สายน้ำมักทำให้ทุกสิ่งชุ่มฉ่ำ นำพามาซึ่งความสดชื่นและเติบโต ร้านกาแฟเล็กๆ ที่เจ้าของร้านหนุ่มไม่คิดเปิดเพื่อหวังผลกำไรมากมายกลับให้สิ่งตรงข้ามกับ ความตั้งใจ ลูกค้าประจำมีเพิ่มมากขึ้น และจำนวนเก้าอี้ที่ว่างในทุกช่วงเวลาก็ลดน้อยลง คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลพลอยได้จากคำพูดของใครบางคน และนั่น...ทำให้ใครอีกคน...ไม่ค่อยพอใจ
“พี่ไม่รู้ว่าเพราะคำพูดพี่ ทำให้มินเหนื่อยขนาดนี้ ขอโทษด้วยนะครับ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ พี่แค่อยากบอกถึงความชอบของตัวเองให้มินรู้ไว้บ้าง ไม่ได้จะติอะไรเลยจริงๆ นะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ มินก็...คิดมากไปเองด้วยล่ะ แต่มันก็ดีนะครับ ร้านนี้เลยมีลูกค้าเยอะกว่าเมื่ออีกหลายเท่าเลย ถือเป็นความดีความชอบพี่ภูนะเนี่ย”
“ไม่ใช่หรอกครับ ฝีมือของมินคนเดียวต่างหาก แล้วก็...คัสตาร์ดเมื่อวานอร่อยมากนะครับ”
“จริงเหรอครับ ดีใจจัง วันนี้กินอีกดีมั้ย เดี๋ยวมินไปเอามาให้”
“ก็ดีครับ แต่คราวนี้ไม่กินฟรีแล้วนะครับ”ภูริยิ้มส่งเจ้าของร้านที่เดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ เหลือไว้เพียง...
“จะจีบพี่มินเหรอ”พนักงานสาวถามขึ้นทันทีที่ได้อยู่ตามลำพัง
“เห็น เป็นอย่างนั้นเหรอครับ”คำพูดแบ่งรับแบ่งสู้ยิ่งทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิดได้มาก ขึ้น จะว่าหวงก็หวง ทั้งหวงและห่วงรุ่นพี่แสนดีคนนี้ของเธอเหลือเกิน กับคนมากเล่ห์แบบนี้ไม่น่าไว้ใจเอาเลย เธอคิดจะซักไซ้เชิงข่มขู่ต่ออีกสักหน่อยก็ถูกเรียกให้กลับไปทำหน้าที่เมื่อ มีลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามา
รอยยิ้มสดใสจากใบหน้าหวานๆ คงช่วยทำให้ความขมของกาแฟลดลงไปเยอะ คงไม่ใช่ภูริเพียงคนเดียวที่ติดใจร้าน และ...ถูกใจเจ้าของร้าน ลูกค้าหลายคนมักทอดสายตามองไปที่เนมินอยู่เสมอ ท่าทางคู่แข่งจะเยอะไม่ใช่เล่น แถมยังมีผู้ปกครองคุมแจอีก ไม่รู้ว่า...จะคุ้มเหนื่อยหรือเปล่า
“คิดอะไรอยู่เหรอครับ”เสียงใสๆ จากคนที่นึกถึงเดินกลับมายืนตรงหน้าเมื่อไหร่เขาไม่รู้ตัวเลย
“มองอะไรเพลินไปหน่อยน่ะครับ น้องมินว่างหรือยังครับ”
“ตอนนี้ก็ว่างอยู่ครับ”
“นั่งคุยเป็นเพื่อนหน่อยสิครับ”
“แล้ว วันนี้ไม่เอาหนังสือมานั่งอ่านเหรอครับ”เนมินนั่งลงฝั่งตรงข้ามตามคำชวน ภูริค่อนข้างแปลกใจกับความช่างสังเกตของคนถาม นอกจากเรื่องเวลาและรายการที่สั่ง คนตรงหน้ายังเฝ้าดูเขาขณะนั่งอยู่ในร้านด้วยสินะ ไม่งั้นคงไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันแรกที่เขาไม่มีหนังสือติดมาสักเล่ม
“วันนี้ไม่มีสอนน่ะ มาคุมสอบเฉยๆ”
“....สอน...พี่เป็นครูเหรอครับ”
“เปล่าครับ จะเรียกว่าอย่างนั้นคงไม่ใช่ เป็นแค่อาจารย์สอนพิเศษเฉยๆ”
“คิดไม่ถึงเลยนะครับ ใช่สถาบันฝั่งตรงข้ามนี่หรือเปล่าครับ”เนมินชี้ไปฝั่งตรงข้าม อาคารที่มีหลายคนแวะเวียนมาเป็นลูกค้าขาประจำ
“ใช่ ครับ เพิ่งมาสอนได้ไม่นาน ทุกวันที่สอนจะมีเวลาว่างระหว่างสองคอร์ส จะนั่งอยู่แต่ในห้องมันก็น่าเบื่อ แล้วร้านอาหารในซอยนี้ก็น้อย สุดท้ายเลยมาฝากท้องที่ร้านกาแฟของน้องมินนี่ล่ะครับ”
“อ๋อ...เป็น อย่างนี้นี่เอง มินกับจอยยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมพี่ชอบมาเวลาเดิมๆ ทุกครั้ง แล้วที่บอกว่าฝากท้องนี้คือ...กะจะดื่มกาแฟให้อิ่มเลยหรือไงครับ”
“ก็... ไม่ถึงขนาดนั้น แค่ให้ท้องไม่ว่าง แล้วพี่ก็ชอบดื่มกาแฟมาก มันก็เท่านั้นล่ะ พอร้านนี้มีขนมมาให้กิน ก็เลยลดกาแฟเหลือแค่แก้วเดียวแต่กินขนมควบไปด้วยมันก็...อิ่มกำลังพอดี”
“ถ้างั้นไว้มินเพิ่มเมนูอาหารง่ายๆ ลงไปด้วยดีมั้ยครับ อย่าง...ไข่กระทะ สลัด หรือพวกแพนเค้ก วาฟเฟิลอะไรพวกนี้น่ะ”
“พี่ ไม่ได้พูดเพื่อหวังให้มินทำอย่างอื่นเพิ่มหรอกนะ ทำอย่างนั้นจะไม่เหนื่อยแย่เหรอ อีกอย่าง...ร้านกาแฟมันก็จะกลายเป็นร้านอาหารหรือร้านขนมแทนน่ะสิ”ชายหนุ่ม ยังจำถึงคำต่อว่าของพนักงานที่ยืนจ้องเขาตาเขียวจากเคาน์เตอร์ได้ดี
“....จริงด้วย....มินลืมคิดไปเลย”
“พวกวาฟเฟิลก็คงพอได้อยู่นะ ทำง่ายด้วย ถ้าเพิ่มอันนี้อย่างเดียวก็คงไม่ต้องเหนื่อยมาก”
“พี่ ภูทำเป็นเหรอครับ”เนมินถามด้วยความสนใจ ส่วนมากเขาเคยแต่ซื้อกิน เพราะวาฟเฟิลต้องมีพิมพ์สำหรับเทแป้ง ไม่เหมือนแพนเค้กที่ทำง่ายกว่า
“เอ่อ... เพื่อนพี่เขาชอบทำขนมน่ะ เคยทำเล่นๆ กับเขาบ้างบางครั้ง”ภูรินึกไม่ถึงว่าคำพูดตัวเองจะเกือบกลายเป็นดาบกลับมา ทิ่มแทง เขาค่อนข้างแปลกใจกับการต้องปิดบังเรื่องราวส่วนตัว ปกติเขาไม่เคยคิดว่าจะต้องปิดเรื่องของคนในอดีตกับใคร แต่ไม่รู้ว่าทำไมคนตรงหน้าถึงทำให้เขาต้องทำแบบนี้
“ดีจังเลยนะครับ มินน่ะไม่ค่อยถนัดเรื่องขนมเท่าไหร่ ทำเป็นแค่ไม่กี่อย่างเอง”
“แค่นี้ก็เก่งมากแล้ว ถ้าเก่งมากกว่านี้จะทำงานไหวเหรอ ลูกค้าเยอะขึ้นก็เหนื่อยขึ้นเท่าตัวเลยนะ พี่ว่ามินน่าจะหาพนักงานเพิ่มนะ”
“ตอนนี้ก็คุยกับจอยอยู่เหมือนกันครับ ว่าจะชวนรุ่นน้องอีกคนมาทำด้วยกัน จอยเขาอยากให้ร้านมีพนักงานผู้ชายบ้างน่ะครับ”
“หืม...ผู้ชายเหรอ.....ก็ดีนะ ถ้าอยากได้พนักงานพาร์ทไทม์บอกพี่ก็ได้นะ จะลองถามพวกเด็กที่มาเรียนให้”
“มีลูกค้ามาอีกแล้ว มินไปทำงานก่อนนะครับ”
“ไว้คืนนี้พี่โทรหานะ....ได้ใช่มั้ยครับ”
“ก็... ได้ครับ”เนมินตอบรับทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าใจความหมายแท้จริงมากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าการคุยกับลูกค้าคนนี้ได้คำแนะนำอะไรมาเยอะเหมือนกัน บางทีเขาอาจจะอยากช่วยเรื่องการทำวาฟเฟิลที่คุยไว้ก็ได้
ประตูเหล็ก เลื่อนลงปิดสนิทแสดงถึงหมดเวลาทำการของร้านกาแฟแล้ว แต่แสงไฟที่ลอดออกมาจากด้านในแสดงให้เห็นว่ายังมีคนอยู่ เสียงกดเครื่องคิดเลขจากคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มุมหลังเคาน์เตอร์ยังคงดัง ต่อเนื่องเหมือนเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
“ฮัลโหล เนมินพูดครับ”ทันทีที่เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์เครื่องเลขเล็กดังขึ้น เจ้าของก็รีบกดรับด้วยความตกใจ
“ดีครับน้องมิน นี่พี่ภูเองครับ”
“อ้อ ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ทำอะไรอยู่เหรอครับ พี่คงไม่ได้รบกวนอยู่นะ”
“เปล่าหรอกครับ เพิ่งปิดร้านกำลังจะกลับเหมือนกัน”เนมินรวบรวมของเคาน์เตอร์เก็บใส่ลิ้นชักแล้วเดินเช็กความเรียบร้อยภายในร้านอีกรอบ
“พี่เห็นไฟเปิดอยู่ก็เลยลองโทรหาน่ะ ไม่ได้มีธุระอะไรหรอก”
“เพิ่งเลิกสอนเหรอครับ”เนมินเหลียวมองนาฬิกาที่แสดงเวลาเกือบสามทุ่ม ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่านั่งอยู่ในร้านมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว
“ใช่ ครับ กำลังจะขับรถกลับบ้าน แล้วมินกลับยังไงครับ ให้พี่ไปส่งมั้ย”คำพูดแอบหัวเราะในประโยคสุดท้ายของตัวเองที่ดันคล้ายกับพวก จิ๊กโก๋จีบสาว
“มินขับรถกลับเองได้ครับ ไม่เป็นไร”
“เสียงฟังดูเหนื่อยๆ นะครับ ไม่สบายหรือเปล่า”
“อืม...ก็เพลียๆ นิดหน่อย ง่วงๆ น่ะครับ”
“ขับไหวนะครับ พี่ไปส่งดีกว่ามั้ย”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ บ้านอยู่ใกล้ๆ ด้วย ไม่เกินสิบนาทีก็ถึง”
“งั้นก็ได้ครับ ขับระวังๆ ด้วยนะครับ ไว้เจอกันพรุ่งนี้”
“ครับ บายครับ”เนมินเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเป้ใบเล็ก เลื่อนประตูเหล็กเปิดออกอีกครั้งก่อนจะก้มเดินผ่านไปแล้วล็อคประตูปิดอีกที
เสียง ประตูเหล็กสั่นเบาๆ สักพักก่อนจะเงียบลงพร้อมกับเสียงสตาร์ทรถที่ดังขึ้น รถยนต์สองคันที่จอดอยู่ในระยะห่างที่มองเห็นหน้าคนขับได้ลางๆ แต่ทั้งสองแน่ใจว่าอีกคนคือคู่สนทนาเมื่อครู่ ไฟหน้ารถกระพริบสองครั้งแทนคำลาจากคนที่โทรมา และถูกตอบกลับไปแบบเดียวกันจากคนที่เพิ่งเดินออกจากร้าน รถสองคันขับสวนกันในซอยเล็กๆ เพื่อมุ่งหน้ากลับสถานที่พักผ่อนของแต่ละคน โดยไม่รู้ตัวเลยว่า....เจอกันพรุ่งนี้.....ไม่มีทางเป็นจริง
********************************************************************
ครั้งที่แล้วไม่ได้ตอบคอมเมนต์ไม่ว่ากันนะ ถึงว่าก็....

คิดถึง...คนอ่าน
ปล.ครั้งแรก....ผิดพลาดนิดหน่อย หวังว่าคงไม่มีใครสังเกต
