❤❤ จากปลายหญ้าถึงก้อนเมฆ ❤❤ [Specail Part นพ&เว (2)]★ 09/09/19 ★ P:23
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤❤ จากปลายหญ้าถึงก้อนเมฆ ❤❤ [Specail Part นพ&เว (2)]★ 09/09/19 ★ P:23  (อ่าน 111798 ครั้ง)

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โดนดักไปหมดเลยหญ้า 5555555555

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
แอบชอบกันและกันมานานแล้วล่ะสิ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Mariinariiz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักอ่ะ ฟีลกู๊ดมาก ชอบความเรื่อยๆของเมฆและหญ้า

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46




ตอนที่ 6
พี่เชษฐ์แสนดี
   

   
ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยกลุ่มเมฆทำให้อากาศไม่ร้อน แต่ถึงอย่างนั้นตัวของผมก็ยังเต็มไปด้วยเหงื่อจากการเดินและการแบกของเหมือนบ้าหอบฟาง ขณะที่ใครบางคนเดินตัวปลิว ไม่เอามาแม้กระทั่งกล้องถ่ายรูปด้วยเหตุผลที่ว่าถ่ายด้วยกันก็ได้
   
“มาผมถือให้” กระเป๋าบนบ่าถูกดึงไปเพื่อให้ผมถ่ายรูปสะดวกยิ่งขึ้น ผมกล่าวขอบคุณโดยไม่หันไปมอง
   
“หญ้าได้งานที่ไหน” เมฆชวนผมคุยเรื่อยเปื่อย
   
“บริษัทส่งออกแถวสาธร”
   
“บริษัทส่งออกเหรอ? ที่บ้านผมก็ทำบริษัทส่งออกเหมือนกัน มาทำด้วยกันไหม”
   
ผมชะงักมือหันไปมองหน้าเมฆ อีกฝ่ายส่งยิ้มมาให้ เดี๋ยวสิเว้ยย จะชวนกันง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้
   
“พูดเล่นใช่ไหม”
   
“พูดจริง ได้คนเก่งแบบหญ้ามาช่วยงานใครจะไม่อยากได้”
   
“เก่งตอนเรียนกับเก่งตอนทำงานมันไม่เหมือนกัน”
   
“แต่ผมเชื่อว่าหญ้าทำได้”
   
ผมสบตากับเมฆ ดวงตาลุ่มลึกคู่นั้นทำให้หวนคิดถึงเรื่องราวในอดีต ในวันที่อาจารย์ประกาศผลคะแนนสอบด้วยการติดประกาศไว้ที่บอร์ดใต้ตึกคณะ
   
   
“ไอ้เหี้ยนี่อีกแล้ว วันๆ มันทำอะไรบ้างวะ สงสัยแม่งยังซิงเพราะทำอย่างอื่นไม่เป็น”
   
เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นหมู่คณะโดยไม่มีใครรู้ว่าผมยืนอยู่ด้านหลังสุดของกลุ่มคนที่มาดู
   
“คะแนนขนาดนี้ไม่น่าจะใช่เหี้ยทำนะ”
   
ทุกสายตาหันไปมองเจ้าของเสียงทุ้ม สีหน้าของเมฆติดรอยยิ้มแต่ดวงตาลุ่มลึก ทำให้ยากต่อการคาดเดา

“ไอ้เมฆ”
   
“น่าจะเป็นพวกเรามากกว่า คะแนนแบบนี้เหี้ยแล้ว” เมฆเคาะนิ้วลงบนกระดาษ ดูเหมือนชื่อของเมฆกับคนที่พูดจะอยู่ใกล้กัน
   
“มันก็แค่คำเรียกหรือเปล่าวะมึงจะจริงจังทำไม”
   
“กูไม่ได้จริงจังหรือมึงจริงจัง” ดวงตาของเมฆติดรอยยิ้มขำ
   
“กูเปล่า!”
   
เมฆยกยิ้มมุมปาก หันกลับไปมองผลคะแนนก่อนหมุนตัวเดินแทรกกลุ่มคนออกมา สายตาจึงประสานเข้ากับสายตาของผมพอดี เมฆชะงักก่อนริมฝีปากจะคลี่ยิ้มกว้าง
   
“ยินดีด้วย”
   
“ขอบใจ”
   
เสียงทักของเมฆทำให้กลุ่มที่เดินตามมาพลอยชะงักไปด้วย อีกฝ่ายดูเหมือนจะตกใจอยู่ไม่น้อย แต่เพียงครู่เดียวก็แสดงสีหน้าไม่ยี่หระออกมา
   
“สวัสดี” ผมหันไปเผชิญหน้า ทักทายด้วยน้ำเสียงปกติ
   
“เออ” คำตอบรับห้วนสั้น สายตาจ้องตอบผมโดยไม่หลบ ริมฝีปากของผมคลี่ยิ้มออกช้าๆ
   
“ไปซื้อลอตเตอร์รี่ติดไว้ก็ดีนะ เห็นเขาพูดกันว่าถ้าเจอเหี้ยทักจะโชคดี”
   
ผมเดินแทรกตัวผ่านกลุ่มคนขึ้นไป หรืออันที่จริงทุกคนพร้อมใจกันหลบห้ผมมากกว่า ได้ยินหัวเราะดังตามหลังมา สันนิษฐานว่าเป็นเสียงของเพื่อนในกลุ่มหมอนั่นเอง ผมไม่สนใจสักนิดว่าหมอนั่นจะคิดยังไง คนบางคนก็ไม่มีสาระพอให้จดจำ แต่กับคนบางคนแม้สิ่งที่ทำจะเล็กน้อยเแค่ไหนกลับไม่เคยลืม

   
“หญ้า” เสียงเรียกทำให้ผมดึงความคิดตัวเองกลับมา
   
“หือ?” ผมกดชัตเตอร์อีกสองรูปก่อนปล่อยกล้องห้อยที่คอ
   
“นึกว่าหลับกลางอากาศไปแล้ว”
   
“เปล่า”
   
“ไม่เห็นตอบผมเลย”
   
“ตอบเรื่องอะไร”
   
“ก็ที่ชวนไปทำงานด้วย”

“อ๋อ ผมรับปากทางโน้นไปแล้ว”

“ผมให้เงินเดือนสูงกว่าที่โน่น”

“รู้เหรอว่าผมได้เงินเดือนเท่าไหร่”

“ไม่รู้” เมฆหน้า ดวงตาที่มองมาเป็นประกายเจ้าเล่ห์ “แต่หญ้าคงไม่คิดกับเพื่อนโหดนักใช่ไหม”
   
เปรตเอ๊ยยย จะคิดสิบเท่าก็ตรงคำว่าเพื่อนนี่แหละ
   
“ผมไปไม่ได้ ไม่อยากเสียคำพูด” ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ๆ แม้อยากจะตกปากรับคำแค่ไหนก็ตาม
   
“ไม่เป็นไร แต่ข้อเสนอของผมยังอยู่หญ้าอยากมาทำเมื่อไหร่ก็ได้”
   
“ขอบใจมาก”
   
“ผมมีอีกเรื่องที่อยากถาม”
   
“ถามมาสิ”
   
“หญ้าตัดใจได้หรือยัง”
   
!!!
   
ความเย็นพุ่งเข้าสู่ร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ร่างกายแข็งเป็นหิน ใจเต้นรัวเร็ว
   
“หญ้ายังชอบน้องเพลินอยู่เหรอ”
   
“หะ!!” ผมอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้าง สมองเหมือนถูกน็อคสองครั้งซ้อน
   
“โกรธหรือเปล่าที่ถาม”
   
โกรธเหรอ? ตอนนี้ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร น้องเพลินมายังไงผมยังงงไปหมด
   
“พี่เชษฐ์บอกผมว่าหญ้าชอบน้องเพลิน”
   
ไอ้พี่เชรดดดดดด
   
“ไม่ได้ชอบแล้ว” ผมตอบสั้นๆ ส่วนหนึ่งโล่งใจจนอยากลงไปนั่งกองที่พื้น อีกส่วนหนึ่งก็อยากจองตั๋วเครื่องบินมันเดี๋ยวนี้เลย
   
“งั้นเหรอ”
   
“ทำไมอยู่ๆ ถึงถาม”
   
“เห็นมันนานแล้วแต่หญ้ายังไม่มีใครเลยถามดู”
   
“ก็แค่ยังไม่คิดเรื่องนั้น”
   
“อืม”
   
“เมฆคุยกับพี่เชษฐ์นานหรือยัง”
   
“สักสองปีมั้ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะตอนขึ้นปีสาม”
   
ผมอยากถามว่าคุยอะไรกันบ้าง ทำไมถึงมาเกี่ยวกับผมได้ แต่การซักมากไปอาจจะนำความซวยมาให้ผมได้จึงเงียบเสีย
   
“กลับเลยไหม แดดเริ่มร้อนแล้ว”
   
“เอาสิ” ผมพยักหน้า เดินตามเมฆกลับไปยังที่พัก ลืมไปเลยว่าอีกฝ่ายสะพายกระเป๋าให้ จนกระทั่งเมฆวางมันลงในเต๊นท์
   
“โทษที ผมลืมไปเลย”
   
“เป็นไรไป” เมฆส่งยิ้มให้ผม หยิบกีต้าร์ที่วางอยู่ขึ้นมา
   
“เดี๋ยวมา ผมจะเอากีต้าร์ไปคืน”
   
“อืม” ผมพยักหน้า รอจนเมฆเดินห่างออกไปแล้ว รีบหยิบโทรศัพท์ออกมากดหาพี่เชษฐ์ทันที
   
“ฮัลโหล” ปลายทางรับสายได้รวดเร็วทันใจ
   
“พี่เชษฐ์!”
   
“เดี๋ยว! อะไรอีกวะ กูทำอะไรอีก” พี่เชษฐ์ร้องโอดครวญ
   
“ทำไมเมฆคิดว่าผมแอบชอบน้องเพลิน ตอบมาเดี๋ยวนี้” ผมพูดช้าๆ ชัดๆ เน้นเสียงหนักทีละคำ
   
“อ่า...ฮ่าๆ” ฟังเสียงหัวเราะก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังซื้อเวลาเพื่อหาข้อแก้ตัว
   
“คืองี้..”
   
“พูดมาเร็วๆ”
   
“คือตอนโน้นน ข้าไปกินเหล้ากับไอ้เมฆ แล้วข้าดันเผลอพูดมากไป แบบไปถามมันว่าเจอเอ็งบ้างหรือเปล่า คุยกันบ้างไหม อะไรประมาณนี้แหละข้าก็จำไม่ได้แล้ว เอ็งก็รู้ว่าไอ้เมฆมันฉลาดจะตาย ข้าดูทรงแล้วเหมือนมันเริ่มสงสัย ข้าเลยแกล้งถามมันว่ารู้จักรุ่นน้องที่ชื่อเพลินไหม เป็นใคร น่ารักหรือเปล่า เห็นเอ็งแอบชอบอยู่ ก็เอาตัวรอดมาได้”
   
“......”
   
“เป็นไงข้าเก่งไหม เพื่อเอ็งเลยนะเว้ย ไอ้เมฆเลิกสงสัยไปเลยว่าเอ็งชอบมัน”
   
ไอ้...

พี่...

เฮงซวยยยย
   
“มีอย่างอื่นจะสารภาพอีกไหม อย่าให้ผมรู้ทีหลังนะ” ผมไม่คิดเลยว่าเสียงตัวเองจะเหี้ยมได้ถึงขนาดนี้
   
“ไม่มี้”
   
“แน่ใจ”
   
“โห เอ็งพูดแบบนี้กับข้าได้ไงวะ ข้าทำเพื่อเอ็งเลยนะเว้ย แสนดีขนาดไหน”
   
“เอาความดีกองไว้ตรงนั้นก่อน บอกความชั่วผมมาเดี๋ยวนี้”
   
“ก็บอกว่าไม่มีแล้ว”
   
ผมไม่ไว้ใจคำว่าไม่มีของพี่เชษฐ์สักนิด แต่ไม่มีเวลาคาดคั้นเพราะหางตาเห็นเมฆกำลังเดินกลับมา
   
“พี่เชษฐ์”
   
“อะไรอีกกก”
   
“รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ นะพี่ อย่าให้ใครชิงฆ่าไปก่อนผม”
   
“ไอ้น้องเวร”
   
ผมรีบวางสายหย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว ทำสีหน้าปกติยิ้มให้อีกฝ่ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วสบถอยู่ในใจ

• • • • •

ถึงแม้จะมีเรื่องชวนปวดหัวเกิดขึ้น แต่ความสวยของท้องฟ้ายามกลางคืนทำให้จิตใจผมสงบขึ้น ผมนั่งมองตั้งแต่ดวงดาวเริ่มขึ้น ไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด ยิ่งคิดว่าเป็นคืนสุดท้ายแล้วก็ยิ่งเสียดาย
   
“พรุ่งนี้อยากไปไหน”
   
ผมเบือนสายตามามองเมฆ พูดด้วยน้ำเสียงรู้ทัน
   
“มีคิดไว้แล้วใช่ไหม”
   
“หึๆ” เมฆหัวเราะแต่ไม่ตอบ ยื่นมือมาข้างหน้าผม
   
“อะไร”
   
“โทรศัพท์”
   
“เอาไปทำไม”
   
“ผมยังไม่มีเบอร์ของหญ้าเลย”
   
“บอกเบอร์ของเมฆมา” ใครจะกล้าส่งให้ในเมื่อในโทรศัพท์ผมมีเบอร์ของเมฆแล้ว ผมขอมาจากพี่เชษฐ์อีกที
   
“ศูนย์หกหนึ่ง...”

ผมกดหมายเลขตามที่เมฆบอก โดยยกโทรศัพท์ตั้งขึ้นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมองเห็นหน้าจอ ครบสิบตัวแล้วก็กดโทรออก รอจนได้ยินเสียงสัญญาณจึงกดวางสาย วางโทรศัพท์คว่ำหน้าลงทันที

“ไม่บันทึกเบอร์ไว้เหรอ”

“เดี๋ยวก็ได้” ผมทำเหมือนหยิ่งแต่ความจริงคือผมบันทึกเอาไว้แล้วด้วยชื่อ ‘ก้อนเมฆ’

เมฆยิ้มนิดๆ ไม่เซ้าซี้ผม หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาบันทึก

“เรียบร้อย”

ผมอดเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ไม่ได้ เลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นชื่อที่เมฆบันทึก แปลกใจเพราะมันเป็นชื่อที่ผมมักใช้เขียนถึงตัวเองเสมอ

‘ปลายหญ้า’

“ทำไมถึงบันทึกชื่อนั้น”

“ก็หญ้าชื่อหญ้า” คนตอบยังคงยิ้ม สีหน้าแบบนี้แหละที่บอกไม่ได้ว่าคิดอะไรอยู่

“แล้วทำไมไม่ใช่ใบหญ้า ต้นหญ้า กอหญ้า หรือดอกหญ้า”

“เพราะผมชอบปลายหญ้า” ดวงตาของเมฆทำเอาหัวใจผมสั่นไหวจนต้องหลบสายตา ด้วยการเบือนหน้ากลับไปมองดวงดาวบนท้องฟ้า

“กลับไปแล้วติดต่อกันบ้างนะ”

“อืม” ผมพยักหน้าโดยไม่หันกลับไปมอง

“แล้วผมจะโทรไปหา”

ผมอยากพูดว่าอย่าเลยเพราะแค่นี้ผมก็อยากจะบ้าแล้ว แต่ใครจะกล้าพูดออกไป

“อืม”

“เสียดายที่ไม่เห็นทางช้างเผือก”

“แค่นี้ก็สวยมากแล้ว ผมไม่เคยเห็นดาวเยอะแบบนี้มาก่อน”

“เอาไว้คราวหน้า ผมจะพาหญ้าไปดู”

สายตาของผมยังจ้องอยู่บนท้องฟ้าเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย แต่หัวใจกลับรู้สึกอบอุ่น


ผมชักอยากรู้แล้วว่าสองข้างของทางช้างเผือกที่สาวทอผ้ากับหนุ่มเลี้ยงวัวต่างยืนอยู่ จะไกลเท่ากับระยะทางจากปลายหญ้าไปถึงก้อนเมฆบนฟ้าหรือเปล่า



:::: ♥ TBC ♥::::
**การเช่าเต๊นท์จากอุทยานจะได้เป็นถุงนอนนะคะ แต่เพื่ออรรถรสคนเขียนจึงเปลี่ยนเป็นหมอนกับผ้าห่ม (ตอนที่แล้ว)
**ไม่แน่ใจว่าผาหัวสิงห์จะเปิดให้ขึ้นไปหรือยังนะคะ เพราะเคยปิดไม่ให้ขึ้นสืบเนื่องจากแผ่นดินไหว เจ้าหน้าที่กลัวจะทรุดตัวลงมาค่ะ
  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin








ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
โอย...ตาก้อนเมฆนี่ต้องรู้แน่ๆ
หยอดมาขนาดนี้...รู้มานานแค่ไหนแล้วเหอะ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
       น่ารักใส่กันอีกแล้ว
อ่านกี่ตอนๆเมฆกับหญ้าก็น่ารักทุกตอน
เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากค่อยๆลุ้นว่า
เมื่อไหร่ใจทั้งคู่จะตรงกันซะที♥️♥️

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เหมือน​จะ​รู้​อะไร​สัก​อย่าง​

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เมฆมันร้ายนะคะหญ้าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
พี่เชษณ์เตรียมตัวไว้ให้ดีล่ะ  o18 o18 o18

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิพี่เชษฐ์นี่เองสินะ  ที่เป็นต้นเหตุให้ก้อนเมฆกับปลายหญ้าไม่ได้คบกันตอนสมัยเรียน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีความมั่นใจว่าหญ้าได้ทำงานที่บ้านเมฆ  :m19:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
พี่เชษฐ์ทำบุญสะเดาะเคราะห์บ้างก็ดีนะคะ 55555

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พี่เชษฐ์คงทำความลับรั่วไหลไปแล้ว ส่วนเมฆเธอมันร้าย

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
หวานมาก,,,

ชอบมาก,,,

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เมฆใกล้โป๊ะเข้าไปทุกที 555555555555

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
เขาแอบปกป้องกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเด้อ น่ารักอ่ะะะ
มีชวนมาทำงานด้วยกันอีกนะ ใครจะไม่คิดมาก ถามมม
ปล้ำเลยไหมหญ้า รวบหัวรวบหาง

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ติดตามจ้า :L2: :pig4: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ไม่ใช่ว่าบริษัทที่ไปทำงานเป็นของบ้านเมฆนะ

มีปกป้องตั้งแต่ตอนเรียนด้วยอะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ไม่ใช่ว่าบริษัทที่ไปทำงานเป็นของบ้านเมฆนะ


แอบคิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ

เมฆเนียนหรือเปล่าคะ

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
  แงงง  น่ารักกันมากๆเลย เราว่าคราวนี้เมฆ น่าจะเป็นฝ่ายเข้ามาจีบรึเปล่าน๊าาา 

ออฟไลน์ nut2557

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ไอ้พี่เชดดดดดดดดดด ต้องเมาแล้วเผลอหลุดแน่ๆ พี่มึงเอ้ยย ถ้าไม่ได้ตายดี ก็ได้เป็นเทวดาอุ้มสม แบบเมาๆอ่ะ  :heaven

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
อ่านไปๆ ก็แอบคิดว่า เมฆนี่ไม่ธรรมดาแล้วละ เผลอๆ การมาเจอกันระหว่างเดินทางท่องเที่ยวนี่ก็เป็นแผนส่วนหนึ่งของเมฆนั่นเอง! อยากให้เป็นอย่างนั้นนะคะ แต่เราคงมโนไปเอง เอาเป็นว่าขอตามติดอยู่ห่างๆ เพื่อคอยสังเกตว่าตาเมฆจะมาไม้ไหน แล้วปลายหญ้าของเราจะโดนจับกินหมดตัวเมื่อไหร่ หุหุ

ขอบคุณคุณดารินสำหรับอัปเดตนี้นะคะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
มีพ่อสื่อดี  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
น่ารักจังเกือบโป๊ะแตก กลับไปพี่เชษฏร์เละจ้า

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46




ตอนที่ 7
จุดเริ่มต้นและความคุ้นเคย



เพราะความเย็นของอากาศทำให้ผมลืมตาตื่น เสียงลมหายใจของคนข้างๆ ยังสม่ำเสมอ เป็นอีกครั้งที่ผมหนุนหมอนใบเดียวกับเมฆ ศีรษะซบอยู่ใกล้กัน มือของอีกฝ่ายพาดวางอยู่ที่เอว ผมขยับตัวออกช้าๆ เลิกตกใจกับสภาพที่เกิดขึ้นคล้ายกับคุ้นชินมันไปแล้ว

ผมนอนมองใบหน้าของเมฆในแสงสลัวจากไฟข้างนอก อดขำตัวเองไม่ได้ที่ตกหลุมรักผู้ชายมาดเซอร์คนนี้ ไม่มีสัญญาณเตือนภัยเลยสักนิดว่าความรักครั้งแรกของผมจะเกิดกับผู้ชาย มานึกย้อนดูแล้วทุกอย่างน่าจะเริ่มต้นจากคืนที่ไปออกค่าย เป็นครั้งแรกที่ผมรับรู้ถึงการมีอยู่ของเมฆ แต่ก็เป็นเพียงความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเพื่อนร่วมคณะเท่านั้น ตามมาด้วยวันประกาศคะแนนสอบ มันทำให้ผมเริ่มคุ้นเคยกับใบหน้าของเมฆ เริ่มคุ้นเสียงและความใจดีของอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ใช่จุดเริ่มต้นของความรัก ผมคิดน่าจะเริ่มจากวันนั้นมากกว่า
   
มันเป็นวันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายนที่อากาศเย็นกว่าปกติ ท้องฟ้าครึ้มคล้ายจะมีฝนหลงฤดู พลอยทำให้บรรยากาศดูอึมครึม ผมเลิกเรียนในเวลาสิบเจ็ดนาฬิกา และพบว่านอกตึกเรียนไม่ได้ดูเศร้าเหมือนบรรยากาศ
   
ต้นไม้ถูกประดับไปด้วยดวงไฟหลากสี ร้านรวงที่ทำจากซุ้มไม้ไผ่กระจายไปทั่วบริเวณคณะ ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและเสียงหัวเราะ ผมหลงลืมไปเลยว่ามันคือวันลอยกระทงเพราะไม่เคยสนใจสักครั้ง เว้นครั้งนี้ที่บรรยากาศรอบตัวทำให้รู้สึกเหงาขึ้นมา

คำถามหนึ่งแวบขึ้นมาในหัว เดินเล่นหรือกลับ ผมยิ้มเศร้าเมื่อรู้คำตอบดี เดินคนเดียวจะไปสนุกอะไร เพื่อนสนิทผมสองคนมีแฟนแล้วเรียนอยู่มหา’ลัยอื่น และนี่คงเป็นสาเหตุให้ทั้งคู่โดดเรียนวิชาสุดท้าย

“ยืนตรงนี้มันอันตรายนะ”

ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มดังมาจากด้านหลัง มันใกล้มากจนตกใจ เมื่อหันกลับไปมองจึงเห็นเมฆยืนอยู่พร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งมาให้

“โทษที” ผมขยับตัวหลบ ลืมว่าตัวเองหยุดยืนกลางประตูทางออกพอดี

“เหมือนไม่ได้เจอกันนานอยู่คณะเดียวกันแท้ๆ”

“อืม” ผมแปลกใจที่เมฆชวนคุย แต่ไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายคิดว่าไมได้เจอกันนาน ทั้งที่ผมเจอหน้าเมฆเกือบทุกวัน แม้บางวันจะแค่เดินผ่านกันก็ตาม

“ไปเที่ยวหรือเปล่า”

“ไปไหน” ผมทำหน้างงเมื่ออีกฝ่ายถามสั้นจนไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร

“งานลอยกระทงไง” เสียงของเมฆกลั้วหัวเราะ ดวงตาที่มองมาเป็นประกายขำ

“อ๋อ” ผมพยักหน้า ไม่รู้ตัวสักนิดว่าดวงตาของตัวเองเศร้าลง “เปล่า ไม่ได้ไป”

“เป็นอะไร”

“หือ?” ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับเมฆ เลิกคิ้วขึ้นพราะแปลกใจคำถามของอีกฝ่าย

“นายดูเศร้าๆ”

“เปล่า” ผมปฏิเสธแต่กลับถอนหายใจออกมา “เหงามั้ง สงสัยเพราะอากาศมันอึมครึมน่ะไม่มีอะไร”

“ไม่ได้นัดใครไว้ใช่ไหม”

“เปล่า....เดี๋ยว!! จะไปไหน” ผมร้องด้วยความตกใจเมื่อเมฆคว้าข้อมือดึงให้เดินตาม

“เดินเล่น”

“แต่..”

“ไม่ได้รีบไปไหนไม่ใช่เหรอ อากาศดีๆ แบบนี้อย่าเพิ่งรีบกลับเลย”

ใจผมอยากปฏิเสธแต่ร่างกายกลับเดินตามเมฆไปเรื่อยๆ

Rrrrr

เมฆปล่อยแขนผมเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เจ้าตัวล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบโทรศัพท์ออกมากดรับ

“โทษทีว่ะไปไม่ได้แล้ว”

“นายอยู่ด้วยมีเหรอจะไม่สนุก ฝากขอโทษคนอื่นด้วยแล้วกัน”

“เอาน่าเดี๋ยวคราวหน้าเลี้ยง”

“อืม ไว้เจอกัน”


เมฆกดวางสายก่อนยัดโทรศัพท์กลับลงไปในกระเป๋า หันมาส่งยิ้มให้ผม

“หิวหรือเปล่า ได้ยินพี่แป้งบอกว่าจะออกซุ้มทำแฮมเบอร์เกอร์หมูคุโรบุตะขาย ท่าทางน่าอร่อยไปอุดหนุนกัน”

“มีนัดไม่ใช่เหรอ” ผมถามเพราะได้ยินบทสนทนาเต็มสองหู ถึงจะฝ่ายเดียวก็ตาม

“เปล่า” ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายเจ้าเล่ห์ “ตอนนี้ไม่มีแล้ว”

“จะดีเหรอ”

“ก็นายทำหน้าแบบนั้นใครจะปล่อยให้อยู่คนเดียวได้” รอยยิ้มและดวงตาที่มองมาอบอุ่น มันอบอุ่นจนหัวใจของผมเต้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“หน้าแบบไหนกันเล่าคิดมากไปเอง” ผมหลุบสายตาลงมองพื้น เกิดอาการเงอะงะขึ้นมา รู้สึกเหมือนใบหน้ากำลังจะร้อนผ่าว

“ฉันคิดมากไปเองก็ได้ แต่กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องไม่รู้เหรอ ไปกันเถอะ” เมฆจับข้อมือผมดึงให้ออกเดิน ความร้อนจากมือของเมฆคล้ายจะพุ่งเข้าจู่โจมหัวใจ


“ลอยกระทงไหม” เมฆถามหลังจากเดินเล่นจนทั่วงาน เวลาล่วงเลยไปถึงสองชั่วโมง

“ไม่” ผมปฏิเสธทันที “มันจะกลายเป็นขยะทำให้น้ำในสระเน่า”

เมฆพยักหน้าช้าๆ ริมฝีปากจุดรอยยิ้ม “นายเป็นคนจริงจัง”

“อืม” ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไง คำว่า ‘จะจริงจังไปไหนวะ’ เป็นคำที่เข้าหูผมบ่อยที่สุด

“ถ้าเป็นเพื่อนนายเร็วกว่านี้สิบวัน ฉันก็น่าจะเป็นคนดีมากขึ้นสิบวัน”

“หือ?”

“เปล่าไม่มีอะไร ไปขอขมาพระแม่คงคากัน”

“ไม่ลอย?” ผมย้ำความตั้งใจอีกครั้ง

“มาเถอะ” เป็นอีกครั้งที่ข้อมือผมถูกดึง เมฆเดินนำไปยังสระน้ำของมหา’ลัย เจ้าตัวนั่งลงริมสระน้ำทำให้ผมต้องนั่งตาม เมฆยกมือขึ้นไหว้ก่อนหลับตาลงผมถึงเข้าใจ ผมทำตามบ้าง ขอขมาพระแม่คงคาเท่าที่พอจะคิดคำพูดออก ผมเอามือลงแล้วแต่เมฆยังไหว้อยู่ ผมจึงลอบมองใบหน้าของอีกฝ่าย ริมฝีปากผุดรอยยิ้มบาง ผมพูดโดยไม่มีเสียงออกมา ขอบใจนายมากนะที่อยู่เป็นเพื่อน

“ตื่นนานแล้วเหรอ” เสียงทุ้มทำให้ผมหลุดจากภวังค์ ผมลุกขึ้นนั่ง พยักหน้าโดยไม่พูดอะไร

“อยากนอนเล่นหรือจะออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น”

“ผมจะออกไปถ่ายรูป เมฆจะนอนต่อก็ได้นะ”

“ไม่ล่ะเดี๋ยวหญ้าเหงา”

“จะเหงาทำไม” ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ขำคำพูดของอีกฝ่าย

“นั่นสิ” เมฆสอดมือเข้าใต้คอ สบตากับผม “ทำไมผมชอบคิดว่าหญ้าเหงา”

“ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเมฆทำไมถึงคิดแบบนั้น” ผมถามกลับ

“มันอาจจะเป็นเพราะว่า..” เมฆหยุดพูด มองตาผมด้วยดวงตาเป็นประกาย “จริงๆ แล้วคนที่เหงาเป็นผมเองก็ได้”

ผมสบตากับเมฆนิ่ง ก่อนถอนหายใจออกมา “จะให้เชื่อจริงเหรอ”

“ฮ่าๆ” เมฆหัวเราะเสียงดังยันตัวลุกขึ้นนั่ง ยังคงมองมาที่ผม

“หรือไม่ก็เป็นเพราะว่า..” ดวงตาคู่นั้นอ่อนแสงลง “ผมชอบอยู่กับหญ้าก็ได้มั้ง”

หัวใจเจ้ากรรมทำไมถึงเต้นแรงแบบนี้ แรงจนผมต้องหลบสายตาของเมฆ

“เดี๋ยวฟ้าก็สว่างก่อนไปแปรงฟันได้แล้ว”

“ครับผม” ร่างสูงยกยิ้มกว้าง หยิบข้าวของส่วนตัวก้าวออกไปยืนรอผมนอกเต็นท์ ผมเลยพอได้หายใจหายคอเพื่อปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ใจหนอใจจะโอนเอียงเข้าข้างตัวเองทีละนิดแบบนี้ไม่ได้นะ


“ถ่ายรูปด้วยกันไหม”

ผมชะงักนิ้วที่กดชัตเตอร์หันกลับไปมองเมฆที่ยืนเยื้องอยู่ทางด้านหลัง

“ตั้งแต่มาเที่ยวเรายังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลย”

“ก็ได้ เดี๋ยวขอพี่ผู้ชายคนนั้นถ่ายให้” ผมมองไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่พักอยู่เต็นท์ใกล้ๆ กัน ทำให้คุ้นหน้าคุ้นตากันดี

“ไม่เป็นไรใช้โทรศัพท์ก็ได้” เมฆเดินเข้ามายืนข้างผม ชูโทรศัพท์ในมือขึ้น

“ห่างไป”

“...”

เมฆละสายตาจากโทรศัพท์หันมามองเมื่อผมไม่ยอมขยับตัว มือที่ว่างอยู่โอบมารอบเอวดึงเข้าไปชิด ใบหน้าของผมร้อนผ่าวเพราะมือข้างนั้นไม่ยอมปล่อย

เมฆกดไปสองสามภาพ เมื่อได้ภาพที่ต้องการแล้วถึงปล่อยมือ ขาของผมแทบหมดแรง ยังดีที่ฝืนตัวเองเอาไว้ได้

“หญ้า”

ผมเงยหน้าขึ้นได้ยินเสียงชัตเตอร์ดัง เมฆลดโทรศัพท์ในมือลง ดวงตาที่มองมาติดรอยยิ้มอ่อน

“สวย”

ผมเลิกถามแล้วว่าหมายถึงอะไร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมฆยกโทรศัพท์ถ่ายผม ทุกอย่างย่อมผ่านการเรียนรู้และคุ้นเคย เหมือนกับที่ผมคุ้นเคยกับการมองหาเมฆหลังจากวันนั้น เพียงแค่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้ๆ ก็ทำให้หัวใจเต้นแรงได้แล้ว แม้ไม่ค่อยได้คุยกันบ่อยนักก็ตาม


“ไปไหนต่อดี มีเวลาอีกอีกสามคืนสี่วัน”

สมองผมทำงานอย่างหนักเมื่อได้ยินคำถามจากเมฆ ซีกหนึ่งบอกให้ตอบไปว่าเปลี่ยนใจแล้ว จะเที่ยวอีกคืนเดียวแล้วกลับเลยเพื่อเซฟหัวใจตัวเอง อีกซีกหนึ่งบอกว่าใช้เวลานี้ให้คุ้มค่าเพราะอาจหาไม่ได้อีกทั้งชีวิต

“หญ้า?”

“ผมไมได้คิด กะว่าจะนอนอยู่รีสอร์ท อ่านหนังสือ เดินเล่นแค่นั้น” ผมแบ่งรับแบ่งสู้ไปก่อน กะไว้ว่าเดี๋ยวค่อยบอกว่าจะกลับ

“ผมลืมไปเลย! หญ้าบอกจะมานั่งเล่นนอนเล่นใช่ไหม ผมดันพาตะลอนซะทั่วโทษที”

“ไม่เห็นต้องขอโทษเลย ผมควรขอบคุณมากกว่า ถ้ามาคนเดียวก็คงไม่ได้ขึ้นมาเห็นวิวสวยๆ แบบนี้”

“ถ้าอย่างนั้นผมพาหญ้าเที่ยวเอง ไว้ใจได้เลย”
จบแล้วสินะ ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้ว ผมลอบถอนใจเบาๆ อย่าไปใส่ร้ายว่าเมฆบังคับเลย ผมรู้อยู่แก่ใจว่าเพราะอะไรถึงไม่ปฏิเสธ

“เก็บของกันเลยไหม เดี๋ยวลงไปแล้วผมจะหาร้านกาแฟดีๆ ให้หญ้าแวะ อยู่บนนี้สองวันคงคิดถึงกาแฟสดแล้ว”

“อืม” ผมพยักหน้า จมูกเหมือนได้กลิ่นหอมของกาแฟลอยมา เมฆหัวเราะขำเมื่อเห็นสีหน้าของผม มือใหญ่วางลงบนศีรษะ จับโยกเบาๆ ก่อนปล่อย คนรู้ใจที่ไม่ใช่คนรู้ใจหน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง

• • • • •

“เมฆ”

“หือ?”

“รู้ได้ยังไงว่าผมติดกาแฟสด” ผมนึกได้เมื่อยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม
   
“มีคนบอก”
   
“อ๋อ” ผมเลิกถามต่อเพราะคิดว่าเป็นพี่เชษฐ์แน่ ในเมื่อเจ้าตัวเพิ่งสารภาพว่าเผลอพูดถึงผมกับเมฆ
   
“ยิ้มอะไร” ผมเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นรอยยิ้มและดวงตาพราวระยับของเมฆ
   
“กาแฟอร่อยดี”
   
“เห็นด้วย ชงได้พอดีมาก”
   
ผมยกกาแฟขึ้นดื่ม เห็นด้วยกับเมฆว่าเป็นกาแฟที่อร่อยมาก แต่ไม่ใช่เพราะรสชาติอย่างเดียวหรอก เพราะคนที่นั่งตรงหน้าด้วย ผมตัดสินใจได้ในที่สุดว่าจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่า เก็บความรู้สึกดีๆ เอาไว้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างมัน


:::: ♥ TBC ♥::::
** สปอย
.
.
.
เหลือตอนหน้าอีกตอน หลังจากนั้นก็จะได้รู้ความรู้สึกฝั่งเมฆแล้ว ^^

  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2019 16:41:09 โดย darin »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด