{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก (แจ้งข่าวตีพิมพ์นิยายหน้า3)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก (แจ้งข่าวตีพิมพ์นิยายหน้า3)  (อ่าน 39733 ครั้ง)

ออฟไลน์ พระสนมฝ่ายซ้าย

  • ❤วั ง ว น ว า ย เ วิ่ น เ ว้ อ❤
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +283/-2
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 10 - up28.6.62
«ตอบ #30 เมื่อ29-06-2019 23:16:20 »

ตามทันแล้วค่า
เอาใจช่วยพี่เพลิงนะคะ สู้เค้าน้า
วันศุกร์เซย์เยสเลยลูก ต้องมีความสุขมากแน่ๆๆๆ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 10 - up28.6.62
«ตอบ #31 เมื่อ30-06-2019 12:40:05 »

 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 10 - up28.6.62
«ตอบ #32 เมื่อ30-06-2019 21:21:17 »

คือนี่ยังไม่ได้คืนดีกันเหรอ...โถ่ลูกกก
แบบนี้มันแฟนกันแล้ววว

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 11 - up1.7.62
«ตอบ #33 เมื่อ01-07-2019 12:40:32 »

11


 
วันศุกร์กำลังนั่งขมวดคิ้วอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ความคิดที่จะไปเที่ยวสิ้นปีมันผุดขึ้นมาแบบเอาจริงเอาจังตอนที่รู้ว่าพอจะมีวันว่างอยู่สามสี่วันสำหรับพักผ่อน เขาได้ยินต้นน้ำบอกว่าอยากไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ ตอนนี้หน้าจอคอมพิวเตอร์เลยเป็นรูปดิสนีย์แลนด์ที่ฮ่องกง

“เอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้แล้ว ล้างรถมาให้ด้วย”

“พี่โมเอาบิลมาด้วยใช่มั้ยครับ”

“เปล่า”

“อ่า...”

วันศุกร์หันหน้ามองผู้จัดการส่วนตัวที่เดินหอบถุงแบรนด์แพงๆ พะรุงพะรังเข้ามาในห้อง พี่โมทิ้งต้นน้ำไว้กับเขาตั้งแต่เช้าโดยอ้างว่าจะเอารถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแป๊บเดียวก็จะกลับมา แต่นี่ก็ปาไปเกือบบ่ายแล้ว ดูก็รู้ว่าหนีไปซื้อของใช้ส่วนตัวมาชัดๆ

“พี่โม ผมขอดูสมุดบัญชีหน่อยครับ”

คนตัวเล็กเดินเข้าไปช่วยพี่โมถือของเช่นเดียวกับต้นน้ำ วันศุกร์ที่หาเงินได้เป็นกอบเป็นกำมาตลอดปีอยากรู้แล้วว่าเงินในบัญชีของเขาตอนนี้มีเท่าไหร่ ที่แน่ๆ มันน่าจะต้องอยู่ในหลักสิบล้าน เขาลองคำนวณจากค่าตัวที่ได้ในแต่ละงานคร่าวๆ แล้ว

“ดูทำไม”

“ช่วงปีใหม่ผมจะพาต้นน้ำกับพี่โมไปเที่ยวฮ่องกงครับ แล้วก็อยากบริจาคเงินให้เด็กด้อยโอกาสด้วย”

“ไร้สาระว่ะ จะไปเที่ยวให้มันเหนื่อยทำไม ว่างนักเหรอแกอ่ะ” จู่ๆ พี่โมก็ขึ้นเสียงแข็งๆ ใส่จนคนฟังหน้าจ๋อย “แล้วบริจาคเงินให้เด็กด้อยโอกาสอะไร ภาพลักษณ์แกก็ดีจนคนจะไล่ให้ไปบวชอยู่แล้ว จะสร้างภาพอะไรอีกวันศุกร์”

“พี่โม ผมไม่ได้จะสร้างภาพ แต่ผมอยากทำบุญจริงๆ”

เขารู้ข่าวจากปันว่าคุณแม่จะเดินทางไปช่วยเหลือเด็กภาคเหนือช่วงหลังปีใหม่ ปันมาบอกบุญเขาเลยรู้สึกอยากจะช่วยเหลือเงินกับข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ด้วยเหมือนกัน วันศุกร์เอียงหน้าขมวดคิ้วแน่น มองพี่โมที่กำลังกอดอกมองเขาอย่างหัวเสีย

ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องโกรธขนาดนั้นทั้งๆ ที่เพิ่งกลับมาคุยดีๆ กันได้ไม่กี่วัน

ครั้งที่แล้วเรื่องรถ ครั้งนี้เรื่องเงิน

“ไหนบอกว่าจะเก็บเงินไง ใช้เงินแบบนี้ก็ทำงานไปไม่ต้องพักดีมั้ย พี่จะได้ยัดงานให้อ้วกแตก”

“พี่โม ผมไม่ไปก็ได้ แต่ขอดูบัญชีหน่อยแล้วกันครับ”

บอกปัดไปแบบนั้นแต่ในใจก็ยังไม่ทิ้งเรื่องเที่ยวกับบริจาคอยู่ดี ตอนแรกวันศุกร์ไม่ได้อยากจะยุ่งกับรายการบัญชีและเงินของตัวเองที่ฝากไว้กับพี่โมเท่าไหร่

เขาปล่อยผ่านไปก็ได้ แต่พอเห็นท่าทางยึกยักของอีกฝ่ายมันทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมาในหัว

“ตอนนี้พี่เหนื่อยมาก ขอพักก่อนได้ป่ะ”

“สมุดบัญชีอยู่ไหนครับ เดี๋ยวผมไปหยิบเองก็ได้”

“นี่แกจะอะไรนักหนาวะ ก็บอกอยู่ว่าเหนื่อย ฉันเพิ่งได้นอนตอนตีสี่ แกปลุกตั้งแต่เช้าให้เอารถเข้าศูนย์ เห็นใจกันบ้างดิ”

คนที่ถูกโมโหใส่ก็เริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาแล้วเหมือนกัน วันศุกร์หายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนจะก้มหน้ามองหลานชายที่ยืนตาแป๋วกอดขาแม่

บางทีเขาก็อยากจะตะโกนใส่หน้าพี่โมเหมือนกันที่เอาแต่โทษเขาอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็ไม่อยากทำให้หลานตกใจ

ทะเลาะกันทีไรก็เป็นแบบนี้ โยนเรื่องทุกเรื่องให้เป็นความผิดของเขาตลอด

“พี่โมนอนตอนตีสี่เพราะออกไปเที่ยวมาไม่ใช่เหรอ เอารถของผมไปใช้พี่โมก็ต้องดูแลมันถูกแล้วนี่”

“...”

“แล้วพี่ทำอะไรกับใครบนรถผม อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ”

หลายครั้งแล้วแหละที่เห็นซากถุงยางกับคราบขาวๆ ที่พื้นรถ วันศุกร์ยังแปลกใจอยู่เลยว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ห่วงลูกบ้างหรือไง แล้วไหนที่บอกว่าจะไปรับลูกกลับจากโรงเรียนนั่นอีก

เขาเพิ่งรู้จากปากพี่เลี้ยงว่าพี่โมไม่เคยไปรับต้นน้ำเลยสักครั้ง แต่ก็ยังโกหกกันซึ่งๆ หน้า

“หวงนักก็เอาคืนไป ฉันก็ไม่ได้อยากจะขับรถของแกนักหรอก” พูดจบรีโมทรถก็ถูกปาใส่หน้าอย่างจัง

วันศุกร์หลบไม่ทันเลยโดนพวงกุญแจตรงส่วนที่เป็นเหล็กฟาดเข้ากับสันจมูกอย่างจังจนต้องยกมือขึ้นมากุมไว้ คนตัวเล็กกะพริบตาถี่ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ยืนมองพี่สาวของตัวเองกระชากแขนลูกชายขึ้นมาอุ้มเดินหนีเข้าห้อง

วันศุกร์ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม ถอนหายใจให้กับความเหนื่อยจากเรื่องในครอบครัวที่คงจะเป็นปัญหาเหมือนกันทุกบ้าน ทุกวันนี้เหมือนกับว่าวันศุกร์ทำงานคนเดียวด้วยซ้ำไป

น้อยครั้งมากๆ ที่พี่โมจะคอยเคลียร์งานหรืออำนวยความสะดวกในฐานะผู้จัดการ เป็นเขาเองทั้งนั้นที่ต้องจัดการกับเรื่องพวกนี้

ยังไม่รู้หรอกว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับพี่โมหรือเปล่า แต่เขารู้สึกแปลกๆ...

Plerng: คืนนี้ว่างมั้ย

เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นในตอนที่วันศุกร์หยิบโทรศัพท์มาปลดล็อกหน้าจอพอดี ข้อความของใครบางคนทำให้วันศุกร์คลายคิ้วที่ขมวดอยู่ออกได้ คนตัวขาวถอนหายใจยาวๆ อีกครั้ง เม้มปากพลางอ่านข้อความนั้นซ้ำๆ ในหน้าแชตของคุณชายทรงเพลิง

Friday: คุณชาย : (
Plerng: เป็นอะไร
Friday: เหมือนผมจะเครียดเลยครับ
Plerng: ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน
Friday: ผมอยู่ที่ห้อง
Plerng: ครับ
Plerng: เดี๋ยวผมโทรหา

ยังไม่ทันถึงห้าวินาทีโทรศัพท์ของวันศุกร์ก็สั่นเพราะมีสายเข้า วันศุกร์ไม่ลังเลที่จะกดรับสายเดี๋ยวนั้นเพราะเขาเองก็อยากได้ยินเสียง อยากคุยกับคนที่โทรเข้ามาเหมือนกัน

“คุณชายไม่ได้ยุ่งอยู่เหรอครับ”

(ไม่ครับ ผมพักสายตาอยู่)

“อ่า”

(คุณเป็นอะไรหรือเปล่า)

วันศุกร์หลับตาลงพร้อมกับคลี่ยิ้มบางๆ ...เขาชอบเสียงทุ้มที่ดังผ่านโทรศัพท์ของคุณชายทรงเพลิงมากจริงๆ ถึงจะไม่ได้นุ่มนวลมากนักแต่ก็ทุ้มติดแหบนิดๆ ซึ่งมันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณชายเขาเลย และที่สำคัญไปกว่านั้น...เสียงของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงทำให้วันศุกร์หายเครียดได้

“นิดหน่อยครับ แต่ตอนนี้ผมโอเคแล้ว”

(ครับ)

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไม่ได้คาดคั้นอยากรู้ว่าเขาไปเจออะไรมาถึงได้รู้สึกเครียด คุณชายเขาไม่เคยบังคับให้พูดอยู่แล้วถ้าวันศุกร์ไม่พร้อมที่จะเล่า เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เหมือนกับว่าอีกฝ่ายจะไม่ก้าวก่ายเรื่องที่เขายังไม่พร้อมให้รับรู้

(สรุปคืนนี้คุณว่างมั้ย)

“จะชวนไปไหนเหรอครับ”

(ห้องผม)

คำตอบตรงไปตรงมาแบบนั้นเล่นเอาเอาวันศุกร์ทำหน้างง คนตัวเล็กลุกขึ้นเดินเข้าห้องแล้วล็อกประตูเสร็จสรรพ ที่หนีเข้ามาแบบนี้ก็เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้พี่โมกำลังแอบเอาหูแนบประตูฟังเขาคุยโทรศัพท์อยู่หรือเปล่า

“เอ่อ นี่คุณชายชวนคนอื่นเข้าห้องตัวเองแบบนี้เป็นปกติหรือเปล่า”

(ทำไม ผมพูดอะไรผิด)

“ก็...ยังต้องถามอีกเหรอครับ”

(ทำไมคุณต้องเข้าใจอะไรยาก)

“นี่ คุณชายนั่นแหละที่เข้าใจยาก”

(ผมเข้าใจอะไรยากครับ)

“ช่างเถอะครับ...คืนนี้ผมว่าง คุณชายจะชวนไปห้องจริงๆ เหรอครับ”

ถามไปอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าคุณชายเขาไม่ได้พูดเล่น สถานที่นัดเจอกันที่อื่นออกจะเยอะแยะ แต่กลับชวนไปเจอกันที่ห้องแบบนี้...เป็นใครก็ต้องตกใจหรือเปล่าล่ะ

(ใช่ ผมอ่านเจอ เขาบอกว่าคืนนี้จะมีฝนดาวตก)

“ถึงมีจริงๆ ก็คงมองไม่เห็นหรอกครับ”

(ลองมาดูก่อนได้มั้ย]

“...”

วันศุกร์เม้มปากแน่น อมยิ้มอยู่คนเดียวให้กับความพยายามของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเพนต์เฮ้าส์ใหญ่ๆ มีอะไรดีนักหนาคุณชายเขาถึงได้มาชวนกันขนาดนี้

“ได้ครับ กี่ทุ่มดี อืม...จริงๆ ตอนบ่ายสามโมงผมมีงานที่ห้าง เลิกประมาณทุ่มนึง”

(ตอนคุณทำงานเสร็จก็ได้ เดี๋ยวผมไปรับ)

“งั้นผมไม่เอารถไปนะ”

(ครับ)

ถึงจะกลับมาคุยกันดีๆ แต่บอกตามตรงว่าตอนนี้ยังไม่มีสถานะจริงๆ จังๆ ให้กันหรอกนะ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่บอกว่าจะขอคืนดีกับเขาก็ยังอยู่ในสถานะแฟนเก่าเหมือนเดิม

ยังไม่ได้ข้ามขั้น พวกเขาอยู่ในระดับที่ไม่ได้รีบร้อนก่อความสัมพันธ์

ให้มันเป็นไปตามอารมณ์ เรื่อยๆ ตามความต้องการของหัวใจ

โทรคุยกันบ้าง วันไหนถ้าคุณชายเขาว่างก็จะมานั่งรอวันศุกร์ที่กองถ่าย นัดเจอกันแบบนี้บางครั้ง ถึงจะไม่ได้เจอหน้ากันทุกวันหรือตัวติดกันเหมือนเมื่อก่อน แต่ที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันก็ดีกว่าเดิมมากๆ แล้ว

“เมื่อคืนนอนดึกมั้ยครับ”

(นิดหน่อย)

“ผมบอกแล้วว่าอย่ารอ...รู้สึกผิดเลยนะเนี่ย”

(ไม่ใช่ความผิดคุณ ผมอยากรอเอง)

“เฮ้อ”

พูดถึงเรื่องเมื่อคืนที่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไปรอวันศุกร์ที่กองถ่ายอีกแล้ว และก็เป็นการถ่ายมาราธอนเหมือนเดิมจนเกือบโต้รุ่ง

วันศุกร์บอกให้คุณชายเขากลับไปก่อนแล้วจริงๆ แต่เพราะว่าคุณชายทรงเพลิงรู้ไงว่าวันศุกร์ไม่ได้เอารถยนต์ส่วนตัวมา คนที่บอกว่าจะขอคืนดีด้วยเลยนั่งเฝ้าในกองถ่าย หลับแล้วหลับอีกเขาก็ยังถ่ายละครไม่เสร็จ

เลยทำให้วันศุกร์รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงพักผ่อนไม่เพียงพอ

“คุณชายเหนื่อยมั้ย”

(ไม่เหนื่อยครับ)

“ไว้ผมจะทำอาหารขอโทษนะครับ...คืนนี้เลยดีมั้ย ขอยืมพื้นที่ครัวคุณชายหน่อย”

(ซื้อสำเร็จรูปเข้ามากินง่ายกว่า)

“โห่”

(แต่ถ้าคุณอยากทำก็ได้ เดี๋ยวผมซื้อของเตรียมไว้ให้)

“ไม่เอานะคุณชาย แบบนั้นก็กลายเป็นว่าผมทำให้คุณชายเหนื่อยอีกแล้ว”

(เลิกเรียกว่าคุณชายก่อนได้มั้ย ไม่คุ้นหู)

“ฮึ”

เพิ่งจะไม่คุ้นหูอะไรเอาตอนนี้

วันศุกร์ยู่ปากพึมพำปฏิเสธปลายสายพร้อมกับส่ายหน้าไปด้วย คนตัวเล็กล้มตัวนอนบนเตียง อีกไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ต้องไปอาบน้ำเตรียมไปทำงานต่อแล้ว ตอนนี้ยังพอมีเวลางอแงใส่คุณชายทรงเพลิงได้บ้างแหละ

“จะให้ผมเรียกว่าอะไรล่ะครับ เรียกคุณชายก็ถูกแล้วนี่นา...”

(คุณเคยเรียกผมว่าอะไรก็เรียกแบบนั้น)

“ไม่เอาหรอกครับ มันดูไม่ดี”

(ไม่ดีตรงไหน)

“ไม่รู้...อย่าถามผมแบบนี้ได้มั้ย”

(ผมถามเพราะอยากรู้ว่าคุณคิดอะไร จะได้ช่วยกันหาทางออก)

“...”

(เรียกผมว่าเพลิงเหมือนเดิมมันยากตรงไหน)

“ให้ผมกับคุณชายเข้าที่กว่านี้ก่อนดีมั้ยครับ”

(คุณนี่หาข้อแม้เก่ง)

วันศุกร์หัวเราะเบาๆ ให้กับน้ำเสียงแข็งๆ ของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ดังผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่ว่าไม่อยากเรียกคุณชายเขาว่าเพลิงเหมือนเดิมหรอกนะ

อือ ใช่...อยากเรียกจะตาย

“ให้เวลาผมหน่อยได้มั้ยล่ะครับ”

(ผมให้แล้ว)

“หือออ ให้ตอนไหนอ่ะคุณชาย”

(สองปีที่ผ่านมาไงครับ)

คุณชายนี่ย้ำเก่ง ล้ำลึกความหลังเก่งที่หนึ่งเลยมั้งเนี่ย

วันศุกร์ฟุบหน้าลงบนหมอน ไม่อยากให้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงพูดถึงเรื่องเมื่อสองปีก่อนเลย มันเหมือนเป็นปมจี้จุดในใจเขายังไงก็ไม่รู้

“พูดแบบนี้แสดงว่าคุณยังโกรธผมอยู่แน่ๆ”

(ผมโตแล้ว)

“โตแล้วยังไงอ่ะครับ”

(ผมรู้ว่าคุณมีเหตุผล)

“ใช่ ผมมีเหตุผล”

(แล้วเมื่อไหร่คุณจะเล่าเหตุผลให้ผมฟังสักที)

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงน่าเห็นใจมากที่สุดในโลกแล้ว โดนบอกเลิกทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไรแถมคนบอกเลิกไม่ยอมบอกเหตุผลด้วยว่าทำไมถึงต้องยุติความสัมพันธ์เอาไว้แค่นี้

วันศุกร์ถอนหายใจเบาๆ เหตุผลที่เขาขอเลิกกับคุณชายเมื่อสองปีก่อนมันเป็นเพราะเขาเองที่ไม่หนักแน่นพอ และเกิดความกลัวที่เกาะกินในใจตั้งแต่ที่ต้นสังกัดรู้ว่าวันศุกร์มีแฟน

เขายังจำได้ดีว่าวันที่ผู้ใหญ่ของช่องเรียกให้เข้าไปคุยกับพี่ผู้จัดการคนเก่าสถานการณ์มันตึงเครียดมากแค่ไหน

รูปที่มีนักข่าวแอบถ่ายตอนที่เขากับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไปเที่ยวด้วยกัน อยู่ด้วยกัน หรือแม้กระทั่งจูบกันในรถถูกปาใส่หน้าวันศุกร์

หลักฐานชัดเจนขนาดนั้นทำเอาวันศุกร์พูดอะไรไม่ออก

คนตัวเล็กเมื่อสองปีก่อนที่กำลังโด่งดังไม่แพ้ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นเลย ผู้ใหญ่ของช่องยื่นคำขาดว่าเขาต้องตัดความสัมพันธ์กับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง เพื่อชื่อเสียงของช่อง ของตัวเอง

และเพื่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของอีกฝ่ายด้วย...

ต้นสังกัดบอกเขาแบบนั้น และวันศุกร์ก็ถูกพูดกรอกหูทุกวันหลังจากที่ผู้ใหญ่ของช่องปิดข่าวเรื่องภาพหลุดที่ถูกส่งเข้ามา

ช่องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการขอร้องไม่ให้สำนักข่าวนั้นเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเขาเครียดจนปวดหัว นอนร้องไห้ทุกวันตอนที่รู้ว่าพี่ผู้จัดการถูกไล่ออกเพราะการกระทำของเขาเอง

แล้วสุดท้ายสิ่งที่วันศุกร์ทำได้...ก็คือการเดินไปบอกเลิกหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงโดยที่หัวใจยังมีความรักที่มอบให้กับคุณชายล้นอก

ใช่ วันศุกร์ไม่ได้ทำตามที่หัวใจตัวเองเรียกร้อง เขาอยากอยู่กับคุณชายต่อแต่ก็ต้องยุติความสัมพันธ์ลงเพราะความไม่กล้าและความกลัวของตัวเอง

เขาบอกเลิกคุณชายทั้งที่ตัวเองแสร้งฝืนยิ้ม แล้วเดินหันหลังกลับพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

ต่อให้เวลาผ่านไปกี่ปีหรือนานแค่ไหน วันศุกร์ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดีที่ในตอนนั้นไม่กล้าทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

แต่ตอนนี้ มันเปลี่ยนไปแล้ว

“คุณชาย”

(ครับ)

“สัญญากับผมก่อนว่าจะไม่โกรธ”

(ผมไม่เคยโกรธคุณ)

“ผม...”

(พูดมาครับ ผมฟังอยู่]) เสียงทุ้มเปล่งออกมาอย่างนุ่มนวลจนคนฟังหัวใจกระตุก วันศุกร์รับรู้ได้ว่าหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงกำลังอ่อนโยนกับเขาผ่านโทรศัพท์เพราะน้ำเสียงอบอุ่นจากปลายสาย

วันศุกร์ยิ้มกว้าง มันคงเป็นอีกครั้งในรอบสองปีที่เขาจะได้ทำในสิ่งที่หัวใจเรียกร้องสักที
 



[มีต่อด้านล่างนะคะ]


ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 11.2- up1.7.62
«ตอบ #34 เมื่อ01-07-2019 12:41:30 »








บรรยากาศในค่ำคืนนี้ยังไงก็ไม่เหมาะกับการดูฝนดาวตกเพราะฝนตกหนักมาก

วันศุกร์แหงนหน้ามองท้องฟ้ามืดๆ ตั้งแต่ออกจากห้างจนกระทั่งถึงเพนต์เฮ้าส์สุดหรูของคุณชายยังไม่เจอฝนดาวตกสักนิด แล้วก็ต้องมานั่งขำให้กับคำสารภาพของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงว่าข่าวที่อ่านเจอมามันเป็นข่าวตั้งแต่ปีที่แล้ว

แล้วสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะซื้อของเข้ามาทำมื้อค่ำเป็นการขอโทษที่ทำให้คุณชายต้องเหนื่อยสำหรับทุกๆ เรื่องก็ถูกพับเก็บเข้ากรุเพราะแวะกินมื้อค่ำที่ร้านอาหารมาแล้ว ตอนนี้ก็เท่ากับว่าไม่มีอะไรทำ

วันศุกร์ยังสงสัยตัวเองอยู่เลยว่าจะทำไมถึงยังอยู่ในห้องของคุณชายทั้งๆ ที่จะกลับบ้านก็ได้

“บัญชีฝากเช็คค่าตัวมาให้คุณ”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยื่นเช็คค่าตัวให้คนผิวขาวที่นั่งตีขาในสระว่ายน้ำ ทำตาแป๋วๆ มองเม็ดฝนเกาะกระจกซึ่งก็เป็นภาพที่ทำให้เขาหลุดยิ้ม ความจริงเช็คใบนี้วันศุกร์หรือผู้จัดการต้องเข้าไปรับเองที่บริษัท แต่เผอิญว่าเขาเพิ่งได้เซ็นอนุมัติเมื่อตอนบ่ายพอดี เลยอาสาเอามาให้วันศุกร์เองกับมือ

“งวดแรกใช่มั้ยคุณชาย ขอบคุณนะครับ”

คนตัวเล็กยิ้มกว้างตอนที่เห็นเช็คกับจำนวนเงินในนั้น แต่ผิดกับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ทรุดตัวนั่งยองๆ ข้างวันศุกร์แล้วขมวดคิ้วทำหน้ายุ่ง

“ผมจ่ายเช็คงวดแรกไปแล้ว นี่งวดที่สอง”

“เอ่อ เหรอครับ”

“มีอะไรหรือเปล่า”

“ผมจำได้ว่ายังไม่เคยได้รับเช็คค่าตัวเลย...นี่ครั้งแรก”

ยิ่งคุยกันบรรยากาศมันก็ยิ่งดูน่าอึดอัด วันศุกร์กัดริมฝีปากเบาๆ เขารู้ว่าคุณชายทรงเพลิงคงไม่ได้มาล้อเล่นกันแน่ๆ เพราะมันคือเรื่องเงินเรื่องทอง แล้วอีกอย่างคุณชายเขาก็ไม่ใช่คนขี้เล่นสักหน่อย

“ผมเห็นในใบเสร็จรับเช็ค ผู้จัดการคุณมารับ”

“นานหรือยังครับ”

“หลังเซ็นสัญญาหนึ่งเดือน”

วันศุกร์นั่งนับนิ้ว ถ้าค่าตัวงวดแรกออกตั้งแต่หลังเซ็นสัญญาหนึ่งเดือนก็เท่ากับว่าตอนนี้ผ่านมาสี่เดือนที่เขาไม่รู้เลยว่าได้รับเงินก้อนนั้นมาแล้ว

คนตัวเล็กเริ่มใจไม่ดี ไม่อยากให้สิ่งที่สงสัยอยู่ในตอนนี้เป็นความจริง

“คุณไม่รู้เหรอว่าเช็คออกตั้งนานแล้ว”

วันศุกร์เม้มปากแน่น กลั้นหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะผ่อนออกยาวๆ แล้วพยักหน้าตอบกลับไป

“พี่โมไม่ได้บอกอะไรผมเลย”

“เขาเป็นคนดูแลเรื่องเงินให้คุณเหรอ”

“ครับ”

“คุณไว้ใจเขามากขนาดนั้น?”

“ก็...พี่โมเป็นญาติผม”

“...”

“บางทีพี่โมอาจจะลืมบอก”

“วันศุกร์ คุณไม่ต้องมองโลกในแง่ดีแล้ว”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงทิ้งสะโพกนั่งลงบนพื้นริมสระว่ายน้ำข้างๆ วันศุกร์ เขามองคนตัวขาวที่เอาแต่ก้มหน้ามองเช็คในมือเล็กๆ ของตัวเองไม่วางตา สีหน้าของวันศุกร์แสดงความกังวล ผิดหวังออกมาชัดเจน

“คุณต้องรอบคอบ”

“แล้วผมจะทำยังไงดี วันนี้ผมก็ทะเลาะกับพี่โมเพราะขอดูยอดเงินบัญชี ผมไม่อยากคิดนะครับว่าพี่โมจะทำแบบนี้”

บอกตามตรงเลยว่าพักหลังๆ วันศุกร์ไม่ได้รับรายงานการรับเงินหรือใช้เงินจากพี่โมมาสักพักแล้ว

มันพลาดที่ตัวเองด้วยเพราะรับงานจนหัวหมุนเลยไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องการตรวจสอบรายได้ของตัวเอง แล้วมันก็ชัดเจนไปแล้วห้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าวันศุกร์กำลังถูกยักยอกเงินค่าตัว

“มีอะไรให้ผมช่วยมั้ย”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะกลับไปคุยกับพี่โมเอง”

“ถ้าต้องการทนายบอกผม”

“คุณชาย...มันคงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งครับ”

“คุณรู้มั้ยว่าเช็คงวดแรกเป็นเงินเท่าไหร่”

ค่าตัวโฆษณาที่วันศุกร์เรียกไปกับแบรนด์นี้คือยี่สิบล้านบาท เขานั่งกุมขมับเมื่อรู้ว่าเงินสิบล้านบาทงวดแรกของตัวเองหายวับไปกับตาโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันเคยมีเงินจำนวนนี้อยู่ด้วย

อือ โคตรโง่เลยที่โดนหักหลังได้แบบนี้

“ผมขอลองจัดการเองดูก่อนนะคุณชาย”

“ครับ”

“คุณชาย”

“ว่าไง”

“ผม...ขอกอดคุณชายหน่อยได้มั้ยครับ”

ในความว้าวุ่นสับสน คิดอะไรไม่ออกแบบนี้เขาอยากจะได้กำลังใจจากใครสักคน ดวงตากลมโตจ้องใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายทรงเพลิง วันศุกร์ยกขาขึ้นจากน้ำนั่งชันเข่ารอให้คุณชายอนุญาต

แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ตอบอะไร หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงขยับตัวเข้ามาใกล้คนที่ตัวเล็กกว่าแล้วคว้าไหล่แคบๆ เข้ามากอดไว้แน่น มือหนาลูบแผ่นหลังปลอบประโลม เขากดริมฝีปากบนขมับของวันศุกร์เบาๆ

“ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าต้องเริ่มยังไง ช่วงนี้ผมยิ่งมีปัญหากับพี่โมเรื่องรถอยู่ด้วย” เสียงอู้อี้ดังขึ้น ใบหน้าของวันศุกร์จมไปกับไหล่กว้างๆ ของคุณชาย

“ให้ผมช่วยมั้ย”

“ฮื่อ ผมยังไม่อยากคุยเรื่องนี้...เปลี่ยนเรื่องได้มั้ยครับ”

“มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะวันศุกร์”

“รู้ครับคุณชาย แต่ผม...” วันศุกร์เม้มปาก เขาไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกยังไงดี

“ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด”

วันศุกร์พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะสอดมือโอบรอบตัวหนาของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง

ไม่เอาแล้ว เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องแย่ๆ ตอนที่อยู่กับคุณชาย เขาอยากใช้เวลาดีๆ ไปด้วยกัน ถึงแม้ว่าเรื่องที่วันศุกร์เจอมันจะหนักหนาแค่ไหนก็ตาม

ฝนที่ตกลงมาในตอนนี้ทำให้บรรยากาศมันดูอบอุ่นและโรแมนติกมาก วันศุกร์คลี่ยิ้มบางในอ้อมกอดของคนที่อายุมากกว่า กระจกใสในบริเวณสระว่ายน้ำสะท้อนเงาของเขากับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงกำลังนั่งกอดกันอยู่ตรงนี้

“ผมให้”

“อะไรเหรอครับ”

วันศุกร์ผละใบหน้าที่ซบไหล่กว้างอยู่ออกพร้อมๆ กับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ผละกอดออกเช่นกัน คนตัวเล็กจ้องใบหน้าที่แสนจะดูดีของคุณชายทรงเพลิงด้วยความสงสัย รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏที่มุมปากในตอนที่มือของตัวเองถูกประคองไว้ด้วยมือหนา

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงถอดกำไลหินสีขาวนวลที่ซื้อมาจากวัดออกจากข้อมือแกร่งของตัวเองก่อนค่อยๆ สวมให้คนตัวเล็กที่มีผิวขาวเหมือนๆ กับกำไลหินเส้นนี้ เพราะขนาดข้อมือที่ต่างกันทำให้กำไลหินดูใหญ่กว่าข้อมือของวันศุกร์ แต่ตอนที่เขาใส่มันกลับรัดจนข้อมือเป็นรอย

“ผมไปซื้อมาจากวัด เป็นเครื่องราง”

“อ่า...สวยมากเลยครับ มองดีๆ เห็นแสงสีฟ้าอยู่ในหินด้วย”

วันศุกร์ยกมือขึ้นมาส่องดูกำไลหิน คนตัวเล็กตื่นตาตื่นใจกับสีฟ้าแกมม่วงที่เห็นอยู่ในหินมากจริงๆ ถึงขั้นทำตาโตน่าเอ็นดูในสายตาหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง

“ขอบคุณนะครับคุณชาย”

วันศุกร์ยกมือไหว้ขอบคุณคนแก่กว่าทั้งๆ ที่ในมือยังถือเช็คไม่ยอมปล่อย ก็เช็คใบนี้มีมูลค่าตั้งหลายล้าน วันศุกร์ไม่กล้าให้มันหลุดไปอยู่ในมือคนอื่นแล้ว

คนตัวเล็กชูแขนขึ้นเหนือศีรษะเพื่อดูว่ากำไลหินเส้นนี้มันเหมาะกับตัวเองมากแค่ไหน ก็ไม่เคยคิดว่าจะเป็นคนที่ใส่เครื่องประดับได้ดูดีเหมือนกับคนอื่นเขาเหมือนกัน

วันศุกร์ไม่ค่อยชอบใส่เครื่องประดับเท่าไหร่ เพราะอาชีพของเขามันต้องแต่งตัวตามคอนเซ็ปต์ที่ลูกค้าต้องการอยู่บ่อยๆ เครื่องประดับหรือนาฬิกาแบบไหนที่อยากใส่ก็ต้องถอดออกแล้วใส่ตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น

แต่วันศุกร์สัญญากับตัวเองเลยแหละว่ากำไลหินเส้นนี้เขาจะไม่ถอดออกเด็ดขาด ของที่คุณชายทรงเพลิงให้ดีที่สุดแล้ว

“นั่งดีๆ เดี๋ยวตกน้ำ”

วันศุกร์ที่จู่ๆ ก็ลุกขึ้นนั่งยองๆ โดนคุณชายทรงเพลิงทำเสียงแข็งใส่ วันศุกร์ลุกขึ้นยืนทันทีที่ตัวกำลังจะถูกมือหนาฉุดให้นั่งลง ทำเป็นยืดตัวบิดขี้เกียจต่อหน้าคุณชายเขานั่นแหละ

“เดินเล่นกันมั้ยคุณชาย นั่งอยู่ตรงนี้น่าเบื่อนะเนี่ย”

“เดินเล่นที่ไหน ตอนนี้ฝนตก”

“ก็เดินเล่นรอบสระไงครับ”

พูดไปก็มีท่าประกอบไปด้วย วันศุกร์ชี้นิ้วเรียวไปรอบๆ สระแล้วหันมายิ้มแฉ่งให้คนตัวโต

“ออกไปเดินเล่นที่สกายวอล์กมั้ย”

“ไม่เอาอ่ะครับ ตรงนี้วิวสวยสุดแล้ว”

วิวแม่น้ำเจ้าพระยาในตอนที่ฝนตกมันดีสุดๆ แล้ว สมกับที่เป็นเพนต์เฮ้าส์ราคาแพงเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

คนตัวเล็กหันไปประสานมือกับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เงยหน้ามองคนตัวโตพร้อมกับฉีกยิ้มบางๆ ให้

“คุณชายไม่ยิ้มบ้างเลย ไม่เมื่อยหน้าเหรอครับ”

“ผมต้องถามคุณมากกว่า ยิ้มทั้งวันเมื่อยหน้าบ้างมั้ย”

“ผมไม่ได้ยิ้มทั้งวันนะครับ หน้าบึ้งก็มี”

พวกเขาเดินคุยกันขณะที่ค่อยๆ เดินไปรอบสระ ถึงแม้ว่าวิวของกรุงเทพฯ ในตอนนี้จะดูโรแมนติกมากแค่ไหน แต่วันศุกร์ก็เลือกที่จะมองแค่ใบหน้าของคุณชายทรงเพลิงอยู่ดี มองบ้างเขินบ้าง ไม่เหมือนคุณชายทรงเพลิงเขาหรอกที่ดูจะนิ่งเฉย

“ผมสงสารคนที่ต้องทำงานกับคุณชายจริงๆ ลำบากใจแย่”

“ทำไม”

“ก็ต้องทำงานกับคนที่หน้าตึงๆ อย่างคุณชาย คำพูดก็เย็นชาซะเหลือเกิน นิ่งๆ ดูไม่ค่อยสนใจใคร”

“คุณเกลียดอะไรผมหรือเปล่า”

“เปล่านะครับ ผมแค่พูดให้ฟังไงว่าคุณชายในสายตาคนอื่นเป็นแบบไหน”

“คุณไม่ใช่คนอื่น”

“ก็เพราะว่าผมรู้จักคุณชายมาก่อนไงครับ”

“งั้นผมจะค่อยๆ เปลี่ยน”

“หือ...คือ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้คุณชาย เป็นตัวของตัวเองดีกว่า ถ้าเปลี่ยนได้คงเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนที่ยังคบกันแล้วมั้งครับ”

“ตอนนั้นคุณไม่ได้พูดแบบนี้ ผมเลยไม่รู้”

“ง่ะ กลายเป็นผมทำให้คุณคิดมากหรือเปล่า”

“ไม่ครับ”

วันศุกร์ชะลอเท้าตอนที่เดินมาถึงฝั่งที่เป็นกระจกใสและมองเห็นวิวยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยสายฝน คนตัวเล็กหันหน้ามองหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง ปล่อยมือที่จับกันอยู่ออกก่อนจะเลื่อนไปบีบแก้มของคุณชายเขาแทน

“จริงๆ แบบนี้ก็ดีนะครับ”

“ผมไม่ได้หน้านิ่งตลอด คุณไม่เคยเห็นผมยิ้มเหรอ”

“เคยสิครับ เมื่อกี้คุณชายก็ยิ้ม”

คุณชายเขายิ้มจริงๆ ยิ้มมุมปากบางๆ ที่ทำให้หัวใจของวันศุกร์เต้นแรง

แล้วไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคืนนี้คนที่หล่ออยู่แล้วถึงได้ดูหล่อเป็นพิเศษทั้งๆ ที่คุณชายก็ไม่ได้แต่งเติมอะไรบนใบหน้า ไม่ได้แต่งตัวแปลกตาจากวันอื่นๆ เลยสักนิด ผมสีดำเช็ตขึ้นเป็นปกติ ริมฝีปากชมพูอ่อนๆ ก็เข้ากับใบหน้าของคุณชายเขาเหลือเกิน เชิ้ตขาวที่ปลดกระดุมสองเม็ดกับแขนเสื้อที่ถูกพับขึ้นลวกๆ

ดูยังไงก็ปกติเหมือนทุกวัน

แต่กลับดูดีจนวันศุกร์ไม่อยากละสายตา

แสงไฟสีนวลไม่ได้สว่างจ้าจนแสบตาประกอบกับเสียงฝนทำให้คืนนี้ ตรงนี้ เหมือนกับฉากในละครที่ถูกเซ็ตขึ้นมาเพื่อเข้าฉากพระนาง ถ้าตอนนี้เขากำลังถ่ายละครอยู่ บทต่อมาพระเอกต้องก้มลงมาจูบเบาๆ บนริมฝีปากของนางเอกแล้ว

อือ พอคิดได้แบบนั้น หน้าก็ร้อนขึ้นมาทันที

“ผมขอกอดคุณชายอีกได้มั้ยครับ”

สิ้นเสียงหวาน ร่างของวันศุกร์ก็ตกอยู่ในอ้อมกอดอุ่นทันที คนตัวเล็กอมยิ้มบนไหล่กว้างของคุณชายตอนที่ได้ยินเสียงลมหายใจจากคนตัวสูง

ความอบอุ่นจากกายหนาส่งผลให้แขนเล็กค่อยๆ ยกขึ้นโอบกลับ วันศุกร์เห็นแผ่นหลังของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงผ่านกระจกใสที่ถูกไฟตกกระทบจนเกิดเป็นเงาสะท้อน แผ่นหลังกว้างที่วันศุกร์มักจะชอบเอาหน้าไปแนบตอนเหนื่อยๆ ในช่วงเวลาที่ยังคบกันอยู่...ตอนนี้วันศุกร์ได้สัมผัสมันอีกครั้งแล้ว

“ขอโทษนะครับคุณชาย”

“เรื่องอะไร” แล้วก็ต้องยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อเสียงทุ้มๆ ที่ดังขึ้นไม่ได้เข้มอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเสียงที่นุ่มละมุนหูน่าฟัง

“ทั้งหมดเลยครับ ที่ผ่านมา...”

“ครับ ผมรับคำขอโทษของคุณ”

วันศุกร์ยิ้ม ถึงแม้ว่าจะขอโทษอีกฝ่ายไปแล้วตอนที่เล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังทั้งหมด แต่เพราะความรู้สึกผิดที่มันยังค้างคาอยู่ในใจทำให้วันศุกร์อยากขอโทษเขาอีกครั้ง จนกว่าความรู้สึกแย่ๆ จะหายไป

“คุณไม่ต้องขอโทษผมแล้วนะ”

“ถ้ารู้สึกผิดอีกยังไงผมก็ต้องขอโทษอีก”

“ผมไม่ได้โกรธอะไรคุณ”

“โกรธนิดนึงได้มั้ยอ่ะครับ พอรู้ว่าคุณไม่โกรธผมก็รู้สึกผิดอีกเท่าตัวเลย”

“ก็ได้ ผมโกรธคุณนิดนึง”

“โธ่คุณชาย” คนตัวเล็กยู่ปาก บอกให้โกรธนิดนึงก็โกรธนิดนึงจริงๆ

“พูดคำอื่นบ้างได้มั้ย คุณรู้สึกผิดกับผมอย่างเดียวหรือไง”

“ไม่ครับ คิดถึงคุณชายด้วย”

ความรู้สึกที่เอ่อล้นเต็มอกคือความคิดถึงที่ปนไปด้วยความรู้สึกผิด แต่อ้อมกอดอุ่นๆ ของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็ทำให้วันศุกร์มั่นใจได้แล้วว่าคำขอโทษที่พูดออกไปจากใจจริงมีความหมาย

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไม่อยากได้อะไรนอกจากวันศุกร์ เขารับคำขอโทษของคนในอ้อมกอดไว้แล้วลูบหลังปลอบให้วันศุกร์คลายความกังวล

เขาไม่โกรธจริงๆ เพราะรู้ว่าที่วันศุกร์ทำไปมันมีเหตุผล

“ครับ”

ต่อให้เกิดอะไรขึ้น

“ผมก็คิดถึงคุณ”

เขาจะไม่ยอมปล่อยวันศุกร์ไปอีกแล้ว








#หวนกลิ่นรัก

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 12 - up1.7.62
«ตอบ #35 เมื่อ01-07-2019 12:43:22 »

12






 
Punnathorn: เมื่อกี้กูเดินเฉียดกับคุณชายเพลิงที่เซเว่นอ่ะ
Punnathorn: เขาหิ้วสาวมาเปล่าวะ
Punnathorn: เห็นซื้อถุงยางไปด้วยสามกล่อง สุดยอดดด
Punnathorn: คุณชายดุขนาดนั้นเลยเหรอวะ
Punnathorn: มึง คือกูเขินเขาเลยว่ะ
Friday: ไปยุ่งอะไรกับเขาเนี่ย
Punnathorn: กูก็ยุ่งเก่งแบบนี้แต่ไหนแต่ไรแล้วไง
Punnathorn: แสดงว่าหิ้วสาวจริงๆ ว่ะ เมื่อกี้กูเห็นหยิบพวกแปรงสีฟันไปด้วยอ่ะ
Punnathorn: อยากใส่ใจสาวของคุณชายเลยครับผม
Friday: เกินไปแล้วปัน อยู่เฉยๆ บ้างเหอะขอร้อง

วันศุกร์กัดริมฝีปากนั่งหน้าร้อนอยู่คนเดียวบนเตียงนุ่มในห้องนอนของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง ไหนบอกว่าจะไปซื้อแปรงสีฟันให้ไง แต่ทำไมถึงซื้อถุงยางอนามัยมาด้วยก็ไม่รู้

เหงื่อเม็ดเล็กๆ ไหลตามกรอบหน้าทำเอาคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วอยู่ในชุดนอนตัวใหญ่อยากจะลุกขึ้นไปอาบน้ำอีกรอบ

วันศุกร์เกาหัวเบาๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่ให้ตัวเองตื่นตูมกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ปันบอก จะว่ายังไงดี ถ้าคุณชายเขาซื้อมันมาจริงๆ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกระหว่างเราสองคนสักหน่อย

อือ ใช่ วันศุกร์กำลังบอกให้ตัวเองชินได้แล้ว

Punnathorn: มันไม่ได้มึง มันเป็นสันดานกูไปแล้ว

วันศุกร์ปิดเสียงแจ้งเตือนที่ดังรบกวนสมาธิ กอดเข่าตัวเองแล้วฟุบหน้าลงไปพร้อมกับส่งเสียงร้องฮือออกมา เพราะปันคนเดียวที่ทำให้เขาตกอยู่ในอารมณ์บ้าๆ แบบนี้

แล้วจะไปสู้หน้าคุณชายได้ยังไง : (

“เป็นอะไรไป”

“มาแล้วเหรอครับ”

มือหนาที่ลูบผมของเขากับเตียงที่ยวบลงทำให้วันศุกร์เงยหน้าขึ้นมอง หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“หน้าคุณแดงนะ”

“เหรอครับ”

“เป็นอะไร”

“ไม่ได้เป็นอะไรเลยคุณชาย”

“โกหก”

“คุณชายอ่ะ...ไหนแปรงสีฟันของผมครับ”

แบมือทวงของเพื่อกลบอาการลุกลี้ลุกลนของตัวเอง หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเหยียดมุมปากเล็กน้อยก่อนจะวางแปรงสีฟันลงบนฝ่ามือนุ่มๆ ของคนตัวขาวแล้วทิ้งจูบหนักๆ บนหน้าผากของคนที่อาบน้ำแล้วไปหนึ่งที

คนถูกจูบหน้าเหวอไปพักใหญ่ก่อนจะฟาดมือลงบนต้นแขนของคุณชาย ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติที่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงชอบจูบ หอม หรือแตะเนื้อต้องตัวกันอยู่ตลอดแต่บอกตามตรงเลยนะ...

ตอนนี้วันศุกร์ไม่มีอารมณ์ที่จะมองว่ามันเป็นเรื่องปกติด้วยหรอก

“ซื้อมาแค่นี้เหรอครับ”

“คุณจะให้ผมซื้ออะไร ยาสีฟันมีอยู่แล้ว”

“ก็คุณลงไปตั้งนาน ผมนึกว่าไปเหมาร้าน”

“คุณชอบพูดอะไรตลกๆ”

“แล้วคุณชายซื้ออะไรมาบ้างล่ะครับ”

“ของใช้ส่วนตัว”

“ไหนอ่ะครับ”

“คุณจะอยากรู้ไปทำไม”

อือ นั่นดิ

“ขอโทษนะครับ” พึมพำเสียงเบาออกไปเพราะเพิ่งคิดได้ว่าที่ตัวเองยิงคำถามใส่เมื่อกี้มันเป็นการละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย

“ขอโทษผมอีกแล้ว”

“ผมจุ้นจ้านเกินไปมั้ยครับ”

“ไม่ครับ”

“...”

“ผมเห็นคุณตื่นเต้น เลยอยากแกล้ง”

“สนุกมั้ยล่ะคุณชาย”

“ครับ”

“เฮ้อ”

“ทำไมอยู่ดีๆ ถึงถาม”

เพราะมันไม่ใช่นิสัยปกติของวันศุกร์ พอแสดงความอยากรู้เกินความจำเป็นหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเลยเกิดความสงสัยว่าวันศุกร์ไปรู้อะไรมาหรือเปล่า อีกอย่างคือตอนที่เขาอยู่ในเซเว่นก็บังเอิญเจอกับเพื่อนของวันศุกร์ เด็กคนนั้นดูใส่ใจเขาเอามากๆ ว่ากำลังซื้ออะไรหรือทำอะไรอยู่

“ก็คุณชายไม่ได้ซื้อแค่แปรงสีฟันมานี่นา”

“ครับ”

“...”

“ผมซื้อถุงยางมาด้วย”

“ปันบอกผมแล้ว...”

ถึงจะหนีสายตาของคุณชายด้วยการทำเป็นมองอย่างอื่นแต่ยังถูกมือหนาจับกรอบหน้าให้มาสบตากันอีกครั้งอยู่ดี หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงดึงแปรงสีฟันออกจากมือของวันศุกร์แล้วโยนมันทิ้งไว้บนหัวเตียง มอบจูบเบาๆ บนริมฝีปากที่ทำให้วันศุกร์ใจสั่นรัว

“ใช้หน่อยมั้ย”

วันศุกร์ไม่รู้จะทำหน้ายังไงแล้ว อยากร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำเพราะคำถามที่หลุดออกจากปากของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่ชิน เขินอาย แปลกๆ กับเหตุการณ์แบบนี้เพราะไม่ได้อยู่กับคุณชายมาตั้งสองปี แต่วันศุกร์ก็ยอมรับเลยว่าตอนนี้ร่างกายของเขามันเริ่มจะโหยหาคนตรงหน้า

“คุณชายอยากใช้มั้ยล่ะครับ”

“ผมถามความสมัครใจของคุณก่อน ถ้าไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร”

“ผมโตแล้วนะ”

“ผมรู้”

“...”

“คืนนี้แค่นอนกอดกันก็ได้”

“มะ...ไม่เอาสิครับ ก็ซื้อมาแล้วนี่นา”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงหัวเราะในลำคอ คำตอบของคนที่นั่งหน้าแดงไม่กล้าสบตากับเขามันน่าเอ็นดูแค่ไหน เขารู้อยู่แล้วว่ายังไงวันศุกร์ก็ไม่ปฏิเสธกัน แบบนั้นยิ่งทำให้ทรงเพลิงอยากจะฟัดคนตัวขาวเนียนทั้งคืน

“งั้นไม่ต้องแปรงฟันแล้ว”

“ขอเวลาทำใจในห้องน้ำแป๊บนึงไม่ได้เหรอครับ”

“แต่ผมทนไม่ไหวแล้ว”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้วกระซิบบอกอีกคนเสียงผะแผ่ว เขายื่นใบหน้าเข้าใกล้จนริมฝีปากเฉียดกันเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขยับ ไม่ทันไรร่างของคนตัวขาวก็แนบไปกับเตียงนุ่ม

ทรงเพลิงทิ้งร่างของตัวเองบนตัววันศุกร์ ใช้นิ้วโป้งไล้แก้มนุ่มๆ สบตาสื่อความปรารถนาในใจว่าเขาคิดถึงและต้องการคนใต้ร่างมากแค่ไหน

เขาชอบเวลาที่วันศุกร์เขินอายแบบไม่เสแสร้ง แก้มแดงๆ ของน้องมีผลกับความรู้สึกของเขามาก มันเพิ่มความต้องการไม่ต่างกับกลิ่นหอมๆ บนตัวของวันศุกร์

เขารู้ว่าวันศุกร์ก็รู้สึกไม่ต่างกัน

ทรงเพลิงก้มหน้าลงมาประกบริมฝีปากนุ่มตอนที่คนใต้ร่างกำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่าง คำหลายคำที่วันศุกร์อยากพูดถูกกลืนลงลำคอไปทันที วันศุกร์เคลิ้มไปกับลิ้นอุ่นของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่สอดเข้ามาในปากของตัวเอง

จูบร้อนแรงเริ่มต้นเมื่อวันศุกร์ก็ไม่ได้นอนรับจูบนิ่งๆ ประสบการณ์ที่อีกฝ่ายมอบให้ส่งผลให้จูบครั้งนี้มันร้อนแรงกว่าทุกครั้ง ลิ้นหวานๆ โต้ตอบกับคุณชายทรงเพลิง อีกทั้งคนบนร่างยังทำให้เคลิ้มมากขึ้นไปอีกด้วยมือทั้งสองข้างที่นวดคลึงหัวไหล่เล็กเบาๆ

“อือ…” คุณชายทรงเพลิงมอบจูบหนักๆ บนริมฝีปากทิ้งท้ายแล้วเลื่อนลงไปตักตวงกลิ่นหอมจากซอกคอของวันศุกร์อย่างที่เขาอยากทำมาตลอด

กลิ่นหอมสะอาดสะอ้านที่ปนกลิ่นน้ำหอมชาแนลทำให้ทรงเพลิงหลุดยิ้ม เขารู้ว่าวันศุกร์ดูแลตัวเองดีแค่ไหน รู้วิธีที่วันศุกร์ทำตัวให้หอมหวานขนาดนี้ได้ทั้งวัน

ริมฝีปากร้อนแตะลงบนเนื้อขาวๆ บนคอ เขากำลังจะเผลอดูดคลึงต้นคอแล้วด้วยซ้ำ แต่ในหัวก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันศุกร์ยังต้องไปทำงานต่อในวันพรุ่งนี้ แต่ด้วยความอยากที่จะกัดคนตัวเล็กให้จมเขี้ยวเลยขบเม้มคอขาวๆ ไปหนึ่งครั้งเบาๆ ให้คนใต้ร่างครางอื้ออึงในลำคอ

ทรงเพลิงรู้ว่าลงน้ำหนักแรงแค่ไหนถึงจะเกิดรอยและเขาก็ยั้งมันได้ให้เห็นแค่รอยจางๆ เท่านั้น

“คะ…คุณชาย พรุ่งนี้มีถ่ายละครนะครับ”

“ไปไหวเหรอ”

“…ไหว อย่าครับ อื้อ” พยักหน้าได้แป๊บเดียวก็ส่งเสียงครางเมื่อมือหนาสอดเข้าไปใต้ชุดนอนแล้วลูบไล้หน้าท้องเนียนเบาๆ

วันศุกร์ทำอะไรไม่ได้นอกจากจิกนิ้วบนไหล่กว้าง ความเจ็บทำให้ทรงเพลิงรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก มันกระตุ้นให้เขาเร่งเร้าทุกอย่างกับวันศุกร์ทั้งที่อยากจะค่อยเป็นค่อยไป

ริมฝีปากหวานๆ ถูกครอบครองอีกครั้งในตอนที่วันศุกร์กำลังเผยอปากส่งเสียงครางและหอบเอาอากาศเข้าปาก ปากอุ่นๆ ของทรงเพลิงดูดเม้มริมฝีปากบนของคนตัวเล็กจนวันศุกร์ต้องเชิดหน้าตามทุกครั้งที่ถูกดูดคลึงแบบนั้น

จูบร้อนแรงเปลี่ยนเป็นจูบอ่อนหวานมันคละเคล้าไปด้วยความต้องการของพวกเขาที่ให้ความร่วมมือกันอย่างดี

ขณะที่คุณชายทรงเพลิงมัวเมากับจูบหวานๆ ที่สลับกันมอบให้อย่างอ้อยอิ่ง มือหนาสองข้างก็ปลดกระดุมชุดนอนของคนใต้ร่างออกจากกันอย่างรวดเร็วจนเม็ดสุดท้าย เขาไม่ได้ดึงมันออกจากผิวขาวๆ ของวันศุกร์ แต่ทำให้มันหมิ่นเหม่อยู่บนไหล่ของอีกคน

เช่นเดียวกับเชิ้ตสีขาวของคุณชายที่หลุดลุ่ยเพราะฝีมือของวันศุกร์ ถึงแม้กระดุมจะไม่ได้หลุดออกทุกเม็ดเพราะมือของคนตัวเล็กสั่นเทาเกินจะควบคุมได้ แต่คุณชายก็สานต่อด้วยการดึงมันออกจากกันโดยที่ไม่สนถึงความเสียหาย ลำตัวของพวกเขาแนบชิดกันทันทีที่หน้าท้องเปลือยเปล่า

วันศุกร์คล้องแขนรอบลำคอแกร่ง เงยหน้ารับจูบที่เร่าร้อนสลับกับอ่อนโยนเต็มที่

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงสบตากับคนที่นอนหอบหายใจในตอนที่เขาค่อยๆ ผละริมฝีปากออก คุณชายยืดตัวขึ้นคุกเข่าทั้งๆ ที่ยังคร่อมคนตัวขาว มือหนาค่อยๆ ปลดเข็มขัดออกและรูดซิปกางเกงของตัวเองลงให้กองอยู่บนเตียง เขาไม่ได้ดึงมันออกจนพ้นขาในตอนนั้น แต่โน้มตัวลงไปดึงกางเกงนอนขายาวออกจากสะโพกของวันศุกร์ กระชากมันแรงๆ ให้หลุดออกจากปลายเท้า

เขาสำรวจเรือนร่างที่เต็มไปด้วยเนื้อนุ่มๆ การที่วันศุกร์ไดเอตด้วยการอดอาหารจนตัวเล็กเอวกิ่วขนาดนี้มันไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายดูบางจนแห้ง แต่กลับดูเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก

แขนเล็กๆ หน้าท้องขาวเนียน ต้นขาเรียวๆ เนื้อตึงอย่างนั้นทำให้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงอึดอัดแทบแย่

คนตัวโตล้วงกล่องถุงยางอนามัยออกจากกระเป๋ากางเกง เขาฉีกพลาสติกที่ห่อกล่องออกในขณะที่สายตาก็จับจ้องคนใต้ร่างที่หอบหายใจอยู่ข้างล่าง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มแสนซนกำลังมองเขา

วันศุกร์ไม่เกรงกลัวเลยว่าต่อไปตัวเองจะโดนอะไรบ้างโทษฐานที่ยั่วเขาด้วยการกัดริมฝีปากแบบนั้น

“อ๊า อา…”

เสียงร้องเล็กๆ ดังขึ้นในตอนที่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงบดเบียดความเป็นชายใต้เนื้อผ้ากางเกงชั้นในสีเทาแนบไปกับกลางลำตัวของวันศุกร์

มือเล็กๆ ทุบลงบนต้นแขนคุณชายเขาเมื่ออีกฝ่ายไม่ขยับเลยสักนิด แต่ปล่อยให้วันศุกร์ทรมานอยู่อย่างนั้นจนต้องถูไถสะโพกไปกับที่นอนอย่างน่าอาย

“ทนไม่ไหวแล้วเหรอ”

เสียงนุ่มๆ ทำให้คนที่กัดริมฝีปากกลั้นหายใจหวาดเสียว วันศุกร์มองคนที่กำลังใช้ปากฉีกซองถุงยางอนามัยออกอย่างช้าๆ ก่อนจะรู้ว่ามันนานแค่ไหนแล้วที่เขาห่างจากเรื่องแบบนี้มาโดยไม่เรียกร้องมันเลยสักนิด

แต่เมื่ออยู่กับคุณชายทรงเพลิง ร่างกายมันกลับเรียกหา ต้องการจนทนไม่ไหว

วันศุกร์มองถุงยางอนามัยที่ถูกแกะแล้ววางอยู่ใกล้ๆ ใบหน้าตัวเอง ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อมือหนาสอดเข้ามาในชั้นในสีขาวแล้วบดคลึงส่วนปลายด้วยนิ้วโป้ง

วันศุกร์ส่ายหน้าหลับตาปี๋ ร้องเสียงหลงเมื่อมือหนาชักรูดเบาๆ รู้สึกเสียววาบในช่องท้องจนจะขาดใจ

“คุณชาย…ผม”

หน้าผากเนียนถูกจุมพิตหนักๆ ทรงเพลิงกระซิบเบาๆ ใส่หูของวันศุกร์ “อยากได้อะไร”

“เข้ามาได้มั้ย”

วันศุกร์ไม่รับรู้อะไรนอกจากเสียงทุ้มของคุณชายและความต้องการของตัวเอง แขนเล็กผละออกจากลำคอของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง แล้วก็เป็นวันศุกร์บ้างที่ไล้มือผ่านหน้าท้องที่มีลอนกล้ามเนื้อเป็นรูปจางๆ ก่อนจะหยุดและลูบไล้ความแข็งขึงกลางลำตัวของคุณชายเบาๆ

“ยั่วอย่างนี้แล้วอย่าร้องไห้ทีหลังแล้วกัน”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงปัดมือขาวออกก่อนจะรูดกางเกงชิ้นสุดท้ายออกจากตัว ความเป็นชายที่สั่นระริกเบาๆ ทำให้วันศุกร์เผลอหนีบขาแน่น เขายังจำความรู้สึกครั้งแรกได้ดี มันทั้งเจ็บ หวาดเสียว สุดท้ายก็ตกอยู่ในห้วงของความสุขจนไม่อยากถอนตัวขึ้นมา

“เอามือมาครับ ช่วยพี่ใส่หน่อยเด็กดี” สรรพนามเดิมๆ ออกจากปากของคุณชายทรงเพลิง

วันศุกร์ใจหายวูบเมื่อได้ยิน แต่ไม่ทันไรก็ถูกประคองให้ลุกขึ้นนั่งแล้วถูกดึงมือทั้งสองข้างให้สัมผัสกับถุงยางอนามัยที่เคลือบด้วยเจลหล่อลื่น

ดวงตาหวานฉ่ำสบกับดวงตาคมกริบ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงประคองมือเล็กให้สวมถุงยางครอบความเป็นชายที่ขยายใหญ่และแข็งเกร็ง

แผ่นอกของวันศุกร์กระเพื่อมขึ้นลง เขาตื่นเต้นที่ได้สัมผัสกับส่วนนั้นของคุณชายเป็นครั้งแรกด้วยมือ สาบานได้ว่าทุกครั้งที่มีอะไรกัน วันศุกร์ไม่เคยทำแบบนี้ให้คุณชายเขาเลย ไม่เคยสัมผัสด้วยมือเลยสักครั้ง

กระทั่งถุงยางอนามัยครอบแก่นกายของทรงเพลิงได้สำเร็จ เรียวขาของวันศุกร์ก็ถูกลูบไล้ด้วยมือหนาตามมาติดๆ กางเกงชั้นในไม่ได้ถอดออกแต่กลับถูกแหวกก่อนที่นิ้วเรียวของเขาจะเข้าไปสำรวจช่องทางของวันศุกร์

คนตัวเล็กกระดกสะโพกรับเมื่อคุณชายค่อยๆ ขยับนิ้วเข้าออก คนตัวเล็กตอดรัดนิ้วเขาเบาๆ

วันศุกร์จับกรอบหน้าของคุณชายทรงเพลิงไว้ด้วยสองมือแล้วประกบริมฝีปากมอบจูบหนักๆ ให้คนตัวโต เขาเกือบตั้งรับกับความใจร้อนของวันศุกร์ไม่ทัน แต่ก็กลับมาทำให้วันศุกร์อ่อนระทวยได้อีกครั้งด้วยการจูบกลับอย่างเร่าร้อน ขบริมฝีปาก ดูดเรียวลิ้นเล็กๆ ที่ซุกซนเหลือเกิน

“คะ…คุณชาย เข้ามาได้แล้ว”

วันศุกร์ทำในสิ่งที่ทรงเพลิงเองก็ไม่คาดคิดด้วยการปัดมือหนาของเขาออกจากช่องทางหวาน ผลักไหล่เขาออกเบาๆ แล้วดึงกางเกงชั้นในออกจากสะโพกด้วยตัวเองก่อนจะนั่งอ้าลูบไล้ต้นขาด้านในของตัวเอง

ยั่วเย้าให้เขาอดทนไม่ไหว วันศุกร์กระวนกระวายมากกว่าเดิมเมื่อเห็นคุณชายทรงเพลิงเหยียดยิ้มแต่ไม่เข้ามาสักที

ปล่อยตัวปล่อยใจให้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงขนาดนั้นแล้วก็ทิ้งแก้มแดงๆ ให้คุณชายเขามองเล่น คนตัวโตหัวเราะหึ ใช้ต้นขาแยกเรียวขาของอีกฝ่ายให้กว้างกว่าเดิม มือหนาจับสะโพกกลมกลึงของวันศุกร์ ก้มหน้าลงไปจูบหน้าผากด้วยความรักเต็มหัวใจ สบตากันอีกครั้งก่อนจะจับแก่นกายของตัวเองแล้วค่อยๆ กดเข้าไปในช่องทางเล็กๆ อย่างใจเย็น

“อื้อ! อ๊า”

เขาออมมือเพราะรู้ว่ามันจะทำให้วันศุกร์เจ็บเหมือนครั้งแรก ทรงเพลิงกดกลางลำตัวเข้าไปช้าๆ แต่หนักแน่นครั้งเดียวจนมิด คนตัวเล็กที่ห่างจากเรื่องนี้ไปนานผวากอดเขาด้วยความเจ็บก่อนจะหอบหายใจแรงเพราะส่วนปลายที่บวมเป่งกับลำแท่งอุ่นๆ มันขยายใหญ่ในกายตัวเอง

“ดีมั้ยครับ”

ถามวันศุกร์เสียงเบาแล้วกระแทกเข้าหาช้าๆ สลับกับหนักแน่นจนวันศุกร์กลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ได้ พออีกคนไม่ตอบทรงเพลิงก็ไม่ออมแรง ทิ้งสะโพกเข้าหาร่างกายของวันศุกร์จนได้ยินเสียงเนื้อกระทบเนื้อ

สายตาอบอุ่นของคุณชายทรงเพลิงที่มีให้วันศุกร์แค่คนเดียวจับจ้องกับยอดอกสีหวาน เขาก้มลงครอบครองมันด้วยปาก ขบเม้มแรงๆ ให้วันศุกร์ตอบคำถามที่ถามไปเมื่อกี้

“ฮ่ะ…ดีครับ”

สะโพกหนาขยับเร็วพร้อมกับร่างกายที่ใหญ่กว่าวันศุกร์ถาโถมเข้ามา วันศุกร์เผยอปากครางความเสียวซ่านออกมา มือเล็กๆ เกาะต้นแขนแกร่งที่ค้ำอยู่ข้างตัว เรียวขาขาวสั่นระริกถูกจับพาดบ่าก่อนที่สะโพกหนาจะกระแทกเข้ามาอย่างรุนแรง

ริมฝีปากสีชมพูที่เผยออ้ามันปลุกเร้าความต้องการของคุณชายทรงเพลิงได้ดี คนตัวโตกัดฟันกรอดในลำคอในตอนที่กระแทกเข้าไปลึกๆ แล้วถูกตอดรัดแน่นจนต้องถอนตัวออกมาเกือบสุดทางก่อนจะสวนกายเข้าไปใหม่

“อื้อ…พ เพลิง”

“ครับ”

“…ผม”

ทั้งอยากฟังและอยากครอบครองริมฝีปากนั้นไปพร้อมๆ กัน แต่สุดท้ายคำพูดของวันศุกร์ก็กลบด้วยริมฝีปากอุ่นของคุณชายทรงเพลิงอีกครั้ง

สะโพกยังคงสวนเข้าหนักแน่นจนคนใต้ร่างตัวสั่น เหงื่อไหลตามกรอบหน้าของคนที่ถูกขนานนามว่าน่ารักแม้ว่าแอร์ในห้องกับอากาศจากภายนอกจะหนาวเย็นแค่ไหนก็ตาม

คุณชายทรงเพลิงสอดลิ้นอุ่นเข้าไปในโพรงปากอีกครั้ง มอบจูบดูดดื่มให้อีกคนตลอดที่ร่วมรักกัน

“อือ…”

วันศุกร์กลั้นความสุขที่เอ่อล้นจนแทบทะลักออกมาไว้อย่างทรมาน เขาแค่อยากให้มันจบไปพร้อมๆ กับคุณชายทรงเพลิงเท่านั้นแต่ไม่คิดว่ามันจะทรมานจนใจแทบขาด

หน้าท้องขาวเนียนเกร็งและมันพานให้ทั้งร่างเกร็งตามไปด้วย หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงรู้ดีว่าวันศุกร์กำลังรอให้เขาถึงฝั่งฝันด้วยกัน สะโพกหนาเลยกระแทกเข้าไปเต็มที่และรุนแรงจนวันศุกร์น้ำตาไหล

“อื้อ! พ…เพลิง”

น้ำสีขาวหลั่งไหลออกเปื้อนหน้าท้อง วันศุกร์เกร็งตัวจนสั่นระริก มือเล็กๆ จิกต้นแขนแกร่ง ดวงตาหวานรื้นน้ำไปด้วยความทรมานเมื่อครู่ พอได้ปลดปล่อยแล้วถึงได้รู้ว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงมากแค่ไหน หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงสูดหายใจลึกกัดฟันกรอด ระบายความรู้สึกทั้งหมดไปอีกระรอกหลังจากที่สวนกายเข้าออกอีกครั้ง

“เพลิง…”

“ครับ”

วันศุกร์รั้งคอคนตัวสูงให้ลงมาซบบนซอกคอของตัวเอง คนตัวขาวมอบจูบเบาๆ บนแก้มของทรงเพลิง

ที่เรียกเมื่อกี้เขาไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเรียกไปทำไม ไม่มีเรื่องอะไรที่อยากจะคุยกันในตอนนี้ วันศุกร์แค่อยากเรียกชื่อเล่นของทรงเพลิงไปซ้ำๆ อย่างนั้น ให้มันสมกับที่เขาไม่ได้เรียกมานานแสนนาน

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ยังแช่กายอยู่ในนั้น ผงกศีรษะมองคนตัวเล็กที่มอบจูบให้เขาเมื่อกี้ เสียงเล็กๆ ที่เรียกชื่อเพลิงอย่างคุ้นปากทำให้เขาหลุดยิ้มออกมา กำลังจะเอ่ยถามอีกทีที่จู่ๆ ก็เรียกชื่อกันแล้วเงียบไปว่ามีอะไร แต่ก็ต้องหัวเราะหึในลำคอเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายค่อยๆ ปิดเปลือกตาผล็อยหลับไปช้าๆ

“ฝันดีครับ คนเก่ง” จูบเบาๆ บนหน้าผากเพื่อมอบรางวัลให้คนเก่งที่นอนกอดเขาไม่ยอมปล่อย

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงถอนตัวออกช้าๆ ก้มลงจูบที่ซอกคออีกครั้ง

ไม่รู้จะขอบคุณช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งสองปีดีมั้ย

ที่ทำให้ทรงเพลิงรู้ว่าตัวเองรัก โหยหา และอยากกอดวันศุกร์มากแค่ไหน

ทั้งที่ผ่านก็คิดว่ารักมากมายอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กลับรู้สึกรักมากขึ้นไปอีก

มันไม่มีคำว่าพอสำหรับเขา

คืนนี้ ตอนนี้ วินาทีนี้ ทำให้รู้…

ว่าหัวใจ และร่างกายของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง ขาดวันศุกร์ไม่ได้เลยจริงๆ



[มีต่อด้านล่างนะคะ]


ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 12.2 - up1.7.62
«ตอบ #36 เมื่อ01-07-2019 12:43:49 »





















 
หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยืนกอดอกมองคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงไม่ห่าง แม้ว่าตอนนี้วันศุกร์จะอยู่ในการดูแลของคุณหมออย่างหม่อมราชวงศ์ภูมินทร์ก็ตาม แต่ความกังวลใจก็ไม่ได้คลายไปเลยสักนิด

“ไม่มีไข้”

“ชัวร์ใช่มั้ยครับ”

“ชายเพลิง พี่เป็นหมอ อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจก็ทันสมัย...น้องเขาไม่เป็นอะไรหรอก”

“ผมปลุกยังไงเขาก็ไม่ยอมตื่น”

วันศุกร์ที่หลับสนิทบนเตียงนอนถูกพูดถึง หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงร้อนใจในการกระทำของตัวเองจนต้องเรียกพี่เขยมาที่เพนต์เฮ้าส์ตอนตีสาม ทั้งๆ ที่พรุ่งนี้ต้องเดินทางไปงานหมั้นของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด แต่พี่ชายอย่างหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็ยังไม่ยอมพักผ่อนสักที

“แล้วชายเพลิงทำอะไรน้องเขาไปบ้างล่ะ”

คุณหมอประจำวังภัสร์ฤทัยที่คุ้นเคยกับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมากที่สุดถอนหายใจเบาๆ ให้กับความใจร้อนสมกับที่เป็นเพลิงโดยแท้ เขาไม่ได้ตรวจร่างกายของวันศุกร์อย่างละเอียดเพราะไม่ใช่ความต้องการของทรงเพลิง แต่ดูจากสภาพ ร่องรอยยับบนเตียงก็พอจะรู้ได้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“พรุ่งนี้เช้าค่อยปลุกมากินข้าวกินยา”

“อีกชั่วโมงผมต้องไปเขาใหญ่แล้วครับ”

“อื้ม พี่ก็เหมือนกัน”

“ขอโทษนะครับที่รบกวนเวลาพักผ่อนพี่มินทร์”

“พี่ชินแล้ว เมื่อก่อนชายเพลิงก็เรียกพี่มาแบบนี้บ่อยๆ” หม่อมราชวงศ์ภูมินทร์แกล้งแซวอีกคน

ถึงจะรู้สึกผิดแต่ก็อดไม่ได้จริงๆ เขากระวนกระวายทุกครั้งที่วันศุกร์ดูเหมือนจะป่วยหรือหมดแรงคาอกไปแบบนั้น ทั้งหมดมันเป็นเพราะความโลภมากของเขาเองที่ไม่เคยจะพอกับร่างกายของคนคนนี้...

เมื่อตอนเที่ยงคืนวันศุกร์งอแงอยากเข้าห้องน้ำ เขาเลยพาไปแถมยังรังแกให้อีกคนครวญครางอีกต่างหาก เขาควรจะหยุดแค่นั้นแล้วด้วยซ้ำ แต่เมื่อเห็นวันศุกร์ที่ปลดปล่อยออกมาก่อนความคิดที่อยากจะพาน้องไปชมวิวสวยๆ ก็ผุดขึ้นมาทันที มันจบลงตอนที่เขาอุ้มวันศุกร์แนบอก แล้วสวนกายเข้าออกจนวันศุกร์หมดแรงไป

“วันศุกร์แค่อ่อนเพลีย คงไม่ได้พักผ่อนหลายวันติดด้วย พอมาเจอแบบนี้ก็สลบง่ายๆ เป็นธรรมดา”

“...”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นแล้ว”

“ผมไม่ไป...”


“ไม่ได้เลยชายเพลิง วันสำคัญของน้องชาย ไม่ไปไม่ได้” แค่อ้าปากหม่อมราชวงศ์ภูมินทร์ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร

เพราะความเป็นห่วงมันทำให้เขาไม่อยากไปไหน พอรู้ว่าต้องไปค้างคืนด้วยแล้วยิ่งอยากพาวันศุกร์ไปด้วย แต่ติดตรงที่เย็นวันนี้วันศุกร์ยังต้องถ่ายละคร มีงานที่ต้องทำและเบี้ยวไม่ได้

“ผมอาจจะตามไปทีหลัง รอให้เขาตื่นก่อน”

“งั้นหาเหตุผลดีๆ ไปบอกคุณแม่ด้วยแล้วกัน”

“ครับ”

“มียาหลังอาหารให้วันศุกร์กิน แก้ปวดเมื่อย เกลือแร่ กับยาแก้อักเสบ”

ทรงเพลิงพยักหน้าก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณพี่เขยที่ไม่เคยปฏิเสธเวลาที่เขาขอความช่วยเหลือเลยสักครั้ง

หม่อมราชวงศ์ภูมินทร์ตบบ่าก่อนจะบอกลาหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง อันที่จริงทรงเพลิงไม่ได้รบกวนเวลาพักผ่อนของเขาหรอก เผอิญว่าเขาเพิ่งเสร็จจากเคสผ่าตัดพอดีและกำลังจะกลับไปอาบน้ำที่วังเพื่อเดินทางไปเขาใหญ่ต่อทรงเพลิงก็โทรหาซะก่อน จะว่าถูกจังหวะก็ได้ เขาเลยแวะเข้ามาหาอีกฝ่ายที่เพนต์เฮ้าส์ทันเวลาพอดี

คนตัวโตยืนส่งพี่เขยที่ประตูแล้วก็กลับมานั่งเฝ้าคนตัวขาวที่หลับลึกอยู่บนเตียงเหมือนเดิม เป็นแบบนี้แล้วเขาจะหนีไปไหนได้ยังไง นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มใสเบาๆ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงจับมือเล็กมากุมไว้ กดจูบบนหลังมือขาวด้วยความรัก ประคองวันศุกร์ขึ้นมากอดจมอก จ้องมองอีกคนที่หลับตาพริ้มในอ้อมกอดของเขา

เขาคิดไว้แล้วว่าต่อให้วันศุกร์ตื่นขึ้นมาแล้วต่อว่ากันก็จะปล่อยให้น้องทำอย่างนั้นจนกว่าจะพอใจ เขาผิดเองนั่นแหละที่ยับยั้งชั่งใจไม่ไหวเอาแต่ใจตัวเองจนวันศุกร์เป็นแบบนี้ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงโทษตัวเองด้วยซ้ำที่รังแกน้องโดยไม่ได้ดูสภาพร่างกายกันเลย

ที่ถนอมเอาไว้ก็แหลกคามือเขาทั้งนั้น

“ตื่นมาแล้วจะตีพี่แรงๆ ก็ได้”

จะกี่ครั้งเขาก็ยอมวันศุกร์เสมอ








*****






 
“เฮ้ย ตื่นยังวะคุณบดินทร์”

“ตื่นตั้งนานแล้วครับ”

“ถามจริง ไหวเปล่าวะ”

“ไหวสิครับ”

“มึงเหมือนคนไม่ได้นอน”

“...”

อือ ก็ไม่ได้นอนจริงๆ นั่นแหละ

นอนไปนิดเดียวก็ถูกคุณชายทรงเพลิงปลุกให้ตื่นมากินข้าว กินยา แล้วจากนั้นคนที่รังแกวันศุกร์ทั้งคืนก็ทิ้งเช็คสิบล้านใบใหม่ให้ แทนใบเดิมที่ยับยู่ยี่จนใช้งานไม่ได้แล้ว ก่อนที่วันศุกร์จะถูกทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวในห้องเพราะคุณชายเขาต้องออกเดินทางไปเขาใหญ่ตั้งแต่เช้า

ก็ไม่เชิงทิ้งหรอก หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเตรียมทุกอย่างไว้ให้วันศุกร์แล้ว ไม่ว่าจะเสื้อผ้า อาหาร รอให้เขาตื่นแล้วพาไปอาบน้ำ อีกนิดก็จะป้อนข้าวกันแล้วถึงได้ออกไป

คุณชายเขาบอกว่าต้องไปอยู่กับครอบครัวรอร่วมพิธีหมั้นของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดกับน้องรหัสของปัน แต่ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองต้องรีบออกเดินทางไปเจอหน้าผู้ใหญ่ทรงเพลิงก็ยังโอ้เอ้เพราะยังอยากนอนกอดเขาอยู่ วันศุกร์พูดดีๆ ด้วยก็แล้วคุณชายเขายังไม่อยากจะไปเลย สุดท้ายก็ต้องสวมบทคนใจร้ายไล่อีกฝ่ายออกจากเพนต์เฮ้าส์ที่เป็นของคุณชายเขาเองแท้ๆ นั่นแหละ

“ละครจะปิดกล้องแล้วเว้ย ทนอีกนิดเดี๋ยวก็ได้รับเรื่องอื่นแล้ว”

“ไม่ใช่นะครับพี่ออย ไม่ได้ทนสักหน่อย”

แค่ป่วยวันเดียวพี่ออยก็น้อยใจไปเรื่อย คิดว่าเขาเบื่อที่จะแสดงละครเรื่องนี้แล้วทั้งๆ ที่เรตติ้งออกจะดี วันศุกร์เสียดายซะมากกว่า ยังไม่อยากให้จบเลยด้วยซ้ำ

“แล้วไหงวันนี้มึงเอารถออกมาขับเองได้วะ แล้วไอ้โมอ่ะ”

“พักผ่อนครับพี่ออย ช่วงนี้ต้นน้ำปิดเทอมด้วยเลยไม่สะดวกมารับส่งผม”

“เป็นเมเนเจอร์มึงนี่สบายฉิบหาย”

วันศุกร์ยิ้มแหย เขาไม่ได้บอกความจริงว่าจริงๆ แล้วตอนนี้กำลังเกิดปัญหาอะไรกับพี่โมอยู่ ไม่ได้บอกว่าทะเลาะกันขั้นรุนแรงจนไม่ได้คุยกัน ไม่ให้ใครรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแม้ว่าวันศุกร์อยากจะได้ที่ปรึกษาสักคนหนึ่งก็ตาม

แต่ในวงการนี้ไม่มีใครไว้ใจได้เลยสักคน

ไม่มีใครไว้ใจได้เท่าคุณชายทรงเพลิงอีกแล้ว

ถึงแม้ยังคาใจเรื่องเช็คเงินสดค่าตัวงวดแรก และทำให้ไม่สบายใจเรื่องยอดเงินค่าตัวที่วันศุกร์ให้พี่โมดูแลก็ตาม แต่ตอนนี้วันศุกร์ยังยุ่งมากจนไม่มีเวลาไปตรวจสอบทุกอย่างด้วยตัวเอง

เขาคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องคุยกับพี่โมให้รู้เรื่อง เริ่มแก้ปัญหาตั้งแต่ตอนนี้ โดยที่วันศุกร์ไม่รู้เลยว่าต่อไปมันจะจบยังไง

คนที่ตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งเบาๆ เมื่อโทรศัพท์ในมือสั่นครืด พอก้มมองก็รีบกดรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาคือใคร เขากรอกเสียงนุ่มๆ ลงไป ก่อนจะหลุดยิ้มเมื่ออยู่ดีๆ ภาพเมื่อคืนก็ลอยเข้ามาในหัว

(ปวดตัวอยู่มั้ย)

“นิดหน่อยครับ”

คำทักทายแรกหลังจากที่ไม่ได้คุยกันมาหลายชั่วโมงเริ่มขึ้น วันศุกร์เพิ่งได้พักจากการถ่ายละคร และเพิ่งมีเวลาจับโทรศัพท์เมื่อกี้นี้เอง เขาเห็นสายที่ไม่ได้รับจากคุณชายตั้งแต่แรกแล้วแต่ก็ไม่ได้โทรกลับ

อือ ไม่รู้สิ จู่ๆ ในตอนนั้นก็รู้สึกไม่พร้อมได้ยินเสียงคุณชายเขาซะอย่างนั้น

(กินยาหรือยัง)

“ยังเลยครับ”

(ทำไมไม่กิน) เสียงเข้มๆ ที่ฟังดูก็รู้ว่ากำลังถูกดุผ่านโทรศัพท์ดังขึ้น วันศุกร์ยู่ปากก่อนจะแนบแก้มไปกับโซฟาสีเลือดหมูที่ใช้ประกอบฉาก พึมพำตอบอีกคนเสียงเบาเพราะตรงนี้ทีมงานคนอื่นๆ ในกองเดินผ่านไปผ่านมา

“ยังไม่ได้กินข้าวเลยคุณชาย”

(ทำไมชอบทำให้เป็นห่วง)

วันศุกร์อมยิ้ม เดาเอานะ...ตอนนี้คุณชายคงกำลังขมวดคิ้วไม่ชอบใจอยู่แน่ๆ

“ผมทำงานอยู่นี่ จะเอาเวลาตอนไหนไปกินข้าว”

(คุณยังไม่พัก?)

“ต้องรีบถ่ายให้ทันก่อนแสงหมดครับ”

(วันศุกร์ อย่าทำให้ผมเป็นห่วงคุณได้มั้ย)

“โธ่คุณชาย...”

(ผมอยู่ไกล ไปดูแลคุณไม่ได้)

“รู้แล้ว”

(ครับ)

วันศุกร์อยากถามกลับไปเหลือเกินว่าใครกันที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ ไม่ใช่คุณชายทรงเพลิงหรอกเหรอที่ไม่รู้จักพอตักตวงความสุขจากร่างกายเขาอยู่ได้

(ยังเจ็บอยู่มั้ย)

“ถามอะไรแบบนี้ครับ!”

(เมื่อคืนผมทำคุณแรง)

“คุณชาย!”

(สรุปยังไงวันศุกร์)

“หยุดพูดเลยนะครับ”

คนตัวเล็กแทบจะฟุบหน้าอัดไปกับโซฟาแล้วด้วยซ้ำ ในหูได้ยินเสียงคนจากปลายสายหัวเราะเบาๆ...

อือ อารมณ์ดีมากเลยนะคุณชาย

แกล้งได้ก็แกล้งไปเหอะ : (

















#หวนกลิ่นรัก


ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 13.1 - up1.7.62
«ตอบ #37 เมื่อ01-07-2019 12:45:39 »

13






 

“อ้าว นี่กูมาทีหลังพวกมึงเหรอวะ”

“เออดิ...แต่มาสายกูยังพอรับได้เพราะอย่างน้อยมึงก็คุยกับกู ไม่เหมือนคนบางคน มาตรงเวลาเป๊ะแต่เสือกนั่งเล่นโทรศัพท์ ไม่คุยกับกูสักคำ” ใส่อารมณ์กับประโยคให้รู้ว่าจงใจเหน็บแนมเต็มที่ ยิ่งพูดแรงๆ เท่าไหร่เพื่อนที่รู้ใจกันดีก็ยักคิ้วหรี่ตาหัวเราะกันสนุกสนาน มีความสุขกับการที่ได้ด่าอ้อมๆ ใครบางคนที่นั่งมองหน้านิ่งๆ

“ก็มีคนให้คุยสนุกกว่ามึงแล้วไงไอ้ริว”

“กูหมาของแท้”

“งี้แหละ ตอนกูอยู่กับมันก็หมาเหมือนกัน งุ้งงิ้งกันแค่สองคน”

“มันเนี่ยนะงุ้งงิ้ง หน้าเป็นแบบไหนวะ ไม่ใช่ทำหน้าดุๆ ใส่เหรอ กูขนลุก”

ริวหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบแล้วปรายตามองใครบางคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน คบกันมาตั้งหลายปีไม่เคยจะเห็นคนที่ทำหน้านิ่งเก่งอย่างคนตรงหน้าจะมีมุมแบบนี้กับเขาด้วย

“คนละฟีลกับตอนนี้ มึงต้องมาเห็นกับตา...แล้วนี่เป็นอะไร ทำหน้าไม่ต้อนรับแขกเลยนะมึง”

“สงสัยสาวไม่ตอบว่ะ” ริวยักคิ้ว

คำพูดทิ่มแทงกับเสียงหัวเราะหึสั้นๆ ทำเอาหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ยอมเสียเวลาพักผ่อนมาเจอเพื่อนดุนลิ้นที่แก้มแล้วจ้องหน้าไอ้คนที่สืบเชื้อสายมาเฟียญี่ปุ่น ยังคิดอยู่เลยว่ามาเป็นเพื่อนกับมันได้ยังไง ก็กวนตีนกันสุดขั้วต่างจากคนที่นิ่งเฉยอย่างเขา

“สาวหรือว่าหนุ่มน้อยกันแน่” เสียงของพนาทำให้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงถอนหายใจ อยู่กับพวกมันเมื่อไหร่เขาต้องคอยระวังตัวแบบนี้แหละ ยิ่งพอเหล้าเข้าปากแล้วก็เก็บความลับกันไม่ค่อยจะได้

“อ้าว นี่มึงคั่วเด็กอยู่เหรอวะ คนไหนวะไอ้คุณชาย”

“คนนั้นไง ที่กูเอารูปให้ดูเมื่อวานอ่ะ”

“นึกแป๊บ”

“ฟรายเดย์ๆ”

“อ๋ออออ กูจำได้แล้ว ที่ชื่อวันศุกร์ใช่มั้ย”

“หยุดเสือกเรื่องของกูได้หรือยัง” ประโยคสั้นๆ กับน้ำเสียงนิ่งๆ ปิดปากเพื่อนอีกสองคนได้เป็นอย่างดี แต่ก็เงียบได้พักหนึ่งเท่านั้นแหละ สุดท้ายสองคนนั้นก็หัวเราะตบโต๊ะชอบใจที่เขาตอบโต้

“จี้สัด ชื่อนี้โคตรศักดิ์สิทธิ์เลยที่ทำให้ไอ้เพลิงปริปากพูดได้ กูนั่งกับมันมาสิบนาทีเพิ่งจะได้ยินเสียงมันเนี่ย”

“แต่อย่าเรียกบ่อยนะเว้ย เดี๋ยวแม่งเก็บค่าลิขสิทธิ์”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงส่ายหน้า เขาไม่น่ารีบกลับจากเขาใหญ่เพื่อมาเจอกับคนไร้สาระสองคนนี้เลย ตอนแรกก็เห็นแก่ริวที่นานๆ ทีจะบินมาไทยเพราะใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นบ้านเกิด พอมาเจอกันจริงๆ มันก็เฮฮากันตามประสาเพื่อนสนิทิที่ไม่ค่อยได้เจอกัน แล้วเดี๋ยวพอดึกๆ หน่อยก็จะเริ่มเมาเละเทะ พูดจากวนใส่เขาให้หัวเสียเล่น แต่ก็ไม่ได้อยากจะถือสาอะไร

“ข้างบนมีคาสิโนเปิดใหม่ พวกมึงอยากลองมั้ย” ริวเลิกล้อทรงเพลิงแล้วเพราะนั่งใกล้ๆ กันก็กลัวว่าจะถูกคุณชายทุบหลังเข้าให้

“อยู่ญี่ปุ่นแต่รู้ดีกว่าคนที่อยู่ไทยอีกนะมึง”

“นี่ร้านพ่อกู เผื่อมึงลืม”

สถานบันเทิงบนตึกสูงสิบชั้นคือธุรกิจอีกอย่างของครอบครัวริว และตอนนี้เขาก็อยู่ชั้นที่เก้าซึ่งเป็นชั้นของแขกวีไอพี คาสิโนข้างบนที่เปิดใหม่เท่าที่เขารู้ก็มีแต่คนเงินหนาขึ้นไปเล่นเท่านั้น

เขารู้ว่าธุรกิจของเพื่อนมันไม่ได้โปร่งใส ก็ตามแบบฉบับของมาเฟียนั่นแหละ แค่มีใบอนุญาตในการทำกิจการคาสิโนถูกกฎหมาย แต่ก็แลกมาด้วยเงินจำนวนมหาศาล เขารู้อีกอย่างก็คือ ใครที่เล่นพนันแพ้จากที่นี่แล้วไม่ยอมจ่ายหนี้ จุดจบมันก็ไม่สวยเหมือนในละคร

เหมือนพ่อของนายบดินทร์ที่เล่นพนันจนหมดตัว ถูกมาเฟียลากไปตัดนิ้ว แล้วสุดท้ายลูกชายก็ต้องไปช่วยนั่นแหละ

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยิ้มบางๆ ให้กับตัวเองที่ไม่ค่อยชอบดูละครแต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับพระเอกของเรื่องจนต้องเปิดดูตั้งแต่ตอนแรก ดูไปไม่กี่นาทีเขาก็พอจะรู้ได้ทันทีว่าทำไมคนทั้งประเทศถึงติดละครเรื่องนี้นักหนา ถึงขนาดยกให้เป็นละครวันศุกร์แห่งชาติ

สำหรับเขาคงเป็นเพราะใบหน้าจิ้มลิ้มของพระเอกแหละมั้ง เพราะเรื่องการแสดงวันศุกร์ก็ทำได้ดีอยู่แล้ว

“เบื่อๆ ก็ขึ้นไปดู”

“ไม่เอาอ่ะ กูกลัวโดนซ้อม”

“มึงเพื่อนกู ถ้ามีเรื่องเดี๋ยวกูเคลียร์เอง”

นั่งฟังพนากับริวคุยกันเงียบๆ คุณชายทรงเพลิงไม่ได้อยากจะคุยอะไรกับเพื่อนเพราะเอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์ไม่ละสายตา ยอมรับเลยว่าเขาไม่มีสมาธิจะทำอะไรทั้งนั้น ต้นเหตุก็เป็นเพราะใครบางคนที่ไม่ยอมตอบข้อความเขาเลย

ถึงจะไม่ได้กระวนกระวายใจแต่ก็ยอมรับเลยว่าหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเป็นห่วงวันศุกร์มาก เขาไม่รู้ว่าอีกคนหายป่วยแล้วหรือยัง พอคิดได้แบบนั้นก็รู้ว่าเป็นตัวเองนั่นแหละที่ทำหน้าที่บกพร่อง ดูแลวันศุกร์ได้ไม่เต็มที่ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายทำให้อีกคนไม่สบาย

ทั้งวันหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงได้คุยกับวันศุกร์ไปแค่ครั้งเดียวเพราะเขาเองก็ยุ่งๆ กับพิธีหมั้นของน้องชาย ทันทีที่เสร็จธุระเขาก็รีบกลับมากรุงเทพฯ เพื่อจะมาหาวันศุกร์แต่ดันถูกเพื่อนดึงตัวมาที่นี่ก่อน

“ไอ้เพลิง สรุปคือตอนนี้มึงมีแฟน?”

ริวถามเพื่อนที่ไม่มีข่าวเรื่องแบบนี้ให้ได้ยินดีบ้างเลย ขณะที่เขากับพนาก็เปลี่ยนคนควงออกบ่อย มีแต่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงนี่แหละที่ไม่เห็นจะมีใครเข้ามาในชีวิต หรือบางทีอาจจะมีแต่เขาไม่รู้ และมันก็คือสิ่งที่ทายาทมาเฟียอย่างริวอยากรู้เอามากๆ

“ไม่ใช่แฟนเว้ย แต่เป็นแฟนเก่า”

“ห๊ะ”

“แฟนเก่าเข้าใจมั้ย ภาษาญี่ปุ่นคืออะไรวะ”

“เออๆ กูรู้ แต่เก็บเงียบเลยนะไอ้เพลิง บอกกูบ้างก็ได้”

“น้องเขาไม่อยากให้ใครรู้เว้ย แต่เหมือนรีเทิร์นแล้วมั้งจากที่กูดูๆ เอาอ่ะ”

“มึงชื่อเพลิงเหรอไอ้พนา”

“ก็มันเงียบฉี่ขนาดนั้น กูก็ตอบแทนไง อ้าวไอ้คุณชาย มึงจะไปไหนวะ”

“เดี๋ยวมา” ตอบสั้นๆ ให้เข้าใจตรงกันว่าไม่ต้องถามอีก

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงขยับตัวลุกเดินออกจากตรงนั้นไปเงียบๆ เขาอยากออกไปสูดอากาศข้างนอก หาทางติดต่อกับวันศุกร์ให้ได้ก่อน ให้ตัวเองสบายใจแล้วถึงจะมีอารมณ์นั่งดื่มกับเพื่อน

“ให้มันไปๆ ซะ กูจะได้เผาเรื่องมันให้ฟัง ฮ่าๆๆ”

เสียงพนาดังขึ้นปนกับเสียงเพลงที่คลอเบาๆ แต่คนที่จะถูกเผาก็ไม่ได้สนใจ

คนตัวสูงเดินออกจากบริเวณห้องวีไอพีมายืนอยู่หน้าประตูทางเข้าแทน แสงไฟสลัวกับพื้นพรมสีแดงทำให้ที่นี่ดูลึกลับและหรูหราไปพร้อมๆ กัน หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยกข้อมือขึ้นมองเวลา สี่ทุ่มกว่าแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าวันศุกร์จะตอบกลับข้อความกันเลย

และความคิดถึง เป็นห่วง ก็ทำให้เขาตัดสินใจกดโทรไปหาอีกฝ่ายแทนที่จะมัวรอข้อความตอบกลับอยู่แบบนี้

(คุณชาย ตกใจหมดเลย)

เขาโล่งอกเมื่อได้ยินเสียงนุ่มๆ คุ้นหูจากปลายสาย

“ยุ่งอยู่หรือเปล่า”

(นิดหน่อยครับ แต่คุยได้นะ)

“อยู่กับใครครับ”

ถามออกไปเพราะปลายสายตอบเสียงเบาเหมือนแอบคุยอยู่ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยืนพิงกำแพงขณะที่บริเวณนั้นก็มีบอดี้การ์ดของริวยืนเฝ้าหน้าประตูอยู่ด้วย

(อยู่คนเดียวครับ)

“ไม่มีงานใช่มั้ย”

(มีครับแต่เพิ่งเสร็จ ผมรีบกลับห้องก่อน...ตอนนี้พี่โมไม่อยู่ห้อง)

“แล้วคุณทำอะไรอยู่”

(คุณชาย ผมอยากร้องไห้อ่ะ)

พอเปิดประเด็นถาม เสียงอ่อนๆ ของวันศุกร์ที่ตอบกลับมาก็ทำให้คนฟังขมวดคิ้ว หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงถอนหายใจเบาๆ กรอกเสียงทุ้มถามอีกคนด้วยความเป็นห่วง

“เป็นอะไรครับ”

(ผมลองมาเช็กยอดเงินในบัญชีคร่าวๆ ...คุณชายครับ ผมจะทำยังไงดี ผมเจอสเตตเมนต์ปลอมของเดือนก่อนๆ มันไม่ตรงกับยอดจริงในบัญชีของผม)

คุณชายทรงเพลิงตั้งใจฟังเงียบๆ ในหัวก็คิดตามไปด้วยว่าเรื่องที่สงสัยเอาไว้มันคงจะเป็นความจริง คนตัวสูงฟังน้ำเสียงนุ่มของวันศุกร์ที่เปล่งออกมาอย่างสม่ำเสมอ เขาชื่นชมอีกฝ่ายที่ไม่แสดงท่าทีตื่นตระหนกระหว่างที่เล่าให้ฟัง

วันศุกร์เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เก็บความรู้สึกเก่งทั้งๆ ที่บางครั้งเสียใจแทบตาย

(เงินในบัญชีของผมที่พี่โมดูแลอยู่ก็ถูกโอนออกครั้งละเกือบแสน ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ใช้เลยด้วยซ้ำ)

“คุณแน่ใจใช่มั้ย”

(อื้ม ผมเช็กแล้ว...เงินหายไปจริงๆ ครับ)

สิ่งที่ทำให้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงอยากปกป้องและถนอมวันศุกร์ให้ได้มากที่สุดก็คือความอ่อนแอที่เคลือบด้วยเปลือกแข็งจากภายนอก แล้วยิ่งได้ยินเสียงเล็กๆ ที่แผ่วลงทำเอาเขาอยากจะหายตัวไปกอดปลอบอีกคนตอนนี้เลยด้วยซ้ำ

(ผมรอให้พี่โมกลับมาเคลียร์กันอยู่ แต่ผมไม่รู้เลยจริงๆ ว่าต้องเคลียร์ยังไง)

ในตอนที่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงกำลังฟังเสียงสั่นๆ จากปลายสายพูดให้ฟัง ตาคมก็เหลือบไปเห็นร่างเพรียวของใครบางคนที่เดินโอบเอวกับผู้ชายลงมาจากชั้นสิบซึ่งเป็นชั้นสำหรับนักพนันโดยเฉพาะ เขาขมวดคิ้วเข้มมองบางคนเดินหายเข้าไปในลิฟต์จนลับตา

ถึงจะเคยเจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง แต่ก็จำได้ดีว่าผู้หญิงที่กำลังเดินกอดผู้ชายเข้าลิฟต์ไปพร้อมกับใบหน้ายุ่งๆ นั้นเป็นใคร

และมันก็ทำให้ในหัวของเขาเกิดคำถามทันที...ว่าผู้หญิงคนนั้นที่กำลังมีประเด็นกับวันศุกร์มาทำอะไรที่นี่

(ผมยังติดต่อพี่โมไม่ได้ด้วย)

“คุณเก็บเอกสารไว้ก่อน เดี๋ยวผมเข้าไปหา”

ผู้จัดการส่วนตัวของวันศุกร์ออกมาเที่ยวในสถานบันเทิงแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่อะไรบางอย่างบอกกับเขาว่าการมาเจออีกฝ่ายในตอนที่กำลังเดินลงจากคาสิโน มันคงต้องมีเรื่องพัวพันเกี่ยวกับเงินของวันศุกร์ที่ถูกโอนออกไปโดยที่เจ้าของบัญชีไม่รู้แน่ๆ

ในเมื่อวันศุกร์ยืนยันด้วยตัวเองขนาดนั้น เขาก็พอจะเดาได้แล้วว่าเงินส่วนหนึ่งที่หายไป...

มันหายไปไหนและเพราะใคร

(ผมไม่วางสายได้มั้ย) เสียงสั่นๆ บอกกับเขาทำให้รู้ทันทีว่าตอนนี้วันศุกร์กำลังต้องการใครสักคน

ถึงจะเข้มแข็งแค่ไหนก็ยังมีมุมอ่อนแอให้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเห็นเสมอ นั่นคือสิ่งที่วันศุกร์ไม่เคยแสดงออกให้ใครเห็นนอกจากเขา

“ได้ครับ”

เขารักที่วันศุกร์เป็นแบบนี้

“รอผมแป๊บเดียว”

บอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเพื่อให้คนฟังคลายความกังวลได้บ้าง เพียงแค่วันศุกร์เอ่ยปากร้องขอเขาก็พร้อมไปทุกที่ ทำทุกอย่างที่วันศุกร์ต้องการโดยไม่มีข้อแม้

แล้วในเวลาแบบนี้ไม่มีอะไรจะปลอบใจกันได้มากไปกว่าการเจอหน้า กอดวันศุกร์ไว้แน่นๆ ปลอบประโลมอีกฝ่ายด้วยจูบเบาๆ บนหน้าผาก

(เพลิง)

มีแค่เขาเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งให้วันศุกร์ได้...

(ผมอยากกอดคุณ)

คนเดียวเท่านั้น เขามั่นใจ



[มีต่อด้านล่างค่ะ]

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 13.2 - up1.7.62
«ตอบ #38 เมื่อ01-07-2019 12:46:11 »









ถึงจะดึกแล้วแต่ก็มีเรื่องรบกวนในสมองทำให้คนที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันข่มตาหลับลงไม่ได้เลยจริงๆ ตอนนี้วันศุกร์เลยออกมานั่งตากน้ำค้างตอนกลางคืนในสวนหย่อมของคอนโด โชคดีที่วันนี้ฝนไม่ตก ไม่อย่างนั้นคนที่ว้าวุ่นอย่างเขาคงได้แต่อุดอู้อยู่ในห้องคิดอะไรไม่ออกไปสักพัก

ข้างๆ กันคือหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่นั่งโอบไหล่เขาไว้ ความอบอุ่นจากกายหนาของอีกฝ่ายทำให้วันศุกร์ผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง เสียงทุ้มๆ หรือแม้แต่รอยยิ้มที่นานๆ ทีจะเห็นบนใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายก็มีผลทำให้วันศุกร์คลายความเครียดลงได้มากขึ้นกว่าเดิม

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่อยู่กันตรงนี้ วันศุกร์ไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายต้องมารับรู้เรื่องแบบนี้ด้วยเลยจริงๆ ไม่อยากให้คุณชายเครียดไปด้วย

แต่ก็คงไม่ทันแล้ว เพราะเอกสารรายได้ทั้งหมดของวันศุกร์กับรายการบัญชีของวันศุกร์อยู่ในมือของคุณชายหมดแล้ว

เพราะวันศุกร์เองก็ไม่มีความสามารถพอที่จะตรวจสอบเรื่องต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง คุณชายเลยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทุกอย่าง

วันศุกร์ตั้งใจเอาไว้แล้วจะคุยกับพี่โมเรื่องนี้ เขาจะไม่แจ้งความหรือทำให้เรื่องมันใหญ่โตอะไรทั้งนั้น แค่นับแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปวันศุกร์จะดูแลเรื่องงานและเรื่องเงินของตัวเองโดยไม่ให้พี่โมเข้ามาเกี่ยวข้องอีก

วันศุกร์คุยกับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเรื่องนี้แล้ว ถึงแม้ว่าคุณชายเขาจะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่แต่ก็เคารพในการตัดสินใจของวันศุกร์ ทั้งที่ใจจริงคุณชายอยากให้ดำเนินคดีมากกว่า

“ไม่ต้องกังวลแล้ว”

“ผมไม่ได้กังวลแล้วนะ คุณชายนั่นแหละที่กังวลยิ่งกว่าผมอีก”

“ตอนนี้คุณเจอกับอะไรอยู่ จะไม่ให้ผมกังวลได้ยังไง”

คนที่สวมเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งจมอยู่ในอ้อมแขนแกร่งเงยหน้ามองคางของคนตัวโต หัวกลมๆ ซบไหล่กว้างฟังเสียงทุ้มเข้มของคุณชายเขาพร้อมกับรอยยิ้ม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่ตกอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ แบบนี้

เหมือนคุณชายเขาเป็นที่พักพิงที่ดีที่สุด เป็นคนที่วันศุกร์พร้อมจะแชร์ทุกอย่างให้ฟัง

“คุณเจอแค่เรื่องเงินใช่มั้ย”

“หมายความว่ายังไงเหรอครับ”

“ผมเห็นมาหลายคนที่ถูกผู้จัดการโจมตีข่าวเสียๆ หายๆ ใส่ บางคนถูกแบล็กเมล์ ถึงขั้นทำร้ายร่างกายก็มี”

“...”

“ผมห่วงเรื่องความปลอดภัยของคุณ ไม่รู้ว่าพี่สาวคุณคิดไม่ดีอย่างอื่นด้วยหรือเปล่า”

“ไม่หรอกครับ พี่โมไม่ใช่คนแบบนั้น”

“คุณต้องดูแลตัวเองดีๆ”

“คุณชายดูแลผมด้วยได้มั้ยอ่ะ” แกล้งถามไปแบบนั้นให้คุณชายที่เอาแต่ทำหน้านิ่งแต่ก็รู้เลยว่ากำลังกังวลเรื่องเขาอยู่ได้ยิ้มออกบ้าง

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก้มหน้ามองวันศุกร์ที่ฉีกยิ้มเล่นหูเล่นตากับเขา พอเห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะโน้มใบหน้าลงไปฝังจมูกบนแก้มของอีกคน

“ผมต้องดูแลคุณอยู่แล้ว แต่ยังไม่เต็มที่เท่าไหร่”

“ไม่นะครับ” วันศุกร์ส่ายหน้าเพราะไม่เห็นด้วยที่อีกฝ่ายบอกว่ายังดูแลกันไม่เต็มที่

คุณชายดูแลวันศุกร์ดีจะตาย วันศุกร์ยังจำได้ดีว่าตอนที่เจอหน้ากันครั้งแรกในรอบสองปีวันนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แต่คุณชายเขาก็แสดงออกถึงความใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้วันศุกร์เห็น คืนวันนั้นหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงสั่งของชอบมาให้เขากินอย่างอ้อมๆ โดยการอ้างนู่นอ้างนี่ ไหนจะตามไปส่งที่กองถ่าย แถมยังอยู่เฝ้าด้วยอีกต่างหาก

คุณชายดูแลวันศุกร์ดีอย่างนี้เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม

“ถ้าให้เต็มที่กว่านี้คุณต้องไปอยู่กับผม”

“...”

“ตกลงมั้ยครับ”

“อะ อะไรเหรอครับ เมื่อกี้ไม่ได้ฟังเลย”

คนที่แกล้งไม่ได้ยินก้มหน้างุดจนคางแทบชิดอกไปแล้ว วันศุกร์กลั้นยิ้มก่อนจะเอียงหน้าหนีปลายจมูกของอีกคนที่คลอเคลียแก้มร้อนๆ ของเขา ก็ไม่คิดว่าคุณชายทรงเพลิงจะถามคำถามนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ไม่คิดเลยจริงๆ ว่ายังอยากให้วันศุกร์กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน

“คุณได้ยิน”

“ไม่ได้ยินนะครับ”

“ได้ยินแต่ทำเป็นไม่ได้ยิน”

“ไม่รู้...ไม่ได้ยินจริงๆ ครับ” เม้มปากกลั้นยิ้มอีกครั้งเมื่อหันไปมองแล้วเจอกับรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากของคุณชาย

เขาจะรู้บ้างมั้ยว่าตัวเองมีเสน่ห์และหล่อเหลามากแค่ไหน

“ไปอยู่กับผมมั้ย”

คราวนี้คงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินไม่ได้แล้วเพราะริมฝีปากของคุณชายกระซิบข้างใบหูของวันศุกร์ เขาเปล่งเสียงทุ้มชัดถ้อยชัดคำ ลมหายใจอุ่นๆ ทำเอาวันศุกร์ขนลุกตัวเกร็งไปทั้งร่าง สายตาคมของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงจับจ้องเสี้ยวหน้าของวันศุกร์ แค่ปรายตามองก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายต้องการคำตอบแบบไหน

“ผมมีคอนโดอยู่แล้ว...ไม่เห็นต้องไปอยู่กับคุณชายเลยนี่นา”

“ขายทิ้งไง ถ้ากลัวขาดทุนเดี๋ยวผมให้ริวมาซื้อต่อ”

“ริว...เพื่อนคุณชายที่เป็นมาเฟียเหรอ”

“ครับ”

“ฮึ่ย ไม่เอาหรอก แค่ได้ยินชื่อก็ขนลุกจะแย่”

ที่รู้เรื่องของคุณชายหมดเพราะตอนที่ยังคบกันอยู่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ปิดบังเรื่องส่วนตัวอะไรเลยสักอย่าง เห็นคุณชายเงียบๆ ขรึมๆ แบบนี้ บอกเลยว่าประสบการณ์ชีวิตตอนอยู่อังกฤษไม่ได้สวยหรูอย่างตอนนี้หรอกนะ

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงดื้อเงียบของจริง เขาใช้ชีวิตได้คุ้มค่ามาก เรียกได้ว่าตอนนั้นโยนคำว่าหม่อมราชวงศ์ทิ้งแล้วเหลือแค่นายทรงเพลิงเลยก็ว่าได้

“ผมพูดจริง”

“คุณชายกังวลเกินไปจริงๆ นะครับรู้ตัวมั้ยเนี่ย ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักหน่อย...”

“ผมไม่ได้คิดแค่เรื่องความปลอดภัยของคุณแล้ว แต่ผมคิดถึงเรื่องของเราสองคนด้วย”

“...”

“ผมอยากให้คุณกลับมาอยู่กับผมเหมือนเดิม”

น้ำเสียงหนักแน่นที่ทำให้คนฟังมั่นใจได้ว่าพร้อมที่จะดูแลกันจริงๆ ส่งผลให้วันศุกร์ต้องเงยหน้าสบตากับอีกคนด้วยความรู้สึกที่อยากขอบคุณจากใจจริง

มีคุณชายคนนี้นี่แหละ ที่มอบความรักให้โดยที่เขาไม่ต้องร้องขอ รักเขาโดยไม่สนชื่อเสียง เงินทอง ไม่สนว่าเขาจะอยู่ในจุดไหนของชีวิต

ต่อให้ดิ่งลงเหว หรือลอยอยู่บนฟ้า...
ก็จะไม่ไปไหน

มันคือคำที่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเคยบอกกับเขาเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน มันยังดังและย้ำชัดในใจของวันศุกร์เสมอ

“ขอบคุณนะครับคุณชาย”

“ครับ”

ค่อยๆ หลับตาลงตอนที่ริมฝีปากอุ่นแนบลงบนหน้าผาก ขอบตาของวันศุกร์กำลังร้อนผ่าวเพราะความอ่อนโยนของผู้ชายคนนี้

วันศุกร์คิดอยู่ในหัว โชคดีแค่ไหนแล้วที่มีหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงคอยอยู่เคียงข้างกันตลอด

โชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง

เขาโชคดีมากจริงๆ








*****






 
“เป็นไง ค้นของในห้องกูสนุกมากมั้ย”

โมยืนจ้องตาขวางมองลูกพี่ลูกน้องที่ยืนดื่มน้ำอยู่หน้าตู้เย็น ถึงในห้องนอนของตัวเองจะเป็นระเบียบเหมือนไม่มีใครเข้าไปรื้อค้นอะไรก็ตาม แต่เธอเห็นหมดแล้ว

“พี่โม”

“เออ กูเอง”

คงไม่ต้องพูดดีๆ กันแล้วเพราะวันศุกร์ก็ไม่ได้เคารพความเป็นส่วนตัวของเธอเลย โมตาแดงก่ำเพราะโกรธ โกรธทุกอย่างที่วันศุกร์ทำ

“ได้อะไรไปบ้าง ไหนบอกหน่อยดิ”

“กลิ่นเหล้าหึ่งเลยนะพี่โม ไปนอนก่อนมั้ยครับ” คนที่ยืนป้องจมูกขมวดคิ้ว เขาเองก็ตกใจเหมือนกันที่เจอพี่โมแบบไม่ทันตั้งตัว เดาเอาว่าอีกฝ่ายคงกลับมาถึงห้องนานแล้วและคงเห็นว่ากล่องเอกสารที่เกี่ยวกับวันศุกร์หายไปเลยโกรธถึงขั้นพูดคำหยาบใส่กันแบบนี้

“กูแดกเหล้าแต่กูไม่ได้เมา อย่างน้อยๆ กูก็มีสติรู้ว่าห้องกูถูกคนไร้มารยาทอย่างมึงมาค้น”

“พี่โม นี่ไม่ใช่ความผิดผมนะ ผมขอพี่โมดูยอดเงินในบัญชีแล้วแต่พี่โมไม่ให้เอง”

“มึงเลยมาค้นของห้องกูเนี่ยนะ”

“ผมจะไม่ค้นหรอก ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเงินค่าตัวโฆษณางวดแรกของผมหายไป”

“...”

“ไหนพี่โมบอกว่าบริษัทของคุณชายยังไม่ออกเช็คงวดแรกให้ไงครับ แล้วทำไมจู่ๆ ผมถึงได้เช็คงวดที่สองแล้ว”

คนที่ตัวสั่นเพราะความโกรธน้ำตาไหลอาบแก้ม มันเป็นภาพที่ทำให้วันศุกร์ต้องหันหน้าหนี

ตอนแรกเขาจะไม่กลับเข้ามาในห้องแล้วด้วยซ้ำ แต่เพราะรู้สึกคอแห้งและอยากจะชงอะไรสักอย่างไปให้คุณชายทรงเพลิงดื่มเลยขอตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง วันศุกร์มีลางสังหรณ์แปลกๆ ในใจตั้งแต่เช้า ยอมรับว่าลึกๆ แล้วเขายังไม่อยากเผชิญหน้ากับผู้จัดการส่วนตัวตอนนี้ แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆ

“ทำไม จะหาว่ากูโกงว่างั้น”

“แล้วพี่โมโกงหรือเปล่าล่ะครับ”

“ไอ้วันศุกร์!”

“ผมน่าจะสงสัยพี่โมตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังโง่ให้พี่โมหลอกอยู่เรื่อย”

“กูหลอกอะไรมึง มีหลักฐานหรือไงถึงมากล่าวหากูแบบนี้”

“พี่โมบอกผมหน่อยสิว่าเงินในบัญชีผมถูกโอนไปไหนอาทิตย์ละหลายๆ แสน”

“...”

“แล้วเงินสิบล้านค่าตัวโฆษณาของผมงวดแรกอยู่ที่ไหน”

พยายามแข็งใจไม่ให้ตัวเองเผลอส่งเสียงสั่นๆ ออกไป วันศุกร์มองคนตรงหน้าที่ไม่มีทีท่าว่าจะสลดหรือรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิด มันยิ่งทำให้เขาผิดหวัง เสียใจจนอธิบายไม่ถูก

ก็ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าคนที่ไว้ใจมากๆ ญาติคนเดียวที่เหลือในชีวิตจะมาทำแบบนี้กับเขา

โมได้แต่กำมือแน่นเพราะเธอเองก็พูดอะไรไม่ออก ถึงจะไม่ยอมรับว่าเธอเป็นคนเอาเงินของวันศุกร์ไปใช้จ่ายส่วนตัวแต่ก็รู้อยู่แก่ใจ

“กูไม่รู้”

“พี่โม ผมขอนะ...เราพูดกันตรงๆ ได้มั้ย”

“ก็กูไม่ได้เอาไป ไอ้คุณชายมันไม่ยอมออกเช็คให้เองเพราะมันเกลียดมึงที่ไปสาย มึงไปทวงเอากับมันสิ”

“พี่โมฟังนะ คุณชายเขาเป็นคนเอาเช็คงวดที่สองมาให้ผมเอง เขาไม่ได้เกลียดผม...พี่อย่าดึงคนอื่นมาเกี่ยวได้มั้ย”

คนฟังยิ้มเยาะ เธอไม่คิดว่าวันศุกร์จะฉลาดทั้งที่ผ่านมาก็โง่ให้เธอหลอกมาตลอด ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโกหกต่อไปเพื่ออะไร

“เออ กูเอาเงินมึงไปใช้เอง...พอใจหรือยัง”

เธอเกลียด

“ค่าตัวที่มึงได้ บางงานก็ไม่เข้าบัญชีมึงด้วยซ้ำ เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะกูคิดว่ากูควรจะต้องได้ค่าเหนื่อยพอๆ กับมึง...กูวิ่งเต้นหางานให้มึงมาตั้งเยอะ ทำไมกูต้องได้เงินน้อยกว่ามึงด้วย”

และอิจฉา

“กูจะบอกให้ก็ได้ถ้ามึงอยากรู้ว่ากูเอาเงินไปทำอะไรบ้าง กูแค่เอาไปเที่ยว ซื้อของแพงๆ ให้ลูกกูกิน เปย์ผัวหมดหน้าตัก...มึงรู้มั้ยว่าตั้งแต่ที่กูเอาเงินมึงมาใช้ ผัวกูมันก็ยอมกลับมาคืนดีกับกู มึงรู้มั้ยว่ากูดีใจมากแค่ไหน”

“นี่พี่กลับไปคบกับพี่ชาติอีกแล้วเหรอ เขาเคยทำร้ายพี่กับต้นน้ำพี่จำไม่ได้หรือไง”

“กูไม่เคยลืม แต่กูรักมันมึงไม่เข้าใจหรอก...”

“พี่โม...”

“แล้วตอนนี้กูกับมันก็ติดหนี้พนัน แต่มึงไม่ต้องมาเห็นใจหรอกนะ เพราะอีกเดี๋ยวมึงก็คงจะเรียกตำรวจมาจับกูข้อหาฉ้อโกงใช่มั้ย...ได้ มาจับเลย ถ้ามึงไม่ห่วงหลานมึงก็เรียกตำรวจมาลากคอกูเข้าคุกไปซะ”

วันศุกร์มองคนที่ยื่นสองมือมาตรงหน้า ความเจ็บปวดมันแล่นขึ้นสมองจนปวดหัวไปหมดแล้ว วันศุกร์ไม่เคยคิดถึงเรื่องที่จะเอาญาติตัวเองเข้าคุกเลยสักครั้ง แค่แวบหนึ่งในหัวก็ยังไม่มี

“ผมไม่เคยคิดเรื่องแจ้งตำรวจเลยนะพี่โม”

“มึงตอแหล เดี๋ยวพรุ่งนี้กูก็คงขึ้นข่าวหน้าหนึ่ง แล้วมึงก็คงไปยืนทำหน้าเศร้าๆ เรียกคะแนนสงสารต่อหน้านักข่าวใช่มั้ย...มึงมันตอแหลของจริงเลยไอ้วันศุกร์”

“เลิกหยาบคาบใส่วันศุกร์ได้แล้วคุณโม”

คนที่ยืนชี้หน้าด่าวันศุกร์ฉอดๆ สะดุ้งเฮือกเพราะเสียงทุ้มเข้มของใครบางคนดังขึ้น คนที่เข้ามาใหม่สาวเท้าตรงเข้ามายืนข้างๆ คนตัวเล็ก หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงขมวดคิ้วแน่น เขาอดทนยืนฟังคำด่าทอจากโมมาสักพักแล้ว และไม่เข้าใจเลยว่าอีกฝ่ายทนให้ถูกต่อว่าอยู่แบบนั้นได้ยังไง

วันศุกร์ที่จู่ๆ ก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้เงยหน้ากะพริบตาให้น้ำใสๆ หยุดไหล เขายังไม่พร้อมที่จะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าพี่โมในตอนนี้

“แล้วคุณชายมาเกี่ยวอะไรไม่ทราบคะ อ๋อ นี่อย่าบอกนะว่า...”

“ห้ามยุ่งเกี่ยวกับวันศุกร์อีกถ้าคุณไม่อยากเดือดร้อน”

“...”

“จะไม่มีใครเอาเรื่อง ถ้าคุณรีบเก็บเสื้อผ้าออกไปจากที่นี่ แล้วหายไปจากชีวิตของวันศุกร์ตอนนี้”

“พวกมึง...ขู่กู”

“วันศุกร์เลือกทางออกที่ดีที่สุดให้คุณต่างหาก คุณไปซะตอนนี้ยังไปเริ่มชีวิตใหม่ได้”

ดวงตาคมกริบจ้องใบหน้าของโมที่เปรอะเปื้อนไปด้วยร่องรอยเครื่องสำอางและคราบน้ำตา ถึงจะร้องไห้หนักแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้ดูน่าเวทนาเลยสักนิด กลับกันมันทำให้ดูน่าขยะแขยงมากกว่าเพราะอีกฝ่ายยังไม่มีท่าทีของคนที่สำนึกผิดแสดงออกมาเลย

“ก็ได้ แล้วอย่ามาเรียกร้องให้กูชดใช้เงินที่เอาไปทั้งหมดแล้วกัน เพราะกูไม่มีให้หรอกนะวันศุกร์”

ไม่มีแล้วญาติคนเดียวของเขา

ไม่มีแล้วพี่สาวที่เคยสัญญาว่าจะอยู่ดูแลกันไปตลอด

“ต่อจากนี้มึงกับกู...ตัวใครตัวมันแล้วกัน”








*****






 
ถึงจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจไม่เอาความของวันศุกร์ แต่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็คิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว

ห้องนอนห้องนั้นดูโล่งทันทีที่โมเก็บข้าวของของตัวเองออกไปจนหมด เธอโทรเรียกให้สามีเก่าที่เคยเลิกรากันไปและตอนนี้กลับมาคบกันใหม่เข้ามาช่วยขนของ กว่าจะขนออกไปหมดก็เกือบเช้า

จริงๆ วันศุกร์ไม่ได้รู้สึกแย่ถึงขนาดที่ต้องมานั่งจมปรักเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนไม่เป็นอันทำอะไร แต่กลับกันซะอีกเพราะวันศุกร์ดูพร้อมที่จะกลับมาสู้กับงานที่จะเจอในวันนี้ ถึงจะเหนื่อยกับเรื่องที่ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็วแต่วันศุกร์ก็รับมือกับมันได้

ที่ผ่านมาได้ขนาดนี้ก็เพราะว่ามีหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงคอยช่วยเหลืออยู่

ตีสามครึ่งผ่านไปพร้อมกับความเหนื่อยล้าของคนที่ยังไม่ได้นอนมาตลอดทั้งวันส่งผลให้วันศุกร์ที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาอ้าปากหาววอด ก่อนจะต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดปากเมื่อหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเดินถือน้ำมาวางให้ตรงหน้า

“ดื่มน้ำแล้วเข้าไปนอนได้แล้ว”

“คุณชายเหนื่อยมั้ยครับ”

“ไม่เหนื่อยครับ”

คำถามเดิมๆ ที่วันศุกร์เคยถามถูกตามมาด้วยคำตอบเดิมๆ เหมือนทุกครั้ง แต่นั่นก็ทำให้วันศุกร์รู้ว่าคำพูดที่ออกมาจากปากของคุณชายทรงเพลิงนั้นถูกกลั่นออกมาจากใจไม่ใช่แค่พูดส่งๆ ไปอย่างนั้น

“คุณก็ไม่ต้องคิดมาก”

“ไม่ได้คิดแล้วครับ”

“เก่งมาก”

เพราะคุณชายทรงเพลิงนั่นแหละที่ทำให้วันศุกร์ยิ้มได้

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไล้แก้มขาวของวันศุกร์เบาๆ ก่อนจะดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้ เขารู้ว่าต่อให้วันศุกร์กำลังยิ้มให้อยู่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้มแข็ง หัวใจที่เปราะบางของวันศุกร์แตกสลายเพราะความเชื่อใจที่เคยมอบให้กับคนที่คิดว่าสำคัญคนหนึ่งในชีวิต มันคงต้องใช้เวลาในรักษา ถึงจะไม่หายดีเหมือนเดิมแล้วก็ตาม

“ผมขอโทษนะครับที่ต้องให้คุณชายมาเจออะไรแบบนี้...ทั้งที่มันเป็นเรื่องของผมแท้ๆ”

“เรื่องของคุณก็เหมือนเรื่องของผม”

เขายิ้ม

รู้สึกว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนแล้วที่มีหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงคอยอยู่ข้างกันเสมอ

“ขอบคุณนะเพลิง...ขอบคุณมากๆ”

เพราะไม่มีคำไหนที่ดีไปกว่านี้แล้ว วันศุกร์เลยพูดย้ำให้อีกคนรับรู้

คนตัวเล็กมองออกไปนอกระเบียงที่ไม่มีแสงสว่าง ความมืดตรงหน้ามันทำให้เขารู้ว่าต่อให้วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังมีอ้อมกอดอุ่นๆ คอยปลอบประโลม

มีสองมือหนาที่จะคอยจับมือของเขาไว้

พาเดินไปด้วยกันและเคียงข้างกันไปอย่างนี้

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงคือแสงสว่างในชีวิตของวันศุกร์






#หวนกลิ่นรัก





คนที่หลงตัวเอง
และคิดว่าตัวเองถูกเสมอมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ค่ะ
พี่โมในเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้นค่ะ ^^











 


ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 14.1 - up1.7.62
«ตอบ #39 เมื่อ01-07-2019 12:47:27 »

14



 
วันศุกร์มองบทละครในมือที่เป็นตอนอวสานของเรื่องอย่างใจแป้ว เขาใช้เวลาในการถ่ายละครเรื่องนี้นับหกเดือน ความโด่งดังแลกมากับความเหนื่อยล้าและความสนุกสนาน ทุกคนในกองถ่ายนี้ดีกับเขามากๆ จนอยากให้เรื่องต่อไปได้กลับมาร่วมงานกันอีก

แต่ก็ยิ้มออกเพราะหลังจากนี้เขาจะมีเวลาว่างให้กับอีเวนต์ต่างๆ ละครเรื่องใหม่เปิดกล้องอีกทีก็กลางปีหน้าเลย

สองอาทิตย์แล้วกับการที่ใช้ชีวิตคนเดียวในคอนโด วันศุกร์เหนื่อยกว่าเดิมเพราะเขาต้องรับงานเอง คุยกับลูกค้าเอง บางทีก็ไม่ได้รับสายใครเลยเพราะตัวเองติดถ่ายละคร ออกอีเวนต์ หรือต้องอัดรายการต่างๆ วันศุกร์เลยต้องทำวอยซ์เมลเอาไว้

โชคดีที่พักหลังๆ คนที่เคยติดต่องานกันบ่อยๆ รู้ว่าเขารับงานคนเดียวเลยส่งข้อความทิ้งเอาไว้รอให้วันศุกร์ตอบกลับแทนการโทร

“เฮ้ยวันศุกร์ พรุ่งนี้ไปฉลองปิดกล้องด้วย ไม่ติดงานอะไรใช่มั้ย”

“ไม่ครับพี่ออย ผมเคลียร์คิวให้แล้ว”

“ดีมาก...ว่าแต่ ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นมึงทะเลาะกับไอ้โมเลย ดีกันแล้วใช่มั้ย”

“อ่า ครับ”

“เออ มันต้องอย่างนี้ แต่กูไม่เห็นหน้ามันเลยว่ะ พรุ่งนี้ชวนมันมาด้วยแล้วกัน”

วันศุกร์พยักหน้าเบาๆ พลางฉีกยิ้มให้ผู้กำกับที่เพิ่งสั่งปิดกองหลังจากจบฉากสุดท้ายเมื่อกี้ เขายังไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองไม่มีผู้จัดการส่วนตัวให้ใครรู้

ไม่ได้ตั้งใจจะปิดเงียบ แต่มันคงดีกว่าถ้าเขาอยู่เฉยๆ และไม่ทำลายชื่อเสียงของอีกฝ่าย ไม่ตัดอนาคตพี่โมเพราะมีลูกชายที่ยังต้องดูแล

คนตัวขาวยืนพิงเคาน์เตอร์ในห้องแต่งตัว วันนี้เขามีแค่งานเดียวก็คือถ่ายละครที่ถ่ายกันยาวนานร่วมสามวันเต็ม

วันศุกร์แทบไม่ได้อยู่ห้องเลยด้วยซ้ำตั้งแต่ที่พี่โมย้ายออกไป ไม่ใช่ว่าเขาไปหาที่อยู่ที่อื่นหรือไปอยู่กับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงหรอกนะ แต่เพราะถ่ายละครมาราธอนนี่แหละ นอน กิน ใช้ชีวิตในกองถ่ายแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน

มือขาวๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นไปพลางๆ ระหว่างที่รอพักให้ตัวเองหายเหนื่อย ตอนนี้บ่ายสามโมงกว่าแล้ว เขากำลังนึกอยู่ว่าเย็นนี้จะกลับไปกินอะไรดี เป็นการฉลองที่ไม่ต้องไดเอตอีกต่อไปแล้ว

หัวกำลังนึกถึงแต่เรื่องของกิน ปลายนิ้วเรียวก็กดเข้าแอพพลิเคชั่นแชตไปด้วย ปากบางๆ คลี่ยิ้มทันทีเมื่อตอนที่กดเข้าไปในหน้าแชตของใครบางคน

ในตอนนั้นเองที่วันศุกร์รู้สึกว่าความคิดถึงกำลังเล่นงานเขาอย่างจัง

ก็ไม่ได้เห็นหน้ากันเลยตั้งหลายวัน คนที่กอดปลอบวันศุกร์ในวันนั้นจะคิดถึงกันบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้


ครั้งสุดท้ายที่คุยกันก็เมื่อสองวันที่ผ่านมานี้เอง

แต่ก็คิดถึงมากๆ เหมือนไม่ได้คุยกันมาเป็นเดือนๆ

Friday: (ส่งสติ๊กเกอร์หมีเคาะประตู)
Plerng: ว่าไงครับ

ข้อความถูกตอบกลับอย่างรวดเร็วจนวันศุกร์ยิ้มกว้าง อดสงสัยไม่ได้เลยจริงๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังรอให้วันศุกร์แชตหาอยู่หรือเปล่า หรืออาจจะจับโทรศัพท์อยู่แล้วก็ไม่รู้

Friday: คุณชาย ._. ตอบเร็วจัง
Friday: งานไม่ยุ่งเหรอครับ
Plerng: ครับ
Plerng: คุณถ่ายละครเสร็จแล้วเหรอ
Friday: ใช่แล้ว
Friday: เหนื่อยมากกกก
Plerng: ไม่มีงานแล้วใช่มั้ย
Friday: ไม่มีแล้วครับ ว่าจะกลับห้องไปนอนเลย
Friday: ตามันปรือๆ
Plerng: แล้วจะขับรถกลับไหวเหรอ
Plerng: ให้ผมไปรับมั้ย
Friday: ไม่รบกวนคุณชายยย
Plerng: ไม่ได้รบกวน
Plerng: ผมอยากเจอคุณ
Friday: แง่ะ
Plerng: ไม่อยากเจอผมเหรอ?
Friday: อยากเจอสิครับ
Friday: งั้นเดี๋ยวผมไปหาคุณชายดีกว่า จะเอากระเช้าเข้าไปสวัสดีคริสต์มาสด้วย
Plerng: อะไรคือสวัสดีคริสต์มาส

วันศุกร์ขำให้กับคำถามของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง นึกหน้าคุณชายเขาออกเลยแหละว่ากำลังทำหน้ายังไงตอนพิมพ์ถาม

ไม่ขมวดคิ้วก็คงทำหน้านิ่งๆ

Friday: มันก็เหมือนๆ กับกระเช้าสวัสดีปีใหม่ สวัสดีสงกรานต์
Plerng: จะสวัสดีล่วงหน้าเป็นเดือนเลยเหรอ
Friday: ผมก็เห็นดาราคนอื่นซื้อของมาสวัสดีคริสต์มาสพี่ออยกันตั้งเยอะ ไม่เห็นจะเร็วเลย
Plerng: ตามใจครับ
Plerng: เย็นนี้ไปกินข้าวกับผมมั้ย
Friday: ด้ายยยย ไม่ได้ลดน้ำหนักแล้วจะกินให้เต็มที่เลย
Friday: เลือกร้านหรือยัง เดี๋ยวผมเลือกให้มั้ย
Plerng: ไม่ต้องเลือก
Plerng: ไปกินที่บ้านผม
Friday: ซื้อเข้าไปกินหรือว่าทำเองครับ ผมไม่ทำนะคุณชาย
Friday: ไม่มีแรงทำอะไรแล้วง่ะ
Plerng: ไม่ต้องทั้งสองอย่าง
Plerng: แม่ครัวทำไว้ให้แล้ว
Friday: คุณชายจ้างแม่ครัวมาทำอาหารที่คอนโดเหรอครับ
Plerng: ผมไม่ได้หมายถึงคอนโดนะวันศุกร์

วันศุกร์ย่นคิ้วเพราะปกติหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมักจะเรียกคอนโดว่าบ้านหรือไม่ก็ห้อง หรือไม่ก็เรียกว่าคอนโดไปเลย

ที่เขาเข้าใจก็มีแค่นี้

Plerng: ผมหมายถึงบ้านของผม
Friday: วังน่ะเหรอครับ
Plerng: ครับ
Friday: เฮ้ยยย ไม่ไปนะคุณชาย

คนที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ากำลังคุยกับคนที่มีบ้านเป็นวังติดริมแม่น้ำเจ้าพระยายกมือขึ้นลูบอกตัวเองเบาๆ วันศุกร์ตกใจจนเกือบเผลอส่งเสียงร้องออกมาแล้วด้วยซ้ำ

ก็ไม่คิดว่าจู่ๆ อีกคนจะชวนเข้าวัง...หัวใจมันเลยเต้นแรงเพราะความตื่นเต้นนั่นแหละ

Plerng: ไม่ไปไม่ได้ วันนี้ผมต้องกลับไปกินข้าวที่บ้าน
Plerng: แม่ผมอยากเจอคุณด้วย
Friday: คุณชายโม้หรือเปล่า จู่ๆ ท่านจะอยากเจอผมได้ยังไง
Plerng: คุณแม่รู้ว่าคุณเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แบรนด์ผม
Plerng: ท่านชอบคุณ อยากได้ลายเซ็น อยากเจอตัวจริง
Friday: ฮือออ คุณชายอ่า
Friday: ผมทำตัวไม่ถูกนะ
Plerng: คุณก็ทำตัวปกติ
Friday: ผมพูดศัพท์เจ้าไม่เป็นนะครับ
Plerng: ผมก็เห็นว่าคุณพูดอยู่ในละคร เก่งด้วย
Friday: ผมพูดตามบทไงครับ บางคำยังไม่รู้ความหมายเลย
Friday: แล้วรู้ได้ไงว่าผมพูด ไหนบอกไม่ดูละครไงงงงง
Plerng: ผมเพิ่งย้อนดูทีหลัง
Plerng: สนุกดี
Friday: ฮั่นแน่ ติดใจคุณบดินทร์ใช่ม้า ผู้ชายที่แกร่งกว่าหินผา~
Plerng: เปล่า
Plerng: ผมติดใจคนที่แสดงเป็นนายบดินทร์
Friday: (ส่งสติ๊กเกอร์หมีวิญญาณหลุดออกจากร่าง)

ถึงกับต้องยกมือขึ้นมาพัดไล่ความร้อนออกจากใบหน้าทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้ผลเลยสักนิด

วันศุกร์เอามือปิดหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างเขินๆ ...อือ ทำอะไรไม่ถูกเพราะข้อความของคุณชายเขานั่นแหละ

Plerng: ออกมาหรือยังครับ
Friday: โหย ยังไม่ได้ตกลงเลย
Plerng: คุณไม่ต้องคิดมาก
Plerng: ผมก็ใช้คำพวกนั้นไม่เป็นเหมือนกัน
Friday: อ้าวคุณชาย 55555
Plerng: ที่บ้านพูดกันปกติหมดเลย
Friday: อย่าเรียกว่าบ้านสิครับ วังก็วัง

จะพูดยังไงดี บ้านมันก็คือบ้าน วังก็คือวัง ถึงจะใช้อาศัยเหมือนกันแต่มันก็มีความต่างกันอยู่หลายอย่าง วันศุกร์ยู่ปากให้กับคนที่ติดเรียกวังว่าบ้าน

Plerng: ก็นั่นบ้านผม
Friday: เง้อ ไม่คุยกับคุณชายแล้ว

นิสัยคุณชายก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่โอ้อวดว่าตัวเองเป็นหม่อมราชวงศ์ ไม่บอกใครว่ารวยล้นฟ้า แถมยังเรียกวังว่าบ้านอีกต่างหาก

Plerng: ผมรอที่ออฟฟิศนะ รอของขวัญสวัสดีคริสต์มาสของคุณ
Friday: พอคุณชายพิมพ์แบบนั้นแล้วมันตลกง่ะ
Plerng: ออกมาได้แล้วครับ
Friday: แต่ไม่ไปวังคุณชายได้มั้ยครับ ;(
Plerng: ทำไมคุณถึงไม่อยากไป
Friday: คุณชายจะให้ผมไปในฐานะอะไรล่ะครับ ผมเป็นคนนอกแท้ๆ เลยนะ
Plerng: ฐานะแฟนผม
Friday: เนี่ย คิดไปเองเก่ง
Plerng: หรือว่าไม่ใช่?
Friday: ผมจำได้ว่าผมโสดนะ
Plerng: งั้นให้ผมขอเลยมั้ย
Plerng: แต่ผมจะพูดต่อหน้าคุณนะ
Plerng: ออกมาได้แล้ววันศุกร์
Friday: ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่คุณชายเรียก!




[มีต่อด้านล่างค่ะ]



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 14.1 - up1.7.62
« ตอบ #39 เมื่อ: 01-07-2019 12:47:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 14.2 - up1.7.62
«ตอบ #40 เมื่อ01-07-2019 12:48:04 »









 














กระเช้าสวัสดีคริสต์มาสของวันศุกร์ถูกหอบลงจากรถฮอนด้าซีวิคสีขาวมุก

ร่างเล็กๆ ของดาราดังอันดับหนึ่งของประเทศแจกยิ้มให้พนักงานในบริษัทตั้งแต่พี่รปภ. จนถึงป้าแม่บ้าน ก็ทุกคนในนี้คุ้นเคยกับวันศุกร์หมดแล้วเพราะช่วงหลังเขาก็เข้าออกบริษัทบ่อยๆ หลักๆ ก็มาบรีฟเรื่องงานแถลงข่าวเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า

วันศุกร์เดินเข้าลิฟต์หลังจากที่ติดต่อกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ว่าจะมาขอเข้าพบคุณรองประธาน ความจริงหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงบอกให้วันศุกร์ขึ้นลิฟต์มาเลยโดยไม่ต้องแจ้งใครก่อน

แต่ไม่รู้สิ...เขาว่ามันดูข้ามหน้าข้ามตาพนักงานที่จะต้องประสานเรื่องให้คุณชายทราบก่อนยังไงแปลกๆ

อีกอย่าง...เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์จะเดิมดุ่มๆ ไปเข้าพบท่านรองก็ดูจะอุกอาจเกินไปหน่อย

คนตัวเล็กชะโงกหน้ามองกระจกในลิฟต์ เครื่องสำอางที่แต่งเข้าฉากวันนี้เขายังไม่ได้ล้างออกเพราะขี้เกียจเกินไปเลยทำให้คนที่หน้าหวานอยู่แล้วดูหวานกว่าตอนไร้เครื่องสำอางหลายเท่า ปากก็ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูจางๆ วันศุกร์พยายามเม้มๆ เลียๆ ให้มันหลุดออกแล้วนะ แต่เพราะเป็นลิปสติกราคาแพงที่ติดทนเลยยากหน่อยที่มันจะหลุด

ก็ลิปสติกแบรนด์ของคุณชายเขานั่นแหละ

ติ๊ง

“คุณชาย!”

“ไงครับ”

วันศุกร์ร้องเสียงหลงเพราะตอนที่ประตูลิฟต์เปิดเขาก็พบกับร่างสูงของใครบางคนยืนเท่ๆ ล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ตรงหน้าลิฟต์ ก่อนจะค่อยๆ คลี่ยิ้มเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมารับกระเช้าไปช่วยถือแล้วจูงให้เขาเดินออกจากลิฟต์มาก่อนที่ประตูมันจะปิด

วันศุกร์เหลือบมองคนตัวโต...วันนี้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงหล่อมากๆ เลย

อาจเป็นเพราะว่าวันนี้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไม่ได้สวมสูทดำเหมือนทุกวัน แต่ใส่เสื้อโปโลสีขาวกับกางเกงสีเดียวกัน รองเท้าก็ไม่ใช่รองเท้าหนังสีดำเหมือนทุกวัน แต่เป็นรองเท้าผ้าใบสีดำคาดขาวของแบรนด์ดังที่แค่มองดูก็รู้แล้วว่ารองเท้าคู่นี้ราคาแพงแค่ไหน

ผมสีดำของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็ถูกเซ็ตซะจนดูดีกว่าผมของวันศุกร์ในตอนนี้ที่มันคลอเคลียไปกับหน้าผาก แต่งตัวสบายๆ แต่ทำเอาคนมองละสายตาไม่ได้ แบบนี้สาวๆ ในบริษัทคงมองจนเหลียวหลังแน่ๆ

“มองผมพอหรือยัง”

“ไม่ได้มองสักหน่อย”

ตากลมหันไปสบกับดวงตาคมๆ ของร่างสูงที่กำลังเปิดประตูห้องทำงานให้เขาเข้าไป เอาจริงๆ นี่ก็เป็นครั้งแรกของวันศุกร์เลยนะที่ได้ขึ้นมาบุกถึงห้องทำงานของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง เพราะปกติก็โดนเรียกเข้าห้องประชุมอย่างเดียวเลย

“หน้าผมมีอะไรแปลกไปหรือไง” หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเลิกคิ้วถามพร้อมกับวางกระเช้าลงบนโต๊ะ

“ถามแบบนี้ทีหลังใครจะกล้ามองหน้าล่ะครับ”

ย่นคิ้วใส่คุณชายที่ยืนกอดอกพิงประตูห้องทำงานหลังจากที่ปิดสนิท ตาคมๆ มองดวงตาเลิ่กลั่กของวันศุกร์ที่ทำเหมือนจะมองเขาแต่ก็ไม่กล้ามองตรงๆ แอบหลบสายตาเป็นบางที พอเขาเผลอเมื่อไหร่ถึงค่อยหันมาแอบจ้องเหมือนเดิม

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงค่อยๆ เดินเข้ามาประชิดคนที่ตัวเล็กกว่า พออยู่ในระยะที่ใกล้กันวันศุกร์ก็เกือบจะก้าวถอยแล้วถ้ากรอบหน้าไม่ถูกประคองไว้ด้วยมือใหญ่และอุ่นของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงซะก่อน

พอถูกจับหน้าไว้แบบนี้วันศุกร์ก็ได้จ้องใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มๆ ตาแบบที่ไม่ต้องแอบมอง คนตัวขาวแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อทันทีเมื่อหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ วันศุกร์กลั้นหายใจ ยืนตัวเกร็งเพราะกลิ่นหอมจางๆ จากตัวคุณชายเขา

ไหนจะสายตานิ่งๆ ที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

ไหนจะริมฝีปากที่ยกยิ้มเหมือนกำลังแกล้งเขา

ไม่ไหวเลย

คุณชายทรงเพลิงหล่อเกินไปแล้ว

“มองผมตรงๆ ก็ได้ ไม่ต้องแอบ”

“มะ...ไม่ได้แอบนะครับ”

“ทำไมคุณชอบปากแข็ง ก็เห็นอยู่ว่าแอบมอง”

“แล้วทำไมคุณชายต้องบังคับให้มองด้วย”

“ก็มีคนอยากมองแต่ไม่กล้ามองไง”

“ปล่อยเลยนะ...”

ดันอกกว้างของอีกฝ่ายเบาๆ เพราะกลัวว่าคุณชายเขาจะเจ็บ วันศุกร์ย่นจมูกขมวดคิ้วเมื่อหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไม่ยอมปล่อยมือออกจากหน้าแถมยังมาจูบปลายจมูกเขาเบาๆ อีกต่างหาก

“วันนี้ผมออกไปตีกอล์ฟกับท่านพ่อมา เพิ่งกลับเข้ามาทำงานตอนเที่ยง”

“ไม่เห็นอยากรู้เลย”

“สายตาคุณบอกนะว่าสงสัย”

วันศุกร์เม้มปากเบาๆ กลั้นยิ้มเพราะไม่ว่าจะทำอะไรหรือรู้สึกแบบไหนก็ดูเหมือนว่าหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงจะรู้ไปหมดซะทุกอย่าง

ปลายจมูกของพวกเขาแตะกันในตอนที่วันศุกร์ขยับตัวเข้าไปโอบเอวหนาเอาไว้หลวมๆ ต่างคนต่างมอบรอยยิ้มจางๆ ที่ทำให้หัวใจเกิดเต้นรัว รอยยิ้มของวันศุกร์มันอาจจะธรรมดาเกินไปสำหรับคุณชายเพราะอีกฝ่ายก็เห็นอยู่บ่อยๆ

แต่รอยยิ้มของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ไม่ได้หาได้ง่ายๆ นี่สิ ที่ทำให้วันศุกร์อิ่มเอมไปทั้งหัวใจ
ริมฝีปากสีชมพูที่แต่งแต้มด้วยลิปสติกถูกขบเบาๆ ก่อนจะมอบจูบที่เนิบนาบที่ทำให้วันศุกร์ต้องหลับตาลงอย่างช้าๆ รสจูบที่แสดงออกถึงความคิดถึง คนตัวเล็กกำเสื้อโปโลแน่น เงยหน้ารับสัมผัสอุ่นๆ จากปลายลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาเติมเต็มความหวานในโพรงปาก

ไม่เจอหน้ากันแค่สองวันก็คิดถึงขนาดนี้

วันศุกร์ยังสงสัยตัวเองอยู่เลยว่าสองปีที่ผ่านมา...เขาเก็บงำความคิดถึงไว้ได้ยังไง

จำได้แต่ว่ามันทรมานมากจริงๆ ในแต่ละวันเขาต้องคิดถึงแต่เรื่องงาน ทำตัวให้ยุ่งเพื่อที่จะลืมคุณชายคนนี้ให้ได้ทั้งๆ ที่ยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ

และก็รู้ว่าที่ผ่านมา...ไม่มีวันไหนเลยที่วันศุกร์ไม่คิดถึง

คิดถึงมากๆ ...แต่กลับไปไม่ได้

แต่มันก็จะไม่มีอีกแล้วแหละ เหตุการณ์แบบนั้น

“วันศุกร์” กระซิบเบาๆ ในตอนที่ริมฝีปากยังเฉียดกันไปมา วันศุกร์ปรือตามองคนตัวสูงที่ผละจูบออกไปช้าๆ

เขาชอบรอยยิ้มของคุณชายทรงเพลิงจริงๆ

“พร้อมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือยัง”

วันศุกร์ยิ้มกว้าง...คุณชายก็ยังเป็นคุณชาย

เป็นคนที่พูดจริงทำจริง ไม่เคยผิดคำพูดเลยสักครั้ง

...ที่เขาบอกว่าจะขอคืนดี

จะขอเป็นแฟน

“ผมอยากอยู่ข้างคุณเหมือนเดิม”

“...”

“ได้มั้ยครับ”

วันศุกร์พยักหน้า

“อื้ม ได้สิครับ”

มีกันและกันเหมือนเมื่อก่อน...และเคียงข้างกันไปในเส้นทางข้างหน้า

วันศุกร์ก็สัญญากับตัวเองเหมือนกัน ว่าจะไม่ทำให้คุณชายทรงเพลิงเสียใจอีกแล้ว : )








*****






 
ถึงจะเคยพบผู้ใหญ่ท่านอื่นมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่รู้สึกประหม่าขนาดนี้ วันศุกร์ระวังทุกย่างก้าวของตัวเองตั้งแต่ที่ก้าวเท้าเข้ามาในรั้วของวังภัสร์ฤทัย ฉีกยิ้มบางๆ ให้ทุกคนที่เขาเจอ

อือ ก็เคยคิดว่าบทละครที่ตัวเองได้รับเกี่ยวหม่อมเจ้าอะไรพวกนี้มันโอเว่อร์เกินไปในเรื่องของการดำเนินชีวิต แต่พอมาเจอกับตาตัวเอง วันศุกร์ก็เข้าใจแล้วว่าชีวิตที่หรูหราเหมือนเจ้าหญิงเจ้าชายมันมีจริงๆ บนโลกใบนี้

วันศุกร์เหลือเชื่อกับสิ่งที่เห็น

เหลือเชื่อกับเรื่องที่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมาสนใจคนธรรมดาอย่างเขา

“ตัวจริงตัวเล็กกว่าในทีวีเยอะเลยนะเนี่ย หน้าเล็กนิดเดียวเอง น่ารักมากๆ ด้วย...ตัวแค่นี้ทำไมแสดงละครเก่งจัง แม่ชอบวันศุกร์มากๆ เลยนะจ๊ะ”

“ขอบคุณครับหม่อม”

คำถามที่ถูกรัวมาจากหม่อมปนัดดาทำเอาวันศุกร์ตอบไม่ทันไปหลายคำถามแล้ว ตั้งแต่ที่เจอหน้าคุณแม่ของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงวันศุกร์ก็ยังไม่ได้ลุกไปไหนเลย ระหว่างที่กำลังรอให้สาวใช้จัดเตรียมโต๊ะอาหาร คุณแม่ของคุณชายก็กักตัวเขาไว้ในห้องนั่งเล่นห้องใหญ่นี้แหละ

วันศุกร์เหลือบมองหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่นั่งไขว้ขาประสานมือไว้บนตัก ตาคมๆ จ้องวันศุกร์นิ่งๆ สีหน้าผ่อนคลายของอีกฝ่ายทำให้วันศุกร์แอบย่นจมูกใส่

“เดี๋ยวอีกสักพักอยู่ทานมื้อเย็นกับแม่ก่อนนะจ๊ะ แล้วค่อยให้ชายเพลิงไปส่ง เพิ่งถ่ายละครเสร็จมาหมาดๆ คงเหนื่อยแย่เลยใช่มั้ย”

“อ่า...นิดหน่อยครับ”

“แม่ติดตามอินสตาแกรมของวันศุกร์ด้วยนะ กดไลค์ทุกโพสต์เลย...ลงรูปเยอะๆ นะจ๊ะ แม่คอยติดตามอยู่ เอ้อ..แล้วก็วันนี้ก็ลงรูปที่วังได้นะคะ เดี๋ยวแม่ก็จะลงรูปที่เซลฟี่กับเราด้วย”

มืออุ่นๆ ที่ยังเรียวสวยของหม่อมปนัดดากุมมือนุ่มๆ ของวันศุกร์ตลอดเวลา ท่านดูมีความสุขมากที่ได้เจอวันศุกร์ คนที่ไม่ถือตัวและเรียกแทนตัวเองว่าแม่ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะเหมือนในละครที่เขาเล่น แถมยังใจดีมากๆ อีกด้วย

“ไม่ต้องเกร็งนะคะ วันนี้มีแต่คนในครอบครัวทั้งนั้น” หม่อมปนัดดาบอกคนที่นั่งตัวเกร็งตั้งนานแล้วก็หัวเราะอย่างเอ็นดูไปด้วย ก่อนจะยกมือลูบผมนุ่มสีดำเงาของอีกฝ่าย สายตาอบอุ่นคู่นั้นที่จ้องมองใบหน้าของวันศุกร์ทำให้เขารู้ทันทีว่าหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงได้สายตาอบอุ่นแบบนั้นมาจากใคร

“ครับหม่อม”

“ไม่เอาค่ะ ไม่มีใครเรียกแม่แบบนี้มานานแล้ว เขินจังเลย” ท่านหัวเราะอีกครั้งแล้วปัดมือไปมา “เรียกแม่ว่าแม่นะคะ มาเป็นลูกแม่อีกคน...รู้มั้ยว่าแม่เอ็นดูเรามากๆ เลยนะ”

“ขอบคุณนะครับที่เอ็นดูผม ดีใจมากๆ เลยครับ”

วันศุกร์ผละมือที่ถูกหม่อมปนัดดากุมอยู่ออกเพื่อยกมือไหว้คนอาวุโสกว่าอย่างนอบน้อม ท่านอยู่คุยด้วยได้ไม่กี่คำก็ทิ้งให้วันศุกร์อยู่กับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงตามลำพังในห้องนั่งเล่น คนตัวขาวถอนหายใจเบาๆ หันมามองหน้าคุณชายทรงเพลิงที่กำลังยิ้มมุมปาก

“คุณแม่คุณรู้เรื่องของเราเหรอครับ”

“เปล่า”

“...”

“คุณอยากให้รู้มั้ย”

วันศุกร์สบตากับคนที่ให้เกียรติกันเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เขาเห็นแววตาจริงจังไม่เปลี่ยนจากหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง มันทำให้รู้ว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ คุณชายจริงจังกับความสัมพันธ์นี้เช่นเดียวกับวันศุกร์

และคุณชายเขาพร้อมที่จะไม่ให้ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์นี้เสมอ...ถ้าวันศุกร์ยังไม่พร้อม

ถ้าเป็นเมื่อก่อนวันศุกร์คงพยักหน้าเชิงบอกให้คุณชายเงียบต่อไป

แต่ตอนนี้…

“แล้วแต่คุณชายเลยครับ : )”

วันศุกร์พร้อมแล้ว








*****






 
ลมเย็นๆ เสียงเรือ และเสียงคลื่นจากแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้คนที่เหนื่อยมาทั้งวันผ่อนคลายขึ้นมากกว่าเดิม ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะเมฆสีดำ ดูท่าว่าจะมีฝนอีกแน่ๆ ในคืนนี้ ทำให้วันศุกร์ต้องรีบออกมาสูดอากาศรับลมเย็นๆ ก่อนที่ฝนจะตกขึ้นมาจริงๆ

อีกสักพักก็ต้องกลับเข้าไปในวังอีกครั้งเพื่อทานมื้อเย็นกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา วันศุกร์มาคลายความประหม่าของตัวเองที่นี่ก่อน หลังวังมีพื้นที่สำหรับชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา คุณชายเขาเลยพาออกมาเดินเล่นตรงจุดนี้

“คุณชาย ผมถามหน่อยสิ”

“ครับ”

“มีอะไรที่คุณชายอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำมั้ย”

“มีครับ”

คนที่ตัวเล็กกว่าหันมองคุณชายอย่างอึ้งๆ กอดอกแล้วคลี่ยิ้มให้คนที่ตัวโตกว่า...ก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าคนที่เพอร์เฟ็กต์อย่างคุณชายจะมีเรื่องที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำด้วย

“อะไรเหรอครับ”

“คุณถามทำไม”

“ก็แค่อยากรู้ไง หาเรื่องคุยด้วย...ยืนเงียบๆ มันวังเวงนะคุณชาย”

“แล้วคุณล่ะ”

“แน่ะ ยังไม่ตอบก็ถามกลับอีกละ” มองค้อนคนที่หลอกย้อนถาม...ทุกครั้งที่วันศุกร์มีคำถามอยากถามอะไรสักอย่างคุณชายก็มักจะย้อนถามแบบนี้ประจำ แต่ตอนนี้บอกเลยว่าไม่หลวมตัวแล้ว

วันศุกร์อยากฟังคำตอบของเขาก่อนบ้าง

“คุณตอบก่อนสิ”

“แต่ผมถามคุณชายก่อนนะ”

“เอาแต่เรียกผมว่าคุณชาย ไม่น่าตอบให้ฟังหรอก”

“เง้อ...คนเราน่ะนะ”

“แล้วคุณเป็นอะไร ทำไมไม่เรียกผมเหมือนเดิม”

“คุณชายไม่รู้สึกว่าผมปีนเกลียวไปหน่อยเหรอครับ”

“ไม่ครับ”

“ง่ะ”

“ถ้าปีนเกลียวก็ปีนมาตั้งนานแล้ว”

“นั่นไง”

“ถ้าคุณกังวลก็เรียกผมว่าพี่เพลิงสิ”

“...เรียกอย่างเดิมน่ะดีแล้วครับ”

คนที่ไม่ชินหูกับคำว่าพี่เพลิงที่หลุดออกจากปากของคนตัวโตกลั้นยิ้มจนหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ คนตัวขาวเอียงคอเล็กน้อยมองหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่พานอกเรื่อง ยกมือขึ้นดันไหล่อีกฝ่ายเบาๆ ที่เฉไฉไปเรื่อยไม่ยอมตอบคำถามกันสักที

“ตอบคำตอบผมมาก่อนเลย”

“คุณตอบก่อนได้มั้ย”

“จะก็อปคำตอบผมน่ะสิ”

“ไม่ครับ ผมมีคำตอบไว้แล้ว”

คนตัวเล็กอ้าปากเตรียมบอกให้อีกฝ่ายพูดออกมาก่อนแต่ก็ต้องกลืนคำนั้นลงคอ วันศุกร์รู้ดีว่าถ้ายื้อกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ คืนนี้ก็คงไม่ได้คำตอบจากคุณชายเขาหรอก

“ก็ได้ สัญญานะครับว่าจะตอบคำถาม”

“สัญญา”

“ผมอยากทำความสะอาดห้อง อยากทำมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว นี่จะสิ้นปียังไม่ได้ทำเลย”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงหัวเราะเบาๆ ให้กับคำตอบที่น่ารักแต่ก็จริงใจของอีกคน ถ้าจำไม่ผิดหลายวันก่อนวันศุกร์เคยพูดกับเขาเรื่องนี้แล้ว ห้องของวันศุกร์ไม่ได้สกปรกเพราะมีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดให้อยู่แล้ว แต่คนขยันอย่างวันศุกร์เองนั่นแหละที่อยากจับไม้กวาดสลัดคราบดาราดังมาทำความสะอาดห้องของตัวเองบ้าง

“งั้นวันอาทิตย์นี้เดี๋ยวผมไปช่วยคุณทำความสะอาด”

“พูดจริงนะคุณชาย...งั้นดีลเลย ถ้าผิดนัดจะไปตามถึงหน้าห้อง”

“ผมเคยผิดนัดคุณด้วยเหรอ”

“ไม่เคยยย” ลากเสียวยาวยียวนคุณชายเล่น หัวกลมๆ ก็ส่ายไปตามเสียงด้วย “ตาคุณชายตอบบ้างแล้ว”

“ผมอยากไปเที่ยวกับคุณ”

วันศุกร์ยิ้มกว้าง ดีใจมากจริงๆ ที่ทุกคำถามมักจะมีคำตอบที่เป็นวันศุกร์จากหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเสมอ

มันทำให้รู้ว่าคุณชายเขานึกถึงวันศุกร์ก่อนเป็นอันดับแรก

คนที่รู้ว่าตัวเองมีความสำคัญมากๆ ในชีวิตของใครคนหนึ่งอิ่มใจจนพูดอะไรต่อไม่ถูก ตากลมได้แต่กะพริบเบาๆ แล้วสบกับตาคมของคนตรงหน้า วันศุกร์มีความสุขมากจนไม่คิดว่าในช่วงเวลาที่มีเรื่องร้ายๆ ผ่านเข้ามาก็ยังมีเรื่องราวดีๆ แบบนี้แทรกซึมอยู่ด้วย

“ไว้คุณว่างเมื่อไหร่หาเวลาไปกันมั้ย”

“ได้เลย ที่ไหนดีครับ”

“ผมให้คุณเลือก”

“ถ้าที่ไทยผมอยากไปทะเล คุณชายอยากไปทะเลด้วยมั้ย”

“ผมยังไงก็ได้ แค่มีคุณไปด้วย”

“คะ...ใครสอนคุณชายพูดอะไรแบบนี้เนี่ย”

วันศุกร์ยังไม่ชินกับคุณชายโหมดนี้ คำหวานๆ ที่ถูกพูดออกมามันค่อนข้างจะขัดกับลุคของคุณชายไม่น้อยเลย ก็เขาทั้งดุ ขรึม โหดขนาดนั้น

แต่มุมน่ารักๆ ของคุณชายเขาก็มี

เยอะเลยแหละ แค่นานๆ ทีจะเจอสักครั้ง

“มันแปลกตรงไหน”

“ก็ปกติคุณชายไม่อ้อนนี่นา”

“อ้อน?”

“ใช่ อ้อน แบบนี้เขาเรียกว่าอ้อน”

“แบบนั้นไม่ได้เรียกว่าอ้อน แต่บอกให้รู้ว่าอยากไปที่ไหนก็ได้ กับคุณ”

แล้วก็อธิบายซะจริงจังยืดยาว วันศุกร์ยู่ปากใส่คนที่ขัดบรรยากาศโรแมนติกอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองวิวจากแม่น้ำเจ้าพระยาต่อ

“คะ...คุณชาย”

คนตัวเล็กทำหน้าเลิ่กลั่กเมื่อจู่ๆ แผ่นหลังก็แนบชิดกับอกกว้างของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง คนสูงกว่ารวบวันศุกร์เข้าไปกอดไว้แน่น คางเรียวของคุณชายวางไว้บนไหล่แคบๆ วันศุกร์เอียงหน้าเล็กน้อยหลบลมหายใจอุ่นๆ ที่รดต้นคอ เม้มปากแน่นเมื่อใบหูถูกขบเม้มด้วยริมฝีปากของบางคน

“ถ้าอ้อนต้องแบบนี้”

จูบเบาๆ ที่ซอกคอขาวจนวันศุกร์ต้องหลับตาปี๋ แสงไฟสลัวไม่ทำให้คนที่อยู่จากอีกฝั่งในร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้ายามองเห็นก็จริง แต่วันศุกร์ก็ไม่กล้าลืมตาขึ้นมาเพราะอายเกินกว่าจะมองอะไรอีกต่อไปแล้ว และกลัวว่าจะทนกับจูบอ้อยอิ่งของคุณชายเขาไม่ได้...

“ปล่อยเลยนะ เดี๋ยวคนอื่นเห็น”

“ไม่อยากรู้เหรอว่าผมอ้อนยังไง มีหลายระดับนะ”

“มะ ไม่ดีกว่าครับ”

ถึงจะบอกไปแบบนั้นคุณชายเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเลยด้วยซ้ำ แถมยังย้ำจูบหนักๆ ที่ท้ายทอยจนวันศุกร์สะท้านไปหมดทั้งตัว

แล้วก็ต้องยอมให้คนคนนี้หลายต่อหลายต่อครั้งในตอนที่ถูกหมุนตัวกลับมาแล้วล็อกท้ายทอยให้เงยหน้ารับจูบนุ่มๆ จากคุณชาย

เสียงลมหายใจของเขา

สัมผัสของเขา

อ้อมกอดของเขา

วันศุกร์แพ้ทุกอย่าง...แพ้ผู้ชายคนนี้ทั้งตัว

และหัวใจ






#หวนกลิ่นรัก






 
 


ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 15 - up1.7.62
«ตอบ #41 เมื่อ01-07-2019 12:49:06 »










15




 
บนโต๊ะอาหารมื้อเย็นของวันนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่วันศุกร์คิด ถึงแม้จะเป็นการรับประทานอาหารที่ตรงตามแบบฉบับมารยาทบนโต๊ะอาหารสากลก็ตาม แต่วันศุกร์ก็สามารถปฏิบัติได้อย่างไม่ติดขัด เพราะวันศุกร์เคยไปเรียนอบรมเรื่องนี้เพื่อใช้ในการแสดง

และบรรยากาศก็ไม่ได้ตึงเครียดหรือต่างคนต่างกินเงียบๆ มื้อเย็นที่วันศุกร์ร่วมโต๊ะด้วยเป็นไปอย่างสบายๆ ให้ความรู้สึกเหมือนครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่งที่นั่งรับประทานอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข

ถึงจะไม่พร้อมหน้าพร้อมตาเพราะขาดหม่อมราชวงศ์ทรงคุณที่เดินทางไปต่างจังหวัด กับหม่อมราชวงศ์ทรงโปรดที่ไปเที่ยวกับคู่หมั้น แต่วังหลังนี้ ในห้องอาหารนี้ ก็ยังอบอุ่นแบบที่วันศุกร์รู้สึกได้

“ทำงานกับชายเพลิงเป็นยังไงบ้างจ๊ะวันศุกร์ ไม่ได้โดนดุบ่อยๆ ใช่มั้ย”

“ไม่เลยครับพี่ฐา แต่ช่วงแรกๆ...” ปรายตามองคนตัวโตที่นั่งอยู่ข้างกัน ช่วงแรกๆ ที่ทำงานด้วยกันมันก็ไม่ราบรื่นเท่าไหร่หรอก โดนคุณชายตำหนิไม่พอยังเกือบได้ถูกถอนจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์อีกด้วย “ก็มีบ้างนิดหน่อยครับ”

“หือ อะไรกันชายเพลิง กล้าดุขวัญใจคุณแม่ได้ยังไง”

หม่อมราชวงศ์รฐาพูดปนขำ เช่นเดียวกับหม่อมปนัดดาที่หลุดหัวเราะจนไหล่สั่นด้วย วันศุกร์ส่งยิ้มให้คุณชายทรงเพลิงที่นั่งกินข้าวเงียบๆ

นี่แหละ ทำอะไรกันไว้บ้างจะฟ้องให้หมดเลย

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงใช้นิ้วถูปลายจมูกเบาๆ ตาคมของเขาเหลือบมองวันศุกร์ด้วยสายตาดุๆ เหมือนกับบอกว่า ‘ฝากไว้ก่อน’ แต่วันศุกร์กลัวที่ไหน

คนตัวโตที่ยังดูแลวันศุกร์ดีสม่ำเสมอเอื้อมมือตักกับข้าวบางอย่างใส่จานคนเด็กกว่าทั้งๆ ที่ข้าวในจานของวันศุกร์เหลือแค่ไม่กี่คำก็หมดแล้วด้วยซ้ำ เหมือนกับถูกบังคับทางอ้อมว่าให้กินให้หมด

ที่ไม่เกร็งเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าครอบครัวของคุณชายเขา ก็เพราะว่าก่อนหน้านั้นวันศุกร์ถามให้แน่ใจแล้วว่ามีใครบ้างที่รับรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขา ที่ผ่านมาวันศุกร์รู้แค่ว่ามีเพียงหม่อมราชวงศ์ภูมินทร์เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แต่ก่อนที่จะเข้ามากินข้าวคุณชายเขาก็บอกแล้วแหละว่าพี่สาวก็รู้เรื่องด้วย

และอีกไม่นานก็จะเป็นคุณแม่ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงตั้งใจไว้ว่าจะบอกเรื่องนี้ให้ท่านรู้

แต่วันศุกร์มีความรู้สึกแปลกๆ และสงสัยมากๆ ...เขาเดาเอาเองว่าหม่อมปนัดดาน่าจะมองออก หรือไม่ก็รู้อยู่แล้วว่าเขากับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมีความสัมพันธ์กันแบบไหน เพราะก่อนหน้านั้นท่านบอกเอาไว้ว่าลูกชายคนนี้ไม่เคยพาใครมาที่วัง

วันศุกร์น่ะ...เป็นคนแรกเลย

“ในบรรดาพี่น้อง ชายเพลิงอารมณ์ร้อนที่สุดแล้วล่ะค่ะ”

วันศุกร์พยักหน้าหงึกเห็นด้วยอย่างที่สุด

ก็เขาเป็นเพลิงไง เพลิงที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกอย่าง

“ต่อจากนี้ห้ามดุห้ามว่าวันศุกร์อีกนะชายเพลิง แม่ว่าคุยกันดีๆ ก็ได้ จริงมั้ย”

“ถ้าผิดก็ต้องว่าไปตามผิดครับ”

วันศุกร์หันไปมองคนที่พูดเสียงเรียบอย่างไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น แถมพอมองค้อนเข้าหน่อยคุณชายก็ส่งยิ้มมุมปากยียวนให้วันศุกร์รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาซะอย่างนั้น

แต่แล้วก็ต้องนั่งตัวเกร็งเมื่อมือหนาที่ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะอาหารเลื่อนขึ้นมาวางบนต้นขานุ่มๆ ของวันศุกร์ คนตัวเล็กพยายามเขย่าขาให้คุณชายเขาปล่อยมือออกไปแต่ก็ไม่ได้ผล แต่กลับถูกบีบคลึงที่ต้นขาแรงๆ จนวันศุกร์แทบอยากจะลุกหนีไปซะเดี๋ยวนี้แต่ก็ทำไม่ได้

เพราะมีผ้าคลุมโต๊ะที่ยาวปิดหน้าตักบังมือเอาไว้ คุณชายเขาเลยกล้าที่จะแกล้งวันศุกร์ด้วยวิธีแบบนี้

วันนี้วันศุกร์ตกเป็นเหยื่อของคุณชายกี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้

แถมยังหนีไปไหนไม่ได้อีกด้วย : (








*****






 
ทั้งที่กำลังจะเตรียมสวมรองเท้ากลับคอนโดแล้วแท้ๆ แต่ฝนก็ตกลงมาอย่างบ้าคลั่งจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า คืนวันศุกร์ที่กำลังจะฉายละครแห่งชาติมาถึงอีกครั้ง พยากรณ์อากาศและการจราจรประกาศว่าในคืนนี้ถนนทุกสายในกรุงเทพก็ยังคงโล่งไม่ต่างจากคืนวันศุกร์ก่อนๆ ที่ผ่านมา

ทุกคนตั้งตารอชมคุณบดินทร์กันหมด ยิ่งใกล้ถึงคราวอวสานยิ่งเข้มข้น

แล้วคนที่แสดงเป็นคุณบดินทร์ก็กำลังนั่งหลังตรงอยู่ในห้องนอนห้องใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีเข้มทั้งหมด เป็นเอกลักษณ์บ่งบอกชัดเจนว่านี่คือห้องนอนของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง เรียบหรู น่าค้นหา...สไตล์คุณชายเขาเลยแหละ

ที่ได้มานั่งอยู่ในห้องของคุณชายทรงเพลิงที่วังภัสร์ฤทัยแบบนี้ก็เป็นเพราะฝนตกนั่นแหละ ความจริงวันศุกร์อยากกลับคอนโดตัวเองใจจะขาด แต่ก็กลัวเป็นอันตรายเพราะคุณชายต้องเป็นคนขับรถ ทรงเพลิงเองก็ดูเหนื่อยๆ ไม่ต่างจากเขา เลยตัดสินใจว่าจะอยู่รอฝนซาที่นี่ก่อน แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะกลับคอนโดดีมั้ย

อือ แต่ก็ดูท่าทางแล้วคงจะไม่ได้กลับหรอก เพราะคุณชายทรงเพลิงคว้าผ้าขนหนูเดินล่อนจ้อนเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี้นี้เอง

ล่อนจ้อนจริงๆ ต่อหน้าวันศุกร์นั่นแหละ ไม่อายฟ้าอายดินบ้างเลย เดือดร้อนคนตัวเล็กต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตา

ก็ต้องพูดกันตามตรงว่านิสัยคุณชายเขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแต่วันศุกร์ก็ไม่ชินสักที จะว่ายังไงดี...คุณชายเขาไม่ได้เดินล่อนจ้อนทั่วห้อง แต่แค่ชอบถอดเสื้อผ้าโยนไว้บนเตียงแล้วก็เดินเปลือยกายไปหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอวถึงจะค่อยเดินเข้าห้องน้ำ

ก็คงเป็นปกติของผู้ชายทั่วไปแหละมั้ง แต่เขาไม่เป็นนะ วันศุกร์ไม่เคยเดินแก้ผ้าในห้องเลยสักครั้ง

ตอนนี้วันศุกร์ก็นั่งอยู่บนโซฟาเปิดทีวีจอใหญ่ในห้องคุณชายดูละครตัวเองนั่นแหละ ก่อนที่คุณชายจะเข้าไปอาบน้ำก็ทิ้งท้ายไว้ว่าถ้าเหงาให้ลงไปดูละครกับหม่อมปนัดดาที่ห้องนั่งเล่นก็ได้...แต่ใครจะกล้าลงไปล่ะ วันศุกร์ขออยู่ในนี้นี่แหละดีที่สุดแล้ว

‘ถ้าฉันจะรักใครสักคน ฉันไม่สนใจยศฐาบรรดาศักดิ์หรอก ต่อให้คนนั้นจะต่ำต้อยกว่าฉันแค่ไหน ถ้าฉันรัก ฉันก็พร้อมอยู่เคียงข้างเขา’
‘...’
‘นายบดินทร์เห็นด้วยเหมือนฉันมั้ย’
‘สำหรับกระหม่อม หากเป็นรักแท้ก็จะเชิดชูไว้ ดาวควรคู่เคียงข้างฟ้า ไม่อาจลดลงมาแปดเปื้อนดิน’
‘รู้ตัวหรือไม่ว่าเป็นคำตอบที่ฉันไม่อยากได้ยิน’
‘กระหม่อมทราบดี’
‘แต่ก็ยังจะตอบ...คนไร้หัวใจ’

ฉากดราม่าที่ในตอนนั้นกล้ำกลืนไปตามอารมณ์ทำเอาคนที่กำลังนั่งดูอยู่ตอนนี้หดคอยกมือขึ้นปิดปากอย่างเขินๆ วันศุกร์จำได้ว่าเขาซ้อมบทนี้กับลิลินตั้งหลายต่อหลายครั้งและพอถ่ายทำจริงก็ผ่านฉลุยภายในเทคเดียวอย่างไม่น่าเชื่อ

วันศุกร์ได้แต่ถามตัวเองตั้งแต่วันแรกที่ตกลงรับเล่นตัวละครนี้ว่าเขาต้องเป็นคนที่โชคดีแค่ไหนกันถึงได้โอกาสแสดงเรื่องนี้ บทที่เหมาะกับตัวเขา ผู้ชายธรรมดาๆ ที่มีคนสูงส่งมาหลงรัก...อือ มันก็แอบมีส่วนคล้ายกับชีวิตจริงอยู่บ้างนิดหน่อย

Oil rubber: เดี๋ยวมาดูกันว่าคืนนี้เรตติ้งจะทำลายสถิติอาทิตย์ที่แล้วมั้ย
MyLiLyn: สัก 18.5 มั้ยคะพี่ออย *0*
Oil rubber: ไม่ มันน้อยไป
Oil rubber: ต้อง 19.5
MyLiLyn: โห ในยุคดิจิตอลแบบนี้แค่เรตติ้ง 17.8 ที่ผ่านมาก็ขนลุกแล้วนะคะพี่ออย
MyLiLyn: ทำลายสถิติเรื่องอื่นๆ ไปหมดแล้วอ่ะค่ะ
MyLiLyn: หนูช็อกกก
Oil rubber: ถ้าเกิน 17.8 ได้ พรุ่งนี้พี่เลี้ยงไข่ปลาคาเวียร์ฉลองปิดกล้องเลยเว้ย
MyLiLyn: พี่ออยใจเย็นนนน

กรุ๊ปแชตที่มักจะคึกคักในคืนศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ทำเอาวันศุกร์หลุดยิ้มออกมา

เมื่ออาทิตย์ก่อนตอนที่ละครกำลังออนแอร์ทุกคนในกองไม่ได้มานั่งเช็กเรตติ้งกันแบบนี้เพราะมุ่งมั่นกับการถ่ายละครแบบไม่ลืมหูลืมตา พอละครจบได้สองชั่วโมงถึงได้รู้ว่าละครเรื่องนี้เป็นละครที่มีเรตติ้งสูงที่สุดในยุคดิจิตอล

วันศุกร์จำได้ว่าตอนนั้นลิลินกอดคอเขาร้องห่มร้องไห้ที่ประสบความสำเร็จมากๆ กับละครเรื่องนี้

ลิลินก็เหนื่อยมามากเหมือนกัน แบกความกังวลมาถ่ายละครตั้งแต่ตอนแรกเพราะก่อนหน้านั้นมีข่าวเข้าใจผิดเรื่องเป็นมือที่สามกับดาราหนุ่ม กระแสแอนตี้รุนแรงจนเกือบเป็นโรคซึมเศร้า

พอเรตติ้งออกมาแบบนั้นก็ทำให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างลิลินได้พิสูจน์ตัวเองในเรื่องของความสามารถ และความจริงที่ว่าเธอไม่ได้เป็นมือที่สามของใคร เพราะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว

วันศุกร์ค่อยๆ เอนหลังพิงพนักโซฟาพร้อมกับอ้าปากหาวหวอด แอร์เย็นๆ ในห้องนอนของทรงเพลิงทำให้คนที่เหนื่อยล้าสะสมเริ่มจะหนักที่เปลือกตา แต่เพราะความอยากดูละครที่ตัวเองเล่นเลยพยายามถ่างตามองจอทีวีทั้งๆ ที่น้ำตาไหลออกมาเพราะความง่วง

เสียงน้ำไหลกระทบพื้นกระเบื้องดังอย่างต่อเนื่อง ทรงเพลิงไม่ใช่คนอาบน้ำนาน วันศุกร์เดาว่าไม่เกินห้านาทีหลังจากนี้คุณชายเขาก็คงจะออกมาแล้ว เขาอยากเจอทรงเพลิงก่อน...แต่ก็รู้ตัวว่าคงจะฝืนความง่วงต่อไปไม่ไหวแล้ว

วันศุกร์ที่ในมือถือไอโฟนรุ่นใหม่ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง ในหูได้ยินเสียงแว่วจากทีวี รู้ว่าละครกำลังดำเนินอยู่ รู้ว่าเสียงน้ำในห้องน้ำเงียบไป รู้ว่าตัวเองคอพับไปแล้ว...รู้ทุกอย่างเลย แต่แค่เปิดตาขึ้นมามองไม่ไหวเท่านั้น แล้วก็ผล็อยหลับไป








*****






 
เจ้าของร่างสูง 181 เซนติเมตรหยิบผ้าขนหนูสีขาวขึ้นมาพันรอบเอวแกร่ง ผมสีดำมีหยดน้ำไหลลงมาทำให้คนที่มีร่างกายเพอร์เฟ็กต์ดูน่ามอง ทรงเพลิงซับเม็ดน้ำออกจากผิวกายขาวๆ ด้วยผ้าขนหนูอีกผืน เขามองตัวเองในกระจก เพียงแวบเดียวก็สาวเท้าเดินออกจากห้องน้ำ

ทรงเพลิงเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวที่เชื่อมระหว่างห้องน้ำ เขาเช็ดผมอย่างลวกๆ ก่อนจะหยิบชุดนอนสีกรมท่ามาสวม

มองดูนาฬิกาก่อนจะพบว่าตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มครึ่ง เขาไม่พาวันศุกร์กลับคอนโดแล้วแหละเพราะป่านนี้ฝนยังคงตกหนัก และอีกอย่างทรงเพลิงก็สวมชุดนอนเตรียมนอนแล้วด้วย

มือหนาจับไม้แขวนเสื้อที่มีชุดแขวนอยู่ เขาหยิบชุดนอนออกมาหนึ่งตัวแล้วแขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้า คืนนี้วันศุกร์ต้องนอนที่นี่กับเขา

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมองชุดนอนที่มันพอดีตัวเขาแต่คงจะดูใหญ่ทันตาเมื่อสวมอยู่บนร่างเล็กๆ ของบางคน มุมปากยกยิ้มอย่างเคยเมื่อนึกถึงภาพนั้นในหัว

คนตัวสูงเดินออกจากห้องแต่งตัวเข้าสู่ห้องนอนที่เชื่อมกัน เสียงทีวีที่ออนแอร์ละครดังแห่งชาติดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาไม่รู้ว่ามีเสียงของใครบ้าง แต่มีเสียงหนึ่งที่จำได้ดีนั่นก็คือเสียงของคนที่รับบทเป็นนายบดินทร์

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเดินตรงเข้าไปที่โซฟาปลายเตียงอย่างเงียบๆ เขาอยากแอบดูว่าวันศุกร์กำลังทำอะไรอยู่ แต่ภาพที่เห็นกลับทำให้ริมฝีปากของเขาคลายยิ้มเป็นเส้นตรงทันที วันศุกร์หลับไปแล้ว หลับทั้งๆ ที่ยังอยู่ในชุดเดิม ใบหน้ายังมีเครื่องสำอาง กับมือที่จับโทรศัพท์ไว้หลวมๆ

คุณชายค้ำมือไว้กับพนักโซฟา โน้มตัวลงมองหน้าคนที่นอนหลับแต่ยังมีรอยยิ้มติดอยู่ที่มุมปาก

แอพพลิเคชั่นไลน์ยังแจ้งเตือนข้อความเข้าอยู่เรื่อยๆ ทรงเพลิงไม่รู้หรอกว่าใครกันที่ส่งข้อความเข้ามานักหนา เขาแนบริมฝีปากทาบบนแก้มหอมๆ ของคนที่หลับไปแล้วอย่างทะนุถนอม ก่อนจะผละออกแล้วหยิบโทรศัพท์ออกจากมือของวันศุกร์

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเดินไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่วางอยู่บนเตียงนอน กดต่อสายไปที่เบอร์หนึ่งที่เขาต้องการความช่วยเหลือในตอนนี้

(มีอะไรจ๊ะชายเพลิง)

“พี่ฐามีคลีนซิ่งกับโทนเนอร์มั้ยครับ”

(มีจ้ะ จะใช้เหรอ)

“ครับ”

(อื้ม เดี๋ยวพี่เอาไปให้)

“เดี๋ยวผมไปเอาที่ห้องก็ได้ครับ”

(แหม...ไม่อยากให้พี่ไปรบกวนที่ห้องใช่มั้ย)

“เปล่าครับ”

(ถามคำตอบคำ เบื่อจริงจริ๊ง)

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยกยิ้มหัวเราะหึในลำคอ พี่สาวเขาก็แซวได้ตลอดไม่รู้จักเหนื่อย

“เดี่ยวผมเดินไปหาครับพี่ฐา”

(จ้ะ พี่เตรียมของรอแล้ว)

ปลายนิ้วกดวางสายก่อนจะหันไปมองคนที่ขยับตัวบนโซฟาเบาๆ ท่านอนของวันศุกร์ในตอนนี้ดูแล้วไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ คอพับคางชิดอกแบบนั้นเดี๋ยวตอนตื่นนอนก็คงปวดคอ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเลยค่อยๆ เดินเข้าไปประชิดคนที่หลับอยู่ ก่อนจะสอดมือช้อนร่างเล็กๆ ขึ้นแนบอก อุ้มอีกคนเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ในอ้อมแขนพาไปนอนบนเตียงนุ่มแทน

ก่อนจะออกไปหาพี่สาวทรงเพลิงก็ไม่ลืมที่จะดูแลวันศุกร์เป็นอย่างดี เขาหยิบผ้าห่มมาคลุมให้คนตัวขาว วันศุกร์ที่หัวถึงหมอนก็ขยับตัวนอนตะแคงทันที เขาลูบผมสีดำของอีกคนเบาๆ มองหน้าวันศุกร์อยู่อย่างนั้นพักหนึ่งถึงค่อยเดินออกจากห้องนอนของตัวเอง








*****






 
“ชายเพลิง แม่มีเรื่องอยากถาม”

“ครับ”

“ลูกกับวันศุกร์ คบกันอยู่ใช่มั้ย”

คนที่ในมือถือขวดคลีนซิ่ง โทนเนอร์ และสำลีแผ่นบางๆ ชะงักเล็กน้อย ทรงเพลิงเจอกับหม่อมปนัดดาบนชั้นสองของวังระหว่างที่เขากำลังจะเดินกลับห้อง พอคุณแม่เห็นหน้าก็รีบมาคว้าแขนลูกชายเอาไว้ทันที เรื่องที่คาใจตั้งแต่ตอนเย็นถูกถามอย่างตรงไปตรงมา

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไม่ได้ตอบทันที แต่เขาแกล้งให้คุณแม่ที่กำลังจ้องตาทำท่าลุ้นรอคำตอบด้วยการแสดงสีหน้าเหมือนคนไม่ยอมรับ ระบายยิ้มจางๆ ให้ท่านจนถูกฝ่ามือนุ่มๆ ฟาดเข้าที่ต้นแขน

หม่อมปนัดดามีลูกสี่คน ไม่เคยตีลูกเลยสักครั้ง แต่คนนี้ขอเถอะ อดไม่ไหวกับความร้ายลึกของลูกชายคนรองสุดท้องจริงๆ

“ตอบแม่มานะชายเพลิง”

“...”

“จะปิดอะไรกันก็ปิดไป แต่ปิดแม่ไม่ได้นะลูก...แม่สังเกตตั้งแต่ตอนที่เจอหน้าวันศุกร์ครั้งแรกแล้ว แม่เห็นกำไลหินที่แม่เป็นคนเลือกให้ชายเพลิงเองกับมือสวมอยู่ที่ข้อมือของวันศุกร์ คงไม่ได้บังเอิญซื้อมาจากวัดเดียวกันใช่มั้ย”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงหัวเราะเบาๆ คุณแม่เขาจริงจังขึ้นมาทันทีเมื่อต้องเค้นเอาความจริง ดูเหมือนท่านจะตื่นเต้นกับการถามเรื่องของเขากับวันศุกร์เอามากๆ

คนตัวโตพยักหน้าเบาๆ ความจริงเขาอยากจะคุยกับคุณแม่เรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้ แต่ก็คงไม่ทันแล้ว

“ครับ ผมเอากำไลให้วันศุกร์ใส่ติดตัวไว้”

“คบกันใช่มั้ยลูก”

“ใช่ครับ”

คำตอบที่ชัดถ้อยชัดคำทำเอาหม่อมปนัดดาคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะปล่อยแขนแกร่งของลูกชายออก ยืนกอดอกมองทรงเพลิงที่ไม่เคยพาใครเข้าวัง การกระทำของลูกชายคนนี้ชัดเจนจนดูออกตั้งแต่จับมือวันศุกร์พากันเดินเข้ามาหาเธอแล้ว

“แล้วตอนแรกก็ทำมาเป็นบอกว่าพาวันศุกร์มาแจกลายเซ็นให้แม่ ที่แท้ก็พามาเปิดตัวนี่เอง”

“คุณแม่ชอบไม่ใช่เหรอครับ”

“ไม่ต้องมาทำเป็นอ้าง...แล้วนี่คบกันนานหรือยัง ตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมเพิ่งพามาหาแม่”

“นานแล้วครับ ประมาณสามปีครึ่ง”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงตอบไปตามความจริง ระยะเวลาปีครึ่งที่คบกัน กับสองปีที่ห่างกันไปเขาไม่ถือว่าเป็นการเลิกรา เพราะไม่ได้หมดรัก...เขาปล่อยให้วันศุกร์ไปทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ ยอมให้อิสระกับอีกฝ่าย ยอมทำตามใจมาจนถึงตอนนี้

“ร้ายนักนะชายเพลิง ทนฟังแม่นั่งบ่นเรื่องแต่งงานมาตั้งนานทั้งๆ ที่ลูกก็มีแฟนอยู่แล้ว น่าตีอีกดีมั้ย”

“ขอโทษครับคุณแม่ ผมตกลงกับวันศุกร์ไว้ เขาไม่พร้อมผมเลยไม่ได้บอก” ทรงเพลิงไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไรมาก เพียงแต่บอกคร่าวๆ ให้คุณแม่รับรู้ซึ่งท่านก็ไม่ได้ย้อนถามจุกจิก

“แม่เข้าใจค่ะ เป็นคนดังก็ต้องมีเรื่องที่เป็นความลับเยอะแยะ แม่มีเพื่อนเป็นดารา แม่รู้”

“...”

“ป่านนี้วันศุกร์หลับไปแล้วใช่มั้ย พรุ่งนี้เช้าปลุกให้น้องมาใส่บาตรด้วยกันนะลูก...แม่ไม่รบกวนเวลาแล้วล่ะ ฝันดีจ้ะชายเพลิง”

วังภัสร์ฤทัยต้อนรับวันศุกร์แล้ว

เหลือแต่วันศุกร์นั่นแหละที่จะยอมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวังภัสร์ฤทัยเมื่อไหร่








*****






 
เขาได้ยินเสียงนายบดินทร์คุยกับนางเอกจากจอทีวี เขาเห็นฉากเลิฟซีนเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นฉากจูบของพระนางที่แม้จะเคยบอกกับผู้กำกับไปแล้วว่าขอให้เป็นแค่มุมกล้อง แต่ก็ดูเอาเถอะ...

ทรงเพลิงนั่งอยู่บนเตียงที่บนตักมีศีรษะกลมๆ ของใครบางคนกำลังซุกอยู่เหมือนเด็กๆ วันศุกร์ไม่ใช่คนนอนดิ้น แต่เมื่อกี้น้องดันละเมอแล้วเข้ามากอดเขาไว้แน่น พึมพำอะไรบางอย่างที่เขาเองก็ฟังไม่ออก

คลีนซิ่งถูกหยดลงบนสำลีเอาไว้สักพักแล้ว แต่ทรงเพลิงแค่ยังเช็ดให้ไม่ได้เพราะคนตัวเล็กไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา เขาเลยปล่อยให้วันศุกร์นอนอยู่อย่างนั้นไปก่อน ส่วนตัวเองก็นั่งดูละครที่วันศุกร์แสดงไปพลางๆ

ครืด ครืด...

ตาคมมองโทรศัพท์รุ่นใหม่ของวันศุกร์ที่มีสายโทรเข้ามาตั้งหลายเบอร์ไม่ซ้ำกัน เขาเดาว่าคงเป็นคนในวงการที่ติดต่องานเข้ามา ตอนนี้วันศุกร์ไม่มีผู้จัดการส่วนตัวไว้คอยรับงานให้แล้ว เลยต้องคอยรับงานเองซึ่งบางครั้งก็พลาดงานไปหลายชิ้นเพราะไม่มีเวลารับสาย

ทรงเพลิงคว้าโทรศัพท์ที่ยังสั่นครืดมาถือไว้ เขากดรับสายแทนอีกคนที่หลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้คู่ใจของวันศุกร์ที่วางไว้ข้างเตียงมาด้วย มือหนาเปิดกระเป๋าเป้ออกพร้อมกับหยิบไอแพดที่ไม่ได้ใส่รหัสเครื่องเอาไว้มาเปิดดูตารางงานของวันศุกร์ไปด้วย

(วันศุกร์ลูกกกก ทำไมเดี๋ยวนี้ติดต่อยากจังเลย จะไม่รับงานแล้วเหรอจ๊ะ)

“ยังรับอยู่ครับ”

(หือออ ทำไมเสียงเข้มจัง หวัดลงคอหรอเนี่ย...คืองี้นะคะ เจ้มีงานแฟชั่นโชว์แบรนด์ชาแนลเดือนหน้า อยากให้วันศุกร์ไปเดินด้วยอ่ะค่ะ พอจะมีคิวให้เจ้วันที่ยี่สิบสามอีกสองเดือนหน้ามั้ยเอ่ย)

“…”

ปลายนิ้วเรียวเลื่อนดูตารางงานสองเดือนหน้าในไอแพด โทรศัพท์ไอโฟนถูกเปิดลำโพงเอาไว้และวางอยู่ข้างตัว ตาคมไล่มองงานอีกสองเดือนข้างหน้าของวันศุกร์ ถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะอีกฝ่ายมีงานในวันนั้นอยู่แล้วหนึ่งงาน ซึ่งมันก็เป็นงานที่กินเวลาอยู่พอสมควร

ทรงเพลิงเอาลิ้นดุนแก้ม ฟังเสียงจากปลายสายที่ดังขึ้นอีกครั้ง

(ค่าตัวเจ้ให้แสนเก้า แต่อัพได้นะลูก เจ้ต้องการตัวหนูมากกกก)

“...”

(เจ้ขอเวลาหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่มครึ่ง แต่ต้องมาสแตนบายตอนห้าโมงเป๊ะน้า...)

“ได้ครับ”

(กรี๊ดดดด น่ารักที่สุดแล้ววันศุกร์ คืนนี้ละครเข้มข้นมากกก ขอให้เรตติ้งพุ่งกระฉูดนะจ๊ะคนดีของเจ้)

“ขอบคุณครับ”

(เจ้ไปก่อนนะ...ขอบคุณวันศุกร์มากๆ เลยที่ช่วยเหลือเจ้)

ทรงเพลิงบันทึกงานเพิ่มไว้ในวันนั้นอีกงานก่อนจะวางไอแพดลงข้างตัว ในหัวเขาคิดถึงเรื่องที่จะหาผู้จัดการส่วนตัวให้น้องสักคนที่ไว้ใจได้จริงๆ เพราะลำพังวันศุกร์ทำงานคนเดียวคงรับไม่ไหวแน่ๆ

แต่ตอนนี้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวชั่วคราวไปก่อนนั่นแหละ

“...อื้อ”

คนที่นอนฟุบบนตักอุ่นๆ กระชับแขนที่โอบรอบเอวของทรงเพลิงให้แน่นขึ้นกว่าเดิม คนตัวเล็กเขยิบตัวแล้วเคลื่อนหน้ามาซุกบนกล้ามท้อง ปลายจมูกที่ถูไปมาบนนั้นทำเอาคุณชายต้องเกร็งแข็งไปทั้งตัว เขาอยากจับอีกคนมาตีก้นซะให้เข็ด หลับดีๆ จะไม่ว่าเลย แต่ยังมาทำให้คนที่ความอดทนต่ำอย่างเขาต้องกลั้นอารมณ์บางอย่างเอาไว้

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงสูดหายใจเข้าลึกๆ โน้มหน้ามองคนตัวเล็กที่ดูท่าจะหลับสบายเหลือเกิน นิ้วเรียวไล้แก้มขาวเบาๆ เขาปล่อยให้วันศุกร์นอนอยู่อย่างนั้น ก่อนจะใช้สำลีที่ชุบคลีนซิ่งมาเช็ดเครื่องสำอางออกเท่าที่เช็ดได้

“ฮื้อ”

“เงยหน้าหน่อย”

“...”

เขาไม่รู้ว่าวันศุกร์ได้ยินหรือเป็นเรื่องบังเอิญกันแน่ เพราะพอบอกแบบนั้นไปอีกคนก็เปลี่ยนท่าจากนอนเอาหน้าซุกกล้ามท้องเป็นขยับตัวนอนหงายหน้าแทน ลมหายใจของวันศุกร์เข้าออกสม่ำเสมอ มือหนาค่อยๆ เช็ดเครื่องสำอางที่ดวงตาออกเบาๆ เป็นจุดแรก

วันศุกร์มีแก้มอมชมพูกับใบหน้าขาวนวลอยู่แล้วเลยไม่ได้แต่งแต้มอะไรลงไปมาก เขาดูจากใบหน้าเนียนจนเห็นเส้นเลือดฝอย และจำคำพูดของทีมงานในกองถ่ายโฆษณาที่ชื่นชมผิวพรรณของวันศุกร์ได้ ซึ่งมันก็เป็นความจริงทั้งนั้น วันศุกร์ผิวดีจริงๆ ทั้งหน้าทั้งตัว ถึงจะทำงานจนไม่ได้นอนเลยในบางครั้งแต่ก็ยังดูเปล่งปลั่งอยู่เสมอ

“วันศุกร์ นอนนิ่งๆ”

ถึงจะไม่ใช่คนนอนดิ้นแต่เพราะถูกรบกวนบนใบหน้าอีกฝ่ายก็พยายามหันหนี แถมยังขมวดคิ้วแน่นให้ทรงเพลิงอีกต่างหาก

แล้วก็ต้องหลุดขำออกมาอย่างเอ็นดูจริงๆ เมื่อวันศุกร์ยกแขนขึ้นมาพาดไว้บนหน้าเหมือนคนที่กำลังนอนก่ายหน้าผาก นี่ถ้าอีกคนมีสติลืมตาอยู่คงเถียงเขาแง้วๆ แล้วว่าจะมากวนกันทำไม หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงรู้ว่าการที่หลับไปทั้งที่ยังไม่ล้างหน้าเอาเครื่องสำอางออก ผลของวันพรุ่งนี้ก็คงเป็นสิวเม็ดแดงผุดขึ้นแน่ๆ

“เอาแขนออก พี่จะเช็ดหน้าให้”

“ไม่เอา...”

พึมพำตอบเสียงเบาก่อนจะซุกหน้าบนกล้ามท้องคุณชายอีกครั้ง แขนเล็กๆ กอดเอวหนาไว้แน่นเหมือนเดิม สั่นหัวเบาๆ เหมือนเด็กกำลังงอแง แต่คราวนี้ทรงเพลิงไม่ใจดีด้วยแล้ว เขาแกะมือที่กอดไว้จนหลุด ประคองร่างเล็กๆ ให้นอนหงายดีๆ บนหมอน รวบแขนสองข้างไว้เหนือศีรษะด้วยมือหนาข้างเดียว คุณชายทรงเพลิงขยับตัวขึ้นคร่อมคนตัวเล็กไว้ใต้ร่างก่อนจะค่อยๆ เช็ดหน้าให้อีกครั้ง

อย่างเบาบาง อ่อนโยน ทะนุถนอม

วันศุกร์ที่ยังหลับอยู่ถอนหายใจออกมาแรงๆ จนคนบนร่างคลี่ยิ้มให้กับความหงุดหงิดที่แสดงออกมาแม้ว่าจะไม่มีสติแล้วก็ตาม เขารู้ว่าวันศุกร์พักผ่อนน้อยมาก และไม่ได้อยากกวนเลยจริงๆ ถ้ามันไม่จำเป็นเหมือนตอนนี้

คงปล่อยให้วันศุกร์นอนหลับสบายๆ ไปแล้วถ้าอีกฝ่ายล้างหน้าล้างตาซะก่อน

ทรงเพลิงวางแผ่นสำลีหลายต่อหลายชิ้นไว้ข้างหมอน พอใบหน้าของวันศุกร์ไร้เครื่องสำอางแล้วคุณชายเขาก็ฉวยโอกาสด้วยการมอบจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากนุ่ม ขบเม้มปากล่างเบาๆ แล้วเลื่อนจมูกมาสูดกลิ่นหอมจางๆ ที่ซอกคอของอีกคน

เท่าไหร่ก็ไม่พอ เขาอยากตักตวงความสุขจากวันศุกร์ไปเรื่อยๆ

“เพลิง...”

“ครับ”

เจ้าของชื่อผงกหัวมองคนที่พึมพำชื่อเขาออกมา มือหนาลูบผมที่ปรกหน้าผากเนียนขึ้นพร้อมกับจูบเบาๆ บนนั้น เขาส่งยิ้มบางเมื่อเห็นว่าวันศุกร์กำลังปรือตาหนักอึ้งมองมานิ่งๆ

สองมือที่ถูกรวบอยู่เหนือศีรษะค่อยๆ ถูกปล่อยจนเป็นอิสระ ก่อนที่สองแขนจะเอื้อมมาคล้องรอบคอแกร่ง วันศุกร์ที่กึ่งหลับกึ่งตื่นรั้งท้ายทอยคุณชายทรงเพลิงให้โน้มหน้าลงมามอบจูบบางเบาอีกครั้ง

เขาชอบที่ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม และเหมือนว่ามันจะมากขึ้นกว่าเดิม ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมทั้งในเรื่องของความรู้สึก การกระทำ และอะไรหลายๆ อย่างที่มีให้กัน

ทั้งความคิดถึง ความต้องการ ความรัก ความเอาใส่ใจ

ทรงเพลิงชอบที่ได้นอนกอดวันศุกร์ให้หลับไปในอ้อมแขน

ชอบที่จูบกันทั้งตอนตื่น และก่อนนอน

“เพลิงกวนอ่ะ...”

“พี่ขอโทษ”

“ฮื้อ...ไม่เอาแล้ว”

“ไม่กวนแล้วครับ นอนดีๆ ก่อน”

ชอบที่ได้ดูแล

“อือ...ฝันดีนะเพลิง”

“ฝันดีครับ”

และรักวันศุกร์ แบบนี้เรื่อยๆ ไป






#หวนกลิ่นรัก













ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 16 - up1.7.62
«ตอบ #42 เมื่อ01-07-2019 12:50:19 »









16


 

“เมื่อวานคุณชายรับงานให้ผมเหรอครับ” วันศุกร์ที่อยู่ในชุดธรรมดา เสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ มัดจุกเป็นทรงแอปเปิ้ลเอียงหน้าถามหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่กำลังผูกเชือกผ้ากันเปื้อนให้ มือเล็กๆ เกาะอยู่บนไหล่กว้าง สบกับดวงตาคมกริบที่มองมาอย่างเจ้าชู้

แต่คุณชายเขาไม่ได้มีนิสัยเจ้าชู้อะไรเลยนะ แค่สายตาดูเจ้าชู้เท่านั้นเอง อย่างนี้ถ้านิสัยเจ้าชู้ด้วยมองใครคนไหนก็คงตกมาเป็นเมียได้หมดแหละ

“ใช่ โอเคมั้ย เขาให้แสนเก้า”

“แง่ะ ผมไม่เกี่ยงอยู่แล้ว...”

“พี่ว่ามันก็โอเคดี เขาโทรมาหลายสายด้วยเลยลองคุยดู”

คนที่เรียกแทนตัวเองว่า ‘พี่’ วางคางบนไหล่แคบๆ ของวันศุกร์ สองมือหนาตั้งใจผูกเชือกผ้ากันเปื้อนที่เอวให้มาหลายนาทีแล้วก็ยังไม่เสร็จสักที คุณชายทรงเพลิงไม่ผมๆ คุณๆ กับเขาแล้วแหละ มีแต่วันศุกร์นี่แหละที่ยังพูดแบบเดิมอยู่

“มันผูกยากมากเหรอครับ”

“อือ”

“งั้นเดี๋ยวผมผูกเองก็ได้”

“มองเห็นเหรอ”

“ก็ผูกลวกๆ ไง แค่ให้มันไม่หลุดก็พอ”

“อยู่นิ่งๆ”

“นี่คุณชายทำเป็นจริงเปล่าเนี่ย...ผูกช้ามากกก”

บ่นแง้วๆ ในกอดอุ่นๆ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคุณชายเขาแกล้งทำเป็นผูกไม่เสร็จสักทีเพื่อที่จะได้ยืนกอดกันอย่างนี้ให้เมื่อยขากันไปข้าง วันศุกร์หัวเราะจนไหล่สั่น ถึงจะรู้แต่ก็ยอมคุณชายเขานั่นแหละ ถูกคุณชายกอดอบอุ่นดีจะตาย

ใช่ ตอนนี้วันศุกร์อยู่ที่คอนโดของตัวเอง เขากลับมาทำความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ ในห้อง เริ่มทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำร่วมกับคุณชายไปทีละอย่าง

เมื่อเช้าวันศุกร์ถูกปลุกแต่เช้าให้ตื่นมาอาบน้ำแล้วลงไปใส่บาตรกับครอบครัวของทรงเพลิง วันศุกร์ตื่นเต้นและประหม่ามากๆ ตอนที่อีกฝ่ายกระซิบบอกเบาๆ ว่าคุณแม่รู้เรื่องของเราแล้ว แทบจะทำหน้าไม่ถูกเลยด้วยซ้ำ เขานึกไม่ออกว่าหม่อมปนัดดาจะโอเคกับความสัมพันธ์นี้หรือเปล่า แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี ทุกคนที่วังภัสร์ฤทัยเอ็นดูวันศุกร์มากๆ

ไม่รู้จะขอบคุณคุณชายยังไง ไม่รู้จะขอบคุณครอบครัวเขายังไงที่มาช่วยเติมเต็มในสิ่งที่วันศุกร์ขาดไป

ถึงแม้ว่าวันศุกร์จะไม่มีพ่อกับแม่อยู่ให้ดูแลแล้ว เขากลายเป็นคนกำพร้าพ่อแม่แต่ก็ไม่ได้หยิบเรื่องนั้นมาตำหนิหรือบั่นทอนให้ตัวเองรู้สึกว่ามันขาดหายไปจนดำเนินชีวิตต่อไม่ได้ มันแย่ในช่วงแรกๆ เพราะกลายเป็นว่าต้องหาเลี้ยงตัวเอง แต่วันศุกร์ก็ผ่านมาได้ ถึงแม้ว่าระหว่างทางมันจะเจออุปสรรคอะไรมากมายก็ตาม

เพราะมีผู้ชายคนนี้คอยช่วยเหลืออยู่ตลอดด้วยแหละ

วันศุกร์น่ะเด็กป๋าของจริง ป๋าเพลิงน่ะนะ

“โห เสร็จสักที” ล้อคุณชายที่เพิ่งจะผละกอดออกเพราะผูกผ้ากันเปื้อนเสร็จเมื่อกี้ แววตาขี้เล่นของวันศุกร์กับรอยยิ้มบางๆ ของทรงเพลิงทำให้นึกถึงวันแรกที่เจอกันเลย

หมายถึงครั้งแรกเมื่อหลายปีที่ผ่านมา

วันศุกร์เจอกับคุณชายในผับใจกลางเมือง วันนั้นเขาไปกินเลี้ยงปิดกล้องละครเรื่องแรก ถึงจะได้รับไม่เด่นแต่ด้วยหน้าตาที่ต้องยอมรับว่าจดจำได้ง่ายและมีเสน่ห์ก็ทำให้วันศุกร์กลายเป็นจุดสนใจในผับขึ้นมาทันที คนที่เปล่งประกายท่ามกลางแสงไฟเผลอไปสบตากับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่กำลังนั่งดื่มอยู่เงียบๆ กับเพื่อนอีกสองคน

จะเรียกว่าในตอนนั้นเป็นอะไรฉาบฉวยก็ได้ เพราะพูดกันไม่กี่คำคุณชายเขาก็หิ้ววันศุกร์ขึ้นห้อง และเป็นคืนนั้นที่วันศุกร์ตกเป็นของคุณชายทั้งๆ ที่ในชีวิตนี้เขาไม่เคยคิดจะไปนอนกับใครที่ไม่ใช่แฟน

ทรงเพลิงก็เช่นกัน เขาไม่เคยหิ้วใครขึ้นห้อง ไม่เคยต้องการรู้จักกับใครมากขนาดนี้

มันเป็นครั้งแรกที่วันศุกร์คิดว่าคงเป็นวันไนต์สแตนด์ แต่ก็ไม่ใช่...คุณชายเขาไม่ยอมปล่อยวันศุกร์ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

จนถึงตอนนี้

“ถ้าเหนื่อยก็พักนะครับ ไม่ต้องฝืนทำเป็นเพื่อนผมก็ได้”

“ไม่ได้ฝืน”

“เมื่อคืนคุณชายก็นอนดึก”

“เพราะใครล่ะ”

“นี่! อย่ามาโทษผมนะ”

พูดให้หน้าร้อนเล่นๆ เมื่อหวนคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ถ้าคิดว่าบอกฝันดีแล้วจะต่างคนต่างนอนน่ะไม่มีทาง...

คุณชายเขายังก่อกวนวันศุกร์ทั้งๆ ที่บอกว่าจะไม่กวนแล้ว สุดท้ายก็เป็นวันศุกร์ที่ต้องครางระงมเพราะถูกอีกคนกอดไม่ปล่อย แถมยังรังแกด้วยการพาไปที่ห้องน้ำ กดย้ำความต้องการเข้ามาในตัวจนเข่าอ่อน แล้วยังพาไปแทบทุกมุมห้องจนวันศุกร์เกือบสลบคาอกคุณชายเขาแล้ว

กว่าจะได้นอนก็ตีสอง แถมยังต้องตื่นตีห้าอีกต่างหาก

สรุปเมื่อคืนที่ผ่านมา วันศุกร์ก็ได้นอนน้อยเหมือนเดิม

“เอานี่ไปเลย คุณชายปัดฝุ่นตรงโซฟาก่อนนะ เดี๋ยวผมไปปัดตรงทีวี”

ยื่นไม้ขนไก่ให้คนอายุมากกว่าที่อยู่ใช่ชุดผ้ากันเปื้อนลายเดียวกัน ทรงเพลิงทำตามที่วันศุกร์บอกโดยไม่บ่นอะไรเลยสักคำ คนตัวเล็กเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าทีวี ปัดเบาๆ พลางหันมามองคุณชายเขาเป็นระยะๆ...อมยิ้มทุกครั้งที่เห็นคุณชายเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว

ถึงจะเป็นระดับหม่อมราชวงศ์แต่ทรงเพลิงก็หยิบจับเครื่องมือทำความสะอาดเป็นหมดทุกอย่าง เพราะตอนอยู่อังกฤษเขาไม่ได้มีคนรับใช้เหมือนอยู่ไทย อยู่หอคนเดียวตั้งแต่เล็กจนโต เวลาเพื่อนมาปาร์ตี้ที่ห้องก็เป็นเขานั่นแหละที่เก็บกวาดทุกอย่าง

ทรงเพลิงก้มๆ เงยๆ อยู่ใกล้โต๊ะที่สูงเท่ากับโซฟา ปัดตรงจุดนั้นเพราะมองเห็นว่ามีฝุ่นจับอยู่บนโต๊ะหน่อยๆ หยิบแจกันที่ใส่ดอกไม้ปลอมขึ้น แต่ทว่าตาคมกลับสังเกตเห็นบางอย่างที่มันผิดปกติ

คนตัวสูงจ้องไปในก้านดอกไม้หลายก้านที่เบียดแน่นเหนือแจกัน มันมีไฟสีแดงกะพริบช้าๆ เขากระชากดอกไม้ปลอมออกจากแจกันก่อนจะหยิบวัตถุสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ระหว่างก้านดอกไม้ออกมาถือ

“วันศุกร์ นี่อะไร”

“ครับ?” คนที่กำลังตั้งใจปัดฝุ่นหลังทีวีหันมามองทรงเพลิง พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยืนมองอะไรบางอย่างในมือด้วยสีหน้าเคร่งเครียดวันศุกร์ก็รีบสาวเท้าเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง “มันคืออะไรเหรอครับ”

“เราไม่รู้ใช่มั้ย”

“ไม่นะครับ...” ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู พอเห็นเป็นกล้องตัวเล็กที่ยังทำงานอยู่วันศุกร์ถึงกับชาไปทั้งตัว...

“มันอยู่ในแจกันดอกไม้ พี่ว่าไม่ใช่กล้องวงจรปิด”

“...”

“แต่มันคือกล้องแอบถ่าย”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงหยิบกล้องตัวเล็กมาไว้ในมือตัวเองอีกครั้งก่อนที่เขาจะหาปุ่มปิดการบันทึกภาพ ไฟสีแดงก็หยุดกะพริบไปด้วย คนอายุมากกว่าจ้องใบหน้าซีดๆ ของวันศุกร์ ไม่ต้องหาตัวคนทำก็รู้แล้วว่าเจ้าของกล้องตัวนี้คือใคร

“ผมทำอะไรไม่ถูกเลย”

“ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวพี่จัดการให้”

ดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่น มือหนาลูบแผ่นหลังของคนที่ตัวสั่น เขารู้ว่าวันศุกร์ทั้งโกรธทั้งกลัวปนกันจนแยกความรู้สึกไม่ได้ มือเล็กๆ กำเสื้ออีกคนแน่น ซุกหน้าบนไหล่กว้างแล้วปล่อยให้น้ำอุ่นๆ ไหลออกจากดวงตา

“เขาจะเอาอะไรจากผมนักหนาเหรอครับ ทำไมผมถึงโง่แบบนี้”

“...”

“คุณชาย ผมกลัว...ถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้น ถ้ามีคลิป...ผมจะทำยังไง”

“ไม่ต้องกลัว วันศุกร์ พี่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเรา”

กอดวันศุกร์พลางพร่ำกระซิบปลอบซ้ำๆ ให้อีกคนสบายใจ ในขณะที่มือข้างที่ว่างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาใครบางคนที่จะช่วยเหลือวันศุกร์ได้ในตอนนี้

Plerng: ริว
Plerng: มีงานให้ทำ
Ryu: อือ ว่ามา

ถ้าวันศุกร์ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต วิธีที่เขาเลือกก็เป็นวิธีเดียวที่จะปิดปาก ลงโทษคนผิดอย่างเงียบๆ

เขาไม่ใช่คนดี ไม่เคยบอกว่าตัวเองดี

ทรงเพลิงไม่มีทางปล่อยให้คนที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของคนที่รักนั่งเชิดหน้ามีความสุขต่อไปหรอก








*****






 
“พี่โมไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ” วันศุกร์นั่งเครียดกับเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ตอนที่รู้ว่าทรงเพลิงให้เพื่อนที่เป็นมาเฟียญี่ปุ่นไปเชิญตัวพี่โมกับสามีมาเคลียร์ หัวใจเขาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเลย กลัวไปหมดว่าคุณชายจะหน้ามืด ทำในสิ่งไม่ควรทำลงไป

“ไม่เป็นอะไร คลิปถูกลบหมดแล้ว ยังไม่ได้ถูกขายไปให้สื่อที่ไหน” คุณชายตอบเสียงเรียบ

มันมีคลิปจริงๆ ถึงจะไม่ได้โป๊เปลือยขนาดนั้นแต่ถ้ามันหลุดออกไปยังไงวันศุกร์ก็เสียหาย พอรู้ว่าคลิปพวกนั้นถูกลบไปหมดแล้ววันศุกร์ก็โล่งใจ

ความจริงเขาไม่รู้หรอกว่าคุณชายไปคุยอะไรกับสองคนนั้นมากน้อยแค่ไหน ในตอนนั้นสมองเขาไม่พร้อมจะรับรู้อะไรสักอย่าง รู้ตัวอีกทีก็คือตอนที่พี่โมอยู่โรงพยาบาลแล้ว

จะพูดยังไงดี ก็สามีพี่โมนั่นแหละที่เป็นคนโทรมาบอกให้วันศุกร์ช่วยมาดูเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้หน่อย แล้วก็เป็นคนฟ้องวันศุกร์ว่าคุณชายเรียกพวกมาขู่จะทำร้าย วันศุกร์มารู้ทีหลังว่าฝ่ายของคุณชายไม่ได้ทำอะไรพี่โมเลย เพราะมีคลิปที่ริวถ่ายตลอดเวลาที่ทรงเพลิงเจรจากับสองคนนั้น

แต่วันศุกร์ก็ไม่สนใจคำพูดของคนนิสัยไม่ดี เพราะรู้อยู่แล้วว่าคุณชายไม่ใช่คนโง่ที่จะไปทำร้ายใครให้เจ็บมือเปล่าๆ

แต่ถ้าตอนนั้นทรงเพลิงต่อยหน้าสามีของพี่โมไปสักทีก็คงจะดีมากๆ...เขาเกลียดคนแบบนั้นจริงๆ

พี่โมถูกสามีชักนำให้ทำเรื่องผิดๆ ให้โกงเงินวันศุกร์ ให้แอบถ่ายเพื่อเอาคลิปไปขาย ให้ทำลายชื่อเสียงของวันศุกร์ทีละนิดๆ

และที่ต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพราะพี่โมเครียดสะสมจนเป็นลม คงเพราะถูกกดดันจากลูกน้องของริวและโดนคุณชายบังคับให้พูดความจริงด้วยแหละมั้ง...เลยเป็นแบบนี้

วันศุกร์มองๆ ดูแล้ว...พี่โมกับสามีคงจะเลี้ยงต้นน้ำไม่ได้อีกต่อไป เพราะสถานะทางการเงินและอะไรหลายๆอย่าง...เขาตั้งใจว่าจะไปรับต้นน้ำมาดูแลไว้เอง แต่ก็เพิ่งรู้ว่าต้นน้ำไปอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ฝั่งสามีของพี่โมแล้ว

มันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วแหละ พี่โมคงพอแล้ว...คงไม่กล้ามาทำอะไรแบบนี้กับเขาอีกแล้ว

“คืนนี้มีงานเลี้ยงปิดกล้องใช่มั้ย”

“ครับ...คุณชายไปด้วยกันมั้ย”

“ให้ไปเหรอ”

“อื้ม”

“จะเปิดตัวใช่มั้ย”

“ก็...ใครๆ เขาก็ชวนคนอื่นไปด้วย” วันศุกร์เกาหลังหูเบาๆ เม้มปากแน่นเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี ที่เห็นกลับมีอารมณ์เขินคุณชายได้ก็เพราะว่าถูกปลอบจนหายเศร้าแล้วนั่นแหละ อีกอย่างวันศุกร์ก็ไม่อยากจะแคร์คนที่หักหลังมากเท่าไหร่ เสียใจครั้งเดียวให้พอ แล้วหันมาแคร์แค่คุณชายคนเดียวดีกว่า...

“ที่ชวนไปเพราะเห็นว่าเป็นคนอื่น?”

“ไม่ใช่นะครับ นี่คุณชาย ทำไมจู่ๆ ก็เข้าใจอะไรยาก...จะแกล้งผมใช่มั้ย”

งานเลี้ยงปิดกล้องก็เหมือนงานเลี้ยงบริษัทนั่นแหละ จะพาลูกพาแฟนไปด้วยก็ได้ อีกอย่างพี่ออยก็เอ่ยปากแล้วว่าคืนนี้ต้องเมาแหงๆ วันศุกร์รู้ตัวอยู่แล้วว่ายังไงก็เลี่ยงแอลกอฮอล์ไม่ได้ เลยอยากให้คุณชายไปอยู่เป็นเพื่อน

“แล้วพี่เป็นอะไร”

“คุณชาย...” เรียกอีกคนอย่างอ่อนใจเพราะอยู่ๆ ก็มาทวงถามสถานะทั้งที่ตกลงกันไปแล้วว่ากลับมาเป็นเหมือนเดิม

อือ ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ

มันจะเป็นอะไรได้อีกนอกจาก...

คนที่วันศุกร์รักหมดหัวใจ

“เป็นอะไรครับ” ทรงเพลิงถามย้ำ

“ผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ของผม”

“เดี๋ยวจะโดน”

“อย่าดีดหน้าผากนะคุณชาย เดี๋ยวมันเป็นรอย”

รีบยกมือมาป้องหน้าผากแล้วหดตัวจนเหลือตัวนิดเดียวเพราะกลัวว่าคุณชายจะดีดหน้าผากตัวเองทั้งๆ ที่อีกฝ่ายก็ยังอยู่เฉยๆ ไม่ได้ขยับหรือยกมือทำท่าอะไรสักอย่าง คนที่แสดงละครเก่งอย่างวันศุกร์น่ะโอเว่อร์ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ก่อนจะตกมาอยู่ในอ้อมกอดทรงเพลิงเพราะคนโตกว่ายังอยากกอดปลอบไปเรื่อยๆ

เห็นร่าเริงได้แบบนี้แล้ว...ก็สบายใจ

“เสื้อผ้าเก็บหมดแล้วใช่มั้ย”

“อื้อ หมดแล้ว”

“ครับ”

“แต่ของที่แฟนคลับให้มาจะเยอะหน่อยนะครับ ผมต้องเอาไปทุกชิ้น”

ทรงเพลิงที่วางคางไว้บนศีรษะกลมๆ ของคนตัวเล็กกว่าพยักหน้า มองของที่แพ็คใส่กล่องเรียบร้อยพร้อมขนย้าย

“ครับ พี่เตรียมคนมาขนของไว้แล้ว”

“ขอบคุณนะครับคุณชาย”

“ถ้าเลิกเรียกว่าคุณชายจะน่ารักกว่านี้”

“ก็ไม่ได้น่ารักอยู่แล้ว ออกจะหล่อ...”

เงยหน้าย่นจมูกใส่คนที่กำลังกระชับกอดให้แน่นกว่าเดิม แล้วก็ได้แต่คิดในหัวว่าตั้งแต่ที่กลับมาเจอกันอีกครั้ง ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้วที่คุณชายช่วยเหลือ อยู่เคียงข้างกันแบบนี้

อือ แล้วเรื่องของที่จะขนออกไปก็คือความต้องการที่ตรงกันของวันศุกร์กับทรงเพลิงนั่นแหละ ที่นี่ไม่ปลอดภัยเหมือนก่อนแล้ว ถึงจะโล่งใจที่รู้ว่าพี่โมคงไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นอีก แต่วันศุกร์ก็ไม่อยากจะวางใจ...คุณชายเองก็อยากให้เขาย้ายออกจากที่นี่ใจจะขาด พอวันศุกร์ตกลงปุ๊บ ทรงเพลิงก็ช่วยกระจายข่าวประกาศขายคอนโดห้องนี้ทันที

แล้วก็กลับไปอยู่ที่เก่า ที่ที่เคยอยู่กับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเมื่อสองปีก่อน

แต่วันศุกร์ไม่ได้อยู่คนละห้องกับคุณชายเหมือนเดิมหรอกนะ คุณชายเขาไม่ยอมแล้ว...คราวนี้ก็ได้ไปอยู่ในเพนต์เฮ้าส์กับอีกคนเลยแหละ

“คุณชาย...อย่าคิดค่าเช่าผมแพงนะ”

“บอกแล้วว่าให้อยู่ฟรี”

“ไม่เอา...อยู่ฟรีได้ยังไง”

“ทำไมจะอยู่ไม่ได้”

“แล้วทำไมผมต้องอยู่ฟรีด้วยอ่ะ จะมาป๋าใส่อีกแล้วน่ะสิ”

“งั้นช่วยทำความสะอาดมั้ย จะได้เลิกจ้างแม่บ้าน”

“หูย...ก็ได้นะครับ แต่ผมว่างทำสามเดือนครั้งอะไรแบบนี้ คุณชายรับความสกปรกได้มั้ยอ่ะ”

ตอบไปแบบนั้นเพราะวันศุกร์ไม่ได้ว่างมาทำความสะอาดได้บ่อยๆ ถ้าจะให้ทำจริงๆ ก็ทำได้นั่นแหละ แต่มันก็...มีข้อแม้เยอะแยะไปหมด

“เกินไป”

“ง่า ไม่เอาเหรอ”

สรุปก็คือไม่ทำนั่นแหละ แต่จะจ่ายค่าเช่า...คุณชายเนี่ยไม่เข้าใจอะไรเลย

“จะจ่ายก็ได้ เอาเท่าที่ไหว”

“ไม่สิ คุณชายต้องกำหนดมาเลย ทำสัญญาเช่ามาเลยก็ได้”

“พี่ไม่ได้จริงจังขนาดนั้น”

“...”

“อยากให้วันศุกร์มาอยู่ด้วยกันในฐานะแฟน ไม่ใช่ฐานะผู้เช่า”

คุณชายคนโหดๆ ดุๆ ที่จัดการเรื่องพี่โมให้วันศุกร์หายไปแล้ว เหลือแต่ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นแฟนของวันศุกร์ คนที่รักและจริงใจกับเขาเสมอ

น้ำเสียงอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความจริงจังในตอนที่พูดออกมานั้นทำเอาวันศุกร์ไม่กล้าเงยหน้ามอง รู้อยู่แล้วว่าดื้อว่ารั้นไปยังไงก็แพ้ให้กับเหตุผลดีๆ ของคุณชายเขาอยู่ดี แต่วันศุกร์ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ชอบดื้อ...ดื้อกับทรงเพลิงประจำ

“ก็ได้ครับ ยอมแล้ว”

ตอบเบาๆ แล้วซุกอยู่ในอ้อมกอดของคุณชายเขาอย่างนั้น ทำท่าเหมือนคนจะหลับไปทุกทีจนทรงเพลิงต้องเขย่าตัวเบาๆ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงต้องไปงานเลี้ยงปิดกล้อง

“ไปอาบน้ำ”

“ไม่เอา...ไปแบบนี้แล้วค่อยกลับมาอาบก็ได้”

“วันศุกร์”

“อาบให้หน่อยได้มั้ยอ่ะครับ” เสียงออดอ้อน ตาหวานๆ กับริมฝีปากที่จูบลงบนปลายคางของคนแก่กว่าทำเอาทรงเพลิงชักจะไม่อยากให้วันศุกร์ไปงานเลี้ยงอะไรนั่นแล้ว อยากจะอยู่ลงโทษคนที่มายั่วกันให้ร้องระงมอยู่ใต้ร่างมากกว่า

“ไปอาบน้ำครับ”

“เฮ้อออ ไปแล้วๆ”

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงทำเสียงดุๆ ใส่ จนวันศุกร์ต้องผละออกจากกอดแล้วเดินเอื่อยๆ เข้าห้องน้ำอย่างเซ็งๆ ร่างสูงส่ายหน้าพลางยิ้มไปด้วย ถ้าไม่ติดว่าอีกคนมีงานต้องทำก็รับประกันได้เลยว่าเหตุการณ์หลังจากนี้คงเริ่มต้นที่โซฟาแล้วจบลงบนเตียงแน่ๆ

แต่ถึงจะอยากฟัดให้จมเตียงมากแค่ไหน คุณชายก็โตพอที่จะไม่ปล่อยให้วันศุกร์เสียงาน

“คุณชายยยย หยิบแชมพูให้หน่อยสิ เก็บใส่กระเป๋าหมดเลยอ่ะ ลืมครับๆ” เสียงเล็กๆ ที่ดังออกมาจากห้องน้ำ กับคนที่โผล่มาแค่ใบหน้าแต่ซ่อนตัวเปลือยๆ ไว้หลังประตูทำเอาคุณชายทรงเพลิงถอนหายใจยาวออกมา

“ลืมอะไรอีกมั้ย”

“คุณชายอ่า...”

“...”

“จะเข้ามาอาบพร้อมกันเลยมั้ย”

แต่เขาก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะทนกับคนขี้ยั่วไปได้อีกนานแค่ไหน








*****






 
ร้านอาหารที่เป็นหนึ่งในกิจการส่วนตัวของลิลินถูกเช่าให้เป็นสถานที่เลี้ยงฉลองปิดกล้อง รวมทั้งฉลองที่เรตติ้งละครเมื่อคืนเป็นไปตามเป้าที่ผู้กำกับตั้งไว้ ทีมงานทุกคนที่เหนื่อยกันมาตลอดหกเดือนนั่งอยู่ข้างล่างเวที รอฟังพระเอกของเรื่องกล่าวความในใจ

วันศุกร์ที่ใส่แค่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนสีซีดธรรมดาๆ ก็ดูดีมากจนใครๆ ที่เห็นต้องมองจนเหลียวหลังกัดริมฝีปากเบาๆ ในหัวเขามีคำขอบคุณมากมายแต่เหมือนมันกลั่นออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ครบทุกอย่างที่คิด

“ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมากเลยนะครับที่ทำงานกันเต็มที่มากๆ ผมมีความสุขมากเลยครับที่ได้ร่วมงานกับทุกคน เอ่อ แล้วก็...ไม่คิดมาก่อนเลยครับว่าละครจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ รู้สึกหายเหนื่อยเลยครับ...แต่ตอนนี้อยากนอนมากเลยครับ”

อือ เขาเหมือนจะเมาแล้ว

“ช่ายยยย พี่ก็อยากนอน คิดถึงที่นอนมากกก”

“วันศุกร์น่ารักกกก ตัวก็นุ้มมมนุ่ม พี่ขอกอดอีกได้มั้ยคะ”

“ขอให้วันศุกร์ดังมากๆ ดังกว่านี้ ดังแล้วดังอีกนะครับ!”

“อ่า…แหะๆ ขอบคุณครับ”

พี่ๆ ข้างล่างเริ่มเมากันแล้วเลยคึกกันมากกว่าเก่า วันศุกร์ส่งไมค์ต่อให้ลิลินที่ไม่แตะแอลกอฮอล์เลยสักจิบ ไม่เหมือนวันศุกร์เลยที่โดนขอชนแก้วถี่ๆ ดื่มจนหน้าแดงตัวแดงไปหมดแล้ว

คนตัวเล็กเดินลงจากเวทีด้วยสภาพที่ไม่เต็มร้อยเท่าไหร่ เขาเกือบจะพลาดสะดุดขั้นบันไดล้มลงไปแล้วถ้าไม่มีคุณชายทรงเพลิงคอยช่วยประคองเอาไว้ โชคดีนะที่อีกฝ่ายยอมมาด้วยกัน ไม่อย่างนั้นป่านนี้วันศุกร์คงนอนหมดสภาพไปแล้วแน่ๆ

“ค่อยๆ เดิน”

“คุณชาย ยืนไม่ไหวแล้ว”

“บนเวทียังยืนได้เลย”

“ไม่ไหวแล้วอ่า ขาหมดแรง...”

แล้วก็ยืนกอดคอโถมร่างหาคุณชายตัวสูงกว่าอยู่อย่างนั้น โชคดีที่ในงานคนก็เมาๆ กันหมดแล้วเลยไม่มีใครสนใจเท่าไหร่ว่าใครจะคลอเคลียอยู่กับใคร

ดวงตากลมแดงก่ำเป็นผลมาจากการที่หาวหวอดเมื่อกี้ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ออกกำลังกายเป็นประจำตัดสินใจอุ้มคนที่บ่นว่าไม่มีแรงยืนพาดบ่า ฟาดมือลงบนก้นนิ่มๆ ของอีกคนที่ไม่รู้ลิมิตตัวเองว่าดื่มได้แค่ไหน

ทรงเพลิงพาวันศุกร์เดินออกจากงานโดยไม่สนใจว่าใครจะเรียก เสียงของวันศุกร์ยังพึมพำพูดอะไรบางอย่าง ไม่ได้เมาเต็มร้อย ยังมีสติอยู่เยอะเลย แต่ก็ควบคุมตัวเองได้ยากอยู่ดี

ร่างสูงปลดล็อกประตูรถออดี้คันเดิม พนักงานที่ยืนเฝ้าลานจอดรถรีบเดินไปเปิดประตูให้ ในตอนนั้นคุณชายทรงเพลิงค่อยๆ วางอีกคนลงบนเบาะข้างคนขับก่อนจะหยิบแบงค์จำนวนหนึ่งให้พนักงานแล้วปัดมือให้ไปไกลๆ สักทีด้วยความหงุดหงิด

ก็ต้องหงุดหงิดน่ะถูกแล้ว เพราะเจ้าคนตัวเล็กดันนัวเนียจะจูบเขาตั้งแต่ยังไม่ถึงรถเลยด้วยซ้ำ

ถ้าไม่เป็นดาราดังเขาคงจับฟัดให้จบๆ ไปตั้งแต่ตรงนี้แล้ว เผลอๆ ก็เลี้ยวเข้าห้องน้ำ ไม่อดทนขับรถกลับเพนต์เฮ้าส์ที่อยู่ตั้งไกล

“ดื่มน้ำก่อนครับ”

“ไม่เอา...จะกอด”

“วันศุกร์ ตรงนี้มีคน”

“รู้แล้ว...รู้แล้ว เฮ้อ”

ทำหน้างอแล้วกระชากขวดน้ำไปดื่มอย่างคนที่มีอารมณ์เดือดปุดๆ ในหัวนิดหน่อย หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเอามือค้ำหลังคารถไว้ มืออีกข้างก็เท้าเอวมองคนตัวเล็กที่ดูท่าจะสงบลงแล้วถึงเดินเข้ามาประจำที่นั่งก่อนจะขับรถออกจากสถานที่แห่งนี้

เพราะเขาก็ร้อนเหมือนกัน ร้อนจากข้างในและอยากระบายออกให้หมดเลยทำให้การขับรถกลับเพนต์เฮ้าส์ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ ไม่กี่ครั้งหรอกที่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงจะเหยียบคันเร่งจนมิดขนาดนี้ คงเป็นเพราะมือนุ่มๆ ที่วางอยู่บนหน้าตักเขาตลอดอย่างไม่ตั้งใจด้วยแหละ ที่ทำให้ต้องรีบกลับโดยด่วน

ทันทีที่จอดรถใต้คอนโดเสร็จทรงเพลิงก็ปิดประตูรถเสียงดัง พาคนที่เหมือนจะสร่างเมาแล้วกลับขึ้นห้อง ทันทีที่ลิฟต์โดยสารเคลื่อนมาถึงชั้นบนสุด หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ใจร้อนมาตั้งนานก็รีบจูงมือเล็กๆ เดินหายเข้าห้องทันที

แต่ก็ไม่เท่ากับคนที่ดื่มมาเยอะอยู่ดี

“เพลิง”

“ครั...”

คนตัวเล็กเงยหน้ามอบจูบหวานๆ บนริมฝีปากของคนตัวโตในตอนที่ประตูเพนต์เฮ้าส์ยังไม่ปิดสนิทเลยด้วยซ้ำ วันศุกร์ที่สร่างเมาแล้วและรู้ว่าคุณชายทรงเพลิงต้องการอะไรแตะริมฝีปากจิ้มลิ้มลงเบาๆ แล้วผละออก ทำอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมาก่อนจะกดจูบให้แน่นกว่าเดิม สอดลิ้นนุ่มเข้าไปและลูบไล้แก้มอีกคนด้วยปลายนิ้วเบาๆ โอบคอแกร่งให้โน้มลงมารับจูบ เกี่ยวขาเข้ากับเอวหนาเมื่อสะโพกกลมๆ ของตัวเองถูกช้อนขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง

คุณชายทรงเพลิงพาวันศุกร์ไปที่โซฟากลางห้อง วางคนตัวขาวไว้บนนั้นแล้วโน้มตัวตามลงมาอย่างรวดเร็ว มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดสีขาว ลูบไล้เอวเล็กๆ อย่างหลงใหล ถึงจะตัวเล็กแค่นี้แต่จับส่วนไหนก็เต็มไม้เต็มมือไปหมด เขาพึงพอใจในเรือนร่างของวันศุกร์ที่งดงามเอามากๆ

“ถ้ามัวแต่มองไม่ให้ทำแล้วนะครับ”

ถูกโลมเลียด้วยสายตาจนวันศุกร์อยากจะมุดหน้าหนีไปกับโซฟาเดี๋ยวนี้ ถึงจะมีเรื่องแบบนี้หลายครั้งหลายหน แต่วันศุกร์ก็ไม่เคยชินกับการที่ต้องจ้องตาคุณชายระหว่างร่วมรักหรือเล้าโลมกันสักที

สายตาเจ้าชู้แบบนั้นน่ะ เขาจ้องไม่ไหวหรอก

“พูดเหมือนพรุ่งนี้ตัวเองไม่มีงาน”

“ก็มีครับ แต่มัน...”

“อยากให้พี่ทำเหรอ”

วันศุกร์เม้มปากกลั้นยิ้ม ถามแบบนี้แล้วจะตอบยังไงกันล่ะ บ่อยครั้งซะที่ไหนที่วันศุกร์จะเริ่มจูบอีกคนก่อน ความหมายก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาต้องการ...

มากๆ ด้วย

“ทำไมชอบถามอะไรแบบนี้ ก็รู้อยู่แล้วนี่นา”

ทรงเพลิงอมยิ้มแล้วมอบจูบนุ่มๆ ให้อีกฝ่ายเป็นรางวัล เสื้อยืดตัวเก่งที่สวมอยู่บนตัวของวันศุกร์ถูกถอดออกไปแล้ว ผิวกายขาวๆ เป็นรอยแดงเพราะมือเขา คนโตกว่าเลยต้องก้มลงไปจูบปลอบโยนตรงจุดที่เกิดรอยแดง เพราะเขาก็ไม่รู้ตัวเลยจริงๆ ว่าไปเผลอรุนแรงกับน้องตอนไหน

“เพลิง”

เพราะจุดที่เป็นรอยแดงก็คือบริเวณเอวคอดกิ่วนั่นแหละ วันศุกร์เงยหน้าครางออกมาเบาๆ รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เพราะจูบของเขา เพราะมือของเขาที่จับขาเรียวแยกออกจากกัน

“วันศุกร์” หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเงยหน้ามองอีกคนที่หลับตาพริ้ม อกบางขยับขึ้นลงตามแรงหายใจถี่กระชั้น วันศุกร์ก้มหน้ามองคุณชายเช่นกัน สบกับตาคมที่มองยังไงก็อบอุ่นที่สุดในโลกแล้ว

“พี่ไม่มีคอนดอม”

“...”

“เปลี่ยนใจยังทัน”

วันศุกร์ยันตัวลุกขึ้นนั่ง คนตาแป๋วจ้องใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยื่นหน้าไปจูบเบาๆ บนปลายจมูกของคุณชาย แก้มสองข้าง ปลายคางที่เริ่มมีไรหนวดขึ้นมา แล้วหยุดที่ริมฝีปาก แนบแน่น บดคลึง ขบเม้มให้คุณชายรู้ว่าในตอนนี้วันศุกร์ไม่ต้องการอะไรแล้ว...นอกจากทรงเพลิงเท่านั้น

มือเล็กจับมือหนาให้มายุ่มย่ามกับกระดุมกางเกงของตัวเอง วันศุกร์ยกสะโพกให้คุณชายเขาจัดการกับยีนสีซีดที่ชอบใส่เป็นประจำ ท่าทางที่ยั่วยวนขนาดนั้นมันทำให้คุณชายทนไม่ไหวจนต้องบีบก้นนุ่มๆ อย่างมันเขี้ยว

ในตอนที่ยีนหลุดออกจากปลายเท้าเพราะถูกกระชาก คนตัวเล็กก็ทำในเรื่องที่ทรงเพลิงไม่คาดคิดมาก่อน วันศุกร์ขยับขึ้นมานั่งคร่อมบนตักแกร่ง แขนเรียวโอบล้อมรอบลำคอคุณชายเอาไว้ ก้มหน้าแนบจูบเบาๆ ที่ซอกคอของอีกฝ่าย พรมจูบทุกจุดตรงนั้นในขณะที่คุณชายก็ลูบแผ่นหลังเล็กๆ ไปด้วย

“พี่ไม่มีอะไรเลยนะวันศุกร์” กระซิบข้างใบหูเบาๆ ให้อีกฝ่ายเตรียมใจไว้ ไม่ว่าจะคอนดอม หรือเจลเขาก็ไม่มีทั้งนั้น มันหมดไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

“อือ ไม่เห็นเป็นไรเลย”

“...”

“มีแค่เพลิงก็พอแล้ว”






#หวนกลิ่นรัก




จริงๆ ตั้งใจจะอัพทุกวันศุกร์ให้เข้ากับชื่อนายเอกตัวน้อยๆ ของคุณชายเขา
แต่ก็อดใจไม่ไหวทุกทีเลยค่ะ T^T
เจอกันตอนหน้านะคะ
ps. จบเรื่องของพี่โมแล้วนะ ._.


 


ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 16 - up1.7.62
«ตอบ #43 เมื่อ01-07-2019 20:48:58 »

เรื่องนี้สนุกมาก   
วันศุกร์ของพี่เพลิงน่ารัก

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 16 - up1.7.62
«ตอบ #44 เมื่อ01-07-2019 23:57:20 »

มีความสุขซะทีนะวันศุกร์
แต่ว่าลูกจะนัวเนียกันทุกที่ไม่ได้นะคะ  :mew4:


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 16 - up1.7.62
«ตอบ #45 เมื่อ02-07-2019 06:43:51 »

อ่านจุใจมากเลย  :pig4:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 16 - up1.7.62
«ตอบ #46 เมื่อ02-07-2019 20:54:12 »

พอกลับมารักกัน คุณชายเพลิงกับวันศุกร์ก็หวานจนน่าอิจฉา ^^

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 16 - up1.7.62
«ตอบ #47 เมื่อ03-07-2019 15:42:40 »

รอค่ะ :impress2:

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 16 - up1.7.62
«ตอบ #48 เมื่อ03-07-2019 22:43:49 »

อ่านจุใจ สนุกมากๆค่ะ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 16 - up1.7.62
«ตอบ #49 เมื่อ03-07-2019 23:36:43 »

 :pig4:
 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 16 - up1.7.62
« ตอบ #49 เมื่อ: 03-07-2019 23:36:43 »





ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 17 - up4.7.62
«ตอบ #50 เมื่อ04-07-2019 11:03:33 »

17



เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มทั้งห้างใจกลางกรุงเทพฯ วันศุกร์ที่ยืนอยู่หลังเวทีมองรุ่นพี่อย่างพลอยพิมพ์ พรีเซ็นเตอร์ที่อยู่คู่กับแบรนด์เชอรีอัลมาหลายปีและโด่งดังทั่วประเทศยืนโพสต์ท่าสง่าเหมือนนางพญาอยู่บนเวที ยิ่งเสียงเพลงดังเท่าไหร่เสียงกรี๊ดก็ยิ่งดังมากกว่านั้น



พลอยพิมพ์ขยับไปยืนโพสต์ท่าอีกมุมของเวทีเมื่อถึงคิวที่ต้องฉายวิดีโอโฆษณาเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของแบรนด์ ริมฝีปากสีแดงสดเหยียดยิ้ม พลอยพิมพ์ที่อยู่ในเดรสสีแดงสง่าผายมือไปยังจอ LED ขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง



เสียงเพลงบรรเลงประกอบโฆษณาที่วันศุกร์ไม่เคยได้ยินมาก่อนดังขึ้นท่ามกลางเสียงกรี๊ดที่ดังกระหึ่มกว่าเดิม คนตัวเล็กในชุดสูทสีขาวล้วนที่ยืนสแตนด์บายเตรียมขึ้นเวทีในคิวต่อไปมองจอมอนิเตอร์ อมยิ้มเมื่อเห็นผลงานโฆษณาของตัวเองถูกเปิดอย่างอลังการ



“วันศุกร์พร้อมมั้ย”



“พร้อมครับ”



“โอเค งั้นขึ้นไปเลย”



คนตัวขาวพนมมือก่อนจะก้มหน้าพึมพำขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้งานวันนี้ราบรื่นไปได้ด้วยดี ก่อนจะก้าวเท้าขึ้นบันไดแล้วเดินไปตามตำแหน่งบนเวทีที่ซักซ้อมเอาไว้ตั้งแต่แรก



ทันทีที่พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของผลิตภัณฑ์แบรนด์เชอรีอัลปรากฏตัว เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นอีกระลอก แสงจากสปอร์ตไลต์ฉายมาที่คนตัวขาว วันศุกร์ยิ้มบางๆ ให้กล้อง โบกมือให้กับแฟนคลับที่รออยู่ข้างล่างและชั้นบนของห้างแห่งนี้



“ขอเสียงปรบมือให้กับคุณพลอยพิมพ์ วงศ์ภัสสร พรีเซ็นเตอร์คนปัจจุบันของเชอรีอัล และขอเสียงปรบมือดังๆ ให้กับพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของแบรนด์เชอรีอัล วันศุกร์ จิรัส ก้องอำนวยกิต ด้วยค่ะ! วู้วววว”



เจ้าของชื่อโน้มตัวเล็กน้อยเป็นการขอบคุณสำหรับเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ด เขาหันไปสวัสดีพี่โอปอล์พิธีกรมากความสามารถ ก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้าเพื่อรับพลอยพิมพ์ให้เดินไปอยู่ตรงจุดกึ่งกลางของเวทีด้วยกันตามที่บรีฟไว้



“กรี๊ดกันให้พอ ชั้นบน ดังกว่านี้ได้มั้ย” พี่โอปอล์ยกมือป้องหู ยื่นไมค์ให้แฟนคลับที่ยืนเกาะราวมองจากด้านบนส่งเสียงกรี๊ดดังๆ ลงมา



“กรี๊ดดดดด วันศุกร์ หล่อมากเลยค่ะ”

“พี่พลอยสวยมากกกก แพงมาก กรี๊ดดดด”



แล้วก็คำชมต่างๆ นานาที่ลอยเข้าหูวันศุกร์ พรีเซ็นเตอร์ทั้งคนปัจจุบันและคนใหม่ฉีกยิ้มพร้อมโบกมือให้กับแฟนคลับอีกครั้ง ปลื้มใจจนพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นว่ามีประชาชนจำนวนมากมารอเขาและพลอยพิมพ์ในวันนี้



“เดี๋ยวดิฉันขอเชิญพรีเซ็นเตอร์ทั้งสองท่านนั่งลงบนเก้าอี้ที่ทีมงานจัดไว้ให้ก่อนนะคะ...วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้มาเป็นพิธีกรให้กับงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์และผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของแบรนด์เครื่องสำอางและบำรุงผิวหน้าที่มียอดขายอันดับหนึ่งของประเทศไทย และอันดับของโลกสี่ปีซ้อน...”



เสียงพี่โอปอล์ร่ายคำขอบคุณตามสคริปต์ วันศุกร์กับพี่พลอยพิมพ์นั่งลงบนเก้าอี้สตูตัวขาวแล้ว ตากลมๆ มองแฟนคลับ มองป้ายเชียร์ มองผ่านกระจกใสของห้างแล้วเห็นว่าข้างนอกฝนตกหนักมาก ก่อนจะเลื่อนสายตามามองใครบางคนที่อยู่ในชุดสูทสีดำดูดี ที่นั่งอยู่ด้านหน้าสุดของโซนวีไอพี



แล้วก็ต้องระบายยิ้มพลางส่ายหน้าเบาๆ เมื่อใครคนนั้นยกนิ้วโป้งให้ วันศุกร์พยายามไม่ทำให้คนอื่นผิดสังเกตโดยการกวาดสายตาไปรอบๆ ทั้งที่อยากจะล็อกสายตาไว้ที่คนคนนั้นมากแค่ไหนก็ตาม



นับว่าเป็นงานแถลงข่าวเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่และผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ยิ่งใหญ่อลังการสำหรับวันศุกร์เอามากๆ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเช่าพื้นที่ชั้นหนึ่งที่เป็นลานกว้างในตัวห้างเพื่อใช้สำหรับจัดงานและรองรับแฟนคลับจำนวนมากของวันศุกร์และพลอยพิมพ์...แสง สี เสียง คุณชายเขาเนรมิตพื้นที่ตรงนี้ให้โดดเด่นและดูน่าสนใจมากจริงๆ



“ตั้งแต่ทำงานกับคุณชายเพลิงมา ปีนี้จัดหนักมากเลยนะ ปกติเวทีเล็กกว่านี้อีก สงสัยเอาใจพรีเซ็นเตอร์คนใหม่โดยเฉพาะเลยมั้ง”



“คงไม่ใช่หรอกครับพี่พลอย คุณชายเขาทำเวทีให้พี่พลอยมีพื้นที่เดินแบบมากกว่า”



“จ้ะ ถ่อมตัวจริงๆ เลยนะ...พี่น่ะดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับเรา อยู่ช่องเดียวกันแท้ๆ แต่ไม่เคยทำงานด้วยกันสักที”



พลอยพิมพ์กระซิบกระซาบกับวันศุกร์ในระหว่างที่พิธีกรกำลังพูดอะไรสักอย่างตามสคริปต์ไม่จบสักที วันศุกร์พยักหน้าไปพลางๆ หน้าหวานๆ มีรอยยิ้มที่สดใสอยู่ตลอดจนใครๆ ต่างก็ตกหลุมรักในรอยยิ้มของเขา



รอยยิ้มที่ไม่ได้ฝืนยิ้ม รอยยิ้มที่ออกมาจากใจ



วันศุกร์มองไปข้างล่างตรงโซนวีไอพีอีกครั้ง เขาหยุดมองคุณชายทรงเพลิงไม่ได้จริงๆ ก็เพราะว่าวันนี้คุณชายดันเซ็ตผมซะหล่อแถมยังแต่งตัวได้ดูดีกว่าทุกคนในงานซะอีก ทั้งๆ ที่ก็เป็นแค่สูทราคาแพงที่ใส่ไปทำงานอยู่ประจำ วันศุกร์ควรจะชินตา แต่ก็ไม่เลย



แล้ววันศุกร์ก็เกือบจะเผลอแสดงสีหน้าเหลือเชื่อท่ามกลางสื่อไปแล้วเมื่อจู่ๆ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็ส่งยิ้มแบบที่คนเจ้าชู้เขาทำกันมาให้ คิ้วหนาเลิกขึ้น มุมหยักยกยิ้ม ตาคมๆ หรี่มองวันศุกร์ที่นั่งตัวตรงอยู่บนเวที



อยากจะลงไปฟาดจริงๆ มาแจกยิ้มต่อหน้าคนเป็นร้อยเป็นพันได้ยังไง



วันศุกร์ใช้ชีวิตอยู่กับคุณชายทรงเพลิงมาได้เดือนกว่าแล้ว มันไม่ได้มีอะไรหวือหวา ดำเนินไปเรื่อยๆ พร้อมกับความรักที่มีอยู่เต็มหัวใจ มันไม่ได้ลดน้อยลงหรือเพิ่มขึ้น แต่มันกลับสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลง



เขาถูกผู้ใหญ่ของช่องเรียกพบหลังจากที่เคลียร์เรื่องกล้องแอบถ่ายที่อยู่ในห้องของตัวเองได้ไม่กี่วัน ท่านไถ่ถามอย่างเห็นอกเห็นใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น พอรู้ว่าวันศุกร์ไม่มีผู้จัดการส่วนตัวแล้วก็ช่วยหาผู้จัดการคนใหม่มาให้ แต่วันศุกร์ที่ลุยงานคนเดียวมาได้สักพักก็ปฏิเสธไป เขาคิดว่าเขาไหวและสามารถจัดการเรื่องงานของตัวเองได้ดีอยู่แล้ว ขอแค่ผู้ใหญ่ป้อนงานให้ก็พอ



วันศุกร์กับพลอยพิมพ์หันไปตอบคำถามที่พิธีกรถาม บอกเล่าความในใจระหว่างการถ่ายทำโฆษณา และพูดถึงโฆษณาที่จะได้ถ่ายร่วมกันเร็วๆ นี้ รวมทั้งพูดถึงเรื่องงานอื่นๆ ...พี่โอปอล์ยิงคำถามมาที่วันศุกร์มากกว่าเพราะเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ที่โด่งดังมากๆ ในตอนนี้ การสัมภาษณ์บนเวทีเป็นไปอย่างสนุกสนาน วันศุกร์สามารถตอบทุกคำถามได้โดยไม่อ้ำอึ้งหรือคิดคำตอบนานเลยสักครั้ง



“พี่พลอยก็แต่งงาน มีลูกแฝดไปแล้ว วันศุกร์เป็นยังไงคะ เห็นพี่พลอยมีความสุขแบบนี้อยากมีลูกกับเขาบ้างหรือเปล่าเอ่ย”



“อ่า...แหะๆ”



“เจอคำถามนี้ ถึงกับไปไม่เป็นเลยค่ะ”



พี่โอปอล์กับพลอยพิมพ์หัวเราะด้วยความเอ็นดู ถึงแม้ว่าจะโด่งดังและอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีแล้วแต่วันศุกร์ก็ยังเป็นเด็กที่น่ารักในสายตาของพี่ๆ ในวงการเสมอ เพราะบุคลิกที่นุ่มนิ่ม อ่อนน้อม และเป็นกันเองแบบนั้นเลยทำให้มีคนรักวันศุกร์แทบทั้งวงการเลย



“เปลี่ยนคำถามดีมั้ยคะโอปอล์ ดูเหมือนคำถามจะยากไปสำหรับน้องนะคะ” พลอยพิมพ์ลูบหลังคนที่ยิ้มค้างไปแบบอึ้งๆ เธอมองด้วยสายตาที่เอ็นดูเด็กคนนี้จริงๆ



“ดิฉันก็คิดว่าอย่างนั้นค่ะ เอาแบบนี้! งั้นก่อนจะมีลูก ต้องถามเรื่องนี้ก่อนดีกว่า”



“...”



“อยู่ในวงการมาก็หลายปี เล่นละครกับนางเอกสวยๆ มาตั้งหลายเรื่อง”



“...”



“น้องวันศุกร์มีคนมาดูแลหัวใจหรือยังคะ”



คำถามนั้นทำเอาวันศุกร์ที่ยิ้มค้างหันไปมองใครบางคนที่อยู่ด้านล่าง รอยยิ้มบางๆ ถูกส่งให้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่นั่งจ้องเขาอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว...สายตาที่อบอุ่น อ่อนโยน จากคุณชายทำเอาวันศุกร์รู้สึกชื่นใจเหมือนได้รับกอดจากอีกคน



อือ คนนี้แหละ คนที่ดูแลหัวใจของวันศุกร์



ถ้าเป็นเมื่อก่อนวันศุกร์คงจะกลัวกับคำถามนี้



แต่ตอนนี้...



“มีแล้วครับ”



“กรี๊ดดดดด”



ไม่ใช่แค่เสียงของคนในงานที่ร้องลั่นออกมา แต่เป็นเสียงของพี่โอปอล์กับพลอยพิมพ์ที่หวีดร้องออกมาอย่างเคอะเขินและถูกใจกับคำตอบมากๆ วันศุกร์ยิ้มกว้างมองสองสาวข้างๆ เขา ก่อนจะหันกลับไปมองหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงตรงนั้นอีกครั้ง หลงใหลไปกับสายตาของคนตัวสูงที่มองมาที่เขา...



เพียงคนเดียว



ในช่วงชีวิตของการเป็นคนที่มีชื่อเสียงมันทำให้เขาต้องปิดบังอะไรหลายๆ อย่างเพื่อไม่ให้กระทบกับงานหรือจิตใจของแฟนคลับ เขาดำเนินชีวิตพร้อมกับแบกความหวังของคนอื่นไปด้วย แต่ก็มีคนคนหนึ่งที่คอยให้กำลังใจ ซัพพอร์ต และอยู่เคียงข้างมาเสมอ…วันศุกร์อยากขอบคุณเขา



คนที่ไม่หวังอะไรจากวันศุกร์



ที่อยากอยู่กับวันศุกร์ไปเรื่อยๆ



คนที่วันศุกร์รักโดยไม่มีเงื่อนไข



คนนั้นคนเดียว









*****







 

“แฟนน้องวันศุกร์คือใครอ่ะคะ บอกพี่ได้มั้ยง่า สัญญาเลยว่าจะรูดซิปปิดปากเงียบ”



“ใช่น้องลิลินมั้ยคะ”



“นี่ก็ถามโง่ๆ ลิลินมีแฟนอยู่แล้วไง”



“อ้าว งั้นใครอ่ะ”



“วันศุกร์บอกพี่ที ไม่อยากเดาเอาเองแล้วนะคะ”



“อ่า...ยังบอกไม่ได้หรอกครับ” วันศุกร์ที่กำลังหยิบกระเป๋าเป้ใบเดิมขึ้นมาสะพายบ่ายิ้มแหย ไม่ได้ตอบอะไรพวกพี่ๆ ทีมแต่งหน้ามาก เพราะยังไม่อยากให้คนอื่นมารุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของทรงเพลิง



อยากให้รับรู้แค่ว่าวันศุกร์ไม่โสดแล้วก็พอ



ส่วนเรื่องจะเปิดตัววันไหน...ก็คงต้องถามคุณชายเขาก่อนแหละ



แต่ตอบคำถามพี่โอปอล์ออกสื่อไปแบบนั้น ถึงจะไม่เปิดตัวยังไงสักวันก็ต้องมีคนรู้แน่ๆ ว่าคนที่ดูแลหัวใจของวันศุกร์อยู่คือใคร



“โหยยยย งั้นไม่เป็นไร พี่ไม่อยากรู้ก็ได้”



“ขอโทษด้วยนะครับ”



“อีกนิดได้มั้ยอ่า นอกหรือในวงการ”



“แถวๆ นี้แหละครับ”



“อีเหี้ยๆๆ ในวงการชัวร์”



“แต่น้องบอกว่าแถวนี้ มึงใช่มั้ยอีดี้ที่เป็นแฟนน้อง”



“พูดนี่เกรงใจลูกชายสามคนที่บ้านกูบ้างค่ะ”



วันศุกร์หัวเราะออกมาเบาๆ เพราะแถวๆ นี้ที่เขาพูดถึงก็คือคนตัวสูงที่ยืนพิงกรอบประตูอยู่ข้างนอก หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไม่ได้เดินเข้ามาในห้องแต่งตัว วันศุกร์เองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอีกฝ่ายมายืนรอตั้งแต่ตอนไหน เพิ่งเหลือบไปเห็นเมื่อกี้นี้เอง



แล้วก็เห็นด้วยว่า...ในมือของทรงเพลิงกำลังถือดอกไม้ช่อใหญ่อยู่ด้วย



“งั้นพี่ไปก่อนนะคะวันศุกร์ ไว้เจอกันงานหน้านะจ๊ะ”



“ขอบคุณพี่ๆ มากเลยนะครับ”



ยกมือไหว้พี่ๆ ที่วันนี้ทำงานหนักกันมาตั้งแต่เช้า เนรมิตเสื้อผ้าหน้าผมให้เขาออกมาดูดีจนหยุดสายตาทุกคนได้ วันศุกร์ยืนส่งพี่ทั้งสองคนที่เดินออกไปจากห้อง อมยิ้มเมื่อเห็นว่าตอนที่เดินออกไปพี่ๆ เขาก็หยุดทักทายคุณชายสองสามคำแล้วก็ออกไปโดยที่ไม่เห็นความผิดปกติอะไรสักอย่าง



อือ จริงๆ มันก็ไม่มีอะไรผิดปกติหรอก แค่รองประธานบริษัทเชอรีอัลมายืนถือดอกไม้รอแสดงความยินดีให้พรีเซ็นเตอร์คนใหม่เท่านั้นเอง



ไม่มีอะไรเลยจริงๆ



แกร๊ก



เสียงประตูถูกล็อกพร้อมกับร่างสูงของบางคนที่เข้ามาอยู่ในห้องแต่งตัว ไม่ทันไรคนตัวบางก็ถูกรวบเข้าไปกอดไว้แน่นด้วยมือข้างเดียว จมูกโด่งๆ หอมฟอดใหญ่บนเส้นผมนุ่ม



วันศุกร์กวาดตามองรอบๆ ห้องเพื่อดูให้แน่ใจว่าในนี้ไม่มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ ก่อนจะสอดแขนกอดคนตัวสูงบ้าง ยืนนิ่งๆ สูดความหอมจางๆ จากน้ำหอมกลิ่นเดียวกัน



เหนื่อยมาทั้งวันพอได้กอดกันแบบนี้ก็เหมือนกับเป็นการชาร์จแบต คนตัวเล็กซุกใบหน้าบนไหล่กว้าง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาทั้งนั้น ราวกับว่าในเวลานี้ที่ได้กอดกัน อยู่ด้วยกัน ฟังเสียงลมหายใจของกันและกันก็เพียงพอแล้ว



วันศุกร์หัวเราะเบาๆ เมื่อจู่ๆ คุณชายก็เลื่อนจมูกมาหอมแก้มที่ยังไม่ได้ล้างเครื่องสำอางฟอดใหญ่ และกำลังจะฝังจมูกลงบนแก้มขาวๆ อีกครั้งแต่มือเล็กก็จับกรอบหน้าของคนตัวสูงไว้ซะก่อน



“ผมยังไม่ได้ล้างหน้าเลย”



“ไม่เป็นไร”



“คุณชาย”



“ครับ”



“คุยกันก่อน”



จริงๆ แล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคนตัวสูงหรอก วันศุกร์แค่แกล้งไม่ให้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมาหอมแก้มเท่านั้นเอง



ตากลมสบกับดวงตาคมๆ ที่มองกี่ทีก็ต้องใจสั่นราวกับถูกสะกด ก่อนจะต้องหลับตาปี๋เมื่ออีกฝ่ายไม่สนใจที่เขาบอกเมื่อกี้ แต่กลับมาขโมยหอมแก้มไปหนึ่งฟอด



ทรงเพลิงผละคนตัวเล็กออกจากกอด เขายื่นช่อดอกไม้ที่ไปเลือกด้วยตัวเองตั้งแต่เมื่อเช้าให้คนตรงหน้า มองวันศุกร์ที่พึมพำขอบคุณและรับช่อดอกไม้ไปกอดไว้หลวมๆ รอยยิ้มบนใบหน้าขาวทำให้เขาละสายตาไม่ได้จริงๆ



“กินข้าวมาหรือยังครับ”



“ยัง รอกินพร้อมกัน”



“โห...แล้วตั้งแต่เช้าได้กินอะไรบ้างหรือยังเนี่ย” ถึงจะตัวหนากว่าวันศุกร์แต่คุณชายทรงเพลิงน่ะมีนิสัยไม่ค่อยชอบกินข้าว ไม่ใช่ว่าเบื่ออาหารหรืออะไรหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าทำงานหนักมากเกินไป ยิ่งพักหลังที่ผ่านมายุ่งกับการจัดงานแถลงจนไม่ได้กินข้าวเลยก็มี



ความจริงคุณชายเขาจะปล่อยให้คนอื่นทำงานแทนก็ยังได้ แต่เพราะว่างานนี้เป็นงานของวันศุกร์ คุณชายเลยลงมือดูงานด้วยตัวเอง ทำทุกอย่างออกมาให้ดีสมกับที่ได้แฟนของตัวเองมาเป็นพรีเซ็นเตอร์



“ตอนนี้กี่ทุ่มแล้วครับ วันนี้ผมไม่ได้ดูนาฬิกาเลยอ่ะ เหนื่อยมากกกก”



“สามทุ่มครึ่ง งั้นรีบไปกินข้าวแล้วกลับไปพักผ่อน”



“คุณชายจะกินข้าวในห้างหรือข้างนอกดีครับ”



“ในห้างคงไม่ได้แล้ว”



วันศุกร์พยักหน้าเห็นด้วย วันนี้แฟนคลับเขามากันเยอะมาก ทั้งคนไทยและต่างชาติ ตอนนี้บรรดาแฟนคลับคงจะนั่งจับจองพื้นที่ในการพักผ่อนตามร้านอาหารในห้างอยู่แน่ๆ ถ้าวันศุกร์ก้าวเท้าอยู่ในห้างต่อแล้วมีคนมาเจอล่ะก็...ไม่อยากจะคิดเลย



จู่ๆ วันศุกร์ก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ช่วงสองสามวันมานี้เขามักจะเปิดรูปทะเล ค้นหาทะเลสวยๆ ทั้งในและต่างประเทศ อือ ใช่แล้ว ร่างกายของวันศุกร์ต้องการทะเลเอามากๆ แต่ยังปลีกตัวไปไม่ได้สักที ยิ่งใกล้ช่วงสิ้นปีงานยิ่งรุมเร้า ส่วนใหญ่ก็เป็นงานที่รับไว้ตั้งแต่ต้นปีนั่นแหละ



“ไปทะเลกันมั้ย เอาที่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ ก็ได้นะครับ”



“ดึกป่านนี้ยังมีอารมณ์ไปอีกเหรอ”



“ดึกๆ ก็ได้ฟีลเหงาๆ ดีนะครับคุณชาย”



“ไหนเมื่อกี้บ่นว่าเหนื่อย”



“ก็เหนื่อยแหละครับ แต่ร่างกายมันต้องการทะเล”



กะพริบตาปริบๆ ให้คุณชายตัวสูงที่ยืนล้วงกระเป๋าใช้ตาคมมองมาที่เขา วันศุกร์ยู่ปากก่อนจะเอียงคอเอาแก้มนุ่มๆ ซบไหล่กว้าง แขนเรียวเล็กโอบรอบเอวของอีกคนไว้ วันศุกร์ที่ใครๆ ก็บอกว่าทั้งน่ารักทั้งหล่อ ตอนนี้อยู่ในโหมดเด็กคนหนึ่งที่งอแงอ้อนให้แฟนพาไปเที่ยว



“เพลิง”



“ครับ” แพ้เสียงอ้อนๆ ที่เรียกชื่อเขาเหลือเกิน แล้ววันศุกร์ก็ดูท่าจะจัดการกับจุดอ่อนของเขาได้อยู่หมัดซะด้วย



“ไปกันนะ”



“พรุ่งนี้มีงานไม่ใช่เหรอ”



“ก็มี แต่ก็อยากไปนี่นา”



“...”



“ไปแป๊บเดียวได้มั้ย นั่งกินลมชมวิวสักครึ่งชั่วโมงก็กลับเลย”



“...”



“นะครับ”



ไม่อ้อนด้วยคำพูดอย่างเดียวแต่ยังเงยหน้าขึ้นมาจูบเบาๆ ที่ปลายคางของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงอีกต่างหาก คนถูกจูบแกล้งมองอีกฝ่ายด้วยสายตานิ่งๆ ในหัวของทรงเพลิงคิดอยากจะลงโทษวันศุกร์ที่พรุ่งนี้มีงานแต่เช้าตรู่แต่ก็ยังอยากจะไปเที่ยวตอนกลางคืนอยู่ดี



ริมฝีปากอุ่นจูบลงเบาๆ บนริมฝีปากของวันศุกร์ รวบเอวบางให้ขยับเข้ามาใกล้ ไม่ได้ลุกล้ำจูบไปมากกว่าการขบเม้มริมฝีปากล่าง วันศุกร์ปากหวานอยู่แล้ว พอวันนี้ทาลิปสติกของแบรนด์คุณชายเข้าไปยิ่งหวานมากขึ้นไปอีก แต่ทรงเพลิงเชื่อว่าความหวานที่แท้จริงมันมาจากกลีบปากนุ่มๆ ของน้องมากกว่า เพราะลิปสติกที่แต่งแต้มบนปากมันคงหลุดออกไปหมดแล้ว



“คุณชายปากเลอะลิปสติกหมดแล้ว”



วันศุกร์หัวเราะเพราะตรงมุมปากของคุณชายตัวสูงเปื้อนสีชมพูจางๆ ของลิปสติก นิ้วเล็กๆ จิ้มมุมปากของคุณชายสองสามครั้ง ก่อนจะเช็ดออกให้ด้วยปากของตัวเองที่ทาบลงตรงจุดที่เปื้อน



เพี้ยะ!



“คุณชาย! มาตีก้นผมทำไมเนี่ย”



คนที่กำลังเช็ดปากด้วยปากขยับตัวออกห่าง ก่อนจะมองค้อนทรงเพลิงที่จู่ๆ ก็เอามือมาตีก้นซะแรง แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับคนที่ยั่วอารมณ์เขาเก่ง หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงคว้าคอคนที่ตัวเล็กกว่ามากอดไว้ ก้มหน้าฟัดแก้มขาวๆ จนวันศุกร์ร้องฮือออกมา



ไม่กี่นาทีก็ผละออกพร้อมกับคนตัวเล็กที่หอบแฮ่กผมเผ้าไม่เป็นทรง หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยังไม่วายทิ้งจูบเบาๆ บนริมฝีปากไว้อีกครั้ง สบตากันในตอนที่คนโตกว่ายื่นมือมาลูบผมจัดทรงให้ลูกหมาตัวเล็กๆ ตรงหน้า



แล้วสุดท้ายก็ทนไม่ได้หรอกที่จะไม่แตะตัวกันอีกครั้ง ความรู้สึกบางอย่างที่ล้นอกสั่งให้วันศุกร์สวมกอดคุณชายแน่น ปลายจมูกแตะกันไปมา ริมฝีปากก็เช่นกัน มันเฉียดกันอยู่อย่างนั้นเพราะระยะที่ใกล้...หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินเสียงกระซิบจากวันศุกร์



เสียงที่เขาอยากฟังทุกวัน อยากได้ยินซ้ำๆ ไม่มีวันเบื่อ



“คิดถึงเพลิงจัง”



“คิดถึงเหมือนกันครับ”









*****







 

วูบหนึ่งในความคิดที่กลัวว่าคุณชายเขาจะเหนื่อยจากการทำงาน วันศุกร์เลยขอขับรถมาที่บางแสนเอง แต่สุดท้ายคุณชายเขาก็ยืนยันว่าไม่เหนื่อย คนที่เหนื่อยมากๆ จนหลับตลอดทางคือวันศุกร์มากกว่า



ในเวลาแบบนี้ เสื่อหนึ่งผืนที่ซื้อเอาจากคนหาบแร่ริมหาดกับน้ำอัดลมสองขวดที่อยู่ในมือของคุณชายทรงเพลิงกับวันศุกร์มันก็เพียงพอแล้ว พวกเขาฝากท้องกับร้านอาหารข้างทางในตอนที่เข้าเขตบางแสน เลือกเมนูที่ไม่มีอาหารทะเลเพราะคุณชายเขากินไม่ได้



ก่อนจะมานั่งรับลมจริงๆ ตรงริมหาด แสงไฟสีนวลกับดาวบนท้องฟ้าทำให้วันศุกร์ผ่อนคลาย...และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว มีคนอยู่ประปรายแต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะมองหน้าวันศุกร์กันสักคน เลยทำให้วันศุกร์กล้าที่เอนศีรษะซบไหล่กว้างของคนตัวโต จับมือกับคุณชายเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย



วันศุกร์มองหมวกสีขาวบนหัวของตัวเองที่คุณชายทรงเพลิงบังคับให้ใส่ก่อนจะมานั่งตากน้ำค้างตรงนี้ ไหนจะสูทตัวใหญ่ของคุณชายที่ถอดออกมาคลุมไหล่ให้วันศุกร์แก้หนาวอีก เขาซึ้งใจทุกครั้งที่ทรงเพลิงดูแลดีแบบนี้ตลอด ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนเรื่องของวันศุกร์ก็เป็นเรื่องใหญ่ของคุณชายเขาเสมอ



มาก่อนเรื่องของตัวเอง มาก่อนเรื่องอื่นๆ



หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยกให้วันศุกร์เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต



ถึงวิวข้างหน้าจะเป็นสิ่งที่วันศุกร์อยากมองมากแค่ไหน แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขากลับไม่สนใจมันเลยสักนิด แค่นั่งจับมือกับคุณชายไปอย่างนั้น หลับตาฟังเสียงคลื่น เสียงลมหายใจของคนตัวสูงก็พอใจแล้ว



“คุณชาย”



“ครับ”



บ่อยครั้งที่เขาเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ แบบนี้ เพราะวันศุกร์อยากฟังเสียงทุ้มที่ตอบกลับมาอย่างเอาอกเอาใจ สนใจกันจริงๆ ว่าวันศุกร์ต้องการอะไร อยากพูดอะไร



“ผมรักคุณชายนะครับ”



ดูเหมือนว่าคำบอกรักที่ไม่ได้ยินมานานจะทำให้คุณชายทรงเพลิงแปลกใจที่จู่ๆ วันศุกร์ก็พูดขึ้นมาแบบนั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากได้ยิน แต่เพียงแค่การกระทำก็รู้ดีแล้วว่าวันศุกร์รักเขามากแค่ไหน



แสดงออกว่ารักกันมากๆ คำบอกรักมันเลยไม่ได้พูดออกมา



หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงหันหน้ามองคนที่อมยิ้มจนแก้มป่อง ดวงตากลมโตตอนนี้เป็นประกายสวยงามเหมือนดาวดวงเล็กๆ บนฟ้า



“วันศุกร์”



“อื้อ”

“พี่รักวันศุกร์นะครับ”



แล้วอมยิ้มนั้นก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างจนตากลมๆ เหลือเพียงขีดเดียว



คำบอกรักเบาๆ ทำเอาวันศุกร์ไม่กล้าสบตากับคุณชายอีกต่อไป เขาซุกหน้าลงบนไหล่กว้าง หลบสายตาที่ทั้งเจ้าชู้และเจ้าเล่ห์ของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง สายตาที่ตรงข้ามกับนิสัยรักเดียวใจเดียวของคุณชายเขานั่นแหละ



ก็ไม่คิดว่าจะถูกบอกรักกลับแบบนั้นเพราะตั้งแต่คบกันมาวันศุกร์ก็ไม่เคยได้ยินคำคำนี้เลย พอได้ยินจริงๆ หัวใจเขาก็ดันเต้นแรงเหมือนกำลังโดนจีบ ทั้งๆ ที่ก้าวผ่านความรู้สึกแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว



“วันศุกร์ เงยหน้าหน่อยครับ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”



“หื้อ” วันศุกร์เงยหน้ามองคนที่จู่ๆ ก็ทำน้ำเสียงจริงจังขึ้นมา



“อาทิตย์นี้ไปบ้านพี่มั้ย”



“ไปทำอะไรเหรอครับ”



ตั้งแต่ครั้งนั้นที่วันศุกร์เข้าวังภัสร์ฤทัยเป็นครั้งแรกก็ไม่ได้ไปอีกเลย หลายครั้งที่หม่อมปนัดดาชวนให้วันศุกร์ไปกินข้าวร่วมกันแต่วันศุกร์ก็ไม่กล้าไป ปล่อยให้คุณชายไปคนเดียวทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้สิ จะพูดยังไงดี คือมันเป็นวันครอบครัว วันศุกร์ก็เลยปล่อยให้ครอบครัวคุณชายได้อยู่ด้วยกันดีกว่าที่คนนอกอย่างเขาจะเข้าไปแทรก



ไม่ใช่ว่าอึดอัดใจหรือรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน ทุกคนที่วังดีกับวันศุกร์มากๆ เลย แต่ก็นั่นแหละ ปล่อยให้ครอบครัวอยู่กับครอบครัวดีกว่า



“ไปกินข้าว”



“คุณชายชวนทุกอาทิตย์เลยนะครับ ไม่เบื่อบ้างเหรอที่คอยฟังผมปฏิเสธบ่อยๆ”



“แล้วทำไมถึงไม่ไป”



“ก็เคยไปแล้วไงครับ ผมอยากให้คุณชายใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากกว่า เราน่ะเจอหน้ากันทุกวันอยู่แล้ว”



“พูดอย่างกับว่าเราไม่ใช่คนในครอบครัว”



“ก็ไม่ใช่น่ะสิครับ คนละนามสกุลกันเลย”



“เปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่มั้ย”



“ดะ...ได้ที่ไหนล่ะคุณชาย”



“ทำไมจะไม่ได้”



“พูดอะไรออกมารู้ตัวมั้ยครับ เปลี่ยนนามสกุลไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ”



“พี่ก็ไม่ได้เล่นๆ”



“...”



“พี่เอาจริง”



ไม่ใช่แค่น้ำเสียงที่จริงจัง แต่สีหน้า แววตาของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็แสดงถึงความจริงจังไม่แพ้กัน วันศุกร์เม้มปากแน่นก่อนจะพยายามหัวเราะออกมาเพราะคิดว่าคุณชายเขาคงแค่ล้อเล่น แต่พอสบตากับอีกฝ่ายก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าทันที วันศุกร์ไม่รู้ว่าควรจะต้องรู้สึกยังไง



“ท่านพ่อกับคุณแม่รับรู้ว่าเราไม่มีใครนอกจากพี่ ท่านให้วันศุกร์มาเป็นครอบครัวเดียวกัน สนิทสนมกับครอบครัวพี่เยอะๆ ได้มั้ยครับ พวกท่านเอ็นดูเรานะ”



“ผมไปก็ได้..แต่คงไม่ต้องถึงขั้นเปลี่ยนนามสกุลใช่มั้ยครับ” เกาหัวแกร็กๆ เพราะไปไม่เป็นที่ถูกชวนให้ไปเปลี่ยนนามสกุลดื้อๆ แบบนั้น



“ยังไงก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดี”



“คุณชายยยย”



“ไม่อยากใช้นามสกุลพี่เหรอ”



“นามสกุลเพราะๆ ใครก็ต้องอยากใช้ แถมคนชวนก็หล่อขนาดนี้ด้วย...”



“จันทร์นี้ก็ไปที่อำเภอเลย”



“เร็วไปแล้วคุณชาย ยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรด้วยเลย”



ทำหน้างอใส่ก่อนจะถูกรวบตัวมากอดไว้แน่น คุณชายฝังจมูกลงบนเส้นผมสีดำ มือหนาลูบต้นแขนนุ่มของน้อง ที่ชวนให้มาใช้นามสกุลเดียวกันเพราะเขาต้องการแบบนั้นจริงๆ ในเมื่อวันศุกร์ไม่มีญาติที่ไหนแล้วคุณชายก็อยากให้น้องมาเป็นครอบครัวเดียวกัน



เขาคิดเอาไว้หมดแล้ว



“มันไม่เร็วไปหรอก”



“...”



“แต่ถ้าวันศุกร์ยังไม่พร้อม พี่รอได้ครับ”



“คุณชายรู้มั้ย ชวนคนอื่นไปใช้นามสกุลด้วยแบบนี้มันหมายความว่ายังไง”



สบตากับอีกคนแล้วถามน้ำเสียงนุ่มๆ ออกไป วันศุกร์รู้ว่าหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไม่ใช่คนโง่ แต่ที่ถามไปแบบนั้นเพราะอยากแน่ใจด้วยตัวเอง อยากรู้ว่าที่คุณชายคิดตรงกับที่เขาคิดหรือเปล่า



แค่นั้นเอง



“รู้ครับ”



“...”



“วันศุกร์อยากแต่งงานกับพี่มั้ย”



นั่นคือสิ่งที่อยู่ในหัวของวันศุกร์มาตั้งแต่แรก



แม้จะได้ยินเต็มสองหูแล้วแต่วันศุกร์ก็ตั้งรับไม่ไหวจริงๆ คนตัวเล็กมุดหน้าหนีสายตาที่แสนจะอ่อนโยนของทรงเพลิง ยิ้มอยู่บนไหล่กว้าง หัวใจดวงน้อยๆ ในอกมันเต้นแรงกว่าเดิมจนวันศุกร์ต้องสั่งให้มันเพลาๆ ลงหน่อย



มือหนาลูบแผ่นหลังของคนตัวเล็กเบาๆ วันศุกร์อยากขอบคุณคุณชายที่ไม่ถามย้ำและปล่อยให้เขาจมอยู่กับความคิดของตัวเองไปเรื่อยๆ



มันเป็นความคิดที่ว่า...



เขาจะตอบกลับไปว่ายังไงดี



ให้สมกับความรักที่คุณชายทรงเพลิงมอบให้ : )













#หวนกลิ่นรัก

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 18 - up4.7.62
«ตอบ #51 เมื่อ04-07-2019 11:04:30 »

18

 







พอใกล้จะถึงวันที่มีคิวว่างในสัปดาห์ของปีนี้ วันศุกร์ก็เกิดอาการขี้เกียจขึ้นมาทันที คนตัวเล็กที่โหมงานหนักมาตลอดนั่งอ้าปากหาวหวอดอยู่ในห้องรับรองของสถานีวิทยุชื่อดังแห่งหนึ่ง วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปีแล้วที่เขามีงาน วันศุกร์เต็มที่และสนุกกับมันมากๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการวิทยุ



แต่ว่าเขาก็ทำงานเสร็จแล้ว วันศุกร์นั่งคุยกับพี่ดีเจทั้งสองคนจนคอแห้งตั้งแต่หนึ่งทุ่มถึงสองทุ่มครึ่ง ทั้งสนุกทั้งเหนื่อย พอยิ่งใกล้ช่วงท้ายรายการวันศุกร์ยิ่งคึกมากขึ้นไปอีก...



หลังจบงานพี่ทีมงานเลยขอเวลานอกเขาสิบห้านาทีเพื่อถ่ายรูป แจกลายเซ็นบนโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่วันศุกร์นำแสดงและจะเข้าฉายช่วงปีใหม่ให้กับแฟนคลับที่โทรเข้ามาร่วมสนุกในรายการ



เพราะว่าวันศุกร์ไม่รีบเลยเซ็นไปไถโทรศัพท์ไป เอาจริงๆ ช่วงนี้เขาติดโทรศัพท์เป็นพิเศษ เพราะมีคนติดต่องานผ่านแชตเยอะมาก ช่วงหลังๆ เลยโดนคุณชายทรงเพลิงดัดนิสัยด้วยการตีมือเพราะวันศุกร์เริ่มจะติดนิสัยกินข้าวไปด้วยเล่นโทรศัพท์ไปด้วย



เนี่ย...คิดถึงคุณชายเขาเลย



วันศุกร์ที่นั่งอยู่บนโซฟาวางปากกาเมจิกลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้า หยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ขึ้นถือไว้ด้วยมือทั้งสองข้างก่อนจะกดเข้าไปในหน้าแชตของใครบางคนที่เพิ่งคิดถึงไปเมื่อกี้...อมยิ้มเมื่อเห็นว่าแชตล่าสุดที่เพิ่งคุยกันก็เป็นเรื่องของกินอะไรสักอย่างที่คุณชายเขาอยากกิน



Plerng: ทำงานเสร็จแล้วใช่มั้ยครับ

Friday: !?

Friday: ทำไมคุณชายรู้

Plerng: วันศุกร์บอกเองว่าเสร็จงานสองทุ่มครึ่ง

Plerng: งงอะไร

Friday: โม้เปล่าาาคุณชาย

Plerng: อาการหนักแล้วนะ

Friday: แฮ่ ล้อเล่นต่างหาก

Plerng: จะกลับเมื่อไหร่

Plerng: ให้ไปรับมั้ย

Friday: เดี๋ยวววว ทีละคำถามได้มั้ยครับ 55555

Friday: อีกสักพักจะกลับครับ

Friday: นี่ๆ เซ็นโปสเตอร์อยู่ครับ

Friday: (Sent a photo)

Friday: ผมขับรถมาเองนะคุณชายยยย ไม่ต้องมารับเลย

Plerng: ครับ

Plerng: วันนี้ทำงานวันสุดท้ายแล้วใช่มั้ย

Friday: ช่ายยย

Friday: ถามทำไมง่ะ จะชวนไปไหนเหรอ._.

Plerng: ไปญี่ปุ่นมั้ย

Friday: เง้ยยยย



วันศุกร์ย่นคิ้วให้กับแชตของคุณชาย ก็อยู่ด้วยกันทุกวันไม่เห็นว่าคุณชายจะพูดถึงเรื่องไปเที่ยวที่ไหนเลยสักครั้ง



ตอนแรกเขาคิดเอาไว้แล้วว่าหลังจากเสร็จงานในคืนนี้คงได้กลับไปนอนพักผ่อนและตื่นสายในวันหยุดว่างๆ ของตัวเองแน่นอน นอนขลุกอยู่ในเพนต์เฮ้าส์ของคุณชายที่ดูเหมือนจะไม่มีแพลนไปเที่ยวไหนสักที่ในช่วงวันหยุด



Plerng: ไปมั้ย

Plerng: คืนนี้จะได้จองตั๋ว

Friday: คุณชาย ทำไมจู่ๆ ก็กะทันหันล่ะครับ

Plerng: ไม่อยากไป?

Friday: อยากไปสิครับบบบ



ญี่ปุ่นในช่วงสิ้นปีเป็นเหมือนสวรรค์ย่อมๆ ของการพักผ่อนเลยแหละ วันศุกร์อยากไปสัมผัสอากาศที่เย็นกว่าเมืองไทยในช่วงนี้มากๆ ไม่ต้องถึงขั้นนั่งมองหิมะตก แค่ได้สูดอากาศเย็นๆ ก็ชื่นใจแล้ว



Friday: ว่าแต่คุณชายครับ

Plerng: เดี๋ยวผมโทรหา

Friday: โอเค้



คนตัวเล็กหลังตรงแด่วอมยิ้มรอรับโทรศัพท์ของคนที่บอกว่าจะโทรเข้ามา พอคิดได้ว่าต้องเซ็นโปสเตอร์ไปด้วยวันศุกร์ก็รีบหยิบหูฟังมาเชื่อมกับโทรศัพท์แล้วเสียบใส่หูทันที พอโทรศัพท์สั่นครืดนิ้วเรียวสวยก็รีบกดรับสาย



(มีอะไรครับ)



เสียงทุ้มๆ ที่ได้ยินทีไรก็ต้องยิ้มออกมาด้วยความเขินดังขึ้นอยู่ในหู วันศุกร์โน้มตัวลงเซ็นโปสเตอร์ไปด้วย ปากก็ขยับคุยกับคนในสายไปด้วย



“มีใครไปบ้างอ่ะครับ”



(มีแค่เราสองคน)



“นึกยังไงถึงไปญี่ปุ่นครับ ผมนึกว่าคุณชายจะไม่ไปไหนซะอีก”



(อยากพาคนดื้อแถวนี้ไปพักผ่อน เห็นเมื่อเช้าบ่นว่าเหนื่อย เบื่ออากาศร้อน)



“ใครน้า...”



(นึกเอาแล้วกัน)



“โห่คุณชาย ไม่เล่นด้วยเลยอ่ะ”



(เล่นอะไรเป็นเด็ก)



ยังสงสัยอยู่เลยว่าคนที่ต่างกันละขั้วแบบเขากับคุณชายมาอยู่ด้วยกันในสถานะนี้ได้ยังไง วันศุกร์ขี้เล่น กวนได้กวนดีแถมยังมีมุมง้องแง้งเหมือนเด็ก ในขณะที่คุณชายดูเป็นคนขี้รำคาญ นิ่งๆ สุขุมตามประสาคนอายุสามสิบ เล่นมุกอะไรกับเขาไม่เป็นสักอย่าง



อือ แต่ระหว่างเขากับคุณชายมันก็เหมือนกับขั้วบวกขั้วลบแหละมั้ง ต่างกัน แต่เข้ากันได้ดี



“ก็ยังเด็กอยู่ อายุน้อยกว่าคุณชายตั้งกี่ปี”



(แล้วนี่เซ็นโปสเตอร์เสร็จหรือยัง)



“ยังเลยครับ เหลืออีกสิบใบ” วันศุกร์ยู่ปากมองโปสเตอร์อีกสิบใบบนโต๊ะ มันไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะเซ็นให้เสร็จภายในเวลาสั้นๆ แต่เพราะว่าตอนนี้วันศุกร์เหมือนคนหมดแรงไปแล้วทั้งๆ ที่ตอนแรกยังคึกอยู่เลย



ร่างกายต้องการการพักผ่อนมากๆ



“คุณชาย...มาช่วยเซ็นหน่อยสิ”



(ครับ เดี๋ยวไปหา)



“เฮ้ย ผมล้อเล่น”



(รออยู่ที่นั่นครับ เดี๋ยวพี่ไปรับ)



“ไม่ต้องเลยคุณชาย วันนี้ผมขับรถมาเอง”



(แล้วรู้ตัวมั้ยว่าเสียงงอแงมากแค่ไหน แค่ฟังก็รู้แล้วว่าง่วง)



“...”



(แน่ใจเหรอว่าขับรถกลับไหว)



“ถ้าต้องขับจริงๆ ก็ไหวแหละครับ”



(...)



“แต่ตอนนี้คิดถึงคุณชายมากกว่า...รีบมาเร็วๆ นะ”



(ครับ คิดถึงเหมือนกัน)



รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าขาวอย่างน่ารัก เดาว่าถ้าคุณชายมาเห็นวันศุกร์ตอนนี้คงทนไม่ไหวจนต้องฝังจมูกบนแก้มนุ่มๆ แน่นอน คนตัวเล็กเม้มปากกลั้นยิ้มอย่างเขินๆ แค่คุณชายบอกว่าคิดถึงกันหัวใจก็เต้นถี่ไปแล้ว บอกตามตรงเลยว่าถึงแม้จะอยู่ด้วยกันทุกวัน แต่พอห่างกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง และไม่ได้คุยกันเลยระหว่างวันมันก็ทำให้เขาคิดถึงคุณชายเอามากๆ



ความรักไม่ลดลง แถมความคิดถึงยังเพิ่มมากขึ้น



“วันศุกร์ว่างมั้ยครับ พี่จะขอถ่ายรูปด้วยหน่อย พอดีเมื่อกี้มันยุ่งๆ เลยไม่ได้คุยกับวันศุกร์เลย...เอ่อ ได้มั้ยครับ”



คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ต้องเด้งตัวลุกขึ้นทันที สายหูฟังยังเสียบคาหูอยู่อย่างนั้นในขณะที่หัวก็ผงกตกลงให้พี่ที่ทำงานอยู่ในนี้เข้ามาถ่ายรูปด้วยกันได้



วันศุกร์ฉีกยิ้มเอียงหน้าหน่อยๆ ตากลมๆ มองกล้องขณะที่พี่คนนั้นกำลังนับหนึ่งถึงสามช้าๆ เอวบางๆ ถูกมือของพี่คนนั้นโอบไว้หลวมๆ แต่วันศุกร์ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมันปกติอยู่แล้วที่จะถูกแตะเนื้อต้องตัวเวลาที่ต้องถ่ายรูป



ในหูได้ยินเสียงกระแอมไอของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงด้วย และนั่นก็ทำให้วันศุกร์หลุดหัวเราะออกมาเพราะได้ยินคุณชายเขาพึมพำอะไรบางอย่าง



(ดูท่าเขาชอบเรามากเลยนะ)



“...”



(ถ่ายรูปแค่นี้ก็ต้องโอบเอวด้วย)



เป็นจังหวะเดียวกันกับที่พี่คนนั้นถ่ายรูปเสร็จพอดี วันศุกร์รีบหันซ้ายหันขวาเพื่อมองว่าเจ้าของเสียงทุ้มอยู่แถวนี้หรือเปล่า แต่ก็ไม่เจอ จนกระทั่งหันหลังกลับไปมองที่ประตูกระจก แล้วก็ต้องคลี่ยิ้มออกมาอย่างเซอร์ไพรส์เมื่อเห็นสายตาคมๆ ของใครบางคนกำลังยืนมองเขาอยู่



หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้



“ขอบคุณนะครับวันศุกร์ ตัวจริงน่ารักมากๆ เลย พี่ไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไมน้องสาวพี่มันถึงได้ชอบ...ขนาดพี่ยังชอบเลย”



“ขอบคุณนะครับ ฝากขอบคุณน้องสาวด้วยนะครับ”



“กลับบ้านดีนะครับวันศุกร์ ถ้าไม่อยากกลับคนเดียวไปเรียกพี่ในห้องได้นะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”



“อ่า...ครับ”



(หึ)



วันศุกร์โน้มตัวเล็กน้อยให้พี่คนนั้นที่เดินออกไปหลังจากระบายความในใจเสร็จ ยิ้มแหยหน่อยๆ ที่ถูกพูดด้วยตรงๆ แบบนั้น ความจริงวันศุกร์ชินกับการที่มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงเข้ามาคุยในเชิงชู้สาว ถึงมันจะเป็นเหตุการณ์ปกติที่วันศุกร์เจอมานักต่อนักแต่พอมาเจอในตอนที่คุณชายได้ยินเสียงสนทนาครบทุกช็อตก็ถึงขั้นไปไม่เป็นเลยทีเดียว



นู่น...ดูหน้าคนที่ยืนกอดอกมองเขาด้วยสายตานิ่งๆ ซะก่อน



ไหนจะเสียงหึห้วนๆ นั่นอีก



วันศุกร์กดตัดสายแล้วดึงหูฟังออกในตอนที่คนตัวสูงเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องรับรอง อือ เขาลืมไปสนิทเลยว่าหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทนี้ แถมยังสนิทกับเจ้าของบริษัทอีกด้วย จะเข้าจะออกก็ทำได้ง่ายๆ เหมือนเป็นบริษัทตัวเอง



“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”



“สักพักแล้ว ตั้งแต่เรายังอยู่ในนั้น” หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงพยักหน้าไปทางห้องที่มีน้องดีเจผู้ชายสองคนรับหน้าที่ในช่วงดึกก่อนที่ตาคมจะหันกลับมาจ้องใบหน้าหวานของคนรักที่ยืนทำหน้ายุ่ง



“แล้วก็ไม่บอก...แล้วตอนที่ผมทำงานอยู่คุณชายไปอยู่ตรงไหนมาล่ะครับ”



“พี่ไปคุยกับเพื่อนครับ เรื่องงานทั่วไป”



เพื่อนที่คุณชายเขาพูดถึงวันศุกร์เดาว่าคงเป็นเพื่อนที่เป็นเจ้าของบริษัทนี้แหละ เบื่อจริงๆ เลยคนกว้างขวางในวงการบันเทิงเนี่ย หันไปทางไหนหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็เป็นถือหุ้น เป็นสปอนเซอร์ เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ



“เหนื่อยมั้ยครับ”



“ก็เอาเรื่องอยู่ครับ”



มืออุ่นๆ ลูบเส้นผมสีดำเงาอย่างทะนุถนอม รอยยิ้มบางที่มุมปากของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงทำให้คนมองอย่างวันศุกร์รู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที



“แต่งตัวแบบนี้สาวๆ เหลียวหลังมองเลยใช่มั้ยล่ะครับ”



ยื่นมือไปจับเสื้อยืดคอกลมสีดำธรรมดาๆ ของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ชายเสื้อสวมทับกางเกงยีนสีเข้ม ยู่ปากหน่อยๆ เพราะว่าจู่ๆ ก็เกิดอาการหวงขึ้นมาในใจที่วันนี้คุณชายเขาหล่อดูดีเกินไปทั้งๆ ที่ไม่ได้แต่งอะไรมากมาย ผมก็ไม่ได้เซ็ต เสื้อกับกางเกงก็ธรรมดา สลัดคราบรองประธานที่สวมสูทดูสุขุมแล้วกลายเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ



“ใครมองก็ช่างเขาสิ”



“ช่างได้ยังไง...นี่แฟนผมนะ”



หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงหัวเราะในลำคอแล้วรวบคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้อย่างอ่อนใจ วันศุกร์ที่พอเหนื่อยแล้วมักจะงอแงเป็นเด็กต้องการให้เขาปลอบอยู่เสมอ มือหนาลูบแผ่นหลังอีกคนเบาๆ คนตัวโตกดจมูกลงบนเส้นผมนุ่ม ถึงแม้ว่าห้องนี้จะเป็นกระจกใสรอบห้อง แต่ทรงเพลิงก็ไม่ได้กลัวว่าใครจะมาเห็นเขากับวันศุกร์ในสภาพแบบนี้เพราะต่างคนต่างก็ทำงานอยู่ในอีกห้องหนึ่ง



“หวงเหรอ”



“อื้อ”



“แล้วจะให้พี่ทำยังไงครับ” ถามอีกคนด้วยน้ำเสียงนิ่มๆ เขาใจเย็นกับวันศุกร์เสมอถึงแม้ว่าโดยนิสัยจะไม่ใช่คนที่ใจเย็นอะไรขนาดนั้น เขาคือเพลิงเหมือนชื่อ เป็นไฟที่ร้อนระอุพร้อมแผดเผา แต่เพลิงอย่างเขากลับมอดลงเพราะคนในอ้อมกอด



เพราะวันศุกร์



“ไม่ต้องทำอะไรเลย”



“ครับ”



“แค่กอดอย่างนี้ก็พอแล้วครับ”



คนตัวเล็กที่แนบแก้มอยู่บนไหล่กว้างเงยหน้ามองหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง ปลายคางคนที่สูงกว่าถูกริมฝีปากนุ่มจูบเบาๆ...มันเป็นจุดที่วันศุกร์มักจะชอบคลอเคลียบ่อยๆ รองจากซอกคอหอมๆ กับอกกว้างๆ ของคุณชายเขาเลย



จะบอกว่าวันศุกร์กลายเป็นคนติดแฟนไปแล้วก็ได้ รู้ดีเลยว่าหมู่นี้งอแงใส่ทรงเพลิงบ่อยชะมัดเพราะอยากให้คุณชายเขาโอ๋อยู่บ่อยๆ ไม่รู้สิ ได้ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ ของคนรักมันเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดแล้ว



อีกอย่าง...



ก็ไม่ได้กอดกันมาตั้งสองปี วันศุกร์เลยอยากชดเชยช่วงเวลาเหล่านั้นที่หายไป



“เพลิง”



“ครับ”



“แล้วเรื่องไปญี่ปุ่น จองตั๋วไว้แล้วใช่มั้ย”



“เรียบร้อยแล้ว มันกะทันหันไปหน่อย พี่เลือกไฟล์ตมะรืนนี้ตอนแปดโมงเช้า”



“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเตรียมของให้เพลิงนะ...ไปกี่วันเหรอครับ”



วันศุกร์สบตากับอีกคนที่อายุมากกว่า เขาเรียกคนตรงหน้าทั้งคุณชายทั้งเพลิงสลับกันไปตามที่อยากเรียก ช่วงแรกๆ คุณชายก็มีถามบ้างว่าสรุปจะเรียกยังไงกันแน่ แต่พักหลังๆ มานี้คงชินแล้วล่ะมั้ง



แต่เวลาไปพบเจอกับครอบครัวของคุณชาย หม่อมปนัดดากับหม่อมราชวงศ์รฐาก็เห็นตรงกันว่าควรเรียกทรงเพลิงว่าพี่เพลิงเพราะอีกฝ่ายแก่กว่าเขาตั้งหกปี วันศุกร์ไม่เคยเรียกชื่อเล่นของทรงเพลิงต่อหน้าคนในครอบครัวหรอกนะ เรียกแค่คุณชายๆ จนคุณแม่บอกว่ามันดูห่างเหินเกินไป



“สามวันครับ เดี๋ยวต้องกลับมาทำบุญที่บ้าน เหลือเวลาให้เราพักผ่อนก่อนไปทำงานด้วย”



“โอเคเลย ผมจะได้จัดเสื้อผ้าให้ถูก”



ส่งยิ้มให้คุณชายที่ยืนโอบเอวบางด้วยแขนสองข้าง แล้วก็ต้องเอียงหน้าหนีเมื่อจู่ๆ อีกฝ่ายทำท่าจะโน้มตัวลงมาจูบกัน วันศุกร์ดันคางของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงออก หัวเราะจนตาหยีเพราะคุณชายเขาดื้อรั้นจะก้มหน้ามาฟัดกันให้ได้



“เพลิง ไม่เล่น”



“ไม่ได้เล่น”



“ไม่เอา ดะ...เดี๋ยวคนเห็น”



“ยังไม่มีใครเดินมาหรอก”



“ฮื้อออ”



ยอมให้คุณชายเขาหอมที่แก้มแรงๆ ไปฟอดหนึ่งเพราะกลัวว่าถ้ายังยื้อยุดกันแบบนี้จะมีคนเดินมาเจอเข้าจริงๆ แล้วจะยุ่งไปกันใหญ่



วันศุกร์หน้าแดงแจ๋ก่อนจะฟาดมือนุ่มๆ ตีแขนคุณชายเขาไปหนึ่งที เรื่องเอาเปรียบกันเนี่ยเก่งนัก หลายครั้งแล้วที่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไม่ปล่อยให้วันศุกร์พักผ่อน มันก็เริ่มจากการที่หอมนิดหอมหน่อยไปจนจูบกัน พอปากได้สัมผัสลิ้มรสของกันและกันแล้วความปรารถนาของคุณชายก็พวยพุ่งขึ้นมาทันที สุดท้ายพอไม่มีใครหยุดใครได้ ก็เป็นวันศุกร์เองนั่นแหละที่จะต้องนอนซมอยู่บนเตียงเพราะถูกคุณชายจับฟัดตั้งหลายต่อหลายรอบ



ยิ่งวันไหนที่เขาไม่มีงาน เป็นวันนั้นแหละที่คนตัวเล็กแทบไม่มีโอกาสได้ลุกจากเตียงเลยจริงๆ



รังแกกันชัดๆ : (









*****







 

“วันศุกร์ นั่งก่อนค่อยกิน” ไม่ได้บอกเฉยๆ แต่ดึงมือวันศุกร์ให้นั่งลงด้วย



ทรงเพลิงมองคนที่ตัวเล็กกว่าจดจ่อกับถ้วยไอศกรีมในมือ วันนี้หลังจากที่รอวันศุกร์เซ็นโปสเตอร์เสร็จเขาก็ขับรถพาอีกคนมาเดินห้างในช่วงสามทุ่มกว่า ยิ่งดึกคนยิ่งน้อย เหมาะกับการที่คนดังอย่างวันศุกร์จะเดินเที่ยวได้อย่างสบายใจเฉิบ



หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงตามใจอีกคนที่ไม่อยากกินข้าวแต่อยากกินไอศกรีม เดินไปซื้อด้วยกันตอนที่ร้านใกล้จะปิดคนขายเลยแถมไอศกรีมมาให้ตั้งสามลูก



ถูกใจวันศุกร์เลยแหละ ทรงเพลิงดูจากรอยยิ้มบนใบหน้าระหว่างกำลังตักของกินเข้าปาก กินไปด้วยก็หันมาฉีกยิ้มให้เขาไปด้วย น่ารักซะไม่มี



เก้าอี้หน้าห้างสรรพสินค้ากลางแจ้งเป็นที่ที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ด้วยกันในตอนนี้ วันศุกร์ไม่ได้อำพรางใบหน้าอะไรเลยสักอย่าง ใส่แค่หมวกใบสีขาวของคุณชายก็เอาอยู่แล้ว เพราะการแต่งตัวธรรมดาๆ ที่กลมกลืนกับวัยรุ่นสยามทั่วๆ ไป ถึงจะมีคนหันมามองบ้างเพราะผิวขาวจั๊วะกับหุ่นบางๆ ของวันศุกร์ แต่ก็ยังไม่ถูกมองเท่าหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงอยู่ดี



ก็ทั้งสูง ขายาว ไหล่กว้าง หล่อเหลาเอาซะขนาดนั้นนี่นา



“ค่อยๆ กิน”



“ผมไม่ได้รีบนะคุณชาย แต่มันไหลออกปากเองอ่ะ”



“ครับ หันมาเช็ดปากก่อน”



เออๆ ออๆ ไปกับคนที่บอกว่าไม่ได้รีบกิน ทรงเพลิงเอียงหน้ามองใบหน้าขาวๆ ของวันศุกร์ก่อนจะเช็ดคราบไอศกรีมที่เปื้อนปากเปื้อนคางออก



“ขอบคุณนะครับ” ส่งยิ้มบางให้คนที่ดูแลตลอดไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไม่เคยละเลยวันศุกร์สักครั้ง



วันศุกร์ตักไอศกรีมจ่อไปที่ปากของคุณชายทรงเพลิง แล้วก็ต้องอมยิ้มหน้าแดงก่ำเมื่อคุณชายเขายื่นหน้ามางับช้อน พร้อมกับหรี่ตามองวันศุกร์ด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์เอามากๆ



ทั้งเจ้าเล่ห์ เจ้าชู้ แพรวพราวจริงๆ



แล้วก็เลียริมฝีปากตอนที่กินเสร็จแล้วอีกด้วย



“มองอะไร”



“รู้ตัวมั้ยว่าเป็นจุดสนใจมากกว่าผมอีก”



ทรงเพลิงเลิกคิ้ว ส่ายหน้าพร้อมกับยักไหล่เบาๆ ตาคมมองใบหน้าขาวๆ ของวันศุกร์อย่างหลงใหล ไม่ว่าอีกฝ่ายจะพูดหรือทำอะไรก็อยู่ในสายตาของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงตลอด



เพราะเขาไม่อยากละสายตา อยากมองนานๆ...วันศุกร์เป็นสิ่งที่เขาอยากพักสายตาไว้ เป็นความสบายใจ เป็นกำลังใจของเขาด้วย



เป็นทุกอย่างเลยนั่นแหละ



วันศุกร์ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะคุณชายไม่ได้ถาม ปล่อยให้เรื่องที่จู่ๆ นึกอยากจะพูดก็พูดมันลอยไปกับสายลม หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเอนหลังพาดแขนบนพนักเก้าอี้ ระหว่างที่รอให้อีกคนกินไอศกรีมให้เสร็จก็นั่งตากลมฟังเสียงรถไฟฟ้าวิ่งผ่านไปขบวนแล้วขบวนเล่า



ดึกๆ ที่นี่ร่มรื่นดี ไม่ค่อยวุ่นวายเหมือนตอนเช้า



“คุณชายเคยมาเดินสยามกับเพื่อนๆ บ้างมั้ย ตอนเรียนมัธยมผมมาแทบทุกวันเลย”



“ไม่เคยครับ”



“คุณชายอยู่อังกฤษตั้งแต่เด็กนี่นา” ลืมไปสนิทเลยว่าคุณชายเขาน่ะเป็นเด็กนอก วันศุกร์ถือถ้วยไอศกรีมที่ตัวเองกินหมดแล้ว กะพริบตาเบาๆ มองคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก่อนจะหันไปมองคนตัวสูง



“วันศุกร์เคยบอกว่าเริ่มต้นเข้าวงการบันเทิงเพราะที่นี่ใช่มั้ย”



“อ่า คุณชายจำได้ด้วยเหรอครับ”



“จำได้ครับ เล่าให้พี่ฟังหน่อย”



วันศุกร์เคยเกริ่นๆ ให้ทรงเพลิงฟังเมื่อตอนที่ยังคบกันอยู่ว่าจุดเริ่มต้นของการเป็นดาราอยู่ที่นี่ พอนึกย้อนไปแล้วก็ได้แต่หัวเราะเพราะไม่คิดว่าคนธรรมดาๆ อย่างตัวเองจะได้มาเป็นที่รู้จัก เป็นที่ยอมรับของใครหลายๆ คน



“ช่วงจะจบปีหนึ่งผมมาเดินเล่นที่นี่กับปันน่ะครับ เหมือนตอนนั้นปันจะชวนมาทำอะไรสักอย่างแต่ผมจำไม่ได้...จำได้แต่ว่าเดินๆ อยู่ก็มีพี่คนหนึ่งเข้ามาสะกิด ยื่นนามบัตรให้ แอดไลน์กันตรงนั้นเลยนะครับ...ตอนแรกผมไม่อยากทำหรอกเพราะกลัวว่าจะโดนหลอก แต่รู้นิสัยปันใช่มั้ยครับ คะยั้นคะยอจนผมยอมตกลงไปแคสต์”



“แล้วก็แคสต์ผ่าน?”



“ช่ายยยย เก่งมั้ยล่ะ”



“เก่งครับ”



วางมือบนหัวกลมๆ จับโยกไปมาด้วยความเอ็นดู ทรงเพลิงทึ่งในความสามารถของเด็กคนนี้จริงๆ ให้ทำอะไรก็ทำได้หมดทุกอย่าง ไม่เกี่ยงงาน อะไรที่ได้เงินก็ทำหมดแม้ว่าบางงานจะได้น้อยกว่าค่าตัวขั้นต่ำมากๆ...เขาเพิ่งรู้ก็ตอนที่ช่วยวันศุกร์รับงานนี่แหละ สินค้าโนเนมบางแบรนด์ที่เงินค่าตัวไม่ถึงวันศุกร์ก็ยินดีไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้จนเป็นที่รู้จัก



ทั้งน่ารักทั้งใจดี วันศุกร์ควรได้รับแต่สิ่งดีๆ จริงๆ



“วันศุกร์”



“ครับ” จ้องคนตัวสูงตาแป๋ว



“เราอยู่ยังไงตอนที่ไม่มีพี่”



“...”



คนถูกถามนัยน์ตาวูบไหว วันศุกร์ระบายยิ้มจางๆ ให้ทรงเพลิง คำถามที่อีกฝ่ายถามออกมาไม่ใช่คำถามที่จะให้คำตอบกันไม่ได้ แต่มันเป็นคำถามที่วันศุกร์ไม่คิดมาก่อนว่าคุณชายเขาจะพูดออกมา



จะว่ายังไงดี เพราะตั้งแต่กลับมาคบกันก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเมื่อสองปีก่อนเลย



เหมือนกับว่าไม่มีใครสนใจอดีต แค่ตั้งใจจับมือกันไปแน่นๆ เดินหน้าไปด้วยกัน



“นั่นสิครับ”



“...”



“ยังสงสัยอยู่เลยว่าผมอยู่มาได้ยังไง”



“...”



“ผมคิดถึงคุณชายทุกวัน ผมอยากบอกกับคุณชายด้วยซ้ำว่าที่พูดไปผมล้อเล่น”



หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงประคองมือเล็กๆ มากุมไว้บนตัก พอเห็นรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความเข้มแข็งแต่แววตากลับเศร้าอย่างเห็นได้ชัดหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็ไม่อยากได้ยินเรื่องเก่าๆ จากปากของวันศุกร์อีกแล้ว



“ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดแล้วครับ”



“ไม่เอา ยังเล่าไม่จบเลย”



“ไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวมีคนร้องไห้”



“ใครจะร้อง...”



มือหนายีผมนุ่มของคนที่ตาแดงก่ำไปแล้ว เขาหัวเราะให้กับความปากแข็งของวันศุกร์ พอเห็นคนตัวขาวยู่ปากเหมือนกำลังโดนขัดใจก็อยากจะจับมาจูบให้หายอยาก สาบานเลยว่าถ้าตรงนี้ไม่ใช่ที่สาธารณะเขาคงดึงวันศุกร์มากอดไปแล้ว



“ผมถามคุณชายบ้างได้มั้ย”



“ถ้าถามเรื่องเก่าๆ ไม่ต้องถามแล้ว”



“อะไรอ่ะ! ทีตัวเองยังถามได้เลย”



“คุยเรื่องอนาคตบ้าง จะเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่เมื่อไหร่ครับ” ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มจนคนฟังใจสั่น ทั้งสายตาเจ้าชู้กับท่าทางขี้แกล้งของคุณชายเขาทำเอาวันศุกร์ปรับโหมดแทบไม่ทัน



ก็เมื่อกี้น้ำตายังปริ่มๆ อยู่เลย แต่ตอนนี้แก้มเริ่มร้อนเพราะคุณชายทรงเพลิงแล้ว



“ว่าไงครับ”



“อีกสักสิบปีแหละครับ ปล่อยให้คุณชายรอไปนานๆ เลย”



“ไม่เป็นไร พี่รอได้”



วันศุกร์อมยิ้มเพราะไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายแพ้อยู่เสมอ แพ้เพราะหัวใจที่มั่นคงของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง จะกี่ปีผ่านไปก็ยังเหมือนเดิม



ก็คุณชายทรงเพลิงเป็นแบบนี้ จะไม่ให้รักมากๆ ได้ยังไง









*****







 

หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมองคนที่ตื่นเต้นกับการไปญี่ปุ่นจนนอนไม่หลับ จนดึกจนดื่นก็ยังนอนคว่ำหน้าเล่นไอแพดของเขา หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวในญี่ปุ่นเพราะยังไม่เคยไปสักครั้ง ผิดกับเขาที่ไปมาแล้วหลายรอบ



เจ้าของร่างสูง 181 เซนเติเมตร พาดผ้าขนหนูไว้บนบ่า เดินตรงมาที่เตียงพร้อมกับผมสีดำที่ยังหมาดๆ ไม่แห้งดีเท่าไหร่ ก็คนที่ต้องทำหน้าที่เป่าผมสนใจแต่ไอแพดไม่สนใจเขาสักนิด อื้อ คุณชายทรงเพลิงโดนญี่ปุ่นแย่งความสนใจไปแล้ว



ความจริงแล้วที่ไปญี่ปุ่นก็เป็นเพราะความต้องการของเจ้าคนตัวเล็กนั่นแหละ วันศุกร์บอกในรายการของนิตยสารศิมาเอาไว้ว่าไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน อยากลองไปดูสักครั้ง ไปถ่ายรูปกับภูเขาไฟฟูจิ เดินหาของอร่อยๆ กิน แช่ออนเซ็นให้ผ่อนคลาย



เขาทำตามความฝันของวันศุกร์ทีละอย่างร่วมกับการทำตามความฝันของตัวเองไปด้วย



ฝันที่ว่าอยากจะไปเที่ยวกับวันศุกร์



มันตลกดีตรงที่เขามีพร้อมทุกอย่าง แต่ขาดอย่างเดียวคือเรื่องเวลาว่างของวันศุกร์ คนที่ทำงานครบเจ็ดวัน ได้นอนวันละสี่ห้าชั่วโมงอย่างวันศุกร์น่าสงสารที่สุดในโลกแล้ว จะไปไหนทีเขาต้องเช็กความพร้อมร่างกายของวันศุกร์ซะก่อนว่าจะกลับมาทำงานในวันถัดไปได้หรือเปล่า



รู้ว่าวันศุกร์เหนื่อย เขาอยากให้พักบ้าง



แต่ก็ไม่อยากบงการเพราะมันเป็นอาชีพที่วันศุกร์ชอบ



“ฮื้อ หนักนะครับ ตัวไม่ใช่เบาๆ”



เสียงอู้อี้ดังออกมาจากลำคอของคนที่นอนคว่ำอยู่บนเตียง หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงนอนทับร่างเล็กๆ ทั้งร่าง สอดมือใต้แผ่นอกบางเพื่อกอดน้องเอาไว้ ซุกหน้าบนซอกคอที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากครีมอาบน้ำผสมกับกลิ่นหอมจากผิวของวันศุกร์ ก่อนจะเม้มลำคอขาวเบาๆ จนขึ้นเป็นรอยแดง



“อย่าดื้อสิครับ” เอียงหน้ามาจูบบนแก้มของคุณชายเบาๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะคุณชายขยับตัวเพื่อแนบแก้มเข้ากับแก้มกลมๆ ของคนตัวเล็ก ในตอนที่ขยับอะไรบางอย่างที่อยู่กลางลำตัวก็ถูไถไปกับสะโพกของวันศุกร์ด้วย



คนที่กำลังถือไอแพดอยู่เกร็งไปทั้งตัวเลย



“ได้ที่เที่ยวสักที่หรือยัง”



“ยังไม่ได้เลยครับ คุณชายมีแนะนำมั้ย”



“นอนอยู่ในโรงแรมก็พอแล้ว”



“โหย...งั้นอยู่ที่ไทยง่ายกว่าเยอะ”



เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นใกล้ใบหู วันศุกร์กดออกจากหน้าเว็บไซต์แล้วกดเข้าแอพกล้องถ่ายรูปแทน ก่อนจะต้องหน้าแดงเมื่อเห็นภาพตัวเองกับทรงเพลิงจากหน้าจอ วันศุกร์กดถ่ายรูปในตอนที่แก้มแนบแก้ม ตัวติดกัน...คนตัวเล็กยิ้มกว้างแล้วก้มหน้างุดไปกับหมอนเมื่อถูกคุณชายหอมแก้มอีกครั้ง



แล้วรูปก็ถูกบันทึกไว้ทุกช็อต



ถึงจะอายุสามสิบแต่สกิลในการอ้อนแฟนก็ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มทั่วไปเลย วันศุกร์ต้องอ่อนระทวยทุกครั้งที่ถูกพรมจูบเบาๆ บนขมับ แก้ม...ริมฝีปากอุ่นๆ ทาบลงบนท้ายทอยอย่างอ้อยอิ่งแถมยังแกล้งขบเม้มตามไหล่เล็กๆ จนคนตัวขาวต้องหดคอเพราะจั๊กจี้



คนตัวเล็กเม้มปากมองตัวเองจากจอไอแพดที่กำลังถูกคุณชายหอมตรงนู้นจูบตรงนี้ ก่อนที่ไอแพดเครื่องนั้นจะถูกดึงออกไปจากมือแล้วโยนไปอีกฝั่งของเตียงจนเกือบกลิ้งตกพื้น มือหนาจับปลายคางให้หันหน้าไปหาหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง ไม่ทันไรก็ต้องหลับตาลงเมื่อกลีบปากสีชมพูถูกปากอุ่นๆ แนบแน่นลงมาพร้อมกับลิ้นที่สอดเข้ามาในโพรงปากอย่างชำนาญ



แล้วในตอนนั้นวันศุกร์ก็รู้แล้วว่าคืนนี้คงไม่ได้สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นแน่ๆ



เพราะคุณชายทรงเพลิงจะพาไปแตะปุยเมฆนุ่มๆ ไปในที่ที่มีแต่ความสุข



มีแค่สองเรา



คงเป็นที่ไหนสักที่ในห้องนี้แหละ











#หวนกลิ่นรัก















เข้าสู่โค้งสุดท้ายของเรื่องแล้วนะคะ เจอกันอีก2ตอนหน้าเลย :)

ขอบคุณจริงๆ นะคะที่ติดตาม ขอบคุณทุกคนเลยยยย ♥

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 18 - up4.7.62
«ตอบ #52 เมื่อ04-07-2019 11:52:23 »

มีความสุขจนล้นเลยตอนนี้

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 18 - up4.7.62
«ตอบ #53 เมื่อ04-07-2019 13:10:41 »

 :mew1:    ละมุนมาก  วันศุกร์คะยกคุณชายให้อิป้าเถอะค่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 18 - up4.7.62
«ตอบ #54 เมื่อ04-07-2019 20:54:33 »

ไปฮันนีมูนแน่นวล..ลลลลลลลล   :hao6:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 18 - up4.7.62
«ตอบ #55 เมื่อ04-07-2019 22:36:15 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ พระสนมฝ่ายซ้าย

  • ❤วั ง ว น ว า ย เ วิ่ น เ ว้ อ❤
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +283/-2
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 18 - up4.7.62
«ตอบ #56 เมื่อ04-07-2019 22:40:04 »

ตกใจมากเลยค่ะ อัพมาหลายตอนเลย
อ่านแล้วมีความสุขมากๆค่ะ
นั่งยิ้มตามตลอดเลย
ขอสิงวันศุกร์ซักสองตอนนะคะ 55555

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 18 - up4.7.62
«ตอบ #57 เมื่อ05-07-2019 13:27:04 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: { yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 18 - up4.7.62
«ตอบ #58 เมื่อ05-07-2019 15:51:37 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

เพิ่งมาเห็นซีรีส์คุณชายตระกูลทรงอีกคนนึง 

เลยอ่านยาวเลย

ป.ล. อิพี่โมนี่มันเลวจริง ๆ ทำกันได้ลงคอ

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0
{ yaoi } • One and Only หวนกลิ่นรัก - 19.1- up6.7.62
«ตอบ #59 เมื่อ06-07-2019 09:23:54 »

19







 

พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว วันศุกร์เลยได้เห็นแสงสีทองอ่อนๆ ฟุ้งกระจายเหนือภูเขาไฟฟูจิที่เห็นรำไรมาแต่ไกล ข้างนอกอากาศหนาวมาก หิมะตกเบาๆ ชวนให้ช่วงเวลานี้มันดูโรแมนติกและสวยงามจนต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บความประทับใจเอาไว้



วันศุกร์กวาดตามองรอบห้องในโรงแรมซึ่งเป็นที่พัก เขาเม้มปากเมื่อได้ยินเสียงทุ้มเข้มแสนอ่อนโยนของใครบางคนดังอยู่อีกมุมของห้อง ร่างบางเอื้อมมือแตะกรอบกระจกใสบานใหญ่ก่อนจะขยับตัวนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ใกล้ๆ ด้านขวาของเขาเป็นวิวสวยๆ ของญี่ปุ่นที่เห็นได้ชัดเจนเพียงแค่ยืนมองจากตรงนี้ วันศุกร์สนใจวิวของประเทศที่ตัวเองไม่เคยมาเพียงครู่เดียวเท่านั้น แล้วก็หันกกลับไปมองร่างสูงของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนและใครสักคนที่เป็นคนญี่ปุ่น



คุณชายทรงเพลิงยังคงสุขุมอยู่เสมอ คนที่อยู่ในโค้ทตัวใหญ่สีเทาพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดอะไรสักอย่างออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น ท่าทางนิ่งขรึมของคุณชาย แววตา น้ำเสียงนั้น...นุ่มลึก อ่อนละมุน ดึงดูดสายตาสมกับที่เป็นคุณชายจากตระกูลภัสร์ฤทัย



เราสองคนเดินทางมาถึงโรงแรมได้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว ก่อนหน้านั้นทรงเพลิงบอกวันศุกร์ว่าริวจะมาหา ตอนนี้วันศุกร์เลยปล่อยให้คุณชายทรงเพลิงใช้เวลาอยู่กับเพื่อนไปก่อน ส่วนตัวเองก็นั่งเล่นพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการเดินทางไปพลางๆ



วันศุกร์เพิ่งรู้ว่าโรงแรมที่พักอยู่ตอนนี้เป็นโรงแรมในเครือของหม่อมราชวงศ์ทรงโปรด อื้อ พี่ชายทั้งสองคนของคุณชายทรงโปรดก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ร่วมกันนั่นแหละ



วันศุกร์ชอบความน่ารักของพี่น้องครอบครัวนี้ โดยเฉพาะคุณชายทั้งสามคนที่มีกรุ๊ปแชตแยกจากกรุ๊ปครอบครัวกรุ๊ปใหญ่ ครั้งหนึ่งวันศุกร์เคยถือวิสาสะเปิดอ่านเพราะคุณชายอนุญาต แล้วก็ต้องยิ้มให้กับความน่ารักเหมือนเด็กๆ ของคุณชายทั้งสามคน



คุยเล่นอะไรกันไปเรื่อย ส่งคลิปตลกๆ ให้กันอยู่เสมอ



“เฮ้ น้องวันศุกร์ เดี๋ยวลงไปกินมื้อเย็นด้วยกันที่ห้องอาหารนะครับ”



เจ้าของชื่อลุกขึ้นยืน ฉีกยิ้มให้ริวที่เดินตามหลังหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงตรงมาทางที่เขานั่งอยู่ วันศุกร์กลายเป็นคนตัวเล็กในหมู่ผู้ชายที่มีส่วนสูงราว 180 เซนติเมตร แก้มนุ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อในตอนที่คุณชายทรงเพลิงหยุดอยู่ตรงหน้าในระยะใกล้แล้วเอื้อมมือมาจัดผมด้านหน้าให้เบาๆ



“น้อยๆ หน่อยไอ้คุณชาย เพื่อนก็อยู่นี่เว้ย”



“หิวหรือยัง”



ถึงจะถูกแซวแต่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็ไม่ได้สนใจสักนิด ตาคมสบกับดวงตาหวานนิ่งๆ มือหนากระชับโค้ทสีครีมที่สวมทับไหล่กลมๆ ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาลูบกลุ่มผมนุ่ม



วันศุกร์ไม่ได้ตอบคำถามคุณชายแต่ชะโงกหน้าไปส่งยิ้มให้ริวที่ยืนกอดอกมองคุณชายอยู่ พอเจอสายตาล้อเลียนแบบนั้นวันศุกร์ก็แทบจะมุดหน้าหนี จู่ๆ คุณชายก็หวานใส่ไม่เกรงใจเพื่อนฝูงแบบนี้จะให้เขาซ่อนความเขินไว้ตรงไหนล่ะ



“ไปกันก่อน เดี๋ยวตามไป” คนตัวสูงหันไปพูดกับอีกสองคนที่สูงไล่เลี่ยกัน



วันศุกร์ได้ยินคนที่ไม่เคยเจอหน้าและพูดได้แต่ภาษาญี่ปุ่นพูดอะไรบางอย่างกับคุณชายทรงเพลิง และพอพูดจบริวก็หัวเราะลั่น ในขณะที่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงได้แต่หัวเราะหึในลำคอเท่านั้น



ก็เป็นแบบนี้แหละ อยู่ในดงต่างชาติ ไม่รู้ภาษาเขา วันศุกร์เลยได้แต่ยิ้มเจื่อน



“พวกพี่ไปรอข้างล่างนะครับน้องวันศุกร์”



“อ่า ครับพี่ริว”



คนตัวเล็กที่ถูกบังโดยเจ้าของร่างหนาชะโงกหน้าส่งยิ้มให้ริวกับผู้ชายอีกคน เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังเป็นจังหวะจนกระทั่งเสียงนั้นหายไปพร้อมกับเพื่อนของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงที่ลับตาไปด้วย พอมีแต่เราสองคนวันศุกร์ก็ช้อนตามองคุณชาย กะพริบตาเบาๆ ตอนที่มือหนาเลื่อนมาจัดนู่นแตะนี่ตรงบริเวณเสื้อคอเต่าสีครีมของตัวเอง



คุณชายเป็นคนเลือกชุดให้วันศุกร์ทั้งหมดเพราะเขาเลือกไม่ได้ว่าจะใส่ชุดแบบไหนมาญี่ปุ่น คนตัวเล็กเลยได้สวมเสื้อไหมพรมคอเต่าสีครีมตัวใหญ่ของคุณชาย กับโค้ทตัวยาวที่เพียงแค่คลุมเอาไว้ตรงไหล่ให้ดูเป็นแฟชั่น



หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมีเซนส์ด้านการแต่งตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ผิดกับวันศุกร์ที่ยังต้องศึกษาเรื่องนี้อีกเยอะ



“คุณชายเหนื่อยมั้ยครับ ดูแลผมตั้งแต่อยู่ไทยจนมาถึงที่นี่ยังไม่ได้พักเลย...อยากอาบน้ำนอนสักงีบก่อนมั้ย”



มือเรียวสวยข้างหนึ่งแตะลงบนแก้มของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง คลี่ยิ้มออกมาเมื่ออีกฝ่ายขยับหน้าซุกเข้ากับฝ่ามือของเขาเหมือนโหยหามันมานานมากแล้ว



“ไม่เหนื่อยครับ”



ตั้งแต่รู้จักกันมาวันศุกร์ยังไม่เคยเห็นคุณชายบ่นว่าเหนื่อยให้ฟังเลยสักคำ แม้แต่แสดงอาการออกมาก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ มีแต่วันศุกร์นี่แหละที่บ่นว่าเหนื่อยกับงานอย่างนู้นอย่างนี้ให้ฟังอยู่ฝ่ายเดียว ก็ไม่รู้ว่าคุณชายเขาจะเบื่อหรือยัง อือ ถ้าเบื่อขึ้นมาก็แย่เลย



“คนที่มากับริวชื่อเคนตะ เพื่อนสมัยเรียน”



“เป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆ เลยเหรอครับ”



“ลูกครึ่งญี่ปุ่นสวีเดนครับ”



วันศุกร์พยักหน้าเบาๆ เพราะเดาไว้ตั้งแต่แรกว่าผู้ชายอีกคนที่ตัวเองไม่รู้จักคงเป็นเพื่อนของคุณชายเขานั่นแหละ



ตอนนี้คนรอบตัวของคุณชายรับรู้ถึงสถานะระหว่างเรากันหมดแล้ว วันศุกร์เองก็ไม่ได้ปิดบังอะไรแต่ก็มีเพียงคนที่สนิทกับวันศุกร์ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ ผู้ใหญ่ของช่องก็รับรู้ เพื่อนร่วมงานบางคน หรือแม้กระทั่งพี่ออยด้วยเช่นกัน เพียงแต่มันไม่ได้เป็นข่าวใหญ่คึกโครม ไม่สิ...ไม่เป็นข่าวเลยมากกว่า



เพราะคนที่รู้เรื่องก็ไม่ได้ป่าวประกาศหรือหยิบไปเม้าท์ต่อว่าแฟนของวันศุกร์คือใคร เรียกได้ว่าทุกคนที่วันศุกร์รักและเคารพให้ความเป็นส่วนตัวกับเขามากๆ ...ไม่ได้ปิดบัง แต่ก็ไม่ได้เปิดเผย และก็ไม่ได้หลบๆ ซ่อนๆ เหมือนเมื่อก่อน



แล้วก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะตอนที่ผู้ใหญ่ของช่องรู้ว่าเขากลับมาคบหาดูใจกับคุณชายทรงเพลิงแล้ว ท่านก็ไม่ได้กีดกันเหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่อวยพรให้รักกันไปนานๆ และยังอวยพรให้ชีวิตของวันศุกร์มีแต่ความสุข ท่านก็รักเขาเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง ที่ผ่านมาถึงจะดูใจร้ายไปหน่อย แต่ก็รู้แหละว่าท่านทำเพื่อวันศุกร์ถึงแม้ว่ามันจะคละเคล้าไปกับเรื่องของธุรกิจด้วยก็ตาม



“วันนี้พักผ่อนไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยวางแพลนเรื่องเที่ยวอีกที”



“คุณชายรู้เหรอครับว่าต้องไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ขอเจ๋งๆ เลยนะ”



“ภูเขาไฟฟูจิที่แรกดีมั้ย”



“อ่า...ก็ดีนะครับ”



หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงจับข้อมือเล็กที่ประคองแก้มของเขาเอาไว้ ข้อมือข้างนั้นสวมกำไลหินสีขาวนวลไว้ตลอด คนตัวสูงจับข้อมือของวันศุกร์หมุนไปซ้ายทีขวาทีเบาๆ มองกำไลเส้นนี้ที่ไม่เคยจะห่างจากตัววันศุกร์เลยสักครั้ง มันเป็นเหมือนสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้คนตัวเล็ก เป็นเหมือนกำลังใจจากคุณชายทรงเพลิงในตอนที่ไม่ได้เจอหน้ากัน



“คุณแม่บอกว่ามันเป็นเครื่องราง ใส่แล้วรู้สึกอะไรบ้างหรือยัง”



“อืมมมม ไม่รู้สิครับ”



ยักไหล่ตอบคุณชายไปอย่างนั้นเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าหลังจากที่ใส่แล้วมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง วันศุกร์แค่ใส่เพราะทรงเพลิงให้ไว้ ไม่ได้คิดถึงเรื่องเครื่องรางอะไรเลยสักนิด



หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยมือของวันศุกร์ช้าๆ ความจริงเขาอยากจะใช้เวลากับน้องแค่สองคนตลอดทั้งสามวันด้วยซ้ำ แต่การมาของเขาครั้งนี้ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของเพื่อนๆ ไปได้ พอสองคนนั้นรู้ว่าเขามาก็รีบแจ้นมาต้อนรับตั้งแต่ที่สนามบิน



“อื้อ เดี๋ยวต้องลงไปกินข้าวแล้วนะครับ ปล่อยได้แล้ว”



“อยากกอดเราก่อน อีกสักพักนะ”



“เดี๋ยวเพื่อนคุณชายจะรอนานนะครับ”



“ช่างมัน ปล่อยให้รอไป”



หัวเราะเบาๆ ในอ้อมกอดของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง จู่ๆ วันศุกร์ก็ถูกรวบตัวเข้าไปกอดอีกแล้ว ไม่รู้ว่าคุณชายเป็นโรคติดแฟนมากไปหรือเปล่า เพราะเวลาอยู่ด้วยกันทีไรถ้าไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกันมันเหมือนจะกระวนกระวายแปลกๆ วันศุกร์ก็เป็นเหมือนกัน แต่ยังพอห้ามใจได้



ไม่เหมือนคุณชายเขาหรอกที่ดูท่าจะติดวันศุกร์มากๆ...



อาการค่อนข้างหนัก



“ปล่อยก่อนครับ”



ยิ่งพูดยิ่งยุจริงๆ



วันศุกร์แทบจะจมหายไปในอ้อมกอดอุ่นที่เพิ่มแรงรัดมากขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงซุกลงมาที่ซอกคอของเขา ลมหายใจอุ่นๆ รดผ่านเนื้อผ้าไหมพรมแทรกซึมคลอเคลียผิวขาวๆ ตรงลำคอ



วันศุกร์พยายามเหลือบตามองคุณชายที่กอดไม่ปล่อย ในหัวกำลังคิดจะดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนแล้วแท้ๆ แต่ก็ต้องยอมยืนนิ่งๆ ให้คนเอาแต่ใจกอดอยู่อย่างนั้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังหลับตาอยู่



มือบางยกขึ้นลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ ...คลี่ยิ้มละมุนก่อนจะกดจูบที่ลำคอแกร่งไปสองสามครั้ง และปล่อยให้หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงยืนกอดเขาอยู่อย่างนั้นไปพักใหญ่ๆ









*****







 

“ตอนที่อยู่อังกฤษไอ้คุณชายมันก็โคตรฮอต หน้ามันตี๋ๆ ตาคมๆ สเป็กสาวที่นั่นเลย”



วันศุกร์นั่งข้างหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเหลือบมองคนตัวสูงที่กำลังถูกพูดถึง ยู่ปากเล็กน้อยตอนที่รู้ว่าคุณชายเขาฮอตมากแค่ไหน



ก็แหง หล่อขนาดนี้ แถมยังมีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาขี่ม้าโปโลด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคุณชายในตอนนั้นคงรายล้อมไปด้วยสาวๆ แน่นอน



“แต่มันก็ไม่เคยคั่วกับสาวๆ มั่วนะครับน้องวันศุกร์ อย่าเพิ่งไปหึงมันนะ”



“แหะๆ”



ก็เกือบจะมีอาการให้กับเรื่องเก่าๆ ของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไปแล้วแหละ แต่ยังดีที่เบรกอารมณ์ตัวเองทัน วันศุกร์ยกหลังมือขึ้นถูปลายจมูกจนมันขึ้นสีแดงก่อนจะถูกดึงมือข้างนั้นออกแล้วโดนรวบไปวางไว้บนตักแกร่งของคนข้างๆ



“เดี๋ยวกำเดาไหล”



“เกี่ยวกันด้วยเหรอครับ”



“ถูแรงขนาดนั้นไม่กลัวจมูกหักหรือไง”



“ก็มันคันนี่นา”



“ไหนเงยหน้ามา พี่ดูให้”



“มะ...ไม่เป็นไรแล้วครับ กินข้าวไปเถอะคุณชาย”



เพราะเมนูพื้นๆ ที่คุณชายเขาสั่งมาอย่างทงคัทสึในจานพร่องไปได้ไม่เท่าไหร่เอง ก็มัวแต่ตักซาซิมิให้ ป้อนอาหารเข้าปากเหมือนวันศุกร์เป็นเด็กน้อยจนตัวเองแทบไม่ได้กินอยู่น่ะสิ



แล้วทุกการกระทำที่แสนจะงุ้งงิ้งกันอยู่แค่สองคนก็อยู่ในสายตาของเคนตะกับริวตลอด หลายครั้งที่สองคนนั้นพูดภาษาญี่ปุ่นขึ้นมาแล้ววันศุกร์ฟังไม่ออกก็จะหันไปมองหน้าคุณชาย ส่งสายตาปิ๊งๆ ให้ช่วยกระซิบแปลให้ฟังหน่อย แต่คุณชายก็ไม่เข้าใจเอาซะเลย แถมยังรัวภาษาญี่ปุ่นไปด้วยอีกคน



วันศุกร์หันไปยิ้มให้ริวที่ดูอยากจะเล่าอะไรอีกมากมายเกี่ยวกับความหลัง เอาจริงๆ เขาฟังเพลินๆ เพราะเรื่องส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงทั้งสิ้น



อย่างเช่นที่คุณชายเขาพูดญี่ปุ่นเป็นไม่ใช่เพราะไปเรียนมาจากที่อื่น ริวบอกว่าคุณชายเขาซึมซับเอาจากการที่ริวคุยกับเคนตะเป็นภาษาญี่ปุ่นทุกวัน ถามบ้างบางครั้งว่าคำนี้หมายความว่ายังไง ประจวบเหมาะกับเป็นคนที่ชอบดูการ์ตูนญี่ปุ่นด้วย เลยเรียนรู้เอาจากตรงนั้น



หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงแทบจะเป็นอัจฉริยะไปแล้ว พูดได้ตั้งหลายภาษา เด่นไปซะทุกด้าน



“ไอ้คุณชายมันดีอย่างหนึ่ง คบใครคบนาน แฟนเก่ามันก็คบหลายปี”



“...เหรอครับ”



“ใช่ แฟนเก่าไอ้คุณชายเซ็กซี่นะ สวยที่สุดในโรงเรียน อยากดูรูปมั้ยเดี๋ยวพี่เปิด...”



“ริว”



น้ำเสียงเข้มๆ ที่เรียกชื่อมาเฟียญี่ปุ่นเหมือนเป็นการกดสวิตซ์ปิดไปโดยปริยาย เพราะหลังจากนั้นริวก็หุบปากโดยการหยิบแก้วไวน์ขึ้นมากระดกลงคออึกใหญ่ ในขณะที่วันศุกร์คลี่ยิ้มบางๆ เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าจริงๆ แล้วตัวเองก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเท่าไร



มันก็มีเรื่องที่รู้ ไม่ใช่ว่าไม่รู้อะไรเลย



แต่เรื่องที่วันศุกร์ไม่รู้...มันก็มีไง



วันศุกร์รู้ว่าคุณชายทรงเพลิงไม่ใช่คนที่ชอบหยิบเรื่องเก่าๆ มาพูด เรื่องชีวิตในอดีตของคุณชายเขาวันศุกร์รู้แค่ผิวเผิน



“ทำไมครับ เล่าต่อไม่ได้เหรอ”



“ถ้าอยากรู้ก็ฟังจากปากพี่”



“อ่า ครับ”



คนตัวเล็กก้มหน้านั่งกินอาหารตรงหน้าต่อเงียบๆ ทั้งที่มันเป็นของโปรดแต่เขากลับไม่รู้สึกว่ามันอร่อย ในใจมันคันยุบยิบเหมือนมีอะไรบางอย่างมาตอม จากที่อารมณ์ดีเพราะนั่งฟังเรื่องราวต่างๆ ของคุณชายกลับหงุดหงิดตัวเองขึ้นมากับไอ้แค่เรื่องแฟนเก่า



เรื่องเล็กๆ ที่วันศุกร์ไม่อยากฟัง แต่ก็อยากรู้



“กินเสร็จหรือยัง”



“ยังครับ”



“อิ่มแล้วก็พอ”



“ยังไม่อิ่มนะครับ”



วันศุกร์ไม่ชอบอาการงี่เง่าของเองเท่าไหร่ มันแสดงออกชัดเจนจากการที่นั่งก้มหน้าเขี่ยเนื้อปลาแซลมอนไปมา ริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มเข้าหากันเบาๆ เขาพยายามบอกตัวเองว่ามันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ทั้งนั้นที่เคยมีแฟนเก่า ตัวเขาเองยังเคยมีเลย



แต่ไม่รู้สิ...ยังไงในใจก็ยังรู้สึกคันยุบยิบอยู่ดี



พยายามเก็บอาการซ่อนเอาไว้แล้วเงยหน้าส่งยิ้มให้คนข้างกาย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับความรู้สึกของตัวเอง งัดร้อยวิชาการแสดงออกมาหมดแล้วแต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงอยู่ดี...



มือหนาจับกรอบหน้าของวันศุกร์เอาไว้ ก่อนที่คนตัวเล็กจะหน้าแดงซ่านร้อนผ่าวไปทั้งตัวเมื่อจู่ๆ คุณชายเขาก็แนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากสีชมพูต่อหน้าต่อตาอีกสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน วันศุกร์กำมือแน่น เบิกตากว้างในตอนที่เอวบางถูกรวบให้ขยับเข้าใกล้คนตัวสูง ตัวเกร็งไปทั้งร่าง ในหัวคิดแต่ว่าหลังจากนี้เขาจะสู้หน้าพี่สองคนนั้นยังไงดี



จูบเบาๆ ที่ไม่ลุกล้ำเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็วและจบลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน หัวใจของวันศุกร์เต้นถี่เมื่อริมฝีปากของคุณชายผละออกเบาๆ มือหนาของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเลื่อนปิดใบหูของวันศุกร์ทั้งสองข้าง ตาคมจ้องลึกเข้าที่นัยน์ตาสีนิล เกิดรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากของอีกฝ่าย



คุณชายเขารู้ว่าวันศุกร์รู้สึกอะไร คิดอะไร



“อยากรู้อะไรพี่จะเล่าให้ฟัง ไม่ต้องฟังจากปากคนอื่น”



แค่นี้วันศุกร์ก็ยิ้มกว้างได้แล้ว








[มีต่อด้านล่าง]



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด