ตอนที่ 7
เด็กดื้อ & เด็กเกเร
เป็นเช้าวันอาทิตย์ที่ไม่มีแสงแดด อากาศกำลังดี เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง สารินพาพวกเขาขับรถไปยังน้ำตกที่อยู่ไม่ไกลบ้าน เป็นน้ำตกเล็กๆ ที่มีเฉพาะคนในพื้นที่เท่านั้นที่รู้
เพทายเพิ่งมาครั้งแรก เพราะผิงยังไม่มีเวลาพาเที่ยว เขามาถึงได้แค่เจ็ดวันก่อนจะได้งานใหม่ทำ ชายหนุ่มจึงอดตื่นเต้นไม่ได้
ชายหนุ่มคาดเดาจากคำบอกเล่าของมะลิว่าน่าจะเป็นน้ำตกเล็กๆ พอมีที่ให้เล่นน้ำ แต่พอได้เห็นของจริง ต้องบอกว่าใหญ่กว่าที่เขาคิด แม้จะมีแค่สามชั้นแต่ก็กินบริเวณกว้าง เต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ทำให้บรรยากาศร่มรื่น
มะลิปูเสื่อผืนใหญ่ที่เตรียมมา เพทายช่วยอีกฝ่ายจัดวางข้าวของ เขาเอาหมอนใบเล็กมาด้วยสองใบ เผื่ออาโปกับขุนจะง่วงนอน มีอาหารใส่ปิ่นโตมาสี่เถา ผลไม้สองกล่อง ขนมสำหรับเด็กๆ และน้ำดื่ม
“โปหยักเล่นน้าม” เด็กชายชี้มือไปที่น้ำตก “ขูนเล่นน้ามกาน”
“กินข้าวให้เสร็จก่อนครับ เดี๋ยวค่อยลง”
“ครับอาเพ” เด็กชายขุนรับคำ เด็กชายอาโปรีบพูดตามเพทาย “เด๋วค่อยโลง”
เพทายปรายตาไปยังสาริน ในมือชายหนุ่มมีเอกสารปึกใหญ่ ที่เจ้าตัวเอามานั่งทำงานด้วย
“ทานข้าวก่อนครับ เสร็จแล้วค่อยทำอย่างอื่น” เพทายพูดซ้ำ
“โปลู้” เด็กชายอาโปรีบบอก เพราะเมื่อกี้อาเพเพิ่งบอกเขาเอง
“เก่งมากครับ” เพทายชมเด็กชายอาโป ผู้เป็นพ่อเงยหน้าขึ้นมองเขา
“ผมต้องวางใช่ไหม”
เพทายยิ้มมุมปากแต่ไม่พูดอะไร จัดวางจานกระดาษเท่าจำนวนคน เขาเห็นสารินมองกระดาษในมือ ก่อนเหลือบสายตาขึ้นมองเขา เพทายจึงหันไปสบตาให้รู้ว่ามองอยู่
“ผมไม่ได้อ่าน”
เพทายต้องกลั้นขำแทบตาย คนหน้าดื้อทำเหมือนลูกชายไม่มีผิด
“ผมช่วยครับอาเพ” ขุนคุกเข่าลงข้างเพทาย ช่วยเก็บเศษอาหารในจาน หลังพวกเขาทานข้าวกลางวันเสร็จเรียบร้อย
“โปก้ะช่วย” เด็กชายอาโปเอาบ้าง เป็นวัยกำลังเลียนแบบ ทำให้ต้องระวังเป็นพิเศษ
“ถ้าอย่างนั้นอาโปช่วยอาเก็บจานกระดาษใส่ถุงนะครับ เราจะเอาไปทิ้งถังขยะข้างนอก” เพทายไม่ปฏิเสธ เขาไม่สนว่าเด็กชายจะทำเลอะเทอะหรือไม่ เพราะทำเลอะยังเช็ดได้ แต่การสอนให้เด็กชายมีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งที่ควรทำ
“โปทำด้าย” เด็กชายอาโปหยิบจานกระดาษใส่ลงไปในถุงขยะสีดำที่เพทายนำมาด้วย เด็กชายทำทีละใบอย่างช้าๆ
“เดี๋ยวมะลิ..” มะลิอยากทำแทนเจ้านายตัวน้อยเพื่อความรวดเร็ว แต่เพทายใช้สายตาห้าม จะเสียเวลาหน่อยก็ไม่เป็นไร เขาอยากให้เด็กชายรู้สึกว่าตัวเองทำสำเร็จ ทุกที่คือการเรียนรู้ เราไม่ควรละเลยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพราะสิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอมเด็กคนหนึ่งขึ้นมา ไม่ใช่แค่การเรียน ไม่ใช่แค่การเอาตัวรอด แต่เป็นเรื่องของการใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีคุณภาพ
“ล้างมือหน่อยครับ” เพทายเทน้ำจากขวด ล้างมือให้เด็กชายทั้งสองคน มะลิเช็ดเสื่อจนสะอาด ก่อนวางหมอนลงไปตรงกลาง
สารินหยิบเอกสารที่ใส่กลับไปในกระเป๋าออกมา เพทายไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหันมามองเขา แต่ชายหนุ่มก็หันมา คล้ายต้องการถามว่าทีนี้จะอ่านได้หรือยัง
“พ่อเล่นน้ามด้วยกาน” เด็กชายอาโปเดินไปหาผู้เป็นพ่อ ยกมือขึ้นกอดคอ ส่งสายตาอ้อน หมดจากเขาก็มีลูกชายอีกคน ที่กวนการทำงานของคุณเจ้าของสวนดอกไม้
เพทายพยายมกลั้นขำแล้วแต่ดูเหมือนเจ้านายของเขาจะจับได้ ดวงตาที่มองมาจึงวาววับ จนชายหนุ่มต้องเบือนหน้าหนี
“เดี๋ยวพ่อลงเล่นด้วยแต่ต้องนั่งพักก่อน เพิ่งทานข้าวไปจะจุกท้อง ยังลงตอนนี้ไม่ได้”
“นั่งนานเป่า” เด็กชายอาโปถามผู้เป็นพ่อด้วยสายตามีความหวัง
“สามสิบนาทีลูก เดี๋ยวค่อยลงไปเล่น”
“ฉามฉิบนาที ขูนเดี๋ยวฉามฉิบนาทีค่อยโลง” เด็กชายตัวน้อยเผื่อแผ่ข้อมูลให้เพื่อนเล่น
“มานั่งเล่นกับอาตรงนี้ดีกว่าครับ คุณพ่อจะได้ทำงาน” เพทายเรียกเด็กชายเพื่อไม่ให้กวนสาริน
“คับ” เด็กชายอาโปไม่ดื้อ เดินมานั่งลงข้างเด็กชายขุน
“พ่อฉาบฉิบนาทียาง”
“ยังลูก” สารินเงยหน้าขึ้นบอกลูกชาย
“คับ” เด็กชายอาโปพยักหน้า หันไปเล่นกับขุนกับมะลิเหมือนเดิม
“พ่อฉาบฉิบนาทียาง”
เพทายกลั้นขำเมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที เด็กชายอาโปก็ถามพ่อซ้ำ
“ยังครับ เดี๋ยวครบสามสิบนาทีแล้วพ่อบอกเอง”
“คับ”
“พ่อค้าบจาบอกโปยัง” สายตาซื่อๆ มองผู้เป็นพ่อ
เพทายหลุดเสียงหัวเราะออกมา เขาไม่ได้ห้ามเพราะไม่รู้ว่าเด็กชายจะพูด ดูเหมือนคุณพ่อจะถอดใจจากงานตรงหน้า เก็บทุกอย่างลงกระเป๋า
“มานี่สิเจ้าตัวยุ่ง” สารินกวักมือเรียกลูกชายให้เข้าไปหา เด็กชายอาโปยิ้มหวาน แต่เบียดตัวเข้าหาเพทาย ไม่ยอมลุกขึ้น
“โปม่ายยุ่ง”
“มาให้พ่อกอดหน่อยเร็ว”
“กอดน้า” เด็กชายอาโปเอียงคอมอง “ม่ายตีตีน้า”
สารินหัวเราะเสียงดัง เพทายคิดว่าใครเจอมุกนี้ของเด็กชายอาโปเข้าไป ใจแข็งอยู่ได้ก็เก่งแล้ว
“มาเร็ว” สารินกางมือออก เด็กชายอาโปลุกขึ้นเดินเข้าไปกอดคอพ่อ ยิ้มหวาน
“เล่นน้ามกาน”
“ตกลงครับ” สารินยิ้มตอบลูกชาย
“อาโปลงชุดนี้เลยใช่ไหม” คุณเจ้าของสวนดอกไม้หันมาถามเขา
“ใช่ครับ ผมเตรียมชุดมาเปลี่ยนให้แล้ว”
“อืม”
ร่างสูงลุกขึ้นยืน เพทายเงยหน้าขึ้นมอง เสื้อยืดสีขาวถูกถอดออก มองเห็นมัดกล้ามที่หน้าท้องของสาริน ชายหนุ่มอดทึ่งไม่ได้ หุ่นภายใต้เสื้อผ้าว่าดูดีแล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ลอนที่ไม่เคยปรากฏบนท้องของเขามาก่อน กลับขึ้นเด่นชัดบนหน้าท้องของอีกฝ่าย
“ฝากด้วย”
“ครับ?”
เพทายรับแทบไม่ทันเมื่อเสื้อยืดสีขาวถูกโยนมาให้ เขาเพิ่งสังเกตว่าสารินเอาแต่กระเป๋าใส่เอกสารมา แต่ไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยน
“ให้ผมลงแทนไหมครับ” เพทายถามเพราะเขาเตรียมเสื้อผ้ามา
“ไม่เป็นไร ผมกลับชุดนี้ได้ ตากลมหน่อยเดี๋ยวก็แห้ง”
“ไม่งั้นใช้กางเกงของผมก็ได้ครับ ผมเอามาเผื่อสองตัว”
เพทายแสดงความมีน้ำใจเต็มที่ แต่สายตาที่มองมาสำรวจเขาตั้งแต่ศีรษะลงไป ทำให้เพทายอดมองตามไม่ได้ มันมีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ
“คุณคิดว่า...ผมจะใส่กางเกงคุณได้อย่างนั้นเหรอ”
โอ้โห! นี่มันดูถูกกันชัดๆ จะต่างอะไรนักหนาวะ เพทายจ้องอีกฝ่ายบ้าง มองแผงอก มองเอว มองต้นขาแน่นๆ สุดท้ายความสูงที่มากกว่าเขาพอสมควร อืมม ต่างก็ได้วะ
“สมัยนี้เขาฮิตใส่ขาห้าส่วนกันครับ ลอยๆ หน่อยไม่เป็นไร”
“หึ ไปกันดีกว่าครับ พ่อไม่อยากถูกอาเพจับแต่งตัวเป็นตุ๊กตา”
“อาเพช้อบเล่นตุ๊กกาตาเหลอ” เด็กชายอาโปมองเขาตาโต
อากาศที่เย็นสบายร้อนขึ้นมาทันที คาดว่าอุณหภูมิในตัวเขาจะพุ่งสูงทะลุเพดาน เพทายพยายามสะกดเอาไว้ เขาคลี่ริมฝีปากออก ส่งยิ้มให้ชายหนุ่มร่างสูง แต่พูดกับเด็กชายตัวน้อยแทน
“อาไม่ชอบเล่นตุ๊กตาแบบนั้นครับ อาชอบดัดแข้งดัดขาตุ๊กตามากกว่า โดยเฉพาะตุ๊กตาดื้อๆ”
“อู้” เด็กชายอาโปตาโต รีบเงยหน้าขึ้นมองพ่อ “พ่อเปนเด็กดีเลยเด๋วอาเพดาดขา”
“หึๆ” คราวนี้ถึงตาเขาหัวเราะบ้าง ดวงตาสองคู่สบกัน เพทายไม่หลบ แถมมองตอบแบบท้าทายนิดๆ
“พ่อเป็นเด็กดีอยู่แล้วครับ เพราะเด็กเกเรจะถูกตี” ประโยคหลังลงเสียงหนัก
ก็แค่ดวงตาวาววับที่มองมา ทำไมเขาถึงรู้สึกเย็นสันหลังชอบกล เพทายผู้เก่งกล้าจึงหันไปหาขุนแทน
“ขุนจะลงเล่นน้ำกับอาโปเลยไหม”
“ครับ” เด็กชายพยักหน้า
“เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนหรือเปล่า” เพทายบอกมะลิให้จัดการให้แล้ว แต่เขาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“เอามาครับ แต่ผมจะไม่ใส่เสื้อว่ายน้ำ จะได้ไม่ต้องซักหลายตัว”
คำพูดของขุนทำให้ดวงตาของเพทายอ่อนแสงลง เขารู้ว่าเด็กชายไม่ได้ขี้เกียจ แต่คงอยากช่วยประหยัด เล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี
“งั้นถอดมา อาเก็บให้”
“ครับ” เด็กชายขุนถอดเสื้อส่งให้เขา เห็นร่างกายผอมเก้งก้าง อีกหน่อยเด็กคนนี้ต้องสูงมากแน่ เพทายมองตามทั้งสามคนลงน้ำ ก่อนหันกลับมาหามะลิ
“มะลิ”
“คะ”
“เห็นว่าขุนพักกับผู้จัดการไร่ใช่ไหม”
“ค่ะ”
“ตอนนี้ไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วขุนอยู่กับใคร”
“พี่พนาให้คนงานมานอนเป็นเพื่อนค่ะ มาเฉพาะตอนกลางคืน”
“อีกหลายวันไหมกว่าจะกลับ”
“วันศุกร์หน้าค่ะ ตอนแรกว่าจะกลับวันอังคาร แต่เห็นว่าคุณสารินจะให้ไปทำธุระที่ไหนต่อนี่แหละค่ะ หนูก็จำไม่ได้ค่ะ ฟังเขามาอีกที”
“อืม” ขายหนุ่มอดยิ้มไม่ได้ กับคำว่าฟังเขามาอีกทีของมะลิ
“แล้วคุณเพไม่ลงเหรอคะ”
“ไม่ มะลิลงเถอะ เดี๋ยวพี่อยู่เฝ้าของให้เอง”
“ไม่เป็นไรค่ะ มะลิเฝ้าเอง”
“ไปเถอะ” เพทายรู้ว่าเด็กสาวอยากลงเล่นน้ำ เขาจึงรับอาสาเฝ้าของให้แทน
“งั้นหนูลงนะคะ”
“อืม”
สีหน้าดีใจของมะลิ ทำให้เพทายรู้ว่าเขาคิดถูกแล้ว ไม่เป็นไรเดี๋ยวเขาค่อยมาเองวันหลัง ดูเส้นทางแล้วไม่น่าขับมายากเท่าไหร่
• • • • • • • •
“อาเพ อาเพ”
เพทายเงยหน้าจากหนังสือที่พกมาอ่านด้วย เด็กชายอาโปโบกมือไปมาเรียกเขา
“มาเล่นด้วยกาน”
“อาโปเล่นเลยครับ อาต้องเฝ้าของ”
“ลงมาเถอะมันไม่หายหรอก” สารินกวักมือเรียกเขาให้ลงไป
“อย่าดีกว่าครับผมกลัวของหาย” มีทั้งโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ ไหนจะเอกสารของสารินอีก
“ผมเฝ้าให้ครับ” ขุนรีบเสนอตัวทันที เพทายชื่นชมเด็กชาย เขาอยากรู้จักพนาขึ้นมาทันที อยากรู้ว่าคนแบบไหนที่สอนให้ขุนเป็นสุภาพบุรุษได้ถึงขนาดนี้
“ขุนเล่นไปเถอะ อาไม่อยากลง”
“ครับ” เด็กชายขุนพยักหน้า
“มะลิฝากดูอาโปด้วย ให้เล่นแค่ตรงนี้พอ อย่าพาลงน้ำลึก”
“ค่ะคุณสาริน”
เพทายมองร่างสูงที่ขึ้นจากในน้ำ เป็นภาพที่เหมือนหลุดออกมาจากในเอ็มวี หยดน้ำที่เกาะบนตัว ผมที่เปียกลู่ ทำให้สารินดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
ร่างสูงนั่งลงข้างเขา เพทายคิดว่าอีกฝ่ายจะขึ้นมาทำงานต่อ แต่สารินแค่นั่งเฉยๆ
“กินผลไม้ไหมครับ” มันเงียบจนเพทายคิดว่าเขาควรพูดอะไรสักอย่าง
“เอาสิ”
“นี่ครับ” เพทายส่งกล่องใส่ผลไม้ให้คุณเจ้าของไร่ ในนั้นมีมะม่วงหั่นเป็นชิ้น ชมพู่ และสับปะรด ผลไม้พื้นบ้านที่หาได้ทั่วไป
“กินด้วยกันสิ”
“ไม่เอาครับ ผมไม่อยากกินเยอะ เดี๋ยวอยากเข้าห้องน้ำ”
“กลัวอะไร เข้าไปในป่าก็จบแล้ว ใครมาที่นี่ก็ทำแบบนั้น”
เพทายเบิกตากว้าง “เอาจริงเหรอครับ”
“หึๆ”
ชายหนุ่มถอนใจเสียงดัง ดูเหมือนเจ้านายของเขาจะขี้แกล้งจนเป็นนิสัย ไม่ได้ดูขรึมหรือดุดันเหมือนหน้าตาสักนิด
“เพทาย”
“ครับ”
“ผมจะถามคำถามเดิมคุณอีกครั้ง ช่วยตอบผมอีกที”
“คำถามอะไรครับ” เพทายเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย จู่ๆ สารินก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“คิดว่าจะทำงานนี้ได้ไหม” สารินหันมามองหน้าเขา
เพทายนิ่งเงียบไป เขากำลังใช้ความคิดว่าตอนนี้ยังอยากลาออกอยู่หรือไม่
“ว่าไง”
“ถ้าคนที่เป็นเจ้านายผม จะแกล้งผมน้อยลงอีกนิด ผมคิดว่าที่นี่ก็น่าอยู่ดีครับ” เพทายยิ้มใส่ตาคนถาม ด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์
“หึๆ”
“คิดว่าไงครับ” ถึงทีเขาย้อนถามบ้าง
“ผมคิดว่าเจ้านายคุณเป็นเด็กดี”
“ผมเชื่อได้ใช่ไหมครับ
ได้สิ เพราะผมจะตีเฉพาะเด็กเกเร”
“....”
“ผลไม้อร่อยดี”
เพทายเหล่ตามองเจ้านาย ที่กินผลไม้ด้วยท่าทางเหมือนมันอร่อยเต็มที ยิ้มเหมือนมีเรื่องน่าสนุกเสียเต็มประดา เพทายจำไม่ได้แล้วว่าเขาคิดจะเริ่มใหม่กี่ครั้ง กับการเอาชนะสองพ่อลูกคู่นี้ เหมือนจะเป็นทุกคืน ที่เขาบอกตัวเองว่าวันพรุ่งนี้ก่อนเถอะ
“เป็นอะไร” เสียงทุ้มถามเมื่อได้ยินเสียงเขาถอนหายใจยาว
“อย่าสนใจเลยครับ กินผลไม้ไปเถอะ”
“เป็นอะไร” เสียงที่ถามอ่อนลง
“กำลังเบื่อเจ้านายผมครับ ไม่มีอะไรหรอก”
“ฮ่าๆ”
สารินหัวเราะเสียงดัง เพทายทำหน้าเบื่อหน่ายแต่สุดท้ายก็หัวเราะออกมา เป็นครั้งแรกที่พวกเขาหัวเราะด้วยกัน
“โปเล่นด้วยฉิ เล่นลายกัน” เสียงเด็กชายอาโปตะโกนถาม ยื่นหน้าขึ้นมองด้วยความสนใจ
เพทายยิ้มกว้าง เขาคิดจะชิงตอบก่อนแต่ก็ช้าไป
“พ่อกับอาเพเล่นเด็กดื้อกับเด็กเกเรครับ”
“เล่นยางงาย”
“เด็กดื้อจะถูกคุณครูลงโทษ แต่เด็กเกเรจะถูกพ่อตี”
เด็กชายอาโปเบิกตากว้าง ทำปากห่อ น่ารักน่าเอ็นดู “โปม่ายเล่นแล้ว ไม่เห็นฉาหนุกเลย”
เด็กชายหมดความสนใจผู้ใหญ่ หันไปวักน้ำใส่เด็กชายขุนแทน คนพี่ใช้มือบังดวงตาเอาไว้ แต่ไม่ยอมแกล้งน้องคืน
เพทายลอบมองใบหน้าด้านข้างของสาริน จะว่าไปเกมนี้ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ค่อยๆ จุดขึ้นที่ริมฝีปาก คอยดูเถอะสักวันเขาจะลงโทษเด็กดื้อให้ดู
:::: ♥ TBC ♥::::
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin