[END] How to bake me สูตรอบรัก l 32 : ของขวัญ...ของคนพิเศษ(จบ) l 28-12-62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] How to bake me สูตรอบรัก l 32 : ของขวัญ...ของคนพิเศษ(จบ) l 28-12-62  (อ่าน 19620 ครั้ง)

ออฟไลน์ Loammy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
32 : ของขวัญ...ของคนพิเศษ


ผมตื่นอีกทีก็รู้สึกว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงนุ่มพร้อมกับแอร์เย็น พอมองไปข้างนอกฟ้าก็มืดแล้ว ผมลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบ ห้อง ดูนาฬิกาตรงหัวเตียง นี่มันก็ประมาณสามทุ่มกว่าแล้ว โห…ผมหลับไปนานเหมือนกันนะเนี่ย

แล้วตอนนี้ผมก็หิวอ่ะ…พี่นัทหายไปไหน…ผมมองไปทั่วห้องมืดก็ไม่เห็นเงาของพี่นัทเลย ผมตลบผ้าห่มออกเตรียมลุกออกจากเตียงแล้วก็พบว่ากางเกงยีนส์ที่ใส่ในตอนแรกนั้นถูกถอดออกจนเหลือแค่ชั้นใน

“พี่นัทนี่ หวังดีประสงค์ร้ายแน่ๆ อ่ะ” ผมก็ไม่แน่ใจว่าที่พี่นัทถอดกางเกงผมออก เพราะว่าอยากให้ผมนอนสบายๆ  หรืออยากจะทำอย่างอื่นตอนผมหลับกันแน่

ผมเดินไปเปิดไฟในห้องให้สว่างแล้วก็หากางเกงมาใส่  แล้วก็เดินลงไปชั้นหนึ่ง เพื่อหาพี่นัท แต่ก็ไม่พบ เดินไปหาทั้งหน้าร้านและด้านหลังร้านก็ไม่มี เลยเดินกลับมาที่ครัวใหม่ เปิดตู้เย็นหาขนมกิน เพราะทันทีผมตืนขึ้นมาท้องผมก็เรียกร้องหาอาหารทันที แต่เพราะหาพี่นัทไม่เจอเลยต้องหาอะไรรองท้องไปก่อน  แต่พอเปิดมาก็เจอเนื้อชิ้นใหญ่สามชิ้นที่หมักใส่กล่องไว้ และพวกผัดสลัดอยู่ในตู้เย็น ดูจากลักษณะของชิ้นเนื้อและเครื่องปรุงแล้ว คืนนี้ผมคงได้กินสเต็กแน่ๆ เลย  งั้นผมควรที่จะเก็บท้องไว้รอกินสเต็กดีกว่า

ผมปิดไฟชั้นล่างแล้วก็เดินกลับขึ้นมาที่ชั้นสอง เพื่อที่จะโทรศัพท์หาพี่นัท แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์พี่แกวางอยู่ที่โซฟานี่

“โอ๊ย! โทรศัพท์ก็อยู่นี่ แล้วพี่นัทหายไปไหนอ่า หิวนะเนี่ย!!” ผมหยิบโทรศัพท์พี่นัทขึ้นมาแล้วก็กระแทกตัวลงกับโซฟาแทน

อ๊ะ! หรือว่าอยู่ที่ดาดฟ้า อาจจะรดน้ำดอกไม้อยู่ก็ได้

ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปชั้นบน พอเปิดประตูไปสิ่งแรกที่รู้สึกคือลมที่พัดเข้าหน้าพอดี และตามมาด้วยแสงไฟสีส้มอ่อนที่ประดับไปตามขอบประตู กำแพง พันรอบๆ ไปตามกระถางดอกไม้

“โห...สวยอ่ะ บนดาดฟ้ามีไฟแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”

และท่ามกลางแสงไฟและดอกไม้ก็มีโต๊ะเล็กๆ กับเก้าอี้สองตัวตั้งอยู่ บนโต๊ะมีจาน ช้อน และแก้วอยู่สองชุด ตรงกลางมีเชิงเทียนวางอยู่ ผมคาดว่าพี่นัทคงจัดไว้สำหรับกินสเต็กแน่ๆ เลย

ว้าวๆ วันนี้ได้กินสเต็กท่ามกลางแสงไฟและหมู่ดาวดวงน้อยยามค่ำคืน

ผมเดินไปที่ม้านั่งเล็กๆ ที่ถูกย้ายไปอยู่ตรงมุม แล้วก็นั่งรับลมเย็นๆ

พี่นัทไปไหนก็ไม่รู้ ชั้นล่างก็ไม่อยู่ บนดาดฟ้าก็ไม่มีเจอ คงออกไปซื้อของล่ะมั้ง อาจจะกำลังทำเสต็กแล้วก็ไปซื้อของเพิ่มก็ได้ แต่ว่าไปนานจังเลย ถ้าแค่ซื้อของ ซุปเปอร์ที่เปิดตลอดเวลาก็น่าจะมี ไปก็ไม่น่าจะเกินสิบนาที แต่ตั้งแต่ผมตื่นนี้มันก็นานล่ะนะ

ผมนั่งเล่นอยู่บนดาดฟ้าอยู่นานก็ได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งขึ้นมา แล้วประตูดาดฟ้าก็เปิดออกอย่างแรง ผมเห็นพี่นัทที่ยืนหอบอยู่หน้าประตู มองมาที่ผมหน้าตาตื่น ในมือมีเทียนสีขาวอยู่สามเล่ม

“ตองหนึ่ง ขึ้นมาทำไมครับ!!” พี่นัทพูดเดินข้ามกระถางดอกไม้เอาเทียนไปวางบนโต๊ะแล้วก็รีบเดินมาหาผม

“ก็ผมตื่นแล้วไม่เจอพี่นัท ผมก็เลยขึ้นมาดูบนนี้ เผื่อพี่รดน้ำดอกไม้อยู่...แล้วพี่ไปไหนมาครับ?”

“เอ่อ...ไป...ไปซื้อของ..”

“ของอะไรครับ….พี่นัทร้อนเหรอครับ?” ผมยกขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผากให้ ยิ่งพูดพี่นัทก็ยิ่งเหงื่อแตก พี่นัทร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ ดาดฟ้าลมก็พัดออกจะเย็น

อ๋อ..อาจเป็นเพราะพี่นัทวิ่งขึ้นมาก็ได้

พี่นัทมองหน้าผม แล้วมองไปรอบๆ  สูดหายใจเข้า แล้วก็กลับมามองผมอีกครั้ง

“ตองหนึ่ง...” พี่นัทเรียกผม แล้วก็ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างออกมา

“ครับ?” ผมเงียบรอฟังอยู่สักพัก แต่พี่นัทก็เอาแต่อ้าปาก ไม่ยอมพูดอะไรออกมา

“ตองหนึ่ง...หิวยังครับ?”

“หิวครับ” ผมสงสัยเล็กน้อย ผมไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ย ทำไม...พี่นัทดูเลิกลั่กแปลกๆ

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปทำอาหารให้นะ หนึ่งจะไปช่วยพี่ทำมั้ยครับ” พี่นัทลุกขึ้น แล้วก็พูด ดูชี้มือชี้ไม้วุ่นวายไปหมด

“เดี๋ยวผมลงไปช่วยก็ได้ครับ”

พี่นัทพยักหน้าแล้วก็รีบดันหลังผมลงไปที่ครัวใหญ่ด้านล่าง ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงสเต็กน่าตาน่าทานก็เสร็จ และเป็นไปตามคาด พี่นัทยกจานพาผมขึ้นมากินบนดาดฟ้า นอกจากสเต็กและสลัดแล้ว พี่นัทยังลงทุนเปิดไวน์ด้วย ไวน์แดงถูกรินลงแก้วผมและแก้วพี่นัท ก่อนที่เขาจะหันไปจุดเทียน แต่เพราะลมที่พัดอยู่ตลอดทำให้พี่นัทจุดเทียนไม่สำเร็จซักที

“พี่นัทครับ ลมมันแรง ผมว่าพี่จุดเทียนไม่ได้หรอก” พี่นัทหันมามองผม ก่อนที่จะยิ้มแหยๆ  แล้วก็วางเชิงเทียนลงบนพื้น และก็นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผม

“นั่นสิ พี่ก็ลืมคิดไปเลยว่าดาดฟ้าลมมันแรง อุตส่าออกไปซื้อเทียน 555” พี่นัทหัวเราะแห้งๆ  ยกมือขึ้นเกาคอ แล้วก็ดันแว่นที่มันเข้าที่อยู่แล้วให้ชิดดั้งเกินไป จนสักพักพี่แกก็ต้องยกมือดันแว่นลงมาให้อยู่ตำแหน่งเดิม

“พี่นัทเป็นอะไรเหรอครับ?”

“หะ!! พี่เหรอ พี่ไม่ได้เป็นอะไรครับ ก็ปกติดี รีบกินกันดีกว่าหนึ่งบอกว่าหิวนี่ครับ”

พี่นัทพูดเร็ว แล้วก็ก้มหน้าก้มตาหั่นเนื้อในจานตัวเอง ผมเลิกสนใจพี่นัทแล้วก็ก้มลงสนใจอาหารที่อยู่ด้านหน้า ผมได้สิทธิพิเศษ พี่นัททำเนื้อให้ผมสองชิ้นแหละ กินให้ท้องแตกไปเลย!

“หนึ่งครับ…”

ในขณะ ที่ผมกำลังกินพี่นัทก็เรียกผมอีกครั้ง ทำเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แล้วก็เงียบไป จนผมเริ่มทนไม่ไหว อยากรู้ว่าพี่นัทเป็นอะไร

“พี่นัทมีอะไรรึเปล่าครับ?”

“เปล่าครับ พี่แค่อยากถามว่าอร่อยมั้ย?”

“อร่อยครับ อร่อยมาก...ทำไมพี่ดูแปลกๆ ” ผมยังถามคำเดิม ยิ่งพี่นัทไม่ยอมตอบ ผมก็ยิ่งอยากรู้ ยิ่งพี่นัทหลบตา ผมก็ยิ่งอยากเค้น

“ทำไมวันนี้ถึงมากินบนนี้ล่ะครับ แล้วทำไมถึงมีไฟ มีเทียนด้วย มันดู...แบบว่า...”

“หนึ่งไม่ชอบเหรอครับ?”

“ไม่ใช่ครับ ผมชอบ มันสวยดีแต่มันก็ดูพิเศษกว่าปกติ...มาก แบบว่าดูต่างจากวันทั่วไป”

“...” ผมรอฟังพี่นัทพูด ผมดูออกว่าตอนนี้พี่นัทเขินหรืออาจจะประหม่าอะไรซักอย่าง เพราะเขาทำเหมือนคนที่ไม่รู้จะเอามือไปไว้ตรงไหน ยกขึ้นเกาคอ เกาแก้มบ้าง ดันแว่นบ้าง บางครั้งก็ล้วงกระเป๋ากางเกงทำเหมือนจะหยิบอะไรออกมา แต่ก็ไม่มีอะไร

“ก็…พี่อยากให้วันนี้มันพิเศษนี่ครับ”

“ทำไมพี่นัทอยากให้วันนี้พิเศษล่ะครับ ”

“เอ่อ...เพราะ…”

“...”

“เพราะหนึ่งพิเศษ...สำหรับพี่” พี่นัทพูดแล้วก็มองหน้าผมส่งยิ้มเขินๆ มาให้ก่อนที่จะก้มหน้าลง

ผมยิ้มแล้วก้มหน้าลงเหมือนกัน ผมเขินอ่ะ ยิ่งเห็นพี่นัทเขิน ผมก็ยิ่งโคตรเขิน เขินตามๆ กันไป

“พี่นัทเป็นคนพูดเอง แล้วพี่จะเขินทำไมล่ะครับ”

“พี่ก็ไม่รู้ แต่พอพี่เห็นหนึ่งแดงแล้วมันก็ เขิ๊น..เขิน” แดงที่นัทพูดถึงน่ะ หมายถึงใบหน้าผมใช่มั้ย พี่นัทยกมือลูบคอตัวเองอีกครั้ง ผมเหลือบมองพี่นัท ตอนนี้พี่นัทแดงไปทั้งหน้าเลย ตอนแรกน่ะแดงแค่หู แต่ตอนนี้แก้มพี่นัทก็แดงด้วย โง้ยย..น่ารัก

ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เราถึงรู้สึกเขินกันได้ขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะไวน์แดงที่เราดื่มเข้าไปทำให้เลือดมันสูบฉีดดีกว่าปกติ หรือเพราะว่าไฟส้มอ่อนสีอบอุ่นที่ประดับรายล้อมอยู่รอบตัว หรือท่าทางของพี่นัทที่นั่งหน้าแดงอยู่ตรงหน้าผม หรือว่าเพราะคำพูดของเขาที่บอกว่าผมพิเศษ

หรืออาจจะเป็นทุกอย่างที่ผมกล่าวไป มันก่อให้เกิดบรรยากาศที่เรากันเรียกว่า โรแมนติก...

หลังจากนั่งเขินกันอยู่สักพัก ท้องผมมันก็ส่งเสียงเรียกร้องอาหาร ความเขินอายจึงลดลงมานิดหน่อย เรากลับมากินเสต็กกันต่อเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรมาก เงยหน้าขึ้นมามองตากันแล้วก็ยิ้มให้กันบ้างเป็นครั้งคราว

ผมยื่นมือไปหยิบแก้วไวน์ แต่แล้วพี่นัทก็ยื่นมาจับที่มือผม แล้วบีบไว้ ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้า พี่นัทสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ผ่อนออกมาช้าๆ

“หนึ่งครับ...พี่รักหนึ่งนะครับ”

“ครับ ผมก็รักพี่”

“เอ่อ...ต่อจากนี้ พี่...พี่อยากให้...” พี่นัทล้วงมือไปที่กระเป๋ากางเกง พร้อมกับทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างออกมา ผมรอฟังและรอดูอย่างตื่นเต้น

“...”

“พี่...อยากให้...พี่อยากให้เรารักกันเยอะๆ ”

ผมเงียบแล้วพี่นัทก็ไม่พูดอะไรต่อ แต่ปล่อยมือผมออกแล้วก็ก้มหน้าก้มตา หยิบแก้มไวน์ขึ้นไปจิบ ผมเห็นแล้วแปลกใจมากๆ  เหมือนพี่นัทจะพูดอะไรบางอย่างอีก เมื่อกี้แวบนึงตอนที่พี่นัทล้วงกระเป๋า ผมคิดว่าพี่นัทจะขอผมแต่งงานอะไรประมาณนั้นซะอีก ไม่ใช่ว่าผมคิดเข้าข้างตัวเองนะ แต่แบบว่า บรรยากาศมันชวนให้คิดน่ะ

ก็ดูสิครับ ทั้งไฟ ดอกไม้ ดินเนอร์ ไวน์ แล้วก็ท่าทางของพี่นัทอีก ตามแบบฉบับของคนที่ขอแต่งงานท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกเลยครับ

พอกินกันเสร็จ เราก็นั่งเล่นรับลมอยู่อีกสักพัก พี่นัททำเหมือนจะพูดและหยิบอะไรบางอย่างออกมาตลอดเวลา แต่ก็ไม่ยอมพูด ไม่ยอมทำอะไรเลย นอกจากนั่ง ให้ผมพิงแค่นั้น จนเป็นผมนี่แหละที่ทนไม่ไหว อยากรู้จนอึดอัด

“พี่นัทผมถามจริงๆ นะ พี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”

“ก็...ไม่ได้เป็นอะไรนี่ครับ ทำไมหนึ่งถามคำถามนี้บ่อยจัง”

“ก็พี่นัททำตัวแปลกๆ นี่ครับ พี่นัทเหมือนจะพูดอะไรกับผม แต่ก็ไม่พูด พี่เอาแต่เรียกชื่อผม แล้วก็เงียบมาหลายครั้งแล้วนะครับ”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ หนึ่งอย่าเพิ่งสนใจเลย”

โอเค๊! พี่นัทบอกไม่ให้ผมสนใจ ผมก็จะไม่สน

“ตองหนึ่งครับ…” ผ่านไปไม่นานเลย พี่นัทก็ดันตัวผมออก มองตาผม ส่วนมือก็ล้วงเข้าไปที่กระเป๋ากางเกง เหมือจะหยิบอะไรออกมาอีกครั้ง

“...” ผมนั่งนิ่งๆ  รอฟัง แต่ก็นั่นแหละ พี่นัทก็ไม่ยอมพูดออกมาซักที ค้างอยู่ท่าล้วงกระเป๋าได้ประมาณหนึ่งนาที แล้วก็กลับไปนั่งปกติ ไม่พูดอะไรออกมา นี่คืออะไร? พี่นัทเล่นเกมอะไรอยู่? หรือแค่แกล้งกวนประสาทผม? ถ้าใช่ พี่นัททำสำเร็จ ผมจะประสาทเสียล่ะเนี่ย นี่ชักจะหงุดหงิดแล้วนะครับ  ทำท่าจะพูดแต่ไม่พูด เห็นแล้วมันอึดอัดใจแทน

“...” ผมมองหน้าพี่นัทที่หันไปทางอื่นแล้ว พี่ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้วนะครับ ฮึ่มม!

“พี่นัท พี่เป็นอะไรของพี่เนี่ย พี่จะพูดอะไร จะบอกอะไรผม ก็พูดออกมาเลยสิครับ พี่เรียกชื่อผมแล้วเงียบมาหลายครั้งมากเลยนะครับ ผมรอฟังอยู่นะ!!” ผมเขย่าตัวพี่นัทแล้วก็พูด พี่แกตกใจอยู่เหมือนกันที่อยู่ๆ  ผมก็ปรี๊ดแตก ก็เห็นท่าทางของพี่นัทแล้วมันหงุดหงิดอ่ะ เห็นท่าทางอ้ำๆ อึงๆ นั่นแล้วมันอึดอัดด้วย

“....ใจเย็นๆ สิครับ”

“พี่จะให้ผมใจเย็นอะไรอ่ะ ผมใจเย็นรอฟังพี่พูดมาหลายรอบแล้วนะครับ พี่จะพูดอะไรกับผม จะถาม จะสารภาพ จะบอกอะไรก็บอกมาเลย หรือพี่จะขอผมแต่งงาน เนี่ย! ในกระเป๋ากางเกงนั่นมีแหวนใช่มั้ย ขอมาเลยครับ พูดมาเลย ผมรออยู่ อย่าลืมใส่แหวนให้ผมด้วยนะ นิ้วนางข้างซ้ายนะครับ อ่ะนี่!! ถ้าแหวนไม่สวย ผมไม่แต่งนะ เร็วๆ สิครับ!”

ผมหงุดหงิดสุดๆ  ไม่ได้อยากทำให้เสียบรรยากาศ แต่มันหงุดหงิดจริงๆ  ผมพูดค่อนข้างเสียงดังตามอารมณ์ ตามด้วยพูดประชดพี่นัทออกไป แถมยังยื่นมือออกไปจนเกือบจะกระแทกหน้าพี่นัทอีก

พี่นัทเงียบและนิ่ง มองผมอย่างอึ้ง ทำตาโต อ้าปากค้างอยู่นาน ผมขมวดคิ้วหายใจเข้าออกแรงเพราะหงุดหงิด อารมณ์เสีย  แล้วสักพักพี่นัทก็ทำหน้าคล้ายคนจะร้องไห้ จนผมที่อารมณ์ขึ้นเริ่มรู้สึกตัวว่าเสียงดังและอาจใส่อารมณ์เกินไป

ผมลดมือลง ขยับเข้าไปใกล้ๆ  ตั้งใจจะพูดขอโทษ แต่พี่นัทที่เพิ่งหายตกใจก็พูดขึ้นมาก่อนด้วยเสียงเบาๆ  เศร้าๆ

“หนึ่งรู้อยู่แล้วจริงๆ ด้วย…ไม่ได้เซอไพรส์เลยซักอย่าง”

“หะ?! รู้อะไร”

“ก็หนึ่งรู้แล้วว่าพี่มีแหวน”

“ว่าไงนะ! พี่พูดจริงอ่ะ?”

“อะ...อ้าว ตกลงว่าหนึ่งรู้รึเปล่าครับ?” ทั้งผมทั้งพี่นัทเกิดอาการงงขึ้นมา ผมนี่ทั้งงงทั้งตกใจ ในกระเป๋านั่นมีแหวนจริงอ่ะ ผมแค่พูดประชด ไม่ได้คิดว่าเขาจะมีจริงๆ

“ไม่! ผมไม่รู้”

“อ้าว แล้วที่หนึี่งพูด…”

“เมื่อกี้ผมพูดประชด” ผมเสียงดัง สั่นหน้าปฏิเสธ ทั้งผมทั้งพี่นัทต่างทำหน้าเหวอ เลิกลั่กกันไปหมด พี่นัทดูตั้งสติได้ก่อน เขาหายใจเข้าลึกแล้วมองหน้าผม ก่อนจะลุกขึ้น แล้วลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าผม พี่นัทขอผมแต่งงานจริงๆ อ่ะ ได้เหรอ?

พี่นัทขยับแว่นอีกครั้งแล้วล้วงลงไปในกระเป๋า  หยิบกล่องกำมะหยี่สีดำออกมา ไม่ต้องเดาให้ปวดหัว แหวนแน่ๆ ล่ะงานนี้

“หนึ่งครับ…” พี่นัทพูดแล้วก็เปิดกล่องออก ข้างในเป็นแหวนสองวง แหวนเรียบๆ  ไปมีลวดลาย ทรงสวย เรียบหรู

เอาแล้ว เอาแล้ว เอาแล้วไง!

“พี่ไม่ได้จะขอหนึ่งแต่งงานนะ… พี่แค่จะขอให้หนึ่งมาอยู่กับพี่”

“ตอนนี้ผมก็อยู่อยู่แล้วนี่ครับ” นี่ก็เรียกว่าอยู่แล้วจริงๆ นะ เสื้อผ้าข้าวของของผมนี่ มาอยู่ห้องพี่นัทเกือบจะหมดแล้ว

“พี่หมายถึงให้หนึ่งมาอยู่ข้างๆ พี่ เป็นที่รักของพี่ไปตลอดชีวิตครับ”

“...” พี่นัทเปิดกล่องแหวนออก เป็นแหวนสองวง ทองคำขาว เรียบๆ  ไม่มีลวดลาย แต่ดูเรียบหรู พี่นัทหยิบออกมาวงหนึ่ง ก่อนที่จะสวมลงบนนิ้วผม แหวนนั้น มันพอดีกับขนาดนิ้วผมจนน่าตกใจ ไม่หลวม และไม่แน่นเกินไป

“เป็นที่รักของพี่ ยังอยู่กับพี่ถึงแม้ว่าอาจจะมีวันหนึ่งวันใดที่เราทะเลาะกัน ขอให้หนึ่งให้อภัยหากวันข้างหน้าพี่เผลอทำอะไรให้หนึ่งหงุดหงิดใจ บอกพี่...หากหนึ่งไม่ชอบใจอะไร พี่พร้อมจะปรับปรุงตัวครับ”

พอสวมเสร็จ พี่นัทก็จูบลงบนมือผม ผมเกร็งตัวนิดหน่อย รู้สึกทำตัวไม่ถูก ก็โดนใส่แหวนแถมโดนจูบมือด้วย

“ต่อจากนี้ รักพี่คนเดียวไปตลอด….นะครับ”

แค่จูบมือยังไม่พอ พี่นัทขยับตัวลุกขึ้นมา ประคองใบหน้าของผม แล้วก็ประทับจูบลงมาเบาๆ  สักพักก็ผละออก ผมมองหน้าพี่นัท จากที่งงๆ นั้นก็ทำเอาผมยิ้มออกมา ก็หน้าพี่นัทน่ะแดงแจ๋เลย

ผมหัวเราะออกมาเล็กน้อย แล้วก็ขยับตัว หยิบแหวนอีกวงในกล่อง คาดว่าเป็นวงของพี่นัทนั้นแหละ ผมหยิบแหวน แล้วก็จับมือพี่นัทขึ้นมา และใส่แหวนวงนั้นลงบนนิ้วมือพี่นัท

“ผมจะอยู่กับพี่ จะรักพี่คนเดียว แต่พี่ต้องสัญญานะ ว่าพี่นัทจะไม่ทิ้งผม รักผมในวันที่ผมทำตัวไม่น่ารักด้วย เพราะผมยกหัวใจของผมให้พี่ไปทั้งดวงแล้ว ทั้งร่างกายทั้งหัวใจของผมมันเป็นของพี่ไปแล้ว ตอนนี้ผมยกให้พี่เป็นครึ่งชีวิตของผมแล้วนะครับ...พี่นัทต้องอยู่กับผมไปตลอด พี่ต้องสัญญานะ?”

“ครับ..พี่สัญญาเลย”

“ถึงแม้ว่า ต่อจากนี้ ผมจะเอาแต่ใจ หรือเผลอทำตัวนิสัยไม่ดี พี่ก็จะไม่ทิ้งผมนะ”

“ไม่ทิ้งครับ...”

ผมมองตาพี่นัทอยู่สักพักก่อนที่จะโผเข้ากอดพี่นัทแน่น ต่อจากนี้ผมจะมีพี่นัทไปตลอดชีวิตจริงๆ ใช่มั้ย ต้องใช่สิ ก็พี่นัทสัญญาแล้วนี่

พี่นัทพยุงตัวผมให้นั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม แล้วพี่นัทตามขึ้นมานั่ง ส่วนผมก็ยกมือขึ้นมาดูแหวน มองแล้วก็ยังรู้สึกแปลกอยู่ มันทั้งดีใจ ตื้นตันใจ แล้วก็งงด้วย ก่อนหน้านี้ผมยังหงุดหงิดอยู่เลย แล้วก็งงที่พี่นัทคุกเข่า แล้วตอนนี้ผมก็ดีใจอุ่นใจสุดๆ ไม่ถึงสิบนาทีอารมณ์ของผมเปลี่ยนได้หลากหลายมาก

“ที่ผมตื่นมาแล้วไม่เจอพี่ นี่คือพี่ออกไปซื้อแหวนเหรอครับ”

“ใช่ครับ พี่สั่งทำไว้ตั้งแต่วันที่เราไปบ้านพ่อแม่พี่แล้ว แล้วทางร้านโทรมาเมื่อเย็นบวกกับคำพูดน่ารักๆ จากหนึ่ง พี่เลยตัดสินใจ ออกไปรับแหวนทันทีเลย”

“ผมพูดอะไรไปเหรอ?”

“หนึ่งบอกว่ารักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากพี่”

“อ๋อ…” ถึงมันจะเลือนลาง แต่ผมก็จำได้นะว่าพูดอะไรไปบ้าง ตอนนั้นผมแค่อยากอ้อนให้พี่นัทนอนกับผมแค่นั้นเอง

“...”

“แสดงว่าพี่วางแผนจะให้แหวนผมไว้นานแล้วเหรอครับ ตั้งแต่เมื่อไร”

“ก็ตั้งแต่ที่มั่นใจว่า ชีวิตนี้คงไม่มีความสุขถ้าไม่มีตองหนึ่ง”

“...”

“พี่พยายามทำให้เรื่องของเรามันถูกต้องที่สุด อย่างน้อยก็ให้ผู้ใหญ่ทั้งสองบ้าน ยอมรับพวกเรา”

ผมยิ้มและพยักหน้า เริ่มเข้าใจความคิดของพี่นัทแล้ว

ผมขยับเข้าไปนั่งเบียดพี่นัท กอดแขนพี่นัทไว้ แล้วก็ซบหน้าลงกับต้นแขนคนข้างกาย

“ผมรักพี่นัทนะครับ ผมขอโทษ ที่ก่อนหน้านี้ ผมอารมณ์เสียใส่พี่”

“หึหึ พี่ตกใจเลยนะนั่น แล้วก็คิดว่าหนึ่งรู้อยู่แล้ว ใจพี่นี่ตกไปอยู่ที่พื้นเลยครับ คิดว่า แผนจะแตกซะไม่เหลือชิ้นดีเลย”

“ก็ตอนแรกพี่เอาแต่อ้ำอึ้ง ไม่ยอมพูดแถมล้วงกระเป๋าตลอด เหมือนพระเอกในละครที่ไม่กล้าขอแต่งงานเลย ผมเห็นแล้วหงุดหงิด เลยประชดออกไปแบบนั้น ก็เดาออกแหละว่าพี่อาจจะมีของให้ผมแต่คาดไม่ถึงเลยครับว่าพี่จะให้แหวนแบบนี้”

“ก็ตอนแรกพี่เขิน รู้สึกประหม่าไปหมด ถึงจะมั่นใจว่าหนึ่งคงไม่ปฏิเสธ แต่ก็ตื่นเต้นมากๆ ”

“ผมแค่รำคาญตอนที่พี่เอาแต่เรียกผมแต่ไม่ยอมพูดมากกว่า ผมอยากรู้ว่าพี่จะเรียกผมทำไมเยอะแยะ แต่ผมชอบตอนพี่เขินนะ น่ารักดี”

“เหรอครับ”

“...”

“ตองหนึ่ง อยู่กับพี่ไปตลอดนะครับ”

“ครับผม ตลอดชีวิต ถึงพี่นัทจะไล่ผม ผมก็จะไม่ไป ถ้าพี่นัททิ้งผมผมก็จะจุดไฟเผาร้านนี้เลยครับ เพราะฉะนั้นพี่ห้ามทิ้งผม”

“ไม่ทิ้งครับ เพราะพี่รู้ตอนไม่มีหนึ่ง มันทรมารมาก” ผมยิ้ม ยึดตัวขึ้นหอมแก้มพี่นัท คนตัวสูงหันมามองผมแล้วก็ยิ้ม ผมเลยขยับขึ้นไปจูบปากพี่นัท ผมกับพี่นัทจูบกันสักพักแล้วก็ผละออก พี่นัทเลียริมฝีปากตัวเอง แล้วก็เริ่มกลับมาทำหน้าเจ้าเล่ห์

“เมื่อเจ้าบ่าว สวมแหวนให้เจ้าสาวแล้ว….”

“หือ...” เจ้าบ่าวเจ้าสาวอะไรเหรอ ผมไม่เข้าใจ จู่ๆ พี่นัทก็พูดขึ้นมา

“ถึงเวลาเข้าหอ”

หะ เมื่อกี่พี่นัทพูดอะไรนะ ผมฟังไม่ทัน ยังไม่ทันได้ถามใหม่ พี่นัทก็ลุกขึ้น แล้วก้มลงมาช้อนตัวผมอย่างรวดเร็ว จนผมต้องกอดคอพี่นัทไว้

“หวา!! พี่นัทเดี๋ยวผมตก”

“พี่ไม่ปล่อยให้หนึ่งตกหรอกครับ”

พี่นัทอุ้มผมลงไปที่ขั้นสอง แล้วก็วางผมลงกับเตียง แถมตัวพี่แกเองก็ตามลงทับทันที แถมยังมือเร็วถกเสื้อผมขึ้นอีกด้วย

“เดี๋ยวๆ  พี่นัทจะทำอะไรครับ”

“เข้าหอกันไงครับ”

“แต่พี่บอกว่าเมื่อกี้ พี่ไม่ได้ขอผมแต่งงานนี่”

“พี่บอกอย่างนั้นเหรอครับ” พี่นัททำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วก็ก้มลงจูบผม ส่วนผมก็หัวเราะเบาๆ กับความตีมึนนั่น พี่นัทขยับมือขึ้นมายอดอก ผมไม่ขัดขืนหรอกครับ กลับเป็นฝ่ายถอดกางเกงพี่นัทออกเองด้วยซ้ำ

ก็พี่นัทเขาอยากทำ ผมเองก็ไม่อยากขัดใจ ก็เลยต้องต้องยอมๆ ไปนี่ครับ ตัวผมอ่ะ ไม่ได้อยากทำเลย จริงนะครับ จริงจริ๊ง!

“พี่บอกคืนนี้เป็นคืนพิเศษ เพราะผมเป็นคนพิเศษของพี่”

“ใช่ครับ หนึ่งพิเศษสำหรับพี่”

ผมลุกขึ้น แล้วพลิกตัวพี่นัทให้นอนลงไปบนเตียง มือก็ค่อยปลดกางเกงตัวเองออก แล้วผมตามขึ้นไปนั่งทับอีกทั้งโยกสะโพกเบาๆ  ให้ร่างกายเสียดสี

“พี่เป็นคนพิเศษของผม คืนนี้ผมเลยจะจัดให้เป็นพิเศษสำหรับพี่”

พี่นัทเลียริมฝีปากตัวเอง แล้วทำท่าจะถอดแว่นออก ผมก้มไปหยุดมือพี่นัทแล้วส่ายหน้า

“พี่ใส่แว่นไว้ แล้วก็มองผมให้ชัดๆ  มองว่าผมรักพี่มากแค่ไหน มองว่าผมมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้อยู่กับพี่ อ๊ะ อา” ผมครางออกมาเบาๆ  เมื่อพี่นัทขยับตัว ทาเจลหล่อลื่นที่ช่องทางด้านหลัง ก่อนที่ความอุ่นร้อนจะแทรกเข้ามาในร่างกาย ผมโยกตัวแล้วขยับช้าๆ  พี่นัทลุกขึ้นนั่ง แล้วกอดเอวผมไว้

“พี่รักหนึ่ง...ที่รักของพี่ รักที่สุด อืม”

ผมก้มหน้ามองพี่นัท มองตาพี่นัท เงาของผมอยู่ในดวงตาคู่นั้น และผมก็อยากให้มันสะท้อนเงาของผมไปตลอดด้วย  ผมก้มลงจูบปากพี่นัทอย่างดูดดื่ม ในขณะที่สะโพกก็ขยับไม่หยุด ผมขยับช้าๆ เนิบนาบ ไมได้เร่งรีบ เน้นให้ร่างกายเราสัมผัสกัน ดูดซับไออุ่นร่างกายของกันและกัน ให้รู้สึกได้ว่าเรามีกันและกัน

“มองแค่ผม รักแค่ผม...นะครับ”

“รักนะครับ รักที่สุด รักคนเดียว”


End.



  #สูตรอบรัก

Twitter : @loammyloammie

Facebook : LoammyLoammie

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
โรแมนติกไม่สุดนะนะพี่นัท น้องหนึ่งมาเจอซะก่อน ได้บรรยากาศอีกแบบ.  :katai2-1:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
มดขึ้นค่า น่ารักมากมาย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด