★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%  (อ่าน 165433 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ก็ยังคิดว่าเป็นคนอยู่นะ หรือว่าผีมีจริง  o22

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
ผีมาได้อย่างไงมากับอะไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2019 20:48:10 โดย padthaiyen »

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :mew1:  ปรับอารมณ์ตามไม่ทันเลย  เดี๋ยวหลอน  เดี๋ยวหวาน....  ขอหวานนานๆๆๆๆๆๆๆๆหน่อยนะค้าาาาาาาาา

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่ได้มาเป็นตัวเป็นตนแต่น่ากลัวมากจ้าจังหวะหนังผีสุด ๆ ปิงต้องไม่เห็นคลิปนี้ :ling3: แต่ฉากหวาน ๆ มาแล้วน่ารักมากกกก :-[

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
คุณผีเปิดตู้ทำไมคะ จะมาหลอกหรือจะมาดูแล เหมือนคนมากกว่าผีอล้งวนะเราน่ะ อยากรู้เรื่องผี มากเท่าๆกับความอ้อยของคุณสิงเลยค่ะ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โอยยยย หวานแบบหลอนๆ ระแวงไปด้วยว่าน้องขึ้นไปห้องคนพี่จะเจออะไรไหม

คราวนี้มีคนไม่กล้าขึ้นไปด้วยอีกแต่ๆ5555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอยยยย น่ารัก ไม่ต้องหวานมาก ง้องแง้งกันบ้าง
แต่น่าเอ็นดูมาก ปิงจริงใจดี ซื่อตรงด้วย แต่เด๋อมาก
ทำเนียนไม่อยากให้จับมือ แต่ไม่ยอมสะบัดแรงนะคนเรา
ชอบความรู้ทันของปิง และคุณสิงชอบที่ปิงเป็น

คุณสิง จะมาเนียนอยากให้ปิงเป็นทุกอย่างไม่ได้นะ
อยากง้อ อยากถึงตัวหรอ แหมมม นิดหน่อยก็เอา
แต่ไม่เนียนเท่า ขอคบแบบจังหวะต่อเนื่อง นึกว่าปิงจะอินตามหรอ 5555

สรุปในห้อง มีจริงใช่ไหมคะ เราหลอนมาก บอกเลย
แล้วตอนนี้สิงหาอยู่ได้ยังไงล่ะ แถมพาเพื่อนหลอนยกทีมจ้า
ถ้ามีจริง เค้าเป็นใครกันคะ ทำไมถึงอยู่ยง
ทำบุญ พรมน้ำมนต์อะไรแล้ว ก็ยังไม่ไปไหน
หรือต้องทำแบบระบุตัวตน

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เรื่องเนียนคงไม่ยากสำหรับดาราดังแน่นอน แต่น้องปิงก็รู้ทันตลอด คู่นี้ผลัดกันรับมุก ตบมุกกันสนุกดีอ่ะ  :katai2-1:

แต่ห้องผีสิงนี่ น่ากลัวชะมัด คุณสิงยังจะกล้าอยู่ต่ออีกนะ บรื้อออออ

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
หวานกันแล้ว
ชอบหนังที่สิงหาเล่น คิดภาพออกเลยว่าถ้าเป็นหนังจะภาพสวยแน่ๆเลย

รอคบกัน
ตอนนี้สิงค่อยๆขยับสถานะ ใกล้ไปอีกนิด
ปิงน่ารักเช่นเคย

Sent from my HMA-L29 using Tapatalk


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ระวังตัวกันหน่อยยยยยยยยยยย
สิ่งลี้ลับคืออะไรกันเนี่ย  :ling2:

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 631
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
น่ารักมากค่ะ
ยิ้มแก้มแตก

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ยังดีที่ตอนท้ายหวาน ไม่อย่างนั้นคงหลอนทั้งตอนแน่นอน น่ากลัวไปอีก

ออฟไลน์ iNklaNd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
เนี่ย... อิผีตนนี้มันต้องติดมากับเฟอร์นิเจอร์แน่ๆ มันต้องสิงอยู่ในตู้นั้นเนี่ยล่ะ จะเข้าจะออกตู้ถึงเปิด  :serius2:
แต่ฉากเก้าอี้หมุนขวับมาทางกล้องนี่น่ากลัวมาก
หลอนผีมากกว่าความหวานของสิงอีก
ผีชนะมากตอนนี้
ฮืออออ เมื่อไหร่จะหาทางกำจัดผีออกไปได้
รู้สึกว่าชวินหลอกขายห้องผีสิงให้เพื่อนอ่ะ!!!!  :angry2:
เจ้าของโครงการต้องรับ ผิด ชอบ! 555

ออฟไลน์ JaikOrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ต้นตอนคือผีตู้ .. ท้ายตอนคือผีทะเล .. พี่สิงเองงัยจะใครล่ะ :hao7: น่ารักจังค่ะ  20! อีกนิดเดียวนะพี่สิง พยายามเข้าค่ะ! 

เอ็นดูน้องปิงผู้อินกับคีตะ//นี่ก็อินค่ะ :sad4:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ผี เคยส่งรูปสิงหาให้ปิง แสดงว่า ผีก็สนับสนุนให้คบกัน อิอิ หวานมากมั๊ก

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ถ้าน้องปิงดูคลิปวงจรปิดร้องไห้แน่ๆ น่ากลัวมาก

ออฟไลน์ gungchan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
G_wa บอกว่า ตอนนี้ หวานๆ น่ารักมุ้งมิ้ง ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ก็อ่านด้วยความระแวง เพราะยังหลอนๆ จากตอนก่อนนี้
กลายเป็นคู่สิงปิงหวานกลบหลอนไปเลย อิอิ
 :L2:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
จากหลอน  o22
มาหวาน :o8:
+1 เป็นกำลังใจให้นะครับ  :กอด1:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อ่านตอนเที่ยงคืน เปิดไฟนอนเลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/
13. โดนอีกแล้ว



ผ่านครึ่งเดือนหลังจากหนังเรื่องรักครั้งนี้เหนือกาลเวลาเข้าฉาย รายได้เป็นไปตามที่นักวิจารณ์ประเมินไว้ กระแสหนังรักในบ้านเรายังคงขายได้เรื่อยๆ ถ้านักแสดงระดับแม่เหล็กมาช่วยดึง แต่ที่เหนือกว่าการคาดคิดคือการแสดงของสิงหาที่กลับมารับเล่นเรื่องนี้อย่างกะทันหัน ทางผู้กำกับเคยให้สัมภาษณ์ว่าเดิมทีบทนี้จะใช้เพียงแสตนอินเท่านั้นเพราะหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ สิงหาคือคีตะในจินตนาการของผู้เขียนบทเพราะงั้นเขาจึงเหมาะกับบทนี้มากที่สุด และเขาก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง แฟนคลับของกัปตันซึ่งแสดงเป็นปกป้องพระเอกของเรื่องไม่ค่อยพอใจที่สิงหามาแย่งซีน แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นเพราะไม่ว่าอย่างไรแอร์ไทม์ในเรื่องของสิงหาก็มีแค่ยี่สิบกว่านาที แถมฉากที่เห็นหน้าทั้งหมดมีราวๆ ห้านาทีเท่านั้น ที่สามารถถึงความสนใจของผู้ชมมาอยู่ที่เขาได้ต้องชมเชยฝีมือการแสดงที่ถ่ายทอดออกมาได้ลึกซึ้งทุกฉาก การเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นการโอบไหล่ก่อนเป็นแฟนนางเอกตอนเดินเบียดกับฝูงชนก็ใช้เพียงแค่ปลายนิ้ว แสดงให้เห็นถึงความให้เกียรติคนที่แอบรักปนความประหม่า หรือการจับมือประสานนิ้วแนบแน่นตอนเป็นแฟนกันแล้วก็แสดงให้เห็นถึงความจริงใจและทะนุถนอมรุ้งทออย่างดี รายละเอียดเหล่านี้ผู้กำกับบอกว่าสิงหาเป็นคนเพิ่มเข้ามาเอง นับว่าเป็นการกลับคืนวงการอย่างสมศักดิ์ศรีของสิงหาจริงๆ



“ผอมลงเยอะจังวะ พี่ก็ไม่คิดว่าจะลงเยอะแบบนี้ กี่โลแล้ว” ธงชัยผู้กำกับหนังนัดสิงหาออกมาหาข้างนอก แต่สิงหาขอเข้าไปหาที่บ้านแทน เมื่อสิงหามาถึงเขาถึงกับตกใจกับรูปร่างสิงหาในตอนนี้

“เกือบสิบแล้วพี่ กำลังโทรมผมเลยไม่อยากนัดกับพี่ข้างนอกไง”

“เออๆ ดีแล้ว พี่ว่าจะชวนไปออกรายการด้วยกันหน่อย เห็นสภาพแล้ว อย่าเลยว่ะ” ธงชัยสำรวจหุ่นดาราหนุ่มแล้วบ่นด้วยความเสียดาย กระแสหนังได้รับการตอบรับดีกว่าที่คิด หลังจากช่วงแรกที่มีการเดินสายโปรโมตเหล่านักแสดงนำในเรื่องก็ว่างเว้นการออกรายการ แต่ตอนนี้รายได้หนังกำลังขยับไปใกล้ร้อยล้าน รายการต่างๆ จึงเริ่มติดต่อมาอีกครั้ง

“ผมบอกแล้วว่าออกงานไม่ไหวจริงๆ เดี๋ยวทำภาพคีตะในฝันคนดูพังหมด”

“เล่นบทอะไรวะ ทำไมต้องผอมขนาดนี้ คนป่วยเหรอ”

“ประมาณนั้น ขออุบไว้ก่อน ถ้าหนังเข้าพี่ต้องไปดูนะ รับรองพี่ต้องชอบ”

“เออ ได้ข่าวอยู่ ไอ้รบประคบประหงมเหมือนลูกเลยนี่ กี่เดือนจะถ่ายเสร็จ พี่มีหนังเรื่องใหม่อยู่เรื่องอยากให้เอ็งมาเล่น” นักแสดงที่ผันตัวไปทำเบื้องหลังนั้นมีอยู่มาก แต่น้อยคนจะรักษามาตรฐานได้ดีจนสู้คนรุ่นก่อนได้ นักรบเป็นหนึ่งในนั้น ผู้กำกับหลายคนไม่ได้มองเขาเป็นนักแสดงแล้ว แต่มองในฐานะผู้กำกับที่มีฝีมือคนหนึ่ง จุดเด่นของนักรบคือความกล้าในการเลือกบทและความละเอียดของงาน

“ถ่ายสองเดือนครับ แต่ถ่ายจบต้องใช้เวลาทำน้ำหนักเพิ่มอีกนะพี่”

“ไม่เกินสามเดือนทันเปล่าวะ พี่จะถ่ายหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติ หุ่นไม่ต้องฟิตมากก็ได้ เล่นเป็นอาจารย์ในมหาฯลัย”

“ได้พี่ ผมอยากเล่น ไม่ต้องแคสใช่ไหมครับ”

“เออไม่ต้อง แต่ตอนปลายปีพี่จะเตรียมแคสเรื่องใหม่นะ เอาบทไปลองอ่านก่อน ได้ข่าวว่าไม่รับละครแล้วเหรอวะ” ธงชัยยื่นบทหนังที่เตรียมไว้ให้ สิงหาเปิดดูคร่าวๆ เมื่อก่อนเขาเคยเล่นทั้งละครและหนังในวันสำคัญต่างๆ มาหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เนื้อหาไม่ซับซ้อน แต่บทพูดจะมีความสำคัญมากกว่า

“ครับ ละครมันใช้เวลาเยอะไป อายุเยอะแล้ววิ่งหลายงานไม่ไหวแล้ว”

“ไม่ต้องตอแหลกูเลย มึงเบื่อออกทีวีล่ะสิ” ธงชัยบ่นอย่างคนรู้ทัน

“ประมาณนั้นพี่ หนังปีละเรื่องสองเรื่องก็พอ แต่ถ้าพี่ทำละครแล้วอยากให้ผมไปออกสักคิวก็ได้นะครับ เรียกใช้ได้เสมอ”

“ไปบอกอาตู่มึงโน่นไป เห็นบ่นเสียดายที่มึงไม่รับงานละครอยู่ ไม่รับสักเรื่องทิ้งทวนวะ”

“อาโทรมาคุยเหมือนกัน ผมเลยขอเป็นปีหน้าดีกว่า ไปเล่นตอนนี้กระแสคงไม่ดีเท่าไร รอให้มีหนังออกมาสักสองสามเรื่องก่อน อาก็บ่นว่าผมคิดมากแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันจริง อาเลยขอล็อคคิวปีหน้าไว้แทน อาจจะกลางๆ ปี” สิงหานึกถึงผู้มีพระคุณในวงการของเขาอีกคน ถึงจะไม่อยากรับงานละครแต่งานของอาตู่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้จริงๆ โชคดีที่อาตู่เข้าใจและไม่ได้บังคับ บทละครที่จะให้เล่นน่าจะถูกเลือกมาอย่างดีแล้วว่าเหมาะสม สิงหาเลยรับปากอย่างสบายใจ

“เออ ดีแล้ว ตอนนี้ละครมันมีหลายช่องหลายแนว ซีรีย์สั้นๆ ก็มีเยอะ อย่าทิ้งช่วงนานนัก เข้าใจไหม”

“ครับ”

“แล้วก็เรื่องข่าวเก่าๆ ที่ก่อนนี้โดนขุดขึ้นมาน่ะ รู้ไหมว่าฝีมือใคร”

“เรื่องเดิมๆ ก็เดาได้ไม่ยาก พี่ได้ข่าวอะไรมาเหรอ” ก่อนจะมาที่บ้านธงชัย สิงหาก็เดาไว้อยู่แล้วว่าน่าจะมีเรื่องอะไรที่จำเป็นต้องคุยต่อหน้า ไม่อย่างนั้นแค่เรื่องบทหนังสั้นสามารถให้ฝ้ายมารับไปหรือเรียกเมสเซนเจอร์ไปส่งก็ได้

“มีผู้กำกับละครหลายคนเขาได้คำเตือนลับๆ จากผู้ใหญ่ช่องหนึ่งน่ะนะว่าไม่ให้เรียกเอ็งไปร่วมงาน ไม่ให้เสนอข่าวด้วย”

“เรื่องนี้ผมไม่รู้เลยพี่ แต่พอเดาได้ว่าฝีมือใคร แล้วอย่างนี้ผมจะไปเล่นละครให้อาตู่ได้เหรอ หนังสั้นพี่อีก”

“สบายมาก มือมันไม่ได้ยืดยาวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ไม่งั้นจะมีงานละครติดต่อไปหาได้ไงจริงไหม ไอ้ที่เอาอยู่ก็มีแค่ช่องตัวเองช่องเดียวนั่นแหละ ผู้ใหญ่ช่องอื่นเขาก็รับปากไปงั้นๆ ให้เป็นหนี้บุญคุณกันไว้ สร้างหนี้กับคนอื่นไว้เยอะถึงเวลาไม่รู้จะใช้คืนเขาได้หมดหรือเปล่า อย่างนี้ล่ะคนเรา พอมีอำนาจก็ใช้จนชิน เอ็งก็อยู่เฉยๆ ไว้ ไม่ต้องไปตอบโต้อะไรล่ะ ผู้ใหญ่บางคนเขาคุมเชิงกันอยู่ ตั้งใจทำงานดีๆ ก็พอ ถ้ามีคุณค่าพออยู่ตรงไหนก็มีคนเห็น เข้าใจไหม”

“เข้าใจครับ ขอบคุณพี่จริงๆ นะที่ดีกับผมเสมอเลย” สิงหาอยู่คุยกับธงชัยอีกพักใหญ่ก็ขอตัวกลับด้วยความสุขใจ ปัญหาที่เขาไม่สนใจแต่กลับมีคนมากมายเป็นห่วงและใส่ใจเสมอ ต้องขอบคุณคนเหล่านั้นจริงๆ




เคาน์เตอร์กลางล็อบบี้คืนนี้ก็เงียบสงบเหมือนเคย น่านนทีเพิ่งงอนแม่ก่อนออกจากบ้านเพราะแม่หนีไปดูหนังกับพ่อสองคน ทั้งที่เขาบอกไว้แล้วว่าให้รอไปดูด้วยกันอีกรอบแต่แม่ก็อ้างว่าหนังรักต้องไปดูกับแฟนสองต่อสอง ก้างตัวอ้วนอย่างเขาไม่เกี่ยว ตอนแรกก็ไม่งอนหรอก มางอนตรงตัวอ้วนนี่แหละ กางเกงก็หดได้ยังไงไม่รู้ กลับถึงบ้านทีไรเอวเป็นรอยกางเกงทุกที

“ทำอะไรอยู่ครับ แอบดูคลิปผมเหรอ” สิงหาเดินเงียบๆ มาก้มมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่น่านนทีเปิดค้างไว้ เขาพบว่าเป็นแฟนเพจตัวเองที่เพิ่งอัพคลิปขอบคุณแฟนคลับที่ไปดูหนังของเขา

“อุ่ย ตกใจหมดเลยครับ มาเงียบๆ ถืออะไรมาเต็มเลย หอมจัง” ตาโตจ้องมองถุงในมือสิงหาที่ส่งกลิ่นหอมออกมา ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นกลิ่นหมูปิ้ง

“จมูกไวตลอด ผมแวะไปหาเพื่อนมาเลยซื้อมาฝาก หมูสะเต๊ะของว่างมื้อดึกครับ” สิงหายกถุงของฝากวางบนเคาน์เตอร์ ในถุงมีหมูสะเต๊ะชุดเล็กยี่สิบไม้หนึ่งกล่อง น้ำจิ้ม อาจาด ขนมปังปิ้งไว้กินคู่กัน แถมด้วยเฉาก๊วยนมสดแยกน้ำแข็งเรียบร้อยอีกหนึ่งแก้ว ทั้งหมดซื้อมาจากร้านอาหารของเฌอปรางแฟนนักรบ

“โหย คุณสิงอะ ชอบซื้อของมาให้กินจนปิงน้ำหนักขึ้นแล้วเนี่ย วันนี้แม่ก็เรียกปิงว่าอ้วน” น่านนทีบ่น ลองเปิดกล่องดูก็เห็นหมูสะเต๊ะสีเหลืองวางเรียงจนเต็มกล่องหอม น้ำจิ้ม อาจาดอยู่ในถ้วยเล็กๆ มีฝาปิดพร้อมเปิดให้จิ้มกินตลอดเวลา ขนมปังแม้จะไม่ร้อนแล้วแต่ลองเอานิ้วแตะๆ ก็ยังคงความกรอบอยู่ นิ้วเล็กๆ ที่ทำเป็นเขี่ยนั่นแตะนี่ เปิดฝาน้ำจิ้มชิมรส ตาโตวาววับอย่างถูกใจแต่ปากยังขมุบขมิบพูดเรื่องโดนแม่บ่นไม่หยุด...มือก็ไม่หยุดเช่นกัน หมูไม้แรกเข้าปากไปแล้ว

“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ น้ำหนักขึ้นนิดหน่อยไม่น่าเกลียดหรอก ผมว่ากำลังพอดีนะ”

“ปิงก็บ่นไปงั้นล่ะ ยังไงก็กินอยู่ดี ขอบคุณนะครับ วันนี้ออกไปทั้งวันเลยเหรอ” น่านนทีสังเกตใบหน้าคนที่นั่งลงข้างๆ แก้มมีเลือดฝาดมากกว่าปกติแบบนี้ สงสัยไปดื่มมาแน่เลย

“ไปคุยงานกับผู้ใหญ่แล้วก็แวะไปดูบ้านดูร้าน ว่าจะกลับตั้งแต่เย็นแล้วแต่เพื่อนโทรตามไปคุยเรื่องวันเปิดกล้องอีก ยาวเลย”

“เมาด้วยใช่ไหมเนี่ย หน้าแดงเลย”

“นิดหน่อยครับ แต่ไม่ได้เมาแล้วขับนะ ให้ลูกน้องเพื่อนขับมาส่งข้างหน้า” ได้คุยกับพี่ธงชัยแล้วก็ไปคุยกับนักรบต่อทำให้อารมณ์ดีกว่าปกติ นักรบก็เตือนเรื่องมีคนแอบขัดขาเขาเหมือนกันแต่ผู้กำกับหน้าใหม่ที่บารมียังไม่มากก็ทำได้แค่เตือนๆ ช่วยอะไรเขาไม่ได้เท่าพี่ธงชัย แต่แค่นี้ก็ต้องขอบใจมากแล้ว คุยไปดื่มไปกว่าจะแยกย้ายนักรบก็ต้องให้พนักงานในร้านตัวเองขับรถเขามาส่งถึงที่ เขาเลยให้ค่าแท็กซี่ตอบแทนอีกฝ่ายไป

“ดีแล้วครับ เออใช่ ทำไมคลิปในแฟนเพจไม่เห็นผอมแบบนี้ล่ะ ถ่ายไว้ล่วงหน้าเหรอ” น่านนทีวางไม้เปล่าๆ ที่เคยมีหมูอยู่ไว้ในถุง อยู่ดีๆ หมูเข้าปากเขาไปได้ยังไงสามไม้ ไม่ทันตั้งตัวเลย เขารีบปิดกล่องยับยั้งชั่งใจตัวเอง หมูคำสุดท้ายที่เหลือในปากก็พยายามเคี้ยวให้ช้าลงนิดหน่อย หยิบขนมปังล้างคาวในปากสักคำ

“ฝีมือพี่ฝ้ายของปิงนั่นล่ะ สั่งให้ผมอัดคลิปเก็บไว้ก่อนเริ่มลดน้ำหนักเยอะเลย กลัวหายไปนานเดี๋ยวแฟนคลับจะหาย ฝ้ายนี่สุดยอดจริงๆ ทำงานแบบครอบคลุมทุกเรื่องเลยจริงๆ” สิงหาหยิบทิชชู่ส่งให้เมื่อเห็นน่านนทีตั้งใจจะหยุดกิน

“ดีแล้วครับ ถ้าลงคลิปตอนนี้แฟนคลับช็อคแน่นอน ผอมจนเหมือนคนป่วยเลย” เขาแกล้งพูดให้เกินจริง สิงหาผอมลงแต่ก็ไม่ได้ดูป่วย

“นั่นล่ะที่ผู้กำกับต้องการ วันนี้ผมไปเจอมาก็ชมใหญ่เลยว่าตรงกับบทมาก ลงทุนขนาดนี้ถ้ายังไม่ตรงมันคงต้องเล่นเองลดเองแล้วล่ะ”

“แต่สุขภาพโอเคอยู่ใช่ไหม กล้ามหายไปหมดเลย”

“รู้ด้วยว่าผมมีกล้าม”

“ไม่ได้รู้ ก็...ปิงแค่หมายถึงก่อนนี้หุ่นดีไง ก็น่าจะมีกล้าม” น่านนทีเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดชมออกไป ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ใครๆ ก็เห็นว่าสิงหาหุ่นดี แต่พอโดนจี้ถามมันเหมือนเขาไปแอบมองหุ่นอีกฝ่าย จริงๆ ก็แอบมองนั่นแหละ ชอบเดินตัวเปียกเหงื่อจากฟิตเนสมาหาเขาบ่อยๆ ทำไมล่ะ

“มีซิคแพ็คด้วยน้า มีวีเชฟด้วย เอาไว้ฟิตหุ่นกลับมาเมื่อไรจะให้ดูนะครับ”

“ปิงไม่ได้อยากเห็นสักหน่อย”

“จริงอะ” สิงหาชะโงกหน้าไปมองคนที่หันหน้าหนีแต่น่านนทีเอามือมาดันหน้าเขาออกไม่ให้เข้าไปใกล้

“คุณสิงงงง เดี๋ยวนี้ชอบแกล้งปิงนะ เดี๋ยวหักคะแนนเลย”

“ปิงก็ขู่เก่งเหมือนกันนั่นล่ะ แล้วเมื่อไรจะประกาศผลสักทีล่ะครับ”

“ไหนคุณสิงว่าจะไม่เร่งปิงไง”

“ไม่ได้อยากเร่ง แค่อยากมีปิงเป็นแฟนแล้ว...ยิ่งนานผมยิ่งห้ามอาการตัวเองไม่ค่อยอยู่นะ บอกไว้ก่อน” เขาพูดตามตรงอย่างรู้ตัวเองดี จากแค่สนใจ ชอบ เมื่อใกล้ชิดมากขึ้น ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น เขาก็ยิ่งมือไม้ปั่นป่วน มีบางครั้งที่อยากทำอย่างใจคิดแต่ก็รู้ว่ายังไม่ถึงเวลา

“อา...อาการอะไร”

“ปิงรู้ตัวไหมว่าเป็นคนที่คุยด้วยแล้วน่ารักมาก....บางทีผมก็อยากกอด อยากหอมแก้ม อยากรัดแรงๆ สักที ถ้าผมเผลอทำลงไป...ปิงจะโกรธไหม”

“โกรธ....ยังไม่เป็นแฟน ห้ามทำ” น่านนทีสั่งเสียงแข็ง ถ้าทำเขาจะโกรธจริงๆ แต่เสียงห้ามของเขาฟังแล้วไม่ค่อยดุเท่าไรเลย หวังว่าอีกคนจะยอมเชื่อ

“ก็นี่ไงผมเลยอยากเป็นแฟนเร็วๆ กลัวปิงโกรธ”

“ถึงเป็นแฟนก็ห้ามแกล้งแรงๆ” เขามองคนตาเมาที่ยังพยายามหาข้ออ้างในการแกล้งเขาให้ได้ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่เก้าอี้เขาเลื่อนมาจนชิดมุม แถมคนขี้แกล้งยังตามมานั่งเบียดปิดทางออก

“นิดเดียวก็ไม่ได้เหรอ ไหนปิงบอกเคยแกล้งกอดแม่แรงๆ นี่”

“ก็นั่นปิงแกล้งคนอื่นได้ คนอื่นห้ามแกล้งปิง”

“แล้วถ้าผมอยากทำแรงๆ ล่ะ หอมแก้มแรงๆ ได้ไหม เอาให้แก้มบี้เลย”

“....คุณสิงอะ ตาตัวเองตอนนี้เจ้าชู้มากเลยรู้ตัวไหมครับ เมาชัวร์เลยเนี่ย”

“พูดความจริงไม่เรียกว่าเจ้าชู้นะ ผมพูดแค่กับปิงคนเดียวด้วย”

“ไม่เอาไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ขึ้นห้องไปนอนได้แล้วครับ ปิงว่าคุณสิงเมาแน่ๆ เลย ไปเลยปิงจะตั้งใจทำงานแล้ว”

“งั้นเดี๋ยวผมวีดีโอคอลหาก่อนนอนนะ”

“ครับ ขึ้นไปเลย เร็วๆ”

“มัดจำได้ไหม”

“คุณสิงงงงง อีกนิดปิงจะโกรธแล้วนะ” น่านนทีส่งเสียงดุ แต่แก้มแดงๆ ไม่ได้ทำให้ดูดุขึ้นมาเลย

“โอเคๆ ไปแล้วครับ รอรับสายผมด้วยล่ะ” ก่อนเดินไปสิงหาไม่ลืมลูบหัวให้กำลังใจพนักงานคนขยันเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเลื่อนมือลงลูบแก้มนิ่มเบาๆ แต่หัวใจเจ้าของแก้มเต้นไม่เบาเลยตอนนี้




ถึงปากจะบอกว่าไม่เมาแต่สภาพร่างกายก็ไม่ไหวจริงๆ อาจเป็นเพราะน้ำหนักลดลงไปมากแถมท้องก็ว่างทำให้เมามากกว่าปกติ สิงหาพาตัวเองมาถึงห้องได้ก็เดินมาทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาหน้าทีวี คิดเพียงว่าจะพักสายตาสักครู่ค่อยไปอาบน้ำนอน แต่กลับหลับลึกลงไปโดยไม่รู้ตัว

ตุบ

เสียงที่ดังขึ้นกะทันหันปลุกสิงหาตื่นขึ้นมา เขานอนลืมตามองเพดานห้องรับแขกอย่างมึนงงปนตกใจ เมื่อครู่อยู่ดีๆ เขาก็รู้สึกเหมือนกำลังตกจากเหววูบหนึ่งเลยตื่นขึ้นมา เหลียวมองรอบกายเห็นขาข้างหนึ่งขอตัวเองหล่นจากโซฟาลงมาบนพื้น นี่เองที่เป็นสาเหตุอาการวูบและเสียงดังที่ทำให้ตื่น สิงหาหลับตาลงคิดจะพักสายตาอีกสักครู่ค่อยลุกเข้าห้องนอน

วูบบบ


สิงหาสะดุ้งจนต้องลุกขึ้นมานั่ง มองไปยังปลายเท้าตัวเองข้างหนึ่งที่ตอนนี้อยู่เลยเบาะโซฟาไปแล้ว ตอนที่เคลิ้มจะหลับอีกรอบเข้ารู้สึกเหมือนมีคนดึงขา....ใช่! มีคนดึงขาเขาจนเท้าเลยเบาะออกไป สิงหามองเท้าตัวเอง พยายามหาสิ่งที่ไม่ปกติ เท้าเขายังรู้สึกได้ กระดิกได้ ไม่มีอาการชา เขาไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่คือฝันหรือเกิดขึ้นจริงๆ


จนกระทั่ง...สัมผัสเย็นๆ เกิดขึ้นรอบข้อเท้าอย่างกะทันหัน


“เฮ้ย!!” สิงหาสะบัดข้อเท้าเหมือนต้องการให้บางสิ่งหลุดออกไปทั้งที่มองไม่เห็น ลุกขึ้นยืนได้ก็วิ่งกลับเข้าห้องนอน ล็อคประตู เปิดไฟ ก้าวถอยหลังสองสามก้าวสายตาจ้องมองประตูห้องนอนที่ปิดสนิทอย่างระแวดระวัง พยายามเงี่ยหูฟังเสียง...อะไรก็ตามที่อยู่อีกฝั่งของประตู

โชคดีที่คืนนี้ไม่มีเสียงอะไรให้ได้ยิน แต่สิงหาก็ไม่กล้าออกจากห้องนอนตัวเองแล้ว รวมถึงไม่กล้าหลับตาไปทั้งคืน ความหวาดผวาในคืนนี้ทำให้เขาลืมคนขยันที่นั่งรอสายอยู่ชั้นล่าง เมื่อนึกขึ้นได้ก็ไม่สามารถโทรไปหาได้แล้ว...โทรศัพท์อยู่บนโซฟา










ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/
สี่สหายนั่งล้อมวงในห้องเดิมอีกครั้ง ช่วงนี้พวกเขานัดพบกันบ่อยจนเริ่มเบื่อ ปัญหาเรื่องร้านที่ร่วมหุ้นกันนั้นไม่เท่าไร แต่ปัญหาเรื่องสิ่งลี้ลับในห้องสิงหานี่สิ...อยากรู้ อยากช่วย แต่ไม่อยากเจอยังไงบอกไม่ถูก ตู้โชว์ในห้องรับแขกของชวินเคยมีของสะสมวางไว้เต็มไปหมด ตอนนี้กลับมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขนาดหน้าตัก 5 นิ้วตั้งไว้ชั้นบนสุด ที่ข้อมือของเต้ก็มีกำไลหินมงคลปี่เซี่ยะ สิงหาก็มีสายสินญจ์ที่ได้มาจากวันทำพิธีตอกเสาเอกบ้านใหม่ โบ้คุณครูคนเก่งและมีสติที่สุดในกลุ่มไม่มีเครื่องรางของขลังอะไรเพิ่มเติม เพราะมีสร้อยพระที่ห้อยคออยู่แล้วสามองค์

“กูว่าผีแม่งออกมาจากตู้ว่ะ ถ้าเราเอาตู้ออกก็น่าจะแก้ได้” เต้เสนอความคิดขึ้นมาคนแรก ซึ่งตรงกับความคิดของอีกสองคน

“ลองไหม เดี๋ยวกูช่วยย้าย” ชวินตอบรับอย่างแข็งขัน ผีอยู่ในตู้ ย้ายตู้ออกไปก็คือย้ายบ้านผีไป ปัญหาจบ

“มันเป็นบิวท์อิน คงต้องรื้อเลย เรื่องใหญ่อยู่นะ” สิงหาไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร ถ้าแค่ในตู้มีผีแล้วต้องรื้อห้องใหม่มันดูวุ่นวายเกินไป

“งั้นลองเอาพระไปวางในตู้ กูให้ยืม” ชวินแนะนำอีกทางที่น่าจะช่วยได้ เหมือนเวลาโดนสุนัขฉี่ใส่ล้อรถ พอเอาขวดน้ำไปวางมันก็จะไม่มาฉี่อีก ผีก็น่าจะเช่นกัน เอาพระไปวาง ผีก็น่าจะสิงตู้ไม่ได้อีก...ทำไมคิดเองแล้วรู้สึกบาปเอง ความรู้สึกบาปอยู่แค่ชั่ววูบเมื่อโบ้เอ่ยค้านด้วยสิ่งที่อาจเกิดขึ้นจริง

“เกิดผีแม่งออกจากตู้ไปอยู่ตรงอื่นล่ะ เกิดไปอยู่ที่เตียงแทน มึงจะเสี่ยงเหรอ หลอนกว่าเดิมนะมึง”

“ลองหาพระอาจารย์เก่งๆ มาทำพิธีไล่ผีดีไหมวะ” เต้แนะนำทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา ชวินกับโบ้พยักหน้าคล้อยตาม

“แต่ก็เพิ่งทำบุญบ้านไปนะ” สิงหาย้ำให้เพื่อนทั้งสามนึกขึ้นได้ วันทำบุญก็ยังมากันอยู่เลย

“ก็เพราะมึงทำบุญนั่นแหละ ผีได้รับบุญเลยออกมาขอบคุณมึงนี่ไง” ชวินพูดในสิ่งที่คิดมานาน

“แล้วถ้ากูไล่แม่งไม่เฮี้ยนกว่าเดิมเหรอ”

“ไม่รู้ว่ะ ได้บุญแล้วอาจจะมีพลังมากขึ้นก็ได้ ช่วงนี้ก็ทำบาปเยอะๆ หน่อยมึง เขาว่าคนมีบุญจะเห็นผี กูจะพยายามกินเหล้าเที่ยวหญิงขโมยเงินพ่อให้บ่อยที่สุด” คำพูดนี้ของชวินทำเอาโบ้ส่ายหน้าอย่างระอา ความเชื่อหลุดโลกแบบนี้มีแต่คนแบบมันนั่นล่ะคิดได้แถมทำจริงด้วย สิงหาต้องรีบค้านก่อนที่เพื่อนจะทำบาปหนักไปกว่าเดิม

“คนมีบุญน่ะเห็นแค่ผี แต่ถ้าทำบาปเยอะๆ อาจโดนผีสิงได้นะ เหมือนในหนังไง ผีไม่ค่อยสิงพระเอกเท่าไร ชอบสิงคนป่วยกับคนดวงตก”

“พวกมึงอย่าเพิ่งนอกเรื่อง เอาให้ชัวร์ก่อนว่าเป็นผี ไม่ใช่มีคนแกล้งนะ”

“โหไอ้โบ้ ใครจะไปแกล้งมัน มึงทำได้เหรอ ให้ตู้เปิดเอง ประตูเปิดเอง” เต้มองหน้าโบ้ที่ยังพยายามคิดในแง่ดี นอกจากเจ้าของห้องที่จิตใจแข็งแกร่งขนาดอยู่ร่วมกับผีได้ ก็มีโบ้นี่ล่ะที่ยังพยายามจะพิสูจน์ว่าผีคือผี

“ก็พูดเผื่อๆ ไปงั้น เดี๋ยวกูต้องพาเด็กไปเข้าค่ายแล้วด้วย แม่งอยากหลอกตัวเองต่อไปว่าไม่กลัวผีจัง” โบ้พูดเสียงอ่อน ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ แต่เขาเป็นอาจารย์ เดี๋ยวก็ต้องพานักเรียนไปเข้าค่าย มีทั้งค่ายลูกเสือ ค่ายนักกีฬา ค่ายเยอะแยะไปหมด แต่ละสถานที่ก็มีแต่ขึ้นอันดับแหล่งรวมผีทั้งนั้น ค่ายกลางป่าเอย โรงเรียนเอย มีที่ไหนมีเรื่องผีน้อยกว่าหนึ่งเรื่องบ้าง เขาเสียใจ เพี่อนไม่เข้าใจความพยายามของเขา

“เราดูคลิปตั้งหลายอันก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกตินะ คนเข้าออกห้องสิงมันก็มีแค่ตัวมันเองกับแม่บ้านแล้วก็ปิง ตัดปิงออกไปเพราะท่าทางไม่กล้าหลอกผีใครแน่ๆ ส่วนแม่บ้านก็ไม่เคยเปิดตู้อะไรของมันเลย ตัดเรื่องฝีมือคนออกไปได้เลยเหอะ” เต้พยายามวิเคราะห์ให้เพื่อนฟัง

“กูเห็นรายการทีวีที่มีเล่าเรื่องผี มีอาจารย์ไล่ผีในรายการด้วย มึงลองไปติดต่อมาได้ไหมวะ” โบ้แนะนำรายการที่เขาเคยดูผ่านๆ บางครั้งมีผีเข้ากลางรายการ บางครั้งก็ไปพิสูจน์ตามบ้านที่เขาว่าเฮี้ยน

“อย่าเชียวนะมึง เกิดเป็นข่าวขึ้นมาบ้านกูซวยแน่ เฟสสองกำลังสร้างมึงจะทำให้หุ้นบ้านกูตกไม่ได้นะ” ชวินรีบค้าน ต่อให้กลัวแค่ไหนก็ต้องคำนึงถึงปัญหาที่จะตามมา ถ้ามีข่าวผีคอนโดฯ เฮี้ยนหนัก ดาราหนุ่มอยู่ไม่ได้เชิญอาจารย์มาปราบ แค่นึกก็สยองแล้ว ข่าวลือต่างๆ จะตามมา การร้องเรียนจากคนที่ซื้อห้องไป ความน่าเชื่อถือลดลง คอนโดฯ เฟสสองที่กำลังสร้างอาจจะมีปัญหาขายไม่ได้เป้าตามยอด น่ากลัวกว่าผีคือปากคนนี่แหละ

“นี่ถือเป็นความรับผิดชอบของมึงเลยนะ ตึกก็ของบ้านมึง ห้องนี้มึงก็ช่วยสิงมันแต่ง แถมเป็นคนลากมันมาซื้อที่นี่เองด้วย มึงนั่นแหละต้องช่วยมันไล่ผี” เต้โยนภาระให้เพื่อนรับผิดชอบ เพราะปัญหานี้ยากเกินไป เขาคิดอะไรไม่ออกแล้ว

“กูก็ไม่รู้ แต่ห้ามเป็นข่าวเด็ดขาด”

“กูมีเรื่องอัพเดทพวกมึงอีกอย่าง” สิงหาที่นั่งเงียบฟังเพื่อนๆ พูดได้จังหวะพูดแทรก กวาดสายตามองตาเพื่อนทั้งสามคน ในใจนึกลุ้นปฏิกิริยาของเพื่อนๆ แต่เพื่อนๆ ไม่มีใครอยากฟังเลยสักนิด

“ไม่ต้องก็ได้” ชวินปฏิเสธก่อนคนแรก

“นั่นสิ”

“กูก็ไม่ได้อยากรู้เท่าไร” ตามด้วยเต้และโบ้ เป็นครั้งแรกที่ทั้งสามคนสามัคคีกัน แต่สิงหาไม่สนใจสามคนที่ส่ายหัวไปมา

“วันก่อนกูเมากลับมานอนหลับตรงโซฟา กูว่าผีจับขากูว่ะ”

“ไอ้เหี้ยสิง!! กูบอกว่าไม่อยากรู้ไง” ชวินตะโกนด่าเพื่อนพร้อมปาหมอนอิงใส่หน้าคนเล่าที่นั่งหัวเราะสะใจเมื่อเห็นอาการของคนฟัง

“แม่งกวนตีน เดี๋ยวไม่ช่วยเลย” โบ้ทำได้เพียงบ่นเพราะไม่เหลือหมอนอิงให้ปาใส่แล้ว

“เอาน่า จะได้มีข้อมูลครบๆ ไง กูเอาเมมฯ กล้องมาเปิดดูแล้วเหมือนมีคนผลักขากูลงพื้นกูเลยสะดุ้งตื่น พอเคลิ้มๆ จะหลับต่อก็ลากขากูเลย ในกล้องแม่งเห็นเลยนะว่าตัวกูเลื่อนจนเท้าเลยเบาะโซฟา พอกูลุกขึ้นนั่งอยู่ดีๆ ข้อเท้าแม่งก็เย็นเหมือนมีคนจับ”

“ไอ้เหี้ยยยยยยย ทำไมมันโหดจังวะ แล้วมึงทำไงต่อ” เต้คนกลัวผีเดินมาหยิบหมอนอิงบนพื้นขึ้นแล้วนั่งลงบนพื้นข้างหน้าสิงหา เมื่อครู่เขานั่งริมสุด ย้ายลงมาอยู่ตรงนี้รู้สึกอบอุ่นขึ้นเยอะ

“ก็วิ่งเข้าห้องนอน ไม่กล้านอนยันเช้าเลยว่ะ”

“แต่มึงก็ยังกล้าอยู่ห้องคนเดียวเนอะ นับถือใจมึงเลยว่ะ” ชวินที่กลายเป็นคนนั่งริมเริ่มทำตามเต้ เดินมานั่งแปะหลังกับโซฟาอยู่ระหว่างขาสิงหากับโบ้ ประจันหน้ากับเต้อย่างคนฉลาดกว่า

“ไม่ให้อยู่ห้องจะให้กูไปไหนล่ะ”

“เอาไงดีล่ะ หาพระเหอะ” เต้ยังคงแนะนำเหมือนเดิม ผีกับพระเป็นของคู่กัน เจอผีก็ต้องวิ่งหาพระ

“บอกไว้ก่อนนะว่าปิงเคยเอาน้ำมนต์วัดดังๆ มาให้กูแล้วสองรอบ แม่งไม่ช่วยอะไรเลย ทำไมกูรู้สึกว่ายิ่งสนใจมันมากๆ มันยิ่งโผล่มาให้เห็นวะ แรกๆ ไม่เห็นมีอะไร พอกูเริ่มติดกล้องเท่านั้นล่ะ มาเป็นตัวเลย”

“ถ้ายิ่งหายิ่งเจอ อย่างนั้นพวกเราก็ลองไปดักจับผีกันสักครั้งดีไหม ไปนอนค้างห้องมันสักพัก จะได้รู้ๆ กันไป” โบ้รู้สึกว่าคำแนะนำนี้เข้าท่าที่สุด จะทนหลอนตัวเองไปวันๆ ไม่ได้ ต้องพิสูจน์ให้รู้ชัดกันไปเลย

“มึงจะรู้อะไรอีก ที่เจอๆ มายังรู้ไม่พอเหรอ” ชวินไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร

“กูหมายถึงเอาวิธีที่แต่ละคนคิดมารวมๆ กัน เอาพระไอ้ชวินไปวางในตู้ หาน้ำมนต์ข้าวสารเสกอะไรก็ได้เตรียมไว้ แล้วดูว่าผีออกจากตู้ได้ไหม ถ้าออกมาก็เอาน้ำมนต์สาดใส่เลย ตอนทำบุญบ้านมันทำแบบสุ่มๆ อาจจะไม่โดนผีก็ได้ คราวนี้ก็เอาให้โดน”

“มึงจะกล้าหาญเกินหน้าเพื่อนไปแล้ว ดูหน้ากูกับไอ้เต้ด้วย” แค่โบ้เริ่มพูด ชวินก็ย้ายฝั่งไปนั่งข้างเต้แล้ว แบ่งข้างกันให้เห็นชัดๆ ระหว่างคนกลัวผีกับคนแกล้งไม่กลัวผี

“หรือมึงจะให้สิงมันไปหาหมอผีตามรายการดังๆ มาไล่ล่ะ เกิดเป็นข่าวขึ้นมามึงซวยนะ”

“แม่ง ไม่มีทางเลือกอื่นหรือวะ” ชวินอยากช่วยเพื่อน แต่ถามใจตัวเองแล้วว่าไม่ไหว อยากช่วยห่างๆ อย่างห่วงๆ มากกว่า

“ตอนนี้คิดไม่ออก คิดได้แค่นี้ ดูพวกหนังผีที่สร้างจากเรื่องจริงสิวะ พอดักจับมันทีไรก็มักจะไล่มันได้ทุกที ไม่งั้นก็ออกมาหลอนไปวันๆ” แฟนหนังสยองขวัญอย่างโบ้แนะนำตามที่คิด สิงหาก็เห็นด้วย ทำให้มันจบๆ ไปรวดเดียวดีกว่า

“แต่หนังผีทุกเรื่องหมอผีคนแรกที่มาปราบแม่งจบไม่สวยทั้งนั้นเลยนะ มึงจะเสี่ยงเหรอ” ชวินก็ชอบดูหนังเหมือนกัน แต่จุดจบหมอผีไม่ค่อยดีเท่าไรเลย มีเรื่องหนึ่งตอนจบภาคแรกแม่หมอโดนผีฆ่าตาย

“โน่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา แล้วมึงจะเอาไง” โบ้นึกออกทันทีว่าหนังเรื่องอะไร อยากเห็นด้วยแต่ต้องค้านไว้ก่อน ไม่งั้นไม่เถียงกันไม่จบสักที

“ไม่เอาไงอะ กูกลัวผี แค่นั้นแหละ”

“อยู่กันตั้งสี่คนจะกลัวอะไรวะ หรือจะทิ้งเพื่อนนอนให้ผีหลอกไปเรื่อยๆ คอนโดฯ ก็ของมึง คนชวนมันมาอยู่ก็มึง คนแต่งห้องให้ก็มึง พอถึงเวลามันอยู่ไม่ได้มึงจะไม่รับผิดชอบเหรอ เดี๋ยวกูฟ้องสคบ. นะ”

“ไอ้ห่า พูดไปเรื่อย เอาไงล่ะ แล้วแต่พวกมึงแล้วกัน” ชวินสูดหายใจลึกๆ เริ่มฮึดทำใจกล้า สี่คนต่อหนึ่งผีจะกลัวอะไร ถ้าคนอื่นเอาด้วยเขาก็เอา

“ก็ลองทำตามไอ้โบ้บอกก่อนไหม เผื่อเวิร์ค” เต้ยอมรับข้อเสนอของโบ้ คนมากทำอะไรก็ดี

“เออก็ได้ งั้นทุกคนต้องหาเวลาให้ตรงกันนะ อีกสองวันกูมีบินยังมาค้างไม่ได้ จันทร์หน้าถึงกลับ แต่ก็มีงานยาวเลย กำลังปิดไตรมาสแรก ไม่ค่อยมีวันว่างติดๆ กันเลยว่ะ” ชวินนึกถึงตารางงานตัวเองที่ยังยุ่งๆ อยู่ ตอนนี้อยากให้ยุ่งอีกสักครึ่งปีแต่เป็นไปไม่ได้ สงสารเพื่อนก็สงสาร แต่สงสารตัวเองมากกว่า

“เดี๋ยวกูเช็คงานก่อน” เต้หยิบโทรศัพท์เปิดเช็คตารางงานตัวเองในปฏิทิน โบ้เองก็เช่นกัน ที่นี่ไกลจากที่ทำงานเขามาก ถ้ามีประชุมเช้าเขาต้องตื่นเช้ามากเพื่อเดินทาง ต้องหาวันที่ค่อนข้างว่างไม่มีประชุมหรือสอนช่วงเช้าติดๆ กัน ที่ทำงานเต้ก็ไกลจากที่นี่ เขาก็ต้องหาวันที่ไม่มีงานสำคัญช่วงเช้าเช่นกัน ทุกคนพยายามหาวันที่ตรงกัน ใช้เวลาเถียงกันอยู่นานเพราะจะให้ว่างตรงกันต้องรออีกเป็นเดือน ตรงข้ามกับตัวปัญหาที่หลังจากอัพเดทความหลอนใส่เพื่อนก็นั่งกดโทรศัพท์ส่งข้อความจีบเด็กไม่สนเสียงแซวของเพื่อนฝูง



                                                  SingH@
                                                  ใกล้เลิกงานแล้วใช่ไหม ให้ผมไปส่งนะ

N.Ping
ว่างเหรอ เพื่อนมาหาไม่ใช่เหรอครับ

                                                  SingH@
                                                  นัดเจอกันเฉยๆ ไม่ค้างครับ เดี๋ยวก็จะกลับกันละ
                                                  นะ ให้ไปส่งนะครับ

N.Ping
ไม่ได้เมาใช่ไหม ถ้าเมาปิงไม่ให้ไปนะ

                                                 SingH@
                                                 ไม่ได้ดื่มอะไรเลย ปาร์ตี้เกี๊ยวซ่าถาด แต่ผมไม่ได้กินเลย

N.Ping
น่าสงสารคนอดอาหารจัง ถ้าไม่เมาก็ไปได้
เลิกงานบ่ายสามครึ่งเหมือนเดิมครับผม

                                                 SingH@
                                                 โอเคครับ แวะซื้อเกี๋ยวเตี๋ยวลุยสวนอีกนะ
                                                 ตอนนี้หิวมากเลยครับ

N.Ping
ได้ครับ แค่นี้ก่อนนะ ปิงตั้งใจทำงานก่อน

                                                SingH@
                                                ครับ สู้ๆ




ตั้งแต่ขึ้นมาบนรถน่านนทียังพูดไม่หยุด เล่าเรื่องงานบ้าน เรื่องที่บ้านบ้าง เรื่องพี่ชายที่เพิ่งเลิกกับแฟนเพราะจับได้ว่าฝ่ายหญิงไปแอบมีคนอื่น แต่พอพี่ชายน่านนทีบอกเลิกอย่างเด็ดขาดฝ่ายหญิงก็เริ่มกลับมาง้อ ช่วงนี้ไลน์กลุ่มครอบครัวของน่านนทีเลยมีประเด็นร้อนแรงให้ได้คุยกันทุกวัน เท่าที่สิงหาฟังมารู้สึกจะไม่มีใครชอบแฟนพี่ชายคนนี้เลย แม่อาจจะไม่พูด ลูกรักใครก็รักด้วย ส่วนพ่อนั่นน่านนทีแอบเมาท์ว่าพ่อไม่ชอบตรงที่มือไม้แข็งไม่เข้าหาผู้ใหญ่ เคยไปเที่ยวด้วยกันทั้งบ้านก็ไม่ช่วยล้างจานหรือทำกับข้าวเลย พ่อเลยไม่ค่อยชอบ ผู้ใหญ่ส่วนมากเขาก็อยากได้สะใภ้ที่มาช่วยแบ่งเบาภาระในบ้าน เป็นคนคอยดูแลความเรียบร้อยในชีวิตประจำวัน ส่วนผู้ชายต้องขยันทำงานดูแลให้ผู้หญิงของตัวเองอยู่ดีกินดีมีความสุข

“ตอนนี้ถึงจะดูว่าแม่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง คอยทำกับข้าวขาย แต่พ่อคือใช้แรงงานขับรถไปซื้อของมาทำ ยกหม้อล้างจาน เมื่อก่อนพ่อทำงานโรงงานกับแม่เนี่ยแหละ แต่พอแม่ท้องพี่ธารก็ลาออกเลย แล้วก็ขายกับข้าวแทน พอมีพี่หมุดพ่อก็ลาออกมาช่วยแม่ เมื่อก่อนขายแบบมีโต๊ะเก้าอี้นั่งกินในร้าน แต่ตอนนี้ทำขายแบบทั้งวันไม่ไหวละ พี่ธารพี่หมุดไม่ให้ทำด้วย อยากให้อยู่บ้านเฉยๆ แต่เขาไม่เอา กลัวเป็นอัลไซเมอร์ มันเป็นได้ด้วยเหรอคุณสิง ให้อยู่บ้านสบายๆ รับเงินเดือนจากลูกแค่เนี้ยจะป่วยเลยเหรอ”

“ก็ไม่แน่นะปิง คือบางทีผู้ใหญ่เขาเจอจุดเปลี่ยนในชีวิตเขาก็ไม่ชิน มันก็มีผลกับจิตใจ คนเคยทำงานเป็นสิบๆ ปีจะให้หยุดเลยเขาคงใช้ชีวิตไม่ถูก อย่างพ่อผมเมื่อก่อนเป็นทหารอเมริกันนะ ไปสมัครเพราะอยากเป็น พอปลดประจำการก็เป็นครูอยู่พักหนึ่งแล้วก็ป่วยแบบไม่รู้ตัว เป็นโรคซึมเศร้า จริงๆ มันเป็นตั้งแต่ปลดทหารแล้วล่ะ ผมว่าคนไทยดีอย่างนะ ประเทศเราไม่รวย ชนชั้นแรงงานมีเยอะ สังเกตคนแก่ตามต่างจังหวัดสิ อายุเยอะแต่แข็งแรง บางคนยังทำไร่ทำนาได้ ส่วนคนเมืองวันๆ วิ่งเข้าแต่โรงพยาบาล ต่างประเทศก็เหมือนกันนะ พ่อผมเคยไปรักษาตัวในโรงพยาบาลช่วงที่แม่ยังไม่ได้ย้ายไปถาวร ท่านไม่มีคนดูแลก็ต้องไปให้แพทย์ดูแล แต่พอผมกับแม่ไปเยี่ยม เห็นคนป่วยคนอื่นเหมือนพ่อเราแล้วผมรับไม่ได้เลย การดูแลมันดีแต่ผมทนให้พ่ออยู่แบบนั้นไม่ได้ แม่ก็เลยย้ายไปส่วนผมก็ไปๆ มาๆ ก่อนจะย้ายตามไป” สิงหาเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟังเพราะบางทีน่านนทีก็ยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจความต้องการผู้ใหญ่ สมัยก่อนตอนเขาทำงานได้เงินมากๆ ก็เคยให้แม่เลิกทำงาน แต่แม่ก็บ่นเหมือนกันว่ามันเหงา จะให้แม่ป่วยเหรอ เมื่อก่อนไม่เข้าใจ แต่พอต้องพักงานไปอยู่ต่างประเทศไม่ได้ทำงานอะไรก็รู้สึกเหงาเหมือนกัน กับผู้สูงอายุบางครั้งเขาก็ทำงานเพื่อแก้เหงา เพื่อให้ตัวเองยังมีคุณค่า เป็นเรื่องของจิตใจมากกว่าผลตอบแทน

“น่าสงสารนะครับ แล้วตกลงพ่อแม่คุณสิงจะมาเมื่อไร ทันวันเปิดร้านไหม” น่านนทีถามเพราะล่าสุดสิงหายกเลิกเรื่องให้หาห้องเช่าไปก่อนเพราะพ่อแม่สิงหายังกลับมาไม่ได้

“ตอนแรกก็ว่าอีกเดือนสองเดือน แต่ตอนนี้ไม่แน่เหมือนกัน อาจสามสี่เดือนเพราะกำลังหาคนซื้อบ้านอยู่ ที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่าพ่อชอบซื้อบ้านมารีโนเวทไง บางหลังเราก็ปล่อยเช่า บางหลังก็ขาย ตอนนี้มันมีที่ปล่อยเช่าอยู่หลายหลัง พ่อแม่เขาอยากขายให้ได้สักหลังสองหลังก่อนค่อยมา ส่วนที่ไม่ขายก็ปล่อยเช่าเหมือนเดิม แต่ต้องหาญาติมาคอยดูแลแทน ตอนนี้ก็เตรียมแพ็คของส่งล่วงหน้ามาก่อน แต่ตัวกลับมาไม่ทันเปิดร้านแน่ๆ” สิงหาแอบนึกเสียดายแต่ก็เคารพการตัดสินใจของทั้งคู่ พ่อแม่บางคนก็ไม่ได้อยากมากินๆ นอนๆ ให้ลูกเลี้ยงไปวันๆ โดยเฉพาะพ่อแม่ของเขาที่ยังชอบทำงานหาเงินเองอยู่ ถ้าขายบ้านได้ก็มีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัว

“จะขายได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ บ้านน่าจะแพง”

“ก็มีหลายขนาด จริงๆ บางหลังมีคนสนใจนานแล้วแต่ติดที่มีคนเช่าอยู่ ต้องไปคุยกับเขาว่ารอได้ไหม ถ้าให้คนเช่าออกเราต้องแจ้งเขาล่วงหน้าเหมือนกัน มันช้าตรงต้องเจรจาทั้งคนเช่ากับคนซื้อเนี่ยแหละ”

“อย่างนี้สโคนที่คุณสิงจะให้แม่ทำล่ะ มันอยู่ในเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีไม่ใช่เหรอ”

“ก็ให้แม่ส่งสูตรมาลองทำเองก่อน ถ้าไม่ไหวก็จะจ้างคนอื่นทำส่ง แม่ปิงทำเป็นไหม” สิงหาหันหน้ามาถามเมื่อนึกถึงฝีมือทำอาหารที่เขายังติดใจ

“ไม่มีทาง ขนมห่างไกลจากฝีมือแม่มาก ขนมไทยแม่ยังทำไม่ค่อยรอดเลย” น่านนทีส่ายหน้าแทนคำตอบ ให้ทำกินเองที่บ้านพอได้ แต่ทำขายไม่ไหว นึกถึงบัวลอยที่แต่ละเม็ดเท่าหัวแม่มือแล้วรู้สึกหนืดในลำคอ อย่าให้สิงหาชิมขนมฝีมือแม่เขาจะดีที่สุด ไม่อยากทำลายภาพลักษณ์แม่ครัวเอก

“ผมเคยช่วยแม่ทำอยู่ แต่ไม่เคยต้องทำเองทั้งหมด เดี๋ยวจะลองทำให้ปิงชิมนะ”

“ได้ ทำวันที่ปิงหยุดนะ ปิงอยากไปดู”

“ได้ เดี๋ยวหาวันว่างทำขนมแล้วไปปิกนิกกัน” พอสิงหาพูดเรื่องปิกนิก น่านนทีก็รีบเสนอไอเดียว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง จะไปที่ไหนถึงจะได้ถ่ายรูปสวยๆ เสียงเจื้อยแจ้วดังอยู่ตลอดเส้นทางกลับบ้าน



วันนี้น่านนทีก็มาทำงานแต่เช้าเหมือนเดิม อาหารปิ่นโตที่สิงหาเคยสั่งประจำก็ห่างๆ ไปเพราะต้องให้น้ำหนักลงไปอีกสองกิโลกรัมก่อนเริ่มถ่ายซีนแรกอีกหนึ่งสัปดาห์ ช่วงนี้เลยทานได้เพียงผลไม้กับไข่ต้มวันละครึ่งฟองเท่านั้น งานรอบเช้าสำหรับคอนเซียซจะยุ่งมากกว่ารอบดึกในส่วนของการจัดคิวรถรับส่งบริการลูกบ้าน หรือซื้อของสำหรับทำมื้อเช้า งานส่วนใหญ่จึงเป็นงานด่วนแต่ไม่ใหญ่ งานใหญ่จะเป็นงานรอบบ่ายที่ทำงานตั้งแต่บ่ายสามครึ่งถึงเที่ยงคืน เวลาแห่งการนัดหมายและสังสรรค์ บัตเลอร์ แม่บ้าน และคอนเซียซจะต้องประสานงานกันตลอดเพื่อจัดงานให้ลูกบ้านแต่ละคน น่านนทีเพิ่งหมดคิวงานจองรถรอบเช้าเสร็จสิ้น ลูกบ้านทุกคนที่จองรถพร้อมคนขับไว้ได้เดินทางออกจากคอนโดฯ เรียบร้อยแล้ว งานลุล่วงแต่ทำไมพี่โจที่เข้าเวรคู่กันถึงทำหน้าไม่ค่อยดีก็ไม่รู้

“มีอะไรหรือเปล่าพี่”

“พี่น่ะไม่มีหรอก คนที่มีคือแกว่ะปิง ผู้จัดการเรียกพบที่ห้อง”

“เรียกปิง! ทำไมล่ะ”

“มีคนร้องเรียนน่ะสิ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร รีบไปเถอะอย่าให้เขารอนาน” โจตบบ่าให้กำลังใจลูกน้อง น้ำเสียงผู้จัดการที่โทรมาเมื่อครู่ไม่ได้เข้มงวดหรือเกรี้ยวกราดอะไร น่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขามองส่งลูกน้องคนสนิทไปจนลับตา เห็นน่านนทีหยุดยืนที่ทางออกนอกอาคารเพราะมีคนเดินเข้าไปหา มองไกลๆ น่าจะเป็นพวกฝ่ายนิติบุคคลฯ



“ตอนแรกก็แค่นึกว่าเด็กเส้นเลยได้ย้ายฝ่าย ที่ไหนด้วย...มีทางลัดแบบนี้นี่เอง”

“ได้ข่าวว่าตอนทำงานโรงแรมก็ทำตัวแบบนี้นะ เลยอยู่ไม่ยืดไง”

“พี่พูดอะไรพูดตรงๆ เลยดีกว่า ไม่ต้องมายืนขวางแล้วทำเป็นคุยกันเองสองคน ถ้าไม่คุยกับปิงก็หลีก” น่านนทีพูดไปเพราะไม่อยากเสียเวลาฟังคำพูดเสียดสีแบบนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะหลีกทางให้จริงๆ

“คนเราน่ะนะเขาถึงบอกว่าอย่าตะกละให้มาก กินเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่เปื้อนให้คนอื่นเขาเห็นหรอก” สาก้าวถอยหลังเบี่ยงทางเดินให้แต่ใช่ว่าเธอจะหยุดพูด เอ่ยปากพูดกับเพื่อนสนิทแต่สายตาจับจ้องเป้าหมายไม่วางตา

“เสียดายว่ะ ตอนแรกมาอยู่คอนโดฯ อุตส่าห์ไปเมาท์ให้เพื่อนฟังว่ามีดารามาอยู่ ตอนนี้เห็นแล้วจะอ้วก โคตรมั่ว พนักงานระดับล่างก็ยังจะหิ้ว” ดาราที่หงส์พูดถึงก็คือสิงหา หลายครั้งที่เธอจอดรถทิ้งไว้ที่นี่แล้วไปเดินซื้อของก่อนกลับ หรือกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ เธอแอบสังเกตแล้วพบว่าทั้งสองคนสนิทกันเกินเพื่อนแน่ๆ หลายครั้งที่กลับมาเอารถแล้วเห็นทั้งสองคนนั่งคุยกันดึกๆ ที่หลังเคาน์เตอร์ บางทีก็นั่งรถออกไปด้วยกันหรือมาพร้อมกัน ความหล่อของดาราหนุ่มเลยตกฮวบลงไปเมื่อไปสนิทกับคนที่เธอเกลียด

“สงสัยอดอยากนั่นล่ะ ไม่อ่านข่าวในเน็ตเหรอ นิสัยเหี้ยจะตาย ผู้หญิงคนไหนจะยอมยุ่งด้วย ก็ต้องหิ้วพวกตัวแบบนี้นั่นแหละ” สาชอบอ่านข่าวซุบซิบดาราเลยตามอ่านข่าวสิงหาอยู่พักใหญ่ พฤติกรรมของผู้ชายคนนี้ใช่ว่าจะดี ต่อให้มีแฟนคลับมาแย้งว่าเป็นการจัดฉากแกล้งหรืออะไรก็ตาม ผู้ชายจริงๆ เขาไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอก หน้าตัวเมียชัดๆ เสียดายที่ตอนแรกแอบปลื้ม



ในห้องทำงานของผู้บริหารระดับหัวหน้ามีความเคร่งขรึมชวนให้พนักงานใจสั่นได้เสมอเมื่อต้องเข้ามานั่งในห้องนี้ ห้องผู้จัดการ แม้จะเป็นครั้งที่สองที่ถูกเรียกพบแต่น่านนทีก็ไม่ได้รู้สึกชินขึ้นมาเลย

“นี่ก็ครั้งที่สองแล้วนะที่มีคนร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมของคุณ คราวนี้มีรูปถ่ายปรินท์แนบมาด้วย หลักฐานค่อนข้างชัดเจนนะครับ” ผู้จัดการถอนหายใจกับปัญหาของสองแผนกที่ไม่ค่อยลงรอยกัน นิติบุคคลฯ แผนกซักรีด พนักงานรักษาความปลอดภัย บุคคลเหล่านี้ทำงานโดยรับการจัดสรรเงินเดือนจากคณะกรรมการคอนโดฯ ส่วนที่นำมาจัดสรรก็คือเงินส่วนกลางที่ทางลูกบ้านเป็นผู้จ่าย ส่วนฝ่ายขาย การตลาด คอนเซียซ บัตเลอร์ เมด เป็นพนักงานที่ได้รับการอบรมให้ทำงานเฉพาะทาง ตำแหน่งและเงินเดือนจะขึ้นตรงกับบริษัทฯ ที่ได้รับการจ้างให้มาบริหารคอนโดฯ นั่นหมายความว่าตำแหน่งเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับกรรมการคอนโดฯ และไม่ได้รับเงินเดือนจากที่นี่ แต่ได้รับจากบริษัทฯ โดยตรง ถึงจะมีการโยกย้ายตำแหน่งกันบ้างแต่ในส่วนของการเซ็นสัญญาก็ทำแยกกันอย่างชัดเจน และการทำงานร่วมกันแต่ไม่สามารถระบุได้ชัดว่าใครใหญ่กว่ามักจะทำให้เกิดปัญหาเป็นประจำ

“ผมยอมรับนะครับว่าเป็นรูปจริง แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองทำอะไรเสื่อมเสียตรงไหน การสนิทสนมกับลูกบ้านก็เป็นไปอย่างเหมาะสม ไม่ใช่รับเงินแล้วขึ้นห้องหรือให้ลูกบ้านหิ้วไปข้างนอกอย่างที่มีคนกล่าวหานะครับ” น่านนทีแทบสะกดอารมณ์ตัวเองไม่ไหว ตัวต้นเหตุคือพี่สาพี่หงส์แกงค์นิติบุคคลฯ เหมือนเดิม แถมยังมาพูดจาถากถางเขาเมื่อครู่อีก ในใบร้องเรียนมีการกล่าวหาว่าเขาขึ้นไปบริการเสริมให้ลูกบ้าน มีการบริการนอกสถานที่ด้วย เขาอาจจะไปไหนมาไหนกับสิงหาบ่อยขึ้นจริง แต่ไม่เคยมีพฤติกรรมอะไรที่ไม่เหมาะสม จับมือยังไม่เคยเลย

“ผมเข้าใจและไม่ได้เชื่อทั้งหมดที่มีคนรายงานหรอก แต่คุณต้องเข้าใจด้วยว่าเรามีระเบียบของเรา ที่ต้องมีมาตรการไม่ให้พนักงานสนิทสนมกับลูกบ้านก็เพราะกลัวจะเกินข้อครหาแบบนี้”

“แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียถึงคอนโดฯ นี้จริงๆ นะครับ”

“ผมได้ข่าวมาหลายทางนะ ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ระเบียบก็ต้องรักษา เข้าใจนะ”

“ครับ....ผมโดนไล่ออกเหรอ” เสียงถามแหบพร่าจนแทบสั่น ชีวิตการทำงานแต่ละแห่งแม้จะสั้นแต่ไม่เคยโดนไล่ออกมาก่อนเลย

“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แต่จะออกใบเตือนลงบันทึกไว้ก่อน ถ้ามีคนร้องเรียนเรื่องนี้แบบมีหลักฐานเข้ามาอีกก็อาจจะต้องย้ายไปประจำที่อื่นหรือร้ายแรงที่สุดก็คือเชิญออก ผมก็ไม่ได้อายุมากขนาดจะขัดขวางความรู้สึกคนหนุ่ม แต่เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวก็ต้องแยกให้ขาดเพื่อความเป็นระเบียบขององค์กรเรา คุณเข้าใจนะครับ” ผู้จัดการยิ้มปลอบใจ ที่จริงคนในรูปถ่ายเขาก็พอจะรู้มาบ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของคอนโดฯ นี้ หากมีเรื่องขึ้นมาจริงๆ สุดท้ายก็คงมีคำสั่งระงับการไล่ออกอยู่ดี

“ถ้าเป็นนอกเวลางานผมสามารถติดต่อกับลูกบ้านได้ไหมครับ”

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา เพียงแต่จะให้ดีก็ควรเปลี่ยนเครื่องแบบออก ถือว่าผมแนะนำส่วนตัวนะ รูปที่ถ่ายมามันเห็นชัดว่าเป็นพื้นที่ของคอนโดฯ และคุณก็ใส่เครื่องแบบพนักงานอยู่ ตรงนี้ล่ะที่มันไม่เหมาะ ถ้านอกเวลางานคุณอยากนัดไปไหนกันหรือขึ้นไปบนห้องลูกบ้าน ถ้าไม่ใส่เครื่องแบบมันจะดูดีกว่า ที่นี่ไม่ใช่โรงแรม เราเลยไม่ได้เข้มงวดขนาดห้ามติดต่อลูกบ้านเป็นการส่วนตัวเลย ขอแค่ให้เกียรติสถานที่ทำงานและเครื่องแบบก็พอ”

“อ๋อ เข้าใจแล้วครับ ตรงนี้ผมลืมคิดไปจริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะครับ สัญญาว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก” น่านนทีผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ยอมรับว่าหลังๆ ไม่ค่อยได้ระวังตัวเท่าที่ควร

“ดีแล้วครับ หัวหน้าคุณก็ชมบ่อยๆ ว่าคุณขยันและตั้งใจทำงาน ผมก็ไม่อยากเสียพนักงานเก่งๆ ไป ยังไงก็ระมัดระวังมากกว่านี้นะ”

“ขอบคุณครับผู้จัดการ” น่านนทีเดินออกจากห้องผู้จัดการด้วยรอยยิ้มแบบมึนๆ นี่เป็นการเรียกพบเพื่อตักเตือนหรือแนะแนวทางการแอบคบคนในที่ทำงานกันแน่ แต่ก็ช่างเถอะ เขาไม่โดนไล่ออกก็ดีแล้ว



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2019 22:39:07 โดย G_wa »

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/




ในห้องแต่งตัวสำหรับฟิตติ้งชุดครั้งสุดท้ายมีเพียงสิงหาคนเดียวที่นั่งอยู่ ครั้งนี้เป็นการฟิตติ้งครั้งที่สองเพราะครั้งแรกน้ำหนักเขายังลดไม่มากพอ เมื่อลองสวมเสื้อผ้าจึงเป็นเพียงการฟิตติ้งคร่าวๆ ดูสไตล์และสีสันให้เหมาะสมเท่านั้น ส่วนไซต์จริงต้องมาวัดใหม่วันนี้ เสื้อผ้าส่วนใหญ่จะใช้ขนาดมากกว่าไซต์จริงหนึ่งเบอร์เพื่อไม่ให้เน้นรูปร่าง และทำให้ดูผอมมากขึ้น ทรงผมมีการเล็มข้างหน้านิดหน่อยเพื่อไม่ให้บังสายตาเวลาแสดง สิงหายืนมองชายหนุ่มในกระจกที่สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวหม่นที่เกิดจากอายุการใช้งาน กางเกงวอร์มขายาวตัวโคร่ง ชายร่างผอมสูงดูอมโรคและไร้เรี่ยวแรง แก้มตอบจนเห็นกระดูกโครงหน้าชัดเจน ชายขี้โรคในกระจกคือเขานั่นเอง

“สุดยอดเลยพี่ ผมว่าตัวเองผอมมากที่สุดในชีวิตแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าจะผอมได้อีก ถ้าใครผลักตอนนี้มีปลิวแน่นอน” สิงหาหันซ้ายหันขวามองดูตัวเองในกระจก ใบหน้าที่ผ่านการแต่งแต้มเล่นแสงเงาที่ช่างแต่งหน้าเรียกว่าคอนทัวกับเฉดดิ้งทำให้ดูแก้มตอบ ขอบตาลึกดำคล้ำ ปากแห้ง ช่วงคอจนถึงไหล่ก็มีการลงสีจนดูผอมกว่าความเป็นจริงอีกเท่าตัว

“เสียดายหน้ายังใสไปหน่อย ดีว่าแต่งหน้าแล้วออกมาใช้ได้ ไม่งั้นก็แค่ผู้ชายผอมๆ ทั่วไปนั่นแหละ” ช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายมองผลงานด้วยความพอใจ เดิมทีสิงหาก็ผอมตามเป้าของผู้กำกับ แต่ถ้าเข้ากล้องแล้วภาพจะไม่ได้ดูผอมมากเนื่องจากเลนส์กล้องและการจัดไฟ ปัญหานี้เลยต้องแก้ด้วยการแต่งหน้าช่วยอีกทาง

“นั่นสิ ต้องชมทีมคอสตูมกับช่างแต่งหน้าจริงๆ ตอนนี้ผมเหมือนคนอดข้าวอดน้ำมาสามปี ขอข้าวหน่อย หิวข้าวจังเลย” สิงหาแกล้งแบมือขอข้าวไปทางทีมงาน เรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาผู้หญิงได้ แต่เรียกความหมั่นไส้แกมอิจฉาจากทีมงานชายได้มากกว่า คนอะไรผอมโทรมขนาดนี้ก็ยังหล่อกว่าพวกเขา



เนื่องจากวันนี้เป็นการฟิตติ้งรอบสองของสิงหาคนเดียวจึงมีเฉพาะทีมงานที่เกี่ยวข้องไม่กี่คน รวมถึงนักรบที่มาดูแลความเรียบร้อย หลังเสร็จงานนักรบก็บังคับสิงหาให้ขับรถไปส่งที่ร้านแล้วรั้งตัวให้กินอาหารด้วยกันก่อนกลับ ถึงจะบอกว่ากินด้วยกันแต่ในความเป็นจริงมีเพียงนักรบที่นั่งกินอาหารเต็มโต๊ะ ส่วนสิงหามีสลัดผลไม้น้ำใสหนึ่งชาม

“ที่เรียนภาษามือตกลงคล่องแน่นะ ออกกองต่างจังหวัดครูเขาไม่ว่างตามไปทุกคิวนะเว้ย”

“เออน่า กูให้ครูทำคลิปบทยาวๆ ไว้ให้แล้ว แต่ถ้าทำได้อยากให้ตามไปด้วยมากกว่าว่ะ ถ้าผิดขึ้นมาในกองจะมีใครรู้ไหมว่ากูทำผิด”

“ก็ต้องหาคนอื่นแทนนั่นแหละ กูให้เขาแนะนำนักเรียนมา จ้างเป็นพาร์ทไทม์รายวันไป ไปกลับพร้อมกองคงไม่มีปัญหาหรอก” นักรบนึกถึงโลเคชั่นที่ต้องไปถ่าย มีออกต่างจังหวัดหลายฉากเหมือนกัน แต่ไปแค่อยุธยา เดินทางไปกลับได้สบาย

“ดีแล้ว ตอนนี้เตรียมงานไปถึงไหนแล้วล่ะ พร้อมยัง”

“พร้อม ตอนนี้กูพร้อมมาก มึงเล่นให้เต็มที่นะ เอาให้สุด บทไม่ต้องเป๊ะแต่อารมณ์ต้องได้ เออๆ บทบางช่วงก็ต้องเป๊ะเหมือนกัน แต่เล่นๆ ไปเหอะ เดี๋ยวกูคัตเอง”

“มึงว่าหนังจะมีปัญหาเปล่าวะ ไม่ได้แช่งนะ แต่กูกลัวจะทำมึงซวยไปด้วย” เขายอมรับว่ายังกังวลและไม่อยากให้เพื่อนเจอปัญหา

“แค่มึงยอมออกมาแก้ต่างให้ตัวเองบ้างกูก็พอใจแล้ว ปัญหามาก็แก้ไป ก่อนหน้านี้กูวิ่งงานฟรีให้หลายเจ้าเหมือนกันนะ จะไม่มีคนออกมาช่วยกูเลยเป็นไปไม่ได้ โซเชียลก็มีไม่ต้องไปกลัว กูปากหมาอยู่แล้วด้วย มากัดลับหลังเมื่อไรจะลากออกมากัดโชว์สื่อเลย”

“เออๆ อย่าเพิ่งขึ้น กูแค่พูดเผื่อไว้ ขอให้ไม่มีแล้วกัน”

“อย่าไปคิดเยอะ อะไรดีก็ทำ พอใจทำก็ทำ อย่าทำตัวเป็นพระเอกนอกจอนัก เหี้ยบ้างก็ได้”

“เหมือนมึงน่ะเหรอ”

“เออ เหมือนกูนี่แหละรุ่ง ถ่ายหนังจบกูต้องไปถ่ายละครต่ออีก แสดงเป็นมือที่สามด้วย หน้าอย่างกูทำไมไม่ค่อยได้เล่นเป็นคนดีเลยวะ”

“ไม่ใช่หน้าอย่างมึง แต่นิสัยอย่างมึงต่างหาก แม่งนึกถึงเปิดกล้องก็สยองเหมือนกัน มึงเพลาๆ มือกับกูหน่อยล่ะ กูยังไม่เคยโดนมึงกำกับ” สิงหานึกถึงข่าวเบื้องหลังและจากคำบอกเล่าของคนอื่น ฝีมือกำกับของนักรบเรียกว่าเข้มงวดละเอียดยิบทุกซีนจนทำนักแสดงรุ่นใหม่ร้องไห้คากองมาแล้ว

“เออน่า เชื่อมือกู งานนี้กูหวังรางวัลนะเว้ย” นักรบพูดอย่างเชื่อมั่น สิงหาถอนหายใจเมื่อดูท่าทางของผู้กำกับแล้ว เรื่องนี้คงโหดน่าดู แต่ถ้าคว้ารางวัลมาได้จริงๆ ก็คุ้ม เขาทุ่มเต็มที่เหมือนกัน



วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่สิงหาจะว่างไปส่งน่านนทีเพราะจะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำแล้ว แต่น่านนทีกลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เขาไปส่งเหมือนเคย เมื่อก่อนถ้าเข้างานรอบดึกเลิกเที่ยงคืนน่านนทีไม่เคยปฏิเสธเขาเลย นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มคุยกัน แถมข้ออ้างว่าอยากนั่งแท็กซี่กลับเองก็ฟังไม่ขึ้น อะไรคือไม่ได้นั่งกลับดึกๆ นานคิดถึง คิดถึงแท็กซี่เนี่ยนะ พฤติกรรมแปลกๆ ของอีกฝ่ายทำให้สิงหายืนกรานไม่ยอมรับแม้คนตาโตจะส่งสายตาอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่ใจอ่อน ลงมาสตาร์ทรถรอเพื่อกดดันอีกฝ่าย จนน่านนทีต้องยอมเดินหลบๆ สายตาคนอื่นมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าประตูเชื่อมลานจอดรถกับล็อบบี้ ใบหน้าอิ่มใสเม้มปากตัวเองอย่างไม่พอใจที่อีกคนขัดใจแล้วใช้วิธีนี้บังคับ

“ไม่ต้องงอนผมเลยนะ ปิงไม่มีเหตุผลเลย ผมบอกปิงก่อนแล้วว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย เดี๋ยวก็ไม่ค่อยว่างเจอ ตอนแรกปิงก็โอเคนี่ ทำไมอยู่ดีๆ มาเบี้ยวกันล่ะ”

“ก็เอาไว้วันหลังก็ได้ คุณสิงก็ไม่ได้ย้ายไปไหนนี่นา” น่านนทีเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้

“ไม่ต้องทำเสียงแบบนี้ใส่เลยนะ ปิงผิดนะครับ เมื่อวานก็ไม่เห็นบอกว่าจะยกเลิกนัดเลย”

“ก็ปิงลืมนี่นา วันนี้ตอนบ่ายคุณสิงก็ทำงานปิงก็งานยุ่งเลยลืมบอกอีก” สองแขนยกกอดอกตัวเองแน่น พยายามมองวิวด้านนอกตลอดทาง

“ห้ามเหวี่ยงนะครับ เราต้องคุยด้วยเหตุผลดีๆ สิ” สิงหาเอื้อมมือวางบนขาน่านนที ตบเบาๆ ให้ใจเย็นๆ แล้วหันมาคุยกัน

“ก็ปิงบอกแล้วว่าเดี๋ยวปิงกลับเอง วันอื่นคุณสิงค่อยไปส่งคุณสิงก็ไม่ฟังปิงอะ”

“ก็ปิงไม่มีเหตุผลไง”

“ก็แล้วทำไมต้องมากดดันปิงด้วยเล่า ปิงไม่ชอบให้มาจอดรถรอแบบนี้นะ” เป็นครั้งที่สองแล้วที่โดนกดดันให้ขึ้นรถด้วยมุขแบบนี้ เขารู้ว่าผิดที่ผิดนัดแต่ไม่เห็นต้องกดดันกันแบบนี้เลย ความรู้สึกที่โดนขัดใจทำให้น้ำตาคลออย่างอึดอัด

“ปิงก็ให้เหตุผลมาก่อนว่าทำไมจะกลับเอง เดี๋ยวนี้ถ้าเลิกดึกผมก็ไปส่งตลอด ทำไมวันนี้ไม่ให้ไป พี่ชายก็ยังไม่มาไม่ใช่เหรอ” สิงหาเห็นคนตาโตเริ่มเสียงสั่นก็กลัวจะร้องไห้ออกมา เขาพยายามพูดให้เสียงนุ่มนวลขึ้น จับมืออีกฝ่ายลูบปลอบเบาๆ

“ก็...ปิงอยากกลับเอง”

“ปิง...เราสัญญากันแล้วไงว่าจะไม่โกหกกัน นะ คุยกันดีๆ นะครับ”

“ก็ปิงกลัวคนอื่นเห็น”

“เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นไรเลย” สิงหาถามอย่างแปลกใจ กว่าสองเดือนมานี้เขารับส่งน่านนทีบ่อยมากก็ไม่เคยมีปัญหานี่นา

“ปิงเพิ่งโดนผู้จัดการเรียก มีคนร้องเรียนแล้วแอบถ่ายรูปปิงกับคุณสิงด้วย” น่านนทีมองมือตัวเองที่ถูกกุมเบาๆ พูดเหตุผลของตัวเองออกมาอย่างคนรู้ตัวว่าทำผิด

“ถ่ายรูป! แล้วผู้จัดการว่ายังไงครับ”

“ก็แค่ตักเตือน ถ้ามีคนถ่ายรูปส่งมาอีกก็อาจโดนย้ายหรือไล่ออก”

“ผมทำให้ปิงมีปัญหาเหรอ ขอโทษนะครับ” สิงหาบีบมือขอโทษและให้กำลังใจ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าพนักงานคนเก่งของเขามีปัญหาในที่ทำงาน แถมปัญหายังเกิดขึ้นเพราะเขาอีก

“ไม่เกี่ยวกับคุณสิงหรอก พวกนั้นจ้องหาเรื่องปิงมาตั้งนานแล้ว นิติฯ กับคอนเซียซไม่ค่อยถูกกัน”

“ถ้าไม่เกี่ยวแล้วทำไมวันนี้ไม่ยอมกลับกับผมล่ะ กลัวโดนถ่ายรูปเหรอ”

“ปิงไม่ได้กลัวโดน คือ...ก็ไม่เชิงไม่กลัว ก็ไม่อยากโดนแต่ที่ไม่ชอบคือโดนแอบถ่ายแล้วเอาไปพูดไม่ดีมากกว่า” เหตุผลจริงๆ ของเขาคือเรื่องนี้ เขาไม่ชอบฟังพวกนั้นพูดถึงสิงหาในแง่ไม่ดี มันไม่ยุติธรรม เหมือนพวกคอมเมนต์ในโซเชียล ถือว่ามีมือจะพิมพ์อะไรก็ได้ไม่ต้องรับผิดชอบความรู้สึกคนอื่น ไม่ได้รู้จริงเลยสักนิด

“เขาพูดถึงปิงไม่ดีเหรอครับ พูดว่าไงบ้าง”

“พวกนั้นไม่เคยพูดถึงปิงดีๆ อยู่แล้ว แต่ที่แย่คือพูดถึงคุณสิงไม่ดีต่างหาก ปิงไม่ชอบ พวกกบในโคลน แย่ยิ่งกว่าในกะลาอีก ข่าวลือในเน็ตมันเชื่อไม่ได้ มีคนแก้ข่าวแล้วก็ยังจำผิดๆ มาด่าอยู่ได้ พวกนี้ไม่มีวันสลัดโคลนพ้นน้ำได้”

“โห ด่าแบบปรัญชา” สิงหาแอบหัวเราะคนโกรธแต่ยังอุตส่าห์คิดศัพท์ใหม่ขึ้นมา เป็นการด่าคนที่น่ารักที่สุด

“ใช่ นอกจากโลกแคบแล้วยังโง่อีก ถ้าไม่เห็นว่าแก่กว่าปิงยืนด่าให้เสียผู้ใหญ่แล้ว ทีตัวเองชอบแอบจอดรถทิ้งไว้ที่คอนโดฯ ปิงยังไม่เอาไปฟ้องเลย”

“ทำไมครับ เขาห้ามจอดเหรอ” สิงหาเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นจะได้ไม่เครียด

“พนักงานถ้ามาทำงานก็จอดได้ เลิกงานก็ต้องขับกลับไป แต่พวกนั้นชอบมาจอดแช่แล้วไปเที่ยว บางทีวันหยุดก็เข้ามาจอดฟรีเพราะมันใกล้บีทีเอสไง”

“อ้อ นิสัยไม่ค่อยดีนะ แต่ปิงก็ทำตัวไม่น่ารักนะวันนี้ คราวหน้าอย่าทำอีกนะ มีอะไรก็บอกเหตุผลผมตรงๆ คุยกันตรงๆ ห้ามใช้อารมณ์กลบเกลื่อน ตกลงไหม”

“ปิงจะพยายามแล้วกัน แต่คุณสิงห้ามกดดันปิงแบบนี้อีกนะ สองครั้งแล้วนะเรื่องจอดรถกดดันเนี่ย ปิงรู้สึกไม่ดีเลย”

“ครั้งแรกผมยอมรับครับว่าผิด เพราะเราไม่ได้นัดกันก่อน แต่ครั้งนี้ไม่ยอมรับครับ ถ้าปิงมีเรื่องอะไร งอนหรืออะไรเราก็ต้องคุยกัน ไม่ใช่เอาไว้วันหลังอ้างโน่นนี่ไปเรื่อย ผมไม่รู้ว่าปิงมีเหตุผลอะไร ผมทำอะไรผิดหรือปิงมีเรื่องอะไรหรือเปล่า มันก็จะคิดมากนอนไม่หลับรู้สึกไม่ดีไปทั้งคืน แล้วเวลาฟุ้งซ่านมันก็จะคิดแต่เรื่องแย่ๆ ไปหมด ผมไม่อยากให้เรารู้สึกแบบนั้น”

“ก็แล้วถ้าปิงยังไม่พร้อมคุยล่ะ” เขารู้ว่าสิงหาพูดถูก ถ้าวันนี้เขาไม่ขึ้นรถมา กลับถึงบ้านก็คงคิดมากว่าสิงหาจะโกรธหรือเปล่า จะเข้าใจเขาไหม หรือพรุ่งนี้ควรอธิบายว่าอะไรดี คงฟุ้งซ่านจริงๆ

“ถ้าเราคบกันแล้วมีปัญหา ทะเลาะกัน ปิงไม่พร้อมพูดผมก็โอเค แต่คืนนั้นต้องอยู่ด้วยกัน อย่างน้อยก็สบายใจกว่าต่างคนต่างไปคิดมากคนเดียว”

“โห ต้องอยู่ด้วยกันเลย” น่านนทีแกล้งทำเสียงโอเวอร์

“ช่ายยย อยู่ด้วยกัน นอนด้วยกัน อะไรๆ ด้วยกัน” เห็นคนทำเสียงแซวเริ่มยิ้มได้เขาก็สบายใจ แกล้งพูดให้เขินมากขึ้น จับมือย้ายมาวางบนตักเขาแทน

“ไม่ใช่ละๆ วกมาทะลึ่งอีกแล้ว แวะร้านขนมให้ปิงเลย” น่านนทีดึงมือตัวเองคืนมาแล้วชี้ร้านขนมหวานร้านประจำให้อีกฝ่ายเตรียมจอด ร้านนี้เปิดตอนเย็นปิดดึกมาก มีทั้งน้ำแข็งไส เต้าทึง บัวลอย อร่อยทุกเมนู

“ไหนบ่นอ้วน ยังจะกินขนมอีก”

“ซื้อไปฝากพ่อกับแม่ไว้กินตอนเช้า โห่ไรอะ ไหนบอกปิงไม่อ้วนไง”

“ไม่อ้วนๆ นุ่มๆ นิ่มๆ กำลังพอดี เนอะ”

“เหมือนโดนหลอกด่ายังไงก็ไม่รู้ เนอะ”

“ฮ่าๆๆ”



—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—




คำเตือน...ตอนนี้มีกุ๊กๆ กู๋ ควรอ่านตอนเช้า


ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
คุณพระ! ถึงขั้นดึงขาจนตัวเลื่อนจะๆเลยเนี่ยนะ บ้าไปแล้ววว พี่จ๋าฉันกลัวววว  :ling3: 

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ทำไมคำเตือนอยู่หลังสุดค่ะคุณพี่ ตอบบบบบ หลอนไปหมดแล้ววว นอนคนเดียวว


Sent from my iPhone using Tapatalk

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ลากขาลงจาหโซฟาเลยนะคุณสิง
เป็นเราย้ายไปนอนบ้านเพื่อนแล้ว
น่ากลัว ฮืออออ

ออฟไลน์ Philosophy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากรู้ปมเรื่องคุณผีมากกกก ไปไงมาไง มาดีหรือร้าย ติดมากับห้องหรือถูกคนสั่งมา โอ๊ย คาใจจจจจจ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
คำเตือนอยู่ล่างสุด..... เธอใจร้ายมาก


ปิงเอ๊ยยยยย จะกลิ้งได้แล้ว
คุณสิงก็ไม่อ่อนโยนเลย แอทแทกรัว ๆ

ส่วนเรื่องอื่น.....อืม....นั่นแหละ

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
คำเตือนมาตอนอ่านจบ ไม่ทันแล้ว 555 น่าจะมีใครจัดการกับพวกนิติกบในโคลนตม อ่านแล้วของขึ้นลืมกุ๊ก กุ๊ก กู๋ ตอนต้นไปเลย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น่าจะเรียกบ่างสองตัวไปที่ห้องสิง แล้วขังทิ้งไว้สักวันสองวัน จะได้รู้ไปเลยว่าผีมีจริงไหม  :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด