[ระบบ] ถ้าโฮสต์โง่ เราจะตายกันหมด [บทส่งท้าย-จบ คห.96 22.5.2020]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ระบบ] ถ้าโฮสต์โง่ เราจะตายกันหมด [บทส่งท้าย-จบ คห.96 22.5.2020]  (อ่าน 15385 ครั้ง)

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

ถ้าโฮสต์โง่ เราจะตายกันหมด

"ขอพูดอะไรแรงๆ สักครั้งในฐานะระบบแล้วกัน จะโลกซอมบี้ โลกจีนโบราณ โลกไซไฟแฟนตาซี จะ MPreg Omegaverse ก็ไม่กลัว
กลัวอย่างเดียวคือมีโฮสต์โง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด"


ผลงานอื่นๆ

[จีนโบราณ] เป็นผีลามก ช่างบัดซบยิ่งนัก!

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2020 15:04:30 โดย ซินเอ๋อร์ »

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
บทนำ

หากใครคนหนึ่งโดนผูกติดกับระบบจนต้องไปโลกต่างๆ เพื่อไปเป็นตัวร้าย เพื่อนพระเอก ตัวประกอบ ยังเรียกได้ว่าเป็นเพราะดวงซวย แต้มบุญหมด ถ้าทำตัวดีตามระบบแนะนำสะสมคะแนนเอาไว้นานวันยังมีความหวังจะกลับโลกเก่าได้

แต่หากใครคนหนึ่งโดนจับมาเป็นระบบต้องผูกติดกับโฮสต์ไปไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยชาติกี่พันกี่หมื่นปี คงเรียกได้ว่าเป็นเวรกรรมทำระยำตำบอนเอาไว้มาก ถึงต้องชดใช้กรรมด้วยการมาเป็นระบบที่ไม่มีแม้แต่ร่าง แถมยังต้องดูแลพวกตัวปัญหาสารพัดรูปแบบ

ระบบก็คงเป็นคนเลวบัดซบคนนั้น หลังจากตายแล้วถึงได้ถูกจับมาเป็นระบบ ต้องผ่านการอบรมจนลากเลือดเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง หลายภพชาติแล้วที่ผูกติดกับโฮสต์มาหลายต่อหลายคน บางคนได้ดิบได้ดีมีความสุขแฮปปี้เอนดิ้ง บางคนถูกย้ายไปให้ระบบอื่นจัดการดูแล บางคนทำภารกิจล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีก สุดท้ายวิญญาณแตกสลายไม่เหลือตัวตนอีกเลยก็มี

ร่วมแชร์คะแนนกับโฮสต์มานานเป็นร้อยชาติ ตอนนี้กลายเป็นระบบไฮคลาสที่ผ่านการอัพเกรดขั้นสูงสุด มีคะแนนสะสมมากถึง 99,954,698 คะแนน เพียงอีกไม่กี่คะแนนก็จะครบร้อยล้าน หลุดพ้นจากการเป็นระบบได้เวียนว่ายตายเกิดกับเขาเสียที

ขอแค่โฮสต์คนใหม่มีความสามารถ มีสมองกับเขาสักหน่อย ชีวิตการเป็นระบบก็คงจบกัน บัยส์

คิดแค่นั้นเสียงอัตโนมัติของโครงข่ายระบบก็ดังขึ้น

-แจ้งเตือน! -

-พบโฮสต์คนใหม่กับภารกิจการเป็นแสงเทียนนำใจพระเอกไม่ให้ถลำตัวสู่ด้านมืด-

ภารกิจหาคู่มาอีกแล้ว ภารกิจแบบนี้มาทีไรมักจบด้วยการที่โฮสต์ลงเอยกับพระเอกทุกที สุดท้ายก็ติดตามกันไปแทบทุกชาติภพ รับมือกับภารกิจแบบนี้มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจึงตอบรับข้อเสนอของเครือข่ายโดยไม่ลังเล ภารกิจหาคู่ไม่ใช่อะไรที่ยากและไม่ใช่อะไรแปลกใหม่สำหรับระบบอยู่แล้ว

-กำลังเชื่อมต่อกับโฮสต์คนใหม่...-

-เชื่อมต่อเสร็จสิ้น-

-ขอให้คุณโชคดีกับการเป็นระบบและสนุกสนานกับการผจญภัยในโลกต่างๆ กับโฮสต์ของคุณ-

โฮสต์ลืมตาขึ้นมาอยู่ในโลกสีขาวที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางก็มีท่าทางเลิ่กลั่ก ระบบส่งข้อความเข้าไปในสมองของโฮสต์ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนโปรแกรมอัตโนมัติที่พบเจอได้ทั่วไป

[ระบบเชื่อมต่อเสร็จสิ้น]

[ระบบ ‘แสงเทียนนำใจ’ เปิดใช้งานสำเร็จ!]

[สวัสดีโฮสต์ ระบบหมายเลข 212224 ยินดีให้บริการพร้อมอยู่เคียงข้างโฮสต์ตลอด 24 ชั่วโมง]

“อ๊ะ! ” เสียงใสเหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่นๆ ดังขึ้นด้วยท่าทางกระตือรือร้นจนเกินเบอร์ “นายท่องสูตรคูณแม่สองอยู่เหรอ เดี๋ยวฉันช่วยท่องต่อนะ สูตรคูณแม่สองฉันท่องเป็น สองหนึ่งสอง สองสองสี่ สองสามหก สองสี่แปด”

[…]

สิ่งที่ระบบกลัวที่สุดก็มาถึงแล้ว...

กลัวอะไรก็ไม่กลัว เท่ากับการกลัวว่ามีโฮสต์โง่



โปรดติดตามตอนต่อไป...


******

ซินเอ๋อร์:

เรื่องนี้เป็นนิยายแนว experiment ทดลองเขียนนิยายหลายๆ ธีมของซินเอ๋อร์ค่ะ แต่ยังคงความไร้สติ บ้าบอเหมือนเคยค่ะ โฮสต์โง่ฯ จะมีความยาวไม่กี่ตอนจบนะคะ น่าจะสัก 12-15 ตอนค่ะะ

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Arc 1 ไม่มีพรหมลิขิต มีแต่เรื่องบังเอิญ

“แม่สอง...” โฮสต์กระซิบเรียกเสียงแผ่วด้วยชื่อที่ตั้งให้กับระบบ พอไม่ได้ยินเสียงตอบรับอะไรก็เรียกซ้ำด้วยเสียงที่น่ารำคาญยิ่งกว่าเดิม “ก๊อกๆ แม่สอง แม่สอง นายอยู่มะ อยู่เปล่า”

[ระบบพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือโฮสต์ตลอด 24 ชั่วโมง]

ถึงจริงๆ จะไม่ได้อยากบริการเท่าไรก็เถอะ

“ฮื่อ...มาคุยกันหน่อยเถอะ เราเบื่อจะตายแล้วอ่า”

เบื่อตายไป ระบบไม่คุยกับคนโง่

“แม่สอง...” โฮสต์จิ้มนิ้วเข้าหากันด้วยท่าทางน่ารักเขินอายเอามากๆ ดูแล้วน่าเอ็นดู แต่ไม่ได้เข้ากับใบหน้าหล่อเหลา บุคลิกเฉยชาของร่างที่เขาใช้อยู่ในตอนนี้แม้แต่น้อย สมควรโดนตัดแต้ม

[การจิ้มนิ้วไม่เหมาะสมกับบทบาทของไคล์ ชไนเดอร์ ตรวจพบ OOC[1] ถูกตัดแต้ม 5 คะแนน]

“อย่าดุนักซี่” น้ำเสียงที่อ่อยอยู่แล้วยิ่งอ่อยกว่าเดิมเพราะกลัวโดนหักคะแนน เนื่องจากโฮสต์ไม่ใช่คนฉลาดเท่าไรนัก ทำให้ผ่านมาสามโลกแล้วคะแนนที่มีก็ยังคงน้อยนิดต่ำเตี้ยเรี่ยดิน พออัพเกรดตัวเองได้แค่นิดๆ หน่อยๆ เรียกได้ว่าผลงานที่ผ่านมาแค่พอผ่านเกณฑ์ไม่โดนลงโทษจากระบบเท่านั้น

ใครบอกกันว่าแค่ความน่ารักสดใสจิตใจดีงามก็สามารถเป็นแสงเทียนนำใจผู้คนได้ ยุคสมัยนี้น่ารักให้ตายแค่ไหนถ้าไม่มีสมองก็ไม่มีประโยชน์หรอก

“แม่สอง” ปากบางเฉียบขยับยิ้มหวานด้วยท่าทางเขินอาย “นายเชื่อในเรื่องพรหมลิขิตไหม”

[ระบบอยากบอกคุณว่า ไม่ว่าโลกนี้หรือโลกหน้าก็ไม่มีพรหมลิขิต มีแต่เรื่องบังเอิญทั้งนั้น]

“หัดมีความฝันบ้างสิ! ”

ระบบจะมีความฝันเรื่องพรหมลิขิตไปทำไม ความฝันของระบบคือการที่โฮสต์เก็บแต้มได้เยอะๆ เพื่อเอามาแชร์กัน ระบบจะได้ไปผุดไปเกิดสักที

“เราคิดว่า...อาชวินจะต้องเป็นเขาคนนั้นแน่ๆ” โฮสต์เหม่อมองไปไกลด้วยสายตาเพ้อฝัน ถ้าระบบถอนหายใจได้คงอยากถอนหายใจสักที

อาชวินที่ว่าคือ อาชวิน ฟีนิกซ์ พระเอกของโลกนี้ โลกที่มาในธีมสงครามอวกาศระหว่างมนุษยชาติและเอเลี่ยนสุดแข็งแกร่ง เรียกว่าไซไฟสุดๆ ขนาดมียานรบ ดาบเลเซอร์ ปืนพลาสม่าที่ยิงกันเฟี้ยวฟ้าว โฮสต์รับบทเป็นไคล์ ชไนเดอร์ มีหน้าที่ชักนำเป็นแสงเทียนนำทาง หรือทำยังไงก็ได้ด้วยสติปัญญาที่โฮสต์มีเพื่อให้พระเอกไม่จมสู่ด้านมืด

ตามเนื้อเรื่องแล้วเอเลี่ยนที่เรียกตัวเองว่ามาร์กพวกนี้เป็นปรสิตเอเลี่ยนจากยุคโบราณที่สามารถสิงสู่ร่างของเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในกาแล็กซี่ได้ เมื่อราชาตื่นขึ้นจากหลับใหลพร้อมกับเหล่าทหาร มันจะเฟ้นหาร่างที่มีคุณสมบัติดีที่สุดเพื่อยึดครองพร้อมปล่อยสารบางอย่างที่ทำให้เซลล์ของเผ่าพันธุ์อื่นกลายสภาพเป็นมาร์กจำแลง หลังจากนั้นมันจะเลือกราชินีของเผ่าด้วยตนเองเพื่อให้กำเนิดมาร์กสายเลือดใหม่ที่แข็งแกร่งเดิม มาร์กรุ่นใหม่จะมีเซลล์ที่ดีขึ้น สัญชาตญาณแข็งแรงขึ้น โหดเหี้ยมขึ้น แข็งแกร่งจนแทบเป็นอมตะ

อาชวาน ฟีนิกซ์ พ่อของอาชวินเป็นยอดนักรบพลังจิตที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิไพรม์โนว่า และเป็นเพื่อนสนิทสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่มากับไคล์ ชไนเดอร์ วันหนึ่งกองทัพของราชาเผ่ามาร์กบุกดาวเคราะห์ทรัพยากรหลักดวงหนึ่ง อาชวินสู้กับราชาอย่างห้าวหาญจนตายในสนามรบ ส่วนคนรักไม่นานก็ตรอมใจตายไป ทิ้งลูกชายเอาไว้คนหนึ่ง

ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทและหนี้น้ำใจที่ช่วยชีวิตกันไปกันมาทำให้ไคล์รับอาชวินไปเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เลี้ยงไปเลี้ยงมาไม่รู้ไปเลี้ยงกันยังไง เกิดสปาร์กได้เสียจนขยับความสัมพันธ์มาเป็นคนรัก ทั้งสองกอดคอกันร่วมรบเหมือนสมัยรุ่นพ่อ อาชวินมีพลังจิตและพลังกายที่ดีกว่าพ่อเสียอีก ไม่นานก็กลายเป็นนายพลของกองรบไพรม์ ในสมรภูมิหนึ่งดันพลาดท่าเกือบตาย ไคล์เลยสละตัวเองช่วยคนรัก ส่งอาชวินกลับยานหลบหนีที่บรรจุได้เพียงหนึ่งที่นั่ง ส่วนตัวเองขอระเบิดตัวตายพร้อมกับนายพลของฝั่งมาร์ก

เสียคนรักไปพระเอกก็ต้องแก้แค้นเป็นธรรมดา อาชวินใช้เวลาหลายปีรวบรวมกำลังขึ้นมาใหม่เพื่อกลับไปแก้แค้น ทางด้านราชาฝั่งมาร์กก็ค้นหาราชินีสำเร็จจนกำเนิดสายเลือดมาร์กพันธุ์แท้ครอกแรก อาชวินที่อัพเลเวลกับเหล่ามาร์กสายพันธุ์ใหม่มาเต็มที่ก็บุกเข้าไปที่ดาวเคราะห์อันเป็นรังของพวกมาร์กเพื่อกำจัดราชินีก่อนที่ลูกครอกใหม่จะคลอดออกมา พอบุกเข้าไปถึงใจกลางกลับพบเรื่องราวพลิกผันถึงขีดสุด

คนรักของเขา...กลายเป็นราชินีของมาร์กเสียแล้ว ไคล์ในฐานะใหม่นอนเปลือยกายอยู่ในรัง ท้องกลมอัดแน่นไปด้วยไข่ล็อตสอง ช่องทางเบื้องล่างดูดกลืนท่อน้ำเชื้อของราชาเพื่อผสมพันธุ์ หน้าตาหล่อเหลามีแต่ความสุขสมเหลือเกินกับรสสังวาสพิสดารและการให้กำเนิดลูกที่ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ประหลาด แถมยังกระดิกนิ้วเรียกอาชวินให้เขาไปร่วมสัมพันธ์ด้วยท่าทางร่านราคะระดับเรทรายการเฉพาะผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ

เห็นขนาดนั้นถ้ายังมีสติอยู่ได้ก็ควรจะมาทำงานเป็นระบบแล้ว อาชวินที่คลุ้มคลั่งสามารถตัดหัวราชามาร์กออกมาได้ภายในการระเบิดพลังจิตแค่ครั้งเดียว แต่จิตใจหวนกลับมาไม่ได้ พระเอกเข้าสู่ดาร์กไซด์เต็มตัว เข้าไปคลุกวงในเสื้อผ้าไม่เกี่ยวกับไคล์ที่กลายสภาพไปแล้ว พอน้ำเชื้อเข้าไปผสมกับไข่ของราชินีกลับทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างมนุษย์และมาร์ก ร่างกายแข็งแกร่ง สติปัญญาและสัญชาตญาณดีเยี่ยม ซ้ำยังมีพลังจิตมหาศาลที่ถ่ายทอดมาจากพ่อ

สุดท้ายอาชวินก็นำทัพพาบรรดาลูกๆ ทำลายจักรวรรดิไพรม์และจักรวรรดิอื่นๆ ยึดครองทั่วทั้งกาแล็กซี่สูบเอาทรัพยากรสูบเลือดมนุษย์จนเหลือเพียงความเสื่อมโทรม มนุษยชาติสูญพันธุ์ไปในที่สุด ส่วนไคล์ก็ทำหน้าที่ราชินีผลิตลูกไปจวบจนกว่าจะหมดอายุขัย เนื้อเรื่องดาร์กจนไม่รู้จะอธิบายยังไงดี

ฉะนั้นถ้าให้ระบบแนะนำในโลกนี้โฮสต์จะเป็นอะไรก็ได้ที่ใจอยากเป็น ขอแค่ช่วยชี้แนะให้พระเอกพบเจอทางสว่าง เป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คนรักของพระเอก เนื่องจากจุดจบที่ได้จะเฮงซวยที่สุด แต่ระบบชี้นำไม่ได้มากเพราะจะเป็นการไปแทรกแซงโฮสต์ อาจโดนตัดคะแนนและโดนโทษหนักได้

ตอนที่โฮสต์มาถึงโลกนี้ เนื้อเรื่องก็ดำเนินมาถึงตอนที่ไคล์รับพระเอกมาเลี้ยงได้หลายปีแล้ว พระเอกเริ่มโตขึ้นเป็นเด็กหนุ่มและแอบหวั่นไหวไปกับอาของตัวเอง แต่โฮสต์ที่น้ำตาแตกเพราะกลัวถูกทะลวงร่างด้วยท่อวางไข่และอวัยวะสืบพันธุ์ของเอเลี่ยนก็ตัดสินใจเปลี่ยนการวางตัวเพื่อเปลี่ยนเส้นเรื่องทันที คนรักอะไรไม่เอาแล้ว พูดถึงแสงเทียนนำทางชีวิตไม่สู้กลายเป็นอาจารย์พระเอกไม่ดีกว่าเหรอ

วางตัวเป็นอาจารย์เคร่งขรึมสอนพระเอกทั้งการใช้พลังจิตและการสู้รบมาหลายปีจนอาชวินโตขึ้นกลายเป็นทหารอนาคตไกลของจักรวรรดิ ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความเคารพนับถือแบบนี้ยังไงก็ขยับไปเป็นคนรักไม่ได้อยู่แล้ว เพราะสายตาของอาชวินที่มองโฮสต์เต็มไปด้วยความซาบซึ้งเหมือนลูกศิษย์มองอาจารย์ผู้มีพระคุณ แต่โฮสต์กลับมารู้สึกหวั่นไหวกับพระเอกเสียได้!

ส่วนสาเหตุก็ไร้สาระเท่าที่จะไร้สาระได้ แค่พรหมลิขิตที่โฮสต์เชื่อเอาเองว่ามี...แค่นั้น

“นายไม่คิดอย่างนั้นเหรอแม่สอง...” นัยน์ตาสีฟ้าแซฟไฟร์บลูฉายแววจริงจังขึ้นมาบ้างแล้ว ทีตอนลาดตระเวนไม่เห็นจริงจังแบบนี้ เอาเวลามาถกปัญหาหัวใจกับระบบเสียอย่างนั้น “อาชวินเหมือนกับเขาจริงๆ นะ หน้าตาก็เหมือน รูปร่างส่วนสูงก็เหมือน นิสัยบางอย่างก็เหมือน...จะต้องใช่แน่ๆ เขาตามเรามาเพื่อครองคู่กันอีกครั้ง”

เขาที่ว่าไม่รู้ว่าเขาไหนกันแน่ ทั้งสามโลกที่ผ่านมาพระเอกที่โฮสต์ได้พบเจอไม่เคยเป็นคนเดียวกันสักคน โฮสต์แค่ซื่อบื้อละเมอเพ้อพกคิดไปเองว่าเป็นคนเดียวกันกลับชาติมาเกิดใหม่ เนื่องจากระบบไม่สามารถสปอยล์โฮสต์ได้ จึงทำแต่เตือนเล็กๆ น้อยๆ โฮสต์ที่ทั้งโง่ทั้งดื้อหัวชนฝายังไงก็ไม่มีวันเชื่ออยู่แล้ว นี่แหละที่เขาเรียกกันว่าอคติแบบปักใจเชื่อ

[แค่บังเอิญเหมือนเท่านั้น]

“ไม่หรอก...ต้องเป็นคนเดียวกันแน่ๆ”

[คนเดียวกับคนไหน อามาคุสะ ฮิโรยูกิ หรือเว่ยเสียง หรือจิงส์ อนาเบล]

“ก็คนเดียวกันทั้งหมดนั่นแหละ! ”

ไม่มีวันเป็นคนเดียวกันอยู่แล้ว คนละคนกันทั้งหมดนั่นแหละ

“ถึงสองชาติแรกจะพลัดพรากกันก็เถอะ แต่ชาติสุดท้ายอุตส่าห์ได้รักกันแท้ๆ ”

อืม...ชาติแรกโฮสต์เป็นครูอนุบาลที่เป็นแสงทางนำใจของอามาคุสะ ฮิโรยูกิ ผู้สืบทอดแก๊งยากูซ่าแห่งคันโต สุดท้ายโดนรถชนตาย ชาติต่อมาเป็นศิษย์น้องของผู้บำเพ็ญเพียรนามเว่ยเสียง คอยดูแลให้กำลังใจวันที่พระเอกถูกรังแก แต่ไปรับดาบแทนจนทำให้พระเอกปลดร่างอัลติเมทบังไค[2]เอาชนะตัวโกงได้ ส่วนชาติสุดท้ายโฮสต์ได้รับบทเอลฟ์นักบวชแห่งแสงที่อุตส่าห์ได้เป็นหนึ่งในฮาเร็มสิบห้าเมียของผู้กล้า ถ้าจะนับว่ารักกันก็ถือว่ารักกันได้มั้ง

“แข็งแกร่งแต่อ่อนโยน เย็นชาแต่อบอุ่น...ต้องเป็นเขาแน่ๆ”

คนแบบนั้นจะไม่ใช่ว่านิสัยย้อนแย้งสุดๆ เหรอโฮสต์ อีกอย่างไอ้นิสัยเอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่ กล้าหาญชอบเอาชนะ ฆ่าได้หยามไม่ได้ มันก็นิสัยของพระเอกทั้งนั้นแหละ

“ตามเนื้อเรื่องเดิมอุตส่าห์ได้เป็นคนรักกันแท้ๆ” โฮสต์บ่นด้วยความเสียดายในใจ ทั้งที่ใบหน้าเรียบเฉยของไคล์ยังคงสงบนิ่งเหมือนเดิม โชคดีที่คะแนนสะสมบางส่วนเอามาใช้เพิ่มสกิลแอ๊บเนียนแล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้ OOC แหลกลาญ เขาส่งเสียงงุ้งงิ้งจับใจความไม่ได้ในใจอีกแปปนึงก่อนจะยกปืนขึ้นเล็งมาร์กหน้าตาคล้ายแมลงยักษ์ที่บินผ่านมา

[อาชวินบุกเข้าไปจนถึงห้องราชินีเผ่ามาร์ก ดาบเลเซอร์ในมือทั้งสองด้ามต่างอาบไปด้วยเลือดสีน้ำเงินจากบรรดาลูกครอกแรกของราชาและราชินี ถ้าเขาสามารถกำจัดไอ้ปรสิตเลวพวกนี้ไปได้ นอกจากจะเป็นชัยชนะของมวลมนุษยชาติและจักรวรรดิไพรม์โนว่า ยังเป็นการแก้แค้นให้กับคนรักที่สละชีวิตให้เขาอีกด้วย

‘อะ! อื้ออ...’ เสียงอันคุ้นเคยทำให้เส้นขนที่หลังคอของอาชวินลุกเกรียว ภาพเบื้องหน้าทำให้ดาบทั้งสองร่วงหล่นมือโดยไม่รู้ตัว ใจกลางรังของเผ่ามาร์กคือราชินีในร่างมนุษย์ที่เขารู้จักเป็นอย่างดี ไคล์ในร่างเปลือยเปล่านอนทอดร่างอยู่บนแท่นผสมพันธุ์ ผิวกายที่เคยขาวจัดขึ้นสีแดงเรื่อไปทั่วทั้งกาย ส่วนที่สะดุดตาที่สุดคงไม่พ้นกลางลำตัวที่โย้ออกมาจนคล้ายเห็นการเคลื่อนไหวของไข่ภายในที่อัดแน่นเต็มท้อง เบื้องล่างถูกเติมเต็มด้วยท่อนเนื้อหน้าตาประหลาดของราชาจนเกิดเสียงเหนอะหนะไม่หยุด เวลานี้ไคล์ไม่เหลือความอับอายอีกต่อไปแล้ว ชายหนุ่มเปิดปากอ้าหอบหายใจพร้อมครางเสียงกระเส่า

‘อ๊า...อาชวินหรือ...มาหาข้าสิ มาช่วยเติมข้าให้เต็ม’ สองมือเลื่อนลงไป---]

ระบบขออนุญาตตัดจบก่อนที่เรทจาก 13+ จะกลายเป็น 18+

“นายจะอ่านให้ฟังทำไม ไม่อ๊าวว! แง!! ” โฮสต์ร้องเสียงหลงอยู่ในใจ น้ำตาทำท่าจะหยดแหมะออกมาแล้ว แต่พอคิดได้ว่าถ้าร้องไห้อาจ OOC จนถูกตัดคะแนนได้จึงเก็บน้ำตากลับไปแต่โดยดี พร้อมกับความรู้สึกอยากพัฒนาไปเป็นคนรักของพระเอกที่หายวับไปเหมือนกัน ถ้าได้เป็นคนรักพระเอกแล้วมีจุดจบแบบนั้นใครจะอยากเป็นกันอีก “ฮึก...ไม่รักแล้วก็ได้ ไว้ชาติหน้าค่อยรักกันใหม่แล้วกัน”

คร่ำครวญพร่ำเพ้อเสร็จแล้วโฮสต์ก็กลับไปยิงเหล่ามาร์กหน้าตาเหมือนแมลงต่อ เพราะความสัมพันธ์ที่เป็นเพียงอาจารย์และลูกศิษย์ทำให้การบุกโจมตีเอเลี่ยนครั้งนี้ไคล์แยกกับอาชวินไปกันคนละทาง ยิ่งเข้าไปใจกลางส่วนของดาวเคราะห์ B-52 ยิ่งพบเจอชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกพวกมาร์กกินจนเกลื่อนกลาด ถึงตัวจริงจะใจเสาะแค่ไหน OOC ค้ำคอร์อยู่แบบนี้ โฮสต์มีแต่ต้องทำฮึดสู้พาทหารคนอื่นบุกไปเท่านั้น

“ช่วยด้วย...” ท่ามกลางซากศพมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น ไคล์ตวัดดาบเลเซอร์คู่ในสองมือฟาดฟันมาร์กที่มีหน้าตาเหมือนยุงขนาดยักษ์ ก่อนจะพุ่งตรงไปตามเสียงร้อง เบื้องหน้าที่ร่างเล็กของเด็กชายวัยไม่เกินสิบปี เขามีผิวขาวซีดเหมือนกับเส้นผมนุ่มสลวยสีแพลตตินั่มบลอนด์ นัยน์ตาที่ฉายแววหวาดกลัวมีลักษณะคล้ายกระจกใสที่สะท้อนแสงสีรุ้งออกมา...เด็กคนนี้มาจากชนเผ่ามิรัวร์ ชนเผ่าที่หายากที่สุดในกาแล็กซี่ เพราะถูกมนุษย์ด้วยกันล่าเอาแก้วตาที่สวยบาดใจ

“แม่สองนายดูสิเด็กคนนี้น่ารักมากๆ เลย น่ารักจนเราทนไม่ไหวแล้ว” ภายในใจโฮสต์ระริกระรี้ด้วยคำพูดคำจาที่สุ่มเสี่ยงต่อตะรางและข้อหาพรากผู้เยาว์ ทั้งหมดขัดกับใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉยภายนอกและสองคู่ในมือที่ยังกวัดแกว่งล่าแมลงเอเลี่ยนจนไม่เหลือทิ้งไว้สักตัว

“ช่วยข้าด้วย...” หยดน้ำใสไหลรินเต็มสองแก้มใส มือเล็กกอดขาในชุดบอดี้สูทสีครามของโฮสต์เอาไว้ นอกจากจะดูน่าสงสารแล้วยังดูน่ารักจนน่าอุ้มกลับบ้านไปด้วย “พวกมันฆ่าพ่อแม่ของข้าหมดแล้ว ข้าไม่เหลือใครแล้ว ฮือๆ”

นัยน์ตาสีฟ้าแซฟไฟร์หลุบมองเบื้องล่างเล็กน้อยคล้ายกำลังคิดตัดสินใจ แต่ในสมองคือการกรีดร้องกระหน่ำจนสร้างความรำคาญให้กับระบบเป็นอย่างมาก “จะเอาๆๆๆ บังเอิญได้เจอเด็กน่ารักแบบนี้ เราจะเอาน้องกลับบ้านไปด้วย ไหนๆ เราก็รักกับอาชวินไม่ได้อยู่แล้ว เราเลี้ยงเด็กแทนก็ได้! ”

สัญชาตญาณความเป็นแม่ของไคล์คงจะสูงเอามากๆ ตามเนื้อเรื่องเดิมได้เป็นแม่ของมาร์กสายพันธุ์ใหม่เป็นล้านตัว มาตอนนี้ก็อยากเป็นแม่เด็กอีกแล้ว แต่เอาเถอะ การกระทำแบบนี้ไม่ได้ขัดกับนิสัยแข็งนอกอ่อนในจิตใจเมตตาของบุคลิกไคล์อยู่แล้ว เพราะงั้นระบบจึงไม่ขัดขวางการตัดสินใจของโฮสต์ ถ้าโฮสต์โง่เลือกหนทางอะไรผิดไป ก็ต้องยอมรับในผลกระทบที่ต้องเกิดขึ้นเอง เรื่องนี้ระบบจะไม่ยุ่ง

“เด็กคนนี้ข้าจะนำกลับไปด้วย” ไคล์หันกลับไปมองทหารในกองพันทั้งหมด สองมือโอบร่างเล็กที่มีเรือนผมมีขาวและดวงตาแก้วกระจกใสอันสะท้อนสเปกตรัมสีทั้งเจ็ดออกมาได้อย่างงดงาม “เจ้าชื่ออะไรกัน”

เด็กน้อยแม้มีแววตาตื่นกลัว แต่พอเห็นออร่าอบอุ่นสมเป็นแม่ของโฮสต์ก็เอนหัวพักพิงอกแข็งแกร่งนั่นเหมือนต้องการพักพิง เสียงเล็กที่ตอบกลับมาเต็มไปด้วยความรู้สึกไว้วางใจ “เกรเซีย”

กองพันของไคล์เริ่มทยอยขึ้นยานรบกลับไปยังดาวจักรวรรดิไพรม์โนวา โฮสต์ที่ได้ลูกชายคนใหม่มาเรียกได้ว่าเห่อถึงขีดสุด ถึงขั้นนำเด็กน้อยกลับไปยังห้องพักของตนเอง แถมยังนอนกอดเอาไว้ทั้งคืน ถึงโฮสต์จะหลับไปแล้ว แต่ระบบยังคงเปิดใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นระบบย่อมไม่พลาดทุกรายละเอียดที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และไม่พลาดอากัปกิริยาของเด็กที่โฮสต์เพิ่งเก็บกลับมาอีกด้วย

นัยน์ตาที่เหมือนกระจกใสกลายเป็นสีแดงเข้มจัดตามอารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของ ริมฝีปากของเกรเซียเหยียดออกเป็นรอยยิ้มอันเปี่ยมไปด้วยความรักความหลงใหลจนชวนขนลุก ปลายนิ้วกลมเล็กลากไล้ไปตามผิวแก้มขาว “ในที่สุดก็พบเจ้าสักที...ที่รัก”

หนีไปโฮสต์! หนีไป!!

โปรดติดตามตอนต่อไป...

เชิงอรรถ

^ [1] OOC (Out of Character) เล่นไม่ตรงตามบทบาทที่ได้รับ
^ [2] หมายถึงการปลดปล่อยพลังสูงสุดก็ว่าได้


ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
ไม่มีพรหมลิขิต มีแต่เรื่องบังเอิญ (ครึ่งหลัง)

ชีวิตของไคล์ยังคงเป็นอาจารย์ผู้เป็นแสงดาวนำใจให้กับพระเอกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีตัวแถมที่ไม่ได้อยู่ในเนื้อเรื่องมาด้วย ในบ้านที่แต่ก่อนมีเพียงชายหนุ่มสองคนกลับเพิ่มเด็กชายวัยเก้าปีมาอีกคน เกรเซียวางตัวได้น่ารักน่าสงสารเอามากๆ กลางวันเป็นเด็กดีว่าง่าย ตอนที่โฮสต์สอนอาชวินให้ใช้ดาบคู่ก็เข้าไปเรียนด้วยท่าทางตั้งใจสุดๆ ตอนกลางคืนก็ย่องจากห้องนอนตนเองปีนขึ้นเตียงมุดไปนอนในอ้อมกอดโฮสต์อยู่ทุกคืน ถ้าโดนจับได้ก็ร้องไห้ดังลั่นบอกว่าฝันร้าย แผนการเนียนเว่อร์จนระบบอยากให้สักห้าดาว

โฮสต์เห็นอะไรนุ่มนิ่มแบบเกรเซียก็ทนไม่ได้อยู่แล้ว นับวันยิ่งตัวติดรักหลงลูกบุญธรรมคนนี้มากยิ่งขึ้น ใส่ใจมากกว่าพระเอกเสียอีก เกรเซียก็ไม่ทำให้ไคล์ผิดหวัง ผ่านไปห้าปีอายุแค่สิบสี่ก็เข้าไปอยู่ในกองทัพได้แล้ว แถมยังเป็นนักแม่นปืนพลาสม่าจนได้ฉายาว่าเดอะ วัน เพราะกระสุดนัดเดียวเฮดช็อตทุกนัด สุดท้ายก็เอาตัวเองมายัดเยียดอยู่ข้างกายไคล์ได้สำเร็จ

ส่วนอาชวินตามเนื้อเรื่องเดิมควรจะมีความรักสดใสกับอานอกสายเลือดของเขาก็ยังไม่สามารถหนีความเป็น BL ไปได้ ชายหนุ่มตกหลุมรักเพื่อนสนิทที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ที่มีชื่อว่า โจเซฟ แอนเดอร์สัน หมอนี่เป็นอะไรของมันกันแน่ เป็นพวกรักแท้แพ้ใกล้ชิดหรือไง เอะอะอะไรก็คว้าเอาคนที่อยู่ด้วยมาทำแฟนตลอด จิตใจไม่แข็งแกร่งเอาเสียเลย

ตอนที่โฮสต์รู้เรื่องว่าพระเอกหานายเอกคนใหม่ได้เสียแล้วก็ทำเอาน้ำตาตกร้องไห้งอแงเรียกร้องให้ระบบช่วยปลอบใจที่พรหมลิขิตพังทลายไปต่อหน้าต่อตา อาจเป็นโชคดีที่เกรเซียเห็นเขาซึมลงไปบ้างเลยเข้ามาออดอ้อนจูงแขนเขาไปทางนั้นทางนี้จนโฮสต์อาการดีขึ้นมาได้บ้าง

เนื่องจากพื้นที่มีน้อยระบบจึงขอข้ามเรื่องที่ไม่จำเป็นออกไป วันเวลาผ่านไปด้วยความรวดเร็วจนกระทั่งถึงวันแห่งโชคชะตา กองพันของไคล์และอาชวินถูกสั่งให้ร่วมรบบนดาวเคราะห์ Beta-3043 ที่ถูกนายพลระดับสูงของเผ่ามาร์กยึดครอง ตามเนื้อเรื่องเดิมนี่จะเป็นเหตุการณ์ที่ไคล์สละชีวิตช่วยเหลืออาชวินและถูกนำตัวไปเป็นราชินีของเผ่ามาร์ก แต่ตอนนี้เนื้อเรื่องไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป ไคล์ไม่ได้เป็นคนรักของอาชวิน แถมอาชวินยังมีแฟนใหม่คือโจเซฟ ไม่รู้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อกันแน่

บนยานเคลื่อนย้ายของจักรวรรดิไพรม์โนว่า หน้าจอดิจิทัลนับเวลาถอยหลังก่อนถึงดาวเคราะห์ Beta-3043 ในอีกไม่กี่นาที เกรเซียที่สูงขึ้นมามากกอดเอวโฮสต์จากเบื้องหลัง เขาใช้ใบหน้าถูไถกับบ่าออดอ้อนเหมือนทุกที ถึงจะเป็นลูกบุญธรรมแต่เด็กหนุ่มก็ไม่ยอมเรียกไคล์ว่าพ่อ แต่เรียกชื่อธรรมดาแทน “ไคล์”

“มีอะไรหรือ” โฮสต์หันกลับไปมองเล็กน้อยจนริมฝีปากแตะกับเรือนผมสีแพลตตินั่มบลอนด์โดยไม่ทันตั้งตัว ดวงตาของเกรเซียวาววับดำมืดขึ้นมาก่อนที่เด็กหนุ่มจะกระพริบตาครั้งหนึ่งกลับมาเป็นดวงตาคู่เดิม

“หากวันหนึ่งข้าเปลี่ยนไป...ไคล์จะยังอยู่ข้างข้าหรือเปล่า” เกรเซียมีท่าทางลังเลชนิดที่ไม่ได้เสแสร้ง โฮสต์หัวเราะเบาๆ ครั้งหนึ่งแล้วยื่นมือไปยีเส้นผมหยักศกเสียจนนุ่มฟู

“ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เจ้าก็คือเกรเซียของข้าเสมอ”

“สัญญานะ...”

“สัญญาสิ ถ้าผิดสัญญาขอให้ชาติหน้าไม่ได้เกิดมาเป็นคน...ดีไหม?” โฮสต์แอบหัวเราะคิกคักอยู่ในใจเมื่อพูดประโยคนั้น คงจะมั่นใจว่าชาติหน้าคงได้เกิดเป็นคนแน่ๆ

“ไม่ดี! ” เกรเซียรีบร้องประท้วง “ถ้ามีชาติหน้าไคล์ต้องเกิดมาเป็นคนอยู่แล้ว เกิดมาเจอกันอีกไง”

สองพ่อลูกบุญธรรมมีเวลาหยอกล้อได้ไม่นาน คำสั่งให้เตรียมตัวเคลื่อนย้ายก็ดังลั่นเสียก่อน โฮสต์ปลีกออกจากเด็กหนุ่มเพื่อเตรียมตัวพร้อมรบ เมื่อยานจอดนิ่งสนิทก็ใช้เครื่องย้ายมวลสารไปปรากฏตัวบนภาคพื้นดินของดาวเคราะห์ Beta-3043 แต่ก่อนดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นดาวทรัพยากรของจักรวรรดิที่มีระบบนิเวศวิทยาอุดมสมบูรณ์ พอถูกเผ่ามาร์กยึดครองก็กลายสภาพเป็นดาวเสื่อมโทรม ผืนดินผืนน้ำกลายเป็นสีดำ คุณภาพอากาศลดลงเหลือเพียง 64% ต้องเข้าไปรังของนายพลจึงสามารถหายใจได้ตามปรกติ

เส้นเรื่องไม่เหมือนเดิมโฮสต์เลยต้องแยกเส้นทางกับพระเอกตั้งแต่ตอนเข้ารัง ไคล์และทีมของเขาบุกตะลุยไปข้างหน้าด้วยความลำบากยากเย็น กว่าจะรู้ตัวอีกทีทีมที่เหลือก็ถูกสลัดทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง เหลือเพียงแต่หัวหน้ากองพันและบุตรบุญธรรมที่เป็นพลแม่นปืนเท่านั้น ตลอดทางที่บุกเข้าไปใจกลางรังเกรเซียใช้ฝีมือปกป้องอันตรายก่อนถึงตัวโฮสต์ได้ทุกครั้ง ด้วยความเซ่อซ่าทำให้โฮสต์ดีใจเป็นอย่างมาก ไม่ได้สังเกตเลยว่าเด็กหัวขาวนี่จงใจเพิ่มคะแนนตัวเองชัดๆ

ผ่านไปสองวันโฮสต์ก็เข้าใกล้ใจกลางรังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะฝ่าเข้าไปจนถึงห้องของนายพลเผ่ามาร์กกลับได้ยินเสียงปืนและเสียงพลาสม่าขึ้นมาก่อน พระเอกไม่ว่ายังไงก็เป็นพระเอก สกิลพระเอกทำให้อาชวินพบกับนายพลก่อนหน้าหลายชั่วโมงแล้ว ไคล์และเกรเซียยิ่งเพิ่มความเร็วฆ่าล้างเหล่ามาร์กที่ดาหน้าเข้ามายิ่งกว่าเดิม ในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางจนได้

เมื่อไปถึงกลับพบว่าผ่านจุดไคลแม็กซ์สำคัญไปแล้ว โจเซฟสละร่างระเบิดตัวเองช่วยชีวิตพระเอกเอาไว้เรียบร้อย แต่ด้วยพลังจิตที่มีน้อยเกินไปทำให้ไม่สามารถฆ่าศัตรูตายได้ แถมยังไม่ได้ทำตามเนื้อเรื่องเดิมคือการส่งพระเอกกลับยานเคลื่อนย้ายด้วยยานขนาดเล็กที่เหลือเพียงลำเดียว ภาพที่เหลือคืออาชวินจ้องมองร่างนายพลมาร์กที่มีร่างคล้ายมนุษย์ผสมตั๊กแตนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดเหมือนว่าพร้อมจะระเบิดพลังจิตออกมาด้วยโทสะได้ตลอดเวลา

ระบบได้รับแจ้งเตือนจากเครือข่ายทันทีว่าหากพระเอกระเบิดพลังจิตในตอนนี้จะทำให้ทั้งสองบาดเจ็บหนักกันทั้งคู่ มีความเป็นไปได้ถึง 98% ที่นายพลมาร์กจะยึดครองร่างของอาชวินแต่กลับถูกจิตสำนึกดำมืดกลืนกิน ทำให้เขากลายเป็นมาร์กในร่างมนุษย์คนแรก สกิลพระเอกทำให้เขากลายเป็นมาร์กที่แข็งแกร่งและอำมหิตที่สุด จากนั้นพระเอกจะฆ่าราชามาร์กตายและตั้งตนเป็นราชาแทน ความแค้นในจิตใจทำให้เขาออกล่าฆ่าทั้งมาร์กและมนุษย์ทั่วทั้งกาแล็กซี่ กลายเป็น Bad End ยิ่งกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับเสียอีก

[อันตราย!]

[พบเจอความมืดในจิตใจของอาชวิน ฟีนิกซ์ 85% โปรดดำเนินการก่อนพระเอกจะเข้าด้านมืด]

อะไรของเอ็งวะพระเอก ชาติก่อนเข้าด้านมืดเพราะคนรัก ชาตินี้ก็เข้าด้านมืดเพราะคนรัก เป็นพระเอกแท้ๆ ดันทำตัวคลั่งรักเสียได้

“ทำไงดีอ่ะไม่ได้คิดวางแผนเอาไว้ด้วย” น้ำเสียงโฮสต์อ่อนระโหยโรยแรงเป็นอย่างมาก คงรู้สึกเซ็งที่อาจจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ตรงนี้จริงๆ “ขอแค่พระเอกไม่เข้าด้านมืดก็พอแล้วใช่มะ ภารกิจสำเร็จก็คงพอเนอะ”

[หากพระเอกเลือกทางสว่างจะเท่ากับภารกิจสำเร็จ]

[ความมืดในจิตใจเพิ่มเป็น 87% โปรดดำเนินการ!]

“เกรเซีย” โฮสต์หันกลับไปหาลูกบุญธรรมแล้วกอดอีกฝ่ายหนักๆ “ตอนนี้พ่อคงผิดสัญญาต่อเจ้า หากมีชาติหน้าพ่อรับรองว่าจะอยู่เคียงข้างไม่ว่าเจ้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม”

[ความมืดในจิตใจเพิ่มเป็น 96%โปรดดำเนินการ!!!]

ไคล์ผลักร่างของเกรเซียออกไปโดยไม่สนใจสีหน้าเจียนคลั่งของเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย เขาใช้จังหวะที่ความมืดในจิตใจเพิ่มขึ้นเป็น 100% ระเบิดพลังจิตทั้งหมดของตนเองเพื่อเหนี่ยวรั้งไม่ให้พลังของพระเอกถูกใช้งานได้สำเร็จ การขัดขวางอาชวินประสบความสำเร็จ...แลกกับชีวิตในหนึ่งชาติของโฮสต์

ใกล้จะตายแล้วแต่โฮสต์ก็ยังมีอารมณ์เคาะระบบขึ้นมาสั่งเสีย “แม่สอง...เราตายโดยปราศจากคนที่รักเรา แต่เราก็อิ่มใจว่าเรามีคนที่เรารัก”

เขาไม่ใช่คนรักอะไรนั่นหรอกโฮสต์ เขาแค่บังเอิญเหมือน! เลิกมโนได้แล้ว! อีกอย่างมันผิดลิขสิทธิ์! อย่าเอาคำพูดเรื่องอื่นมาพูด-ได้-ไหม!!

“อาจารย์! ” อาชวินใช้พลังจิตส่วนหนึ่งระเบิดร่างของนายพลมาร์กจนกลายเป็นเพียงเศษเนื้อ สมแล้วที่เป็นพระเอก ถึงกับอัพเลเวลในเวลากระชั้นชิดได้อย่างรวดเร็ว เขาถลาตัวเข้าไปประคองร่างโชกเลือดของไคล์เอาไว้ สีหน้าตื่นตระหนกเอามากๆ ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตาซะแล้ว

“อย่าให้โจเซฟต้องตายเปล่า” โฮสต์ยกมือขึ้นแตะข้างแก้มของพระเอก ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มงดงามจนชวนตะลึง “เพื่อวันที่งดงามของจักรวรรดิ...อย่าลืมความฝันนั้นของเจ้าและข้า”

“อาจารย์! ท่านจะต้องไม่ตาย! ” อาชวินพยายามรื้อหาแคปซูลรักษามาป้อนให้กับไคล์ หากว่ามันสายไปเสียแล้ว

“อาชวิน...” ไคล์เอ่ยถ้อยคำสุดท้ายก่อนมือจะร่วงหล่นลงอย่างไร้เรี่ยวแรง “ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่ทางช้างเผือก”

[ยืมคำพูดเรื่องอื่นมาถือว่าผิดลิขสิทธิ์ สร้างความเสี่ยงให้กับระบบ ถูกตัดแต้ม 20 คะแนน]

เปลือกตาของไคล์ ชไนเดอร์ปิดลงพร้อมกับวิญญาณที่หลุดลอยออกไป โฮสต์ไม่มีสตินึกคิดเหลืออีกต่อไปแล้วจึงไม่ทันได้เห็นดวงตากระจกแปรเปลี่ยนเป็นสีดำมืดมิดยิ่งกว่าหลุมดำของเกรเซีย อันที่จริงระบบอยากดูอีกสักหน่อย แต่ถูกตัดสัญญาณดึงกลับส่วนกลางพร้อมโฮสต์ที่จบชีวิตเสียก่อน

[ภารกิจสำเร็จ! หลังจากหักคะแนนต่างๆ แล้ว โฮสต์ได้รับคะแนนรวม 1,538 คะแนน]

“อ้าว...ทำไมได้คะแนนแค่นี้อ่ะ จริงๆ ถ้าสำเร็จด้วยดีน่าจะได้อย่างน้อย 5,000 คะแนนไม่ใช่เหรอ” โฮสต์ทำหน้ามุ่ยแล้วบ่นกระปอดกระแปดด้วยท่าทางไม่พอใจ “อาจารย์สละชีวิตส่วนพระเอกไว้ อาชวินน่าจะมีแสงทางนำใจไปตลอดชีวิตแล้วนี่”

[สรุปผลคะแนนภารกิจแสงดาวนำใจจอมพลแห่งจักวรรดิไพรม์

อาชวิน ฟีนิกซ์ไม่เดินเข้าสู่หนทางแห่งความมืดมิด ได้รับคะแนน 15,000 คะแนน

อาชวิน ฟีนิกซ์ถูกราชาเผ่ามาร์กฆ่าตายจึงไม่สามารถกอบกู้กาแล็กซี่ได้ ถูกหัก 12,999 คะแนน

ราชาเผ่ามาร์กระเบิดพลังจิตฆ่าตัวตาย ส่งผลให้จักรวรรดิไพรม์ถูกทำลายล้าง ถูกหัก 49,999 คะแนน

หักคะแนนอื่นๆ ที่ยิบย่อยเกินกว่าจะอธิบายรายละเอียดได้ 464 คะแนน

ปลดรางวัลพิเศษเรื่องซับซ้อนหักมุมจนอ้าปากค้าง ได้รับคะแนนโบนัส 50,000 คะแนน

สรุปคะแนนคงเหลือจากภารกิจ 1,538 คะแนน]

“อะร้ายยยย!!! ” โฮสต์ร้องโวยวายแล้วร้องไห้แงๆ เพราะไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์เย็นชาของไคล์อีกต่อไปตอนนี้เลยงอแงได้เต็มที่ เด็กหนุ่มทรุดลงไปนั่งกอดเข่ากับพื้นร้องงื้ดๆ ไม่หยุด “อาชวินมันไปโดนราชาฆ่าตายตอนไหนฟระ ทำไมราชามาร์กถึงฆ่าตัวตายเฉย แล้วไอ้เนื้อเรื่องซับซ้อนเนี่ยมันมาจากไหน งงไปหมดแล้ว อะไรกันเนี่ย...”

[เวลาในพื้นที่ส่วนกลางคงเหลือ 1 ชั่วโมง 47 นาที

ขอให้โฮสต์เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าในระบบก่อนเข้าสู่โลกใบใหม่]

พอได้ยินเสียงประกาศนับถอยหลังโฮสต์ก็รีบเลือกสินค้าในแค็ตตาล็อกเพื่อเลือกสกิลและไอเท็มของโลกหน้ายกใหญ่ เด็กหนุ่มบ่นงุ้งงิ้งไม่หยุดเรื่องคะแนนน้อยเกินไปจนไม่พอซื้อของที่อยากได้ ฟังนานเข้าระบบรู้สึกรำคาญขึ้นมาเล็กน้อยเลยกด mute เสียงโฮสต์แล้วเปิดระบบตอบรับอัตโนมัติแทน จากนั้นค่อยฉายข้อมูลเหตุการณ์หลังจากไคล์ ชไนเดอร์ตายในโลกก่อนที่ค้นเจอจากในเครือข่ายแทน เสียดายที่ระบบไม่มีร่าง ถ้ามีก็อยากจะแทะป๊อบคอร์นพร้อมชมฉากดราม่าเสียหน่อย

ร่างของไคล์ ชไนเดอร์สิ้นใจไปในอ้อมแขนของลูกศิษย์ที่เขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ อาชวินรู้สึกคล้ายถูกตบหน้าอย่างรุนแรง เพียงเพราะป้องกันการระเบิดพลังจิตของเขา อาจารย์ถึงกับใช้ชีวิตเข้าแลก จากนี้ชีวิตที่เหลืออยู่คงมีแต่ความรู้สึกผิดที่ติดค้างอยู่ในใจ เขาจะต้องกำจัดเผ่ามาร์กเพื่อให้กาแล็กซี่และจักรวรรดิไพรม์โนว่ากลับมาสงบสุขตามความฝันของผู้มีพระคุณให้ได้

นัยน์ตาสีทองของอาชวินเป็นประกายเจิดจ้าราวได้เห็นรุ่งอรุณอันสดใสของอนาคต แตกต่างกับดวงตาแดงก่ำอันมืดมิดอนธกาลของเกรเซียที่อยู่ข้างกาย “วางเขาลง...”

อาชวินหันไปมองเด็กชายอย่างไม่เข้าใจนัก แต่อีกฝ่ายยังคงยืนยันคำเดิม “วางเขาลง เจ้าฆ่าเขา เจ้าไม่มีสิทธิ์แตะต้องเขาอีกต่อไป” พลังจิตมหาศาลระเบิดออกมาอย่างรุนแรงจนพระเอกกระเด็นไปกระแทกกับผนังรัง ร่างของไคล์หลุดร่วงออกจากสองมืออาชวิน เกรเซียลอยขึ้นเหนือพื้นร่างค่อยๆ ยืดขึ้นเปลี่ยนแปลงทั้งความสูงและรูปหน้า สุดท้ายกับกลายเป็นบุคคลที่นายพันแห่งไพรม์โนว่าคุ้นเคยที่สุด

เกรเซียกลายเป็นอาชวาน ฟีนิกซ์ พ่อของเขาเอง!

“ท่านพ่อ! ” อาชวินเหลือบมองสัญลักษณ์เปลวเพลิงสีนิลที่กลางหน้าผากแล้วในใจยิ่งหนาวเหน็บ ราชาของเผ่ามาร์ก...ศัตรูที่ชาตินี้เขาไม่อาจปล่อยเอาไว้ได้ แท้จริงแล้วคืออาชวาน ฟีนิกซ์ นักรบชื่อกระหึ่มที่ร่ำลือว่าสละชีวิตเพื่อฆ่าราชา แท้จริงได้กลายเป็นราชาที่ปกครองปรสิตชั่วพวกนั้นไปแล้ว

“ใช่...เป็นข้าเองบุตรเอ๋ย”

“ท่านกลายเป็นราชามาร์กไปแล้ว ทำไมท่านถึงได้เลือกเดินทางผิดแบบนี้! ” ผู้เป็นลูกละล่ำละลักถามด้วยสองตาแดงก่ำ แต่ราชาแห่งเผ่ามาร์กกลับรู้สึกว่าน่ารำคาญเสียเหลือเกิน เพียงเห็นใบหน้าที่คล้ายคลึงของตนเองก็ไม่สามารถกักเก็บความรู้สึกเกลียดชังและโกรธแค้นอีกต่อไป เขาสะบัดมือเพียงครั้งหนึ่งเปลวเพลิงสีดำที่เกิดจากพลังจิตมหาศาลก็โอบล้อมเผาไหม้อาชวิน พอเสียงกรีดร้องจบลง แม้แต่เศษซากของบุตรแห่งโชคชะตาก็ไม่มีเหลือ...พระเอกจบชีวิตง่ายๆ ไปอย่างนั้นเอง

“ที่รัก” อาชวานทรุดลงกับพื้นก่อนจะรั้งร่างไร้วิญญาณของคนที่เขาแอบรักขึ้นมากอดไว้แนบอก หยาดน้ำตาเลือดหลั่งรินเต็มใบหน้าของไคล์จนไม่รู้ว่าโลหิตสีแดงชาดนั้นคือเลือดของใครกันแน่ ชายหนุ่มใช้นิ้วโป้งเช็ดไล่ไปตามกรอบหน้าอย่างแผ่วเบาก่อนจะแนบจูบลงบนริมฝีปากที่ขาวซีด “ไม่ว่าชาติภพไหน ข้าก็จะหาเจ้าจนเจอ...ขอให้เราได้ครองคู่อยู่ด้วยกัน”

สุดท้ายอาชวานก็ระเบิดพลังจิตที่มีทั้งหมดออกมา เปลวเพลิงสีดำยิ่งโหมกระหน่ำก่อนแปรสภาพกลายเป็นหลุมดำอันมืดมิดที่ดูดกลืนทุกอย่างเข้าไปสู่จุดศูนย์กลาง...จากนั้นภาพที่เครือข่ายเก็บเอาไว้ก็ดับมืดลง

ระบบอยากจะถอนหายใจ เสียดายที่โฮสต์โง่เกินไปเลยแยกความแตกต่างของจิตวิญญาณไม่ออก หลงคิดไปว่าเหล่าพระเอกทั้งอามาคุสะ ฮิโรยูกิ เว่ยเสียง จิงส์ อนาเบลและอาชวิน ฟีนิกซ์คือคนเดียวกันที่ตามโฮสต์มาทุกชาติภพ แต่ที่จริงไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย คนที่ตามโฮสต์มาคือตัวร้ายของเรื่อง ราชาแห่งเผ่าพันธุ์มาร์ก หรือเกรเซียในร่างจำแลง หรืออาชวาน ฟีนิกซ์อดีตเพื่อนรักที่เดินเข้าด้านมืดกลายเป็นตัวโกง ที่สำคัญคือไม่รู้ว่าโฮสต์ไปปักธงเอาไว้ตั้งแต่ตอนไหน แต่ถ้าโลกหน้าถ้าเขาตามมาอีกคงจะได้สนุกกันอีกแล้ว

เอาละ หมดเวลาบันเทิงเริงใจ ได้เวลากลับมาทำงานสักที

เมื่อระบบเปิดเสียงอีกครั้งก็พบว่าโฮสต์เลือกซื้อสินค้าเสร็จแล้วเป็นที่เรียบร้อย ดูจากรายการที่สั่งซื้อ ถ้าระบบมีคิ้วก็คงคิ้วกระตุกไปแล้ว

[ยืนยันคำสั่งซื้อ

สกิลแสดงออกทางสีหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ 6,000 คะแนน

ปรับเปลี่ยนเสียงระบบให้เป็นเสียงน้องชายตัวน้อย เรียกโฮสต์ว่า “พี่จ๋า” ลงท้ายด้วย “ฮะ~♥” 1,000 คะแนน

คะแนนสะสมคงเหลือ 284 คะแนน]

สกิลที่เลือกมาก็ไม่ได้แย่เท่าไรหรอก แต่ไอ้ที่เหลือนี่ระบบขออนุญาตสบถด้วยความหยาบคายเล็กน้อย แม่งซื้ออะไรของมันวะ! คะแนนที่หามาอย่างยากลำบากแท้ๆ โฮสต์คิดอะไรอยู่ถึงได้เอามาเทกับอะไรแบบนี้!

“ถ้าโลกหน้าเราได้แต้มสะสมเยอะ เราจะเอาไปแลกอะไรดีนะแม่สอง”

[โฮสต์สามารถนำคะแนนบางส่วนไปแลกกับไอคิว เพื่อใช้ในการยกระดับสติปัญญาของโฮสต์ขึ้นมาได้]

“อ๊ะ! เปิดใช้งานเสียงน้องชายตัวน้อย” โดนจิกกัดนิดหน่อย โฮสต์ก็ควักไพ่ตายออกมาแล้ว ระบบไม่สามารถขัดขวางได้เลยต้องยอมตามน้ำไป ถ้ามีฟันคงกัดฟันกรอดๆ ไปแล้ว

[ระบบหมายเลข 212224 เปิดใช้งานเสียงน้องชายตัวน้อยเสร็จสมบูรณ์แล้วฮะพี่จ๋า~♥]

“คิกๆ น่ารักมากเลย เรามีแต่พี่ชาย ไม่เคยมีน้องชายมาก่อน ไว้สะสมคะแนนเยอะๆ แล้วเราจะถอยร่างน้องชายตัวน้อยที่เป็นซีรีส์เดียวกันมาให้นายนะแม่สอง”

ร่างที่ว่าคะแนนตั้ง 9,600 คะแนนไม่ใช่เหรอ? ระบบยังยืนยันคำเดิมว่าโฮสต์ควรเอาคะแนนไปเพิ่มไอคิวบ้าง คนเราอีคิวเยอะเกินไปก็ไม่ใช่จะดีหรอก ยิ่งโง่ยิ่งอีคิวสูงแบบโฮสต์ยิ่งไม่ดีใหญ่

เครือข่ายส่งรายการโลกที่เหมาะสมกับโฮสต์มาแล้ว แต่เนื่องจากทั้งโฮสต์และระบบไม่มีสิทธิ์เลือกเลยต้องรอเครือข่ายสุ่มเลือกให้เสียก่อน เพียงไม่กี่วินาทีก็ถึงเวลาที่ต้องไปโลกหน้ากันแล้ว

[นับถอยหลังสู่โลกใบใหม่ฮะ~♥]

5...

4...

3...

2...

1...

โอนย้ายข้อมูลสมบูรณ์นะฮะ~♥]

“เชี่ย! เชี่ย! เชี่ยยยยย!!! ” แค่ลืมตาตื่นขึ้นมาโฮสต์ก็ร้องคร่ำครวญโวยวายในใจจนดังลั่น ทำเอาเครื่องหมายตกใจสีแดงขึ้นเต็มไปหมดเพราะตรวจจับได้ถึงโอกาส OOC 98%

“แม่สอง!! ทำไมนายไม่บอกเราก่อนอ่ะ นายแก้แค้นเราเหรอ แงงง อุแงงงง!!! ”

ช่วยไม่ได้ โฮสต์ไม่ได้ถามเอง แต่ถามไปก็สปอยล์ไม่ได้ เพราะผิดกฎของระบบ เสียใจด้วยนะโฮสต์ สกิลแสดงออกทางสีหน้าอย่างสมบูรณ์แบบคงไม่ได้ใช้ในโลกนี้ เอาไว้ลองใหม่โลกหน้าแล้วกัน

เพราะฟื้นมารอบนี้โฮสต์กลายเป็นโครงกระดูกไปซะแล้ว

โปรดติดตามตอนต่อไป...


*****


ซินเอ๋อร์:

จบ Arc 1 แล้ว เนื้อเรื่องรวบรัดหน่อยนะคะ อาจไม่ได้ลงรายละเอียดบางอย่างมากมาย เพราะตั้งใจไว้เป็นเรื่องสั้นบ้าบอไปเรื่อยค่ะ ใต้ความดราม่ายังมีความติ๊งต๊องของโฮสต์และระบบอยู่ มีใครเดาได้ไหมคะว่าโคว้ทที่โฮสต์เอามาพูดมาจากเรื่องไหนบ้าง อันหลังไม่ยากเท่าไร อันแรกน่าจะยากกว่า ใบ้ว่ามาจากนิยายคลาสสิคทั้งคู่ค่ะ

ส่วน Arc 2 จะมาในธีมไหน ขอสปอยล์ค่ะว่าเป็นธีมที่หาอ่านได้ยากมากกกกกกส์ ซึ่งจะเขียนออกมาเป็นยังไง ยังไม่รู้เลยค่า (อ้าววว) 55555

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ CKJPQQ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
28 องศา หิมะตกก็บ้าแล้ว (บทนำ)

เมื่อนั้น

องค์พระปรมินทร์อินทศร

จำต้องพลัดพรากจากเมืองจร

ต้องแรมรอนผลัดถิ่นในแดนไกล

ร่ายกลอนเกริ่นจบแค่บาทแรกโฮสต์ก็เคาะเรียกระบบรัวๆ “แม่สอง..เปิดเรื่องมาก็วรรณคดีวิจักษ์แล้ว ขอภาษาอื่นได้ไหม?”

[Let me see~♥ The story is about the prince Intasorn from Intaraburi. He spent his six years to study many arts with the hermit, who called---]

“แม่สอง...นายกวนตีนเหรอ?” โฮสต์ยิ่งเคาะระบบหนักยิ่งขึ้น เคาะแรงกว่านี้ก็เรียกว่าทุบแล้ว “เอาเนื้อเรื่องมาดีๆ ไม่กวนสิ ภาษาอังกฤษเราก็ไม่เก่ง ตอนเด็กๆ เราไม่ค่อยได้ไปเรียน นายต้องหัดเห็นใจกันบ้าง ให้เรามานั่งถอดความกลอนแปด ปีหน้าก็ไม่ต้องเล่นมันแล้ว เดี๋ยวคอยดูเราจะเขียนเรื่องร้องเรียน”

คำว่าร้องเรียนเป็นเหมือนคำต้องห้ามของระบบ เพราะว่าในแคตตาล็อกสำหรับแลกคะแนนยังสามารถใช้คะแนน 5,555 คะแนนเพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนระแบบได้ คะแนนโหดขนาดนั้นไม่มีโฮสต์คนไหนโง่พอจะแลก แต่ก็ไม่แน่ โฮสต์คนนี้อาจจะโง่พอก็ได้

เรื่องราวของตอนนี้มีชื่อว่า ‘เหมันต์คืนนคร’ เริ่มจากเจ้าชายอินทศรแห่งอินทรบุรี (อ่านว่าอิน-ทะ-ระ-บุ-รี) ตอนอายุสิบหกได้กราบลาเสด็จพ่อเสด็จแม่เข้าป่าไกลนับพันโยชน์[1]เพื่อตามหาพระฤๅษีโควินทร์เพื่อเรียนวิชากลับมาปกครองบ้านเมือง หกปีผ่านไปเมื่อสำเร็จวิชาจึงลากลับเมืองพร้อมกับพระขรรค์ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับมาเป็นรางวัล ระหว่างทางได้ผจญภัยช่วยเหลือผู้คนไว้มากมาย

หนึ่งเป็นนางนาคีจำแลงกายผู้มีชื่อว่าอนันตนาคี ต่อมาเกิดจิตพิศวาสต่อกันจึงครองคู่อยู่ด้วยกันในฤดูฝน พอลมร้อนจากทิศหรดี[2]พัดผ่านก็พลันถึงคราวลาจาก พระโอรสร่ำลานางอนันตนาคีอยู่เนิ่นนานว่าจะต้องกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน สักวันหนึ่งย่อมต้องหวนมารับนางนาคีกลับไป เจ้าชายอินทศรมิได้ล่วงรู้ว่าในครรภ์ของเมียรักมีเลือดเนื้อเชื้อไขของตนถือกำเนิดขึ้นเสียแล้ว ครั้นผ่านไปสิบเดือนหนึ่งปี เมื่อถึงวันที่ฝนกระหน่ำเป็นที่สุด ไข่ที่นางอนันตนาคีคลอดออกมา ก็ฟักเป็นกุมารน้อยครึ่งคนครึ่งนาคา มีอิทธิฤทธิ์เรียกฝนได้ดั่งใจ จึงมีชื่อว่าวสันต์

กล่าวถึงการผจญภัยของเจ้าชายอินทศร หลังลาจากนางอันเป็นที่รัก เขาได้หลงเข้าไปในป่าหิมพานต์และได้ช่วยเหลือนางเก็ตถะหวากินรีไว้จากพรานป่า จากนั้นบังเกิดเป็นความรักร่วมอภิรมย์ตลอดช่วงฤดูร้อน ครั้นลมหนาวจากทิศอุดร[3]พัดผ่านมาย่อมถึงคราวลาจาก อินทศรบอกลานางเก็ตถะหวาอยู่หลายวัน ออกปากสัญญาว่าวันหนึ่งจะรับนางกลับบ้านเกิดเมืองนอน หาได้รู้ไม่ว่าในท้องนางเก็ตถะหวายามนั้นตั้งครรภ์อ่อนๆ อยู่ ผ่านไปไปสิบเดือนหนึ่งปี ณ วันที่อากาศร้อนอบอ้าวเป็นที่สุด ไข่ที่นางเก็ตถะวาคลอดออกมาก็ฟักเป็นพระโอรสครึ่งคนครึ่งกินนร มีอิทธิฤทธิ์คุมไฟได้ มีนามว่าคิมหันต์

พ้นจากป่าหิมพานต์มาได้ เจ้าชายอินทศรได้หลงเข้าไปในอาศรมของธราดลฤษีผู้ฝึกปฐวีกสิณ[4] ในสวนของพระฤๅษีได้ปลูกต้นมักกะลีผลเอาไว้ต้นหนึ่งเพื่อฝึกฝนจิตใจและให้นารีผลฝึกนีลกสิณ[5]ข่มธาตุดินเพื่อให้ฤทธิ์วิชาก้าวหน้าดีขึ้น อินทศรเห็นสตรีเส้นผมสีทองอร่ามประหลาดตาใบหน้างดงามราวเทพธิดาชั้นฟ้าก็เผลอเด็ดนางมักกะลีผลออกมาร่วมสังวาส นางตกใจเป็นอย่างมากเพราะเมื่อปลิดผลมาแล้วย่อมมีชีวิตได้เพียงเจ็ดวัน จากที่ถือพรหมจรรย์กลับร่างกายแปดเปื้อน พระฤๅษีธราดลดูแลมักกะลีผลนางนี้มาดั่งลูกหลาน จึงได้ขับไล่เจ้าชายอินทศรออกไป พร้อมสาปให้ชั่วชีวิตนี้อย่าได้สัมผัสถึงความรักบริสุทธิ์ ครั้นเวลาตายก็ขอให้ตายอย่างอัปยศ

ด้วยความสงสารฤษีธราดลจึงเสกให้นางมักกะลีผลกายเป็นนางไม้ ใครเล่าจะรู้ว่านางกลับให้กำเนิดเมล็ดพืชประหลาดขึ้นมาได้ นางนารีผลซึ่งภายหลังได้ชื่อว่าผกามาศได้แต่ร่ำไห้เสียใจที่ถูกย่ำยี จำใจดูแลอยู่สิบเดือนหนึ่งปีจนถึงวันที่อากาศหนาวที่สุด เมล็ดพืชพลันออกผลเป็นกุมารน้อยผู้หนึ่งซึ่งมีเส้นผมและดวงตาสีดั่งทองเหมือนเช่นนาง แต่เป็นมนุษย์เต็มตัว เด็กชายผู้นี้มิได้มีอิทธิฤทธิ์อันใดเป็นพิเศษนอกจากพูดคุยกับต้นไม้ได้ หากแต่เกิดในฤดูหนาวจึงได้ชื่อว่าเหมันต์

ส่วนอินทศรกลับเมืองไปถึงกลับพบว่าเสด็จพ่อเสด็จแม่ทำพิธีหมั้นหมายกับเจ้าหญิงเมืองเคียงข้างอันมีนามว่าพิมพ์อัปสร จากนั้นจึงได้ครองราชย์เป็นเจ้าเมืองอินทรบุรี ภายหลังพิมพ์อัปสรให้กำเนิดธิดาฝาแฝดออกมาสองคนนามว่าลาวัณย์นภาและโสภาพสุธ แม้ชีวิตจะผาสุกยิ่ง แต่พระเจ้าอินทศรยังคงมีความกังวลว่าตนเองไม่มีพระราชบุตรเพื่อสืบทอดสันติวงศ์

“เลวชิบ” โฮสต์สบถออกมาในใจด้วยความรู้สึกโกรธแค้น ไอ้เจ้าชายอินทศรก็สารเลวได้ถึงกระดูกจริงๆ รักบ้าบออะไรไข้ทิ้งไว้ทั่ว แถมไม่กลับไปรับผิดชอบอีก “อย่าบอกนะว่าอินทศรเป็นพระเอก ถ้าใช่เราร้องไห้จริงๆ ด้วย”

[เนื้อเรื่องที่เล่ามาเป็นเพียงรุ่นพ่อเท่านั้นพี่จ๋า~♥]

“แม่งยังมีรุ่นลูกอีกเรอะ!? ” หลุดคำหยาบมาแล้วโฮสต์ ไม่เหมาะกับภาพลักษณ์หนุ่มน้อยวัยใสนะเฮ้ย

[เนื้อเรื่องหลักอยู่ที่รุ่นลูกฮะ~♥]

ชื่อก็บอกอยู่ว่าเหมันต์คืนนคร พระเอกจะเป็นอินทศรได้ไง

ย้อนกลับไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ภายใต้การปกครองของท้าวสหัสนัยน์[6] เทพบุตรสามองค์ถึงคราวเคราะห์หมดบุญจึงต้องจุติลงไปเป็นมนุษย์เพื่อปราบเภทภัยรอวันได้กลับมาหวนคืนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีกครั้ง ทั้งสามแม้เป็นมิตรสหายแต่ก็เป็นศัตรูกันอยู่ในที สุดท้ายจึงได้ไปเกิดต่างกรรมต่างวาระ กลายเป็นสามพี่น้องต่างมารดาเกิดต่างฤดูอันมีชื่อว่าวสันต์ คิมหันต์และเหมันต์

ในบรรดาสามพี่น้อง เหมันต์มีชีวิตยากลำบากที่สุด เนื่องจากไม่ได้รับความรักความห่วงใยจากมารดาเหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ ครั้นอายุได้แปดปีนางผกามาศก็ขอร้องแกมบังคับให้พระโอรสออกตามหาพระบิดา เหมันต์หลงเชื่อจึงไปขออาวุธติดกายจากพระเจ้าตา มิได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นแผนการขับไล่เขาออกไป พระฤๅษีมอบดาบเหล็กน้ำพี้เพื่อให้ป้องกันตนเองและผีโครงกระดูกคนตายตนหนึ่งให้เป็นเพื่อนร่วมทาง

พระโอรสเหมันต์เดินทางระหกระเหินลำบากลำบนจนได้พบกับนนทเรศผู้เป็นราชายักษ์รากษสแห่งเมืองอสุรกา ด้วยสติปัญญาที่ฉลาดเฉลียวทำให้นนทเรศรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมโดยปกปิดเอาไว้ว่าตนเป็นยักษ์ ภายใต้การเลี้ยงดูของนนทเรศให้เหมันต์กุมารกลายเป็นคนทะเยอทะยานเหี้ยมโหด วันหนึ่งเขาเข้าไปพบห้องลับของยักษ์ได้สัมผัสกับลูกแก้วพิศดารจนทำให้พลังควบคุมลมที่หลับใหลในจิตวิญญาณฟื้นขึ้นมา จึงได้หอบข้าวของหนีบิดายักษ์ของตนเอง

นนทเรศโกรธแค้นมาก เมื่อรู้ว่าเหมันต์จะต้องหวนกลับไปอินทรบุรีจึงปลอมตัวเป็นมนุษย์ไปทำทีสู่ขอพระธิดาคนใดคนหนึ่งของอินทศร เมื่อเหมันต์ไปถึงก็ถูกขัดขวางไม่ให้แสดงตัวเป็นพระโอรสของเจ้าเมือง จากนั้นก็เป็นการเล่นแง่เล่นกลกันระหว่างทั้งสองคน อินทศรถูกวิชาสะกดใจของยักษ์ชั่วเลยหลงเชื่อส่งคนไปเผาทำลายอาศรมและต้นมักกะลีผลของนางผกามาศ

เหมันต์ใจสลายยิ่งกว่าใจสลาย ใช้อาวุธและอิทธิฤทธิ์ทุกอย่างที่มีบุกเข้าไปฆ่าราชารากษส ก่อนตายนนทเรศเพียงหัวเราะเยาะเย้ยว่าเขาเป็นเพียงบุตรที่ไม่มีใครตั้งใจให้เกิดขึ้นมา มารดาไม่รัก บิดารังเกียจ เพราะทรยศหักหลังผู้มีพระคุณชีวิตนี้คงไม่อาจสัมผัสได้ถึงความรักอีกต่อไปแล้ว

เหมันต์ที่ไม่เคยได้รับความรักจากใครในชีวิต เจอเรื่องหนักๆ เข้าไปเยอะแยะเลยเข้าด้านมืดได้อย่างง่ายดาย เขากลับไปยังเมืองอสุรกาปราบเหล่ายักษ์และครองราชย์แทนนนทเรศ ใช้พลังลมและพลังความเย็นร่วมกับกองทัพของเหล่ารากษสบุกตะลุยทั่วแม้กระทั่งป่าหิมพานต์ ชีวิตของพี่ชายทั้งสองก็ไม่ละเว้น ฆ่าตายแล้วยังเอาวิญญาณไปเป็นทาสดูดกลืนพลังมาจนหมด สุดท้ายบุกตีไปถึงเมืองอินทรบุรีจนได้รับชัยชนะ เขาจับพระเจ้าอินทศรทรมานด้วยการแล่เนื้อเอาเกลือทาแล้วเอาเนื้อต้มป้อนให้เจ้าตัวกิน ส่วนที่ร้ายที่สุดคือการคร่าเอาน้องสาวฝาแฝดมาเป็นเมีย

ด้วยพลังอันมหาศาลเกินควบคุมของพระเอก ทำให้จากนั้นตลอดทั้งปีไม่มีฤดูอื่นอีกต่อไป มีเพียงฤดูหนาวอันโหดร้ายและหิมะขาวโพลน ทั่วทั้งดินแดนเหลือเพียงแต่ความหนาวเหน็บ...จากลงมากำจัดเภทภัยเหมันต์กลับกลายเป็นเภทภัยใหญ่หลวงเสียเอง เทพบุตรทั้งสามไม่มีวันได้หวนคืนดาวดึงส์อีกต่อไป

Bad End

“โอ้โห...เนื้อเรื่องยาวมาก ตัวละครก็เยอะแยะใครจะไปจำไหว! ” โฮสต์บ่นงึมงำ ตอนนี้เรื่องดำเนินมาถึงตอนที่นนทเรศรับเอาเหมันต์กุมารกลับเมือง ไม่รู้ว่าความมืดในจิตใจพระเอกเติบโตไปถึงขั้นไหนแล้ว “ตัวละครมากมาย แต่ให้เราเป็นน้าผีเนี่ยนะ! น้าผีนะน้าผี!! ”

[น้าผีเป็นส่วนสำคัญที่จะสามารถกล่อมเกลาจิตใจให้พระเอกอยู่บนลู่ทางที่เหมาะสมได้นะฮะ~♥]

เพราะน้าผีอยู่กับพระเอกตั้งแต่แรกจนถึงครึ่งหลังของเรื่อง ถ้าไม่ใช่เพราะขโมยอาวุธวิเศษของพระเอกไปก็คงไม่ซี้ม่องเท่งหรอก กลายเป็นเถ้าถ่านหรอก

“เหอะ! ” เด็กหนุ่มแค่นเสียงแบบไม่ค่อยเชื่อเท่าไร “เปลืองแต้มอ่ะ ออกสกิลมาก็ไม่ได้ใช้ น้าผีมีแต่โครงกระดูกจะมีสีหน้าอะไรให้มอง”

[พี่จ๋าสกิลแสดงออกทางสีหน้าอย่างสมบูรณ์เป็นสกิลติดตัว สามารถใช้ในโลกหน้าได้นะฮะ~♥]

“เฮ้อ” โฮสต์ถอนหายใจอีกหนึ่งที “จะว่าไปพล็อตมันคุ้นๆ ยังไงไม่รู้เนอะ เหมือนละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่เราเคยดูวันเสาร์อาทิตย์เลยอ่ะ”

พล็อตมันก็ยำใหญ่ใส่สารพัดเท่าที่จะคิดออกนั่นล่ะโฮสต์ อย่าไปซีเรียสกับมันมากเลย ละครพื้นบ้านไม่ว่าเรื่องไหนๆ ก็ต้องมีโครงแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าตาฤษี อาวุธวิเศษ เพื่อนร่วมทางที่ไม่ใช่คนเอาไว้ตบมุกเพิ่มสีสัน ตอนจบปราบยักษ์รากษส แต่งงานมีความสุขแฮปปี้เอนดิ้ง เรื่องนี้ก็ขาดแต่ว่าพระโอรสถูกทิ้งให้ตายตอนยังเด็กเพราะเป็นกาลกิณีบ้านเมืองแค่นั้นแหละ ไม่งั้นจะครบพล็อตละครพื้นบ้านแล้ว

[คำแนะนำจากระบบ: น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้~♥]

“ฮื่อ...เอาให้เนื้อเรื่องเป็นไปตามพล็อตละครจักรๆ วงศ์ๆ น่าจะเข้าท่ากว่า นี่มันทั้งพยายามมั่วทั้งพยายามดาร์กยิ่งกว่าดาร์กเวิลด์อีก” โฮสต์ขยับมือกระดูกของตนเองด้วยท่าทางอยากจะร้องไห้ เขาเป็นพวกแอบคลั่งรูปลักษณ์ภายนอกอยู่เบาๆ ตอนนี้มากลายเป็นผีแล้วคงรู้สึกแย่น่าดู แต่สุดท้ายชีวิตต้องเดินต่อ น้าผีมือใหม่ค่อยๆ พยายามปลุกพลังในตัวเอง “เอ้า สู้ๆ ! ต้องรอด!! ”

เอ้า สู้ๆ ถึงโฮสต์จะโง่ แต่ระบบจะเป็นกำลังใจให้



โปรดติดตามตอนต่อไป...


*************

เชิงอรรถ

[1]^ 1 โยชน์ = 16 กิโลเมตร
[2]^  ทิศตะวันตกเฉียงใต้
[3]^ ทิศเหนือ
[4]^ ฝึกกสิณคือการเพ่งสมาธิอย่างหนึ่ง ปฐวีกสินคือการฝึกกสิณธาตุดิน 
[5]^ นีลสกิณ เป็นการฝึกกสิณโดยการเพ่งต้นไม้ใบหญ้า
[6]^ ชื่อหนึ่งของพระอินทร์

*************

ซินเอ๋อร์:


อย่างที่เกริ่นไว้ว่าโลกนี้จะมาในธีมสุดแรร์! มันจะไม่แรร์ได้ยังไง เพราะมาเป็นจักรๆ วงศ์ๆ ขนาดนี้ 5555555 บ้าบอกันไปให้สุดค่ะ อยากเขียนอะไรต้องได้เขียน ถือว่าเป็นการทดลองเขียนด้วยลูกบ้าของซินเอ๋อร์นะคะ แอบกลัวเหมือนกันว่าเปิดมาแบบนี้จะไม่มีใครอ่าน แต่เปิดใจให้สักหน่อยนะคะะ


พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ




ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แล้วตัวร้ายคนนั้นจะเป็นใครหว่า ใช่ยักษ์ไหม หรือเหมันต์ รอตอนต่อไปค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Raspberry complex

  • เติมรักใส..ใส่หัวใจ2ดวง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +358/-0
    • http://www.facebook.com/raspberrycomplex.raspberry

ออฟไลน์ ง่วงนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เจ้าโฮสต์โง่ แกทำให้ระบบดูแย่  :hao7:

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Arc 2 28 องศา หิมะตกก็บ้าแล้ว (ครึ่งแรก)

“เหมันต์...หลานจงจำไว้ว่าคนเราจะเป็นมนุษย์ได้ต้องมีความกตัญญู” มือโครงกระดูกลูบศีรษะทุยสวยของพระโอรสเหมันต์ปุๆ ด้วยความเอ็นดู ร่างเล็กของเด็กวัยเก้าปีนั่งซ้อนอยู่บนตักที่มีแต่กระดูกของน้าผี เด็กชายทำแก้มป่องพองลม น่ารักเสียจนโฮสต์แอบปาใจใส่ให้รัวๆ

“หลานรู้แล้ว...” เหมันต์ลากเสียงยาว จากนั้นจึงทำเสียงขึงขังเลียนแบบเสียงแหบต่ำของน้าผีที่พูดได้ทั้งที่ไม่มีกล่องเสียงอย่างผิดธรรมชาติ “น้าผีสอนหลานไม่รู้จักกี่ครั้งแล้ว เกิดเป็นคนต้องรู้จักกตัญญูรู้คุณคนที่คอยช่วยเหลือดูแลเรา โดยเฉพาะบุพการีที่เลี้ยงดูเรามา ถือเป็นบุญคุณอันยิ่งใหญ่ที่ต้องใช้ทั้งชีวิตตอบแทน”

“เหมรู้ก็ดีแล้ว แต่รู้ไม่พอต้องทำให้ได้ด้วย” โครงกระดูกน้าผีพูดด้วยเสียงอ่อนโยนจนเดาได้ว่าใบหน้าที่ไม่มีกล้ามเนื้อสักมัดคงจะกำลังยิ้มอยู่แน่ๆ “พระองค์นนทเรศถึงแม้ไม่ใช่เสด็จพ่อผู้ให้กำเนิด แต่เป็นคนเลี้ยงดูเหมมาตลอด เหมอยากสิ่งใดเขาก็หามาให้ ไม่ใช่ว่าล่าสุดได้ลูกม้าสีหมอกมาหรือ”

“เสด็จพ่อดีต่อหลานมากๆ หลานจะกตัญญูอย่างที่น้าผีบอกหลาน”

โฮสต์พยายามอัดข้อมูลเข้าสมองพระเอกไปทุกวันแทนว่าต้องรู้จักกตัญญูรู้คุณ ด้วยความเชื่อว่าเด็กทุกคนคือผ้าขาว ถ้าสั่งสอนให้ดีต้องเลือกเส้นทางถูกต้องแน่นอน ส่วนเรื่องความรักพรหมลิขิตอะไรนั่นโฮสต์เลิกคิดไปแล้ว เพราะตัวเองเป็นแค่โครงกระดูกจะให้มีใครมารักปักใจด้วยคงจะไม่ไหว ชาตินี้เป็นน้าผีตัวประกอบไปก่อนก็แล้วกัน

“ถ้าเราสอนเหมันต์แบบนี้ต่อไป เขาต้องเป็นคนดีไม่หักหลังนนทเรศแน่นอน” โฮสต์กระซิบกับระบบด้วยน้ำเสียงคิกคักเหมือนว่านี่เป็นแผนการที่ดีที่สุดเท่าที่จะคิดได้แล้ว

[…]

“นายไม่เชื่อในพลังความโลกสวยสดใสเหรอแม่สอง ถ้าเรารักกัน ทุกคนรักกัน ทุกคนก็แฮปปี้”

ชีวิตมันง่ายแบบนั้นซะที่ไหน

[คำว่า ‘โลกสวย’ และคำว่า ‘โง่’ สะกดไม่เหมือนกัน~♥]

“ปากร้าย! ถึงจะใส่หัวใจตรงท้ายก็ไม่ได้ทำให้น่ารักขึ้นหรอกนะ! ”

ระหว่างที่โฮสต์กำลังทำการร้ายระบบด้วยการทุบตีอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ก็มีใครคนหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน

“ทำอะไรกัน” เสียงห้วนต่ำของราชายักษ์รากษสดังขึ้นพร้อมกับรูปร่างสูงใหญ่กำยำที่ขยับมาอุ้มกุมารน้อยจากตักของโครงกระดูกขึ้นมาโอบอุ้มไว้แทน รากษสตนนี้มีใบหน้าหล่อเหลาคมคาย เรือนผมหยักศกตามเผ่าพันธุ์หยิกขอดล้อมรอบกรอบหน้า ดวงตาเรียวยาวดุดันไร้ความปราณียามมองเหมันต์ยังเฉยชาอยู่บ้าง แต่เมื่อเลื่อนมามองโครงกระดูกกลับมีแวววูบไหวภายใน

“น้าผีสอนให้ลูกรู้จักกตัญญูรู้คุณต่อเสด็จพ่อ” เหมันต์น้อยเล่าด้วยท่าทางออดอ้อนแถมยังขยับซุกเข้าไปในอ้อมแขนของนนทเรศคล้ายต้องการไออุ่น ยามนี้เหมันตฤดูมาถึงแล้ว อสุรกาแม้จะไม่ได้รับความหนาวเย็นเหมือนทางตอนเหนือ แต่ก็ถือว่าอากาศเย็นกว่าปรกติไม่น้อย ระบบแล้วเห็นว่าอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 28 องศาได้

ร่างกายแข็งแรงถึงกับชะงักไปบ้าง นนทเรศเหลือบมองโฮสต์เล็กน้อยก่อนจะหลุบดวงตาลงต่ำคล้ายซ่อนแววตาบางอย่าง เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของบุตรชายบุตรธรรมเพื่อแสดงความอ่อนโยนแบบที่ปรกติไม่เคยทำมาก่อน “ถ้าเจ้ารู้จักกตัญญูก็ถือว่าเป็นเรื่องดี”

เหมันต์ยิ่งออดอ้อนพระบิดายิ่งกว่าเดิม ถ้าอ้อนขนาดนี้ ระบบที่ผ่านโลก BL มาไม่รู้จักกี่ร้อยโลกคงบอกได้ว่าอีกหน่อยความสัมพันธ์ของคู่นี้คงได้พัฒนาเป็นเรือบาปพ่อ-ลูกบุญธรรมแน่ คราวนี้คงได้สนุกพิลึก ละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่มีตัวเอกเป็นชายรักชาย...

แต่แล้วนนทเรศก็ต้องทำให้ระบบผิดหวัง พอเห็นเด็กชายอ้อนมาเข้า เขากลับส่งพระโอรสให้กับคนสนิทข้างกายราวว่าเหมันต์เป็นของร้อน “ออกไปหัดตีคลีกันเถิด พ่อให้สินธุเตรียมม้าไว้ให้ลูกแล้ว”

รอให้สินธุอุ้มพระโอรสจากไป เรือนร่างสูงกำยำจึงขยับมาเดินตามหลังเคียงข้างกับน้าผีแทน เขาลอบสังเกตท่าทางของโครงกระดูกที่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีอะไรให้น่าสังเกตมากนักนอกจากแคลเซียมสีขาวเหลืองของผีตายซาก ส่วนโฮสต์ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราว ร้องเพลงดังลั่นสุ่มเสี่ยงต่อลิขสิทธิ์ในใจ “สี่กุมาร...หาญกล้า! ตรี คทา จักร อีกอันอะไรนะแม่สอง ศร หรือสังข์ เราจำไม่ได้แล้ว”

[…]

เรื่องนี้ระบบจะไม่ยุ่ง

“หนาวหรือไม่” นนทเรศถามขึ้นมาเพื่อขัดความเงียบงัน จากนั้นคงรู้ตัวว่าคำถามไม่เหมาะสม น้าผีไม่มีผิวหนัง จะไปรู้สึกเหน็บหนาวได้อย่างไร “เมืองเราอยู่ทางใต้จึงมิได้สัมผัสอากาศหนาวเท่าใด แต่ปีนี้เมืองอสุรกาจะหนาวยิ่งกว่าทุกที ประชาชนจึงตื่นตัวมากกว่าปีก่อน”

โครงกระดูกหันมองรอบข้างที่ชาวรากษสต่างเริ่มแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหนายิ่งกว่าเดิม อากาศที่เย็นกว่าปรกติทำให้ดอกพญาเสือโคร่งในอุทยานผลิออกเสียจนโดยรอบมีแต่สีชมพูและกลีบดอกไม้ที่เริ่มร่วงโรยลงจากต้น

ทั้งสองหยุดยืนมองเหมันต์ที่เริ่มฝึกตีคลีอยู่กับทหารคนสนิทของราชายักษ์ หากแต่พ่อบุญธรรมของเขากลับไม่สนใจสักนิด เขาหันมามองโครงกระดูกเสียจนไม่วางตา “ไม่ว่าเมื่อใดข้างกายเจ้าล้วนมีเขาตลอด เจ้าคงห่วงเขามาก” นัยน์ตาของราชายักษณ์เกิดแววตาล้ำลึกยิ่งกว่าห้วงสมุทรเสียอีก

“การดูแลพระโอรสเป็นภารกิจหน้าที่ของน้าผี ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องอยู่ข้างกายเขา”

“แล้วเจ้าเล่า...ต่อให้ข้าเป็นเช่นไร เจ้าจะยังอยู่เคียงข้างกายหรือไม่” ดวงตาคมกริบของนนทเรศหลุบต่ำคล้ายไม่กล้าสบตา คำพูดนี้คุ้นมากๆ คุ้นเหมือนว่าเคยได้ยินมาก่อนแล้ว แต่โฮสต์สติปัญญาและความจำไม่ดีเลยจำอะไรแบบนี้ไม่ได้ แถมยังอ่านบรรยากาศไม่ออก คำตอบที่ออกมาจึงสมควรตายเป็นอย่างยิ่ง

“จะอยู่เคียงข้างท่านได้อย่างไรกัน” เส้นเอ็นที่ขมับของนนทเรศเต้นตุ้บด้วยความเครียดขึ้ง โฮสต์ซื่อบื้อไม่มีทางสังเกตเห็นอยู่แล้ว แต่ยังดีที่ประโยคต่อมาไม่ทำร้ายกันเท่าไร “ข้าเป็นเพียงผีโครงกระดูก คงไม่อาจเทียบเคียงกับพระองค์ได้”

ราชายักษ์ลอบถอนหายใจก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในเบ้าตาที่ไม่มีลูกตาของน้าผี “แล้วถ้าหากข้าอยากให้เจ้าอยู่เคียงข้างกายเล่า”

โฮสต์รีบเคาะระบบมาคุยด้วย “ฮื่อออ สงสารเขาเนอะแม่สอง เป็นราชาอยู่คนเดียว เพื่อนไม่มีสักคน นนทเรศต้องเหงามากแน่เลย”

ไม่ใช่หรอกโฮสต์ ไม่ใช่...

“เช่นนั้นก็ถือว่าเราเป็นสหายกัน ต่อให้พระองค์จะเป็นเช่นไรดีร้ายแค่ไหน เพื่อนย่อมไม่ทิ้งเพื่อนอยู่แล้ว” มือโครงกระดูกตบแปะๆ บนบ่ากว้างของผู้ปกครองเผ่าพันธุ์รากษส ขณะที่อีกฝ่ายขยับมุมปากออกเป็นรอยยิ้มบางเบา มือเอื้อมไปหยิบดอกพญาเสือโคร่งที่ร่วงหล่นบนกะโหลกส่วนบนของโครงกระดูกผีด้วยความอ่อนโยน อีกครู่หนึ่งน้าผีก็เข้าไปร่วมวงตีคลีกับหลานชายด้วยความสนุกสนาน

“คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นเจ้า” นนทเรศพึมพำแผ่วเบา สายตาทอดไกลมองโครงกระดูกผีคล้ายครุ่นคิดบางสิ่ง ก่อนดวงตาคมคู่นั้นจะวาววับขึ้นมา “ชาตินี้คงไม่อาจปล่อยเจ้าไปได้อีกแล้ว”

เขาอุตส่าห์ตามมาอีกชาติแล้วยังใช้คำพูดเดิมสองชาติติด โฮสต์ก็ไปเฟรนด์โซนเขาอีก ความหมายที่นนทเรศสื่อถึงต้องไม่ใช่ในความหมายเพื่อนฝูงอยู่แล้ว ชาติก่อนโฮสต์ก็ไปรับปากเขาในฐานะพ่อ ชาตินี้ก็ยังไปรับปากเขาในฐานะเพื่อนอีก ไม่ยอมตอบรับรักเขาสักที จะรอให้ชาติหน้าเขาตามมาทวงสัญญาอีกรอบหรือไง

หลังจากนั้นไม่ว่านนทเรศจะอ่อนโยนเป็นพิเศษกับโครงกระดูกผีแค่ไหน โฮสต์ยังคงโง่จนไม่รับรู้ความรู้สึกรักจากราชายักษ์อยู่ดี ในเมื่ออีกฝ่ายไม่รู้ คนที่ตามมาหลายภพหลายชาติก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเช่นกัน ทุกฤดูหนาวเขามักพาน้าผีไปเดินเล่นในอุทยานชมดอกพญาเสือโคร่งที่บานสะพรั่ง นนทเรศในชาตินี้รู้งานเอามากๆ วันเวลาหลายปีที่เลยผ่านก็ยังคงวางตัวทั้งพ่อและเพื่อนได้ดีจนระบบอยากจะมอบรางวัลพิเศษให้

นอกจากคอยดูแลเอาใจโครงกระดูกจนเกินความจำเป็น เขายังสอนสั่งเหมันต์ด้วยความตั้งใจเพราะเห็นน้าผีให้ความสำคัญกับหลานคนนี้เป็นอย่างมาก แม้กระทั่งลูกแก้วพิสดารที่ตามเรื่องพระเอกต้องไปบังเอิญเจอตามพล็อตเรื่อง นนทเรศยังนำมาให้เหมันต์ด้วยตัวเอง เมื่อเด็กชายเอื้อมมือไปแตะด้วยความสนใจ พลังควบคุมลมหนาวที่ถูกกดเอาไว้อย่างไม่มีเหตุผลก็ปรากฏออกมาจนได้ คราวนี้พระเอกไม่ต้องลำบากเหมือนในเนื้อเรื่องแล้ว เพราะเสด็จพ่อบุญธรรมของเขาทั้งช่วยสอนการควบคุมพลัง ทั้งยังมอบศรและดาบวิเศษที่ใช้พลังลมหนาวให้เป็นอาวุธ

ตามเนื้อเรื่องเดิมเขาต้องเลี้ยงพระเอกมาไม่ได้ดีเท่าไร จนเกิดให้นิสัยของเหมันต์บิดเบี้ยว แต่นนทเรศที่คอยดูแลลูกเลี้ยงเพื่อเอาใจน้าผี ตอนนี้กลายเป็นดัชนีทองคำของพระเอกไปซะแล้ว

ถึงตัวร้ายจะมีสนิทดีรักลูกรักเมีย แค่กๆ แต่อย่างไรแล้ววงเวียนของโชคชะตาที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วยังคงดำเนินต่อไป นนทเรศเป็นยักษ์ ถึงหลีกเลี่ยงการกินเนื้อมนุษย์ แต่ก็ยังต้องออกไปล่าหาสัตว์ใหญ่กินเป็นอาหาร วันหนึ่งเมื่อเหมันต์อายุได้สิบแปดปีก็ไปพบถ้ำลับที่เหล่ายักษ์นำกระดูกสัตว์ไปเก็บซ่อนเอาไว้จนได้ สุดท้ายความลับเรื่องเผ่าพันธุ์ก็แตกอยู่ดี

“น้าผี หลานไปเจอความลับบางอย่างเข้า” เหมันต์ในวัยสิบแปดปีมีหน้าตาซีดเซียว แถมยังทำหน้าคล้ายจะร้องไห้ เด็กหนุ่มโน้มตัวลงมากระซิบกระซาบถ้อยคำกับโครงกระดูก “เด็จพ่อนนท์เป็นยักษ์รากษส แม่บอกหลานว่าพวกยักษ์ไม่ว่าจะจำพวกไหนล้วนแต่ชั่วร้ายเป็นศัตรูกับผู้คนทั้งนั้น”

“เขาเลี้ยงเจ้ามาสิบปี เป็นยักษ์เป็นมารแล้วทำไมหรือ” น้าผีตอบกลับด้วยความไม่พอใจจนฟันทั้งสามสิบสองซี่กระทบกันดังกึกๆ แต่ในใจกลับรีบเคาะระบบขึ้นมาฟ้องยกใหญ่ “แม่สอง! นายดู! เราพล่ามเรื่องความกตัญญูรู้คุณมาเป็นสิบปี เหมยังไม่สำนึกเลย เดี๋ยวคอยดูนะ จบ Bad End แน่! ”

“น้าผีฟังหลานก่อน ไม่ใช่ว่าหลานไม่ซาบซึ้งบุญคุณของเด็จพ่อ” พระโอรสเห็นน้าผีที่ใจดีกับเขาโมโหขึ้นมาก็อดตกใจไม่ได้ “แต่ถ้าวันหนึ่งเด็จพ่อให้หลานแต่งงานกับเจ้าหญิงยักษ์รากษสเพื่อสืบต่อสันติวงศ์ขึ้นมา หลานจะไม่แย่เอาหรือ หลานไม่ใช่ยักษ์อย่างเขา ไหนเขาร่ำลือกันอีกว่ายักษ์แต่ละคนสังวาสได้ดุเดือด หลานคงไม่รอดแน่ๆ”

“....” น้าผีถึงกับพูดไม่ออก

“มันมีอะไรแบบนั้นด้วยเหรอแม่สอง” เขาถามระบบด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย

[ตามเนื้อเรื่องแล้วยักษ์รากษสมีพละกำลังมหาศาลและยังมีอารมณ์ที่รุนแรง หากร่วมสังวาสกันแล้วอย่างน้อยสามวันสามคืนถึงจะเสร็จกิจฮะ~♥]

“...” โฮสต์เห็นใจพระเอกขึ้นมาบ้างแล้ว น้าผีที่ไม่จำเป็นต้องหายใจอีกต่อไปถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ “แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อ”

“หลานจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วหนีออกจากเมืองอสุรกา เมื่อตอนที่ลาจากพระเจ้าตาก็ตั้งใจออกมาตามหาเสด็จพ่อตัวจริง ถึงอย่างไรก็ควรพบเจอสักครั้งในชีวิต ส่วนเด็จพ่อนนท์หลานจะกลับมาแทนคุณในวันหนึ่ง” ถึงจะถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี แถมได้พลังคุมลมหนาวของตนกลับคืนมา แต่พระเอกก็ยังดำเนินเรื่องไปตามพล็อตหลักอยู่ดี อย่างน้อยๆ ความพยายามของโฮสต์ก็ไม่สูญเปล่า ความรู้สึกของเหมันต์ตอนนี้ที่มีต่อพ่อบุญธรรมยังถือว่าเป็นบวกอยู่ เรื่องราวอาจไม่เลวร้ายเหมือนตามพล็อตก็ได้

“หลานมีแผนการเอาไว้แล้ว ถ้าเด็จพ่อออกไปล่าสัตว์รอบหน้า หลานจะแอบหนีออกไป” พระเอกของเรื่องคว้ามือของน้าผีเอาไว้ เหมันตกุมารจ้องมองใบหน้าโครงกระดูกด้วยท่าทางมุ่งมั่นแน่วแน่ “น้าผีไปกับหลานเถิด”

น้าผีไม่มีสีหน้า แต่ภายในใจโฮสต์กลับกำลังลังเลถึงขีดสุด

“เอาไงดีอ่ะแม่สอง เราจะทำไงดี”

[คำเตือน ตรวจพบโอกาสที่การตัดสินใจของพี่ชายในตอนนี้อาจส่งผลต่อเนื้อเรื่องทั้งหมดถึง 74%

ตัวเลือกที่ระบบแนะนำให้กับพี่ชาย

ก. ไปสิ น้าต้องไปกับหลานอยู่แล้ว~♥

ข. ไม่ไป น้าสัญญากับนนทเรศแล้วว่าจะอยู่ที่นี่~♥

แนะนำให้เลือกคำตอบภายในระยะเวลา 2 นาที เริ่มทำการนับถอยหลังก่อนตัวเลือกจะถูกปฏิเสธโดยอัตโนมัตินะฮะ~♥]

“ม่ายยย อย่ากดดันกันสิแม่สอง!! ”



โปรดติดตามตอนต่อไป...



ซินเอ๋อร์:

5555 ยิ่งเขียนก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้มันบ้าบอมากๆ ค่ะ เขียนอะไรอยู่เนี่ยยย //กุมหน้า 

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและเข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Bad end อีกแล้วมั้งนี่

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ตอนแรกเห็นคุณซินเปิดเรื่อง คิดว่าจะคอมเมนท์บอกว่าให้ค่อยๆเขียนให้เสร็จทีละเรื่อง แต่พอมาอ่านแล้ว ความคิดนั้นหายวับไปกับตาเลยครับ /หัวเราะ

คุณซินเขียนเรื่องนี้ออกมาได้ดีเช่นเคยครับ o13 ผมชอบนะ โทนมันคลายเครียดจากเรื่องผีลามกเยี่ยอู่จวินมากครับ  (ฮา) ระบบให้ความรู้สึกเหมือน narrator (ผู้บรรยาย) ของเกม CYOA (Choose Your own Adventure) เลย ผมอ่านไปก็ตลกโฮสต์ไปครับ ท่าทางระบบที่คอยเป็นพาร์ทเนอร์ให้กับโฮสต์คงจะปวดหัวน่าดู เอาน่าระบบ /ตบบ่า ต้องทำใจ เจอโฮสต์อ๊อง :m20:

ผมชอบคอนเซปต์ของการเขียนเรื่องนี้นะครับ การเขียน CYOA จะเปิดพื้นที่ของจินตนาการเราให้มากขึ้น ฝึกการคิดพล็อต ขณะเดียวกัน การที่มันเป็นรวมเรื่องสั้นมันจะทำให้จบไว กระชับ แล้วเราสามารถเอาทักษะในการเขียนพล็อตพวกนี้ไปเชื่อมโยงหรือพัฒนาพล็อตของเนื้อเรื่องหลัก (เยี่ยอู่จวิน) ให้มันดีขึ้น ทำปมให้ซับซ้อนและคลายออกได้ประทับใจคนอ่าน อีกทั้งการเขียนโทน narrator แบบเฮฮา จะทำให้ผู้เขียนคลายเครียดจากการพยายามขัดเกลางานเขียนหลักให้ดี หรือแม้แต่การตันพล็อต,เส้นทางอีเวนต์ หรือตันคาแรกเตอร์ การเขียนอะไรสบายๆแบบนี้จะช่วยทำให้สมองเราลื่นขึ้นด้วยครับ

ดังนั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องผู้อ่านจะซีเรียสเรื่องนี้นะครับ โทนมันออกมาสบายๆแล้ว ดังนั้นเราจะเฮฮาไปด้วยกันในเรื่องนี้ :laugh: ติดตามอยู่ครับ บอกตามตรงว่าแทบไม่ได้สนใจตัวโฮสต์ หรือตัวร้าย หรือตัวพระเอกเลย เพราะเราสนุกกับการลุ้นว่าโฮสต์จะอ๊องยังไง พล็อตโลกใหม่ๆจะเป็นยังไง แล้วระบบจะปวดหัวกับพฤติกรรมของโฮสต์ยังไง (ฮา) มากกว่าการโฟกัสเรื่องรักๆใคร่ๆเสียอีก

ออฟไลน์ ง่วงนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพิ่งรู้ว่าเป็นคนเขียนคนเดียวกันกับผีลามก เขียนนิยายได้สนุกน่าสนใจทุกเรื่องเลยค่ะ   o13

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Arc 2 28 องศา หิมะตกก็บ้าแล้ว (ครึ่งหลัง)



"ขอใช้ตัวช่วย!" โฮสต์ตะโกนลั่นด้วยน้ำเสียงแหลมสูงจนเกือบจะกรี๊ดออกมาอยู่แล้ว “ตัดตัวเลือก! ขอใช้ตัดตัวเลือก!! ”

[…]

ตัวเลือกมันก็มีอยู่แค่สองตัวเลือก ให้ตัดออกไปอันนึงไม่ให้เฉลยไปเลยล่ะโฮสต์... อีกอย่างนี่ไม่ใช่รายการเกมโชว์ตอบคำถามแล้วได้เงินล้าน จะให้ระบบเอาตัวช่วยมาจากไหน ถ้าบอกให้โทรหาใครก็ได้แล้วโฮสต์จะโทรหาใคร โทรหาพุธทอล์คพุธโทรไปปรึกษาปัญหาลูกหนีออกจากบ้านเหรอ?

[เหลือเวลาอีก 30 วินาทีในการเลือกคำตอบ~♥]

“โฮกก ตัวช่วยก็ไม่มี ทำไมใจร้ายขนาดนี้” โฮสต์ร้องโวยวายในใจ ขณะที่น้าผีเบื้องนอกกำลังตั้งท่าเหม่อมองและครุ่นคิด ดูแล้วคล้ายภาพวาดแนวศิลปะเหนือจริง

[เหลือเวลา 10 วินาทีในการเลือกคำตอบ ระบบกำลังทำการนับถอยหลังฮะ~♥

หมดเวลา ตัวเลือกถูกปฏิเสธ ระบบกำลังทำการประมวลผลเพื่อทำการเลือกคำตอบให้อัตโนมัติ~♥]

นั่นคือขั้นตอนปรกติในการทำงานเวลามีตัวเลือกมาให้แต่โฮสต์ไม่สามารถเลือกได้ เนื่องจากระบบรู้อยู่แล้วว่านนทเรศตามโฮสต์มาหลายชาติจึงรู้ว่าคำตอบไหนเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ระบบไม่สามารถช่วยโฮสต์โกงได้เลยต้องใช้วิธีส่งคำร้องไปที่โคร่งข่ายที่เป็นกลางที่สุดสุ่มเลขโดดขึ้นมาแทน ถ้าเป็นเลขคี่จะเป็นตัวเลือกแรก เลขคู่เป็นตัวเลือกที่สอง พอได้ผลแล้วก็บังคับให้โฮสต์ตอบตามนั้น เพราะงั้นผลออกมาเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับแต้มบุญของโฮสต์แล้ว

“น้าเคยสัญญากับพระองค์นนทเรศเอาไว้ว่าจะอยู่ด้วยกันเป็นสหายร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่” ระบบที่สวมบทน้าผีชั่วคราวตอบพระเอกกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง แถมยังมีประโยคต่อไปเพื่อเป็นของสมนาคุณให้กับโฮสต์ ระบบไม่ได้ใจดี ระบบแค่สังเวชที่โฮสต์ไม่ค่อยฉลาด เวลาเล่นแต่ละบทถ้าไม่ได้ก๊อปบทพูดชาวบ้านมาแล้วก็ไม่เท่เอาซะเลย “จะลงมือทำการใด พระโอรสไตร่ตรองให้ดีก่อนเถิด”

“ใช่ๆๆๆ แม่สองนายพูดถูกแล้ว สมกับเป็นแม่สองมากๆ พึ่งพาได้จริงๆ !! ” โฮสต์รีบชมระบบด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นจนแทบจะกลายเป็นกระเหี้ยนกระหือรือ พอได้รับความสามารถในการควบคุมคาแรกเตอร์กลับคืนมาแล้วโฮสต์ก็รีบสำทับเพิ่มเติมทันที “เรื่องนี้อาจมิต้องใหญ่โตปานนั้น พูดคุยกับพระองค์ก่อนว่าขอออกจากเมืองไปตามหาเสด็จพ่อจะไม่ดีกว่าหรือ”

“น้าผีพูดถูก หากหลานแอบหนีไปเด็จพ่อนนท์อาจเข้าใจผิดได้ว่าหลานคิดรังเกียจ รอให้เด็จพ่อกลับมาก่อนหลานจะลองขอดูอีกที” รอยยิ้มสว่างสไวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหมันตกุมาร แต่เมื่อยามหันกลับมามองน้าผีที่อยู่ข้างกายมาเนิ่นนาน คอยสั่งสอนเลี้ยงดูเขายิ่งกว่ามารดาแท้ๆ ดวงหน้าหล่อเหลาก็เศร้าสลดขึ้นมา “น้าผีไม่ไปกับหลานจริงๆ หรือ ถ้าหลานไม่มีน้าผีไปด้วยอาจเกิดอันตรายขึ้นเป็นได้ น้าผีไม่เป็นห่วงหลานหรือ”

น้าผีมีท่าทางครุ่นคิดแบบเซอร์เรียลอีกครั้ง แต่ความเป็นจริงกำลังหลังไมค์หาระบบอยู่ “เหมจะต้องเป็นเขาแน่ๆ ! ดูสิขนาดเราเป็นน้าผี เขายังอยากให้เราร่วมเดินทางไปกับเข้าเลย ฮือออ ระบบไม่น่าเลือกคำตอบนั้นไปเลยอ่ะ เราเสียใจ”

ไม่ใช่หรอกโฮสต์ เหมันต์แค่เป็นลูกแหง่ติดแม่ พอไม่มีโฮสต์ไปด้วยก็ขาดความมั่นใจ ไม่รู้ว่าเวลางอแงจะไปอ้อนใครดี คนแบบนี้พอพ้นจากอกแม่ไปเจอเมีย สุดท้ายจะไปอ้อนเมียเอง โฮสต์ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก พ้นจากเมืองอสุรกาสามก้าว เหมันต์ก็เป็นอื่นแล้ว

[ระบบย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพี่ชาย~♥]

เปล่า จริงๆ แค่สุ่มได้คำตอบนี้เฉยๆ

“แต่เราก็เป็นห่วงเหมอยู่ดี ถ้าเขาไปคนเดียวเขาจะไม่มีอันตรายอะไรถึงตายใช่ไหม? ขนาดโลกก่อนอาชวินยังโดนราชาเผ่ามาร์กฆ่าตายได้เลย ไม่ใช่ว่าพอปล่อยเขาไปคนเดียว เหมันต์โดนโจรป่าเชือดคอตายชิงเอาผอบไป ภารกิจล้มเหลวอีกรอบ เราหมาเลยนะแม่สอง บรู้วววเลยนะ” โฮสต์หอนประกอบการเล่าเรื่อง ส่วนระบบดีใจเอามากๆ ที่อยู่ด้วยกันมาหลายโลก ในที่สุดโฮสต์ก็ตั้งคำถามที่มีสมองกับเขาได้สักที

[ถ้าเป็นการดำเนินเรื่องทั่วไปนะฮะ พระเอกอาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต เพราะนอกจากตัวร้ายหลักของเรื่อง ไม่มีอะไรและไม่มีใครสามารถฆ่าพระเอกได้ฮะ~♥] จงเชื่อในสกิลของพระเอกเถอะ พระเอกทุกคนล้วนเป็นชาวไซย่ากันทั้งนั้น ยิ่งเจ็บ ยิ่งใกล้ตายมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ส่วนตัวโกงเลเวลมินิบอสส่วนใหญ่ก็จะมาเป็นพรรคพวกของพระเอกในตอบจบเองแหละ เชื่อระบบได้ ระบบเห็นมาเยอะ

คำตอบแค่นี้ก็ทำให้โฮสต์วางใจได้แล้ว โครงกระดูกผีเอื้อมมือไปแตะบ่าของพระโอรสที่ดูแลเลี้ยงดูมาหลายปี เก๊กทำเท่ตามบทเดิม “เหล่าสกุณายามเติบใหญ่ยังโบยบินออกจากรัง เจ้าโตมากแล้วย่อมต้องโผบินไปสักวันหนึ่ง เหมันต์เก่งกาจเพียงไหนน้ารู้ดี ภัยอันตรายใดก็ไม่สามารถทำร้ายหลานได้ น้าจะรอให้วันหนึ่งหลานประสบความสำเร็จแล้วกลับมาที่เมืองอสุรกา”

คำพูดดูฉลาดมากๆ โฮสต์แอ๊บเก่งขึ้นทุกวัน สมแล้วที่ระบบสั่งสอนโฮสต์ได้ดี

“น้าผี...หลานขอบพระคุณท่านที่อบรมสั่งสอนหลานมาอย่างดี”

จากนั้นก็เป็นฉากซาบซึ้งระหว่างหนึ่งคนหนึ่งผี ทั้งสองกอดคอร่ำลาพูดเรื่องเก่าแก่กันอยู่เนิ่นนาน ผ่านไปเป็นสัปดาห์นนทเรศก็กลับมาจากการล่าสัตว์ ดวงตาคมกริบที่เฉยชาอยู่แล้วยิ่งเย็นเยียบเมื่อเห็นน้าผีพาเหมันต์มาพบเขาที่ท้องพระโรง หน้าตาซีดเซียวท่าทางเหมือนเก็บซ่อนความผิดของพระโอรสบุญธรรมทำให้ราชันแห่งเหล่ารากษสหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง

“เหมจะมาขอร้องเสด็จพ่อเรื่องหนึ่ง” เหมันตกุมารเหลือบมองน้าผีคล้ายขอกำลังใจ พอเห็นโครงกระดูกพยักหน้าให้ก็รวบรวมความกล้าพูดออกไปจนได้ “ตอนแรกที่เหมลาจากพระเจ้าตามาเพราะอยากตามหาเสด็จพ่อซึ่งเป็นเจ้าชายเมืองหนึ่งของตนเอง เวลานี้ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว เหมซาบซึ้งในพระคุณที่เสด็จพ่อเลี้ยงเหมมา...”

นนทเรศโบกมือคล้ายไม่อยากฟังถ้อยคำอารัมภบทอีกต่อไป พระโอรสเหมันต์จึงรีบตัดจบเข้าประเด็นด้วยความรวดเร็ว “เหมอยากขอออกไปตามหาเสด็จพ่อที่แท้จริงของตนเอง มิทราบว่าเสด็จพ่อนนทเรศจะอนุญาตหรือไม่”

“แล้วเจ้าจะไปด้วยหรือ” ราชายักษ์ตวัดมองโครงกระดูก ภายใต้สายตาโมโหโกรธายังมีความรู้สึกวูบไหวไม่มั่นคงซ่อนเอาไว้อยู่

“พระโอรสเติบใหญ่แล้วย่อมต้องออกท่องโลกกว้างเดินทางผจญภัยให้สมเป็นชายชาตรี” โฮสต์จับความโกรธได้อย่างเดียวจึงรีบตอบแบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน “แต่น้าผีสัญญากับพระองค์นนทเรศไว้แล้วว่าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านที่นี่ หากรบกวนขอที่อยู่อาศัยให้ผีสักคนคงไม่เป็นไรกระมัง”

สีหน้าเครียดขึ้งถึงผ่อนคลายไปได้ จากใบหน้าบึ้งตึงแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มอย่างรวดเร็ว กระทั่งสายตาที่มองเหมันต์ยังอ่อนโยน ไม่ได้เก็บอาการดีใจที่ก้างขวางคอผสมไม้กันหมาจะออกจากเมืองไปเลยสักนิด “ลูกจะเดินทางเมื่อใด พ่อจะให้คนตระเตรียมข้าวของเอาไว้ จะให้สินธุไปกับลูกด้วย” ขนาดคนสนิทมือขวายังยกให้ไปด้วยเลย ใจป้ำเกินไปแล้ว

เหมันต์จากไปในฤดูหนาวที่ดอกพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง น้าผีและเสด็จพ่อบุญธรรมของเขายืนส่งขบวนใหญ่โตที่กำแพงเมือง รอจนพระโอรสลับสายตาไปแล้ว นนทเรศที่แอบมองโฮสต์ด้วยสายตาไม่ปิดบังความรักใคร่จึงเปิดปากพูดสิ่งหนึ่งขึ้นมา

“ยามนี้เจ้าอยู่กับข้า...ย่อมไม่สามารถเรียกน้าผีได้อีกต่อไป หากข้าตั้งชื่อเรียกให้เจ้าได้หรือไม่” นนทเรศถามขึ้นด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจ ครั้นเห็นโครงกระดูกพยักหน้าให้อย่างกระตือรือร้น ราชารากษสก็ขยับยิ้มเบาบาง แสงแดดสีส้มในยามเย็นของฤดูหนาวที่สาดลงมากระทบใบหน้าคมเข้ม ภาพดูงดงามจนเกินจริงไปมาก

“ให้ชื่อว่านนทกานต์เป็นยังไง”

โฮสต์รีบเคาะระบบมาเม้าท์มอยตามประสาโฮสต์ “ชื่อมันไม่เหมือนกันไปหน่อยเหรอแม่สอง นนท์เหมือนกันเลยอ่ะ แต่ก็ดูเก๋ดีอ่ะ เราเป็นน้าผีไม่เคยมีชื่อเลย แต่อันนี้ก็เข้าท่าดีเนอะ”

ซื่อบื้ออีกแล้วโฮสต์ ภาษาไทยอ่อนขนาดไหนถึงแปลความหมายไม่ออกเนี่ย ระบบไม่ต้องเปิดพจนานุกรมคำไทยยังรู้เลยว่าชื่อของโฮสต์มีความหมายซ่อนอยู่ เขาบอกรักแล้วตัวเองยังไม่รู้อีก...นนทกานต์...ที่รักของนนท์ ราชายักษ์จะเลี่ยนเกินไปแล้ว (ว้อย)

“นามที่พระองค์ฟังแล้วคล้ายพี่น้องกันยิ่ง เป็นสหายกันก็เหมือนเป็นพี่น้อง เช่นนั้นจากนี้ไปข้าก็จะถือว่าพระองค์เป็นพี่ชาย” โครงกระดูกผีเข้าไปตบไหล่ตบหลังราชายักษ์ด้วยความสนิทสนม ไม่สังเกตถึงสายตาอ่อนอกอ่อนใจของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย “รบกวนเสด็จพี่แล้ว”

[...]

จากเพื่อนโซนขยับไปพี่โซนแล้วเรอะ โฮสต์จะให้เขาอยู่ทั้งลูกโซน เพื่อนโซน พี่โซนไม่ได้นะเฮ้ย!

เวลาหลายปีผ่านไปโฮสต์ยังคงเฟรนด์โซนและบราเธอร์โซนราชายักษ์อย่างต่อเนื่อง อีกฝ่ายก็ช่างขยันจีบเหมือนเดิม ในใจคงหวังว่าสักวันหนึ่ง ส่วนเหมันต์แยกทางจากโฮสต์ก็ไปมีชีวิตเป็นของตนเองสมกับเป็นพระเอกอย่างยิ่ง นานๆ ครั้งระบบจะเปิดดูอัพเดทข้อมูลของพระเอกดู และรู้สึกว่าชีวิตไอ้หนุ่มนี่สนุกอยู่เหมือนกัน ทำละครพื้นบ้านจักรๆ วงศ์ๆ พังพาบได้ดีแท้ๆ

การผจญภัยของเหมันต์เริ่มจากไปสนิทกับเมืองนั้นเมืองนี้ ได้กำลังพลและของวิเศษมาไม่น้อย ครั้นไปถึงเมืองบาดาลก็ไปช่วยชีวิตนาคาใบหน้าสะสวยอยู่ตนหนึ่งจนเกิดจิตปฏิพัทธ์รักใคร่ผูกพันกันจนไม่สนเพศสภาพ สุดท้ายลูกครึ่งนาคาผู้นั้นก็ติดตามพระเอกไปในฐานะคนรัก ต่อมาไปถึงป่าหิมพานต์ได้พบเจอลูกครึ่งกินนรหน้าตางดงามอีกผู้หนึ่ง เกิดความรักต่อกันอีกรอบ ชายหนุ่มคนรักทั้งสองของเหมันต์ทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็เลือกอยู่ด้วยกันสามคนแต่โดยดี และออกเดินทางไปยังอินทรบุรีอันเป็นจุดหมายปลายทาง

มาถึงจุดนี้ไม่ต้องบอกชื่อกิ๊กของพระเอกทั้งคู่ ก็น่าจะเดากันได้ล่ะมั้ง เขาบอกกันว่าสันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก ตามเนื้อเรื่องเดิมพระเอกต้องได้กับน้องสาวฝาแฝดทั้งสองของตนเอง พอเปลี่ยนเนื้อเรื่องหน่อยก็ดันไปกวาดพี่ชายเข้าฮาเร็มอีก คนที่ชอบอะไรค้ำคอร์ไม่สามารถแก้ไขนิสัยรสนิยมชอบอะไรค้ำคอร์ได้จริงๆ

แต่เอาเถอะ อย่างน้อยตัดปัญหาเรื่องฆ่าทำลายวิญญาณของเทพบุตรทั้งสองไปเสียหนึ่งอย่าง คราวนี้ต่อให้จะดาร์กยังไง อย่างน้อยสองคนนี้ก็รอดแล้ว ดีไม่ดีพอกลับสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ไปคราวนี้สามเทพบุตรขององค์อินทร์คงได้ใกล้ชิดสนิทสนมกลมเกลียวยิ่งกว่าเดิม ใช้ชีวิตสามคนผัวเมียได้หรรษาแน่ๆ

สุดท้ายพระโอรสก็ไปถึงเมืองอินทรบุรีที่กำลังโกลาหลเพราะการปกครองอันล้มเหลวของพระเจ้าอินทศร พระเอกใช้ฝีมือขั้นเทพตีรวบรวมเมืองมาเป็นปึกแผ่น ก่อนตายอินทศรเฉลยว่าคนรักทั้งสองของเหมันต์ล้วนแต่เป็นพี่ชายของเขา ถึงจะเกิดบรรยากาศอึดอัดพูดยากระหว่างคนทั้งสาม แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยดี พวกเขายังคงสถานะคนรักต่อไปโดยไม่สนใจสิ่งอื่น อย่างไรเสียต่างเป็นบุรุษ ให้กำเนิดทายาทไม่ได้อยู่แล้ว

เทพบุตรที่ลงมาเกิดทั้งสามต่างคนต่างผลัดกันครองเมืองคนละฤดู ส่วนฤดูที่ไม่ได้ครองเมืองก็ระเริงรักกันเต็มที่ จากละครพื้นบ้านฉายให้เด็กดูวันเสาร์อาทิตย์ คงเปลี่ยนเป็นละครเฉพาะกลุ่ม ไม่เหมาะสมกับเยาวชน ผู้ปกครองดูแล้วจะต้องร้องกรี๊ดว่านี่อะไรของมันวะ

นอกจากเหมันต์ ทั้งวสันต์และคิมหันต์ล้วนแต่ได้คืนนคร...วันหนึ่งที่เหมันต์หวนกลับมายังเมืองอสุรกาจึงกลับมาด้วยความยิ่งใหญ่เป็นอย่างยิ่ง

“เพลานี้เหมันต์แข็งแกร่งมากแล้ว” นนทเรศกวาดตามองขบวนใหญ่โตที่ผ่านประตูเมืองอสุรกาด้วยสายตาเปี่ยมสุข มองภายนอกดูคล้ายบิดาที่ภาคภูมิใจในตัวลูก แต่แท้จริงแล้วเป็นเพราะเขาใกล้จะได้ปลดเปลื้องภาระที่แบกเอาไว้เต็มสองบ่าเสียที ยักษ์หนุ่มหันกลับไปมองโครงกระดูกข้างกาย ริมฝีปากแย้มยิ้มจนใบหน้าดุดันอ่อนโยนขึ้นมาก “ข้าจะสละบัลลังก์มอบเมืองอสุรกาให้เขาดูแล”

“แล้วเสด็จพี่จะทำสิ่งใดต่อเล่า”

“ข้าเคยได้ยินตำนานว่ามีเกราะกายสิทธิ์ซ่อนอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ไม่ว่าใครสวมใส่ย่อมมีกายวิเศษฟันแทงไม่เข้า หากเจ้าใส่เกราะกายสิทธิ์เข้าไปอาจมีร่างเนื้อก็เป็นได้” นัยน์ตาดำเหลือบมองโครงกระดูกข้างกายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยประกายระยิบระยับ “เราสองคนออกเดินทางท่องเที่ยวเหนือจรดใต้ไปด้วยกัน...เจ้าไปกับข้าหรือไม่”

โครงกระดูกนนทกานต์ลังเลอยู่ไม่น้อย แต่พอคิดว่าตอนนี้เรื่องราวก็จบลงได้ด้วยดีแล้ว อีกอย่างโฮสต์ก็เบื่อหน่ายกับการเป็นโครงกระดูก อยากมีร่างเอาไว้กินของอร่อยบ้าง จึงยอมตอบตกลงร่วมผจญภัยกับนนทเรศแต่โดยดี ทำเอารอยยิ้มบนใบหน้ารากษสกว้างกว่าเดิม สดใสยิ่งกว่าท้องฟ้ายามไร้เมฆเสียอีก

ถึงจะติดเฟรนด์โซน แต่ชาตินี้ทั้งชาตินนทเรศก็ได้อยู่เคียงข้างคนที่เขารักตลอดชาติแล้ว...



การเดินทางไม่ว่าเช่นไรก็ย่อมมีวันบอกลา หลายปีหลังจากนั้นโฮสต์ถูกส่งกลับมาพื้นที่ส่วนกลางอีกครั้ง

[ภารกิจสำเร็จ! หลังหักคะแนนต่างๆ แล้ว โฮสต์ได้รับคะแนนรวม 8,791 คะแนน]

กลับมาคราวนี้โฮสต์เงียบยิ่งกว่าทุกที ไม่แม้แต่จะเรียกขอดูรายละเอียดคะแนนเสียด้วยซ้ำ นั่งเหม่ออยู่พักใหญ่ ในที่สุดโฮสต์ก็เปิดปากพูดคุยกับระบบขึ้นมา

“แม่สอง... นายคิดว่านนทเรศเขาชอบเราหรือเปล่า”

[...]

ระบบก็สงสัยเหมือนกันว่าโฮสต์ดูไม่ออกได้ยังไง เขาออกจะชัดเจนขนาดนั้น ชาตินี้ชัดเจนยิ่งกว่าเดิมด้วย

ในชาติที่ผ่านมานนทเรศและน้าผีร่วมผจญภัยตามหาเกราะกายสิทธิ์ไปทั่วแผ่นดินจวบจนใกล้ความจริงขึ้นทุกขณะ ระหว่างเดินทางไปในถ้ำแห่งนั้นกลับพลาดพลั้งตกลงไปในทะเลน้ำกรด นนทเรศสละชีวิตช่วยโฮสต์เอาไว้ แต่สุดท้ายโฮสต์ก็โดนเพลิงหินร้อนแผดเผาจนเหลือแต่เถ้าในด่านต่อไปอยู่ดี ไม่มีอะไรจะเป็นการบอกรักเทียบเท่ากับการสละชีวิตช่วยเหลือคนที่ตัวเองรักอีกแล้ว

“แต่เราเป็นแค่โครงกระดูก...เขายังชอบเราลงอีกเหรอ”

[พี่ชายสามารถขอคำปรึกษานอกภารกิจกับระบบได้ โดยคิดค่าบริการครั้งละ 20 คะแนนเพียงเท่านั้น~♥]

“ยังจะคิดคะแนนกันอีกเหรอ” โฮสต์เบะปากทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่พอเห็นระบบไม่สงสาร ไม่มีความเมตตา แถมยังนิ่งเงียบใส่ โฮสต์เลยเคาะระบบแรงๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงงอแงเอาแต่ใจ “จ่าย! เอา! ซื้อ! เราพร้อมเปย์! ”

ได้คะแนนมาแล้วระบบย่อมยินดีบริการ

[ประเด็นไม่ใช่ว่านนทเรศชอบลงได้อย่างไร แต่ประเด็นหลักคือเขาชอบพี่ชายทั้งที่เป็นแค่โครงกระดูก หมายความว่าเขาได้มองข้ามผ่านรูปลักษณ์สังขารภายนอกและชอบเนื้อแท้ตัวตนของพี่ชาย นี่ไม่ใช่รักแท้ที่พี่ชายเคยอยากได้เหรอ]

“ชาติหน้าเราจะได้เจอเขาอีกมั้ยนะ”

[เรื่องในชาติหน้าเป็นเรื่องของอนาคต ระบบไม่สามารถให้คำตอบได้]

โฮสต์ระบายลมหายใจยาวเหมือนไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี พอแจ้งเตือนว่าเหลือเวลาก้มหน้าเลือกสินค้าในแคตตา

ระบบรู้สึกนับถือแกมสงสารนนทเรศขึ้นมาเหมือนกัน เขาตามหาโฮสต์มาหลายชาติ รักโฮสต์มาหลายชาติ สุดท้ายต้องใช้เวลาอีกชาติหนึ่งเพื่อให้โฮสต์รับรู้ถึงความรู้สึกที่ตนเองมี แต่ตอนที่เขาตายจากโลกนั้นไป เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าความรักของเขาส่งไปถึงอีกฝ่ายแล้ว

มีโฮสต์โง่เกินไปก็แย่อย่างนี้เอง ถึงพวกเราจะยังไม่ตาย แต่กลับต้องมีคนที่รู้สึกจมอยู่กับความรักที่ไม่สมหวังสักทีเหมือนหลงทางอยู่ในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บที่ไม่มีทางออกด้วยความรู้สึกตายทั้งเป็น

ถ้าพบเจอกันครั้งหน้า ครั้งนี้ระบบจะขอเอาใจช่วยแล้วกันนะ...นนทเรศ



โปรดติดตามตอนต่อไป



ซินเอ๋อร์:

จบไปแล้วสำหรับ Arc 2 จริงๆ นิยายจักรๆ วงศ์ๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเขียนดูบ้าง แต่อาจไม่ใช่ด้วยภาษาจัดเต็มค่ะ เดี๋ยวจะอ่านกันไม่ออกต้องแปลไทยเป็นไทยลำบากกันไปอี๊ก แต่เอาไว้ก่อนค่ะ งอกมากจะเขียนไม่ไหว มีเรื่องนี้เอาไว้เขียนขำๆ เวลามีไอเดียก็เพลินดีค่ะ เวลาไอเดียกระฉูดแต่ไม่ตรงธีมกับเรื่องที่เขียนจะได้มาลงตรงนี้แทน ถือว่าขำขัน แป้กบ้างไม่แป้กบ้างก็ว่ากันไปนะคะ แต่คงไม่ไปทางดราม่าเจ้มจ้นแบบผีลามกแน่ๆ เดี๋ยวจะช็อกตายได้ค่ะ (ฮาาาา)


ขอบคุณคุณ Grey Twilight ด้วยค่ะะ แอบดักทางได้จริงๆ ด้วยว่าซินเอ๋อร์หนีมาเขียนแก้เครียด แก้ตัน 55555 เขินแล้วค่าา

ขอบคุณคุณง่วงนอนที่ติดตามทั้งสองเรื่องเลยนะคะ จริงๆ ดีใจน้าที่ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกันเขียน เพราะบางทีติดภาษาจีนโบราณมาค่ะ มาเขียนแนวนี้บางทีต้องจูนสมองดีๆ ค่ะ

พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและชื่นชอบทุกผลงานของซินเอ๋อร์นะคะ <3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2019 06:14:25 โดย ซินเอ๋อร์ »

ออฟไลน์ ง่วงนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โฮสต์จะซื่อบื้อไปไหน 555 ดีที่ชาตินี้ตายก่อนแก่ ถ้าไปตายตอนแก่อีกสิบชาตินางก็คงไม่รู้ว่าเขารักอ่ะ สงสารระบบแท้
ปล.ชอบความระบบคอยตบมุกโฮสต์ในใจอ่ะ ตลกมาก 555

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Arc 3 ในครัวแม่งเถื่อน ไม่เก๋าจริงอยู่ไม่ได้

“และนี่คือโฉมหน้าผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดของรายการ The Greatest Chef Season 2” พิธีกรหนุ่มหน้าตาดียิ้มกว้างพร้อมกล่าวกับกล้อง 3 ในสตูดิโอ ตอนที่ผู้กำกับสั่งคัทแล้วรอยยิ้มสว่างสไวของเขายังคงเผื่อแผ่ไปยังผู้เข้าแข่งขันและกรรมการ ดวงตาเป็นประกายเหมือนจับจ้องมองใครเป็นพิเศษ

โฮสต์ที่นั่งอยู่บนแท่นกรรมการท่ามกลางกรรมการทั้งสี่ของรายการหลุบสายตาลงต่ำเหมือนกับกำลังฟังคำพูดของคนรอบข้างพร้อมกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แต่ในใจก็คิดการเคาะระบบขึ้นมาร้องขอความช่วยเหลือเหมือนทุกที “เปิดมาก็แบบนี้เลยเหรอแม่สอง ไม่มีเวลาให้เตรียมตัวเตรียมใจหน่อยเลยเรอะ! ”

แค่ออกจากพื้นที่ส่วนกลางมาก็ถือว่าเริ่มต้นโลกใหม่แล้ว ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการเป็นโฮสต์ ควรหัดเตรียมตัวเตรียมใจได้แล้ว

[ระบบ ‘แสงเทียนนำใจ’ สุ่มเหตการณ์ยาก-ง่ายแตกต่างกันออกไป พี่ชายควรเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์~♥]

โฮสต์บุ้ยปากในใจเล็กน้อย ก่อนจะใช้ช่วงพักเบรกสั้น ๆ ระหว่างถ่ายรายการเรียกอ่านข้อมูลของโลกนี้จากระบบ

ตอนนี้โฮสต์อยู่ในรายการอาหารแนวเรียลลิตี้เพื่อเฟ้นหาสุดยอดเชฟของช่องนิวทีวีที่มีชื่อว่า The Greatest Chef พระเอกของโลกนี้คือเชฟฉัตร ผู้เข้าแข่งขันรายหนึ่งที่น่าจับตามองที่สุดในรายการ นอกจากฝีมือการทำอาหารดีแล้วยังหน้าตาดีระดับเดียวกับพระเอกละคร แถมยังมีคู่จิ้นเป็นเพื่อนสนิทอีกคนที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยกัน

ด้วยความเพอร์เฟ็กต์ของพระเอกทำให้เขาไปขัดแข้งขัดขาโปรดิวเซอร์ใหญ่ของรายการ ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของช่องจนได้ ทำให้ในระหว่างการแข่งขันต้องประสบอุปสรรคปัญหามากมาย แต่เอาชนะรายการ The Greatest Chef ได้สำเร็จ พอได้เงินทุนมาเลยนำไปเปิดร้านอาหารใหญ่โตกับเพื่อนสนิทคู่จิ้นที่พัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรัก

แต่เรื่องราวดันพลิกผันที่ว่าพระเอกถูกคนรักหักหลังเพราะเธอดันเป็นชู้เป็นโปรดิวเซอร์คนเดิม แถมยังหอบเงินหนีไปทิ้งลูกให้ดูแล พระเอกเริ่มมีปัญหาติดการพนัน หมุนเงินไม่ทัน ธุรกิจล่ม ที่หนักกว่าคือพอพระเอกไม่สบาย ไปตรวจร่างกายดันเจอ HIV จบที่หาทางแก้ปัญหาไม่ได้เลยยิงคนในครอบตัวทั้งหมดก่อนยิงตัวตายตาม

“ห๊ะ... นี่มันละครดราม่าหรือรายงานข่าวคดีดังเนี่ยแม่สอง” โฮสต์ย่นคิ้วเล็กน้อยก่อนจะแอบเหลือบมองพระเอกในชุดเครื่องแบบสีขาวที่กำลังกลายเป็นจุดศูนย์กลางของผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่นๆ อยู่ ดูเหมือนเชฟฉัตรกำลังเล่าตลกเพื่อทำลายบรรยากาศตึงเครียดในการแข่งขันอยู่

[ขอเพียงพี่ชายฉุดรั้งให้พระเอกไม่เข้าด้านมืดขนาดนั้น เรื่องราวในโลกนี้ก็จะไม่ปรากฏอยู่บนข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์อีกต่อไป~♥]

“แต่เราทำกับข้าวไม่เป็นอ่ะแม่สอง ให้มาเป็นกรรมการรายการทำอาหารแบบนี้จะรอดเหรอ” โฮสต์กวาดตามองเหล่าเชฟชุดขาวชุดดำยี่สิบคน ก่อนจะลากสายตามาจนถึงกรรมการอีกสามคนที่เหลือ ดูท่าแล้วทั้งสามคนก็คงเป็นเชฟชื่อดังของประเทศนี้เหมือนกัน

[บทบาทของโฮสต์เป็นเพียงไม้ประดับประจำรายการเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องโชว์ฝีมือหรือทักษะการทำอาหาร]

ตัวละครของโฮสต์เป็นดาราหนุ่มหน้าใสประจำช่องที่มีชื่อว่าพีท พีรภัทร หน้าที่ในรายการก็มีแค่ทำหน้าตาดีเรียกเรตติ้งไปวันๆ เป็นไม้ประดับที่ทำให้คนดูเจริญหูเจริญตาบ้างเท่านั้น ชิมอันไหนถ้าอร่อยก็บอกว่าอร่อย ถ้าไม่อร่อยก็บอกว่าไม่อร่อย คนไม่ได้คาดหวังอะไรกับโฮสต์มากมายอยู่แล้ว เพียงแต่บทของพีทที่ว่าอาจจะมีอะไรที่โฮสต์เหนือคาดไปนิดหน่อยก็ได้

“ฮื่อ...ถ้าจะลองดูก็แล้วกัน แค่กันซีนพระเอกกับเพื่อนออกจากกันได้ก็น่าจะโอเคแล้ว” หาข้อสรุปเสร็จสรรพ โฮสต์ก็ทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องขยับยิ้มชั่วร้ายเท่าที่ใบหน้าโง่ๆ จะชั่วร้ายได้ โฮสต์ปิดข้อมูลลงโดยแทบไม่สนใจข้อมูลตัวละคร ความชะล่าใจแบบนี้นี่แหละที่ทำให้คนเราตายได้ “แต่สเกลโลกมันดูไม่ยิ่งใหญ่เหมือนสองโลกที่ผ่านมาเลยอ่ะ ไม่ถึงขั้นระเบิดจักรวาลทำลายล้างกาแล็กซี่ ฟังดูก็ไม่ได้ยากอะไรนะ ได้คะแนนมาหมูๆ แน่เลย”

[ขอเพียงพี่ชายแสดงบทบาทอย่างเหมาะสมย่อมสามารถทำภารกิจผ่านได้~♥]

ใช่...ถ้าโฮสต์เล่นไหวน่ะนะ

“มาเป็นกรรมการรายการแบบนี้ครั้งแรก ตื่นเต้นหรือเปล่าครับคุณพีท” เชฟตาม เจ้าของร้านอาหารเอเชียฟิวชั่นผู้มีอิทธิพลในวงการอาหารคนหนึ่งหันกลับมาส่งรอยยิ้มหวานให้กับดาราหนุ่ม

“ตื่นเต้นนิดหน่อยครับ ไม่รู้ว่าผมจะลิ้นถึงหรือเปล่า ถ้าชิมอะไรแล้วบอกว่าอร่อยทุกอย่าง คงต้องแย่แน่ๆ” พีทขยับยิ้มสุภาพอ่อนโยนดูทั้งถ่อมตัวทั้งน่ารักไปพร้อมกัน เขาเป็นคนหน้าตาหล่อเหลาชวนมองอยู่แล้ว ยิ่งได้สกิลแสดงออกทางสีหน้าอย่างสมบูรณ์แบบที่โฮสต์ไม่ได้ใช้ในชาติก่อนมาเพิ่มเติมยิ่งทำให้มีเสน่ห์น่าหลงใหลจนละสายตาไม่ได้กว่าเดิม

“การชิมอาหารไม่ได้ซับซ้อนมากหรอกครับคุณพีท ขอแค่ใช้ใจสัมผัสรู้สึกยังไงก็พูดออกมายังงั้น ผมเชื่อว่าคุณพีททำได้อยู่แล้ว” คำพูดฟังดูโอเคอยู่หรอก แต่พูดไปพูดมาเชฟใหญ่วัยปลายสามสิบก็เอื้อมมือมาจับมือของดาราหนุ่มเอาไว้ แถมยังขยับตัวมาใกล้ชิดกว่าเดิม “เทปแรกคงยังไม่มีอะไรมาก มีแต่เตรียมวัตถุดิบขึ้นของ เอาไว้เลิกกองแล้วไปร้านผมดีกว่าไหมครับ รอบก่อนยังไม่ได้ทำของหวานให้คุณพีททานเลย”

ภายนอกพีทยังคงยิ้มบางไม่ตอบอะไร แต่ภายในใจกำลังถูกความตะกละเข้ากัดกิน ไม่ทันได้สังเกตอะไรเลยว่าอาการของเชฟตามน่ะเกิดกว่าเพื่อนร่วมงานเพื่อนร่วมรายการไปมาก “พูดแล้วก็หิวขึ้นมาเลยอ่ะแม่สอง ร้านเขาเป็นร้านดังใช่มะ ต้องอร่อยแน่ๆ เลย เลิกงานแล้วไปต่อหน่อยก็ดีน้า”

ไม่ดีโฮสต์...ไม่ดี

โฮสต์ยังไม่ทันได้ตอบตกลง สัญญาณนับถอยหลังเริ่มถ่ายทำฉากต่อมาก็เตือนขึ้นเสียก่อน อีกฝ่ายเลยต้องยอมปล่อยมือกลับไปตีหน้านิ่งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต่อไป เชฟตามทำสัญลักษณ์มือเหมือนว่าให้คุยกันอีกที ส่วนกล้องจับภาพไปยังเชฟอ้นที่แจกจ่ายโจทย์รอบแรกให้กับผู้เข้าแข่งขัน กติกาให้แบ่งสมาชิกเป็นสี่ทีมเพื่อโชว์ทักษะในการเตรียมวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นแล่ไก่ แล่ปลา หั่นผัก หั่นหอม ปอกกระเทียม แยกไข่แดง เตรียมน้ำสต๊อก

โจทย์ที่รายการให้มาจะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่ยาก แต่เพราะเชฟที่เข้ามาแข่งขันแต่ละครล้วนเป็นเชฟใหญ่ ตำแหน่งสูง ประสบการณ์เยอะ และต่างพ้นสภาพการเป็นพวกลูกมือในครัวและ Commis[1] มานานแล้ว ทุกวันนี้ห่างจากหน้าที่เตรียมวัตถุดิบไปไกล พอให้มาขึ้นของเองก็เริ่มจะเก้ๆ กังๆ กลายเป็นภาพที่ดูแล้วขำไม่ออกพิกล

เมื่อเริ่มจับเวลากรรมการก็มีหน้าที่แค่เดินไปเดินมาสอดส่องอยู่ครู่หนึ่ง จนผู้กำกับได้ภาพและคำพูดที่ถูกใจแล้วถึงเริ่มทยอยไปนั่งพักกันบ้าง โฮสต์ที่สกิลฝีมือทำอาหารอ่อนหัดหยุดชะโงกมองพระเอกด้วยความสนใจ เชฟฉัตรเงยหน้าขึ้นจากที่กำลังแล่ไก่ เขาขยิบตาพร้อมรอยยิ้มมุมปากสุดเท่ให้ครั้งหนึ่ง ดาราสุดหล่อเลยขยิบตากลับไปแล้วเดินผละออกมา ส่วนนางเอกหรือเพื่อนสนิทของพระเอกในตอนนี้อยู่อีกทีม กำลังง่วนกับการแยกไข่แดงสามสิบฟองอยู่

“พระเอกอัธยาศัยดีเนอะ น่ารักกับทุกคนเลยทั้งคู่แข่งทั้งกรรมการ” โฮสต์ให้คะแนนพระเอกหลายบวกในใจ ไม่รู้ว่าจะมโนเชื่อมโยงเชฟฉัตรกับพระเอกในชาติก่อนๆ คนไหนอีก

[ตรวจพบข้อมูลบทบาทที่ได้รับบางส่วนที่ยังไม่ได้อ่าน ต้องการเปิดอ่านข้อมูลหรือไม่]

“พีรภัทรเป็นดารามาแรงไม่ใช่เหรอ แล้วก็เป็นแค่ไม้ประดับประจำรายการ ให้กำลังใจชี้แนะแนวทางให้พระเอกนิดหน่อยก็ไม่น่ามีอะไรต้องอ่านแล้วม้าง” ชะล่าใจมากๆ ไม่ใส่ใจกันสุดๆ แบบนี้ถ้ามีอะไรผิดพลาดไปจะถือว่าเป็นความโง่ของโฮสต์ล้วนๆ แบบไม่มีวัวผสม เพราะระบบเตือนแล้วโฮสต์ไม่เชื่อฟังเอง สมควรโดนลงโทษแล้ว

โฮสต์ผิวปากร้องเพลงอารมณ์ดีแล้วขอตัวเดินออกไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะออกไปยังโบกมือให้กับเชฟตามที่ทำเหมือนจะเดินตามมาสมชื่อ แต่ว่าเชฟน้ำเพชรผู้เป็นกรรมการหญิงเพียงหนึ่งเดียวของรายการกลับรั้งเขาเอาไว้เสียก่อน ส่วนคนที่เดินตามโฮสต์มาด้วยกลับเป็นอีกคนหนึ่งแทน

“พีท” โฮสต์ที่เดินออกจากห้องน้ำหลังทำธุระเสร็จหันกลับไปมองตามเสียงเรียก ด้านขวามือของเขามีชายรูปร่างสูงกำยำยืนพิงกำแพงอยู่ ใบหน้าอาจไม่หล่อเหลาเหมือนร่างนี้ของโฮสต์ที่เป็นดารา แต่ก็คมเข้มบาดตาเป็นนายแบบบนแคทวอล์คได้สบาย เสียแต่ว่าท่าทางของเขาตอนนี้เคร่งเครียดจนเหมือนพร้อมจะฆ่าคน

“คลาดสายตานิดเดียว เที่ยวอ่อยคนอื่นไปทั่วอีกแล้ว?” เขาผลักร่างนักแสดงหนุ่มติดกับกำแพงแล้วใช้ร่างกายสูงใหญ่อย่างนักกีฬาขวางทางเอาไว้ มือหนาข้างหนึ่งขว้าข้อมือทั้งสองข้างของโฮสต์มารวบเอาไว้เข้ากันเหนือศีรษะ ปล่อยรังสีคุกคามออกมาแบบไม่กลัวเปลืองเลยสักนิด

“ผมเปล่า...” พีทลากเสียงอ่อย ความเจ็บปวดจากข้อมือทำให้หยดน้ำตาคลอหน่วยจนเกาะเต็มแพขนตาหนา ท่าทางดูแล้วน่าสงสารและน่าย่ำยีไปพร้อมกัน “ผมไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อย”

“อย่ามาโกหก ไม่ได้อ่อย แต่คนในกองถ่ายมองเธอตาเป็นมัน เมื่อกี้เธอคุยอะไรกับไอ้ตาม” ชายร่างสูงผู้สังเกตการณ์ทั่วทั้งกองถ่ายตามหน้าที่แค่นหัวเราะในลำคอ ใบหน้าโน้มลงมาเข้าใกล้นักแสดงหนุ่มจนแทบแนบชิด ลมหายใจร้อนที่เป่ารดใบหน้าทำให้โฮสต์เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดผสมกันไปหมด จนต้องกรีดร้องในใจเรียกหาตัวช่วย...และตัวช่วยที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นระบบอยู่แล้ว

“แม่สอง! ช่วยด้วย! ”

ช่วยไม่ได้ ระบบทำได้แค่เฝ้ามอง ขอให้โฮสต์ช่วยเหลือตัวเองให้ได้แล้วกัน

“นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมอยู่ดีๆ ตาโปรดิวเซอร์ก็มาหาเรื่องเรา ร่างนี้เขามีปัญหาอะไรหรือไง อ่อยที่ว่าอ่อยอะไร ทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่อง! ” โฮสต์ร้องโวยวายทั้งที่ในใจกำลังสั่นเป็นเจ้าเข้า ภายนอกบทบาทพีทก็เริ่มสั่นตามเหมือนกัน แต่เนื่องจากไม่ได้ OOC ระบบเลยไม่ได้ถือสาอะไร

[ตามเนื้อเรื่องแล้วพีรภัทรเป็นนักแสดงที่มีความสัมพันธ์ซับซ้อนกับผู้คนหลายคน เรื่องนี้อยู่ในข้อมูลที่โฮสต์ยังไม่ได้อ่าน~♥]

พีท พีรภัทรถือเป็นนักแสดงละครประเภทเต้าไต่ หน้าตาหล่อเหลาก็จริง แต่เข้าวงการมาสามปีฝีมือการแสดงยังไม่ค่อยเข้าตา ผลงานไม่ได้เด่นดังอะไรมากมาย สุดท้ายเลยใช้วิธีหว่านเสน่ห์ผู้คนรอบข้างทั้งผู้กำกับทั้งนักแสดงด้วยกัน รวมถึงคนอื่นๆ ที่จะสามารถทำให้เขาก้าวหน้าได้ ถึงขั้นพลีกายแลกอาชีพการงานก็เคยทำ

สาเหตุที่พระเอกมีปัญหากับคุณไท โปรดิวเซอร์ใหญ่รายการ The Greatest Chef ก็เป็นเพราะความหึงหวงนี่ล่ะ พีรภัทรเล่นทั้งอ่อยทั้งนอนกับคนไม่เลือกหน้าขนาดนั้น เจ้าเชื้อ HIV มันเลยกระจายติดกันไปทั้งแผงน่ะสิ ยุคสมัยนี้คนเราควรจะใช้ถุงยางอนามัยกันให้คุ้นชินได้แล้ว

“มะ...หมายความว่าในรายการนี้มีกิ๊กเราทั่วเลยเหรอแม่สอง นี่พีทนอนกับใครไปบ้างแล้วเนี่ย อย่าบอกนะว่านอนกับทุกคนหมดแล้วยกเว้นพระเอก” โฮสต์หน้าซีดจัดพูดจาปากคอสั่นด้วยความตื่นตระหนกตกใจพลางพยายามไล่รายชื่อคนที่ยักคิ้วหลิ่วตาและทำตัวมีเลศนัยมาทั้งหมด ไล่มาตั้งแต่พิธีกรรายการ กรรมการ พระเอก จนมาถึงโปรดิวเซอร์ ระบบอยากจะสมน้ำหน้าแรงๆ ก็บอกแล้วว่าให้อ่านข้อมูลสักหน่อย นี่ยังจะมาขี้เกียจอีก

[พีรภัทรมีความสัมพันธ์กับแทนไทมาได้ปีกว่าแล้ว ผลงานละครที่ทำให้พีรภัทรได้รับรางวัลดาวรุ่งพุ่งแรงก็มาจากเส้นสายที่แทนไทจัดการให~♥]

“แงงงง ทำไมไม่ส่งเรามาเร็วกว่านี้สักสองปีเนี่ย” โฮสต์น้ำตาไหลพรากๆ ในใจ ยิ่งเห็นใบหน้าถมึงทึงเหมือนยักษ์มารของโปรดิวเซอร์หนุ่มรูปหล่อ น้ำตาในใจยิ่งทะลักออกมากว่าเดิม เขาเคาะระบบมาร้องโวยวายไม่หยุด “ฮึก...กลัวแล้วนะ ทำไงเขาถึงจะปล่อยเราไป เราไม่เอาแล้ว ให้ตายยังไงก็นอนกับเขาไม่ได้หรอก”

ถึงจะผ่านมาหลายชาติ แต่โฮสต์ดันเคยมีความสัมพันธ์ทางกายกับคนอื่นแค่ชาติเดียว ชาติที่เขาเป็นเอลฟ์นักบวชแห่งแสง หนึ่งในฮาเร็มสิบห้าเมียของผู้กล้า แถมด้วยการเป็นนักบวชทำให้ทำเรื่องแบบนั้นได้ไม่มาก ส่วนใหญ่ก็แค่คลอเคลียกันมากกว่า ไอ้เรื่องเสร็จสมจนเสร็จกิจน้อยจนนับนิ้วได้

[ถ้าส่งมาเร็วกว่านี้และไม่สานสัมพันธ์กับแทนไท จะทำให้พีรภัทรไม่ได้ใช้เส้นสายจนกลายเป็นพระเอกดัง และคงไม่ได้รับเลือกมาเป็นกรรมการในรายการนี้]

ความยากของโลกนี้ก็คืออะไรแบบนี้แหละโฮสต์ สเกลง่าย เซตติ้งง่าย แต่ต้องมารับบทผู้ชายไม้เลื้อยอ่อยไปทั่วไม่เว้นชายหญิงเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงานและเพื่อความสนุก ห่างไกลกับนิสัยดั้งเดิมของโฮสต์สุดกู่ เรียกได้ว่าจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ให้คนโง่มาเล่นเป็นคนฉลาดแกมโกง ถือว่าเป็นการท้าทายความสามารถกันชัดๆ

“ฉันถามอีกครั้ง เมื่อกี้เธอคุยอะไรกับไอ้ตาม” มือหนาเลื่อนมาจับคางอีกฝ่ายเอาไว้แล้วบีบแน่นจนผิวขาวแทบเกิดรอยช้ำ ดวงตาของโปรดิวเซอร์เหมือนมีประกายเพลิงลุกไหม้อยู่ภายในดูร้อนแรงจนพร้อมแผดเผาทุกคน ถ้าตอบไม่ถูกใจคราวนี้....ไม่รู้เหมือนกันว่าโฮสต์จะต้องเจอกับอะไร แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้ระบบจะไม่ยุ่ง

“เอาไงดีอ่าแม่สอง ช่วยคิดหน่อยเซ่ ไม่มีตัวเลือกช่วยเหลือหน่อยเหรอ...ฮือออ”

จะพึ่งระบบไปตลอดได้ยังไงล่ะ เรื่องของตัวเองก็ต้องหัดจัดการเอง คิดให้ดีโฮสต์ ระบบเตรียมไว้อาลัยรอแล้ว


โปรดติดตามตอนต่อไป...


ซินเอ๋อร์:


อยากเขียนแนวพระเอกพิศาลบ้างค่ะเลยออกมาทรงนี้ ตอนแรกจะเขียนเป็นโอเมก้าเวิร์ส แต่ก็ดันมีพล็อตรายการทีวีขึ้นมา เห็นปรกติเขาเป็นดารานายแบบกัน เราจะเป็นรายการทำอาหารค่ะ! ความรู้อาจไม่มาก แต่จะพยายามรีเสิร์ชและทำการบ้านนะคะ บางอย่างลงลึกไม่ได้ก็ขอแตะแค่ผิวๆ น้า

พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะะ จะรีบปั่นนะคะ ตอนนี้เปิดเทอมแล้ว ทำงานอีก เอาใจช่วยให้ซินเอ๋อร์รอดตายด้วยค่าา

เชิงอรรถ

^ Commis (III,II,I) เป็นตำแหน่งผู้ช่วยในครัวที่สูงกว่า Cook Helper มีหน้าที่เตรียมวัตถุดิบในครัว และปรุงอาหารบางจานตามที่พ่อครัวหรือเชฟสั่ง ถ้าขึ้น Commis I ถือเป็นกุ๊กที่เป็นงานแล้ว

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
งานเข้าแล้ววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ ง่วงนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
​Arc 3 ในครัวแม่งเถื่อน ไม่เก๋าจริงอยู่ไม่ได้ (ครึ่งแรก)
 

“ไม่ได้คุยอะไรกันเลย...” โฮสต์ในบทพีทรู้สึกกลัวจนหยดน้ำตาไหลรินออกมาตามหางตา ทั้งที่ดูน่าสงสารแต่อีกฝ่ายกลับไม่เบาแรงลงเลยแม้แต่น้อย ในนาทีนี้โฮสต์ที่ใสซื่อบื้อเลยเลือกตอบตามความเป็นจริง ให้เขาทำตัวกะล่อนลัดเลี้ยวเหมือนบทบาทต้นฉบับเขาทำไม่ได้จริงๆ “เชฟตามแค่ชวนผมไปกินข้าวหลังเลิกกอง เขาบอกว่าจะทำของหวานให้กิน”

“หึ” แทนไทจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยก็รู้ว่า ‘เด็กปั้น’ ของเขาไม่ได้โกหก ครู่หนึ่งที่แววตาของเขาสั่นไหวก่อนมันจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของโปรดิวเซอร์หนุ่มยังคงดูโกรธขึ้ง แต่ถ้าสังเกตให้ดีกลับพบว่าเปลวเพลิงในดวงตามอดหายไปมากแล้ว เขากระตุกยิ้มพร้อมกับออกแรงบีบคางโฮสต์มากขึ้นเหมือนยั่วเย้า “ปากเล็กๆ ของเธอมันไม่รู้จักพอสินะ อยากกินมากนักหรือไง ขนมเฮงซวยฝีมือไอ้ตาม”

“ผมเปล่—” พีทปฏิเสธยังไม่ทันได้จบคำ อีกฝ่ายกลับโน้มใบหน้าลงมาแนบจูบหนักหน่วงเสียก่อน เขาทั้งขบกัดดูดเม้มอย่างรุนแรงอย่างไม่สนใจว่าคนเบื้องหน้ายังต้องใช้หน้าตาทำมาหากิน โฮสต์พยายามเบี่ยงหน้าขยับหนี ปฏิเสธจูบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ แต่พอถูกบีบคางหนักเข้า คนอ่อนหัดคงทนไม่ไหวอีกต่อไป ทันทีที่กลีบปากเผยอออกเรียวลิ้นร้อนก็สอดแทรกรุกล้ำเข้าไปภายใน กวาดเลียเสียจนเหมือนจะกลืนกินไปให้หมด

“มะ...แม่สอง” โฮสต์ที่โดนปล้ำจูบอย่างเผ็ดร้อนยังอุตส่าห์จะมีอารมณ์มาเคาะเรียกระบบอีก เสียงอ่อนระทวยจนแทบจะละลายกลายเป็นชีสเหลวแล้ว “มะ..ไม่ไหวแล้วอ่ะ เหมือนจะเคลิ้มเลย ทำไงดี... ฮึก เขาจูบเก่งมากเลย”

เคลิ้มโล้ด โฮสต์ปฏิเสธสัญชาตญาณร้อนแรงของร่างนี้ไม่ได้หรอก เจ้าหนุ่มคนนี้เหมือนน้ำมันเบนซินดีๆ นี่แหละ วัตถุอันตรายห้ามอยู่ใกล้ไฟ เพราะถ้าอยู่ไกลเมื่อไรไฟติดพรึบ ความสดใสไร้สติของโฮสต์มันจะได้หมองมัวกันก็คราวนี้แหละ

เสียงฝีเท้าจากไกลๆ ทำให้โปรดิวเซอร์ใหญ่ลูกชายเจ้าของช่องยอมถอนจูบออกมาด้วยความรู้สึกเหมือนโดนขัดใจ สาเหตุหลักเพราะแทนไทยังไม่ได้ครอบครองช่องนิวทีวีเต็มตัว ถึงคนอื่นจะร่ำลือกันว่าพีทเป็นเด็กปั้นของเขา แต่ก็ไม่ได้มีหลักฐานชัดเจน ถ้าพบเจอกันจะๆ มีพยานหลักฐานว่าเขาทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดตั้งแต่ยังไม่รับตำแหน่ง คงได้ชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั้งสมภารทั้งไก่วัด

“อย่าให้เห็นว่าสนิทกับใครไปทั่วอีก จะไอ้ตาม ไอ้เชฟฉัตร หรือไอ้นิวเคลียร์ ฉันไม่เอามันไว้ทั้งนั้น” แทนไทไล่หัวทั้งกรรมการ ผู้เข้าแข่งขันและพิธีกร ท่าทางหึงโหดจนเหมือนพร้อมยิงโฮสต์ทิ้งได้ทุกเวลา เขาไล้นิ้วโป้งไปตามกลีบปากที่เริ่มบวมช้ำก่อนจะยอมปล่อยมือที่จับโฮสต์เอาไว้ออก “ถ้าหิวมากนักวันนี้ฉันจะพาไปหาอะไรกิน เลิกกองเดี๋ยวเอารถมารับ”

แทนไทเดินเข้าห้องสตูดิโอที่ถ่ายรายการต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งให้โฮสต์ที่สติหลุดลอยยืนกุมหน้าอกหอบหายใจอยู่พักหนึ่ง ข้อดีของคนโง่คือไม่คิดเยอะแยะมากมาย แค่แปปเดียวก็เริ่มทำใจได้ โฮสต์แตะปลายนิ้วกับริมฝีปากของตัวเองแล้วมองเหม่อไปทางที่อีกฝ่ายหายไป “เขาดุขนาดนี้...พีทมันยังกล้ามีกิ๊กไปทั่วไปอีกเหรอ ใจกล้าจริงๆ”

อันที่จริงระบบคิดว่าแทนไทไม่น่าจะหวงเด็กที่ตัวเองเลี้ยงไว้ขนาดนั้น ยกเว้นแต่ว่าแทนไทคนนั้นมีอะไรบางอย่างที่ผิดปรกติ ไม่รู้โลกนี้พี่แกไปอัพเกรดอะไรขึ้นมาถึงได้กลายเป็นคนชอบครอบครองรุนแรงขนาดนั้น อีกหน่อยก็คงเอาโซ่มาล่ามคอโฮสต์เอาไว้แล้วมั้ง คงเพราะเป็นตัวร้ายมาโดยตลอด นิสัยตัวเองมาผสมกับคาแรกเตอร์เดิมเลยยิ่งไปกันใหญ่ ยังดีที่แววตาเขายังมีสติรู้คิดอยู่บ้าง ดูท่าเขาคงมาถึงก่อนโฮสต์นานแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามีความทรงจำและสำนึกตื่นรู้ตั้งแต่เมื่อไร

ระบบรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ไม่สามารถสปอยล์ให้โฮสต์รู้ได้ นี่เป็นเรื่องราวระหว่างเขาทั้งสองคน โฮสต์ต้องรู้จักมองคนที่จิตวิญญาณและใช้สมองก้อนน้อยๆ ที่มีรอยหยักไม่มากคิดไตร่ตรองเอาเอง ควรคิดได้ว่าคนที่แอบชอบเขาตามโฮสต์มาหลายชาติแล้ว ไม่รู้ว่าไปติดใจความโง่ตรงส่วนไหนในโลกไหนกันแน่

โฮสต์ใช้เวลาอยู่พักหนึ่งถึงจะเดินกลับเข้าไปในกองถ่ายได้ ส่วนปากที่เจ่อน้อยๆ ก็แถไปว่าแพ้ลิปมันที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ขยี้หนักไปปากเลยบวมไปหมด ให้ช่างแต่งหน้าช่วยเก็บงานสักหน่อยแทน พอกลับเข้าไปนั่งประจำที่ก็หลบเลี่ยงไม่สบสายตากับคนที่พีทเคยหว่านเสน่ห์เอาไว้ ทำท่าเป็นเหม่อมองเหล่าผู้แข่งขันด้วยความสนใจกึ่งไม่สนใจ แต่ข้างในกำลังคุยกับระบบน้ำไหลไฟดับ

“แบบนี้ไม่โอเคอ่ะ ไม่ไหวแน่แม่สอง ถ้าอยู่กับหมอนี่ต่อ เราต้องโดนปล้ำจนใจแตกแน่ๆ สุดท้ายโดนผู้ชายหลอกจนหนีออกจากบ้าน กลายเป็นสก๊อยผมทองผิวสี พลาดพลั้งจนต้องไปขายบริการหาเงินมาซื้อยากับเลี้ยงดูสามี”

[…]

คิดว่าตัวเองเป็นสาวน้อยวัยใสอ่อนต่อโลกหรือไงน่ะ แล้วนั่นมันอะไร อย่าเอาพล็อตการ์ตูนโป๊บทปวดตับสะท้อนสังคมมาพูดได้ไหม ไหนบอกว่าเป็นหนุ่มใสซื่อบื้อ ทำไมเคยไปอ่านอะไรแบบนี้...ภาพลักษณ์เสียหายหมดแล้วโฮสต์!

“เรากลัวมากจริงๆ นะ เราไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย” โฮสต์หลุบสายตาลงต่ำ ไหนเขาบอกว่าคนโง่ไม่ใช่สมองแต่ใช้ความรู้สึก โฮสต์ต้องโง่และป๊อดขนาดไหนที่มีแค่ความรู้สึกแล้วยังจะไปกลัวความรู้สึกตัวเองอีก ระบบที่ย้ายข้างไปเชียร์ไอ้หนุ่มคนนั้นรู้สึกผิดหวังในตัวโฮสต์มากๆ “เราเลิกกับเขาดีกว่าไหม”

[ตรวจพบ OOC!! ]

[พีท พีรภัทรไม่มีทางปล่อยถังข้าวสารอย่างแทนไทไปได้ง่ายๆ นอกเสียจากจะโดนเขี่ยทิ้ง หากตัดสินใจบอกเลิกเมื่อไร ถือว่าเป็นการ OOC ขั้นร้ายแรง มีโอกาสถูกหักคะแนนได้ถึง 15,000 คะแนน]

“อะร้ายยย ขอเลิกก็ไม่ได้! ” โฮสต์บุ้ยปากร้องแงๆ อีกแล้ว “นี่เราต้องผูกติดกับเขาไปนานแค่ไหนเนี่ย...จนกว่าจะโดนเขี่ยทิ้งนี่มันนานแค่ไหน ถ้าเราทำตัวน่ารำคาญให้เขารีบทิ้งๆ จะได้ไหมเนี่ย”

ทำไมทีเรื่องแบบนี้ฉลาดขึ้นมาได้ ระบบชักจะสงสัยในกระบวนการทำงานของสมองโฮสต์ขึ้นมาแล้ว

[เงื่อนไขของพี่จ๋าคือห้ามบอกเลิกแทนไทด้วยตนเอง~♥]

โฮสต์พยักหน้าหงึกหงัก แผนการที่ดีที่สุดของเขาในตอนนี้คือทำตัวเป็นกรรมการที่ดี ให้คอมเม้นท์ดีๆ กับพระเอก คอยให้กำลังใจในวันที่เหนื่อยยาก เรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่นจากที่อ่อยหนักก็เปลี่ยนมาเป็นคนสุภาพเรียบร้อยคุยเก่งมีเสน่ห์แทน การอ่อยกับการอัธยาศัยดีมันก็มีแค่เส้นบางๆ กั้นอยู่แค่นั้นแหละ ส่วนแทนไท เขาตั้งใจจะทำตัวเรื่องมากเรียกร้องเยอะ คอยดูสิว่าอีกฝ่ายจะไม่รีบเฉดหัวส่งได้ยังไง

สัปดาห์แรกมีคนตกรอบไปโดยยังไม่เริ่มทำอาหารไปแล้วสองคน แต่เหมือนโปรดิวเซอร์เจ้าของรายการไม่ได้สนใจอะไรมากมาย แทนไทตรวจความเรียบร้อยต่างๆ ทั้งที่สายตายังจ้องเขม็งมายังโฮสต์ ต่อให้โฮสต์จะไม่ค่อยสังเกตสิ่งรอบข้างแค่ไหน ก็อดยังรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ไม่ได้ ตอนแรกเขาตั้งใจจะเผ่นหนี แต่ถึงเวลาจริงๆ กลับมีปอร์เช่สปอร์ตคันหนึ่งจอดดักที่หน้าประตูเสียก่อน

โฮสต์ตั้งใจจะทำตัวใจแข็ง แต่ถึงเวลาจริงกลับทำไม่ได้เลย คงเพราะชาติก่อนเป็นผีโครงกระดูกไม่ได้สัมผัสรสชาติอาหารดีๆ มานานหลายสิบปีแล้ว แถมโลกก่อนๆ ก็สถานการณ์บีบบังคับ ไม่ค่อยได้ลิ้มรสอะไรมากมายเท่าไร คราวนี้โดนพามาห้องอาหารรูฟท็อปชื่อดังเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ข้างหน้ามีไวน์ฝรั่งเศสขวดละเหยียบหมื่น อาหารฟูลคอร์สจานละนิดจานละหน่อยแต่ดูน่ากินตระการตาไปหมด...โฮสต์จะห้ามความตะกละของตัวเองได้ยังไงไหว

“ทำไมฟูลคอร์สต้องมาทีละจานด้วย เอามาวางให้หมดแล้วกินทีเดียวไม่ได้เหรอ เราหิวจนน้ำลายจะไหลแล้ว”

น่าเกลียดมากโฮสต์ ทำแบบนั้นขึ้นมาเสียภาพพจน์หมดกันพอดี

[ถ้าปล่อยให้น้ำลายไหลออกมาจริงๆ จะถือว่าเป็น OOC ไม่รักษาภาพลักษณ์ของตัวละคร~♥]

ยังดีที่โฮสต์ยังรู้จักกลัวคำว่า OOC อยู่เลยยอมนั่งกินอย่างสงบเสงี่ยมดีและพยายามเลี่ยงไม่สบตาฝั่งตรงข้ามให้ได้มากที่สุด ลูกชายเจ้าของช่องคงไม่ได้รู้สึกอยากอาหารอะไรเท่าไร ถึงได้เอาแต่จิบไวน์แดงพลางจ้องมองคู่ขาผสมเด็กเลี้ยงของตัวเองไม่วางตา พอถึงจานหลักที่เป็น Ballotine[1] ไก่ยัดไส้ตับห่านและต้นหอมญี่ปุ่น ราดด้วยซอสเฮเซลนัทบัลซามิกและไวท์ทรัฟเฟิล เขาก็ยังคงมองโฮสต์เก๊กท่าสวาปามด้วยความสงบนิ่ง กลิ่นอายอันตรายเมื่อตอนก่อนหน้าหายไปเกือบครึ่ง

“คุณไทไม่ค่อยหิวเหรอครับ” โฮสต์เงยหน้าขึ้นมากะพริบตามองอีกฝ่ายตาปริบๆ ใจนึกอยากจะขอแบ่งอาหารมาสักหน่อย ฟูลคอร์สมันจานน้อยเหลือเกิน เขากลัวตัวเองจะไม่อิ่ม

“คงงั้น ฉันมองเธอกินอร่อยก็พอแล้ว” คุณไทที่ว่าแค่ขยับยิ้มมุมปากแบบมีเลศนัย คำพูดคำจาจากตัวร้ายเข้าใกล้การเป็นพระเอกพวกประธานบริษัทจอมเผด็จการขึ้นแล้วทุกที ชายหนุ่มขยับมือให้หยาดน้ำสีแดงเข้มในแก้วขยับหมุนวนเบาๆ นัยน์ตาจับจ้องมาที่โฮสต์เหมือนกับอสรพิษกำลังพิจารณาเหยื่อว่าจะกินจากส่วนไหนดี “อีกอย่าง...ฉันมีของอร่อยรอให้กินอยู่แล้วคืนนี้”

“...” โฮสต์แทบจะสำลัก แต่ด้วยบททำให้ขยับยิ้มทำเป็นเอียงอายขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน ข้างในใจก็ยังคงร้องแงๆ ขอความเห็นใจเหมือนเคย “นี่จะโดนกินจริงๆ เหรอเนี่ยคืนนี้ ไม่เอาแล้วได้ไหม ไม่ทำ ไม่อ๊าววว หมอนี่ต้องเป็นพวกเซ็กส์ซาดิสม์ไม่อ่อนโยนแน่ๆ เราต้องตายชัวร์”

โวยวายเกินไปแล้วโฮสต์ อย่าให้เห็นว่าฟินนะ ถ้าระบบมีมือจะฟาดโฮสต์ด้วยไม้หน้าสามสักที

“คุณไทจะกินอยู่ฝ่ายเดียวได้ยังไง ไม่แฟร์เลย” โฮสต์เก๊กหน้าทำทีเป็นเจ้าเล่ห์แสนกลทั้งที่ข้างในกำลังสั่นกึกๆๆๆๆ ไปหมด สั่นกว่านี้ก็เป็นพาร์กินสันแล้ว “อย่างน้อยก็ต้องมีอะไรมาแลกหน่อยไม่ใช่หรือไง”

“เธออยากได้อะไรล่ะ? รถ? นาฬิกา? หรือบทพระเอกหนังใหม่ของค่าย 4GH?”

“ของแค่นั้นผมไม่ต้องขอก็ได้มาอยู่แล้ว” พูดออกไปได้สมบทบาทพีทมากจนระบบอยากให้คะแนนเพิ่ม สมองน้อยๆ ของโฮสต์รีบประมวลผลอย่างรวดเร็ว นี่คือโอกาสอันดีที่จะกำจัดเพื่อนสนิทของพระเอกไปได้ ผู้หญิงคนนั้นสุดท้ายจะเอาตัวมายุ่งกับทั้งเชฟฉัตรทั้งแทนไท วุ่นวายกันไปหมด เรียกว่านารีพิฆาตแท้ๆ “ผมไม่ชอบเชฟเมย์เลย เวลามองคุณไทเหมือนอยากเป็นหนูตกถังข้าวสารยังไงไม่รู้ เห็นแล้วเกะกะลูกตา ไล่ออกจากรายการไปไม่ได้เหรอ”

ความเรื่องมากเอาแต่ใจแรกของโฮสต์มาถึงแล้ว โปรดิวเซอร์ใหญ่ลูกชายเจ้าช่องก็คือเจ้าของรายการดีๆ นี่เอง การไปขอร้องกึ่งสั่งแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการไปแทรกแซงงานของเขา อย่างหนึ่งคือเอาแต่ใจแบบล้ำเส้น ผู้ชายนิสัยเผด็จการเอาใจตัวเองเป็นใหญ่แบบเขาคงไม่ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว จะให้กรรมการรายการตัวเล็กๆ ที่เป็นแค่ไม้ประดับมามีอำนาจเหนือการตัดสินใจได้ยังไง

โฮสต์ตักของหวานกินด้วยรอยยิ้มเบาบาง ในใจคิดอยู่แล้วว่ายังไงแทนไทก็ไม่ตอบตกลง เพราะงั้นคืนนี้เขาอาจจะเอาตัวรอดไปอีกคืนได้ “หรือถ้าคุณทำไม่ได้...คืนนี้ก็จบกัน”

แทนไทกระตุกยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขาเอื้อมมือไปใช้นิ้วโป้งแตะน้ำตาลไอซิ่งจากของหวานที่มุมปากของโฮสต์ก่อนจะแลบลิ้นเลียปลายนิ้วตัวเองเบาๆ น้ำเสียงของแทนไทแหบพร่าฟังแล้วเหมือนล่อลวงกันยังไงบอกไม่ถูก “เอาสิ...ถ้าคืนนี้เธอเป็นเด็กดี อยากได้อะไรฉันก็จะให้ทั้งหมดนั่นล่ะ”

โฮสต์ตัวสั่นกว่าเดิมเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรับปากง่ายๆ แบบนี้ แต่ช้าไปเสียแล้ว แทนไทใจร้อนเกินกว่าจะขับรถกลับไปคอนโดที่เป็นรักรังได้ จากห้องอาหารรูฟท็อปดาราหนุ่มจึงโดนหิ้วกลับไปห้องสวีทของโรงแรมเป็นที่เรียบร้อย เวลานี้จะเหนียมอายคงไม่ทันแล้ว

ทันทีที่ประตูห้องปิดลงชายร่างสูงก็ขบเบียดประกบริมฝีปากจูบจนแนบแน่น มือหนารั้งร่างของโฮสต์เข้ามาก่อนจะกอบกุมสะโพกงอน บีบเค้นผ่านเนื้อผ้าโดยไม่เบาแรง ส่วนกลางร่างกายที่เริ่มแข็งขืนขยับเสียดสีกับลำตัวพีทด้วยความร้อนเร่า

ถึงเวลานี้แล้วโฮสต์ยังจะมีเวลามาเคาะเรียกระบบอีก เสียงของโฮสต์อยู่ตรงกลางระหว่างความหวั่นไหวและความไม่มั่นใจ เรียกได้ว่าทำตัวไม่ถูกแบบไม่ถูกจริงๆ สถานการณ์ไม่คุ้นชินแบบนี้มากเกินกว่าคนโง่แบบโฮสต์รับมือได้ “จะดีเหรอแม่สอง...ทำแบบนี้จะไม่ถือว่านอกใจเขาจริงๆ นะ”

เขาที่ว่านี่เขาคนไหน เขาที่โฮสต์มโนไปเอง หรือเขาที่เป็นนนทเรศ โฮสต์ควรจะกลับไปตัดสินใจเลือก ‘เขา’ ให้ดีก่อนจะมารู้สึกลังเล คนโง่ที่หลายใจสมควรโดนระบบเอาไฟฟ้าช็อตนะ

[มาถึงขั้นนี้แล้วพี่จ๋า ขึ้นหลังเสือแล้วลงยากนะฮะ~♥]

“ฮื่อ...” ไม่รู้ว่าโฮสต์ตอบกลับมาหรือว่าครางกันแน่ เสื้อผ้าแบรนด์เนมของพีทเริ่มหลุดร่วงลงพื้นไปทีละชิ้นตั้งแต่อยู่แค่หน้าประตูห้อง ร่างโปร่งถูกอุ้มช้อนขึ้นจนลอยเหนือพื้น โฮสต์ใช้สองแขนโอบรอบลำคอหนาเช่นเดียวกับเรียวขาที่โอบรอบเอวสอบของอีกฝ่ายเอาไว้โดยไม่มีความรู้สึกต่อต้านอีกต่อไป สติที่ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้วของโฮสต์ต้องพ่ายแพ้ให้กับสัญชาตญาณร่างกายในที่สุด

เนื่องจากเรทกำหนดไว้ว่า PG-13 ระบบจึงขอตัดภาพจอดำก่อนที่เนื้อหาจะกลายเป็น NC-18

ระบบไล่ดูข้อมูลสถิติต่างๆ อยู่พักหนึ่งก็ได้ยินเสียงเคาะของโฮสต์ ตอนแรกเบาเสียงเอาไว้เลยไม่ได้ยิน แต่อีกฝ่ายกลับเคาะหนักขึ้นจนกลายเป็นการทุบดังปังๆๆๆ ระบบเลยเร่งเสียงให้กลับมาในระดับเดิม

“อ่ะ...แม่สอง” โฮสต์เรียกด้วยเสียงกระเส่าชนิดที่ว่าถ้าระบบมีขนก็คงจะขนลุกเกรียวด้วยความสยดสยอง สงสัยระบบจะเพิ่มระดับเสียงมากเกินไป ถึงทำให้ได้ยินเสียงเสียดสีเหนอะหนะติดมาด้วย ส่วนโฮสต์ที่พูดอะไรแทบจับใจความไม่ได้เพราะลมหายใจขาดห้วง ยังจะอุตส่าห์มาบอกเล่าแชร์ประสบการณ์ให้ระบบฟังอีก

“ฮึ่ก...รู้สึกดี...มากเลย มันลึก อ๊า...! จะไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว อื้อ!”

[…]

Too much information!!

ระบบไม่ได้อยากรู้ (ว้อยยยย)

ระบบ mute เสียงโฮสต์ทิ้งทันที และจะเปิดใหม่อีกครั้งหลังจากเก้งป่าเดือนสิบสองทั้งคู่ทำการฟีทเจอริ่งกันเสร็จแล้ว บายส์

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...

 
เชิงอรรถ
 

^ Ballotine เป็นไก่ยัดไส้สไตล์ฝรั่งเศส



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2019 06:58:00 โดย ซินเอ๋อร์ »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ rsmrypngpth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โดนเฟรนโซนมาหลายชาติในที่สุดก็ได้กินสักที

ออฟไลน์ ง่วงนอน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Arc 3 ในครัวแม่งเถื่อน ไม่เก๋าจริงอยู่ไม่ได้ (ครึ่งหลัง)

“อันนี้คือเรียกว่าของกินเหรอครับ” เชฟอ้นผู้รับบทเชฟใจร้ายประจำรายการหั่นใช้มีดอาหารในจานจนเห็นเนื้อที่ยังเป็นวุ้นภายใน หน้าตาของเขาเรียกได้ว่านอกจากบอกบุญไม่รับแล้วอาจจะเอาปืนยิงคนมาบอกบุญอีกสักนัดด้วย “นี่มันเนื้อไก่นะครับ คุณเป็นเชฟภาษาอะไรถึงคิดเสิร์ฟเนื้อไก่ไม่สุกให้คนอื่นกิน”

หน้าตาของเชฟเมย์ตอนนี้ซีดยิ่งกว่าไก่บนจานเสียอีก สัปดาห์นี้โจทย์การแข่งขันคือ ‘เป็นไปไม่ได้’ มีสปอนเซอร์ประจำตอนคือบริษัทเกษตรอินทรีย์ที่มีผลิตภัณฑ์เป็นทั้งผักและเนื้อสัตว์ออแกร์นิค เพื่อนสนิทคู่จิ้นคนสวยของเชฟฉัตรที่ผลงานไม่ดีตั้งแต่ในช่วงชาแลนจ์วัดใจตอนต้นรายการเลยพยายามคิดไอเดียแปลกใหม่ออกมาเต็มที่ อาหารที่ตอนแรกควรสร้างความฮือฮาแถมโปรโมทสินค้าได้ดี พาเธอชนะลอยลำเข้ารอบต่อไปอย่างสวยงาม แต่ไหงกลายเป็นโดนด่าเละเทะจนหมดสภาพได้ก็ไม่รู้

“ผมเข้าใจความพยายามของเชฟเมย์นะครับ” พีทขยับยิ้มเบาบางประกอบคำพูด นอกจากหน้าที่ไม้ประดับอาหารตาในรายการแล้วเขายังเป็นกรรมการใจดีที่คอยปลอบและให้กำลังใจผู้เข้าร่วมแข่งขันมาโดยตลอด จนกลายเป็นพ่อพระประจำรายการไปแล้ว เชฟเมย์พอใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง แต่พอกะพริบตามองอีกที ใบหน้ายิ้มแย้มของดาราหนุ่มกลับกลายเป็นใบหน้าบึ้งตึงไปแล้ว “แต่เนื้อไก่กึ่งสุกกึ่งดิบมันเกินสามัญสำนึกไปนะครับ พยายามแค่ไหนผมก็ทำใจกินไม่ได้อยู่ดี”

โฮสต์ในบทพีทโยนมีดและส้อมลงจานดังแกร๊ง ด้วยสกิลแสดงออกทางสีหน้าอย่างสมบูรณ์แบบทำให้หน้าตาบึ้งตึงตอนโกรธยังดูสวยจนใจทั้งตากล้องและผู้กำกับรายการใจสั่นไปพร้อมกัน เบื้องหน้าดูดียังไง เบื้องหลังโฮสต์ก็ยังเป็นโฮสต์โง่คนเดิมอยู่ดี “นายดูดิแม่สอง เชฟเมย์หน้าซีดเลย เจอหนักแบบนี้ต้องปิ๊วตั้งแต่สัปดาห์ที่สองแน่ๆ เลย กิกิกิ”

เสียงหัวเราะของโฮสต์น่ะ น่าเกลียดมาก

“ผมเห็นด้วยกับคุณพีท เนื้อไก่ยังไงก็กินดิบไม่ได้ เพราะมันมีเชื้อซาลโมเนลลา อาจทำให้ท้องร่วงหรืออย่างมากคือถึงตายได้นะฮะ เชฟเมย์ทำแบบนี้คือไม่รับผิดชอบต่อคนกิน” เชฟตามดุจบผู้เข้าแข่งขันจบก็เหลือบมองใบหน้าสวยของกรรมการที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาหวานเยิ้ม มือเอื้อมไปกุมหลังมือของนักแสดงหนุ่มแผ่วเบาเหมือนต้องการปลอบใจ แต่โฮสต์กลับรีบดึงมือหนีเหมือนถูกไฟช็อต สายตามองไปยังข้างผู้กำกับที่มีชายร่างสูงยืนกอดอกมองอยู่ หน้าตาของแทนไทถึงยังคงเรียบเฉย แต่ดวงตาปล่อยออร่าพร้อมฆ่าตายให้เรียบอย่าให้เหลือ คนที่หน้าซีดเป็นไก่ไม่สุกเลยกลายเป็นโฮสต์แทน

“กลัวแล้วอ่า กลัวแล้ว!”

ระบบขออนุญาตแหม่ยาวๆ กลัวอะไรกันล่ะ ทีเวลาอยู่บนเตียงกับเขาไม่เห็นจะกลัวอะไร มีแต่เคลิ้มร้องอ๊ะอ๊างให้คนจับพลิกหน้าพลิกหลังดัดตัวสารพัดท่ายิ่งกว่าฤๅษีดัดตนอีกไม่ใช่เรอะ มาตอนนี้มาทำเหนียมอายก็ไม่ทันแล้วไหมโฮสต์

“สัปดาห์นี้เชฟเมย์คงต้องแขวนกระทะกลับบ้านแล้วมั้งแม่สอง” โฮสต์เหล่มองคู่จิ้นของพระเอกแล้วแอบยิ้มร่าในใจ “ทีนี้ก็เคลียร์เควสไปได้อย่างหนึ่ง เหลือแค่สลัดแทนไททิ้งก็รอดแล้ว! คอยดูนะเราจะทำตัวงอแงสุดๆ ไม่ยอมให้เขาจับกินด้วย”

ไม่ใช่ว่าปรกติก็งอแงอยู่แล้วหรอกเรอะ? คนอย่างโฮสต์อย่ามาทำพูดไปเลย ถ้าอีกฝ่ายเขาจับจุดถูกดีกับโฮสต์ซะหน่อย คนอ่อนระทวยพ่ายแพ้ก็คงไม่พ้นโฮสต์เองนั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่มโนว่าพระเอกเป็นคนรักของตัวเองมาหลายชาติหรอก

[ถ้าพี่จ๋างอแงเกินไปจะ OOC ได้นะฮะ~♥]

โฮสต์พยักหน้าหงึกหงักแล้วหันกลับไปมองสถานการณ์ในสตูดิโอต่อ เชฟเมย์ตอนนี้ตกอยู่ในที่นั่งลำบากแล้วจริงๆ เมื่อกี้ที่ผู้กำกับสั่งคัทก็โดนสปอนเซอร์รายการเรียกไปต่อว่าเรื่องที่ใช้ไก่ดิบแล้วอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับลูกค้าจนส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์แบรนด์ได้ ผู้หญิงที่ควรจะได้เป็นนางเอกของรายการถึงกับน้ำตาตก รอบวัดใจที่ได้โจทย์เปลี่ยนหวานเป็นคาว เปลี่ยนคาวเป็นหวาน เธอก็ทำได้ไม่ดี ไม่ต้องถามถึงสัปดาห์ก่อนที่ได้ธีมสีแดงแล้วทำอาหารออกมาเผ็ดจัดจนรายการได้ฉากดาราประจำช่องน้ำตาไหลพรากๆ สุดท้ายยังโดนเชฟอ้นกรรมการออกปากด่าว่า ‘เผ็ดแบบไร้อารยะ’

ผลประกาศออกมากลายเป็นว่าเชฟเมย์ตกรอบต้องแขวนกระทะคืนผ้ากันเปื้อนด้วยน้ำตานองหน้า ก่อนจะถ่ายฉากเดินออกจากรายการไป เธอยังกอดซบให้เชฟฉัตรปลอบใจอยู่พักหนึ่ง พระเอกมีท่าทางหวั่นไหวและหนักใจไปพร้อมกัน ช่วงสองสัปดาห์ที่แข่งขันมานี้ เขาแอบประทับใจกรรมการไม้ประดับอยู่พอสมควร เพราะโฮสต์ชอบไปมองเขาทำอาหารอย่างตั้งใจ แถมยังติชมด้วยน้ำใสใจจริง คอยปลอบใจอยู่กลายๆ ในใจของเชฟฉัตรตอนนี้เลยมีโฮสต์คะแนนนำโด่งยิ่งกว่าเพื่อนสาวคนสนิทที่ชักจะถ่วงแข้งถ่วงขากันเสียอีก

“วันนี้เชฟฉัตรโชว์ฝีมือเทพอีกแล้วนะครับ เมนูแต่ละอย่างครีเอทมาก ถ้าเปิดรายอาหารต้องรุ่งแน่เลย” ระหว่างที่กำลังไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พีทก็ชวนพระเอกคุยด้วยน้ำเสียงสบายๆ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอารมณ์ดี ดูแล้วสบายตามากๆ เชฟฉัตรเจอรอยยิ้มสวยกระชากใจจนตาแทบพร่า ชายหนุ่มยิ้มตามดาราหนุ่มแล้วเริ่มคิดจะสานสัมพันธ์ให้มากกว่าเดิม ไหนใครว่าพีท พีรภัทรหยิ่ง ตัวจริงออกจะน่ารักขนาดนี้

“ถ้าเปิดจริงคุณพีทต้องไปอุดหนุนบ้างนะครับ ผมจะให้เป็นลูกค้าวีไอพีเลย” โฮสต์ได้ยินแล้วมองเชฟฉัตรตาเชื่อมด้วยความตะกละกิน เพราะชาติก่อนเป็นผีโครงกระดูกขาดแคลนอาหารมากเกินไป มาถึงโลกนี้มีประสาทสัมผัสรับรู้ครบทั้งหมดถึงได้ทนต่อของอร่อยไม่ได้สินะ น่าอนาถาจนเกินไปแล้ว

“พีท ไปได้แล้ว” เสียงเข้มของโปรดิวเซอร์เจ้าของรายการดังขึ้นไล่หลัง พีทที่เพิ่งขอแลกเบอร์กับเชฟฉัตรถึงกับสะดุ้งโหยงจนมือถือเกือบหลุดมือ พอหันไปด้านหลังก็เห็นแทนไทตีหน้าเคร่งเหมือนเดิม เขาเลยบอกลาพระเอกของโลกนี้อย่างเสียไม่ได้ จากนั้นขยับตัวไปเดินข้างผู้ชายที่สูงร้อยเก้าสิบกว่าแทน

“วันนี้หิวอีกหรือเปล่า” น้ำเสียงของแทนไทอ่อนลงเล็กน้อย อันที่จริงสองสามสัปดาห์มานี้พีททำตัวได้ค่อนข้างเชื่อฟังถูกใจเขามาก ไม่อ่อยไปทั่ว ไม่เล่นหูเล่นตา เรื่องบนเตียงถึงจะไม่เร่าร้อนดุเดือด มีอาการต่อต้านขัดเขินอยู่บ้าง นอกจากจะเปลี่ยนบรรยากาศแล้วคงทำให้เขามั่นใจกว่าเดิมว่าร่างของพีรภัทรไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่ส่วนที่จับกินไปแล้วก็จะกินต่อไป อดกลั้นมาหลายชาติ ถ้ามีโอกาสระบบก็สนับสนุนให้เขาหาเศษหาเลยโฮสต์บ้างก็ได้

“ผมเบื่ออาหารฟิวชั่นสุดครีเอทแล้ว” พีททำหน้าเหมือนจะร้องไห้ อยู่ในรายการเขาก็ต้องกินอาหารจากผู้เข้าแข่งขันที่ครีเอทกันสุดฝีมือ ในวันธรรมดาก็โดนแทนไทลากไปกินข้าว เดี๋ยวอาหารจีน ญี่ปุ่น อิตาเลียน ฝรั่งเศส แม็กซิกัน บราซิล อินเดียว สารพัดชาติจนโฮสต์ที่ไม่ค่อยฉลาดไม่รู้จักแล้วว่ามันชาติอะไรบ้าง

“ผมอยากกินอะไรธรรมดาๆ มั่ง ไข่เจียว หมูทอดอะไรก็ได้ ถ้ามันหรูไม่พอคุณไทก็กลับไปเลย เดี๋ยวผมโบกแท็กซี่ให้พาไปหาไรกินข้างทางเอง” โฮสต์ทำปากยื่นแง่งอนเอาแต่ใจ แต่คงเพราะสกิลทำงานได้ดีเกินไป อีกฝ่ายเลยก้มลงมางับริมฝีปากล่างเบาๆ แทน

“งั้นเดียวคืนนี้ฉันทำให้เธอกินเอง” มือเอื้อมไปจัดเส้นผมให้กับพีทอย่างแผ่วเบาเหมือนเป็นความเคยชินที่ทำมาแล้วไม่รู้จักกี่ครั้ง อากัปกิริยาใกล้ชิดที่คุ้นเคยทำเอาโฮสต์ใจสั่นจนต้องเคาะเรียกระบบมาเคลียร์

“แม่สอง...ทำไมเราคุ้นกับอะไรแบบนี้ เหมือนตอนที่นนทเรศหยิบดอกไม้ออกจากหัวให้เลย” โฮสต์คิดย้อนภาพเมื่อโลกก่อนที่ลางเลือนเต็มที่แล้ว เมมโมรี่น้อยก็แบบนี้เอง จดจำอะไรได้ไม่มากนัก ระบบเวทนาเลยฉายภาพให้เขาดูอีกที ท่าทางของแทนไทจะเหมือนนนทเรศก็คงไม่แปลกหรอกเพราะว่าเป็นคนคนเดียวกัน เรื่องนี้โฮสต์ต้องคิดและตรัสรู้ได้แล้ว

แทนไทพาโฮสต์กลับไปทำอะไรกินที่คอนโดจริงๆ อย่างที่เขาว่า ชายหนุ่มทำผัดกะเพราหมูสับไม่เผ็ดและไข่ดาวไม่สุกให้โฮสต์เป็นอาหารเย็น ฝีมือของเขาไม่น่าเกลียดเลย เพราะโฮสต์ฟาดเรียบจนกะเพราใบเดียวก็ไม่เหลือ แต่หลังจากนั้นไม่ใช่ฉาก R-18 เหมือนทุกที โปรดิวเซอร์หนุ่มไม่ได้ลวนลามอะไร เพียงแต่ชวนอีกฝ่ายเล่นเกมด้วยกดัน ส่วนโฮสต์ก็เริ่มทำตัวขี้เกียจนอนผึ่งพุงกลมๆ หนุนตักร่างสูงมือถือจอยสติ๊กเล่นเกมอย่างเมามันแทน

พอโฮสต์เริ่มสงสัยว่าแทนไทคือคนเดียวกับราชายักษ์ในโลกที่แล้ว แทนไทก็เริ่มมั่นใจว่าพีทเป็นคนที่เขาแอบรักจริงๆ ความสัมพันธ์จากเสี่ยและเด็กเลี้ยงจึงพัฒนาไปในอีกรูปแบบแทน โปรดิวเซอร์หนุ่มเริ่มจีบโฮสต์อย่างจริงจัง คอยไปรับไปส่ง คอยดูเรื่องงานให้ คอยหาอะไรอร่อยๆ ให้โฮสต์กินจนเหมือนเป็นคู่รักธรรมดาคู่หนึ่ง แม้แต่เรื่องหึงโหดยังลดน้อยลง ขนาดเห็นเชฟฉัตรมองดาราหนุ่มตาหวานยังอดกลั้นไม่ลากไปกระทืบได้

การแข่งขันในรายการเริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ เชฟฉัตรก็ยังคงโชว์ฝีมือขั้นเทพผ่านเข้ารอบมาได้จนถึงรอบเกือบสุดท้าย ส่วนโฮสต์ก็ยังคงเป็นไม้ประดับที่ดี คอยให้กำลังใจพระเอกอยู่เสมอ ขณะที่พัฒนาความสัมพันธ์กับแทนไทไปพร้อมกัน นี่ถ้าระบบไม่รู้จักความโง่ของโฮสต์ก็คงคิดว่าโฮสต์เหยียบเรือสองแคมแล้ว

สัปดาห์หน้าจะเป็นการแข่งขันรอบสุดท้าย พระเอกก็คงทนรอไม่ไหวอีกต่อไป พอถ่ายทำเสร็จเขาก็รีบลากโฮสต์ออกไปทางหนึ่ง จากนั้นก็กลายเป็นฉากบอกรักที่มีกุหลาบช็อกโกแล็ต ขนมของโปรดของพีทเป็นเครื่องประดับ เชฟฉัตรยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเหมือนนายแบบโฆษณายาสีฟัน

“ผมชอบคุณพีทนะครับ คุณพีทคอยให้กำลังใจผมมาตลอดเลย ที่ผมดีใจที่สุดก็คือรายการนี้ทำให้ผมได้เจอกับคุณพีท...สัปดาห์หน้าผลจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญเลย แค่คุณพีทตอบตกลงเป็นแฟนผมก็พอ”

ปรกติแล้วโฮสต์มักจะอ่อนไหวกับพระเอก คิดมโนว่าเป็นพรหมลิขิตอะไรทำนองนั้นมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เพราะสงสัยว่าแทนไทจะเป็นนนทเรศเลยปักใจไปในทางอีกคนแทนแล้ว โฮสต์เลยตัดสินใจได้ฉลาดที่สุดเท่าที่ระบบจะเคยเห็นมาก่อน “ขอโทษครับเชฟฉัตร จริงๆ ผมไม่ได้คิดอะไรในทางนั้นกับเชฟฉัตรเลย แต่เห็นว่าเชฟฉัตรเป็นคนเก่ง มีศักยภาพ น่าจะไปได้ไกล ผมเลยอยากเป็นกำลังใจให้”

พระเอกชะงักค้างหน้าแตกยิ่งกว่าบราวนี่หน้าแตก โฮสต์เอื้อมมือไปตบบ่าเขาเบาๆ รอยยิ้มบนใบหน้าถึงจะอ่อนโยนแต่ก็มีความห่างเหินอยู่ “ผมคงคบกับเชฟฉัตรไม่ได้ แต่เป็นเพื่อนได้นะครับ ผมอยากเป็นเพื่อน...ที่เห็นเพื่อนของตัวเองประสบความสำเร็จในทางที่เขาเลือก”

เชฟฉัตรได้แต่พยักหน้าด้วยอารมณ์ขมขื่นปนเศร้า พอเขาหันหลังจากไปโฮสต์ก็เรียกระบบขึ้นมาทันที “เราทำถูกแล้วหรือเปล่าแม่สอง ไปปฏิเสธเขาแบบนี้ไม่ใช่ว่าเขาจะเข้าด้านมืดหรอกนะ”

[การตัดสินใจของพี่จ๋าไม่มีผลต่อการเข้าด้านมืดของพระเอก ขณะนี้ความมืดในใจของพระเอกอยู่ที่ 0.53% เท่านั้น~♥]

แปลง่ายๆ ว่าโฮสต์เลือกเฟรนด์โซนได้ถูกคนแล้วล่ะชาตินี้ ส่วนคนที่โฮสต์ต้องเลือกโซนให้ถูกน่ะโดนมาโน่นแล้ว

ในมือของแทนไทถือกุหลาบขาวช่อใหญ่มาช่อหนึ่ง วันนี้คงเป็นวันมงคลของโฮสต์ที่ทำให้เหล่าหนุ่มหล่อมาสารภาพรักพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย “ฉันไม่รู้ว่ามันสายเกินไปหรือเปล่า แต่เราเริ่มต้นใหม่กันได้ไหม?”

“คุณแอบชอบผมมานานแล้วใช่ไหม” โฮสต์เลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องที่เขาคาดเดาไปว่าแทนไทคือนนทเรศที่ตามเขามาจากชาติที่แล้ว ถึงเขาจะไม่ค่อยฉลาดเท่าไร แต่ก็รู้ว่าการเปิดเผยเรื่องราวของระบบมั่วซั่วอาจทำให้โดนหักคะแนนและทำโทษร้ายแรงจนสูญสลายไปเลยก็ได้

แทนไทเลิกคิ้วขึ้นมองอีกฝ่าย ระบบคิดว่าเขาเป็นคนฉลาดและคงพอเดาได้ว่าโฮสต์รู้ตัวตนของเขาแล้ว ถึงจะรู้แค่ชาติเดียวก็ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย โปรดิวเซอร์ไม่ได้ตอบอะไรกลับ ไม่ได้ทั้งตอบรับและปฏิเสธ แต่ความเงียบก็ถือเป็นคำตอบในรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว และสำหรับโฮสต์ที่มโนเก่งยังไงก็ต้องคิดเข้าข้างตัวเองแน่นอน

“ผมรู้แล้ว ผมก็ชอบคุณเหมือนกัน” โฮสต์รับกุหลาบขาวช่อนั้นมากอดไว้ในมือ ขณะที่อีกฝ่ายดวงตาเป็นประกายแวววาวปิดบังความสุขไม่มิด

ยินดีด้วยแทนไท! ในที่สุดก็หลุดจากสารพัดโซนในหลายโลกมาเป็นแฟนโซนได้แล้ว ระบบเห็นความพยายามของคุณ และระบบอยากจะจุดพลุฉลองให้จริงๆ

“จากนี้ไปเธอจะอยู่ข้างฉันใช่ไหม?”

โฮสต์พยักหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ ส่วนข้างหลังหันมาคุยกับระบบด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น “เป็นเขาจริงๆ ด้วยแม่สอง! คุณไทคือนนทเรศจริงๆ ด้วย! ”

ใช่แล้วโฮสต์ ลืมตาตื่นได้สักทีนะ นอกจากจะเป็นนนทเรศแล้ว เขาเป็นเกรเซียด้วย แล้วบทนี้พี่แกพูดซ้ำมาสามรอบแล้ว ถ้ารอบนี้โฮสต์ยังไม่รู้อีก ระบบก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับโฮสต์ดีแล้ว คงทำได้แค่พาโฮสต์ไปตรวจวัดไอคิวแล้วจัดหาโรงเรียนที่เหมาะสมกับระดับสติปัญญาของโฮสต์แทน

“แม่สอง...” แค่โฮสต์อ้าปากระบบก็รู้แล้วว่าโฮสต์จะถามอะไร

[ในตอนนี้ถือว่าภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว พี่จ๋าสามารถใช้ชีวิตของ ‘พีท พีรภัทร’ ได้ตามที่ต้องการ~♥]

เชฟเมย์ผู้เป็นนารีพิฆาตของเรื่องตอนนี้ตกกระป๋องกลายเป็นกิ๊กเสี่ยคนหนึ่งไปแล้ว หลุดจากวงโคจรของทางเชฟฉัตร พีท และแทนไท ระบบคำนวณได้ว่าหลังจากนี้ พระเอกจะมีชีวิตที่ดี ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่น ก็ถือว่าตอนนี้จบหน้าที่ของโฮสต์แล้ว ถ้าโฮสต์อยากเลือกอยู่ในโลกนี้ต่อจนร่างหมดอายุขัยก็ถือว่าตามใจ จะดื่มด่ำกับชีวิตในชาติหนึ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็ไม่ผิด โฮสต์มีสิทธิ์เลือกหนทางตามที่ตัวเองต้องการจนกว่าจะไปโลกใหม่ นี่คือรางวัลอย่างหนึ่งที่โฮสต์สมควรจะได้รับ

“ขอบใจนะแม่สอง” โฮสต์ปาใจสีฟ้าให้ระบบหลายดวง ก่อนจะเขาหันไปมองคนรักด้วยสายตาหวานซึ้ง สองแขนโอบรั้งรอบคอของร่างที่สูงกว่าเอาไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานทั้งดูไร้เดียงสาและยั่วเย้าไปพร้อมกัน “แล้วคุณไม่สนใจรายการของคุณแล้วเหรอครับ”

แทนไทไหวไหล่เหมือนไม่ใส่ใจ ดูท่ารายการที่เหลืออีกสัปดาห์ที่เหลือใครจะชนะก็คงไม่สำคัญอะไรอีกต่อไป ในสายตาของเขามีแต่โฮสต์และโฮสต์ หลังจากผ่านมาหลายโลกหลายชาติ ในที่สุดเขาก็ได้ครอบครองในสิ่งที่เขาต้องการที่สุดสักที “ช่างมันสิ ก็แค่อาหารครีเอทนิดๆ หน่อยๆ แค่นั้น รสชาติแปลกใหม่ แต่ก็ไม่ได้อร่อยมากมายหรอก”

ชายหนุ่มที่ตามโฮสต์มาหลายชาติหลายร้อยปีโน้มใบหน้าลงมาจนแนบชิด แต่ริมฝีปากกลับเบี่ยงไปคลอเคลียกับข้างใบหู ลมหายใจผะผ่าวและเสียงกระซิบแผ่วเบาสื่อถึงหัวใจที่เต็มเปี่ยมรักสำหรับโฮสต์เพียงคนเดียวเท่านั้น

“เพราะสำหรับฉัน...เธออร่อยที่สุดอยู่แล้ว”

“อื้ม” ใบหน้าหล่อเหลาของพระเอกประจำช่องขึ้นสีแดงระเรื่อ พีทเคลียริมฝีปากไปตามผิวแก้มของอีกฝ่ายก่อนเสียงหวานจะเอ่ยถ้อยคำตอบกลับ “สำหรับผมคุณก็อร่อยที่สุดเหมือนกัน”

“แฮ่! เรามีแฟนแล้วนะแม่สอง! นายอิจฉาเปล่าที่ตัวเองยังไม่มีใคร?”

ยังจะมีหน้าหันมาอวดระบบอีก กลับไปสนใจแทนไทที่กำลังมือปลาหมึกล้วงควักตัวเองต่อไป๊! แล้วระบบจะมีแฟนไปหาพระแสงของ้าวอะไร! เป้าหมายของระบบคือเก็บแต้มเพื่อไปเกิดใหม่ จะให้เอาแฟนมาช่วยหาคะแนนเรอะ? คนที่คุยกับระบบได้ก็มีแต่โครงข่ายกับโฮสต์เท่านั้นแหละ และระบบคงไม่ฆ่าตัวตายด้วยการคบกับคนโง่แบบโฮสต์แน่ๆ

ขนาดเป็นระบบยังเหนื่อยขนาดนี้ ให้ระบบไปเป็นแฟนโฮสต์ ระบบไม่เจ๊งบ๊งกันพอดีเรอะ

จากนั้นโฮสต์ก็ไม่ได้สนใจระบบอีกต่อไป เอาแต่ฟัดนัวเนียกับแทนไทไม่หยุด นี่จะสวีทหวานอะไรก็เกรงใจกันด้วย แค่ได้รักกันอย่างเป็นทางการในโลกนี้โลกแรก โลกหน้าจะเป็นยังไงต่อไปก็ยังไม่รู้เลย คนโง่กับคนรักของคนโง่ก็ทำตัวชะล่าใจกันซะแล้ว อนาคตมันแน่นอนซะที่ไหน เดี๋ยวจะหาว่าระบบไม่เตือนนะ

เอาเถอะ ถือซะว่าคนโง่ก็มีความสุขในแบบคนโง่แล้วกัน ส่วนตอนนี้ขอตัดภาพแค่นี้ก่อน เพราะระบบทนเลี่ยนไม่ไหวแล้ว

[ระบบ 212224 เปลี่ยนเป็นโหมดประหยัดพลังงาน จะกลับมาทำงานปรกติอีกครั้งเมื่อภารกิจใหม่มาเยือน~♥]



โปรดติดตามตอนต่อไป...



ซินเอ๋อร์:

จบ Arc เหมือนจบเรื่อง แต่ยังไม่จบนะคะ ความรักของโฮสต์และคนรักจะยังสวยงามอีกหรือเปล่า และจะมาแปลกแหวกแนวหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ปวดหัวกับโฮสต์มากทำมิชชั่นสมบูรณ์สักที!!

ออฟไลน์ ซินเอ๋อร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
Arc 4 อย่ากลับดึก ถ้าอยู่ลึกในซอยเปลี่ยว

วันเวลาผ่านไปหลายสิบปี วันหนึ่งแทนไทและพีรภัทรประสบอุบัติเหตุรถคว่ำตายด้วยกันขณะที่กำลังออกเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกในวัยเกษียณ โฮสต์ถูกส่งกลับมาพื้นที่ส่วนกลางอีกครั้ง และในที่สุดระบบก็ได้กลับมาเปิดใช้งานเต็มรูปแบบสักที

[ระบบ 212224 ยินดีต้อนรับพี่จ๋ากลับมา~♥]

“ฮื่อ...เหมือนไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะแม่สอง”

ไม่ได้เจอกันนานจริงๆ แหละ ที่ผ่านมาเปิดระบบตอบรับอัตโนมัติเอาไว้น่ะสิ คิดถึงกันไหมล่ะ? แต่คิดถึงไปก็เท่านั้น เพราะระบบไม่คิดถึงโฮสต์หรอก ช่วงที่โฮสต์ไประเริงรักกับแฟนหนุ่มจนถึงแก่ยัน ระบบได้พักผ่อนอยู่เฉยๆ และได้เข้าร่วมอบรมพัฒนาศักยภาพระบบขั้นเทพที่โครงข่ายจัดขึ้นมาตั้งหลายครั้ง อยากบอกว่าชีวิตที่ไม่มีโฮสต์น่ะแฮปปี้ดีสุดๆ

[ภารกิจสำเร็จ! หลังหักคะแนนต่างๆ แล้ว โฮสต์ได้รับคะแนนรวม 10,350 คะแนน]

ได้คะแนนมาไม่น้อยเลยนะโฮสต์ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่กี่โลกระบบก็จะเก็บคะแนนได้ครบร้อยล้านคะแนนแล้ว

“เวลานี่ผ่านไปเร็วจังเลยน้า แป๊บๆ ก็ตายซะได้” โฮสต์เหม่อมองโลกสีขาวว่างเปล่า คงมโนไปถึงใบหน้าของคนรักอยู่ ใบหน้าโง่ๆ ของโฮสต์เรียกได้ว่าอิ่มเอิบไปด้วยความรักสุดๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอาลัยอาวรณ์ซะจนน่าสงสาร “นี่ถ้าโลกหน้าได้เจอกันอีกก็ดีน่ะสิ”

ก็คงจะได้เจออยู่หรอก แต่คราวนี้ฝั่งนั้นจะได้รับบทบาทเป็นอะไร โฮสต์ต้องไปลุ้นเอาเองแล้วล่นะ

“นี่แม่สอง...ตอนอยู่ด้วยกันกับคุณไทนะ เราแฮปปี้สุดๆ เลยอ่ะ เขาตามใจเราทุกอย่างเลย ไม่คิดว่ามีใครจะรักเราได้มากเท่านี้แล้ว ถ้าโลกหน้าเจอกันอีก เราจะรักเขามากๆ รักแบบไม่มีข้อแม้เลย” ดวงตากลมโตของโฮสต์เป็นประกายรูปหัวใจแบบพวกหนุ่มเด๋อคลั่งรักไปแล้ว นี่โฮสต์เห็นระบบเป็นพี่อ้อยพี่ฉอดหรือไงถึงเอาเรื่องรักใคร่มาปรึกษาอีกแล้วเนี่ย ระบบไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญประจำคลับคืนวันศุกร์นะเฮ้ย

ระบบอยากจะถอนหายใจสักที เรื่องโลกหน้าก็เป็นเรื่องของโลกหน้า จริงๆ แล้วโฮสต์ต้องรู้จักโฟกัสกับหน้าที่และการงานบ้าง ไม่ใช่มัวแต่มาหลงละเมอเพ้อพกถึงความรักอันหวานชื่น ความประมาทเป็นหนทางของความตาย และคนโง่ก็จะตายได้น่าอนาถกว่าคนฉลาดด้วย

[เวลาในพื้นที่ส่วนกลางคงเหลือ 1 ชั่วโมง 3 นาที

ขอให้พี่จ๋าเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าในระบบก่อนเข้าสู่โลกใบใหม่~♥]

“ชิ นับเวลาถอยหลังเพราะไม่อยากคุยกับเราล่ะสิ! เรารู้ทันหรอกนะ”

อ้าว...ถ้ารู้แล้วจะชวนคุยต่อทำไม รีบเลือกสินค้าในแค็ตตาล็อกของระบบได้แล้ว เดี๋ยวมัวพิรี้พิไรไม่ทันได้ซื้ออะไรกันพอดี

“อุ คะแนนเยอะแยะเลยอ่ะ ซื้ออะไรดีน้าแม่สอง คะแนนพอซื้อน้องชายตัวน้อยแล้วด้วย นายอยากได้ร่างไหม?” โฮสต์ไถนิ้วกับหน้าจอด้วยความเพลิดเพลินใจ แถมยังทำตาเป็นประกายปิ๊งปั๊งเหมือนเด็กเห็นของเล่น

[พี่จ๋าควรซื้ออะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง~♥] แปลง่ายๆ ว่าแต้มหามาอย่างยากลำบาก อย่าใช้มั่วซั่ว คิดให้ดี มีสมองก็ใช้บ้าง เดี๋ยวสมองฝ่อจะหาว่าระบบไม่เตือน

“อะไรก็มีประโยชน์ต่อเราหมดนั่นแหละ” โฮสต์จิ้มๆ เลือกของแบบไม่ใส่ใจ ก่อนจะส่งรายการสินค้าที่ต้องการมาให้ระบบ

[ยืนยันคำสั่งซื้อ

สกิลลดทอนความเจ็บปวดทางร่างกาย 15% 6,000 คะแนน

ร่าง "ตัวละครที่หน้าตาดีระดับท็อป 10" ในโลกหน้า 4,899 คะแนน

ร่าง "กระต่ายขาวปุกปุย" สำหรับระบบเป็นระยะเวลาชั่วคราว 3 โลก 3,725 คะแนน

คะแนนสะสมคงเหลือ 4,781 คะแนน]

[..]

สกิลโอเคอยู่ ถือว่าฉลาดเลือก ร่างตัวละครหน้าตาดีในโลกหน้าก็ยังฝืนทนยอมรับได้ เพราะคนเราตัดสินกันที่หน้าตา แต่ร่างกระต่ายนั่นมันอะไร (วะ)

“เงียบเลย ไม่ชอบเหรอแม่สอง กระต่ายน่ารักน้า ตัวขาวๆ นุ่มๆ” โฮสต์ทำหน้าฟินประกอบพร้อมกับมือขยำๆ หยับๆ ท่าทางเหมือนโรคจิตอย่างไรพิกล “ก็เอาไว้กอดไง! แม่สองไม่อยากโดนเราลูบๆ เหรอ?”

ใครมันจะอยาก...โฮสต์เก็บมือไว้ลูบแฟนตัวเองเถอะ อย่ามาลูบระบบเลย ระบบอยู่มาหลายร้อยโลกยังไม่เคยเจอโฮสต์ที่ไหนลงทุนใช้แต้มฟุ่มเฟือยซื้อของมาสนองตัณหาขนาดนี้มาก่อน ระบบต้องทำยังไง โฮสต์ถึงจะเลิกนิสัยใช้คะแนนซื้อของมั่วซั่วแบบนี้ได้ โฮสต์ลองไปเข้าคอร์สอบรมเหมือนที่ระบบทำบ้างไหม เพื่อสมองจะดีขึ้นหน่อยนึง

“ป่ะ แม่สอง เราพร้อมแล้ว ไปโลกต่อไปกันเลยดีกว่า” โฮสต์ร้องเพลงงุ้งงิ้งแถมยังยิ้มร่าตอนที่เคาะเรียกระบบเบาๆ “เปิดใช้ร่างกระต่ายขาวปุกปุยด้วยน้า”

ไปเถอะโฮสต์ ไปเถอะ...เดี๋ยวระบบเผลอเอาไฟช็อตโฮสต์ขึ้นมา ระบบไม่รับผิดชอบนะ



“คนเราตายจากกันถือว่าอยู่กันคนละโลกแล้ว ตัดใจปล่อยโยมหยัดไปเถอะโยมเพ็ญ” เสียงนุ่มทุ้มแฝงด้วยความอ่อนโยนดังขึ้นแผ่วเบาพอให้คนรอบข้างได้ยิน เจ้าของเสียงเป็นพระหนุ่มวัยสิบเก้าปีผู้มีใบหน้าขาวสดใสรับกับจีวรสีแก่นขนุน เบื้องหน้าคือร่างของหญิงชาวบ้านวัยกลางยี่สิบ นางนุ่งผ้าถุงสีตุ่นๆ สวมเสื้อแขนกระบอกสีใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่บ่งบอกว่าหญิงนางนี้ไม่ใช่คนอีกต่อไปคือช่องท้องอันมีแผลเน่าเฟะเต็มไปด้วยหนอนตัวอวบอ้วนที่ชอนไชไม่หยุด และหน้าตาบอบช้ำบวมอืดของคนที่ตายมาแล้วหลายวัน

“หลวงพี่แสงไม่ต้องเสือก!” นางเพ็ญตวาดยกนิ้วชี้หน้าด่าพระสงฆ์ที่นั่งอยู่ด้านหน้าของชาวบ้านอีกหลายคน ดวงตาที่ทะลักออกมาครึ่งเบ้าเกลือกกลิ้งมองไปยังชายวัยฉกรรจ์ตัวดำคล้ำที่นั่งตัวลีบกระแซะหลวงพี่แสงด้วยความกลัว “ศพกูฝังได้ไม่กี่วัน มึงริให้อีไพหอบข้าวหอบของมานอนร่วมบ้าน อีไพมันน้องสาวกูแท้ๆ มึงแอบได้กันมาก่อนแล้วสินะ กูจะตายตาหลับได้ยังไง ในเมื่อมีน้องก็ชั่ว มีผัวก็เลว!”

“ยังไงวันนี้กูจะเอามึงไปกับกูให้ได้ ไอ้หยัด!”

ยิ่งพูดปลายลิ้นสีแดงคล้ำก็ยิ่งแลบเลื้อยออกมาจากปากยาวขึ้นเรื่อยๆ ยาวจนเกือบชนใบหน้าของพระหนุ่มเสียด้วยซ้ำ หลวงพี่แสงถอนหายใจครู่หนึ่งแล้วหันไปมองนายหยัดที่นั่งอยู่ด้านหลัง “เรื่องเป็นมายังไง เล่าให้โยมเพ็ญฟังสิโยมหยัด”

“ฉะ..ฉัน...ฉัน” นายหยัดสั่นทั้งปากสั่นทั้งตัวจนแทบพูดไม่รู้เรื่อง พอเห็นสายตาของหลวงพี่แสงที่อ่อนวัยกว่าจ้องมองมาด้วยความเคร่งขรึม สุดท้ายจึงเค้นเสียงออกมาจนเป็นประโยคจนได้ สองมือยกขึ้นไหว้ผีสาวปลกๆ “ฉันให้นังไพมันมานอนบ้านช่วยดูไอ้แดงน้อย มันร้องหาแม่มาหลายวันแล้วฉันสงสารมัน พอนังไพมาไอ้แดงน้อยมันเลยเงียบไปได้บ้าง...ฉันกลัวแล้วแม่เพ็ญ อย่าทำอะไรฉันเลย”

เมื่อพูดถึงลูกชายวัยสามขวบผีนางเพ็ญก็ชะงักงันไปบ้าง ท่าทางดุร้ายลดลงไปเหลือแต่ความกราดเกรี้ยว “แน่นะไอ้หยัด มึงอย่ามาหลอกกู ถ้ามึงหวังฟันอีไพแล้วเอาลูกมาอ้าง กูจะไปบีบคอให้ตายทั้งมึงทั้งมัน! ”

“แน่จ้ะแม่เพ็ญ...แน่จ้ะ ฉันไม่กล้าทำอะไรแม่ไพแน่นอน” นายหยัดรับคำด้วยท่าทางงกเงิ่น ความคิดที่อยากเอาน้องเมียสาวสวยมาเป็นเมียใหม่หดหายไปเสียหมด ผีแม่เพ็ญตายได้ไม่กี่วันก็เฮี้ยนขนาดนี้แล้ว ถ้าเกิดนางจับตามองเห็นเขาได้เสียกับประไพจริง คงได้โดนหักคอตายแน่

“อย่าอาฆาตจองเวรกันเลย จะเป็นบาปกรรมไปเสียเปล่าๆ” หลวงพี่แสงกล่าวด้วยท่าทางสงบนิ่ง ก่อนจะเอ่ยปากเตือนให้ผีนางเพ็ญได้คิด “ถ้าสุดท้ายโยมไพตบแต่งเป็นเมียโยมหยัดคงไม่แย่นักหรอกโยมเพ็ญ อย่างน้อยโยมไพก็เป็นน้าของแดงน้อย คอยเลี้ยงดูหลานมาตั้งแต่ยังเล็ก ดีร้ายยังไงยังช่วยดูแลลูกของโยมเพ็ญได้บ้าง ดีกว่าให้โยมหยัดไปหาเมียใหม่เป็นคนไม่รู้จักมักคุ้นนะ”

ผีนางเพ็ญถึงกลับนิ่งเงียบยิ่งกว่าเดิมเพราะคิดตามคำเตือนของพระหนุ่ม สุดท้ายนางเพ็ญได้แต่ถอนหายใจ ถึงอารมณ์จะเย็นลงแล้วแต่น้ำเสียงยังคงแข็งกร้าว “ถ้ามึงจะเอามันเป็นเมียก็เห็นแก่หน้ากูหน้าพ่อแม่กูบ้าง รอให้กูตายครบปีก่อนค่อยไปสู่ขอมันมาเป็นเมีย ไม่ใช่นึกอยากจะได้มันก็ฉุดคร่ามันมา”

นายหยัดรีบรับปากว่าจะไม่ทำเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน หลวงพี่แสงเห็นว่าเรื่องราวคลี่คลายลงได้ด้วยดีจึงยกยิ้มเบาบางจนทำให้ดวงหน้าหล่อเหลายิ่งน่ามองกว่าเดิม “โยมเพ็ญใจเย็นลงได้ก็ดีแล้ว ถ้ายังไปผุดไปเกิดไม่ได้ก็อย่ามาหลอกหลอนกันเลย เดี๋ยวเป็นกรรมหนักติดตัวไปจะแย่”

“แต่อิฉันก็ยังไม่สบายใจ กลัวไอ้หยัดมันจะเข้าหานังไพอยู่ดีหลวงพี่” ผีสาวยังคงจ้องผัวรักเขม็งด้วยความไม่เชื่อใจ นิสัยของนายหยัดแต่ก่อนเกกมะเหรกเกเร ตัวเองหน้าตาดีเข้าหน่อยก็หยอกสาวๆ ไปทั่วทั้งหมู่บ้าน

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้โยมหยัดบวชเรียนให้โยมเพ็ญสักเดือน ยังไงหน้านี้ก็หน้าแล้งทำนาไม่ได้ ส่วนโยมไพก็ให้ดูแลแดงน้อยไป โยมหยัดว่ายังไง” หลวงพี่แสงหันกลับไปถามนายหยัดผู้เป็นประเด็น อีกฝ่ายรีบพยักหน้าตอบตกลง หนึ่งทั้งกลัวผีสองทั้งกลัวพระ จะปฏิเสธก็คงไม่ได้ “อย่างนั้นอาตมาจะแผ่เมตตาให้โยมเพ็ญก่อนแล้วกัน ถ้าหมดห่วงแล้วจะไปผุดไปเกิดยังไงก็ว่ากันอีกที”

หลวงพี่แสงท่องบทแผ่เมตตาด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึก นางเพ็ญพนมมือรับแต่โดยดี ใบหน้าปูดบวมเริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิม ลูกตาที่ถลน ลิ้นแดงที่แลบยาวค่อยกลับคืนที่ทางที่ควรจะเป็น ครั้นกลับเป็นปรกติแล้วก็พบว่าผีนางเพ็ญเป็นสาวสวยคนหนึ่ง หน้าตาหมดจดจิ้มลิ้มอยู่พอตัว ไม่นานนักทั้งร่างก็โปร่งแสงจนเลือนหายไป

“หลวงพี่...” นายหยัดยื่นนิ้วสั่นระริกไปแตะแขนหลวงพี่เบาๆ “ฉันบวชให้แม่เพ็ญแน่จ้ะ แต่คืนนี้ปล่อยฉันไปฉันนอนไม่ได้แน่ หลวงพี่แสงช่วยพรมน้ำมนต์หรือถ้ามีของดีอะไรช่วยให้ฉันหน่อยได้ไหมจ๊ะ”

หลวงพี่แสงถอนหายใจยาว ก่อนจะหันไปสั่งความเด็กชายตัวเล็กขัดสมาธิที่นั่งอยู่ทางด้านขวามือ “จ่อยไปเอาน้ำมนต์กับสายสิญจน์มาให้โยมหยัดหน่อยไป”

จ่อยที่ว่านั่งเงียบหลุบตาต่ำไม่ตอบรับคำ จนหลวงพี่ต้องเรียกซ้ำอีกที “จ่อย”

“จ่อย! ” หลวงพี่แสงคว้าไหล่ของเด็กชายเอาไว้ แค่สัมผัสแผ่วเบาก็ทำให้เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงทั้งตัวด้วยความตกใจ แก้วตาสีน้ำตาลใสเหลือบขึ้นมองอย่างเลิ่กลั่ก “มัวเหม่ออะไรอยู่ วางกระต่ายก่อน ไปเอาของมาไป”

‘จ่อย’ หรือโฮสต์ที่กำลังนั่งกอดระบบในร่างกระต่ายขาวปุกปุยถึงกับตัวสั่นระริก หยาดน้ำใสปรากฏขึ้นในดวงตาท่าทางเหมือนใกล้จะร้องไห้ทุกที ปากอิ่มแดงอ้าออกพะงาบๆ เหมือนอยากพูดอะไรแต่พูดไม่ออก หลวงพี่แสงจึงขยี้เรือนผมสีอ่อนของเด็กชายสักทีแล้วตัดสินใจลุกไปเอาน้ำมนต์และสายสิญจน์เอง

“มะ..แม่สอง” โฮสต์ลูบขนนุ่มฟูของระบบพร้อมเบะปากร้องฮือในใจ “แม่สองช่วยด้วย! เรา..เรากลัวผี!”

คราวนี้ระบบพูดได้คำเดียว

งาน-งอก



โปรดติดตามตอนต่อไป...





ซินเอ๋อร์:

ตอนแรกอยากเขียนแนวแวมไพร์ แต่รู้สึกว่าคลีเช่ไป ถ้าจะเล่นขอเล่นใหญ่เลยดีกว่าค่ะะจริงๆ ไม่เคยเขียนแนวสยองขวัญแนวผีมาก่อนนะคะ คงไม่ไปทางน่ากลัวเท่าไร เรามาในธีมขำขันดีกว่าค่า แต่อาจจะพีเรียดบ้านๆ หน่อยนะคะ อยากลองเขียนดู ไม่รู้จะรอดอ๊ะเปล่า ถือว่าฝึกพล็อต+ฝึกภาษาน้า


เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ จะพยายามปลีกตัวมาถ้างาน+เรียนไม่ยุ่งมาก ไปนอนก่อนหน้า ฝันดีค่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2019 03:25:11 โดย ซินเอ๋อร์ »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด