○ Mpreg ○ คราม ○ -- บทที่ 7 -- ○ หน้า 12 ○ 30.08.2020 ○
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ○ Mpreg ○ คราม ○ -- บทที่ 7 -- ○ หน้า 12 ○ 30.08.2020 ○  (อ่าน 57947 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อยากรู้เลยว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นตอนนั้น  :katai1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ติดตามจ้า~

ออฟไลน์ porjj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ที่เลิกกันไปต้องมีเหตุผลอื่นอีกแน่เลย
ครอบครัวของธาริตเหรอ
น้องคีนน่ารักมากๆ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รอไรท์มาต่อนะคะ..  :katai2-1: :katai4:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อดีตของคราม

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พอครามพูดว่าไล่อย่างหมูอย่างหมานี่แบบชั้นขึ้นเลย :angry2: ทีตอนนี้ทำมาอ้อนวอนแล้วบอกรัก หึ!! อย่าหวังเลยธาริต :katai4:

ออฟไลน์ Tulah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
บทที่ 4



ร้านกาแฟที่ครามทำงานมักจะมีขาประจำอยู่ไม่กี่คน แต่ในทุกวันอาทิตย์ช่วงบ่ายครามจะเฝ้ารอคนคนหนึ่งเสมอ ทุกครั้งที่ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาสั่งกาแฟ ครามมักจะตีสีหน้าไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้างุดแต่หูกางคอยฟังเสียงทุ้มแสนไพเราะนั่น ตั้งแต่วันนั้นที่ธาริตถามชื่อครามแล้วยิ้มให้ เขาก็ไม่เคยพูดอะไรอีกนอกจากเข้ามาสั่งกาแฟ ดื่มที่ร้านจนหมด และออกไป

“ชะเง้อหาใครยะ คอยาวเป็นยีราฟแล้ว” หญิงสาวร่างท้วมเหล่มองคราม แสร้งถามทั้งที่รู้แก่ใจ

วันนี้เขารับหน้าที่ล้างแก้วด้วย เด็กหนุ่มจึงแอบหันมาชะโงกมองหน้าร้านอยู่บ่อย ๆ ต่างจากตอนประจำส่วนแคชเชียร์ที่จะต้องมองออกหน้าร้านตลอดเวลา

“เปล่าสักหน่อย” ครามส่ายหัว ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว เขาคงไม่มา

“รอก็บอกมาเถอะ ชอบเขาไปแล้วสิท่า” เธอหัวเราะ แต่ครามอายม้วน เขาก็คิดว่าการเฝ้ารอคนที่รู้จักกันเพียงแค่ชื่อมันออกจะประหลาดไปสักหน่อย

ครามทำงานอย่างตั้งใจ แต่พอมีเวลาก็แอบชะโงกหน้ามองประตูร้าน ตั้งแต่ฟ้าสว่างจ้าจนตอนนี้มืดสนิทมีเพียงไฟนีออนแล้ว

..เขาไม่มาจริง ๆ ..

ครามเช็ดโต๊ะ ยกโต๊ะเก้าอี้ขึ้นเก็บ ปิดไฟบางดวงและไฟหน้าร้านเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าปิดให้บริการแล้ว เขาถอดผ้ากันเปื้อน แวะเข้าไปเอากระเป๋า เขาช่วยพี่พนักงานคนอื่นปิดล็อคร้าน โบกมือร่ำลาและเตรียมตัวออกไปป้ายรถเมล์ มือเรียวเปิดดูกระเป๋าสตางค์ เหรียญในกระเป๋าก็เหลือแค่หกบาท ลองจ่ายแบงก์ร้อยคงโดนไล่ตะเพิดลงจากรถเมล์ หรือไม่กระเป๋าคงแก้เผ็ดเขาด้วยการนับเหรียญทอนแน่

ครามหันมองพี่ ๆ ที่แยกย้ายกันหมดแล้ว เหลือเพียงตัวเขาที่ยืนอยู่หน้าร้านเพียงลำพัง ครามตบกระเป๋า หวังจะหาเหรียญเพิ่มอีกเพียงบาทสองบาทให้พอค่ารถเมล์ร้อน

“อ้าว มาไม่ทันซะแล้ว” ครามเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียง ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ สวมเชื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็คดูเรียบร้อยปรากฏกายขึ้นตรงหน้า ครามคอยเขาเกือบทั้งวัน แต่เขาดันมาเวลาที่ร้านปิดเสียนี่

“มาช้าไปหน่อยเดียวเองครับ” ครามยิ้ม ลืมเรื่องเหรียญบาทไปสนิทใจ

“เสียดายชะมัด แล้วนี่คุณจะกลับบ้านเหรอ”

“ครับ เดี๋ยวไปรอรถเมล์ป้ายข้างหน้า คุณล่ะ” ครามใช้สองมือกุมสายกระเป๋า เขาประหม่าจนไม่รู้จะเอามือไม้วางไว้ตรงไหน

“คงไปกินข้าว เดินไปพร้อมกันก็ได้ ผมจอดรถทางนั้น” ธาริตผายมืออย่างสุภาพ ไม่รู้ว่าเขาจงใจส่งยิ้มแบบที่จะทำให้คนมองเสียหลักง่าย ๆ หรือเปล่า คนมองเองก็กลัวจะหัวใจวาย สุดท้ายจึงหลบตาทำราวกับอิฐปูทางเท้าน่าสนใจเสียเต็มประดา

“คุณเรียนปีอะไรแล้ว”

“ผมไม่เรียนแล้วครับ ยี่สิบสี่แล้ว” ครามว่า ไม่ได้บอกเขาว่าครามเรียนสายอาชีพ วุฒิสูงสุดคือปวส. ไม่ได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยเพราะเขาส่งตัวเองเรียนไม่ไหว รีบทำงานหาเงินมันตั้งหลักได้ไวกว่า

“อายุเท่ากัน แต่คุณดูเด็กกว่าผมเยอะเลย” ธาริตหัวเราะ ท่าทีของชายหนุ่มเป็นไปอย่างสุภาพ เมื่อสุดทางเดินฟุตปาธต้องลงมาเดินริมถนน เขาก็ขยับให้ครามเข้าไปเดินด้านใน

“ไม่หรอกครับ ดูภูมิฐานสิน่าอิจฉา คุณเป็นอาจารย์ที่นี่เหรอ” ครามไม่กล้ามองหน้าเขาเท่าไหร่ อยู่ใกล้ก็ไม่กล้า รู้สึกเหมือนตัวเองตัวหดเล็กลงเมื่ออยู่ข้างเขา

“เปล่าหรอก ผมมาเรียนปริญญาโท” ครามฟังเรื่องราวของธาริตแล้วก็รู้สึกว่าทั้งที่อายุเท่ากัน แต่อนาคตของธาริตดูยาวไกลกว่าเขาเป็นไหน ๆ ที่อีกฝ่ายกำลังเรียนอยู่ ก็เป็นปริญญาโทใบที่สองแล้ว

“คุณกินข้าวหรือยัง” คนตัวใหญ่ถาม ขายาวหยุดก้าวเมื่อถึงลานจอดรถ

“ยังครับ คงกลับไปกินที่บ้าน” ระยะทางจากลานจอดรถไปถึงที่ตั้งร้านกาแฟไม่น้อยเลย นี่คงเป็นครั้งแรกที่ครามอยากให้มันยืดยาวกว่านี้อีกสักหน่อย

“ถ้าไม่รังเกียจ ผมอยากจะชวนคุณไปเป็นเพื่อนกัน” ธาริตพยายามจ้องตาคราม แต่ดวงตากลมชวนมองคู่นั้นกลับหลบเลี่ยงเสมอ

“คือ ผม...” คนตัวเล็กละล้าละลัง เหลือบมองรถไม่กี่คันในลานจอด มีแต่ยี่ห้อแพง ๆ ทั้งนั้น ครามกลัวไปป้ำเป๋อใส่เขา อีกอย่าง ครามกลัวว่าเงินจะไม่พอ

“รังเกียจผม?” ธาริตเติมคำในช่องว่าง เขาถอยหลังหนึ่งก้าว สายตาสื่อถึงความเสียใจแจ่มชัด ภาษากายของเขาทำครามใจอ่อนยวบ

“เปล่าครับ ผมแค่เกรงใจ” ครามตอบอย่างสุภาพ

“ถ้าเรื่องนั้นก็ช่างมันเถอะ แต่ถ้าคุณไม่ไว้ใจ ผมจะพาไปร้านในละแวกนี้ที่คุณคุ้นเคย ถ้าคุณมีคุณแม่ที่เข้มงวด ผมจะพาไปส่งที่บ้านก่อนสี่ทุ่มและลงไปรายงานตัวด้วย”

ครามไม่มีแม่คอยอยู่ที่บ้าน เขามีแต่รูปแม่เป็นตัวแทน ไม่มีรูปพ่อ รู้แค่ว่าเป็นลูกคนจีน ป้าของครามเคยเจอเขาอยู่แค่สองหนเท่านั้น ดังนั้นครามจึงอยู่กับป้ามาตั้งแต่จำความได้ รู้แค่ว่าแม่ไปทำงานอยู่ภาคใต้ ตอนเด็ก ๆ แม่ส่งเงินมาให้ป้าทุกเดือน มีของเล่นให้ครามบ้าง พอรู้ตัวอีกทีป้าก็บอกว่าแม่ไปอยู่กับไอ้ฝรั่งขี้นกที่เมืองนอกแล้ว

ป้าของครามแก่มาก เมื่อปีที่แล้วเธอลื่นล้มในห้องน้ำ ศีรษะกระแทกขอบปูน ครามจะพาป้าไปหาหมอ แต่เธอโบกมือไล่ บอกว่าแค่หัวโนเท่านั้นไม่เห็นจะต้องถึงโรงพยาบาล ผ่านไปคืนเดียวป้าก็แน่นิ่ง ปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น หมอบอกว่าเลือดคั่งในสมอง ครามพาป้ามาหาหมอสายเกินไป สุดท้ายโอกาสรอดก็ไม่มี

ป้าไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้ครามมากมายนัก บ้านที่อยู่ปัจจุบันก็ยังเช่าเขาอยู่ เธอเป็นเพียงแม่ค้าขายข้าวแกงในตลาด เป็นโชคของครามที่ป้าขยัน ประหยัดและมัธยัสถ์ ยอดเงินในบัญชีจึงมีมากหน่อยแต่ครามก็ไม่เคยคิดใช้มัน

ตั้งแต่นั้นบ้านในใจของครามจึงไม่เหมือนเคย ไม่มีเสียงเคาะกระทะตั้งแต่ตีสี่ ไม่มีเสียงร้องเรียกให้เขาลุกจากที่นอนก่อนป้าจะออกไปขายของ วันหยุดของครามว่างเปล่า เขาไม่ต้องออกไปช่วยป้าตักกับข้าวขายอีกแล้ว

ครามคิดถึงบ้านว่างเปล่าแล้วก็ลอบถอนใจ ตากลมทอดมองธาริตที่ยืนคอยเขาอย่างมีความหวัง สุดท้ายครามก็ใจอ่อนให้เขาจนได้

“คุณช่วยกลับมาส่งผมที่ป้ายรถเมล์ข้างหน้านี่ก่อนสี่ทุ่มก็พอ ผมไม่อยากเสียค่าแท็กซี่”

รถยนต์ของธาริตเป็นรถยุโรปยี่ห้อที่เห็นกันจนเจนตาในหนังในละคร ครามนั่งตัวแข็งทื่อ ปิดประตูอย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะทำอะไรหักพัง

“อย่าลืมคาดเบลท์ด้วย” ธาริตกำชับ แต่อีกฝ่ายดูเก้กังจนสัมผัสได้ “ผมขออนุญาตนะ”

ร่างสูงใหญ่ชะโงกตัวข้ามเกียร์มาดึงเข็มขัดนิรภัย ครามหลับตาปี๋ ใจเต้นรัว กลัวว่าจะเหมือนในละครที่จะต้องถูกล่วงเกินไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เขาอยากจะเขกหัวตัวเองนัก ไม่รู้คิดถูกหรือผิดที่ตามธาริตมา

“เรียบร้อย ออกเดินทางได้” เสียงทุ้มดังใกล้ใบหู เขาได้ยินเสียงดังกริ๊กเมื่อเข็มขัดเสียบเข้าล็อค ธาริตไม่ได้แตะต้องตัวครามเลยสักนิด มีแค่ระยะห่างที่อยู่ในขีดอันตรายเท่านั้นที่ทำให้ใจหายใจคว่ำ

“ขอบคุณครับ” ครามพูดตามมารยาท เขามองนอกหน้าต่าง ขอบคุณความมืดที่ทำให้ธาริตไม่เห็นว่าเลือดมันสูบฉีดขึ้นหน้าจนแทบระเบิดได้

ท่าทางของบาริสต้าตัวเล็กทำให้ธาริตเผยยิ้ม ครามไม่ใช่คนใจกล้า เขาหยั่งเชิงมาหลายสัปดาห์จนกลัวว่าปลาจะไม่กินเหยื่อ นักศึกษาปริญญาโทที่แวะมาดื่มกาแฟฆ่าเวลาถูกใจครามแต่แรกเห็น ดวงตากลมที่โค้งเป็นเสี้ยวพระจันทร์ยามผลิยิ้มทำให้คนมองมีความสุข ท่าทีป้ำเป๋อยื่นแก้วเปล่ามีรูปยิ้มให้เขายิ่งทำให้รู้สึกว่าครามไม่ได้มีแค่หน้าตาที่น่ารัก

..เขาอยากจะรู้จักให้มากกว่านี้..

ร้านที่ธาริตพามาไม่ใช่ร้านหรูหราราคาแพงอย่างที่ครามนึกกลัว เขาแค่พาครามมาร้านข้าวต้มชื่อดังใกล้มหาวิทยาลัยเท่านั้น เมื่อสบายใจขึ้น ครามก็เป็นตัวเองมากขึ้นด้วย เขานั่งลงตรงข้ามกับธาริต รับเมนูจากเด็กเสิร์ฟเปิดไปมาคอยให้ธาริตสั่งก่อน

“เอากุ้งอบเกลือครับ แล้วก็ต้มยำกุ้ง” ธาริตปิดเมนู

“คุณจะกินอะไร สั่งอีกสองอย่าง” มือใหญ่รับแก้วใส่น้ำแข็งจากเด็กเสิร์ฟอีกคนที่เอามาวาง เขาหยิบขวดน้ำมาแกะแล้วจัดการเทให้ครามแก้วหนึ่ง ตัวเองแก้วหนึ่ง

“ผมเอาเอาทอดมัน..กุ้ง” ครามทำตาโต เหมือนเพิ่งจะนึกได้ว่าเมนูกุ้งชักจะเยอะเกินไป “เอ้อ เปลี่ยนเป็น ปลาใบขนุนทอด กับผัดผักบุ้งไฟแดงดีกว่าครับ”

“เอาทอดมันกุ้งมาเพิ่มก็ได้นะถ้าคุณจะกิน” ธาริตเอ่ยขึ้น แต่ครามส่ายหน้ารีบส่งเมนูคืนให้เด็ก

“สี่อย่างก็กินกันพุงกางแล้วคุณธาริต จะขุนผมให้กลิ้งกลับบ้านเลยหรือยังไงครับ” คนพูดหยิบแก้วน้ำมาดูดแก้เก้อ แต่แล้วก็ต้องสำลักเมื่อได้ยินสิ่งที่ธาริตตอบกลับ

“ถ้าคุณตัวกลม ๆ ก็คงดู...น่ารัก” ครามไม่รู้ว่าเขามันปากหวานเกินมนุษย์หรือเป็นพวกไม่รู้จักหวงคำชม แต่จะอย่างไรก็ล้วนเป็นภัยกับใจครามทั้งสิ้น

“กินดีกว่ามั้ยครับ” ครามรับจานข้าวจากเด็ก มือเรียวหยิบช้อนส้อมขึ้น แต่เพิ่งจะนึกได้ว่ากับข้าวยังไม่มาสักอย่างยิ่งทำให้เสียฟอร์มหนัก

“เป็นคนอารมณ์ดีนะคุณเนี่ย” ธาริตเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ชวนคุยเรื่องอื่นเมื่อเห็นว่าครามเริ่มจะทำอะไรไม่ถูก

“ทำไมมาทำงานร้านกาแฟล่ะ”

“ผมชอบกลิ่นกาแฟ มันหอมดี ดมแล้วรู้สึกโล่ง ที่นี่การจัดการเยี่ยม มีหลักสูตรให้ไปเรียนก่อนทำงานแล้วยังได้ค่าขนม ผมกะจะเอาไว้ใช้กับที่ร้านถ้ามีโอกาสได้เปิด” น้ำเสียงไพเราะเอ่ยยืดยาว เขาชอบภาษากายของธาริต อีกฝ่ายนั่งนิ่งไม่วอกแวก พยักหน้าตามไปด้วยเวลาครามพูด สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ทำให้ครามรู้สึกว่าอย่างน้อยก็มีคนใส่ใจจะฟังเขาจริง ๆ

“ดีนะ คุณยังมีฝัน จนถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าอยากทำอะไร”

ธาริตยักไหล่ เขาจบปริญญาตรีและโทเกี่ยวกับการศึกษาและเทคโนโลยีการบริหารการศึกษาจากประเทศอังกฤษ พอย้ายกลับมาไทยแม่ก็เคี่ยวเข็ญให้เขาเรียนบริหารธุรกิจอีกใบเพื่อเอาไว้สร้างคอนเน็คชั่น

“อย่างน้อยคุณก็ยังมีโอกาส” ครามออกความเห็น เขาพูดความจริง ไม่แฝงแววตัดพ้อต่อว่าโชคชะตา เพราะครามว่ามันเสียเวลาเปล่า เขาเปลี่ยนอะไรไม่ได้ อย่างเดียวที่ทำได้คือก้าวไปข้างหน้า ทำทุกอย่างให้ดีกว่าวันนี้เท่านั้น

“ก็หวังว่าจะมี” ธาริตมองหน้าคราม แววตาเขาทำให้คู่สนทนารู้ว่าตอนนี้คงกำลังพูดคนละเรื่องเดียวกันแล้ว ครามจึงได้แต่เปลี่ยนเรื่อง

“กินข้าวเถอะครับ”

ธาริตยืดตัว จานกุ้งขาวตัวโตอบเกลือทั้งเปลือกเรียงกันมาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ดวางลงตรงหน้า พร้อมกับต้มยำกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ เขาชอบร้านนี้เพราะมันสีส้มลอยฟ่องดูข้นน่ารับประทาน สีสันสวยงามมาจากมันหัวกุ้งที่ต้มมาล้วน ๆ ไม่ต้องเติมนมเติมกะทิให้ดูข้นขึ้นแบบหลาย ๆ ร้าน

ธาริตตักอาหารให้คราม เห็นท่าทางเล็มไอ้นั่นนิดไอ้นี่หน่อยของคนตรงข้ามทำให้เขาอยากมองต่อไปอีกนาน ๆ ชายหนุ่มใช้มือแกะกุ้ง พอบิตรงหัวออก มันสีแดงก็พุ่งปรี๊ดเข้าเสื้อเขา

“ผมชอบกินมันมากนะ แต่แกะยากเหลือเกิน” ธาริตบ่น เขาละมือไปหยิบเอาทิชชูในกล่องแต่ท่าทางคงดูทุลักทุเลเกินไปครามจึงช่วยหยิบมันแล้วส่งมาให้

“คุณหันตรงหัวเข้าหาตัวมันก็กระเด็นใส่เสื้อสิ” ครามหยิบกุ้งขึ้นมาตัวหนึ่ง สอนธาริตแกะอย่างถูกต้องไม่ให้มันเยิ้ม ๆ กระเด็นไปทางไหนอีก

“ขอบคุณมาก” ธาริตมองกุ้งตัวใหญ่ที่เลาะเปลือกออกหมดบนจานตัวเองแล้วอมยิ้ม แล้วยิ่งยิ้มกว้างขึ้นอีกเมื่อครามวางกุ้งแกะแล้วอีกตัวบนจานกลาง

“เช็ดมือแล้วก็กินเถอะครับ ผมมือเลอะคนเดียวพอ” ครามว่า เป็นอันว่าเขายึดจานกุ้ง แกะโยนเปลือกใส่จานว่างข้างกันแล้วก็แบ่งเอาเนื้อให้อีกฝ่าย

“ขอบคุณครับ” ธาริตคันไม้คันมืออยากจะตักอาหารแล้วป้อนคนตรงข้าม แต่ก็ยังต้องสำรวมกิริยา สุดท้ายเขาจึงได้แต่ตักอาหารใส่จาน คอยดูแลเติมน้ำในแก้วที่พร่องลงจนจบมื้ออาหารอย่างสุภาพ

“ห้าร้อยสิบสองบาทครับ” เด็กเสิร์ฟกดเครื่องคิดเลข ครามหยิบกระเป๋าเงินแต่ไวสู้ธาริตไม่ได้ มือใหญ่ชิงวางแบงก์พันลงในมือเด็ก

“ผมช่วยออก” ครามนับเงิน หยิบแบงก์ร้อยออกมาสามใบ เขารู้ว่าธาริตมีสตางค์ แต่ไม่อยากจะถูกมองไม่ดี ถึงไม่รวยอย่างเขาแต่ครามก็รับผิดชอบค่าอาหารของตัวเองได้

“ไม่เป็นไรครับ ผมพาคุณออกมาก็ควรจะเลี้ยง” คนพูดยิ้ม เขาสังเกตเห็นแววตาดื้อดึงของอีกฝ่ายจึงเอ่ยต่อไป “ถ้าครามอยากเลี้ยง เอาไว้มื้อหน้า”

“แบบนี้เรียกมัดมือชกหรือเปล่าคุณธาริต” ครามลุกขึ้นจากเก้าอี้ ไม่ได้ตอบตกลงเขาทันทีทันใด

“ขอความกรุณาต่างหาก”

ธาริตยิ้ม พูดราวกับตัวเองเป็นลูกเจี๊ยบตัวน้อย ๆ ที่ครามจะกำก็ตายจะคลายก็รอด เขาปลดล็อกประตูรถ คราวนี้ครามไม่รอให้เขามาคาดเข็มขัดให้เหมือนรอบแรก เจ้าของรถขับออกไปช้า ๆ เขาวนรถเพื่อจะกลับไปยังป้ายรถเมล์บริเวณประตูด้านข้างของมหาวิทยาลัย

“ยังมีรถเมล์แน่นะ” เสียงทุ้มถาม ตอนนี้สามทุ่มสี่สิบห้าเข้าไปแล้ว ธาริตจอดเลยป้ายรถเมล์ไปหน่อยเพื่อที่รถจะได้เข้าป้ายได้สะดวก และเขาก็รอส่งครามได้ด้วย

“ยังมีครับ... อ๊ะนั่นไง” ครามเห็นตัวเลขบอกสายบนป้ายไฟผ่านกระจกมองข้าง รถคันใหญ่เคลื่อนเข้ามาด้านหลัง “ผมไปนะครับ ขอบคุณมาก” เขาหันไปเปิดประตู แต่มันไม่ยอมเปิด

“อาทิตย์หน้าผมจะมารับที่ร้าน ตกลงไหม” ครามมองหน้าเขา เห็นมือใหญ่อยู่ในตำแหน่งเตรียมจะปลดล็อกให้ “ถ้าคิดช้า พลาดรถผมไม่รู้ด้วยนะ”

“เจอกันอาทิตย์หน้าครับ ปลดล็อกให้ผมได้แล้ว” พอออโต้ล็อคถูกปลด ครามก็กระโดลงจากรถ คิดในใจว่าธาริตเจ้าเล่ห์เพทุบายเหลือเกิน ถึงอีกฝ่ายไม่ถาม เขาก็คงตกลงเพื่อที่จะเลี้ยงข้าวคืนอยู่ดี

“กลับบ้านดี ๆ นะคราม” ธาริตลดกระจก ตะโกนเสียงดังให้ครามได้ยิน คนฟังได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ วิ่งหนีอายขึ้นรถเมล์ไป

เขาเห็นครามเดินมานั่งแถวหลัง เจ้าตัวลอบหันมามองผ่านกระจกใสบานใหญ่ขณะรถเมล์ออกตัว แต่เมื่อเห็นว่ารถยุโรปยังจอดที่เดิมครามก็รีบหันหลังกลับ ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขารอส่งจนลับสายตา

----------------------------

วันอาทิตย์ของครามมาถึงช้ากว่าปกติ คงเป็นเพราะครามจดจ่อและเฝ้ารอจนเกินไป เขารู้อยู่แล้วว่ายังไงธาริตก็ต้องมา แต่ก็ยังเผลอเหลือบมองไปที่ประตูร้านอยู่เสมอ

“มาแล้ว ๆ” พี่คนเดิมที่วันนี้สลับมาทำงานเก็บล้างสะกิดสีข้างคราม แต่ชายหนุ่มก้มหน้างุดซ่อนแก้มขึ้นสีเพราะอับอายที่โดนจับไต๋ได้

“อะไรเล่า..”

ธาริตไม่ได้ตรงมาสั่งกาแฟอย่างทุกครั้ง แต่มายืนจ้องมองตู้แช่ขนมอย่างชั่งใจ วันนี้ครามอยู่ประจำที่สเตชั่นขนม หน้าที่ในการอุ่นร้อน หรือจัดขนมและอาหารที่โชว์ไว้ในตู้ลงจานเป็นของเขาทั้งหมด

“คุณลูกค้าสนใจเป็นตัวไหนดีครับ”

“ผมอยากหาอะไรรองท้องก่อนไปกินอาหารเย็น” เจ้าของร่างสูงใหญ่เอ่ย วันนี้เขามาตอนเกือบจะห้าโมงแล้วเพราะติดพรีเซนท์งานยืดยาว ขนมบนชั้นในตู้กระจกร่อยหรอ ส่วนของคาวก็เหลืออีกแค่สองอย่าง

ครามมองหน้าเขา การอ่านสายตาและความสนใจของลูกค้าเป็นความสามารถที่บาริสต้าควรมี ธาริตเหลือบมองครัวซองต์กับซีซ่าร์สลัดแค่แวบเดียวแล้วหันกลับมามองของหวานที่วางเรียงกันอย่างลังเล

“ผมขออนุญาตแนะนำเป็นของหวานนะครับ ถ้าคุณลูกค้าชอบทานแบบที่มีครีม รสหวานกำลังพอดีตอนนี้ยังมีเค้กมะพร้าวอยู่ ถ้าคุณชอบผลไม้จะรับเป็นสตรอเบอรี่เฟรชครีมก็อร่อยครับ” บาริสต้าหนุ่มเว้นวรรค ในสมองกำลังคาดคะเนขนมที่เขาน่าจะชอบและต้องกินเข้ากับเครื่องดื่มที่สั่งประจำ

“แต่ถ้าคุณลูกค้าชอบรสเข้มข้นหน่อย ก็ยังมีช็อคโกแลตมัฟฟิน หรือช็อกโกแลตบราวนี่ครับ”

“มัฟฟินชิ้นใหญ่ น่าจะอยู่ท้องพอสมควร ส่วนบราวนี่ชิ้นเล็กกว่าหน่อยแต่ก็น่าสนใจ ไม่แน่ใจว่าผมจะต้องรอคนที่ไปด้วยนานหรือเปล่า รบกวนคุณเลือกให้เลยนะ” ธาริตยิ้ม แต่ครามเลี่ยงจะมอง ยิ่งมองหน้าเขาครามยิ่งทำอะไรไม่ถูกไปกันใหญ่

“ถ้าอย่างนั้นรับเป็นบราวนี่นะครับ” ครามมือสั่น หยิบจานเซรามิกสีขาวมาใส่ขนม พร้อมกับเตรียมส้อมกับกระดาษเช็ดปากวางไว้ด้วย

“ครับ ผมรอนะ”

คำว่ารอของธาริตทำให้ครามใจเต้นตึกตักเผลอคิดไปไกล ในความเป็นจริงแล้วเขาอาจจะหมายถึงการไปยืนรอเค้กที่ปลายบาร์พร้อมกาแฟก็ได้

อีกสามชั่วโมงที่เหลือ ครามตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ส่วนธาริตก็เอาหนังสือขึ้นมาอ่าน หน้าปกเป็นภาษาอังกฤษตัวเบ้อเริ่ม ครามไม่แน่ใจนักว่ามันเกี่ยวกับอะไร เพราะความรู้ภาษาของเขายาวเท่าหางอึ่ง ทุกวันนี้ฟังลูกค้าสั่งเมนูและบอกทอนเงินถูกครามก็ดีใจแล้ว จะให้ไปพูดคล่องปร๋อแบบหลายคนครามทำไม่ได้หรอก

“แอบมองตาเยิ้มขนาดนี้คือยังไง ชอบกันแล้ว คบกันยัง” พี่คนเดิมกระซิบคราม

“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ เก็บของดีกว่า” ครามหลบมือหล่อน รู้ดีว่ายืนต่อไปคงโดนหยิกจนแก้มช้ำอย่างทุกทีแน่

ธาริตออกไปตั้งแต่ทุ่มสี่สิบห้า คาดว่าคงไปรอแถว ๆ นี้ ครามเริ่มเก็บของที่บาร์ ทำความสะอาดเตาอบและสเตชั่นที่ตัวเองรับผิดชอบ เขารอเช็คสต็อก และลงของที่จะขายพรุ่งนี้ตอนเปิดร้าน กว่าจะเสร็จก็เกือบสองทุ่มครึ่ง

วันนี้ครามจึงกระวีกระวาดกว่าปกติ เขาช่วยปิดล็อคร้าน เดินตรงไปทางลานจอดรถเพราะเดาว่าธาริตคงอยู่แถวนั้น ทางเดินเงียบและมืดเหมือนปกติ เขามองซ้ายมองขวาแต่ไม่เห็นใคร

เป็นไปได้ไหมที่ธาริตจะเปลี่ยนใจไม่รอ?

ครามเดินช้าลงนิดหน่อย กลัวว่าเมื่อถึงลานจอดแล้วไม่เห็นรถเขาจะผิดหวังเอา แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเจ้าตัวโผล่มาข้าง ๆ

“เกือบหัวใจวายแล้วคุณธาริต” ครามหันไปดุเขา ใบหน้ามู่ทู่

“ไม่เห็นมีเสียงร้องสักแอะ ว่าจะขอปลอบสักหน่อย” คนพูดยิ้มกว้าง กิริยาตอนตกใจของครามน่ารักน่าเอ็นดู ตอนเขาโผล่พรวดเข้าไปหา ครามเพียงแต่ยืนนิ่งและทำตาโต ยิ่งมีแก้มพอง ๆ อยู่แล้วยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่

“ฉวยโอกาสไม่ไปด้วยนะครับ” ครามพูดไปอย่างนั้นเอง เพราะสองขาน่ะเดินเข้าลาดจอดรถไปแล้ว

“ด้วยเกียรติของนายธาริตครับ” คนพูดยกสามนิ้วทำท่าเหมือนเรียนลูกเสือ

วันนี้ธาริตพาครามไปเยาวราช ครามรู้ว่ามันมีถนนชื่อดังเส้นนี้อยู่ในกรุงเทพแต่ไม่เคยไปสักที ธาริตวนหาที่จอดอยู่สักพักก็ได้ที่วางแถววัดใกล้ ๆ วันนี้วันอาทิตย์ ผู้คนล้นทะลักทั้งสองข้างทาง

ตลอดถนนเส้นนี้มีแต่ป้ายไฟอันโตประดับประดาอยู่เต็มไปหมด ส่วนใหญ่เป็นร้านทอง มีร้านอาหารจีนขนาดใหญ่และธนาคาร ครามเห็นร้านขายเกาลัดทุกห้าสิบเมตร ถ้าป้ายังอยู่คงได้ซื้อไปฝาก ยังมีร้านอาหารทะเลแบบที่มีกุ้งเป็นปลาเป็นมาโชว์อยู่หน้าร้าน ครามเห็นพวกมันว่ายไปว่ายมาอย่างนั้นก็ชี้นิ้วให้เขาตีหัวมันมากินไม่ลง

ร้านอาหารหลายร้านมีคนยืนต่อคิวแถวยาวเหยียด มองแล้วครามก็นึกทึ่ง ไม่รู้ว่าต้องอร่อยแค่ไหนคนถึงแห่แหนไปแย่งกันกิน

“อยากกินอะไรไหม” คนตัวสูงข้าง ๆ ถาม เขาชอบธาริตตอนแต่งตัวสบาย ๆ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีเรียนหรือเขาไม่เคร่งระเบียบ วันนี้ถึงใส่เสื้อโปโลสีขาวกางเกงสีเข้มและรองเท้าผ้าใบ ต่างจากปกติที่มักจะใส่เสื้อเชิ้ตรีดเรียบกริบ

“ไม่รู้สิ ผมไม่เคยมาเลย” ทั้งซ้ายทั้งขวาน่าตื่นตาตื่นใจไปหมด แม้กระทั่งผลไม้ในรถเข็นข้างทางก็ยังมีผลไม้เมืองนอกที่มักจะเห็นเฉพาะในห้าง อย่างเช่นลูกท้อ ลูกแพร ลูกไหน พวกอย่างนี้ครามไม่ค่อยเห็นในตลาด

“ที่ดัง ๆ เขามากินกันก็พวกสุกี้ ก๋วยจั๊บ มีร้านกระทะร้อนไอ้อันที่แถวยาว ๆ นั่นน่ะ” ธาริตชี้ไปฝั่งตรงข้าม แต่ถ้าไม่รู้จะกินอะไรเดี๋ยวเราสั่งมาแบ่งกันจะได้กินหลายร้านดีไหม”

“เอาตามที่คุณว่าเลยครับ” ครามเดินเคียงไปกับเขา ร้านแรกธาริตพาแวะกินก๋วยเตี๋ยวหลอด ร้านคนแน่นจนต้องแบ่งโต๊ะกับชาวต่างชาติอีกคู่หนึ่ง

ก๋วยเตี๋ยวหลอดร้านนี้ใส่เครื่องเยอะ บนเส้นใหญ่มีไชโป๊ว มีกระเทียมกับหอมเจียวโรยหน้า ใส่ไก่ ใส่ปลาหมึกกรอบ ข้างล่างมีถั่วงอกรอง ราดน้ำจิ้มสีดำออกหวานนำเค็มตาม ครามกินเข้าไปคำก็รู้เลยว่าทำไมใคร ๆ ถึงแนะนำ

ธาริตพาเขาไปกินเผือกทอดของร้านลูกชิ้นปลา เขาบอกก๋วยเตี๋ยวก็อร่อย แต่ครามอยากเดินมากกว่า สุดท้ายก็ได้ถ้วยกระดาษใบใหญ่ใส่เผือกทอดกรอบ ๆ มาแบ่งกันกิน

สุดท้ายพอเห็นว่าก๋วยจั๊บร้านดังคนเริ่มซา พอมีที่ว่างแบบไม่ต้องนั่งต่อคิว ธาริตก็ว่าจะพาครามข้ามถนน แต่คนเยอะเกินไป ทั้งคนมาเที่ยววันหยุดทั้งทัวร์จีนที่เพิ่งจะลงจากรถ ครามตาลาย หันไปอีกทีธาริตก็หายไปแล้ว

ครามมองซ้ายมองขวา พยายามมองหาผู้ชายตัวสูง ไหล่กว้าง ใส่เสื้อโปโลสีขาว แต่เขาโดนเบียดไปทางนั้นทีทางนี้ที ตอนนี้ครามรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นปลาตัวเดียวที่ว่ายทวนน้ำ

อยากจะกดมือถือโทรหาอีกฝ่ายแต่ก็เพิ่งนึกได้ว่าไม่มีแม้กระทั่งเบอร์โทรศัพท์ ฝูงชนจากไปแล้ว ครามไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ตรงส่วนไหนของเยาวราช เขาพยายามจะเดินตามหาธาริตแต่ก็หมดหวัง คนเยอะเกินไป และเขาก็พลัดหลงเข้ามาในซอย

ครามไม่ทันได้เห็นป้ายชื่อซอยด้วยซ้ำ รู้เพียงแต่ว่ามีร้านอาหารทะเล มีราดหน้า ร้านรังนกแบบที่ขายอยู่หน้าถนน ทีแรกมันก็สว่างดี แต่ยิ่งเดินยิ่งมืด ครามกะว่าจะเดินกลับทางเดิม เขาหันรีหันขวาง รอบตัวมีแต่ตึกแถว บ้างเปิดไฟบ้างปิดไฟ กว่าจะรู้ก็เหมือนเขาหลุดมาในโลกคู่ขนาน

ครามเดินวนไปวนมาอยู่นาน เขาเห็นทางทะลุซอยข้าง ๆ จึงลองเดินตามไป สุดท้ายก็วนกลับไปเจอถนนเส้นใหญ่ที่คนบางตาลงนิดหน่อย ป้ายไฟเรืองรองจับตาในตอนแรกปิดลงบางส่วน เขาเดินจนขาล้า นาฬิกาข้อมือบอกเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว วันนี้ครามคงต้องเรียกแท็กซี่กลับบ้าน หลงกันตั้งนานขนาดนี้ เขาว่าธาริตคงถอดใจกลับบ้านไปแล้วเหมือนกันแน่

“คราม! ” ครามหันหาต้นเสียง มองซ้ายมองขวาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ กระทั่งเสียงเรียกชื่อเขาดังขึ้นอีก หลายคนหันมองไปยังฝั่งตรงข้าม ธาริตยืนอยู่หน้าทางม้าลาย ป้องปากตะโกนเรียกชื่อครามเสียงดัง

“คุณนี่นะ เห็นตัวเล็กนิดเดียวแต่เดินไวเป็นบ้า” แป๊บเดียวธาริตก็วิ่งข้ามถนนมาถึงตัวเขา บนใบหน้ามีเหงื่อเกาะพราว

“ผมนึกว่าคุณกลับไปแล้วเสียอีก” ครามหยุดเดิน ขยับเข้าไปชิดประตูห้องแถวที่ปิดแล้ว เว้นทางให้คนอื่น

“เก่งมากเลยที่หาผมเจอ ผมหลงไปในซอยโน่นแน่ะ” คนตัวสูงใหญ่ไม่ได้พูดอะไร ครามไม่รู้หรอกว่าเขาเดินวนไปวนมาจนสุดถนนไปตั้งสี่รอบ!

“หลงไปไหนก็จะหาให้เจอ แต่ทางที่ดีอย่าหลงดีกว่า” ธาริตว่า เขาร้องขึ้นเมื่อเห็นทัวร์ลงอีกรอบ คราวนี้ตั้งสองคัน ถ้าให้เดินหาครามทั้งเยาวราชอีกทีเขาตายแหง ๆ

“คุณรังเกียจหรือเปล่าถ้าเราจะจับมือกัน” ธาริตยื่นมือมาตรงหน้าคราม แววตาของเขามั่นคง จนครามเผลอหลบตาอีกหน ครามไม่เคยจับมือใคร ไม่รู้ว่าคนปกติเขามาขอกันหน้าซื่อ ๆ อย่างนี้หรือเปล่า

เวลานี้ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย ผู้คนและรถรารอบข้างเสียงดังจอแจ แต่ใจกลับเต้นตึกตักเสียงดังจนกลัวอีกฝ่ายจะได้ยิน ครามทาบมือลงบนมือเขา เผลอยิ้มตามคนตัวใหญ่ตรงหน้า

“จับไว้แล้ว อย่าทำผมหายอีกนะคุณธาริต”

ธาริตกอบกระชับมือครามไว้ น่าประหลาดที่สัมผัสตรงมือกลับส่งไปอุ่นซ่านถึงในใจด้วย ครามไม่รู้ว่าหากเดินต่อไปแล้วอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่หากเขายังจับมือครามไว้อย่างนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็คงไม่เป็นไร

---------------------------------------

วันนี้พามาสำรวจอดีตของครามกันค่ะ คิดว่าเราน่าจะอยู่กับน้องครามอีกพักใหญ่เลยทีเดียว

ถ้ามีคำผิดทิ้งเมนท์ไว้ได้เลยนะคะ เบื้องต้นตรวจไปคร่าวๆแล้ว แต่ตาไม่ค่อยดีค่ะ

ต้องรบกวนคนอ่านด้วย เดี๋ยวจะรีบเข้ามาแก้ค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ทุกครั้งที่อ่านคอมเมนท์ตื่นเต้นมากเลย อ่านแล้วอ่านอีก

เจอกันตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตอนแรกที่จีบกันคือดีมาก ตอนเลิกกันน่าจะเลวมากแน่  :serius2:

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ธาริต ดีขนาดนี้ ทำไมถึงได้บอกว่าไม่รู้จักครามล่ะ หรือว่ากลัวแม่แน่ๆเลย เชียร์คุณธาริตดหมือนเดิมนะคะ  อยากให้เป็นพระเอกอ่ะ  :mew2:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ครามต้องมีจุดพลิกเป็นลูกเศรษฐี ห้า ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อยากรู้เลยว่าทำไมคุณธาริตถึงใจร้ายได้ลงคอ รอน้องคีนมาป่วนนะคะขอบคุณมากค่ะ   :กอด1:

ออฟไลน์ Natti

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เอ็นดูปะป๊าจัง
พ่อพระเอกเราก็..ชอบเขา จีบเขา แล้วไมไม่หนักแน่นพออ่ะ ทิ้งปะป๊าได้ไงอ่ะ น้องคีนต้องโป้งทีดเช่อนะลูก ทีดเช่อใจร้ายกับปะป๊า

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
           อดีตที่แสนหวานของครามซินะ

ก่อนที่รสหวานจะกลายเป็นรสเค็มของน้ำตา

โดยส่วนตัวชอบแนวนี้นะคะ

ชอบที่ตัวละครมีจุดเริ่มต้นและจุดเปลี่ยนแปลงและ

กลับมาในรูปแบบที่ควรจะเป็นอีกครั้ง...

         รออ่านตอนต่อไปคะ

ออฟไลน์ totorobabii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
สมัยจีบครามคือดี ดูรักมั่นคง  :katai4:

ออฟไลน์ GAZESL

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
มาดูความจริงในอดีตกัน

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao5: แม่ต้องกดดันขนาดไหน ธาริตถึงได้ทำร้ายครามจนสาหัส

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :mew1:  ดีใจ  มาอัพบ่อยๆนะคะ  ....อยากรู้ว่าผู้ชายที่เคยรักนักหนา  ทำไมถึงทำร้ายจิตใจกันได้ลงคอ  ถ้าจะเป็นพระเอก  จะไม่ต่อสู้เพื่อความรักซักนิดเลยเหรอ (คนอ่านก็มโนเป็นตุเป็นตะค่ะ)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
รีบมาต่ออีกน้าาาาาอยากรู้เรื่องราวของเค่า

ออฟไลน์ Happyjanjii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นอดึตที่น่ารักจริงๆค่ะ เขาจีบกันได้น่ารักจนเรายังเขินไปด้วย แต่คงมีจุดแตกหักหนักมากพอที่ทำให้ครามโกรธพ่อน้องคีนได้ขนาดนี้ :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ไม่อยากจะคิดถึงหลังจากนี้เลย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนนี้อ่ะดี แต่แม่ของธาริตน่าจะเป็นตัวแปร

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
บรรยากาศดูดี  :hao5:

ออฟไลน์ Wwavez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มันก็จะหวานๆหน่อยแล้วก็ปาดคอชั้นตบท้ายแน่5555 นี่ก็เส้าก็หงอยรอเลยอะรอดูเหตุผลทีดเช่อก่อน ถ้าไม่โอเราจะแบนนาย!! :katai5:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หู้ยยย.. ตอนจีบนี้อย่างดีเรยอ่ะ..
อยากรุ้ว่าตอนเลิกกัน มันมีอะไร.. 
ไรท์รีบมานะคะ  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ไฟท์ติ้งง

ออฟไลน์ Mafiaziip

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
อดีตคือทำเอาเคลิ้มตามเลย

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ตอนจีบคือดีมากๆ น่าจะเพราะทางครอบครัวของธาริตแน่ๆถึงเกิดเรื่องให้เลิกกัน  :serius2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด