คุณชื่นตา--25--<04/08/2019> END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณชื่นตา--25--<04/08/2019> END  (อ่าน 24378 ครั้ง)

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
คุณชื่นตา--25--<04/08/2019> END
« เมื่อ17-04-2019 14:55:26 »

***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************



คุณชื่นตา

นอกจากชื่นตาแล้ว ก็คงชื่นใจด้วย

ทวิตเตอร์ https://twitter.com/zhaofah

สารบัญ

ปล.เราลงนิยายในเล้าเป็นครั้งแรกเลย ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดก็ช่วยบอกกันด้วยนะคะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2019 12:53:41 โดย zhaofah »

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter00:17/4/2019>
«ตอบ #1 เมื่อ17-04-2019 15:06:40 »

00




คุณชื่น มักจะเป็นคำที่พอใจได้ยินอยู่บ่อยครั้ง คนในตลาด ป้าข้างบ้าน เพื่อนๆในซอย หรือแม้แต่วินมอเตอร์ไซค์ล้วนพูดถึงคุณชื่น เหมือนมีแค่ตัวเขาเองที่ไม่รู้ว่าคุณชื่นคือใคร หรือมันหมายถึงอะไร


“ฝากนี่ไปให้คุณชื่นหน่อยสิลูก”
“ใครคือคุณชื่นอ่ะแม่”
“เอ๊า นี่ไม่รู้หรอกเหรอ ก็หลานชายของคุณหญิงบ้านตรงข้ามเรานี่ไง”


บ้านตรงข้ามที่แม่หมายถึง จะเรียกว่าบ้านก็ยังรู้สึกประดักประเดิดอยู่ บ้านที่กินพื้นที่ไปห้าถึงหกเท่าของพื้นที่บ้านเขาน่ะ มันต้องเรียกคฤหาสน์รัตนพิบูลย์ต่างหาก นักธุรกิจเชื้อสายจีนที่ทำตัวธรรมดาอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อจริงๆนะ วันก่อนคุณป้าเขายังมาเด็ดมะปรางหน้าบ้านผมอยู่เลย


“ทำไมผมไม่เห็นเคยรู้จักเลย”
“คุณเขาเพิ่งย้ายมาจากแพร่”
“อ้าว ไม่ใช่ลูกชายคุณนภาเหรอแม่”
“ไม่ใช่หรอก เห็นว่าเป็นญาติน่ะ”
“อ๋อออ”
“หยุดพูดแล้วเอานี่ไปได้แล้ว”


แม่ยัดกล่องขนมไทยใส่มือผมแล้วเดินหนีเข้าครัวไป แม่ของผมเปิดร้านขายขนมไทยเล็กๆ เมื่อก่อนก็มีไปขายตามตลาดบ้าง รับออเดอร์บ้าง แต่เพราะบ้านรัตนพิบูลย์เอาขนมของแม่ไปเสิร์ฟในวันงานเลี้ยงวันเกิดคุณลุง ร้านก็เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา ทำให้การทำขนมมาขายหน้าร้านเป็นเรื่องที่เหนื่อยเกินไป


ตอนนี้ขนมไทยคุณแววดาวก็เลยรับแค่ออเดอร์เป็นงานๆไป ก็แหงล่ะ แม่ไม่ได้ตั้งใจจะเปิดร้านขายตั้งแต่แรกแล้ว แค่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ พ่อเล่นสั่งคุณนายแกให้อยู่บ้านเฉยๆ ก็เลยลองเปิดร้านดู ใครจะคิดว่ามันจะไปไกลขนาดนี้
ขนมไทยของแม่แววได้สูตรมาจากคุณยาย เห็นว่าเป็นสูตรจากในวังเชียวนา กินมาตั้งแต่เด็กๆพูดได้เต็มปากเลยว่า ใครกินก็ต้องบอกว่าอร่อยทั้งนั้นแหละ ไอ้พอใจคนนี้ยืนยันได้เลย


“ว่าไงพอใจ มาหาใครลูก”
“แม่ให้เอาขนมมาให้คุณชื่นครับ”
“อ๋อ เข้ามาก่อนจ้ะ”


ผมกดกริ่งอยู่ไม่นานนักก็มีคุณป้าคนหนึ่งที่ผมจำชื่อไม่ได้เดินมาเปิดประตูให้ บ้านนี้แม่บ้านเยอะ ทางเข้าบ้านไม่ได้ยาวเหมือนในละครที่ต้องขับรถวนตามน้ำพุแต่อย่างใด เพราะพื้นที่สวนน่ะอยู่ด้านข้าง มีศาลาด้วยนะ ดูดีเหมือนในนิตยสาร น่าจะเอากล้องมาด้วยแฮะ


“คุณชื่นคะ มีคนมาหาค่ะ”
คุณป้าพาเขามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่ง ถ้าให้เดาก็คงเป็นห้องของคุณชื่นล่ะมั้ง ต้องเดินขึ้นบันไดมาด้วย เกรงใจเขามากๆ ผมแค่เอาขนมมาให้เฉยๆ ไม่ต้องพาเข้าบ้านก็ได้ แต่พูดไปก็เท่านั้น ยืนอยู่หน้าห้องแล้วจะทำไงได้ล่ะ


“เข้ามาได้ครับ”
“เข้าไปได้เลยลูก เดี๋ยวป้าเอาจานมาให้”
และป้าก็เดินหนีผมไป ผมที่ทำอะไรไม่ได้ ยืนลังเลอยู่หน้าห้อง มัวแต่คิดว่าเข้าไปจะพูดอะไรดี คิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจได้แล้ว คิดบทพูดไว้ในหัวเรียบร้อย แต่ว่าคนข้างในก็ดันเปิดออกมาก่อน สงสัยให้เขารอนานไปหน่อย


“ทำไมไม่เข้ามาล่ะครับป้าพิม อ้าว!”
“เอ่อ สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับๆ เข้ามาได้เลยครับ”


คนตรงหน้าผมที่ทุกคนเรียกว่าคุณชื่น คือผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาจัดว่าดีเลยนะ สูงก็คงตามมาตรฐานชายไทย 170กว่าๆ ทำผมทรงคล้ายๆดาราเกาหลี อืม มีลักยิ้มที่แก้มด้วย สังเกตเห็นได้ตอนที่เขายิ้มเมื่อกี้ ดูรวมๆก็ผู้ชายที่สะอาดสะอ้านคนหนึ่งอ่ะนะ


“แม่ฝากขนมมาให้ครับ”
“อ๋อ ขนมของแม่แวว ขอบคุณมากครับ คุณเป็นลูกชายสินะ”
“ใช่ครับ”
“เราน่าจะอายุพอๆกัน ผมชื่นตาครับ”
“พอใจครับ”


เพิ่งรู้ว่าคุณชื่นมีชื่อเต็มๆว่าชื่นตา ก็เหมาะดีนะ เหมาะอย่างบอกไม่ถูก เป็นคนที่ดูสะอาด สบายตา ยิ่งพอบวกกับรอยยิ้มอ่อนๆที่ส่งมาให้แล้วยิ่งเหมือนภาพฟุ้งๆเหมือนใส่ filter soften ติดหน้าเลนส์ เป็นภาพเคลื่อนไหวที่มองได้ตลอด


“เอ่อ คุณชื่นอายุเท่าไหร่เหรอ”
“เรา20แล้ว พอใจล่ะ”
“อ่า ผม19น่ะ คุณเป็นพี่”


ถ้าไม่ถามอายุ ไม่น่าเชื่อเลยสักนิดว่าคนตรงหน้าจะอายุมากกว่าผม ถ้าให้มายืนเทียบกัน ร้อยทั้งร้อยก็คงชี้ว่าผมเป็นพี่ ไม่ใช่ว่าผมหน้าแก่หรอกนะ แต่เพราะการแต่งตัว รวมถึงไอ้รอยยิ้มแบบนั้นด้วย มันทำให้เขาดูเหมือนเด็ก


“มีน้องแล้วสินะ”
“หือ?”
“ก็เราเป็นลูกคนเดียว คนในละแวกนี้ก็เรียกแต่คุณชื่นๆ ตอนอยู่มอปลายรุ่นน้องก็ยังเรียกคุณชื่นอีก ไม่มีใครเรียกพี่ชื่นสักคน พอใจสนใจจะเรียกเราว่าพี่ชื่นมั้ย”


ชื่นตามองมาที่ผมอย่างมีความหวัง หวังมากด้วย ตาเขาระยิบระยับไปหมด รู้สึกเหมือนโดนดูด เป็นคนที่คิดอะไรก็รู้ได้ผ่านสายตาทั้งหมด ไอ้สายตาที่มีความหวังและกดดันไปด้วยอย่างนี้เนี่ย ถ้าผมปฏิเสธ เขาจะร้องไห้ไหม ผมยิ่งปลอบใครไม่ค่อยเป็นด้วยสิ


“เรียกเถอะ”
“เอ่อ ครับ พี่ชื่น”
“ดีใจนะเนี่ย”


เขายิ้มกว้างจนลักยิ้มบุ๋มลงไป เห็นชัดมากกว่าเมื่อกี้อีก ไม่ได้ดูสว่างเจิดจ้า แต่ดูแล้วมีความรู้สึกว่ามันคือภาพโทนอุ่นๆ ผมว่าเขาควรมาเป็นแบบให้ผมสักม้วน ผมจะถ่ายทุกมุมเลย อยากรู้ว่าทำไมถึงได้ดูอบอุ่นขนาดนี้นะ


“จานมาแล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับป้าพิม เดี๋ยวชื่นเทเอง”
“งั้น…ผมกลับละนะ”
“เดี๋ยวสิ นั่งคุยกันก่อนนะ”


เอาอีกแล้ว ไอ้สายตาแบบนี้ ยากที่จะปฏิเสธมากๆ แถมคุณป้ายังมองยิ้มๆอีก ถ้าผมเดินออกไป คุณป้าจะฆ่าผมเพราะขัดใจคุณชื่นไหมนะ แต่เอาเถอะ ว่างอยู่นี่นะ นั่งคุยสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง ถือว่าทำความรู้จักเพื่อนบ้านละกัน






ผมกลับมาจากบ้านของชื่นตาหลังจากนั่งคุยกันอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เราคุยกันเรื่องสัพเพเหระ เรื่องทั่วๆไป ได้รู้หลายอย่างจากเขาเลย แต่เพราะอยู่ดีๆเขาก็เหมือนว่ามีงานที่ต้องทำ ผมไม่อยากรบกวนเวลางานก็เลยขอตัวออกมาก่อน
บ้านรัตนพิบูลย์น่ะ ถึงจะทำธุรกิจรวยล้นฟ้า ดูมีอิทธิพล น่าเกรงขามขนาดไหน แต่ก็มีมนุษยสัมพันธ์กับคนในละแวกนี้ ใจดี ไม่พูดจาดูถูกชาวบ้าน ทุกคนรักและเคารพกันทั้งนั้นแหละ บ้านเราเองก็เคยได้รับความช่วยเหลือครั้งหนึ่งในตอนที่ถูกหักค่าเช่าร้านอย่างไม่เป็นธรรม ทางนั้นก็ส่งคนมาช่วย ทางเราก็เลยรู้สึกขอบคุณจากใจจริงๆเลย


“มีพัสดุส่งมาแหนะพอใจ แม่วางไว้บนโต๊ะนะ”
“ครับบบ”


พัสดุจากร้านเดิม ในหนึ่งเดือนจะมีส่งมาครั้งสองครั้ง เขาหยิบกล่องมาเพื่อเปิดเช็คของข้างใน นับจำนวนให้ครบ เมื่อเช็คแล้วว่าของครบก็หยิบมาเก็บไว้ในกล่องของมันโดยเฉพาะ รอบนี้ Kodak extachrome E100 สามกล่อง คงถ่ายไปได้อีกสักพัก เป็นงานอดิเรกของผมน่ะ


พอใจตัดสินใจว่าจะไปลองฟิล์มสักสี่ห้ารูปที่สวนสาธารณะในหมู่บ้านใกล้ๆนี้ ก็เลยหยิบฟิล์มออกมาหนึ่งม้วน ใส่เข้าไปในrollei 35 ตัวโปรด เก็บเงินอยู่นานเลยนา แม่ไม่ยอมซื้อให้ ปรับอะไรๆจนเรียบร้อยแล้วถึงสะพายกระเป๋ากล้องออกจากบ้านไป
เดินเลียบไปตามฟุตบาท ดีที่วันนี้อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่ เลยไม่ต้องรีบ ที่นี่ค่อนข้างเงียบเพราะไม่ใช่ชุมชนใหญ่ ถึงจะอยู่ใกล้ตลาดแต่ก็ไม่ได้วุ่นวาย จะมีแค่ตอนเช้าและตอนเย็นเท่านั้นที่คนเหมือนจะเยอะ


พอใจกดชัดเตอร์เป็นระยะ กดทุกครั้งที่เจอสิ่งที่ตัวเองอยากถ่าย แมวบนถนนหรือนกที่เกาะอยู่บนสายไฟ ถ้าเขามองว่ามันสวย เขาก็ถ่าย ช่วงนี้เป็นช่วงก่อนที่จะเปิดเรียนของมหาวิทยาลัย เขาเลยมีเวลาว่างมากพอที่จะตะลอนๆไปถ่ายรูป ก่อนที่อาจจะไม่มีเวลาในช่วงที่ต้องไปรับน้อง


สวนสาธารณะในหมู่บ้านแทบไม่มีคน แหงล่ะ มันยังไม่ถึงเวลาที่คนเขาจะมาเดินสวนเลย แต่เพราะฟิล์มตัวนี้isoแค่100 ถ้าไม่ออกมาถ่ายตอนกลางวันก็อาจจะมีปัญหาหน่อย แสงมันจะไม่ไหวเอา


เขากดถ่ายไปไม่กี่ภาพก็รู้สึกว่าคงพอแล้ว ไม่มีอะไรที่อยากถ่ายอีก เลยนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ม้านั่งกลางสวน เปิดเพลงดังหน่อยเพราะอยู่คนเดียว ไม่คิดหรอกว่าจะมีคนออกมาที่สวนสาธารณะตอนนี้เหมือนกัน


“พอใจ ทำอะไรอยู่เหรอ”
ผมชูกล้องในมือขึ้น “ถ่ายรูปน่ะครับ”
“กล้องเท่จัง พอใจถ่ายรูปเก่งเหรอ”
“ก็ไม่ขนาดนั้นนะครับ”


ชื่นตานั่งลงข้างๆ มองดูกล้องในมือพอใจอย่างสนอกสนใจ เขาเลยตัดสินใจปิดเพลง เพื่อที่จะได้นั่งคุยกับชื่นตาถนัดๆ ไม่รู้หรอกว่าเจ้าตัวอยากคุยไหม แต่นั่งลงมาขนาดนี้ก็คงจะคุย


“เราดูรูปได้มั้ย”
“กล้องฟิล์มครับ”
“กล้องฟิล์มด้วย เก่งจังนะ เราถ่ายรูปไม่สวยเลย”


เขาหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเปิดรูปในแกลเลอรีให้ดู แล้วก็พูดแต่ว่าตัวเองถ่ายรูปไม่สวย เบี้ยวบ้าง ย้อนแสงบ้าง แล้วก็ขอดูรูปที่ผมเคยถ่ายไว้ พอผมเปิดให้ดู เขาก็ทำหน้าตื่นเต้น ชื่นชมในรูปที่ผมถ่าย ถึงแม้ว่าตัวผมเองก็มองว่ามันก็เหมือนรูปที่เขาถ่ายน่ะแหละ


“อยากถ่ายได้แบบนี้บ้างอ่ะ”
“การถ่ายรูปมันขึ้นอยู่กับมุมมองมากกว่า”
“ยังไงเหรอ”
“เวลาเรายืนอยู่ มองไปตรงหน้า สิ่งที่คนอื่นกับสิ่งที่เราเห็นมันอาจจะไม่เหมือนกัน รูปที่คนหลายๆคนถ่าย หรือโจทย์ที่ได้รับมา พอเอามาวางรวมกันแล้วมันถึงไม่เหมือนกัน ถ้าเราคิดว่าแบบนี้สวย มันก็คือสวยในแบบของเรา”


ชื่นตากระพริบตาปริบๆ แล้วก็ยิ้มออกมา นั่นคือมุมที่ผมมองเห็น ผมเลยหยิบกล้องขึ้นมาเลื่อนฟิล์ม ลุกขึ้นยืนเพื่อให้อยู่ในระยะที่สามารถจะโฟกัสได้ มีชื่นตาที่ได้แต่ทำหน้างงนิดหน่อยมองตามผม แต่เขาก็เหมือนจะเข้าใจเพราะตามองกล้องอยู่


 “ยิ้มหน่อยสิ” เขายิ้มออกมาตามที่ผมบอก และผมก็กดชัตเตอร์อย่างไม่ลังเลเลย อา จริงๆแล้วลืมวัดแสง แต่คงไม่เป็นไรมั้ง ต่อให้มันจะมืด ผมก็คงจำภาพตรงหน้าได้อยู่ดี







******************************************************************




เรื่องนี้มีในเด็กดีด้วยนะคะ ตรงนั้นอัพไปถึงตอนที่7แล้ว เดี๋ยวจะมาทยอยอัพในนี้ทุกวันจนครบนะคะ

 :katai4:

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter01:18/4/2019>
«ตอบ #2 เมื่อ18-04-2019 14:14:46 »

01


หลังจากเจอกับชื่นตาครั้งนั้นที่สวน พอใจก็ไม่ได้พบปะกับคุณชื่นของทุกคนอีกเลย นั่นก็เป็นเพราะว่ามันถึงเวลาที่เขาจะต้องย้ายจากบ้านไปที่คอนโดใกล้ๆมหาวิทยาลัยแล้วน่ะสิ หลายวันมานี้ก็เลยได้แต่ยุ่งอยู่กับการเก็บของอย่างเดียว ไม่ว่างไปไหนเลย ถ่ายรูปก็ไม่ได้ถ่าย ร่างกายมันปวดไปหมด


“ครบแล้วนะลูก”
“ครับแม่”
“โอเค ขึ้นรถเถอะ”


ผมมองไปรอบห้องนอนที่อยู่มาตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ข้าวของที่จำเป็นถูกเก็บลงกล่องไปหมด ทำให้ในห้องมันดูโล่งๆ พอคิดว่าจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ กินข้าวฝีมือแม่เช้าเย็นแล้วก็ใจหายหน่อยๆ ชีวิตเด็กที่ไม่เคยห่างบ้านไปไหนไกลๆมันก็อย่างนี้ เหงาแน่เลย


ผมเช็คของในลิ้นชักเป็นครั้งสุดท้ายว่าไม่ได้ลืมอะไรสำคัญๆไว้ ถึงแม้จะอยู่ในกรุงเทพเหมือนกัน แต่มหาวิทยาลัยที่ผมสอบติดกับที่บ้านน่ะ มันอยู่คนละมุมของเมืองเลยก็ว่าได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องย้ายไปอยู่คอนโด รวมถึงถ้าลืมของสำคัญไว้ที่นี่ กว่าจะกลับมาเอาก็คงกินเวลาไปหลายชั่วโมง กรุงเทพฯรถติดจะตาย


“ป้าแววครับ พอใจ จะไปไหนกันเหรอ”
“พาพอใจไปส่งคอนโดน่ะคุณชื่น”
“อย่างนี้ก็ไม่ได้เจอกันแล้วน่ะสิ” ชื่นตาหน้างอเล็กน้อย
“เดี๋ยวก็เจอน่ะ”
“อืม ตั้งใจเรียนนะพอใจ” แม่ผละออกไปเมื่อเห็นว่าผมคงจะยืนคุยกับชื่นตาอีกสักพัก เห็นหน้าเหมือนแมวหงอยๆแบบนี้แล้วมันอยากยื่นมือไปดึงแก้ม แต่เขาเป็นพี่ แล้วเรายังไม่สนิทกันขนาดนั้นนี่นะ ถ้าเอามือไปดึงอาจจะถูกดุได้ เราเงียบใส่กันอยู่พักหนึ่งก่อนที่ชื่นตาจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา เหมือนว่าจะถ่ายรูปผม?


“ถ่ายทำไมน่ะ”
“พอใจยิ้ม”
“ผมยิ้มเหรอ"


ผมไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าตัวเองยิ้มออกมาตอนไหน หรือแม้แต่ว่ายิ้มเพราะอะไร อาจจะตั้งแต่เห็นเขาเดินมา หรือตั้งแต่ตอนที่เขาทำหน้าหงอยๆ ร่างกายมันคงยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติ แย่จริง ควบคุมร่างกายไม่ได้แบบนี้


“อืม งั้น...ไปนะ”
“อื้อ” ชื่นตาพยักหน้า
“เจอกัน พี่ชื่น:)”


ผมโบกมือลาแล้วเดินมาขึ้นรถ ชื่นตายังคงยืนอยู่ที่เดิม ยิ้มแฉ่งเหมือนพระอาทิตย์ที่ใกล้จะตกดินมาให้ผม อบอุ่นจังนะ และเขายังคงยืนยิ้มโบกมือให้ผมจนตัวเขาเล็กลงเรื่อยๆ จนค่อยๆหายไป ผมมองอยู่ จากกระจกด้านข้าง มองอยู่ตลอดนั่นแหละ







พ่อกับแม่มาส่งผมลงที่คอนโด ช่วยยกลังทั้งหมดขึ้นมา แล้วก็ขับรถกลับบ้านกันไป สุดท้ายที่นี่ก็เหลือแต่ผมคนเดียว ผมเริ่มหยิบของออกมาจัดให้เป็นสัดส่วนตามพื้นที่คอนโด เดิมทีที่นี่เป็นคอนโดของพี่คนหนึ่งในซอย แต่เขาเรียนจบแล้ว และประกาศขายคอนโด แม่ก็เลยมาซื้อต่อไว้ให้ พอเห็นว่าเป็นคนรู้จักกัน พี่เขาก็ลดราคาให้ซะเยอะ น่าจะขาดทุนไปมากโขอยู่


ในห้องนี้มีชั้นครึ่ง มีระเบียงสองด้านเพราะเป็นห้องริมสุด ข้อเสียของมันคือห้องใหญ่เกินไป และผมอยู่คนเดียว มันดูเหงาไปหน่อยแต่ก็คงไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการใช้ชีวิตมากนัก ปกติถ้าออกจากบ้านก็มักจะทำอะไรคนเดียวอยู่แล้ว


ผมเรียงกล้องที่มีเข้าไปในกล่องสุญญากาศที่เก็บเงินซื้อมาเพราะไม่อยากให้กล้องขึ้นรา มันไม่ได้กินพื้นที่ในห้องนอนมากนัก ผมมีกล้องอยู่แค่สามตัว กล่องที่ซื้อมาเก็บมันเลยไม่ได้ใหญ่อะไร กล่องฟิล์มก็วางไว้ข้างบนนั่นแหละ


ผมจัดของอยู่สักพัก น่าจะพักใหญ่ด้วยซ้ำ จนกระทั่งท้องร้องจึงรู้ว่านี่เป็นเวลาของอาหารเย็นแล้ว ตู้เย็นก็ยังไม่ได้มีของอะไรเพราะไม่ได้ซื้อเข้ามา วันนี้คงได้ถือโอกาสสำรวจแถวๆคอนโดแล้วล่ะว่ามีร้านอะไรบ้าง ตอนผ่านเข้ามาเห็นว่ามีซุปเปอร์อยู่ใกล้ๆ คงไม่ลำบากอะไรนัก


ตื่อดึ้ง!


แต่ก่อนจะได้ออกไปหาอะไรกิน แชทกลุ่มปีหนึ่งของคณะก็เด้งขึ้นมาซะก่อน เหมือนพวกเขาจะคุยกันมาสักพักแล้ว แต่ว่าผมมัวแต่จัดของอยู่เลยไม่ได้ยิน อีกอย่างนะ พอคนในกลุ่มเยอะๆแบบนี้ ผมมักจะปิดแจ้งเตือนไว้


‘นี่ใช่เพื่อนคณะเราป่ะ หน้าคุ้นๆ’
‘พอใจไง ที่หล่อๆ’
‘ทำไมไปโผล่ในไอจีคุณชื่นได้ล่ะ’


และก็เป็นบทสนทนาที่คาดเดากันไปต่างๆนาๆเรื่องของผมกับชื่นตา การที่คนในคณะรู้จักเขา นั่นก็แปลว่าเขาอาจจะอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับผมใช่ไหมนะ ถ้าอย่างนั้นก็คงดังพอสมควร เพราะไม่ใช่แค่เพื่อนผู้หญิงที่รู้จัก เพื่อนผู้ชายบางคนก็รู้จักด้วย แล้วทำไมผมไม่รู้


ผมกดเข้าไปดูในอินสตาแกรมที่เพื่อนๆแคปมา แอคเคาท์ที่ใช้ชื่อว่า Chuentaa ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชื่นตา คนชื่อแบบนี้มันจะมีสักกี่คนเชียว รูปที่เพื่อนแคปมาเป็นรูปล่าสุด ซึ่งมันก็คือรูปของผมที่ชื่นตาถ่ายไว้ก่อนผมออกจากบ้านนั่นแหละ ก็ถ่ายดีนี่


ผมก็เข้าใจที่ทุกคนสงสัยนะว่าทำไมเขาถึงลงรูปผม แต่พอเลื่อนดูในแอคเคาท์ของเขาแล้วก็เข้าใจขึ้นมาหน่อย ไม่ได้มีการคุมโทนใดๆ อยากลงอะไรก็ลง นั่นทำให้ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่มันจะมีรูปผมพร้อมกับแคปชั่นที่ว่า ‘บ๊ายบายนะพอใจ’ อยู่ มันก็น่ารักดี ถึงแม้ว่าคนจะมาคอมเมนท์กันเต็มไปหมดว่าใครคะคุณชื่น ใครครับคุณชื่น


นอกจากรูปนี้แล้ว มันยังมีรูปก่อนหน้านี้อีก เขาถ่ายเท้าตัวเองในสวนสาธารณะตอนที่นั่งอยู่ข้างผม นั่นหมายความว่ามันติดเท้าผมไปด้วย แคปชั่นก็ยังจะมีชื่อผมอีก ‘พอใจบอกว่ารูปถ่ายจะสวยไม่สวยอยู่ที่มุมมอง’ นั่นน่ะ มันทำให้ใครต่อใครสงสัยกันไปหมดว่าไอ้พอใจคนนี้มันเป็นใคร แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่นักหรอก ถามหากันไปเถอะ


ผมไม่ได้คิดอะไรต่อมากมาย เพราะหิวเกินจะทำอะไรแล้ว สุดท้ายก็แค่กดฟอลโลวอินสตาแกรมของเขา เก็บมือถือแล้วลงไปกินข้าวแบบที่ไม่ตอบแชทใครทั้งสิ้น อีกนิดก็เป็นลมคาห้องแล้ว 





คืนนี้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะหลังจากกินข้าวแล้วกลับมาอาบน้ำที่ห้อง ไม่นานภาพในหัวผมก็ตัด เพราะผมหลับตั้งแต่สามทุ่ม ที่เป็นอย่างนั้นก็คงเป็นเพราะเหนื่อยกับการจัดของ เมื่อนอนพอแล้วร่างกายก็ตื่นเองอัตโนมัติ ผมลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว กะว่าลงไปกินข้าวแล้วก็คงจะเดินเลยไปถ่ายรูปหน่อย


ฟิล์มม้วนล่าสุดที่อยู่ในกล้องน่ะ รูปสุดท้ายที่ถ่ายยังคงเป็นชื่นตาอยู่เลย เวลาสิบโมงสำหรับพอใจก็ถือว่าเป็นเวลาที่พอดีในการจะออกไปข้างนอก ช้ากว่านี้อาจจะร้อนจนตัวชื้นได้ ยิ่งเป็นผู้ชายแล้วมีเหงื่อออกเยอะยิ่งดูไม่โอเค


มื้อเช้าที่ค่อนไปทางสายนี้ของพอใจฝากไว้ที่ร้านติ่มซำตรงข้ามกับคอนโด เขาสั่งไปหลายถาดพอสมควร ผู้ชายก็กินประมาณนี้กันทั้งนั้นน่ะ ถึงยังไงกินแล้วพอใจก็ไปออกกำลังกายอีกอยู่ดี ไอ้เรื่องอ้วนน่ะตัดไปได้เลย พอใจน่ะ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน จะกลายเป็นกล้ามล่ะสิไม่ว่า


ในระหว่างรอติ่มซำ พอใจก็คิดได้ว่า ตัวเองยังไม่ได้ตอบแชทกลุ่มเมื่อคืน ตอนนี้แจ้งเตือนก็ปาไปหลายร้อยแล้ว ไม่รู้คุยอะไรกันหนักหนา อาทิตย์หน้าก็เปิดเรียนแล้ว คุยกันตอนนั้นก็ยังไม่สายหรอกเพื่อน เขายังไม่เคยได้ต่อบทสนทนาในกลุ่มนี้สักคำเพราะพิมพ์ไม่เคยทัน


‘พอใจไม่มาตอบเลยอ่ะ’
‘คงไม่เห็นมั้ง’
‘งั้นถ้าเห็นแล้วมาตอบด้วยน้า เป็นอะไรกับคุณชื่นอ่ะ’


นั่นคือข้อความสุดท้ายที่เขาเห็นในแชท ไอ้หลายร้อยข้อความที่เพื่อนคุยกันเนี่ย มีเรื่องของเขากับชื่นตาเท่านั้น ไม่ได้ย้อนอ่านไปเยอะเพราะมีข้อความมากเกินไป เขาตอบในสิ่งที่เพื่อนอยากรู้เรียบร้อยก็ลงมือกินติ่มซำที่มาเสิร์ฟ ก่อนกินน่ะ ปิดแจ้งเตือนไปแล้วด้วย คิดว่าเครื่องคงจะสั่นเยอะ เลยปิดไว้ก่อน


‘เป็นเพื่อนบ้าน’ ก็ตอบตามความจริง




พอใจเดินไปตามฟุตบาทตรงบริเวณถนนใหญ่หน้าคอนโด กดถ่ายพ่อค้าแม่ค้าตามข้างทาง แมวที่เดินอยู่ข้างถนน การจราจรที่ติดขัด เมื่อพอใจกับถนนตรงหน้าแล้ว พอใจก็วกกลับมาที่ซอยข้างคอนโด ได้ยินว่ามีคาเฟ่อยู่แถวๆนี้ ไปกินกาแฟแล้วก็ถ่ายรูปอีกหน่อยคงกลับ


“พอใจ!”
“หือ?” พอใจได้ยินคนเรียกชื่อดังมาจากข้างหลัง เมื่อหันไปเขาก็พบกับพี่บ้านตรงข้าม คุณชื่นของทุกคน บังเอิญเจอกันบ่อยเกินไปหรือเปล่านะ เราเพิ่งจะแยกกันเมื่อวาน โลกกลมจริงๆ


“พอใจอยู่แถวนี้เหรอ”
“ครับ คอนโดนี้” ชี้ไปที่คอนโดหน้าซอย อยู่ไม่ไกลจากที่พวกเขาทั้งสองคนยืนอยู่เท่าไหร่ ชื่นตาพยักหน้าแล้วหันมายิ้มให้ผม ยิ้มแบบที่เห็นลักยิ้มน่ะ ซิกเนเจอร์ของเขาเลย


“ดีจัง เราก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน พอใจจะไปไหนเหรอ”
“คาเฟ่น่ะ”
“ไปด้วยสิ”


นี่คงเป็นเรื่องบังเอิญครั้งที่สามและสี่ของผม ชื่นตาพักอยู่ที่คอนโดเดียวกันแต่คนละชั้นกับผม ส่วนเรื่องบังเอิญที่สี่คือเขากำลังจะไปคาเฟ่พอดี เจริญล่ะ เพิ่งโบกมือบ๊ายบายกันได้วันเดียว นี่เจอกันอีกแล้ว ดวงเราสมพงษ์กันไปหน่อยนะ


เขาพูดเจื้อยแจ้วของเขาไปเรื่อยๆเหมือนที่เคยทำ จังหวะหนึ่งที่เขาเดินพูดอยู่ ผมก็หยิบกล้องออกมากดชัตเตอร์โดยที่ไม่ให้เขารู้ตัว และเจ้าตัวก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิด ขนาดว่าเสียงกดชัตเตอร์ดัง เขายังไม่แม้แต่ที่จะหันมามอง


คาเฟ่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่ แต่เพราะแดดร้อน ทำให้ชื่นตาแก้มแดง หน้าแดง เหงื่อไหลเต็มไปหมด พอได้เข้าไปในคาเฟ่ถึงจะดีขึ้นมาหน่อย ผมเขาเปียกไปหมดแล้ว ดูท่าจะเป็นคุณชายที่ขี้ร้อนอยู่เหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีกลิ่นตัวเลยสักนิด


“ร้อนเนอะ พอใจกินอะไร เราไปสั่งให้”
“พี่ชื่นนั่งดีกว่า ดูท่าจะเหนื่อย”
“ก็ได้ เราเอานมสดเย็นนะ”
“ครับ”


นมสดเย็น เมนูที่ดูเป็นเขาดี ผมเดินไปสั่งทั้งของผมและของเขาที่เคาท์เตอร์ พนักงานถามชื่อไว้แล้วบอกให้ผมไปนั่งรอที่โต๊ะ ก่อนกลับผมก็ถ่ายตรงเครื่องทำกาแฟไว้หนึ่งช็อต ไม่แน่ใจอีกแล้วว่าจะติดไหม เพราะอยู่ในร้าน แสงมันอาจจะน้อยไป แต่ก็กดๆไปก่อน ได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที


“น้องพอใจได้แล้วครับ”


ผมเดินไปรับเครื่องดื่มที่สั่งไว้ นมสดเย็นกับลาเต้เย็น เมื่อดูแล้วว่าได้ครบก็ยกมาให้ชื่นตาที่นั่งรออยู่ อ่า เขานั่งยิ้ม แต่ผมไม่รู้หรอกว่าเขายิ้มอะไร พอเจอแสงสีส้มในร้านแล้วเขาดูอบอุ่นกว่าเดิมอีก


“มีอะไรหรือเปล่า ยิ้มไม่หุบเลย”
“ก็แค่คิดว่าน่ารักดี”
“หือ?”
“ก็เมื่อกี้เขาเรียกว่าน้องพอใจนี่นา น่ารักดีไม่ใช่เหรอ” อืม น่ารักดี ใช่ไหมครับ

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter02:18/4/2019>
«ตอบ #3 เมื่อ18-04-2019 14:19:34 »

02





วันนี้ผมตื่นเช้าผิดปกติ อาจจะเพราะแปลกที่ แถมผมยังได้ยินเสียงนกร้องดังมาจากหน้าต่างอีกต่างหาก ตอนนั้นถึงได้ตื่นมาแล้วรู้ว่าตัวเองลืมปิดหน้าต่าง จริงๆก็อันตราย ถ้าแม่รู้ต้องโดนบ่นจนหูชาแน่นอน แต่ไม่มีอะไรหายก็โอเค


วิวจากระเบียงห้องในตอนเช้าได้ถูกลั่นชัตเตอร์เก็บไว้ในตอนที่ผมยังมีแปรงสีฟันอยู่ในปากอยู่เลย เพราะอยู่สูงหรือเพราะอะไรก็ไม่แน่ใจ แต่ฝั่งห้องผมได้รับลมเต็มๆเลย เย็นสบาย คิดไม่ผิดที่เลือกซื้อห้องนี้ไว้ แม่นี่สายตาเฉียบแหลมจริงๆ บรรยากาศดีจนไม่น่าเชื่อว่าที่ผมยืนมองอยู่นี่มันใจกลางเมือง ขอบคุณแม่ที่เลือกที่นี่ซะเถอะไอ้พอใจ


จริงๆก็ยังมีความรู้สึกแปลกๆอยู่ ไม่มีแม่ปลุกมากินข้าวเช้า แต่ต้องลุกขึ้นมาทำเอง หรือไม่มีเสียงพ่อรดน้ำต้นไม้และร้องเพลงไปด้วยในตอนเช้า ความเคยชินที่เหล่านั้น ทำให้ในวันนี้ผมรู้สึกว่ามันเงียบ แต่ก็นั่นแหละ ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติของชีวิต อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ลุกมาทำอาหารเช้าง่ายๆ ถึงจะมีแม่ทำให้ตลอด ไม่ได้หมายความว่าทำไม่เป็น


หยิบขนมปังใส่ลงในเครื่องปิ้งขนมปัง หั่นอะโวคาโดแล้วใช้ช้อนบดให้เละ ทาบนหน้าขนมปังที่สุกตามที่อยากได้ ราดน้ำผึ้งให้หวานขึ้นหน่อย ชงชากลีบดอกกระดังงาที่แม่หยิบมาวางไว้ให้ แค่นี้ก็พอแล้ว จัดจานให้สวยไปทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำไปงั้นแหละ


Rrrrrr เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นมา


“ครับ”
“อรุณสวัสดิ์นะพอใจ”
“อ้าว พี่ชื่น อรุณสวัสดิ์ครับ” ยิ้มตอบอีกคนที่ยิ้มมาตั้งแต่ผมเปิดประตูให้
“เราเอาคุกกี้มาฝากน่ะ อบเสร็จเมื่อกี้เลย”


ชื่นตายื่นโหลแก้วเรียบๆที่อัดแน่นไปด้วยคุกกี้มาให้ คุกกี้สีน้ำตาลสวย มีอัลมอนด์โรยหน้า ผมรับคุกกี้มาถือไว้ ในหัวจินตนาการไว้แล้วเรียบร้อยว่าถ้ากินสิ่งนี้กับชาในตอนเช้าๆจะต้องดีมากแน่นอน
“แล้วพี่ชื่นกินข้าวหรือยังครับ”


“ยังเลย กำลังจะลงไปซื้อในเซเว่น”
“กินข้าวเซเว่นเหรอครับ”
“อื้อ เราทำอาหารไม่เป็นหรอก”
“งั้น…เข้ามามั้ยครับ”


สุดท้ายในห้องใหม่ของผมก็มีแขกคนแรกจนได้ ผมให้เขานั่งรออยู่ที่โต๊ะข้างกระจกระเบียงที่ผมนั่งกินอาหารเช้าเมื่อกี้นั่นแหละ ปิ้งขนมปังเหมือนที่ทำให้ตัวเอง จัดคุกกี้ที่เขาเอามาให้ใส่จานสองสามชิ้น ชงชาให้เสร็จสรรพ ไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าเขาอยากดื่มหรือเปล่า ก็ผมพอใจ


“นี่ครับ อย่างน้อยก็กินขนมปัง ดีกว่ากินของเวฟ”
“ขอบคุณน้าาา พอใจเก่งจัง”
“แค่ปิ้งขนมปังเองครับ”
“ยังไงก็ขอบคุณอยู่ดี”


ผมนั่งมองชื่นตากินทุกอย่างจนหมด พอผมจะเก็บจานไปล้าง เจ้าตัวก็ยืนยันว่ายังไงก็จะล้างให้ ผมจึงยืนรออยู่หน้าประตูครัว ไม่อยากเข้าไปเกะกะที่ซิงค์ เราคุยกันเล็กน้อยจนได้ความว่ามีเรียนเช้ากันทั้งคู่ หลังจากล้างจานเสร็จเราก็โบกมือลาแยกย้ายกันไปเตรียมตัว เป็นนักศึกษาวันแรกก็จะตื่นเต้นหน่อยๆ


และเพราะวันนี้มีเรียนแค่ตอนเช้าแต่โดนรุ่นพีนัดตอนบ่าย พอใจคิดว่าน่าจะมีเวลาว่างเหลือพอสำหรับถ่ายรูป อย่างน้อยก็คงได้สักรูปสองรูป การหยิบกล้องตัวเล็กๆไปด้วยหนึ่งตัวก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากสักเท่าไหร่ หยิบของที่ต้องใช้ใส่กระเป๋าผ้า เช็คความเรียบร้อยของห้องว่าปิดทุกอย่างที่ควรจะปิดแล้วก็สวมรองเท้าคู่ใจออกจากห้องไป


พอใจเป็นผู้ชายที่ชอบใช้ถุงผ้า ซึ่งเอาจริงๆตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดว่ามันแปลก แต่แค่อาจจะไม่ค่อยเห็น เขาไม่ชอบสะพายเป้เพราะบางทีมันร้อนแล้วเหงื่อออกที่หลัง การใช้กระเป๋าผ้านี่ก็ได้อิทธิพลมาจากแม่นั่นแหละ คุณนายเขาชอบสะพายไปซื้อของที่ตลาด ยิ่งช่วงนี้กระเป๋าสานของเกาหลีฮิตๆ แม่ก็ไม่ตกเทรนด์ ไปซื้อมาใส่จ่ายตลาดด้วย


ถึงจะบอกว่ามาเรียนวันแรก แต่เพราะเคยมาเดินสำรวจที่นี่อยู่สองสามครั้ง ทำให้การเดินไปตึกของพอใจไม่ได้เสียเวลาสักเท่าไหร่ โชคดีที่วันนี้อากาศไม่ร้อน เดินได้สบายๆ ตอนแรกก็กะว่าจะรอรถนั่นแหละ แต่พอเห็นคิวที่ลากยาวไปจนเกือบสุดซอย เลยเลือกเดินก็ได้


“ดี พอใจใช่ป่ะ กูมังกรนะ”
“ดี รู้จักกูด้วย?”
“มึงฮ็อตในหมู่สาวๆนะ เพื่อนกูพูดถึง แล้วก็ไอ้ประเด็นเมื่อวานน่ะ”
“อ๋อ นอกจากกูนี่มึงรู้จักใครอีกบ้างไหม”


แล้วมังกรก็แนะนำให้ผมรู้จักกับเพื่อนอีกสองคน โมกข์ เป็นเพื่อนสนิทของมังกร ถึงจะชื่อเหมือนผู้ชาย นิสัยก็ดูจะเหมือนผู้ชาย แต่เป็นผู้หญิงนะ ส่วนอีกคนก็ว่าน พวกนี้เจอตอนมารายงานตัวเลยทำความรู้จักกันไว้ ด้วยความที่คณะเราผู้ชายน้อยเป็นทุนเดิม มองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้หญิงทั้งนั้น ผมก็เลยไม่รู้จะเข้าไปคุยยังไง ไม่ได้คุยกับใครตั้งแต่วันรายงานตัวนั่นแหละ


“มึงนี่ฮ็อตนะพอใจ โต๊ะนู้นมองมาครึ่งชั่วโมงแล้วมั้ง” โมกข์พูดขึ้นมา ผมหันไปตามทิศทางที่โมกข์พยักพเยิดหน้าไป อืม รู้สึกมาตลอดนั่นแหละว่าโดนมอง


“ก็รู้สึกอยู่”
“แต่ทำเป็นไม่เห็น ร้ายว่ะ” อันนี้มังกรตอบ
“ดีแล้ว อย่าไปยุ่งเลย แก็งค์นี้น่ากลัว”
“มึงรู้ได้ไงวะโมกข์”
“รู้ละกันน่ะ” หลังจากนั้นก็เข้าสู่การเถียงกันอย่างไม่หยุดหย่อนของสองเพื่อนสนิท ก็ขำๆดี พวกนั้นนั่งคุยดีๆกันได้ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ แปปๆก็เถียงกันอีก เป็นเพื่อนที่เข้ากันได้ดีแบบแปลกๆ


แน่นอนว่าเป็นเพราะเพิ่งเจอกันคลาสแรก อาจารย์ก็เลยแค่มาแนะนำตัว แนะนำเนื้อหาหลักๆที่จะเรียน แล้วก็ปล่อยพวกเราแยกย้ายกันไป พอมีเวลาเหลือตั้งสองชั่วโมง ผมเลยว่าจะไปที่สวนของมหาลัยเพื่อถ่ายรูปสักหน่อย


“ไปถ่ายรูปกับกูป่ะ”
“ถ่ายรูปอะไรวะ” ผมชูกล่องฟิล์มขึ้นมาให้เพื่อนๆดูเป็นคำตอบ
“เชี่ย มึงเล่นกล้องฟิล์มด้วยเหรอวะ โคตรคูล”
“ไปๆ อยากเป็นคนแบบฮิปๆ” โมกข์พูด
“ฮิปโปเหรอ”
“ว่านมึงติดนิสัยอีมังกรมาเหรอวะ” เราคุยกันจนได้เรื่อง เอาจริงๆก็เรียกว่าเถียงกันไร้สาระจนจบ แล้วถึงออกไปจากห้อง ใช้เวลาเก็บของนานกว่าที่อาจารย์พูดอีกมั้งเนี่ย มีเพื่อนแบบนี้ชีวิตดูวุ่นวายดี แต่ก็คิดว่าคงจะสนุกล่ะนะ






เราถ่ายรูปกันไปเยอะพอสมควร ทั้งในโทรศัพท์ ทั้งในกล้อง ก็เลยตัดสินใจไปกินข้าวกัน เพราะเหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงกว่าเท่านั้น ไม่งั้นก็คงจะไปไม่ทันเวลาที่รุ่นพี่นัด จริงๆพี่เขาก็ไม่ได้เคร่งอะไร จะไปหรือไม่ไปก็ได้ แต่ถ้าอยากหาเพื่อน หรือทำความรู้จักกับคนอื่น ไปลองดูก็น่าจะดีกว่า


มหาลัยนี้ไม่ได้มีกฎระเบียบเรื่องรับน้อง จากที่เคยได้ยินมา เหมือนว่าจะเป็นแค่การแนะนำตัวและพูดคุยกันสนุกๆเท่านั้น เล่นเกมก็เหมือนจะไม่มี เพราะบางคนเขาก็ไม่ได้เอ็นจอยกับตรงนี้ เป็นอีกหนึ่งอย่างของมหาลัยนี้ที่ผมชอบ


“น้องๆมาแล้วก็นั่งได้เลยนะ เดี๋ยวพวกพี่จะเริ่มแนะนำตัว”


พอคนเริ่มมากันเยอะแล้ว พวกพี่ๆก็เริ่มแนะนำตัวกันทีละคน ก็เป็นการแนะนำตัวกันปกติ ชื่ออะไร ทำหน้าที่อะไร บางคนไม่มีหน้าที่ก็พูดคำคมตลกๆ หรือมีการทำท่าแปลกๆที่เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ บางคนก็มาเป็นคู่ เล่นมุกกันไปมา ง่ายๆก็คือทำเอาฮาอ่ะ


“สวัสดีครับน้องๆ พี่ชื่อชื่นตานะครับ เจอกันก็ทักได้นะ”
“คุณชื่นนนนนนนนนน” เสียงประสานจากรุ่นพี่เป็นสิบๆคนดังขึ้นมาหลังจากที่ชื่นตาพูดจบ เหมือนเป็นการล้อเลียน คุณชื่นของทุกคนก็เลยทำหน้าย่นใส่ เขาเคยพูดกับผมว่าชอบโดนเพื่อนๆรุมแกล้ง ผมเข้าใจนะว่าเพราะอะไร เขาดูเป็นคนที่แกล้งสนุก รีแอคชั่นเขาตลกดี


หลังจากพี่ที่มาวันนี้แนะนำตัวกันไปจนครบ ก็ถึงคราวของเด็กๆบ้าง ผมก็นั่งฟังเพื่อนๆแนะนำตัวไป จำได้บ้าง ไม่ได้บ้างว่าใครชื่ออะไร ผู้หญิงชื่อซ้ำๆกันเต็มไปหมด เหมือนเป็นชื่อฮิตของเด็กที่เกิดปีนี้ เรียนไปได้สักพักคงมีฉายาพ่วงชื่อ ไม่งั้นคงหากันไม่เจอ


“สวัสดีครับ มังกรครับ”
“มึงงงง เด็กผู้ชายยยยย” มังกรเป็นผู้ชายคนแรกที่ลุกขึ้นแนะนำตัว ก็เลยเกิดเสียงเซ็งแซ่ทุกสารทิศไปหมด ตัวมันก็ยิ้มโปรยเสน่ห์ ยิ้มจนเหงือกแห้ง อีกนิดน่าจะกรามค้าง


“สวัสดีค่ะ โมกข์ค่ะ” คนนี้ก็เล่นใหญ่ พูดเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน เพื่อนที่ใกล้จะหลับถึงกับสะดุ้งตื่น เหนื่อยใจกับพวกมันเหมือนกันนะ
“ครับ ว่านครับ” ไอ้นี่มานิ่งๆ นิ่งกว่าผมอีก
“ผู้ชายอีกแล้วว ดีใจ น้องคนต่อไปเลย” และก็มาถึงผม
“สวัสดีครับ พอใจครับ”
“น้องพอใจ พี่พอใจในตัวหนูมากค่ะ” แล้วทุกคนก็หัวเราะกันขึ้นมา ผมเองก็หลุดขำด้วย พี่เขาไม่ได้แค่พุดเฉยๆ ยังส่งจูบมาให้ด้วย พี่คนนี้ชื่อคิง แต่มีวงเล็บข้างหลังที่ตัวใหญ่เท่าบ้านว่าไคลี่ คาดว่าน่าจะเป็นชื่อในวงการ


“อีคิง มึงเยอะ”
“อะไรคุณชื่น น้องคนนี้กูจอง”
“สงสารน้อง”
“สงสารน้องหรือตัวเอง เห็นนะ” และเหมือนเขาจะเถียงต่อไม่ได้ เลยลุกไปหยิบน้ำมากินดื้อๆ พอเขาทำแบบนั้นทุกคนที่ฟังบทสนทนาอยู่ก็ขำออกมา บางคนก็มีเสียงเล็ดรอออกมาว่าคุณชื่นน่าเอ็นดูบ้างอะไรบ้าง
“พอใจไม่ต้องหัวเราะเลยนะ!” ชื่นตาชี้หน้าผมทำเป็นขู่ แต่สุดท้ายเขาก็หัวเราะออกมาซะเอง ตลกดี






“กลับยังไงล่ะเรา”
“หือ คงเดินแหละพี่ชื่น มันไม่ได้ร้อน ไม่อยากรอรถด้วย”
“งั้นเดี๋ยวกลับพร้อมกัน ขอเก็บของแปปนะ”


เขาไม่ได้รอฟังคำตอบจากผมแม้แต่น้อย พูดจบก็เดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนของตัวเอง พอใจที่คิดว่ายังไงก็คงปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วก็เลยเก็บของบ้าง

“ที่บอกว่าเพื่อนบ้านนี่จริงสินะ”
“ก็จริงสิวะ แต่นี่กูกลับคอนโด”
“เขาไปส่ง?”
“บังเอิญอยู่คอนโดเดียวกันด้วย”
“น่อววว บังเอิญ โลกกลมหรือพรหมลิขิตอ่ะเพื่อน”
“เพลงมึงเก่ามากโทษทีอีโมกข์” แล้วก็เถียงกันรอบที่สามล้านของวัน ไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่นี่จะเรียกว่าชีวิตมีสีสันได้ไหม วันหนึ่งจะปวดหัวตายหรือเปล่าก็ไม่รู้ สุดท้ายการเถียงของสองคนนี้ก็จบลงเพราะไอ้ว่านรำคาญ ก็เลยหยิบเอากระดาษห่อซาลาเปายัดใส่ปาก ก็เลยสงบปากสงบคำได้


“เสร็จแล้วพอใจ พี่กลับก่อนนะเด็กๆ”
“บ๊ายบายค่าคุณชื่น”
“บายครับบบบบบบ เพ่ชื่น” กวนตีนไม่หยุดหย่อน
“สวัสดีครับพี่” น่าจะเป็นเพื่อนคนเดียวในชีวิตที่ปกติ บางทีเราก็ไม่มีทางเลือกนะ เฮ้อ




“ขอบคุณครับพี่ชื่นที่ให้ติดรถมาด้วย”
“ไม่เป็นไร ก็อยู่ที่เดียวกัน เป็นยังไงบ้าง เรียนวันแรก” เราคุยกันตั้งแต่ลงจากรถจนเดินมาขึ้นลิฟต์ ผมแวะรับของที่ฟร้อนท์นิดหน่อย แม่ส่งข้อความมาบอกว่าเอาของมาฝากไว้ให้ จากนั้นเราก็ขึ้นลิฟต์มาพร้อมกัน


ติ๊ง! ถึงชั้นของผมแล้ว


“ไปนะครับพี่”
"ฝันดีนะพอใจ”
“ฝันดีเหมือนครับ พี่ชื่น”
   
   

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: คุณชื่นตา--02--<18/4/2019>
«ตอบ #4 เมื่อ18-04-2019 19:52:27 »

คุณชื่นน่ารัก ฟิลเตอร์โลกสดใสมากๆเลย!

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter03:19/4/2019>
«ตอบ #5 เมื่อ19-04-2019 14:53:02 »

03




“ฮัลโหล ไอ้พอใจ มาช่วยกูหน่อยดิวะ”


นั่นเป็นเพียงประโยคเดียวที่เขาได้ยินจากมังกร สายถูกตัดไปหลังจากมันพูดจบ ผมยังไม่ทันได้ลืมตาดีๆเลยด้วยซ้ำ โทรกลับไปมันก็ไม่รับ เลยลองไลน์ไปหา


‘มึงมีไร’
‘มาช่วยกูหน่อย’
‘ช่วยไร’
‘เออน่ะ อาคารA ชั้น2 นะ’


แล้วก็จบบทสนทนาไปทั้งอย่างนั้น ตอนแรกที่ได้ยิน เขาก็นึกว่ามันจะโดนทำอันตรายหรือโดนรุมกระทืบ แต่เห็นตอบไลน์ได้แบบนี้น่าจะไม่ได้เป็นอะไร คงไม่ต้องรีบมาก


ผมลุกไปอาบน้ำแต่งตัวตามเวลาปกติ ไม่ได้รีบเร่ง แต่ก็ต้องโบกมือลาต้นไม้กับอาหารเช้าไปก่อน ถ้าให้กินเขาอาจจะโดนมันด่าจนหูชา พอใจเถียงไม่ทันหรอก


และทันทีที่เปิดประตูห้อง พอใจก็พบว่ามีถุงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋แขวนไว้ที่ประตู ไม่มีข้อความใดๆบ่งบอกว่าของนี้มาจากใคร พอใจไม่ได้สงสัยมากนัก เจาะกินน้ำเต้าหู้และหยิบปาท่องโก๋ใส่ปากอย่างไม่กลัวว่าจะมีคนวางยา ไม่ใช่ละครสักหน่อย


Rrrrrrrrr


“มึงอยู่ไหนแล้ววะ!”
“กำลังไป”
“เร็ววววว เร๋วววว”
“รีบอะไรนักหนา แค่นี้”


ตัดสายเพราะไม่อยากฟังมังกรคร่ำครวญ เนื่องจากเพื่อนดูรีบมากเขาเลยโบกวินไป แต่ถึงจะรีบยังไง เขาก็ไม่ลืมที่จะหยิบกล้องมาอยู่ดี วันนี้เขาไม่มีเรียน ถ้าไปหามังกรแล้วคงไปถ่ายรูปต่อ เหลือไม่กี่รูปแล้ว


พอใจเดินขึ้นมาถึงห้องที่มังกรบอก เคาะประตูแล้วก็เปิดเข้าไปทันที แล้วก็พบว่า ไอ้มังกรมันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ มันหลอกเขามาถ่ายรูปโปรโมทเสื้อค่ายของมหาลัย ไอ้เพื่อนเวร!


“มึงนี่มัน”
“โทษน้าา กูทำไรไม่ได้จริงๆเพื่อน”
“เฮ้อ”


ผมรับเสื้อไปเปลี่ยนอย่างจำใจ ไหนๆก็มาแล้ว มังกรบอกว่า ถ้ามันลากผมมาถ่ายด้วยไม่ได้มันจะไม่ได้กลับ นี่ก็ถูกกักตัวไว้เป็นชั่วโมงแล้ว ตัวมันเองก็เชื่อฟังเหลือเกิน เป็นผมหาทางหนีกลับแล้ว ไม่รอนานๆแบบนี้หรอก


“น้องพอใจพร้อมแล้วนะ ไปถ่ายได้เลยจ้ะ”
“ครับ”


ผมยืนให้ตากล้องถ่ายน่าจะสักสิบช็อต แล้วก็เปลี่ยนเป็นเสื้ออีกสีหนึ่ง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง รวมการเซ็ตฉากอะไรของเขาด้วย


“ขอบคุณน้องพอใจมากๆนะคะ”
“ครับ คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ ถ้าผมไม่มาก็คือไม่มา ครั้งนี้ผมเห็นแก่มังกร แล้วก็คิดว่ามันเป็นครั้งแรก หวังว่าจะครั้งเดียวด้วย อย่ากดดันเพื่อนผมอีก”
“ค่ะ แหะๆ”


ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ แค่รับคำไปอย่างนั้น ผมไม่ชอบเลยจริงๆ ผมรู้ว่าถ้าผมจะไม่มาจริงๆ ไอ้มังกรมันก็หาทางออกมาได้ แต่เขาไม่ควรกดดันเพื่อนผมด้วยวิธีนี้ ทำงานแบบนี้อย่าได้หวังว่าจะทำด้วยกันอีกเลยเถอะ


“เฮ้อ กูได้กลับสักที”
“ทีมงานชุดนี้มึงไม่ต้องทำงานช่วยแล้วนะ”
“เออ ไม่ทำแล้วล่ะ ตอนแรกกูมาเพราะคิดว่าช่วยค่าย เงินก็ไม่เอา แต่ทำกับกูแบบนี้ เสียเวลาชิบหาย ขอโทษมึงด้วย”
“ไม่เป็นไร แต่กูคงไม่มาอีกแล้ว”
“กูด้วยแหละ”


คุยกันแค่นั้นก็แยกกันไป พอใจเดินไปรอรถระจำทางที่หน้ามหาลัยเพื่อไปร้านล้างฟิล์ม ระหว่างรอก็ถ่ายภาพป้ายรถเมล์ไปด้วย มันดูคลาสสิกดี จริงๆก็ควรพูดว่ามันเก่านั่นแหละนะ


พอถ่ายจนหมดม้วนก็กรอฟิล์มเรียบร้อย กันเปิดฝาหลังออกแล้วแสงเข้า เก็บของเข้ากระเป๋าเรียบร้อยรถก็มาพอดี
เพราะไม่ได้ไปไกลมาก ฟังเพลงบนรถไปแค่สามเพลงก็ถึงร้านที่จะมาล้าง ร้านนี้เป็นร้านล้างฟิล์มร้านเดียวในย่านนี้ เก่าแก่พอสมควร ถือว่าเป็นร้านลับก็ว่าได้ คนมาน้อย แต่คุณภาพดี


“ว่างพอใจ กี่ม้วนล่ะรอบนี้”
“2ครับ”
“มาๆ นั่งรอก่อนนะ หรือจะไปเดินเล่นล่ะ”
“ขอดูกล้องดีกว่าครับลุง”


พอใจดูกล้องที่ตั้งเรียงรายอยู่ในตู้โชว์ของคุณลุง กล้องพวกนี้เป็นกล้องที่คุณลุงสะสมมา บางรุ่นเก่ามากจนหาอะไหล่เปลี่ยนไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังใช้งานได้ คุณลุงรักษากล้องทุกตัวเป็นอย่างดี กล้องตัวแรกของพอใจก็ได้มาจากที่นี่แหละ


ร้านนี้เป็นร้านประจำของคุณพ่อเขาสมัยก่อน ทั้งตอนเป็นหนุ่มจนถึงตอนมาถ่ายรูปแต่งงานก็เป็นร้านนี้ ตอนที่จะซื้อกล้อง คุณพ่อก็แนะนำที่นี่มา


“ขอโทษนะครับ มีคนอยู่ไหม อ้าว! น้อง”
“หวัดดีครับพี่”
“เออ ดีๆ คุณลุงเขาไปไหน”
“อยู่หลังร้านครับ ลุงเกริก! มีลูกค้าครับ”


พี่คนนี้เป็นรุ่นพี่ปีสอง อยู่คณะเดียวกันกับเขา เจอกันเมื่อวันรับน้องนั่นแหละ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อแพลน ดูเหมือนว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับชื่นตา เพราะเห็นยืนอยู่ด้วยกัน


พี่แพลนสูงมาก ถึงแม้ว่าตัวผมเองก็สูง แต่เขาก็ยังสูงกว่าผมอีก เป็นผู้ชายผิวเข้ม แล้วก็ดูเป็นคนออกกำลังกาย เพราะหุ่นดูเฟิร์มมากๆ เหมือนนายแบบ ทำไมชื่นตาถึงมีเพื่อนที่ดูต่างกันขนาดนี้ เหมือนเขาเป็นลูกมากกว่าอีก


“มาทำไรอ่ะเรา” พี่แพลนถาม
“ล้างฟิล์มครับ”
“ได้ข่าวว่าสนิทกับไอ้คุณชื่นเหรอ”
“ผมเหรอ ใครบอกพี่อ่ะครับ”
“ก็มันนั่นแหละบอก เราสนิทกับพอใจน้าแพลนนน มันว่างี้”


พี่แพลนเลียนเสียงชื่นตาแล้วลากเสียงยาวตามแบบที่เจ้าตัวชอบทำ ผมได้ฟังแล้วก็ขำ เพราะมันไม่เหมือนเลยสักนิด


“นี่ขำเหรอวะ หึ นี่คือเสียงขำของมึงเหรอวะ”
“ผมขำแค่นี้แหละพี่”
“เออๆ ขอพูดกูมึงนะ ไม่ชินว่ะ”
“แล้วแต่พี่เลย ผมไม่ซี”
“เออ กูฝากมึงเอาอันนี้ไปให้มันหน่อยสิ ลืมไว้กับกูอ่ะ”


พี่แพลนหยิบหนังสือออกมาจากกระเป๋า เป็นวรรณกรรมชื่อดังที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ผมเองก็สนใจอยู่ แต่เพราะเนื้อหาและภาษาที่ใช้มันค่อนข้างยาก เลยเก็บไว้ก่อน รอให้เก่งกว่านี้ก่อน


“เดี๋ยวมันต้องใช้ทำงานคืนนี้”
“พวกพี่เรียนเล่มนี้เหรอ โคตรยากเลย”
“เออ งานอาจารย์พิม แกให้อ้างอิงเหตุผลจากเล่มนี้ โคตรพ่อโคตรแม่ยาก”
“พวกผมก็ต้องเรียนใช่มั้ย”
“เออ เดี๋ยวพวกมึงขึ้นปีสองปุ๊ป เจอแน่เล่มนี้”


พอพี่เแพลนได้ของที่ต้องการ เขาก็ลาไป ผมเลยถือวิสาสะเปิดหนังสือเล่มนั้นอ่านดู แค่เปิดก็รับรู้แล้วว่าต่อไปต้องเรียนหนักมาก เพราะมันยากถึงขนาดที่ว่าคำโปรยยังมีไฮไลต์ขีดๆ เพื่อหาความหมายเต็มไปหมด เริ่มรู้สึกท้อแล้วนะ


“พอใจ เสร็จแล้วลูก”
“ขอบคุณครับลุง”
“สนใจกล้องตัวไหนไหมล่ะ”
“ยังหรอกครับ ซื้อเยอะๆไม่ไหวหรอก”
“ฮะๆ ไว้เจอกันลูก โชคดีๆ”


หลังจากจัดการค่าใช้จ่ายเรียบร้อย ก็เดินทางกลับคอนโด ถึงแม้จะพูดว่าเป็นร้านเก่าแก่ แต่เขาก็พัฒนา และเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า จากที่เคยให้เป็นแผ่นซีดี ก็อัปโหลดลง google drive แทน


ผมเช็ครูปในโทนศัพท์ระหว่างที่นั่งรถ เลือกรูปที่ถ่ายเพื่อนส่งไปในกรุ้ปไลน์ โมกข์เอาแต่พิมพ์ซ้ำไปซ้ำมาว่าตัวเองสวย ผมไม่ออกความคิดเห็นใดๆทั้งนั้น เพื่อนสบายใจแบบนั้น ก็ตามนั้นเลย


เลือกรูปวิวมาหนึ่งรูปแล้วอัพลงอินสตาแกรมแบบที่ไม่มีแคปชั่น ขี้เกียจคิดน่ะ ไม่มีอะไรหรอก พอมาถึงรูปของชื่นตา พอใจเองก็เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่า ตัวเองไม่มีอะไรที่จะติดต่อชื่นตาได้เลย มีแค่อินสตาแกรม ที่ส่งรูปไปให้ก็ไม่ชัด เขาก็เลยตัดสินใจไดเร็คไปหา


Porjai_: พี่ชื่น
Porjai_: พอใจเองนะ
Chuenta: เรารู้ๆ
Chuenta: มีอะไรหรือเปล่าพอใจ
Porjai_: ผมไปล้างฟิล์มมา แต่ผมส่งรูปให้พี่ไม่ได้
Porjai_: ผมไม่มีคอนแท็คพี่เลย
Chuenta: นั่นสิน้า
Chuenta: kunchuennn แอดมานะ!


ผมกดก็อปปี้ข้อความที่เขาส่งมาไปวางในช่องค้นหาไอดีไลน์ ภาพเซลฟี่ของชื่นตาที่ยิ้มแบบอบอุ่นยืนยันได้อย่างรวดเร็วว่านี่คือเขา ผมส่งสติกเกอร์ทักทาย แล้วก็ส่งรูปภาพ


Chuenta: รูปสวยจังพอใจ
Chuenta: ขอบใจนะ
Porjai: ไม่เป็นไรครับ
Porjai: พี่แพลนฝากหนังสือไว้ ให้ผมเอาไปให้ที่ไหน
Chuenta: ตอนนี้เราอยู่ห้อง พอใจมาถึงแล้วบอกนะ
Chuenta: ไอ้แพลนมันชั่วมาก รบกวนพอใจได้ยังไง
Porjai: ไม่รบกวนหรอกครับ เดี๋ยวถึงแล้วผมทักไป
Chuenta: รอนะ


Chuenta change Porjai to คุณพอใจ
Porjai change Chuenta to คุณชื่น







ผมกดลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่อยู่ถัดจากห้องของตัวเองหนึ่งชั้น ชั้นนี้มีห้องแค่ไม่กี่ห้อง เนื่องจากห้องจะใหญ่กว่าชั้นล่างๆ ได้ยินว่าชั้นบนๆถัดจากนี้จะเหลือแค่สองห้องด้วยซ้ำ


หยุดที่หน้าห้อง 805 แล้วกดกริ่งเพื่อเรียกเจ้าของห้องออกมา รอไม่นานก็ได้ยินเสียงตึงตังมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู แล้วประตูก็เปิดออก


“หวัดดีพอใจ”
“หวัดดีครับ อันนี้ที่พี่แพลนฝากไว้” ผมยื่นหนังสือให้ชื่นตา
“ขอบใจมาก พอใจเข้ามากินขนมก่อนไหม หรือพักเหนื่อย”
“อืม ไม่เป็นไรดีกว่าครับ เกรงใจ”
“เกรงใจอะไรล่ะ มาๆ”


สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่ได้ พอใจเดินตามชื่นตาเข้ามาในห้องที่โครงสร้างค่อนข้างคล้ายกับของเขา เพียงแต่ขนาดใหญ่กว่า น่าจะใหญ่กว่าสักเท่าหนึ่ง


“อ่ะ นั่งนี่ๆ มาดูหนังกับเรา”
“หืม? พี่ชื่นดูอะไรอยู่”
“คริสโตเฟอร์ โรบิน พอใจดูหรือยัง”
“อ๋อ ผมดูในโรงแล้ว”
“งั้นนั่งดูเป็นเพื่อนหน่อยนะ”


ผมนั่งลงบนโซฟาเบดที่ชื่นตาดึงออกมาให้นั่งเหยียดขาได้ ตรงหน้ามีทั้งคุกกี้ ขนมกรุบกรอบต่างๆครบครัน น้ำอัดลมด้วย เพิ่งสังเกตว่าชื่นตาปิดม่านไม่ให้แสงเข้าเพื่อให้บรรยากาศเหมือนโรงหนัง


ผมมองหนังบนจอแบบผ่านๆเพราะเคยดูมาแล้ว ไม่อยากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเพราะห้องมืด เดี๋ยวจะรบกวนการดูของคนข้างๆ พอไม่มีอะไรให้ดูเป็นพิเศษ ก็เลยตัดสินใจหันมามองคนข้างๆแทน


ชื่นตาตัวเล็ก ถ้าเทียบกับผู้ชายหลายๆคน รวมถึงเขาด้วย แต่ก็ไม่ได้ตัวเล็กหรือดูบอบบางแบบผู้หญิง ผมเคยเห็นเขาแบกของ แบกลังช่วยพี่ๆในคณะ หน้าก็ไม่ได้หวานจัด ออกแนวจิ้มลิ้มซะมากกว่า


แต่ผมเคยได้ยินมาว่า คนจมูกเชิดจะดูดื้อ ซึ่งอย่างชื่นตาแล้ว ผมว่าเขาน่าจะดื้อเงียบมากกว่า รั้นน่าดู รวมๆแล้วดูเป็นผู้ชายสะอาด ที่มีภาพลักษณ์อบอุ่นเหมือนพระอาทิตย์ ใครๆก็อยากเข้าหา


ไม่ใช่ความร้อนแบบที่แผดเผาเราให้ละลาย แต่เป็นความอบอุ่นแบบบางๆ เหมือนแดดจางๆในตอนเช้า ถ้าอยู่ใกล้ๆใครก็คงรู้สึกได้


ถ้าเปรียบตัวเขาเป็นพระอาทิตย์ คนอื่นๆที่อยู่รอบตัวเขาก็คงจะมีแรงดึงดูดบางอย่างดึงให้เข้าไปหา ถ้าเกิดเข้ามาเป็นเพื่อน ก็คงเพราะความสบายๆ ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนคุณชายมากก็ตาม


และด้วยภาพลักษณ์ที่ดูน่าเชื่อถือแบบนี้ พี่แพลนเล่าว่าชื่นตามักจะถูกผลักออกไปเป็นทัพหน้าในการคุยกับอาจารย์เสมอ

 
“พอใจมีอะไรหรือเปล่า”
“หือ?”
“จ้องเรานานแล้วนะ”
“เปล่า ผมแค่คิดว่าพี่เหมือนอะไรบางอย่าง”
“อะไรอ่ะ” ชื่นตาจ้องหน้าผม
“พระอาทิตย์”
“เราเหมือนพระอาทิตย์ตรงไหน หน้าเรากลมเหรอ”
“ยิ้มซิ” แล้วชื่นตาก็ยิ้ม ยิ้มในแบบที่ผมไม่เคยเห็น ไม่ใช่ยิ้มอบอุ่นแบบปกติ แต่เป็นยิ้มกว้างๆ ดูสดใส เจิดจ้า


“เนี่ยเหมือนพระอาทิตย์”
“พอใจว่าเราหน้ากลมเหมือนพระอาทิตย์จริงด้วย! เรายิ้มแล้วแก้มออกใช่ไหม”
เฮ้อ ผมว่าเขาคงยังไม่เข้าใจในเร็วๆนี้หรอก ก็กตอนนี้กำลังวางแผนเข้าฟิตเนสเพราะคิดว่าตัวเองแก้มเยอะอยู่เลย เหนื่อยเหมือนกันนะบางที ฮะๆ




ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter04:19/4/2019>
«ตอบ #6 เมื่อ19-04-2019 14:57:30 »

04




หลังจากที่เมื่อวานชื่นตาได้กักตัวพอใจเพื่อดูหนังเป็นเพื่อนแล้ว พวกเขาก็ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน แล้วถึงแยกย้ายกันกลับห้อง แต่จนถึง ณ เวลานี้ ชื่นตาก็คิดอยู่ว่า ที่พอใจบอกว่าเขาเหมือนพระอาทิตย์น่ะมันคืออะไร


เขาดูหน้ากลมเหมือนพระอาทิตย์เหรอ หรือหน้าแดง อันนี้ไม่น่าใช่ ทฤษฎีที่ว่าคุณชื่นเหมือนพระอาทิตย์นี่ต้องได้รับการอธิบาย เขาจึงตัดสินใจถามเข้าไปในกรุ้ป


Chuenta: มึง กูหน้ากลมเหรอ อ้วนมั้ย
Plan: ห๊ะ! อ้วนไรของมึง
Kylie: อ้วนบ้าอ้วนบออีน้อง
Chuenta: ก็พอใจบอกกูเหมือนพระอาทิตย์


เพื่อนบอกว่าผมไม่อ้วน แต่พอใจบอกว่าผมเหมือนพระอาทิตย์ มันจะมีความหมายแฝงอะไรอีก ผมว่าผมก็ไม่ได้ซื่อบื้อนะ แต่ผมแปลความหมายมันไม่ออกจริงๆ นี่ผมเรียนวรรณกรรมจริงไหมเนี่ย


Kylie: อีโง่! น้องบอกว่ามึงสดใสหรือเปล่า
Plan: หรือไม่ก็ร้อนแรงไรงี้
Plan: แต่ร้อนแรงไม่น่าได้ เด๋อขนาดนี้
Chuenta: เด๋อบ้านมึงสิ
Kylie: น้องพอใจเขาชมมึง ไม่ได้ด่ามึงว่าอ้วน
Kylie: แต่น้องพอใจนี่กูพอใจจริงๆนะ
Chuenta: พอๆ กูมาถามแค่นี้แหละ
Plan: อ่ะ หนี


พวกมันสองคนพยายามคาดคั้นผมมาตั้งแต่วันที่ผมลงรูปพอใจแล้ว จนรู้ว่าพอใจเป็นน้องคณะ พวกมันก็เอาแต่พูดจาแปลกๆ รู้หรอกว่าจะชง แต่ผมกลัวพอใจอึดอัดนี่


ถึงจะบอกไอ้แพลนว่าตัวเองสนิทกับพอใจ แต่ก็ไม่ได้สนิทขนาดนั้นนี่นา เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน นี่เพิ่งจะครบสัปดาห์มาไม่นานเอง เดี๋ยวพอใจอึดอัดแล้วไม่อยากเล่นกับผมทำไง


ผมเช็คแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นต่างๆสักพัก อินสตาแกรมเป็นสิ่งสุดท้าย ตอบไดเร็คและคอมเมนท์เรียบร้อย ก็จัดการโพสต์รูปภาพใหม่


เป็นรูปที่พอใจส่งให้ผมเมื่อวาน รูปที่ผมนั่งยิ้มอยู่ที่ม้านั่งในสวนสาธารณะแถวบ้าน พอใจส่งมาให้ผมสามรูป นอกจากรูปนี้ก็มีรูปตอนเดินไปคาเฟ่ กับรูปที่นั่งอยู่ในคาเฟ่ ที่ผมไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่าเขาถ่ายตอนไหน


พอใจถ่ายรูปสวย ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่ามันทั่วไป แต่ชื่นตาก็ยังมองว่ามันสวย ในฐานะของคนที่ถ่ายรูปไม่ค่อยเป็นอย่างเขา ก็บอกไม่ได้หรอกว่ามันสวยยังไง แต่ทุกครั้งที่ดูรูปที่พอใจถ่าย มันมักจะรู้สึกถึงบางอย่างเสมอ


ผมไปแอบส่องอินสตาแกรมของพอใจมา เขาถ่ายรูปท้องฟ้าไว้เยอะมาก แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เหมือนกัน นี่หรือเปล่าที่เขาบอกกันมาว่า รูปภาพก็สื่อความรู้สึกได้




เพราะวันก่อนนั้น พอใจทำอาหารเช้าให้เขากิน เมื่อวานเขาเลยเอาน้ำเต้าหู้ไปแขวนไว้หน้าห้อง คิดว่าพอใจคงกินไปแล้ว น้ำเต้าหู้เจ้านี้อร่อยมาก หมดเร็วตลอด เขาถึงกับต้องตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อไปซื้อเลยนะ คิดว่าพอใจก็คงจะชอบเหมือนกัน


เห็นขนมปังที่พอใจทำให้วันนั้นแล้ว เขาคิดว่ามันทำไม่ยากสักเท่าไหร่ อยากจะลองทำดูบ้าง ถึงแม้จะไม่เคยทำมาก่อน แต่ก็ขอลองสักหน่อยแล้วกัน


Rrrrrr ‘คุณป้า’


“สวัสดีครับป้าชม”
[เป็นไงบ้างลูก เปิดเทอมแล้วใช่ไหม]
“ใช่ครับ ก็มีงานนิดหน่อย ยังไหวอยู่ครับ”
[จ้า มีอะไรก็เข้ามาที่บ้านนะ มาพร้อมพอใจก็ได้ รู้จักกันแล้วนี่]
“ครับป้า เป็นรุ่นน้องคณะด้วย”
[ดีๆ ดูแลกันลูก สนิทกันไว้ ขนมบ้านนั้นอร่อยนะ]
“โถ่ป้าชม ชื่นไม่ได้เห็นแก่กินขนาดนั้นนะครับ”
[ฮะๆ ไว้เจอกันลูก]
“ครับ สวัสดีครับ”


ป้าชมเป็นป้าแท้ๆของเขา ก็เจ้าของบ้านรัตนพิบูลย์นั่นแหละ ด้วยความที่ป้าไม่มีลูก เขาที่เป็นหลานชายคนเดียว ก็เลยได้รับความรักและความเอ็นดูจากคุณลุง คุณป้ามากๆ ตัวเขาเองก็รักและเคารพท่านทั้งสองมากๆเช่นกัน


หลังจากวางสายจากป้าชม เขาก็ลงมาที่ซุปเปอร์มาเก็ตข้างล่างคอนโด นี่เป็นอีกหนึ่งข้อดีของคอนโด ที่นี่มีฟิตเนสด้วยนะ สระว่ายน้ำก็มี ดีมากๆเลย


เขาหยิบวัตถุดิบที่จำได้ว่าเห็นพอใจใช้อย่างอะโวคาโด น้ำผึ้ง ขนมปัง เครื่องปิ้งที่ห้องเขาก็มี แต่ไม่เคยใช้ ส่วนชาที่พอใจชงให้ตอนนั้นน่ะ หอมมาก แต่ผมไม่รู้ว่ามันคือชาอะไร เลยลองเสิร์ชกูเกิ้ลหารสชาติของชาต่างๆดู สุดท้ายก็เลือกหยิบชาพีชมา
วันนี้ผมไม่มีเรียน แต่ดันมีงานต้องส่งในอีกหนึ่งอาทิตย์ เป็นงานกลุ่ม ซึ่งกลุ่มผมก็มีสามคน คือผม แพลน แล้วก็คิง ที่มันชอบบังคับให้ผมเรียกว่าไคลี่


ผมเรียนวรรณกรรม การวิเคราะห์วรรณกรรมเป็นสิ่งหนึ่งที่พวกเราต้องเรียน แต่วรรณกรรมตัวอย่างที่อาจารย์เอามาให้ครั้งนี้มันยากมาก ตอนแรกพวกผมเลือกจะยืมเล่มภาษาไทยมาอ่าน ปรากฏว่าอ่านทั้งสามคน ไม่เข้าใจทั้งสามคน คิดว่าเขาใช้คำยากเกินไป สุดท้ายพวกผมก็ต้องไปซื้อเล่มต้นฉบับภาษาอังกฤษมา


ซึ่งตัวเล่มต้นฉบับภาษาอังกฤษนั้น ยากมาก! ยากจนขนาดเด็กจบมัธยมอินเตอร์อย่างไอ้แพลนยังอยากจะร้องไห้ ไอ้คิงที่มาดมั่นจะมีผัวฝรั่งก็ความคิดสั่นคลอน ถึงผมจะคิดก็เถอะ ว่าคนปกติคงไม่พูดภาษายากๆแบบนี้


แต่ทำไงได้ล่ะ อาจารย์สั่งก็ต้องทำสิครับ ไม่ทำก็ไม่ได้คะแนนสิ ผมเลยต้องมานั่งจดๆจ้องๆ เปิดดิกชันนารีแปลคำศัพท์ยากๆพวกนี้อยู่ เมื่อไหร่จะอ่านจบก็ไม่รู้





ทำงานไปได้สักพัก ท้องก็ร้องว่าถึงเวลาอาหารกลางวัน ผมเลยตัดสินใจพักงานไว้ก่อน ลุกไปหาอะไรกินดีกว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง หิวมากๆจะทำงานไม่ได้เอา ชวนพอใจไปด้วยดีไหมนะ


Chuenta: พอใจว่างหรือเปล่า
คุณพอใจ: ตอนนี้ผมอยู่มอ พี่ชื่นมีอะไรหรือเปล่า
Chuenta: อ้าว อยู่มอเหรอ ว่าจะชวนกินข้าว
Chuenta: ไม่เป็นไร
คุณพอใจ: ขอโทษนะครับ
Chuenta: ขอโทษทำไมเล่า วันหลังก็ได้
Chuenta: ตั้งใจเรียนนะ
คุณพอใจ: ครับผม


ในเมื่อพอใจไม่อยู่ ก็ต้องไปกินข้าวคนเดียว ชื่นตาไปกินข้าวคนเดียวได้สบายมาก ปกติก็ชอบอยู่คอนโด พออยู่คอนโดก็ต้องไปไหนคนเดียวเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะถ้าจะนัดเพื่อนน่ะ ก็ต้องเรียกวิน นั่งแท็กซี่ไป วุ่นวาย


“ว่าไงคุณชื่น กินอะไรวันนี้”
“เอาอันนี้3เข่งครับ” สุดท้ายมื้อนี้ก็ฝากท้องไว้กับร้านติ่มซำ







หลังจากดื่มด่ำกับอาหารกลางวันแล้ว เขาก็ต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง คราวนี้น่ะไปชงชามาด้วย เผื่อมันจะช่วยผ่อนคลายได้บ้าง หยิบคุ้กกี้มานิดๆหน่อยๆ กินเยอะไม่ดี


ถึงจะพูดว่าทำอาหารไม่เป็น แต่คุ้กกี้เป็นหนึ่งอย่างที่ชื่นตาภูมิใจกับมันมากๆ เพราะทำออกมาได้ดี แถมยังมีคนชมเยอะแยะมากมาย อย่างน้อยก็ทำเป็นตั้งหนึ่งอย่าง ส่วนอาหารก็ทำได้แค่พวกไข่เจียว ไข่ดาว


ชื่นตาดูอาหารไม่ค่อยเป็น เขาแยกไม่ออกว่าแบบนี้คือสุกหรือยังไม่สุก มาแยกออกก็ตอนที่มันใกล้จะไหม้ ก็เลยล้มเลิกความคิดที่จะหัดทำอาหารในตอนโด เขากลัวไฟไหม้ห้อง


“ชานี้อร่อยดีแฮะ กินแล้วสดชื่นดี”


ชื่นตานั่งทำงานไปกินไป จนสุดท้ายงานในส่วนที่ตนเองก็เสร็จสมบูรณ์ เขาตรวจทานความเรียบร้อยถึงสองครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่พิมพ์ไปเป็นภาษาที่คนอื่นจะเข้าใจได้ ไม่มีตรงไหนวกวนหรือซ้ำไปซ้ำมา


Chuenta: ส่งไฟล์
Chuenta: นี่ส่วนของกู
Kylie: กรี๊ดดด มึงเสร็จแล้วเหรอ
Kylie: อีน้องง กูเหลืออีกเยอะเลย
Chuenta: ค่อยๆทำ กูไม่ได้มาเร่ง
Plan: ตื่นตูมน่ะคิง งานมันส่งอาทิตย์หน้า
Plan: ก็รู้หนิว่าเพื่อนมึงไม่ชอบค้างงาน
Kylie: เออ รู้!
Kylie: แต่พอเห็นเพื่อนเสร็จละมันลนๆนี่หว่า
Chuenta: ค่อยๆทำน่ะ มึงทำงานละเอียด เสร็จช้าก็ไม่แปลกหรอก
Plan: จนกูติดมาด้วย
Plan: พอทำงานกับคนอื่น เขาว่ากูขี้บ่น
Kylie: เออๆ เดี๋ยวทำเสร็จมาบอก เสร็จละมึงส่งมานะแพลน
Plan: เคจ้า


คิงทำงานละเอียดมาก ชนิดที่ว่าแทบจะไม่ผิดเลยสักตัวอักษร ถ้าเป็นงานเดี่ยวๆจะเห็นได้ชัดเลยว่างานมันได้คะแนนเต็มตลอด รวมถึงพรีเซนเทชันของมันก็ดีมาก อาจารย์ถามก็ตอบได้หมดทุกคำถามไม่มีลังเล เพราะแบบนี้ผมเลยตั้งใจทำงานให้ดี ไม่อยากให้เพื่อนต้องมาเหนื่อยแก้งานให้


ตื่อดึ้ง!


คุณพอใจ: พี่ชื่นอยู่คอนโดไหมครับ
Chuenta: อยู่ๆ มีอะไรหรือเปล่า
คุณพอใจ: ผมจะชวนไปกินข้าว
คุณพอใจ: มีเพื่อนผมอีก3คน
คุณพอใจ: ไปไหมครับ


ชื่นตาเหลือบมองนาฬิกาบนผนังก็พบว่ามันเย็นแล้ว อาจจะไม่ถึงกับมืด แต่ถ้าขับรถออกไปกินข้างนอกก็คงถึงเวลาหิวพอดี


Chuenta: โอเคๆ เดี๋ยวเปลี่ยนชุดแปปนึง
Chuenta: เจอกันล็อบบี้
คุณพอใจ: (สติกเกอร์หมาทำมือโอเค)


เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ชื่นตาก็ลุกขึ้นมาเปลี่ยนชุดที่ดูดีดว่าเมื่อกี้หน่อย เช็คสภาพหน้าผมของตัวเองแล้วก็ออกจากห้องไป พอลงมาถึงล็อบบี้ก็เห็นว่าพอใจรออยู่แล้ว


“พอใจ”
“อ่ะ มาแล้ว ไปกันครับ”
“อื้อ แล้วไปยังไงเหรอ”
“ผมมีรถนะ แม่เอามาส่งเมื่อวาน”
“งั้นไปรถพอใจใช่มั้ย”
“ครับ”
“เพื่อนคนอื่นล่ะ”
“เดี๋ยวไปเจอกันที่ร้านครับ”


ตอนแรกชื่นตาคิดว่ารถของพอใจจะเป็นรถเก๋งทั่วๆไป แต่มันกลับเป็นรถเจ็ดที่นั่งที่คล้ายกับรถตู้ ซึ่งเขาเคยเห็นรถคันนี้อยู่ที่บ้านป้าแวว แต่มันเอาไว้ส่งขนมนี่นา ถ้าพอใจเอามาใช้ ป้าแววจะส่งขนมยังไง


“ไม่ใช่รถส่งขนมเหรอ”
“หือ เคยเห็นเหรอครับ”
“อื้อ พี่เคยเห็นป้าแววเอาไปส่งของ”
“จริงๆก็เป็นรถส่งขนมแหละ แต่แม่จะออกรถใหม่ เลยเอาคันนี้มาให้”
“อ๋อ แล้วรถใหม่เป็นยังไงเหรอ”
“เหมือนรถขนฟางในฟาร์มอ่ะ พี่ชื่นนึกออกไหม”
“แล้วขนมจะไม่เสียเหรอ”
“กล่องเก็บความเย็นไงครับ”


ชื่นตานึกภาพตามที่พอใจบอก รถขนฟางในความคิดเขาก็คือรถที่ข้างหน้านั่งได้สองคน แล้วกระบะหลังจะยาวกว่าปกติหน่อย อืม คิดๆแล้วก็น่ารักดี คงคล้ายๆกับรถส่งนมจากฟาร์ม


“แล้วนี่เราจะไปกินอะไรกันเหรอ”
“ผมหลอกพี่ไปขาย ไม่รู้เหรอ”
“เอ๊ะ”
“ฮ่าๆๆ ล้อเล่นครับ”
“รู้หน่า พอใจไม่ขายพี่หรอก พี่น่ารักน้าา”
“คร้าบบ น่ารักครับ”
“ฮะๆ สรุปว่าเราไปกินอะไรกันเหรอ”
“อาหารญี่ปุ่นครับ มีร้านใหม่มาเปิดหลังมอ”
“อ๋อ ร้านนั้น เคยเห็นอยู่เหมือนกัน”


การคุยกันในรถทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงมาก ตอนแรกก็ไม่ได้ถึงกับอึดอัดหรอก แค่มันยังอึนๆ ไม่รู้ว่าทำอะไรได้บ้าง ถ้าชวนคุยแล้วพอใจจะดุไหม แต่พอได้เริ่มคุยบรรยากาศมันก็ดีขึ้นเยอะ เราสนิทกันมากขึ้นอีกแล้ว ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากสนิทกับพอใจให้มากๆเลย เขาชอบอยู่กับพอใจ


“ถึงแล้วครับ”
“อื้อ ร้านสวยเนอะ”
“อืม ทำบรรยากาศเหมือนพวกโรงแรมญี่ปุ่นเลย”
“ใช่ ดีมากเลย”
“ไปหาโต๊ะกันครับ”
“คนอื่นล่ะ”
“ยังมาไม่ถึงน่ะ”


เราสองคนเลือกโต๊ะริมหน้าต่างที่อยู่มุมๆหน่อย เพราะกลัวว่าถ้าคนมาครบแล้วจะเสียงดัง ผมนั่งลงข้างๆพอใจแล้วเว้นที่อื่นๆไว้ ผมยังไม่สนิทกับน้องคนอื่นๆเท่าไหร่


“พี่ชื่นชอบกินอะไร”
“กินได้หมดเลย”
“ไม่สิ เอาที่ชอบ”
“แล้วพอใจล่ะ”
“ผมกินหมด ไม่เรื่องมาก”
“อ้าว ไม่ได้สิ พอใจก็ต้องสั่งที่ชอบสิ”
“ฮ่าๆ โอเคครับ ไม่สู้แล้ว”
“ฮึ”


ผมย่นจมูกอย่างที่ชอบทำเวลาเถียงกับเพื่อนๆ แต่ที่ทำเอาผมตกใจน่ะ คือพอใจที่เอานิ้วชี้มาจิ้มจมูกผมต่างหาก ชื่นตาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนทำหน้าเหวอๆออกมา ผมคงจะหน้าตาตลกน่าดู


“อ๊ะ ขอโทษครับ” พอใจรีบขอโทษออกมา
“ไม่เป็นไรๆ เราแค่ตกใจเฉยๆ” ชื่นตาโบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร แล้วยังยิ้มให้พอใจอีกด้วย


พวกเขาหันกลับมาดูเมนูกันต่อเหมือนปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติมันคือใจเขานี่แหละ ทำไมมันรู้สึกแปลกๆก็ไม่รู้ ใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ แต่สุดท้ายชื่นตาก็ทำเป็นไม่รับรู้อยู่ดี

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: คุณชื่นตา--04--<19/4/2019>
«ตอบ #7 เมื่อ19-04-2019 15:25:19 »

คุณชื่นน่ารักอีกแล้ว รับรู้ควมน่ารักของคุณชื่นผ่านตัวอักษรได้เลยค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: คุณชื่นตา--04--<19/4/2019>
«ตอบ #8 เมื่อ19-04-2019 15:39:32 »

พอใจ&ชื่นตา  ละมุนและดีต่อใจคนอ่านมาค่ะ

 :-[ :-[

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
Re: คุณชื่นตา--04--<19/4/2019>
«ตอบ #9 เมื่อ19-04-2019 16:41:44 »

คุณชื่นน่ารักมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คุณชื่นตา--04--<19/4/2019>
« ตอบ #9 เมื่อ: 19-04-2019 16:41:44 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: คุณชื่นตา--04--<19/4/2019>
«ตอบ #10 เมื่อ19-04-2019 17:15:32 »

 :L2: :pig4:

น่ารัก

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: คุณชื่นตา--04--<19/4/2019>
«ตอบ #11 เมื่อ20-04-2019 15:27:34 »

 :music:
น่ารัก ใสๆ นะคู่นี้ น่าติดตาม

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter05:20/4/2019>
«ตอบ #12 เมื่อ20-04-2019 15:48:32 »

05



“มาแล้วๆ ขอโทษนะครับคุณพี่ชื่นที่ให้รอ” มังกรที่เดินเข้ามาคนแรกพูดทักทาย
“คุณพี่ชื่นเหรอ ฮ่าๆๆ” พอใจหัวเราะออกมา
“พอใจหัวเราะอะไร” ชื่นตามองมาที่เขา
“ก็หัวเราะคุณพี่ชื่นไง เหมือนพวกพนักงานเรียกลูกค้าอ่ะ”
“จะว่าไปมันก็เหมือนนะมึง คุณพี่คะคุณพี่ แบบเนี้ย”


ทุกคนนั่งลงเรียบร้อยกันแล้ว และยังไม่หยุดพูดประเด็นคุณพี่สักที ไม่สิ แค่มังกรกับโมกข์ จนว่านต้องออกปากว่ารำคาญ สองคนนั้นถึงเงียบแล้วเปิดเมนูอาหาร ในฝั่งของชื่นตาก็นั่งหัวเราะอย่างเดียวมาตั้งแต่เมื่อกี้


ตอนที่พอใจเอามือไปจิ้มจมูกชื่นตา ขอพูดเลยว่าเขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ายกมือขึ้นมาตอนไหน แค่รู้สึกว่าท่าทางแบบนั้นมันดูดื้อๆ ดื้อแบบน่าเอ็นดู ร่างกายเขาคงอดไม่ได้ สมองเลยสั่งการให้เอามือไปจิ้มแบบนั้น ตกใจเหมือนกัน มันดูเสียมารยาทนี่


นอกจากความรู้สึกเอ็นดูแล้ว ตอนที่ชื่นตาหยุดเหวอแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มอบอุ่นมาให้ ในใจของเขามันก็แปลกๆ เหมือนมีคลื่นความถี่เล็กๆมารบกวน มันจิ๊ดๆอยู่ในใจ แต่เป็นความรู้สึกที่ดี ยังไม่แน่ใจนักหรอกว่าดียังไง แต่รู้ว่าดี


“แล้วนี่คุณพี่ ไม่ดีกว่าผมขอเรียกว่าคุณชื่นนะครับ”
“เอาเลย เรียกคุณชื่นหรือพี่ชื่นก็ได้”
“ไม่ๆ ให้ไอ้พอใจเรียกพี่ชื่นคนเดียวพอ” ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนที่ได้ยิน ทำไมคำว่าพี่ชื่นมันถึงกลายเป็นคำพิเศษที่ผมเรียกได้คนเดียวขึ้นมา


“มังกรมันไปได้ยินพี่คิงพูดน่ะค่ะ ว่าปกติไม่ค่อยมีใครพี่ชื่นหรอก เรียกคุณชื่นกันทั้งนั้น” โมกข์ขยายความ
“แต่กูก็เรียกแล้วไง”
“นั่นแหละ มันถึงพิเศษ!”
“ฮะๆ พอใจ พี่ว่าเราถูกจับจิ้นแล้วล่ะ”


จับจิ้น? ผมเข้าใจนะ มันหมายถึงการที่สาววายชอบให้เราอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง เหมือนมีเคมีตรงกัน อย่างนี้ใช่ไหมนะ คล้ายๆกับพระเอกนางเอก ผมว่าผมเข้าใจถูก ถึงจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าระหว่างตัวเองกับชื่นตามีตรงไหนดึงดูด


“มีพูดถึงในเพจด้วยนะ” ว่านที่นั่งเงียบอบสู่นานพูดขึ้นมา พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ดู


ผมเอาโทรศัพท์มาไว้ตรงกลางระหว่างผมกับชื่นตา เลื่อนดูโพสต์ที่ลงรูปผมกับชื่นตายืนอยู่ด้วยกันตอนใต้ตึก บนรถ แล้วก็แนบอินสตาแกรมของชื่นตาที่โพสต์รูปผมด้วย เมื่อเลื่อนลงไปอ่านคอมเมนท์ก็เจอแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด


‘แงงง คุณชื่นกินกับอะไรก็อร่อย’
‘โง้ย ตัวเล็กตัวสูงที่แท้’
‘ตอนลงไอจีว่ากรี๊ดแล้ว ตอนอยู่ด้วยกันกรี๊ดกว่า’
‘น่ารักกันจังเลยยย’


อะไรประมาณนี้ พอใจได้ยินเสียงชื่นตาหัวเราะออกมาเล็กๆ นั่นคงหมายถึงว่าตัวเขาไม่ได้ถือสาอะไร ซึ่งตัวพอใจเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนกัน เรื่องแบบนี้คงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตเขาเท่าไหร่หรอก


“น่ารักดีนะ”
“หมายถึงอะไรคะคุณชื่น”
“คนที่มาเม้นน่ะ”
“นึกว่าจะหมายถึงรูปซะอีกนะคะ” โมกข์ทำปากมุบมิบเหมือนเสียดาย
“แต่กูว่าเขาถ่ายรูปสวย” ว่านพูด
“หือ?”
“เนี่ย ทั้งแสง ทั้งโทน ดูสมูทไปหมด”


ผมก้มลงมองดูรูปอีกครั้ง มันก็จริงอย่างที่ว่านว่า ทั้งแสงหรือโทนสีของภาพมันดีมาก ไม่รู้ว่าเขาลงรูปต้นฉบับหรือแต่งสีมา แต่ผมชอบมัน เอาเป็นว่าในฐานะของคนที่ชอบถ่ายรูป ผมว่ามันสวยก็แล้วกัน


ผมคืนโทรศัพท์ให้ว่านในตอนที่อาหารมาเสิร์ฟ อาศัยจังหวะนั้นเอาโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วกดเข้าไปที่เพจ เซฟรูปสองรูปที่เห็นเมื่อกี้ แล้วก็เก็บลง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แค่รู้สึกว่ามันควรเก็บไว้ ก็เท่านั้นเอง



“กลับแล้วนะเด็กๆ”
“ครับ ขับรถดีๆนะมึง” ว่านตอบมา
“เออ”


พวกเราแยกย้ายกันไปขึ้นรถใครรถมัน เป็นการกินข้าวเย็นที่วุ่นวายที่สุดมื้อหนึ่ง การเถียงกันแบบไม่มีจุดสิ้นสุดน่ะเป็นเรื่องปกติของไอ้มังกรกับโมกข์ แต่คนข้างๆเขาน่ะสิที่เส้นตื้น ไม่ว่าพวกมันจะพูดอะไรชื่นตาก็หัวเราะตลอดจนสำลักหลายครั้ง ไอ้ว่านก็เลยต้องบอกให้พวกมันเลิกเถียงกันก่อนที่ชื่นตาจะสำลักตาย


“มังกรกับโมกข์ตลกมาก”
“ก็คงงั้น พี่หัวเราะจนจะสำลักตายแล้ว”
“แหะๆ ก็มันกลั้นไม่ได้นี่”
“พี่ชื่นต้องระวังนะ”
“อื้อๆ”


เมื่อบรรยากาศมันเริ่มเงียบ ผมเลยเอื้อมมือไปกดเปิดวิทยุเพื่อฟังเพลง มันทำให้ชื่นตาหันมามองอย่างสนอกสนใจ


“พอใจฟังวิทยุด้วยเหรอ”
“ก็ฟังเพลินๆตอนขับรถ”
“เราก็ชอบฟัง แต่ไอ้แพลนบอกเหมือนคนแก่” แล้วปากเล็กๆนั่นก็บ่นมุบมิบไปเรื่อย
“หึๆ”


ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ
เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว มันยากเหลือเกิน
จะเก็บซ่อนความรักเอาไว้
และความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม
โปรดบอกความในใจ ให้ฉันรู้ทีนะเธอ



ชื่นตาร้องคลอไปตามเพลง นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเขาร้องเพลง ก็ฟังเพลินเหมือนเวลามองเขายิ้มนั่นแหละ พอใจหันมาสนใจการขับรถต่อ แล้วก็ฟังชื่นตาร้องเพลงจนมาถึงคอนโด


“บ๊ายบายพอใจ เจอกัน อืม พรุ่งนี้นะ”
“ครับ หวังว่าพรุ่งนี้จะเจอกัน”


ผมเดินออกมาจากลิฟต์ก่อนเพราะถึงชั้นของผมก่อน โบกมือลาชื่นตาแล้วก็เดินเข้าห้องตัวเองไป และเพราะการออกไปกินข้าวข้างนอกทำเขาเหงื่อออก อากาศมันร้อนมาก ทั้งๆที่เขาออกจากห้องแอร์มาได้แปปเดียว


พอใจรีบเข้าไปอาบน้ำเพื่อให้ร่างกายตัวเองสดชื่น พอออกมาจากห้องน้ำก็พบว่ามีแจ้งเตือนในเฟสบุ้คเพียบ ด้วยความสงสัยพอใจจึงกดเข้าไปดู ก็พบว่าโมกข์แท็กรูปมา ก็เลยมีแจ้งเตือนขึ้นมาเยอะแยะ


ปกติแล้วผมมีเฟสบุ้คไว้เพื่อเช็คข่าวสารของเพื่อนๆเท่านั้น ไม่ค่อยลงอะไรเท่าไหร่ ทำให้ไม่ค่อยมีคนแอดมามากมายนัก แต่พอโมกข์แท็กรูปมา ก็เลยมีคนแอดมาเต็มไปหมด แต่ผมไม่คิดจะรับหรอก


‘ดินเนอร์ๆ Mokk taninpaibul with mangkorn makornthawat , waralee S. , Porjai Lert , Chuenta St.’


และคอมเมนท์ที่เข้ามาชมโมกข์บ้าง มังกรบ้าง ว่านบ้าง เอาง่ายๆก็ชมทุกคนครับ
‘มังกรหล่อมาก หล่อ ทะเล้น สเป็กหนูเลยแม่’
‘น้องโมกข์คนสวยยย’
‘ชื่นตากับพอใจอีกแล้ว กรี๊ดดด’
‘ว่านนิ่งมาก แต่หล่อมาก’


ก็ประมาณนี้ ผมไม่ได้คอมเมนท์อะไร แค่กดไลค์แล้วก็ออกมา เช็คอินสตาแกรมแทน ก็เห็นว่ามีคนแท็กมาในไอจีสตอรี่ ก็คือชื่นตานั่นแหละ เขาถ่ายรูปตอนผมขับรถ แล้วก็พิมพ์ว่า ‘มีคนขับรถ’ ผมกดรีโพสต์สตอรี่แล้วก็หมดเรื่องที่จะทำ พอว่างๆแบบนี้ ก็คิดว่าโทรหาแม่ดีกว่า


[ว่าไงลูก] แต่คนรับโทรศัพท์คือพ่อ
“ผมโทรหาเฉยๆ”
[เป็นไงไปเรียนมหาลัยไอ้ลูกชาย]
“ยังไม่หนักเท่าไหร่พ่อ มันเพิ่งเปิดเทอม”
[ก็ดี ดูแลตัวเองดีๆล่ะ อย่าออกนอกลู่นอกทางนัก เงินไม่พอก็โทรมา]
“พออยู่แล้วครับ คุณให้เงินมายิ่งกว่าพออีก”
[ก็ใครจะไปรู้ ลูกเรียนมหาลัยครั้งแรกนี่หว่า นี่จะรอคุยกับแม่ไหม]
“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวกวนเวลาสวีท ฝากบอกแม่ด้วยว่าคิดถึง”
[เออๆ ทำมาเป็นคิดถึงเมียพ่อ]


พวกเราหัวเราะกันอีกครั้งแล้วพ่อก็วางสายไป อย่างที่ผมพูดคือพ่อให้เงินเยอะมาก ยังจะมาบอกอีกว่าไม่พอก็โทรมา มันมากเกินกว่าจะใช้หมดด้วยซ้ำ


พ่อผมทำธุรกิจ แต่ไม่ได้เป็นบริษัทใหญ่โตเหมือนบ้านรัตนพิบูลย์นะ เป็นธุรกิจขนาดกลางที่ให้เงินบ้านเรามากพอที่แม่ไม่ต้องทำงานอะไรก็มีเงินใช้ แถมยังมีเงินเหลือเก็บมาใช้ฉุกเฉินอีก ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เคยขอเงินมาซื้อของที่ตัวเองอยากได้หรอก เก็บเงินเอาสบายใจกว่า


แล้ววันนี้ก็ได้คุยกับชื่นตาเรื่องครอบครัวของเขาที่อยู่แพร่ด้วย ทางนั้นทำรีสอร์ทกับโรงแรมหลายสาขาในภาคเหนือ แล้วก็มีโรงแรมใหญ่ๆที่ภาคใต้ เป็นคำตอบให้ผมได้ดีว่าไอ้พวกทะเลสวยๆในอินสตาแกรมของชื่นตามันคือที่ไหน


ตื่อดึ๊ง!


คุณชื่น: พอใจ เรารบกวนหน่อยสิ
Porjai: มีอะไรเหรอครับ
คุณชื่น: เครื่องปิ้งขนมปังอันนี้มันกดยังไงอ่ะ
คุณชื่น: ส่งรูปภาพ


พอใจประมวลผลเล็กน้อยแล้วคิดว่า ขึ้นไปสอนเลยง่ายกว่า ตัวเขาเลยมาหยุดที่หน้าห้อง805โดยที่ไม่ได้บอกเจ้าของห้องก่อน คิดได้อย่างนั้นก็เลยไลน์ไปก่อน


Porjai: เดี๋ยวผมไปบอกที่ห้อง
คุณชื่น: โอเคๆ
Porjai: อยู่หน้าห้องครับ


แล้วประตูก็เปิดออกหลังจากที่ส่งข้อความไปไม่นาน ชื่นตาในสภาพหัวกระเซิงหน่อยๆ น่าจะเพราะวิ่งมาล่ะมั้ง ตลกดี ไม่สิ น่ารักดี


“มาเร็วจัง เราตกใจ”
“หึ ผมมาถึงแล้ว ค่อยพิมพ์มา”
“อือๆ เครื่องนี้”


ชื่นตาพาผมเข้าไปในครัวของเขาที่ค่อนข้างจะสะอาด อย่างพวกเตาแก๊สนี่ดํเหมือนไม่เคยใช้เลย เขาชี้ไปทางเครื่องปิ้งขนมปังตัวปัญหาที่ทำให้เขาต้องถึงกับเรียกผมมาที่นี่


“เราพยายามวนๆดูแล้วนะ แต่ไม่กล้าทำ กลัว ก็เลยต้องรบกวนพอใจ”
“ไม่เป็นไรหรอก ให้ช่วยอะไรก็บอกได้ตลอดครับ”
“อื้อๆ ละมันต้องทำยังไงบ้าง แค่กดเฉยๆเหรอ”
“พี่ชื่นก็เสียบปลั๊ก แล้วเอาขนมปังใส่ในช่องนี้ แล้วก็กด”


ชื่นตามองตามนิ้วของพอใจที่ชี้ไปตามจุดต่างๆอย่างตั้งใจ แล้วก็พูดทวนออกมาอีกครั้งให้พอใจฟัง เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจไม่ผิด


“ครับ แล้วก็อันนี้ปรับความร้อนได้”
“โอเค”
“แต่อย่าทาอะไรบนขนมปังนะครับ ใส่ขนมปังเปล่าๆได้อย่างเดียว”
“ทาทีหลังใช่ไหม โอเค”


 เมื่อชื่นตาเข้าใจแล้ว พอใจก็คิดว่าตัวเองควรกลับห้องได้แล้ว แต่ชื่นตารั้งเขาไว้ก่อนจะให้คุ้กกี้มาเพิ่มอีกหนึ่งโหล เหมือนรู้ว่าโหลที่ได้มาเมื่อคราวก่อนใกล้จะหมดแล้ว คุ้กกี้ของชื่นตาอร่อยนะ


“พี่ทำคุ้กกี้อร่อย”
“ขอบคุณนะ เราทำเป็นแค่นี้แหละ”
“ค่อยๆหัด เดี๋ยวก็เป็น”
“อื้อๆ”
“มีอะไรก็บอกนะ ผมจะรีบมา”
“ขอบคุณมาก มีพอใจอยู่ใกล้ๆนี่ดีจัง” ชื่นตายิ้มแบบเห็นลักยิ้มมาให้อีกครั้ง และผมก็รู้สึกจั๊กจี้หัวใจขึ้นมาแปลกๆอีกครั้ง
“ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“ขนาดนั้นแหละ เอาเป็นว่า ราตรีสวัสดิ์นะ”
“ครับ ราตรีสวัสดิ์พี่ชื่น”


ชื่นตาออกมาส่งผมที่ลิฟต์ เราพูดลาเป็นครั้งที่สองของวัน พอใจมองเห็นชื่นตายิ้มอยู่ จนกระทั่งประตูลิฟต์ปิดลงนั่นแหละ แล้วเขาก็เพิ่งรู้สึกตัวเหมือนกัน ว่าตัวเองก็ยิ้มอยู่น่ะ


พอใจเอาคุ้กกี้ไปวางในตู้ แต่ก็แอบหยิบออกมาหนึ่งชิ้นเพื่อกินก่อนนอน เอานมไปอุ่นจะได้หลับสบาย แม่ทำแบบนี้ให้พอใจบ่อยๆ ตัวเขาเองเลยติดการต้องดื่มนมอุ่นก่อนนอน จะได้สบายท้อง แล้วก็นอนได้


แต่ก่อนนอนก็ต้องแปรงฟันให้สะอาดเพื่อไม่ให้มีรสชาติคาวของนมอยู่ติดปากด้วย ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ในตอนเจ็ดโมงเพราะพรุ่งนี้มีเรียนเช้า เผื่อเวลาสำหรับอาหารเช้าด้วย เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว พอใจก็ตัดสินใจวางโทรศัพท์ แล้วก็หลับลงได้อย่างสบายใจ พรุ่งนี้เขาค่อยถามชื่นตาอีกทีแล้วกันว่าขนมปังเป็นยังไงบ้าง หวังว่าจะไม่ทำไหม้หรอกนะ




-ความลับ- project H

**************************************************




แค่ปิ้งขนมปังน้องก็ว่ายากแล้วววววว


ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter06:20/4/2019>
«ตอบ #13 เมื่อ20-04-2019 15:52:38 »

06






R’: พี่กำลังกลับไทยนะชื่น




หลังจากหลับๆตื่นๆทั้งคืนเพราะความตื่นเต้น ชื่นตาก็ตื่นมาในตอนเช้าโดยไม่ต้องมีนาฬิกาปลุก ความตื่นเต้นที่ว่าน่ะ ก็เพราะว่าเขาอยากจะตื่นขึ้นมาเพื่อปิ้งขนมปังไงล่ะ มันทำให้ชื่นตานอนหลับๆตื่นๆทั้งคืน แต่พอเช้าเขาก็ยังรู้สึกสดชื่น ไร้ซึ่งความง่วงงุนอยู่ดี


ชื่นตาลุกจาเตียงไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ เรียบร้อยแล้วก็ออกมาปิ้งขนมปัง ชื่นตาทำตามที่พอใจบอก เอาขนมปังวางลงในช่อง ปรับความร้อน ซึ่งพอใจปรับไว้ให้เขาแล้วเมื่อคืน แล้วก็กดลง แต่แทนที่เขาจะไปเตรียมอย่างอื่นหลังจากขนมปังเรียบร้อย ชื่นตาเอาแต่จ้องเครื่องปิ้งขนมปังว่าเมื่อไหร่มันจะเด้งขึ้น ก็พอใจบอกว่ามันไหม้ได้ เขาเลยจ้องเอาไว้


พอขนมปังเสร็จเรียบร้อย ชื่นตาถึงได้เปิดตู้เย็นเพื่อหยิบอะโวคาโดออกมา แต่ปัญหาคือเขาไม่รู้วิธีปลอกมัน ไม่ได้ถามพอใจไว้ด้วยเมื่อวาน แต่ในยูทูปก็น่าจะมี เมื่อคิดได้ดังนั้น ชื่นตาก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพราะมัวแต่ตื่นเต้น นี่ก็เพิ่งจะได้จับโทรศัพท์เลย


ชื่นตาลบข้อความที่ไม่อยากใส่ใจ แล้วเปิดยูทูปหาวิธีปลอกอะโวคาโด เขาจับมีดแบบเก้ๆกังๆเพราะกลัวว่ามันจะบาดมือเอา กดมีดไปรอบๆผลอะโวคาโดตามยูทูปแล้วก็บิดออก ได้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ จริงๆก็ไม่หรอก เบี้ยวนิดหน่อย แต่เขารับได้นา ครั้งแรกนี่


ชื่นตายืนคิดว่าพอใจทำยังไงต่อ น่าแปลกที่เขาจำภาพที่พอใจทำได้ขึ้นใจ ลงมือทำตามครบทุกขั้นตอน ราดน้ำผึ้งเรียบร้อยก็จบ จริงชื่นตาอยากใส่ไข่ด้วย แต่เขายังไม่มั่นใจมากพอ กลัวใส่ไปแล้วจะกินไม่ได้ ไว้ลองคราวหลังดีกว่า


Rrrrrr ‘คิง’


“ว่า”
[มึงจะออกมากี่โมง]
“กินข้าวเสร็จ”
[นานมะ]
“อีกแปปนึง มีไร”
[รีบมา วันนี้แม่กูมาส่ง เลยมาถึงเช้า กูเหงา]
“เออๆ”


หลังคิงวางสาย ชื่นตาก็รีบชงชาแล้วมานั่งกินข้าวเช้าบวกกับมองบรรยากาศความวุ่นวายของกรุงเทพมหานครในตอนเช้า ดื่มด่ำได้ไม่เท่าไหร่เจ้าตัวก็นึกได้ว่าเพื่อนรออยู่ที่มหาวิทยาลัย ก็เลยรีบกินให้หมดแล้วก็เก็บของออกจากห้องไป


Rrrrrr ‘แพลน’ ดูเหมือนวันนี้ทุกคนจะมีเรื่องให้โทรหาเขาเต็มไปหมดเลยนะ


“อะไร”
[วันนี้กูลานะ]
“ทำไมวะ”
[กูท้องเสียว่ะ]
“ไปกินไรมาวะ”
[ตำปูเมื่อวาน สงสัยปูไม่สะอาด]
“เออๆ เดี๋ยวลาให้”
[แต๊งมากน้องเด๋อ]
“สัด”


เหมือนว่าวันนี้เราจะเหลือกันแค่สองคนแล้วสินะ ชื่นตามาถึงหน้าคณะของตัวเองอย่างรวดเร็ว แถมยังมีที่จอดหน้าคณะเลยด้วย การออกจากบ้านตอนเช้ามันก็มีข้อดีแบบนี้ล่ะนะ ชื่นตาลงจากรถแล้วสอดส่องหาเพื่อนรักของตัวเองที่บอกว่านั่งรออยู่ใต้คณะ ไม่นานก็เจอ


“ในที่สุดมึงก็มาแล้ว”
“อือ”
“กูมีไรจะเมาท์ด้วย”
“อะไร”
“รออีแพลนก่อน”
“มันไม่มาหรอก ขี้แตก”
“สมมัน เมื่อวานมันส่งรูปตำปูมาเย้ยกูตอนสามทุ่ม”
“เออ แล้วสรุปมีไร”
“ได้ยินว่าเขาจะกลับมาแล้ว”
“กูรู้”
“เขาบอกมึงเหรอ”
“เมื่อคืนมั้ง ไม่ได้กดอ่าน”
“โอเคนะ”
“อือ แค่รำคาญ”


คิงพยักหน้ารับคำแล้วก้มลงเล่นทวิตเตอร์ต่อไป ชื่นตาที่ไม่มีอะไรทำก็เลยหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาด้วย กดแอพนั้นแอพนี้ไปมา แต่เมื่อไม่มีอะไรจะทำ เขาเลยเอาหูฟังออกเสียบแล้วก็เปิดเพลย์ลิสต์ในเครื่องฟังเพลง


ตื่อดึ๊ง!


คุณพอใจ: ขนมปังเป็นไงบ้างครับ
Chuenta: อร่อยมาก
Chuenta: ภูมิใจในตัวเราไหม
คุณพอใจ; ภูมิใจมากครับ
คุณพอใจ: ผมไปอาบน้ำก่อนนะ
Chuenta: โอเคคับ


ชื่นตาหัวเราะกับโทรศัพท์เล็กๆ นั่นทำให้คิงต้องเงยหน้าขึ้นมามอง แล้วก็พบว่าเพื่อนของเขากำลังยิ้มให้กับโทรศัพท์ สร้างความสงสัยให้เขามาก ก็เลยพยายามชะโงกหน้าเข้าไปมองโทรศัพท์ของเพื่อน แต่ชื่นตาก็ดึงหนีซะงั้น


“คุยกับใคร”
“พอใจ”
“อ๋ออออ คุยกับผู้ชาย ฮึ”
“อะไรของมึง”
“ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นึกว่าคุยกับใคร อย่างนี้ต้องขยายแล้ว”
“แล้วแต่มึงเลย เป็นเซเลปทวิตเตอร์นี่”


ทวิตเตอร์ของคิงมีคนตามอยู่เยอะ เพราะมันชอบโพสต์อะไรตลกๆ อีกทั้งมันยังเป็นหัวเรือหลักในจิ้นคนนั้นคนนี้อยู่เรื่อย บางทีมันก็ขำๆดี ผมปล่อยให้เพื่อนกดโทรศัพท์ของมันไปโดยไม่ห้าม มันห้ามไม่ได้อยู่แล้วล่ะ







หลังจากการเรียนในสามชั่วโมงตอนเช้าของเราจบไป ชื่นตากับคิงก็ตัดสินใจว่าวันนี้พวกเขาจะไปกินข้าวในห้างใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย ค่อยไปเดินเลือกทีหลังว่าอยากจะกินอะไร คิงบอกว่าจะไปเลือกซื้อเครื่องสำอางด้วย ส่วนผมก็แล้วแต่เพื่อน ผมไปได้หมด


“น้องชื่น น้องคิง” แต่ก่อนที่เราจะได้ขึ้นรถไปไหน ก็มีเสียงเรียกดังขึ้นมาซะก่อน
“อ้าว สวัสดีครับพี่โปรด”
“สวัสดีค่ะพี่โปรด คราวหลังเรียกคิงไม่หันแล้วนะคะ”
“ฮะๆ พี่ขอโทษครับ”
“ค่ะ แล้วมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไอ้โรมฝากให้พี่มาบอกว่าวันนี้มันจะกลับแล้วน่ะครับ มันบอกชื่นไม่อ่านไลน์” พอได้ฟังถึงสาเหตุผมก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ พี่โปรดก็คงเหมือนกัน ก็ยิ้มแห้งซะขนาดนั้น


“พวกเรารู้แล้วครับ”
“ครับ พี่ขอโทษด้วยนะ”
“พี่โปรดหัดใจแข็งใส่เพื่อนบ้างนะครับ โดนขอให้ช่วยอยู่เรื่อย”
“พี่พยายามแล้ว”
“ผมรู้ แต่ก็ขอบคุณที่พยายามครับ”


พวกเราโบกมือลาพี่โปรดแล้วก็ขึ้นรถไปห้างกัน จะว่าไปพี่โปรดก็น่าสงสารนะ พยายามห้ามเพื่อนแทบตาย แต่ก็ไม่เคยห้ามได้สักที แล้วต้องมาตามเช็ดตามล้าง ตามขอโทษคนนั้นคนนี้ให้ ถ้าคิดเป็นแค่เพื่อนเฉยๆยังไม่เท่าไหร่ แต่นี่พี่โปรด เฮ้อ  พี่โปรดไม่น่าชอบพี่โรมเลย


“สงสารพี่โปรดเนอะ” คิงพูดขึ้นมา
“อือ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้”
“มึงคิดว่าพี่โรมจะรู้ไหม”
“เรื่อง?”
“ที่พี่โปรดชอบ”
“ไม่น่า ถ้ารู้คงไม่กล้าขอให้ช่วยหรอก ก็ดูเป็นคนดีกว่านั้นอยู่”
“ก็จริง”


ชื่นตาหยุดบทสนทนาเรื่องของโปรดกับโรมเมื่อมาถึงห้างเรียบร้อย พวกเขาเดินวนๆในชั้นที่มีร้านอาหารหนึ่งรอบ แล้วก็ตัดสินใจเข้าร้านอาหารไทยชื่อดังร้านหนึ่ง เราสั่งอาหารมาสองสามอย่าง แล้วก็ข้าวสวยสองจาน จะได้แบ่งๆกันกิน


เมื่ออาหารมาเสิร์ฟเราก็ไม่ได้พูดคุยเรื่องอะไรกันอีกเลย ตั้งหน้าตั้งตากิน ไม่รู้เลยว่าตัวเองหิวขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอกินอิ่มเราก็ต่อด้วยของหวานในร้านไปอีกคนละถ้วย เมื่อรู้สึกว่าพอแล้วก็มุ่งไปร้านเครื่องสำอางร้านใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของคิงแทน


“กูเข้าไปดูก่อน มึงจะรอไหน”
“เดี๋ยวไปดูครีม”
“เคๆ”


เมื่อนึกขึ้นได้ว่าสกินแคร์ที่ตัวเองใช้อยู่ใกล้จะหมด ผมก็เลยเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับคิง แล้วแยกกันไปตรงที่ตัวเองอยากดู ผมไม่ได้คิดว่าจะเปลี่ยนไปใช้ครีมอื่น เลยเดินไปหยิบอย่างรวดเร็ว ไม่ได้อ่านหรือสนใจผลิตภัณฑ์ตัวอื่น


“พี่ชื่นคะ” แล้วก็มีคนเรียกอีกแล้ว
“อ้าว โมกข์” แต่คราวนี้เป็นสาวสวยประจำกลุ่มของพอใจ
“ใช้ตัวนี้เหรอคะ โมกข์ก็ใช้เหมือนกัน”
“อื้อ ดีใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ แล้วนี่พี่ชื่นมากับใครคะ”
“คิงน่ะ มันเลือกเครื่องสำอางอยู่”
“พี่ไคลี่ก็มาเหรอคะ งั้นโมกข์ไปหาดีกว่า” แล้วสาวน้อยก็ปลีกตัวไปหาคิงที่อยู่ในล็อกใกล้ๆกัน โมกข์เป็นไม่กี่คนหรอกที่เรียกไอ้คิงว่าไคลี่น่ะ นั่นเป็นเหตุผลที่โมกข์เป็นน้องผู้หญิงที่คิงปลาบปลื้ม ปกติมันไม่สนใจสาวๆหรอก


ผมไปต่อคิวเพื่อจ่ายเงิน แล้วก็มองไปเห็นว่ากลุ่มของพอใจมากันครบเลย ยืนรอกันอยู่นอกร้าน เป็นที่สนใจของสาวๆในร้านมาก ก็มีหนุ่มหล่อตั้งสามคนยืนเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าร้านนี่ คนที่อยู่แถวข้างๆผมเขามองจนคอจะเคล็ดแล้ว อยากจะหัวเราะออกมาแต่ก็เกรงใจ เลยได้ยืนอมยิ้มอยู่อย่างนั้น


“เด็กๆไปไหนกันต่อจ๊ะ” คิงถามขึ้นมา
“คงเดินอีกพักหนึ่งแล้วก็กลับครับ”
“งั้นพวกพี่สองคนขอเดินไปด้วยนะ เหงา”
“ได้ครับพี่คิง”
“อย่าเรียกคิงสิ”
“ฮะๆ”
“หัวเราะไรอีน้อง”


ผมส่ายหัวแล้วก็รีบเดินนำหน้าเพราะกลัวว่าเพื่อนจะกินหัวเอา พวกเราเดินไปคุยไป หยุดยืนรอหน้าร้านเมื่อมีคนอยากจะเข้าไปซื้อ สลับแบบนี้เรื่อยๆจนเวลาผ่านมาเป็นชั่วโมง ดูเหมือนว่าทุกคนจะเริ่มเหนื่อยกับการเดินแล้ว สุดท้ายก็เลยตัดสินใจแยกกันกลับ


“พอใจเอารถมาใช่ไหม”
“เอามาครับ”
“งั้นเจอกันที่คอนโดละกันเนอะ”
“ได้ครับ”


พวกเราทุกคนลากันที่ลานจอดรถ ขับรถไปทางใครทางมัน มีแค่สองคันเท่านั้นที่ขับตามกันไปในเส้นทางเดียวกัน ชื่นตาเปิดวิทยุขึ้นฟังระหว่างขับรถ ซึ่งเป็นนิสัยของเขาไปแล้ว ไม่ว่าเพลงอะไรชื่นตาก็สนุกกับมันทั้งนั้น เอ็นจอยอยู่คนเดียวบนรถในระหว่างรถติด มันก็ไม่ได้แย่อะไร


“พี่ชื่นจะไปกินข้าวเย็นที่ไหนไหมครับ”
“หือ วันนี้เหรอ ยังไม่มีแพลนเลย”
“งั้นเราไปกินสุกี้ตรงท้ายซอยกันไหมครับ พี่เคยกินหรือยัง”
“อ๋อ เคยกิน อร่อยนะ ไปได้ๆ”
“งั้นเดี๋ยวสักหกโมงเจอกันล็อบบี้ละกันครับ”


เราแยกย้ายกันขึ้นห้อง นี่เป็นวันที่เท่าไหร่แล้วนะที่เขาเจอพอใจ ชื่นตาอยู่ที่นี่คนเดียว ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางทีเขาก็เหงา แต่พอมีพอใจมาอยู่ด้วย เขาก็ไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป มีอะไรก็ลงมาหาพอใจ กินข้าวเย็นกับพอใจ ชวนพอใจมาดูหนังด้วยเป็นเพื่อนบนห้อง มีพอใจเป็นความสบายใจเล็กในพื้นที่สี่เหลี่ยม


เมื่อชื่นตาคิดว่าจะกลับมาอาบน้ำทีหลัง เขาก็เลยแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ล้างหน้าล้างตานิดหน่อย ชาร์ตแบตโทรศัพท์ที่เหลืออยู่น้อยนิด แล้วก็ตอบข้อความ ถึงจะไม่ค่อยอยากตอบเท่าไหร่ก็เถอะ ถือว่าเห็นใจพี่โปรด หลังจากนั้นก็เปิดดูวิดีโอในยูทูปไปเรื่อยๆ เมื่อมองนาฬิกาเห็นว่าใกล้จะถึงเวลานัด ชื่นตาก็ผิดห้องให้เรียบร้อยแล้วก็ลงไปทันที


“มาแล้วครับ” ชื่นตามาถึงก่อน ก็เลยเป็นฝ่ายยืนรอพอใจ
“ไปกัน”
“พี่ชื่นลงมานานยังครับ”
“ไม่นานหรอก ประมาณห้านาทีได้มั้ง แล้วเราจะไปยังไงเหรอ”
“นี่” พอใจชี้ไปที่จักรยาน เป็นจักรยานแม่บ้านสีน้ำตาล มีตะกร้าข้างหน้า ชื่นตามองหน้าพอใจ ส่งสายตาว่าแน่ใจเหรอ แต่ก็ขัดอะไรไม่ได้เมื่อเห็นความมุ่งมั่นในสายตาของพอใจ เขาปล่อยให้คนน้องขึ้นข้างหน้าเพื่อเป็นคนปั่น แน่อยู่แล้ว เขาตัวเล็กกว่า ถ้าให้เขาเป็นคนปั่น ต่อให้ร้านอยู่ท้ายซอยก็คงใช้เวลานานเป็นสองเท่า


“เกาะดีๆนะ ผมจะปั่นแล้ว”
“อื้อๆ ไปได้เลย”
“ไปแล้วครับ”


พอใจปั่นจักรยานอย่างคล่องแคล่ว ไม่มีเซไปเซมา ลมที่ปะทะผิวหน้าตามความเร็วที่ปั่นมันสดชื่นดี ทำให้ชื่นตายืนขึ้นเกาะไหล่พอใจ แล้วเอาหน้ารับลมเหมือนแมวที่นั่งตะกร้าหน้าของจักรยาน พอใจก็ไม่ได้ดุอะไร แค่หัวเราะออกมาเล็กๆเท่านั้น






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: คุณชื่นตา--06--<20/4/2019>
«ตอบ #14 เมื่อ20-04-2019 16:07:17 »

 :L2: :pig4:

ชอบบรรยากาศระหว่างสองคน รู้สึกสบายๆ

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter07:21/4/2019>
«ตอบ #15 เมื่อ21-04-2019 18:58:49 »

07





พวกเรามาถึงร้านสุกี้อย่างปลอดภัย ชื่นตาไม่ตกลงมาจากจักรยาน แถมยังได้รับลมเย็นๆ พอใจคิดว่านั่นก็เพียงพอแล้ว ร้านมีที่จอดรถรองรับลูกค้า แต่ของเราเป็นจักรยาน ก็เลยจอดหน้าร้านได้ แน่นอนว่าจักรยานคันนี้ผมยืมมาจากแม่บ้านที่คอนโด เขาใจดีนะ


“พอใจกินแบบจิ้มไข่ไหม”
“กินครับ”
“งั้นเอาไข่เพิ่มสองฟองด้วย”


ชื่นตากำลังอยู่ในขั้นตอนของการเลือกสิ่งที่เราจะกิน ที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ผมปล่อยให้เขาสั่งไปโดยไม่ได้ออกความเห็น นั่นก็เพราะกินได้ทุกอย่าง แต่ก็มีบ้างที่เขาจะถามขึ้นมา อย่างเมื่อกี้


ชื่นตาหยิบขวดน้ำจิ้มมาเปิด แล้วเทลงถ้วย ให้ทั้งผมและตัวเอง ผมก็เลยหยิบแก้วมาเทน้ำให้ ก็ถือว่าแลกกัน พวกเรานั่งเงียบๆรอให้ของมาเสิร์ฟ แต่ไม่มีใครหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น พอใจค้นพบว่ามันก็ไม่ได้อึดอัด


“ขอโทษที่ให้รอนะครับลูกค้า” เนื้อหมูสไลซ์สามแบบตามที่เราสั่ง ถูกเรียงมาในจานใหญ่เพราะสั่งเยอะ แล้วก็พวกของจุกจิกอย่างปูอัด หมึกกรอบ มาพร้อมกันในทีเดียว พวกเราไม่พูดพร่ำทำเพลง แน่นอนว่าหิวแล้ว คีบทุกอย่างลงไปในหม้อ แล้วก็เปิดความร้อนสูงสุด หวังให้มันสุกเร็วๆ


“อ่ะ ไข่” ผมรับไข่มา แล้วก็คนๆในถ้วย เตรียมไว้รอกิน ชื่นตาก็ทำแบบเดียวกัน แต่เขาตักน้ำซุปลงไปด้วย เดาว่าคงเป็นการหลอกตัวเองว่าน้ำร้อน เดี๋ยวไข่ก็สุก จะได้ไม่รู้สึกผิด ผมก็เคยทำ


เรากินกันอย่างเงียบเชียบ มีเพียงเสียงช้อนกับตะเกียบกระทบกัน ฟังเพลงที่ร้านเปิดคลอไปด้วย เพราะแบบนั้นเราก็เลยกินอิ่มกันในไม่ช้า แต่ในเมื่อที่ร้านมีไอศกรีมฟรี เราทั้งสองคนก็เลยไม่พลาด ลุกขึ้นไปตักกันคนละสองลูก กินมากกว่านั้นไม่ไหวแล้ว


“อิ่มมากๆเลย พอใจอิ่มหรือยัง”
“ถ้าไม่อิ่มผมก็กินเก่งเกินไปแล้ว”
“ก็พอใจตัวใหญ่”
“ตัวใหญ่ไม่ได้หมายความว่ากินเยอะนะครับ”
“ก็ได้ ไม่เถียงก็ได้”
“เป็นเด็กดี” ผมชะงักไปเล็กน้อยกับคำพูดของตัวเอง ดูเหมือนว่าชื่นตาก็สะดุดกับคำพูดของผมเหมือนกัน แต่เราทั้งคู่ก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เงียบไปสักพักเพื่อปลอบให้ใจตัวเองสงบแล้วถึงไปจ่ายตังค์


“พอกินอิ่มแล้วก็ง่วงเลย” ชื่นตาพูดขึ้นตอนที่ตัวเขากำลังก้าวขาขึ้นนั่งซ้อนข้างหลัง
“มันเป็นพฤติกรรมของหมูนะครับ กินแล้วก็นอนน่ะ”
“พอใจว่าเราเหรอ!”
“ผมเปล่า”
“ก็ได้ยินอยู่นี่ ช่างเถอะ เราง่วง เราก็ต้องนอน”
“ครับๆ นอนก็นอน”


พอใจรับคำกลั้วหัวเราะแล้วก็ปั่นจักรยานไปตามทางเดิมที่ปั่นมา คราวนี้ชื่นตาไม่ได้ลุกขึ้นยืนแล้ว เขาเดาว่าคนตัวเล็กกว่าคงหนักๆที่ท้อง ถ้ายืนขึ้นอาจจะอยากอ้วกได้ และพอใจก็พาชื่นตามาถึงคอนโดอย่างปลอดภัย ก็นะ ระยะทางใกล้ขนาดนี้ ถ้าไม่ปลอดภัยเขาก็ไม่ควรปั่นจักรยานอีก ยกเว้นจะมีหมาวิ่งไล่




“ฝันดีครับพี่ชื่น”
“อื้ม ฝันดีนะ”


การบอกฝันดีติดกันในหลายๆวันสร้างความเคยชินให้กับพอใจโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว ดูท่าฝั่งนั้นก็คงจะเหมือนกัน ถึงแม้จะบอกฝันดี ราตรีสวัสดิ์กันอย่างไร แต่ทั้งสองคนก็ยังนอนตอนนี้ไม่ได้ ด้วยภาระหน้าที่ต่างๆของนักศึกษา


ถึงแม้ว่าพอใจจะเป็นแค่นักศึกษาปีหนึ่งที่เพิ่งจะเปิดเทอมมาไม่นาน แต่งานที่อาจารย์สั่งก็ทำเอาหัวหมุนอยู่ไม่น้อย บวกกับว่าอยู่ในช่วงกำลังปรับตัว ทำให้วิถีชีวิตของพอใจยังสับสนมึนงง คิดว่าถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ ก็คงจะไม่มีปัญหา


เมื่อนาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มครึ่ง พอใจปิดโน้ตบุ๊คลง ปิดไฟในห้องแล้วล้มตัวลงนอน หวังว่างานที่อุตส่าห์นั่งทำจนดึกดื่นจะไม่ถูกตีกลับในวันพรุ่งนี้ เขาเหนื่อยแล้ว







เหมือนสิ่งที่คิดจะไม่เป็นตามที่หวังไว้ งานของพอใจถูกตีกลับ โดยที่อาจารย์ไม่บอกสาเหตุว่าทำไม บอกแค่ว่าไปแก้มา นั่นทำให้เขารู้สึกเซ็งมากๆ ไม่ใช่แค่เขาที่ถูกตีกลับงาน มังกรกับโมกข์ก็เหมือนกัน มีว่านคนเดียวที่รอด


“ทำไมมึงรอดวะว่านนน ทำไม” โมกข์คร่ำครวญ
“แก้ไม่เท่าไหร่หรอกมึง แต่ไม่บอกว่าต้องแก้ตรงไหนนี่สิ แก้จนตาแฉะแน่” สองเพื่อนรักนั่งกอดคอกันโอดครวญถึงความใจร้ายของอาจารย์ ซึ่งพอใจก็ได้แต่ภาวนาให้อาจารย์ไม่เดินออกมาทางนี้ ไม่อย่างนั้นก็ซวยกันทั้งหมดนี่แหละ


“เดี๋ยวกูส่งไฟล์ให้พวกมึงดู จะได้ปรับ”
“ฮืออ ว่านเพื่อนร๊ากกก” มังกรวิ่งไปคว้าหมับเข้าที่คอว่าน และบอกรักเสียงดัง ทำให้คนในลานหลังตึกหันมามองแล้วก็หัวเราะ


“เด็กๆ ทำอะไรกันอยู่คะ” นี่เสียงพี่คิง กลุ่มของชื่นตาเดินมานั่งโต๊ะข้างๆ ดูเหมือนว่าพักนี้เราจะเจอกันบ่อยนะ เจอกันตลอดเลย
“โดนตีกลับสิคะพี่ไคลี่ แต่ไม่บอกว่าให้แก้ตรงไหน ฮือออ” โมกข์ร้องทุกข์ทันที
“ของใครอ่ะ อ๋อ จารย์โต้ง มึงช่วยน้องดูดิคิง งานนี้มึงรอดตลอด” เมื่อได้ยินดังนั้น พวกเราสามคนก็มีประกายความหวังกันขึ้นมา ตานี่วิบวับ แล้วก็ไปรุมกันนั่งอยู่โต๊ะนั้นเพื่อขอความเมตตาจากพี่คิง


“ไหนๆ ขอดูทีละคน นางฟ้าคนนี้จะช่วยน้องๆเองค่ะ”
“ถ้าผมผ่านนะ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวเลยครับ” มังกรพูด
“งั้นก็ดีลจ้า”


พี่คิงเริ่มจากรายงานของโมกข์ก่อน ชี้ทีละจุดให้ดูว่าควรปรับเปลี่ยนภาษาตรงไหน ใช้คำแบบไหน คำนี้เขียนผิด หรือแม้กระทั่งเว้นวรรค ย่อหน้า เขาดูงานละเอียดมาก ไม่แปลกใจเลยที่พี่แพลนพูดว่าเขารอดตลอด


ของมังกรนี่เหมือนจะผิดเยอะ ก็มันเล่นเอาเนื้อหาตรงนั้นตรงนี้เรียงสลับไปมา แถมทำงานถึงตีสอง ดูเหมือนสมองมันจะรวนๆ เลยทำผิดไปหมด ผมที่เป็นคนสุดท้ายก็เลยยังนั่งว่างอยู่ แต่ก็ฟังพี่คิงนะ งานอื่นจะไปได้จำไปใช้


“พอใจก็ไม่ผ่านเหรอ”
“ครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”
“อืม ไม่เสียใจนะ จารย์โต้งก็งี้แหละ ตรวจงานละเอียด บางทีอาจจะผิดนิดเดียว”


ผมพยักหน้าตอบรับ แล้วก็นั่งฟังพี่คิงพูดต่อ ชื่นตาหยิบเอารายงานของผมไปเปิดดู แล้วก็เอาดินสอมาขีดๆ ทำให้ผมหันไปสนใจ ตรงที่เขาขีดไว้นั้น ดูเหมือนว่าผมจะแบ่งวรรคผิด ทำให้มันติดกันเป็นก้อน อ่านไม่รู้เรื่อง ผมพับหน้านั้นไว้ เตรียมไปแก้


“เรารู้แค่นี้แหละ ละเอียดกว่านี้ก็ต้องรอมันนู่น”
“ขอบคุณครับ”


เมื่อถึงคิวของพอใจ คิงอ่านอยู่นานเพราะจุดผิดมันเล็กมากๆ ทำให้ต้องตั้งใจอ่าน พอใจก็เลยเงียบให้พี่เขาใช้สมาธิ แล้วคิงก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาชี้จุดผิดพลาดของงานให้พอใจดู มันพลาดตรงเว้นวรรคอีกแล้ว เป็นหน้าหลังๆ ดูเหมือนว่าพอเริ่มง่วง เขาก็เว้นวรรคผิดๆถุูกๆ ทำให้ประโยคมันแปลกๆ


“ขอบคุณนะครับพี่คิง”
“ไม่เป็นไรจ้าา ไว้งานผ่านละส่งข่าวมา พี่จะมาทวงข้าว”
“ได้เสมอคร้าบบ” มังกรตอบรับ และพวกเราทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้องเพื่อที่จะไปแก้งาน เฮ้อ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วครับ





และเพราะอะไรไม่รู้ ในขณะที่ผมต้องแก้งาน ชื่นตาก็มานั่ง เอ่อ นั่งหาเมนูอาหารให้ผมกิน เนื่องจากว่าผมแก้งานมาเป็นเวลานานมากๆ จนถึงเวลาอาหารเย็น ซึ่งการไม่ได้แตะโทรศัพท์ทำให้ผมไม่รู้ว่าชื่นตาไลน์มาชวนผมไปกินข้าวเย็น พอไม่ได้รับการตอบรับ เขาก็เลยลงมากดกริ่ง


และเมื่อได้รู้ว่าผมยังไม่ได้กินข้าว และแก้งานไม่เสร็จ ชื่นตาเลยเสนอว่าเขาจะโทรสั่งของมาเอง แล้วก็ให้ผมทำงานไป


“พอใจ กินไก่ไหม ไก่ทอดเกาหลี”
“บอนชอนเหรอครับ”
“อื้อๆ”
“ได้ครับ”
“โอเคคค เรียบร้อย”


ผมหันกลับมาทำงานต่อ อีกนิดก็จะเสร็จแล้ว เรียงตรงนี้ใหม่อีกนิดหนึ่ง และในที่สุด ผมก็แก้งานเสร็จ ดีที่เสร็จก่อนไก่จะมาถึง ไม่งั้นผมคงไม่ต้องเป็นอันทำงานแล้ว พอเสร็จทุกอย่างก็เพิ่งรู้สึกตัวว่า ตัวเองหิวมาก หิวจนจะตายแล้ว


กริ่งงงงง~


“อ๊ะ! มาแล้ว เดี๋ยวเราไปเอาให้เอง” ชื่นตาวิ่งเหมือนนกเพนกวินไปเอาอาหารที่สั่งไว้หน้าประตู ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่ผมนะที่หิว
“เท่าไหร่ครับ”
“ไม่ๆ เราเลี้ยงเอง”
“ไม่ได้สิครับ ต้องหารกันสิ กินด้วยกัน”
“แต่ว่า เราอยากเลี้ยงนี่”
“ไม่ได้ครับ”
“ก็ได้ หารก็ได้” ชื่นตายู่หน้าแต่ก็ยอมตกลงแต่โดยดี


พวกเราสองคนจัดการอาหารที่มาถึงจนหมดในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อพายุแห่งความหิวพัดผ่านไป พวกเราก็ยังนั่งกันอยู่ที่เดิมเพราะอิ่มจนทำอะไรไม่ไหว แต่จนพอใจแล้ว พอใจก็เรียงจานเพื่อเก็บไปล้าง


“เราช่วยๆ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ไม่ได้สิ ก็กินด้วยกัน” ชื่นตาทำสายตาจริงจัง
“อ่ะ ยอมก็ได้ครับ”


เมื่อตกลงกันได้ ผมก็ล้างน้ำยา ส่วนชื่นตาจะล้างน้ำเปล่า และเพราะจานมันไม่ได้เยอะ เราก็เลยล้างเสร็จอย่างรวดเร็ว


“อืม เราจะทำอะไรต่อดี”
“หืม?”
“ก็เราเหงานี่ อยู่ด้วยนะ” ชื่นตาหันมาจ้องหน้า
“ก็ได้ครับ อยู่ได้ตามความพึงพอใจเลย”
“ฮี่ๆ ดูหนังเนอะดูหนัง” ชื่นตายิ้มอย่างดีใจแล้วก็เปิดnetflixขึ้นมา ผมปล่อยให้ชื่นตาเลือกหนังที่เขาอยากดู ผมตามใจเขา ช่วงนี้ไม่ได้อยากดูอะไร


และเรื่องที่ชื่นตาเลือกดูก็คือ my girl ครับ ผมเคยดูแล้ว และคิดว่าเขาก็เคยดูแล้วเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร พวกเราสองคนไม่ได้มีบทสนทนาในยามที่หนังเกือบๆสองชั่วโมงกำลังฉายบนโทรทัศน์จอยักษ์


จนกระทั่งบนหน้าจอขึ้นเป็น end credit พอใจก็กดออกจากหน้านั้น แล้วก็ลุกขึ้นไปเปิดไฟ เมื่อเงยหน้ามองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลากว่าสามทุ่มเข้าไปแล้ว


“พี่ชื่นครับ”
“…”
“พี่ชื่น”
“…” อ่า ชื่นตาหลับไปแล้ว นั่งคอพับพิงโซฟาอยู่


พอใจขำเล็กๆก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ หมายถึง เอาหน้าเข้าไปใกล้ๆน่ะ พอใจสำรวจเครื่องหน้าของชื่นตาอย่างละเอียด ยิ่งพอมองใกล้ๆ พอใจยิ่งคิดว่าชื่นตาน่าจะเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีมาก ผิวเขาละเอียดมาก


พอใจมองดวงตาคู่สวยที่ยังคงปิดอยู่ ปากเล็กๆ แต่สิ่งที่เขาชอบที่สุดบนหน้าของชื่นตา คือจมูกเชิดๆนี่ มันดูดื้อ แต่ไอ้หน้าดื้อๆนี่แหละมันทำให้ผมเอ็นดูเขา ดื้อตาใส ดื้อเงียบนี่น่ะ


“อื้อ” และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชื่นตาลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนที่พอใจยังไม่ได้ขยับตัวออกไป นั่นทำให้ตัวเขาเพิ่งจะรู้สึกว่า เขาขยับเข้ามาใกล้มาก ใกล้จนหายใจรดกัน


“หือ? อ๊ะ” ชื่นตาเบิกตาขึ้นอย่างตกใจ แต่ไม่ได้ผลักเขาออก
“ขอโทษครับ”
“ทำไมพอใจอยู่ใกล้ขนาดนี้ล่ะ” ชื่นตายกมือขึ้นมาเกาจมูก
“ผมจะปลุกน่ะ แต่พี่ตื่นก่อน”
“อ๋ออ ว่าแต่นี่กี่โมงแล้ว”
“สามทุ่มครับ กลับไหม”
“อื้อ พอใจจะได้อาบน้ำแล้วเข้านอน” พอใจยิ้มได้กับสิ่งที่อีกคนพูดออกมา ดีใจที่ได้รับการเอาใจใส่
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่งที่ลิฟต์ครับ”
“โอเคคค”


ชื่นตาลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วเดินนำออกไป แล้วเราสองคนก็บอกฝันดีกันที่หน้าลิฟต์เป็นวันที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ไม่ได้นับเลยแฮะ


ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter08:21/4/2019>
«ตอบ #16 เมื่อ21-04-2019 19:03:00 »

08





เหนื่อยมาก เหนื่อยเหลือเกิน! ชื่นตาไม่ได้กลับห้องมาเป็นเวลาสามวันเศษๆแล้ว เพราะว่าเพื่อนอย่างคิงที่เป็นลูกรักอาจารย์ มันเป็นหัวหน้างานคณะที่จะจัดขึ้นในเวลาสองเดือนข้างหน้านี่น่ะสิ


เมื่อต้องหาข้อสรุปให้กับอาจารย์อย่างรวดเร็วที่สุด พวกเราทั้งสามคนกับเพื่อนๆปีสองคนอื่นๆก็จะแวะเวียนมาที่ห้องของคิง ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยจนแทบจะกลายเป็นหอในแล้ว ตอนแรกก็เกี่ยงกันอยู่หรอก ไม่ให้มาห้องรก ห้องกูไฟดับ น้ำไม่ไหล ไม่จ่ายค่าเช่า ป้าด่า เป็นล้านเหตุผลที่เรายกมาอ้างกัน สุดท้าย คนที่ดูจะรำคาญ ก็เลยสรุปให้เป็นห้องตัวเอง ผมก็เลยรอดตัวไป
ที่ไม่อยากให้คนอื่นไปห้องน่ะ ก็เพราะว่าไม่ชอบ บางคนเราไม่สนิทใจจะให้เขาเข้ามาในห้อง มันก็ลำบากใจ คิงมันรู้จักคนเยอะ ก็หยวนๆได้อยู่


“ยิ้มอะไร รีบทำงานละไสหัวกลับห้องได้แล้ว” คิงบ่น
“รีบอยู่ไง อยากกลับจะแย่แล้ว”
“แล้วทำไมไม่ทำห้องมึงซะให้จบๆ ห้องก็ใหญ่ ของก็ครบ” แพลนพูด
“มึงจะบ้าเหรออีแพลน เปิดห้องคุณชื่นให้เสือให้ตะเข้เข้ามาหาลู่ทางเล่นหรือไง”
“เออ ก็จริง แล้วเรื่องพี่โรมเป็นไงมั่งวะ”
“ยังไม่เจอ คิดว่าคงยังไม่เข้ามาเรียน”


พอดีกับที่มีเพื่อนคนอื่นเปิดประตูเข้ามา บทสนทนาของเราจึงจบอยู่แค่นั้น เรื่องส่วนตัวกลายเป็นเรื่องส่วนรวม ไอเดียขยายกันเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆเมื่อมีหลายหัวมารวมกัน สุดท้ายในเวลาสองทุ่ม พวกเราก็ได้ข้อสรุปไปส่งอาจารย์ และผมก็ได้กลับห้องแล้ว


ซะที่ไหนล่ะ!


มันดึกมาก แล้วชื่นตาก็เหนื่อยมาก จะให้ขับรถออกไปตอนนี้เขาคงขับชนเสาไฟฟ้าตาย ขอค้างอีกคืนแล้วค่อยกลับพรุ่งนี้ตอนบ่ายหลังจากเลิกเรียนดีกว่า


“ชื่น” คิงพูดขึ้น ตอนนี้ห้องนี้เหลือแค่เราสองคนแล้ว คนอื่นกลับไปหมดแล้ว
“หือ?”
“มึงจะเอาไงวะ เรื่องพี่โรม หนีไปเรื่อยๆแบบเดิมเหรอวะ”
“ยังไม่รู้เลยว่ะ แต่ไม่อยากหนีแล้ว รำคาญ”
“อืม เดี๋ยวกูคอยช่วย ไม่น่าเลย เสียดายคนหล่อ”
“เออ มึงก็จำไว้ คนหล่อทุกคนไม่ได้เป็นคนดี”
“กูรู้หน่า แหม แล้วน้องพอใจล่ะ”
“พอใจเกี่ยวไรด้วย” ชื่นตาส่งสายตาสงสัยใคร่รู้ไปให้เพื่อน เขาไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าไอ้ประเด็นที่มีคนมาตามตื๊อเขานี่มันเกี่ยวอะไรกับพอใจ ไอ้พี่คนนั้นมันไม่รู้จักกับพอใจสักหน่อย


“อ้าว มึงกับน้องไม่ได้มีซัมติงเหรอวะ”
“ซัมติงบ้าบอไร เพิ่งเจอกันแปปเดียว”
“ความรักมันขึ้นอยู่กับเวลาที่ไหน”
“โอ๊ย พวกกูไม่ได้คิดอะไร”
“มึงไม่คิด แล้วพอใจไม่คิดแน่เหรอ” คำถามนี้ทำให้ผมต้องย้อนไปคิดถึงเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้น มันอาจจะไม่ได้ชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึก


“ไม่รู้สิวะ”
“ไม่รู้ หรือไม่อยากรับรู้กันแน่”
“ทำไมมึงถึงอยากให้กูได้กับผู้ชายนักวะ”
“นี่ ฟังนะอีน้อง กูไม่ได้อยากให้มึงได้กับผู้ชาย แต่คนที่เข้าหามึงมันมีแต่ผู้ชาย แล้วกูก็ไม่เห็นว่ามึงจะสนใจผู้หญิงคนไหนเลย อีกอย่างนะ สมัยนี้ชายหญิงอะไร เขาไม่แบ่งแยกกันแล้ว โลกมันไม่แบ่งหญิงชายหรอกเว้ย ต้องรักเพศตรงข้าม ความรักมันก็คือความรักเว้ย”
“….”
“กูไม่ได้เชียร์เพราะเขาเป็นผู้ชายหล่อ แต่พอใจนิสัยดี ขนาดรู้จักกันได้แปปเดียวมึงยังสบายใจจนกล้าพาเขาเข้าไปในที่ที่เป็นcomfort zoneของมึงขนาดนี้แล้ว จะกล้าปฏิเสธอีกเหรอว่าไม่รู้สึกอะไรสักนิดเดียว”


ชื่นตาเก็บเอาสิ่งที่คิงพูดมาคิด แน่นอนว่าเขายังไม่ได้ตอบ เพราะยังไม่สามารถค้นหาคำตอบที่แน่ชัดจากก้นบึ้งของหัวใจได้ ชื่นตายอมรับว่าเขารู้สึก ทุกครั้งที่ได้เข้าใกล้ บางทีมันก็เหมือนมีปฏิกิริยาบางอย่างหมุนเวียนในตัว และแน่นอนว่าเขาทำเป็นไม่รู้ และหลงลืมความรู้สึกนั้นไป


ชื่นตาจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยอ่านมาจากไหน เกี่ยวกับการค้นหาคำตอบในใจของตัวเอง คืนนั้นทั้งคืน ชื่นตาเอาแต่คิดวนไปวนมา จนหลับไปเอง แล้วก็ตื่นขึ้นมาในตอนที่คิงปลุก


และไม่รู้ว่าตอนนอนสมองเขาสามารถทำงานได้อย่างไร เพราะเมื่อตื่นมาแล้ว มันก็มีความคิดที่ตกตะกอนอยู่ในหัวเรียบร้อย ว่าเรื่องราวมันควรจะพัฒนาต่อไปในความสัมพันธ์แบบไหน ชื่นตาไม่ใช่เด็กๆหรือคนซื่อ ที่จะไม่เข้าใจเรื่องราวพวกนี้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็มีอุปสรรคให้ต้องพักทุกอย่างไว้ก่อน


ก็คือต้องไปเรียนยังไงล่ะ!


“กูจะหลับแล้ว”
“ใจเย็นเพื่อน จารย์มองอยู่ หลับตรงนี่มึงตายแน่” เสียงแพลนกระซิบอยู่ทางขวามือของชื่นตา
“อีน้องลุก แม่จ้องมึงแล้ว”
“อือๆ” แล้วชื่นตาก็พยายามตั้งคอให้ดูตรงที่สุด ถึงแม้ว่าเวลาทั้งสามชั่วโมงจะหมดไป ในหัวของเขาก็ว่างเปล่า ไม่ได้อะไรจากสิ่งที่อาจารย์สอนทั้งนั้น ชื่นตาง่วง ชื่นตาอยากนอน


เมื่อคลาสจบ ชื่นตาก็คิดว่าเขาจะได้กลับไปนอนอย่างสบายอกสบายใจ รวมถึงไปเคลียร์สิ่งต่างๆในสมองด้วย แต่อีกหนึ่งอุปสรรคที่ชื่นตาลืมไป เพราะไม่ได้เจอเป็นเวลาหลายเดือนดันมาโผล่อยู่ตรงนี้น่ะสิ


“ชื่น”
“อ้าว พี่โรมสวัสดีครับ”
“ครับ เป็นยังไงบ้าง ไม่เจอกันตั้งนาน” โรมถามแล้วขยับเข้ามายืนใกล้ๆ
“แหมม พี่โรมคะ อยู่กันตั้งสามคน ใจคอจะทักแต่ชื่นคนเดียวเหรอคะ” คิงพูดแซวก่อนจะเดินมายืนคั่นกลาง โรมชะงักไปและมีแววความไม่พอใจในสายตา ถึงแม้จะแค่แวบเดียวเท่านั้น แต่ชื่นตาก็มองเห็นน่ะ


“ก็ทุกคนนั่นแหละ”
“งานเยอะดีครับพี่”
“เดี๋ยวเยอะกว่านี้อีก ไป วันนี้ไปกินข้าวกันดีกว่า พี่เลี้ยงเอง” เราสามคนมองหน้ากันไปมา ส่งข้อความผ่านทางสายตา แล้วชื่นตาก็ตอบกลับไป


“ขอโทษด้วยนะครับ พวกเราเพิ่งจบงานคณะมา ผมขอบายดีกว่า อยากนอน”
“ค่ะ ไคลี่ก็ว่างั้น”
“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งไหมชื่น”
“ชื่นเอารถมาครับ”
“ให้พี่ขับให้ไง ชื่นจะได้นอนสบายๆ” ชื่นตาเริ่มมีอาการไม่พอใจเล็กๆ เพราะรำคาญคนพูดไม่รู้เรื่อง คิงกับแพลนที่เห็นดังนั้นก็ประชุมกันทางสายตา


ด้วยความตาดี คิงหันไปเห็นว่ากลุ่มของพอใจกำลังลงบันไดมาทางนี้พอดี เขาก็เลยคิดแผนนี้ขึ้นมาได้ สองคนนั้นจะได้ไปคุยกันด้วย อืม เอาแบบนี้แหละ


“โหยย ไม่ต้องหรอกค่าพี่โรม ชื่นมันมีคนขับให้แล้ว มึงไปสิ พอใจมาแล้ว” ชื่นตาทำหน้างงๆ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนรัก กะพริบตาสามทีเขาก็เข้าใจ เลยรีบบอกลา


“อ้อ ผมไปนะครับพี่โรม ขอบคุณมากที่อาสาช่วย” แล้วก็รีบวิ่งไปหากลุ่มพอใจทันที นึกขอบใจคิงที่หาทางช่วยเขามาได้ แต่ก็คิดว่ามันกะทันหันไปหน่อย เขายังคิดเรื่องพอใจไม่ถี่ถ้วน พอมาเจอแบบนี้ มันก็แปลกๆนิดหน่อย


“พอใจ เด็กๆ”
“พี่ชื่น/คุณชื่นสวัสดีครับ” แน่นอนว่าพี่ชื่นน่ะพอใจพูด ส่วนคุณชื่นก็เป็นเด็กๆที่เหลือ
“พอใจเอารถมาหรือเปล่า”
“เปล่าครับ วันนี้ผมตื่นสาย เลยนั่งวินมา”
“ดีเลย กลับด้วยกัน”
“เดี๋ยวๆๆๆ คุณชื่นรีบไปไหนครับ เหมือนหนีอะไรเลย” มังกรพูดเพราะเห็นว่าชื่นตากำลังจะดึงเพื่อนเขาไป ทักทายยังไม่ทันครบทุกคน ก็จะไปซะแล้ว


“เดี๋ยวเล่าให้ฟังทีหลังนะทุกคน แต่เรากลับก่อนเหอะ”
“งั้นก็ได้ครับ” พอใจพูด แล้วเป็นฝ่ายเดินนำไปแทน ชื่นตาเห็นแบบนั้นก็เลยรีบเดิน เพื่อจะให้พ้นๆไปจากจรงนี้สักที จริงๆเขาคิดไว้แล้ว ว่าถ้าพอใจเอารถมา เขาจะทิ้งรถไว้ที่นี่ แล้วค่อยมาเอาพรุ่งนี้ แต่พอใจไม่เอารถมาพอดี ก็เข้าที่ เป๊ะ!


“เดี๋ยวผมช่วย” พอใจยื่นมือมาทำท่าจะดึงหนังสือไปถือ
“ไม่ๆ มันไม่หนัก เราถือได้”
“เอามาเถอะครับ” แล้วพอใจก็ได้หนังสือวรรณกรรมสามเล่มใหญ่ๆไปถือไว้ ชื่นตาสู้ไม่ได้ก็เลยให้ถือไป
“พี่หนีใคร คนนั้นเหรอ ที่อยู่กับพวกพี่คิง”
“อื้อ จะว่าไงดี เขาตื๊อน่ะ”
“เขาชอบพี่?”
“อือ ตั้งแต่เราปีหนึ่งแล้ว”
“อืม ผมพอจะเข้าใจแล้ว” ถึงแม้ว่าชื่นตาจะบ่นว่าง่วง แต่ตำแหน่งคนขับก็ยังคงเป็นเขาอยู่ดี แต่ใช้พอใจเป็นข้ออ้างก็ถือว่ามากแล้ว ใช้ขับรถอีก ไม่ได้หรอก


เนื่องจากเรื่องที่ชื่นตาคิดเมื่อคืนยังไม่ได้กระจ่าง ทำให้บรรยากาศในรถมีความอึดอัดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชื่นตารู้สึก และใช่ว่าพอใจจะไม่รู้สึก ด้วยความที่ไม่ชอบความรู้สึกนี้ ทำให้พอใจต้องถามออกมา


“พี่ชื่นมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“พอใจหมายถึงอะไรเหรอ” ชื่นตาหันมาสบตาเจ้าของคำถามตอนที่ติดไฟแดง
“วันนี้…มันดูอึดอัด แปลกๆ”
“เอ่อ จะว่ายังไงดีล่ะ” เมื่อไม่ได้ตั้งตัวกับคำถาม ทำให้ชื่นตาเลิ่กลั่ก ไม่รู้จะตอบไปยังไง
“ไม่เป็นไรครับ พี่พร้อมแล้วค่อยพูดก็ได้”
“อื้อ ขอโทษนะ”
“ครับ”


ทั้งสองคนมาถึงคอนโดก็แยกย้ายกันขึ้นห้อง ต่างคนต่างใช้เวลากับตัวเอง พอใจพยายามคิดว่ามันมีสามเหตุอะไรที่จะทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดใจต่อกัน ในขณะที่ชื่นตาพยายามเรียบเรียงคำพูด เขาไม่อยากใช้คำพูดที่ดูเข้าข้างตัวเองจนเกินไป ถ้าพอใจไม่ได้ชอบ มันจะมองหน้ากันต่อได้ไง


ชื่นตาบอกสมองกับใจให้สงบๆ แล้วทำทุกอย่างตามกิจวัตรปกติ แต่พอถึงเวลานอน ร่างกายมันกลับไม่ยอมนอน เพราะสมองยังคงคิดถึงแต่เรื่องนี้อยู่น่ะสิ เบาก็เลยได้แต่นอนพลิกไปพลิกมา


ชื่นตาคิดว่าเขาอยากคุยกับพอใจตอนนี้ แต่เมื่อหยิบมือถือมาดูเวลาก็พบว่านี่มันดึกเกินกว่าจะเป็นเวลารับแขกแล้ว ไม่อยากเสียมารยาท ก็เลยคิดว่าจะคุยพรุ่งนี้แทน แต่จะไปคุยที่ไหนดีล่ะ


ชื่นตาใช้เวลาอยู่สักพักในการหาสถานที่ เขานึกขึ้นได้ว่าพอใจชอบถ่ายรูป ก็เลยค้นหาแลนมาร์กในเมืองกรุงที่เป็นที่ถ่ายรูปสวยๆ ที่ๆคนเขาชอบไป จะได้มีข้ออ้างในการไปด้วยกัน และเมื่อเลือกสถานที่ได้แล้ว ก็ต้องไปชวนพอใจ


Chuenta: พอใจ พรุ่งนี้ว่างป่าวว
คุณพอใจ: ว่างครับ ไม่มีเรียน
คุณพอใจ: พี่ชื่นมีอะไรหรือเปล่าครับ
Chuenta: ไปนี่กัน เพื่อนเราไม่ว่างเลย
Chuenta: ส่งรูปภาพ


ชื่นตานึกขอโทษเพื่อนอีกสองคนอยู่ในใจที่เอาเพื่อนมาอ้าง นั่งรอพอใจตอบอยู่สักพัก จริงๆมันก็ไม่นาน แต่ในความรู้สึกของคนที่นั่งรอข้อความเนี่ยมันนานมาก


คุณพอใจ: ได้สิครับ
คุณพอใจ: ไปกี่โมง
Chuenta: สักสิบโมงไหม
คุณพอใจ: ได้ครับ


เมื่อภารกิจของวันนี้เสร็จสิ้น ชื่นตาก็รู้สึกง่วงขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่เขาเป็นพวกต้องคิดชุดไว้ก่อนหนึ่งวัน ชื่นตาทำแบบนี้เสมอ ก็เลยต้องลุกมาmix and match ชุดสำหรับวันพรุ่งนี้


ชื่นตาหยิบเสื้อมาทาบตัว เอากางเกงทาบ สลับไปมาจนได้ชุดที่ลงตัว หยิบของออกมาวาง ในหัวคิดไปถึงรองเท้าที่เข้าชุด พอคิดว่าโอเคแล้วก็เอาเสื้อผ้าห้อนไว้หน้าตู้เสื้อผ้า เตรียมใส่ในวันพรุ่งนี้


เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็ได้เวลาที่คุณชื่นจะต้องนอน ชื่นตาดับเทียนหอมในห้อง แล้วไฟก็เริ่มดับทีละดวง จนกระทั่งทั้งห้องมืดไปหมด สัมผัสได้แค่ความเงียบ แต่ในความเงียบนั้นก็มีเสียงหายใจที่บ่งบอกว่าเจ้าของเสียงนี้ หลับสนิทไปซะแล้ว



***********************************




ตอนนี้อัพทันในเด็กดีแล้ว ขอพักสักวันสองวันจะมาอัพตอนที่9นะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเมนท์ค่ะ :กอด1:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2019 16:16:50 โดย zhaofah »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: คุณชื่นตา--08--<21/4/2019>
«ตอบ #17 เมื่อ21-04-2019 19:20:06 »

 :L1: :L2: :pig4:


เย้ เย้

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: คุณชื่นตา--08--<21/4/2019>
«ตอบ #18 เมื่อ21-04-2019 21:45:38 »

 :pig4:

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter09:23/4/2019>
«ตอบ #19 เมื่อ23-04-2019 15:40:44 »

09






เช้าวันถัดมา ชื่นตาขับรถพาพอใจมาโผล่อยู่ที่หอศิลป์ซึ่งตอนนี้จัดนิทรรศการงานศิลปะประเภทหนึ่งอยู่ เขาคิดว่าพอใจน่าจะชอบเกี่ยวกับงานศิลปะ ที่นี่จึงเป็นตัวเลือกที่ดี เสียดายที่รัฐบาลไม่ให้งบหอศิลป์ ไม่รู้ว่าที่ดีๆแบบนี้จะอยู่ไปได้อีกนานเท่าไหร่


“สวยดีนะครับ”
“อื้อ เราเปิดไปเจอเลยคิดว่าพอใจน่าจะชอบ”
“ชอบครับ ขอบคุณนะครับ” พอใจหันมายิ้มให้ เขาที่ไม่ได้เตรียมใจรับแรงปะทะจากรอยยิ้มนี้ ใจถึงกับเสียหลัก เซไปแปปนึงเลยทีเดียว


“ขอบคุณเราทำไมเล่า”
“ก็ขอบคุณที่ชวนมาไงครับ ผมไม่ค่อยได้เปิดดูอะไรแบบนี้ ไม่รู้หรอกครับว่ามีงาน”
“อื้อ! เดี๋ยวเราดูให้เอง ถ้ามีอีกก็จะชวนมา” และพอใจก็ยิ้มให้อีกหนึ่งครั้ง ครั้งนี้ผมตั้งหลักได้ ก็เลยยิ้มกลับไป พวกเราเดินดูงานต่างๆที่นี่จนรู้สึกว่าเหนื่อย เลยตกลงกันว่าไปนั่งกินขนมที่ร้านกาแฟข้างล่างแล้วค่อยขึ้นมาดูต่อดีกว่า


“เอาลาเต้กับนมสดเย็นใช่ไหมครับพี่ชื่น”
“อื้อ” เขาดีใจ ที่พอใจจำได้


พวกเรานั่งที่ติดกระจก เห็นผู้คนมากมายเดินดูงานศิลปะ ถ้ามีงานแบบนี้บ่อยๆก็ดี ผมชอบ รวมถึงพวกงานหนังสือด้วย ถ้ามีห้องสมุดเยอะๆก็ดีน่ะสิ ประเทศไทยควรมีห้องสมุดเยอะๆนะ มันจะทำให้คนเข้าถึงการอ่านได้ง่าย แล้วก็สนใจหนังสือมากขึ้น


ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะมีอีบุ๊คที่สามารถอ่านบนมือถือได้ แต่มันก็ไม่เหมือนการอ่านจากหนังสือหรอก เด็กวรรณกรรมแบบเขาน่ะ ชอบหนังสือมากทีเดียวล่ะ


นั่งคิดนั่นคิดนี่ไปสักพัก ชื่นตาก็เพิ่งนึกได้ว่าที่เขาชวนพอใจมาวันนี้ก็เพื่อเป็นข้ออ้างคุยเรื่องที่คิงพูดนี่นา ชื่นตาก็เลยรวบรวมคำพูดในหัว แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกความมั่นใจก่อนที่จะพูดออกไป


“นี่ คือเรื่องที่พูดเมื่อวานน่ะ…”
“พี่ชื่นสบายใจที่จะพูดแล้วเหรอครับ”
“อื้อ เราตั้งใจไว้แล้ว”
“ครับ” ชื่นตาบอกใตัวเองให้ใจเย็นๆก่อนจะพูดต่อ
“เมื่อวานเราคุยเรื่องพี่โรมกับคิง แล้วคิงก็ถามเรื่องของเรากับพอใจ หมายถึง…ความสัมพันธ์”
“หือ?”
“คิงถามเราว่า กับพอใจน่ะ อยู่ในความสัมพันธ์แบบไหน ให้เราเก็บมาคิด ก็เลยเป็นแบบนั้นน่ะ”
บรรยากาศระหว่างเราสองคนเงียบไปสักพัก จนชื่นตาเริ่มจะใจเสีย เขาน่าจะเก็บไว้พูดหลังจากที่เดินดูเสร็จแล้วสิ ไม่น่าพูดตอนนี้เลย ชื่นตาได้แต่บ่นตัวเองในใจ


“อืม มันก็น่าคิดนะครับ” พอใจพูดขึ้นมา
“หือ?”
“ผมยอมรับนะว่ารู้สึก แต่มันยังไม่ได้รู้สึกไปไกลขนาดนั้น”
“อื้อ เราด้วย”
“งั้น…” พอใจเว้นช่วง และชื่นตาก็เม้มปากเนื่องจากลุ้นกับประโยคต่อไป
“เราก็ค่อยๆศึกษากันต่อไปนะครับ ถ้าวันหนึ่งมันเดินหน้าจนชัดเจนเมื่อไหร่ เราค่อยคุยกันอีกที ดีไหมครับ”
“อื้อ”


ความรู้สึกแย่ๆของชื่นตาหายไปหมด ราวกับพอใจมีพลังวิเศษที่ช่วยปัดเป่าความรู้สึกนั้นออกไป ชื่นตายิ้มจนลักยิ้มบุ๋มลงไป เขาไม่แน่ใจว่าเขาเคยยิ้มกว้างขนาดนี้มาก่อนหรือเปล่า


“ไปดูกันต่อไหมครับ”
“ไปสิ” และก็ดีใจที่ระหว่างเราสองคนไม่ต้องมีบรรยากาศอึดอัดมาวนเวียนต่อไปแล้ว ถึงแม้ว่าเมื่อกี้จะก่นด่าตัวเองในใจ แต่ตอนนี้เขาดีใจมากๆที่ตัวเองตัดสินใจพูดออกไป ไม่อย่างนั้นพวกเราอาจจะอึดอัดกันจนค่อยๆถอย สุดท้ายความรู้สึกพวกนี้ก็คงไม่เหลือ


“พี่ชื่นยืนตรงนี้นะ”
“ได้ๆ”
“ไม่ต้องหันหน้ามานะ”
“โอเค”


ชื่นตายืนมองรูปตรงหน้านิ่งๆ ทำตัวเป็นนายแบบที่ดีให้พอใจได้ถ่ายรูป แล้วเราก็เดินดูนิทรรศการพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันจนสุดทาง


“หิวแล้วอ่ะ” ชื่นตาพูด
“อยากกินอะไรครับ”
“นึกไม่ค่อยออกเลย แถวนี้มีอะไรอร่อยบ้างนะ”
“ผมก็ไม่ค่อยรู้แฮะ งั้นเราลองเดินในซอยนี้ไปเรื่อยๆไหมครับ เผื่อจะมีร้านอร่อย”
“เอาสิ”


แล้วเราทั้งสองคนก็เดินคุยกันไป ไม่สิ เหมือนจะเป็นชื่นตามากกว่าที่พูดเจื้อยแจ้วในเรื่องนั้นเรื่องนี้ มีพอใจพูดแทรกบ้าง บรรยากาศอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะ ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมายิ้มตามไปด้วย


“พี่ยิ้มแบบนี้ตลอดเลย”
“แบบไหนอ่ะ”
“แบบที่เหมือนพระอาทิตย์”
“ยังไม่จบเรื่องที่บอกว่าเราเหมือนพระอาทิตย์อีกเหรอ” ชื่นตาทำหน้ามุ่ย


พอใจหัวเราะเบาแล้วยื่นมือมาโยกหัวเขา ชื่นตากำลังจะพูดแล้วว่าเขาเป็นพี่นะ แต่พอเห็นรอยยิ้มของพอใจ เขาก็หุบปากฉับ ไม่พูดแล้วดีกว่า ปล่อยให้พอใจทำไปนั่นแหละ เป็นพี่แล้วยังไงล่ะ เนอะ







เราแยกกันที่หน้าลิฟต์เหมือนทุกครั้งที่กลับมาพร้อมกัน ชื่นตาสบายใจจากทุกปัญหาที่คิดไม่ตก นึกขอบคุณตัวเองที่พยายามพูด และขอบคุณพอใจที่พูดออกมาตรงๆ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างก็คงยากขึ้น


ชื่นตาหยิบวรรณกรรมไทยเล่มหนึ่งที่เขาชอบขึ้นมาอ่าน ถึงแม้ว่าเขาจะอ่านหลายรอบแล้ว แต่เขาก็ยังสามารถอ่านซ้ำไปซ้ำมาได้อยู่แบบนี้


ชื่นตาปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับโลกในหนังสือเหมือนที่เคยเป็น ผ่านไปบทแล้วบทเล่า จนความสนุกนั้นจบลงไปในตอนสุดท้ายของเรื่อง เมื่อพบว่ามันดึกแล้ว เขาก็จัดการตัวเองแล้วเข้านอนเหมือนทุกๆวัน พร้อมกับความสบายใจที่ได้รับมา


ไม่ต่างอะไรกับพอใจที่กลับห้องมาทบทวนในสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปวันนี้ แน่นอนว่าเขาคิดแล้วก่อนที่จะพูด พอใจรู้จักตัวเองดี แล้วก็ทำอะไรตามความคิดตัวเองเสมอ เขาว่าตีวเองคิดมาดีแล้ว


การจะปล่อยผ่านความสัมพันธ์ที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นโดยที่ยังไม่ได้สัมผัสแม้แต่มุมหนึ่งของความรู้สึกน่ะมันน่าเสียดาย ถ้าหากอีกคนมั่นใจที่จะพูดออกมาแล้ว ตัวเขาก็ไม่มีอะไรต้องเก็บ


เรื่องความรักมันยาก แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินใจเราหรอก เราทุกคนรู้อยู่แล้วว่าควรทำอะไร เหลือแค่ยอมรับ กับทำให้ได้เท่านั้นแหละ ผมพูดถูกไหม







Rrrrrrrr


เสียงโทรศัพท์ปลุกให้ชื่นตาต้องตื่นขึ้นมาทั้งๆที่ยังนอนไม่เต็มอิ่ม เขาขยี้ตาเพื่อปรับภาพตรงหน้าให้ชัด แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาดู


“ครับพี่โรม”
“วันนี้ชื่นว่างหรือเปล่า”
“มีเรียนตอนบ่ายครับ”
“งั้นแสดงว่าตอนเช้าว่าง” ชื่นตาถอนหายใจ เขาไม่อยากตอบว่าว่าง เพราะเขาอยากนอนต่อ แต่ถ้าตอบว่าไม่ว่าง อีกคนก็ต้องถามว่าไปไหน


“ว่างครับ”
“งั้นก็ออกไปเดตกับพี่ได้” ชื่นตาพ่นลมหายใจออกมาเป็นครั้งที่สอง ถ้ามันทำให้อายุสั้นจริง อีกแปปหนึ่งเขาคงไม่อยู่บนโลกแล้วล่ะ


แต่เมื่อชื่นตาคิดได้ว่าเขากำลังจะเริ่มศึกษาและพัฒนาควาทสัมพันธ์กับพอใจ เขาก็ควรจะต้องเคลียร์ปัญหาตรงนี้ให้จบไป ถึงแม้ว่าจะแค่ศึกษากัน แต่เขาก็ให้เกียรติอีกคนมากพอที่จะไม่คุยกับคนอื่น


“ครับ พี่โรมจะให้ไปเจอที่ไหน”
“เดี๋ยวพี่ไปรับ”
“ไม่เป็นไรครับ”
“งั้นเจอที่ร้านA”
“ครับ”


และเมื่ออีกคนนัดหมายเวลามาเป็นที่เรียบร้อย เขาก็พบว่ามันอีกไม่นานหลังจากนี้ ก็เลยจำใจจะต้องลุกไปอาบแต่งตัว แน่นอนว่าไม่พิถีพิถันขนาดนั้นหรอก แค่ไม่ไปสายก็พอ ใส่อะไรก็เหมือนกันแหละน่ะ


อ้อ แล้วก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปบอกพอใจด้วย ถึงจะเรื่องเล็กเรื่องน้อยขนาดไหน ก็ควรจะบอกอยู่ดี ชื่นตาคิดแบบนี้


Chuenta: วันนี้เราออกไปคุยกับพี่โรมนะ
Chuenta: จะเคลียร์ให้เสร็จ แล้วก็ไปเรียนตอนบ่าย


เมื่อไม่เห็นว่าอีกคนจะอ่าน ชื่นตาก็เลยสรุปว่าพอใจคงยังไม่ตื่น จึงเก็บมือถือแล้วก็ออกจากห้องไป โดยไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปบอกเพื่อนๆด้วยว่าเขากำลังจะทำอะไร


ชื่นตารู้ว่าเพื่อนเป็นห่วงเขาซะยิ่งกว่าลูก ดังนั้นจะทำอะไรเขาก็บอกเพื่อนเสมอ ตอนนี้ก็เพิ่มพอใจมาอีกหนึ่งคน มีพอใจอยู่ด้วยเขาก็อุ่นใจ เพราะพ ใจน่ะให้ความรู้สึกไม่เหมือนอยู้กับคนอื่น ชื่นตาเองก็หวังว่าจะเขาจะสามารถเดินไปกับพอใจได้นานๆ



“ชื่น ทางนี้” ชื่นตาหันหน้าไปทางต้นเสียง ก็เห็นว่าโรมนั่งอยู่ตรงมุมสุดของร้านพอดี
“สั่งอะไรเรา”
“ไม่ดีกว่าครับ” ไม่ใช่ว่าชื่นตาไม่หิว แต่ถ้าพูดเรื่องนั้นออกไปแล้วคงจะไม่ทีอารมณ์มานั่งกินข้าวหรอก ไม่ว่าจะเป็นใครก็เถอะ
“เราไม่หิวเหรอ”
“หิวครับ แต่มีเรื่องจะพูดกับพี่โรมก่อน” โรมปิดเมนูลง ส่งยิ้มให้ชื่นตาเล็กๆ
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ผมกำลังคุยๆกับพอใจอยู่ พี่เข้าใจความหมายของมันใช่ไหม”
“เราหมายถึงว่าอยู่ในสถานะคนคุยกับเขาใช่ไหม”
“ครับ”
“แต่พี่ก็เป็นคนคุยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” ชื่นตาขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น เขาไปคุยๆกับพี่โรมตอนไหน
“ผมว่าพี่โรมเข้าใจผิด”
“ผิดยังไง เราก็ยังออกมากับพี่ตั้งหลายครั้ง”
“ผิด เพราะผมไม่เคยมากับพี่แค่2คนเหมือนครั้งนี้ และครั้งนี้ผมก็ไม่ได้ออกมาเพื่อเดตกับพี่ ผมออกมาเพื่อเคลียร์” ชื่นตาเริ่มอารมณ์เสีย


“แล้วแต่ชื่นจะคิด แต่พี่คิดอย่างนี้ อีกอย่างคนคุยมันมีได้หลายคนน่ะชื่น อย่าซีเรียสไปหน่อยเลย” โรมหัวเราะและส่ายหัวให้กับสิ่งที่ชื่นตาพูดก่อนหน้า ราวกับว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ


“ผมไม่เคยคิดจะพัฒนาความรู้สึกอะไรกับพี่”
“ถ้าตอนนี้ชื่นยังไม่คบกับมัน พี่ก็มีสิทธิ์ ต่อให้คบกับมันแล้ว พี่ก็ทำได้” พอมาถึงตรงนี้ ความอดทนของชื่นตาก็หมดลง เขาไม่เคยคิดว่าโรมจะรั้นขนาดนี้


“ผมถือว่าผมพูดแล้ว ผมไม่ชอบคนพูดไม่รู้เรื่อง”
“เดี๋ยวชื่น กินข้าวด้วยกันก่อนสิ” โรมคว้าข้อมือชื่นตาเอาไว้ก่อนที่จะได้ลุกไป
“ผมว่าไม่จำเป็น ผมพูดจบแล้ว ขอตัวครับ” ชื่นตาดึงข้อมือของตัวเองให้หลุดจากโรม แล้วรีบลุกออกจากร้านทันที คิดถูกแล้วที่ไม่สั่งอะไรมากิน ไม่งั้นเขาคงเสียมารยาทมากที่ลุกออกมาทั้งๆที่ิอาหารยังไม่มา แค่ลุกออกจากร้านโดยไม่สั่งอะไรเลยนี่ก็มากพอแล้ว


Rrrrrrr
‘คุณพอใจ’


“หือ? ว่าไงพอใจ” ชื่นตากดรับในระหว่างที่เปิดประตูรถ
“ผมเห็นที่พี่ส่งมา ก็เลยโทรมาถาม”
“อ๋อ”
“ทุกอย่างโอเคไหมครับ”
“ไม่ค่อยอ่ะ” ยิ่งนึกยิ่งอารมณ์เสีย ถ้ามีใครมาเห็นตอนนี้คงงงกันหมด คุณชื่นที่น่ารัก อารมณ์ดี ดูอบอุ่นหายไปแล้ว
“เขาไม่ยอมเหรอครับ”
“อื้อ”
“ช่างมันเถอะครับ”
“แต่ว่า”
“ช่างมันครับ ตอนเย็นเดี๋ยวพวกเราไปกินข้าวกัน” พอใจรีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะถ้ายังพูดต่อ ชื่นตาคงอารมณ์เสียไปอีกนาน
“พวกเรา”
“พวกผมกับพวกพี่ไง งานผ่านแล้ว”
“จริงเหรอ โอเคเลย”
“เดี๋ยวเลิกแล้วโทรหานะครับ”
“อื้อ”


แล้วชื่นตาก็อารมณ์ดีมากๆจนลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้กำลังหงุดหงิดกับอะไร เขารีบขับรถไปให้ถึงมหาลัยเพราะหิวข้าวมาก ส่งข้อความรัวๆให้เพื่อนๆรีบออกมาเพราะเหงา ตอนแรกแพลนนกใจแทบตายนึกว่าเขาเป็นอะไร ขำดี
ชื่นตาขับรถไป นึกเมนูอาหารในหัวไป พอนึกถึงมากๆเขาก็ชักจะทนไม่ไหว สุดท้ายก็โทรให้คิงไปซื้ิอข้าวให้ ไปถึงจะได้มีข้าวรออยู่ ข้าวหน้าเป็ดจ๋า ชื่นกำลังไปนะ!











***********************************






talk: ไม่แน่ใจว่าน้องหงุดหงิดพี่โรมหรือน้องโมโหหิว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คุณชื่นตา <chapter09:23/4/2019>
« ตอบ #19 เมื่อ: 23-04-2019 15:40:44 »





ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: คุณชื่นตา--09--<23/4/2019>
«ตอบ #20 เมื่อ23-04-2019 21:53:47 »

 :L2: :pig4:

ขี้ตื้อเนอะ

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter10:28/4/2019>
«ตอบ #21 เมื่อ28-04-2019 13:14:29 »

10




พอใจอมยิ้มกับข้อความของชื่นตา จริงๆการที่ชื่นตาจะไปคุยกับโรม ชื่นตาไม่จำเป็นต้องบอกเขาก่อนก็ได้ เจอกันค่อยมาเล่าให้ฟังก็ยังได้ แต่อีกคนก็เอาเรื่องนี้มาบอกก่อน เป็นจุดเล็กๆของการกระทำที่สร้างความประทับใจให้กับพอใจเป็นอย่างมาก


เขาอาบน้ำ เก็บของไปเรียนก่อนจะถึงเวลาเข้าคลาสประมาณครึ่งชั่วโมง เป็นปกติของพอใจ เขาไม่ค่อยมาสาย ถ้าคิดว่าจะมาช้า เขาจะไม่เข้าเลย บางทีการเข้าห้องระหว่างที่อาจารย์บรรยายมันค่อนข้างเสียมารยาท ยกเว้นแต่ในคลาสที่คนเยอะมากๆ อาจารย์จะไม่ค่อยสนใจ


“มึงนัดพี่ชื่นยังวะพอใจ” มังกรถาม
“นัดแล้ว”
“บอกร้านยัง”
“ยัง กูเพิ่งเห็นแชทพวกมึงเมื่อกี้”
“ไม่ต้องแล้วก็ได้ กูบอกพี่คิงละ” พอใจตอบรับแล้วก็หันกลับไปตั้งใจฟังอาจารย์ มังกรเร่งมือจดเลคเชอร์ยิกๆเพราะเมื่อกี้หันมาพูด ไม่ถึงนาทีอาจารย์เปลี่ยนสไลด์อย่างรวดเร็ว หหันกลับมาก็เอ๋อไปหมดแล้ว


สามชั่วโมงแห่งความทรหดก็ผ่านไป พวกเราตกลงกันว่าจะแบ่งสองคัน พวกพี่ๆไม่ได้เอารถมาสักคน ก็เลยจะติดรถพวกเราไปด้วย


“สวัสดีครับ/ค่ะ”
“สวัสดีจ้าเด็กๆ” พี่คิงเอ่ยตอบรับเป็นคนแรก
“ไปรถใครกันบ้างวะ” พี่แพลนถามหลังจากรับไหว้
“มีรถไอ้ว่านกับไอ้พอใจพี่ พวกพี่แบ่งกันเลยนะ”
“ได้จ้ะ มากูแบ่งให้ เดี๋ยวมึง อีแพลน ไปนั่งกีบพวกน้องว่าน กูกับอีน้องไปกับพอใจ”


พี่แพลนพยักหน้ารับ เมื่อตกลงกันเรียบร้อยก็พากันแยกย้ายไปที่จอดรถ เราจอดรถกันคนละฟากของคณะเลย ผมจอดหน้าคณะเพราะมาเช้ากว่า ส่วนว่านจอดเลยตึกนิติศาสตร์ข้างๆไปนิดหนึ่ง


“อุ๊ย! พี่ลืมกระเป๋า ขึ้นรถกันไปก่อนนะ” คิงพูด
“งั้นเดี๋ยวผมวนมารับครับ”
“โอเคจ้ะ”



พอใจกับชื่นตาเดินเกือบจะถึงรถ ก็ดันมีคนตัดหน้าขวางไว้ซะก่อน พอใจจำได้ว่าคนนี้คือผู้ชายตัวเล็กๆที่อยู่กับโรม


“พี่โปรดมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“พี่จะมาบอกว่าอาทิตย์นี้โรมไม่อยู่ ชื่นสบายใจได้เลยนะ ไม่ต้องกังวล”
“ขอบคุณครับพี่โปรด”
“อื้อ นี่พอใจสินะ”
“ครับ”
“ไว้มีอะไรพี่จะมาบอกอีกทีนะ”
“พี่โปรดไลน์หาชื่นได้นะครับ”


โปรดพยักหน้ารับแล้วโบกมือลา พอใจงงเล็กน้อยที่อยู่ดีๆโปรดก็โผล่มา แล้วโปรดก็ไป สมองยังไม่ทันได้คิดถึงเรื่องมเมื่อกี้อย่างถี่ถ้วนเลย


“เขามาแบบนี้ตลอดเหรอครับ”
“พี่โปรดเหรอ”
“อืม”
“ก็งี้แหละ พี่โปรดชอบแอบๆมา กลัวพี่โรมจะเห็นน่ะ”
“เขาช่วยพี่เหรอ”
“ใช่ เขาคงห้ามพี่โรมไม่ได้ เลยมาส่งข่าวทางนี้แทน”
“น่าสงสารนะครับ”
“หือ?”
“ไม่น่าเป็นเพื่อนกันเลย เขาดูเหนื่อย”
“แต่มันก็เลือกไม่ได้นี่นะ”


พอใจวนรถมารับคิงที่ยืนรออยู่หน้าคณะแล้ว พอได้ขึ้นรถ คิงก็เอาแต่บ่นว่าอากาศร้อนมาก เดินออกมารอแค่แปปเดียวก็เหมือนไปเล่นสงกรานต์มา ซึ่งก็จริง คิงตัวเปียกไปหมด พอใจได้แต่ฟังคิงบ่นไปเรื่อย มีหัวเราะคลอไปบ้าง

 
“เอาไรดีครับพี่ๆ”
“แพงๆเลยดีมั้ยมึง” แพลนเอ่ยเย้า เพราะวันนี้ไม่ได้จ่ายเอง
“พี่น่ะหยุดเลยครับ ไม่ได้ช่วยอะไรเลยเถอะ”
“โห่ ไรวะ” แพลนกับมังกรหัวเราะ


พวกเราสั่งอาหารไปเยอะมากๆ คนนั้นอยากกินนี่ คนนี้อยากกินนั่น เลือกกันไม่ได้ สรุปก็สั่งกันมาหมดเลย แต่ดูจากท่าทีแล้ว คงจะกินกันหมดอ่ะครับ ทุกคนดูหิวมาก เอาจริงๆผมก็หิวด้วย


“พอใจเอาน้ำอะไร”
“น้ำเปล่าก็ได้ครับ”


ชื่นตานั่งอยู่ติดชั้นที่วางเครื่องดื่ม ทำมห้ต้องกลายเป็นคนเสิร์ฟน้ำไปโดยปริยาย ซึ่งเขาก็ไม่ได้บ่นอะไร ชื่นตาค่อยๆส่งแก้วน้ำให้แต่ละคนจนครบทั้งโต๊ะแล้วถึงเดินมานั่งลง


“ผ่านแล้วแบบดีๆ หรือแบบฉิวเฉียดล่ะ” ชื่นตาถาม
“โหห คุณชื่น พอแก้แล้วมีแค่พอใจคนเดียวที่ได้คะแนนดี พวกหนูก็หวิดตกอีกรอบ”
“ฮ่าๆ” ทุกคนหัวเราะให้กับอาการตัดพ้อของโมกข์ เป็นเรื่องจริงที่เอาไปส่งแก้พร้อมกันแต่ผมได้คะแนนดีกว่า น่าจะเป็นเพราะผมเรียบเรียงแล้วก็เคาะวรรคใหม่เกือบทั้งหมด


“ขออนุญาตเสิร์ฟค่ะ”


เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ เสียงคุยที่เคยเจื้อยแจ้วก็ค่อยๆเลือนหาย กลายเป็นเสียงช้อนกระทบจานแทน ทุกคนกินข้าวกันไม่พูดไม่จา ดูท่าว่าอีกไม่นานก็คงจะหมด หนักสุดคงจะเป็นว่าน รายนั้นกินเอาๆ จนข้าวจะหมดโถอยู่แล้ว


“ว่านไม่ได้กินข้าวเช้าเหรอวะ” แพลนแซว
“พวกพี่ไม่รู้อะไร ปกติมันก็กินเหมือนยัดห่า ละวันนี้หิว กินจานได้คงกินแล้ว โอ๊ย!”มังกรพูดจบก็มีฝ่ามือพิฆาตฟาดลงกางหัวพอดี มันบ่นงึมงัมที่โดนทำร้ายแต่ไม่ได้รับความเห็นใจเพราะทุกคนเอาแต่หัวเราะ


ว่านมันกินเยอะจริงๆ ปกติก็กินสองจาน พอหิวก็คูณสองเข้าไป เผลอๆคูณสาม กินเยอะอย่างนี้มันก็ยังตัวเล็กอยู่ดี ตัวบางพอๆกับชื่นตา สูงกว่านิดหน่อย แต่เห็นตัวเล็กๆงี้มือหนักชิบหายเลย เคยโดนลูกหลงตอนไอ้มังกรมาหลบหลังทีหนึ่ง หลังแทบหัก


และอาหารบนโต๊ะก็หมดลง ทุกจานเกลี้ยง แทบจะไม่เหลือเศษผัก สภาพของทุกคนคือนั่งพิงเก้าอี้อย่างหมดแรง อิ่มจนไม่สามารถนั่งหลังตรงได้เพราะจะแน่นท้อง ที่สุดของความอิ่ม ต้องนั่งเกือบยี่สิบนาทีถึงจะสามารถลุกไปจ่ายเงินได้


“กลับกันยังไงล่ะทีนี้” แพลนเอ่ยถาม เพราะมารถแค่สองคัน นั่นหมายความว่าว่านกับพอใจต้องวนส่ง ไม่งั้นก็ขึ้นแท็กซี่กลับ
และการตัดสินใจจบลงที่ว่ามังกร โมกข์ กลับรถว่านเหมือนเดิม ชื่นตากับคิงก็กลับรถพอใจเหมือนเดิม แพลนเสียสละกลับแท็กซี่เพราะบ้านอยู่คนละทางกับทุกคน


“พี่คิงอยู่หอZใช่ไหมครับ”
“ใช่จ้า อุ๊ย! แอบชอบพี่ป่ะเนี่ย มารู้หงรู้หอ”
“ฮะๆ”
“เบอร์ห้อง805นะจ๊ะ”
“ห้องกูไอ้สัด”


พอใจเคยได้ยินชื่นตาพูดหยาบๆกับเพื่อนอยู่บ้าง ตอนแรกก็แปลกๆ เพราะพอใจมองว่าชื่นตาดูเป็นผู้ชายอบอุ่น สุภาพ คุณชาย แต่จริงๆแล้วชื่นตาก็แค่เด็กผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นเอง








วันหยุดสุดสัปดาห์วนมาถึงอีกครั้ง พอใจนอนเต็มอิ่มแล้วจึงลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว เขามีแพลนในหัวว่าจะไปทำอะไร ที่ไหน เสร็จกี่โมงแล้วเรียบร้อย แต่ก่อนที่จะได้เริ่มทำ เราก็ต้องหาผู้ร่วมเดินทางซะก่อน


พอใจกดลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นแปด เดินมาหยุดที่หน้าห้อง805 แล้วก็กดกริ่ง พอใจไม่ได้บอกชื่นตาไว้ก่อน กะว่าจะมาเซอไพรส์ ลืมคิดไปว่าชื่นตาอาจจะยังไม่ตื่น ก็เลยเจอกันในสภาพที่อีกคนใส่ชุดนอน หัวยุ่ง ผมชี้โด่ชี้เด่ ยืนขยี้ตาอยู่แบบนี้


“หาววว พอใจ มีไรเหรอ”
“ฮะๆ”
“ตลกอะไร” พอใจยื่นมือไปจัดผมยุ่งๆของชื่นตา แล้วก็ดึงแก้มเบาๆให้อีกคนตื่น
“จะพาไปเที่ยว ไปไหมครับ”
“ไปเที่ยว! กับพอใจเหรอ”
“ครับ”
“ไป!”
“เข้ามารอก่อนนะ”


ชื่นตาพาอีกคนมานั่งที่โซฟาแล้วตัวเองก็วิ่งเข้าห้องนอนไปอาบน้ำแต่งตัวเหมือนเด็กที่ตื่นสายแล้วจะไปโรงเรียนไม่ทัน พอใจถือวิสาสะเปิดตู้เย็นดูเพื่อหาวัตถุดิบในการทำอาหารเช้า


เมื่อเจอของที่สามารถใช้ได้ พอใจก็ลงมือทำอาหารอย่างคล่องแคล่ว เสร็จทันอีกคนแต่งตัวเสร็จพอดี


“มากินข้าวครับ”
“อะไรเหรอ” ชื่นตาชะโงกหน้าดูในถ้วย
“ข้าวต้มหมูครับ”
“หูวว คราวหลังสอนเราบ้างนะ”


พอใจตอบรับแล้วก็นั่งลงตรงข้ามชื่นตา ทั้งสองคนจัดการอาหารเช้ากันไปคนละสองถ้วย เมื่ออิ่มท้องแล้ว กองทัพก็สามารถเดินทางได้ หมายถึงกองทัพที่มีแค่เขากับชื่นตาน่ะนะ


“เราจะไปไหนกันเหรอ”
“นี่ครับ” พอใจยื่นโบชัวอควาเรียมกลางห้างไปให้ชื่นตา จริงๆพอใจอยากพาอีกคนไปดูวาฬ แต่มันไม่มีแถวนี้น่ะสิ เอาพวกปลาเล็กๆไปก่อนก็แล้วกัน


“อควาเรียม สวยจังเลย” ชื่นตาเปิดดูรายละเอียดต่างๆในโบชัวอย่างสนอกสนใจ เขาไม่ได้ทำอะไรแบบนี้นานแล้ว
“ทำไมถึงพาเราไปล่ะ”
“คราวที่แล้วพี่พาผมไป ถือเป็นการแลกเปลี่ยน เพื่อศึกษา…ล่ะมั้ง”
“อื้อ! ดีจังเลย”


เมื่อพอใจเห็นว่าอีกคนมีความสุขดี แล้วก็ตื่นเต้นมากๆ เขาก็ดีใจ ถึงแม้ว่าการที่เราจะเข้าสู่ความสัมพันธ์กับใครสักคนมันจะไม่ใช่แค่การกินข้าว ดูหนัง เดินเที่ยวก็ตาม แต่สิ่งนี้มันเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสามารถดูได้ว่า เราจะไปข้างหน้าด้วยกันได้หรือเปล่า พอใจเลยพาตัวเองออกมาเที่ยวกับชื่นตา


เขาไม่ใช่คนเข้าสังคมเก่งนัก บางทีก็อึดอัดกับคนเยอะๆ เขาอยากรู้ว่าตัวเองจะสามารถปรับตัวเข้าหาชื่นตาได้หรือเปล่า พอใจคิดว่ามันคงจะไม่ลำบากเกินไปหรอก อย่างน้อยๆตอนนี้ชื่นตาก็ยังไม่เคยลากเขาเข้าหาฝูงชน


ด้วยความที่เป็นวันหยุดของคนส่วนใหญ่ ในห้างเลยมีคนเยอะมาก ยังดีที่วันนี้ไม่ตรงกับวันที่ห้างจัดอีเว้นท์ เพราะถ้ามีงานอีเว้นท์ที่มีดารานักร้องมา พอใจคงถอดใจและชวนชื่นตากลับคอนโดแล้ว


เราซื้อตั๋วกันคนละหนึ่งร้อยบาท ใช้บัตรนักศึกษาลดราคาได้อีกยี่สิบบาท โซนแรกที่เข้ามาเห็นจะเป็นพวกปลาตัวเล็กๆกับงูทะเล


“ตัวนี้น่ารักเนอะ” ชื่นตาชี้ไปที่ปลาการ์ตูน
“นีโม่”
“ช่ายยย”


เราเดินกันช้าๆ ไม่รีบ ดูกันไปทีละตู้ มีเด็กๆอยู่รอบตัวเราเยอะมาก มากันเป็นครอบครัว มีทั้งเด็กที่ร่าเริง และเด็กที่ร้องไห้เพราะกลัวปลา แต่มันก็ไม่ได้ทำให้พอใจหรือชื่นตาหงุดหงิด


“ไปตรงอุโมงค์กันดีกว่า”
“อื้อ ถ่ายรูปให้หน่อยนะ”


เมื่อเดินมาถึงไฮไลท์ของอควาเรียม ก็อุโมงค์ที่ลอดใต้น้ำ มีปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายผ่านไปมา ชื่นตาเอามือไปเกาะกระจกเหมือนเด็กคนข้างๆที่ทำท่าแบบเดียวกัน พอใจหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป ก็กดรัวไแปหลายรูปอยู่เหมือนกัน


“ถ่ายตรงนี้ๆ” ชื่นตายืนอยู่ตรงกลางของอุโมงค์ ส่งยิ้มอบอุ่นให้กับกล้องให้พอใจกดถ่ายอยู่ห้าหกช็อต
“ขอดูหน่อย” พอใจปล่อยให้เจ้าตัวเช็ครูปในตัวเองในกล้องไปจนพอใจ แล้วพวกเราก็เดินต่อไปเรื่อยๆ อุโมงค์ไม่ได้ยาวมากเท่าไหร่นัก แต่ระหว่างทางเราก็หยุดดูนั่นนี่บ่อย โดยเฉพาะปลากระเบนที่ชื่นตาหยุดดูนานมาก ท่าทางจะชอบตัวนี้


เมื่อเดินดูจนพอใจแล้ว เราก็ไปหาอาหารกลางวันกัน เลือกร้านที่คิดว่าคนน้อยที่สุดในห้าง สั่งเมนูง่ายๆของใครของมัน แล้วก็กินไปคุยไป


“ฮ้าา ออกมาได้แล้ว คนเยอะมาก”
“วันหยุดนี่ครับ”
“ป่ะ กลับกันเถอะ”
“ใครว่าเราจะกลับครับ” ชื่นตาที่ชูมือขึ้นเหมือนจะพูดว่า‘เย้’อยู่ก็ต้องลดมือลง แล้วหันมาทำหน้างงใส่แทน
“เราจะไปต่อครับ”
“ไปไหนอ่ะ”
“เป็นที่ลับของผม”


พอใจบอกแค่นี้แล้วก็ขึ้นรถ ทำให้ชื่นตาต้องตามขึ้นมาแบบงงๆ เมื่อพอใจไม่ได้พูดต่อ ชื่นตาก็เลยไม่ถาม ว่าง่ายดี ถ้าเกิดเขาเอาไปขาย ชื่นตาจะรู้ตัวเมื่อไหร่กันหนอ พอใจนึกตลกอยู่ในใจ







*********************


ใครว่างๆก็มาคุยกับเราในทวิตเตอร์ได้นะคะ @zhaofah หรือจะ #คุณชื่นตาก็ได้ รออ่านคอมเมนท์นะคะ :hao5:


ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: คุณชื่นตา--10--<28/4/2019>
«ตอบ #22 เมื่อ28-04-2019 15:13:48 »

 :pig4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: คุณชื่นตา--10--<28/4/2019>
«ตอบ #23 เมื่อ28-04-2019 17:14:19 »

 :hao3: :hao3:
น่ารักจังคู่นี้

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: คุณชื่นตา--10--<28/4/2019>
«ตอบ #24 เมื่อ29-04-2019 17:46:02 »

น่ารักทั้งคู่เลย ใจบาง
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter11:3/5/2019>
«ตอบ #25 เมื่อ03-05-2019 12:22:49 »

11





สถานที่ลับที่พอใจหมายถึง เป็นร้านหนังสือเล็กๆในซอยใกล้ๆกับห้างที่เรามา ร้านหนังสือแห่งนี้เป็นร้านที่รวบรวมหนังสือหายาก หนังสือเก่าที่ไม่มีผลิตแล้ว ถ้าอยากได้เล่มไหนที่ทางร้านไม่มี เขาก็จะไปหามาให้จนได้ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้พอใจรู้สึกว่าร้านนี้พิเศษกว่าร้านอื่น


นอกเหนือจากนั้น ยังมีอีกเรื่องที่คนแวะเวียนมาทั่วไปอาจจะไม่รู้กัน ก็คือที่นี่มีชาเสิร์ฟให้ได้อ่านหนังสือในชั้นบนของร้าน แล้วชาที่เอามาเสิร์ฟเนี่ย ก็มีขายเป็นถุงด้วย พอใจซื้อชาจากที่นี่บ่อย บางทีก็มาขอให้ที่ร้านหาชาที่ต้องการให้ด้วย


“หูว ใหญ่นะเนี่ย”
“พี่ชื่นเอาชาไหมครับ”
“เอาๆ”


พอใจเดินไปสั่งชาที่เคาท์เตอร์ ปล่อยให้ชื่นตามองไปรอบๆอย่างตื่นตาตื่นใจก่อน


“เอาชา2ที่ครับ”
“รับชาอะไรดีครับ”
“ชาประจำวันครับ”
“รอที่โต๊ะชั้น2เลยนะครับ”


ที่ร้านสามารถสั่งชาอะไรก็ได้ที่มี แต่จะมีเมนูชาประจำวันเสมอ ชาประจำวันมักจะเลือกจากบรรยากาศในวันนั้นๆ ถ้าอากาศอึมครึม อาจจะเป็นชาผลไม้ ให้ร่างกายมันสดชื่น พี่แพงเจ้าของร้านเคยบอกมา


พวกเราเดินขึ้นไปที่ชั้นบนของร้าน มุมนี้จะเป็นหนังสือที่อ่านฟรี ดื่มชาแล้วอ่านไปด้วยได้ ส่วนชั้นล่างก็จะเป็นหนังสือที่ต้องซื้อกลับ


“บรรยากาศดีเหมือนกันนะ คนน้อยด้วย”
“จริงๆคนจะเยอะช่วงเย็นครับ เลิกงาน”
“ขออนุญาตเสิร์ฟครับ ชาประจำวันนี้คือชาเปปเปอร์มินต์นะครับ ขอให้อร่อยครับลูกค้า”


กลิ่นหอมสดชื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเปปเปอร์มินต์ลอยมาเตะจมูก การดื่มชาสดชื่นๆในวันอากาศร้อนๆช่างเป็นอะไรที่เข้ากัน ที่ร้านเปิดเพลงคลอเบาๆ ทั้งพอใจและชื่นตาจมเข้าสู่โลกของหนังสือที่ตัวเองเลือกมา เงียบแต่ไม่อึดอัด


จนกระทั่งชาในแก้วของทั้งคู่หมดลง พอใจเลยตัดสินใจว่าจะลงไปเลือกหนังสือกลับบ้านกันคนละเล่มสองเล่มแล้วก็กลับคอนโด ใกล้ถึงเวลาเลิกงานของมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายแล้ว ถ้าช้ามากก็เกรงว่ากว่าจะกลับถึงคงกินเวลาไป3ชั่วโมง


พอใจได้หนังสือที่สนใจมาหนึ่งเล่ม และชื่นตาก็ได้มาหนึ่งเล่ม จ่ายเงินแล้วก็เดินทางกลับคอนโดกัน ร้านหนังสือเป็นสวรรค์ของคนที่รักการอ่านหนังสือ ถึงแม้ว่าตอนเรียนจะต้องอ่านเยอะมากๆ แต่เขาก็ยังชอบที่จะอ่านอยู่


“เปิดวิทยุนะ”
“ครับ”



รถหนึ่งคันฉันกับเธอ
วิ่งละเมอวิ่งหลงทาง
นอกหน้าต่างฉันและเธอ
ดีเหลือเกินดีเหลือเกิน
รถหนึ่งคันฉันกับเธอ
วิ่งละเมอวิ่งหลงทาง
นอกหน้าต่างฉันและเธอ
ดีเหลือเกินดีเหลือเกิน




****************




หลังจากไปร้านหนังสือกัน พอใจกับชื่นตาก็มีการกินอาหารเช้าและเย็นร่วมกันอยู่ตลอด ในเวลาหนึ่งสัปดาห์ก็ถือว่าเรียนรู้ไปได้ประมาณหนึ่ง มีบางวันที่ไปพร้อมกัน กลับพร้อมกันบ้าง มีหลายๆคนสนใจมองและซุบซิบอยู่ แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร


“ไปละ บายย”


ชื่นตาเดินแยกขึ้นตึกเพื่อไปเรียน ส่วนพอใจเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง เขาเลยคิดว่าเดี๋ยวไปหาอะไรกินในโรงอาหารก่อนละกัน


“เฮ้ย มึงชื่อพอใจใช่ป่ะ” พอใจหันไปตามเสียง
“โรม ไม่เอา”
“เงียบๆดิโปรด ว่าไง ใช่ป่ะ”
“ใช่ครับ” โรมมองพอใจหัวจรดเท้าด้วยสายตาเหยียดๆ นั่นทำให้พอใจเริ่มขมวดคิ้ว
“เด็กแบบนี้อ่ะนะ ที่ชื่นเลือก ธรรมดาชิบหาย”
“โรม!” พอใจไม่ได้ตอบอะไร เขามองโรมเหมือนที่โรมทำกับเขา แต่ไม่ใช่ด้วยสายตาเหยียดหยาม


“มึงมองอะไรวะ”
“มองพี่อ่ะ ก็ดูดีหนิครับ”
“เออ”
“แต่ทำไมพี่ชื่นไม่เลือก พิจารณาตัวเองดูสิครับ”
“มึง!” โรมพุ่งเข้าใส่พอใจ เงื้อหมัดจะต่อย แต่โปรดดึงไว้ก่อน พอใจไม่ได้หลบหรือมีท่าทีกลัวต่อโรมเลยแม้แต่น้อย


“แค่นี้ใช่ไหมครับที่มาหาผม จะได้ไป เสียเวลา”
“พอใจไปเถอะ” โปรดหันมาพูดด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี ยื้อหยุดอยู่กับโรมอยู่อย่างนั้น พอใจก็เลยหันหลังเดินออกมาโดยไม่สนใจอีก ในใจก็ได้แต่คิดว่าโปรดไม่น่าไปอยู่ตรงนั้นเลย ไม่ใช่ที่ข้างๆโรม เขาเหนื่อยแทน





*****************




“เฮ้ย! เสร็จแล้วไปไหนต่อวะพอใจ”
“กลับคอนโดมั้ง”
“มึงง ไปกินอันนี้กันก่อนเถอะ” โมกข์ส่งโบชัวร้านขนมหวานที่เพิ่งจะมาเปิดใหม่ไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัยนัก



“เหอะนะ กูอยากกก”
“ไปมั้ยพวกมึง” มังกรสังเกตท่าทีของเพื่อนๆ เมื่อทุกคนไม่ได้มีธุระอะไร ทั้งสี่คนก็เลยมุ่งหน้าไปที่ร้านขนมที่โมกข์อยากกิน
มันเป็นร้านขนมไทยที่ตกแต่งสวยงาม ไม่ดูหวานมากเกินไป มีขนมที่ไม่ค่อยจะเห็นร้านไหนขาย แต่พอใจน่ะชินแล้ว แม่เขาทำขนมพวกนี้บ่อยจะตาย


“พวกมึงเอาไร นี่เมนู” พอใจรับเมนูมาดู
“เอาขนมพระพายกับอัญชันมะนาว” นี่คือขนมที่พอใจเลือก


เพื่อนๆคนอื่นใช้เวลาเลือกอยู่สักพักเพราะเป็นขนมที่ไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ จริงๆพอใจจะทำกินเองก็ได้ แต่มันต้องใช้เวลา และเขาทำไม่อร่อยเท่าแม่ นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่พอใจคิดว่าควรรอกลับบ้านค่อยกิน


“ร้านนี้ดีเนอะ มีขนมที่ไม่เคยเห็นเยอะเลย” มังกรพูดพร้อมกับหยิบลูกชุบเข้าปาก


พวกเราใช้เวลาดื่มด่ำดับของหวานเป็นชั่วโมง จนกระทั่งอิ่มกันแล้ว พอใจก็เหลือบไปเห็นขนมอย่างหนึ่งที่ไม่ได้กินนานแล้ว พอใจซื้อขนมนั้นมากลับมาที่ห้องหนึ่งกล่อง แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อมันไม่อร่อยอย่างที่คิด


[ฮัลโหลพอใจ ว่าไงลูก]
“เดี๋ยววันศุกร์จะกลับบ้านนะแม่”
[ให้พ่อไปรับไหมลูก]
“เดี๋ยวไปเองก็ได้แม่ แต่ว่าทำขนมไว้ให้หน่อยสิ”
[ขนมอะไรฮึ]
“เสน่ห์จันทร์”
[ก็ได้ แต่นึกยังไงถึงอยากกิน]
“ไปเจอร้านหนึ่ง ซื้อมาแล้วมันไม่อร่อย”
[แน่นอนสิ ไม่มีใครทำอร่อยเท่าแม่หรอก]
“ครับคุณนาย”
[วันศุกร์เจอกันลูก]


เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว พอใจก็หยิบหนังสือที่ซื้อมาขึ้นมาอ่าน ก่อนหน้านี้มีงานกลุ่ม ทำให้เขายังอ่านไม่จบสักที พอใจใช้เวลาอยู่กับหนังสือจนกระทั่งสามทุ่มจึงลุกไปอาบน้ำ


เขาไม่ได้ถ่ายรูปมาสักพัก คิดว่าคงถึงเวลาที่ต้องสั่งฟิล์มแล้ว รอบนี้พอใจอยากให้สีมันสดขึ้นหน่อยเลยเลือกเป็น Agfa precita CT 100 มาหนึ่งม้วน แล้วก็ Agfa vista 200 อีกหนึ่งม้วน ฟิล์มกันตายของพอใจอีกสองม้วนก็คือ Kodak potra 160 เมื่อบอกให้ลุงเกริกเก็บฟิล์มไว้ให้เรียบร้อย พอใจก็เล่นโทรศัพท์จนดึกดื่น แล้วก็เข้านอน





พอใจตื่นมาพร้อมกับอาการสะลึมสะลือเพราะเมื่อคืนนอนดึก ทำให้ยังนอนได้ไม่เต็มอิ่ม เมื่ิใช้เวลาปลุกตัวเองบนเตียงสักพัก พอใจก็ลุกไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารเช้า


เมื่อวันก่อนพอใจเปิดไปเจอวิดีโอในยูทูปที่ทำแซนด์วิชไส้ผลไม้ที่กำลังฮิตกันอยู่ตอนนี้ พอใจเลยไปซื้อผลไม้มาไว้เพื่อทำไปกินตอนเช้า สิ่งที่พอใจซื้อมามีสตอว์เบอร์รี่ พีช และกล้วยนอกจากนั้นก็มีวัตถุดิบอื่นๆที่ต้องใช้ อย่างครีมสดและขนมปังที่ซื้อมาเพิ่ม
เริ่มจากการตัดขั้วสตอว์เบอร์รี่และหั่นครึ่ง หั่นพีชเป็นชิ้น ปลอกกล้วย หั่นให้มีขนาดใหญ่หน่อย จากนั้นพอใจก็ตีครีมสดกับน้ำตาล แล้วก็ปาดครีมลงบนหน้าขนมปัง พอใจทำไปเผื่อคนห้อง805 กับเพื่อนด้วย เลยใช้ขนมปังค่อนข้างเยอะ วางผลไม้แล้วก็ปาดครีมทับอีกที ประกบขนมปังอีกฝั่งลงไป แร็บขนมปังแช่ตู้เย็นไว้แล้วก็ไปอาบน้ำ


อาบน้ำเสร็จร่างกายก็สดชื่นขึ้นมา จากที่มึนๆอึนๆก็ตื่นแล้ว พอใจหยิบแซนด์วิชออกมาจากตู้เย็น แกะแร็บที่ห่อไว้ หั่นขอบขนมปังทิ้งไป แล้วก็หั่นครึ่ง เท่านี้ก็ได้แซนด์วิชที่ต้องการแล้ว พอใจกินส่วนของตัวเองเรียบร้อย ก็เอาที่เหลือห่อใส่ถุง
พอใจเอาถุงมาห้อยไว้หน้าห้อง805 พร้อมกับโทรศัพท์ไปปลุกเจ้าของห้องที่มีเรียนตอนบ่าย

 
[อืมม ว่าไง]
“ผมเอาแซนด์วิชห้อยไว้หน้าห้อง รีบออกมาเอานะครับ เดี๋ยวมันไม่อร่อย”


ตอนที่พอใจเดินไปถึงหน้าลิฟต์แล้ว ประตูห้องก็เปิดออก พร้อมกับชื่นตาที่เดินออกมาแบบตายังไม่เปิด


“ขอบคุณนะพอใจ”
“ครับๆ เอาแช่ตู้เย็นไว้แล้วนอนต่อนะ” พอใจลูบหัวชื่นตาที่เดินมาหาหน้าลิฟต์
“อื้อ”
“ผมไปเรียนแล้ว”
“บ๊ายบาย หาวว” พอใจขยี้หัวชื่นตาด้วยความขำแล้วก็ลงลิฟต์ไป


เขามาถึงก่อนคลาสเริ่ม15นาที แจกจ่ายแซนด์วิชให้กับเพื่อนผู้หิวโหยทั้งหลาย แล้วก็เล่นโทรศัพท์รอ


“อึงอำอับอะอ่อยอิบอ๋ายเอยอ่ะ” โมกข์พูดทั้งๆที่มีแซนด์วิชอยู่เต็มปาก
“มึงพูดอะไร”
“มึงทำอร่อยชิบหายเลย กูแปลให้ โมกข์แม่งไร้ซึ่งความเป็นกุลสตรี”
“อีมังกร” แล้วสงครามก็เริ่มขึ้นก่อนจะจบลงเพราะว่านหยิบแซนด์วิชชิ้นสุดท้ายขึ้นมา


“ไอ้เหี้ยว่าน! ของกู”
“ก็พวกมึงเอาแต่ตีกัน” พูดแล้วก็งับแซนด์วิชเข้าปาก มังกรมองแซนด์วิชตาละห้อย ว่านมันคงสงสาร เลยยื่นที่เหลือครึ่งหนึ่งให้


“อ่ะ เอาไป”
“ขอบใจเพื่อน” มังกรรีบที่เหลืออยู่มากินให้หมดอย่างรวดเร็วเหมือนกลัวว่าว่านจะหยิบคืน
“พวกมึงไร้สาระ ทำอีกก็ได้ป่ะ”
“มึงไม่ได้ทำมาเผื่อบ่อยนี่หว่า”
“มึงไม่ได้จ่ายตังค์ ทำบ่อยก็เปลืองสิวะ”
“โถ่เพื่อนน” และหลังจากนั้นทุกเสียงก็ต้องเงียบไปเมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้อง



********************

“ง่วงชิบหายเลย” มังกรพูดไปหาวไป
“มีคลาสไหนมึงไม่ง่วงบ้างอ่ะ”


พวกเรามุ่งตรงไปที่โรงอาหารเพื่อกินอาหารกลางวันกัน วันนี้มีคลาสจนถึงเย็น ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง ต้องหาอะไรกินก่อน เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง


“เอาไก่ต้ม4จานครับ” เพื่อเป็นการประหยัดเวลา พอใจกับว่านมาซื้อข้าว โมกข์กับมังกรไปซื้อน้ำ กินเหมือนๆกันให้หมด
“อ่ะนี่น้ำ”


ว่านกินหมดคนแรก ดูเหมือนว่าแค่ข้าวมันไก่มันจะไม่ยาไส้ มันเลยลุกไปหาของหวานกิน พวกเราที่เหลือก็รีบจัดการอาหารตรงหน้า จะได้มีเวลาเหลือทำอย่างอื่นบ้าง


“พอใจ”
“หือ?”
“เมื่อกี้กูไปซื้อของหวาน เจอพี่โรม” พอใจที่กินข้าวเสร็จพอดีเงยหน้าขึ้นมาฟัง


“ได้ยินพี่มันคุยโทรศัพท์ บอกว่าจะปิดผับเลี้ยง ให้ปี2ชวนพี่ชื่นให้ได้ อันตรายนะมึง” พอใจนิ่งไปสักพัก
“อืม กูจะไปเตือน” พวกเราทุกคนเงรยบเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“มึง กูว่านะ ไม่ต้องให้พี่ชื่นไปดีกว่า บอกพี่คิงกับพี่แพลนไว้ด้วย แม่งโคตรอันตราย” พวกนี้รู้เรื่องของพี่โรมในวันที่เราไปเลี้ยงข้าวพี่ๆคราวนั้น ก็เลยช่วยเป็นหูเป็นตามาโดยตลอด


ผมเห็นด้วยนะ ไม่อยากจะคิดไปถึงว่ากรณีที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นคืออะไร ยังไงซะก็ไม่ทำให้มันมีช่องโหว่ที่จะเกิดขึ้นดีกว่า อีกอย่างศุกร์นี้เขาจะชวนชื่นตากลับบ้านพร้อมกันอยู่แล้ว หาเรื่องให้ยุ่งๆ จะได้มีข้ออ้างไปปฏิเสธ

 
บางทีพวกเห็บหมัดมันก็หน้าด้านหน้าทน เกาะติดเป็นเหาฉลาม ถ้าไม่หาวิธีรุนแรงหน่อย ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหายไป ตลอดทั้งคลาส พอใจก็ได้แต่คิดหาวิธีกำจัดหมัด ควรจะใช้ไม้ไหน หมัดตัวนี้มันถึงจะตาย แบบถาวร ไม่มายุ่งเกี่ยวกันอีก










เวลาขับรถ - the toys


*****************************

พอใจนางก็มีมุมดุๆเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: คุณชื่นตา--10--<28/4/2019>
«ตอบ #26 เมื่อ03-05-2019 17:38:19 »

 :z6:
เอาอีตาโรมไปเก็บแป๊ป

 :L2: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter12:15/5/2019>
«ตอบ #27 เมื่อ15-05-2019 13:44:07 »

12







หลังจากเรียนอย่างหนักหน่วงมาทั้งอาทิตย์ รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่พอเป็นวันศุกร์แล้วจิตใจมันก็เริงร่าขึ้นมา ชื่นตาจะได้กลับบ้านแล้ว เย้!


ตอนที่พอใจบอกว่าจะกลับบ้านในวันศุกร์ แล้วชื่นตาจะกลับด้วยไหม เขาก็รีบตอบตกลงไปทันที ถึลงแม้มันจะไม่ใช่บ้านที่เป็นบ้านของเขาจริงๆ แต่เวลาอยู่ที่นั่นเขาก็รู้สึกว่ามันสบายเหมือนอยู่บ้าน เป็นบ้านหลังที่สองเลยก็ได้


ชื่นตาเรียนเสร็จสี่โมงเย็น ช้ากว่าพอใจหนึ่งชั่วโมง พอใจเลยกลับไปรอที่คอนโดแล้ว ตอนนี้ชื่นตาเลยรีบเก็บของเพราะไม่อยากให้พอใจรอนาน


ชื่นตาแยกกับเพื่อนตั้งแต่หน้าห้องเพราะเดินลงมาคนแรก แต่ไม่รู้ว่าเพราะซวยหรืออะไรนำพา เขาเห็นโรมยืนอยู่ตรงหน้าบันได จะไม่ผ่านก็ไม่ได้อีก


“ชื่น”
“สวัสดีครับพี่โรม”
“วันนี้พี่เลี้ยงที่ผับไอ้ไวท์ ไปด้วยกันสิ พี่ชวนเพื่อนๆเราทั้งรุ่นเลย”
“เลี้ยงเนื่ิองในโอกาสอะไรเหรอครับ”
“เสียใจนะเนี่ย วันเกิดพี่ไง”
“อ๋อ แต่ขอโทษนะครับพี่โรม ชื่นไม่ว่างวันนี้”
“ไปไหน กับไอ้เด็กพอใจนั่นเหรอ” โรมเสียงแข็งขึ้นมา
“ชื่นกลับบ้านครับ”
“โถ่ ชื่น บ้านจะกลับเมื่อไหร่ก็ได้น่า ไปเถอะ พี่เลี้ยง จะดูแลเราอย่างดีเลย” โรมดึงมือชื่นตาไปจับ แต่ได้ไม่กี่วินาที ชื่นตาก็สะบัด


“ก็ผมบอกว่าไม่ว่าง ขอตัวครับ” ชื่นตารีบเดินหนีออกมาแต่ก็ไม่วายโดนจับไว้
“ชื่น! อย่าเล่นตัวน่ะ”
“พี่อย่ามายุ่งกับผมได้ไหม!” ชื่นตาตะคอกเสียงดังเพราะทนไม่ไหวกับโรมแล้ว ด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังนั้นทำให้คนที่นั่งอยู่ใต้คณะกับเพื่อนที่กำลังเดินมาหันมาสนใจ และชื่นตาก็ดีใจที่คิงกับแพลนลงมาสักที


“พี่ปล่อยเพื่อนผมดีกว่าครับ”
“ไม่ต้องยุ่ง”
“คนที่ไม่ควรยุ่งก็คือพี่นั่นแหละค่าา เขาหนีพี่มาตั้งแต่ปีหนึ่งก็ยังไม่รู้อีกว่าเขาไม่เอา พอเขาปฏิเสธตรงๆ ไล่ก็แล้ว ก็ยังหน้าด้านอยู่ พี่ใช้อะไรทาหน้าเหรอคะ”



ด้วยประโยคนี้ทำให้คนรอบๆพูดคุยซุบซิบกัน ผมอาศัยจังหวะที่พี่โรมหันไปมองสะบัดมือเขาออก แล้วมายืนหลบหลังคิงอีกที
“มึง!” โรมเดินเข้าหาคิงเหมือนจะมาทำร้ายร่างกาย แต่โดนแพลนสะกัดไว้ก่อน


“ควบคุมอารมณ์หน่อยพี่ นี่ในมอ ถ้ามีเหตุอะไรขึ้นมาพวกผมก็พยานเยอะนะ” โรมได้แต่ยืนกัดฟัน
“เลิกมายุ่งกับเพื่อนหนูได้แล้วค่ะคุณพี่ เขาไม่เอาก็แปลว่าเขาไม่เอานะคะ อ่ะ พี่โปรดมาละ มาค่าาา! มาเก็บเพื่อนพี่” คิงกวักมือเรียกพี่โปรดหยอยๆ สองคนนี้น่าจะเป็นคนเรียกพี่โปรดมาเอง หอพี่โปรดอยู่ใกล้ๆ คงรีบมาพอตัวเลย เหงื่อซ่กเชียว


“โรมกลับ”
“อย่ามายุ่ง”
“กูบอกให้กลับ!” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินพี่โปรดตะคอกใส่พี่โรม และดูเหมือนพี่โรมเองก็ตกใจเหมือนกัน
“อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงจะทำอะไร กลับเดี๋ยวนี้!” แล้วพี่โรมก็เดินจ้ำอ้าวออกไปอย่างหงุดหงิด
“พี่ขอโทษด้วยนะ พี่เพิ่งรู้เรื่องเมื่อกี้”
“ไม่เป็นไรครับพี่ ไม่เคยเห็นพี่โปรดตะคอกใส่พี่โรมอย่างนี้เลยนะครับ”
“พี่เหนื่อยน่ะ หมดความอดทนแล้ว!
“เหนื่อยหน่อยนะพี่ สู้ๆครับ”
“อื้อ ชื่นรีบกลับเถอะ”


ชื่นตามองดูเวลาก็พบว่ามันช้ามากแล้ว เช็คโทรศัพท์ดูก็เห็นว่าพอใจไลน์มาตามสามสี่รอบแล้ว ชื่นตารีบบอกลาเพื่อนแล้ววิ่งไปขึ้นรถ ไม่รู้ว่าพอใจจะยังรอเขาอยู่หรือเปล่า


เมื่อขึ้นรถได้ ชื่นตาก็หยิบโทรศัพท์มาโทรหาพอใจทันที


“ฮัลโหล”
“พอใจ! ยังรออยู่หรือเปล่า”
“รออยู่ครับ ผมอยู่ที่ห้อง”
“เรากำลังรีบไปนะ”
“ไม่ต้องรีบมากหรอกครับ พี่แพลนส่งข้อความมาบอกผมแล้ว”
“โอเค กำลังไปนะ”
“ขับรถดีๆครับ”


ชื่นตาคลายความกังวลลง แล้วตั้งใจขับรถ โชคดีที่วันนี้รถไม่ติดมาก ทำให้ชื่นตามาถึงคอนโดได้ในเวลาไม่นานนัก เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของใช้นิดหน่อยลงกระเป๋า ส่งข้อความบอกพอใจว่าพร้อมแล้ว จึงลงไปรอที่ล็อบบี้


“ไปครับ”


ในระหว่างทางกลับบ้าน ชื่นตาไม่รู้ว่าตัวเองเหนื่อยจากการเรียนหรือการต่อสู้กับโรม ทำให้ตาเขาค่อยๆปิด จนกระทั่งพอใจได้ยินแต่เสียงลมหายใจ เมื่อชะโงกหน้ามาดูก็เห็นว่าอีกคนหลับไปซะแล้ว


พอใจเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มที่เบาะหลังมาคลุมให้ชื่นตา แอบถ่ายรูปเก็บไว้สองสามรูป แล้วก็ตั้งใจทำหน้าที่สารถีให้กับชื่นตาต่อไป


เวลาผ่านไปไม่นานนัก พอใจก็ขับรถมาถึงบ้าน แม่เปิดประตูบ้านรอไว้แล้ว เมื่อจอดรถเรียบร้อย จึงหันมาปลุกชื่นตา


“พี่ชื่นครับ”
“อืออ”
“ถึงแล้วครับ”
“หือ? ถึงแล้วเหรอ” ชื่นตาค่อยๆกวาดสายตามองไปรอบๆแล้วประมวลผลว่าที่นี่คือที่ไหน ก่อนจะนึกออกว่าเป็นบ้านพอใจ
ชื่นตาและพอใจหยิบของตัวเองลงมาจากรถเรียบร้อย แล้วชื่นตาก็ขอตัวกลับบ้าน วันนี้ทั้งสองคนแยกกันในสถานที่ใหม่ เป็นความรู้สึกที่แปลกไป แต่ก็รู้สึกดี ชื่นตาเดินเข้าบ้านไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่ได้บอกป้าไว้


“สวัสดีครับ”
“คุณชื่นมาตอนไหนคะเนี่ย”
“มาเมื่อกี้เลยครับ ป้าชมล่ะครับ”
“อยู่ที่ห้องค่ะ คุณชื่นเอากระเป๋ามาให้ป้าแล้วนั่งรอที่โต๊ะอาหารนะคะ”
“ฝากด้วยนะครับ”


ชื่นตานั่งรอคุณลุง คุณป้าที่โต๊ะอาหาร ล้างมือรอกินข้าวเย็นเรียบร้อย ไม่กี่นาทีทั้งคู่ก็ลงมาจากห้อง ชื่นตายกมือไหว้แล้วสวมกอด อ้อนเหมือนไม่ได้เจอมาเป็นปี นี่ไปไม่กี่เดือน


“คิดถึงจังเลยครับ”
“แหมม พ่อชื่นของป้า ไปยังไม่กี่เดือนเลยลูก”
“ก็ชื่นคิดถึงนี่ครับ คุณลุงด้วย”
“ไม่ต้องพูดเยอะมากหรอกเรา ยังไงก็ได้มรดกลุงไปหมดอยู่แล้ว ฮ่าๆ”
“โถ่ ชื่นไม่ได้หมายถึงแบบนั้นสักหน่อยยย”


ของที่จัดขึ้นโต๊ะวันนี้เป็นอาหารทะเลซะส่วนใหญ่ ชื่นตาจำได้ว่าคุณลุงกับคุณป้าไปพักผ่อนที่ภูเก็ตกันมา นี่คงซื้อมาฝากคนที่บ้านหลายกิโลเลยล่ะ


“กุ้งไหมลูก”
“ขอบคุณครับ คุณป้ากินเถอะ ชื่นแกะเองได้”
“จ้ะ”


ชื่นตากินทั้งกุ้งเผา ปูนึ่ง ปลาหมึกทอด และหอยหลายๆเมนู กินจนพุงกาง นึกว่านั่งอยู่ชายทะเล อาหารที่บ้านนี้อร่อยมาก ป้าพร้อมที่เป็นเแม่ครัวน่ะฝีมือสุดยอด ไม่แพ้ที่ไหนเลยจะบอกให้


“อ้อ วันนี้แม่แววเขาเอาขนมมาฝากแหนะ เห็นบอกลูกชายให้ทำไว้”
“เห? ขนมอะไรเหรอครับ”
“ผิง ไปเอามาหน่อยสิ”


พี่ผิงเดินเข้าไปในครัวสักพักก็ออกมาพร้อมขนมก้อนกลมๆสีเหลือง มีก้านด้วยแฮะ คิดว่าคงทำมาให้ลักษณะคล้ายผลไม้แน่นอน แต่แค่ชื่นตาไม่รู้ว่าขนมชนิดนี้ทำเลียนแบบผลไม้อะไร


“อันนี้คืออะไรเหรอครับ”
“เขาเรียกว่าเสน่ห์จันทร์” คุณลุงตอบ
“ชื่นไม่เคยเห็นเลย ไม่เคยกินด้วย”
“มันหากินยากน่ะ นี่ถ้าไม่ใช่ว่าพอใจอยากกินก็คงจะไม่ได้กิน”
“ต้องขอบคุณพอใจใช่ไหมครับ ฮ่าๆ”


ชื่นตาลองหยิบมาชิมแล้วก็พบว่ามันอร่อยมาก มีกลิ่นหอมๆด้วย เขาคิดว่าจะต้องไปขอบคุณพอใจจริงๆแล้วแหละที่ทำให้เขาได้ลองกินเสน่ห์จันทร์


Rrrrrr ‘คุณพอใจ’


หือ? พอใจโทรมา


“ฮัลโหลล”
[เสียงดังเชียวครับ]
“แหะๆ พอใจโทรมามีอะไรหรือเปล่า”
[ไม่มีหรอกครับ] ทั้งคู่เงียบไปสักพัก ต่างฝ่ายต่างหาเรื่องมาคุย


[ได้กินขนมที่แม่เอาไปให้หรือยังครับ]
“กินแล้ว อร่อยมากเลย เราไม่เคยกินมาก่อนเลยด้วย”
[ผมก็ไม่ได้กินนานแล้ว พรุ่งนี้แม่จะทำอีก พี่มาลองไหม]
“ไปได้เหรอ!”
“ได้ครับ”
“ไปๆๆๆ”


ชื่นตาคุยกับพอใจต่ออีกสักพักก็วางไป ให้ต่างคนต่างมีเวลาส่วนตัว มีพื้นที่ให้คิดโน่นคิดนี่ ชื่นตาเอางานกลับมาทำด้วยนิดหน่อย ก็เลยเปิดโน้ตบุ๊คนั่งทำงาน พอเสร็จแล้วก็อาบน้ำนอน วันนี้พอใจใช้พลังงานไปเยอะ เมื่อหัวถึงหมอน ก็หลับเลยทันที





เช้าของอีกวัน ชื่นตาถูกปลุกด้วยเสียงเคาะประตูห้องของคุณป้าที่มาเรียกไปกินข้าว ชื่นตาลุกไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วจึงลงไปที่โต๊ะอาหาร


อาหารเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มทะเล มันส่งกลิ่นหอมฉุยมาตั้งแต่เขายังเดินไปไม่ถึงโต๊ะ ชื่นตาทักทายอรุณสวัสดิ์ พร้อมกับกอดคุณลุงคุณป้า แล้วจึงนั่งลงเพื่อเริ่มกิน


“อร่อยไหมลูก”
“อร่อยครับ หอมมากด้วย”
“อร่อยก็กินเยอะๆ” คุณลุงพูด


ด้วยความอร่อยของข้าวต้มทะเล ทำให้ชื่นตากินไปสองชามใหญ่ๆ แถมเขายังกินผลไม้ไปอีก ท้องเขาแน่นตั้งแต่เช้าเลย ชื่นตาก็เลยตัดสินใจไปเดินย่อยในสวน ดูต้นไม้ที่ออกดอกแล้ว

 
สักพักก็เริ่มรู้สึกร้อน เลยเลือกที่จะขึ้นไปอาบน้ำดีกว่า พอดีกับที่พอใจส่งข้อความมาบอกว่าจะพาป้าแววออกไปซื้อของก่อน เดี๋ยวกลับมาถึงแล้วจะบอกอีกที ชื่นตาเลยมีเวลานั่งเคลียร์งานที่คั่งค้างอยู่จนเสร็จ ตอนนี้เขาไม่มีงานค้างอีกต่อไปแล้ว


ชื่นตาเป็นพวกที่ไม่สามารถปล่อยให้งานค้างได้ เนื่องจากรู้สึกไม่สบายใจตลอดเวลา ตอนมัธยมมันยังมีบ้างเพราะทำไม่ค่อยได้ แต่พอเข้าคณะที่ตัวเองเลือก ตัวเองชอบ มันเลยต้องพยายามทำด้วยตัวเองตลอด


เมื่อได้งานมาเขาจะรีบทำให้เสร็จ แต่ต้องรีบแบบตั้งใจด้วยนะ ไม่อย่างนั้นคะแนนจะน้อยมากๆ ชื่นตาคิดว่าตัวเองโชคดีที่มีเพื่อนอย่างคิงกับแพลน เพราะทั้งสองคนไม่เคยพาเขาออกนอกลู่นอกทาง ช่วยกันทำงาน ติวหนังสือให้กัน แล้วทั้งสองคนยังคอยช่วยดูแลเขาอีก เขาเลยสนิทกับเพื่อนมากๆ


ชื่นตาคิดว่าเขาจะทำขนมไปฝากเพื่อนด้วย ป้าแววน่าจะทำเยอะ เดี๋ยวเขาออกเงินช่วย ทำขนมก็มีต้นทุนเยอะ ยิ่งขนมไทยอีก ทั้งควันเทียน ทั้งใบตอง สีธรรมชาติ นู่นนั่นนี่ ไม่ออกเงินช่วยเขาจะต้องรู้สึกผิดมากๆ


ระหว่างที่รอพอใจกลับมา เขาคิดว่าคงอีกสักพักจะมาถึง เพราะการจราจรในวันเสาร์แบบนี้มักจะติดอย่างรุนแรง เขาเลยเลือกที่จะลงไปทำคุ้กกี้รอที่ครัว เอาไปฝากเพื่อนๆกับป้าแววด้สย ก็เลยต้องทำเยอะเป็นพิเศษ


ชื่นตาเลือกเป็นคุ้กกี้ช็อกโกแลต ท็อปด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ที่บ้านนี้มีของทุกอย่างที่เขาต้องการ ชื่นตาค่อยๆผสมแป้งกับส่วนผสมอื่นๆเข้าด้วยกันใส่ ใส่ผงโกโก้เข้มข้นตามที่ชอบ ผสมให้เขากัน บีบลงในถาดแล้วก็เอาเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาวางข้างบน เข้าเตาอบ


ชื่นตาเอาขวดโหลคุ้กกี้มาจากคอนโดด้วย เขาไม่อยากใช้ถุงพลาสติก เลยเอาใส่โหลไปให้เพื่อน พอพวกนั้นกินหมด ก็จะเอาโหลมาคืน เป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัว ของบ้านป้าแววเอาใส่จานไปก็น่าจะได้


ชื่นตาจัดคุ้กกี้ใส่จานเตรียมไว้ เมื่อได้ข้อความจากพอใจว่ามาถึงบ้านแล้ว ชื่นตาก็ถือจานคุ้กกี้ไปที่บ้านตรงข้ามทันที





************************


กลับมาอัพแล้ว! หลังจากหายไปสักพักหนึ่งเป็นเพราะเรามีสอบสัมภาษณ์ค่ะ ยังไงก็ฝากทุกคนคอมเมนท์ให้กำลังใจเราด้วยนะคะ  :katai2-1:




ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: คุณชื่นตา--12--<15/5/2019>
«ตอบ #28 เมื่อ15-05-2019 15:36:02 »

 :L2: :pig4:

+1

เป็นครอบครัวที่น่ารักเนาะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: คุณชื่นตา--12--<15/5/2019>
«ตอบ #29 เมื่อ15-05-2019 19:53:40 »

 :pig4: เรื่อยๆเรียงๆแต่ดีนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด