Bed Care Job #พนักงานดูแลเตียง ตอนพิเศษ Dear Valentine จบ UP 14/02/2020
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Bed Care Job #พนักงานดูแลเตียง ตอนพิเศษ Dear Valentine จบ UP 14/02/2020  (อ่าน 158668 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
คุณคีนปูทางทุกอย่างให้น้องแล้วแน่เลยย กรี๊ดดด

ออฟไลน์ NaunaeZaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หลังจากนี้เนื้อเรื่องเจ้มจ้นขึ้นอีกแน่เลย ผญ.คนนั้นเป็นใครกันหนอ

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แม่คุณคีนใช่มั้ยยยย แงงง ติดตามนะคะ เพิ่งว่างมาอ่านต่อ คิดถึงน้องเปลมากๆเลยค่ะ :mew6:

ออฟไลน์ tkung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
คุณคีนนี่ค่าตัวแพงจริงๆ

ออฟไลน์ rawi62442

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณแม่โทรมาหาเองเลย งุ้ยยยย

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
ขุ่นแม่จะมาดูตัวลูกสะใภ้

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :กอด1: หูยยยย มีความอ้อน

ออฟไลน์ pan27

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
...อบอุ่นยิ่งกว่าไมโครเวฟไปอีก  อยากมีแฟนแบบคุณคีนจังค่ะ...เพ้อ  :L1:

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter



BED CARE JOB

ตอนที่ 18 อยากรู้อะไรให้ถาม




            ผมถือโทรศัพท์ค้างแน่นิ่งไป แทบไม่อยากเชื่อว่าเรื่องที่ได้ยินจะเป็นเรื่องจริง

            คุณคีนอยู่ข้างล่างในเวลานี้น่ะเหรอ เขามาหาผมที่ห้องทำไมหรือมีอะไรเกิดขึ้น
 
            ผมไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ในเวลานี้เท่าไหร่ คุณคีนลาออกจากพรรค นักข่าวไปสัมภาษณ์คุณกวินทร์ พ่อของเขา ซ้ำยังมีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของคุณคีนกับผู้ชาย รวมไปถึงมีโทรศัพท์ลึกลับจากผู้หญิงคนหนึ่งที่โทรมาหาผมอีก ทุกอย่างมันเกี่ยวโยงเชื่อมกันหมดทุกเรื่องหรือเปล่า


            ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดและกางเกงขาสั้น ไม่ได้พิถีพิถันในการเลือกเครื่องแต่งกายมากนัก ตั้งใจว่าจะลงไปพบเขาไม่นานแล้วก็จะกลับขึ้นห้องมาดังเดิม แต่ไม่รู้ว่าไปไงมาไง ตอนนี้ผมถึงขึ้นลิฟต์คอนโดพร้อมกับเจ้าของห้องไปได้


            ผมก้มลงมองเสื้อผ้าปอน ๆ  ที่ตัวเองสวมใส่อยู่แล้วก็รู้สึกว่ามันช่างไม่เข้ากับสถานที่สวยงามแห่งนี้เลย เหมือนดังว่าผมกำลังอยู่ผิดที่ผิดทางยังไงก็ไม่รู้ แล้วดูคนข้างตัวผมสิ เขาอยู่ในชุดสูทสีดำ ดูก็รู้ว่าราคาแพง ดึกดื่นขนาดนี้เสื้อผ้าเขายังเรียบกริบอย่างอัศจรรย์ เมื่อเทียบกับเขาแล้วผมกลายเป็นเด็กกะโปโลคนหนึ่ง ไม่เหมาะที่จะยืนข้างเขา ขาผมเริ่มยืนไม่เป็นสุขขยับยุกยิกไปมา มือไม้ก็ดึงชายเสื้อ หวังให้มันยาวได้มากกว่านี้

            “เป็นอะไรครับ” คุณคีนถามพลางแตะเอวผมให้เดินออกจากลิฟต์ไปด้วยกัน

            “ผมไม่นึกว่าคุณจะพาผมมาคอนโดด้วยเลยไม่ได้แต่งตัวให้ดีกว่านี้” ผมบอกเขาไปตามตรง

            “ไม่เป็นไร นี่ก็ดึกมากแล้วไม่มีใครเห็นหรอก อีกเดี๋ยวก็เข้านอนแล้ว ทำไมครับคุณกังวลใจเหรอ” คุณคีนถามอีกก่อนเปิดประตูห้องให้กว้างขึ้น เขาให้ผมเดินเข้าไปก่อนแล้วจึงปิดประตูตามหลัง

            “ก็นิดหน่อยครับ”

            “ไม่นิดแล้วมั้ง หน้าตาคุณดูไม่สบายใจมาก” ผมอึกอักเล็กน้อยจึงบอกเขา

            “ผมแต่งตัวไม่เหมาะสมกับที่นี่เลย แล้วไม่เหมาะกับคุณด้วย”

            “ถ้าคิดว่าแต่งตัวไม่เหมาะสม เรื่องนี้แก้ไม่ยาก คราวหน้าผมจะบอกคุณล่วงหน้า คุณจะได้เตรียมตัวให้ทันดีไหม”

            “จริง ๆ  ผมคิดว่าคุณแค่แวะมาหาผมเฉย ๆ เลยไม่ได้คิดเรื่องเสื้อผ้า”

            “ครั้งนี้เป็นผมเองที่พาคุณมากะทันหัน ขอโทษนะครับ”

            “ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ผมต่างหากที่ไม่คิดให้รอบคอบ” คุณคีนฟังผมพูดเสร็จแล้วก็ยิ้มออกมานิดหนึ่ง

            “เหมือนผมกำลังถูกคุณว่าเลย” คุณคีนพูดจบก็หัวเราะออกมาเบา ๆ

            “ขอโทษครับ ผมไม่ได้คิดจะว่าคุณ ผมพูดจริง ๆ  นะครับ” ผมตกใจรีบละล่ำละลักบอก

            “เลิกขอโทษผมได้แล้ว คราวนี้ถือว่าผมผิดเอง และอีกเรื่องที่คุณคิดว่าคุณไม่เหมาะกับผม ทำไมถึงคิดแบบนั้นช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยได้ไหม”

            “คือ..” ผมลำบากใจ ไม่น่าพูดกับเขาด้วยความรู้สึกที่พ่วงความน้อยใจผสมลงไปด้วยเลย

            “คิดอะไรอยู่ บอกความคิดคุณให้ผมฟังบ้างสิครับ”

            “ถ้าผมบอกคุณคีนว่าผมคิดอะไร แล้วคุณจะบอกความคิดของคุณให้ผมฟังบ้างไหมครับ” เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยคงประหลาดใจในคำพูดผม

            “ได้สิครับ”

            “ผมดูข่าวเมื่อคืนคุณลาออกจากพรรคแล้วเหรอครับ”

            “ผมบอกคุณได้ แต่คุณต้องบอกความคิดคุณให้ผมฟังก่อนตามที่เราตกลงกันสิครับ”

            “ตามที่ตกลง?”

            “ใช่ครับ” แล้วผมไปตกลงกับเขาตอนไหน?

            “แล้วเราจะยืนคุยกันทั้งอย่างนี้เหรอ คุณไปอาบน้ำก่อนดีไหมครับ” ผมไม่ได้อยากจะไล่เขาหรอกนะครับแต่ขอเวลาตั้งตัว ครู่เดียวก็ยังดี

            “ตกลง ถ้างั้นคุณเข้าไปรอในห้องนะ”


            ผมเข้าไปรอในห้องนอน ห้องนอนที่เป็นห้องประจำเวลาผมมาคอนโดเขา ผมพยายามรวบรวมความคิดและเตรียมคำถามในหัวเป็นข้อ ๆ  ไว้ให้มากที่สุด ผมไม่มั่นใจว่าจะถามได้ครบทุกข้อไหมหรือควรจะจดไว้ดีเผื่อลืม






 
            เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น เป็นสัญญาณบอกว่าคุณคีนอาบน้ำเสร็จแล้ว เขาเปิดประตูเข้ามาก่อนจะปิดลงอย่างเบามือเช่นทุกที คุณคีนเคาะประตูห้องทุกครั้งไม่เคยลืม เขาทำให้ผมคุ้นเคยกับการกระทำของเขาจนผมเกือบลืมตัวเคาะประตูห้องตัวเองเวลากลับห้องตั้งหลายครั้ง


            เขาเดินเข้ามาในห้องพร้อมกลิ่นครีมอาบน้ำที่ผมชื่นชอบ ครั้งที่แล้วผมสังเกตเห็นยี่ห้อครีมอาบน้ำในห้องเขาว่าเหมือนกับห้องนี้ด้วยหรือเปล่า ปรากฏว่ามันคือยี่ห้อและกลิ่นเดียวกัน แต่ทำไมผมไม่เคยได้กลิ่นครีมอาบน้ำจากตัวผมบ้างเลย

            “แผลที่หัวเป็นไงบ้าง” คุณคีนถามพลางก้าวขึ้นมานอนฝั่งประจำของเขา ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ผมเองก็ชินกับการที่มีเขานอนอยู่ข้าง ๆ เช่นกัน

            “ดีขึ้นแล้วครับ” ผมตอบเขาในขณะที่คุณคีนปรับไฟในห้องให้ลดความสว่างลง พอให้มองเห็น ไม่มืดจนเกินไป

            “โปรเจกต์ราบรื่นดีไหม” เขากำลังถามสารทุกข์สุกดิบผมใช่ไหมหรือเขาอยากเล่นยี่สิบคำถามกับผม

            “โปรเจกต์?” ผมนิ่วหน้าคิดอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะเข้าใจคำถามเขา “อ่อ..ดีครับ อาจารย์โอเคแล้วครับ เหลือส่วนที่ต้องทำต่ออีกไม่เยอะก็จะเสร็จครับ”

            “แล้วคุณง่วงหรือยัง พรุ่งนี้ต้องไปทำงานที่ร้านคุณปุยฝ้ายใช่ไหม”

            “ยังไม่ง่วงครับ” ผมตอบเขาด้วยน้ำเสียงติดจะห้วนเล็กน้อย ผมพลิกตัวตะแคงไปทางคุณคีน มองคนข้าง ๆ  ด้วยสายตาจริงจัง ผมจะต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง

            “แต่ผมง่วงแล้ว”

            “คะ..ครับ?อ่อ..ถ้าคุณง่วงแล้ว นอนกันเลยดีไหมครับ” คำตอบของเขาทำให้ผมไปต่อไม่ถูก จะให้ผมเซ้าซี้คนกำลังง่วงคงไม่เหมาะ เห็นทีคงต้องเป็นโอกาสหน้า

            “แล้วไม่อยากรู้เรื่องที่จะถามผมแล้วหรือ”

            “ไม่เป็นไรครับ คุณทำงานมาเหนื่อย ๆ  ไว้คราวหน้าค่อยถามก็ได้ครับ” ผมไม่อยากเร่งรัดคนง่วง แต่พอเห็นเขายิ้มจึงเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังโดนแกล้งก่อนที่ตัวผมจะถูกเขาดึงเข้าไปใกล้กว่าเดิม ได้ยินเสียงเขาพึมพำเบา ๆ  ว่า ‘หัวเหม็นอีกแล้ว’ก็แน่ละ ผมไม่ได้สระผมนี่นาตั้งใจว่าจะสระพรุ่งนี้เช้า

            “ตามใจครับ ถ้าคุณบอกคราวหน้า งั้นก็คราวหน้าแล้วกัน” เขาตอบเหมือนคนเสียดายที่จะพูดแล้วทำท่าจะเอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟ

            “คุณแกล้งผม” ผมคว้าแขนเขาไว้ได้ทัน ถ้าเขาปิดไฟคงไม่ได้ถามแน่นอน

            “ตามใจคุณก็กลายเป็นว่าแกล้งคุณหรือ ไม่ยุติธรรมเลยนะครับ” เขาย้อนถาม ฟังดูก็รู้ว่าเขายังแกล้งผมต่อไม่หยุด

            “ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย คุณก็รู้อยู่แล้วว่าผมพูดถึงอะไร ไม่แกล้งแล้วได้ไหมครับ ผมจริงจังนะ”

            “เอาละ งั้นต่อจากที่เราคุยกันค้างไว้ก่อนผมไปอาบน้ำ เพราะอะไรคุณถึงคิดว่าไม่เหมาะกับผมครับ” บทจะเริ่มต้นคำถามก็ดันกลายเป็นคำถามของคุณคีนเสียอีก

            “ผมนึกว่าคุณจะลืมไปแล้ว”

            “ผมไม่มีทางลืมเรื่องของคุณหรอกครับ ตกลงจะบอกผมได้หรือยังว่าทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น ผมจริงจังนะ” ผมมองเขาแล้วเม้มปาก ตั้งใจพูดกับผมด้วยคำพูดผมชัด ๆ  ตกลงจะไม่ยอมหยุดแกล้งใช่ไหม

            “เราไม่มีอะไรเหมือนกันเลย”

            “เช่นอะไรบ้าง”

            “การแต่งตัว นิสัย อายุ สังคม นี่ผมยกตัวอย่างแค่ส่วนหนึ่งนะครับ”

            “ถ้าคุณเหมือนกับผม ถึงจะเหมาะสมหรือ”

            “ก็ไม่เชิงครับ ผมไม่ได้หมายความว่าเราต้องเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว คุณก็รู้ว่าผมกับคุณ เราต่างอยู่กันคนละสังคม คนละโลกกันเลยด้วยซ้ำ” ผมบอกเขายืดยาว

            “เปลครับ เผื่อคุณจะลืม เรามีโลกเพียงใบเดียวและเราอยู่บนโลกใบเดียวกัน ตอนเรียนไม่ตั้งใจเหรอ” เขาดีดหน้าผากผมเบา ๆ 

            “มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย” ผมบ่นไม่พอใจ จะไม่ให้บ่นได้ยังไง เขาเล่นแกล้งตีความผมผิดไปต่าง ๆ  นานา ทั้งที่เข้าใจผม

            “โอเค ผมไม่แกล้งคุณแล้ว” คุณคีนหัวเราะ ผมชักหมั่นไส้ มีอะไรให้น่าขำนักหรือไง “คุณอยากให้ผมอธิบายให้คุณฟังไหม”

            “อยากครับ”

            “มีอะไรแลกเปลี่ยนหรือเปล่า”

            “ครับ?แลกเปลี่ยน?”

            “ของฟรีไม่มีในโลก ความคิดผมก็เช่นกัน ความคิดผมมีค่ามากนะครับ” นาน ๆ  ผมจะเห็นคุณคีนยิ้มกว้างจนเห็นฟันเรียงกันสวยและนี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาชมตัวเองให้ผมฟัง

            ที่แท้เขาช่างเจ้าเล่ห์เพทุบายเหลือเกิน

            “...”

            “ว่าไงครับ ยังอยากฟังคำอธิบายของผมอยู่ไหม คุณไม่ซื้อไม่เป็นไรนะครับ ผมไม่บังคับ”

            ผมขยับตัวเข้าไปใกล้คุณคีนแล้วยืดตัวไปหอมแก้มเขาทีหนึ่งก่อนจะผละออกมา

            “พอไหมครับ”

            คุณคีนทำท่าคิดอยู่สักสามวินาทีจึงพยักหน้า “ก็พอไหว”

            “ครับ”

            “คำว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ คำนั้นคือสิ่งที่คุณตัดสินเองครับ ผมไม่เคยนิยามคำนั้นในความสัมพันธ์ของเรา” คุณคีนตอบแล้วเงียบไป ผมรอฟังต่อแต่ก็ไม่มีอีก

            “จบแล้วหรือครับ”

            “ครับ จบแล้ว”

            “อ้าว” ผมหน้าเหวอ ผมน้อยใจแทบตายแล้วคุณคีนจะจบด้วยประโยคเดียวเองเหรอ

            “ทำหน้างงเชียว” เขากดริมฝีปากที่หน้าผากผมก่อนจะพูดต่อ “งั้นผมจะอธิบายเพิ่มแล้วกัน ถ้าผมเอาคำว่าเหมาะหรือไม่เหมาะมาคิด ผมไม่ต้องคิดหนักกว่าคุณหรือ ผมอายุเท่าไหร่ แก่กว่าคุณกี่ปี ลองคิดตามผมนะครับ ในอีกสิบปีข้างหน้าผมจะอายุห้าสิบสี่ อายุเกินครึ่งร้อย เป็นผู้ชายวัยกลางคน เป็นคุณลุงในสายตาคนอื่น ในขณะที่คุณเพิ่งอายุสามสิบเอ็ดกำลังอยู่ในช่วงชีวิตที่กำลังสวยงาม ก้าวหน้าในชีวิต”

            “...”

            “การแต่งกายที่คุณเป็นกังวล ผมบอกคุณไปแล้วเรื่องพวกนี้เราแก้ไขได้ มันไม่ได้เป็นปัญหาหรือเป็นอุปสรรคใหญ่โต เราปรับเปลี่ยนการแต่งตัวให้เข้ากับสถานการณ์หรือกาลเทศะได้ แม้กระทั่งสังคมของคุณและผมก็ตาม คุณมีเพื่อนวัยเดียวกัน เป็นนักศึกษาเรียนมาด้วยกัน หากวันหนึ่งเพื่อนคุณเจอผมอยู่กับคุณโดยบังเอิญ ตอนนั้นผมในสายตาเพื่อนคุณ ผมจะเหมาะกับคุณไหมครับ ผมจะดูแก่เกินไปสำหรับคุณหรือเปล่า”

            “ผม...ขอโทษครับ” ผมมัวแต่คิดนั่นปนนี่จนลืมไปว่าจริง ๆ แล้วถ้าเรามองในมุมตัวเองก็มักจะเห็นปัญหาแต่ตัวเองจนลืมนึกไปว่าใครอีกคนก็อาจจะมีปัญหานั้นเหมือนกัน

            “ไม่ต้องขอโทษผมหรอกครับ คุณไม่ได้ผิดและคุณมีสิทธิ์คิดเสมอ แต่ผมอยากให้คุณถามผมเวลาที่คุณสงสัยหรือไม่แน่ใจ อย่าคิดไปเองเพราะถ้าคุณเข้าใจไปผิด ๆ  แล้วสุดท้ายคุณจะเก็บมาคิดจนพานน้อยใจเหมือนครั้งนี้”

            “ก็ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณเลย นอกจากประวัติคุณบนเว็บ รับรู้เรื่องคุณจากสื่อ นอกนั้นผมก็ไม่รู้อะไรเลย” ผมบอกเขาเสียงเบา

            “เปลครับ อย่างที่คุณกับผมรู้กันเป็นอย่างดี เราเจอกันในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ความสัมพันธ์ของเราเริ่มต้นจากคนซื้อคนขายก่อนจะขยับความสัมพันธ์มาจนถึงตอนนี้”

            “ครับ” ผมพยักหน้า

            “มีหลายเรื่องหลายอย่างที่ผมไม่สามารถบอกให้คุณรู้ได้ทั้งหมดทันที เราต้องเรียนรู้กันไปเรื่อย ๆ  ถ้าหากคุณสงสัยก็ขอให้คุณถาม ถ้าคุณไม่มั่นใจก็ขอให้คุณถาม เบอร์โทรที่ให้คุณไป คุณโทรหาผมได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะเรื่องสำคัญหรือไม่สำคัญก็ตาม ถ้าผมไม่ได้รับสายแปลว่าผมติดงานและผมจะโทรกลับหาคุณทันทีที่ผมทำได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องด่วนให้คุณโทรหาเคนได้เลย”

            “ผมไม่กล้า กลัวรบกวนคุณ”

            “เคยรับปากว่าจะไม่ดื้อกับผมแล้วไม่ใช่หรือครับ”

            “ผมไม่ได้ดื้อนะครับ ผมแค่เกรงใจ กลัวรบกวนเวลาทำงานของคุณ”

            “ผมรู้ว่าคุณเกรงใจผม แต่ผมกำลังบอกคุณว่าไม่ต้องเกรงใจครับ โทรมาเถอะ ถึงอยากโทรมาเพื่อถามว่าผมทำอะไรอยู่ กินข้าวหรือยัง ผมก็อยากให้คุณโทรมา”

            “จะไม่รบกวนใช่ไหมครับ”

            “ผมเชื่อว่าคุณแยกแยะได้อยู่แล้ว คุณคงไม่โทรหาผมทุก ๆ  ห้านาทีหรอกใช่ไหม” คุณคีนว่าพลางหัวเราะก่อนจะเชยคางผมให้เงยสูงขึ้น จมูกโด่งสวยได้รูปของเขากดมาที่แก้มผมจนหน้าผมยู่ยี่ไปหมด เขาเอาคืนที่ผมหอมเขาไปก่อนหน้านี้ใช่ไหม

            “เจ็บนะครับ” ผมเบี่ยงหน้าหนีจากการกระทำของเขา

            “อยากรู้เรื่องไหนอีกไหม” คุณคีนหยุดแกล้งผมแล้วปิดท้ายที่แรงกดบนขมับผมแรง ๆ  เป็นการส่งท้าย

            “คุณลาออกจากพรรคทำไมครับ” ในเมื่อเขาอนุญาตแล้วผมก็จะถามต่อให้หมด

            “ไม่มีอะไรมาก ผมตั้งใจจะลาออกอยู่แล้ว ไม่ได้ลาออกปุบปับหรอกครับ เรื่องนี้ผมวางแผนและเตรียมตัวมานานแล้ว”

            “คุณพ่อของคุณ เอ่อ..คุณกวินทร์ ท่านโอเคเหรอครับ”

            “ไม่หรอก เสียคนทำงานไปคนหนึ่งคงไม่ชอบเท่าไหร่” เขาตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ  ดูไม่ได้เป็นกังวลเลยแม้แต่น้อย

            “จะไม่เป็นไรหรือครับ”

            “ถึงพ่อจะไม่ค่อยพอใจแต่ยังมีน้องชายผมอีกคนอยู่ในพรรค รายนั้นลงการเมืองเต็มตัว ดังนั้นไม่เป็นไรหรอกครับ”

            “คุณลาออกจากพรรคแล้วหลังจากนี้คุณจะทำยังไงต่อไปครับ”

            “กลัวอยู่กับผมแล้วจะอดตายเหรอ” เขาแหย่ผมก่อนจะเล่าต่อ “ผมยังมีธุรกิจที่ผมดูแลอยู่คงกลับไปดูด้านนั้นเป็นหลัก ไม่ต้องห่วงนะครับ” เขาหัวเราะขบขันระหว่างตอบ ส่วนผมกลับก้มหน้างุด คำพูดเขาก้องในหัว มาอยู่กับผมอะไรกันเล่า ใครเขาจะอยู่กับคุณกัน

            “ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย” ผมตอบปัดเขา ผมห่วงเรื่องปากท้องที่ไหนกัน ผมดูแลตัวเองได้

            “สบายใจขึ้นหรือยังครับ”


            เขาพลิกตัวผมให้นอนหงายทันทีที่ถามจบ อารามตกใจผมจึงคว้าแขนเขาไว้แน่นทั้งสองข้าง คุณคีนคิดจะแกล้งอะไรผมอีก ผมมองเขาจากด้านล่างกึ่งอยากรู้ กึ่งกลัวเกรงว่าคุณคีนจะทำอะไรกับผม เขาเท้าแขนบนที่นอน ส่วนมืออีกข้างปัดเส้นผมให้พ้นบริเวณที่เกิดแผลจากอุบัติเหตุภารกิจช่วยเพื่อน เขาไม่ได้แตะต้องแผลนั้น แค่จ้องมองมันเฉย ๆ

            “แผลดีขึ้นแล้วครับ ไม่ค่อยเจ็บแล้ว ผมไม่เป็นไรนะครับ”

            เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแล้วพูดต่อด้วยเสียงที่แผ่วเบา

            “ดูแลตัวเองดี ๆ  นะครับ อย่าเจ็บตัวแบบนี้อีก”

            “คุณก็เหมือนกันนะครับ อย่าเจ็บ อย่าป่วยเหมือนกัน” ผมพูดไปตามความรู้สึก ผมคงไม่ดีใจแน่ ถ้าหากต้องเห็นเขามีบาดแผลหรือไม่สบาย


            คุณคีนไม่ได้มองที่แผลแล้ว คราวนี้เขามองหน้าผมตรง ๆ ผมอ่านสายตาเขาไม่ออก เขามองผมแบบนี้หมายความว่าอย่างไร ผมขยับขายุกยิกทำตัวไม่ถูก เราจ้องมองกันเงียบ ๆ กระทั่งผมทนไม่ไหวจึงหลบสายตาเขาก่อน ไม่นานจึงได้ยินเสียงเขาพูดตามมา

            “เปลครับ ผมจะทำยังไงกับคุณดี” คุณคีนพูดจบก็เม้มปากผมทีหนึ่ง ผมเจ็บ! ถึงรู้ว่าเขาไม่ได้กัดแต่ก็เจ็บอยู่ดี ทำไมถึงพูดแล้วไม่ฟังกันบ้างเลย

            “เจ็บครับ” ผมบ่นพ่วงความขุ่นเคืองใจเล็กน้อย

            “อย่าไปพูดแบบนี้ให้ใครฟังนะครับ” ผมไม่เข้าใจคำถามของเขา ผมไม่สมควรพูดอย่างนั้นเหรอ

            “มันไม่ดีเหรอครับ”

            “ไม่ใช่ครับ มันดี”

            “แล้วทำไม?”

            “มันดีเกินไปต่างหาก”


            คนอะไร ดีเกินไปก็ไม่ชอบ




           

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter




            คุณคีนไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาก้มหน้าเข้ามาใกล้จนริมฝีปากของเราแนบชิดสนิทกัน ผมไม่อยากยอมรับกับตัวเองว่าสามารถคาดเดาเหตุการณ์ต่อจากนั้นได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมอ้าปากให้กว้างขึ้น ผมได้กลิ่นกาแฟจากลมหายใจและลิ้นของเขาที่สอดเข้ามา ทั้งที่ผมไม่ดื่มกาแฟแต่ผมก็ไม่นึกรังเกียจสัมผัสจากเขา
 
            ไม่เคยลำบากใจหรืออยากปฏิเสธเลยสักครั้ง

            “ยังอยากถามอะไรอีกไหม” จู่ ๆ  เขากระซิบถามทั้งที่ริมฝีปากเขายังไม่ละจากใบหูของผม

            “ครับ?” ผมประมวลผลคิดไม่ทันว่าเขากำลังพูดถึงอะไร

            “อยากรู้เรื่องผมอีกไหม” ปกติเขาไม่ชอบพูดซ้ำ แต่ครั้งนี้เขากลับยอมพูดอีกครั้ง แต่เขาไม่ได้ยอมบอกฟรี ๆ  ทุกอย่างมีการแลกเปลี่ยน และของแลกเปลี่ยนครั้งนี้คือลำคอของผม

            “ยะ..ยังมีอีกข้อครับ” ผมถามคำถามคาใจได้ทันก่อนสติเตลิด

            “อืม?” คุณคีนยังจูบไล่ไปทั่วคอผมไม่หยุด แต่ผมไม่ยอมให้อารมณ์มาทำให้ผมหลงลืมมันไป

            “เรื่องสัญญาครับ”

            “สัญญาอะไร”

            “สัญญาที่คุณเอาให้พ่อแม่ผมเซ็น ผมอยากรู้ว่ามันคือสัญญาอะไร”


            คุณคีนหยุดแกล้งแล้วพลิกตัวกลับมานอนโดยไม่ลืมดึงผมให้เข้าไปกอดเอวเขาไว้เหมือนอย่างเคย และถ้าเราอยู่ในท่วงท่าการนอนเช่นนี้ ผมจะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าเขาได้ นอกจากฟังเสียงหัวใจเขาเต้นเป็นจังหวะ

            “คุณไปได้ยินเรื่องสัญญามาจากใครครับ” น้ำเสียงคุณคีนกลับมาเคร่งขรึม ไม่มีวี่แววของการหยอกล้อใด ๆ

            “จากน้องชายผม ปิงครับ”
 
            “น้องชายคุณ?” เขาถามด้วยความสงสัย

            “ปิงบอกว่าเขาเห็นคุณเอาสัญญาให้พ่อแม่ผม”

            “แล้วน้องคุณพูดอะไรต่ออีกไหม”

            “ไม่ครับ ผมเลยเก็บไว้ รอมาถามคุณ”

            “อืม”

            “ตกลงว่ามันคือสัญญาอะไรครับ เรื่องใหญ่หรือเปล่า หรือว่าเป็นสัญญากู้เงินครับ”

            “ไม่ใช่ครับ เป็นสัญญาเพื่อความสบายใจของผมว่าพวกเขาจะไม่พาคุณกับน้องชายไปขายให้ใครอีก”

            “อ่อ..งั้นเหรอครับ” ผมถอนหายใจด้วยความโล่งใจ นึกว่าเป็นสัญญาเกี่ยวกับเงิน ๆ  ทอง ๆ  แค่นี้ผมก็ใช้หนี้คุณคีนไม่หมดแล้ว คุณคีนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงถามผมกลับ

            “แต่ถ้าคุณยังสงสัย จะดูสัญญาฉบับนั้นก็ได้นะครับ”

            “ไม่ครับ ๆ  ผมแค่ถามคุณดูเท่านั้นถ้าไม่ใช่สัญญากู้เงิน ผมก็สบายใจแล้วครับ” ผมรีบปฏิเสธเขา ไม่อยากให้คุณคีนคิดว่าผมถามเพื่อจับผิด

            “ไม่ต้องกังวลนะครับเปล สัญญานั่นจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อน”

            “ขอบคุณนะครับ ถ้าไม่มีคุณคอยช่วย ผมคงต้องเป็นแบบนี้ต่อไปแน่ ๆ ผมมันคนขี้ขลาดไม่กล้าสู้ ไม่กล้าทำตามใจตัวเอง”

            “ผมยินดีช่วยคุณเสมอ ขอแค่คุณทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับผมเท่านั้นก็พอ”

            “ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”



           
            เรานอนคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย ๆ  กระทั่งหลับไปด้วยกัน พอถึงช่วงเช้าจึงเกิดปัญหาขลุกขลักเล็กน้อย สาเหตุมาจากการที่ผมไม่มีชุดนักศึกษามาใส่ไปทำงานที่ร้านพี่ปุยฝ้าย แต่ปัญหานั้นถูกขจัดไปได้โดยง่ายเมื่อคุณเคนมาถึงที่คอนโดพร้อมกับชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยมในมือ ผมเกรงใจเหลือเกิน เขาต้องไปตระเวนหาที่ไหนมา ถึงได้ชุดนี้มาตั้งแต่ก่อนแปดโมงในวันเสาร์

            คุณเคนจะเป็นทุกอย่างให้ผมและคุณคีนแบบนี้ไม่ได้

            “ขอบคุณนะครับคุณเคน คราวหน้าผมจะเตรียมมาเองคุณจะได้ไม่ต้องลำบากเพราะผม”
 
            “ไม่เป็นไรครับ น้องเปลไม่ต้องเกรงใจพี่เคน คนที่ควรเกรงใจคือเจ้านายพี่ต่างหาก” คุณเคนยิ้มกว้างให้ผม ก่อนจะลดเสียงในประโยคสุดท้ายลงเพื่อให้ได้ยินกันสองคน

            “เอ่อ..ครับ” พอเขาชิ่งตัวการไปหาผู้ที่ควรรับผิดชอบเป็นคุณคีน ผมจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ

            “ให้เคนเอามาให้น่ะดีแล้ว เสียเวลากลับไปเอาชุดที่ห้องคุณเปล่า ๆ  ยังไงก็ต้องมาที่ร้านคุณปุยฝ้ายอยู่ดี” เจ้านายคุณเคนออกมาจากห้องนอนอีกห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แล้วเขาจะได้ยินที่ผมพูดกับพี่เคนเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า ผมน่ะไม่เป็นอะไรหรอก แต่พี่เคนน่ะสิ เมื่อกี้เรียกว่านินทาเจ้านายเลยนะ

            “แต่มันสิ้นเปลือง อีกเดี๋ยวผมก็จะเรียนจบแล้วก็ไม่ได้ใส่อีก นี่คุณซื้อชุดใหม่ให้ผมสองชุดแล้วนะครับ” ผมแย้งเขา

            “ถ้ากลัวเปลืองก็เก็บไว้ให้น้องชายคุณ ปีหน้าเขาก็เข้ามหาลัยแล้วไม่ใช่หรือ” คุณคีนเสนอทางเลือกให้

            “ปิงตัวเล็กกว่าผม ไม่รู้จะใส่ได้หรือเปล่า” ผมอ้อมแอ้มตอบด้วยความไม่แน่ใจ

            “เดี๋ยวพี่พาไปตัดขากางเกงให้เอง” คุณเคนเสนอตัวช่วยอย่างอารมณ์ดี

            “...” ผมยู่หน้าเล็กน้อย ทำยังไงถึงจะเถียงพวกเขาได้ชนะกันนะ

            “เอาน่าถ้าห่วงเรื่องเงิน ไม่ต้องกังวลนะครับน้องเปล เจ้านายพี่น่ะปี ๆ หนึ่งบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย ทั้งเสื้อผ้า ทั้งทุนการศึกษา แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก”

            “เคน” คุณคีนปรามคนกำลังเผาเจ้านายเสียงขรึม ถ้าเป็นผมคงหยุดพูดแล้ว แต่เพราะเป็นคุณเคนล่ะมั้ง เขาจึงพูดต่อ

            “คิดเสียว่าเป็นเด็กทุนคุณคิรินชานะครับ”

            “ครับ” ผมพยักหน้าว่าเข้าใจพลางคิดตามผมคือหนึ่งในเด็กที่คุณคีนให้ทุน

            “เคน..” คุณคีนเรียกชื่ออีกฝ่ายแล้วส่ายหน้านิดเดียวเท่านั้น
 
            “พี่เคนล้อเล่นนะครับน้องเปล”

            “แล้วเด็กทุนคุณคีนมาที่คอนโดนี้ทุกคนเลยเหรอครับ?” ผมถามเสียงซื่อแต่ใจไม่ซื่อตามเสียง

            “เห็นไหมไปกันใหญ่แล้วเคน เล่นจนได้เรื่อง” คุณคีนบ่นคุณเคนก่อนจะหายเข้าไปในห้องนอน

            “พี่เคนถูกเจ้านายดุเสียแล้ว” คุณเคนทำหน้าจ๋อยไม่สมจริง “พี่จะบอกความลับให้ คุณคีนไม่เคยพาใครมาที่คอนโดครับ น้องเปลเป็นคนแรก”

            “แล้วคุณเคน?” แต่คุณเคนก็มาที่นี่นะครับ

            “อย่ามองพี่อย่างนั้นสิ ไม่ดีครับน้องเปล พี่มาที่นี่เพราะเป็นลูกจ้างต้องทำงานตามที่เจ้านายสั่ง”

            “ครับ”

            “อย่าคิดมากนะครับ คุณคีนให้ทุนการศึกษาเด็กคือการให้ทุนจริง ๆ ไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง”

            “เข้าใจแล้วครับ”

            “เข้าใจแล้วก็ดีครับ พี่เคนจะได้มีงานทำต่ออย่างสบายใจ ยังไงพี่รบกวนน้องเปลบอกคุณคีนหน่อยว่าพี่ไปรอที่รถนะครับ ถ้าเขาเสร็จแล้วให้ตามลงไป ระวังอย่าให้เกินสิบห้านาที เดี๋ยวจะสาย”

            “ได้ครับ” ผมพยักหน้ารับฝากข้อความคุณเคนไว้

            คล้อยหลังคุณเคนลงไปไม่ถึงนาที คุณคีนก็กลับออกมาจากห้องที่เขาหายเข้าไป

            “เคนล่ะ?”

            “คุณเคนฝากบอกว่าจะไปรอที่รถครับ แล้วก็บอกว่าอย่าเกินสิบห้านาทีครับ”

            “อืม ขอบใจ แล้วฟังที่เคนพูดหรือเปล่า อย่าไปเชื่อมาก” คุณคีนดึงผมเข้าไปใกล้ คราวนี้ไม่บ่นว่าผมหัวเหม็นอีก แน่ละ ก็ผมเพิ่งสระไปตอนเช้านี่เอง ผมยังไม่แห้งหมาด ๆ อยู่เลย

            “เกือบจะเชื่อคุณเคนแล้วเหมือนกันครับ ถ้าไม่ได้ยินคุณบ่นคุณเคนเสียก่อน” ผมว่าพลางยิ้มให้เขา

            “ดีแล้ว เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวผมไปส่งที่ลิฟต์”

            “ครับ”
   



         
            ผมมาถึงร้านพี่ปุยฝ้ายอย่างรวดเร็ว จากคอนโดคุณคีนเดินมาถึงร้านพี่ปุยฝ้ายไปถึงห้าสิบเมตรเลยด้วยซ้ำ พอมาถึงก็เห็นพี่ปุยฝ้ายกำลังเปิดร้านผมจึงรีบเข้าไปช่วยโดยไม่เกี่ยงงอน

            “มาเร็วจังเลยเปล”

            “วันนี้ผมตื่นเร็วครับ” คำตอบนี้มันก็ถูก ผมตื่นเช้าก็จริง แต่ที่มันเร็วกว่านั้นเพราะเดินไม่ถึงห้านาทีก็ถึงร้านนี่แหละ


            ช่วงใกล้เที่ยงลูกค้ายังเข้าร้านต่อเนื่องไม่ขาดสาย ทำให้ยุ่งอยู่ตลอดจนไม่มีเวลาจับโทรศัพท์มือถือเลย ผมตั้งใจทำงานอย่างขะมักเขม้น จนสังเกตเห็นว่าคนในร้านบางคนมองผมสลับกับโทรศัพท์มือถือแล้วทำหน้าแปลก ๆ  แต่ผมไม่คิดอะไรกระทั่งพี่ปุยฝ้ายดึงแขนผมเข้าไปหลังร้าน

            “เปล” เธอเรียกชื่อผมอย่างร้อนใจ

            “มีอะไรครับพี่ปุยฝ้าย”

            “ใช่เปลจริง ๆ  เหรอ”

            “ครับ? ผม ผมไงครับ ผมเปลไงพี่” ผมงงงวยกับคำถามพี่ปุยฝ้าย ก็ผมเองจะให้ผมเป็นใคร

            “เปลรู้จักกับคุณคีนใช่ไหม”

            “เขามาที่ร้านเราออกจะบ่อยก็ต้องรู้จักสิครับ” ผมตอบเลี่ยง ทักษะการโกหกของผมแสนจะต่ำต้อยไม่รู้พี่ปุยฝ้ายจะเชื่อหรือเปล่า

            “ไม่ใช่ พี่หมายถึงรู้จักเป็นการส่วนตัว”

            “ครับ?พี่ว่ายังไงนะ” ผมได้ยินชัดแต่ขอถ่วงเวลาเพิ่มอีกนิด

            “อะ..ดูรูปนี้ก่อน”

            พี่ปุยฝ้ายยื่นโทรศัพท์ของเธอมาให้ ผมรับแล้วยกขึ้นดูเสร็จแล้วจึงส่งคืนกลับเจ้าของด้วยมือที่ชื้นเหงื่อ ผมแอบเช็ดมือเข้ากับผ้ากันเปื้อน ระวังไม่ให้พี่ปุยฝ้ายเห็น

            “พี่ให้ผมดูทำไมครับ” ผมตีหน้านิ่งตอนที่ถาม

            “ตอบพี่มาว่าคนในรูปใช่เปลหรือเปล่า”

            “ไม่ใช่ผมหรอกครับ” ผมปฏิเสธเสียงเรียบ

            “ไม่ใช่จริงเหรอ แต่หน้าด้านข้างเหมือนเปลมากเลยนะ”

            “ผมจะไปรู้จักกับคุณคีนได้ยังไง แล้วอีกอย่างร้านหรูหราขนาดนี้ ผมไม่มีปัญญาไปหรอกครับ พี่ปุยฝ้ายคงไม่คิดว่าเป็นผมจริง ๆ  หรอกนะครับ” ผมถามพลางหัวเราะกลบเกลื่อน

            “เหมือนเปลมากแต่พี่ก็คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ ขอโทษนะจ๊ะที่พี่โวยวายเรื่องไร้สาระ”

            “ไม่เป็นไรครับ”

            “งั้นพี่ให้เปลพักสิบห้านาทีนะ เดี๋ยวพี่ดูหน้าร้านต่อให้เอง”

            “ขอบคุณครับ”


            พี่ปุยฝ้ายเดินออกไป สิ้นเสียงปิดประตูผมทรุดนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ดูท่าว่าร้านหรูหราแถมยังทำอาหารอร่อยจะนำภัยมาให้ผมกับคุณคีนเสียแล้ว


            ผมนั่งพักให้จิตใจสงบตามที่พี่ปุยฝ้ายอนุญาต ผมหวนนึกถึงรูปภาพที่พี่ปุยฝ้ายให้ดูเมื่อสักครู่นี้ ภาพผมกับคุณ  คีนถูกถ่ายจากด้านข้างเยื้องไปทางหลังผม ทำให้เห็นใบหน้าผมไม่ชัด แต่หน้าคุณคีนนั้นชัดทีเดียว ใครเป็นคนถ่ายรูปนี้กันตอนนั้นเองที่ผมดันนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ผมรู้แล้วว่าผมลืมอะไรเมื่อคืนนี้



            ผมลืมถามคุณคีนเรื่องข่าวลือความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้ชายยังไงล่ะ
 










=============================================



เจอคำผิดโปรดแจ้ง เจอประโยคแปลกโปรดแจ้งค่า บอกมาได้เลยน้าาาา ยินดีมากค่า

ขอบคุณทุกคอมเมนต์และทุกการกำลังใจจากทุกท่านมากๆ เลยนะคะ ขอบคุณค่า รักกกกกกก



ใครเล่นทวิตไปทวง บ่น หรือชมก็ได้น้า ที่แทกนี้เลย #พนักงานดูแลเตียง


ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
มันจะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ยนะ  :hao4:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สงสัยคนที่แอบถ่ายต้องเป็นนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามป่าว จะดิสเครดิตคุณและพ่อคุณคีน

ออฟไลน์ btoey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เป็นเรื่องจนได้ สู้ๆนะเปล
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ NaunaeZaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นักข่าวแน่เลย ไม่งั้นก็คนในวงการการเมืองนั่นแหละ  :m16:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ rawi62442

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อะ เป็นเรื่องแล้วววว

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
น้องเปลพึ่งรู้ว่าคุณคีนเจ้าเล่หรอลูก เอ็นดูววว
คุณคีนจะทำยังไงกับข่าวดี มีคุณคีน น้องเปลไม่ต้องกลัว

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
อย่าให้เปลเจอเรื่องราวไม่ดีอีกเลยนะ  :call: เจอจากที่บ้านมาเยอะแล้ว

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
น้อนนนนนนนนนนนนนนนนน่ารักกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ vantimi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณคีนนนนน รู้ข่าวยังคะ?? จะแถลงมั้ยคะ??
เปิดตัวน้องเลยค่ะ นี่กลัวคุณปุยฝ้ายโกรธน้องที่น้องโกหก
อยากบอกคุณปุยฝ้ายว่า น้องมีเหตุผลนะคะ อย่าโกรธน้อง
ส่วนรูปหลุด คุณพรรคฝ่ายตรงข้าม คุณเจอดีแน่!!

คุณทำน้องเปลของคุณคีนคิดมาก



ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เย้ๆ เค้าได้คุยกันแล้ว กำลังค่อยๆปรับตัวเข้าหากัน น้องเปลจะได้ไม่ต้องคิดมาก มีอะไรก็ถามเนอะ ส่วนเรื่องรูป เราว่าแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามต้องเอาเรื่องน้องมาเล่น คุณคีนคงมีวิธีจัดการแหละ แต่กลัวใจน้องเปลอ่ะดิ จะคิดว่าตัวเองทำเรื่องให้คุณคีน เป็นภาระให้เค้า จนหนีไปหรือเปล่า

ออฟไลน์ CLShunny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกตลอดเลยยยคู่นี้  สู้ไปค่ะ!!!

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :เฮ้อ: มีเรื่องเข้ามาเรื่อยๆเลย แต่ไม่เป็นไรคุรคีนเก่งอยู่แล้ว

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คุณคีนอ่ะไม่มีปัญหา แต่เปลอาจจะกังวลใจ ไหนจะที่บ้านอีก หวังว่าคุณคีนจะจัดการได้ เพราะน้องเค้าซื่อมาก กลัวจะกังวลว่าทำให้คุณคีนเดือดร้อน

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
คุณคีนพาน้องเปิดตัวให้จบๆไป

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คิดว่าคุณคีนแก้ปัญหาได้แน่นวล..ลลลลลลล  o13

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
คุณคีนน่าจะตั้งใจให้เป็นข่าวนะ เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
หนึ่งคือได้เปิดตัว ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ
สองคือได้มัดน้องเปลไว้ แสดงความเป็นเจ้าของออกสื่อไปเลยงี้
โอ๊ะ นกหลายตัว ไม่ใช่แค่สองตัวนะเนี้ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด