กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นที่เคยอบอวลอยู่ในร้านเล็กๆ ก็เปลี่ยนไปเมื่อมีกลิ่นหอมเนยคละคลุ้งกลิ่นหวานปนขมที่มาจากคัพเค้กราดช็อคโกแล็ต นอกจากนั้นยังมีกลิ่นหอมหวานของคาราเมลบนหน้าคัสตาร์ดเย็นๆ ลูกค้าเก่าและใหม่นิยมชมชอบกับเมนูขนนหวานที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ด้วยฝีมือของเจ้าของร้านร่างบาง คัพเค้กชิ้นเล็กและคัสตาร์ดกลายเป็นของว่างควบคู่กับเครื่องดื่มแทบทุกโต๊ะในร้าน รอยยิ้มภูมิใจและอิ่มเอมด้วยความสุขที่ได้รับจากรอยยิ้มของลูกค้าหลายรายที่ส่งมอบให้ทำให้เขาเต็มตื้นและมีความสุขมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา
"ทำมาเยอะขนาดนี้ เมื่อคืนได้นอนบ้างมั้ยเนี่ยพี่"เสียงใสๆ ของสาวร่างเล็กช่วยปลุกชายหนุ่มตื่นจากภวังค์
"ได้นอน"
"ได้นอนน่ะกี่ชั่วโมงกี่นาที บอกมานะ"
"ก็....สะ...สองชั่วโมง แต่ไม่ต้องห่วง ไม่ง่วงเลยนะ"ความคิดที่จะโกหกให้มากกว่าเวลาจริงต้องพับไปเมื่อรู้สึกถึงสายตาคาดโทษจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกน้อง
"สองชั่วโมง!!! นี่แสดงว่าเพิ่งนอนตอนหกโมงเช้าใช่มั้ย ทำไมชอบทำอะไรเกินตัวแบบนี้"
"เอาน่าจอย พี่ก็ไม่ได้กะว่าจะทำหรอก แต่มันนอกไม่ค่อยหลับเลยลองลุกขึ้นมาทำเล่นๆ ดู"
"ไม่ต้องมาโกหกเลย ทำเยอะขนาดนี้ไม่เล่นแล้ว"จอยพูดไม่ผิด ปริมาณทั้งเค้กและคัสตาร์ดมันมากพอจะเก็บไว้ได้สองสามวัน ไม่ได้เริ่มที่จำนวนน้อยๆ เหมือนคราวทำคุ้กกี้เลยสักนิด
"ก็....ลองทำรอบแรกแล้วคิดว่ามันอร่อยดี เลยทำเพิ่มไง ยังไงก็เก็บได้หลายวัน แต่ท่าทางวันเดียวก็คงหมดแล้วล่ะ ดีนะเนี่ยที่โทรบอกให้จอยไปหาซื้อกล่องกับถ้วยพลาสติกมา"
"ไม่ดีเลย ยังไงก็ไม่เห็นด้วย คราวหน้าจะทำอะไรก็ต้องเรียกให้จอยไปช่วย เกิดเป็นลมเป็นแร้งขึ้นมาจะทำยังไง หน้าซีดออกอย่างนี้ยังมายิ้มแป้นใส่อีก จอยว่าพี่มินไปนอนพักเอาแรงสักงีบก่อนดีกว่า ช่วงนี้ลูกค้าไม่เยอะเท่าไหร่ จอยเฝ้าร้านคนเดียวได้"
"แต่พี่ไม่ง่วงนี่"
"ไม่ง่วงก็ต้องนอน อย่าดื้อ"คำกล่าวว่าสุดท้ายทำเอาคนดื้อขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ
"พี่อายุมากกว่าจอยนะ มาว่าพี่ดื้อได้ไง"
"ถ้าไม่ตามวันเกิดใครๆ ก็คิดว่าจอยเป็นผู้ใหญ่กว่าพี่มินทั้งนั้นล่ะ แล้วอย่าเที่ยวไปบอกใครเขาล่ะว่าตัวเองแก่กว่าจอยล่ะ ไม่มีคนเขาเชื่อหรอก ทำตัวเป็นเด็กแบบนี้น่ะ"
"จอย!! พี่โกรธแล้วนะ"
"ไม่ต้องทำเป็นงอนเลย จอยสิควรจะโกรธ ไปนอนพักซะดีๆ ก่อนที่จอยจะปิดร้านไล่ลูกค้าเพื่อให้พี่นอนพัก"จอยหันไปทำหน้าดุใส่คนที่พยายามทำเป็นดุ คบหากันมานานจนรู้ว่าเนมินไม่เคยโกรธใครด้วยเรื่องแค่นี้ และก็ไม่เคยโกรธใครจริงๆ สักที
"....จอยโกรธจริงเหรอ"เนมินเห็นสายตาดุๆ ของคนที่ยืนเท้าเอวใส่ก็รู้สึกเสียใจปนน้อยใจ เขาถามเสียงเบาเพื่อลองเชิง
"ตอนนี้ยัง แต่ถ้ายังเซ้าซี้อีกล่ะก็โกรธแน่"
"แต่พี่ไม่ง่วงนี่"เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้โกรธจริงก็เลยทำใจต่อรองอีกครั้ง
"งั้นเอานี่ไปเปิดฟังข้างใน ชอบเพลงไหนก็แยกๆ เอาไว้ จอยจะได้ไรท์รวมเป็นแผ่นเดียว"สาวร่างเล็กก้มลงเปิดตู้เก็บของเล็กๆ ด้านล่าง หยิบถุงกระดาษที่ใส่แผ่นซีดีมากมายที่เธอทำมายื่นให้เพื่อหลอกล่ออีกฝ่าย
"จะเอามาเปิดในร้านใช่มั้ย ดีๆ งั้นเดี๋ยวพี่เลือกเอง จอยเฝ้าร้านไปนะ"สิ่งของตรงหน้าสร้างความสนใจให้อย่างเต็มที่จนยอมเดินไปห้องเก็บ
"เจ้าค่ะ จะไปไหนก็ไปเถอะ"คำพูดกึ่งไล่ทำให้คนที่เดินหันหลังอยู่ต้องหันกลับมาค้อนให้อีกครั้ง
ห้องเก็บของหลังร้านที่มีโน๊ตบุคเครื่องเล็กตั้งอยู่บนโต๊ะมุมห้อง มุมพักผ่อนเล็กๆ ที่มีเก้าอี้โซฟาตัวนุ่มสำหรับการผ่อนคลายจริงๆ เสียงเพลงจากลำโพงด้านหน้าไม่ได้เข้าโสตประสาทใดๆ ของร่างบางที่นอนคู้ตัวอยู่บนโซฟา ปากบางๆ ที่พูดเจื้อแจ้วว่าไม่ง่วงปิดสนิดเมื่อได้ฟังเพลงไปไม่ถึงสามเพลง การพักผ่อนดูเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่นอนอยู่จริงๆ ร่างกายบอบบาง ผิวพรรณอ่อนนุ่มที่สังเกตง่ายว่าเมื่อไหร่ปกติ และเมื่อไหร่...ผิดปกติ
กลิ่นหอมของขนมหวานที่โชยเข้าจมูกมากกว่าทุกวันทำให้ผู้มาใหม่เหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์ด้วยความสงสัย คัพเค้กเกือบยี่สิชิ้นถูกจัดวางอยู่บนถาด เขาละสายจากเมนูใหม่ของร้านแล้วมองหาเจ้าของร้านน่ารักที่ยั่วแหย่เอาไว้เมื่อวาน แต่กลับพบเพียงสายตาคมกึ่งดุที่มองสบกลับมา รอยยิ้มอย่างมิตรถูกส่งให้บางๆ ก่อนเดินไปนั่งที่มุมประจำ
“รับอะไรดีคะ”เสียงพนักงานสาวเดินมาทำหน้าที่ พร้อมด้วยสีหน้าที่แสดงออกว่า...ทำ...เพราะเป็นหน้าที่
“ขอเหมือนเดิมแล้วกันครับ ว่าแต่น้องมินไม่อยู่เหรอครับ”ภูริวางกระเป๋าเอกสารลงข้างกายแล้วเงยหน้าขึ้นมาถามคนที่หน้าบึ้งเมื่อได้ฟังคำถามที่...ไม่อยากตอบ
“นอนพักอยู่หลังร้านค่ะ มีธุระอะไรเหรอคะ”มือเล็กเรียวที่ถือกระดาษและปากกาทิ้งลงข้างตัว แสดงถึงหน้าที่ที่หมดลง
“ไม่สบายเหรอครับ เมื่อวานยังดีๆ”
“ก็เพราะใครบางคนพูดไม่เข้าหูพี่มินน่ะค่ะ พี่เขาเลยเหนื่อย”คำว่าใครบางคนดูจะดังกว่าคำอื่นๆ อย่างจงใจ และคนที่นั่งอยู่ก็รู้สึกถึงการสื่อสารอ้อมๆ แบบนั้น เพียงแต่ยังไม่แน่ใจ
“เอ่อ...ครับ งั้นไม่รบกวนแล้วครับ”ภูริรู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าพนักงานสาวคนนี้แสดงออกว่าหวงเจ้านายมากขนาดไหน...กันท่า...อย่างชัดเจน
“กาแฟร้อนนะคะ ส่วนนี่คัสตาร์ดกาแฟ เมนูใหม่ของร้าน ชิมฟรีไม่คิดเงินค่ะ”จอยเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมวางถ้วยกาแฟและจานคัสตาร์ดลงตรงหน้า ถึงเนมินไม่ได้สั่ง แต่ถ้วยนี้เป็นถ้วยเดียวที่เตรียมพร้อมและมีฝาพลาสติกครอบไว้อย่างหวงห้าม เดาได้ทันทีว่าหวงไว้เพื่อใคร
“ครับ ขอบคุณครับ”ชายหนุ่มไม่แปลกใจในสิ่งที่เพิ่มนอกเหนือเครื่องดื่มที่สั่งไป
“.........”จอยยืนทำหน้าครุ่นคิดโดยไม่ขยับไปประจำตำแหน่ง จนคนที่นั่งอยู่ต้องเงยหน้าจากถ้วยกาแฟขึ้นมามองอีกครั้ง
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“คือ...อย่าหาว่าพูดมากเลยนะคะ แต่เพราะคุณพูดติรสชาติของกาแฟกับคุ้กกี้เลยทำให้พี่มินเขาเหนื่อย เขาทุ่มเทกับร้านนี้และรายละเอียดต่างๆ ค่อนข้างมาก ถึงคุณจะไม่พอใจอะไร แต่ก็อย่าพยายามติอะไรอีกเลยนะคะ หนูไม่อยากให้พี่มินทำงานหนักไปกว่านี้”
“หมายความว่า...พวกนี้...เป็นเพราะคำพูดของผมเหรอ”เขาชี้ไปตามสิ่งแปลกตาต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นจากวันแรกๆ ที่ได้มาใช้บริการ จอยพยักหน้าแทนคำตอบกับทุกสิ่งที่เขาชี้ไป
“ใช่ค่ะ และหวังว่าคัสตาร์ดถ้วยนี้จะได้รับคำพูดดีๆ ที่ไม่ต้องทำให้พี่มินนึกอยากทำอะไรขึ้นมาอีกนะคะ แค่นี้ก็แทบไม่มีเวลาพักผ่อนแล้ว”
“ขอโทษจริงๆ ครับ ผมไม่รู้ว่าเขาจะซีเรียสกับคำพูดเล็กๆ น้อยๆ แบบนั้น”
“คุณไม่ผิดหรอกค่ะ แต่พี่มินเขาเป็นคนแบบนี้เอง ยังไงก็ถือว่าขอร้องแล้วกันนะคะ อย่าติอะไรอีกเลย ขอให้ทานให้อร่อยนะคะ”
พนักงานสาวเดินกลับไปแล้วแต่คนที่ได้ฟังเรื่องราวที่คาดไม่ถึงยังคงนั่งนิ่งอยู่ กับแค่คำพูดเล็กๆ น้อยๆ ที่พยายามแสดงถึงลักษณะนิสัยส่วนตัว ไม่ใช่คำติเรื่องรสชาติเลยสักนิด ไม่คิดว่าร่างเล็กนั่นจะใส่ใจจนถึงกับทำเรื่องต่างๆ มากมายแบบนี้ กำแพงที่เคยโล่งตาถูกบดบังด้วยไม้ระแนงและแจกันดอกไม้เล็กๆ ที่ประดับตกแต่งอย่างน่ารัก เมนูของหวานที่เพิ่มขึ้น เมื่อลองสังเกตคำพูดดีๆ เขาก็นึกได้ว่าคัสตาร์ดตรงหน้าเป็นรสกาแฟ รสชาติเดียวกับคุ้กกี้ที่เขาเคยเลือกกิน คัพเค้กที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ก็น่าจะมีรสชาติขมปนหวานเหมือนกัน จะว่ารู้สึกผิดก็ไม่เชิง ลึกๆ เขากับดีใจจนถึงกับอมยิ้มนิดๆ ออกมา เพียงแค่ได้คุยกันไม่กี่ประโยคเมื่อวานเขาก็รู้ว่าเจ้าของร้านร่างบางนั่นใสซื่อแค่ไหน หากเป็นคนที่ทันเล่ห์เหลี่ยมกันก็คงจะเดาการกระทำอันเกินขอบเขตของลูกค้าได้ตั้งแต่ถามชื่อนั่นแล้ว แต่นี่แม้กระทั่งเบอร์โทรศัพท์ก็ยังได้มาง่ายๆ ไม่เคยคิดเลยว่าคนแบบนี้ยังมีเหลืออยู่อีก ใสออกขนาดนี้รอดฝูงเหยี่ยวฝูงกามาได้ยังไงกัน หากลองได้รู้จักเขาก่อนหน้านี้....คง....รอดยาก
*******************************************************************
คิดถึง....คนอ่าน
