...เวรกรรมตามทันในภพนี้..ตอนพิเศษ ผ้ากันเปื้อน...=> หน้าที่ 17 (26/09/2020)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...เวรกรรมตามทันในภพนี้..ตอนพิเศษ ผ้ากันเปื้อน...=> หน้าที่ 17 (26/09/2020)  (อ่าน 91976 ครั้ง)

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ  มีมาให้อ่านจ๊ะ และมีเฉลยปมต่างๆ ท้ายเรื่องสุดยอดไปเลย
วันนี้วันแรงงาน พักผ่อนมากๆ นะไรท์ ไว้จะรอติดตามเรื่องใหม่ๆ อีก
ว่าแต่ตอนพิเศษนี้ จะพิเศษยังไงน้าาา รอ รอ รอ
 :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆครับ

ออฟไลน์ kimmiew112

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เห็นชื่อนักเขียนแล้วต้องเข้ามาอ่านเลยค่ะ ชอบนิยายของคุณบัวตรงที่ความรักของพระเอกนายเอกมักจะเริ่มมาจากความสบายใจ ความปรารถนาดีต่อกัน เหมือนเป็นการเติบโตของความรู้สึกของผู้ชายสองคนจริงๆ แล้วก็เดาถูกตั้งแต่แรกเลยค่ะว่าน้องครองคือนายแผรงน เพราะตอนเจอกันครั้งแรก น้องครองรู้สึกอึดอึด โกรธ น้อยใจ ห่วงหาปนเปกันไปเพราะการบรรยายของคุณบัวเลยค่ะ ทำให้เดาได้เลยว่าผีต้องไม่ใช่นายแผนต้องเป็นนายช่วงแน่นอน นายแผนไม่ได้แค้นอาฆาตขั้นเอาชีวิตแล้วก็น่าจะเพราะตอนตายนายแผนอธิฐานว่าไม่ให้เจอคุณหลวงอีก เขาเลยเวียนว่ายตายเกิดชดใช้กรรมไม่ได้มาเจอกันซักทีรึเปล่าคะ แต่ในที่สุดก็ได้เจอกัน พอมาเจอกันใหม่คุณหลวงหรือร่มธรรมก็ยังเอ็นดูครองภพเหมือนตอนเป็นนายแผนเหมือนเดิม ครองภพก็ไม่ได้อาฆาตคุณหลวงออกจะโกรธ น้อยเนื้อต่ำใจมากกว่าเพราะยังไงคุณหลวงก็เคยให้ความเอ็นดูให้เรียนหนังสือ ส่วนนายช่วงก็ต้องชดใช้กรรมที่เคยทำในอดีตไม่ได้ผุดได้เกิดไม่ได้อยู่กับคุณหลวง แต่เอาจริงๆนึกว่าจะมีปมที่ทำให้นายช่วงแค้นนายแผนมากกว่านี้นึกว่านายช่วงอาจจะเข้าใจอะไรผิดว่านายแผนหวังร้ายกับคุณหลวงซะอีก แบบคิดซับซ้อนมากเลยค่ะ ชอบเรื่องแบบนี้อ่านเพลินมาก ได้ฟินละได้คิดตามสวมบทบาทเป็นนักสืบไปด้วย ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ขอบคุณ คุณบัวมากๆค่ะ ที่ทำให้มีความสุขในทุกๆวันพฤหัส เหมือนนัดเจอกับแฟนเลย5555 แบบโอ้ยยย อยากให้ถึงเร็วๆจัง คิดถึงพี่ร่มน้องครอง ลุ้นว่าจะเป็นยังไงต่อเรียกว่าอินมากกกก

สนุกมากๆค่ะ ถ้าเป็นนิยายคุณบัวไม่ว่าแนวไหน คือดีงาม ทั้งพล๊อต ทั้งสำนวน คาเรทเตอร์ที่วางไว้ชัดเจน มีมิติ และบริบทต่างๆ
ว้าวมาก กับทอลเฉลยท้ายเรื่อง โดยเฉพาะคุณเทพคือพี่ธาดาของเรา เลิฟพี่ธาดานะคะ
หลงน้องชายได้น่าเอ็นดูมากกกก

ใจหายที่จบแล้ว แต่เจอบรรทัดสุดท้าย

'จบจริงแต่ก็มีตอนพิเศษจริงๆค่ะ'

โอ้ยยย อยากกอดคุณบัวเเน่นๆ คุณบัวน่ารักที่ซู๊ดดดดด  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ JanTi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอบคุณคุณบัวสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ขอบคุณค่ะที่เขียนเรื่องดีๆให้ได้อ่าน แต่ก็อยากให้พี่ธาดามีคู่ชีวิตดีเหมือนกันค่ะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าปัจจุบันสำคัญที่สุด อดีตแก้ไม่ได้ก็ไม่ต้องไปอาลัย อนาคตไม่รู้จะเกิดอะไรก็ยังไม่ต้องไปกังวล ทำปัจจุบันให้ดีจะได้ไม่ต้องเสียใจและเสียดาย  ทั้งครองภพและพี่ร่มตอกย้ำเราในเรื่องนี้ ขอบคุณมาๆนะคะที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้มาให้ :กอด1:  :L1:

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2

ออฟไลน์ งงปะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
จบแล้ว
ขอบคุณที่สร้างเรื่องราวดีๆมาให้เราได้อ่านกันมากๆ
ดีใจที่ครองกับร่มสมหวัง
ตอนแรกแอบคิดว่าครองจะประกาศบนเวทีสะอีก 55
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่จะต้องเก็บใว้ในความทรงจำ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ขอบคุณคุณบัวที่สร้างเรื่องราวดีๆอีกเรื่องหนึ่งมาให้ได้อ่านนะคะ จะรอติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะ
 :katai2-1: :L2:

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
ไม่เคยผิดหวังกับนิยายของคุณบัวเลย

ขอบคุณครับ  :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
เวรกรรมตามทันในภพนี้
By: Dezair
……………………………
ตอนพิเศษ ด้วยดี



ช่วงนี้ครองภพพอจะมีเวลา


   เวลาในที่นี้หมายถึง เวลากลับไปนอนที่คอนโดของตนเอง หลังจากก่อนหน้านี้เร่งถ่ายซีรี่ส์ ถ่ายละคร ถ่ายรายการ ถ่ายโฆษณา ออกอีเว้นท์ รับงานวิ่งรอกแทบจะกินนอนบนรถ บนเครื่องบินอยู่แล้ว


   แต่พอปิดกล้องเรื่องหนึ่ง อีกเรื่องก็ปิดตาม ตอนนี้เหลือแค่รอเปิดกล้องเรื่องใหม่กับรายการที่ถ่ายอยู่ และออกงานอีเว้นท์บ้างประปราย ก็เลยพอจะมีเวลาให้ได้ดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อน


   แต่เวลาพักผ่อนของเขาไม่ใช่เวลาแน่นอน อย่างวันนี้คือได้กลับคอนโดตั้งแต่เย็น กดโทรศัพท์ส่งข้อความหาคนรัก พอเห็นร่มธรรมตอบกลับมาว่าจะแวะมาหาตอนค่ำก็สบายใจ ทิ้งตัวลงนอนเอนบนโซฟาตัวใหญ่ในห้องปรับอากาศเย็นฉ่ำ


   แล้วจากนั้น...ชายหนุ่มก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว


   .................   


   .......


   ...


   เขาลืมตาขึ้นมาในความมืด ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะจำได้ว่าตอนก่อนจะนอนเล่นบนโซฟา เขาไม่ได้ปิดผ้าม่าน อีกทั้งยังเปิดไฟ ดังนั้น...ไม่สมควรจะมืด


   ความสงสัยของครองภพกระจ่างในวินาทีถัดมา เมื่อเห็นชายผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้นในความมืด


   ตอนแรกเป็นเงาจางๆ ก่อนที่ภาพร่างจะชัดขึ้นเมื่อชายผู้นั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้


   ชาย...ผู้นุ่งโจง


   ครองภพนิ่งไปเล็กน้อย นับตั้งแต่เกิดเรื่องที่อาคารร้าง ทั้งเขาและร่มธรรมก็ไม่เคยพบชายผู้นี้อีก ชายหนุ่มยืนนิ่งมองผู้มาหา เวลานี้ชายนุ่งโจงไม่ได้มีท่าทีคุกคามหรืออาฆาตอีกแล้ว สีหน้าหมองหม่น ไร้ซึ่งความกำแหงเหมือนเก่า


   “ไอ้แผน”


   แต่...ไร้ความกำแหง และก็ไร้ความจำ


   ริมฝีปากของครองภพกระตุก


อุตส่าห์มีเวลาพักผ่อน ก็ดันฝันเห็นผี แล้วผีที่ว่าก็ดันเป็นผีพูดไม่รู้เรื่อง


เขาหมุนตัวจะเดินหนีไม่อยากพูดด้วย แต่จู่ๆอีกฝ่ายก็พุ่งตัวมาดักข้างหน้า หน้าตาถมึงทึง


   “กูเรียกมึง!” ไร้ความกำแหงแต่ก็ยังโอหังไม่ต่าง


   “ไม่ได้ชื่อแผน” ครองภพย้อน หน้าตาเรียบเฉย ดูเหมือนชายนุ่งโจงผู้นั้นจะรู้ว่าหากต้องการจะคุยกับคนเช่นครองภพ จะดื้อดึงดันทุรังเรียกมันว่า ‘แผน’ ต่อไปไม่ได้


   พอเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบ ครองภพก็เงียบ แต่ไม่เดินหนี ยืนจ้องนิ่ง เป็นฝ่ายชายนุ่งโจงต้องเอ่ยก่อน


   “กู...” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เสียงอาละวาดก็ดังขึ้นในหัวของเขา


   ‘ไอ้ผีชั่ว! ไอ้ผีเหี้ย! มึงอยู่ไหน! มึงไปหาพี่ร่มใช่มั้ย!! มึงกลับมาเดี๋ยวนี้!’


   นายช่วงกุมศีรษะ ได้ยินแต่เสียงกรีดร้องดังอยู่ในนั้น เขาข่มตาแน่น แต่ไม่ว่าอย่างไรเสียงของผู้หญิงคนนั้นก็ไม่หลุดไปจากหัวเขาเลย


   ‘กูไม่ได้เขา! มึงก็ต้องไม่ได้!! มึงต้องกลับมาอยู่กับกู!! มึงกลับมา!! กลับมา!!!’


   “นังนั่นเรียกกูอีกแล้ว” เขาเปรยออกมาอย่างอ่อนล้า ลืมตาขึ้นมองครองภพที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ดูท่าเสียงของผู้หญิงคนนั้นคงดังแค่เฉพาะในหัวของเขา เพราะครองภพยืนเฉยไม่รับรู้สักนิด


   “กูเข้าไปในฝันของคุณหลวงไม่ได้ ท่านไม่เห็นกูอีกแล้ว”


ครองภพยังยืนเงียบ


   “คงดูแลท่านบ่อยๆไม่ได้อีก แค่กูมาที่นี่ นังนั่นก็เรียกหา ตามรังควาญแต่กับกู” พูดแล้วก็ถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยอ่อน


คล้ายเป็นเวรกรรม นายช่วงติดตามดูแลดวงวิญญานหลวงสุนทรวิจักษ์มาหลายภพหลายชาติ มันผู้ใดคิดจะเข้าใกล้คุณหลวง หากประสงค์ร้าย เขาก็จัดการเรียบ หากปรารถนาดีเกินหน้าเกินตา เขาก็ผลักคนผู้นั้นออกไป


ชาตินี้จึงมีโอกาสได้ดูแลแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น นับตั้งแต่เกิดเรื่องที่อาคารร้าง เขาก็กลับกลายเป็นฝ่ายถูกผูกติด


หญิงผู้นั้นไม่ปล่อยให้เขาออกห่างสายตาของหล่อน ลืมตาก็ต้องเห็นเขา หลับตาก็ยังเรียกหาในฝัน ยามใดที่เขาออกห่างจากหล่อน เสียงกรีดร้องอาละวาดด่าทอจะดังในหัวของเขา แต่ยามอยู่ใกล้ หล่อนก็เพียงแค่นั่งเหม่อคล้ายคนบ้า เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ราวกับหล่อนผูกใจเจ็บต่อเขา ผูกดวงวิญญานเขาไว้กับหล่อน จนไม่อาจแยกจากทั้งที่มีแต่ความเกลียดชังใส่กัน


   “กูไม่เคยอยากพูดกับมึงเช่นนี้ แต่...ฝากมึงด้วย ฝากดูแลคุณหลวง ฝากเรียนท่านว่ากูจะหาทาง...”


   “เรื่องสิ” ไม่ต้องรอให้พูดจบ ครองภพก็แทรกไว


   นายช่วงตะลึง แผดเสียงลั่น


   “ไอ้แผน!”


   แต่ครองภพทำหน้าตาเรียบเฉยไม่สุขไม่ทุกข์ไม่รับรู้


   “ถ้าไปผุดไปเกิดไม่ได้ ก็ควรเรียนรู้ว่าผมชื่อครองภพไม่ใช่แผน ส่วนร่มก็ไม่ใช่คุณหลวง เรื่องดูแล ไม่ต้องฝาก ผมไม่ได้ทำหน้าที่แทนคุณ ผมทำของผมเอง ส่วนเรื่องให้บอกร่มว่าคุณจะกลับมาหาเขา ผมไม่รู้ว่าคุณยังมีสมองมั้ย แต่คุณคิดว่าผมจะเอาเรื่องของคนอื่นไปบอกเขาเหรอ”


   “มึง…!!”


   “ใครเรียกก็กลับไปหาเขาได้แล้ว แล้วไม่ต้องมาเข้าฝันบ่อยๆหรอก น่ารำคาญ” ครองภพพูดจบก็หมุนตัวหันหลังให้ ได้ยินเสียงโวยวาย แต่ไม่ได้สนใจ เสียงนั้นก็จางหายไป


คราวนี้ชายหนุ่มหลับลึกไม่ฝันอีก ก่อนจะรู้สึกตัวเมื่อพื้นที่ที่เขานอนอยู่ ยวบลงไปเล็กน้อย


ครองภพลืมตาสะลึมสลือ แม้จะเห็นเจ้าของน้ำหนักที่นั่งลงข้างกายเขาไม่ชัด แต่ก็ได้ยินเสียง


   “ครอง ฝันร้ายเหรอ นอนคิ้วขมวด”


   คนนอนคิ้วขมวดสะบัดศีรษะไล่ความง่วงงุน ก่อนจะตอบ


   “นิดหน่อย” เขาว่าอย่างนั้นแล้วขยับกายลุกขึ้น กวาดตามองไปรอบตัวก็เห็นท้องฟ้านอกหน้าต่างกระจกเป็นสีดำแล้ว


   “ไหน เล่าหน่อย สำหรับพระเอกชื่อดัง หยิบจับอะไรก็เก่งไปหมดทุกอย่าง ฝันแบบไหนเรียกว่าร้าย”


   ฝันเห็นผีไง ไม่ใช่ผีหน้าเละ ตัวเละ แต่เป็นผีไม่รู้จักตัดใจ ผีไม่รู้จักว่าอะไรคือปัจจุบันอะไรคืออดีต ผีไม่รู้จักศักยภาพตัวเอง คิดจะฝากร่มธรรมให้ครองภพดูแล ขอถามหน่อยเถอะว่าทำไมต้องฝาก มีสิทธิ์อะไรมาฝาก แล้วทำไมต้องฝาก ในเมื่อครองภพดูแลร่มธรรมดีชนิดที่ใครก็ทำแทนไม่ได้


   คนฝันร้าย ไม่อยากพูดออกไป ไม่ใช่เพราะกลัวความฝัน แต่เพราะไม่อยากให้ร่มธรรมคิดถึงผีนั่นอีกต่างหาก


   “จำไม่ได้แล้ว หิว คุณกินอะไรมารึยัง”


   “ยังเลย”


“งั้นกินอะไรดี”


ร่มธรรมเลิกคิ้วมองคนถามก่อนจะยิ้ม


   “พูดเหมือนจะกินร้านอื่น ก็เห็นออกไปกินร้านนั้นทุกที”


   “ก็...”


   ...นั่นร้านที่เราไปเดทกันครั้งแรก...


   เรื่องนี้ครองภพก็ไม่อยากพูดออกไปเช่นกัน


   “อร่อยมากเหรอ อยากเจอหน้าเจ้าของร้านมั้ย เดี๋ยวพี่นัดเขาให้”


   คนฟังขมวดคิ้ว


   “คุณรู้จัก?”


   “กินบ่อยขนาดนั้น ไม่รู้จักเจ้าของร้านก็แย่แล้ว”


   “ผมไม่เห็นรู้จัก”


   “อ้าว ก็นั่นครอง”


   “เจ้าของร้านเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”


   “ผู้ชาย เห็นว่าทำกิจการต่อจากแม่ แต่ร้านนี้ไม่ใช่ร้านดั้งเดิมหรอก เขาขยายรูปแบบร้านไปหลายๆแบบน่ะ”


   “เขาเคยดูงานที่คุณแสดงรึเปล่า” ครองภพไม่ได้สนใจรายละเอียดปลีกย่อยของเจ้าของร้านไปมากกว่าเรื่องสำคัญหลักๆ


   “เคยนะ เห็นบอกว่าดูเรื่องที่เราเล่นด้วยกัน”


   “เป็นแฟนคลับคุณด้วยรึเปล่า”


   “เอ? ไม่รู้หรอก แต่เขาเคยขอลายเซ็น บอกว่าป้าของเพื่อนสนิทชอบ ก็เลยมาขอให้”


   คราวนี้คนอายุน้อยกว่าหน้าหงิกหนักกว่าเดิม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดยิกๆ


   “งั้นไม่ต้องไปแล้ว หาร้านใหม่”


   “อ้าว ทำไมล่ะ” ดวงตาเรียวตวัดมองคนถาม ร่มธรรมกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะร้องอ้อในใจ แล้วยิ้มจางอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับความขี้หึงของ ‘แฟนเด็ก’


   “หึงเหรอ”


   แน่นอนว่าคนถูกถามถึงกับชะงัก พื้นฐานไม่ใช่คนโกหก แต่จะให้ยอมรับว่าหึงมันก็รู้สึกเหมือน...เสียหน้าหน่อยๆ...


   ก็ตั้งแต่คบกันมา มีแต่เขาที่หึงหวง ใจไม่สงบอยู่ฝ่ายเดียว ในขณะที่ร่มธรรมดูจะเข้าอกเข้าใจไปเสียทุกอย่าง


   เขาถ่ายละครมีฉากเลิฟซีนก็เข้าใจ


   เขาถ่ายแบบใกล้ชิดกับนางแบบสาวสวยก็เข้าใจ


   เขามีข่าวลือสร้างกระแสกับนางเอกสาวที่แสดงด้วยกันเรื่องล่าสุดก็เข้าใจ


   ขนาดมีคนจิ้นกับยัยบ้าณัฐฐา ร่มธรรมยังเข้าใจแถมหัวเราะอีกต่างหาก


   ส่วนฝั่งเขาน่ะหรือ


   ถ้าร่มธรรมมีถ่ายฉากเลิฟซีน เขาเข้าใจแต่ไม่พูดถึง


   ถ้าร่มธรรมมีถ่ายแบบใกล้ชิดกับนางแบบสาวสวย เขาก็เข้าใจและก็ไม่พูดถึงเหมือนกัน


   ถ้าร่มธรรมมีข่าวลือสร้างกระแสกับนางเอกสาวที่แสดงด้วยกันเรื่องล่าสุด เขาก็ยังคงเข้าใจและไม่พูดถึงเหมือนเดิม


   และถ้ามีใครจิ้นร่มธรรมกับยัยบ้าณัฐฐา เรื่องนี้เขาไม่เข้าใจ อยากตะโกนใส่หน้าว่าจิ้นกับคนอื่นเถอะ! ยัยบ้าณัฐฐาเป็นได้แค่ยัยบ้าที่ชอบมาวุ่นวายเท่านั้น!!


   รวมๆแล้ว ถ้าร่มธรรมใกล้ชิดคนอื่น ครองภพเข้าใจ หรืออย่างน้อยๆก็พยายามเข้าใจ แต่ไม่พูดถึง แน่นอนว่าสำหรับคนอื่นที่คิดว่าครองภพเป็นคนเงียบๆ การที่เขาไม่พูดเวลาที่เรื่องร่มธรรมกับข่าวเหล่านี้เป็นหัวข้อวงสนทนา ย่อมไม่เป็นที่สงสัย


   แต่สำหรับคนใกล้ชิดที่รู้ดีว่าครองภพไม่ใช่คนเงียบ แต่เป็นคนพูดกับคนที่อยากพูด และพูดเฉพาะเรื่องที่อยากพูด การที่เขาไม่พูดเรื่องของร่มธรรมในด้านที่เกี่ยวกับการต้องทำงานใกล้ชิดกับสาวอื่น ย่อมหมายความว่าเขาไม่พอใจ


   เขาขี้หึง


   ครองภพยอมรับ


   ใครถามเขาว่าเขาขี้หึงไหม เขาก็ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาขี้หึงมาก


   แม้ว่างานแสดงของตนเองจะมีฉากใกล้ชิดกับผู้หญิงเช่นกัน แต่ครองภพมีระยะห่างกับนักแสดงหญิงเหล่านั้นเสมอ แต่สำหรับร่มธรรม...ต่อให้ไม่ตามไปดูที่กอง ก็รู้ว่าต้องเป็นขวัญใจดาวเด่นผู้มีไมตรีกับผู้คนไปทั่ว รวมไปถึงดาราสาวที่ร่วมแสดงด้วย


   ทั้งบทบาท ทั้งการงาน ล้วนทำให้ใกล้ชิด แล้วคนอย่างร่มธรรมก็มีมนุษยสัมพันธ์ดีออกปานนั้น ครองภพก็กลัวว่าวันหนึ่ง...จะมีคนหวังเกินเลยกับร่มธรรมอีก


   เขาขี้หึง


   ครองภพยอมรับแบบไม่มีข้อคัดค้าน


   ในขณะที่ร่มธรรมไม่เคยแสดงอาการเหล่านี้เลยสักนิด เลยดูเหมือนอีกฝ่ายเข้าอกเข้าใจ ใจเย็น และเป็นผู้ใหญ่ ส่วนคนขี้หึง หึงไปหมดทุกอย่าง หึงแล้วไม่พูด หึงแล้วหน้าหงิก เลยดูเหมือนคนไม่เข้าใจอะไรเลย ใจร้อน และเป็นเด็ก


   ...เด็ก…


   ทั้งๆที่ปากดีบอกว่ากำลังพยายามเป็นผู้ใหญ่ที่เหมาะสมกับร่มธรรมให้ได้ แต่สุดท้ายแล้ว...ก็มีเรื่องนี้ที่ยังทำไม่ได้


   ครองภพสูดลมหายใจลึก ถ้าอยากจะเริ่มเป็นผู้ใหญ่ ก็ต้องเริ่มจากตอนนี้ คนหน้าหงิกตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วออกปาก


   “ไปก็ไป”


   “หือ?”


   “ร้านนั้นไง”


   ร่มธรรมกะพริบตาปริบๆ “ไหนเมื่อกี้บอกว่า...”


   “ผมไม่อยากเป็นแบบผีนั่น...” พูดแล้วก็นึกเจ็บใจขึ้นมา ครองภพรู้สึกเหมือนตนเองกับชายนุ่งโจงผู้นั้นไม่ได้แตกต่างกันเท่าไร พวกเขาต่างผูกมัดและยึดติดร่มธรรม ยิ่งเห็นร่มธรรมดีต่อตนก็ยิ่งไม่อยากให้ดีกับคนอื่นมากกว่านี้ ทั้งหวง หึง


แล้วดูชายผู้นั้นในเวลานี้...


   ...ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง ถึงได้หน้าหมองแบบนั้น...


...ไม่สิ ผีแบบนั้นตายอีกไม่ได้แล้ว มีได้แค่ร้ายกับดี...และเท่าที่เห็น ก็ไม่น่าจะอยู่ในที่ที่ดีสักเท่าไรด้วย...


   ...มาหาร่มธรรมอีกไม่ได้ แถมยังถูกผูกติด...


   “ผี?” ร่มธรรมทวนแล้วก็พลันตาโต


   “หมายถึง...ผีที่เราเคยเห็นกันน่ะเหรอ”


   ครองภพไม่ตอบ แต่ชวนคุยไปเรื่องอื่น


   “ไปกินข้าวเถอะ”


   พออีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่อง แม้จะอยากรู้แค่ไหน แต่ร่มธรรมก็ไม่อยากซักไซ้


เรื่องที่เกิดขึ้นในอาคารร้าง ครองภพเล่าให้เขาฟังว่าฝันเห็นชายนุ่งโจง และมีปากเสียงกัน ร่มธรรมไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเล่าหมดทุกอย่างไหม แต่เรื่องที่เขาเห็นกับตาคือตอนที่อุปกรณ์ไฟหล่นใส่ครองภพ ก็มีชายนุ่งโจงยืนอยู่ข้างหลัง และครองภพเองก็เคยออกปากว่าเคยฝันเห็นชายนุ่งโจงและ ‘มาไม่ดี’


ไม่ว่าในอดีตชาติ ใครจะทำอะไรต่อใคร แต่ความสัมพันธ์ของชายนุ่งโจงและครองภพก็คงไม่ใช่เรื่องดี พอมาถึงชีวิตนี้ก็ยังมีร่มธรรมเป็นคนกลางระหว่างทั้งสอง หากครองภพจะไม่อยากพูดถึงชายผู้นั้น ก็พอจะเข้าใจได้


แม้ว่า...ร่มธรรมจะอยากรู้ก็ตามทีว่าบัดนี้ ชายผู้นั้นเป็นเช่นไร


......................


อาหารค่ำในวันนี้ เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ที่ร้านประจำของพวกเขา รสชาติอาหารยังถูกปากเหมือนเดิม ครองภพก็ยังกินเก่งเหมือนเดิม ร่มธรรมก็ยังคอยดูแลเอาใจใส่เหมือนเดิม แต่...ก็เงียบกว่าเดิม พวกเขากินข้าวแล้วก็กลับมาที่คอนโดของครองภพ ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก ทั้งๆที่ช่วงเวลาดีๆเช่นนี้ที่ต่างคนต่างได้พบหน้า แต่ต่างคนต่างก็รู้ว่ามีเรื่องในใจ


...ด้วยเรื่องของชายนุ่งโจง…


ครองภพไม่ใช่คนเก็บความรู้สึกได้ดีนัก เขารู้ว่าร่มธรรมอยากรู้เรื่องของชายผู้นั้น ตัวเขาเองไม่ได้อยากเล่า แต่...ก็ทนเห็นร่มธรรมมีเรื่องในใจไม่ได้เช่นกัน


อยากให้สบายใจเวลาอยู่ด้วยกัน


คำนี้ไม่เกินจริงเลย


เขาอยากให้ร่มธรรมมีแต่ความสุข อยากให้อยู่ด้วยกันอย่างสบายอกสบายใจ ตอนที่กลับมาถึงคอนโด ปิดประตูลงแล้ว เขาก็ดันหลังคนรักไปที่ชุดโซฟา ร่มธรรมงุนงง แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี


“นั่งก่อน” หนุ่มรุ่นน้องพูด  แล้วกดไหล่ คนอายุมากกว่าก็ยอมนั่งแต่โดยดี


   “มีอะไรอยากถามผมมั้ย”


   ร่มธรรมเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจถาม


   “ครอง เจอเขาเหรอ”


ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ‘เขา’ ที่ว่า หมายถึงใคร


คำถามของร่มธรรมทำเอาหนุ่มรุ่นน้องต้องนั่งลงข้างกัน เพราะเรื่องนี้เห็นทีต้องคุยกันยาว


   “ฝันเห็น”


   “เขา...เป็นยังไงบ้าง”


   “คุณ...ไม่โกรธเขาเหรอ”


   ร่มธรรมนิ่งไป


   คนเหล่านั้น ทำให้เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในชีวิตของเขา ทำให้เขาและครองภพตกอยู่ในอันตราย ทำให้เขาและครองภพเกือบจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างวันนี้แล้ว


แต่...ก็เพราะคนเหล่านั้นเช่นกัน ถึงทำให้เขาและครองภพมีวันนี้


   ไม่รู้เลย...ว่าควรจะรู้สึกเช่นไรดี


   “จะว่าไม่โกรธก็ไม่ใช่...แต่...รู้สึกคนละอย่าง กับคุณเบญญาหรือหนุ่ย พี่...ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก ไม่ว่าเขาจะเป็นตายร้ายดียังไง ก็ให้เป็นเรื่องของเขา”


   “แต่...ผู้ชายคนนั้น...”



พูดถึงชายฉกรรจ์ที่ร่มธรรมเคยเห็นตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งตอนโตแม้จะไม่เห็นด้วยตาแต่ก็เคยฝันเห็นบ่อยๆแล้ว ร่มธรรมก็สะท้อนใจอย่างประหลาด


   “พี่ไม่รู้ชื่อเขาด้วยซ้ำ...ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรลงไปบ้าง แต่ก็ไม่อยากให้เขามีชีวิตที่เลวร้ายหรอกนะ”


   “คุณห่วงเขา?”


   “ก็ไม่เชิง แค่ไม่อยากให้เขาทรมาน”


   ครองภพพยักหน้ารับรู้ ชายผู้นั้นใกล้ชิดร่มธรรมมาตั้งแต่เด็ก หากร่มธรรมจะผูกพันและอยากรู้ความเป็นไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก


“ถ้าเขาเกิดเป็นคน มีโอกาสใกล้ชิดคุณ คุณอาจจะรักเขา...” หนุ่มรุ่นน้องเปรย


“แต่เขาไม่มีโอกาสนั้น” ร่มธรรมแย้ง แล้วหันมองคนข้างกายพลางยิ้ม


“อีกอย่าง ครองไม่คิดหรือ ว่าถึงเขาจะไม่ใช่คน แต่เขาก็อยู่กับพี่มาตั้งแต่เด็ก ถ้าพี่รักเขาได้ พี่รักเขานานแล้ว” คำพูดของร่มธรรมนั้นราวกับกอบกู้ความมั่นใจในตัวคนฟังขึ้นมา


“สมัยเด็กๆ เคยเกือบถูกรถชน แต่รู้สึกเหมือนถูกผลักออกมา หวุดหวิดไปนิดเดียว ตอนที่เกือบจะตกบันได ก็เหมือนถูกเตือนให้ระวัง หรืออย่างตอนลืมของไปโรงเรียน ก็ได้ยินเสียงกระซิบว่าลืม”


“ไม่รู้หรอกว่าเป็นผู้ชายคนนั้นรึเปล่า แต่ก็คิดว่าน่าจะใช่...”


“...เขาช่วยพี่มาตลอด” ร่มธรรมเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบ ราวกับความรู้สึกที่มีต่อชายผู้นั้นตกผลึกเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน ชายนุ่งโจงที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก ชายนุ่งโจงที่ช่วยเหลือเขามาตลอด ความรู้สึกที่มีให้...คือความผูกพัน หาใช่ความรัก


“...แต่พี่...ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขามากไปกว่าผูกพันเลย”


“แต่กับบางคน คลาดกันไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แต่พอได้เจอก็ดันได้เรียนรู้กัน เวลาแค่แป็บเดียวก็...รู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารักจัง น่าเอ็นดู”


ครองภพกำลังตั้งใจฟังก็พลันชะงัก หันมองตาโต


“อะไรนะ? เด็ก? คุณพูดถึงใคร”


“ก็พูดถึงใครล่ะ อายุน้อยกว่าตั้งหกปี แต่ชอบทำท่าเป็นผู้ใหญ่ ด่าก็เจ็บ ตาดุอย่างงี้” ไม่พูดอย่างเดียวแต่เอานิ้วยกหางตาตัวเองให้สูงขึ้น “...แต่เวลาจีบนี่...ลูกล่อลูกชนเยอะ”


ครองภพรู้สึกเหมือนทั้งถูกหยอกเรื่องอายุน้อย ถูกแซวเรื่องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ถูกชมไปในคราวเดียวกัน ยิ่งเห็นหน้าคนพูดดูร่าเริงแล้วยิ่งหมั่นไส้ ดึงมืออีกฝ่ามาตีไปทีหนึ่ง


“โอ๊ย ตีพี่ทำไมน่ะ”


“ก็คุณมันน่าตี ถอดใจเก่ง มองแต่คนอื่นไม่สนใจตัวเอง”


พูดอีกก็ถูกอีก ร่มธรรมเถียงไม่ออกสักคำ ได้แต่เอ่ยปากอ้อมแอ้ม


“ขอโทษนะ”


หนุ่มอายุน้อยกว่าที่ชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่เหลือบมองพลางยิ้มจาง


“แต่ผมก็ได้เรียนรู้จากคุณเยอะเหมือนกัน” ครองภพที่เคยมุ่งมั่น มองแต่เรื่องที่ต้องการและพุ่งไปเบื้องหน้าโดยไม่สนสิ่งใด มาวันนี้เรียนรู้ที่จะใจเย็นแล้วหยุดรอคอย หยุดเพื่อหันมองโดยรอบ หยุด...เพื่อหันมามองคนข้างๆ


คนข้างๆ...ที่ผูกพันกับชายผู้นั้น ชายผู้ที่ครองภพรู้สึกว่ามาไม่ดี และไม่หวังดีต่อเขา แต่...หวังดีต่อร่มธรรม


ครองภพถอนหายใจเบา ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา


   “เขา...ดูไม่ค่อยดี”


   ร่มธรรมชะงัก กะพริบตาปริบๆที่จู่ๆเรื่องที่พวกเขาคุยก็เปลี่ยนไป


   ‘เขา’ สรรพนามแทนบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่ร่มธรรม ไม่ใช่ครองภพ


   ...ชายนุ่งโจงผู้นั้น...


   “ไม่ค่อยดีเหรอ...” ร่มธรรมทวน ใจหาย


   “...เขายังไม่ไปไหนสินะ”


   “ผมก็ไม่รู้ เห็นเขาบอกว่ามีคนเรียกเขา แล้วเขาก็เข้าฝันคุณไม่ได้อีก”


   ร่มธรรมได้แต่รับฟังเงียบๆ ชายนุ่งโจงคนนั้นมาเข้าฝันเขาไม่ได้ แต่กลับเข้าฝันครองภพได้


   “แต่เขาก็ยังมาหาครองใช่มั้ย”


   “อืม...แต่ผมบอกว่าไม่ต้องมาอีก”


   ร่มธรรมพยักหน้ารับรู้ ก็ไม่แปลกอะไรถ้าครองภพจะไม่อยากพบชายผู้นั้น ชายนุ่งโจงที่ทำให้พวกเขาบาดเจ็บ ชายนุ่งโจงที่ร่วมมือกับเบญญาก่อเรื่อง แต่...ชายนุ่งโจงคนนั้นก็เคยช่วยเหลือดูแลร่มธรรมมาตั้งแต่เด็ก


   “คุณ...อยากไปทำบุญให้เขามั้ย”


   คำถามของคนข้างกายทำเอาร่มธรรมนิ่งไปเล็กน้อย เงยหน้ามองอย่างคาดไม่ถึง


   “ครองเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ”


   “ผมเชื่อเรื่องการกระทำ ถ้าทำแล้วคุณสบายใจ ผมก็จะพาไป”


   คนอายุมากกว่ามองคนพูดอย่างคิดไม่ถึง


   “ครอง...โกรธเขามั้ย”


   ครองภพสูดลมหายใจลึกก่อนจะผ่อนยาว แล้วเอนกายลงพิงกับพนักโซฟา เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะหันมายิ้มจางให้คนรัก


   “มันสบายดีเหมือนกันนะ กับการปล่อยเรื่องบางเรื่องออกไปน่ะ”


   “...อย่างที่ผมเคยบอก เรื่องมันผ่านไปหมดแล้ว แล้วบางเรื่อง...มันก็นานจนไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นจริงๆรึเปล่า หรือผมอาจจะคิดไปเอง อาจจะฝันเห็นไปเอง อุบัติเหตุพวกนั้นก็อาจจะเกิดจากประมาทเอง พวกเราอาจจะ...บังเอิญฝันเห็นผู้ชายสักคนที่นุ่งโจง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกันรึเปล่า หรือถ้าเขามีตัวตนจริงๆ เราก็ไม่รู้ชื่อเขาอยู่ดี”


   จับต้องไม่ได้ ชื่อแซ่ก็ไม่รู้จัก หากจะกล่าวว่าน่าสงสารก็คงไม่ สำหรับครองภพ มันคือความรู้สึกเวทนา


“แต่ถ้าเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะเขาจริงๆ ก็พิสูจน์ไม่ได้อีก ต่อให้จำก็ไม่รู้จะมีประโยชน์อะไร” นิสัยมุ่งมั่น ทำแต่สิ่งที่ชอบ ทำให้เรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อความชอบ ครองภพปัดมันทิ้งอย่างไม่ใยดีได้อย่างง่ายดาย


“...ถ้าจะมีอะไรที่รู้สึกต่อเขาล่ะก็...คง...หมั่นไส้มั้ง กับ...หึงนิดหน่อย”


   “หึง? หึงใคร?”


   “ก็...ผู้ชายคนนั้นตามติดคุณอย่างกับอะไร ตามมานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ มันก็...”


   “แต่พี่กับเขาไม่...” ร่มธรรมละล่ำละลั่กปฏิเสธ


   “เรื่องนั้นผมรู้ แต่...ผมขี้หึง...”



ความขี้หึงของครองภพเป็นที่รับรู้กันดี ร่มธรรมเองก็พยายามรักษาระยะห่างกับคนอื่นอยู่เสมอ ข่าวกับนักแสดงสาวๆ หรือนางเอกของเรื่อง แม้จะควบคุมค่อนข้างยาก เพราะอย่างไรก็ต้องให้มีกระแสเพื่อโปรโมทผลงาน แต่เขาก็พยายามรักษาระดับความสัมพันธ์กับคนร่วมงานเหล่านั้นไม่ให้แสลงหูแสลงตาคนขี้หึงมากนัก


   “...จะพยายามลดแล้วกัน”


   ร่มธรรมจับมือคนรักเอาไว้แล้วบีบเบาๆ


   “พี่ก็จะพยายาม...ไม่ทำให้ครองหึงมากนัก ดีมั้ย”


   หนุ่มรุ่นน้องมองคนพูดแล้วหัวเราะ ก่อนจะเอียงศีรษะไปวางบนไหล่ ยกมือของร่มธรรมที่จับมือเขาขึ้นมาดู  ก่อนจะหงายฝ่ามือขึ้น แล้วตีอย่างมันเขี้ยวอีกที


   “ตีพี่อีกแล้ว!”


   “คุณน่ะเหรอ จะพยายามทำให้ผมหึงน้อยลง ไปออกกองก็หิ้วขนมที่ร้านกาแฟไปฝากทีมงาน จนพี่มิลยังบอกว่าทีมงานแกอยากร่วมงานแต่กับร่มธรรม ออกงานกับนางเอกที่เล่นด้วยกัน ก็ช่วยผู้หญิงยกกระโปรง ไปถ่ายรายการดึกๆดื่นๆ มีแฟนคลับมารอก็ออกไปสั่งให้กลับบ้าน ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวก็ไม่เหวี่ยงไม่วีน มีแต่คนรักคุณทั้งนั้น...”


   “ก็นั่นมัน...” ร่มธรรมอยากจะเถียง แต่ก็เถียงไม่ออก ตอนที่เขาทำ เขาไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่าสมควร


   เอาขนมไปฝากที่กองก็เพราะรับขนมจากณัฐฐามาวางขายที่ร้านมาก ดูแล้วไม่น่าจะหมด จึงหิ้วไปแบ่งคนอื่น


   ออกงานกับนางเอกที่เล่นละครด้วยกัน นักแสดงสาวใส่ชุดกระโปรงยาวละพื้นเดินไม่สะดวก เดินขึ้นเดินลงบันไดค่อนข้างอันตราย จึงช่วยยกชายกระโปรงให้


   ไปถ่ายรายการดึก เห็นแฟนคลับมารอจึงออกไปบอกให้กลับบ้าน เพราะดึกแล้วย่อมอันตราย


   ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว นั่นก็เรื่องงาน นักข่าวเองก็ทำงาน ให้เกียรติกันและกันด้วยการตอบอย่างสุภาพ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี


   ทั้งหมดนี่ เขาทำเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ตนควรทำ ไม่ได้คิดว่าจะทำให้ใครรักมากขึ้นเลย


   “แต่ถึงผมจะหึง ผมก็ดีใจนะ แฟนผม...เป็นที่รักของคนรอบข้างขนาดนี้”


ครองภพพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมอง พลางยิ้ม รอยยิ้มของหนุ่มรุ่นน้องนั้นบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจในตัวคนรัก ร่มธรรมยิ้มตอบ   


   “พี่ก็ดีใจ ที่ทำให้ครองภูมิใจ” ไม่พูดอย่างเดียว แต่ก้มลงมาจูบเบาๆที่หน้าผากของคนที่วางศีรษะบนไหล่ของเขา ครองภพคิ้วกระตุก เม้มปาก


ไม่ใช่ไม่ชอบที่อีกฝ่ายสัมผัสเขาอย่างเอ็นดู แต่เพราะชอบต่างหาก...ก็เลย...อยากได้มากกว่านี้


   “คุณนี่มัน...”


   เขาพึมพำกับตัวเอง แต่คนเป็นพี่กลับได้ยิน


“หือ? ครองพูดอะไรนะ อ๊ะ!” คำตอบของการย้อนถามไม่ใช่คำพูด แต่เป็นจูบของหนุ่มรุ่นน้องที่ยืดหน้าขึ้นมาแตะริมฝีปากกับริมฝีปากของเขา


คนรักกัน อีกทั้งร่างกายยังหนุ่มแน่น แค่แตะสัมผัสกันเพียงเล็กน้อยก็ทำให้โหยหากันได้แล้ว จากจูบที่เป็นเพียงการแตะริมฝีปากเลยชักจะเลยเถิดเมื่อครองภพเป็นฝ่ายพลิกกายขึ้นคร่อมร่างคนรัก


   “เดี๋ยวๆ...” ร่มธรรมปรามตาโต แต่ครองภพทำหน้าตายให้เหตุผล


   “ให้รางวัลที่ทำให้ผมภูมิใจไง”


   คนเป็นพี่หัวเราะเบาๆ ไม่ขัดแต่พออีกฝ่ายจะส่งมือเข้ามาใต้เสื้อ เขากลับตีมือ


   “ยังไม่ได้อาบน้ำ”


   “ไม่ต้องอาบก็ได้”


   “ไม่ได้” ร่มธรรมรักสะอาด มักจะพูดเสมอว่าทำงานมาทั้งวัน สกปรกมากแล้ว อันที่จริงครองภพก็รักสะอาด แต่ความสกปรกที่ร่มธรรมพูดถึง สำหรับมนุษย์ผาดโผนสมบุกสมบันอย่างเขา ยังคิดว่าตนเองเคยเจอสกปรกมามากกว่านี้อีก


   ครองภพทำหน้ายู่อย่างคนเอาแต่ใจที่ถูกขัดใจ แต่คนอายุมากกว่ากลับผลักเขาออกแล้วลุกขึ้นยืน ตั้งคำถาม


   “จะอาบมั้ย”


หนุ่มรุ่นน้องเหลือบตามอง ขัดใจนิดหน่อยที่ไม่ได้ทำอย่างที่อยากทำเดี๋ยวนี้


“นับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง...อาบมั้ย”


ครองภพยังเงียบ ดื้อเงียบจัดว่าเป็นหนึ่งในความถนัดของเขาเลย


“สอง...ถ้าไม่อาบ ก็แยกกันนอนเลยนะ”


ครองภพก็ยังเงียบ ปากเริ่มยื่น ร่มธรรมอยากจะหัวเราะดังๆด้วยความเอ็นดู


“สาม...ไม่อาบใช่มั้ย พี่อาบให้นะ...”


เท่านั้นคนหน้าบูดก็เด้งตัวขึ้นมาจากโซฟา ร่มธรรมหัวเราะร่วนกับท่าทีของคนรักรุ่นน้อง แน่นอนว่าครองภพมันเขี้ยวที่ถูกอีกฝ่ายปั่นหัวจนหัวปั่นขนาดนี้ ไม่รู้จะเอาคืนอย่างไร เลยจับแขนคนรักลากเข้าห้องน้ำ แล้วขึ้นเสียงราวกับเป็นคนโหด


“มานี่เลย พูดคำไหนต้องคำนั้นด้วย!”


แต่ไม่รู้โหดอย่างไร เพราะเสียงหัวเราะของร่มธรรมยังดังก้องห้องน้ำไปอีกเกือบนาที ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงอย่างอื่นแทน


…………………….

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8


แม้เมื่อคืนจะนอนดึกอยู่สักหน่อย แต่การอิงแอบก็ไม่ต่างจากการชาร์จพลังงาน เช้าวันรุ่งขึ้น ครองภพและร่มธรรมตื่นแต่เช้าก็ไม่รู้สึกเหนื่อยล้า ถึงร่มธรรมจะเคล็ดยอกบ้างก็ตาม


วันนี้พวกเขาไม่มีงาน อันที่จริงจะนอนต่ออีกสักหน่อยก็ได้ แต่เพราะมีธุระเรื่องหนึ่งที่ร่มธรรมอยากทำ เมื่อตื่นแล้ว จึงพากันลุกไปอาบน้ำ ทำอาหารเช้ากินกันง่ายๆ แล้วพอสายก็ออกจากคอนโด


   จุดหมายปลายทางของพวกเขาคือวัดในย่านชุมชนที่เงียบสงบ รถแวนหรูจอดหลบแดดใต้ต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่สองนักแสดงหนุ่มชื่อดังจะก้าวเท้าลงจากรถ


   ยามสาย แดดร้อนเปรี้ยงไม่ใช่ช่วงเวลาที่วัดจะพลุกพล่านเลย ดังนั้น ครองภพและร่มธรรมจึงไม่เป็นที่สังเกต แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ปิดหน้าปิดตามิดชิดก็ตามที


   ร่มธรรมบอกกับเด็กในวัดคนหนึ่งว่าจะมาถวายสังฆทาน จึงถูกพาขึ้นศาลา ครองภพไม่ได้มีความเชื่อหรือไม่เชื่อกับศาสนา แต่อย่างที่บอกว่าถ้าเป็นความสบายใจของร่มธรรม เขาไม่ขัดและพร้อมจะอยู่ข้างๆ ดังนั้น ชายหนุ่มจึงนั่งสงบเคียงข้างคนรัก


   หยาดน้ำใสไหลลงสู่ถ้วยใบเล็ก สองมือของชายหนุ่มสองคนช่วยกันประคองขวดเล็กๆให้รินน้ำจนหมด จากนั้นจึงยกมือพนม ร่มธรรมหลับตาลง อธิษฐานให้น้ำช่วยเป็นสื่อกลางส่งต่อสิ่งดีๆในชีวิตเขา เผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้าง รวมถึง...ชายนุ่งโจงผู้นั้น


...หากไม่อาจพ้นทุกข์โศก ก็ขอเพียงให้สบายขึ้นสักเล็กน้อยก็ยังดี…


   สองหนุ่มลงจากวัด เพราะเป็นการมาอย่างลับๆ และเป็นส่วนตัว อีกทั้งวัดแห่งนี้ก็เป็นวัดเล็กๆในชุมชนที่ไม่คึกคักนัก จึงไม่มีแฟนคลับหรือคนติดตาม


   รถเข็นขายไอศกรีมกะทิยี่ห้อดังจอดอยู่ใกล้ๆบันไดศาลาวัด สำหรับร่มธรรมที่ชื่นชอบขนมหวานแล้ว ไอศกรีมกะทิจัดว่าเป็นขนมโปรดของเขา


   “โอ๊ะ มีรถขายไอติมด้วย” ดูเหมือนความสบายใจหลังกรวดน้ำจะทำให้คนสบายใจชักอยากอาหาร


   “ครองกินมั้ย” เขาหันมาถาม แต่ครองภพส่ายหน้า หนุ่มรุ่นพี่จึงหันไปสั่งไอศกรีมหนึ่งถ้วยของตนเอง


   เจ้าตัวเอาแต่สนอกสนใจกับไอศกรีม ในขณะที่ครองภพยืนข้างๆ หันมองไปรอบๆ อย่างไม่รีบร้อน


   ลานวัดในยามกลางวันนั้นเงียบสงบ อีกทั้งอากาศร้อนแดดจัด ย่อมไม่มีใครอยากออกมายืนที่โล่งแจ้ง แต่...เขากลับเห็นอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นที่หางตา


   ครองภพเลื่อนสายตาผ่านไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่พอเห็นอะไรบางอย่างวูบไหว มันก็ดึงความสนใจให้เขาหันกลับไปมอง แล้วชายหนุ่มก็พลันชะงัก


ท่ามกลางแดดร้อนจัด ร่างของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งยืนอยู่กลางลานวัด ชายผู้นั้นไม่ได้ยืนเฉย แต่ ‘เคลื่อน’ เข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ


นี่เป็นครั้งแรก ที่ครองภพเห็นชายผู้นี้นอกจากในความฝัน แต่ถึงไม่ใช่ความฝัน เขาก็จำได้ว่าชายผู้นี้เป็นใคร ในเมื่อ...นุ่งโจงกระเบน


นักแสดงหนุ่มกลืนน้ำลายอึกใหญ่ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เหลือบมองคนข้างกาย แต่ดูเหมือนร่มธรรมจะมองไม่เห็นในสิ่งที่เขาเห็น ไม่รับรู้แม้แต่น้อยว่ามีใครกำลังเข้ามาหา เจ้าตัวกำลังตักไอศกรีมเข้าปาก รสหวานเย็นทำให้เป็นสุข


   ไม่ได้รับรู้สักนิด ว่ามีใครบางคนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว


   ครองภพหันกลับไปมองยังชายนุ่งโจงผู้นั้นอีกครั้ง เขาหยุดอยู่ตรงหน้าร่มธรรม ห่างราวคืบหนึ่ง ดูราวกับอยากเข้าใกล้มากกว่านี้ แต่ทำไม่ได้


   นี่เป็นครั้งแรกที่ครองภพรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีตัวตนจริง มีหน้าตา จับต้องได้ แต่...อีกใจหนึ่งเขาก็รับรู้ว่าสิ่งที่เขาคิดว่ามีตัวตน กลับมีเพียงเขาที่เห็น เพราะร่มธรรมมองไม่เห็นชายผู้นี้อีกแล้ว


   ‘ท่านไม่เห็นกูอีกแล้ว’


   สีหน้าของชายผู้นั้นเศร้าสร้อย แม้ไม่ได้ขยับปาก แต่ครองภพได้ยินเสียง


   ‘ความเมตตาของคุณหลวง กูรับรู้แล้ว ฝากบอกท่าน...ขอบพระคุณ’


   ‘นังนั่นเรียกกูอีกแล้ว กูต้องไปแล้ว’


   แม้จะมีท่าทีเหนื่อยอ่อน แต่ชายผู้นั้นก็เบี่ยงสายตามายังครองภพ แววตาไม่ได้ปองร้าย หนำซ้ำยังเศร้าสร้อยระคนอ่อนแรง


   ‘ขอบใจ’


   ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกเช่นไร คนที่เคยรังเกียจเดียดฉัน คนที่เคยอาฆาตมาดร้าย มาวันนี้กลับเอ่ยคำขอบคุณ ครองภพรู้สึกราวกับอะไรบางอย่างในใจของเขาคลายตัวออก ความหนักอึ้งในใจกลายเป็นขนนก บางเบาจนแทบไม่รู้สึก


   ร่างของชายผู้นั้นจางลง ทว่าสายตายามมองร่มธรรมที่มองไม่เห็นตนนั้นช่างเศร้าสร้อย


ครองภพไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาให้ใจร้ายต่อผู้อื่น แม้จะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ก็อดสะท้อนใจไม่ได้ ชั่วเสี้ยววินาที เขาหันไปหาคนข้างกายที่กำลังตักไอศกรีมถ้วยเข้าปาก


   “ร่ม เขามาหาคุณ”


   ประโยคนั้น ราวกับหยุดเวลาเอาไว้


ร่มธรรมชะงัก ชายนุ่งโจงผู้นั้นก็ชะงัก ร่างของเขาโปร่งแสง เจือจางราวกับจะมลายหายไป แต่กระนั้นก็คล้ายมีแสงเรืองรองราวกับแสงวูบสุดท้ายของเทียนที่ใกล้มอดไหม้ 


   “เขา? ผู้ชายคนนั้นเหรอ?! เขาอยู่ไหน” ร่มธรรมถาม มองซ้ายมองขวา แต่ไม่เห็นใคร ยิ่งบอกให้รู้แน่ชัดว่าบัดนี้ คุณหลวงที่นายช่วงติดตามดูแล ไม่อาจมองเห็นเขาได้อีกแล้ว และเขาก็ไม่อาจมาเข้าฝันท่านได้อย่างทุกทีอีกแล้ว


   “เขาอยู่ข้างหน้าคุณ เขากำลังจะไป” ครองภพบอก ร่มธรรมจึงหันกลับมา มองตรงไปเบื้องหน้า แต่เขาเห็นเพียงลานวัดที่ว่างเปล่า


ภาพนี้น่าสะเทือนใจสำหรับคนที่เห็นทั้งสองฝ่าย ครองภพเห็นชายนุ่งโจงผู้นั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้ ทรุดตัวลงคุกเข่า มือพนม น้ำตาอาบหน้า แต่ร่มธรรมกลับมองไม่เห็น


   “เขา...คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคุณ”


   “คุกเข่า? คุกเข่าทำไม ลุกขึ้นเถอะ ผมไม่ได้...”


   ‘กระผมต้องไปแล้ว’


แม้แต่เสียง ร่มธรรมก็ไม่ได้ยิน แต่ครองภพได้ยินชัดเจน จึงเป็นกระบอกเสียงให้อีกฝ่าย


   “เขามาลาคุณ”


   แม้จะมองไม่เห็น ไม่ได้ยินเสียง แต่ร่มธรรมตัดสินใจนั่งยองลงกับพื้น ยื่นมือออกไปเบื้องหน้า...ในอากาศที่ว่างเปล่า


   แต่สำหรับครองภพ...เขามองเห็น


   มือของร่มธรรมแตะเข้าที่หัวไหล่ของชายที่ก้มลงกราบเขา


   “ไปมีชีวิตที่ดีนะ”


   น้ำตาของนายช่วงอาบแก้ม ร่างสะอื้นฮักจนตัวโยน เงยมองชายที่นั่งยองอยู่ตรงหน้าเขา ไม่มีชีวิตไหนเลยที่จะไม่ได้รับความเมตตาจากชายผู้นี้ แม้แต่ชีวิตที่ไร้ร่าง มีแต่วิญญาณ ก็ยังได้รับความปรารถนาดี


   ‘ขอบพระคุณคุณหลวงขอรับ ขอบพระคุณ...’


   ร่างของเขาจางลงอย่างช้าๆ แต่ก่อนที่จะหายไปในอากาศ ชายนุ่งโจงก็เหลือบขึ้นมองครองภพที่ยืนอยู่ข้างร่มธรรม


   ‘ขอบใจ ไอ้แผน...’


ทว่าชื่อนั้น ทำเอาคนถูกเรียกว่า ‘ไอ้แผน’ คิ้วขมวด


นายช่วงคล้ายจะรับรู้ แม้จะเศร้าสร้อยแต่ก็ยกยิ้มจาง


‘ก็ได้...ครองภพ’


   คำสุดท้ายก่อนที่ร่างนั้นจะหายไป ทำให้เจ้าของชื่อตะลึงงัน ครองภพยิ้มจางแล้วส่ายศีรษะ


   ...ถึงจะยังดื้อด้าน แต่ก็นับว่าเรียนรู้...


   เขาก้มลงหาคนที่ยังนั่งยองอย่างไม่รู้เหตุการณ์ ก่อนจะดึงแขนเบาๆ


   “เขาไปแล้ว”


   ร่มธรรมลุกขึ้นยืน แต่ไม่วายหันกลับไปมองยังจุดเดิมที่ว่างเปล่า


   “เขา...เป็นยังไงบ้าง”


   “มาขอบคุณแล้วก็ไป เขาบอกว่าสิ่งที่คุณทำให้เขา เขารับรู้”


   “เขาสบายดีใช่มั้ย”


   “ตอนนี้อาจจะยัง แต่ต่อไปก็อาจจะสบายมั้ง”


...อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่แผน แต่เป็นครองภพ ถ้าเลิกเรียกร่มธรรมว่าคุณหลวงได้เมื่อไหร่ ก็คงจะดี...


ร่มธรรมกะพริบตาปริบๆอย่างงุนงง แต่ครองภพชวนเปลี่ยนเรื่อง


   “กินไอติมได้แล้ว ละลายหมดแล้ว”


   “เออ จริงด้วย”


   “อยากไปไหนอีกมั้ย” นักแสดงหนุ่มรูปหล่อที่กลายร่างมาเป็นสารถีหันมาถาม ต่างคนต่างก้าวขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่ ร่มธรรมยังตักไอศกรีมเข้าปากไม่หยุด แต่ก็คิดไปด้วย


   “อืม...ตามใจครองแล้วกัน” ครองภพหันมามอง แล้วเหลือบมองถ้วยไอศกรีมในมือคนรัก


   “ตักให้ผมคำนึง”


   “หือ? ไอติมเหรอ ครองจะกินเหรอ”


   ครองภพไม่ตอบ แม้จะแปลกใจแต่ก็ตักขึ้นมาช้อนหนึ่ง แน่นอนว่าร่มธรรมตักในส่วนที่มีทั้งเครื่อง ทั้งถั่วลิสง และข้าวเหนียวมาด้วย


   แต่พอตักขึ้นมาแล้วจะป้อน ก็นึกขึ้นได้ว่าแม้พวกเขาจะอยู่ในรถที่ติดฟิล์มทึบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรได้อย่างใจ ชายหนุ่มเลยหันด้ามช้อนให้คนรักรับไปถือเอง


   ครองภพหัวเราะเบาๆ เข้าใจในสิ่งที่ร่มธรรมทำ เขารับช้อนมาเข้าปาก ก่อนจะส่งคืน


   “ขอบคุณครับ”


   “อยู่ดีๆทำไมกินไอติมเนี่ย”


   ครองภพยิ้ม ไม่ตอบ แต่ภาพที่เจ้าตัวตักไอศกรีมให้เขาหนึ่งคำ แต่เป็นหนึ่งคำที่ทั้งตั้งใจและเต็มใจตักมาให้ เป็นหนึ่งคำที่ทั้งคัดทั้งเลือก เป็นหนึ่งคำที่แม้กระทั่งคนไม่ชอบกินของหวานยังอิ่มอกอิ่มใจ จะอยู่ในใจเขาไปอีกนานแสนนาน


   “คุณจะไปไหนต่อ” เขาชวนคุยเรื่องอื่น


   “ไม่มีที่ที่อยากไปแล้ว ครองอยากไปไหนล่ะ”


   “งั้นไปเดท”


   “หะ?!” ร่มธรรมตาโต หันมามองคนพูดที่เริ่มขับรถออกจากที่จอดแล้ว


   “ไปหาร้านอร่อยๆ”


   “สรุปไปเดทหรือไปหาร้านอร่อยนะ?” ถูกย้อนถามแบบนี้ ก้ทำเอาสารถีรูปหล่อเหล่ตามองเหมือนจะคาดโทษ ร่มธรรมหัวเราะเบาๆ ตักไอศกรีมเข้าปากเป็นอันหยุดแซว


   “แล้วคุณอยากกินอะไร”


   “อืม? ไม่รู้สิ ตามใจครองแล้วกัน”


   ครองภพเหลือบมามองแล้วยักคิ้ว


   “ถ้าตามใจผม ผมกินคุณนะ”


   “ครองภพ!”


   เสียงหัวเราะดังมาจากคนถูกดุที่พูดจาสองแง่สามง่าม ร่มธรรมส่ายศีรษะ


“ไหนบอกว่าครองภพพูดน้อย...ไหน ใครบอกนะ พี่จะไปบอกเขาใหม่”


“คุณจะบอกเขาว่าไง”


“บอกว่าครองพูดมาก กินขนมหวานด้วย เอาอีกมั้ย” ถึงจะบ่น แต่ก็ตักไอศกรีมในถ้วยขึ้นมาอีกคำเป็นการชวน แต่ครองภพส่ายหน้า


“ถ้าคุณบอกแบบนั้น ความแตกแน่นอน”


“จริงด้วย ว้า...งั้นไม่บอกใครแล้วกัน ถือว่ารู้กันแค่ในหมู่พวกเรา”


“คุณอึดอัดรึเปล่า”


ร่มธรรมหันมอง ยิ้มแล้วส่ายหน้า


“ไม่เลย ครองล่ะ”


“เหมือนกัน...การมีคุณ มันคือความโชคดีของชีวิตผมด้วยซ้ำ”


“พี่ก็ด้วย” ร่มธรรมหันไปยิ้ม คนขับรถเหลือบมามองแล้วส่งยิ้มตอบกลับไป


ท่ามกลางการจราจรของกรุงเทพมหานคร ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครสังเกต


รถยนต์ส่วนตัวคันหนึ่ง...มีสารถีชื่อครองภพ และมีผู้โดยสารชื่อร่มธรรม…


ในรถมีเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ไม่เป็นที่รับรู้ของสังคมภายนอก แต่ความโชคดีของพวกเขา คือต่างคนต่างรับรู้ความรู้สึกของกันและกัน และมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน


รักษาปัจจุบันให้ดี จับมือคนข้างกายเอาไว้ให้มั่น



เส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่พวกเขาจะก้าวไปด้วยกัน



จะเดินเคียงข้างกัน...พร้อมกับความรู้สึกเช่นนี้...ต่อไป


   FIN



เป็นตอนพิเศษที่อยากให้นายช่วงกลับมา อย่างน้อยก็อยากให้เขาพัฒนา (จากที่เคยเรียกน้องครองว่าแผนก็เลิกเรียก ฮ่าฮ่า) อีกอย่างคือนายช่วงมีปูมหลังกับพี่ร่มมาตลอด ก็อยากให้เขาลาจากกันด้วยดี (ด้วยดีก็เลยเป็นชื่อตอนสำหรับการจากลาของร่มกับนายช่วง นายช่วงกับครอง และด้วยดีคืออวยพรให้ชีวิตร่มกับครองเดินไปข้างหน้าด้วยกันด้วยดีค่ะ)

อีกอย่างคืออยากลงท้ายด้วยคำว่า “ต่อไป” เรื่องนี้คอนเซ็ปต์เป็นปัจจุบัน ก็เลยตัดใจไม่ใช้คำว่า “ตลอดไป” แต่อยากให้ชีวิตของพวกเขาเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆพร้อมกับเวลาที่ขยับจากอนาคตมากลายเป็นปัจจุบันค่ะ เพราะฉะนั้น ยังไงก็ฝากพี่ร่มน้องครองต่อไปด้วยนะคะ อาจจะได้เจอพวกเขาในตอนพิเศษอีกค่ะ (ฮาร์ดเซลมาก ฮ่าฮ่า)

สุดท้ายนี้ ขอบคุณสำหรับการติดตามมาตลอด สำหรับคนที่อยู่ด้วยกันมา ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ช่วงหนึ่งบัวดิ่งไปเยอะมากเพราะหลายเรื่องเข้ามาในชีวิต ก็ได้คอมเม้นท์จากคนอ่านช่วยดึงเอาไว้ และขอบคุณสำหรับคนที่เพิ่งแวะเข้ามาอ่าน ขอบคุณมากๆที่มาทำความรู้จักพี่ร่มน้องครอง หวังว่าพวกเขาจะสร้างความสุขให้ได้เหมือนคนอื่นๆในนิยายของบัวนะคะ

เจอกันใหม่เดือนหน้ากับตอนพิเศษเรื่องเก่าๆเรื่องใดเรื่องหนึ่งค่ะ


ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆจาาาา สู้ๆน้าาาา  :L1: :L1: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ประทับใจความอินดี้ ต่อปากต่อคำกับผี เมินผี และออกมาจากฝันได้เอง55555 และก็หึงได้น่ารักดี สมแล้วที่พี่ร่มเอ็นดู :mew1:

เนี่ยเนี่ยครองภพก็รู้จักปล่อยวาง ยอมบอกพี่ด้วยว่าผีมาหาที่วัด ดูเป็นผู้ใหญ่เเล้วๆ (เอ๊ะ หรือจริงๆคือรู้ว่าผีนายช่วงโอกาสเป็น 0 แล้ว เลยยอมอ่อนข้อให้ศัตรูหัวใจ? :hao3:)

แต่ใดๆก็คือพี่ร่มน่ารักกกกกกกก ใจดี ใจเย็นเหมือนน้ำ อยู่ด้วยเเล้วรู้สึกสบายใจจัง อิจฉาครองภพแอ่ๆๆๆๆ

ว่าแต่แม่ค้าขายไอติมขนลุกไปยัง เห็นซีนคนคุยกับผีต่อหน้า555

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
หึงกับผี!!!!
โธ่!! น้องครองที่แท้ก็แอบมีหึงผีนายช่วงด้วยสินะ  :m20:
จะว่าไปก็สงสารนายช่วงนิดหน่อยเหมือนกันที่โดนคนบ้าเรียกหาตลอดเวลาแบบนี้ แต่.. ถ้าคนบ้าไม่เรียกไว้นายช่วงก็คงทำเรื่องให้น้องครองกับพี่ร่มปวดหัวอีกเป็นแน่ จะสงสารเลยสงสารไม่สุด ยังไงก็ขอให้ไปดีเถอะนะนายช่วงจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด เราขออวยพรเพิ่มด้วยอีกคน ว่าจะทำบุญไปให้ด้วยแต่เกรงว่ากรวดน้ำละไปไม่ถึง  :sad4:

รอตอนพิเศษเรื่องอื่นๆ ต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ  :3123: :3123:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
แอบน้ำตาซึมเลย..ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนี้ ดีต่อใจมากๆ  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
รู้สึกตอนนี้ตรงกับใจมาก เคยคิดเหมือนกันว่าสงสารนายช่วงผู้ซื่อสัตย์จะปล่อยวางยังไง
ตอนนี้เลยมาเติมเต็ม คนเขียนน่ารักมาก อิอิอิ สบายใจละ นอนหลับฝันดี และสู้ต่อไป
 :L2: :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SuniSuni

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอบคุณน้องบัว สำหรับนิยายดีๆ สนุกๆ ชอบนิยายทุกเรื่องของน้องบัวเลย จะรอตอนพิเศษ นะคะ เรื่องไหนก้ได้เพราะว่าอ่านนิยายน้องบัวทุกเรื่องเลย..แต่ขอถามนิดนึง เจ้าของร้าน อาหาร ที่ร่มกับครองไปทานประจำ ใช่น้องถ้วยฟูไหมค่ะ เห็นว่ามีขอ ลายเซ็น พี่ร่ม ไปให้ป้าของเพื่อน..นี่นึกถึง ป้ารี ของ ของขวัญ ก่อนเลย คิดว่า ป้ารี น่าจะ เป็นแฟนละครพี่ร่ม แน่ๆ 5555


ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ถูกใจตอนพิเศษนะ
เหมือนทำให้เรื่องราวจบได้อย่างสมบูรณ์ แบบสวยๆด้วย

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เรื่อยๆไปทุกวัน  :hao5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
น้องครองทำให้ผีช่วงยอมเรียกชื่อจนได้! ให้มันได้อย่างเซ่!! ครองภพคนจริง เถียงสู้ผี มาเข้าฝันก็ไล่ส่ง มาฝ่งมาฝากไร พี่ร่มของครองดูแลเอง ไม่ต้องเจ๋อ กับผียังหึง โว้ยยยย น้องครอง5555555555

แต่กับพี่ร่มเนี่ยนะ ครองไม่น้อง ครองไม่เด็ก โดนขัดใจล่ะหน้างอปากยื่น ให้ร่มง้อออ เป็นหมั่นไส้มากกกก

'เบญญา'กรรมเวร ของนายช่วง นางน่ากลัวยิ่งกว่าผีอีก จิกเรียกจนผีลนลาน
ถ้าหลุดพ้นแล้ว ก็ไปดีนะนายช่วง ที่เคยด่าๆไปก็อโหสิกันนะ แอบน้ำตาซึม ตอนมากราบลาพี่ร่ม เห็นหัวจิตหัวใจบ่าวที่มีต่อนาย อดสงสารไม่ได้

คุณบัว มาส่งนายช่วงได้สมบูรณ์ไม่ติดค้างใดๆเลยค่ะ ดีงามมากก
 
ตามนโยบายของคุณบัวใช้ทุกคนให้คุ้มที่สุด เจ้าของร้านนั้น ต้องใช่ถ้วยฟูแน่ๆเลย ขอลายเซ็นไปให้คุณป้า ต้องเป็นป้ารี ที่เป็นเอฟซีพี่ร่มแน่ๆ แล้วมีเหรอป้ารีจะยอมพลาด ลายเซ็นของพี่ร่ม จริงมั้ยยย  :laugh:

 :pig4: อ่านทุกเรื่องของคุณบัว ชอบมากๆทุกเรื่องเลยค่ะ รอลุ้นตอนพิเศษ เรื่องไหนน้าา ตื่นเต้นๆ  :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2020 15:51:14 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
อบอุ่นๆพี่ร่มน้องครอง

ออฟไลน์ งงปะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
อ่านตอนนี้น้ำตาไหลเลย
จริงๆสร้างภาคแยกภาค ของชายนุ่งโจงกับหญิงสาวได้เลยนะเนี้ย 555
เกิดชาติใหม่ใจยังผูกกัน

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด