ก่อนมะลิบาน UP แจ้งข่าว (16/03/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก่อนมะลิบาน UP แจ้งข่าว (16/03/63)  (อ่าน 4242 ครั้ง)

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

เรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ในเรื่องเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นมาเท่านั้น

ปล. ขอเปิดเรื่องไว้ก่อนน้า จะพยายามมาต่อให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฝากติดตาม และเป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะจ๊ะ
รักคนอ่านทุกคนเลย จุ๊บๆ :mew1:

สารบัญ
อินโทร
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2




Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2020 09:45:14 โดย little_porcupine »

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ก่อนมะลิบาน UP อินโทร (17/10/62)
«ตอบ #1 เมื่อ17-10-2019 00:04:58 »

อินโทร

“...ก็อยากให้ไฟแดงนานกว่านี้หน่อย
เผื่อว่าจะได้ขายมาลัยให้หมด
ถ้าหากว่าวันนี้มีไฟเขียวบ่อยก็คงขาดทุน
ไม่มีใครอยากซื้อมะลิบานๆ...”


เสียงเพลงยุคเก่านานหลายปีส่งผ่านมาจากสถานีวิทยุคลื่นหนึ่ง ดังอยู่ภายในห้องโดยสารของรถครอบครัว การจราจรในช่วงเลิกงานแบบนี้ติดขัดจนรถแทบไม่เขยื้อน แต่คนที่โดยสารอยู่ในรถคันนี้ก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร อาจจะเพราะความเคยชินหรือเพราะมีเพลงยุคเก่าที่ทำให้นึกถึงช่วงเวลาในอดีตคอยขับกล่อมอยู่ก็อาจจะเป็นไปได้

“หืม...ไม่ได้ฟังเพลงนี้นานมากแล้วนะเนี่ย” ผู้ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถเอ่ยขึ้น

“เพลงอะไรเหรอครับอานะ” ผู้ที่ประจำอยู่ที่นั่งข้างคนขับเอ่ยถามถึงชื่อเพลงที่เขาไม่เคยคุ้นหูในคำร้องหรือทำนองมาก่อน

“ชื่อเพลงก่อนมะลิบานครับ” สุมนะหรือนะ ที่เด็กชายชั้นมอสามที่นั่งอยู่ข้างคนขับเรียกว่าอานะ เอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม

“เพลงของใครเหรอครับ” เด็กชายยังถามต่อ

“อืม...ถ้าอาจำไม่ผิดน่าจะเป็นของวงไทม์นะ เด็กรุ่นน้องทัชคงไม่รู้จักแล้วล่ะ”

“นั่นสิครับ ชื่อไม่คุ้นเลย” ตอบรับแล้วก็นั่งฟังเพลงไปเรื่อยๆ ท่ามกลางรถรามากมายบนท้องถนน

“ฮ่าๆๆ ไม่คุ้นก็ไม่แปลกหรอกครับ วงนี้น่าจะดังอยู่ช่วงก่อนที่น้องทัชจะเกิดซะอีกมั้ง”

“โหหหหห ตอนนี้ผมก็อายุสิบห้าแล้วนะครับอานะ” คนเป็นหลานทำตาโตหันไปมองหน้าคุณอา

“แต่เพลงนี้อายุเกือบๆ เท่าน้องทัชเลยน้าาาา”

“ฮ่าๆๆๆ ถือว่าเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันครับ” หัวเราะไปกับคำหยอกของอานะ “โอ๊ะ จริงด้วยครับอานะ เพลงนี้ออกมาตอนปีสี่แปด ผมเกิดปีสี่เจ็ดงั้นเพลงนี้ก็เป็นรุ่นน้องผมปีนึง” ไม่รู้ว่าจริงจังแค่ไหนแต่มือก็ไถสมาร์ตโฟนเครื่องบางหาข้อมูลของเพลงที่เพิ่งจะจบลงไปไม่กี่อึดใจ

“นี่จริงจังถึงขั้นต้องหาข้อมูลเพิ่มเลยเหรอ” นะเอ่ยแซวขำๆ

“หูยยยย ก็มันว่างนี่ครับอานะ รถก็ติด กว่าจะถึงบริษัทคุณพ่อก็น่าจะอีกนาน”

“ฮ่าๆๆ ครับๆ” ยีหัวหลานเบาๆ พอให้เจ้าตัวทำหน้ามุ่ยใส่ “จะว่าไปฟังเพลงนี้แล้วทำให้อานึกถึงครั้งแรกที่เจอกับพ่อน้องทัชเลยนะเนี่ย”

“หืม? ยังไงครับอานะ เล่าให้ฟังหน่อย” เด็กชายทัชตาโต นั่งหันข้างบนเบาะรถอย่างเต็มตัว จ้องมองคุณอาอย่างสนใจ

“ตื่นเต้นอะไรน่ะเรา ตาโตเชียว” หันไปยิ้มให้เด็กชายแล้วหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้าต่อ

“ก็นิดนึงอ่า คุณพ่อกับอานะไม่เคยเล่าให้ฟังเลยว่าเจอกันยังไง”

“จริงเหรอ อานึกว่าพ่อเราจะเล่าให้ฟังหมดแล้วซะอีก”

“หึ! แค่เป็นเรื่องของอานะคุณพ่อขี้หวงทุกอย่างนั่นแหละครับ” เด็กชายทัชยู่หน้า

“เวอร์น่า” นะพูดเหมือนไม่เชื่อว่าเด็กชายพูดจริง แต่ก็แอบอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น

“ผมน่ะไม่เวอร์หรอก แต่คนที่เวอร์น่ะคุณพ่อเลยครับ” เด็กชายยืนยัน

“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” นะหัวเราะเสียงดังลั่นรถเมื่อเด็กชายยืนยันแบบนั้น

“แล้วเมื่อไหร่อานะจะเล่าสักทีล่ะครับ ผมรอฟังอยู่นะ”

“นึกว่าลืมไปแล้วนะเนี่ย”

“เนี่ย อานะชอบเปลี่ยนเรื่องเหมือนคุณพ่อเลย” เด็กชายทำหน้าบึ้ง

“เปล่า...อาไม่ได้เปลี่ยนเรื่องแค่ไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไงเท่านั้นเอง”

“งั้น...ผมถามแล้วอานะตอบ โอเคมั้ยครับ” เด็กชายทัชเสนอทางออก

“โหหหหห อนาคตท่านประธานบริษัท ต่อรองเก่งนะเนี่ย” หันมาเอ่ยแซวหลานขำๆ

“อย่ามาถ่วงเวลานะครับคุณผู้ช่วยพิเศษของท่านประธานคนปัจจุบัน” โดนลูกชายท่านประธานแซวกลับด้วยสีหน้าล้อเลียน นะมองเด็กชายทัชยิ้มๆ เนี่ยพ่อกับลูกเชื้อไม่ทิ้งแถวกันเลยจริงๆ ลูกล่อลูกชนช่างเจรจาต่อรองตามนิสัยนักธุรกิจเหมือนกันไม่มีผิด สำเนาถูกต้องชัดๆ

“อะๆ อยากรู้อะไรถามมาครับคุณลูกชายท่านประธาน”

“อืม...เริ่มจาก...” เด็กชายเอาปลายนิ้วชี้เคาะปลายคางตัวเองอย่างใช้ความคิด “อานะเจอกับพ่อครั้งแรกเมื่อไหร่ครับ” แล้วก็เริ่มถามคำถามแรกนำทางไปก่อน

“น่าจะประมาณสิบสี่ปีก่อนล่ะมั้ง ตอนนั้นน้องทัชยังเป็นเด็กน้อยอ้อแอ้อายุแค่ขวบเดียวเอง”

“อืม...แล้วเจอกันที่ไหนครับ”

“สี่แยกไฟแดง”

“ห๊ะ!? สี่แยกไฟแดงเนี่ยนะครับ เจอกันยังไงครับ หรือว่าคุณพ่อขับรถชนอานะเหรอครับ” เด็กชายทัชถามรัว

“ไม่ใช่ครับๆ ไม่มีอุบัติเหตุอะไรหรอกครับ แค่ตอนนั้นน่ะ.....”




อ้างอิง:เพลงก่อนมะลิบาน (วงไทม์)

ตามนั้นเลยค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะคนแต่งนึกถึงสมัยก่อนที่เวลาจะฟังเพลงอะไรต้องโทรไปขอที่สถานีวิทยุ แล้วไม่รู้ทำไมเพลงนี้มันผุดเข้ามาในหัวพอดี มันก็เลยเกิดเป็นเรื่องนีี้ขึ้นมา ฮาาาาาา

ฝากติดตามด้วยน้าาาาาาา จุ๊บบบ


ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: ก่อนมะลิบาน UP อินโทร (17/10/62)
«ตอบ #2 เมื่อ17-10-2019 03:00:02 »

รอจ้า

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ก่อนมะลิบาน UP อินโทร (17/10/62)
«ตอบ #3 เมื่อ17-10-2019 05:58:53 »

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: ก่อนมะลิบาน UP อินโทร (17/10/62)
«ตอบ #4 เมื่อ17-10-2019 18:59:15 »

รอค่า

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Re: ก่อนมะลิบาน UP อินโทร (17/10/62)
«ตอบ #5 เมื่อ17-10-2019 20:16:39 »

รอติดตามเรื่องราวของอานะกับพ่อน้องทัชค่ะ

 :pig4:

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 1 (16/12/62)
«ตอบ #6 เมื่อ16-12-2019 01:24:12 »

   ตอนที่ 1
   


"ร้อนจัง" เสียงเล็กๆ บ่นพึมพำเบาๆ พลางปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นเต็มใบหน้า
   
"จริง นี่ขนาดใกล้จะห้าโมงเย็นแล้วนะ พระอาทิตย์ยังไม่ตอกบัตรเลิกงานเลย" อีกคนที่ยืนใกล้ๆ พูดติดตลก
   
"คนอย่างมึงรู้จักคำว่าตอกบัตรเลิกงานด้วยเหรอวะ" ส่วนอีกคนก็แซวขำๆ
   
"โวะ!! ถึงกูจะเป็นแค่เด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยก แต่ในชีวิตกูก็เคยฝันอยากทำงานในบริษัท มีเงินเดือนใช้เหมือนคนอื่นๆ เค้านะเว่ย!"
   
"ฝันไปก่อนเหอะมึง" แล้วก็โดนคนเดิมๆ ดับฝันอีกตามเคย เลยได้แต่ถอนหายใจ ปลงตกกับชะตาชีวิตที่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ยังหนีไม่พ้นการขายพวงมาลัยตามสี่แยกอยู่ดี
   
ร่างเล็กบอบบางค่อนไปทางแคระแกร็นได้แต่ยืนมองพี่ชายสองคนที่เป็นเหมือนเพื่อนร่วมอาชีพในตอนนี้คุยกัน ก็ไพล่นึกไปถึงชีวิตตนเอง รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ยังพอได้มีโอกาสเรียนหนังสือ ถึงแม้ว่าจะต้องดิ้นรนทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปบ้าง แต่ในอนาคตเขาเชื่อว่าชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองจะต้องดีกว่านี้อย่างแน่นอน
   
"ไฟแดงแล้วครับ" แล้วก่อนที่จะมีใครได้พูดอะไรตัดพ้อชะตาชีวิตต่อ ก็เป็นจังหวะสัญญาณไฟแดงปรากฏขึ้นพอดี
   
“เอ้า! ไปๆ ทำมาหากิน มีเวลา 499 วินาที เอาให้คุ้ม” พูดจบก็ถือไม้หาบที่ทำจากท่อพีวิซีสีฟ้าซีดๆ ซึ่งดูเหมือนจะผ่านเวลาการใช้งานมาอย่างสมบุกสมบันทีเดียว
   
ท่อพีวีซีขนาดยาวประมาณหนึ่งเมตรมีพวงมาลัยมะลิสดที่ร้อยคั่นกลางด้วยริบบิ้นหลากสีแขวนเรียงรายอยู่เต็มตลอดความยาว

สุมนะจัดเรียงพวงมาลัยให้เข้าที่เข้าทางไม่ทับซ้อนกัน ด้วยกลัวว่ามะลิสดจะบอบช้ำ ถึงแม้ใครจะเห็นว่ามันเป็นแค่มาลัยราคาถูกไม่กี่บาท แต่ตัวเขาเห็นมันมีค่ามากมายนัก เพราะมันคือรายได้ของเขาในตอนนี้ และอีกเหตุผลก็คือพวงมาลัยเหล่านี้เกิดจากแรงกายและฝีมือจากยายของเขา ญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ในชีวิตน้อยๆ นี้ จึงอยากทะนุถนอมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับยายให้มากที่สุด

ทั้งสามคนแยกย้ายกันไปเร่ขายพวงมาลัยให้กับคนที่จอดรถรอสัญญาณไฟเขียวบนท้องถนน ต่างคนต่างส่งเสียง ‘พวงมาลัยมั้ยครับๆ’ ไปตลอดทาง ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าคนในรถจะได้ยินเสียงหรือให้ความสนใจหรือไม่
   
ถ้าถามว่าทำไมถึงมีเวลาแค่ 499 วินาทีที่รถติดไฟแดง ทำไมไม่ขายตลอด เพราะถึงแม้ฝั่งนี้จะเป็นไฟเขียวแต่ฝั่งอื่นๆ ก็ยังเป็นไฟแดงอยู่ดี ต้องขอบอกเลยว่าถึงจะเป็นเด็กขายพวงมาลัยแต่ก็มีเจ้าถิ่นเจ้าที่เหมือนกัน เคยเกิดเหตุที่เมื่อก่อนนั้นใครจะเดินขายตรงไหนก็ได้ ขอให้เป็นช่วงรถติดแล้วขายได้ก็พอ ในเมื่อต่างคนต่างก็อยากขายของตัวเองให้หมดมันก็เกิดการแย่งลูกค้ากัน เมื่อไม่มีใครยอมใคร ผลสุดท้ายก็จบลงด้วยการใช้กำลัง เจ็บตัวไม่พอ ข้าวของเสียหายอีก หลังจากนั้นมาพวกเขาจึงต้องแบ่งเขตกันไป ห้ามล้ำเขตไปฝั่งอื่นที่ไม่ใช่เขตตัวเองเด็ดขาด ปัญหาการทะเลาะวิวาทจึงไม่เกิดขึ้นอีก

   
   




“น้องๆ” รถคันหนึ่งลดกระจกรถลงเรียกเด็กขายพวงมาลัย
   
“ครับ” คนที่ได้ยินและยืนใกล้ที่สุดก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที “พวงมาลัยมัยมั้ยครับพี่” และการเสนอขายก็เกิดขึ้น
   
เจ้าของรถมองพิจารณาพวงมาลัยที่แขวนอยู่บนไม้หาบ พลางเหล่สายตามองไปยังเด็กขายพวงมาลัยอีกสองคนสลับไปมา
   
“ป้าบ!” เสียงผ่ามือกระทบลงบนศีรษะคนลีลาชักช้า “รีบๆ ซื้อสิมึง น้องเขาได้ไปขายคนอื่นต่อ” เอ่ยเร่งเสียงติดรำคาญ แค่พวงมาลัยหน้ารถพวงเดียวทำไมต้องเลือกนานขนาดนั้น เท่าที่เห็นก็เหมือนๆ กันทุกพวงนั่นแหละ

“เออๆ” รับคำปัดๆ ก่อนจะเงยหน้ามองเด็กขายพวงมาลัย “เอ่อ โทษทีที่ทำให้เสียเวลา นี่พี่ให้ แต่ช่วยเรียกเด็กคนนั้นให้หน่อยได้มั้ย” ยัดแบงก์ห้าสิบให้ แล้วมองไปที่เด็กอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล

“อ้าว แล้วพี่ไม่เอาพวงมาลัยแล้วเหรอครับ” ทำหน้างงๆ ถามกลับ
   
“เอ่อ....” ไม่รู้จะตอบเด็กมันว่ายังไงดี จะบอกว่าอยากได้พวงมาลัยของอีกคนมากกว่าก็กลัวว่าเด็กมันจะไปตีกันทีหลัง

“ไม่เป็นไรพี่ แค่ถามเฉยๆ เดี๋ยวผมเรียกไอ้นะให้” เอ่ยบอกเจ้าของรถอย่างเข้าใจ ตัวเขาไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว ขายได้ก็ดี แต่ถ้าลูกค้าอยากซื้อของคนอื่นมากกว่าก็เป็นสิทธิ์ของคนซื้อ “นะ!” แล้วก็ตะโกนเรียกเด็กตัวเล็กๆ ที่ยืนปาดเหงื่ออยู่ไม่ไกล

เจ้าของชื่อหันมองตามเสียงเรียกก่อนจะเดินเข้ามาหาคนที่กวักมือเรียกอยู่

“มีอะไรรึเปล่าครับพี่อิท” มองหน้าคนเรียกอย่างสงสัย

“กูไม่มีแต่พี่เขามี” บุ้ยปากไปทางเจ้าของรถที่ยังเปิดกระจกรถอยู่ให้เด็กขี้สงสัยหันไปมอง พูดจบก็เดินเลี่ยงออกไปเร่ขายพวงมาลัยให้รถคันอื่นต่อ เพราะเหลืออีกไม่กี่วินาทีก็จะไฟเขียวแล้ว แต่คาดว่ารถที่อยู่ช่วงหลังๆ คงต้องติดไฟแดงอีกรอบแน่ๆ

“พวงมาลัยให้พี่พวงนึงสิ” บอกความต้องการของตัวเองกับเด็กตรงหน้า

"ได้ครับๆ" รีบจัดการหยิบพวงมาลัยให้ลูกค้าทันที

"งืออออออ ฮื้อออออ" แต่ก่อนที่จะส่งพวงมาลัยไปถึงมือคนขับรถก็มีเสียงแปลกปลอมดังมาจากทางเบาะหลัง

"มึงรีบๆ ซื้อดิ๊ จะได้ปิดกระจกรถ ลูกกูร้อน" เสียงที่ดูจะหงุดหงิดได้ที่ดังขึ้นมา สุมนะมองผ่านช่องว่างระหว่างเบาะคู่หน้าไปก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด มีเด็กน้อยอายุน่าจะไม่เกินขวบอยู่ในอ้อมกอด

"เออๆ" รับคำเพื่อนแล้วยื่นมือไปรับพวงมาลัยมา "เท่าไหร่ครับ"

"ยี่สิบบาทครับ"

"นี่ครับ" ยื่นเงินให้ "มะลิยังสดอยู่เลย หอมด้วย" พอพวงมาลัยมะลิสดมาอยู่ในรถที่เปิดเครื่องปรับอากาศก็ทำให้ได้กลิ่นมะลิหอมฟุ้งออกมา ส่วนเจ้าคนขายตัวน้อยก็ยิ้มรับกับคำชมนั้น นึกอยู่ในใจว่ามะลิในสวนบ้านเขาน่ะหอมที่สุดแล้ว

"เย็นป่านนี้ยังสดอยู่ ฉีดฟอร์มาลีนรึเปล่าก็ไม่รู้" แล้วก็มีเสียงลอดมาจากเบาะหลังอีกตามเคย จนคนโดนกล่าวหาชะงักนิ่งไปนิด ส่วนเพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่เบาะหน้าก็ทำหน้าไม่ถูกเหมือนกันที่จู่ๆ เจ้าเพื่อนพ่อลูกอ่อนนี่ก็ปากเสียขึ้นมา

"ไม่ได้ฉีดหรอกครับ มะลินี่คุณยายผมปลูกเอง ที่ยังดูสดเพราะผมเพิ่งออกมาขาย ไม่เหมือนของพวกพี่ๆ คนอื่น ที่ขายมาตั้งแต่เช้ามะลิเลยดูช้ำไปบ้าง" ไขข้อข้องใจด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล บนใบหน้ายังมีรอยยิ้มประดับอยู่ ไม่ได้มีความโกรธเคืองแต่อย่างใด

ใครๆ ก็เข้าใจผิดกันได้ เดี๋ยวนี้มีกลวิธีสารพัดในการขายของ ถ้าคนที่เห็นพวงมาลัยที่ยังสดแม้เวลาจะล่วงเลยไปถึงเย็นแล้วก็ตาม ก็คงต้องสงสัยในความสดของมันเป็นธรรมดา

"ขอโทษแทนเพื่อนพี่ด้วยนะ พ่อลูกอ่อนน่ะ อาจจะเกรี้ยวกราดไปหน่อย หึๆ" เอ่ยขอโทษ แต่ประโยคหลังแอบเหล่สายตาไปด้านหลังแล้วพูดเสียงเบาๆ อมยิ้มกลั้นขำหน่อยๆ

"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับที่อุดหนุน" รับเงินมาแล้วผละออกจากตัวรถ

"แงงงงงงงง ด้วยยยยยยย ฮืออออออ ด้วยยยยยย" แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเด็กน้อยในอ้อมกอดคุณพ่อที่นั่งอยู่เบาะหลังแผดเสียงร้องไห้จ้า โผทะยานพยายามจะแทรกผ่านช่องว่างระหว่างคนขับกับข้างคนขับไปยังหน้าต่างรถ

"น้องทัช ไม่เอาครับไม่ไปนะ อยู่กลับพ่อตรงนี้นะ" ดึงตัวลูกชายกลับมากอดรัดไว้แน่น

"แงงงงงงงงง ด้วยยยยยย" ยังไงก็ร้องไห้ ยื่นมือไปหาคนที่เพิ่งผละออกจากตัวรถไปเมื่อครู่อยู่ดี

"มึงรีบปิดกระจกดิ๊ ลูกกูจะพุ่งออกนอกรถอยู่แล้วเนี่ย!" สั่งเพื่อนอย่างหัวเสีย อะไรกันเห็นหน้ากันแวบเดียวร้องตามเขาเสียแล้วลูกพ่อ

"เออๆ ใจเย็นเว่ยอย่างเพิ่งแดกหัวกู" หันมาส่งยิ้มให้เด็กที่ยังยิ้มกระพริบตาปริบๆ อยู่ข้างรถก่อนที่กระจกรถจะค่อยๆ เลื่อนขึ้น

"เดี๋ยวครับ!" ก่อนที่กระจกรถจะขึ้นจนสุดก็เอ่ยเรียกไว้เสียก่อน จนเจ้าของรถต้องเลื่อนกระจกลงอีกครั้ง

"ฮืออออออ แงงงงงงงงง" ได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อยลอดออกมาก็ยิ่งทำให้นะยิ่งใจเสีย ร่างเล็กปลดพวงกุญแจรูปปลาตะเพียนสาน ที่ส่วนท้องมีกระพวนอันใหญ่เสียงดังกรุ๊งกริ๊งห้อยอยู่ออกมาจากปลายไม้หาบพวงมาลัย

"อันนี้ผมให้น้องครับ" ขยับเข้าไปไกล้หน้าต่างรถอีกนิด ยื่นมือเข้าไปส่งพวงกุญแจให้ เขย่าให้เสียงกระพรวนดังเรียกร้องความสนใจจากเด็กในอ้อมกอดคุณพ่อที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุด แต่เมื่อได้ยินเสียงกระพรวนก็หยุดร้องทันทีราวกับปิดสวิตช์

สุมนะมองหน้าคุณพ่อหน้าเข้มแล้วส่งสายตาเชิงบอกว่าให้รับพวงกุญแจในมือไปเสียที เพราะตอนนี้เด็กน้อยกำลังจะพุ่งตัวมาหาเขาอีกครั้งแล้ว

เมื่อเห็นลูกชายหยุดร้องไห้ทำให้คุณพ่อต้องยอมยื่นมือไปรับเจ้าพวงกุญแจที่มีอานุภาพมากกว่าอ้อมกอดคนเป็นพ่อที่สามารถทำให้ลูกชายเขาหยุดร้องไห้ได้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"ขอบใจ" เสียงทุ้มต่ำกล่าวออกมาพร้อมกับคว้าเอาของในมือไป

"คุยกันข้ามหัวกู ส่งของกันข้ามหน้ากู เอาล่ะ คิดว่ากูคือเบาะรถละกัน" เมื่อคนขับเอ่ยออกมา ทำให้คนที่อยู่นอกตัวรถได้สติ ลนลานกล่าวขอโทษยกใหญ่ คนพูดก็พูดไปงั้นแหละไม่ได้จริงจังอะไรในคำพูดหรอก แต่เด็กมันลนลานกลัวเขาโกรธนี่สิ เห็นแล้วก็สงสารปนเอ็นดู

"เอ่อ......อย่าให้น้องเอาเข้าปากนะครับมันไม่ค่อยจะสะอาดเท่าไหร่" ต้องรีบบอกก่อนเดี๋ยวกลัวว่าน้องเอาเข้าปากไปแล้วเป็นอะไรขึ้นมาจะมาหาว่าเขาฉีดฟอร์มาลีนไว้ในปลาตะเพียนสานอีก

"อืม" รับคำแค่นั้นก็หันไปสนใจลูกชายที่ให้ความสนใจกับเจ้ากระพรวนปลาตะเพียนในมือมากกว่า

"ปรี๊นนนนนนนนนน" รถคันหลังบีบแตรไล่ รถข้างหน้าก็เริ่มขยับไปบ้างเล็กน้อย

"ตายล่ะไฟเขียวร้อยยี่สิบวิมาละ พี่ไปก่อนนะ บ๊ายบาย" บอกลาจบก่อนจะขึ้นกระจกรถจนสุด เคลื่อนรถไปข้างหน้าเรื่อยๆ แม้จะเป็นช่วงไฟเขียวแต่รถติดขนาดนี้ก็เคลื่อนตัวได้ช้าอยู่ดี เผลอๆ อาจได้ติดไฟแดงอีกรอบ

สุมนะขยับมายืนริมขอบทางยามที่รถกำลังเคลื่อนตัว มองตามท้ายรถคันนั้นไปแล้วก็เป็นอย่างที่คาดการณ์ว่าอาจจะติดไฟแดงอีกรอบ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ รถคันนั้นจอดติดไฟแดงอยู่หลังคันข้างหน้าที่จอดคร่อมเส้นขาวไปครึ่งคันแล้ว เห็นแล้วก็ขำ รีบให้ตายยังไงก็ฝ่าไปไม่ทัน จอดครึ่งๆ กลางๆ อยู่บนเส้นขวางล้อหน้าก็เหยียบอยู่บนทางม้าลาย

จากนั้นก็ละความสนใจจากรถคันนั้น ไปเดินขายพวงมาลัยต่อ วันนี้หมายมาดว่าจะต้องขายให้หมด แต่ถ้าไม่หมดจริงๆ ก็ต้องรีบเอากลับไปเข้าตู้เย็นที่บ้าน พรุ่งนี้เช้าก็เอาไปขายที่ตลาดพร้อมกับพวกกล้วยไม้กำที่ใช้ไหว้พระแล้วก็พวงมาลัยที่ยายร้อยเพิ่มสำหรับตลาดเช้าอีก

ยายของเขาก็เป็นห่วงที่เขาต้องตื่นแต่เช้าออกไปขายของที่ตลาด ตอนเย็นก็รีบกลับจากโรงเรียนแล้วออกมาขายพวงมาลัยที่สี่แยกนี่อีก วันๆ หนึ่งแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ เขาทำกัน แต่อีกทางหนึ่งตัวเขาเองก็เป็นห่วงยายที่อายุเยอะแล้ว ร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรง เขารู้ว่ายายชอบหน้ามืดบ่อยๆ เวลาต้องก้มๆ เงยๆ เก็บมะลิในสวน แต่ก็ไม่ยอมไปหาหมอเพราะอยากเก็บเงินเอาไว้ให้เขาเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่ความสามารถของหญิงชราจะมี
   
แม้เกิดมาไม่ได้มีกินมีใช้สุขสบายเหมือนคนอื่นๆ แต่ก็ไม่เคยตัดพ้อโชคชะตาด่าว่าฟ้าดินที่ทำให้เขาเกิดมามีชีวิตแบบนี้ เขาพยายามที่จะทำทุกวิถีทางให้ชีวิตดีขึ้น มีความสุขกับทุกๆ วันที่ได้อยู่กับยาย และตั้งใจเรียนให้สมกับที่ยายพยายามทำเพื่อเขาเหมือนกัน เอาวะ! ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป สู้ๆ สุมนะ!
   






“หือออออ ไหนว่าผมเป็นเด็กน้อยอ้อแอ้ไงครับอานะ แต่นี่เหมือนจะเป็นเด็กน้อยงอแงมากกว่านะครับเนี่ย” เด็กชายทัชที่ได้ฟังเหตุกาณ์ที่คุณอาเล่าก็เอ่ยล้อตัวเองในวัยทารกขำๆ
   
“ฮ่าๆ ๆ ๆ” คนเป็นอาก็หัวเราะขำร่วน นึกไปถึงตอนนั้นก็ขำ เด็กอะไรเห็นหน้าเขาแวบเดียวก็ร้องตามซะแล้ว
   
“ว่าแต่พวงกุญแจกระพรวนปลาตะเพียนที่ว่าน่ะ ใช่อันที่แขวนอยู่กับกุญแจรถคุณพ่อรึเปล่าครับ” เด็กชายทัชตาโตเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้
   
“ใช่แล้วครับ” ตอบกลับแล้วก็ยิ้มให้เจ้าเด็กช่างสังเกต

พวงกุญแจอันนั้นน่ะ จากที่เคยเป็นของเล่นของคนลูกก็กลายมาเป็นเครื่องรางประจำตัวของคนพ่อไปซะแล้วล่ะ สุมนะต้องเอามาเปลี่ยนจากห่วงขดๆ เป็นตะขอเกี่ยวให้แทน เพราะคุณชายท่านเล่นขับรถคันไหนก็เปลี่ยนพวงกุญแจไปแขวนที่กุญแจรถคันนั้น ถอดๆ ใส่ๆ จนตัวกุญแจเป็นรอยขีดข่วนเต็มไปหมด ห่วงก็บิดๆ เบี้ยวๆ ตามกันไป ส่วนพวงกุญแจหรูๆ ประทับตราแบรนด์รถเด่นหราที่มาพร้อมกับกุญแจรถน่ะเหรอ โดนถอดทิ้งไว้ที่ไหนสักแห่งในห้องเก็บของนั่นแหละ
   
“แล้วหลังจากนั้นเป็นไงต่อครับ”
   
“ไม่ยังไงต่อแล้วครับ ถึงบริษัทแล้วครับว่าที่ท่านประธาน” หันไปพูดยิ้มๆ กับเด็กขี้สงสัย พลางเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าตึกของบริษัทพลาสติกแห่งหนึ่ง
   
“โหยยยยยย ไรอะ ทีตอนก่อนอานะจะเล่าเรื่องให้ฟังรถก็ติดไฟแดงน้านนาน ไหงพออานะเล่าเรื่องให้ฟังปุ๊บยังไม่ทันถึงไหนเลยถึงบริษัทซะแล้ว” เด็กน้อยทำหน้ามุ่ยใส่ เพราะกว่าจะได้รู้เรื่องราวของคุณพ่อกับคุณอาน่ะมันยากยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
   
“ฮ่าๆ ๆ ๆ ถ้าอยากรู้เรื่องต่อจากนั้นก็ไปถามคุณพ่อดูสิ” สุมนะหัวเราะกับท่าทางของเด็กชาย
   
“หงึ!” แทบจะกรอกตาเป็นเลขแปดไทย เมื่อคุณอาบอกให้ไปถามเรื่องราวต่อกับคุณพ่อ
   
“ไม่งั้นก็ไปถามลุงต่อกับอาต้นดูสิครับ” เห็นท่าทางอยากรู้เอามากๆ ของเด็กชายทัชแล้วก็ทั้งขำทั้งเอ็นดู
   
“จริงด้วย!” ตาลุกวาวทันทีที่ได้ฟังอานะพูดแนะแนวทาง “แต่ผมว่าฟังจากปากคุณพ่อน่าจะดีกว่า ผมมีวิธีแล้ว ส่วนลุงต่อกับอาต้นไว้ค่อยถามทีหลังเผื่อคุณพ่อโกหก หึๆๆ” ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับแผนการในหัว ก่อนคนเจ้าแผนการจะคว้ากระเป๋านักเรียนที่เบาะหลัง แล้วเปิดประตูรถกระโดดตัวปลิวเข้าบริษัทไป
   
สุมนะมองตามไปก็ยิ้มขำ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีน้องทัชก็ยังเป็นเด็กน้อยน่ารักที่เขาเอ็นดูตั้งแต่แรกเห็นอยู่ดี แต่ตอนนี้คงต้องบวกความเจ้าเล่ห์เพิ่มเข้าไปอีก เนี่ย ถอดแบบมาจากคนพ่อไม่มีผิด! สำเนาถูกต้องจริงๆ








TBC





...................................................................
คุยกันโหน่ยยยยยยย

เหมือนเป็นนิยายรายสองเดือนเลย หลังจากโปรยอินโทรไปก็กว่าจะได้มาต่อให้ก็ปาไปสองเดือนแล้ว อย่าเพิ่งสาปแช่งคนแต่งนะ

ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเลย เพราะหลังจากลงอินโทรไปก็ไม่ได้แตะต้องนิยายเรื่องนี้ต่อเลยจริงๆ *หลบรองเท้า*

แบบว่าตอนแรกที่แต่เรื่องนี้เพราะมันว่างมากค่ะ ว่างแบบว่างจริงๆ ไม่มีอะไรทำ ก็เลยเอาวะ แต่งนิยายซักเรื่องละกัน แล้วก็ได้อินโทรของเรื่องนี้มานั่นแหละค่ะ แต่พอลงอินโทรไปปุ๊บ ก็..... บู้ม!!! เกิดเป็นโกโก้ครันช์ งานเข้ารัวๆ เลยจ้าาาาาาาาาาา ไม่ได้หลับได้นอนกันเลยที่เดียว จะแต่งนิยายทีก็ได้มาบรรทัดสองบรรทัด พิมพ์ๆ ลบๆ เพราะอารมณ์มันไม่ต่อเนื่องกัน เฮ้อออออออออ

แต่ตอนนี้ก็มาลงต่อให้แล้วเนอะ ส่วนตอนต่อไปก็........อืม.......นั่นแหละ ยังไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ ฮ่าๆๆๆๆ

เจอกันตอนหน้าค่า

ว่าแต่เรื่องนี้พระเอกคือน้องทัชใช่มั้ยนะ ฮ่าๆๆๆ

ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายฟีลกู๊ด ไม่ดราม่าแน่นอน เพราะคนแต่งไม่ใช่สายดราม่าเน้ออออ





ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 1 (16/12/62)
«ตอบ #7 เมื่อ16-12-2019 13:28:12 »

 เนื่องเรื่องน่าสนใจจจจ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 1 (16/12/62)
«ตอบ #8 เมื่อ17-12-2019 00:00:06 »

อย่าหายไปนานนะจ๊ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 1 (16/12/62)
«ตอบ #9 เมื่อ17-12-2019 08:32:30 »

ติดตามค่ะ คนเขียนมาต่อเร็ว ๆน้าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 1 (16/12/62)
« ตอบ #9 เมื่อ: 17-12-2019 08:32:30 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 1 (16/12/62)
«ตอบ #10 เมื่อ17-12-2019 12:38:43 »

โอ้ยย น่ารักกกก เข้ามาเพราะ ชื่อเรื่อง พออ่านปุ๊บ ชอบมากกกกกก เอ็นดูน้องทัช พระเอกของเรื่อง เอ่ะใช่มั้ย 5555555555

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 1 (16/12/62)
«ตอบ #11 เมื่อ17-12-2019 19:27:01 »

 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 2 (17/12/62)
«ตอบ #12 เมื่อ17-12-2019 22:22:25 »

ตอนที่ 2


“ก๊อกๆ ๆ” เคาะประตูตามมารยาทที่ดีก่อนจะค่อยๆ ผลักเข้าไป ศีรษะเล็กโผล่มาจากช่องว่างของประตูที่เจ้าตัวแง้มไว้นิดๆ

“จะเข้าก็เข้ามาอย่าลีลามาก พ่อไม่ว่างเล่นด้วย” เสียงทุ้มๆ ดังมาจากคนที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ มุมโต๊ะมีป้ายไม้สลักชื่อตัวอักษรสีทองดูโดดเด่นเป็นสง่าว่า ‘ณธร วรโชติอนันต์’ ส่วนบนโต๊ะก็เต็มไปด้วยเอกสารมากมาย แถมคนพูดยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองด้วยซ้ำว่าใครมาทำลับๆ ล่อๆ อยู่ที่ประตูห้องทำงาน

“โหยยยย ไม่หนุกเลย คุณพ่อรู้ได้ไงว่าเป็นผม ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลยแท้ๆ” เมื่อถูกจับได้เจ้าโจรย่องเบาก็ต้องยอมเผยตัว เดินเข้าไปในห้องทำงานของผู้เป็นพ่อดีๆ

“เคาะประตู แต่ไม่มีเสียงพูดอะไร ก็มีแต่เราคนเดียวแหละไอ้ลูกหมา”

“นี่คุณพ่อว่าตัวเองเป็นหมาทำไม” ถามกลับหน้าตาย

“พ่อไม่ได้ว่าตัวเองสักหน่อย”

“ก็เมื่อกี้คุณพ่อเรียกผมว่าไอ้ลูกหมาอะ งั้นคุณพ่อก็เป็น......” พูดแค่นั้นและก็ละคำพูดที่เหลือไว้ ฉีกยิ้มให้คนเป็นพ่อที่เงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นตีหน้ายักษ์ใส่ลูกชาย

“ไอ้ลูกหมานี่!” ขยำกระดาษเป็นก้อนแล้วก็ปาใส่หัวลูกชายอย่างแม่นยำ

“แกร๊ก” แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่สุมนะเปิดประตูเข้ามาพอดี

สองพ่อลูกนิ่งค้างมองคนที่ยืนอยู่หน้าประตู คนลูกยกหมอนอิงขึ้นมาบังหัว ส่วนคนพ่อนั้นมีก้อนกระดาษอยู่ในมือที่เงื้อจนสุด

“ทำอะไรกันครับ” ถามเรียบๆ มองสองพ่อลูกสลับไปมา

“เปล่าครับ/เปล่าครับ” ตอบอย่างพร้อมเพรียงราวกับนัดกันมา

สุมนะเดินเข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตูให้เรียบร้อย สายตายังคงจ้องมองไปยังสองพ่อลูก คนลูกลดกาดที่ตั้งรับลง ส่วนคนพ่อก็นั่งลงทำงานตามเดิม เมื่อเห็นท่าทางเฉไฉของสองพ่อลูกแล้วสุมนะก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ซึ่งทั้งสองก็คงจะหาเรื่องตีกันเป็นเด็กๆ อีกตามเคยนั่นแหละ

“พี่ธรทำงานเสร็จรึยังครับ” สุมนะเดินเข้าไปยืนใกล้ๆ ชะโงกหน้าเข้าไปดูเอกสารที่ยังกองอยู่เต็มโต๊ะ รอท่านประธานลงลายเซ็น

“ใกล้แล้วครับ มีที่ต้องเซ็นด่วนๆ อยู่สองสามชุด ที่เหลือไว้พี่ค่อยมาทำต่อพรุ่งนี้ นะไปนั่งรอกับลูกก่อนก็ได้” เงยหน้าจากกองงานขึ้นมาตอบพร้อมส่งยิ้มหวานให้คนถามเล็กน้อย

“โอเคครับ” พยักหน้ารับคำเสร็จก็มานั่งลงข้างเด็กชายทัชที่ตอนนี้นั่งเงียบจมดิ่งไปกับเกมในมือถือไปเสียแล้ว

“คุณเกด ผมขอเอกสารอนุมัติซื้อเครื่องจักรใหม่อีกชุดนึงสิ ขอตอนนี้เลยนะ” คนที่นั่งทำงานต่ออินเตอร์โฟนขอเอกสารจากเลขาที่ทำงานอยู่หน้าห้อง

“ค่ะ ท่านประธาน” เสียงเลขาสาวตอบกลับมา เจ้าของห้องจึงตั้งใจทำงานต่อให้เสร็จ

“เอกสารมีปัญหาเหรอครับพี่ธรถึงต้องขอใหม่” สุมนะเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะจำได้ว่าเขาเป็นคนตรวจเอกสารฉบับนี้เองก่อนจะเอามาวางไว้ให้ท่านประธานเซ็นอนุมัติ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วนะ

“เอ่อ คือว่า......” เมื่อได้ยินเสียงถามอย่างนั้นก็ถึงกับสะดุ้ง จะให้บอกได้ไงละว่าเอกสารมันไม่ได้มีปัญหา แต่มัน....

“นี่ครับอานะ” เด็กชายทัชยื่นบางอย่างให้คุณอาพร้อมยักคิ้วให้คนเป็นพ่อที่ถลึงตาใส่ลูกอยู่ที่โต๊ะทำงาน ชี้หน้าคาดโทษลูกชายที่หางานให้ตน อีกไม่เกินห้าวินาทีเขาต้องโดนเมียดุแน่ๆ นับถอยหลังได้เลย

ก้อนกระดาษยับยู่ยี่ถูกคลี่ออก เนื้อหาในกระดาษว่าด้วยเรื่องฝ่ายผลิตขออนุมัติซื้อเครื่องจักรชุดใหม่ ไม่ต้องอ่านจนจบก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือเอกสารชุดเดียวกับที่เขาตรวจทานให้ก่อนจะให้ท่านประธานเซ็น และเป็นชุดเดียวกับที่ท่านประธานเพิ่งจะขอให้เลขาเอามาให้ใหม่เมื่อครู่นี้

“คุณณธรครับ!” เสียงเรียกดังขึ้นข้างตัวจนเจ้าของชื่อสะดุ้งนั่งหลังตรงทันที

“ครับ!”

“ทำไมเล่นอะไรเป็นเด็กแบบนี้ครับ เนี่ย! เห็นมั้ยครับว่ามันเสียเวลา งานก็เสียไปหมดเลย แถมยังไปเพิ่มงานให้พี่เกดอีก ถ้าจะเล่นแบบนี้ค่อยกลับไปเล่นที่บ้าน” ดุยาวเป็นชุด หน้าตาขึงขังจนณธรไม่กล้าเถียง

“ก็เจ้าแสบมันกวนตีนพี่อะ”

“แล้วพี่ต้องไปเล่นตามลูกเหรอครับ เนี่ยเห็นมั้ย งานเสียหมดเลย”

“คิกคิก” เห็นพ่อโดนดุเด็กชายทัชยิ่งชอบใจ

“เราก็ด้วยน้องทัชชอบยั่วอารมณ์คุณพ่อตลอด” ก็รู้แหละว่าสองพ่อลูกน่ะไม่ได้ทะเลาะกันจริงจังหรอก ออกแนวแกล้งกันด้วยความหมั่นไส้มากกว่า แต่พอมาทำให้งานเสียหายแบบนี้ก็ต้องดุกันบ้าง

เมื่อลูกชายโดนดุบ้างคนเป็นพ่อก็เยาะเย้ยกลับ แอบแลบลิ้นใส่ลูกด้วย แต่ก็ไม่พ้นสายตาของสุมนะอยู่ดี

“พี่ธร!”

“ขอโทษครับเมีย” ไถเก้าอี้เข้าไปใกล้ๆ กอดเอวสุมนะไว้แล้วแนบหน้าลงกับหน้าท้องถูไถไปมาพอให้ได้รู้สึกจั๊กจี้

“ปล่อยเลยครับพี่ธรแล้วไปทำงานต่อเดี๋ยวนี้เลย” แกะมือปลาหมึกที่เริ่มอยู่ไม่นิ่งออก เอ่ยสั่งท่านประธานเสียงเรียบแล้วผละออกมา “เดี๋ยวผมไปเอาเอกสารที่พี่เกดให้ สงสารคนท้องให้เดินไปเดินมาน้องได้ออกมาดูโลกก่อนกำหนดกันพอดี”

ณธรมองตามหลังสุมนะที่ออกไปเอาเอกสารที่เลขาหน้าห้องให้ก็ยิ้มตาม รู้สึกดีจริงๆ ที่มีคนๆ นี้เข้ามาในชีวิต มีคนที่รักเขารักลูก ครอบครัวก็เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้น ชีวิตมีสีสันมากขึ้น

นึกถึงครั้งแรกที่เจอกับเด็กขายพวงมาลัยคนนั้น กับมุกเสี่ยวๆ ของเพื่อนที่พูดออกมาจนเขาถึงกับยิ้มเย้ยหยันให้กับคำพูดของมัน นึกแล้วอยากย้อนเวลากลับไปเถียงตัวเอง กลับไปตบกะโหลกตัวเองที่โคตรจะขวางโลกจริงๆ






"มึงนะมึงไอ้ธร ปากมึงนี่จริงๆ เลย" จังหวะที่รถติดไฟแดงอีกรอบผู้ทำหน้าที่คนขับก็หันกลับมาต่อว่าเพื่อนที่กำลังล่อลูกชายด้วยกระพรวนปลาตะเพียนอยู่ที่เบาะหลัง
   
"อะไรของมึง" เหลือกตามองเพื่อนนิดนึงแล้วสนใจลูกชายต่อ
   
"ไอ้ต่อคงหมายถึงที่มึงไปกล่าวหาว่าพวงมาลัยน้องเขาฉีดฟอร์มาลีนน่ะ" เพื่อนอีกคนช่วยขยายความ
   
"ใครจะไปรู้ เย็นป่านนี้แล้วมะลิยังขาวสดอยู่เลย" ตอบอย่างไม่ใส่ใจ
   
"เฮ่ออออ" ถอนหายใจ ส่ายหัวระอาให้เพื่อนจอมขวางโลก
   
"ช่างแม่งไอ้ธรมันเถอะ แล้วทำไมมึงถึงไม่ซื้อของเด็กอีกคนวะ ให้เงินเด็กมันไปมากกว่าราคาพวงมาลัยที่น้องตัวเล็กขายอีก"
   
"ก็เพราะมะลิสดกว่านั่นแหละ ร้อยแน่นกว่าด้วย เห็นปะมองไม่เห็นเชือกร้อยเลย" จับพวงมาลัยที่แขวนที่กระจกมองหลังให้เพื่อนดู
   
"อืม จริงด้วย"
   
"แล้วอีกอย่างมึงดู อุบะที่ห้อยต่อจากตุ้มดอกมะลิดิ"
   
"ทำไม มันก็ดูเหมือนๆ กันไม่ใช่เหรอวะ" ตัวเขาดูก็เหมือนๆ กันหมดอะ เป็นสายดอกรักปิดปลายด้วยกุหลาบดอกเล็ก แต่เพื่อนข้างๆ นี่ค่อนข้างเลือกมากไปนิด ละเอียดยิบไปซะทุกอย่าง
   
"ก็ของเด็กคนนั้นเป็นดอกรักปลอม"
   
"ดอกรักปลอม? ดอกรักพลาสติกอะนะ" ต่อพยักหน้าแทนคำตอบว่าใช่ "ทำไมวะ ดอกรักสดมันราคาแพงกว่าดอกพลาสติกเหรอวะ" เอ่ยออกมาอย่างสงสัยแต่ไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจังหรอก

“ถามเจ้าของบริษัทพลาสติกดูดิ” เหล่สายตาไปทางพ่อลูกอ่อนข้างหลัง

“กูไม่ได้ขายดอกไม้สด” ก็เป็นอันว่าไม่มีคำตอบให้เพราะเขาขายพลาสติกไม่ได้ขายดอกไม้สดเลยไม่รู้ว่าราคามันต่างกันยังไง
   
"สงสัยเพราะรักแท้มันหายากล่ะมั้ง หึหึ" พูดจบก็แอบกลั้นขำกับมุกของตัวเอง เล่นไปได้ไงวะ เพราะรักแท้มันหายาก
   
"หึ!" มีเสียงเล็ดลอดมาจากข้างหลัง ไม่ใช่เสียงกลั้นขำ ไม่ได้หัวเราะชอบใจในมุกเสี่ยวของเพื่อน แต่เหมือนเป็นเสียงเย้ยหยันกับอะไรสักอย่าง อะไรสักอย่างที่เรียกว่าความรัก บวกกับการยกยิ้มมุมปากแบบนั้นทำให้เพื่อนสองคนข้างหน้ารู้เลยว่าเพื่อนของพวกเขาไม่ศรัทธาในความรักอีกแล้ว
   
รักแท้.....สำหรับ ‘ณธร วรโชติอนันต์’ คงจะหายากจริงๆ นั้นแหละ....





“หึ!” ยกยิ้มมุมปาก คิดถึงตอนนั้นก็รู้สึกสงสารตัวเองในอดีต แต่ตอนนี้เชิญอิจฉาตัวเองที่มีความสุขเยอะๆ เลย

“ยิ้มๆ ปากจะฉีกถึงหูแล้วครับท่านประธาน” เสียงลูกชายเอ่ยแซวขัดความสุขคนเป็นพ่อจนต้องหันมาแยกเขี้ยวให้แทน

“อิจฉาเหรอ” ถามลูกชายกวนๆ

“ผมจำเป็นต้องอิจฉาคุณพ่อด้วยเหรอครับ” นั่นสินะ จำเป็นต้องอิจฉาด้วยเหรอในเมื่อทั้งเขาทั้งลูกก็มีความสุขเหมือนๆ กัน สุมนะคือความสุขของเขาสองพ่อลูกจริงๆ

หลังจากที่สุมนะเอาเอกสารชุดใหม่มาให้สองพ่อลูกก็เข้ามุมใครมุมมัน ณธรก็ตั้งใจทำงานไป ส่วนเด็กชายทัชก็ตั้งใจเล่นเกม

สุมนะนั่งมองคนที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่ตอนนี้ มันช่างรู้สึกแตกต่างจากที่รู้จักแรกๆ เป็นอย่างมาก ณธรคนเก่าทั้งหน้าบึ้งไร้ซึ่งรอยยิ้ม แต่ณธรคนนี้หน้าตาสดใสมีรอยยิ้มสว่างไสวมอบให้เขาเสมอ

ใช้เวลาไม่นานท่านประธานก็สะสางงานส่วนที่รีบเร่งจนเสร็จ เตรียมพร้อมกลับบ้านได้แล้ว

ณธรลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหยิบเสื้อสูทที่พาดอยู่บนเก้าอี้มาพาดแขนเอาไว้ เปิดลิ้นชักหยิบบางอย่างออกมาใส่กระเป๋ากางเกง

“กรุ๊งกริ๊ง” เสียงกระพรวนดังขึ้นทำให้เด็กชายทัชหูผึ่งปิดเกมอย่างรวดเร็ว ตรงรี่มาหาคนเป็นพ่อจนมองตามแทบไม่ทัน

“มีอะไรเจ้าแสบ” เอ่ยถามลูกชายที่จู่ๆ ก็ผุดลุกพุ่งมาอยู่ตรงหน้า

ณทัชไม่ตอบแต่สายตามองไปยังกระพรวนที่ห้อยออกมาจากระเป๋ากางเกงคนเป็นพ่อ เหมือนจะรู้ทันสายตาเจ้าเล่ห์นั่นณธรรีบเอามือตะครุบเจ้ากระพรวนไว้แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ เมื่อลูกชายคว้ามันออกมาจากกระเป๋ากางเกงของพ่อได้ซะก่อน

“เสร็จล่ะ!” ร้องออกมาด้วยความดีใจที่ได้สิ่งที่ต้องการมาอยู่ในมือ

“เจ้าแสบเอาของพ่อคืนมา” รีบขอคืนจากลูกทันที

“หืม? ของคุณพ่อที่ไหน ของผมต่างหาก เนอะอานะ” หันไปหาสุมนะที่ส่ายหน้าให้กับสองพ่อลูกตรงหน้า อยู่นิ่งๆ คนละมุมได้ไม่เท่าไหร่ก็หาเรื่องปวดหัวมาให้เขาอีกแล้ว

ณธรพยายามคว้าของมาจากมือลูกชาย ที่ก็หมุนตัวหลบอย่างรวดเร็ว แต่คราวนี้ณทัชกลับยัดเข้ากระเป๋ากางเกงเรียบร้อยแบบไม่โผล่หางออกมาให้ฉกคืนเลย

“อะ อันนี้ผมคืนให้” ยัดกุญแจรถหรูเปล่าๆ ที่ถอดพวงกุญแจออกแล้ว ซึ่งตัวรถจอดอยู่ที่บ้าน แต่ก็ยังพกกุญแจมาด้วย จริงๆ ก็ไม่ได้พกกุญแจหรอก พกพวงกุญแจต่างหาก

วันนี้ณธรมีประชุมแต่เช้า จึงต้องรีบเข้าบริษัท ไม่ได้ไปส่งน้องทัชที่โรงเรียนพร้อมกับสุมนะเหมือนที่ทำทุกวัน วันนี้จึงมีแค่คุณอานะที่ไปรับไปส่งเจ้าตัวแสบที่โรงเรียน ส่วนคนพ่อก็ให้คนขับรถที่บ้านขับมาส่งที่บริษัท เพื่อที่ตอนเย็นจะได้ขับรถของสุมนะกลับด้วยกัน

“แล้วจะมาถอดพวงกุญแจพ่อไปทำไมล่ะเนี่ย”

“ไม่ใช่ของพ่อสักหน่อย อานะบอกว่าพวงกุญแจอันนี้อานะให้ผม”

“นะเล่าให้ลูกฟังเหรอ” หันมาถามคนที่ยืนจัดเรียงเอกสารที่เขาเพิ่งเซ็นเรียบร้อยเตรียมเอาไปส่งต่อให้เลขาจัดการอีกที

“ครับแค่ตอนเจอกันครั้งแรก” พยักหน้ารับว่าได้เล่าไปแล้วจริงๆ

“คุณพ่อไม่เห็นจะต้องหวงขนาดนั้นเลย”

“ก็อยากเก็บไว้เป็นโมเมนต์ส่วนตัวของพ่อกับแม่ไม่ได้รึไงไอ้แสบ” ผลักหัวลูกชายไปทีอย่างหมั่นไส้

“พี่ธร....พูดอย่างนี้อีกแล้วนะครับ” สุมนะเป็นต้องสะดุ้งทุกทีที่ณธรให้เขาเป็นแม่ ตัวเขานั้นเป็นผู้ชายจะให้มาเป็นแม่ของน้องทัชหรือให้น้องทัชเรียกแม่ก็ยังไงๆ อยู่ และอีกอย่างเขาไม่อยากลดความสำคัญของแม่ที่แท้จริงของน้องทัช ไม่อยากให้รู้สึกว่าเขาเข้ามาแทนที่แม่ของเจ้าตัว

เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการคุยอย่างจริงจัง และก็ไม่รู้ด้วยว่าณทัชรู้สึกอย่างไร รู้เพียงแต่ว่าทุกวันนี้น้องทัชยอมรับเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพ่อของเจ้าตัว แค่นี้สุมนะก็คิดว่ามันดีที่สุดแล้ว

“กลับบ้านกันเถอะ” ณธรรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้คนรักคิดมาก คิดมากทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรให้ต้องคิดด้วยซ้ำ เจ้าตัวแสบก็รักสุมนะยิ่งกว่าที่รักเขาเสียอีก แล้วอย่างนี้จะต้องกลัวอะไรอีก “แล้วเรา ไอ้ตัวแสบ คืนพวงกุญแจมาให้พ่อด้วย”

“คืนให้ก็ได้ แต่ผมมีข้อแลกเปลี่ยน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นทันที ณธรรู้เลยว่างานนี้เขาเสียเปรียบแน่ๆ

“แลกเปลี่ยนอะไร”

“เล่าเรื่องระหว่างพ่อกับอานะในช่วงก่อนผมจำความได้ให้ผมฟังตั้งแต่ต้น” คราวนี้แหละเรื่องราวที่คุณพ่อหวงนักหวงหนาไม่ยอมเล่าให้ฟัง เขาจะต้องรู้ให้ได้ เขาก็รักอานะนะ จะให้คุณพ่อมาเก็บโมเมนต์ไว้คนเดียวได้ยังไง เด็กชายทัชต้องมีส่วนร่วมด้วยสิ จริงๆ ก็มีส่วนร่วมมาตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ นี่คิวปิดของคุณพ่อกับอานะเลยนะ ลุงต่อบอกมา

“โอเคๆ เล่าก็ได้ จะอยากรู้อะไรนักหนาน่ะไอ้ตัวแสบ” เป็นอันต้องยอมจำนนยอมแพ้ ส่ายหน้าเอือมๆ ให้ลูกชายตัวแสบ

“งั้นคืนนี้ผมไปนอนด้วยนะ โอเคกลับบ้านกันนนนน” พูดจบก็เดินออกจากห้องไปอย่าร่าเริงทันทีไม่รอคุณพ่อคุณอาที่ยังยืนงงอยู่ที่เดิมเลย

“นี่พี่ต้องเสียเปรียบขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” หันไปถามคนข้างๆ ขำๆ

“พี่ธรมีทางเลือกด้วยเหรอครับ ถ้าอยากได้พวงกุญแจนั่นคืนก็ต้องยอมน้องทัชแล้วล่ะครับ”

ทั้งคู่ยิ้มให้กันก่อนจะเดินจูงมือกันออกจากห้องเพื่อจะเดินทางกลับบ้านที่ทั้งสามคนอาศัยอยู่ร่วมกัน

“นี่เอกสารที่ท่านประธานเซ็นเรียบร้อยแล้วครับพี่เกด” สุมนะยื่นเอกสารให้เลขาสาวที่นั่งท้องโย้เคี้ยวมะม่วงดังกร้วมๆ อยู่ที่โต๊ะทำงานหน้าห้องท่านประธาน

“โอ๊ะ! ขอบใจจ้ะน้องนะ นี่จะกลับกันแล้วเหรอคะ” รับเอกสารมาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะเอ่ยถามเพราะเห็น้องทัชยืนสะพายกระเป๋านักเรียนรออยู่ตรงโถงทางเดินแล้ว เมื่อกี้ก็เพิ่งแวะมาทักทายน้องในท้องแป๊บนึงแล้วล่ะ

“ครับ พี่เกดก็กลับได้แล้วนะครับ”

“แล้วนี่ไอ้ต่อยังไม่มารับอีกเหรอ” ณธรเอ่ยถามเลขาของเขา เพราะสามีของเธอคือเพื่อนสนิทของเขานั่นเอง

“ใกล้จะถึงแล้วล่ะค่ะ” เอ่ยตอบเจ้านายยิ้มๆ

“อืม งั้นผมกลับก่อนคุณเกดก็ปิดคอมเก็บของรอไอ้ต่อเลยก็ได้ มันมาแล้วจะได้รีบกลับเลย” บอกกับว่าที่คุณแม่อย่างเป็นห่วง เพราะท้องก็เริ่มโตมากแล้วด้วยอายุครรภ์ห้าเดือน และตั้งแต่เดือนหน้าไปเกตุวดีก็ขอลาคลอดเรียบร้อยแล้ว ไปนอนอยู่บ้านให้สามีเลี้ยงสบายๆ

“ค่ะท่านประธาน”

“ปะ กลับกัน เจ้าแสบกดลิฟท์รอละ” แตะข้อศอกสุมนะเบาๆ เป็นเชิงบอกว่าได้เวลากลับกันจริงๆ แล้ว

“คืนนี้น้องทัชจะมานอนด้วย ผมต้องเตรียมยาแก้ปวดไว้มั้ยครับเนี่ย”

“ฮ่าๆ ๆ ๆ ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ขนาดนั้นแหละครับ รู้มั้ยว่าเวลาพี่กับน้องทัชอยู่ด้วยกันทีไรผมเหมือนเลี้ยงเด็กสองคน นึกจะตีก็ตีกัน พอเลิกตีกันก็รวมหัวกันมาแกล้งผม”

“ก็ไอ้แสบมันชอบกวนตีนพี่นะก็เห็น”

“แต่พี่ก็เล่นไปตามเกมของน้องทัชอะ นะปวดหัวทุกที” ถึงจะบอกว่าปวดหัวแต่หน้าตาคนพูดดูมีความสุขมาก รอยยิ้มประดับอยู่บนหน้าตลอดเวลา

“หึ! คืนนี้เตรียมปวดหัวกันได้เลย”

“ทำไมพี่ธรไม่เล่าเรื่องของเราให้น้องทัชฟังละครับ ทีเมื่อก่อนยังเที่ยวโม้เที่ยวอวดกับเพื่อนๆ ไปทั่วอยู่เลย พอน้องทัชโตแล้วทำไมไม่อวดล่ะครับ นี่ผมก็นึกว่าพี่อวดไปหมดแล้วนะเลยไม่เคยเล่าอะไรให้น้องทัชฟังเลย”

“โถ่....นะก็ดูพี่ตอนเจอนะแรกๆ สิ พูดจาก็ไม่ดี ทำตัวขวางโลก น่าเอามาอวดลูกที่ไหน ไม่เท่เลย พี่ก็อยากเท่ในสายตาลูกเหมือนกันนะ” โถถถถ คุณพ่อ กลัวไม่เท่นี่เอง

“แต่พี่ก็ยังอวดนะกับเพื่อนๆ ได้เลยนี่ครับ”

“มันไม่เหมือนกันนี่ นั่นเป็นการอวดเมีย” ใช่ตอนนั้นอวดความน่ารักของคนข้างๆ นี่ไปทั่ว จนเพื่อนๆ หมั่นไส้ แต่นี่ต้องมาเล่าเรื่องตัวเองเลยนะ มันไม่เท่อะ

“เมียอะไร ตอนนั้นผมยังไม่คบกับพี่เลยเถอะ อย่ามามั่ว ห้ามเล่าผิดๆ ด้วยนะ” ต้องพูดดักไว้ก่อนกลัวเหลือเกินว่าคนข้างๆ นี่จะเจ้าเล่ห์เขียนนิยายเรื่องใหม่ขึ้นมาเล่าลูกฟัง

“คร้าบๆ จะเล่าตามความจริงทุกอย่างเลยครับ”

“จะยืนคุยงุ้งงิ้งๆ กันสองคนอีกนานมั้ยครับ ลิฟท์มารอนานแล้วน้า” แล้วเสียงเจ้าตัวแสบก็ขัดขึ้นมาซะก่อน เจ้าตัวกดลิฟท์รอคุณพ่อกับคุณอานานแล้วนะ ไม่เข้าลิฟท์มาสักที ยืนคุยกันอยู่นั่นแหละ

“ขอโทษที่ทำให้รอนานนะครับคุณณทัช” เข้ามาในลิฟท์ได้ก็แขวะลูกชายไปที

สุมนะที่เดินตามเข้ามาก็อมยิ้มขำๆ กับสองพ่อลูก ณธรชอบหาว่าลูกกวนตีน แต่หารู้ไม่ว่าตนก็กวนไม่แพ้คนลูกเท่าไหร่หรอก เอ๊ะ!? ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าลูกไม้น่ะหล่นไม่ไกลต้นต่างหาก พ่อเป็นยังไงลูกก็เป็นอย่างนั้น เนี่ย! สำเนาถูกต้องอีกแล้ว




TBC.

………………………………………
มาต่อแล้วน้า...... ตอนนี้มาเร็วหน่อย เนื้อเรื่องยังไม่ไปถึงไหนเลย แต่ตอนหน้าเรามาย้อนอดีตอย่างเต็มรูปแบบกัน!!! มาเจอน้องทัช พระเอก(?) ของเราในเวอร์ชั่นจิบิ ตัวเล็กตัวน้อย

เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะคะ *หมอบกราบ*

ตอนต่อไปจะอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ถ้ามีคอมเมนท์กำลังใจจากคนอ่านเยอะๆ อาจจะมาเร็วก็ได้(ไม่แน่) อิอิ

เจอกันตอนหน้าค่ะ บายยยยยย





ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 2 (17/12/62)
«ตอบ #13 เมื่อ18-12-2019 07:19:35 »

น่ารักดี รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 2 (17/12/62)
«ตอบ #14 เมื่อ18-12-2019 07:57:29 »

ชอบมากกกกชอบแนวนี่ที่สุดดเเ
รักเลยๆๆๆๆๆ
รีบมาต่อน้าา

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 2 (17/12/62)
«ตอบ #15 เมื่อ18-12-2019 15:11:33 »

น่ารักดีนะ
 :really2: :really2:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 2 (17/12/62)
«ตอบ #16 เมื่อ19-12-2019 11:49:05 »

เป็นแม่เลี้ยงนี่น่าจะเหนื่อยอ่ะ5555

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
Re: ก่อนมะลิบาน UP ตอนที่ 2 (17/12/62)
«ตอบ #17 เมื่อ20-12-2019 13:18:30 »

พ่อลูกตีกัน น่าเอ็นดูวว แข่งกันรักสุมนะไปอี๊ก 
จะเจอน้องทัชจิบิ แล้วว

เรื่องน่ารักมากๆค่ะ ชอบบบบบบ  :katai2-1:

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ก่อนมะลิบาน UP แจ้ง (16/03/63)
«ตอบ #18 เมื่อ16-03-2020 09:44:22 »

ถึง...คนอ่านทุกคนค่ะ

ไม่รู้ว่ายังมีใครรออ่านเรื่องนี้อยู่มั้ย (น่าจะยังมีแหละเนอะ) ขอโทษที่หายไปนานนะคะ แต่วันนี้มีเรื่องจะมาแจ้งทุกคน คนแต่งไม่ได้หายไปไหนนะคะ แต่ด้วยภารกิจงานยุ่งเหยิงมากเลยมาไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นจึงขอแจ้งทุกคนว่า เรื่องนี้คนแต่งขออนุญาตแต่งให้จบเรื่องหรือแต่งให้เรื่องดำเนินไปเกินครึ่งทางก่อนนะคะแล้วจะนำมาลงให้อ่าน ไม่อยากให้เส้นเรื่องมันดูแปลกหรือไม่ปะติดปะต่อถ้าแต่งไปลงไป และที่สำคัญคือไม่อยากให้คนอ่านรู้สึกเซ็งที่อ่านไปแล้วคนแต่งหายไปนานไม่ลงสักทีจนไม่อยากรอแล้วอะไรแบบนี้ อยากให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านนิยายของเรา ยังไงก็ต้องขอโทษทุกๆ คนไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ เราจะกลับมาลงต่อจนจบแน่นอนค่ะ!! สัญญา

รักคนอ่านทุกคน
Little_porcupine

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: ก่อนมะลิบาน UP แจ้งข่าว (16/03/63)
«ตอบ #19 เมื่อ16-03-2020 11:34:01 »

จะรอน๊าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ก่อนมะลิบาน UP แจ้งข่าว (16/03/63)
« ตอบ #19 เมื่อ: 16-03-2020 11:34:01 »





ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
Re: ก่อนมะลิบาน UP แจ้งข่าว (16/03/63)
«ตอบ #20 เมื่อ18-03-2020 16:03:02 »

รับทราบค่าา ชอบเรื่องนี้มากกก ดีใจที่คุณนักเขียนไม่ตัดใจเท ขอบคุณนะคะ เราจะรอค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: ก่อนมะลิบาน UP แจ้งข่าว (16/03/63)
«ตอบ #21 เมื่อ02-05-2020 22:15:22 »

 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
Re: ก่อนมะลิบาน UP แจ้งข่าว (16/03/63)
«ตอบ #22 เมื่อ02-05-2020 22:53:11 »

โอ้ยยยย ดีใจที่กลับมา ชอบบบเรื่องนี้มากกกก ใจนึงก็กลัวคุณนักเขียนจะเท  :hao5:  ฮืออ ขอบคุณนะคะ จะรอค่าาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด