คุณชื่นตา--25--<04/08/2019> END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณชื่นตา--25--<04/08/2019> END  (อ่าน 24399 ครั้ง)

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: คุณชื่นตา--12--<15/5/2019>
«ตอบ #30 เมื่อ16-05-2019 10:29:15 »

อือห์ เปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองกรุงบ้าง เหมือนไปเติมพลังยิ่งไปกับคนที่ชอบด้วย อิอิอิ
รับรองว่าขนมคงอร่อยสุดๆ แน่นอน
 :z2: :z2:

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter13:23/5/2019>
«ตอบ #31 เมื่อ23-05-2019 14:10:47 »

13







พอใจส่งข้อความไปบอกชื่นตาว่าเขาถึงบ้านแล้ว จากนั้นก็ช่วยแม่ยกของเข้าไปเก็บในครัว ไม่นานนักชื่นตาก็มาที่บ้านเขาพร้อมกับจานคุ้กกี้


“ป้าแววสวัสดีครับ ผมอบคุ้กกี้มาฝาก”
“ขอบใจมากนะคะคุณชื่น มาๆ ทำขนมกัน”


พอใจปล่อยให้แม่กับชื่นตาเดินเข้าห้องครัวกันไปก่อน ส่วนตัวเขาก็ขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นชุดอยู่บ้านสบายๆ จึงลงมาช่วยงานในครัว


เมื่อมองเข้าไปในครัวก็พบว่าแม่ต้มกะทิให้ชื่นตาดูอยู่ ขั้นตอนนี้ก็คือการเอาหัวกะทิ หางกะทิ และน้ำตาลมาต้มรวมกัน จากนั้นในตอนที่น้ำเดือด แม่ก็หยิบใบเตยใส่ ต้มอีกนิดจนมีกลิ่นหอมออกมา จึงหยิบใบเตยออก แล้วเอาวางพักไว้


แม่ยื่นหม้อมาให้เขา พอใจจึงใส่ไข่แดงลงไป คนให้เข้ากัน แล้วแม่กับชื่นตาก็ค่อยๆช่วยกันใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียวและแป้งข้าวสาลีลงมา ผมจึงหยิบส่วนสุดท้ายคือผงจันทร์ป่นที่พ่อตำด้วยตัวเองและน้ำก้านดอกกรรณิการ์ที่สั่งให้ผมทำเพิ่มตั้งแต่เมื่อวาน


บ้านเราใช้สีจากธรรมชาติในการทำขนมมาโดยตลอด ตอนเด็กๆแม่ก็จะเอาผักที่มีสี หรือดอกไม้ต่างๆมาให้ผมคั้น เมื่อก่อนก็เป็นการเล่นของผม สนุกเลยล่ะ แต่จริงๆมันเป็นการใช้แรงงานเด็กของแม่น่ะ


แม่เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลืองที่ไปแอบพ่อซื้อมา แล้วก็ยื่นไม้พายให้พอใจเป็นคนกวน เนื่องจากต้องใช้แรง แม่คงยังไม่อยากเมื่อย พอใจกวนจนแป้งล่อน ไม่ติดกระทะ แล้วจึงยกลง


แม่ส่งแป้งให้ผมกับชื่นตานำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ เป็นส่วนของผลจันทร์ ส่วนแม่ลุกไปเคี่ยวน้ำตาลเพื่อนำมาทำเป็นขั้วของผลจันทร์ ชื่นตาปั้นแป้งอย่างสนุกสนาน พอใจเห็นว่าทั้งมุมที่มองเห็นแม่และมองเห็นชื่นตานั้นเป็นมุมที่เขาชอบ พอใจจึงลุกไปหยิบกล้อง


“ไปไหนอ่ะ อู้เหรอ” ชื่นตาถาม
“เดี๋ยวมาครับ”


พอใจเดินกลับมาพร้อมกล้อง เล็งโฟกัสผ่านช่องมองภาพ เมื่อได้ในสิ่งที่พอใจแล้ว เขาจึงกดชัตเตอร์ ดีที่ห้องครัวนี้อยู่นอกตัวบ้านและมีแสงเข้าเยอะพอสมควร ทำให้พอใจไม่ได้กังวลว่ารูปที่กดไปจะไม่ติด เขาหันมาถ่ายชื่นตาที่มีความสุขกับการปั้นผลจันทร์ ไม่รู้ว่าปั้นยังไงถึงมีแป้งเลอะที่แก้มอย่างนั้น


พอใจวางกล้องลงแล้วยื่นมือออกไปเช็ดอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ชื่นตาน่ะตัวแข็งทื่อไปแล้ว ท่าทางแบบนั้นทำให้พอใจอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้


“ฮึ่ย ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ”
“อ้าวๆ อย่าตีกัน ไหน ได้แล้วใช่ไหมลูก”


แม่เอาน้ำตาลคั่วมาหยอดให้เป็นขั้วของผลจันทร์ เมื่อจบขั้นตอนนี้ เราก็ได้เสน่ห์จันทร์อย่างที่เราต้องการ พวดเราจัดใส่จานไปกินกันคนละชิ้นสองชิ้น ที่เหลือแม่ก็เอาใส่จานให้ชื่นตาเอากลับบ้าน ใส่กล่องให้ผมเอาไว้ไปกินที่หอ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ามันจะถึงหอหรือเปล่า แล้วนอกเหนือจากนั้นก็แบ่งไว้ขาย


เมื่อเรากินกันเสร็จเรียบร้อย ผมก็รับหน้าที่เอาขนมไปส่งให้แม่ ส่วนใหญ่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านมาก พอใจเลยกะว่าจะเอามอเตอร์ไซค์ไปส่งแทน แต่ก่อนจะได้ไปส่งขนม เขาต้องไปส่งชื่นตาที่บ้านก่อน


“วันนี้สนุกมากก”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“ขนาดนั้นเลยย”
“หึๆ” เมื่อมีลมเย็นพัดผ่านมา กลิ่นผงจันทร์ที่ติดอยู่กับตัวของชื่นตาก็ลอยมาเตะจมูก มันหอมจนพอใจทนไม่ได้ ต้องก้มลงไปดม


“อ๊ะ! พอใจ”
“ครับ”
“ทำอะไรน่ะ” ชื่นตาเบะปาก
“ทำอะไรครับ”
“ก็หอมแก้มทำไมเล่า ไม่คุยด้วยแล้ว”
“ฮ่าๆ” ชื่นตาแลบลิ้นใส่แล้วก็วิ่งเข้าบ้านไป ส่วนพอมตก็ได้แต่ยืนหัวเราะชอบใจอยู่ตรงหน้าประตู อ่า นี่ไม่ใช่ภาพที่เขาเคยคิดมาก่อนเลยแฮะ


พอใจขับรถไปส่งขนมให้แม่อย่างอารมณ์ดี พอใจดูมีความสุขอย่างเห็นได้ชัดจนแม่ต้องทักว่าไปส่งขนมให้แม่มันมีความสุขอะไรขนาดนั้น อีกนิดแม่คงคิดว่าเขาแอบขโมยค่าขนมแล้วล่ะมั้ง








พอใจตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าตรู่เพราะเสียงฮัมเพลงระหว่างรดน้ำต้นไม้ของพ่อ เขามองลงไปจากระเบียงห้องของตัวเองและเห็นว่าพ่อของเขามีความสุขมากในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน พ่อเหมือนเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ ไม่ใช่เจ้านายในบริษัทที่น่าเกรงขาม


ถึงแม้ว่าจะยังงัวเงียอยู่ แต่พอใจอยากจะเก็บช่วงเวลานี้ไว้ เขาจึงเดินโซเซไปหยิบกล้อง แล้วก็กดชัตเตอร์แบบงงๆ เอกลักษณ์อีกอย่างของกล้องฟิล์มคือเสียงชัตเตอร์ บางตัวเสียงดัง บางตัวเสียงเบา ตัวที่เขาเลือกมาวันนี้ค่อนข้างเสียงดัง คนถูกแอบถ่ายจึงรู้ตัว


“อ้าว ไอ้ลูกชายตื่นแล้วเรอะ”
“พ่อร้องเพลง ผมเลยตื่น”
“ฮ่าๆ ตื่นแล้วก็ลุกมาช่วยพ่อทำสวนมา”
“ครับบบ”


พอใจไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วลงมาช่วยพ่อในสวนตามที่ตกลง พ่อเขาชอบทำสวน ดอกไม้ต้นไม้ที่เลือกก็เอาที่แม่ชอบทั้งนั้น วันดีคืนดีก็เด็ดดอกไม้ในสวนมายื่นให้แม่ เหมือนคนจีบกันตลอดเวลา


“เอ้านี่ ขุดให้พ่อที หลังพ่อเริ่มมีอาการละ”
“แก่แล้วก็เพลาๆบ้างหน่าพ่อ”
“แก่เก่ออะไรกัน พ่อทำงานหนักเฉยๆหรอกน่ะ”


พอใจส่ายหัวอย่างจนใจ ที่พ่อไม่ยอมพักสักที เขาขุดตามจุดที่พ่อบอกทั้งหมดสามหลุม แล้วก็ไปช่วยพ่อยกต้นไม้มาลง กลบดินเรียบร้อยก็ถือว่าเสร็จงาน ออกกำลังกายแต่เช้าเลยวันนี้


“สองพ่อลูกน่ะไปล้างไม้ล้างมือไป กับข้าวเสร็จแล้ว”
“จ้าา” พ่อตอบรับคำแม่


อาหารเช้าวันนี้มีต้มจืดกับไข่ดาวทรงเครื่อง ของโปรดพ่อ วันนี้พอใจกะจะใช้เวลาที่บ้าน เพราะตอนเย็นก็ต้องกลับแล้ว อยู่กับพ่อแม่อีกหน่อยดีกว่า


เนื่องจากแม่รับออเดอร์ขนมไว้ พอใจเลยลงมาช่วยแม่จัดเตรียมของ เพื่อที่แม่จะได้ตื่นเช้าน้อยลงในวันพรุ่งนี้ พอใจนั่งจัดถาดจัดกล่องอะไรไปเรื่อย ทำไปทำมาก็รู้สึกเมื่อย เลยขอตัวไปยืดเส้นยืดสาย


พอใจเดินไปมาในสวน ก็เห็นว่าพ่อกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะท้ายสวน พ่อเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านแทบจะทุกแนว ตั้งแต่โรแมนติกไปจนถึงแฟนตาซี ที่บ้านเขามีหนังสือเยอะมาก


และเพราะพ่ออ่านหนังสือ พอใจคิดว่านี่มีส่วนที่ทำให้เขาชอบอ่านหนังสือฆ่าเวลา จนกระทั่งเขาเริ่มคิดวิเคราะห์ได้ ก็มีหนังสือบางส่วนที่เป็นของตัวเองบ้าง


เมื่อเริ่มสนใจในส่วนนี้จริงๆ เขาจึงคุยกับที่บ้านเพื่อเรียนต่อในด้านวรรณกรรม เมื่อพ่อกับแม่ไม่ขัด เขาก็มุ่งหน้าทางนี้ต่อ พอใจแค่อยากศึกษา อยากเรียนในสิ่งที่ชอบ พ่อไม่เคยบังคับให้เขาเรียนบริหารเพื่อมาทำงานต่อในบริษัท แต่ตัวพอใจเองก็ตัดสินใจแล้วว่าหลังจากเรียนจบเขาจะรับช่วงต่อ


อาจจะต้องเสียเวลาเรียนรู้เพิ่มเยอะหน่อย แต่เขาก็อยากทำ และคิดว่ามันคงไม่หนักหนาอะไรเท่าไหร่ พอใจเดินตรงไปนั่งลงข้างๆพ่อ มองดูว่าพ่ออ่านหนังสือเรื่องอะไร ก็พบว่ามันเป็นเล่มที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน คงซื้อใหม่อีกแล้ว


“ว่าไง”
“ผมแค่เดินยืดเส้นยืดสายเฉยๆ”
“เออๆ เป็นไงบ้างเรียนมหาลัย มีสาวๆมาจีบไหม”
“ไม่มีหรอก”
“อะไรวะ ลูกพ่อออกจะหล่อ เอ๊ะ! หรือว่าเราชอบหนุ่มๆ” พอใจนึกไปถึงเรื่องของเขากับชื่นตา พ่อไม่เคยบังคับอะไรเลยก็จริง แต่เขาไม่รู้ว่าเรื่องนี้พ่อจะรับได้จริงหรือเปล่า


“บอกมาเลยหน่า พ่อรับได้หมดอยู่แล้ว นี่มันสมัยไหนแล้ว” พอใจไม่เคยมีความลับกับที่บ้าน เขาสนิทกับพ่อแม่เหมือนเพื่อน เขาคิดว่าถ้าจะบอกไปก็คงไม่เป็นไร


“ตอนนี้คุยกับคนหนึ่งอยู่ แต่ยังไม่แน่นอน ถ้าแน่แล้วจะบอก”
“อ้อ ผู้ชายสินะ”
“อื้อ”
“น่ารักหรือเปล่า”
“ก็…ประมาณนึง”
“ใครจะน่ารักเท่าน้องพอใจของพ่อ”
“หยุดน่ะพ่อ”
“ฮ่าๆ”


พ่อเขาชอบล้อด้วยการเรียกน้องพอใจ ตอนนั้นพ่ออยากได้ลูกสาวมาก พอออกมาเป็นผู้ชาย พ่อก็เลยไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เหมือนมันจะฝังใจ แม่ก็เลยช่วยโดยการไปขอชุดกระโปรงของลูกเพื่อนแม่มา แล้วเอามาให้เขาใส่ พ่อคงชอบมากเลยถ่ายรูปไว้เต็มเลย


พอเขาโตขึ้นมาแล้วเห็นรูปพวกนั้น พ่อก็เลยชอบมาล้อเขาว่าน้องพอใจของพ่อน่ารักที่สุด ตอนเด็กๆเขาหงุดหงิดมาก แต่พอโตมาหน่อยก็ขำๆดี


“จริงๆพ่อกะจะให้แกโตมารักสวยรักงามเหมือนแม่ อยากเป็นผู้หญิงได้ยิ่งดี”
“พ่อเคยคิดจริงๆเหรอ”
“จริงสิวะ แต่เหมือนแกจะได้พ่อมาเยอะเกินไป ทั้งสูง ทั้งถึก ยิ่งโตมาความน่ารักของน้องพอใจก็หายไป พ่อเสียใจมาก”
“ผมไม่รู้จะพูดยังไงเลย”
“ฮ่าๆ แค่หาลูกสะใภ้น่ารักๆก็ไม่มีปัญหา”


แล้วพ่อก็ลุกหนีไป ทิ้งให้พอใจนั่งคิดอยู่คนเดียวว่าตอนเด็กๆเขาน่ารักขนาดนั้นเลยหรือไง ทำไมพ่อถึงอยากให้เขาเป็นผู้หญิง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าพ่อเขาเข้าใจยากขึ้นทุกที เลยตัดสินใจเลิกคิดดีกว่า


เมื่อไม่มีอะไรให้ทำ พอใจเลยเดินไปบ้านตรงข้ามเพื่อหาอะไรทำ ป้าคนเดิมพาเขาขึ้นมาที่ห้องเดิมเหมือนตอนที่เจอชื่นตาครั้งแรก


ก็อก ก็อก


“คร้าบบบ” ได้ยินเสียงวิ่งตึงตังมาไกลๆ ก่อนเสียงนั้นจะหยุดที่หน้าประตู
“อ๊ะ! พอใจเองเหรอ”
“ครับ มาชวนไปเล่นที่สวน”
“ได้สิ หยิบของแปปหนึ่งนะ” พอใจมองตามชื่นตาที่เดินไปหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์
“ป่ะ เรียบร้อยแล้ว”
“ครับ”


เมื่อเดินมาถึงบันได พอใจก็คว้ามือชื่นตามาจับไว้ แล้วเดินลงบันไดมาพร้อมกัน พอใจไม่ได้มีสีหน้าอะไร อีกคนนี่หน้าแดงลามมาถึงหู แต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออก ชื่นตาปล่อยให้พอใจจับมือเอาไว้อย่างนั้น มันก็อุ่นดี


ชื่นตาลงมาถึงหน้าบ้านก็เห็นว่ามีจักรยานจอดไว้หนึ่งคัน ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นจักรยานของบ้านเขาเองนี่แหละ เห็นแม่บ้านปั่นไปซื้อของที่ตลาดบ้างบางวัน


“นี่ค่ะคุณพอใจ ป้าจัดไว้ให้แล้ว อันนี้น้ำส้มนะคะ แล้วก็มีคุ้กกี้กับผลไม้ แซนด์วิชด้วยค่ะ”
“โหห อะไรเยอะแยะครับป้าพร้อม”
“คุณพอใจบอกจะมาชวนคุณชื่นไปปิกนิกนี่คะ ป้าเลยจัดเต็มให้เลย”
“ขอบคุณนะครับที่ให้ยืมจักรยาน อาหารด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ”


เมื่อชื่นตานั่งลงบนจักรยานเรียบร้อยดีแล้ว ป้าพร้อมก็ส่งตะกร้าหวายที่บรรจุอาหารและเครื่องดื่มต่างๆมาอัดแน่นให้กับชื่นตาถือ เธอกำชับให้พอใจปั่นช้าๆ และให้ชื่นตาถือดีๆ ทั้งคู่รับคำแล้วพอใจก็ค่อยๆปั่นออกไป


ป้าพร้อมยืนมองคุณหนูของบ้านนั่งซ้อนท้ายจักรยานออกไปด้วยความรู้สึกปลื้มปริ่ม ในที่สุดก็มีน้องชายให้เจ้าตัวเล่นด้วยเสียที งอแงมาตั้งแต่เด็กๆว่าอยากเป็นพี่ชื่น


“เด็กสมัยนี้น่ารักจังน้า จับมือกันเดินด้วย”


ป้าพร้อมเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม แค่เห็นคุณหนูของเธอมีความสุขและตื่นเต้นทุกครั้งที่พอใจมาชวนทำนั่นทำนี่ เธอก็รู้สึกดีมากๆแล้ว หวังว่าทั้งคู่จะสนิทกันมากขึ้นอีกนะ





ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: คุณชื่นตา--13--<23/5/2019>
«ตอบ #32 เมื่อ23-05-2019 15:09:56 »

 o13

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: คุณชื่นตา--13--<23/5/2019>
«ตอบ #33 เมื่อ23-05-2019 15:48:14 »

55 คุณพ่อเป็นคนตลก :m20:

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: คุณชื่นตา--13--<23/5/2019>
«ตอบ #34 เมื่อ23-05-2019 20:46:30 »

อีกหน่อยทั้งคู่คงสนิทตัวติดกันแน่นอนจ้าา ป้าชื่น
 :z2: :z2:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: คุณชื่นตา--13--<23/5/2019>
«ตอบ #35 เมื่อ23-05-2019 21:03:43 »

น่ารักทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter14:29/5/2019>
«ตอบ #36 เมื่อ29-05-2019 15:37:23 »

14






ชื่นตาจัดการปูเสื่อแล้วค่อยๆหยิบของออกจากตระกร้าหวายที่ป้าพร้อมเตรียมให้ วางเครื่องดื่มและอาหารต่างๆอย่างสวยงาม ในขณะที่พอใจก็ช่วยเก็บของที่ไม่ได้ใช้ไว้ในถุงอย่างเรียบร้อย ชื่นตามองไปรอบๆเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีขยะจากพวกเขาปลิวไปที่อื่น
ชื่นตากับพอใจนั่งปิกนิกอยู่ใต้ร่มไม้ในสวนสาธารณะ นี่เหมือนฉากที่เห็นในภาพยนตร์ ชื่นตาคิดอยู่ในใจพลางหยิบคุ้กกี้ที่ตัวเองทำขึ้นมากิน


“วันนี้ลมเย็นเนอะ”
“ครับ กำลังสบายเลย”
“เดี๋ยวตอนเย็นก็ต้องกลับแล้วสินะ”


ทั้งคู่ดื่มด่ำกับอาหารและลมเย็นๆที่พัดมา ชื่นตารู้สึกดีมากๆกับช่วงเวลานี้ ถึงแม้มันจะเงียบ แต่ไม่มีความอึดอัดใดๆเกิดขึ้น ก่อนที่ชื่นตาจะทำลายความเงียบด้วยการเปิดเพลง


รอยยิ้มของเธอแค่ครั้งเดียว
ทำฉันให้ลืมเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา
ทำให้ได้รู้ว่า อะไรที่สำคัญกว่า
สิ่งใดจะมาทดแทน



นั่นเป็นครั้งแรกที่ชื่นตาได่ยินเสียงพอใจร้องเพลง เขาหันไแมองอย่างสนอกสนใจ โดยที่พอใจไม่ได้รู้สึกตัว อาจจะรู้สึก แค่ทำตัวให้เป็นปกติ ชื่นตาคิดเช่นนั้น เขาก็เลยร้องออกมาด้วย


ฉันเพียงอยากขอหยุดเวลาไว้ก่อน
เพียงชั่วคราวหากเธอรับรู้ว่ามันไม่ง่ายดายเท่าเดิม
ฉันเพียงอยากขอเก็บรอยยิ้มนี้ก่อน
รู้ว่ามีความหมายบางอย่าง
ขอแค่เราได้นึกถึงเวลานี้



และเมื่อพอใจหันมาสบตา ชื่นตาก็ทำเพียงแค่ยิ้มให้บางๆเหมือนที่เคยยิ้ม ทั้งคู่หัวเราะให้แก่กันและผลัดกันเล่าเรื่ิองราวในช่วงชีวิตที่ผ่านมา นับเป็นการทำความรู้จักกันไปอีกขั้น


Rrrrrr ‘แม่’


“สวัสดีครับแม่” พอใจสนใจเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าแม่ของชื่นตาโทรมา
[ว่าไงครับลูก เรียนเป็นไงบ้าง]
“ก็หนักบ้าง เบาบ้างครับ แม่ล่ะ สบายดีไหม”
[สบายดีจ้า คุณพ่อเขาบ่นคิดถึงเราด้วยนะ]
“ชื่นก็คิดถึงพ่อ เดี๋ยวสงกรานต์ชื่นไปหานะ”
[จ้า แม่แค่โทรมาถามไถ่เฉยๆ เพื่อนเราจะมาด้วยไหม แพลนกับคิงน่ะ] ชื่นตาฉุกคิดเล็กน้อย


“เดี๋ยวลองชวนดู แม่ครับ ชื่นชวนไปเพิ่มได้ไหม”
[เพื่อนๆลูกน่ะเหรอ ได้สิ มีเพื่อนเยอะๆดีจะตาย]
“โอเคครับ”
[จ้าา รักลูกนะ]
“รักแม่เหมือนกันครับ”


ตั้งแต่มีคิงกับแพลนเป็นเพื่อน สองคนนี้มักจะขอให้ชื่นตาพาไปที่บ้านด้วย เมื่อลองพาไปหนึ่งครั้ง ก็พบว่าทั้งคู่เข้ากับคนที่บ้านเขาได้เป็นอย่างดี และตอนนี้ชื่นตาก็มีคนที่สนิทเพิ่มขึ้นมาแล้ว เขาคิดว่าการจะชวนพอใจกับเพื่อนๆไปด้วยคงไม่ได้เสียหายอะไร


“จะกลับบ้านช่วงสงกรานต์เหรอครับ”
“อื้อ แม่ให้ชวนเพื่อนๆไปด้วย พอใจไปกับเรานะ”
“ผมขอถามแม่ก่อนว่าจะไปไหนหรือเปล่า”
“ได้เลยย ชวนป้าแววไปด้วยก็ดีนะ”
“เขาอาจจะอยากสวีทอยู่บ้านกันสองคน”
“ฮ่าๆๆ”


เมื่ออากาศเริ่มร้อนขึ้น พอใจก็ชวนชื่นตากลับ ทั้งคู่ช่วยกันเก็บของลงในตะกร้า มองไปรอบๆเพื่อสำรวจว่าเก็บครบแล้วหรือยัง เมื่อเรียบร้อยดี จึงปั่นจักรยานกลับไปที่บ้านรัตนพิบูลย์


“เดี๋ยวสักบ่ายสามเรากลับกันนะครับ ช่วงสี่โมงรถคงติดมาก”
“ก็จริงนะ พอใจเสร็จแล้วทักมานะ”


เมื่อตกลงเวลากลับกันเรียบร้อย ชื่นตาก็เข้าไปช่วยป้าพร้อมล้างกล่องที่ใส่อาหารเมื่อกี้นี้ พูดคุยกันนิดหน่อย แล้วก็โดนป้าพร้อมไล่ให้ไปเก็บของเตรียมตัวกลับคอนโด


ชื่นตาหยิบหูฟังกับสายชาร์ตโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเป็นอย่างสุดท้าย ทุกอย่างครบแล้ว เขาจึงเอนตัวลงบนเตียงแล้วหยิบมือถือขึ่นมาเล่น


R’: ชื่นทำอะไรอยู่


ชื่นตามองข้อความที่เด้งขึ้นมาอย่างเบื่อหน่าย


Chuenta: เก็บของครับ
R’:จะกลับจากบ้านแล้วเหรอ
Chuenta:ครับ
R’:งั้นตอนเย็นก็ไปดินเนอร์กับพี่ได้สิ
Chuenta: ขอบายครับ ชื่นอยากนอน
R’: ซื้อไปกินที่ห้องชื่นก็ได้ ขื่นจะได้รีบนอน
Chuenta: ไม่เป็นไรครับ ชื่นคงกินพร้อมพอใจ


ชื่นตาตัดบทแล้วกดออกจากแอพพลิเคชัน เจขาเบื่อที่จะต้องคอยมาตอบโรมอยู่อย่างนี้ ชื่นตาเคยไม่ตอบ แล้วโรมก็มาวอแวที่คณะอยู่เรื่ิอยๆ ตามจนเขารำคาญหนักกว่าเดิม ก็เลยตอบๆไป


ชื่นตาไม่รู้จะทำยังไงกับโรมดี เขาเลี่ยงมาทุกทางแล้ว หนีก็แล้ว พูดตรงๆก็แล้ว โรมก็ยังหน้าด้านหน้าทนตามตื๊อเขาอยู่ ชื่นตาได้แต่อยู่เฉยๆคอยรับมือหน้าสถานการณ์ เขารู้สึกว่าชีวิตเขาโดนคุกคาม แต่ก็แก้ปัญหาไม่ได้สักที


ก็อก ก็อก


“ชื่นลูก พอใจมาแล้วจ้ะ” ชื่นตาหยิบกระเป๋าเดินออกไปทันทีที่ป้ามาเคาะประตูห้อง
“ฝากชื่นด้วยนะจ๊ะพอใจ”
“ครับ ไม่ต้องห่วงครับ”
“มีปัญหาอะไรก็โทรมานะลูก”
“ครับป้าชม เดี๋ยวชื่นมาใหม่น้า”


ชื่นตากอดลาป้าแล้วขึ้นรถไปพร้อมกับพอใจ เขาอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อยเมื่อได้พูดคุยกับป้าชม แต่ก็ใช่ว่ามันจะหายไปซะหมด ทำให้ยังมีความขุ่นเคืองโผล่มาให้เห็นบนใบหน้า


“เป็นอะไรครับ”
“หือ?”
“หน้าบูด” พอใจยื่นมือมาบีบแก้มชื่นตา ใช้มือแค่ข้างเดียวก็สามารถจับได้ทั้งหน้าแล้ว


“ฮื่อ เมื่อกี้คุยกับพี่โรม”
“เขาทักมาเหรอครับ”
“ใช่ ทำยังไงเขาถึงจะหายไปสักที”
“ให้ผมพูดให้ไหม”
“ยังไงเหรอ” ชื่นตาทำหน้าสงสัย
“ไม่บอก คอยดูเอาเลย”


ชื่นตาเบะปากให้กับความมั่นใจของพอใจ ถ้าพอใจทำได้ เขาจะดีใจและรู้สึกขอบคุณพอใยมากๆ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่พอใจพยายามเพื่อเขามันก็ดีมากอยู่แล้ว


“กินข้าวร้านนี้กันก่อนเถอะ”


ชื่นตาชี้ไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ฝั่งซ้ายของถนน พอใจมองหาที่จอดรถแล้วก็ขับไปจอดทันทีตามความอยากของชื่นตา


“อิระไชมาเสะ!”


เสียงคำกล่าวต้อนรับดังขึ้นมาในตอนที่เราเปิดประตู สร้างความรู้สึกตกใจให้กับชื่นตาเพราะเขาพูดเสียงดังมาก พอใจที่เดินข้างหลังมองเห็นก็ขำ ชื่นตาก็ได้แต่มองค้อน มันตกใจจริงๆนี่


“เอาอันนี้2ที่ครับ”
“รอสักครู่นะครับ”


ชื่นตามองปริบๆร้านเพื่อสำรวจบรรยากาศ ที่นี่คงเพิ่งเปิดใหม่เพราะดูเหมือนจะยังตกแต่งไม่เสร็จดีนัก แต่ก็ถือว่าไม่เลว บรรยากาศดูอบอุ่นใช้ได้เลย


“ขอโทรศัพท์หน่อยครับ” พอใจยื่นมือมาตรงหน้า
“ทำไมเหรอ”
“เปิดไลน์เขามาด้วย” ชื่นตาพอจะรู้แล้วว่าพอใจต้องการจะทำอะไร ก็เลยเปิดหน้าห้องแชทของโรมแล้วส่งมห้พอใจแต่โดยดี พอใจกดๆอยู่ไม่กี่ครั้งก็ยื่นโทรศัพท์คืนมา


“เร็วจัง ทำอะไรอ่ะ”
“บล็อกครับ แล้วก็อย่าไปสนใจ”
“อื้อๆ” เขาไม่เคยบล็อกโรมเลยเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะมาตามวุ่นวายเขาทุกวัน
“ทีนี้ก็พยายามอย่าอยู่คนเดียวนะครับ”
“ได้! เราจะอยู่กับคิงแล้วก็แพลนตลอดเลย” ชื่นตารับคำอย่างมุ่งมั่น
“ลืมอะไรหรือเปล่าครับ”
“หือ?”
“แล้วเวลาของผมล่ะ ถ้าอยู่กับสองคนนั้นตลอด แล้วผมล่ะครับ”


ชื่นตาไม่ได้ตอบคำถามของพอใจเพราะอาหารมาเสิร์ฟ เขาจึงทำเฉไฉไม่รับรู้ถึงคำถามนั้นืปล่อยให้พอใจหัวเราะกับท่าทางของเขา ยังไงเขาก็ต้องมีเวลาให้พอใจอยู่แล้วน่ะ ไม่เห็นจะต้องถามให้เขินเลยนี่








พวกเขากลับมาถึงคอนโดในเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม เพราะหลังจากตัดสินใจกินข้าวเย็นในเวลาสี่โมง เมื่อกินเสร็จ ก็พบกับรถมากมายของมนุษย์ที่เพิ่งเลิกงานและทุกคนกำลังตรงกลับบ้านในทางเดียวกัน เราสองคนติดแหง็กอยู่บนถนนนานสองนาน


เนื่องจากการนั่งรถกลับมากินเวลาไปนาน มันจึงกินพลังงานชีวิตของพวกเขาเข้าไปด้วย ต่างคนเลยต่างแยกย้ายกันกลับห้อง มีเพียงแค่การโบกมือเท่านั้นที่เป็นคำกล่าวลา


ชื่นตาหลับทันทีหลังจากอาบน้ำเสร็จ คงเพราะหลับเร็วเกินไป ทำให้ตื่นมาในตอนที่ฟ้ายังไม่สว่างแบบนี้ แต่เมื่อนอนมาพอแล้ว ร่างกายจึงไม่สามารถนอนต่อได้อีก เขาจึงลุกมาออกกำลังกาย


การออกกำลังกายของชื่นตาไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก เขาเอาแต่กินแล้วก็กินอย่างเดียว แต่เมื่อมีเวลาเขาก็ควรจะออกสักหน่อยล่ะนะ ชื่นตามีลู่วิ่งอยู่ในห้อง แม่ซื้อมาไว้ตอนที่ย้ายมาใหม่ๆ ถึงข้างล่างจะมีฟิตเนส แต่เขาไม่ชอบลงไป


ชื่นตาเริ่มจากการเดินเร็วแล้วค่อยๆเปลี่ยนไปวิ่งในระดับความเร็วที่ตัวเขาไม่เหนื่อยจนเกินไป ชื่นตาวิ่งได้สักครึ่งชั่วโมง พระอาทิตย์ก็ค่อยๆโผล่ขึ้นพ้นขอบฟ้า กลายเป็นการวิ่งชมพระอาทิตย์ไปซะนี่ และเมื่อร่างกายร้องบอกว่าเหนื่อยแล้ว ชื่นตาจึงค่อยๆลดระดับลงมาจนกระทั่งหยุดวิ่ง


เพราะไม่ได้ออกกำลังกายมานาน เขาจึงเหนื่อยมากกว่าช่วงที่วิ่งบ่อยๆ แต่ก็ยังดีที่วิ่งได้นานโดยไม่หมดแรงไปซะก่อน ชื่นตายืดกล้ามเนื้อเป็นการปิดท้ายก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป


วันนี้เขาไม่ต้องรีบเร่งไปเรียนเพราะตื่นมาในเวลาเช้ามากๆ และเช้าๆแบบนี้ร้านโจ๊กก็ทยอยเปิดกันแล้ว ชื่นตาจึงลงมาเพื่อกินโจ๊กร้านที่อยู่ใกล้ๆคอนโด


“ใส่ไข่ ไม่ใส่เครื่องในครับ”


โจ๊กร้อนๆมันช่างเข้ากับบรรยากาศตอนเช้าเหลือเกิน และเพราะวันนี้เขาออกกำลังกายมา ทำให้เขาต้องสั่งเพิ่มอีกหนึ่งถ้วยใหญ่ๆ ชื่นตากลัวตัวเองจะหิวระหว่างเรียน


“เอาพิเศษใส่ถุงด้วยครับ”
“ใส่ทุกอย่างไหมลูก”
“ทุกอย่างเลยครับ”


อย่าเข้าใจผิดว่าถุงนี้ชื่นตาก็ซื้อมากินเอง เขาซื้อไปฝากพอใจที่คงจะยังไม่ตื่นต่างหากเล่า ถ้าช้ากว่านี้อีกหน่อย โจ๊กที่ร้านคุณลุงก็คงจะหมด ชื่นตาเดินมาอีกหน่อยก็เจอร้านขายน้ำเต้าหู้เจ้าประจำของเขา


“เอาเหมือนเดิม2ถุงครับ”
“อ่ะนี่ เหมือนเดิม ตื่นเช้าจังวันนี้”
“เมื่อคืนผมนอนตั้งแต่2ทุ่มแหนะ”


ชื่นตาคุยกับคุณลุงที่ขายน้ำเต้าอยู่ได้แปปนึง น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาลที่เขาชอบก็มาอยู่ในมือแล้ว ชื่นตาเจาะถึงของตัวเองกินในระหว่างที่เดินกลับคอนโด


ตอนแรกชื่นตากะว่าจะเอามาห้อยไว้หน้าห้องเหมือนเคย แต่เขากลัวว่ามันเย็นแล้วจะไม่อร่อย ก็เลยกดกริ่งรอให้พอใจออกมาเอา แต่ก็ไม่มีใครออกมา ชื่นตาเลยตัดสินใจโทรไปหาเลยดีกว่า


[อื้ออ ครับ]
“ยังนอนอยู่ใช่ไหม”
[ครับ พี่ชื่นมีอะไรหรือเปล่า]
“เราซื้อโจ๊กมาให้ กลัวมันจะเย็นแล้วไม่อร่อย เราแขวนไว้ก็ได้นะ”
[รอแปปนึงครับ]


พอใจพูดแค่นั้นแล้วก็ตัดสายไป ชื่นตายืนงงอยู่จนกระทั่งประตูห้องเปิดออก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพอใจในสภาพของคนที่เพิ่งตื่นนอน เมื่อมองไล่ลงมาจากใบหน้า ชื่นตาก็ตกใจนิดหน่อย เพราะพอใจไม่ได้ใส่เสื้อ


“เข้ามาก่อนครับ”


ชื่นตาเดินตามพอใจเข้ามา เขาพยายามเอาสายตาไปไว้ที่อื่น ไม่อยากไปมองหุ่นของพอใจ แต่มันอยู่ตรงระดับสายตาเขาพอดี
ทำให้ต้องเชิดคอเอาไว้


“ทำท่าแปลกๆนะครับ”
“แปลกตรงไหน”
“พี่ดูหน้าเชิดแปลกๆ”
“ไม่เห็นเชิดเลย” ชื่นตาพยายามปรับสายตาให้ลงมาเท่าเดิม แต่ตามันก็เห็นหน้าท้องของพอใจอยู่ดี เขาเลยเสตาไปมองทางอื่นแทน


“อ๋อ ผมรู้แล้ว”
“อะไร”
“พี่แอบมองหุ่นผมนี่เอง”
“เราเปล่า!”
“แน่ใจนะครับ” พอใจยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำให้ชื่นตาชะงัก แต่ก็หลบไปไหนไม่ได้ เพราะติดกับพนักเก้าอี้อยู่


พอใจยื่นหน้ามาจนจมูกชิดกัน ชื่นตาที่ไม่รู้จะมองตรงไหนหรือทำหน้ายังไงก็เลยได้แต่หลับตาปี๋ ขอไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นแล้ว สมองเขาหยุดทำงานแล้ว


“หึๆ” ชื่นตาลืมตาขึ้นมาหนึ่งข้างเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ พอใจขยับตัวออกไปนั่งที่เดิมแล้ว เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่ได้เตรียมใจมาสำหรับเรื่องนี้สักหน่อย


“แกล้งเรานี่”
“หรือไม่อยากให้แกล้งล่ะครับ” ชื่นตาเห็นสายตาวิบวับของพอใจก็อดจะมองค้อนไม่ได้ ไม่แกล้งในความหมายของพอใจคือทำจริงๆน่ะสิ เหอะ เขารู้ทันหรอก







รอยยิ้ม - สครับ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2019 15:41:52 โดย zhaofah »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: คุณชื่นตา--14--<29/5/2019>
«ตอบ #37 เมื่อ29-05-2019 16:04:53 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: คุณชื่นตา--14--<29/5/2019>
«ตอบ #38 เมื่อ29-05-2019 16:40:27 »

น่ารักจริงๆคู่นี้

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: คุณชื่นตา--14--<29/5/2019>
«ตอบ #39 เมื่อ29-05-2019 17:00:38 »

หวานอีกละ
 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คุณชื่นตา--14--<29/5/2019>
« ตอบ #39 เมื่อ: 29-05-2019 17:00:38 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: คุณชื่นตา--14--<29/5/2019>
«ตอบ #40 เมื่อ29-05-2019 22:44:17 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: คุณชื่นตา--14--<29/5/2019>
«ตอบ #41 เมื่อ30-05-2019 14:21:37 »

เรื่องน่ารักมาก  :mew1:
ชื่อพระเอก นายเอกก็ชอบบบบ  พอใจ  ชื่นตา   :impress2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอแก้ที่ผิดนะ
ปอกเปลือกผลไม้  ------- ปอกกล้วย / ปอกเปลือกไข่
ปลอก ----ปลอกมีด / ปลอกกระสุน
คิงหันไปเห็นว่ากลุ่มของชื่นตากำลังลงบันไดมาทางนี้พอดี ตอนที่ ๐๘ 
ชื่นตา   น่าจะเป็นพอใจนะ

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter15:5/6/2019>
«ตอบ #42 เมื่อ05-06-2019 16:11:08 »

15







หลังจากจัดการมื้อเช้ากับชื่นตาเรียบร้อย พอใจก็ขอตัวไปอาบน้ำ โดยให้ชื่นตาไปเอากระเป๋าที่ห้องมานั่งรอที่นี่ วันนี้พอใจจะเป็นคนไปส่งชื่นตาเอง แต่ก่อนไปพอใจขอให้ชื่นตาวางโทรศัพท์ไว้ให้ที่ห้องเพื่อจัดการอะไรบางอย่าง


ชื่นตารู้ว่าพอใจกำลังจะทำอะไร เขาเลยไม่รู้สึกว่านี่คือการยุ่งวุ่นวายกับของส่วนตัวของเขา ชื่นตาปล่อยให้พอใจจัดการไป แล้วตัวเองก็ขึ้นไปชั้นแปดเพื่อหยิบกระเป๋า


พอใจปลดบล็อกโรม แล้วข้อความจำนวนมากจากฝ่ายนั้นก็เด้งขึ้นมา พอใจค่อยๆอ่านทีละข้อความ เมื่ออ่านจนหมด พอใจพบว่าตัวเองหงุดหงิดกับข้อความน่ารำคาญของโรม นึกสงสารชื่นตาที่ต้องเจออะไรแบบนี้อยู่เป็นปีๆ


R’: ทำไมชื่นไม่ตอบพี่
R’: คิดว่าแค่นี้พี่จะหยุดเหรอ


นี่เป็นข้อความที่โรมส่งมาตั้งแต่เมื่อวาน พอใจคิดคำพูดในหัว พยายามเรียบเรียงให้เหมือนภาษาของชื่นตามากที่สุด ก่อนจะส่งข้อความกลับไป


Chuenta: พี่โรมครับ วันนี้มาเจอกันหน่อยได้ไหม


พอใจวางโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วก็เข้าไปอาบน้ำ ตอนที่ออกมาจากห้องน้ำเขาก็เห็นชื่นตานั่งอยู่แล้ว พอใจแต่งตัวไม่นานนักก็พร้อมจะออกจากห้อง


“พี่โรมตอบมาแล้ว พอใจจะออกไปเจอเขาเหรอ”
“ครับ ผมต้องทำให้มันจบ”
“ขอบคุณนะ”
“ครับ งั้นวันนี้ พี่ชื่นเอานี่ไปใช้”


พอใจยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้กับชื่นตา แล้วก็ขอโทรศัพท์ของชื่นตาเอาไว้ พูดง่ายๆก็คือการแลกกันใช้นั่นแหละ เดี๋ยวต่อจากนี้พอใจจะจัดการเอง


“ตั้งใจเรียนนะครับ”
“อื้อ เจอกันนะ”


พอใจยิ้มรับแล้วมองจนชื่นตาขึ้นตึกไป เขาจึงขับรถไปที่ร้านที่ตัวเองนัดโรมไว้ เขาหวังว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนที่พูดจารู้เรื่องอยู่บ้าง เขาไม่อยากจะต้องทำอะไรให้มากความ


พอใจมาถึงที่ร้านก่อน แต่เขายังไม่เข้าไปในร้าน เขาไม่อยากให้โรมสังเกตเห็นว่าเขาอยู่ในร้าน จึงนั่งรออยู่บนรถ เมื่อโรมเดินเข้าร้านไปได้ประมาณห้านาที พอใจจึงเดินตามเข้าไป


“สวัสดีครับ” พอใจเลื่อนเก้าอี้ตรงข้ามโรมแล้วนั่งลง
“มึง! แล้วชื่น... ไอ้สัด มึงหลอกกู”
“ครับ ผมหลอกพี่ ทีนี้เรามาคุยกันดีกว่าครับ” พอใจมองออกว่าโรมไม่พอใจเขาอย่างมาก แต่ดูอดทนอดกลั้นมากกว่าทุกครั้งที่แล้วมา มันก็แปลกอยู่หน่อยๆ


“พี่รู้ใช่ไหมว่าผมมาคุยเรื่องอะไร”
“กูไม่ได้โง่”
“ผมยังไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ แต่เอาเถอะ ผมแค่อยากมาบอกให้พี่เลิกวุ่นวายได้แล้ว”
“ยังไม่ได้คบกัน กูก็มีสิทธิ์” โรมเสียงแข็งขึ้นมา
“พี่มีสิทธิ์ที่จะชอบ แต่ไม่มีสิทธิ์คุกคามชีวิตคนอื่นครับ ความชอบของพี่มันสร้างความรำคาญให้เขา ผมขอโทษที่ต้องพูดตรงๆ” โรมนิ่งไป พอใจไม่เว้นช่องให้โรมได้พูด เขาพูดต่อทันที


“พี่จะชอบเขาก็ได้ แต่อย่าสร้างความลำบากในชีวิตให้เขา”
“มึงอย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย มึงเพิ่งเจอชื่น กูเจอเขามาก่อนเป็นปีๆ!”
“พี่เจอเขามาเป็นปี แต่คนที่เขาให้ใจคือผม อย่างน้อยผมว่าผมก็รู้ดีกว่าพี่นะ ผมหวังว่าพี่จะพูดจารู้เรื่อง ผมไม่ทำอะไร ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะไม่ทำ”
“มึงจะทำอะไรกูได้”
“ทำอะไรก็ได้ให้พี่ออกไปจากชีวิตเขา มันไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก”


พอใจหงุดหงิดมากแต่เขาก็สามารถซ่อนมันไว้ภายในใบหน้าที่เรียบเฉยนี้ได้ มันเป็นหนึ่งในความสามารถที่เขาได้รับมาจากพ่อ การปกปิดอารมณ์ แต่ก็แสดงความน่าเกรงขามออกมาผ่านสายตาและสีหน้า พอใจหวังว่าโรมจะเข้าใจที่เขาพูด


โรมลุกขึ้นและเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป พอใจไม่รู้ว่าโรมจะหยุดการกระทำของตัวเองหรือไม่ แต่หลังจากนี้พอใจจะไม่ปล่อยอะไรเอาไว้แล้ว เพราะเราทั้งคู่เริ่มเดินออกมาไกล เขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องน่ารำคาญในความสัมพันธ์ พอใจคิดว่าเขาจัดการได้ แค่อ่าจจะต้องยืมมือใครสักคนเท่านั้น เขามีตัวแปรสำคัญในการกำจัดโรมออกไป


หลังจากระงับอารมณ์ของตัวเองได้แล้ว พอใจก็ตัดสินใจกินอาหารเที่ยงในร้านนั้นเลย แล้วจึงกลับไปที่มหาวิทยาลัยอีกทีเพื่อเข้าคลาสตอนบ่าย


“ตอนเช้ามึงไปไหนมาวะ ทำไมไม่เข้า” มังกรถามเพราะพอใจไม่เคยขาดเลย เขามาเรียนทุกคาบ
“กำจัดแมลง”
“ห๊ะ? ห้องมึงมีแมลงเหรอ ตัวอะไรวะ”
“แมลงสาป”
“อี๋ กูไม่ถูกกับแมลงสาป มันไปยังวะ”
“ไม่รู้”
“มึงรีบฆ่ามันเลยนะ พูดแล้วขนลุก” มังกรทำสีหน้าขนลุกขนพอง
“อ่าห๊ะ กูไม่ปล่อยให้มันอยู่นานหรอก” มังกรยกนิ้วให้เป็นการบิกว่าความคิดของเขาถูกต้อง แล้วก็หันไปเมาท์กับโมกข์เรื่องแมลงสาป คงจะมีว่านคนเดียวล่ะมั้งที่เข้าใจเรื่องที่เขาพูด


“ไปคุยแล้ว?”
“อือ”
“เขาว่าไง”
“ดูไม่พอใจ ไม่รู้สิ”
“อืม เดี๋ยวช่วยดู”
“ช่วยดูไรกันวะ แมลงสาปเหรอ ให้กูช่วยป่ะ” โมกข์เข้ามามีส่วนร่วมในบทสนทนา
“มึงแน่ใจนะโมกข์ว่าจะช่วยพวกกูไล่แมลงสาป” ว่านถามขึ้น
“ไม่เอาดีกว่า กูกลัวมันบิน” แล้วว่านก็หลุดหัวเราะออกมาให้กับประโยคนั้น








พอใจเลิกคลาสหลังจากชื่นตาประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่เจ้าตัวก็ยืนยันที่จะนั่งรอ ทำให้พอใจรีบเก็บของแล้วลงใต้ตึกคณะ เขาไม่อยากให้ชื่นตารอนานนัก ยิ่งอยู่เดียวด้วย


“พอใจจจ” เมื่อเดินพ้นบันไดลงมาชื่นตาก็วิ่งเข้าใส่เขาทันที ดีที่พอใจยังมีสติจับไว้ได้ ไม่งั้นคงล้มกันไปทั้งคู่
“วิ่งทำไมครับ เดี๋ยวก็ล้ม”
“เราคิดถึง” ชื่นตาพูดทั้งๆที่เอาหน้ามุดอยู่กับไหล่เขา พอใจว่าชื่นตาคงต้องถูกใครพูดอะไรมาแน่ๆ ไม่มีทางที่เจ้าตัวจะพูดออกมาก่อนหรอก ก็คุณคนนี้เขาขี้เขินจะตาย


“อะไรนะครับ”
“ไม่พูดแล่ว!”
“ไม่พูดก็ไม่พูด แต่เราจะยืนกอดกันตรงนี้เหรอครับ”
“อ๊ะ!” ชื่นตาที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนก็ขยับตัวออกอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ช้าไป เพราะเพื่อนๆของเขาที่เดินมาข้างหลังเห็นหมดแล้ว พวกมันคงถ่ายไว้ด้วยมั้ง เห็นโมกข์มันถือโทรศัพท์อยู่


“เกรงใจคนโสดนิดนะครับคุณชื่น”
“เราก็โสด!”
“โสดแต่ไม่สนิทนี่คร้าบบบ”
“มังกรหยุดพูดเลย!”
“ว้าย น่ากลัว” ไอ้มังกรทำท่าล้อเลียนจนเพื่อนคนอื่นหัวเราะออกมา ชื่นตาก็ไม่ได้ดูซีเรียสอะไร แถมยังหัวเราะไปกับเขาด้วย เขาล้อเรานะ ลืมหรือเปล่า


“แล้วสรุปว่ามีอะไรครับ ทำไมวิ่งมาแบบนั้น”
“ก็คิงมันบอกว่าต้องประกาศตัว ให้คนรู้เยอะๆ พี่โรมจะได้หายไป”


พอใจยิ้มขำด้วยความเอ็นดู นี่คือการประกาศตัวของชื่นตาสินะ ดูเหมือนว่าจะได้ผลประมาณหนึ่ง เพราะคนที่อยู่ใต้ตึกคณะหันมาสนใจกันแทบทุกคน อย่างน้อยพวกเขาก็อาจจะเป็นหูเป็นตาให้ได้บ้าง ถูกซุบซิบนิดหน่อยก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพอใจ


“แล้ววันนี้จะไปเดตไหนกันเหรอคะ”
“ไม่มีแพลนอ่ะ กลับคอนโด”
“อะไรอ่ะ ไม่โรแมนติกเลย” โมกข์ทำหน้าบูด
“เอ้อ เอางี้สิ กูได้บัตรฟรีที่โรมแรมนี้มา2ใบ เอาไปๆๆๆ” โมกข์ส่งบัตรบุฟเฟ่ต์โรมแรมดังมาให้พวกเรา2ใบ


“เฮ้ย! ทำไมโมกข์ไม่ใช้ล่ะ”
“โมกข์ไปมาแล้วว พอดีเพื่อนก็ได้เหมือนกัน” เมื่อโดนยัดเยียดโดยไม่สนความเกรงใจของพวกเราเลยสักนิด ทำให้ชื่นตาต้องรับมา แต่มันก็น่าสนใจไม่น้อย โรมแรมนี้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับอาหารทะเลมากอยู่แล้วด้วย


“งั้นเรากลับไปเปลี่ยนชุดที่คอนโดกันก่อนไหมครับ แล้วค่อยไป”
“ได้ๆ ใส่ชุดนี้มันก็แปลกๆเนอะ” พวกเราไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษานะครับ พอใจใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสามส่วน ชื่นตาก็ใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสามส่วนเช่นกัน เมื่อต้องไปกินข้าวที่โรมแรม ก็เลยเห็นตรงกันว่าไม่เหมาะ


พวกเขาแยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและลงมาเจอกันที่ล็อบบี้ในเวลาห้าโมงครึ่ง พอใจมองสำรวจชื่นตาตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาดูแปลกตาไปนิดหน่อย


“มันแปลกไหม”
“ไม่ได้ดูแปลก แค่แปลกตาครับ”
“ป้าชมซื้อให้เรา บอกให้เอาไว้ใส่ไปงาน จริงๆมันมีตัวนอก แต่แค่ไปกินข้าวใส่แค่นี้ก็พอเนอะ”
“ครับ พอแล้วล่ะ”


ชื่นตาใส่เชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสแล็คสีขาว ที่มันดูแปลกตาเพราะเขาไม่ค่อยเห็นชื่นตาใส่กางเกงขายาวเท่าไหร่นัก เขาชอบใส่กางเกงขาสามส่วนหรือไม่ก็เป็นยาวแบบกางเกงยีนส์ไปเลยมากกว่า


“เราก็ไม่เคยเห็นพอใจแต่งตัวแบบนี้เหมือนกันน”
“อ่า ผมก็ไม่ค่อยได้ใส่”


และชุดของพอใจในวันนี้เป็นเสื้อแขนยาวสีขาว กับกางเกงทรงตรงสีเบจ กางเกงตัวนี้เขาซื้ิอมาได้ปีหนึ่งแล้วล่ะมั้ง แต่ไม่เคยได้ใส่เลย เพราะปิดเทอมก็อยู่แต่บ้าน


พวกเราใช้เวลาขับรถมาเกือบหนึ่งชั่วโมง มาถึงโรงแรมก็หกโมงกว่าๆ เมื่อยื่นบัตรที่ได้มาให้พนักงาน เขาก็พามาชั้นสุดท้ายของโรงแรม


“คุณลูกค้าอยากนั่งข้างในหรือตรงระเบียงดีครับ” พอใจหันไปมองชื่นตา เป็นเชิงว่าให้เลือกได้เลย
“ระเบียงครับ”


ระเบียงของโรมแรมนี้สามารถมองเห็นวิวได้ทั่วกรุงเทพ เวลานี้ฟ้ามืดแล้ว เราก็สามารถมองเห็นความคึกครื้นผ่านทางแสงไฟต่างๆที่มีอยู่รอบเมือง


“ตามบัตรที่ลูกค้าได้ไปจะมีอาหารเป็นเซ็ตอยู่แล้วนะครับ นี่เป็นเมนูเพิ่มเติม ถ้าลูกค้าอยากสั่งเพิ่ม ทางเราก็สามารถทำให้ได้ จะบวกค่าใช้จ่ายตามเมนูครับ”
“โอเคครับ”


พอใจไม่คิดว่าพวกเราต้องสั่งเพิ่ม เพราะรายการอาหารที่ไล่มาก่อนหน้านั้นก็น่าจะทำให้อิ่มอยู่แล้ว เขาเลยมองเมนูแค่ผ่านๆเท่านั้น เมื่อมองความสวยงามของทัศนียภาพตรงหน้าแล้ว พอใจก็ตัดสินใจยกมือถือขึ้นมาถ่าย เริ่มจากการถ่ายวิว แล้วค่อยๆเลื่อนลงมาถ่ายคนที่มาดินเนอร์ด้วยกันวันนี้


“ลูกค้าอยากจะรับเป็นแชมเปญหรือไวน์ครับ”
“แชมเปญครับ”


ชื่นตาเป็นคนตอบ เดาว่ารายนั้นคงถนัดทางนี้มากกว่า ส่วนพอใจก็ไม่ใช่สายแอลกอฮอล์อะไร เขาแค่ดื่มได้ เพราะพ่อพาดื่มแค่นั้น


“เราหิวมากเลย”
“เดี๋ยวอาหารก็มาแล้วครับ”
“อื้อ เราอยากลองมานานแล้ว ที่เป็นลอบสเตอร์อ่ะ สีมันสวยดี”
“ผมว่าเมนูของหวานก็ดูดี”
“พอใจเคยไปงานกับคุณลุงไหม เราเคยเห็นคุณลุงออกทีวีด้วย”
“เคยครับ แต่ไม่บ่อย ผมไม่ชอบ”
“นั่นสินะ เวลาเราออกงานกับแม่เราก็ไม่ชอบเหมือนกัน”


พอใจเคยไปงานสังคมกับพ่ออยู่บ้าง แต่ไม่ได้ชอบเท่าไหร่นัก พ่อก็ไม่ได้บังคับเขา แค่มาชวน จะไปหรือไม่ไปก็ได้ เขาก็เลือกไปบางงาน เพราะยังไงถ้าทำงานแล้ว เขาก็คงต้องไปอยู่ดี มันต้องได้ฝึกกันบ้าง


“คุณหญิงคุณนายเขาอวดเพชรกันสุดฤทธิ์เลย ดีนะแม่เราใส่แค่อย่างเดียว มินิมอลสไตล์”
“ฮะๆ แม่ผมก็เคยไปออกงานกับพ่อนะ แต่ก็ไม่ได้ใส่อะไรเยอะแยะ เขาบอกรำคาญ”


พวกเราพูดคุยกันระหว่างมื้ออาหาร มีการชนแก้วกันเล็กน้อย อาจจะเพราะอยู่สูง อากาศข้างบนก็เลยค่อนข้างเย็น การออกมานั่งริมระเบียงเป็นความคิดที่ถูกต้องเลย เป็นมื้อเย็นที่ถูกใจผมไม่น้อยเลย









*****************************



ตอนนี้เราเขียนคุณชื่นตาจบแล้วนะคะ เดี๋ยวจะทยอยๆมาลงเหมือนเดิม ขอเวลาเคลียร์ต้นฉบับเพื่อส่งพิจารณาด้วย ช่วยสวดมนต์ให้น้องผ่านด้วยนะ :hao5:

ส่วนเรื่องคำผิดก็ต้องขอบคุณมากๆนะคะ บางทีเราเบลอๆหรือพิมพ์ในโทรศัพท์ตรงไหนมันแปลกๆก็คอมเมนต์บอกกันได้ค่ะ



ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: คุณชื่นตา--15--<5/6/2019>
«ตอบ #43 เมื่อ05-06-2019 19:31:28 »

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: คุณชื่นตา--15--<5/6/2019>
«ตอบ #44 เมื่อ05-06-2019 19:31:50 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: คุณชื่นตา--15--<5/6/2019>
«ตอบ #45 เมื่อ05-06-2019 19:41:45 »

อิจฉาแล้วนะไปดินเนอร์กันสองคน หวานจริงๆ
ขอให้ต้นฉบับผ่านการพิจารณานะคะ

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter16:10/6/2019>
«ตอบ #46 เมื่อ10-06-2019 13:29:19 »

16






พวกเราดื่มด่ำบรรยากาศกันมาร่วมชั่วโมง ของหวานอะไรก็จัดการเรียบร้อย แชมเปญก็ดื่มกันจนหมดเกลี้ยง พวกเราเลยตัดสินใจว่ากลับกันเลยดีกว่า อิ่มมากแล้วตอนนี้


“อาหารอร่อยดี ถ้ามีเงินเยอะๆจะมาบ่อยๆเลย”
“ผมก็ว่างั้น เรากินไม่เหลือสักอย่าง”
“ช่ายยย”


ชื่นตานั่งอย่างสงบเสงี่ยม เพราะเขาอิ่มเกินกว่าจะขยับตัวมากมาย พอหนังท้องตึง หนังตาเขาก็หย่อน ชื่นตาตัวโอนเอนไปมาจะหลับอยู่หลายครั้ง จนพอใจต้องบอกให้นอนลงดีๆ


“นอนเถอะครับ”
“แต่พอใจขับรถ”
“ไม่เป็นไรครับ ผ้าห่มอยู่ข้างหลังนะ”


ชื่นตาที่ทนความง่วงของตัวเองไม่ไหวก็เอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มสีน้ำเงินลายก้อนเมฆมากอดไว้ แล้วค่อยๆหลับตาลง จนเสียงหายใจเข้าออกเป็นจังหวะเดียวกัน พอใจจึงรู้ว่าชื่นตาหลับไปแล้ว


พอใจพาชื่นตากลับมาถึงคอนโดได้อย่างปลอดภัย เขาหลับไปไม่นานนัก ทำให้ตอนมาถึงคอนโดสามารถปลุกได้ง่ายๆ


แต่ปลุกง่ายๆก็ไม่ได้หมายความว่าชื่นตาจะให้พอใจกลับไปได้ง่ายๆ เขาไม่ยอมปล่อยพอใจเดินออกจากลิฟต์ จะพาขึ้นไปด้วยให้ได้


“ไปกับเราหน่อยยย”
“ไปไหนครับ”
“ไปห้องง”
“ครับๆ”


พอใจเข้าใจว่านี่คืออาการงอแงของคนที่เพิ่งจะตื่น และอยากนอนต่อ เขาเลยยอมพาไปส่งที่หน้าห้อง เวลานี้ชื่นตาไม่ใช่พี่ชื่นอีกต่อไป กลายเป็นเด็กชายชื่นตาต่างหาก


“ฝันดีนะครับ”
“เดี๋ยว เอ่อ คือว่า…”
“ครับ?”


ชื่นตาค่อยๆยืดตัวขึ้นไปหาพอใจที่ก้มหน้าลงมาคุยกับตัวเอง จนกระทั่งริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน ชื่นตาประทับสัมผัสไว้อย่างนั้น ไม่กล้าหายใจ จนกระทั่งใกล้หมดลมจึงถอนริมฝีปากออกมา


“คือเรา คือเรา เอ่อ”


ชื่นตาไม่ทันได้คิดข้อแก้ตัวใดๆ พอใจก็ประคองช่วงคอของชื่นตาให้รับสัมผัสจากตนเอง พอใจค่อยๆเปลี่ยนจากจูบแบบเผินๆ ไปสู่ความวาบหวาม ค่อยๆละเลียดชิมความหวานจากปากของอีกคน เมื่อดูดดื่มความหวานจนพอใจ เขาก็ค่อยๆถอนริมฝีปากออกมา


ชื่นตายืนหอบหายใจหน้าแดงก่ำเพราะหายใจไม่ทัน พอใจมองด้วยความรู้สึกเอ็นดู อ่า นี่เป็นจูบแรกของเขา เขาทำทุกอย่างด้วยความรู้สึกและอารมณ์ทั้งนั้น


“เอ่อ ฝันดีนะพอใจ”
“ฝันดีครับ”


ทันทีที่ชื่นตาตั้งสติได้ เขาก็รีบบอกราตรีสวัสดิ์แล้วหนีเข้าห้อง เขาดีใจที่พอใจไม่คาดคั้นถามว่าทำไมเขาถึงทำ ตอนนี้สมองเขาไม่พร้อมจะตอบคำถามใดๆทั้งนั้นแหละ เรื่องทั้งหมดน่ะ มันเริ่มมาจากคิงทั้งนั้น ต้องย้อนไปเมื่อตอนก่อนลงไปหาพอใจที่ล็อบบี้


[มึงจะไปดินเนอร์ที่โรงแรมนั้นกับพอใจเหรอ!]
“อื้อ ได้บัตรมาจากโมกข์”
[อีดอก โคตรโรแมนติก ใช้โอกาสนี้มอมแล้วก็รวบหัวรวบหางเลย]
“พูดเรื่องบ้าอะไรของมึง”
[ก็ถ้ามึงอยากรู้ความรู้สึกตัวเองให้แน่ชัดก็ต้องลองทำดูดิวะ จะได้รู้ว่าพร้อมยัง]
“พร้อมอะไร!”
[พร้อมเป็นแฟนไง คิดไปถึงไหนยะหล่อน]
“ไม่ได้คิดอะไรโว้ย”
[ถ้าอยากลองแบบซอฟต์ๆก็ลองแค่จูบก่อนก็ได้นะ แอลกอฮอล์ย้อมใจนิดหน่อย จะได้มีความกล้า เป็นไง?]
“กูไม่ทำหรอก!”
[ถ้ามึงพูดแบบนี้กูรับประกันว่ามึงทำแน่ เหมือนส่งลูกสาวเข้าหอเลยว่ะ]
“กูไม่คุยกับมึงแล้ว แค่โทรมาถามว่าควรแต่งตัวแบบไหน ทำไมกูต้องมาฟังอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย”


เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้ ชื่นตาเก็บคำพูดของคิงไปคิดตลอดการกินมื้อเย็น รวมถึงตอนดื่มแชมเปญเขาก็เอาแต่คิดว่าควรสั่งอะไรที่มันแรงกว่านี้ไหม คิดไปสะระตะ สุดท้ายก็ทำลงไปแล้วจนได้


ชื่นตาพยายามระงับอารมณ์เขินของตัวเองด้วยการตะโกนใส่หมอน มันก็ดีขึ้นนิดหน่อย เขาก็เลยเลือกวิธีต่อมาคือการอาบน้ำ อย่างน้อยน้ำเย็นๆก็คงช่วยให้สมองเขาเลิกคิดเรื่องเมื่อกี้ได้บ้าง ภาพติดตาจนเขาทำอะไรไม่ได้เลย


แต่ไม่ว่าชื่นตาจะทำยังไง จะใช้วิธีไหน ภาพตอนที่พวกเขายืนจูบกันอยู่หน้าประตูห้องมันก็ไม่ออกไปจากหัวสักที ถ้าเป็นแบบนี้คืนนี้เขาจะต้องไม่ได้นอนอย่างแน่นอน


Rrrrr ‘แม่’


“ครับแม่”
[ยังไม่นอนใช่ไหมลูก]
“ยังครับ”
[แม่จะโทรมาถามจำนวนคน จะมากันกี่คนลูก]
“ผมลืมคุยกับเพื่อนเลยครับแม่ เดี๋ยวจะรีบหาคำตอบให้พรุ่งนี้นะครับ”
[เร็วๆนะลูก เดี๋ยวทำความสะอาดห้องไม่ทัน]
“ครับ รักแม่นะครับ”
[รักลูกเช่นกันจ้ะ]


ชื่นตาจดคำสั่งของแม่ใส่หัวไว้ แล้วค่อยๆหลับตาลง แต่ยิ่งหลับตาภาพนั้นก็ยิ่งชัด เขานอนพลิกไปมาเพื่อให้ตัวเองหลับ แต่ทำยังไงก็ไม่หลับ จนกระทั่งร่างกายไม่ไหวแล้วผล็อยหลับไปตอนใกล้รุ่งสาง ทำให้สภาพของชื่นตาเช้านี้ดูไม่ค่อยดีนัก


“เป็นไรอีน้อง ตาโหลมาเชียว เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอจ๊ะ”
“เรื่องอะไร! ไม่มี!”
“เสียงดังทำไมเนี่ย แล้วพวกมึงพูดเรื่องอะไรกัน เมื่อคืนทำไม” แพลนที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาถามขึ้นมา
“ก็อีน้องมันไปดินเนอร์กับพอใจ กูเลยบอกให้ลองจูบดู พอเช้าวันนี้มันก็มาในสภาพตาโหลแบบเนี้ย”
“กูแค่นอนไม่หลับเว้ย”
“แล้วทำไมนอนไม่หลับล่ะ”
“พอๆ อย่าเถียงกัน ไปกินข้าวเหอะ เดี๋ยวเรียนบ่ายไม่ทัน” ในที่สุดแพลนก็เป็นผู้หยุดสถานการณ์นี้ ชื่นตาได้แต่ลอบถอนหายใจ วันนี้เขาเบลอๆ ถ้าคิงเค้นต่ออีกนิด มีหวังเขาต้องหลุดอะไรออกมาแน่ๆ


“ชื่น!” เสียงที่ดังขึ้นข้างหลังทำให้ชื่นตาและเพื่อนๆก้าวเท้าเร็วขึ้น ทำตัวเหมือนไม่ได้ยิน แต่โชคก็ไม่เข้าข้าง โรมมาถึงตัวชื่นตาได้อย่างรวดเร็ว เกือบจะเอามือดึงแขนเขาไว้ได้ แต่มีแพลนกั้นไว้อยู่เลยมาไม่ถึง


“เราต้องคุยกัน”
“ชื่นไม่มีเรื่องจะคุยกับพี่ ชื่นว่าชื่นพูดไปหมดแล้วตั้งแต่วันนั้น”
“ไม่ มันยังไม่จบ”
“มันจบแล้วครับ”
“พี่มาก่อนมัน! เป็นปีๆ พี่ทำอะไรผิด ทำไมถึงไม่ใช่พี่” โรมเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนที่อยู่รอบๆหันมามอง แล้วพวกเขาก็มองเห็นว่าพี่โปรดกำลังวิ่งมาทางนี้


“พี่โรมไม่ผิดเลยครับ”
“แล้วทำไม”
“ชื่นแค่ไม่ได้รักพี่”
“แล้วชื่นจะบอกว่าชื่นรักมันเหรอ!”
“มันอาจจะยังไปไม่ถึงตรงนั้น แต่ชื่นมั่นใจว่าชื่นจะรักเขา เพราะที่มาถึงตรงนี้ได้ มันก็ไกลมากแล้ว ขอตัวนะครับ”


ชื่นตากับเพื่อนๆเดินออกมาจากตรงนั้นตอนที่พี่โปรดวิ่งมาถึงพอดี พวกเขาหันไปเห็นว่าพอใจกับเพื่อนก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ทุกคนเลยตัดสินใจเดินไปนั่งที่โต๊ะเดียวกัน


“เขาคงจบแล้วล่ะผมว่า” ว่านพูดขึ้น
“มึงคิดงั้นเหรอวะ” มังกรทำหน้าไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
“กูว่าเขาไม่ได้ดื้อด้านขนาดนั้นหรอก พักหลังกูว่าเขาดูอ่อนลงมากเลย”
“ก็จริง” พอใจเห็นด้วย พักหลังมานี้โรมไม่ค่อยได้วุ่นวายกับชื่นมากเท่าตอนแรกๆ แถมยังไม่ค่อยมาวนเวียนอยู่แถวนี้ เจอเขาก็ไม่เข้ามายุ่งหรือพูดจาเสียดสีแล้ว พอใจคิดว่าเขาทำถูก ที่ขอให้คนๆนั้นช่วยอย่างจริงจัง


พอใจหันไปมองสองคนนั้นที่ค่อยๆเดินออกไป ก็หวังว่าหลังจากนี้ โรมจะหันไปมองคนที่อยู่ข้างๆตัวเองบ้าง ก่อนที่คนๆนั้นจะเหนื่อยจนหมดพลังแล้วเดินจากไป






 [Prod’s part]


“ทำไมวะมึง ทำไมไม่เป็นกู” โปรดยืนมองเพื่อนรักของตัวเองร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เขารู้ว่าโรมเจ็บที่ไม่ได้รับความรักจากชื่นตา แต่ตัวเขาเองก็เจ็บไม่แพ้กัน ตอบตัวเองไม่ได้เลยว่าทำไมเขายังยืนอยู่ตรงนี้


“เพราะไม่รักไงมึง แค่นั้นเอง”


สิ่งสุดท้ายของความรักก็คือความไม่รัก ถ้าเขาไม่รัก ทำยังไงเขาก็ไม่รัก นั่นคือสิ่งที่โปรดพยายามย้ำเตือนตัวเองมาตลอด ใช่ เตือนตัวเอง ว่าไม่รักก็คือไม่รัก เขาไม่อยากพูดคำนี้กับโรม เขากลัวว่าโรมจะเจ็บ แต่มันก็คือความจริง


“กูไม่ดีตรงไหนวะ เขาถึงไม่รักกู”
“ความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามึงจะดีหรือไม่ดี มึงแค่ไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับเขา”
“แล้วทำยังไงกูถึงจะเป็นคนที่ใช่วะ”
“คนที่ใช่ จะไม่ต้องพยายามร้องขอให้เขามาสนใจ ถ้ามึงเป็นคนที่ใช่ ถ้ามันถูกที่ถูกเวลา มึงก็จะเป็นคนที่ใช่”


ประโยคที่ว่า right place , right time and right person ถูกเสมอ คนที่เราคิดว่าใช่ แต่ถ้ามาในเวลาที่ไม่ใช่ เขาก็คือคนที่ไม่ใช่อยู่ดี


“ทำไมชื่นถึงไม่มองกูเหมือนที่มึงมอง”
“…”
“ทำไมถึงเป็นมึง”
“…”
“ทำไมวะ”
“กูก็ไม่อยากอยู่ในสถานะนี้นักหรอก ถ้ามันเลิกรักได้ง่ายๆ กูก็ไม่อยู่ตรงนี้แล้ว”
“มึงจะทิ้งกูเหรอ”
“…”
“ถ้ามึงเลิกรักกู มึงก็จะทิ้งกูเหรอ”
“กูไม่รู้จะอยู่ทำไม ถ้ากูไม่รัก”
“งั้นอย่าเลิกรักกู อย่าทิ้งกูไป” ถ้าการเลิกรักมึงมันง่าย กูก็ไปนานแล้ว


[Prod’s part ends]








“สรุปว่าพวกมึงจะไปแพร่กับกูมะ” ชื่นตาถามเพื่อนในระหว่างกินข้าว
“ไปจ้า ไปทั้งคู่จ้ะ”
“จะไปเที่ยวแพร่กันเหรอคะ” โมกข์ดูจะสนใจโปรแกรมนี้เพราะเธออยากขึ้นเหนือไปพักผ่อน ไม่ต้องเล่นน้ำหรอก มันร้อน


“พี่จะกลับบ้านน่ะ พวกเราไปด้วยกันไหม”
“พอใจ มึงไปป่ะ” ทุกคนให้พอใจตัดสินใจคนแรกเป็นการนำร่อง เพราะพอใจสนิทกับชื่นตาที่สุด ถ้ามันไปจะได้ติดสอยห้อยตามไป


“ไป แม่จะฝากของไปด้วย”
“ฝากอะไรเหรอ” ชื่นตาถาม
“ขนมน่ะครับ”


ชื่นตาคิดว่าบางทีมันอาจจะไม่ถึงมือพ่อกับแม่เขาก็ได้ ขนมของป้าแววน่ะอร่อยจะตาย แถมกลิ่นก็ยังดีอีกด้วย มันอาจจะหมดตั้งแต่พอใจหยิบมาวางบนรถก็ได้


“แล้วจะไปวันไหนเหรอครับ”
“ว่าจะเย็นวันที่11นะ พวกเราหยุดวันไหนล่ะ”
“11ได้ครับ ไม่มีเรียนวันที่12”


โชคดีที่ก่อนวันหยุดสงกรานต์เป็นวันที่พอใจกับเพื่อนไม่มีคลาสอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาสามารถไปในวันที่11ตอนเย็นได้พอดี


“เราอยากนั่งรถไฟ ไปรถไฟกันไหม” ชื่นตาเสนอ
“โมกข์ก็ไม่เคยค่ะ น่าสนใจนะคะ มันนอนรวมได้ไหมอ่ะ” เพราะเป็นผู้หญิงคนเดียว ถ้าต้องให้เดินทางแยกไปอยู่อีกตู้หนึ่งอาจจะลำบากนิดหน่อย


“รวมได้จ้ะ ก็คือเป็นตู้ปกติ” คิงที่เคยขึ้นรถไฟมาแล้วตอบคำถามหลายๆอย่างที่เพื่อนๆอยากรู้
“งั้นเดี๋ยวพี่จองให้ แล้วทุกคนค่อยโอนเข้าบัญชีนะจ๊ะ” ทีนี้เรื่องของการเดินทางก็จบไป


ชื่นตาดูมีความสุขมาก ก็นะ จะได้กลับบ้านนี่ แถมยังมีเพื่อนๆไปด้วยตั้งหลายคน ถือเป็นการผจญภัยของเด็กชายชื่นตาก็ว่าได้
พอใจมองอย่างเอ็นดูที่ชื่นตาพูดเจื้อยแจ้วเกี่ยวกับบ้านเกิดของตัวเองไปเรื่อย ทั้งสายตาและการกระทำมันก็ชัดเจนจนเพื่อนๆไม่ต้องสงสัยอะไรแล้ว แต่ดูเหมือนคนที่ดีใจที่สุดจะเป็นคิง ก็เขาเชียร์ของเขามานี่นา









***********************************



talk: ยังไงก็ฝากคอมเมนต์ด้วยนะคะ พูดคุยกันได้ตลอดในทวิตเตอร์ @zhaofah นะคะ







ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: คุณชื่นตา--16--<10/6/2019>
«ตอบ #47 เมื่อ10-06-2019 13:56:26 »

กลุ่มนี้น่ารักดีนะ
สำหรับโรม อย่าที่โปรดบอกไม่เกี่ยวกับความดี แต่มันคือไม่ใช่ พยายามแค่ไหนก็คือไม่ใช่
 :ling2:

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter17:16/6/2019>
«ตอบ #48 เมื่อ16-06-2019 18:43:27 »

17







ตอนเย็นของวันที่11เมษายน พวกเราทุกคนรีบกลับห้องมาเตรียมตัว แน่นอนว่าพอใจเก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราจะไปกันทั้งหมดสี่วัน ไม่รวมวันเดินทางคือวันนี้


พอใจอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดสบายๆเตรียมไว้สำหรับการนอนในครั้งนี้ แต่ก็ไม่ได้สบายจนเกินไป พวกเขายังต้องไปพบพ่อกับแม่ของชื่นตาอยู่ มันก็ต้องมีความสุภาพอยู่บ้าง อย่างน้อยเสื้อยืดกางเกงวอร์มก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่


พอใจเช็คของในกระเป๋าให้แน่ใจว่าไม่ได้ลืมอะไร เมื่อยังเหลือเวลาอีกกว่าสามชั่วโมง พอใจเลยจัดการทำอะไรง่ายๆให้ตัวเองกิน จะได้ไม่ต้องไปหาอีก ของง่ายๆที่ว่าก็คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั่นเอง


ตื่อดึ๊ง!


ก่อนที่จะได้ทำอะไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พอใจจึงต้องละสายตาจากห่อมาม่ามาดูที่มือถือก่อน


คุณชื่นตา: ไปหาอะไรกินกันไหมพอใจ
Porjai: ผมกำลังจะต้มมาม่า พี่จะลงมาไหม
คุณชื่นตา: ลง!
คุณชื่นตา: เผื่อด้วยนะ


พอใจหยิบบะหมี่มาเพิ่ม รวมถึงหั่นหมูเพิ่มสำหรับสองคนด้วย พอใจชอบรสหอยลายผัดฉ่าที่เป็นมาม่าแห้ง เขาต้มเส้นกับหมูทิ้งไว้ แล้วหยิบไส้กรอกชีสยัดใส่ไมโครเวฟ


เมื่อเส้นกับหมูสุกได้ที่ พอใจก็ตักขึ้นมาใส่จาน กะให้เท่าๆกัน แต่อีกจานดูจะได้เยอะกว่านิดหน่อยแฮะ จากนั้นก็หยิบไส้กรอกมาวางไว้ในจาน แค่นี้ก็เรียบร้อย เสร็จพอดีกับที่อีกคนมากดกริ่งหน้าห้อง


“ช่วยครับ”


ชื่นตาลากกระเป๋ามาด้วย เขาเดาว่าเจ้าตัวคงเก็บของเสร็จหมดแล้ว ขนทุกอย่างมาห้องเขา จะได้ไม่ต้องขึ้นไปเอาอีก พอใจวางกระเป๋าของชื่นตาไว้ใกล้ๆประตูห้อง จะได้ยกออกไปง่ายๆ


“รสอะไรอ่ะ”
“หอยลายผัดฉ่าครับ”
“เรายังไม่เคยกินเลย”
“ลองชิมดู”


พอใจมองดูชื่นตาตักเส้นเข้าปาก แต่ดูเหมือนว่ามันจะเผ็ดไปหน่อย พอชื่นตาดูดเส้นเข้าไป ก็เลยสำลักความเผ็ด


“กินน้ำก่อนครับ”
“อื้อ เผ็ดอ่ะ”
“พี่ไม่ค่อยกินเผ็ดไง”


เมื่อเห็นว่าชื่นตากลับมาเป็นปกติ พอใจก็เริ่มต้นกินของตัวเองบ้าง เขาชอบรสนี้มาก แต่เสียอย่าง เขารู้สึกว่ามันให้น้อย น่าจะน้อยลงกว่าเมื่อก่อนด้วย แต่ก็ช่างเหอะ


“อิ่มจัง”
“อิ่มก็ดีแล้วครับ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายหา”
“อื้อ เราจะออกไปกี่โมงอ่ะ”


พอใจเหลือบไปมองนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะหกโมงแล้ว เราซื้อตั๋วรถไฟไว้ที่สองทุ่มกว่า พอใจคิดว่าออกไปตอนนี้เลยก็ได้ ไปรอคงไม่นานเท่าไหร่


“ตอนนี้เลยก็ได้ครับ”
“โอเคคค แล้วไปไงอ่ะ ขับรถเหรอ”
“แท็กซี่ดีกว่าครับ ไปหลายวัน”


พอใจเช็คราคาที่จอดรถมาแล้ว เขาว่าไปหลายวันอาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่ถ้าเอารถไปจอด กระเป๋าเราไม่ได้เยอะมากนัก ไปยืนโบกแท็กซี่คงไม่ลำบากเท่าไหร่


ชื่นตาลากกระเป๋าตัวเองไปยืนรอหน้าห้อง ส่วนพอใจก็เช็คไฟและก็อกน้ำว่าปิดสนิทเรียบร้อย จัดการล็อกห้อง แล้วทั้งคู่ก็ลงไปที่ล็อบบี้กัน


“ไปไหนกันเด็กๆ” พี่จุ๋มที่เป็นรีเซ็ปชันถามตอนที่เห็นพวกเราลากกระเป๋าออกมาจากลิฟต์
“แพร่ครับ กำลังจะไปขึ้นรถไฟ”
“อ๋อ น้องชื่นกลับบ้าน พอใจก็ไปเที่ยวสินะ จะไปยังไงกันล่ะ”
“แท็กซี่ครับพี่จุ๋ม”
“เดินไปแถวๆป้ายรถเมล์นะเด็กๆ ตรงนั้นมองเห็นแท็กซี่”
“ขอบคุณครับ”


พวกเราลากกระเป๋ามาถึงจุดที่พี่จุ๋มบอก โบกแท็กซี่คันแล้วคันเล่า จนมาถึงคันที่ห้า เราก็สำเร็จในการโบกแท็กซี่จนได้ พวกเรานั่งฟังคุณลุงแท็กซี่โม้ถึงลูกชายตัวเองตลอดทางจนกระทั่งถึงหัวลำโพง


พวกเราสองคนมาถึงคนแรก ก็เลยไปหาที่นั่งรอเพื่อนๆในจุดที่คนจะมองเห็น ไม่นานนักคนอื่นก็ทยอยมา แต่พี่คิงที่เป็นคนจองตั๋วยังไม่มาน่ะสิ อีก15นาทีก็จะถึงเวลาแล้ว


“กูโทรหาก็ไม่รับ อย่าบอกนะว่านอน”
“ปกติมันเป๊ะจะตาย” ชื่นตากับพี่แพลนพยายามโทรหามาหลายสิบรอบ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าพี่คิงจะรับโทรศัพท์
“มานั่นแล้วค่ะ”


พวกเราทุกคนมองไปที่ทางเข้า แล้วก็เห็นพี่คิงกึ่งเดินกึ่งวิ่งลากกระเป๋าเข้ามา ทุกคนก็ได้แต่โล่งใจไปตามๆกัน นึกว่านั่งรถไฟครั้งแรกก็จะตกรถซะแล้ว


“โทษทีมึง อยู่ๆประตูห้องกูก็เปิดไม่ได้ กว่าช่างจะมา”
“เออๆ ยังทันอยู่ แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์”
“แบตหมดอ่ะ กูชาร์ตไม่ทัน”


เมื่อหมดเรื่องที่ต้องห่วงแล้ว พวกเราก็ค่อยๆทยอยกันขนของขึ้นไป พวกเรามีเจ็ดคน ก็จองห้องสี่เตียงสองห้อง ใครเดินก่อนก็เข้าห้องแรก ไม่มีการเกี่ยงกัน ไม่ต้องเลือกว่าใครจะอยู่ห้องไหน


ห้องแรกเลยเป็นมังกร โมกข์ แพลน ว่านที่เดินนำเป็นสี่คนแรก ส่วนห้องที่สองจึงมี พี่คิง ชื่นตา และผมที่เดินปิดท้าย


“กูนอนเตียงนี้ข้างล่าง”
“งั้นกูเอาข้างล่างเตียงนี้”
“ให้ผมนอนข้างบนเหรอครับ”


พอใจมองความห่างของเพดานกับเตียงบน เขาไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาจะนอนข้างบนได้ เพราะความสูงของเขาอาจจะทำให้ตอนที่ลุกขึ้นนั่งติดเพดาน


“ไม่น่ารอด เดี๋ยวพี่นอนชั้นบนเตียงอีน้องก็ได้จ้ะ”


สุดท้ายพี่คิงก็เป็นผู้เสียสละย้ายตัวเองขึ้นไปนอนชั้นบนของเตียงแทน ส่วนผมที่นอนข้างล่าง ก็จัดการยกกระเป๋าของทุกคนวางไว้บนหัว จะได้ไม่เกะกะขวางทาง


“กูว่าเรารีบนอนกันดีไหม ไปถึงจะได้ตื่นแบบสดชื่น”
“แต่นี่มันเพิ่งจะสามทุ่มเองนะ”
“งั้นก็มาบำรุงหนังหน้ากันดีกว่า”


เมื่อปฏิเสธไม่ได้ ผมกับชื่นตาก็ต้องเป็นเหยื่อให้พี่คิงแปะมาส์กเพิ่มความชุ่มชื้นลงบนหน้า มันก็เย็นๆดี เดาว่าพี่คิงคงเอาแช่ตู้เย็นเหมือนแม่ผมล่ะมั้ง เมื่อครบเวลาพวกเราก็ถอดแผ่นมาส์กออก แล้วก็นอนเลยตามคำแนะนำของพี่คิง











พวกเรามาถึงแพร่ในเวลาหกโมงครึ่ง โดยมีคนจากที่บ้านชื่นตามารับ พวกที่นอนอีกห้องหนึ่งดูจะตื่นไม่เต็มตานัก เหมือนพวกมันจะเล่นไพ่กันจนดึกดื่น ส่วนห้องของผมตื่นมาหน้าใสแต่เช้า เพราะทั้งนอนเร็วทั้งมาส์กหน้า


“พ่อครับแม่ครับบบ” เมื่อมาถึงบ้าน ชื่นตาก็พุ่งเข้าไปทันที
“สวัสดีครับ/ค่ะ”
“สวัสดีจ้ะเด็กๆ ไปอาบน้ำอาบท่ากันก่อนไป เดี๋ยวมากินข้าวเช้ากัน”


แม่บ้านพาพวกเรามาที่ห้องที่ทางบ้านเตรียมไว้ให้ นอนห้องละสองคน อ้อ พวกเขานอนที่บ้านอีกหลังหนึ่ง แยกมาจากบ้านใหญ่อีกที เหมือนนี่จะเป็นบ้านที่เอาไว้รับแขกโดยเฉพาะ


บริเวณบ้านของชื่นตาไม่ได้กว้างมาก แล้วก็ไม่ได้เป็นบ้านใหญ่ๆเหมือนบ้านรัตนพิบูลย์ จะเรียกว่าบ้านสวนก็น่าจะได้ บ้านทุกหลังในอาณาเขตนี้เป็นบ้านไม้ทั้งหมด ของใข้ในบ้านส่วนใหญ่ก็ไม้เช่นเดียวกัน ได้ยินว่ามีสวนผลไม้ด้านหลังด้วย


พอใจกับว่านสังเกตห้องและจัดของกันอย่างเงียบเชียบ ดีแล้วที่เขาได้นอนกับว่าน มันไม่ทำเสียงอะไรรบกวนเขาแน่นอน เขาสามารถนอนหลับได้แบบสบายๆแน่


“ไปถึงไหนแล้ววะ” ว่านเปิดบทสนทนาท่ามกลางความเงียบ
“อะไร”
“มึงกับพี่ชื่น”
“สำหรับกูมันมาไกลแล้ว”
“แล้วจะชัดเจนกันเมื่อไหร่”
“ตอนที่เรื่องทุกอย่างลงตัว”
“หมายถึงพี่โรม?”
“อือ”


ว่านไม่ได้ถามอะไรต่อ พอใจเลยขอเข้าไปอาบน้ำก่อน พอได้เจอน้ำเย็นๆร่างกายเขาก็สดชื่นขึ้นมา พอใจที่ทำทุกอย่างเสร็จคนแรกเลยออกมาเดินดูรอบๆบ้าน


“ชอบไหมล่ะ”
“ชอบครับคุณลุง” ในตอนที่เขาเดินดูต้นไม้ดอกไม้อยู่ ก็เจอเข้ากับพ่อของชื่นตา
“ชอบก็ดี ไม่ต้องเรียกลุงหรอก เรียกพ่อเหมือนเจ้าชื่นนั่นแหละ”
“เอ่อ ครับ”
“ชื่อพอใจใช่ไหมเรา เจ้าชื่นเล่าให้ฟังอยู่” พอใจรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ท่านรู้จักเขา แถมยังบอกว่าชื่นตาเล่าให้ฟัง เขาอยากรู่ว่าท่านรู้อะไรบ้าง หรือรู้ไปถึงไหนแล้ว


“เขาเล่าหมดนั่นแหละ ลูกชายพ่อก็เป็นอย่างนี้ เรื่องความรัก เขาไม่เคยปิดบังหรอก”
“แล้วคุณพ่อ..ไม่ว่าอะไรเหรอครับ”
“จะไปว่าอะไรล่ะ พ่อมีลูกชายคนเดียว เลี้ยงมาอย่างดี สิ่งเดียวที่ต้องการคือ ถ้ามีคนรักเขา อยากดูแลเขา ก็ทำมันให้ได้สักครึ่งหนึ่งของพ่อก็พอ”


“ครับ ผมจะดูแลเขาให้ดี”
“ดีแล้ว ไว้ชัดเจนกันเมื่อไหร่ก็มาอีกทีนะ”
“ขอบคุณครับ”


พอใจโล่งใจขึ้นมานิดหน่อย คิดถึงตอนที่ชื่นตาเล่าให้พ่อฟัง เขาจะเล่าด้วยท่าทางแบบไหนหรือความรู้สึกยังไงก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เห็นทีเขาคงต้องเร่งอะไรหลายๆอย่างให้มันชัดเจนแล้วล่ะ


“ป่ะ ไปกินข้าวกันเถอะพอใจ”
“ครับ”


พอใจเดินมาพร้อมกับคุณพ่อ เขาก็เห็นว่าเพื่อนๆมารอกันที่โต๊ะแล้ว สงสัยออกมากันตอนที่เขาคุยกับท่านอยู่ แล้วพอใจก็เหลือบไปเห็นชื่นตาที่อยู่ในครัว ใส่ผ้ากันเปื้อนลายเซเลอร์มูนซะด้วย


ชื่นตายกข้าวต้มมาเสิร์ฟพวกเราทุกคนพร้อมบอกว่าทำเองด้วยความภาคภูมิใจ พอใจมองดูข้าวต้มในชามของตัวเอง มันเป็นข้าวต้มปลา ก็ดูหน้าตาดี แค่ผักที่โรยอยู่ดูหน้าตาประหลาดไปหน่อย


“อร่อยไหม” ชื่นตาส่งสายตาสงสัยแบบวิบวับๆมาให้เขา คงหวังไว้มากกับข้าวต้ม
“อร่อยครับ”
“เย้!”
“อย่ามาหวานกันไปหน่อยเลยอีน้อง ผักมันยังหน้าตาน่าเกลียดอยู่”
“แค่ผักโรยหน้า อย่าเรื่องเยอะดิ”


แล้วก็กลายเป็นการเถียงกันของพี่คิงกับชื่นตา จากนั้นเรื่องก็เปลี่ยนเป็นการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของคุณพ่อคุณแม่ เป็นการทานอาหารเช้าที่คึกคักดีจริงๆ


“ไปเดินเล่นดีกว่า” ชื่นตาเอ่ยปากชวนทุกคน
“กูขอบาย ง่วงว่ะ” พี่แพลนตอบ
“ผมด้วย/โมกข์ด้วยย” เมื่อคนอื่นๆขอตัวไปนอน ก็เหลือแค่พวกผมสามคน
“อุ๊ย กูก็ไม่ไปนะ กลัวเป็นก้าง”
“ไปไกลๆเล๊ย!”


ชื่นตาตะโกนไล่ตามหลังพี่คิงไป เขาหน้าบูดบู้บี้ไปหมด พอใจที่เห็นแบบนั้นก็เลยได้แต่ขำ จึงได้ค้อนมาเป็นรางวัล


พวกเราเดินเล่นไปเรื่อยๆจนเจอกับศาลาที่อยู่ใกล้ๆกับบ่อปลา ชื่นตาเลยชวนผมไปนั่งบนนั้น ที่นี่ต้นไม้เยอะ อากาศเลยเย็น เป็นทางที่ลมพัดด้วย บรรยากาศดีมาก


“ผมคุยกับพ่อพี่แล้วนะ”
“ห๊ะ! คุยอะไรกัน” ชื่นตาแสดงความตื่นตกใจออกมาผ่านสีหน้า
“คุณพ่อเขาเล่าให้ผมฟังหมดแล้วนะ คุยกันทุกอย่างเลย พี่ชอบผมมากๆเลยสิน้าาา”
“อะ อะไร!”
“ก็จริงจังไม่ใช่เหรอครับ เลยเล่าให้พ่อฟัง”
“อื้อ ก็จริงจัง”


พอใจคิดว่าตอนนี้พวกเขาเดินกันมาไกลแล้ว ความรู้สึกมันล้ำหน้าไปแล้ว อาจจะไม่ได้รู้สึกรักมากๆ แต่มันดีขึ้นทุกๆวัน เป็นความสัมพันธ์ที่สบายใจทั้งคู่


“ผมก็จริงจังครับ”
“อื้อ”


ชื่นตาส่งยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่เขาคุ้นเคย พอใจยิ้มรับกับความรู้สึกดีๆในวันนี้ พอใจนั่งฟังชื่นตาเล่าเกี่ยวกับบ้านของเขา สวนตรงนั้นทำตอนไหน ตอนเด็กๆอยากกินอันนี้พ่อเลยปลูกให้ บลาๆๆ มันเป็นวันดีๆวันหนึ่งของเขาเลย









**********************************




talk: พูดคุยกันใน #คุณชื่นตา ได้น้าาา รออ่านอยู่นะคะ :hao5:



ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: คุณชื่นตา--17--<16/6/2019>
«ตอบ #49 เมื่อ16-06-2019 22:03:04 »

โหย ทางสดวก นึกว่าพ่อจะกีดกันซะอีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คุณชื่นตา--17--<16/6/2019>
« ตอบ #49 เมื่อ: 16-06-2019 22:03:04 »





ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter18:22/6/2019>
«ตอบ #50 เมื่อ22-06-2019 16:52:20 »

18







พวกเราว่างเปล่ามากครับ ไม่มีแพลนเที่ยวใดๆ ผมกลับบ้าน เลยอยากอยู่บ้านกับพ่อแม่ เพื่ิอนๆก็ไม่พูดอะไร เราเหลือเวลาอยู่อีกสามวัน ตอนแรกก็กะจะพาไปวันละที่ แต่เพื่อนไม่เอา เพื่อนบอกไปสองวันพอ อีกหนึ่งวันอยู่บ้าน คนอุตส่าห์จะพาไปเที่ยว พวกนี้ดันอยากนอนซะงั้น


เพราะฉะนั้นโปรแกรมเที่ยวเพียงแค่สองวันจึงเกิดขึ้น และไม่ได้เป็นโปรแกรมแบบอัดๆด้วยครับ โคตรจะโล่งเลย เริ่มจากการแวะไปไหว้พระที่วัดพระธาตุช่อแฮครับ แต่แวะไปแปปเดียว เพราะสิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในแพลนของผม


สถานที่แรกที่ผมพาเพื่อนๆมาคือคุ้มวงศ์บุรี เอาจริงๆถึงผมจะเป็นคนแพร่แต่ผมยังไม่เคยมาเหมือนกันอ่ะ ปกติอยู่แต่บ้าน นี่ก็เป็นการเที่ยวแพร่ครั้งแรกของผมเหมือนกันนะ


ผมว่าที่นี่น่ารักมากเลย บ้านเป็นสีชมพูด้วย ดูเหมือนทุกคนจะชอบที่นี่เพราะต่างคนก็ต่างยกมือถือมาถ่ายรูป พอใจก็เหมือนกัน เขาเอากล้องที่ผมไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่มาในทริปนี้


“พี่ชื่นไปยืนตรงนั้นหน่อย”


พอใจชี้ไปตรงข้างๆตัวบ้าน ผมก็ไปยืนตามจุดนั้นให้พอใจได้ถ่ายอยู่สักสองสามรูป แล้วก็เดินออกมา วันนี้พอใจมีรูปตัวเองบ้างหรือยังเนี่ย ผมไปถ่ายให้ดีกว่า


“เราขอลองถ่ายบ้างสิ”
“ครับ มองตรงนี้นะ มันเป็นออโต้ พี่กดได้เลย”


ชื่นตาลองมองผ่านช่องมอง เขาพยายามเลื่อนกล้องในมือให้ภาพในนั้นออกมาดีที่สุด แล้วก็กดถ่าย พอไม่เห็นรูปก็เครียดเหมือนกันแฮะ กลัวมันเบลออ่ะ


“ล้างแล้วเอาให้ดูด้วยนะ”
“ได้ครับ”
“ไปต่อกันเถอะ”


ชื่นตาพาเพื่อนๆมาแวะกินข้าวเที่ยงร้านที่เรามองเห็นข้างทาง ก่อนจะไปต่อที่คุ้มเจ้าหลวง มันเป็นพิพิธภัณฑ์น่ะ อันนี้เคยมา เพราะโดนสั่งให้มาทำรายงาน ก็เลยพาเพื่อนๆมาดูบ้าง มันก็มีของน่าสนใจอยู่เหมือนกัน


พวกเราเดินดูจนครบทุกสิ่งอย่าง ภารกิจวันนี้ก็หมดแล้ว ไปแค่นี้ก็พอ พรุ่งนี้ค่อยไปที่อื่นอีก แวะซื้อของในตลาดให้แม่นิดหน่อย แล้วก็มุ่งตรงไปที่บ้านเลย


ทุกคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำ แต่ผมจะอาบก่อนนอนเลยมานั่งที่ศาลา เอ้อ ไม่ทุกคนสิ เพราะพอใจนั่งอยู่เป็นเพื่อนผมตอนนี้ เรามานั่งเล่นกันอีกแล้ว คราวนี้ไม่ค่อยได้คุยอะไร แค่นั่งเงียบๆ


Rrrrrr โทรศัพท์ของพอใจสั่น เรียกความสนใจจากผมได้


“ครับพี่โปรด” ทำไมพี่โปรดถึงโทรหาพอใจล่ะ
“พี่มั่นใจแล้วใช่ไหมครับ”
“ครับ” แล้วพอใจก็ตอบแค่ครับๆๆๆ เขาไม่รู้เลยว่าสองคนนี้คุยอะไรกัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะแสดงออกทางสีหน้ามากไปหน่อย ตอนที่พอใจคุยเสร็จแล้ว ก็เลยจับได้ว่าเขาแอบฟัง


“อยากรู้เหรอครับ”
“อื้อ”
“พี่โปรดโทรมาคุยเรื่องพี่โรม บอกว่าเขาคงจะหยุดแล้ว”
“เชื่อได้จริงๆเหรอ”
“ครับ เห็นว่าจะย้ายไปเรียนที่อังกฤษ”
“อืม ไปอีกแล้ว สงสารพี่โปรดจัง” อยากให้พี่โรมไม่มายุ่งมันก็ใช่อยู่หรอก แต่ถ้าเขาไปอังกฤษ พี่โปรดก็ต้องอยู่คนเดียวอีกน่ะสิ


“สงสารทำไมครับ เขาไปด้วยกัน”
“ห๊ะ!”
“พี่โปรดบอกว่าพี่โรมไม่ยอมไปคนเดียว ยังไงพี่โปรดก็ต้องไปด้วยให้ได้ เขาก็เลยไปด้วยกันครับ”
“งั้นก็ดีแล้ว”


พวกเราคุยกันได้เท่านี้แม่บ้านก็มาเรียกให้ไปกินข้าวเย็น แม่ทำเมนูโปรดของชื่นตา ทำให้วันนี้เขากินข้าวตั้งสองจาน ทุกคนแซวกันหมดว่าเขาหิวมาจากไหน ไม่ได้หิวแต่อยากกิน ไม่เข้าใจกันหรือไง


ชื่นตาเดินมาส่งเพื่อนๆที่หน้าบ้าน จริงๆไม่ต้องก็ได้ แต่เขาแค่อยากเดินกับพอใจ ก็เลยเดินตามตูดเพื่อนๆมาด้วย อยากอยู่ด้วยเฉยๆ สองนาทีก็ได้


“อ่ะ ร่ำลากันให้พอ ไม่มีใครแอบดูหรอก” แพลนพูดก่อนจะปิดประตูบ้านให้
“เออ ใครแอบดูขอให้ขี้แตกอาทิตย์หนึ่งเลย”
“ฮะๆ แช่งน่ากลัวจังครับ”
“เราน่ากลัวนะจะบอก”
“ครับๆ เดินกลับระวังด้วยนะ”
“ได้ เราจะระวังทุกย่างก้าวเลย”
“ฝันดีครับ”
“ฝันดีนะ” และก่อนจะเดินกลับ อีกฝ่ายก็โน้มตัวลงมาจุ๊บหนึ่งที เป็นการบอกราตรีสวัสดิ์ด้วยร่างกาย ทำเอาชื่นตาเดินเหม่อจนสะดุดล้มไปหนึ่งรอบ บอกให้เขาระวังแต่มาทำแบบนี้ได้ไงเล่า ใครมันมีสติมาระวังกัน










วันต่อมาในตอนเช้า ก็ไม่เช้าเท่าไหร่ ใกล้เที่ยงแล้ว ชื่นตาพาเพื่อนๆมาที่วัดพระนอน ให้ไหว้พระซะหน่อย ขอพรให้พรุ่งนี้พวกเราเดินทางปลอดภัย ออกมาจากวัดได้นิดหนึ่งก็แวะกินข้าวเที่ยงกัน


สถานที่ต่อมาของวันนี้ก็คือชุมชนที่ทำผ้าหม้อห้อม พ่อบอกเขาให้ลองมา เพราะที่ทำผ้าหม้อห้อมเป็นของตัวเองได้ โมกข์ดูจะชอบมาก ส่วนคนอื่นก็ดูสนุกไปกับการทำผ้าหม้อห้อม


“ผมเอาแบบนี้”
“งั้นก็ทำอย่างนี้นะคะ”


ชื่นตาเลือกทำผ้าคลุม เขาจะทำสองผืน ไปให้ป้าชมผืนหนึ่ง แม่ผืนหนึ่ง แล้วเขาก็เลือกซื้อเสื้อแขนยาวหนึ่งตัวให้ตัวเอง อืม ซื้อตัวแขนสั้นนี่ให้พอใจด้วยดีกว่า


“เราให้ๆ”
“ซื้อให้เหรอครับ”
“ใช่ เราก็ซื้อนะ แขนยาว”
“น่ารักดีครับ”


แล้วชื่นตาก็วิ่งเอาเสื้อไปอวดเพื่อนๆทุกคนว่าเขาซื้อมา ไม่รู้จะอวดทำไม แต่ก็อยากอวด เดินดูของที่ทุกคนทำด้วย น้องโมกข์ทำเป็นเดรสเลย ส่วนคนอื่นๆก็ทำเป็นผ้าคลุมธรรมดา คิงนี่เล่นใหญ่หน่อย ผ้ามันผืนใหญ่มาก มันบอกอยากได้ผ้าม่าน ชื่นตาก็งงเล็กน้อย


“มึงซื้อเสื้อมาเหรอ”
“อื้อ สวยมะ”
“สองตัว?”
“ตัวหนึ่งของพอใจ อันนี้ๆ”
“ไปเปลี่ยนใส่คู่กันไป เดี๋ยวกูถ่ายรูปให้”
“ถ่ายทำไมวะ”
“แสดงความเป็นเจ้าของไง อย่าลืม” อันหลังนี่คิงมันกระซิบ ชื่นตาก็เลยนึกขึ้นได้ แต่พี่โรมจะไปที่อื่นแล้วเขายังต้องทำอีกเหรอ ช่างมันเถอะ ไม่อยากจะคิดให้มากความ


ชื่นตาวิ่งเอาเสื้อไปให้พอใจ แล้วชวนกันไปเปลี่ยน พอใจถามนิดหน่อย แต่เขาก็บอกว่าใส่ถ่ายรูปเฉยๆ เจ้าตัวก็เลยยอมเปลี่ยนด้วย


“มาๆ ยืนตรงนี้”


คิงหาที่ถ่ายไว้ให้พวกเขาเล็กน้อย โดนมันด่าเพราะว่ายืนนิ่งกันเหมือนถ่ายบัตรประชาชน ก็ไม่เคยถ่ายนี่หว่า นี่มันรูปคู่รูปแรกของเราสองคนเลยนะ!


“พี่คิง ฝากถ่ายหน่อยครับ”
“อุ๊ย ได้จ้ะ กดนี่ใช่ไหม”
“ใช่ครับ”


พอใจยื่นกล้องฟิล์มของตัวเองให้คิงถ่ายรูปคู่ให้ด้วย คิงทำตัวเป็นตากล้องอีกครั้ง สั่งให้ทำท่านั้นท่านี้ แต่ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยถูกใจมันเท่าไหร่


“ทำงี้ๆ อีน้องหันหน้าไป พอใจหันมาจ้ะ อย่างนี้แหละ นิ่งๆนะ”


คิงหันหัวชื่นตาให้หันไปทางพอใจ แล้วสั่งให้พอใจหันมามองหน้าเขา ตอนแรกเราทำหน้างงๆใส่กัน พอแบบนั้นก็เลยขำออกมาทั้งคู่ รู้ตัวก็คือตอนที่ได้ยินเสียงชัตเตอร์ดังขึ้น


เมื่อถ่ายรูปคู่เรียบร้อย พวกเราทุกคนก็ไปรับผ้าที่ตากไว้ แดดแรงเลยแห้งเร็ว จ่ายเงินเรียบร้อยก็ออกเดินทาง กลับไปนอนรอที่บ้านก่อน


และในตอนเย็นชื่นตาพาเพื่อนๆมาเดินเล่นที่ถนนคนเดิน คนอื่นๆก็เดินแยกไป ตอนนี้เขาอยู่กับพอใจสองคน เราเดินหาของกินเล็กๆน้อยๆจนอิ่ม ก็เลยไปเดินอีกแยก ได้ของฝากมาสองสามอย่าง ไม่นานทุกคนก็มารวมตัวกันที่รถเพื่อกลับบ้าน






วันถัดมาหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก พวกเขานั่งๆนอนๆเล่นอยู่ที่บ้าน ชื่นตาเลยไปชวนเพื่อนๆที่เก็บของเสร็จแล้วมานั่งเล่นที่ศาลา


“ตรงนี้เย็นดีว่ะ” แพลนพูด
“กูเอานี่มาด้วย มึงเล่นหน่อย” ชื่นตายื่นกีต้าร์ของพ่อให้กับแพลน เห็นอย่างนี้มันเคยประกวดhot waveมาก่อนนะครับ แต่ไม่ได้รางวัลอะไรมาเลยแค่นั้นแหละ


“ขอเพลงมาได้เลยครับทุกคน พี่แพลนจัดให้”
“อีกแล้วของme you พี่แพลนรู้จักไหมคะ”
“จัดไปครับน้องโมกข์”


เหมือนเธอนั้นเป็นเช่นดอกไม้
สวยงามเกินกว่าใครคนไหน
ขอเดินจูงมือจะได้ไหม หัวใจฉันคง ไม่หยุดยิ้ม
นั่งมองทุกทียังน่ารัก เหมือนครั้งแรกที่เราพบกัน
ยังคงน่ารักเช่นวันนั้น ฉันตกหลุมรักเธออีกแล้ว



ทุกคนร้องคลอไปตามเสียงของแพลน ชื่นตารู้จักเพลงนี้ตอนเปิดวิทยุบนรถฟัง เขาชอบมากๆ แล้วก็คิดว่ามันเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ด้วย ดูเหมือนอีกคนก็คิดเหมือนกัน เลยเลื่อนมือมาจับไว้ เอานิ้วเขาไปเล่นซะงั้น เพื่อนคนอื่นก็ทำเป็นมองนั่นมองนี่ ดีละ จะได้ไม่ต้องมาล้อเขา









“ดูแลตัวเองดีๆนะลูก”
“ครับแม่”
“เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะเด็กๆ”
“ขอบคุณครับ/ค่ะ”


พวกเราเดินทางมาที่สถานีรถไฟตอนตอนประมาณเจ็ดโมงเช้า คุณพ่อคุณแม่ก็ตื่นเพื่อขับรถมาส่ง อีกประมาณครึ่งชั่วโมงรถไฟถึงจะมา พวกเราเลยปล่อยให้ชื่นตามีเวลาร่ำลาที่บ้านอีกหน่อย เดี๋ยวก็กลับแล้ว


พวกเราแบ่งห้องกันตามเดิม ใครเข้าก่อนก็อยู่ห้องแรก คราวนี้เลยเป็นโมกข์ คิง พอใจ แล้วก็ผม ส่วนอีกห้องก็เป็นมังกร ว่าน และแพลน


เช็คจากตั๋วแล้ว เขาเขียนว่าเราจะไปถึงกรุงเทพตอนห้าโมงครึ่ง ซึ่งชื่นตาคิดว่าก็เกือบจะหกโมงเย็นนู่นแหละ แต่เพราะคราวนี้ออกเช้าและเมื่อคืนทุกคนก็นอนกันเต็มอิ่มแล้ว ทำให้ไม่ได้มีใครหลับ ต่างคนก็ต่างนั่งเล่นกันไป


คิงเปิดเพลงในโทรศัพท์ไว้ เพื่อไม่ให้ห้องเงียบจนเกินไป พอสายสักหน่อยโมกข์ก็ลุกขึ้นมาแต่งหน้า คิงก็เลยปีนลงมาดู ทำให้ห้องเริ่มมีเสียงพูดคุยกันบ้าง ผมกับพอใจก็เลยแจมด้วย


“อันนี้คืออะไรวะ” พอใจหยิบแท่งๆอะไรสักอย่างขึ้นมาชูให้โมกข์ดู
“อายไลน์เนอร์ กรีดตาอ่ะ” โมกข์ตอบพลางตบสิ่งที่เรียกว่าคูชั่นลงบนหน้า ทำไมโมกข์ตบแรงจังอ่ะ ไม่เจ็บเหรอเนี่ย


“กูอยากลอง มานี่ดิ๊” พอใจเปิดฝาออกแล้วดึงให้โมกข์ขยับไปใกล้ๆ
“ไอ้สัด ไม่ได้โว้ยย ให้มึงทำหน้ากูก็แหกพอดี”


โมกข์รีบดึงอายไลน์เนอร์ออกจากมือพอใจแล้วปิดฝาใส่กระเป๋า พอใจที่ไม่มีอะไรทำเลยเปิดนั่นนี่ไปด้วย และเหมือนว่าเขาจะเจอของที่ถูกใจ


“อันนี้เอาไว้ทำไร”
“ปัดแก้ม สีนี้สวย อ่ะ แปรง”


คราวนี้โมกข์ไม่ปฏิเสธ ยื่นแปรงไปให้พอใจเล่นเต็มที่ แต่พอใจก็ยังมีฝีมืออยู่บ้าง เขาปัดทีละนิดจนมันค่อยๆขึ้นสี ไม่ได้เป็นตูดลิง ผมว่าสีนี้สวยจริงๆด้วย


“หนุกดี”
“เออ มึงปัดสวยว่ะพอใจ” โมกข์ชื่นชมหน้าตัวเองในกระจก
“น้องพอใจเอามาหน่อยค่ะ อีน้องหันมานี่” คิงจับหน้าชื่นตาให้หันไปทางตัวเอง
“อะไร!”
“ปัดแก้มไง ไม่เยอะหรอก แค่ให้มีสีเฉยๆ”


เมื่อหนีไม่ได้ก็เลยต้องอยู่นิ่งๆให้เพื่อนเล่น เมื่อมันปัดจนพอใจ คิงก็ยกกระจกมาให้เขาส่องดู ก็…ไม่ได้แปลกจากเดิมเท่าไหร่ เหมือนคนเหนื่อยๆแล้วหน้าแดงแปลกๆ


“เขาเรียกว่าแก้มมีเลือดฝาดสุขภาพดี”
“เหรอวะ”
“ใช่สิ น้องพอใจว่าดีไหมคะ”
“ก็…ดีครับ”


ชื่นตาทำเป็นไม่สนใจสายตาวิบวับของพอใจ หันไปสนใจโมกข์ที่แต่งหน้าต่อ คราวนี้แต่งตาเป็นเลเยอร์เลย ไม่ได้สีเข้มมาก แต่สวยดี การแต่งหน้ามันก็ดูยากเหมือนกันนะเนี่ย ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงจะต้องทำสิ่งนี้ทุกๆวัน เหนื่อยแทนเลยแฮะ
เมื่ิอโมกข์แต่งหน้าเสร็จ ทุกคนก็กลับเข้าโหมดไม่มีอะไรทำกันอีกครั้ง เฮ้อ การเดินทางกลับคอนโดในวันนี้มันช่างยาวนานซะเหลือเกิน








อีกแล้ว - meyou





ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: คุณชื่นตา--18--<22/6/2019>
«ตอบ #51 เมื่อ22-06-2019 19:14:34 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา <chapter19:27/6/2019>
«ตอบ #52 เมื่อ27-06-2019 13:35:31 »

19







   เมื่อมาถึงกรุงเทพกันแล้ว ต่างคนก็ต่างยกย้ายกลับบ้าน พอใจกับชื่นตาก็เลือกที่จะตรงกลับบ้านทันที ไม่ได้แวะคอนโดแต่อย่างใด พอใจบอกแม่ไว้แล้วว่าอย่าเพิ่งล็อกบ้าน เขาจึงสามารถเข้าบ้านได้ทันทีที่มาถึง


   “ฝันดีนะครับ”
   “ฝันดีเหมือนกันนะ”


   พอใจยกกระเป๋าเข้ามาในบ้านก็เจอกับพ่อที่นั่งดูบอลอยู่ที่โซฟาห้องโถง เขาทักทายพ่อนิดหน่อยก่อนจะถูกพ่อไล่ให้ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า พอใจทำตามทันทีไม่มีอิดออด เพราะเขาก็รู้สึกเหนอะหนะอยู่เหมือนกัน


   “ไปเที่ยวมาเป็นไงบ้าง”   
   “สนุกดีครับ แต่ไม่ได้ไปไหนเยอะหรอก”
   “ดีละ ถือว่าไปพักผ่อน นี่กลับคอนโดวันไหนล่ะ”
   “17เช้าครับ”


   พอใจคุยกับพ่ออีกนิดหน่อย แล้วก็เดินไปตรวจตราประตูหน้าบ้าน หน้าต่างทุกบานว่าล็อกเรียบร้อยแล้ว เมื่อกลับเข้ามาบอลก็จบพอดี เขาเลยเดินไปส่งพ่อที่หน้าห้องนอน แล้วก็ราตรีสวัสดิ์กันตามประสาพ่อลูก


   หลังจากนอนเต็มอิ่มจนร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว พอใจก็ตื่นขึ้นมาในตอนสายๆ เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วลงไปข้างล่าง ก็เห็นทั้งพ่อทั้งแม่นั่งดูโทรทัศน์กันอยู่ วันนี้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลย


   “กับข้าวอยู่บนโต๊ะนะลูก อุ่นเอา”
   “ครับแม่”


   พอใจเปิดฝาชีออก แล้วเอากับข้าวไปอุ่น ในระหว่างรอก็เช็คโทรศัพท์ไปด้วย ดูเหมือนว่าจะมีคนอยากเจอเขากับชื่นตา พอใจจัดตารางเวลาในหัวของตัวเองแล้วจึงตอบทางนั้นไป วันนี้เขามีเรื่องที่ต้องทำหลายอย่างเหมือนกันแฮะ


   หลังจากที่กินอาหารเช้าที่เกือบจะเป็นมื้อกลางวันไปแล้วเรียบร้อย พอใจก็เอาขันเงินในบ้านออกมา เขาสำรวจดอกไม้ข้างบ้านแล้วก็ตัดสินใจเด็ดดอกพุด ดอกมะลิกับกลีบกุหลาบใส่ลงไปในขัน เปิดน้ำใส่เรียบร้อยก็ใส่น้ำอบลงไปพอให้มีกลิ่น เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของวันสงกรานต์ พอใจก็จะทำตามขนบธรรมเนียมที่ผู้ใหญ่ทำกันมา ก็คือการรดน้ำดำหัว


   “พ่อครับ แม่ครับ”
   “ว่าไงลูก”
   “มานั่งตรงนี้ๆ”


   พอใจพาพ่อกับแม่มานั่งในสวน เพราะถ้ามันเปียกจะได้ไม่ต้องมาตามเช็ดทีหลัง เขาเอาขันเงินวางไว้บนตักแม่ ก้มลงกราบเท้าพ่อกับแม่ก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มรดน้ำดำหัว ขอให้พ่อกับแม่สุขภาพแข็งแรง ท่านทั้งสองก็ให้คำอวยพรกลับมาเช่นกัน เขาทำแบบนี้ทุกปีตั้งแต่แม่พาทำที่บ้านคุณยาย บางปีก็มีพวงมาลัยด้วย แต่ปีนี้เขาซื้อไม่ทัน แล้วก็ไม่อยากออกจากบ้านแล้ว


   “แม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน พอใจชงน้ำหวานไว้ให้หน่อยสิ”
   “ได้ครับ”
   “ให้พ่อด้วยอีกแก้ว”
   “ได้ครับบบบบ”


   น้ำหวานที่แม่หมายถึงเฮลบูบอยสีแดงนั่นแหละ เขาเทน้ำเปล่าลงในแก้วของพ่อเยอะกว่าแม่ เพื่อให้มันเจือจาง หมอบอกว่าพ่อต้องควบคุมน้ำตาล เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน ก็อายุขนาดนี้แล้ว กินขนมไทยแม่มาเป็นสิบๆปีมันก็ต้องเพลาๆลงหน่อย


   “อ่ะ น้ำหวานครับ”
   “เอ้อ ขอบใจ แล้วไปถึงไหนแล้วล่ะ”
   “อะไรไปถึงไหนอ่ะพ่อ”
   “เอ๊า ก็เรื่องคนนั้นไง เป็นแฟนกันยัง”
   “ยังครับ”
   “โว๊ะ ไม่ได้เรื่องเลยไอ้ลูกหมา”


   พอใจยกน้ำมาให้พ่อที่นั่งอยู่ในสวน พ่อเลยชวนเขาคุยเรื่องชื่นตา เอาจริงๆพ่อก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นชื่นตา เมื่อขเบอกว่ายังไม่ได้คบกัน พ่อก็บอกว่าเขาต้องใช้วิธีนี้ วิธีนั้น พอใจก็ได้แต่ฟังตามแบบขำๆ ไม่รู้ว่าพ่อใช้วิธีนั้นจีบแม่จริงๆหรือเปล่าด้วยซ้ำ


   “คุยอะไรกัน2พ่อลูก”
   “แนะนำวิธีจีบสาว เอ้ย จีบหนุ่มให้ลูกน่ะสิ”
   “โอ๊ย เขาคงจีบติดแล้วล่ะพ่อ”
   “ก็ลูกบอกยังไม่ได้คบ”
   “ไม่ได้คบก็อาจจะรออะไรอยู่ก็ได้นี่ ใช่ไหมลูก”
   “ครับ”


   พอใจคิดว่าแม่เขาคงรู้แล้ว ก็นะ นี่แม่เขานี่ ยังไงก็คงจับสังเกตได้อยู่แล้ว อยู่ใกล้ตัวขนาดนี้ คุณแววดาวเขาคงไม่ปล่อยให้มันเล็ดรอดสายตาไปได้หรอก หูตาอย่างกับเหยี่ยว ตอนนี้คงมีแค่พ่อเขานี่แหละที่ทำหน้างงเป็นไก่อยู่ว่าเขากับแม่พูดเรื่องอะไรกัน คนออกไปทำงานก็จะตกข่าวหน่อยๆ


   “อะไรวะ การออกไปทำงานทำให้พ่อพลาด เดี๋ยวพ่อไปลองสืบดีกว่า”
   “เดี๋ยวพามาหาครับ อีกไม่นาน”
   “ก็ดีๆ อยากเจอแล้ว”
   “ครับๆ เดี๋ยวผมออกไปข้างนอกแปปหนึ่ง”
   “ทันข้าวเย็นไหมลูก”
   “ทันครับ”


   เวลาบ่ายกว่าๆตามเวลานัด พอใจเดินไปรับชื่นตาที่มาอยู่หน้าบ้านเรียบร้อย พวกเขาปั่นจักรยานเลยสวนสาธารณะของหมู่บ้านไปหน่อย มันจะมีสระว่ายน้ำ แล้วข้างๆนั่นมีคาเฟ่ คนที่พวกเขานัดไว้รออยู่ที่นั่น เมื่อปั่นมาถึงร้านก็เห็นว่าทั้งสองคนนั้นมารออยู่แล้ว


   “พี่โปรด พี่โรม สวัสดีครับ” ชื่นตาไหว้ทักทายรุ่นพี่ก่อน
   “สวัสดี มานั่งสิ” พี่โปรดตอบรับและชวนให้เรานั่งลงตรงข้าม พี่โรมยังคงเงียบอยู่ ไม่ได้พูดอะไร พวกเรานั่งมองหน้ากันไปมาเพราะพี่โรมยังไม่เริ่มพูดสักที จนพี่โปรดที่ลุกขึ้นไปสั่งน้ำให้กลับมาก็ยังไร้ซึ่งบทสนทนา


   “พูดสิ” พี่โปรดถองศอกใส่พี่โรม ทำเอาพี่โรมสะดุ้งไปนิดหนึ่ง อยากจะขำนะ แต่สถานการณ์นี้คงไม่เหมาะ
   “คือ...พี่รู้ตัวนะว่าก่อนหน้านี้พี่รั้นไปมาก แต่มันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย พี่ต้องขอโทษชื่นด้วยที่ทำให้ชื่นต้องอึดอัด”


   “พอใจล่ะ”
   “เออๆ” พี่โรมทำหน้าเซ็งใส่พี่โปรดนิดหน่อยแล้วถึงพูดขึ้นมา
   “กูขอโทษมึงด้วยที่เข้าไปหาเรื่องเหมือนเด็กๆ ดูไม่มีวุฒิภาวะเท่าไหร่ ก็นั่นแหละ โทษเว้ย” ท่าทางของเขาเหมือนเด็กที่แม่ต้องบังคับให้มาขอโทษ รู้สึกผิดนะ แต่ยังมีฟอร์มอยู่เลยมีท่าทางยึกยักแปลกๆ


   “ผมเคยโกรธ เคยโมโหนะ แต่ตอนนี้ที่พี่รู้สึกผิด แล้วก็ไม่ทำอีก ผมก็ไม่ติดใจอะไร” ชื่นตาพูด
   “ผมด้วย” พอใจตอบรับเสริมไปอีกคน พี่โรมดูท่าทางอ่อนลงมาก ไม่รู้หรอกว่าพี่โปรดไปพูดอะไรยังไง แต่ผมคงต้องขอบคุณเขาด้วย


   “ขอบคุณพี่โปรดที่ยอมช่วยผมนะครับ”
   “ไม่เป็นไรหรอกพอใจ ยังไงมันก็เพื่อน พี่ก็ต้องดู”
   “เหอะ เพื่อน”
   “อะไร!”


   เวลาสามสี่เดือนผ่านมาผมยังไม่เคยเห็นพี่โรมดูหงอขนาดนี้มาก่อน เดาว่าคงถูกเทศน์มาหลายบทแน่ๆถึงคิดได้ และความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปนิดๆด้วย ไม่ใช่พี่โปรดที่เอาแต่คอยวิ่งตามพี่โรมอีกต่อไป


   “แล้วเรื่องจะไปเรียนที่อังกฤษล่ะครีบ เพิ่งกลับมาไม่ใช่เหรอ”
   “อ๋อ เรื่องนั้น คือพี่น่ะได้ทุนอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ พอจบเรื่องนี้ก็คิดว่าไม่มีอะไรให้ต้องอยู่แล้ว” พี่โรมอธิบาย ดูเหมือนว่าเขามีทุนที่ให้เรียนจนจบปีสี่อยู่แล้ว แต่บอกปัดอาจารย์ไว้หลายครั้ง เพราะยังอยากกลับมาไทยอยู่


   “ไม่มีอะไรให้ต้องอยู่ แน่สิ ก็เล่นเอาพี่โปรดไปด้วยแบบนี้จะอยู่ไปทำไม” พอใจเอ่ยแซว โรมทำหน้าเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร มีแค่พี่โปรดเท่านั้นที่ดูจะตื่นตกใจว่าเขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง โถ่ พี่โปรดน่ะดูง่ายจะตาย


   “เลิกพูดเรื่องพวกนี้แล้วกินขนมกันเถอะ”


   เมื่อพี่โปรดชวนเปลี่ยนเรื่อง พวกผมก็ยอมตามน้ำไป แล้วก็แอบขำอยู่ในใจ ดีเหมือนกันที่พี่โรมยังรู้ตัวในวันที่มันไม่สายเกินไป ความดีความชอบทั้งหมดก็ต้องยกให้พี่โปรดนั้นแหละ พวกเราหาท็อปปิ้งเรื่องที่ไม่เครียดมาคุยกันต่อเรื่อยๆ จนกระทั่งขนมที่สั่งมาหมดไป จึงแยกย้ายกัน


   “วันบินอย่าลืมมาส่งด้วยนะเว้ย”
   “คร้าบบ ชื่นไม่ลืมหรอก”


   เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลงไปเรียบร้อย พอใจคิดว่าชื่นตาก็คงรู้สึกสบายใจแล้ว หลังจากนี้ก็คงจะใช้เวลาอีกไม่นาน พวกเราก็จะสามารถทำอะไรๆให้มนชัดเจนขึ้นมาได้ ระยะเวลาประมาณนี้ที่พวกเราได้เรียนรู้กัน มันทำให้พวกเขาก้าวผ่านเส้นของความรู้สึกมาหลายขั้น มันน่าจะถึงเวลาอันสมควรแล้ว แค่จะบอกยังไงนั่นแหละ


   “เราสบายใจมากๆๆๆ”
   “ก็ดีแล้วครับ” พอใจยื่นมาขยี้ผมชื่นตาเบาๆ
   “เดี๋ยวตอนเย็นที่บ้านจะมีปาร์ตี้บาร์บีคิว พอใจชวนป้ากับลุงมาด้วยนะ”
   “ได้เลยครับ”


   พอใจเข้าบ้านไปชวนแม่ตามที่ชื่นตาบอกมา แม่เขาก็เลยกระวีกระวาดไปทำขนมง่ายๆ อย่างคุณแววดาวแล้ว ไปงานคนอื่นแบบไม่มีของติดไม้ติดมือไม่ได้ เขาจึงเข้าไปช่วยแม่ในครัว สิ่งที่แม่จะทำก็คือวุ้นกะทิที่เด็กๆชอบทานกัน มันใช้เวลาน้อยที่สุดแล้ว แม่เขาทำหลากหลายรูปแบบมาก ไม่รู้ว่าวันนี้จะทำเป็นรูปอะไร


   “พอใจเทส่วนผสมให้แม่หน่อยลูก”


   พอใจอยู่ช่วยแม่ทำวุ้นจนเสร็จ รอจนมันคลายความร้อนแล้วก็เอาแช่เย็นไว้ ไปตามพ่อที่ทำสวนให้มาอาบน้ำอาบท่า แล้วจึงเดินตามขึ้นไปอาบน้ำเช่นเดียวกัน ในเมื่อมันไม่ได้เป็นงานเป็นการอะไรมาก แค่เป็นการกินกันในครอบครัว พอใจจึงสามารถแต่งตัวสบายๆได้


   “ทางนี้เลยพี่แวว สามีฉันตั้งเตาแล้ว”
   “น่ากินเชียว อ่ะนี่ พี่ทำขนมมากินด้วยกัน”
   “ลาภปากฉันเลยเนี่ย”


   ฝั่งแม่ๆเขาก็แยกไปคุยกัน พ่อก็แยกกันไปคุยเรื่องสวน เรื่องบ้าน เรื่องธุรกิจต่างๆนาๆ เหลือผมกับชื่นตายืนเฝ้าเตาย่างบาร์บีคิวอยู่ ดูท่าทางคุณคนนี้เขาจะอยากกินมาก แต่ทำเองก็กลัวไหม้ เลยดึงผมไว้ไม่ยอมให้ไปไหนเลย


   “ไม่ต้องดึงเสื้อผมก็ไม่หนีไปหรอกครับ”
   “แหะๆ เรากลัวมันไหม้นี่”
   “ไม่ไหม้หรอกครับ นี่ครับ พอมันเป็นแบบนี้ก็กินได้แล้ว”


   พอใจยื่นไม้ที่สุกแล้วให้ชื่นตาชิมก่อน แล้วหยิบไม้อื่นๆใส่จาน ก่อนจะบอกให้ชื่นตายกไปให้พวกผู้ใหญ่ จากนั้นเขาก็ย่างเพิ่มเพื่อกินเอง แล้วก็ให้พี่ๆแม่บ้านที่เดินเอาน้ำเอาขนมมาให้ด้วย บาร์บีคิวที่มีอยู่นี่น่าจะสามารถกินได้ครบทุกคนในบ้านรัตนพิบูลย์เลย เผลอๆกินได้อีกสองสามวัน


   “พอใจกินเองบ้างหรือยัง”
   “กินแล้วครับ”
   “อ่ะ เราแบ่งให้”



   ชื่นตายื่นบาร์บีคิวมาให้เขาหนึ่งไม้ แต่เนื่องจากเขาติดพันในการพลิกเนื้ออยู่ เขาเลยไม่สามารถเอื้อมมือไปรับมาถือเองได้ เขาเลยก้มลงไปกัดในขณะที่ชื่นตาถือเอาไว้อยู่ ลืมไปว่าแถวนี้มีคนมองอยู่เยอะเต็มไปหมด


   “น่ารักกันจังนะเด็กสมัยนี้” ป้าชมพูดขึ้นมา จึงทำให้ชื่นตารู้สึกตัว
   “เอ่อ ป้าชมเอาอีกไหมครับ นี่ๆ อีกหนึ่งจาน”
   “ป้าอิ่มแล้วล่ะ ไปถามลุงนู่น”
   “ครับๆ” แล้วชื่นตาก็วิ่งดุ๊กดิ๊กเอาจานบาร์บีคิวไปยื่นให้พ่อผมกับคุณลุงของเขา ผมที่เห็นแม่ยืนมองอยู่ ก็เลยทำทีเป็นจิ้มวุ้นกิน มองนานๆมันก็เขินๆเหมือนกันนะครับ


   “เหมือนพ่อเขาจริงๆเล้ย จะมาขงมาเขินอะไร” แม่พูดอีกสองสามประโยคก็ผละออกไปนั่งที่โต๊ะ พอใจเลยหันกลับมาสนใจบาร์บีคิวในเตา เกือบไหม้แหนะ สงสัยต้องให้ชินอีกหน่อย ก็คงไม่รู้สึกเขินแล้วล่ะมั้ง   














ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: คุณชื่นตา--19--<27/6/2019>
«ตอบ #53 เมื่อ27-06-2019 14:13:55 »

 :man1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: คุณชื่นตา--19--<27/6/2019>
«ตอบ #54 เมื่อ27-06-2019 20:41:56 »

หวาย มีแอบหวานโดยไม่ได้ตั้งใจ
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: คุณชื่นตา--19--<27/6/2019>
«ตอบ #55 เมื่อ28-06-2019 09:49:22 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: คุณชื่นตา--19--<27/6/2019>
«ตอบ #56 เมื่อ28-06-2019 14:38:39 »

งื้อออออ.......ป้อนกันหน่อยเดียวเอง  :เฮ้อ:
ผู้ใหญ่ๆ ไม่น่าส่งเสียงดังเล้ย
เลยได้เห็นเขาหวานกันนิดเดียว   :mew2: :mew2: :mew2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     

ออฟไลน์ zhaofah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: คุณชื่นตา--19--<27/6/2019>
«ตอบ #57 เมื่อ06-07-2019 15:31:37 »

20


“เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันตอนเย็นๆครับ”
“ได้เลยย”


ชื่นตากับพอใจบอกลากันที่หน้าบ้าน หลังจากที่ได้คุยกับพี่โรมในวันนี้ ชื่นตารู้สึกโล่งใจมากๆแล้ว เขาไม่มีเรื่องอะไรให้กลุ้มใจหรือต้องกังวลอีกแล้ว ก็หวังว่าหลังจากนี้ความสัมพันธ์ของเขากับพอใจจะไปได้มากกว่านี้


ชื่นตาตื่นเช้ามาพร้อมกับความสดชื่นเพราะนอนไปเต็มอิ่ม วันนี้เขาตั้งใจตื่นมาตั้งแต่เช้าเพราะอยากลองทำอาหารเช้าบ้าง เขาบอกป้าพร้อมไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะตื่นมาช่วย ก็เลยไม่มีใครแปลกใจที่เห็นชื่นตาเดินเข้าครัว


วันนี้อาหารเช้าไม่ใช่ของที่แปลกตาอะไรมาก เป็นข้าวผัดกับไข่ดาว แล้วก็มีไส้กรอก หน้าที่แรกที่ได้รับคือหั่นหอมหัวใหญ่ หั่นไปก็ร้องไห้ไปเพราะแสบตา แต่จะหลับตาก็ไม่ได้ เดี๋ยวมีดบาดมือ หันไปก็เจอป้าพร้อมที่ยืนยิ้มเอ็นดูอยู่ข้างๆ


“โถถ คุณหนูของป้า น้ำหูน้ำตาไหลหมด”
“ชื่นแสบตาา”
“หั่นเสร็จก็ไปล้างหน้าล้างตานะคะ”


หลังจากเสร็จหน้าที่นี้ ชื่นตาก็รีบเดินเข้าห้องน้ำไปล้างตาทันที หน้าตาเขาดูไม่ได้เลย เช็ดหน้าเรียบร้อยก็เดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อช่วยงานต่อ คราวนี้ได้ช่วยผัด


“ใส่อันนี้ กับอันนี้นิดหนึ่งนะคะ แล้วผัดๆเสร็จก็ใส่น้ำตาล”


ชื่นตาพยายามจำรายละเอียดที่ป้าพร้อมบอกให้หมด จดไว้ในสมองแล้วเรียบร้อย หวังว่าจะไม่ลืม หลังจากนั้นป้าพร้อมก็ให้เขาทอดไส้กรอกกับไข่ดาว เรื่องนี้จิ๊บๆ เมนูนี้ทำได้


ชื่นตาค่อยๆเทไข่ลงไปในน้ำมันเดือดๆ ไข่ค่อยๆฟูขึ้นมาสวยงาม นี่เป็นความสามารถพิเศษของเขาเชียวนะ การทอดไข่ดาวไม่สุกอ่ะ เมื่อจัดการกับไส้กรอกและไข่ดาวเรียบร้อย อาหารเช้าก็พร้อมตั้งโต๊ะแล้ว


“ไหน ชื่นทำอันไหนลูก”
“ชื่นทำหมดเลยยยย ป้าชมชิมดูครับ”
“อื้ม อร่อยมากจ้ะ”


ชื่นตายิ้มหน้าบานเพราะได้รับคำชม ถึงจะไม่ได้ปรุงเองแต่มันก็เหมือนๆกันแหละน่ะ เขาว่าจะกลับไปทำให้พอใจกินด้วยแหละ หรือว่าแบ่งจากนี่ไปให้พอใจเลยดี คิดไปคิดมา เอาไปให้ชิมเลยดีกว่า เป็นการอวดไปด้วยในตัว ฮี่ๆ


“ป้าพร้อมตักใส่จานให้หน่อยครับ”
“กินอีกเหรอคะ”
“เปล่าครับ ชื่นจะเอาไปอวดพอใจ”
“ฮะๆ คุณหนูๆน่ารักจังเลย ได้เลยค่ะ เดี๋ยวป้าตักให้”


ป้าพร้อมตักให้เยอะมาก ใส่มาในถ้วยใหญ่ๆ พร้อมบอกว่าบ้านนั้นมีตั้งสามคน จานเดียวคงไม่พอ ชื่นตาก็เห็นด้วย ตอนนี้ก็เดินข้ามถนนมาถึงแล้ว ปกติประตูรั้วบ้านพอใจจะไม่ปิดอยู่แล้ว เคยเห็นเวลามีคนมาหาก็เดินเข้าไปเลย แล้วก็ตะโกนเรียกอยู่หน้าประตู


“พอใจ! ป้าแววครับ!”


ยืนรอไม่นานนักป้าแววก็ออกมาหา ชื่นตาเลยเดินเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว ข้างนอกร้อนมากเลย ขนาดว่าบ้านพอใจมีต้นไม้เยอะมากๆๆๆแล้วนะ


“เอาอะไรมาจ๊ะ”
“ข้าวผัดครับ ชื่นทำเอง เอามาให้ลองชิม”
“อ๋อ มาจ้ะ ป้าเอาไปใส่จาน”
“นี่ครับ” ชื่นตายื่นถ้วยที่สามารถเนียกว่าโถก็ได้ไปให้ป้าแวว พร้อมสอดส่องสายตาไปรอบๆเพื่อมองหาพอใจ


“รายนั้นยังไม่ตื่นหรอกจ้ะ”
“อ๋อ คงนอนดึกมั้งครับ”
“ประมาณนั้นแหละจ้ะ วานคุณชื่นช่วยไปตามให้ป้าหน่อยสิ”
“ครับ! ผมเหรอ”
“ใช่ ห้องมุมซ้ายนะจ๊ะ”


แล้วชื่นตาก็ได้รับหน้าที่ใหม่ขึ้นมาเฉยๆ เขาเดินขึ้นมาชั้นสองของบ้าน มองไปมุมซ้ายตามที่ป้าแววบอก แล้วก็เดินไปหยุดที่หน้าประตู ช่างใจอยู่นานว่าจะเคาะดีไหม สุดท้ายก็ตัดสินใจเคาะ


ก็อก ก็อก


“พอใจ! ตื่นยังง” แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ ชื่นตาจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต


ชื่นตามองสำรวจห้องของพอใจ ก็เป็นห้องสีขาวเรียบๆทั่วไป มองไปที่พอใจที่คลุมผ้าห่มไว้เป็นก้อนๆ แต่ยื่นขาออกมาจากผ้าห่ม เดาว่าคงจะร้อน แต่ไม่อยากเอาตัวออกมา ชื่นตาก็เป็น เขาเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงแล้วเรียกเพื่อปลุก


“พอใจ ตื่นๆๆ” แต่พูดไปก็ไม่ได้รับการตอบรับ จึงต้องเอามือไปเขย่าๆด้วย พอใจถึงจะงัวเงียตื่นขึ้นมา ตอนอึนๆแบบนี้พอใจก็เหมือนเด็กอยู่เหมือนกัน น่ารักดี


“อือ พี่ชื่น มายังไงครับ”
“ป้าแววบอกให้เรามาปลุก”
“อื้อ”
“อ๊ะ”


นอกจากจะไม่ยอมลุกขึ้นแล้ว พอใจยังดึงชื่นให้ลงไปนอนข้างๆอีกด้วย ชื่นตาตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ขยับออกนิดหนึ่งเพราะรู้สึกว่ามันใกล้เกินไป


“ขอ5นาทีครับ”
“5นาทีนะ ก็ได้”


ชื่นตามองนาฬิกาที่ตู้ข้างเตียงของพอใจ แล้วก็หันกลับมามองคนตรงหน้าที่นอนหลับตาอยู่ อ่า ชื่นตาไม่รู้จะเอาสายตาไปไว้ตรงไหน เขาจึงลอบสำรวจใบหน้าของชื่นตา มองจนลืมเวลา เมื่อพอใจลืมตาขึ้นมาสบตา ชื่นตาก็สะดุ้งด้วยความตกใจ แต่ก็ทำเนียนไม่พูดอะไร


“แอบมองผมเหรอ”
“ก็มันอยู่ตรงหน้านี่”
“จุุ๊บ!”
“อ๊ะ พอใจ!”
“อรุณสวัสดิ์ครับ ผมไปอาบน้ำก่อน”


พอใจลุกไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ชื่นตานอนตาโตอยู่บนเตียง เมื่อรู้สึกตัวแล้วจึงรีบลงไปข้างล่างแบบเขินๆ พยายามทำให้ใจสงบๆแล้ว แต่ทำไม่ได้จริงๆ


"คุณชื่น กินวุ้นกะทิไหมลูก"
"ขอบคุณครับ"


ชื่นตารับจานวุ้นกะทิมา แล้วเอาส้อมจิ้มกินอย่างมีความสุข มันไม่หวานเกิน ไม่เลี่ยน ชื่นตาชอบขนมของป้าแววที่สุดเลย ในตอนที่มีความสุขอยู่กับขนม ชื่นตาไม่รู้เลยว่ามีใครเดินมาอยู่ข้างหลัง


"แฮร่!"
"แม่ร่วง! พอใจ!"


ชื่นตาตกใจจนทำวุ้นกะทิร่วงลงไปหนึ่งชิ้น เขาเสียใจจนต้องยืนนิ่งไว้อาลัยให้กับวุ้นที่แน่นิ่งอยู่บนพื้น เขาเสียของอร่อยไปแล้ว เศร้าจัง


"นิ่งเลยครับ"
"เราทำขนมหล่น ฮือออ"
"เหลืออีกตั้งหลายชิ้นครับ"
"แต่มันน่าเสียดาย"
"ช่างมันเถอะครับ"


ชื่นตาได้แต่มองตามพอใจที่เอาทิชชู่หยิบขนมไปทิ้งอย่างอาลัยอาวร เขาน่าจะรู้ตัวตั้งแต่สามวินาทีแรกแล้วหยิบเข้าปาก ตอนนั้นเชื้อโรคน่าจะยังไม่รู้ตัวหรอก เฮ้อ


ช่างเถอะ ชื่นตาหันมามองวุ้นอีกสี่ห้าชิ้นในจานแล้วหยิบกินต่อ พร้อมกับที่ลุง ป้าแววแล้วก็พอใจนั่งลงกินข้าว ทุกคนพูดคุยกันเล็กน้อย ชื่นตาก็มีส่วนร่วมในบทสนทนาบ้างเล็กน้อย


"พอใจไปส่งขนมบ้านยายเล็กหน่อยนะลูก"
"ได้ครับ เดี๋ยวเอาจักรยานไป"


หลังจากกินข้าวเช้ากันเสร็จ ชื่นตาก็เข้าไปช่วยป้าแววล้างจานในครัว จนพอใจลงมาจากห้องแล้วชวนเขาออกไปส่งขนมด้วยกัน ตะกร้าข้างหน้าเต็มไปด้วยกล่องขนม ดังนั้นกล้องของพอใจจึงมาห้อยอยู่ที่คอของเขาแทน


พอใจพาชื่นตาแวะไปส่งขนมที่บ้านซอยถัดไปจากบ้านของพวกเขาสองซอย เป็นบ้านของคุณยายคนหนึ่งที่อยู่กับลูกสาวสองคน แต่สั่งขนมมาตั้งหลายกล่อง ท่าทางจะชอบกินมากจริงๆแหละ และตอนกลับ พอใจก็พาเขามาแวะที่สวน พวกเรานี่ชอบมาสวนกันจริงๆเลย


"ผมจะแวะถ่ายรูปหน่อย"
"โอเค เดี๋ยวเราเดินตาม"
"ไม่ พี่ต้องถ่ายให้ผม มานี่" ชื่นตาถูกดึงมายืนอยู่ข้างๆพอใจ
"เราถ่ายไม่เป็น"
"เดี๋ยวสอน"


พอใจขยับตัวไปยืนซ้อนหลังชื่นตา เปิดหน้าเลนส์ แล้วก็เลื่อนฟิล์มให้อีกคนดูเป็นตัวอย่าง อธิบายตัวเลขต่างๆบนกล้องให้ชื่นตาเข้าใจแบบคร่าวๆก่อน


"พี่มองตรงนี้นะ มองกรอบสีเหลืองๆไหม"
"อื้อๆ"
"แล้วมันจะมีช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆตรงกลางใช่ไหมครับ พี่มองตรงนั้นดีๆนะ"
"อ่าห๊ะ เรามองอยู่"
"ตรงนั้นมันจะมีภาพซ้อน พี่ต้องเลื่อนให้มันมาตรงกัน" พอใจค่อยๆเอามือหมุนเลนส์ทีละนิดเพื่อให้ชื่นตาสามารถสังเกตได้


"อ๋อ เรามองเห็นแล้ว"
"ครับ ทีนี้หลังจากที่มันซ้อนกันแล้วพี่ก็กดถ่ายได้เลย ระยะประมาณหนึ่งช่วงแขนนะครับ"
"โอเคค เดี๋ยวเราลองดู"


พอใจเดินไปอยู่ในจุดที่คิดว่าแสงจะเข้า แล้วก็อยู่นิ่งๆให้ชื่นตาโฟกัส ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาสักหน่อย พอใจก็ไม่มีบ่น ยืนเป็นนายแบบให้อย่างดี


"พอละ เราเริ่มปวดตา"
"ครับ งั้นพี่ช่วยไปหยิบขาตั้งในประเป๋าให้หน่อยได้ไหมครับ"
"โอเคค"


ชื่นตาวิ่งไปที่กระเป๋าผ้าที่วางอยู่บนม้านั่งแถวๆนั้น ตอนที่หยิบถุงใส่ขาตั้งออกมา มันมีเศษกระดาษแผ่นหนึ่งยื่นออกมาจากถุง ชื่นตาก็เลยหยิบออกมาดู


'หยิบขาตั้งกล้องมาให้แฟนหน่อยครับ'


ชื่นตาอ่านข้อความนั้นแล้วยืนอมยิ้มอยู่กับที่ หันกลับไปมองพอใจที่ยืนอยู่ที่เดิม พอใจไม่ได้เร่งให้เขาเดินไปหา ชื่นตาไม่ได้ยืนคิดอะไรนานหรอก เขาแค่เขินเลยไม่เดินไปสักที


เวลาผ่านไปหลายนาที ชื่นตาค่อยๆวางถุงขาตั้งกล้องลง แล้วเดินกลับไปมือเปล่า พอใจได้แต่ยืนมองเงียบๆ


"เราแกะถุงไม่ได้อ่ะ ไปแกะให้หน่อยสิ" พอใจที่กำลังคิดมากอยู่ก็หัวเราะให้กับประโยคนี้
"อย่าหัวเราะสิ พอใจมัดแน่นไปอ่ะ เราแกะไม่ได้"


พอใจเดินกลับไปที่ม้านั่งแล้วค่อยๆแก้มัดถุงนั้น มันแกะยากอย่างที่ชื่นตาว่านั่นแหละ เขาไม่ค่อยใช้มันสักเท่าไหร่ ตอนมัดเลยไม่ได้ใส่ใจว่าเป็นยังไง


"แล้วยังไงต่อครับ"
"อ่ะ เราเอามาให้แล้วนะ" ชื่นตาหยิบขาตั้งกล้องมาจากมือพอใจ และยื่นกลับไปหาพอใจอีกที สุดท้ายทั้งคู่ก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา


"มาครับคุณแฟน ถ่ายรูปกันหน่อย"
"ถ่ายยังไงอ่ะ"
"ตั้งเวลาครับ พี่ไปยืนตรงนั้น"


พอใจชี้ไปใต้ร่มไม้ เมื่อชื่นตาไปยืนแล้วเรียบร้อย เขาก็หมุนโฟกัสค้างไว้ ปรับกล้องให้อยู่ในโหมดตั้งเวลา กดชัตเตอร์แล้วรีบวิ่งไปยืนข้างชื่นตาทันที ก็หวังว่ารูปที่ถ่ายวันนี้จะใช้ได้


"ล้างรูปแล้วส่งให้เราด้วยนะ"
"ครับแฟน"


หลังจากนั้นชื่นตาก็นั่งซ้อนจักรยานพอใจกลับบ้านเหมือนเดิม ตอนเย็นทั้งคู่ก็นั่งแท็กซี่กลับมาที่คอนโดและแยกย้ายกันไปพักผ่อน ไม่กี่วันหลังจากนั้น ชื่นตาก็เลื่อนฟีดในอินสตาแกรมไปเรื่อยๆ แล้วก็เจอกับ…


'I'll be with you'


เป็นรูปของชื่นตากับพอใจยืนจับมือกันใต้ร่มไม้ในสวนสาธารณะวันนั้น ชื่นตาอมยิ้มอย่างมีความสุข แล้วก็กดไลค์ไปหนึ่งที


"ยิ้มอะไรครับ"
"เปล่าเลย"


ชื่นตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่ก็เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของพอใจมาส่งรูปนั้นให้ตัวเอง อ้อ ส่งรูปอื่นด้วย ก็เขาเป็นคนถ่าย ต้องเก็บรูปไว้ได้สิ


หลังจากได้ในสิ่งที่ต้องการเรียบร้อย ชื่นตาก็จัดการโพสต์ในอินสตาแกรมของตัวเองทันที

'A man in the garden snap by me'


ยิ้มชอบใจให้กับตัวเอง แล้วก็ก้มหน้าก้มตากินขนมที่ตัวเองสั่งมา เขาปิดแจ้งเตือนแล้ว เพราะรู้ว่าเพื่อนจะต้องมาแซวเยอะแน่ๆ วันนี้เขามีความสุขมาก จริงๆก็มีความสุขทุกวันที่อยู่กับพอใจนั่นแหละ!










ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: คุณชื่นตา--20--<6/7/2019>
«ตอบ #58 เมื่อ06-07-2019 16:06:35 »

 :hao3:

ออฟไลน์ Philosophy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: คุณชื่นตา--20--<6/7/2019>
«ตอบ #59 เมื่อ06-07-2019 17:59:30 »

หวานนนนน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด