Special
- 1 -
ภายในห้องนอนของชูการ์น้อย เจ้าของห้องวิ่งไปวิ่งมาหาชุดใส่เพื่อจะออกไปข้างนอก ไม่ลืมแว่นสายตา แต่คราวนี้ขอใส่อันที่พี่ออกัสซื้อให้จะได้ไม่ดูเกะกะเหมือนอันที่ใส่ประจำ หลังจากแต่งตัวเสร็จเป็นที่น่าพอใจแล้วก็เตรียมจะวิ่งลงไปข้างล่าง แต่ก็ต้องหยุดกึกเมื่อจะเดินออกไปจากหน้ากระจก มือแตะที่คอที่อกของตัวเอง เหลียวมองหาอะไรบางอย่างรอบห้อง พอค้นทุกที่แล้วก็ไม่เจอ ชูการ์จึงวิ่งตึงตังลงไปข้างล่าง
“แม่ครับ เห็นสร้อยก้าไหมอ่า”
คุณแม่หันมามองลูกชายที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา “อะไรหายจ๊ะ?”
“สร้อยก้าอะ แม่ สร้อยที่ก้าใส่ประจำ ที่มีจี้ใส ๆ อะ” ชูการ์อธิบายร้อนรน
คุณแม่ทำท่านึกครู่หนึ่งก่อนบอก “ไม่เห็นนะ”
“ง่า ทำไงดี มีคนให้ก้ามาด้วย” หน้าจ๋อยเพราะทำของหาย
“เดี๋ยวแม่จะช่วยหาดูให้อีกทีนะ ชูการ์ไปเล่นสงกรานต์ให้สนุกเถอะลูก หน้าจ๋อยแบบนี้เดี๋ยวพาพี่ ๆ เขาจ๋อยตาม” คุณแม่ปลอบ แอบกระเซ้าลูกชายในตอนท้าย ชูการ์เลยหลุดยิ้มออกมา
“ขอบคุณนะครับ แม่” หอมแก้มคุณแม่อย่างเอาใจ
คุณแม่ยิ้มแล้วหอมคืน “จ้า”
ในวันนี้ที่ทั่วทุกพื้นที่เต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำของสายน้ำ วันเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ กับวันขึ้นปีใหม่ของคนไทย วันสงกรานต์ กิจกรรมของหลายคนคงไม่พ้นการเล่นน้ำ บ้างก็กลับบ้านไปเยี่ยมเยียนพ่อแม่ผู้เฒ่าผู้แก่ ทำบุญตักบาตรก่อเจดีย์ทรายเป็นที่สนุกสนาน บ้านน้องน้ำตาลเองก็เช่นกัน คุณพ่อคุณแม่ถือโอกาสในวันหยุดยาวนี้พาลูก ๆ ไปทำบุญกันที่วัด เป็นการต้อนรับปีใหม่ที่ดีอีกหนึ่งปี
เมื่อกลับจากวัดแล้วสองพี่น้องก็เตรียมตัวออกไปเล่นน้ำสงกรานต์กันตามประสาเด็กวัยรุ่น ชูการ์น้อยเปลี่ยนชุด จัดเตรียมอุปกรณ์เล่นน้ำพร้อมสรรพ สะพายปืนฉีดน้ำคล้องไหล่ นั่งรอพี่ ๆ ฮอทเนสมารวมตัวกันก่อนออกไปเล่นน้ำตรงลานที่ทางเขตจัดไว้ให้ ถึงไม่ต้องตะลอนไปไกลก็สนุกกันได้ ช่วงบ่ายยังต้องไปบ้านคุณตาคุณยายด้วย เล่นใกล้ ๆ ก็ดีเหมือนกัน
“พร้อมยังไอ้หนู?” โอโซนลงมาสมทบกับน้อง เอ่ยเย้าน้องที่ท่าทางตื่นเต้น น้องแว่นเอ๊ย
“ก้าพร้อมมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
“โห ๆ มีย้อนนะ” ทำท่าจะเขกหัวน้องด้วยความมันเขี้ยวปนหมั่นไส้
“นี่ พี่โซน อย่าลืมไปรับเพลินด้วยนะ”
“ย้ำมารอบที่เท่าไรแล้ว พี่ไม่ลืมหรอกน่า ไม่มีน้องเพลินนี่ออกไปเล่นสงกรานต์ไม่ได้เลยว่างั้น?” โอโซนนั่งลงข้างน้อง เอาหมวกของตัวเองสวมให้น้องแทน
ชูการ์จับ ๆ ให้มันเข้าที่เข้าทางแล้วบ่นอุบอิบ “ก็ก้าไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนนอกจากเพลินนี่นา ไปคนเดียวก้าไม่มั่นใจ”
“คนเดียวที่ไหน พี่กับอีกสี่ตัวนั่นมันอะไร?” โอโซนถามกวน
น้องของเขาไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกกับใครเท่าไร เพราะมัวแต่อ่านหนังสือ ตั้งใจเรียนเป็นบ้าเป็นหลัง ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนที่สนิทกันนัก ส่วนมากแค่เพื่อนร่วมห้องธรรมดา น้องเพลินถือว่าสนิทสุดแล้วเพราะเป็นพวกคงแก่เรียนเหมือนกัน
นั่งรออยู่สักพัก สมาชิกวงฮอทเนสก็มารวมตัวกันจนครบ ชูการ์เข้าไปบอกคุณพ่อคุณแม่ก่อนออกมารวมกับพี่ ๆ คุณแม่เดินตามออกมาหน้าบ้าน
“เล่นระวัง ๆ นะลูก ชูการ์”
“คร้าบ~” หนุ่มน้อยหันกลับมารับคำ ยิ้มกว้างขวาง กระชับปืนฉีดน้ำที่คล้องไหล่
“ดูแลน้องด้วยนะ โซน” คุณแม่กำชับคนเป็นพี่ชาย ขณะที่คุณพ่อออกมายืนข้าง ๆ มองลูกคนเล็กที่ยืนอยู่กลางวงพี่ ๆ
“ครับ แม่ สั่งไอ้เป้ไว้เลย” โอโซนยิ้มทะเล้น โยนให้เป้ที่รอรับอย่างเต็มใจ
“เรานี่ ดูแลน้องดี ๆ”
“ครับผม~”
ไม่ใช่แค่โอโซน หนุ่ม ๆ ฮอทเนสรับคำพร้อมกันอย่างถ้วนหน้า โอโซนกอดคอน้องเดินไปด้วยกัน อีกสี่หนุ่มที่เหลือเดินตามเป็นพรวน พร้อมใจกันไม่เอารถไปเพราะขี้เกียจล้างถ้ามันโดนแป้งตามทางที่ขับมา
ทั้งหมดแวะบ้านน้องเพลินเพื่อรับน้องไปด้วยกัน พี่สาวน้องเพลินก็ไปเป็นเพื่อนน้องด้วยเพราะมีแต่หนุ่ม ๆ กันทั้งนั้น น้องเพลินเป็นสาวน้อยหนึ่งเดียว
พอไปถึงสถานที่ที่จัดไว้ให้เล่นน้ำ คนก็เริ่มทยอยมาหนาตาแล้ว ร้านรวงรอบ ๆ พื้นที่ก็มีของซื้อของขายมากมายให้ได้จับจ่ายอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่มาเที่ยวเล่นสงกรานต์ กว่าจะเดินไปสุดทาง กลุ่มของน้องน้ำตาลก็เปียกโชกไปทั้งตัว ทั้งแป้งทั้งดินสอพองเต็มหน้าเต็มเสื้อไปหมด เว้นก็แต่น้องเพลินกับชูการ์ที่ถูกกันไว้ตรงกลางเลยโดนน้อยกว่าพี่ ๆ
ชูการ์แกะดินสอพองผสมกับน้ำในขันที่น้องเพลินถืออยู่ ใช้มือคน ๆ ให้เข้ากันแล้วป้ายแก้มน้องเพลิน สองเพื่อนซี้หัวเราะเฮฮากันอยู่สองคน
“เล่นอะไรกัน?” เป้ยื่นหน้าข้ามไหล่น้องมามอง ใช้มือปาดน้ำออกจากใบหน้าของตนเอง เขาเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเวลานี้
ชูการ์เอี้ยวคอหันมามองพี่ เป้ใช้ทีเผลอควักดินสอพองในขันที่น้องเพลินถือมาทาแก้มน้อง ชูการ์น้อยหลับตาปี๋ หดคอหนีมือพี่แต่ก็ไม่พ้น เป้มองผลงานของตัวเองแล้วยิ้มขำ ขณะที่คนถูกทาทำหน้าเบ้ก่อนพุ่งเข้าใส่พี่ ใช้มือเกาะไหล่ ดันตัวขึ้นในระดับเดียวกันแล้วเอาแก้มไปถูให้หน้าพี่เปื้อนด้วย พอถอยออกมาก็หัวเราะขำชอบใจ เจอแบบนี้แล้วเป้ขอยอมเลอะ กางแขนออกจะเข้าไปรวบตัวน้องแต่ถูกโอโซนขัดขาหน้าแทบคว่ำ พี่ชายขี้หวงฉีดน้ำใส่แล้วยักคิ้วกวน กอดคอน้องชายของตัวเองเย้ยเพื่อน
ยิ่งเวลาผ่านไป คนก็ยิ่งเยอะ ห้าหนุ่มเลยพาน้องกับพี่สาวน้องเพลินเดินเร็วขึ้นอีกหน่อย ไม่แวะเล่นกับคนอื่นตามทางนานนัก คนยิ่งเบียดเสียด ยิ่งต้องดูแลน้อง
เดินไปไม่เท่าไรก็เจอฮันนี่กับเกมส์ เกมส์หน้าเหี้ยมมาเลยเพราะมีคนมายุ่งกับฮันนี่ แต่อาละวาดไม่ได้เพราะฮันนี่ไม่ชอบให้ทำตัวกร่าง พอหนักเข้าก็เอาแต่ใจพาฮันนี่กลับเอาดื้อ ๆ จนหนุ่ม ๆ ฮอทเนสได้แต่ส่ายหน้า แต่เพียงไม่นานฮันนี่ก็กลับมา ทำให้พวกเขามองอย่างแปลกใจ
“เกมส์อะ?” เป้เอ่ยถามเมื่อเห็นฮันนี่กลับมาคนเดียว เมื่อกี้เกมส์ลากไปไม่ใช่หรือ
“เอาไม้หน้าสามฟาดมันสลบอยู่แถวนั้นแหละ กวนนัก” เด็กหนุ่มหน้าหวานว่า หน้ามุ่ยอย่างไม่ชอบใจ
เพื่อนหัวเราะขำท่าทางนั้นก่อนชวนกันเดินต่อ เกมส์ที่ฮันนี่บอกเอาไม้หน้าสามฟาดกลับเดินเข้ามาแทรก รั้งตัวฮันนี่ไว้
“ทิ้งกู” ต่อว่าด้วยใบหน้าบึ้งตึง ท่าทางจะโมโหจริง
“อยากกวนใจทำไม ถ้ามาเพื่อกวนนะ กลับไปเลย จะ เล่น น้ำ เข้าใจ๋?”
ว่าอย่างนั้นแล้วฮันนี่ก็หมุนตัวกลับ แล้วเดินออกไป เกมส์รีบตามไม่ให้คลาดกัน หนุ่ม ๆ ที่เหลือมองหน้ากัน มาแค่นี้แต่แย่งซีนชะมัด
พอพาน้องออกมาที่โล่งหน่อยก็ปล่อยให้น้องเล่นกันตามสบาย เด็กตัวเล็ก ๆ เข้ามาฉีดน้ำใส่ชูการ์ด้วยความเมามัน ชูการ์กับน้องเพลินเลยรุมประแป้งหนูน้อยเสียขาววอกไปทั้งหน้า ก่อนที่เจ้าหนูจะวิ่งกลับไปหาคุณพ่อของตนเอง สองเพื่อนซี้เลยหันมาเล่นประแป้งกันเอง หัวเราะคิกคักกันอยู่สองคน ธนินเข้ามาร่วมวงประแป้งน้องทั้งสองคนด้วยเลยโดนพุฒเทน้ำราดตั้งแต่หัวลงมาจนเปียกโชก น้องทั้งสองคนขำก๊าก
“กัส มึงอย่า”
เสียงโอโซนดังขึ้นมาเรียกให้ทุกคนหันไปมอง ออกัสกำแป้งฝุ่นมาเต็มมือ ตั้งท่าจะเดินเข้าหาที่หมายเต็มที่
“อะไร วันนี้สงกรานต์นะเว้ย ยังไงมึงต้องโดนแป้ง” หนุ่มนักร้องนำว่ายิ้ม ๆ
“เต็มหน้ากูละเนี่ย ยังไม่โดนตรงไหนวะ?” โอโซนโวย ชี้ให้ดูด้วยว่ามันเต็มไปหมดแล้วจริง ๆ
“กูยังไม่ได้ทาเลย” ออกัสตอบกลับหน้าตาเฉย
“เหี้ย มึงเพื่อนกูเปล่า?”
“พอดีกูไม่ได้ชื่อเหี้ยว่ะ มานี่” ออกัสก้าวเข้าหา ดึงแขนโอโซนไว้ไม่ให้หนี
“ไอ้กัส!!”
โอโซนยื้อไว้สุดตัว เบี่ยงหน้าหนีมือเพื่อนสุดชีวิต พอหลุดมาได้ก็วิ่งหนี กลายเป็นว่าสองหนุ่มไล่ปะแป้งกันเอง ชูการ์น้อยหัวเราะเสียงดังเมื่อพี่ชายถูกจับได้แล้วโดนพี่ออกัสทาแป้งเสียขาววอก
พี่ ๆ แกล้งกันเสียงดังโหวกเหวกไม่เกรงใจชาวบ้าน ส่วนชูการ์ที่โดนสาดน้ำจนแว่นมัวไปหมดแล้วจึงถอดออกมาเช็ด แต่เสื้อตัวเองก็เลอะแป้ง มันเลยยิ่งเลอะไปใหญ่ จึงเอาน้ำในกระบอกปืนฉีดมาล้างแล้วใส่ใหม่ ถอดออกมาก็มองไม่ค่อยเห็นเลยต้องใส่ไว้ทั้งที่มันยังมัว ๆ นั่นล่ะ ถึงจะมองเห็นแค่มัว ๆ แต่ถ้าเกาะพี่เป้ไว้ รับรองไม่หายไปไหนแน่นอน
“น้องครับ”
จู่ ๆ ก็มีคนมาเรียกชูการ์น้อยจากด้านหลัง น้องหันมามองคนเรียกงง ๆ
“พอดีแป้งพี่หมดแล้วน่ะ เห็นของน้องเยอะเลย ขอสักนิดได้ไหมครับ ไปซื้อไม่ทัน”
คนเรียกเป็นชายหนุ่มสองคนที่ชูการ์ไม่รู้จัก ขาเล็กเผลอก้าวถอย ก่อนจะพยักหน้าแล้วยื่นขันใส่ดินสอพองของตนเองให้พี่ ๆ เขา สองหนุ่มยิ้มแล้วปาดดินสอพองมาขอทาแก้มน้อง
“ขอประแป้งเด็กน่ารักหน่อยนะครับ”
มือเลอะดินสอพองลูบแก้มนิ่ม ชูการ์หยีหน้า ข้อมือของหนึ่งในสองถูกมือของใครอีกคนจับ คนถูกจับชักสีหน้า ก่อนตวัดสายตาเขียวขุ่นไปมองคนที่เข้ามาขวางตนเองแล้วชะงักกึก เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่าย
“จะทำอะไร?”
เป้เอ่ยถามเสียงเข้ม สีหน้าแสดงออกว่าไม่พอใจ ชูการ์ก้าวไปหลบหลังพี่ โผล่มามองหนุ่มแปลกหน้าทั้งสองคน ขณะที่หนุ่ม ๆ ฮอทเนสก็ล้อมวงเข้ามา
“อ... เอ่อ ผมแค่ประแป้งน้องเขาเฉย ๆ เองพี่” หนึ่งในนั้นแก้ตัวเสียงอ่อย
“ใครอนุญาต?” เป้ยังคงน้ำเสียงเอาไว้ไม่หลุด สายตาวาววับมองคนพูดที่เริ่มหน้าซีด
“น้องพี่เหรอ?”
คำถามนั้นไม่ได้รับคำตอบ เมื่อเป้มองสองหนุ่มนิ่ง ทั้งสองจึงมองเลยมาทางชูการ์ที่โผล่มามองพวกเขา หน้าตาแป๋วแหววขนาดนี้คงไม่ใช่พี่น้องกันหรอกมั้งเนอะ
“ขอโทษครับ”
สองหนุ่มรีบเอ่ยขอโทษแล้ววิ่งกลับไปเล่นน้ำกับเพื่อนต่อ โทษกันเองว่าเพราะอีกฝ่ายเข้าไปยุ่งกับน้องเขานั่นล่ะถึงได้เกือบมีเรื่องแล้ว
เป้หันมาหาน้อง แกะกระบอกใส่น้ำจากปืนฉีดน้ำมาล้างคราบดินสอพองบนแก้มน้อง เขาเข้าใจความรู้สึกเกมส์แล้วว่าทำไมอยากพาฮันนี่กลับบ้าน ล้างเสร็จก็ใช้มือตัวเองเช็ดให้อีกรอบ ไม่มีผ้าแห้งเพราะเปียกไปทั้งตัวแล้ว สีหน้าพี่ดูยุ่งเหยิงจนชูการ์ต้องพูดขึ้นมา
“เขาแค่ประแป้งเอง พี่เป้ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
“พี่หวง” เป้สวนกลับ คิ้วขมวดมุ่นยิ่งกว่าเก่า
“โธ่เอ๊ย” น้องทำเสียงสูงแล้วอมยิ้ม
“ทำไมต้องทำเสียงแบบนี้ด้วย ฮึ!?”
“เปล่า” เอ่ยปฏิเสธแล้วยิ้มตาหยี
เป้ทำหน้าประหลาด ไม่รู้จะยิ้มหรือจะบึ้ง สุดท้ายก็ยิ้มออกมาแล้วจูงมือกันเดินตามกลุ่มเพื่อนไป ชูการ์ให้พี่ถือขันใส่ดินสอพองให้ ส่วนตัวเองยิงปืนฉีดน้ำเล่นไปตลอดทาง
เที่ยวกันสนุกสมใจแล้วหนุ่ม ๆ ก็พาน้องทั้งสองกับพี่สาวน้องเพลินกลับมาส่งบ้าน ชูการ์โบกมือให้เพื่อนที่เดินเข้าบ้านไปแล้ว ก่อนเดินตามพี่ ๆ เพื่อกลับบ้านตัวเองบ้าง ธนินกับพุฒแยกกลับไปก่อน ขณะที่ออกัสกับเป้ แขกประจำบ้านของชูการ์กับโอโซนยังตามมาส่งถึงที่
“ตัวติดกันตลอดเลยนะ พวกมึง”
เป้แซวอีกสองหนุ่ม มือออกัสวืดผ่านหัวชูการ์ไปตบหัวเพื่อน
“จะโดนหัวน้อง” เป้ว่า
“ขอโทษครับ ชูการ์”
ออกัสยิ้มแหย แต่น้องกลับยิ้มให้แล้วส่ายหน้าว่าไม่เป็นไร ก่อนจะเข้าบ้านไป ปล่อยให้เพื่อน ๆ เขาคุยกัน
“กลับพร้อมเป้เลย มึงอ่ะ” โอโซนเอ่ยไล่
“ไล่กูจั๊ง”
ออกัสว่าเสียงสูง แต่ก็ยอมไปตามคำสั่ง กอดคอเป้แล้วรั้งให้เดินออกมาจากหน้าบ้าน เป้ยังเหลียวกลับไปมอง เห็นน้องโผล่มายืนที่ระเบียงห้องนอนแล้วโบกมือให้ จึงยิ้มกว้างแล้วโบกมือตอบ ก่อนจะถูกออกัสที่เกิดอาการอิจฉาตาร้อนลากไปด้วยกัน
กลับมาแล้วชูการ์ก็เที่ยวหาสร้อยที่พี่หมอดูให้มา แต่ไม่ว่าหาเท่าไรก็หาไม่เจอ หนุ่มน้อยซึมไปนานเลยที่ทำของสำคัญหาย ถ้าเจอพี่เขาอีกทีจะขอโทษที่ดูแลมันไม่ดี
วันต่อมากลับมีจดหมายสอดไว้ในตู้จดหมายหน้าบ้านทั้งที่เป็นวันหยุดของไปรษณีย์ เมื่อเปิดออกมาดูมีเพียงข้อความสั้น ๆ ที่แนบมาด้วยลายมือของใครสักคนว่า แก้วมุกดากลับมาอยู่กับเจ้าของแล้ว ชูการ์ถึงกับกระโดดกอดพี่ชายด้วยความกลัวผี มันเหมือนสิ่งลี้ลับที่เขามองไม่เห็น อยู่ ๆ พี่หมอดูก็ให้มันมา แล้ววันหนึ่งมันก็หายไปไร้ร่องรอย ต่อมากลับมีจดหมายปิดผนึกมาถึงเขาแล้วบอกว่ามันกลับไปอยู่กับเจ้าของแล้ว แถมลงชื่อท้ายจดหมายว่า เมฆา คนที่ชูการ์ไม่รู้จักอีกแล้ว
พอเล่าเรื่องนี้ให้น้องเพลินเพื่อนรักฟัง น้องเพลินเชื่อสุดใจเลยว่ามันต้องเป็นของวิเศษจากพี่อาร์ดิวแน่ ๆ พลอยทำให้ชูการ์น้อยเชื่อตามไปด้วยว่าพี่หมอดูคนนั้นมีพลังพิเศษอย่างที่น้องเพลินว่าจริง ๆ พี่ ๆ วงฮอทเนสได้แต่อมยิ้มขำ ถ้าน้องอยากเชื่ออย่างนั้น พวกเขาก็ไม่ขัดหรอก
.........
สามวันที่เล่นน้ำกันตัวแทบเปื่อย แถมวันหยุดชดเชยที่ชูการ์ได้นอนกลิ้งอยู่ที่บ้าน พอหมดวันหยุดก็ต้องกลับมาเรียนพิเศษต่อ ปฏิทินตั้งโต๊ะถูกวงเอาไว้เป็นรูปดอกไม้ แถมแปะรูปเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักกำลังยิ้มแฉ่งเอาไว้ด้วย
ชูการ์น้อยหยิบขึ้นมาดูแล้วอมยิ้ม ทำท่าคิดแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียว วางมันลงบนโต๊ะเหมือนเดิมแล้วออกจากห้องนอนเพื่อไปเรียนพิเศษในเช้าวันนี้
หลังเรียนเสร็จ เป้ก็มารับน้องเหมือนเคย แต่คราวนี้กลับมีออกัสพ่วงมาด้วยโดยไม่ตั้งใจ ชูการ์เลิกคิ้ว แปลกใจเล็กน้อยที่พี่ออกัสมาด้วย ไม่เพียงเท่านั้นที่ทำให้น้องแปลกใจ เพราะวันนี้ดูพี่ออกัสจะป่วนประสาทพี่เป้ของเขามากกว่าปรกติ พี่โอโซนส่งมาหรือเปล่านี่?
เป้พาน้องกับน้องเพลินไปหาอะไรกินก่อนกลับบ้านกัน สักพักโอโซนก็ตามมาสมทบ เมื่อโอโซนมาถึง พี่สาวน้องเพลินก็มารับน้องพอดี ทำให้น้องเพลินต้องกลับไปก่อน จึงเหลือแค่หนุ่ม ๆ อยู่ในร้านอาหาร
ออกัสยังคงทำตัวสนิทสนมกลมเกลียวกับชูการ์ พูดคุยงุ้งงิ้ง คอยเอาอกเอาใจตักนั่นนี่ให้จนเป้เริ่มคิ้วขมวด ชูการ์มองคนนั้นคนนี้แล้วอึดอัดใจ เป็นอะไรกันอ่า...
ตากลมเหลือบมองพี่ชายที่นั่งกินข้าวเฉยไม่สนใจ บรรยากาศมันแปลก ๆ ตั้งแต่พี่ออกัสตามมาด้วยแล้ว เหมือนพี่เป้จะไม่พอใจมาตั้งแต่ต้น จนตอนนี้บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นมาอีก เป็นอะไรกันไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้ชูการ์อยากลุกหนีมาก ๆ
ครืดดด
เสียงเลื่อนเก้าอี้เรียกสายตาของทุกคนในโต๊ะให้มองตาม คนที่ลุกไม่ใช่ชูการ์ แต่เป็นเป้ที่ลุกขึ้นแล้วเอ่ยขอตัว
“กูกลับล่ะ ฝากน้องด้วย”
ชูการ์ตาโตที่เห็นพี่เดินออกไปทันทีที่พูดจบ รีบลุกแล้ววิ่งตามพี่ไป มือเรียวคว้าจับมือพี่ดึงไว้ เป้หันกลับมามองน้องด้วยสายตาดุดันราวกำลังโกรธจัด ทำให้ชูการ์ชะงักกึก เมื่อไม่เคยเห็นพี่เป็นแบบนี้
เป้กระชากน้องหลบมาตรงมุมทางเดิน ดันตัวน้องติดกำแพง โน้มหน้าโฉบลงไปหา น้องหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ ครู่หนึ่งดวงตาภายใต้กรอบแว่นจึงค่อยลืมขึ้นมา เมื่อไม่เห็นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่กลัว ใบหน้าพี่เป้อยู่ใกล้แค่คืบ ทำเอาหายใจไม่ทั่วท้อง
“พี่โกรธอะไร?” น้องน้อยเสี่ยงถาม
“เปล่านี่” เป้ว่าเสียงแข็ง
คิ้วน้องเลยขมวดบ้าง “แล้วทำไมพี่ต้องเดินหนีด้วย ถ้าพี่ไม่พอใจก็พูดมาสิ ถ้าไม่อยากมารับก้าแล้ว พี่ก็บอกสิ”
“เออ พี่ไม่พอใจ!”
“.......!!” ชูการ์นิ่งอึ้ง พี่เป้ตวาดเขา...
“ทำไมชูการ์ต้องทำตัวสนิทสนมกับออกัสต่อหน้าพี่?” น้ำเสียงคนเป็นพี่ฟังดูหาเรื่อง
“ก้าไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อย!” น้องปฏิเสธเสียงดัง ขอบตาเริ่มร้อนเหมือนน้ำตาจะไหลเพราะไม่เคยถูกพี่ดุ
“ไม่ได้ทำเหรอ แล้วที่ตัวติดกันมาจนตอนนี้นี่มันอะไร?”
“พี่ไม่มีเหตุผล” น้องต่อว่า
“ไม่มีหรอกเหตุผลน่ะ พี่ไม่เคยมีอยู่แล้ว!”
“ทะเลาะอะไรกันวะ?”
โอโซนกับออกัสเดินเข้ามาหาทั้งสองคน โอโซนรั้งไหล่เป้ให้ถอยออกห่างจากน้องของตนเอง ซึ่งเป้ก็ยอมถอยห่างแต่โดยดี
“พี่โซน ก้าอยากกลับบ้านแล้ว”
เสียงน้องเครือจนพี่ ๆ พากันใจไม่ดี น้องก้มหน้าซ่อนความรู้สึก มือดึงชายเสื้อพี่ชายเป็นการเร่งให้รีบกลับ โอโซนหันไปมองเป้ ซึ่งอีกฝ่ายก็เบือนหน้าไปทางอื่น ไม่ยอมสบตา
“เออ ๆ ไป กลับ ๆ ๆ” โอโซนรั้งน้องมาใกล้ โอบไหล่ไว้จะพากันกลับ หันมาหาเป้แล้วชี้หน้า “มึง เชี่ยเป้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
สองพี่น้องเดินห่างออกไปแล้ว ออกัสก้าวเข้ามาหาเพื่อนด้วยท่าทางกวนใจ มือวางบนบ่าแล้วเอ่ยยียวน
“อารมณ์ร้อนแบบนี้ไม่ไหวนะ เป้ มึงทำให้น้องโกรธรู้ไหม ชูการ์ไม่โกรธใครง่าย ๆ หรอกนะ ดีใจกับมึงด้วย”
“สนุกมากหรือไงวะ?” เป้ตวัดสายตามามองคนพูด
“สุด ๆ เลยว่ะ”
ออกัสยักคิ้ว ทำให้เป้ถอนใจแรง ๆ ก่อนเดินจ้ำไปที่ลานจอดรถ หนุ่มนักร้องนำมองตามแล้วส่ายหน้ายิ้ม เดินตามเพื่อนไปด้วยความอารมณ์ดี ไม่มีทีท่าว่าจะเครียดตามเพื่อนแต่อย่างใด
โอโซนพาน้องไปหาที่นั่งเล่นสงบจิตสงบใจ ไม่อยากให้น้องเอาหน้าหมอง ๆ กลับบ้าน เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะไม่สบายใจตามไปด้วย ซึ่งชูการ์ก็เห็นด้วยตามนั้น หนุ่มน้อยนั่งทอดถอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาจับต้นชนปลายไม่ถูก อยู่ ๆ พี่เป้ก็โกรธที่เขาใกล้ชิดกับพี่ออกัส ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร พี่ไม่มีเหตุไม่มีผลเอาเสียเลย หรือที่จริงแล้วพี่เป้จะเบื่อเขา...
“อย่าคิดมากน่า คิ้วขมวดจะเป็นโบแล้ว” โอโซนจิ้มหว่างคิ้วน้อง เห็นน้องซึมแบบนี้แล้ว เขาพลอยยิ้มไม่ออก
“พี่โซน กลับบ้านได้ไหม ก้าอยากพัก” น้องเอ่ยขอเสียงเบา ตอนนี้เริ่มเย็นแล้วด้วย
“ได้ ไม่ต้องคิดมากนะ มันไม่มีอะไรหรอก” มือใหญ่ลูบหัวน้องปลอบใจ
“อือ”
น้องตอบรับเสียงหงอยเชียว โอโซนถอนใจ ก่อนพากันลุกแล้วเรียกรถกลับบ้าน
เมื่อชูการ์และโอโซนกลับมาถึงบ้าน คุณแม่ก็กำลังจัดเตรียมงานเลี้ยงเล็ก ๆ อยู่ มีคุณพ่อช่วยตกแต่งรอบ ๆ บริเวณหน้าบ้าน ระยิบระยับด้วยไฟประดับและของตกแต่งน่ารัก ๆ หนุ่มน้อยแว่นโตกะพริบตาปริบ ๆ งงกับสถานการณ์ เหมือนเขาจะเครียดจนลืมอะไรบางอย่างไป
ไฟในบ้านค่อยดับลงเหลือเพียงแสงจากรอบข้างที่ลอดเข้ามา ตรงประตูหน้าบ้าน แสงจากเปลวเทียนส่องสว่างขึ้นมาพร้อม ๆ กับที่เป้เดินถือเค้กออกมาหาน้อง เสียงร้องเพลงวันเกิดดังขึ้นรอบทิศทาง ชูการ์เหลียวมองรอบ ๆ ไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี
เป้เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าน้อง เมื่อเพลงวันเกิดหยุดลง เด็กหนุ่มก็กระซิบบอก
“สุขสันต์วันเกิด ที่รักของพี่”
น้องอมยิ้มเขิน ก่อนจะเป่าเทียนวันเกิดบนเค้กก้อนโต ไฟถูกเปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียนดับลง ชูการ์หันไปมองทุกคนในห้อง ทั้งพี่ ๆ วงฮอทเนสและน้องเพลินต่างอยู่กันครบทีม เหลียวมามองคุณพ่อคุณแม่ที่ส่งยิ้มมาให้แล้วชูการ์น้อยก็ก้าวเข้าไปหา สวมกอดท่านทั้งสองด้วยความรักและขอบคุณ ก่อนก้มลงกราบ คุณพ่อคุณแม่จึงอวยพรวันเกิดให้
“สุขสันต์วันเกิดนะลูก ขอให้หนูมีความสุขมาก ๆ ได้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ ภยันตรายต่าง ๆ อย่าได้มาแผ้วพานลูกของแม่ ให้หนูเป็นเด็กดีและน่ารักแบบนี้ตลอดไป”
คุณแม่จูบหน้าผากลูกชายแล้วกอดตัวบาง ๆ นั้น ชูการ์กราบที่อกคุณแม่ เอ่ยขอบคุณแล้วกอดตอบ ก่อนผละออกมา หันมาทางคุณพ่อบ้าง คุณพ่อยิ้มน้อย ๆ ลูบศีรษะกลมเบา ๆ แล้วอวยพร
“ขอให้ลูกพ่อประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้านของชีวิต คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองลูกของพ่อให้ก้าวเดินต่อไปในอนาคตได้อย่างมั่นคง”
หนุ่มน้อยน้ำตาคลอ กราบที่อกท่านเหมือนที่ทำกับคุณแม่แล้วกอดแน่น คุณพ่อลูบหลัง ยิ้มปลื้มกับความน่ารักและเป็นเด็กดีของลูก พี่ ๆ ก็พากันอมยิ้มกับภาพนั้น
ชูการ์ลุกขึ้นมา เดินไปตัดเค้กที่พี่เป้วางไว้บนโต๊ะแล้วใส่จานมาให้คุณพ่อคุณแม่ ก่อนจะแจกพี่ ๆ ทุกคนและน้องเพลินเพื่อนรัก งานวันเกิดปีนี้ของชูการ์น้อยมีแต่เสียงหัวเราะและความสุข มีความสุขมากกว่าทุกปีเพราะมีคนที่รักเพิ่มขึ้นมาร่วมงานตั้งหลายคน ของขวัญวันเกิดของแต่ละคนถูกนำมาให้น้องน้อยเจ้าของวันเกิดพร้อมกับคำอวยพร ชูการ์รู้สึกขอบคุณทุก ๆ คนที่ทำให้เขาขนาดนี้ โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่เอาใจใส่จัดงานให้ในทุก ๆ ปี
เป้พาน้องแยกมาเอาของขวัญในบ้าน กล่องของขวัญถูกนำออกมาให้น้อง ชูการ์น้อยรับมาก่อนเขย่งขึ้นจุ๊บแก้มพี่เป็นการขอบคุณ เมื่ออยู่กันตามลำพังเช่นนี้แล้วน้องจึงเอ่ยถามถึงเรื่องที่พี่ ๆ พากันวางแผนให้พี่เป้ทำเป็นโกรธจนน้องเชื่อสนิทใจ
“แผนใคร?” น้องถาม
“พี่ไม่เกี่ยว” เป้รีบปฏิเสธ โบกมือยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับตนเองเลยจริง ๆ
“พี่เป้ล่ะตัวดีเลย ก้าเสียใจ” น้องกอดอกหันหน้าหนี น้ำเสียงเง้างอด
“โอ๋ ขอโทษครับ จะลงโทษพี่ยังไงก็ได้”
เป้รั้งน้องให้หันมาหาแล้วรีบง้อ สีหน้าน้องยังงอง้ำอยู่ มองพี่อย่างไม่แน่ใจแล้วเอ่ยถาม
“จริงนะ?”
“จริงครับ”
เป้ตอบรับ มองน้องอย่างเว้าวอน ไม่อยากให้น้องโกรธเลย รู้สึกแย่จริง ๆ ที่ทำให้น้องเสียใจ แต่เพราะกลัวแผนที่จะทำให้น้องลืมวันเกิดตัวเองเพราะกลัวไม่เซอร์ไพร์สของออกัสนั่นล่ะ ที่ทำให้เขาต้องทำใจแข็งไม่เอ่ยสารภาพกับน้องกลางคัน
ดวงตากลมมองสบนัยน์ตาพี่ ริมฝีปากอิ่มยิ้มน้อย ๆ “บทลงโทษของพี่เป้คือ... อยู่กับก้าตลอดไป”
“ยินดีรับโทษนี้ที่สุดเลยครับ” สีหน้าคนโดนลงโทษแช่มชื่นขึ้นมาทันตา พร้อมน้อมรับและยินดีเป็นอย่างยิ่งกับโทษทัณฑ์ในครั้งนี้
เด็กหนุ่มค่อยโน้มลงไปจูบน้อง แขนเรียวยกขึ้นมาสอดคล้องคอเขาเพื่อเป็นหลักยึด เป้โอบเอวน้องมาชิดใกล้ ละเลียดชิมรสหวานจากน้องน้ำตาลน้อยไม่รีบร้อนจนเป็นที่พอใจ
ตัดใจผละ ละจากความหวานมามองน้อง ชูการ์น้อยยิ้มเอียงอายกับสายตาหวานฉ่ำที่พี่มองสบ เสหลบสายตาพี่ นิ้วยาวเชยคางน้องให้หันมาหา ก่อนประกบจูบมอบจุมพิตแสนหวานให้น้องอีกหนเมื่ออดใจไม่ไหว แม้จะแทบสำลักความหวาน เขาก็ยังอยากลิ้มชิมรสชาตินี้ต่อไปอีกเรื่อย ๆ
เสียงพี่ชายขี้หวงร้องหาเจ้าของวันเกิดดังแทรกความหวานของทั้งคู่ ชูการ์ดันตัวพี่ออก มองพี่ตาโต เป้หัวเราะ เกลี่ยริมฝีปากเจ่อน้อย ๆ ของน้องเบา ๆ แล้วจึงเลื่อนมาจับมือจะพาน้องออกไปด้านนอก หันมามองน้องอีกครั้งแล้วอมยิ้มกับแก้มแดง ๆ นั่น ถ้าคุณพ่อเห็น เขาคงโดนแพ่นกบาล
ทั้งคู่เดินออกไปรวมกลุ่มกับทุกคน แขนน้องกอดกล่องของขวัญที่พี่ให้ มัวแต่เมารสจูบจนลืมเปิดดูเลยว่าพี่ให้อะไรมา
ชูการ์เข้าไปร่วมวงกับพี่และน้องเพลิน กล่องของขวัญของพี่ไม่ยอมให้ห่างตัว เป้มองรอยยิ้มสดใสของน้องแล้วก็ยิ้มตาม เห็นน้องมีแต่ความสุขแบบนี้แล้ว เขาสัญญาเลยว่าจะปกป้องความสุขนี้ให้อยู่กับน้องตลอดไป
ตอนพิเศษนี้เขียนช่วงสงกรานต์เมื่อหลายปีมาแล้ว เลยไม่เข้ากับสภาพอากาศเวลานี้สักเท่าไร แฮร่
พอกลับมาอ่านสำนวนเก่า ๆ ของตัวเองแล้วมันแบบ... ทำไมหวานเลี่ยนขนาดนี้ฟระ เมื่อก่อนก็ไม่รู้สึกนะ แต่พอหลายปีผ่านไปแล้วย้อนมาอ่าน มันก็แบบ... น้ำตาลจะขึ้น 
เหลือตอนพิเศษอีกตอนก่อนจะย้ายไปห้องจบนะคะ เคยมีโปรเจกต์ของออกัสต่อ แต่ก็พับไป ไว้มีไฟเขียนเมื่อไรจะไปต่อที่ห้องนู้นละกันนะคะ เก็บไว้ห้องจบจะได้ไม่หายถ้าไม่อัปเดทนาน
แปะบวกไว้ก่อน ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
วันใหม่

++++++++++
บวกเรียบร้อยค่ะ 