ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ p.47 (29/12/56)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ p.47 (29/12/56)  (อ่าน 429632 ครั้ง)

BeePed

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
จิ้มก้นคุณ bellbomb สามที
อิอย่างนี้....นะ นี่ท่าทางจะชอบพระเอกเราฝ่ายเดียวมานาน ถึงขนาดย้ายมาอยู่ห้องข้างๆกัน :-[ :-[
แต่อิตาพระเอกเราช่างทึ่มดีแท้  :angry2: :angry2:สนใจ นะ มาสองสามเดือนแต่ไม่รู้ว่าเค้าเรียนคณะอะไร

The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป
ตามหนู BP มาทัก เพื่อนสาว bb จะบอกว่า ตัวเองเอามาลงต่ออีกตอนนึงก่อนสิ
ว่าหวานจริง แล้วเค้าจะบอกว่าให้ลดดีกรีลงหรือไม่ ลองซิจ๊ะ ลองซิจ๊ะ กล้าเปล่า คิกคิก  :m20:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ู^
^
^
อย่าท้านะ ตัวเองอย่าท้าเค้านะ แง้้งงงงงงงงงง  :o12:

ขอไปนอนฝันถึงตอนต่อไปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยเอามาลงเน้อ  :really2:

muhan

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^จิ้มกันวันละนิดจิตแจ่มใส

จิ้มมากมากอยากจิ้มจิ้มเข้าไป

จิ้มคือ'ไรก็ไม่รู้ ตูหล่ะงง


ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

ป้าจ๋า
เมื่อไรจะเอาตอนสามมาสักทีอ่ะจ๊ะ

 :impress:


ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
มาอัพเสียหน่อยก่อนไปนอน มีลางสังหรณ์ว่าคนอ่านตอนนี้ต้องโวยไอ้เจ้าอ๊อฟกันแน่ๆ 5555   :z2:

Jeremy_F    จะรักกันไหมน้าคู่นี้ หึๆๆๆ
Newykung   อ่านตอนนี้แล้วจะเห็นว่านะยังขี้อายอยู่ไหมน้า
The Living Rive  ตอนนี้นะเมาและได้เรื่องจริงๆด้วยแหละเพื่อนสาว วะฮะฮ่า
<Ju!_Ju!>  หลงรักน้องนะอีกคนแล้ว เย่
watermoonj    ขอบคุณคับ
krappom  ฮี่ๆๆ เพราะป๋อมแป๋มมาตามนะเนี่ยเลยรีบปั่นมาให้
19NT      เอาจริงเหรอ เอาคนเขียนไปก่อนม้ายยยย ก๊าก
dahlia   นะ นักปีนมืออาชีพจ้ะ อิๆ
mist      ติดใจเป้วิวขนาดนั้นเลย
palpouverny   น้องนะคนหลงเยอะจัง
pickki_a   นู๋ใหญ่ เบาหวานลงตับไปยางงงง
BeePed    อ่านตอนนี้แล้วอาจเห็นอ๊อฟทึ่มกว่าเดิม ก๊ากกก
muhan   ระวังโดนจิ้มคืนมั่งนะตัว
nana   มาต่อให้แล้วจ้า


ขอบพระคุณเสียงตอบรับจากทุกท่านเจ้าค่า ไปติดตามต่อตอนที่ 3 กันเลยนะ   :man1:


3. ความไม่เข้าใจ

“อยากจะขอปาฏิหารย์ขีดชะตาชีวิตฉันใหม่
ขอให้พบและได้เจอกับบางคน คนที่รู้ใจ
ขออธิษฐานต่อ ดวงดาวทำให้ฉันไม่ต้องอยู่เดียวดาย
และทำให้เราเจอใครซัก...คน

เหม่อมองความรักที่มันหลุดลอย
ปล่อยใจดวงน้อยเฝ้าคอยความหวัง
กี่คนหมื่นล้านที่เดินผ่านไป จะมีใครมั้ยที่ฉันเฝ้ารอ

อยู่กับความเหงามานาน มันทรมาน เหมือนอยู่บนทางแสนไกล
ก่อนมันจะสายเกินไป ทุกลมหายใจ มันอยู่เพื่อรอใครซักคน”



ผมยังร้องไม่ทันจบเพลงก็โดนตบหัวเสียก่อน พอจะหันไปหาเรื่องว่าใครเป็นคนมาลอบทำร้ายก็ปรากฏว่าเจอพี่หล่งซึ่งเป็นประธานชุมนุมยืนกอดอกทำหน้าเซ็งอยู่ข้างหลัง

“อะไรพี่ อยู่ดีๆมาตบหัวผมทำไมเนี่ย”

“ถ้าไม่เล่นแบบนี้มึงจะหยุดเหรอ รู้ตัวมั้ยเนี่ยว่านั่งดีดกีตาร์ร้องเพลงเดิมมากี่รอบแล้ว”

ผมหันไปมองเติ้ลซึ่งเป็นรุ่นน้องชุมนุมที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอ่านการ์ตูนอยู่ที่กรอบประตูแล้วถามให้แน่ใจ “เฮ้ยเติ้ล พี่เล่นเพลงนี้ซ้ำหลายรอบแล้วจริงเหรอวะ”

คนถูกถามชำเลืองมองผมแวบหนึ่งก่อนจะหันไปสนใจหนังสือการ์ตูนต่อ “เออดิพี่ ผมได้ยินพี่เล่นเพลงนี้ตั้งแต่ผมอ่านการ์ตูนเล่มแรกจนตอนนี้จะขึ้นเล่มที่สามแล้วเนี่ย รอบแรกๆผมก็รำคาญอะนะแต่ขี้เกียจทัก เป็นบุญจริงๆที่พี่หล่งเข้ามา”

ผมเขวี้ยงกล่องกระดาษทิชชูใกล้มือใส่รุ่นน้องปากดีแต่เจ้าตัวยกหนังสือการ์ตูนขึ้นปัดทัน “เฮ้ยพี่อ๊อฟ ผมพูดความจริงเฉยๆแค่นี้ต้องประทุษร้ายกันด้วยเหรอวะ”

“นี่พวกมึง จะทำร้ายร่างกายกันก็ไปนอกห้องแต่ห้ามเอาทรัพย์สินชุมนุมไปเล่นโว้ย ไอ้เติ้ลเอากล่องทิชชูมานี่”

พี่หล่งว่าแล้วก็เอาเท้าเขี่ยข้าวของที่กองสุมรกเต็มพื้นออกจนพอนั่งได้ ผมวางกีตาร์พิงข้างผนังแล้วก็เขยิบหลบไปนั่งพิงล็อคเกอร์ขณะที่ไอ้เติ้ลเดินเข้ามาช่วยพี่หล่งกินข้าวเหนียวหมูทอดที่ซื้อมา นอกจากพี่หล่งจะเป็นประธานชุมนุมแล้วแกยังนับเป็นสวัสดิการย่อยๆด้วยเพราะมักซื้อของกินติดไม้ติดมือขึ้นมาเผื่อแผ่คนอื่นในชุมนุมประจำ

“กำลังมีความรักหรือไงวะอ๊อฟ นานทีปีหนไม่เคยเห็นร้องเพลงจนเหม่อได้ขนาดนี้”

“โอ้ยพี่! มีใครหลงมาให้รักก็ดีดิ ผมแค่นึกเพลงอื่นที่จะเล่นไม่ออกหรอก”

ทั้งไอ้เติ้ลและพี่หล่งมองผมแบบไม่เชื่อ ก็น่าอยู่หรอก ผมฟังที่ตัวเองพูดแล้วยังรู้สึกเลยว่าเป็นคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นสิ้นดี แต่ให้บอกว่ากำลังมีความรักอยู่หรือเปล่ามันก็ไม่ใช่อีก ผมยังไม่เข้าใจตัวเองเลยด้วยซ้ำว่าการที่รู้สึกดีกับใครคนหนึ่งเฉยๆนี่จะเรียกว่าผมรักคนคนนั้นไปแล้วหรือยัง ก็คนที่ว่าเป็นผู้ชายที่อยู่ข้างห้องนี่นา

“เสียงโทรศัพท์ใครวะ เติ้ลใช่ของมึงเปล่า”

“เปล่าพี่ ของผมอยู่ในกระเป๋ากางเกงนี่ ของพี่อ๊อฟล่ะมั้ง”

เจ้ารุ่นน้องตัวดีเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ของผมที่วางอยู่ข้างกระเป๋าสะพายแล้วยื่นให้ พอผมเห็นเบอร์โทรเข้าก็ถอนหายใจก่อนกดรับ

“ว่าไงมุ้ย”

“อ๊อฟจ๋า บ่ายนี้แกว่างมั้ย ชั้นขอเอาหนังแผ่นไปดูที่ห้องแกได้มั้ยอะ”

“อ้าว แล้วทำไมไม่กลับไปดูที่ห้องตัวเองล่ะ เครื่องเล่นดีวีดีที่ห้องแกก็มีไม่ใช่เหรอ”

“ก็ตอนนี้เครื่องมันเสียเลยเอาไปซ่อมอยู่ นะๆๆๆขอไปอาศัยห้องแกดูหน่อย อีกสามแผ่นชั้นก็จบซีรีส์แล้วเนี่ย ไม่ได้ดูให้จบเร็วๆแล้วคาใจว่ะ”

ผมฟังเพื่อนแล้วก็ชักเริ่มสงสัยว่าวันๆเพื่อนผมเข้าเรียนบ้างหรือเปล่า มันน่าโทรฟ้องน้าเหมียวแม่ยายมุ้ยซะให้เข็ดจริงๆ

“เอ้าๆ บ่ายนี้เราเรียนเสร็จตอนบ่ายสาม ซักสามครึ่งเดี๋ยวเจอกันตรงป้ายรถเมล์แล้วกัน”

ผมกดวางสายแล้วก็รู้สึกถึงสายตาสองคู่ที่มองตัวเองอยู่เลยถามงงๆ

“เป็นไร มองอะไรกัน”

พี่หล่งมองผมยิ้มๆระหว่างยกกระป๋องเป๊ปซี่ขึ้นดื่ม “ไหนบอกไม่มีความรักไง แล้วโทรศัพท์เมื่อกี้อะไรวะ มีนัดด่งนัดเดทกันที่ป้ายรถเมล์ด้วย”

ผมหัวเราะเมื่อนึกถึงคนที่อีกฝ่ายเอ่ยถึง “โอ้ยพี่ ฟ้าผ่ากันพอดี เมื่อกี้นี่เพื่อนผมตั้งแต่สมัยเด็กๆต่างหาก เห็นกันมาแต่อ้อนแต่ออกให้เป็นแฟนกันไม่ไหวหรอก”

“แหมพี่ ผมเห็นเยอะแยะไปพวกที่ปากบอกเป็นเพื่อนๆแต่สุดท้ายก็เป็นแฟนกันน่ะ ยกเว้นว่าพี่จะยืนยันเสียงแข็งได้เพราะมีคนอื่นอยู่แล้วนั่นแหละ” เติ้ลเสนอความเห็นบ้างทั้งที่เคี้ยวข้าวเหนียวอยู่เต็มปาก

จู่ๆผมก็นึกถึงใบหน้าของคนข้างห้องขึ้นมา แต่แล้วก็ต้องส่ายหน้าก่อนจะหันไปคว้ากระเป๋าขึ้นพาดไหล่ก่อนจะเดินออกจากห้อง

“ยังไงผมไปเรียนก่อนแล้วกันพี่หล่ง แล้วก็เย็นนี้คงไม่ขึ้นมานะพี่”


++------++


ผมนอนอ่านหนังสือบนเตียงขณะที่มุ้ยนั่งดูแผ่นละครซีรีส์ที่เช่ามาอยู่หน้าทีวี เรื่องที่เพื่อนผมกำลังติดตามดูอย่างขะมักเขม้นเป็นซีรีส์หนังเกาหลีที่มีนักร้องชื่อดังเป็นพระเอก ขนาดผมไม่ค่อยสนใจแต่ก็พอจะรู้ว่าละครเรื่องนี้กำลังเป็นที่นิยมเพราะขนาดเพื่อนที่คณะยังชอบพูดถึงกันบ่อยๆ

“จบแล้วๆ ว้า เสียดายจัง อยากให้มีภาคต่อว่ะ”

ผมหัวเราะระหว่างที่มุ้ยเอาแผ่นซีดีออกจากเครื่องกลับใส่กล่อง “ชอบดูละครรักหวานแหววจริงๆนะแกนี่”

“แหม เรียนก็เครียดแล้วนี่แก เรื่องรักๆของตัวเองให้ตื่นเต้นก็ไม่มี ก็ต้องมาดูละครแบบนี้แหละให้ชุ่มชื่นหัวใจ”

ผมยิ้มแล้วส่ายหน้า ไม่ใช่ว่าเพื่อนผมไม่มีคนมาจีบ แต่เพราะมุ้ยเป็นคนขี้รำคาญเลยทนผู้ชายที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของชอบโทรตามหรือขอให้มุ้ยเปลี่ยนตัวเองไปเป็นแบบที่ชอบไม่ได้ สุดท้ายจนป่านนี้เพื่อนผมก็เลยยังโสดสนิท

“จะว่าไป เดี๋ยวนี้คนข้างห้องแกเป็นไงบ้างอะ ไม่มาเคาะห้องแล้วเหรอ”

“ช่วงนี้ไม่ค่อยว่ะ ก็เดินสวนกันที่มหา’ลัยบ้าง แต่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น”

“เหรอ...ว้า”

ผมทำเป็นอ่านหนังสือเรียนที่วางอยู่บนตักจะได้เลี่ยงสายตาเพื่อน จะให้บอกได้ไงว่าตั้งแต่วันที่นะมาช่วยดูแลผมที่ห้อง ตอนไม่สบายบางครั้งผมก็ชวนนะทานข้าวด้วยกันตอนเจอกันแถวตลาดหน้าหอสองสามครั้ง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายก็ยังไม่สนิทใจยอมพูดคุยเรื่องราวของตัวเองให้ผมฟังมากนักอยู่ดี

ผมยอมรับว่าผมอยากทำความสนิทสนมกับคนข้างห้องให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ยิ่งได้พูดคุยด้วยก็ยิ่งอยากรู้จักให้มากขึ้น แต่กระนั้นผมก็ยังไม่อยากรีบตัดสินว่าความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกเดียวกับความรู้สึกที่เรียกว่า ‘ชอบ’ แล้วหรือยัง อีกอย่างนะเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเป็นพิเศษกับผมเลย

“ชักหิวข้าวแล้วว่ะอ๊อฟ ไปหาอะไรกินกันมะ เดี๋ยวชั้นจะได้กลับหอเลยด้วย”

ผมปิดหนังสือแล้วพยักหน้า “ก็ดี สองทุ่มกว่าแล้ว ระวังเหอะแกเป็นสาวเป็นนางกินข้าวดึกๆเดี๋ยวก็อ้วนหรอก”

มุ้ยค้อนผมระหว่างปิดประตูล็อกห้องแล้วก็แกล้งทำเป็นเข้ามาควงแขน “แหม ถ้าวันไหนที่มุ้ยทำท่าจะอ้วนจนขายไม่ออกจริงๆมุ้ยจะให้แม่ไปขอน้องอ๊อฟมาเป็นเจ้าบ่าวแล้วกันนะคะ ไหนๆก็เห็นกันมาแต่อ้อนแต่ออก หรือน้องอ๊อฟว่าไงจ๊ะ”

“โอ้ย ไอ้บ้า คงแต่งกันลงหรอกนะ”

เราหัวเราะกัน แต่ขณะกำลังจะออกเดินประตูห้องข้างๆผมก็เปิดออกพอดี

“อ้าวนะ อยู่ที่ห้องหรอกเหรอเนี่ย”

ผมหันไปยิ้มให้คนตัวเล็กข้างห้อง นะมองผมแล้วก็หันไปมองมุ้ย แต่ผมยังไม่ทันจะแนะนำเพื่อนให้รู้จักคนหน้าหวานก็หลบตาผมแล้วเดินหนีไปเสียก่อน มุ้ยกระตุกเสื้อผมเบาๆ

“เฮ้ยอ๊อฟ นั่นคนข้างห้องที่แกบอกว่าชอบมาขอปีนหน้าต่างใช่ปะ หน้าตาน่ารักนี่หว่า แต่ทำไมดูไม่ค่อยพูดค่อยจาเลยแฮะ”

ผมไม่ได้ตอบความเห็นของมุ้ยขณะมองตามหลังร่างเล็กบางที่เดินหลบเข้าลิฟต์ไป อะไรบางอย่างในแววตากลมโตคู่นั้นตอนที่สบตากับผมเมื่อกี้ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดในใจยังไงพิกล


 ++------++


ผมสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ากับเสียงคนคุยกันจากหน้าห้อง พอเหลือบดูนาฬิกาหัวเตียงแล้วก็ต้องขยี้ตาเพราะตีสองเข้าไปแล้ว อุตส่าห์เช่าหนังมาดูเพราะตั้งใจจะรอคนข้างห้องกลับมาแต่สุดท้ายก็เผลอหลับไปจนได้ ผมกดรีโมตปิดโทรทัศน์ก่อนจะเปิดประตูออกไปเพื่อดูว่าใช่นะหรือเปล่า แต่พอเห็นว่าคนที่ผมรออยู่กำลังโดนประคองในอ้อมแขนของผู้ชายอีกคนก็รู้สึกหน้าตึงขึ้นมาทันที

“เอ้า นะ ยืนดีๆสิ แล้วตกลงหากุญแจห้องเจอมั้ย”

คนตัวเล็กดูท่าจะเมามากจนถ้าไม่ได้ยืนพิงคนข้างตัวอยู่คงล้มลงไปนั่งบนพื้นแล้ว ใบหน้าหวานที่ปกติขาวใสแดงก่ำ นัยน์ตากลมโตเหลือบขึ้นมองผมนิดหนึ่งหลังได้ยินเสียงผมเปิดประตูห้องก่อนจะหลบตาแล้วพยายามล้วงหากุญแจในกระเป๋ากางเกง

“หาไม่เจอน่ะเชน สงสัยเราลืมไว้ในห้อง ถ้ายังไงคืนนี้เราไปนอนที่หอเชนได้มั้ย”

หืม!!??

ไอ้หนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนประคองนะอยู่ทำเป็นถอนหายใจทั้งที่นัยน์ตาคู่นั้นเป็นประกายมันวาวจนผมเริ่มหงุดหงิด
 
“ก็บอกแล้วให้ไปนอนหอเราตั้งแต่แรกก็ไม่เชื่อจะได้ไม่ต้องวนมาที่นี่ งั้นกลับไปที่รถกัน”

ขณะที่นะถูกประคองเดินผ่านห้องผมไปตามทางเดินแคบๆผมรู้สึกเหมือนเห็นนัยน์ตาฉ่ำเยิ้มคู่นั้นตวัดมองผมอย่างตัดพ้อก่อนจะหันหนีเหมือนเดิม ผมรู้สึกเหมือนขาสองข้างถูกตอกหมุดตรึงอยู่กับที่ขณะหูแว่วเสียงสัญญาณประตูลิฟท์ปิดจากด้านหลัง ประโยคที่นะพูดกับเพื่อนเมื่อครู่ยังดังอยู่ในหัวแต่อะไรบางอย่างบอกผมว่ามันไม่ถูกต้อง

จริงๆแล้วการที่นะจะไปนอนไหนมันก็ไม่ใช่กงการอะไรของผมหรอก แต่อย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่ที่ห้องของคนที่มองนะด้วยตาเป็นประกายแบบนั้น!

ผมหันหลังแล้วก็ตัดสินใจวิ่งลงทางบันไดไปที่ลานจอดรถหลังหอ พอไปถึงก็ทันเห็นไอ้หนุ่มคนที่พานะมาส่งกำลังจะเดินอ้อมรถไปขึ้นฝั่งคนขับพอดี ผมเลยรีบก้าวเร็วๆไปกระชากประตูฝั่งผู้โดยสารเปิดออกแล้วก็ดึงแขนของนะออกมา คนตัวเล็กมองผมอย่างตกใจพอๆกับคนขับที่ก้าวลงจากรถแล้วตรงเข้ามาหาผมอย่างหาเรื่อง

“เฮ้ย! ทำอะไรวะ”

“ไม่ทำอะไร ก็แค่จะพานะกลับห้อง หอเค้าอยู่นี่เค้าก็ต้องนอนที่นี่สิ”

ผมให้เหตุผลแบบกำปั้นทุบดิน ตรรกกะพรรณไหนไม่รู้ละ ผมรู้แต่ว่ายังไงคืนนี้ผมไม่ยอมให้นะไปนอนห้องไอ้หมอนี่แน่ๆ!

“ตลกแล้วมึง นะเค้าบอกเองว่าจะไปนอนหอกู มึงเป็นใครแล้วจะมาเสือกทำไม”

ผมหรี่ตามองคนตรงหน้าที่ถ้าโดนผมชกทีเดียวก็คงปลิว ผมอาจไม่เกิดอาการเหม็นขี้หน้าหมอนี่ขนาดนี้ถ้าหากไม่ได้เห็นว่าอีกฝ่ายทำสายตากะลิ้มกะเหลี่ยกับนะแค่ไหน ผมเลยปล่อยมือที่จับแขนผอมเรียวอยู่เป็นโอบเอวของนะไว้แทนแล้วดึงมาใกล้ตัว

“ปกติเวลานะเข้าห้องไม่ได้ก็มานอนห้องกูอยู่แล้ว ดังนั้นคืนนี้ก็ไม่ต้องรบกวนคนอื่นหรอก นะ เรากลับขึ้นห้องกันดีกว่า”

ท้ายประโยคผมก้มลงไปพูดกับคนข้างตัวที่อ้าปากค้างมองผมทั้งหน้าแดงๆ ผมมองตรงเข้าไปในตาฉ่ำเยิ้มคู่นั้น หวังแต่ว่าความเป็นห่วงของผมจะส่งไปถึงและนะจะไม่ปฏิเสธ ก่อนที่เพื่อนของนะจะได้อ้าปากเถียงคนในอ้อมแขนก็หันเข้าซุกอกผมแล้วพูดเสียงอู้อี้กับเจ้าของรถที่ยืนรออยู่

“...ขอโทษนะเชน เดี๋ยวคืนนี้เรานอนที่หอนี่แหละ”

ไอ้หนุ่มตี๋ทำหน้าเจื่อนขณะที่ผมยิ้มยิงฟันอย่างสะใจก่อนจะรีบประคองนะเดินผ่านหมอนั่นกลับไปในหอเพราะกลัวว่าคนในอ้อมแขนจะเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาเสียก่อน

ถ้าให้สารภาพตรงๆผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องรู้สึกหวงคนตัวเล็กคนนี้นัก แต่แค่คิดว่าจะมีคนอื่นได้ใกล้ชิดหรือเอาเปรียบนะตอนที่เมามายไม่มีแรงสู้แล้วก็รู้สึกเหมือนจะทนไม่ได้ขึ้นมา

“ปล่อยได้แล้ว...”

พอเราสองคนออกจากลิฟต์มาถึงชั้นที่พวกเราอยู่นะก็สะบัดตัวออกจากแขนผมก่อนจะเดินเซๆนำไปแล้วรอให้ผมเปิดประตูให้ แต่พอเข้ามาในห้องแล้วคนตัวเล็กก็ทำท่าจะเดินตรงไปที่หน้าต่างทันทีผมเลยรีบคว้าแขนเรียวไว้จนเจ้าตัวหันกลับมาแล้วทำเสียงหงุดหงิด

“มีธุระอะไรอีก เดี๋ยวเราจะกลับไปนอนห้องตัวเองเหมือนทุกครั้งแหละ ไม่อยู่รบกวนหรอก”

ผมขมวดคิ้วกับเสียงของนะที่หายอ้อแอ้กว่าตอนแรกไปเยอะ แต่ท่าทางที่ยืนได้มั่นคงกว่าตอนอยู่ที่ลานจอดรถทำให้ผมรู้ว่าเจ้าตัวคงสร่างเมาขึ้นบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...

“นะ...คืนนี้นอนห้องนี้แล้วกัน ได้มั้ย”

คราวนี้คนที่ทำท่าโมโหผมยืนตัวแข็งทื่อแล้วมองผมตาโต ผมจับไหล่ทั้งสองข้างของนะไว้ รู้สึกเหมือนร่างกายเล็กๆสั่นสะท้านขณะที่ผมก้มลงไปมองคนที่ก้มหลบสายตาผม

“ได้มั้ย อย่ากลับไปนอนห้องตัวเองเลยคืนนี้”

“แล้ว...แล้วทำไมต้องให้นอนห้องนี้ด้วยล่ะ”

นะถามเสียงสั่นๆขณะช้อนสายตาที่วาวเยิ้มขึ้นมองผมจนผมแทบหยุดหายใจ ไหล่บางใต้มือผมสั่นน้อยๆจนผมเริ่มไม่มั่นใจว่าผมทำให้นะกลัวอยู่หรือเปล่า แต่คืนนี้ผมไม่อยากให้นะปีนหน้าต่างกลับไปห้องตัวเองจริงๆนี่นา ผมเอามือข้างหนึ่งประคองแก้มเนียนไว้ก่อนเอ่ยเสียงเบา

“ก็เป็นห่วง คืนนี้นะเมากว่าทุกครั้งเลยนะ ถ้าเกิดหล่นจากกันสาดลงไปแล้วบาดเจ็บจะทำยังไง”

คนตรงหน้าผมเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยถามเสียงเบา

“อ๊อฟแค่อยากให้เรานอนที่นี่เพราะเป็นห่วงเรื่องนั้นเหรอ”

นัยน์ตากลมโตคู่นั้นฉายแววปวดร้าวจนผมเผลอมองนิ่ง ก็ผมเป็นห่วงจริงๆนี่นา แต่อะไรบางอย่างบอกผมว่านั่นไม่ใช่คำตอบที่คนตรงหน้าอยากฟัง แล้วผมควรจะพูดอะไรในสถานการณ์แบบนี้ในเมื่อผมเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงได้บอกกับนะไปแบบนั้น

ท่าทางละล้าละลังของผมที่เงียบไปนานทำให้นะก้มหน้านิ่งจนผมเริ่มใจเสีย แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหยดน้ำใสๆไหลจากหางตากลมโตนั่นจนผมต้องรีบยกปลายนิ้วขึ้นปาดออกให้

“นะ! เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม?”

“ปล่อย! ไม่ต้องมายุ่ง ตกตึกไปได้ก็ดี ตกลงไปให้มันคอหักตายไปเลย!”

นะผลักอกผมล้มลงบนเตียงก่อนจะเดินจ้ำอ้าวไปที่หน้าต่าง ผมรีบลุกตามคนตัวเล็กไปทว่าอีกฝ่ายกระโดดลงไปที่กันสาดแล้ว

“เฮ้ย! นะ อย่าอยู่ๆก็กระโดดไปพรวดพราดอย่างนั้นสิ คนเค้าเป็นห่วงจริงๆนะ!!”

“ไม่ต้องมาห่วง ไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมาทักกันอีกเลยด้วย ไปคอยดูแลแฟนตัวเองโน่นไป ไอ้งี่เง่า!”

ผมขมวดคิ้ว จะไม่ให้งงได้ไง ก็แฟนเฟินอะไรที่นะพูดถึงเนี่ยผมมีเสียที่ไหนกัน

“เดี๋ยวสิ แฟนอะไรเข้าใจผิดแล้ว นะ ออกมาคุยกันก่อน!”

ตะโกนไปก็เท่านั้น คนตัวเล็กไม่ฟังเสียงผมแล้วก็ปีนเข้าห้องตัวเองแถมเลื่อนหน้าต่างปิดเสียงดัง ผมชะโงกหน้าออกไปหวังว่าอีกฝ่ายจะยอมโผล่หน้าออกมาคุยกันให้รู้เรื่องแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรจากห้องข้างๆอีกเลย แล้วตกลงคราวนี้ผมทำอะไรผิดล่ะเนี่ย!?


++------++




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2008 00:44:27 โดย bellbomb »

palpouverny

  • บุคคลทั่วไป
มันหึงแกไง ไออ๊อฟฟฟฟฟฟฟฟ

แค่นี้ก้อไม่รุ  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
โถ่ๆ นะ เธอ ช่าง หึง ได้ไม่ฟังเหตุฟังผลเลย

 :m16: :m16:
 
กลุ้มแทน อ๊อฟ อะ อิๆ แล้วจะรออ่านนะ ป้า

 :really2:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เข้าใจผิดจนได้ :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






The Living River Ping

  • บุคคลทั่วไป
อีตาอ๊อฟก็ทำซื่อบื้ออี๊กกกกก โธ่ นะเขาอุตส่าห์พูดขนาดนั้น โธ่ อดกัน เอ๊ย หมดกัน  :serius2:

Jeremy_F

  • บุคคลทั่วไป
นายนะคงรู้สึกรักเค้าข้างเดียว แอบมองมานานแล้ว ก็รักชอบทำไงได้ มันคงเจ็บพิลึกดีเนอะถ้าเค้าไม่รักตอบ

โชคดีที่นายนะรักถูกคน  :กอด1:

 :bye2:


juuuno99

  • บุคคลทั่วไป
น้องนะ มามะมา หาไอ้เอก็ได้   อ้อมแขนของพี่ยังว่างอยู่



กร๊ากกกกกกกกกกกก :laugh:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Re: [Short Story] เรื่องที่ 2: เม&
«ตอบ #73 เมื่อ24-11-2008 13:02:35 »

^
^
^

55555 พูดมาได้ไม่กลัวคนข้างตัวเลยนิ  :laugh:


ตอนหน้าอาจเป็นเซอร์ไพรส์ของหลายๆคน (รึเปล่าน้า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-11-2008 13:04:13 โดย bellbomb »

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อ่านรวดเดียวเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย น่ารักมากเลย

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ชอบมากๆๆ ชอบทุกเรืองเลยยยยยยยยยยยย


ไอตาอ๊อฟฟฟฟ เมื่อไหร่จะเข้าใจ :beat: :serius2:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ปีนระเบียงตามไปเคลียร์ด่วนนนนนนนนน

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ขัดใจ ตาอ๊อฟ มากมายมหาศาล   :m16:

หนูนะ มานี่มะ มาหาพี่แทนดีกว่า

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
สนุกทุกเรื่องเลย รีบมาต่อนะ  :m3:

ตอนหน้าอ๊อฟจะหายบื้อรึป่าวน๊าา  :z1:

muhan

  • บุคคลทั่วไป
เซอร์ไพรส์อย่าบอกนะว่า....

ปีนตามไปแล้วตกตึก

ตาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
^
เจี๊ยกกก คิดไปได้เน้อคนเรา  :a5:  :a5:

เค้าเขียน comedy อยู่นะตัวเอ๊ง อย่าเพิ่งมาเปลี่ยนบทให้เป็น tragedy ดิ๊ 5555  :m20:


ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
^

^

จิ้มจึ๊กๆ

น้องนะเข้าใจผิดนี่เอง

ฮี่ๆ


 :impress2:


BeePed

  • บุคคลทั่วไป
อ๊อฟต้องตามไปเคลียร์ด่วน 

ต้องเคลียร์สองต่อสองคืนนี้เลยด้วยนะ  :impress2:
.
.
ลุ้นให้เข้าใจกันเร็วๆ  :z2:

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
 :m15:

โฮฮฮฮฮฮฮฮ  มานะร้องไห้

จ๋งจ๋าน :z3:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
มาอัพแล้วจ้า~ :pig2:

palpouverny   เอ้อ จริง งานนี้คนไม่รู้มีแต่ตาอ๊อฟคนเดียว เฮ้อ
newykung     แบบว่าน้องนะเป็นคนคิดมากอะจ้ะ เหอๆ
nana   มาลุ้นว่าปรับความเข้าใจกันหรือยังนะ
The Living Rive    เพื่อนสาวหนีเที่ยวๆๆๆ 5555 กว่าอ๊อฟจะหายซื่อบื้อทำคนเขียนปวดหัวเลยเชียว
Jeremy_F    อะฮิ้ว หนู J พูดถูกใจ
<Ju!_Ju!>   เหมือนเดิม ก่อนจะอ้าแขนให้น้องนะ ขออนุญาตคนข้างๆก่อนนะ เหอะๆ
pongsj   ขอบคุณจ้า
RN       นั่นสิ บื้อจริงๆตาอ๊อฟนี่
Mist     เอางั้นจะดีเหรอ
dahlia   เอิ๊กๆ คนอ่านขัดใจอ๊อฟมากมาย คนเขียนประสบความสำเร็จ
Poes     มาลุ้นกันคับ
muhan  พลังจินตนาการล้ำลึกมาก คนเขียนขอคารวะ 5555
krappom    นะหนอนะ คิดไปเองจนได้เรื่อง
BeePed   มาดูกันว่าเคลียร์มั้ย หึๆ
19NT   แง้ว งั้นเดี๋ยวได้จ๋งจ๋านน้องนะอีกแหงๆเลยตอนนี้       

สถาณการณ์บ้านเมืองช่วงนี้เครียดจัง เฮ้อ ดีว่าพิมพ์ตอนนี้ไว้อยู่แล้วไม่งั้นอาจไม่มีอารมณ์เขียนนะเนี่ย ขอสารภาพหน่อยว่าพิมพ์เรื่องนี้ไปก็คิดถึงเรื่องยาวของตัวเองตลอดเลย เรื่องนั้นก็อยากอัพนะ แต่เพราะว่ามันเขียนยากกว่าเรื่องนี้เลยใช้เวลาเยอะอะคับ (จะว่าไป แฟนเรื่องนี้คงไม่ค่อยมีใครรู้จักเรื่องนู้น แล้วป้ามันจะบ่นทำไรเนี่ย ก๊าก)

ไปอ่านตอนที่ 4 กันดีกว่านิ
   :call:



4. คนที่ตามหา


“ตื่นได้แล้วอ๊อฟ หมดเวลานอนแล้วมึง”

ผมงัวเงียขึ้นมองคนที่เขย่าไหล่ผมก่อนจะขยี้ตาแล้วมองไปรอบตัว เพื่อนคนอื่นๆที่เรียนด้วยกันเริ่มทยอยออกจากห้องบรรยายกันแล้ว พอก้มมองสมุดตัวเองก็พบว่าหน้ากระดาษว่างเปล่าไม่มีตัวหนังสือสักตัว ให้มันได้งี้สิ สรุปว่าผมหลับไปทั้งคาบเลยหรือนี่

“เป็นอะไรวะ ทำหน้าอย่างกับคนอดหลับอดนอน โชคดีนะเมื่อกี้ไอ้โบ้นั่งบังมึงอยู่ไม่งั้นโดนอาจารย์เรียกแหงๆ”

ผมหัวเราะเฝื่อนๆขณะเดินลงบันไดตามเพื่อน “ต้องขอบคุณมันนะเนี่ย แต่เมื่อคืนนี้กูก็ไม่ค่อยได้นอนจริงๆแหละว่ะ”

ผมพยายามกลั้นหาวพลางเดินตามเป้ไปที่โต๊ะม้าหินข้างสนามฟุตบอล พอวิวที่นั่งอ่านหนังสือรออยู่เห็นพวกเราก็ยิ้มให้ก่อนจะเขยิบที่นั่งข้างๆตัวเองให้แฟน ผมวางกระเป๋าลงฝั่งตรงข้ามก่อนจะเดินไปซื้อกาแฟเย็นแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ แต่พอได้หย่อนตัวลงบนเก้าอี้ปุ๊บก็รู้สึกง่วงจนต้องฟุบหน้าลงอีกรอบ

“อ๊อฟยังไม่สบายอยู่เหรอ”

“หืม? อ๋อเปล่า เราแค่นอนน้อยไปหน่อยเมื่อคืน ไม่ได้เป็นอะไรหรอก”

ผมงึมงำตอบวิวไปทั้งที่ยังคว่ำหน้าอยู่กับแขนตัวเอง เมื่อคืนกว่าผมจะข่มตานอนหลับได้ก็เกือบเช้ามืดเพราะมัวแต่กังวลเรื่องของนะ แล้วก็ทั้งที่ตั้งใจจะตื่นมาดักรอคนข้างห้องตอนเช้าแต่ปรากฏว่าดันหลับเพลินจนตื่นสายเลยต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวมาเรียนทั้งที่สมองยังไม่ตื่นตัวเท่าไหร่

บรรยากาศร่มรื่นใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์กับลมที่พัดโชยมาทำให้ผมเริ่มเคลิ้ม แต่ยังไม่ทันจะหลับก็โดนเสียงห้าวๆของเป้เรียกไว้ซะก่อน

“อ๊อฟ กูกับวิวจะข้ามเรือไปกินข้าวฝั่งโน้นกัน มึงจะไปด้วยมั้ย”

“อือออ...เอาไงดีวะ”

ผมยังไม่ทันตัดสินใจโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อก็ดังขึ้น พอเปิดอ่านข้อความแล้วผมเลยส่ายหน้าง่วงๆให้เพื่อน

“ไปกันสองคนเหอะว่ะ วันนี้มุ้ยจะมากินข้าวด้วย”

“อ๊อฟกับมุ้ยสนิทกันดีนะ”

ผมหันไปหาวิวที่ทักผมยิ้มๆอย่างงงๆ “ก็เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตลอดตั้งแต่ที่นครสวรรค์น่ะ แม่เรากับแม่มุ้ยก็เพื่อนกันเลยเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ”

“ระวังเหอะมึง จะไม่มีสาวเข้ามาจีบเพราะเค้านึกว่ามึงกับมุ้ยเป็นแฟนกันนี่แหละ” เป้ว่าก่อนจะช่วยวิวเก็บเลคเชอร์ลงแฟ้มพลาสติกที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วก็เตรียมตัวจะลุกขึ้น

พอได้ยินสิ่งที่เป้พูดผมก็ขมวดคิ้ว จริงอยู่หรอกที่ผมกับมุ้ยสนิทกันและอยู่ด้วยกันบ่อยแต่เราไม่เคยจับมือถือแขนหรือทำท่าหวานแหววใส่กันสักที แต่พอคิดไปถึงคำพูดของคนข้างห้องเมื่อคืนแล้วก็เหมือนอะไรบางอย่างจะเริ่มคลิกในหัว

ถ้าเป็นอย่างที่เป้ว่าจริงก็แปลว่าผมโดนนะเข้าใจผิดน่ะสิ แล้วถ้าอย่างนั้นทำไมผมจะต้องโดนโกรธด้วยล่ะ?

ยิ่งคิดก็ยิ่งมึนหัวจนต้องเอานิ้วนวดขมับ พลันหางตาผมก็เหลือบไปเห็นแหวนเกลี้ยงสีเงินคาดริ้วทองคำเล็กๆบนนิ้วนางข้างขวาของเป้เลยทักขึ้นเพราะปกติผมเห็นเพื่อนใส่แต่นาฬิกาข้อมือ

“แหวนสวยนี่หว่าเป้ ไม่เห็นเคยใส่มาก่อน”

เป้ยกมือตัวเองข้างที่สวมแหวนขึ้นดูแล้วก็ยิ้ม “เหรอ แต่แปลกว่ะคนบางคนไม่ยักอยากใส่”

ท้ายประโยคเพื่อนผมหันไปยิ้มกวนให้คนข้างตัว วิวเลยค้อนให้ทั้งที่แก้มสองข้างเริ่มมีสีเรื่อขึ้น

“อะไรเล่า ก็มันไม่ชินนี่นา ไม่ใส่นิ้วแต่ก็ใส่เป็นสร้อยแทนแล้วไง”

ประโยคนั้นทำให้ผมเลิกคิ้ว พอสังเกตดีๆก็เห็นว่าที่คอวิวมีสร้อยเงินที่ร้อยแหวนอยู่จริงๆแต่เจ้าตัวใส่หลบไว้ใต้คอเสื้อเลยมองเห็นไม่ชัด ผมอดยิ้มอย่างหมั่นไส้กับท่าทางของคู่รักตรงหน้าไม่ได้ ท่าทาง ‘เซอร์ไพรส์’ ที่เป้เคยบอกว่าจะให้วิวตอนวันเกิดจะเป็นเรื่องนี้เอง เดาจากรสนิยมของเพื่อนผมแล้วแหวนสองวงนี้คงไม่ใช่ของที่เดินหาซื้อได้ตามห้างทั่วไปแน่

ผมโบกมือให้เพื่อนทั้งสองที่เดินผละไปแล้วก็นั่งรอเพื่อนสนิทอีกคนที่ดูจะกลายเป็นตัวป่วนโดยไม่ตั้งใจ ไม่นานคนที่นัดไว้ก็มาถึงหลังโทรถามว่าผมอยู่ที่ไหน

“เป็นอะไรของแก หน้าตาอย่างกับคนป่วย”

มุ้ยทักผมทันทีที่มาถึงจนผมต้องยกมือลูบหน้า “แกทักเราเป็นคนที่สามแล้วนะมุ้ย หน้าตาเรามันดูแย่มากเลยเหรอวะ”

“ก็ลองไปส่องกระจกดูเองดิ๊ ทำไมจ๊ะ กลุ้มเรื่องคนข้างห้องหรือไง”

ผมไม่ตอบแล้วก็เสยกแก้วกาแฟเย็นที่ตั้งทิ้งไว้บนโต๊ะนานแล้วขึ้นดูด บทมุ้ยจะสงสัยอะไรขึ้นมาเจ้าตัวก็วิเคราะห์ได้เฉียบคมอย่างไม่น่าเชื่อ  แถมไม่รู้ว่าเพราะเราคบกันมานานเกินไปหรือเปล่า แต่มุ้ยมักอ่านสีหน้าผมออกเสมอไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน ยิ่งโดนเพื่อนจ้องมากเข้าผมยิ่งอยากยกหนังสือขึ้นปิดหน้าตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด

“ไม่ใช่หรอกน่ะมุ้ย แกก็ช่างคิดอะไรเพ้อเจ้อ”

“ฮู้ย แต่ไอ้เรื่องเพ้อเจ้อของชั้นเนี่ยแหละมันดันชอบออกมาตรงว่ะ ให้ชั้นเดานะ แกหลงรักเค้าเข้าแล้วใช่ม้า”

ข้อสันนิษฐานของมุ้ยทำเอาผมแทบสำลักกาแฟเย็น เอากับคุณเธอสิ!

“เฮ่ย! บ้า! หลงรักอะไรวะ แล้วแกจะมายัดเยียดเค้าให้เราทำไมเนี่ย”

“ไอ้คนปากแข็ง แล้วทำไมต้องทำเป็นกระบิดกระบวนไม่อยากคุยถึงเค้าขนาดนั้นด้วย?”

มุ้ยขึ้นเสียงอย่างไม่ยอมแพ้ สมแล้วที่แม่ผมเคยทักว่ามุ้ยเหมาะจะเป็นพี่สาวผมยิ่งกว่าพี่จริงๆอีก และถึงผมจะพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงคนข้างห้องแค่ไหนแต่พอโดนเพื่อนรุกเรื่องนี้มากๆเข้าก็ชักจะหงุดหงิดขึ้นมา มุ้ยคงสังเกตเห็นสีหน้าผมเริ่มเปลี่ยนไปเลยรีบยิ้มแล้วทำเสียงร่าเริงใส่

“โอ๋ๆ อ๊อฟจ๋า แกอย่าทำหน้าน่ากลัวงั้นดิ ความจริงที่มาหาแกวันนี้ชั้นมีประเด็นนะ แกจำอาจารย์วรรณีที่เป็นที่ปรึกษาตอนเราอยู่ม. 6 ได้ปะ”

ผมเหล่มองเพื่อน เพิ่งจะกวนอารมณ์คนอื่นไปแล้วอยู่ดีๆนึกอยากมาเท้าความหลังอะไรกันตอนนี้เนี่ย?

“อือจำได้ แล้วทำไม”

“แกจำได้มั้ยว่าตอนเทอมสองลูกชายเค้าที่ตัวเล็กๆหน้าตาน่ารักๆย้ายมาเรียน ม. 4 ที่โรงเรียนเราอาจารย์เลยขอให้เราช่วยดูแลน่ะ รู้สึกว่าตอนนั้นเค้าติดแกแจเลยนะ อะไรก็พี่อ๊อฟๆ”

ผมดูดกาแฟเย็นไปพลางพยายามทบทวนความทรงจำสมัยม.ปลายไปด้วย ช่วง ม.6 เทอมสองเป็นเวลาที่ชีวิตผมค่อนข้างวุ่นวายเพราะพ่อกับแม่เตรียมจะหย่ากันแล้วมีปัญหาเรื่องใครจะเป็นฝ่ายได้สิทธิ์เลี้ยงดูผมกับพี่สาว ผมเลยมีความทรงจำไม่ค่อยดีกับช่วงเวลานั้นเท่าไหร่ แต่พอโดนมุ้ยทักผมก็เริ่มคุ้นๆว่าเคยมีเด็กแบบนั้นอยู่จริงๆ

“แล้วไง ทำไมอยู่ดีๆก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา”

“ก็ชั้นเพิ่งนึกได้ว่าคนข้างห้องแกหน้าคล้ายน้องเค้าเลยว่ะ ถึงว่าสิตอนเห็นหน้าเมื่อวานชั้นถึงได้ติดใจพิกล”

ผมคิดตามที่มุ้ยพูดไปพลางก็เอานิ้วเคาะโต๊ะไปด้วย อะไรบางอย่างที่เพื่อนเล่ามามันดูไม่สมเหตุสมผลชอบกล

“เดี๋ยวก่อนมุ้ย ถ้านะเป็นรุ่นน้องเราสองปีจริงๆ เค้าก็ต้องอยู่แค่ปีหนึ่งสิ แต่ที่นี่มีแต่เด็กปีสองขึ้นไปนี่นา ยกเว้นว่าเรียนภาคอินเตอร์....”

มุ้ยทำตาโตพลางตบโต๊ะดังฉาด บางทีผมก็นึกอยากเตือนเพื่อนเหมือนกันว่าให้เพลาๆไอ้ท่าทางเลียนแบบชายอกสามศอกลงบ้างก่อนจะโดนใครต่อใครเข้าใจผิดว่าเป็นทอมไปเสียก่อน

“ชื่อนะด้วยใช่มะ งั้นก็ไม่ผิดตัวแล้ว ชั้นจำได้ว่าอาจารย์แกชอบเรียกลูกว่าน้องนะๆ รู้สึกว่าตอนขึ้นม.5 น้องเค้าจะได้ทุนไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศปีนึงรึไงเนี่ย เฮ้ย...แล้วแกจะไปไหนวะอ๊อฟ”

“โทษนะมุ้ย วันนี้แกกินข้าวคนเดียวแล้วกัน แล้วค่อยคุยกันทีหลังนะ”

หลังได้รับรู้ข้อมูลใหม่ผมก็รู้สึกร้อนใจจนนั่งไม่ติดที่ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็แปลว่านะรู้จักและอาจจะจำผมได้มาตลอดตั้งแต่เราเจอกันที่กรุงเทพฯแล้วน่ะสิ แต่เจ้าตัวไม่เห็นเคยทักผมว่าเราเคยเรียนโรงเรียนเดียวกันมาก่อน หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่ตอนแรกๆนะชอบทำท่าเหมือนไม่พอใจผมอยู่เรื่อย?

ผมตรงไปที่สำนักงานดูแลนักศึกษาภาคภาษาอังกฤษที่คณะของนะแล้วก็ขอเบอร์โทรศัพท์มือถือจากเจ้าหน้าที่โดยอ้างเหตุผลว่าผมเป็นเพื่อนร่วมหอและมีเหตุจำเป็นต้องคืนของที่ยืมมา แต่ไม่ว่าผมจะต่อสายเข้าไปกี่ครั้งก็ได้ยินแต่เสียงตอบอัตโนมัติว่าไม่สามารถติดต่อได้อยู่ท่าเดียวจนผมเริ่มอารมณ์เสีย ไม่รู้ว่าโทรศัพท์ของนะแบตหมดหรือเจ้าตัวตั้งใจปิดเครื่องกันแน่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ได้เวลาเข้าเรียนภาคบ่ายแล้วผมเลยต้องซื้อซาลาเปาจากเซเว่นไปนั่งแอบกินหลังห้องระหว่างอาจารย์ยังไม่เข้าด้วยความหิว

การบรรยายช่วงบ่ายผ่านไปอย่างน่าเบื่อหน่าย ตลอดเวลาที่อาจารย์บรรยายในหัวผมก็คอยแต่จะคิดย้อนถึงความทรงจำสมัยเรียนมัธยมปลาย ผมเริ่มนึกภาพเด็กผู้ชายหน้าหวานตัวเล็กจนดูแล้วน่าจะเป็นเด็กม.ต้นที่ชอบมาเข้ามาชวนคุยและทานข้าวกลางวันด้วยก่อนผมจะเรียนจบได้มากขึ้น และถึงแม้จะยังไม่ถึงขั้นเห็นภาพของนะซ้อนกับภาพของเด็กคนนั้น แต่ผมเริ่มมั่นใจขึ้นทุกทีว่าเด็กน้อยตากลมใสแป๋วคนนั้นกับคนข้างห้องผมต้องเป็นคนเดียวกันแน่ๆ

“ขออภัย หมายเลขที่ท่านเรียก...”

ผมกดตัดสายทันทีที่ได้ยินเสียงตอบอัตโนมัติเดิมซ้ำเป็นครั้งที่ไม่รู้เท่าไหร่หลังเดินออกจากห้องบรรยาย เอาวะ ถ้าตามตัวระหว่างอยู่ที่มหา’ลัยไม่ได้ก็กลับไปดักรอที่หน้าห้องเลยแล้วกัน ผมอยากถามเจ้าตัวให้แน่ใจว่านะคือคนเดียวกับรุ่นน้องที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันมาก่อนจริงหรือเปล่า และนะจำผมได้มาตลอดใช่ไหม

...และหากคำตอบของนะคือใช่ ผมก็จะบอกว่าผมจำเด็กคนนั้นได้แล้วเหมือนกัน

‘แกหลงรักเค้าเข้าแล้วใช่ม้า’

ผมก้าวลงจากรถเมล์พลางนึกถึงคำพูดของมุ้ยแล้วก็ส่ายหน้า ยังไงก็ต้องยอมรับว่าเพื่อนผมจินตนาการสูงส่งจนน่าชมเชย แต่ผมยังไม่ได้รักนะเสียหน่อย ผมแค่คิดถึงใบหน้าหวานกับตากลมโตนั่น ชอบมองเวลาที่คนตัวเล็กคนนั้นแสดงอารมณ์ต่างๆให้เห็น รู้สึกดีตอนที่ได้จับมือและอยู่ใกล้ๆ มันก็เท่านั้นเอง...

...แต่ก็ยังไม่ได้หมายความว่าผมรักนะ...ใช่ไหม?

ผมรู้ตัวว่าเผลอหยุดยืนกลางฟุตบาทก็ตอนที่โดนคุณป้าคนหนึ่งเดินเบียดจากด้านหลังและหันมามองตาขวางเลยรีบก้มหัวขอโทษแล้วเดินต่อ จะยังไงก็เถอะ ถ้ายังไม่ได้เจอตัวคนที่ตามหาแล้วคุยกันให้รู้เรื่องล่ะก็วันนี้ไม่หายหงุดหงิดแน่ๆ!

ต่อให้อารมณ์ไม่ดีแค่ไหนกองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง แล้วถ้าต้องนั่งหิวระหว่างรอคนข้างห้องก็คงไม่ไหวเหมือนกัน พอคิดได้ผมก็เลี้ยวเข้าเซเว่นที่อยู่หน้าปากซอยเข้าหอ แต่พอก้าวเข้าไปปุ๊บก็ต้องชะงักเพราะคนที่ผมอยากพบมาตลอดทั้งวันกำลังจ่ายเงินซื้อของอยู่ที่แคชเชียร์พอดี

“นะ”

เจ้าของชื่อหันมามองผมหน้าตื่นๆเมื่อได้ยินเสียงเรียก ก่อนจะหันไปรับเงินทอนกับหยิบถุงสินค้าที่จ่ายเงินเสร็จแล้วรีบเดินก้มหน้าเบียดผมที่ยืนนิ่งอยู่หน้าทางเข้าเซเว่นทันที

...แต่ไม่มีวันเสียล่ะที่คราวนี้ผมจะยอมให้หนีไปแบบเมื่อคืนอีก

“ปล่อยนะ! อยากซื้อของก็ไปซื้อสิ”

เจ้าของแขนเรียวที่ผมจับไว้แน่นพยายามสะบัดแขนหนีแต่ผมไม่ปล่อย คิดจะสู้แรงอดีตนักกีฬาบาสเกตบอลโรงเรียนก็ให้รู้ไป

“ไม่ซื้อแล้ว ตอนนี้อยากคุยกับคนนี้มากกว่า”

คนหน้าหวานเม้มปากแน่นอย่างไม่พอใจ ผมถือโอกาสโบกแท็กซี่ที่ผ่านมาแถวปากซอยพอดีให้เข้าไปส่งที่หอทั้งที่ระยะทางไม่ไกลเท่าไหร่ก่อนจะดันคนตัวเล็กให้เข้าไปในรถ นะหันมามองผมที่ก้าวตามเข้าไปนั่งเบียดข้างๆแวบหนึ่งแล้วก็กอดอกหันหนีตลอดทางจนผมต้องอมยิ้มกับท่างอนแก้มป่องนั่น

ก็ดูแล้วมันน่ารักน่าจับหยิกแก้มชะมัดเลยนี่นา…

นะหันมามองผมที่หัวเราะคนเดียวอย่างงงๆ ไม่นานนักแท็กซี่ก็มาถึงที่หมายผมเลยยื่นค่ารถให้คนขับแล้วก็จับมือนะไว้แน่นก่อนจะพาเดินเข้าในหอด้วยกัน อาม่าเจ้าผู้ดูแลหอที่กำลังนั่งเล่นกับแมวของแกอยู่หน้าประตูหันมามองเราสองคนยิ้มๆ นะเลยรีบเดินนำเข้าไปในลิฟต์ทั้งที่มือข้างหนึ่งยังโดนผมกุมอยู่

“ทำไมตัวร้อนจัง นะมีไข้นี่”

ผมเอามืออีกข้างที่ว่างขึ้นทาบกับหน้าผากเนียนของคนตัวเล็กหลังเราอยู่ในลิฟต์กันสองคนแล้วก็ต้องตกใจกับอุณหภูมิที่สูงจนน่าเป็นห่วง ถึงว่าสิว่าทำไมวันนี้คนข้างห้องผมถึงไม่ค่อยออกฤทธิ์เหมือนปกติเลย

นะเอาแต่นิ่งเงียบแล้วก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตาผมท่าเดียว พอลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่เราอยู่ร่างเล็กๆนั่นก็รีบเดินจ้ำอ้าวนำผมออกไปเหมือนจะหนี แต่พอเจ้าตัวจะดึงกุญแจออกมาเปิดประตูห้องตัวเองผมก็ดึงตัวอีกฝ่ายจนปลิวกลับมาชิดกับอกผมแล้วกอดเอาไว้แน่นเสียก่อน

“อ๊อฟ! ทำอะไร!”

คนตัวเล็กพยายามดิ้นขลุกขลักทั้งที่ไม่มีแรง ผมเลยถือโอกาสสูดกลิ่นหอมอ่อนๆของคนตัวอุ่นในอ้อมแขนเข้าเต็มปอด ความรู้สึกขุ่นมัวเหมือนมีเมฆหมอกในใจที่ทำให้กระวนกระวายมาตลอดทั้งวันที่ไม่ได้เห็นหน้าคนตัวเล็กคนนี้ค่อยๆจางหายพร้อมกับความรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างพองแน่นอยู่ในอกแทรกเข้ามาแทนที่

จะผิดไหมถ้าผมคิดเอาเองว่าที่คนตัวเล็กพูดจาร้ายๆใส่ผมเมื่อคืนเพราะว่าใจเราตรงกัน...

“เรียกพี่อ๊อฟเหมือนตอน ม. ปลายสิครับ น้องนะเด็กกว่าพี่ตั้งสองปีนะ หรือเราลืมแล้วว่าเคยเรียกพี่ว่ายังไง?”

คราวนี้คนในอ้อมแขนผมนิ่งไป มือเล็กๆที่เมื่อกี้พยายามจะยกแขนผมออกกลับเพียงจับแขนผมไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงสั่นหลังเงียบไปครู่ใหญ่

“เพิ่งจำได้เหรอ คนบ้า” 

ไหล่บางของคนตรงหน้าเริ่มกระเพื่อมไหวผมเลยกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นก่อนจะก้มลงหอมแก้มนิ่มและอุ่นจัดเพราะพิษไข้แล้วกระซิบข้างหูเบาๆ

“พี่อ๊อฟขอโทษนะครับ อย่าร้องไห้เลยนะคนเก่ง เงียบเร็วเงียบ”

จบประโยคของผมกลายเป็นว่าคนตัวเล็กยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม ผมเลยจับร่างในวงแขนให้หันมาหาแต่นะกลับซุกหน้าเข้ากับอกผมแล้วก็กำเสื้อผมแน่นทั้งที่ยังสะอื้นไม่หยุด ผมยิ้มแล้วก็กอดร่างเล็กๆนั้นไว้พลางลูบหลังบางขึ้นลงไปมาแล้วเอาคางเกยศีรษะของนะไว้

“ขี้แยจังเลยนะเรา อย่างนี้พี่จะปล่อยให้อยู่ไกลสายตาได้ยังไง” 

พอผมพูดจบก็โดนมือข้างหนึ่งทุบหลังแบบไม่ออมมือจนผมถึงกับสะอึก แต่ความอบอุ่นที่ได้กอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขนก็ทำให้ผมยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนคนบ้า ที่แท้คำตอบของหัวใจผมก็อยู่ใกล้แค่นี้เอง ดูท่าจะถึงเวลาที่ผมต้องยอมรับความจริงว่าตัวเองหลงรักเด็กน้อยเจ้าอารมณ์ข้างห้องคนนี้เข้าเต็มเปาแล้วเสียที


++------++




juuuno99

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: :m3:

อย่าว่าแต่อ๊อฟ รัก นะเข้าเต็มเปา

เค้าก็รักนะ เข้าเต็มเปาเหมือนก๊านนนนนน


ไอ้เอหล่อมาก.  ที่ป้าบอกอ่ะนะ

<Ju!_Ju!>   เหมือนเดิม ก่อนจะอ้าแขนให้น้องนะ ขออนุญาตคนข้างๆก่อนนะ เหอะๆ

มิจำเป็นหรอก เชอะ :a14:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2008 18:33:09 โดย <Ju!_Ju!> »

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เพราะอ๊อฟนี่เอง น้องนะเราเลยงอนซะ  :laugh:



น่ารักมากมาย :m3:

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
นายออฟของเราคงรักน้องนะแล้ว

น้องนะคงสมหวังซะทีเนอะ :really2:


ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
อ่อ  มันเป็นแบบนี้นี่เองงงงงง

กรี๊ดดดดดดดดดดดด

พี่อ๊อฟ ง้อไปหอมไป เอ๊ะ ยังไง..

น่าร๊ากกกกกกกกกกกกก :impress2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
^
^
^
^
จิ้มๆๆๆ



โอ๊ย....ตอนนี้ อีตาอ๊อฟ ได้ใจสุดๆๆๆ  ฉลาดแล้วววววววว


กรี๊ดดดดดดดดดด พี่อ๊อฟ กะ น้องนะ   รักกันๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด