พิมพ์หน้านี้ - Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : Season 2 บท 2 (8/11/62)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: KJH177 ที่ 26-04-2019 18:14:53

หัวข้อ: Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : Season 2 บท 2 (8/11/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 26-04-2019 18:14:53
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

ฺBY Kaitodmalewja

ติดตามและพูดคุยกับไรท์ได้ที่

FB : Kaitodmalewja (https://www.facebook.com/Kaitodmalewja-769692296744615/)
Twitter : @kaitodpendekdee (https://twitter.com/kaitodpendekdee)


เฮียบิ๊กรักมารวยนะ

มาร่วมพูดคุยกันใน

แฮชแท็ก
#บิ๊กอยากรวย


"มารวย"


ไม่ได้แกล้งโง่ครับ แต่โง่จริง

" เฮียบิ๊ก"
มารวยไม่ได้โง่..แค่ผมมันเลวเอง


เรื่องราวความรักระหว่างน้องมารวยและเฮียบิ๊ก
เกิดขึ้นจาก....

ติ๊ง!
มารวยแคล้ว : เพื่อนเมื่อไหร่จะคืนเงินกูครับ?
BIG : อะไร?
มารวย : ไอ้บุ๊ค! มึงบล็อกกู แล้วไม่คืนเงินอย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ
BIG : ผมชื่อบิ๊กครับ
มารวย : ฮั่นแน่! นอกจากมึงจะชอบเร่งเครื่องแล้วยังตอแหลใส่กูอีก
BIG : ......
มารวย : แน่จริงคอลมาดิ มาให้กูเห็นหน้าไอ้บุ๊ค!
BIG Messenger Audio.....
.
.
.
ขอบคุณที่พี่โทรมาในวันนั้นที่ทำให้ผมมีวันนี้
มีวันที่ผมได้พี่เป็น...ผัว
ขอบคุณนะไอ้บุ๊ค ที่ติดเงินกู
.
.
.
ขอบคุณที่เข้ามาทำให้ผมรู้จักคำว่า "รัก"
ขอบคุณที่เข้ามาทำให้ผมรู้จักคำว่า " เกลียด"
.
.
.
ถ้าบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะให้อภัยไหม?
ถ้าบอกว่ารักจริงๆจะเชื่อไหม?
ถ้าบอกว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องโกหก จะยังรักกันอยู่หรือเปล่า?

สารบัญ
บทนำจ่ะ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3968379#msg3968379)
บทที่ 1  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3968942#msg3968942)
บทที่ 2 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3969944#msg3969944)
บทที่ 3 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3971246#msg3971246)
บทที่ 4 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3992481#msg3992481)
บทที่ 5 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3992728#msg3992728)
บทที่ 6 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3992916#msg3992916)
บทที่ 7 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3993367#new)
บทที่ 8 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3993544#msg3993544)
บทที่ 9 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3993670#msg3993670)
บทที่ 10 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3993925#msg3993925)
บทที่ 11 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3994128#msg3994128)
บทที่ 12 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3994849#msg3994849)
บทที่ 13 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3995090#msg3995090)
บทที่ 14 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3995446#msg3995446)
บทที่ 15 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3996300#msg3996300)
บทที่ 16 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3996621#msg3996621)
บทที่ 17 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3997779#msg3997779)
บทที่ 18 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3998105#msg3998105)
บทที่ 19 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3998534#msg3998534)
บทที่ 20 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg3998965#msg3998965)

Season 2 บทนำ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg4010311#msg4010311)
บทที่ 1 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70163.msg4011732#msg4011732)
หัวข้อ: Re: มารวย(แคล้ว) : บทนำ มีแฟนแบบงงๆ (26/04/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 26-04-2019 18:15:42
เฮียบิ๊กรักมารวยนะ

Intro

ขึ้นต้นเรื่องด้วยการที่ผมต้องมานั่งกินมาม่าหน้าเซเว่นหลังจากที่ผมเอาเงินเดือนทั้งหมดไปให้ไอ้บุ๊คไอ้เพื่อนเวรของผม ที่มันขอยืมไป เพราะมันดันติดพนันบอล มันบอกว่าจะรีบเอามาคืนแต่นี่ก็หลายชั่วโมงแล้วมันยังไม่เอามาคืนผมเลย หรือว่ามันจะเบี้ยวครับ เดี๋ยวผมต้องโทรไปจัดการมันสักหน่อย



“ไอ้บุ๊ค!!”



(ว่าไงมารวยเพื่อนรัก)



“เงินกู เมื่อไหร่จะคืน”



(มึงให้กูยืมไปไม่ถึงสามชั่วโมงเลยนะเพื่อน!!!)



“กูเป็นเดือดเป็นร้อนใจ”



(อีกสองวันม๊ากูจะกลับบ้าน เดี๋ยวรีบเอามาให้)



“ไม่มีเงินแล้ว...”



(อ่าว..แล้วไหนมึงบอกว่าพอมีอยู่ไงไอ้รวย!!)



“ก็ตอนที่มึงยังไม่ยืมก็พอมี”



(ไอ้ฉิบหายเอ้ย! ติ๊ด)



อะ..อ่าว ไอ้เวรนี่มันตัดสายผมไปเลยครับ ไอ้เพื่อนเวรคนนี้มันชื่อว่า ‘บุ๊ค’ เพื่อนสนิทที่สุดของผมในรั้วมหาลัยแห่งนี้ มันเป็นแบบนี้แหละครับ ชอบทำโมโหกลบเกลื่อนตลอด แต่ช่างเถอะผมจะไม่คิดอะไรก็แล้วกัน กินมาม่าต่อดีกว่าครับ กินเสร็จจะได้กลับหอ



“ไอ้บิ๊ก มึงเอาอะไร” ผมที่กำลังนั่งสูดเส้นมาม่าหน้าเซเว่นเงยหน้าขึ้นไปมองกลุ่มนักศึกษาที่มาใหม่ ดูจากเสื้อแล้วน่าจะมหาลัยเดียวกับผม แต่น่าจะอยู่วิศวะมั้งครับเห็นใส่เสื้อชอปหรือไม่ก็น่าจะเป็นหนุ่มโรงงานแถวๆ นี้ที่ออกมาหาอะไรกิน



“ไม่ กูรอหน้าเซเว่นนะ” ผมไม่สนใจและก้มหน้าซูดเส้นมาม่าต่อกำลังร้อนๆ เดี๋ยวเย็นละจะไม่อร่อย แต่อยู่ๆ ก็มีบางคนเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ผม



“......”



“ซูดดดด”



อร่อยดีครับมาม่ารสต้มยำกุ้งคัพนี้ ผมลืมแนะนำตัวไปเลยครับ ผมชื่อว่า ‘นายมารวย’ นักศึกษาคณะสหเวชฯ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา วันๆ ก็ไม่ค่อยได้เรียนเท่าไหร่ส่วนมากจะเอาเวลามาอยู่ที่สนามมากกว่า เรียนทฤษฎีก็เรียนจบไปตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วครับ ที่เหลือก็เป็นวิชากีฬากล้ามเนื้ออะไรพวกนี้ ส่วนมากเพื่อนๆ ผมเป็นผู้ชาย มีผู้หญิงบ้าง ทอมบ้าง บางคนแมนกว่าผมอีกนะ แต่เพื่อนๆ น่ารักดีครับ เออ ผมลืมบอกเลยว่า ผมอยู่ปีสามแล้วนะครับ ใกล้จบแล้ว แต่ผมยังใช้ชีวิตในมหาลัยไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่เลย



เพราะ ผม ยัง ไม่ มี แฟน!!!



ถ้าถามว่าชอบเพศไหน ผมตอบไม่ได้ครับ ผมชอบคนหน้าตาดีไม่ว่าจะหญิงหรือชายผมชอบหมดเลย อ่อ อีกอย่างคือผมเป็นคนรักคนง่าย และขี้หวั่นไหวมากเลยครับ ใครพูดดีหรือทำดีด้วยหน่อยก็รักเขาไปหมด แต่ถ้าจะจีบผมแค่หน้าตาดีก็ชนะไปแล้วครับ ล่าสุดผมหวั่นไหวกับไอ้บุ๊คเพื่อนสนิทที่มันเขียนหน้าปกรายงานให้



“......”



“......”



เหมือนผมจะลืมตัวไปว่ามีคนมานั่งข้างๆ หน้าเซเว่นด้วยหนึ่งคนนอกจากหมา ผมค่อยๆ เหล่สายตาไปมอง ก่อนจะเห็นว่าคนคนนั้นหันหน้าไปอีกด้านทำให้ผมไม่สามารถเห็นใบหน้าของเขาได้เต็มๆ ส่วนในมือเขาคีบบุหรี่อยู่ สงสัยกำลังสูบบุหรี่มั้งครับ เหม็น ผมไม่ค่อยชอบกลิ่นของมันเลย



“เหม็น....” ไวเท่าความคิดอยู่ๆ ผมก็เผลอพูดออกมา มันเป็นความเคยชินที่อยู่ๆ ผมก็มักจะเผลอพูดในสิ่งที่คิดออกมาโดยที่บางครั้งผมไม่ตั้งใจที่จะพูด



และไอ้คำพูดของผมทำให้คนที่นั่งข้างๆ ค่อยๆ หันหน้ากลับมามองผมที่เป็นคนพูด แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เห็นใบหน้าของเขา ผมก็รีบลุกขึ้นและวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นทันที ก็ดูท่าทางของเขาเอาเรื่องอยู่เหมือนกันเดี๋ยวถ้าหันมาแล้วต่อยปากผมแตกจะทำอย่างไง เอาเป็นว่าวิธีหนีเป็นวิธีที่ดีที่สุดของผม



ลาก่อยนะครับพี่





“......” หลังจากที่มารวยลุกหนีออกไป ทำให้ผู้ชายที่นั่งอยู่หน้าเซเว่นขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เพราะเขาตั้งใจจะหันหน้ามาขอโทษที่สูบบุหรี่และทำให้ใครอีกหลายๆ คนเหม็น เพราะนี่เป็นพื้นที่สาธารณะและเขาก็รู้ตัวด้วยว่าเขาผิดเต็มๆ แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจก็คือผู้ชายคนนั้น..ที่วิ่งหนีไปพร้อมกับถ้วยมาม่าคัพที่ยังคงว่างอยู่ที่เดิม สงสัยรีบจนลืม....



“อะไรวะไอ้บิ๊ก”



“แค่..ไม่มีอะไรๆ” เขาลุกขึ้นยืนและดับบุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดพร้อมกับก้มตัวลงหยิบมาม่าไปทิ้งที่ถังขยะให้คนตัวเล็กที่หนีไป แม้ว่าจะไม่ทันได้เห็นหน้าแต่เขาจำกลิ่นตัวของคนตัวเล็กนั้นได้ดี...กลิ่นบริสุทธิ์ ที่เขาตามหามาตลอด



แล้วเจอกันนะครับ ^^







Maruay’ s talk



อห! เหตุการณ์เมื่อสักครู่ทำเอาหัวใจของผมแทบหยุดเต้นเลยครับ ดีนะผมหนีมาก่อน ไม่อย่างนั้นนะผมคิดว่าผมไม่รอดแน่ๆ ผมคิดได้ว่าผมลืมทิ้งมาม่าถ้าจะให้ย้อนกลับไปทิ้งผมว่านะมันก็คงไม่ควรเท่าไหร่ ดีไม่ดีอาจจะเจอคนนั้นอยู่ที่เดิมก็ได้ ทำให้ตอนนี้ผมเดินกลับหอ



“ไอ้รวย!” ผมหยุดเดินและหันไปมองด้านหลังก่อนจะเห็นใครบางคนที่วิ่งตามผมมา ไอ้คนนั้นก็คือไอ้บุ๊คเพื่อนเวรของผมเองครับ



“อะไร”



“มึงไม่มีเงินใช้ใช่ไหม กูโทรไปหาเฮียกูแล้ว เฮียกูกำลังกลับหอมึงไปเอาเงินที่หอเฮียกูได้ไหม” ผมหยุดคิดในสิ่งที่บุ๊คพูด



“เฮียมึงไม่ด่าเอาหรอ”



“ไม่ กูบอกว่าเพื่อนกูเดือดร้อนแต่กูไม่มีเงินให้ กูเลยมายืมเฮียกูให้แทน เฮียกูก็บอกให้มึงไปเอาที่หอเฮีย”



“เลวจังเพื่อน โกหกได้เหี้ยมาก ไอ้บุ๊คมึงทำให้กูดูแย่”



“โธ่เพื่อนรวย ดีกว่ามึงอดนะเพื่อน” อยู่ๆ ไอ้บุ๊คก็เดินมากอดคอผมเอาไว้และพาให้ผมเดินเข้ามานั่งใต้หอของผมที่อีกไม่กี่ก้าวก็ถึง



“แต่มึงก็ไม่น่าเอาไปเล่นพนัน”



“กูใช้พนัน แต่สัญญาว่าจะไม่เล่นแล้ว เอาขากูเป็นประกันเลย”



“มึงเอาขาตัวเองไปเป็นประกันเลยเหรอวะ ไอ้บุ๊ค! มึงจะพิการ”



“.........”



“กูโมโหแล้วนะ”



“ไอ้รวยฟังกูนะ” อยู่ๆ ไอ้บุ๊คมันก็ทำหน้าเอือมใส่ผมพร้อมกับยื่นมือทั้งสองข้างมาจับที่ไหล่ของผมเอาไว้แน่น ใช้สายตาของมันมองมาที่ผมด้วยสายตาที่จริงจัง “กูขอโทษ กูจะไม่ทำอีกแล้ว”



“......”



“เข้าใจไหม?”



“......”



“ไอ้รวย?”



“......”



ช่วยด้วยครับหัวใจของผมมันเต้นแรงอีกแล้ว แค่ไอ้บุ๊คมันพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจัง มันก็สามารถทำให้หัวใจของผมหวั่นไหวมากขนาดนี้



“อย่าบอกว่าหวั่นไหวกับกู?”



“ไอ้รวย? !”



“อืม” ผมพยักหน้ายอมรับให้มันตรงๆ เพราะผมหวั่นไหวจริงๆ



“กูเพื่อนมึงนะ! อย่ามาหวั่นไหว ไอ้ฉิบหายเอ้ย!! เสือกหน้าแดงอีก ตายห่าแล้วกู!!!” ผมพยายามที่จะไม่คิดอะไร แต่มันทำไม่ได้จริงๆ ครับ ถ้าถามว่าชอบไอ้บุ๊คแบบคนรักไหม ผมตอบเลยว่าไม่ แต่ผมห้ามการหวั่นไหวของผมไม่ได้จริงๆ



“กูไปฟิตเนตหละ เดี๋ยวกูเห็นมึงเป็นแบบนี้มากๆ กูจะอดในไม่ไหว” อยู่ๆ ไอ้บุ๊คก็รีบลุกขึ้นยืนทันทีด้วยท่าทางที่ดูรีบๆ



“บ้ายบายไอ้บุ๊คเพื่อน”



“เออๆ ทำกูเสียศูนย์เก่ง ไอ้สัด” และไอ้บุ๊คก็เดินหายออกไปเลยครับ ทิ้งให้ผมนั่งงงอยู่คนเดียว แต่จะว่าไปไอ้อาการแปลกๆ นี้ของผมมันก็รักษาไม่หายเหมือนกันนะครับ ผมจำได้ว่ามันเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งถึงตอนนี้



“ไปเก็บผ้าดีกว่า” เมื่อคิดได้ว่าตากผ้าเอาไว้ผมก็รีบขึ้นไปเก็บผ้าบนห้องทันที และหลังจากนั้นผมก็จะนั่งทำงานค้างสักหน่อย อีกไม่กี่วันก็ต้องส่งแล้ว





ตกตึก



ทุกคนเหมือนผมลืมอะไรบางอย่าง อยู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าเหมือนมีใครติดค้างอะไรบางอย่างกับผม ผมว่านะ..น่าจะเป็นไอ้บุ๊ค! ใช่ มันยืมเงินผมไปครับ ผมต้องทวง เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็ปล่อยปากกาที่กำลังเขียนลงบนกระดาษรายงานออกและหันมาจับโทรศัพท์ที่ชาร์ตทิ้งไว้แทน เข้าแอพลิเคชั่นเฟซบุ๊คทันที



“อ่าว ไอ้บุ๊ค! บล็อกกูทำไม” ด้วยความที่ผมไม่ได้ใส่แว่นทำให้ผมมองเห็นไม่ชัด และค่อนข้างที่จะแน่ใจว่าไอ้เฟซที่ขึ้นแนะนำคือเฟซของไอ้บุ๊คแน่ๆ แต่ว่าผมเคยเป็นเพื่อนกับมันในเฟซมานาน ทำไมมันขึ้นว่าผมไม่ได้เป็นเพื่อนกับมัน หรือว่ามันลบผมออกจากเพื่อน ไอ้บุ๊ค กูโกรธมาก!!



มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : ไอ้บุ๊ค!! ลบกูออกจากเพื่อนทำไม มึงโกรธอะไรกู



มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : หรือว่าเรื่องเงิน?



มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : มึงโกรธกูจริงๆ หรอที่ทวง



ผมนั่งจ้องห้องแชทอยู่นานแต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับอะไรกลับมาเลย และผมก็ทักมันไปอีกครั้ง



มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : ถ้ามึงโกรธกู กูขอโทษนะไอ้บุ๊คไว้มึงมีเงินค่อยมาคืนกูก็ได้ อย่าบล็อกกูเลย..



BIG : อะไร?



ผมไม่คิดเลยนะครับว่าไอ้บุ๊คมันจะทำเป็นแกล้งลืมผมจริงๆ เพียงเพราะแค่ผมทวงเงินมันบ่อยๆ ก็ผมมันคนขี้ลืมหนิครับ



มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : ไอ้บุ๊ค! มึงลบเพื่อนกู...โกรธกูขนาดนั้นเลยเหรอวะเพื่อน



BIG : ผมชื่อบิ๊กครับ



มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : ถึงขนาดเปลี่ยนชื่อหนีกูเลยเหรอวะไอ้บุ๊ค



BIG : …………



ผมว่านะผมเริ่มที่จะหมดความอดทนกับไอ้บุ๊คมันแล้วนะครับ ถึงขนาดเปลี่ยนชื่อ ตอบผมด้วยคำพูดที่ห่างเหิน ผมไม่รู้นะว่ามันโกรธอะไรเอาเป็นว่าผมจะทำตลกใส่มันไปก่อนเผื่อว่ามันจะหลุดท่าทางที่วางเอาไว้แล้วกลับมาเป็นไอ้บุ๊คเพื่อนของผมเหมือนเดิม



มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : ฮันแหน นอกจากมึงจะชอบเร่งเครื่องแล้วยังตอแหลใส่กูอีก



BIG : ..............



มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : แน่จริงคอลมาดิ คอลมาให้กูเห็นหน้าไอ้บุ๊ค



ในเมื่อมันยังส่งแต่จุดไข่ปลามาให้ผมก็คงต้องใช้ไม้ตายไม้สุดท้ายแล้วครับ!!



BIG Messenger Audio ………



มันคอลจริงครับ! ได้เลยจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่โกหก



“.........”



(ครับ?)



ทันทีที่ผมกดรับภาพที่ผมเห็นก็คือ ผู้ชายที่ไม่ใช่ไอ้บุ๊ค....



(เชื่อหรือยังว่าไม่ใช่? ถ้าจะจีบก็ใช้วิธีที่เนียนๆ กว่านี้หน่อยนะครับ)



“........”



(เฮ้! เงียบทำไม เห้ย!!!)



ผมจะพูดอย่างไงดี คือผู้ชายตรงหน้า เขาหล่อมาก และมันทำให้ผมเกิดอาการบางอย่าง อาการที่เรียกว่าหวั่นไหว... เขาเป็นผู้ชายหน้าหล่อและคมมาก หูทั้งสองข้างของเขามีจิวเจาะเอาไว้ และที่สำคัญ ผมชอบทรงผมสกิลเฮดของเขามากๆ เลย



“มาเจอผมหน่อยได้ไหม ที่หอป้าแย้ม ห้อง 201 ผมจะรอ ติ๊ด!!”



ไอ้มารวย!!! มึงพูดอะไรออกไปว่ะนั้น พูดในสิ่งที่คิดอีกแล้ว!!! ถ้าเขามาจริงมึงจะทำอย่างไง เวร เวรมาก ปากพาซวยจริงๆ



ติ๊ง!



BIG : แล้วเจอกันครับ :)



จะ...เจอก็แย่แล้ว ใครจะไปเจอ ฮื่ออออ ช่วยมารวยด้วยครับ!!





BIG’ s talk



ตอนนี้ผมหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้อง 201 ตามที่คนที่ผู้ชายคนนั้นบอก เอาจริงๆ คือผมมาส่งเพื่อนที่หอนี้พอดีแล้วเป็นจังหวะที่เสียงแจ้งเตือนของผมมันดัง ดังจนผมต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก่อนจะเห็นว่าเป็นใครก็ไม่รู้ที่ผมไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟซด้วย อีกอย่างก็คือ..เขาคนนั้นทักมาด้วยคำพูดแปลกๆ แปลกจนทำให้ผมต้องมาตามคำเชื้อเชิญของเขา แล้วจะได้รู้ว่าคนอย่าง เฮียบิ๊ก พูดจริงทำจริง



ก็อกๆ



ผมใช้นิ้วมือของผมอุดที่ตาแมวเอาไว้เพื่อไม่ให้คนด้านในเห็นว่าเป็นใครหลังจากที่มาถึงหน้าห้องของคนที่เชิญผมมา



“ใครครับ” เสียงด้านในตะโกนถามออกมาเหมือนเขาจะลืมว่าเขาชวนใครเอาไว้



“ช่างแอร์ครับ”



“ช่างแอร์ในตำนานเปล่าครับ”



“ใหญ่กว่าในตำนานอีกครับ” ผมหลุดขำออกมาที่คนในห้องถามผมออกมาแบบนั้น ผมรอไม่นานอยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกทันที



“ไง อยากเห็นของใหญ่ขนาดนั้นเลย?”



“........”



“ขอเฮียเข้าไปหน่อยนะ” ผมไม่รอช้าผลักประตูเข้ามาด้านในห้องของคนตรงหน้าที่ยังคงยืนนิ่งและค้างอยู่ที่ประตูห้อง ส่วนผมเองที่เข้ามาด้านในก็จัดการถอดรองเท้าผ้าใบออกและเดินเข้าไปล้างเท้าในห้องน้ำก่อนจะออกมา และยังเจอเข้ากับภาพเดิม... ที่เขายังคงยืนค้างอยู่ท่าเดิมโดยที่มือยังคงจับลูกบิดเอาไว้ ทำให้ผมเดินเข้าไปซ้อนด้านหลังของคนตัวเล็กทันที



“ตกใจเฮียขนาดนั้นเลยเหรอ”



“หะ...เหี้ย!”



“เฮียครับ” ผมถือวิสาสะจับไหล่ทั้งสองข้างของคนตัวเล็กให้หันมามองผมตรงๆ ผมก้มลงสำรวจใบหน้าเรียบเนียนที่ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ผมหลับตาลงและใช้สมาธิ....สูดดมกลิ่นของคนตรงหน้าเข้าไปลึกๆ



“กลิ่นบริสุทธิ์จริงๆ ด้วย”



“ห้องผมไม่มีโอโซน....”



“ไม่คิดว่าจะเจอเร็วขนาดนี้” ผมลืมตาขึ้นมาช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งไปให้คนตรงหน้า “เป็นแฟนกับเฮียนะครับ”



“.......”



“ไม่อยากรอแล้ว”



“ผมไม่ได้ทำของใส่คุณนะครับ”



“เป็นแฟนกับเฮียนะ”



“.........”



“ถ้ากระพริบตาแสดงว่าตกลง...ฟู่!” เมื่อผมพูดจบผมก็ค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ คนตัวเล็กและเป่าลมออกมา ทำให้คนตัวเล็กหลับตาทันที



“เป็นแฟนกับเฮียแล้ว อย่าทิ้งเฮียนะ” กลิ่นบริสุทธิ์ที่ผมตามหามานาน อยู่ตรงหน้าของผมแล้วครับ





หัวข้อ: Re: มารวย(แคล้ว) : บทนำ มีแฟนแบบงงๆ (26/04/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 26-04-2019 22:32:31
แค่กลิ่นเฮียบิ๊กก็เป็นเนื้อคู่ตุนาหงันแล้วจมูกดีเวอร์ :pig2: :pig2:+1
หัวข้อ: Re: มารวย(แคล้ว) : บทนำ มีแฟนแบบงงๆ (26/04/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 27-04-2019 00:11:33
แค่บทนำก็สนึกแล้ว. ติดตามครับผม,,,
หัวข้อ: Re: มารวย(แคล้ว) : บทนำ มีแฟนแบบงงๆ (26/04/62)
เริ่มหัวข้อโดย: snoopyme ที่ 27-04-2019 22:28:09
ติดตามจ้าาา น่าสนุก
หัวข้อ: Re: มารวย(แคล้ว) : บทที่ 1 เป็นแฟนกับเฮียแล้วนะ (28/04/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 28-04-2019 15:19:07
บทที่ 1

เป็นแฟนกับเฮียแล้วนะ



Maruay’ s talk



ทุกคนเชื่อไหมว่าเหตุการณ์เมื่อครู่มันเกิดขึ้นเร็วมาก มากจนผมตั้งตัวไม่ทันเลยครับ อยู่ๆ ผมก็มีแฟนโดยที่ผมเองก็ไม่ปฏิเสธ จะปฏิเสธได้อย่างไงหละครับก็เขาหล่อขนาดนี้...พูดเองก็เขินเองครับ ทำให้ตอนนี้คนที่เรียกแทนตัวเองว่าเฮียนั่งจ้องหน้าและยิ้มให้ผมอยู่บนเตียง



“ผมเป็นแฟนคุณ?”



“ครับ แต่ว่าอย่าเรียกเป็นทางการเลย”



“แต่ผมไม่รู้จักคุณเลย...” เอาไงดีหละ อาการแบบนี้มันเหมือน... “เดี๋ยวผมมานะ” ผมรีบคว้าโทรศัพท์และวิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็วและทิ้งตัวลงนั่งบนชักโครก



อาการของคนโดนทำเสน่ห์



ชายที่โดนหญิงทำเสน่ห์โดยวิธีการมังกรรำ หรือโดยน้ำประจำเดือน ชายจะมีอาการใบหน้าคล้ำไร้สง่าราศี วิธีแก้ตามวิธีความเชื่อคนโบราณว่าเอามือไปแตะที่เสาศาลหลักเมือง ควรพาชายที่มีอาการไปไหว้ศาลหลักเมืองก่อนแล้วนำมือไปแตะ จะมีผลดีในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง





ชายที่โดนหญิงทำเสน่ห์โดยวิธีการผูกหุ่นพยนต์ ชายจะมีอาการใบหน้าซีดขาว ขอบตาคล้ำ เพ้อหาแต่สาวผู้ที่ทำเสน่ห์ใส่ วิธีแก้วิธีแก้ตักน้ำที่ซึมเข้าที่ท้องเรือจ้างจำนวนเจ็ดลำ ผู้ที่ไปตักห้ามพูดคุยกับใครจนกว่าจะนำไปให้ผู้ที่โดนทำเสน่ห์อาบและดื่ม และหาหุ่นพยนต์แล้วตัดนำมีดอาคมเชือกอาคมออก



แต่อาการของพี่เฮียคนนั้นไม่ได้มีอย่างที่ในนี้บอกไว้เลย แล้วจะเป็นไปได้ไง หรือต้นตระกูลของผมทำเสน่ห์ใส่ เพราะผมยังไม่มีแฟน



(ไงลูก)



“แม่ครับ แม่ได้ทำของใส่ใครหรือเปล่า”



(มารวยลูกพูดอะไร แม่ไม่เข้าใจ) ผมโทรหาแม่ทันทีเพราะคิดว่าน่าจะเป็นแม่ (เกิดอะไรขึ้นลูก!)



“อยู่ๆ ก็มีคนมาขอผมเป็นแฟนครับแม่”



(แล้วลูกตกลงไปไหม)



“ครับ ตกลงไปแล้ว”



(อ่าว...ทำไมเป็นงั้นหละลูก)



“เขาหล่อ แล้วผมเผลอ....แค่นี้นะครับแม่!” ไอ้มารวยเอ้ย! แค่จะโทรไปถามแต่ดันไปบอกแม่เฉยเลย แม่จะหาว่ามารวยไม่รักนวลสงวนตัวหรือเปล่านะ!!



“เฮียได้ยินหนูพูดแล้วนะ” ผมชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงห้าวๆ ของคนที่อยู่ด้านนอกส่งเสียงเข้ามาด้านในห้องน้ำ แล้วเมื่อกี้อะไร เรียกแทนใครว่าหนู? นี่มันเรื่องอะไรวะเนี่ย มารวยสับสนและงงไปหมดเลยครับ



“ออกมาได้แล้ว เฮียคิดถึง” ช่วยบอกผมทีว่าผมไม่ได้หวั่นไหวไปกับน้ำเสียงอ้อนๆ ของ..เขา เขาที่ชื่ออะไรผมยังไม่รู้เลย เรียกเฮียๆ อยู่นั้น ผมว่าเราข้ามขั้นกันไปใหญ่แล้วครับ



ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสติที่มันกระเจิดกระเจิงไปหมดให้กลับมา และลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องน้ำ ภาพที่ผมเห็นก็คือ ผู้ชาย..เรียกเฮียก็แล้วกัน เฮียยืนกอดกอดอกอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้ายิ้มๆ ทันทีที่ผมเปิดออกมา คือจะใบหน้าของเฮียมันจะละมุนนีไปถึงไหน



“ผมว่าเราต้องคุยกันแล้วแหละ” ผมเดินนำออกมาจากหน้าห้องน้ำ และเลือกที่จะนั่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานและหันหน้าออกมาเพื่อที่จะได้คุยกับเฮียที่นั่งยิ้มอยู่บนเตียงของผมได้ถนัด



“อยากรู้อะไรหละครับ”



“คือเราเป็นแฟนกันจริงๆ ใช่ไหม?”



“อาฮะ” เฮียพยักหน้า “อยากรู้ไหมว่าทำไมมันเร็วขนาดนี้ เฮียจะบอก แต่เราต้องมานั่งตรงนี้ก่อน” ผมขมวดคิ้วทันทีที่อยู่ๆ เฮียก็ตบที่เตียงข้างๆ เขา



“....”



“ไม่มาก็ไม่บอกนะ” และไอ้ความอยากรู้ของผมก็เอาชนะ ทำให้ตอนนี้ผมลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างๆ เฮีย เมื่อผมทิ้งตัวลงนั่ง โดยเว้ยระยะห่างเอาไว้เล็กน้อย



“บอกมาได้แล้วครับ”



“ก็กลิ่นตัวของเรา..หื้มมม” เฮียไม่พูดเปล่ากลับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ซอกคอของผมพร้อมกับสูดดมด้วยสีหน้าฟินๆ



“เห้ย มันแปลก” ผมชะงักตัวออกห่างทันที เมื่อสัมผัสกับลมหายใจอุ่นๆ ของเฮียผมก็รู้สึกขนลุกไปหมด



“เฮียเชื่อว่าเวลาที่เราเจอคนที่ใช้ จะช้าจะเร็วอย่างไงก็ต้องเป็นแฟนกัน สู้เป็นตั้งแต่วันแรกดีกว่า เราจะได้ใช้เวลาที่เหลือดูแลกันเยอะๆ”



“แล้วรู้ได้ไงว่าผมจะชอบ”



“ไม่น่ายากนะ” เฮียทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยและพูดออกมา



“ว่าผมง่าย?”



“ใช่ครับ”



“อ่า ก็ง่ายจริงแหละ” ถ้าไม่ง่ายผมก็คงไม่มาเป็นแฟนกับเฮียแกหรอกนะ เอาเถอะ ชีวิตช่วงนี้ผมขาดสีสันมานานพอสมควรแล้ว “แล้วรู้จักชื่อผมไหม?”



“พอรู้ อ่านจากชื่อเฟซ..มารวย ใช่ไหม”



“แล้ว..”



“เรียกว่าเฮียบิ๊กก็แล้วกัน”



“แสดงว่าเฮียชื่อบิ๊ก?”



“ครับ” คล้าย คล้ายมาก แต่ผมอาจจะคิดมากไป คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้งครับ “มาทำความรู้จักกันมากขึ้นไหม?”



“โอเค” ผมลุกยืนขึ้นและเดินมาตรงหน้าเฮีย..เฮียบิ๊ก “ผมชื่อ นายมารวย อายุยี่สิบเอ็ดปี อยู่ปีสามนะครับ คณะสหเวช มีเพื่อนไม่มาก สังคมของผมก็มีแต่กีฬา กลับห้องมาก็ทำงาน อ่านหนังสือบ้างเป็นบางครั้ง นิสัยของผมก็น่าจะดีนะครับ เพราะไม่มีใครชมว่าผมเลว”



“ใครเขาแนะนำตัวกันอย่างนี้เล่า”



“แล้วต้องอย่างไงอะครับ หรือต้องเอา CV ผมมาดูไหม”



“มันต้องแบบนี้”



พรึบ!



“เห้ย!” อยู่ๆ เฮียบิ๊กก็ดึงตัวของผมเข้ามาใกล้เขาและกดตัวของผมให้นั่ง...เอ่อ นั่งลงมาบนตักใหญ่ๆ ของเฮีย เกิดมาก็อายุยี่สิบเอ็ดนอกจากตักพ่อที่เคยนั่งครั้งล่าสุดตอนสามสี่ขวบ ก็ยังไม่เคยนั่งตักใครอีกจนกระทั่ง...ตอนนี้



ตึก ตัก ตึก ตัก



ใจกูอีกแล้ว สั่นอีกแล้ว มันก็ไม่แปลกหรอกครับ..ถ้าพวกคุณลองได้มานั่งตักใครแบบนี้รับรองใจเต้นทุกคน! ไอ้เฮียนี่ก็ทำให้ผมใจเต้นเก่ง



“ลิงอุ้มแตง..”



“หนูพูดว่าอะไรนะ เฮียได้ยินไม่ชัด” ผมรีบสะบัดหัวทันทีที่อยู่ๆ ผมก็เผลอพูดออกมาอีกแล้ว..ก็ท่ามันเหมือนซะขนาดนี้ถ้าเฮียบิ๊กลุกขึ้นยืนแล้วอุ้มผมแบบนี้นะ โคตรเหมือนเลย!



“อะ..อย่าเรียกหนูได้ไหม เพี๊ยะ!” ผมตบปากตัวเองทันทีที่อยู่ๆ ก็ดันติดอ่างมาซะงั้น “อย่าเรียกผมว่าหนู”



“ก็ชื่อมารวยมันบ้านนอก...เฮียขอโทษ” ผมหลับตาและถอนหายใจออกมา “เราอยากมีชื่อเรียกแทนกันไหม แบบ บี๋ เบ้บ ไรแบบนี้เฮียว่าน่ารักดีนะ”



“เอ่อ...มันจะดีหรอครับ”



“ครับ ดีที่สุดเลย^^ แต่เราเรียกเฮียว่าเฮียนั่นแหละ ส่วนเฮียจะเรียกเราว่า..เด็กบื้อ” เฮียบิ๊กทำท่าคิดอยู่นานก่อนที่เขาจะมองหน้าผมและยิ้มขำ พร้อมกับพูดออกมาว่า ‘เด็กบื้อ’ รู้สึกตัวเล็กเลยกู



“อย่าบอกว่าหน้าผมโง่?”



“ใช่ โง่แต่น่ารัก” อยู่ๆ เฮียบิ๊กก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมพร้อมกับใช้ปลายจมูกของเขาสัมผัสที่ปลายจมูกของผมเบาๆ และเขี่ยเล่นอยู่อย่างนั้น...ทุกคนคิดว่าผมจะเขินไหม “เด็กบื้อของเฮีย..”



“....” ถ้าตอนนี้มีกล้องถ่ายผมอยู่ อยากให้กล้องมาจับโฟกัสที่ใบหน้าของผมจังเลยครับ ผมทำหน้าไม่ถูกเลยว่าควรจะแสดงออกอย่างไง “เฮียครับ..” ผมค่อยๆ ผลักออกมาจากใบหน้าของเฮียบิ๊ก



“ครับ?”



“คือว่าผม..ยังไม่รู้จักเฮียดีเลย พูดอย่างไงดีหละ” ผมเกาหัวตัวเองอย่างใช้ความคิด เพราะกำลังสรรหาคำพูดที่ดูไม่รุนแรงกระทบจิตใจของเฮียจนเกินไป “แบบ เฮียช่วยแนะนำตัวคร่าวๆ ได้ไหม ผมโอเคที่เราจะเป็นแฟนกันง่ายๆ แบบนี้ แต่ข้อมูลพื้นฐานผมต้องรู้บ้าง”



“^^” อ่าวยิ้มให้กูเฉยเลยครับ



“แฟนเฮียรอบคอบจัง” เอ้า! แฟนทั้งคนมันก็ต้องรู้ข้อมูลถูกไหม แฟนนะไม่ใช่ข้าวราดแกงที่จะซื้อโดยที่ไม่รู้จักชื่อเจ้าของร้าน งงไปหมดเลยครับ “เฮียบิ๊ก บริบท อายุยี่สิบสาม ปีสี่แล้ว คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวเคมี นิสัย ไม่บอกได้ไหม เดี๋ยวบื้อก็รู้ครับ” ไอ้รอยยิ้มกรุ้มกริ่มแบบนี้มันหมายความอย่างไงนะ ผมว่าเฮียบิ๊กต้องไม่ธรรมดานะเนี่ย อยู่ๆ สัญชาตญาณบางอย่างก็ระแวงขึ้นมา ผมพยายามจะดันตัวเองให้ออกห่างจากตัวของเฮียบิ๊ก แต่ยิ่งผมดิ้นหรือขยับมาเท่าไหร่ มือของเฮียก็กระชับผมเอาไว้แน่นมากยิ่งขึ้น



“มีอีกเรื่องที่เราไม่รู้ แต่เฮียบอกให้” เฮียบิ๊กโน้มหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างๆ หูของผมเบาๆ และค้างเอาไว้อยู่อย่างนั้น “เฮียไม่ชอบคนขัดใจ...”



“......”



“เข้าใจใช่ไหมครับ?” เฮียบิ๊กค่อยๆ ขยับใบหน้ากลับมาที่เดิม ก่อนที่จะใช้สายตามองที่หน้าของผมนิ่งๆ สายตาแบบนี้ของเฮีย..มันดูน่ากลัวกว่าตอนที่เฮียยิ้ม



“ผมชอบเฮียยิ้มมากกว่า....”



“ก็อย่าขัดใจเฮียนะครับ” และเฮียบิ๊กหน้าดุก็กลายเป็นเฮียบิ๊กหน้ายิ้มทันทีที่เหมือนว่าเขาสามารถทำสีหน้าแบบไหนออกมาก็ได้ “อยากรู้อะไรอีกไหม เฮียรู้ว่ามันแปลก แต่แล้วไง ก็เฮียไม่สน ถึงเราจะไม่ชอบเฮียภายในวันนี้ อาทิตย์นี้หรือเดือนนี้ แต่เฮียมั่นใจว่าเฮียจะทำให้เราชอบและรักเฮียเข้าสักวัน” เฮียบิ๊กยักไหล่ขึ้นอย่างไม่สนใจอะไรเหมือนที่เขาพูด



“.....”



“ต่อไปนี้มารวยเป็นของเฮียบิ๊กนะครับ” คำพูดหวานๆ ของเฮียมันทำให้ผมเคลิ้ม เคลิ้มจนผมไม่ได้สนใจว่าเฮียกำลังทำอะไรกับร่างกายของผม ผมรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่หลังของผมสัมผัสเข้าที่เตียงนอน และเฮียบิ๊กๆ ค่อยๆ เลื่อนตัวขึ้นมาคร่อมผมเอาไว้



“เฮีย....”



“ขอจูบได้ไหม? แค่จูบ” เฮียบิ๊กยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ จนจมูกของเราสัมผัสกันอีกรอบ น้ำเสียงของเฮียมันดูออดอ้อนขอร้อง จนทำให้ผมอยากใจอ่อน แต่มันติดอยู่อย่างเดียว..



“ผมทำไม่เป็น..”



“เด็กบื้อเอ้ย...อุ๊บ” เฮียเผลอยิ้มออกมาเมื่อผมตอบออกไปแบบนั้น ผมรู้ว่าผมเปิดโอกาสให้เฮียเข้ามา ก็อย่างที่เฮียบอก..ความรักมันไม่จำเป็นต้องยากเสมอไป ในเมื่อเฮียบอกจะทำให้ผมรักเฮียเข้าสักวัน ผมก็ไม่ควรจะปิดใจใช่ไหมครับ?



ริมฝีปากของเฮียบิ๊กทาบลงมาบนริมฝีปากของมารวยเบาๆ และค้างเอาไว้อยู่อย่างนั้น เมื่อเฮียบิ๊กรู้สึกได้ว่าร่างกายของมารวยสั่น มันเป็นปฏิกิริยาของคนไม่เคยจริงๆ และนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากครอบครอง อยากเก็บร่างกายบริสุทธิ์ของมารวยเอาไว้คนเดียว ยิ่งเขาสัมผัส...ร่างกายของมารวยก็ยิ่งตอบสนอง มันมากขึ้นและมากขึ้น แต่เขาเองก็ต้องยับยั้งช่างใจเอาไว้ เพราะเขารู้ว่า...บางทีเก็บเปรี้ยวไว้กินหวานมันน่าจะอร่อยกว่านี้ รับรองได้ว่าคนอย่างเฮียบิ๊กรอได้ไม่นาน แล้วทุกอย่างมันก็จะเป็นของเขา



“ให้โอกาสเฮียนะครับ”



“....”



“นะครับ..นะครับ”



“อื้ออออ ครับ” ตาบ้าเอ้ย! แค่ขอร้องทำไมต้องเข้ามาขอใกล้ๆ ซอกคอด้วย เมื่อผมเผลอครางตอบรับออกไปอย่างลืมตัว เฮียบิ๊กก็ก้มลงดูดเม้มซอกคอของผมแรงๆ จนผมรู้สึกเจ็บ..แต่มันก็เจ็บแค่แปบเดียว



“เหมือนนิยายแจ่มใสเลย”



“หื้ม?” เฮียบิ๊กผลักใบหน้าขึ้นมามองหน้าของผมอย่างไม่เข้าใจว่าผมพูดอะไร



“ก็พระเอกแจ่มใสสมัยก่อนเขาจะทำคิสมาร์กเอาไว้จองนางเอก..บอกว่าคนนี้ของเขา และเฮียก็ทำแบบนั้นกับผม” พูดเองเขินเองมันเป็นอาการแบบนี้นี่เอง



“เฮียจองแล้วนะ เดี๋ยวเฮียกลับมา เอา :) ”



บอกผมทีว่ามารวยคนนี้มีแฟนแล้ว!!! เรื่องนี้ไอ้บู๊คต้องรับผิดชอบ..ว่าแต่ไอ้บุ๊คมันยังไม่คืนเงินผมเลย แต่เอาเถอะครับ ค่อยทวงมันใหม่พรุ่งนี้
หัวข้อ: Re: มารวย(แคล้ว) : บทที่ 1 เป็นแฟนกับเฮียแล้วนะ (28/04/62)
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 28-04-2019 15:46:55
โคตรเมากาว 555555555555  แต่น่ารักดีค่ะ เขิน
หัวข้อ: Re: มารวย(แคล้ว) : บทที่ 1 เป็นแฟนกับเฮียแล้วนะ (28/04/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 28-04-2019 16:08:17
โคตรเมากาว 555555555555  แต่น่ารักดีค่ะ เขิน

ไรท์ก็มาววววว 555555555
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ BIG LOVE MARUAY NA : บทที่ 1 เป็นแฟนกับเฮียแล้วนะ (28/04/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 28-04-2019 23:57:30
555. มึนๆ ดีนะครับ คู่นี้,,,
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ BIG LOVE MARUAY NA : บทที่ 1 เป็นแฟนกับเฮียแล้วนะ (28/04/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-04-2019 01:40:48
ไม่ชอบมาพากลนะเฮีย
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 2 (01/05/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 01-05-2019 21:11:48
บทที่ 2

เป็นแฟนเฮีย กฎที่ 1 ก็คือห้ามทิ้ง



Maruay’ s talk



ทุกคนครับ ช่วยบอกผมทีว่าตอนนี้ผมไม่ได้กำลังยิ้ม... หลังจากเมื่อคืนที่ผมมีแฟน คนแรก ใช่ครับ เฮียบิ๊กเป็นแฟนคนแรกของผม ถามว่าตื่นเต้นไหมก็ตื่นเต้นนะครับ อะไรที่มันครั้งแรกผมตื่นเต้นเสมอ ขนาดแม่พาไปกินไก่เอเอฟซีครั้งแรกผมยังตื่นเต้นเลยครับ ถึงการมีแฟนครั้งนี้มันจะแปลกๆ ก็เถอะ อ่อ ส่วนเมื่อคืนเฮียบิ๊กกลับไปประมาณเกือบๆ เที่ยงคืนเพราะผมไล่เฮียแกกลับไป ตอนแรกก็ไม่ยอมนะครับบอกจะให้ผมขนของไปอยู่ด้วย ถ้าผมไปตามที่เฮียบอกผมก็จะกลายเป็นคนง่ายคูณสองเลยครับ เพราะแค่นี้ผมก็ง่ายจะแย่แล้ว



“มารวย!!!” ขณะที่ผมกำลังจะเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อเข้าประตูมหาลัยเพราะหอของผมอยู่ฝั่งตรงข้าม เพียงแค่ข้ามนิดเดียวก็ถึง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ข้าม ก็มีเสียงใครบางคนเรียกผมเอาไว้ ผมจึงหันไปมองก่อนจะเห็นว่าเป็น ‘มิ้น’ เพื่อนสาว..ที่แมนมากๆ ของผมวิ่งตามหลังมา



“หวัดดีมิ้น”



“หวัดดีๆ ทำไมวันนี้มาเช้าจัง” มิ้นมองผมด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนต้องการจะจับผิด จะพูดอย่างไงดีหละครับก็เพราะว่าผม..ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับแหละมั้ง ไม่รู้ว่าถ้าเจอเฮียที่มหาลัยผมจะต้องทำตัวอย่างไง “มารวยฉันถามแกแค่นี้เอง ทำไมต้องหน้าแดงอย่าบอกหวั่นไหวกับฉันอีก?”



“เห้ย ไม่ใช่มิ้นๆ ๆ” ผมรีบเดินกอดคอมิ้นทันที จะว่าไปไอ้อาการหวั่นไหวของผมมันก็ไม่ค่อยมีแล้ว ปรกติถ้าผมเจอมิ้นผมจะหวั่นไหวทุกที ก็เพราะว่า..มิ้นเธอน่ารักครับ ถึงจะออกไปทางแมนๆ ก็เถอะ ผมบอกแล้วว่าผมหวั่นไหวกับคนหน้าตาดี



“แล้วเป็นอะไร...”



“แพ้แดดมั้ง” ผมปล่อยมือออกจากคอมิ้นและเดินนำมิ้นออกมา เพราะกลัวว่าปากผมจะเผลอไปพูดกับมิ้นว่าผมมีแฟน ผมยิ่งชอบเผลอพูดอยู่ด้วยทางที่ดีผมต้องออกห่างมิ้นมาก่อน



“ไอ้รวย!” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ไปไหนไกล เสียงคุ้นหูที่ฟังก็รู้ว่าใครทักผมขึ้นเสียงดัง “เอ้า! เงิน ทีหลังถ้าไม่มีก็บอก ไอ้เวร” ไอ้บุ๊ควิ่งมาดักข้างหน้าก่อนที่มันจะยื่นเงินมาให้ผม



“ไหนบอกไม่มี”



“ก็ไปเอามาจากเฮียกูไง ไปรอที่หอแม่งตั้งนานเสือกกลับมาเกือบๆ ตีหนึ่งไอ้เวร” ไอ้บุ๊คบ่นอย่างหัวเสียก่อนที่ทั้งมันผมและมิ้นพากันเดินเข้ามาที่โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัย วันนี้ตอนเช้าพวกผมมีเรียนรวมครับเลยมากินข้าวที่นี่



“มิ้นเอาอะไร เดี๋ยวเราไปซื้อให้” ทันทีที่ได้โต๊ะไอ้บุ๊คก็ถามมิ้นทันที “มึงเอาไร”



“เดี๋ยวไปซื้อเอง” ส่วนผมก็บอกตามมิ้น วันนี้ผมอยากกิน..ก๋วยเตี๋ยวก็แล้วกัน แต่ร้านมันอยู่เกือบๆ สุดท้ายทำให้ต้องเดินไกลหน่อย ซึ่งทางร้านมันติดกับคณะวิศวะฯ ผมอยากกินก๋วยเตี๋ยวจริงๆ นะทุกคน ไม่ได้มีอย่างอื่นแอบแฝงเลย



“เส้นเล็กไก่ครับ” โชคดีที่คิวร้านก๋วยเตี๋ยวคนไม่เยอะมาก ทำให้ผมสามารถสั่งได้เลย



“เด็กบื้อ!”



“....!” อยู่ๆ ผมก็หันไปตามเสียงทันทีก่อนจะเห็นว่าเป็น..เฮียบิ๊กยืนยิ้มให้ผมที่อยู่ห่างออกไปและทำท่าเหมือนจะวิ่งมาหาผม แต่ผมยกมือขึ้นห้ามก่อนและเป็นฝ่ายวิ่งไปหาเฮียบิ๊กแทน



“มีเรียนเช้าเหรอครับ?”



“ครับ”



“แล้วกินอะไรยัง”



“ผมสั่งไปแล้ว แล้วเฮียกินอะไรยัง” ยิ่งคุยกันใกล้ๆ แบบนี้ผมก็ยิ่งเขินครับ ไอ้เจ้าคนบ้า... แค่วันเดียวเฮียบิ๊กจะมีอิทธิพลต่อผมขนาดนี้ไม่ได้นะ



“ไปกินกับเฮียไหม”



“ผมมากับเพื่อน เฮียไปกินกับเพื่อนเถอะ”



“ก็ได้..คืนนี้ไปหาอีกได้ไหม? นะครับ” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรเฮียบิ๊กผู้มือไว ยื่นมือของเขาเข้ามาจับมือของผมเอาไว้และเขย่าเบาๆ ด้วยท่าทางออดอ้อนซึ่งมันขัดกับจิวที่ใส่อยู่และทรงผมสกินเฮดแบดๆ ของเฮีย มันทำให้ดูน่ารักไปหมด



“ผมมีซ้อมบอลนะ” ผมยังไม่ได้บอกซินะครับ ว่าผมมีดีกรีเป็นนักบอลมหาลัยเรียกว่าเป็นตัวจี๊ดเลยก็ว่าได้ เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้ก็ฝีมือเทียบเท่า เมซซี่เจเลยนะครับ เมซซี่มารวย ฮ่าๆ ผมว่าผมจะอวยตัวเองเกินไปแล้ว



“เลิกกี่โมง จะไปรับ”



“ดึกเลยนะ”



“รอได้ มีปั่นโปรเจคที่คณะ น่าจะเลิกพอๆ กัน”



“งั้นเดี๋ยวผมโทรหานะครับ”



“ครับ ตั้งใจเรียนนะเด็กบื้อ” ก่อนที่เราสองคนจะแยกออกจากกัน เฮียบิ๊กยื่นมือของเขาเข้ามาลูบที่ศีรษะของผมเบาๆ “เฮียไปแล้วนะ”



“ครับ สู้ๆ ครับเฮีย”



อ่า อย่างนี้นี่เองที่เขาเรียกว่า..กำลังใจ มันดีจังเลยครับ รู้สึกว่าสามารถเรียนติดต่อกันได้เกือบๆ ร้อยชั่วโมง วิ่งรอบสนามอีกร้อยรอบ หรือทำอะไรก็ได้ เพราะกำลังใจของเฮียยยยย



แรงมากไอ้มารวยเอ้ย! เป็นเอามากนะครับ



หลังจากที่ผมแยกออกมาจากเฮียบิ๊กก็มาเอาก๋วยเตี๋ยวที่สั่งเอาไว้และกลับไปนั่งรวมตัวกับเพื่อนๆ ที่เหลือ



“มึงเฮียกูแปลกมาก”



“อย่างไงวะ” อยู่ๆ ไอ้บุ๊คก็พูดขึ้นมาโดยที่ไม่ได้เกริ่นนำอะไรก่อนทำให้ผมและมิ้นเองอดที่จะสงสัยไม่ได้



“เฮียบอกว่าเฮียมีแฟนแล้ว”



“แปลกตรงไหน”



“คณะเรา..มึงว่าใครวะ ผู้หญิงคณะเราสวยๆ ก็น้อยมาก ถ้าไม่รวมยัยนี่นะ แต่เฮียไม่น่าจะชอบแบนๆ แบบมิ้น”



“ทะลึ่งไอ้บุ๊ค!”



“ไม่ถามชื่อมาหละ”



“เออ กูลืม” ผมเองก็ไม่เคยเจอพี่ชายของไอ้บุ๊คหรอกนะครับ จะเจอกันทีไรมีอันคาดกันทุกทีเลยตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้ปีสามแล้ว ไอ้บุ๊คมันชอบสรรเสริญเฮียของมันให้ผมฟังว่า เฮียมันเรียนเก่ง หล่อ สุภาพ เรียกได้ว่าตรงข้ามกับมันทุกอย่าง ผมจำได้เลยตอนที่พวกเราเข้ามาปีแรกแล้วไอ้บุ๊คมันไปมีเรื่อง เฮียมันก็มาเคลียร์ให้ เรียกได้ว่าคอยตามเช็ดขี้ไอ้บุ๊คทุกอย่าง



“ไปเรียนได้แล้ว” หลังจากที่พวกผมคุยกันเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งมิ้นเป็นคนเบรกขึ้นมา ทำให้บทสนทนาจบลงเพียงเท่านี้ และพวกเราก็ขึ้นมาเรียนในคาบเช้า





สนามบอล



หลังจากเลิกเรียนคาบบ่ายผมกับไอ้บุ๊คก็แยกกันหลังจากลงมาจากตึก ผมตรงมาที่สนามฟุตบอลที่เป็นสเตเดียมของมหาลัย ส่วนไอ้บุ๊คก็แยกไปเข้าชมรมดนตรีของมหาลัย



“มาเร็วเว้ยวันนี้!” ผมเดินมาเก็บของที่ล็อกเกอร์ด้านในสเตเดียม ก็เจอเข้ากับพี่ๆ ในสโมสรที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดกันเสร็จหมดแล้ว



“ครับพี่” ผมถอดเสื้อนอกออกและเปลี่ยนเป็นชุดกีฬาตรงนั้นเพราะขี้เกียจเดินไปเปลี่ยนในห้องน้ำที่อยู่ไกลออกไปเล็กน้อย ไหนๆ ก็เป็นผู้ชายเหมือนกันก็เปลี่ยนกันตรงนี้ ไม่มีอะไรให้อายครับมีเหมือนๆ กันหมดทุกคน



“เสร็จแล้วออกไปวอร์มกันก่อนนะเว้ย รีบตามมานะไอ้รวย”



“ครับบบ”





BIG’ s talk



“ไอ้บิ๊ก มึงเสร็จยัง” ตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ สองทุ่มผมกำลังนั่งปั่นโปรเจคแลปอยู่ในห้องที่คณะกับเพื่อนๆ อีกสามสี่คน



“ใกล้แล้วๆ” ผมเองก็เร่งมือพิมพ์สรุปอยู่ ใจจริงอยากจะรีบทำให้เสร็จๆ เพราะจิตใจของผมมันไปอยู่กับใครบางคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของผม... แค่คิดกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเด็กบื้อก็ลอยเข้ามา



“หื้ม หอมจัง....”



“ไอ้บิ๊ก มึงดมคอกูทำไม กูไม่เอานะเว้ย” ผมลืมตาขึ้นมาหลังจากที่อยู่ๆ ผมก็เพ้ออะไรแปลกๆ ดันไปดมที่คอของ ‘ไอ้วสุ’ เพื่อนสนิทของผมที่นั่งทำงานอยู่ข้างๆ จนมันส่งสายตาแปลกๆ มาที่ผม



“โทษทีเพื่อน พอดีคิดถึงแฟน”



“แฟน? แฟนไหนมึง” ไอ้วสุทำหน้าสงสัย เพราะแฟนล่าสุดที่ผมคบมา..นั่นก็นานมามากแล้วเหมือนกัน มันอาจจะแปลกๆ ที่อยู่ๆ ผมก็ขอมารวยคบแบบนั้น นอกจากเรื่องกลิ่นแล้ว ผมมีเซ้นอะไรบางอย่างที่บอกว่ามารวยคือคนที่ใช่ และผมก็คิดว่าเซ้นนั้นของผมมันเป็นเรื่องจริง



“เด็กสหเวชเดี๋ยวพามาเจอ น่ารักมากเลย”



“ไอ้เสือบิ๊กเป็นเอามากเว้ย” เสียงของเพื่อนสนิทอีกคนของผมก็ดังแทรกเข้ามา เสียงนั้นเป็นของ ‘ไอ้เกรท’ “อยากเห็นวะ คนนี้หญิงชาย”



“ชาย”



“ยอดมาก” รสนิยมของผมไม่ตายตัวครับเรียกได้ว่าถ้าถูกใจใคร ไม่ว่าจะเพศไหนผมก็ไม่สน ยุคสมัยนี้แล้วเนอะถ้าจะให้มัวกังวลเรื่องนั้น ผมว่าโบราณตายเลยอีกอย่างทางครอบครัวของผมก็โอเพ่นนะครับถ้าผมจะมีแฟนเป็นผู้ชายถึงจะเป็นครอบครัวคนจีนก็เถอะ เพราะเตี่ยกับม๊าผมเขาเป็นคนหัวสมัยใหม่พอที่จะไม่แคร์เรื่องพวกนี้



“เสร็จแล้ว!” ผมกดเซฟงานพร้อมกับปิดคอมพ์อย่างเสร็จสับ พร้อมกับเก็บของลงกระเป๋าสะพาย



“รีบขนาดนั้นเลย?” เกรททียืนอยู่ตรงหน้าถามออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเขาดูรีบร้อน ก็เข้าใจว่ามีแฟนแต่ไม่คิดว่าจะกระตือรือร้นขนาดนี้



“เออๆ ไปหละๆ” ผมไม่มีเวลาพูดมากเพราะไม่รู้ว่าป่านนี้เด็กบื้อของผมจะซ้อมบอลเสร็จหรือยัง ถ้าผมว่างผมก็อยากไปนั่งเฝ้านะครับ อยากรู้ว่าอารมณ์นั่งรอแฟนเล่นบอลจะเป็นอย่างไง แค่คิดก็รู้สึกเขินแปลกๆ แล้วครับ



“ห้าสิบบาทค่ะ” ผมแวะเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อเกลือแร่และน้ำเปล่าติดมือไปเพื่อว่าเด็กบื้อของผมจะกระหายน้ำหลังจากเล่นกีฬา



ตื๊ดดด



‘เฮียผมใกล้เลิกแล้วนะ ตอนนี้กำลังพักไม่ต้องรีบนะครับ ^^’ ผมก้มลงอ่านข้อความทางไลน์ที่เด้งขึ้นมาผ่านหน้าจอแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะตอนนี้ก็ใกล้จะถึงสนามแล้วเพียงแค่อีกไม่กี่ก้าวเท่านั้น อีกไม่กี่ก้าวก็จะเจอเด็กบื้อของผม หัวใจไม่ได้เต้นแรงแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วกันนะไอ้บิ๊กเอ้ย



ผมเดินเข้ามาในสเตเดียมที่จริงผมก็คิดว่าเด็กบื้อจะมีซ้อมแค่ที่สนามใหญ่แต่ที่ไหนได้เล่นซ้อมในสเตเดียมแสดงว่าเด็กบื้อของผมน่าจะเก่งเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับ มีอีกหลายเรื่องที่ผมยังไม่รู้และเด็กบื้อยังไม่รู้ ผมว่าเวลานี้แหละที่จะทำให้ชีวิตคู่ของการคบกันสนุก เหมือนอยากรู้ก็ยิ่งอยากค้นหา ดีกว่าทำความรู้จักกันจนหมดแล้วค่อยคบผมว่าอย่างนั้นมันไม่ค่อยตื่นเต้น เพราะที่ผ่านมา...ผมก็เคยเป็นแบบนั้นเหมือนกัน



“เฮีย!” ทันทีที่เดินเข้ามาด้านในสนามเสียงของเด็กบื้อตะโกนออกมาเสียงดัง ทำให้ผมชูมือขึ้นและโบกให้เล็กน้อย บรรยากาศในสเตเดียมก็ใหญ่ดีครับแต่ที่แปลกๆ ไปก็น่าจะเป็น เอ่อ...เหล่าผู้หญิงสวยๆ ที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นแฟนนักบอลนั่งรวมกันและหันหน้ามามองทางผมด้วยสายตาแปลกๆ



“แฟนน้องรวยเหรอคะ?” ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมคุ้นหน้าเหมือนเคยเห็นที่ไหนเอ่ยทักขึ้น ส่วนผมเองก็เดินเข้าไปใกล้ๆ พวกเธอ



“ครับ”



“ยินดีต้อนรับสู่วงการแฟนนักบอลค่ะ เราชื่อนิด้านะคะ” นิด้า? อ่อ! ดาวมหาลัยปีผมนี่เองก็ว่าทำไมผมคุ้นหน้าเธอเหลือเกิน หลังจากที่นิด้าแนะนำตัวส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือก็แนะนำตัวกับผมด้วยท่าทางเป็นกันเอง ที่สำคัญพวกเธอลากผมเข้ากรุ๊ปไลน์ สมาคมแฟนนักบอล อีกต่างหาก.... เอ่อ ผมทำตัวไม่ถูกเลยครับ



“น้องรวยน่ารัก นิด้าคิดว่าน้องรวยจะพาผู้หญิงน่ารักๆ มาซะอีก ที่ไหนได้เป็นหนุ่มหล่อดีกรีอดีตเดือนมหาลัยรุ่นเดียวกับนิด้าเลย”



“อ่า ครับ” ผมได้แต่ยกมือขึ้นเกาผมแก้เก้อ แต่ก็ลืมไปว่าผมไม่มีผมให้เกา.....เศร้าจังไอ้บิ๊ก



“น้องรวยโชคดีจังเลยมีแฟนหล่อๆ อย่างบิ๊ก พวกเราอิจฉา” ทุกคนครับตอนนี้บิ๊กเสียอาการมาก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงดี เขินนะ แต่ก็นั่นแหละครับ สังคมของเด็กบื้อก็คือสังคมของผมเหมือนกันทนเขินไปก็ไม่เสียหายอะไร



“เฮียยยย” ผมหันไปตามเสียงอ้อนๆ ของไอ้เด็กบื้อที่วิ่งเมาเกาะรั้วกั้นระหว่างที่นั่งคนดูและสนาม ผมค่อยๆ ลงไปหาพร้อมกับของที่ซื้อมา



“เหนื่อยไหมครับเด็กบื้อ” ผมหยิบผ้าเย็นออกมาแกะจากซอง “เฮียเช็ดให้นะครับ” ผมยื่นผ้าเย็นไปซับที่หน้าของเด็กบื้อเบาๆ ส่วนไอ้เด็กนี่ก็หลับตาพริ้มเหมือนชอบ เด็กมันยั่วครับไม่รู้ฤทธิ์ของเฮียบิ๊กซะแล้ว



“เหนื่อยนิดหน่อยครับ” หลังจากเช็ดที่หน้าเสร็จผมก็แปะผ้าลงบนคอของเด็กบื้อเอาไว้แทน เลื่อนมือมาสัมผัสที่ผมเปียกเบาๆ



“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนะครับ จะได้ไปกินข้าวกัน”



“โอเคครับ” เด็กบื้อหละมือออกจากรั้วและรีบวิ่งอย่างอารมณ์ดีหายเข้าไปด้านใน ส่วนผมก็กลับมาที่สมาคมเมียๆ นักบอลต่อ ผมอึดอัดนะเพราะผมไม่ใช่โพเมียแต่ผมโพผัว...ถึงจะยังไม่สมบูรณ์ก็เถอะ ผมได้ข่าวมาว่านักบอลอึด ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันครับว่าเด็กบื้อของผมมันจะอึดซักแค่ไหนกันเชียว



“บิ๊กไปทานข้าวกับพวกเราไหม” นิด้าที่ดูจะพูดกับผมเป็นพิเศษถามขึ้นอีกครั้งหลังจากที่แฟนของเธอเดินมารับ แต่แฟนของผมนี่ซิครับยังไม่ออกมาเลย



“เอาเลย ขอบคุณที่ชวนนะครับ” ผมยิ้มให้นิดาพรางก้มเก็บขวดน้ำและของที่ผมซื้อมา เป็นจังหวะที่ผมเห็นเด็กบื้อเดินแนบชิดกับผู้ชายคนอื่น กระตุกเลยครับ ทั้งคิ้วและตีน



ผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาเด็กบื้อที่ตอนนี้ถูกไอ้ผู้ชายตัวสูงโอบเอวเอาไว้ ผมรู้ว่าสีหน้าของผมตอนนี้บ่งบอกว่าไม่ค่อยพอใจกับภาพที่เห็นสักเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนแฟนของผมเขาจะไม่ค่อยรู้ตัว



“รวยเราส่งแค่นี้นะ แล้วก็กลับดีๆ นะครับ ค่อยๆ เดินระวังด้วย” ผู้ชายที่โอบเอวเด็กบื้อปล่อยมือออกก็จริงแต่..มันก็ไม่ควรที่จะเอาไปแตะบนหัวของเด็กบื้อแบบนั้น นั่นผมทำได้คนเดียว



พรึบ!



“อ่าโทษทีครับผมเห็นแมลงเต่าทองมันเกาะเลยปัดออก” ด้วยความที่มือมันกระตุกไปก่อน ผมจึงเอื้อมมือไปปัดมือไอ้หมอนั้นให้ออกไปจากหัวของเด็กบื้อ



“แมลงเต่าทอง?”



“ครับ แมลงเต่าทอง” ผมเดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างทั้งคู่และออกแรงจับแขนของเด็กบื้อให้เข้ามาประชิดตัวผมใกล้ๆ อาการหวงมันออกครับขอโทษทีพอดีตอนนี้ปิดไม่มิด!



“เห้ย! คุณ รวยมันเจ็บนะ” ยิ่งไอ้หมอนั่นแสดงออกว่าเป็นห่วงเด็กบื้อของผมเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองควบคุมตัวเองไม่ค่อยจะได้



“แฟนผมไม่เจ็บหรอกครับ”



“แฟน?”



“เอ่อ...เฮียไปกินข้าวเถอะ ผมหิววววว ไปก่อนนะเซย์แล้วเจอกันเว้ย” ยังไม่ทันที่ผมจะได้จัดการไอ้หมอนั่นต่อ เด็กบื้อก็ลากผมออกมาจากตรงนั้นด้วยความรวดเร็ว



“ใครครับ” หลังจากที่เดินออกมาได้สักพักผมก็เอ่ยปากถามเด็กบื้อขึ้นด้วยอารมณ์ที่ผมรู้ว่าผมไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่



“เซย์ครับเพื่อนในทีม”



“สนิทกัน? ทำไมต้องโอบกันมา”



“คือว่าตอนเปลี่ยนชุดผมล้มครับเลยเจ็บข้อเท้านิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นอะไรแล้วครับเฮีย เห้! อย่าทำหน้าเป็นห่วงซิ คิ้วขมวดแล้ว ไม่หล่อนะนั่น” เด็กบื้อหันหน้ามามองและใช้นิ้วมือของเขาจิ้มมาที่ระหว่างคิ้วของผมที่ผูกกันเป็นปม “จะแก่ไวมาก”



“หึ ไอ้เด็กบื้อ” ใครจะหงุดหงิดลงครับถ้าเจอแบบผม “เด็กบื้อ”



“ครับผม?” ผมเอื้อมมือไปผสานระหว่างมือของเด็กบื้อที่อยู่ข้างๆ



“กฎข้อแรกก็คือห้ามทิ้งเฮียนะครับ เฮียไม่ชอบใจเลยเวลาที่เห็นเราไปอยู่ใกล้คนอื่นแล้วคนนั้นมันมาถูกเนื้อต้องตัวเรา”



“เอ่อ...นั่นเพื่อนผมนะ”



“แต่ผมแฟนคุณนะ”



“อ่า ไม่ก็ไม่แล้วครับ” ผมเอ็นดูทุกครั้งที่ผมทำให้เด็กบื้อหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงได้ “เสียลุคนักบอลหมดเลยอะเฮีย” คงยังไม่มีใครบอกซินะครับว่าเวลาคนเขิน มันตีความหมายได้หลายอย่าง แต่สำหรับความหมายที่ผมจะตีก็คือ...โคตรน่าเอาเลย!!
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 2 (01/05/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 01-05-2019 23:25:47
เฮียขี้หึงว่ะ,,,
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 3 (05/05/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 05-05-2019 22:08:43
บทที่ 3

เฮียอยากเขาไปในตัว...ของเรา



หลังจากที่แลกเปลี่ยนข้อตกลงระหว่างกันเป็นที่เรียบร้อยบิ๊กพามารวยมาทานก๋วยเตี๋ยวที่ใต้หอพักของเขา เพราะเขามีแผน แผนการพาแฟนขึ้นห้องเป็นครั้งแรก แต่เขาก็ไม่ใจร้ายพอที่จะมีอะไรกับมารวยตั้งแต่สองวันแรกที่คบกัน เขาอยากให้เด็กมันตายใจก่อน แล้วค่อยๆ ...ค่อยๆ ว่ากันทีหลัง



“เด็กบื้อเอาอะไรครับ เฮียสั่งให้”



“อยากกิน..”



“เฮียไหม?”



“เอ่อ..เว้นไว้ก่อน ผมเอาเล็กต้มยำขอสองชามนะครับผมหิวมาก” บิ๊กได้แต่ยิ้มขำกับท่าทางของมารวยที่เอาแต่สนใจเมนูมากกว่าเขาที่อร่อยกว่าก๋วยเตี๋ยว “เพิ่มลูกชิ้นและหมูไม่เอาผักนะครับเฮีย”



“ครับ แต่ไม่กินผักจะไม่มีประโยชน์เหรอ”



“ผมมีประโยชน์จากการออกกำลังกายแล้ว ทดแทนกันได้ เฮียเอาน้ำอะไรครับ” มารวยเองก็เหมือนที่จะไม่สนคนตรงหน้าและมองหาแต่ของกินต่อไปเรื่อยๆ จนสายตาไปสะดุดกับร้านน้ำหวานข้างๆ



“น้ำเปล่าครับ”



“เดี๋ยวไปซื้อให้นะ”



หมับ!



“เอาเงินเฮีย” บิ๊กคว้ามือของคนตรงหน้าเอาไว้ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าเงินออกมาส่งให้ แต่มารวยกลับขมวดคิ้วด้วยความงุนงง



“ไม่เอาครับผมมีเงิน อย่าทำแบบนี้เลยเฮีย”



“อยู่ๆ ก็ทำหน้าเครียดเฉย”



“เงินก็คนละกระเป๋าเนอะ เงินพ่อแม่เฮีย เฮียเก็บไว้เถอะ” มารวยเดินตรงไปที่ร้านน้ำหวานทันที ทิ้งให้คนที่นั่งอยู่มองตามหลังด้วยสีหน้ายิ้มๆ เรื่องๆ เล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เขามีความสุขได้





Maruay’ s talk



“หารสองอย่าโกงจ่ายคนเดียว ผมกินสองจาน จานละห้าสิบก็ร้อยพอดี” ผมส่งแบงค์ร้อยให้เฮียหลังจากที่เฮียออกเงินให้ผมไปก่อน



“เด็กบื้อเอ้ย” แต่มือใหญ่ของเฮียเปลี่ยนเป้าหมายจากแบงค์ร้อยที่ผมยื่นไปตรงหน้ากลับเลื่อนขึ้นมายีบนศีรษะของผมเบาๆ “ค่าน้ำเฮีย เจ็ดบาทเอาไป”



“ครับผม” เราแลกกันออกเงินจนกระทั่งเฮียพาผมเดินเข้ามาในหอของเฮีย เพราะบอกว่าจะขึ้นไปเอาของก่อนที่จะเดินไปส่งผมที่อยู่อีกหอ แต่ดูเหมือนกับว่าผมกำลังจะโดนผู้ใหญ่หลอกอย่างไงอย่างนั้นเลยครับ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ร้านก๋วยเตี๋ยวจนกระทั้งขึ้นมาบนห้องชั้นสิบกว่าเฮียยังไม่ปล่อยมือผมออกเลย



พึ่งรู้ว่าการจับมือใครบางคนมันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง



ตึก ตัก ตึก ตัก



“ไอ้หัวใจจจจจจจจจจ!!”



“เป็นอะไรครับ?” คนตรงหน้าสะดุ้งขึ้นมาทันทีที่อยู่ๆ ผมก็ตะโกนออกไปแบบนั้น เอ่อ...ผมลืมตัวอีกแล้วครับทุกคน



“หัวใจคึกครื้นหลังจากออกกำลังกายครับ”



“อ่า ครับ” เฮียพูดเหมือนไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้สนใจผมหรือว่าถามต่อ เราทั้งสองเดินมาถึงหน้าห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นของเฮีย ตอนนี้เฮียกำลังใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้จับมือของผมล้วงหาคีย์การ์ดที่กระเป๋าสะพาย



“ปล่อยมือก่อนก็ได้นะครับ”



“ไม่ครับ เฮียมีความสามารถที่ทำอะไรมือเดียวได้” ผมอยากถามออกไปจังเลยครับว่า เพื่ออะไร? แต่ก็เอาเถอะไม่อยากจะขัดความสามารถของเฮีย



“เฮียอยู่กับใครครับ เพื่อนหรือเปล่า” ผมเดินเข้ามาพร้อมเฮียหลังจากที่เฮียพยายามใช้มือข้างเดียวล้วงและเปิดห้อง ห้องของเฮียบิ๊กสะอาดมากข้าวของถูกจัดว่างไว้อย่างเป็นระเบียบและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นน้ำยาปรับอากาศ ห้องของเฮียบิ๊กคล้ายๆ คอนโด มีห้องแยกออกเป็นหลายโซนมีทั้งครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอนที่มีทั้งหมดสองห้อง



“น้องชายครับ แต่มันกลับดึก” เฮียพูดยิ้มๆ ก่อนจะจูงมือผมมานั่งที่โซฟาด้านหน้า “เดี๋ยวไปเอาขนมมาให้นะ ดูอะไรก็ดูเลย” ครั้งนี้เฮียยอมปล่อยมือออกจากผมเพื่อที่จะลุกขึ้นไปเอาขนมและน้ำมาให้ ตามจริงก็อยากจะบอกว่าไม่ต้องแต่ก็ไม่ทันแล้ว ผมเลยได้แต่กดรีโมทเปิดทีวีตามที่เฮียบอก



ซี๊ดดดดด อ่าส์ So sweet darling



ภาพตรงหน้ามันทำให้ผมแทบจะปารีโมททิ้งเลยทีเดียวก็เพราะ...เป็นวีดีโอหนังโป๊ ชายรักชายที่ตอนนี้กำลังถึงจุดสุดยอด ฝ่ายกระทำนอนอยู่ด้านล่างโดยมีอีกฝ่ายคร่อมอยู่บนตัวแต่หันหน้าออกไปอีกทาง



“Reveres cowboy…..”



“ขนมมาแล้วคะ....เหี้ย!”



ปึง!



“คิกค้าก เซอร์ไพร์สไหมเฮีย...ไอ้รวย!!!!!!!!!!”



“ตี๋...”



“ไอ้บุ๊ค.........”



เกิดความเงียบไปชั่วขณะทั้งผมที่นั่งอยู่โซฟา มือจับรีโมทค้างเอาไว้อยู่ ตาจ้องไปทางประตูที่อยู่ๆ ก็ถูกเปิดเข้ามาจากทางด้านนอก และที่สำคัญ...นั่นมันเพื่อนผม ไอ้บุ๊ค...



“ทำไมเฮียถึงคิดไม่ถึงนะว่าเราสองคนอยู่คณะเดียวกัน..” เป็นเฮียบิ๊กที่ได้สติที่สุดเดินเอาขนมเข้ามาวางไว้บนโต๊ะด้านหน้าผมก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้น



“อะ..ไรนะเฮีย อย่าบอกนะว่า”



“เออ แฟนเฮียเอง” เฮียบิ๊กทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ผมพร้อมกับสองมือที่โอบรอบไหล่และดันผมเข้ามาประชิดตัวเฮียทันที ส่วนไอ้บุ๊คก็มองหน้าผมสลับกับเฮียด้วยสายตาที่บ่งบอกว่ามันเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน



“เรื่องเหี้ยไรวะเนี่ย” ไอ้บุ๊คปิดประตูห้องทันที ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ ผมอีกข้างที่ว่างอยู่ เหมือนตอนนี้ผมถูกขนาบข้างด้วยสองพี่น้องตระกูลบ.ทั้งบิ๊กและบุ๊ค



“คือ....”



“อย่างไงไอ้รวย บอกกูมา” ไอ้บุ๊คถือวิสาสะใช้มือของมันบีบเข้าที่คางของผมและบังคับให้หันมามองหน้ามันตรงๆ



“อย่าจับแรงได้ไหมตี๋” เฮียบิ๊กลุกขึ้นมาและแทรกนั่งลงตรงกลางระหว่างผมกับบุ๊คพร้อมกับใช้มือใหญ่ของเฮียผลักมือของบุ๊คให้ออกจากคางของผม “มีอะไรถามเฮีย”



“แล้วเฮียกับมันไปรู้จักกันได้ไง นี่มันเพื่อนรักผมเลยนะ” ผมก็ไม่รู้นะครับว่าทำไมไอ้บุ๊คต้องพูดด้วยน้ำเสียงเครียดๆ ด้วย “ถามจริงนะเฮียไปหลอกอะไรเพื่อนผมหรือเปล่า”



“ทำไมตี๋พูดกับเฮียแบบนั้นหละ” แต่เฮียบิ๊กก็ยังคงใช้น้ำเสียงนุ่มทุ้มถามน้องชายของเขา คือเอาจริงๆ นะครับคนอย่างไอ้บุ๊คมันไม่ควรได้รับน้ำเสียงแบบนี้จริงๆ



“ไอ้รวยมันโง่ เฮียรู้ไหมไอ้รวยมันเป็นโรคหวั่นไหวกับคนง่าย เฮียใช้โอกาสนี้ไปทำอะไรให้มันรู้สึกอย่างนั้นหรือเปล่าแล้วขอมันเป็นแฟน”



“ไอ้บุ๊ค”



“ไม่ใช่...เฮียมีวิธีของเฮียก็แล้วกันตี๋” ผมไม่อยากจะบอกใครเลยครับว่าเฮียมันใช้วิธีที่ผมเผลอและเป่าให้ผมกระพริบตาเพื่อตอบตกลงเป็นแฟน แล้วผมก็ดันยอม.......



“ขอคุยกับไอ้รวยก่อนนะเฮีย...ไปมึง! มานี่เลยไอ้รวย”



“อย่าจับแรงนะตี๋”



“เออ! หวงอะไรมันนักหนา” ไอ้บุ๊คลากแขนผมให้ลุกขึ้นและเดินตามมันเข้ามาในห้องนอนอีกห้องที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นห้องไอ้บุ๊คเอง ตั้งแต่ที่คบกับไอ้บุ๊คมาผมไม่เคยมาห้องของเลยมัน ไอ้บุ๊คมันบอกว่าเกรงใจเฮีย...



“มึงหลอกอะไรเฮียกูเปล่า?” ทันทีที่เข้ามาในห้องไอ้บุ๊คก็ผลักผมนั่งลงบนเตียงของมัน



“หลอกอะไรเล่า กูยังงงๆ อยู่เลย”



“แล้วไปคบทำไม? เฮียกูจริงจังนะเว้ยไอ้รวย ถ้ามึงเล่นๆ กูบอกเลยว่าหยุด”



“ทำไมตอนแรกมึงเหมือนหวงกูเลย..”



“ก็หวงแต่ก็หวงเฮียกูด้วย เล่นอะไรกันไม่รู้เรื่อง แต่เอาเถอะอย่าให้มีปัญหาตามมาก็แล้วกัน มึงก็เพื่อน นั่นก็พี่เฮียกู ถ้าเฮียกูทำอะไรให้มึงเสียใจกูจะจัดการ แต่ถ้ามึงทำเฮียกูเสียใจกูก็จะจัดการมึง”



“กูไม่รู้อนาคตนะไอ้บุ๊ค” อันนี้ผมพูดจริงๆ เลยนะครับว่าผมไม่รู้เหมือนกันว่าอนาคตของผมกับเฮียจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะมันเริ่มจากการคบกันที่ไม่ปรกติ



“เอาเถอะ ดีใจด้วยนะมึง มีแฟนแล้วอย่าไปหวั่นไหวกับใครอีก เข้าใจกูไหม?”



“เข้าใจครับเพื่อน”



“ดีมาก ออกไปได้แล้วครับพี่สะใภ้มารวย”



“>////<”



“ไอ้รวยเขิน ฮ่าๆ ๆ ๆ”



ปึง!



“เด็กบื้อทำไมหน้าแดงแบบนี้ ตี๋ทำไรแฟนเฮีย” อยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาทันทีพร้อมกับร่างสูงของเฮียบิ๊กที่ก้าวเข้ามายืนคู่กับไอ้บุ๊ค



“หวงไรขนาดนั้น ไม่ได้ทำไรเลย แต่ระวังแฟนเฮียไว้ดีๆ นะมีคนจ้องจะงาบหลายคน”



“อืม วันนี้ก็เห็น ออกมาได้แล้วอย่าไปอยู่ห้องตี๋ไปห้องเฮียดีกว่า”



“น้อยๆ หน่อยนะเฮีย” ผมเดินออกจากห้องของไอ้บุ๊คตามแรงดึงของเฮียที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเฮียจับมือของผมตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็เข้ามาในห้องของเฮียเรียบร้อย



“อาบน้ำไหม?”



“อะ..อาบอะไรเฮีย ผมอาบแล้วนะ”



พรึบ!



“เห้ย! เฮียทำไรเนี่ย” อยู่ๆ เฮียก็คว้าตัวผมให้มานั่งลงบนตักเฮียอีกครั้ง นับว่าเป็นครั้งที่สองตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน



“เรารู้ไหมว่าเฮีย...อยากเข้าไปในตัวของเรามากแค่ไหน” เฮียไม่พูดเพียงอย่างเดียวแต่กลับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ซอกคอของผมและใช้สันจมูกคอลเคลียเบาๆ จนผมรู้สึกขนลุกขึ้นมาแปลกๆ



“เฮียเราคบกันแค่สองวันเองนะครับ”



“แต่เฮียต้องการเรามากๆ เลย..” ด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มของเฮียบวกกับบรรยากาศเย็นๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของเฮียมันทำให้สมองของผมเริ่มที่จะสับสน



“แต่ผมจะดูง่ายไป”



“แค่ง่ายกับเฮียไม่ได้หรอครับ?”



ง่าย ไม่ง่าย ง่าย ไม่ง่าย ง่าย ไม่ง่าย เอาไงดีวะ เอาตามความรู้สึกจริงๆ ของผมก็อยากรู้อยากลองว่ามันจะเป็นอย่างไง แต่อีกใจมันก็สั่งให้ผมเล่นตัวเพราะรู้ดีว่าเรายังไม่รู้จักกันดี มันจะข้ามขั้นเกินไปไหม แต่ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรเฮียออกไป เฮียบิ๊กก็โน้มหน้าลงมาหอมแก้มของผมเบาๆ



“มัดจำนะครับ”



“เฮียยยย อย่าทำเหมือนผมตัวเล็กได้ไหม” เขินซิครับรออะไร เฮียแม่งก็รู้ว่าผมรู้สึกง่ายก็ยังปั่น



“หึ ตัวเล็กของเฮีย”



หมดกันภาพลักษณ์นักบอลมหาลัยแมนๆ ...........
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 3 (05/05/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-05-2019 01:41:18
นว้องงงงงงง!!! ทำไมน่าจับปั้นเป็นก้อนกลมๆแล้วกลืนลงท้องจัง
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 3 (05/05/62)
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 06-05-2019 23:11:25
เฮียร้ายย
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 3 (05/05/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 08-05-2019 23:49:18
เฮียมันร้าย อีก 2 ตอน ไม่น่ารอด,,,
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 3 (05/05/62)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 09-05-2019 07:46:34
น้องก็ซื้อ พี่มันก็ร้าย :hao6:
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 4 (26/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 26-07-2019 13:56:57
บทที่ 4

เฮียบิ๊กจัดเต็มเพื่อมารวยคนเดียว


ยิ่งคบกันนานก็ยิ่งรู้นิสัยกันมากขึ้น ก็เหมือนความรักของผมและเฮียบิ๊กนี่ก็พึ่งผ่านมาอาทิตย์เดียวเองนะครับ ผมเริ่มจนทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ก็เพราะ....



“เฮีย! มันเกินไปไหมเนี่ย? แค่วันเกิดผมต้องขนาดนี้เลยเหรอ” ผมยืนเท้าเอวมองเฮียบิ๊กที่ลากผมมาติดแบรนเนอร์อวยพรวันเกิดที่มีรูปผมถูกตกแต่ง และคำอวยพรมากมายที่เฮียบิ๊กเป็นคนคิดเองทั้งหมด ผมเชื่อแล้วว่าที่ไอ้บุ๊คมันบอกว่าเฮียบิ๊กเป็นคนจริงจังวันนี้ผมเชื่อแล้วจริงๆ



“หล่อและน่ารักสุดๆ ไปเลยนะ” เฮียบิ๊กยืนยิ้มให้กับผลงานของตัวเอง คือเฮียแม่งเอาผมไปติดคู่กับแบรนเนอร์นักร้องเกาหลี เซฮุน จุนเน่ ควานลิน ยุนโฮ และอีกหลายๆ คน คือเฮียพักก่อนดีกว่าไหมอ่ะ เพราะผมอายมากเลยครับ ผมก็ไม่ได้หล่อระดับนั้นไง พนันกันไหมครับว่าอีกไม่กี่วันมีคนมาดึงออกไปแน่ๆ



“เฮีย....เอาออกเถอะ มันไม่เท่เลย” ผมเกาะแขนเฮียบิ๊กที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย โดยที่ไม่สนใจผมเลยแม้แต่น้อย



“ขยับมาหน่อย ตรงนี้ๆ” เฮียดึงผมมายืนข้างๆ คู่กับแบรนด์เนอร์ที่เป็นรูปของผมถอดเสื้อยกบอลไว้เหนือหัว คือความทุเรศมันอยู่ที่ขนรักแร้ที่ดกดำทั้งสองข้างของผมนั่นซิครับ รีทัชให้กูสักหน่อยก็ไม่ได้ ถ้ามองมาจากไกลๆ ผมยอมรับว่าป้ายนี้ผมเด่นที่สุด....เด่นเรื่องความทุเรศนะครับ “ยิ้มด้วย”



“เฮีย”



“อย่างนั้นแหละครับ เยี่ยมที่สุดเลยหมาน้อย” เอากับเฮียแกซิครับ จากเด็กบื้อเป็นหมาน้อยไปแล้ว อ่อ ผมลืมบอกว่าช่วงนี้ผมนอนกับเฮียบิ๊กบ่อยมาก แต่ยังไม่ได้มีอะไรกันนะครับ อย่างมากก็แค่จูบเพราะผมยังไม่ยอม ส่วนไอ้เฮียก็วอแวอยู่นั้น ที่ผมไม่ยอมไม่ใช่เล่นตัวอะไร เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้าผมมีแข่งบอลและแมตนี้ผมลงตัวจริงด้วย ถ้าโดนเอาช่วงนี้ละก็มันไม่จบเพียงแค่ครั้งเดียวแน่ๆ คนอย่างเฮียบิ๊กไว้ใจไม่ได้



“กลับเถอะ ผมว่าครบแล้วนะ”



“เหลืออีกเป็นปึกเลย” ผมมองไปในกระเป๋าผ้าของเฮียแล้วถอนหายใจออกมา “เสียดาย”



“โควตาก็ปริ้นฟรีเนอะ ไปเถอะผมหิวข้าวแล้วครับ อีกอย่างวันนี้โดดซ้อมเพราะเฮียเลยนะ”



“เพราะเราขอนะเฮียเลยยอม เดี๋ยวเอาไปติดที่คณะก็ได้” ผมเดินจับมือกับเฮียบิ๊กออกมาจากบอร์ดตามป้ายหยุดรถในมหาลัย จริงๆ วันเกิดของผมก็ชนกับวันแข่งนั่นแหละครับไม่รู้ว่าจะเลิกกี่โมง เฮียก็ยืนยันว่าจะมาดูผมแข่งทั้งๆ ที่วันนั้นตัวเองมีสอบเก็บคะแนน



“เฮียถ้าเหนื่อยไม่ต้องมาดูก็ได้นะ ผมพูดจริงๆ”



“น้อง”



“ห้ะ?” อยู่ๆ เฮียก็พูดอะไรขึ้นมาโดยที่ไม่มีการเกริ่นนำอะไรทั้งนั้น



“เรียกแทนตัวเองว่าน้องซิ น่ารักดี”



“มาอารมณ์ไหนอีก?”



“อารมณ์รักมารวยไง” ผมว่านะผมก็บ้านั่นแหละที่มายงมายิ้มกับมุขอะไรแบบนี้ของเฮีย ถึงภายนอกจะดูโคตรแบดโคตรกร้าวใจ แต่ถ้าพอลองมาศึกษาดูดีๆ เฮียบิ๊กนี่โคตรอนุบาลเลยครับ เสียดายทรงผมสกินเฮดเท่ๆ ของเฮียจัง



“จะเรียกก็ต่อเมื่อเฮียทำตัวเหมาะสม”



“ขอคำจำกัดความคำว่าเหมาะสมหน่อยซิ”



“แล้วแต่อารมณ์ผมมั้ง”



“แล้วถ้าบนเตียงจะเรียกแทนตัวเองว่าอะไร” ผมก็ไม่เคยคิดว่าจะแทนตัวเองว่าอะไร แต่เท่าเคยดูและศึกษามาบ้างตามอินเทอร์เน็ต เขาเรียกชื่อกันไม่ใช่เหรอ



“อ่าห์ เฮียบิ๊ก”



“ช่วยทำให้มีอารมณ์กว่านี้ได้ไหม ถ้าครางด้วยน้ำเสียงโมโนโทนขนาดนั้น เฮียว่าแค่หายใจก็พอ”



“ครางว่า เฮียบิ๊ก เฮียบิ๊ก เฮียบิ๊ก อ่าห์ ยอดเยี่ยม เฮียบิ๊ก...” ผมแกล้งทำเสียงโมโนโทนต่อไปเพื่อกวนอารมณ์คนข้างๆ



“รู้ไหมว่าเฮียจะครางว่าอะไร” ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ส่วนเฮียก็ก้มลงมากระซิบที่ข้างๆ หูผมเบาๆ “เด็กบื้อ..อื้ม ขย่มแรงกว่านี้ได้ไหม เฮียใกล้เสร็จแล้ว..ซี๊ดด”



“........”



“ฮ่าๆ โคตรเอ๋อ!” เฮียบิ๊กผลักออกจากผมทันทีที่ได้แกล้งครางด้วยอารมณ์ที่จัดเต็มประหนึ่งว่าผมกำลังขย่มบนตัวของเฮียอย่างนั้น ทั้งน้ำเสียงและจังหวะหายใจของเฮียมันกระตุ้นบางอย่างของผม..



“มารวยแข็ง!” เหี้ยมารวย! อีกแล้วนะมึง ไอ้ฉิบหาย! พูดในสิ่งที่คิดอีกแล้ว แล้วดูหน้าเฮียบิ๊กแม่งโคตรหื่น สายตาเฮียนี่มองมาที่มารวยน้องของผมอย่างไม่ปิดบัง



หมับ!



“แข็งจริงด้วย!



“เฮีย! มาจับหำผมทำไม! ตายซะเถอะ โว้ยยยย!!!” ใครจะว่าผมเด็กน้อยก็เถอะนะ เพราะตอนนี้ผมกำลังวิ่งไล่เตะเฮียที่อยู่ๆ แม่งก็เอามือมาล้วงจับมารวยน้อยของผมแรงๆ จนผมแทบจุก อารมณ์ที่มีหมดเลยครับ หมดเพราะเฮียเลยคนเดียว เฮียแม่งเก่งนะทำให้ผมมีอารมณ์และหมดอารมณ์ได้ในเวลาเดียวกัน



ร้านข้าวหน้าหอเฮียบิ๊ก



“แดกไรดีเพื่อนเหี้ย” ตอนนี้ผมนั่งอยู่ข้างๆ เฮียโดยมีไอ้บุ๊คนั่งตรงข้าม วันนี้มันว่างเลยมานั่งกินข้าวกับพวกผม



“ตี๋ พูดไม่เพราะเลยนะ” ผมแอบแลบลิ้นใส่ไอ้บุ๊คที่โดนเฮียบิ๊กดุ



“เมียเฮียแลบลิ้นใส่ผม” ไอ้บุ๊คได้ทีก็ฟ้องเฮียบิ๊ก ส่วนเฮียเองก็ได้โอกาสใช้มือบีบปากผมแรงๆ จนผมต้องผลักออก เฮียแม่งชอบเล่นแรงเกินไป!! “จะกินไร กูจะเขียน”



“ข้าวผัดความรัก” ผมแกล้งกวนตีนไอ้บุ๊คมันไป ไอ้บุ๊คไม่ได้ตอบเพียงแค่เหลือบสายตามองผมและเขียนเมนูไปโดยที่ไม่ถามผมกับเฮียก่อนมันจะลุกเอาไปให้แม่ค้า



“ไอ้หนูใครมารวย!” ผมยกมือทันทีที่ป้าแม่ค้าตะโกนถาม



“ผมครับป้า”



“ข้าวผัดแตดไก่ร้านป้าไม่มีนะไอ้หนู” ผมรีบเอามือลงทันทีที่ป้าตะโกนออกมาแบบนั้น ไอ้บุ๊คเล่นกูแล้วไอ้ฉิบหาย เมื่อเห็นว่าผมเหวอไปไอ้บุ๊คก็ระเบิดหัวเราะออกมา ส่วนเฮียบิ๊กก็ขำครับ และคนทั้งร้านก็พากันขำครับ ไอ้เชี้ยเอ้ย! มารวยอายจริงๆ นะ ไม่แกล้ง ไม่แสดง ไม่ปลอม



“ไอ้เคบุ๊ค!!” ผมแอบชูนิ้วกลางใส่มันไปหลังจากที่เห็นว่าเฮียบิ๊กลุกขึ้นไปซื้อน้ำมาให้ผมกับน้องชายของเขา



“กวนตีนกูก่อนเอง”



“เมื่อวานกูกินมาม่าปวดหัวเลยว่ะมึง” ระหว่างที่ผมเล่นโทรศัพท์ผมเห็นคนแชร์มุกตลกมาในเฟซบุ๊คเลยอยากลองเล่นกับไอ้บุ๊คมันดูให้เดาเลยนะไอ้เวรนี่ด่าผมแน่นอน



“ปวดหัวไรมึง” ไอ้บุ๊คเงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมามองผมด้วยสายตางงๆ



“มาม่ารสต้มยำกลุ้ม”



“.......สัด” ไอ้บุ๊คมันด่าผมออกมาเบาๆ ซึ่งเป็นจังหวะที่เฮียบิ๊กเดินมาพร้อมกับน้ำเปล่าและน้ำหวาน น้ำหวานของผมแน่นอน



“ของเราน้ำเปล่า ใกล้แข่งแล้วรักษาสุขภาพด้วย ส่วนน้ำหวานเฮียกินเองแต่ถ้าอยากมากๆ ก็น้ำเฮียหวานเหมือนกันนะ ชิมได้”

“จะอ้วกเฮีย ขอร้อง” อยู่ๆ ไอ้บุ๊คก็พูดขึ้นมาหลังจากที่เฮียบิ๊กพูดทะลึ่ง เอาจริงๆ ตอนนี้ไม่ได้อยู่กันแค่สองคน ถึงไอ้บุ๊คมันจะเป็นน้องชายแท้ๆ และเป็นเพื่อนของผมแต่บางเรื่องก็ไม่ควรพูดออกมาแบบนี้



“หวานนะ”



“เฮียครับ” ผมส่งสายตาดุๆ ไปให้เฮีย ทำให้ตอนนี้เฮียก็ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ของเขา เป็นจังหวะเดียวกับที่อาหารมาเสิร์ฟ เราสามคนกินข้าวเสร็จกก็พากันขึ้นมาบนห้องของเฮีย ไอ้บุ๊คแยกตัวเข้าไปอาบน้ำในห้องของมัน ส่วนผมก็มานั่งเล่นอยู่บนเตียง ส่วนเฮียเข้าไปอาบน้ำตั้งนานแล้วแต่ยังไม่ออกมาสักที สงสัยยังไม่เสร็จกิจ



แอดดด



“เฮีย นั่นเฮียเอาอะไรเข้าไป?” ผมชะโงกหน้าดูหลังจากที่เฮียเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวพันเอวออกมาหลวมๆ แต่ในมือของเฮียมีกระดาษที่ยับและเปียกน้ำบางส่วนออกมาด้วย



“รูปมารวย นี่” เฮียเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ เตียงก่อนจะชูกระดาษที่เหลือจากเอาไปติดที่บอร์ด



“เอาไปทำอะไรในห้องน้ำ?”



“ช่วยเหลือตัวเอง ก็มีอารมณ์ตั้งแต่เย็นแล้ว เราไม่ยอมให้เฮียมีอะไรด้วยสักทีมันก็เก็บกดนะ ไม่สงสารเฮียเหรอ?” เฮียบิ๊กเป็นบุคคลที่พูดเรื่องจังไรได้ออกมาดราม่าและจริงจังที่สุดเลยครับ ดูทำหน้าทำตาเศร้ามากมั้ง



“หลังแข่ง โอเคไหม?” ผมบอกเฮียด้วยน้ำเสียงจริงจัง เชื่อไหมครับหลังจากที่ผมพูดออกมาแบบนั้นจากหน้าเศร้าๆ ในตอนแรกเฮียยิ้มออกมาทันที



“ขอจูบหน่อยดิ มัดจำได้ไหม?” เฮียยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ คือตอนนี้สภาพเฮียแม่งโคตรล่อแหลมเลยครับ ถ้าเผลอผมว่าผ้าหลุดออกแน่ๆ



“ไปใส่เสื้อผ้าก่อนไหมเฮีย”



“เดี๋ยวก็ถอด” กูว่าละ เฮียแม่งก็เป็นแบบนี้อ่ะครับ มารวยเพลียจัง “ล้อเล่น มา ยื่นปากมา เฮียจะจูบแบบพิสดาร”



“พิสดารอย่างไงอีกครับเฮียยยยย”



“แบบนี้...อุ๊บ!” เชื่อแล้วครับว่าพิสดารจริง ก็เฮียมันอ้าปากกว้างจนผมเห็นลิ้นไก่ก่อนจะก้มลงมางับริมฝีปากของผม ไม่ซิ ไม่เรียกว่างับเรียกว่าเอาปากครอบปากของผมแต่ด้วยความที่เฮียอ้าปากกว้างมันทำให้ครอบคลุมไปที่จมูกของผม เฮียค่อยๆ ขยับปากให้เล็กลงจนกระทั่งพอดีกับรูปปากของผมจริงๆ และหลังจากนี้...มันก็เป็นจูบแบบปรกติไม่ได้พิสดารเหมือนเมื่อสักครู่ แต่เล่นเอาผมหอบเลยครับ แต่เอ๊ะ!



“เห้ย!” อยู่ๆ เฮียแม่งก็กระตุกผ้าเช็ดตัวที่พันรอบตัวเองออกทำให้ตอนนี้ผมเห็นว่าเฮียโป๊...และไอ้นั่นของเฮียก็ชี้โด่มาที่หน้าของผม “ไหนบอกช่วยเหลือตัวเองมาแล้วไง ทำไมมันยังดูพร้อมและต้องการขนาดนี้”



“รู้จักคำนี้ไหม คำว่าความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด มารวยครับสงสารเฮียเถอะนะ” เฮียบิ๊กทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้างๆ ผมพร้อมกับอ้าขาของตัวเองให้แหกออก....



“เฮีย มันอุบาทว์ถ้าเล่นแบบนี้ผมกลับหอนะขอบอก”



“มารวยไม่สงสารเฮียจริงๆ เหรอครับ? เฮียนะมองเรานอนมองเราเดินมองเรานั่ง มันทรมานใจเฮียเหลือเกิน” น้ำเสียงและสายตาของเฮียบิ๊กมันทำให้ผมปวดใจจริงๆ ครับ หรือว่านี่จะเป็นกับดักให้ผมหลงกล



“ดราม่าจริงปะเนี่ยถามจริง?”



“ครับ...ดูซิ ทรมานจัง” เฮียบิ๊กค่อยๆ ใช้มือจับไปที่บางอย่างที่อยู่ตรงกลางของเขาพร้อมกับรูดขึ้นลงด้วยสีหน้าฟินๆ “อื้อ..มารวยครับ”



“เฮีย....” ภาพตรงหน้าก็คือการที่ผมต้องนั่งดูเฮียบิ๊กจัดการตัวเองด้วยสีหน้าที่ทรมาน เอาจริงก็สงสารนะ แต่สงสารตัวเองมากกว่าทำให้ตอนนี้ผมลุกหนีออกจากห้องมาและเดินเข้าไปหาไอ้บุ๊คในห้องทันที



แอดดดดดด



“มารยาทอะไอ้รวย!” ผมเปิดประตูเข้าไปทันทีโดยที่ไม่ได้เคาะหรือบอกล่วงหน้าไอ้บุ๊คมันก่อน แต่ดีที่ว่าไอ้บุ๊คมันไม่ได้อยู่ในท่าทางที่อุบาทว์หรือกำลังทำอะไรที่เปิดเข้ามาแล้วน่าตกใจขนาดนั้น



“ไม่มีครับ ผมเก็บไว้ที่หอเก่าไปแล้ว”



“กวนตีน แล้วเข้ามาทำไม เฮียจะปล้ำมึงเหรอ?” ไอ้บุ๊คถามด้วยน้ำเสียงกวนๆ ส่วนผมเองก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงไอ้บุ๊ค



“มึงว่าเฮียมึงจะจริงจังกับกูจริงๆ ใช่ไหมวะ”



“มึงกังวลอะไร” ไอ้บุ๊คที่เล่นโทรศัพท์อยู่ในตอนแรกถึงกับวางโทรศัพท์ลงทันทีที่ผมถามมันด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ที่ไม่ให้พี่กูเอาก็เพราะว่ากลัวพี่กูฟันแล้วทิ้ง?”



“มึงคิดว่าไงหละ ก็กูไม่รู้ ไม่เคยหนิหว่า”



“ถ้ายังไม่แน่ใจก็อย่าพึ่ง รอมึงพร้อมก่อนไอ้รวย อย่าคิดเยอะแล้วก็อย่าขี้สงสาร”



“มึงไม่เข้าข้างเฮียมึงเหรอ”



“มึงคาดหวังให้กูพูดอะไร? กูอะรู้ว่าเฮียกูเป็นคนอย่างไงในมุมมองน้องชาย แต่ในมุมมองของคนรักกูไม่รู้แต่มึงเองน่าจะรู้ดีที่สุดนะไอ้รวย ถึงจะคบกันแบบแปลกๆ แต่ก็ใช่ว่าความรักของพวกมึงจะแปลกไปด้วย แต่ถ้าจะให้กูคอนเฟิร์มเฮียกูไม่เคยฟันใครแล้วทิ้งแน่นอน”



“ครั้งแรกเลยนะไอ้บุ๊คที่กูไม่ใจเต้นเวลามึงพูดดูดี” ปรกติแล้วทุกคนน่าจะรู้นะครับว่าผมอะหวั่นไหวง่าย แต่ช่วงนี้อาการเหล่านี้ของผมไม่ค่อยมีเลยครับ



“หึ ไอ้ควายเอ้ย” ไอ้บุ๊คเลิกสนใจผมและหันไปเล่นโทรศัพท์ต่อส่วนผมเองก็นั่งเล่นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้.....



BIG’ s talk

ตั้งแต่ที่เด็กบื้อหนีผมไปเมื่อครู่ก็ผ่านมาเกือบๆ สองชั่วโมงแล้วครับ หรือว่าเด็กบื้อจะโกรธผมที่ผมทะลึ่งใส่ ก็ใครมันจะไปอดใจไหวอะครับ ถ้าทุกคนเป็นผมทุกคนจะทรมาน เอาจริงๆ ที่ผมจ้องแต่เรื่องนั้นก็อาจจะมองว่าผมโรคจิตใช่ไหม ยอมรับครับว่าโรคจิตจริงๆ ถ้าแฟนของผมคือเด็กบื้อ



ก็อกๆ



ผมเดินออกมาสำรวจดูว่าเด็กบื้อหนีไปอยู่ส่วนไหนของห้องแต่แล้วก็ไม่พบทำให้สถานที่สุดท้ายที่ผมจะตามเด็กบื้อเจอก็คือห้องของตี๋



“มารับเมียเหรอเฮีย”



“อยู่ใช่ไหม”



“บนเตียง นอนตายไปแล้ว” ผมเดินเข้าไปในห้องของตี๋และกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นว่าเด็กบื้อของผมนอนหลับอยู่บนเตียงด้วยท่าทางน่ารักน่าทะนุถนอม



“เมียเฮียมันกลัวว่าเฮียจะฟันมันแล้วทิ้ง”



“ห้ะ?” ผมหันไปมองตี๋ทันทีที่ได้ยินตี๋มันพูดออกมาแบบนั้น “รวยพูดแบบนั้นจริงๆ เหรอ”



“ก็คิดนั่นแหละ แต่ผมก็ไม่ได้บอกนะว่าเฮียเป็นคนอย่างไงให้มันเรียนรู้ด้วยตัวของมันเอง เดี๋ยวหาว่าสปอยเฮียตัวเอง”



“แต่จริงๆ แล้ว ตี๋ก็คิดว่าเฮียเป็นคนดีใช่ไหม”



“เฮ้ออออ พาเมียเฮียกลับไปเถอะ ผมจะนอน” ผมก้มลงช้อนตัวเด็กบื้อขึ้นมา ผมสงสัยนะว่าทำไมตัวของเด็กบื้อโคตรเบา เบาขนาดที่ผมสามารถยกขึ้นด้วยแขนข้างเดียวเลยอะครับ แต่ที่น่าแปลกกว่าคือเด็กบื้อไม่ได้ผอมแห้งแต่ผอมแบบมีกล้ามเนื้อตามสเตปของนักกีฬา



“อย่าลักหลับมันนะเฮีย ให้ผ่านการแข่งไปก่อนเดี๋ยวมันเสียศูนย์”



“ครับ” ผมพาเด็กบื้อเข้ามาในห้องนอนของตัวเองก่อนจะค่อยๆ วางลงบนเตียงที่เป็นที่นอนของน้อง ส่วนผมก็มานั่งทบทวนบทเรียนของตัวเองอีกสักบทก่อนที่จะนอน



แต่จะว่าไปอีกไม่กี่วันก็วันเกิดเด็กบื้อแล้วในฐานะแฟนหมาดๆ ผมควรจะเซอร์ไพรส์แฟนอย่างไงให้แฟนประทับใจ นอกจากแบรนเนอร์ที่ผมตั้งใจทำและไปติดตามป้ายที่มหาวิทยาลัยมาวันนี้ ผมรู้มาว่าผมเป็นแฟนคนแรกของเด็กบื้อ และผมตั้งใจว่าผมจะเป็นแฟนที่ดีที่สุดระหว่างคบกัน ผมไม่รู้นะว่าอนาคตจะเป็นอย่างไงต่อไปจะคบกันได้นานแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ที่ผมคบกับใครผมไม่เคยคิดถึงวันที่เลิกกันเลย ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของธรรมชาติและเวลาในช่วงนั้น



“จุ๊บ...ฝันดีนะครับ”





#คิดถึงรวยไหมครับ???
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 4 (26/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 26-07-2019 23:53:27
เด็กบื้อของเฮีย,,,
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 4 (26/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 27-07-2019 00:53:01
เป็นแฟนที่น่ากลัวมาก555
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 4 (26/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 27-07-2019 13:55:44
 :pig4:
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 5 (27/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 27-07-2019 20:36:50

บทที่ 5
หึงจนตะลึงกันทุกฝ่าย

Maruay’ s talk

“เฮียผมมีซ้อมนะตอนเย็น เฮียกลับก่อนเลยก็ได้อาจจะดึกครับ” ผมบอกเฮียบิ๊กหลังจากที่มาถึงคณะ เฮียบิ๊กเดินมาส่งผมหลังจากที่เราแวะทานข้าวที่โรงอาหาร

“กี่โมง”

“ไม่แน่ใจเวลาเหมือนกัน แต่ถ้าดึกอาจจะกลับไปนอนหอนะจะได้ไม่รบกวน” ผมไม่ได้นอนที่ห้องตัวเองนานขนาดที่ไม่สามารถจำเลขห้องได้แล้วหล่ะครับ

“ไม่เอามานอนที่ห้อง ไม่อย่างนั้นเฮียจะไปนอนที่ห้องเรา”

“ก็ได้เดี๋ยวผมโทรบอก ขอเข้าไป.....”

“รวย!!” ผมหันไปมองตามเสียงก่อนจะเห็นว่าเป็นเซย์ที่วิ่งเข้ามาทักทายด้วยท่าทางที่ร่าเริงและแจ่มใสแต่คนที่อยู่ข้างๆ ผมไม่ได้แจ่มใสไปกับเซย์เลย

“หวัดดีเซย์”

“ทำไมวันก่อนไม่เข้าซ้อมอะเห็นพี่ๆ บ่นกันใหญ่เลย รวยไปไหนหรือติดธุระอะไรเหรอจะแข่งแล้วนะ” ผมไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเซย์อย่างไงดี จะตอบว่าโดดเพราะไปช่วยเฮียติดแบรนเนอร์วันเกิดตัวเองก็ดูจะเกินไปไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เอาเป็นว่าไม่ตอบก็แล้วกันเนอะ

“มีธุระนิดหน่อย แต่วันนี้ซ้อมไม่โดดแน่นอน..เอ่อ เฮียครับผมเข้าไปเรียนก่อนนะ” ผมหันไปบอกเฮียบิ๊กที่ยืนจ้องหน้าเซย์อยู่ตั้งแต่แรก ตั้งแต่คบกันมาผมไม่เคยเห็นเฮียบิ๊กเป็นแบบนี้มาก่อนเลยครับเรียกได้ว่าครั้งแรกที่เห็นชัดเจนและออกอาการมากกว่านี้ เรียกว่าหึงก็ได้มั้ง

“พี่ชายรวยเหรอ?”

“วันนั้นก็บอกไปแล้วนะครับ หรือว่าได้ยินไม่ชัดเจน”

“ผมถามรวย คุณชื่อรวยเหรอครับ?”

“ไม่ได้ชื่อรวยแต่เมียชื่อรวยโอเคไหม?”

“เฮีย มานี่เลย” ผมลากแขนเฮียให้ออกมาอีกทาง ถ้ายังอยู่ตรงนั้นต่อมีหวังได้ทะเลาะกันแน่ๆ รู้สึกฮ็อตก็วันนี้แหละครับผม ปรกติไม่ได้มีคนแย่งแบบนี้บ่อยๆ

“ก็ไม่พอใจ” ทันทีที่มาถึงอีกทางเฮียสะบัดมือออกจากมือของผมพร้อมกับทำสีหน้าไม่พอใจ

“เฮียนั่นเพื่อนผมนะ”

“แต่เฮียไม่ไว้ใจมัน มันมองเราเหมือนที่เฮียมอง”

“มองอย่างไงวะ ผมไม่เข้าใจแต่เฮียต้องใจเย็นๆ ก่อนนะครับ มันไม่มีอะไรจริงๆ” ผมพยายามควบคุมอารมณ์และน้ำเสียงของตัวเองให้เย็นที่สุดขณะที่เฮียบิ๊กกำลังร้อน

“เคยฟังเพลงของ Poly cat ไหม?” ผมมองหน้าเฮียด้วยสายตางงๆ หลังจากที่เฮียพูดจาแปลกๆ ออกมา

“เพลงอะไรเฮีย”

“แกลองมองในตาเขา ถ้ามีสายตา แบบเดียวกับฉันที่มองแกตลอดมา ก็แปลว่ารักหมดหัวใจ”

“......”

“เฮียไม่เล่นนะถ้ารวยไม่โง่รวยก็คงดูออกว่ามันไม่ได้คิดกับรวยแค่เพื่อน เพื่อความสบายใจของเฮียเย็นนี้ขอมานั่งดูได้ไหมล่ะ ว่าง”

“ก็ได้ครับ แต่นานนะ”

“ครับ ตั้งใจเรียนนะ เลิกแล้วไลน์บอกเฮียด้วย” ผมพยักหน้าตกลงตามที่เฮียบอกก่อนจะแยกย้ายกันตรงนั้นเลย ส่วนผมเดินกลับมาที่คณะเหมือนเดิม แต่ต้องแปลกใจที่เห็นว่าเซย์ยืนรอผมอยู่

“ว่าไงเซย์” ตั้งแต่ที่เฮียบอกว่าเซย์มองผมด้วยสายตาเดียวกับเฮียผมก็รู้สึกว่าผมต้องเว้นระยะห่างเอาไว้ ไม่ใช่ว่าหยิ่งหรือผยองอะไร เพียงแค่ตอนนี้ผมมีแฟนแล้วดังนั้นเรื่องการให้เกียรติแฟนต้องมาก่อนแน่นอน

“รวยเป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้นจริงๆ เหรอ” เซย์เดินเข้ามาถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ใช่ เป็นแฟนกัน”

“เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ารวยชอบผู้ชาย ถ้ารู้เราก็คงจะจีบรวยไปนานแล้ว...” ประโยคสุดท้ายของเซย์ดูเศร้าผมอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปแตะบ่าให้กำลังใจเซย์

“เชื่อเถอะว่าเซย์ไม่จีบรวยอะดีแล้ว รวยไม่ได้น่ารักขนาดนั้น” ผมบอกแล้วว่าผมยังคงงงกับตัวเองอยู่เลยครับที่อยู่ๆ มีเฮียบิ๊กหลงเข้ามาหาผมเพราะไอ้กลิ่นบริสุทธิ์บ้าๆ นั่นจนทำให้เราสองคนได้คบกัน มันเป็นเรื่องมหัสจรรย์มากเลยครับในชีวิตที่แสนจะธรรมดาของมารวยคนนี้

“รวยมีมากกว่าน่ารัก แต่เอาเถอะเอาเป็นว่าเรารอรวยอยู่นะ เราไม่แย่งแต่ถ้าวันไหนที่รวยเลิกหรือรวยทะเลาะกับเขาคนนั้น นึกถึงเราเป็นคนแรกเลยนะ”

“เอ่อ...เรายังเป็นเพื่อนกันได้นะเซย์ ไปเรียนกันเถอะ” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้เซย์เศร้าหรือพูดจาแปลกๆ ออกมาเพราะผมทำตัวไม่ถูกจริงๆ ถ้าทุกคนเป็นคนธรรมดาแบบผมแล้วอยู่ๆ มาเจอผู้ชายสองคนที่ไม่เคยให้ความสนใจมาก่อนแต่วันนี้กลับแสดงออกว่าสนใจ..ทุกคนคงคิดแบบเดียวกับผมอย่างแน่นอน

โชคดีที่วันนี้ผมกับเซย์มีเรียนวิชาไม่เหมือนทำให้ไม่ต้องเจอกันในเวลาเรียน นี่เป็นวิธีที่สามารถเลี่ยงการเจอได้ ผมบอกตรงๆ เลยครับว่าผมทำตัวไม่ถูก

“เฮียไลน์มาบอกว่าให้ดูแลมึงดีๆ อย่าให้ไปยุ่งกับไอ้เซย์มันเกิดอะไรขึ้นวะ” ขณะที่กำลังเลคเชอร์อยู่นั้นไอ้บุ๊คที่ตามเข้ามาเรียนทีหลังถามขึ้น

“ไม่มีอะไรหรอก เรียนไปมึง”

“โกหก ไม่งั้นเฮียจะไลน์มาบอกทำไม”

“เออหนาไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ให้ไอ้บุ๊คมันซักไซ้มากกว่านี้ อีกอย่างเรื่องนี้มันจะไม่มีอะไรเลยถ้าผมไม่เล่นด้วยและแน่นอนว่าคนอย่างผมรู้ดีครับว่าอะไรควรอะไรไม่ควร เฮียบิ๊กอะระแวงเกินไปทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรเลย

“ถ้าเฮียกูหึงไอ้เหี้ยเซย์บรรลัยแน่บอกไว้ก่อนเลย” ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้โดยที่ไม่ได้ตอบอะไรไอ้บุ๊คต่อต่างคนต่างตั้งใจเรียนโดยที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย


BIG’ s talk

“หงุดหงิดอะไรมึงวะไอ้บิ๊ก ตั้งแต่เช้าแล้วนะมึง” เสียงของไอ้เกรทพูดขึ้นหลังจากที่มันคงสังเกตเห็นว่าผมเอาแต่นั่งถอนหายใจและทำท่าหงุดหงิดตั้งแต่เช้า จะไม่ให้หงุดหงิดได้ไงครับก็เมื่อเช้าผมไปส่งมารวยที่คณะแต่ดันเจอเพื่อนของมารวยที่ผมมองอย่างไงก็ไม่น่าใช่เพื่อนธรรมดา เพราะสายตาของมันยามที่จ้องมองมาที่มารวยของผมมันเป็นสายตาที่ห่วงใยและพิเศษมากกว่าเพื่อนที่จะมองกัน ขนาดสายตาของตี๋ที่เป็นเพื่อนสนิทมารวยยังมองไม่ขนาดมันเลย คิดแล้วก็โมโหทุกที! มันไม่ใช่แค่ครั้งแรกเพราะครั้งที่ผมเจอมันตอนที่ไปหามารวยที่สเตเดียมก็โอบเอวกันมาขนาดนั้น ผมขอเตือนไว้เลยว่าอย่าทำให้คนอย่างเฮียบิ๊กหึง ไม่อย่างนั้นมีเดือดแน่

“กูหึงแฟนว่ะมึง”

“เป็นเอามากนะมึงคนก่อนยังไม่ขนาดนี้เลยนะไอ้บิ๊ก” ไอ้วสุที่นั่งอยู่อีกข้างพูดขึ้นมา

“พูดถึงคนเก่าทำไม” พูดถึงคนเก่า.....สะกิดแผลผมเต็มๆ บอกตรง

“ซอรี่เพื่อนลืมไปว่าจบไม่สวย” อีกเรื่องที่ผมกังวลแต่ไม่เคยบอกกับใครแม้กระทั่งเด็กบื้อของผมเลยก็คือ..อดีตของผมกับคนรักเก่า จะว่าอย่างไงดีผมเองก็ผิดมั้งครับที่ขี้หึงจนเกินไปทำให้เธอไม่มีเวลาส่วนตัว ผมไม่รู้นะว่าขอบเขตของแฟนมันอยู่ตรงไหน แต่ที่ผมรู้คือการทำทุกอย่างที่ผมคิดว่าดีและทำให้เธอมีความสุขที่สุดก็น่าจะพอ แต่กลายเป็นว่าการที่ผมทำแบบนั้นมันคือการที่ผมทำให้เธออึดอัด....และบอกเลิกผมไปเมื่อไม่นานมานี้ ถ้าถามว่าเสียใจไหมก็เป็นธรรมดาของคนที่เลิกกันแต่ถ้าถามว่าตอนนี้ผมเสียใจอยู่ไหมก็ไม่แล้วครับ คนเราอย่าไปจมกับความเศร้าหรือความทุกข์นานๆ มันเสียสุขภาพจิตสู้เอาเวลาที่เหลืออยู่มาทำให้ทุกวันมีความสุขมากกว่าเดิมผมว่าน่าจะดีกว่านะครับ ทุกคนว่าไหม?

“ช่างเถอะ ว่าแต่ตอบกูมาก่อนว่ากูควรทำอย่างไงกับอาการหึงดี คือกูไม่พอใจคนที่เข้ามาใกล้กับน้องมันแต่ไม่ใช่ว่ากูไม่พอใจทุกคนที่เข้ามา แต่พวกมึงก็น่าจะรู้นะว่าคนที่เข้ามาแบบไหนที่พวกมึงจะหึงกัน”

“เออเข้าใจ แต่บางทีมึงก็ต้องเชื่อใจน้องมันนะอีกอย่างพวกมึงสองคนเป็นแฟนกันเรื่องเชื่อใจไว้ใจกูว่าเป็นสิ่งที่โคตรจะสำคัญเลย”

“อืม....” ผมเองก็ไม่รู้ว่าเด็กบื้อของผมจะไปหวั่นไหวกับคนอื่นอีกไหมเพราะตี๋มันเคยพูดไว้ว่าเด็กบื้อขี้หวั่นไหวง่าย แต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่คบกับผมมานิสัยเหล่านั้นมันยังมีอยู่ไหม ถ้ามีอยู่ผมว่านะอาการหึงของผมมันได้รุนแรงขึ้นมาแน่ๆ และสุดท้ายมันก็จะจบไม่สวยเหมือนเดิมดังนั้น....ผมต้องควบคุมอารมณ์ของผมให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“พามาเจอพวกกูมั้งดิเพื่อน” ไอ้เกรทหันมาพูดกับผม

“เออ กูก็อยากเห็นหน้า” ไอ้วสุพูดเสริม

“อีกไม่นานหรอกเดี๋ยวพามารู้จัก” รอให้อะไรๆ มันชัดเจนกว่านี้ก่อนแล้วผมจะพาเด็กบื้อมาเจอกับเพื่อนๆ ของผม ส่วนตอนนี้ผมควรเลิกคิดมากและตั้งใจเรียนก่อนเป็นอันดับแรกเดี๋ยวไม่จบครับ


Maruay’ s talk

ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกเรียนทั้งทีตอนนี้ผมตรงมาที่สเตเดียมเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเพราะโดดมาหลายต่อหลายครั้งแล้วอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็ถึงวันแข่งในงานกีฬามหาวิทยาลัยผมจะมัวมาเล่นไม่ได้ ดีแค่ไหนแล้วที่พี่ๆ คนอื่นไม่ด่า

“ไอ้รวยมาไวนะวันนี้ กลัวโดนด่าละซิ” ผมยกมือไหว้พี่คิมพี่ใช่ทีมที่เดินเข้ามาหลังจากเปลี่ยนเป็นชุดกีฬาเสร็จเพราะตอนนี้ผมกำลังยืดแข้งยืดขาวอร์มร่างกายก่อนลงสนาม

“ครับ ผมขอโทษนะพี่”

“เออ ไม่เป็นไรมึง” พี่คิมพยักหน้าให้บอกว่าไม่เป็นไร พี่คิมนี่ถือเป็นกองหน้าขาลุยเลยทีเดียวถ้าถามว่าใครทำประตูให้ทีมมากที่สุดก็ต้องยกให้พี่คิมเลยครับ คนอะไรนอกจากเล่นกีฬาเก่งแล้วยังเรียนเก่งแถมหน้าตาดีอีกด้วย ได้พี่คิมนี่ครบเครื่องทุกเรื่องเลยครับ แต่....พี่คิมไม่โสดแล้ว “ได้ข่าวมึงมีแฟน?”

“ใครบอกพี่คิมเนี่ย”

“เมียกูดิ เห็นว่าวันไหนนะมานั่งเฝ้าด้วย ได้ข่าวว่าอดีตเดือนมหาลัยรุ่นกูด้วยนะ ไอ้รวยมึงไม่ธรรมดาเลยว่ะ” เฮียบิ๊กเคยเป็นเดือนมหาลัยด้วยเหรอ? ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลยวะ

“พี่คิมรู้ได้ไงวะ”

“เมียกูบอกมา เห็นสาวๆ กรี๊ดแฟนมึงเหลือเกินไอ้รวย” ผมควรภูมิใจซินะที่มีแฟนหล่อๆ อย่างเฮียบิ๊ก แต่ก็เอาเถอะครับเป็นบุญของไอ้รวยจริงๆ

“ครับพี่คิม ก็ไม่เท่าไหร่หรอก” ไม่รู้ว่าผมควรตอบว่าอะไรดีไม่อยากจะอวยแฟนตัวเองมากเกินไปได้แต่ยกมือเกาศีรษะแก้เขิน

“แล้ววันนี้เซย์มาไหม ปรกติเห็นจะมาพร้อมมึง หรือมีแฟนแล้วเทเพื่อน”

“เปล่าพี่ เดี๋ยวก็คงมาแหละอาจจะติดธุระ”

“เออ เสร็จแล้วไปวอร์มนอกสนามกัน” ผมเดินตามพี่คิมออกไปด้านนอกเพื่อรวมกับคนอื่นๆ ที่ถยอยกันมา แต่สังเกตเห็นว่าเซย์ก็ยังคงไม่มาปรกติเวลาซ้อมเซย์ไม่เคยพลาดเลยหรือว่าจะเป็นเพราะผม? ที่ทำให้เซย์ไม่อยากมาซ้อม

จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงที่ผมซ้อมเสร็จยอมรับเลยครับว่าไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่ แต่ดีที่ว่าพี่ๆ ไม่มีใครสังเกตเห็น ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าผมมัวแต่คิดเรื่องของเซย์แน่ๆ

“เด็กบื้อเฮียมารับแล้วครับ” จังหวะที่ผมเดินออกมาจากสเตเดียมก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อมาแต่ไกล และชื่อนั้นก็เป็นชื่อเฉพาะซะด้วยซิครับ ทำให้ผมรู้เลยว่าใครเรียก

“ครับเฮีย” ผมรีบวิ่งไปหาเฮียบิ๊กที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับอ้าแขนออกเพื่อให้ผมเข้ามากอด...เอ่อ ก็ต้องเข้าไปกอดตามที่เฮียต้องการนั่นแหละครับ เขาเรียกว่าเป็นการชาร์จแบต

“ชื่นใจไหมครับเด็กบื้อของเฮีย เป็นไงบ้าง” หลังจากที่ผมผลักออกจากอ้อมกอดของเฮียบิ๊ก เฮียแกก็จัดการแย่งกระเป๋าเสื้อผ้าของผมไปสะพายแทน

“ชื่นใจครับ ก็เรื่อยๆ นะ เหนื่อยดี”

“เฮียเห็นเราไม่ค่อยมีสมาธิเลย”

“ก็มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยครับ แต่ว่าไม่มีอะไรแล้ว” ผมพยายามทำตัวให้ปรกติที่สุดเพื่อไม่ให้เฮียบิ๊กรู้ว่าผมแอบคิดเรื่องของเซย์เดี๋ยวจะมีปัญหากันอีก

“อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมครับ?”

“อยากกิน....ก๋วยเตี๋ยวใต้หอก็ได้นะเฮียน่าจะเปิดอยู่” เพราะตอนนี้ก็เกือบๆ จะสามทุ่มแล้วถ้าไปที่อื่นของก็น่าจะหมดดังนั้นก๋วยเตี๋ยวใต้หอเฮียบิ๊กน่าจะเป็นคำตอบของอาหารเย็นไม่ซิครับ อาหารค่ำวันนี้

“จัดไปครับ” ผมไม่ได้คิดไปเองนะแต่ว่าวันนี้เฮียบิ๊กดูแปลกไปมาก ดูนิ่งกว่าเดิมไม่ค่อยยิ้มหรือขี้เล่นเหมือนที่ผ่านมา บางทีเฮียบิ๊กอาจจะเครียดเรื่องงานก็ได้

เมื่อมาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเราทั้งคู่ต่างคนต่างกินไม่ค่อยได้พูดคุยสักเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าผมหิวด้วยทำให้ไม่ค่อยได้สนใจเฮียบิ๊กสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมาถึงห้องเฮียบิ๊กก็เข้าไปอาบน้ำทันทีไม่ได้คุยเล่นกับผม.. แล้วสถานการณ์แบบอย่างนี้ผมควรจะทำอย่างไงดีครับทุกคน? ผมไม่รู้ว่าเฮียบิ๊กเป็นอะไร มีคนเดียวที่สามารถช่วยผมได้ก็คือ

“ไอ้บุ๊คอยู่ห้องไหม”

“อยู่ เข้ามา” ผมเปิดประตูเข้าไปทันทีที่ยืนรอไอ้บุ๊คตอบ วันนี้อยากทำตัวมีมารยาทครับเพราะปรกติแล้วผมเปิดเข้าไปเลย “มีไร”

“เฮียแปลกๆ ไป กูไม่รู้ว่าทำอะไรผิดหรือเปล่า”

“เหนื่อยมั้งเห็นช่วงนี้ปั่นโปรเจคจบ” ไอ้บุ๊คที่นอนอยู่บนเตียงเล่นเกมตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“ไม่..มันแปลกไป กูไม่ได้คิดไปเองนะเว้ย” ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ไอ้บุ๊ค “เหมือนมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกูเลย”

“ก็ไปถามเฮียกูซิ ถามกูไม่ได้คำตอบหรอก นี่ไอ้รวยคนนี้สวยไหมกูว่าจะจีบสักหน่อยปีหนึ่งด้วย ไม่รู้เป็นอะไรกูอยากเลี้ยงเด็กฉิบหายเลย” และไอ้บุ๊คมันก็เพิกเฉยเรื่องของผมโดยการขยับตัวเข้ามาก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่เปิดรูปผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาน่ารักมาให้ผมดู

“น่ารักแต่มึงอย่าเลย สงสารผู้หญิงเขาดูมีอนาคตอะไอ้บุ๊ค”

“หึงกูป่ะจ๊ะ?” ไอ้บุ๊คลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างของมันบีบแก้มของผมแรงๆ

“หึงอะไร บ้าป่ะวะ” ผมขยับออกห่างแต่ไอ้บุ๊คกลับขยับเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับดึงตัวผมเข้าไปแนบชิดกับตัวของผม

“ถ้าเฮียไม่ว่างแต่กูว่างนะ....”

“ตี๋ทำไร!!” จังหวะที่ไอ้บุ๊คโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เพราะผมรู้ว่าไอ้เวรบุ๊คมันชอบแกล้งแหย่เล่น แต่ที่ไม่เข้าใจเลยคือการที่เฮียบิ๊กผลักประตูเข้ามาพอดี...

“เปล่าครับเฮีย เล่นกัน”

“เมียเฮียเข้ามาอ่อยผม”

“ไอ้บุ๊ค!” ผมหันไปด่ามันตรงๆ อ่อยห่าอะไรของมันผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยมีแต่มันแหละครับที่เข้ามาเริ่มก่อน แต่สีหน้าของเฮียบิ๊กตอนนี้ดูไม่มีแววล้อเล่นเลย

“ไปเคลียร์กันเองละกัน ไปดูดบุหรี่ก่อน” พูดจบไอ้บุ๊คลุกออกไปด้านนอกระเบียงทิ้งให้ผมอยู่กับเฮียบิ๊กร่างสองที่ไม่ค่อยจะปรกติสักเท่าไหร่

“เฮีย...แค่เล่นกันครับ” ผมลุกออกจากเตียงก่อนจะตรงมาหาเฮียบิ๊กที่ยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมสายตาที่มองผมมาตรงๆ

“เฮียไม่ชอบ”

“แต่นั่นน้องเฮียนะ”

“แล้วไงน้องก็ผู้ชาย”

“ผมก็ผู้ชาย”

“มันไม่เหมือนกัน เฮียอย่าเป็นแบบนี้ดิ” ผมยื่นมือไปจับมือเฮียเบาๆ แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมาคือเฮียบิ๊กสะบัดมือออกจากมือของผมแรงๆ

“อย่าแรดเฮียไม่ชอบ”

“เฮีย! เกินไปป่าววะ” ผมไม่คิดมาก่อนว่าเฮียจะพูดแบบนี้เข้าใจว่าหึงแต่นั่นคือเพื่อนของผมอีกอย่างคือเป็นน้องชายแท้ๆ ของเฮียแต่ดูการกระทำของเฮียโคตรจะไม่ให้เกียรติทั้งผมและน้องชายของเขาเอง

“......”

“โคตรไม่มีเหตุผลเลย ไปสงบสติอารมณ์ก่อนค่อยมาคุยกัน” ผมพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองให้มากที่สุดทั้งๆ ที่ด้านในของผมก็เดือดไม่แพ้กันอยู่ๆ มาพูดจาแรงๆ แบบนี้เป็นใครก็ไม่ชอบกันทั้งนั้น “ว่าผมไม่เท่าไหร่แต่นั่นน้องชายแท้ๆ ของเฮียถ้ามันได้ยินคงเสียความรู้สึกอะครับ”

“ถ้าไม่เข้ามาก็คงทำกันมากกว่านี้ซินะ ถามจริงๆ เป็นเพื่อนกันแน่ๆ ใช่ไหม”

“ผมเริ่มหมดความอดทนละนะ...ผมขอตัว” ผมเดินหนีออกมาหวังจะกลับไปนอนที่หอของตัวเองเพราะถ้ายังอยู่ต่อมีหวังได้ทะเลาะกันอีกรอบแน่ๆ คบกันยังไม่เท่าไหร่จะเลิกกันไวขนาดนี้ก็ไม่ค่อยเมคเซ้นมั้งครับ

“จะไปไหน!” เฮียบิ๊กตามมาคว้าข้อมือของผมก่อนจะออกแรงกระชากจนผมกลับเข้ามาด้านใน “คิดจะไปหาไอ้เวรนั่นอีกรึไงรวย!”

“เฮียเริ่มไปกันใหญ่แล้ววะ” ผมผลักเฮียออกด้วยแรงที่มีจนเฮียบิ๊กเซไปทางด้านหลัง “ผมไม่ชอบคนไม่มีเหตุผล”

“ทำไม ไอ้เวรนั่นมีเหตุผลมากใช่ไหม”

“อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยว” ผมกดเสียงต่ำพร้อมกับกัดฟันข่มอารมณ์ไว้อย่างเต็มที่ “ผมเตือนนะเฮีย ถ้าอยากจะคบกันนานๆ เฮียต้องใจเย็นและมีเหตุผลมากกว่านี้ ถ้ายังเป็นแบบนี้ผมว่า...อีกไม่นานก็คง”

“อย่าพูดคำนั้นออกมา!” เฮียบิ๊กเอื้อมมือมาปิดปากของผมทันทีทั้งๆ ที่ผมยังพูดไม่ทันจบประโยค “เฮียแค่...หึงเรามากไปจนขาดสติ” เฮียบิ๊กปล่อยมือออกจากปากของผมเบาๆ พร้อมกับก้มหน้ามองพื้นด้วยแววตาและสีหน้าที่รู้สึกผิด

“คืนนี้ผมขอไปนอนหอนะ”

“แต่....”

“ไปทบทวนตัวเองดีๆ นะเฮีย แล้วเรื่องที่พูดวันนี้ผมก็จะลืมมันไป อย่าลืมขอโทษไอ้บุ๊คด้วยหละ” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเดินออกมาโดยไม่สนใจคำพูดของเฮียบิ๊กที่พยายามรั้งผมเอาไว้...และเหตุการณ์นี้ที่ทำให้ผมเริ่มตระหนักว่าบางทีรักครั้งแรกมันก็อาจจะไม่สมหวังเสมอไป

#เฮียขี้หึงเกินไป!!
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : บทที่ 5 (27/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 28-07-2019 00:31:42
มาม่าเริ่มตั้งหม้อละจ้า :fire:
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 6 (28/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 28-07-2019 19:55:37

บทที่ 6
คำขอโทษจากผู้ชายหึงขี้ เอ้ย! ขี้หึง

Book’ s talk

ผมนั่งถอนหายใจมองเฮียที่ถือขันธ์ห้าคุกเข่าลงตรงหน้าพร้อมกับคำพูดขอโทษที่ร่ายยาวออกมา จริงๆ คือผมก็ไม่ได้อะไรกับคำพูดของเฮียบิ๊กสักเท่าไหร่เพราะผมรู้ดีว่าเฮียมันเป็นคนอย่างไง ก็อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิตเรียกได้ว่าชินกับสันดานเฮียแกมากกว่า

“เฮียพอเถอะผมไม่โกรธ”

“แต่เฮียว่าเรา...” เฮียบิ๊กทำหน้าสำนึกผิด เฮียบิ๊กเป็นพี่ชายที่ดีมากสำหรับผมในทุกๆ เรื่องเฮียไม่เคยปล่อยให้น้องอย่างผมต้องอดหรือเดือดร้อนแม้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างยุ่งกัด แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงเฮียที่สุดก็คือ..เรื่องการควบคุมอารมณ์กับคนรักเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฮียเป็นแบบนี้ แต่ที่ต่างออกไปก็คือผมดันเป็นคนที่เป็นสาเหตุทำให้เฮียฟิวส์ขาด

“ผมผิดเองที่แหย่เฮียเรื่องนี้ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเฮียเป็นอย่างไง”

“ไม่สบายใจ ไม่เคยกระวนกระวายใจแบบนี้เลย” เฮียพูดพร้อมกับเอนหลังพิงขอบเตียงจนผมค่อยๆ เรื่อนตัวลงมาพิงกับเฮีย “เฮียแคร์รวยมากทั้งๆ ที่เรายังคบกันไม่นาน ตี๋ว่ามันแปลกไหม”

“ไม่มั้งไม่รู้ดิผมไม่เคย”

“เฮียรู้ว่าข้อเสียของเฮียมีอะไรแต่...มันห้ามตัวเองไม่ได้ทุกทีทั้งๆ ที่การทำแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายอึดอัดและเสียใจ” ผมพยักหน้าและนั่งฟังเฮียบิ๊กพูดต่อ “มารวยคงจะรับไม่ได้..”

“ไอ้รวยมันมีเหตุผลนะเฮียเห็นมันเอ๋อๆ แบบนั้น เพียงแค่เฮียต้องปรับตัวเรื่องนี้”
 
“จะพยายาม”

“แต่นี่เฮียเอาขันธ์ห้าของเฮียกลับไปแล้วไปนอนที่ห้องนะ ก่อนนอนก็นั่งสมาธิก่อนจะได้ไม่ฟุ้งซ่านสวดมนต์ด้วยก็ดีแล้วพรุ่งนี้ค่อยไปง้อไอ้รวย”

“ครับ” เฮียบิ๊กทำตามผมอย่างว่าง่าย

หลังจากที่เฮียบิ๊กกลับไปผมก็ทิ้งตัวนอนก่ายหน้าผากก่อนจะหยิบรูปไอ้รวยที่อยู่ใต้หมอนด้วยอาการวิตก มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมกังวล..แต่ผมจะไม่บอกใครแน่นอนว่าผม...แอบชอบไอ้รวยเหมือนกัน

" ทรมานฉิบหายเลย...แต่กูคงไม่แข่งกับเฮียกูแน่นอน" ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ พอมารู้ตัวอีกทีผมก็หมดโอกาสนั้นไปแล้วแต่ที่แน่ๆเรื่องนี้ผมไม่มีวันที่จะบอกใครอย่างแน่นอน ไม่ต้องมาสงสารคนอย่างไอ้บุ๊คเลยครับเพราะอีกแปบเดียวมันก็น่าจะหาย เห็นผมเหี้ยๆแต่ผมก็รู้จักเสียสละนะ เป็นไงละคมฉิบหาย! คมกว่ามีดก็ความคิดกูแล้วครับ

BIG’ s talk

หลังจากที่ผมขอโทษตี๋เป็นที่เรียบร้อยตามที่เด็กบื้อของผมบอก แต่สิ่งที่ผมวิตกก็คือ...ผมอาจจะคิดมากไปเองผมไม่ควรไประแวงตี๋เพราะตี๋คือน้องชายของผมตี๋ไม่มีวันที่จะทำแบบนั้น อีกอย่างผมก็เชื่อใจแฟนของผมด้วยเช่นกัน แต่...ผมดันไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เลยทำให้เด็กบื้อโกรธ สิ่งที่ผมคิดได้ตอนนี้คือต้องไปง้อไม่อย่างนั้นผมคงนอนไม่หลับแน่ๆ

วิธีง้อแฟน

ก่อนจะออกจากห้องไปผมขอเสิร์ชข้อมูลเพื่อเตรียมตัวไว้ก่อนผมไม่เคยง้อใครจริงจังขนาดนี้ถ้าใช้เซ้นผมง้อรับรองมีโกรธหนักกว่าเดิมแน่ๆ ดังนั้นผมขออนุญาตใช้ตัวช่วยก็แล้วกันครับ

ผมนั่งอ่านวิธีอยู่ใต้หอของมารวยหลังจากที่ผมออกมาจากหอของตัวเอง วิธีมันก็พื้นฐานอะครับประมาณว่าพูดขอโทษตรงๆ ทำให้ขำกอดหรือแม้กระทั่งเซ็กส์แต่รับรองว่าผมอยากใช้ข้อสุดท้ายมากกว่าข้ออื่นแต่ติดที่ว่ามารวยน่าจะไม่ยอมแน่ๆ

“ไอ้หนุ่มไปนั่งตรงนั้นทำไมเดี๋ยวยุงก็กินเอา” ลุงยามเดินมาถามด้วยพร้อมกับไฟฉายส่องหน้า มันช่างจ้าซะเหลือเกิน

“ลุงเคยง้อแฟนไหมครับ”

“เคยซิวะ มาๆ ลุงจะสอน” อยู่ๆ คุณลุงแกก็นั่งลงข้างๆ ผมพร้อมกับเล่าเรื่องความรักของลุงกับภรรยาที่แต่งงานกันตั้งแต่อายุสิบห้ามีลูกคนแรกอายุสิบเจ็ดจนตอนนี้อยู่กินกันมาเกือบๆ สี่สิบปีมีทะเลาะกันบ้างงอนกันบ้างหรือแม้กระทั่งทำร้ายกันบ้าง แต่ไม่ใช่ลุงทำร้ายนะครับแต่เป็นภรรยาที่ทำร้ายโดยการเอาขวดเหล้าฟาดหัวเพราะลุงแอบเอาเงินไปซื้อเหล้ามากินทุกวัน ก็ตลกดีครับทำให้ผมคลายเครียดบ้าง แต่ที่เครียดกว่าเดิมก็เพราะว่า....

“สักกึ๊บไอ้หนุ่ม” ผมมองแก้วเป๊กที่ด้านในมีเหล้าขาวสี่สิบดีกรีของลุงที่ไม่รู้ว่าไปเอามาตั้งแต่ตอนไหนยื่นมาตรงหน้าผมพร้อมกับกลิ่นฉุนๆ

“ไม่เป็นไรลุง”

“เสียน้ำใจนะไอ้หนุ่ม” ผมชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะเอื้อมมือมารับแก้วเหล้าของลุงขึ้นมากระดกดื่ม รสชาติของมันบาดคอมากครับไม่อร่อยเลย...กลิ่นก็โคตรแหลม

“ลุง...โคตรแรงใส่อะไรเพิ่มไหมเนี่ย”

“ยาโด๊ป”

“ฉิบ...หายแล้ว”

Maruay’ s talk

ตอนนี้ผมอารมณ์เย็นลงมากกว่าเดิมเยอะเลยครับเพราะไอ้บุ๊คมันไลน์มาบอกว่าเฮียบิ๊กยกขันธ์ห้าไปขอโทษมัน จริงๆ ผมไม่ได้ต้องการถึงขนาดนั้นแค่เฮียไปขอโทษด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ ผมก็พอใจแล้ว เพราะอย่างที่ผมบอกไปว่าไอ้บุ๊คมันเป็นน้องแท้ๆ ของเฮียเป็นคนในครอบครัวเฮียต้องแคร์มากกว่าผมที่เป็นคนนอกแถมยังรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ผมก็แอบเสียใจนะที่เฮียว่าผมแรงๆ แบบนั้นแต่เอาเถอะครับไม่อยากคิดมากเพราะผมบอกแล้วว่าจะลืมมันไป

ก็อกๆ

“ครับ?” ผมที่กำลังจะล้มตัวนอนสะดุ้งขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตู

“ลุงเอง” เสียงของลุงยามที่หอ? หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกลางดึกอย่างนั้น ด้วยความที่ไม่รอช้าผมรีบลุกและตรงไปเปิดประตูทันทีและภาพที่ผมเห็นก็คือ....ลุงยามหิ้วปีกเฮียบิ๊กที่หลับคอพับอยู่ข้างๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยผื่นแดง

“ไอ้หนุ่มนี่บอกว่าให้พามาห้องแฟน แฟนงอน หรืออาจจะบอกผิดห้อง?” ลุงยามมองมาที่ผมด้วยความสงสัย

“ถูกแล้วครับ ขอบคุณครับลุงเดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง” ลุงมีสีหน้าอึ้งๆ หลังจากที่ผมบอกว่าผมเป็นแฟนเฮียบิ๊กแต่ลุงแกอึ้งได้ไม่นานผมก็จัดการออกแรงพยุงเฮียบิ๊กเข้ามาในห้องทันที

“เฮีย...กลิ่นเหล้าขาวหึ่งเลย ไหนไอ้บุ๊คบอกว่าไล่กลับไปนอนแล้วไง” ผมพยุงเฮียจนมาถึงเตียงก่อนจะปล่อยตัวเฮียให้นอนลง สภาพเฮียบิ๊กตอนนี้โคตรหมดสภาพเลยครับ

“เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าก็แล้วกัน” เฮียบิ๊กตอนเกาแขนทั้งสองข้างด้วยสีหน้าทรมาน ถ้าให้ผมเดาผมว่าเฮียน่าจะแพ้เหล้าแน่นอน ส่วนลุงนักศึกษาที่พักอยู่หอนี้รู้ดีว่าลุงแกชอบชวนกินเหล้าตอนกลางคืนแล้วเหล้าลุงก็ออกไปทางพิสดารด้วยไม่รู้ว่าไปผสมอะไรมาบ้าง แต่ที่แน่ๆ เฮียบิ๊กน่าจะโดนไปหลายก๊ง

“รวยครับ...” ผมหันไปมองเฮียบิ๊กที่เรียกชื่อผมออกมาเบาๆ ขณะที่ผมกำลังหาเสื้อผ้าในตู้ของตัวเองมาเปลี่ยนให้เฮีย “เฮีย..ขอโทษนะ”

“......”

“ผิดไปแล้ว จะไม่พูดแรงๆ อีกแล้ว” หลังจากที่หาเสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ ที่เหมาะกับเฮียบิ๊กได้แล้วผมก็ค่อยๆ นั่งข้างๆ ก่อนที่จะถอดเสื้อยืดของเฮียออก

“เชี้ย!” และสิ่งที่ผมเห็นต่อจากนั้นคือมัดกล้ามของเฮียบิ๊กที่เรียงกันสวย สวยมากกว่าผมที่เป็นนักกีฬาแท้ๆ แต่ก็อย่างว่าเฮียบิ๊กเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงเป็นธรรมดาที่จะต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง แต่จะไม่รักษาภาพลักษณ์ต่อก็ตรงที่เอาคนเห่อๆ อย่างผมมาเป็นแฟนนี่แหละครับ

“ใจเย็นรวย แข็งใจไว้ไม่ใช่แข็งอย่างอื่น” ผมพยายามหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่กำลังจะดึงกางเกงของเฮียบิ๊กออก ไม่อยากจะเชื่อว่าการถอดกางเกงให้ผู้ชายด้วยกันมือผมจะสั่นขนาดนี้ทั้งๆ ที่ตอนผมเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนเล่นบอลทุกคนก็แทบจะไม่อายกันเพราะมันเป็นเรื่องธรรมดา..แต่สำหรับเฮียบิ๊กมันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วครับ

“ขอโทษนะเฮีย” ผมตัดสินใจดึงกางเกงของเฮียลงจนสุดพยายามไม่โฟกัสสิ่งที่เป็นเป้าสายตาของผมและหยิบผ้าที่เตรียมไว้ขึ้นมาเช็ดตัวของเฮีย ครึ่งบนผ่านไปอย่างสวยงามแต่ครึ่งล่าง...ผมไม่ค่อยจะแน่ใจว่าจะพาไปอย่างสวยงามหรือเปล่า

“เคารพธงชาติตอนตีหนึ่งไม่ได้ครับ” ผมพยายามใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดไปที่ตรงนั้นเพื่อให้มันสงบแต่ดูเหมือนว่าการกระทำของผมจะไปกระตุ้นมากกว่าเดิม ฉะฉิบหายแล้ว

“อื้อ...” เสียงครางของเฮียบิ๊กยิ่งทำให้มือผมสั่นมากกว่าเดิมจากที่พยายามจะไปเช็ดที่อื่นแต่ผมก็ยังไม่ออกจากตรงนั้น มันมีแรงดึงดูดที่เล่นงานผมอย่างจังเลยครับเพราะมันทำให้ผม...กลายเป็นมารวยคนทะลึ่งไปแล้ว

“ไอ้รวย พุธ โท พุธ โท.....” ผมพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเลื่อนมือออกจากบริเวณนั้นแต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เลื่อนออกอยู่ๆ มือของเฮียบิ๊กกลับรั้งมือของผมเอาไว้พร้อมกับเฮียที่ลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าผม

“ฮะ..เฮียตื่นแล้วเหรอ” ผมอยากจะตบปากของตัวเองแรงๆ ที่ดันเผลอพูดติดอ่างออกมา

“ไม่ได้หลับต่างหากครับ ^^” เฮียบิ๊กยิ้มหวานจนผมสงสัย...สงสัยว่าเฮียจะเมาจากฤทธิ์เหล้าขาวแน่ๆ เพราะปรกติเฮียบิ๊กไม่ได้มีทีท่าเยิ้มขนาดนี้

“งั้นเฮียลุกไปอาบน้ำเอง” ผมพยายามดึงมือตัวเองกลับมาแต่เฮียบิ๊กกลับดึงตัวผมเข้าไปในอ้อมกอดของเขา แต่แค่นั้นยังไม่พอเฮียบิ๊กยกตัวของผมขึ้นให้นั่งอยู่บนตักของเขา

“รวยครับ...”

“.....” ผมใจคอไม่ดีทุกทีที่เฮียบิ๊กทำน้ำเสียงแบบนี้เลยจริงๆ ครับ ไอ้จังหวะที่สูดหายใจเข้าแล้วปล่อยออกมาพร้อมเสียงครางที่โคตรกระเซ่า...มันทำให้ผมเริ่มที่จะมีอารมณ์

“เฮียขอโทษที่พูดไม่ดีใส่นะ...เฮียหึงเกินไปทั้งๆ ที่เราบอกเฮียว่าไม่มีอะไร ยกโทษให้เฮียได้ไหมครับ” ผมรอบกลืนน้ำลายลงคอทันทีที่เฮียบิ๊กค่อยๆ เกยไหล่ของเขาลงบนไหล่ของผมไรหนวดเล็กๆ ของเฮียสัมผัสกับผิวของผมตรงๆ

“.....”

“ไม่ยกโทษให้เฮียเหรอครับ?” ยิ่งผมนิ่งมากเท่าไหร่เฮียบิ๊กก็ยิ่งใช้หนวดของเขาไซร้เข้ามาบริเวณซอกคอของผมเบาๆ แต่เน้นทุกสัมผัส

“เฮีย...มือเฮีย” ผมว่าผมจะไม่พูดแล้วนะถ้าเฮียไม่ใช้มือของตัวเองเข้ามาในเสื้อพร้อมกับบี้ที่หัวนมของผมเบาๆ ทั้งสองข้าง

“โทษทีมันอดไม่ได้จริงๆ เฮียรู้เฮียมันหื่น” เฮียบิ๊กค่อยๆ เอามือออกจากเสื้อ “แต่เฮียไม่ไหวแล้ว” เฮียบิ๊กกดผมลงบนเตียงก่อนที่เฮียจะตามมาขึ้นคร่อมพร้อมกับใช้สันจมูกเขี่ยที่ปลายจมูกของผมเบาๆ

“รอให้ผมแข่งเสร็จไม่ได้เหรอครับ...”

“.....อ่า ได้ครับ” จังหวะที่เฮียบิ๊กหันหน้าไปอีกทางพร้อมกับเม้มปากแน่นเพื่อสะกดอารมณ์บางอย่างก่อนที่เฮียจะลงจากตัวของผมมานั่งพิงหัวเตียงแทน

“ผมรู้เฮียทรมานแต่ถ้าผมให้ผมก็คง....”

“เฮียรู้ครับ” เฮียบิ๊กหันหน้ากลับมาใช้นิ้วมือของเขาแตะที่ริมฝีปากของผมเบาๆ “เฮียจะอดทนเพื่อเรานะ” เฮียบิ๊กโน้มหน้ามาหอมแก้มผมเบาๆ

“ขอโทษไอ้บุ๊คมันแล้วใช่ไหมครับ”

“ครับขอโทษแล้ว เฮียรู้สึกผิดที่ลากเอาคนอื่นมาเกี่ยวด้วย”

“ผมไม่อยากให้เฮียมาทะเลาะกับคนในครอบครัวแต่ถ้าต้องทะเลาะเพราะผม...อย่าลังเลที่จะเลือกครอบครัวนะครับ”

“ถ้าสมมติตี๋มันชอบเราแสดงว่าเฮียต้องเสียสละอย่างนั้นเหรอ?” ผมมองหน้าเฮียบิ๊กทันทีที่เฮียบิ๊กพูดออกมาแบบนั้น

“มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นเพราะผมกับมันเป็นเพื่อนกัน อีกอย่างไอ้บุ๊คมันก็ไม่น่าจะชอบผมแบบนั้น” ผมยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาไอ้บุ๊คไม่เคยแสดงออกว่าคิดกับผมแบบนั้นแต่ถ้าจะคิดแบบนั้นจริงๆ มันก็คงไม่ปล่อยให้เวลาผ่านมานานขนาดนี้หรอกครับ

“เฮียขอเวลาหน่อยนะ เฮียจะทำให้เรารักเฮียด้วยการกระทำของเฮียเอง” ผมพยักหน้าตกลงตามที่เฮียพูด น้ำเสียงและแววตาของเฮียไม่มีวี่แววล้อเล่นมันทำให้ผมรู้สึกว่าเฮียบิ๊กพูดจริงๆ ไม่ได้แสแสร้งหรือแกล้งทำ

“ค่อยๆ ปรับกันไปนะครับ”

“คืนนี้ขอนอนด้วยนะสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร”

“ครับ” ผมค่อยๆ ลุกออกจากตักของเฮียบิ๊กส่วนเฮียบิ๊กก็มองหน้าผมด้วยสีหน้ายิ้มๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่ยิ้มก็คือ...ตรงนั้นของเฮียที่ยังคงตึงเครียดไม่ยอดที่จะอ่อนลง “เฮียไปจัดการอารมณ์ของเฮีย ผมอนุญาตให้คิดถึงหน้าผมตอนนั้น เดี๋ยวผมไปหาเสื้อผ้ามาให้นะ”

“เฮียอยากนอนแก้ผ้า”
 
“เฮียผมไหว้ ใส่เถอะครับเพื่อความปลอดภัยของเราทั้งสองคน” เฮียบิ๊กลุกขึ้นจากเตียงด้วยสภาพเปลือยเปล่าอย่างไม่อายสายตาผมเลยแม้แต่น้อย

“เฮียพูดเล่น งั้น....อาจจะครางดังหน่อยนะ ถ้าไม่ไหวก็เข้ามาเฮียไม่ได้ล็อกประตู” เฮียบิ๊กพูดพร้อมกั บยักคิ้วอย่างกวนๆ ให้ผมก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไปส่วนผมก็กลับไปหาเสื้อผ้าต่อแต่ระหว่างที่ผมหาเสื้อผ้าอยู่นั้นหูผมได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังมาจากห้องน้ำ....

“รวยครับ....อื้มมม แรงกว่านี้ได้ไหม อื้ม” มือผมชะงักทันทีพร้อมกับในหัวของผมมีภาพตามที่ได้ยินเสียงของเฮียบิ๊กคราง ภาพที่ผมนอนอยู่ด้านล่างโดยมีตัวของเฮียบิ๊กทาบเข้ามาพร้อมกับ...อาวุธของเฮียที่ผมเคยเห็น ผมไม่รู้ว่าถ้าอาวุธนั้นเข้ามาในตัวของผม ผมจะรับไหวไหมแต่ที่แน่ๆ ผมต้องออกกำลังกายให้หนักกว่าเดิมเพื่อวันนั้นผมจะได้ไม่นอนซมกับครั้งแรก

แกรก

ผมยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับเสื้อผ้าในมือส่วนเฮียบิ๊กเปิดประตูห้องน้ำออกทั้งๆ ที่ยังไม่สวมเสื้อผ้าเหมือนเดิม แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมคืออาวุธของเฮียสงบลงกว่าเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา

“แก้ผ้าทำไมเฮีย”

“ก็ลืมไปว่าไม่มีผ้าเช็ดตัวหนิครับ” ผมยื่นผ้าเช็ดตัวไปตรงหน้าเฮียบิ๊กส่วนเฮียบิ๊กรับมาเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนจะพันเอวไว้หลวมๆ
 
“ใส่ซะเฮียเดี๋ยวผมไปรอที่เตียง”

“พูดจากำกวมเฮียคิดจริงนะ”

“ถ้าเฮียช้าผมหลับก่อนไม่รู้นะ” ผมแกล้งขู่ไปอย่างนั้นก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นระหว่างรอเฮียบิ๊กแต่งตัว

“เด็กบื้อครับมีครีมทาหน้าทาผิวอะไรแบบนี้ไหมเอ่ย”

“ไม่มีครับมีแต่แป้งธรรมดา”

“โอเคครับ” เฮียบิ๊กเงียบไปสักพักและกลับมาพร้อมกับ.....

“ฮ่าๆ เฮียทาแป้งขาวอะไรขนาดนั้น” ผมหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งเมื่ออยู่ๆ เฮียบิ๊กที่ดุดันกลายเป็นเฮียบิ๊กอนุบาลหมีน้อยที่ถูกคุณครูทาแป้งให้หลังจากตื่นจากนอนกลางวัน

“แป้งนี่ที่เราทาเฮียจำกลิ่นได้ไว้จะซื้อมาใช้เองบ้าง” เฮียบิ๊กทิ้งตัวลงบนเตียงข้างๆ ผมก่อนจะแทรกตัวเข้ามาในผ้าห่ม “เลิกเล่นได้แล้วครับ ดึกแล้วนะ”

“ครับ” ผมเก็บโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะหัวเตียงก่อนจะเอื้อมมือไปปิดไฟทำให้ตอนนี้ทั้งห้องอยู่ภายใต้ความมืดมิดมีเพียงแค่แสงจากด้านนอกที่ส่องออกมาเล็กน้อย

“รวยครับ”

“ครับ?” ผมขานรับหลังจากที่เฮียบิ๊กเรียกชื่อผมออกมา “เฮียยังไม่หลับเหรอ”

“ยังครับ...รวยถ้าเฮียทำให้เราอึดอัดบอกเฮียได้เลยนะ ถ้าไม่ชอบนิสัยตรงไหนก็บอกมาเลย เฮียจริงจังกับเราจริงๆ นะถึงมันอาจจะฟังดูแปลกๆ” เฮียบิ๊กเลื่อนมือของเขาเข้ามากุมมือของผมที่วางนาบอยู่ข้างๆ

“รู้ไหมว่าผมชอบเฮียตรงไหน” เฮียบิ๊กขยับตัวเข้ามากอดผมเอาไว้ “ผมชอบตรงที่เฮียแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ นั่นแหละครับ ชอบหรือไม่ชอบก็แสดงออกมาแบบนั้น เฮียไม่ต้องปรับเข้าหาผมเฮียเป็นตัวของเฮียเองดีแล้วครับ”

หมับ!

“รวยทำให้เฮียคลั่งมากกว่าเดิมอีกรู้ไหม” เฮียบิ๊กพูดด้วยน้ำเสียงกระเซ่า

“นอนกันเถอะครับ” ผมรีบตัดบทก่อนที่เฮียบิ๊กจะเปลี่ยนใจจากนอนเฉยๆมาทำอย่างอื่นแทน

“ฝันดีนะเด็กบื้อของเฮีย...จุ๊บ” เฮียบิ๊กขยับเข้ามาจูบที่หน้าผากของผมเบาๆ ก่อนที่ผมจะหลับภายใต้อ้อมกอดของเฮียบิ๊กแต่สิ่งที่แปลกไปก็คืออาวุธของเฮียมันทิ่มอยู่ที่ก้นของผมตลอดเวลา แต่จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เดี๋ยวเฮียบิ๊กจะอาย

ก็พึ่งรู้เหมือนกันนะครับว่าการที่เราถูกกอดมันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง ผมคงใกล้จะเสพติดอ้อมกอดของเฮียบิ๊กเข้าทุกวันแล้วแหละครับ

#รวยหล่อนเสน่ห์แรงไปอะคะเจ้ไม่ยอม!
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 6 (28/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 29-07-2019 00:33:21
รวยมีเสน่ห์เหลือร้าย,,,
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 6 (28/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-07-2019 02:32:04
เกือบแล้วน้องรวย อิอิ
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 7 (30/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 30-07-2019 19:56:26
 
บทที่ 7
แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูร์แฟน

BIG’ s talk

“กูจะเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟนอย่างไงดีวะ” ผมนั่งปรึกษาเพื่อนๆ อย่างจริงจังหลังจากนอนคิดมาหลายวันว่าจะเซอร์ไพรส์วันเกิดอย่างไงให้ประทับใจจนเด็กบื้อลืมไม่ลง

“ยังไม่พามาเจอพวกกูเลยนะไอ้บิ๊ก” วสุเพื่อนรักตอบเสียงเข้มก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมขณะที่มันกำลังนั่งพิมพ์โปรเจค

“เอาไว้ก่อนละกัน” จะบอกพวกมันอย่างไงดีว่าผมหวงไม่อยากให้เพื่อนๆ ของผมเจอกับเด็กบื้อเพราะแค่นี้ผมก็ตามหึงไม่ไหวแล้วครับ ล่าสุดเมื่อสามวันก่อนผมแอบตามไปดูเด็กบื้อซ้อมผมดันไปเห็นภาพบาดตาบาดใจเมื่อไอ้เด็กเวรเซย์อะไรนั่นเข้ามานั่งใกล้แฟนของผมอย่างออกนอกหน้า ผมพยายามควบคุมอารมณ์ไม่เข้าไปโวยวายเพราะเกรงใจและกลัวว่าเด็กบื้อจะอึดอัด

“กูเคยเห็นในคลิปฝรั่งที่แกล้งทะเลาะกันแรงๆ แล้วค่อยเฉลยว่าเซอร์ไพรส์ไรงี้ สนไหม” ไอ้เกรทได้ทีออกความเห็นบ้าง

“ในหัวกูตอนนี้คือไปยืมรถพ่อเป่าลูกโปร่งให้เต็มหลังรถแล้วเอากล่องของขวัญแพงๆ ซ่อนไว้ในนั้น พร้อมกับดอกไม้ช่อโตๆ ต่อด้วยดินเนอร์ที่รูฟท็อป”

“กูว่าเฉยมาก ทำแบบที่ไอ้เกรทบอกก็น่าจะดีนะมึงกูว่าแฟนมึงลืมไม่ลงแน่” ผมนั่งฟังที่วสุแนะนำ มันก็จริงเพราะแบบนี้มันค่อนข้างที่จะเบสิกใครๆ เขาก็ทำกัน ผมว่าผมคิดแผลนมาเซอร์ไพรส์เด็กบื้อของผมดีกว่า รับรองลืมไม่ลงแน่ๆ “แล้วกูจะทำอะไรดี”

“มาใกล้ๆ เพื่อนบิ๊กกูจะบอกให้” ผมขยับไปใกล้ๆ ไอ้พวกนั้นพร้อมกับฟังแพลนที่มันวางเอาไว้ ผมว่ามันค่อนข้างที่จะเสี่ยงเลยนะครับแต่ที่แน่ๆ เด็กบื้อของผมลืมไม่ลงผมมั่นใจ

“เชี้ย! มีบ้านแตก”

Maruay’ s talk

คืนนี้รวยไปนอนที่หอก่อนนะเฮียมีติวกับเพื่อนน่าจะไม่ได้กลับห้อง

ผมนั่งอ่านข้อความของเฮียบิ๊กที่พึ่งส่งมาด้วยความแปลกใจเพราะปรกติเฮียไม่เคยไปนอนที่ไหนเลยแม้ว่าธุระจะดึกก็ตามจะต้องกลับมานอนที่ห้องตลอด

“ขมวดคิ้วไรวะ” ไอ้บุ๊คชะโงกหน้าเข้ามาดูโทรศัพท์ของผม “อ่อ....แฟนไล่ไปนอนที่หอตัวเอง งอนหรอจ๊ะ? นอนกับพี่ได้นะ พี่ทดแทนแฟนน้องได้”

“ทะลึ่งละไอ้บุ๊ค” ผมฟาดหัวมันไปแรงๆ หนึ่งทีหลังจากที่มันยื่นหน้ามาอ้อล้อใกล้ๆ

“ตั้งแต่คบกับเฮียกูเนี่ยพูดแหย่อะไรไม่ได้เลยนะ” ไอ้บุ๊คประชดประชันผมด้วยน้ำเสียงที่โคตรแสดง ดูก็รู้ว่ามันอยากจะกวนตีนผม “จะบอกให้ว่าเฮียกูเนี่ย..ไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง”

“หมายความว่าไง”

“ซีเรียสเชียว ไม่มีอะไรหรอกกูพูดเล่น” ไอ้บุ๊คหันกลับไปที่เดิมส่วนผมก็ตอบเฮียกลับไปก่อนจะหันกลับมาสนใจเรียนต่อเพราะอาจารย์มองมาทางผมกับไอ้บุ๊คอยู่นานแล้วถ้ายังไม่หยุดพูดผมว่านะได้มีการไล่ออกจากห้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“รวย” ผมหันไปมองตามเสียงก่อนจะเห็นเซย์วิ่งเข้ามาหาผมหน้าตั้ง “เย็นนี้อย่าลืมไปซ้อมนะอีกไม่กี่วันก็ต้องแข่งแล้ว”

“ไปอยู่แล้ว แล้วนี่มาบอกแค่นี้เหรอ” ผมถามด้วยความแปลกใจเพราะท่าทางของเซย์ดูรีบมาก

“เราโทรไปไลน์ไปรวยก็ไม่ตอบเราเลยมาบอกรวยเองตรงๆ ดีกว่า”

“หาเรื่องมาเจอเพื่อนกูมากกว่ามั้ง” ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแต่ปรากฏว่าไม่มีทั้งเบอร์หรือข้อความไลน์ของเซย์เลย

“ไม่เห็นมีเลยเซย์” ผมยื่นโทรศัพท์ไปให้เซย์ดู เซย์รับมากดอะไรบางอย่างพร้อมกับยื่นคืนมาให้ผม

“บล็อกทั้งเบอร์ทั้งไลน์ก็ว่าอยู่ว่าทำไมรวยไม่ตอบ”

“จริงดิ?” และมันก็จริงอย่างที่เซย์พูด...คนที่เล่นโทรศัพท์ของผมมีไม่กี่คนหนึ่งในนั้นก็เฮียบิ๊กนั่นแหละครับ ผมว่าต้องเป็นฝีมือของเฮียบิ๊กแน่ๆ มารวยมันหล่อมีแฟนขี้หึงก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดา

“เพื่อนกูมีแฟนแล้วอย่ายุ่ง” ไอ้บุ๊คพูดออกมาด้วยน้ำเสียงฉุนๆ ส่วนเซย์เองมองหน้าบุ๊คด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนที่มุมปากจะค่อยๆ ยิ้มออกมาเล็กน้อย ผมมองหน้าเซย์ที่ตอนนี้เหมือนมองหน้าตัวโกงในละครอะครับ นี่เซย์เขาคิดว่ามีกล้องจับการกระทำของเขาอยู่รึไงถึงได้กล้ายิ้มแบบนี้ออกมา

“ที่พูดนี่กันให้แฟนรวยหรือกันให้ตัวเอง?”

“เสือก!”

“ไอ้บุ๊คใจเย็น” ผมก้าวขึ้นมาแทรกกลางระหว่างทั้งสองคนก่อนที่ไอ้บุ๊คจะหัวร้อนต่อยปากเซย์ ไอ้บุ๊คมันเป็นพวกแพ้คนยิ้มอ่อนครับมันบอกว่าเห็นทีไรตีนกระตุกทุกทีแล้วบังเอิญว่าเซย์คือหนึ่งในนั้นที่ไอ้บุ๊คมันไม่ค่อยชอบ เคยมีคดีกันอยู่แต่อย่าไปรื้อฟื้นอะไรเลยไม่ค่อยน่าจดจำสักเท่าไหร่

“ไอ้รวยไปกันก่อนที่ตีนกูจะไปกระแทกหน้าไอ้เวรนั่น”

“อย่าเก่งแต่พูดเลย กูรู้มึงไม่กล้า”

“อย่าท้ากู!”

“ไอ้บุ๊คไป ไอ้ห่านี่” ผมลากแขนไอ้บุ๊คออกมาจากตรงนั้นแม้ว่าผมจะลากมาแล้วแต่ไอ้บุ๊คก็ยังไม่วายใช้สายตาจ้องไปยังเซย์อย่างไม่ยอมกัน

“กูไม่ชอบหน้าแม่งเลย วอนตีนฉิบหาย”

“อคติมึงล้วนๆ” ผมดันมันนั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะใช้มือของตัวเองพัดเพื่อให้ลมเย็นๆ มาทำให้อารมณ์ร้อนๆ ของไอ้บุ๊คมันเย็นลงแม้มันจะไม่ค่อยช่วยอะไรก็เถอะ

“ก็กูไม่ชอบก็คือไม่ชอบ”

“ถ้าไม่ใช่เพื่อนกู กูจะด่าว่าเหตุผลส้นตีนมากโตแล้วไม่รู้จักแยกแยะแต่พอดีว่ามึงเป็นเพื่อนกูเลยไม่ด่าดีกว่า”

“ไอ้รวยมึงด่ากูอยู่ ไอ้เวร! นอนกับกูก็ได้ถ้าเฮียกูไปนอนห้องเพื่อนอะ” อยู่ๆ ไอ้บุ๊คก็เปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉยเหมือนว่าก่อนหน้าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น งงครับสงสัยเพื่อนผมจะเลือดลมไม่ค่อยดีช่วงนี้

“ไปนอนหอดีกว่า ไม่ได้เปิดแอร์นานเสียหมดไปแล้วมั้ง” อีกอย่างก็คือผมอยากไปทำความสะอาดห้องด้วยเพราะไม่ค่อยได้อยู่นานฝุ่นเกาะหมดแล้วแน่ๆ

“งั้นไปร้านเหล้าเป็นเพื่อนกูหน่อย”

“กูมีซ้อม”

“มึงซ้อมเสร็จก็เปิดพอดี แค่แปบเดียวไอ้รวยเฮียกูไม่รู้หรอกอย่าทำตัวเป็นคนกลัวแฟนดิวะ” ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรไอ้บุ๊คก็พูดเองเออเองเสร็จสับ

“หงุดหงิดอะไรของมึงเนี่ย”

“ขี้เกียจคุยกับมึงละไปดีกว่า” และแล้วไอ้บุ๊คมันก็ลุกขึ้นเดินหนีผมไปทันทีทำให้ตอนนี้ผมว่างเลยคิดเอาไว้ว่าจะไปที่สนามสักหน่อยน่าจะมีพี่ๆ อยู่ แต่ระหว่างทางผมบังเอิญเจอเฮียบิ๊กกับกลุ่มเพื่อนของเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่งแต่ดูเหมือนว่าเฮียจะมองไม่เห็นผม

“บิ๊ก!” ผมแอบซุ่มอยู่อีกด้านเพื่อสังเกตการบางอย่างหลังจากที่เห็นผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเฮียบิ๊กด้วยท่าทางร้อนรนจนผมเองอดที่จะสงสัยไม่ได้

“ว่าไงเชอ?” เฮียบิ๊กหันไปบอกเพื่อนของเขาให้เดินนำไปก่อนส่วนตัวเองยืนคุยกับผู้หญิงคนนั้น “มีอะไรหรือเปล่า”

“คือเราจะแวะมาบอกว่าคืนนี้อย่าลืมนัดเรานะ เรากลัวบิ๊กลืม” ผมพยายามขยับไปใกล้ๆ เพื่อให้ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนแต่ความซวยของผมดันมาเยือนจนได้เพราะผมดันสะดุดก้อนหินทำให้พุ่งตัวล้มลงตรงหน้าเฮียบิ๊กพอดี

โคร่ม!

“ว้าย! อะไรเนี่ย” ผู้หญิงคนนั้นขยับออกทันทีที่ผมล้มลงไปส่วนเฮียบิ๊กรีบเข้ามาพยุงผมให้ลุกขึ้นแต่สายตาของผมดันเหลือบไปเห็นใต้กระโปรงของพี่ผู้หญิงพอดีทำให้ผม...เอ่อ เห็นภาพที่ไม่ควรเห็นด้วยความบังเอิญ

“มันแจ่มมากครับ...” ผมมัวแต่เพ้อให้กับภาพตรงหน้าทำไห้ไม่ได้สนใจในสิ่งที่เฮียบิ๊กพูดสักเท่าไหร่รู้ตัวอีกทีเฮียบิ๊กเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ผมด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“เป็นอะไรไหมเนี่ย ไม่ระวังเลยเรา” เฮียบิ๊กหิ้วปีกผมขึ้นจากพื้น “เราไปก่อนนะเชอแล้วเจอกันครับ” เฮียบิ๊กหันไปบอกลาผู้หญิงก่อนจะพาผมเดินออกมา

“เพื่อนเฮียเหรอครับ”

“ครับ..เพื่อนที่จะไปติวคืนนี้ คนนี้นี่ตัวท็อปของรุ่นเลยนะ” เฮียบิ๊กเอ่ยชื่นชมอย่างออกนอกหน้าจนผมอดที่จะคิดถึงลายกางเกงในที่ผมเห็นก็ท็อปจริงอย่างที่เฮียพูดอะครับ อันนี้รวยไม่เถียง

“ท็อปเรื่องอื่นปะครับ”

“ถามแบบนี้แสดงว่าหึง ถ้ารวยหึงเฮียจะดีใจมาก” เฮียบิ๊กยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ จนผมผลักหน้าของเฮียออกเพราะตอนนี้เราอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยมันไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่

“เฮียคงฝัน ผมไม่ใช่คนขี้หึงอะไรขนาดนั้น”

“เฮียอยากเห็นรวยหึง”

“เชื่อดิว่าเฮียไม่อยาก” เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าผมหึงมันจะขนาดไหน..แต่ถ้าที่ดีก็อย่าให้หึงดีกว่าครับเพื่อความปลอดภัยทุกภาคส่วน “พาผมไปส่งที่สนามหน่อยเฮียเอารถมาไหม”

“เอามา แต่ว่าเราไปทำไมที่สนาม”

“ก็ไปคุยนี่แหละครับ เออเฮียที่ส่งข้อความมาผมอยากจะบอกว่าอาจจะสักช่วงนี้ก่อนนะที่ผมจะนอนหอตัวเองพึ่งคิดได้ว่ามีซ้อมดึกเกือบทุกวันใกล้วันแข่งแล้ว”

“ซ้อมต้องเจอไอ้นั่นอีกรึเปล่า”

“ก็ต้องเจอซิครับ แต่ไม่ต้องห่วงผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเฮียสบายใจได้เลย”

“ถ้าได้ยินแบบนี้ก็สบายใจ แต่...ขอรางวัลหน่อยซิแค่หอมแก้มแรงๆ ก็ชื่นใจ” เฮียบิ๊กยื่นหน้าทำแก้มป่องมาใกล้ๆ “ขอชื่นใจหน่อยครับเด็กบื้อ เร็วววว” เฮียบิ๊กเร่งเร้าและไม่มีทีท่าว่าจะยอมขยับหน้าของตัวเองออกทำให้ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะจรดจมูกฝังลงบนแก้มของเฮียบิ๊กเบาๆ และผลักออก

“พอแล้วเนอะเฮีย”

“ที่สุดของแจ้เลย” เฮียบิ๊กยิ้มหน้าบานก่อนจะพาผมมาส่งที่สนามตามที่และแยกกับเฮียบิ๊กบริเวณนี้โดยลืมไปเสียสนิทว่าคืนนี้ผมมีนัดไปร้านเหล้ากับไอ้บุ๊คจนกระทั่งเวลาผ่านไป

“กินข้าวกัน” หลังจากที่ซ้อมเสร็จพวกผมเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำเตรียมกลับหอส่วนพี่ๆ ที่เดินตามออกมาส่งเสียงเรียกเอาไว้

“เอาเลยพี่ โคตรง่วงเลย” ผมปฏิเสธไปเพราะวันนี้รู้สึกเพลียๆ อยากจะรีบกลับไปนอนเร็วๆ โชคดีที่พี่ๆ ไม่เซ้าซี้ทำให้ผมกลับไปถึงหอและล้มตัวลงนอนโดยไม่ได้จับโทรศัพท์เลย

01.30 น.

ไอ้รวยเพื่อนมารับกูที....

“ครอก ฟี่”

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกในขณะนี้


BIG’ s talk

“พวกมึงมันจะดีเหรอวะ วันเกิดแฟนกูคือวันที่แข่งไม่ให้กูไปเชียร์จริงดิแล้วถ้าแฟนกูต้องการกำลังใจละมึง แค่นี้กูก็กลัวเข้าใจผิดฉิบหายเลย” ผมนั่งวิตกกังวลหลังจากที่ไม่ได้ติดต่อเด็กบื้อของผมเลย ไม่ไลน์ไม่โทรหลังจากวันนั้นวันที่ผมไปส่งที่สนาม และสิ่งที่น่าผิดหวังก็คือเด็กบื้อก็ไม่ติดต่อผมมาเช่นกันครั้งที่จะไปถามตี๋ก็ติดต่อตี๋ไม่ได้เพราะตี๋ไม่กลับมานอนที่ห้องมาได้สองวันแล้ว

“ใจเย็นๆ มึง แฟนมึงต้องประทับใจแน่ๆ ถ้ารู้ว่ามึงตั้งใจ” วสุตบไหล่ผมแรงๆ เพื่อปลอบไม่ให้ผมคิดมากแต่..ไอ้เวรนี่เหมือนแค้นอะครับเพราะแม่งตบซะไหล่กูแทบหลุด

“พวกมึงก็ต้องรับผิดชอบกับกูด้วยงานนี้”

“เออๆ แม้กูจะไม่ค่อยเต็มใจก็เถอะ” แผนก็มีอยู่ว่าพรุ่งนี้ขณะที่รวยแข่งผมต้องมาทำเค้กวันเกิดที่บ้านของไอ้เกรทเพื่อเตรียมเซอร์ไพรส์แต่ก่อนที่จะเซอร์ไพรส์เค้กผมจะแกล้งส่งข้อความไปว่าผมไม่สามารถไปดูเด็กบื้อแข่งได้เพราะไม่สบายหนักมากแต่จะให้ไอ้วสุโทรไปเพื่อความแนบเนียนแล้วหลังจากนั้น.....ก็ตามแผนครับ

“มึงเป็นคนคิดไอ้หน้าหมา” ผมแตะตูดไอ้วสุแรงๆ ด้วยความหมันไส้ “มารวยครับเฮียขอโทษไว้ล่วงหน้าเลย แต่เฮียอยากจะบอกว่าเฮียตั้งใจ”

“ไอ้บิ๊กมึงคุยกับใครวะ”

“กล้องสองแบบในละคร มึงไม่เข้าใจหรอกไอ้วสุ”

“กูไม่เข้าใจตั้งแต่มาเป็นเพื่อนกับมึงแล้วไอ้บิ๊กนอกจากหล่อกูก็ยังไม่เห็นมึงจะมีอะไรดีเลย” ผมจะคิดว่าในประโยคนี้มันก็พอที่จะมีคำชื่นชมอยู่บ้างแม้ว่ามันจะน้อยนิดก็ตาม


วันแข่งกีฬา ณ อะไรดีสเตเดียม
Maruay’ s talk

“รวยทำไมทำหน้าแบบนั้น?” ผมนั่งเตรียมตัวอยู่ในห้องหลังจากที่ออกไปวอร์มร่างกายที่สนามกับเพื่อนๆ คนอื่น เพราะผมมีเรื่องให้กังวลอยู่หนึ่งเรื่องก็เพราะเมื่อเช้านี้เรื่องมันมีอยู่ว่า...

(น้องแฟนบิ๊กใช่ไหมครับพี่เป็นเพื่อนไอ้บิ๊กชื่อวสุนะ คือไอ้บิ๊กมัน....มันอะไรวะ)

“ครับ?” ผมงงงวยอยู่กับสายที่โทรเข้ามาในช่วงเช้าของวันซึ่งเป็นเบอร์แปลก แต่สิ่งที่แปลกคือคำพูดของเขามากกว่าที่ดูเหมือนจะเตรียมการอะไรสักอย่างที่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเฮียบิ๊กกำลังทำอะไร

(ไอ้บิ๊กมันไม่สบายหนักมาก หนักแบบหนักสุดๆ เลย อันนี้พี่เกรทนะครับ) ผมยิ่งงงเข้าไปใหญ่เมื่ออยู่ๆ ต้นสายถูกเปลี่ยนให้เป็นอีกคน

“แล้วเฮียบิ๊กเป็นอะไรหรอครับ”

(ปอดบวม/ท้องเสีย) เสียงของทั้งสองคนพูดแทรกกันออกมาเหมือนว่าลืมเตี้ยมบทพูด ถ้าให้ผมเดาด้วยสมองอันน้อยนิดของผม ผมคิดว่าเฮียบิ๊กต้องกำลังเล่นอะไรอยู่แน่ๆ

“เอ่อ...”

(เอาเป็นว่าไอ้บิ๊กมันไม่สามารถไปดูน้องแข่งได้ ขอโทษนะครับ/ มึงไปขอโทษน้องเขาทำไมไอ้เกรท โง่มาก โป๊ะแตกแล้วมั้ง)
 
(แตกเพราะมึงพูดนั่นแหละ ฉิบหาย! ยังไม่ได้วางสาย ติ๊ด!!) และสายก็ถูกตัดไป.....โดยที่ผมยังไม่ได้ข้อมูลหรือแก่นสารจากเรื่องนี้ แต่ข้อสรุปคร่าวๆ มีอยู่ว่าเฮียบิ๊กไม่สามารถมาดูผมแข่งในวันนี้ได้

“เปล่าเซย์” กลับมาที่ปัจจุบันตอนนี้ผมนั่งคุยกับเซย์ที่กำลังทาครีมนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อหลังจากที่ออกไปวอร์มร่างกายหรืออุ่นเครื่องพร้อมกับพวกผม

“แฟนรวยมาเชียร์ไหม”

“ไม่นะเฮียบิ๊กไม่สบาย” แม้จะงงๆ และติดใจอยู่กับเรื่องเมื่อเช้าแต่ผมก็แอบใจหายนะเพราะนี่เป็นแมตแรกที่ผมลงแข่งหลังจากที่ตกลงเป็นแฟนกับเฮีย ผมอยากให้เฮียมาเชียร์ผม..ผมยอมรับเลยว่ากดดันพอสมควรเพราะสองวันมานี้ผมซ้อมดึกจนแทบไม่มีเวลาคุยกับเฮียบิ๊ก

“เราว่ารวยก็ไม่สบายเห็นซ้อมดึกมาสองวัน รวยก็เป็นนักกีฬามานานก็น่าจะรู้ว่าถ้าใกล้แข่งไม่ควรโหมร่างกายขนาดนี้”

“เราคิดว่าเราอ่อนซ้อมไปมากช่วงนี้กลัวว่ามันจะออกมาไม่ดี”

“อันนี้เราเห็นด้วย ไม่ได้อยากจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวนะแต่รวยเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัยเรื่องซ้อมมันโคตรจะสำคัญเลยแต่ช่วงนี้ที่รวยมีแฟนรวยโดดซ้อมบ่อยมาก พี่ๆ คนอื่นเขาไม่ว่าแต่ก็ใช่ว่ามันจะดี” ผมพยักหน้ารับตามคำพูดของเซย์

“เรารู้ทุกอย่างเซย์ เราเลยต้องทำแบบนี้”

“แต่อย่าให้เป็นแบบนี้อีกละเราเตือนเพราะหวังดี...ในฐานะเพื่อน”

“ขอบใจนะ” ผมมองเข้าไปในนัยน์ตาของเซย์ที่มีความวูบไหวด้วยความรู้สึกบางอย่าง ความรู้สึกที่ผมตอบไม่ได้ว่าเซย์กำลังรู้สึกอย่างไรแต่ที่แน่ๆ มันไม่น่าจะรู้สึกดีสักเท่าไหร่

“ไปกันถึงเวลาแล้ว”

บุ๊คนั่งอยู่ข้างๆ สนามตามคำเชื้อเชิญแกมบังคับของใครบางคนที่เขาไปอยู่ด้วยมาสองวันแลกกับความลับบางอย่างที่เขาไม่สามารถบอกใครได้แม้กระทั่งพี่ชายและเพื่อนสนิททำให้บุ๊คฝืนสังขารมาทั้งๆ ที่ร่างกายของเขายังไม่กลับไปสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์

“เจ็บฉิบหาย” ระหว่างนั้นบุ๊คหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรหาผู้เป็นพี่ชาย “เฮียไม่มาเชียร์รวยเหรอวะ”

(เฮียไม่สบายตี๋)

“ไม่สบายอะไรเสียงสดใสขนาดนั้น” บุ๊คขมวดคิ้วด้วยความสงสัยทันทีที่ได้ยินเสียงของพี่ชาย “แล้วเป็นอะไรไม่สบาย”

(ไข้หวัดธรรมดาค่อนข้างไปทางใหญ่)

“งั้นแค่นี้แหละเฮีย” บุ๊คกดวางสายผู้เป็นพี่ชายก่อนจะมองทอดไปยังสนามที่ถึงเวลานักฟุตบอลของทั้งสองมหาวิทยาลัยลงมาแนะนำตัวท่ามกลางเสียงกรี๊ดของเหล่ากองเชียร์ บุ๊คมองหาเพื่อนสนิทของเขาที่ใส่เสื้อเบอร์ 7 แต่แล้วสายตาเจ้ากรรมดันไปเห็นใครบางคนที่ใส่เสื้อเบอร์ 9 ที่มองมาทางเขาอยู่ด้วยสายตานิ่งๆ

“หน้ากูเหมือนพ่อมึงรึไง สัด” บุ๊คยกนิ้วกลางให้เจ้าของสายตานั้น “มองอยู่นั้น” ทำให้ตอนนี้บุ๊คพยายามไม่โฟกัสกับสิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดจนกระทั่งถึงเวลาแข่งขัน

ครึ่งแรกดำเนินไปด้วยเกมรุกของฝ่ายตรงข้ามเรียกได้ว่าฝีมือของทั้งสองทีมไม่เป็นสองลองกันพยายามที่จะทำประตูอยู่หลายครั้งแต่ด้วยความกองหลังเหนียมพอที่จะสกัดได้เกือบทุกลูกที่หวังจะทำประตู แต่สิ่งที่บุ๊คและคนอื่นๆ ในสนามมองออกก็คือเกมมันค่อนข้างที่จะดุและรุนแรงบางครั้งมีการสกัดและวิ่งชนเหมือนไม่ตั้งใจแต่ด้วยความที่เขาเองก็เป็นนักกีฬาจึงมองออกว่าฝ่ายตรงข้ามจงใจจะใช้เกมการเล่นแบบนี้เพื่อยั่วโมโหฝ่ายของเขา และคนที่ติดกับดักหมากเกมนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากนักฟุตบอลหมายเลข 9 เจ้าของสายตาคู่นั้น

“ใจเย็น!” เสียงมารวยตะโกนเพื่อเตือนสติเพื่อนในทีมหลังจากที่ลงสนามในครึ่งหลังเขาและโค้ชรวมถึงคนอื่นๆ ในทีมมองออกว่าเกมของอีกฝ่ายดำเนินมาในรูปแบบไหน เพียงแต่โค้ชไม่ต้องการตอบโต้ด้วยความรุนแรงตามที่อีกฝ่ายวางเอาไว้

“รุกหน้า!” มารวยรีบวิ่งไปสกัดลูกฟุตบอลที่กำลังตรงเข้ามาทำประตูฝ่ายตัวเองแต่ด้วยความที่อีกฝ่ายตัวใหญ่กว่าทำให้ใช้จังหวะชุลมุนตรงนั้นแตะเข้าที่หน้าแข่งของมารวยเต็มๆ จนมารวยล้มกลิ้งลงไปกับพื้นสนามด้วยความเจ็บที่แปล๊บเข้ามาในกระดูกจังหวะความเจ็บนั้นเองที่ทำให้มารวยรู้ในทันทีว่ากระดูกของเขา...น่าจะหักเพราะแรงกระแทก

“รวย!!” มารวยนอนหอบหายใจอยู่บนพื้นสนามพยายามไม่ขยับตัวลุกไปไหนเพื่อรอให้หน่วยพยายามเข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เขา

“สำออยสัด” หางตาของมารวยมองเห็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ด้วยความโมโหแต่ทำอะไรไม่ได้ทำให้มารวยพยายามระงับความโกรธด้วยการกัดฟันแน่นเพื่อสะกดกลั้นความโมโหรวมถึงอาการเจ็บที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

“มึงตั้งใจนี่หว่า!”

“เพื่อนมึงสำออยเองอย่าโทษกูครับ”

ผลัก!

“แยก!!!” มารวยไม่สามารถรับรู้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาถูกยกขึ้นเปลสนาม แต่เขาพอจะรู้ว่าเพื่อนในทีมกับฝ่ายตรงข้ามกำลังมีปัญหากัน

“ไอ้รวย!! เป็นไงมึง” บุ๊คที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่บนแสตนรีบวิ่งเข้ามาหาเพื่อนที่ถูกหามขึ้นรถฉุกเฉินเตรียมไปโรงพยาบาลหลังจากที่แพทย์สนามประเมินอาการเบื้องต้น

“เจ็บซิวะ” มารวยตอบบุ๊คด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าเจ็บจริงๆ แม้จะไม่มีเลือดไหลออกมาแต่ด้านในค่อนข้างที่จะหนักอยู่เหมือนกัน

“เดี๋ยวกูตามไปนะเพื่อน!” บุ๊คตะโกนบอกมารวยหลังจากที่บุรุษพยายามปิดประตูก่อนที่รถจะเคลื่อนไปด้วยความเร็วเพื่อนำตัวของมารวยไปส่งโรงพยาบาล


BIG’ s talk

“มันจะอร่อยไหมวะเนี่ย” ผมยืนมองเค้กที่รูปทรงบิดเบี้ยวเพราะความซุ่มซ่ามของผมที่ดันเผลอทำตก แต่โชคดีที่พี่สาวของไอ้เกรทช่วยตกแต่งทำให้มันดูไม่แย่มาก

“เตรียมซื้อยาแก้ท้องเสียให้น้องเลยมึง” ผมมองไอ้วสุที่เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับคัพเค้กที่มันแอบทำเห็นบอกว่าจะเอาไปจีบสาว โคตรจะไม่ลงทุนเลยอุปกรณ์ที่ซื้อมาก็ของผมทั้งนั้นแต่เอาเถอะครับ น้ำใจยิ่งให้ยิ่งได้

“อย่าดูถูกเค้กกู” ผมหันไปว่ามันอย่างเคืองๆ ก่อนจะค่อยๆ บรรจุเค้กลงในกล่องสวยงามที่ผมเป็นคนเลือกเอง ตอนแรกผมหวังว่าจะทำเป็นรูปลูกฟุตบอลแต่...ดันกลายเป็นฟุตบอลที่ไม่มีลมซะอย่างนั้น “เด็กบื้อต้องชอบ”
 
“น้องแข่งชนะไหม”

“ไม่รู้ว่ะยังไม่ได้ถามตี๋เลย เดี๋ยวค่อยโทรวานมึงช่วยเตี้ยมกับเชอให้หน่อยว่าพร้อมไหม” วสุพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปโทรหาเชอเพื่อตกลงตามแผนที่วางเอาไว้

ผมก้มลงมองมือของตัวเองที่มีปลาสเตอร์ติดอยู่จริงๆ ผมไม่ได้โดนมีดบาดหรอกครับเพียงแค่ซุ่มซ่ามเอามือไปจับพิมพ์เค้กมือเปล่าออกจากเตาอบเป็นเหตุให้เค้กลูกบอลของผมกลายเป็นลูกบอลบิดเบี้ยวแบบนี้ หวังว่าเด็กบื้อน่าจะเห็นใจผมที่ตั้งใจทำออกมาให้ในวันเกิดแสนพิเศษ

“ไปไอ้บิ๊กเชอถึงแล้ว” วสุกลับเข้ามาข้างในหลังจากที่ผมใช้ให้มันไปนัดแนะกับเชอส่วนผมเองจัดการเตรียมของสำหรับแผนการเซอร์ไพรส์ แล้วเจอกันเด็กบื้อของผม...

Maruay’ s talk

“น่าจะสามเดือนถอดเฝือกนะครับ ช่วงนี้ก็พยายามอย่าใช้เท้าหนักส่วนยาก็ทานตามที่หมอจัดให้” ผมนั่งฟังคุณหมอหลังจากที่เอกซเรย์ดูอาการและถูกวินิจฉัยว่าต้องใส่เฝือก “หมอจะให้ไม้ค้ำไปด้วยนะครับ”

“ครับหมอ” ตอนนี้ผมนั่งวิลแชร์โดยมีไอ้บุ๊คที่ตามมาจากสนามเข็นให้ด้วยความระมัดระวัง แต่ระหว่างทางที่ผมสังเกตไอ้บุ๊คมันดูเงียบผิดปรกติเหมือนมีเรื่องที่ทำให้มันไม่สบายใจจนผมอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้

“ไอ้บุ๊คเป็นไรวะ?”

“ห้ะ? อะไรนะ” ไอ้บุ๊คตกใจทันทีที่ผมเรียกชื่อมันถ้าให้เดาจริงๆ มันคงไม่เรื่องที่ไม่สบายใจจริงๆ นั่นแหละครับ

“เห็นเหม่ออยู่นาน ไม่สบายใจอะไรรึเปล่าบอกกูได้นะ..แล้วนั่นคอมึง?” จังหวะที่ผมหันไปมองหน้ามันที่อยู่ด้านหลังทำให้ผมเห็นว่าที่คอของไอ้บุ๊คมีรอยจ้ำสีออกม่วงๆ

“กูขอเวลาก่อนนะไอ้รวยแล้วจะบอกมึงทุกอย่าง แต่ตอนนี้กูยังไหว” ผมพยักหน้าตามที่มันบอกเพราะดูจากสีหน้ามันก็คงจะต้องการเวลาจริงๆ แม้จะอดเป็นห่วงมันอยู่ก็ตาม

หลังจากที่จ่ายเงินและรับยาเสร็จไอ้บุ๊คมันก็พาผมมาที่หอของมันโดยอ้างว่าขาแบบนี้ผมน่าจะไม่สะดวกเวลาจะหยิบจับอะไรถ้ามาอยู่นี่ก็ยังมีมันและเฮียบิ๊ก...เอ่อว่าแต่เฮียบิ๊กก็หายไปเลยไม่รู้ป่านนี้กำลังทำอะไรพิเรนอยู่รึเปล่า

“เย็นนี้แดกอะไร” ไอ้บุ๊คเข็นผมเข้ามาในห้องก่อนจะเดินเอาสัมภาระของผมไปเก็บ

“อะไรก็ได้ง่ายๆ” ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกหาเฮียบิ๊กแต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเฮียบิ๊กดังมาจากในห้องแสดงว่าเฮียบิ๊กนอนอยู่ในห้องแน่ๆ ผมเข็นตัวเองมาที่หน้าห้องก่อนจะจับที่ลูกบิดประตู

“อื้ม..บิ๊ก” มือของผมชะงักค้างทันทีที่ได้ยินเสียงครางที่ดังออกมาจากในห้อง มุมปากของผมยกยิ้มขึ้นทันทีผมเริ่มจะเดาอะไรออกแล้วแหละครับ ในเมื่อเฮียมันต้องการแบบนี้ผมก็ต้องทำตามแผนที่เฮียมันต้องการสักหน่อยเดี๋ยวเฮียเขาจะเสียใจที่อุตส่าห์วางแผน นักแสดงรอบกองไฟตอนลูกเสื้อมอสามอย่างมารวยแอคติ่งระดับฮอลลีวูลไม่อยากจะคุย

ผมค่อยๆ ผลักประตูเข้าไปด้านในห้องและภาพที่ผมเห็นก็คือ...เฮียบิ๊กคร่อมออยู่บนตัวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมไม่เห็นใบหน้าแต่พอจะรู้ว่าเป็นเจ้าของเสียงครางนั้นแน่ๆ เฮียบิ๊กทำสีหน้าตกใจได้อย่างแนบเนียนเมื่อเห็นผมปรากฏอยู่บนวิลแชร์ด้วยสีหน้าเจ็บปวดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเพราะพิมเสนที่แอบทาก่อนจะเปิดประตูห้องเข้ามา

“ใครทำอะไรรวย!!!” เฮียบิ๊กผลักออกจากร่างผู้หญิงคนนั้นตรงมาที่ผมพร้อมกับคุกเข่าด้วยสีหน้าตื่นตระหนก มือของเฮียหยิบจับแขนขาของผมพลิกดูอย่างพิจารณา

“ผู้หญิงคนนั้นใครครับ?” ผมพยายามทำเสียงแข็งจ้องไปยังบนเตียงของเฮียบิ๊กที่ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นนั่งหาวอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร

“คือ...” ใบหน้าของเฮียบิ๊กเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดใหญ่ที่บ่งบอกว่าเขาเริ่มกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“ถ้าตอบไม่ได้ผมก็ไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกับเฮีย” ผมเตรียมที่จะหมุนล้อรถเข็นตัวเองกลับแต่เฮียบิ๊กวิ่งมาดักด้านหน้าพร้อมกับสายตาอ้อนวอน

“เฮีย...เฮียขอโทษ เฮียงี่เง่า เฮียไม่ทันได้คิด เฮียผิดไปแล้ว..แต่เราบอกเฮียได้ไหมว่าเป็นอะไร ใครทำ ทำไมสภาพเป็นแบบนี้”
 
“จบแล้วครับ”

“ฟังเฮียก่อนนะ..ตบเฮียก็ได้ถ้ารวยต้องการ” เฮียบิ๊กจับข้อมือของผมขึ้นมาก่อนที่จะฟาดหน้าตัวเองแรงๆ ผมพยายามกลั้นขำเต็มที่กับการกระทำของเฮีย

เพี๊ยะ!!

“เกิดอะไรขึ้นวะ?!” เสียงของไอ้บุ๊ควิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องก่อนที่สายตาของมันจะมองไปยังบนเตียงที่มีผู้หญิงนอนเปลือยอยู่บนนั้น “เฮียมึง?”

“ตี๋คือ....”

ผั๊วะ!!

หน้าของเฮียบิ๊กหันไปตามแรงต่อยของไอ้บุ๊คที่พุ่งเข้ามากระชากคอเสื้อของเฮียบิ๊กพร้อมกับปล่อยหมัดหนักๆ กระแทกลงบนหน้าจนเฮียบิ๊กเสียหลักล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น

“Happy birthday น้องมารวย!!!!” อยู่ๆ ประตูห้องน้ำในห้องของเฮียบิ๊กเปิดออกพร้อมกับผู้ชายสองคนที่ผมจำได้ว่าเป็นเพื่อนของเฮียบิ๊ก ในมือของเขามีเค้กที่จุดเทียนตามอายุของผม ส่วนอีกคนดึงอุปกรณ์ในมือที่ระเบิดออกมาเป็นสายรุ้งสวยงาม....กระจายอยู่เต็มห้อง

ปุ้ง ปัง!!

ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันจนกลายเป็นความวุ่นวายอย่างไม่ได้ตั้งใจ วันเกิดปีนี้ของผม ผมจะไม่มีวันลืมมันลงอย่างแน่นอน


#วันนี้เฮียตอบเม้นต์นะใครเม้นต์เฮียจะตอบ!! แต่เฮียน่ารักไหมบอกก่อน
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 7 (30/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 30-07-2019 20:50:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 7 (30/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: M_Y MILD ที่ 30-07-2019 23:05:03
น่ารักดีค่ะแง่ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 7 (30/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 30-07-2019 23:25:28
 :katai2-1:
 o13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 7 (30/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 31-07-2019 00:09:59
555 ดูวุ่นวายน่าดู,,,
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 7 (30/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 31-07-2019 04:45:10
เจ็บ1 5555
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 7 (30/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 31-07-2019 10:07:38
น่ารักดีค่ะแง่ ชอบๆ

น้องเป็นคนแรกที่ชอบเฮียเลยนะครับ!! ดีจัย / บิ๊กพิมพ์เอง
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 8 (31/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 31-07-2019 15:47:53

บทที่ 8
ของขวัญที่ดีที่สุดก็คือ...เฮียบิ๊ก

“เฮียเล่นเหี้ยอะไรของเฮียวะถามจริง?” ไอ้บุ๊คโวยวายขึ้นทันทีที่เฮียบิ๊กอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ฟังพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขาที่ผมพึ่งรู้ว่าชื่อพี่วสุและพี่เกรทส่วนผู้หญิงที่อยู่บนเตียงคือพี่เชอผู้หญิงคนผมบังเอิญเจอวันนั้น

“ก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้นิหว่า ใครจะรู้ว่าตี๋จะต่อยเฮีย” เฮียบิ๊กพูดด้วยท่าทางสำนึกพร้อมกับลูบที่รอยช้ำบนใบหน้าของตัวเอง

“สมควรไหมละไอ้รวยมันเพื่อนผม ถ้าเหี้ยทำระยำแบบนั้นผมไม่ยอม”

“เฮียทำยำไม่เป็นนะตี๋”

“คนละยำ ผ่าม พ่าม!!” พี่วสุและพี่เกรทรับบทเป็นลูกคู่แก้มุกที่เฮียบิ๊กเล่นแต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของผมมันไม่เล่น ทำให้พี่วสุและพี่เกรทต่างก้มหน้าหลบสายตาของไอ้บุ๊ค

“แทนที่รวยจะด่าแต่กลับเป็นตี๋ที่ด่าเฮีย แอบเสียใจเล็กๆ แต่อยากรู้เอาไว้ว่าเฮียไม่โกรธที่โดนตี๋ต่อย แต่จะโกรธเพราะตี๋ไม่เข้าใจมุกเฮีย”

“เฮียรู้ตัวไหมว่าตัวเองแม่ง...ช่างเถอะ” เหมือนตอนนี้ไอ้บุ๊คเริ่มฟิวส์ขาดเมื่อเห็นว่าพี่ชายไม่ได้สำนึกกับการกระทำของตัวเองจริงๆ ทำให้ผมต้องพูดอะไรสักอย่างเพราะบรรยากาศเริ่มคุขึ้นมาอีกครั้ง

“ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วครับ” ผมเฉลยออกมาทำให้เฮียบิ๊กและผู้ร่วมกระบวนการของเขามีสีหน้าตื่นตะลึง “ก็เพื่อนเฮียโทรมาบอกว่าเฮียไม่สบายเป็นปอดบวมกับท้องเสียเฮียคิดว่าผมควรเชื่อไหมอะครับ”

“งื้อแฟนเฮียฉลาดจัง” เฮียบิ๊กลุกขึ้นมาจุ๊บหน้าผมโดยไม่แคร์สายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ก่อนจะชะงักค้างเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้ “แล้ว...นี่แสดงหรอ!”

“ก็เฮียเริ่มก่อนนะครับ”

“มารวยหล่อนมันร้าย!!” เฮียบิ๊กผลักออกจากผมด้วยท่าทางที่แสดงเกินเหตุทำให้เพื่อนๆ ของเฮียทั้งสองคนรีบหิ้วปีกเฮียมานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม “หล่อนทำให้ฉันดูโง่”

“โง่ตั้งแต่บอกมันว่าปอดบวมแล้ว” ไอ้บุ๊คพูดเสริม

“อันนั้นพี่คิดเองครับน้องบุ๊ค” พี่วสุค่อยๆ ยกมือขึ้นพูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“ตามนั้นพี่ ผมไปละเบื่อ” ไอ้บุ๊คเดินหายเข้าไปในห้องของตัวเองส่วนเพื่อนๆ ของเฮียบิ๊กต่างขอตัวกลับทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่ผมกับเฮียบิ๊กสองคน

“เฮียขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไรครับ” ผมพูดยิ้มเมื่อเห็นว่าเฮียบิ๊กขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับเอื้อมมือของตัวเองเข้ามาลูบที่หลังมือของผมเบาๆ

“เฮียเป็นแฟนที่ไม่ดีเลย เฮียควรจะไปเชียร์เรามากกว่ามาคิดแผนโง่ๆ นี่ เจ็บมากไหม” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบให้เฮียบิ๊ก “เราไม่เจ็บแต่เฮียเจ็บมาก” เฮียบิ๊กจับที่แก้มของตัวเองพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

“น้ำตาเฮียนี่สั่งได้ใช่ไหมครับ?”

“ก็พอตัวนะเคยเป็นพระเอกละครเวทีตอนปีสอง” ก็อย่างนี้แหละครับเฮียบิ๊กของผมตลกได้ทุกสถานการณ์ “แล้วเค้กนี่เฮียทำเองหรอ”

“ครับ มากินกันเดี๋ยวเฮียจัดการให้เรานั่งรออยู่ตรงนี้แหละ” เฮียบิ๊กลุกหายเข้าไปในห้องกลับมาพร้อมกับเทียนและไฟแช็ก

“ใส่หมวกด้วย” เฮียบิ๊กสวมหมวกวันเกิดให้ผมก่อนจะปักเทียนลงบนเค้ก “Happy birthday to Maruay……ขอให้มารวยรักเฮียบิ๊กไวๆ นะครับ ฟู่”

“เฮียผมต้องอธิษฐานดิ แล้วมาแย่งผมเป่าอีก”

“ก็อยากอธิษฐานบ้างแต่ยังไม่ถึงวันเกิดหนิหนา” เฮียบิ๊กจุดเทียนวันเกิดให้ผมอีกหลังหลังจากที่เขาเป่าไปเมื่อสักครู่นี้ “เอาเลยครับ อธิษฐานเต็มที่”

ผมหลับตายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เค้กพร้อมกับอธิษฐาน...ขอให้วันเกิดปีนี้ของผมส่งความสุขกลับไปให้กับทุกคนหลายสิบเท่าด้วยเทอญ

“ฟู่”

“น่ารักจังอยากเก็บภาพแต่ว่า..ถ่ายไม่ทัน” เฮียบิ๊กวางเค้กลบนโต๊ะพร้อมกับใช้ช้อนตักเค้กขึ้นมาหนึ่งคำจ่อที่ปากของผม “ลองชิมนะ เฮียตั้งใจ”

“เฮียได้ชิมบ้างยัง?”

“ยังเลย” ผมรู้สึกหวั่นๆ กับเค้กจังครับ แต่เห็นถึงความพยายามของเฮียบิ๊กผมจะต้องชิมเค้กที่เฮียเองก็ไม่มั่นใจฝีมือของตัวเองสักเท่าไหร่ “อ้าปากครับ”

“อ้ำ...” สัมผัสแรกคือเค็มสัมผัสที่สองคือเค็มสัมผัสที่สามก็คือเค็ม เค็มแม้กระทั่งผมกลืนลงไปแล้ว “เค้กนี่เฮียทำเกลือหกใส่หรือเปล่าครับ”

“มันเป็นอย่างไง” ผมแย่งช้อนในมือของเฮียก่อนจะเอื้อมไปตักเค้กเพื่อเป็นฝ่ายป้อนเฮียบิ๊กกลับบ้าง

“อ้าปากแล้วเฮียลองชิมนะ” เฮียบิ๊กอ้าปากอย่างว่าง่ายผมกลั้นยิ้มเต็มที่เมื่อเห็นว่าเฮียบิ๊กมีสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยรสชาติฝีมือของตัวเอง

“มันเหี้ยมากเลยครับ” เฮียบิ๊กวิ่งไปโก่งคออ้วกที่ห้องน้ำกลับมาด้วยสภาพที่น้ำตาคลอ “เฮียขอโทษนะเฮียทำอะไรไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง”

“แต่เฮียเป็นแฟนที่ดีมากที่สุดเท่าที่ผมเคยคบมาเลยนะ”

“เด็กบื้อครับ..เราไม่เคยมีแฟนนะ ดังนั้นเฮียเป็นคนแรกของเรามันจะดีที่สุดได้ไง”

“ก็ดีที่สุดเลยไงครับ ผมเห็นถึงความตั้งใจของเฮียนะ มากอดที” ผมอ้าแขนออกเพื่อให้เฮียบิ๊กสามารถเข้ามาสวมกอดผมได้ แต่จังหวะนั้นเองที่เฮียบิ๊กตัวเข้ามาไม่ใช่แค่กอดแต่เฮียบิ๊กกลับฝังหน้าของเขาลงบนซอกคอของผม “เฮียไม่เหม็นเหงื่อเหรอนั่น”

“บนร่างกายของรวยไม่เคยเหม็นสำหรับเฮีย” ผมมองหน้าคนโกหกที่รีบเอาหน้าของตัวเองออกหลังจากที่ซุกเข้ามาบริเวณซอกคอของผมได้ไม่นาน ท่าทางจะขมคอแต่ต้องการเอาใจผมก็ต้องทรมานต่อไป ผมก็อยากจะรู้นะว่าเฮียบิ๊กจะทนได้นานแค่ไหน

“แล้วเพื่อนเฮียคนไหนคิดแผนให้”

“ทั้งสองคนเลย เฮียห้ามแล้วนะแต่พวกมันไม่ฟัง”

“ผมคิดว่าเฮียคิดเอง โคตรพิเรนเลยถ้าผมจับไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้วเข้ามาเห็นเฮียคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เฮียบิ๊กทำท่าคิดหนักก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงระรื่น

“ร้องไห้วิ่งออกจากห้องไปเหมือนนางเอกในละคร”

“ผิด ผมจะเข้าไปฝาดหัวด้วยอะไรสักอย่างให้เลือดออกจากนั้นค่อยหนีถ้าเฮียตาย”

“โห่ น่ากลัวว่ะถ้าอย่างนั้นอย่าหึงเลยเนอะ”

“ก็อย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะเฮีย ผมอาจจะไม่รู้ว่าอันไหนเล่นอันไหนจริง”

“ครับเด็กบื้อ” และหลังจากนั้นผมก็เข้ามาพักผ่อนในห้องนอนโดยมีเฮียบิ๊กตามมาดูแลไม่เคยห่างไม่ว่าผมจะหยิบจับอะไรเฮียบิ๊กก็อาสาทำให้โดยไม่บ่นสักคำ บางทีผมก็คิดนะว่าอะไรที่ทำให้เฮียบิ๊กเป็นได้ขนาดนี้ ตัวผมมีอะไรดีขนาดที่ทำให้เฮียบิ๊กผู้เป็นอดีตเดือนมหาวิทยาลัยยอมลดตัวลงมาคบกับคนที่โคตรจะแสนธรรมดาไม่มีอะไรอย่างผม หรือว่าบางทีผมจะหล่อแต่ไม่รู้ตัว


ช่วงเย็นของวัน

“มารวยอยากอาบน้ำไหมเอ่ย” เสียงของเฮียบิ๊กที่ดังอยู่ข้างๆ หูทำให้ผมที่เผลอหลับไปลืมตาขึ้นมาอย่างงงๆ รู้ตัวอีกทีก็เห็นว่าเข็มนาฬิกาในห้องชี้ไปที่เลขหก

“อาบไม่ได้” ด้วยความที่พึ่งตื่นบวกกับความเพลียจากการแข่งรวมถึงอาการบาดเจ็บทำให้ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มงอแงมากกว่าเดิมเป็นพิเศษ

“เฮียอาบให้นะ”

“ครับ.....” ตัวของผมถูกเฮียบิ๊กพยุงขึ้นจากที่นอนก่อนจะถูกแขนของเฮียบิ๊กโอบเอาไว้หลังจากนี้ผมปล่อยให้เฮียบิ๊กเป็นคนจัดการโดยลืมไปว่า

อาบน้ำมันต้องแก้ผ้าหมดเลยหนิหนา!!

“ตัวแดงเลย ไม่ต้องเขินนะเฮียเข้าใจ” เข้าใจกับผีน่ะซิ! เพราะตอนนี้หน้าของเฮียบิ๊กมีคำว่าหื่นเต็มหน้า ปากพูดกับผมก็จริงแต่สายตาของเฮียมองอยู่ที่อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายผมอย่างไม่ปิดบัง

“คือจริงๆ ผมอาจจะอาบน้ำเองได้นะ”

“ไม่ทันแล้วครับมารวย เฮียบิ๊กจะอาบให้เอง” เฮียบิ๊กใช้แขนทั้งสองข้างยกตัวอันเปลือยเปล่าของผมขึ้นพาดบ่าของตัวเองเอาไว้และตรงเข้ามาในห้องน้ำที่ตอนนี้ถูกเตรียมทุกอย่างเอาไว้สำหรับอาบน้ำให้ผม

“เราพาดขามาตรงนี้จะได้ไม่โดนน้ำ” เฮียบิ๊กค่อยๆ วางผมลงบนเก้าอี้โดยมีเก้าอี้อีกตัวที่ถูกวางเอาไว้ด้านหน้า

“มันต้องอ้าขา..คือผม” ผมอยากจะบอกว่าถ้าผมพาดไปน้องน้อยของผมได้โพล่ออกมาประจักษ์แก่สายตาเฮียแน่ๆ แม้ตอนนี้เฮียจะแอบเห็นสาหร่ายของผมแล้วก็ตาม แต่ถ้าให้เห็นหมดเต็มผมเขินนะ

“ถ้าเราอายเฮียจะถอดเป็นเพื่อนเอง”

พรึ่บ!

“มะ..ไม่” ยังไม่ทันที่ผมจะห้ามเฮียบิ๊กถอดเสื้อผ้าของเขาออกจากร่างกายจนหมดอย่างรวดเร็วทำให้ตอนนี้เราเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่

“ไม่อายนะ เฮียถอดเป็นเพื่อนเราเลย” ผมรู้แล้วครับว่าทำไมเฮียบิ๊กถึงไม่สามารถมองหน้าผมเวลาคุยได้ก็เพราะมันมีจุดที่น่าสนใจกว่า อย่างตอนนี้ที่ผมเองไม่สามารถจะโฟกัสสายตาตัวเองไปมองหน้าเฮียบิ๊กได้จริงๆ “ถ้ายังมองขนาดนี้แล้วมันเคารพธงชาติขึ้นมารับผิดชอบเลยนะ”

“ก็ใครใช้ให้เฮียมาแก้ผ้าแบบนี้เล่า” ผมเฉไฉหันหน้าไปทางอื่นเมื่อเห็นว่าเฮียบิ๊กยิ้มล้อด้วยความชอบใจเหมือนเฮียไม่อายที่จะแก้ผ้าต่อหน้าผมเมื่อไหร่ก็ได้แบบนี้ ยอมรับเลยว่าใจไอ้รวยไม่ดีเอามากๆ

“มารวยครับตอนนี้เฮียใจบาปมาก แต่เฮียรู้ว่าเราเจ็บสัญญาที่ให้ไว้เป็นอันต้องเลื่อนออกไป”

“สัญญา?”

“ก็ที่บอกว่าหลังแข่งจะให้เฮียสามารถมีเพศสัมพันธ์กับเราไงครับ”

“....เฮียพูดทะลึ่งได้หน้าตาเชยมาก”

“ความสามารถพิเศษอีกอย่างเลยก็ว่าได้” เฮียบิ๊กเดินหันหลังไปเตรียมอุปกรณ์ก่อนจะกลับมาพร้อมกับแป้งสีฟันของผม

“แปรงฟันไหวไหม”

“อยากบอกว่ามือไม่ได้เป็นอะไรนะรู้ยัง” ผมชูมือสองข้างให้เฮียบิ๊กเพื่อบอกว่าผมยังสามารถใช้แขนได้ถนัดแต่เหมือนว่าเฮียบิ๊กจะตีไปความหมายอื่น

“งั้นใช้มือให้เฮียได้ไหม”

“เฮีย....” พอเข้าเรื่องใต้สะดือสายตาของผมก็มองไปตำแหน่งนั้นทันทีตำแหน่งที่ค่อนข้างอันตราย “นั่นไง พอเฮียคิดเฮียก็เกิดอารมณ์”

“เกิดอารมณ์ได้ทุกเมื่อ ขนาดเราตดเชื่อไหมว่าเฮียก็เกิดอารมณ์ได้”

“แล้วถ้าผมขี้”

“ถ้าไม่เหม็นมากก็เกิดอารมณ์ได้เช่นกัน” สมแล้วครับที่เขาเรียกว่าคู่สร้างคู่สมที่ออกไปทางผีเน่ากับโลงผุมากกว่าผมพูดหรือยิงมุกอะไรมาเฮียบิ๊กสามารถตอบได้หมดเหมือนคิดไว้อยู่แล้ว

“อาบน้ำเถอะเฮีย” ผมรับแปรงสีฟันที่เฮียบิ๊กป้ายยามาแปรงฟันของตัวเอง ส่วนเฮียบี๊กเลิกวอแวกับผมเพื่อหันไปจัดการธุระส่วนตัวของเขาจนกระทั่งถึงเวลาอาบน้ำจริงๆ

“ให้ใครอาบก่อน”

“เฮียก็ได้”

“งั้นเรานั่งดูนะ” เฮียบิ๊กจัดแจงหันตำแหน่งผมที่สามารถมองเฮียอาบน้ำได้เต็มๆ เฮียบิ๊กก้าวเข้ามาในโซนฝักบัวก่อนที่จะค่อยๆ เปิดน้ำ ทำให้ตอนนี้เฮียบิ๊กยืนอยู่ใต้ฝักบัวที่มีละอองน้ำกระทบตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย อยากจะบอกว่ามันเป็นภาพที่สวยมาก โดยเฉพาะละอองน้ำที่เกาะตัวเป็นเม็ดเล็กๆ อยู่บนกล้ามเนื้อของเฮียบิ๊ก

“มารวย...น้ำลายเราไหลแล้ว”

“เฮียมาเช็ดให้หน่อยได้ไหม..ครับ”

“เรากำลังอ่อยเฮียนะรู้ไหม”

“รู้ครับ ผมเลยพูดไง” ไอ้บ้าเอ้ย! ถึงแม้ผมจะขาหักอยู่สิ่งที่ผมรู้ในตอนนี้ก็คือผมสามารถหื่นได้ตลอดเวลาเหมือนเฮียบิ๊กจริงๆ แม้กระทั่งถ้าเฮียบิ๊กขี้ถ้ามันไม่เหม็นมากผมก็อาจจะมีอารมณ์ก็ได้ครับ

“เฮียเช็ดด้วยปากนะ” เมื่อสิ้นเสียงเฮียบิ๊กโน้มตัวเข้ามาประกบที่ริมฝีปากของผมทันที ผมรับรู้จากการจูบได้ว่าตอนนี้เฮียบิ๊กร้อนแรงมากแค่ไหน ขาที่ว่าหักก็ไม่สามารถทำอะไรผมได้เมื่อผมอยู่ในอ้อมกอดของเฮียบิ๊ก เนื้อของเราทั้งบดเบียดกันภายใต้อากาศที่เย็นชื้นของน้ำ เสียงครางที่ดังขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ของแรงปรารถนาแม้ว่าผมต้องการมากแค่ไหน แต่สุดท้ายมันต้องหยุดลงก็เพราะ...

“มารวยเฮียปวดขี้ครับ”

“.....เฮือก!” ผมสะกดกลั้นอารมณ์ที่หลงเหลืออยู่ด้วยการเสมองไปทางอื่น การถูกขัดใจด้วยความรู้สึกแบบนี้มันทรมานใจของผมเหลือเกินครับ ผมเริ่มเข้าใจเฮียบิ๊กก็วันนี้ “เฮียเอาคืนผมเหรอ”

“เฮียปวดขี้จริงๆ นะครับไม่ได้ขัดใจแต่อย่างใด ไม่อย่างนั้นบิ๊กน้อยคงไม่ขยายใหญ่ขนาดนี้ ไม่เชื่อลองจับดูไหม”

“เฮียกำลังล่อซื้อผม”

“แล้วซื้อไหม”

“ถ้าซื้อตอนนี้เฮียจะไปขี้ไหมครับ”

“จะยอมอั้นไว้ก่อน”

“งั้นตกลง ดีลครับ...อื้ออออ” ผมไม่รู้ว่านี่คือแผนของเฮียบิ๊กที่วางให้ผมดำเนินตามไหมแต่ที่แน่ๆ ถ้ามันเป็นแผนจริงผมอยากบอกว่าเฮียแม่งทำสำเร็จเพราะผมถอนตัวเองออกจากตรงนี้ไม่ได้จริงๆ จังหวะที่เฮียบิ๊กประคองส่วนนั้นเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับจับมือของผมมาวางลงบนอาวุธที่ขยายใหญ่ ยอมรับเลยว่าเป็นครั้งแรกที่ผมได้จับของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองมันก็ตื่นเต้นไปอีกแบบ

“เราลองขยับมันดูซิ แบบ...แบบนี้” เฮียบิ๊กก้าวถอยหลังไปเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือของตัวเองเข้ามาสัมผัสกับน้องมารวยน้อยของผมที่เต็มไปด้วยดงสาหร่ายขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ “กระตุกดีจัง”

“เฮีย....บิ๊ก ผม...ไม่ไหว”

“ปล่อยอารมณ์ แล้วเราจะสนุกไปด้วยกัน” เฮียบิ๊กนำหน้าด้วยการกระตุ้นผมจนผมไม่สามารถที่จะขยับของเฮียได้เพราะมัวเมาอยู่กับความฟินที่เฮียบิ๊กทำให้ ยิ่งเฮียเพิ่มแรงในการขยับมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าความสุขมันใกล้ที่จะระเบิดออกมา “ยังได้อีกครับ...เด็กบื้อ อื้ม” ยิ่งเสียงครางปนเสียงหอบหายใจของเฮียบิ๊กยิ่งทำให้ผมรีบนำพาความรู้สึกของตัวเองให้ออกมามากที่สุดและพร้อมที่จะปลดปล่อยจากความอึดอัดที่แสนจะมีความสุขในครั้งนี้

“ผะ..ผม อื้มมมมมมม”

“อย่างนั้นแหละครับคนเก่ง” เฮียบิ๊กขยับอีกเล็กน้อยหลังจากที่ผมปลดปล่อยออกมา เมื่อสิ้นสุดทางรัก..ผมกระดากอายว่าเผลอทำอะไรลงไป ยิ่งเห็นภาพหลักฐานที่อยู่ตามส่วนต่างๆ ของเฮียยิ่งทำให้ผมเขินอายกว่าที่จะสามารถมองหน้าเฮียบิ๊กได้ตรงๆ “หลบตาเฮียทำไมครับ”

“ผมอาย..มันน่าอาย”

“อย่ากัดปากซิ มันทำให้เฮียอยากกัดเรามากขึ้นกว่าเดิมนะ” เฮียตามมาประคองใบหน้าของผมเอาไว้ รอยยิ้มของเฮียบิ๊กทำให้ใจของผมสั่นไหวมากกว่าเดิม ผมอยากเห็นแก่ตัวเก็บรอยยิ้มนี้ไว้กับตัวเองไม่อยากให้ใครได้มองเห็น ปรกติคนทั่วไปอาจจะมองว่าเฮียบิ๊กหน้าดุดูน่ากลัวแต่เฮียบิ๊กเป็นคนยิ้มเก่งและชอบแจกยิ้มไปทั่ว และวันนี้ที่ทำให้ผมตระหนักได้ว่าผมไม่อยากให้เฮียแจกยิ้มเหมือนกับทุกครั้งกับทุกคนอยากให้เก็บรอยยิ้มนี้ไว้ให้ผมเพียงแค่คนเดียว

“กำลังคิดอะไร..ทำไมยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนี้ บอกเฮียได้ไหม”

“แค่คิดว่า..ไม่อยากให้เฮียยิ้มแบบนี้ให้ใคร ผมหวง....อื้ม!” เฮียบิ๊กโผล่เข้ามากอดผมแน่นทันทีที่ผมพูดว่าหวงออกไป

“เฮียดีใจที่ได้ยินคำนี้ ขอหอมที” เฮียบิ๊กผลักออกมาพร้อมกับจูบที่แก้มทั้งสองข้างของผมแรงๆ “มารวยโคตรน่ารักเลย”

“เฮียบิ๊กก็โคตรน่ารักเลย”

“เฮียอยากหล่อ ไหนพูดไหมซิ”

“เฮียบิ๊กโคตรหล่อเลย”

“เฉียบมากครับ!” เราทั้งสองคนไร้สาระอยู่ในห้องน้ำเกือบๆ ชั่วโมงเพราะมัวแต่ผลัดกันชมไปมากกว่าจะได้อาบน้ำตัวผมก็เริ่มเปื่อย ส่วนเฮียบิ๊กดันเล่นตัวไม่ยอมให้ผมช่วยต่อเพราะยืนยันว่าสามารถทำเสร็จได้ด้วยตัวเองเพราะกลัวว่าผมจะเมื่อย...คือเฮียเขาชมตัวเองว่าอึดอะครับผมเลยปล่อยให้เฮียไปจัดการหลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวและมาปล่อยผมไว้ที่โซฟาห้องรับแขก

“ไอ้บุ๊ค มึงจะไปไหน” ผมที่กำลังเลื่อนรีโมทกดเปลี่ยนช่องถามไอ้บุ๊คที่กำลังออกไปข้างนอกพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่ “มึงจะหนีออกจากบ้านเหรอ แค่มึงต่อยเฮียเพราะเข้าใจผิดเฮียบิ๊กไม่ว่าอะไรหรอก ไม่อย่างนั้นกูคุยให้ได้นะ”

“ไอ้รวย ไอ้เหี้ย” ไอ้บุ๊คด่าผมเสร็จมันรีบออกไปข้างนอกห้องทันทีทิ้งให้ผมนั่งงงอยู่กับอาการหงุดหงิดของมัน ผมคบมันเป็นเพื่อนมาก็นานพอที่จะรู้นิสัย และตอนนี้ผมก็รู้ได้ว่าไอ้บุ๊คมันกำลังปิดบังอะไรผมอยู่ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมคาดเดาว่าน่าจะรุนแรงพอสมควรไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้มันเป็นขนาดนี้ ถ้าใช้สมองน้อยๆ ของผมในการคิดคำนวณน่าจะเกี่ยวข้องกับรอยที่คอที่ผมเห็นบนคอมันตอนอยู่โรงพยาบาล

“ถึงคราวนักสืบโคนันต้องออกตามคดีแล้วแหละ”

“มารวยคุยกับใครครับ” เสียงของเฮียบิ๊กดังออกมาจากในห้อง สงสัยเมื่อกี้ผมจะพูดดังเกินไปเฮียบิ๊กอาจจะได้ยินแต่คงไม่สงสัยหรอกมั้งครับ

“คุยคนเดียวครับ”

“แล้วไปครับ มีแฟนช่างจินตนาการก็น่ารักไปอีกแบบ” นี่อาจจะเป็นคำชมในรูปแบบใหม่ที่ผมไม่เคยได้ยิน



#มารวยโดนล่อซื้อแล้วฮะ!! วันนี้รวยตอบเม้นต์นะทุกโค้นนนน
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 7 (30/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 31-07-2019 15:49:45
555 ดูวุ่นวายน่าดู,,,
มันผิดแผนที่เฮียวางเอาไว้ เสียใจครับ / บิ๊กเอง
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 7 (30/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 31-07-2019 15:50:24
เจ็บ1 5555
เจ็บหัวใจมากๆครับ / บิ๊กเอง
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 8 (31/07/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 31-07-2019 22:43:30
เฮียบิ๊กดูไร้สาระมาก5555
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 9 (1/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 01-08-2019 12:27:23
 
บทที่ 9
นักสืบมารวยและผู้ช่วยบิ๊ก

“ถ้าตี๋รู้โกรธเราสองคนแน่ๆ” ไม่ต้องสงสัยครับตอนนี้ผมและเฮียบิ๊กเราสองคนต่างเปิดอกเปิดใจคุยกันในเรื่องความผิดปรกติของไอ้บุ๊คเพื่อนรัก เฮียบิ๊กมาปรึกษาผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่าช่วงนี้บุ๊คมีปัญหากับใครหรือเปล่าทำไมดูหงุดหงิดและหายออกไปนอนข้างนอกบ่อยๆ ทั้งๆ ที่ไอ้บุ๊คไม่มีเพื่อนคนอื่นนอกจากผมกับมิ้น

“แต่เราสามารถเบิกการ์ดความเป็นพี่ชายและเพื่อนสนิทเข้ามาใช้ได้นะครับ ถ้าโกรธจริงๆ ก็น่าจะเห็นถึงความเป็นห่วงของเรา”

“แต่คอสตูมเราไม่เด่นไปเหรอมารวย” เป็นครั้งแรกที่เฮียบิ๊กถามผมด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ เพราะผมสั่งชุดโคนันมาสองชุดสำหรับผมและเฮียบิ๊กในการทำภารกิจตามสืบเรื่องไอ้บุ๊ค

“ก็ธรรมดานะครับ ไม่อย่างนั้นจะเรียกนักสืบได้ไง” ผมมองตัวเองในกระจกที่ตอนนี้สวมเสื้อสูทสีน้ำเงินผูกโบสีแดงกางเกงขาสั้นเหมือนอย่างโคนันไม่มีผิดแม้ขาจะหักแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคของคนฉลาดอย่างผม ซึ่งเฮียบิ๊กก็สวมชุดเหมือนผมเพียงแค่ต่างไซส์

“นั่นซิเนอะทำไมเฮียคิดไม่ได้” เฮียบิ๊กเกาศีรษะของตัวเองด้วยความสับสนก่อนจะเดินออกไปนอกห้องทิ้งให้ผมเซตผมอยู่คนเดียวเพราะเฮียบิ๊กไม่มีผมให้เซต

“หลักฐานมีอะไรบ้าง” ผมเดินออกมาจากห้องหลังจากที่แต่งตัวเสร็จส่วนเฮียบิ๊กนั่งมองกระดาษที่ผมเขียนความผิดปรกติของไอ้บุ๊คเอาไว้

“ตามที่เฮียเห็นอะครับ ผมเขียนเอาไว้”

“มารวยครับ ถึงเฮียจะไม่ค่อยฉลาดเรื่องนี้แต่เฮียพอจะรู้ว่านี่ไม่ใช่หลักฐานมันเป็นเพียงแค่สมมติฐานเท่านั้น” ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เฮียบิ๊กที่ทำหน้าเคร่งเครียด “ตี๋ไม่เคยเป็นแบบนี้ เฮียไม่สบายใจ”

“มันไม่ค่อยมีเรื่องไม่สบายใจเท่าไหร่ ที่ผมเห็นมากสุดก็คือเรื่องลืมรายงานไว้ที่ห้อง”

“เฮียมีน้องชายแค่คนเดียวเฮียไม่อยากเสียน้องไป...”

“เฮียครับไอ้บุ๊คไม่ได้ไปตายนะ....”

“ขอจูบปลอบขวัญหน่อย...” เฮียบิ๊กเข้ามาประกบปากผมทันทีพร้อมกับสอดลิ้นเข้ามาด้านในด้วยความหื่นกระหายเหมือนอดอยากจากจูบมานานทั้งๆ ที่จูบกันเกือบทุกๆ ครึ่งชั่วโมง

แอดดดดดด

“ทำอะไรกัน? แล้วดูชุด..จะคอสเพลย์?” เฮียบิ๊กผลักตัวออกจากผมทันทีที่อยู่ๆ ประตูห้องถูกเปิดออกก่อนจะปรากฏเป็นร่างของไอ้บุ๊คที่ยืนขมวดคิ้วมองมาที่ผมสองคน “ทีหลังก็ไปทำในห้องนะผมไม่อยากเห็นหนังสด พึ่งรู้ว่าชุดโคนันมันสามารถกระตุ้นอารมณ์แบบนั้นได้”

“ไปไหนมาตี๋ เฮียไลน์ไปก็ไม่ตอบเลย โทรไปก็ไม่รับ” เฮียบิ๊กลุกขึ้นเดินเข้าไปหาไอ้บุ๊คด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “รู้ไหมว่าเป็นห่วง”

“เฮียจะมาเป็นห่วงอะไรผมวะ”

“ทำไมตี๋พูดแบบนี้ เฮียเป็นห่วงจริงๆ”

“วันๆ ก็อยู่แต่กับไอ้รวยจะมาสนใจอะไรผม มึงก็ด้วยตั้งแต่มีผัวก็ลืมเพื่อน”

“ตี๋...” เฮียบิ๊กเดินเข้าไปหาไอ้บุ๊คพร้อมกับจับไหล่ของไอ้บุ๊คเอาไว้ด้วยความใจเย็นๆ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ผมสังเกตเห็นว่าเฮียบิ๊กกำลังพยายามระงับอารมณ์อยู่ “เฮียไม่เคยทำแบบนั้น”

“ไม่เคยทำแบบนั้นจริงดิ? เอาเป็นว่าไม่ต้องมาสนใจผม ผมดูแลตัวเองได้ เข้าใจนะเฮีย” ไอ้บุ๊คจับมือของเฮียบิ๊กให้ออกจากไหล่ของมันก่อนจะเดินกระแทกเท้าเข้าไปในห้อง

“เฮียโอเคไหมครับ?” ผมใช้ไม้ค้ำเขย่งไปหาเฮียบิ๊กที่ยืนค้างอยู่ที่เดิม

“เฮีย...เป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่องเลยใช่ไหม”

“ไอ้บุ๊คมันก็พูดไปแบบนั้นอะครับ มันอาจจะกำลังหงุดหงิดอยู่ก็ได้ ไว้ผมจะเข้าไปคุยกับมันให้นะ” ผมจับมือเฮียบิ๊กเข้ามากุมเอาไว้เพื่อให้กำลังใจเล็กๆ ส่งไปให้เฮีย

“มันสะเทือนใจเฮียนะ ตอนที่เฮียคบกับแฟนเก่าบุ๊คมันไม่เคยพูดแบบนี้เลย”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแฟนเก่าเฮีย?”

“มารวยเสียงแข็ง สะเทือนใจกว่าเดิม”

“เดี๋ยวผมจะทุบเฮียด้วยไม้ค้ำนี่แหละนะ” ยอมรับเลยว่าหงุดหงิดและสะกิดใจเป็นอย่างมากกับการที่เฮียบิ๊กพูดถึงแฟนเก่าออกมา แม้ว่าผมจะไม่เคยขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตแต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่สนใจดังนั้น..ดังนั้นไม่มีอะไรครับ

“ทำไมเงียบไป”

“ไม่รู้ครับ”

“ถ้าไม่ชอบก็จะไม่พูดอีก อย่างอนนะ”

“ไม่ได้งอนครับ ผมไปคุยกับไอ้บุ๊คก่อนนะ” ผมเดินเข้าไปหาไอ้บุ๊คในห้อง ซึ่งตอนนี้ในห้องของไอ้บุ๊คไม่มีไอ้บุ๊คอยู่แต่ผมได้ยินเสียงน้ำสงสัยมันน่าจะกำลังอาบน้ำอยู่ งั้นผมนั่งรอ....

แอดดดด

“เหี้ยรวย!!”

“.....!!” ผมที่กำลังจะเคลิ้มหลับสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงของไอ้บุ๊คทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเห็นว่าตอนนี้ไอ้บุ๊คยืนแก้ผ้าอยู่ตรงหน้าผม เมื่อคิดได้ดังนั้นผมรีบวิ่งไปล็อคประตูเพราะกลัวว่าเฮียบิ๊กจะเข้ามาแล้วเข้าใจผิดมากกว่าเดิม

“ล็อกห้องหาอะไร”

“หาโดเรม่อนมั้ง แล้วทำไมมึงแก้ผ้าออกมา”

“แล้วกูจะรู้ไหมว่ามึงอยู่ สัด” ไอ้บุ๊คเดินไปเอาผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ขึ้นมาพันรอบเอวแต่..สายตาของผมดันเห็นรอยบางอย่างที่ผมเคยเห็นอยู่ก่อนหน้าเพียงแต่ว่าตอนนี้มันย้ายมาอยู่ตามร่างกายของไอ้บุ๊ค

“มึงพอจะบอกได้ไหมว่าทำไม?”

“กู...” สีหน้าของไอ้บุ๊คตอนนี้มีแต่ความกังวลเต็มไปหมด “กูไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไงดี ไอ้รวย...กูขอกอดหน่อย” ผมเดินกระเพกเข้าไปกอดไอ้บุ๊ค ทันทีที่ผมกอดผมรู้สึกได้ว่าไอ้บุ๊คกำลังซุกหน้าร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง ผมไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลย

“มันหนักขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ผมลูบหลังไอ้บุ๊คเบาๆ เพื่อปลอบใจที่กำลังอ่อนแอของไอ้บุ๊ค

“ไอ้รวย..ฮึก กูไม่เคย...กูไม่เคย มันครั้งแรกของกู” ผมนิ่งฟังในสิ่งที่ไอ้บุ๊คพูดออกมา “กูพลาดไปแล้วกูทำไงดี..มันแย่มาก กูกลัวจริงๆ”

“ใจเย็นๆ ก่อนนะมึง กูอยู่นี่แล้วมึงจะไม่เป็นอะไร”

“อย่าบอกเฮียนะกูขอร้อง” หลังจากที่ไอ้บุ๊คผลักออกจากผม มันใช้หลังมือเช็ดน้ำตาเงียบๆ “ไม่อยากให้เฮียผิดหวังไปมากกว่านี้”

“แต่เฮียเป็นห่วงมึงมากเลยนะ”

“กูรู้..ถ้ากูพร้อมกูจะบอกเอง”

“แต่ถ้ามึงอยากระบาย กูพร้อมนะ”

“ไอ้รวยไอ้เหี้ยเอ้ย ทำไมกูถึงช้าแบบนี้วะ กูรู้แล้วว่าทำไมเฮียบิ๊กถึงต้องการมึงขนาดนี้ กูขอกอดอีกทีนะเพื่อน” และแล้วไอ้บุ๊คมันก็ดึงผมกลับไปกอดอีกครั้ง

“พูดเหมือนแอบชอบกูเลย”

“.....อืม” ผมไม่รู้ว่าไอ้บุ๊คมันพูดว่าอะไร เพียงแค่มันเปิดใจร้องไห้เพื่อระบายสิ่งที่มันอึดอัดอยู่ผมก็สบายใจไปหนึ่งเปาะแล้วครับ

BIG’ s talk

ถึงภายนอกผมจะดูไม่เครียดแต่การที่ตี๋มีปฏิกิริยาแบบนี้ผมโคตรเป็นห่วงเลยครับ แล้วไอ้การประชดนั่นผมอยากจะหาไม้เรียวมาฟาดสักทีข้อหาดื้อฉิบหาย แต่ติดที่ว่ามีสายตาของแฟนมองการกระทำอยู่ทำให้เฮียบิ๊กต้องคีพลุคเอาไว้เดี๋ยวแฟนจะมองผมไม่ดี

“ตี๋เป็นไงบ้างจ๊ะที่รัก” ผมที่นั่งรออยู่ด้านนอกเมื่อเห็นเด็กบื้อของผมเดินออกมาจากห้องของตี๋

“สบายดี เฮียไม่ต้องห่วง”

“เฮียว่ามันแปลกๆ นะ เหมือนตี๋มีเรื่องปิดบัง”

“ให้เวลามันหน่อยครับ บางทีมันอาจจะกลัวว่าทำให้เฮียไม่สบาย”

“แต่ที่ทำอยู่ก็ไม่สบายใจนะ”

“ไปกินเตี๋ยวไหม ผมเลี้ยง” ผมมองหน้าเด็กบื้อที่พยายามหาวิธีชวนผมออกไปข้างนอก ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นห่วง ไปก็ได้ครับพอดีว่าผมเป็นคนใจง่ายถ้าแฟนชวนไปไหนก็ไปทั้งนั้น

“กินหลายชามนะ”

“ถ้าไหวก็ไม่มีปัญหา” ดูท่ายักไหล่แบบนั้นซิโคตรน่ารักเลย ผมนี่อยากจะจับเด็กบื้อใส่กรอบแล้วห้อยคอเอาไว้จังครับ ขยันทำให้หลงแบบนี้เฮียบิ๊กจะไปไหนรอด

“เดินไหวไหมให้อุ้มรึเปล่า”

“รอผมหักสองข้างค่อยอุ้มนะเฮีย” แต่ช่วงนี้มารวยปากจัดมากครับสงสัยต้องหาอะไรมายัดปาก แต่อย่าพึ่งทะลึ่งไปนะเพราะเฮียบิ๊กคนนี้จะเอาความรักมายัดปากมารวยให้หายจัดเลย

“ของรางวัลก่อน เร็ว” ผมย่อตัวลงทำปากจู๋เพื่อรอให้มารวยเข้ามาจุ๊บอย่างทุกที แต่ดูเหมือนครั้งนี้จะเปลี่ยนไปเพราะ...ปากของมารวยไม่นุ่มเหมือนเดิม ผมจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนจะเห็นว่าสิ่งที่ผมจูบคือ ฝ่ามือของไอ้ตี๋!

“ได้ข่าวว่าจะไปกินเตี๋ยวกัน ผมไปด้วยหวังว่าเฮียจะไม่ว่าอะไรนะ” ผมมองบนให้น้องชายตัวแสบที่ปากหนักปากหนา ทำฟอร์มจัดดูก็รู้ว่าหวงพี่ชายอย่างผม แอบเห็นว่าสายตาตี๋มีมองมาทางผมด้วยความรู้สึกผิดเล็กๆ “มองไรเฮีย”

“มองตี๋หิด”

“เฮีย!”

“ตี๋!!” เอาซิครับเสียงดังมาเสียงดังกลับไม่โกง นายยกตู่สอนมา แฮร่! ตู่ ภพธร นะไม่ใช่ตู่อื่น

“พอเลย ผมขี้เกียจห้ามนะ” เด็กบื้อค่อยๆ ขยับตัวแทรกมาอยู่ตรงกลางระหว่างผมกับไอ้ตี๋หิดนั่น เวลาโมโหน้องจะเรียกมันตี๋หิดแต่ถ้ารักจะเรียกน้องตี๋

“ไปกันตี๋หิด”

“หิดหน้าเตี่ยเฮียดิ”

“งั้นก็ทะเลาะกันไปเลย ผมไปละ” เด็กบื้อใช้ไม้ค้ำเตรียมจะเดินออกจากประตูห้อง ด้วยความเป็นแฟนที่ดีผมเลยยอมแพ้ไอ้ตี๋และรีบเข้าไปประคองเด็กบื้อด้วยความเอาอกเอาใจ ผมไม่ได้ประจบประแจงใช่ไหมครับ


ร้านก๋วยเตี๋ยว

“เฮียครับทำไมคนมองเราแปลกๆ” มารวยหันไปมองรอบๆ ข้างที่พากันยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปของเขาและบิ๊กที่นั่งอยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง บ้างก็ส่งเสียงหัวเราะชอบใจ บ้างก็แอบกระซิบกระซาบกันให้ได้ยิน

“เฮียหล่อ”

“...เอ่อ”

“แล้วคนดีที่ไหนใส่ชุดโคนันมาแดกก๋วยเตี๋ยว?” เสียงของบุ๊คที่พึ่งเดินกลับมาจากไปซื้อลูกชิ้นทอดร้านข้างๆ ทำให้ทั้งมารวยและบิ๊กกระจ่างทันที “ก่อนคบกันก็ว่าแปลกแล้วพอคบกันแปลกหนักกว่าเดิมอีก”

“ผมก็ว่าแล้ว” มารวยก้มหน้าลงด้วยความอายเพราะไอ้ความทะลึ่งของเขาแท้ๆ ที่ไปสั่งชุดนักสืบว่าด้วยต้องการได้บรรยากาศให้สมจริง

“ตอนนี้เฮียก็เริ่มอายละ ถึงหน้าเฮียจะค่อนข้างด้านก็เถอะ...”

“บิ๊ก....” เสียงใสนั้นที่บิ๊กจำได้ดีว่าเป็นเสียงของใครทักขึ้นมาจากทางด้านหลังแทรกเข้ามาระหว่างบทสนทนาของเขาทำให้บิ๊กค่อยๆ หันไปมองช้าๆ ก่อนจะเห็นว่าเป็น

“หวัดดีเจ๊” บุ๊คยกมือขึ้นสวัสดีด้วยความคุ้นเคยเพราะเขาลืมตัวว่าผู้หญิงที่มาใหม่เป็นใคร “เอ่อ...กูไปกินบนห้องดีกว่า”

“ไอ้ตี๋หิด..” บิ๊กรั้งคอเสื้อของน้องชายตัวดีที่เตรียมจะหนีเอาไว้

“ไม่ทักเราหน่อยเหรอบี๋” ตอนนี้บิ๊กอยากที่จะวิ่งหนีไปให้ไกลโดยไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น สถานการณ์ที่แฟนเก่าและแฟนใหม่เจอกันโคตรน่ากลัวเลย โดยเฉพาะตอนนี้มารวยนั่งนิ่งไม่พูดอะไรทำให้บิ๊กรู้สึกเสียวสันหลังอย่างไงชอบกล

“เรียกเราว่าบิ๊กเถอะแตม มารวยครับนี่แตมเอ่อ..แฟนเก่าเฮียเอง แตมนี่น้องรวยแฟนเรา” บิ๊กพยายามให้เกียรติโดยการแนะนำแฟนเก่าให้แฟนใหม่รู้จัก

“บอกด้วยซิคะบี๋ว่าแตมที่ทำให้บี๋เสียใจจนขยาดผู้หญิง” น้ำเสียงของแตมดูสะใจเมื่อเห็นว่าแฟนใหม่นั่งทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ตกอับขนาดที่มาคบผู้ชายด้วยกัน น้องว่าพี่ธรรมดาหรือเปล่าอะคะ”

“พี่เหมือนตัวร้ายในละครเลยนะครับ” อยู่ๆ มารวยที่นั่งเงียบพูดขึ้นมาทำให้เรียกสายตาเฮียบิ๊กและบุ๊คหันไปมองทันทีเพราะไม่คิดว่ามารวยจะพูดแบบนี้ออกมา “มาพูดแบบนี้มันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เหมือนมาประจานตัวเอง”
 
“พี่ประจานตัวเองตรงไหนคะ?”

“ก็ประจานตรงที่ว่าพี่...ทำให้ผู้ชายดีๆ คนหนึ่งเสียใจ มันไม่ใช่เรื่องน่าอวดอะไรเลย” บิ๊กมองหน้ามารวยด้วยความซึ้งใจถ้าไม่ติดว่าเขาอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวจะดึงมารวยมากอดและหอมหัวสักที “แล้วการที่เฮียบิ๊กมาคบกับผมมันเป็นเรื่องเสียหายตรงไหนเหรอครับ ช่วยบอกผมทีซิ” มารวยดันชามก๋วยเตี๋ยวที่วางอยู่ตรงหน้าออกก่อนจะนั่งเท้าคางมองหน้าแตมด้วยท่าทางกวนๆ

“น้อง..!”

“บอกซิครับผมรอฟังอยู่ ถ้าคิดไม่ออกก็กลับไปเถอะครับผมจะกินก๋วยเตี๋ยวบอกตามตรงว่าผมเห็นหน้าพี่แล้วไม่ค่อยจะเจริญอาหารเลย”

“ฝากไว้ก่อนเถอะ! แล้วบิ๊กจะเสียใจ” แตมสะบัดหน้าสวยๆ ของเธอออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวไปทำให้ตอนนี้บรรยากาศกลับมาคุอีกครั้งเมื่อมารวยมองหน้าบิ๊กนิ่งๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ไอ้รวย..เอ่อ กูขอถามนะ อันนี้เรียกว่าหึงรึเปล่าเอ่ย?” บุ๊คที่เห็นท่าทีของเพื่อนสนิทจึงค่อยๆ สะกิดแขนเพื่อนเบาๆ และถามออกมา “บอกตามตรงว่าอึ้งมาก ไม่เคยเห็นมึงเป็นแบบนี้”

“กูแค่ไม่ชอบคนประเภทนี้ก็เท่านั้น” มารวยยกชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเองกลับมาก่อนจะลงมือกินต่อโดยไม่สนใจบิ๊กที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างๆ

“เฮีย....” บุ๊คที่เป็นคนกลางของเรื่องตัดสินใจลากเฮียบิ๊กออกมาจากร้านเพื่อมาคุยเรื่องที่เขาค่อนข้างจะติดใจและไม่อยากให้เพื่อนสนิทต้องมาได้ยิน

“เฮียลืมเจ๊ไม่ได้ว่างั้น?” หลังจากที่เห็นว่าระยะทางบริเวณที่เขาลากบิ๊กออกมาค่อนข้างที่จะไกลพอสมควรบุ๊คจึงถามเข้าประเด็นทันที

“หน้าเฮียมันฟ้องขนาดนั้นเลยหรอ?”

“ก็ประมาณหนึ่ง บอกตามตรงว่าผมเป็นห่วงเพื่อนผม”

“มันไม่ใช่ลืมไม่ได้ แค่บังเอิญเห็นหน้าแล้วความรู้สึกเก่าๆ มันกลับมาก็เท่านั้น...แต่มันไม่ได้รู้สึกรักแล้ว เฮียไม่รู้ว่ะว่ามันคืออะไร คบกันมาก็นานอะเนอะ” จะว่าเป็นเรื่องธรรมดาไหมบิ๊กเองก็ตอบไม่ได้เพราะแตมกับเขาเป็นคนแรกของกันและกันในหลายๆ เรื่องคบกันมานานพอสมควร พอกลับมาเจอกันอีกครั้งเขายอมรับเลยว่าค่อนข้างที่จะเจ็บอยู่แม้ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย แล้วการที่แตมพูดจี้ใจดำเขาตอนอยู่ที่ร้านมันก็เป็นเรื่องจริง “แต่เฮียรักมารวยจริงๆ นะ เพียงแค่ตอนนี้เฮีย....”

“ผมเข้าใจนะเฮีย” เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่บุ๊คดึงผู้เป็นพี่ชายมากอดปลอบเพราะเห็นสายตาที่ค่อนข้างสับสน แม้ว่าเขาเองก็ไม่ใช่คนที่คอยปลอบใจคนอื่นได้เก่งแต่เขาคิดเพียงแค่ว่าถ้าต้องการให้กำลังใจใครสักคนแค่กอดอุ่นๆ มันก็ช่วยได้มากเลยทีเดียว

‘กูกอดมึง..เพราะกูไม่อยากให้มึงร้องไห้ ได้โปรดอย่าผลักกูเลยบุ๊ค’ อยู่ๆ น้ำเสียงของใครบางคนดันแทรกเข้ามาในความรู้สึกของเขา คนที่เขาเกลียดคนที่เขาไม่ชอบคนที่ทำร้ายย่ำยีศักดิ์ศรี...และเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาอบอุ่น

“ตี๋...ตี๋ร้องไห้ทำไม?? !” บิ๊กที่ถูกน้องชายดึงเข้ามากอดลูบหลังเบาๆ แต่ไม่นานเขากลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปียกชื้นอยู่บนไหล่ของเขาซึ่งเป็นตำแหน่งที่บุ๊คซบเอาไว้ ตัวของบุ๊คสั่นน้อยๆ ทำให้ผู้เป็นพี่รับรู้ได้ว่าตอนนี้น้องชายของเขาก็อ่อนแอไม่แพ้กัน

“ผมขอโทษนะเฮีย....”


#มารวยอาร์ยูวโอเค?
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 9 (1/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 01-08-2019 22:26:57
ร้องไห้ง่ายกันจัง555
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 9 (1/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 02-08-2019 00:40:09
มารวยสุดยอด,,,
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 9 (1/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 02-08-2019 08:38:09
 :กอด1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 10 (2/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 02-08-2019 21:47:52

บทที่ 10
มารวยโศกเฮียบิ๊กเศร้าน้องบุ๊คสร้อย

Maruay’ s talk

ผมมองภาพพี่ชายน้องชายกอดกันอยู่บริเวณห่างออกไปด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก ผมไม่รู้ว่าสองคนนั้นไปคุยอะไรกันแล้วเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับผมไหม แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมกำลังติดใจกับบางสิ่งบางอย่าง

‘แป้งนี่ที่เราทาเฮียจำกลิ่นได้ ไว้จะซื้อมาใช้เองบ้าง’

‘กลิ่นบริสุทธิ์จริงๆ ด้วย’

ผมรู้แล้วครับว่าอะไรที่เป็นต้นเหตุให้เฮียบิ๊กมาเป็นแฟนผมด้วยวิธีประหลาดๆ แม้จะไม่แน่ใจแต่ผมมั่นใจว่ามันมีเหตุผลเดียวเท่านั้น

กลิ่นผมเหมือนกลิ่นแฟนเก่าของเขา

ความรู้สึกเจ็บที่หัวใจเหมือนถูกใครหยิกมันเป็นแบบนี้นี่เอง อย่าบอกนะครับว่าตอนนี้ผมรักเฮียบิ๊กเข้าแล้วเต็มๆ มันจะดีมากถ้าผมรู้ตัวในเหตุการณ์อื่น ตั้งแต่ผมคบกับเฮียบิ๊กมาไม่มีวันไหนที่เฮียบิ๊กไม่ทำให้ผมหัวเราะหรือยิ้ม เฮียทำให้ผมกลายเป็นคนบ้าที่หัวเราะออกมาคนเดียวเมื่อนึกถึงหน้าตลกๆ ของเฮีย เฮียบิ๊กเป็นผู้ชายที่เทคแคร์แม้จะออกแนวแปลกๆ ไปบ้างก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมรัก และวันนี้วันที่ผมติดเฮีย..ผมกลับต้องรู้สึกประหลาดกับคนที่เข้ามาใหม่ ตอนนี้อารมณ์ของผมเหมือนนางเอกเลยครับที่มาดราม่าเพราะรู้ว่าสาเหตุที่พระเอกจีบเพราะดันกลิ่นตัวไปเหมือนแฟนเก่าของเขา แต่มารวยคนนี้ไม่ใช่นางเอกที่จะมาคร่ำครวญดังนั้นมูฟออนครับ

“เด็กบื้อ...โกรธอะไรเฮียรึเปล่าเอ่ย” เฮียบิ๊กเดินกลับมาพร้อมกับไอ้บุ๊คที่ผมสังเกตเห็นว่าตาของไอ้บุ๊คดูแดงๆ จะว่าไปแล้วช่วงนี้เพื่อนผมร้องไห้บ่อยจนอดที่จะเป็นห่วงมันมากๆ ไม่ได้แม้จะรู้ดีว่ามันยังไม่พร้อมที่จะเล่าผมเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับหรือง้างปากมัน

“ผมมีคำถาม”

“เฮียตอบได้ในหมวดวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมีและชีวะ” เฮียบิ๊กตอบกวนตีนได้หน้าตาเชยมากครับ ผมถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเริ่มเข้าโหมตซีเรียสในร้านก๋วยเตี๋ยว “ถ้าจะให้ถนัดจริงๆ เนื้อหา pat 3 ร่วมด้วยก็ได้ครับ”

“เฮีย”

“โอเค ยอมแล้ว...ถามมาเลย” ผมทำเสียงดุใส่เฮียที่ยังทำหน้าทะเล้นเล่นต่อ รู้ว่าฉลาดเรื่องวิชาการแต่เรื่องอื่นๆ ก็โง่พอๆ กับผมอะครับ “ขอกินลูกชิ้นสักคำ” เฮียบิ๊กคีบลูกชิ้นเข้าปากหนึ่งลูกซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมยิงคำถามใส่เฮีย

“ที่คบกับผมเพราะผมดันไปกลิ่นตัวคล้ายแฟนเก่าเฮียใช่ไหมครับ? รักเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ?

พรูดดดด

เฮียบิ๊กพ่นลูกชิ้นออกมาพราะเสียจังหวะกับคำถามที่ผมถามออกไปเป็นเหตุให้เศษลูกชิ้นกระเด็นอยู่บนหน้าของผมเต็มๆ

“เฮียซอรี่ครับเด็กบื้อ” เฮียบิ๊กรีบลุกขึ้นมาใช้กระดาษทิชชูเช็ดเศษลูกชิ้นออกจากใบหน้าของผมด้วยความระมัดระวังปากก็พึมพำออกมาว่าขอโทษ “งื้อออ พังไปหมดเลย”

“ผมแค่อยากได้ยินคำตอบ ตรงๆ เท่านั้น ผมจริงจังนะเฮีย” ผมจับข้อมือของเฮียบิ๊กที่กำลังเช็ดอยู่ออก

“งั้นเฮียซีเรียสแล้วนะ ตี๋เฮียฝากจ่ายด้วย” เฮียบิ๊กปรับโทนเสียงให้เป็นปรกติก่อนจะจับมือผมพาเดินออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวตรงมาที่สวนสาธารณะแถวๆ นั้น

“ฟังเฮียนะครับ” เฮียบิ๊กดันตัวผมนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวยาวส่วนตัวของเขายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับคร่อมผมเอาไว้ มือทั้งสองข้างโน้มลงมาจับเก้าอี้โดยมีผมที่นั่งอยู่ระหว่าง “เฮียยอมรับว่าตอนแรกเป็นเพราะกลิ่นจริงๆ แต่เชื่อไหมว่าตั้งคบมาเฮียไม่เคยเห็นเราเป็นตัวแทนของใครเลย”

“แต่เมื่อกี้แววตาเฮียดูสับสน”

“ครับ สับสนจริงๆ เพราะเฮียเคยรักเขามากแต่มันแค่เคยเราเข้าใจเฮียไหม”

“ผมเชื่อใจเฮียได้จริงๆ ใช่ไหมครับ?”

“มารวยฟังเฮียอีกสักครั้งนะ ถึงเฮียจะดูไร้สาระในหลายๆ เรื่องโอเคเกือบๆ ทุกเรื่องนั่นแหละ แต่เรื่องความรู้สึกของเฮียมันชัดเจนว่ารักใคร” เฮียบิ๊กโน้มหน้าลงมาใกล้ผมขึ้นเรื่อยๆ “เฮียรักมารวยแค่คนเดียว”

“.......” หัวใจของผมมันง่ายไปไหมครับทำไมก่อนหน้านี้ยังดูเจ็บปวดอยู่เลย เพียงแค่เฮียบิ๊กพูดคำว่ารักผมออกมาตรงๆ แบบนี้หัวใจที่เจ็บปวดกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง

“ได้ยินไหมครับ เฮียไม่เคยโกหกใครโดยเฉพาะความรู้สึกตัวเอง หัวใจของเฮียรักได้แค่ที่ละคนเท่านั้น”

“......” ไม่น่าเชื่อจริงๆ ครับว่าผมจะรู้สึกดีมากขนาดนี้แค่ท่าทางที่มั่นใจและคำพูดที่หนักแน่นของเฮียบิ๊กผมแทบจะยกมอบตัวถวายเฮียกลางสวนสาธารณะเลยครับถ้าไม่ติดว่ามีแม่และเด็กนั่งอยู่บริเวณใกล้ๆ

“ที่เงียบแล้วยิ้มนี่เข้าใจไหม?”

“เข้าใจครับ”

“น่ารักจัง” เฮียบิ๊กบีบแก้มทั้งสองข้างของผมเบาๆ “ถ้าเขามาพูดอะไรทำให้เราไม่สบายใจก็บอกเฮียนะ อย่าเก็บไว้คนเดียว”

“แล้วเฮียคิดว่าผมจะยอมให้เขาพูดอยู่ฝ่ายเดียวรึไง เด็ก ผู้หญิง คนแก่ คนท้อง ผมนี่ถนัดมากครับ”

“รวยครับ บางทีเฮียก็แอบคิดนะว่าเราสองคนนิสัยเริ่มเหมือนกันเข้าทุกที”

“.....ก็มันจริงนิครับ”

“เดี๋ยวเฮียพาไปให้อาหารปลาแก้เครียดนะ” และแล้วผมก็ถูกเฮียบิ๊กล่อด้วยคำพูดหวานๆ ผมตั้งใจกับตัวเองเอาไว้ว่าถ้าหายดีเมื่อไหร่จะถวายตัวให้เฮียบิ๊กอย่างสง่างามตามที่เฮียอดทนรอ

20 นาทีต่อมา

“เฮีย..ผมเครียดกว่าเดิมแล้วว่ะ” ผมมองคนข้างๆ ที่อาสาไปซื้อขนมปังมาให้ปลาที่สวนสาธารณะแต่กลับเป็นว่าตอนนี้ขนมปังทั้งหมดอยู่ในปากของเฮียบิ๊กซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนปลาที่เฮียล่อมาในตอนแรกมองเฮียบิ๊กผ่านสายน้ำด้วยสายตาเคียดแค้นถ้าด่าได้ผมว่าปลาด่าแล้วครับ

“เครียดอะไรครับ”

“เฮียซื้อขนมปังมาให้ปลาจริงป่ะเนี่ย มากินเองทำไม”

“ก็มันอร่อยจริงๆ นะ เฮียอยากจะซื้อร้านไปขายที่ห้องเลย ไม่เชื่อมาลอง” เฮียบิ๊กบิขนมปังเข้ามาจ่อที่ปากของผมทำให้ตอนนี้ผมไม่สามารถเลี่ยงได้เลยต้องอ้าปากรับ

“......”

“อร่อยใช่ไหมละ” ผมยอมรับเลยว่าโคตรอร่อยเลยครับ! ไม่น่าเชื่อว่าเป็นขนมปังปลา “อร่อยเพราะขนมหรืออร่อยเพราะคนป้อนนะ”

“ถ้าตอบตามจริงก็อร่อยเพราะขนม แต่ถ้าตอบเอาใจต้องเพราะเฮียซิค้าบบบ” ผมซบไหล่เฮียบิ๊กโดยที่มีเฮียบิ๊กคอยป้อนขนมปังผมไปด้วย ขอโทษนะเจ้าปลาน้อยข้าไม่สามารถแบ่งให้เอ็งได้จริงๆ

“แม่กั๊บๆ พี่สองคนเขาทำไมแย่งขนมปังปลาแล้วทำหน้าแบบนั้นอะกั๊บ”

“แม่ว่าเราไปกันเถอะลูก แถวนี้น่าจะไม่ปลอดภัย”

“รวยครับ” อยู่ๆ เฮียบิ๊กเรียกชื่อผมหลังจากที่เราสองคนนั่งกินขนมปังพร้อมกับชมนกชมไม้ไปเรื่อยตามภาษาคู่รักออกเดต

“ครับ”

“เฮียอยากจะยืนยันกับเราอีกครั้งนะครับว่า....” ผมขยับท่านั่งตัวตรงพร้อมกับทอดสายตาไปยังเฮียบิ๊กที่ทำหน้าจริงจัง “เฮียมีอารมณ์ได้ทุกที่จริงๆ แม้ว่าเราจะขี้ และตอนนี้...”

“อย่าบอกนะว่า.....” ผมก้มต่ำไปยังเป้ากางเกงของเฮียบิ๊กที่ตอนนี้นูนผิดปรกติ “เฮียยยยย โว้ย! นี่มันสวนสาธารณะนะเฮียจะมามีอารมณ์เรี่ยราดแบบนี้ไม่ได้”

“งั้นเรากลับห้องกันเถอะ” เฮียบิ๊กลุกขึ้นเก็บเศษขยะก่อนจะเดินไปทิ้งขยะส่วนผมก็ค่อยๆ พยุงตัวยืนส่วนมือทั้งสองข้างค้ำที่ไม้ แต่ระหว่างทางมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนร้องไห้อยู่ใต้ต้นไม้ ผมยืนมองเฮียบิ๊กที่เข้าไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าทางอ่อนโยนผิดกับเฮียบิ๊กคนไร้สาระที่ผมรู้จัก

“เป็นอะไรครับน้องหนู” สรรพนามที่เฮียบิ๊กเรียกผมฟังดูว่ามันแปลกๆ แต่ผมจะมองว่ามันน่ารักก็แล้วกัน

“ลูกโปร่งของหนู..ติดต้นไม้ ฮึกๆ พี่คนหล่อช่วยหนูด้วยค่ะ” ผมแอบเห็นว่ามุมปากของเฮียบิ๊กยกยิ้มขึ้นเมื่อน้องหนูตัวเล็กเรียกเฮียบิ๊กว่าพี่คนหล่อ

“พี่คนหล่อจะจัดการให้นะครับ อย่าร้องไห้เลยนะ” เฮียบิ๊กเกลี่ยน้ำตาพร้อมกับมอบรอยยิ้มที่อ่อนโยนให้น้องหนูก่อนจะเดินมาหาผม “เฮียขอยืมไม้เราข้างหนึ่งนะครับจะเอาไปเขี่ยลูกโปร่งให้น้องหนู” ผมพยักหน้าและยื่นไม้ไปให้เฮียบิ๊ก ทำให้ตอนนี้เฮียบิ๊กเดินกลับไปซอยลูกโปร่งให้น้องหนู

“รอพี่คนหล่อก่อนนะครับ” เฮียบิ๊กหันไปยิ้มให้น้องหนูพร้อมกับยื่นไม้ขึ้นไปด้านบน ผมหวังว่าเฮียบิ๊กจะไม่ทำให้....

ปัง!!

ลูกโปร่งแตกหรอกมั้งครับ..ยังไม่ทันที่ผมจะคิดจบอยู่ๆ ลูกโปร่งที่เฮียบิ๊กกำลังซอยอยู่นั้นเกิดเกี่ยวไปที่กิ่งไม้ทำให้มันระเบิดออกมา และตอนนี้หน้าของน้องน้อยตอนนี้เตรียมที่จะ...

“แงงงงงงงงงงงง!!” เรื่องซวยมาเยือนผมกับเฮียแล้วครับทุกคน

“มึงจะไปไหน? หนีกูกลับมาทำไม แล้วหายดีแล้วเหรอ?” เสียงเข้มของใครบางคนดังขึ้นตรงหน้าบุ๊คขณะที่เขากำลังเดินกลับหอหลังจากที่ถูกพี่ชายกับเพื่อนสนิททิ้งให้นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่คนเดียว

“เรื่องของกูอย่าเสือก” บุ๊คพยายามเบี้ยงตัวหลบแต่คนตรงหน้ากลับตามมากระชากแขนของบุ๊คเอาไว้แรงๆ จนบุ๊คเบ้หน้าด้วยความเจ็บ “มึงเป็นเหี้ยอะไรมากไหม ตามกูอยู่ได้”

“พูดกับกูดีๆ”

“มึงเป็นพ่อกูเหรอ? ที่กูต้องพูดดีกับมึง” บุ๊คเดาะลิ้นด้วยท่าทางกวนๆ จนคนตรงหน้ามองบุ๊คด้วยสายตาเหยียดๆ

“ไม่ได้เป็นพ่อแต่เป็นผัว...หรือมึงลืม?”

“ไอ้!!” บุ๊คพุ่งเข้ากระชากคอเสื้อด้วยความโมโหพร้อมกับง้างหมัดขึ้น

“ถ้าต่อยกูเอามึงแน่” น้ำเสียงนิ่งๆ บวกกับสายตาเอาจริงทำให้บุ๊คยอมที่จะลดมือที่อยู่บนคอเสื้อของคนตรงหน้าลง และส่งสายตาที่บ่งบอกว่าไม่พอใจอย่างมากไปให้แทน

“เลิกยุ่งกับกูเถอะ กูขอร้องมึงก็ได้”

“เอาดิ แต่ไปร้องบนเตียง”

“เหี้ย.....”

BIG’ s talk

หลังจากที่ผมเคลียร์ใจกับเด็กบื้อและน้องหนูที่ทำลูกโปร่งน้องแตกได้เสร็จตอนนี้ผมก็พาเด็กบื้อกลับมาที่หอนอนดูเน็ตฟิกซ์บนเตียงนุ่มๆ เปิดแอร์เย็นๆ ตามคอนเซปล่อเหยื่อเข้าห้อง แต่...เหยื่อของผมตอนนี้ดัน ทิ้งให้ผมนอนเหี่ยวแห้งอยู่คนเดียวบนเตียง

“ครอก ฟี่” ผมเอื้อมมือเข้ามาลูบผมที่ปรกหน้าเด็กบื้อเบาๆ ในสายตาผมตอนนี้เด็กบื้อคือสิ่งสำคัญที่ผมไม่สามารถขาดหายไปได้จริงๆ ถึงคนภายนอกอาจจะบอกว่าไม่เหมาะสมบ้างผมหลอกฟันเด็กบื้อบ้าง ผมไม่โกรธนะเพราะผมยังไม่ได้ฟันเลย ผ่าม พ่าม!!
 
“มารวยเฮียไม่มีทางไปไหนได้แล้วครับ” ผมกำลังจะก้มหน้าลงไปจูบบริเวณหน้าผากของเด็กบื้อแต่อยู่ๆ โทรศัพท์ของผมดังขึ้นก่อนจะขึ้นเป็นเบอร์โทรศัพท์ของใครบางคนที่ผมลบทิ้งไปแล้ว ใช่ครับ นี่เป็นเบอร์ของแตม ผมไม่เข้าใจว่าเธอจะโทรมาทำไมทั้งๆ ที่เป็นคนบอกเลิกผมเอง เพื่อความสบายใจของเด็กบื้อผมเลือกที่จะไม่รับและปล่อยให้โทรศัพท์ดับไปในที่สุด

“มาจุ๊บต่อดีกว่า” ไม่มีอะไรที่สามารถจะหยุดการจูบหน้าผากของผมได้เพราะตอนนี้ปากของผมได้ประทับอยู่บนหน้าผากของเด็กบื้อเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับกดแช่เอาไว้อยู่อย่างนั้น

“เฮีย...ถ้าจะดูดก็ดูดปากนะ ไม่ใช่มาดูดหน้าผากผมโคตรเปียกเลย” สงสัยว่าผมจะจูบแรงไปหน่อยทำให้เด็กบื้อที่นอนหลับในตอนแรกตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางหงุดหงิด “เช็ดน้ำลายด้วย”

“ได้ครับ” ผมเลิกชายเสื้อของตัวเองขึ้นมาเช็ดบริเวณหน้าผากที่เต็มไปด้วยน้ำลายของผม “โรแมนติกไหม”

“ที่สุดไปเลยครับ” ทำไมผมฟังดูน้ำเสียงของเด็กบื้อดูไม่ได้ตื่นเต้นเลย แต่ไม่เป็นไรผมค่อนข้างจะชินแล้วอย่างนี่แหละที่เขาเรียกว่าคู่สร้างคู่สม


#ตอนนี้มาหลากหลายอารมณ์เลยจ้าา
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 10 (2/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 03-08-2019 01:13:37
555 เหมาะสมกันจริงๆเลยครับ,,,
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 10 (2/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-08-2019 11:58:41
 ฮาเฮมาก แก๊งค์นี้ 555
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ (ขำขี้แตก) #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 11 (3/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 03-08-2019 21:35:55

บทที่ 11
เฮียบิ๊กจะไปเป็นดาราเราคงต้องแอบคบหากันใช่หรือไม่? (1)

Maruay’ s talk

ทุกคนครับนี่ก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วที่ผมขาหักแต่ผมไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตเลยเพราะมีเฮียบิ๊กเปรียบเสมือนขาอีกข้างของผมที่คอยช่วยเหลือทุกอย่างไม่ว่าจะหยิบจับหรือแม้กระทั่งอาบน้ำ ตอนนี้ผมชินกับการแก้ผ้าของเฮียบิ๊กแล้วและผมเองก็พึ่งรู้ตัวว่าหน้าของตัวเองเริ่มที่จะด้านขึ้น

“เฮียอันนี้คืออะไร” ผมยกชิ้นส่วนบางอย่างที่ตกอยู่ใต้เตียงขึ้นมาขณะที่ผมกำลังก้าวขาลงจากเตียงในเวลาเช้าตรู่ของวัน

“กางเกงในเฮียเมื่อหลายเดือนที่แล้ว ทิ้งเลยเฮียขี้เกียจซัก” เฮียบิ๊กพูดหน้าตาเฉยเหมือนมันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก อันที่จริงผมก็ไม่ใช่คนที่สะอาดมากแต่อันนี้ก็สกปรกเกินไปครับ

“เฮียทีหลังอย่าทำแบบนี้นะ เก็บให้เป็นที่เดี๋ยวติดเป็นนิสัย”

“เราเริ่มบ่นเป็นแม่เฮียอีกคนแล้วนะครับ”

“มีลูกอย่างเฮียผมยอมบวชตลอดชีวิตเลยเอ้า!” ผมใช้เท้าคีบกางเกงในตัวเก่าของเฮียขึ้นมาก่อนจะโยนมันลงถังขยะใกล้ๆ
 
“ทำร้ายจริงใจเฮียที่สุดเลยนะ” เฮียบิ๊กเดินเข้ามาใกล้ๆ ก่อนโน้มตัวลงมาจูบเบาๆ บริเวณหน้าผากผมเหมือนทุกทีในตอนเช้า ทุกคนอาจจะคิดว่ามันละมุนใช่ไหมครับ แต่ผมอยากให้คิดตามว่าเวลาที่ทุกคนตื่นนอนมาแล้วไม่ได้แปรงฟัน..นั่นแหละครับกลิ่นน้ำลายบูดของเฮียเตะเข้าจมูกผมทุกเช้า ถามว่ารังเกียจไหมแรกๆ ยอมรับว่ามีบ้างแต่ตอนนี้ชินและพยายามไม่โฟกัสที่กลิ่นแต่โฟกัสที่การกระทำมากกว่า “มารวยครับเฮียมีอะไรจะบอก”

“ครับ?”

“คือเมื่อหลายวันก่อนมีแมวมองมาติดต่อเฮียเพราะสนใจอยากให้เฮียไปแคสละครวัยรุ่น เขาบอกว่าช่องดังให้นามบัตรมาแต่เฮียไม่ได้ติดต่อไป จนเมื่อสามวันก่อนพี่เขาไดเรคไอจีมาตื้อเฮีย...มารวยว่าเฮียควรลองไปแคสไหมครับ?” ผมนิ่งฟังในสิ่งที่เฮียบิ๊กพูดถึงเราจะเป็นแฟนกันก็จริงแต่เรื่องโทรศัพท์หรือของส่วนตัวของเฮียบิ๊กผมไม่เคยยุ่ง เลยไม่รู้ว่ามีใครติดต่ออะไรเฮียมา

“แล้วเขาบอกไหมว่าบทแบบไหนอะครับ”

“ก็แนวซีรีย์วายอะครับเห็นช่วงนี้บูมๆ คาเรคเตอร์คร่าวๆ ก็พระเอกดิบๆ เถื่อนๆ หน่อยเกเรๆ แต่เฮียว่าเฮียไม่ได้หรอกเฮียออกจะเรียบร้อยน่ารัก เราว่าไหมครับ?”

“ผมว่าเฮียไร้สาระมากกว่าถ้ามีบทตัวประกอบไร้สาระเฮียไม่ต้องแคสก็ผ่านฉลุยเลย”

“มารวย! พูดไม่ดีแบบนี้ต้องโดนลงโทษด้วยการตบปาก!!” เฮียบิ๊กพูดเสียงดัง “ด้วยปากของเฮีย”

“เต็มใจครับ” ผมทำปากจู๋ยื่นไปตรงหน้าเพื่อเตรียมตัวโดนเฮียบิ๊กลงโทษ บอกผมทีครับว่าเดี๋ยวผมไม่ได้ล่อซื้อเฮียแต่โดนเฮียล่อซื้อ ผมกลายเป็นมนุษย์เสพติดริมฝีปากของเฮียบิ๊กไปเป็นที่เรียบร้อย

“ไอ้ต้าวบ้า!” เฮียบิ๊กทำท่าเขินอายเล็กน้อยให้พอเป็นพิธีก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาจูบผมด้วยความอ่อนโยน ผมชอบเฮียบิ๊กตรงที่เขาสามารถบรรเลงจูบหลากหลายรสชาติมาให้ผมโดยไม่ซ้ำแต่ละวัน ถ้าใครโดนแบบนี้ไม่ติดก็บ้าแล้วครับ เว้นก็แต่คราวซาดิสซ์เฮียบิ๊กกัดจนปากผมเลือดไหลเลยทำให้รู้ว่าแนวนี้ผมไม่ค่อยชอบแต่ก็ไม่ได้ขัด

“เฮีย เฮียลองไปแคสก็ได้นะเผื่อได้เฮียจะได้หารายได้เสริมมาส่งไอ้บุ๊คเรียนไง มันจะได้ภูมิใจที่มีพี่ชายหล่อและนิสัยดี”

“เป็นความคิดที่ดีมาก ถ้าเฮียดังเมื่อไหร่รับรองว่าเราจะสบายเฮียจะส่งเสียเรากับตี๋เรรียนจนจบปริญญาเอกเลยครับ” ผมยิ้มให้กับความตั้งใจอันแรงกล้าของเฮีย ผมไม่รู้นะว่าถ้าเฮียบิ๊กดังแล้วความสัมพันธ์ของเราสองคนจะเป็นอย่างไงต่อไปแต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะเลิกกันหรือไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วผมก็ยินดีซัพพอร์ทเฮียบิ๊กเสมอไม่ว่าจะฐานะอะไรก็ตาม เป็นไงละครับบทนายเอกผู้เสียสละเริ่มเข้ามาครอบงำความคิดของผม

“ครับ....สู้ๆ นะ”

“ขอกอดหน่อยนะ” เฮียบิ๊กกอดผมที่นั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับซุกหน้ามาซุกที่ซอกคอของผมเหมือนทุกที ผมอยากบอกว่าผมมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแล้ว ผมจะบอกว่าผมรักเฮียบิ๊กในเร็วๆ นี้หวังว่าเฮียจะดีใจที่สามารถทำให้ผมรักได้ด้วยการกระทำของเฮีย

BIG’ s talk

“กูเกริ่นบอกอนาคตภรรยากูแล้ว เขาโอเคและอยากให้กูลองไปแคสดูเผื่อได้กูจะได้เอาเงินมาส่งตี๋เรียน” ผมบอกเพื่อนทั้งสองเกี่ยวกับเรื่องแมวมองที่ติดต่อผมมา อันที่จริงผมบังเอิญเจอตอนที่ผมปั่นจักรยานของลุกยามใต้หอไปซื้อส้มตำปลาร้าร้านเจ๊ดวงซึ่งบังเอิญว่าแมวมองคนนั้นดันนั่งกินส้มตำอยู่เลยเข้ามาทาบทามผมเสียยกใหญ่ ก็รู้ว่าหน้าตาดีแต่ไม่คิดว่าหน้าตาดีถึงขั้นจะให้ไปแคสเป็นพระเอกละคร

“น้องรวยบอกแบบนั้นหรอมึง” วสุถามเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด

“ใช่ น้องบอกกูแบบนั้น”

“มึงไม่คิดว่าถ้ามึงดังขึ้นมาเขาจะห้ามมึงคบกับน้องรึเปล่า กูเห็นดาราส่วนมากก็ถูกบังคับเลิกกับแฟนหรือไม่ก็ต้องห้ามเปิดตัว” ไอ้เกรทแสดงความคิดเห็นมาหลังจากที่มันนั่งฟังผมพูดมาได้สักพัก

“กูลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย”

“แต่มึงลองไปดูก็ได้ เดี๋ยวนี้คงไม่เคร่งละมั้ง”

“มึงซ้อมกับกูดิ้ ไหนมึงลองแกล้งๆ งอนกูหน่อยเขาส่งบรีฟกูแบบนี้ว่าให้กูแสดงบทง้อแฟน”

“กูเนี่ยนะ? มึงเอาจริง” ไอ้วสุทำหน้าสยองทันทีที่ผมแจกแจงบทให้มัน

“เออหนาช่วยกูหน่อยเพื่อน”

“งั้นกูขอทำใจแปบนะเพื่อน”

“ไอ้เกรทถ่ายให้กูที จะส่งไปให้แฟนกูดูสักหน่อย แล้วก็จะส่งไปให้พี่แมวมองเขาดูถ้าไม่สมบทกูจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไป” ผมยื่นโทรศัพท์ไปให้ไอ้เกรทที่อยู่ว่างๆ ถ่ายขณะที่ผมซ้อมบทกับไอ้วสุ ส่วนไอ้วสุหันไปทำสมาธิอย่างจริงจัง

“มาไอ้บิ๊กกูพร้อมแล้ว” วสุหันกลับมามองบิ๊กด้วยแววตาจริงจังก่อนจะสวมบทบาทเป็นแฟนที่กำลังงอน “เมื่อวานตัวเองไปไหนมา”

“เดี๋ยวๆ ไอ้วสุ ขนกูลุกซู่เลยมึงดู” ผมยื่นแขนไปให้ไอ้วสุดูว่าตอนนี้ขนแขนของผมลุกเพราะคำสรรพนามของไอ้วสุที่เรียกผมว่าตัวเอง

“ไอ้บิ๊กมึงจะแสดงไหม ไอ้ห่า” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะสวมบทเป็นผู้ชายแบดๆ ดิบๆ เถื่อนๆ ตามที่แมวมองบรีฟผมมาในไดเรคไอจี

“เมื่อวานเราไปร้านเหล้ามาก็บอกไปแล้วหนิ”

“ร้านเหล้า? ร้านเหล้าหรือกลับไปหาแฟนเก่านั่นอย่าคิดว่าเราไม่รู้นะ”

“อย่างี่เง่าเราไม่ชอบ”

“งี่เง่าอะไร เราถามตัวเองดีๆ นะ พอเราถามดีๆ ตัวเองก็มาทำสีหน้าไม่พอใจ!” วสุเริ่มอินกับบทลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโมโห

“ก็มึงเป็นแบบนี้ไงกูถึงหนีไปหาแฟนเก่า! ถ้างี่เง่าก็เลิก กูไม่ทนแล้ว!!” ผมเองลุกขึ้นตามไอ้วสุก่อนจะระเบิดอารมณ์ของแบดบอยออกมา หางตาแอบเหลือบไปเห็นไอ้เกรทยกนิ้วให้ขณะที่มันถ่ายวิดีโอ

“ขึ้นมึงขึ้นกูเลยเหรอ? ได้มึงอยากเลิกก็เลิกแฟนเหี้ยๆ อย่างมึงกูก็ไม่ทนหรอกสัด!” วสุเองเมื่อได้รับการถ่ายทอดอารมณ์จากบิ๊กทำให้เขาสามารถเข้าถึงและอินกับบทได้มากยิ่งขึ้นและส่งต่อให้บิ๊กได้ดีเช่นกัน

“เหี้ยเหรอ? ไหนมึงมาเจอคนเหี้ยๆ อย่างกูเอาสักรอบก่อนไหมค่อยเลิก จะได้เหี้ยสมใจมึง!” ผมเข้าไปกระชากคอเสื้อของไอ้วสุก่อนจะกดมันลงบนโต๊ะส่วนผมใช้แขนข้างหนึ่งยันโต๊ะเอาไว้ทำให้ตอนนี้เหมือนผมยืนคร่อมมันอยู่ “กูจะบอกอะไรมึงให้นะ...ถึงกูจะเหี้ยแต่คนเหี้ยๆ อย่างกูโคตรรักมึงเลย กูไม่มีวันนอกใจมึงได้ไอ้วสุ เชื่อใจกูเถอะนะครับ” ช่วงประโยคสุดท้ายผมใช้น้ำเสียงที่อ่อนลงพยายามสื่อถึงอารมณ์โมโหที่ถูกแฟนประชดในช่วงแรกทำให้ผมเดือดกลับแต่ในใจลึกๆ นั้นผมบริสุทธิ์ใจเพียงแค่ตอกกลับไปด้วยความโมโหเท่านั้น

“ไอ้บิ๊กมึง....” ผมโน้มหน้าเข้าไปหาไอ้วสุเรื่อยๆ เพื่อหวังจะเข้าไปจูบง้อแต่แล้วเสียงของผู้กำกับอย่างไอ้บิ๊กก็ขัดขึ้นอย่างรู้จังหวะ

“คัท!”

“อี๋! เหม็นกลิ่นผู้ชาย” ไอ้บุ๊คผลักผมออกทันทีก่อนจะออกจากบทที่สวมเอาไว้ในตอนแรก “แต่มึงเล่นดีนะไอ้บิ๊ก กูอินเลย”

“มึงด้วยไอ้วสุ เป็นไงวะไอ้เกรทกูขอดูหน่อย” ผมเดินเข้าไปหาไอ้เกรทก่อนจะรับเอาโทรศัพท์กลับมาดูผลงานการแสดงของตัวเอง

“ดีว่ะ! มาดพระเอกสาด”

“ไม่อยากด่าแต่ก็ไม่เถียง มึงส่งอันนี้ให้พี่เขาเลยก็ได้” ไอ้วสุเองเข้ามาดูผลงานของตัวเองเหมือนกันก่อนที่จะแนะนำให้ผมส่งวิดีโอนั้นให้พี่แมวมอง

ตอนนี้ผมส่งวิดีโอให้พี่แมวมองตามคำแนะนำของไอ้วสุหลังจากนั้นห้านาทีผ่านไปพี่เขาได้ตอบกลับมาว่า...

‘ถ้าน้องตกลงพี่ก็คอนเฟิร์มกับผู้กำกับว่าน้องจะเข้ามารับบทพระเอกของเรื่อง ส่วนรายละเอียดเย็นนี้พี่จะเข้าไปหาที่มหาลัยเลย’

“มึงดู....” ผมยื่นโทรศัพท์ไปให้เพื่อนทั้งสองของผมดูข้อความที่ตอบกลับมา

“ไอ้บิ๊ก! เจ๋งมาก!!”

“มารวยต้องรับรู้เรื่องนี้ เฮียจะไปบอกถึงคณะเลย!!”

Maruay’ s talk

“ไอ้รวยกูไม่เข้าวิชานี้นะ” หลังจากพักเที่ยงวิชาในช่วงบ่ายเป็นวิชารวมมีเซคเดียวทำให้นักศึกษาในคณะต้องมาเรียนรวมกันที่ตึกใหญ่

“มึงจะไปไหน”

“กู...” ไอ้บุ๊คมีสีหน้าเหมือนกำลังกังวลอะไรสักอย่าง “เอาเถอะ เอาเป็นว่ากูไปละ” อยู่ๆ ไอ้บุ๊คก็วิ่งออกไปทำให้ผมจำเป็นต้องเดินขึ้นบันไดคนเดียวเพราะถ้าผมโดดไปกับมันรับรองว่าได้ตกคู่แน่ๆ ไม่มีคนเลคเชอร์ให้พวกเราสองคน คนเพื่อนน้อยก็ต้องเข้าอย่างเลี่ยงไม่ได้อะครับ

“รวย” ผมชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดหันไปตามเสียงเรียกของเซย์

“ว่าไงเซย์”

“มาเรียนคนเดียวเหรอแล้ว...”

“ไอ้บุ๊คมันโดดไม่รู้จะไปไหน ทำท่าเหมือนหนีอะไรสักอย่าง ช่วงนี้ทำตัวโคตรแปลกเลย” ผมพูดแทรกเซย์ขึ้นมาเพราะคิดถึงการกระทำของมันช่วงนี้ ผมเป็นห่วงมันโคตรๆ เลยครับ

“แปลกอย่างไงเหรอรวย”

“เหมือนกลัวหรือหนีอะไรสักอย่าง เราโคตรเป็นห่วงมันเลยเฮียบิ๊กก็เป็นห่วง”

“ไม่ต้องเป็นห่วงเหรอเพื่อนรวยไม่ได้เจออะไรน่ากลัว...”

“เซย์หมายความอย่างไงหรอเราไม่เข้าใจ”

“ไปเรียนกันเถอะใกล้เวลาแล้ว” เซย์เดินนำผมขึ้นบันไดไปทำให้ตอนนี้ผมจำเป็นต้องเลิกคิดเรื่องของไอ้บุ๊คและกลับมาทำหน้าที่นักศึกษาแสวงหาความรู้กันต่อ

ผมมาสายไปทำให้ตอนนี้ผมกับเซย์เราสองคนมานั่งกันอยู่บริเวณหลังห้องซึ่งติดอยู่กับประตูทางเข้าออก ส่วนมิ้นเพื่อนสาวห้าวของผมอีกคนไปนั่งหน้ากับแฟนสาวทำให้ผมจำเป็นต้องนั่งกับเซย์อย่างเลี่ยงไม่ได้

“รวยเราตามอันนี้ไม่ทันขอเราดูหน่อยนะ” ผมเลื่อนสมุดไปให้เซย์ที่ชะโงกหน้าเข้ามาดูเลคเชอร์ของผม “ขอบใจนะ”

“โอเคเลย” ผมหันกลับมาสนใจต่อส่วนเซย์เองก็ยื่นหน้าเข้ามาดูที่สมุดของผมเรื่อยๆ ในช่วงที่เขาจดตามที่อาจารย์สอนไม่ทันในช่วงพักเบรคเพราะอาจารย์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

“เรามองไม่ถนัดเลยรวย” แต่ครั้งนี้เซย์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่....

ปึง!!

“มารวยครับเฮียบิ๊กได้เป็นพระเอก!” เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องถูกผลักเข้ามาพร้อมกับบุคคลที่คุ้นเคยทำให้ตอนนี้ผมรีบหันไปมองก่อนจะเห็นว่าเฮียบิ๊กมองมาที่ผมกับเซย์ด้วยสายตานิ่งๆ เมื่อเห็นว่าเซย์ขยับเข้ามาใกล้ผม

“ขอโทษครับทุกคน” ผมรีบกวาดของลงกระเป๋าก่อนจะลุกขึ้นขอโทษทุกคนดีที่อาจารย์ไม่อยู่ด้วยไม่อย่างนั้นผมได้ตายแน่ๆ ครับ

“มันคืออะไร?”

“เฮียไปคุยข้างล่างนะครับ” ผมลากแขนเฮียบิ๊กออกจากห้องก่อนที่อาจารย์จะกลับเข้ามา เป็นอันว่าวันนี้ผมได้เรียนแค่ครึ่งเดียวจริงๆ

“เฮีย....โอเคระงับความหึงได้แล้ว เฮียแค่จะมาบอกเราว่าเฮียไม่ต้องไปแคสแล้วนะเฮียติดตัวจริงแล้ว เฮียดีใจมากไปหน่อยเลยผลักประตูเข้าไปแบบนั้น เฮียขอโทษนะ” ผมยิ้มให้เฮียบิ๊กที่ตอนนี้เฮียขอโทษที่ทำอะไรวู่วามและพยายามระงับความหึงแม้นัยน์ตาของเฮียบิ๊กตอนนี้จะยังแข็งกร้าวอยู่ก็ตามแต่ผมเห็นแล้วว่าเฮียบิ๊กพยายามกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

“ดีใจด้วยนะเฮีย ^^”

“งื้ออออออ เฮียรักมารวยที่สุด” ผมถูกเฮียบิ๊กดึงเข้าไปกอดเต็มๆ ผมมีความสุขมากครับที่เห็นคนที่เรารักมีความสุข และพึ่งรู้ว่ามันรู้สึกดีมากๆ อย่างนี้นี่เอง

#ได้กลิ่นตุๆไหมคะทุกคนอิอิ
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ (ขำขี้แตก) #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 11 (3/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-08-2019 03:35:02
มาม่าเริ่มเดือดแล้วววว
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ (ขำขี้แตก) #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 11 (3/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 04-08-2019 11:18:59
 :3123:
 o13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ (ขำขี้แตก) #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 11 (3/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 05-08-2019 00:44:09
เอาละสิ งานนี้คงวุ้นวายมาก,,,
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ (ขำขี้แตก) #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 12 (6/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 06-08-2019 19:46:41

บทที่ 12
เฮียบิ๊กจะไปเป็นดาราเราคงต้องแอบคบหากันใช่หรือไม่? (2)

“สวัสดีค่ะเรียกพี่ว่าพี่เจนนี่นะคะ พี่ยินดีมากๆ ที่น้องบิ๊กสนใจร่วมงานกับพี่” ผมนั่งมองผู้หญิงสาวสวยตรงหน้าถ้าดูจากภายนอกแล้วเธอเหมือนผู้หญิงทุกประการแต่เมื่อใดที่เธอเปล่งเสียงออกมานั้น...แมนกว่าผมอีกครับเพราะเจ๊เจนนี่ไม่มีการแอ๊บเสียงแต่อย่างใดทำให้ตอนนี้ผมนั่งจิกเล็บเท้าด้วยความเกร็ง

“เอ่อ...เช่นกันครับ” ก่อนหน้าที่ผมจะมานัดเจอกับเจ๊เจนนี่เพื่อนรักทั้งสองได้เทรนการสนทนาให้ผมเป็นอย่างดี โดยกำชับว่าให้ผมพูดคุยแบบคนปรกติมากที่สุดท้าอยากเป็นพระเอกซีรีส์

“ถ้าไม่เป็นการรบกวนพี่อยากให้น้องไปแคสในวันเสาร์นี้ จริงๆ คือน้องได้เล่นเรื่องนี้แน่ๆ แต่ทางผู้ใหญ่อยากให้ไปลองแคสเป็นพิธีน้องบิ๊กคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ”

“ได้ครับพี่เจนนี่”

“ส่วนเรื่องสัญญาพี่จะให้น้องบิ๊กตรวจสอบดูก่อนนะคะ ถ้ามีข้อไหนไม่เข้าใจก็สามารถสอบถามพี่ได้ตลอดเวลาเลย นี่นามบัตรพี่เจนนี่ แล้ววันเสาร์นี้น้องบิ๊กค่อยเอามาให้พี่นะคะ” พี่เจนนี่เลื่อนซองเอกสารที่คาดว่าน่าจะเป็นสัญญามาตรงหน้าผม

“แล้วผมต้องทำอะไรบ้างครับ คือผมไม่ค่อยได้รู้จักงานทางด้านวงการบันเทิงอะไรเลย”

“น้องบิ๊กหน้าหล่อออร่าพระเอกขนาดนี้ไม่มีใครมาติดต่อเลยเหรอคะ” พี่เจนนี่ทำท่าประหลาดใจออกมา “ถ้าวันนั้นพี่เจนนี่ไม่เจอน้องบิ๊กที่ร้านส้มตำพี่คงพลาดมากแน่ๆ”

“พี่เจนนี่ชมผมซะลอยนะครับ พอดีก็พอรู้มาบ้างว่าหล่อแต่ตอนนั้นยังอยากโฟกัสเรื่องการเรียนเลยไม่ค่อยสนใจเรื่องงานบันเทิงเท่าไหร่อะครับ แต่พี่เจนนี่ให้โอกาสผมก็ยินดีรับไว้” ผมพูดตามบทที่ไอ้วสุเกร็งมาให้แต่เพิ่มเติมตรงที่แอบชมตัวเองเข้าไปหน่อย มันอดไม่ได้จริงๆ อะครับก็คนมันหน้าตาดีขนาดนี้

“น้องบิ๊กตอบได้ดารามากค่ะ”

“พี่ชมหรือด่าผมเอ่ย”

“ชมซิคะพ่อพระเอก” เอาจริงๆ พี่เจนนี่ไม่ได้มีทีท่าน่ากลัวแต่อย่างใดออกจะเป็นกันเองให้อารมณ์เหมือนพี่สาวคนหนึ่ง “ขออนุญาตละลาบละล้วงหน่อยนะคะ น้องบิ๊กมีแฟนหรือยัง”

“มีแล้วครับ แฟนผมชื่อมารวยน่ารักมากนิสัยดีสุดๆ มีดีกรีเป็นนักบอลมหาลัยด้วยครับ ไม่มีงี่เง่างอแงอะไรเลยเชื่อฟังว่าง่ายและเข้าใจผมสุดๆ ไปเลยครับ”

“น้องบิ๊กท่าจะรักแฟนมากเลยนะครับ”

“เรียกได้ว่าตายแทนได้เลยอะครับ”

“แฟนน้องบิ๊กเป็นผู้ชายเหรอคะ”

“ครับพี่เป็นผู้ชาย” ผมภูมิใจในตัวแฟนของผมเป็นอย่างมากในทุกๆ เรื่อง ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีมารวยเป็นแฟน ผมกล้าที่จะบอกทุกคนได้เต็มปากเต็มคำเลยว่ามารวยหรือเด็กบื้อคือแฟนของผม “ผมขอบอกพี่เจนนี่ตรงๆ เลยนะครับว่า ถ้าจะให้ผมเลิกกับแฟนหรือว่าให้ทำตัวโสดผมจำเป็นต้องปฏิเสธงานนี้”

“ไม่ใช่ค่ะน้องบิ๊ก พี่ไม่ขัดเรื่องที่เราจะมีแฟนแต่พี่แค่กังวลว่าถ้าซีรีส์ออนแอร์ออกมาแน่นอนว่าน้องบิ๊กต้องมีแฟนคลับเยอะมาก แล้วเรื่องที่ตามมาคือการขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวตรงนี้น้องบิ๊กจะว่าอะไรไหมถ้าแฟนน้องอาจจะเป็นที่สนใจ”

“ผม...” ผมไม่รู้ว่ามารวยจะโอเคไหมถ้าเป็นอย่างที่พี่เจนนี่พูด แต่ผมก็ไม่อยากให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับแฟนของผมเหมือนกัน แล้วยิ่งถ้าใครมาเห็นหน้าตาน่ารักๆ ของเด็กบื้อเข้าผมมีหึงโหดแน่นอน

“น้องบิ๊กลองกลับไปคุยกับแฟนนะคะ ถ้าแฟนน้องโอเคพี่เจนนี่ก็ไม่มีปัญหาจ้า” ผมนั่งคุยกับพี่เจนนี่อยู่นานสองนานจนกระทั่งท้องฟ้าเปลี่ยนสี พี่เจนนี่อาสาขับรถมาส่งผมที่หอก่อนจะมอบของกำนัลเล็กๆ น้อยๆ ให้ผมเป็นการต้อนรับล่วงหน้า

“ขอบคุณนะครับพี่เจนนี่” ผมลงจากรถก่อนจะยกมือขึ้นขอบคุณพี่เจนนี่

“ไม่เป็นไรค่ะน้องบิ๊ก เคลียร์คิวให้พี่ด้วยนะคะพี่จะพาไปทำหน้าพวกฉีดวิตามินอะไรนิดหน่อย” ก่อนหน้าพี่เจนนี่พูดถึงรายละเอียดคร่าวๆ เรื่องการเสริมหล่อกับผมว่า หน้าของผมดีอยู่แล้วก็จริงแต่ควรเสริมออร่ามากกว่านี้ เอาจริงๆ คือพี่เจนนี่เธอมีสปอนเซอร์เกี่ยวกับคลินิกความสวยความงามในเครือข่ายและการที่ให้ผมไปทำหน้าหรือบำรุงอะไรพวกนี้ฟรีๆ ก็เป็นเรื่องของผลประโยชน์ร่วมกันทั้งนั้น ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่ผมต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวของผมเอง

“ครับพี่ กลับดีๆ นะครับ” ผมยืนรอจนกว่าพี่เจนนี่จะขับรถออกไปก่อนที่จะแวะซื้อขนมไปฝากเด็กบื้อเล็กน้อย ล่าสุดผมไลน์ไปถามว่าอยู่ไหน เด็กบื้อบอกว่ากลับมาหอเป็นที่เรียบร้อยทำให้ผมสบายใจไปเปาะหนึ่งในเรื่องการเซฟอาการบาดเจ็บของเด็กบื้อ

ก็อกๆ

ผมมาถึงหน้าห้องก่อนจะแกล้งทำทีเป็นเคาะประตู

“มีใครคิดถึงไหมครับ ความรักกำลังจะเข้าไปหา” ผมส่งเสียงลั้นลาของตัวเองให้ผ่านลอดประตูห้องเข้าไปและรอว่าด้านในจะมีเสียงตอบรับกลับมาไหม แต่แล้วก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาแสดงว่าเด็กบื้อไม่ได้นั่งอยู่ข้างนอก ผมจึงแตะคีย์การ์ดและเข้ามาด้านใน

“เด็กบื้อของเฮียบิ๊กอยู่ไหมเอ่ยยยย” ผมวางขนมลงบนโต๊ะพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียกเด็กบื้อไปด้วย แต่แล้วก็ไม่มีเสียงตอบรับเช่นเดิม

“ไปไหนของเขานะ” ผมผลักเข้ามาในห้องนอนของตัวเองที่ปิดไฟมืดเอาไว้ผมเอื้อมมือมากดเปิดสวิตไฟ ทำให้ตอนนี้ภายในห้องสว่างและปรากฏร่างของเด็กบื้อที่นอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหน้าข้างๆ ตัวมีชีทเรียนวางอยู่รายล้อม

“น่ารักจริงๆ” ผมค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งข้างๆ พร้อมกับก้มลงไปจุ๊บที่หน้าผากเบาๆ “เด็กบื้อครับ ตื่นเร็วเดี๋ยวปวดหัว”

“เฮียบิ๊กเหรอ?” เด็กบื้อขยับเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ กะพริบตาและเงยหน้าขึ้นมามองผม “เป็นไงบ้างครับ”

“เฮียต้องถามเรามากกว่าว่าเป็นไงบ้าง กินยารึยัง” ผมลูบศีรษะของเด็กบื้อเบาๆ

“เรียบร้อยแล้วครับ แล้วเฮียก็ตอบผมด้วยว่าเป็นไงบ้างวันนี้พี่เขาดุไหม”

“ชิลมากเลยนะ นี่เฮียมีเรื่องจะคุยกับเรา” เด็กบื้อขยับตัวขึ้นนั่ง

“ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เฮียไปรอข้างนอกก่อน” ผมพยักหน้าและเดินออกไปรอด้านนอกปล่อยให้เด็กบื้อเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำ


Maruay’ s talk

ผมกลับมาห้องหลังจากที่ไอ้บุ๊คมันมาส่งหลังจากที่มันหายไปในช่วงเรียนและผมก็กลับมาเรียนต่อหลังจากที่ไล่เฮียบิ๊กกลับไป ก่อนที่ผมจะเผลอหลับในช่วงที่เอาชีทเรียนวันนี้มาอ่านทบทวนเพราะอาจารย์บอกว่าจะมีควิซในอาทิตย์หน้า ที่รีบอ่านไม่ใช่ว่าขยันอะไรหรอกนะครับแต่ต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนเพราะผมต้องติวให้เพื่อนบุ๊คที่โดดเรียนไม่มีสาเหตุวันนี้ด้วย

“เฮียมาผมพร้อมแล้ว” หลังจากที่ไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นผมออกมาด้านนอกและเห็นว่าเฮียบิ๊กนั่งรออยู่ที่โซฟากลางห้อง

“มานั่งข้างๆ เฮีย” เฮียบิ๊กตบที่ข้างๆ ให้ผมเดินเข้าไปนั่ง

“มีอะไรครับผม” ผมทิ้งตัวนั่งลงและเปิดประเด็นถามเฮียบิ๊กทันที “ทำไมหน้าดูเครียดๆ”

“ก็มันเครียดอะดิ เฮียบอกตามตรงโคตรลำบากใจเลย” สีหน้าเฮียบิ๊กที่มองมายังผมค่อนข้างที่จะเครียดและดูเป็นกังวลเอามากๆ “มารวยเรารู้ไหมว่าเฮียรักเรามากๆ”

“รู้ครับ”

“เฮีย...ถ้าเฮียดังจริงๆ หรือมีแฟนคลับในอนาคต เฮียสามารถบอกคนอื่นได้ไหมว่าเราเป็นแฟนเฮีย เฮียไม่อยากปิดบัง” ผมนั่งนิ่งฟังเฮียบิ๊กพูดต่อ “แล้วพี่เจนนี่ พี่เจนนี่คือคนที่เฮียไปพบมาวันนี้เธอโอเคนะถ้าพี่จะเปิดตัวว่าเราเป็นแฟนเฮีย แต่พี่เจนนี่เขากังวลว่าถ้ามีคนขุดแล้วเราจะไม่มีความเป็นส่วนตัว เฮียเลยมาถามความสมัครใจ”

“เฮียใจเย็นๆ นะ ผมโอเคถ้าเฮียจะปิดหรือไม่เปิดเผยว่าผมเป็นแฟนเฮีย ผมไม่คิดมากเพราะรู้ว่าเฮียเป็นคนอย่างไง อีกอย่างพี่เจนนี่เธอก็พูดถูกนะครับว่าถ้าเฮียเปิดว่าแฟนเฮียคือผมแล้วมันกระทบต่อความเป็นส่วนตัวผมมากๆ ผมก็ไม่โอเคเท่าไหร่ คนที่เกิดมาธรรมดาไม่มีคนสนใจอย่างผมวันหนึ่งตกเป็นเป้าสนใจผมคงไม่ชิน เฮียไม่ต้องเครียดนะอย่างไงผมก็อยู่ข้างๆ เฮียเสมอ”

“มารวยโคตรน่ารักเลยว่ะ เฮีย...ขอกอดหน่อยนะ งื้อออ” เฮียบิ๊กดึงผมเข้ามาซุกอกของเขาพร้อมกับพรมจูบทั่วใบหน้าและตามหนังศีรษะ..แค่ศีรษะพอครับ “ดีใจนะที่เราเข้าใจ”

“แต่ถ้าเฮียไปเป็นดาราดังและทำตัวเปลี่ยนไป ผมไม่ทนนะครับ” เฮียบิ๊กรีบผลักผมออกมาทันทีพร้อมกับจ้องด้วยสายตาเครียดๆ เหมือนเดิม

“ขอคำจำกัดความคำว่าเปลี่ยนไปหน่อยครับ”

“หยิ่ง ยโส โอหัง”

“เวอร์ละๆ ถ้าเฮียหยิ่งก็ไม่มีใครในโลกเป็นมิตรแล้วอะครับ”

“ฮ่าๆ ผมล้อเล่น ก็เปลี่ยนไปอะเฮีย ถ้าหัวใจเฮียเริ่มเปลี่ยนไปรีบบอกผมเลยนะผมโอเค..ดีกว่าอยู่แบบที่เฮียไม่รักผมแล้วอย่างนั้นทรมานกว่า”

“ครับ....” เฮียบิ๊กตอบกลับยิ้มๆ พร้อมกับดึงผมเข้ามาซุกอกเหมือนดั่งเดิม ไม่รู้ว่าผมแอบคิดมากไปเองหรือเปล่าที่เฮียบิ๊กตอบกลับมาแค่ครับโดยที่ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่เป็นอย่างที่ผมพูด แต่ก็เอาเถอะครับปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด



JUNE studio

วันนี้เป็นวันเสาร์เฮียบิ๊กลากผมไอ้บุ๊คพี่วสุพี่เกรทมาเป็นเพื่อนโดยให้เหตุผลว่าตื่นเต้นไม่กล้ามาคนเดียว และตอนนี้ผมนวั่งวิลแชร์มองเฮียบิ๊กที่เดินตื่นเต้นเข้าไปด้านในพร้อมกับพี่วสุและพี่เกรท

“ไม่รู้จะเอามึงมาทำไมก็รู้ว่ามึงเจ็บ พี่กูงี่เง่าจัง” ตอนนี้ผมนั่งอยู่กับไอ้บุ๊คในที่ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้สำหรับผู้ปกครองหรือเพื่อนของคนที่มาแคส เห็นว่าวันนี้มีการแคสหลายตัวละครเลยทีเดียว

“เฮียคงต้องการกำลังใจ”

“เวอร์มากกว่า มึงอย่าเข้าข้างไอ้รวย” ผมนั่งมองไปรอบๆ ส่วนไอ้บุ๊คก็ติดโทรศัพท์หรือติดคนในโทรศัพท์ก็ไม่รู้ แต่ผมว่าไม่นาใช่อย่างหลังเพราะไม่อย่างนั้นมันคงอมยิ้มไม่ใช่ทำหน้าอมขี้อยู่แบบนี้

“มีแต่คนหน้าตาดีเนอะมึง บางคนก็มีผู้จัดการมาด้วย” ผมสังเกตหลายๆ คนที่เข้ามาบางคนก็คุ้นหน้าเพราะมีชื่อเสียงในวงการ บ้างก็เป็นนายแบบ เน็ตไอดอลหรือแม้กระทั่งดาราวัยรุ่นที่กำลังมาแรงในช่วงนี้อย่าง  ‘อชิ’ “มึงตัวจริงอชิน่ารักเนอะ”

“ก็ดี น่ารักดี” อชิคือนักแสดงวัยรุ่นที่กำลังมาแรงมากๆ ในช่วงนี้ ผลงานที่ทำให้อชิมีชื่อเสียงขึ้นมาก็คือภาพยนตร์หนังรักวัยรุ่นที่พึ่งฉายไปเมื่อหลายเดือนก่อน กระแสดีชนิดที่ว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆ แย่งตัวอชิมาเป็นพรีเซนเตอร์จ้าละหวั่น และหาได้น้อยมากคนที่ไม่มีใครไม่รู้จักอชิ

“อ่าวพี่เกรทพี่วสุทำไมออกมากันแค่สองคนอะครับ” ผมมองไปยังพี่ๆ สองคนที่เดินออกมาโดยไร้เงาของเฮียบิ๊กที่เข้าไปพร้อมกัน

“เห็นว่าไปคุยเรื่องสัญญาอะไรสักอย่างนะ” พี่วสุทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ “พี่แอบได้ยินเขาคุยกันว่าบทนายเอกที่จะมาเล่นคู่กับไอ้บิ๊กนี่น้องอชิ ไอ้บิ๊กมาถึงก็ประคบคู่กับดาวรุ่งเลยไม่ดังก็ให้มันรู้ไป”

“อชิ อชิโคตรดังเลยนะนั่น” ผมพูดแทรกออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะถ้าเป็นอชิที่ผมเห็นตอนเข้ามาคือโคตรของโคตรดังเลย

“ผมงงตรงที่ว่าถ้าวางตัวเอกเอาไว้แล้วจะจัดแคสขึ้นมาเพื่อ” ไอ้บุ๊คละสายตาจากโทรศัพท์ขึ้นมาถามพี่วสุ

“ตัวประกอบไรงี้มั้งพี่ก็ไม่ค่อยรู้ว่ะแค่ได้ยินข้างในเขาคุยกัน”

“น้องรวยจะมีแฟนดังแล้ว” ผมนั่งยิ้มโดยที่ไม่ตอบอะไรพี่เกรทที่แซวขึ้นมาเพราะตอนนี้ในหัวของผมมีความคิดแปลกๆ ทั้งๆ ที่ควรเชื่อใจเฮียบิ๊กแต่ทำไมผมถึงเริ่มรู้สึกระแวง....

ผั๊วะ!

“คิดอะไรแปลกๆ อีกรึเปล่ามึง” ไอ้บุ๊คตบไหล่ผมแรงๆ “เห็นเหม่อเลยตบ เจ็บไหม”

“ไม่เจ็บเลยมั้ง” ผมเลือกที่จะไม่บอกความคิดของผมให้ไอ้บุ๊คฟัง ไม่อยากให้ใครมาคิดมากกับเรื่องไร้สาระของผมโดยเฉพาะไอ้บุ๊คที่ช่วงนี้มีเรื่องให้เครียดตลอด


BIG’ s talk

ผมเข้ามาพูดคุยเรื่องสัญญากับใครก็ไม่รู้มากมายโดยมีพี่เจนนี่นั่งขนาบอยู่ข้างๆ เห็นว่ามีผู้กำกับ ผู้เขียนบท และฝ่ายต่างๆ มากมาย

“นี่น้องบิ๊กที่เจนนี่วางตัวให้เป็นพระเอกค่ะ ทางผู้ใหญ่ก็เห็นด้วยเพราะภายนอกน้องบิ๊กเหมาะกับคาเรคเตอร์ของตัวเอกเอามากๆ เลยค่ะ” ผมยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับพยายามยิ้มออกมาให้ดูจริงใจมากที่สุด

“สวัสดีครับ ผมบิ๊กนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักและฝากตัวกับทุกคนด้วยนะครับ”

“หน้าตารูปร่างได้จริงๆ อย่างที่เจนนี่พูดแต่การแสดงละ เห็นแค่ในคลิปที่ส่งมายังมีอีกหลายๆ อย่างต้องปรับนะ แต่พี่คิดว่าน่าจะไม่ยากเพราะดูมีพื้นฐาน” ตอนนี้ผมคันปากอยากจะพรีเซ็นต์ตัวเองว่าเคยเล่นละครเวทีสมัยเข้ามหาลัยใหม่ๆ ไม่น่าจะยาก แต่ต้องหยุดความคิดเอาไว้ไม่พูดออกมาน่าจะดีกว่า

“ลองเข้าบทไหมละ น้องอชิเห็นว่ามาแล้ว ถ้าวันนี้แคสตัวอื่นๆ หมดก็พรุ่งนี้เวิร์คช็อป” พี่ผู้กำกับพูดขึ้นมาหลังจากที่เขาก้มลงอ่านเอกสารคร่าวๆ เกี่ยวกับตัวผม

“เจนนี่ว่าลองเข้าก็ดีนะคะจะได้รู้ว่าต้องปรับอะไร”

“งั้นเอาบทนี้ไปอ่านก่อนตัวละครเจนนี่อธิบายให้พี่ที อีกประมาณชั่วโมงพี่จะเรียกไปแคส” พี่ผู้กำกับพูดจบก็พากันเดินออกไปจากห้องทิ้งให้พี่เจนนี่อธิบายเรื่องบทให้ผมฟังพร้อมกับเล่าเรื่องย่อ เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชีวิตมหาลัยที่พระเอกมีคาเรกเตอร์เกเรซึ่งห่างไกลกับผมเอามากๆ ผมไม่รู้ว่าจะทำได้รึเปล่านะ แฮร่! มาต่อดีกว่าครับ และทีนี้นายเอกที่พี่เจนนี่เล่าให้ฟังก็คือนักศึกษาแพทย์แนวใสๆ ซื่อๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคือใครอีกนั่นแหละ เนื้อเรื่องคือผมต้องประสบอุบัติเหตุที่ต้องเจอกับนายเอกและด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่น่ารักทำให้ผมหาเรื่องเอาตัวเองเข้าไปใกล้ๆ อะไรทำนองนี้อะครับ ไว้ผมค่อยเอาบทไปอ่านอย่างละเอียดใหม่

“น้องบิ๊กพอจะเข้าใจไหมคะ?” พี่เจนนี่ที่อธิบายเนื้อเรื่องถามผมย้ำอีกครั้ง

“เข้าใจครับพี่”

“งั้นน้องบิ๊กไปพักก่อนนะ อีกเดี๋ยวผู้กำกับคงเรียก”

“ผมขอให้เพื่อนกับแฟนผมเข้ามาดูด้วยได้ไหมครับพี่เจนนี่ ผมต้องการกำลังใจจัง”

“ได้ซิค่ะ พี่ก็อยากจะเจอแฟนน้องบิ๊กเหมือนกัน” เมื่อพี่เจนนี่อนุญาตผมจึงรีบวิ่งไปหาเพื่อนๆ และเด็กบื้อที่รออยู่ด้านนอก ทันทีที่เห็นเด็กบื้อยิ้มให้ผมผมก็รีบวิ่งเข้าไปหาก่อนจะเผลอกอดเด็กบื้อที่นั่งอยู่บนวิลแชร์ด้วยความลืมตัว

“เฮีย! ไอ้รวยมันจะเจ็บ” ผมถูกน้องชายสุดที่รักกระชากคอเสื้อให้ออกห่างจากตัวของเด็กบื้อทั้งๆ ที่ผมยังไม่ทันได้กอดอย่างเต็มอิ่ม

“แค่ต้องการกำลังใจเอง”

“มาพวกกูกอดแทน”

หมับ!

ไอ้เกรทกับไอ้วสุเข้ามาสวมกอดผมแรงๆ พร้อมกับรัดตัวผมเอาไว้ด้วยท่าทางกวนตีน

“ได้กำลังใจพอไหมเพื่อน” ไอ้เกรทถามผมขณะที่พวกมันยังกอดผมอยู่

“เอาจุ๊บไหมจ๊ะพ่อพระเอก” ไอ้วสุกระซิบมาที่ข้างๆ หูพร้อมกับแกล้งเอาริมฝีปากมาเฉียดที่ข้างๆ หูผมเบาๆ บอกตามตรงว่าถ้าไม่ใช่เด็กบื้อผมขนลุกหมดครับ

“ถ้ากูหลุดออกไปได้พวกมึงเจอจูบแน่ๆ” ไอ้วสุไอ้เกรทรีบปล่อยผมออกทันทีพร้อมกับทำท่าขยับหนีด้วยท่าทางรังเกียจ “มาซิพวกมึง มาจูบมากูพร้อมละพ่อจะดูดให้ลืมเลย”

“เฮียขอร้องผมอายเขา” ตี๋น้อยรีบเข้ามาเบรก “แล้วออกมานี่เสร็จแล้วว่างั้นจะได้กลับ เบื่อรอมาก”

“ตี๋พูดงี้เฮียร้องไห้จริงๆ นะ ที่ออกมาจะบอกว่ามาให้กำลังใจเฮียหน่อยเฮียต้องไปเข้าบทอะไรนี่แหละ อยู่คนเดียวไม่มีพวกละมันเหงาใจ”

“ก็แค่นั้น” ผมเดินมาแย่งตำแหน่งเข็นวิลแชร์ให้แฟนสุดที่รักและพานำไปยังห้องที่พี่เจนนี่บอก แต่ระหว่างทางสายผมดันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่มองมาทางพวกผมด้วยสายตานิ่งๆ ด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัวสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ทำให้ผมโค้งให้เขาด้วยท่าทางอ่อนน้อม

“เฮีย?”

“ไม่มีอะไรครับ”


“นี่เหรอครับพระเอกที่ผมจะต้องเล่นด้วย?”

“ใช่ค่ะน้องอชิ”

“ก็ไม่เลวดีหนิครับ”



Maruay’ s talk

ตอนนี้พวกผมถูกพากันเข้ามาด้านในห้องที่มีโต๊ะสีขาวตัวยาวพร้อมกับฉากที่มีชื่อเรื่องของซีรีส์อยู่และขึ้นชื่อสปอนเซอร์ต่างๆ เฮียบิ๊กยืนอ่านบทอยู่อีกมุมเพื่อรอนักแสดงอีกคนที่จะมาเข้าบท

“ไอ้บิ๊กมันไม่ตื่นเต้นเลยวะ” พี่วสุยืนมองพี่บิ๊กด้วยท่าทางงวยงงเพราะท่าทางของเฮียบิ๊กดูอย่างไรก็ไม่มีแววตื่นเต้นหรือตื่นคนเลยแม้แต่นิดเดียว

“แสดงละครอยู่ทุกวันตื่นเต้นก็บ้าละพี่” ไอ้บุ๊คได้ทีผสมโรงกับพี่วสุอย่างเข้าคู่ จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่นานนักแสดงร่วมที่คาดว่าน่าจะเป็นอชิอย่างที่พี่วสุพูดในตอนแรกก็เป็นจริง เพราะอชิเดินเข้ามาพร้อมกับผู้จัดการหน้าเหวี่ยงของเขา

“ขอโทษที่ช้านะครับ” อชิโค้งขอโทษทุกคนด้วยท่าทางอ่อนน้อมเป็นผม ผมก็โกรธไม่ลงอะครับเขาน่ารักมากเกินไป แต่ความน่ารักนี้ผมมองอย่างไงก็เป็นความน่ารักที่คนธรรมดาอย่างพวกผมไม่สามารถเข้าถึงได้

“สวัสดีครับ..เอ่อ คุณ” อชิเดินเข้าไปหาเฮียบิ๊กที่ดูเหมือนจะไม่สนใจสิ่งรอบข้างเพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับบทในมือ ทันทีที่อชิเข้าไปหาเฮียบิ๊กได้แต่ทำหน้าเลิกลักและหันมามองทางผม

“ใครอ่ะ?” ผมอยากจะทุบเฮียแรงๆ สักทีที่บังอาจพูดแบบนี้กับอชิ ผมที่อยู่ข้างล่างรวมถึงพี่เกรทพี่วสุไอ้บุ๊คต่างป้องปากพูดชื่อของอชิขึ้นมาเบาๆ แต่ดูเหมือนว่าเฮียจะไม่รู้เรื่องเอาซะเลย “ห้ะ? กะปิ”

“ไม่ใช่ๆ อชิ อชิ” ทางฝั่งผมไม่รู้จะใบ้อย่างไงแล้วเฮียบิ๊กก็ยังเรียกชื่อผิดๆ ถูกๆ อยู่อย่างนั้นจนเจ้าของชื่อแนะนำตัวเองออกมา

“ผมอชิครับ”

“อ่อ อชิ ผมบิ๊กครับน่าจะเป็นพี่นะเรียกพี่บิ๊กก็ได้” เฮียบิ๊กยื่นมือออกมาตรงหน้าส่วนอชิก็ยื่นมือเข้ามาจับมือเฮียบิ๊กเขย่าเบาๆ และปล่อยออก

“ครับพี่บิ๊กชิฝากตัวด้วยนะครับ ^^” รอยยิ้มของอชิโคตรน่ารักเลย

“งั้นเริ่มเข้าเลยนะ รอพี่ให้สัญญาณ ห้า สี่ สาม สอง แอคชั่น!!” เฮียบิ๊กสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทันทีที่ได้ยินสัญญาณก่อนจะลืมตาขึ้นมา แววตาของเฮียบิ๊กตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดไม่มีแววขี้เล่นเหมือนเคย มีเพียงแววตานิ่งๆ เท่านั้น

“เอ่อ..หลบได้ไหมครับผมจะเดิน” อชิที่ได้รับบทเป็นนายเอกของเรื่องสวมเข้ากับคาเรคเตอร์ของตัวละครที่เขาแสดง เฮียบิ๊กขยับเข้ามายืนขวางหน้าอชิอย่างท้าทาย

“ถ้าพี่ไม่ขยับ มีปัญหาอะไรไหม?”

“คือคุณจะมายุ่งวุ่นวายกับผมทำไมครับ เรื่องอุบัติเหตุตอนนั้นผมไม่ได้ติดใจอะไร เราก็ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะครับ” น้ำเสียงท้ายๆ ประโยคของอชิดูหงุดหงิดเล็กน้อย “หลีกทางผม”

“.....” เฮียบิ๊กเบี่ยงตัวหลบเพื่อให้อชิเดินหนีไปแต่ยังไม่ทันที่อชิจะเดินหนีไปพ้นเฮียบิ๊กเอื้อมมือมากระชากแขนของอชิและออกแรงดึงทำให้อชิเสียหลักเข้ามาซบอกของเฮียบิ๊กเต็มๆ สายตาของทั้งสองสอดประสานเข้าหากันโดยที่สายตาของเฮียบิ๊กไม่สามารถปิดบังความสนใจที่มีต่อคนตัวเล็กในอ้อมกอดของเขาได้

“เอ่อ....”

“พี่ชอบน้อง ขอจีบได้ไหมไม่ได้ขออนุญาตแต่ว่าจะจีบเลย งั้นขอมัดจำไว้ก่อนนะ...” เฮียโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ จุดหมายปลายทางคือแก้มใสๆ ที่ตอนนี้ระเรื้อไปด้วยสีชมพู ใครก็ได้บอกผมทีว่าผมกำลังไม่พอใจกับภาพตรงหน้าเฮียบิ๊กเล่นเนียนเกินไปแล้วเข้าบทบาทมากเกินไป

“ไอ้รวยเพื่อนมันเป็นงาน ใจเย็นๆ” ไอ้บุ๊คแตะไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าไอ้บุ๊คว่ามันรู้ได้อย่างไงว่าผมไม่พอใจ “ตัวเกร็งขนาดนี้กูดูออก ถ้าเฮียกูรู้ได้ใจไปอีกที่แฟนหึง”

“การแสดงกูแยกแยะออก”

“แยกแยะออกแต่เสียงแข็ง?” ผมเลิกสนใจไอ้บุ๊คและหันกลับมาสนใจเฮียบิ๊กต่อ ซึ่งตอนนี้ผู้กำกับสั่งคัททำให้ทั้งคู่ไม่ได้หอมแก้มกันจริงๆ

“เข้ากันมาก!” ผู้กำกับลุกขึ้นปรบมือ “เดี๋ยวนัดคุยรายละเอียดอีกทีนะ” เฮียบิ๊กยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะรีบวิ่งมาทางผม

“เฮียเล่นเป็นไงบ้าง” เฮียบิ๊กย่อตัวลงตรงหน้าผมก่อนจะเอื้อมมือของเขาเข้ามากุมมือของผม

“เล่นดีจนแฟนเฮียหึง” ไอ้บุ๊คพูดแทรกขึ้นมาและนั่นยิ่งทำให้เฮียบิ๊กยิ้มหน้าบานขึ้นมาทันที “กูบอกแล้วว่าเฮียต้องดีใจที่มึงหึง”
 
“ดีใจที่สุดอยากหอมแก้มแล้วเนี่ย”

“ใจเย็นเพื่อน” พี่วสุยกเฮียบิ๊กให้ยืนขึ้นเหมือนปรกติเมื่อพี่คนเดินมาทางพวกผม

“แล้วเจอกันนะครับพี่บิ๊ก ^^” อชิเดินเข้ามาทักทายพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์มอบให้เฮียบิ๊กก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้พี่ๆ ที่เหลือมองตามตาค้าง

“มองใกล้ๆ แล้วน่ารักฉิบหายเลย” พี่เกรทพูดตามหลังอชิ “อิจฉามึงจัง”

“ไม่ต้องอิจฉากูเลยมึง มันเป็นงานกูไม่ว่อกแว่กแน่นอนเพราะในใจมีแต่มารวยยยยยยยยย” ผมว่าจะไม่ยิ้มแล้วนะครับแต่ท่าทางที่น่ารักของเฮียบิ๊กทำให้ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้จริงๆ ถ้าเฮียยืนยันแบบนี้ผมก็มั่นใจในคนรักของผม แต่ผมไม่มั่นใจสายตาของอชิจริงๆ ถึงจะน่ารักแต่ถ้าเขามายุ่งกับแฟนผมมารวยคนนี้ไม่ยอมเด็ดขาด! อีกไม่นานร่างกายของเฮียบิ๊กจะต้องเป็นของผม

#เห้ย!!! อะไรเนี่ยเส้นทางดาวรุ่ง
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 13 (7/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 07-08-2019 19:34:24
 
บทที่ 12
ถ้าไม่ใช่มารวยเฮียบิ๊กไม่สนใจหรอกครับ (มีแฟนแล้วรักแฟนมาก)



Maruay’ s talk

นับจากวันนั้นที่ผมไปเชียร์เฮียบิ๊กก็ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนซึ่งเป็นเวลาที่ผมต้องผ่าเฝือกออกแต่..เฮียบิ๊กไม่ได้มากับผมด้วยเพราะติดไปเรียนการแสดง ผมลืมเล่าไปว่าช่วงนี้เฮียบิ๊กค่อนข้างที่จะยุ่งกลับมาอีกทีผมก็หลับไปแล้วพอผมตื่นขึ้นมาเฮียบิ๊กก็ยังหลับอยู่ เวลาของเราสองคนค่อนข้างสวนทางกันอย่างสิ้นเชิงแต่ผมเข้าใจว่ามันน่าจะเป็นแค่ช่วงนี้เพราะถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่เฮียบิ๊กจะชดเชยเวลาที่ขาดหายไปให้ผมอย่างเต็มที่

“ไอ้รวยเฮียโทรมา” ไอ้บุ๊คที่อาสามาเป็นเพื่อนยกโทรศัพท์ของมันขึ้นมาให้ผม

“ครับเฮีย” ผมยิ้มให้เฮียบิ๊กที่ทำหน้าขมวดคิ้วอยู่ในโทรศัพท์ “ทำไมทำหน้าแบบนั้นอะ”

(เฮียไม่สบายใจที่เฮียไม่ได้อยู่เคียงข้างเราตอนเราเอาเฝือกออก) ผมพ่นลมหายใจออกมาเมื่อเฮียบิ๊กพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เขาขมวดคิ้วด้วยความกังวล

“ผมโอเคเฮียแค่เอาเฝือกออกเอง เฮียบิ๊กตั้งใจเรียนนะ”

(เอาจริงนะเฮียไม่อยากเล่นละครละอะแต่เซ็นสัญญาไปแล้ว เฮียกลัวดังเกินไปแค่ทางค่ายแอบปล่อยรูปตอนฟิตติ้งไม่รู้ว่าเพื่อนจากไหนนักหนาทักเฮียมาเต็มเลย ร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครทักมา บอกตามตรงเลยนะเฮียไม่ชิน) ผมก็พอจะเห็นในโซเชียลรูปถ่ายของเฮียบิ๊กคู่กับอชิ แค่กระแสตอนฟิตติ้งก็ทำให้เฮียบิ๊กมีเพจแฟนคลับทั้งในเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์แต่เจ้าตัวดูไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่

“ส่งผมเรียนจบเอกเลยนะเฮีย”

(เด็กบื้อครับแค่เฮียใช้ความรู้ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่เรียนมาบวกกับปัญญาอันชาญฉลาดแถมมีสกิลทักษะทางด้านภาษา ถ้าไม่มาเล่นละครเฮียก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่มาติดต่อไปทำงานกันทั้งในและต่างประเทศ อย่าว่าแต่จะส่งเอกเลยส่งมากกว่าปริญญาเอกก็ย่อมได้ถ้ามันมีให้เราเรียนอะนะ)

“เฮียกูขี้โม้ได้ใครวะ” ไอ้บุ๊คส่ายหัวให้กับคำพูดที่โอ้อวดของเฮียบิ๊ก “วางได้แล้วมึง จะถึงคิวมึงแล้ว”

“เฮียครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะใกล้ถึงคิวของผมแล้ว ไว้เจอกันที่ห้องนะครับ”

(ครับ เฮียจะรีบกลับนะ จุ๊บๆ) ผมกดวางสายจากเฮียบิ๊กซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ถึงคิวผมเข้าห้องเพื่อไปผ่าเฝือกโดยมีไอ้บุ๊คไปเป็นเพื่อน


BIG’ s talk

ผมวางสายตากเด็กบื้อก่อนจะหันกลับไปนั่งรอนักแสดงที่ต้องเข้ามาเรียนการแสดงในวันนี้ อย่างที่ผมบอกกับเด็กบื้อไปว่าผมไม่ค่อยชินกับการตกเป็นที่จับตามองสักเท่าไหร่โดยเฉพาะคนรอบข้างผมจะโดนหางเลขไปด้วย ป๊ากับม้าโทรมาหาผมทันทีที่ภาพถูกปล่อยบอกว่าผมไปแสดงละครตั้งแต่เมื่อไหร่ ลูกสาวป้าข้างบ้านฝากขอลายเซ็นซึ่งร้อยวันพันปีลูกสาวป้าข้างบ้านแทบจะไม่เคยทักหรือพูดคุยกันเลย ก็รู้ว่าหล่อแต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้

“มาเร็วมากเลยน้องบิ๊ก” พี่เจนนี่เดินเข้ามาหาผมที่นั่งรออยู่ในห้องคนเดียว พี่เจนนี่ถูกมอบหมายจากทางค่ายให้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของผมไปก่อนในช่วงนี้ ส่วนเรื่องรับงานต่างๆ ผมรับแค่วันที่ผมไม่มีเรียนเท่านั้น อย่างไงเรื่องเรียนและความรักต้องมาก่อนเสมอ

“ตามเวลาเลยครับพี่เจนนี่ พี่เจนนี่ครับผมมีเรื่องสงสัยคือปรกติแล้วนักแสดงจะมาสายขนาดนี้เลยเหรอครับ นี่ก็เลยเวลามาได้เกือบๆ ครึ่งชั่วโมงแล้ว” พี่เจนนี่หันซ้ายหันขวาเหมือนว่าดูลาดเลาอะไรสักอย่างก่อนจะขยับเข้ามาและยื่นหน้ามาทางผมพร้อมกับยกมือขึ้นป้องปาก

“น้องบิ๊กคืองี้นะคะคือแบบพี่คันปากมากเลยค่ะ”

“ผมเกาให้ไหมพี่”

“แหม ตลกค่ะ” พี่เจนนี่ตีผมก่อนจะเล่าต่อ “คือถ้ามีชื่อเสียงแล้วเขาจะทำอะไรไม่ค่อยนึกถึงคนอื่นหรอกค่ะ อยากมาตอนไหนก็มา อยากกลับตอนไหนก็กลับยิ่งดังๆ เอาใจยากมากด้วยกว่าจะเคลียร์คิวนู่นนี่นั่นน้องบิ๊กต้องทำใจหน่อยนะคะ”

“ปัญญาอ่อนมากเลยครับพี่เจนนี่”

“น้องบิ๊กอย่าไปพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินนะคะเดี๋ยวจะโดนดี” พี่เจนนี่พูดยิ้มๆ แต่แววตาดูเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมพูด ขนาดยังไม่ถึงวันเปิดกล้องยังขนาดนี้ถ้าเปิดกล้องระยะเวลาในการถ่ายทำร่วมสามเดือนผมจะทนได้ไหมก็ต้องทนได้ไม่อย่างนั้นโดนปรับฉิบหายเลยครับ “เออหนิน้องบิ๊กมีโฆษณาน้ำอัดลมติดต่อมาให้น้องเป็นพรีเซนเตอร์น้ำอัดลมรสชาติใหม่ที่กำลังจะออกพี่จะส่งไปให้ดูทางไลน์นะคะเผื่อสนใจพี่จะได้คอนเฟิร์มกับลูกค้า”

“ใช่น้ำเป๊ปจี่ไหมครับพี่”

“ใช่ค่ะ”

“ผมรับครับ แฟนผมชอบดื่มยี่ห่อนี้ถ้ามีรูปผมอยู่ตรงฉลากแฟนผมคงดีใจ” คิดแล้วหน้าของเด็กบื้อลอยเข้ามาในโสตประสาทของผมเต็มๆ เวลาที่ผมเหนื่อยแค่ได้นอนกอดเด็กบื้อก็ถือเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดแล้ว

“น้องบิ๊กจะได้น้ำอัดลมกลับไปกินเป็นลังๆ เลยค่ะ”

“แต่ปรกติพรีเซนเตอร์เขาไม่ค่อยหวังของฟรีจากโฆษณาหรอกนะเจนนี่” เสียงของคนที่เข้ามาใหม่ดังขึ้นก่อนจะปรากฏเป็นพี่ผู้จัดการของอชิพร้อมกับอชิที่เดินเข้ามา ผมสังเกตมาหลายครั้งแล้วครับว่าพี่ๆ สองคนนี้น่าจะไม่ถูกกันเพราะพี่เจนนี่ถึงกับมองบนอย่างไม่สบอารมณ์ทันทีที่ได้ยินเสียง

“แต่ผมหวังครับ ของฟรีใครจะไม่อยากได้” ผมตอบกลับไปทำให้พี่ผู้จัดการที่ผมไม่ทราบชื่อถึงกับมองมาทางผมด้วยสายตานิ่งๆ

“ปากดีระวังดับนะน้อง”

“ดับไม่กลัวกลัวไม่ดับซิครับพี่” ผมฉีกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำแต่ระหว่างทางที่ผมจะเดินออกไปนั้น อชิยื่นมือมาจับข้อมือของผมเอาไว้ทำให้ผมหยุดและเลิกคิ้วมองไปที่อชิ

“พี่บิ๊กจะไปไหนเหรอครับ”

“ขี้ครับ ปวดขี้มาก” ผมตอบตามตรงทำให้อชิดูตกใจเล็กน้อย คือผมไม่เข้าใจว่าจะตกใจทำไมหรือว่าผมพูดหยาบเกินไปจนนายเอกของเรารับไม่ได้ “อุจจาระหน่ะครับ”

“อ่อ...รีบมานะครับพี่บิ๊ก ชิซื้อขนมมาฝากเยอะเลย ^^” อชิยิ้มจนตาของเขาเปลี่ยนเป็นรูปสระอิ ไอ้วสุพูดกรอกหูอยู่ทุกวันว่าถ้าใครมองดวงตารูปพระจันทร์ยิ้มของอชิเป็นอันต้องหวั่นไหวทุกที แต่นี่ก็หลายอาทิตย์แล้วผมไม่เห็นรู้สึกหวั่นไหวอะไรเลย นอกจากอยากเอานิ้วจิ้มแล้วแหกลูกตาแบบนี้มันใช่อาการหวั่นไหวไหมอ่ะครับ

“ครับ” ผมรีบออกมาจากห้องและตรงมาด้านนอกเพื่อโทรหาเด็กบื้ออีกครั้ง ป่านนี้น่าจะผ่าเฝือกออกแล้วผมตื่นเต้นจังเลยครับ เพราะถ้าเด็กบื้อผ่าเฝือกแสดงว่าผมจะได้เข้าไปในตัวของเด็กบื้อซักที ซึ่งขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนที่ทำให้ผมเป็นสามีโดยพฤตินัยของเด็กบื้ออย่างสมบูรณ์แบบ พูดแล้วขึ้นเลยครับ!!

(เฮีย! โทรมาอะไรหนักหนาเนี่ยไอ้รวยยังไม่เสร็จเลย) ปรากฏว่าคนที่รับโทรศัพท์กลายเป็นตี๋ซะอย่างนั้นส่วนภาพพื้นหลังยังคงเป็นโรงพยาบาลอยู่เหมือนเดิม

“ก็เป็นห่วงแฟน เฮียผิดตรงไหนวะตี๋”

(ไอ้รวยมันกำลังจะผ่าเฝือก แล้วเฮียทะลึ่งไปแอบเขียนอะไรที่เฝือกมัน”

“คริๆ” นึกถึงแล้วก็ขำครับเพราะช่วงที่เราสองคนมีเวลาไม่ตรงกันผมแอบเอาปากกาไปเขียนที่เฝือกของเด็กบื้อไม่ซิเรียกว่าแอบแต่งกลอนให้มากกว่า

มารวยแฟนเฮียบิ๊ก น่ารักกุ๊กกิ๊กทุกเวลา อยากให้เรียกว่าเฮียบิ๊กขา แต่นั่นหนาไม่เคยเรียกเลย

“เขียนกลอนแห่งความรักไงเด็กบื้อชอบไหม”

(เฮียยังมีหน้ามาถามอีกนะ ถ้าไม่มีอะไรผมวางนะเฮีย)

“เดี๋ยวก่อนตี๋ เฮียขอแอบดูเด็กบื้อหน่อยซิ แค่แวบๆ ก็ได้”

(เออๆ งี่เง่าจังวะ) ไอ้ตี๋แอบบ่นๆ เบาๆ แต่พอดีว่าผมหูดีเลยแอบได้ยิน ตี๋กลับเป็นกล้องหลังก่อนจะส่งกล่องไปในห้องที่เห็นว่าตอนนี้เด็กบื้อนั่งน่ารักอยู่บนเตียงโดยมีหมอยืนอยู่ข้างๆ (พอนะเฮีย ไปละ ติ๊ด!) และมารความรักของผมก็กดตัดสายไปทันที...ก็ยังดีที่ได้เห็นครับดีกว่าไม่เห็น

“พี่บิ๊ก”

“ครับ?” ผมกันไปทางด้านหลังก่อนจะเห็นว่าเป็นอชิที่ยืนอยู่ “มีอะไรรึเปล่า”

“ชิมาตามพี่บิ๊กครับเห็นว่าออกมานาน” นานก็แย่ละครับยังไม่ถึงห้านาทีเลย ถ้าสนิทพ่อจะด่าให้หูดับเลยแต่พอดีว่าต้องคีพลุคพระเอกเลยทำได้แค่พยักหน้าและยิ้มให้เฉยๆ

“พี่ออกมาคุยกับแฟนครับ”

“แฟน? ... พี่บิ๊กมีแฟนแล้วเหรอครับ?”

“ใช่ครับ มีอะไรรึเปล่าหรือว่าพี่มีแฟนไม่ได้เหรอครับน้องอชิ?”

“ไม่มีอะไรครับ เราไปกันเถอะ” ผมเดินนำอชิเข้าไปด้านในโดยไม่ได้สนใจว่าอชิจะก้าวขาตามผมทันไหม ด้วยความหมั่นไส้ผมจึงแอบตดไม่มีเสียงแต่มีกลิ่นแน่นอนว่าโคตรเหม็น ขนาดตดของผมเองผมยังคิดว่ามันเหม็นฉิบหายเลยครับ

“พี่บิ๊กได้กลิ่นอะไรรึเปล่าครับ ชิได้กลิ่นเหมือนซากอะไรตายเลย” อชิรีบวิ่งจนเดินเข้ามาเทียบเคียงกับผมพร้อมกับใช้มือเล็กๆ ของเขาบีบที่จมูกตัวเอง

“ไม่หนิครับ ออกจะหอมบรรยายกาศดี๊ดี”

“ไม่ไหวแล้วครับ พี่บิ๊กเข้าไปก่อนเลยผมขอเข้าห้องน้ำก่อน” อชิรีบวิ่งไปทางห้องน้ำ ผมนี่ซะใจเป็นบ้าเลยครับที่เห็นอาการของอชิ ผมไม่อยากทำให้เด็กบื้อเข้าใจผิดดังนั้นการเว้นระยะห่างเป็นเรื่องที่ดีและการตดก็เป็นเรื่องดีที่จะขับแก๊สออกจากกระเพาะเช่นกัน

บิ๊กเดินหายเข้าไปด้านในห้องโดยไม่เห็นถึงสายตาของคนที่เขาคิดว่าเข้าไปในห้องน้ำที่มองตามแผ่นหลังของเขาอยู่

“อย่างนี้ซิน่าสนใจ มีแฟนแล้วยิ่งท้าทาย หึ”


Maruay’ s talk

“เฮียกูนี่จริงๆ เลยนะ” ไอ้บุ๊คยืนบ่นอยู่นานหลังจากที่เห็นว่าเฝือกของผมมีลายมือของเฮียบิ๊กที่แต่งกลอนน่ารักๆ เอาไว้ให้ ผมก็ไม่ทันได้สังเกตจนกระทั่งวันนี้ที่หมอถอดออกมา

“น่ารักดี” ผมขอยืมโทรศัพท์ของไอ้บุ๊คยกขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำ ถ้าถามว่าแล้วโทรศัพท์ของผมไปไหนตอบเลยว่าลืมเอามาครับ

“มีมึงคนเดียวที่คิดว่าน่ารักอ่ะไอ้รวย” หลังจากที่ถอดเฝือกออกคุณหมอก็แนะนำว่าอย่างพึ่งเล่นอะไรแรงๆ โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เท้าแสดงว่าช่วงนี้ผมก็คงต้องงดการไปที่สนาม มันแอบเหงาเหมือนกันนะครับเวลาที่เราเคยชินกับอะไรสักอย่างแต่ถ้าวันหนึ่งเราไม่ได้ทำมันก็รู้สึกโหว่งไม่น้อย

หลังจากรับยาและจ่ายเงินเสร็จไอ้บุ๊คมันบอกว่ายังไม่อยากกลับหอเลยลากผมมาหาเฮียบิ๊กที่ส่งโลเคชั่นมาว่าอยู่แถวๆ นี้อีกไม่นานจะเลิกเรียนให้ผมนั่งเท็กซี่ไปหาจะได้กลับพร้อมกัน ทำให้ตอนนี้ผมกับไอ้บุ๊คยืนอยู่หน้าโรงเรียนสอนการแสดงแห่งหนึ่ง

“เข้าไปไงวะมึง” ผมหันไปถามไอ้บุ๊คที่ยืนอยู่ข้างๆ

“โทรหาแฟนมึงซิ เอ้า เอาโทรศัพท์กูไปขี้เกียจคุยกับเฮียคุยแล้วกูหงุดหงิด” ไอ้บุ๊คยื่นโทรศัพท์ของมันมาให้ผมกดโทรออกหาเฮียบิ๊ก รอสายอยู่นานเฮียบิ๊กก็ไม่รับจนกระทั่งสายตัดไปสงสัยน่าจะกำลังเข้าคาสเรียนอยู่

“รอแถวๆ นี้ก็ได้ เดี๋ยวเฮียก็น่าจะออกมาแล้วมั้ง” ผมเดินมานั่งที่โซฟาด้านหน้าติดกับประชาสัมพันธ์เพื่อรอเฮียบิ๊กเลิกเรียน

“น้องอชิอย่าเสียเวลาเลยค่ะพี่ว่าเด็กนั่นดูไม่ปรกติ อีกอย่างจะดังรึเปล่าก็ไม่รู้” ด้วยความที่ผมเป็นคนหูดีทำให้ได้ยินบทสนทนาของคนที่กำลังเดินมาทางที่ผมนั่งอยู่

“มันท้าทายดีหนิครับ ผมอยากลอง”

“มันคุ้มเหรอคะ”

“ผมมั่นใจว่ากระแสต้องดี รับรองว่ากระแสคู่จิ้นต้องมาแรงมากแน่ๆ ผมก็มีหน้าที่ขยันสร้างข่าวสร้างโมเมนต์เยอะๆ ก็เท่านั้น ที่เข้าใกล้ไม่ได้พิศวาสนะครับแค่หาผลประโยชน์”

“ฟังดูดีนะคะ แต่ถึงอย่างไงพี่ก็ไม่ค่อยถูกชะตา น้องอชิบอกพี่เองไม่ใช่เหรอคะว่าเด็กนั่นมีแฟนแล้ว”

“มีแล้วก็เลิกได้หนิครับพี่”

“ก็จริงค่ะ” ผมไม่รู้นะว่าบุคคลที่อชิและพี่ผู้จัดการของเขาพูดถึงคือใคร แต่สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจว่าคือคนของผมก็ตรงที่...  ‘เด็กนั่นดูไม่ปรกติ’  เฮียบิ๊กไม่ใช่คนปรกติอันนี้ผมเห็นด้วย

“มิสยูว์มายสวีทฮาร์ต!!” ยังไม่ทันที่ผมจะวิเคราะห์บทสนทนาที่พึ่งได้ยินเฮียบิ๊กไม่รู้ว่าโผล่ออกมาจากไหนวิ่งเข้ามาจู่โจมผมทันที

“เฮียใจเย็นๆ” ผมพยายามเตือนสติเฮียบิ๊กว่าตอนนี้เราอยู่ข้างนอกไม่ได้อยู่ที่ห้องเหมือนอย่างทุกที ซึ่งเฮียบิ๊กมีทีท่าเหมือนว่าเขาจะลืมตัวทำให้ตอนนี้ยอมปล่อยจากผมมายืนอยู่ตรงหน้าแทน

“มารอนานไหม เฮียพึ่งเลิก”

“ไม่เท่าไหร่ครับ เฮียเมื่อกี้ผม......”

“พี่บิ๊ก?” อชิเดินเข้ามายืนข้างๆ เฮียบิ๊กพร้อมกับใช้มือของเขาคล้องแขนเฮียบิ๊กเอาไว้ด้วยท่าทางสนิทสนม ตอนนี้ผมไม่ได้คิดไปเองนะว่าเท้าผมเริ่มกระตุกนิดๆ

“ครับ?”

“พอดีว่าเย็นนี้ว่างไหมครับชิจะชวนพี่บิ๊กไปทานข้าวด้านนอก”

“เลี้ยงไหมครับ?” เฮียบิ๊กถาม

“เอ่อ...ได้ครับ”

“พี่ล้อเล่น แต่ว่าถ้าน้องชิใจดีจะ............”


20 นาทีต่อมา....

ตอนนี้ผมเฮียบิ๊กไอ้บุ๊คอชิและผู้จัดการของเขานั่งกันอยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในห้างดังหลังจากที่เฮียบิ๊กลากผมสองคนมาด้วย โดยอ้างว่าถ้าเขาอยากเลี้ยงก็ต้องเลี้ยงทั้งหมดเฮียอยากรอดูความใจป๋าของอชิ เอาจริงๆ คือโคตรลำบากใจเลยครับไม่อยากมาแต่ก็แอบอยากกินของฟรีใกล้ชิดกับดาราดังอย่างอชิซะด้วย มารวยไม่พลาดอย่างแน่นอน

“สั่งได้เลยนะครับ” อชิยื่นเมนูมาตรงหน้าผมอย่างเจาะจง “เอ่อ...พี่บิ๊กไม่แนะนำน้องชายทั้งสองให้ผมรู้จักหน่อยเหรอครับ”

“น้องชายมีคนเดียวครับนี่น้องบุ๊ค...”

“กูขนลุกจังเฮีย” ไอ้บุ๊คพูดแทรกขึ้นมาเบาๆ เมื่อเฮียบิ๊กเรียกไอ้บุ๊คว่าน้องมันคงจะจั๊กจี้มั้งครับเพราะปรกติเห็นเรียกแต่ตี๋

“ส่วนนี้น้องรวยแฟนพี่เอง”

“คนนี้เหรอครับแฟนพี่บิ๊ก?” อชิมองหน้าแต่สายของผมดันเหลือบไปเห็นว่ามุมปากของอชิเหยียดยิ้มเล็กๆ

“ระวังเป็นข่าวนะคะเจนนี่ไม่เตือนเหรอว่ามีแฟนตอนเข้าวงการมันจะดับเร็ว” พี่ผู้จัดการที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น

“ก็ไม่เห็นจะพูดอะไรนะครับ ผมบอกตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว” เฮียบิ๊กตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “หรือพี่มีอะไรรึเปล่าครับ? เตือนผมได้นะผมยินดีรับฟัง”

“แค่คิดว่าถ้าละครออนแอร์แล้วน้องบิ๊กต้องเล่นคู่กับอชิกระแสคู่จิ้นต้องมาแน่ๆ แฟนน้องบิ๊กจะรับได้เหรอคะ”

“ผมแยกแยะระหว่างเรื่องจริงกับการแสดงออกครับพี่ ผมรับได้ถ้ามันเป็นเรื่องงาน” ผมมองหน้าพี่ผู้จัดการตรงๆ โดยที่ไม่หลบสายตา ผมไม่รู้นะว่าพวกเขาสองคนต้องการอะไรกันแน่แต่ถ้าต้องการกระแสอย่างที่ผมแอบได้ยินผมก็โอเคเพราะมันเป็นเรื่องของงาน แต่ถ้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวเมื่อไหร่อันนี้ผมคงไม่โอเค

“พี่บิ๊กได้บอกหรือเปล่าครับว่ามีเลิฟซีน บางทีมันต้องเล่นให้สมจริง” อชิพูด

“บอกครับ”

“ก็ดีครับผมไม่อยากมีปัญหาทีหลัง” อชิเหยียดยิ้มอีกครั้ง “เพราะผมเต็มที่กับทุกบทบาทอยู่แล้ว”

“ดีใจแทนเฮียว่ะที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงที่เต็มที่กับบทบาท” ถ้าให้เด็กอนุบาลหนึ่งฟังก็พอจะรู้ว่าน้ำเสียงของไอ้บุ๊คโคตรประชดประชัน “เฮียผมขอเสียมารยาทกลับก่อนได้ไหมพอดีว่ามีธุระด่วน ไปส่งผมหน่อยดิ” ไอ้บุ๊คและเฮียบิ๊กมองหน้ากันนิ่งๆ เหมือนต้องการจะสื่ออะไรสักอย่าง ทำให้เฮียบิ๊กพยักหน้าและตอบตกลง

“ผมขออนุญาตไปส่งน้องชายนะครับ ไว้คราวหน้าคงมีโอกาสได้ร่วมรับประทานกับน้องอชิอีก ขอตัวนะครับ” เฮียบิ๊กขยับเก้าอี้ลุกขึ้นก่อนที่เฮียจะยื่นมือมากุมมือของผมเอาไว้และออกแรงบีบเบาๆ

“เฮียแม่งทนได้ไงวะผมไม่ชอบหน้ามันฉิบหายเลย” เมื่อออกจากร้านอาหารไอ้บุ๊คได้ทีบ่นเต็มที่ “ดูท่าทางก็หยิ่งๆ แถมเจตนาแม่งสื่อชัดเจนสัดๆ”

“ก็เล่นตามบทไปตี๋ ว่าแต่เราโอเคไหม?” เฮียถามผม

“โอดิก็เรื่องงาน”

“ปากแข็งกูเห็นมึงตีนกระตุกตั้งแต่ที่โรงเรียนแล้ว” ไอ้บุ๊คพูดเสริม

“เฮียดีใจอีกแล้ว!! มารวยหึงบ่อยขอกอดอีกทีอดทนไม่ไหวจริงๆ จ้า” เฮียบิ๊กปล่อยมือออกจากมือผมก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดเอาไว้แน่น “ขาหายแล้ว.......คืนนี้”

“ก็ตามนั้นครับ”

“ถ้าซั่มกันผมไปนอนที่อื่นนะไม่อยากได้ยิน” ไอ้บุ๊คพูดแทรกขึ้นมาทำให้เฮียบิ๊กผลักออกจากผมมามองหน้าน้องขายของเขาแทน

“ไปนอนไหน?”

“หอเพื่อนผมก็มีเฮีย”

“แต่ตี๋มีเพื่อนแค่คนเดียวคือมารวยไม่ใช่เหรอ?” พูดแล้วก็แอบเจ็บนะครับที่มีกันอยู่แค่สองคน “ตี๋ทำตัวแปลกๆ อย่าให้เฮียรู้เฮียเอาจริงนะ มีอะไรชอบไม่บอก” เฮียบิ๊กใช้น้ำเสียงที่ต่างออกไปดูก็รู้ว่าเฮียเอาจริงตามที่พูด ก่อนที่ผมจะคบกับเฮียบิ๊กไอ้บุ๊คชอบมาเล่าให้ฟังว่าพี่ชายเป็นคนไร้สาระเจ้ากี้เจ้าการแต่เวลาเอาจริงโหดยิ่งกว่าพ่อ

“งั้นแยกกันตรงนี้เลย” ไอ้บุ๊คเตรียมจะหันหลังเดินจากไปแต่มันกลับเอี้ยวตัวมากระซิบผมเบาๆ “ไอ้รวยกูเตือนด้วยความหวังดีว่าครั้งแรกเจ็บฉิบหาย อย่าให้เฮียกูเอาแต่ใจค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนะ” ไอ้บุ๊คตบไหล่ผมแรงๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปทิ้งให้ผมยืนหน้าแดงอยู่กับเฮียบิ๊ก

“ตี๋บอกว่าอะไรทำไมเราหน้าแดงขนาดนั้นครับ?”

“ก็....ช่างมันเถอะเฮีย กลับกันเถอะครับ”

หมับ!

ยังไม่ทันที่ผมจะเดินนำไปเฮียบิ๊กรั้งแขนผมเอาไว้ให้หันหน้ากลับไปหาเขาที่ยืนอยู่ที่เดิม

“เฮียสัญญาว่าจะไม่รุนแรง เฮียทำเพราะความรักเฮียไม่ได้ทำเพราะความใคร่..เชื่อใจเฮียนะครับ” แล้วใครจะไปรอดกันครับถ้าเจอน้ำเสียงและแววตาแบบนี้ ตั้งแต่ไปเรียนการแสดงมาการใช้สายตาของเฮียบิ๊กไม่ใช่เล่นๆ เลยครับ อย่างไงคืนนี้เอาใจช่วยสำหรับครั้งแรกของผมกับเฮียบิ๊กด้วยนะครับ


#ตอนหน้ามาแน่แต่อย่าคาดหวังความอิโรติกเพราะเฮียบิ๊กมาสายตลกจ้าาาา
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 13 (7/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 07-08-2019 22:09:06
 :katai2-1:
 :oo1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 13 (7/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 07-08-2019 23:32:24
ต้องจัดการนังอชิ นังตัวดี~
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 14 (9/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 09-08-2019 17:23:57
 
บทที่ 14
ครั้งแรกของเราช่างหอมละมุนเหมือนขนุนสุกงอม

Maruay’ s talk

ไม่มีใครให้บ้ากว่านี้แล้วครับทุกคน ตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ หกโมงเย็นเฮียบิ๊กพาผมแวะซื้ออาหารเข้ามากินที่ห้อง หลังจากนั้นเฮียบิ๊กหายออกไปไหนไม่รู้ครับทิ้งท้ายไว้แค่ว่า

‘ขอไปหาตัวช่วยสร้างบรรยากาศก่อนนะ เดี๋ยวเฮียกลับมา’

ผมไม่รู้นะว่าคนอื่นเขาจะต้องจริงจังขนาดนี้ไหมเวลาที่เราจะมีอะไรกับใครสักคน ผมว่าผมตื่นเต้นแล้วนะแต่ยังไม่เท่าเฮียบิ๊กเพราะตลอดทางเอาแต่พูดว่าจะทำอย่างนู้นจะทำอย่างนี้โดยไม่มีท่าทีเคอะเขินอะไร หรือว่าผมควรจะเตรียมตัวสำหรับตัวเองบ้าง แล้วผมจะไปถามใครนอกจาก...

‘ไอ้รวยกูเตือนด้วยความหวังดีว่าครั้งแรกเจ็บฉิบหาย อย่าให้เฮียกูเอาแต่ใจค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปนะ’

ผมพึ่งคิดได้ว่าคำพูดของไอ้บุ๊คก่อนหน้านี้ที่มันพูดกับผมมันรู้ได้อย่างไงว่าครั้งแรกเจ็บ..สมองอันน้อยนิดของผมประมวลผลทุกอย่างเข้าหากัน รอยที่ผมเห็นตามตัวสภาพร่างกายและจิตใจของมันก่อนหน้านี้ แสดงว่า! ไอ้บุ๊คเสียตัวแล้วอย่างนั้นซินะ ไม่ได้ผมต้องไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง

“ไอ้บุ๊คมึงอยู่ไหน!” ผมรีบโทรหามันทันทีที่คิดได้ไม่อย่างนั้นผมจะลืม

(ทำไม)

“บอกกูมามีเรื่องสำคัญมากๆ จะคุยด้วย”

(งั้นลงมารอข้างล่างเดี๋ยวกูไปรับ) ไอ้บุ๊คพูดแค่นั้นก่อนจะวางสายไปทำให้ผมรีบวิ่งลงไปรอด้านล่างหอโดยลืมโทรบอกเฮียบิ๊กว่าผมจะไปไหน คงไม่นานเดี๋ยวผมกลับมาขอเวลาไปศึกษาหาข้อมูลสักหน่อยแล้วจะทำให้เฮียบิ๊กประทับใจไม่รู้ลืม


10 นาทีต่อมา....

“เดี๋ยวก่อนกู..กูไม่เข้าใจ” ผมมองภาพตรงหน้าก่อนจะถามไอ้บุ๊คออกมาด้วยน้ำเสียงงงๆ ผมยอมรับเลยว่าผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ผมไม่คิดว่า....

“ก็ตามนั้น” ไอ้บุ๊คพูดด้วยท่าทางชิวๆ เหมือนไม่ได้สนใจในการตื่นตะลึงของผมสักเท่าไหร่ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเฮียบิ๊กรู้สภาพไอ้บุ๊คจะเป็นอย่างไง “อย่าบอกเฮียกูนะไอ้รวย กูขอร้อง”

“แล้วถ้าเฮียรู้เองมึงไม่โดนหนักเลยเหรอวะ”

“เอาไว้ค่อยคิดตอนนี้ไม่อยากจะคิดอะไร ส่วนมึงออกไปก่อนได้ไหมกูขอคุยกับเพื่อนกูก่อน” บุ๊คหันไปบอกเจ้าของเสื้อบอลเบอร์เก้ารวมถึงเป็นเจ้าของห้องที่บุ๊คมาขออาศัยในคืนนี้

“เพื่อนมึงก็เพื่นกู กูอยู่ฟังไม่ได้เหรอ?”

“ถ้าไม่ออกกูกลับ...”

“เออๆ คุยไป” บุ๊คยิ้มมุมปากออกมาด้วยความพอใจเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำตามอย่างว่าง่าย หลังจากที่เห็นว่าออกจากห้องไปแล้วบุ๊ครีบลุกออกไปล็อกประตูห้องก่อนจะกลับมานั่งข้างๆ มารวย

“มึง....กูถามตรงๆ นะ รอยที่อยู่บนตัวมึงคือมันทำใช่ไหมวะ?” ผมถามไอ้บุ๊คออกมาตรงๆ ยอมรับว่าตกใจแต่ก็พอจะเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคนแม้จะแปลกใจมากไปหน่อยก็ตาม

“อืม....” ผมสังเกตเห็นว่าใบหน้าของไอ้บุ๊คขึ้นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด ก็พึ่งเคยเห็นว่าไอ้บุ๊คเขินเป็นเหมือนกัน คนห่ามๆ แอบหน้าแดงก็น่ารักไปอีกแบบ แต่เดี๋ยวมารวยนั่นเพื่อนมึง

“พวกมึงรักกันเหรอวะ”

“ตอนนี้ไม่” ไอ้บุ๊คตอบกลับมาโดยที่ไม่ใช่เวลาคิดหรือไตร่ตรองสักนิด “Friend with benefit มั้ง กูไม่รู้จะหาคำจำกัดความอย่างไง กูโสดมันโสดก็ปล่อยให้เป็นเรื่องอนาคตแต่ตอนนี้ก็ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปกูไม่ซีวะ”

“ความสัมพันธ์มึงดูอินเทรนเนอะแบบใครๆ เขานิยมทำกัน” ผมเคยเห็นความสัมพันธ์แบบนี้เหมือนกันในพันทิปแต่สุดท้ายก็มีคนแพ้ภัยตัวเองถ้ามีหนึ่งคนคิดมากกว่านั้น ไม่รู้ว่าสุดท้ายไอ้บุ๊คจะเป็นเหมือนในพันทิปไหมแต่ที่แน่ๆ ถ้าเป็นมันคงจะเจ็บหน้าดูเลยครับผมอดที่จะห่วงไม่ได้ ยิ่งมันสองคนเป็นเพื่อนของผมเหมือนกัน “แต่มึงเชื่อกูดิบุ๊คว่ามันไม่น่าจะเวิร์คในระยะยาว”

“ถ้าเบื่อกูก็ไปแค่นั้น ง่ายดี”

“แต่สายตามึงไม่ได้หมายความอย่างนั้น”

“ไอ้รวยอย่าทำเป็นรู้ดี แหมพอมีแฟนแล้วเสือกทำตัวเป็นกรูรูความรักนะมึง ช่างเรื่องของกูเถอะแล้วมาเข้าเรื่องของมึงดีกว่า ไหนว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยไง”

“คืองี้นะแบบ..ที่มึงบอกกูว่าครั้งแรกเจ็บอะ”

“แล้ว?”

“มันเจ็บอย่างไงวะ แบบมดกัดไหม”

“มดก็แย่ละไอ้รวย มึงคิดตามกูนะเวลามึงขี้แล้วขี้มึงเสือกแข็งตอนที่มันออกมาครึ่งเดียวละคาตูดมึงอยู่ มึงพยายามจะเบ่งอย่างไงก็เบ่งไม่ออก นั่นแหละคือความรู้สึกแบบนั้นแต่คูณเข้าไปอีกหลายเท่าตัวเพราะมันเหมือนขี้ย้อนขึ้นอะ”

“ไอ้บุ๊คมึงเปรียบเทียบอะไรที่ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอวะ” ผมคิดตามที่ไอ้บุ๊คพูดอยู่ๆ ภาพน้องขี้เมื่อเช้าลอยเข้ามาในหัวของผมเลยครับ กลัวว่าภาพจะติดตาแล้วจินตนาการไปว่าขี้คืออาวุธของเฮียผมว่าถึงคราวนั้นต่อให้ปั่นอย่างไงก็ไม่มีทางขึ้นได้อย่างแน่นอน

“ก็กูคิดไม่ออก อย่าบอกนะว่าที่มึงจะปรึกษากูคือเรื่องนี้?”

“ก็ใช่ไง กูเห็นเฮียบิ๊กจริงจังแล้วกูเลยรนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไง”

“ครั้งแรกของกูยังไม่เห็นต้องเตรียมตัวเหี้ยอะไรเลย” ผมไม่ได้ยินว่าไอ้บุ๊คบ่นอะไร สงสัยจะแอบคุยกับกล้องสองแน่ๆ

“แนะนำกูที”

“ไอ้เรื่องเจ็บอะมีแน่ๆ กูไม่รู้จะแนะนำอะไรมึงจริงๆ มึงปล่อยให้เป็นไปตามสัญชาตญาณของมึงก็พอไอ้รวย ยิ่งมึงกังวลมึงจะไม่มีความสุข”

“งั้นกูกลับก่อนก็แล้วกัน”

“ไอ้รวยอย่าลืมเซฟเซ็กส์นะ” ก่อนที่ผมจะออกจากห้องไปไอ้บุ๊คทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยคซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญเอามากๆ ก่อนที่จะกลับไปห้องผมว่าผมต้องหาซื้อถุงยางไปก่อนก็แล้วกันครับ


BIG’ s talk

ผมออกมาหาซื้อเทียนหอมเอาไว้สร้างบรรยากาศเพื่อให้โรแมนติกที่สุด เด็กบื้อของผมจะต้องประทับใจกับครั้งแรกที่ผมพยายามทำออกมาให้ดีที่สุด ยอมรับว่าเคยมีเซ็กส์มาแล้วก็หลายครั้งแต่ถ้ากับผู้ชายด้วยกันครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมเลย ก่อนหน้านี้ผมพยายามศึกษาข้อมูลมาอย่างละเอียดเพราะกลัวว่าตัวเองจะเผลอไปทำให้เด็กบื้อเป็นอันตราย และสิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจคือ ผมแอบไปตรวจโรค STD หรือโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาแล้วและผลตรวจของผมออกมาปลอดภัย ดังนั้นเด็กบื้อของผมไม่จำเป็นจะต้องกังวล เพราะสโลแกนของผมคือ ‘อยากมีเซ็กส์ปลอดภัยไว้ใจบิ๊ก’

“สวัสดีครับ” ผมแวะร้านยาก่อนที่จะขึ้นหอเพราะผมไม่รู้ว่าถุงยางที่มีจะหมดอายุไปแล้วรึยัง ช่วงนี้ไม่ได้ใช้นานก็ต้องซื้อใหม่ไปเลยดีกว่า

“รับอะไรดีครับ” เภสัชกรผู้ชายยิ้มรับทันทีที่ผมเดินเข้าไป

“ผมขอสอบถามได้ไหมครับว่าเอ่อ..ถ้ามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันต้องใช้ถุงยางประเภทไหน เพราะปรกติผมใช้แต่แบบบางสุด” ผมถามเภสัชกรออกไปตรงๆ โดยที่ไม่มีความเขินขาย คือไม่ใช่ว่าหน้าด้านอะไรนะครับแต่การที่เรารู้จักป้องกันและสอบถามผู้เชี่ยวชาญมันก็น่าจะปลอดภัยทั้งเราและคู่นอนของเรา

“พี่แนะนำเป็นแบบหนานะครับ ถ้าตอบตามหลักวิชาการการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักมันค่อนข้างที่จะได้รับการเสียดสีมากกว่าทางช่องคลอด ถ้าเอาแบบปลอดภัยกับทั้งสองฝ่ายพี่แนะนำแบบหนาน่าจะดีกว่า” ผมยืนเลือกถุงยางอนามัยตามที่พี่เภสัชบอก

“พี่ครับแล้วพวกน้ำยาหล่อลื่นละครับ” สายตาของผมเหลือบไปเห็นน้ำยาหล่อลื่นวางเรียงรายข้างๆ ถุงยางอนามัยซึ่งมันมีหลายยี่ห้อและผมคิดว่ามันต้องใช้ เพราะทางด้านหลังหรือทวารหนักไม่มีน้ำหล่อลื่นเหมือนของผู้หญิงดังนั้นผมควรซื้อติดไปดีกว่า

“แนะนำเป็นยี่ห้อที่วางขายเลยครับอันนี้สำหรับหล่อลื่นโดยเฉพาะ บางคนอาจจะคิดว่าใช้โลชั่นก็ได้ใช้น้ำมันทาตัวก็ได้ พี่บอกตรงนี้เลยนะครับว่าไม่ควร เช่น โลชั่นทาผิว น้ำมันพืช เพราะจะทำให้ถุงยางรั่วหรือแตกได้” ผมพยักหน้าตามคำแนะนำของพี่เภสัชก่อนจะหยิบเอาของที่เลือกมาวางไว้เพื่อชำระเงิน

“เท่าไหร่ครับพี่” ผมหยิบกระเป๋าเงินออกมาเตรียมจ่ายเงิน

“พี่ขออนุญาตแนะนำอีกอย่างนะครับถ้าเป็นครั้งแรกจะค่อนข้างเจ็บและเสียดบางทีอาจจะทำให้มีเลือดออกมาได้ พี่ว่าน้องควรซื้อยาแก้ปวดหรือยาทาแก้แผลถลอกไปด้วยดีกว่า อ่อ อีกอย่างคือร่างกายบางคนอาจจะไม่คุ้นชินอาจทำให้ไม่สบายได้พี่แนะนำเป็นยาลดไข้และเจลไปด้วยดีกว่า”

“งั้นพี่จัดมาเลยครับ ผมเอาหมดตามที่พี่แนะนำเลย” พี่เภสัชพยักหน้าและหันกลับไปเตรียมยาและของต่างๆ ที่เขาแนะนำผมในตอนแรก “พี่ครับผมขอถามอีกอย่างคือทั้งหมดนี่ปลอดภัยในระดับหนึ่งเลยใช่ไหมครับ”

“แน่นอนครับ พี่ขอชื่นชมนะที่น้องไม่อายที่จะถามเพราะบางคนมาถึงก็ซื้อๆ กลับมาซื้ออีกทีก็ซื้อไปผิดๆ มีเซ็กส์มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ที่น่าอายก็คือคนที่ไม่เซฟเซ็กส์”

“คมมากพี่ ไว้จะมาอุดหนุนอีกนะครับ” ผมจ่ายเงินเสร็จและนำของทุกอย่างออกมาจากร้านและตรงขึ้นห้องไปอย่างมีความสุข หวังว่าทั้งหมดที่ผมทำเด็กบื้อจะมีความสุขที่สุดเท่าที่ผู้ชายอย่างผมจะทำให้ได้นะครับ


Maruay’ s talk

ผมก้มมองถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นรวมถึงยาแก้ปวดต่างๆ ในมือพรางถอนหายใจและคิดกับตัวเองว่า คืนนี้ผมจะต้องเสียตัวแล้วใช่ไหม แต่เราไม่ได้เสียตัว..เราแค่มอบความสุขให้กับคนที่เรารัก ผมพยายามย้ำกับตัวเอง ในเมื่อผมรักเฮียบิ๊กสิ่งที่ผมจะสามารถทำให้เฮียได้ก็คือการมอบความสุขให้แก่กัน ผมเชื่อว่าเฮียบิ๊กไม่ใช่คนที่จะเอาความสุขเข้าตัวเองแค่ฝ่ายเดียวอย่างแน่นอน

ผมเปิดประตูห้องเข้ามาทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมแสดงว่าเฮียบิ๊กยังไม่กลับมาแน่ๆ งั้นตอนนี้ผมขออนุญาตไปอาบน้ำและชำระร่างกายให้สะอาดก่อนนะครับ

ซ่า

บิ๊กที่พึ่งกลับเข้ามายิ้มทันทีที่ได้ยินเสียงน้ำไหลในห้องแสดงว่าตอนนี้เด็กบื้อของเขากำลังอาบน้ำอยู่แน่ๆ ทำให้ตอนนี้บิ๊กรีบวางของทุกอย่างและถอดเสื้อผ้าเตรียมเข้าไปอาบน้ำพร้อมกับเด็กบื้อด้านใน

แกรก

บิ๊กยิ้มออกมาทันทีที่เขาหมุนลูกบิดเข้าไปในห้องน้ำได้อย่างง่ายดาย แสดงว่าเด็กบื้อเองก็แอบหวังให้เขามาอาบน้ำด้วยแบบนี้ไม่อย่างนั้นคงไม่ชี้โพรงให้กระรอกอย่างเขาแน่ๆ บิ๊กเดินเข้าไปด้านในห้องน้ำด้วยความเบาที่สุดและเห็นว่าตอนนี้มารวยกำลังอาบน้ำสระผมโดยหันหลังให้เขา ทำให้ตอนนี้สายตาของบิ๊กสะดุดเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่ดึงดูดสายตาของเขาสนไม่สามารถละออกไปได้ง่ายๆ ร่างกายของมารวยไม่ใช่ตัวผอมบางแต่ออกไปทางนักกีฬาเพียงแค่ว่าอาจจะดูตัวเล็กไปกว่าเขาเล็กน้อย ผิวสีแทนที่บ่งบอกว่าผ่านการออกแดดมาค่อนข้างเยอะทำให้เพิ่มเสน่ห์ดึงดูดมากยิ่งขึ้น บิ๊กรอบกลืนน้ำลายพร้อมกับขยับเข้าไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง ลมหายใจร้อนๆ เป่ารดอยู่ต้นคอทำให้คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าหันกลับมาด้วยความตกใจทันที

“เฮีย..มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมชะงักเล็กน้อยที่หันกลับไปและพบว่าเฮียบิ๊กยืนซ้อนอยู่ด้านหลังของผม ใบหน้าของเฮียบิ๊กแดงเล็กน้อยแต่สิ่งที่ทำให้ผมสะดุดตาคือ..นัยน์ตาของเฮียบิ๊กที่ไม่สามารถปิดบังความต้องการของตัวเองได้อีกต่อไป

“สักพักแล้วครับ” เฮียบิ๊กเอื้อมมือมาจับไหล่ของผมเบาๆ ก่อนจะออกแรงดึงให้ผมขยับเข้ามาใกล้เขามากยิ่งขึ้นจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

“อาบน้ำก่อนไหม” ผมพยายาควบคุมเสียงของตัวเองให้เป็นปรกติมากที่สุด ไม่อยากให้เฮียรู้ว่าผมกำลังตื่นเต้นและมีอารมณ์เมื่อหางตาของผมดันไปหยุดอยู่ที่อาวุธของเฮียที่กำลังขยายตัว อย่าว่าแต่ของเฮียเลยของผมเองก็ขยายตัวไม่แพ้กันเพียงแต่ว่าไม่ขยายสุดแล้วก็ไม่เท่าของเฮียก็เท่านั้น แอบเสียใจผมว่าครั้งหน้าผมต้องแอบไปซื้อน้ำมันจิ้งหรีดมาขยายของตัวเองให้เท่าเฮียบิ๊กดีกว่า มันคือศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายฆ่าได้หยามได้ถ้าใหญ่กว่า แฮร่!

“ขออนุญาตอาบให้แฟนนะครับ” เฮียบิ๊กก้มลงมากดจูบที่เนินไหล่ของผมเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปกดปั๊มสบู่เหลวที่วางอยู่ข้างๆ มาถูให้เป็นฟองก่อนที่จะชโลมบนตัวของผมเบาๆ ไล่ตั้งแต่ลำคอคงมายังหัวไหล่และวนอยู่ที่บริเวณหน้าอกของผม กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายและปลดปล่อยอารมณ์ให้เป็นธรรมชาติไม่ว่าเฮียบิ๊กจะสัมผัสส่วนไหนของผมก็ตาม “ถึงเฮียไม่มีสบู่ก้อนให้ก้มเก็บแต่เฮียก็ทำให้เราฟินได้นะครับ” จากที่หลับตาด้วยความฟินตอนนี้ผมลืมตาทันทีเพราะคำพูดเสี่ยวๆ ของเฮีย

“เฮียบิ๊กถ้าเฮียพูดเสี่ยวๆ ผมอาจจะหมดอารมณ์ก็ได้นะ”

“ถ้าอย่างนั้นปากเฮียต้องไม่ว่างใช่ไหมครับ?”

“ครับ”

“งั้น....ทำอะไรก็ได้ให้ปากเฮียไม่ว่างหน่อยซิครับเด็กบื้อ” ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไรให้ปากเฮียบิ๊กไม่ว่างสิ่งที่ผมคิดได้ตอนนี้แล้วไม่น่าจะแปลกคือการประกบจูบเฮียบิ๊กด้วยปากของผมแทน แค่นี้ก็ทำให้ปากเฮียไม่ว่างพูดจากเสี่ยวๆ แล้ว แต่เปลี่ยนเป็นเสียวแทน ผมลองเลียนแบบหนังที่เคยดูโดยการเลื่อนมือของตัวเองขึ้นมาลูบไล้และไล่ตามร่างกายของเฮียบิ๊ก ไม่ว่าจะลากไปยังบริเวณไหนส่วนนั้นของเฮียจะกระตุกรับทุกที ด้วยความที่ผมได้ใจยิ่งทำให้ผมสัมผัสมันมากขึ้นจนกระทั่งเฮียบิ๊กถอนริมฝีปากของออกจากผมช้าๆ

“ถ้าเรากระตุ้นแบบนี้...เฮียจะไม่ไหวแล้วนะครับ” เฮียบิ๊กจับมือของผมที่เล่นอยู่บริเวณส่วนนั้นของเขาออกและทำสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าเฮียบิ๊กจะกล้สทำแบบนี้...

“เฮีย....” เฮียบิ๊กคุกเข่าลงตรงหน้าผมพร้อมกับใช้มือของเขาจับเข้ามาที่มารวยน้อยของผมที่กำลังตื่นเต้นกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็มีแค่น้องอุ้มที่ทำให้ผมฟินแต่ครั้งนี้...เฮียบิ๊กให้มากมากกว่าน้องอุ้ม เพราะหลังจากที่เฮียใช้มือขยับไปมาจนได้ที่ เฮียบิ๊กเงยหน้าขึ้นมามองผมเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่ผมมั่นใจว่าทุกคนต้องไม่เคยเห็นและจินตนาการไม่ออก รอยยิ้มและสายตาของเฮียสื่อว่าจะรักและดูแลผมตลอดไป อารมณ์เหมือนผมกำลังถูกขอแต่งงานแต่...มันไม่ใช่แม้ว่าคุกเข่าเหมือนกันก็ตาม

“เฮียให้เราได้มากกว่านี้” สิ้นเสียงปากของเฮียบิ๊กค่อยๆ ครอบลงมาที่บริเวณส่วนนั้นของผมอย่างช้าๆ ทันทีที่ลิ้นของเฮียสัมผัสกับจุดอ่อนไหว ผมไม่สามารถที่จะยืนด้วยตัวเองได้อีกต่อไปมันให้ความรู้สึกเหมือนจะเป็นลม เป็นลมแห่งความปรารถนา

“เฮีย....” ผมใช้สองมือเกาะไหล่เฮียบิ๊กเพื่อให้สามารถทรงตัวต่อไปได้ โดยที่เฮียบิ๊กยังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิม ผมไม่รู้นะว่าเฮียบิ๊กทำได้อย่างไง แต่ผมว่ามันก็คงเหมือนกินไอศกรีมแท่ง ยามที่ลิ้นลากตามความยาวตัวของผมกระตุกอย่างที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ผมยอมรับเลยว่าอารมณ์ตอนนี้ผมมีความสุขเอามากๆ เลยแหละครับ อย่างนี้นี่เองที่เขาเรียกว่าฟิน

“ผมทำให้นะ” ผมถอยหลังออกมาเล็กน้อยก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าเฮียบิ๊ก ค่อยๆ ก้มหน้าลงไปยังบริเวณนั้นซึ่งเฮียบิ๊กเองอยู่ในท่าคุกเข่าอยู่เหมือนกัน เฮียบิ๊กโน้มตัวลงมาดูดเม้มที่ซอกคอของผม ซุกไซ้จนเขาเองพอใจ จังหวะที่ผมกำลังจะเงยหน้าออกจากส่วนนั้นเฮียบิ๊กกลับทิ้งตัวลงมาเอื้อมมือของเขามาบีบคลึงบริเวณบั้นท้ายของผมเบาๆ

“เจ็บบอกนะ” เฮียบิ๊กยังคงใช้สองมือบีบเค้นอยู่บริเวณบั้นท้ายของผมเบาๆ ก่อนที่จะใช้นิ้วมือของเฮียสอดแทรกเข้ามาบริเวณรอยแยก

“จูบก่อน” ปรกติผมไม่เคยขอเฮียบิ๊กจูบ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาปรกติทำให้ผมกล้าที่จะเอ่ยปากขอเฮียบิ๊กออกมาตรงๆ จังหวะที่ผมเอ่ยขอมือของเฮียบิ๊กชะงักจากส่วนของบั้นท้ายทันที

“ยั่วเฮียนะครับ...” มือใหญ่ของเฮียบิ๊กกุมใบหน้าของผมเอาไว้ก่อนจะโน้มหน้าลงมาจนจมูกของเราสองคนสัมผัสกันเบาๆ

“ไม่ให้ยั่วเฮียจะให้ผมไปยั่วใครละครับ”

“ปากดีแบบนี้ต้องกัดปากทำโทษ” เฮียบิ๊กกัดริมฝีปากของผมเบาๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บมากแต่ตรงกันข้ามมันเพิ่มความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทน มือของผมโอบรอบคอของเฮียบิ๊กเอาไว้ทันทีที่เฮียจู่โจมเป็นจูบที่ร้อนแรงบดเบียดร่างกายของเขาเข้ามาสัมผัสกับร่างกายของผม ห้องน้ำที่เคยเย็นสบายเวลานี้กลับร้อนเป็นไฟเพราะความร้อนแรงของเราสองคน ร่างกายของผู้ชายมันก็สามารถกระตุ้นอารมณ์ทางเพศไม่แพ้ร่างกายของผู้หญิงเลยครับ วันนี้ผมพิสูจน์แล้ว...

“ไปข้างนอกนะ” เฮียบิ๊กละริมฝีปากออกมาพูดกับผมก่อนจะก้มลงบดจูบเหมือนเดิมโดยใช้สองแขนแข็งแกรงอุ้มผมขึ้นจากพื้นห้องน้ำ ขาของผมเกี่ยวรอบตัวของเฮียบิ๊กโดยอัติโนมัติสองมือยังคงโอบรอบคอเอาไว้ไม่คลายออก จนกระทั่งเฮียบิ๊กค่อยๆ วางร่างของผมลงบนเตียง

“เฮีย..” ผมไม่รู้ว่าน้ำเสียงของผมมันออกมาโทนเสียงแบบไหนแต่ที่แน่ๆ สายตาของผมมันน่าจะบอกเฮียได้ชัดเจนแล้วว่าผมต้องการเฮียมากๆ

“แปบนะครับ” เฮียบิ๊กเดินเปลือยเปล่าไปที่ลิ้นชักโต๊ะก่อนจะหยิบเอาถุงร้านขายยาร้านเดียวกับที่ผมไปซื้อออกมา “อยากใส่ให้หรือให้เฮียใส่เอง” เฮียบิ๊กยกกล่องถุงยางขึ้นมา

“สักครั้งกับเฮียคงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ” ผมลงจากเตียงเดินเข้าไปหาพร้อมกับแย่งถุงยางจากมือเฮียบิ๊กก่อนจะใช้ปากกัดโดยที่สายตาของผมมองไปยังเฮียบิ๊กพยายามจะทำออกมาให้ดูเซ็กซี่มากที่สุดเท่าที่นักกีฬาฟุตบอลมหาวิทยาลัยจะทำได้

แควกกกกก

“......”

“......” เราสองคนต่างมองหน้ากันอยู่อย่างนั้นเมื่อผมกะระยะผิดไปเพราะฟันของผมฉีกเข้าที่เนื้อถุงยางจนมันโดนที่ฟันของผม

“เอาใหม่ก็ได้ครับ เฮียรู้เราเขิน” เฮียบิ๊กยิ้มปลอบใจพร้อมกับลูบศีรษะของผมเบาๆ “มืออย่าสั่นซิ”

“เฮียอย่าเร่งผม” ผมกัดใหม่อีกรอบแต่รอบนี้ไม่พลาดอย่างแน่นอนเพราะผมกัดระยะที่ไม่น่าจะโดนถุงยาง ถุงยางก่อนหน้านี้จะใช้ก็ได้นะครับเพราะมันไม่ขาดแต่ผมก็กลัวว่ามันจะถลุ ดังนั้นเอาอันใหม่ดีกว่าปลอดภัยไว้ก่อน หลังจากที่กัดถุงยางออกจากซองแล้วผมค่อยๆ ก้มลงอีกครั้งพร้อมกับใช้มือมือจับบริเวณอาวุธของเฮียถูมันเบาๆ จนได้ที่ก่อนจะค่อยๆ สวมลงไปอย่างช้าๆ แต่ยังไม่ถึงโคนผมกดบีบบริเวณส่วนหัวเอาไว้เพื่อไล่อากาศออก ศึกษามาดีครับว่าถ้าไล่อากาศออกจะทำให้ถุงยางมีโอกาสแตกน้อยลง

“เก่งมากครับเด็กดี” เฮียบิ๊กลูบศีรษะของผมเบาๆ หลังจากที่ผมสวมให้เฮียบิ๊กเสร็จ

“ผมอยากรุกเฮียบ้าง”

“ได้ดิ” ผมยิ้มออกมาทันทีที่เฮียบิ๊กตอบตกลง “แต่ต้องรอเดือนกุมภามีสามสิบวันก่อนนะแล้วเฮียจะไม่ขัด..อื้ม” เฮียบิ๊กใช้สองมือของเขาพยุงตัวผมให้ลุกขึ้นก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบผมอีกครั้ง บริเวณนั้นของเราสองคนเสียดสีกันจนผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัส

“อื้อ...เฮียบิ๊กครับ อื้ม” ผมทิ้งตัวลงจนหลังสัมผัสลงบนเตียงนุ่มๆ โดยมีเฮียบิ๊กตามลงมาประกบไม่ห่าง เราสองคนบดจูบกันอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งผมรับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่ดันอยู่บริเวณด้านล่างของผม

“เฮีย...ขออนุญาตเข้าไปในตัวเรานะครับเด็กบื้อ” ผมพยักหน้าตกลงก่อนจะหลับตาและผ่อนลมหายใจออกมาพยายามไม่เกร็งเมื่อรู้สึกอะไรบางอย่างที่พยายามดันเข้ามาด้านใน แม้จะไม่ใช่อาวุธของเฮียแต่มันก็ค่อนข้างใหญ่อยู่เหมือนกัน ผมแอบลืมตาขึ้นมาและเห็นว่าสิ่งนั้นคือนิ้วมือของเฮียบิ๊กที่สอดเข้ามาด้านในของผมเล็กน้อยขยับเข้าอยู่อย่างนั้น สัมผัสเย็นๆ ของเจลหล่อลื่นบวกกับการเสียดสีของนิ้วมือเฮียบิ๊กทำให้ผมหยุดครางออกมาอย่างลืมตัว

“ผมพร้อมแล้ว..” เฮียบิ๊กดึงนิ้วมือที่แช่อยู่ด้านในตัวของผมออกก่อนจะประคองอาวุธจ่อเข้ามาบริเวณด่านแรก ผมกัดปากตัวเองทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บขึ้นมาแปลกๆ ขนาดยังไม่เข้ายังรู้สึกเจ็บขนาดนี้ถ้าเข้าไปหมดผมไม่อยากจะคิดถึงตอนนั้นเลยครับ..

“ถ้าเจ็บกัดนิ้วเฮียนะครับ” เฮียบิ๊กใช้นิ้วมือลูบบริเวณริมฝีปากของผมเบาๆ “กัดมาเลยเฮียไม่เจ็บ เฮียรู้ว่าเราเจ็บมากกว่า” ผมอ้าปากออกและปล่อยให้นิ้วของเฮียบิ๊กสอดแทรกเข้ามาด้านในริมฝีปากของผม จากตอนแรกหวังว่าจะกัดเพื่อระบายอารมณ์แต่ตอนนี้ผมดันเลียนิ้วเฮียเพื่อระบายอารมณ์แทน

“อิตะดะคิมัส”

“ผมต้องพูดว่า อิรัชชัยมาสะไหมครับ...อื้มมมม”

“พูดว่า...โออิชิคูนาเนะ โมเอะโมเอะ บีมมมม” ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้ควรรู้สึกอย่างไรเมื่ออาวุธของเฮียเข้ามายังด่านสุดท้ายของผมเป็นที่เรียบร้อย ถามว่าเจ็บไหมก็เจ็บครับแต่ถ้าทุกคนเจอ อิตะดะคิมัสกับโออิชิคูนาเนะ โมเอะโมเอะ บีมของเฮียบิ๊กเข้าไปทุกคนจะลืมความเจ็บไปเลยครับ ผมยืนยันในส่วนนี้

“くせになるおいしさですね” และผมก็ไม่สามารถแปลได้ออกว่าเฮียบิ๊กพูดว่าอะไรเพราะหลังจากนั้นความเจ็บเข้ามาแทรกซึมทุกอณูเมื่อเฮียบิ๊กเริ่มขยับตัว....

“เฮีย....”

“เฮียรักเรานะมารวย”

“มารวยก็รักเฮียบิ๊กครับ....” บอกผมทีว่าสายตาตอนนี้ของเฮียบิ๊กตอนนี้สุขใจแค่ไหน ผมอยากบอกรักเป็นร้อยครั้งแต่แค่ครั้งเดียวผมก็เขินมากขนาดนี้.. เอาไว้ค่อยบอกอีกทีครั้งหน้าก็แล้วกัน

“บราโว” ไม่ใช่เสียงของผมแต่ทุกคนน่าจะรู้ว่าใคร...รักนี้หลากหลายภาษาเหลือเกินครับ


#ชอบNCแบบนี้ไหมอ่า ไรท์พยายามแล้วแต่ทำได้แค่นี้อ่ะตัวเองงงงง
#ส่วนอิพี่เข้าเมคค่าเฟ่ต์บ่อยเลยติดมาใช้กับแฟนเพื่อเพิ่มความอร่อย
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : Special (10/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 10-08-2019 11:11:32
 
Special : สัมภาษณ์สุด exclusive กับน้องบิ๊กจากซีรีส์สุดปัง “รักครั้งนี้ในคืนหมาหอน”

พราว : สวัสดีค่ะวันนี้ทางเราได้รับเกียรติจากน้องบิ๊ก ดาวรุ่งดวงใหม่ของค่ายดาวบ้านดอนนะคะซึ่งเป็นค่ายที่มีนักแสดงวัยรุ่นหน้าตาดีเป็นจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาทางนิตยสารพราวขออนุญาตเจาะลึกถึง lifestyle ของน้องบิ๊กกันเลยดีกว่า ขออนุญาตเชิญน้องบิ๊กแนะนำตัวเองเลยค่ะ

กล้องตัดภาพมาที่บิ๊กนั่งอยู่ที่พื้นของคาเฟต์แมวสุดชิคโดยมีเจ้าแมวเปอร์เซียร์หน้าหยิ่งนั่งอยู่บนตักของเขาเพื่อเสริมภาพลักษณ์เป็นผู้ชายรักสัตว์แต่ทางทีมงานหารู้ไม่ว่าบิ๊กแพ้ขนสัตว์โดยเฉพาะแมว แต่ด้วยสปีรีดของนักแสดงทำให้บิ๊กปั้นยิ้มให้เข้ากับลุครักสัตว์ให้มากที่สุด

บิ๊ก : สวัสดีครับผมบิ๊ก บริบทครับ หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ “โต้ง” พระเอกของซีรีส์เรื่องรักครั้งนี้ในคืนหมาหอนที่ได้มีโอกาสเล่นคู่กับน้องอชิครับ ยินดีมากที่ได้มาสัมพันธ์กับนิยาสารพราว

บิ๊กลุกขึ้นออกจากคาเฟ่ต์แมวโดยที่มีกล้องคอยจับภาพอยู่ ส่วนทีมงานของนิตยสารทำหน้าที่ในการเดินสัมภาษณ์ในบริบทเดินชมสิ่งของที่จัดแสดงโชว์ในห้าง

พราว : ช่วยเล่าถึงความประทับใจในการรับบทเป็นโต้งในซีรีส์หน่อยค่ะน้องบิ๊ก

บิ๊ก : ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าโต้งในเรื่องบุคลิกค่อนข้างขัดกับนิสัยจริงของผมอย่างมากเลย เพราะผมเนี่ยเป็นผู้ชายอ่อนโยน เรียบร้อย นิสัยดี แต่โต้งคือตรงกันข้าม ชนิดที่ว่าผมเองก็ไม่ค่อยชินกับนิสัยอันธพาล หยาบคาย อยากได้อะไรก็ต้องได้ ซึ่งชีวิตจริงผมแล้วผมค่อนข้างที่จะรักษาศีลห้ามากๆ เลยครับ

พราว : แต่น้องบิ๊กกำลังผิดศีลข้อสามนะคะ

บิ๊ก : ผมยังไม่ได้ฆ่าสัตว์เลยนะครับ

พราว : ฆ่าสัตว์นั่นข้อห้าค่ะน้องบิ๊ก น้องบิ๊กตลกจังเลยนะคะ

บิ๊ก : ผมว่านะครับพี่ตลกกับโง่มีเส้นบางๆ กั้นกันอยู่เล็กน้อย ส่วนผมน่าจะอยู่กลางๆ นั้นมีเสน่ห์ไปอีกแบบ

พราว : น้องบิ๊กไม่ได้โง่ค่ะ อาจจะแค่ไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องนี้สักเท่าไหร่

บิ๊ก : แต่ปลายทางคือโง่เหมือนกันนะครับพี่ / คิดในใจเหมือนกูโดนทีมงานหลอกด่าเลย

พราว : แล้วได้ร่วมงานกับน้องอชิเป็นอย่างไงบ้างคะ

บิ๊ก : ดีมากเลยครับน้องเขาเป็นงานมากกว่าผมเยอะ มีน้องอชิคอยช่วยแนะนำแล้วก็เข้าบททำให้ผมสามารถเล่นออกมาได้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น

พราว : ได้ข่าวว่ามีกระแสคู่จิ้น “บิ๊กชิ” เต็มโซเชียลเลยถึงขนาดที่แฟนๆ ทำป้ายไปติดตามแนวรถไฟฟ้า น้องบิ๊กรู้สึกอย่างไงบ้างคะ

บิ๊ก : ขออนุญาตพูดไม่สุภาพนะครับคือโคตรดีใจเลยที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ จากน้องๆ พี่ๆ แฟนคลับ แต่ที่เป็นกังวลคือไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อนในการโดเนทเงินสักเท่าไหร่อะครับผมเกรงใจ อีกอย่างเลยคือแค่ชอบผลงานของผมก็ดีใจมากๆ แล้วครับ

พราว : ถ้าปิดกล้องไปแล้วน้องบิ๊กยังสนใจงานในวงการบันเทิงอยู่รึเปล่าคะ

บิ๊ก : ก็ถ้ามีผู้ใหญ่ให้โอกาสเด็กผู้ชายตาดำอย่างผมก็ต้องขอรับไว้อย่างแน่นอนครับ

บิ๊กเดินเข้ามาด้านในโซนเสื้อผ้าแบรนด์ดังตามที่ทีมงานบรีฟก่อนจะหยิบเสื้อโคทสีครีมขึ้นมาทาบตัวและหันมาทางกล้อง

บิ๊ก : เหมาะกับผมไหมครับ ใส่แล้วดูเป็นผู้ชายเมืองหนาวเลย

พราว : ผู้ชายเมืองหนาว? พี่คิดถึงผลไม้เมืองหนาวเลยนะคะน้องบิ๊ก

บิ๊ก : ก็ไม่ต่างกันครับพี่ถ้าให้เปรียบเทียบผมก็คงจะเป็นสตอเบอร์รี่บนภูทับเบิกไม่หนาวมาก ลูกไม่ใหญ่ เปรี้ยวๆ อมหวาน เหมือนบิ๊กมากเลยครับ

พราว : แฟนๆ คงอยากจะชิมสตอเบอร์รี่ลูกนี้กันแล้วค่ะ น้องบิ๊กเล่นโฆษณาตัวเองขนาดนี้

บิ๊ก : คงต้องจองกันก่อนนะครับ เพราะว่าสตอเบอร์รี่ลูกนี้มีเจ้าของแล้ว :P เดี๋ยวผมไปลองชุดก่อนนะครับ เดี๋ยวใส่มาให้ชมกัน

บิ๊กเดินหายเข้าไปพร้อมกับชุดมากมายที่เลือกไประหว่างสัมภาษณ์ก่อนจะออกมาพร้อมกับชุดแรก Mix and Match เสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงยีนเข่าขาดตามกระแสนิยม โดยออกมาโพสท่าสองสามท่าก่อนจะเดินหายกลับเข้าไปเปลี่ยนเป็นสไตล์ที่สองที่ออกมาเสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงผ้าชิโน กางเกงผ้าชิโน เป็นกางเกงที่สวมใส่สบาย ใส่ง่าย สามารถใส่ได้ทั้งวันสบายๆ ลุค Casual หรือจะเป็นลุคกึ่งทางการก็ยังดูดี ส่วนลุคสุดท้ายสวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มด้านในมีโค้ทสีครีมสว่างด้านนอกพร้อมกับกางขาเต่อสุดชิค

บิ๊ก : เราจะออกไปเดินช้อปต่อด้วยลุคนี้ใช่ไหมครับพี่

พราว : ค่ะ ออกไปตามสไตล์หนุ่มเมืองหนาว น้องบิ๊กหิวหรือยังเอ่ยงั้นเราไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านสเตกกันดีกว่านะคะเพื่อเข้ากับลุควันนี้ของน้องบิ๊ก

บิ๊ก : หนุ่มเหนือไม่ได้ทานพวกแกงโฮะ ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม อย่างนั้นเหรอครับ

พราว : เหนือแบบผู้ดีลอนดอนอะคะน้องบิ๊ก

บิ๊ก : ทิ้งทายด้วยการไปนั่งจิบชากับมากอรองด้วยนะครับพี่

พราว : จัดไปเลยค่ะ

บิ๊กเดินล้วงกระเป๋าเข้าไปด้านในร้านที่เซ็ตเมนูหลากหลายไว้บนโต๊ะ บิ๊กเดินเข้าไปนั่งประจำที่พร้อมกับตัดเนื้อสเตกเข้าปากด้วยสีหน้ามีความสุข

บิ๊ก : อร่อยมากเลยครับเนื้อค่อนข้างนุ่มแล้วผมก็ชอบแบบมิเดียมๆ แบบนี้เลย จิบไวน์องุ่นเป็นอะไรที่เข้ามากเลยครับ

พราว : อยากทราบถึงสเปคในดวงใจของน้องบิ๊กหน่อยค่ะ

บิ๊ก : ผมไม่มีสเปคหรอกครับแค่เข้าใจกันก็ไปกันได้แล้ว อย่าง...ไม่บอกดีกว่าครับ ^^

พราว : น้องบิ๊กฝากผลงานหน่อยค่ะและก็ช่องทางติดต่อให้แฟนคลับได้เข้าไปติดตาม

บิ๊ก : ฝากผลงานซีรีส์เรื่องรักครั้งนี้ในคืนหมาหอนด้วยนะครับ ออนแอร์ทางไลน์ทีวีทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ ส่วนช่องทางติด BIG_BIGnarakอย่าแสดงเมลบนบอร์ด นะครับ ส่งเมลล์มาพูดคุยกันได้


ติ๊ด!

“เฮียสัมภาษณ์ได้เหี้ยมาก” บุ๊คกดปิดยูทูปทันทีที่จบคลิปก่อนจะหันมามองหน้าพี่ชายของตัวเองที่ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ

“เหี้ยตรงไหนตี๋”

“ตรงที่ให้อีเมลล์อ่ะ ถามจริงคิดอะไรอยู่วะตอนนั้น”

“ให้ตอบตามตรงคือเฮียจำชื่อเฟซชื่อไอจีไม่ได้จำได้แต่เมลล์ก็เหมือนกันแหละ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนส่งมาเยอะขนาดนี้นี่ตอบไม่หมดเลย” บิ๊กยื่นไอแพดที่เปิดหน้าเมลล์ค้างเอาไว้อยู่ให้น้องชายดู

“สงสารทีมงานฉิบหายเลยเฮีย แล้วไอ้ที่บอกว่ารักษาศีลห้าคือโชว์โง่ไปอีก ข้อสามไปถามเด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าพูดปลด” บุ๊คพูดออกมาอย่างหงุดหงิดกับบทสัมภาษณ์พี่ชายไม่หาย

“เด็กอนุบาลรู้แต่เด็กมหาลัยอย่างเฮียไม่รู้ ก็ตอบเท่ๆ ไปงั้นแหละ” บิ๊กไม่สนใจน้องชายของตัวเองแต่หันกลับมาตอบแฟนคลับด้วยท่าทางเมามันที่ได้มีโอกาสตอบแทน แม้จะเป็นเพียงแค่ตอบกลับข้อความเล็กๆ น้อยๆ แต่เขาก็อยากที่จะลงมือตอบเอง

“เฮีย...กลับไปเป็นวิศวะเหมือนเดิมเถอะ ผมว่ารุ่งกว่า”

“ก็อยากจะกลับอยู่ แต่พอดีความสามารถค่อนข้างเยอะเลยบริหารจัดการไม่ค่อยถูก”

“หมั่นไส้ฉิบหาย พี่ชายใครวะ”

“พี่ตี๋ไง น้องรัก^^”

“ขนตูดลุกซู่เลย”

#รักเฮียรีวิวให้เฮียด้วยได้เป่าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : Special (10/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 10-08-2019 17:43:12
เฮีย!!!แบบนี้ก็ได้หรอ..เฮียสายฮาและไม่เต็มมาก  :m20:

ชอบมารวยเวลานางไฝว้กับนางมารร้าย...ทันคนดี  o13

ตามต่อจ้า
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 15 (12/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 12-08-2019 20:00:05

บทที่ 15
น้องกับแฟนน้องกับแฟนน้องกับแฟน เฮีย....??

Maruay’ s talk

ตอนนี้ผมนอนมองเพดานอยู่อย่างนั้นหลังจากที่จบกิจกรรมไปเพียงแค่หนึ่งยก ส่วนเฮียบิ๊กหายเข้าไปในห้องน้ำเพราะอารมณ์ที่ค้างอยู่ ถามว่าสงสารไหมผมก็สงสารนะครับแต่ร่างกายผมไม่ไหวจริงๆ มันเจ็บเหมือนจะฉีกขาดออกมา แม้ว่าเฮียบิ๊กจะหลอกล่อความเจ็บด้วยความตลกแต่พอหายตลกก็เจ็บอยู่ดี

“เด็กบื้อครับ..” เฮียบิ๊กกลับออกมาพร้อมกับกะละมังใส่น้ำ “เฮียเช็ดตัวให้นะ เดี๋ยวมากินยากันไว้ก่อนนะ” ผมยันตัวลุกขึ้นมากินยาที่เฮียบิ๊กป้อน โชคดีที่ใช้ถุงยางไม่อย่างนั้นเหนอะหนะน่าดู

“ผมโอเคเฮียแค่รู้สึกเจ็บแล้วก็เพลียๆ นิดหน่อย ที่เหลือโอเคมาก”

“แกล้งๆ อ่อนแอหน่อยก็ได้นะอยากจะดูแล” เฮียบิ๊กทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ผมพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดตามร่างกายอันเปลือยเปล่าของผมด้วยความเบามือ

“เฮียทำให้ผมติดเฮียนะรู้ไหม”

“รู้ ก็ทำให้ติดอยู่นี่ไง” เฮียบิ๊กพูดพร้อมกับตั้งใจเช็ดตัวผมไปด้วย “กำลังกังวลอะไรอยู่เหรอครับ”

“ผมแค่คิดว่าถ้าวันหนึ่งเฮียทิ้งผมไป....” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบเฮียบิ๊กกลับใช้นิ้วมือของเขามาแตะที่ริมฝีปากของผมไว้เบาๆ
 
“ไม่มีวันนั้นแน่นอน นอกจากเราจะเป็นฝ่ายทิ้งเฮียไป”

“จะคอยดูนะเฮีย” ผมทิ้งตัวลงนอนด้วยความเพลียและหลับลงไปในที่สุด

เฮียบิ๊กครับผมมีความสุขที่สุดในโลกเลย......^^


Book’ s talk

“มึงโอเคไหม?” ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าห้องของเฮียบิ๊กเพราะต้องการพิสูจน์ใจตัวเองโดยมีไอ้เวรนี่ขึ้นมาเป็นเพื่อนและอ้างกับมันว่าจะมาเอาของที่ห้อง ผมภาวนาว่าอย่าให้เฮียบิ๊กได้ยินไม่อย่างนั้นจบเฮแน่ และสิ่งที่ผมภาวนาก็เป็นจริงเพราะทันทีที่เข้ามาด้านในเสียงของเฮียบิ๊กและเพื่อนรักของผมกำลัง..มีความสุขกันอยู่ ในฐานะน้องชายและเพื่อนสนิทผมควรจะดีใจอย่างนั้นใช่ไหมครับ นี่ก็คงเป็นอีกผลที่ผมเลือกที่จะไม่นอนที่ห้องแต่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ผมเลือกที่จะกลับมา

“โอดิ ทำไมกูต้องไม่โอเคด้วย” ผมพึ่งเข้าใจก็วันนี้ว่าอาการล้มทั้งยืนมันเป็นอย่างไร มันเหมือนว่าความเข้มแข็งก่อนหน้าของผมมันได้พังทลายลงเมื่อได้มารับรู้สิ่งที่มันประจักษ์อยู่แล้ว ผมมันเป็นพวกโรคจิตครับเมื่อเจ็บแม่งก็ต้องเจ็บให้สุด ต้องมาตอกย้ำแบบนี้ให้มันบอบช้ำกันไปเลย

“งั้นบอกกูทีว่าน้ำตามึงไหลออกมาทำไม”

“.....” ผมไม่มีคำตอบให้ทั้งๆ ที่มันเป็นเพียงแค่คำถามไม่ยาก สายตาของผมมองประตูห้องของเฮีย ด้านในมันคงตลบอบอวลไปด้วยความรัก ผมไม่โทษทั้งเฮียและไอ้รวยถ้าจะโทษก็คงโทษที่ตัวเองปล่อยให้เวลามันเลยมาขนาดนี้ จนมันสายเกินไป ยิ่งเทียบกันแล้วความรักที่เฮียบิ๊กมีให้ไอ้รวยสิ่งที่ผมทำมันไม่สามารถเทียบกันได้เลย

“กูให้ยืมอกนะถ้าอยากกอด”

“เอากองไว้ตรงนั้น พอดีว่ากูยังไม่อยากกอด” ผมยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะตรงไปที่ห้องของตัวเองและหยิบของที่อ้างว่าจะมาเอา ผมมันเป็นโรคจิตครับอยากมาให้เห็นอยากมาให้ได้ยินเผื่อว่าความรู้สึกเหี้ยๆ จะได้หายออกไปจากหัวใจของผมสักที

หมับ!

“พอดีว่ากูดื้อ” ผมถูกไอ้เวรนั่นดึงเข้าไปกอดก่อนที่มันจะกดหัวของผมให้ซบลงบนไหล่มัน น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วกลับไหลออกมาอีกครั้ง เหี้ยเอ้ย! ผมไม่เคยอ่อนแอขนาดนี้ “ขอแค่กูได้อยู่ข้างมึงตอนร้องไห้ก็พอแล้ว”

“มึงไม่เจ็บเหรอวะ”

“เจ็บแต่ตอนนี้ไม่เจ็บแล้ว กูรู้ว่าถ้ากูยังรักต่อไปกูเองที่จะต้องเป็นฝ่ายเจ็บส่วนรวยเองก็จะต้องลำบากใจ” มือของมันลูบหลังของผมเบาๆ

“กูอยากเลิกรักมันง่ายๆ เหมือนอย่างมึงจัง”

“มันไม่ง่ายแต่มันก็ไม่อยาก บุ๊คน้ำตามันไม่เหมาะกับมึงจริงๆ กูชอบตอนที่มึงด่ากูมากกว่าตอนที่มึงร้องไห้ออกมาแบบนี้” มันค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกจากผมเบาๆ ก่อนจะยื่นมือสากๆ ของมันมาซับน้ำตาให้ผมอย่างช้าๆ ยิ่งซับผมก็ยิ่งร้อง อารมณ์นางเอกละครสัดๆ เลย ถ้าเป็นปรกติผมคงต่อยมันที่บังอาจมาแตะต้องตัวผมแต่ตอนนี้ไม่ปรกติผมเลยปล่อยให้เลยตามเลยแบบนี้ จะว่าไปมีคนคอยเช็ดน้ำให้มันก็ดีไปอีกแบบ

“กู....”

“แต่ถ้ามึงร้องไห้เพราะกู กูจะเจ็บมากกว่านี้”

“มันจะไม่มีวันนั้น” ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและผมเองค่อนข้างมั่นใจว่าระหว่างผมกับมันถ้าไม่นับเรื่องร่างกายก็ไม่มีอะไรที่จะต้องผูกพันกัน..และผมก็จะไม่มีวันร้องไห้

“แต่ถ้ามีวันนั้น..ถ้ามึงร้องไห้เพราะกู กูขอเช็ดน้ำตาของมึงด้วยมือของกูนะบุ๊ค”

“......” มันคงไม่มีวันนั้นครับ

“เปลี่ยนจากรวยมาเป็นกูไม่ได้เหรอวะบุ๊ค?”
 
“แต่เรื่องของเรามันไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก..อีกอย่างมึงก็ไม่ได้รักกู”

“แต่กูเชื่อว่าสักวันกูจะรักมึงได้นะบุ๊ค”

“มึงกับกูต้องลืมไอ้รวยให้ได้ก่อนกูยอมรับว่าตอนนี้กูยังรักไอ้รวยอยู่ แล้วค่อยมาคุยกัน” เพราะตอนนี้ผมก็ยังไม่สามารถตัดใจจากไอ้รวยได้เลย

‘เฮียให้ตี๋ได้ทุกอย่าง เฮียรักตี๋ที่สุดเลยนะ’

ผมนึกถึงคำพูดที่เฮียบิ๊กเคยพูดกับผมในหลายๆ ครั้งที่ผมเอาแต่ใจหรือคิดว่าม้ารักเฮียมากกว่า เฮียบิ๊กจะเดินเข้ามาและกอดผมพร้อมกับคำพูดพวกนี้ เฮียไม่ได้ดีแต่พูดแต่เฮียทำด้วยเฮียทำทุกอย่างเหมือนอย่างที่พูดไว้กับผมเสมอ เฮียบิ๊กผมขอโทษผมจะจัดการความรู้สึกนี้ให้เร็วที่สุด เฮียจะต้องไม่รู้เรื่องนี้ เฮียจะไม่ต้องมาเห็นใจหรือสงสารผมเพราะถึงอย่างไรไอ้รวยมันก็ไม่มีทางหันมาชอบผมแน่ๆ แม้ว่าเฮียจะเสียสละ เฮียจะต้องไม่ลำบากใจเพราะผม ผมสัญญา...


BIG’ s talk

ผมก้มลงจูบหน้าผากของเด็กบื้อหลังจากที่เด็กบื้อหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า ผมก็พอจะรู้ว่าเจ็บแต่มารวยก็คือมารวยอ่ะครับไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาให้ผมได้เห็น ผมอยากจะดูแลอยากจะกอดโอ๋เรียกง่ายๆ ว่าอยากสปอยแฟน แต่แฟนก็ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้สปอยเลย ไม่เป็นไรครับเวลายังมีอีกเยอะผมจะสปอยให้นักเลย จนคนอื่นอิจฉาว่าทำไมเด็กบื้อมีแฟนดีขนาดนี้

‘พี่บิ๊กนอนหรือยังครับ’

ผมก้มลงมองในโทรศัพท์มือถือที่อยู่ๆ มีข้อความจากเบอร์แปลกส่งมา แล้วคนที่เรียกผมว่าพี่ก็มีไม่กี่คน เดาไม่อยากน่าจะเป็นอชิ ผมไม่รู้นะว่าทำไมอชิถึงเข้ามาตีสนิทกับผมทั้งๆ ที่ท่าทางของเขาน่าจะเข้าถึงยาก แต่ถ้าการเข้ามาของเขาทำให้ผมกับเด็กบื้อต้องมีปัญหากันผมคงต้องกันท่าเอาไว้ก่อน ข้อความนี้ขออนุญาตไม่ตอบเพราะผมรับบทเป็นพระเอกรักแฟนมาก ขณะที่ผมกำลังจะล้มตัวนอนผมได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกันอยู่ด้านนอก หรือว่าตี๋จะกลับมาแต่...ถ้าตี๋กลับมาแล้วใครที่คุยกับตี๋ ด้วยความสงสัยทำให้ผมลุกขึ้นจากเตียงและเดินออกมาจากห้องนอนทางห้องน้ำที่มีอีกประตูเชื่อมเอาไว้ เพราะผมไม่อยากให้ตี๋รู้ว่าผมกำลังจะแอบดูเดี๋ยวน้องจะเขินเผื่อพาใครมาทำอะไรที่ห้องคริคริ พี่ชายที่แสนดีก็เอียบิ๊กคนนี้แหละครับ

“มึงกับกูต้องลืมไอ้รวยให้ได้ก่อนกูยอมรับว่าตอนนี้กูยังรักไอ้รวยอยู่ แล้วค่อยมาคุยกัน” จากอารมณ์ดีเมื่อสักครู่อยู่ๆ ตัวของผมก็ชาเหมือนโดนน้ำร้อนสาด ไม่เอาครับบิ๊ก บิ๊กจะมาตลกตอนดราม่าไม่ได้ เอาใหม่ หนึ่ง สอง สาม สี่ เริ่ม!


ผมยืนมองน้องชายของตัวเองด้วยความรู้สึกหลากหลาย ผมได้ยินบทสนทนาของบุ๊คกับใครบางคนในช่วงท้าย ตี๋คงไม่ทันได้เห็นเพราะผมใช้ประตูเชื่อมทางห้องน้ำออกมา แต่ใครจะรู้ว่าจังหวะที่ผมออกมานั้นผมจะได้ยินน้องชายผมบอกรักแฟนผมอยู่..

ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไงก็คงช็อกมั้งครับเพราะผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าตี๋จะมีใจหรือรักเด็กบื้อของผมมากกว่าคำว่าเพื่อน อยู่ๆ คำของเด็กบื้อที่เคยพูดกับผมมันย้อนกลับขึ้นมาในตอนนี้

‘ผมไม่อยากให้เฮียมาทะเลาะกับคนในครอบครัวแต่ถ้าต้องทะเลาะเพราะผม...อย่าลังเลที่จะเลือกครอบครัวนะครับ’

มันจะเห็นแก่ตัวไปไหมถ้าเกิดว่าผมไม่อยากทำตามคำที่เด็กบื้อเคยบอก ผมรักเด็กบื้อไปแล้วทั้งหัวใจ แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่รักตี๋ผมเองก็รักตี๋มากรักมากกว่าชีวิตของผมเอง ความรักทั้งสองรูปแบบมันไม่เหมือนกันแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องเลือกว่าควรเก็บรูปแบบไหนไว้ สิ่งที่ผมคิดตอนนี้คือผมควรทำอย่างไรกับความรู้สึกที่น้องชายของผมเสียไปผมควรเยียวยาน้องชายของผมอย่างไรเพราะที่ผ่านมา...ผมแสดงออกกับเด็กบื้อต่อหน้าตี๋ตั้งหลายครั้ง ถ้าผมเอาตัวเองไปเป็นตี๋แล้วต้องฝืนใจมองดูคนที่เรารักไปรักกับคนอื่นโดยคนนั้นเป็นพี่ชาย ผมยอมรับเลยว่าเจ็บมาก ผมไม่เคยคิดถึงตอนนั้นเลยเพราะเหตุผลเดียวคือผมไม่รู้ ผมไม่โทษตี๋ว่าทำไมตี๋ถึงไม่บอกเพราะถ้าเป็นผม ผมก็จะไม่บอกเหมือนกัน

‘เฮียบิ๊กผมไม่กินผักเฮียกินให้ผมหน่อยดิเดี๋ยวม้าตี’

‘เฮียบิ๊กเกมเพลย์เฮียผมขอนะ’

‘ฮื่อๆ ๆ เฮียบิ๊กผมโดนเพื่อนแกล้ง..เฮียไปต่อยมันให้หน่อย’

‘เฮีย...ทำไมม้ารักเฮียมากกว่า ทำไมใครๆ ต้องรักเฮียมากกว่าด้วย’

ผมนึกย้อนไปในช่วงชีวิตที่ผ่านมา..ตี๋เป็นน้องชายที่ห่างกับผมแค่ปีเดียวเรียกได้ว่าแทบจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า แต่ด้วยความที่ป๊าปลูกฝังมาแต่เด็กว่าเป็นพี่ต้องรักและเสียสละให้น้อง เป็นพี่ต้องรักน้องให้มากๆ ผมทำตามที่ป๊ากับม๊าสอนทุกอย่าง ผมยอมรับเลยว่าผมสปอยตี๋มาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งตอนนี้ ตี๋อยากได้อะไรผมก็หามาให้ ตี๋โดนใครทำร้ายผมก็ไปจัดการให้ทุกครั้ง ทุกคนอาจจะคิดว่าตี๋เป็นเด็กเอาแต่ใจใช่ไหมครับแต่เปล่าเลย ตี๋คือน้องชายที่ดีที่สุดสำหรับผม

‘เฮียบิ๊กถ้าเฮียบิ๊กกินผักให้ ผมจะแถมลูกชิ้นให้เฮียอีกสองลูก’

‘เฮียให้เกมเพลย์ผม งั้นเฮียเอากันดั้มผมไป’

‘เฮียโดนมันต่อยกลับเหรอ? ผมสัญญาว่าครั้งหน้าจะไม่ให้เฮียเดือดร้อนแบบนี้ ผมขอโทษ’

‘ถึงม้าจะรักเฮียมากกว่าก็ไม่เป็นไร...เพราะผมมีเฮียที่รักผมมากที่สุด’

แต่ครั้งนี้เฮีย..ปล่อยเด็กบื้อไปไม่ได้จริงๆ ช่วยบอกเฮียทีว่าเฮียควรทำอย่างไรเพราะที่ผ่านมาเฮียไม่รู้...ถ้าเฮียรู้ เฮียก็ยืนยันว่าเฮียจะรักมารวยเหมือนเดิม

เฮียขอโทษ....

#เฮียบิ๊กควรทำอย่างไรต่อไป
กด 1 แกล้งโง่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ไม่รับรู้ ไม่ได้ยิน ไม่สนใจ แต่เก็บเอาไว้ในใจคนเดียว
กด 2 ไปคุยกับบุ๊คตรงๆ
กด 3 เป็นพระเอก เลิกกับมารวยเพื่อเสียสละให้น้อง
กด 4 เป็นเอ๋อ
มาลุ้นตอนหน้ากันนะว่าเฮียบิ๊กจะทำตามข้อไหนนนนนนนน ทุกคนสามารถโหวตให้เฮียบิ๊กทำได้ทุกอย่างเลยจ้าา
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 15 (12/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-08-2019 03:15:36
 ข้อสี่จ้า
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 16 (13/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 13-08-2019 20:57:23

บทที่ 16
เคลียร์เอยเคลียร์ใจ

โครม!!

ด้วยความที่ผมไม่มีสติสักเท่าไหร่รวมถึงสมาธิด้วยทำให้ผมเผลอชนของแถวๆ นั้นจนเกิดเสียงดังทำให้ตี๋ที่ยืนอยู่ตรงข้ามหันมามองหน้าผมด้วยสายตาเจ็บปวด..สายตาที่ดูก็รู้ว่าตี๋กำลังโทษตัวเอง ผมไม่อยากให้น้องชายรู้สึกอย่างนั้นแม้ว่าข้างในผมเองก็เจ็บไม่ต่างกัน ผมจึงเลือกทำในสิ่งที่พี่ชายควรจะทำนั่นคือ...

“ที่นี่ที่ไหนใช่ที่รักหรือเปล่าน้า” ผมแกล้งหันไปทางอื่นและทำเหมือนว่าไม่เห็นตี๋ เรียกง่ายๆ ว่าผมแกล้งละเมอไปนั่นแหละครับ ถึงจะรู้ว่าไม่เนียนแต่สถานการณ์มันน่าจะดีขึ้นกว่าการที่ปล่อยให้เงียบทั้งสองฝ่าย

“เฮีย?” ตี๋เรียกผมเสียงสั่นแต่ผมเองก็ทำเป็นเดินโซซัดโซเซไปเรื่อยๆ พยายามไม่โฟกัสว่าตี๋กำลังทำหน้าอย่างไร แต่อยู่ๆ ตัวของผมกลับถูกตี๋เข้ามากอดทางด้านหลัง...

“เฮีย..ผมขอโทษ” ตี๋ซบหน้าลงไหล่ของผม ทำไมผมจะไม่รู้ว่าตอนนี้ตี๋กำลังร้องไห้แม้ว่าตี๋จะพยายามสะกดกลั้นแค่ไหน ผมโคตรเจ็บเลยครับ...แต่ต้องทำเนียนต่อไป

“อยากกินข้าวมันไก่จัง ข้าวมันไก่จ๋ามาหาเฮียบิ๊กเร็ว” ผมยังคงพูดเพ้อเจ้อออกมาต่อโดยที่มีตี๋กอดผมอยู่เหมือนเดิมไม่ยอมปล่อยไปไหน

“เฮียอย่ามาตลกทั้งๆ ที่เฮีย...กำลังร้องไห้” ว้า...ผมถูกจับได้ซะแล้วหละครับ

“ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตา ฉันไม่ได้ร้องไห้...” ขออนุญาตยืมเพลงของอะตอมมาก่อนนะ ตอนนี้หัวสมองของผมคิดมุกไม่ทันจริงๆ

“เฮียบิ๊กผมขอโทษ ขอโทษที่รู้สึกแบบนี้กับแฟนเฮีย ทั้งๆ ที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น”

“ตี๋...” เอาหละถึงเวลาที่ผมควรหันมาคุยกับตี๋ดีๆ สักทีเดี๋ยวน้องชายของผมมันจะโมโห “เราไปคุยกันดีๆ เถอะ”

“ผมคุยดีตั้งนานแล้วมีแต่เฮียนั่นแหละเล่นเหี้ยอะไรไม่รู้” ผมเผลอยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ตี๋พึ่งด่าผมว่าเหี้ยไป แต่ไม่เป็นไรครับพี่ชายที่ดีห้ามโกรธน้อง

“มาเคลียร์เอยเคลียร์ใจกันเถอะน้องรัก” ผมเดินนำตี๋มานั่งที่โซฟาแต่แล้วสายตาผมดันเหลือบไปเห็นใครอีกคนที่เวลานี้ผมสามารถมองเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน

“มึง?” ผมชี้ไปที่หน้าไอ้ผู้ชายคนนั้นคนที่ผมเคยมีเรื่องด้วย อย่าบอกนะว่านี่คือเพื่อนของตี๋แล้วตี๋ดันชอบเด็กบื้อแล้วไอ้เวรนี่ก็ชอบเด็กบื้อของผมเหมือนกัน...ผมสับหมู เอ้ย! สับสนจังครับใครก็ได้ช่วยเรียกสติให้ผมที

“มึงกลับไปก่อน” ตี๋ออกปากไล่ทำให้ไอ้เวรนั่นหยักหน้านิ่งๆ ก่อนจะยกมือไหว้ผมลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องของผมไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น?

“มันเป็นเพื่อนตี๋? แต่ตี๋เคยบอกเฮียว่าไม่ชอบมันไม่ใช่เหรอแล้วเอามันมาที่นี่ทำไม อย่าบอกนะว่าเพื่อนที่ไปนอนห้องด้วยคือมัน?”

“เฮียเราอย่าพึ่งพูดเรื่องอื่นเลย”

“มันไม่ใช่เรื่องอื่นมันคือเรื่องของตี๋”

“นั่นแหละ เรามาคุยเรื่องไอ้รวยก่อนนะเฮียเอาทีละเรื่องสัญญาว่าจะตอบทุกอย่าง” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเริ่มเข้าโหมตจริงจังอีกครั้ง

“เฮียขอโทษที่เฮียทำอะไรให้ตี๋เจ็บตั้งหลายครั้งโดยที่ไม่ตั้งใจ”

“เฮียไม่ต้องขอโทษหรอกเพราะผมรู้ว่าเฮียไม่ได้ตั้งใจเฮียไม่รู้ว่าผมคิดกับมันเกินเพื่อน ตามจริงเรื่องนี้ผมควรเป็นคนขอโทษมากกว่าผมไม่ควรที่จะรู้สึกกับมันแบบนี้ทั้งๆ ที่มันเป็นเพื่อนที่โคตรดีของผม”

“เราจะบอกรวยไหม”

“มันต้องไม่รู้” ผมเองก็ตามใจตี๋ครับถ้าตี๋อยากบอกให้เด็กบื้อรับรู้ผมก็ค่อนข้างที่จะโอเคผมถ้าเป็นผม ผมคงเลือกที่จะบอกเพราะไม่อยากอึดอัดไม่อยากเก็บเอาไว้ในใจ

“เฮียสบายใจได้ถึงตอนนี้ผมจะยังตัดใจไม่ได้แต่ผมกับมันอย่างไงก็ไม่มีทางรักกัน ดูก็รู้ว่าหลงเฮียฉิบหายหมั่นไส้เพื่อนแรด”
 
“เฮียก็ไม่สบายใจเพราะกลัวว่าตี๋จะรู้สึกไม่ดี ต่อไปนี้เฮียจะระวังตัวมากขึ้นนะ” ผมเลื่อนมือไปกุมมือตี๋แต่ตี๋กลับสะบัดมือผมออกอย่างไม่ไยดี

“เฮียอย่ามาจับขนลุกฉิบหาย”

“ตี๋ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ”

“ผมต้องขอบคุณเฮียมากกว่าสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ไม่อยากจะอวยนะแต่เฮียเป็นพี่ที่ดีที่สุดสำหรับผม” ผมมองหน้าน้องชายของตัวเองด้วยความรู้สึกที่หลากหลายมันตื้นตันใจอะครับเหมือนกำลังถูกลูกชายเกเรบอกรักแม้มันจะดูห่ามก็เถอะ

“เฮียดีใจจริงๆ ขอกอดที” ผมไม่สนใจว่าตี๋จะขัดขืนหรือไม่เพราะตอนนี้ผมดึงน้องชายเข้ามากอดเพื่อมอบความรักที่มีส่งไปให้ถึง

“เฮียล่าสุดเรากอดกันตอนไหนนะ”

“ห้าหกขวบมั้ง ตี๋ชอบไม่ให้เฮียกอด”

“ก็เฮียชอบทำอะไรเวอร์ๆ หนิหว่า” เราสองคนค่อยๆ ผลักออกจากกันหลังจากที่ผมรู้สึกพอใจในอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นนี้ กอดใดเล่าจะอุ่นเท่ากอดเฮียบิ๊ก

“เราเคลียร์เอยเคลียร์ใจกันแล้วเนอะ”

“เออ คืนนี้นอนนี่ก็แล้วกัน...อีกอย่างถ้าไอ้รวยตื่นมาเฮียก็ให้มันกินยาแก้อักเสบไว้หละ ครั้งแรกมันน่าจะเจ็บ” ก่อนที่ตี๋จะเดินเข้าห้องตัวเองตี๋หันมาบอกผมด้วยสายตาจริงจังเหมือนว่าตี๋เคยผ่านมาก่อนมันทำให้ผมรู้สึกสงสัยอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากถามตี๋กลับปิดประตูใส่ทำให้ผมไม่ได้ถาม แต่เอาเถอะครับแค่เราสองคนเคลียร์กันได้ผมก็โล่งอกแล้ว

ผมอยากมีความสุขที่ทุกอย่างมันลงเอยแบบนี้....แต่มันยังมีอีกเรื่องที่ผมกังวล


Maruay’ s talk

“เป็นตาฮักปานนี่ให้เคอรี่มาส่งได้บ่ สั่งซื้อไสหนอ ยี่ห้ออีหยัง.......” และสิ่งที่ทำให้ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในเวลาสายของวันคือเสียงร้องเพลงของเฮียบิ๊กพร้อมกับทำนองเพลงที่เปิดคลอไปด้วยเบาๆ ผมควรรู้สึกดีใจใช่ไหมครับที่ตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงเพลงในการเริ่มต้นของวัน

“เฮีย?”

“อ่าว ตื่นแล้วเหรอ ขอวัดไข้หน่อยนะครับ” แน่นอนว่าการวัดไข้ของเฮียบิ๊กไม่ธรรมดาเหมือนปรกติเพราะเฮียบิ๊กสอดมือเข้ามาในกางเกงนอนของผมพร้อมกับใช้มือจับที่มารวยน้อยเบาๆ “ตื่นจริงๆ ด้วย ไข้ลดลงเยอะเลย”

“ถามจริงนะเฮียใครสอนเฮียวัดไข้แบบนี้”

“นึกสนุกอยากทำเองเลยจับ ไม่ได้มีมาตรฐานอะไรหรอก มาวัดของจริงดีกว่า” เฮียบิ๊กเอื้อมไปหยิบปรอทวัดไข้ที่ผมไม่เคยเห็นในห้องมาก่อนสงสัยจะไปซื้อมาพร้อมกับเซ็ทยาเมื่อคืนแน่ๆ ถือว่าเตรียมตัวมาดีครับ “อันนี้ลดของจริง แต่กินยากันไว้อีกหน่อยดีกว่าเนอะ ส่วนนี่ยาแก้อักเสบกินเผื่อไว้ก็ได้”

“แล้ววันนี้ต้องไปเรียนการแสดงไหมอะครับ”  ผมนึกได้จึงถามเฮียบิ๊กออกมาเพราะอย่างที่เคยบอกไปครับว่าช่วงนี้เฮียบิ๊กต้องไปเรียนการแสดงค่อนข้างบ่อยเรียกได้ว่าเกือบทั้งวันเลยครับ

“เรียนครับแต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้ขอทำหน้าที่ดูแลแฟนก่อน เฮียวิ่งแบบพี่ตูนไปซื้อโจ๊กมาให้เราเลยนะ ว่าแต่มารวยครับ” อยู่ๆ เฮียบิ๊กเรียกผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ครับ?”

“เฮียรังแกเราไปเมื่อคืน เฮีย...อยากรับผิดชอบเรามากกว่า”

“หื้ม? อย่างไงครับเฮีย ถ้าบอกว่าจะขอผมแต่งงานผมถีบเฮียกระเด็นเลยนะ”

“โหดมากแม่ ก็อยากแต่งแหละงานอะ แต่เฮียกับเรายังเรียนไม่จบมีหวังป๊ากับม้าเฮียเอาตายแน่ที่บังอาจเบียดก่อนบวช แต่ที่จะบอกคืออยากพาเราไปหาป๊ากับม้าอยากไปแนะนำให้เป็นทางการเพื่อยืนยันว่าเฮียจะไม่ทอดทิ้งเรา ด้วยเกียรติของลูกเสือ” เฮียบิ๊กยกขึ้นสามนิ้ว “แล้วก็ถ้าไม่ว่าอะไรเฮียก็อยากไปหาพ่อกับแม่ของเราด้วยนะมารวย”

“เฮียจริงจังกับผมจริงๆ เหรอครับ”

“ถ้าไม่จริงจังตื่นขึ้นมาเราคงไม่เห็นเฮียนั่งอยู่ตรงนี้อะครับ” เฮียบิ๊กพูดพร้อมกับยกชามโจ๊กขึ้นมาและตักป้อนให้ผมทีละคำ ตามจริงก็กินได้แต่เห็นถึงความตั้งใจจะทำเป็นไม่พูดไม่ขัดก็แล้วกัน

“ไว้ผมถามพ่อกับแม่ก่อนนะครับ ส่วนป๊ากับม้าเฮียผมโอเคถ้าจะไปวันไหนก็บอกล่วงหน้านะครับ แต่ช่วงนี้ผมเอาเฝือกออกแล้วอาจจะกลับไปซ้อมเหมือนเดิมพี่ๆ ก็ไลน์ตามทุกวัน”

“บอกตามตรงว่าไม่อยากให้ไปเลย อย่ามองหน้าแบบนั้นเฮียหมายถึงเฮียไว้ใจเราแต่เฮียไม่ไว้ใจมัน อีกอย่างเฮียก็ไม่ค่อยมีเวลาอยากไปนั่งเฝ้าทุกวัน แต่...ก็ทำไม่ได้”

“กลับมาก็เจอกันทุกวันนะเฮีย”

“แต่ก็หลับทั้งคู่เฮียไม่อยากรบกวนเรา สัญญากับเฮียได้ไหมว่าถ้าไม่มีเวลาอย่าออกไปหาเวลาอื่นนอกจากเฮียนะครับ” เฮียบิ๊กยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าผมพร้อมกับสายตาอ้อนวอน “นะครับ นะครับ”

“ครับ” ผมยื่นนิ้วก้อยของตัวเองไปเกี่ยวกับเฮียบิ๊กและรับปากตบคำสัญญาตามที่เฮียต้องการ “อย่าไปหลงกลนายเอกของพี่นะ ยิ่งน่ารักๆ อยู่ด้วย”

“น่ารักอย่างไงก็ไม่เท่ามารวยของเฮียบิ๊กหรอกครับ น่ารักที่สุดเลย” เฮียบิ๊กหอมแก้มของผมแรงๆ ก่อนจะผลักออกมาและจัดการป้อนโจ๊กผมต่อ เราสองคนใช้เวลาที่เหลือก่อนที่เฮียจะไปเรียนด้วยการนั่งดูหนังด้วยกันแต่ผมก็ดันเผลอหลับไปจนได้ ตื่นมาอีกทีเฮียบิ๊กก็ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว แต่สายตาของผมเหลือบไปเห็นโพสอิสแปะเอาไว้

‘ตื่นขึ้นมาถ้ารู้สึกดีขึ้นไม่ต้องกินยาแล้วนะครับ ส่วนข้าวอยู่ในตู้เย็นเอาออกมาอุ่นกินได้เลย คิดถึงนะ ^^’

เฮียบิ๊กของผมโคตรน่ารักที่สุดในโลกเลยครับ ใครไม่หลงมารวยคนนี้โคตรหลงเลย หลังจากที่ตื่นเต็มที่ผมจัดการไปอาบน้ำให้รู้สึกสดชื่นก่อนจะเดินออกมาอุ่นอาหารที่เฮียบิ๊กเตรียมไว้ให้พร้อมกับเปิดโทรทัศน์เป็นเพื่อน แต่ช่องที่ผมเปิดดันเป็นข่าวบันเทิงพอดี

‘กระแสปังมากสำหรับซีรีส์รักครั้งแรกในคืนหมาหอนของค่ายดาวบ้านดอน สำหรับคู่จิ้นบิ๊กชิ เคมีเข้ากันมากๆ เลยค่ะ สาววายหลายคนฟินกันเป็นแถบๆ ไปเลยเพราะในคาสเรียนนั้นขยันสร้างโมเม้นต์เหลือเกิน เรามีภาพมายืนยันค่ะ’

ผมวางช้อนก่อนที่จะเพ่งสายตาไปยังภาพที่ฉายขึ้นมาในโทรทัศน์เป็นภาพที่เฮียบิ๊กหยอกล้อกับอชิในช่วงพักเบรกหลังคาสการแสดง ดูก็รู้ว่าเฮียบิ๊กทำตอนที่มีกล้องถ่ายแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้หัวใจของผมร้อนรนขนาดนี้ มันไม่สบายใจแต่ก็ไม่อยากเข้าไปแทรกแซง ผมว่าผมต้องจัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้นิ่งกับภาพแบบนี้เพราะถ้าถึงช่วงถ่ายทำเมื่อไหร่โมเมนต์มันต้องเยอะมากกว่านี้แน่ๆ ผมหวังว่าผมจะสามารถอดทนได้ดีในระดับหนึ่งนะครับผมยังไม่อยากกลายเป็นคนขี้หึง

“หึงพี่กูเหรอ?” ผมหันไปทางด้านหลังทันทีที่ได้ยินเสียงของไอ้บุ๊ค

“ไหนมึงบอกไปนอนหอเพื่อนไง?”

“กู..กูกลับมาแล้วไง” หน้าไอ้บุ๊คโคตรมีพิรุธเลยครับ “แล้วเมื่อคืนกับเฮียกูเป็นไง เด็ดไหม”

“ถามส้นตีนไรมึงเนี่ย” ไอ้บุ๊คเดินมานั่งข้างๆ ผมก่อนที่จะแย่งข้าวในจานของผมไปกินหน้าตาเฉย อยากบอกเพื่อนว่านิสัยเหี้ยมากแต่ว่ามันเป็นน้องชายแฟนงั้นผมจะไม่ด่ามันดีกว่าได้แต่เก็บไว้ในใจและเสียสละข้าวในจานให้มัน

“อย่าเขินไอ้รวย กูก็อยากรู้ไงเห็นเฮียกูไร้สาระแบบนั้นอยากรู้ว่าบนเตียงจะมีสาระไหม”

“ก็..เออ นั่นแหละ อย่าถามมาก” ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเขิน ยิ่งคิดผมก็ยิ่งนึกถึงตอร์ปิโดของเฮียบิ๊กที่จัดได้ว่าเป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่ทำให้มารวยคนนี้ระทวย

“หน้ามึงหื่นมากไอ้รวย”

“กูจะบอกแล้วห้ามถามกูอีกนะ” ผมขยับเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะเอามือป้องปากแล้วกระซิบข้างๆ หูของไอ้บุ๊คเบาๆ “เด็ดแบบตูดก็จะฉีกอ่ะเพื่อน”

“เหี้ยจริง”

“ฮ่าๆ ๆ” ผมนั่งขำกับไอ้บุ๊คโดยลืมเรื่องที่ทำให้หัวใจของผมร้อนรนไปอย่างสนิท ตราบใดที่คนของผมไม่เล่นด้วยผมก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เราสองคนพึ่งผ่านกันมามันก็เป็นเครื่องยืนยันความสัมพันธ์ของผมกับเฮียบิ๊กได้ในระดับหนึ่ง


BIG’ s talk

“กูยอมแพ้...” ผมยื่นเงินทั้งหมดไปตรงหน้าของใครบางคนใครคนนั้นที่ทำให้ผมได้มาเจอกับเด็กบื้อ มันเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยบอกใคร ไม่เคยพูดถึง มันเป็นเรื่องที่ผมละอายใจมากที่สุด...เรียกได้ว่าเป็นด้านมืดของผมอีกด้านที่ไม่มีใครเคยรู้แม้กระทั่งเพื่อนสนิททั้งสอง น้องชาย รวมถึง...เด็กบื้อของผม

“มึงคิดว่าถ้าแฟนมึงรู้จะเป็นอย่างไง?” และสิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือการที่เด็กบื้อรู้ความจริงทุกอย่าง ผมกลัว กลัวว่าเด็กบื้อจะรับไม่ได้และทิ้งผมไป

“.....”

“มึงเป็นคนที่เหี้ยมากนะไอ้บิ๊กมึงรู้ตัวไหม” ผมยอมรับว่าผมเหี้ยแต่ความเหี้ยมันจะต้องจบไปพร้อมกับผม ทุกคนจะต้องไม่รู้สิ่งที่ผมกำลังจะทำ

“แต่มึงไม่ใช่เหรอวะที่ให้กูทำแบบนี้”

“ตอนนั้นมึงสนุก กูสนุก ก็แค่ความสนุกใครจะไปรู้ว่าเด็กนั่นจะทำให้มึงติดใจขนาดเอาเงินมากขนาดนี้มาให้กูแล้วพูดว่าง่ายๆ ว่ามึงยอมแพ้”

“กูยอมจริงๆ ...”

‘เหม็น....’

จุดเริ่มต้นทุกอย่างมันเกิดจากความบังเอิญ บังเอิญที่ทำให้ผมติดใจ วันแรกที่ผมเจอเด็กบื้อที่หน้าเซเว่นในช่วงที่ผมนั่งสูบบุหรี่อยู่ระหว่างรอเพื่อนอีกกลุ่มของผม ใครจะไปรู้ว่าเด็กที่นั่งกินมาม่าโง่ๆ นั้นจะทำให้ผมบังเอิญไปเจออีกทีโดยความไม่ตั้งใจของ


มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : ไอ้บุ๊ค!! ลบกูออกจากเพื่อนทำไม มึงโกรธอะไรกู

มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : หรือว่าเรื่องเงิน?

มารวยเฉยๆ ไม่ใช่มารวยแคล้ว : มึงโกรธกูจริงๆ หรอที่ทวง

นั่นคือเหตุบังเอิญที่สอง...ที่ทำให้ผมได้เจอกับเด็กบื้ออีกครั้งในเฟซบุ๊ค

‘คุยกับใครวะไอ้บิ๊ก?’

‘ไอ้คิมมึงรู้จักเด็กนี่ป่าววะ ชื่อมารวย’

‘มารวย...ไหนๆ กูดูหน้าหน่อย อ่อรู้จักๆ น้องในทีม ซื่อๆ โง่ๆ ดี มันทักมึงมาทำไมวะ’

‘สงสัยทักผิดมั้ง..ช่างเถอะ’

‘ไอ้บิ๊ก..กูคิดอะไรสนุกๆ ให้มึงทำ.......’

‘.......กูตกลง’

ถ้ามันย้อนกลับไปได้ผมจะไม่ตกลงออกไปส่งๆ แบบนั้น ผมจะไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาดแต่ผมรู้ว่ามารู้สึกตอนนี้มันสายไปแล้ว เพราะทุกอย่างมันย้อนกลับมาทำร้ายผม

“ไอ้คิมกูยอมแล้ว..”

“กูยังอยากสนุกอยู่ว่ะไอ้บิ๊ก”

“แต่นั่นก็น้องในทีมมึงไม่ใช่เหรอ..ทำไม?”

“เหตุผลส่วนตัว”

ผมควรทำอย่างไรต่อไปให้ความลับทุกอย่างมันจบเท่านี้...ผมไม่อยากเสียเด็กบื้อไปจริงๆ ช่วยผมทีครับว่าผมควรทำอย่างไง


#เฮียขอโทษ......
#ให้อภัยเฮียได้ไหม..ส่วนเรื่องอะไรที่เฮียปิดเอาไว้มันจะค่อยๆเปิดออกมาหวังว่าเด็กบื้อจะให้อภัย
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 16 (13/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-08-2019 01:06:51
เฮียนับดีๆนะ มีหลายตรีนรอกระทืบอยู่จ้า :hao3:
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 16 (13/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 15-08-2019 16:52:08
เอาน้องมาพนันซะงั้น
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 17 (18/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 18-08-2019 13:58:24
 
บทที่ 17
ไม่ได้ผิดสังเกตแค่พิรุธมันออก

Maruay’ s talk

ผมมองเห็นเฮียบิ๊กคุกเข่าอ้อนวอนพี่คิมโดยที่ตรงหน้ามีเงินกองอยู่มากมาย...บทสนทนาทุกอย่างที่ผมได้ยินและความคิดทุกอย่างของเฮียบิ๊กมันดังก้องอยู่ในหัวของผมซ้ำไปซ้ำมาแววตาของเฮียบิ๊กดูกังวล กลัวว่าผมจะรู้ แต่เฮียคงไม่รู้ว่าผมได้ยินมันทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เฮียบิ๊กได้ทำกับผมทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง ผมยอมรับว่าผมเป็นคนใจดีแต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ต้องเลิกผมก็ยอม

“เฮียทำแบบนี้กับผมได้อย่างไง!!!” ด้วยความโมโหทำให้ผมกล้าเข้าไปกระชากคอเสื้อของเฮียบิ๊กทันทีหลังจากที่ยืนฟังมานาน “ทำแบบนี้ได้ไง!!!!!”

“ค่อยๆ พูดได้ไหมไม่มีใครแย่งบทเราหรอก”

“ไม่ตลก!!!!!!” ผมยังคงแหกปากใส่หน้าเฮียบิ๊กด้วยความโมโห “เฮียเอาผมมาพนันกับพี่คิมอย่างนั้นเหรอ?! จิตใจทำด้วยอะไรวะ!!!”

“คิมไหน? คิมเบอร์รี่? คิมบอม? หรือคิมจองอึล?” ช่วยบอกผมทีว่าตอนนี้สีหน้าของเฮียบิ๊กไม่ได้มีแววกังวลเหมือนตอนที่ผมแอบยืนดูก่อนหน้านี้ ผมไม่คิดว่าการที่เฮียบิ๊กไปเรียนการแสดงไม่กี่อาทิตย์จะทำให้ตีบทเนียนได้แตกขนาดนี้

“เฮีย!! พี่คิมธรรมดา คิมที่เป็นนักบอล!”

“ไหน? หันไปดู” เฮียบิ๊กชี้ไปทางด้านหลังที่ก่อนหน้านี้ผมเห็นว่าเป็นพี่คิมนั่งอยู่บนเก้าอี้ ทำให้ตอนนี้ผมค่อยๆ หันไปมองทางด้านหลังอย่างช้าๆ และภาพที่ปรากฏก็คือ...

“คิมเบอร์รี่ คิมบอม คิมจองอึล เห้ย! มีเจนนิเฟอร์คิมด้วย!!” ผมเอามือปิดปากตะโกนออกมาด้วยความลืมตัว ลืมทุกอย่าง ลืมแม้กระทั่งเรื่องที่เกิดขึ้น มันเหมือนผมล่องลอยผมไม่มีสติที่จะรับรู้อะไรสักอย่างนอกจากสิ่งตรงหน้า

“เจนนี่เฟอร์คิ้ม!” ผมแอบได้ยินเสียงของเฮียบิ๊กแก้คำผิดให้ แต่ผมไม่มีเวลามาสนใจนอกจากหากระดาษกับปากกามาขอลายเซ็น ไวเท่าความคิดที่อยู่กระดาษกับปากกามาปรากฏอยู่ในมือของผมทันที

“ขอลายเซ็นได้ไหมครับ” ผมยื่นกระดาษไปตรงหน้าคิมๆ คิ้มๆ ทั้งหลายก่อนจะเดินไปยืนเทียบแล้วคว้าคอของพวกเขามากอดเอาไว้โดยมีผมอยู่ตรงกล้าทำท่าทะเล้นโดยมีเฮียบิ๊กคอยถ่ายรูปให้ ผมไม่รู้ว่าในมือของเฮียบิ๊กมีกล้องโปรได้อย่างไร แต่เอาเถอะแค่ผมได้ถ่ายรูปกับคนดังก็เกินพอแล้วครับ

“หนึ่ง สอง สาม! ชีสสสสส” ทุกอย่างไวเหมือนโกหกอีกแล้วครับเมื่อรูปที่ถ่ายถูกปริ้นออกมาใส่กรอบติดผนังที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“เฮีย....ผมต้องต่อยเฮียซิวะ” เมื่อคิดได้ว่าผมต้องโมโหที่เฮียบิ๊กหลอกผมหักหลังผม ผมสมควรที่จะเอาหมัดไปกระแทกหน้าเฮียแรงๆ ให้สมกับที่หักหลังคนอย่างมารวย

“เปลี่ยนจากต่อยมาเป็นจูบได้ไหม?”

“ได้!” ผมกระชากเฮียบิ๊กมาจูบแรงๆ พร้อมบดขยี้อย่างเมามันจนเราสองคนไม่รับรู้ถึงสิ่งรอบข้าง มันเป็นจูบที่ร้อนแรงเท่าที่ผมเคยสัมผัสมาและผมเองก็ค่อนข้างดีใจอย่างมากเพราะเกมนี้...ผมเป็นคนคุม ถึงเวลาที่เฮียบิ๊กจะต้องตกมาเป็นเมียของผมสักที!

ไวเท่าความคิดสภาพแวดล้อมที่อยู่ก่อนหน้าตอนนี้กลายเป็นห้องนอนผมกำลังผลักเฮียบิ๊กให้ล้มลงบนเตียงโดยมีตัวของผมตามคร่อมตัวของเฮียไปด้วย...มือทั้งสองข้างค่อยๆ กระชากเสื้อของเฮียบิ๊กออกจนหมดก่อนจะใช้ความสามารถที่พึ่งค้นพบคือจูบที่ร้อนแรงที่สุดเล่นงานจนเฮียบิ๊กอ่อนระทวย

“อื้อ..มารวยอ่า” มันแปลกมากที่อยู่ๆ เฮียบิ๊กกลับครางออกมาด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อยพร้อมกับร่างกายของเฮียบิ๊กเห่อไปด้วยไอร้อน

“ชอบไหมครับ” ผมก้มลงไปใช้ลิ้นร้อนดูดเม้มตามซอกคอของเฮียบิ๊กพร้อมกับใช้มือลูบตามร่างกายอรชรอ้อนแอ้นของเฮียอย่างช้าๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์บางอย่างที่ตอนนี้มันกำลังจะเกิดขึ้น

พรึ่บ!

ผมพลิกตัวเฮียบิ๊กให้นอนคว่ำก่อนจะดึงกางเกงของเฮียบิ๊กลงจนเผยให้เห็นซาลาเปาขาวนวลที่อยู่เป็นเป้าสายตา ไวเท่าความคิดผมรีบถอดกางเกงของตัวเองออกพร้อมกับจับอาวุธที่ขยายใหญ่อย่างเต็มที่จ่อไปทีซาลาเปานั้น

“พร้อมจะเป็นเมียผมหรือยังครับ”

“พร้อมค่า” เมื่อได้จังหวะผมจึงค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ ก่อนที่จะ...

ตุบ!!!

“ไอ้รวยตื่น!!!!” อยู่ๆ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากการที่ไอ้บุ๊คใช้อะไรบางอย่างผลักผมจนกลิ้งล้มลงมากระแทกพื้นอย่างแรง

“ถีบกูทำไมเนี่ย เจ็บตูดฉิบหาย” แผลเก่ายังไม่หายแต่ผมกลับได้แผลใหม่เพราะฝีมือของไอ้บุ๊ค แต่..เอ๊ะเหมือนผมลืมอะไรไปบางอย่าง “เฮียไปไหน”

“กูจะไปรู้เหรออยู่กับมึงเนี่ย แล้วมึงก็หลับไปแถมยังมาละเมอจะเอากู กูก็ต้องปกป้องตัวเองด้วยการถีบมึงหน่ะซิ” อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้คือผมฝัน? ฝันว่าเฮียหักหลัง มาหลอกให้รักแล้วแพ้ใจตัวเองมารักผมจริงๆ จึงไปยกเลิกสัญญากับพี่คิม ซึ่งพี่คิมกับเฮียบิ๊กเท่าที่ผมรู้คือทั้งสองไม่มีทางที่จะรู้จักกัน แต่ทำไม..ผมยังรู้สึกว่าความฝันนี้มันเหมือนจริงอย่างประหลาด แล้วถ้าสมมติว่าฝันของผมเป็นจริงผมจะจัดการกับเฮียบิ๊กอย่างไรถ้ารู้ว่าเขาไม่ซื่อสัตย์กับผม

“ไอ้บุ๊คถ้าเฮีบยมึงหลอกกู..แบบหลอกว่ารักแล้วกูมารู้ทีหลัง”

“เฮียกูไม่ใช่คนอย่างนั้น ถึงกูจะไม่อยากเข้าข้างแต่มึงลองคิดดูว่าที่ผ่านมาเฮียกูแทบจะตามติดมึงทุกฝีก้าวหายใจเข้าออกก็มึงตลอดเวลา ถ้าจะหลอกพิรุธมันก็ต้องออกตั้งนานแล้วไหม?” ผมนั่งคิดตามที่ไอ้บุ๊คพูดซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงทุกอย่าง แล้วทำไมผมต้องมาไขว้เขวกับความฝันด้วย “เอางี้นะ มึงอาจจะพึ่งผ่านการจึ๊กๆ กับเฮียกูมา จนมึงอาจจะเก็บเอาไปกังวลว่าเขาได้มึงแล้วเขาจะทิ้งมึงไหม แล้วไอ้ที่มึงหลับไปมึงก็เลยฝัน กูเดาถูกไหม??”

“อืม”

“อย่าคิดมากไอ้รวย” ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่ควรคิดมากอย่างนั้นใช่ไหมครับ?

หลังจากที่ผมฝันแปลกๆ ฝันว่าเฮียบิ๊กหลอกใช้ผมโดยร่วมมือกับพี่ในทีมคือ..พี่คิม ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองคนไม่มีทางรู้จักกันแน่ๆ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังคงไม่เลิกคิดมากเรื่องความฝัน...

“เฮียซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย” ผมมองขนมมากมายในมือของเฮียบิ๊กที่หอบเข้ามาให้หลังจากที่เฮียกลับมาจากการไปเรียนการแสดงในช่วงค่ำ

“ก็ของที่เราชอบทั้งนั้นแหละ กินเยอะๆ” เฮียบิ๊กจัดการเดินเอาขนมเก็บไว้ในตู้เย็นก่อนจะออกมาพร้อมกับเค้กในจานและเดินตรงมานั่งลงข้างๆ ผมที่กำลังดูหนังอยู่บนโซฟา

“ผมพึ่งกินขนมไปเองเฮีย ยังอิ่มอยู่เฮียกินเลย”

“แต่เฮียซื้อมาให้เรา”

“ก็ได้ครับ” ผมไม่อยากขัดใจเฮียบิ๊กแม้ว่าท้องจะอิ่มแค่ไหน “อร่อยมากเลย ขอบคุณนะ” แต่ผมลืมบอกไปว่าท้องของผมยังมีที่ว่างให้กับอาหารที่อร่อยอยู่เสมอ

“ช่วงนี้เราอยากได้อะไรไหม เฮียไม่ได้ซื้อของให้เราเลย” อยู่ๆ เฮียบิ๊กก็ถามออกมาทั้งๆ ที่ก่อนหน้าไม่เคยถามผมแบบนี้ “กระเป๋าไหม รองเท้า หรือจะเอาโทรศัพท์ใหม่”

“อะไรจะสายเปย์ขนาดนั้นเนี่ย ไม่เอาหรอกเฮียผมไม่อยากได้” ผมนั่งตักเค้กกินจนหมดเตรียมจะเอาจานไปเก็บ แต่อยู่ๆ เฮียบิ๊กกลับแย่งจานที่อยู่ในมือของผมและเดินไปเก็บให้แทน

“ทำไมเอาใจแปลกๆ” การกระทำของเฮียบิ๊กกับสิ่งที่ผมฝันทำไมมันดูเชื่อมโยงกันแปลกๆ เหมือนเฮียบิ๊กพยายามเอาใจผมเพื่อชดเชยความผิดหรือสิ่งที่กำลังปิดบังผมไว้

“อยากไปเที่ยวไหนไหม” ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงเฮียบิ๊กนั่งอยู่ๆ ข้างๆ ผมเหมือนเดิมแต่เขาไม่ได้สนใจหนังที่เปิดอยู่ กลับนั่งค้นหาอะไรสักอย่างในโทรศัพท์ “ไปเกาหลี ญี่ปุ่น หรือที่ไหนไหมเราไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันเลย”

“เฮียเป็นอะไรไป ผมเริ่มสงสัยแล้วนะ” ผมเลิกสนใจหนังที่กำลังเล่นอยู่และหันกลับมาให้ความสนใจกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมในตอนนี้ “ถามจริงนะ ท่าทางของเฮียมันเหมือนคนที่ทำผิดอะไรสักอย่าง”

“มันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ใช่..อย่าบอกนะว่าเฮียกำลังปิดบังอะไรผมอยู่?”

“ไม่มีครับไม่ได้ปิดบังอะไรเลย ไม่มีอะไรนะอย่าคิดมาก” ผมก็ไม่ได้อยากจะคิดมากแต่ท่าทางของเฮียบิ๊กมันทำให้ผมอดที่จะไม่คิดมากไม่ได้เลยจริงๆ

“......” เรื่องนี้ผมจะต้องรู้ให้ได้ว่าเฮียบิ๊กกำลังปิดบังอะไรอยู่

“เฮียรักเราจริงๆ นะมารวย”

“......” การบอกรักแบบไม่มีสาเหตุมันทำให้ผมคิดมากจริงๆ ...


BIG’ s talk

การที่จะบอกความจริงกับเด็กบื้อเป็นอะไรที่ยากสำหรับคนอย่างผม เพราะ..ผมกลัวคำตอบ ผมกลัวความผิดหวัง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่คนทำผิดอย่างผมไม่สมควรที่จะกลัว แต่ผมกลับกลัวไปแล้วเพราะสถานการณ์ตอนนี้สำหรับเราสองคนมันดีมากๆ ดีชนิดที่ผมคิดว่าถ้าบอกไปทุกอย่างมันจะหายไปซึ่งผมไม่ต้องการที่จะเป็นแบบนั้น ตอนนี้ผมจึงกลายเป็นเหมือนคนที่ขี้ระแวงทุกอย่าง ระแวงว่าเด็กบื้อจะรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ผมกำลังปิดไว้ ผมจะกลายเป็นคนไม่ดีแต่สิ่งที่ผมกำลังปิดบังผมบอกใครไม่ได้จริงๆ

“ไอ้บิ๊กเป็นอะไรวะทำไมทำหน้าเครียดจัง” ไอ้วสุที่เดินเข้ามานั่งข้างๆ ตบไหล่ผมแรงๆ

“กู...”

“บอกกูได้นะเพื่อน” ผมมองหน้าไอ้วสุเพื่อนรัก ผมกำลังลังเลว่าจะบอกมันดีไหม “มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ทำไมหน้ามึง..”
 
“ถ้าสมมตินะมึงมีแฟนแล้วมึงจับได้ว่าแฟนมึงมีเรื่องที่ปิดบังมึงอยู่ แล้วมึงมารู้ทีหลังมึงจะโกรธไหมวะ”

“กูต้องดูว่าเป็นเรื่องอะไร” ไอ้วสุนั่งลูบคางอย่างใช้ความคิด

“ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่เหี้ยมากๆ”

“กูก็ต้องพิจารณาว่าจะให้อภัยได้ไหม แต่ถ้ากูรับไม่ได้ร้ายแรงสุดก็คงต้องเลิก”

“เลิก?” และสิ่งที่ผมกลัวก็คือ..เลิกนั่นแหละครับ “เลิกทั้งๆ ที่ยังรัก?”

“ก็คงงั้นกูไม่รู้ว่ะ แต่ถ้ารับได้กูจะไม่เลิก” แล้วผมจะรู้ได้อย่างไงถ้าผมตัดสินใจบอกเด็กบื้อไปอะไรจะเป็นเครื่องยืนยันว่าเด็กบื้อจะไม่บอกเลิกผม “มึงมีอะไรปิดบัง หรือน้องรวยปิดบังอะไรมึง”

“กูแค่ซ้อมบท” ขอโทษนะไอ้วสุตอนนี้กูยังไม่พร้อมที่จะบอกใครจริงๆ

หลังจากที่เลิกเรียนผมตรงมาที่เรียนการแสดงทันทีโดยที่ไม่ได้แวะกลับห้องหรือติดต่อใคร ถ้าถามว่าตอนนี้ผมกำลังคิดอะไรอยู่ ผมตอบได้เลยว่าไม่รู้ ผมไม่สามารถหาคำตอบให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นได้

“พี่บิ๊กกังวลอะไรเหรอครับ? ทำไมวันนี้ดูไม่มีสมาธิเลย” ในช่วงพักครึ่งของคาสการแสดงอชิเดินเข้ามานั่งข้างๆ ผม ผมลืมบอกไปว่าจริงๆ แล้วนิสัยของอชิค่อนข้างน่ารักมากๆ แต่น่ารักในที่นี้ผมขอละเว้นไว้ในฐานะน้องชายมันไม่สามารถพัฒนาเป็นอย่างอื่นได้แล้วเพราะหัวใจของผมมีแค่เด็กบื้อเท่านั้น

“มีเรื่องนิดหน่อย แต่ช่างเถอะวันนี้พี่ขอโทษที่รับส่งบทให้เราไม่ดีนะ”

“เรื่องเล็กมากพี่บิ๊ก ชิจะบอกอะไรให้นะตอนแรกๆ ที่ชิแสดงละครชิมีเรื่องให้กังวลเหมือนกันทางออกคือการปลดปล่อยความรู้สึกของตัวเองออกมา มันมีหลายวิธีนะแต่วิธีที่ชิชอบใช้มันค่อนข้างแย่แต่ถ้าพี่บิ๊กอยากฟังชิจะเล่าให้...”

“พี่อยากฟัง”

“ถ้าผมกังวลผมจะดื่ม ดื่มให้ลืมมันช่วยได้แค่แป๊บเดียวก็จริงแต่ความรู้สึกตอนนั้นมันโคตรเยียวยาเราเลยพี่บิ๊ก”

“ดื่มอย่างนั้นเหรอ?” จะว่าไปช่วงนี้ผมก็ห่างหายจากแอลกอฮอล์ไปนานพอสมควรถ้าผมลองทำตามวิธีของอชิมันก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร

“ผมไปเป็นเพื่อนพี่ได้นะพี่บิ๊ก เผื่อพี่..อย่ามีคนไปนั่งรับฟัง”

“งั้น..เอาดิ” ถ้าทุกคนกำลังผิดหวังกับผม ผมขอโทษไว้ล่วงหน้าเพราะนี่มันคืออีกตัวตนของผมที่ทุกคนไม่เคยรับรู้มาก่อน คนเรามันมีทั้งดีอยู่ที่ว่าเราจะเลือกแสดงออกมาแบบไหนแต่สำหรับคนเห็นแก่ตัวอย่างผม ผมขอเลือกแสดงด้านที่ดีออกมาให้คนที่ผมรักได้รับรู้แค่ด้านนั้นของผมก็พอ


Maruay’ s talk

วันนี้ก็ถึงวันที่ผมได้ฤกษ์กลับมาซ้อมสักทีหลังจากที่หายไปหลายเดือนเพราะเข้าเฝือกจากอุบัติเหตุคราวก่อน เมื่อได้เห็นสนามได้กลิ่นหญ้าแล้วรู้สึกคันมือคันเท้าอยากจะเตะบอลจริงๆ ครับ คิดแล้วก็ไปเปลี่ยนชุดดีกว่าจะได้ไปวิ่งใกล้ชิดกับหญ้าในสนามไว้ๆ

ผลัก!

ด้วยความที่รีบมากเกินไปทำให้ผมไม่ทันได้สังเกตคนที่กำลังเดินเข้ามาพอดี ทำให้ผมวิ่งชนเขาเต็มๆ แต่โชคดีที่ว่าคนที่ผมวิ่งชนไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพี่ในทีมเหมือนกัน

“พี่คิมผมขอโทษครับ” ผมยกมือขอโทษพี่คิมทันที

“เออๆ ไม่เป็นไรทีหลังมึงก็เดินให้ระวังๆ หน่อยก็แล้วกัน” ผมโค้งให้พี่คิมและเตรียมที่จะเดินเข้าไปด้านในแต่พี่คิมกลับเรียกผมเอาไว้ก่อน “ไอ้รวย”

“ครับพี่” ผมหันหลังกลับไปมองพี่คิมที่มองหน้าผมด้วยสายตานิ่งๆ แต่มุมปากของเขากลับยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

“ถ้ามึงรู้ความจริงบางอย่างจากแฟนมึงว่าเขาตั้งใจทรยศมึง มึงจะทำไง”

“ทรยศ?” ผมไม่เข้าใจว่าคำถามที่พี่คิมถามผมต้องการหรือคาดหวังให้ผมตอบแบบไหน แต่ที่แน่ๆ ถ้าผมเลือกตอบตามความจริง โดยอิงจากเฮียบิ๊กที่เป็นคนรักของผม ผมก็คงจะตอบได้เพียงแค่ว่า “ถ้ามันร้ายแรงจนผมรับไม่ได้ก็คงเลิก”

“แล้วมึงไม่รักเขาเหรอวะ?”

“ก็รักนะพี่..แต่ความรักกับการที่เขาตั้งใจทรยศเรามันคนละเรื่องกัน พี่ถามอะไรซีเรียสจังวะพี่คิม”

“เปล่า กูแค่ถามดูพอดีเพื่อนสนิทกูกำลังมีเรื่องปิดบังแฟนมันอยู่มันมาปรึกษากู แต่กูไม่รู้จะตอบอย่างไงเลยหาถามเขาไปเลื่อยเผื่อมีคำตอบดีๆ ไปให้มัน” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“งั้นผมไปก่อนนะพี่ เจอกันในสนาม” ผมหันหลังเดินกลับมา จะว่าไปพี่คิมก็เป็นพี่ในทีมที่ผมไม่ค่อยได้คุยเรื่องส่วนตัวกันเท่าไหร่ ส่วนมากก็เป็นเรื่องบอลมากกว่า แต่พอมาคราวนี้พี่คิมถามผมด้วยคำถามบวกกับสายตาและรอยยิ้มแบบนั้น ลางสังหรณ์ของผมมันบอกว่าเรื่องนี้มันอาจจะเกี่ยวข้องกับผม..ผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่ผมมั่นใจว่าเฮียบิ๊กไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่นอนแต่ถ้าเป็น..ผมคิดว่าผมใจดีกับทุกเรื่องแต่เรื่องการทรยศหรือหักหลังเรื่องนี้น่าจะเป็นข้อยกเว้น
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 17 (18/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 19-08-2019 00:30:34
พี่คิมต้องเจอกระทืบ
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 18 (19/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 19-08-2019 15:29:05

บทที่ 18
แตกเป็นแตก (ความลับไม่ได้มีในโลก)

“มึงไม่มีสมาธิเลยนะไอ้รวย เป็นอะไรของมึงวะ?” หลังจากช่วงซ้อมเสร็จผมถูกพี่ๆ ในทีมตำหนิเรื่องฟอร์มการเล่นของผมวันนี้ ซึ่งมันเป็นอย่างที่พี่ๆ พูดไม่มีผิดผมยอมรับเลยว่าผมไม่ค่อยมีสมาธิกับกิจกรรมตรงหน้าสักเท่าไหร่ เพราะในหัวของผมมันยึดติดกับความฝันรวมถึง...ท่าทางแปลกๆ ของเฮียบิ๊กกับสิ่งที่พี่คิมถามผมวันนี้ มันดูทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมดจนหน้าประหลาด ผมไม่ค่อยฝันซักเท่าไหร่แต่ถ้าผมฝันเรื่องทุกอย่างที่ฝันมันมักจะเป็นเรื่องจริงเสมอ

“ขอโทษครับพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจ” มีเพียงแค่คำว่าขอโทษเท่านั้นที่ผมจะสามารถพูดออกไปได้ ไม่มีข้อแก้ตัว สายตาของพี่ๆ ในทีมมองผมด้วยความผิดหวังเพราะเมื่อก่อนผมไม่เคยเป็นแบบนี้ สิ่งที่ผมโฟกัสมากที่สุดคือฟุตบอลเพียงแต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่

“ไม่ได้อยากจะก้าวก่ายแต่ถ้าเป็นเพราะเรื่องส่วนตัวโค้ชก็คงต้องพิจารณามึงใหม่เรื่องตัวจริงในการแข่งครั้งหน้า นี่มันไม่ใช่ครั้งแรก ไอ้คิมมึงเตรียมตัวลงแทนไอ้รวยมันด้วยหละ” โค้ชทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไปทิ้งให้ผมนั่งพิจารณาอยู่กับตัวเองที่เดิม

“ไง?” ผมเงยหน้าขึ้นก่อนจะเห็นว่าเป็นพี่คิมที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ผม “มึงคิดมากอะไรวะ”

“ไม่มีครับ”

“ถ้าเป็นเรื่องที่กูพูดมึงก็อย่างใส่ใจเพราะกูก็พูดไปอย่างนั้น หรือว่าเรื่องที่กูพูดมันดันไปตรงกับเรื่องของมึงอย่างนั้นเหรอ?” ผมมองหน้าพี่คิมอย่างไม่เข้าใจกับคำถามที่ถามผม

“ไม่มีอะไรหรอกครับพี่ ผมไปก่อนนะ” ผมยันตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินออกจากสนามตรงไปที่ห้องเปลี่ยนชุดแต่ผมกลับต้องหยุดชะงักเพราะคำพูดของพี่คิม

“กูบอกตามตรงว่ากูไม่ชอบมึงตั้งแต่เข้ามาเป็นตัวจริง จนกระทั่งถึงตอนนี้กูก็ยังไม่ชอบ อะไรที่มันทำให้มึงล้มได้กูก็ทำ..แต่ไม่มคิดว่ามันจะไวขนาดนี้....” ผมว่างานนี้พี่คิมเกี่ยวด้วยเต็มๆ แต่มันจะตรงกับความฝันของผมไหมก็ต้องมาตามสืบกันอีกที

“ถ้าผมล้มผมไม่ยอมล้มคนเดียว” ผมทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกมาจากสนามโดยไม่สนใจสายตาของพี่คิมที่มองตามผมมาเรื่อยๆ

“เด็กอวดดี” ถ้าถามว่าอะไรคือความเกลียดที่เขามีต่อเด็กที่ชื่อมารวยก็คงเป็นเพราะ..ความมั่นใจที่ไม่ได้ออกผ่านทางคำพูดแต่มันออกมาจากการกระทำและแววตา วันแรกที่มารวยถูกคัดเข้ามาเล่นเป็นตัวแทนของมหาลัย เขายอมรับเลยว่าฝีมือของเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่พอใจก็คือ

‘คิมเดี๋ยวให้รวยลงแทนมึงนะ เป็นตัวสำรองไปก่อน..’

‘แต่โค้ชบอกว่าผมเป็นกองหน้าที่เก่งที่สุดไม่ใช่เหรอครับ? แล้วทำไมถึงไว้ใจเด็กใหม่ในแมตใหญ่ๆ แบบนี้’

‘ให้โอกาสน้องมันหน่อยก็แล้วกัน’ มันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขามีอคติกับเด็กคนนี้ แต่ยังคงสงวนท่าทีเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ แต่แล้วเขาก็มองเห็นโอกาสเมื่อเพื่อนโง่ๆ อีกคนของเขากำลังอยากจะสนุกเขาก็มีอะไรสนุกๆ ให้มันทำโดยใช้เด็กที่เขาต้องการจะกำจัดเป็นเครื่องมือ ยอมรับว่าเลวแต่..อยากบอกว่าเลวได้มากกว่านี้ ไม่เชื่อคอยดู


Say’ s talk

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงมีบทพูดให้ตัวประกอบอย่างผม ผมเซย์ อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่าผมเคยชอบมารวยแต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกต่อไปเพราะคนที่ผมชอบคือคนที่ผมเคยเกลียด ไม่ใช่แค่ผมแต่เป็นมันด้วยที่เกลียดผมเหมือนกัน

“ไอ้บุ๊คมึงไม่กินผักอีกแล้วนะ” หลังจากเลิกซ้อมผมตรงมาที่ร้านข้าวที่นัดกับไอ้บุ๊คไว้ ใช่ครับเรื่องของผมกับไอ้บุ๊คมันค่อนข้างยาวมากเอาไว้ถ้ามีโอกาสผมจะมาเล่าตั้งแต่ต้นจนจบให้ฟังนะครับ

“เสือกจัง งั้นก็แดกให้กู” ไอ้บุ๊คตักผักในจานของมันมาใส่ในจานของผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด ไอ้บุ๊คมันมีความสามารถพิเศษอยู่หนึ่งอย่างครับคือการมีสีหน้าหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา

“กินเหล้ากันไหมคืนนี้” ไอ้บุ๊คเงยหน้าขึ้นมามองผมทันทีที่ออกปากชวนมัน

“นึกไงชวน?”

“ตกลงไหมละ กูเลี้ยง”

“ก็ไม่ขัด” ไอ้บุ๊คยักไหล่ด้วยท่าทางเหมือนไม่สนใจแต่มุมปากของมันแอบยิ้มเล็กน้อย ไอ้นี่มันขี้เหล้าครับถ้าอยากเอาใจก็แค่เอ่ยปากว่าจะเลี้ยงเหล้าเท่านั้นจากหน้ามือจะเปลี่ยนเป็นหลังตีนเลยครับ “ชวนไอ้รวยไหม มันน่าจะอยู่ห้องคนเดียวช่วงนี้เฮียกูกลับดึก”

“ทำไมกลับดึก”

“ไม่เสือกดิ”

“แต่มึงพูดให้อยากรู้นะไอ้บุ๊ค” ถ้าอยู่กับไอ้บุ๊คได้เกินหนึ่งชั่วโมงคุณจะมีความสามารถในเรื่องของการฝึกความอดทนไปในตัว แต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่เคยโมโหกับมันนะแต่ถ้าอยากได้มันก็ต้องใจเย็น “เออ จะบอกว่าช่วงนี้รวยมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า เห็นตอนซ้อมไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่” ผมนึกขึ้นได้ถึงเรื่องเมื่อเย็นที่รวยโดนโค้ชว่าก็เพราะโค้ชคาดหวังกับรวยเอาไว้มากๆ เขาก็คงไม่อยากให้รวยโฟกัสเรื่องอื่น

“เฮียกูมั้ง โดนเอาแล้วคงระแวงกลัวโดนทิ้ง”

“แล้วมึงกลัวกูทิ้งไหม ที่โดนกูเอา”

เคร้ง!

“ถ้าไม่อยากเลือดออกก็แดกไป อย่าทำให้กูโมโหไอ้เหี้ยเซย์”

“ก็พึ่งรู้ว่ามึงโมโหแล้วหน้าแดง”

“สัด!!” ก็อย่างนี้แหละครับอย่างที่โบราณเขาว่าทะเลาะบ่อยๆ ลูกจะดกความรักจะยืนยาวแม้ว่าตอนนี้มันจะยันปากแข็งอยู่ก็ตาม แต่ผมรู้ว่ามันอะก็เริ่มมีใจให้ผมบ้างแล้วไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่ผมดูออก “ไอ้เซย์ผู้หญิงโต๊ะหลังมองมึงนานละ ไปคุยให้จบๆ ไปกูรำคาญ”

“แน่ใจว่าอยากให้กูไป?”

“ก็ถ้าไปมึงจะรู้ว่ากูอยากหรือเปล่า”

“กูไม่ไปหรอก หึ” ไม่อยากเสี่ยงครับเคยเจอมันต่อยจนเลือดกบปากมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่อยากจะเจออีก เก็บไว้ให้มันต่อยตอนทำมันเจ็บดีกว่าคุ้มกว่าเยอะ

“งั้นกูไปพร้อมไอ้รวยนะ มึงไปเจอที่ร้านเลย” หลังจากที่กินข้าวเสร็จผมกับไอ้บุ๊คก็เตรียมตัวกันแยกย้าย โดยที่ไอ้บุ๊คมันจะกลับไปอาบน้ำที่หอส่วนผมก็จะกลับไปอาบน้ำที่หอของตัวเอง

“ได้”

“ไอ้เซย์” ผมหันกลับไปมองไอ้บุ๊คหลังจากที่ผมเตรียมคร่อมมอเตอร์ไซต์ขับกลับหอ

“ว่า?”

“มึงอย่าขับเร็วนะ..เอ่อ กูไปละ” และแล้วไอ้คนปากอย่างใจอย่างก็รีบหันหลังเดินหนีไป ก็อย่างนี้แหละครับก็ต้องให้เวลากันไป ผมรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันทำใจยอมรับยากโดยเฉพาะคนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้คบกับผู้ชายด้วยกันอย่างไอ้บุ๊ค



@KJH Bar

ผมมาก่อนพวกนั้นเพราะต้องมาจองโต๊ะเดี๋ยวจะไม่มีที่นั่งขนาดผมมาเร็วแล้วโต๊ะยังเกือบเต็ม ทำให้ผมต้องมานั่งแถวๆ มุมอับของร้าน ปรกติถ้าเลี่ยงได้ผมจะไม่นั่งตรงนี้เพราะหาเหยื่อยากแต่ช่วงนี้ผมจำศีลเลยไม่ค่อยแคร์เรื่องโลเคชั่นเท่าเมื่อก่อน

“เดี๋ยว..เซย์ ไอ้บุ๊คกูงง” ทันทีที่รวยเห็นผมจึงหันกลับไปมองหน้าเพื่อนสนิทของตัวเองด้วยความสงสัย ในสายตารวยผมกับไอ้บุ๊คคือคนที่ไม่กินเส้นกันซักเท่าไหร่

“เออ เดี๋ยวบอก” ไอ้บุ๊คดันหลังรวยให้นั่งลงบนเก้าอี้ส่วนมันเองก็นั่งลงข้างๆ รวยอีกที “เอาไร เบียร์หรือเหล้า”

“เหล้า เบียร์เดี๋ยวลงพุง” ผมตอบไอ้บุ๊คก่อนที่มันจะลุกออกไปจัดการกับเครื่องดื่มที่บาร์อีกด้าน ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่ผมกับรวยสองคน

“เซย์บอกเราที เราไม่เข้าใจ”

“คือ..เราไม่รู้ว่าบุ๊คบอกอะไรรวยไปบ้าง แต่ถ้าบุ๊คพูดประมาณว่าช่วงนี้หายไปไหนก็คือมาอยู่กับเรา” ผมเองตอบกั๊กเอาไว้เพราะผมไม่รู้ว่าไอ้บุ๊คมันบอกอะไรรวยไปบ้าง แต่ที่แน่ๆ ปฏิกิริยาของรวยตอนที่เห็นผมนั่งอยู่ก็เดาได้ไม่ยากว่าไอ้บุ๊คน่าจะไม่ได้บอกว่ามันหายไปกับผม

“อย่าบอกนะว่าเซย์คือคนที่ทำให้ไอ้บุ๊คร้องไห้?”

“ห้ะ? เดี๋ยวอันนี้เราไม่รู้”

“คือ...ช่างเถอะเดี๋ยวเราถามไอ้บุ๊คเอง” อันนี้เป็นความรู้หใม่เลยก็ว่าได้ว่าผมทำไอ้บุ๊คร้องไห้เพราะต่อหน้าผมไม่ว่ามันจะเจ็บแค่ไหนผมก็ไม่เคยได้เห็นน้ำตาของมัน..

“มาแล้ว ของมึงไอ้รวยเอาให้เต็มที่ไอ้เซย์เลี้ยง กูแดกเบียร์ไปเหล้ามันแพง” ผมมองหน้าไอ้บีคยิ้มๆ แต่ก็ไม่ได้พูดขัดอะไร จนกระทั่งดนตรีสดในร้านเริ่มเล่น ผมก็ไม่รู้นะว่าทำไมร้านเหล้าชอบเปิดเพลงเศร้าๆ แต่ที่แน่ๆ เพื่อนของผมคนหนึ่งแม่งอินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

สุดท้ายแล้วเธอไม่โกหกแต่ลืมบอกกันว่าไม่รัก ฉันโดนหลอกเธอบอกกันเธอใจร้าย
สุดท้ายแล้วเป็นไง เธอทิ้งตัวฉันไป แต่อันที่จริงฉันไม่รักเธออยู่แล้ว

“เนื้อเพลงแม่งโดนฉิบหาย!” ตั้งแต่สามปีที่เป็นเพื่อนหรืออยู่ทีมเดียวกับรวยมาผมไม่เคยได้ร่วมวงกินเหล้ากับรวยเลยสักครั้ง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เห็นว่ารวยค่อนข้างที่จะปล่อยอารมณ์ผมผสมแอลกอฮอล์แบบนี้ “ไอ้บุ๊คไปเอามาให้กูอีก”

“ไอ้รวยเบาก่อนยังไม่ค่อนคืนเลย” บุ๊คเอ่ยปรามเพื่อนรัก

“เดี๋ยวเราไปเอาให้”

“ไอ้เซย์!” ผมยักไหล่อย่างไม่สนใจก่อนจะเดินไปเอาเบียร์มาเพิ่มอีก แต่แล้วสายตาผมดันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่มีหน้าตาคล้ายกับไอ้บุ๊คอย่างไม่มีผิด โดยที่ข้างๆ ของเขามีผู้ชายหน้าตาดีนั่งอยู่ด้วย...

“พี่ไอ้บุ๊คนี่หว่า” เมื่อมองดีๆ แล้วผู้ชายคนนั้นคือพี่ชายของไอ้บุ๊คที่ผมเคยเจออยู่หลายครั้ง ส่วนมากจะเจอในรูปแบบที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ สีหน้าตอนนี้ของพี่ชายไอ้บุ๊คอมทุกข์ไม่ต่างจากรวยสักเท่าไหร่ อย่าบอกนะว่าสองคนนี้มีเรื่องกันอย่างนั้น

“เบียร์สามขวดครับ” ผมรับขวดเบียร์มาถือไว้ก่อนจะเดินกลับโต๊ะไปด้วยความสงสัยแต่ผมก็ไม่ได้บอกทั้งสองคนว่าผมเจอพี่ชายของไอ้บุ๊ค

“แต๊ง!” รวยคว้าเบียร์ในมือของผมยกขึ้นกระดก “กูเกลียดฉิบหายไอ้รุ่นพี่เหี้ยๆ ต่อหน้าคนอื่นทำดีกับกู มาสอนมาแนะนำสุดท้ายแม่งก็ต้องการให้กูล้ม กูบอกแล้วถ้ากูล้มมึงก็ต้องล้ม สัด!” ผมกับไอ้บุ๊คมองหน้ากันอึ้งๆ เมื่ออยู่ๆ รวยอีกเวอร์ชันที่ผมไม่เคยเห็นก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า

“มึงเครียดอะไร ไหนบอกกู” ไอ้บุ๊คขยับเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะโอบคอของมารวยและดึงเข้ามาใกล้ๆ ตัวมัน ยอมรับว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่พยายามจะเข้าใจก็แล้วกัน

“ไอ้เหี้ยคิม...ไอ้เหี้ยนี่มันไม่ชอบกู”

“แล้วอย่างไงต่อ” ผมนั่งฟังในสิ่งที่รวยพูดออกมา เขาบอกว่าคนเมามักจะไม่โกหกผมว่าผมพอจะเข้าใจก็วันนี้ สรุปใจความจากเรื่องที่รวยเล่าก็คือพี่คิม พี่ในทีมพูดกับรวยในช่วงเย็นประมาณว่าไม่ชอบรวยตั้งนานแล้ว อันนี้ผมก็พอจะรู้จากสายตาที่พี่คิมมองรวย แต่รวยเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเลยไม่สนใจสายตาหรือท่าทางของพี่คิมสักเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะเรื่องหลังจากนั้น

“กูว่าพี่คิมกับเฮียบิ๊กต้องมีอะไรปิดบังกูสักอย่าง”

“เกี่ยวอะไรกับเฮียกูวะ?”

“ก็กูฝันว่าเกี่ยว”

“ไอ้รวยเลอะเทอะแล้วมึง” ไอ้บุ๊คตบหัวรวยเบาๆ แต่สิ่งที่ผมเหลือบไปเห็นต่อจากนี้คือพี่คิม..เดินตรงไปหาพี่ชายของไอ้บุ๊คก่อนที่พี่ชายของไอ้บุ๊คจะลากพี่คิมออกไปด้านนอก

“ไอ้บุ๊ค นั่น” ผมชี้ไปด้านหลังทำให้ไอ้บุ๊คหันไปมองก่อนที่มันจะกลับมามองมารวยที่ตอนนี้ฟุบหน้าไปกับโต๊ะเป็นที่เรียบร้อย

“ไปกับกู” ไอ้บุ๊ครีบลุกขึ้นเดินตามหลังพี่ชายมันไปติดๆ ก่อนที่ผมจะรีบเดินตามไปด้วย จังหวะที่ไอ้บุ๊คจะโผล่หน้าออกไปผมรั้งคอเสื้อมันไว้ก่อน

“ทำไม? กูจะไปถามเฮียกูให้รู้เรื่อง”

“เชื่อกูว่าฟังตรงนี้ก่อน” ผมลากไอ้บุ๊คที่ใจร้อนมาหลบอยู่อีกฝั่งแต่สามารถได้ยินบทสนทนาของพี่ชายมันได้ ตอนนี้พี่คิมจุดบุหรี่สูบก่อนจะยื่นไปให้พี่ชายให้บุ๊คอีกตัว

“ไอ้คิมมึงตามกูมาทำไม” พี่ชายไอ้บุ๊คเป็นฝ่ายเปิดหลังจากที่รับบุหรี่ขึ้นมาสูบด้วยสีหน้าเครียดๆ “กูว่ากูบอกมึงไปชัดแล้วนะ”

“กูไม่ตกลงไง” พี่คิมตอบ

“มึงต้องการอะไร”

“ทำอย่างไงก็ได้ให้ไอ้เด็กนั่นเลิกเล่นฟุตบอล”

“.....!!!” ไม่ใช่แค่พี่ชายไอ้บุ๊คที่ตกใจผมกับไอ้บุ๊คเองก็ตกใจไม่แพ้กันที่พี่คิมพูดออกมาแบบนั้น ตอนนี้ผมเริ่มปะติดปะต่อกับสิ่งที่มารวยพูดออกมาก่อนหน้า

“แต่รวยรักฟุตบอล...”

“มึงเคยรั้งให้มันโดดซ้อมตั้งหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอ..อย่ามาบอกว่าตอนนี้ทำไม่ได้” อย่าบอกว่าที่ผ่านมาพี่ชายไอ้บุ๊คเป็นต้นเหตุให้มารวยโดดซ้อม..ผมก็คิดไม่มีผิดเพราะปรกติรวยไม่ใช่คนแบบนี้

“ไอ้คิมแค่นี้กูก้รู้สึกผิดจะแย่แล้ว ถ้าให้กูทำแบบนั้นอีกกูทำไม่ได้จริงๆ”

“งั้นมึงก็เลิกกับมันซิ เลิกกับมันให้กูดูแล้วกูจะหยุดทุกอย่าง”

“แต่กูรักมารวย กูรักมารวยจริงๆ ไอ้คิม!” พี่ชายไอ้บุ๊คตะโกนใส่หน้าพี่คิมด้วยความเหลืออด แต่สิ่งที่ผมรับรู้ได้ตอนนี้คือไอ้บุ๊ค.. “กูรักมารวยคือเรื่องจริงได้ยินไหม!”

“เฮียกู..กับไอ้พี่คิมนั่นมันอย่างไงวะ” คือไม่บุ๊คยังไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“รอดู.....” ยังไม่ทันที่ผมพูดจบพี่คิมกลับยื่นหน้าเข้าไปจูบพี่ชายของมารวยทันทีโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว แต่แล้วพี่คิมก็ถูกผลักกระเด็นออกมา

“เหี้ย......” ผมกับไอ้บุ๊คอุทานออกมาพร้อมกันทันทีที่เห็นแบบนั้น ด้วยความที่ผมมีสติมากกว่ารีบเอามือปิดปากไอ้บุ๊คเอาไว้ก่อนที่มันจะตะโกนออกไป

“ไอ้คิมเรื่องของกูกับมึงมันจบไปแล้ว! มึงมีแฟนกูก็มีแฟนแล้ว!!!” พี่ชายไอ้รวยกระชากคอเสื้อของพี่คิมแรงๆ ก่อนจะดันหลังพี่คิมไปติดกับกำแพง “เราสองคนไม่เคยรักกันมันแค่..สนุกตอนนั้น โอเคกูขอโทษที่กูมักง่ายแต่มันก็แค่ครั้งนั้นป่าววะ”

“ไอ้บิ๊กมึงเหี้ยเนอะ! ตอนมึงทะเลาะกับแตมมึงก็มาเอากับกู ขอร้องให้กูอยู่ด้วย..แต่พอมึงสนุกกับไอ้เด็กนั่นมึงทิ้งกูง่ายๆ อย่างนั้น?”

“มึงไม่ใช่เหรอที่แนะนำรวยให้กู”

“.....”

“กูเหี้ยเองไอ้คิม ให้มันจบแค่นี้เถอะกูขอร้อง จะทำอะไรก็มาลงที่กูอย่ายุ่งกับรวย” พี่ชายของไอ้บุ๊คกำลังจะเดินออกมาทางนี้ทำให้ผมรีบดึงไอ้บุ๊คให้หลบไปอีกทาง

พรึบ!

“ไอ้บิ๊ก...กูว่ากูรักมึง” ทุกอย่างมันซับซ้อนมากกว่าที่พวกผมคิด..เมื่ออยู่ๆ พี่คิมวิ่งมากอดเอวพี่ชายของไอ้บุ๊คเอาไว้ พี่คิม..ที่ผมไม่เคยคิดว่าพี่เขาจะเป็นแบบนี้เพราะภายนอกพี่คิมโคตรแมนแถมยังมีแฟนเป็นผู้หญิงที่โคตรสวยแล้วทำไมถึงมาอ้อนวอนพี่ชายของไอ้บุ๊คอย่างไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้

“แต่กูไม่ได้รักมึง...” ผมว่าตอนนี้มีคนช็อคหนึ่งอัตราแล้วครับ ใครก็ได้ช่วยผมลากไอ้บุ๊คไปเก็บที งานนี้มีแตกแน่นอนผมรับประกัน


Book’ s talk

ถ้าถามว่าผมรักเฮียบิ๊กมากแค่ไหนผมตอบเลยว่ารักมาก แต่การที่ผมได้ยินและรับรู้ในเรื่องเมื่อสักครู่บอกได้คำเดียวว่าผิดหวัง ผมผิดหวังกับเฮียมากๆ ผมผิดหวังที่ผมไว้ใจและเคยยืนยันกับไอ้รวยว่าเฮียบิ๊กไม่มีทางหลอกมัน แต่แล้วคำพูดของผมมันก็เชื่อไม่ได้เพราะเฮียบิ๊กคนนี้ไม่ใช่เฮียที่ผมเคยรู้จัก เฮียบิ๊กเลวมากกว่าที่ผมคาดคิด ถ้าเฮียบิ๊กมาขอโทษบอกได้เลยว่าผมไม่ให้อภัยกับสิ่งที่ทำไว้กับเพื่อนผมอย่างแน่นอน ไอ้รวยมันเป็นคนดีเกินกว่าที่จะต้องมาเจอเรื่องเหี้ยๆ แบบนี้ ผมว่าผมเจอเรื่องที่เหี้ยแล้วแต่มันยังไม่ถึงครึ่งกับสิ่งที่ไอ้รวยเจอเลย

“มึงจะเอาไงไอ้บุ๊ค” ผมกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับไอ้เซย์มองดูไอ้รวยที่ยังคงฟุบอยู่กับโต๊ะไม่รู้เรื่อง

“ไอ้เซย์ถ้าสมมติว่ามึงกับกูได้เป็นแฟนไอ้รวยจริงๆ อย่างที่เราหวัง มันคงไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้มึงว่าไหม?” และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกผิดคือผมควรแย่งไอ้รวยกลับมาไม่ควรปล่อยให้ไอ้รวยต้องเจอกับสิ่งที่เลวร้ายแบบนี้ ผมว่าผมเป็นเพื่อนที่เหี้ยแต่ผมคงเป็นแฟนหรือคนรักที่ดีของมันได้

“บุ๊ค..มึงอย่าทิ้งกูดิ เมื่อก่อนกูชอบรวยอันนี้จริง แต่ตอนนี้กูชอบมึง”

“ไม่ใช่เวลามาพูดความในใจไหมไอ้สัด เครียดอยู่” ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างใช้ความคิดว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี แต่อยู่ๆ โทรศัพท์ของไอ้รวยดังขึ้นก่อนจะเห็นว่าเป็นเฮียของผมเองที่โทรเข้ามา

“กูรับดีไหม?” ผมถามคนตรงหน้าเพื่อขอความคิดเห็น

“รับดิ ทำเหมือนมึงไม่รู้เรื่อง”

“โอเค” ผมสุดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกดรับสายแทนไอ้รวย “ผมเองเฮีย ไอ้รวยเมาหลับไปแล้ว”

(ห้ะ?? เด็กบื้ออยู่กับตี๋เหรอ? อยู่ที่ไหนทำไมไม่บอกเฮีย) ผมกัดฟันเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเองที่ตอนนี้อยากจะตะโกนด่าเฮีย..ไม่ซิผมอยากต่อยให้เลือดชั่วๆ ของเฮียไหลออกมาเพื่อลบล้างสิ่งที่ทำกับเพื่อนของผม

“อยู่ KJH เฮียจะมารับมันไหม”

(เอ่อ.. เดี๋ยวเฮียไปรับนะ ตี๋อยู่กับรวยก่อน)

“เฮียอยู่ไหน”

(เฮียอยู่...) ถ้าเฮียโกหกผม.. (เฮียอยู่หอ)

“ครับ” ขอโทษนะ..เฮียเลือกที่จะโกหกผมเอง ตอนนี้ผมก็ไม่สามารถช่วยอะไรเฮียได้ แต่สิ่งที่ผมช่วยได้คือพาไอ้รวยออกมาจากชีวิตเฮีย

“ไอ้บุ๊คใจเย็น นั่นพี่ชายมึง” ไอ้เซย์เลื่อนมือมากุมมือของผมเอาไว้เบาๆ พยายามเตือนสติและให้ผมระงับอารมณ์โกรธของตัวเองให้ได้ “กูรู้มึงโกรธแต่ถ้ามึงโกรธตอนนี้มันไม่ช่วยอะไรนอกจากมึงจะได้แค่ความสะใจ”

“....”

“มึงร้อน..กูจะเย็นให้มึงนะ” ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามาทำซึ้งทำโรแมนติกแถวนี้ ไอ้ฉิบหายเอ้ย! กูจะร้อนมากกว่าเก่าก็เพราะมึงนี่แหละ แต่เอาเถอะครับแค่คำพูดกับมือที่สัมผัสกันเบาๆ มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย และรอเวลาให้เฮียบิ๊กมารับไอ้รวยกลับ ผมอยากดูหน้าคนตอแหลครับว่าเฮียผมมันจะตอแหลได้เนียนขนาดไหน

“เฮียทำอะไรผิดหรือเปล่า ทำไมตี๋มองหน้าเฮียแบบนั้น?” หลังจากที่เฮียบิ๊กแสร้างว่าอยู่หอกำลังมารับไอ้รวย พอมาถึงผมก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่มองเฮียนิ่งๆ ก็เท่านั้น “แล้วมึงมาได้ไง” เฮียชี้ไปที่ไอ้เซย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม

“พาไอ้รวยกลับไปก่อนเฮียอย่าพึ่งถามมาก” ผมพยายามคุมเสียงของตัวเองแล้ว แต่มันไม่ได้จริงๆ จนกระทั่งไอ้เซย์เอื้อมมือของมันมากุมมือของผมไว้ใต้โต๊ะแล้วเขี่ยเบาๆ ให้ผมใจเย็น

“อืม งั้นเฮียไปก่อนนะ” เฮียบิ๊กอุ้มไอ้รวยเดินออกไปแต่สายตาของเฮียยังมองมาที่ไอ้เซย์อย่างไม่ไว้ใจ

“เฮียมึงมองหน้ากูเหมือนอยากเข้ามาต่อยอะ ถ้ารู้ว่ากูกับมึง...”

“พอได้แล้วไหม แล้วก็ไม่ต้องมาจับมือกู” ผมสะบัดมือของมันออกก่อนจะยกเหล้าที่เหลือขึ้นมาดื่มให้เมา เผื่อมันจะได้ลืมความเครียดนี้บ้าง

แต่ใครจะไปรู้ว่าน้ำตาของคนที่แสร้งว่าไม่รู้เรื่อง ปล่อยให้ทุกคนคิดว่าเมากลับไหลออกมาอย่างไม่หยุดจนกระทั่ง....

“เฮียรักเราจริงๆ นะครับเด็กบื้อ”

ทันทีที่สัมผัสจากริมฝีปากประทับลงมาบนหน้าผากของเขาเบาๆ สมองสั่งการว่ายังไหว แต่ใจตอนนี้เต็มไปด้วยแผล..


#ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่าเฮียบิ๊ก
#ส่วน เซย์บุ๊ค อาจจะมา...............( มั้ง)
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 18 (19/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 19-08-2019 21:23:27
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 18 (19/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 19-08-2019 23:20:10
งานนี้ต้องพามารวยหนี!!! หนีออกจากชีวิตเฮีย
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 19 (21/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 21-08-2019 15:18:45

บทที่ 19
เลวได้มากกว่านี้

BIG’ s talk

“น้ำตาไหลทำไมครับ?” หลังจากที่ผมอุ้มร่างของเด็กบื้อมาไว้ที่เตียงจัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ตอนนี้ผมนอนตะแคงพลิกตัวหันมาเกลี่ยผมเด็กบื้อเบาๆ แต่สิ่งที่ผิดสังเกตคือน้ำตาที่ไหลออกมาภายใต้ดวงตาที่ปิดสนิท หรือว่าเด็กบื้อของผมกำลังฝันร้าย

“อย่าโกรธเฮียเลยนะ อย่าโกรธเฮียเลย” ผมไม่รู้ว่าทำไม..ผมถึงรู้สึกเจ็บปวดกับท่าทางของเด็กบื้อขนาดนี้ ผมรู้สึกผิดที่ปิดบังและเคยคิดที่จะทำลายอนาคตของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผม...รักมารวยมาก รักแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน

ทุกคนอยากรู้ไหมครับว่าผมทำเลวไว้กับเด็กบื้อเรื่องไหนบ้าง..ถ้าให้เล่าให้หมดก็คงจะใช้เวลายาวนานสักหน่อย แต่ถ้าอยากฟังผมจะเล่าให้ฟังครับ เริ่มจากเรื่องแรกเลยก็แล้วกันผมรู้จักกับไอ้คิมผ่านทางแตมที่เป็นแฟนเก่าของผม แตมกับคิมเป็นเพื่อนคณะเวลาที่ผมไปหาแตมก็จะต้องเจอกับไอ้คิมอยู่เกือบทุกครั้งจนผมเริ่มสนิทกับมัน มีอะไรผมก็เลือกที่จะเล่าให้มันฟังทุกอย่างแม้กระทั่งวันที่ผมกับแตมทะเลาะกันหนักๆ ก็มีไอ้คิมที่คอยรับฟัง ด้วยความเมาบวกกับความเหงาหรืออะไรก็ตามทำให้ผมเผลอมีอะไรกับไอ้คิมซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน...

ใช่ครับ ผมโกหกทุกคนว่าเด็กบื้อคือผู้ชายคนแรกของผม ทุกคนไม่สงสัยเหรอว่าทำไมผมต้องไปตรวจร่างกายขนาดนั้นก็เพราะ..ผมมีอะไรกับไอ้คิมโดยที่ไม่ป้องกันแม้ว่ามันจะไม่ได้บ่อยแต่ก็ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ถึงผมเลวแต่ผมเองก็ไม่เลวพอที่จะเห็นแก่ตัวเอาเชื้อโรคไปติดคนที่ผมรักอย่างนั้น โดยที่ผมกับมันตกลงกันเอาไว้ว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนมันคือเพื่อนธรรมดาแค่นั้นไม่มีความลึกซึ้งแอบแฝงเพราะมันเองก็มีแฟนอยู่แล้วเหมือนกัน จนกระทั่งวันที่ผมถูกแตมบอกเลิก..ผมยอมรับว่าเสียใจมากแต่สาเหตุหลักๆ ก็มาเพราะนิสัยส่วนตัวของผมที่ขี้หึงระแวงไปเองว่าแตมจะแอบไปมีคนอื่นเหมือนอย่างที่ผมทำ สำนวนที่ว่าวัวสันหลังหวะโคตรจะตรงกับผมเลย จนกระทั่งแตมทนไม่ไหวและจบความสัมพันธ์กับผมทันที และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมหาความสนุกเล่นๆ ใส่ตัวโดยพนันกับไอ้คิมว่าถ้าผมสามารถทำให้เด็กบื้อรักผมได้ไอ้คิมต้องให้เงินผมตามที่ตกลงกันเอาไว้ เอาจริงๆ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะเรื่องสำคัญจริงๆ คือความสนุกและสะใจเท่านั้น แต่ใครจะไปรู้ว่าการที่ผมเอาตัวเองเข้ามาใกล้ๆ มันทำให้ผมถลำลึกไปเอง ผมแพ้ให้กับนิสัยซื่อๆ ของเด็กบื้อ การเอาใจใส่ เรียกได้ว่าทุกอย่างเลยที่ทำให้ผมรักจริงๆ

แต่ข้อตกลงของผมกับไอ้คิมมันไม่ได้มีเงินพนันเท่านั้น เพราะ..ไอ้คิมมันต้องการให้ผมรั้งเด็กบื้อเอาไว้ไม่ให้ไปซ้อมในช่วงเย็น หรือถ้าซ้อมผมต้องไปนั่งเฝ้า...ไม่ใช่อะไรแต่เพราะต้องการให้เด็กบื้อเสียสมาธิเท่านั้น มันให้เหตุผลว่าเด็กบื้อของผมทำให้มันต้องตกอันดับการแข่งขัน อะไรที่สามารถทำให้ฟอร์มการเล่นของเด็กบื้อดรอบลงได้และหนึ่งในนั้นก็คือผมเองที่เป็นต้นเหตุให้ฟอร์มการเล่นของเด็กบื้อเป็นไปอย่างที่ไอ้คิมต้องการ แรกๆ ผมก็สนุกหลังๆ ผมไม่สนุกด้วยเพราะผมรู้ว่าฟุตบอลเป็นสิ่งที่เด็กบื้อของผมรักมากที่สุด แต่ความรู้สึกผิดมันเข้ามาจู่โจมหัวใจของผมในแค่ช่วงหลังๆ เท่านั้น ที่ผ่านมาผมทำให้เด็กบื้อสูญเสียโอกาสไปหลายอย่างโดยตั้งใจ ผมผิดผมยอมรับ

เรื่องที่ผมโกหกมันก็มีเท่านี้แหละครับหรืออาจจะมากกว่านี้ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

“.......” ผมนอนกุมมือของเด็กบื้อตลอดทั้งคืนเหมือนกำลังกลัวว่าวันหนึ่งผมจะไม่มีคนที่คอยอยู่ข้างๆ เหมือนอย่างวันนี้ แต่แล้วความรู้สึกบางอย่างของผมมันก็ผุดขึ้นมา ในเมื่อผมกลายเป็นคนเลวแล้วผมก็สามารถเลวได้มากกว่านี้ ใช้ความเลวของผมรั้งเด็กบื้อเอาไว้ ใครจะว่าเห็นแก่ตัวก็ช่างเพราะมันเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ผมไม่ต้องเสียเด็กบื้อไป หรือไม่ก็อาจจะเสียไปตลอดการ


Maruay’ s talk

อย่าทำร้ายผมไปมากกว่านี้อีกเลย....

นี่คือสิ่งที่ผมคิดในตอนนี้หลังจากที่บังเอิญไปรู้ความจริงบางอย่าง ความรู้สึกที่เหมือนโดนผลักลงเหวมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ผมยอมรับว่าผมโง่แต่ผมแค่ไม่คิดว่าความโง่ของผมมันจะกลายเป็นตัวที่ทำให้ผมพบเจอกับความรู้สึกเจ็บขนาดนี้ เจ็บที่ไว้ใจคนง่ายๆ โดยไม่ฉุกคิดตั้งแต่แรกที่เขาเข้ามาหาผมด้วยเหตุผลแปลกๆ คนอื่นอาจจะไม่เชื่อแต่นั่นเป็นผม ผมเลยเชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข สมเพชตัวเองจริงๆ ครับ ผมอาจจะเป็นไอ้ขี้แพ้คนหนึ่งแต่เชื่อผมซิว่าไอ้ขี้แพ้คนนี้ก็มีหัวใจเหมือนกัน ผมรักได้ผมก็เกลียดได้...

“ตื่นแล้วเหรอครับ?” ผมลืมตาขึ้นมาในช่วงเช้าของอีกวันหลังจากที่เมื่อคืนผมไปกินเหล้ากับไอ้บุ๊คและเซย์ ผมไม่ได้เมาแต่ผมแค่อยากระบายให้ใครสักคนรับฟัง จนผมเผลอไปได้ยินเรื่องทุกอย่างจากปากของ...พี่บิ๊กและพี่คิม ผมได้ยินตั้งแต่ต้นได้เห็นทุกอย่างและผมเองก็รู้ด้วยว่าไอ้บุ๊คเองก็เห็นเหมือนกันเพียงแค่มันไม่ได้สังเกตเห็นผมก็เท่านั้น ผมหนีกลับมาที่โต๊ะก่อนเพราะไม่รู้ว่าผมควรทำอย่างไรต่อไป จนกระทั่งทำตามน้ำไปก่อนจนถึงตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าผมจะทนได้อีกเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ ทุกคนไม่ต้องห่วงหรอกครับ คนโง่อย่างไงก็ไม่พลาดโง่ซ้ำสองอย่างแน่นอน

“ครับ”

“เฮียทำอาหารไว้ให้ จะกินก่อนหรืออาบน้ำก่อน” ผมมองเขาที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อ่อ ผมลืมไปว่าผู้ชายคนนี้แสดงละครเก่ง

“อาบน้ำก่อนครับ”

“งั้นเฮียไปรอด้านนอกนะ” เขาหันมายิ้มให้ผม รอยยิ้มที่เหมือนวันแรกที่ผมรู้จักเขา รอยยิ้มที่ไม่มีความจริงใจ รอยยิ้มที่ผมเคยหลงรัก “ทำไมมองเฮียแบบนั้นเอ่ย?”

“ไม่มีอะไรครับ” ผมยันตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายรวมถึงคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ถ้าถามว่ารักไหมผมรักนะรักมากแต่ถ้าถามว่าให้อภัยได้ไหมก็คงตอบว่าไม่ แผลมันสดเกินไปจริงๆ ครับ รู้ว่าตอนนี้เขารักผมจริงๆ แต่แล้วไงในเมื่อเขาเลือกที่จะเข้าหาผมด้วยการหลอก ผมก็จะไปจากเขาทั้งๆ ที่รักเหมือนกัน

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จผมก็ไม่เห็นเขาอยู่ในห้องแล้ว ทำให้ตอนนี้ผมเลือกที่จะเก็บของบางอย่างลงกระเป๋า ลาก่อนเตียงนอนนุ่มๆ ที่เคยนอน ลาก่อนห้องนอนที่คุ้นเคย สถานที่นี้มันมีเรื่องราวครั้งหนึ่งของผมแต่ตอนนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว หวังว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้นมากกว่าตอนนี้

“มานั่งเร็วเฮียอุ่นอาหารไว้ให้แล้วจะได้กินตอนร้อนๆ” ทันทีที่ผมเดินออกจากห้อง เขาเดินเข้ามาจูงมือผมและพาไปนั่งลงตรงข้ามกับเขาที่จัดแจงทุกอย่าง ผมมองอาหารที่หน้าตาน่าทานเหล่านี้ด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะชะงักเมื่อเฮียบิ๊กยื่นของบางอย่างมาให้ผมตรงหน้า

“อะไรครับ?”

“เปิดดูซิ” ผมรับกล่องจากมือของเขาก่อนจะค่อยๆ เปิดออก..ทันทีที่เห็นของด้านในผมตัดสินใจปิดมันและวางมันลงที่โต๊ะ “อ่าว..ทำไมทำหน้าไม่ดีใจอย่างนั้นหละครับ เฮียตั้งใจเลือกมาให้เราเลยนะ”

“ขอบคุณครับ” ผมไม่สนใจว่าสีหน้าและท่าทางของเขาจะเป็นอย่างไรหรือจะมองผมด้วยสายตาแบบไหนเพราะตอนนี้อาหารตรงหน้าทำให้ผมสนใจมันมากกว่า

“สงสัยเราอาจจะหิว กินก่อนค่อยดีใจก็ได้” ผมรู้ว่าตอนนี้เขากำลังฝืนยิ้มออกมาทำท่าเหมือนไม่คิดอะไรก่อนจะก้มลงกินอาหารเหมือนอย่างทุกครั้งที่เรากินด้วยกัน แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือการกินอาหารที่ปราศจากบทสนทนาเหมือนอย่างทุกที

“มารวยครับ..เฮียมีอะไรอยากจะบอก”

“ผมก็มีเหมือนกันครับ” หลังจากที่ผมกับเขากินเสร็จเราทั้งคู่ต่างพูดขึ้นมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ผมมองเข้าไปนัยน์ตาของเขาส่วนเขาก็มองเข้ามาที่ผมอยู่เหมือนกัน

“เราพูดก่อนก็ได้” ผมพยักหน้าก่อนจะยกน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อไล่เศษอาหารที่อยู่ด้าน ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับพูดในสิ่งที่ผมตั้งใจ

“เราเลิกกันเถอะครับ”

“......”

“ผมรู้ทุกอย่างหมดแล้ว ผมเห็นทุกอย่าง ผมได้ยินทุกอย่างด้วยตาและหูของผม ถึงผมจะโง่แต่ผมก็ไม่ยอมโง่อีกต่อไปแล้ว ขอโทษที่รู้ความจริงก่อนที่พี่จะพูดนะครับ”

“พี่? ..พี่อย่างนั้นเหรอ?” สีหน้าของเขาไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกอะไรนอกจากคำพูดที่พึมพำออกมาเท่านั้น

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ ทั้งคำว่ารัก” ผมเลื่อนตัวลุกขึ้นออกจากเก้าอี้ “และคำว่าเกลียด” ผมเดินหนีออกมาในจังหวะที่เขากำลังช็อกกับการกระทำและคำพูดของผม

หมับ!

“เดี๋ยวก่อน.. เฮียไม่เลิกฟังก่อนได้ไหม ขอเฮียอธิบาย” เขาตามมารั้งแขนผมเอาไว้หลังจากที่ผมเข้าไปเอากระเป๋าในห้องและเตรียมจะเดินออกไป

“อธิบายกับแก้ตัวมันต่างกันไหมครับ? ถ้าไม่ต่างผมไม่ฟัง”

“เฮียยอมรับว่ามันเป็นอย่างนั้นทุกอย่าง..แต่ตอนนี้เฮียรักเราจริงๆ ไม่ได้โกหกหรือแสแสร้งอะไรเลย” ผมมองหน้าเฮียบิ๊กนิ่งๆ ก่อนจะยิ้มออกมา

“ผมก็รักพี่นะ แต่ผมไปต่อไม่ได้จริงๆ ว่ะ ผมโคตรผิดหวังเลย”

“เฮียขอโทษ..แต่ไม่ไปได้ไหม..ได้ไหม ขอโอกาสเฮียขอโอกาส” เขาดึงตัวผมเข้ามากอดเอาไว้ “ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ขอโทษจริงๆ ขอโทษ..ไม่ไปได้ไหม ให้โอกาสอีกสักครั้งได้ไหม”

“ถ้าพี่คิดว่าโอกาสมันขอจากใครง่ายๆ พี่จำไว้นะครับว่านั่นไม่ใช่ผม ปล่อย..” ผมดันตัวออกจากอ้อมกอดที่แสนจะคุ้นเคย อ้อมกอดที่ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่ามันปลอดภัย อ้อมกอดที่เคยคิดว่าเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นอ้อมกอดที่แสนจะเจ็บปวด ผมเกลียดอ้อมกอดนี้ ผมเกลียดทุกอย่างที่ผู้ชายคนนี้ทำ

“ทำไม....”

“สะใจมั้งครับ” ผมเห็นน้ำตาของตาเขาที่ไหลออกมาอย่างช้าๆ ผ่านดวงตาทั้งสองข้าง “น้ำตาของพี่มันเรียกได้จริงๆ ผมเชื่อแล้ว”

“เราใจร้ายมากเลยรู้ไหม...”

“แต่ก็ไม่เท่าพี่ ผมพูดถูกใช่ไหม?” ผมขยับออกห่างจากเขาก่อนที่จะเดินหันหลังเตรียมออกจากห้องไป ผมพึ่งรู้ก็วันนี้ว่าการก้าวขาออกจากสิ่งที่คุ้นเคยมันทรมานอย่างนี้นี่เอง

“เฮียเลวใช่ไหม?” แต่ก่อนที่ผมจะออกไปผมหันหน้ากลับพร้อมกับพยักหน้าให้กับคำถามของเขา “เฮียเลวได้มากกว่านี้ เผื่อไม่รู้”

“.....?”

พรึบ!

ตัวของผมทุกกระชากกลับเข้าไปด้านในเหมือนเดิมแต่ครั้งนี้ผมถูกผลักลงบนโซฟาพร้อมกับร่างของเขาที่ตามขึ้นมาคร่อมผมเอาไว้ ใบหน้าของเราสองคนใกล้ชิดกันจนสัมผัสถึงลมหายใจ

“เอาซิครับ..อยากทำอะไรก็ทำ” เมื่อสิ้นเสียงคำพูดของผมเขาก้มลงมาประกบจูบลงบนริมฝีปากของผมเหมือนอย่างทุกที แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือความรู้สึกของผม ผมนอนนิ่งเพื่อให้เขาทำตามใจ ผมเองก็อยากรู้ว่าไอ้การที่เขาบอกว่าเลวได้มากกว่านี้มันจะมากขนาดไหนเชียว

“ถ้าจะไปแล้ว...ก็ช่วยมีอารมณ์ให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอครับ?” ผมรั้งคอของเขาเอาไว้บดขยี้ริมฝีปากของตัวเอง พร้อมกับสอดลิ้นเข้าไปด้านในหยอกล้อกับลิ้นหนาของเขา ร่างกายของเราสองคนปราศจากเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่สามารถรับรู้ได้ จนกระทั่ง...

“ขอทำให้นะ ครั้งสุดท้ายก็ได้” เขาเลื่อนตัวลงมาด้านล่างให้ปากของเขาเสมอกับส่วนนั้นของผมก่อนจะครอบลงมาเหมือนครั้งนั้นที่เขาเคยทำให้

“แต่ผมไม่ทำนะ” ผมกลั้นใจบอกไปแม้ว่ามันจะขัดกับอารมณ์และความรู้สึกของผมก็ตาม แต่ในเมื่อตอนนี้สมองเป็นใหญ่ผมก็ต้องเลือกฟังสมองมากกว่า

“อื้ม...” ผมยกแขนของตัวเองขึ้นมากัดเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา แม้ว่าบทเรียนนี้มันจะสนุกแค่ไหนแต่ผมไม่ควรลืมว่าถ้าเรียนเสร็จทุกอย่างก็จะจบเหมือนความสัมพันธ์ของเรา

เขายกตัวของผมพลิกคว่ำหน้าลงกับโซฟา ผมรับรู้ได้เลยว่าอีกไม่กี่นาทีผมจะต้องกลับไปเป็นเหมือนครั้งที่แล้ว ประสบการณ์มันสอนให้ผมยอมรับความเจ็บปวด ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ถ้าผมเกร็งผมก็จะเจ็บดังนั้นผมก็จะต้องยอมผ่อนเพื่อให้ตัวเองเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ในความเจ็บนั้นมันก็ไม่ได้เจ็บอย่างเดียวเสมอไป..

“......”

“.....”

ผมลุกขึ้นสวมเสื้อกับกางเกงที่วางอยู่บนพื้นห้องหลังจากที่เสร็จ.. ส่วนเขานอนมองผมด้วยสายตานิ่งๆ

“เราจะเอาอย่างนี้จริงๆ เหรอ? ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยใช่ไหม”

“รู้ซิครับ รู้มากด้วย แต่ผมแยกออกว่าอันไหนความรักอันไหนเซ็กส์”

“แต่ที่เฮียทำมันคือความรัก”

“แต่ที่ผมทำมันก็แค่เซ็กส์” ผมยักไหล่อย่างไม่สนใจแม้ว่าด้านในมันจะแหลกเหลวไปแล้วก็ตาม ทันทีที่สวมเสื้อผ้าเสร็จผมหันกลับไปมองหน้าเขาอีกครั้ง

“อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกนะครับ ให้ผมเป็นคนสุดท้ายที่จะเจ็บแบบนี้ก็พอ” ทันทีที่เดินออกมาจากห้อง น้ำตาที่พยายามอดกลั้นไว้ตั้งนานของผมมันกลับไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

ใจผมอยากให้โอกาส แต่สมองมันสั่งว่าให้พอ...ผมเจ็บจนไม่สามารถที่จะเดินต่อไปไหวเลยครับ แรงที่จะใช้ก้าวเดินมันแทบจะไม่มี จนกระทั่งผมยอมแพ้ทิ้งตัวทรุดนั่งลงกับพื้นลิฟท์ที่กำลังเลื่อนลงมาชั้นล่าง ผมไม่สนใจว่าลิฟต์จะเปิดที่ชั้นไหน หรือใครที่จะเข้ามาแต่ตอนนี้ผมรับรู้เพียงแค่ว่า....ผมไม่ได้เข้มแข็งเหมือนที่ปากของผมพูดออกมาเลย

ติ่ง!

“ไอ้รวย!!!” ผมไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น แม้กระทั่งน้ำเสียงหรืออ้อมกอดของใครที่เข้ามากอดผมเอาไว้ทันทีที่ลิฟต์เปิดออก

“ไอ้เซย์พามันกลับหอมึงก่อนได้ไหม...”

“เดี๋ยวกูช่วย”

“กูขอโทษแทนเฮียกูนะไอ้รวย..ที่ทำมึงเจ็บขนาดนี้ กูไม่น่า...”

“พูดตอนนี้มันก็ไม่ทันหรอก แค่ตอนนี้เราอยู่ข้างๆ รวยก็พอ”

“อืม..”

“ในฐานะเพื่อน”

“เออ! ย้ำจังไอ้เหี้ยนี่!!!”

#มันจบแล้วจริงๆเหรอ.... (ไม่จริง!!!)
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 19 (21/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-08-2019 16:56:34
พาน้องหนีไป!!!!หนีจากคนใจร้าย
หัวข้อ: Re: เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 19 (21/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 23-08-2019 11:19:00
ทำไมเฮียทำแบบนี้ เฮียเลวมาก,,,
หัวข้อ: Re: [END SS1] เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 20 (23/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 23-08-2019 14:05:46

บทที่ 20
ไม่ได้จบมันแค่เริ่มต้น (อกหักมันเจ็บแบบนี้นี่เอง)

“ไอ้รวยมึงโอเคไหม?” หลังจากที่ตัวผมถูกเคลื่อนย้ายมาที่ไหนสักแห่ง ตอนนี้ผมค่อยๆ ได้สติกลับคืนมาแม้ว่าจะไม่เต็มที่แต่มันก็ดีกว่าเมื่อสักครู่นี้ค่อนข้างมาก ผมพยายามปรับโฟกัสปาดน้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุดออกจากดวงตา บอกตามตรงว่าไม่เคยอ่อนแอขนาดนี้มาก่อน

“อย่าพึ่งไปถามอะไรเพื่อนเลยไอ้บุ๊ค”

“มึงอย่าขัดกูได้ไหมไอ้เซย์ กูจะคุยกับเพื่อนกู”

“ให้เวลารวยก่อนดิ สภาพตอนนี้น่าจะยังไม่พร้อม” ผมอยากจะพูดขอบคุณเซย์ที่เข้าใจแต่ปากของผมมันไม่สามารถที่จะขยับหรือพูดออกมาได้เพราะมีก้อนบางอย่างจุกที่คอของผม

“ไอ้รวย...” ผมสัมผัสถึงฝ่ามือของไอ้บุ๊คที่ลูกหลังผมเบาๆ ผมรู้ว่าไอ้บุ๊คมันเป็นห่วงและรู้สึกผิดแทนพี่ชายของมัน ผมไม่โกรธเพราะไม่ใช่ความผิดของไอ้บุ๊ค

“ไอ้บุ๊คกูบอกว่าอย่าพึ่งไปยุ่งกับรวย ปล่อยให้รวยอยู่กับตัวเองก่อน”

“ดุกูหาพ่อมึงเหรอไอ้เหี้ยเซย์ แม่ง กูไม่อยู่ละ”

“มึงจะไปไหนเนี่ย งอนเป็นเด็กเลย”

“เด็กเหี้ยอะดิ”

“ก็รู้” ทั้งบุ๊คและเซย์ออกไปข้างนอกปล่อยให้มารวยนอนอยู่ในห้อง ทบทวนกับสิ่งที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่เขามีความรักและเป็นครั้งแรกที่เขาได้เรียนรู้ถึงความเจ็บปวด แต่สิ่งที่มารวยเชื่อว่า....เดี๋ยวมันก็คงผ่านไป รักครั้งนี้มีทั้งประสบการณ์ที่ดีและไม่ดี

‘เฮียบิ๊กรักมารวยนะ...’

ต่อไปนี้มันคงไม่มีอีกแล้ว ถ้าถามว่าอกหักต้องทำตัวอย่างไงผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันแต่ผมไม่อยากจมกับน้ำตาแบบนี้ เสียใจได้แต่มันควรน่าสมเพชแบบนี้

“เห้ย ไอ้รวยมึงจะไปไหน” ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้อง ระหว่างทางผมเดินสวนทางกับไอ้บุ๊คและเซย์ที่หายไปไหนไม่รู้กันมา แต่ในมือของสองคนมีอาหารและเอ่อ..แอลกอฮอล์มากมาย

“กูจะไปเตะบอล เศร้าไปก็ช่วยไรไม่ได้”

“ไอ้ห่า มึงมานี่เลย เตะบอลเหี้ยไรไม่รู้เวลา” ผมถูกไอ้บุ๊คลากคอเข้ามาในห้องเหมือนเดิมโดยที่มีเซย์ตามเข้ามาติดๆ “นั่งนี่แล้วแดกข้าวซะ” ผมถูกกดให้นั่งลงบนพื้นห้องข้างๆ โซฟาโดยที่มีไอ้บุ๊คและเซย์คอยจัดแจงหาข้าวน้ำมาวางไว้ตรงหน้าผม

“ตามจริงมึงไม่ต้องหามาให้กูก็ได้นะ กูโอเค” ผมไม่อยากให้เพื่อนๆ ของผมต้องลำบากเพราะผมไปมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าผมจะพูดอะไรผิดเพราะอยู่ๆ ไอ้บุ๊คที่กำลังเทกับข้าวใส่จานละมือและเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมด้วยท่าทีเหนื่อยใจ

“โอเคแล้วน้ำตาไหลทำไม?”

“มันไหลเอง...กูไม่รู้”

“ร้องเถอะกูไม่ล้อมึงหรอกไอ้รวย” ไอ้บุ๊คจำใจทิ้งผมไว้กับเซย์ที่นั่งเลือกหนังอยู่ข้างๆ ผม

“รวย...อกหักมันเจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ? เราไม่เคยเห็นรวยเป็นแบบนี้เลย” หลังจากที่ผมหยิบทิชชูเช็ดหน้าเช็ดตาของตัวเองเรียบร้อยหลังจากที่ปล่อยโฮออกมาอีกชุดใหญ่ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมต้องร้องไห้ออกมาแบบนี้ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าผมก็ร้องไปเยอะอยู่เหมือนกัน

“เราอธิบายไม่ถูกหรอก แต่แค่คิดว่าต่อไปนี้จะไม่มีเขาอีกแล้วมันก็โคตรปวดใจเลย” เซย์ไม่ตอบอะไรเพียงแต่ขยับเข้ามาใกล้ๆ ผม

“ตอนที่เราเห็นรวยมีแฟน..เราก็เสียใจนะที่ไม่ทำอะไรเลย ได้แค่แอบมองรวยอยู่ห่างๆ เพราะคิดว่ารวยคงไม่ชอบเรา แต่เราแค่เสียใจยังไม่ได้ร้องไห้หนักขนาดนี้”

“เซย์ชอบเราแต่เซย์ไม่ได้รักเรา..ถ้าวันหนึ่งเซย์รักใครจากใจจริงๆ เซย์จะรู้เองว่าการที่ต้องเลิกทั้งๆ ที่ยังรักมันรู้สึกอย่างไง”
 
“ถึงรวยจะไม่มีเขาแต่รวยยังมีเรากับบุ๊คนะ” ผมยิ้มทั้งน้ำตาให้กับมิตรภาพที่เซย์มีให้ผม ผมไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างไอ้บุ๊คกับเซย์มันลึกซึ้งมากขนาดไหน แต่ถ้าเพื่อนผมมันลงเอยกับเซย์ในฐานะคนรักผมกล้าที่เป็นประกันเลยว่าเซย์เป็นคนดีโดยเนื้อแท้จริงๆ แต่ที่ผ่านมาไอ้บุ๊คมันยึดอยู่กับอคติของมันเท่านั้น แต่ตอนนี้ผมหวังว่าเพื่อนของผมจะใช้ใจมองมากกว่าอคติที่มันมี

“ขอบใจนะเซย์”

“อย่ามายุ่งกับเพื่อนกู ขยับไปเลย เผลอไม่ได้นะมึงไอ้เซย์” ไอ้บุ๊คที่ไม่รู้ว่าหายไปไหนมากลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าพร้อมผ้าเช็ดตัวหนึ่งผื่นยื่นมาให้ผมตรงหน้า “ไปอาบน้ำไปมึง จะได้สดชื่นมากกว่านี้ อ่อ แล้วก็ยากินเผื่อไว้เดี๋ยวมึงไม่สบาย กูซื้อมาให้แล้วค่อยออกมากินข้าวก็ได้ถ้ามึงไม่หิว”

“อืม ขอบใจมึง”

“ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนเรา รวยไปใช้ห้องนั้นดีกว่า” ผมเดินตามที่เซย์ชี้ทางบอกและปล่อยให้เซย์ได้อยู่กับเพื่อนผมสองคน มันถึงเวลาที่ผมจะทำให้เพื่อนของผมทั้งสองคนมีความสุขบ้างแล้วแหละครับ



BIG’ s talk

เชื่อไหมว่าการที่เรานอนมองแผ่นหลังของคนที่เรารักเดินจากไปมันรู้สึกแย่มากแค่ไหน ไม่มีสิทธิ์รั้ง ไม่มีสิทธิ์ยื้อ นับตั้งแต่ต่อนี้ไปผม..ผมไม่มีสิทธิ์นั้นอีกแล้ว คงไม่ต้องบรรยายว่าผมรู้สึกอย่างไงหรอกมั้งครับ เพราะทุกคนก็คงสมน้ำหน้าที่บทสรุปของคนเลวๆ อย่างผม มันคงน้อยไปถ้าเทียบกับสิ่งที่ผมทำแต่ผมอยากให้รู้ว่าผมรักเด็กบื้อ...ไม่ซิ มารวยคือเรื่องจริง ต่อไปนี้ผมคงเรียกมารวยว่าเด็กบื้อไม่ได้อีกแล้ว..

“เฮีย...มึงนอนอย่างนี้มาตั้งแต่กี่โมง อย่าบอกว่าตั้งแต่ไอ้รวยไป?” ผมไม่รู้แม้กระทั่งว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมง ผมไม่รู้ว่าท้องฟ้าจะเริ่มเปลี่ยนสี ในห้องที่เคยสว่างตอนนี้กลับมืดมน ผมมองไม่เห็นหรือรับรู้อะไรได้นอกจากความเจ็บปวดที่ผมได้รับ

“...ไม่รู้”

“สภาพอย่างหมา” ผมได้ยินเสียงตี๋สบถกับสภาพของผมตอนนี้ แต่ช่างมันเถอะครับตี๋คงรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว ผมก็คงหมดความน่าเชื่อถือในฐานะพี่ชายที่แสนดีที่ตี๋เคยนับถือ

“ถ้าไม่ใช่พี่ชายเชื่อไหมว่าผมไม่ปล่อยเฮียไว้แน่” สัมผัสเย็นๆ ของผ้าชุบน้ำถูกถูมาตามร่างกายของผมเบาๆ ผมค่อยๆ เอียงคอมองมาที่ตี๋ ที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่พื้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ผมด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“ตี๋ไม่ต้องคิดว่าเฮียเป็นพี่ชายก็ได้นะ”

“ไม่คิดก็เหี้ยละ พ่อแม่ก็เดียวกัน” ถึงแม้ความเจ็บมันจะมากมายและถาโถมเท่าไหร่ แต่เชื่อไหมว่าผมยังสามารถยิ้มได้เมื่อเห็นท่าทางห่ามๆ ที่แฝงด้วยความเป็นห่วงของตี๋

“เฮียทำเลวกับเพื่อนของเรา...”

“ก็ดีที่ยังรู้ตัวว่าเลว”

“ไม่ด่าหน่อยเหรอ ถ้าด่าเฮียจะรู้สึกดีกว่าที่เรามานั่งเช็ดตัวให้แบบนี้นะตี๋”

“ที่ทำให้ก็แค่ในฐานะน้องชายเท่านั้นแหละพี่ชายสภาพแย่ขนาดนี้แล้วผมปล่อยไว้ก็คงเป็นน้องชายที่แย่มาก แต่...ในฐานะเพื่อนของไอ้รวยผมไม่อยากซ้ำเติมว่ะ เฮียเองก็น่าจะเจ็บไม่แพ้มัน” ผมมองดูการกระทำของตี๋เรื่อยๆ พยายามไม่คิดฟุ้งซ่านแต่ภาพของตี๋ก็มีภาพของมารวยซ้อนขึ้นมาเหมือนภาพหลอน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนทุกที่ภายในห้องก็เคยมีมารวยอยู่ แต่ตอนนี้มันไม่มีอีกต่อไปแล้ว...

“เจอคนร้องไห้หนักๆ พร้อมกันสองคนก็ไม่รู้จะปลอบอย่างไง แต่..เฮียอย่าตายก็พอสงสารป๊ากับม้าที่ยังไม่ได้บวชลูกชายคนโต” คำพูดที่โคตรจะกวนตีนแต่ในตอนนี้ผมกลับมองว่าน่ารัก “แต่ถ้าเฮียสภาพจิตใจดีกว่านี้ มีคุยกันยาวแน่ๆ ไอ้เรื่องที่ปิดบังถ้ายังไม่บอกผมตรงๆ ก็ไม่ช่วย”

“ตี๋กำลังจะบอกว่าถ้าเฮียตามง้อรวย..ตี๋จะช่วยอย่างนั้นเหรอ”

“ถ้ามันได้บุญก็ทำ” เห็นสัญญาณแบบนี้ของตี๋ผมก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย “แต่บอกไว้ก่อนนะว่าไอ้รวยเห็นมันแบบนั้น แต่ไอ้เหี้ยนี่เจ็บแล้วจำเฮียก็คงยากหน่อย”

“ยากแค่ไหนก็พร้อม”

“เออ ขอเตือนอีกเรื่องคือเฮียเจ็บได้แต่อย่าทิ้งการงานเซนต์สัญญากับเขาไปแล้วก็มีความรับผิดชอบด้วย เรื่องไอ้รวยเฮียจัดการหน้าที่ตัวเองเสร็จเมื่อไหร่ค่อยมาคุยกันอีกทีแต่ไม่ใช่ตอนนี้ ให้เพื่อนผมมันเข้มแข็งมากกว่านี้ก่อน” ผมพยักหน้าตกลงก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในห้องมองโทรศัพท์ที่ผมไม่ได้หยิบขึ้นมาดูเลย

KIM : กูขอโทษที่รู้สึกกับมึงมากกว่าที่ตกลง

ACHI : พี่บิ๊กเมื่อคืนเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมหนีกลับไปแบบนั้น?

ผมมองข้อความเหล่านั้นโดยที่ไม่ตอบกลับแต่แล้วต้องมาหยุดชะงักกับเบอร์ที่แสนจะคุ้นเคย อยากกดโทรออกใจแทบขาดแต่ต้องอดทนไว้เพราะก่อนหน้าที่จะลุกกลับเข้ามาในห้อง ตี๋ให้ผมสัญญาว่าจะไม่ไปยุ่งหรือไปให้มารวยเห็นหน้าจนกว่าผมจะปิดกล้องซีรีส์และมารวยแข่งเสร็จ แต่นั่นมันก็เกือบๆ ปีถึงตอนนั้นผมก็เรียนจบไปแล้ว แต่ทำไงได้ครับ ผมเป็นคนไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรอยู่แล้วก็คงต้องก้มหน้ารับชะตากรรมที่ตัวเองทำไว้ต่อไป

ภาพเก่าๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ยังคงติดอยู่ในห้วงคำนึงของผมมันยังคงไม่ไปไหน ที่นอนที่เคยนอนด้วยกัน ภาพห่มที่เคยซุกตัวกอดกัน แปรงสีฟันที่วางอยู่ที่เดิม ของใช้ต่างๆ ยังเหมือนเดิม... ผมทำใจไม่ได้จริงๆ ผมไม่อยากเลิกกับมารวย

‘ผมรักเฮียบิ๊กนะครับ’

“เฮีย....รักมารวยจริงๆ ฮึก” ขอโทษที่ไม่สามารถห้ามน้ำตาของตัวเองที่ไหลออกมาเมื่อคิดถึงและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมจะกลับมาเหมือนเดิม แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่เหมือนเดิมของผมคือหัวใจที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง



1 เดือนผ่านไป

ทุกอย่างยังคงดำเนินเหมือนปรกติบิ๊กไปซ้อมการแสดงเกือบๆ ทุกวันจนไม่มีเวลาพัก มารวยกลับมาซ้อมบอลหนักขึ้นกว่าเดิมจนฟอร์มกลับมาดีเหมือนเดิมโดยมีเซย์คอยเป็นเพื่อนในช่วงฝึกซ้อมเพราะดูเหมือนสถานการณ์ระหว่างมารวยกับคิมจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ถ้าใครถามว่าคนอย่างมารวยจะยอมไหมเขาขอตอบแทนเลยว่า...ทุกคนจะมองมารวยเปลี่ยนไปอีกแง่มุม

“ไอ้รวยเมื่อกี้สวยว่ะ ฟอร์มกลับมาดีกว่าเดิมอีกถือว่าพัฒนา” ในระหว่างการประชุมตัดสินตัวเล่นในครั้งสุดท้ายโค้ชเอ่ยปากชมมารวยโดยที่คนอื่นๆ ในทีมเห็นด้วยเพราะตลอดเวลาหนึ่งเดินที่ผ่านมามารวยได้พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนในทีมรวมถึงโค้ชได้เห็น

“ขอบคุณครับ” เซย์นั่งสังเกตปฏิกิริยาของคิมที่เอาแต่จ้องมารวยด้วยความไม่พอใจแต่ต้องเงียบไว้เพราะสิ่งที่เขาไม่พอใจคือเรื่องจริง

“กูให้มึงเล่นเป็นตัวจริงส่วนไอ้คิมมึงเป็นตัวสำรองไปก่อนส่วนเกมที่เราจะเล่น...” ยังไม่ทันที่โค้ชจะได้อธิบายรายละเอียด คิมพูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่พอใจผมการตัดสิน

“แต่โค้ชบอกไว้แล้วว่าครั้งนี้จะให้ผมเล่นตัวจริง”

“ก็ไอ้รวยมันกลับมาฟอร์มดีแล้วมึงก็เห็น”

“โค้ชจะไปเอาอะไรกับเด็กอย่างมัน หน้าไหว้หลังหลอกเอาแต่ประจบประแจงพอโค้ชมามันถึงซ้อมพอโค้ชไปมันก็หายเหมือนเดิม” ด้วยความโมโหจนขาดสติทำให้คิมปั้นเรื่องโกหกขึ้นมา

“โค้ชครับขออนุญาตนะครับ ถ้าพี่คิมเขาอยากเล่นเป็นตัวจริงผมก็เป็นตัวสำรองได้นะครับ ผมไม่ขัดผมเล่นตำแหน่งไหนก็ได้อยู่แล้ว” เซย์ยกยิ้มมุมปากอย่างรู้ทันเพราะเขารู้ว่ามารวยกำลังคิดอะไรอยู่

“ไม่ต้องๆ ถ้ามันเป็นอย่างที่ไอ้คิมพูด..กูก็อยากจะชื่นชมมึงเพราะขนาดมึงหายฟอร์มการเล่นของมึงก็ดีกว่าไอ้คิม กูพูดตามตรงนะไอ้คิม มึงจะโกรธกูก็ได้”

“ก็ตามนั้นครับโค้ช” ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากมองไปที่ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องมีสภาพแบบนี้ หลังจากที่ไม่มีข้อสงสัยอะไรแล้วโค้ชอธิบายเกมการเล่นของแมตที่จะถึงต่อโดยที่ทุกคนมีหน้าที่คอยรับฟังและนำคำพูดของโค้ชมาปฏิบัติและฝึกซ้อมจนกว่าจะถึงการแข่งขัน

ในช่วงหลังต่างคนต่างแยกย้ายไปเปลี่ยนชุดเตรียมกลับแต่มารวยถูกคิ้วรั้งตัวเอาไว้ก่อนในจังหวะที่เซย์เผลอ

“มึงจะเอาไง?” คิมผลักจนมารวยหลังติดกำแพง

“ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพี่”

“อย่าทำไม่รู้ไอ้รวย”

“แต่ผมว่ามีแต่พี่ที่มีปัญหากับผมมากกว่า เอาชนะผมไม่ได้ถึงขนาดเล่นสกปรกอย่างนั้นเลยเหรอครับ? ทำไมพี่ไม่เอาเวลามาคิดเรื่องฝึกให้ตัวเองเก่งหรือพัฒนาไม่ดีกว่าเหรอ” มารวยมองหน้ารุ่นพี่ที่เขาเคยเคารพด้วยสายตานิ่งๆ ส่วนคิมเมื่อได้ยินดังนั้นยิ่งโมโหมารวยเข้าไปใหญ่

“ไอ้เหี้ยรวย!”

“ผมพูดความจริงแล้วรับไม่ได้? ผมจะบอกอะไรให้นะพี่คิมผมไม่โกรธกับเรื่องที่ผ่านมา แต่...เรื่องต่อไปผมเอาจริง ถ้าพี่แน่พอก็ล้มผมให้ได้ด้วยฝีมือแล้วผมจะเป็นฝ่ายถอยไปเอง แค่เรื่องตัวสำรองผมไม่ขัดอยู่แล้วถ้าต้องไปเล่นตำแหน่งนั้น”

“มึงจำคำพูดของมึงไว้นะไอ้รวย”

“ผมจำได้ทุกคำครับ”

“ไอ้เด็กอวดดี”

“ส่วนเรื่องของพี่บิ๊ก...ก็สู้ๆ นะครับเรื่องรักเพื่อนไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่จะผิดก็น่าจะเป็นเรื่องที่แอบกินกับเพื่อนทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว” มารวยผลักคิมให้พ้นทางเดินของเขาแต่ก็ต้องชะงักเพราะคำพูดของคิม

“ถ้าไอ้บิ๊ก..มึงไม่เอาแล้วกูขอ”

“เรื่องนั้นผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ถ้าพี่จะลุยก็ไปเลิกกับแฟนของพี่ก่อน” มารวยพยายามทำเหมือนเขาไม่สนหรือแคร์อะไร แต่..มันก็มีวูบไหวอยู่บ้างเมื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ยอมรับว่ายังรักอยู่ลืมไม่ได้และไม่เคยคิดจะลืม

อีกด้านหนึ่งของความเสียใจแน่นอนว่าถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยมีเวลาว่างให้คิดถึงเรื่องนี้แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่คิดเพราะทุกครั้งที่หัวสมองว่างความรู้สึกเก่าๆ จะกลับมา มันยังคงยอมรับและทำใจไม่ได้เมื่อคิดถึงความเป็นจริงที่ไม่มีกันและกันอยู่อีกต่อไป เขาโทษใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุทั้งหมด

“ซูดดดด” เสียงซูดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหน้าเซเว่นเป็นอะไรที่ชินตาของคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวๆ นี้เสมอ เพราะทุกวันจะมีผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามาซื้อบะหมี่ก่งสำเร็จรูปและกดน้ำร้อนออกมานั่งกินอยู่ด้านนอกโดยมีเจ้าหมาคอยอยู่เป็นเพื่อน เรียกได้ว่าทั้งคู่สนิทกันเป็นที่เรียบร้อย

“ไอ้น้องหมาวันนี้พี่คนหล่อซื้ออกไก่มาให้นะ นั่งเป็นเพื่อนพี่กินมาม่าก่อน” ถ้าถามว่าเขาทำแบบนี้ทำไม เพราะการที่เขาทำแบบนี้มันเหมือนว่ามารวยไม่ได้หายไปไหน ทำให้เขาสามารถเอาตัวเองมาใกล้ชิดกับมารวยได้แม้ว่านี่จะเป็นเหตุการณ์แรกที่ทำให้เขารู้จักเด็กคนนี้ บิ๊กมักจะจินตนาการอยู่เสมอว่าข้างๆ เขามีเด็กผู้ชายที่รักนั่งซูดบะหมี่เป็นเพื่อน แม้ว่าความเป็นจริงแล้วมันจะไม่มีก็ตาม

“น้องหมา น้องหมาว่าพี่บิ๊กจะหายเศร้าได้เมื่อไหร่นี่ก็ผ่านมาเดือนแล้วพี่บิ๊กยังทำใจไม่ได้เลย” เขาเองอยากจะเข้าไปหามารวยใจแทบขาด พยายามเดินผ่านตึกเรียนหรือแม้กระทั่งสนามฟุตบอลทั้งๆ ที่เป็นคนละทางกับทางที่เขาไปเรียน แต่บิ๊กก็เลือกที่จะมาเพราะ..มันเยียวยาจิตใจของเขาได้ในระดับหนึ่ง ความรู้สึกในครั้งนี้เจ็บกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาหรือไม่มันก็เทียบไม่ได้เลย บิ๊กอยากจะใช้แอลกอฮอล์เป็นตัวทำให้ลืมอยากเมาอยากปล่อยตัวปล่อยใจกับทุกอย่าง แต่เขาไม่สามารถทำได้สิ่งที่เขาทำได้ก็คือก้มหน้ายอมรับความเจ็บปวด

“ไอ้เกมมึงมันแย่มากเลยนะเว้ยที่ทำกับแฟนมึงแบบนั้น” บิ๊กที่นั่งเหม่ออยู่หน้าเซเว่นเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่กอดคอพูดคุยมุ่งหน้ามาทางเขา “ถ้าแฟนมึงรู้ว่ามึงโกหกเขามึงจะทำอย่างไง”

“ไม่ทำไง เพราะมันจะไม่มีวันนั้น” ผมได้แต่ยิ้มเยาะให้กับบทสนทนาของเด็กสองคนนั้น เพราะ..ผมก็เคยคิดแบบพวกเขา คิดมาตลอดว่าความลับมันจะไม่ถูกเปิดเผย ผมเคยไม่เคยชื่อว่าคำว่าความลับไม่มีในโลกมีอยู่จริงจนได้มาพบกับตัวเอง

“น้องหมาพี่ไปก่อนนะ...” หลังจากที่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจนหมดบิ๊กเดินไปทิ้งขยะก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ากางเกงกลับห้องไปด้วยความรู้สึกไม่มีแรงจูงใจที่อยากจะทำให้เขารีบกลับห้องเหมือนอย่างทุกที เพราะตอนนี้ห้องก็มีไว้แค่นอนไม่ได้มีคนรอเหมือนอย่างทุกที...

“หมากินไหม อร่อยนะ” ถ้าถามว่ามีแค่บิ๊กเพียงคนเดียวหรือเปล่าที่ยังยึดติดกับอดีต บอกได้เลยว่าพวกคุณคิดผิดเพราะมีอีกคนที่ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม นั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ที่เดิมไปในจุดเดิมๆ เพียงแค่..ต่างเวลากันเท่านั้น

“ซูดดดด อร่อยดีเนอะ อร่อยจนน้ำตาไหลเลย” แม้ภายนอกมารวยอาจจะดูเข้มแข็งและฟื้นตัวเร็วในสายตาของเพื่อนๆ แต่แท้จริงแล้วในใจของเขาไม่ต่างจาเกวันแรกสักเท่าไหร่ ความอ่อนแอที่พยายามปกปิดมันถูกเปิดเผยต่อหน้าเจ้าหมาที่นอนอยู่หน้าเซเว่น มารวยเลือกที่จะบอกความรู้สึกของตัวเองทั้งหมดให้กับเจ้าหมาฟังเพราะเขารู้ดีว่าเจ้าหมาตัวนี้ไม่มีทางเอาเรื่องของเขาไปบอกใครได้

“หมา...รวยคิดถึงเขาว่ะ แต่รวยกลับไปไม่ได้จริงๆ” เจ้าหมาเงยหน้ามองมารวยด้วยสายตาเห็นใจแต่มันทำอะไรไม่ได้นอกจากรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ทั้งสองกลับมานั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเวลาเดียวกัน

“ถ้ามันคู่กันแล้วมันก็ไม่แคล้วกันหรอกเนอะ รวยจะรอวันนั้นนะหมา”

หมาเองก็อยากตอบกลับไปว่า..หมาเองก็รอวันนั้นอยู่เหมือนกัน



เย้!!! วันนี้ก็มาถึงวันที่จบ....ไม่ใช่ จบซีซั่น 1 เท่านั้นเป็นแค่ครึ่งแรกของบทเรียนรักของเฮียบิ๊กและน้องมารวย ถ้าอยากรู้ว่าเฮียบิ๊กจะสามารถเอาชนะใจน้องมารวยได้ไหม ต้องรอซีซั่น 2 นะจ๊ะ รับรองว่าสนุกไม่แพ้ซีซั่นหนึ่งแน่ๆทั้งความฮา ความบ้า และความ..อะไรดี คิดไม่ออกแล้ว
และที่อยากจะบอกทุกคนว่า ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามทั้งคอยอ่านหรือการคอมเม้นต์ให้กำลังใจเรารู้สึกดีใจมากๆเลย ตัวเองทำให้เรามีกำลังใจในการแต่งนิยายต่อไป เราไม่สัญญานะแต่เราจะพยายามพัฒนาฝีมือของตัวเองและเอาชนะความกลัวในหลายๆด้านของตัวเองให้ได้

ปล.เกือบสุดท้าย ถ้าไม่เป็นการรบกวนช่วยรีวิวให้หน่อยได้อะเป่า อยากให้เฮียบิ๊กเป็นที่รู้จักมากขึ้น หาแนวร่วมสาปแช่งเฮียกันค่าาา สุดท้าย เรารักทุกคนมากเลยนะ
ปล. สุดท้ายจริงๆ..... จะมาเปิดเรื่อง #เซย์บุ๊คเร็วๆนี้
ด้วยความรักถึงนักอ่านตัวน้อย
ไก่ทอดมาแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: [END SS1] เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 20 (23/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-08-2019 20:04:31
เอาใจช่วยคู่นี้จ้า
หัวข้อ: Re: [END SS1] เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 20 (23/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 24-08-2019 00:10:35
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: [END SS1] เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : บทที่ 20 (23/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 24-08-2019 01:24:40
อดทนรอวันนั้นนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: [END SS1] เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : เปิดเรื่องเซย์บุ๊ค (27/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 27-08-2019 18:22:55
Say Yes! If you love me
#เซย์เท่ไหมบุ๊ค

คลิ๊กไปยังเรื่อง Say Yes! If you love me  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70864.msg3999911#msg3999911)


ลิ้นกับฟันมันกระทบกันยังไม่เท่ากูกับมึง
เรื่องระหว่างศัตรูคู่แค้นที่ประกาศตัวว่าจะไม่มีวันเป็นเพื่อน
แต่ทำไมกลับกลายเป็นความสัมพันธ์แบบ FWB ไปได้ซะอย่างนั้น

 “ กูไม่ใช่เพื่อนมึง!”

“ หรืออยากเป็นเมีย?”

“ เป็นเมียมึง? ใช้ส้นตีนหรือสมองคิดถามจริง”

 “ ก็ไม่แน่ ส้นตีนกูอาจจะคิดถูกก็ได้”


OPEN
27.08.62
หัวข้อ: Re: [END SS1] เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : เปิดเรื่องเซย์บุ๊ค (27/08/62)
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 24-09-2019 18:07:21
รอติดตามเลยค่ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : Season 2 บทนำ (27/10/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 27-10-2019 13:52:58
Season 2
บทนำ
ยิ่งรักยิ่งห่าง

‘บิ๊ก บริบท’ ดาราชายขวัญใจวัยรุ่นกับบทบาทใหม่ในซีรีส์สุดฮ็อต เพียงแต่ปล่อยทีเซอร์ตัวแรกก็ได้รับความสนใจจนติดเทรนทวิตเตอร์

‘รวย มารวย’ แจ้งเกิดเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของทีมชาติจากสโมสร SCC เหมืองแร่ ยูไนเต็ด ลงแข่งในนัดคัดเลือกฟุตบอลโลก ในปีแรกที่ผ่านการคัดทีมชาติในปีแรกด้วยอายุ 23 ปี ในเกมที่แข่งกับเพื่อนบ้านทำให้มารวยเป็นที่พูดถึงในโซเชียล ด้วยผลงานและน้ำใจนักกีฬาที่เล่นอย่างมีมารยาทแม้ว่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามกวนสมาธิด้วยเกมรุกที่ออกนอกกติกา แต่นั่นก็ไม่สามารถทำลายสมาธิและสติของเขาได้ จนท้ายที่สุดก็กลายเป็น Man of the match ในเกมการแข่งขัน

ชีวิตของทั้งคู่เหมือนเส้นขนานของกันและกันโดยเฉพาะโลกของมารวยที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเวลาว่างให้คิดเรื่องอื่นนอกจากแข่งขัน คัดเลือก หลังจากเรียนจบได้เพียงปีเดียวเขาก็ตัดสินใจเป็นนักบอลจริงจังโดยสังกัด SCC เหมืองแร่ ยูไนเต็ดได้ไม่ถึงปีก็เข้ามาคัดเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติอีกครั้ง

ส่วนบิ๊ก หลังจากเรียนจบเขาก็ไม่ได้ทำงานที่ตรงสายที่เล่าเรียนมาอย่างวิศกรรมศาสตร์ สาขาเคมี ก่อนหน้าเขาเคยพูดเอาไว้ว่าจะไม่เล่นละครอีก แต่นั่นก็เป็นตอนที่เขายังมีมารวยอยู่ แต่ตอนนี้เขาตัวคนเดียวจะทำอะไรก็ได้ จะเรียกว่าหลงใหลในโลกมายาก็ไม่ปราน ทั้งชื่อเสียง เงินทอง มันได้มาง่ายๆ เพียงแค่เล่นละครและเซอร์วิสแฟนๆ เท่านั้นเขาก็สามารถมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงได้อีกยาวนาน ถ้าเรื่องไหนเขามีเคมีเข้ากับนักแสดงที่เล่นด้วยจะยิ่งได้รับผลตอบรับที่มากกว่าเดิม ทั้งอีเว้นต์ หรือพรีเซนเตอร์สินค้าต่างๆ แต่คู่จิ้นของเขาไม่ว่าจะเรื่องไหนที่เล่นด้วยหรือไม่ได้เล่นด้วยก็ยังได้รับการตอบรับก็คือ  ‘อชิ’ ทำให้บิ๊กจำเป็นต้องติดต่ออชิอยู่เสมอเพื่อเซอร์วิสแฟนคลับ

“พี่บิ๊กคะขอถ่ายรูปได้ไหมคะ” วันนี้เป็นวันพักผ่อนบิ๊กเลือกที่จะมาโรงพยาบาลเด็กเพื่อทำกิจกรรมอาสาที่น้อยคนนักที่จะรู้

“ได้ครับ แต่ต้องกินยาด้วยนะไม่อย่างนั้นพี่บิ๊กจะไม่ให้ถ่ายอีก” บิ๊กย่อตัวลงนั่งถ่ายรูปกับเด็กๆ ที่ป่วย กิจกรรมที่เขาทำส่วนมากจะมาเล่นดนตรีให้เด็กฟังหรือไม่ก็มาเป็นอาสาเล่านิทานหรือชวนเด็กๆ ทำศิลปะเพื่อไม่ให้เขาฟุ้งซ่านเรื่องที่อยู่ในใจ เป็นเรื่องเดียวที่เขายังคงตัดออกไม่ได้

“เฮียรู้หรือยัง?” ตี๋หรือบุ๊ค น้องชายของบิ๊กจะมาด้วยทุกครั้งหากเขาสองคนว่างตรงกัน แต่ตอนนี้บุ๊ควิ่งหน้าตาตื่นมาหาผู้เป็นพี่เพราะพึ่งได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนานอย่างมารวย

“รู้อะไรวะตี๋” บิ๊กขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“ไอ้รวยมันกลับมาจากไปแข่งที่มาเลแล้วเมื่อวันก่อน วันนี้มันนัดผมกินข้าว เฮียไปด้วยไหม?” บิ๊กมองหน้าน้องชายอย่างพิจารณา

“เขาคงไม่อยากเจอเฮียหรอก” บิ๊กหันหน้าหนีไปเล่นกับเด็กๆ ต่อ

“ทำเป็นเศร้า ผมรู้เฮียหน้าด้านอะ ไปเถอะๆ ไปเป็นเพื่อนผมก็ได้ไอ้เซย์มันไม่ว่าง”

“ที่แท้ไอ้เซย์ก็ไม่ว่างถึงมาชวนเฮียนะตี๋” เฮียบิ๊กส่ายหัวเล็กน้อย “ไปก็ได้” ลึกๆ แล้วในใจของบิ๊กเองก็ตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารวยอีกครั้ง แม้ว่าจะเคยเจอในข่าวอยู่บ้าง แต่หลังจากเลิกกันเขาก็ไม่ค่อยได้เจอมารวยตัวจริงเลย โดยเฉพาะตอนที่มารวยเล่นฟุตบอลจริงจัง ถ้าถามว่าเขาตามข่าวมารวยไหมบิ๊กตอบได้เลยว่าไม่มีวันไหนที่ไม่ตาม ยังคงคิดถึงมารวยอยู่เสมอ

“เฮียทำไมไม่ยิ้มเลยวะ เก๊กหน้าเพื่ออะไรเอ่ย?” ตอนนี้บิ๊กและบุ๊คมารอมารวยที่ร้านอาหารกึ่งบาร์ที่มารวยนัดทั้งคู่เอาไว้ โดยบุ๊คเลือกโต๊ะในสุดเพื่อไม่ให้พี่ชายของตนตกเป็นเป้าสายตา

“ไม่อยากทำตัวเหมือนเดิม เดี๋ยวมารวยจะตกใจ ตอนนี้เฮียมาในฐานะพี่ชายตี๋” บุ๊คส่ายหน้าเล็กน้อยหลังจากที่ฟังพี่ชายของเขาพูด

“เอาเถอะ จะรอดูว่าจะแสดงได้สักเท่าไหร่นะ” ไม่นานมารวยก็มาถึงร้าน บิ๊กที่นั่งหันหลังไม่ได้หันกลับไปมองเพียงแค่รอมารวยมานั่งด้วยหัวใจที่พองโต เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้เจอคนที่อยากเจอมาตลอด และนี่ก็ทำให้เขารู้ว่าไม่ว่าจะพามานานเท่าไหร่เขาก็เลิกตื่นเต้นให้กับคนคนเดิมไม่ได้สักที

“ไงมึง” มารวยทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามกับบิ๊กพร้อมยกมือขึ้นไหว้บิ๊กอย่างมีมารยาท “สวัสดีครับพี่บิ๊ก”

“ยังจำชื่อกันได้เหรอ...” บิ๊กอยากจะตบปากตัวเองแรงๆ เมื่อเขาเผลอประชดออกไป ส่วนบุ๊คที่เป็นคนกลางก็รีบเอามือตบหัวของตัวเองแรงๆ หลังจากที่บิ๊กพูดออกมา

“ทำไมจะไม่ได้ครับ ก็พี่เป็นพี่ชายเพื่อนสนิทผม” มารวยยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ

“แค่เพื่อนพี่ชายอย่างนั้นเหรอ?”

“ผมจำได้แค่นั้นจริงๆ” เป็นบิ๊กเองที่เก็บอาการไม่ได้จนบุ๊คต้องยื่นมือเข้ามาเคลียร์ไม่ให้บรรยากาศกลายเป็นศาลาคนอกหักเหมือนอย่างตอนนี้ เขาสังเกตหน้าพี่ชายของเขาตลอดที่เอาแต่ยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่มารวยกลับคุยกับเขาเหมือนปรกติ บุ๊คเองก็พึ่งรู้ว่าเพื่อนของเขาโคตรเย็นชาก็วันนี้

“แล้วแมตหน้าแข่งที่ไหนวะไอ้รวย” บุ๊คเอ่ยถาม

“ที่บ้านเรานี่แหละมึงแต่แมตนี้แม่งโค้ชให้กูเปลี่ยนตำแหน่งเล่น อย่าไปบอกใครนะเว้ยว่า.......” มารวยคุยกับุ๊คเรื่องฟุตบอลอย่างออกรสออกชาติโดยไม่ทันได้สังเกตคนที่นั่งตรงข้ามที่เอาแต่นั่งจ้องริมฝีปากเวลามารวยพูด จ้องหน้าด้วยความคิดถึง จ้องทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นมารวยเพื่อกักเก็บความรู้สึกในวันนี้เอาไว้

มารวยวันนี้เปลี่ยนไปมากแม้ว่าจะมีหน้าตาเหมือนเดิมแต่รูปลักษณ์ภายนอกของมารวยคือนักกีฬาที่สมบูรณ์แบบ และสิ่งที่เปลี่ยนที่สุดคือแววตาของมารวยที่มองเขาเปลี่ยนไป บิ๊กเองรู้ดีว่าเพราะอะไร

“กูขอเลี้ยงนะ” มารวยเตรียมยื่นเงินจ่ายแต่บิ๊กกลับแย่งวางบัตรเครดิตก่อนที่มารวยจะควักเงินออกมา

“พี่โตสุดขอเลี้ยงนะครับ” บิ๊กที่นั่งทำใจอยู่นาน ตอนนี้เขาสวมบทบาทตามที่สมองเขาสั่งให้ทำ แม้ว่าในใจอยากทำอย่างอื่นมากก็ตาม

“ขอบคุณครับพี่” มารวยยิ้มอย่างมีมารยาทเหมือนปรกติ

ทั้งสามนั่งรอพนักงานที่เอาบัตรของบิ๊กไปรูด เธอเดินกลับมาก่อนจะยื่นบัตรมาให้บิ๊กตรงหน้า

“อันนี้บัตรประชาชนค่ะ...” บิ๊กแทบจะเอาหน้ามุดโต๊ะด้วยความอาย ทำให้มารวยยื่นเงินให้พนักงานแทน

“โทษทีนะมึงเหมือนพี่กูจะเมา” บุ๊ครีบพูดแก้ตัวให้พี่ชาย “เฮียเป็นเหี้ยไรเนี่ยวันนี้”

“แม่งเอ้ย! เฮีย เฮีย คิดถึงเราว่ะเด็กบื้อ...” เป็นบิ๊กอีกครั้งที่แพ้ให้กับตัวเอง เขามองหน้ามารวยด้วยความอ้อนวอน บุ๊คที่มองหน้าพี่ชายและเพื่อนสนิทสลับไปมาก่อนจะพูดขึ้น

“ไปห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา” เป็นประโยคที่บุ๊คกำลังจะสื่อว่า อยากคุยอะไรก็คุยกันไป ทำให้บิ๊กตัดสินใจยื่นมือไปจับมือของมารวย แต่มารวยกลับดึงมือออกทันทีทั้งที่ยังไม่ทันที่มือของบิ๊กจะสัมผัส

“เป็นไงบ้างครับพี่” มารวยถามขึ้นมาก่อน

“สบายดีแต่ไม่ชินสักที”

“เดี๋ยวก็ชินพี่ ผมเองก็ใช้เวลากว่าจะชิน” มารวยตอบยิ้มๆ “เดี๋ยวนี้เป็นพระเอกแล้วนิ ผมเห็นในทีวีติดตามพี่อยู่นะ”

“ขอโอกาสไม่ได้เหรอ?” บิ๊กกลับพูดอีกเรื่อง

“ละครพี่สนุกมากเลยนะ ผมนี่โคตรอินเลย”

“ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงเลย ภาพเก่าๆ มันย้อนกลับมาเสมอ”

“ผมขอลายเซ็นได้ไหมพี่” มารวยหยิบโทรศัพท์ของเขาออกก่อนจะยื่นไปตรงหน้าบิ๊กด้วยมือสั่นๆ “งั้นถ่ายรูปก็ได้” มารวยเตรียมจะกดถ่ายรูปกับบิ๊กแต่จังหวะนั้นเองที่มารวยเอาหน้ายื่นไปใกล้เพื่อที่จะได้เข้าเฟรมทั้งคู่ แต่บิ๊กกลับใช้โอกาสนั้นยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มของมารวยแรงๆ ก่อนจะผละออก

“พี่อย่าทำแบบนี้เลย เรื่องของเรามันกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ ผมเลือกทางนี้แล้วพี่ควรเคารพการตัดสินใจผมนะเว้ย” มารวยมองหน้าบิ๊กนิ่งๆ “อย่าเอาชื่อเสียงของพี่มาแลกกับคนอย่างผมเลย ไม่คุ้ม” ลึกๆ ในใจของมารวยก็ยังรู้สึกดีแต่เขากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้จริงๆ

“ชื่อเสียงของพี่หรือของเรา? เป็นนักบอลทีมชาติคงต้องคีพลุคไม่อย่างนั้นแฟนบอลจะไม่ศรัทธา กูพูดถูกไหม?” ด้วยความเมาบวกกับความน้อยใจทำให้สรรพนามต่างๆ เปลี่ยนไปหมด หน้าของมารวยตึงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ไม่พอใจเหมือนกัน

“แล้วแต่พี่จะคิด ผมไม่ห้าม”

“หนีได้หนีไป แต่ถ้าหนีไม่ได้ก็กลับมานะ” บิ๊กพูดทิ้งท้ายขณะที่มารวยกำลังหันหลังเดินออกไป

“ผมรักพี่นะพี่บิ๊กแต่ในฐานะน้องชาย ผมโอเคถ้าพี่จะรักผมในฐานะน้องชายเหมือนกัน แต่ในฐานะเด็กบื้อมันจบไปแล้วจริงๆ หวัดดีครับ” มารวยยกมือขึ้นไหว้ก่อนจะเดินออกไปโดยที่ไม่หันกลับมามองบิ๊กอีก

“มันไม่จบแค่นี้หรอก”

“เฮียพูดกับใครวะ แล้วไอ้รวยไปไหน?” บุ๊คเดินกลับมาเห็นตอนที่บิ๊กพูดคนเดียวพอดี

“กล้องสอง มึงไม่รู้จักเหรอตี๋ เวรเอ้ย!!” ในเมื่อลงที่มารวยไม่ได้ เขาก็ขอลงกับที่น้องชายของตัวเองก็แล้วกัน

“กูผิดไรวะ?” บุ๊คเกาหัวด้วยความงงงวยกับสิ่งที่เกิดขึ้น


ปล. กำแพงรวยหนานะเฮียไหวเหรอ
หัวข้อ: Re: Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ #บิ๊กอยากรวย : Season 2 บทนำ (27/10/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 28-10-2019 00:07:38
มาแล้ว ดีใจมากครับ,,,
หัวข้อ: Re: Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : Season 2 บท 1 (5/11/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 05-11-2019 22:38:55
Ss2 บทที่ 1
วงโคจร

Maruay’ s talk

เวลาผ่านไปอะไรๆ ก็ย่อมเปลี่ยนเสมอเลยนะครับ โดยเฉพาะความรู้สึกของผม จากที่เคยเจ็บตอนนี้มันหายเจ็บไปแล้ว จากเคยผิดหวังตอนนี้ผมไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ถ้าถามว่าจะกลับไปไหมผมคงให้คำตอบอะไรมากไม่ได้ในตอนนี้ ความรู้สึกดีๆ มันยังคงมีอยู่ แต่ว่า..มันก็ช่างน้อยเหลือเกิน

ผมไม่ได้ปิดตัวเองแต่ก็ไม่ได้เปิดซะทีเดียวมันยังคงมีกำแพงสำหรับเขา ผมยอมรับเลยว่าเคยรักเขามากและก็เกลียดมากๆ เช่นกัน แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่อดีตเพราะปัจจุบันผมว่าผมโอเคเลยกับความรู้สึกและสิ่งที่ผมเลือก

มารวย อายุยี่สิบสามพึ่งเล่นลีคได้ไม่นานแต่ก็ผ่านการคัดเลือกเป็นทีมชาติชุดใหญ่ จากนักฟุตบอลโนเนมกลายเป็นดาวเด่นเพียงชั่วข้ามคืน

ชีวิตของผมเปลี่ยนไปมากๆ ประวัติต่างๆ ผมถูกขุดคุ้ยแม้กระทั่งชื่อพ่อแม่บ้านเกิดและอีกหลายๆ อย่าง ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องความรักของผมเป็นสิ่งเดียวที่ไม่ถูกพูดถึงหรือจะเรียกได้ว่าไม่มีข้อมูลในส่วนนั้นน่าจะดีกว่า

“.......” หลังจากที่ปลีกตัวออกมาจากร้านอาหารได้ก็เล่นเอาแทบแย่ ตามจริงผมก็ไม่ได้รู้สึกเฉยอะไรขนาดนั้น ยิ่งเห็นหน้าผมก็ยิ่งคิดถึง แต่คิดถึงในรูปแบบที่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากมองดูเขาอยู่ห่างๆ ตอนนี้สถานะของเราสองคนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เรียกได้ว่าน่าจะเป็นไปไม่ได้ในฐานะคนรักเลยเพราะเส้นทางที่ผมเลือกมันค่อนข้างปิดกั้นเรื่องเพศสภาพหรือรสนิยมทางเพศ และเขาก็มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ผมสองคนไม่ใช่นักศึกษาธรรมดาอีกต่อไป

ความรักมันเคยกินได้สำหรับผมนะ แต่ตอนนี้มันกินไม่ได้แล้วว่ะ แม้ว่าจะอยากกินแค่ไหนก็ตาม

ผมยืนทำสมาธิอยู่หน้าร้านอาหารอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจโบกรถเพื่อไปนอนคอนโดกับรุ่นพี่ในสโมสร รุ่นพี่ที่ผมสนิทที่สุดตั้งแต่ผมผันตัวมาอยู่วงการนี้ ระยะเวลาสั้นๆ แต่ผมสามารถสนิทกับพี่เขาอย่างไม่น่าเชื่อ และเป็นเพียงคนเดียวที่รู้อดีตผมทุกๆ อย่างแม้กระทั่งเรื่องความรัก

“มาดึกเลยนะมึง”

“ไม่รบกวนพี่ใช่ไหม” ผมยิ้มให้กับรุ่นพี่ที่เปิดประตูห้องให้ผม “พี่พัดผมไปเจอเขามาว่ะ ตอนแรกก็เตรียมใจไว้ว่าอย่างไงก็ต้องเจอแต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้” ผมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาห้องของรุ่นพี่ที่ชื่อว่า  ‘ใบพัด’ หรือเรียกสั้นๆ ว่าพี่พัด ถึงชื่อพี่เขาจะดูน่ารักแต่ลักษณะของพี่พัดไม่ได้น่ารักเหมือนชื่อเลย โดยเฉพาะหนวดที่ไว้โคตรเหมือนโจร ทั้งๆ ที่เป็นคนขาวแต่พอมีหนวดพี่พัดจึงกลายเป็นคนหน้าโหดเลยทันที

“แล้วไง คิดถึง? หรือหัวใจเต้นจนระเบิดออกมา?” พี่พัดโยนขวดน้ำเย็นๆ ลงมาบนตักก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ผม

“ก็ไม่เชิงแต่ผมว่าสถานะของเราสองคนไม่ควรที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม พี่จำได้ไหมตอนที่ผมเปิดใจคุยกับแจม ตอนนั้นโคตรดีเลย ผมคิดว่าผมจะชอบแจมได้แต่พอผมจะขอแจมเป็นแฟนภาพของเขาก็ลอยกลับมาทุกครั้งจนผมต้องยอมปล่อยแจมไป” เรื่องราวตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมเลิกกับเขามาได้สักพัก ยอมรับว่าไม่อยากเปิดใจให้ใคร แต่กับแจมมันเป็นข้อยกเว้น แจมคือเพื่อนที่ผมบังเอิญเจอตอนที่ไปทำงานพิเศษช่วงเสาร์อาทิตย์ ตอนแรกก็แค่คิดว่าคุยกันถูกคอแต่ไปๆมาๆ กลับกลายเป็นคนคุย รู้ตัวอีกทีผมกับแจมตัวติดกันยิ่งกว่าผมกับไอ้บุ๊คเมื่อก่อน แจมเองเป็นผู้หญิงที่เข้าใจผมทุกอย่าง เรานิสัยเข้ากันมาก แต่มันยังเข้ากันไม่มากพอที่จะทำให้ผมลืมอดีต... อดีตที่ตอกย้ำกับผมว่าผมยังเลิกรักเขาไม่ได้

“กูต้องปรับทุกข์กับมึงอีกแล้วสินะ”

“แน่นอนดิพี่ ไม่มีพี่ผมก็ไม่มีใครแล้ว ไม่มีใครอยากคบกับผม” พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็เศร้าเหมือนกัน อย่างที่บอกว่าผมพึ่งผันตัวมาเล่นฟุตบอลอาชีพก็ตอนอายุยี่สิบสองยี่สิบสาม และแน่นอนว่าการที่ผมติดทีมชาติทั้งๆ ที่อยู่สโมสรไม่ถึงปีนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่ค่อยมีเพื่อนในทีมเท่าไหร่

“ทำเศร้านะไอ้หมารวย” พี่พัดยื่นมือของเขามาลูบศีรษะผมเบาๆ “ที่ลูบเพราะเอ็นดูนะมึง อย่ามาหวั่นไหวกับกูล่ะ”

“โถ่พี่พูดแบบนี้อีกแล้ว ผมก็ไม่ได้หวั่นไหวกับผู้ชายทุกคนนะ”

“ก็กูหล่อ”

“โทษนะพี่พัด แต่พี่หล่อน้อยกว่าแฟนเก่าผม......” ไอ้รวยเอ้ย! มึงเผลอพูดอะไรออกมา ทั้งๆ ที่พยายามไม่คิดถึงเขาแล้วแต่สุดท้ายก็กลืนน้ำลายตัวเอง แต่ช่างเถอะคิดถึงตอนที่เขาไม่รู้คงไม่เป็นไร

“รู้ครับ ใครจะไปหล่อเท่าพระเอกดาวรุ่งล่ะครับ” พี่พัดพูดประชดออกมา “คืนนี้มึงนอนไปก่อนเลยนะ กูดูหนังแปบ” พี่พัดไม่คุยกับผมต่อเพราะเขาหยิบหูฟังขึ้นมาดื่มด่ำกับซีรีส์ที่ดูค้างไว้อยู่ในไอแพด ส่วนผมที่ไม่มีคนคุยด้วยก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น ส่วนมากก็ไถ่หน้าฟีดไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยได้คุยกับใครสักเท่าไหร่ ไม่ได้ว่าหยิ่งอะไรนะแต่ไม่มีคนทักมา นอกจากจะแท็กสตอรี่ตอนที่ผมมีแข่งช่วงนั้นก็จะมีคนให้ตอบบ้าง

ผมกดสลับแอคเคาท์เปลี่ยนเป็นอีกแอคเคาท์จะเรียกได้ว่าเป็นแอคลับก็ได้ แอคนี้ผมสมัครเอาไว้ส่องเขาคนนั้น คอยติดตามความเคลื่อนไหว หรือเอาไว้ดูดาราคนอื่นๆ อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมหายคิดถึงเขาบ้าง

‘ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแม้ว่า..จะไม่เป็นเหมือนเดิมแล้วก็ตาม’

ผมนั่งอ่านแคปชั่นของเขาอยู่สามรอบอย่างไม่เข้าใจ แคปชั่นที่มาพร้อมกับรูปของเขาที่ถ่ายที่ร้านอาหาร ถ้าไม่เป็นการเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ผมจะคิดว่าเขาคงหมายถึงผม ผมก็อยากลงรูปตอบนะแต่พอดีว่าในบทของผมที่วางไว้ต้องทำเป็นตัวละครที่เจ็บแล้วจำ แผลลึกฝังในใจไม่เคยลืม (ไรท์บอกมางี้อะครับ)

โทรศัพท์ของผมสั่นพร้อมกับวิดีโอคอลที่กดให้รับจากไอ้บุ๊ค ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะกดรับอย่างไม่คิดอะไร

(สวัสดีครับ ความรักมาส่ง)

“......” ผมมองภาพตรงหน้านิ่งๆ คนที่โทรมาไม่ใช่ไอ้บุ๊คแต่เป็นพี่ชายของมันหรือคนที่ผมคิดถึง “ผิดคนหรือเปล่าครับ?”

(ถ้าน้องชื่อมารวย คนนั้นก็ถูกอะครับ ไม่ผิดคนเล้ยยย) น้ำเสียงและสีหน้าของเขาเหมือนคนเมาไม่มีผิดเพี้ยน ผมว่าน่าจะเมาแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่โทรมาหาผมแบบนี้

“ถ้าไม่มีอะไรผมวางนะ” ผมพยายามควบคุมเสียงไม่ให้ตื่นเต้นหรือยิ้มไปกับคนตรงหน้าและทำท่าเหมือนจะกดปิดบวกกับความรำคาญเล็กน้อยเพื่อให้แนบเนียน

(ใจร้ายง่า ไม่คิดถึงเฮียเหรอ เฮียคิดถึงเรานะ วันนี้เราน่ารักเหมือนเดิมเลย แต่เฮียเข้าไม่ค่อยถึงเราเท่าไหร่ เราดังใหญ่แล้วคงไม่สนใจเฮียสินะ) ประโยคตัดพ้อบวกกับน้ำเสียงเศร้าๆ มันทำให้ผมเกือบที่จะหลุดยิ้มออกมา

“ผมว่าพี่ไปพักเถอะครับดึกแล้ว ผมวางนะ” คราวนี้ผมตัดสินใจเตรียมที่จะกดปิดแม้ว่าในใจลึกๆ ไม่อยากจะวางก็ตาม

(เดี๋ยวครับ)

“.....” ผมไม่ได้ว่าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพื่อรอดูว่าคนตรงหน้าจะพูดอะไรขึ้นมา

(ยินดีด้วยนะเฮียไม่เคยพูดคำนี้กับเราเลย ยินดีกับความสำเร็จของเราเสมอ เฮียเป็นกำลังใจให้นะแม้ว่าสถานะนั้นเฮียจะเป็นได้แค่พี่ชายของเพื่อนเราก็ตาม)

“.....”

(ไม่ได้จะดราม่าแค่อยากจะบอกจริงๆ อยากบอกตั้งนานแล้วแต่ไม่กล้าพอ)

“ฝันดีครับ..ติ๊ด” ผมกดตัดสายทันทีก่อนที่จะเผลอไปมากกว่านี้ แค่คำว่ายินดีของเขามันทำให้ผมเกือบร้องไห้ออกมา

คำยินดีที่ผมเฝ้ารอคอยมาตลอดตั้งแต่ผมได้คัดเลือกเข้าสโมสร คำยินดีที่ผมได้ลงเล่นครั้งแรก คำยินดีที่ผมติดทีมชาติ คำพูดเหล่านั้นผมได้ยินจากหลายๆ คน แต่คนที่ผมอยากได้ยินที่สุด ตอนนี้ผมได้ยินมันแล้ว

“มึงร้องไห้เหรอไอ้รวย?”

“ฝุ่นพี่ ฝุ่นห้องพี่เยอะฉิบหายเลย” ผมยกหลังมือขึ้นมาเช็ดไอ้น้ำบ้าๆ ออกจากตาทั้งสองข้างก่อนจะพยายามไม่โฟกัสสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้น

“ฝ่นเคอะไร กูได้ยินหรอก”

“พี่ไม่ได้ดูหนัง?”

“กูดูแต่พอแฟนเก่ามึงโทรมากูเลย..กดหยุดไว้ ไม่ได้เสือกเลยนะ แค่เป็นห่วงน้อง”

“โคตรน่าเชื่อเลย” อย่างน้อยคืนนี้ผมก็ไม่ได้นอนคนเดียว


Big’ s talk

“พอใจแล้วนะเฮีย” ผมยื่นโทรศัพท์ให้ตี๋ก่อนจะเอนหลังนอนลงบนที่นอนเหมือนเดิม ใช่ครับ ผมขอร้องเพื่อยืมโทรศัพท์ตี๋มาโทรหาเด็กบื้อของผม แกล้งทำเป็นเหมือนคนเมา ไม่อย่างนั้นเด็กบื้อคงไม่ยอมคุยกับผมแน่ๆ และที่สำคัญผมมั่นใจว่าฝีมือการแสดงละครของผมแนบเนียนจนเด็กบื้อจับไม่ได้แน่ๆ

“ได้บอกคำที่อยากบอกมาตลอด พอใจแล้ว แต่อยากคุยอีก” คำยินดีเป็นสิ่งที่ผมอยากบอกเด็กบื้อมาตลอดเพียงแค่ผมไม่กล้าเพราะกลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมาหรือไม่ก็ไม่มีคำตอบเลย นั่นมันยิ่งปวดใจมากกว่าอ่านแล้วไม่ตอบ ผมพิมพ์คำยินดีเหล่านี้เอาไว้เพียงแค่ไม่กล้ากดส่ง

เฮียบิ๊กที่กล้ากับทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้ที่ผมไม่กล้า

“พอเถอะให้เพื่อนผมมันได้ตั้งหลักก่อน”

“หนึ่งปีแปดเดือนสิบห้าวันแล้วนะที่เลิกกัน เสียดายเวลาช่วงนั้นจัง” ผมจำได้นะว่าผมเลิกกับเด็กบื้อวันไหน ผมจำได้ทุกอย่าง

“เอาเวลาที่จำเนี่ยไปเถอะบทดีกว่าไหมเฮีย ได้ข่าวว่าพรุ่งนี้มีถ่ายละครแต่เช้า” ตี๋นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆ บ่นออกมา

“สมองเฮียเยอะมีพื้นที่ให้จดจำมากมาย และเรื่องที่เฮียจำส่วนมากก็เป็นเรื่องของเด็กบื้อทั้งนั้น”

“จะอ้วกว่ะเฮียถ้าไม่ใช่พี่ชายนี่ด่าไปนานแล้ว”

“ตอนนี้ตี๋ก็ด่านะรู้เป่า” ทำอย่างไรทุกครั้งที่ผมหลับตาหรือนอนหลับในทุกๆ คืนไม่มีวันไหนที่ผมจะไม่ฝันถึงเด็กบื้อ ผมเคยไปหาจิตแพทย์นะแต่นั่นก็ไม่เคยช่วยอะไร แม้ว่าจะได้ยามากินในช่วงแรกๆ มันก็ไม่ทำให้ผมดีขึ้นเลยจนผมต้องหยุดยาและเลิกไปรักษา ผมคิดด้วยตัวเองว่าอาการที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะความคิดถึง ผมคิดถึงเด็กบื้อเหลือเกิน

บทนี้คงเป็นบทที่มีแต่คำว่าคิดถึงนะครับ ก็ไรท์เขาเขียนให้ผมต้องเป็นฝ่ายคิดถึงอยู่ฝ่ายเดียว ต้องเดินหน้าง้อเด็กบื้อของผมให้สำเร็จ ชื่อเสียง เงินทอง มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับเด็กบื้อ ผมยอมทิ้งทุกอย่าง ถึงทิ้งอย่างไรผมก็รวย เพราะผมเกาะตี๋รวยอีกอย่างบ้านผมก็รวย ไม่ทำงานยังได้เลย นั่งเป็นอาซาเฝ้าเก๊ะยังได้เพียงแค่ตอนนี้สิ่งที่ผมขาดคือความรัก...

“รักมารวยโว้ยย!!”

“เฮียจะรู้รึเปล่าว่ายังมีคนอยู่ในห้องด้วย อย่างน้อยก็ผม” และเสียงที่แทรกเข้ามาขัดฟิลลิ่งของผมก็คือตี๋น้องรักนั่นเอง “ถ้าเสียงดังอีกนะเฮีย ผมจะให้ไอ้เซย์มารับ”

“รักมารวยโว้ย!!!!”

“.......”


30 นาทีผ่านไป

“ตี๋นอนยัง?” ผมลืมตาขึ้นมาในความมืดหลังจากที่ผมเสียงดังไปเมื่อก่อนหน้า ตี๋เลยโทรให้ไอ้เซย์มารับจริงๆ แต่ผมเองก็ดื้อตามตี๋มาห้องไอ้เซย์ด้วยเพราะไม่อยากนอนคนเดียว โดยเฉพาะตอนที่พึ่งเจอเด็กบื้อมาวันนี้ ทำให้ตอนนี้ผมนอนอยู่ตรงกลางระหว่างตี๋กับไอ้เซย์

“ถ้าเฮียยังไม่หยุดพูดผมจะทิ้งเฮียนอนคนเดียว” ตี๋พูดออกมาด้วยนำเสียงหงุดหงิด

“ตี๋.....”

“จะเงียบไหม?”

“ไอ้เซย์เล่านิทานให้กูฟังหน่อยดิ กูนอนไม่หลับจริงๆ น้องชายกูไม่สงสาร ทีกูยังเคยช่วยมึงเลย...” ได้ทีผมก็ต้องพึ่งไอ้เซย์และหาเรื่องทวงบุญคุณที่เคยช่วยมันไป

“พี่บิ๊กคือ...”

“ไอ้เซย์ถ้าไม่ได้กูนะป่านนี้มึง”

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วนะพี่บิ๊กมีควายตัวใหญ่หนึ่งตัวไม่ยอมนอน ถ้าควายไม่ยอมนอนควายจะไม่แข็งแรงและไม่เติบโตเป็นควายหนุ่ม.........” และผมก็หลับไปเพราะนิทานของไอ้เซย์ อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมนอนหลับและมาเจอกับเด็กบื้อของผมในฝัน

คิดถึงจังเลยยยยยย

ยังคง Concept เดิมนะจ๊ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : Season 2 บท 1 (5/11/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 05-11-2019 23:43:49
เฮียจะทำไงต่อเนี๊ยะ???  เดินหน้าหรือหยุด,,,
หัวข้อ: Re: Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : Season 2 บท 2 (8/11/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KJH177 ที่ 08-11-2019 19:45:30
SS 2 บทที่ 2
เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ

Maruay’ s talk

ตื่นเช้ามาผมได้รับข้อความจากผู้จัดการ จริงๆ ก็ไม่ได้ดังอะไรขนาดที่ต้องมีผู้จัดการแต่ทางสโมสรจัดหาไว้ให้หลังจากที่ผมเริ่มถูกพูดถึงในโซเชียลมากขึ้น โดยงานแรกของผมได้รับเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าที่เข้ากับไลฟ์สไตล์และอีกอย่างคือช่วงนี้ผมว่างเลยสามารถรับงานได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะกะทันหันขนาดนี้

“พี่แยมครับถ้ามันมีงานแบบนี้พี่แยมควรแจ้งผมก่อนล่วงหน้าก็ดีนะครับ” ระหว่างทางที่ยังสตูดิโอถ่ายผมบ่นกับพี่แยมผู้จัดการที่เริ่มเข้ามาดูแลผมได้ไม่นาน

“ขอโทษค่ะน้องรวยแต่พี่ก็ถูกบรีฟมาเมื่อคืนเหมือนกัน”

“ครับ” ผมสวมหูฟังเช่นเดิมโดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง และไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยนอกจากไปคุยกับลูกค้าเรื่องคอนเซ็ปต์และเซ็นต์สัญญา วันนี้ก็คงจะมีเท่านี้มั้งผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

หลังจากที่มาถึงสถานที่นัดหมายผมกับพี่แยมเดินเข้าไปด้านในบริษัทโดยที่มีตัวแทนมารอต้อนรับ และผมก็พึ่งได้ทราบตอนนี้ว่าสินค้าที่ผมต้องมาเป็นพรีเซ็นต์เตอร์ให้คือผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมยี่ห้อดัง ผมเองก็เคยเห็นพรีเซ็นต์เตอร์ของน้ำอัดลมยี่ห้อนี้มาบ้างแต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งผมจะเป็นหนึ่งในนั้นเอง

“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ทุกคนที่อยู่ในห้องตอนนี้ เท่าที่ผมดูน่าจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งนั้นทำให้ผมจำเป็นต้องระมัดระวังตัวในเรื่องการวางตัวมากที่สุด

“สวัสดีครับน้องมารวยไม่คิดว่าจะได้เจอตัวจริง ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีกนะครับ” ผู้ชายท่าทางมีภูมิฐานยื่นมือมาจับผมพร้อมกับรอยยิ้ม

“ขอบคุณครับ ผมก็ไม่ได้หล่ออะไรขนาดนั้นหรอกครับ” ถ้าผมตอบว่าแน่นอนผมหล่อมากเดี๋ยวจะไม่ถูกจ้างงานพอดี

“เดี๋ยวเชิญนั่งตรงนี้ก่อนนะครับ ขาดเหลืออะไรบอกผมได้เลย” ผมโค้งให้เขาเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ พี่แยม ระหว่างนั้นพี่แยมก็รีบบอกผมในเรื่องที่ผมควรรู้อย่างเช่นคอนเซ็ปต์ของการโฆษณาครั้งนี้ที่ต้องการนักกีฬารุ่นใหม่มาเป็นพรีเซ็นต์เตอร์น้ำอัดลมที่ออกรสชาติใหม่อย่าง...น้ำอัดลมกลิ่นเบอรี่ ผมไม่เข้าใจว่าถ้าเป็นพวกเบอรี่ทำไมไม่จ้างดาราน่ารักๆ มามากกว่าที่จะเป็นนักฟุตบอลอย่างผม หรือหน้าผมเหมือนเบอรี่วะ? ก็ยังไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์อยู่ดี

รอไม่นานก็ถึงเวลาประชุมแต่ดูเหมือนว่าจะเริ่มประชุมไม่ได้เพราะขาดใครบางคน ใครบางคนที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใครเหมือนกัน จนกระทั่งมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา

“ขอโทษค่ะคุณสมิทพอดีว่าน้องท้องเสียเลยมาช้านิดหน่อยค่ะ ขอโทษจริงๆ นะคะ” ทำไมพี่ผู้หญิงคนนี้ผมคุ้นหน้าคุ้นตาเธอจังเหมือนว่าเคยเห็นที่ไหน

“ไม่เป็นไรเจนแล้วเป็นอย่างไรบ้างอาการดีขึ้นรึยัง?”

“ดีขึ้นแล้วค่ะ...น้องรวย หวัดดีจ้า” ผมยกมือขึ้นไหว้ทันทีที่เธอทักผมด้วยท่าทางที่เหมือนรู้จักกันมาก่อน ผมพยายามเพ่งสายตาไปมองหน้าเธอดีๆ ทั้งชื่อและน้ำเสียงที่ห้าวหาญขัดกับหน้าตาสวยๆ ผมรู้สึกว่าผมคุ้นๆ อย่างประหลาดเหมือนเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน แต่คิดแล้วคิดอีกก็ยังคิดไม่ออกจนกระทั่งใครบางคนปรากฏตัวขึ้น ผมถึงบางอ้อทันทีว่าผมรู้จักเธอจากที่ไหน

พี่เจนนี่คือพี่ผู้จัดการของเขา...เขาที่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นใคร

“ขอโทษครับพอดีผมท้องเสีย ขอโทษนะครับ ขอโทษทุกคนเลย....” ผมขออนุญาตเรียกเขาว่าพี่บิ๊กก็แล้วกันนะครับ (ตามภาษาคนคุ้นเคยเก่า) พี่บิ๊กยกมือขอโทษทุกคนก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ที่ผมพร้อมกับยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “ผมนั่งนะ” พี่บิ๊กเดินมาหยุดอยู่ที่ว่างข้างๆ พี่แยม

“น้องบิ๊กนั่งนี่ก็ได้ค่ะ” พี่แยมลุกขึ้นเพื่อให้พี่บิ๊กนั่ง และที่ตรงนั้นคือที่นั่งข้างๆ ผม

“ผมนั่งได้ไหมครับ?”

“เชิญครับ” ผมไม่รู้ว่าพี่บิ๊กต้องการอะไรถึงเปลี่ยนสรรพนามไปมา หรือว่าเขากำลังแสดงละครสวมบทบาทใหม่อยู่ ถ้าให้ผมเดาก็คงจะเป็นอย่างหลังเพราะคนอย่างพี่บิ๊กชอบทำอะไรที่คนส่วนมากคาดไม่ถึง และผมเดาได้เลยว่าการที่ผมมาเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ตอนนี้พี่บิ๊กน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญกับคนอย่างเขาไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอนเพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมว่าเขาตั้งใจ และเรื่องนี้ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน

“มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับอย่างที่น้องรวยทราบคร่าวๆ แล้วว่าทางเรากำลังจะเปิดตัวน้ำอัดลมรสชาติใหม่ที่ต้องการพรีเซนเตอร์ที่แตกต่างออกไปและน้องรวยตอนนี้อยู่ในกระแสและตรงคอนเซ็ปต์ที่สุดทำให้ทางเราเลือกน้องรวยเข้ามาร่วมงานนี้ ทางเรายินดีมากๆ เลยนะครับ”

“ผมก็ยินดีครับที่ได้มาร่วมงานกับทางบริษัท” ผมยิ้มตอบรับหลังจากที่คุณสมิทกล่าวขึ้น

“เดี๋ยวนี้เก่งหนิหนา” เสียงพูดรอดไล่ฟันของผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำให้ผมหันไปมองหน้าเขานิ่งๆ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นถาม “ไม่มีอะไรแค่แซว”

“ครับ”

“มีอะไรกันรึเปล่าครับ อ่อ! ผมลืมบอกเลยว่าน้องบิ๊กก็เป็นอีกหนึ่งพรีเซนเตอร์ที่ทางเราทำสัญญาสามปี น้องสองคนอาจจะได้ร่วมงานกันบ่อยๆ ทำความรู้จักกันเอาไว้นะครับ เอ๋ แต่ได้ยินมาว่าทั้งสองเคยอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เคยเจอกันมาก่อนรึเปล่าครับ?” คำถามของคุณสมิทเป็นคำถามที่ยากพอๆ กับข้อสอบวัดระดับตอนปอสี่เลย ถ้ามันยากมากผมก็ขอเลือกที่จะไม่ตอบและโยนให้คนข้างๆ ผมตอบแทน

“เคยครับ” พี่บิ๊กหันมามองหน้าผมยิ้มๆ แต่ผมไม่ยิ้มด้วยกับคำพูดของพี่บิ๊กเพราะมันดูเหมือนเขากับผมเคยมีอะไรกันบางอย่างทั้งท่าทางและแววตา พี่บิ๊กสามารถทำให้คนอื่นคิดไปทางนั้นได้อย่างชัดเจนเพียงแค่เขาแสดงออกมา

“แสดงว่าสนิทกันหรือเปล่าครับเนี่ยดูน้องบิ๊กยิ้มแย้มขนาดนี้”

“เคยเจอผ่านๆ ครับเห็นว่าคุณรวยเขาเป็นนักกีฬามหาลัยผมก็เคยเห็นมาบ้างแต่เข้าไม่ถึงหรอกครับ เขาดังจะตาย” ฟังดูอาจจะเป็นประโยคแซวเล่นแต่สำหรับผมมันโคตรจะประชดประชันแต่เอาเถอะผมคงไม่ถือสาอะไรกับคนอย่างพี่บิ๊กน่าจะดีกว่า

“อ่อผมก็คิดว่ารู้จักกันเป็นพิเศษ มาๆ เข้าเรื่องดีกว่านะครับ”

ตลอดทั้งการเจรจาและเสนอข้อตกลงผมนั่งเกร็งจนจบงานเพราะคนข้างๆ ที่คอยขยับตัวมาถูกผมแสร้งทำเหมือนว่าไม่ตั้งใจหรือบางครั้งก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆ จนเกือบจะโดนหน้าผม ผมว่าถ้าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปมีหวังผมคงต้องกลับไปหวั่นไหวเหมือนเดิม

“พี่เป็นเหี้ยอะไรอะครับ”

“......”

“อุตส่าห์บอกว่าเป็นพี่น้องได้พี่ยังทำตัวไม่ให้เกียรติผมแบบนี้ผมว่าไม่ต้องเป็นพี่น้องกันดีกว่ามั้ง”

“.....ก็ไม่ได้อยากเป็นพี่น้องตั้งแต่แรก”

“แต่ผมก็กลับไปเป็นแบบเดิมเหมือนตอนแรกไม่ได้” หลังจากที่ที่ทุกคนออกจากห้องไป ผมรั้งตัวพี่บิ๊กเอาไว้ก่อน พร้อมกับสวมบทบาทมารวยคนใหม่ทันที มันต้องใช้ความพยายามอย่างมากให้ผมกลายเป็นคนหยาบคาย “ยอมรับว่าเห็นหน้าพี่แล้วผมเองก็เริ่มหวั่นไหว”

“หวั่นไหวเราหวั่นไหวกับเฮียเหรอเด็กบื้อ!” เฮียบิ๊กเข้ามาจับตัวผมเขย่าเบาๆ ด้วยความดีใจ แต่นั่นก็หายไปเพราะคำพูดต่อไปของผม

“หวั่นไหวแต่ไม่คิดจะกลับไป เลิกเซ้าซี้ผมเถอะรำคาญ” การที่จะเค้นคำว่ารำคาญออกมาได้มันโคตรยากเลย แต่ผมก็จำเป็นต้องพูดออกไปแม้ว่ามันจะเป็นการทำร้ายเขาก็เถอะ “ผมกับพี่ต้องทำงานร่วมกันอีกนาน บอกตามตรงไม่อยากมีปัญหาวะ”

“อะไรทำให้เราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้? เหมือนไม่ใช่มารวยคนเดิมที่เฮียรู้จัก” ในเมื่อบทตลกไม่ได้ผลตอนนี้พี่บิ๊กเขาเล่นบทโศกกับผมแทนทั้งหน้าตาและน้ำเสียง

“แล้วพี่รู้จักผมดีขนาดนั้นแล้วเหรอ?”

“ที่ผ่านมาก็คิดว่าจะรู้จักดีที่สุด”

“ถ้าพี่คิดว่าที่ผ่านมาผมเป็นเด็กดีเชื่อฟังพี่มาตลอดบางทีพี่อาจจะคิดผิดก็ได้นะ เพราะผมเองอาจจะแสดงละครเก่งกว่าพี่”

“ไม่จริงไม่มีใครแสดงเก่งกว่าผมแล้ว ที่ผ่านมาถ้าเราแสดงละครเฮียต้องรู้ดิ” พี่บิ๊กขยับเข้ามาจับไหล่ผมเบาๆ “อย่าโกหกฉัน”

“โทษนะขอคัตก่อน พี่ไปตกลงกับตัวเองเรื่องสรรพนามที่ใช้แทนตัวเองว่าจะใช้พี่ จะใช้ผม จะใช้เหี้ยอะไรก็ใช้เถอะ แบบนี้มันฟังแล้วขัดหู”

“ทำไม....เรานิสัยเริ่มเหมือนตี๋ไปทุกที” พี่บิ๊กเบิกตาโตทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดออกมา

“ผมเหี้ยกว่าไอ้บุ๊คอีกไม่รู้เหรอ?”

“โทษนะนั่นเรากำลังด่าน้องชายพี่อยู่ ตกลงจะเรียกแทนตัวเองว่าพี่แต่ถ้าโมโหจะพูดกูคงไม่โกรธกันเนอะ”

“ตามที่สะดวกอะครับ ผมไม่ติด” ผมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหันหลังเพื่อเดินออกจากห้อง แต่แล้วก็ถูกพี่บิ๊กรั้งตัวเองไว้ก่อน

“ขอโอกาสได้เริ่มใหม่ได้ไหม บอกตามตรงว่าขัดใจเวลาเห็นหน้าเราใกล้ๆ พี่ทำใจไม่ได้จริงๆ ภาพต่างๆ มันย้อนกลับมาทุกครั้ง ภาพที่เราจับมือกัน กอดกัน เล่นกัน มันย้อนกลับมาในหัวของพี่ซ้ำไปมา เหมือนมีลิโดอยู่ในหัวเราพอจะเข้าใจไหม” ผมมองหน้าของพี่บิ๊กนิ่งๆ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

“โอเคไม่ตลกล่ะ ที่พี่พูดพี่พูดจริงนะให้โอกาสพี่จีบเราอีกครั้งก็ได้”

“ผมจะพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะพี่บิ๊ก เรื่องของเรามันจบไปแล้วปล่อยให้มันจบไปเถอะพี่”

“แล้วความรักล่ะ?”

“ความรักเหรอ? อย่าถามถึงมันเลยพี่เพราะที่ผ่านมาแม่งคืออดีต ขอโทษที่พูดตรงๆ หวัดดีครับแล้วเจอกันวันถ่าย” ผมยกมือขึ้นไหว้พี่บิ๊กเพื่อบอกลาพร้อมกับเดินออกมาโดยที่ไม่หันหลังกลับไปมองเพราะผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเผลอไปกอดปลอบเขาเหมือนเดิมหรือเปล่า

ทางนี้น่าจะเป็นทางที่ดีสำหรับผมกับพี่บิ๊กแล้วแหละครับ อยากด่าผมก็ได้นะแต่ผมขอด่ากลับเพราะผมไม่ใช่มารวยยอมคนเหมือนเดิมอีกต่อไป พี่เขาทำผมเจ็บจริงๆ ว่ะครับ


Big’ s talk

เห็นหลังของคนใจร้ายคนนั้นไหมครับ ตอนนี้แม้ว่าน้ำตาผมจะไม่ไหลออกมาแต่แน่นอนว่าหัวใจของผมโคตรเจ็บปวด มารวยไม่ใช่เด็กบื้อของผมอีกต่อไปแล้ว แต่กลับกลายเป็นมารวยเวอร์ชันอัพเกรด ยิ่งเห็นแบบนี้ผมก็ยิ่งเหมือนเห็นน้องชายตัวเองในเวอร์ชันที่ซอฟกว่า ถ้าผมจะจีบมารวยต่อผมก็คงต้องไปถามวิธีจากไอ้เซย์ที่มันจีบน้องผมได้ แต่เอาเถอะตอนนี้ขอเวลาพระเอกตัดพ้อก่อนนะ

“น้องบิ๊กอาร์ยูวโอเค้?” พี่เจนนี่โผล่หน้าเข้ามาถามผมที่ยืนอยู่ที่เดิม

“เห็นหน้าผมยิ้มไหมอะพี่”

“โถ่พระเอกของพี่” พี่เจนนี่เดินเข้ามากอดปลอบผมเบาๆ ก่อนจะผละออก “เริ่มใหม่ก็ได้นิหนา แบบว่าจีบใหม่”

“ผมขอแล้วเขาไม่โอเค ไม่ให้ผมจีบแถมยังบอกว่ารำคาญ ตั้งแต่เป็นดารามาไม่เคยมีใครเคยบอกว่ารำคาญผมเลยนะพี่ ผมไม่หล่อเหรอ?”

“หล่อดิ หล่อมากแต่บางทีความหล่อก็ไม่ช่วยในเรื่องความรักนะ”

“เป็นท้อ หมดกำลังใจ” ผมทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ “ผมทำถึงขนาดให้พี่สนิทดีลรวยมาได้เขายังไม่เห็นใจผมเลยเหรอ แต่เอาเถอะผมจะใช้วิธีผูกมัดนี่แหละทำให้มารวยตกหลุมรักผมอีกรอบ”

“โดยที่หักค่าจ้างครึ่งหนึ่งของน้องบิ๊กไปจ้างน้องรวย?”

“เรื่องเงินโคตรเล็กน้อยสำหรับผมพี่ก็รู้ว่าผมรวยแค่ไหน”

“ยิ่งคุยกับน้องบิ๊กพี่ก็ยิ่งเหนื่อยค่ะ เอาเป็นว่าถ้าน้องบิ๊กสงบสติอารมณ์ได้แล้วตามออกไปนะคะ เรามีงานที่เดอะมอลต่อ แต่ขอบอกว่าอย่าช้าเพราะรถติดมาก” พี่เจนนี่เดินออกไปทิ้งให้ผมอยู่ในห้องคนเดียว ถึงเวลาเข้าซีนอารมณ์แล้วครับ

ทุกคนว่าผมงี่เง่าไหมอะที่ลงทุนทำขนาดนี้ แต่มันก็เป็นเพียงวิธีเดียวที่ทำให้มารวยอยู่ใกล้ๆ ผมทุกนาทีที่ทำงานร่วมกัน และอีกอย่างที่ผมตัดสินใจได้ทันทีว่าต้องเป็นมารวยเพราะผมได้ยินมาว่า...งานนี้เป็นที่ใช้เวลาถ่ายทำนานอีกอย่างคือต้องออกต่างจังหวัดหลายวัน ผมว่าผมสามารถคิดแผนอะไรดีๆ ออกเยอะเลย บางทีนี่อาจจะเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เราสองคนกลับมารักกัน

ผมเลิกคิดเรื่องที่จะเกิดขึ้นและปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตตอนนี้ผมไปตั้งใจทำงานดีกว่า เพราะอนาคตผมจะต้องมีเงินเยอะๆ ไปสู่ขอมารวยมาเป็นแฟน ให้มารวยเห็นว่าผมจริงใจแค่ไหน โดยใช้เงินฟาดหัว ฮ่าๆ ความคิดผมนี่โคตรแย่เลย

“พี่บิ๊กคะขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ”

“ถ่ายวิดีโอก็ได้นะครับ” ผมย่อตัวให้น้องๆ แฟนคลับเพื่อจะได้ถ่ายรูปแต่แล้วโทรศัพท์ของน้องก็ดับไปต่อหน้าต่อตาผมทันที

“เอ่อ...แบตหนูหมดค่ะ ฮื่อออ”

“เอาของพี่ก็ได้ งั้นพี่ก็ถ่ายลงในสตอรี่นะ เราไปแคปเอากันเน้อ” ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดถ่ายสตอรี่น้องๆ ที่มาขอถ่ายรูปผมหลังจากที่ลงจากเวทีงาน

การที่มีแฟนคลับมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีกำลังใจเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้ผมหมดกำลังใจก็คือ...

“ใครวะ บิ๊กไหนวะ? เล่นช่องไรวะนั่น ไม่เคยเห็นเลย” นั่นแหละครับ แต่เอาเถอะผมอาจจะไม่เจาะกลุ่มวัยรุ่นผู้ชายก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่ผมจะทำก็คือ

“พี่ชื่อบิ๊กครับตอนนี้เล่นซีรีส์เรื่องรักนะจ๊ะหมูกระทะของฉันออนแอร์ทางช่อง XNXX มีผลงานมากมายเลย มีเฟซบุ๊คแฟนเพจด้วยนะไปกดถูกใจกันได้ แล้วที่สำคัญไปเสิร์ชกูลเกิ้ลคำว่า บิ๊ก บริบท น่าจะรู้จักพี่มากขึ้น ขอบคุณครับ” ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นหล่อๆ ก่อนจะเดินออกมาจากวงล้อมในช่วงจังหวะที่ทุกคนกำลังอึ้ง วันนี้ได้ติดเทรนทวิตเตอร์แน่นอน ไอ้บิ๊กมึงทำอะไรของมึงลงไป

“เธอๆ พี่เขาเต็มใช่ไหม?”

“เอ่อ..ตอนนี้เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่พี่เขาหล่อดีกรี๊ดๆ ไปเถอะ”
หัวข้อ: Re: Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : Season 2 บท 2 (8/11/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 09:43:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : Season 2 บท 2 (8/11/62)
เริ่มหัวข้อโดย: BuzZenitH ที่ 24-05-2020 16:10:26
สนุกกกกกก ติดตาม  :katai5:
อยากรู้ว่าจะจีบใหม่ยังไง
หัวข้อ: Re: Season 2 เฮียบิ๊กรักมารวยนะ : Season 2 บท 2 (8/11/62)
เริ่มหัวข้อโดย: BuzZenitH ที่ 18-07-2020 15:55:25
 :z13:อยากให้มาต่อจังเลยยย