เพราะเหนื่อยจากการเดินทาง เมธาถึงได้หลับไปอย่างรวดเร็ว ผิดกับเนมินนั่งจ้องโทรศัพท์เครื่องเล็กในมือจนกระทั้งถอดใจเมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว แต่ถึงจะดึกมากแค่ไหนก็ไม่สำคัญกับภูริในขณะนี้ เวลาที่ผ่านไปไม่ช่วยให้จิตใจสงบลงเลยสักนิด ความร้อนลุ่มในอกยังคงแผดเผาให้กระสับกระส่าย หากเขาจะคิดในแง่ดีว่าอีกฝ่ายแค่ให้ที่หลับนอนกับเพื่อนสนิทก็คงดี หากสายตาของเพื่อนสนิทคนนั้นไม่ได้แสดงถึงความรักและหวงแหนก็คงดี...หากไม่ไปเห็น...ก็คงดี
"หน้าโทรมมาเชียว ไปทำอะไรมาคะภู"อรจิราวางเอกสารการเรียนลงตรงหน้าคนที่นั่งเหม่อ
"หืม...โทรมจริงเหรอ"
"ถึงโทรมยังไงก็ยังเป็นขวัญใจนักเรียนที่นี่อยู่ดีล่ะน่า ได้เวลาสอนแล้ว ลุกเข้าห้องไปได้แล้วค่ะ"อรจิราใช้แฟ้มพลาสติกตีที่แขนเบาๆ ภูริยิ้มให้ก่อนจะหยิบหนังสือแล้วเดินไปทางห้องสอน วันนี้เขามีคลาสสอนคณิตศาสตร์กับภาษาอังกฤษ แต่ช่วงเวลาที่ว่างระหว่างสองคลาสนี้เขาจะไปไหนดี หรือจะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเฉยๆ ถ้าไปหาเนมินที่ร้าน...เขาจะต้องปวดใจกลับมาอีกมั้ย
"เดี๋ยวครับอาจารย์ภู"เสียงเรียกจากนักเรียนดังมาจากด้านหลัง เขาตั้งใจสอนจนเวลาสองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
"ว่าไงวิน"ภูริหันมาเห็นนักเรียนคนขยันที่มักนั่งแถวหน้าและตั้งใจฟังเขาสม่ำเสมอทุกคลาส
"วันนี้อาจารย์ไม่สบายหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ค่อยดีเลย"
"พอดีเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย อ้าว ผมเผลอพูดเรื่องไม่ดีกับเยาวชนซะแล้ว ถือว่าไม่ได้ยินแล้วกันนะวิน"
"ถ้ารู้งี้วินไม่เป็นห่วงหรอก นึกว่าไม่สบาย ที่แท้ก็เมาค้าง งั้นวินกลับก่อนนะครับ"ธาวินพูดกลั้วหัวเราะแล้วก็เดินจากไป ภูริยิ้มให้กับความสดใสของเด็กวัยรุ่น เด็กที่มาเรียนคณิตศาสตร์กับเขาส่วนมากจะเป็นเด็กเตรียมสอบเข้ามหาฯลัย ในบรรดานักเรียนทั้งหลาย ธาวินดูท่าจะไปได้ดีกว่าคนอื่น
ภูริเดินออกจากสถาบัน ข้ามถนนจนมาหยุดยืนหน้าร้าน วันนี้เขาชวนอรจิรามาด้วย อย่างน้อยถ้าเขาต้องเข้าไปนั่งเหงาอยู่ข้างในก็ยังมีเพื่อนคอยพูดคุย จะไม่มาเลยก็อดคิดถึงใบหน้าใสๆ ไม่ได้ ถ้าจะเจ็บอีกครั้งก็คงต้องทนเอา
พื้นที่ในสวนเต็มไปด้วยลูกค้าจนแทบไม่มีที่ว่าง อรจิราเลือกที่จะชวนภูรินั่งด้านในเพราะแดดยังแรง และเธอก็ห่วงสวยตามประสาผู้หญิง พนักงานเดินมารับออร์เดอร์แล้วนำใบรายการไปส่งให้พนักงานที่มีหน้าที่ชงเครื่องดื่ม
"เห็นมีมูสช็อคโกแล็ตกับกาแฟแยกไว้ในตู้เย็น พี่มินจะให้เอาออกมาให้โต๊ะพี่ภูเลยรึเปล่า"เมื่อจอยเห็นภูริเดินเข้ามาก็เอ่ยถามเพื่อนรุ่นพี่ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ
"......"
"พี่มิน...พี่มิน"จอยต้องเรียกซ้ำพร้อมกระตุกชายเสื้อเบาๆ ให้เจ้าของชื่อรู้สึกตัว
"ห๊ะ อะไร เรียกทำไม"
"ถามว่าจะให้เอามูสที่แยกไว้ในตู้เย็นออกมาเสิร์ฟโต๊ะพี่ภูเลยมั้ย เป็นอะไรเนี่ย เหม่อเชียว"
"เอ่อ...อืม เอาสิ"เนมินก้มหน้าตอบเบาๆ จอยส่ายหน้ากับอาการเหม่อลอยตลอดวันของเนมิน
เมื่อครู่เนมินยังยิ้มได้เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาในร้าน แต่รอยยิ้มต้องสลายไปเมื่อเขาไม่ได้เดินมาคนเดียว อรจิรายังคงสดใสและเป็นมิตร เธอยิ้มพร้อมโบกมือทักทายเมื่อเห็นเนมินมองมา ต่างกับภูริที่มองเฉยๆ แล้วเดินตามแรงดึงของหญิงสาวไปที่โต๊ะ ไม่ใช่โต๊ะประจำที่เนมินอุตส่าห์จองไว้ให้และเธอเอาป้ายออกเมื่อได้เวลาประจำ ตอนนี้โต๊ะตัวเดิม กาแฟรสเดิม คงไม่สำคัญอะไรแล้วล่ะมั้ง เขาเอง...ก็คงไม่สำคัญเสียแล้ว
"นี่เป็นมูสช็อคโกแล็ตกับกาแฟที่พี่มินทำพิเศษเอาไว้ให้นะคะ ไม่คิดด้วยเงินค่ะ"จอยนำของว่างจานพิเศษมาบริการให้ถึงโต๊ะ
"ขอบคุณนะคะ น้องมินนี่ใจดีจริงๆ เลย"
"ค่ะ พี่มินก็ใจดีแบบนี้ล่ะค่ะ เอ่อ...พี่เป็นแฟนพี่ภูเหรอคะ"จอยตั้งใจมาเสิร์ฟด้วยตัวเองก็เพราะอยากรู้เรื่องนี้ หากคำตอบคือใช่ เธอจะได้วางใจเรื่องเนมินได้สักที แต่ถ้าไม่ใช่...ก็แสดงว่าภูริเป็นผู้ชายเจ้าชู้อย่างที่เธอคิดไว้ การควงผู้หญิงมาหาเนมินเป็นการกระทำที่แย่และไม่รักษาน้ำใจเนมินเลยสักนิด
"อุ้ย! เปล่าหรอกค่ะน้อง พี่เป็นผู้ช่วยภูน่ะ พอดีติดใจเค้กเมื่อวานเลยขอตามมาด้วย"อรจิราหัวเราะออกมากับคำถามของหญิงสาวตรงหน้า ต่อให้มีคนมากมายที่หลงเสน่ห์อาจารย์หนุ่มคนนี้ แต่ไม่มีทางเป็นเธอแน่ๆ
"อย่างนั้นเหรอคะ เสียดายนะคะ พี่สองคนเหมาะสมกันมาก"จอยพูดยิ้มๆ ก่อนเดินกลับไปยืนข้างเนมิน
"น้องผู้หญิงคนเมื่อกี้ดูแปลกๆ นะภู"
"เธอไม่ค่อยชอบผม สงสัยคงหวงมินมากน่ะ"
"น้องเขาคงมีเรดาห์ตรวจสอบคนเจ้าชู้ล่ะมั้ง"
"ไหน ใครเจ้าชู้ ไม่มีล่ะ ภูริคนนี้รักใครรักจริงเสมอ"ภูริอมยิ้มพร้อมกับเถียงกลับไป การพูดคุยหยอกล้อของคนทั้งคู่อยู่ในสายตาเนมินตลอดเวลา ท่าทางอาการโรคหัวใจเขาคงกำเริบ ร่างกายเหมือนจะชาจนแทบไม่มีความรู้สึก
"พี่ขอไปพักด้านในนะ"เนมินพูดรัวแล้วเดินจากไปทั้งที่จอยยังไม่ได้ตอบรับเลย เนมินพยายามไม่หันไปมองโต๊ะที่เขาเดินผ่านมา แต่ก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะของคนทั้งคู่ชัดเจน วันนี้ไม่มีคำหวานที่แกล้งให้เขาได้อาย ไม่มีคำอ้อนขอให้เขาฝันถึง ไม่มีเขาอยู่ในสายตาอีกแล้ว เพราะอะไรเขาถึงต้องมานั่งเสียใจอยู่คนเดียวในแบบนี้ รู้จักกันก็ไม่นาน เรื่องราวของอีกฝ่ายก็ไม่เคยรู้ ทุกวันที่ได้พบและพูดคุยก็เพียงเพราะอีกฝ่ายเข้ามาหาก่อน เข้ามานั่งที่ร้าน ตามไปดูแลที่บ้าน แรกเริ่มไม่ได้เอะใจสงสัยในความสนิทสนมที่เกิดขึ้น ทุกอย่างมันรวดเร็วเกินไป ไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ ความรู้สึกของเขาที่อีกฝ่ายทำให้เกิดขึ้นจะดำเนินไปอย่างไรต่อ เขาคงใจง่ายไปกับคำหวานหูเอง โทษใครไม่ได้ อีกฝ่ายก็แค่มีน้ำใจช่วยเหลือ คนที่คิดไปไกลคือเขาต่างหาก คิดไปไกล...รู้สึกไปไกล...จนไม่รู้จะถอนใจกลับมาเหมือนเดิมได้อย่างไร
"มินทำอะไรอยู่ จอยโทรมาบอกว่ามินไม่ค่อยสบาย เป็นอะไรมากมั้ย"ทันทีที่เนมินกดรับสาย เมธาก็รีบร้อนพูดขึ้น
"...เมธ...มินเหนื่อยจัง"ถ้อยคำเป็นห่วงจากเพื่อนรักทำให้เนมินต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ในอก
"มิน!! เป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย เดี๋ยวเมธจะรีบไปหา ไม่สิ..ให้จอยพาไปหาหมอก่อนเดี๋ยวเมธตามไป จอยอยู่แถวนั้นรึเปล่า"
"มินไม่ได้เป็นอะไร แค่...อยากนอนพัก"
"เอางั้นเหรอ งั้นกลับบ้านไปนอนพักนะ ให้จอยไปส่งนะอย่ากลับเอง เดี๋ยวเมธก็เสร็จงานแล้ว กินยาด้วยนะ"
"อืม...มินไม่อยากให้จอยเป็นห่วง เมธเลิกแล้วรีบมารับมินแล้วกันนะ มินจะรอ"
"ได้ๆ เดี๋ยวจะรีบไปเลย มินนอนพักในร้านไปก่อนนะ หายากินด้วย"
"ครับ"ถ้อยคำสุดท้ายช่างห้วนและสั้น เขาทนนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว หากพูดต่อไปเมธาคงได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของเขาแน่ๆ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่ากำลังร้องไห้ กำลังเสียใจ ไม่อยากให้รู้ว่าเขาใจง่ายไปหลงรักคนที่มีเจ้าของเข้าแล้ว
อรจิรานั่งดื่มกาแฟและทานมูสช็อคโกแล็ตจนหมดถึงได้กลับไปทำงานต่อ เหลือเพียงภูริที่นั่งอยู่เพียงลำพัง เขาตั้งใจไว้ว่าจะเข้าไปคุยกับเนมินเมื่ออรจิรากลับไป แต่อีกฝ่ายกลับหายไปเสียนี่ พอตั้งใจจะเดินเข้าไปหาถากับจอย คนที่ไม่อยากพบหน้าก็เดินอย่างเร่งรีบเข้ามาในร้านพอดี
"มินล่ะจอย"เสียงพูดกึ่งหอบทำให้จอยรีบชี้นิ้วบอกอย่างรวดเร็ว เมธารีบเดินกึ่งวิ่งไปทางห้องเก็บของหลังร้าน ภาพแรกที่เขาเห็นคือร่างบางนอนขดตัวอยู่บนโซฟา เขารีบทรุดนั่งแล้วเขย่าตัวเมื่อไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายหมดสติหรือว่าแค่หลับไป
"มิน! มินๆ"
"....พี่ภู..."ไม่รู้ว่าในห้วงความฝันของเนมินเห็นภาพอะไรอยู่ ถึงได้เอ่ยชื่อที่ทำให้คนปลุกต้องนั่งนิ่ง...ชื่อของคนที่ไม่เคยได้ยิน....ชื่อนี้หรือเปล่าที่เป็นเจ้าของช่อดอกไม้แสนสวยที่เนมินหวงแหน หวงถึงขนาดจัดใส่แจกันแล้วนำไปวางไว้ในห้องนอน
"....มิน....ตื่นเถอะ"เมธาเขย่าแขนเนมินเบาๆ อีกรอบ
"อืมมม.........เมธเองเหรอ"เนมินลุกขึ้นนั่งขยี้ตาเบาๆ เขาคงร้องไห้ซบหมอนจนเผลอหลับไป หวังว่าอีกฝ่ายคงไม่เห็นคราบน้ำตา
"ลุกไหวมั้ย จะไปหาหมอก่อนหรือกลับบ้านเลย"
"ไม่ได้เป็นอะไรจะไปหาหมอทำไม พามินกลับบ้านดีกว่านะ"เนมินค่อยๆ ลุก แต่ร่างกายเขาอ่อนเพลียเกินกว่าจะพยุงตัวเองไว้ได้ เมธาต้องช่วยประคองแล้วพาเดินออกจากห้อง ใบหน้าซีดเซียวของเนมินทำให้ใครหลายคนตกใจ จอยรีบเดินเข้ามาหาพร้อมหยิบกระเป๋าเนมินเดินไปส่งเมธาถึงรถ น่าเสียดายที่ใครอีกคนกลับมองเห็นเพียงการประคองกอดอย่างรักใครของคู่รัก
********************************
ช้านิด สั้นหน่อย ไม่ว่ากันหรอกเนอะ(ใครไม่เนอะก็ไม่สน

)
