ในห้องแต่งตัวสำหรับฟิตติ้งชุดครั้งสุดท้ายมีเพียงสิงหาคนเดียวที่นั่งอยู่ ครั้งนี้เป็นการฟิตติ้งครั้งที่สองเพราะครั้งแรกน้ำหนักเขายังลดไม่มากพอ เมื่อลองสวมเสื้อผ้าจึงเป็นเพียงการฟิตติ้งคร่าวๆ ดูสไตล์และสีสันให้เหมาะสมเท่านั้น ส่วนไซต์จริงต้องมาวัดใหม่วันนี้ เสื้อผ้าส่วนใหญ่จะใช้ขนาดมากกว่าไซต์จริงหนึ่งเบอร์เพื่อไม่ให้เน้นรูปร่าง และทำให้ดูผอมมากขึ้น ทรงผมมีการเล็มข้างหน้านิดหน่อยเพื่อไม่ให้บังสายตาเวลาแสดง สิงหายืนมองชายหนุ่มในกระจกที่สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวหม่นที่เกิดจากอายุการใช้งาน กางเกงวอร์มขายาวตัวโคร่ง ชายร่างผอมสูงดูอมโรคและไร้เรี่ยวแรง แก้มตอบจนเห็นกระดูกโครงหน้าชัดเจน ชายขี้โรคในกระจกคือเขานั่นเอง
“สุดยอดเลยพี่ ผมว่าตัวเองผอมมากที่สุดในชีวิตแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าจะผอมได้อีก ถ้าใครผลักตอนนี้มีปลิวแน่นอน” สิงหาหันซ้ายหันขวามองดูตัวเองในกระจก ใบหน้าที่ผ่านการแต่งแต้มเล่นแสงเงาที่ช่างแต่งหน้าเรียกว่าคอนทัวกับเฉดดิ้งทำให้ดูแก้มตอบ ขอบตาลึกดำคล้ำ ปากแห้ง ช่วงคอจนถึงไหล่ก็มีการลงสีจนดูผอมกว่าความเป็นจริงอีกเท่าตัว
“เสียดายหน้ายังใสไปหน่อย ดีว่าแต่งหน้าแล้วออกมาใช้ได้ ไม่งั้นก็แค่ผู้ชายผอมๆ ทั่วไปนั่นแหละ” ช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายมองผลงานด้วยความพอใจ เดิมทีสิงหาก็ผอมตามเป้าของผู้กำกับ แต่ถ้าเข้ากล้องแล้วภาพจะไม่ได้ดูผอมมากเนื่องจากเลนส์กล้องและการจัดไฟ ปัญหานี้เลยต้องแก้ด้วยการแต่งหน้าช่วยอีกทาง
“นั่นสิ ต้องชมทีมคอสตูมกับช่างแต่งหน้าจริงๆ ตอนนี้ผมเหมือนคนอดข้าวอดน้ำมาสามปี ขอข้าวหน่อย หิวข้าวจังเลย” สิงหาแกล้งแบมือขอข้าวไปทางทีมงาน เรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาผู้หญิงได้ แต่เรียกความหมั่นไส้แกมอิจฉาจากทีมงานชายได้มากกว่า คนอะไรผอมโทรมขนาดนี้ก็ยังหล่อกว่าพวกเขา
เนื่องจากวันนี้เป็นการฟิตติ้งรอบสองของสิงหาคนเดียวจึงมีเฉพาะทีมงานที่เกี่ยวข้องไม่กี่คน รวมถึงนักรบที่มาดูแลความเรียบร้อย หลังเสร็จงานนักรบก็บังคับสิงหาให้ขับรถไปส่งที่ร้านแล้วรั้งตัวให้กินอาหารด้วยกันก่อนกลับ ถึงจะบอกว่ากินด้วยกันแต่ในความเป็นจริงมีเพียงนักรบที่นั่งกินอาหารเต็มโต๊ะ ส่วนสิงหามีสลัดผลไม้น้ำใสหนึ่งชาม
“ที่เรียนภาษามือตกลงคล่องแน่นะ ออกกองต่างจังหวัดครูเขาไม่ว่างตามไปทุกคิวนะเว้ย”
“เออน่า กูให้ครูทำคลิปบทยาวๆ ไว้ให้แล้ว แต่ถ้าทำได้อยากให้ตามไปด้วยมากกว่าว่ะ ถ้าผิดขึ้นมาในกองจะมีใครรู้ไหมว่ากูทำผิด”
“ก็ต้องหาคนอื่นแทนนั่นแหละ กูให้เขาแนะนำนักเรียนมา จ้างเป็นพาร์ทไทม์รายวันไป ไปกลับพร้อมกองคงไม่มีปัญหาหรอก” นักรบนึกถึงโลเคชั่นที่ต้องไปถ่าย มีออกต่างจังหวัดหลายฉากเหมือนกัน แต่ไปแค่อยุธยา เดินทางไปกลับได้สบาย
“ดีแล้ว ตอนนี้เตรียมงานไปถึงไหนแล้วล่ะ พร้อมยัง”
“พร้อม ตอนนี้กูพร้อมมาก มึงเล่นให้เต็มที่นะ เอาให้สุด บทไม่ต้องเป๊ะแต่อารมณ์ต้องได้ เออๆ บทบางช่วงก็ต้องเป๊ะเหมือนกัน แต่เล่นๆ ไปเหอะ เดี๋ยวกูคัตเอง”
“มึงว่าหนังจะมีปัญหาเปล่าวะ ไม่ได้แช่งนะ แต่กูกลัวจะทำมึงซวยไปด้วย” เขายอมรับว่ายังกังวลและไม่อยากให้เพื่อนเจอปัญหา
“แค่มึงยอมออกมาแก้ต่างให้ตัวเองบ้างกูก็พอใจแล้ว ปัญหามาก็แก้ไป ก่อนหน้านี้กูวิ่งงานฟรีให้หลายเจ้าเหมือนกันนะ จะไม่มีคนออกมาช่วยกูเลยเป็นไปไม่ได้ โซเชียลก็มีไม่ต้องไปกลัว กูปากหมาอยู่แล้วด้วย มากัดลับหลังเมื่อไรจะลากออกมากัดโชว์สื่อเลย”
“เออๆ อย่าเพิ่งขึ้น กูแค่พูดเผื่อไว้ ขอให้ไม่มีแล้วกัน”
“อย่าไปคิดเยอะ อะไรดีก็ทำ พอใจทำก็ทำ อย่าทำตัวเป็นพระเอกนอกจอนัก เหี้ยบ้างก็ได้”
“เหมือนมึงน่ะเหรอ”
“เออ เหมือนกูนี่แหละรุ่ง ถ่ายหนังจบกูต้องไปถ่ายละครต่ออีก แสดงเป็นมือที่สามด้วย หน้าอย่างกูทำไมไม่ค่อยได้เล่นเป็นคนดีเลยวะ”
“ไม่ใช่หน้าอย่างมึง แต่นิสัยอย่างมึงต่างหาก แม่งนึกถึงเปิดกล้องก็สยองเหมือนกัน มึงเพลาๆ มือกับกูหน่อยล่ะ กูยังไม่เคยโดนมึงกำกับ” สิงหานึกถึงข่าวเบื้องหลังและจากคำบอกเล่าของคนอื่น ฝีมือกำกับของนักรบเรียกว่าเข้มงวดละเอียดยิบทุกซีนจนทำนักแสดงรุ่นใหม่ร้องไห้คากองมาแล้ว
“เออน่า เชื่อมือกู งานนี้กูหวังรางวัลนะเว้ย” นักรบพูดอย่างเชื่อมั่น สิงหาถอนหายใจเมื่อดูท่าทางของผู้กำกับแล้ว เรื่องนี้คงโหดน่าดู แต่ถ้าคว้ารางวัลมาได้จริงๆ ก็คุ้ม เขาทุ่มเต็มที่เหมือนกัน
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่สิงหาจะว่างไปส่งน่านนทีเพราะจะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำแล้ว แต่น่านนทีกลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เขาไปส่งเหมือนเคย เมื่อก่อนถ้าเข้างานรอบดึกเลิกเที่ยงคืนน่านนทีไม่เคยปฏิเสธเขาเลย นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มคุยกัน แถมข้ออ้างว่าอยากนั่งแท็กซี่กลับเองก็ฟังไม่ขึ้น อะไรคือไม่ได้นั่งกลับดึกๆ นานคิดถึง คิดถึงแท็กซี่เนี่ยนะ พฤติกรรมแปลกๆ ของอีกฝ่ายทำให้สิงหายืนกรานไม่ยอมรับแม้คนตาโตจะส่งสายตาอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่ใจอ่อน ลงมาสตาร์ทรถรอเพื่อกดดันอีกฝ่าย จนน่านนทีต้องยอมเดินหลบๆ สายตาคนอื่นมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าประตูเชื่อมลานจอดรถกับล็อบบี้ ใบหน้าอิ่มใสเม้มปากตัวเองอย่างไม่พอใจที่อีกคนขัดใจแล้วใช้วิธีนี้บังคับ
“ไม่ต้องงอนผมเลยนะ ปิงไม่มีเหตุผลเลย ผมบอกปิงก่อนแล้วว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย เดี๋ยวก็ไม่ค่อยว่างเจอ ตอนแรกปิงก็โอเคนี่ ทำไมอยู่ดีๆ มาเบี้ยวกันล่ะ”
“ก็เอาไว้วันหลังก็ได้ คุณสิงก็ไม่ได้ย้ายไปไหนนี่นา” น่านนทีเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ไม่ต้องทำเสียงแบบนี้ใส่เลยนะ ปิงผิดนะครับ เมื่อวานก็ไม่เห็นบอกว่าจะยกเลิกนัดเลย”
“ก็ปิงลืมนี่นา วันนี้ตอนบ่ายคุณสิงก็ทำงานปิงก็งานยุ่งเลยลืมบอกอีก” สองแขนยกกอดอกตัวเองแน่น พยายามมองวิวด้านนอกตลอดทาง
“ห้ามเหวี่ยงนะครับ เราต้องคุยด้วยเหตุผลดีๆ สิ” สิงหาเอื้อมมือวางบนขาน่านนที ตบเบาๆ ให้ใจเย็นๆ แล้วหันมาคุยกัน
“ก็ปิงบอกแล้วว่าเดี๋ยวปิงกลับเอง วันอื่นคุณสิงค่อยไปส่งคุณสิงก็ไม่ฟังปิงอะ”
“ก็ปิงไม่มีเหตุผลไง”
“ก็แล้วทำไมต้องมากดดันปิงด้วยเล่า ปิงไม่ชอบให้มาจอดรถรอแบบนี้นะ” เป็นครั้งที่สองแล้วที่โดนกดดันให้ขึ้นรถด้วยมุขแบบนี้ เขารู้ว่าผิดที่ผิดนัดแต่ไม่เห็นต้องกดดันกันแบบนี้เลย ความรู้สึกที่โดนขัดใจทำให้น้ำตาคลออย่างอึดอัด
“ปิงก็ให้เหตุผลมาก่อนว่าทำไมจะกลับเอง เดี๋ยวนี้ถ้าเลิกดึกผมก็ไปส่งตลอด ทำไมวันนี้ไม่ให้ไป พี่ชายก็ยังไม่มาไม่ใช่เหรอ” สิงหาเห็นคนตาโตเริ่มเสียงสั่นก็กลัวจะร้องไห้ออกมา เขาพยายามพูดให้เสียงนุ่มนวลขึ้น จับมืออีกฝ่ายลูบปลอบเบาๆ
“ก็...ปิงอยากกลับเอง”
“ปิง...เราสัญญากันแล้วไงว่าจะไม่โกหกกัน นะ คุยกันดีๆ นะครับ”
“ก็ปิงกลัวคนอื่นเห็น”
“เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นไรเลย” สิงหาถามอย่างแปลกใจ กว่าสองเดือนมานี้เขารับส่งน่านนทีบ่อยมากก็ไม่เคยมีปัญหานี่นา
“ปิงเพิ่งโดนผู้จัดการเรียก มีคนร้องเรียนแล้วแอบถ่ายรูปปิงกับคุณสิงด้วย” น่านนทีมองมือตัวเองที่ถูกกุมเบาๆ พูดเหตุผลของตัวเองออกมาอย่างคนรู้ตัวว่าทำผิด
“ถ่ายรูป! แล้วผู้จัดการว่ายังไงครับ”
“ก็แค่ตักเตือน ถ้ามีคนถ่ายรูปส่งมาอีกก็อาจโดนย้ายหรือไล่ออก”
“ผมทำให้ปิงมีปัญหาเหรอ ขอโทษนะครับ” สิงหาบีบมือขอโทษและให้กำลังใจ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าพนักงานคนเก่งของเขามีปัญหาในที่ทำงาน แถมปัญหายังเกิดขึ้นเพราะเขาอีก
“ไม่เกี่ยวกับคุณสิงหรอก พวกนั้นจ้องหาเรื่องปิงมาตั้งนานแล้ว นิติฯ กับคอนเซียซไม่ค่อยถูกกัน”
“ถ้าไม่เกี่ยวแล้วทำไมวันนี้ไม่ยอมกลับกับผมล่ะ กลัวโดนถ่ายรูปเหรอ”
“ปิงไม่ได้กลัวโดน คือ...ก็ไม่เชิงไม่กลัว ก็ไม่อยากโดนแต่ที่ไม่ชอบคือโดนแอบถ่ายแล้วเอาไปพูดไม่ดีมากกว่า” เหตุผลจริงๆ ของเขาคือเรื่องนี้ เขาไม่ชอบฟังพวกนั้นพูดถึงสิงหาในแง่ไม่ดี มันไม่ยุติธรรม เหมือนพวกคอมเมนต์ในโซเชียล ถือว่ามีมือจะพิมพ์อะไรก็ได้ไม่ต้องรับผิดชอบความรู้สึกคนอื่น ไม่ได้รู้จริงเลยสักนิด
“เขาพูดถึงปิงไม่ดีเหรอครับ พูดว่าไงบ้าง”
“พวกนั้นไม่เคยพูดถึงปิงดีๆ อยู่แล้ว แต่ที่แย่คือพูดถึงคุณสิงไม่ดีต่างหาก ปิงไม่ชอบ พวกกบในโคลน แย่ยิ่งกว่าในกะลาอีก ข่าวลือในเน็ตมันเชื่อไม่ได้ มีคนแก้ข่าวแล้วก็ยังจำผิดๆ มาด่าอยู่ได้ พวกนี้ไม่มีวันสลัดโคลนพ้นน้ำได้”
“โห ด่าแบบปรัญชา” สิงหาแอบหัวเราะคนโกรธแต่ยังอุตส่าห์คิดศัพท์ใหม่ขึ้นมา เป็นการด่าคนที่น่ารักที่สุด
“ใช่ นอกจากโลกแคบแล้วยังโง่อีก ถ้าไม่เห็นว่าแก่กว่าปิงยืนด่าให้เสียผู้ใหญ่แล้ว ทีตัวเองชอบแอบจอดรถทิ้งไว้ที่คอนโดฯ ปิงยังไม่เอาไปฟ้องเลย”
“ทำไมครับ เขาห้ามจอดเหรอ” สิงหาเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นจะได้ไม่เครียด
“พนักงานถ้ามาทำงานก็จอดได้ เลิกงานก็ต้องขับกลับไป แต่พวกนั้นชอบมาจอดแช่แล้วไปเที่ยว บางทีวันหยุดก็เข้ามาจอดฟรีเพราะมันใกล้บีทีเอสไง”
“อ้อ นิสัยไม่ค่อยดีนะ แต่ปิงก็ทำตัวไม่น่ารักนะวันนี้ คราวหน้าอย่าทำอีกนะ มีอะไรก็บอกเหตุผลผมตรงๆ คุยกันตรงๆ ห้ามใช้อารมณ์กลบเกลื่อน ตกลงไหม”
“ปิงจะพยายามแล้วกัน แต่คุณสิงห้ามกดดันปิงแบบนี้อีกนะ สองครั้งแล้วนะเรื่องจอดรถกดดันเนี่ย ปิงรู้สึกไม่ดีเลย”
“ครั้งแรกผมยอมรับครับว่าผิด เพราะเราไม่ได้นัดกันก่อน แต่ครั้งนี้ไม่ยอมรับครับ ถ้าปิงมีเรื่องอะไร งอนหรืออะไรเราก็ต้องคุยกัน ไม่ใช่เอาไว้วันหลังอ้างโน่นนี่ไปเรื่อย ผมไม่รู้ว่าปิงมีเหตุผลอะไร ผมทำอะไรผิดหรือปิงมีเรื่องอะไรหรือเปล่า มันก็จะคิดมากนอนไม่หลับรู้สึกไม่ดีไปทั้งคืน แล้วเวลาฟุ้งซ่านมันก็จะคิดแต่เรื่องแย่ๆ ไปหมด ผมไม่อยากให้เรารู้สึกแบบนั้น”
“ก็แล้วถ้าปิงยังไม่พร้อมคุยล่ะ” เขารู้ว่าสิงหาพูดถูก ถ้าวันนี้เขาไม่ขึ้นรถมา กลับถึงบ้านก็คงคิดมากว่าสิงหาจะโกรธหรือเปล่า จะเข้าใจเขาไหม หรือพรุ่งนี้ควรอธิบายว่าอะไรดี คงฟุ้งซ่านจริงๆ
“ถ้าเราคบกันแล้วมีปัญหา ทะเลาะกัน ปิงไม่พร้อมพูดผมก็โอเค แต่คืนนั้นต้องอยู่ด้วยกัน อย่างน้อยก็สบายใจกว่าต่างคนต่างไปคิดมากคนเดียว”
“โห ต้องอยู่ด้วยกันเลย” น่านนทีแกล้งทำเสียงโอเวอร์
“ช่ายยย อยู่ด้วยกัน นอนด้วยกัน อะไรๆ ด้วยกัน” เห็นคนทำเสียงแซวเริ่มยิ้มได้เขาก็สบายใจ แกล้งพูดให้เขินมากขึ้น จับมือย้ายมาวางบนตักเขาแทน
“ไม่ใช่ละๆ วกมาทะลึ่งอีกแล้ว แวะร้านขนมให้ปิงเลย” น่านนทีดึงมือตัวเองคืนมาแล้วชี้ร้านขนมหวานร้านประจำให้อีกฝ่ายเตรียมจอด ร้านนี้เปิดตอนเย็นปิดดึกมาก มีทั้งน้ำแข็งไส เต้าทึง บัวลอย อร่อยทุกเมนู
“ไหนบ่นอ้วน ยังจะกินขนมอีก”
“ซื้อไปฝากพ่อกับแม่ไว้กินตอนเช้า โห่ไรอะ ไหนบอกปิงไม่อ้วนไง”
“ไม่อ้วนๆ นุ่มๆ นิ่มๆ กำลังพอดี เนอะ”
“เหมือนโดนหลอกด่ายังไงก็ไม่รู้ เนอะ”
“ฮ่าๆๆ”
—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—
คำเตือน...ตอนนี้มีกุ๊กๆ กู๋ ควรอ่านตอนเช้า