05-2011 00:16:13
อยากให้มีต่อครับ มานั้งลุ้น เกือบครบสอบสองปีเเล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: jujill8 ที่ 29-10-2011 06:03:23
ขอให้มีความสุขกับทุกๆวันนะคะ ^^
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: topphy ที่ 30-10-2011 23:24:42
อ่านยังไม่จบคร้าบบบแต่ขอเม้นต์ก่อนสนุกมาก ชอบนนท์มากเลย o13 :o8:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 24-07-2012 01:41:08
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน น่ารักมากมาย แม้ปัจจุบันไม่เป็นอย่างที่หวัง
แต่ก็ยังดีใจที่ทั้งสองคนมีความสุขและมีความทรงจำดีๆ เก็บไว้
ขอบคุณมากค่ะสำหรับเรื่องราวดีๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: sz4music ที่ 25-07-2012 06:52:27
ประทับใจกับเรื่องนี้มากเรยค่ะ

เป็นประสบการณ์ของความรักที่ดีๆ อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นในหัวใจมากเรยยยยย   :impress:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 31-07-2012 17:38:48
เป็นเรื่องราวที่สวยงามน่าประทับใจ แม้ว่าแต่ละคนจะไปมีเส้นทางเป็นของตัวเองแล้วก็ตาม
ขอบคุณที่มาบอกเล่าและแบ่งปันประสบการณ์
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 12-08-2012 05:09:42
ในช่วงชีวิตหนึ่ง เราต้องเจอกับใครหลายคน ประสบการณ์ที่ได้ก็จะทุกข์บ้าง สุขบ้าง มั่นใจอย่างที่คุณเพื่อนว่านั่นแหละ ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนั้นกับนนท์ มันเป็นความรู้สึกจริง และรู้สึกสัมผัสได้จริงๆ และก็ดีใจที่คุณเพื่อนเอามาแบ่งปันให้ได้อ่านหัวใจกระชุ่มกระชวยด้วย ถึงแม้ว่าตอนนี้เส้นทางของทั้งสองจะมุ่งไปคนละทาง แต่ก็ได้รู้ว่าครั้งหนึ่งทั้งสองเคยรู้สึกความรักอันบริสุทธิ์

ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ อ่านแล้วใจเต้นเป็นประจำ ไม่อยากให้จบไปดื้อๆ แต่ทุกคนก็มีหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละคนอยู่แล้ว ดังนั้นได้อ่านเท่านี้ก็เพียงพอจะให้ยิ้มไปได้หลายวันเลยล่ะค่ะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 12-08-2012 10:25:25
ขอบคุณสำหรับบทสรุปค่ะและขอให้มีความสุขกับปัจจุบัน
ทั้งคุณเพื่อนและคุณนนท์นะคะ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 13-08-2012 18:17:16
อบอุ่นถึงแม้จะเศร้า ยิ้มได้ตลอดเลยที่อ่านเรื่องนี้ ^ ^"
จะรอว่าวันที่คุณเืพื่อนกลับมานะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: pokkyza ที่ 13-08-2012 21:18:49
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาได้สามปีแล้วสินะคะ ...โลกยังคงหมุนไปเสมอไม่เปลี่ยน
ประทับใจนิยายเรื่องนี้มากๆ เป็นเรื่องจริงที่น่ารักที่สุดที่มีโอกาสได้เจอ 'เพื่อน' คนนั้น
"เป็นความรักที่ไม่มีเพศมาเกี่ยวข้อง รู้แต่ว่ารักคนๆ นั้น" ...เป็นความทรงจำที่แสนดีและยังละมุนในใจทุกครั้งที่ได้นึกถึงสินะคะ
แม้จะเสียดายที่ไม่เป็นไปอย่างที่คิด แต่อ่านบทสรุปอย่างไรก็ยังอมยิ้มเสมอเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักแสนละมุนที่นำมาแชร์กันนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: GeTOuTNoW ที่ 14-08-2012 01:53:02
ขอบคุณครับ ยังรู้สึกถึงความสุขได้อยู่เลย แม้เวลาผ่านมานานแล้ว
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: SanDiego ที่ 25-10-2013 10:51:18
คิดถึงเรื่องนี้จัง นานแล้วน๊อ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: thelittlemaster ที่ 25-10-2013 13:21:52
ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ ประทับใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Soulmate ที่ 20-04-2014 14:45:28
เราย้อนกลับมาอ่านซ้ำๆ รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
ยังคงหวานและอบอุ่น เหมือนเดิม :')

ปล.ยังแอบหวัง  และแอบรอ อยู่เสมอ :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: yibsee2009 ที่ 05-07-2014 02:01:12
ขอบคุณครับ  สำหรับเรื่องราวดีๆ
ผมยังแอบลุ้นนะว่าทั้ง  2  จะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
แต่ก็นะครับ  ชีวิตมันเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน
ถ้ามโอดาสอย่าลืมมาต่อให้จบนะครับ
  คิดถึงทั้งสองคนครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 05-07-2014 02:08:27
 :กอด1: ขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟัง

สำหรับเรา จบลงที่ตรงนี้ก็ได้  หากคุณผู้เขียนมีธุระไม่สามารถมาต่อได้อีก เราก็โอเคนะ รู้สึกว่าสมบรูณ์ในตัวแล้ว

ชอบจริงจัง ไว้จะกลับมาอ่านซ้ำอีกครั้ง  :a9:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: INK@PANTIP ที่ 02-08-2014 00:25:20
 :mew1:เป็นเรื่องที่น่ารักมากค่ะชอบบบบบบบบบ ผ่านมากี่ปีแล้วเนี่ยทำไมพึ่งจาเจอ ขอบคุณจริงๆที่เจอเรื่องนี้ :L1:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 14-08-2014 15:54:39
ดีจัง...
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 13-03-2016 02:00:49
สนุกมากๆเลยค่ะ
อ่านแล้วเขิน ฟินสุดๆ
ขอบคุณที่มาแชร์เรื่องราวดีๆนะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-03-2016 21:10:00
 :katai2-1:    อยากอ่านต่ออีก หวาน น่ารักกก  :mew1:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 24-04-2016 19:49:05
ไม่รู้ทำไมอ่านจบแล้วเศร้าจัง
ทั้งที่เป็นความประทับใจ
ในชีวิตที่เป็นเรื่องที่น่าประทับใจ
ทั้งที่สุดท้ายทุกคนมีทางของตัวเอง
แต่ทำไมเสียใจนะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
ชอบและประทับใจมากค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 26-04-2016 18:57:06
ชอบบรรยากาศที่เขียนนะ ขอบคุณที่เขียนมา
ขอให้คนเขียน ประสบความสำเร็จกับสิ่งที่ทำนะ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 27-04-2016 19:05:36
เป็นเรื่องเล่าทึ่ชอบมากๆเลยค่ะ 2016 แล้ว ตอนนี้คุณเพื่อนเป็นยังงัยบ้างหนอ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-04-2016 19:14:23
เขียนดีมาก อ่านแล้วไหลลื่น
ไร้ท เขียนเรื่องอื่นอีกนะ
เรื่องที่เขียนต้องทำให้คนอ่านมีความสุขแน่ๆ
 :L1: :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 27-04-2016 22:58:55
อ่านแล้วคิดถึงประโยคนี้เลยค่ะ ในเมื่อโลกเหวี่ยงให้เราได้เจอกัก็รักกันให้มากๆเพราะไม่รู้โลกจะเหวี่ยงไปไหนต่อ  :mew2:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 29-04-2016 18:27:49
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-04-2016 23:14:50
ขอบคุณมากค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 30-04-2016 22:20:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: top_fy ที่ 01-03-2017 21:54:53
ขอบคุณนะคร้าบบบ อ่านตอนสรุปแล้วนึกว่าจะได้กันที่ไหนได้ ต่างคนต่างมีแฟนเป็นสาวน้อยเลยฮือๆ แต่ก็เหมือนที่ว่า ความรักไม่จำกัดเพศจริงๆ ขอให้ทุกคนในเรื่องมีความสุขนะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าจากอังกฤษกับชีวิตของผม ...
เริ่มหัวข้อโดย: SOLARBEAM ที่ 20-03-2017 19:12:48
สนุกครับ หอมหวาน ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ



 :L2: