❤ คุณคนเดียวกัน ❤ [ตอนที่ 27 End]★06/04/21★ P:19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤ คุณคนเดียวกัน ❤ [ตอนที่ 27 End]★06/04/21★ P:19  (อ่าน 132399 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
น้องภา ผิดผีเขาแล้วลู๊กก  :laugh:

สองคินที่ผีเข้าผีออก คุ้มดีคุ้มร้าย กับหนึ่งปายที่คิดบวก อยู่กันสามคนลงตัวที่สุด o13
ต่อไปนี้คินจะไม่ต้องเหงาแล้วนะ

ดีใจที่กลับมาค่ะ ติดถึงงง  :mew1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
แหมๆๆๆ ละเมอไปกอดเค้านะ
ตื่นมาจะรู้ไหมคะว่าทำคนเหงาคนนึงมีรอยยิ้มก่อนนอน คินvsคิน

ออฟไลน์ davil01

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ดีใจกลับมาลงให้อ่านต่อแล้ว แต่ขอเม้นนิดนึงได้มั้ยอ่ะ ไม่รุ้คนอื่นเป้นมั้ยแต่นี่แยกไม่ออกอ่ะว่าคินไหนพูดประโยคไหน มันสับสนเบาๆ  :ling2:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เขานอนกอดกัน  :hao3:

ออฟไลน์ Kirana9165

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คิดถึงๆ พี่คิน น้องภา รอๆๆๆๆ

ออฟไลน์ kman2527

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอๆๆๆๆ :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
รออยู่นะคะ  :call: :call: :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46


ตอนที่ 11
อย่างช้าๆ

   

ผมชะงักฝีเท้า ขมวดคิ้วมองอาการสะดุ้งน้อยๆ ของสาวสวยในชุดนักศึกษาที่ยืนอยู่ใต้ตึกคณะ แปลกใจกับท่าทางหลบสายตา ดูมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา แต่ยังไม่ได้ทันได้ถามไถ่ร่างผอมเพรียวก็หยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ บอกลาคนที่คุยด้วยอย่างลนๆ แล้วรีบเดินจากไป ผมหรี่ตาลง มองตามด้วยความสงสัย ก่อนสายตาจะเบนกลับมาเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของอั๋นเพื่อนร่วมคณะดังขึ้น
   
"มึงจำไม่ได้เหรอวะ"
   
ผมนิ่วหน้า นึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าคนที่เพิงเดินจากไปเป็นใคร
   
"จำไม่ได้" ผมเดินต่อจนถึงโต๊ะ หยุดยืนข้างอั๋นแต่ไม่นั่งลง
   
"น้องกวางไง"
   
"กวาง?" ผมขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะยังนึกไม่ออกอยู่ดี
   
"ลืมแล้วเหรอวะ ก็น้องกวางที่เคยแอดไลน์มึงไง"
   
ผมกระจ่างแจ้งทันที สาวสวยต่างคณะที่แอดไลน์ผมมาเพราะคิดว่าผมคือภาคินที่ไม่ใช่ผม พอนึกถึงท่าทางที่เห็นเมื่อครู่ก็อดถอนหายใจไม่ได้
   
"ทำไมวะ เห็นตัวจริงแล้วเสียดายเหรอ" อั๋นมองผมยิ้มๆ
   
"เสียดายทำไมวะ" ผมยักไหล่ ที่ถอนหายใจเพราะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะหลบหน้าผมทำไม ก็แค่คุยผิดคน
   
" เป็นกูคงเศร้าฉิบหาย ไลน์มาจีบมึงอยู่ดีๆ พอรู้ว่าไม่ใช่ไอ้คินก็บล็อคไลน์มึงทันที ชื่อมึงเหมือนใครไม่เหมือนดันเหมือนไอ้คิน แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเลยมั้ง"  เสียงหัวเราะบอกไม่ได้ว่ากำลังเยาะเย้ยหรือแค่ขบขัน
   
"ทำใจเถอะวะ มึงอยากซวยเองที่ชื่อเหมือนมัน"
   
ผมหัวเราะในลำคอโดยไม่พูดอะไร เริ่มชินชากับการถูกเปรียบเทียบ
   
"ไอ้คิน"
   
“อะไร” ผมนึกว่าอั๋นเรียกผม แต่สายตาของอีกฝ่ายกลับมองเลยผมไป พอหันไปมองด้านหลัง ถึงเห็นว่าคนที่ชื่อเหมือนผมยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ทางด้านหลัง ก่อนสายตาจะเลื่อนมาจับที่ใบหน้าของผม
   
"ไม่ขึ้นเรียนเหรอ" เสียงถามบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าของ
   
"กำลังจะไป" ผมตอบพร้อมกับตบบ่าของอั๋น เป็นการบอกจบการสนทนา ก่อนเดินตรงไปยังบันได มีร่างที่สูงกว่าเดินตามหลังมา
   
ผมอดเหลือบสายตาไปมองไม่ได้ หมอนี่หงุดหงิดอะไร ถึงปล่อยรังสีอำมหิตออกมาได้ถึงขนาดนี้
   
"เป็นอะไรวะ" ในที่สุดผมก็อดถามไม่ได้
   
"ทำไมไม่ตอบกลับไป"
   
"ตอบอะไร?" ผมไม่เข้าใจคำถาม  ไม่อาจคาดเดาดวงตาลุ่มลึกที่มองมาของอีกฝ่ายได้
   
"เมื่อกี้"
   
เรื่องนี้เอง ผมหัวเราะเบาๆ อย่างไม่ใส่ใจ เดาได้ว่าอีกฝ่ายได้ยินการสนทนาเมื่อครู่
   
"ตอบทำไมวะ ที่อั๋นพูดก็ถูกแล้ว" ผมพูดเองก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ ว่าทำไมถึงไม่โกรธเหมือนเมื่อก่อน หรืออาจเป็นเพราะ.. ผมเหลือบตามองคนที่เดินอยู่ข้างกัน อาจเป็นเพราะผมรู้จักหมอนี่มากขึ้นก็ได้ เลยไม่ได้รู้สึกโกรธหรืออิจฉาเหมือนเมื่อก่อน
   
ผมมัวแต่คิดอะไรเพลินๆ จึงตกใจเล็กน้อยเมื่อแขนถูกฉุดรั้งเอาไว้ สายตาตกลงมองมือที่จับข้อมือก่อนเงยหน้าขึ้นสบตา
   
"อะไร"
   
"คุณไม่ได้แย่แบบนั้น"
   
"เดี๋ยว! อย่าบอกนะว่ามึงโกรธเรื่องนี้ ฮ่าๆ " ผมหัวเราะเสียงดัง ส่งสายตาเป็นประกายขำไปหาอีกฝ่าย
   
"ไม่ใช่มึงเหรอวะที่เคยพูดว่า 'ลำบากหน่อยนะที่คุณชื่อเหมือนผม' หรือไม่ก็ 'ระหว่างคุณกับผม ก็ต้องเป็นผมอยู่แล้ว' มึงเองก็คิดแบบนั้นไม่ใช่เหรอวะ"
   
ผมดึงมือออก แต่อีกฝ่ายจับข้อมือมั่น ดวงตาที่มองมาเป็นประกายไหว สีหน้าคล้ายคนรู้สึกผิด
   
"อะไรของมึง" ผมพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ไม่ชินกับสายตาที่เห็น
   
"ไม่เรียนเหรอวะ" เป็นผมที่ถามขึ้นมาบ้าง เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมขยับ
   
"ขอโทษ" เสียงพูดเบาจนเกือบไม่ได้ยิน
   
"หะ?" ผมเปล่งเสียงออกไป ไม่ได้ต้องการกวนอีกฝ่าย แค่ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
   
"ขอโทษ ผมผิดเอง" เสียงพูดยังแผ่วเบาทว่ามั่นคง ผมไม่เห็นสีหน้าของคนพูดเพราะอีกฝ่ายปล่อยแขนผมแล้วออกเดินนำ
   
ผมมองตามแผ่นหลังกว้าง ครู่เดียวก็หัวเราะพร้อมกับส่ายศีรษะเบาๆ  ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมคิดว่าตัวเองเข้าใจร่างสูงที่เดินอยู่ด้านหน้า หมอนี่ไม่ใส่ใจใครเพราะไม่อยากเจ็บปวดอีกก็เท่านั้น

• • • • •

"เดี๋ยวไอ้ปายกลับเอง จะไปบ้านญาติ" ผมบอกหลังจากเปิดประตูขึ้นนั่งบนรถที่จอดรออยู่ เจ้าของรถพยักหน้าก่อนเคลื่อนรถออกจากลานจอด แต่ยังไม่พ้นมหา'ลัยดี เสียงโทรศัพท์ของอีกฝ่ายก็ดังขึ้น ผมกางหูฟังอย่างตั้งใจ แต่สายตายังมีมารยาทพอจะแกล้งมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ได้ยินเสียงปฏิเสธเย็นชาดังขึ้นสองครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคำตอบรับสั้นๆ ก่อนสายจะตัดไป
   
"คุณไม่รีบกลับใช่ไหม"
   
"ไม่ มึงจะไปไหนหรือเปล่า เดี๋ยวกูกลับเองได้" ผมออกตัว

"ไม่ต้อง"
   
"อืม" ผมพยักหน้า สมองสั่งไม่ให้ซักถามสิ่งใด ในรถถูกแทนที่ด้วยความเงียบ สีหน้าเย็นชาถึงขีดสุดของอีกฝ่ายทำให้ผมรู้ว่าสิ่งที่ควรทำตอนนี้คือการนั่งให้เงียบที่สุด


ผมมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยดวงตาตื่นเต้นเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับตื่นตะลึง เพราะใช่ว่าบ้านที่อาศัยอยู่ตอนนี้จะเล็กเสียเมื่อไหร่ เมื่ออีกฝ่ายจอดรถและก้าวลงไปโดยไม่บอกกล่าวอะไร ทำให้ผมต้องตัดสินใจเองว่าควรอยู่ในรถ หรือลงไปด้วย แต่ด้วยมารยาทที่ได้รับการสั่งสอนมา ผมจึงตัดสินใจเปิดประตูลงรถ ก้าวตามอีกฝ่ายไป
   
ห้องรับแขกกว้างขวาง มีร่างสูงใหญ่ของผู้ชายวัยกลางคนท่าทางน่าเกรงขามนั่งอยู่ ข้างกายเป็นผู้หญิงใบหน้าใจดี ผมหวนนึกไปถึงเรื่องที่พี่นทเล่า เดาด้วยสายตาว่านี่คงเป็นพ่อของภาคิน และผู้หญิงที่นั่งอยู่คงเป็นนางพยาบาลพี่เลี้ยงคนนั้น ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เริ่มรู้ตัวว่าคิดผิดที่มาด้วย
   
ผมยกมือขึ้นไหว้ ก้มศีรษะลงต่ำ แอบก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว ในเมื่อคนข้างๆ ไม่แนะนำ ผมก็ไม่ควรแนะนำตัวเอง
   
“ผมมาเอาของที่พ่อบอก” เสียงพูดแม้แฝงไว้ด้วยความเคารพแต่เย็นชาและเหินห่าง
   
“คิน” เสียงเรียกชื่ออ่อนหวานและเกรงใจ ผมมัวแต่คิดอะไรเพลินๆ จึงเผลอตอบรับออกมา
   
“ครับ”
   
ทุกสายตาหันมามองโดยพร้อมเพรียง ผมได้แต่ยิ้มแหย โชคดีที่คนข้างๆ ไม่ได้ปล่อยให้ผมกระดากนาน เสียงแนะนำเรียบๆ จึงดังขึ้น
   
“เพื่อนผม ชื่อคินเหมือนกัน”
   
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ ก่อนหลุบสายตาลง
   
“คินจ๊ะชวนเพื่อนอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนสิ” เสียงอ่อนหวานดังขึ้นอีกครั้ง แต่คนข้างผมทำเหมือนไม่ได้ยิน
   
“ผมต้องรีบไป วันหลังค่อยแวะไปคุยกับพ่อที่บริษัท”
   
ผมแอบลูบขนแขนที่ตั้งขึ้นเบาๆ หมอนี่นิสัยเย็นชาผมก็รู้ แต่แค่ไม่รู้ว่าเย็นชาได้ถึงเพียงนี้
   
“คิน” เสียงปรามทรงพลังดังขึ้น แต่ในน้ำเสียงผมจับได้ถึงความไม่สบายใจและรู้สึกผิดของคนพูด แต่เมื่อคนข้างกายผมยังยืนนิ่ง อีกฝ่ายจึงเพียงถอนหายใจยาวๆ ออกมา ก่อนหยิบถุงที่วางอยู่บนโต๊ะยื่นให้
   
“พ่อกับน้าปรางเพิ่งกลับจากญี่ปุ่น น้าปรางรู้ว่าคินตามหาอยู่เลยไปหาซื้อมาให้”
   
ผมลอบเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยื่นด้านข้าง รอยยิ้มเหยียดผุดขึ้นที่ริมฝีปาก ดวงตาตกลงมองถุงที่ยื่นมาตรงหน้า ก่อนดวงตาจะกลับขึ้นไปสบตากับผู้เป็นพ่อ
   
“เมื่อหนึ่งนาทีก่อนผมยังชอบ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”
   
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝื่อน ยิ่งรู้ที่มาที่ไปของเรื่องแล้ว ก็ยิ่งอยากหายตัวไปจากสถานการณ์ตรงหน้า
   
“คิน!”
   
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมรู้ว่ามารยาทที่ดีเป็นยังไง” มือใหญ่ยื่นออกไปรับถุงตรงหน้ามาถือไว้
   
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อน สวัสดีครับ”
   
ผมรีบยกมือไหว้ตามแทบไม่ทัน ส่งยิ้มฝืดเฝื่อนไปให้ ก่อนหันหลังก้าวตามร่างสูงไป

   
ในรถเงียบยิ่งกว่าตอนมา ผมลอบมองใบหน้าเฉยชา ตั้งแต่ก้าวขึ้นรถจนขับออกจากรั้วบ้านมาไม่มีคำใดหลุดออกจากปากของอีกฝ่าย ผมจึงได้แต่ส่งสายตาเป็นห่วงไปหาเป็นระยะ โดยไม่พูดอะไรเช่นกัน
   
“ไม่ถามเหรอ” ในที่สุดเสียงหนึ่งก็ทำลายความเงียบขึ้นมา
   
ผมอ้าปากแล้วหุบปาก หยุดคิดครู่หนึ่งถึงพูดออกไป
   
“ไม่ใช่เรื่องของกู แต่ถ้ามึงยอมให้ถาม กูก็อยากถามแค่ว่า..มึงหิวไหม”  ตอนท้ายผมทอดเสียงอ่อนโยนลงโดยไม่รู้ตัว
   
สายตาที่หันมามองคล้ายประหลาดใจ เพียงครู่เดียวเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น
   
“เอาสิ”
   
“ตามนั้น” ผมพูดด้วยเสียงร่าเริง ยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายดีขึ้น ความรู้สึกหนักหน่วงเมื่อครู่ค่อยๆ จางหายไป
   
• • • • •

ร้านอาหารเล็กตั้งอยู่ริมบึงขนาดใหญ่ ผมมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาพิจารณา สายตาของอีกฝ่ายยังจับจ้องไปยังผิวน้ำ รอยไหวในดวงตาคล้ายคลื่นเล็กๆ ผมยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ เลือกที่จะปล่อยให้อีกฝ่ายใช้เวลากับความคิดของตัวเอง
   
“คนที่คุณเจอคือพ่อของผมกับภรรยา”
   
ผมชะงัก สบตากับดวงตาที่หันกลับมา
   
“อ๋อ อืม” ผมพยักหน้า
   
“เมื่อกี้คุณคงพอเดาได้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แม่ของผม”
   
“อืม” ผมพยักหน้าอีกครั้ง
   
“เธอเคยเป็นนางพยาบาลดูแลผม เคยเป็นพี่เลี้ยง และเป็นคนที่ผมถึงกับเคยพูดว่ารักยิ่งกว่าแม่แท้ๆ”
   
เสียงหัวเราะขมขื่นทำให้ภายในอกของผมเกิดแรงบีบ ประโยคสุดท้ายของอีกฝ่ายก่อให้เกิดความสงสารและเห็นใจอย่างรุนแรง แต่ผมเลือกที่จะนั่งฟังเงียบๆ
   
“หลังจากคุณเห็นพ่อผมกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้วยกัน ผมว่าคุณคงเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
   
ผมกลืนน้ำลายลงคอ สมองคิดอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็เลือกที่จะพยักหน้า คิดว่าพูดความจริงน่าจะดีกว่า
   
“อืม พอเดาได้”
   
“เรื่องก็เป็นแบบนั้น  ง่ายๆ แค่นั้น คนสองคนบอกว่ารักกัน อย่างอื่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไป”
   
เสียงหัวเราะขื่นดังขึ้น เป็นครั้งแรกที่ผมไม่อยากได้ยินเสียงหัวเราะของอีกฝ่าย 
   
“เรื่องมันผ่านมานานแล้ว แต่ถ้าจะให้ผมทำเหมือนเป็นครอบครัวอบอุ่นก็ตลกเกินไป”
   
ผมพยักหน้า ในใจอดคิดไม่ได้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงยอมเล่าให้ผมฟัง หรือเป็นเพราะว่าผมเห็นแล้ว
   
“คิน” ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา 
   
“ถ้าจะบอกว่าให้ปล่อยวาง ลองให้โอกาส หรืออะไรทำนองนั้นก็เก็บเอาไว้เถอะ ไม่ต้อบอกผม” เสียงพูดแม้ไม่กระด้างแต่ก็บอกชัดว่าเจ้าตัวหมายความตามที่พูดทุกคำ
   
“กูจะพูดทำไมวะ” ผมส่ายหน้าก่อนเรียกอีกฝ่ายซ้ำอีกครั้ง
 
"คิน..”
   
“หือ?” ดวงตาที่ราวกับมีเหวลึกอยู่ข้างในเงยขึ้นสบตา ผมส่งยิ้มให้อีกฝ่าย สบตาคู่นั้นก่อนพูดด้วยเสียงที่อ่อนลง

“มึงทำได้ดีแล้ว ใช้ชีวิตได้ดีแล้ว”
   
ดวงตาคู่นั้นไหวราวกับระลอกคลื่น ริมฝีปากเผยอออกเล็กน้อย ก่อนจะระบายออกเป็นรอยยิ้ม
   
“จ้องแบบนี้อยากมีเรื่องเหรอ” ผมยักคิ้ว ทำสีหน้ากวนประสาทอีกฝ่าย
   
“เปล่า” คนพูดส่ายศีรษะ สีหน้าอ่อนโยนลง “ขอบใจมาก”
   
“เรื่องอะไรวะ” ผมทำเป็นไม่รู้เรื่อง
   
ดวงตาคู่นั้นเกิดประกายเจ้าเล่ห์ขึ้นเล็กน้อย “เรื่องที่คุณโดนต่อยแทนผม”
   
“รู้แล้วก็ดี กูลำบากเพราะมึงมาเยอะแล้ว ต่อไปก็ทำตัวให้มันดีๆ หน่อย”
   
“อืม” เสียงรับคำฟังดูเชื่องจนผมชักไม่ไว้ใจ แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่พูดอะไรผมจึงพูดต่อ
   
“ต่อไปก็อย่าหาเรื่องอะไรมาให้กูอีก”
   
“แต่ผมลดความหล่อของตัวเองไม่ได้”
   
“อ้าวไอ้นี่!” ผมออกหมัดไปตรงหน้า ก่อนชักมือกลับ
   
“ฮ่า” เสียงหัวเราะดังกังวาน ผมทำท่าฮึดฮัด แต่เพียงครู่เดียวริมฝีปากก็ระบายรอยยิ้มออกมา มองคนที่นั่งตรงหน้าด้วยสายตาโล่งอก เมื่อก่อนผมเกลียดความหยิ่งยโสของหมอนี่มาตลอด แต่ตอนนี้กลับคิดว่า ภาคิน   กิตติวริศกุล ที่เป็นแบบนี้ดีที่สุดแล้ว ดวงตาหยิ่งยโสแบบนี้ ดีกว่าดวงตาขมขื่นเป็นไหนๆ
   
“ว่าแต่..” ผมพูดแล้วหยุด จ้องตาอีกฝ่าย
   
“อะไร”
   
“มื้อนี้กูติดมึงไว้ก่อนได้ไหม เดือนนี้กูจนเดี๋ยวต้นเดือนจ่ายให้”
   
“ไม่ต้อง ผมเลี้ยงเอง”
   
“ไม่ได้ นานๆ เลี้ยงทีกูโอเค แต่พักนี้มึงเลี้ยงพวกกูบ่อยเกินไปแล้ว” ผมไม่เห็นด้วย
   
“วันนี้ผมลากคุณไปด้วย ผมเลี้ยงข้าวคุณก็ถูกแล้ว”
   
“งั้นก็ตามใจมึง” ผมเป็นคนไม่เรื่องมากอยู่แล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายยังยืนยันคำเดิมก็ตามใจ
   
“เมื่อก่อนคุณไม่ชอบหน้าผมมากเหรอ”
   
“หะ!?” ผมไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะถามเรื่องนี้ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จึงออกอาการงุนงงเล็กน้อย
   
“คุณไม่ชอบผม มากไหม”
   
“เรียกว่าเกลียดขี้หน้าเลยดีกว่า” ผมพูดโดยไม่ลังเล ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ
   
“แล้วตอนนี้?”
   
ผมหยุดคิดนิดหนึ่ง “กูถึงกับย้ายมาอยู่บ้านมึงก็ต้องไม่เกลียดเหมือนเมื่อก่อนอยู่แล้ว แค่หมั่นไส้เป็นพักๆ อยากหักคอเป็นระยะ รวมๆ ก็น่าจะชอบมึงอยู่มั้ง”
   
“ฮ่าๆ”
   
ผมถลึงตาใส่ เมื่ออีกฝ่ายหัวเราะจนเหมือนมีน้ำตาคลอตา
   
“ตรงดี” เสียงชมยังปนด้วยเสียงหัวเราะ
   
“แล้วกูต้องโกหกมึงด้วยเหรอ เกลียดแต่บอกว่าชอบ ชอบต้องบอกว่าเกลียดเหรอวะ”
   
“ไม่ แบบนี้ดีแล้ว” เสียงพูดอ่อนลง พอๆ กับสายตาที่มองมา
   
“กูดีอยู่แล้ว” ผมสำทับคำของอีกฝ่าย  ดวงตาค่อยๆ ปรากฏความเจ้าเล่ห์ “แต่มึงเองก็ชอบกู”
   
“หือ?”
   
“หรือไม่จริง เมื่อก่อนเวลามึงทำให้กูซวยไปด้วยกูโคตรเกลียดมึง อยากต่อยให้ร่วง แต่เดี๋ยวนี้กูกลับปลง เริ่มคิดว่าช่างเถอะ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะกูเริ่มเห็นมึงเป็นเพื่อน กูเลยไม่โกรธ ส่วนมึงเมื่อก่อนต่อให้กูไปหาเรื่องมึงถึงที่ มึงก็แค่ยักไหล่ บอกว่าเป็นความซวยของกูเอง แต่วันนี้มึงกลับโมโหแทนกู แถมมึงยังขอโทษกูด้วยว่าเป็นความผิดมึง แบบนี้มึงคิดว่าไงล่ะ” ผมยักคิ้ว ใช้สายตาเจ้าเล่ห์มองอีกฝ่าย
   
“หึๆ อย่าหวังเลย ผมไม่พูดคำนั้นแน่”
   
ผมแกล้งทำเสียงไม่พอใจในลำคอ ก่อนหัวเราะออกมา รินเบียร์ที่เหลือในขวดใส่แก้วตัวเอง
   
“สั่งเบียร์เพิ่มไหม”
   
“เอาสิ” คนตรงหน้าตอบรับ ท่าทางสบายๆ ของอีกฝ่ายผิดกับเมื่อแรกเดินเข้ามา ผมมองด้วยความพอใจ ก่อนชวนคุยเรื่อยเปื่อย ปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ โดยไม่ใส่ใจ นึกถึงตอนที่ตัวเองยืนอยู่ในห้องรับแขก กลางสมรภูมิอารมณ์ ตอนนั้นผมคิดว่ารู้อย่างนี้กลับเองก็ดี ไม่น่าติดรถกลับด้วยเลย มาถึงตอนนี้.. ผมอมยิ้มในหน้า ถอนหายใจอย่างโล่งอก
   
โชคดีจริงๆ ที่ไปด้วย โชคดีที่ไม่ได้ปล่อยหมอนี่ไว้คนเดียว
   
“ไอ้คิน” ผมเรียกคนตรงหน้า
   
“หือ?”
   
“มึงชอบกู มึงเห็นกูเป็นเพื่อนแล้วชัวร์”
   
“หึๆ”


:::: ♥ TBC ♥::::
  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เขาเห็นมากกว่าเพื่อนแล้วนะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ดีจัง เริ่มเข้าใจกันมากขึ้นละ
 :hao5:

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เดี๋ยว​ก็​ชอบมากกว่า​เพื่อนแหละ​ ดูออก

อย่าหายไปอีกนะคะคุณพริมคิดถึง​มากเลย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ชอบกันแล้วววววว  :hao3:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ชอบนี่ชอบแบบไหนเอ่ยยยย :hao3:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เห็นเป็นเพื่อนหรือเห็นเป็นอื่น?

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เพื่อนจ้ารา

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
หวังว่าน้องคินจะเยียวยาพี่คินได้ในเร็ววันนะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
งุ้ย

ออฟไลน์ cookie8009

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มาแล้วๆๆ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ตอนนี้เป็นเพื่อนแต่ต่อไปไม่แน่

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กลับมาแล้ว

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46




ตอนที่ 12
ซึมลึก



หลังหมดชั่วโมงเรียน เพียงครู่เดียวห้องที่เต็มไปด้วยนักศึกษาก็กลายเป็นห้องโล่ง ผมยกมือขึ้นบิดขี้เกียจ หันไปมองปายที่เริ่มเก็บคอมพิวเตอร์และหนังสือใส่กระเป๋า
   
"เย็นนี้กินอะไรดี" ปากถามแต่ในหัวมีภาพผัดไทยกุ้งสดตัวโตๆ ลอยวน คิดไว้ว่าถ้าปายไม่เลือกจะรีบนำเสนอทันที
   
"วันนี้กูไม่กลับ"
   
"ไปไหนวะ" ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน
   
"มึงลืมแล้วเหรอว่าพรุ่งนี้กูต้องพาป้าสาไปโรงพยาบาล"
   
"กูลืม" ผมเลืมไปว่าเมื่อคืนหลังจากที่ปายกลับมาจากบ้านญาติ ก็บอกเอาไว้ว่าวันนี้ปายจะไปนอนค้างที่บ้านพี่สาวของแม่ เพราะวันถัดไปต้องพาป้าไปโรงพยาบาลตั้งแต่เช้า เนื่องจากลูกสาวของป้าติดงานด่วนไปส่งไม่ได้
   
"มึงลองถามคินสิเผื่อว่าง"
   
"อืม เดี๋ยวกูลองถามดู แต่คืนวันศุกร์แบบนี้มันคงไม่ว่างมั้ง" ผมคาดเดา
   
"มึงยังว่าง"
   
"ไอ้ปาย" ผมลงเสียงหนัก มองเพื่อนด้วยสายตาแทนคำพูดว่า 'กูรู้ตัว มึงไม่ต้องย้ำ'
   
"รู้ก็รีบถาม เผื่อยังไม่มีใครนัดมึงจะได้มีเพื่อนกินข้าว"
   
"เออกูรู้แล้ว มึงไม่ต้องห่วงเรื่องของกู รีบไปได้แล้ว" ผมเร่งปาย เพราะบ้านป้าสาอยู่ค่อยข้างไกล ต้องฝ่ารถติดอีกหลายชั่วโมง

   
ผมเดินตามหลังปายจนมาถึงด้านล่างตึก กวาดสายตาไปรอบๆ มือเตรียมหยิบโทรศัพท์ออกมาเผื่อว่าไม่เจอ แต่สายตาสะดุดเข้ากับร่างสูงของอีกฝ่ายเสียก่อน
   
"กูเจอไอ้คินแล้ว มึงกลับดีๆ ล่ะ" ผมบอกปาย
   
"พรุ่งนี้กูส่งป้าสาที่บ้านแล้วจะรีบกลับ"
   
"อืม" ผมพยักหน้ารับรู้ เดินแยกตรงไปหาเพื่อนร่วมชายคาบ้าน
   
"ไอ้คิน" ผมเรียกนำไปก่อน ครู่เดียวก็เดินถึงตัวอีกฝ่าย
   
"มึงกลับบ้านเลยหรือเปล่า กูจะชวนไปกินผัดไทยกุ้งสดเจ้าอร่อย อ้อ วันนี้ไอ้ปายไม่กลับนะไปนอนบ้านญาติ" ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่านอกจากคิน จีนและนาวีแล้ว ยังมีผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย เมื่อครู่ร่างสูงของคินบังเอาไว้ผมถึงไม่เห็น
   
"มาช้าไปแล้ว" นาวีพูดยิ้มๆ ส่งสายตาเป็นนัยๆ ไปยังผู้หญิงร่างเล็กหน้าตาน่ารักทียืนอยู่
   
"อ๋อ" ผมพยักหน้า "งั้น.." ผมคิดจะพูดว่างั้นกูกลับเลย แต่เสียงเล็กขัดขึ้นเสียก่อน
   
"เพิร์ลชวนพี่คินไปดูหนังค่ะ เสียดายจังไม่งั้นคงได้ไปกินด้วยกัน"
   
"ไม่เป็นไร" ผมยกยิ้มมุมปาก ทำไมจะมองไม่ออกว่าอีกฝ่ายรีบพูดเพื่อตีกันไม่ให้ผมย้ำชวน หรือขอตามไปด้วย เมื่อคิดถึงตรงนี้ก็ได้แต่ถอนใจ เสียดายใบหน้าสดใสดูไร้เดียงสา ท่าทางจะเอาเรื่องอยู่ไม่น้อย
   
ผมเลื่อนสายตาจากใบหน้าเล็ก พลันดวงตาก็ปะทะกับดวงตาของคิน ผมเผลอหลุบตาลงต่ำเนื่องจากกลัวถูกจับได้ว่านินทาผู้หญิงของอีกฝ่าย
   
"งั้นกูกลับล่ะนะ" ผมพูดโดยอาศัยหันไปมองหน้าจีนแทน
   
"ไปด้วยกันไหม" เสียงเรียบดังขึ้น ผมหันไปมองหน้าคิน หางตาเห็นใบหน้างอง้ำของหญิงสาวเพียงคนเดียวที่่ยืนอยู่ ก่อนเจ้าตัวจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ผมถอนใจซ้ำ เสียดายความน่ารักจริงๆ
   
"ไม่ดีกว่ามึงไปเถอะ กูกลับก่อนเดี๋ยวรถติด" ผมแยกตัวออกมาโดยไม่รอให้อีกฝ่ายชวนซ้ำ เห็นสีหน้าแค่นั้นก็รู้แล้ว ขืนผมไปด้วยจริงคงโดนแช่งข้ามวันข้ามคืนแน่ เฮ้อ หวังว่าไอ้คินคงมองออกนะ ขืนพลาดพลั้งไปโดนเกาะติดไม่ปล่อยแน่ ผมได้แต่อวยพรอยู่ในใจ

• • • • •

-ภาคิน   กิตติวริศกุล-

   
"พี่คินอยากดูเรื่องอะไรคะ เพิร์ลตให้พี่คินเป็นคนเลือก"  เสียงถามกังวานใส ผมต้องใช้เวลาครู่หนึ่งถึงจับใจความได้
   
"เพิร์ลเลือกเถอะ"
   
"เหมือนพี่คินใจลอยเลย มีอะไรหรือเปล่าคะ”
   
"พี่ขับรถ" ผมตอบสั้นๆ สายตามองตรงไปยังถนนเบื้องหน้า
   
"ไม่ได้กำลังคิดถึงใครอยู่ใช่ไหมคะ"  น้ำเสียงใสคล้ายเจ้าตัวแค่แซวเล่น แต่หางเสียงกลับเจือไว้ด้วยความน้อยใจ ผมเหลือบสายตาไปมองก่อนหันกลับมา ไม่ได้ตอบคำถามอีกฝ่ายเพราะมัวแต่คิดถึงสีหน้าและท่าทางของคนที่ชื่อเหมือนกัน เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ทำไมหมอนั่นดูเนือยๆ ผมไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้มาก่อน ยังเคยสงสัยเลยว่าเจ้าตัวเคยเศร้ากับเขาบ้างไหม
   
"พี่คิน” มือบางยื่นมาแตะแขนของผม
   
"ขอโทษที พี่คิดอะไรเพลินไปหน่อย" ผมตอบเสียงเรียบ
   
"เพิร์ลว่าเรากลับกันเถอะค่ะ ถ้าพี่คินมีเรื่องไม่สบายใจเราค่อยไปวันหลังก็ได้”
   
“...”
   
“เพิร์ลพูดจริงนะคะ วันนี้กลับบ้านเร็วหน่อยก็ดี”
   
"ตามใจเพิร์ล เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้าน"
   
"คะ!” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง สีหน้าตื่นตะลึงก่อนจะรีบเก็บงำเอาไว้
   
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” ผมย้ำคำเดิม เท้าที่เหยียบคันเร่งเพิ่มน้ำหนักลงไป เพียงไม่นานรถก็เปลี่ยนเส้นทาง

• • • • •

“คิน”
   
“เชี่ย!”  ร่างที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกสะดุ้งโหยง สีหน้าตกใจ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นผมจึงสงบลง
   
“กูตกใจหมด”
   
“ไม่ได้ยินเสียงรถ เสียงเปิดประตูบ้านเหรอ”
   
“ไม่ได้ยิน กูมัวแต่ดูข่าว” นิ้วชี้ไปยังหน้าจอโทรทัศน์ “ ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างอีกฝ่าย วางถุงในมือลงบนโต๊ะ
   
“อะไรวะ” คนถามทำจมูกฟุดฟิด
   
“อยากรู้ก็ดูเอาเอง”
   
“ผัดไทย? มึงไปกินมาเหรอ”
   
“...”
   
“กูว่าจะไปกินเหมือนกันแต่เหลือคนเดียวเลยขี้เกียจ งั้นพวกนี้มึงซื้อมาเผื่อแผ่กูใช่ไหม” ดวงตาที่มองมาเป็นประกาย “มึงช่างเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ” ปากก็พูดไป มือก็แกะฝากล่องใส่ผัดไทยออก 
   
“เพื่อตอบแทนน้ำใจมึง กูจะกินให้หมดทั้งสองกล่องไม่ให้เหลือเลย”
   
“ของผมกล่องหนึ่ง”
   
“ยังไม่ได้กินเหรอ” คิ้วของคนพูดขมวดเข้าหากัน ก่อนสายตาจะเหลือบขึ้นไปมองนาฬิกาบนผนัง
   
“ทำไมกลับมาเร็ว”
   
“ไม่ได้ไป”
   
“ทำไมวะ” ดวงตาที่มองมาเต็มไปด้วยความสงสัย ผมยกยิ้มมุมปาก ยื่นมือไปหยิบกล่องที่เปิดฝาแล้วมาวางตรงหน้า มีสายตามองตามมาเหมือนจะพูดว่าของกู แต่ไม่มีเสียงหลุดลอดออกมา
   
“เพิร์ลเปลี่ยนใจ”
   
“ทะเลาะกัน?”
   
“ไหนคุณบอกว่าไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น”
   
“เออ กูไม่ถามก็ได้” คนพูดสะบัดหน้ากลับ หันไปแกะผัดไทยอีกกล่อง ผมมองอีกฝ่ายปรุงรส ก่อนคีบเส้นเข้าปากด้วยความว่องไว สีหน้ามีความสุข ไม่เหลือเค้าความเหนื่อยหน่ายให้เห็น

“ไหนๆ คืนนี้ก็ว่างแล้ว ออกไปดื่มกันไหม” ผมเอ่ยปากชวน เก็บความเป็นห่วงไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย

“ไม่ดีกว่ากูขี้เกียจ”

“ออกไปข้างนอกจะได้หายเซ็ง”

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ก่อนตะเกียบในมืออีกฝ่ายจะถูกวางลง ดวงตาจับจ้องมาที่ใบหน้าของผมอย่างใช้ความคิด
   
“มึงเป็นอะไรหรือเปล่าวะ”
   
“หือ?” ผมเลิกคิ้วขึ้น ไม่คิดว่าจะถูกถามด้วยคำถามนี้
   
“กูบอกก่อนว่ากูไม่ใช่พวกอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นเพื่อความสนุก แต่กูแค่เป็นห่วง มึงมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
   
ผมสบตากับดวงตาที่มองมา มันเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างจริงใจ ผมอดหัวเราะไม่ได้ จะบอกได้อย่างไรกันว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่ผมควรเป็นฝ่ายถามมากกว่า จะบอกได้อย่างไรว่าที่ผมรีบกลับมาเพราะอะไร
   
“ว่าไงวะ”
   
“ไม่มีอะไร”
   
“แน่ใจ?”
   
“แน่ใจ” ผมพยักหน้า
   
“ไม่มีอะไรก็ดี กูนึกว่ามึงกำลังมีปัญหาถึงอยากเมา”
   
!! มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง
   
“มึงชอบน้องเพิร์ลอะไรนั่นไหมวะ” จู่ๆ คนถามก็เปลี่ยนเรื่อง
   
“ถามทำไม”
   
“เออน่า ตอบมาเถอะ”
   
“ไม่รู้สึกทั้งชอบและไม่ชอบ”
   
“ไม่ชอบ แต่ไปดูหนังด้วย?”
   
“ผมว่าง”
   
“เชี่ย!มึงแม่ง..” คนอุทานมองผมด้วยสายตาทึ่ง แต่น่าจะเป็นไปในทางที่ไม่ดีมากกว่า
   
“มันก็เหมือนไปดูหนังกับเพื่อน ผมยังไม่ได้คิดอะไร และไม่เคยรุ่มร่ามหรือเกินเลย”
   
“มึงจะแก้ตัวทำไมวะ ฮ่าๆ ทำอย่างกับผัวถูกเมียจับได้ว่ามีผู้หญิงอื่น”
   
ผมชะงัก จู่ๆ ก็ไม่มีคำอธิบายให้กับการกระทำที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
   
“ไม่ต้องห่วง” มือหนาตบลงบนไหล่ผม “ในสายตากูมึงไม่ชั่วไปกว่านี้หรอก” คนพูดยังหัวเราะไม่หยุด
   
“....”
   
“เรื่องมึงควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าทำอย่างกับกูไม่เคยได้ยิน กูออกจะอิจฉา ถ้าเป็นกูนะ..”
   
“ไม่กินใช่ไหม” ผมถามเสียงเย็น
   
“กินสิวะ” ท่าจับกล่องผัดไทยรามกับจงอางหวงไข่ สายตาที่มองผมหวาดระแวงไม่ไว้ใจ เห็นท่าทางแบบนั้นใครจะทำหน้าตึงต่อไปไหว สุดท้ายก็เผลอหัวเราะออกมา พอเห็นผมไม่เอาจริงถึงยอมปล่อยมือออก
   
“ที่กูถามเพราะกูว่าน้องจะไม่ใสเท่าไหร่ ถ้าคบกันจริงๆ มึงน่าจะปวดหัว”
   
“หืม?”
   
“คือถ้าเมื่อกี้มึงบอกว่าชอบกูก็จะไม่พูด แต่เห็นมึงบอกยังไม่ได้คิดอะไร กูเลยเตือน”
   
“....”
   
 “หน้าตาโคตรแบ๊ว แต่นิสัยน่าจะไม่ใช่ เห็นแล้วก็ได้แต่ถอนใจ เสียดายหน้าตว่ะ” คนพูดถอนหายใจยาว สีหน้าท้อแท้
   
สีหน้านี้!
   
“ตอนเย็นทำไมคุณดูเนือยๆ เป็นอะไรหรือเปล่า” ผมถามช้าๆ จับจ้องใบหน้าของอีกฝ่าย
   
“เนือย? กูเหรอวะ” คนพูดชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ผมพยักหน้าว่าใช่
   
“ไม่นะ ทำไมกูไม่เห็นจำได้ มีแค่ง่วงตอนเรียน พอมึงกับไอ้ปายไม่ว่าง กูก็ขี้เกียจเลยกลับบ้านมาต้มมาม่ากิน แล้วนั่งขึ้นอืดดูทีวีอยู่นี่”
   
“...”
   
“เดี๋ยวนะ” ดวงตาที่มองมาเบิกกว้างขึ้น “อย่าบอกว่ามึงกลับมาเพราะนึกว่ากูนอยด์”
   
ผมนั่งนิ่ง ใบหูร้อน ความรู้สึกก่ำกึ่งระหว่างโมโหกับกระดากอาย
   
“เชี่ย! จริงเหรอวะ ฮ่าๆ”
   
ผมหันไปมองด้วยสายตาเย็นเยือก แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เอาแต่หัวเราะจนหน้าแดง แต่พอผมลุกขึ้นยืนกลับมีมือข้างหนึ่งจับแขนเอาไว้
   
“อย่าอารมณ์เสียสิวะ มึงกลับเร็วก็ดีแล้ว เห็นอย่างนี้กูก็เหงาเป็น”
   
“...”
   
“นั่งก่อน”
   
“...”
   
“ไอ้คิน” เสียงเรียกทอดยาวนุ่มหู
   
“น่ามึง”
   
ดวงตาที่มองมาแม้ไม่อ่อนหวานสักนิด แต่กลับทำให้ความโมโหที่มีอยู่จางไป ผมถอนหายใจยาวครั้งหนึ่งก่อนทรุดตัวลงนั่งที่เดิม คิดว่าอีกฝ่ายเดาอารมณ์ผมออกแล้วถึงเลิกแหย่ แต่จู่ๆ ใบหน้าก็ยื่นเข้ามาใกล้ ดวงตาพราวระยับ
   
“เป็นห่วงกูมากเหรอ”
   
ผมลุกขึ้นยืนทันที จังหวะนั้นคล้ายจมูกเฉียดผ่านจมูกของอีกฝ่าย ไม่สัมผัสแต่กลับทำให้อึดอัดในใจ ผมออกเดินโดยไม่หันกลับไปมอง
   
“ฮ่าๆ กูให้เวลามึงอาบน้ำสามสิบนาที เดี๋ยวเอาเบียร์ขึ้นไป รีบเลยมึง”
   
เสียงตะโกนตามหลังมาพร้อมกับเสียงหัวเราะดังลั่น แต่ผมกลับไม่แน่ใจว่าที่หัวใจกำลังเต้นแรงอยู่ตอนนี้เป็นเพราะโมโหจริงหรือไม่ ชั่วขณะที่จะเลี้ยวขึ้นบันได ผมอดหันกลับไปมองไม่ได้
   
ผมกลับมาเพราะเป็นห่วงหมอนี่ ข้อนี้ผมมั่นใจ แต่เพราะอะไรถึง...
   
ช่างเถอะ ผมมีเวลาแค่สามสิบนาที ก่อนที่หมอนี่จะบุกถึงห้องน้ำ แค่เจ้าตัวไม่มีปัญหาอะไรก็ดีแล้ว



:::: ♥ TBC ♥::::
  Darin ♥ FANPAGE
Twitter : primdarin






ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
ต้องแอบคิดลึกเกินเพื่อนไปบ้างแล้ว

ออฟไลน์ somberness

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
ฮันแหน่ รู้สึกดีแบบไม่ได้ตั้งตัววว  :oni2: :oni2:

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หวั่นไหว​แหละ​ดูออก​

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เริ่มคิดได้แล้วนะ มีใจก็บอก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด