★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%  (อ่าน 165899 ครั้ง)

ออฟไลน์ baka_bunny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
หลอนนนแต่ก็อยากรู้ว่ามันคืออะไรคะ ตื่นเต้น ๆ

ออฟไลน์ Mint

  • นิสัย!!
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +881/-17
:angry2: เอาตอนต่อไปมาเดี๋ยวนี้ 

 :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ตอนหน้าได้เอาพระมาคล้องคอเหมือนชวินกับน้องปิงแน่ :ling3:

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/

ความเดิมจากตอนที่แล้ว



อาหารทุกอย่างหมดไปอย่างรวดเร็วเมื่อไม่มีโทรทัศน์มาดึงความสนใจ ทุกคนช่วยกันจัดเก็บไปไว้ในครัวรอแม่บ้านมาเก็บกวาดเช่นเดิม กระติกน้ำแข็ง เครื่องดื่มถูกย้ายเข้าไปในห้องนอนเพื่อดื่มต่อ ความเร็วในการดื่มเร็วขึ้นเท่าตัว ไม่มีใครลืมว่าต้องพยายามเมาให้หลับเพื่อผ่านคืนนี้ไปให้ได้ ยกเว้นสิงหาที่ยังดื่มตามจังหวะปกติ มีเตือนน่านนทีด้วยความเป็นห่วงบ้างนิดหน่อย ฝ่ามือเท้าไปด้านหลังอีกฝ่าย บางครั้งก็ยกขึ้นลูบเอวเบาๆ เจ้าของเอวนิ่มเพียงแค่หันมามองบางครั้งแต่เลิกที่จะห้ามปรามไปแล้ว แขม่วตอนนั่งมันยากแถมยังอิ่มมาก ทำได้เพียงปล่อยวาง เดี๋ยวค่อยลดน้ำหนักวันหลัง


ปัง!!


วงสนทนาหยุดลงอย่างพร้อมเพรียงเมื่อได้ยินเสียงแปลกปลอมแต่คุ้นเคย...เสียงนั้นอยู่ห่างออกไปแต่ไม่มีใครไว้ใจว่ามันจะไม่เข้ามาใกล้เลยสักคน เต้ลุกขึ้นวิ่งมาล็อคประตูห้องนอน แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไร ใช่ไม่ใช่ จะมาไหม แต่เพื่อความอุ่นใจเขาได้แต่ทำอย่างนี้ ล็อคไว้แล้วรีบถอยกลับไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ

สายตาห้าคู่มองจ้องไปที่ประตูอย่างจดจ่อ...ด้านนอกไม่ได้มีเสียงอะไร ภายในห้องมีเพียงเสียงจากภาพยนตร์จากโทรทัศน์ สิงหาเหลือบมองนาฬิกา เที่ยงคืนกว่าแล้ว...นั่งคุยกันจนลืมเวลา เมาแต่ยังไม่ง่วง ยังไม่มีใครนอน แต่...มันเริ่มแล้ว

.

.

..แกร๊ก...
                  .
..........แกร๊ก........

.

.

.
ก๊อก...

.....ก๊อก...

.........ก๊อก........




*-.-*-.-*-.-*-.-*-.-*-.-*-.-*-.-*-.-*-.-*-.-*-.-*



16. ใครเอ่ย2



ท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้นชั่วขณะหลังเกิดเสียงดังจากนอกห้องนอน ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเสียงอะไรดังขึ้นมาอีกเหมือนเช่นเมื่อคืน มันควรเป็นแค่เสียงที่ดังหนึ่งครั้งแล้วเงียบหายไป พวกเขาคิดผิด...ไม่มันเงียบ...และมันไม่หยุด

.

ก๊อก

.

ก๊อก

.

ก๊อก

.




กลุ่มคนในห้องที่เคยนั่งรวมกันลุกขึ้นไปยืนชิดกำแพงข้างหัวเตียง ตำแหน่งที่ไกลจากประตูห้องนอนมากที่สุด เสียงเคาะไม่ดังแต่พลังคุกคามมีมากเกินพอ

“เหี้ยแล้วๆๆ มันต้องการอะไรวะ” เต้เป็นคนแรกที่ส่งเสียงออกมาก่อนเพราะทนความเขย่าขวัญนี้ไม่ไหว

“เอาไงดีวะ” สิงหาเองก็ทำตัวไม่ถูก เขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้

“สวดมนต์กันดีไหม” โบ้ฝ่ายธรรมะคิดออกเพียงอย่างเดียว และเริ่มสวดมนต์ในใจไปเรียบร้อย

“ทั้งพระทั้งสายสิญจน์ยังเอาไม่อยู่ มึงแน่ใจนะว่าอยากสวด ถ้าหนักกว่าเดิมล่ะ” ชวินอดบ่นไม่ได้ ยิ่งเจอพระยิ่งดุยังจะสวดอีก โบ้เองก็เริ่มคล้อยตามนิดหน่อยเลยค่อยๆ หยุดสวดในใจไปก่อน

“ฮืออ คุณสิง น่ากลัวจัง เคาะทำไมอะ” น่านนทีเกาะอยู่ข้างหลังสิงหา และยืนแทรกระหว่างโบ้กับชวิน ตำแหน่งนี้ปลอดภัยรอบด้าน สิงหาคว้ามือคนข้างหลังมาลูบปลอบเบาๆ แต่มืออีกฝ่ายกระตุกออกเมื่อได้ยินข้อเสนอเสี่ยงตายของแฟนตัวเอง

“ลองไปเปิดดูดีไหม”

“โหไอ้เหี้ย มึงก็ใจกล้าเกินไปละ เห็นใจพวกกูด้วย เอาไว้มึงอยู่คนเดียวก่อนนะค่อยไปเปิด” เต้บ่นเจ้าของห้องที่โชว์กล้าไม่เห็นใจคนอื่น เกิดเปิดไปแล้วไอ้ที่อยู่ข้างนอกมันเข้ามาจะทำยังไง

“แต่ที่นัดรวมตัวกันก็เพราะจะทำอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ ไม่งั้นจะเอาคนเยอะๆ มาทำไม ถ้าแค่ตั้งกล้องกูอยู่ห้องคนเดียวก็ได้นะ” สิงหาทวนจุดมุ่งหมายเดิมของภารกิจให้เพื่อนฟัง ทุกคนได้ยินแล้วก็ยอมรับว่าจริง ตอนนั้นเคยคิดว่ามันจะง่ายเพราะเห็นเจ้าของห้องอยู่คนเดียวได้ไม่น่าจะน่ากลัวมาก แต่ที่ของจริงมันไม่ใช่เลย

“เอาไง เสียงเงียบไปละ ออกไปตอนนี้จะได้รู้ๆ ไปเลย” สิงหาถามย้ำอีกครั้งเมื่อทุกคนไม่ตอบอะไรกลับมา สำหรับเขาอยากให้มันจบๆ ไปเสียที จะเกิดอะไรก็ให้รู้ๆ กันไปเลย

“เออดิ มึงนำไปเลย” เต้ทำใจกล้าตอบรับคำชวน โบ้ก็พยักหน้าเห็นด้วย ไหนๆ ก็ทำใจมาเจอตั้งแต่แรกแล้ว มันอาจจะมากกว่าที่คิดแต่อย่างที่เต้บอก คนเยอะขนาดนี้จะทำอะไรได้

“ปิงรอในห้องนะ พี่ชวินรอด้วยกันเนอะ” น่านนทีผละจากหลังสิงหามากอดแขนชวิน เขาไม่กล้า เขาไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ขออยู่ห่างๆ ในที่ปลอดภัยดีกว่า

“แน่ใจนะปิงว่าอยากอยู่กับมันสองคน” สิงหาหันมาถามแฟนตัวเองที่ยืนเกาะติดชวินอยู่ ไม่รู้จะเรียกว่าใครเกาะใครดี ไอ้คนโตกว่าก็ไม่ได้ดูพึ่งพาได้เลยนะ แถมยังเรื่องเมื่อคืนอีก น่านนทีสบตาสิงหาแล้วเหลียวมองข้างตัวอีกครั้ง ภาพเมื่อคืนย้อนกลับมาพร้อมเสียงที่ยังจำติดหู มือเล็กค่อยๆ ปล่อยแขนชวินแล้วย้ายไปกอดแขนสิงหาแทน

“ไปเหอะ เสียงเงียบแล้ว ใจๆ หน่อยเว้ย ห้าต่อหนึ่งเลยนะเว้ย” โบ้ปลุกใจเพื่อน ปลอบใจตัวเองเดินตามสิงหาไปถึงหน้าประตู



แกร๊ก แกร๊ก



“เหี้ย!!” โบ้คนกล้าของเพื่อนกระโดดถอยหลังครั้งเดียวเกือบถอยไปทับน่านนที ความกล้าที่เพิ่งปลุกขึ้นมาหลุดหายไปเมื่อเห็นลูกบิดประตูถูกหมุนจากด้านนอก สิงหาที่กำลังเอื้อมมือจะเปิดประตูถึงกับชะงัก ก้าวถอยหลัง เหลียวมองเพื่อนที่เมื่อครู่ยังเดินตามกันติดๆ ตอนนี้ไปยืนชิดประตูระเบียงกันหมด มันใช่ทางออกไหม เกิดผีเข้าห้องมาได้ทางรอดเดียวคือโดดระเบียงหนีตายนะนั่น แถมคนที่ยืนชิดระเบียงที่สุดคือแฟนเขาเอง เมื่อครู่ยังกอดแขนกันอยู่เลย



ในฐานะเจ้าของห้องสิงหารวบรวมความกล้าอีกครั้ง ส่งสายตาทั้งข่มขู่ทั้งอ้อนวอนให้อีกสี่คนเดินกลับมา ต่างคนต่างผลักแต่ก็ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ คนที่อยู่ห่างจากสิงหาที่สุดไม่ใช่ชวินคนจิตอ่อน แต่เป็นแฟนเจ้าของห้องที่ขยำเสื้อชวินแน่น ใบหน้าซบอยู่ข้างหลังแต่ยังเหลือบตามองข้ามไหล่ส่งกำลังใจให้

“จะเปิดละนะ” สิงหาส่งสัญญาณก่อนเปิดให้ทุกคนเตรียมพร้อม

“.......”

แกร๊ก....แอดดดดดด



เหี้ย!!!! เสียงอุทานในใจทุกคนดังขึ้นพร้อมกันเมื่อสิงหาค่อยๆ บิดลูกบิดแล้วเปิดประตูช้าๆ แล้ว...ก้าวถอยหลังทีละก้าวจับลูกบิดไว้แน่นจนประตูเปิดออกมากขึ้นเรื่อยๆ คนทั้งสี่ที่ยืนกลางห้องเบิกตาโตไม่กล้าขยับเผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่นอกห้อง ส่วนคนใจกล้ากลับหลบอยู่หลังบานประตู

สิงหาได้แต่ขอโทษเพื่อนและแฟนอยู่ในใจ เดิมทีก็ใจกล้าอยู่หรอก แต่พอสัมผัสความเย็นจากลูกบิดประตูแล้วเขาดันนึกไปถึงความเย็นรอบข้อเท้าตัวเองคืนที่โดนลากขา จากที่จะเปิดประตูออกไปเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญเลยทำได้แค่ถอยมาหลบข้างหลังแบบนี้

“มีอะไรไหมวะ” สิงหามองหน้าเพื่อนแต่ตีความไม่ออก ทุกคนเหมือนช็อกไปแล้ว

“โหไอ้เหี้ย! มึงยังกล้าถามอีกนะ” โบ้ด่าเพื่อนกึ่งโมโห ไม่ทันได้เตรียมใจก่อนเลยยืนอยู่ใกล้สิงหาที่สุด เป็นทัพหน้าที่เผชิญข้าศึก ส่งมาตายชัดๆ

“โทษๆ ตกลงไม่มีอะไรนะ”

“เออ!!!” สามเพื่อนซี้ตอบกึ่งตะคอก

“คนเราจะเห็นธาตุแท้กันจริงๆ ก็ช่วงเวลาวิกฤตินี่ล่ะเนอะ” น่านนทีส่งสายตาตัดพ้อต่อว่า

“ขอโทษนะครับ นะๆ ไม่ตั้งใจจริงๆ อยู่ดีๆ ก็สังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาน่ะ ไม่โกรธนะครับ” สิงหาได้ยินคำตัดพ้อก็รีบเดินมาปลอบ จับมือน่านนทีที่กำเสื้อด้านหลังชวินจนยับมากุมไว้ กอดเอวลูบหลังลูบหัว เมื่อครู่เขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

“เอาไงต่อ ออกไปดูข้างนอกกันไหม ไฟข้างนอกทำไมสว่างวะ” โบ้สายตาจดจ่ออยู่นอกประตู ห้องนอนอยู่ติดกับครัวและโต๊ะอาหาร ถัดไปถึงเป็นห้องนั่งเล่น แสงไฟจากข้างนอกที่ส่องมาจนถึงทางเดินหน้าห้องค่อนข้างสว่าง น่าจะเป็นแสงจากในครัว

“ตอนเข้ามาไม่ได้ปิดไฟสักดวงจะไม่สว่างได้ไง ถ้ามันมืดค่อยหลอน” เต้ผลักหัวเพื่อนที่ปลุกความหลอนขึ้นมาอีก ไฟไม่ได้ปิดกันเองดันลืมแล้วหลอนตัวเอง หลอนแค่ของจริงก็เกินพอแล้ว

“เออๆ ไปเหอะ สว่างก็ไม่ค่อยน่ากลัว” โบ้หัวเราะกลบเกลื่อน ตอนนี้มองอะไรก็ผิดปกติไปเสียหมด ความกล้าหดเหลือครึ่งเดียวแล้ว

“มึงเดินนำ” ชวินบอกโบ้เพราะตอนนี้น่าไว้ใจกว่าสิงหา ถ้าไม่เกรงใจแฟนเด็กมันเขาจะเข้าไปถีบจริงๆ ดีนะไม่มีอะไรอยู่หลังประตู

“ไอ้เหี้ยสิงเลย มาไถ่โทษเลยมึง” โบ้หันมาสั่งเพื่อนที่ปลอบแฟนตัวเองไม่หยุด อย่าว่าแต่น่านนทีที่ตกใจเลย พวกเขาทุกคนก็ตกใจ ช็อกกว่าเจอผีคือไม่คิดว่าคนแบบมันจะแอบหลังประตูเนี่ยแหละ คนดีนี่พอจะเลวสักทีเล่นเอาเกือบช็อก

“เออๆ ปิงเกาะกลุ่มอยู่กับพวกนี้ก่อนนะ พวกมึงเดินตามมาติดๆ นะเว้ย ห้ามทิ้งกูเดินนำคนเดียว”

“ไม่มีใครทำร้ายเพื่อนแบบนั้นนอกจากมึง ไปเร็วๆ จากกลัวผีกูเริ่มโมโหมึงแล้วเนี่ย ดีนะไม่มีอะไร ไอ้เหี้ยผีนี่ก็แม่งเลือกคนหลอกนะ พอไอ้ห่าสิงออกไปเสือกไม่โผล่ กูมานอนคืนเดียวเสือกเข้าฝัน เหี้ยทั้งผีเหี้ยทั้งเจ้าของห้อง” ชวินที่กลัวจนโมโหบ่นเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่พาให้คนอื่นหัวเราะแทน คนบ้าอะไร กลัวจนโกรธ ด่าทั้งคนด่าทั้งผี



แม้ห้องนอนจะอยู่ติดกับห้องครัวและโต๊ะอาหาร แต่การออกแบบห้องทำให้มีทางเดินลึกเข้ามาสองสามก้าวก่อนจะพบประตูห้องนอนอยู่ขวามือ สิงหาชะโงกหน้าออกจากห้อง เหลียวมองออกไปทางซ้าย ไม่มีอะไรผิดปกติ เขาค่อยๆ ก้าวออกมาจนพ้นทางเดิน หันกลับไปมองกลุ่มคนข้างหลังที่ยังแย่งกันเกาะขอบประตู เรื่องที่เพิ่งก่อทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย ถึงเวลาต้องแก้ตัว เขาก้าวออกไปหน้าเคาน์เตอร์บาร์ที่คั่นระหว่างครัวและโต๊ะอาหาร มองซ้ายขวาให้แน่ใจว่าไม่มีอะไร ไฟกลางห้องนั่งเล่นไม่ได้เปิดไว้ มีเพียงไฟดวงเล็กตรงทางเดินหน้าประตูหน้าที่ให้แสงสว่าง

“มีอะไรไหมวะ”

“ไม่มี พวกมึงเดินออกมาดิ ไม่งั้นกูไม่เดินต่อนะ” ห้องที่น่ากลัวลำดับสองคือห้องนั่งเล่น กำแพงที่กั้นระหว่างโต๊ะอาหารกับโซฟาทำให้มองไม่เห็นตำแหน่งที่เคยเกิดเรื่อง สิงหาพยายามไม่มองไปที่จอโทรทัศน์เพราะกลัวมันจะสะท้อนภาพอะไรในนั้น ไม่รู้ทำไมวันนี้เขาปอดแหกเป็นพิเศษ ปกติอยู่คนเดียวก็ไม่เคยกลัวขนาดนี้

“มึงถอยมาเดินกับพวกกูก็ได้ เจออะไรก็เจอพร้อมๆ กันดีกว่า กูไม่อยากตกใจสองต่อ” เต้เรียกเพื่อนให้ถอยกลับมาดีกว่าเดินนำหน้าคนเดียว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รู้สึกว่าคนยิ่งเยอะยิ่งดี เกาะกลุ่มกันไว้อุ่นใจกว่า

“ใช่ๆ คุณสิงเดินมานี่นะ มาๆๆ” น่านนทีกวักมือเรียกคนที่ยืนห่างออกไปไม่กี่ก้าว แต่เขาไม่กล้าก้าวเท้าออกจากกลุ่ม แถมพี่ๆ กลุ่มนี้ก็ดูใจกล้าน่าเชื่อถือกันทั้งนั้น น่านนทีกำชายเสื้อโบ้แน่น แต่ก็มีคนกำชายเสื้อเขาต่ออีกที แถมคอยดึงไม่ให้เดินเร็วด้วย ไม่ต้องสงสัยนาน คนนั้นคือชวินคนขี้ป๊อด แขนข้างหนึ่งล็อกแขนเต้ อีกข้างขยำเสื้อน่านนที ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็คงตายหมู่แน่นอน

“ไม่น่าจะมีอะไรแล้วนะ เราออกมากันตั้งนานยังไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย” สิงหาเดินกลับมาหาทุกคนแต่ยังทำหน้าที่ผู้นำกลุ่มอยู่ ทุกคนเกาะติดไม่ห่าง น่านนทีเดินตามติดข้างหลังมือหนึ่งรั้งแขนเขาไปกอดไว้แน่น เดินไม่ค่อยสะดวกแต่อุ่นใจขึ้น

ทุกคนค่อยๆ ก้าวสลับฟังเสียงรอบข้าง เหลียวมองรอบตัว ก้าวแล้วมอง หยุดแล้วมอง แล้วก้าวต่อ ระยะทางไม่ไกลแต่ความตึงเครียดทำให้เสียงหายใจหนักหน่วงมากขึ้น ถึงจะคืบคลานกันอย่างเชื่องช้าแต่สุดท้ายทุกคนก็พ้นเขตห้องครัวมาที่ห้องนั่งเล่น ความมืดสลัวทางซ้ายมือที่แสงไฟทางเดินส่องไม่ถึงทำให้ไม่มีใครกล้าหันไปสอดส่องเหมือนเมื่อครู่ จังหวะก้าวเดินหยุดลงชั่วขณะ ก่อนสิงหาจะเริ่มพยักหน้าขอแรงสนับสนุนแล้วเดินต่อไปจนถึงสวิทช์ไฟ สวิทช์ปุ่มแรกที่คลำเจอถูกกดลงไป

พรึ่บ

แสงไฟดาวน์ไลท์สี่จุดตามมุมห้องสว่าง ไฟดวงเล็กและให้แสงสว่างน้อยกว่าโคมไฟกลางห้องแต่ทั้งสี่จุดก็สว่างพอให้เห็นทั่วทุกมุมห้อง น่านนทีก้มหน้าซุกหลังสิงหาแน่น ไม่กล้าเงยหน้ามอง เงี่ยหูคอยฟังเสียงคนอื่นก่อนหากมีอะไรไม่ชอบมาพากล

“โอเค....โอเคๆ...ไม่มีอะไร” โบ้พูดเบาๆ แสงแม้จะน้อยแต่ก็มองเห็นจุดอับทั่วห้อง ดีกว่าเปิดดวงใหญ่ที่สว่างจ้าทีเดียวให้ตาพร่า ทุกคนช่วยกันมองสำรวจรอบห้อง แม้แต่โถงทางเดินประตูหน้าก็ยังชะโงกหน้าไปมอง สิงหามองไปที่โซฟาตำแหน่งเดิมก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ใจที่แขวนไว้ค่อยๆ ลอยลงมาอย่างโล่งอก

“ไอ้เหี้ย......เหี้ยแล้ว.....” ชวินพูดเสียงเบาจนแทบกระซิบแต่คนข้างๆ อย่างเต้ได้ยินชัด เขาหันกลับมาถามเพื่อนที่ก้มหน้าลงแต่สีหน้าเคร่งเครียดกว่าเดิม

“อะไรไอ้วิน” เต้ถามย้ำอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามือเพื่อนเริ่มสั่น

“...หะ..เหี้ย.....ถอยทัพเถอะ” ชวินเร่งเร้าเพื่อนไม่หยุด เสียงเริ่มสั่นไม่ต่างจากมือทั้งสองข้าง เขากระตุกแขนตัวเองดึงเต้และน่านนทีให้ถอยมาใกล้ๆ แต่น่านนทีขืนตัวไว้เพราะเริ่มกลัวอาการแปลกๆ ของอีกฝ่าย

“ฮือออ พี่ชวินอย่าแกล้งนะ”

“ถอยๆ ไอ้เหี้ย ถอย!” ชวินสั่งเพื่อนเสียงแข็ง เนื้อตัวสั่นสะท้านพยายามก้มหน้ามองเพียงปลายเท้าตัวเอง เพื่อนๆ ยังคงสับสนไม่เข้าใจ แต่เห็นอาการกลัวจนตัวเกร็งก็เริ่มใจไม่ดี ทุกคนค่อยๆ ก้าวถอยหลังตามแรงดึงต่อๆ กัน แต่ถอยแค่ไม่กี่ก้าวชวินที่เป็นคนถอยนำก็หยุดชะงักทำให้ทุกคนหยุดตาม เสียงหอบหายใจด้วยความกลัวของชวินถี่จนแทบเป็นเสียงคราง น่านนทีกอดแขนสิงหาแน่นครางฮือในลำคอด้วยความกลัว น้ำตาเริ่มปริ่มขอบตา

“ถอยต่อสิวะ” เต้กระตุกแขนเพื่อนเบาๆ ให้เดินต่อ มันเป็นคนอยู่ท้ายสุดถ้าไม่ถอยต่อคนอื่นก็เดินไม่ได้

“....นะ...ใน...กระจก...ไอ้เหี้ย กระจก!” ชวินจิกปลายเท้าลงบนพื้น เงยหน้ามองตรงไปด้านหน้าไม่กล้าก้มลงแม้แต่นิดเดียว สิงหามองหน้าเพื่อนก่อนมองไปทางประตูระเบียงที่เป็นกระจกทั้งบาน ภาพสะท้อนในกระจกคือกลุ่มชายหนุ่มยืนเกือบชิดกันจนไม่มีช่องว่าง สิงหาอยู่ด้านหน้าสุดมีโบ้ยืนอยู่ข้างๆ ด้านหลังมีน่านนทีกอดแขนไว้แน่น เต้อยู่เยื้องไปด้านหลังโบ้ ส่วนชวินอยู่เดินคู่กับเต้ ประกบหลังน่านนทีอีกที

.

.

และหลังชวิน...มีใครบางคนกำลังยืนอยู่
.

.

“เหี้ย! วิ่ง!!!” สิงหาตะโกนเมื่อเห็นภาพสะท้อนจากกระจก เขารวบเอวน่านนที กระชากแขนชวินวิ่งกลับไปทางห้องนอน เต้และโบ้วิ่งตามมาติดๆ เข้าห้องนอนครบทุกคนโบ้ก็รีบกดล็อกประตูห้องแล้วถอยไปรวมกลุ่มกับเพื่อนบนเตียง

“ฮืออออ คุณสิง ปิงกลัว”

“ไม่เป็นไรๆ เราอยู่ในห้องแล้ว เข้ามากันครบใช่ไหมวะ ไอ้เต้ล่ะ” สิงหารวบตัวน่านนทีมากอดปลอบ เนื้อตัวอีกฝ่ายสั่นไม่หยุด ขนาดเขาเองยังรู้สึกสั่นในอกกับสิ่งที่เห็น

“กูอยู่นี่ๆ ไอ้ชวินโอเคไหมวะ อย่าช็อกนะมึง แม่งมันตัวสั่นไม่หยุดเลยว่ะ” เต้ตะโกนบอกเพื่อนระหว่างลูบหลังเพื่อนที่สั่นไปทั้งตัว พยายามจับหน้าให้อีกฝ่ายมองตัวเองเพื่อเรียกสติ

“..กะ..กู...”

“ใจเย็นๆ เหี้ยเอ้ย มึงเห็นใช่ไหม” สิงหาเห็นอาการเพื่อนไม่ค่อย ส่วนคนรักตัวเองดีขึ้นแล้ว เขาหันไปกอดไหล่เขย่าแรงๆ ให้เพื่อนสงบใจและมีสติ กระตุ้นให้เพื่อนพูดออกมาดีกว่าเงียบไว้เพราะกลัวเพื่อนจะช็อก

“เห็น!!” ชวินพยักหน้าตอบอย่างหนักแน่น เขาเห็น เขาเห็นจริงๆ เห็นเต็มๆ เลย

“ปิงไม่เห็นๆ ไม่ต้องเล่านะ ปิงกลัว”

“โอเคๆ อย่าเพิ่งพูดกัน ดูไอ้ชวินก่อน” สิงหาบอกให้เพื่อนช่วยกันดูอาการชวินก่อน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ต้องโรงพยาบาลเขาก็ไม่รู้ว่ามันจะยังกล้าฝ่าออกไปนอกห้องอีกไหม

“ใจเย็นมึง พระอยู่ที่คอๆ จับไว้ สวมมนต์เข้า ท่องนะโมอะไรก็ได้” โบ้ล้วงสร้อยพระในคอเสื้อชวินออกมาให้อีกฝ่ายเอามือกำไว้ โชคดีที่เขาไม่ได้ทวงพระคืน

“เหี้ยๆ....มะ...แม่ง....” ชวินทรุดนั่งเข่าอ่อนอยู่บนเตียง เอนหลังพิงหัวเตียง มือหนึ่งจับแขนสิงหา อีกมือลากเต้มานั่งข้างๆ ด้านหน้ามีโบ้และน่านนทีที่ยังอยู่ในอ้อมแขนสิงหา เขาพยายามระงับอาการสั่นยะเยือกในอกแต่ทำได้ยาก โดยเฉพาะแผ่นหลังที่สั่นจนแทบกระตุก

“พี่ชวินใจเย็นๆ นะ ไม่มีอะไรๆ ปลอดภัยแล้ว” น่านนทีเห็นอาการชวินแล้วความเป็นห่วงมีมากกว่าความกลัวของตัวเองเลยเอ่ยปลอบ ไม่รู้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ละคนถึงกลัวจนหน้าซีดตัวสั่นกันไปหมด แม้แต่สิงหาที่กอดเอวเขาไว้ก็ยังมือสั่นในตอนแรก โชคดีที่หลับตาสนิท มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

บรรยากาศภายในห้องตึงเครียดกว่าทุกครั้ง ไม่มีใครกล้าพูดอะไรนอกจากเอ่ยปลอบชวินเป็นพักๆ จนอีกฝ่ายสงบสติอารมณ์ลง สายตาทุกคนจับจ้องที่ประตูห้อง บางครั้งก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างหวาดระแวง จากหลายๆ ครั้งไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นในห้องนี้ พวกเขาเลยค่อนข้างเบาใจ ยกเว้นสิงหาที่รู้ว่ามีหลายครั้งที่รูปถ่ายปริศนาในโทรศัพท์ถูกถ่ายจากภายในห้องนี้...ที่นี่ก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-06-2019 14:12:45 โดย G_wa »

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/


เวลาผ่านไปนานเกือบชั่วโมง ทุกคนเริ่มผ่อนคลายแต่ยังไม่กล้าขยับเขยื้อนออกจากเตียง โบ้ท่องบทสวดมนต์แทบทุกบทที่เขารู้จนหมด ไม่รู้ว่าช่วยได้หรือไม่แต่ทุกคนสบายใจและยกมือพนมสวดตามเท่าที่จำได้

“เงียบไปนานแล้ว เอาไงกันต่อดี” ภารกิจคืนที่สองย่ำแย่กว่าคืนแรก โบ้หันมองหน้าเพื่อนๆ อย่างขอความเห็น แต่คราวนี้จุดรวมสายตาไม่ใช่สิงหาอีกแล้ว ชวินคือคนที่น่าเป็นห่วงที่สุดและมีอำนาจการตัดสินใจ

“....พวกมึงแน่ใจนะว่าห้องนอนปลอดภัย” ชวินขอความมั่นใจจากเพื่อน ถ้าในนี้ปลอดภัยก็ไม่มีปัญหาที่จะอยู่แบบเมื่อคืน

“กูว่าไม่ อย่าลืมเรื่องที่มึงโดนเมื่อคืน แต่อยู่ในนี้ก็ดีกว่าข้างนอก” เต้ตอกย้ำดับความคิดในแง่ดีของคนอื่น

“ถ้าคืนนี้เราไม่นอนก็ไม่น่าจะมีปัญหา” สิงหาแนะนำทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้ ถึงห้องนอนอาจจะไม่ปลอดภัยแต่ก็ยังดีกว่าข้างนอก อย่างน้อยตอนที่มีสติตื่นอยู่ก็ไม่เคยมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น

“เออ กูไม่นอน กูไม่กล้านอนบอกตรงๆ เลย” ชวินยอมรับคำแนะนำ ต่อให้ไม่บอกก็คิดว่าไม่มีใครกล้าหลับตาลง

“ปิงก็ไม่นอนด้วย อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว” น่านนทีสนับสนุน ความจริงเขาอยากกลับบ้านตอนนี้เลย แต่ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างนอกทุกคนถึงกลัวแบบนี้

“แต่กูไม่ค่อยอยากอยู่ในห้องนี้ต่อแล้วว่ะ สังหรณ์ใจยังไงไม่รู้” โบ้อยากสนับสนุนความคิดนี้แต่ในอกหวั่นๆ อย่างบอกไม่ถูก ตราบใดที่ยังอยู่ที่นี่เขารู้สึกไม่ปลอดภัย

“ปากเสียไอ้เหี้ย หลอกวันละนิดละหน่อยก็พอแล้ว” ชวินค้านความคิดแง่ร้าย คืนนี้เจอกันมาหนักแล้ว ยังจะมีอะไรได้อีก

“แต่กูก็คิดเหมือนมันนะ” สิงหาปัดความคิดแง่ดีของชวินทิ้งไป ทุกคนอาจคิดว่าเขาใจกล้าถึงอยู่ห้องนี้คนเดียวได้ แต่ความจริงคือส่วนใหญ่เขาใช้เวลาอยู่เพียงในห้องนอน และปกติก็ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ ครั้งล่าสุดที่โดนจังๆ คือโดนลากขา นอกนั้นก็ไม่มีอะไร บางอาทิตย์ก็ได้ยินเสียงอะไรดังบ้างแต่น้อยมากๆ วันนี้คือวันปล่อยผีของจริง

“เหี้ย ไม่หรอก” ชวินพยายามค้านเพื่อปลอบใจตัวเอง แต่เพื่อนไม่ค่อยเห็นด้วย ข้างนอกก็ไม่กล้าออกไป ข้างในก็ใช่ว่าปลอดภัย สุดท้ายทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือขนเครื่องนอนเข้าไปอาศัยอยู่ในปราการด่านสุดท้ายของคืนนี้...ห้องน้ำ



โครงการล่าผีเป็นอันล้มพับไปอีกหนึ่งคืน หลังจากตาค้างมาทั้งคืนทุกคนก็รีบเผ่นหนีออกจากห้องเมื่อแสงแดดส่องสว่างตอนหกโมงเช้า สร้างความประหลาดใจให้โจและนิดที่กำลังมอบหมายงานช่วงเช้าที่ด้านล่าง ห้าหนุ่มหอบของส่วนตัวเท่าที่จำเป็นเดินกึ่งวิ่งตามกันไปขึ้นรถสิงหา ปลายทางคือบ้านของน่านนที

เสียงพูดคุยสลับกันเล่าถึงเหตุการณ์สยองขวัญเมื่อคืนให้ผู้ใหญ่ในบ้านฟัง แน่นอนว่าเสียงลูกชายเจ้าของบ้านดังที่สุด พูดเยอะที่สุด แต่ทำให้เรื่องดูน่ากลัวน้อยลงมากที่สุด

“แล้วพอคุณสิงหันไปเห็นนะพ่อ แทบจะอุ้มปิงเข้าเอว แถมลากพี่ชวินติดมือวิ่งกลับเข้าห้องนอนอย่างไว เท้าปิงแทบไม่แตะพื้นเลย รู้ตัวอีกทีขึ้นไปนั่งขดบนเตียงแล้ว น่ากลัวมากเนอะพี่ชวินเนอะ” น่านนทีเล่าไปก็ลูบอกปลอบตัวเองไปด้วย สิงหากับชวินอยากมองค้อนให้ตากลับ คนที่ไม่เห็นไม่รับรู้อะไรเลยเพราะมัวแต่หลับตาปี๋กลับเล่าไม่หยุดถึงสิ่งที่ไม่ได้เห็น แถมยังมีอารมณ์นอนหลับในอ่างอาบน้ำอย่างสบายใจอยู่คนเดียว คนเห็นเต็มๆ จนเริ่มหนาวๆ ร้อนๆ อย่างชวินอยากจะเน้อ...อให้ถึงดาวอังคาร

“มิน่าตอนนั้นเจ้าปิงขยันขอน้ำมนต์จังเลย ที่แท้ไปเจอดีกันมานี่เอง” พ่อน่านนทีพูดเมื่อนึกถึงเรื่องเก่า

“เมื่อก่อนมันแค่ผลุบๆ โผล่ๆ ไม่เคยหนักเท่าสองคืนนี้เลยครับพ่อ คนที่โดนหนักสุดคือชวินเนี่ยแหละ ไม่รู้ว่าผีมันโกรธที่เอาพระไปใส่ตู้หรือเปล่าเลยจัดหนักอยู่คนเดียว” สิงหาอธิบายให้พ่อน่านนทีฟังก่อนจะเข้าใจผิดว่าห้องเขาผีดุ อันที่จริงก็ดุ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ดุมาก

“มันก็ไม่แน่นะพ่อว่า ถ้าไม่จิตอ่อนสุด หรือบุญเก่ามีเยอะ เขาว่าคนมีบุญจะมีผีมาขอส่วนบุญนะ อย่าเพิ่งคิดกันในแง่ร้าย” พ่อน่านนทีเอ่ยปลอบเพื่อนกลุ่มใหม่ของลูกชายที่มาขออาศัยนอนเช้านี้ เขาปลอบลูกชายตัวเอง เดินไปเด็ดใบทับทิมหน้าบ้านของเพื่อนบ้านแล้วเรียกทุกคนมาล้างหน้าล้างมือจากน้ำแช่ใบทับทิม โบราณเขาเชื่อว่าสามารถไล่สิ่งอัปมงคลที่ติดตัวกลับมาบ้านได้ แถมด้วยยาลดไข้ให้ชวินเป็นพิเศษอีกสองเม็ด จากนั้นก็ไล่ให้ทุกคนขึ้นไปอาบน้ำนอนพักผ่อนให้สบายใจ



ห้องนอนเล็กๆ ของน่านนทีต้องรองรับแขกมากขนาดนี้เป็นครั้งแรก เดิมทีเขาจะไปนอนห้องพี่ชายกับสิงหาแล้วให้อีกสามคนนอนห้องตัวเอง แต่ทั้งสามคนค้านเสียงแข็ง สิงหาเองก็สองจิตสองใจ สุดท้ายก็ไปเอาฟูกสำรองมาปูนอนเรียงกันห้าคนเหมือนเดิม

เริ่มบ่ายคล้อยหลายคนก็ทยอยตื่นขึ้นมาแต่ยังไม่มีใครลุกไปไหน แต่ละคนหยิบโทรศัพท์มากดทำธุระของตัวเอง น่านนทีเป็นคนสุดท้ายที่ตื่นขึ้นมาตอนเกือบบ่ายสอง วันนี้เขาเข้างานตอนห้าทุ่มครึ่ง อยากนอนต่ออีกสักพักแต่ตาสว่างแล้ว เหลียวมองรอบตัวบางคนก็เล่นเกม บางคนก็เข้าโซเชียลอัพเดตข่าวสาร สิงหาเข้าไลน์กลุ่มกองถ่ายเผื่อมีคิวแทรกด่วน ทุกคนคนพยายามเอาตัวเองออกจากเรื่องเมื่อคืน แต่ก็รู้ดีว่า...ไม่พูด...ใช่ว่าไม่คิด ต่างเหลือบมองกันไปมาจนคนขี้กลัวอันดับสองอย่างน่านนทีต้องถอนหายใจดังๆ แล้วลุกขึ้นนั่งมองชายหนุ่มตัวโตๆ บ้างนั่งบ้างนอนแต่เบียดกันจนจะได้เสียกันอยู่แล้ว

“ปิงว่าเรามาคุยกันเถอะ ที่นี่น่าจะปลอดภัยที่สุดแล้ว”

“ชวินมึงอะ โอเครึยัง” สิงหาถามเพื่อนที่อาการดีขึ้น อย่างน้อยก็ไม่เป็นไข้เหมือนเมื่อเช้า

“ไม่ว่ะ ไม่โอ ไม่มีทางโอ” ชวินลุกขึ้นนั่งหยิบหมอนมาวางบนตัก สภาพร่างกายดีขึ้นแต่จิตใจ...ไม่เลย

“แต่ปัญหานี้ต้องรีบแก้นะครับ คืนนี้ปิงทำงานกะดึกคนเดียวด้วย สงสารปิงบ้าง”

“ลางานสักวันดีกว่าไหม ปิงอยู่คนเดียวไหวเหรอ” สิงหาอดเป็นห่วงไม่ได้ คืนนี้เขายังว่างมานั่งเป็นเพื่อน แต่ถ้าคนอื่นเห็นแล้วทำเรื่องร้องเรียนอีกมันจะยิ่งแย่

“ก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน มันคงไม่ลงลิฟต์มาเองหรอกมั้ง ไม่งั้นคงหลอกไปทั้งตึกแล้ว” น่านนทีลังเลแต่นึกขึ้นได้ว่าคืนนี้ไม่ได้ทำงานคนเดียวเลยไม่กลัวมากเท่าไร อีกอย่างบริเวณชั้นล่างก็ไม่เคยมีอะไรน่ากลัว อันที่จริงทั้งคอนโดฯ ก็น่ากลัวอยู่ห้องเดียว...ห้องแฟนตัวเอง

“ตามใจปิงนะ แต่ถ้าอยากให้ไปนั่งเป็นเพื่อนก็ได้นะครับ”

“อย่ามัวแต่ห่วงแฟนดีกว่าไหม หลังจากนี้มึงจะอยู่ห้องนั้นยังไงกูอยากรู้” เต้เริ่มหมั่นไส้คู่รักที่ทำเหมือนมีกันอยู่สองคนในห้อง

“อ๋อ กูจะเช่าอีกห้องรอพ่อแม่กลับมาอยู่พอดี เดี๋ยวกูไปนอนห้องนั้นแทน ไม่มีปัญหา ปิงหาห้องให้ผมได้เลยนะ แต่ไม่ต้องอยู่ใกล้ห้องผมแล้วนะ ขอคนละฝั่งเลยก็ดี ขอแบบด่วนๆ” สิงหาพูดในสิ่งที่ตัดสินใจได้ตั้งแต่คืนก่อน ช่วงที่ยังไม่ได้ห้องใหม่ก็อาศัยนอนห้องชวินไปก่อน

“ห้องที่ตอนนั้นปิงดูๆ ไว้ยังว่างนะ เดี๋ยวปิงให้พวกตึกหน้าจัดการให้” ตึกหน้าที่น่านนทีพูดถึงคือตึกโชว์รูมฝ่ายขายเดิมที่ตอนนี้มีฝ่ายขาย การตลาด และห้องผู้จัดการรวมอยู่ที่นั่น เรื่องเช่าหรือซื้อต้องให้ทางนั้นดูแล เขาทำเพียงรับเรื่องไว้แล้วส่งต่อ

“ได้ครับ”

“ไอ้ห่าสิง กูเพิ่งรู้ว่าสกิลการเอาตัวรอดของมึงนี่ชั้นสูงเลยนะ นี่กะหลอกพวกกูมาโดนผีหลอกก่อนย้ายห้องใช่ไหม” เต้ด่าเพื่อนที่แอบวางแผนเอาตัวรอดไว้ ถ้ามันคิดจะย้ายหนีพวกเขาไม่ต้องมาช่วยก็ได้

“บ้าเหรอวะ กูต้องหาห้องให้พ่อแม่อยู่แล้ว ที่คิดจะย้ายนี่เพิ่งคิดได้เมื่อวาน มึงน่ะคิดมาก มาๆ เรื่องผีเอาไงต่อดี” สิงหาชักจูงเพื่อนกลับมาช่วยกันแก้ปัญหา แม้จะโดนขว้างหมอนใส่บ้าง โดนยันด้วยเท้าบ้างแต่ก็ไม่ถือสา ยกเว้นเสียงหัวเราะของน่านนทีคนเดียวที่ทำให้รู้สึกอายขึ้นมานิดหน่อย

“มาๆ เข้าโหมดจริงจังกันหน่อย สรุปสองวันที่เจอมาใครมีความคิดยังไงเกี่ยวกับผีในห้องบ้าง” โบ้ดึงสติทุกคนกลับมาจากสงครามฝ่าเท้า

“ปิงว่าเป็นผีเด็กเออีซีแน่ๆ จะพม่าลาวกัมพูชาอันนี้ปิงไม่แน่ใจ หรืออาจเด็กดอยก็ได้ คือพูดไทยไม่ชัดแน่นอน” น่านนทีพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดเอาไว้

“อันนี้ทุกคนเห็นตรงกัน น่าจะเป็นเด็กใช่ไหม” สิงหาถามย้ำและทุกคนพยักหน้ารับ

“เออไอ้ห่า เห็นเต็มๆ ตาเมื่อคืนยังไม่พอเหรอ” ชวินด่าเพื่อนที่ยังย้ำคำเดิมให้เขาขนลุก หยิบผ้าห่มคลุมขึ้นมาถึงอกเพิ่มความอบอุ่นให้ตัวเอง

“เอาจริงๆ คือกูมองไม่ทันว่ะ พอไอ้สิงบอกให้วิ่งก็วิ่งเลย” เต้นึกภาพเหตุการณ์แล้วไม่ค่อยมั่นใจ ทุกอย่างมันเร็วมากเขาไม่แน่ใจว่าเห็นหรือไม่เห็น หรือจินตนาการไปเอง

“กูเห็นแวบๆ ไม่แน่ใจเหมือนกัน” โบ้เองก็ไม่ค่อยมั่นใจ มันเป็นจังหวะหันหลังกลับแล้วกวาดสายตาผ่านไปพอดี

“กูเห็น” สิงหาพยักหน้ายืนยัน เขาแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดหรือคิดไปเอง

“กูสิเห็นเต็มๆ” ชวินยืนยันเสียงแผ่ว ไม่ได้อยากเห็นเลย อยากแกล้งลืมๆ หรือหลอกตัวเองว่าตาฝาดเหมือนกัน

“ปิงไม่เห็นอะไรเลย”

“จ้ะ แทบจะสิงหลังแฟนตัวเองแบบนั้นคงเห็นหรอกจ้ะ” ชวินเหน็บคนตาโตทำหน้าซื่อด้วยความหมั่นไส้แกมเอ็นดู ลองเห็นแบบที่เขาเห็นคงแหกปากร้องไห้ทั้งคืน

“พวกมึงเห็นอะไรกันวะ” เต้ถามด้วยความอยากรู้ นานๆ จะเห็นสิงหากลัวขนาดบอกให้วิ่งหนีแสดงว่าต้องน่ากลัวมาก ความกลัวเมื่อคืนของเขาส่วนหนึ่งก็มาจากอาการของคนอื่นๆ

“ให้ชวินเล่าดีกว่า มึงเห็นตั้งแต่ตอนไหน” สิงหาให้คนต้นเรื่องเล่า เพราะเขาก็เห็นแวบเดียวตอนที่เพื่อนหยุดเดิน แต่เป็นแวบที่ชัดมาก

“....เหี้ย แม่งไม่อยากเล่าเลยว่ะ” ชวินปลุกปลอบใจตัวเอง กำพระที่คอไว้แน่นก่อนเริ่มเล่าให้ทุกคนฟัง

“ตอนแรกที่เดินกันผ่านครัวมาตรงห้องนั่งเล่น ตอนยังไม่เปิดไฟกูก้มมองแค่เท้าตัวเอง พอไฟติดถึงเงยหน้ามอง เห็นพวกมึงสำรวจกันจังกูเลยทำบ้าง กะจะมองผ่านๆ เฉยๆ ตอนแรกก็ไม่อะไร เสือกมองไปทางกระจกตรงระเบียง แม่ง...ไอ้ห่าเต้ยืนข้างกูใช่ไหมล่ะ กูก็เห็นภาพสะท้อนในกระจกว่ามันยืนใกล้โซฟา แต่ตรงโซฟาแม่งมีเงาคนนั่งอยู่ กูคิดว่าตาฝาดแต่แม่งมีคนนั่งจริงๆ เป็นเด็กผู้ชาย พอกูรู้ตัวว่าไม่ใช่พวกเราแน่ๆ เลยบอกให้พวกมึงถอย กูก็ไม่กล้ามองอะไรอีก ก้มหน้าดึงเสื้อปิงดึงแขนไอ้เต้ให้มันห่างๆ โซฟามา พอถอยไม่กี่ก้าวอยู่ดีๆ แม่งรู้สึกวาบๆ ข้างหลัง แล้วก็เห็นมีขาเล็กๆ ดำๆ อยู่ข้างหลังขากู ถ้าถอยอีกก้าวเดียวก็เหยียบพอดีกูก็ไม่กล้าขยับอีก ตอนไอ้สิงพาวิ่งกูจะช็อกแล้ว ทะลุผ่านผีหรือแม่งเข้ามาสิงในตัวแล้วก็ไม่รู้ เหี้ยเอ้ย” ชวินลูบหัวลูบอกตัวเองที่นึกแล้วก็ยังสั่นไม่หาย

“โห...ไอ้เหี้ย ทำไมมันหลอกแต่มึงจังวะ” เต้ได้ยินว่าเขาเคยยืนอยู่ใกล้ผีมาก่อนก็อดขนลุกไม่ได้ ตอนก่อนจะวิ่งเขาเห็นแวบๆ ว่ามีเงาอะไรในกระจกแค่นั้น

“ตอนมันหยุดเดินกูหันไปมองกระจกตามที่มันบอกก็เห็นเหมือนกันว่ะ มีเด็กยืนชิดหลังมันพอดี เหมือนกำลังยกมือขึ้นจะจับหลังกูเลยพาวิ่งก่อนเลย แต่ตอนวิ่งกูไม่เห็นตัวนะ เห็นแค่ในกระจก ชวินมึงเห็นนอกกระจกด้วยเหรอ”

“เออสิวะ ตอนแรกก็เห็นในกระจก พอเดินถอยแม่งมาเต็มๆ ตีนเลย ดำๆ หน่อยแต่กูไม่เห็นหน้านะ” ชวินเดาสีผิวจากเท้าที่เห็นตอนก้มหน้าเท่านั้น ขาเล็กๆ แต่ระดับความหลอนไม่เล็กเลย สิงหานึกถึงภาพที่เห็นเมื่อคืน ถ้าประเมินจากความสูงน่าจะอายุราวสิบขวบบวกลบนิดหน่อย ขนาดตัวประมาณเด็กประถมทั่วไป

“สรุปคือเด็กนั่นแหละชัวร์ ไม่งั้นคงไม่ชอบเล่นโทรศัพท์หรือดูทีวีขนาดนี้” โบ้สรุปพฤติกรรมผีออกมา

“จริงด้วย ในห้องทำงานก็มีแค่เปิดปิดตู้ ส่วนใหญ่หนักๆ คือห้องนั่งเล่นเพราะมีทีวีไง เมื่อก่อนมีโทรศัพท์บ้านอีก บางทีก็เอามือถือคุณสิงมาถ่ายรูปเล่น นี่มันพฤติกรรมเด็กชัดๆ” น่านนทีสนับสนุนความคิดนี้

“เออจริง ไหนจะเข้าฝันชวนชวินไปเล่นอีก ชวินมึงลองหาข่าวหน่อยว่าเคยมีเด็กตายที่ตึกไหม หรืออาจเป็นคนรู้จักมึงรึเปล่า ไม่งั้นทำไมโดนหนักคนเดียว” เต้รู้สึกว่าผีเด็กน่าจะเกี่ยวข้องกับชวินมากกว่าเจ้าของห้องอย่างสิงหา บางทีที่อีกฝ่ายสามารถอยู่ในห้องผีสิงอย่างปลอดภัยได้นาน อาจจะเป็นเพราะเป้าหมายของผีไม่ได้อยู่ที่สิงหามาตั้งแต่แรก

“ก็เคยถามพ่อให้แล้วไง พ่อบอกไม่มี แล้วถ้าเป็นคนรู้จักกูจะมาสิงห้องคนอื่นทำไม ขึ้นไปไม่กี่ชั้นก็ห้องกูแล้ว” ชวินไม่คล้อยตามเพื่อนง่ายๆ เขาไม่ยอมรับเด็ดขาดว่าตัวเองคือเป้าหมาย

“พวกมึงว่ากล้องที่ตั้งไว้จะถ่ายติดไหมวะ เมื่อคืนมีใครได้ยินเสียงกล้องบ้าง” โบ้นึกถึงเครื่องบันทึกหลักฐานในห้อง เมื่อคืนมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายอย่าง น่าจะเก็บหลักฐานได้บ้าง

“ไม่ได้สังเกตเลยว่ะ อาจจะติดก็ได้” เต้นึกถึงกล้องของตัวเองที่ตั้งให้บันทึกเป็นภาพถ่าย ถ้าถ่ายไม่ติดผีก็ต้องติดพวกเขาที่วิ่งเข้าออกห้องแน่นอน

“แล้วพวกเราจะเอายังไงต่อ กลับไปเก็บของย้ายไปห้องชวินดีกว่าไหม” โบ้แนะนำอย่างรู้ใจเพื่อน เวลานี้ไม่มีใครกล้าพอจะกลับไปนอนห้องสิงหาอีกต่อไป

“กูสนับสนุน” เต้ยกมือสนับสนุนทันที

“กูไม่กลับไปห้องนั้นแน่ๆ กูยอมแพ้ กูป๊อด” ชวินยกสองมือแทนการสนับสนุนและยอมแพ้

“แล้วมึงล่ะสิง เอาไง มึงอยู่คนเดียวไม่ได้นะเว้ย กูเป็นห่วง เกิดโดนเข้าฝันแบบชวินแล้วไม่มีคนคอยปลุกจะทำยังไง อย่ากลับไปนะมึง” โบ้ถามเจ้าของห้องผีสิงที่นั่งนิ่ง

“เออ กูก็หลอนๆ เหมือนกัน” สิงหาก็เห็นด้วยกับเพื่อนเพียงแค่ขี้เกียจยกมือเป็นเด็กๆ ต่อให้เพื่อนไม่กลัวเขาก็ไม่กล้า



ภารกิจแม้จะไม่สำเร็จแต่ก็มีความคืบหน้า อย่างน้อยก็รู้ว่าผีในห้องเป็นเด็กที่มีความเป็นเด็กจริงๆ สิ่งที่เขาวนเวียนอยู่ใกล้มักจะเป็นของชอบของเด็ก  ห้องครัวห้องน้ำคือสถานที่ปลอดภัย แต่ถึงจะได้ข้อสรุปแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้กลัวน้อยลง หลังจากร่วมทานอาหารมื้อแรกตอนเกือบบ่ายสามที่บ้านน่านนทีเรียบร้อย สี่หนุ่มก็เดินทางไปทำธุระที่ร้าน ส่วนน่านนทีไม่ได้ไปด้วยเพราะคืนนี้ต้องทำงานทั้งคืนสิงหาเลยให้พักผ่อนต่อที่บ้าน คืนนี้ค่อยเจอกันที่คอนโดฯ

“กูให้ฝ้ายไปรอที่ร้านแล้ว ถ้าจัดการที่ร้านเสร็จเร็วก็ไปชิมขนมที่โรงแรมแล้วค่อยกลับห้อง โอเคไหม” สิงหาพูดถึงโปรแกรมที่วางไว้ ผีก็ต้องจัดการ งานก็ต้องเคลียร์ สามสหายผู้ร่วมทางอยากตอบว่าไม่โอเคแต่ทำไม่ได้ ตอนนี้ไม่ใช่ปัญหาของสิงหาคนเดียวแล้ว เพราะทุกคนลงความเห็นตรงกันว่าเป้าหมายของผีน่าจะเป็นชวินมากกว่า คนขี้ป๊อดชอบค้านเลยกลายเป็นฝ่ายสนับสนุนกึ่งบังคับให้ทุกคนช่วยกันไล่ผีโดยเร็วที่สุด

“โอเค แต่คืนนี้ตกลงเรายังไม่ไปเก็บของที่ห้องนะ กว่าจะกลับคงมืดแล้ว ไว้ค่อยไปตอนเช้า” ชวินย้ำสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้อีกรอบ ของในห้องมีแค่เสื้อผ้าแต่สามารถยืมเสื้อผ้าชวินที่ห้องใส่ได้ กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ ของจำเป็นอื่นๆ ก็หยิบติดตัวออกมาจากห้องตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนนี้ของสำคัญที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอันดับสองรองจากสร้อยพระคือใบทับทิม ถุงพลาสติกใบใหญ่อัดแน่นด้วยกิ่งใบทับทิมที่พ่อน่านนทีไปเด็ดมาให้ หลังเข้าออกห้องสิงหาทุกคนต้องล้างหน้าด้วยสิ่งนี้ ความเชื่อโบราณแต่ใครจะไปรู้ว่าช่วยได้หรือไม่ได้ อย่างน้อยตอนนอนอยู่ห้องน่านนทีก็ปลอดภัยไม่ฝันแปลกๆ ก็แล้วกัน




ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/
บ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนหลังเก่าอายุหลายสิบปีในตอนแรกถูกรีโนเวตใหม่จนไม่เห็นสภาพทรุดโทรมแบบเดิม โครงสร้างซึ่งดีอยู่แล้วทำให้ง่ายต่อการต่อเติม จากเดิมที่สิงหาตั้งใจจะทุบผนังออกโดยเหลือไว้หนึ่งห้องเพื่อทำเป็นครัว เมื่อร่วมหุ้นกับเพื่อนก็มีการตัดสินใจใหม่โดยคำแนะนำของชวิน เจ้าพ่ออสังหาฯ รุ่นสอง ชั้นล่างที่เป็นปูนถูกทุบผนังทิ้งทั้งหมด ส่วนของครัวทำอาหารกั้นด้วยกระจกใสเป็นครัวแบบเปิด กำแพงบางส่วนที่ทุบออกเพื่อใส่กระจกใสบานใหญ่หรือประตูบานเลื่อน ห้องน้ำนอกบ้านก็ทุบสร้างใหม่ให้ใหญ่ขึ้นเพื่อแบ่งสำหรับผู้ชายผู้หญิง และพื้นที่ที่เหลือก็ต่อเติมเพิ่มเพื่อเป็นห้องพักพนักงาน บันไดขึ้นชั้นสองรื้อทิ้งแล้วเลือกบันไดวนมาติดตั้งแทน

ชั้นสองของบ้านเป็นไม้ทั้งหมดและแทบไม่ได้ปรับแก้ มีเพียงสองห้องที่อยู่ส่วนหน้าและมีระเบียงเท่านั้นที่ปรับแก้บางส่วน เช่นรื้อผนังกั้นห้องออกแล้วตีผนังใหม่เป็นหนึ่งห้องใหญ่ เปลี่ยนประตูหน้าต่างเป็นกระจกบานใหญ่ ห้องนอนอีกสองห้องเอาไว้คงเดิมเพื่อทำเป็นโชว์รูมเล็กๆ สำหรับจัดวางสินค้ามือสองที่นำเข้ามา แน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในร้านหลายชิ้นที่มีป้ายราคาแขวนไว้สามารถซื้อกลับไปได้

“ตอนนี้เรื่องจดทะเบียนร้านฝ้ายจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว พนักงานที่รับไว้ทั้งหมดก็อบรมตามคอร์สที่คุณชวินส่งให้เกือบครบแล้วนะคะ งานที่ยังค้างตอนนี้ก็มีแค่ตกแต่งสวนที่คุณสิงบอกจะเก็บงานเอง แล้วก็โต๊ะไม้ในสวนที่คุณโบ้บอกเอามาไว้ไม่เห็นส่งมาเลยค่ะ ถ้าจะเข้ามาวันไหนต้องบอกฝ้ายก่อนนะคะ งานหลักๆ ส่วนใหญ่เรียบร้อยพร้อมเปิด ส่วนอันนี้เป็นเมนูร้านที่สั่งแก้รอบสองเขาส่งใหม่ให้ดูค่ะ ลองเช็คดูก่อนนะคะ อันนี้ตัวอย่างแก้วกับถุงกระดาษที่สั่งไว้ ถ้าโอเคแล้วฝ้ายจะได้คอนเฟิร์มให้เขาผลิตเลย” ฝ้ายหยิบทั้งเมนู แก้วน้ำสำหรับสั่งกลับบ้านรวมทั้งถุงกระดาษที่มีโลโก้ร้านมาให้เจ้านายและหุ้นส่วนของร้านได้ตรวจสอบ ร้านนี้เธอค่อนข้างมีส่วนร่วมแทบทุกขั้นตอนจนรู้สึกผูกพัน คาดหวังว่าเมื่อเปิดกิจการลูกค้าที่เข้ามาจะชอบบรรยากาศของที่นี่แบบเธอ ร้านชาสไตล์อังกฤษที่มีเจ้าของเป็นหนุ่มหล่อถึงสี่คน นี่มันสวรรค์ของสาวๆ ชัดๆ

“ไอ้ที่รองแก้วก่อนใส่ถุงคุณฝ้ายสั่งซื้อแล้วใช่ไหมครับ” โบ้ตรวจสอบถุงกระดาษดูตำแหน่งโลโก้ที่สั่งแก้พบว่าอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการแล้ว เขาส่งต่อให้คนอื่นดูแล้วหยิบเมนูมาดูบ้าง

“ใช่ค่ะ สั่งถาดรองแก้วสองช่องอย่างเดียวนะคะ ถ้ามากกว่านี้ถุงกระดาษอาจขาดได้ ฝ้ายถ่ายรูปตัวอย่างไว้อยู่ค่ะ นี่นะคะ” ฝ้ายเปิดรูปภาพให้เพื่อนเจ้านายดู อันที่จริงความคืบหน้าของงานทั้งหมดมีการส่งต่อให้เลขาหรือผู้ช่วยหุ้นส่วนทุกคนหมดแล้ว แต่เธอเข้าใจดีว่าทุกคนน่าจะงานยุ่งกันหมดเลยไม่มีเวลาดูรายละเอียดปลีกย่อย ขนาดสิงหาเจ้านายของเธอเองบางครั้งยังหลงๆ ลืมๆ ต้องให้เธอโทรตามงานหลายครั้ง บางครั้งก็ตามไปคุยงานถึงกองถ่าย ครั้งแรกที่ไปก็น่าตื่นตาตื่นใจเหมือนกัน สิงหาเคยเปรยว่าอยากพาน่านนทีมาบ้างแต่ฝ่ายนั้นทำงานไม่เป็นเวลา ถ้ามีเวลาว่างก็อยากให้นอนพักผ่อนสบายๆ มากกว่า โถ...พูดซะน่าเอ็นดูจนอยากไปลากคอน้องชายคนสนิทมาเฝ้าพ่อพระเอกของเธอถึงกองถ่ายจริงๆ

“ผมโอเคทั้งหมดนะ ไม่มีอะไรแก้เพิ่ม คนอื่นว่าไง” สิงหาตรวจสอบทุกอย่างแล้วพบว่าเรียบร้อยดี ตรงตามแบบที่สั่งแก้ทุกอย่าง

“โอเคแล้วล่ะ ถ้าต่อไปมันมีปัญหาอะไรก็ค่อยๆ ปรับแก้ตามความเหมาะสม ขอแค่มีของพร้อมก็พอ ยึดหลักรักษ์โลกไว้เป็นคอนเซ็ปต์ของร้านด้วย” เต้ย้ำถึงอีกหนึ่งคอนเซ็ปต์ของร้านที่ต้องทำให้ได้

“เออ โอเค ผ่าน” ชวินพยักหน้าแล้วหันไปทางโบ้ ฝ่ายนั้นก็พยักหน้ารับ เป็นอันจบงานที่ยังค้างคาอยู่

“ผ่านเหมือนกัน เหลือแค่ไปชิมขนมที่โรงแรมกับให้สิงเก็บงานในสวน จะทำวันไหนล่ะ” โบ้ถามสิงหาที่มีธุระยุ่งในช่วงนี้ ไม่รู้จะว่างอีกเมื่อไร

“ในสวนแค่เอาดอกไม้มาแต่ง พรุ่งนี้มะรืนก็ได้ ของเตรียมไว้หมดแล้ว” สิงหาตอบอย่างที่คิดแต่จะมีโอกาสเอื้ออำนวยหรือไม่ยังตอบไม่ได้ ต้องดูสถานการณ์วันต่อวัน

“โต๊ะผมเอาไปขัดลงสีใหม่อยู่ ตอนนี้ยังอยู่ที่โรงเรียนอยู่เลย เดี๋ยวจ้างนักการขนมาส่งให้สักวันจันทร์แล้วกันนะครับ อาทิตย์นี้ผมไม่ได้เข้าโรงเรียนเลย” โบ้นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ตอบฝ้ายถึงเรื่องโต๊ะ มันเป็นโต๊ะไม้เก่าๆ ในโรงเรียนของเขา เดือนที่แล้วทางโรงเรียนซื้อโต๊ะหินอ่อนมาเพิ่มเพราะสะอาดกว่าโต๊ะไม้ ตากฝนแล้วที่นั่งก็ไม่ชื้น เขาเลยขอโต๊ะเขาที่สภาพยังดีอยู่มาใช้ต่อ แต่ต้องซ่อมแซมให้ดูสะอาดขึ้นก่อน

“ได้ค่ะ มาวันไหนโทรบอกฝ้ายล่วงหน้านะคะจะได้มาเปิดประตูให้ แล้วเรื่องบ้านข้างๆ ตกลงว่าไงคะ เขาขายไหม” ฝ่ายถามสิงหาที่เคยพูดเรื่องนี้ให้ฟัง แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

“ขายครับ แต่เขาให้รอสัญญาเช่าบ้านหมดก่อน อีกสี่เดือนนั่นล่ะ”

“ก่อสร้างช่วงเปิดร้านลูกค้าจะไม่ด่าเอาเหรอวะ” โบ้ไม่ค่อยเห็นด้วยถ้าจะเปิดร้านแล้วมีการก่อสร้างอยู่ข้างๆ

“ถ้าวันไหนเสียงดังมากๆ ก็ปิดร้านก่อน รั้วก็ไม่ต้องทุบ เอาให้งานเสร็จค่อยทุบ” ชวินแนะนำแผนงานก่อสร้างคร่าวๆ บ้านข้างๆ จะซื้อไว้เพื่อขยายสวนให้ใหญ่ขึ้น ตัวบ้านจะทุบทิ้งทั้งหมด ส่วนจะเพิ่มเรือนกระจกหรือปรับเป็นที่จอดรถต้องดูผลประกอบการของร้านก่อน

ทุกคนเริ่มเดินสำรวจพื้นที่แต่ละส่วนอย่างละเอียด พรุ่งนี้นัดพนักงานของร้านเข้ามาช่วงเที่ยงเพื่อทดสอบการบริการในสถานที่จริงอีกครั้ง หลังส่งไปฝึกอบรมจากที่อื่นมา สิงหาเดินนำเพื่อนเพื่อบอกรายละเอียดที่จะตกแต่งเพิ่ม ข้างร้านที่ต่อเติมเป็นเรือนกระจกแบบปิดตกแต่งด้วยต้นไม้ตามมุมต่างๆ ดูสดชื่น ต้นไม้ในนี้จะเป็นต้นไม้จริงปลูกใส่กระถางเพื่อสะดวกในการดูแลและขนย้าย ส่วนดอกไม้สิงหาจะเอาดอกไม้ปลอมมาแต่งทั้งหมด ไม่ว่าจะแซมไปตามต้นไม้หรือบนไม้ระแนงที่ทำไว้ เพื่อความสะอาดและดูแลรักษาง่ายจึงไม่ใช้ดอกไม้จริง ส่วนสวนด้านนอกจะมีทั้งดอกไม้จริงและปลอมปนกันไป ช่วงนี้ดอกไม้ที่ปลูกยังไม่ออกดอกจึงเน้นดอกไม้ปลอมมากหน่อย ทุกคนเห็นชอบด้วยเพราะความสะอาดเป็นสิ่งจำเป็น ถึงไม้ดอกไม้จริงจะสวยหอมสดชื่นมากกว่า แต่เวลาดอกไม้ร่วงลงใส่แก้วน้ำหรือจานอาหาร คงไม่มีใครชอบเท่าไร

หลังแยกกับฝ้ายทั้งสี่คนก็แวะร้านอาหารกินมื้อค่ำทั้งที่ไม่ค่อยหิว ความสามัคคีของทุกคนเป็นเรื่องน่าประทับใจ แม้สิงหาบอกว่าจะไปรับน่านนทีที่บ้านเพื่อไปทำงานที่คอนโดฯ ทุกคนก็ยังพร้อมใจกันเห็นด้วย ไม่มีใครอยากให้น่านนทีเดินทางมาเอง รวมถึงไม่มีใครอยากรีบกลับไปคอนโดฯ เท่าไร แต่น่าเสียดายที่น่านนทีปฏิเสธและขอมาเอง สี่หนุ่มเลยได้แต่คอตก อารมณ์เศร้าซึมเมื่อต้องกลับคอนโดฯ แบบไม่มีข้ออ้างให้ตัวเอง

ภายในห้องนั่งเล่นทั้งสี่คนนั่งลงด้วยความผ่อนคลาย นี่คือห้องของชวิน ถือว่าเป็นสถานที่ปลอดภัยได้ น้ำแช่ใบทับทิมก็ใช้ล้างหน้ากันครบ น้ำที่เหลือวางไว้หน้าห้อง ส่วนกิ่งใบทับทิมที่เหลือแช่ในตู้เย็นเพื่อคงความสด สองกิ่งเล็กๆ วางอยู่ข้างกายชวิน พร้อมหยิบใช้งานได้ทันท่วงที

“คืนนี้คงไม่มีอะไรหรอก อาบน้ำกันเหอะ” ชวินบอกเพื่อนและชวนให้อาบน้ำพร้อมกันอีกวัน ถึงจะปลอดภัยแต่ในใจยังหวิวๆ

“อาบกันก่อนเลย เดี๋ยวกูว่าจะลงไปนั่งเป็นเพื่อนปิง” สิงหาดูนาฬิกา ใกล้เวลาเริ่มงานแล้ว ลืมถามไปว่าคืนนี้เข้างานกี่คน ถ้าอยู่คนเดียวเขาน่าจะต้องนั่งเป็นเพื่อนอีกคนข้างล่างทั้งคืน



ล็อบบี้คอนโดคืนนี้ค่อนข้างคึกคักเพราะได้รับรองแขกหลายคน น่านนทีมองสามหนุ่มที่นั่งทำกิจกรรมของตัวเอง บ้างเล่นโทรศัพท์ บ้างเปิดโน้ตบุ๊ก แต่ทุกคนนั่งชิดติดกันจนน่านนทีอึดอัดแกมสงสาร ถ้าเป็นเขาก็คงพยายามแทรกตัวลงไปตำแหน่งกลางระหว่างเพื่อนเหมือนที่ชวินทำ

“ผมลืมถามปิงว่าทำงานกี่คนเลยลงมาอยู่เป็นเพื่อน พวกนั้นมันเลยตามมาด้วย”

“น่าสงสารคุณชวิน คงฝังใจ” น่านนทีมองไปทางชวินที่สีหน้าไม่ค่อยดีเหมือนตอนอยู่ที่บ้านเขา

“แล้วปิงไม่กลัวแล้วเหรอ” สิงหาถามอย่างแปลกใจที่น่านนทีดูเข้มแข็งกว่าที่คิด ไม่นับตอนร้องไห้เมื่อคืน

“ก่อนออกมาอาบน้ำมนต์แช่ใบทับทิมไปแล้วรอบหนึ่ง ดื่มอีกขวด แล้วก็พกมาด้วย ปิงว่าปิงโอเค” น่านนทีพยักหน้าหนักแน่น วันนี้เขาพร้อมทั้งกายทั้งใจ

“งั้นไปห้องอีกไหม”

“ไม่!!” เขาส่ายหน้าจนคอแทบเคล็ด ที่บอกว่าพร้อมคือพร้อมที่จะทำงานอยู่ข้างล่างนี้ไม่ใช่พร้อมขึ้นไปลุยข้างบน

“ฮ่าๆๆ แล้วบอกโอเค ตกลงคืนนี้อยู่ได้นะ ผมจะได้พาพวกนั้นขึ้นไป”

“อยู่ได้สบายมา มีออมอยู่ด้วยทั้งคน”

“ไม่ต้องห่วงนะคะพี่สิง ถ้ามีอะไรเดี๋ยวโทรเรียกค่ะ” ออมที่นั่งใกล้ๆ ทำเป็นไม่สนใจได้แต่เงี่ยหูฟังรีบหันมาบอกเสียงหวานใส และได้รับผลตอบแทนเป็นรอยยิ้มสุดหล่อของเทพบุตรตรงหน้า

“โอเคครับ ฝากด้วยนะ”

“ค่า”

สิงหาเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนที่ดูคึกคักกว่าตอนอยู่บนห้อง พวกนั้นบอกว่าคนยิ่งมากยิ่งปลอดภัย เขาไม่อยากเถียงให้ยิ่งกลัวเพราะคิดว่าไม่น่าจริง เมื่อก่อนเขาอยู่ห้องคนเดียวไม่เคยโดนหลอกหนักแบบนี้ พอมีคนมามากขึ้นความหลอนยิ่งทวีคูณตามจำนวนคน เหมือนคนยิ่งเยอะยิ่งหลอกสนุกมากกว่า

“เขาเป็นอะไรกันเหรอปิง” ออมมองไปทางสี่หนุ่มที่เดินหายเข้าไปในลิฟต์อย่างสงสัย ทำไมต้องลงมาอยู่เป็นเพื่อนน่านนที หรือมีใครมาหาเรื่องเพื่อนเธออีก

“อยากรู้จริงๆ อะ เตือนไว้ก่อนนะว่าอย่ารู้ดีกว่า” น่านนทีหรี่ตาลงทำสุ้มเสียงมีลับลมคมใน

“....ถามจริง” ออมตอบแบบกล้าๆ กลัวๆ ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรทำไมต้องทำตาเล็กตาน้อยใส่

“จริงๆ นี่อยากเล่ามากเลยนะ แต่สงสาร เดี๋ยวไว้ปิงเล่าให้พี่โจฟังก่อน ต่อไปกะดึกอาจใช้คนสองคนไปอีกสักพัก”

“ร้ายแรงขนาดนั้น” เธอขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้ด้วยความอยากรู้

“ขนาดนั้นเลย แต่อย่าเพิ่งอยากรู้ เอาไว้เล่าตอนกลางวัน”

“โอ้ว....เหมือนจะพอเดาได้ซะงั้น ไม่ต้องเล่าละ เรื่องนี้ไม่ค่อยอยากรู้” ออมรีบขยับเก้าอี้ห่างออกมา เริ่มจะเดาออกแล้วว่าเกี่ยวกับอะไร ไอ้เรื่องที่ไม่ควรเล่ากลางคืนมันมีไม่กี่เรื่องหรอก

“ฮ่าๆๆ อยากเล่านะเนี่ย เสียใจเลย”

“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวตีปากเลย ไปเลย ฉันจะนั่งดูซีรีส์เงียบๆ” ออมยกมือขู่คนที่ตั้งท่าจะอ้าปากเล่า น่านนทีหัวเราะคิกคักที่นานๆ จะแกล้งเพื่อนได้ นึกถึงสี่หนุ่มที่กลับขึ้นไปข้างบน หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่กล้าบอกสิงหาว่าอยู่ข้างล่างปลอดภัยกว่าอยู่กับชวินเยอะ ก่อนนี้ก็เคยไปห้องสิงหาออกบ่อย ไปนอนงีบก็เคยแต่ไม่มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นเลย นี่ไปค้างกับเพื่อนๆ สิงหาครั้งเดียว โห...เหมือนรวมความหลอนที่ต้องเจอทั้งชีวิตมาทุ่มใส่รวดเดียว ขอเอาใจช่วยขบวนการปราบผีอย่างห่างๆ แบบห่วงๆ ตรงนี้แล้วกัน



ค่ำคืนนี้ผ่านไปอย่างสงบ สี่หนุ่มที่ประสาทตึงเครียดมาสองคืนพักผ่อนอย่างวางใจเมื่อไม่มีอะไรรบกวน แต่ทุกคนยังยืนยันที่จะนอนรวมกันที่ห้องนอนของชวิน น่านนทีก็ทำงานด้วยความราบรื่น ไม่มีเหตุการณ์สั่นประสาท ตอนเช้าก่อนเลิกงานเขาตัดสินใจเล่าให้โจฟังในฐานะหัวหน้าคอนเซียซ ส่วนออมหนีกลับไปก่อน ไม่ขอรับรู้อะไรทั้งนั้น เมื่อไม่รู้ก็ไม่กลัว

“....ไม่ได้หลอกเล่นใช่ไหมปิง” โจนั่งฟังน่านนทีเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกให้ฟังแล้วได้แต่อึ้ง

“จริงๆ พี่โจ ไม่เชื่อถามพวกคุณสิงได้เลย โดนกันทุกคน แต่ปิงปิดตาเลยไม่ค่อยเห็นกับเขา”

“แล้วอย่างนี้ปิงจะเข้ากะดึกคนเดียวได้ไหม”

“หึ ไม่มีทาง ปิงเลยบอกพี่นี่ไง ช่วงนี้ใจไม่ค่อยดีเลย ถ้าให้ปิงเข้าดึกขอมีเพื่อนอยู่สักคนนะ ขอสักอาทิตย์สองอาทิตย์ให้ลืมๆ ก่อน” เขารีบปฏิเสธ เหตุผลที่เล่าให้โจฟังก็เพราะเรื่องงานที่ล่ะ หากให้อยู่ดึกอีกก็ได้แต่ต้องมีเพื่อนสักคน ไม่งั้นเขาจะลางานจริงๆ ด้วย วันลายิ่งเหลือเยอะอยู่

“เออๆ พี่เข้าใจ เดี๋ยวจัดตารางงานให้ใหม่ ลงกะเช้ากับบ่ายสลับๆ ไปก่อน พี่อยู่ดึกเอง แต่ถ้าวันไหนพี่ไม่ไหวจะหาคนอยู่คู่ให้”

“ขอบพระคุณอย่างสูงเลยครับ แล้วเรื่องนี้ต้องรายงานผู้จัดการไหมพี่ คุณชวินเขาไม่ให้คุณสิงหาหมอผีตามทีวีมาเพราะกลัวเป็นข่าวนะ” เขายกมือไหว้ขอบคุณหัวหน้างานแสนใจดีแล้วปรึกษาหาทางออกให้เจ้าของห้องต่อ ปัญหานี้เป็นทั้งเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม ในฐานะคอนเซียซที่ช่วยได้ทุกเรื่องก็ช่วยใช่ไหม...รึเปล่า

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ เอาไงดี ปิงคุยกับคุณชวินให้หน่อยได้ไหมล่ะ”

“คุยว่า”

“ก็ให้เขาบอกผู้จัดการไป เผื่อมีห้องอื่นโดน”

“ไม่น่าจะมีหรอก คุณสิงโดนมาหลายเดือนแล้วนะ ตั้งแต่ตอนมาอยู่ใหม่ๆ เลยที่ว่ามีคนวิ่งเข้าห้องเขาน่ะ นั่นก็สงสัยว่าไม่ใช่คนเหมือนกัน ถ้าห้องอื่นโดนคงร้องเรียนกันนานแล้ว”

“แล้วอยู่ไปได้ไงวะนั่น หลอนตายห่า” โจนึกถึงดาราหนุ่มที่เดินหล่อๆ โฉบไปโฉบมาให้เห็นบ่อย ไม่เคยรู้มาก่อนว่าแต่ละคืนต้องผ่านอะไรมาบ้าง

“เขาอยู่คนเดียวไม่โดนไง พอคุณชวินไปห้องโดนหนักเลย แต่เดี๋ยวเขาคงจัดการอะไรบ้างล่ะ คุณชวินเขารอพ่อเขากลับมาอยู่ ว่าจะหาพระหาซินแสมาไล่ผีที่ห้อง”

“ถ้าถึงระดับนั้นลงมาพี่ว่ามันเรื่องใหญ่นา ต้องบอกผู้จัดการให้รู้เรื่องก่อน เกิดมาทำพิธีกันแล้วเขารู้ทีหลังมันไม่ดี เดี๋ยวพี่ไปบอกเองดีกว่า เผื่อทางนั้นมีอะไรให้ช่วย”

“พี่ช่วยได้เหรอ”

“ได้ก็บ้าแล้ว ก็แค่เผื่อช่วยได้ อย่างเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไง อย่างต้นทับทิมที่นี่ก็มี ตรงทางเข้าก็มีต้นหนึ่ง ในสวนข้างตึกนี่ก็มี ปิงไปบอกเขาด้วยล่ะ อาจต้องใช้อีก”

“พูดเหมือนแช่งเลยอะ” น่านนทีอดท้วงแทนขบวนการปราบผีไม่ได้

“วุ้ย ไอ้นี่ ไปๆ เลิกงานแล้วก็กลับบ้านไปนอน คืนนี้เข้าดึกเหมือนเดิมไปก่อน เดี๋ยวปรับตารางใหม่จะบอกอีกที พรุ่งนี้มะรืนนั่นล่ะ แต่ปิงอาจต้องควบกะนะ เปลี่ยนกะทันหันมันยุ่งนิดหน่อย”

“ได้พี่ ปิงเข้าใจ งั้นปิงกลับล่ะนะ” น่านนทียกมือไว้สวัสดี เก็บของเดินออกจากคอนโดฯ ส่งข้อความไปหาสิงหาแล้วว่ากำลังกลับบ้าน ส่วนทางนั้นก็กำลังเตรียมตัวออกไปทำธุระที่ร้านต่อเหมือนกัน สิงหาเล่าว่าเมื่อคืนปลอดภัย ทุกคนหลับสนิท ชวินหลับปุ๋ยตลอดคืนไม่ตื่นมาทำเพื่อนๆ หลอนเลย




ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/



เมื่อน่านนทีกลับถึงบ้านก็ส่งข้อความไปบอกสิงหาเหมือนทุกครั้ง ทางด้านนั้นกำลังออกไปจัดการธุระที่ร้านต่อ สิงหาเล่าให้ฟังถึงข้อสรุปสุดท้ายว่าร้านนี้จะเน้นขายชามากกว่ากาแฟ เป็นร้านชาชื่อว่า ทีไทม์ (Tea Time) เมนูอาหารมีเสริมขึ้นมานิดหน่อย ภายในร้านเน้นการนั่งจิบชาพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ มีดนตรีคลอเบาๆ แค่ฟังที่บรรยายเขาก็อยากไปสัมผัสของจริงแล้ว

“ตกลงกับสิงหานี่ยังไง มีอะไรจะเล่าให้พ่อแม่ฟังไหม” พ่อถามลูกชายคนเล็กที่เพิ่งกินข้าวเสร็จก็มานอนแผ่หราอยู่หน้าโทรทัศน์ ช่วงนี้เขาเห็นความสนิทสนมของลูกชายกับดาราหนุ่มแล้วได้แต่ปลง เมื่อก่อนไม่เคยเห็นจับมือถือแขน วันนี้เดี๋ยวแตะหลังเดี๋ยวโอบเอว ไอ้ลูกเราก็จับมือบ้างเกาะแขนบ้าง ที่เคยกังวลคงเป็นจริงไปแล้ว

“ก็...เพิ่งตกลงคบกันสักพักละ พ่อแม่ว่าไงอะ” เขานอนแหงนหน้าไปมองพ่อแม่ เห็นสีหน้าเป็นกังวลนิดหน่อยแต่ไม่ได้คัดค้าน

“เขาดีกับปิงใช่ไหม” พ่อลูบหัวทุยของลูกชายให้กลับไปนอนดีๆ

“ดีพ่อ ดีมากกกกกก เขาก็เป็นอย่างที่พ่อเห็นเนี่ยแหละ สุภาพใจดี แต่สนิทมากๆ ก็เป็นคนกวนคนหนึ่ง แต่ก็เป็นคนดีมากๆ”

“เขาเป็นดารานะ ปิงจะไหวเหรอลูก แม่เห็นพวกแฟนดาราโดนแฟนคลับรุมด่าในเน็ตแล้วอดห่วงไม่ได้ ขนาดตัวเขาเองยังโดนเลยนะ” แม่รู้ดีว่าสิงหามีทั้งคนที่ชื่นชอบและชิงชัง เวลาเธออ่านคอมเมนต์แรงๆ เกี่ยวกับดาราหนุ่มก็อดสงสารอีกฝ่ายไม่ได้ที่ต้องกลายเป็นเป้าโจมตีทั้งที่ไม่มีความผิด และไม่ได้ทำใครก่อน แต่ความสงสารนั้นยังเทียบไม่ได้กับความเป็นห่วง หากลูกชายเธอต้องไปอยู่ในจุดเดียวกันนั้น

“ปิงก็หวั่นๆ แต่ไม่มาก คงได้แค่เตรียมทำใจถ้าโดนขึ้นมาจริงๆ”

“คบก็คบกันเงียบๆ ไป ไม่ต้องไปออกข่าวอะไรนะ คนมันจ้องหาเรื่องมีเยอะ คบกันแอบๆ เงียบๆ ไปก็ดีนะแม่ว่า”

“คนธรรมดายังมีคนเกลียดเลยแม่เอ๊ย จะให้คนมันชอบลูกเราทุกคนไม่ได้หรอก ลูกเราไม่ได้เป็นคนไม่ดี ถ้าคบแล้วเงยหน้ามองคน เดินถนนปกติไม่ได้ก็ไม่ต้องคบ อยู่แบบแอบๆ ทำไม ทุเรศเปล่าๆ ไม่ได้ไปขอใครกิน ไม่ได้เป็นชู้ใครด้วย ถ้าเขาให้ทำแบบนั้นไม่ต้องทนนะลูก ถ้าเขามองค่าของเราน้อยกว่าชื่อเสียงตัวเองก็ปล่อยเขาไป” พ่อค้านอย่างไม่เห็นด้วยและไม่ยินยอม ลูกของเขา เขาเลี้ยงมากับมือ ถ้าต้องก้มหน้าก้มหัวให้คนอื่น เก็บเนื้อเก็บตัวเพราะกลัวเสียงด่าของคนที่ไม่ได้รู้จักลูกเขาเลย เขาไม่ยอม ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่ต้องคบ ลูกคนเดียวเขาเลี้ยงไหว

“ปิงรู้ พ่อแม่ไม่ต้องห่วงนะ คุณสิงเขาไม่แคร์อะไรพวกนั้นหรอก แค่ปกติเขาไม่ค่อยชอบออกรายการอะไรเท่านั้น ไม่ใช่ว่าคบปิงแล้วจะแอบอะไร จริงๆ เขาก็เคยพูดเหมือนกันว่าเขาไม่คิดจะปิดเรื่องปิง ถ้ามีคนถามเขาก็จะบอกตรงๆ แต่คงไม่บอกว่าปิงเป็นใครแค่นั้น บางทีพวกในเน็ตกับนักข่าวก็น่ากลัวพอๆ กัน ชอบสืบนั่นเสาะนี่ ปิงก็เห็นด้วย เราก็คบกันไปอยู่กันไปเฉยๆ ไม่ปิดแต่ก็ไม่อวด สบายใจกว่า” น่านนทีลุกขึ้นนั่งจับมือพ่อแม่ปลอบโยนทั้งสอง เขารู้ดีว่าพ่อแม่เป็นห่วง ขนาดมีแฟนเป็นคนธรรมดายังกลัวอีกคนจะมาทำให้เสียใจ กลัวคนอื่นจะมองลูกไม่ดี แล้วนี่คบกับคนที่ยืนท่ามกลางแสงสว่างเป็นที่จับจ้องของผู้คน หากจะไม่กังวลเลยเป็นไปไม่ได้ แต่เขาได้เลือกแล้ว เลือกที่จะไว้ใจความจริงใจที่สิงหาแสดงให้เห็นตลอดหลายเดือนที่รู้จักกัน เชื่อใจว่าอีกฝ่ายสามารถจับมือก้าวต่อไปในวันข้างหน้า และหากหกล้มเขาก็รู้ดีว่านอกจากสิงหาแล้ว ยังมีสองมือเหี่ยวๆ นี้คอยประคับประคองเขาให้ลุกเดิน

“ถ้าเขาว่างั้นมันก็ดี เห็นวนเวียนมาสักพักก็ดูท่าทางเป็นผู้ใหญ่ดี” พ่อลูบหัวลูกชายคนเล็กเบาๆ เห็นความเชื่อมั่นที่ลูกแสดงออกก็ได้แต่ทำใจและยอมรับในการตัดสินใจของลูก

“เขาคบกับปิงตอนนี้ก็ดีนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เขายังดังมากๆ แม่คงค้านหัวชนฝา ดูแล้วมันวุ่นวายหาความสงบไม่ได้ ว่างๆ ก็ชวนพี่เขามากินข้าวบ่อยๆ” แม่แกล้งหยิกแก้มที่นับวันจะบวมมากขึ้นจากการดูแลของพระเอกในดวงใจ เห็นลูกเข้มแข็งและมีความสุข แค่นี้ก็พอ

“ครับผม รักพ่อแม่นะ ไม่ต้องคิดมากนะ”



พนักงานของร้านทีไทม์ทุกตำแหน่งมารวมตัวกันครบทุกคนเป็นครั้งแรก รวมถึงได้พบเจ้านายตัวจริงครบทุกคนครั้งแรกด้วยเช่นเดียวกัน หลายคนตื่นเต้นดีใจเมื่อรู้ว่าหนึ่งในเจ้านายคือดาราหนุ่มหล่อ แถมตัวจริงหล่อกว่าในทีวีเยอะ เจ้านายอีกสามคนก็หน้าตาดีไม่แพ้กัน พนักงานทุกคนแม้แต่ฝ้ายอดเห็นใจเจ้านายทั้งสี่ที่มีงานค่อนข้างยุ่งไม่ได้ ดูจากหน้าตาท่าทางอิดโรยของทุกคนแล้วคงอดหลับอดนอนเพื่อหาวันหยุดมารวมตัวกันเพื่อเตรียมเปิดร้านนี้โดยเฉพาะ โดยเฉพาะคุณชวินที่มีนามสกุลคุ้นหูในฐานะไฮโซ ขอบตาคล้ำแบบนี้น่าจะโหมงานหนักหลายวัน ความสงสารเห็นใจของพนักงานทำให้ทุกคนให้ความร่วมมือกับการจัดระบบร้านและทดลองงานบริการทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัด

หลักสูตรอบรมมากมายที่ชวินแนะนำให้ฝ้ายส่งพนักงานไปเรียนรู้ได้ผลดีตามที่คาด ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรอบรมการทำงานเป็นทีม หลักสูตรหัวใจงานบริการ หลักสูตรการจัดดอกไม้  หลักสูตรการตกแต่งจานอาหาร รวมถึงหลักสุตรการชงชา กาแฟ การทำลาเต้อาร์ต พนักงานทุกคนรู้สึกประทับใจในการลงทุนให้ความรู้ของเจ้านายทั้งสี่คนมาก ร้านชานี้ดูเรียบง่ายแต่มีมาตรฐานการบริการระดับโรงแรม แน่นอนว่าพนักงานทุกคนต้องเซ็นสัญญาการทำงานอย่างน้อยหนึ่งปี ห้ามลาออกก่อนกำหนดไม่อย่างนั้นจะมีค่าปรับตามราคารวมทุกคอร์สที่ได้อบรมมา



ปกติแล้วรถยนต์ของลูกบ้านในคอนโดฯ จะมีช่องจอดส่วนตัวโดยจำนวนช่องกับจำนวนห้องผันตามกัน ห้องขนาด 3 ห้องนอนมีที่จอดรถสองช่อง ห้องขนาดหนึ่งและสองห้องนอนมีที่จอดรถหนึ่งช่อง โดยมีที่จอดแบ่งเป็นสองตึก หนึ่งตึกใหญ่เป็นตึกจอดรถโดยเฉพาะจะอยู่แยกออกไปจากตัวอาคารที่พัก และอีกตึกที่อยู่ติดกับอาคารที่พักแต่มีเพียงสี่ชั้นเพื่อไม่ให้บังวิวที่ห้องของผู้พักอาศัย แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับอภิสิทธิ์ในการจอดรถที่นี่คือบรรดาเจ้าของห้องที่มีราคาสูงเช่นชวิน หรือลูกบ้านที่จองห้องและจ่ายเงินทั้งหมดเป็นลำดับแรกๆ เช่นสิงหา...แต่ถึงที่จอดรถจะใกล้ลิฟต์ เดินทางสะดวกสบายแค่ไหนก็ไม่ใช่สถานที่พักอาศัย...เช่นที่สี่หนุ่มกำลังนั่งค้างอยู่ในรถมากว่าครึ่งชั่วโมง

“ไปเหอะมึง ยิ่งช้ายิ่งมืดนะเว้ย” สิงหาปลุกใจเพื่อนและตัวเองให้ขยับออกจากรถสักที กว่าจะเสร็จงานที่ร้าน แวะซื้ออาหารข้างทางง่ายๆ ฝ่ารถติดในวันฝนตก มาถึงคอนโดฯ ก็สองทุ่มแล้ว...แพลนที่วางไว้จะเข้าห้องไปหยิบกล้องดักส่องสัตว์เลยชะงักอยู่ที่ลานจอดรถ

“มึงแม่งขับช้า มืดแล้วไอ้เหี้ย” ชวินด่าสิงหาที่ทำหน้าที่สารถี รู้ดีว่าไม่ใช่ความผิดเพื่อน แต่ด่าแล้วสบายใจขึ้นมาหน่อย

“กูจะรู้เหรอว่าฝนจะตก เนี่ยสองทุ่มกว่าแล้ว ถ้ามาถึงแล้วขึ้นไปก็เพิ่งจะสองทุ่ม ยิ่งนั่งนานก็ยิ่งดึก มึงเอาเหรอ”

“กูขึ้นไปรอที่ห้องได้ไหมล่ะ” ชวินพยายามหาทางเลี่ยง ไม่ได้เอาตัวรอด แค่ไม่อยากไปด้วยเดี๋ยวเพื่อนเป็นห่วง

“มึงกล้าขึ้นไปคนเดียวเหรอ” เต้เหล่มองพร้อมแกล้งขู่คนทิ้งเพื่อน

“เต้มึงไปกับกู”

“ไม่ได้ ภารกิจกูสำคัญกว่าต้องใช้คนเยอะกว่า” สิงหาค้านทันที ถ้าให้ไปสองคนล่ะก็...ไม่มีทาง

“ไอ้เหี้ยสิง แม่ง...กูรอนอกห้องได้ไหมล่ะ” ชวินบ่น แต่โบ้สนับสนุนสิงหาเต็มที่เขาเลยไม่มีพวกเพราะเต้ก็เลือกจะอยู่กับอีกสองคนเช่นกัน

“เออๆ ได้ ยอมๆ แม่งเหอะ ชักช้า ไปๆๆ” โบ้ตอบแทนทุกคน เขาเห็นด้วยกับสิงหาว่าควรรีบขึ้นไปให้จบๆ ยิ่งดึกยิ่งไม่ปลอดภัย



สี่หนุ่มยืนหน้านิ่งแต่ใจไม่สงบเลยสักคน ชั่วขณะที่กำลังทำใจลิฟต์ก็เปิดที่ห้องสิงหาเรียบแล้ว โบ้กับสิงหาเดินนำออกไปก่อน เต้เดินตามออกมาโดยมีชวินรั้งท้าย มือกำแขนเพื่อนแน่นเพื่อความอุ่นใจ

“ตกลงรอนี่แน่นะ” สิงหาหันมาถามเพื่อนย้ำก่อนเปิดประตู แต่ชวินเริ่มไม่มั่นใจ ระหว่างยืนรอหน้าห้องคนเดียวกับเดินเข้าไปข้างในกับอีกสามคน

“...ไปด้วย” ชวินอยากยกมือตบปากตัวเองที่หลุดพูดออกไป แต่ให้เลือกระหว่างอยู่คนเดียวกับอยู่กับเพื่อน เขายังมีทางเลือกอื่นอีกเหรอ

สิงหาเปิดประตูเดินเข้าห้องนำไปก่อน เขารีบเดินไปเปิดสวิทซ์ไฟดวงที่ใกล้ที่สุด เพื่อนทุกคนบ้างดึงเสื้อบ้างเกาะแขน เดินตามมาติดๆ ไฟทางเดิน ไฟห้องนั่งเล่นสว่างจ้าหมดทุกดวง โบ้เดินไปเปิดไฟในครัวให้อย่างรู้หน้าที่ ทุกคนมองหน้ากันแล้วรีบเดินไปหยิบกล้องดักถ่ายที่ติดตั้งไว้ ในครัว ห้องนั่งเล่น ทางเดินไปประตูหน้า กล้องทุกตัวถูกรวบเก็บด้วยความรวดเร็ว เหลือเพียง...ห้องทำงาน

ชวินช่วยเพื่อนหิ้วถุงดำใส่ขยะที่นำมาใส่กล้องไว้ในมือ เต้หิ้วอีกหนึ่งถุงเช่นกัน โบ้และสิงหายืนจ้องหน้ากันก่อนเดินไปทางหน้าห้องทำงาน ทำใจกล้าเก็บกล้องอีกตัวตรงจุดนี้ส่งให้เต้รับไปใส่ถุง ทุกคนเผลอกลั้นลมหายใจโดยไม่รู้ตัว เงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวภายในห้องทำงาน...ทุกอย่างเงียบสงบ

สิงหาเอื้อมมือไปแตะลูกบิด เหลียวมองเพื่อนให้ทุกคนเตรียมความพร้อมก่อนเปิดประตู มือหนึ่งจับลูกบิด อีกมือจับแขนโบ้ไว้ อย่างน้อยถ้าเพื่อนอีกสองคนวิ่งหนีก็ยังเหลือโบ้ที่เขาจับเอาไว้เป็นเพื่อน สองคู่ซี้ขี้กลัวด้านหลังเกาะแขนกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ขยับเข้าใกล้โบ้มากขึ้นตามแรงดึงเสื้อจากมืออีกฝ่าย โบ้ตัดสินใจเด็ดขาด ถ้าสิงหาไม่ปล่อยให้เขาวิ่งหนี เพื่อนทั้งสองคนนี้ก็ต้องหนีไม่ได้เช่นกัน ความในใจของทุกคนถ่ายทอดออกมาทางสายตาและการกระทำ สิงหาสบตาเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายค่อยๆหมุนลูกบิดประตูแล้วผลักออกไป

ภายในห้องมืดสนิท สิงหารีบก้าวไปข้างหน้าแล้วตะปบสวิทซ์ไฟข้างประตูให้เปิดขึ้น

พรึ่บ

แสงไฟสว่างจ้าทั่วทั้งห้อง สายตาสามคู่เพ่งมองไปยังตู้ชั้นล่าง ไม่ต้องสำรวจนานก็มองเห็นความผิดปกติ...มันเปิดอยู่ เสียงสูดลมหายใจทั้งสามดังแทบพร้อมกัน ยกเว้นชวินที่ก้มหน้าเลี่ยงสายตาไปมองแผ่นหลังเพื่อนแทน

สิงหากระตุกมือเบาๆ ให้เดินตามเข้าไปข้างใน ห้องนี้มีกล้องสองจุด จุดแรกอยู่ใกล้ประตู เมื่อเดินตามสิงหาเข้ามาโบ้ก็เอื้อมมือไปปลดสายรัดดึงกล้องส่งข้างหลังไปให้เต้เก็บไว้ แต่ถุงของเต้เต็มแล้วเขาเลยส่งต่อให้ชวิน ชวินรับกล้องมาใส่ถุงดำในมือตัวเอง

ปัง!!

“เหี้ย!!” ชวินเงยหน้ามองด้วยความตกใจ ชั่วขณะที่เขาปล่อยมือจากเพื่อนแล้วรับกล้องมา ประตูห้องทำงานก็กระแทกปิดลงตรงหน้า มันปิดกั้นเขาไว้นอกห้องเพียงลำพัง

“พวกมึง...เหี้ยเต้! เปิดประตูดิ๊ เล่นเหี้ยไรกัน!” ชวินตะโกนด่าเพื่อนเสียงสั่น พยายามบิดลูกบิดแต่ก็ยังเปิดไม่ได้ เขาคิดว่าประตูล็อกจากด้านในโดยฝีมือของเพื่อนทั้งสามที่ตั้งใจแกล้ง

สิงหา โบ้และเต้หันขวับไปมองประตูพร้อมกัน เต้เป็นฝ่ายเดินมาถึงประตูก่อนพร้อมได้ยินเสียงด่าจากชวินที่ด้านนอก เขาพยายามหมุนลูกบิดแต่มันเปิดไม่ออก

“เหี้ยแล้วๆ กูเปิดไม่ออก!! ไอ้ชวิน!! อย่าแกล้งนะมึง!!” คนด้านนอกยังด่าไม่หยุด คนด้านในก็คิดว่าเพื่อนที่อยู่คนเดียวด้านนอกแกล้งเช่นกัน สิงหาที่เดินไปแกะกล้องเมื่อครู่รีบเดินกลับมาแทรกตัวอยู่ข้างเต้ เขาลองจับลูกบิดหมุนดู มันไม่ได้ล็อกเพราะบิดได้รอบ แต่เปิดไม่ออกเหมือนถูกดึงอยู่ ลำพังแรงของชวินคนเดียวไม่สามารถดึงประตูต้านแรงพวกเขาได้แน่นอน โบ้หันหลังให้เพื่อนเพื่อมองรอบห้องอย่างไม่ไว้ใจ โดยเฉพาะประตูตู้ที่ยังเปิดอยู่

“ไอ้เหี้ย!!! มึง!!” ชวินเริ่มรู้ตัวว่าเพื่อนไม่ได้แกล้ง เต้พยายามตะโกนบอกให้ชวินลองปล่อยมือจากลูกบิดหรือให้ลองกระแทกประตูให้เปิดแต่ก็ทำไม่ได้ ทุกคนเริ่มร้อนรน สามคนข้างในเริ่มเป็นห่วงคนที่อยู่ลำพังด้านนอก

“ไอ้ชวิน!! มึงออกไปก่อน ลงไปข้างล่างหาคนมาช่วย ออกไปก่อน!!” สิงหาตัดสินใจให้เพื่อนหนีไปก่อน ถ้าคนดวงซวยเป็นพวกเขาแทนก็ยังดีกว่าเป็นชวินคนเดียว

ชวินฟังคำพูดสิงหาแล้วรีบหันหลังกลับเตรียมวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือ เท้าที่จะก้าวไปข้างหน้าหยุดชะงักแล้วกระโดดถอยหลังมาพิงประตูห้องน้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องทำงานแทน...มีบางสิ่งยืนอยู่ข้างเขามาตลอด

.

...และ.....

.......มัน......

.

..........กำลังหันมา..........





—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—






เพื่อไม่ให้ทุกคนรู้สึกสับสนว่าจะหิวหรือหลอนดี ตอนนี้เลยไม่มีรูปภาพประกอบนะคะ

ฝันดีทุกคนนนนนนนนนนน

 :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ฮือ ตอนนี้น่ากลัวมากค่ะ สงสารชวินมากสุดเลย  :hao5:
ขอให้เคลียร์กับน้องผีให้ได้นะคะ อย่าแกล้งกันเลย กลัวแล้ว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เอาข้าว เอาน้ำให้น้องเขากินหน่อยดีไหม มากินให้เขาเห็น เขาก็หิวนะซิ  o21

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ janehsih

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารชวินสุดละตอนนี้
ถ้าเป็นเราคงช็อคตาย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ๊ยยยยยยยยยยย ขนลุกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :hao5: :hao5: :hao5:
สงสารชวินอ่ะ ขวัญหายหมดแล้ว แงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
โอ้ยยยยยยยยย สงสารชวิน หลอนไปหมดแล้ว ฮือออออออออ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ยาวสะใจมากๆค่ะ​ หลอนสุดๆเลยด้วย  และที่ไม่เข้าใจเลยจริงๆคือ​ ทำไมต้องได้อ่ารเรื่องนี้ตอน​ ตีสามตีสี่ทุกครั้ง :sad3: :sad3: o21  :ling3: o21 :ling3: คนเดียวท่วมกลางความมืดมิด​ กลัวจริงๆนะบอกเลย

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
สงสารชวิน อยู่นอกห้องคนเดียว กุ๊กๆกู๋ต้องการเคลียร์กับชวินแน่เลย ตอนนี้หลอนมาก
ต้องรออีกเจ็ดวันถึงจะรู้ว่าชวินยังมีชีวิตรอดหรือเปล่า

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หลอนมาก ชวินเธอไปทำอะไรมาถึงได้มีเด็กคอยเล่นงานเนี่ย :sad5: :sad3:

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :hao7:  อย่าตัดค้างกันอย่างนี้นะค้าาาาาาาาาา   อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   หลอนแต่ลุ้นมากกกกกกก

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
สงสารชวิน ไปทำอะไรไว้นี่  :ling3: :ling3:
อ่านยังไม่ครบดี กลัว

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :sad4: สงสารชวินนนนนน

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
โอ้ยยยยหลอนนนนนน ทำไมอยู่หลายคนหลอนกว่าอยู่คนเดียว พี่ชวินจิตอ่อนสุดเลยโดนหนักกว่าเพื่อน ตอนพี่สิงหาเปิดประตูแล้วหลบหลังประตูคือตราบาปเลย5555 โดนเพื่อนแซะไป อ่านแล้วคือหลอนไปขำไป เพื่อนกลุ่มนี้ดีจังเค้าไม่ทิ้งกันเลย อยากอ่านต่อแล้วทิ้งให้ค้างอีกแล้ว :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอยยย ไม่ไหวแล้ว ดีใจค่ะที่เห็นตั้งแต่กลางคืน แต่เลือกอ่านตอนเช้า
แต่อ่านตอนเช้า ใช่ว่าจะไหวนะคะ หนูดุนะ พี่จะไม่ไหว

สงสารเต้มากเลยค่ะ ทำไมถึงมาหาเต้นะ เกี่ยวกันยังไง
รู้จักหรอ หรือว่าเต้เป็นคนเฮฮา จิตอ่อนหรอ หรือยังไง
ยิ่งตอนนี้โดนล็อคอยู่ด้วยกันไปอีก ถ้าเต้ไม่สลบ
คือหลังจากนี้ก็ปล่อยเต้ไปเหอะ

ยิ่งคนมาอยู่ด้วยกันเยอะ เหมือนจะมีคนมาเล่นด้วยแบบนี้หรอ

ทำบุญก็แล้ว อะไรก็แล้ว หรือไม่ได้ระบุตัว หรือเค้าไม่เข้าใจ

ตลกปิงมาก เอ็นดูคนมองไม่เห็น แต่เล่าเป็นตุเป็นตะ
เอ็นดูความอยากมองค้อนของสิงหาและเต้ 5555
แต่เด็ดสุด คือ หลบหลังประตู คุณสิงหาทำดีค่ะ
และดีที่เค้าไม่อยู่หลังประตูด้วยกัน

พ่อถามแล้วนะ ชัดเจนดีมากค่ะ และปิงก็เปิดใจ
ครอบครัวปิงน่ารักนะ พ่อแม่เอ็นดูแก้มยุ้ยมากเลย
ก็ห่วงมากเป็นธรรมดาเนาะ คนน่ารักและก็เด๋อมากอยู่


อยากรู้แล้วค่ะ เป็นใคร มาจากไหน ต้องการอะไร

ออฟไลน์ JaikOrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 o22 ฮือออ คือขนลุกไปสามสี่รอบเลยอ่ะ สงสารชวิน เค้าจะช็อกขนาดไหนเนี่ย ... อะไรเป็นมูลเหตุให้เด็กผีตั้งใจแกล้งชวิน หรือเพราะชวินเป็นเจ้าของตึก แต่ถ้าเป็นยังงั้นทำไมไม่ไปห้องชวินเลย หรือเด็กผีเหงาเลยชอบการมาเป็นหมูคณะ จะได้แกล้งหลอกให้สนุก .. ฮืออ แต่มันไม่สนุกเลยอ่ะตั้งแต่ยืนซ้อนหลัง จนตอนล่าสุดงับประตูไว้แบบนี้

อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ ลุ้นมากกกก  :ling3:

ออฟไลน์ Tonson777

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: :katai1: :katai1: ม่ายยยยยยยยยยยยยสงสารชวินนะนี่โดนหนักเลย  แต่ค้างมากกกกกกก

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ใครอ่านไป มือกุมพระไป เหมือนเราบ้างงงง  :ling3:  :ling3:  :ling3:  คุณพระ!!  มันหลอนมากกกก นี่ขนาดตัดใจไม่อ่านตั้งแต่เมื่อคืน เลี่ยงมาอ่านตอนเที่ยงๆแล้วนะ  คืนนี้ฉันจะกล้ามองกระจกไหมอ่าาา แม่~~~

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ดีที่ไม่ได้อ่านตอนกลางคืน :pig4:

ออฟไลน์ khaeg_smo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องผีตามชวินคนเดียวจริงหรอ... กลัวแทน

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
อ่านตอนตี 3 โคตรหลอนเลยค่ะ

แล้วปลายเตียงนี่คือกระจกไปอีก หลอนคูณสอง



ปล. ขออนุญาตแนะนำ

แม้ห้องนอนจะอยู่ติดกับห้องครัวและโต๊ะอาหาร แต่การออกแบบห้องทำให้มีทางเดินลึกเข้ามาสองสามก้าวก่อนจะพบประตูห้องนอนอยู่ขวามือ สิงหาชะโงกหน้าออกจากห้อง เหลียวมองออกไปทางซ้าย ไม่มีอะไรผิดปกติ เขาค่อยๆ ก้าวออกมาจนพ้นทางเดิน หันกลับไปมองกลุ่มคนข้างหลังที่ยังแย่งกันเกาะขอบประตู เรื่องที่เพิ่งก่อทำให้ภาพพจน์เสียหาย ถึงเวลาต้องแก้ตัว เขาก้าวออกไปหน้าเคาน์เตอร์บาร์ที่คั่นระหว่างครัวและโต๊ะอาหาร มองซ้ายขวาให้แน่ใจว่าไม่มีอะไร ไฟกลางห้องนั่งเล่นไม่ได้เปิดไว้ มีเพียงไฟดวงเล็กตรงทางเดินหน้าประตูหน้าที่ให้แสงสว่าง

ภาพลักษณ์ ภาพที่เกิดขึ้นในใจของคนที่เห็น มักเกิดจากลักษณะ การกระทำ หรือพฤติกรรมของบุคคล องค์กร
ภาพพจน์ คำพูดที่ทำให้เห็นภาพ มักใช้ในความหมายว่าถ้อยคำหรือสำนวนโวหารในวรรณคดี



ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
 :katai1: :katai1: ชวินโดนขังเดี่ยว หลอนคนเดียวเลย

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/
ขอบคุณคุณ LalaBam ที่ช่วยแนะนำนะคะ

ถ้าใครเจอตรงไหนพิมพ์ผิดหรือใช้คำไม่ถูกต้องแจ้งได้เรื่อยๆ นะคะ บางคำผิดหลายจุดอาจกลับไปแก้ที่ต้นฉบับอย่างเดียวหรือตอนล่าสุดอย่างเดียว อย่างคำที่แจ้งมามีใช้ผิด 3 จุด ขอแก้แค่ตอนล่าสุดนี้นะคะ ที่เหลือจะแก้ที่ต้นฉบับแทนค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
 :L2:  :pig4: :L2:


ป.ล. สำหรับตอนล่าสุดนี้น้านนนนนนน อยากบอกทุกคนมานานแล้วว่า...ใช่ค่ะ คุณห่วงผิดคนแล้ว ชวิ๊นนนนนน หนีปายยยย  :katai5:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-06-2019 14:14:09 โดย G_wa »

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
นี่นิยายรักหรือเรื่องลี้ลับบบ น่ากลัววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด