รัตติกาลนคร The Couple Series [เพลิงพระพาย & ไออุ่น] -- CH. 12 -- 27/11/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รัตติกาลนคร The Couple Series [เพลิงพระพาย & ไออุ่น] -- CH. 12 -- 27/11/2019  (อ่าน 4768 ครั้ง)

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************











...


















 :pig2: :pig2: :pig2:




Theme : Yaoi / Crazy in love / Gangster /

Spin of (story 2)
รอยเลือดแห่งรัตติกาลนคร








เพลิงพระพาย รองเจ้าสำนักเพลิงรัตติกาลคนปัจจุบัน

และยังเป็นเสมือนบุตรบุญธรรมที่ อัคนี เพลิงอัคนี รักใคร่เป็นอย่างมาก

เขาเป็นเพียงเด็กชายที่ถูกเก็บมาเลี้ยงในปราสาทเพลิงรัตติกาล



และที่นั่นเอง ทำให้เขาได้พบกับ ไออุ่น เพลิงอัคนี

ลูกชายคนเล็กที่เกิดกับภรรยาคนแรกของ ศิขริน เพลิงอัคนี

เจ้าสำนักเพลิงรัตติกาลคนก่อน



มาร่วมลุ้นและเป็นกำลังใจให้กับความรักของพวกเขาทั้งคู่กันได้นะคะ










...







สำหรับท่านใดที่ยังไม่เคยอ่าน รัตติกาลนคร The Couple Series ภาคแยกแรก

กดเข้าไปอ่านกันได้นะคะ

เนื้อหาทั้งหมดจะเป็นจุดเริ่มต้นของแก๊ง ที่มาที่ไปทั้งหมด ไปติดตามกันได้ค่ะ



(END) รัตติกาลนคร The couple series [อัคนี & ภาสกร]

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70850.0






...








ซีรี่ย์เรื่องนี้ เป็นภาคแยกจากเนื้อเรื่องหลัก



>>> รอยเลือดแห่งรัติตกาลนคร <<<

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70773.0



ซึ่งเป็นนิยายสืบสวนเลือดสาด 20+ ค่ะ เนื้อหามีความเครียดสูง

เราจึงเขียนนิยายภาคแยกขึ้นมาเพื่อสนองความต้องการของตนเอง

และเป็นนิยายคลายเครียดไปในตัวที่แยกออกมาจากเส้นเรื่องหลักด้วยค่ะ : )










...









ถ้าท่านใดสนใจลองตามอ่านกันได้นะคะ ชื่นชอบหรือไม่ประการใด
ติชมกันเข้ามาได้นะคะ
ขอบคุณมากค่ะ ^_____^




และเช่นเคยค่ะ นิยายเรื่องนี้ อัพเดทตอนถัดไปทุกวันพุธและเสาร์นะคะ



 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:





...













ฝากติดตาม >>> รอยรักศักดาเดช

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71159.0

ด้วยยนะคะทุกคน ^_______________^



 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-11-2019 09:23:17 โดย Savahale »

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 1 : เด็กใบ้ในกองขยะ
























พุทธศักราช 2544










ริมหาดกว้าง ถูกปกคลุมไปด้วยท้องฟ้าที่กำลังมืดครึ้ม ปรากฏชายรูปร่างสูงใหญ่สองคน ยืนพูดคุยกันด้วยรอยยิ้ม บทสนทนาที่คล้ายว่าจะเป็นไปได้สวยระหว่าง ศิขริน เพลิงอัคนี เจ้าสำนักเพลิงรัตติกาล และเสี่ยสิบทิศ เจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ในเมืองใกล้เคียง ชายทั้งสองจับมือเป็นอันยุติบทสนทนา ก่อนที่ทุกคนในพื้นที่บริเวณนั้น จะเร่งฝีเท้าเพื่อหาที่กำบัง













"หลบเข้าด้านในก่อนเถอะครับท่าน พายุกำลังมา"









"เชิญคุณก่อนเลย"










เสี่ยสิบทิศผายมือเชิญศิขรินเข้าหลบฝนที่กำลังจะตก ในร้านอาหารชื่อดังขนาดใหญ่แห่งหนึ่งติดริมทะเล โดยผู้ถูกเชิญให้เกียรติด้วยการผายมือกลับ จากนั้นเสี่ยสิบทิศจึงได้เดินนำหน้าเข้าด้านในร้านไป













เปรี๊ยง!!!!!









สายฟ้าฟาดลงกลางมหาสมุทรไกลๆ แต่สะท้อนเข้าตาชัดเจน เร่งฝีเท้าของผู้ที่ได้มองเห็นให้เดินเร็วขึ้น รวมทั้งบอดิการ์ดที่เดินขนาบข้าง ก็เร่งนำตัวเจ้านายเข้าหลบในที่ปลอดภัยโดยไม่รีรอ












ขลุก ขลัก...ขลุก ขลัก










เจ้าสำนักเพลิงรัตติกาลหยุดชะงักลงเมื่อถึงหน้าประตูทางเข้า เขาหันไปมองยังที่ใกล้ๆ ก็พบกับถังขยะสีเทาทรงมนที่ถูกเปิดฝาออกเมื่อขยะด้านในถูกใส่ไว้จนเต็ม และยังมีถุงขยะอีกมากมายที่ถูกวางไว้รอบๆ ถัง










ซึ่งเสียงประหลาดที่เขาได้ยินเมื่อครู่ ดังมาจากกองขยะกองนั้น










"เข้าด้านในเถอะครับท่าน"









"รอฉันตรงนี้เดี๋ยว"












ศิขรินสั่งบอดิการ์ดทุกคนให้ยืนรอที่ปากทางเข้าร้านอาหาร และตนก็ได้เดินไปยังต้นเสียงเมื่อครู่ กลิ่นเหม็นของเศษอาหารสดและอาหารบูดเน่า โชยเข้ามาเตะจมูก แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงพยายามก้มลงเพื่อค้นหาที่มาของเสียง













"...! "











ชายเลยวัยกลางคนมาได้พักใหญ่นิ่งค้างและสบมองเมื่อพบเข้ากับบางสิ่งที่ขยับได้ มันกำลังจ้องมองมาทางเขา ดวงตาคู่นั้นสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว ศิขรินยื่นมือเข้าไปหวังประคองร่างนั้นขึ้น แต่กลับถูกมือเล็กๆ นั่นตะปบเข้าอย่างแรง










"มาเถอะ ฉันไม่ทำอะไรหรอก ไม่ต้องกลัว"










แม้กระนั้น ร่างเล็กที่ผอมติดกระดูก ผิวดำคล้ำเนื้อตัวมอมแมมก็ขยับออกห่างจากมือที่ยื่นไปให้มากที่สุด ชายร่างยักษ์จึงได้ถอดเสื้อคลุมเนื้อดีอย่างหนาของตนออก แล้วเอื้อมไปห่มให้กับเด็กชายผู้กำลังสั่นเทาและหวั่นวิตกคนนั้นไว้











"มาเถอะ..."










ดวงตามากล้นด้วยอำนาจมองไปยังเด็กชายด้วยความอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด เขาค่อยๆ ขยับเข้าใกล้เจ้าเด็กอัปลักษณ์คนนั้นทีละน้อยอย่างใจเย็น จนสามารถเอื้อมไปยกร่างที่มีเสื้อคลุมของเขาคลุมเอาไว้อยู่นั้นขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแกร่งได้










ศิขรินนำร่างเด็กชายที่คล้ายก้อนถ่านกระชับในอ้อมแขน แล้วเดินพาเข้าไปในร้านอาหารสุดหรู แขกในร้าน รวมไปถึงพนักงานที่กำลังให้บริการ มองมาทางเขาเป็นสายตาเดียวกัน แขกบางโต๊ะที่ศิขรินอุ้มเด็กชายแล้วเดินผ่านยกมือขึ้นปิดจมูก บ้างก็พัดมือไปมา ด้วยกลิ่นกายของก้อนถ่านที่ศิขรินอุ้มอยู่นั้น คล้ายคลึงกับซากศพยิ่งนัก












ครื๊นน ครื๊นนน...









ซ่าาาา.....












เพียงครู่เดียวหลังจากนั้น ฝนก็เทลงมาดั่งฟ้ารั่ว ทั้งลมพายุ ทั้งฟ้าร้องฟ้าผ่า จัดเต็มมาหมดทุกรูปแบบ ศิขรินวางเด็กชายไว้ตรงมุมหนึ่งของเก้าอี้ชั้นดีในร้านอาหาร












"เธอมาจากไหน? "









"..."









"หิวไหม? "









"..."









ไม่ว่าศิขรินจะพยายามถามสิ่งใด เขาก็ไม่ได้รับแม้แต่คำตอบเดียว ยังคงมีเพียงดวงตาสั่นไหวด้วยความกลัวและไม่ไว้ใจส่งมาให้ เจ้าสำนักเพลิงรัตติกาลจึงได้สั่งอาหารสำหรับเด็กมากมายมาไว้บนโต๊ะ เด็กชายไม่ยอมกินในตอนแรก ศิขรินจึงเริ่มลงมือกินก่อน แล้วค่อยๆ ตักแบ่งให้เด็กชายกิน











เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก เขาก็เริ่มขยับออกจากมุม มือน้อยๆ สั่นเทาเอื้อมไปหยิบช้อนแล้วตักของในถ้วยที่ศิขรินตักให้เข้าปากอย่างช้าๆ เมื่อรสสัมผัสแสนละมุนลิ้นที่ไม่เคยพบพานได้เข้าปากคำแรก คำถัดไป เด็กชายก็เริ่มกินเร็วขึ้นๆ จนบางคำแทบไม่ทันได้เคี้ยวด้วยซ้ำ












"ค่อยๆ กินก็ได้ เดี๋ยวก็ติดคอหรอก"









ความหิวโซไม่เคยปราณีใคร เด็กชายไม่ฟังที่ศิขรินกล่าวอีกต่อไป เขาเร่งยัดอาหารเข้าปากด้วยความรวดเร็วจนเผลอสำรักเข้าให้จนได้














"แค่ก แค่ก ..."









ศิขรินนั่งมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มละมุน เขาค่อยๆ ถามเด็กชายไปทีละอย่าง แต่เด็กคนนั้นตอบกลับชายใจดี เพียงการพยักหน้าและส่ายศีรษะให้เท่านั้น










"ไม่มีบ้านหรือ? "









"..."









เด็กชายที่จัดการอาหารตรงหน้าด้วยความรวดเร็วจนอาหารมากมายแทบเกลี้ยงจานทุกอย่าง หันมาส่ายหน้าให้กับศิขริน












"ชื่อล่ะ? "









"..."









เขายังคงส่ายศีรษะไปให้อีกเช่นเดิม










"ไปอยู่กับฉันไหม บ้านฉันหลังใหญ่ ฉันกำลังอยากได้คนช่วยงานบ้านอยู่พอดี"









เด็กชายสบมองศิขรินด้วยแววตาไม่เข้าใจ เขามองกลับไปยังอาหารที่อร่อยที่สุดในชีวิตที่เขาพึ่งเคยได้รับประทาน และหันกลับมามองศิขรินที่ยังคงมองตอบกลับมาด้วยดวงตาอ่อนโยน เด็กชายพยักหน้าเบาๆ ในที่สุด












"มีชื่อรึเปล่า? "









"..."









เด็กชายส่ายหน้าเป็นคำตอบ









"ถ้าอย่างนั้น ฉันจะเรียกเธอว่า 'พระพาย' ดีไหม? "









เด็กชายยังคงประหลาดใจกับสิ่งพิเศษที่เขาไม่เคยได้รับ แต่ถึงแม้จะไม่เข้าใจ เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นบางอย่าง และมันทำให้เขารู้สึกปลอดภัย เด็กชายส่งยิ้มน้อยๆ กลับไป และนั่นก็ทำให้หัวใจชายรุ่นใหญ่ผู้ที่พึ่งสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไป ได้กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง































-------------------------------------------------------------------
























"พระพาย เอาของว่างไปให้คุณท่านที่ห้องที"










"..."












เด็กใบ้วัย 7 ปี เดินเข้าไปยังห้องครัว หน้าที่ประจำตัวคือการนำถาดขนมและน้ำผลไม้ไปส่งให้ศิขรินที่ห้องทำงานทุกวันช่วงบ่าย และนอกจากนั้น ยังได้รับหน้าที่ บริการของว่าให้กับ ภรรยาคนที่ 1 2 3 4 5 6 และ 7 ของศิขรินด้วย หน้าที่ ที่ไม่มีแม่บ้านคนไหนอยากทำ แต่พระพายก็ยินดี อาจด้วยเพราะเขาพูดไม่ได้ จึงทำให้ใครๆ ต่างก็ไว้ใจและสงสาร











นอกจากนั้นเขาก็ยังต้องช่วยกวาดบ้านถูกบ้าน เช็ดชั้นวางของ เช็ดบันได และเก็บขยะอีกหลายๆ อย่างด้วยกัน แล้วแต่หัวหน้าแม่บ้านจะสั่งให้วันนั้นเขาต้องทำอะไร











พระพายตัวเล็กและมีผิวพรรณหมองคล้ำเป็นอย่างมากเมื่อมาอยู่ในปราสาทเพลิงรัตติกาลช่วงแรก แต่เมื่อผ่านไปได้เพียงช่วงหนึ่ง ผิวหนังติดกระดูกก็เริ่มมีเนื้อขึ้นมาบ้าง ผิวที่คล้ำกร้านแดดเริ่มดูดีขึ้นสมวัยเด็ก 7 ขวบ











เมื่อเด็กชายก้อนถ่านเดินนำของว่างเสิร์ฟทุกคนจนครบ ก็ถูกใช้ให้ไปเช็ดซี่บันไดถี่ยิบและสูงชัน เด็กชายเดินไปหยิบผ้าขี้ริ้วและถังใส่น้ำไว้ในมือ เมื่อมาถึงบันไดขั้นแรก ก็นำผ้าลงซักในถังแล้วบิดให้จนหมาด บรรจงเช็ดความถี่ยิบนั้นอย่างตั้งใจ











"ครับพ่อ...กำลังเดินลงไปครับ"











"...! "











เจ้าเด็กอัปลักษณ์มองตามเสียงเล็กๆ ของใครบางคนที่เดินลงมาจากบันได และได้พบเข้ากับเจ้าชายรูปงาม นั่นเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าลมหายใจมันแปลกออกไปจากเดิมเมื่อสายตาได้ยลโฉม เด็กชายวัย 14 ปี ผู้มีผิวกายขาวเนียนละเอียด โครงหน้าหล่อเหลาคล้ายคลึงกับชายใจดีที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้











พระพายตะลึงตาค้าง และผ้าขี้ริ้วในมือก็ถูกกำไว้แน่นอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน











เด็กชายรูปงามมองตอบพระพายด้วยแววสงสัย ว่าตนมีสิ่งใดแปลกไปหรือ เด็กคนนี้จึงได้มองค้างได้ถึงเพียงนั้น แม้จะไม่เข้าใจแต่เขาก็ยังคงยิ้มน้อยๆ ตอบพระพายกลับไปอย่างไม่นึกรังเกียจ











'ไออุ่น เพลิงอัคนี' ลูกชายคนสุดท้องที่เกิดกับภรรยาคนแรกของศิขรินเดินผ่านชายผู้ตกสู่ห้วงจังงังไปเนิ่นนาน กว่าที่เด็กเช็ดบันไดจะรู้สึกตัว










แม้ว่าจะผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง และพระพายเช็ดบันไดไปได้หลายขั้นแล้วก็ตาม แต่หัวใจก็ยังคงเต้นแรงไม่หยุดยั้งลงได้สักที
















ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พระพายก็เร่งนำส่งของว่างให้ทุกคนโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะรีบไปนำถังและผ้าขี้ริ้วไปเช็ดตามซอกหลืบบันได โดยที่หัวหน้าแม่บ้านไม่ต้องออกคำสั่งแต่อย่างใด เขาพบกับไออุ่นที่เดินลงบันไดมาด้านล่างทุกวัน โดยเวลาไม่ได้ห่างกันมากนักในแต่ละวัน และนั่นคือช่วงเวลาเดียวในหนึ่งวัน ที่พระพายสัมผัสถึงความสุขได้มากที่สุด










และวันนี้ก็เช่นกัน เมื่อทุกอย่างพร้อม เขาก็เดินมาที่บันได เพื่อรอใครบางคนเดินผ่าน แต่ก่อนที่จะมาหยุดในจุดเดิมนี้ เขาได้แวะเข้าไปยังสวนหลังบ้านที่มีพรรณไม้ ดอกไม้มากมายละลานตาเสียก่อน











ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ...










เสียงฝีเท้าที่เจ้าเด็กอัปลักษณ์คุ้นเคยกำลังเดินลงมาจากด้านบนแล้ว

















ตึก ตัก ... ตึก ตัก










เช่นเดียวกับเสียงหัวใจเขาที่เต้นแรงจนแทบพุ่งออกมานอกทรวงอก














ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ ...










เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และพระพายไม่รอช้า เขาพุ่งตัวออกไปดักหน้าเจ้าชายบนหอคอยเอาไว้ จ้องมองสบตรงไปในดวงตาหวาน และนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น















"..."









"นายมีอะไรเหรอ? "









ไออุ่นมองตอบด้วยความสงสัยเช่นเคย เขาเอียงหัวไปทางซ้ายทีขวาที เพื่อรอคำตอบจากเด็กชายตัวเล็กที่ดักหน้าเขาเอาไว้ แต่ก็เนิ่นนานที่ยังไม่ได้รับคำตอบ ไออุ่นจึงเดินเบี่ยงตัวไปอีกทางเพื่อลงบันได




















พรึ่บ









เด็กชายตัวเล็กเผลอไปคว้าแขนขวานุ่มมือของไออุ่นเอาไว้ เจ้าของแขนขาวตกใจแต่ก็ปล่อยไว้อย่างนั้นแล้วหันกลับมาถามอีกครั้ง












"มีอะไรรึเปล่า? "










"..."










พระพายที่ถูกถามได้สติกลับมาครองตน เขาผละมือออกจากแขนเนียนนั้นโดยเร็ว แล้วเดินถอยหลังไป ค้างอย่างนั้นอีกสักพัก นิ้วเล็กๆ ก็น้ำดอกกุหลาบสีขาวในกางเกงดอกหนึ่งยื่นให้ไออุ่นไป














"ให้ฉันเหรอ? "









"..."









พระพายพยักหน้า หัวแทบหลุดด้วยอาการร้อนรน ด้านไออุ่นเมื่อเห็นความลุกลี้ลุกลนนั้น ก็หัวเราะออกมาเบาๆ











"...ขอบคุณนะ"










เขากล่าวไว้เพียงเท่านั้น แล้วเดินลงบันไดไปยังห้องทำงานของบิดา ปล่อยให้เจ้าเด็กอัปลักษณ์ยืนน้ำตาคลออยู่ตรงนั้น พร้อมทั้งดวงใจเต้นแรงอย่างลิงโลด





























จากวันนั้น ล่วงเลยมา 3 ปี และเป็น 3 ปีที่พระพายไปที่สวนทุกวัน ดอกกุหลาบสีขาวถูกเด็ดและมอบให้กับไออุ่นวันละหนึ่งดอก ไม่ขาดแม้แต่วันเดียวกับความตั้งใจของเด็กชายตัวเล็ก และทุกครั้งที่เขาได้มอบดอกไม้ให้ไออุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กชายก็จะหันกลับมาปาดน้ำตาของตนออกทุกครั้ง












ใช่แล้ว...เจ้าเด็กก้อนถ่านสุดอัปลักษณ์มีหัวใจที่เรียกว่ารักแท้ ต่อทายาทแห่งเปลวเพลิง


















-------------------------------------------------------------------
























พุทธศักราช 2547












"เธอไม่อยากย้ายไปอยู่ในปราสาทกับฉันบ้างหรือเพลิง...? "









"ผมชอบอยู่กับธรรมชาตินะครับ...ท่านก็รู้"









อัคนี เพลิงอัคนี วัย 25 ปี ชายผู้มีชื่อเป็นเจ้าของรีสอร์ทในป่าแห่งนี้ นอนอยู่ในอ้อมกอดแกร่งของศิขริน ชายรุ่นใหญ่ซื้อที่นี่และยกให้เขาเป็นที่อาศัยด้วยความเสน่หาล้วนๆ ชายหนุ่มแรกรุ่นผู้มีกลิ่นกายหอมฟุ้งดั่งดอกไม้ทั้งสวนมาล้อมรอบ กับผิวกายเนียนละเอียดดุจหิมะในฤดูหนาว คราวใดที่ศิขรินเจ็บปวดทางใจ เขาจะมาอยู่ที่นี่ให้หิมะแสนสวยคอยปลอบใจจนเขาค่อยๆ ดีขึ้น












"ฉันเองก็ไม่กล้าพาเธอไปที่นั่นหรอก...ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่เป็นอันได้ทำอะไรทั้งวันแน่ เพราะมัวแต่กอดเธอเอาไว้อย่างนี้"










ว่าแล้วก็ก้มลงประทับจูบบนหน้าผากมนหนึ่งทีและดึงอัคนีเข้ามาไว้ให้แนบชิดยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม มือสากลูบไล้ไปบนต้นเขียนเนียนนุ่มไร้รอยมลทินใดๆ












"อาทิตย์หน้าฉันต้องไปคุยกับเสี่ยสิบทิศอีกรอบ ไม่ได้เจอกันมา 3 ปี สัญญาที่ตกลงร่วมกันไว้ก็ยุติลงแล้ว แต่ฉันคิดว่า ถ้าเรายังมีเขาเป็นหุ้นส่วนต่อ มันจะเป็นผลดีไม่น้อยเลย"










"...ขอให้เจรจาผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะครับ"











อัคนีสบตาชายผู้กกกอดตนไว้แล้วให้กำลังใจ ช่างหวานหยดย้อยจนศิขรินไม่อาจห้ามใจได้ไหว ศิขรินไม่ยอมปล่อยมือจากร่างตรงหน้าเขาเลยอยู่หลายชั่วโมง กระทั่งชายผู้เลยวัยกลางคนไปแล้วต้องหมดแรงไปเองในที่สุด











เขานอนหอบหายใจคล้ายดั่งจะขาดใจตายคาอก แต่นั่นก็เรียกได้ว่าเป็นรสสุขสมใจที่ตนปรารถนามาตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา











"อาทิตย์หน้าไม่ได้มาหาเพลิง ฉันจะขาดใจตายก่อนไหมเนี่ย..."









เขาดึงอัคนีที่นอนหอบหายใจด้วยความอิดโรยอยู่ข้างๆ มาไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง แล้วสูดดมเส้นผมสลวยนั้นจนพอใจ











"..."









"เธออยู่ที่นี่ เหงาบ้างรึเปล่า...ให้ฉันส่งคนมาอยู่เป็นเพื่อนไหม? "









"ผมอยู่ได้ครับ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง"









"ฉันพึ่งนึกขึ้นมาได้ เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนไปคุยงานกับเสี่ยสิบทิศ ฉันพาเด็กคนนึงกลับมาที่บ้านด้วย"









"ครับ.."









อัคนีรู้ดีว่าตนนั้นไม่ได้เป็นของเล่นเพียงชิ้นเดียวของศิขริน เขาจึงมีท่าทีเรียบเฉยกับการบอกเล่าในเรื่องนั้น













"เจ้าเด็กนั่น...ตัวเล็กแล้วก็เป็นใบ้ น่าสงสารมาก ฉันเจอเขาอยู่ในกองขยะ มันทำให้ฉันนึกถึงตอนฉันเป็นเด็ก ฉันกับเขามีสภาพไม่ต่างกันเลย...ติดแค่แม่ยังไม่ทิ้งฉันไป และฉันก็ได้พบกับ...อึก"










ศิขรินน้ำตาเอ่อล้นออกมา แม้ไม่ได้กล่าวชื่อ แต่ภาพความหลังมากมายระหว่างเขาและหิรัญ ได้สะท้อนกลับเข้ามาให้เขาต้องปวดใจทุรนทุรายอีกครั้ง อัคนีโอบกอดปลอบใจเขาไว้แน่น และรู้ดีว่า ศิขรินนั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะสั่งฆ่าหิรัญ เพราะเขาเองก็รักหิรัญดังเช่นชีวิตเขาเอง










เหตุผลเดียวที่อัคนียังยอมอยู่ที่นี่ และปล่อยตัวให้เขาได้โอบกอดอยู่อย่างนี้...ความสำนึกผิดของศิขรินที่น้อยคนนักจะได้รับรู้











"ชู่วว..ไม่เป็นไรนะครับ ผมอยู่กับคุณแล้ว"














อึก










ศิขรินร่ำไห้โอบรัดอัคนีไว้แนบแน่นคล้ายต้องการที่ระบาย เขาปล่อยให้น้ำตาไหลนองอย่างเนิ่นนานจนสติเริ่มกลับมาอีกครั้ง












"ถ้าเธอไม่รังเกียจเจ้าเด็กนั่น...ฉันฝากเธอดูแลเขาได้ไหม ให้เขาอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่ด้วย...ฉันอยากให้เขาเติบโตขึ้นมามีน้ำใจงดงามเช่นเธอ"











อัคนีกล่าวพร้อมลูบไล้ไปบนใบหน้าขาวเนียน ใบหน้าที่สะท้อนภาพของชาตรี อัครสกุณา ชายผู้เป็นบิดาของอัคนี...ชายผู้ถูกเขาสังหาร เมื่อวันที่หิรัญหนีจากเขาไป...วันที่โทสะปะทุเกินกว่าจะต้านทานได้ไหว













"ผมไม่รังเกียจหรอกครับ ท่านพาเขามาได้เลย"



























...
























Savahale Talk : คู่ที่สองแล้ว นี่ก็ดีใจที่ได้มาเปิด อิอิอิ แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ ^______^












----------------E-N-D---C-H-1---------------------

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 2 : สายใยสองเปลวไฟ





























"นายท่านให้ผมพาเด็กนี่มาส่งให้คุณครับ"









บอดิการ์ดคนหนึ่งของศิขรินเดินขึ้นบันไดเรือนไม้หลังงามมาพร้อมกับเด็กชายตัวเล็กวัย 10 ปี ผู้มีผิวกายสองสีและผอมบาง เด็กชายมองสบตาอัคนีฉายแววไม่ไว้ใจเต็มที่ แต่เขากลับได้รับแววตาเป็นมิตรอย่างถึงที่สุดจากอัคนีส่งไปให้











"ขอบใจมากนะ ฉันจะดูแลเขาเอง นายไปเถอะ"







แขกกลับไปแล้ว เหลือไว้เพียงเด็กชายผู้ไม่เป็นมิตร และอัคนีเจ้าของเรือนไม้หลังนี้ ความแปลกใหม่ที่อัคนีไม่ได้สัมผัสมาอย่างเนิ่นนาน เช่นเดียวกับพระพายที่หลีกเลี่ยงทุกวิถีทางที่จะออกจากปราสาท เขาน้ำตาไหลมาตลอดทางเมื่อถูกนำตัวมาที่นี่ วันนี้ไออุ่นที่เขารักจะไม่ได้รับดอกกุหลาบสีขาวเป็นวันแรกในรอบสามปี เด็กชายเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก









"พระพายใช่ไหม? "









"..."









"กินอะไรมารึยัง? "











"..."











เด็กชายหัวดื้อไม่ยอมตอบ ไม่สบตา ไม่พยักหน้า หรือส่ายศีรษะใดๆ เขายืนนิ่งค้างแล้วมองออกไปยังนอกเรือนไม้ที่รถคันหรูเมื่อครู่วิ่งผ่านออกไป

















"ฉันกำลังจะกินข้าวกลางวัน มานั่งด้วยกันสิ"









อัคนีเดินนำไปยังโต๊ะไม้แกะสลักที่ตั้งไว้มุมหนึ่งของตัวบ้าน พระพายก็ยังคงไม่กระดิกออกจากจุดเดิมที่เคยยืนอยู่ แม้ว่าอัคนีจะเรียกกี่ครั้งก็ตาม















"เธออยากมีห้องส่วนตัวไหม ฉันจะพาไปดู...แต่หลังจากที่เธอยอมมานั่งกินข้าวกับฉันดีดีแล้วน่ะนะ"









"..."











พระพายไม่ได้อยากมาที่นี่ แต่เขาเองก็เป็นเพียงเด็กรับใช้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมอัคนีจึงต้องเอาอกเอาใจเขานัก และสุดท้ายเจ้าตัวก็ยอมมานั่งทานข้าวกลางวันกับอัคนีจนได้













เด็กชายที่อยู่เพียงในปราสาทหลังใหญ่ พบกับภรรยาของศิขรินมาก็หลายคน รวมไปถึงความงดงามของไออุ่นที่เขารัก ก็เรียกได้ว่าแทบไม่เคยเห็นที่ไหน แต่กับชายร่างใหญ่ที่นั่งตรงข้ามกับเขาตอนนี้ พระพายพึ่งได้สังเกตเห็นใกล้ๆ และพบว่า เขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาจากคนตรงหน้า รวมไปถึงโครงหน้าได้รูป และผิวกายที่ไร้รอยตำหนิแม้แต่จุดเดียว ความงามอย่างถึงที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้เคยพบพานมา















"อย่ามัวแต่จ้องฉัน กินข้าวเถอะ"









อัคนีไม่ได้หันขึ้นมาสบตาเด็กชาย แต่ก็ทราบดีว่าตนนั้นถูกจ้องมองตรงๆอยู่ เด็กชายเมื่อได้ฟังก็รีบนำอาหารใส่ปาก และแอบคิดไปในใจเพียงลำพังว่า ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักเพลิงรัตติกาลจะซ่อนชายผู้งดงามคนนี้ไว้ในรีสอร์ตลึกกลางป่า











เมื่อทั้งคู่ทานข้าวเรียบร้อย อัคนีก็พาพระพายเดินไปยังเรือนไม้อีกหลังที่อยู่ไม่ห่างกันมากนัก บรรยากาศโดยรอบระหว่างทางที่พวกเขาเดินไป เป็นพรรณไม้สีเขียวชอุ่ม ประดับด้วยดอกไม้สีสดที่ตัดกันมากมาย กลิ่นอายของพืชสมุนไพรลอยลมโชยมาให้สูดดมจนรู้สึกสดชื่น











เด็กชายยิ้มออกมาอย่างลืมตัวด้วยโอโซนชั้นเลิศ และชายผู้เป็นเจ้าของที่แห่งนี้ก็ลอบอมยิ้มตาม











"นี่ห้องของเธอ ส่วนหน้าที่ที่เธอต้องทำ คือนั่งทานข้าวเป็นเพื่อนฉันวันละ 3 มื้อ นอกนั้นก็แล้วแต่เธอว่าอยากทำอะไร จะทำความสะอาด ช่วยคนสวนรดน้ำต้นไม้ หรือจะไปช่วยในครัวฝั่งนู้นก็ได้...ที่นี่เป็นรีสอร์ตเล็กๆ เปิดรับเฉพาะแขกพิเศษของเพลิงรัตติกาล แต่ตึกรับรองแขกจะอยู่คนละฝั่งกับบ้านของฉัน ฉันจะออกไปดูแลความเรียบร้อยถ้ามีแขกมาเข้าพัก เธอจะตามฉันไปด้วยก็ได้"











เด็กชายพยักหน้ารับคำ











"เธออยากเข้าเรียนในโรงเรียนรึเปล่า? "













เด็กชายวัย 10 ปี ผู้ไม่มีความรู้ความสามารถใด รวมทั้งยังเป็นใบ้ อัคนีคิดอย่างไรกัน จึงจะส่งเด็กคนนี้เข้าโรงเรียน ตัวของเด็กชายเองก็คิดเช่นนั้น เขาไม่มีทางเรียนทันใครได้ แม้ว่าลึกๆ แล้วจะอยากไปโรงเรียนเช่นเด็กทั่วไปอยู่ไม่น้อย













เด็กชายส่ายศีรษะไปมา แต่แววตานั้นไม่ได้สื่อออกมาเป็นเช่นเดียวกับการกระทำ

















"พักผ่อนเถอะ ฉันจะไปดูความเรียบร้อยที่ฝั่งนู้นซะหน่อย"















อัคนีเดินจากไปแล้ว ปล่อยเด็กชายผู้มาใหม่ไว้ในห้องกว้างเพียงลำพัง ความหรูหราตั้งแต่เท้าก้าวเข้าไป ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะได้มาอยู่ในที่แบบนี้ พระพายกระโดดโลดเต้นบนเตียงเด้งดึ๋งแสนนุ่มนิ่ม ทดลองใช้อุปกรณ์ต่างๆ มากมายที่อยู่ในห้องด้วยความสนุกสนานดั่งเด็กวัยกำลังซน



































เมื่อถึงช่วงเย็น เขาก็เดินออกมาแล้วขึ้นไปยังเรือนไม้หลังใหญ่ที่ได้ขึ้นไปเมื่อเช้าดังที่อัคนีได้บอกไว้ และพบว่าบัดนี้ อัคนีได้นั่งรออยู่แล้ว ทั้งคู่เพียงนั่งรับประทานอาหารกันอย่างเงียบเชียบ เด็กชายผู้ไม่เคยได้ร่วมโต๊ะกับชนชั้นสูง ลอบมองวิธีการใช้อุปกรณ์บนโต๊ะ การวางท่าทางที่พระพายรู้สึกได้ว่า งดงามและสง่าผ่าเผยเป็นอย่างมาก จนเมื่อมื้ออาหารจบลง เด็กชายก็แยกกลับไปยังที่พักของตน









เขายังคงนึกถึงใครบางคนที่ต้องได้พบหน้าทุกวัน แต่วันนี้กลับไม่ได้พบ นึกไปพลาง น้ำตาก็ไหลไปพลาง





































เช้าวันถัดมา ทุกอย่างก็ยังคงเป็นไปเช่นเดิม เด็กชายออกมานั่งทานข้าวเช้า ข้าวกลางวัน และอาหารเย็นกับอัคนี เมื่อทานข้าวเสร็จเขาก็เริ่มทำงานอย่างอื่นต่อ ตั้งแต่ไปช่วงงานในครัว ทำความสะอาดเรือนไม้ให้อัคนีระหว่างที่เจ้าตัวออกไปทำงาน ช่วยคนสวนรดน้ำต้นไม้และตัดแต่งกิ่งก้าน จนพักหลังๆ เริ่มชำนาญมากขึ้นเรื่อยๆ











รวมไปถึงกิริยาท่าทาง การรับประทานอาหาร การเดิน การนั่ง ที่เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดียิ่งขึ้น เด็กชายที่มักมีแววตาดื้อรั้น มองสบผู้อื่นอย่างอ่อนโยนมากขึ้น คล้ายกับว่าเขากำลังค่อยๆ ดูดซับความงดงามของชายผู้เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้ไว้ทีละน้อย โดยที่ตนเองก็ไม่รู้ตัว











"เธออยากไปโรงเรียนรึเปล่า? "









อีกครั้งในมื้ออาหารที่อัคนีถามออกไป และคราวนี้ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้ากลับมา









"ถ้าอยากไปเรียนพร้อมเพื่อนได้ เธอต้องเริ่มต้นตั้งแต่นับ 1 ใหม่ เธอพร้อมไหม? "









และเด็กชายก็พยักหน้าตอบอีกครั้ง









"วันพรุ่งนี้ ฉันจะจ้างครูสอนพิเศษมาที่นี่เพื่อมาสอนเธอตั้งแต่แรก ฉันอยากให้เธอตั้งใจเรียนนะ"















อัคนีส่งยิ้มหวานละลายใจไปยังเด็กชาย มันทำปฏิกิริยาต่อพระพายเป็นอย่างมาก ใบหน้าคล้ำปรากฏรอยแดงบางๆ ด้วยความเขินอาย และนั่นไม่รอดพ้นสายตาของชายผู้จงใจส่งยิ้มไป

































ในเช้าวันถัดมาเมื่อทานข้าวเช้าเรียบร้อย คุณครูพิเศษก็ได้เดินทางมาถึงรีสอร์ต พระพายเรียนรู้ในลานกว้างซึ่งห้อมล้อมไปด้วยพรรณไม้ เขาตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก ให้สมกับความตั้งใจของชายใจดีที่ใส่ใจเขามาโดยตลอด









เพียงไม่นานการเรียนของพระพายก็คืบหน้าอย่างก้าวกระโดด เขาสามารถอ่านออกเขียนได้ แม้ลายมือจะไม่สวยนัก แต่ก็นับว่าได้เรียนรู้ได้ไวกว่าเด็กคนอื่น อัคนีที่เฝ้ามองอยู่ไกลๆ รู้สึกภูมิใจที่แม้เด็กคนนี้จะดื้อรั้นอยู่บ้าง แต่ก็ยังตั้งใจเรียน

















"การบ้านวันนี้นะจ๊ะ ครูอยากให้พระพายเขียนว่าในอนาคตอยากทำอะไร ลองเขียนดูนะ แล้วพรุ่งนี้เอามาส่งครู"









"..."









พระพายพยักหน้าแล้วยิ้มตอบคุณครูไป เขานั่งอยู่ตรงนั้นเนิ่นนาน สายตาจ้องมองไปยังกระดาษที่ตนได้เขียนลงไปแล้วด้วยดินสอ แม้จะเป็นตัวยึกยัก แต่ก็ยังคงอ่านออกได้อยู่









ด้านอัคนีที่นั่งรอให้เด็กชายเดินกลับมาทานข้าวได้สักพัก เริ่มรู้สึกว่านานเกินไปแล้ว จึงเดินลงมาตามเด็กชายที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมด้วยท่าทางเหม่อลอย เขาเดินเข้าใกล้และได้เห็นกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้าเจ้าตัว



















'แต่งงานกับไออุ่น'









"คิกคิก"



















!!!









เด็กชายตกใจเมื่อเห็นใครบางคนเดินเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง แถมยังหัวเราะคิกคักอยู่ใกล้ๆ หูอีก เขารีบหยิบกระดาษแล้วคว่ำหน้านั้นลง















"เธอชอบไออุ่นเหรอพระพาย"









"..."











เด็กชายอายจนแทบม้วนตัวหนีเมื่อถูกจับได้ เมื่อเจ้าของบ้านเห็นดังนั้นก็ไม่คิดจะเอ่ยแซวใดใดเด็กชายต่ออีก เขาบอกให้เด็กชายรีบไปทานข้าว เพราะรอนานแล้ว











































































แฮก แฮก









"ตามหมอไหมคะคุณเพลิง? "









"ฉันไม่เป็นไร กินยาแล้วนอนพัก เดี๋ยวคงดีขึ้น"









"แต่คุณเพลิงป่วยมา 3 วันแล้วนะคะ สาว่าคุณเพลิงไปหาหมอหน่อยเถอะค่ะ"











"ถ้ายังไงฉันจะเรียกแล้วกันนะ สาไปเถอะ ฉันจะนอนแล้ว"









อัคนีล้มป่วยลงหลังจากนั้นไม่นาน ด้วยแขกที่เข้าพักเป็นไข้หวัดใหญ่ และได้นำมาแพร่กระจายในที่สาธารณะ นั่นทำให้อัคนีติดมาและนอนซมมาได้สามวันแล้ว



























ก๊อก ก๊อก







"เข้ามา"







"..."







"พระพาย? "









เด็กชายแหวกม่านลูกปัดรูปผีเสื้อเข้ามาด้านในและนั่งลงบนพื้นข้างเตียงพร้อมกับกะละมังใบเล็กและผ้าขนหนูชุบน้ำ เขาค่อยๆ ประคองคนป่วยให้ลุกขึ้นนั่ง อัคนีปลดกระดุมเสื้อของตนเองออก เผยให้เห็นเรือนร่างงดงามดั่งมีแสงสะท้อนออกมาจากภายใน











พระพายลูบผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาดไปตามร่างกายอย่างนุ่มนวล เขาเฝ้ามองชายผู้เป็นแบบอย่างคนนี้ล้มป่วยและมีสีหน้าทุกข์ทรมานมาหลายวัน และนั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกทุรนทุรายอย่างไม่ทราบสาเหตุ รู้เพียงแค่ว่า อยากให้อัคนีหายไวไว











"วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง"









"..."













ไม่มีคำตอบส่งกลับมาเช่นเคย หากแต่มีรอยยิ้มน้อยๆ ของเด็กชายที่ส่งมาให้พร้อมกับนิ้วโป้งที่ชูขึ้นคล้ายกับบอกว่าไปได้สวย แล้วดวงตาวาวโรจน์ก็หม่นลงเมื่อเห็นอัคนีมีใบหน้าซีดเผือดและคิ้วหนาพุ่งเข้าหากัน











"พอแล้วพระพาย...เดี๋ยวติดไข้ฉัน ออกไปได้แล้ว"









เช็ดตัวไปได้สักพัก อัคนีก็หยิบเสื้อของตนมาสวมเข้าที่เก่าแล้วไล่ให้เด็กรับใช้กลับออกจากห้องของตนไป









"...ไปเถอะ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นไร"









แม้เจ้าของห้องจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่เด็กชายก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม และเริ่มมีน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างที่เจ้าตัวไม่อาจห้ามได้ พระพายนั่งลงจุดเดิมอีกครั้ง แล้วเอื้อมไปกุมมืออัคนีไว้แน่นคล้ายพยายามให้กำลังใจ เจ้าตัวปล่อยให้น้ำตาให้หยดออกมาในที่สุด









อัคนีเลื่อนตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงอีกครั้ง เปลือกตาปิดลงแล้วกุมมือตอบพระพายด้วยความไม่สบายเนื้อสบายตัว















"เธอพูดได้รึเปล่า..."









"..."









เด็กชายมองไปยังชายผู้หลับตานอนบนเตียง ไม่ได้พยักหน้าหรือส่ายศีรษะแต่งอย่างใด











"พ่อของฉัน...ถูกคนๆ นึงยิงตาย...คนๆ เดียวกับที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้เมื่อ 3 ปีก่อน"











"..."



















"ฉันเกลียดเขา...แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะเขาสำนึกผิดแล้ว...เขาชดใช้กรรมที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ในโรงพยาบาลจิตเวชอยู่ปีกว่า...หลังจากที่เขาสั่งฆ่าคนที่ตัวเองรักที่สุดไป จากนั้นเขาก็ปล่อยตัวประกันทุกคนไป...ยกเว้นฉัน เขาซื้อที่นี่แล้วยกให้ฉัน...เพื่อที่เวลาเขาเจ็บปวดทุกทรมานใจ ก็จะมาระบาย มาเล่นสนุกกับร่างกายฉัน...อึก...ถ้าเธอคิดว่าใบหน้านี้ ร่างกายนี้มันดีมากนัก...ฉันอยากบอกว่าฉันไม่ได้ต้องการมันเลย ทุกครั้งที่เขามา...เขาจะร้องไห้ คร่ำครวญต่างๆ นาๆ พูดถึงเรื่องการไถ่บาปที่เขาทำ...หนึ่งในนั้น คือการช่วยชีวิตเธอเอาไว้ด้วย...ฉันอยากฆ่าเขาทุกครั้งที่เขามา...แต่ฉันก็ทำไม่ได้ ฉันต้องทนหลับนอน...กับคนที่ฆ่าพ่อตัวเองมานานหลายปี เพราะสงสารและเห็นแก่ความดีที่เขาได้ช่วยเหลือใครต่อใครเอาไว้มากมาย...ถ้าฉันยังอยู่กับเขา แล้วปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไป ก็จะมีเด็กยากไร้ คนโชคร้ายอีกหลายคน...ที่จะได้รับการช่วยเหลือ แม้ว่าฉันจะเจ็บปวดม...."













"...? "









ประโยคพร่ำเพ้อด้วยพิษไข้ของอัคนี ส่งมายังพระพายผู้รับฟังอย่างตั้งใจ เขาร่ำไห้เมื่อคิดตามว่าชายผู้นอนอยู่ตรงหน้าต้องอดทนและพบเจอสิ่งใดมาบ้างในชีวิตนี้











นอกจากจะมีความงดงามที่มากล้นแล้ว ชายผู้ที่เขากำลังกุมมืออยู่นี้ ยังมีความเสียสละ เยือกเย็น และอดทนเพื่อผู้อื่นมากมายมหาศาล ดั่งที่พระพายไม่เคยคาดคิดว่าจะมีคนเช่นนี้อยู่บนโลก









เขาสะอึกสะอื้นอยู่เนิ่นนาน แม้ว่าชายผู้ซมด้วยพิษไข้จะหลับไปแล้ว และมือน้อยๆ นั้นก็ไม่คิดที่จะผละออกเลยสักนิด หากว่าชีวิตนี้จะมอบให้ใครได้สักคนหนึ่ง เด็กชายในวัย 10 ปี ก็ตอบตัวเองได้ในทันทีว่า ต้องเป็นคนที่เขากุมมืออยู่นี้เป็นแน่ และหากว่าเขาเป็นได้ดั่งชายผู้งดงามคนนี้เพียงครึ่ง รูปลักษณ์ภายนอกนี้ คงไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วสำหรับเขา









และนั่นก็ทำให้พระพาย เด็กชายวัย 10 ปี เอ่ยสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าชายผู้หลับใหลเอาไว้ว่า





















"ผมจะคอยอยู่เคียงข้างคุณเพลิงเองครับ...ผมสาบาน"








































-----------------------E-N-D--C-H-2--------------------------

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 3 : ปักษาโฉบดวงไฟไปจากหิ้ง























"ของว่างครับคุณเพลิง"









อัคนีนั่งอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนสลักลายสวยงาม บริเวณด้านหน้าของรีสอร์ตฝั่งสำหรับรับแขก สองสามวันที่ผ่านมานี้ ไม่มีแขกสำคัญของเพลิงรัตติกาลเข้าพัก และอาการไข้ของอัคนีก็หายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาจากความทุกข์ทรมานทางกายเมื่อสัปดาห์ก่อน คือเจ้าเด็กอัปลักษณ์ที่มาอาศัยกับอัคนีเกือบครึ่งปี เด็กชายที่ใครๆ ก็คิดว่าเป็นใบ้ กลับพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย









ชายร่างใหญ่ในท่าสง่างามดันสมุดบันทึกเล่มหนาตรงหน้าไปไว้ด้านข้าง และนำเอาจานของว่างที่เด็กน้อยจัดมาให้เมื่อครู่ วางตรงหน้าแทน



















"ฝอยทอง? "







"ครับ"







อัคนีใช้ไม้สีน้ำเงินเล็กๆ จิ้มลงบนฝอยทองที่มีกลิ่นหอมลอยมาแตะจมูกแล้วนำเข้าปากเคี้ยวสักพักดวงตาก็ลุกวาวขึ้นมา











"อื้ม..อร่อย"







คำเอ่ยชมจากปากอัคนีนั้น ดูจะทำให้เด็กชายที่ยืนลุ้นอยู่ใกล้ๆ มีสีหน้าดีใจอย่างออกนอกหน้า จนเจ้าของบ้านต้องเอ่ยแซว















"เธอทำเองสินะ"







"ค..ครับ ป้าแม่บ้านบอกว่าคุณเพลิงชอบ"







"ขอบใจเธอมาก มานั่งกินด้วยกันสิ"







เด็กชายมีสีหน้าเกรงใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ขอแย่งผู้เป็นนาย แต่สุดท้ายก็ถูกอัคนีเกลี้ยกล่อมจนยอมนั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วรับประทานของหวานร่วมกันอย่างมีความสุขจนได้















"คุณเพลิงดูเครียดๆ นะครับ...ผมอยากช่วยคุณเพลิงได้บ้าง"







คำพูดเด็กสิบขวบพร้อมดวงตาใสซื่อที่มองมายังตนปลิบๆ ทำให้อัคนียิ้มออกมาด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ















"ถ้าอยากช่วยจริงๆ ก็ต้องตั้งใจเรียน ส่วนเรื่องพวกนี้ถ้าถึงเวลาแล้วฉันจะสอนเธอเอง"







"ครับ! "







แล้วจู่ๆ ใบหน้าเล็กๆ นั่นก็ฉายแววจริงจังขึ้นมาจนชายรูปงามต้องตกใจ และยิ้มออกมาอีกครั้ง อัคนีไม่รู้ว่าเป็นตอนไหนที่ทำให้เด็กชายเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็นับว่า นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก











เด็กชายผิวสองสีตั้งหน้าตั้งตาร่ำเรียนและทบทวนทุกๆ บทเรียนที่ได้รับ เพียงหนึ่งปีกับหลักสูตรเร่งรัดในการอ่านเขียน อัคนีก็ส่งเขาเข้าโรงเรียน แม้จะเรียนช้ากว่าเพื่อนไปหลายปี แต่เด็กชายก็ไม่มีทีท่าว่าเป็นกังวลแต่อย่างใด เขาเต็มใจและตั้งใจจนอัคนีต้องถึงกับยกนิ้วให้





















...































"วันนี้ที่โรงเรียนเป็นไงบ้างพระพาย? "







"การบ้านเพียบเลยครับ แต่ผมนั่งทำตอนเลิกจนเสร็จหมดแล้ว เดี๋ยวผมไปช่วยในครัวยกกับข้าวก่อนนะครับ"







อัคนียิ้มรับและประทับใจในความตั้งใจดีของเด็กชาย ตั้งแต่วันที่เด็กชายมาอยู่ที่นี่ก็เกือบ 3 ปีแล้ว ยิ่งช่วงปีหลังๆ มานี้ เด็กชายปรนนิบัติเขาและศิขรินเป็นอย่างดี จนอัคนีรู้สึกผูกพันดังเช่นตนเองมีลูกชายอย่างไรอย่างนั้น





















"วันนี้เป็นแกงเขียวหวานไก่นะครับ"







"อืม"







อัคนีนั่งรออยู่ที่โต๊ะเพื่อรออาหารมาเสิร์ฟ เด็กชายชื่นชอบแกงเขียวหวานไก่ของครัวที่รีสอร์ตแห่งนี้เป็นอย่างมาก รวมทั้งเจ้าของบ้านด้วยก็เช่นกัน มื้ออาหารเช่นทุกวัน แต่กลับสร้างบรรยากาศอบอุ่นดั่งครอบครัวให้คนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี















"พระพาย...ฉันไม่เคยถามเธอเลยแต่อยากรู้มานานแล้ว ทำไมจู่ๆ เธอถึงยอมพูดล่ะ? "







"..."







พระพายส่งยิ้มหวาน ที่ฟันขาวแทบจะเด่นกว่าใบหน้าของตนแล้ว













"เพราะผมรักคุณเพลิง..."









"รักฉันเนี่ยนะ? "







คำพูดอย่างตรงไปตรงมาของเจ้าเด็กน้อย ทำเอาอัคนีถึงกับไปไม่ถูก เขาไม่เข้าใจนักว่าทำไมถึงมารักเขาได้ และถึงจะไม่เข้าใจ แต่ความรู้สึกในเบื้องลึกของอัคนีก็บอกออกมาว่า เขาเองก็รักเด็กน้อยคนนี้ไม่ต่างกัน

















"ครับ...ผมตั้งใจไว้แล้ว"







"หืม? "







"ทั้งชีวิตของผม จะอยู่เคียงข้างและช่วยเหลือคุณเพลิงครับ"







"ฮะฮะ…ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นล่ะ? "







"เพราะคุณเพลิงเป็นคนดี รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง และผมอยากปกป้องคนดีครับ"







"...ฉันไม่ได้ดีขนาดนั้นหรอกพระพาย"













"ผมสาบาน..."







พระพายมีแววตามุ่งมั่นและจริงจังเป็นอย่างมากกับคำว่าสาบานที่ส่งมา นั่นเริ่มทำให้อัคนีมีความรู้สึกกังวลอยู่น้อยๆ แต่หากว่านั่นคือความภักดีที่เด็กชายอายุน้อยจะมอบให้ในวันนี้ ก็นับว่าดีมากแล้ว หากอีกหน่อย เขาเติบโตขึ้น และรู้จักโลกใบนี้มากขึ้นแล้วเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา อัคนีก็ไม่ติดใจอะไร



















"ผมไปก่อนนะครับ"







"ราตรีสวัสดิ์พระพาย"







อัคนียังคงส่งยิ้มหวานละมุนให้เด็กชาย และพระพายรับรู้ถึงความอบอุ่นนั้นเสมอ แม้ว่าเขา จะไม่รู้ตัวเลยว่า…นี่คือรอยยิ้มสุดท้ายที่เขาจะได้รับ



























"ปล่อย! "







ในความเงียบสงัดแห่งรัตติกาล เด็กชายตัวน้อยนอนหลับฝันดี ไออุ่นที่แสนน่ารัก ที่เขาไม่ได้พบหน้ามากว่าสามปี แต่ความรักที่เขามีให้ ดอกกุหลายทุกดอกที่เด็กชายคนนั้นรับเอาไปจากปลายนิ้วของเขา ทุกสัมผัสหอมหวานนั้น พระพายไม่เคยลบเลือนไปจากใจ









โดยที่ไม่รู้เลยว่า เรือนไม้หลังใหญ่ที่อยู่ไม่ห่างจากตนนั้น มีใครบางคนที่พระพายสาบานด้วยชีวิตว่าจะปกป้อง กำลังถูกปืนจ่อเอาไว้แล้วบังคับให้เดินไปยังรถตู้ อัคนีเหลียวมองไปยังเรือนไม้ที่เด็กชายยังคงหลับฝันดี เขาอยากจะบอกลาสักครั้งแต่ก็ไม่สามารถทำได้ หากว่าพระพายตื่นขึ้นมาตอนนี้ อัคนีคงต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

























...





















ปัง ปัง ปัง ปัง! ...















เฮือก!









ถัดจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นที่หน้าห้องของเขา เด็กน้อยสะดุ้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อรวมสติได้ก็เดินไปเปิดประตูหน้าห้องออก จากนั้นชายร่างใหญ่สองคนก็พุ่งสวนเข้ามาด้านใน สำรวจในห้องของพระพายทุกซอกทุกมุมอย่างอุกอาจ และเมื่อไม่พบความผิดปกติใด ก็เดินกลับออกไป









เด็กชายงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เขาเดินตามชายร่างยักษ์สองคนเมื่อครู่ออกจากห้องไป แล้วก็พบว่าบัดนี้ สปอตไลต์ทุกดวงในรีสอร์ตได้ถูกส่องสว่างขึ้นกว่าปกติหลายเท่าตัว ปรากฏเป็นภาพของร่างมนุษย์หลายร่างถูกห่อด้วยผ้าสีขาวแล้วทยอยนำใส่รถขนออกจากพื้นที่









พระพายเดินลงบันไดมาก็พบว่าบนพื้นมีรอยเลือดนองเป็นหย่อมๆ ใจดวงน้อยๆ เต้นหนักหน่วงขึ้น เจ้าตัวหวาดกลัวจนน้ำตาไหล เขากึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังเรือนไม้หลังใหญ่ ที่อยู่อาศัยของเจ้านายที่เขารักยิ่งชีวิต เมื่อเข้าไปถึงก็พบว่าด้านในนั้นว่างเปล่ามีเพียงความเงียบสงัด เขาเดินออกมาแล้วมุ่งตรงไปยังศิขรินที่ยืนนิ่งอยู่ใกล้ๆ เรือนไม้หลังนั้น





















"คุณเพลิงล่ะครับ!?! "







เด็กชายร้องไห้โฮกลั้นเสียงถามออกไป เขากลัวมากมายเหลือเกิน กลัวว่าชายผู้งดงามที่เขาบูชาจะจากโลกนี้ไปดังเช่นคนอื่นๆ ที่ถูกหามห่อในผ้าขาวแล้วใส่รถไป

















"พาเขาไป..."







ศิขรินไม่ตอบคำถามเด็กชาย เขายังคงยืนนิ่งค้างด้วยแววตาสั่นไหว สั่งให้ผู้ช่วยตนนำพระพายกลับไปยังปราสาทเพลิงรัตติกาลก่อนล่วงหน้า











เด็กชายร้องไห้ไปตลอดทาง เขาเอาแต่ถามออกไปว่าอัคนีอยู่ไหน จนคนขับรถไม่อาจทนรำคาญได้ไหว











"คุณอัคนีถูกปักษาทมิฬจับตัวไปแล้ว"







เมื่อได้ฟังดังนั้น เด็กชายก็ร้องไห้โฮ สะอึกสะอื้นและจิกเบาะรถไปด้วย เพราะตนนั้นทำอะไรไม่ได้เลย พระพายถูกนำตัวกลับมายังปราสาททั้งน้ำตา เขาได้กลับไปอยู่ห้องเด็กรับใช้ตามเดิม











เด็กชายจากกองขยะ ผู้มีแสงจากเปลวอัคนีส่องสว่างนำทางตนตลอดระยะเวลาสามปี เปลวอัคนีที่ทั้งอบอุ่นและอ่อนโยน เปรียบเสมือนบ้านที่เขาไม่เคยมี เปรียบเสมือนพ่อ เปรียบเสมือนพี่ชาย เปรียบเสมือนดวงไฟที่ลุกโชนให้คนไร้ค่าเช่นเขา ยังอยากมีชีวิตต่อไป









หากว่าไม่เคยได้รับความอบอุ่นเช่นนี้มาก่อน เขาคงไม่เจ็บปวดถึงเพียงนี้ เมื่อดวงไฟที่ถูกจุดไว้ ถูกขโมยเอาไป ด้วยฝีมือของคนกลุ่มใหญ่ที่พระพายไม่อาจต้านทาน









...เจ็บปวดเหลือเกิน









เสมือนกับเด็กน้อย ถูกพรากครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาไป บางสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสได้เกิดขึ้น บางสิ่งที่เรียกว่าความเจ็บแค้นและทรมานสาหัสอยู่ภายใน











...ทำอย่างไรดี?









เด็กน้อยผู้อ่อนต่อโลก ปล่อยให้น้ำตามากมายหลั่งริน ทั้งๆ ที่สาบานเอาไว้แล้วว่าจะปกป้องดูแล แต่สุดท้าย…ก็ทำอะไรไม่ได้เลย

















...





















ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา พระพายก็ไม่เคยนอนหลับสนิทได้อีกเลย เขาระวังตัวแทบตลอดเวลา เพราะเมื่อคราวก่อน ได้เผลอปล่อยกายปล่อยใจให้ความสุขสบายเข้าครอบงำ จนภัยเข้าใกล้ได้โดยที่ไม่รู้ตัว















"...ใครน่ะ? "







เด็กชายหันกลับไปยังต้นเสียงแล้วก็ต้องผงะไปชั่วครู่ เมื่อคนตรงหน้าคือชายที่เขาไม่ได้พบหน้ามาถึง 3 ปี บัดนี้เด็กหนุ่มคนนั้นเติบโตขึ้นมากแล้ว แม้นี่จะเป็นเวลาตี 3 แต่พระพายก็ยังคงวนเวียนเดินไปรอบๆ ปราสาทด้วยความหวาดระแวง















"ผ...ผมมาเดินเล่น"







ไออุ่นวัย 20 ปี กำลังเรียนมหาวิทยาลัย และวันนี้ทำกิจกรรมอยู่ที่คณะจนดึกดื่น เขาจำพระพายได้ แม้จะดูโตขึ้นกว่าเดิมเยอะ













"นายนั่นเอง...นายพูดได้เหรอ? "







ชายหนุ่มเดินยิ้มเข้าใกล้พระพาย













"หายไปไหนมาล่ะ...? "







"ผมไปอยู่กับคุณเพลิงครับ"







"คุณอัคนีเหรอ.."







"คุณรู้จักคุณเพลิงด้วยเหรอ? "







"รู้จักสิ ทุกคนที่นี่รู้จักหมดนั่นแหละ พ่อฉันรักคุณอัคนีกว่าแม่ฉันซะอีก ฮ่าฮ่าฮ่า"







ประโยคที่ฟังดูน่าเจ็บปวด แต่ไออุ่นกลับหัวเราะออกมาได้หน้าตาเฉย และการเอ่ยถึงเจ้าเหนือหัวของพระพายขึ้นมา ก็ทำให้พระพายเริ่มรู้สึกบาดลึกในใจอีกครั้ง เด็กชายวัย 13 ปีก้มหน้าลงเพื่อซ่อนใบหน้าที่เริ่มมีน้ำตาไว้















"ฉันเสียใจด้วยนะ...ได้ยินว่าคุณอัคนีถูกปักษาทมิฬจับตัวไป"







"อ๊ะ...! "







ไออุ่นสะดุ้งอุทานเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ เด็กน้อยก็โผเข้ากอดตนไว้แน่น เขาซบหน้าลงบนอกของไออุ่นแล้วร้องไห้ ไออุ่นที่แสนอบอุ่นยังคงมีท่าทีเช่นเดิม คือไม่ได้รังเกียจพระพายสักนิด เขาโอบตอบไปและลูบหลังปลอบใจไปด้วย















"ผมขึ้นไปห้องคุณได้เปล่า"







"…! "







แม้ฟังดูกะทันหัน แต่ไออุ่นก็ไม่ได้ปฏิเสธเด็กชายที่กำลังโศกเศร้า เขาเพียงพยักหน้าแล้วเดินนำพระพายขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้าน และนี่เป็นครั้งแรกที่พระพายได้เข้ามาในห้องกว้างของลูกชายคนเล็กของศิขริน ห้องกว้างประดับไปด้วยเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น ไออุ่นคล้ายว่าจะชื่นชอบสีชมพูเป็นพิเศษ ทั้งผนัง พื้นห้องและผ้าปูเตียงก็เป็นสีชมพูทั้งหมด















"คืนนี้ผมนอนด้วยนะ"







พระพายยังคงเกาะเอวไออุ่นไว้ แม้ว่าความสูงของพระพายจะอยู่เพียงอกของไออุ่น แต่แรงกอดรัดที่อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยนั้นเรียกได้ว่ามากมายมหาศาลจริงๆ









เจ้าของห้องยิ้มน้อยๆ ตอบกลับไปแล้วค่อยๆ พาตัวเองที่มีลูกลิงเกาะอยู่ไปที่เตียงแล้วค่อยๆ ล้มตัวลงนอนด้วยกัน





























-----------------------E-N-D--C-H-2--------------------------


 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:  :L1:








ขอบคุณคอมเม้นท์จากคุณ AkuaPink ด้วยนะคะ ^^ :L2:



 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ว้าวว~~รักต่างชั้นจะเป็นยังไงต่อบ้างละเนี้ย ?  รอตามตอนต่อไปเลยค่ะ :)

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 4 : ไออุ่น...อบอุ่น





























"หลับง่ายกว่าที่คิดแฮะ"







ไออุ่น เพลิงอัคนีในวัยยี่สิบสองปีลุกขึ้นจากเตียงกลางดึก อีกเพียงไม่กี่เดือนข้างหน้าเขาก็ต้องสอบจบแล้ว เด็กหนุ่มจำเป็นต้องอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อให้การสอบครั้งสุดท้ายผ่านพ้นไปได้ดีที่สุดเท่าที่เจ้าตัวจะทำได้









เกือบสองปีมานี้ตั้งแต่ที่พระพายย้ายกลับมาอยู่ในปราสาทเพลิงรัตติกาลอีกครั้ง เขาแทบมานอนที่ห้องของไออุ่นทุกคืน ตอนนี้เจ้าเด็กน้อยอายุได้ 15 แล้ว แต่ในสายตาของไออุ่นเขาก็ยังคงเป็นลูกลิงน้อยที่เกาะเขาตลอดเวลาที่เจอหน้ากัน ช่วงแรก พระพายแทบไม่ยอมหลับยอมนอน ยังคงเดินวนไปวนมาจนดึกดื่น แต่ผ่านไปสักพักก็หลับไปอย่างง่ายดาย และเมื่อเห็นว่าน้องชายนอนหลับไปแล้ว จึงได้เวลาที่ไออุ่นจะเริ่มอ่านหนังสือจริงจังเสียที















"ฮ๊าวววว...."











ผ่านไปเพียงสองชั่วโมง ชายผู้ตั้งใจอ่านหนังสือก็เริ่มดวงตาพร่ามัวและอ้าปากหาวอยู่หลายที จนเจ้าตัวรู้สึกฝืนเปลือกตาไม่ไหวจึงได้เดินกลับไปนอนที่เตียง



















ขลุก ขลัก









"อื้อ! "









ลูกลิงน้อยที่เขานึกว่าหลับสบายไปเนิ่นนานแล้วขยับตัวเข้าใกล้เขาแล้วกอดเอวเขาจากด้านหลังอย่างแรงจนไออุ่นตกใจ

















"...กอดผมหน่อย"









"นึกว่าหลับไปแล้ว"











ไออุ่นพลิกตัวหันหน้าเข้าหาเด็กชายวัย 15 ที่ยังลืมตาฝ่าความมืดมาอยู่ เจ้าของห้องคนที่ง่วงสุดชีวิตดึงตัวเด็กน้อยให้มาหนุนวงแขนของตนต่างหมอน จากนั้นก็กระชับอ้อมกอดเอาไว้ พระพายกอดเอวไออุ่นไว้เช่นกัน แล้วซุกหน้าเข้ากับอกที่ตนแสนรักใคร่













ความอบอุ่นที่พระพายโหยหา ถูกใครบางคนช่วงชิงเอาไป แต่ก็โชคดีที่เหลือที่มีอ้อมกอดอบอุ่นจากไออุ่นที่พระพายหลงรัก คอยโอบกอดเขาเอาไว้เช่นนี้ สิ่งเดียวที่หลงเหลือบนโลกที่พระพายจะรักษาไว้เท่าชีวิต และจนกว่าจะได้อยู่ในอ้อมกอดของไออุ่นเช่นนี้ เขาจะไม่ยอมทิ้งสติไปโดยเด็ดขาด



























เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น ด้วยการที่ไออุ่นต้องรีบแต่งตัวเพื่อไปเรียน ส่วนพระพายนั้นหลังจากที่อัคนีถูกจับตัวไป เขาก็ไปอ้อนวอนขอให้ศิขรินช่วยฝึกเขา ให้เขาแข็งแกร่งมากพอที่จะสามารถไปช่วงชิงอัคนีคืนมาได้ และศิขรินตอบรับคำขอนั้น เขาให้พระพายเข้าฝึกหนักกับครูชั้นเซียนแห่งเพลิงรัตติกาล ที่ไม่ได้มีดีเพียงการสอนหนังสือ แต่ยังรวมไปถึงการต่อสู้ ป้องกันตัว และศาสตร์การใช้ยาพิษ ซึ่งพระพายนั้นทำได้ดีจนอาจารย์ทุกคนรักและชื่นชมเป็นพิเศษ











พระพายฝึกหนัก โดยที่ไออุ่นไม่เคยรับรู้ เขาเข้าใจเพียงว่าพระพายนั้นคือคนทำความสะอาดบ้านผู้อ่อนแอ และน่าสงสารเท่านั้น





























"ดีมาก! ไหนลองอีกที"











หมัดหนักๆ เหวี่ยงออกสุดแรง ทั้งข้อเข่าและข้อศอก เด็กชายตัวเล็กที่แข็งแกร่งเกินใครต้านทาน มุ่งมั่นและตั้งใจจนสามารถล้มแม้กระทั่งผู้ฝึกสอนได้หลายราย



















แปะ แปะ แปะ















"เก่งมาก...พระพาย"



















พรึบ











เด็กชายหันกลับไปทันควันเมื่อได้ยินเสียงนั้น เสียงที่เขาจำได้ดี เสียงของบุรุษผู้งดงามที่สุดที่เขาเทิดทูนบูชาไว้เหนือหัว และเพียงครู่เดียว…น้ำตาแห่งความเจ็บปวด ความสุขใจ ความคำนึงหา ก็หลั่งรินออกมาอย่างไม่อาจห้ามปราม



















"คุณเพลิง!!! "









เด็กชายวิ่งเต็มกำลังโผเข้ารัดอัคนีไว้แน่น แล้วปล่อยโฮออกมาชุดใหญ่



















"ฮือออ คุณเพลิง..! คุณเพลิง...! "









"ฉันกลับมาแล้ว"









"ผมขอโทษครับ...ผมขอโทษจริงๆ ที่ผมปกป้องคุณไม่ได้"









"ไม่ใช่ความผิดเธอหรอก ไม่ต้องโทษตัวเองแล้วนะ ฉันกลับมาแล้ว"









พระพายกอดอัคนีไว้แน่นอีกครั้ง และคราวนี้อัคนีต้องตบบ่าเด็กชายเบาๆ ด้วยวงแขนนั้นแกร่งดั่งคีมล็อกก็ไม่ปาน ชายร่างใหญ่ชักหายใจไม่ออกเสียแล้ว









อัคนีกลับมาที่ปราสาทเพลิงรัตติกาลอีกครั้ง และครั้งนี้ศิขรินไม่ยอมส่งเขากลับไปอยู่รีสอร์ตได้ง่ายๆ อีก ด้วยห่วงความปลอดภัยและเกรงว่าทางนั้นจะย้อนกลับมาลักพาตัวอัคนีกลับไป









ด้านอัคนีที่กลับมาเริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไปจนพระพายที่รับใช้ใกล้ชิดมาโดยตลอดสัมผัสได้ เจ้าชีวิตของพระพายไม่มีสิ่งใดปิดบังต่อเด็กชายผู้เปรียบดั่งบุตรในอุทร เขาบอกเล่าทุกเรื่องราวที่ได้พบเจอมา และบัดนี้พระพายเข้าใจแล้วว่า ดวงตาหมองเศร้าและเหม่อลอยนั้น...มีใครเป็นเจ้าของ แม้ว่าพระพายจะแสนเกลียดชังชายผู้ได้ดวงใจอัคนีไปครอบครอง แต่เจ้าชีวิตของเขารักชายผู้นั้นสุดหัวใจ พระพายก็ควรที่จะภักดีด้วยเช่นกัน



















พระพายเห็นศิขรินแอบย่องเข้าไปโอบกอดอัคนีทุกคืน และเช้ามา ใบหน้าของอัคนีก็จะเต็มไปด้วยความปวดร้าว เขาจึงได้ปฏิญาณต่อตัวเองว่า จะไม่ยอมให้ศิขรินได้มีโอกาสทำร้ายอัคนีได้อีก เขาจะหาทางให้ได้ไม่ว่าอย่างไร







































"อื้อ! "









อีกครั้งที่ไออุ่นถูกร่างเล็กพุ่งเข้ารัดด้วยแรงมหาศาล ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ชินเสียที ไออุ่นหันกลับมาโอบกอดร่างเล็กนั้นกลับแล้วพาไปนอนดังเช่นทุกวัน















"คุณใกล้สอบแล้วไปอ่านหนังสือเถอะ ผมอยู่เป็นเพื่อน"









"นายนอนไปก่อนก็ได้นะ"









"ผมนอนไม่หลับหรอกครับ ถ้าคุณไม่กอดผม...คุณก็รู้"









"งั้นฉันรอให้นายหลับก่อนก็ได้ ค่อยลุกมาอ่าน"









ไออุ่นที่ดันตัวเองและเด็กชายลงนอนไม่เป็นผล เมื่อพระพายยันตัวลุกขึ้นแล้วจูงไออุ่นให้กลับไปนั่งที่เก้าอี้ จากนั้นเขาจึงนั่งควบลงไปบนตักของไออุ่น โดยหันหน้าเข้าหาแล้วใช้แขนเล็กๆ สองข้างโอบรอบคอไออุ่นเอาไว้ ใบหน้าก้มลงยังซอกคอแล้วสูดดมจนเคลิ้มไป

















"จะอยู่แบบนี้แน่เหรอ? "









"ครับ คุณอ่านรู้เรื่องไหม"









"ก็จะพยายามอ่านให้รู้เรื่องแล้วกัน"









ไออุ่นรวบรวมสติอยู่นานกว่าจะสามารถทำความเข้าใจกับหนังสือตรงหน้าได้ เมื่อรู้สึกตัวอีกทีใครบางคนที่อยู่บนตักก็เริ่มมีลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอคล้ายกับว่าหลับไปแล้ว













และนั่น คือช่วงเวลาที่ไออุ่นรู้สึกได้ว่า เขาไม่ได้อ่านหนังสืออยู่เพียงคนเดียว ความโดดเดี่ยวเช่นก่อนเก่าหายไปจนหมดสิ้น และพรุ่งนี้ก็เป็นวันที่เขาจะสอบตัวสุดท้ายจบ คืนนี้จึงได้ตั้งใจหนักกว่าทุกวันที่ผ่านมา























เวลาผ่านไปจนเกือบเช้า ไออุ่นก็ค่อยๆ อุ้มคนที่ใช้แขนโอบรอบคอตนไปวางบนเตียง แล้วเขาก็ล้มตัวลงนอนตามไป









"ขอพักสายตาสักสองชั่วโมงก่อนแล้วกัน"











ชายหนุ่มผู้อ่อนเพลียผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัวด้วยความอิดโรย แต่ใครบางคนที่สัมผัสได้ถึงแรงสะเทือนจากการเดินกลับไปที่เตียงได้สติตื่นขึ้น พระพายลืมตาในความมืด แล้วจ้องมองไปยังใบหน้าขาวใสที่บัดนี้มีรอยย่นเล็กน้อยจากความเครียด

















เช่นทุกวันที่ไออุ่นไม่เคยรู้ตัว จมูกเล็กๆ ของพระพายก็ได้กดลงบนแก้มขาว ลามไปยังหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ปลายคาง และปากบางนั้นที่พระพายพยายามดูดกลืนริมฝีปากทั้งล่างและบนอย่างแผ่วเบาที่สุด เพื่อไม่ให้เจ้าของต้องรู้สึกตัวขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้นเด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่ได้รับการฝึกฝนทางกายอย่างหนัก ก็มักลอบถ่ายภาพของไออุ่นในวงหน้าหลับใหลเอาไว้ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปกระทำการบางอย่างที่ขัดต่อคุณงามความดี











ยิ่งนับวันมันยิ่งบ่อยและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งค่ำคืนนี้ที่ไออุ่นสลบไปด้วยความอิดโรย แต่เขากลับได้นอนหลับเต็มอิ่มและกลับมามีกำลังวังชาอีกครั้ง ไม่ว่าเขาจะลูบไล้ร่างไร้สติของไออุ่นรุนแรงเพียงใด ก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้าตัวจะลืมตาตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด



















"ขอหน่อยเถอะนะ ผมทนไม่ไหวแล้ว"









เด็กหนุ่มนำบางสิ่งที่ร้อนฉ่าจากการกอดจูบและลูบไล้ออกมาจนโผล่พ้นขอบกางเกง เขาปืนขึ้นไปวางเข่าลงบนหมอนของไออุ่น ให้ตรงกลางระหว่างขาอยู่บริเวณใบหน้าเนียนใสนั้น แล้วนำแท่งร้อนเมื่อครู่แตะลงบนเรียวปากแสนสวย แล้วค่อยๆ ถูไถรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มือน้อยๆ รูดรั้งดึงดันไปพร้อมๆ กัน











เขานำส่วนหัวที่เริ่มมีน้ำใสไหลออกมาสัมผัสไปทั่วใบหน้าที่ตนหลงรัก มือก็เริ่มเร่งจังหวะดึงดันรุนแรงและรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ



















…จนสุดท้าย



















"ฮ่า ฮ่า ฮ่าาา.."









บางสิ่งก็พุ่งออกมาแล้วตกกระทบเข้ากับใบหน้าชวนฝันที่หลับใหลไม่รู้เรื่อง คราบขาวขุ่นอาบไล้ไปทั่วใบหน้า โดยไม่รอช้า พระพายหยิบโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วกดถ่ายภาพเอาไว้หลายภาพ จากนั้นจึงได้หยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดคราบเหล่านั้นออกจนหมด















ไออุ่นที่พระพายหลงรักตื่นจากนิทราหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง และเขาพบว่าเจ้าลิงน้อยยังคงเกาะอยู่ที่บริเวณหน้าอกของเขาเช่นทุกวัน ไออุ่นพยายามดันตัวออก แต่นั่นกลับทำให้พระพายลืมตาขึ้น และจ้องมองเขาอย่างตาไม่กะพริบ ไออุ่นสัมผัสได้ถึงสัญญาณอันตรายอะไรบางอย่างจึงได้เป็นฝ่ายเอ่ยทักขึ้นก่อน











"ตื่นแล้วเหรอ? "









"ครับ"









"อื้ม"











เจ้าของห้องเอ่ยเพียงเท่านั้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปสอบในวันสำคัญ และอีกสิ่งหนึ่งที่ไออุ่นไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลย นั่นก็คือ...ในห้องน้ำสุดหรูหราของเขานั้น ถูกเด็กหนุ่มบางคน แอบนำกล้องตัวจิ๋วไปซุกซ่อนไว้มาได้สักพักแล้ว

















พระพายอัดวิดีโอทุกครั้งที่ไออุ่นเข้าไปอาบน้ำ หลายครั้งใบหน้าที่พระพายหลงรัก ทำร้ายตัวเองในห้องน้ำ และทุกครั้ง เด็กหนุ่มที่เดินกลับเข้าห้องของตนในเรือนคนใช้ไปก็ได้ทำร้ายตัวเองตามภาพที่ฉายในมือถือด้วยเช่นกัน

















"แฮกแฮก…ขอให้สอบผ่านนะครับที่รัก"











เมื่อพายุอารมณ์ทุกลูกจบลง พระพายก็จะเริ่มกลับเข้าสู่การฝึกที่เข้มข้นต่อ และพักหลังๆ อัคนีจะเดินมาดูเขาและพูดคุยกันในช่วงพักของพระพายเสมอ



























"ติดไออุ่นแจเลยนะ"









"คุณเพลิง..."









"ฉันจำได้นะ...เธอเคยเขียนไว้ว่าจะแต่งงานกับไออุ่นน่ะ คิกคิก"









"ผม…รักเขาครับ...คุณเพลิงจะว่าอะไรไหม ถ้าผม..."









"เธอรักใคร ฉันก็รักด้วยนั่นแหละ ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก...แต่เธอก็ต้องถามความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วยนะพระพาย ไออุ่นรู้ไหมว่าเธอคิดยังไง? "









"ไม่รู้หรอกครับ...ไม่อยากให้รู้ด้วย ถ้ารู้เมื่อไหร่...ทุกอย่างคงจบลงเมื่อนั้น"









"มีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกแล้วกัน"









"...แล้วคุณเพลิงล่ะครับ ตอนเช้าผมเห็นคุณเพลิงตาแดงทุกวันเลย ผมบอกตรงๆ ผมไม่สบายใจ"









"ฉันไม่เป็นไร"









"ผมช่วยคุณเพลิงได้นะครับ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ขอแค่คุณเพลิงสั่งมาคำเดียว ผมพร้อมลุย"



















"...มีคนบอกฉันว่า เธอปรุงยาพิษได้ใช่ไหมพระพาย? "
















-------------------E-N-D---C-H-4----------------------

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:








คุณ blove  :กอด1:

ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีดีที่มีให้กันตลอดเลยนะคะ  :กอด1:

ภาคแยกของคู่นี้จะออกแนวเหมือนตอนล่าสุดนี้นะคะ คือพระพายจะจิตๆหน่อย 555

สำหรับ ทวิชและเมฆา จะมาเป็นคู่ถัดไปนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามมากๆเลยค่ะ  :L1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ยังไงสิ รอดู

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 5 : จอง















หมายเหตุ : เรื่องราวในภาคแยกที่ 2 นี้ มีความเกี่ยวโยงหลายฉากกับภาคแยกที่ 1 ของอัคนีอยู่นะคะ ถ้าอยากทราบรายละเอียดเพิ่มขึ้นและไม่งงมาก กลับไปอ่านภาคของอัคนีกันก่อนได้นะคะ ขอบคุณค่ะ : )



































"...พ่อ? "









ไออุ่นตื่นตั้งแต่ตี 3 ในเช้าวันรับปริญญา เมื่อแต่งกายชุดเข้าพิธีสำคัญเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกจากห้องนอนของเขาไปยังห้องพักของบิดา เพื่อลาออกไปมหาลัยกับเพื่อนที่พักในโรงแรมเดียวกัน แต่แล้วทุกอย่างก็คล้ายกับนิ่งสนิทไป เวลาคล้ายหยุดเดินลงไปตรงนั้น ชายหนุ่มมองเห็นใครบางคน มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำล่ำสันผ่านความมืด ยืนอยู่ข้างเตียงของบิดาเขา ในมือมีมีดปลายแหลมกระชับเอาไว้ และบิดาของเขาก็นิ่งสนิทไม่มีการโต้ตอบใดใดกลับมา ไม่ว่าเขาจะเรียกไปกี่ครั้ง













ความสับสนก่อกำเนิดขึ้นหลังจากนั้น ไออุ่นเดินถอยหลังจนถึงริมประตูห้องของบิดา ก่อนจะวิ่งกลับไปยังห้องของตน มารดาที่กำลังเก็บอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมได้เห็นเข้า ก็เอ่ยทักขึ้นด้วยความประหลาดใจ แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นฉายแววตกใจ เมื่อเห็นลูกชายน้ำตาไหลนองหน้า















“ฮือออ…อึก”









คำตอบที่เขามอบให้แก่มารดา ทำให้ปราสาทเพลิงรัตติกาลทั้งหลังลุกเป็นไฟขึ้นมา ไม่นานจากนั้นรถตำรวจและรถพยาบาลก็เข้ามาในพื้นที่และทุกสิ่งก็ค่อยๆ ถูกจัดการไปทีละอย่าง













“ชายคนนั้น…เป็นคนลงมือ”









ไออุ่นเอาแต่พร่ำเพ้อถึงชายร่างยักษ์ในความมืด วันสำคัญที่มีเพียงวันเดียวในชีวิตเขา วันที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิตไปอีกขั้น วันที่รอยยิ้มอาบไล้ทั่วร่าง วันที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า…วันที่บิดาถูกพรากจากไป



















































“ไปกันเถอะลูก”









มารดาหวีผมให้ชายหนุ่มอย่างเรียบร้อย วันนี้คือวันที่เขาต้องไปนั่งร่วมกับภรรยาอีกร้อยกว่าคนของบิดา รวมไปถึงทายาทอีกหลายร้อยคนที่เดินทางมาร่วมฟังพินัยกรรมของเจ้าสำนักเพลิงรัตติกาลที่พึ่งเสียชีวิตไป



คำประกาศแบ่งสมบัติยาวเหยียดหลายหน้ากระดาษไม่ได้สะกิดเข้าโสตประสาทไออุ่นได้แม้สักนิด เขามารู้ตัวอีกทีเมื่อทุกคนแยกย้าย และมารดาบอกกับเขาว่า บิดาของเขาตั้งอัคนีขึ้นเป็นประมุขแทน ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าประหลาดใจเท่าไรนัก เมื่อบิดานั้นทั้งรักทั้งหลงอัคนียิ่งกว่าใครๆ

















“…”









เด็กหนุ่มอัปลักษณ์คนเดิมพุ่งเข้าชนร่างขาวของไออุ่นเต็มแรง แต่ก็คล้ายว่าคนที่ยืนตรงนี้มีเพียงร่างกายเท่านั้น จิตใจไออุ่น ล่องลอยไปไกลแสนไกลเสียแล้ว











พระพายที่เห็นเข้าดังนั้น ก็เริ่มอึดอัดใจและเจ็บปวดหน่วงหนักขึ้นเรื่อยๆ เขาทนเห็นคนที่ตนหลงรักมีใบหน้าไร้ชีวิตเช่นนี้ไม่ไหว แม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจ ว่าเรื่องเลวร้ายทั้งหมด แท้จริงแล้วใครเป็นคนลงมือ















อึก











พระพายเริ่มร้องไห้เมื่อแววตาที่เขาพยายามจ้องมองและเรียกร้องความสนใจเต็มไปด้วยความว่างเปล่า แขนคีมล็อก กอดไออุ่นเอาไว้แน่นดังเช่นทุกวัน มือเล็กลูบวนอยู่บริเวณต้นแขนพร้อมคำพูดปลอบโยนที่วนเวียนต่อเนื่องไปไม่หยุด



















“ผมอยู่กับคุณนะครับ…คุณได้ยินผมไหม…ไออุ่น ผมรักคุณ…ผมรักไออุ่น รักไออุ่น…รักที่สุด พระพายรักไออุ่นนะ ไออุ่นได้ยินไหม…อึก”











แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ ก็ไม่มีท่าทีว่าคำพูดใดจะสื่อไปถึงชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเหม่อลอยนี้ได้เลย เด็กหนุ่มเก็บดอกกุหลาบขาวมาใส่แจกันในห้องชายในดวงใจของเขาไว้ทุกวัน วันละหนึ่งดอก เช่นเดียวกับเมื่อหลายปีก่อนที่พระพายได้พบไออุ่นครั้งแรก และได้มอบให้เขายาวนานติดกันถึง 3 ปี ด้วยหัวใจทั้งหมดที่มีต่อไออุ่น













มารดาของไออุ่นเจ็บหนักไม่แพ้กัน แต่ก็ยังคงยอมรับอัคนีขึ้นเป็นเจ้าบ้านคนใหม่ และผลกระทบที่ตามมาหลังจากอัคนีขึ้นแทนที่ศิขรินก็รุนแรงเกินคาด แต่ถึงอย่างนั้น ทุกอย่างก็สงบลงได้อย่างน่าประหลาดใจในที่สุด ด้วยการปกครองจากชายผู้เยือกเย็นที่มีชื่อดั่งไฟ ทำให้เพลิงรัตติกาลที่โชติช่วงมานาน เริ่มได้รับสัมผัสไอเย็นแห่งฤดูหนาวบ้างแล้ว



















“ไออุ่นยังไม่ดีขึ้นอีกเหรอ?”











“…ครับ”











อัคนีที่เห็นพระพายมีสีหน้าเศร้าหมองรุนแรง รู้ได้ในทันทีว่าอาการของไออุ่นคงยังไม่ดีขึ้น เขาเอง วันที่ลอบวางยาศิขริน ก็ไม่ได้ตั้งใจให้ไออุ่นได้รับผลกระทบหนักถึงเพียงนี้ อัคนีจึงตัดสินใจ เดินไปคุยกับไออุ่นเป็นการส่วนตัว















“ไออุ่น…ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน ถ้าเธอฟังอยู่ ฉันอยากให้เธอทำใจ…พ่อของเธอ ทำบาปทำกรรมเอาไว้มาก เขาฆ่าคนเพื่อผลประโยชน์ของตนเองมาตลอดชีวิต แล้วยังรวมไปถึงคนที่รักเขายิ่งชีวิต เขาก็ยังฆ่าได้ลง…แม่ของเธอเอง ก็เจ็บปวดไม่ต่างกับภรรยาคนอื่นๆ ของพ่อเธอหรอก ผลของการมักมากของเขาก็ด้วยเหมือนกัน…เขาควรได้รับในสิ่งที่ตนเองได้ก่อเอาไว้แล้วไม่ใช่หรือ…ถ้าเธอรักพ่อของเธอ ฉันอยากให้เธอลุกขึ้น แล้วมาช่วยฉัน ดูแลอาณาจักรนี้ของพ่อเธอให้มันยังคงอยู่ต่อไป…เธอเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว และฉันรู้ว่าเธอมีความรับผิดชอบมากพอ…กลับมาเถอะ เธออาจจะเห็นหรือไม่เห็น…แต่มีใครบางคนร้องไห้เพราะเธอทุกวันมาร่วมเดือนแล้ว ไม่สงสารเขาบ้างเหรอไออุ่น”













อัคนีพูดกับไออุ่นที่ยังคงมีดวงตาเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง แม้จะไม่มีปฏิกิริยาใดตอบกลับมา แต่ดวงตานั้นก็เกิดความวูบไหวขึ้นอยู่พักหนึ่งให้อัคนีสังเกตเห็นได้ เจ้าของปราสาทคนใหม่ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไป











พระพายเดินสวนอัคนีที่หน้าประตู ในมือเขามีกุหลาบขาวติดมาด้วยหนึ่งดอก เจ้าตัวบรรจงใส่มันลงในแจกันแล้ววางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ ที่ไออุ่นนั่งอยู่ เขาโค้งตัวลงแล้วหอมแก้มขาวเนียนที่ตนหลงรักไปหนึ่งที แล้วพูดประโยคเดิมที่เขาพูดเช่นทุกวัน

















“…ผมรักไออุ่นนะ”











เด็กหนุ่มเลิกเสื้อตนเองขึ้นเช็ดน้ำตาที่คลอเบ้า แล้วเดินออกจากห้องไป เพื่อฝึกซ้อมดังเช่นทุกวัน

























“…”











โดยที่ไม่ทันได้สังเกตกว่า ใครบางคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ค่อยๆ หันหน้าไปมองประตูที่ปิดลงโดยพระพายเมื่อครู่

























หลายเดือนที่ผ่านมา ปราสาทเพลิงรัตติกาลคล้ายกับถูกสีเทาของเมฆหมอกขุ่นมัวบดบังเอาไว้ หลายคนจมอยู่ในความเศร้าและการเริ่มต้นใหม่แสนยากลำบาก แต่ถึงกระนั้น วันนี้กลับมีเรื่องดีดีเกิดขึ้น เมื่อลูกชายคนโปรดของศิขรินได้ก้าวเท้าออกจากห้องส่วนตัวที่มีดอกกุหลาบสีขาวประดับเต็มไปหมดมา เขาเดินลงไปยังห้องทำงานของบิดา ที่บัดนี้ มีเจ้าของบ้านคนใหม่มานั่นแทนแล้ว





















“ไออุ่น…?”











“…ครับ”











อัคนีเมื่อเห็นคนที่เดินเข้าห้องมาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม และเจ้าบ้านคนใหม่ก็ได้รับรอยยิ้มจากไออุ่นตอบกลับมาเช่นกัน ชายหนุ่มร้องขอช่วยงานแก๊งเท่าที่ตนจะทำได้ แม้ใบหน้าจะยังหมองเศร้าอยู่มาก แต่เมื่อได้ลงมือทำงานด้วยความตั้งใจ ก็คล้ายว่าความเศร้านั้นจะค่อยๆ มลายหายไปได้ทีละน้อย

















“เธอกลับมายิ้มได้ พระพายคงดีใจไม่น้อยเลย”











ไออุ่นอยู่ช่วยงานอัคนีจนเย็นและขอตัวกลับไปพัก หลังเจ้าตัวทานมื้อเย็นกับอัคนีในห้องทำงานเรียบร้อยแล้ว เจ้าสำนักคนใหม่พูดทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคเมื่อครู่ และก็ได้รับรอยยิ้มจากไออุ่นส่งมาให้เช่นกัน











ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยรับรู้มาก่อนถูกส่งมาจากพระพาย เจ้าลิงน้อยที่เกาะเขาหนึบแทบตลอดเวลา พึ่งทันได้สังเกตเมื่อวันก่อนนี้เอง ว่าเด็กน้อยที่สั่นเทาตอนยื่นดอกกุหลาบดอกแรกให้เขาคนนั้น ได้เติบโตขึ้นมากกว่าเก่าหลายเท่า ไออุ่นเข้าใจถึงพฤติกรรมนั้นมาตลอด แต่ก็คิดไว้ว่าสักวันเมื่อโตขึ้น พระพายจะเข้าใจโลกและเปลี่ยนใจไปเอง แต่สิ่งที่เขากระทำกับไออุ่น มันกลับเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ไออุ่นคิดไว้มาก











เมื่อถึงห้อง ไออุ่นก็ล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียง

















ตุ่บ















ตุ่บ













ตุ่บ

















เพียงไม่นาน ก็มีเสียงใครบางคนที่เขาเคยให้กุญแจห้องไว้เดินเข้ามา พระพายถือดอกกุหลาบสีขาวติดมือมาด้วยเช่นทุกวัน เขาวางมันลงข้างหมอนของไออุ่น กลิ่นหอมของดอกกุหลาบโชยเข้าจมูกชายผู้กำลังหลับตาให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มและรู้สึกดี











พระพายทิ้งตัวลงข้างๆ ไออุ่น มือกดรีโมทดับไฟทั้งห้องลง เหลือเพียงไฟสีส้มตรงปลายเตียงดวงเล็กๆ เอาไว้ จากนั้นเด็กหนุ่มก็ขยับประชิดตัวไออุ่นดังเช่นทุกวัน



















“ผมรักคุณ…”











ฟอดดดดดดดด













แก้มขาวถูกจมูกน้อยๆ กดลงแล้วสูดเข้าเต็มปอดอย่างแรง ไออุ่นที่พึ่งได้สติคืนมา ตกใจกับสิ่งที่พระพายกระทำเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงหลับตาต่อไป แล้วบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็เริ่มเกิดขึ้นจนเจ้าตัวต้องลืมตาและมองฝ่าแสงไฟสลัวออกไป















พระพายไม่ได้ใช้แขนของตนต่างหมอน แต่เด็กหนุ่มวัย 15 ปี คร่อมทับร่างของไออุ่นเอาไว้ แล้วเริ่มเลียบริเวณซอกคอขาวพร้อมดูดกลืนอย่างแรง จากนั้น มือเล็กก็ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของไออุ่นออก ลิ้นร้อนที่วนเวียนอยู่ตรงซอกคอเคลื่อนไปตามผิวเนียน วนเวียนไปเรื่อยๆ จนถึงยังยอดอกสีชมพูวงใหญ่ที่กำลังชูชัน













จ๊วบบบ











เสียงดูดกลืนคล้ายกับกำลังเอร็ดอร่อยเป็นอย่างมากของพระพาย ทำให้มือขาวของไออุ่นต้องยกขึ้นแล้วดันศีรษะของพระพายออกโดยอัตโนมัติ

















แฮก แฮก











เมื่อร่างกายถูกล่วงเกินจนเกิดความรู้สึกวาบหวามที่ห้ามได้ยาก ไออุ่นจึงรีบดีดตัวลุกขึ้นแล้วกดเปิดสวิตช์ไฟที่มุมหัวเตียง ทันใดนั้นเองก็ปรากฏใบหน้าของเด็กหนุ่มผู้มีดวงตามันวาวเป็นประกาย ใบหน้าและลำคอแดงจัดดั่งถูกฟาดด้วยไม้หน้าสามมาก็ไม่ปาน ลมหายใจติดขัดที่ถูกยั้งเอาไว้ เจ้าตัวยังคงพยายามปรับให้กลับเข้าสู่สภาพเดิมอยู่















“นายทำอะไร!?!”











ฮึก











เมื่อสติกลับมาและรู้ตัวว่าถูกจับได้เข้าให้แล้ว เด็กหนุ่มจึงร่ำไห้ออกมาเสียงหลง พระพายยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมามากมาย

















“ฮืออ…ผมรักไออุ่น รักมาก รักไออุ่นมากๆ …ผมขอโทษ”











ปากเล็กๆ นั้นพร่ำบอกรักสลับกับขอโทษทั้งน้ำตาอยู่เนิ่นนาน จนไออุ่นที่สะดุ้งตกใจเมื่อครู่ เกิดสงสารขึ้นมา

















“…อย่าทำแบบนี้อีกนะ ตกลงไหม”











พระพายเงยหน้าปาดน้ำตา แล้วก็ส่ายศีรษะไปมาด้วยดวงตาเจ็บปวด



















“ผมทำไม่ได้…ผมอยากกอดคุณ…อยากหอม…อยากจูบ…อยากกลืนกินคุณทั้งตัว…อยากเข้าไปในตัวคุณ แล้วทำให้คุณเป็นของผมคนเดียว…ผมรักคุณ”











“พ…พูดอะไรของนายน่ะ!”











“ผมอยากทำเรื่องอย่างว่ากับคุณ…ผมอย..”















“พอ!!! ออกไปจากห้องฉัน!”









ชายหนุ่มผู้มีร่องรอยสีกุหลาบตามร่างกายตะโกนลั่น

















“ออกไป!!!!!”











แววสงสารในดวงตาหายไป เหลือไว้เพียงความโกรธเกรี้ยว แม้ว่าพระพายจะยังคงร่ำไห้ไม่หยุด











พระพายปาดน้ำตาอีกครั้ง แล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวลงจากเตียง แล้วเดินไปทางประตู

















“…ผมรักไออุ่น…ไม่ว่ายังไง คุณก็ต้องเป็นของผมคนเดียว”











เด็กหนุ่มเดินก้มหน้าออกห้องไปในที่สุด ปล่อยให้ใครบางคนใจเต้นกระหน่ำอยู่เพียงลำพังในห้องของตน ภาพตั้งแต่วันที่เขาพึ่งฟื้นคืนสติใหม่ๆ วนกลับมา ไออุ่นพยายามนึกย้อนไปให้มากกว่านั้น แม้ว่าจะนึกไม่ออกมากนัก แต่ก็คล้ายกับว่ามีเสียงร่ำไห้ปนประโยคบอกรักดังก้องข้างหูเขาอยู่ทุกวัน





































----------------------E-N-D--C-H--5--------------------------

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:







สวัสดีค่ะ คุณ •♀NoM!_KunG♀• :pig2:

ขอบคุณสำหรับการติดตามและร่วมลุ้นกันกับทั้งภาคหลักและภาคแยกนะคะ ^^

คุณเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ


สำหรับเนื้อเรื่องหลัก เรายังมาต่ออยู่นะคะ
ตอนถัดไปจะมาประมาณต้นๆเดือนหน้า อยู่เป็นกำลังใจให้เราด้วยน้า ^^

:L2: :L2: :L2: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 6 : Crazy in…ไออุ่น































“ผมรักคุณ”





















“รักนะครับ”



















“ผมรักไออุ่นนะ”



















“รักไออุ่นมากๆ เลยนะครับ”











ตั้งแต่วันที่ถูกไออุ่นไล่ออกจากห้อง พระพายก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ เขายังคงไขเข้าห้องนอนไออุ่นแล้วพร่ำบอกรักทุกคืนก่อนนอน แต่ก็ไม่ได้ล่วงเกินรุนแรงอะไรมากไปกว่าการกอดรัดไว้แน่นเช่นดังวันวาน













ด้านไออุ่นที่มีเจ้าลิงน้อยอยู่ในอ้อมกอดจนหลับไปมาหลายปี ก็คุ้นชินกับอ้อมกอดนั้นเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะรู้สึกโมโหในสิ่งที่พระพายทำไว้มากแค่ไหน ประตูห้องเขาก็ไม่เคยขัดกลอนไว้เลยสักคืน และแม้จะมีบางคืนที่ถูกขโมยหอมขโมยจูบไปบ้าง แต่ก็นับได้ว่าประปราย ยังพอรับได้ไหวอยู่













ชายหนุ่มผู้เปรียบเสมือนทายาทเจ้าของปราสาทที่แท้จริง ตั้งใจเรียนรู้และช่วยงานที่บ้านอย่างเต็มที่ จนเวลาล่วงเลยมากว่าสามปีหลังจากบิดาจากเขาไป ไออุ่นก็มีความชำนาญในหลายด้าน และทำงานเข้ากับอัคนีได้เป็นอย่างดี



















“วันนี้ฉันต้องออกไปคุยธุระ ฝากเธอดูแลเรื่องที่พักของหุ้นส่วนเราที่จะเดินทางมาถึงคืนนี้ทีนะ”









“ครับคุณเพลิง”









ไออุ่นตอบรับแล้วเริ่มทำงานต่อไป ด้านเจ้าลิงน้อยที่บัดนี้อายุได้ 18 ปีเข้าให้แล้ว ช่วงนี้แทบไม่ได้มาเกาะแกะวุ่นวายอะไรกับเขามาก ด้วยเจ้าตัวกำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ จะได้เจอกันอีกทีก็ก่อนนอนนั่นแหละ

















“ไออุ่น…”









กำลังนึกถึงก็เดินมาเจอพอดี ห้องทำงานของอัคนีและห้องที่พระพายใช้อ่านหนังสืออยู่ไม่ห่างกันมากนัก ขณะที่ไออุ่นกำลังจะเดินกลับขึ้นห้องของเขาไป ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่พระพายเดินออกมาหยิบขวดน้ำในตู้เย็น แล้วกำลังจะถือเดินกลับเข้าห้องหนังสือไปพอดี

















“...”









“ที่รัก…”










“…”









“ไออุ่น…”









“ตั้งใจอ่านหนังสือไป เจ้าเด็กบ้า!”










ชายหนุ่มวัย 25 ปี พยายามเลี่ยงการพูดคุยโต้ตอบกับสรรพนามที่พระพายสรรหามาเรียกเขา ที่ฟังดูแล้วชวนขนลุกเป็นอย่างมาก เขาตอบกลับไปเพียงเท่านั้น แล้วเดินกลับขึ้นห้องนอนของตนไป















พรึ่บ










ด้านพระพายที่คล้ายดั่งซูเปอร์แมนเจอตัวเร่งปฏิกิริยา เดินเข้าห้องหนังสือไปแล้วปิดหน้าบทเรียนที่กำลังทบทวนลง สองขาที่เริ่มยืดออกจากเมื่อสามปีก่อนไปมาก เดินตามไออุ่นขึ้นไปด้านบน















แกร๊ก









เช่นเคย ไออุ่นไม่ได้ล็อกประตูเอาไว้ โจรใจบาปที่แอบติดกล้องไว้ในห้องน้ำมาหลายปีก็ได้ย่างกรายเข้าห้องมา เสียงน้ำกระทบพื้นเป็นสัญญาณว่าไออุ่นกำลังอาบน้ำอยู่ในตอนนี้













ไม่มีอะไรดลใจทั้งนั้น พระพายตั้งใจเองร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาถอดเสื้อผ้าของตนเองออก แล้วเคาะประตูห้องน้ำที่เจ้าของห้องกำลังใช้งานอยู่





















ก๊อก ก๊อก ก๊อก











เสียงกระเซ็นของหยดน้ำหยุดลง เพียงครู่ประตูห้องน้ำก็ค่อยๆ แง้มออก ปรากฏเป็นเจ้าของห้องในผ้าเช็ดตัวคลุมช่วงล่างเอาไว้ มองออกมาด้านนอกด้วยสีหน้างุนงง















ปึง!











ประตูห้องน้ำถูกปิดกลับเข้าที่ แต่ช้ากว่ามือไออุ่นที่ดันเอาไว้ทัน













“เอามือออกไป!!!”









เจ้าของห้องกว้างเริ่มโวยวายอีกครั้ง เมื่อบัดนี้เจ้าลิงน้อยมีสภาพร่างเปล่า ไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆปกปิด พระพายดันประตูต้านแรงไออุ่นเอาไว้อีกฝั่งจนมันค่อยๆ อ้ากว้างออก เขาแทรกตัวเข้าไปแล้วปิดประตู ลงล็อกแน่นหนาจากด้านใน จากนั้นสองขาก็ก้าวเข้าหาชายที่ยังอาบน้ำไม่เสร็จเมื่อครู่













เจ้าของห้องเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ จนหลังเปลือยชิดกำแพง











“จะทำอะไร…ออกไปนะ!”









โจรห้าร้อยจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของไออุ่นที่กำลังสั่นไหว อีกเพียงคืบเดียว เขาก็จะสูงเท่าไออุ่นแล้ว สองแขนที่ได้รับการฝึกฝนมาหลายปี ดันผนัง ล้อมไออุ่นเอาไว้ด้านใน แล้วก้มหน้าลงสูดดมบริเวณซอกคอขาว











“ผมไม่ทำอะไรหรอกครับ…แค่มาขออาบน้ำด้วยคน”









“งั้นก็อาบไป ฉันอาบเสร็จแล้ว”











ไออุ่นพยายามดันแขนที่ล้อมร่างตนออก แต่แรงนั้นมหาศาลเกินกว่าที่ไออุ่นจะดันมันออกได้ ไม่เพียงไม่หลุดออก ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกลับแนบชิดมากขึ้นกว่าเดิมด้วย















“ที่รักอาบให้ผมหน่อย…”









เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู ทำเอาใจไออุ่นหายวาบ เขาถลึงตาใส่คนหน้าไม่อายไปอย่างชัดๆ ทั้งต่อว่าต่างๆ นานา แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าความตั้งใจของ คนสนิทของอัคนีจะหมดลงง่ายๆ เลย















“นายจะบ้ารึไง…ออกไปได้แล้ว”













“!!!”











แขนขวาที่กันร่างไออุ่นไว้ผละออก แล้วจับล็อกเข้าที่แขนไออุ่นแทน มือนั้นดึงมือไออุ่นให้ลูบไล้ไปตามร่างกายเปลือยเปล่าของตน

















“ไออุ่นครับ…อาบน้ำให้หน่อย”











ลมหายใจเริ่มหอบถี่มากขึ้น ไออุ่นไม่สามารถมองเห็นได้ทั่วบริเวณเพราะร่างของพระพายแทบจะแนบลำตัวเขาเอาไว้ทั้งหมด แต่เสียงหายใจเช่นนี้ของบุรุษก็ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าส่วนล่างนั้นกำลังขึงขังมากเพียงใด













ไม่ต้องเดาให้มากความ มือแข็งแรงที่จับมือไออุ่นให้ลูบไล้ไปตามร่างกายหยุดลงตรงจุดที่กำลังแข็งชันขึ้นมาจริงๆ ดังที่คาด พระพายจับมือไออุ่นบังคับให้กำแท่งร้อนของตนเอาไว้ แล้วเริ่มขยับเคลื่อนที่ไปมาตามแรงชักนำ















ฮ่า…ฮ่า…













“น่ารักจัง…หอมด้วย…ผมรักคุณ…ฟืดดดดดด”













“อื้อ!”











เจ้าของมือที่ถูกชักนำพยายามดึงมือกลับ แต่อย่างไรก็ไม่อาจทำได้ ทั้งซอกคอที่ถูกซูดดม ทั้งคำรักที่พร่ำบอกตลอดเวลาจากปากของพระพาย รวมไปถึงแท่งร้อนที่กำลังเต้นตุบๆ ในมือ เริ่มทำให้บางสิ่งที่อยู่ใต้ผ้าขนหนูของไออุ่นมีปฏิกิริยาขึ้นมาบ้างแล้ว



















แฮก แฮก











พระพายสังเกตได้ถึงลมหายใจที่เปลี่ยนไปของคนในอ้อมแขน จึงได้ปล่อยมืออีกข้างที่ยันผนังไว้ออก แล้วใช้มันปลดผ้าขนหนูน่ารำคาญของไออุ่นลงพื้น และคว้าเข้ากับอุปกรณ์ร้อนฉ่าของไออุ่นที่ไม่ได้ต่างจากของตนเท่าใดมา กระชับไว้ในมือ













“อื้อ! อย่า!!!”











“ไม่เป็นไรนะครับที่รัก ผมทำให้…ผมอยากทำ…ผมรักคุณ…ฟืดดดดด”











เมื่อมือแข็งแรงได้สัมผัสเข้ากับส่วนอ่อนไหวของคนที่ตนตกหลุมรัก พระพายก็พยายามดึงรั้งอย่างตั้งใจสุดความสามารถ จนใบหน้าเนียนใสนั้นเริ่มออกอาการเคลิบเคลิ้ม พระพายไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ เด็กหนุ่มประกบปากลงบนปากบาง และเป็นครั้งแรกที่เขาได้ลองสอดลิ้นของตนเข้าไปในวงปากที่แสนรักใคร่นี้















“อื้มมมมม!!!”















“จ๊วบบบ… ฮ้า!”









เสียงดูดกลืน กวาดต้อนในโพรงปากดังระงมห้องน้ำ พระพายดูดดุนลิ้นของคนน่ารักอย่างหิวกระหาย เขารอโอกาสนี้มาอย่างเนิ่นนาน และเขาไม่ยอมปล่อยลิ้นนั้นให้เป็นอิสระแต่โดยง่าย รวมไปถึงริมฝีปากที่เคยได้เพียงสัมผัสแผ่วเบา ขณะนี้มีโอกาสดูดอย่างแรง และพระพายทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ จนไออุ่นเริ่มหายใจไม่ออกขึ้นมา

















ปัก ปัก ปัก









มือข้างที่ยังว่างงานของบุรุษผู้กำลังถูกกลืนกิน ทุบเข้าที่อกของเจ้าลิงน้อยดังลั่น เพื่อเป็นสัญญาณว่าเขาใกล้ม้วยมรณาแล้ว พระพายจึงยอมถอนริมฝีปากออก และนั่นก็ทำให้คนคลั่งไออุ่นต้องหน้ามืดตามัว โน้มกายเข้าครอบครองริมฝีปากบวมเจ่อสุดเซ็กซี่นั่นอีกครั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่า มันเซ็กซี่เกินห้ามใจ















จ๊วบบบ











แฮก แฮก









“…รักนะครับ รักไออุ่นนะ รักจะตายอยู่แล้ว…ไออุ่นทำให้ผมหน่อยนะ เร่งมือหน่อยนะครับที่รัก…ผมรักคุณนะ แฮก แฮก”












เสียงกระซิบชิดริมฝีปากแหบพร่า คล้ายกับว่าใกล้ฝั่งฝันเข้าเต็มทีแล้ว ไออุ่นที่ถูกเร่งเร้าจึงได้ทำตามอย่างว่าง่าย เมื่ออุปกรณ์ส่วนตัวของเขาที่ถูกกระทำโดยฝ่ามือพระพาย ก็ใกล้ถึงฝั่งฝันเต็มที่เช่นกัน















“ฮ่าาาา…อ่า…จะถึงแล้ว…ผมให้ที่รักนะ…กินมันที…กลืนมันเข้าไปในตัวคุณ!!!!”











พระพายที่จินตนาการว่าได้ปลดปล่อยความคับแน่นในปากของไออุ่นเอ่ยออกมาดังลั่น แม้ว่าในความเป็นจริงจะมีเพียงมือบางที่เกาะกุมส่วนอ่อนไหวที่แข็งขืนของตนไว้เท่านั้น















“อื้อออ!!!”










ด้านไออุ่นเอง ก็ถึงฝั่งฝันด้วยฝ่ามือของพระพายเช่นเดียวกัน











แฮก แฮก แฮก









ชายหนุ่มสองคนยืนหอบหายใจดังก้องอยู่ภายในห้องน้ำ พระพายถอยห่างออกมาแล้ว ทำให้ร่างไออุ่นค่อยๆ ร่วงลงบนพื้นห้องน้ำ แล้วหอบหายใจต่อ

















“แฮก แฮก…เกินไปแล้วนะพระพาย สมองนายคิดแต่เรื่องลามกกับฉันรึไง?”









พระพายนั่งลงข้างๆ ไออุ่น แล้วดึงคนหอบหนักมาไว้ในวงแขน

















“ครับ…ผมคิดแต่เรื่องแบบนี้กับไออุ่นตลอดเวลาเลย ผมคงบ้ามากจริงๆ …บ้ารักไออุ่น”









ฟืดดดดดด













ว่าแล้วก็สูดดมเส้นผมของวงหน้าที่ตนตกหลุมรักเข้าเต็มปอดอีกหนึ่งครั้ง













“พอใจรึยัง…ถ้าพอใจก็ออกไปได้แล้ว”









“ให้ผมล้างให้นะ”









“ไม่ต้อง! ฉันทำเองได้”









“ผมอาบน้ำให้ไออุ่น…ไออุ่นก็อาบน้ำให้ผมด้วยไงครับ”









“นี่นาย!”









“นะครับ ผมจะได้มีกำลังใจไปอ่านหนังสือต่อ…นะครับที่รัก”









เด็กหนุ่มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาไออุ่นอย่างสื่อความหมายอีกครั้ง เพียงครู่พระพายก็ค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้น โดยจับมือแล้วดึงไออุ่นให้ลุกขึ้นตาม จากนั้นทั้งคู่ก็ไปที่ฝักบัวใกล้ๆ นั้น พระพายเปิดก๊อกน้ำแล้วเริ่มลูบไล้ไปตามร่างกายไออุ่น















จุ๊บ!











“อ๊ะ! พอแล้วน่า”









“ผมไม่ทำอะไรแล้วครับ อาบน้ำให้ไออุ่นเฉยๆ”















จุ๊บ!









แม้จะพูดอย่างนั้น แต่ทุกที่ที่พระพายลากมือผ่านชำระร่างกายให้ไออุ่น เขาจะประทับรอยจูบไปบนนั้นด้วย









โจรห้าร้อยตั้งใจอาบน้ำ ถูสบู่ให้ไออุ่นอย่างดี จนจบทุกขั้นตอน เจ้าตัวจึงทวงอีกฝ่ายบ้าง









“ผมอาบให้ที่รัก…ที่รักอาบให้ผมบ้างสิ”









“…นายมันเกินไปจริงๆ”









แม้จะบ่นออกไป แต่ไออุ่นก็หยิบสบู่แล้วลูบไปตามร่างกายพระพายเช่นเดียวกัน เขาคุ้นชินกับร่างกายพระพายดี เพราะนอนกอดกันทุกคืน จับตรงไหนก็เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อตรงนั้น เรียกได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มที่สมบูรณ์ดีแท้

















“ทำหน้าเหมือนกำลังอาบน้ำให้ลูกชายเลยนะครับ”









พระพายแอบเห็นไออุ่นอมยิ้มและแววตาขณะลงมืออาบน้ำให้เขา มันไม่ต่างอะไรกับพ่ออาบน้ำให้ลูกเลยสักนิด















“ไม่รู้สิ…ทั้งๆ ที่นายโตขึ้นมากขนาดนี้แล้วแท้ๆ แต่ฉันยังรู้สึกว่านายเป็นน้องชายตัวเล็กๆ ของฉันอยู่เลย”













กึก









ข้อมือที่กำลังตั้งใจทำความสะอาดร่างกายให้พระพายจู่ๆ ก็ถูกกระชากไว้











“ผมไม่ได้เป็นน้องชายคุณ…แต่ผมจะเป็นสามีคุณ”









“นี่นาย!”










“เตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะครับ คุณหนีผมไม่พ้นหรอก…ที่รักของผม”













จุ๊บ!












































------------------------E-N-D--C-H-6--------------------------


 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:















ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์จาก

คุณ AkuaPink  :L2:  :pig4:

และคุณ •♀NoM!_KunG♀•  :3123:  :pig4:


ด้วยนะคะ ^^




และขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและร่วมลุ้นด้วยนะคะ

ขอบคุณค่า ไว้พบกันในตอนถัดไปนะคะ



 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
แก่แดดจิงๆ เด้ก18 อย่างว่าละเนาะ (55555

เด้ก18 ตอนนี้ก้อฟโตกันไว

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 7 : สุมไฟคลั่ง  :fire:



















“อืออ…ไปไหนครับ”









มือคีมล็อกดึงข้อมือเจ้าของเตียงกว้างเอาไว้แน่น เมื่อตอนนี้เป็นเวลาตี 3 แต่อ้อมกอดที่กระชับถูกคลายออก และพระพายรู้สึกตัวขึ้นมา















“ห้องน้ำ…”









“ใช้ปากผมแทนก็ได้นะ…จุ๊บ!”










“เลิกพูดอะไรน่าอายแบบนั้นสักทีเถอะ ปล่อย!”









ไออุ่นสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุม ไม่ว่าเมื่อไหร่ พระพายก็ไม่เคยหยุดหยอกล้อเขาเลยสักครั้ง ทั้งยังหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งไออุ่นก็แทบรับมือไม่ไหวเหมือนกัน









เขาเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมถอนหายใจหนักๆ เมื่อบัดนี้ ห้องน้ำกลายเป็นสถานที่ที่เขาจะพบความลำบากใจน้อยกว่าบนเตียงนอนของเขาเองเสียอีก





















ติ๊ด…ติ๊ด












“…”















ติ๊ด…ติ๊ด









“หืม?”











เสียงแหลมเล็กของอุปกรณ์บางอย่างดังขึ้น ไออุ่นที่ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยนิ่งฟังอย่างตั้งใจ แล้วเดินมองหาที่มาของเสียง













ก่อก แก่ก







“อะไร…?”









เขาเอื้อมมือขึ้นควานหาบริเวณหลังตู้กระจกในห้องน้ำ แล้วคว้าเอาอุปกรณ์บางอย่างออกมาได้ มันมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนบ้าเล็กๆ และมีไฟแดงกะพริบถี่ๆ คล้ายสัญญาณแจ้งเตือนว่าถ่านอ่อน



















“…!!!!”









เจ้าของห้องเบิกตาโตเป็นไข่ห่าน พร้อมกับทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงด้วยแรงโทสะ























ปัง! ปัง! ปัง! ปัง…









ไออุ่นเดินกระแทกส้นเท้าออกจากห้องน้ำแล้วตรงไปยังเตียงนอนที่มีชายคนหนึ่งนอนหลับตาอยู่ มือทั้งสองข้างกระชากคอเสื้อคนที่แสร้งนอนหลับขึ้นมาอย่างแรง















ผลั๊วะ!!










หมัดลุ้นๆ กระแทกเข้าเต็มเบ้าหน้า พระพายสะดุ้งตกใจเมื่อถูกชกเข้าให้อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาเซไปกองกับพื้น มือน้อยๆ ลูบจับบริเวณสันดั้งจมูกแล้วพบว่ามีโลหิตสีแดงไหลออกมาจากบาดแผลที่คาดอยู่บนดั้งจมูก















“ไออุ่น…?”









ปัก!









อุปกรณ์สี่เหลี่ยมที่ไออุ่นค้นพบเมื่อครู่ถูกโยนใส่หน้าเด็กหนุ่มที่ยังคงปล่อยให้เลือดไหลไป พระพายก้มลงหยิบอุปกรณ์ที่ตกกับพื้นแล้วกำไว้แน่น

















อึก









“เกินไปแล้ว…เกินไปจริงๆ …ออกไปจากห้องฉัน!”









เจ้าของห้องที่โกรธจัดเริ่มสะอื้นไห้อย่างทำอะไรไม่ถูก พระพายที่เห็นไออุ่นเสียใจหนัก พยายามเดินเข้าใกล้ แต่กลับถูกมือของคนที่ตนหลงรักผลักให้ห่าง















“ไออุ่น…ผมขอโทษ”









“ออกไป…อย่ามาใกล้ฉันอีก ฉันเกลียดนาย!”









แม้จะออกปากไล่อย่างไร คนถูกไล่ก็ยังคงดื้อดึงยืนอยู่ที่เดิม และพยายามเข้าใกล้ไออุ่นแล้วเอ่ยขอโทษไม่หยุด



















“ไม่ออกใช่ไหม!?! ฉันไปเอง!!!”










ว่าแล้วเจ้าของห้องก็สละเรือ วิ่งออกจากห้องของตนเองไปทั้งๆ ที่ยังคงร้องไห้ปาดน้ำตาอยู่ ฟากเด็กหนุ่มที่มีสิ่งชั่วร้ายเข้าครอบงำจิตใจ ก้มลงมองกล้องตัวจิ๋วในมือแล้วก็มีหยดน้ำตารดลงมากระทบกับอุปกรณ์นั้นเช่นเดียวกัน















“ฮือออ…ผมขอโทษ ผมรักคุณ”









แม้จะยืนอยู่ตรงนั้นได้พักใหญ่ คำว่าเกลียดจากคนที่พระพายรักสุดหัวใจก็ยังคงทำร้ายเขาได้ไม่หยุดหย่อน มันดังก้องอยู่ในหูวนซ้ำเป็นพันครั้ง ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องแล้วเดิมตามหาไออุ่นรอบปราสาท















“อึก…ฮืออ…ที่รัก คุณอยู่ไหน ไออุ่น…ผมขอโทษ”










เดินไปร้องไห้ไปอย่างเลื่อนลอย คนเฝ้าประตูบ้านที่ยืนเวรยามต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย พระพายเดินถามไปทั่วว่ามีใครเห็นไออุ่นผ่านมาทางนี้บ้างไหม แต่ก็ไม่มีใครพบ และไม่ว่าเขาจะเดินไปทางไหน ก็ไม่มีทีท่าว่าจะพบไออุ่นเลย













จนตะวันค่อยๆ ฉายแสงกล่าวสวัสดีท้องฟ้า พระพายก็ยังคงเดินวนไปวนมาและร้องไห้เป็นพักๆ ไปอย่างนั้น























“พระพาย? เป็นอะไร?”









อัคนีลงมาชั้นล่างของบ้านเพื่อทานข้าวเช้าก่อนเริ่มงานในวันใหม่ พบกับพระพายที่ใบหน้าบวมเป่งจากอาการร้องไห้หนัก ชายหนุ่มโผเข้ากอดอัคนีแล้วปล่อยโฮออกมา













“ฮืออออออ…!!!!”









เด็กหนุ่มยื่นของในมือที่กำไว้ตั้งแต่เมื่อคืนส่งไปให้อัคนี และเพียงไม่นานอัคนีก็สามารถเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ เขาพาพระพายกลับเข้าห้องส่วนตัวของพระพายที่อยู่ถัดไปจากห้องของเจ้าสำนักชั้นบน



















“ฉันว่าคราวนี้เธอทำเกินไปจริงๆ”









“ผมรักไออุ่น…ผมต้องการเขา…มากจริงๆ ครับคุณเพลิง”









“เฮ้อ…อาบน้ำล้างหน้าล้างตาซะพระพาย ฉันจะลองคุยกับเขาให้ แต่คงต้องปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปสักพักนะ ให้เขาได้ตั้งตัวกับสิ่งที่เจอก่อน ช่วงนี้เธอก็อย่าพึ่งไปวุ่นวายกับเขามากนัก เข้าใจไหม”









“อึก…ครับคุณเพลิง”









พระพายเมื่อได้รับฟังคำแนะนำจากเจ้าชีวิตเช่นนั้น เขาก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี หลายวันแล้วที่เขาอดทนไม่เข้าไปหาไออุ่น และดูเหมือนว่า กุญแจห้องไออุ่นที่เขามีอยู่ในมือตอนนี้ก็ใช้การไม่ได้เสียแล้ว ไออุ่นให้ช่างมาเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด และพระพายทำได้เพียงฝึกซ้อมร่างกายอย่างหนักให้สมองปลอดโปร่ง เพื่อให้ความทุกข์ในใจได้คลายลงไปบ้าง

































“รายงานโครงการสาขาใหม่ที่กำลังจะเปิดครับ”









“ขอบใจมาก”









อัคนีรับเอกสารปึกหนาฉบับหนึ่งมาจากไออุ่น ชายหนุ่มผู้ที่เพลิงพระพายตกหลุมรักอย่างหนักจนไม่เป็นอันกินอันนอน เพราะถูกจับได้ว่าแอบติดกล้องไว้ดูไออุ่นอาบน้ำ ชายหนุ่มไฟแรงที่เริ่มกลับมามีสีหน้าฉายแววเจ็บปวดอีกครั้ง คล้ายกับช่วงที่สูญเสียบิดาไปเมื่อ 3 ปีก่อน



















“เธอไม่สบายใจอะไร บอกฉันได้นะ”











“ครับ…คุณเพลิง”











เมื่อส่งงานสำคัญให้นายใหญ่เรียบร้อยแล้ว ไออุ่นก็เดินไปยังประตูห้องเพื่อกลับออกไป แต่ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก เขาก็เดินกลับมาที่หน้าโต๊ะอัคนีอีกครั้ง





















“คุณเพลิงครับ…”









“ว่าไง?”









“ผมมีเรื่องอยากขอร้อง”









“ว่ามาสิ”









“ผมอยากไปเรียนต่อที่อังกฤษครับ…จะได้มีความรู้มาช่วยงานคุณเพลิงดูแลที่นี่ให้ดีขึ้น”









“…”











“คุณเพลิงอนุญาตไหมครับ?”











“ฉันสนับสนุนเต็มที่นะ ถ้าเธอรักความก้าวหน้า…แต่ฉันถามจริงๆ เถอะไออุ่น เธอไม่ได้กำลังหนีใครอยู่ใช่ไหม?”











ชายหนุ่มรักเรียนขบกรามแน่นเพื่อสกัดกั้นน้ำตาที่พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ ครั้งถูกถามในสิ่งที่ตนพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด





















“…พระพายรักเธอมากนะ เธอรู้รึเปล่า”











“ครับ…แต่เขาทำเกินไปมาก แล้วผมเอง ก็รักเขาแบบน้องชายมาตลอด…อึก ผมเป็นผู้ชายนะครับคุณเพลิง พระพายเองก็เป็นผู้ชาย ผมยอมให้เขาทำตามใจมานาน แต่คราวนี้ผมรับไม่ไหวจริงๆ”











“สิ่งที่เขาทำ ฉันเองก็คิดว่ามันเกินไป…ฉันเข้าใจเธอทั้งสองฝ่ายนะ แต่ถ้าเป็นฉัน แล้วฉันรักใครสักคนมากอย่างที่พระพายรักเธอ ฉันก็คงทำเหมือนที่เขาทำกับเธอนั่นแหละ บางทีอาจทำมากกว่านั้นด้วยซ้ำ…มันฟังดูเห็นแก่ตัว แต่ทั้งหมดมันก็เพราะรักนะไออุ่น”





















“…ถ้าคุณเพลิงอนุญาต ผมขอเริ่มเข้าเรียนปีการศึกษาที่จะถึงนี้เลยนะครับ ผมติดต่อทางมหาลัยที่นู่นไว้คร่าวๆ แล้ว”











“เอาที่เธอสะดวกเถอะ มีอะไรขาดเหลือก็บอกฉัน ฉันอยู่ข้างเธอเสมอ”









“ขอบคุณครับ”



































ปึง ปัง! ปึง ปัง!










“เป็นอะไรพระพาย?”









เสียงวิ่งโครงครามดังมาตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า จนถึงห้องนั่งเล่นที่อัคนีนั่งตรวจเอกสารในท่าสบายอยู่ เจ้าเด็กน้อยสุดอัปลักษณ์ที่เติบโตขึ้นเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา มีสีหน้าหมองคล้ำดั่งคนอดนอนมาหลายสัปดาห์วิ่งตรงมาแล้วร้องไห้ไปคุยกับอัคนีไป















“คุณเพลิงจะส่งไออุ่นไปต่างประเทศเหรอครับ!!”










ฮือออออ















“ใจเย็นก่อน มานี่มา”









“อึก…ฮืออออ”












พระพายพุ่งเข้าสู้อ้อมกอดของอัคนีแล้วร้องไห้โฮ

















“ไหนคุณเพลิงบอกว่าจะคุยให้ผมไง…ผมเสียใจจะตายอยู่แล้ว ผมไม่ได้เห็นหน้าเขามาหลายวันแล้ว ผมจะขาดใจ…ฮือออออ”











“ฉันลองแล้วพระพาย เผื่อใจไว้บ้างเถอะนะ…บางทีไออุ่นอาจกำลังต้องการพื้นที่และเวลาในการคิดและตัดสินใจ”









“คุณเพลิงอย่าให้เขาไปนะ…อย่าให้เขาไป!”












“โธ่พระพาย…”











อัคนีที่เห็นพระพายดังเช่นบุตรในอุธร โอบกอดเด็กน้อยของเขาเอาไว้ แล้วทำหน้าคล้ายจะร้องไห้ตาม



















“…ฉันไม่ได้อยากเห็นทั้งเธอทั้งไออุ่นอยู่ในสภาพนี้หรอก แต่เธอต้องให้เวลาเขาได้คิดบ้าง รวมทั้งตัวเธอเองด้วย ให้เวลาตัวเองทบทวนหน่อย ว่าจริงๆ แล้วเธอต้องการอะไร รักเขาที่ตัวเขา ที่ร่างกายเขา ที่อ้อมกอดเขา หรือเพราะจริงๆ เธอกำลังเสพติดเขากันแน่”











“ฮือออ ผมรักเขา คุณเพลิง”











“พิสูจน์สิ”











“…?”











“พิสูจน์ให้เขาเห็น ว่าเธอรักเขาจริง ต่อให้จะไม่มีเขาอยู่ใกล้ ต่อให้จะไม่ได้พบหน้ากันเป็นปีๆ พิสูจน์ให้เขาเห็น…ว่าเธอจะไม่เปลี่ยนใจ”











“ผมต้องตายแน่ๆ …อึก”











“เธอก็รู้เรื่องราวของฉันดีนะพระพาย…ฉันก็ยังไม่ตายนี่ ใช่ไหม?”











“คุณเพลิง…”











“เชื่อฉันเถอะนะ ให้เวลาและระยะทาง บอกเธอทั้งคู่ ว่าคำว่ารักของพวกเธอนั้น…จริงๆ แล้วมันเป็นยังไง”















คำพูดปลอบโยนของเจ้าชีวิต แม้จะส่งตรงมายังใจพระพายให้สามารถเข้าใจได้ แต่ความรู้สึกในเบื้องลึกที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดนั้น ไม่ว่าความเข้าใจมากมายมหาศาลเพียงใด ก็คงไม่อาจลบล้างความหม่นหมองนี้ไปได้



















































อีกเพียงสามวัน กำหนดการเดินทางของไออุ่นก็จะมีขึ้น เขาจะต้องใช้เวลาเรียนต่ออย่างน้อยที่สุดหนึ่งปี และอย่างมากที่สุดสามปี แต่ห่างกันแค่เพียงไม่ถึงเดือน พระพายก็ทรมานใจจะแย่แล้ว













…เขายังคงเฝ้าถามตัวเองอยู่ตลอด ว่าทำไมไออุ่นจึงต้องหนีเขาไปด้วย


























ก๊อก ก๊อก ก๊อก













“…!”











ปึง!











“ผมขอคุยด้วยหน่อย!”











ไออุ่นที่กำลังเตรียมของ ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้องจึงได้เดินไปเปิด แต่แล้วกลับเป็นคนที่เขาไม่ได้พบหน้ามาร่วมเดือน และเขาก็ยังไม่อยากพบในตอนนี้ ประตูจึงถูกดันให้ปิดลงในทันที แต่มือหนักๆ ของพระพายก็ยันประตูเอาไว้ได้ทันเช่นเดิม และไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต เขาก็เดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ











และนั่นเป็นครั้งแรก ที่ไออุ่นได้พบเจอกับใบหน้า 'เช่นนั้น' ของพระพาย












































-------------------E-N-D--C-H-7---------------------

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

















คุณ •♀NoM!_KunG♀•  :L2: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ด้วยนะคะ ^^

มาลุ้นๆกันต่อนะคะ ว่าคู่นี้จะยังไงต่อ อิอิ


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
รอเรื่องหลักด้วยน้า

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 8 : Drug Addict // NC 18+























หมายเหตุ : ยื่นทิชชู่ค่ะ อุอุ >_<





























...















“มีอะไร?”









แขกที่ไม่ได้รับเชิญยืนประจันหน้ากับเจ้าของห้อง ไออุ่นถามขึ้นทั้งๆ ที่ไม่กล้าสบตาพระพาย เขาไม่เคยเห็นสีหน้าเช่นนี้ของพระพายมาก่อน มันทั้งหมองคล้ำและเต็มไปด้วยความน่ากลัว



















“อื้อ!”










เด็กหนุ่มไม่พูดอะไรพุ่งเข้าใส่ทันที แม้จะตัวเล็กกว่าเจ้าของห้องเป็นคืบแต่แรงนั้นเรียกได้ว่ามากกว่าไออุ่นหลายเท่า พระพายรัดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้แน่น แล้วค่อยๆ ลากไปยังเตียงกว้าง ที่มีกระเป๋าเดินทางและเสื้อผ้ากองเต็มไปหมด

















“อย่านะ!! พระพาย! ปล่อย!!!!”









ผู้บุกรุกจับไออุ่นกดลงกับเตียงที่มีเสื้อผ้ากระจายอยู่ มือข้างหนึ่งกวาดกระเป๋าข้างๆ ออกอย่างแรงจนมันกระเด็นตกพื้นไปไกล จากนั้นก็โถมกายเขาหาไออุ่น มือคีมล็อกจับข้อมือไออุ่นติดกับเตียงแน่น แล้วฝังจมูกของตนลงบนซอกคอขาวเนียน

















“อย่า…อึก”









“…”









ไออุ่นที่ไม่อาจกระดิกตัวหรือหยุดยั้งการกระทำแสนกักขฬะนี้ได้เริ่มสะอื้นไห้เบาๆ แขนทั้งสองข้างสั่นเทาอย่างไม่อาจห้าม

















“ผมรักคุณ…”









พระพายหยุดการซุกไซ้แล้วกระซิบเข้าชิดริมหูที่มีน้ำใสไหลอาบลงมาจากดวงตา เขาไล่เลียน้ำตานั้นอย่างแผ่วเบาแล้วร่ำไห้เบาๆ เช่นกัน

















“อึก…ผมรักไออุ่น รักมากที่สุด รักกว่าชีวิตของผม…ผมยอมรับว่าผมผิด ที่แอบไปซ่อนกล้องไว้ในห้องน้ำ แต่ผมหยุดตัวเองไม่ได้…ผมต้องการคุณ มากกว่าที่คุณรู้หลายเท่านะครับ”









“…แล้วนายเคยถามฉันไหม…ว่าฉันรักนายรึเปล่า”









“ผมไม่คิดจะถามหรอกครับ เพราะไม่ว่ายังไง คุณก็ต้องเป็นของผมคนเดียวอยู่แล้ว…ผมอยากถนอมไออุ่นให้มากกว่านี้ ไม่อยากทำเรื่องที่ไออุ่นไม่ชอบ แต่ผมห้ามตัวเองไม่ได้เลย…ผมเป็นของผมแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม…แต่ตั้งแต่เห็นคุณครั้งแรก ผมก็คิดถึงคุณมากขึ้นทุกวัน…ผมอยากกอดคุณ…อยากจูบคุณ…อยากทำให้คุณหลอมละลายด้วยน้ำมือของผม…อยากทำให้คุณครางชื่อของผมดังๆ แล้วรับเอาความรักของผมไว้ในตัวคุณ ในใจคุณ…ให้คุณนึกถึงแต่ผม…ไม่ให้นึกถึงใครอื่นทั้งนั้น”












พระพายพร่ำเพ้อไปเรื่อยๆ พร้อมทั้งร่ำไห้สะอึกสะอื้น แม้ว่ามือคีมล็อกของเขาจะยังคงจับข้อมือไออุ่นกดเข้ากับเตียงอยู่ก็ตาม





















“ทำกับฉันขนาดนี้…นายคิดว่าฉันจะนึกถึงใครได้อีกเหรอ”









“ไออุ่น…”











“ปล่อยฉันไปเถอะพระพาย…อึก ทั้งนายทั้งฉัน เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ ฉันไม่ได้รักนายแบบนั้น ฉันอยากแต่งงาน อยากมีลูกแบบคนทั่วไป”











คำบอกเล่าพร้อมเสียงสะอึกสะอื้น เริ่มทำให้ผู้ฟังเจ็บปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเมฆหมอกดำทะมึน ได้ร่างเขาไปครองโดยสมบูรณ์แบบ

















“อื้ออออ!!!!”











พระพายครอบริมฝีปากลงบนปากบางที่ซีดเผือด แล้วส่งลิ้นร้อนเข้าดุนดันภายในอย่างกะทันหัน ดูดกลืนได้เพียงครู่ ก็ผละออก แล้วดูดริมฝีปากล่างนั้นอย่างแรงพร้อมกัดจนเลือดไหลนองออกมา















“ฮือออ…เจ็บ…อึก”











ไออุ่นร่ำไห้อย่างน่าสงสาร แต่มันไม่อาจสื่อถึงใจคนหน้ามืดตามัวได้อีกแล้ว พระพายปล่อยข้อมือไออุ่นข้างหนึ่งให้เป็นอิสระ แล้วใช้มือนั้นยกขาไออุ่นขึ้นข้างหนึ่ง แล้วแทรกกายของตนเองลงไปให้จุดกึ่งกลางแนบเข้ากับบั้นท้ายของไออุ่น















“อย่า…”









บุรุษที่พระพายหลงรักยังคงมีน้ำตานองหน้าและพยายามร้องขอให้คนที่กดตนไว้ได้สติกลับคืนมา พระพายไม่รับฟังสิ่งใด เขากระชากเสื้อยืดของไออุ่นออกในคราวเดียว พร้อมกางเกงยางยืดสำหรับใส่อยู่บ้านของไออุ่นก็ถูกจับดึงออกตามมา













“พระพาย หยุดเถอะ!! อย่าทำแบบนี้”









เด็กหนุ่มที่ผละกายออกห่างไออุ่นเพื่อดึงกางเกงเขาออกเมื่อครู่ ทำให้ไออุ่นสามารถขยับกายลุกขึ้นนั่งได้ เขาเจ็บปวดที่พระพายเจ็บปวดไม่ต่างกัน ไออุ่นคว้าลำคอของพระพายเอาไว้ แล้วกอดแน่นดังเช่นที่เขานอนกอดพระพายทุกคืน























“ขอร้องนะ…ถ้ารักฉันอย่าทำกับฉันแบบนี้เลย”









“…”











ไม่มีเสียงตอบรับใดกลับมาหลังจากนั้น พระพายจับมือที่โอบรัดรอบคอตนออก แล้วนำกางเกงผ้าของไออุ่นเมื่อครู่มัดรวบข้อมือของไออุ่นเอาไว้เหนือศีรษะ















“หันหน้าไปครับที่รัก!”











พระพายขบเขี้ยวแล้วเปล่งเสียงออกไป มือก็จับไออุ่นให้หันหน้าเข้าหัวเตียงแล้วกดหัวเขาลงกับหมอน ก่อนเอื้อมไปมัดข้อมือไออุ่นติดหัวเตียงไว้ แล้วยกสะโพกเขาให้ลอยขึ้น

















“หย..อย่า ฮ๊าาาา!!!”











มือคีมล็อกนั้นจับก้อนกลมที่เขาหลงใหล แหวกมันออกมันออกจากกัน ให้ช่องทางลับสีสวยที่พระพายเฝ้าหมายปองปรากฏชัดเจนตรงหน้า โดยที่ไม่รอช้า ลิ้นร้อนก็ไล่เลียไปตามปากทางเข้าสีสวยนั้น แล้วดูดกลืนเสียงดังมูมมาม

















จ๊วบบบ… ฮ่า….












“พระพา…ย อย่า… ฮือออ”









คนกำลังหน้ามืดไม่แม้แต่จะได้ยินน้ำเสียงเจ็บปวดที่สั่นเครือนั้น เขายังคงกลืนกินส่วนเร้นลับที่ไม่เคยมีใครได้พบเห็นหรือสัมผัส













เมื่อสมดังใจ พระพายก็ถอยหลังลงจากเตียงแล้วปลดกางเกงของตนออก เผยให้เห็นแท่งร้อนฉ่าที่กำลังขึงขังเต็มกำลัง เขานำแท่งร้อนที่กำลังร่ำไห้นั้นถูไถไปยังบริเวณปากทางเข้าแสนอร่อย พระพายโน้มตัวลงแล้วดูดกลืนใบหูของไออุ่น















“ที่รักครับ…รู้อะไรไหม ผมไม่ได้แข็งแรงอย่างเดียวนะ…ลองกินนี่หน่อย แล้วที่รักจะรู้สึกดีขึ้นนะครับ”











ว่าแล้วยาเม็ดเล็กๆ เม็ดหนึ่งก็ถูกจับยัดเข้าปากไออุ่น มือแข็งแรงของคนด้านบนบีบคอบังคับจนคนน่ารักต้องเผลอกลืนเม็ดยาลงคอไป















“รอแปปนึงนะครับ เดี๋ยวเราได้สนุกกัน”











สมุนไพรจากศาสตร์การปรุงยาพิษที่เพลิงรัตติกาลได้สอนพระพายไว้ ทำให้เขามีความสามารถในการคิดค้นยาชนิดต่างๆ ดั่งใจต้องการ และยาเม็ดชนิดนี้ เขาบรรจงคิดค้นไว้หลายปีแล้ว ตั้งแต่ที่เขามั่นใจว่าอย่างไร ไออุ่นก็ต้องเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว

















“น…นาย! นายให้ฉันกินอะไร!!!!! ฮือออ”











...













เริ่มแล้ว





















“ฮ่า…แฮก แฮก…พระพาย…จะทำอะไร…”










เมื่อใบหน้าและลำตัวไออุ่นขึ้นสีแดง น้ำเสียงสั่นเครือ พร้อมส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มสบมาที่เขา พระพายก็นำยาอีกเม็ดที่เตรียมไว้ ยัดเข้าปากตัวเองตาม











รอเพียงไม่นาน ความแข็งขืนที่ถูไถอยู่บริเวณทางเข้าร่างคนที่ตนหลงรักก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และน้ำใสที่ไหลหยดย้อยลงมากระทบกับก้นขาวเนียนก็นองมากขึ้นเรื่อยๆ















แฮก แฮก











ด้วยแรงอารมณ์ที่ทะยานสูงในช่วงเวลาปกติก็เรียกได้ว่าแทบจะกลืนกินไออุ่นได้ทั้งตัวแล้ว เมื่อได้รับยาที่ปรุงมาเพื่อกระตุ้นอารมณ์นี้ของตนเข้าไปอีก พระพายจึงไม่อาจรีรออะไรได้อีกต่อไป

















“อ๊า!!!!!”











เด็กหนุ่มส่งแท่งร้อนที่ขยายตัวขึ้นหนากว่าเดิมกดเข้าไปในช่องทางแสนสุขแล้วกระแทกกายเข้าไปทีเดียวสุดความยาว เสียงกรีดร้องของไออุ่นดังลั่นห้อง เท้าทั้งสองของคนงามเกร็งแน่น เมื่อแท่งร้อนใหญ่นั้นนิ่งค้างเอาไว้ในตัวของเขา



















“ฮือออ…ฮืออออ”












ไออุ่นเริ่มส่ายสะโพกไปมาตามแรงอารมณ์ที่ไม่อาจห้ามปราม รวมไปถึงใครบางคนที่กำลังดื่มด่ำกับความรัดแน่นในกายของคนที่ตนรักอยู่ เมื่อพบเข้ากับความยั่วยวนของกายเบื้องล่างที่ฤทธิ์ยาสมุนไพรกำลังกำเริบ ก็ไม่อาจนิ่งได้นาน

















ซืดดดดดดด











“อ๊า!!! อ๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”











สะโพกคนด้านบนโถมเข้าใส่ร่างข้างใต้ไม่ยั้ง ถี่ยิบจนผู้ถูกกระทำต้องร้องโหยหวนอย่างลืมตัว















“ที่รักครับ…ผมรักคุณนะ…ผมรักไออุ่นที่สุดในโลกเลย…ที่รักชอบไหมครับ ผมอยู่ในตัวคุณแล้ว กลืนกินผมให้หมดทั้งตัวเลยนะ…ที่รัก”


















“ข…ขยับสิ”

















“อ๊า อ๊า อ๊า!!!!!!”











ยิ่งได้รับการปลุกเร้าจากคนขี้อาย ยิ่งไม่อาจห้ามปรามตัวเองไหว พระพายหอบหายใจหนักอย่างยากลำบาก และด้วยร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงเป็นอย่างมากของเขา ไม่ว่าเหนื่อยหอบแค่ไหน เขาก็ไม่หยุดลงง่ายๆ

















เอี๊ยดด เอี๊ยดด เอี๊ยดดดด










ผับๆๆๆๆๆๆๆๆๆ











ชายผู้กำลังสุขสมอย่างแรงกล้าเอื้อมไปแกะผ้ารัดข้อมือไออุ่นออก แล้วจับเขานอนหงายลงบนเตียง โดยที่ไม่รอช้า พระพายก็ตามไปทาบทับ แล้วส่งแท่งร้อนของตนเข้ากับกระหน่ำรัวในช่องทางนั้นอย่างต่อเนื่อง











“อ๊า…อ๊า!!!”










“ดีไหมครับ…ชอบไหม…ชอบไหมครับที่รัก…ชอบไหม!?!!!”



















“ชอบ…! แรงอีกสิ!”












เมื่อได้รับคำสั่งมาด้วยอารมณ์ทะยานสูงจากร่างข้างใต้ในอ้อมแขน พระพายก็ประกบปากหอมหวานนั้นเอาไว้ ดูดดึงลิ้นไออุ่นเล่น พร้อมกับมือทั้งสองข้างที่จับหัวเข่าของคนด้านล่างไว้แล้วอ้ามันออกให้กว้างที่สุดอย่างที่ตนพอใจ















พระพายเหลือบไปเห็นจุดอ่อนไหวของไออุ่น ที่ดูท่าจะไม่ไหวเอาซะแล้ว เมื่อน้ำใสไหลนองเต็มหน้าท้อง เขาจึงเอื้อมไปแล้วช่วยดึงรั้งให้สุดที่รักของเขาอย่างแรงไปพร้อมๆ กับจังหวะที่เขาพุ่งกายเข้าใส่





















“อ๊า! ฮ๊า อื้ออ! อ๊าาาา!!!!”











เร่งจังหวะอีกเพียงไม่นาน หยดหยาดอุ่นร้อนก็พุ่งฉีดเข้าไปในร่างกายไออุ่นอย่างแรง รวมไปถึงแท่งร้อนในมือของพระพายก็ได้ทะลักทลายออกมาเช่นเดียวกัน















“ว้าว…ดีกว่าที่จินตนาการไว้เยอะเลย”









พระพายนิ่งงันค้างอยู่ในร่างไออุ่นเช่นนั้นต่อ และรออีกเพียงครู่ สิ่งที่พึ่งปะทุออกไปให้แท่งร้อนต้องหดเล็กลง ก็คล้ายกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลย เมื่อแท่งร้อนนั้นเริ่มขยายตัวในช่องทางแสนสุขนั้นของไออุ่นอีกครั้ง จนไออุ่นรู้สึกได้















“อื้ออ…ฮืออออ”









คนงามดวงตาหยาดเยิ้มมองไปบนเพดาน ใบหน้าเปี่ยมสุขอย่างแรงกล้า นอนหอบหายใจรวมริน ทำให้พระพายแทบหลอมละลายในช่องทางนั้นอีกครั้ง













“ไออุ่นน่ารักที่สุดเลย…ผมรักไออุ่นนะครับ…รักมากที่สุด…จะไม่รักใครอีกแล้วนอกจากไออุ่น…ไออุ่นต้องจำไว้นะครับ…จำเอาไว้ให้ดี…ไม่ว่าใครก็ตามบนโลกใบนี้…ก็ไม่อาจมอบความสุขให้ไออุ่นได้…เท่าพระพายคนนี้อีกแล้ว…จำไว้นะครับ!!!”















ประโยคยาวเหยียดที่พระพายพูดวนซ้ำไปซ้ำมา ตั้งแต่เริ่มบรรเลงเพลงรักกับไออุ่นอีกครั้ง จนกระทั่งทุกอย่างจบลงในรอบที่ห้าในเวลาอันสั้น เขาก็ยังคงย้ำเตือนให้ไออุ่นจำทุกกลิ่นกาย ทุกรสสัมผัส ทุกอ้อมกอด ทุกๆ อย่างที่พระพายฝังลงไปในกายนี้ ในดวงจิตนี้ของไออุ่น











เจ้าของห้องสลบไปแล้ว ในอ้อมแขนของพระพาย เด็กหนุ่มผู้ต้องการไออุ่นอย่างแรงกล้า เขากระซิบบอกประโยคสุดท้ายกับไออุ่น ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

















“ผมรักคุณ…คุณเป็นของผมคนเดียว ถ้าใครหน้าไหนกล้าแย่งคุณไป ผมจะฆ่าให้หมด…ตั้งใจเรียนนะครับที่รัก…ผมจะรอคุณอยู่ที่นี่ จุ๊บ!”













































เช้าวันใหม่ที่สดใสกว่าทุกวัน แม้ว่าเมื่อคืนจะพึ่งผ่านศึกหนักไป แต่สัมผัสแรกหลังลืมตาตื่นขึ้นของไออุ่น กลับเบาเนื้อเบาตัวอย่างห้ามไม่ได้ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วนึกย้อนกลับไปถึงสมรภูมิเดือดที่เกิดขึ้นเมื่อคืน



















“…”









ไออุ่นดวงตาลุกวาว ยกมือขึ้นปิดปากตนเอง เขารู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก กับประโยคร้องขอให้พระพายขยับกายให้แรงขึ้น ลึกขึ้น ทุกฉากทุกตอนถูกบันทึกอย่างไม่อาจลืมเลือน โดยเฉพาะประโยคยืดยาว ที่ฝังลงไปลึกกว่าระบบความทรงจำ ไออุ่นหัวใจเต้นแรง และแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจหยุดยั้ง



















กึก











เขายืนขึ้นเพื่อจะเดินไปห้องน้ำ และพบว่ามีบางสิ่งไหลย้อยออกมาจากช่องทางด้านหลัง คราบขุ่นสีขาวมากมายไหลออกมารินรดเรียวขาด้านใน

















“…”



















ตึก ตัก…ตึก ตัก











ไออุ่นไม่สามารถสลัดความรู้สึกแปลกใหม่นี้ได้เลย เขาไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือเจ็บปวด อาจด้วยฤทธิ์สมุนไพรของพระพายที่กำลังกล่อมปราสาทของเขาอยู่ แถมยังช่วยให้เขารู้สึกตัวเบาได้ถึงเพียงนี้ แม้จะเป็นห้องน้ำในห้องของตน แต่ไออุ่นก็ไม่ไว้ใจอีกต่อไป เนื่องจากเมื่อคืน มีชายโรคจิตคนหนึ่งล่วงล้ำเข้ามาในห้องนี้ เขาอาจติดกล้องแอบถ่ายไว้อีกก็เป็นได้ แต่สุดท้ายแล้ว ไออุ่นก็ไม่พบอุปกรณ์อื่นใดอีก

















...

























“เดินทางปลอดภัยนะไออุ่น ถึงที่นั่นแล้วส่งข่าวมาให้ฉันบ้างล่ะ”









“ขอบคุณนะครับคุณเพลิง..แล้ว…”









ตั้งแต่วันนั้นที่พระพายได้บุกไปทำเรื่องไม่ดีไม่งานถึงห้องไออุ่น เขาก็หายหน้าไปเลย จนกระทั่งวันนี้ที่ไออุ่นกำลังจะเดินทางไกล ก็ไม่มีวี่แววว่าจะออกมาส่ง

















“พระพายน่ะเหรอ…เขาฝากฉันมาบอกเธอว่า…เขาจะรอเธออยู่ที่นี่ จนกว่าเธอจะกลับมา เขาจะตั้งใจทำตัวเองให้ดีขึ้น ให้เก่งขึ้น…แล้วก็…อะไรนะ ฉันลืม”











“…”











“อ่า….”











“???”











“อา..”











“คุณเพลิงครับผมต้องไปแล้ว”











“นึกออกแล้ว…นี่ เขาฝากมาให้เธอ”











“ขอบคุณครับ”











“แล้วก็อันนี้ฉันพูดเอง…ตอนนี้เขากำลังนั่งร้องไห้อยู่ในห้องทำงานฉัน…เข้าไปบอกลาหน่อยไหม”











“ผมฝากคุณเพลิงบอกลาเขาด้วยนะครับ…ผมต้องรีบไป สวัสดีครับ”











ไออุ่นรับซองเล็กๆ จากอัคนีกระชับไว้ในมือ แล้วเดินไปขึ้นรถยนต์ที่ติดเครื่องรออยู่หน้าประตูบ้าน











รถยนต์ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็แล่นไปถึงสนามบิน ไออุ่นจัดการเช็คอินและขึ้นเครื่องเรียบร้อย เมื่อเขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ากระทั่งสัญญาณแจ้งเตือนเข็มขัดดับลง ซองที่พระพายฝากอัคนีมาให้ก็ถูกเปิดออก





















“!!!”












ไออุ่นดวงตาลุกวาวและดวงใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อสิ่งที่อยู่ในซอง คือภาพถ่ายมากกว่าสิบใบ ใบแรก คือภาพไออุ่นกำลังนอนหลับ นอกจากนั้นยังมีภาพที่พระพายแอบถ่ายคู่กับใบหน้าไออุ่นที่กำลังนอนหลับด้วย และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ มีหลายภาพที่พระพายขโมยจูบไออุ่นในมุมต่างๆ















“นี่นายชอบฉันขนาดนั้นเลยเหรอพระพาย”









ชายหนุ่มรูปงามขวัญใจเจ้าเด็กอัปลักษณ์ยกมือขึ้นปิดปากตนเองอีกครั้ง เขาพลิกรูปภาพแต่ละใบดู และพบว่าทุกใบมีลายมือพระพายเขียนติดไว้ยาวเหยียดหลายบรรทัด

















…คืนนี้ก็น่ารักอีกแล้ว ไออุ่นกอดผมไว้เหมือนทุกวัน แต่ผมกลับรู้สึกว่าวันนี้มันพิเศษกว่าวันอื่นๆ เพราะว่าวันนี้ไออุ่นใส่ชุดนอนสีชมพูที่ไออุ่นชอบ ไออุ่นไม่รู้ว่าผมก็ชอบสีชมพูนะ ผมชอบทุกอย่างที่ไออุ่นชอบ แล้วก็เพราะว่าคืนนี้ที่รักของผมน่ารักเกินไป ผมเลยไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้ ผมแอบถอดเสื้อสีชมพูน่ารักของเขาออก แล้วก็พบว่านมของเขาเป็นสีชมพูน่ารักกว่าชุดนอนของเขาซะอีก ผมเลยลองใช้น้องชายผมถูไปตรงนั้นดู ใช่…มันสุดยอดมากเลย นมไออุ่นนุ่มมากแล้วก็หอมอร่อยมาก ผมอยากเลีย แล้วก็ดูดให้หมดไม่ให้เหลือเลย แต่ก็ทำแบบนั้นได้ไม่นาน เพราะไออุ่นเริ่มพลิกตัวแล้ว ผมอยากทำตอนที่เขาตื่นบ้างจัง ผมรักไออุ่นนะครับ…





















“กล้าดียังไงส่งของแบบนี้มาให้ฉันกัน ห๊ะ! พระพาย!!!”












ไออุ่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยเริ่มโมโหจัด ในภาพถ่ายทุกใบ ด้านหลังจะมีข้อความสุดคลั่งไคล้ในตัวเขาเขียนติดอยู่ บางใบยาวเหยียดจนไออุ่นคิดว่าพระพายคงเขียนลงที่อื่นต่อ เขานั่งกุมขมับกับความบ้าดีเดือดของเด็กหนุ่มที่เขารู้จักมา 11 ปี และโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยว่า…กำลังเผลอยิ้มน้อยๆ ออกมา







































 :m25:



สำหรับท่านที่อ่านแล้วแปลกใจว่าทำไม Spin of 2 มีฉากเรียกเลือดรุนแรงกว่า Story 1
ใช่แล้วค่ะ เราตั้งใจเขียนในตีม Crazy in love นะคะ อิอิ

 :-[





---------------------E-N-D---C-H-8-------------------------

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:







ขอบคุณกำลังใจและคอมเม้นท์จากคุณ •♀NoM!_KunG♀• ด้วยนะคะ ^^

เนื้อเรื่องหลักจะมาในเร็วๆนี้นะคะ อิอิ หายไปนานเลย

พอดีหายไปเขียนอีกเรื่องนึงอยู่ค่ะ ใกล้จบแล้ว

แวะไปอ่านเพลินๆได้นะคะ แนวโรแมนติกดราม่าค่ะ อิอิ

ขอบคุณมากค่า   :pig4: :pig4: :pig4:








ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ไหนๆมีเรื่องไหนอีกกก

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 9 : คิดถึง

































“คุณเพลิงครับ แปลนที่ดินที่เรากว้านซื้อมาได้ครับ”







“ขอบใจ…เดี๋ยวพระพาย”







“ครับ?”







“เปิดเทอมเมื่อไหร่?”









“กลางเดือนหน้าครับ”







“ต้องย้ายไปอยู่หอในมหาลัยรึเปล่า?”







“ครับ ต้องไปอยู่เทอมนึง”









“ฉันจะไปส่งเข้าหอแล้วกันนะ แจ้งวันที่แน่นอนกับเลขาให้ฉันด้วย”







“...เย้!!!! ขอบคุณครับคุณเพลิง”









พระพาย เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ผู้มีใบหน้าเศร้าหมองดวงตาลุกวาวขึ้น เมื่อจะมีผู้ปกครองส่งเข้าหอใน พระพายเรียนช้ากว่าคนอื่นไปมาก แต่ด้วยความตั้งใจและเส้นสายที่อัคนีมีอยู่เต็มมือ ก็สามารถช่วยให้เด็กหนุ่มสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างง่ายดาย



























ผ่านไปเพียงสามเดือนหลังจากไออุ่นเดินทางไกล พระพายก็เริ่มมีสีหน้าที่หม่นลงและเริ่มจริงจังกับการช่วยงานอัคนีมากขึ้น ทั้งยังรวมไปถึงการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยของเขาด้วย แม้อัคนีจะรู้ดีว่าบุตรบุญธรรมของตนนั้น คิดถึงยอดดวงใจมากแค่ไหน และไม่ว่าพระพายจะร่ำไห้หรือพร่ำเพ้ออย่างไร สุดท้ายแล้ว เขาก็พาตัวเองกลับมาใช้ชีวิตประจำวันต่อไปได้อยู่ดี

































ก่อก แก่ก







หากว่าไออุ่นยังอยู่ที่นี่ ไม่ว่าอย่างไร เขาคงไม่อาจทนกับใบหน้ารื้นน้ำตานี้ของพระพายได้แน่นอน เด็กหนุ่มที่หลงรักไออุ่น เดินเข้าห้องนอนไออุ่นทุกวัน แล้ววางดอกกุหลาบสีขาวไว้ตรงหัวเตียงดังเช่นว่าไออุ่นยังคงอยู่ที่นี่





















“ที่รักครับ เดือนหน้าผมต้องไปอยู่ที่อื่นแล้ว ผมคงไม่ได้เอาดอกกุหลาบมาให้ที่รัก ผมขอโทษจริงๆ นะ...ผมรักคุณ”









พระพายวางดอกกุหลาบดอกสุดท้ายไว้ แล้วเดินกลับออกไปเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น



















































“คุณเพลิง เร็วๆ สิครับ...คนอื่นเขาเข้าไปกันหมดแล้วนะ ผมไม่อยากนอนเตียงล่างนะครับคุณเพลิง!!!!!”







เก้าโมงเช้าวันย้ายเข้าหอใน อัคนีถูกลากถูอย่างหนัก ด้วยพระพายตื่นเต้นมาก หูตาลุกวาวด้วยความลิงโลดแบบสุดๆ เขาได้ทำการจองห้องผ่านระบบหอพักตามวันเวลาที่ถูกกำหนดไว้ แต่เขาไม่ได้จองว่าจะนอนเตียงล่างหรือเตียงบน เด็กหนุ่มต้องการเตียงบนเพื่อความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า



























ตุบๆๆๆๆ








วิ่งไปแล้ว...อัคนียืนมองเจ้าเด็กน้อยที่เคยสาบานว่าจะปกป้องตนเองไว้เมื่อ 8 ปีก่อน ทะยานตัวพุ่งขึ้นตึกไป





















คิกคิก








จะมีภาพไหนที่ทำให้อบอุ่นหัวใจได้มากกว่าเวลานี้กันนะ อัคนียืนคอยอยู่เพียงครู่เดียว เจ้าเด็กน้อยของเขาก็เดินหน้ามุ่ยลงมา แล้วบอกว่าเตียงถูกจองไปหมดแล้ว

















“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันขอโทษจริงๆ ที่ช้า ฉันซื้อห้องต่างหากให้เลยเอาไหม”









“ไม่นะ...ผมอยากอยู่แบบคนปกติครับ...ตั้งใจไว้ว่าจะอยู่หอในแค่เทอมเดียว แล้วกลับไปอยู่ดูแลคุณเพลิงที่บ้าน”









“ไม่ต้องห่วง ฉันอยู่ได้...ฉันจะไปแล้วนะพระพาย มีอะไรก็โทรมา”







“คุณเพลิง...”









“เป็นเด็กรึไงหืม ทำหน้าแบบนั้นน่ะ...เอานี่ ฉันเห็นมันตกอยู่ที่เบาะในรถ”









“คุณเพลิง!!!!







เด็กหนุ่มโผเข้ากอดอัคนีไว้แน่นแล้วร้องไห้เบาๆ ไม่นานอัคนีก็กลับปราสาทไปแล้วปล่อยเขาไว้เพียงลำพัง พระพายไม่เคยรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวเท่านี้มาก่อนเลย เขากระชับของในมือที่อัคนีส่งให้เมื่อครู่ไว้แน่น แล้วเดินกลับไปทำกิจกรรมในมหาลัยต่อ











พระพายแทบไม่เคยมีเพื่อนจริงๆ สักคน ชีวิตเขามีเพียงอัคนีและไออุ่นเท่านั้น คราวนี้ต้องนอนรวมกับเด็กหนุ่มอีกกว่า 3 ชีวิต ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจในการอยู่ร่วมเป็นอย่างมาก





































“เฮ้ยนาย...ไม่พูดไม่จา เป็นใบ้เหรอ?”









“ป่าว”







เด็กหนุ่มช่างจ้อของอัคนี กลายเป็นคนพูดไม่เก่งขึ้นมาทันทีเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้า













“เรากล้วยหอมนะ นายชื่อไรอ่ะ?”









“พระพาย”









“โห...ชื่อเพราะกว่าเราเยอะเลย”









“...”









กล้วยหอมที่พึ่งรู้จักกันเมื่อครู่ ชะโงกหน้าลงมาจากเตียงบนที่พระพายนั่งอยู่ ที่ๆเด็กหนุ่มตั้งใจว่าจะจับจองเป็นเจ้าของ แต่กลับถูกนายกล้วยหอมจอมซนนี่ชิงไปซะก่อน























































“พระพาย...พระพาย ตื่น!”








“ห๊ะ!?! อะไร??”







“พี่ๆ เรียกแล้ว”









พระพายเหลือบมองนาฬิกา ปรากฏเป็นเวลาตี 4 จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงคนตะโกนดังลั่นอยู่นอกห้อง กิจกรรมรับน้องเริ่มต้นขึ้นมาหลายวัน และพระพายไม่อยากเข้าร่วมเอามากๆ





























“ไปเหอะ เร็ว!”









แม้ว่าเขาจะพยายามเลี่ยงมากเพียงใด กล้วยหอมที่นอนชั้นบนก็จะลากพระพายไปเข้าร่วมครบทุกกิจกรรม บางกิจกรรมที่ไม่จำเป็นต้องเข้า เขาก็ได้เข้าเพราะเจ้าเพื่อนใหม่คนนี้





















ความเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมและการเรียนรูปแบบใหม่ที่คนปกติทั่วไปต้องเรียน ทำให้พระพายจัดการชีวิตตนเองยากลำบากมาก เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันจะยากขนาดนี้ ปกติที่ได้เรียนก็เพราะอัคนีส่งครูพิเศษมาสอนที่ปราสาทตลอด ที่เคยคิดว่าตนเองนั้นเก่งและทำได้ดี นั่นเป็นเพราะเขาไม่เคยเจอคนเก่งจริงๆ เสียมากกว่า











อย่างเช่น...รูมเมทกล้วยหอมจอมซนของเขานี่เอง นอกจากจะทำกิจกรรมเก่งเป็นที่หนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเรียนอะไรก็เข้าหัวหมด บางวิชาที่มีสอบย่อย ก็ไม่เคยทบทวน แต่สามารถสอบได้ท็อปคลาสตลอด ไม่ได้ต่างกับพระพายเท่าไหร่เรื่องคะแนน ต่างกันตรงที่พระพายต้องทบทวนอย่างหนักกว่าจะได้คะแนนสูสีกับกล้วยหอม

















“โอยยย เหนื่อยยย....”







‘ฮ่าฮ่า...เออดีๆ’








พระพายเอนหลังลงบนเตียงแล้วมองไปยังโต๊ะเขียนหนังสือของกล้วยหอม ที่เจ้าของโต๊ะกำลังนั่งพูดคุยอย่างสนุกสนานกับรูมเมทคนอื่นๆอยู่











“นายทำได้ยังไงอ่ะ”







“หืม?”







“ทั้งเรียน ทั้งกิจกรรม นายเก่งทุกอย่างเลย...นายทำได้ไง มีเคล็ดลับอะไรไหม ฉันอยากรู้”







พระพายตะโกนขึ้นไปยังคนที่พึ่งปีนขึ้นไปนอนเตียงชั้นบนของเขา













“เคล็ดลับเหรอ....อืมม...ฉันว่าน่าจะเพราะฉันเต็มที่กับทุกอย่างมั้ง ตอนที่ทำก็ไม่ได้คิดหรอกว่ามันจะดีหรือไม่ดี แค่เต็มที่กับทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าตอนนั้น ตอนทำกิจกรรมก็แค่รู้สึกสนุกไปกับมัน ได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ ทำหน้าที่ตรงหน้าให้ดี ส่วนตอนเรียน...ก็แค่ตั้งใจฟังในห้อง เพราะฉันเป็นคนขี้เกียจอ่านทบทวน เลยต้องตั้งใจเป็นพิเศษ”









“ฟังดูง่ายนะ...เหอะๆ”







“นายก็เก่งนะพระพาย ติดที่นายดูเครียดเกินไป”









“ฉันแค่...ไม่อยากทำพลาดอีก”









ภาพวันที่ปักษาโฉบดวงไฟไปจากหิ้ง ยังคงตามหลอกหลอนมาจนทุกวันนี้ แม้ว่าจะผ่านมาอย่างเนิ่นนานแล้วก็ตาม นั่นทำให้พระพายไม่เคยไว้ใจอะไรง่ายๆ อีกเลย จนได้พบเข้ากับท่าทางสบายๆ แต่กลับทำทุกอย่างออกมาได้ดีของรูมเมทคนนี้ มันปรับเปลี่ยนมุมมองของเขาไปได้มาก













“พลาดก็ไม่เห็นเป็นไรนี่...ถือว่าเป็นบทเรียน เราแก้ไขได้ ปรับปรุงให้มันดีขึ้นได้จากความพลาดนั้นไม่ใช่เหรอ อย่างนายตอนนี้ ก็รอบคอบสุดๆ ก็เพราะเคยพลาดไม่ใช่เหรอ”









“แล้วนายเคยพลาดอะไรไหมกล้วยหอม?”









“ฉันพลาดมากกว่าที่นายคิด...ฉันแค่ยิ้มกับมันได้ก็แค่นั้น”









“อืมม...ลึกซึ้งนะ”









พระพายนอนนิ่งคิดอยู่นานถึงสิ่งที่ได้พูดคุยกับเพื่อนใหม่ คืนนี้เขาต้องนอนแล้ว ด้วยพรุ่งนี้ตื่นมาก็จะเป็นอีกวันที่เขาต้องต่อสู้จนร่างแหลกกันไปข้าง ว่าแล้วมือก็เลื่อนหยิบเอาซองซองหนึ่งขึ้นมา เปิดแล้วหยิบภาพถ่ายด้านใน





























ฮึก









น้ำตาหยดที่หนึ่งร่วงกระทบกับภาพถ่ายใบนั้น เขารีบเช็ดออกด้วยกลัวสีบนภาพจะเลือนไป ภาพของชายคนหนึ่งซึ่งกำลังหลับใหลอย่างเป็นสุข เขาพลิกดูด้านหลังที่มีประโยคพร่ำเพ้อพรรณนายาวเหยียดถึงใครคนนั้น









“เหอะๆ ผมนี่บ้ามากจริงๆ บ้าจนคุณหนีผมไป...คิดถึงนะครับไออุ่น”













































ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา พระพายยังคงใช้ชีวิตแบบคนอึดมหาประลัย จนคืนวันล่วงมาสู่ช่วงแห่งการสอบปลายภาคการศึกษาเข้าให้ กิจกรรมต่างๆ จึงได้เริ่มลดลง และความคิดถึงไออุ่นที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ





















‘คิดถึง...อยากเห็นหน้าจัง...คิดถึงจะตายอยู่แล้ว’









เขาไม่สามารถโทรหาไออุ่นได้ เพราะอัคนีห้ามเอาไว้ รวมทั้งความวุ่นวายในชีวิตของพระพายด้วยเช่นกันที่ทำให้เขาแทบไม่มีเวลาว่าง จนเมื่อเริ่มมีเวลาว่าง ความฟุ้งซ่านก็กลับมา เขาโทรหาอัคนีเพื่อบอกคิดถึงไออุ่นให้บุรุษผู้เปรียบเสมือนบิดาของตนฟัง และอัคนีเองก็ทำได้เพียงปลอบใจพระพายอย่างสุดความสามารถเท่านั้น



































“พระพาย ไปห้องสมุดกันไหมพรุ่งนี้”









“อือ ไปดิ”









สัปดาห์แห่งการสอบเริ่มขึ้น ทุกคลาสเรียนหยุดลงแล้ว เพื่อให้นักศึกษาได้อ่านหนังสือกันอย่างเต็มที่ และวันนี้ห้องสมุดก็อัดแน่นเต็มไปหมด รวมถึงเด็กหนุ่มที่อยู่ในหอพักแห่งนี้ก็ไปที่นั่นด้วย แต่พระพายกลับอ่านไม่รู้เรื่องเพราะคนเยอะ จึงชวนกล้วยหอมกลับมาอ่านที่ห้องของพวกเขาต่อ

















“ฉันไปพักหลังแปป”







“อือ”







พระพายนอนลงบนเตียง ขณะที่กล้วยหอมยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้ๆ กับปลายเตียงของเขา



















“นั่นรูปแฟนนายเหรอ ฉันเห็นนายเอามาดูก่อนนอนทุกคืนเลย”









“ป่าวหรอก...ฉันแค่รักเขาข้างเดียวน่ะ”









“นายชอบผู้ชาย?”









“ฉันก็ไม่รู้ เกิดมาก็รักเขาเลย”









“แล้วเขาไปไหนล่ะ?”









“หนีฉันไปแล้ว เหอะๆ”





















อึก









เมื่อถูกจี้จุดสำคัญ น้ำตาก็รื้นขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามปราม ครั้งแรกที่พระพายเริ่มแสดงความอ่อนไหวต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่อัคนีและไออุ่น น้ำเสียงที่เอ่ยนั้นสั่นเครือ พระพายขบกรามแน่นเพื่อกดข่มน้ำตาและความเจ็บปวดในใจเอาไว้























แอ๊ดดด









กล้วยหอมลากเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้น ก้าวขึ้นบนเตียงพระพาย แล้วคร่อมตัวกักพระพายไว้ในวงแขน















“กล้วยหอม…?”









“ฉันขอช่วยได้ไหม?”









“ยังไง?”









ว่าแล้วกล้วยหอมก็โน้มใบหน้าเข้าใกล้กับพระพาย จูบแผ่วเบาถูกประทับลงบนปากพระพายแล้วยกขึ้น แล้วก้มลงประทับอีก ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยดวงตาวูบไหว ก่อนที่พระพายจะจับล็อกศีระษของกล้วยหอมไว้แล้วดึงลงมาเพื่อจูบอย่างดูดดื่ม





















“อื้มมม...จ๊วบบบ”









ฮ๊า!!!









ยิ่งดุนดันภายในวงปากซึ่งกันและกัน ความรุนแรงยิ่งพัดโหมกระหน่ำเข้ามา ร่างกายที่ไม่ได้เข้าใกล้กับรสสุขแห่งเพศของเด็กหนุ่มวัยเจริญพันธุ์มาเนิ่นนานก่อตัวรุนแรง โหยหาหนักขึ้นเรื่อยๆ จนคนทั้งคู่ไม่อาจหยุดยั้งการกระทำตรงหน้าลงได้

















“อื้มมม...”









“ฮ่า...”









วงปากที่เพียรส่งรสสุข ยังคงดูดกลืนซึ่งกันและกันต่อไปเรื่อยๆ ทั้งส่วนล่างก็ถูไถกันไปมาอย่างหนัก เพียงไม่นานมือของทั้งคู่ก็ปลดกางเกงของอีกฝ่ายออกแล้วยื่นทิ้งลงข้างเตียง













“ฮ๊า.. ฮ๊า.. อ้าาา!”









ปึง!













พระพายพลิกตัวขึ้นคร่อมทับกล้วยหอมแล้วเลิกเสื้อยืดขึ้น จากนั้นจึงครอบปากลงบนยอดอกที่กำลังตั้งชูชันแล้วดูดกลืนอย่างเมามัน ซึ่งในขณะนั้น ภาพบางภาพที่พระพายถืออยู่เมื่อครู่ก็ได้หล่นลงจากเตียงให้เขาเหลือบไปเห็น





















“…”









“แฮก แฮก...พระพาย...?”















“ขอโทษนะกล้วยหอม ฉันทำไม่ได้!”














ปึง ปึง









ปัง!












เด็กหนุ่มดันตัวลุกขึ้น แล้วหยิบภาพของใครบางคนที่หล่นอยู่ข้างเตียงไว้แล้วเดินออกจากห้องไปเสียงดังคล้ายกำลังหงุดหงิดหนักอะไรบางอย่างอยู่

























“พระพาย....”

























--------------------E-N-D---C-H 9------------------------


 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:








ขอบคุณคอมเม้นท์จากคุณ AkuaPink และคุณ •♀NoM!_KunG♀• ด้วยนะคะ ^___^

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:




เราตั้งใจว่าเรื่องใหม่จะเปิดที่นี่ วันศุกร์นี้นะคะ

ฝากติดตามกันด้วยนะคะ อิอิ

ขอบคุณมากค่าาา
  :L2: :L2: :L2: :L2:











 :bye2:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 10 : ระวังให้มากกว่านี้...?























ปิ๊บ!














“ครับคุณเพลิง...?”





“วันนี้กลับดึกรึเปล่า?”





“ประมาณสองทุ่มครับ มีทำโปรเจคนิดหน่อย”





“พระพาย...ไออุ่นกลับมาแล้วนะ”





“…”







“ตั้งใจทำโปรเจคนะพระพาย”







“…ครับ”









สองปีที่ไออุ่นจากพระพายไปไกล ไม่ว่าวันไหนพระพายก็ไม่เคยหมดหวังที่จะรอคอยใบหน้าที่เขาหลงรักให้กลับมา แต่ทุกสิ่งก็คล้ายกับจะพังทลายลง เมื่อต้นปีที่แล้ว หลังจากไออุ่นเดินทางไปอยู่ต่างประเทศได้ปีกว่า เขาก็ส่งโปสต์การ์ดกลับมาเป็นภาพถ่ายครอบครัว ในภาพมีไออุ่น หญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งและเด็กทารกที่หญิงสาวคนนั้นอุ้มไว้ในอ้อมแขน













...ใต้ภาพบรรยายไว้ชัดเจน ว่านั่นคือภรรยาและลูกชายของไออุ่น























...





















หนึ่งปีเต็มที่พระพายแทบเหมือนตกนรกทั้งเป็น เขาไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ในคราวแรก และไม่คิดว่าจะสามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ตลอดชีวิต จนกระทั่งวันนี้มาถึง วันที่ทุกอย่างผ่านไปได้หนึ่งปีเต็มและเขายังคงมีชีวิตรอด พระพายไม่เคยลืมความรักที่มีต่อไออุ่น แต่บางสิ่งบางอย่างที่เรียกว่าการเติบโตทางความคิดที่เพิ่มขึ้นในวัย 20 ปีของพระพาย ก็ทำให้เขาเข้าใจโลกและไออุ่นมากขึ้นตามไปด้วย









“ให้ฉันไปส่งไหม หน้านายดูซีดๆ นะ”





“อือ...ก็ดีเหมือนกัน”







กล้วยหอมที่บัดนี้กลายเป็นเพื่อนรักของพระพายไปแล้ว อาสาไปส่งที่บ้าน ด้วยมองดูท่าทางพระพายในตอนนี้คล้ายกับคนกำลังจะเป็นลม งานที่ทำอยู่ตรงหน้าก็คล้ายกับว่างเปล่าไปแล้วในดวงตาเด็กหนุ่ม































“ถ้ายังไม่อยากกลับบ้าน ไปอยู่บ้านฉันก่อนก็ได้นะ”







“ไม่เป็นไร...ฉันสบายดี”







กล้วยหอมขับรถมาส่งพระพายที่ปราสาท เขาสามารถขับผ่านประตูรั้วใหญ่เข้ามาได้อย่างง่ายดาย ด้วยมาที่นี่บ่อยและอัคนีรู้จักเพื่อนสนิทคนนี้ของพระพายเป็นอย่างดี รถยนต์จอดเทียบหน้าประตูทางเข้าบ้านแล้ว แต่คนด้านข้างกล้วยหอมยังคงมีสีหน้าเจ็บปวดอมทุกข์อยู่



















“พระพาย...ถึงบ้านแล้ว”







“ฉันเปลี่ยนใจไปค้างบ้านนายได้ไหมคืนนี้”







“สู้สิพระพาย...นายกลัวอะไร? ความจริงเหรอ?”











“…”









พระพายหันไปสบตากับกล้วยหอมด้วยความสั่นไหว กล้วยหอมจึงได้โน้มหน้าเข้าใกล้แล้วจูบปลอบใจเพื่อนรักอย่างดูดดื่มและเนิ่นนาน























“อืมมม...ฮ่า.....”









แม้ว่ากล้วยหอมจะพยายามผละออกจากจูบนั้น แต่พระพายก็ยังคงจับล็อกเขาเข้ามาจูบอย่างไม่ยอมปล่อย

















“อื้มมม...ฮ่า...ฮ่า....พอแล้วน่า”













“แฮกแฮก โทษที”









“รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม”







“อืม ดีขึ้นมากเลย ขอบใจนายมากนะ”







เมื่อได้จูบอย่างดูดดื่มและปลอบโยนจากกล้วยหอมเป็นที่เรียบร้อย สีหน้าและแววตาของพระพายก็ดูดีขึ้นอย่างที่เจ้าตัวว่าจริงๆ เขากล่าวขอบคุณเพื่อนรักอีกครั้งแล้วเดินเข้าบ้านไป



















ชายหนุ่มที่สูงขึ้นกว่าเดิมมากเดินเข้ามาด้านในตัวบ้าน ผ่านห้องโถงใหญ่ ปรากฏชายเจ้าของบ้านกำลังนั่งเขียนบางอย่างลงในสมุดอยู่

















“สวัสดีครับคุณเพลิง”







“…”













“คุณเพลิง...”









อัคนียังคงตั้งหน้าตั้งตาเขียนบางอย่างต่อโดยไม่ได้หันมามองคนที่กล่าวสวัสดี พระพายจึงเดินเข้าใกล้แล้วสวัสดีอีกครั้งให้อัคนีเห็น











“…”











แต่อัคนีก็ยังคงก้มหน้าก้มตาเขียน พระพายจึงขอตัวกลับเข้าห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัว





















“พระพาย”







“ครับ...?”







“วันหลังจะทำอะไรก็อย่าให้มันประเจิดประเจ้อนัก”













“คุณเพลิง!!! เห็นเหรอครับ...ผมขอโทษ”







“กระจกรถเด็กนั่นติดฟิล์มใส แล้วนั่นก็หน้าบ้าน ทำอะไรให้ระวังหน่อย”







“ขอโทษครับ คราวหน้าผมจะระวังให้มากกว่านี้”



















ระวังให้มากกว่านี้...?









เกือบปีที่พระพายเข้ารับการเยียวยาจากกล้วยหอมจนติดรสจูบนั้นไปอย่างลืมตัว คล้ายกับเมื่อใดที่เขาเจ็บปวดแล้วได้รับจูบนั้น อาการจะหายเป็นปลิดทิ้ง ดังเช่นยาชั้นดีที่หาได้ยาก อัคนีผู้เฝ้าจับตาดูทุกคนรอบข้างรู้ทุกเรื่องเป็นอย่างดี และรู้ว่าระหว่างเด็กสองคนนี้ มีอะไรที่มากกว่าการจูบ แต่พระพายไม่เคยยอมรับตรงๆ













เด็กหนุ่มหลบเข้าห้องส่วนตัวแล้วพักผ่อนหย่อนใจในนั้น เขารู้ดีว่าวันนี้ไออุ่นกลับมาแล้ว และห้องของพวกเขาก็อยู่ไม่ห่างกันมาก แต่บัดนี้อะไรๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อเตียงกว้างที่เขาเคยนอนกอดไออุ่นทุกคืน บัดนี้ได้มีหญิงสาวผู้งดงามนอนเคียงข้างไออุ่น ดังเช่นที่ไออุ่นตั้งใจไว้มาอย่างเนิ่นนาน











ชายหนุ่มไม่อาจทำใจได้ เขาร่ำไห้กับหมอนเพียงลำพัง เมื่อคิดถึงความสุขที่กำลังเกิดขึ้นกับครอบครัวเล็กๆ ในห้องนั้น ห้องที่ไม่มีดอกกุหลาบสีขาวไปวางไว้สองปีเห็นจะได้



















“มีใครใจร้ายกว่าไออุ่นของผมอีกไหมบนโลกใบนี้?”











ห้องนอนของพระพายคือพื้นที่ต้องห้ามของปราสาทหลังนี้ เขาห้ามแม้กระทั่งคนทำความสะอาดและลงกลอนไว้แน่นหนา ด้วยผนังกว้างนั้นเต็มไปด้วยภาพถ่ายของไออุ่น ที่พระพายนำไปขยายใส่กรอบแล้วติดไว้ ไออุ่นที่แสนน่ารักตอนหลับตา ตอนที่พระพายแอบขโมยจูบในที่ต่างๆ เขานอนมองภาพเหล่านั้นที่ติดเต็มฝาผนังแล้วจับที่อกของตนเอง มันกำลังเจ็บปวดและบีบเค้นหัวใจเขาอย่างหนัก เขาทนไม่ไหวอีกแล้ว















“ยังไม่นอนอีกเหรอไออุ่น”







“คุณเพลิง...ผมยังไม่ค่อยง่วงครับ”









“เมื่อกี้...ฉันขอโทษแทนพระพายด้วยนะ ฉันไม่น่าให้เธอไปรอรับเขาเลย”







“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่เป็นไร”







“เด็กนั่นเป็นเพื่อนสนิทของพระพาย พระพายยังรักเธออยู่นะ”







“...ผมมีครอบครัวแล้วนะครับคุณเพลิง พระพายก็โตขึ้นมาก ถ้าเขาจะก้าวต่อไป ผมก็ยินดีกับเขาด้วย”
























“…แล้วเธอร้องไห้ทำไมล่ะ?”









อัคนีเชยปลายคางไออุ่นที่กำลังน้ำตาไหลท่วมออกมาแม้จะไม่มีอาการสะอึกสะอื้น ดวงตานั้นสบมองอัคนีด้วยความสั่นไหว อัคนีจึงเลื่อนนิ้วเช็ดน้ำตาให้ไออุ่นอย่างแผ่วเบา แล้วโอบกอดชายผู้ร่ำไห้เอาไว้แน่นอย่างปลอบโยน











อัคนีส่งข่าวพระพายให้ไออุ่นรู้เสมอ ชายที่พระพายหลงรักเฝ้าติดตามทุกย่างก้าวการเติบโตของพระพายอยู่ห่างๆ มาโดยตลอด รวมไปถึงดอกกุหลาบที่พระพายเพียรนำไปวางไว้ในห้องตั้งแต่ที่เขาจากไป ไออุ่นก็รับรู้หมดทุกอย่าง









เขากลับมาถึง และอยากพบหน้าของเจ้าลิงน้อยที่ติดเขาแจ แถมยังส่งรูปถ่ายประหลาดไว้ให้เป็นที่ระลึกก่อนเดินทางไกลเสียอีก แต่แล้ว เขาก็ได้พบกับภาพบาดใจที่ไออุ่นได้แต่บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร นั่นดีแล้ว











“พักผ่อนเถอะนะไออุ่น...พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันใหม่”







“ครับ”









ไออุ่นเดินกลับขึ้นด้านบนแล้ว อัคนีสั่งเตรียมห้องให้ไออุ่นตามที่เขาได้ร้องขอเอาไว้ เตียงเดี่ยวแยก 1 หลัง และที่นอนสำหรับเด็กทารก











อัคนียังคงนั่งทำงานต่อที่เดิม เนื่องด้วยพรุ่งนี้ต้องไปเจรจาเรื่องที่ดินกับนายหน้ารายใหญ่ที่ค่อนข้างเก่ง เขาตั้งใจศึกษาคนคนนี้ไปให้ดีก่อนเพื่อแก๊งจะไม่ถูกเอาเปรียบได้ง่ายๆ

























ปุบ!









เสียงโซฟาด้านข้างอัคนียุบลง และคนตั้งใจทำงานเงยหน้าขึ้นมองแขก เขาพบกับสาวสวยในชุดนอนสายเดี่ยวสีดำ กำลังนั่งไขว่ห้างแล้วส่งยิ้มหวานมาทางเขา

















“คุณเพลิงขยันจังเลยนะคะ เอมี่อยากช่วยบ้างจัง”









“ขอบคุณครับ ผมกำลังตรวจสอบคนคนหนึ่งที่จะไปพบพรุ่งนี้อยู่ เขาค่อนข้างฉลาด แล้วก็ขายของเก่ง ขายมานานจนมีความชำนาญสูง ผมเลยไม่อยากพลาดท่าให้เขาเท่าไหร่ ผมควรทำยังไงดีครับ ถึงจะไม่ถูกเขาหลอกขายที่เอาได้”









“ไหนคะ ขอเอมี่ดูหน่อย”







“…”









ไม่ว่าเปล่า หญิงสาวในชุดวาบหวิวลุกขึ้นแล้วทิ้งตัวลงบนตักกว้างของอัคนี มือเรียวที่ประดับด้วยเล็บสีแดงสดกวาดลงบนเอกสารในมืออัคนี











“เอมี่ว่า คุณเพลิงก็ต้องลองดูก่อนนะคะ ว่าชอบของที่เขาขายแค่ไหน บางทีคุณเพลิงอาจติดใจก็ได้”







“แล้วลองแบบไหนได้บ้างล่ะ?”







ว่าแล้วมืออัคนีก็เริ่มลูบจากหลังเรียวแล้วเลื่อนมือลงเรื่อยๆ จนถึงก้อนนุ่มมือบริเวณสะโพกของหญิงสาว













“คุณเพลิงล่ะก็”







“ว่าไงครับ ลองแบบไหนได้บ้าง”







“ก็ต้องดูก่อนนะคะ ว่าเขามีรุ่นไหนที่ให้ทดลองแล้วคุ้มกับค่าตอบแทนบ้าง”







“อืมมม...ผมก็คิดแบบนั้น จริงๆ ผมก็ไม่ได้กังวลเรื่องต้องจ่ายเท่าไหร่ เพราะยังไงทั้งหมดในปราสาทหลังนี้ รวมไปถึงกิจการในเครือเพลิงรัตติกาลอีกหลายร้อยสาขา ก็เป็นของผมอยู่แล้ว เงินจำนวนเล็กน้อยสำหรับค่าทดลอง ไม่ทำให้ผมหมดตัวได้หรอกครับ”











“แล้ว...ไออุ่น”







“ไออุ่นได้รับส่วนแบ่งเล็กๆ จากพ่อของเขาเท่านั้นเอง แต่ทั้งหมดเนี่ย...ของผม”







หญิงสาวมีหูตาลุกวาวอย่างสุดขีด เธอหัวใจเต้นแรง เมื่อได้รู้ถึงทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล และชายที่เธอกำลังนั่งตักอยู่นี้เป็นผู้ครอบครอง โดยไม่รอช้า หญิงสาวก็ซบลงบนอกของอัคนี แขนสองข้างกอดเอวหนาไว้แน่น











“ถ้าอย่างนั้น คุณเพลิงก็ทดลองได้ทุกรูปแบบเลยค่ะ”













































‘คิดถึงไออุ่นจัง’







พระพายที่เผลอหลับไปทั้งน้ำตาสะดุ้งตื่นใกล้เช้า เขาเดินออกจากห้องเพื่อลงมาหาของกินด้านล่าง ก่อนที่จะกลับขึ้นมาอาบน้ำแล้วออกไปมหาลัย













กึก









“พระพาย...”









“…”







ชายหนุ่มนิ่งค้างไป เมื่อบังเอิญเปิดประตูออกมาเจอกับคนที่เขานึกถึงเป็นคนสุดท้ายก่อนหลับตา และคนแรกที่ตื่นมาก็คิดถึงทันที ชายคนนั้นส่งยิ้มน้อยๆ ให้กับเขา ดวงตาใสที่เขาหลงรักบวมออกเล็กน้อย และในอ้อมแขนมีเด็กทารกกำลังนอนหลับอยู่

















พระพายมองเด็กทารกแล้วเดินเข้าใกล้ทั้งคู่ เขาเผลอยิ้มออกมาแล้วใช้นิ้วจิ้มเข้าที่แก้มน้อยนั่นเบาๆ











“เขาเหมือนไออุ่นมากเลย...”









ชายหนุ่มเผลอพินิจพิเคราะห์เจ้าเด็กน้อย แล้วเงยหน้ามองต้นแบบของเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขน จนเจ้าตัวแทบลืมหายใจไป เมื่อได้จ้องตาตรงๆ กับไออุ่นที่แสนคิดถึง และพระพายไม่อาจทนได้ไหว เขาประชิดเข้าใกล้ไออุ่นเรื่อยๆ และโน้มหน้าลงหวังขโมยจูบ แต่กลับถูกไออุ่นขยับกายออกห่าง













“...”







“ขอโทษ...ผมลืมไป”







“ฉ...ฉันนึกว่านาย ลืมฉันไปแล้วซะอีก เมื่อวานที่หน้าบ้าน...”















“ไออุ่น!!!!”


















“!?!”








อยู่ๆ พระพายก็โพล่งขึ้นมาจนไออุ่นตกใจ รวมไปถึงทารกน้อยที่กำลังหลับ ก็เกิดร้องไห้ขึ้นมาเช่นกัน จนไออุ่นได้ละความสนใจจากพระพายแล้วมากระชับอ้อมแขนเพื่อปลอบประโลมลูกแทน















“นายเสียงดังทำไม...ชู่ว ชู่ว ไม่เป็นไรนะครับ พ่ออยู่นี่”







“เมื่อวาน...มันไม่ใช่อย่างที่ไออุ่นคิดนะครับ!!!!”







“จะอะไรยังไงก็เรื่องของนายเถอะ ฉันจะพาลูกไปกินนม”







“…แล้วไออุ่นออกมาทำไมล่ะครับ?”







“ก็...ก็...”









“ก็...อะไรครับ?”





















“ก็แม่เขาอยู่ในห้องฉันนี่นะ…ใช่ไหม ไออุ่น”


















“คุณเพลิง!?!”
























------------------E-N-D--C-H-10-----------------------

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:




ขอบคุณคอมเม้นท์จากคุณ AkuaPink ด้วยนะคะ ^^

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ยุ่งเหยิงไปหมด

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
มีหวังแล้วเพลิง 5555 ได้เป็นปะป๊าอีกคนแน่นอน (ฮา) ต่างคนต่างเคลีนร์คนของตัวเองเถอะ จะได้แฮปปี้สักที ไม่เจอกันตั้ง2ปี อานะ สนุกกกกกกกกกก รรรรรตอนต่อไป ไปทำอีท่าไหนถึงได้แม่เอมี่มาเป็นแม่ของลูกหึไออุ่น  5555

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 11 : ครอบครัว

































“เจรจาเรื่องที่ดินวันนี้เป็นยังไงบ้างครับคุณเพลิง?”









“ยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ ฉันนัดคุยอีกทีมะรืน”









อัคนี ไออุ่นและพระพายนั่งทานข้าวเย็นพร้อมหน้ากันในรอบหลายปี แม้ว่าไออุ่นจะรู้สึกอึดอัดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าที่ผ่านมามากแค่ไหนก็ตาม















“แล้ววันนี้ไม่ทำโปรเจคหรือพระพาย ถึงมานั่งกินข้าวด้วยกันได้”









“ครับ...วันนี้ผมขอเพื่อนกลับก่อน...ทนคิดถึงไออุ่นไม่ไหว”

















แค่ก แค่ก แค่ก









“ฮ่าฮ่าฮ่า กินน้ำก่อนไออุ่น...เธอก็เหมือนกันพระพาย ฉันก็นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน พูดอะไรให้เกียรติพี่เขาบ้าง”









อัคนียื่นแก้วน้ำให้ไออุ่นแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี นานแล้วที่ไม่ได้เห็นรอยยิ้มของพระพายแบบนี้









“ว้าววว...อาหารไทย น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ”









จุ๊บ!









หญิงสาวในชุดสีแดงรัดรูปเดินมาที่โต๊ะอาหาร แล้วเดินไปจูบแก้มไออุ่นหนึ่งทีก่อนนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆ อัคนี เพียงไม่นานสาวใช้ก็ตักข้าวให้เธอหนึ่งทัพพี

















“แกงเขียวหวานใช่ไหมคะ เอมี่ไม่ได้ทานนานมากกกก”









“ครับ…ของโปรดคุณเพลิง”









“เอมี่ขอชิมหน่อยนะคะ”









ว่าแล้วสาวเจ้าก็ตักชิมแล้วกล่าวชมไม่ขาดปาก สายตาสบมองอัคนีหวานหยาดเยิ้ม ภายใต้โต๊ะตัวใหญ่ ขาเรียวงามนั้นก็ไม่ปล่อยว่าง ยังคงคลอเคลียกับขาของอัคนีตลอดเวลา จนใครบางคนทนไม่ไหว















ปัง!









“โทษที มือลื่น”









พระพายวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะอย่างแรงจนทุกคนหันมามอง แล้วเขาก็ทานอาหารต่ออย่างไม่คิดจะสนใจใคร เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้ไปนอนกับอัคนีมาเมื่อคืน แต่ไออุ่นก็ยังมีท่าทีนิ่งเฉย ทั้งๆ ที่เธอเป็นภรรยาของเขา แถมยังปล่อยให้ไออุ่นเลี้ยงลูกเพียงลำพังอีก นึกแล้วมันก็หงุดหงิด









































ชายหนุ่มเฝ้ามองพฤติกรรมที่หญิงสาวแสดงออกชัดเจนต่ออัคนีแล้วก็สุดจะทน พระพายจึงได้ขอตัวลุกจากโต๊ะไปก่อน จนดึกของวันนั้นเขาก็ตัดสินใจไปเคาะประตูห้องไออุ่น เพราะแน่ใจว่าเขาต้องอยู่กับลูกชายตามลำพังแน่นอน















ก๊อก ก๊อก ก๊อก













“พระพาย?”











“...”











“มีอะไรรึเปล่า มาซะดึกเลย”











“ไรอั้นหลับรึยังครับ”











ถามไปทั้งๆ ที่เด็กน้อยยังคงนอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนของไออุ่น













“น่ารักจัง...เหมือนไออุ่นเลย”









“เขายังหลับไม่สนิทหรอก เมื่อกี้ตื่นมากินนมกลางดึก กำลังจะหลับต่อ”









“แล้วแม่เขาล่ะครับ?”











“…”









“ผมถามจริงๆ ไออุ่นเอาผู้หญิงแบบนี้มาเป็นภรรยาได้ไง?”









“…”









“ป่ะ!”









“หืม? ...ไปไหน?”











“พาไรอั้นไปเล่นที่ห้องผม ไออุ่นยังไม่เคยไปห้องผมเลยนี่ครับ”









“แต่ฉันกำลังจะกล่อมลูกนอน”









“ไปกล่อมที่ห้องผมก็ได้นี่...นะครับ”









ไม่ปล่อยให้ไออุ่นคิดนาน พระพายอ้อมไปด้านหลังไออุ่นแล้วผลักเจ้าตัวให้เดินไปยังห้องที่อยู่ถัดไปไม่กี่ห้อง

















“!!!”











“ฉันว่า...ฉันไม่เข้าไปดีกว่า”











ไออุ่นถูกดันมาจนถึงหน้าประตูห้องของพระพาย และเมื่อมันถูกเปิดออก ไออุ่นก็เหลือบมองไปรอบๆ ห้องที่เป็นสีชมพูเช่นเดียวกับห้องของเขา และที่ทำให้ไออุ่นรู้สึกไม่ปลอดภัยที่สุด ก็คือภาพถ่ายของเขาที่ถูกขยายใส่กรอบ แล้วติดเต็มผนังทุกด้าน

















“มาเถอะครับ พาไรอั้นมาเล่นด้วย”











“…”











“วางเขาลงตรงนี้ก็ได้นะครับ”











พระพายชี้ไปยังเบาะรองนั่งบนพื้นที่เขานำขึ้นมาวางไว้บนเตียง แล้วปูทับด้วยผ้าห่มผืนหนาอีกที แต่ไออุ่นคิดว่า สถานการณ์ล่อแหลมเช่นนี้ ไรอั้นอาจเป็นคนเดียวที่ช่วยกันเขาออกจากเจ้าของห้องได้ในตอนนี้















“ฉ...ฉันอุ้มเขาไว้ดีกว่า เดี๋ยวเขาตื่นแล้วจะร้องไห้งอแง”















ตึกตัก...ตึกตัก









“ลองวางก่อนเถอะนะครับ เขาไม่ตื่นง่ายๆ หรอก”











ชายเจ้าของห้องเริ่มมีอาการหอบหายใจแรงขึ้นจนไออุ่นสัมผัสได้ เขาเดินเข้าใกล้แล้วพยายามจะดึงทารกออกจากอกไออุ่น จนไออุ่นต้องยอมแพ้แล้วค่อยๆ วางลูกชายลงบนเบาะชั้นดี















อุ...แว๊!!!!!!!!!













!!!!!!!!













“เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าเขาจะตื่น!!”











คุณพ่อมือใหม่เริ่มโวยวายตามลูกชาย ด้านพระพายลุกลี้ลุกลนด้วยไม่เคยเลี้ยงเด็กเช่นกัน แล้วเขาควรช่วยอย่างไรดี













“นม..”











“ห๊ะ?”











“เมื่อกี้ก่อนเขาหลับ ที่รักป้อนนมเขาใช่ไหมล่ะครับ ลองดูอีกรอบสิ”











“งั้นฉันพาเขากลับห้องเลยดีกว่า ขวดนมอยู่ในห้องฉัน”











“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปหยิบให้”













แง๊!!!!!!!!!!!!!!!















“นี่กุญแจ...รีบเลยนะ มีนมที่เอมี่ปั๊มเอาไว้ นายเอาใส่ขวดอีกที เพราะเมื่อกี้เขาพึ่งกินจากขวดหมดไป”











“ไออุ่นครับ...”











“???”











“ผมว่ามันน่าจะนาน อย่าปล่อยให้ลูกร้องนานเลยนะครับ”











“แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง?”











“นม...คุณ”











พระพายชี้ไปที่เสื้อเชิ้ตพับแขนสีขาวที่ไออุ่นใส่ แล้วเจ้าของเสื้อก็ทำหน้างง

















“ระหว่างที่ผมไปกรอกนมใส่ขวด คุณก็ให้ลูกดูดนมคุณไปก่อนไงครับ”











“แต่ฉันไม่มีน้ำนมให้ลูกนะ!”











“ประทังไปก่อนชั่วคราวครับ ไม่งั้นเขาก็จะร้องไม่หยุด ดูสิครับ...น่าสงสารออก”











ไออุ่นที่เริ่มสติแตกค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของตนเองออกตามที่พระพายแนะนำ



















“มันออกจะดูแปลกๆ แต่ก็ลองดูก่อนแล้วกัน ถ้ามันช่วยลูกได้...ไรอั้นอ้าปากสิ”



















งับ











“อืออ...”















จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ















อึก













เสียงแรกนั้นคือเสียงสั่นเครือจากชายผู้ได้รับวงปากเล็กๆ ครอบเข้ายังส่วนอ่อนไหว เสียงที่สองคือการดูดดุนส่วนอ่อนไหวของบิดาจากเด็กน้อย และเสียงที่สามคือเสียงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากของพระพาย

















“อืออ...รีบไปสิ มัวยืนมองอะไรอยู่ล่ะ”











“ค...ครับ!”

















ตึกตักๆๆๆๆๆๆๆๆๆ











พระพายวิ่งไปไขห้องไออุ่นแล้วมองหาอุปกรณ์ที่ไออุ่นบอกเอาไว้ เขาไม่ชำนาญเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่ก็ตั้งใจนำขวดนมที่มีคราบน้ำนมติดอยู่ไปล้างน้ำอุ่น แล้วกรอกนมที่ปั๊มทิ้งไว้ใส่เข้าไป จากนั้นจึงรีบวิ่งกลับมาที่ห้องของตอน



















อึก











ไออุ่นสุดเซ็กซี่ ปลดกระดุมออกจนหมดแล้วปล่อยให้ลูกชายดูดกลืนยอดอกสีชมพูนั้นอยู่เนิ่นนานจนเจ้าตัวก็เริ่มหน้าแดงและออกอาการบิดเกร็งเป็นพักๆ

















“...พระพายได้รึยัง”











“ครับ”











พระพายเดินเข้าใกล้แล้วยื่นขวดนมที่ยังอุ่นให้คุณพ่อมือใหม่













“ขอบใจนะ...ไรอั้น มาแล้วลูก นอนลงตรงนี้นะ...มามา...อ้าปาก...อ๊า!!!”

















จ๊วบบบ จ๊วบบ ซูดดด จ๊วบบบบ!!!















“พระพาย!! ทำอะไรเนี่ย!!!!”













โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เด็กน้อยอีกคนที่อายุปาเข้าไป 20 ปีแล้ว ดึงเสื้อเชิ้ตของไออุ่นออกแล้วครอบปากลงบนส่วนชูชันสีชมพูสดนั้นแทน แล้วดูดกลืนอย่างแรงจนไออุ่นตกใจ

















“พระ...พาย หยุด..นะ”











เสียงนั้นเริ่มสั่นเครือและเบาลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับมือขาวที่พยายามดันศีรษะพระพายออกก็เริ่มอ่อนแรงลงเมื่อชายชำนาญการไล่เลียดูดกลืนยอดอกนั้นอย่างมืออาชีพ















“อะ..อ๊า!”











“ชู่ว..เบาหน่อยสิครับที่รัก เดี๋ยวลูกตกใจนะ”











“อืออ..อือออ”













ว่าแล้วคุณพ่อมือใหม่ที่วางลูกชายลงบนเบาะ ก็ส่งขวดนมให้ แล้วมองลูกชายที่กำลังหลับตาพริ้มพร้อมดูดขวดนมอย่างสบายใจ คุณพ่อคนงามยกมือขึ้นปิดปากกันเสียงประหลาดที่เล็ดลอดออกไป ด้านเด็กชายอีกคนก็หลับตาพริ้มและสะบัดลิ้นไปมาดุนดันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ





















“พอ...พอเถอะ...อื้อ!”











ไออุ่นดันศีรษะพระพายจนหลุดออก พระพายจึงจับไหล่นุ่มนิ่มนั้นแล้วดึงเข้าแนบอกตัวเองจากนั้นก็ไล่เลียบริเวณใบหู พร้อมทั้งมือสองข้างที่ขยำก้อนกลมด้านล่างของไออุ่นไปด้วย

















“อื้ออ..อืออ หยุด...”













ร่างกายขาวเนียนสะท้านเป็นรอบๆ พร้อมทั้งดวงตาทั้งสองที่จับจ้องไปยังลูกชายที่ไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งใดที่เกิดขึ้นตรงนี้เลย พระพายโอบรัดไออุ่นเอาไว้แนบแน่นจนแกนกลางลำตัวของทั้งคู่ที่กำลังนูนออกมากว่าปกติได้สีเข้าหากันเป็นที่เรียบร้อย



















“ฮ่า...ที่รักครับ ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมคิดถึงไออุ่นจะตายแล้ว”











“อย่า...พอแล้ว อย่าทำแบบนี้ต่อหน้าลูกฉันเลย ฮืออออ”











“...ไออุ่นครับ”











เมื่อไออุ่นเริ่มสะอื้นไห้ออกมา พระพายจึงหยุดการแนบลำตัวแล้วสีเข้าหากัน แล้วจ้องมองใบหน้านั้นตรงๆ ไออุ่นเองก็มองตอบพระพายตรงๆ เช่นกัน



















“ผมรักคุณ...รักมาตลอด ไม่เคยหยุดรักได้เลยสักวันเดียว คิดถึงคุณเพียงคนเดียว ผมผิดเหรอครับที่ผมอยากกอด อยากมีอะไรกับคนที่ผมรัก แล้วผมก็รู้ว่าไออุ่นก็รักผมเหมือนกัน...ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่ไออุ่นพาผู้หญิงคนนั้นกลับมาด้วย คุณกำลังทำผิดต่อผม ผมไม่รับรู้ทั้งนั้น...ไออุ่นเป็นของผม ของผมคนเดียว”















อึก













“พระพาย...นายบอกว่ารักฉัน ฉันผิดที่พาภรรยาและลูกกลับมา แล้วนายล่ะ...ทั้งๆ ที่บอกว่ารักฉันคนเดียว แต่นายก็ไปกอดคนอื่นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ นายมันเอาแต่ได้...นายรักฉันที่ตรงไหน พอฉันไม่อยู่ให้นายกอด นายก็ไปกอดคนอื่น...นายรักฉันตรงไหนเหรอ ร่างกายของฉันหรือว่าข้างในตัวตนของฉัน หรือจริงๆ แล้วนายแค่ต้องการเครื่องมือระบายอารมณ์ เคยถามตัวเองบ้างไหม”



















ปัก!











ไออุ่นยกเข่ากระทุ้งเข้ากับจุดกึ่งกลางที่กำลังคับพองของพระพาย แล้วค่อยๆ ประคองลูกชายเดินออกจากห้องสีชมพู ที่เต็มไปด้วยรูปถ่ายของเขาไป ปล่อยให้เจ้าของห้องทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยอาการจุก จากนั้นจึงค่อยๆ คิดได้ถึงสิ่งที่ตนได้ทำลงไป















“ไออุ่น...ผมรักคุณ...ผมขอโทษ”









































‘ไออุ่น มาพบฉันที่ห้องทำงานที’











เช้าวันใหม่มาเยือน และอัคนีเรียกไออุ่นเข้าพบแต่เช้าตรู่ ไออุ่นที่นอนร้องไห้ตาบวมทั้งคืน มองไปข้างกาย ก็พบว่าภรรยาเขายังไม่กลับเข้าห้องมาเลย และลูกชายก็กำลังนอนหลับอยู่ เขาจึงย่องเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว และอุ้มลูกลงมาพบอัคนีด้วยกัน

















“คุณเพลิงเรียกผมมาแต่เช้า มีอะไรรึเปล่าครับ?”









“ไรอั้นยังไม่ตื่นเหรอ?”











“ครับ”











อัคนีมองเด็กชายในอ้อมกอดไออุ่นแล้วก็เผยรอยยิ้มอบอุ่นออกมา เด็กคนนั้นหน้าเหมือนไออุ่นอย่างกับแกะ

















“เธอไม่ได้จดทะเบียนกับผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม”











“ครับคุณเพลิง...”











“เธอคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม ถ้าฉันจะขอให้เธอเล่าตรงๆ ว่าไปรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นได้ยังไง”











“ครับ...ผมไม่มีอะไรต้องปิดบังคุณเพลิงอยู่แล้ว...ผมเจอเธอที่ร้านอาหารร้านนึงที่อังกฤษครับ...ตอนนั้นผมไม่ได้มีเพื่อนมากนัก แต่ก็มีคนกลุ่มนึง เข้ามาทำความรู้จักผมที่มหาลัย เขาพาผมไปเที่ยวหลายที่...ผมก็ไปกับเขานะครับ เพราะอยู่นู่นมันเครียดมากจริงๆ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องปรับตัวเข้ากับสังคม...ผมเลยเที่ยวกับพวกเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ จนไปเจอกับแม่ไรอั้นที่ร้านอาหารร้านนึง เธอทำพาร์ทไทม์ที่นั่นครับ”











“แล้วเธอก็จับนายสินะ”









“...เป็นความผิดของผมเองครับ คืนนั้นผมเมามาก แล้วก็สับสน เธออาสาไปส่งผม จากนั้นมันก็เกินเลย...ผมไม่นึกว่าเธอจะท้อง พอผมเรียนจบเธอก็ขอกลับไทยมาด้วยครับ”











“นั่นสินะ...ฉันว่าเธอพยายามจะท้องกับฉันเหมือนกัน”











“คุณเพลิง...”











“ตั้งแต่มาที่นี่วันแรก ฉันก็ลองทำอะไรไปหลายอย่างเหมือนกัน สุดท้ายก็เลยรู้ความจริง...แต่เธอก็สบายใจได้นะ ฉันส่งผู้หญิงคนนั้นกลับอังกฤษไปละ”











“คุณเพลิงครับ...แต่ลูกผม...”











“ไม่ต้องห่วงเรื่องไรอั้น ฉันสัญญาว่าเขาจะเติบโตมาอย่างดีที่สุด ฉันจะเลี้ยงเขาเอง ส่วนเรื่องให้นม ฉันจ้างแม่ลูกอ่อนไว้หลายคนสำหรับให้นมโดยเฉพาะแล้ว”













“คุณเพลิงครับ...ผมก็ขอถามคุณตรงๆ เหมือนกัน ทั้งหมดที่คุณทำ เพื่อผม หรือเพื่อพระพายกันแน่? แต่ไหนแต่ไร คุณเข้าข้างเขามาตลอด ทั้งๆ ที่เขากับคุณ แทบไม่ได้เป็นอะไรกันเลยทางสายเลือด”













ไออุ่นที่เฝ้ามองอัคนีมาโดยตลอด เก็บงำความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ในใจ ความรู้สึกที่ว่า อัคนีมักเข้าข้างและให้ท้ายพระพายเสมอ แม้กระทั่งยอมเป็นสื่อกลางให้พระพายกับเขาได้รักกันด้วยซ้ำ













อัคนียิ้มออกมาน้อยๆ คล้ายกับอ่านความคิดของไออุ่นได้ อกที่กระเพื่อมแรงขึ้นของไออุ่นคงเพราะเจ้าตัวกำลังโมโหและหงุดหงิดใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพระพายเป็นการส่วนตัวอยู่เป็นแน่



















“…ไม่ต้องเป็นอะไรกันทางสายเลือด ฉันก็รักเขาเหมือนลูกชายฉันได้ไม่ใช่หรือไออุ่น เหมือนกับที่ฉันจะรักลูกชายของเธอ เช่นเดียวกับที่ฉันรักพระพายและเธอ...แบบนั้นเธอว่าดีไหมล่ะ”













“...คุณเพลิง”













ความโกรธเกรี้ยวในใจมลายหายไปหมดสิ้น เมื่อเจอกับความเย็นยะเยือกของหิมะแสนสวยตรงหน้า อัคนีลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วโผเข้ากอดไออุ่นและไรอั้นไว้อย่างปลอบโยน





















“เธอก็เหมือนครอบครัวของฉันนะไออุ่น พระพายก็ด้วย ไรอั้นก็ด้วย ฉันย่อมต้องปกป้องครอบครัวของฉันอยู่แล้วสิ จริงไหม”













“อึก...ขอบคุณครับคุณเพลิง”



























------------------E-N-D---C-H-11---------------------



 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:




ขอบคุณคอมเม้นท์จาก
คุณ AkuaPink    :L1:
คุณ •♀NoM!_KunG♀•    :กอด1:
และคุณ blove  ด้วยนะคะ   :L2:

ขอบคุณสำหรับกำลังใจและร่วมลุ้นกันมามากๆเลยนะคะ
อีกไม่กี่ตอนก็จบเรื่องของคู่นี้แล้ว เย้ ^^
มาลุ้นกันต่อนะคะ
ขอบคุณค่าาาาา
:pig4: :pig4: :pig4:


 :L2: :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Savahale

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
    • https://savahale.wordpress.com
บทที่ 12 : The Lying LOVER































“ได้สิพระพาย ยังไงนี่ก็บ้านเธอ...ตามสบายนะกล้วยหอม ไม่ต้องเกรงใจ”







“ขอบคุณครับคุณเพลิง”







อีกเพียงไม่กี่วันพระพายก็ต้องสอบปลายภาคแล้ว และทุกครั้งที่จะมีการสอบปลายภาค รายงานและโปรเจคต่างๆ ก็จะมากองรวมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่ว่านักศึกษาจะลงเรียนไว้กี่วิชา ก็คล้ายกับว่าทุกคลาสจะสั่งด่วนกันหมดในช่วงนี้







กล้วยหอมเพื่อนรักของพระพาย ไม่เคยย่างกรายเข้ามาในปราสาทเพลิงรัตติกาลแห่งนี้มาก่อน สองปีกว่าที่เขาคบกับพระพายมา พระพายไม่เคยชวนเขามาที่นี่ มีเพียงบุตรบุญธรรมของอัคนีเท่านั้นที่มักไปบ้านกล้วยหอมอยู่เป็นประจำ หากแต่คราวนี้ พระพายไม่ต้องการไปที่นั่นอีก ด้วยกลัวไออุ่นเข้าใจผิด จึงได้พากล้วยหอมมานั่งทำโปรเจคกันที่ห้องรับรองในปราสาทเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ใจเสียเลย







...หรือแท้จริงแล้ว พระพายอยากอยู่ใกล้ๆ ไออุ่นตลอดเวลาที่มีโอกาสซะมากกว่ากันแน่นะ?

















ก๊อก ก๊อก ก๊อก







“ครับคุณเพลิง?”







“...พักทานข้าวกันก่อนมาพระพาย กล้วยหอมด้วย มาทานข้าวด้วยกันก่อนนะ แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ”







เจ้าของปราสาทเข้ามาเรียกพระพายและเพื่อนด้วยตนเอง เนื่องจากเมื่อครู่ สั่งให้แม่บ้านมาตามหลายรอบแล้ว แต่ก็คล้ายกับว่างานติดพันจึงไม่มีใครยอมลุกออกไปสักที







“ครับคุณเพลิง เดี๋ยวผมตามไป”







“ลุกเลย ฉันรอพวกเธอนานแล้วนะ”







“ขอโทษครับ...ไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”







ไม่รอช้า เด็กหนุ่มทั้งสองก็วางงานไว้ตรงหน้าแล้วลุกตามอัคนีออกมาด้านนอก ที่โต๊ะอาหารพระพายพบไออุ่นที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว โดยวันนี้มีมารดาของไออุ่นมานั่งร่วมโต๊ะด้วย

















“ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องรอนะครับ”







พระพายและกล้วยหอมนั่งลงข้างกัน แล้วเริ่มลงมือจัดการของน่าทานตรงหน้า โดยที่ไออุ่นไม่มองมาที่พระพายเลยแม้เสี้ยวเดียว จนเด็กหนุ่มต้องเป็นฝ่ายเอ่ยทักขึ้นก่อน







“ไออุ่นเป็นยังไงบ้างครับวันนี้ แล้วไรอั้นไปไหนแล้ว?”







“คุณเพลิง...”







เมื่อถูกถามถึงลูกชาย ไออุ่นก็หันหน้าไปมองอัคนีที่กำลังจิ้มน่องไก่ทอดใส่จาน อัคนีเมื่อเห็นดังนั้นก็อธิบายให้พระพายฟังแทน







“ต่อไป ไรอั้นจะเป็นลูกบุญธรรมของฉัน ตอนนี้ฉันจ้างคนให้นมเขาไว้ พร้อมคนดูแลให้อีกหลายคน เธอถามทำไมพระพาย?”







“ผม...แค่ถามดู ปกติเห็นไออุ่นอุ้มเขาไว้ตลอดนี่ครับ”







“ไม่ต้องทำหน้าตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้พระพาย ไรอั้นจะไปนอนกับไออุ่นทุกคืน เพื่อไม่ให้เขารู้สึกว่าขาดความอบอุ่นอะไร”







อัคนีหรี่ตามองพระพายอย่างรู้ทัน เจ้าเด็กมหาลัยตาลุกวาวเมื่ออัคนีบอกว่าจ้างคนมาดูไรอั้น คงกำลังคิดหาทางเข้าห้องไออุ่นอยู่ตลอดเวลาอย่างแน่นอน











“ผมยังไม่ทันคิดอะไรเลยครับคุณเพลิง...ที่ร....เอ่อ...ไออุ่น...ไก่ทอดครับ”








ว่าแล้วเจ้าเด็กแววตาลุกวาวก็จิ้มไก่ทอดอีกชิ้นในจานส่งให้ไออุ่น และจ้องมองไออุ่นตาไม่กะพริบ แต่ถึงอย่างนั้นคุณพ่อมือใหม่ก็ยังคงไม่มองหน้าพระพายอยู่ดี







พระพายหันกลับไปมองคนด้านข้างที่นั่งเงียบตั้งแต่มานั่งที่โต๊ะกินข้าว และแทบไม่ได้ตักอะไรใส่จานเลย พระพายจึงจิ้มไก่ทอดอีกชิ้นใส่ในจานให้แล้วบอกกล้วยหอมไม่ต้องเกรงใจ ให้กินตามสบาย







ความตึงเครียดที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับทุกคนที่กำลังทานข้าว มีเพียงพระพายคนเดียวที่ไม่ได้รับรู้อะไรเลย เมื่อเห็นว่ากล้วยหอมไม่ยอมพูดหรือยังเกร็งอยู่ เขาจึงขอตัวกลับไปทำงานในห้องรับแขกกับกล้วยหอมต่อ โดยเดินไปขอขนมจากสาวใช้ไว้ทานเวลาหิว











“…ฉันกำลังคิดอยู่ว่าถ้าไรอั้นเรียนจบมัธยมปลายที่นี่ จะส่งเขาไปเรียนต่อที่อเมริกา ฉันพอรู้จักกับมหาลัยดังๆ ที่นู่นอยู่หลายแห่ง บางแห่ง.....”







อัคนีที่กำลังทานข้าว ร่ายยาวถึงแผนการในการเลี้ยงดูไรอั้นจนถึงวัยชราด้วยแววตาตื่นเต้น นั่นทำให้ไออุ่นที่มีสีหน้าเศร้าหมองค่อยๆ ยิ้มตามออกมาได้







“คุณเพลิงเอ็นดูไรอั้นมากเลยนะครับ เขาเป็นเด็กที่โชคดีจริงๆ”







“ฉันก็ไม่เคยมีลูกหรอก แต่รู้สึกผูกพันกับเขามากเลย”







เป็นเช่นที่เจ้าตัวว่า ตั้งแต่รับไรอั้นเป็นบุตรบุญธรรม ไม่ว่าจะเหลียวซ้ายแลขวา อัคนีก็จะพูดถึงแต่เพียงเด็กทารกที่กำลังนอนหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องอยู่ด้านบนตลอดเวลา







“กินข้าวเสร็จก็จัดการธุระตัวเองให้เรียบร้อยนะไออุ่น แล้วค่อยเดินไปรับไรอั้นที่ห้องฉัน”







“ครับคุณเพลิง”







อัคนีเมื่อรับประทานอาหารเย็นเสร็จก็รีบตรงดิ่งไปยังห้องเลี้ยงเด็ก แล้วอุ้มไรอั้นเข้าห้องตัวเองทันที ไออุ่นส่งมารดาเขาที่วันนี้มานั่งร่วมโต๊ะด้วยกลับห้อง จากนั้นจึงเดินเข้าไปในครัว แล้วเคี่ยวกล้วยบวชชีที่ทำไว้ก่อนเริ่มมื้ออาหารต่อจนเสร็จ







“...ผมฝากเอาไปให้พระพายกับเพื่อนเขาทีนะครับ”







“ได้ค่ะคุณไออุ่น”







แม่บ้านรับกล้วยบวชชีหอมฉุยสองถ้วยจากไออุ่นใส่ถาดแล้วนำไปเสิร์ฟให้กับเด็กหนุ่มสองคนที่กำลังเคร่งเครียดกับการปั่นรายงานอยู่



















ก๊อก ก๊อก ก๊อก







“พระพาย ป้าเอากล้วยบวชชีมาส่ง”







“ครับป้า ขอบคุณมากนะครับ วางไว้ตรงนั้นเลย”







“รีบมากินล่ะ เดี๋ยวเย็นชืดหมด คุณไออุ่นอุตส่าทำให้”













!!!













“ห๊ะ! ไออุ่นทำเหรอ!?!!!”









แม่บ้านคนสนิทของอัคนีนั้นสนิทกับพระพายมาตั้งแต่เขายังเป็นเพียงเด็กที่ศิขรินเก็บมาเลี้ยง และคนใช้แทบทั้งปราสาทก็สนิทกับพระพายเป็นอย่างดี









เด็กหนุ่มวางปากกาที่กำลังเขียนไม่เลิกตั้งแต่เข้ามา แล้วลุกออกจากห้องไป ปล่อยแม่บ้านให้ยืนงงอยู่กับกล้วยหอมในห้องนั้น

















ด้านไออุ่นที่ทำของหวานเสร็จเรียบร้อย กำลังตักกล้วยบวชชีที่เหลือแบ่งใส่กล่องอาหารเพื่อเตรียมนำไปแจกจ่ายให้กับคนเฝ้าประตูปราสาท















ตุ่บๆๆๆๆๆๆ













ปัง!












“ไออุ่น!!!! แฮก แฮก”









“???”













แกร๊ก!







พระพายวิ่งหน้าตั้งเข้ามาในห้องครัวสี่เหลี่ยมเล็กๆ ห้องหนึ่งที่ไออุ่นยืนอยู่ เข้าจ้องไออุ่นตาโตแม้กำลังหอบเหนื่อย และเมื่อแน่ใจว่าไออุ่นอยู่ในห้องครัวห้องนั้น เขาก็เดินไปล็อกประตูห้องเอาไว้











“พระพาย...ล็อกทำไม?”







เด็กหนุ่มไม่ตอบคำถามนั้น เมื่อพักจนหายเหนื่อยก็เดินเข้าหาไออุ่นอย่างรวดเร็ว และคนน่ารักเริ่มหวาดกลัวกับแววตาเช่นนั้นเสียแล้ว เพราะครั้งล่าสุดที่เขาเห็น มันคือตอนที่พระพายใช้ยาสมุนไพรกับเขา















“จะทำอะไร...หยุดนะ อื้อ!”









“ทำไมคุณไม่มองผมเลย...”









ชายหนุ่มพุ่งเข้ารัดไออุ่นไว้ในอ้อมแขนทันที แล้วเริ่มซุกไซ้จมูกลงบนซอกคอเนียนขาว















“พระพาย ปล่อยนะ...จะบ้ารึไง นี่มันในห้องครัวนะ!!!!”















เพี๊ยะ!









เมื่อดันร่างเด็กหนุ่มออกห่างได้เล็กน้อย มีขาวเนียนนั้นก็ฟาดเข้าเต็มแก้มพระพายโดยไม่ได้ตั้งใจ



















ตึก...ตัก ตึกตัก ตึกตักๆๆๆๆๆๆๆ








ทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ ใจเต้นแรงแข่งกันในห้องครัวเล็กห้องหนึ่ง มือขาวเนียนที่ฟาดลงบนหน้าพระพายเริ่มสั่นน้อยๆ ด้านพระพายนั้นนิ่งงันไม่ขยับอยู่กับที่ และเพียงไม่นาน น้ำตาก็ไหลออกมาเป็นสาย











“ฮึก....ฟืดด ฟืดดด”







เขากดข่มความเจ็บปวดที่แล่นแปร๊บจากทรวงอกเอาไว้ไม่ให้ฟูมฟายไปมากกว่านี้ แต่ขาก็ไม่ได้ขยับไปไหน ดวงตาสั่นไหวที่กำลังร่ำไห้นั้น สบมองไออุ่นที่เริ่มมีดวงตาหน่วงน้ำเช่นกัน









“ฉ...ฉัน ขอโทษ”







“อึก...”







“นาย...กลับไปทำงานต่อเถอะนะ เพื่อนนายคงกำลังรออยู่...อึก”







“ไออุ่น...”







ทั้งสองพยายามกดข่มความเจ็บปวดเอาไว้ จนพระพายทนไม่ไหวแล้วเริ่มปล่อยโฮออกมาหนักขึ้นเรื่อยๆ







“...ผมขอโทษ แต่มันเป็นอย่างที่คุณว่านั่นแหละ ผมเป็นคนเห็นแก่ตัว...ฮืออ...ผมเจ็บ โคตรเจ็บเลยที่มันมีแต่ผม มีแค่ผมคนเดียวที่ยังอยู่ยืนอยู่ที่เดิม ฮือออ มีแต่ผมที่ยังคงรอคุณอยู่...ทั้งๆ ที่ อึก คุณเดินหน้าต่อแล้ว วันนั้นที่คุณส่งภาพครอบครัวกลับมาให้พวกเรา วันที่คุณเดินหน้าต่อ มันเจ็บมาก...หัวใจผมสลาย ฮือออ ผมทนไม่ไหว ผมเลยเห็นแก่ตัว ด้วยการไปกอดคนอื่น...ผมผิดเองผมขอโทษนะครับ”













“พระพาย...”







ไออุ่นเอ่ยชื่อชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาที่ไม่อาจกักเก็บไว้ได้อีกต่อไป เขาเดินเข้าใกล้พระพาย กุมมือพระพายที่แข็งเกร็งเอาไว้ แล้วยืนก้มหน้าร้องไห้เมื่อเขาเองก็เจ็บมากเช่นกัน กับสิ่งที่พระพายได้บอกเล่าทุกอย่างจากใจออกมา











“ไออุ่นถามผมว่า ผมรักไออุ่นตรงไหน...ครับ ผมรักทั้งหมดของไออุ่น ฮืออ...ตั้งแต่วันแรกที่ผมเห็นคุณ...วันนั้น ผมเป็นแค่เด็กใบ้ที่พ่อคุณเก็บมาจากกองขยะ เนื้อตัวสกปรก น่ารังเกียจ และอัปลักษณ์ที่สุด...แต่แววตานั้นที่คุณมองมาที่ผม มันฉายแววความอบอุ่น คุณไม่เคยรังเกียจผมเลยสักนิด คุณมองผมอย่างอ่อนโยน เหมือนกับว่าผมเองก็คือมนุษย์คนนึง...แม้กระทั่งดอกไม้จากคนไร้ค่าอย่างผม คุณก็ไม่เคยปฏิเสธที่จะรับ...คุณนึกถึงใจคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ...หรือแม้แต่วันที่ผม ฮือออ ข่มเหงคุณ เพราะผมมันเอาแต่ได้และเห็นแก่ตัว...คุณก็ อึก ยังให้อภัย กระทั่งวันนี้ คุณก็ยังห่วงใยทั้งผมและเพื่อนของผม ทั้งที่คุณจะเกลียดพวกเราก็ได้ แต่คุณก็ไม่ทำ...ไออุ่นครับ...คุณงดงามขนาดนี้ งดงามแม้แต่ตอนที่ผมหลับตา สำหรับคนเลวๆ อย่างผม ชาตินี้คงไม่มีใครเทียบคุณได้อีกแล้ว...และใช่...ตอนที่ผมลืมตา...ไออุ่นก็สวยมากด้วย ผมรักทั้งหมดของไออุ่น ไม่ว่าผมจะหลับตา ลืมตา หรือในฝัน ผมก็รักทั้งหมดนั่นแหละ”











น้ำเสียงสั่นเครือแหบพร่าที่เอ่ยออกมาทั้งน้ำตา ใบหน้านั้นเหยเกเมื่อความเจ็บปวดทั้งหมดถูกกลั่นออกมาเป็นคำพูด…ความรู้สึกจากก้นบึ้งในหัวใจของพระพาย ทั้งมือที่ยังคงสั่นอย่างหนักตามคำพูดทั้งหมด ทำให้ไออุ่นไม่อาจทนแบกรับได้ไหว จึงได้เป็นฝ่ายโอบกอดพระพายเอาไว้เอง เมื่อยิ่งถูกปลอบประโลม คนร้องไห้สะอึกสะอื้นก็คล้ายว่าจะยิ่งร้องหนักขึ้นไปอีก











“ฉัน...ก็ขอโทษเหมือนกันนะ ที่ตอนนั้น ไม่มีสติมากพอ...จนเผลอปล่อยให้อะไรมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้ จนทำให้นายต้องเสียใจขนาดนี้...ขอโทษนะพระพาย”









น้ำตามากมายจากสองดวงใจที่ผูกกัน เอ่อนองท่วมห้องครัวได้เพียงไม่นาน พระพายที่เริ่มได้สติกลับมาก็เบียดตัวใกล้ชิดไออุ่นมากขึ้น จมูกนั้นก้มลงสูดดมไปตามหัวไหล่ ซอกคอขาว แล้วประทับรอยจูบไปบนแก้มใสนั้นอย่างแผ่วเบา















“ผมรักไออุ่นนะครับ...รักมากที่สุด...”







“อืออ...รู้แล้ว”













“ผมขอจูบหน่อยนะครับที่รัก...”







ไออุ่นที่เริ่มได้สติกลับมาเช่นกัน หยุดร้องไห้ลงเมื่อได้ฟังประโยควาบหวิวที่เจ้าลิงน้อยเอ่ยขอออกมาตรงๆ จนใบหน้านั้นเริ่มขึ้นสีแดง ไออุ่นที่เขินอายไม่กล้าสบตาพระพาย เขาพยายามดันตัวออกห่างจากพระพายแล้วเสมองไปทางอื่นแทน













“...นี่ในห้องครัวนะพระพาย”







“นะครับ...ผมรักไออุ่นจะตายอยู่แล้ว...ขอผมจูบหน่อยนะครับ ไออุ่นไม่สงสารผมเหรอ ผมจะขาดใจตายแล้วนะ แล้วผมก็ใกล้สอบแล้ว งานยุ่งมากด้วย ขอจูบเป็นกำลังใจให้ผมหน่อยนะ…นะนะ”







ไออุ่นหน้าแดงจัดขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงลมหายใจที่เริ่มติดขัดหนักขึ้นทุกที เมื่อพระพายไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ง่ายๆ เลย จนคนงามต้องพยักหน้าน้อยๆ เป็นสัญญาณว่าอนุญาต













“จ...จูบเฉยๆ นะ”







“แฮก แฮก ครับ จูบเฉยๆ ครับ ผมสัญญา”



























“อืมมม...”








เจ้าลิงน้อยไม่ปล่อยให้คนหน้าแดงสุดเซ็กซี่ต้องรอนานกว่านั้น พระพายครอบปากลงบนปากบางสีชมพูแล้วเริ่มไล่เลีย ดุนดันและดูดกลืนลิ้นน้อยๆ นั้นเสียงดังลั่น













“อืมมม...อื้อ!!!”







เมื่อจูบอย่างไรก็ไม่รู้สึกว่าพอใจได้สักที พระพายจึงโอบเอวไออุ่นแล้วยกตัวคนงามให้ขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ใกล้ๆ เตาแก๊ส แล้วเริ่มลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของไออุ่นออก ขณะที่ปากยังคงดูดกลืนลิ้นของไออุ่นอยู่







“อื้มมม...อื้อออ ฮ่า...ฮ่า...พระพาย อย่า..ไหนว่าแค่จูบ...ไง”







“อื้ออออ!!!!”







ไม่ทันได้ห้ามปรามมากกว่านั้น ปากของเจ้าลิงน้อยก็ครอบลงยังส่วนสีชมพูบนอกของไออุ่นที่กำลังตั้งชูชันขึ้นมาอย่างเอร็ดอร่อย















“พ...พระ พาย พอ..เถอะ”





ร่างทั้งร่างที่ถูกจับวางบนเคาน์เตอร์ลายหินอ่อน เซไปซบกับแขนแกร่งของพระพายอย่างคนไร้เรี่ยวแรง เนื้อตัวแดงเถือกและใบหน้าสุดแสนเคลิบเคลิ้ม ดึงสติพระพายให้หายไปจนหมดสิ้น











“พ...พระพาย อือออ...ไหนว่า แค่จ...จูบไง อือออ”







น้ำเสียงคนงามยังคงแผ่วเบา สั่นเครือ ชวนให้ใจวาบหวาม









“ไออุ่นอ่อนระทวยขนาดนี้ จะให้ผมหยุดได้ยังไงล่ะครับ...หืมมม”







เด็กหนุ่มเริ่มลงมือปลดกางเกงไออุ่นออก แล้วลากลิ้นร้อนไปตามร่างกาย ไล่เลียดูดกลืนแทบทุกอณูที่หอมหวานเกินห้ามใจ













พร...พระพาย...คนโกหก อื้อ!!!”


































------------------E-N-D---C-H-12---------------------


 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:






ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์มากๆเลยนะคะ คุณ •♀NoM!_KunG♀• :L2: :pig4:


มาลุ้นกันต่อนะคะ ^_____^





 :กอด1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
หื่นได้ตลอด ทำตอนนี้ระวังมีคนมาขัด อารมณ์เสียอีกนะจ๊ะ 5555 คุณเพลิงกำลังเอ็นดูไรอั้นใหญ่เลย น่ารักอ่ะ รอตอนต่อไปเลยค่ะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด