Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ{ตอนที่12 คนข้างๆ} 10/02/63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ{ตอนที่12 คนข้างๆ} 10/02/63  (อ่าน 13441 ครั้ง)

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
Re: Mr.Lucifer คุณพ่อปีศาจ
«ตอบ #60 เมื่อ06-01-2020 00:58:36 »

ขออนุญาตมาลงในพรุ่งนี้ฮะ (หรือก็คือวันนี้แหละแต่ช่วงเย็นๆค่ำๆค่า)
เนื่องจากเปลี่ยนเครื่องแล้วลืมรหัสผ่าน กว่าจะจำอีเมลที่ใช้สมัครได้ปาไปตีหนึ่งแล้วง่า
แงงงงงงง ถ้าUserนี้เป็นอะไรไป ร้องไห้เป็นเดือนแน่ :hao5:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
ตอนที่ 8
Love myself


“สวัสดีครับ”
คุณชัชก้มหัวให้เล็กน้อยเมื่อเอ่ยทักทายกับมายด์ที่ยืนข้างๆผมก่อนจะเหลือบตามามองผมด้วยสายตาแปลกใจ คุณชัชต้องแปลกใจอยู่แล้วล่ะที่อยู่ๆจะมีคนขอติดรถไปด้วยเนี่ย

ย้อนกลับไปเมื่อตอนเลิกเรียน

“แกจะกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก่อนปะหรือจะไปเลย”
มายด์หันมาถามผมโดยเน้นคำว่ากลับบ้าน……..รู้สินะเรื่องที่ผมโดนไล่ออกจากบ้าน

“ไปเลยก็ได้ ไม่คิดว่าจะอยู่นานอยู่แล้ว”
ผมตอบอย่างที่ตั้งใจไว้ ถ้าพวกมันอยากจะให้ผมเข้าไปในที่ของพวกมันนักผมก็จะไป
อย่างน้อยก็มีคุณชัช ถ้าเกิดอะไรขึ้นเขาก็ช่วยผมได้ และ……….‘ถ้ามีอะไรร้ายแรงให้รีบโทรหาฉัน’

ผมเชื่อว่าเขาจะต้องปกป้องผมได้อย่างที่เขาพูดแน่ๆ

“โห นานๆทีจะไปด้วยกันอะ อยู่จนงานเลิกเลยดิ”
ผมไม่ได้ตอบอะไรแค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาคุณชัช

“คุณชัชตอนนี้ผมเลิกเรียนแล้วนะครับ”

[ครับ ตอนนี้ผมอยู่บ้านคุณผ้าใบ คุณก้านรอสักครู่นะครับ]
ท่าทางจะอยู่กับคิวปิดสินะ คุณชัชนี่ท่าจะรักคิวปิดน่าดู

“ได้ครับผมรอได้ คุณชัชไม่ต้องรีบหรอกครับ”

[ไม่รีบไม่ได้หรอก แค่นี้ก่อนนะครับคุณก้านผมจะไปแล้ว]

“ครับๆ ผมอยู่ตรงที่คุณชัชมาส่งผมเมื่อเช้านะครับ”
เมื่อวางสายก็หันไปเห็นมายด์กำลังยืนกดโทรศัพท์อยู่ไม่รู้ว่าทำอะไรของเขา แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

“คุยกับใครอะเมื่อกี้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว”
ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกันเล่าแค่ยิ้มเอ็นดูที่คุณชัชเขาไปอยู่เป็นเพื่อนคิวปิดต่างหาก นี่มาสืบอะไรใช่ไหมเนี่ย

“ก็พี่คนขับรถแหละ เจ้านายให้เราไปกับพี่เขา”
มายด์พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแซวๆ

“เราไปด้วยดิ”
ชาติที่แล้วเกิดเป็นโคนันหรือไง ชาตินี้ถึงได้สืบเก่งขนาดนี้

“ไหนบอกจะไปพร้อมพี่คิมไง แล้วนี่พี่เขาไม่รอแล้วหรอเนี่ย”

“เพื่อนกับผู้ชายก็ต้องเลือกเพื่อนดิวะหรือว่าแกไม่อยากให้เราไปด้วย”
มายด์พูดแล้วทำหน้าน้อยอกน้อยใจ ผมมองหน้าเพื่อนที่เคยรักมากด้วยความรู้สึกจุกๆในอก ถ้าการที่แกพูดหรือทำดีกับเราแบบนี้มันเป็นของจริงก็คงจะดีสินะ เสียดายที่มันเป็นเครื่องมือในการใช้ทำลายเราของนาย

กลับมาที่ปัจจุบันที่มายด์รีบพุ่งตรงเข้าไปมองสำรวจคุณชัชทันทีที่เขาลงมาจากรถ
เป็นการทำความรู้จักคนอื่นที่น่าตกใจแต่ไม่เหนือความคาดหมายเท่าไหร่

เราทั้งหมดขึ้นมาบนรถหลังจากที่แนะนำตัวกันเสร็จแล้วออกเดินทางไปยังร้านที่จัดงานทันที คุณชัชมองมาที่ผมเป็นระยะเหมือนกำลังกังวล ผมเองก็กังวลเหมือนกันตอนที่มายด์โทรคุยกับเพื่อนคนอื่นๆแล้วบอกว่ากำลังไปที่ร้านกับผม เสียวสันหลังทุกครั้งที่ชื่อของผมออกมาจากปากของมายด์ รู้สึกว่ากำลังจะเจอเรื่องเลวร้ายเลย

“คุณก้านโทรหาคุณท่านหรือยังครับ”
เมื่อเราเดินทางมาถึงร้านที่จัดงาน คุณชัชก็ถามผมที่กำลังจะลงรถด้วยสีหน้าเป็นห่วงจนปิดไม่มิด จริงสิผมลืมโทรหาคุณพ่อปีศาจไปเสียสนิทเลย ป่านนี้จะหงุดหงิดอยู่หรือเปล่านะ

“ผมลืมไปเลยครับ”
ผมพูดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์คุณลูฟแต่……..

“เอ๊ะ ทำไมอะ โทรเลยๆเราก็ขอคุยกับเพื่อนแป๊บนึงเดี๋ยวลงไปพร้อมกัน”
มายด์รีบพูดจนลิ้นเกือบจะพันกันเมื่อผมหันไปมองเขาที่ยังนั่งอยู่บนรถ เมื่อเห็นท่าว่ามายด์จะไม่ยอมลงรถง่ายๆผมเลยโทรหาคุณลูฟทันทีก่อนที่จะช้าไปมากกว่านี้

[ฮัลโหล]

“ค…..คุณลูฟ ตอนนี้ผมถึงที่ร้านแล้วนะครับ คาดว่าอีก2ชั่วโมงผมจะกลับ”
ผมบอกตามที่เจ้านายสั่งให้แจ้ง

[2ชั่วโมง? งานวันเกิดไม่น่าจะเลิกเร็วขนาดนั้นนะ]
ผมย่นจมูกเมื่อรู้สึกว่าโดนกวนใส่

“ที่พูดมานี่คือไม่รู้จริงๆหรอครับ”

[หึ เอาเถอะ ฉันแล้วแต่เธอนะแต่ในเมื่อเธอบอกว่า2ชั่วโมงก็ต้อง2ชั่วโมง ถ้าหากกลับช้ากว่านั้นฉันจะทำโทษ]
ผมคิดถึงสายตาของคุณลูฟไปโดยอัตโนมัติ ทำโทษงั้นหรอ…..เหมือนตอนที่โดนบีบคอตอนนั้นหรือเปล่า ไม่อยากโดนทำโทษเลยแฮะ

“ครับๆ ผมจะรีบกลับครับ คุณเองก็อย่าลืมที่สัญญานะว่าจะรีบกลับบ้านไปหาคิวปิด”

[ถ้าฉันผิดสัญญาเธอจะทำโทษฉันหรือเปล่า]
ท………..ทำไมอยู่ดีๆถึงรู้สึกเขินขึ้นมาล่ะเนี่ย ผมเม้มปากกลั้นยิ้มก่อนจะหันไปสบตากับคุณชัชเข้า อ้ากกกก อย่ามายิ้มล้อเลียนนะครับคุณช้าชชชช

“คุณพูดอะไรเนี่ย ผมจะไปทำโทษเจ้านายได้ไงครับ”

[ก็อย่างเช่นนวดให้ฉันแล้วก็เรียกฉันว่าคุณพ………]

“หยู๊ดดดดดดดดดดดดดดดด เลิกแหย่ผมได้แล้วครับ เอาเป็นว่าอีก2ชั่วโมงเจอกันที่บ้านนะครับ”

[หึหึ โอเค แต่ถ้าเธอเปลี่ยนใจฉันก็อยากให้เธอเรียกฉันว่าแด๊ดดี้นะ]
ไอ้ก้านน้ำตาไหลถึงตีนเมื่อคุยโทรศัพท์กับคุณพ่อปีศาจจบ ทำไมรู้สึกว่าเขากวนประสาทขนาดนี้นะ ตอนแรกๆไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย นี่เรียกว่าไม่ตรงปกหรือเปล่า

“โดนคุณท่านแกล้งเอาหรอครับ”
คุณชัชถามกลั้วหัวเราะจนผมอดที่จะทำปากยื่นอย่างงอนๆไม่ได้

“เจ้านายกับลูกน้องนี่เหมือนกันไม่มีผิดเลยนะครับ”
คุณชัชไม่ตอบอะไรแต่ส่งยิ้มบางๆมาให้

“ผมไปแล้วนะครับ”
ผมพูดพร้อมกับเปิดประตูรถลงไปด้านนอก

“พี่ชัชเข้าไปด้วยกันสิครับ”
ผมกับคุณชัชมองหน้ากันขวับเมื่อมายด์ยื่นมือไปจับแขนของคุณชัชพร้อมกับสรรพนามที่ใช้เรียกอย่างสนิทสนม โว้ว สกิลนี้สินะที่ใช้ล่าเหยื่อ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆด้วยนะเนี่ย

“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ชอบที่ๆคนเยอะๆ”
คุณชัชปฏิเสธพร้อมกับค่อยๆดึงแขนออกอย่างมีมารยาท แต่ดูเหมือนว่ามายด์จะไม่ปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปได้ง่ายๆ

“น้าาาาาา นะครับ ถ้าไม่ชอบคนเยอะๆเดี๋ยวมายด์พาไปนั่งโซนด้านนอกก็ได้”
ผมอ้าปากค้างกับการจู่โจมที่คาดไม่ถึงจนต้องยกมือมาปิดปากตัวเองเพราะกลัวแมลงวันจะบินเข้าปาก

“พี่ชัชต้องดูแลก้านไม่ใช่หรอ ถ้าอยู่ข้างนอกแบบนี้ก็ดูแลไม่ได้สิครับ”
ผมหัวเราะแกนๆเมื่อมายด์ยกไม้ตายขึ้นมาสู้ คุณชัชลอบถอนหายใจเบาๆก่อนจะพยักหน้าตกลง

“ก็ได้ครับ แต่ผมเข้าไปเพื่อดูแลคุณก้านเท่านั้นนะครับ”
เมื่อคุณชัชตอบตกลง สีหน้าของมายด์ก็ดูสดใสขึ้นเป็นกองแต่คุณชัชนี่สิ ทำหน้าโคตรจะยุ่งยากใจเลย
เราทั้งสามคนเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงที่มีป้ายแปะไว้ที่ประตูว่า ‘คุณฟาน’ คนมีเงินนี่ดีจริงๆ แค่วันเกิดก็จัดงานเลี้ยงซะใหญ่โตได้ ทั้งเวทีที่ถูกตกแต่งด้วยลูกโป่งและดอกไม้สวยงาม ทั้งอาหารแบบบุพเฟ่และเครื่องดื่มมากมายที่วางเตรียมไว้เพื่อรองรับแขกที่กำลังเดินทางมาในไม่ช้า

“นี่งานวันเกิดของนายกกทม.หรือไงครับเนี่ย ดูหรูหราจริงๆ”
คุณชัชก้มหน้าลงมากระซิบเมื่อเรามองสำรวจไปรอบๆห้องจัดเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว ส่วนมายด์ก็เดินปลีกตัวออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำ

“คิก คุณชัชพูดอะไรเนี่ย”
ผมพูดพร้อมหัวเราะหน่อยๆ แอบเห็นด้วยว่ามันหรูเกินไปมากเกินกว่าจะเป็นงานวันเกิดจริงๆ หรือมันปกติเพียงแค่ผมไม่เคยมีงานวันเกิดเลยไม่รู้

“ว่าแต่คุณก้านเกิดวันไหนครับ ผมจะได้จัดงานให้แบบนี้บ้างหรือจะเอาหรูกว่านี้ก็ได้นะครับ แค่บอกผมมาเท่านั้น”
ผมส่งยิ้มบางๆให้คนข้างกายอย่างซาบซึ้ง

“ผมเกิด8สิงหาครับแล้วก็ไม่ต้องจัดงานหรือมีของขวัญให้ผมหรอก แค่ไม่ลืมก็พอ”
คุณชัชส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้

“ได้ครับ ถ้าวันเกิดคุณก้านมาถึงแล้ว ผมจะส่งข้อความไปแฮปปี้เบิร์ธเดย์คนแรกเลย ว่าแต่บันทึกไว้ดีกว่า กันลืม”
พูดจบเขาก็หยิบมือถือออกมากดด้วยสีหน้าขมักเขม้น ผมมองการกระทำของคนตัวสูงยิ้มๆ มีความสุขจัง แค่รู้ว่าต่อไปนี้จะมีคนให้ความสำคัญกับผมบ้างก็อยากจะร้องไห้แล้ว

“แหมๆ โลกนี้ไม่ได้มีกันแค่2คนนะ”
มายด์เดินพูดเสียงดังมาตั้งแต่หน้าประตู ตอนนี้มีคนบางส่วนเข้ามาในงานบ้างแล้วเพราะงั้นสายตาทุกคู่เลยหันมาจ้องมองที่ผมกับคุณชัช

เรื่องหาเรื่องให้แบบเนียนๆนี่ต้องไว้ใจมายด์จริงๆ ลากตีนมาให้ได้ไม่เว้นแต่ละวัน น่าโมโหแต่ต้องเก็บอาการเอาไว้ อย่าให้ถึงทีของผมบ้างแล้วกัน

“เพื่อนคุณก้านคนนี้แปลกๆนะครับ”
ไม่แปลกถ้าคุณชัชจะไม่รู้วีรกรรมของมายด์ เพราะผมไม่ได้บอกใครว่ามายด์หักหลังผมยังไงบ้าง ต่อให้เป็นพี่มิวจะรู้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย

“ผมต้องระวังตัวจากเขาให้มากที่สุดครับ”
ผมกระซิบกลับขณะที่มายด์เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาทักทายเพื่อนๆที่ยืนอยู่ตามจุดต่างๆอย่างร่าเริง ดูเป็นคนปฏิสัมพันธ์ที่ดีจริงๆ ไม่แปลกที่ผมจะเคยรักเพื่อนคนนี้สุดหัวใจ

“ผมรับทราบครับคุณก้าน”
คุณชัชกระซิบกลับดว้ยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนที่เราจะไม่ได้คุยอะไรกันอีกเพราะเจ้าหัวข้อบทสนทนาเดินเข้ามาร่วมวงกับพวกผมเรียบร้อย

“เอาจริงๆพอยืนข้างกันแล้วเหมือนแฟนกันมากเลยนะ”
มายด์พูดแซวด้วยรอยยิ้ม

“แค่สนิทกันไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนกันก็ได้นี่ งั้นมายด์ก็เป็นแฟนพี่คิมอะดิ”
ผมตอบกลับด้วยสีหน้าแบบเดียวกับมายด์ แก้มขาวนั่นขึ้นสีเล็กน้อยเมื่อมีชื่อผู้ชายอีกคนเข้ามาในบทสนทนา

“บ้า พูดอะไรเนี่ยก้าน เราเขินนะ”
จ้า เขินมาก ทีตอนไปอ่อยจนได้มีอะไรกับพี่ฟานนี่ไม่เขินบ้างหรอ อยากจะพูดแบบนี้แต่ต้องยับยั้งอารมณ์เอาไว้ก่อน ไม่งั้นได้มีมวยกันกลางงานนี้แน่เดี๋ยวเดือดร้อนคุณชัชเปล่าๆ

“จริงๆนะ ตอนมายด์คุยกับพี่คิมดูเข้ากันได้ดีมากๆ”
ไม่รู้ว่าไปเข้ากันมาแล้วหรือยัง ผมต่อในใจ

“พี่คิมคงไม่สนใจเราหรอก……...ผู้ชายอย่างเราใครจะมารัก”
ใบหน้าน่ารักของมายด์หงอยลงไปทันที ผมมองหน้าคุณชัชที่เลิกคิ้วทำหน้าประหลาดใจอยู่ข้างๆ คงปรับอารมณ์ตามไม่ทันสินะ ผมส่งซิกด้วยสายตาให้คุณชัชพูดอะไรออกไปบ้าง

“เอ่อ……..ถ้ามีคนมารักคุณมายด์จริงๆ คงไม่สนใจหรอกมั้งครับว่าคุณเป็นผู้ชายแบบไหน”
วาวววววววว โคตรคมไปเลยไหมล่ะ ผมแอบยกนิ้วชมเชยคนพูดจาดีไปหนึ่งที แต่ปฏิกิริยาของคนที่เศร้าหมองอยู่เมื่อสักครู่กลับเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นทันตาเห็น เกินความคาดหมายของผมไปเยอะเลย

“พี่ชัชเป็นคนดีจัง”
จ้า คุณชัชเป็นคนดีแต่คุณมึงอะเป็นคนเลว

“ผมว่าผมไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่าครับ”
สงสัยคุณชัชจะถอยไปตั้งหลักก่อนเพราะมายด์คืองานหินที่เจ้าตัวเกินจะรับมือจริงๆ เขาหันมามองหน้าผมเป็นเชิงขออนุญาต

“คุณชัชไปเถอะครับ ผมจะรออยู่ตรงนี้”
คุณชัชมักจะทำอะไรให้ผมเหมือนผมเป็นเจ้านายเสมอ อันนี้ผมคงต้องคุยกับเขาใหม่ซะแล้วว่าไม่จำเป็นเลย ผมก็เป็นแค่ลูกจ้างเหมือนกัน

“เดี๋ยวผมพาไปครับ”
อุย ท่าทางคุณชัชจะหลุดยากซะแล้วล่ะมั้งเนี่ย เขาถูกมายด์กึ่งลากกึ่งจูงออกไปด้านนอกเนื่องจากห้องน้ำที่นี้จะอยู่ข้างนอก
พอบานประตูปิดลงทุกๆคนก็เริ่มหันมาให้ความสนใจผมมากขึ้น แต่สนใจในทางที่ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่เพราะสายตาแต่ละคนคือจ้องมองผมอย่างเอาเรื่อง

จนกระทั่งผู้ชายกลุ่มนึงเดินเข้ามา………..
ผมเปลี่ยนจากการยืนพิงกำแพงเป็นยืนตรง มองใบหน้าของคนที่กำลังก้าวเข้ามาด้วยหัวใจที่เต้นระรัว

“ทีน……”
ผมเรียกชื่อเขาออกมาคล้ายละเมอ ใบหน้าของเพื่อนที่ไม่ได้เห็นมานานแต่พอได้เจอกันในครั้งนี้มันกลับไม่น่ายินดีเลย เพราะทีนคงไม่ได้เดินเข้ามาหาผมเพื่อถามว่าสบายดีไหมแน่

“ยังจำชื่อกูได้อีกหรอ”
เขาถามเสียงเรียบ ผมหันหน้าหนีสายตาอันเย็นชาของเขา

“อือ”

“แต่กูจำชื่อมึงไม่ค่อยได้เลยว่ะ ชื่ออะไรนะ ร่าน? เอ๊ย…….ก้านใบ”
ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เงยหน้ามองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ติดอยู่ตรงหน้าประตูเพราะคุณชัชน่าจะกลับมาได้แล้ว แม้มันจะเป็นเวลาสั้นๆแต่มันก็5นาทีเข้าไปแล้วนะ

“ทำไมมึงถึงกล้ามาที่นี่วะก้าน มึงมาเพื่อพาผู้ชายของมึงมาเยาะเย้ยพี่ฟานหรือไง”

“.........”
ผมไม่ตอบแม้ว่าคำพูดของทีนจะทำให้ผมอยากด่ากลับก็เถอะ แต่ก็รู้ว่าคนอย่างไอ้ก้านไม่เคยด่าใครได้อยู่แล้ว ยิ่งกับทีนผมยิ่งไม่ทำ………….

“มึงสะใจหรอวะที่เห็นคนอื่นเขาทุกข์ทรมาณเพราะความไม่รู้จักพอของมึง ทำไม? การที่กูเลิกคบกับมึงไม่ได้ทำให้มึงคิดได้เลยใช่ปะ”
ผมกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ผมไม่รู้ว่าเขากำลังพูดเรื่องอะไร ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมทีนถึงไม่คุยกับผม

‘เอาตรงๆกูก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นคนแบบนี้นะ เห็นหน้าซื่อๆทำตัวโง่ๆ ที่แท้ก็ร้ายลึก มิน่าพวกมึงถึงตีตัวออก’

‘มิน่าพวกมึงถึงตีตัวออก’

ใช่ครับ ผู้ชายตรงหน้านี้อยู่ในกลุ่มที่ตีตัวออกห่างผมนั่นแหละ
ทีนเป็นเพื่อนคนแรกในมหา’ลัยของผม เพราะเป็นคนไม่ค่อยพูดและไม่เข้าหาใครก่อนเนื่องจากเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นัก แต่ทีนเข้ามาหาผมและบอกให้เราเป็นเพื่อนกัน

ทีนเป็นเพื่อนที่ดีกับผมมากๆ เราสนิทกันชนิดที่ว่าไปไหนมาไหนต้องมีคนแซวว่าเป็นแฟนกันตลอด แต่ในช่วงที่พวกเราใกล้จะขึ้นปี2และผมเริ่มคบกับพี่ฟาน ทีนก็ตีตัวออกห่างจากผม เขาเดินผ่านผมเหมือนผมไม่มีตัวตน ไม่มอง ไม่คุย โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่อ่าน ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่มีเพื่อนที่ชื่อว่าทีนอีกต่อไป

ทุกคนในกลุ่มเลิกคุยกับผมตามทีนไปแต่มายด์ยังยืนยันว่าจะอยู่ข้างผม

‘เราไม่รู้ว่าทำไมทีนทำแบบนี้ ทีนไม่มีเหตุผลเลย’
คือคำที่เขาบอกกับผมพร้อมทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ ผมซาบซึ้งในความเป็นเพื่อนของมายด์มาก ผมจึงซื่อสัตย์และทำเพื่อมายด์มาโดยตลอด

“กูไม่รู้จักพออะไรทีน พวกมึงบอกกูทีสิว่ากูทำอะไรผิด”
ผมถามกลับอย่างเหลืออด นี่อย่าบอกว่าทีนก็เชื่อเรื่องที่ผมมีคนอื่นแล้วทิ้งพี่ฟานไปอีกคนนะ

“ถ้ามึงคิดได้เมื่อไหร่ค่อยมาคุยกับกูแล้วกัน”
ทีนพูดแล้วหันหลังแต่ก่อนจะเดินออกไปเขาทิ้งคำพูดเอาไว้

“แต่มึงไม่ควรมาที่นี่จริงๆก้าน……...ไม่ควรเลยจริงๆ”
หัวใจของผมกลับมาเต้นจังหวะปกติอีกครั้งเมื่อทีนเดินเข้าไปรวมกับกลุ่มเพื่อน รอยยิ้มของทีนปรากฏออกมาต่างจากใบหน้าขึงขังที่คุยกับผมเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง

จะมีโอกาสอีกสักครั้งไหมที่ผมจะได้รับรอยยิ้มแบบนั้นจากทีนอีก

“ไม่น่าเชื่อนะว่าจะกล้ามาจริงๆ”
ซาบซึ้งกับตัวเองได้ไม่นานก็มีนักแสดงสมทบชายเดินเข้ามาแทนที่ทีน เพราะมัวแต่สนใจอดีตเพื่อนรักเลยไม่เห็นว่ามีใครเดินตรงเข้ามาหา ผมไม่ตอบแต่เบือนหน้าหนีไปทางอื่นแทนเพราะที่เกียจคุยด้วย อารมณ์ที่คุยกับทีนเมื่อกี้ยังคงตกค้างอยู่ในใจดังนั้นตอนนี้ผมกำลังอ่อนแอมาก

“ดีเหมือนกันที่มึงทิ้งมันไปเพราะแก้วเหมาะกับมันมากจริงๆ”
น้ำเสียงเยาะเย้ยของพี่คิมยังดังอยู่ข้างหู สายตาของผมเหลือบไปมองคู่รักหนุ่มสาวที่เดินเข้ามาในงานด้วยรอยยิ้ม ผู้หญิงสวมชุดเดรสสีขาวกระโปรงสั้นเหนือเข่าขึ้นไป ผมยาวถูกดัดเป็นลอนหน่อยๆและประดับด้วยกิ๊ฟดอกไม้อย่างสวยงามส่วนฝ่ายชายแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ๊ตสีขาวกางเกงขาสามส่วนและรองเท้าผ้าใบดูเรียบๆ แต่ก็ดูดีในแบบของเขา

“ครับ เหมาะกันดี”
ผมตอบโดยที่ยังไม่ละสายตาไปจากภาพตรงหน้า มองเผินๆแบบไม่คิดอะไรคือเหมาะกันมากจริงๆด้วยทั้งหน้าตาและชื่อเสียงในมหา’ลัย แต่มองแบบผมคือเลวทั้งคู่เหมาะกันดี

“มึงเลิกทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักทีได้ปะ เลิกกวนประสาทซะที”
มือหนาคว้าคอเสื้อนักศึกษาผมขึ้นแล้วตะเบ็งเสียงดัง เสียงเพลงไม่อาจกลบเสียงของพี่คิมได้ทั้งหมดเพราะงั้นคนรอบข้างจึงหันมามองอย่างให้ความสนใจ

“ผมไม่ได้มีคนอื่นและไม่ได้ทิ้งพี่ฟานด้วย”
ผมพูดเหมือนคนเหม่อลอย ใบหน้าของพี่คิมอยู่ห่างจากผมแค่คืบเดียวแต่ว่าภาพมันช่างเลือนลางเหลือเกินและพอกระพริบตาหนึ่งทีน้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้ม

“มึงหมายความยังไง”
ดูเขาจะตกใจไม่น้อยที่เห็นน้ำตาของผม เสียงของพี่คิมแผ่วลงเหมือนคนทำตัวไม่ถูก

“คนโดนทิ้งนี่มีความสุขจังเลยนะครับ แต่คนที่ทิ้งเขาไปอย่างผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ ใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข”

“มีเรื่องอะไรกันวะคิม……...ก้าน”
มือของพี่คิมหลุดออกจากคอเสื้อของผมอย่างงายดายเมื่อพี่ฟานดึงเพื่อนรักออกไป
ใบหน้าหล่อตกใจมากเมื่อหันมาสบตากับผม สายตาของเขายิ่งช็อคสุดขีดเมื่อหันไปเห็นพี่คิมยืนตะลึงงันอยู่ หึ……...กลัวความแตกสินะ

“ก้าน แกมาทำไม”
เสียงของพี่แก้วโพล่งขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของสองหนุ่มที่ยืนอึ้งเหมือนกันแต่คนละสาเหตุ

“ก็วันเกิดพี่ฟาน ผมก็ต้องมาร่วมอวยพรให้สิครับ”
ผมพูดพร้อมปาดน้ำตาที่เปื้อนแก้มออกด้วยหลังมือ จัดคอเสื้อที่ยับยุ่งเหยิงให้เข้าที่แล้วส่งยิ้มให้พี่สาว

“ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะเป็นคนแบบนี้ก้าน”
ผมพยักหน้ารับกับประโยคเกรี้ยวกราดของพี่แก้ว

“ครับ ผมก็ไม่คิดว่าพี่ฟานจะเป็นคนแบบนี้เหมือนกันส่วนพี่ผมรู้อยู่แล้วว่าเป็นคนแบบนี้”

“พูดอะไรก้าน”
ผมยังพูดไม่ทันจบประโยคดีพี่ฟานก็พูดสวนขึ้นมาทันที

“สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่ฟาน ผมดีใจที่ได้มาร่วมงานนะ ขอให้มีความสุขในอายุ22ปีนะครับ”
ผมยังคงยิ้มในขณะที่มองเข้าไปในแววตาของพี่ฟานที่เริ่มมีความไม่พอใจอยู่ในนั้น
ไม่พอใจเพราะผมงั้นหรอ……...สนุกจัง

“คุณก้านครับ”
เสียงหอบเหนื่อยของคุณชัชดังมาจากที่ไหนสักที่จากผู้คนที่ยืนรุมร้อมพวกเราตอนนี้

การประชันบทบาทของตัวร้ายและพระเอกได้เริ่มขึ้นแล้วท่ามกลางสายตาของตัวประกอบมากมายและนางเอกที่มองมาอย่างเป็นห่วง ส่วนเพื่อนพระเอกก็ยืนมองตัวร้ายกับพระเอกสลับกันไปมาอย่างสับสน ทุกคนอาจจะเกลียดผมเพิ่มขึ้นแต่ว่า…

‘พี่ว่าบอกความจริงให้ทุกคนรู้ดีกว่า คนไม่ผิดไม่จำเป็นต้องยืนรับก้อนหินที่คนอื่นปาใส่หรอก’
คำของพี่กันต์ยังดังก้องอยู่ในความคิดของผม มันตอกย้ำให้ผมทำอะไรสักอย่างกับเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้………..ผมต้องไม่ใช่คนเดียวที่เจ็บปวดเพราะเรื่องนี้
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆเมื่อตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง เอาเถอะก้าน อย่างน้อยมึงยังมีพี่ผ้าใบที่คอยให้คำปรึกษา มีพี่มิวพี่กันต์ที่คอยปลอบประโลม มีคุณชัชที่ยืนอยู่ข้างนอกวงสนทนานั่นพร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือเสมอและสุดท้าย ผมมีคุณพ่อปีศาจที่บอกว่าจะไม่ปล่อยให้ผมเป็นอะไรแน่ๆ

“ยินดีกับความรักของพี่ทั้งสองคนด้วย ตั้งแต่ที่เรายังคบกันพี่ฟานกับพี่แก้วก็เข้ากันได้ดีมากๆ ดีกว่าผมซะอีก ขนาดบางวันผมติดเรียนพี่ฟานก็ยังชวนพี่แก้วไปทานข้าวดูหนังด้วยกันสองคน เห็นทั้งสองคนพัฒนาความสัมพันธ์มาไกลขนาดนี้ผมก็ขออวยพรให้รักกันนานๆนะครับ”
ผมหันไปสบตาพี่สาวที่ยืนจ้องมาจนตาแทบจะหลุดออกมาก่อนจะยิ้มให้

“ตอนนี้ผมคงต้องกลับแล้ว ขอบคุณนะมายด์ที่ชวนเรามา”
ผมหันไปพูดกับเพื่อนรักที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ข้างๆคุณชัช

“มาเถอะครับคุณก้าน คุณท่านเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้วครับ”
คุณชัชเดินเข้ามากระซิบใกล้ๆ พอมองไปที่นาฬิกาก็พบว่ามันเลยเวลากลับของผมมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ตายล่ะ คุณพ่อใกล้จะแปลงร่างเป็นปีศาจแล้วมั้งเนี่ย

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
เวรกรรมไม่ทันใจเอาซะเลย ต้องให้ก้านจัดเองสินะ เหอะะะะะะะะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แก้แค้นไม่สะใจเลย

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :katai3: ทิ้งระเบิดไว้...และรอเวลา555555

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ระเบิดเวลาจุดชนวนปุ๊ปก็ซ้ำเลยผีเน่าโลงผุนี่ไม่ยอมฝ่ายเดียวแน่ๆ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ้โห คนพวกนี้

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
แก้แค้นไม่สะใจเลย

ก้านบอกว่า อย่าเพิ่งตาย ฉันเพิ่งเริ่ม!

ออฟไลน์ nut2557

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ไม่น่ามาอ่านเลยตรู....แล้วมันก็จะต้องติดตามอีกแน่ๆๆๆๆ มาต่อไวๆนะ

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:    เมื่อไหร่จะมาจ๊ะ
 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
โอ๊ยย สนุกมากๆเลย สงสารก้านมากๆเลย เอาคืนให้สาสมเลยนะก้าน แค่นี้มันน้อยไป

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
:katai5: :katai5: :katai5: :katai5:    เมื่อไหร่จะมาจ๊ะ
 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:

อุย เขินจังแหะๆ
ช่วงนี้พักผ่อนไม่เพียงพอเลยค่ะ พอมีวันหยุดเลยนอนอย่างเดียวเยย แงๆ
พรุ่งนี้มาแน่ค่า มาแต่เช้าเยย(ถ้าตื่นเช้านะคะ เพราะวันนี้ก็ตื่นบ่ายโมงอยู่) :o8:

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
OK Kha   o13

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
ตอนที่ 9
ความอ่อนแอของผมกับความอบอุ่นของคุณ


ผมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟากลางบ้านอย่างเหนื่อยล้า คุณชัชกลับไปแล้วหลังจากที่มาส่งผม ตอนนี้ทั้งบ้านตกอยู่ในความเงียบแม้จะเป็นเวลาไม่ดึกมาก ผมสอดส่องสายตาไปทั่วบ้านเพื่อหาตัวสองพ่อลูกที่บอกว่าจะรอผมกลับมาแต่ก็ไม่เจอใคร

"ฟู่ววว"
ผมพ่นลมออกมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในอก เงยหน้าหลับตาลงแล้วนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆคนเดียว
หัวเราะด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า

"ท่าทางงานเลี้ยงจะสนุกนะ"
ผมสะดุ้งเด้งตัวขึ้นนั่งหลังตรง เจ้าของบ้านยืนพิงกับผนังแล้วมองผมนิ่งๆ

"ตรงกันข้ามต่างหากครับ"
คนตัวโตยักไหล่นิดๆก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆผม

"เห็นนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว นึกว่ามีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเสียอีก"
ผมหันไปสบตากับคุณลูฟแล้วส่งยิ้มเหนื่อยๆไปให้

"นอกจากเรื่องคิวปิดก็ไม่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นกับผมแล้วครับ"
สายตาของเจ้านายจ้องตอบผมกลับมา ถ้าผมมองไม่ผิดมันดูอ่อนโยนและพร้อมจะปลอบใจด้วย ต้องเน้นคำว่า 'ถ้า' มองไม่ผิดอะนะ เพราะผมไม่ได้อ่านสายตาของคนอื่นเก่งนัก ผมอาจจะเข้าข้างตัวเองเพราะต้องการใครสักคนก็ได้

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ถือวิสาสะขยับเข้าไปให้ชิดกับคุณลูฟมากยิ่งขึ้นก่อนจะเอนซบอกกว้างของเขา

"รู้สึกดีจัง"
ผมพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ ความรู้สึกอบอุ่นที่ผมโหยหามานานมันรู้สึกดีจริงๆ ลำแขนแกร่งยกขึ้นมาโอบกอดผมเอาไว้ เท่านั้นแหละน้ำตาผมไหลออกมาเป็นทางเหมือนเขื่อนแห่งความเข้มแข็งได้พังทลาย

"อ้อมกอดมันเป็นแบบนี้สินะครับ"
เนิ่นนานเป็น10ปีที่ผมไม่ได้รับมันเลยหลังจากที่พ่อออกจากบ้านไปตอนที่ผมอายุ12ขวบ ผมลองหันกลับไปเรียกร้องอ้อมกอดจากแม่อีกครั้งแต่ก็ไม่เคยได้รับมัน แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้…..เพื่อให้ได้รับความรักและเป็นคนสำคัญสำหรับใครสักคนผมจึงยอมคบกับผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าชอบผมมาก ชอบเกินกว่าจะเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันได้

และเมื่อผมติดกับรักเขาจนหมดใจสุดท้ายมันคือการหลอกลวง

โลกไม่ได้แย่ แต่คนมันแย่ผมคิดแบบนั้น แต่คนที่แย่จะต้องเป็นคนใกล้ตัวผมหมดทุกคนเลยหรือไง

Lucifer's part

ความอ้างว้างมันเป็นแบบนี้นี่เอง ผมคิดในใจแล้วมองเด็กผู้ชายในอ้อมกอดที่ร้องไห้จนน้ำตาเปียกเสื้อผมไปหมด

ที่ผมรู้สึกเสียใจเพราะมันเคยเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของผมแต่ผมทำอะไรไม่ได้………..ไม่สิ ผมไม่ได้ทำอะไรเลยแถมยังยัดเยียดความรู้สึกแย่ๆให้เขาเพิ่มอีกต่างหาก

แกได้ร้องไห้แบบนี้บ้างหรือเปล่าซุส แกทรมาณไหมตอนที่ไม่มีใครกอดแกเลย
ฉันขอโทษที่ปล่อยให้แกโดดเดี่ยวมาตลอด ตอนนี้ฉันพอจะทำอะไรเพื่อแกได้บ้างไหม

ผมถอนหายใจแล้วก้มลงมองก้านใบที่นิ่งสงบในอ้อมกอดของผม
………...คนที่หลับไปพร้อมกับน้ำตาทำไมดูน่าสงสารขนาดนี้กันนะ

ผมอุ้มร่างของก้านขึ้นเพื่อพาไปที่ห้องนอนของเขาแต่เมื่ออยู่หน้าห้องแล้วผมกลับเปลี่ยนใจ หันหลังเดินตรงไปอีกห้องแทน
ห้องของผม

มันคงไม่ดีแน่ถ้าก้านตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่คนเดียวในห้องมืดๆในขณะที่จิตใจกำลังอ่อนไหวแบบนี้
แม้ชัชจะรายงานผมเป็นระยะว่ามีอะไรผิดปกติบ้างในงานแต่ก็มีช่วงหนึ่งที่ลูกน้องของผมโดนเพื่อนของก้านกักตัวไว้ จึงทำให้คลาดสายตาจากก้านไประยะหนึ่ง

แต่ต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่เมื่อชัชกลับเข้าไปในงานแล้วเห็นว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กๆอย่างก้านโดนล้อมไปด้วยผู้คนมากมายรวมทั้งพี่สาว แฟนเก่าและผู้ชายที่ทำให้ก้านเกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้น

ผมปิดไฟในห้องเมื่อจัดท่าทางให้ก้านได้นอนอย่างสบายก่อนที่ผมจะหลับตาลงพักเรื่องเครียดๆในสมองแล้วนอนหลับไป

'แกจะไปไหนซุส'
ผมลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นน้องชายคนเล็กในวัย18ปีหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ลงมาจากบ้าน
ซุสไม่ตอบแต่เดินผ่านหน้าผมไปราวกับมองไม่เห็นว่าผมยืนอยู่ตรงนี้ ผมโมโหจนเลือดขึ้นหน้าเดินเข้าไปกระชากกระเป๋าของน้องออกจากมือ

'ฉันถามว่าแกจะไปไหน!'
ผมตวาดเสียงดังขึ้นอีกเมื่อเห็นใบหน้าที่เรียบนิ่งและแววตาที่ไม่แสดงความรู้สึกของซุส

'เรื่องของกู'
น้ำเสียงที่นิ่งไม่ต่างจากใบหน้าของน้องทำให้ผมกำมือแน่น

'คิดว่าตัวเองเก่งแล้วหรือไงถึงได้คิดจะทำอะไรตามใจชอบแบบนี้ ปีกกล้าขาแข็งนักแต่ก็ยังใช้เงินของพ่ออยู่นี่'
ซุสไม่พูดอะไรแต่ปฏิกิริยาเริ่มเปลี่ยนไป เขากัดฟันแน่นจนเห็นสันกรามนูนขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังพูดต่อ

'จะอยู่คนเดียวได้ยังไงถ้าไม่มีครอบครัวคอยช่วยเหลือ ไม่มีใครอยู่รอดโดยที่ไม่มีครอบครัวหรอกนะ จำไว้'

'คำก็ครอบครัว สองคำก็ครอบครัว แล้วครอบครัวนี้มันให้อะไรกูบ้างวะนอกจากเงินสกปรกที่เอาของแม่มา ไม่มีใครอยู่ได้โดยที่ไม่มีครอบครัวหรอ เหอะ!'
ซุสก้าวเข้ามาใกล้ก่อนจะดึงกระเป๋าคืนไปจากมือผม

'ครอบครัวไม่ใช่ทุกอย่างหรอกนะ โดยเฉพาะครอบครัวห่วยๆ'
จากนั้นน้องชายคนเล็กของผมก็ออกจากบ้านไป ผมได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของน้องด้วยความรู้สึกโมโห ก่นด่าน้องในใจว่างี่เง่าเอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรไม่คิดถึงใจคนอื่น
คิดว่าน้องไม่สนใจและไม่แคร์อะไรเลยถึงได้จากไปแบบนั้น………….

ผมมันแย่ที่ไม่คิดแม้แต่จะถามว่าน้องเป็นอะไร ผมสามารถช่วยเหลือน้องได้ไหม
และในตอนนี้น้องคงไม่ต้องการผมอีกต่อไปแล้ว

มันสายไปแล้วสำหรับพี่ชายห่วยๆแบบผม


Lucifer's Part end.

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความหนักอึ้งที่เปลือกตา รู้สึกได้เลยว่ามันบวมจากการร้องไห้มากแค่ไหน

ร้องไห้……….?

เมื่อคืนผมร้องไห้กับอกคุณลูฟเลยนี่นา แถมเขายังกอดปลอบผมอีกต่างหาก -///- คุณพ่อนี่ก็อบอุ่นไม่เบาเลยนะ

"ตื่นเช้ามาก็มีเรื่องดีๆเลยหรือไง ถึงได้นอนยิ้มแบบนั้น"
ผมเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงทุ้มๆกระซิบอยู่ข้างหู

"ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่เนี่ย!"
ผมถอยกรูดจนสัมผัสได้ว่าตัวเองอยู่ที่ขอบเตียง ส่วนคุณลูฟค่อยๆขยับลุกขึ้นนั่งทำให้ผมเห็นว่าเขาไม่ใส่เสื้ออีกต่างหาก โอ้ยอกอีแป้นจะแตก นี่ผมนอนข้างๆผู้ชายที่เปลือยท่อนบนงั้นหรอ

"ทำหน้าลามกขนาดนั้นใส่ร่างกายของฉันหรอ"

"ไม่ใช่!"
ผมรีบปฏิเสธเสียงแข็งแต่เจ้านายของผมก็เอาแต่ส่งสายตาล้อเลียนมาอยู่ได้ ผมมองก็จริงแต่ก็ไม่ได้ทำหน้าลามกซะหน่อย………..แต่มันก็ =.,=

เย๊ย! ดึงสติตัวเองกลับมาเดี๋ยวนี้

"แล้วคุณมานอนกับผมทำไมเนี่ย"
ทำทีเป็นโวยวายเหมือนคนเสียตัวไปก่อนแต่ก็แอบใช้สายตาซอกแซกไปตามร่างกายของคุณพ่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น อ่า…..ร่างกายของผู้ชายอายุ30กว่าๆมันเป็นแบบนี้นี่เอง อ้ากกกกกกกก สติลอยไปกับกล้ามอกแล้วว้อยไอ้ก้าน!

"หมายความว่าจะให้ฉันไปนอนข้างนอกงั้นหรอ"
ว่าแล้วก็ขยับเข้ามาใกล้จนผมต้องยกผ้าห่มขึ้นมากอด ใจจะวายแล้วจ้า

"ก…...ก็ไปนอน…………..ที่ห้องของคุณ"
ประโยคหลังผมพูดเสียงแผ่วเมื่อเพิ่งนึกได้ว่าเรื่องนี้มันแปลกๆบวกกับสายตาที่ดูขบขันของคุณพ่อที่มองมาที่ผมก็ยิ่งรู้สึกประหลาดเข้าไปใหญ่ ผมละสายตาจากคนข้างๆแล้วมองสำรวจไปทั่วห้อง

“นี่ไม่ใช่ห้องผม”
ผมพึมพำกับตัวเองแล้วรีบกระโดดลงจากเตียงใหญ่

“ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่ามานอนที่ห้องของคุณได้ยังไง”
เหงื่อผมตกลงที่ข้างขมับทั้งๆที่แอร์ก็เย็นออกขนาดนี้แต่เจ้าของห้องก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเดินลงมาจากเตียงแล้วก้าวผ่านหน้าผมไป

“ไปปลุกคิวปิดมาอาบน้ำเถอะจะได้ไปทานข้าวกัน”

“ครับ!”
ผมตอบอย่างรวดเร็วแล้วรีบเดินจ้ำออกมาจากห้องของเจ้านายทันที บ้าเอ๊ยผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปนอนในห้องของคุณลูฟได้ยังไง เพราะเมื่อคืนหลังจากที่ผมนั่งร้องไห้กับอกเขาแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย………..หรือว่าเจ้านายจะเป็นคนพาผมเข้าไปนอน

ไม่เอาน่าก้านใบ คิดอะไรบ้าบอ หยุดคิดแล้วก็หยุดยิ้มเดี๋ยวนี้! อ้ากกกกกกกกกกกกกก เขินจนเอาหัวโขกกำแพง

“คุณก้านเป็นอะไรหรือเปล่าครับ….ท่าทางแปลกๆ”
ผมได้สติอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของคุณชัชเรียกอยู่ไม่ไกล ผมหันหน้าออกมาจากกำแพงแล้วส่งยิ้มแหยๆไปให้

“แล้วนี่เมื่อคืนไม่ได้อาบน้ำหรอครับ ยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลย”
นั่นสิ เมื่อคืนไม่ทันได้อาบน้ำก็เผลอหลับไปซะแล้ว แม่งเอ๊ยยยย นอนโดยไม่ได้อาบน้ำแถมยังโดนคุณชัชจับได้อีก อายมากไม่ไหวแล้วจ้า

“แล้วเมื่อคืนไปนอนที่ไหนมาครับ เมื่อกี้ผมไปปลุกที่ห้องแต่คุณไม่ตอบนึกว่าหลับลึก”
เวร! ผมเริ่มสำลักน้ำลายตัวเองทั้งๆที่ยืนอยู่เฉยๆ จะเริ่มตอบคำถามของคุณชัชข้อไหนก่อนดีล่ะเนี่ยเพราะไม่ว่าจะเป็นข้อไหนก็ไม่น่าตอบทั้งนั้น T-T

“คือ ผมต้องรีบไปปลุกคิวปิดแล้วครับ ขอตัวก่อนนะครับคุณชัช”
แล้วผมก็เดินผ่านหน้าคุณชัชมาแบบหน้าด้านๆนั่นแหละ

ผมค่อยๆเปิดประตูห้องของคิวปิดเบาๆ สอดส่องสายตาเข้าไปภายในห้องว่าน้องตื่นหรือยังก็เห็นก้อนกลมๆที่เกิดจากการรวมตัวของเด็ก5ขวบกับผ้าห่มอยู่ที่กลางเตียง
แอบขำกับตัวเองในใจแล้วเดินตรงเข้าไปลูบก้อนนั้นเบาๆ

“คิวปิดครับ”

พรึบ

ผมสะดุ้งจนเผลอถอยหลังออกมาสองก้าวเมื่อก้อนกลมๆที่ผมคิดว่าหลับอยู่สะบัดตัวออกมาจากผ้าห่มอย่างเร็ว

“ตื่นเร็วจัง”
รู้สึกแปลกๆจังที่คิวปิดตื่นเร็วขนาดนี้

“คนผิดสัญญา คิวปิดโกรธ”
นั่นไง คิดผิดซะที่ไหนว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ปกติผมต้องแบกคิวปิดเข้าไปอาบน้ำนู้นแหละถึงจะตื่น

“พี่ก้านขอโทษครับ เมื่อคืนเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นพี่ก้านเลยไม่ได้กลับมาหาคิวปิด”
ผมตีหน้าเศร้าให้น้องเห็นใจ ซึ่งมันได้ผล น้องลดแขนที่กอดอกตัวเองลงแล้วค่อยๆคลานมาหาผมที่ยืนอยู่ข้างเตียง

“ไม่ดีแค่ไหน”
ผมส่งยิ้มบางๆออกมาเมื่อมือเล็กจับเข้าที่มือของผม

“ไม่ดีมากจนพี่ก้านร้องไห้เลย”
สีหน้าของคิวปิดเศร้าลงอย่างกับเป็นคนเจอเรื่องไม่ดีซะเอง เพราะเรื่องไม่ดีของคิวปิดคือการเห็นพี่ก้านเศร้าเพราะเจอเรื่องไม่ดีหรือเปล่านะ

“คิวปิดไม่ได้กอดพี่ก้านตอนร้องไห้”
ผมคุกเข่าลงแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาของเด็กน้อยที่มีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้แทนผมไปแล้ว

“พี่ก้านโตแล้ว ต้องรู้จักหยุดร้องไห้ด้วยตัวเองสิ”

“ไม่ได้นะ ถ้ามีคิวปิดแล้วต้องห้ามร้องไห้คนเดียวเข้าใจไหม”
ผมยิ้มออกมาหน่อยๆเมื่อคิวปิดทำสีหน้าโกรธแบบจริงจัง

"เข้าใจแล้วครับ"



ก๊อก ก๊อก

"เชิญ"
ผมค่อยๆแง้มประตูออกแล้วโผล่หน้าเข้าไปภายในห้องทำงานของคุณลูฟ เขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานและมีเอกสารวางกองอยู่เต็มโต๊ะ

"ผมเอาของว่างมาให้"
ผมพูดแล้วค่อยๆเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถาดใส่จานของว่างและน้ำผลไม้อย่างระมัดระวัง

"วางไว้นั่นแหละ"
ดูเหมือนคุณพ่อจะเคร่งเครียดกับเอกสารตรงหน้าน่าดู เขาก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมือโดยที่ไม่เงยหน้ามามองผมเลย แต่เวลาที่คุณลูฟใส่แว่นนี่ยิ่งดูดีขึ้นไปอีกจริงๆ…...หรือว่าเป็นความชอบส่วนตัวของผมเอง -///-

"มีอะไรจะพูดกับฉันหรอ?"
ผมสะดุ้งเมื่อคุณลูฟเงยหน้าขึ้นมาสบตาโดยไม่ทันตั้งตัว เขาวางเอกสารในมือลงแล้วลุกเดินออกมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้อง

"เปล่าครับ"
ผมแค่รู้สึกว่าอยากพูดคุยกับคุณลูฟให้มากกว่านี้แต่ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรดี

"นั่งสิ"

"ห๊ะ…..เอ่อ ครับ"
ผมตอบรับแล้วค่อยๆนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับเจ้านายโดยเว้นระยะห่างที่ห่างพอตัว

"ถ้าเป็นคนก่อนๆเขาจะนั่งตักฉันนะ"
ผมหันมองหน้าคุณลูฟอย่างเร็วจนคอแทบเคล็ดพร้อมกับทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน แต่อีกฝ่ายแค่อมยิ้มเล็กๆเท่านั้น

"คุณเล่นกับพี่เลี้ยงแบบนี้ประจำหรือเปล่าครับ"
ผมถามออกมาเสียงเบา แอบรู้สึกผิดหวังหน่อยๆเพราะคิดว่าคุณลูฟอาจจะใจดีกับผมแค่คนเดียว

"เธอคิดว่าไงล่ะ"
ผมเลื่อนสายตาจากหน้าของเจ้านายไปมองที่แก้วน้ำบนโต๊ะแทน

"ผมคิดว่าคุณเป็นคนขี้รำคาญคงไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย คุณต้องหงุดหงิดมากแน่ๆถ้าอยู่ๆก็มีคนกระโดดขึ้นไปนั่งตักคุณ"
อันนี้ที่ผมคิดนะ ความเป็นจริงเขาอาจจะลูบไล้เอวบางๆของพี่เลี้ยงสาวแล้วจับเธอกดลงบนโต๊ะ………...ตัวนี้

ฉ่าาาาา

อยู่ๆผมก็มองโต๊ะตัวนี้เปลี่ยนไปและหน้าผมก็ร้อนฉ่าขึ้นมาซะงั้น ไอ้ก้านมึงคิดอะไรเนี่ย เอาความคิดนี้ของไปจากหัวซะ!! ผมคิดแล้วสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนี่ออกไป

"หึ…..แล้วฉันเป็นแบบไหนอีก"
ดูเหมือนคุณพ่อจะกำลังสนุกที่ได้เห็นปฏิกิริยาเถียงกับตัวเองของผม มุมปากของเขายกขึ้นเป็นยิ้มร้ายๆที่คนโง่ๆอย่างผมดูก็รู้ว่าตัวเองกำลังโดนแกล้ง

"ก…...ก็เย็นชาจนผมไม่อยากเข้าใกล้ คุณจะแสดงออกทางสายตาด้วยถ้าคุณโกรธ"
เจ้าตัวพยักหน้า

"ถือว่ารู้จักฉันขั้นหนึ่งเลยนะ"
ผมเม้มปาก รู้สึกฟูฟ่องในหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนโดนยอมรับให้เป็นคนสนิทของคุณลูฟไปแล้ว

"แต่ยังไงคุณก็น่ารักสำหรับผมนะ"
ผมแกล้งแหย่เขากลับเมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะพ่ายแพ้โดยคำพูดของเขาจนเสียอาการ

"เธอนั่นแหละน่ารัก"
บ้าจริง! ไม่ได้เตรียมตัวมาเจอประโยคนี้เลย ตายแล้วไอ้ก้าน มึงหายใจก่อนตอนนี้เดี๋ยวตาย!

"เขินหรอ"
ผมสะบัดหน้าไปสบตาอีกฝ่าย กำลังจะอ้าปากเถียงด้วยความเขินแต่สีหน้าของเขาทำให้ผมพูดไม่ออก………

มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นงั้นหรอ

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
มาแว้ว มาแต่เช้าเลยเชียว เช้าของลอนดอน แฮร่!
ช่วงนี้คุณพ่อกับน้องก้านก็กำลังพัฒนาความสัมพันธ์กันไปเป็นขั้นเป็นตอนนะคะ
ตอนหน้าพวกนางก็จะเปิดอกคุยกันมากขึ้น (จริงๆตอนนี้คุณพ่อก็เปิดอกแล้วแหละ) ไม่ช่ายยย!

****ช่วงนี้ฟิวเริ่มแต่งนิยายเรื่องใหม่อยู่ด้วย คือพยายามแล้วว่าจะตั้งใจแต่งแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวให้จบก่อน แต่มันห้ามใจไม่ไหวจริงๆ
เป็นแนวพระเอกเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่งและยึดติดกับนายเอกมาก ส่วนนายเอกก็แสนดีชอบพระเอกมากโดยที่ไม่รู้ว่าพระเอกเป็นโรคนี้อยู่ คือมันอยากแต่งอะทุกคน มันห้ามใจไม่ได้แล้ว

เพราะงั้นเลยแอบแบ่งเวลาไปแต่งเรื่องนี้บ้าง แต่ไม่เทไม่ดองแน่นอนจ่ะ อยากให้ติดตามกันต่อน๊าาาา จุ้บๆ

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
ขอบคุณค่ะที่มาต่อตามสัญญา   :กอด1:

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คิวปิดตัวน้อยน่ารักเหลือเกิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
รู้สึกแปลกๆตอนที่มีอีโมติคอนโผล่มานิดนึงค่ะ อาจจะเพราะความไม่ชอบส่วนตัวเอง555555

คิวปิดก็คือน่ารักมาก อยากหอมแก้ม เป็นคิวปิดตัวน้อยๆ
 :กอด1:

ออฟไลน์ yai feel

  • Why?
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-2
ตอนที่10
น้องก้านใบ คนMove on

“ขอโทษนะครับคุณก้านที่ช่วงนี้คงต้องเดินทางไปไหนมาไหนเองไปก่อน”
คุณชัชก้มหัวขอโทษผมเป็นการใหญ่เมื่อเขาบอกกับผมว่าช่วงนี้งานที่บริษัทเยอะขึ้นมากและเขาคงจะไม่มีเวลามารับไปส่งผมที่มหา’ลัยเหมือนปกติ เขาเสนอว่าจะให้คนขับรถคนอื่นทำหน้าที่แทนแต่ผมปฏิเสธไปเพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก

“ไม่เป็นไรครับคุณชัช เรื่องแค่นี้สบายอยู่แล้ว”
มันไม่ใช่ความผิดของคุณชัชที่เขางานยุ่งแบบนี้และผมไม่อยากรบกวนคนอื่นเพราะผมก็เป็นแค่ลูกจ้างคนหนึ่งเท่านั้น

“แล้วก็คุณท่านบอกให้คุณเอารถคันนี้ไปใช้ครับ”
เขาพูดแล้วยื่นกุญแจรถที่มีสัญลักษณ์คล้ายๆแผนภูมิวงกลมมาให้ผม

“ไม่เอาหรอกครับ ผมขับรถเป็นที่ไหน”
ผมโบกมือปฏิเสธทั้งสองข้าง

“คุณท่านบอกว่าคุณจำเป็นที่จะต้องขับรถให้เป็นครับ”
ครับ……...แล้วผมก็ต้องยื่นมือไปรับกุญแจรถอันนั้นมาทั้งๆที่ใช้ประโยชน์จากมันไม่เป็นด้วยซ้ำ

หลังจากนั้นผมก็ไม่ค่อยได้เจอกับคุณชัชเลย แน่นอนว่าคุณลูฟก็ไม่ค่อยกลับบ้านด้วยเช่นกัน แต่ผมรู้ว่าบางครั้งเขากลับมาบ้านบ้างเพราะแม่บ้านบอกว่าคุณท่านกลับมาและพวกเธอต้องเอาชาหรือกาแฟไปเสิร์ฟให้ท่านในห้องทำงานในเวลาดึกๆ

และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมไม่เห็นคุณลูฟในห้องนอน แม้ว่าผมจะตื่นตั้งแต่6โมงเช้าก็ตาม

2อาทิตย์แล้วนะที่ผมไม่ได้เจอเขา เป็น2อาทิตย์ที่ปั่นป่วนชะมัด เกิดอะไรขึ้นกับบริษัทของเขาหรือเปล่า หรือเขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับปัญหาบางอย่าง ใบหน้าของคุณลูฟในวันนั้นที่ฉายแววกังวลออกมาโดยที่ไม่รู้ตัวมันก็ทำให้ผมเป็นห่วงเข้าไปใหญ่………..ผมทำได้แค่คิดไปอย่างไร้จุดหมายว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และผมไม่ชอบใจเลยที่ตัวเองทำได่แค่นี้

“อย่าเพิ่งรีบกลับสิก้าน”
ผมหันกลับไปหามายด์ที่กำลังเก็บสมุดใส่กระเป๋าแล้วรีบกุลีกุจอเดินเข้ามาหาผม

“มีอะไรหรือเปล่า”
ผมเลิกคิ้วสงสัย มายด์ยิ้มแล้วคว้าแขนผมเข้าไปกอด

“จับตัวได้ซักทีนะ”
ผมไม่ได้ตอบโต้อะไร ไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจอีกต่อไปแล้วต่อให้รู้ว่านี่คือรอยยิ้มจอมปลอมและมีความร้ายกาจซ่อนอยู่

“ไปกินข้าวกับเราหน่อยสิ เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ”
เป็นความรู้สึกที่ว่างเปล่าจนตัวเองไม่คุ้นชิน ไม่กลัว ไม่รำคาญ ไม่สนใจว่ามายด์มีแผนอะไร ไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าถ้าผมไปกับมายด์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งเดียวที่ผมสนใจตอนนี้คือคุณลูฟจะเป็นอะไรหรือเปล่า ผมเป็นห่วงเขา อย่างน้อยขอแค่ได้เจอก็พอ

“ก้านอยากกินอะไร”
ผมหันไปมองเพื่อนที่เดินอยู่ข้างๆก่อนจะเปิดหน้าจอโทรศัพท์เพื่อดูเวลา ต้องไปรับคิวปิดก่อน

“มายด์หิวไม่ใช่หรอ เลือกเลย”
ผมพูดแล้วเดินนำมายด์ไปที่รถ เป็นเพราะคุณลูฟบอกว่าผมจำเป็นต้องขับรถให้เป็น ผมเลยไปเรียนขับรถอย่างตั้งใจและในที่สุดก็เรียนจบพร้อมสอบใบขับขี่เรียบร้อย ผมอยากอวดมันกับเขาแต่ก็อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้เจอกันเลย ผมเลยรู้สึกหงุดหงิดและโกรธตัวเองอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ยิ่งขี้ลืมอยู่ด้วยกว่าจะได้เจอกันคงลืมไปก่อนว่ามีอะไรจะเล่าให้ฟังบ้าง

“โอเค งั้นกินบุฟเฟ่ต์นะ จะกินให้พุงแตกไปเลย”
มายด์พูดแล้วลูบท้องตัวเองปอยๆ

“ว่าแต่……..ก้านพาเราไปไหนอะ ไม่ไปขึ้นแท็กซี่หน้าม.หรอ”
ผมส่ายหัว ล้วงกุญแจรถออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดปลดล็อค

“..........”
สีหน้าอะไรของเขาล่ะนั่น ช็อคแรงจนผมรู้สึกต่ำต้อยไปเลย

“ขึ้นรถสิ แต่เดี๋ยวเราขอไปรับน้องที่โรงเรียนก่อนนะ”
ผมพูดแล้วเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ ไม่นานมายด์ก็ตามเข้ามา

“ก้าน……...แน่ใจนะว่าแกไม่ได้…….”
สีหน้าของมายด์บอกผมอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการจะพูดอะไรและรู้ด้วยว่าเขารู้สึกยังไง มันเก็บไม่มิดหรอกแววตาเกลียดชังนั่น แต่ผมไม่สน ผมจะทำมากกว่านี้ จะให้มันเกลียดผมจนเก็บเอาไว้ไม่ไหวและเมื่อมันระเบิดออกมาเมื่อไหร่ ผมจะให้สังคมลงโทษมันอย่างที่ผมโดน

“ขายตัวให้เสี่ย?”
ผมต่อคำพูดของมายด์ให้จบ

“ค…...คือ คือเขาก็ลือกันมาอะ แต่เราไม่ได้เชื่อนะก้าน!”
ปฏิเสธเสียงดังเชียวนะ ฟังยังไงก็พิรุธชัดๆ ผมขับรถออกมาจากมหา’ลัย มุ่งหน้าไปที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังที่คิวปิดเรียนอยู่ อีก10นาทีน้องจะเลิกเรียน

“ขอบใจนะที่ไม่เชื่อข่าวลือนั่น”

“แล้ว…….ความจริงเป็นยังไงหรอ บอกเราได้นะเราไม่บอกใครอยู่แล้ว”

“........”

“เรารู้ว่าแกเจอเรื่องแย่ๆมา ไหนจะโดนไล่ออกจากบ้านอีก เราอยู่ข้างแกเสมอนะ”
อยากอ้วกชะมัดแต่ดีที่ยังพอเก็บสีหน้าของตัวเองไว้ได้

“เราไม่ได้ขายตัวให้เสี่ยหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำทำไมมีข่าวลือออกไปแบบนั้น”

“แต่แกมีเบนซ์ขับในช่วงเวลา3เดือนเนี่ยนะ!”
มายด์ขึ้นเสียงใส่ซะผมตกใจ ผมแกล้งหันไปมองหน้ามายด์อย่างไม่เข้าใจ โมโหอะไรของเขา

“ก็ทำงาน เจ้านายให้ใช้เพราะต้องพาลูกชายเขาไปนู้นไปนี่”
ก็ไม่ได้คิดว่ามายด์จะเข้าใจแต่โดยดีอะนะ แต่หวังว่าจะไม่สติหลุดอาละวาดขึ้นมาในรถให้เกิดอุบัติเหตุแล้วกัน

“ขอโทษที่เสียงดังนะ เราตกใจไปหน่อยอะแต่ไม่คิดเลยว่าเจ้านายแกจะใจดีขนาดนี้ ชักอยากเจอแล้วสิ”
ผมลอบยิ้มมุมปากเมื่อมายด์ค่อยๆเผยลายของตัวเองออกมา มายด์จะอยากได้ผู้ชายทุกคนที่อยู่รอบตัวของเราไม่ได้นะ

“มีโอกาสจะพาไปเที่ยวที่บ้านนะ”

“จริงหรอ ดีใจจังเลย”
มายด์ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย

“แต่เจ้านายเราใจดีกับเราแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ กับคนอื่นเขาคือปีศาจ”



"พี่ก้าน คิวปิดขอลูกชิ้นนะครับ"
เด็กชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เด็กพูดพร้อมชี้ตะเกียบไปที่ลูกชิ้นปลารูปร่างน่ารักที่ลอยอยู่ในน้ำซุป

"ได้ครับ อะนี่พี่ก้านให้คิวปิดหมดเลย"
ผมพูดแล้วตักลูกชิ้น2-3อันใส่ถ้วยของคิวปิด

"เย้ๆ ขอบคุณครับ"
ผมมองรอยยิ้มสดใสของน้องอย่างมีความสุข ถ้าลูกชิ้นทำให้น้องมีความสุขขนาดนี้พี่จะเหมาโรงงานมาให้หนูเลยลูก

"คิวปิดน่ารักจังเลยนะ คุณพ่อต้องหล่อมากแน่ๆ"
คิวปิดหุบยิ้มเบ้ปากอย่างไม่พอใจเมื่อมายด์พูดจบ

"อย่ายุ่งกับคุณพ่อนะ"
ยังไม่เลิกหวงพ่อแหะ นึกว่าไม่ค่อยได้เจอจะทำให้เลิกรักคุณพ่อไปแล้วซะอีกขนาดผมยังแอบงอนนิดๆเลยด้วยซ้ำ

"แหม หวงซะด้วย แบบนี้ก็น่าสนใจเข้าไปใหญ่น่ะสิ"
ผมแอบกำมือเมื่ออีกฝ่ายพูดยียวนให้คิวปิดโมโห ไม่ได้พูดเล่นแน่ หมอนี้เอาจริงแน่ๆ

"กินกันเถอะ มายด์อย่าแหย่น้องเราขอ"
ต้องห้ามก่อนที่มายด์จะพูดอะไรมากกว่านี้เพราะเดิมทีแล้วคิวปิดไม่ใช่เด็กที่มีความอดทนเท่าไหร่นักโดยเฉพาะเรื่องของคุณพ่อ

"โทษทีๆ เห็นน้องโกรธแล้วน่ารักดีอะ"
ถ้าแกโดนน้องอาละวาดขึ้นมาจริงๆล่ะจะยิ้มไม่ออก

"อ๊ะ พี่คิมครับ ทางนี้"
ผมเงยหน้ามองตามสายตาของมายด์ไปก็พบกับพี่คิมในชุดนักศึกษา ผมของเขายาวขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่เจอกันล่าสุด เขาหันมาพยักหน้ารับแล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆมายด์

"เกือบลืมไปเลยว่านัดพี่คิมไว้ ดันมากับก้านซะก่อน"
มายด์พูดด้วยรอยยิ้ม อันนี้คืออะไร? เรียกกำลังเสริมหรอ

"จะดีหรอให้พี่นั่งร่วมโต๊ะด้วยแบบนี้"
พี่คิมพูดแล้วมองผมสลับกับคิวปิดที่นั่งเคี้ยวลูกชิ้นไปมา

"เอ่อ……..ก้านคง….."
มายด์ทำเป็นอึกอักทำสีหน้าหนักใจอย่างน่าหมันไส้ ผมรู้ว่านี่มันเป็นแผนของมายด์เหมือนตอนที่พาผมไปงานวันเกิดพี่ฟานให้ผมโดนยำนั่นแหละ

"ไม่เป็นไรหรอก พี่คิมเป็นแฟนมายด์นี่จะให้ไปนั่งที่อื่นได้ไง"
ผมพูดแล้วยิ้มสดใส เอาสิให้มันรู้กันตรงนี้แหละว่าไอ้ก้านก็มารยาเยอะเหมือนกันแหละวะ

"กู…...พี่ไม่ได้เป็นแฟนกับมายด์ครับ แค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันเท่านั้น"
เหมือนจะพูดคำหยาบในตอนแรกแต่คิวปิดที่นั่งมองตาแป๋วอยู่นี่ทำให้เขาเปลี่ยนคำพูด

พี่คิมโมโหน่าดูที่ผมบอกว่าเขาเป็นแฟนกับมายด์ต่างจากอีกฝ่ายที่หน้าเสียไปแล้วเพราะโดนปฏิเสธเร็วซะขนาดนั้น ผมอยากจะหัวเราะแต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้แล้วทำหน้าตกใจแทน

"ขอโทษทีครับ ผมเห็นสนิทกันมากเลยเข้าใจผิด ขอโทษนะมายด์"
ผมตีหน้าเศร้าพูดขอโทษ มายด์เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแหยๆแทน

"ไม่เป็นไรๆ"
สะใจจริงๆเล๊ยยยยย ไม่คิดว่าการปั่นหัวคนอื่นจะสนุกขนาดนี้

"พี่ก้าน"
เด็กข้างตัวเรียกชื่อผมขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศอึมครึม ผมหันไปตอบรับด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเช็ดคราบซอสบนปากเล็กออกให้เบาๆ

"ครับ เอาอะไรดี"
เด็กน้อยส่ายหัวกับคำถามของผม

"แฟนคืออะไรหรอ"
อ่าว………….แล้วผมจะตอบยังไงดีล่ะเนี่ย ผมเกาหัวตัวเองกิ๊กๆเพราะไม่รู้ว่าควรจะใช้คำพูดแบบไหนให้เด็กน้อยเข้าใจ

"แฟนก็คือคนที่รักกันไงครับ"
พี่คิมเป็นคนตอบขึ้นมาแทน เขาคีบกุ้งที่แกะเปลือกแล้วมาใส่ในจานของน้องแล้วยิ้มอ่อนโยน
พี่คิมรักเด็ก ผมรู้ดีกว่าใครเพราะเคยสนิทกับเขามาก ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเด็กพี่คิมจะอ่อนโยนเสมอ เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับถ้าสังเกตก็จะรู้เองแต่ผมมั่นใจว่าน้อยคนที่จะรู้และแน่นอนว่าคนข้างๆของเขาก็คงจะไม่รู้เช่นกัน

"คิวปิดรักคุณพ่อ"
เป็นคนเดียวที่น้องคิดขึ้นมาได้ถ้าพูดถึงความรัก น้องรู้จักคำว่ารักเพราะชอบพูดว่าคุณพ่อไม่รักบ่อยๆ

"ไม่ใช่ครับ ถ้าคิวปิดรักคุณพ่อคือเรื่องปกติอยู่แล้วเพราะเป็นครอบครัว แต่ถ้ารักใครสักคนที่ไม่ใช่ครอบครัวแล้วใครคนนั่นรักตอบด้วย ทั้งสองคนก็สามารถเป็นแฟนกันได้ครับ"
พี่คิมพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม คิวปิดทำตาโตแล้วหันมาหาผม……...เข้าใจผิดอยู่สินะ

"คิวปิดรักพี่ก้าน พี่ก้านก็รักคิวปิด"
ม่ายช่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว จะอธิบายยังไงดีล่ะทีนี้

"ถ้าเป็นแฟนกันไปนานๆ ต้องแต่งงานกันด้วยนะ"
นี่ก็ใส่ไฟเพิ่มไปอีก คือเด็กเข้าใจผิดอยู่ไงต้องอธิบายใหม่ไม่ใช่หรอ

"คิวปิดก็จะแต่งงานกับพี่ก้าน"
ผมยิ้มปลงๆ ถ้าเป็นในการ์ตูนคือผมจะมีเหงื่อเม็ดเป้งอยู่ตรงขมับ

"โตขึ้นแล้วคิวปิดก็จะเจอกับคนที่คิวปิดรักจริงๆนะ"
ผมพูดแค่นั้น ขอไม่อธิบายดีกว่าว่ารักที่จริงคืออะไร อยากให้น้องไปเจอด้วยตัวเองจะได้เข้าใจง่ายกว่าเพราะส่วนตัวผมเองยังงงๆอยู่ว่าความรักมันคืออะไรกันแน่และมันมีให้ผมอยู่จริงๆไหม

"ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะ"
ผมเกือบลืมว่ามีใครอีกคนมาด้วย มายด์ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำอย่างหงุดหงิดเพราะถูกเมินโดยไม่ได้ตั้งใจ พี่คิมหันมามองหน้าผมทันทีที่มายด์ไม่อยู่

"ลูกใครหรอ"
เขาถามเสียงเบา

"ลูกเจ้านายครับ ผมเป็นพี่เลี้ยงเด็ก"
เขาพยักหน้ามองใบหน้าของคิวปิดแล้วส่งยิ้มให้ก่อนจะค่อยๆเลื่อนสายตามาที่ผม

"ก้าน"
เขาเรียกผมด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากสายตาที่มองมาก็ดูไม่ใช่เล่นๆเลยเหมือนกัน

“เรื่องฟาน มีบางอย่างที่พี่ยังไม่รู้หรือเปล่า”
ผมสบตากับพี่คิมอย่างตกใจแต่ไม่ได้แสดงสีหน้าออกไป

"หมายความว่ายังไงครับ"
หรือว่าจะเข้าใจกระจ่างกับสิ่งที่ผมพูดในงานวันเกิดพี่ฟาน

"พอก้านบอกพี่ว่าคนที่มีความสุขอยู่ไม่ใช่ก้าน พี่ก็เริ่มสังเกตและพี่ก็เห็นจริงๆว่าฟานกับแก้วมันแปลกๆ"
แต่มันก็สายไปแล้วครับ ผมไม่เหลือใครไปแล้วและความรู้สึกที่โดนกระทำให้เหมือนผู้ร้ายนั้นผมจำได้ขึ้นใจ

"ผมคงไม่พูดอะไรแล้วล่ะครับ ที่ผ่านมาไม่เคยมีคนมาถามว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไงกันแน่เหมือนเสียงของผมไม่มีความหมาย วันนี้ผมผ่านมันมาได้แล้วและต้องกระชากหน้ากากของคนชั่วออกมาให้ได้ในสักวัน”

“................”
พี่คิมพยักหน้าเบาๆแต่เหมือนยังมีอะไรอยากจะพูดอยู่ผมจึงชิงพูดตัดบทไปก่อน

“ผมคงต้องกลับก่อนเดี๋ยวกลับไปสอนการบ้านน้องด้วย”

"คิวปิดอิ่มมมมมม"
เจ้าตัวเล็กลูบท้องตัวเองท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ผมยิ้มบางลุกขึ้นยืนเตรียมตัวกลับพอดีกับที่มายด์เดินกลับมาจากห้องน้ำ

"ไปไหนก้าน"
มายด์ถามเสียงหวานต่างจากตอนบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำลิบลับ

"ต้องกลับแล้ว"
ผมตอบแค่นั้นยื่นมือไปจับมือของคิวปิด

"งั้นวันนี้เราเลี้ยงเอง"
ผมส่ายหัวขอปฏิเสธ ควักเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นมันไปให้มายด์

“เราเลี้ยงเอง”
ผมพูดด้วยรอยยิ้มผิดกับมายด์ที่มีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด เขายืนเงียบอยู่อย่างนั้นจนผมต้องเดินเข้าไปใกล้และยัดธนบัตรสีเทาใส่มือบาง

“ที่ผ่านมามายด์เลี้ยงเรามาตลอด วันนี้เรามีงานทำมีเงินเดือนแล้ว ให้เราเลี้ยงนะ”
มายด์ไม่ตอบคล้ายจะพูดไม่ออกมากกว่า แต่ที่ผมพูดนั้นไม่ได้ประชดหรือแดกดันให้เขาเจ็บใจ ผมแค่พูดออกมาจากใจเท่านั้น

“เจอกันพรุ่งนี้นะ ขอบใจที่ชวนมา”
ผมพูดปิดท้ายก่อนจะเดินออกมาจากร้านอาหารโดยมือยังกุมมือน้อยของคิวปิดเอาไว้แน่น




“คุณก้าน ผมช่วยครับ”
ผมเดินเข้ามาในบ้านอย่างทุลักทุเลเพราะต้องอุ้มคิวปิดที่หลับปุ๋ยในอ้อมอก แต่เมื่อเท้าก้าวเข้ามาในบ้าน เสียงคุ้นหูของคุณชัชก็ดังมาไม่ไกล ผมเบี่ยงตัวออกเล็กน้อยเพื่อมองทางข้างหน้าเพราะตัวของน้องบังทางอยู่

“คุณชัช”
ผมเรียกด้วยรอยยิ้ม แขนแกร่งของคุณชัชยื่นมารับคิวปิดออกไป เห็นตัวเล็กๆนี่หนักเป็นบ้า แต่น้องตอนหลับนี่น่ารักจนผมไม่อยากปลุก

“ลมอะไรหอบมาครับวันนี้เราถึงได้เจอกันสักที”
ผมพูดแซวแต่แอบใส่ความน้อยใจลงไปในสีหน้าด้วยเพราะการหายตัวไปทั้งหัวหน้าทั้งลูกน้องนี่ทำผมไม่พอใจจริงๆ

“มีเรื่องด่วนเล็กน้อยน่ะครับ ผมไม่รู้ว่าควรบอกคุณก้านดีไหมแต่ให้คุณท่านบอกเองน่าจะดีที่สุด”
ดูจากสีหน้าลำบากใจของคุณชัชแล้วก็ไม่กล้าคาดคั้นหรอก น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อยู่พอสมควรนั่นแหละ แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้จริงๆเมื่อคิดว่าผมยังสำคัญไม่พอที่จะให้คุณลูฟบอกเรื่องสำคัญๆสินะ

“คงจะได้บอกอยู่หรอกนะครับ เล่นหายไปทั้งบ้านแบบนี้จะให้ผมคุยกับรูปปั้นสิงโตหน้าบ้านหรือเปล่าล่ะ”
คุณชัชหน้าเปลี่ยนสีเมื่อผมพูดตัดพ้อน้อยใจ

“คุณก้านลองเข้าไปคุยกับคุณท่านด้วยตัวเองน่าจะดีกว่านะครับ ตอนนี้ท่านอยู่ในห้องนอน”
พอรู้ว่าเจ้านายอยู่ที่บ้านขาของผมก็แทบจะก้าวไปที่ห้องนอนของเขาทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะฝากคิวปิดไว้กับคุณชัชด้วย

ก๊อก ก๊อก

“ฉันไม่ต้องการพบใคร”
เสียงแหบแห้งของคนดุดังออกมาจากในห้องแต่ไม่ทำให้ผมกลัว กลับทำให้ผมรีบเปิดประตูผึงเข้าไปเลยต่างหาก

“คุณป่วยหรือครับ”
ผมถามอย่างร้อนรน เสียงเมื่อกี้ของเขามันดุก็จริงแต่มันไม่ใช่เสียงปกติของเขาแน่ ผมจำได้แม่น

“ฉันบอกว่าไม่ต้องการพบใคร”
คราวนี้ไม่ได้ดุแค่เสียง ตาก็ดุจนผมแทบจะหัวหดแต่ก็ทำใจกล้าเดินเข้าไปใกล้เตียงที่คุณลูฟนอนอยู่

ดวงตาโรยแรง
ขอบตาดำคล้ำ
ปากซีดแห้งผาก

ป่วยแบบไม่ต้องถามซ้ำเลย! นี่มันสภาพของเศรษฐีปีศาจที่ใครๆก็หวาดกลัวแน่หรอเนี่ย อย่าว่าแต่กลัวเลยตอนนี้ จ้องตาสู้ด้วยเอาสิ

“ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลยครับ งานที่คุณทำมันสำคัญมากกว่าชีวิตของคุณอีกหรือครับ”
ผมพูดพร้อมมองสำรวจใบหน้าหล่อที่ปกติจะนิ่งเรียบติดดุเสียด้วยซ้ำ

“ไม่ใช่กงการของอะไรของเธอ ออกไปได้แล้ว”
ดู๊ ดูคนป่วยพูด หน้าซีดจนจะขาวเท่ากระดาษอยู่แล้วยังจะมาทำปากเก่ง ตะเบ็งเสียงไล่คนอื่นอีก ไม่เจียมสังขารเลยจริงๆ ผมยื่นมือไปจับแขนหนาที่วางอยู่ข้างลำตัวของคนตัวใหญ่

“ตัวคุณร้อนมาก เดี๋ยวผมจะเช็ดตัวให้เสร็จแล้วคุณจะได้ทานข้าวทานยา”
ผมพูดโดยไม่สนใจสีหน้าดุๆของเจ้านายเลยแม้แต่น้อย สนก็กลัวอะดิใครจะมองให้เสียวสันหลังเล่นๆล่ะ

ผมเดินออกมาจากห้องนอนใหญ่ตรงไปทางห้องครัวสั่งข้าวต้มปลาถ้วยใหญ่ให้คนป่วยแล้วหลบไปเปิดน้ำใส่กะละมังพร้อมผ้าผืนเล็กเตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับกระทำชำเราคนป่วยเต็มที่

ผมกลับเข้ามาในห้องนอนใหญ่อีกครั้ง คนป่วยนอนหลับตาสิ้นฤทธิ์อยู่บนเตียง อายุปูนนี้แล้วยังจะมีอาการดื้อดึงเป็นเด็กอยู่ได้ ผมวางกะละมังไว้บนโต๊ะข้างเตียง เปิดผ้าห่มออกสำรวจเนื้อตัวของเจ้านายดูซะหน่อย

“นอนเหงื่อแตกเชียว น่าเห็นใจ”
ผมพึมพำอยู่คนเดียวไม่นานก็ค่อยๆยืนขึ้นเต็มความสูง

ยกมือไหว้เจ้านายปลกๆโทษฐานที่จะล่วงเกินโดยจะไม่ขออนุญาตในนาทีต่อไปนี้ ถ้าเขาตื่นขึ้นมาในช่วงจังหวะที่ผม……….ขอไม่คิดเนอะเพราะแค่นี้ก็มือสั่นแล้ว

หมับ

“เฮ้ย!”
ผมตะโกนออกมาแทบจะสุดเสียง ใจตกลงไปอยู่ตาตุ่มเมื่อคนบนเตียงลืมตาผึงแล้วคว้าข้อมือผมหมับในขณะที่ผมกำลังค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออก ตกใจมากโว้ยยยยยย

“จะทำอะไร”

“คุณลูฟ ผมตกใจนะครับ”
ผมพูดแล้วเอามือลูบอกตัวเองปอยๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมาไอ้ก้าน

“เธอนั่นแหละจะทำอะไร”
เขายังไม่ปล่อยข้อมือของผมแต่ขยับลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง พาเอาผมเซล้มลงไปนอนแอ้งแม้งในท่านอนคว่ำบนเตียง คือถ้าจะขยับก็ปล่อยข้อมือผมก่อนไหมล่ะ

“คุณเป็นไข้ ผมก็ต้องเช็ดตัวสิครับ”
ผมพูดแล้วพยายามจะลุกขึ้นนั่ง แต่ข้อมือข้างซ้ายของผมก็ยังไม่ถูกปล่อยสักที

“ฉันไม่ได้ขอ”
ผมถอนหายใจ นั่งจุ้มปุ้กอยู่บนเตียงได้สำเร็จ

“คนเราไม่จำเป็นต้องรอให้ใครร้องขอทุกเรื่องหรอกครับ คุณเป็นเจ้านาย ป่วยไข้ขึ้นมาลูกน้องกินเงินเดือนของคุณอย่างผมก็ต้องดูแล อีกอย่างผมยังโกรธคุณอยู่เพราะงั้นผมอยากให้คุณหายเร็วๆแล้วมาฟังว่าผมโกรธอะไร”
ผมพูดยาวค่อยๆแกะมือใหญ่ที่กำข้อมือผมเอาไว้ออก ชูขึ้นกลางอากาศในระดับสายตา

“แล้วดูสิ เป็นรอยเลย”
สายตาของคนดุมองมาที่ข้อมือของผมที่ขึ้นเป็นรอยแดงเพราะเขากำแรงมากจริงๆ

“ขอโทษแล้วกัน ใครจะนึกว่าลืมตาขึ้นมาเห็นคนปลดกระดุมเสื้อตัวเองอยู่”
ผมส่ายหัวเบาๆแล้วยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อของเจ้านายที่ทำค้างไว้เมื่อครู่

“อยู่ๆก็หายไปครึ่งเดือน กลับมาอีกทีก็ไม่สบายซะแล้ว เป็นผู้ใหญ่ขี้ดุซะเปล่า”
ผมบ่นแล้วหันไปบิดผ้าในกะละมังก่อนจะเอามาเช็ดที่ใบหน้าของคุณลูฟก่อน สายตาของเขายังจ้องมาที่ผมแต่สภาพซอมบี้แบบนี้น่ากลัวว่าจะโดนกัดคอมากจริงๆ

“ขอโทษนะครับ”
ผมเอ่ยขอโทษก่อนจะค่อยๆแตะผ้าลงไปที่แก้มของเขาทีละข้าง ชักประหม่าเพราะสายตาของคุณลูฟยังจดจ้องผมไม่เลิก

“คุณลูฟครับ……”

“ฉันจะเล่าให้เธอฟัง”
ผมยังไม่ทันจะพูดต่อคุณลูฟก็พูดสวนขึ้นมา ผมเอียงคอแปลกใจ

“ครับ?”

“เรื่องที่ฉันต้องไปทำ ที่ฉันไม่กลับบ้าน”

“................”


“เธอช่วยฟังหน่อยได้ไหม”


๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน อย่าเจ็บอย่าป่วยอยู่อย่างปลอดภัยเด้อ  :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อ้อนเหรอคุณพ่อ

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :hao5: คุณปีศาจป่วย

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
คนลูกน่ารักมาก ส่วนคนพ่อดื้อและดุมาก

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด