[เรื่องสั้น]ขอให้เป็นเพียงฝัน (ตอนจบ) 8/8/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น]ขอให้เป็นเพียงฝัน (ตอนจบ) 8/8/2019  (อ่าน 4721 ครั้ง)

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




เรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง
การรักษาทางการแพทย์ในเรื่อง อาจจะผิดพลาด ไม่ถูกต้องและไม่ตรงกับหลักความเป็นจริงทั้งหมด
ผู้แต่งต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ


ปล.กระทู้เก่าน่าจะโดนลบไปแล้ว เพราะหายหัวไปนานมากกกกกก ฮาาาาาาา
ปล2.ลงใหม่เนอะ รอบนี้สัญญาว่าจะต่อจนจบจ้าาาา


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2019 20:05:25 โดย little_porcupine »

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ขอให้เป็นเพียงฝัน
ภาวินxธนัท




ตอนแรก


“ปัง!!” เสียงดังกึกก้องที่สามารถหยุดทุกอย่างลงได้ แม้กระทั่งลมหายใจของใครคนหนึ่ง

สรรพสิ่งรอบบริเวณหยุดนิ่งไปชั่วขณะ แต่กลับมีร่างร่างหนึ่งที่ล้มลงตามกฎของแรงโน้มถ่วง พร้อมกับของเหลวสีแดงข้นที่ไหลเจิ่งนองอยู่ใต้ร่างนั้น ราวกับร่างนั้นถูกรองรับด้วยพรมกำมะหยี่สีสด ดวงตาปรือปรอยค่อยๆ ปิดลง และไม่รับรู้สิ่งใดอีกต่อไป

ผ่านไปชั่วอึดใจ ผู้คนโดยรอบเริ่มขยับ กระชับวงล้อมเข้าใกล้ร่างที่นอนจมกองเลือดอยู่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปสัมผัส หรือให้การช่วยเหลือใดๆ ได้แต่ยืนล้อมร่างนั้นราวกับกำลังยืนไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

“วี้ หว่อ วี้ หว่อ วี้ หว่อ” เสียงไซเรนของรถพยาบาลดังขึ้น ก่อนที่ตัวรถจะเคลื่อนเข้ามาจอดใกล้ๆ ประตูรถเปิดออก เหล่าเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเร่งเข้าช่วยเหลือทันที ผู้คนเริ่มแหวกทาง และกระจายตัวออกห่างร่างนั้น คงจะพอมีคนที่มีสติโทรเรียกรถพยาบาลมาเป็นแน่

ร่างนั้นถูกเคลื่อนย้ายจากจุดเกิดเหตุ มุ่งตรงสู่โรงพยาบาล ที่เกิดเหตุก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบต่อ และติดตามตัวผู้ก่อเหตุ

“คนไข้มีสภาวะช็อค เพราะเสียเลือดมาก ไม่สามารถตรวจจับชีพจรได้” หมอและพยาบาลประจำรถพยาบาลตรวจอาการเบื้องต้น เพื่อให้ผู้ช่วยลงบันทึกการรักษา ในขณะที่เจ้าหน้าที่อีกสองคนกำลังต่อเครื่องช่วยหายใจและติดตั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิต

“ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด....” เสียงเครื่องติดตามสัญญาณชีพและอัตราการเต้นของหัวใจ ดังขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ติดตั้งอุปกรณ์ชั่วคราวบนรถพยาบาลเข้ากับผู้บาดเจ็บเรียบร้อย ตัวเลขที่ปรากฏบนจอมอนิเตอร์ตอนนี้บ่งบอกถึงสภาวะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงมาก

“ติดต่อห้องผ่าตัด แล้วแจ้งอาจารย์หมอภาวินด้วย คนไข้ไม่มีหลักฐานอะไรติดตัวมาเลย เพราะงั้นตรวจกรุ๊ปเลือดแล้วแจ้งคลังเลือดด่วนเลย!!” หมอประจำรถสั่งงานกับพยาบาลผู้ช่วยอย่างรวดเร็ว มือก็ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บไปด้วย เจ้าหน้าที่คนนึงก็ทำการ PPV ให้กับผู้บาดเจ็บ ส่วนอีกคนก็เตรียม Factor เพื่อฉีดให้คนไข้

ผู้บาดเจ็บเสียเลือดมาก มีเวลาไม่มากสำหรับการช่วยเหลือ ในทุกๆ วินาทีที่ผ่านไปนั้น ร่างนี้มีโอกาสเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ

“ติ๊ด....ติ๊ด....ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด______________________” เสียงเตือนจากมอนิเตอร์ดังขึ้น บอกให้รู้ว่าร่างนั้นได้หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว

“เครื่องกระตุ้นหัวใจ!!” หมอตะโกนสั่งเสียงดัง พยายามทุกวิถีทางที่จะยื้อชีวิตร่างนี้เอาไว้ให้ได้ ทั้งๆ ที่อีกไม่ไกลก็จะถึงโรงพยาบาลแล้วแท้ๆ

“กลับมานะครับ” นายแพทย์กระซิบข้างหูร่างนั้นแล้วลงมือกระตุ้นหัวใจ

“คุณหมอคะ อาจารย์หมอภาวินออกเวรตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ แล้ววันนี้ก็เป็นวันหยุดของอาจารย์ด้วย แต่เจ้าหน้าที่กำลังติดต่อเข้าเบอร์ส่วนตัวอาจารย์หมอให้ค่ะ”

“ไม่ทันการณ์แน่ๆ มีใครเข้าเวรวอร์ดศัลย์บ้าง”

“มีหมอพุฒิพงษ์กับหมอวิทยาค่ะ”

“งั้นติดต่อหมอพุฒิเลย” พยาบาลผู้ช่วยเพียงพยักหน้ารับคำและทำการติดต่อหมอพุฒิพงษ์ทันที

“ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...” จากการกระตุ้นหัวใจในที่สุดสัญญาณชีพก็กลับมา รถพยาบาลก็มาถึงโรงพยาบาลพอดี ผู้บาทเจ็บถูกเคลื่อนย้ายเข้าห้องผ่าตัดโดยไม่รอช้า

“ฝากด้วยนะครับหมอพุฒิ”

“อาการหนักขนาดนี้ถ้าได้ฝีมือผ่าตัดของอาจารย์หมอภาวินคงไม่มีปัญหา แต่ยังไงผมจะพยายามเต็มที่ คุณเก่งมากนะที่ช่วยเค้าจนมาถึงโรงพยาบาลได้” หมอพุฒิตบบ่ารุ่นน้องเบาๆ แล้วเข้าห้องผ่าตัดไปทำหน้าที่ของตน
.
.
.
.
.
.
.
“อือ....” ร่างสูงบนเตียงนอนบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อย แต่ก็ยังไม่ลืมตา มือก็ปัดป่ายหาคนที่นอนอยู่ข้างๆ แต่ก็เจอเพียงความว่างเปล่า

“หายไปไหนของเค้านะ” ร่างสูงมองไปรอบๆ ห้องนอนแต่ก็ไม่เจออีกคน เงี่ยหูฟังเสียงจากห้องน้ำ ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร มองไปยังนาฬิกาถึงได้รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว

“คงจะอยู่ข้างล่างล่ะมั้ง” บอกกับตัวเอง เพราะคิดว่าอีกคนคงกำลังเตรียมมื้อเที่ยงอยู่ในครัวเป็นแน่ คิดได้แบบนั้นแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น จะได้ลงไปหาคนที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน และใช้ชีวิตด้วยกันมานานนับสิบปีอีกคน

ร่างสูงอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ หยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงแล้วจึงเดินลงมาชั้นล่างเพื่อหวังว่าจะเจอใครอีกคน แต่ทว่ากลับไม่มี

“นัท” ส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายออกไปแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ “นัท” ลองเรียกอีกครั้งก็ยังเหมือนเดิม

“ไปไหนของเค้านะ” หาจนทั่วบ้านแล้วก็ไม่เจอ จึงกดโทรศัพท์เพื่อโทรหา

“Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr” เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังมาจากในห้องครัว ร่างสูงจึงเดินตามเสียงไปก็พบโทรศัพท์มือถือที่มีชื่อ เบอร์ และรูปของเค้าโชว์อยู่บนหน้าจอ

“ออกไปไหนก็ไม่บอก โทรศัพท์ยังลืมพกไปด้วยอีก น่าตีจริงๆ” บ่นให้อีกคนที่ลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ในครัว คิดว่าถ้าอีกฝ่ายกลับมาจะจับตีก้นซะให้เข็ด โทษฐานที่ทำให้เป็นห่วง

ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ที่อีกคนนึงลืมไว้ติดมือออกมาจากห้องครัวด้วย

“นัท” ออกมาจากครัวก็เห็นอีกคนยืนอยู่หน้าประตูบ้านพอดี จึงเอ่ยเรียกออกไป

แต่ดูท่าทางคนโดนเรียกจะดูแปลกๆ ไป ไม่ตอบรับ แถมยังดูเหม่อลอยอีกต่างหาก ร่างสูงจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ

“นัท” เรียกชื่อพร้อมเขย่าแขนเบาๆ

“อ๊ะ! พี่วิน” คนที่กำลังเหม่อลอยสะดุ้งตกใจ

“เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมหน้าซีดแบบนี้ล่ะ” ถามพลางเอามืออังหน้าผากอีกฝ่าย “ไม่มีไข้นี่” ลดมือลงลูบแก้มเบาๆ สายตาทอดมองด้วยความเป็นห่วง

“เข้าไปนั่งพักก่อนดีกว่านะ” วินจูงมือนัทพาเดินมายังห้องรับแขกของบ้าน ในขณะที่จับมือกันนั้นวินสัมผัสได้ถึงฝ่ามือของนัทที่เย็นเฉียบราวกับอีกฝ่ายเพิ่งออกจากห้องเย็นมายังไงยังงั้น ลองเอามือสัมผัสส่วนอื่นก็รู้สึกเย็นไม่ต่างกัน

สีหน้าของนัทซีดเผือดไร้สีเลือด ผิวกายเย็นเฉียบขัดกับอุณหภูมิของอากาศภายนอกอย่างมาก

“นัทเป็นอะไร บอกพี่ซิ”

“เปล่าครับพี่วิน นัทไม่ได้เป็นอะไร”

“แล้วทำไมหน้าซีดตัวเย็นแบบนี้ล่ะ ไปทำอะไรมา” วินยังคงถามต่อ

“นัทแค่ออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์หน้าปากซอยน่ะครับ”

“ออกไปซื้ออะไร หืม? ไหนของล่ะ แล้วทำไมนัทไม่ปลุกพี่ พี่จะได้ออกไปเป็นเพื่อน” วินลูบหัวนัทเบาๆ

“นัทจะทำมื้อเที่ยงให้พี่วินแต่ของสดในตู้เย็นหมด นัทเลยออกไปซื้อ แต่ยังไม่ได้ซื้อนัทก็กลับมาก่อน”

“อ้าว ทำไมล่ะ”

“คือที่หน้าปากซอยมีคนยิงกัน มันเหมือนเกิดขึ้นใกล้ตัวนัทมากเลยพี่วิน ใกล้จนเหมือนนัทเป็นคนที่โดนยิงซะเองอย่างนั้นแหละ พื้นข้างๆ นัทก็มีเลือดนองเต็มพื้นไปหมดเลยครับ นัทกลัวเลยกลับมาซะก่อน”

“ห๊ะ!? ว่าไงนะ!? แล้วนัทเป็นอะไรรึเปล่า บาดเจ็บตรงไหนมั้ย” วินเอ่ยถามด้วยความตกใจ สำรวจตามร่างกายของนัทกลัวอีกคนจะโดนลูกหลงไปด้วย

“นัทไม่เป็นไรครับ แค่ตกใจ นี่กลับมาถึงบ้านได้ยังไงนัทยังไม่รู้ตัวเลย รู้ตัวอีกทีตอนที่พี่วินมาเขย่าแขนนัทแล้ว”

“โอ๋ๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะครับที่รัก” วินดึงอีกคนมากอดปลอบ ลูบหัวลูบหลังให้หายกลัว นี่คือที่มาของอาการหน้าซีดตัวเย็นที่นัทเป็นสินะ

“นัทนี่ใช้ไม่ได้เลยนะครับ มีคนรักเป็นถึงอาจารย์หมอ แต่พอเห็นเลือดนัทก็กลัวซะแล้ว ช่วยอะไรใครก็ไม่ได้” ตัดพ้อตัวเองแล้วซุกหน้าลงกับอกของวิน

“อย่าว่าตัวเองแบบนั้นสิ คนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่างหรอกนะ นัทกลัวเลือดช่วยเหลือคนเจ็บไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้ไว้เป็นหน้าที่หมออย่างพี่ดีกว่าเนอะ” ปลอบใจคนในอ้อมกอด โยกตัวไปมาราวกับกล่อมเด็ก

“คนนั้นคงถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลพี่วินแน่ๆ เลยครับ”

“อืม...ถ้ามีอะไรที่โรงพยาบาลคงโทรหาพี่เองแหละ”

“พี่วินหิวรึยังครับ” นัทพูดเปลี่ยนเรื่อง เพราะยิ่งพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก็ยิ่งกลัว

“ก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้วล่ะ แต่นัทไม่ได้ซื้อของเข้ามานี่นะ งั้นเราออกไปกินข้าวข้างนอกกันมั้ย”

“ก็ได้ครับ” นัทพยักหน้าตอบรับ

“งั้นรอพี่แป๊บนึงนะ พี่ไปเอากุญแจรถก่อน” พูดจบวินก็ผละออกมาจากตรงนั้น ขึ้นมาเอากุญแจรถกับกระเป๋าตังค์ในห้องนอน

“Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr” เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น นัทมองดูก็เห็นเป็นเบอร์โรงพยาบาลโทรเข้าเครื่องของวิน เห็นทีงานนี้คงไม่ได้ไปกินข้าวข้างนอกแต่ต้องเบนเข็มจากร้านอาหารไปเป็นโรงพยาบาลแทน แล้วล่ะ

“พี่วินครับโทรศัพท์” นัทตะโกนบอกวินที่กำลังเดินเข้ามาหาพอดี

“หือ?” วินมองเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอ สลับกับมองหน้านัทไปด้วย ก่อนจะกดรับสาย

“ภาวินพูดครับ”

“สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ คือตอนนี้ที่โรงพยาบาลกำลังต้องการความช่วยเหลือจากอาจารย์หมอโดยด่วนเลยค่ะ” ปลายสายบอกจุดประสงค์ที่โทรมาทันทีไม่ให้เสียเวลา

“เรื่องคนเจ็บที่โดนยิงใช่มั้ยครับ”

“ใช่ค่ะ คุณหมอรู้ได้ยังไงคะ”

“อ่อ ภรรยาผมเล่าให้ฟังน่ะครับ เค้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แล้วตอนนี้คนเจ็บอาการเป็นยังไงบ้าง” วินถามต่อ เผื่อจะให้คำปรึกษาได้ในระหว่างที่เค้าเดินทางไปโรงพยาบาล

“ตอนนี้ยังผ่าเอาหัวกระสุนออกมาไม่ได้เลยค่ะ เพราะเลือดไหลไม่หยุดปิดปากแผลจนมองไม่เห็นอะไรเลย ความดันสูง หัวใจหยุดเต้นไปสองครั้งแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจอยู่ ก่อนจะมาถึงโรงพยาบาลก็หัวใจหยุดเต้นไปแล้วครั้งนึงแต่ปั๊มคืนมาได้ รวมแล้วคนเจ็บหัวใจหยุดเต้นไปสามครั้งค่ะ” พยาบาลประจำห้องผ่าตัดร่ายยาวถึงอาการของคนเจ็บให้วินฟัง

“ผมจะไปถึงโรงพยาบาลภายในสิบนาที แต่ระหว่างนี้อย่าเพิ่งวางสายนะครับ”

“ได้ค่ะอาจารย์” 

“200 โวลต์ เคลียร์!!” ระหว่างที่คุยกับพยาบาลห้องผ่าตัดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงหมอพุฒิที่ทำการรักษาคนเจ็บอยู่ดังเข้ามาในสาย

“อึก!” จู่ๆ นัทก็เกิดร่างกายกระตุก แถมยังเจ็บจี๊ดที่หน้าอกอีก

“นัท! เป็นอะไรรึเปล่า” วินถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน นัทก็เริ่มมีอาการผิดปกติ คนเจ็บก็รอเค้าอยู่ที่ในห้องผ่าตัดอีก ทำไมมันวุ่นวายแบบนี้นะ

“นัทไม่เป็นไร พี่วินรีบไปช่วยคนนั้นเถอะครับ เดี๋ยวนัทนอนพักซักหน่อยคงดีขึ้น” นัทตอบเสียงแผ่ว

“ถ้าอย่างนั้นนอนพักนะ อย่าคิดมาก พี่สัญญาว่าจะช่วยเค้าให้ได้ นัทจะได้ไม่ต้องมาคิดถึงเหตุการณ์นี้อีกนะครับ” น้ำเสียงอ่อนโยน กับฝ่ามือที่ลูบหัว ช่วยให้นัทคลายความกังวลไปได้ส่วนหนึ่ง วินคิดว่าอาการของนัทคงมาจากความกลัวบวกกับความเครียด จึงส่งผลแสดงออกมาทางร่างกาย จึงให้นัทนอนพัก และตัวเองก็รีบขับรถมายังโรงพยาบาลทันที
.
.
.
.
.
.
.
.
“เป็นไงบ้างหมอพุฒิ หมอวิท” วินที่มาถึงโรงพยาบาลและเปลี่ยนชุดเรียบร้อย เดินเข้ามาถามหมอศัลย์ทั้งสอง

ทีแรกหมอที่ทำการผ่าตัดเคสนี้คือหมอพุฒิพงษ์ แต่หลังจากคนเจ็บหัวใจหยุดทำงานไปรอบแรกหลังจากเข้าห้องผ่าตัด หมอวิทยาก็เข้ามาช่วย เพราะดูแล้วเคสนี้คงหนักหนาเอาการ แถมตอนนี้ยังใช้เวลาในการรักษาไปพอสมควรแล้ว ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้คนเจ็บคงจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเป็นแน่

“ความดันยังสูงอยู่ครับ เลือดก็ยังไม่หยุดไหลด้วย มองไม่เห็นปากแผลเลย” หมอพุฒิตอบ

“บอกได้คำเดียวว่าหนักครับอาจารย์วิน” หมอวิทเสริม

“เดี๋ยวผมรับไม้ต่อเอง” วินบอกแล้วสลับที่กับหมอพุฒิ

“คุณหมอคะ เลือดกรุ๊ปเดียวกับคนเจ็บในคลังเลือดของเราหมดแล้วนะคะ ตอนนี้กำลังติดต่อขอไปยังโรงพยาบาลใกล้ๆ อยู่ค่ะ” พยาบาลห้องผ่าตัดรายงานให้คุณหมอทราบ

“แล้วญาติของคนเจ็บล่ะ เราคงรอเลือดจากโรงพยาบาลอื่นไม่ไหว ถ้าเลือดขาดแบบนี้ แถมเลือดยังไม่หยุดไหลอีก อาจจะต้องมีการรับเลือดโดยตรงถ้าเกิดกรณีฉุกเฉิน” วินถามพยาบาล แล้วอธิบายวิธีการรักษาที่พอเป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้

“คือ…ตอนนี้เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนเจ็บเป็นใคร เพราะไม่มีหลักฐานแสดงตนติดตัวเลยซักอย่าง เลยยังติดต่อญาติไม่ได้ครับ” หมอพุฒิตอบ

“งั้นก็แย่น่ะสิ” วินเอ่ยเสียงแผ่ว ในหัวก็คิดไปด้วยว่าจะทำอย่างไรดี “โทรศัพท์มือถือก็ไม่มีเหรอ” วินเอ่ยถาม

“ไม่มีครับ” หมอพุฒิตอบอีกครั้ง ส่ายหน้าให้หมอวินอย่างจนปัญญาจริงๆ

“เอาเถอะ ยังไงเราก็ต้องทำให้เต็มที่เท่าที่ทำได้” วินบอกหมอทั้งสอง และพยาบาลทุกคนที่อยู่ในห้อง ทุกคนพยักหน้ารับคำ วินละสายตาจากบาดแผลไปมองหน้าคนเจ็บ เพื่อส่งกำลังใจ “เรามาสู้ไปด้วยกันนะ….ค ครับ” แต่ก่อนที่จะพูดจบก็เป็นอันต้องชะงัก เมื่อเห็นใบหน้าของคนเจ็บเต็มๆ ตา

“อาจารย์วินเป็นอะไรไปครับ” หมอพุฒิเห็นวินนิ่งไปจึงเอ่ยถาม

“ไม่จริงน่า เป็นไปไม่ได้” วินไม่ตอบแต่พูดออกมาราวกับกำลังเพ้อ

“มีอะไรรึเปล่าครับอาจารย์วิน” หมอพุฒิถามอีกครั้ง

“ผมขอดูของใช้ของคนเจ็บหน่อยได้มั้ยครับ”

“ได้ค่ะ” พยาบาลรับคำแล้วไปหยิบถุงพลาสติกที่บรรจุเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของคนเจ็บมาให้วินดู

“อาจารย์รู้จักคนเจ็บเหรอครับ” คราวนี้เป็นหมอวิทที่เอ่ยถาม

“นี่ค่ะอาจารย์วิน คนเจ็บไม่มีอะไรติดตัวมาเลยนอกจากเสื้อผ้าที่ใส่ กับเงินในกระเป๋ากางเกง” พยาบาลยื่นถุงพลาสติกให้ วินรับมาด้วยมืออันสั่นเทา ในหัวก็มีแต่คำว่า ‘ไม่จริง เป็นไปไม่ได้’ วนลูปซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น     

“ตุบ!” ถุงพลาสติกในมือวินตกลงสู้พื้นทันทีที่วินเห็นสิ่งที่อยู่ในถุงนั้น แต่วินก็ไม่ได้สนใจจะเก็บมันขึ้นมา

“ขอสำลีชุบน้ำเกลือให้ผมหน่อยครับ” วินเอ่ยขอกับพยาบาลที่ดูแลเรื่องอุปกรณ์

“นี่ค่ะอาจารย์วิน” พยาบาลส่งสิ่งที่วินต้องการให้ ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนได้แต่รอดูว่าวินจะทำอะไร

วินเอาสำลีที่ชุบน้ำเกลือล้างแผลเช็ดคราบเลือดที่ติดอยู่บริเวณสีข้าง เพื่อพิสูจน์ความจริงบางอย่างที่แม้แต่ตนเองยังไม่อยากจะเชื่อ และยังคงมีคำว่า ‘ไม่จริง เป็นไปไม่ได้’ ลอยอยู่ในหัว

เมื่อเช็ดบริเวณนั้นจนสะอาดแล้วสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาวิน ทำเอาขาที่เคยมั่นคงถึงกับสั่น หมดเรี่ยวแรง ปานแดงขนาดประมาณเหรียญสิบบริเวณสีข้าง ที่ตัดกับสีผิวขาวเนียนเป็นจุดที่เด่นชัดที่สุดในตัวของคนๆ นี้ และด้วยระยะเวลานับสิบปีที่อยู่ร่วมกันมาก็ไม่มีจุดไหนในตัวคนๆ นี้ที่วินจะจำไม่ได้ เพียงแต่เค้าไม่แน่ใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไมคนที่ควรจะนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านกลับมานอนอยู่บนเตียงผ่าตัดในห้องนี้ได้ แล้วเรื่องที่เกิดก่อนหน้าที่เค้าจะมาโรงพยาบาลนี้ล่ะคืออะไร

“นัท”






TBC

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
 :a5:  :sad4:
น้องนัทอย่ามัวแต่นอนพักอยู่ที่บ้านลู๊ก มาเข้าร่างที่โรงพยาบาลก่อน

 :pig4:

ออฟไลน์ little_porcupine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ขอให้เป็นเพียงฝัน
ภาวินxธนัท

ตอนจบ

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีการขยับเคลื่อนไหวใดๆ ทุกคนได้แต่นิ่งเพื่อรอคำตอบจากอาจารย์หมอเพียงหนึ่งเดียวในห้องผ่าตัด

“อาจารย์วินคะ” และแล้วพยาบาลประจำห้องผ่าตัดก็ทำลายความเงียบสงบนั้นขึ้นมา เมื่อเห็นว่าอาจารย์วินของเธอยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง แต่ดวงตาจ้องมองไปยังคนเจ็บอย่างไม่ละสายตา แววตาที่ส่งออกมานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย ทั้งมึนงง สับสน ตกใจ หวั่นใจ

“อาจารย์ครับ” หมอพุฒิเรียกซ้ำอีกพร้อมกับแตะต้นแขนวินเบาๆ ให้พอรู้สึก

“อะ! ครับ” วินเหมือนจะหลุดออกจากห้วงความคิดของตนเองแล้วตอบรับ

“อาจารย์รู้จักคนเจ็บเหรอครับ”

“ครับ รู้จัก รู้จักดีด้วย” วินตอบเสียงลอยๆ

“ดีเลย เค้าเป็นใครเหรอครับ แล้วอาจารย์พอจะติดต่อญาติเค้าได้มั้ย” หมอพุฒิเหมือนเห็นทางสว่างที่พอจะให้คนเจ็บรอดตายรีบถามวินทันที

“แฟนผมเอง และเค้าเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีญาติที่ไหนครับ” วินตอบเสียงเรียบ

“ห๊ะ!” ทั้งห้องพร้อมใจกันอุทานออกมาหลังจากได้ยินคำตอบจากวิน ซึ่งไม่รู้ว่าตกใจเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างคนเจ็บคือแฟนของวิน ซึ่งเจ้าตัวมักจะพูดถึงบ่อยๆ ในฐานะภรรยา กับเรื่องที่ว่านัทเป็นเด็กกำพร้าไม่มีญาติ ทำให้หาเลือดมาทดแทนยากเข้าไปอีก คงต้องรอเลือดจากโรงพยาบาลที่ติดต่อไปอย่างเดียว

“นี่คือภรรยาที่อาจารย์วินพูดถึงบ่อยๆ น่ะเหรอคะ” พยาบาลคนเดิมถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ครับ” วินตอบรับสั้นๆ

“ละ...แล้ว...แล้ว ตอนดิฉันโทรไปหาอาจารย์แล้วอาจารย์บอกว่าภรรยาอาจารย์อยู่ในเหตุการณ์ด้วยนี่หมายความว่าไงคะ” คนถามถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก มองไปรอบๆ ห้อง แล้วก็ลูบแขนตัวเอง รู้สึกขนลุก แถมอากาศยังเย็นขึ้นอย่างไรชอบกล

“ผมก็ยังงงอยู่จนถึงตอนนี้ ว่าเหตุการณ์ที่บ้านของผมมันคืออะไร ทั้งๆ ที่ผมคุยกับนัทอยู่ก่อนจะออกมาที่นี่ แต่กลับกลายเป็นว่า คนเจ็บที่ผมต้องรักษากลับเป็นคนรักของผมเอง” วินตอบออกมาด้วยเสียงไม่สู้ดีนัก แต่มือยังไม่หยุดที่ช่วยชีวิตยอดดวงใจของตัวเองเอาไว้ให้ได้

“อาจารย์วินแน่ใจได้ยังไงว่าคนคนนี้คือแฟนของอาจารย์จริงๆ ไม่ใช่แค่คนหน้าเหมือน หรือว่าแค่คล้ายกัน” หมอวิทถามอย่างสงสัย เพราะเรื่องที่ฟังมันออกจะเหลือเชื่อและเหนือธรรมชาติไปหน่อย

 “แน่ใจสิ นัทมีปานแดงที่สีข้างข้างขวา” ตอบพลางเอามือที่สวมถุงมือยางลูบบริเวณปานแดงที่เด่นตัดกับสีผิวคนที่นอนนิ่งอยู่ “และอีกอย่างคือ เสื้อผ้าที่อยู่ในถุงนี้มันคือชุดเดียวกันกับนัทที่ผมเจอที่บ้านใส่ในวันนี้ และที่สำคัญที่สุดคือผมไม่มีทางจำคนที่ผมรักที่สุดไม่ได้แน่ๆ ผมอยู่กับนัทมาครึ่งชีวิตของผม ผมไม่มีทางจำผิดแน่นอน”

ในขณะที่วินพูดถึงคนเจ็บด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักใคร่นั้นก็มีมือล่องหนเอื้อมมาจับมือของวินไว้แน่น โดยที่ไม่มีใครเห็น แม้แต่ตัววินเองก็มองไม่เห็นและไม่ได้รู้สึกถึงสัมผัสนั้นเลยแม้แต่น้อย

“คุณหมอคะ! ความดันคุณนัทกลับมาปกติแล้วค่ะ เลือดก็หยุดไหลแล้วด้วย” พยาบาลที่ยืนอยู่หน้าจอมอนิเตอร์เอ่ยบอกวินด้วยน้ำเยงตื่นเต้น

“แหมๆ อานุภาพความรักนี่มันรุนแรงจริงๆ เลยนะครับอาจารย์วิน” หมอวิทเอ่ยแซวขึ้นพลอยทำให้บรรยากาศคลายความตึงเครียดลงไปได้บ้าง แต่ก็ยังวางใจอะไรไม่ได้ เพราะหัวกระสุนยังไม่ถูกผ่าออกมาจากร่างของนัท อีกทั้งยังมีเรื่องเหนือธรรมชาติเกิดขึ้นอีก

หากว่าสิ่งที่พบเจอก่อนหน้านี้คือวิญญาณของนัทที่หลุดออกจากร่าง แล้วจะทำอย่างไรให้วิญญาณกลับเข้าร่างได้ ไม่เช่นนั้นต่อให้ผ่าเอาหัวกระสุนออกได้ การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี แต่นัทก็คงต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา นอนไม่ยอมตื่นเป็นแน่

“ที่รัก กลับมาหาพี่นะครับ” วินก้มลงไปกระซิบเบาๆ ข้างหูของนัท

“ฮึก! พี่วิน นัทอยู่ตรงนี้ พี่วินได้ยินนัทมั้ย ฮือ... พี่วินช่วยนัทด้วย...” เสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นดังสะท้อนขึ้นภายในห้องผ่าตัด แต่ทว่ากลับไม่มีใครได้ยินเสียงนั้นเลยแม้แต่คนเดียว

“เคร้ง!” ลูกตะกั่วที่เคยฝังอยู่ในร่างของนัท ถูกวินผ่าตัดและคีบออกมาทิ้งไว้ในถาดแสตนเลสที่พยาบาลถือรอไว้

“เก็บหลักฐานไว้ให้ผมด้วยนะครับ” วินบอกโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้าพยาบาลที่ถือถาดแสตนเลสอยู่ เพราะกำลังตั้งใจเย็บปิดแผลให้กับคนที่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียงผ่าตัด

“ค่ะ อาจารย์วิน” ตอบรับแล้วก็หันกลับไปจัดการกับเจ้าลูกตะกั่วเปื้อนเลือดนั้นลงถุงซิปล็อคอย่างดี เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานในการตามหาตัวคนร้าย

ผ่านไปครู่ใหญ่ ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก หมอพุฒิพงษ์และหมอวิทยาเดินนำออกมาก่อน

“พี่พุฒิ พี่วิท คนเจ็บเป็นไงบ้าง” หมอหนุ่มประจำรถพยาบาลพุ่งเข้าไปถามรุ่นพี่ทั้งสองทันที

“ปลอดภัยแล้ว” หมอพุฒิตอบสั้นๆ

“เฮ้อ...ดีจัง” คนถามถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจที่คนเจ็บที่ตนช่วยเหลือเบื้องต้นจนมาถึงโรงพยาบาลพ้นขีดอันตราย “พวกพี่เก่งว่ะ ที่ช่วยเค้าได้ รายนี้อาการหนักมากอ่ะ ตอนแรกผมคิดไปในแง่ร้ายแล้วนะเนี่ย”

“คนที่เก่งไม่ใช่พวกฉันหรอก แต่เป็นโน่น...คนโน้น” พูดพลางก็พยักเพยิดหน้าไปทางคนที่ยังยืนอยู่ในห้องผ่าตัด

“อาจารย์วิน?” เลิกคิ้วด้วยความงง เพราะรู้เพียงว่าวินออกเวรไปแล้วและวันนี้เป็นวันหยุด ไม่คิดว่าอาจารย์หมอศัลยกรรมมือหนึ่งของโรงพยาบาลจะมาปรากฏตัวอยู่ในห้องผ่าตัดได้

“เคสนี้พวกฉันสองคนเอาไม่อยู่จริงๆ ดีที่พยาบาลโทรตามอาจารย์วินมาได้”

“แต่ฉันว่านะสำหรับเคสนี้ ต่อให้หนักกว่านี้อาจารย์วินก็ต้องช่วยจนได้แหละ”

“ใช่ๆ ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ ต่อให้ต้องยื้อชีวิตคนเจ็บกับยมบาลก็เถอะ” สองหมอรุ่นพี่พูดกัน เหมือนจะแอบแซวคนที่ยืนอยู่ในห้องผ่าตัด ทั้งที่สถานการณ์ก็ยังไม่สู้ดีเท่าไหร่ ชวนให้คนฟังงงกับสิ่งรุ่นพี่พูดกันเข้าไปอีก

“แล้ว นี่ใครโทรตามญาติคนเจ็บรึยังครับ รู้รึยังว่าเป็นใคร เพราะเจ้าตัวไม่มีอะไรติดตัวมาเลย” หมอรุ่นน้องถามต่อ แม้จะยังงงกับเรื่องเมื่อครู่อยู่ก็ตาม

“ไม่ต้องโทรตามหรอก ญาติเค้ายืนอยู่ข้างเตียงนั่นไง”

“ไหนพี่ ผมเห็นแต่อาจารย์วิน” ถามพลางชะเง้อมองหาคนที่น่าจะเป็นญาติคนเจ็บ

“ก็อาจารย์วินนั่นแหละ” หมอวิทตอบเรียบๆ อมยิ้มกลั้นขำหน้าตารุ่นน้องที่ดูมึนงง เห็นแล้วตลกดี

“ห๊ะ! คนเจ็บเป็นญาติอาจารย์วินเหรอพี่!”

“ฮึๆ ตกใจอะไรขนาดนั้น ที่น่าตกใจกว่าคือไม่ใช่ญาติกันธรรมดาซะด้วย” ยิ่งพูดยิ่งทำให้คนฟังขี้สงสัยยิ่งงงเข้าไปอีก เรื่องเก่ายังไม่เคลียร์เลยนะพี่!

“ยังไงพี่”

“ไปหาอะไรกินดีกว่าว่ะวิท” พูดจบหมอพุฒิก็ชวนหมอวิทเดินออกมาจากหน้าห้องผ่าตัด ทิ้งคนงงไว้ข้างหลัง

“เฮ้ย! พี่พุฒิ พี่วิทเดี๋ยวดิ จะมาพูดอะไรค้างคาแล้วหนีไปแบบนี้ไม่ได้นะพี่ รอผมด้วย” ด้วยความสงสัยจึงรีบวิ่งตามรุ่นพี่ทั้งสองไปเพื่อเอาคำตอบ แต่จะได้คำตอบอย่างที่ต้องการมั้ยอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน

ทางด้านในห้องผ่าตัดนั้น...

“เดี๋ยวเราจะย้ายคุณนัทไปห้อง ICU นะคะ อาจารย์วินก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะ” นางพยาบาลเดินมาบอกวินที่ยังยืนนิ่งจ้องคนที่นอนไร้ความรู้สึกอยู่บนเตียง มองไปรอบๆ ตัวของคนที่เคยยิ้มแย้ม สดใสร่าเริง ไม่ว่าตัวเองจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน ตอนนี้สายระโยงระยางพันกันวุ่นวาย แถมยังต้องใส่ท่อช่วยหายใจอีก เห็นอย่างนั้นวินก็ยิ่งมีสีหน้าหมองลง

“พี่วิน นัทอยู่ตรงนี้ พี่วินได้ยินนัทมั้ย พี่วิน ฮือ....พี่วินมองเห็นนัทมั้ย ฮึก...ฮือ...” กายละเอียดที่ไม่มีใครมองเห็นยืนน้ำตาไหลเป็นสายอยู่ขอบเตียงฝั่งตรงข้ามที่วินยืนอยู่

อาจารย์ศัลยแพทย์เดินออกจากห้องผ่าตัดเงียบๆ โดยไม่ได้ตอบรับอะไรกับนางพยาบาลคนนั้น

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว วินตัดสินใจที่จะกลับบ้านทันที หวังเพียงว่าจะเจอกับกายละเอียดของนัทที่รออยู่ที่บ้าน

แต่ใครจะรู้ว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่เจ้าตัวหวัง...

“พี่วิน นัทอยู่นี่ พี่วินอย่าเพิ่งไป นัทอยู่นี่ ฮึก...” วินกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปที่รถโดยที่ไม่ได้ยินเสียงที่เรียกตนอยู่เบื้องหลังเลยแม้แต่น้อย

ร่างโปร่งใสของนัทยืนมองรถของวินที่เคลื่อนห่างออกไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง เรียกวินก็ไม่ได้ยิน มองไม่เห็น แม้แต่สัมผัสตัวก็ไม่รู้สึก

.
.
.
.
.
.
.
“นัท! นัทครับ” วินกลับมาถึงบ้านก็ตะโกนเรียกหาคนรักทันที “นัทได้ยินพี่มั้ย นัท นัท นัทออกมาหาพี่หน่อยครับคนดี” แต่เรียกเท่าไหร่ ก็ไม่มีการตอบรับกลับมา

วินวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นห้องนอนพลางตะโกนเรียกชื่อคนรักไปด้วย เปิดเข้าไปดูทุกห้องทุกมุมก็ไม่พบสิ่งใดๆ ที่จะบ่งบอกว่ากายละเอียดของนัทยังอยู่ที่นี่ ยังรอเค้าอยู่ที่บ้านหลังนี้

วิ่งวุ่นหาไปทั่วบ้านก็ยังไม่พบ บ้านทั้งหลังเงียบงัน ร่างสูงของอาจารย์ศัลยแพทย์ค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งราบกับพื้นกลางห้องรับแขกอย่างหมดแรง ตอนนี้มืดแปดด้านไปหมด ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน

ในส่วนลึกความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นขึ้นมา

“หรือว่านัทจะกลับเข้าร่างแล้ว” ความหวังในใจที่ริบหรี่ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง “ใช่ๆ นัทต้องกลับเข้าร่างแล้วแน่เลย เพราะการผ่าตัดก็ผ่านไปด้วยดี รอแค่ฟื้น”

ให้กำลังใจตัวเองจบก็รีบลุกขึ้นออกจากบ้าน ขับรถกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
.
“อ้าว อาจารย์วินมาพอดี มีตำรวจมาขอพบ ตอนนี้รออยู่ที่ห้องพักของอาจารย์ค่ะ” นางพยาบาลรีบเดินมาดักหน้าทันทีที่วินเดินเข้ามาในบริเวณตึกผู้ป่วยของโรงพยาบาล

“ครับ” ตอบรับสั้นๆ แค่นั้นแล้วก็เดินเบี่ยงไปอีกทางจากจุดมุ่งหมายแรกคือห้อง ICU แต่ตอนนี้เค้าต้องไปที่ห้องพักของตัวเองก่อน

“แกรก”

“สวัสดีครับอาจารย์หมอภาวิน” มีเสียงเอ่ยทักดังขึ้นทันทีที่วินเปิดประตูห้องเข้าไป เห็นชายสองคนในเครื่องแบบตำรวจเต็มยศยืนอยู่ตรงหน้า

“สวัสดีครับ” ร่างสูงกล่าวทักทายตอบสั้นๆ รอคนตรงหน้าพูดต่อพลางเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ส่วนนายตำรวจทั้งสองก็นั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานเช่นกัน

“คือทางเราได้ทราบจากคุณพยาบาลที่เข้าร่วมผ่าตัดกับคุณหมอมาว่าคุณธนัทผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกยิงมามีความเกี่ยวข้องกับคุณหมอเราก็เลยมาขอสอบถามอะไรนิดหน่อยน่ะครับ”

“ครับ เชิญถามมาได้เลย”

“คุณธนัทมีศัตรู คู่อริ หรือมีเรื่องผิดใจกับใครมาก่อนรึเปล่าครับ”

“ไม่มีนะครับ” วินตอบทันทีโดยไม่ต้องหยุดคิด เพราะมั่นใจว่าคนอย่างนัทไม่มีทางไปมีเรื่องบาดหมางกับใครอย่างแน่นอน

“แน่ใจนะครับ” นายตำรวจที่ดูเหมือนมียศสูงกว่าอีกคนข้างๆ ถามย้ำอีกครั้ง

“แน่ใจครับ” วินก็ยังยืนยันหนักแน่นกับคำตอบเดิม

“แล้วถ้าเป็นกรณีชู้สาวล่ะครับมีมั้ย”

“หืม?” คนฟังขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำถาม “ถ้าพวกคุณรู้ว่าผมกับนัทมีความเกี่ยวข้องกันคุณก็น่าจะรู้ใช่มั้ยครับว่าผมกับนัทมีความเกี่ยวข้องกันในฐานะอะไร ประเด็นนี้ตัดออกไปได้เลย” อาจารย์ศัลยแพทย์ถามออกมาน้ำเสียงติดจะหงุดหงิด ไม่ค่อยพอใจกับคำถามสักเท่าไหร่

“ผมทราบครับ ผมแค่ถามเผื่อไว้น่ะครับ ตอนนี้เราก็จับตัวคนก่อเหตุได้แล้ว เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำอยู่ครับ” นายตำรวจคนเดิมตอบออกมาโดยไม่ได้ใส่ใจอารมณ์ของเจ้าของห้องแม้แต่นิด

“ครับ พวกคุณมีอะไรจะถามผมอีกมั้ยครับ ถ้าไม่มีผมขอตัวก่อน” วินเองก็ไม่ใส่ใจที่จะฟังเช่นกันว่าคนในเครื่องแบบตรงหน้าจะพูดอะไรต่อ ตอนนี้ใจเค้าได้ลอยไปอยู่กับคนที่นอนพักอยู่ที่ห้อง ICU แล้ว

“ไม่มีแล้วครับ ไว้มีอะไรเพิ่มเติมผมจะติดต่อมาอีกที”

“สารวัตรครับ” นายตำรวจผู้ติดตามเรียกผู้บังคับบัญชาเอาไว้ก่อนที่จะเดินออกจากห้องพักแพทย์ของวิน พลางกระซิบอะไรบางอย่างกับสารวัตรเจ้าของคดี

“อาจารย์หมอครับ” ฟังผู้ใต้บังคับบัญชารายงานจบก็หันกลับมาหาวินอย่างเต็มตัวทันที

“ครับ”

“จากคำสารภาพของคนร้าย คดีนี้น่าจะเป็นการก่อเหตุแบบไม่ระบุตัวครับ”

“หมายความว่าไง” วินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก้าวเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธเล็กน้อย นี่มันเรื่องอะไรกัน ยิงคนแบบไม่ระบุเป้าหมายเนี่ยน่ะเหรอ แล้วคนที่เคราะห์ร้ายคือคนรักของเค้าซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุพอดีอย่างงั้นเหรอ บัดซบสิ้นดี!

“คืออย่างนี้ครับ จากการสอบปากคำคนร้าย และสืบประวัติดูแล้วทราบมาว่า คนร้ายเคยก่อเหตุฆาตกรรมคนรักมาก่อนเนื่องจากความหึงหวงครับ และหลังจากนั้นก็มีอาการคุ้มคลั่งจนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช”

“โรงพยาบาลจิตเวช?”

“ครับ แต่เพิ่งจากออกมาได้ไม่นานแล้วก็มาก่อเหตุครั้งนี้ครับ”

“แล้วอย่างนี้ถ้าตรวจพบว่ามันยังเป็นผู้ป่วยทางจิตอยู่ ก็เอาผิดทางกฎหมายไม่ได้งั้นสิ” อารมณ์ของวินที่เคยสุขุมเริ่มกรุ่นโกรธมากขึ้น มือสองข้างกำแน่น คล้ายกำลังระบายความคับแค้นในอกออกมา และอดกลั้นไม่ให้ระเบิดอารมณ์รุนแรงออกมาในคราวเดียวกัน

“ครับ” สารวัตรตอบสั้นๆ

“แล้วอย่างนี้ใครจะรับผิดชอบครับ! ถ้าแฟนผมเป็นอะไรไปใครจะรับผิดชอบ! คนร้ายก็ไม่ต้องรับโทษ แค่เข้าไปอยู่ในโรงพยาบาล พอหมอวินิจฉัยว่าหายแล้วก็ออกมา แล้วก็ก่อเหตุแบบนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ อย่างนั้นเหรอครับ”

“แต่อาจารย์วินสามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลจากญาติของคนร้ายได้นะครับ”

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมหรอกครับสารวัตร ผมแค่อยากให้คนร้ายได้รับการลงโทษ”

“แต่ว่ากฎหมาย...”

“ครับผมเข้าใจ แล้วผมก็คิดว่าการยิงครั้งนี้คงไม่ใช่การยิงแบบไม่ระบุตัวซะทีเดียวหรอกครับ” วินหันหลังให้สารวัตรแล้วเดินกลับมานั่งนิ่งๆ ที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม

“อาจารย์หมอหมายความว่าไงครับ” สารวัตรเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย

“ถ้าให้ผมเดานะครับ นัทน่าจะรูปร่าง ไม่ก็หน้าตาคล้ายกับคนรักของคนร้ายที่ถูกฆาตกรรมไป อันนี้สารวัตรคงต้องลองไปหารูปถ่ายเก่ามาเทียบกับรูปพรรณสัณฐานของนัทดู ว่าข้อสันนิษฐานของผมจะจริงมั้ย”

“อะไรทำให้อาจารย์คิดแบบนั้นครับ”

“ผู้ป่วยจิตเวชมักจะมีเรื่องฝังใจครับ ผมเป็นหมอแม้จะไม่ใช่หมอด้านจิตเวชโดยตรงแต่ผมก็พอเข้าใจธรรมชาติของผู้ป่วยประเภทนี้ดี การรักษาถ้าไม่บำบัดให้เรื่องฝังใจนั้นหายไป ก็ต้องกดเรื่องนั้นๆ เอาไว้ ให้อยู่ในส่วนลึกลงไปมากๆ เมื่อเป็นแบบนั้นพอมาเจออะไรที่มันกระตุ้นให้นึกถึงสิ่งที่ไม่อยากนึกถึง เรื่องฝังใจนั้นก็จะย้อนกลับมาครับ”

“อย่างนี้นี่เอง” สารวัตรพยักหน้าเข้าใจ

“แต่ที่ผมสงสัยอีกอย่างนึงคือเรื่องอาวุธครับ คนร้ายเอาอาวุธปืนมาจากไหน แล้วเค้าเคยเจอกับนัทมาก่อนที่จะก่อเหตุรึเปล่า จะว่าผมคิดมากก็ได้นะครับเพราะทุกอย่างมันเหมือนวางแผนมาก่อนแล้วจึงลงมือ” วินเอ่ยสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจที่คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจสักที

“ไม่เห็นจะเคยเจอเลย ฮึก!” มีเสียงนึงดังแทรกมาจากฝั่งโต๊ะทำงานของวิน ตามด้วยเสียงสะอื้นเล็กน้อย แต่ทว่าก็ไม่มีใครได้ยิน คนพูดนั่งกอดเข่าซบหน้ากับเข่าทั้งสองข้างอยู่บนโต๊ะนั้น

“ผมจะสืบเรื่องนี้ให้อีกทีนะครับ ยังไงวันนี้ก็ขอบคุณอาจารย์หมอมากที่ให้ความร่วมมือ พวกผมขอตัวก่อน” ประตูห้องทำงานถูกเปิดและปิดพร้อมกับนายตำรวจทั้งสองนายที่เดินลับออกไปจากห้องทำงานของวิน เหลือเพียงเจ้าของห้องที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม

“นัท” เมื่อรู้สึกตัวว่าก่อนหน้านี้จะทำอะไร ก็รีบรุดลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องไอซียูที่นัทพักอยู่ทันที
.
.
.
.
.
.
วินเดินเข้ามาใกล้เตียงของนัท ลากเก้าอี้นั่งลงข้างๆ เตียงกอบกุมมือบางขึ้นมาแนบแก้ม

“ถ้าพรุ่งนี้นัทไม่ตื่น พี่จะงอนแล้วนะครับ”

“พี่วินจะงอนนัทไม่ได้นะ! นัทก็ไม่รู้ว่านัทจะกลับเข้าร่างได้ยังไงเลย ฮือออออ พี่วินนนนน” จากที่หยุดร้องไห้ไปแล้วกายละเอียดของนัทก็น้ำตาไหลพรากอีกครั้ง เพราะจนปัญญาจริงๆ ที่จะกลับเข้าร่างของตัวเอง

แต่แล้วจู่ๆ ร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็กระตุกเฮือก ร่างกายดิ้นแรง มือบางที่วินกุมอยู่แข็งเกร็งปลายเล็บจิกเข้ากับหลังมือของวินจนลึกเข้าไปในเนื้อ

“นัท นัท นัท!” วินพยายามเรียกคนบนเตียง แล้วค่อยๆ แกะมือของนัทออกจากมือตน “นัทอย่าเป็นอะไรไปนะนัท! มีใครอยู่ข้างนอกบ้างเข้ามาหาผมหน่อย” ตะโกนเรียกพยาบาลประจำห้องไอซียู ไม่นานก็มีพยาบาลรีบรุดเข้ามาใกล้เตียงของนัททันที

“เกิดอะไรขึ้นคะอาจารย์วิน” ถามขึ้นทันทีที่เข้ามาถึง

“ผมยังไม่ทราบครับ ต้องตรวจดูก่อน คุณสองคนช่วยผมจับนัทไว้หน่อยครับ อย่าให้เค้าดิ้นแรงเดี๋ยวแผลฉีกแล้วจะแย่”

“ค่ะๆ” รับคำเสร็จก็เข้าจับตัวนัทไม่ให้ดิ้นคนละข้างของเตียง

“ฮึก พี่วิน เฮือก!! พี่วินช่วยนัทด้วย” จู่ๆ กายละเอียดของนัทก็กระตุกเฮือกเช่นกัน ร่างกายวูบวาบราวกับจะสลายหายไป รอบกายเริ่มมืดลงจนมองไม่เห็นอะไร

สายลมหอบใหญ่พัดวนรอบตัวของนัท รุนแรงราวกับพายุหมุน ดูดร่างของนัทให้ลอยคว้างหมุนวนเข้าไปในพายุหมุนนั้น อาการคลื่นไส้อาเจียนเริ่มเข้าจู่โจม สายตาพร่าเลือนมองไม่เห็นสิ่งใด จากรอบกายที่มืดมิดอยู่แล้วก็ยิ่งมืดเข้าไปอีก

“พี่วินช่วยนัทด้วย!” ตะโกนสุดเสียงพร้อมกับสติที่หายไป

“นัท นัท นัทตื่นสินัท! ลืมตาขึ้น” วินเขย่าตัวของนัทเพื่อเรียกสติ พยายามปลุกร่างบางบนเตียงให้ลืมตาขึ้น แต่ร่างเล็กบนเตียงยังคงหลับตาสนิท และดิ้นไปดิ้นมาอยู่อย่างนั้น

“พี่วิน นัทกลัว ช่วยนัทด้วย ช่วยนัทด้วย!” น้ำตาไหลลงทางหางตา เสียงคล้ายคนละเมอสั่นเครือด้วยความหวาดกลัว

“นัท ตื่นนัท อย่าเป็นแบบนี้ พี่ใจคอไม่ดีเลย” วินพยายามเรียกคนรักอีกครั้ง กระชับร่างบางไว้ในอ้อมแขนมือหนาตบเบาๆ ลงบนแก้มเนียน เพราะไม่ได้อยากทำร้ายให้ร่างนี้เป็นรอย

“เฮือก!!” คนที่ในอ้อมแขนลืมตาโพลงขึ้นมา “แฮ่กๆๆ” หายใจเหนื่อยหอบราวกับไปวิ่งมาราธอนมายังไงยังงั้น

“นัทตื่นแล้ว” ลูบเสยผมที่หน้าผากชื้นเหงื่อขึ้นไป จูบซับเบาๆ ที่หน้าผาก กอดกระชับให้แน่นขึ้น

“พี่วิน..” นัทเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว

“ครับ” วินตอบรับสั้นๆ

“นัทฝันร้าย” เอ่ยบอกเบาๆ หลังจากมองไปรอบตัวแล้วมองเห็นสภาพเดิมๆ ของห้องนอนภายในบ้านของตัวเอง

“ครับ นัทฝันร้าย พี่ตกใจแทบแย่ เรียกเท่าไหร่นัทก็ไม่ตื่นสักที นอนดิ้นไปดิ้นมา ตัวก็เกร็ง” วินเล่าให้ฟัง

“ฮึก พี่วินนนน ฮืออออ....” นัทโผเข้ากอดวินแน่น “นัทกลัว...ในฝันมันน่ากลัวมากเลยพี่วิน นัทฝันว่า....” แล้วก็เล่าความฝันของตัวเองให้วินฟัง

“โอ๋ๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะครับคนดีของพี่” วินลูบหลังปลอบ “มันเป็นแค่ฝันนะครับ ไม่มีอะไร นัทคงคิดมากแล้วเก็บเอาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานไปฝัน”

“เรื่องเมื่อวาน?”

“ครับ ก็เมื่อวานนัทออกไปซื้อของแล้วไปเจอคนถูกยิง นัทตกใจรีบกลับมาที่บ้าน แล้วสักพักโรงพยาบาลก็โทรมาตามพี่ให้ไปช่วยผ่าตัดคนที่โดนยิงไงครับ”

“.....” ฟังวินพูดไปก็กะพริบตาปริบๆ พยายามทบทวนความทรงจำของตัวเอง

“จำได้รึยัง” อมยิ้มน้อยๆ กลั้นขำท่าทางของคนที่ยังอยู่ในอ้อมแขน

“แฮ่ๆ พอจะจำได้บ้างแล้วครับ” หัวเราะแห้งๆ ตอบวินกลับไป

“งั้นก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำครับ จะได้ออกไปทานข้าวกัน จะเที่ยงแล้ว” พยุงตัวคนรักให้ลุกขึ้นนั่ง

“งือออออ ลุกไม่ไหว พี่วินอุ้มหน่อย” ทำตัวอ่อนปวกเปียก ยืดแขนออดอ้อนให้วินอุ้ม

“หืม แบบนี้พี่ต้องอาบน้ำให้ด้วยมั้ยครับ” วินเข้าไปช้อนตัวอุ้มคนรักขึ้นมาทันทีอย่างไม่อิดออด สายตาวิบวับเจ้าเล่ห์มองคนในอ้อมแขนไม่วางตา

“แล้วแต่พี่วินสะดวกเลยครับ” พูดจบก็ซบหน้าเข้ากับอกของวิน

“ฮ่าๆๆ งั้นเดี๋ยวพี่อาบน้ำให้นะครับเด็กดี” หัวเราะอารมณ์ดี แล้วพาร่างบางเข้าห้องน้ำไป

กว่าจะอาบเสร็จก็ใช้เวลาไปพอสมควร อาบหลายๆ น้ำ เพราะวินเป็นหมอ รักความสะอาด ต้องขัดถูทุกซอกทุกมุม สำรวจตรวจตราเป็นอย่างดี เป็นการอาบน้ำที่นัทรู้สึกว่าใช้พลังงานไปมากกว่าการร้องไห้ในฝันนั้นเสียอีก

“งื้อออออ พี่วินคนบ้า >///<”

................END................

จบแล้ววววววว จบแบบนี้แหละ ฮ่าๆๆๆ ตามชื่อเรื่องเลย ขอให้เป็นเพียงฝัน อะไรร้ายๆ ก็ให้มันกลายเป็นความฝันไปซะ ^____^



ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
โอ๊ย น้องนัทททท
ที่แท้ก็เก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะนี่เอง
ในฝันเป็นวิญญาณงอแงใหญ่เลย พอตื่นขึ้นมาก็อ้อนสามี น่ารักกกก

 :pig4:

ออฟไลน์ NormalVee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตกใจหมดเลยยย แต่นัทเวอร์ชั่นวิณญานก้น่ารักดีน่า อ้อนเก่งเหมือนตัวจิง :hao7:

ออฟไลน์ Fufufeel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นึกว่าจะจบเศร้าซะแล้ว ลุ้นแทบแย่ว่านัทจะรอดมั้ย ที่แท้ก็ฟันจริงๆ555555555โล่งเลย :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Supapphu1909

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นัทเทอฝันเป็นตุเป็นตะมากเรยนะ

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
นัทฝันไปโล่งอกเลยเรา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ใจหายแว๊บบบ 5555
 o13 o13 o13

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ตีเลยฝันอะไร

ออฟไลน์ mhaparn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นัทฝันซะพี่ใจไม่ดีเลย  :hao7:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โอ๊ยยยมันเป็นฝันที่เล่นเอาซะใจหายใจคว่ำ ตกใจไปกับหมอวิน นัทน่ารัก สนุกดีอ่ะ  :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด