Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : Season 2 บท 2 (8/11/62)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : Season 2 บท 2 (8/11/62)  (อ่าน 18433 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
555 ดูวุ่นวายน่าดู,,,

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
น่ารักดีค่ะแง่ ชอบๆ

น้องเป็นคนแรกที่ชอบเฮียเลยนะครับ!! ดีจัย / บิ๊กพิมพ์เอง

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 8
ของขวัญที่ดีที่สุดก็คือ...เฮียบิ๊ก

“เฮียเล่นเหี้ยอะไรของเฮียวะถามจริง?” ไอ้บุ๊คโวยวายขึ้นทันทีที่เฮียบิ๊กอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ฟังพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขาที่ผมพึ่งรู้ว่าชื่อพี่วสุและพี่เกรทส่วนผู้หญิงที่อยู่บนเตียงคือพี่เชอผู้หญิงคนผมบังเอิญเจอวันนั้น

“ก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้นิหว่า ใครจะรู้ว่าตี๋จะต่อยเฮีย” เฮียบิ๊กพูดด้วยท่าทางสำนึกพร้อมกับลูบที่รอยช้ำบนใบหน้าของตัวเอง

“สมควรไหมละไอ้รวยมันเพื่อนผม ถ้าเหี้ยทำระยำแบบนั้นผมไม่ยอม”

“เฮียทำยำไม่เป็นนะตี๋”

“คนละยำ ผ่าม พ่าม!!” พี่วสุและพี่เกรทรับบทเป็นลูกคู่แก้มุกที่เฮียบิ๊กเล่นแต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของผมมันไม่เล่น ทำให้พี่วสุและพี่เกรทต่างก้มหน้าหลบสายตาของไอ้บุ๊ค

“แทนที่รวยจะด่าแต่กลับเป็นตี๋ที่ด่าเฮีย แอบเสียใจเล็กๆ แต่อยากรู้เอาไว้ว่าเฮียไม่โกรธที่โดนตี๋ต่อย แต่จะโกรธเพราะตี๋ไม่เข้าใจมุกเฮีย”

“เฮียรู้ตัวไหมว่าตัวเองแม่ง...ช่างเถอะ” เหมือนตอนนี้ไอ้บุ๊คเริ่มฟิวส์ขาดเมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่ได้สำนึกกับการกระทำของตัวเองจริงๆ ทำให้ผมต้องพูดอะไรสักอย่างเพราะบรรยากาศเริ่มคุขึ้นมาอีกครั้ง

“ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วครับ” ผมเฉลยออกมาทำให้เฮียบิ๊กและผู้ร่วมกระบวนการของเขามีสีหน้าตื่นตะลึง “ก็เพื่อนเฮียโทรมาบอกว่าเฮียไม่สบายเป็นปอดบวมกับท้องเสียเฮียคิดว่าผมควรเชื่อไหมอะครับ”

“งื้อแฟนเฮียฉลาดจัง” เฮียบิ๊กลุกขึ้นมาจุ๊บหน้าผมโดยไม่แคร์สายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ก่อนจะชะงักค้างเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ “แล้ว...นี่แสดงหรอ!”

“ก็เฮียเริ่มก่อนนะครับ”

“มารวยหล่อนมันร้าย!!” เฮียบิ๊กผลักออกจากผมด้วยท่าทางที่แสดงเกินเหตุทำให้เพื่อนๆ ของเฮียทั้งสองคนรีบหิ้วปีกเฮียมานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม “หล่อนทำให้ฉันดูโง่”

“โง่ตั้งแต่บอกมันว่าปอดบวมแล้ว” ไอ้บุ๊คพูดเสริม

“อันนั้นพี่คิดเองครับน้องบุ๊ค” พี่วสุค่อยๆ ยกมือขึ้นพูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“ตามนั้นพี่ ผมไปละเบื่อ” ไอ้บุ๊คเดินหายเข้าไปในห้องของตัวเองส่วนเพื่อนๆ ของเฮียบิ๊กต่างขอตัวกลับทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่ผมกับเฮียบิ๊กสองคน

“เฮียขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไรครับ” ผมพูดยิ้มเมื่อเห็นว่าเฮียบิ๊กขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับเอื้อมมือของตัวเองเข้ามาลูบที่หลังมือของผมเบาๆ

“เฮียเป็นแฟนที่ไม่ดีเลย เฮียควรจะไปเชียร์เรามากกว่ามาคิดแผนโง่ๆ นี่ เจ็บมากไหม” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบให้เฮียบิ๊ก “เราไม่เจ็บแต่เฮียเจ็บมาก” เฮียบิ๊กจับที่แก้มของตัวเองพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

“น้ำตาเฮียนี่สั่งได้ใช่ไหมครับ?”

“ก็พอตัวนะเคยเป็นพระเอกละครเวทีตอนปีสอง” ก็อย่างนี้แหละครับเฮียบิ๊กของผมตลกได้ทุกสถานการณ์ “แล้วเค้กนี่เฮียทำเองหรอ”

“ครับ มากินกันเดี๋ยวเฮียจัดการให้เรานั่งรออยู่ตรงนี้แหละ” เฮียบิ๊กลุกหายเข้าไปในห้องกลับมาพร้อมกับเทียนและไฟแช็ก

“ใส่หมวกด้วย” เฮียบิ๊กสวมหมวกวันเกิดให้ผมก่อนจะปักเทียนลงบนเค้ก “Happy birthday to Maruay……ขอให้มารวยรักเฮียบิ๊กไวๆ นะครับ ฟู่”

“เฮียผมต้องอธิษฐานดิ แล้วมาแย่งผมเป่าอีก”

“ก็อยากอธิษฐานบ้างแต่ยังไม่ถึงวันเกิดหนิหนา” เฮียบิ๊กจุดเทียนวันเกิดให้ผมอีกหลังหลังจากที่เขาเป่าไปเมื่อสักครู่นี้ “เอาเลยครับ อธิษฐานเต็มที่”

ผมหลับตายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เค้กพร้อมกับอธิษฐาน...ขอให้วันเกิดปีนี้ของผมส่งความสุขกลับไปให้กับทุกคนหลายสิบเท่าด้วยเทอญ

“ฟู่”

“น่ารักจังอยากเก็บภาพแต่ว่า..ถ่ายไม่ทัน” เฮียบิ๊กวางเค้กลบนโต๊ะพร้อมกับใช้ช้อนตักเค้กขึ้นมาหนึ่งคำจ่อที่ปากของผม “ลองชิมนะ เฮียตั้งใจ”

“เฮียได้ชิมบ้างยัง?”

“ยังเลย” ผมรู้สึกหวั่นๆ กับเค้กจังครับ แต่เห็นถึงความพยายามของเฮียบิ๊กผมจะต้องชิมเค้กที่เฮียเองก็ไม่มั่นใจฝีมือของตัวเองสักเท่าไหร่ “อ้าปากครับ”

“อ้ำ...” สัมผัสแรกคือเค็มสัมผัสที่สองคือเค็มสัมผัสที่สามก็คือเค็ม เค็มแม้กระทั่งผมกลืนลงไปแล้ว “เค้กนี่เฮียทำเกลือหกใส่หรือเปล่าครับ”

“มันเป็นอย่างไง” ผมแย่งช้อนในมือของเฮียก่อนจะเอื้อมไปตักเค้กเพื่อเป็นฝ่ายป้อนเฮียบิ๊กกลับบ้าง

“อ้าปากแล้วเฮียลองชิมนะ” เฮียบิ๊กอ้าปากอย่างว่าง่ายผมกลั้นยิ้มเต็มที่เมื่อเห็นว่าเฮียบิ๊กมีสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยรสชาติฝีมือของตัวเอง

“มันเหี้ยมากเลยครับ” เฮียบิ๊กวิ่งไปโก่งคออ้วกที่ห้องน้ำกลับมาด้วยสภาพที่น้ำตาคลอ “เฮียขอโทษนะเฮียทำอะไรไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง”

“แต่เฮียเป็นแฟนที่ดีมากที่สุดเท่าที่ผมเคยคบมาเลยนะ”

“เด็กบื้อครับ..เราไม่เคยมีแฟนนะ ดังนั้นเฮียเป็นคนแรกของเรามันจะดีที่สุดได้ไง”

“ก็ดีที่สุดเลยไงครับ ผมเห็นถึงความตั้งใจของเฮียนะ มากอดที” ผมอ้าแขนออกเพื่อให้เฮียบิ๊กสามารถเข้ามาสวมกอดผมได้ แต่จังหวะนั้นเองที่เฮียบิ๊กตัวเข้ามาไม่ใช่แค่กอดแต่เฮียบิ๊กกลับฝังหน้าของเขาลงบนซอกคอของผม “เฮียไม่เหม็นเหงื่อเหรอนั่น”

“บนร่างกายของรวยไม่เคยเหม็นสำหรับเฮีย” ผมมองหน้าคนโกหกที่รีบเอาหน้าของตัวเองออกหลังจากที่ซุกเข้ามาบริเวณซอกคอของผมได้ไม่นาน ท่าทางจะขมคอแต่ต้องการเอาใจผมก็ต้องทรมานต่อไป ผมก็อยากจะรู้นะว่าเฮียบิ๊กจะทนได้นานแค่ไหน

“แล้วเพื่อนเฮียคนไหนคิดแผนให้”

“ทั้งสองคนเลย เฮียห้ามแล้วนะแต่พวกมันไม่ฟัง”

“ผมคิดว่าเฮียคิดเอง โคตรพิเรนเลยถ้าผมจับไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้วเข้ามาเห็นเฮียคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เฮียบิ๊กทำท่าคิดหนักก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงระรื่น

“ร้องไห้วิ่งออกจากห้องไปเหมือนนางเอกในละคร”

“ผิด ผมจะเข้าไปฝาดหัวด้วยอะไรสักอย่างให้เลือดออกจากนั้นค่อยหนีถ้าเฮียตาย”

“โห่ น่ากลัวว่ะถ้าอย่างนั้นอย่าหึงเลยเนอะ”

“ก็อย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะเฮีย ผมอาจจะไม่รู้ว่าอันไหนเล่นอันไหนจริง”

“ครับเด็กบื้อ” และหลังจากนั้นผมก็เข้ามาพักผ่อนในห้องนอนโดยมีเฮียบิ๊กตามมาดูแลไม่เคยห่างไม่ว่าผมจะหยิบจับอะไรเฮียบิ๊กก็อาสาทำให้โดยไม่บ่นสักคำ บางทีผมก็คิดนะว่าอะไรที่ทำให้เฮียบิ๊กเป็นได้ขนาดนี้ ตัวผมมีอะไรดีขนาดที่ทำให้เฮียบิ๊กผู้เป็นอดีตเดือนมหาวิทยาลัยยอมลดตัวลงมาคบกับคนที่โคตรจะแสนธรรมดาไม่มีอะไรอย่างผม หรือว่าบางทีผมจะหล่อแต่ไม่รู้ตัว


ช่วงเย็นของวัน

“มารวยอยากอาบน้ำไหมเอ่ย” เสียงของเฮียบิ๊กที่ดังอยู่ข้างๆ หูทำให้ผมที่เผลอหลับไปลืมตาขึ้นมาอย่างงงๆ รู้ตัวอีกทีก็เห็นว่าเข็มนาฬิกาในห้องชี้ไปที่เลขหก

“อาบไม่ได้” ด้วยความที่พึ่งตื่นบวกกับความเพลียจากการแข่งรวมถึงอาการบาดเจ็บทำให้ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มงอแงมากกว่าเดิมเป็นพิเศษ

“เฮียอาบให้นะ”

“ครับ.....” ตัวของผมถูกเฮียบิ๊กพยุงขึ้นจากที่นอนก่อนจะถูกแขนของเฮียบิ๊กโอบเอาไว้หลังจากนี้ผมปล่อยให้เฮียบิ๊กเป็นคนจัดการโดยลืมไปว่า

อาบน้ำมันต้องแก้ผ้าหมดเลยหนิหนา!!

“ตัวแดงเลย ไม่ต้องเขินนะเฮียเข้าใจ” เข้าใจกับผีน่ะซิ! เพราะตอนนี้หน้าของเฮียบิ๊กมีคำว่าหื่นเต็มหน้า ปากพูดกับผมก็จริงแต่สายตาของเฮียมองอยู่ที่อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายผมอย่างไม่ปิดบัง

“คือจริงๆ ผมอาจจะอาบน้ำเองได้นะ”

“ไม่ทันแล้วครับมารวย เฮียบิ๊กจะอาบให้เอง” เฮียบิ๊กใช้แขนทั้งสองข้างยกตัวอันเปลือยเปล่าของผมขึ้นพาดบ่าของตัวเองเอาไว้และตรงเข้ามาในห้องน้ำที่ตอนนี้ถูกเตรียมทุกอย่างเอาไว้สำหรับอาบน้ำให้ผม

“เราพาดขามาตรงนี้จะได้ไม่โดนน้ำ” เฮียบิ๊กค่อยๆ วางผมลงบนเก้าอี้โดยมีเก้าอี้อีกตัวที่ถูกวางเอาไว้ด้านหน้า

“มันต้องอ้าขา..คือผม” ผมอยากจะบอกว่าถ้าผมพาดไปน้องน้อยของผมได้โพล่ออกมาประจักษ์แก่สายตาเฮียแน่ๆ แม้ตอนนี้เฮียจะแอบเห็นสาหร่ายของผมแล้วก็ตาม แต่ถ้าให้เห็นหมดเต็มผมเขินนะ

“ถ้าเราอายเฮียจะถอดเป็นเพื่อนเอง”

พรึ่บ!

“มะ..ไม่” ยังไม่ทันที่ผมจะห้ามเฮียบิ๊กถอดเสื้อผ้าของเขาออกจากร่างกายจนหมดอย่างรวดเร็วทำให้ตอนนี้เราเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่

“ไม่อายนะ เฮียถอดเป็นเพื่อนเราเลย” ผมรู้แล้วครับว่าทำไมเฮียบิ๊กถึงไม่สามารถมองหน้าผมเวลาคุยได้ก็เพราะมันมีจุดที่น่าสนใจกว่า อย่างตอนนี้ที่ผมเองไม่สามารถจะโฟกัสสายตาตัวเองไปมองหน้าเฮียบิ๊กได้จริงๆ “ถ้ายังมองขนาดนี้แล้วมันเคารพธงชาติขึ้นมารับผิดชอบเลยนะ”

“ก็ใครใช้ให้เฮียมาแก้ผ้าแบบนี้เล่า” ผมเฉไฉหันหน้าไปทางอื่นเมื่อเห็นว่าเฮียบิ๊กยิ้มล้อด้วยความชอบใจเหมือนเฮียไม่อายที่จะแก้ผ้าต่อหน้าผมเมื่อไหร่ก็ได้แบบนี้ ยอมรับเลยว่าใจไอ้รวยไม่ดีเอามากๆ

“มารวยครับตอนนี้เฮียใจบาปมาก แต่เฮียรู้ว่าเราเจ็บสัญญาที่ให้ไว้เป็นอันต้องเลื่อนออกไป”

“สัญญา?”

“ก็ที่บอกว่าหลังแข่งจะให้เฮียสามารถมีเพศสัมพันธ์กับเราไงครับ”

“....เฮียพูดทะลึ่งได้หน้าตาเชยมาก”

“ความสามารถพิเศษอีกอย่างเลยก็ว่าได้” เฮียบิ๊กเดินหันหลังไปเตรียมอุปกรณ์ก่อนจะกลับมาพร้อมกับแป้งสีฟันของผม

“แปรงฟันไหวไหม”

“อยากบอกว่ามือไม่ได้เป็นอะไรนะรู้ยัง” ผมชูมือสองข้างให้เฮียบิ๊กเพื่อบอกว่าผมยังสามารถใช้แขนได้ถนัดแต่เหมือนว่าเฮียบิ๊กจะตีไปความหมายอื่น

“งั้นใช้มือให้เฮียได้ไหม”

“เฮีย....” พอเข้าเรื่องใต้สะดือสายตาของผมก็มองไปตำแหน่งนั้นทันทีตำแหน่งที่ค่อนข้างอันตราย “นั่นไง พอเฮียคิดเฮียก็เกิดอารมณ์”

“เกิดอารมณ์ได้ทุกเมื่อ ขนาดเราตดเชื่อไหมว่าเฮียก็เกิดอารมณ์ได้”

“แล้วถ้าผมขี้”

“ถ้าไม่เหม็นมากก็เกิดอารมณ์ได้เช่นกัน” สมแล้วครับที่เขาเรียกว่าคู่สร้างคู่สมที่ออกไปทางผีเน่ากับโลงผุมากกว่าผมพูดหรือยิงมุกอะไรมาเฮียบิ๊กสามารถตอบได้หมดเหมือนคิดไว้อยู่แล้ว

“อาบน้ำเถอะเฮีย” ผมรับแปรงสีฟันที่เฮียบิ๊กป้ายยามาแปรงฟันของตัวเอง ส่วนเฮียบี๊กเลิกวอแวกับผมเพื่อหันไปจัดการธุระส่วนตัวของเขาจนกระทั่งถึงเวลาอาบน้ำจริงๆ

“ให้ใครอาบก่อน”

“เฮียก็ได้”

“งั้นเรานั่งดูนะ” เฮียบิ๊กจัดแจงหันตำแหน่งผมที่สามารถมองเฮียอาบน้ำได้เต็มๆ เฮียบิ๊กก้าวเข้ามาในโซนฝักบัวก่อนที่จะค่อยๆ เปิดน้ำ ทำให้ตอนนี้เฮียบิ๊กยืนอยู่ใต้ฝักบัวที่มีละอองน้ำกระทบตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย อยากจะบอกว่ามันเป็นภาพที่สวยมาก โดยเฉพาะละอองน้ำที่เกาะตัวเป็นเม็ดเล็กๆ อยู่บนกล้ามเนื้อของเฮียบิ๊ก

“มารวย...น้ำลายเราไหลแล้ว”

“เฮียมาเช็ดให้หน่อยได้ไหม..ครับ”

“เรากำลังอ่อยเฮียนะรู้ไหม”

“รู้ครับ ผมเลยพูดไง” ไอ้บ้าเอ้ย! ถึงแม้ผมจะขาหักอยู่สิ่งที่ผมรู้ในตอนนี้ก็คือผมสามารถหื่นได้ตลอดเวลาเหมือนเฮียบิ๊กจริงๆ แม้กระทั่งถ้าเฮียบิ๊กขี้ถ้ามันไม่เหม็นมากผมก็อาจจะมีอารมณ์ก็ได้ครับ

“เฮียเช็ดด้วยปากนะ” เมื่อสิ้นเสียงเฮียบิ๊กโน้มตัวเข้ามาประกบที่ริมฝีปากของผมทันที ผมรับรู้จากการจูบได้ว่าตอนนี้เฮียบิ๊กร้อนแรงมากแค่ไหน ขาที่ว่าหักก็ไม่สามารถทำอะไรผมได้เมื่อผมอยู่ในอ้อมกอดของเฮียบิ๊ก เนื้อของเราทั้งบดเบียดกันภายใต้อากาศที่เย็นชื้นของน้ำ เสียงครางที่ดังขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ของแรงปรารถนาแม้ว่าผมต้องการมากแค่ไหน แต่สุดท้ายมันต้องหยุดลงก็เพราะ...

“มารวยเฮียปวดขี้ครับ”

“.....เฮือก!” ผมสะกดกลั้นอารมณ์ที่หลงเหลืออยู่ด้วยการเสมองไปทางอื่น การถูกขัดใจด้วยความรู้สึกแบบนี้มันทรมานใจของผมเหลือเกินครับ ผมเริ่มเข้าใจเฮียบิ๊กก็วันนี้ “เฮียเอาคืนผมเหรอ”

“เฮียปวดขี้จริงๆ นะครับไม่ได้ขัดใจแต่อย่างใด ไม่อย่างนั้นบิ๊กน้อยคงไม่ขยายใหญ่ขนาดนี้ ไม่เชื่อลองจับดูไหม”

“เฮียกำลังล่อซื้อผม”

“แล้วซื้อไหม”

“ถ้าซื้อตอนนี้เฮียจะไปขี้ไหมครับ”

“จะยอมอั้นไว้ก่อน”

“งั้นตกลง ดีลครับ...อื้ออออ” ผมไม่รู้ว่านี่คือแผนของเฮียบิ๊กที่วางให้ผมดำเนินตามไหมแต่ที่แน่ๆ ถ้ามันเป็นแผนจริงผมอยากบอกว่าเฮียแม่งทำสำเร็จเพราะผมถอนตัวเองออกจากตรงนี้ไม่ได้จริงๆ จังหวะที่เฮียบิ๊กประคองส่วนนั้นเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับจับมือของผมมาวางลงบนอาวุธที่ขยายใหญ่ ยอมรับเลยว่าเป็นครั้งแรกที่ผมได้จับของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองมันก็ตื่นเต้นไปอีกแบบ

“เราลองขยับมันดูซิ แบบ...แบบนี้” เฮียบิ๊กก้าวถอยหลังไปเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือของตัวเองเข้ามาสัมผัสกับน้องมารวยน้อยของผมที่เต็มไปด้วยดงสาหร่ายขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ “กระตุกดีจัง”

“เฮีย....บิ๊ก ผม...ไม่ไหว”

“ปล่อยอารมณ์ แล้วเราจะสนุกไปด้วยกัน” เฮียบิ๊กนำหน้าด้วยการกระตุ้นผมจนผมไม่สามารถที่จะขยับของเฮียได้เพราะมัวเมาอยู่กับความฟินที่เฮียบิ๊กทำให้ ยิ่งเฮียเพิ่มแรงในการขยับมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าความสุขมันใกล้ที่จะระเบิดออกมา “ยังได้อีกครับ...เด็กบื้อ อื้ม” ยิ่งเสียงครางปนเสียงหอบหายใจของเฮียบิ๊กยิ่งทำให้ผมรีบนำพาความรู้สึกของตัวเองให้ออกมามากที่สุดและพร้อมที่จะปลดปล่อยจากความอึดอัดที่แสนจะมีความสุขในครั้งนี้

“ผะ..ผม อื้มมมมมมม”

“อย่างนั้นแหละครับคนเก่ง” เฮียบิ๊กขยับอีกเล็กน้อยหลังจากที่ผมปลดปล่อยออกมา เมื่อสิ้นสุดทางรัก..ผมกระดากอายว่าเผลอทำอะไรลงไป ยิ่งเห็นภาพหลักฐานที่อยู่ตามส่วนต่างๆ ของเฮียยิ่งทำให้ผมเขินอายกว่าที่จะสามารถมองหน้าเฮียบิ๊กได้ตรงๆ “หลบตาเฮียทำไมครับ”

“ผมอาย..มันน่าอาย”

“อย่ากัดปากซิ มันทำให้เฮียอยากกัดเรามากขึ้นกว่าเดิมนะ” เฮียตามมาประคองใบหน้าของผมเอาไว้ รอยยิ้มของเฮียบิ๊กทำให้ใจของผมสั่นไหวมากกว่าเดิม ผมอยากเห็นแก่ตัวเก็บรอยยิ้มนี้ไว้กับตัวเองไม่อยากให้ใครได้มองเห็น ปรกติคนทั่วไปอาจจะมองว่าเฮียบิ๊กหน้าดุดูน่ากลัวแต่เฮียบิ๊กเป็นคนยิ้มเก่งและชอบแจกยิ้มไปทั่ว และวันนี้ที่ทำให้ผมตระหนักได้ว่าผมไม่อยากให้เฮียแจกยิ้มเหมือนกับทุกครั้งกับทุกคนอยากให้เก็บรอยยิ้มนี้ไว้ให้ผมเพียงแค่คนเดียว

“กำลังคิดอะไร..ทำไมยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนี้ บอกเฮียได้ไหม”

“แค่คิดว่า..ไม่อยากให้เฮียยิ้มแบบนี้ให้ใคร ผมหวง....อื้ม!” เฮียบิ๊กโผล่เข้ามากอดผมแน่นทันทีที่ผมพูดว่าหวงออกไป

“เฮียดีใจที่ได้ยินคำนี้ ขอหอมที” เฮียบิ๊กผลักออกมาพร้อมกับจูบที่แก้มทั้งสองข้างของผมแรงๆ “มารวยโคตรน่ารักเลย”

“เฮียบิ๊กก็โคตรน่ารักเลย”

“เฮียอยากหล่อ ไหนพูดไหมซิ”

“เฮียบิ๊กโคตรหล่อเลย”

“เฉียบมากครับ!” เราทั้งสองคนไร้สาระอยู่ในห้องน้ำเกือบๆ ชั่วโมงเพราะมัวแต่ผลัดกันชมไปมากกว่าจะได้อาบน้ำตัวผมก็เริ่มเปื่อย ส่วนเฮียบิ๊กดันเล่นตัวไม่ยอมให้ผมช่วยต่อเพราะยืนยันว่าสามารถทำเสร็จได้ด้วยตัวเองเพราะกลัวว่าผมจะเมื่อย...คือเฮียเขาชมตัวเองว่าอึดอะครับผมเลยปล่อยให้เฮียไปจัดการหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวและมาปล่อยผมไว้ที่โซฟาห้องรับแขก

“ไอ้บุ๊ค มึงจะไปไหน” ผมที่กำลังเลื่อนรีโมทกดเปลี่ยนช่องถามไอ้บุ๊คที่กำลังออกไปข้างนอกพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่ “มึงจะหนีออกจากบ้านเหรอ แค่มึงต่อยเฮียเพราะเข้าใจผิดเฮียบิ๊กไม่ว่าอะไรหรอก ไม่อย่างนั้นกูคุยให้ได้นะ”

“ไอ้รวย ไอ้เหี้ย” ไอ้บุ๊คด่าผมเสร็จมันรีบออกไปข้างนอกห้องทันทีทิ้งให้ผมนั่งงงอยู่กับอาการหงุดหงิดของมัน ผมคบมันเป็นเพื่อนมาก็นานพอที่จะรู้นิสัย และตอนนี้ผมก็รู้ได้ว่าไอ้บุ๊คมันกำลังปิดบังอะไรผมอยู่ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมคาดเดาว่าน่าจะรุนแรงพอสมควรไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้มันเป็นขนาดนี้ ถ้าใช้สมองน้อยๆ ของผมในการคิดคำนวณน่าจะเกี่ยวข้องกับรอยที่คอที่ผมเห็นบนคอมันตอนอยู่โรงพยาบาล

“ถึงคราวนักสืบโคนันต้องออกตามคดีแล้วแหละ”

“มารวยคุยกับใครครับ” เสียงของเฮียบิ๊กดังออกมาจากในห้อง สงสัยเมื่อกี้ผมจะพูดดังเกินไปเฮียบิ๊กอาจจะได้ยินแต่คงไม่สงสัยหรอกมั้งครับ

“คุยคนเดียวครับ”

“แล้วไปครับ มีแฟนช่างจินตนาการก็น่ารักไปอีกแบบ” นี่อาจจะเป็นคำชมในรูปแบบใหม่ที่ผมไม่เคยได้ยิน



#มารวยโดนล่อซื้อแล้วฮะ!! วันนี้รวยตอบเม้นต์นะทุกโค้นนนน

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
555 ดูวุ่นวายน่าดู,,,
มันผิดแผนที่เฮียวางเอาไว้ เสียใจครับ / บิ๊กเอง

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
เจ็บ1 5555
เจ็บหัวใจมากๆครับ / บิ๊กเอง

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เฮียบิ๊กดูไร้สาระมาก5555

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
 
บทที่ 9
นักสืบมารวยและผู้ช่วยบิ๊ก

“ถ้าตี๋รู้โกรธเราสองคนแน่ๆ” ไม่ต้องสงสัยครับตอนนี้ผมและเฮียบิ๊กเราสองคนต่างเปิดอกเปิดใจคุยกันในเรื่องความผิดปรกติของไอ้บุ๊คเพื่อนรัก เฮียบิ๊กมาปรึกษาผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่าช่วงนี้บุ๊คมีปัญหากับใครหรือเปล่าทำไมดูหงุดหงิดและหายออกไปนอนข้างนอกบ่อยๆ ทั้งๆ ที่ไอ้บุ๊คไม่มีเพื่อนคนอื่นนอกจากผมกับมิ้น

“แต่เราสามารถเบิกการ์ดความเป็นพี่ชายและเพื่อนสนิทเข้ามาใช้ได้นะครับ ถ้าโกรธจริงๆ ก็น่าจะเห็นถึงความเป็นห่วงของเรา”

“แต่คอสตูมเราไม่เด่นไปเหรอมารวย” เป็นครั้งแรกที่เฮียบิ๊กถามผมด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ เพราะผมสั่งชุดโคนันมาสองชุดสำหรับผมและเฮียบิ๊กในการทำภารกิจตามสืบเรื่องไอ้บุ๊ค

“ก็ธรรมดานะครับ ไม่อย่างนั้นจะเรียกนักสืบได้ไง” ผมมองตัวเองในกระจกที่ตอนนี้สวมเสื้อสูทสีน้ำเงินผูกโบสีแดงกางเกงขาสั้นเหมือนอย่างโคนันไม่มีผิดแม้ขาจะหักแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคของคนฉลาดอย่างผม ซึ่งเฮียบิ๊กก็สวมชุดเหมือนผมเพียงแค่ต่างไซส์

“นั่นซิเนอะทำไมเฮียคิดไม่ได้” เฮียบิ๊กเกาศีรษะของตัวเองด้วยความสับสนก่อนจะเดินออกไปนอกห้องทิ้งให้ผมเซตผมอยู่คนเดียวเพราะเฮียบิ๊กไม่มีผมให้เซต

“หลักฐานมีอะไรบ้าง” ผมเดินออกมาจากห้องหลังจากที่แต่งตัวเสร็จส่วนเฮียบิ๊กนั่งมองกระดาษที่ผมเขียนความผิดปรกติของไอ้บุ๊คเอาไว้

“ตามที่เฮียเห็นอะครับ ผมเขียนเอาไว้”

“มารวยครับ ถึงเฮียจะไม่ค่อยฉลาดเรื่องนี้แต่เฮียพอจะรู้ว่านี่ไม่ใช่หลักฐานมันเป็นเพียงแค่สมมติฐานเท่านั้น” ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เฮียบิ๊กที่ทำหน้าเคร่งเครียด “ตี๋ไม่เคยเป็นแบบนี้ เฮียไม่สบายใจ”

“มันไม่ค่อยมีเรื่องไม่สบายใจเท่าไหร่ ที่ผมเห็นมากสุดก็คือเรื่องลืมรายงานไว้ที่ห้อง”

“เฮียมีน้องชายแค่คนเดียวเฮียไม่อยากเสียน้องไป...”

“เฮียครับไอ้บุ๊คไม่ได้ไปตายนะ....”

“ขอจูบปลอบขวัญหน่อย...” เฮียบิ๊กเข้ามาประกบปากผมทันทีพร้อมกับสอดลิ้นเข้ามาด้านในด้วยความหื่นกระหายเหมือนอดอยากจากจูบมานานทั้งๆ ที่จูบกันเกือบทุกๆ ครึ่งชั่วโมง

แอดดดดดด

“ทำอะไรกัน? แล้วดูชุด..จะคอสเพลย์?” เฮียบิ๊กผลักตัวออกจากผมทันทีที่อยู่ๆ ประตูห้องถูกเปิดออกก่อนจะปรากฏเป็นร่างของไอ้บุ๊คที่ยืนขมวดคิ้วมองมาที่ผมสองคน “ทีหลังก็ไปทำในห้องนะผมไม่อยากเห็นหนังสด พึ่งรู้ว่าชุดโคนันมันสามารถกระตุ้นอารมณ์แบบนั้นได้”

“ไปไหนมาตี๋ เฮียไลน์ไปก็ไม่ตอบเลย โทรไปก็ไม่รับ” เฮียบิ๊กลุกขึ้นเดินเข้าไปหาไอ้บุ๊คด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “รู้ไหมว่าเป็นห่วง”

“เฮียจะมาเป็นห่วงอะไรผมวะ”

“ทำไมตี๋พูดแบบนี้ เฮียเป็นห่วงจริงๆ”

“วันๆ ก็อยู่แต่กับไอ้รวยจะมาสนใจอะไรผม มึงก็ด้วยตั้งแต่มีผัวก็ลืมเพื่อน”

“ตี๋...” เฮียบิ๊กเดินเข้าไปหาไอ้บุ๊คพร้อมกับจับไหล่ของไอ้บุ๊คเอาไว้ด้วยความใจเย็นๆ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ผมสังเกตเห็นว่าเฮียบิ๊กกำลังพยายามระงับอารมณ์อยู่ “เฮียไม่เคยทำแบบนั้น”

“ไม่เคยทำแบบนั้นจริงดิ? เอาเป็นว่าไม่ต้องมาสนใจผม ผมดูแลตัวเองได้ เข้าใจนะเฮีย” ไอ้บุ๊คจับมือของเฮียบิ๊กให้ออกจากไหล่ของมันก่อนจะเดินกระแทกเท้าเข้าไปในห้อง

“เฮียโอเคไหมครับ?” ผมใช้ไม้ค้ำเขย่งไปหาเฮียบิ๊กที่ยืนค้างอยู่ที่เดิม

“เฮีย...เป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่องเลยใช่ไหม”

“ไอ้บุ๊คมันก็พูดไปแบบนั้นอะครับ มันอาจจะกำลังหงุดหงิดอยู่ก็ได้ ไว้ผมจะเข้าไปคุยกับมันให้นะ” ผมจับมือเฮียบิ๊กเข้ามากุมเอาไว้เพื่อให้กำลังใจเล็กๆ ส่งไปให้เฮีย

“มันสะเทือนใจเฮียนะ ตอนที่เฮียคบกับแฟนเก่าบุ๊คมันไม่เคยพูดแบบนี้เลย”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแฟนเก่าเฮีย?”

“มารวยเสียงแข็ง สะเทือนใจกว่าเดิม”

“เดี๋ยวผมจะทุบเฮียด้วยไม้ค้ำนี่แหละนะ” ยอมรับเลยว่าหงุดหงิดและสะกิดใจเป็นอย่างมากกับการที่เฮียบิ๊กพูดถึงแฟนเก่าออกมา แม้ว่าผมจะไม่เคยขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตแต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่สนใจดังนั้น..ดังนั้นไม่มีอะไรครับ

“ทำไมเงียบไป”

“ไม่รู้ครับ”

“ถ้าไม่ชอบก็จะไม่พูดอีก อย่างอนนะ”

“ไม่ได้งอนครับ ผมไปคุยกับไอ้บุ๊คก่อนนะ” ผมเดินเข้าไปหาไอ้บุ๊คในห้อง ซึ่งตอนนี้ในห้องของไอ้บุ๊คไม่มีไอ้บุ๊คอยู่แต่ผมได้ยินเสียงน้ำสงสัยมันน่าจะกำลังอาบน้ำอยู่ งั้นผมนั่งรอ....

แอดดดด

“เหี้ยรวย!!”

“.....!!” ผมที่กำลังจะเคลิ้มหลับสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงของไอ้บุ๊คทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเห็นว่าตอนนี้ไอ้บุ๊คยืนแก้ผ้าอยู่ตรงหน้าผม เมื่อคิดได้ดังนั้นผมรีบวิ่งไปล็อคประตูเพราะกลัวว่าเฮียบิ๊กจะเข้ามาแล้วเข้าใจผิดมากกว่าเดิม

“ล็อกห้องหาอะไร”

“หาโดเรม่อนมั้ง แล้วทำไมมึงแก้ผ้าออกมา”

“แล้วกูจะรู้ไหมว่ามึงอยู่ สัด” ไอ้บุ๊คเดินไปเอาผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ขึ้นมาพันรอบเอวแต่..สายตาของผมดันเห็นรอยบางอย่างที่ผมเคยเห็นอยู่ก่อนหน้าเพียงแต่ว่าตอนนี้มันย้ายมาอยู่ตามร่างกายของไอ้บุ๊ค

“มึงพอจะบอกได้ไหมว่าทำไม?”

“กู...” สีหน้าของไอ้บุ๊คตอนนี้มีแต่ความกังวลเต็มไปหมด “กูไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไงดี ไอ้รวย...กูขอกอดหน่อย” ผมเดินกระเพกเข้าไปกอดไอ้บุ๊ค ทันทีที่ผมกอดผมรู้สึกได้ว่าไอ้บุ๊คกำลังซุกหน้าร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง ผมไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลย

“มันหนักขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ผมลูบหลังไอ้บุ๊คเบาๆ เพื่อปลอบใจที่กำลังอ่อนแอของไอ้บุ๊ค

“ไอ้รวย..ฮึก กูไม่เคย...กูไม่เคย มันครั้งแรกของกู” ผมนิ่งฟังในสิ่งที่ไอ้บุ๊คพูดออกมา “กูพลาดไปแล้วกูทำไงดี..มันแย่มาก กูกลัวจริงๆ”

“ใจเย็นๆ ก่อนนะมึง กูอยู่นี่แล้วมึงจะไม่เป็นอะไร”

“อย่าบอกเฮียนะกูขอร้อง” หลังจากที่ไอ้บุ๊คผลักออกจากผม มันใช้หลังมือเช็ดน้ำตาเงียบๆ “ไม่อยากให้เฮียผิดหวังไปมากกว่านี้”

“แต่เฮียเป็นห่วงมึงมากเลยนะ”

“กูรู้..ถ้ากูพร้อมกูจะบอกเอง”

“แต่ถ้ามึงอยากระบาย กูพร้อมนะ”

“ไอ้รวยไอ้เหี้ยเอ้ย ทำไมกูถึงช้าแบบนี้วะ กูรู้แล้วว่าทำไมเฮียบิ๊กถึงต้องการมึงขนาดนี้ กูขอกอดอีกทีนะเพื่อน” และแล้วไอ้บุ๊คมันก็ดึงผมกลับไปกอดอีกครั้ง

“พูดเหมือนแอบชอบกูเลย”

“.....อืม” ผมไม่รู้ว่าไอ้บุ๊คมันพูดว่าอะไร เพียงแค่มันเปิดใจร้องไห้เพื่อระบายสิ่งที่มันอึดอัดอยู่ผมก็สบายใจไปหนึ่งเปาะแล้วครับ

BIG’ s talk

ถึงภายนอกผมจะดูไม่เครียดแต่การที่ตี๋มีปฏิกิริยาแบบนี้ผมโคตรเป็นห่วงเลยครับ แล้วไอ้การประชดนั่นผมอยากจะหาไม้เรียวมาฟาดสักทีข้อหาดื้อฉิบหาย แต่ติดที่ว่ามีสายตาของแฟนมองการกระทำอยู่ทำให้เฮียบิ๊กต้องคีพลุคเอาไว้เดี๋ยวแฟนจะมองผมไม่ดี

“ตี๋เป็นไงบ้างจ๊ะที่รัก” ผมที่นั่งรออยู่ด้านนอกเมื่อเห็นเด็กบื้อของผมเดินออกมาจากห้องของตี๋

“สบายดี เฮียไม่ต้องห่วง”

“เฮียว่ามันแปลกๆ นะ เหมือนตี๋มีเรื่องปิดบัง”

“ให้เวลามันหน่อยครับ บางทีมันอาจจะกลัวว่าทำให้เฮียไม่สบาย”

“แต่ที่ทำอยู่ก็ไม่สบายใจนะ”

“ไปกินเตี๋ยวไหม ผมเลี้ยง” ผมมองหน้าเด็กบื้อที่พยายามหาวิธีชวนผมออกไปข้างนอก ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นห่วง ไปก็ได้ครับพอดีว่าผมเป็นคนใจง่ายถ้าแฟนชวนไปไหนก็ไปทั้งนั้น

“กินหลายชามนะ”

“ถ้าไหวก็ไม่มีปัญหา” ดูท่ายักไหล่แบบนั้นซิโคตรน่ารักเลย ผมนี่อยากจะจับเด็กบื้อใส่กรอบแล้วห้อยคอเอาไว้จังครับ ขยันทำให้หลงแบบนี้เฮียบิ๊กจะไปไหนรอด

“เดินไหวไหมให้อุ้มรึเปล่า”

“รอผมหักสองข้างค่อยอุ้มนะเฮีย” แต่ช่วงนี้มารวยปากจัดมากครับสงสัยต้องหาอะไรมายัดปาก แต่อย่าพึ่งทะลึ่งไปนะเพราะเฮียบิ๊กคนนี้จะเอาความรักมายัดปากมารวยให้หายจัดเลย

“ของรางวัลก่อน เร็ว” ผมย่อตัวลงทำปากจู๋เพื่อรอให้มารวยเข้ามาจุ๊บอย่างทุกที แต่ดูเหมือนครั้งนี้จะเปลี่ยนไปเพราะ...ปากของมารวยไม่นุ่มเหมือนเดิม ผมจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนจะเห็นว่าสิ่งที่ผมจูบคือ ฝ่ามือของไอ้ตี๋!

“ได้ข่าวว่าจะไปกินเตี๋ยวกัน ผมไปด้วยหวังว่าเฮียจะไม่ว่าอะไรนะ” ผมมองบนให้น้องชายตัวแสบที่ปากหนักปากหนา ทำฟอร์มจัดดูก็รู้ว่าหวงพี่ชายอย่างผม แอบเห็นว่าสายตาตี๋มีมองมาทางผมด้วยความรู้สึกผิดเล็กๆ “มองไรเฮีย”

“มองตี๋หิด”

“เฮีย!”

“ตี๋!!” เอาซิครับเสียงดังมาเสียงดังกลับไม่โกง นายยกตู่สอนมา แฮร่! ตู่ ภพธร นะไม่ใช่ตู่อื่น

“พอเลย ผมขี้เกียจห้ามนะ” เด็กบื้อค่อยๆ ขยับตัวแทรกมาอยู่ตรงกลางระหว่างผมกับไอ้ตี๋หิดนั่น เวลาโมโหน้องจะเรียกมันตี๋หิดแต่ถ้ารักจะเรียกน้องตี๋

“ไปกันตี๋หิด”

“หิดหน้าเตี่ยเฮียดิ”

“งั้นก็ทะเลาะกันไปเลย ผมไปละ” เด็กบื้อใช้ไม้ค้ำเตรียมจะเดินออกจากประตูห้อง ด้วยความเป็นแฟนที่ดีผมเลยยอมแพ้ไอ้ตี๋และรีบเข้าไปประคองเด็กบื้อด้วยความเอาอกเอาใจ ผมไม่ได้ประจบประแจงใช่ไหมครับ


ร้านก๋วยเตี๋ยว

“เฮียครับทำไมคนมองเราแปลกๆ” มารวยหันไปมองรอบๆ ข้างที่พากันยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปของเขาและบิ๊กที่นั่งอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง บ้างก็ส่งเสียงหัวเราะชอบใจ บ้างก็แอบกระซิบกระซาบกันให้ได้ยิน

“เฮียหล่อ”

“...เอ่อ”

“แล้วคนดีที่ไหนใส่ชุดโคนันมาแดกก๋วยเตี๋ยว?” เสียงของบุ๊คที่พึ่งเดินกลับมาจากไปซื้อลูกชิ้นทอดร้านข้างๆ ทำให้ทั้งมารวยและบิ๊กกระจ่างทันที “ก่อนคบกันก็ว่าแปลกแล้วพอคบกันแปลกหนักกว่าเดิมอีก”

“ผมก็ว่าแล้ว” มารวยก้มหน้าลงด้วยความอายเพราะไอ้ความทะลึ่งของเขาแท้ๆ ที่ไปสั่งชุดนักสืบว่าด้วยต้องการได้บรรยากาศให้สมจริง

“ตอนนี้เฮียก็เริ่มอายละ ถึงหน้าเฮียจะค่อนข้างด้านก็เถอะ...”

“บิ๊ก....” เสียงใสนั้นที่บิ๊กจำได้ดีว่าเป็นเสียงของใครทักขึ้นมาจากทางด้านหลังแทรกเข้ามาระหว่างบทสนทนาของเขาทำให้บิ๊กค่อยๆ หันไปมองช้าๆ ก่อนจะเห็นว่าเป็น

“หวัดดีเจ๊” บุ๊คยกมือขึ้นสวัสดีด้วยความคุ้นเคยเพราะเขาลืมตัวว่าผู้หญิงที่มาใหม่เป็นใคร “เอ่อ...กูไปกินบนห้องดีกว่า”

“ไอ้ตี๋หิด..” บิ๊กรั้งคอเสื้อของน้องชายตัวดีที่เตรียมจะหนีเอาไว้

“ไม่ทักเราหน่อยเหรอบี๋” ตอนนี้บิ๊กอยากที่จะวิ่งหนีไปให้ไกลโดยไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น สถานการณ์ที่แฟนเก่าและแฟนใหม่เจอกันโคตรน่ากลัวเลย โดยเฉพาะตอนนี้มารวยนั่งนิ่งไม่พูดอะไรทำให้บิ๊กรู้สึกเสียวสันหลังอย่างไงชอบกล

“เรียกเราว่าบิ๊กเถอะแตม มารวยครับนี่แตมเอ่อ..แฟนเก่าเฮียเอง แตมนี่น้องรวยแฟนเรา” บิ๊กพยายามให้เกียรติโดยการแนะนำแฟนเก่าให้แฟนใหม่รู้จัก

“บอกด้วยซิคะบี๋ว่าแตมที่ทำให้บี๋เสียใจจนขยาดผู้หญิง” น้ำเสียงของแตมดูสะใจเมื่อเห็นว่าแฟนใหม่นั่งทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ตกอับขนาดที่มาคบผู้ชายด้วยกัน น้องว่าพี่ธรรมดาหรือเปล่าอะคะ”

“พี่เหมือนตัวร้ายในละครเลยนะครับ” อยู่ๆ มารวยที่นั่งเงียบพูดขึ้นมาทำให้เรียกสายตาเฮียบิ๊กและบุ๊คหันไปมองทันทีเพราะไม่คิดว่ามารวยจะพูดแบบนี้ออกมา “มาพูดแบบนี้มันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เหมือนมาประจานตัวเอง”
 
“พี่ประจานตัวเองตรงไหนคะ?”

“ก็ประจานตรงที่ว่าพี่...ทำให้ผู้ชายดีๆ คนหนึ่งเสียใจ มันไม่ใช่เรื่องน่าอวดอะไรเลย” บิ๊กมองหน้ามารวยด้วยความซึ้งใจถ้าไม่ติดว่าเขาอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวจะดึงมารวยมากอดและหอมหัวสักที “แล้วการที่เฮียบิ๊กมาคบกับผมมันเป็นเรื่องเสียหายตรงไหนเหรอครับ ช่วยบอกผมทีซิ” มารวยดันชามก๋วยเตี๋ยวที่วางอยู่ตรงหน้าออกก่อนจะนั่งเท้าคางมองหน้าแตมด้วยท่าทางกวนๆ

“น้อง..!”

“บอกซิครับผมรอฟังอยู่ ถ้าคิดไม่ออกก็กลับไปเถอะครับผมจะกินก๋วยเตี๋ยวบอกตามตรงว่าผมเห็นหน้าพี่แล้วไม่ค่อยจะเจริญอาหารเลย”

“ฝากไว้ก่อนเถอะ! แล้วบิ๊กจะเสียใจ” แตมสะบัดหน้าสวยๆ ของเธอออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวไปทำให้ตอนนี้บรรยากาศกลับมาคุอีกครั้งเมื่อมารวยมองหน้าบิ๊กนิ่งๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ไอ้รวย..เอ่อ กูขอถามนะ อันนี้เรียกว่าหึงรึเปล่าเอ่ย?” บุ๊คที่เห็นท่าทีของเพื่อนสนิทจึงค่อยๆ สะกิดแขนเพื่อนเบาๆ และถามออกมา “บอกตามตรงว่าอึ้งมาก ไม่เคยเห็นมึงเป็นแบบนี้”

“กูแค่ไม่ชอบคนประเภทนี้ก็เท่านั้น” มารวยยกชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเองกลับมาก่อนจะลงมือกินต่อโดยไม่สนใจบิ๊กที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างๆ

“เฮีย....” บุ๊คที่เป็นคนกลางของเรื่องตัดสินใจลากเฮียบิ๊กออกมาจากร้านเพื่อมาคุยเรื่องที่เขาค่อนข้างจะติดใจและไม่อยากให้เพื่อนสนิทต้องมาได้ยิน

“เฮียลืมเจ๊ไม่ได้ว่างั้น?” หลังจากที่เห็นว่าระยะทางบริเวณที่เขาลากบิ๊กออกมาค่อนข้างที่จะไกลพอสมควรบุ๊คจึงถามเข้าประเด็นทันที

“หน้าเฮียมันฟ้องขนาดนั้นเลยหรอ?”

“ก็ประมาณหนึ่ง บอกตามตรงว่าผมเป็นห่วงเพื่อนผม”

“มันไม่ใช่ลืมไม่ได้ แค่บังเอิญเห็นหน้าแล้วความรู้สึกเก่าๆ มันกลับมาก็เท่านั้น...แต่มันไม่ได้รู้สึกรักแล้ว เฮียไม่รู้ว่ะว่ามันคืออะไร คบกันมาก็นานอะเนอะ” จะว่าเป็นเรื่องธรรมดาไหมบิ๊กเองก็ตอบไม่ได้เพราะแตมกับเขาเป็นคนแรกของกันและกันในหลายๆ เรื่องคบกันมานานพอสมควร พอกลับมาเจอกันอีกครั้งเขายอมรับเลยว่าค่อนข้างที่จะเจ็บอยู่แม้ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย แล้วการที่แตมพูดจี้ใจดำเขาตอนอยู่ที่ร้านมันก็เป็นเรื่องจริง “แต่เฮียรักมารวยจริงๆ นะ เพียงแค่ตอนนี้เฮีย....”

“ผมเข้าใจนะเฮีย” เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่บุ๊คดึงผู้เป็นพี่ชายมากอดปลอบเพราะเห็นสายตาที่ค่อนข้างสับสน แม้ว่าเขาเองก็ไม่ใช่คนที่คอยปลอบใจคนอื่นได้เก่งแต่เขาคิดเพียงแค่ว่าถ้าต้องการให้กำลังใจใครสักคนแค่กอดอุ่นๆ มันก็ช่วยได้มากเลยทีเดียว

‘กูกอดมึง..เพราะกูไม่อยากให้มึงร้องไห้ ได้โปรดอย่าผลักกูเลยบุ๊ค’ อยู่ๆ น้ำเสียงของใครบางคนดันแทรกเข้ามาในความรู้สึกของเขา คนที่เขาเกลียดคนที่เขาไม่ชอบคนที่ทำร้ายย่ำยีศักดิ์ศรี...และเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาอบอุ่น

“ตี๋...ตี๋ร้องไห้ทำไม?? !” บิ๊กที่ถูกน้องชายดึงเข้ามากอดลูบหลังเบาๆ แต่ไม่นานเขากลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปียกชื้นอยู่บนไหล่ของเขาซึ่งเป็นตำแหน่งที่บุ๊คซบเอาไว้ ตัวของบุ๊คสั่นน้อยๆ ทำให้ผู้เป็นพี่รับรู้ได้ว่าตอนนี้น้องชายของเขาก็อ่อนแอไม่แพ้กัน

“ผมขอโทษนะเฮีย....”


#มารวยอาร์ยูวโอเค?

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ร้องไห้ง่ายกันจัง555

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
มารวยสุดยอด,,,

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 10
มารวยโศกเฮียบิ๊กเศร้าน้องบุ๊คสร้อย

Maruay’ s talk

ผมมองภาพพี่ชายน้องชายกอดกันอยู่บริเวณห่างออกไปด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก ผมไม่รู้ว่าสองคนนั้นไปคุยอะไรกันแล้วเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับผมไหม แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมกำลังติดใจกับบางสิ่งบางอย่าง

‘แป้งนี่ที่เราทาเฮียจำกลิ่นได้ ไว้จะซื้อมาใช้เองบ้าง’

‘กลิ่นบริสุทธิ์จริงๆ ด้วย’

ผมรู้แล้วครับว่าอะไรที่เป็นต้นเหตุให้เฮียบิ๊กมาเป็นแฟนผมด้วยวิธีประหลาดๆ แม้จะไม่แน่ใจแต่ผมมั่นใจว่ามันมีเหตุผลเดียวเท่านั้น

กลิ่นผมเหมือนกลิ่นแฟนเก่าของเขา

ความรู้สึกเจ็บที่หัวใจเหมือนถูกใครหยิกมันเป็นแบบนี้นี่เอง อย่าบอกนะครับว่าตอนนี้ผมรักเฮียบิ๊กเข้าแล้วเต็มๆ มันจะดีมากถ้าผมรู้ตัวในเหตุการณ์อื่น ตั้งแต่ผมคบกับเฮียบิ๊กมาไม่มีวันไหนที่เฮียบิ๊กไม่ทำให้ผมหัวเราะหรือยิ้ม เฮียทำให้ผมกลายเป็นคนบ้าที่หัวเราะออกมาคนเดียวเมื่อนึกถึงหน้าตลกๆ ของเฮีย เฮียบิ๊กเป็นผู้ชายที่เทคแคร์แม้จะออกแนวแปลกๆ ไปบ้างก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมรัก และวันนี้วันที่ผมติดเฮีย..ผมกลับต้องรู้สึกประหลาดกับคนที่เข้ามาใหม่ ตอนนี้อารมณ์ของผมเหมือนนางเอกเลยครับที่มาดราม่าเพราะรู้ว่าสาเหตุที่พระเอกจีบเพราะดันกลิ่นตัวไปเหมือนแฟนเก่าของเขา แต่มารวยคนนี้ไม่ใช่นางเอกที่จะมาคร่ำครวญดังนั้นมูฟออนครับ

“เด็กบื้อ...โกรธอะไรเฮียรึเปล่าเอ่ย” เฮียบิ๊กเดินกลับมาพร้อมกับไอ้บุ๊คที่ผมสังเกตเห็นว่าตาของไอ้บุ๊คดูแดงๆ จะว่าไปแล้วช่วงนี้เพื่อนผมร้องไห้บ่อยจนอดที่จะเป็นห่วงมันมากๆ ไม่ได้แม้จะรู้ดีว่ามันยังไม่พร้อมที่จะเล่าผมเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับหรือง้างปากมัน

“ผมมีคำถาม”

“เฮียตอบได้ในหมวดวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมีและชีวะ” เฮียบิ๊กตอบกวนตีนได้หน้าตาเชยมากครับ ผมถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเริ่มเข้าโหมตซีเรียสในร้านก๋วยเตี๋ยว “ถ้าจะให้ถนัดจริงๆ เนื้อหา pat 3 ร่วมด้วยก็ได้ครับ”

“เฮีย”

“โอเค ยอมแล้ว...ถามมาเลย” ผมทำเสียงดุใส่เฮียที่ยังทำหน้าทะเล้นเล่นต่อ รู้ว่าฉลาดเรื่องวิชาการแต่เรื่องอื่นๆ ก็โง่พอๆ กับผมอะครับ “ขอกินลูกชิ้นสักคำ” เฮียบิ๊กคีบลูกชิ้นเข้าปากหนึ่งลูกซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมยิงคำถามใส่เฮีย

“ที่คบกับผมเพราะผมดันไปกลิ่นตัวคล้ายแฟนเก่าเฮียใช่ไหมครับ? รักเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ?

พรูดดดด

เฮียบิ๊กพ่นลูกชิ้นออกมาพราะเสียจังหวะกับคำถามที่ผมถามออกไปเป็นเหตุให้เศษลูกชิ้นกระเด็นอยู่บนหน้าของผมเต็มๆ

“เฮียซอรี่ครับเด็กบื้อ” เฮียบิ๊กรีบลุกขึ้นมาใช้กระดาษทิชชูเช็ดเศษลูกชิ้นออกจากใบหน้าของผมด้วยความระมัดระวังปากก็พึมพำออกมาว่าขอโทษ “งื้อออ พังไปหมดเลย”

“ผมแค่อยากได้ยินคำตอบ ตรงๆ เท่านั้น ผมจริงจังนะเฮีย” ผมจับข้อมือของเฮียบิ๊กที่กำลังเช็ดอยู่ออก

“งั้นเฮียซีเรียสแล้วนะ ตี๋เฮียฝากจ่ายด้วย” เฮียบิ๊กปรับโทนเสียงให้เป็นปรกติก่อนจะจับมือผมพาเดินออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวตรงมาที่สวนสาธารณะแถวๆ นั้น

“ฟังเฮียนะครับ” เฮียบิ๊กดันตัวผมนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวส่วนตัวของเขายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับคร่อมผมเอาไว้ มือทั้งสองข้างโน้มลงมาจับเก้าอี้โดยมีผมที่นั่งอยู่ระหว่าง “เฮียยอมรับว่าตอนแรกเป็นเพราะกลิ่นจริงๆ แต่เชื่อไหมว่าตั้งคบมาเฮียไม่เคยเห็นเราเป็นตัวแทนของใครเลย”

“แต่เมื่อกี้แววตาเฮียดูสับสน”

“ครับ สับสนจริงๆ เพราะเฮียเคยรักเขามากแต่มันแค่เคยเราเข้าใจเฮียไหม”

“ผมเชื่อใจเฮียได้จริงๆ ใช่ไหมครับ?”

“มารวยฟังเฮียอีกสักครั้งนะ ถึงเฮียจะดูไร้สาระในหลายๆ เรื่องโอเคเกือบๆ ทุกเรื่องนั่นแหละ แต่เรื่องความรู้สึกของเฮียมันชัดเจนว่ารักใคร” เฮียบิ๊กโน้มหน้าลงมาใกล้ผมขึ้นเรื่อยๆ “เฮียรักมารวยแค่คนเดียว”

“.......” หัวใจของผมมันง่ายไปไหมครับทำไมก่อนหน้านี้ยังดูเจ็บปวดอยู่เลย เพียงแค่เฮียบิ๊กพูดคำว่ารักผมออกมาตรงๆ แบบนี้หัวใจที่เจ็บปวดกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง

“ได้ยินไหมครับ เฮียไม่เคยโกหกใครโดยเฉพาะความรู้สึกตัวเอง หัวใจของเฮียรักได้แค่ที่ละคนเท่านั้น”

“......” ไม่น่าเชื่อจริงๆ ครับว่าผมจะรู้สึกดีมากขนาดนี้แค่ท่าทางที่มั่นใจและคำพูดที่หนักแน่นของเฮียบิ๊กผมแทบจะยกมอบตัวถวายเฮียกลางสวนสาธารณะเลยครับถ้าไม่ติดว่ามีแม่และเด็กนั่งอยู่บริเวณใกล้ๆ

“ที่เงียบแล้วยิ้มนี่เข้าใจไหม?”

“เข้าใจครับ”

“น่ารักจัง” เฮียบิ๊กบีบแก้มทั้งสองข้างของผมเบาๆ “ถ้าเขามาพูดอะไรทำให้เราไม่สบายใจก็บอกเฮียนะ อย่าเก็บไว้คนเดียว”

“แล้วเฮียคิดว่าผมจะยอมให้เขาพูดอยู่ฝ่ายเดียวรึไง เด็ก ผู้หญิง คนแก่ คนท้อง ผมนี่ถนัดมากครับ”

“รวยครับ บางทีเฮียก็แอบคิดนะว่าเราสองคนนิสัยเริ่มเหมือนกันเข้าทุกที”

“.....ก็มันจริงนิครับ”

“เดี๋ยวเฮียพาไปให้อาหารปลาแก้เครียดนะ” และแล้วผมก็ถูกเฮียบิ๊กล่อด้วยคำพูดหวานๆ ผมตั้งใจกับตัวเองเอาไว้ว่าถ้าหายดีเมื่อไหร่จะถวายตัวให้เฮียบิ๊กอย่างสง่างามตามที่เฮียอดทนรอ

20 นาทีต่อมา

“เฮีย..ผมเครียดกว่าเดิมแล้วว่ะ” ผมมองคนข้างๆ ที่อาสาไปซื้อขนมปังมาให้ปลาที่สวนสาธารณะแต่กลับเป็นว่าตอนนี้ขนมปังทั้งหมดอยู่ในปากของเฮียบิ๊กซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนปลาที่เฮียล่อมาในตอนแรกมองเฮียบิ๊กผ่านสายน้ำด้วยสายตาเคียดแค้นถ้าด่าได้ผมว่าปลาด่าแล้วครับ

“เครียดอะไรครับ”

“เฮียซื้อขนมปังมาให้ปลาจริงป่ะเนี่ย มากินเองทำไม”

“ก็มันอร่อยจริงๆ นะ เฮียอยากจะซื้อร้านไปขายที่ห้องเลย ไม่เชื่อมาลอง” เฮียบิ๊กบิขนมปังเข้ามาจ่อที่ปากของผมทำให้ตอนนี้ผมไม่สามารถเลี่ยงได้เลยต้องอ้าปากรับ

“......”

“อร่อยใช่ไหมละ” ผมยอมรับเลยว่าโคตรอร่อยเลยครับ! ไม่น่าเชื่อว่าเป็นขนมปังปลา “อร่อยเพราะขนมหรืออร่อยเพราะคนป้อนนะ”

“ถ้าตอบตามจริงก็อร่อยเพราะขนม แต่ถ้าตอบเอาใจต้องเพราะเฮียซิค้าบบบ” ผมซบไหล่เฮียบิ๊กโดยที่มีเฮียบิ๊กคอยป้อนขนมปังผมไปด้วย ขอโทษนะเจ้าปลาน้อยข้าไม่สามารถแบ่งให้เอ็งได้จริงๆ

“แม่กั๊บๆ พี่สองคนเขาทำไมแย่งขนมปังปลาแล้วทำหน้าแบบนั้นอะกั๊บ”

“แม่ว่าเราไปกันเถอะลูก แถวนี้น่าจะไม่ปลอดภัย”

“รวยครับ” อยู่ๆ เฮียบิ๊กเรียกชื่อผมหลังจากที่เราสองคนนั่งกินขนมปังพร้อมกับชมนกชมไม้ไปเรื่อยตามภาษาคู่รักออกเดต

“ครับ”

“เฮียอยากจะยืนยันกับเราอีกครั้งนะครับว่า....” ผมขยับท่านั่งตัวตรงพร้อมกับทอดสายตาไปยังเฮียบิ๊กที่ทำหน้าจริงจัง “เฮียมีอารมณ์ได้ทุกที่จริงๆ แม้ว่าเราจะขี้ และตอนนี้...”

“อย่าบอกนะว่า.....” ผมก้มต่ำไปยังเป้ากางเกงของเฮียบิ๊กที่ตอนนี้นูนผิดปรกติ “เฮียยยยย โว้ย! นี่มันสวนสาธารณะนะเฮียจะมามีอารมณ์เรี่ยราดแบบนี้ไม่ได้”

“งั้นเรากลับห้องกันเถอะ” เฮียบิ๊กลุกขึ้นเก็บเศษขยะก่อนจะเดินไปทิ้งขยะส่วนผมก็ค่อยๆ พยุงตัวยืนส่วนมือทั้งสองข้างค้ำที่ไม้ แต่ระหว่างทางมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ ผมยืนมองเฮียบิ๊กที่เข้าไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าทางอ่อนโยนผิดกับเฮียบิ๊กคนไร้สาระที่ผมรู้จัก

“เป็นอะไรครับน้องหนู” สรรพนามที่เฮียบิ๊กเรียกผมฟังดูว่ามันแปลกๆ แต่ผมจะมองว่ามันน่ารักก็แล้วกัน

“ลูกโปร่งของหนู..ติดต้นไม้ ฮึกๆ พี่คนหล่อช่วยหนูด้วยค่ะ” ผมแอบเห็นว่ามุมปากของเฮียบิ๊กยกยิ้มขึ้นเมื่อน้องหนูตัวเล็กเรียกเฮียบิ๊กว่าพี่คนหล่อ

“พี่คนหล่อจะจัดการให้นะครับ อย่าร้องไห้เลยนะ” เฮียบิ๊กเกลี่ยน้ำตาพร้อมกับมอบรอยยิ้มที่อ่อนโยนให้น้องหนูก่อนจะเดินมาหาผม “เฮียขอยืมไม้เราข้างหนึ่งนะครับจะเอาไปเขี่ยลูกโปร่งให้น้องหนู” ผมพยักหน้าและยื่นไม้ไปให้เฮียบิ๊ก ทำให้ตอนนี้เฮียบิ๊กเดินกลับไปซอยลูกโปร่งให้น้องหนู

“รอพี่คนหล่อก่อนนะครับ” เฮียบิ๊กหันไปยิ้มให้น้องหนูพร้อมกับยื่นไม้ขึ้นไปด้านบน ผมหวังว่าเฮียบิ๊กจะไม่ทำให้....

ปัง!!

ลูกโปร่งแตกหรอกมั้งครับ..ยังไม่ทันที่ผมจะคิดจบอยู่ๆ ลูกโปร่งที่เฮียบิ๊กกำลังซอยอยู่นั้นเกิดเกี่ยวไปที่กิ่งไม้ทำให้มันระเบิดออกมา และตอนนี้หน้าของน้องน้อยตอนนี้เตรียมที่จะ...

“แงงงงงงงงงงงง!!” เรื่องซวยมาเยือนผมกับเฮียแล้วครับทุกคน

“มึงจะไปไหน? หนีกูกลับมาทำไม แล้วหายดีแล้วเหรอ?” เสียงเข้มของใครบางคนดังขึ้นตรงหน้าบุ๊คขณะที่เขากำลังเดินกลับหอหลังจากที่ถูกพี่ชายกับเพื่อนสนิททิ้งให้นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่คนเดียว

“เรื่องของกูอย่าเสือก” บุ๊คพยายามเบี้ยงตัวหลบแต่คนตรงหน้ากลับตามมากระชากแขนของบุ๊คเอาไว้แรงๆ จนบุ๊คเบ้หน้าด้วยความเจ็บ “มึงเป็นเหี้ยอะไรมากไหม ตามกูอยู่ได้”

“พูดกับกูดีๆ”

“มึงเป็นพ่อกูเหรอ? ที่กูต้องพูดดีกับมึง” บุ๊คเดาะลิ้นด้วยท่าทางกวนๆ จนคนตรงหน้ามองบุ๊คด้วยสายตาเหยียดๆ

“ไม่ได้เป็นพ่อแต่เป็นผัว...หรือมึงลืม?”

“ไอ้!!” บุ๊คพุ่งเข้ากระชากคอเสื้อด้วยความโมโหพร้อมกับง้างหมัดขึ้น

“ถ้าต่อยกูเอามึงแน่” น้ำเสียงนิ่งๆ บวกกับสายตาเอาจริงทำให้บุ๊คยอมที่จะลดมือที่อยู่บนคอเสื้อของคนตรงหน้าลง และส่งสายตาที่บ่งบอกว่าไม่พอใจอย่างมากไปให้แทน

“เลิกยุ่งกับกูเถอะ กูขอร้องมึงก็ได้”

“เอาดิ แต่ไปร้องบนเตียง”

“เหี้ย.....”

BIG’ s talk

หลังจากที่ผมเคลียร์ใจกับเด็กบื้อและน้องหนูที่ทำลูกโปร่งน้องแตกได้เสร็จตอนนี้ผมก็พาเด็กบื้อกลับมาที่หอนอนดูเน็ตฟิกซ์บนเตียงนุ่มๆ เปิดแอร์เย็นๆ ตามคอนเซปล่อเหยื่อเข้าห้อง แต่...เหยื่อของผมตอนนี้ดัน ทิ้งให้ผมนอนเหี่ยวแห้งอยู่คนเดียวบนเตียง

“ครอก ฟี่” ผมเอื้อมมือเข้ามาลูบผมที่ปรกหน้าเด็กบื้อเบาๆ ในสายตาผมตอนนี้เด็กบื้อคือสิ่งสำคัญที่ผมไม่สามารถขาดหายไปได้จริงๆ ถึงคนภายนอกอาจจะบอกว่าไม่เหมาะสมบ้างผมหลอกฟันเด็กบื้อบ้าง ผมไม่โกรธนะเพราะผมยังไม่ได้ฟันเลย ผ่าม พ่าม!!
 
“มารวยเฮียไม่มีทางไปไหนได้แล้วครับ” ผมกำลังจะก้มหน้าลงไปจูบบริเวณหน้าผากของเด็กบื้อแต่อยู่ๆ โทรศัพท์ของผมดังขึ้นก่อนจะขึ้นเป็นเบอร์โทรศัพท์ของใครบางคนที่ผมลบทิ้งไปแล้ว ใช่ครับ นี่เป็นเบอร์ของแตม ผมไม่เข้าใจว่าเธอจะโทรมาทำไมทั้งๆ ที่เป็นคนบอกเลิกผมเอง เพื่อความสบายใจของเด็กบื้อผมเลือกที่จะไม่รับและปล่อยให้โทรศัพท์ดับไปในที่สุด

“มาจุ๊บต่อดีกว่า” ไม่มีอะไรที่สามารถจะหยุดการจูบหน้าผากของผมได้เพราะตอนนี้ปากของผมได้ประทับอยู่บนหน้าผากของเด็กบื้อเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับกดแช่เอาไว้อยู่อย่างนั้น

“เฮีย...ถ้าจะดูดก็ดูดปากนะ ไม่ใช่มาดูดหน้าผากผมโคตรเปียกเลย” สงสัยว่าผมจะจูบแรงไปหน่อยทำให้เด็กบื้อที่นอนหลับในตอนแรกตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางหงุดหงิด “เช็ดน้ำลายด้วย”

“ได้ครับ” ผมเลิกชายเสื้อของตัวเองขึ้นมาเช็ดบริเวณหน้าผากที่เต็มไปด้วยน้ำลายของผม “โรแมนติกไหม”

“ที่สุดไปเลยครับ” ทำไมผมฟังดูน้ำเสียงของเด็กบื้อดูไม่ได้ตื่นเต้นเลย แต่ไม่เป็นไรผมค่อนข้างจะชินแล้วอย่างนี่แหละที่เขาเรียกว่าคู่สร้างคู่สม


#ตอนนี้มาหลากหลายอารมณ์เลยจ้าา

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
555 เหมาะสมกันจริงๆเลยครับ,,,

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
 ฮาเฮมาก แก๊งค์นี้ 555

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 11
เฮียบิ๊กจะไปเป็นดาราเราคงต้องแอบคบหากันใช่หรือไม่? (1)

Maruay’ s talk

ทุกคนครับนี่ก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วที่ผมขาหักแต่ผมไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตเลยเพราะมีเฮียบิ๊กเปรียบเสมือนขาอีกข้างของผมที่คอยช่วยเหลือทุกอย่างไม่ว่าจะหยิบจับหรือแม้กระทั่งอาบน้ำ ตอนนี้ผมชินกับการแก้ผ้าของเฮียบิ๊กแล้วและผมเองก็พึ่งรู้ตัวว่าหน้าของตัวเองเริ่มที่จะด้านขึ้น

“เฮียอันนี้คืออะไร” ผมยกชิ้นส่วนบางอย่างที่ตกอยู่ใต้เตียงขึ้นมาขณะที่ผมกำลังก้าวขาลงจากเตียงในเวลาเช้าตรู่ของวัน

“กางเกงในเฮียเมื่อหลายเดือนที่แล้ว ทิ้งเลยเฮียขี้เกียจซัก” เฮียบิ๊กพูดหน้าตาเฉยเหมือนมันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก อันที่จริงผมก็ไม่ใช่คนที่สะอาดมากแต่อันนี้ก็สกปรกเกินไปครับ

“เฮียทีหลังอย่าทำแบบนี้นะ เก็บให้เป็นที่เดี๋ยวติดเป็นนิสัย”

“เราเริ่มบ่นเป็นแม่เฮียอีกคนแล้วนะครับ”

“มีลูกอย่างเฮียผมยอมบวชตลอดชีวิตเลยเอ้า!” ผมใช้เท้าคีบกางเกงในตัวเก่าของเฮียขึ้นมาก่อนจะโยนมันลงถังขยะใกล้ๆ
 
“ทำร้ายจริงใจเฮียที่สุดเลยนะ” เฮียบิ๊กเดินเข้ามาใกล้ๆ ก่อนโน้มตัวลงมาจูบเบาๆ บริเวณหน้าผากผมเหมือนทุกทีในตอนเช้า ทุกคนอาจจะคิดว่ามันละมุนใช่ไหมครับ แต่ผมอยากให้คิดตามว่าเวลาที่ทุกคนตื่นนอนมาแล้วไม่ได้แปรงฟัน..นั่นแหละครับกลิ่นน้ำลายบูดของเฮียเตะเข้าจมูกผมทุกเช้า ถามว่ารังเกียจไหมแรกๆ ยอมรับว่ามีบ้างแต่ตอนนี้ชินและพยายามไม่โฟกัสที่กลิ่นแต่โฟกัสที่การกระทำมากกว่า “มารวยครับเฮียมีอะไรจะบอก”

“ครับ?”

“คือเมื่อหลายวันก่อนมีแมวมองมาติดต่อเฮียเพราะสนใจอยากให้เฮียไปแคสละครวัยรุ่น เขาบอกว่าช่องดังให้นามบัตรมาแต่เฮียไม่ได้ติดต่อไป จนเมื่อสามวันก่อนพี่เขาไดเรคไอจีมาตื้อเฮีย...มารวยว่าเฮียควรลองไปแคสไหมครับ?” ผมนิ่งฟังในสิ่งที่เฮียบิ๊กพูดถึงเราจะเป็นแฟนกันก็จริงแต่เรื่องโทรศัพท์หรือของส่วนตัวของเฮียบิ๊กผมไม่เคยยุ่ง เลยไม่รู้ว่ามีใครติดต่ออะไรเฮียมา

“แล้วเขาบอกไหมว่าบทแบบไหนอะครับ”

“ก็แนวซีรีย์วายอะครับเห็นช่วงนี้บูมๆ คาเรคเตอร์คร่าวๆ ก็พระเอกดิบๆ เถื่อนๆ หน่อยเกเรๆ แต่เฮียว่าเฮียไม่ได้หรอกเฮียออกจะเรียบร้อยน่ารัก เราว่าไหมครับ?”

“ผมว่าเฮียไร้สาระมากกว่าถ้ามีบทตัวประกอบไร้สาระเฮียไม่ต้องแคสก็ผ่านฉลุยเลย”

“มารวย! พูดไม่ดีแบบนี้ต้องโดนลงโทษด้วยการตบปาก!!” เฮียบิ๊กพูดเสียงดัง “ด้วยปากของเฮีย”

“เต็มใจครับ” ผมทำปากจู๋ยื่นไปตรงหน้าเพื่อเตรียมตัวโดนเฮียบิ๊กลงโทษ บอกผมทีครับว่าเดี๋ยวผมไม่ได้ล่อซื้อเฮียแต่โดนเฮียล่อซื้อ ผมกลายเป็นมนุษย์เสพติดริมฝีปากของเฮียบิ๊กไปเป็นที่เรียบร้อย

“ไอ้ต้าวบ้า!” เฮียบิ๊กทำท่าเขินอายเล็กน้อยให้พอเป็นพิธีก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาจูบผมด้วยความอ่อนโยน ผมชอบเฮียบิ๊กตรงที่เขาสามารถบรรเลงจูบหลากหลายรสชาติมาให้ผมโดยไม่ซ้ำแต่ละวัน ถ้าใครโดนแบบนี้ไม่ติดก็บ้าแล้วครับ เว้นก็แต่คราวซาดิสซ์เฮียบิ๊กกัดจนปากผมเลือดไหลเลยทำให้รู้ว่าแนวนี้ผมไม่ค่อยชอบแต่ก็ไม่ได้ขัด

“เฮีย เฮียลองไปแคสก็ได้นะเผื่อได้เฮียจะได้หารายได้เสริมมาส่งไอ้บุ๊คเรียนไง มันจะได้ภูมิใจที่มีพี่ชายหล่อและนิสัยดี”

“เป็นความคิดที่ดีมาก ถ้าเฮียดังเมื่อไหร่รับรองว่าเราจะสบายเฮียจะส่งเสียเรากับตี๋เรรียนจนจบปริญญาเอกเลยครับ” ผมยิ้มให้กับความตั้งใจอันแรงกล้าของเฮีย ผมไม่รู้นะว่าถ้าเฮียบิ๊กดังแล้วความสัมพันธ์ของเราสองคนจะเป็นอย่างไงต่อไปแต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะเลิกกันหรือไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วผมก็ยินดีซัพพอร์ทเฮียบิ๊กเสมอไม่ว่าจะฐานะอะไรก็ตาม เป็นไงละครับบทนายเอกผู้เสียสละเริ่มเข้ามาครอบงำความคิดของผม

“ครับ....สู้ๆ นะ”

“ขอกอดหน่อยนะ” เฮียบิ๊กกอดผมที่นั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับซุกหน้ามาซุกที่ซอกคอของผมเหมือนทุกที ผมอยากบอกว่าผมมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแล้ว ผมจะบอกว่าผมรักเฮียบิ๊กในเร็วๆ นี้หวังว่าเฮียจะดีใจที่สามารถทำให้ผมรักได้ด้วยการกระทำของเฮีย

BIG’ s talk

“กูเกริ่นบอกอนาคตภรรยากูแล้ว เขาโอเคและอยากให้กูลองไปแคสดูเผื่อได้กูจะได้เอาเงินมาส่งตี๋เรียน” ผมบอกเพื่อนทั้งสองเกี่ยวกับเรื่องแมวมองที่ติดต่อผมมา อันที่จริงผมบังเอิญเจอตอนที่ผมปั่นจักรยานของลุกยามใต้หอไปซื้อส้มตำปลาร้าร้านเจ๊ดวงซึ่งบังเอิญว่าแมวมองคนนั้นดันนั่งกินส้มตำอยู่เลยเข้ามาทาบทามผมเสียยกใหญ่ ก็รู้ว่าหน้าตาดีแต่ไม่คิดว่าหน้าตาดีถึงขั้นจะให้ไปแคสเป็นพระเอกละคร

“น้องรวยบอกแบบนั้นหรอมึง” วสุถามเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด

“ใช่ น้องบอกกูแบบนั้น”

“มึงไม่คิดว่าถ้ามึงดังขึ้นมาเขาจะห้ามมึงคบกับน้องรึเปล่า กูเห็นดาราส่วนมากก็ถูกบังคับเลิกกับแฟนหรือไม่ก็ต้องห้ามเปิดตัว” ไอ้เกรทแสดงความคิดเห็นมาหลังจากที่มันนั่งฟังผมพูดมาได้สักพัก

“กูลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย”

“แต่มึงลองไปดูก็ได้ เดี๋ยวนี้คงไม่เคร่งละมั้ง”

“มึงซ้อมกับกูดิ้ ไหนมึงลองแกล้งๆ งอนกูหน่อยเขาส่งบรีฟกูแบบนี้ว่าให้กูแสดงบทง้อแฟน”

“กูเนี่ยนะ? มึงเอาจริง” ไอ้วสุทำหน้าสยองทันทีที่ผมแจกแจงบทให้มัน

“เออหนาช่วยกูหน่อยเพื่อน”

“งั้นกูขอทำใจแปบนะเพื่อน”

“ไอ้เกรทถ่ายให้กูที จะส่งไปให้แฟนกูดูสักหน่อย แล้วก็จะส่งไปให้พี่แมวมองเขาดูถ้าไม่สมบทกูจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไป” ผมยื่นโทรศัพท์ไปให้ไอ้เกรทที่อยู่ว่างๆ ถ่ายขณะที่ผมซ้อมบทกับไอ้วสุ ส่วนไอ้วสุหันไปทำสมาธิอย่างจริงจัง

“มาไอ้บิ๊กกูพร้อมแล้ว” วสุหันกลับมามองบิ๊กด้วยแววตาจริงจังก่อนจะสวมบทบาทเป็นแฟนที่กำลังงอน “เมื่อวานตัวเองไปไหนมา”

“เดี๋ยวๆ ไอ้วสุ ขนกูลุกซู่เลยมึงดู” ผมยื่นแขนไปให้ไอ้วสุดูว่าตอนนี้ขนแขนของผมลุกเพราะคำสรรพนามของไอ้วสุที่เรียกผมว่าตัวเอง

“ไอ้บิ๊กมึงจะแสดงไหม ไอ้ห่า” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะสวมบทเป็นผู้ชายแบดๆ ดิบๆ เถื่อนๆ ตามที่แมวมองบรีฟผมมาในไดเรคไอจี

“เมื่อวานเราไปร้านเหล้ามาก็บอกไปแล้วหนิ”

“ร้านเหล้า? ร้านเหล้าหรือกลับไปหาแฟนเก่านั่นอย่าคิดว่าเราไม่รู้นะ”

“อย่างี่เง่าเราไม่ชอบ”

“งี่เง่าอะไร เราถามตัวเองดีๆ นะ พอเราถามดีๆ ตัวเองก็มาทำสีหน้าไม่พอใจ!” วสุเริ่มอินกับบทลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโมโห

“ก็มึงเป็นแบบนี้ไงกูถึงหนีไปหาแฟนเก่า! ถ้างี่เง่าก็เลิก กูไม่ทนแล้ว!!” ผมเองลุกขึ้นตามไอ้วสุก่อนจะระเบิดอารมณ์ของแบดบอยออกมา หางตาแอบเหลือบไปเห็นไอ้เกรทยกนิ้วให้ขณะที่มันถ่ายวิดีโอ

“ขึ้นมึงขึ้นกูเลยเหรอ? ได้มึงอยากเลิกก็เลิกแฟนเหี้ยๆ อย่างมึงกูก็ไม่ทนหรอกสัด!” วสุเองเมื่อได้รับการถ่ายทอดอารมณ์จากบิ๊กทำให้เขาสามารถเข้าถึงและอินกับบทได้มากยิ่งขึ้นและส่งต่อให้บิ๊กได้ดีเช่นกัน

“เหี้ยเหรอ? ไหนมึงมาเจอคนเหี้ยๆ อย่างกูเอาสักรอบก่อนไหมค่อยเลิก จะได้เหี้ยสมใจมึง!” ผมเข้าไปกระชากคอเสื้อของไอ้วสุก่อนจะกดมันลงบนโต๊ะส่วนผมใช้แขนข้างหนึ่งยันโต๊ะเอาไว้ทำให้ตอนนี้เหมือนผมยืนคร่อมมันอยู่ “กูจะบอกอะไรมึงให้นะ...ถึงกูจะเหี้ยแต่คนเหี้ยๆ อย่างกูโคตรรักมึงเลย กูไม่มีวันนอกใจมึงได้ไอ้วสุ เชื่อใจกูเถอะนะครับ” ช่วงประโยคสุดท้ายผมใช้น้ำเสียงที่อ่อนลงพยายามสื่อถึงอารมณ์โมโหที่ถูกแฟนประชดในช่วงแรกทำให้ผมเดือดกลับแต่ในใจลึกๆ นั้นผมบริสุทธิ์ใจเพียงแค่ตอกกลับไปด้วยความโมโหเท่านั้น

“ไอ้บิ๊กมึง....” ผมโน้มหน้าเข้าไปหาไอ้วสุเรื่อยๆ เพื่อหวังจะเข้าไปจูบง้อแต่แล้วเสียงของผู้กำกับอย่างไอ้บิ๊กก็ขัดขึ้นอย่างรู้จังหวะ

“คัท!”

“อี๋! เหม็นกลิ่นผู้ชาย” ไอ้บุ๊คผลักผมออกทันทีก่อนจะออกจากบทที่สวมเอาไว้ในตอนแรก “แต่มึงเล่นดีนะไอ้บิ๊ก กูอินเลย”

“มึงด้วยไอ้วสุ เป็นไงวะไอ้เกรทกูขอดูหน่อย” ผมเดินเข้าไปหาไอ้เกรทก่อนจะรับเอาโทรศัพท์กลับมาดูผลงานการแสดงของตัวเอง

“ดีว่ะ! มาดพระเอกสาด”

“ไม่อยากด่าแต่ก็ไม่เถียง มึงส่งอันนี้ให้พี่เขาเลยก็ได้” ไอ้วสุเองเข้ามาดูผลงานของตัวเองเหมือนกันก่อนที่จะแนะนำให้ผมส่งวิดีโอนั้นให้พี่แมวมอง

ตอนนี้ผมส่งวิดีโอให้พี่แมวมองตามคำแนะนำของไอ้วสุหลังจากนั้นห้านาทีผ่านไปพี่เขาได้ตอบกลับมาว่า...

‘ถ้าน้องตกลงพี่ก็คอนเฟิร์มกับผู้กำกับว่าน้องจะเข้ามารับบทพระเอกของเรื่อง ส่วนรายละเอียดเย็นนี้พี่จะเข้าไปหาที่มหาลัยเลย’

“มึงดู....” ผมยื่นโทรศัพท์ไปให้เพื่อนทั้งสองของผมดูข้อความที่ตอบกลับมา

“ไอ้บิ๊ก! เจ๋งมาก!!”

“มารวยต้องรับรู้เรื่องนี้ เฮียจะไปบอกถึงคณะเลย!!”

Maruay’ s talk

“ไอ้รวยกูไม่เข้าวิชานี้นะ” หลังจากพักเที่ยงวิชาในช่วงบ่ายเป็นวิชารวมมีเซคเดียวทำให้นักศึกษาในคณะต้องมาเรียนรวมกันที่ตึกใหญ่

“มึงจะไปไหน”

“กู...” ไอ้บุ๊คมีสีหน้าเหมือนกำลังกังวลอะไรสักอย่าง “เอาเถอะ เอาเป็นว่ากูไปละ” อยู่ๆ ไอ้บุ๊คก็วิ่งออกไปทำให้ผมจำเป็นต้องเดินขึ้นบันไดคนเดียวเพราะถ้าผมโดดไปกับมันรับรองว่าได้ตกคู่แน่ๆ ไม่มีคนเลคเชอร์ให้พวกเราสองคน คนเพื่อนน้อยก็ต้องเข้าอย่างเลี่ยงไม่ได้อะครับ

“รวย” ผมชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดหันไปตามเสียงเรียกของเซย์

“ว่าไงเซย์”

“มาเรียนคนเดียวเหรอแล้ว...”

“ไอ้บุ๊คมันโดดไม่รู้จะไปไหน ทำท่าเหมือนหนีอะไรสักอย่าง ช่วงนี้ทำตัวโคตรแปลกเลย” ผมพูดแทรกเซย์ขึ้นมาเพราะคิดถึงการกระทำของมันช่วงนี้ ผมเป็นห่วงมันโคตรๆ เลยครับ

“แปลกอย่างไงเหรอรวย”

“เหมือนกลัวหรือหนีอะไรสักอย่าง เราโคตรเป็นห่วงมันเลยเฮียบิ๊กก็เป็นห่วง”

“ไม่ต้องเป็นห่วงเหรอเพื่อนรวยไม่ได้เจออะไรน่ากลัว...”

“เซย์หมายความอย่างไงหรอเราไม่เข้าใจ”

“ไปเรียนกันเถอะใกล้เวลาแล้ว” เซย์เดินนำผมขึ้นบันไดไปทำให้ตอนนี้ผมจำเป็นต้องเลิกคิดเรื่องของไอ้บุ๊คและกลับมาทำหน้าที่นักศึกษาแสวงหาความรู้กันต่อ

ผมมาสายไปทำให้ตอนนี้ผมกับเซย์เราสองคนมานั่งกันอยู่บริเวณหลังห้องซึ่งติดอยู่กับประตูทางเข้าออก ส่วนมิ้นเพื่อนสาวห้าวของผมอีกคนไปนั่งหน้ากับแฟนสาวทำให้ผมจำเป็นต้องนั่งกับเซย์อย่างเลี่ยงไม่ได้

“รวยเราตามอันนี้ไม่ทันขอเราดูหน่อยนะ” ผมเลื่อนสมุดไปให้เซย์ที่ชะโงกหน้าเข้ามาดูเลคเชอร์ของผม “ขอบใจนะ”

“โอเคเลย” ผมหันกลับมาสนใจต่อส่วนเซย์เองก็ยื่นหน้าเข้ามาดูที่สมุดของผมเรื่อยๆ ในช่วงที่เขาจดตามที่อาจารย์สอนไม่ทันในช่วงพักเบรคเพราะอาจารย์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

“เรามองไม่ถนัดเลยรวย” แต่ครั้งนี้เซย์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่....

ปึง!!

“มารวยครับเฮียบิ๊กได้เป็นพระเอก!” เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องถูกผลักเข้ามาพร้อมกับบุคคลที่คุ้นเคยทำให้ตอนนี้ผมรีบหันไปมองก่อนจะเห็นว่าเฮียบิ๊กมองมาที่ผมกับเซย์ด้วยสายตานิ่งๆ เมื่อเห็นว่าเซย์ขยับเข้ามาใกล้ผม

“ขอโทษครับทุกคน” ผมรีบกวาดของลงกระเป๋าก่อนจะลุกขึ้นขอโทษทุกคนดีที่อาจารย์ไม่อยู่ด้วยไม่อย่างนั้นผมได้ตายแน่ๆ ครับ

“มันคืออะไร?”

“เฮียไปคุยข้างล่างนะครับ” ผมลากแขนเฮียบิ๊กออกจากห้องก่อนที่อาจารย์จะกลับเข้ามา เป็นอันว่าวันนี้ผมได้เรียนแค่ครึ่งเดียวจริงๆ

“เฮีย....โอเคระงับความหึงได้แล้ว เฮียแค่จะมาบอกเราว่าเฮียไม่ต้องไปแคสแล้วนะเฮียติดตัวจริงแล้ว เฮียดีใจมากไปหน่อยเลยผลักประตูเข้าไปแบบนั้น เฮียขอโทษนะ” ผมยิ้มให้เฮียบิ๊กที่ตอนนี้เฮียขอโทษที่ทำอะไรวู่วามและพยายามระงับความหึงแม้นัยน์ตาของเฮียบิ๊กตอนนี้จะยังแข็งกร้าวอยู่ก็ตามแต่ผมเห็นแล้วว่าเฮียบิ๊กพยายามกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

“ดีใจด้วยนะเฮีย ^^”

“งื้ออออออ เฮียรักมารวยที่สุด” ผมถูกเฮียบิ๊กดึงเข้าไปกอดเต็มๆ ผมมีความสุขมากครับที่เห็นคนที่เรารักมีความสุข และพึ่งรู้ว่ามันรู้สึกดีมากๆ อย่างนี้นี่เอง

#ได้กลิ่นตุๆไหมคะทุกคนอิอิ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
มาม่าเริ่มเดือดแล้วววว

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เอาละสิ งานนี้คงวุ้นวายมาก,,,

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 12
เฮียบิ๊กจะไปเป็นดาราเราคงต้องแอบคบหากันใช่หรือไม่? (2)

“สวัสดีค่ะเรียกพี่ว่าพี่เจนนี่นะคะ พี่ยินดีมากๆ ที่น้องบิ๊กสนใจร่วมงานกับพี่” ผมนั่งมองผู้หญิงสาวสวยตรงหน้าถ้าดูจากภายนอกแล้วเธอเหมือนผู้หญิงทุกประการแต่เมื่อใดที่เธอเปล่งเสียงออกมานั้น...แมนกว่าผมอีกครับเพราะเจ๊เจนนี่ไม่มีการแอ๊บเสียงแต่อย่างใดทำให้ตอนนี้ผมนั่งจิกเล็บเท้าด้วยความเกร็ง

“เอ่อ...เช่นกันครับ” ก่อนหน้าที่ผมจะมานัดเจอกับเจ๊เจนนี่เพื่อนรักทั้งสองได้เทรนการสนทนาให้ผมเป็นอย่างดี โดยกำชับว่าให้ผมพูดคุยแบบคนปรกติมากที่สุดท้าอยากเป็นพระเอกซีรีส์

“ถ้าไม่เป็นการรบกวนพี่อยากให้น้องไปแคสในวันเสาร์นี้ จริงๆ คือน้องได้เล่นเรื่องนี้แน่ๆ แต่ทางผู้ใหญ่อยากให้ไปลองแคสเป็นพิธีน้องบิ๊กคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ”

“ได้ครับพี่เจนนี่”

“ส่วนเรื่องสัญญาพี่จะให้น้องบิ๊กตรวจสอบดูก่อนนะคะ ถ้ามีข้อไหนไม่เข้าใจก็สามารถสอบถามพี่ได้ตลอดเวลาเลย นี่นามบัตรพี่เจนนี่ แล้ววันเสาร์นี้น้องบิ๊กค่อยเอามาให้พี่นะคะ” พี่เจนนี่เลื่อนซองเอกสารที่คาดว่าน่าจะเป็นสัญญามาตรงหน้าผม

“แล้วผมต้องทำอะไรบ้างครับ คือผมไม่ค่อยได้รู้จักงานทางด้านวงการบันเทิงอะไรเลย”

“น้องบิ๊กหน้าหล่อออร่าพระเอกขนาดนี้ไม่มีใครมาติดต่อเลยเหรอคะ” พี่เจนนี่ทำท่าประหลาดใจออกมา “ถ้าวันนั้นพี่เจนนี่ไม่เจอน้องบิ๊กที่ร้านส้มตำพี่คงพลาดมากแน่ๆ”

“พี่เจนนี่ชมผมซะลอยนะครับ พอดีก็พอรู้มาบ้างว่าหล่อแต่ตอนนั้นยังอยากโฟกัสเรื่องการเรียนเลยไม่ค่อยสนใจเรื่องงานบันเทิงเท่าไหร่อะครับ แต่พี่เจนนี่ให้โอกาสผมก็ยินดีรับไว้” ผมพูดตามบทที่ไอ้วสุเกร็งมาให้แต่เพิ่มเติมตรงที่แอบชมตัวเองเข้าไปหน่อย มันอดไม่ได้จริงๆ อะครับก็คนมันหน้าตาดีขนาดนี้

“น้องบิ๊กตอบได้ดารามากค่ะ”

“พี่ชมหรือด่าผมเอ่ย”

“ชมซิคะพ่อพระเอก” เอาจริงๆ พี่เจนนี่ไม่ได้มีทีท่าน่ากลัวแต่อย่างใดออกจะเป็นกันเองให้อารมณ์เหมือนพี่สาวคนหนึ่ง “ขออนุญาตละลาบละล้วงหน่อยนะคะ น้องบิ๊กมีแฟนหรือยัง”

“มีแล้วครับ แฟนผมชื่อมารวยน่ารักมากนิสัยดีสุดๆ มีดีกรีเป็นนักบอลมหาลัยด้วยครับ ไม่มีงี่เง่างอแงอะไรเลยเชื่อฟังว่าง่ายและเข้าใจผมสุดๆ ไปเลยครับ”

“น้องบิ๊กท่าจะรักแฟนมากเลยนะครับ”

“เรียกได้ว่าตายแทนได้เลยอะครับ”

“แฟนน้องบิ๊กเป็นผู้ชายเหรอคะ”

“ครับพี่เป็นผู้ชาย” ผมภูมิใจในตัวแฟนของผมเป็นอย่างมากในทุกๆ เรื่อง ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีมารวยเป็นแฟน ผมกล้าที่จะบอกทุกคนได้เต็มปากเต็มคำเลยว่ามารวยหรือเด็กบื้อคือแฟนของผม “ผมขอบอกพี่เจนนี่ตรงๆ เลยนะครับว่า ถ้าจะให้ผมเลิกกับแฟนหรือว่าให้ทำตัวโสดผมจำเป็นต้องปฏิเสธงานนี้”

“ไม่ใช่ค่ะน้องบิ๊ก พี่ไม่ขัดเรื่องที่เราจะมีแฟนแต่พี่แค่กังวลว่าถ้าซีรีส์ออนแอร์ออกมาแน่นอนว่าน้องบิ๊กต้องมีแฟนคลับเยอะมาก แล้วเรื่องที่ตามมาคือการขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวตรงนี้น้องบิ๊กจะว่าอะไรไหมถ้าแฟนน้องอาจจะเป็นที่สนใจ”

“ผม...” ผมไม่รู้ว่ามารวยจะโอเคไหมถ้าเป็นอย่างที่พี่เจนนี่พูด แต่ผมก็ไม่อยากให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับแฟนของผมเหมือนกัน แล้วยิ่งถ้าใครมาเห็นหน้าตาน่ารักๆ ของเด็กบื้อเข้าผมมีหึงโหดแน่นอน

“น้องบิ๊กลองกลับไปคุยกับแฟนนะคะ ถ้าแฟนน้องโอเคพี่เจนนี่ก็ไม่มีปัญหาจ้า” ผมนั่งคุยกับพี่เจนนี่อยู่นานสองนานจนกระทั่งท้องฟ้าเปลี่ยนสี พี่เจนนี่อาสาขับรถมาส่งผมที่หอก่อนจะมอบของกำนัลเล็กๆ น้อยๆ ให้ผมเป็นการต้อนรับล่วงหน้า

“ขอบคุณนะครับพี่เจนนี่” ผมลงจากรถก่อนจะยกมือขึ้นขอบคุณพี่เจนนี่

“ไม่เป็นไรค่ะน้องบิ๊ก เคลียร์คิวให้พี่ด้วยนะคะพี่จะพาไปทำหน้าพวกฉีดวิตามินอะไรนิดหน่อย” ก่อนหน้าพี่เจนนี่พูดถึงรายละเอียดคร่าวๆ เรื่องการเสริมหล่อกับผมว่า หน้าของผมดีอยู่แล้วก็จริงแต่ควรเสริมออร่ามากกว่านี้ เอาจริงๆ คือพี่เจนนี่เธอมีสปอนเซอร์เกี่ยวกับคลินิกความสวยความงามในเครือข่ายและการที่ให้ผมไปทำหน้าหรือบำรุงอะไรพวกนี้ฟรีๆ ก็เป็นเรื่องของผลประโยชน์ร่วมกันทั้งนั้น ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ผมต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวของผมเอง

“ครับพี่ กลับดีๆ นะครับ” ผมยืนรอจนกว่าพี่เจนนี่จะขับรถออกไปก่อนที่จะแวะซื้อขนมไปฝากเด็กบื้อเล็กน้อย ล่าสุดผมไลน์ไปถามว่าอยู่ไหน เด็กบื้อบอกว่ากลับมาหอเป็นที่เรียบร้อยทำให้ผมสบายใจไปเปาะหนึ่งในเรื่องการเซฟอาการบาดเจ็บของเด็กบื้อ

ก็อกๆ

ผมมาถึงหน้าห้องก่อนจะแกล้งทำทีเป็นเคาะประตู

“มีใครคิดถึงไหมครับ ความรักกำลังจะเข้าไปหา” ผมส่งเสียงลั้นลาของตัวเองให้ผ่านลอดประตูห้องเข้าไปและรอว่าด้านในจะมีเสียงตอบรับกลับมาไหม แต่แล้วก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาแสดงว่าเด็กบื้อไม่ได้นั่งอยู่ข้างนอก ผมจึงแตะคีย์การ์ดและเข้ามาด้านใน

“เด็กบื้อของเฮียบิ๊กอยู่ไหมเอ่ยยยย” ผมวางขนมลงบนโต๊ะพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียกเด็กบื้อไปด้วย แต่แล้วก็ไม่มีเสียงตอบรับเช่นเดิม

“ไปไหนของเขานะ” ผมผลักเข้ามาในห้องนอนของตัวเองที่ปิดไฟมืดเอาไว้ผมเอื้อมมือมากดเปิดสวิตไฟ ทำให้ตอนนี้ภายในห้องสว่างและปรากฏร่างของเด็กบื้อที่นอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหน้าข้างๆ ตัวมีชีทเรียนวางอยู่รายล้อม

“น่ารักจริงๆ” ผมค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งข้างๆ พร้อมกับก้มลงไปจุ๊บที่หน้าผากเบาๆ “เด็กบื้อครับ ตื่นเร็วเดี๋ยวปวดหัว”

“เฮียบิ๊กเหรอ?” เด็กบื้อขยับเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ กะพริบตาและเงยหน้าขึ้นมามองผม “เป็นไงบ้างครับ”

“เฮียต้องถามเรามากกว่าว่าเป็นไงบ้าง กินยารึยัง” ผมลูบศีรษะของเด็กบื้อเบาๆ

“เรียบร้อยแล้วครับ แล้วเฮียก็ตอบผมด้วยว่าเป็นไงบ้างวันนี้พี่เขาดุไหม”

“ชิลมากเลยนะ นี่เฮียมีเรื่องจะคุยกับเรา” เด็กบื้อขยับตัวขึ้นนั่ง

“ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เฮียไปรอข้างนอกก่อน” ผมพยักหน้าและเดินออกไปรอด้านนอกปล่อยให้เด็กบื้อเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำ


Maruay’ s talk

ผมกลับมาห้องหลังจากที่ไอ้บุ๊คมันมาส่งหลังจากที่มันหายไปในช่วงเรียนและผมก็กลับมาเรียนต่อหลังจากที่ไล่เฮียบิ๊กกลับไป ก่อนที่ผมจะเผลอหลับในช่วงที่เอาชีทเรียนวันนี้มาอ่านทบทวนเพราะอาจารย์บอกว่าจะมีควิซในอาทิตย์หน้า ที่รีบอ่านไม่ใช่ว่าขยันอะไรหรอกนะครับแต่ต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนเพราะผมต้องติวให้เพื่อนบุ๊คที่โดดเรียนไม่มีสาเหตุวันนี้ด้วย

“เฮียมาผมพร้อมแล้ว” หลังจากที่ไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นผมออกมาด้านนอกและเห็นว่าเฮียบิ๊กนั่งรออยู่ที่โซฟากลางห้อง

“มานั่งข้างๆ เฮีย” เฮียบิ๊กตบที่ข้างๆ ให้ผมเดินเข้าไปนั่ง

“มีอะไรครับผม” ผมทิ้งตัวนั่งลงและเปิดประเด็นถามเฮียบิ๊กทันที “ทำไมหน้าดูเครียดๆ”

“ก็มันเครียดอะดิ เฮียบอกตามตรงโคตรลำบากใจเลย” สีหน้าเฮียบิ๊กที่มองมายังผมค่อนข้างที่จะเครียดและดูเป็นกังวลเอามากๆ “มารวยเรารู้ไหมว่าเฮียรักเรามากๆ”

“รู้ครับ”

“เฮีย...ถ้าเฮียดังจริงๆ หรือมีแฟนคลับในอนาคต เฮียสามารถบอกคนอื่นได้ไหมว่าเราเป็นแฟนเฮีย เฮียไม่อยากปิดบัง” ผมนั่งนิ่งฟังเฮียบิ๊กพูดต่อ “แล้วพี่เจนนี่ พี่เจนนี่คือคนที่เฮียไปพบมาวันนี้เธอโอเคนะถ้าพี่จะเปิดตัวว่าเราเป็นแฟนเฮีย แต่พี่เจนนี่เขากังวลว่าถ้ามีคนขุดแล้วเราจะไม่มีความเป็นส่วนตัว เฮียเลยมาถามความสมัครใจ”

“เฮียใจเย็นๆ นะ ผมโอเคถ้าเฮียจะปิดหรือไม่เปิดเผยว่าผมเป็นแฟนเฮีย ผมไม่คิดมากเพราะรู้ว่าเฮียเป็นคนอย่างไง อีกอย่างพี่เจนนี่เธอก็พูดถูกนะครับว่าถ้าเฮียเปิดว่าแฟนเฮียคือผมแล้วมันกระทบต่อความเป็นส่วนตัวผมมากๆ ผมก็ไม่โอเคเท่าไหร่ คนที่เกิดมาธรรมดาไม่มีคนสนใจอย่างผมวันหนึ่งตกเป็นเป้าสนใจผมคงไม่ชิน เฮียไม่ต้องเครียดนะอย่างไงผมก็อยู่ข้างๆ เฮียเสมอ”

“มารวยโคตรน่ารักเลยว่ะ เฮีย...ขอกอดหน่อยนะ งื้อออ” เฮียบิ๊กดึงผมเข้ามาซุกอกของเขาพร้อมกับพรมจูบทั่วใบหน้าและตามหนังศีรษะ..แค่ศีรษะพอครับ “ดีใจนะที่เราเข้าใจ”

“แต่ถ้าเฮียไปเป็นดาราดังและทำตัวเปลี่ยนไป ผมไม่ทนนะครับ” เฮียบิ๊กรีบผลักผมออกมาทันทีพร้อมกับจ้องด้วยสายตาเครียดๆ เหมือนเดิม

“ขอคำจำกัดความคำว่าเปลี่ยนไปหน่อยครับ”

“หยิ่ง ยโส โอหัง”

“เวอร์ละๆ ถ้าเฮียหยิ่งก็ไม่มีใครในโลกเป็นมิตรแล้วอะครับ”

“ฮ่าๆ ผมล้อเล่น ก็เปลี่ยนไปอะเฮีย ถ้าหัวใจเฮียเริ่มเปลี่ยนไปรีบบอกผมเลยนะผมโอเค..ดีกว่าอยู่แบบที่เฮียไม่รักผมแล้วอย่างนั้นทรมานกว่า”

“ครับ....” เฮียบิ๊กตอบกลับยิ้มๆ พร้อมกับดึงผมเข้ามาซุกอกเหมือนดั่งเดิม ไม่รู้ว่าผมแอบคิดมากไปเองหรือเปล่าที่เฮียบิ๊กตอบกลับมาแค่ครับโดยที่ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่เป็นอย่างที่ผมพูด แต่ก็เอาเถอะครับปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด



JUNE studio

วันนี้เป็นวันเสาร์เฮียบิ๊กลากผมไอ้บุ๊คพี่วสุพี่เกรทมาเป็นเพื่อนโดยให้เหตุผลว่าตื่นเต้นไม่กล้ามาคนเดียว และตอนนี้ผมนวั่งวิลแชร์มองเฮียบิ๊กที่เดินตื่นเต้นเข้าไปด้านในพร้อมกับพี่วสุและพี่เกรท

“ไม่รู้จะเอามึงมาทำไมก็รู้ว่ามึงเจ็บ พี่กูงี่เง่าจัง” ตอนนี้ผมนั่งอยู่กับไอ้บุ๊คในที่ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับผู้ปกครองหรือเพื่อนของคนที่มาแคส เห็นว่าวันนี้มีการแคสหลายตัวละครเลยทีเดียว

“เฮียคงต้องการกำลังใจ”

“เวอร์มากกว่า มึงอย่าเข้าข้างไอ้รวย” ผมนั่งมองไปรอบๆ ส่วนไอ้บุ๊คก็ติดโทรศัพท์หรือติดคนในโทรศัพท์ก็ไม่รู้ แต่ผมว่าไม่นาใช่อย่างหลังเพราะไม่อย่างนั้นมันคงอมยิ้มไม่ใช่ทำหน้าอมขี้อยู่แบบนี้

“มีแต่คนหน้าตาดีเนอะมึง บางคนก็มีผู้จัดการมาด้วย” ผมสังเกตหลายๆ คนที่เข้ามาบางคนก็คุ้นหน้าเพราะมีชื่อเสียงในวงการ บ้างก็เป็นนายแบบ เน็ตไอดอลหรือแม้กระทั่งดาราวัยรุ่นที่กำลังมาแรงในช่วงนี้อย่าง  ‘อชิ’ “มึงตัวจริงอชิน่ารักเนอะ”

“ก็ดี น่ารักดี” อชิคือนักแสดงวัยรุ่นที่กำลังมาแรงมากๆ ในช่วงนี้ ผลงานที่ทำให้อชิมีชื่อเสียงขึ้นมาก็คือภาพยนตร์หนังรักวัยรุ่นที่พึ่งฉายไปเมื่อหลายเดือนก่อน กระแสดีชนิดที่ว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆ แย่งตัวอชิมาเป็นพรีเซนเตอร์จ้าละหวั่น และหาได้น้อยมากคนที่ไม่มีใครไม่รู้จักอชิ

“อ่าวพี่เกรทพี่วสุทำไมออกมากันแค่สองคนอะครับ” ผมมองไปยังพี่ๆ สองคนที่เดินออกมาโดยไร้เงาของเฮียบิ๊กที่เข้าไปพร้อมกัน

“เห็นว่าไปคุยเรื่องสัญญาอะไรสักอย่างนะ” พี่วสุทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ “พี่แอบได้ยินเขาคุยกันว่าบทนายเอกที่จะมาเล่นคู่กับไอ้บิ๊กนี่น้องอชิ ไอ้บิ๊กมาถึงก็ประคบคู่กับดาวรุ่งเลยไม่ดังก็ให้มันรู้ไป”

“อชิ อชิโคตรดังเลยนะนั่น” ผมพูดแทรกออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะถ้าเป็นอชิที่ผมเห็นตอนเข้ามาคือโคตรของโคตรดังเลย

“ผมงงตรงที่ว่าถ้าวางตัวเอกเอาไว้แล้วจะจัดแคสขึ้นมาเพื่อ” ไอ้บุ๊คละสายตาจากโทรศัพท์ขึ้นมาถามพี่วสุ

“ตัวประกอบไรงี้มั้งพี่ก็ไม่ค่อยรู้ว่ะแค่ได้ยินข้างในเขาคุยกัน”

“น้องรวยจะมีแฟนดังแล้ว” ผมนั่งยิ้มโดยที่ไม่ตอบอะไรพี่เกรทที่แซวขึ้นมาเพราะตอนนี้ในหัวของผมมีความคิดแปลกๆ ทั้งๆ ที่ควรเชื่อใจเฮียบิ๊กแต่ทำไมผมถึงเริ่มรู้สึกระแวง....

ผั๊วะ!

“คิดอะไรแปลกๆ อีกรึเปล่ามึง” ไอ้บุ๊คตบไหล่ผมแรงๆ “เห็นเหม่อเลยตบ เจ็บไหม”

“ไม่เจ็บเลยมั้ง” ผมเลือกที่จะไม่บอกความคิดของผมให้ไอ้บุ๊คฟัง ไม่อยากให้ใครมาคิดมากกับเรื่องไร้สาระของผมโดยเฉพาะไอ้บุ๊คที่ช่วงนี้มีเรื่องให้เครียดตลอด


BIG’ s talk

ผมเข้ามาพูดคุยเรื่องสัญญากับใครก็ไม่รู้มากมายโดยมีพี่เจนนี่นั่งขนาบอยู่ข้างๆ เห็นว่ามีผู้กำกับ ผู้เขียนบท และฝ่ายต่างๆ มากมาย

“นี่น้องบิ๊กที่เจนนี่วางตัวให้เป็นพระเอกค่ะ ทางผู้ใหญ่ก็เห็นด้วยเพราะภายนอกน้องบิ๊กเหมาะกับคาเรคเตอร์ของตัวเอกเอามากๆ เลยค่ะ” ผมยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับพยายามยิ้มออกมาให้ดูจริงใจมากที่สุด

“สวัสดีครับ ผมบิ๊กนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักและฝากตัวกับทุกคนด้วยนะครับ”

“หน้าตารูปร่างได้จริงๆ อย่างที่เจนนี่พูดแต่การแสดงละ เห็นแค่ในคลิปที่ส่งมายังมีอีกหลายๆ อย่างต้องปรับนะ แต่พี่คิดว่าน่าจะไม่ยากเพราะดูมีพื้นฐาน” ตอนนี้ผมคันปากอยากจะพรีเซ็นต์ตัวเองว่าเคยเล่นละครเวทีสมัยเข้ามหาลัยใหม่ๆ ไม่น่าจะยาก แต่ต้องหยุดความคิดเอาไว้ไม่พูดออกมาน่าจะดีกว่า

“ลองเข้าบทไหมละ น้องอชิเห็นว่ามาแล้ว ถ้าวันนี้แคสตัวอื่นๆ หมดก็พรุ่งนี้เวิร์คช็อป” พี่ผู้กำกับพูดขึ้นมาหลังจากที่เขาก้มลงอ่านเอกสารคร่าวๆ เกี่ยวกับตัวผม

“เจนนี่ว่าลองเข้าก็ดีนะคะจะได้รู้ว่าต้องปรับอะไร”

“งั้นเอาบทนี้ไปอ่านก่อนตัวละครเจนนี่อธิบายให้พี่ที อีกประมาณชั่วโมงพี่จะเรียกไปแคส” พี่ผู้กำกับพูดจบก็พากันเดินออกไปจากห้องทิ้งให้พี่เจนนี่อธิบายเรื่องบทให้ผมฟังพร้อมกับเล่าเรื่องย่อ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชีวิตมหาลัยที่พระเอกมีคาเรกเตอร์เกเรซึ่งห่างไกลกับผมเอามากๆ ผมไม่รู้ว่าจะทำได้รึเปล่านะ แฮร่! มาต่อดีกว่าครับ และทีนี้นายเอกที่พี่เจนนี่เล่าให้ฟังก็คือนักศึกษาแพทย์แนวใสๆ ซื่อๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคือใครอีกนั่นแหละ เนื้อเรื่องคือผมต้องประสบอุบัติเหตุที่ต้องเจอกับนายเอกและด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่น่ารักทำให้ผมหาเรื่องเอาตัวเองเข้าไปใกล้ๆ อะไรทำนองนี้อะครับ ไว้ผมค่อยเอาบทไปอ่านอย่างละเอียดใหม่

“น้องบิ๊กพอจะเข้าใจไหมคะ?” พี่เจนนี่ที่อธิบายเนื้อเรื่องถามผมย้ำอีกครั้ง

“เข้าใจครับพี่”

“งั้นน้องบิ๊กไปพักก่อนนะ อีกเดี๋ยวผู้กำกับคงเรียก”

“ผมขอให้เพื่อนกับแฟนผมเข้ามาดูด้วยได้ไหมครับพี่เจนนี่ ผมต้องการกำลังใจจัง”

“ได้ซิค่ะ พี่ก็อยากจะเจอแฟนน้องบิ๊กเหมือนกัน” เมื่อพี่เจนนี่อนุญาตผมจึงรีบวิ่งไปหาเพื่อนๆ และเด็กบื้อที่รออยู่ด้านนอก ทันทีที่เห็นเด็กบื้อยิ้มให้ผมผมก็รีบวิ่งเข้าไปหาก่อนจะเผลอกอดเด็กบื้อที่นั่งอยู่บนวิลแชร์ด้วยความลืมตัว

“เฮีย! ไอ้รวยมันจะเจ็บ” ผมถูกน้องชายสุดที่รักกระชากคอเสื้อให้ออกห่างจากตัวของเด็กบื้อทั้งๆ ที่ผมยังไม่ทันได้กอดอย่างเต็มอิ่ม

“แค่ต้องการกำลังใจเอง”

“มาพวกกูกอดแทน”

หมับ!

ไอ้เกรทกับไอ้วสุเข้ามาสวมกอดผมแรงๆ พร้อมกับรัดตัวผมเอาไว้ด้วยท่าทางกวนตีน

“ได้กำลังใจพอไหมเพื่อน” ไอ้เกรทถามผมขณะที่พวกมันยังกอดผมอยู่

“เอาจุ๊บไหมจ๊ะพ่อพระเอก” ไอ้วสุกระซิบมาที่ข้างๆ หูพร้อมกับแกล้งเอาริมฝีปากมาเฉียดที่ข้างๆ หูผมเบาๆ บอกตามตรงว่าถ้าไม่ใช่เด็กบื้อผมขนลุกหมดครับ

“ถ้ากูหลุดออกไปได้พวกมึงเจอจูบแน่ๆ” ไอ้วสุไอ้เกรทรีบปล่อยผมออกทันทีพร้อมกับทำท่าขยับหนีด้วยท่าทางรังเกียจ “มาซิพวกมึง มาจูบมากูพร้อมละพ่อจะดูดให้ลืมเลย”

“เฮียขอร้องผมอายเขา” ตี๋น้อยรีบเข้ามาเบรก “แล้วออกมานี่เสร็จแล้วว่างั้นจะได้กลับ เบื่อรอมาก”

“ตี๋พูดงี้เฮียร้องไห้จริงๆ นะ ที่ออกมาจะบอกว่ามาให้กำลังใจเฮียหน่อยเฮียต้องไปเข้าบทอะไรนี่แหละ อยู่คนเดียวไม่มีพวกละมันเหงาใจ”

“ก็แค่นั้น” ผมเดินมาแย่งตำแหน่งเข็นวิลแชร์ให้แฟนสุดที่รักและพานำไปยังห้องที่พี่เจนนี่บอก แต่ระหว่างทางสายผมดันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่มองมาทางพวกผมด้วยสายตานิ่งๆ ด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัวสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ทำให้ผมโค้งให้เขาด้วยท่าทางอ่อนน้อม

“เฮีย?”

“ไม่มีอะไรครับ”


“นี่เหรอครับพระเอกที่ผมจะต้องเล่นด้วย?”

“ใช่ค่ะน้องอชิ”

“ก็ไม่เลวดีหนิครับ”



Maruay’ s talk

ตอนนี้พวกผมถูกพากันเข้ามาด้านในห้องที่มีโต๊ะสีขาวตัวยาวพร้อมกับฉากที่มีชื่อเรื่องของซีรีส์อยู่และขึ้นชื่อสปอนเซอร์ต่างๆ เฮียบิ๊กยืนอ่านบทอยู่อีกมุมเพื่อรอนักแสดงอีกคนที่จะมาเข้าบท

“ไอ้บิ๊กมันไม่ตื่นเต้นเลยวะ” พี่วสุยืนมองพี่บิ๊กด้วยท่าทางงวยงงเพราะท่าทางของเฮียบิ๊กดูอย่างไรก็ไม่มีแววตื่นเต้นหรือตื่นคนเลยแม้แต่นิดเดียว

“แสดงละครอยู่ทุกวันตื่นเต้นก็บ้าละพี่” ไอ้บุ๊คได้ทีผสมโรงกับพี่วสุอย่างเข้าคู่ จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่นานนักแสดงร่วมที่คาดว่าน่าจะเป็นอชิอย่างที่พี่วสุพูดในตอนแรกก็เป็นจริง เพราะอชิเดินเข้ามาพร้อมกับผู้จัดการหน้าเหวี่ยงของเขา

“ขอโทษที่ช้านะครับ” อชิโค้งขอโทษทุกคนด้วยท่าทางอ่อนน้อมเป็นผม ผมก็โกรธไม่ลงอะครับเขาน่ารักมากเกินไป แต่ความน่ารักนี้ผมมองอย่างไงก็เป็นความน่ารักที่คนธรรมดาอย่างพวกผมไม่สามารถเข้าถึงได้

“สวัสดีครับ..เอ่อ คุณ” อชิเดินเข้าไปหาเฮียบิ๊กที่ดูเหมือนจะไม่สนใจสิ่งรอบข้างเพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับบทในมือ ทันทีที่อชิเข้าไปหาเฮียบิ๊กได้แต่ทำหน้าเลิกลักและหันมามองทางผม

“ใครอ่ะ?” ผมอยากจะทุบเฮียแรงๆ สักทีที่บังอาจพูดแบบนี้กับอชิ ผมที่อยู่ข้างล่างรวมถึงพี่เกรทพี่วสุไอ้บุ๊คต่างป้องปากพูดชื่อของอชิขึ้นมาเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าเฮียจะไม่รู้เรื่องเอาซะเลย “ห้ะ? กะปิ”

“ไม่ใช่ๆ อชิ อชิ” ทางฝั่งผมไม่รู้จะใบ้อย่างไงแล้วเฮียบิ๊กก็ยังเรียกชื่อผิดๆ ถูกๆ อยู่อย่างนั้นจนเจ้าของชื่อแนะนำตัวเองออกมา

“ผมอชิครับ”

“อ่อ อชิ ผมบิ๊กครับน่าจะเป็นพี่นะเรียกพี่บิ๊กก็ได้” เฮียบิ๊กยื่นมือออกมาตรงหน้าส่วนอชิก็ยื่นมือเข้ามาจับมือเฮียบิ๊กเขย่าเบาๆ และปล่อยออก

“ครับพี่บิ๊กชิฝากตัวด้วยนะครับ ^^” รอยยิ้มของอชิโคตรน่ารักเลย

“งั้นเริ่มเข้าเลยนะ รอพี่ให้สัญญาณ ห้า สี่ สาม สอง แอคชั่น!!” เฮียบิ๊กสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทันทีที่ได้ยินสัญญาณก่อนจะลืมตาขึ้นมา แววตาของเฮียบิ๊กตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดไม่มีแววขี้เล่นเหมือนเคย มีเพียงแววตานิ่งๆ เท่านั้น

“เอ่อ..หลบได้ไหมครับผมจะเดิน” อชิที่ได้รับบทเป็นนายเอกของเรื่องสวมเข้ากับคาเรคเตอร์ของตัวละครที่เขาแสดง เฮียบิ๊กขยับเข้ามายืนขวางหน้าอชิอย่างท้าทาย

“ถ้าพี่ไม่ขยับ มีปัญหาอะไรไหม?”

“คือคุณจะมายุ่งวุ่นวายกับผมทำไมครับ เรื่องอุบัติเหตุตอนนั้นผมไม่ได้ติดใจอะไร เราก็ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะครับ” น้ำเสียงท้ายๆ ประโยคของอชิดูหงุดหงิดเล็กน้อย “หลีกทางผม”

“.....” เฮียบิ๊กเบี่ยงตัวหลบเพื่อให้อชิเดินหนีไปแต่ยังไม่ทันที่อชิจะเดินหนีไปพ้นเฮียบิ๊กเอื้อมมือมากระชากแขนของอชิและออกแรงดึงทำให้อชิเสียหลักเข้ามาซบอกของเฮียบิ๊กเต็มๆ สายตาของทั้งสองสอดประสานเข้าหากันโดยที่สายตาของเฮียบิ๊กไม่สามารถปิดบังความสนใจที่มีต่อคนตัวเล็กในอ้อมกอดของเขาได้

“เอ่อ....”

“พี่ชอบน้อง ขอจีบได้ไหมไม่ได้ขออนุญาตแต่ว่าจะจีบเลย งั้นขอมัดจำไว้ก่อนนะ...” เฮียโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ จุดหมายปลายทางคือแก้มใสๆ ที่ตอนนี้ระเรื้อไปด้วยสีชมพู ใครก็ได้บอกผมทีว่าผมกำลังไม่พอใจกับภาพตรงหน้าเฮียบิ๊กเล่นเนียนเกินไปแล้วเข้าบทบาทมากเกินไป

“ไอ้รวยเพื่อนมันเป็นงาน ใจเย็นๆ” ไอ้บุ๊คแตะไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าไอ้บุ๊คว่ามันรู้ได้อย่างไงว่าผมไม่พอใจ “ตัวเกร็งขนาดนี้กูดูออก ถ้าเฮียกูรู้ได้ใจไปอีกที่แฟนหึง”

“การแสดงกูแยกแยะออก”

“แยกแยะออกแต่เสียงแข็ง?” ผมเลิกสนใจไอ้บุ๊คและหันกลับมาสนใจเฮียบิ๊กต่อ ซึ่งตอนนี้ผู้กำกับสั่งคัททำให้ทั้งคู่ไม่ได้หอมแก้มกันจริงๆ

“เข้ากันมาก!” ผู้กำกับลุกขึ้นปรบมือ “เดี๋ยวนัดคุยรายละเอียดอีกทีนะ” เฮียบิ๊กยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะรีบวิ่งมาทางผม

“เฮียเล่นเป็นไงบ้าง” เฮียบิ๊กย่อตัวลงตรงหน้าผมก่อนจะเอื้อมมือของเขาเข้ามากุมมือของผม

“เล่นดีจนแฟนเฮียหึง” ไอ้บุ๊คพูดแทรกขึ้นมาและนั่นยิ่งทำให้เฮียบิ๊กยิ้มหน้าบานขึ้นมาทันที “กูบอกแล้วว่าเฮียต้องดีใจที่มึงหึง”
 
“ดีใจที่สุดอยากหอมแก้มแล้วเนี่ย”

“ใจเย็นเพื่อน” พี่วสุยกเฮียบิ๊กให้ยืนขึ้นเหมือนปรกติเมื่อพี่คนเดินมาทางพวกผม

“แล้วเจอกันนะครับพี่บิ๊ก ^^” อชิเดินเข้ามาทักทายพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์มอบให้เฮียบิ๊กก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้พี่ๆ ที่เหลือมองตามตาค้าง

“มองใกล้ๆ แล้วน่ารักฉิบหายเลย” พี่เกรทพูดตามหลังอชิ “อิจฉามึงจัง”

“ไม่ต้องอิจฉากูเลยมึง มันเป็นงานกูไม่ว่อกแว่กแน่นอนเพราะในใจมีแต่มารวยยยยยยยยย” ผมว่าจะไม่ยิ้มแล้วนะครับแต่ท่าทางที่น่ารักของเฮียบิ๊กทำให้ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้จริงๆ ถ้าเฮียยืนยันแบบนี้ผมก็มั่นใจในคนรักของผม แต่ผมไม่มั่นใจสายตาของอชิจริงๆ ถึงจะน่ารักแต่ถ้าเขามายุ่งกับแฟนผมมารวยคนนี้ไม่ยอมเด็ดขาด! อีกไม่นานร่างกายของเฮียบิ๊กจะต้องเป็นของผม

#เห้ย!!! อะไรเนี่ยเส้นทางดาวรุ่ง

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
 
บทที่ 12
ถ้าไม่ใช่มารวยเฮียบิ๊กไม่สนใจหรอกครับ (มีแฟนแล้วรักแฟนมาก)



Maruay’ s talk

นับจากวันนั้นที่ผมไปเชียร์เฮียบิ๊กก็ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนซึ่งเป็นเวลาที่ผมต้องผ่าเฝือกออกแต่..เฮียบิ๊กไม่ได้มากับผมด้วยเพราะติดไปเรียนการแสดง ผมลืมเล่าไปว่าช่วงนี้เฮียบิ๊กค่อนข้างที่จะยุ่งกลับมาอีกทีผมก็หลับไปแล้วพอผมตื่นขึ้นมาเฮียบิ๊กก็ยังหลับอยู่ เวลาของเราสองคนค่อนข้างสวนทางกันอย่างสิ้นเชิงแต่ผมเข้าใจว่ามันน่าจะเป็นแค่ช่วงนี้เพราะถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่เฮียบิ๊กจะชดเชยเวลาที่ขาดหายไปให้ผมอย่างเต็มที่

“ไอ้รวยเฮียโทรมา” ไอ้บุ๊คที่อาสามาเป็นเพื่อนยกโทรศัพท์ของมันขึ้นมาให้ผม

“ครับเฮีย” ผมยิ้มให้เฮียบิ๊กที่ทำหน้าขมวดคิ้วอยู่ในโทรศัพท์ “ทำไมทำหน้าแบบนั้นอะ”

(เฮียไม่สบายใจที่เฮียไม่ได้อยู่เคียงข้างเราตอนเราเอาเฝือกออก) ผมพ่นลมหายใจออกมาเมื่อเฮียบิ๊กพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เขาขมวดคิ้วด้วยความกังวล

“ผมโอเคเฮียแค่เอาเฝือกออกเอง เฮียบิ๊กตั้งใจเรียนนะ”

(เอาจริงนะเฮียไม่อยากเล่นละครละอะแต่เซ็นสัญญาไปแล้ว เฮียกลัวดังเกินไปแค่ทางค่ายแอบปล่อยรูปตอนฟิตติ้งไม่รู้ว่าเพื่อนจากไหนนักหนาทักเฮียมาเต็มเลย ร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครทักมา บอกตามตรงเลยนะเฮียไม่ชิน) ผมก็พอจะเห็นในโซเชียลรูปถ่ายของเฮียบิ๊กคู่กับอชิ แค่กระแสตอนฟิตติ้งก็ทำให้เฮียบิ๊กมีเพจแฟนคลับทั้งในเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์แต่เจ้าตัวดูไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่

“ส่งผมเรียนจบเอกเลยนะเฮีย”

(เด็กบื้อครับแค่เฮียใช้ความรู้ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่เรียนมาบวกกับปัญญาอันชาญฉลาดแถมมีสกิลทักษะทางด้านภาษา ถ้าไม่มาเล่นละครเฮียก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่มาติดต่อไปทำงานกันทั้งในและต่างประเทศ อย่าว่าแต่จะส่งเอกเลยส่งมากกว่าปริญญาเอกก็ย่อมได้ถ้ามันมีให้เราเรียนอะนะ)

“เฮียกูขี้โม้ได้ใครวะ” ไอ้บุ๊คส่ายหัวให้กับคำพูดที่โอ้อวดของเฮียบิ๊ก “วางได้แล้วมึง จะถึงคิวมึงแล้ว”

“เฮียครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะใกล้ถึงคิวของผมแล้ว ไว้เจอกันที่ห้องนะครับ”

(ครับ เฮียจะรีบกลับนะ จุ๊บๆ) ผมกดวางสายจากเฮียบิ๊กซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ถึงคิวผมเข้าห้องเพื่อไปผ่าเฝือกโดยมีไอ้บุ๊คไปเป็นเพื่อน


BIG’ s talk

ผมวางสายตากเด็กบื้อก่อนจะหันกลับไปนั่งรอนักแสดงที่ต้องเข้ามาเรียนการแสดงในวันนี้ อย่างที่ผมบอกกับเด็กบื้อไปว่าผมไม่ค่อยชินกับการตกเป็นที่จับตามองสักเท่าไหร่โดยเฉพาะคนรอบข้างผมจะโดนหางเลขไปด้วย ป๊ากับม้าโทรมาหาผมทันทีที่ภาพถูกปล่อยบอกว่าผมไปแสดงละครตั้งแต่เมื่อไหร่ ลูกสาวป้าข้างบ้านฝากขอลายเซ็นซึ่งร้อยวันพันปีลูกสาวป้าข้างบ้านแทบจะไม่เคยทักหรือพูดคุยกันเลย ก็รู้ว่าหล่อแต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้

“มาเร็วมากเลยน้องบิ๊ก” พี่เจนนี่เดินเข้ามาหาผมที่นั่งรออยู่ในห้องคนเดียว พี่เจนนี่ถูกมอบหมายจากทางค่ายให้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของผมไปก่อนในช่วงนี้ ส่วนเรื่องรับงานต่างๆ ผมรับแค่วันที่ผมไม่มีเรียนเท่านั้น อย่างไงเรื่องเรียนและความรักต้องมาก่อนเสมอ

“ตามเวลาเลยครับพี่เจนนี่ พี่เจนนี่ครับผมมีเรื่องสงสัยคือปรกติแล้วนักแสดงจะมาสายขนาดนี้เลยเหรอครับ นี่ก็เลยเวลามาได้เกือบๆ ครึ่งชั่วโมงแล้ว” พี่เจนนี่หันซ้ายหันขวาเหมือนว่าดูลาดเลาอะไรสักอย่างก่อนจะขยับเข้ามาและยื่นหน้ามาทางผมพร้อมกับยกมือขึ้นป้องปาก

“น้องบิ๊กคืองี้นะคะคือแบบพี่คันปากมากเลยค่ะ”

“ผมเกาให้ไหมพี่”

“แหม ตลกค่ะ” พี่เจนนี่ตีผมก่อนจะเล่าต่อ “คือถ้ามีชื่อเสียงแล้วเขาจะทำอะไรไม่ค่อยนึกถึงคนอื่นหรอกค่ะ อยากมาตอนไหนก็มา อยากกลับตอนไหนก็กลับยิ่งดังๆ เอาใจยากมากด้วยกว่าจะเคลียร์คิวนู่นนี่นั่นน้องบิ๊กต้องทำใจหน่อยนะคะ”

“ปัญญาอ่อนมากเลยครับพี่เจนนี่”

“น้องบิ๊กอย่าไปพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินนะคะเดี๋ยวจะโดนดี” พี่เจนนี่พูดยิ้มๆ แต่แววตาดูเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมพูด ขนาดยังไม่ถึงวันเปิดกล้องยังขนาดนี้ถ้าเปิดกล้องระยะเวลาในการถ่ายทำร่วมสามเดือนผมจะทนได้ไหมก็ต้องทนได้ไม่อย่างนั้นโดนปรับฉิบหายเลยครับ “เออหนิน้องบิ๊กมีโฆษณาน้ำอัดลมติดต่อมาให้น้องเป็นพรีเซนเตอร์น้ำอัดลมรสชาติใหม่ที่กำลังจะออกพี่จะส่งไปให้ดูทางไลน์นะคะเผื่อสนใจพี่จะได้คอนเฟิร์มกับลูกค้า”

“ใช่น้ำเป๊ปจี่ไหมครับพี่”

“ใช่ค่ะ”

“ผมรับครับ แฟนผมชอบดื่มยี่ห่อนี้ถ้ามีรูปผมอยู่ตรงฉลากแฟนผมคงดีใจ” คิดแล้วหน้าของเด็กบื้อลอยเข้ามาในโสตประสาทของผมเต็มๆ เวลาที่ผมเหนื่อยแค่ได้นอนกอดเด็กบื้อก็ถือเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดแล้ว

“น้องบิ๊กจะได้น้ำอัดลมกลับไปกินเป็นลังๆ เลยค่ะ”

“แต่ปรกติพรีเซนเตอร์เขาไม่ค่อยหวังของฟรีจากโฆษณาหรอกนะเจนนี่” เสียงของคนที่เข้ามาใหม่ดังขึ้นก่อนจะปรากฏเป็นพี่ผู้จัดการของอชิพร้อมกับอชิที่เดินเข้ามา ผมสังเกตมาหลายครั้งแล้วครับว่าพี่ๆ สองคนนี้น่าจะไม่ถูกกันเพราะพี่เจนนี่ถึงกับมองบนอย่างไม่สบอารมณ์ทันทีที่ได้ยินเสียง

“แต่ผมหวังครับ ของฟรีใครจะไม่อยากได้” ผมตอบกลับไปทำให้พี่ผู้จัดการที่ผมไม่ทราบชื่อถึงกับมองมาทางผมด้วยสายตานิ่งๆ

“ปากดีระวังดับนะน้อง”

“ดับไม่กลัวกลัวไม่ดับซิครับพี่” ผมฉีกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำแต่ระหว่างทางที่ผมจะเดินออกไปนั้น อชิยื่นมือมาจับข้อมือของผมเอาไว้ทำให้ผมหยุดและเลิกคิ้วมองไปที่อชิ

“พี่บิ๊กจะไปไหนเหรอครับ”

“ขี้ครับ ปวดขี้มาก” ผมตอบตามตรงทำให้อชิดูตกใจเล็กน้อย คือผมไม่เข้าใจว่าจะตกใจทำไมหรือว่าผมพูดหยาบเกินไปจนนายเอกของเรารับไม่ได้ “อุจจาระหน่ะครับ”

“อ่อ...รีบมานะครับพี่บิ๊ก ชิซื้อขนมมาฝากเยอะเลย ^^” อชิยิ้มจนตาของเขาเปลี่ยนเป็นรูปสระอิ ไอ้วสุพูดกรอกหูอยู่ทุกวันว่าถ้าใครมองดวงตารูปพระจันทร์ยิ้มของอชิเป็นอันต้องหวั่นไหวทุกที แต่นี่ก็หลายอาทิตย์แล้วผมไม่เห็นรู้สึกหวั่นไหวอะไรเลย นอกจากอยากเอานิ้วจิ้มแล้วแหกลูกตาแบบนี้มันใช่อาการหวั่นไหวไหมอ่ะครับ

“ครับ” ผมรีบออกมาจากห้องและตรงมาด้านนอกเพื่อโทรหาเด็กบื้ออีกครั้ง ป่านนี้น่าจะผ่าเฝือกออกแล้วผมตื่นเต้นจังเลยครับ เพราะถ้าเด็กบื้อผ่าเฝือกแสดงว่าผมจะได้เข้าไปในตัวของเด็กบื้อซักที ซึ่งขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนที่ทำให้ผมเป็นสามีโดยพฤตินัยของเด็กบื้ออย่างสมบูรณ์แบบ พูดแล้วขึ้นเลยครับ!!

(เฮีย! โทรมาอะไรหนักหนาเนี่ยไอ้รวยยังไม่เสร็จเลย) ปรากฏว่าคนที่รับโทรศัพท์กลายเป็นตี๋ซะอย่างนั้นส่วนภาพพื้นหลังยังคงเป็นโรงพยาบาลอยู่เหมือนเดิม

“ก็เป็นห่วงแฟน เฮียผิดตรงไหนวะตี๋”

(ไอ้รวยมันกำลังจะผ่าเฝือก แล้วเฮียทะลึ่งไปแอบเขียนอะไรที่เฝือกมัน”

“คริๆ” นึกถึงแล้วก็ขำครับเพราะช่วงที่เราสองคนมีเวลาไม่ตรงกันผมแอบเอาปากกาไปเขียนที่เฝือกของเด็กบื้อไม่ซิเรียกว่าแอบแต่งกลอนให้มากกว่า

มารวยแฟนเฮียบิ๊ก น่ารักกุ๊กกิ๊กทุกเวลา อยากให้เรียกว่าเฮียบิ๊กขา แต่นั่นหนาไม่เคยเรียกเลย

“เขียนกลอนแห่งความรักไงเด็กบื้อชอบไหม”

(เฮียยังมีหน้ามาถามอีกนะ ถ้าไม่มีอะไรผมวางนะเฮีย)

“เดี๋ยวก่อนตี๋ เฮียขอแอบดูเด็กบื้อหน่อยซิ แค่แวบๆ ก็ได้”

(เออๆ งี่เง่าจังวะ) ไอ้ตี๋แอบบ่นๆ เบาๆ แต่พอดีว่าผมหูดีเลยแอบได้ยิน ตี๋กลับเป็นกล้องหลังก่อนจะส่งกล่องไปในห้องที่เห็นว่าตอนนี้เด็กบื้อนั่งน่ารักอยู่บนเตียงโดยมีหมอยืนอยู่ข้างๆ (พอนะเฮีย ไปละ ติ๊ด!) และมารความรักของผมก็กดตัดสายไปทันที...ก็ยังดีที่ได้เห็นครับดีกว่าไม่เห็น

“พี่บิ๊ก”

“ครับ?” ผมกันไปทางด้านหลังก่อนจะเห็นว่าเป็นอชิที่ยืนอยู่ “มีอะไรรึเปล่า”

“ชิมาตามพี่บิ๊กครับเห็นว่าออกมานาน” นานก็แย่ละครับยังไม่ถึงห้านาทีเลย ถ้าสนิทพ่อจะด่าให้หูดับเลยแต่พอดีว่าต้องคีพลุคพระเอกเลยทำได้แค่พยักหน้าและยิ้มให้เฉยๆ

“พี่ออกมาคุยกับแฟนครับ”

“แฟน? ... พี่บิ๊กมีแฟนแล้วเหรอครับ?”

“ใช่ครับ มีอะไรรึเปล่าหรือว่าพี่มีแฟนไม่ได้เหรอครับน้องอชิ?”

“ไม่มีอะไรครับ เราไปกันเถอะ” ผมเดินนำอชิเข้าไปด้านในโดยไม่ได้สนใจว่าอชิจะก้าวขาตามผมทันไหม ด้วยความหมั่นไส้ผมจึงแอบตดไม่มีเสียงแต่มีกลิ่นแน่นอนว่าโคตรเหม็น ขนาดตดของผมเองผมยังคิดว่ามันเหม็นฉิบหายเลยครับ

“พี่บิ๊กได้กลิ่นอะไรรึเปล่าครับ ชิได้กลิ่นเหมือนซากอะไรตายเลย” อชิรีบวิ่งจนเดินเข้ามาเทียบเคียงกับผมพร้อมกับใช้มือเล็กๆ ของเขาบีบที่จมูกตัวเอง

“ไม่หนิครับ ออกจะหอมบรรยายกาศดี๊ดี”

“ไม่ไหวแล้วครับ พี่บิ๊กเข้าไปก่อนเลยผมขอเข้าห้องน้ำก่อน” อชิรีบวิ่งไปทางห้องน้ำ ผมนี่ซะใจเป็นบ้าเลยครับที่เห็นอาการของอชิ ผมไม่อยากทำให้เด็กบื้อเข้าใจผิดดังนั้นการเว้นระยะห่างเป็นเรื่องที่ดีและการตดก็เป็นเรื่องดีที่จะขับแก๊สออกจากกระเพาะเช่นกัน

บิ๊กเดินหายเข้าไปด้านในห้องโดยไม่เห็นถึงสายตาของคนที่เขาคิดว่าเข้าไปในห้องน้ำที่มองตามแผ่นหลังของเขาอยู่

“อย่างนี้ซิน่าสนใจ มีแฟนแล้วยิ่งท้าทาย หึ”


Maruay’ s talk

“เฮียกูนี่จริงๆ เลยนะ” ไอ้บุ๊คยืนบ่นอยู่นานหลังจากที่เห็นว่าเฝือกของผมมีลายมือของเฮียบิ๊กที่แต่งกลอนน่ารักๆ เอาไว้ให้ ผมก็ไม่ทันได้สังเกตจนกระทั่งวันนี้ที่หมอถอดออกมา

“น่ารักดี” ผมขอยืมโทรศัพท์ของไอ้บุ๊คยกขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำ ถ้าถามว่าแล้วโทรศัพท์ของผมไปไหนตอบเลยว่าลืมเอามาครับ

“มีมึงคนเดียวที่คิดว่าน่ารักอ่ะไอ้รวย” หลังจากที่ถอดเฝือกออกคุณหมอก็แนะนำว่าอย่างพึ่งเล่นอะไรแรงๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เท้าแสดงว่าช่วงนี้ผมก็คงต้องงดการไปที่สนาม มันแอบเหงาเหมือนกันนะครับเวลาที่เราเคยชินกับอะไรสักอย่างแต่ถ้าวันหนึ่งเราไม่ได้ทำมันก็รู้สึกโหว่งไม่น้อย

หลังจากรับยาและจ่ายเงินเสร็จไอ้บุ๊คมันบอกว่ายังไม่อยากกลับหอเลยลากผมมาหาเฮียบิ๊กที่ส่งโลเคชั่นมาว่าอยู่แถวๆ นี้อีกไม่นานจะเลิกเรียนให้ผมนั่งเท็กซี่ไปหาจะได้กลับพร้อมกัน ทำให้ตอนนี้ผมกับไอ้บุ๊คยืนอยู่หน้าโรงเรียนสอนการแสดงแห่งหนึ่ง

“เข้าไปไงวะมึง” ผมหันไปถามไอ้บุ๊คที่ยืนอยู่ข้างๆ

“โทรหาแฟนมึงซิ เอ้า เอาโทรศัพท์กูไปขี้เกียจคุยกับเฮียคุยแล้วกูหงุดหงิด” ไอ้บุ๊คยื่นโทรศัพท์ของมันมาให้ผมกดโทรออกหาเฮียบิ๊ก รอสายอยู่นานเฮียบิ๊กก็ไม่รับจนกระทั่งสายตัดไปสงสัยน่าจะกำลังเข้าคาสเรียนอยู่

“รอแถวๆ นี้ก็ได้ เดี๋ยวเฮียก็น่าจะออกมาแล้วมั้ง” ผมเดินมานั่งที่โซฟาด้านหน้าติดกับประชาสัมพันธ์เพื่อรอเฮียบิ๊กเลิกเรียน

“น้องอชิอย่าเสียเวลาเลยค่ะพี่ว่าเด็กนั่นดูไม่ปรกติ อีกอย่างจะดังรึเปล่าก็ไม่รู้” ด้วยความที่ผมเป็นคนหูดีทำให้ได้ยินบทสนทนาของคนที่กำลังเดินมาทางที่ผมนั่งอยู่

“มันท้าทายดีหนิครับ ผมอยากลอง”

“มันคุ้มเหรอคะ”

“ผมมั่นใจว่ากระแสต้องดี รับรองว่ากระแสคู่จิ้นต้องมาแรงมากแน่ๆ ผมก็มีหน้าที่ขยันสร้างข่าวสร้างโมเมนต์เยอะๆ ก็เท่านั้น ที่เข้าใกล้ไม่ได้พิศวาสนะครับแค่หาผลประโยชน์”

“ฟังดูดีนะคะ แต่ถึงอย่างไงพี่ก็ไม่ค่อยถูกชะตา น้องอชิบอกพี่เองไม่ใช่เหรอคะว่าเด็กนั่นมีแฟนแล้ว”

“มีแล้วก็เลิกได้หนิครับพี่”

“ก็จริงค่ะ” ผมไม่รู้นะว่าบุคคลที่อชิและพี่ผู้จัดการของเขาพูดถึงคือใคร แต่สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจว่าคือคนของผมก็ตรงที่...  ‘เด็กนั่นดูไม่ปรกติ’  เฮียบิ๊กไม่ใช่คนปรกติอันนี้ผมเห็นด้วย

“มิสยูว์มายสวีทฮาร์ต!!” ยังไม่ทันที่ผมจะวิเคราะห์บทสนทนาที่พึ่งได้ยินเฮียบิ๊กไม่รู้ว่าโผล่ออกมาจากไหนวิ่งเข้ามาจู่โจมผมทันที

“เฮียใจเย็นๆ” ผมพยายามเตือนสติเฮียบิ๊กว่าตอนนี้เราอยู่ข้างนอกไม่ได้อยู่ที่ห้องเหมือนอย่างทุกที ซึ่งเฮียบิ๊กมีทีท่าเหมือนว่าเขาจะลืมตัวทำให้ตอนนี้ยอมปล่อยจากผมมายืนอยู่ตรงหน้าแทน

“มารอนานไหม เฮียพึ่งเลิก”

“ไม่เท่าไหร่ครับ เฮียเมื่อกี้ผม......”

“พี่บิ๊ก?” อชิเดินเข้ามายืนข้างๆ เฮียบิ๊กพร้อมกับใช้มือของเขาคล้องแขนเฮียบิ๊กเอาไว้ด้วยท่าทางสนิทสนม ตอนนี้ผมไม่ได้คิดไปเองนะว่าเท้าผมเริ่มกระตุกนิดๆ

“ครับ?”

“พอดีว่าเย็นนี้ว่างไหมครับชิจะชวนพี่บิ๊กไปทานข้าวด้านนอก”

“เลี้ยงไหมครับ?” เฮียบิ๊กถาม

“เอ่อ...ได้ครับ”

“พี่ล้อเล่น แต่ว่าถ้าน้องชิใจดีจะ............”


20 นาทีต่อมา....

ตอนนี้ผมเฮียบิ๊กไอ้บุ๊คอชิและผู้จัดการของเขานั่งกันอยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในห้างดังหลังจากที่เฮียบิ๊กลากผมสองคนมาด้วย โดยอ้างว่าถ้าเขาอยากเลี้ยงก็ต้องเลี้ยงทั้งหมดเฮียอยากรอดูความใจป๋าของอชิ เอาจริงๆ คือโคตรลำบากใจเลยครับไม่อยากมาแต่ก็แอบอยากกินของฟรีใกล้ชิดกับดาราดังอย่างอชิซะด้วย มารวยไม่พลาดอย่างแน่นอน

“สั่งได้เลยนะครับ” อชิยื่นเมนูมาตรงหน้าผมอย่างเจาะจง “เอ่อ...พี่บิ๊กไม่แนะนำน้องชายทั้งสองให้ผมรู้จักหน่อยเหรอครับ”

“น้องชายมีคนเดียวครับนี่น้องบุ๊ค...”

“กูขนลุกจังเฮีย” ไอ้บุ๊คพูดแทรกขึ้นมาเบาๆ เมื่อเฮียบิ๊กเรียกไอ้บุ๊คว่าน้องมันคงจะจั๊กจี้มั้งครับเพราะปรกติเห็นเรียกแต่ตี๋

“ส่วนนี้น้องรวยแฟนพี่เอง”

“คนนี้เหรอครับแฟนพี่บิ๊ก?” อชิมองหน้าแต่สายของผมดันเหลือบไปเห็นว่ามุมปากของอชิเหยียดยิ้มเล็กๆ

“ระวังเป็นข่าวนะคะเจนนี่ไม่เตือนเหรอว่ามีแฟนตอนเข้าวงการมันจะดับเร็ว” พี่ผู้จัดการที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น

“ก็ไม่เห็นจะพูดอะไรนะครับ ผมบอกตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว” เฮียบิ๊กตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “หรือพี่มีอะไรรึเปล่าครับ? เตือนผมได้นะผมยินดีรับฟัง”

“แค่คิดว่าถ้าละครออนแอร์แล้วน้องบิ๊กต้องเล่นคู่กับอชิกระแสคู่จิ้นต้องมาแน่ๆ แฟนน้องบิ๊กจะรับได้เหรอคะ”

“ผมแยกแยะระหว่างเรื่องจริงกับการแสดงออกครับพี่ ผมรับได้ถ้ามันเป็นเรื่องงาน” ผมมองหน้าพี่ผู้จัดการตรงๆ โดยที่ไม่หลบสายตา ผมไม่รู้นะว่าพวกเขาสองคนต้องการอะไรกันแน่แต่ถ้าต้องการกระแสอย่างที่ผมแอบได้ยินผมก็โอเคเพราะมันเป็นเรื่องของงาน แต่ถ้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวเมื่อไหร่อันนี้ผมคงไม่โอเค

“พี่บิ๊กได้บอกหรือเปล่าครับว่ามีเลิฟซีน บางทีมันต้องเล่นให้สมจริง” อชิพูด

“บอกครับ”

“ก็ดีครับผมไม่อยากมีปัญหาทีหลัง” อชิเหยียดยิ้มอีกครั้ง “เพราะผมเต็มที่กับทุกบทบาทอยู่แล้ว”

“ดีใจแทนเฮียว่ะที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงที่เต็มที่กับบทบาท” ถ้าให้เด็กอนุบาลหนึ่งฟังก็พอจะรู้ว่าน้ำเสียงของไอ้บุ๊คโคตรประชดประชัน “เฮียผมขอเสียมารยาทกลับก่อนได้ไหมพอดีว่ามีธุระด่วน ไปส่งผมหน่อยดิ” ไอ้บุ๊คและเฮียบิ๊กมองหน้ากันนิ่งๆ เหมือนต้องการจะสื่ออะไรสักอย่าง ทำให้เฮียบิ๊กพยักหน้าและตอบตกลง

“ผมขออนุญาตไปส่งน้องชายนะครับ ไว้คราวหน้าคงมีโอกาสได้ร่วมรับประทานกับน้องอชิอีก ขอตัวนะครับ” เฮียบิ๊กขยับเก้าอี้ลุกขึ้นก่อนที่เฮียจะยื่นมือมากุมมือของผมเอาไว้และออกแรงบีบเบาๆ

“เฮียแม่งทนได้ไงวะผมไม่ชอบหน้ามันฉิบหายเลย” เมื่อออกจากร้านอาหารไอ้บุ๊คได้ทีบ่นเต็มที่ “ดูท่าทางก็หยิ่งๆ แถมเจตนาแม่งสื่อชัดเจนสัดๆ”

“ก็เล่นตามบทไปตี๋ ว่าแต่เราโอเคไหม?” เฮียถามผม

“โอดิก็เรื่องงาน”

“ปากแข็งกูเห็นมึงตีนกระตุกตั้งแต่ที่โรงเรียนแล้ว” ไอ้บุ๊คพูดเสริม

“เฮียดีใจอีกแล้ว!! มารวยหึงบ่อยขอกอดอีกทีอดทนไม่ไหวจริงๆ จ้า” เฮียบิ๊กปล่อยมือออกจากมือผมก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดเอาไว้แน่น “ขาหายแล้ว.......คืนนี้”

“ก็ตามนั้นครับ”

“ถ้าซั่มกันผมไปนอนที่อื่นนะไม่อยากได้ยิน” ไอ้บุ๊คพูดแทรกขึ้นมาทำให้เฮียบิ๊กผลักออกจากผมมามองหน้าน้องขายของเขาแทน

“ไปนอนไหน?”

“หอเพื่อนผมก็มีเฮีย”

“แต่ตี๋มีเพื่อนแค่คนเดียวคือมารวยไม่ใช่เหรอ?” พูดแล้วก็แอบเจ็บนะครับที่มีกันอยู่แค่สองคน “ตี๋ทำตัวแปลกๆ อย่าให้เฮียรู้เฮียเอาจริงนะ มีอะไรชอบไม่บอก” เฮียบิ๊กใช้น้ำเสียงที่ต่างออกไปดูก็รู้ว่าเฮียเอาจริงตามที่พูด ก่อนที่ผมจะคบกับเฮียบิ๊กไอ้บุ๊คชอบมาเล่าให้ฟังว่าพี่ชายเป็นคนไร้สาระเจ้ากี้เจ้าการแต่เวลาเอาจริงโหดยิ่งกว่าพ่อ

“งั้นแยกกันตรงนี้เลย” ไอ้บุ๊คเตรียมจะหันหลังเดินจากไปแต่มันกลับเอี้ยวตัวมากระซิบผมเบาๆ “ไอ้รวยกูเตือนด้วยความหวังดีว่าครั้งแรกเจ็บฉิบหาย อย่าให้เฮียกูเอาแต่ใจค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนะ” ไอ้บุ๊คตบไหล่ผมแรงๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปทิ้งให้ผมยืนหน้าแดงอยู่กับเฮียบิ๊ก

“ตี๋บอกว่าอะไรทำไมเราหน้าแดงขนาดนั้นครับ?”

“ก็....ช่างมันเถอะเฮีย กลับกันเถอะครับ”

หมับ!

ยังไม่ทันที่ผมจะเดินนำไปเฮียบิ๊กรั้งแขนผมเอาไว้ให้หันหน้ากลับไปหาเขาที่ยืนอยู่ที่เดิม

“เฮียสัญญาว่าจะไม่รุนแรง เฮียทำเพราะความรักเฮียไม่ได้ทำเพราะความใคร่..เชื่อใจเฮียนะครับ” แล้วใครจะไปรอดกันครับถ้าเจอน้ำเสียงและแววตาแบบนี้ ตั้งแต่ไปเรียนการแสดงมาการใช้สายตาของเฮียบิ๊กไม่ใช่เล่นๆ เลยครับ อย่างไงคืนนี้เอาใจช่วยสำหรับครั้งแรกของผมกับเฮียบิ๊กด้วยนะครับ


#ตอนหน้ามาแน่แต่อย่าคาดหวังความอิโรติกเพราะเฮียบิ๊กมาสายตลกจ้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ต้องจัดการนังอชิ นังตัวดี~

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
 
บทที่ 14
ครั้งแรกของเราช่างหอมละมุนเหมือนขนุนสุกงอม

Maruay’ s talk

ไม่มีใครให้บ้ากว่านี้แล้วครับทุกคน ตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ หกโมงเย็นเฮียบิ๊กพาผมแวะซื้ออาหารเข้ามากินที่ห้อง หลังจากนั้นเฮียบิ๊กหายออกไปไหนไม่รู้ครับทิ้งท้ายไว้แค่ว่า

‘ขอไปหาตัวช่วยสร้างบรรยากาศก่อนนะ เดี๋ยวเฮียกลับมา’

ผมไม่รู้นะว่าคนอื่นเขาจะต้องจริงจังขนาดนี้ไหมเวลาที่เราจะมีอะไรกับใครสักคน ผมว่าผมตื่นเต้นแล้วนะแต่ยังไม่เท่าเฮียบิ๊กเพราะตลอดทางเอาแต่พูดว่าจะทำอย่างนู้นจะทำอย่างนี้โดยไม่มีท่าทีเคอะเขินอะไร หรือว่าผมควรจะเตรียมตัวสำหรับตัวเองบ้าง แล้วผมจะไปถามใครนอกจาก...

‘ไอ้รวยกูเตือนด้วยความหวังดีว่าครั้งแรกเจ็บฉิบหาย อย่าให้เฮียกูเอาแต่ใจค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนะ’

ผมพึ่งคิดได้ว่าคำพูดของไอ้บุ๊คก่อนหน้านี้ที่มันพูดกับผมมันรู้ได้อย่างไงว่าครั้งแรกเจ็บ..สมองอันน้อยนิดของผมประมวลผลทุกอย่างเข้าหากัน รอยที่ผมเห็นตามตัวสภาพร่างกายและจิตใจของมันก่อนหน้านี้ แสดงว่า! ไอ้บุ๊คเสียตัวแล้วอย่างนั้นซินะ ไม่ได้ผมต้องไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง

“ไอ้บุ๊คมึงอยู่ไหน!” ผมรีบโทรหามันทันทีที่คิดได้ไม่อย่างนั้นผมจะลืม

(ทำไม)

“บอกกูมามีเรื่องสำคัญมากๆ จะคุยด้วย”

(งั้นลงมารอข้างล่างเดี๋ยวกูไปรับ) ไอ้บุ๊คพูดแค่นั้นก่อนจะวางสายไปทำให้ผมรีบวิ่งลงไปรอด้านล่างหอโดยลืมโทรบอกเฮียบิ๊กว่าผมจะไปไหน คงไม่นานเดี๋ยวผมกลับมาขอเวลาไปศึกษาหาข้อมูลสักหน่อยแล้วจะทำให้เฮียบิ๊กประทับใจไม่รู้ลืม


10 นาทีต่อมา....

“เดี๋ยวก่อนกู..กูไม่เข้าใจ” ผมมองภาพตรงหน้าก่อนจะถามไอ้บุ๊คออกมาด้วยน้ำเสียงงงๆ ผมยอมรับเลยว่าผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ผมไม่คิดว่า....

“ก็ตามนั้น” ไอ้บุ๊คพูดด้วยท่าทางชิวๆ เหมือนไม่ได้สนใจในการตื่นตะลึงของผมสักเท่าไหร่ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเฮียบิ๊กรู้สภาพไอ้บุ๊คจะเป็นอย่างไง “อย่าบอกเฮียกูนะไอ้รวย กูขอร้อง”

“แล้วถ้าเฮียรู้เองมึงไม่โดนหนักเลยเหรอวะ”

“เอาไว้ค่อยคิดตอนนี้ไม่อยากจะคิดอะไร ส่วนมึงออกไปก่อนได้ไหมกูขอคุยกับเพื่อนกูก่อน” บุ๊คหันไปบอกเจ้าของเสื้อบอลเบอร์เก้ารวมถึงเป็นเจ้าของห้องที่บุ๊คมาขออาศัยในคืนนี้

“เพื่อนมึงก็เพื่นกู กูอยู่ฟังไม่ได้เหรอ?”

“ถ้าไม่ออกกูกลับ...”

“เออๆ คุยไป” บุ๊คยิ้มมุมปากออกมาด้วยความพอใจเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำตามอย่างว่าง่าย หลังจากที่เห็นว่าออกจากห้องไปแล้วบุ๊ครีบลุกออกไปล็อกประตูห้องก่อนจะกลับมานั่งข้างๆ มารวย

“มึง....กูถามตรงๆ นะ รอยที่อยู่บนตัวมึงคือมันทำใช่ไหมวะ?” ผมถามไอ้บุ๊คออกมาตรงๆ ยอมรับว่าตกใจแต่ก็พอจะเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคนแม้จะแปลกใจมากไปหน่อยก็ตาม

“อืม....” ผมสังเกตเห็นว่าใบหน้าของไอ้บุ๊คขึ้นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด ก็พึ่งเคยเห็นว่าไอ้บุ๊คเขินเป็นเหมือนกัน คนห่ามๆ แอบหน้าแดงก็น่ารักไปอีกแบบ แต่เดี๋ยวมารวยนั่นเพื่อนมึง

“พวกมึงรักกันเหรอวะ”

“ตอนนี้ไม่” ไอ้บุ๊คตอบกลับมาโดยที่ไม่ใช่เวลาคิดหรือไตร่ตรองสักนิด “Friend with benefit มั้ง กูไม่รู้จะหาคำจำกัดความอย่างไง กูโสดมันโสดก็ปล่อยให้เป็นเรื่องอนาคตแต่ตอนนี้ก็ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปกูไม่ซีวะ”

“ความสัมพันธ์มึงดูอินเทรนเนอะแบบใครๆ เขานิยมทำกัน” ผมเคยเห็นความสัมพันธ์แบบนี้เหมือนกันในพันทิปแต่สุดท้ายก็มีคนแพ้ภัยตัวเองถ้ามีหนึ่งคนคิดมากกว่านั้น ไม่รู้ว่าสุดท้ายไอ้บุ๊คจะเป็นเหมือนในพันทิปไหมแต่ที่แน่ๆ ถ้าเป็นมันคงจะเจ็บหน้าดูเลยครับผมอดที่จะห่วงไม่ได้ ยิ่งมันสองคนเป็นเพื่อนของผมเหมือนกัน “แต่มึงเชื่อกูดิบุ๊คว่ามันไม่น่าจะเวิร์คในระยะยาว”

“ถ้าเบื่อกูก็ไปแค่นั้น ง่ายดี”

“แต่สายตามึงไม่ได้หมายความอย่างนั้น”

“ไอ้รวยอย่าทำเป็นรู้ดี แหมพอมีแฟนแล้วเสือกทำตัวเป็นกรูรูความรักนะมึง ช่างเรื่องของกูเถอะแล้วมาเข้าเรื่องของมึงดีกว่า ไหนว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยไง”

“คืองี้นะแบบ..ที่มึงบอกกูว่าครั้งแรกเจ็บอะ”

“แล้ว?”

“มันเจ็บอย่างไงวะ แบบมดกัดไหม”

“มดก็แย่ละไอ้รวย มึงคิดตามกูนะเวลามึงขี้แล้วขี้มึงเสือกแข็งตอนที่มันออกมาครึ่งเดียวละคาตูดมึงอยู่ มึงพยายามจะเบ่งอย่างไงก็เบ่งไม่ออก นั่นแหละคือความรู้สึกแบบนั้นแต่คูณเข้าไปอีกหลายเท่าตัวเพราะมันเหมือนขี้ย้อนขึ้นอะ”

“ไอ้บุ๊คมึงเปรียบเทียบอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอวะ” ผมคิดตามที่ไอ้บุ๊คพูดอยู่ๆ ภาพน้องขี้เมื่อเช้าลอยเข้ามาในหัวของผมเลยครับ กลัวว่าภาพจะติดตาแล้วจินตนาการไปว่าขี้คืออาวุธของเฮียผมว่าถึงคราวนั้นต่อให้ปั่นอย่างไงก็ไม่มีทางขึ้นได้อย่างแน่นอน

“ก็กูคิดไม่ออก อย่าบอกนะว่าที่มึงจะปรึกษากูคือเรื่องนี้?”

“ก็ใช่ไง กูเห็นเฮียบิ๊กจริงจังแล้วกูเลยรนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไง”

“ครั้งแรกของกูยังไม่เห็นต้องเตรียมตัวเหี้ยอะไรเลย” ผมไม่ได้ยินว่าไอ้บุ๊คบ่นอะไร สงสัยจะแอบคุยกับกล้องสองแน่ๆ

“แนะนำกูที”

“ไอ้เรื่องเจ็บอะมีแน่ๆ กูไม่รู้จะแนะนำอะไรมึงจริงๆ มึงปล่อยให้เป็นไปตามสัญชาตญาณของมึงก็พอไอ้รวย ยิ่งมึงกังวลมึงจะไม่มีความสุข”

“งั้นกูกลับก่อนก็แล้วกัน”

“ไอ้รวยอย่าลืมเซฟเซ็กส์นะ” ก่อนที่ผมจะออกจากห้องไปไอ้บุ๊คทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยคซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญเอามากๆ ก่อนที่จะกลับไปห้องผมว่าผมต้องหาซื้อถุงยางไปก่อนก็แล้วกันครับ


BIG’ s talk

ผมออกมาหาซื้อเทียนหอมเอาไว้สร้างบรรยากาศเพื่อให้โรแมนติกที่สุด เด็กบื้อของผมจะต้องประทับใจกับครั้งแรกที่ผมพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด ยอมรับว่าเคยมีเซ็กส์มาแล้วก็หลายครั้งแต่ถ้ากับผู้ชายด้วยกันครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมเลย ก่อนหน้านี้ผมพยายามศึกษาข้อมูลมาอย่างละเอียดเพราะกลัวว่าตัวเองจะเผลอไปทำให้เด็กบื้อเป็นอันตราย และสิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจคือ ผมแอบไปตรวจโรค STD หรือโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาแล้วและผลตรวจของผมออกมาปลอดภัย ดังนั้นเด็กบื้อของผมไม่จำเป็นจะต้องกังวล เพราะสโลแกนของผมคือ ‘อยากมีเซ็กส์ปลอดภัยไว้ใจบิ๊ก’

“สวัสดีครับ” ผมแวะร้านยาก่อนที่จะขึ้นหอเพราะผมไม่รู้ว่าถุงยางที่มีจะหมดอายุไปแล้วรึยัง ช่วงนี้ไม่ได้ใช้นานก็ต้องซื้อใหม่ไปเลยดีกว่า

“รับอะไรดีครับ” เภสัชกรผู้ชายยิ้มรับทันทีที่ผมเดินเข้าไป

“ผมขอสอบถามได้ไหมครับว่าเอ่อ..ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันต้องใช้ถุงยางประเภทไหน เพราะปรกติผมใช้แต่แบบบางสุด” ผมถามเภสัชกรออกไปตรงๆ โดยที่ไม่มีความเขินขาย คือไม่ใช่ว่าหน้าด้านอะไรนะครับแต่การที่เรารู้จักป้องกันและสอบถามผู้เชี่ยวชาญมันก็น่าจะปลอดภัยทั้งเราและคู่นอนของเรา

“พี่แนะนำเป็นแบบหนานะครับ ถ้าตอบตามหลักวิชาการการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักมันค่อนข้างที่จะได้รับการเสียดสีมากกว่าทางช่องคลอด ถ้าเอาแบบปลอดภัยกับทั้งสองฝ่ายพี่แนะนำแบบหนาน่าจะดีกว่า” ผมยืนเลือกถุงยางอนามัยตามที่พี่เภสัชบอก

“พี่ครับแล้วพวกน้ำยาหล่อลื่นละครับ” สายตาของผมเหลือบไปเห็นน้ำยาหล่อลื่นวางเรียงรายข้างๆ ถุงยางอนามัยซึ่งมันมีหลายยี่ห้อและผมคิดว่ามันต้องใช้ เพราะทางด้านหลังหรือทวารหนักไม่มีน้ำหล่อลื่นเหมือนของผู้หญิงดังนั้นผมควรซื้อติดไปดีกว่า

“แนะนำเป็นยี่ห้อที่วางขายเลยครับอันนี้สำหรับหล่อลื่นโดยเฉพาะ บางคนอาจจะคิดว่าใช้โลชั่นก็ได้ใช้น้ำมันทาตัวก็ได้ พี่บอกตรงนี้เลยนะครับว่าไม่ควร เช่น โลชั่นทาผิว น้ำมันพืช เพราะจะทำให้ถุงยางรั่วหรือแตกได้” ผมพยักหน้าตามคำแนะนำของพี่เภสัชก่อนจะหยิบเอาของที่เลือกมาวางไว้เพื่อชำระเงิน

“เท่าไหร่ครับพี่” ผมหยิบกระเป๋าเงินออกมาเตรียมจ่ายเงิน

“พี่ขออนุญาตแนะนำอีกอย่างนะครับถ้าเป็นครั้งแรกจะค่อนข้างเจ็บและเสียดบางทีอาจจะทำให้มีเลือดออกมาได้ พี่ว่าน้องควรซื้อยาแก้ปวดหรือยาทาแก้แผลถลอกไปด้วยดีกว่า อ่อ อีกอย่างคือร่างกายบางคนอาจจะไม่คุ้นชินอาจทำให้ไม่สบายได้พี่แนะนำเป็นยาลดไข้และเจลไปด้วยดีกว่า”

“งั้นพี่จัดมาเลยครับ ผมเอาหมดตามที่พี่แนะนำเลย” พี่เภสัชพยักหน้าและหันกลับไปเตรียมยาและของต่างๆ ที่เขาแนะนำผมในตอนแรก “พี่ครับผมขอถามอีกอย่างคือทั้งหมดนี่ปลอดภัยในระดับหนึ่งเลยใช่ไหมครับ”

“แน่นอนครับ พี่ขอชื่นชมนะที่น้องไม่อายที่จะถามเพราะบางคนมาถึงก็ซื้อๆ กลับมาซื้ออีกทีก็ซื้อไปผิดๆ มีเซ็กส์มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ที่น่าอายก็คือคนที่ไม่เซฟเซ็กส์”

“คมมากพี่ ไว้จะมาอุดหนุนอีกนะครับ” ผมจ่ายเงินเสร็จและนำของทุกอย่างออกมาจากร้านและตรงขึ้นห้องไปอย่างมีความสุข หวังว่าทั้งหมดที่ผมทำเด็กบื้อจะมีความสุขที่สุดเท่าที่ผู้ชายอย่างผมจะทำให้ได้นะครับ


Maruay’ s talk

ผมก้มมองถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นรวมถึงยาแก้ปวดต่างๆ ในมือพรางถอนหายใจและคิดกับตัวเองว่า คืนนี้ผมจะต้องเสียตัวแล้วใช่ไหม แต่เราไม่ได้เสียตัว..เราแค่มอบความสุขให้กับคนที่เรารัก ผมพยายามย้ำกับตัวเอง ในเมื่อผมรักเฮียบิ๊กสิ่งที่ผมจะสามารถทำให้เฮียได้ก็คือการมอบความสุขให้แก่กัน ผมเชื่อว่าเฮียบิ๊กไม่ใช่คนที่จะเอาความสุขเข้าตัวเองแค่ฝ่ายเดียวอย่างแน่นอน

ผมเปิดประตูห้องเข้ามาทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมแสดงว่าเฮียบิ๊กยังไม่กลับมาแน่ๆ งั้นตอนนี้ผมขออนุญาตไปอาบน้ำและชำระร่างกายให้สะอาดก่อนนะครับ

ซ่า

บิ๊กที่พึ่งกลับเข้ามายิ้มทันทีที่ได้ยินเสียงน้ำไหลในห้องแสดงว่าตอนนี้เด็กบื้อของเขากำลังอาบน้ำอยู่แน่ๆ ทำให้ตอนนี้บิ๊กรีบวางของทุกอย่างและถอดเสื้อผ้าเตรียมเข้าไปอาบน้ำพร้อมกับเด็กบื้อด้านใน

แกรก

บิ๊กยิ้มออกมาทันทีที่เขาหมุนลูกบิดเข้าไปในห้องน้ำได้อย่างง่ายดาย แสดงว่าเด็กบื้อเองก็แอบหวังให้เขามาอาบน้ำด้วยแบบนี้ไม่อย่างนั้นคงไม่ชี้โพรงให้กระรอกอย่างเขาแน่ๆ บิ๊กเดินเข้าไปด้านในห้องน้ำด้วยความเบาที่สุดและเห็นว่าตอนนี้มารวยกำลังอาบน้ำสระผมโดยหันหลังให้เขา ทำให้ตอนนี้สายตาของบิ๊กสะดุดเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่ดึงดูดสายตาของเขาสนไม่สามารถละออกไปได้ง่ายๆ ร่างกายของมารวยไม่ใช่ตัวผอมบางแต่ออกไปทางนักกีฬาเพียงแค่ว่าอาจจะดูตัวเล็กไปกว่าเขาเล็กน้อย ผิวสีแทนที่บ่งบอกว่าผ่านการออกแดดมาค่อนข้างเยอะทำให้เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดมากยิ่งขึ้น บิ๊กรอบกลืนน้ำลายพร้อมกับขยับเข้าไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง ลมหายใจร้อนๆ เป่ารดอยู่ต้นคอทำให้คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าหันกลับมาด้วยความตกใจทันที

“เฮีย..มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมชะงักเล็กน้อยที่หันกลับไปและพบว่าเฮียบิ๊กยืนซ้อนอยู่ด้านหลังของผม ใบหน้าของเฮียบิ๊กแดงเล็กน้อยแต่สิ่งที่ทำให้ผมสะดุดตาคือ..นัยน์ตาของเฮียบิ๊กที่ไม่สามารถปิดบังความต้องการของตัวเองได้อีกต่อไป

“สักพักแล้วครับ” เฮียบิ๊กเอื้อมมือมาจับไหล่ของผมเบาๆ ก่อนจะออกแรงดึงให้ผมขยับเข้ามาใกล้เขามากยิ่งขึ้นจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

“อาบน้ำก่อนไหม” ผมพยายาควบคุมเสียงของตัวเองให้เป็นปรกติมากที่สุด ไม่อยากให้เฮียรู้ว่าผมกำลังตื่นเต้นและมีอารมณ์เมื่อหางตาของผมดันไปหยุดอยู่ที่อาวุธของเฮียที่กำลังขยายตัว อย่าว่าแต่ของเฮียเลยของผมเองก็ขยายตัวไม่แพ้กันเพียงแต่ว่าไม่ขยายสุดแล้วก็ไม่เท่าของเฮียก็เท่านั้น แอบเสียใจผมว่าครั้งหน้าผมต้องแอบไปซื้อน้ำมันจิ้งหรีดมาขยายของตัวเองให้เท่าเฮียบิ๊กดีกว่า มันคือศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายฆ่าได้หยามได้ถ้าใหญ่กว่า แฮร่!

“ขออนุญาตอาบให้แฟนนะครับ” เฮียบิ๊กก้มลงมากดจูบที่เนินไหล่ของผมเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปกดปั๊มสบู่เหลวที่วางอยู่ข้างๆ มาถูให้เป็นฟองก่อนที่จะชโลมบนตัวของผมเบาๆ ไล่ตั้งแต่ลำคอคงมายังหัวไหล่และวนอยู่ที่บริเวณหน้าอกของผม กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายและปลดปล่อยอารมณ์ให้เป็นธรรมชาติไม่ว่าเฮียบิ๊กจะสัมผัสส่วนไหนของผมก็ตาม “ถึงเฮียไม่มีสบู่ก้อนให้ก้มเก็บแต่เฮียก็ทำให้เราฟินได้นะครับ” จากที่หลับตาด้วยความฟินตอนนี้ผมลืมตาทันทีเพราะคำพูดเสี่ยวๆ ของเฮีย

“เฮียบิ๊กถ้าเฮียพูดเสี่ยวๆ ผมอาจจะหมดอารมณ์ก็ได้นะ”

“ถ้าอย่างนั้นปากเฮียต้องไม่ว่างใช่ไหมครับ?”

“ครับ”

“งั้น....ทำอะไรก็ได้ให้ปากเฮียไม่ว่างหน่อยซิครับเด็กบื้อ” ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไรให้ปากเฮียบิ๊กไม่ว่างสิ่งที่ผมคิดได้ตอนนี้แล้วไม่น่าจะแปลกคือการประกบจูบเฮียบิ๊กด้วยปากของผมแทน แค่นี้ก็ทำให้ปากเฮียไม่ว่างพูดจากเสี่ยวๆ แล้ว แต่เปลี่ยนเป็นเสียวแทน ผมลองเลียนแบบหนังที่เคยดูโดยการเลื่อนมือของตัวเองขึ้นมาลูบไล้และไล่ตามร่างกายของเฮียบิ๊ก ไม่ว่าจะลากไปยังบริเวณไหนส่วนนั้นของเฮียจะกระตุกรับทุกที ด้วยความที่ผมได้ใจยิ่งทำให้ผมสัมผัสมันมากขึ้นจนกระทั่งเฮียบิ๊กถอนริมฝีปากของออกจากผมช้าๆ

“ถ้าเรากระตุ้นแบบนี้...เฮียจะไม่ไหวแล้วนะครับ” เฮียบิ๊กจับมือของผมที่เล่นอยู่บริเวณส่วนนั้นของเขาออกและทำสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าเฮียบิ๊กจะกล้สทำแบบนี้...

“เฮีย....” เฮียบิ๊กคุกเข่าลงตรงหน้าผมพร้อมกับใช้มือของเขาจับเข้ามาที่มารวยน้อยของผมที่กำลังตื่นเต้นกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็มีแค่น้องอุ้มที่ทำให้ผมฟินแต่ครั้งนี้...เฮียบิ๊กให้มากมากกว่าน้องอุ้ม เพราะหลังจากที่เฮียใช้มือขยับไปมาจนได้ที่ เฮียบิ๊กเงยหน้าขึ้นมามองผมเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่ผมมั่นใจว่าทุกคนต้องไม่เคยเห็นและจินตนาการไม่ออก รอยยิ้มและสายตาของเฮียสื่อว่าจะรักและดูแลผมตลอดไป อารมณ์เหมือนผมกำลังถูกขอแต่งงานแต่...มันไม่ใช่แม้ว่าคุกเข่าเหมือนกันก็ตาม

“เฮียให้เราได้มากกว่านี้” สิ้นเสียงปากของเฮียบิ๊กค่อยๆ ครอบลงมาที่บริเวณส่วนนั้นของผมอย่างช้าๆ ทันทีที่ลิ้นของเฮียสัมผัสกับจุดอ่อนไหว ผมไม่สามารถที่จะยืนด้วยตัวเองได้อีกต่อไปมันให้ความรู้สึกเหมือนจะเป็นลม เป็นลมแห่งความปรารถนา

“เฮีย....” ผมใช้สองมือเกาะไหล่เฮียบิ๊กเพื่อให้สามารถทรงตัวต่อไปได้ โดยที่เฮียบิ๊กยังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิม ผมไม่รู้นะว่าเฮียบิ๊กทำได้อย่างไง แต่ผมว่ามันก็คงเหมือนกินไอศกรีมแท่ง ยามที่ลิ้นลากตามความยาวตัวของผมกระตุกอย่างที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ผมยอมรับเลยว่าอารมณ์ตอนนี้ผมมีความสุขเอามากๆ เลยแหละครับ อย่างนี้นี่เองที่เขาเรียกว่าฟิน

“ผมทำให้นะ” ผมถอยหลังออกมาเล็กน้อยก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าเฮียบิ๊ก ค่อยๆ ก้มหน้าลงไปยังบริเวณนั้นซึ่งเฮียบิ๊กเองอยู่ในท่าคุกเข่าอยู่เหมือนกัน เฮียบิ๊กโน้มตัวลงมาดูดเม้มที่ซอกคอของผม ซุกไซ้จนเขาเองพอใจ จังหวะที่ผมกำลังจะเงยหน้าออกจากส่วนนั้นเฮียบิ๊กกลับทิ้งตัวลงมาเอื้อมมือของเขามาบีบคลึงบริเวณบั้นท้ายของผมเบาๆ

“เจ็บบอกนะ” เฮียบิ๊กยังคงใช้สองมือบีบเค้นอยู่บริเวณบั้นท้ายของผมเบาๆ ก่อนที่จะใช้นิ้วมือของเฮียสอดแทรกเข้ามาบริเวณรอยแยก

“จูบก่อน” ปรกติผมไม่เคยขอเฮียบิ๊กจูบ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาปรกติทำให้ผมกล้าที่จะเอ่ยปากขอเฮียบิ๊กออกมาตรงๆ จังหวะที่ผมเอ่ยขอมือของเฮียบิ๊กชะงักจากส่วนของบั้นท้ายทันที

“ยั่วเฮียนะครับ...” มือใหญ่ของเฮียบิ๊กกุมใบหน้าของผมเอาไว้ก่อนจะโน้มหน้าลงมาจนจมูกของเราสองคนสัมผัสกันเบาๆ

“ไม่ให้ยั่วเฮียจะให้ผมไปยั่วใครละครับ”

“ปากดีแบบนี้ต้องกัดปากทำโทษ” เฮียบิ๊กกัดริมฝีปากของผมเบาๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บมากแต่ตรงกันข้ามมันเพิ่มความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทน มือของผมโอบรอบคอของเฮียบิ๊กเอาไว้ทันทีที่เฮียจู่โจมเป็นจูบที่ร้อนแรงบดเบียดร่างกายของเขาเข้ามาสัมผัสกับร่างกายของผม ห้องน้ำที่เคยเย็นสบายเวลานี้กลับร้อนเป็นไฟเพราะความร้อนแรงของเราสองคน ร่างกายของผู้ชายมันก็สามารถกระตุ้นอารมณ์ทางเพศไม่แพ้ร่างกายของผู้หญิงเลยครับ วันนี้ผมพิสูจน์แล้ว...

“ไปข้างนอกนะ” เฮียบิ๊กละริมฝีปากออกมาพูดกับผมก่อนจะก้มลงบดจูบเหมือนเดิมโดยใช้สองแขนแข็งแกรงอุ้มผมขึ้นจากพื้นห้องน้ำ ขาของผมเกี่ยวรอบตัวของเฮียบิ๊กโดยอัติโนมัติสองมือยังคงโอบรอบคอเอาไว้ไม่คลายออก จนกระทั่งเฮียบิ๊กค่อยๆ วางร่างของผมลงบนเตียง

“เฮีย..” ผมไม่รู้ว่าน้ำเสียงของผมมันออกมาโทนเสียงแบบไหนแต่ที่แน่ๆ สายตาของผมมันน่าจะบอกเฮียได้ชัดเจนแล้วว่าผมต้องการเฮียมากๆ

“แปบนะครับ” เฮียบิ๊กเดินเปลือยเปล่าไปที่ลิ้นชักโต๊ะก่อนจะหยิบเอาถุงร้านขายยาร้านเดียวกับที่ผมไปซื้อออกมา “อยากใส่ให้หรือให้เฮียใส่เอง” เฮียบิ๊กยกกล่องถุงยางขึ้นมา

“สักครั้งกับเฮียคงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ” ผมลงจากเตียงเดินเข้าไปหาพร้อมกับแย่งถุงยางจากมือเฮียบิ๊กก่อนจะใช้ปากกัดโดยที่สายตาของผมมองไปยังเฮียบิ๊กพยายามจะทำออกมาให้ดูเซ็กซี่มากที่สุดเท่าที่นักกีฬาฟุตบอลมหาวิทยาลัยจะทำได้

แควกกกกก

“......”

“......” เราสองคนต่างมองหน้ากันอยู่อย่างนั้นเมื่อผมกะระยะผิดไปเพราะฟันของผมฉีกเข้าที่เนื้อถุงยางจนมันโดนที่ฟันของผม

“เอาใหม่ก็ได้ครับ เฮียรู้เราเขิน” เฮียบิ๊กยิ้มปลอบใจพร้อมกับลูบศีรษะของผมเบาๆ “มืออย่าสั่นซิ”

“เฮียอย่าเร่งผม” ผมกัดใหม่อีกรอบแต่รอบนี้ไม่พลาดอย่างแน่นอนเพราะผมกัดระยะที่ไม่น่าจะโดนถุงยาง ถุงยางก่อนหน้านี้จะใช้ก็ได้นะครับเพราะมันไม่ขาดแต่ผมก็กลัวว่ามันจะถลุ ดังนั้นเอาอันใหม่ดีกว่าปลอดภัยไว้ก่อน หลังจากที่กัดถุงยางออกจากซองแล้วผมค่อยๆ ก้มลงอีกครั้งพร้อมกับใช้มือมือจับบริเวณอาวุธของเฮียถูมันเบาๆ จนได้ที่ก่อนจะค่อยๆ สวมลงไปอย่างช้าๆ แต่ยังไม่ถึงโคนผมกดบีบบริเวณส่วนหัวเอาไว้เพื่อไล่อากาศออก ศึกษามาดีครับว่าถ้าไล่อากาศออกจะทำให้ถุงยางมีโอกาสแตกน้อยลง

“เก่งมากครับเด็กดี” เฮียบิ๊กลูบศีรษะของผมเบาๆ หลังจากที่ผมสวมให้เฮียบิ๊กเสร็จ

“ผมอยากรุกเฮียบ้าง”

“ได้ดิ” ผมยิ้มออกมาทันทีที่เฮียบิ๊กตอบตกลง “แต่ต้องรอเดือนกุมภามีสามสิบวันก่อนนะแล้วเฮียจะไม่ขัด..อื้ม” เฮียบิ๊กใช้สองมือของเขาพยุงตัวผมให้ลุกขึ้นก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบผมอีกครั้ง บริเวณนั้นของเราสองคนเสียดสีกันจนผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัส

“อื้อ...เฮียบิ๊กครับ อื้ม” ผมทิ้งตัวลงจนหลังสัมผัสลงบนเตียงนุ่มๆ โดยมีเฮียบิ๊กตามลงมาประกบไม่ห่าง เราสองคนบดจูบกันอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งผมรับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่ดันอยู่บริเวณด้านล่างของผม

“เฮีย...ขออนุญาตเข้าไปในตัวเรานะครับเด็กบื้อ” ผมพยักหน้าตกลงก่อนจะหลับตาและผ่อนลมหายใจออกมาพยายามไม่เกร็งเมื่อรู้สึกอะไรบางอย่างที่พยายามดันเข้ามาด้านใน แม้จะไม่ใช่อาวุธของเฮียแต่มันก็ค่อนข้างใหญ่อยู่เหมือนกัน ผมแอบลืมตาขึ้นมาและเห็นว่าสิ่งนั้นคือนิ้วมือของเฮียบิ๊กที่สอดเข้ามาด้านในของผมเล็กน้อยขยับเข้าอยู่อย่างนั้น สัมผัสเย็นๆ ของเจลหล่อลื่นบวกกับการเสียดสีของนิ้วมือเฮียบิ๊กทำให้ผมหยุดครางออกมาอย่างลืมตัว

“ผมพร้อมแล้ว..” เฮียบิ๊กดึงนิ้วมือที่แช่อยู่ด้านในตัวของผมออกก่อนจะประคองอาวุธจ่อเข้ามาบริเวณด่านแรก ผมกัดปากตัวเองทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บขึ้นมาแปลกๆ ขนาดยังไม่เข้ายังรู้สึกเจ็บขนาดนี้ถ้าเข้าไปหมดผมไม่อยากจะคิดถึงตอนนั้นเลยครับ..

“ถ้าเจ็บกัดนิ้วเฮียนะครับ” เฮียบิ๊กใช้นิ้วมือลูบบริเวณริมฝีปากของผมเบาๆ “กัดมาเลยเฮียไม่เจ็บ เฮียรู้ว่าเราเจ็บมากกว่า” ผมอ้าปากออกและปล่อยให้นิ้วของเฮียบิ๊กสอดแทรกเข้ามาด้านในริมฝีปากของผม จากตอนแรกหวังว่าจะกัดเพื่อระบายอารมณ์แต่ตอนนี้ผมดันเลียนิ้วเฮียเพื่อระบายอารมณ์แทน

“อิตะดะคิมัส”

“ผมต้องพูดว่า อิรัชชัยมาสะไหมครับ...อื้มมมม”

“พูดว่า...โออิชิคูนาเนะ โมเอะโมเอะ บีมมมม” ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้ควรรู้สึกอย่างไรเมื่ออาวุธของเฮียเข้ามายังด่านสุดท้ายของผมเป็นที่เรียบร้อย ถามว่าเจ็บไหมก็เจ็บครับแต่ถ้าทุกคนเจอ อิตะดะคิมัสกับโออิชิคูนาเนะ โมเอะโมเอะ บีมของเฮียบิ๊กเข้าไปทุกคนจะลืมความเจ็บไปเลยครับ ผมยืนยันในส่วนนี้

“くせになるおいしさですね” และผมก็ไม่สามารถแปลได้ออกว่าเฮียบิ๊กพูดว่าอะไรเพราะหลังจากนั้นความเจ็บเข้ามาแทรกซึมทุกอณูเมื่อเฮียบิ๊กเริ่มขยับตัว....

“เฮีย....”

“เฮียรักเรานะมารวย”

“มารวยก็รักเฮียบิ๊กครับ....” บอกผมทีว่าสายตาตอนนี้ของเฮียบิ๊กตอนนี้สุขใจแค่ไหน ผมอยากบอกรักเป็นร้อยครั้งแต่แค่ครั้งเดียวผมก็เขินมากขนาดนี้.. เอาไว้ค่อยบอกอีกทีครั้งหน้าก็แล้วกัน

“บราโว” ไม่ใช่เสียงของผมแต่ทุกคนน่าจะรู้ว่าใคร...รักนี้หลากหลายภาษาเหลือเกินครับ


#ชอบNCแบบนี้ไหมอ่า ไรท์พยายามแล้วแต่ทำได้แค่นี้อ่ะตัวเองงงงง
#ส่วนอิพี่เข้าเมคค่าเฟ่ต์บ่อยเลยติดมาใช้กับแฟนเพื่อเพิ่มความอร่อย

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3
 
Special : สัมภาษณ์สุด exclusive กับน้องบิ๊กจากซีรีส์สุดปัง “รักครั้งนี้ในคืนหมาหอน”

พราว : สวัสดีค่ะวันนี้ทางเราได้รับเกียรติจากน้องบิ๊ก ดาวรุ่งดวงใหม่ของค่ายดาวบ้านดอนนะคะซึ่งเป็นค่ายที่มีนักแสดงวัยรุ่นหน้าตาดีเป็นจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาทางนิตยสารพราวขออนุญาตเจาะลึกถึง lifestyle ของน้องบิ๊กกันเลยดีกว่า ขออนุญาตเชิญน้องบิ๊กแนะนำตัวเองเลยค่ะ

กล้องตัดภาพมาที่บิ๊กนั่งอยู่ที่พื้นของคาเฟต์แมวสุดชิคโดยมีเจ้าแมวเปอร์เซียร์หน้าหยิ่งนั่งอยู่บนตักของเขาเพื่อเสริมภาพลักษณ์เป็นผู้ชายรักสัตว์แต่ทางทีมงานหารู้ไม่ว่าบิ๊กแพ้ขนสัตว์โดยเฉพาะแมว แต่ด้วยสปีรีดของนักแสดงทำให้บิ๊กปั้นยิ้มให้เข้ากับลุครักสัตว์ให้มากที่สุด

บิ๊ก : สวัสดีครับผมบิ๊ก บริบทครับ หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ “โต้ง” พระเอกของซีรีส์เรื่องรักครั้งนี้ในคืนหมาหอนที่ได้มีโอกาสเล่นคู่กับน้องอชิครับ ยินดีมากที่ได้มาสัมพันธ์กับนิยาสารพราว

บิ๊กลุกขึ้นออกจากคาเฟ่ต์แมวโดยที่มีกล้องคอยจับภาพอยู่ ส่วนทีมงานของนิตยสารทำหน้าที่ในการเดินสัมภาษณ์ในบริบทเดินชมสิ่งของที่จัดแสดงโชว์ในห้าง

พราว : ช่วยเล่าถึงความประทับใจในการรับบทเป็นโต้งในซีรีส์หน่อยค่ะน้องบิ๊ก

บิ๊ก : ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าโต้งในเรื่องบุคลิกค่อนข้างขัดกับนิสัยจริงของผมอย่างมากเลย เพราะผมเนี่ยเป็นผู้ชายอ่อนโยน เรียบร้อย นิสัยดี แต่โต้งคือตรงกันข้าม ชนิดที่ว่าผมเองก็ไม่ค่อยชินกับนิสัยอันธพาล หยาบคาย อยากได้อะไรก็ต้องได้ ซึ่งชีวิตจริงผมแล้วผมค่อนข้างที่จะรักษาศีลห้ามากๆ เลยครับ

พราว : แต่น้องบิ๊กกำลังผิดศีลข้อสามนะคะ

บิ๊ก : ผมยังไม่ได้ฆ่าสัตว์เลยนะครับ

พราว : ฆ่าสัตว์นั่นข้อห้าค่ะน้องบิ๊ก น้องบิ๊กตลกจังเลยนะคะ

บิ๊ก : ผมว่านะครับพี่ตลกกับโง่มีเส้นบางๆ กั้นกันอยู่เล็กน้อย ส่วนผมน่าจะอยู่กลางๆ นั้นมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

พราว : น้องบิ๊กไม่ได้โง่ค่ะ อาจจะแค่ไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องนี้สักเท่าไหร่

บิ๊ก : แต่ปลายทางคือโง่เหมือนกันนะครับพี่ / คิดในใจเหมือนกูโดนทีมงานหลอกด่าเลย

พราว : แล้วได้ร่วมงานกับน้องอชิเป็นอย่างไงบ้างคะ

บิ๊ก : ดีมากเลยครับน้องเขาเป็นงานมากกว่าผมเยอะ มีน้องอชิคอยช่วยแนะนำแล้วก็เข้าบททำให้ผมสามารถเล่นออกมาได้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น

พราว : ได้ข่าวว่ามีกระแสคู่จิ้น “บิ๊กชิ” เต็มโซเชียลเลยถึงขนาดที่แฟนๆ ทำป้ายไปติดตามแนวรถไฟฟ้า น้องบิ๊กรู้สึกอย่างไงบ้างคะ

บิ๊ก : ขออนุญาตพูดไม่สุภาพนะครับคือโคตรดีใจเลยที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ จากน้องๆ พี่ๆ แฟนคลับ แต่ที่เป็นกังวลคือไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อนในการโดเนทเงินสักเท่าไหร่อะครับผมเกรงใจ อีกอย่างเลยคือแค่ชอบผลงานของผมก็ดีใจมากๆ แล้วครับ

พราว : ถ้าปิดกล้องไปแล้วน้องบิ๊กยังสนใจงานในวงการบันเทิงอยู่รึเปล่าคะ

บิ๊ก : ก็ถ้ามีผู้ใหญ่ให้โอกาสเด็กผู้ชายตาดำอย่างผมก็ต้องขอรับไว้อย่างแน่นอนครับ

บิ๊กเดินเข้ามาด้านในโซนเสื้อผ้าแบรนด์ดังตามที่ทีมงานบรีฟก่อนจะหยิบเสื้อโคทสีครีมขึ้นมาทาบตัวและหันมาทางกล้อง

บิ๊ก : เหมาะกับผมไหมครับ ใส่แล้วดูเป็นผู้ชายเมืองหนาวเลย

พราว : ผู้ชายเมืองหนาว? พี่คิดถึงผลไม้เมืองหนาวเลยนะคะน้องบิ๊ก

บิ๊ก : ก็ไม่ต่างกันครับพี่ถ้าให้เปรียบเทียบผมก็คงจะเป็นสตอเบอร์รี่บนภูทับเบิกไม่หนาวมาก ลูกไม่ใหญ่ เปรี้ยวๆ อมหวาน เหมือนบิ๊กมากเลยครับ

พราว : แฟนๆ คงอยากจะชิมสตอเบอร์รี่ลูกนี้กันแล้วค่ะ น้องบิ๊กเล่นโฆษณาตัวเองขนาดนี้

บิ๊ก : คงต้องจองกันก่อนนะครับ เพราะว่าสตอเบอร์รี่ลูกนี้มีเจ้าของแล้ว :P เดี๋ยวผมไปลองชุดก่อนนะครับ เดี๋ยวใส่มาให้ชมกัน

บิ๊กเดินหายเข้าไปพร้อมกับชุดมากมายที่เลือกไประหว่างสัมภาษณ์ก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดแรก Mix and Match เสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงยีนเข่าขาดตามกระแสนิยม โดยออกมาโพสท่าสองสามท่าก่อนจะเดินหายกลับเข้าไปเปลี่ยนเป็นสไตล์ที่สองที่ออกมาเสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงผ้าชิโน กางเกงผ้าชิโน เป็นกางเกงที่สวมใส่สบาย ใส่ง่าย สามารถใส่ได้ทั้งวันสบายๆ ลุค Casual หรือจะเป็นลุคกึ่งทางการก็ยังดูดี ส่วนลุคสุดท้ายสวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มด้านในมีโค้ทสีครีมสว่างด้านนอกพร้อมกับกางขาเต่อสุดชิค

บิ๊ก : เราจะออกไปเดินช้อปต่อด้วยลุคนี้ใช่ไหมครับพี่

พราว : ค่ะ ออกไปตามสไตล์หนุ่มเมืองหนาว น้องบิ๊กหิวหรือยังเอ่ยงั้นเราไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านสเตกกันดีกว่านะคะเพื่อเข้ากับลุควันนี้ของน้องบิ๊ก

บิ๊ก : หนุ่มเหนือไม่ได้ทานพวกแกงโฮะ ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม อย่างนั้นเหรอครับ

พราว : เหนือแบบผู้ดีลอนดอนอะคะน้องบิ๊ก

บิ๊ก : ทิ้งทายด้วยการไปนั่งจิบชากับมากอรองด้วยนะครับพี่

พราว : จัดไปเลยค่ะ

บิ๊กเดินล้วงกระเป๋าเข้าไปด้านในร้านที่เซ็ตเมนูหลากหลายไว้บนโต๊ะ บิ๊กเดินเข้าไปนั่งประจำที่พร้อมกับตัดเนื้อสเตกเข้าปากด้วยสีหน้ามีความสุข

บิ๊ก : อร่อยมากเลยครับเนื้อค่อนข้างนุ่มแล้วผมก็ชอบแบบมิเดียมๆ แบบนี้เลย จิบไวน์องุ่นเป็นอะไรที่เข้ามากเลยครับ

พราว : อยากทราบถึงสเปคในดวงใจของน้องบิ๊กหน่อยค่ะ

บิ๊ก : ผมไม่มีสเปคหรอกครับแค่เข้าใจกันก็ไปกันได้แล้ว อย่าง...ไม่บอกดีกว่าครับ ^^

พราว : น้องบิ๊กฝากผลงานหน่อยค่ะและก็ช่องทางติดต่อให้แฟนคลับได้เข้าไปติดตาม

บิ๊ก : ฝากผลงานซีรีส์เรื่องรักครั้งนี้ในคืนหมาหอนด้วยนะครับ ออนแอร์ทางไลน์ทีวีทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ ส่วนช่องทางติด BIG_BIGnarakอย่าแสดงเมลบนบอร์ด นะครับ ส่งเมลล์มาพูดคุยกันได้


ติ๊ด!

“เฮียสัมภาษณ์ได้เหี้ยมาก” บุ๊คกดปิดยูทูปทันทีที่จบคลิปก่อนจะหันมามองหน้าพี่ชายของตัวเองที่ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ

“เหี้ยตรงไหนตี๋”

“ตรงที่ให้อีเมลล์อ่ะ ถามจริงคิดอะไรอยู่วะตอนนั้น”

“ให้ตอบตามตรงคือเฮียจำชื่อเฟซชื่อไอจีไม่ได้จำได้แต่เมลล์ก็เหมือนกันแหละ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนส่งมาเยอะขนาดนี้นี่ตอบไม่หมดเลย” บิ๊กยื่นไอแพดที่เปิดหน้าเมลล์ค้างเอาไว้อยู่ให้น้องชายดู

“สงสารทีมงานฉิบหายเลยเฮีย แล้วไอ้ที่บอกว่ารักษาศีลห้าคือโชว์โง่ไปอีก ข้อสามไปถามเด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าพูดปลด” บุ๊คพูดออกมาอย่างหงุดหงิดกับบทสัมภาษณ์พี่ชายไม่หาย

“เด็กอนุบาลรู้แต่เด็กมหาลัยอย่างเฮียไม่รู้ ก็ตอบเท่ๆ ไปงั้นแหละ” บิ๊กไม่สนใจน้องชายของตัวเองแต่หันกลับมาตอบแฟนคลับด้วยท่าทางเมามันที่ได้มีโอกาสตอบแทน แม้จะเป็นเพียงแค่ตอบกลับข้อความเล็กๆ น้อยๆ แต่เขาก็อยากที่จะลงมือตอบเอง

“เฮีย...กลับไปเป็นวิศวะเหมือนเดิมเถอะ ผมว่ารุ่งกว่า”

“ก็อยากจะกลับอยู่ แต่พอดีความสามารถค่อนข้างเยอะเลยบริหารจัดการไม่ค่อยถูก”

“หมั่นไส้ฉิบหาย พี่ชายใครวะ”

“พี่ตี๋ไง น้องรัก^^”

“ขนตูดลุกซู่เลย”

#รักเฮียรีวิวให้เฮียด้วยได้เป่าาาาาาาาาา

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เฮีย!!!แบบนี้ก็ได้หรอ..เฮียสายฮาและไม่เต็มมาก  :m20:

ชอบมารวยเวลานางไฝว้กับนางมารร้าย...ทันคนดี  o13

ตามต่อจ้า

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 15
น้องกับแฟนน้องกับแฟนน้องกับแฟน เฮีย....??

Maruay’ s talk

ตอนนี้ผมนอนมองเพดานอยู่อย่างนั้นหลังจากที่จบกิจกรรมไปเพียงแค่หนึ่งยก ส่วนเฮียบิ๊กหายเข้าไปในห้องน้ำเพราะอารมณ์ที่ค้างอยู่ ถามว่าสงสารไหมผมก็สงสารนะครับแต่ร่างกายผมไม่ไหวจริงๆ มันเจ็บเหมือนจะฉีกขาดออกมา แม้ว่าเฮียบิ๊กจะหลอกล่อความเจ็บด้วยความตลกแต่พอหายตลกก็เจ็บอยู่ดี

“เด็กบื้อครับ..” เฮียบิ๊กกลับออกมาพร้อมกับกะละมังใส่น้ำ “เฮียเช็ดตัวให้นะ เดี๋ยวมากินยากันไว้ก่อนนะ” ผมยันตัวลุกขึ้นมากินยาที่เฮียบิ๊กป้อน โชคดีที่ใช้ถุงยางไม่อย่างนั้นเหนอะหนะน่าดู

“ผมโอเคเฮียแค่รู้สึกเจ็บแล้วก็เพลียๆ นิดหน่อย ที่เหลือโอเคมาก”

“แกล้งๆ อ่อนแอหน่อยก็ได้นะอยากจะดูแล” เฮียบิ๊กทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ผมพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดตามร่างกายอันเปลือยเปล่าของผมด้วยความเบามือ

“เฮียทำให้ผมติดเฮียนะรู้ไหม”

“รู้ ก็ทำให้ติดอยู่นี่ไง” เฮียบิ๊กพูดพร้อมกับตั้งใจเช็ดตัวผมไปด้วย “กำลังกังวลอะไรอยู่เหรอครับ”

“ผมแค่คิดว่าถ้าวันหนึ่งเฮียทิ้งผมไป....” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบเฮียบิ๊กกลับใช้นิ้วมือของเขามาแตะที่ริมฝีปากของผมไว้เบาๆ
 
“ไม่มีวันนั้นแน่นอน นอกจากเราจะเป็นฝ่ายทิ้งเฮียไป”

“จะคอยดูนะเฮีย” ผมทิ้งตัวลงนอนด้วยความเพลียและหลับลงไปในที่สุด

เฮียบิ๊กครับผมมีความสุขที่สุดในโลกเลย......^^


Book’ s talk

“มึงโอเคไหม?” ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าห้องของเฮียบิ๊กเพราะต้องการพิสูจน์ใจตัวเองโดยมีไอ้เวรนี่ขึ้นมาเป็นเพื่อนและอ้างกับมันว่าจะมาเอาของที่ห้อง ผมภาวนาว่าอย่าให้เฮียบิ๊กได้ยินไม่อย่างนั้นจบเฮแน่ และสิ่งที่ผมภาวนาก็เป็นจริงเพราะทันทีที่เข้ามาด้านในเสียงของเฮียบิ๊กและเพื่อนรักของผมกำลัง..มีความสุขกันอยู่ ในฐานะน้องชายและเพื่อนสนิทผมควรจะดีใจอย่างนั้นใช่ไหมครับ นี่ก็คงเป็นอีกผลที่ผมเลือกที่จะไม่นอนที่ห้องแต่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ผมเลือกที่จะกลับมา

“โอดิ ทำไมกูต้องไม่โอเคด้วย” ผมพึ่งเข้าใจก็วันนี้ว่าอาการล้มทั้งยืนมันเป็นอย่างไร มันเหมือนว่าความเข้มแข็งก่อนหน้าของผมมันได้พังทลายลงเมื่อได้มารับรู้สิ่งที่มันประจักษ์อยู่แล้ว ผมมันเป็นพวกโรคจิตครับเมื่อเจ็บแม่งก็ต้องเจ็บให้สุด ต้องมาตอกย้ำแบบนี้ให้มันบอบช้ำกันไปเลย

“งั้นบอกกูทีว่าน้ำตามึงไหลออกมาทำไม”

“.....” ผมไม่มีคำตอบให้ทั้งๆ ที่มันเป็นเพียงแค่คำถามไม่ยาก สายตาของผมมองประตูห้องของเฮีย ด้านในมันคงตลบอบอวลไปด้วยความรัก ผมไม่โทษทั้งเฮียและไอ้รวยถ้าจะโทษก็คงโทษที่ตัวเองปล่อยให้เวลามันเลยมาขนาดนี้ จนมันสายเกินไป ยิ่งเทียบกันแล้วความรักที่เฮียบิ๊กมีให้ไอ้รวยสิ่งที่ผมทำมันไม่สามารถเทียบกันได้เลย

“กูให้ยืมอกนะถ้าอยากกอด”

“เอากองไว้ตรงนั้น พอดีว่ากูยังไม่อยากกอด” ผมยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะตรงไปที่ห้องของตัวเองและหยิบของที่อ้างว่าจะมาเอา ผมมันเป็นโรคจิตครับอยากมาให้เห็นอยากมาให้ได้ยินเผื่อว่าความรู้สึกเหี้ยๆ จะได้หายออกไปจากหัวใจของผมสักที

หมับ!

“พอดีว่ากูดื้อ” ผมถูกไอ้เวรนั่นดึงเข้าไปกอดก่อนที่มันจะกดหัวของผมให้ซบลงบนไหล่มัน น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วกลับไหลออกมาอีกครั้ง เหี้ยเอ้ย! ผมไม่เคยอ่อนแอขนาดนี้ “ขอแค่กูได้อยู่ข้างมึงตอนร้องไห้ก็พอแล้ว”

“มึงไม่เจ็บเหรอวะ”

“เจ็บแต่ตอนนี้ไม่เจ็บแล้ว กูรู้ว่าถ้ากูยังรักต่อไปกูเองที่จะต้องเป็นฝ่ายเจ็บส่วนรวยเองก็จะต้องลำบากใจ” มือของมันลูบหลังของผมเบาๆ

“กูอยากเลิกรักมันง่ายๆ เหมือนอย่างมึงจัง”

“มันไม่ง่ายแต่มันก็ไม่อยาก บุ๊คน้ำตามันไม่เหมาะกับมึงจริงๆ กูชอบตอนที่มึงด่ากูมากกว่าตอนที่มึงร้องไห้ออกมาแบบนี้” มันค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกจากผมเบาๆ ก่อนจะยื่นมือสากๆ ของมันมาซับน้ำตาให้ผมอย่างช้าๆ ยิ่งซับผมก็ยิ่งร้อง อารมณ์นางเอกละครสัดๆ เลย ถ้าเป็นปรกติผมคงต่อยมันที่บังอาจมาแตะต้องตัวผมแต่ตอนนี้ไม่ปรกติผมเลยปล่อยให้เลยตามเลยแบบนี้ จะว่าไปมีคนคอยเช็ดน้ำให้มันก็ดีไปอีกแบบ

“กู....”

“แต่ถ้ามึงร้องไห้เพราะกู กูจะเจ็บมากกว่านี้”

“มันจะไม่มีวันนั้น” ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและผมเองค่อนข้างมั่นใจว่าระหว่างผมกับมันถ้าไม่นับเรื่องร่างกายก็ไม่มีอะไรที่จะต้องผูกพันกัน..และผมก็จะไม่มีวันร้องไห้

“แต่ถ้ามีวันนั้น..ถ้ามึงร้องไห้เพราะกู กูขอเช็ดน้ำตาของมึงด้วยมือของกูนะบุ๊ค”

“......” มันคงไม่มีวันนั้นครับ

“เปลี่ยนจากรวยมาเป็นกูไม่ได้เหรอวะบุ๊ค?”
 
“แต่เรื่องของเรามันไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก..อีกอย่างมึงก็ไม่ได้รักกู”

“แต่กูเชื่อว่าสักวันกูจะรักมึงได้นะบุ๊ค”

“มึงกับกูต้องลืมไอ้รวยให้ได้ก่อนกูยอมรับว่าตอนนี้กูยังรักไอ้รวยอยู่ แล้วค่อยมาคุยกัน” เพราะตอนนี้ผมก็ยังไม่สามารถตัดใจจากไอ้รวยได้เลย

‘เฮียให้ตี๋ได้ทุกอย่าง เฮียรักตี๋ที่สุดเลยนะ’

ผมนึกถึงคำพูดที่เฮียบิ๊กเคยพูดกับผมในหลายๆ ครั้งที่ผมเอาแต่ใจหรือคิดว่าม้ารักเฮียมากกว่า เฮียบิ๊กจะเดินเข้ามาและกอดผมพร้อมกับคำพูดพวกนี้ เฮียไม่ได้ดีแต่พูดแต่เฮียทำด้วยเฮียทำทุกอย่างเหมือนอย่างที่พูดไว้กับผมเสมอ เฮียบิ๊กผมขอโทษผมจะจัดการความรู้สึกนี้ให้เร็วที่สุด เฮียจะต้องไม่รู้เรื่องนี้ เฮียจะไม่ต้องมาเห็นใจหรือสงสารผมเพราะถึงอย่างไรไอ้รวยมันก็ไม่มีทางหันมาชอบผมแน่ๆ แม้ว่าเฮียจะเสียสละ เฮียจะต้องไม่ลำบากใจเพราะผม ผมสัญญา...


BIG’ s talk

ผมก้มลงจูบหน้าผากของเด็กบื้อหลังจากที่เด็กบื้อหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า ผมก็พอจะรู้ว่าเจ็บแต่มารวยก็คือมารวยอ่ะครับไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาให้ผมได้เห็น ผมอยากจะดูแลอยากจะกอดโอ๋เรียกง่ายๆ ว่าอยากสปอยแฟน แต่แฟนก็ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้สปอยเลย ไม่เป็นไรครับเวลายังมีอีกเยอะผมจะสปอยให้นักเลย จนคนอื่นอิจฉาว่าทำไมเด็กบื้อมีแฟนดีขนาดนี้

‘พี่บิ๊กนอนหรือยังครับ’

ผมก้มลงมองในโทรศัพท์มือถือที่อยู่ๆ มีข้อความจากเบอร์แปลกส่งมา แล้วคนที่เรียกผมว่าพี่ก็มีไม่กี่คน เดาไม่อยากน่าจะเป็นอชิ ผมไม่รู้นะว่าทำไมอชิถึงเข้ามาตีสนิทกับผมทั้งๆ ที่ท่าทางของเขาน่าจะเข้าถึงยาก แต่ถ้าการเข้ามาของเขาทำให้ผมกับเด็กบื้อต้องมีปัญหากันผมคงต้องกันท่าเอาไว้ก่อน ข้อความนี้ขออนุญาตไม่ตอบเพราะผมรับบทเป็นพระเอกรักแฟนมาก ขณะที่ผมกำลังจะล้มตัวนอนผมได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันอยู่ด้านนอก หรือว่าตี๋จะกลับมาแต่...ถ้าตี๋กลับมาแล้วใครที่คุยกับตี๋ ด้วยความสงสัยทำให้ผมลุกขึ้นจากเตียงและเดินออกมาจากห้องนอนทางห้องน้ำที่มีอีกประตูเชื่อมเอาไว้ เพราะผมไม่อยากให้ตี๋รู้ว่าผมกำลังจะแอบดูเดี๋ยวน้องจะเขินเผื่อพาใครมาทำอะไรที่ห้องคริคริ พี่ชายที่แสนดีก็เอียบิ๊กคนนี้แหละครับ

“มึงกับกูต้องลืมไอ้รวยให้ได้ก่อนกูยอมรับว่าตอนนี้กูยังรักไอ้รวยอยู่ แล้วค่อยมาคุยกัน” จากอารมณ์ดีเมื่อสักครู่อยู่ๆ ตัวของผมก็ชาเหมือนโดนน้ำร้อนสาด ไม่เอาครับบิ๊ก บิ๊กจะมาตลกตอนดราม่าไม่ได้ เอาใหม่ หนึ่ง สอง สาม สี่ เริ่ม!


ผมยืนมองน้องชายของตัวเองด้วยความรู้สึกหลากหลาย ผมได้ยินบทสนทนาของบุ๊คกับใครบางคนในช่วงท้าย ตี๋คงไม่ทันได้เห็นเพราะผมใช้ประตูเชื่อมทางห้องน้ำออกมา แต่ใครจะรู้ว่าจังหวะที่ผมออกมานั้นผมจะได้ยินน้องชายผมบอกรักแฟนผมอยู่..

ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไงก็คงช็อกมั้งครับเพราะผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าตี๋จะมีใจหรือรักเด็กบื้อของผมมากกว่าคำว่าเพื่อน อยู่ๆ คำของเด็กบื้อที่เคยพูดกับผมมันย้อนกลับขึ้นมาในตอนนี้

‘ผมไม่อยากให้เฮียมาทะเลาะกับคนในครอบครัวแต่ถ้าต้องทะเลาะเพราะผม...อย่าลังเลที่จะเลือกครอบครัวนะครับ’

มันจะเห็นแก่ตัวไปไหมถ้าเกิดว่าผมไม่อยากทำตามคำที่เด็กบื้อเคยบอก ผมรักเด็กบื้อไปแล้วทั้งหัวใจ แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่รักตี๋ผมเองก็รักตี๋มากรักมากกว่าชีวิตของผมเอง ความรักทั้งสองรูปแบบมันไม่เหมือนกันแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องเลือกว่าควรเก็บรูปแบบไหนไว้ สิ่งที่ผมคิดตอนนี้คือผมควรทำอย่างไรกับความรู้สึกที่น้องชายของผมเสียไปผมควรเยียวยาน้องชายของผมอย่างไรเพราะที่ผ่านมา...ผมแสดงออกกับเด็กบื้อต่อหน้าตี๋ตั้งหลายครั้ง ถ้าผมเอาตัวเองไปเป็นตี๋แล้วต้องฝืนใจมองดูคนที่เรารักไปรักกับคนอื่นโดยคนนั้นเป็นพี่ชาย ผมยอมรับเลยว่าเจ็บมาก ผมไม่เคยคิดถึงตอนนั้นเลยเพราะเหตุผลเดียวคือผมไม่รู้ ผมไม่โทษตี๋ว่าทำไมตี๋ถึงไม่บอกเพราะถ้าเป็นผม ผมก็จะไม่บอกเหมือนกัน

‘เฮียบิ๊กผมไม่กินผักเฮียกินให้ผมหน่อยดิเดี๋ยวม้าตี’

‘เฮียบิ๊กเกมเพลย์เฮียผมขอนะ’

‘ฮื่อๆ ๆ เฮียบิ๊กผมโดนเพื่อนแกล้ง..เฮียไปต่อยมันให้หน่อย’

‘เฮีย...ทำไมม้ารักเฮียมากกว่า ทำไมใครๆ ต้องรักเฮียมากกว่าด้วย’

ผมนึกย้อนไปในช่วงชีวิตที่ผ่านมา..ตี๋เป็นน้องชายที่ห่างกับผมแค่ปีเดียวเรียกได้ว่าแทบจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า แต่ด้วยความที่ป๊าปลูกฝังมาแต่เด็กว่าเป็นพี่ต้องรักและเสียสละให้น้อง เป็นพี่ต้องรักน้องให้มากๆ ผมทำตามที่ป๊ากับม๊าสอนทุกอย่าง ผมยอมรับเลยว่าผมสปอยตี๋มาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตอนนี้ ตี๋อยากได้อะไรผมก็หามาให้ ตี๋โดนใครทำร้ายผมก็ไปจัดการให้ทุกครั้ง ทุกคนอาจจะคิดว่าตี๋เป็นเด็กเอาแต่ใจใช่ไหมครับแต่เปล่าเลย ตี๋คือน้องชายที่ดีที่สุดสำหรับผม

‘เฮียบิ๊กถ้าเฮียบิ๊กกินผักให้ ผมจะแถมลูกชิ้นให้เฮียอีกสองลูก’

‘เฮียให้เกมเพลย์ผม งั้นเฮียเอากันดั้มผมไป’

‘เฮียโดนมันต่อยกลับเหรอ? ผมสัญญาว่าครั้งหน้าจะไม่ให้เฮียเดือดร้อนแบบนี้ ผมขอโทษ’

‘ถึงม้าจะรักเฮียมากกว่าก็ไม่เป็นไร...เพราะผมมีเฮียที่รักผมมากที่สุด’

แต่ครั้งนี้เฮีย..ปล่อยเด็กบื้อไปไม่ได้จริงๆ ช่วยบอกเฮียทีว่าเฮียควรทำอย่างไรเพราะที่ผ่านมาเฮียไม่รู้...ถ้าเฮียรู้ เฮียก็ยืนยันว่าเฮียจะรักมารวยเหมือนเดิม

เฮียขอโทษ....

#เฮียบิ๊กควรทำอย่างไรต่อไป
กด 1 แกล้งโง่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ไม่รับรู้ ไม่ได้ยิน ไม่สนใจ แต่เก็บเอาไว้ในใจคนเดียว
กด 2 ไปคุยกับบุ๊คตรงๆ
กด 3 เป็นพระเอก เลิกกับมารวยเพื่อเสียสละให้น้อง
กด 4 เป็นเอ๋อ
มาลุ้นตอนหน้ากันนะว่าเฮียบิ๊กจะทำตามข้อไหนนนนนนนน ทุกคนสามารถโหวตให้เฮียบิ๊กทำได้ทุกอย่างเลยจ้าา

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
 ข้อสี่จ้า

ออฟไลน์ KJH177

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-3

บทที่ 16
เคลียร์เอยเคลียร์ใจ

โครม!!

ด้วยความที่ผมไม่มีสติสักเท่าไหร่รวมถึงสมาธิด้วยทำให้ผมเผลอชนของแถวๆ นั้นจนเกิดเสียงดังทำให้ตี๋ที่ยืนอยู่ตรงข้ามหันมามองหน้าผมด้วยสายตาเจ็บปวด..สายตาที่ดูก็รู้ว่าตี๋กำลังโทษตัวเอง ผมไม่อยากให้น้องชายรู้สึกอย่างนั้นแม้ว่าข้างในผมเองก็เจ็บไม่ต่างกัน ผมจึงเลือกทำในสิ่งที่พี่ชายควรจะทำนั่นคือ...

“ที่นี่ที่ไหนใช่ที่รักหรือเปล่าน้า” ผมแกล้งหันไปทางอื่นและทำเหมือนว่าไม่เห็นตี๋ เรียกง่ายๆ ว่าผมแกล้งละเมอไปนั่นแหละครับ ถึงจะรู้ว่าไม่เนียนแต่สถานการณ์มันน่าจะดีขึ้นกว่าการที่ปล่อยให้เงียบทั้งสองฝ่าย

“เฮีย?” ตี๋เรียกผมเสียงสั่นแต่ผมเองก็ทำเป็นเดินโซซัดโซเซไปเรื่อยๆ พยายามไม่โฟกัสว่าตี๋กำลังทำหน้าอย่างไร แต่อยู่ๆ ตัวของผมกลับถูกตี๋เข้ามากอดทางด้านหลัง...

“เฮีย..ผมขอโทษ” ตี๋ซบหน้าลงไหล่ของผม ทำไมผมจะไม่รู้ว่าตอนนี้ตี๋กำลังร้องไห้แม้ว่าตี๋จะพยายามสะกดกลั้นแค่ไหน ผมโคตรเจ็บเลยครับ...แต่ต้องทำเนียนต่อไป

“อยากกินข้าวมันไก่จัง ข้าวมันไก่จ๋ามาหาเฮียบิ๊กเร็ว” ผมยังคงพูดเพ้อเจ้อออกมาต่อโดยที่มีตี๋กอดผมอยู่เหมือนเดิมไม่ยอมปล่อยไปไหน

“เฮียอย่ามาตลกทั้งๆ ที่เฮีย...กำลังร้องไห้” ว้า...ผมถูกจับได้ซะแล้วหละครับ

“ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตา ฉันไม่ได้ร้องไห้...” ขออนุญาตยืมเพลงของอะตอมมาก่อนนะ ตอนนี้หัวสมองของผมคิดมุกไม่ทันจริงๆ

“เฮียบิ๊กผมขอโทษ ขอโทษที่รู้สึกแบบนี้กับแฟนเฮีย ทั้งๆ ที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น”

“ตี๋...” เอาหละถึงเวลาที่ผมควรหันมาคุยกับตี๋ดีๆ สักทีเดี๋ยวน้องชายของผมมันจะโมโห “เราไปคุยกันดีๆ เถอะ”

“ผมคุยดีตั้งนานแล้วมีแต่เฮียนั่นแหละเล่นเหี้ยอะไรไม่รู้” ผมเผลอยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ตี๋พึ่งด่าผมว่าเหี้ยไป แต่ไม่เป็นไรครับพี่ชายที่ดีห้ามโกรธน้อง

“มาเคลียร์เอยเคลียร์ใจกันเถอะน้องรัก” ผมเดินนำตี๋มานั่งที่โซฟาแต่แล้วสายตาผมดันเหลือบไปเห็นใครอีกคนที่เวลานี้ผมสามารถมองเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน

“มึง?” ผมชี้ไปที่หน้าไอ้ผู้ชายคนนั้นคนที่ผมเคยมีเรื่องด้วย อย่าบอกนะว่านี่คือเพื่อนของตี๋แล้วตี๋ดันชอบเด็กบื้อแล้วไอ้เวรนี่ก็ชอบเด็กบื้อของผมเหมือนกัน...ผมสับหมู เอ้ย! สับสนจังครับใครก็ได้ช่วยเรียกสติให้ผมที

“มึงกลับไปก่อน” ตี๋ออกปากไล่ทำให้ไอ้เวรนั่นหยักหน้านิ่งๆ ก่อนจะยกมือไหว้ผมลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องของผมไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น?

“มันเป็นเพื่อนตี๋? แต่ตี๋เคยบอกเฮียว่าไม่ชอบมันไม่ใช่เหรอแล้วเอามันมาที่นี่ทำไม อย่าบอกนะว่าเพื่อนที่ไปนอนห้องด้วยคือมัน?”

“เฮียเราอย่าพึ่งพูดเรื่องอื่นเลย”

“มันไม่ใช่เรื่องอื่นมันคือเรื่องของตี๋”

“นั่นแหละ เรามาคุยเรื่องไอ้รวยก่อนนะเฮียเอาทีละเรื่องสัญญาว่าจะตอบทุกอย่าง” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเริ่มเข้าโหมตจริงจังอีกครั้ง

“เฮียขอโทษที่เฮียทำอะไรให้ตี๋เจ็บตั้งหลายครั้งโดยที่ไม่ตั้งใจ”

“เฮียไม่ต้องขอโทษหรอกเพราะผมรู้ว่าเฮียไม่ได้ตั้งใจเฮียไม่รู้ว่าผมคิดกับมันเกินเพื่อน ตามจริงเรื่องนี้ผมควรเป็นคนขอโทษมากกว่าผมไม่ควรที่จะรู้สึกกับมันแบบนี้ทั้งๆ ที่มันเป็นเพื่อนที่โคตรดีของผม”

“เราจะบอกรวยไหม”

“มันต้องไม่รู้” ผมเองก็ตามใจตี๋ครับถ้าตี๋อยากบอกให้เด็กบื้อรับรู้ผมก็ค่อนข้างที่จะโอเคผมถ้าเป็นผม ผมคงเลือกที่จะบอกเพราะไม่อยากอึดอัดไม่อยากเก็บเอาไว้ในใจ

“เฮียสบายใจได้ถึงตอนนี้ผมจะยังตัดใจไม่ได้แต่ผมกับมันอย่างไงก็ไม่มีทางรักกัน ดูก็รู้ว่าหลงเฮียฉิบหายหมั่นไส้เพื่อนแรด”
 
“เฮียก็ไม่สบายใจเพราะกลัวว่าตี๋จะรู้สึกไม่ดี ต่อไปนี้เฮียจะระวังตัวมากขึ้นนะ” ผมเลื่อนมือไปกุมมือตี๋แต่ตี๋กลับสะบัดมือผมออกอย่างไม่ไยดี

“เฮียอย่ามาจับขนลุกฉิบหาย”

“ตี๋ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ”

“ผมต้องขอบคุณเฮียมากกว่าสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ไม่อยากจะอวยนะแต่เฮียเป็นพี่ที่ดีที่สุดสำหรับผม” ผมมองหน้าน้องชายของตัวเองด้วยความรู้สึกที่หลากหลายมันตื้นตันใจอะครับเหมือนกำลังถูกลูกชายเกเรบอกรักแม้มันจะดูห่ามก็เถอะ

“เฮียดีใจจริงๆ ขอกอดที” ผมไม่สนใจว่าตี๋จะขัดขืนหรือไม่เพราะตอนนี้ผมดึงน้องชายเข้ามากอดเพื่อมอบความรักที่มีส่งไปให้ถึง

“เฮียล่าสุดเรากอดกันตอนไหนนะ”

“ห้าหกขวบมั้ง ตี๋ชอบไม่ให้เฮียกอด”

“ก็เฮียชอบทำอะไรเวอร์ๆ หนิหว่า” เราสองคนค่อยๆ ผลักออกจากกันหลังจากที่ผมรู้สึกพอใจในอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นนี้ กอดใดเล่าจะอุ่นเท่ากอดเฮียบิ๊ก

“เราเคลียร์เอยเคลียร์ใจกันแล้วเนอะ”

“เออ คืนนี้นอนนี่ก็แล้วกัน...อีกอย่างถ้าไอ้รวยตื่นมาเฮียก็ให้มันกินยาแก้อักเสบไว้หละ ครั้งแรกมันน่าจะเจ็บ” ก่อนที่ตี๋จะเดินเข้าห้องตัวเองตี๋หันมาบอกผมด้วยสายตาจริงจังเหมือนว่าตี๋เคยผ่านมาก่อนมันทำให้ผมรู้สึกสงสัยอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากถามตี๋กลับปิดประตูใส่ทำให้ผมไม่ได้ถาม แต่เอาเถอะครับแค่เราสองคนเคลียร์กันได้ผมก็โล่งอกแล้ว

ผมอยากมีความสุขที่ทุกอย่างมันลงเอยแบบนี้....แต่มันยังมีอีกเรื่องที่ผมกังวล


Maruay’ s talk

“เป็นตาฮักปานนี่ให้เคอรี่มาส่งได้บ่ สั่งซื้อไสหนอ ยี่ห้ออีหยัง.......” และสิ่งที่ทำให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในเวลาสายของวันคือเสียงร้องเพลงของเฮียบิ๊กพร้อมกับทำนองเพลงที่เปิดคลอไปด้วยเบาๆ ผมควรรู้สึกดีใจใช่ไหมครับที่ตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงเพลงในการเริ่มต้นของวัน

“เฮีย?”

“อ่าว ตื่นแล้วเหรอ ขอวัดไข้หน่อยนะครับ” แน่นอนว่าการวัดไข้ของเฮียบิ๊กไม่ธรรมดาเหมือนปรกติเพราะเฮียบิ๊กสอดมือเข้ามาในกางเกงนอนของผมพร้อมกับใช้มือจับที่มารวยน้อยเบาๆ “ตื่นจริงๆ ด้วย ไข้ลดลงเยอะเลย”

“ถามจริงนะเฮียใครสอนเฮียวัดไข้แบบนี้”

“นึกสนุกอยากทำเองเลยจับ ไม่ได้มีมาตรฐานอะไรหรอก มาวัดของจริงดีกว่า” เฮียบิ๊กเอื้อมไปหยิบปรอทวัดไข้ที่ผมไม่เคยเห็นในห้องมาก่อนสงสัยจะไปซื้อมาพร้อมกับเซ็ทยาเมื่อคืนแน่ๆ ถือว่าเตรียมตัวมาดีครับ “อันนี้ลดของจริง แต่กินยากันไว้อีกหน่อยดีกว่าเนอะ ส่วนนี่ยาแก้อักเสบกินเผื่อไว้ก็ได้”

“แล้ววันนี้ต้องไปเรียนการแสดงไหมอะครับ”  ผมนึกได้จึงถามเฮียบิ๊กออกมาเพราะอย่างที่เคยบอกไปครับว่าช่วงนี้เฮียบิ๊กต้องไปเรียนการแสดงค่อนข้างบ่อยเรียกได้ว่าเกือบทั้งวันเลยครับ

“เรียนครับแต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้ขอทำหน้าที่ดูแลแฟนก่อน เฮียวิ่งแบบพี่ตูนไปซื้อโจ๊กมาให้เราเลยนะ ว่าแต่มารวยครับ” อยู่ๆ เฮียบิ๊กเรียกผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ครับ?”

“เฮียรังแกเราไปเมื่อคืน เฮีย...อยากรับผิดชอบเรามากกว่า”

“หื้ม? อย่างไงครับเฮีย ถ้าบอกว่าจะขอผมแต่งงานผมถีบเฮียกระเด็นเลยนะ”

“โหดมากแม่ ก็อยากแต่งแหละงานอะ แต่เฮียกับเรายังเรียนไม่จบมีหวังป๊ากับม้าเฮียเอาตายแน่ที่บังอาจเบียดก่อนบวช แต่ที่จะบอกคืออยากพาเราไปหาป๊ากับม้าอยากไปแนะนำให้เป็นทางการเพื่อยืนยันว่าเฮียจะไม่ทอดทิ้งเรา ด้วยเกียรติของลูกเสือ” เฮียบิ๊กยกขึ้นสามนิ้ว “แล้วก็ถ้าไม่ว่าอะไรเฮียก็อยากไปหาพ่อกับแม่ของเราด้วยนะมารวย”

“เฮียจริงจังกับผมจริงๆ เหรอครับ”

“ถ้าไม่จริงจังตื่นขึ้นมาเราคงไม่เห็นเฮียนั่งอยู่ตรงนี้อะครับ” เฮียบิ๊กพูดพร้อมกับยกชามโจ๊กขึ้นมาและตักป้อนให้ผมทีละคำ ตามจริงก็กินได้แต่เห็นถึงความตั้งใจจะทำเป็นไม่พูดไม่ขัดก็แล้วกัน

“ไว้ผมถามพ่อกับแม่ก่อนนะครับ ส่วนป๊ากับม้าเฮียผมโอเคถ้าจะไปวันไหนก็บอกล่วงหน้านะครับ แต่ช่วงนี้ผมเอาเฝือกออกแล้วอาจจะกลับไปซ้อมเหมือนเดิมพี่ๆ ก็ไลน์ตามทุกวัน”

“บอกตามตรงว่าไม่อยากให้ไปเลย อย่ามองหน้าแบบนั้นเฮียหมายถึงเฮียไว้ใจเราแต่เฮียไม่ไว้ใจมัน อีกอย่างเฮียก็ไม่ค่อยมีเวลาอยากไปนั่งเฝ้าทุกวัน แต่...ก็ทำไม่ได้”

“กลับมาก็เจอกันทุกวันนะเฮีย”

“แต่ก็หลับทั้งคู่เฮียไม่อยากรบกวนเรา สัญญากับเฮียได้ไหมว่าถ้าไม่มีเวลาอย่าออกไปหาเวลาอื่นนอกจากเฮียนะครับ” เฮียบิ๊กยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าผมพร้อมกับสายตาอ้อนวอน “นะครับ นะครับ”

“ครับ” ผมยื่นนิ้วก้อยของตัวเองไปเกี่ยวกับเฮียบิ๊กและรับปากตบคำสัญญาตามที่เฮียต้องการ “อย่าไปหลงกลนายเอกของพี่นะ ยิ่งน่ารักๆ อยู่ด้วย”

“น่ารักอย่างไงก็ไม่เท่ามารวยของเฮียบิ๊กหรอกครับ น่ารักที่สุดเลย” เฮียบิ๊กหอมแก้มของผมแรงๆ ก่อนจะผลักออกมาและจัดการป้อนโจ๊กผมต่อ เราสองคนใช้เวลาที่เหลือก่อนที่เฮียจะไปเรียนด้วยการนั่งดูหนังด้วยกันแต่ผมก็ดันเผลอหลับไปจนได้ ตื่นมาอีกทีเฮียบิ๊กก็ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว แต่สายตาของผมเหลือบไปเห็นโพสอิสแปะเอาไว้

‘ตื่นขึ้นมาถ้ารู้สึกดีขึ้นไม่ต้องกินยาแล้วนะครับ ส่วนข้าวอยู่ในตู้เย็นเอาออกมาอุ่นกินได้เลย คิดถึงนะ ^^’

เฮียบิ๊กของผมโคตรน่ารักที่สุดในโลกเลยครับ ใครไม่หลงมารวยคนนี้โคตรหลงเลย หลังจากที่ตื่นเต็มที่ผมจัดการไปอาบน้ำให้รู้สึกสดชื่นก่อนจะเดินออกมาอุ่นอาหารที่เฮียบิ๊กเตรียมไว้ให้พร้อมกับเปิดโทรทัศน์เป็นเพื่อน แต่ช่องที่ผมเปิดดันเป็นข่าวบันเทิงพอดี

‘กระแสปังมากสำหรับซีรีส์รักครั้งแรกในคืนหมาหอนของค่ายดาวบ้านดอน สำหรับคู่จิ้นบิ๊กชิ เคมีเข้ากันมากๆ เลยค่ะ สาววายหลายคนฟินกันเป็นแถบๆ ไปเลยเพราะในคาสเรียนนั้นขยันสร้างโมเม้นต์เหลือเกิน เรามีภาพมายืนยันค่ะ’

ผมวางช้อนก่อนที่จะเพ่งสายตาไปยังภาพที่ฉายขึ้นมาในโทรทัศน์เป็นภาพที่เฮียบิ๊กหยอกล้อกับอชิในช่วงพักเบรกหลังคาสการแสดง ดูก็รู้ว่าเฮียบิ๊กทำตอนที่มีกล้องถ่ายแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้หัวใจของผมร้อนรนขนาดนี้ มันไม่สบายใจแต่ก็ไม่อยากเข้าไปแทรกแซง ผมว่าผมต้องจัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้นิ่งกับภาพแบบนี้เพราะถ้าถึงช่วงถ่ายทำเมื่อไหร่โมเมนต์มันต้องเยอะมากกว่านี้แน่ๆ ผมหวังว่าผมจะสามารถอดทนได้ดีในระดับหนึ่งนะครับผมยังไม่อยากกลายเป็นคนขี้หึง

“หึงพี่กูเหรอ?” ผมหันไปทางด้านหลังทันทีที่ได้ยินเสียงของไอ้บุ๊ค

“ไหนมึงบอกไปนอนหอเพื่อนไง?”

“กู..กูกลับมาแล้วไง” หน้าไอ้บุ๊คโคตรมีพิรุธเลยครับ “แล้วเมื่อคืนกับเฮียกูเป็นไง เด็ดไหม”

“ถามส้นตีนไรมึงเนี่ย” ไอ้บุ๊คเดินมานั่งข้างๆ ผมก่อนที่จะแย่งข้าวในจานของผมไปกินหน้าตาเฉย อยากบอกเพื่อนว่านิสัยเหี้ยมากแต่ว่ามันเป็นน้องชายแฟนงั้นผมจะไม่ด่ามันดีกว่าได้แต่เก็บไว้ในใจและเสียสละข้าวในจานให้มัน

“อย่าเขินไอ้รวย กูก็อยากรู้ไงเห็นเฮียกูไร้สาระแบบนั้นอยากรู้ว่าบนเตียงจะมีสาระไหม”

“ก็..เออ นั่นแหละ อย่าถามมาก” ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเขิน ยิ่งคิดผมก็ยิ่งนึกถึงตอร์ปิโดของเฮียบิ๊กที่จัดได้ว่าเป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่ทำให้มารวยคนนี้ระทวย

“หน้ามึงหื่นมากไอ้รวย”

“กูจะบอกแล้วห้ามถามกูอีกนะ” ผมขยับเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะเอามือป้องปากแล้วกระซิบข้างๆ หูของไอ้บุ๊คเบาๆ “เด็ดแบบตูดก็จะฉีกอ่ะเพื่อน”

“เหี้ยจริง”

“ฮ่าๆ ๆ” ผมนั่งขำกับไอ้บุ๊คโดยลืมเรื่องที่ทำให้หัวใจของผมร้อนรนไปอย่างสนิท ตราบใดที่คนของผมไม่เล่นด้วยผมก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เราสองคนพึ่งผ่านกันมามันก็เป็นเครื่องยืนยันความสัมพันธ์ของผมกับเฮียบิ๊กได้ในระดับหนึ่ง


BIG’ s talk

“กูยอมแพ้...” ผมยื่นเงินทั้งหมดไปตรงหน้าของใครบางคนใครคนนั้นที่ทำให้ผมได้มาเจอกับเด็กบื้อ มันเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยบอกใคร ไม่เคยพูดถึง มันเป็นเรื่องที่ผมละอายใจมากที่สุด...เรียกได้ว่าเป็นด้านมืดของผมอีกด้านที่ไม่มีใครเคยรู้แม้กระทั่งเพื่อนสนิททั้งสอง น้องชาย รวมถึง...เด็กบื้อของผม

“มึงคิดว่าถ้าแฟนมึงรู้จะเป็นอย่างไง?” และสิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือการที่เด็กบื้อรู้ความจริงทุกอย่าง ผมกลัว กลัวว่าเด็กบื้อจะรับไม่ได้และทิ้งผมไป

“.....”

“มึงเป็นคนที่เหี้ยมากนะไอ้บิ๊กมึงรู้ตัวไหม” ผมยอมรับว่าผมเหี้ยแต่ความเหี้ยมันจะต้องจบไปพร้อมกับผม ทุกคนจะต้องไม่รู้สิ่งที่ผมกำลังจะทำ

“แต่มึงไม่ใช่เหรอวะที่ให้กูทำแบบนี้”

“ตอนนั้นมึงสนุก กูสนุก ก็แค่ความสนุกใครจะไปรู้ว่าเด็กนั่นจะทำให้มึงติดใจขนาดเอาเงินมากขนาดนี้มาให้กูแล้วพูดว่าง่ายๆ ว่ามึงยอมแพ้”

“กูยอมจริงๆ ...”

‘เหม็น....’

จุดเริ่มต้นทุกอย่างมันเกิดจากความบังเอิญ บังเอิญที่ทำให้ผมติดใจ วันแรกที่ผมเจอเด็กบื้อที่หน้าเซเว่นในช่วงที่ผมนั่งสูบบุหรี่อยู่ระหว่างรอเพื่อนอีกกลุ่มของผม ใครจะไปรู้ว่าเด็กที่นั่งกินมาม่าโง่ๆ นั้นจะทำให้ผมบังเอิญไปเจออีกทีโดยความไม่ตั้งใจของ


มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : ไอ้บุ๊ค!! ลบกูออกจากเพื่อนทำไม มึงโกรธอะไรกู

มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : หรือว่าเรื่องเงิน?

มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : มึงโกรธกูจริงๆ หรอที่ทวง

นั่นคือเหตุบังเอิญที่สอง...ที่ทำให้ผมได้เจอกับเด็กบื้ออีกครั้งในเฟซบุ๊ค

‘คุยกับใครวะไอ้บิ๊ก?’

‘ไอ้คิมมึงรู้จักเด็กนี่ป่าววะ ชื่อมารวย’

‘มารวย...ไหนๆ กูดูหน้าหน่อย อ่อรู้จักๆ น้องในทีม ซื่อๆ โง่ๆ ดี มันทักมึงมาทำไมวะ’

‘สงสัยทักผิดมั้ง..ช่างเถอะ’

‘ไอ้บิ๊ก..กูคิดอะไรสนุกๆ ให้มึงทำ.......’

‘.......กูตกลง’

ถ้ามันย้อนกลับไปได้ผมจะไม่ตกลงออกไปส่งๆ แบบนั้น ผมจะไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาดแต่ผมรู้ว่ามารู้สึกตอนนี้มันสายไปแล้ว เพราะทุกอย่างมันย้อนกลับมาทำร้ายผม

“ไอ้คิมกูยอมแล้ว..”

“กูยังอยากสนุกอยู่ว่ะไอ้บิ๊ก”

“แต่นั่นก็น้องในทีมมึงไม่ใช่เหรอ..ทำไม?”

“เหตุผลส่วนตัว”

ผมควรทำอย่างไรต่อไปให้ความลับทุกอย่างมันจบเท่านี้...ผมไม่อยากเสียเด็กบื้อไปจริงๆ ช่วยผมทีครับว่าผมควรทำอย่างไง


#เฮียขอโทษ......
#ให้อภัยเฮียได้ไหม..ส่วนเรื่องอะไรที่เฮียปิดเอาไว้มันจะค่อยๆเปิดออกมาหวังว่าเด็กบื้อจะให้อภัย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เฮียนับดีๆนะ มีหลายตรีนรอกระทืบอยู่จ้า :hao3:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เอาน้องมาพนันซะงั้น

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด