2.
กลิ่นหอมๆของน้ำซุปกระดูกหมูลอยมาแตะจมูกแต่เช้าตรู่ รู้สึกคิดถูกที่จัดการตัวเองเพียงแค่ล้างหน้าแปรงฟันเท่านั้นแล้วออกมา คิดว่าถ้าอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วกลิ่นกับข้าวต้องเหม็นติดตัวไปทั้งวันแน่ๆ
“วันนี้มีโจ๊กหมูนะครับ” คนที่กำลังง่วนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ครัวหันมายิ้มให้
“อือ” พยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปรินน้ำกิน
“ราวิโอลี่เมื่อวานคงจะย่อยยากไปนิดนึง เช้านี้พี่เลยอยากให้เราทานอะไรอ่อนๆจะได้ย่อยง่ายๆ เพราะเมื่อคืนเพิ่งทานของหนักไปนี่เนาะ” ใช่! หนักมากเลยล่ะ...
‘แฮ่กๆ..’ เสียงหอบน้อยๆ บ่งบอกได้ถึงความเหน็ดเหนื่อย ก็หัวใจเต้นแรงซะขนาดนั้นจะไม่ให้เหนื่อยได้ยังไง แล้วไหนจะจูบอีก โกยอากาศเข้าปอดแทบจะไม่ทัน
‘คนสวยของพี่...อ่าา...’ มือเรียวปัดปอยผมที่ปรกหน้าออกให้อย่างอ่อนโยน แววตามองมาราวกับทะนุถนอม ทำให้อดไม่ได้ที่จะร้องขอออกไป
‘เร็ว...อื้อ...เร็วหน่อย...’
‘เรียกชื่อพี่ก่อนสิครับ...เอาแบบหวานๆ’ รอยยิ้มนี้อีกแล้ว...
‘หึ!’ ในเมื่อไม่ทำตามที่ขอก่อนก็อย่าหวังว่าจะเรียก ‘เฮือก!’
“...ทำหน้าน่ารักอีกแล้ว...” บอกให้เร็วๆ ไม่ใช่แรงๆ กระแทกมาได้!
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ? หน้าแดงๆ” คนตัวสูงกว่าโบกมือไปมาตรงหน้า ทำให้สติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว
“เปล่า” ส่ายหน้าปฏิเสธและมองชามโจ๊กหมูที่มันเอามาวางไว้ให้ตรงหน้าสลับกับมองมันไปด้วย ดูท่าว่าจะยังไม่เสร็จดีเท่าไหร่ เพราะมันหันไปซอยต้นหอมพร้อมกับผักชีแล้วหยิบมาโรยให้ หน้าตาอาหารดูน่ากินขึ้นกว่าเดิมอีกเยอะเลย เพราะสีเขียวๆของผักมันตัดกันได้ดีกับสีของโจ๊กที่ขาวๆเนียนๆ
“พี่ชอบให้เราใส่เสื้อของพี่แบบนี้จังเลยครับ” มันมองมาพร้อมกับยิ้ม เป็นแบบนี้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงมองตัวเองตาม ก็แค่เชิ้ตธรรมดาหรือเปล่า?
“ก็มันอยู่ใกล้มือ หยิบง่าย”
“เซ็กซี่ครับ” มันโน้มมาหอมแก้ม ..ก็เขินนิดหน่อยเลยใช้ช้อนคนโจ๊กแก้เก้อ
“ไม่มีขิงเหรอ?”
“อ้อ ขิงนั่นเอง” มันพูดขึ้นเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ “ก็ว่าอยู่ว่าพี่ลืมอะไร”
ว่าจบมันก็หันกลับไปเปิดตู้เย็น แล้วหยิบขิงในนั้นออกมาล้างก่อนจะปอกแล้วเอามาซอยตรงหน้าผม มองดูทุกการกระทำของมันยิ่งทำให้อะไรๆในหัวชัดเจนขึ้น...
มือที่ใหญ่กว่าของผมแต่ทว่าเรียวสวยกำลังหยิบอาวุธลับของตัวเองออกมาจากกางเกงใน ก่อนจะขยับชักข้อมือเพื่อกระตุ้นอารมณ์และปลุกปั่นให้เจ้านั่นตื่นตัวต่อหน้าผม สายตาที่มองมาฉ่ำเยิ้มคล้ายกับว่าความรู้สึกที่มีอยู่มันกำลังก่อตัวและจะประทุในอีกไม่นานนี้... “หน้าแดงอีกแล้วนะครับ คิดอะไรอยู่เหรอ?” มันถามพร้อมกับวางขิงซอยลงในชาม
“เปล่า..” ส่ายหน้าอีกครั้งแต่ความรู้สึกบางอย่างยังคงชัดเจน....‘ไม่ชอบผู้ชายทำอาหารเป็น!’
ความจริงแล้วผมไม่ได้จะเหยียดหรืออะไรหรอกนะ แต่แค่คิดว่า...แบบความคิดเห็นส่วนตัวอ่ะนะ ผมคิดว่าการทำกับข้าวมันน่าจะเป็นหน้าที่ของผู้หญิงมากกว่า หมายถึงผู้หญิงเขาเหมาะจะทำอะไรแบบนี้มากกว่าผู้ชายน่ะ เวลาเห็นผู้ชายทำกับข้าวแล้วมันก็อดที่จะมีความคิดแปลกๆแบบเมื่อกี้ไม่ได้อ่ะ มือนั้นมันเคยจับไอ้นั่นมาก่อน..แล้วก็มาจับไอ้นี่...
นี่ผมโรคจิตหรือเปล่านะ? ไม่รู้อ่ะ...รู้แค่ว่าไม่ชอบ!
วันนี้ตื่นเช้ากว่าเมื่อวาน เพราะว่ามีวิชาเรียนในช่วงเช้าหนึ่งตัวและตอนบ่ายนั้นว่าง แต่ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะมีกิจกรรมหรืองานอะไรที่ต้องทำไหม เดี๋ยวถึงเวลานั้นค่อยไปถามเพื่อนเอา...ส่วนใครอีกคนก็มีเรียนเช้าเหมือนกัน แต่ถึงไม่มีเรียนเช้ามันก็ตื่นก่อนผมอยู่แล้วทุกวันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ว่าตอนนี้กำลังจะสายแล้ว และจะสายมากไปกว่านี้อีกแน่ๆถ้ายังมัวแต่ยืนจูบกันอยู่อย่างนี้!
“แล้วเจอกันนะครับ” มันยิ้มให้หลังจากถอนจูบออก
“อือ” ตอบรับพร้อมกับยกมือโบกลาเบาๆก่อนจะเดินแยกไปที่รถใครรถมัน คันสีดำนั่นของมัน ส่วนของผมน่ะสีขาว ที่เลือกรุ่นนี้เพราะมันเป็นลิมิเตตเลยชอบเป็นพิเศษ BMW 320d M Performance ตอนไปเลือกซื้อกันกับเพื่อนตอนนั้นจำได้ว่าเกือบตีกันตายเพราะจะแย่งกันเอาสีขาว แต่โชคดีที่ทางศูนย์มีพอดี ถ้าไม่อย่างนั้นนะไม่ผมก็มันนั่นแหละต้องตายกันไปข้างนึง...แต่จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้เจอมันนานแล้วเหมือนกัน เพราะมหาลัยมันอยู่ฝั่งสยามโน่น ส่วนผมนี่ก็ระเห็จมาอยู่เกือบๆจะนอกเมืองอยู่แล้ว..
ไอ้คันข้างๆมันสตาร์ทรถแล้วแต่ยังไม่ยอมออกไปสักที สงสัยจะรอให้ผมออกไปก่อนแล้วมันคงจะขับตามไป ได้ครับ ไม่มีปัญหาครับ เดี๋ยวผิงจัดให้ครับ แต่พอขับออกจากคอนโดมาพักหนึ่งแล้วอยู่ๆไอ้คันที่ขับตามมามันก็ดันแซงซะอย่างนั้น แบบนี้นี่เรียกว่ากวนตีนได้หรือเปล่านะ? ผมไม่ค่อยรู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับไอ้คันดำข้างหน้านี่มากนักครับ รู้ก็แค่ยี่ห้อว่าเป็นเบนซ์ ส่วนรุ่นอะไรนั้นไม่ได้สนใจเพราะว่าไม่ชอบ แต่ที่หลังรถมันมีเลขอยู่นะ น่าจะเป็นรุ่นนั่นแหละ...CLS 300d
ทันทีที่ขับเลี้ยวเข้ามาในมหาลัยแล้วก็ตามๆกันไปครับเพราะคณะมันใกล้กัน แต่พอต่างคนต่างใกล้ถึงคณะของตัวเองก็เลี้ยวแยกกันเลยครับ ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาตลอดๆนั่นแหละ
“ครับ” กดรับสายเมื่อเห็นว่าลูกไม้โทรมา
[ผิงอยู่ไหนแล้วอ่ะ]
“กำลังหาที่จอดรถอยู่ มีอะไรรึเปล่า?”
[พอดีเราอยู่โรงอาหารคณะวิศวะกับไอ้กอล์ฟอ่ะ ผิงจะมาหารึเปล่า เราจะได้รอ เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมงแน่ะ] นี่ก็ขยันไปกันจังเลยคณะอื่นเนี่ย..
“ฉัตรล่ะ?”
[ไอ้ฉัตรเหรอ? ไม่รู้อ่ะ ยังไม่ได้โทรไปถามมันเลย แต่สงสัยคงมาแล้วมั้ง]
“งั้นเดี๋ยวดูฉัตรก่อน ถ้ามาแล้วจะได้ไม่ไป” บอกเพื่อนแล้วเตรียมหยิบของหลังจากที่จอดรถเสร็จพอดี
[แล้วจะเอาอะไรด้วยมั้ย เดี๋ยวเราซื้อเข้าไปให้ เอ่อผิง แป๊บนะ...ไอ้กอล์ฟเมื่อกี้มึงเห็นไหม พี่ไกด์เพิ่งเดินผ่านกูไป กูจะตายแล้วจ้า ฮืออออ] ...เอ่อ เพื่อนผมอาการหนักใช้ได้แหะ
“ไม่เห็นฉัตรเลย นี่อยู่หน้าคณะแล้วเนี่ย” บอกกับปลายสายพร้อมมองหาเพื่อนอีกคนไปรอบๆด้วย
[งั้นผิงมาหาพวกเรามั้ย...อะไรของมึงอีกไอ้กอล์ฟ กูคุยกับผิงอยู่] ยังไม่ทันได้ข้อสรุปก็ได้ยินมันสองคนเถียงอะไรกันก็ไม่รู้ เห้ออออ..
[เออว่ะ..แล้วพี่เพชรไปไหนวะ ปกติมีพี่ไกด์ที่ไหนต้องมีพี่เพชรที่นั่นไม่ใช่เหรอ?] ระหว่างที่รอให้มันคุยกันเสร็จก็มองหาไอ้ฉัตรไปด้วย แต่คนที่มองเห็นและเผลอไปสบสายตากลับไม่ใช่เพื่อนแต่กลายเป็นคนที่ลูกไม้มันถามถึง...พี่เพชร เจ้าของชื่อก็มองมาทางผมเช่นเดียวกัน แต่แค่ครู่เดียวเท่านั้นร่างสูงก็เดินผ่านไป
“เห้ย! วันนี้มึงมาเช้ากว่ากู” ไอ้ฉัตรเดินเข้ามาทักพอดี ผมจึงบอกกับลูกไม้ไปว่าฉัตรมาแล้วและจะรออยู่ที่นี่ คุยกันอีกนิดก็วางสายไป
“อือ” พนักหน้าให้เพื่อนก่อนจะนั่งลงตรงข้ามแล้วกดมือถือเล่นรอเพื่อนอีกสองคน
“นี่รู้หลานรหัสยัง? ของกูได้ผู้ชายว่ะโคตรเซ็ง”
“ยังอ่ะ ไม่เห็นบุ๋มบิ๋มบอกอะไรเลย” บุ๋มบิ๋มคือน้องรหัสของผมเองครับ เป็นเด็กอารมณ์ดีเหมือนๆกับลูกไม้นั่นแหละ ตัวใหญ่พอๆกับลูกไม้เลยแต่ขาวกว่า และผมก็คิดว่าน้องน่าจะเรียนเก่งกว่าเพื่อนผมเยอะเลยล่ะ
“เออพูดถึงไอ้บิ๋มแล้วไม่ได้เจอมันนานแล้วนี่หว่า ไม่เห็นโผล่หัวมากันเลยทั้งน้องมึงน้องกู” ไอ้ฉัตรออกความคิดเห็น น้องผมนิสัยน่ารักครับเลยเข้ากับเพื่อนผมได้ง่ายไปด้วย
“งานยุ่งมั้ง ปีนี้เจออาจารย์พรสวรรค์ด้วยนี่”
“เออว่ะ กูลืมไปได้ยังไงวะ จำได้ว่ากูแทบจะต้มหนังสือเรื่องนั้นกินแทนข้าว” ผมไม่ได้พูดอะไรต่อได้แต่ส่ายหัวให้กับท่าทางโอเวอร์แอคติ้งของมัน
“นัดน้องกินข้าวดีไหมเที่ยงนี้?”
“ก็ได้” พยักหน้าให้เพื่อนก่อนจะส่งไลน์ไปบอกน้อง ไม่นานก็ตอบกลับมา “น้องบอกโอเค แต่กินได้แค่ที่โรงอาหาร เพราะบ่ายมีเรียนต่อ”
“งั้นดีเลย เดี๋ยวกูบอกน้องกูบ้าง” ไอ้ฉัตรมันว่าพร้อมกับหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมากดบ้าง ซึ่งไอ้กอล์ฟกับลูกไม้ก็เดินมาพอดี
“ให้ทายว่าเมื่อกี้เราเจอใคร?” เพื่อตัวกลมนั่งลงพร้อมกับวางถุงซาลาเปาลงตรงหน้า ไอ้ฉัตรที่เห็นอย่างนั้นก็รีบดึงไปแกะ
“ใคร?” ผมเงยหน้าจากหน้าจอขึ้นมามอง
“พี่เพชรไงผิงงงง วันนี้ใส่เสื้อช็อปด้วยเท่สุดๆไปเลย ใช่มั้ยไอ้กอล์ฟ?”
“อะไร ไม่รู้โว้ย กูไม่สนใจตัวผู้”
“อ่อ..” ผมพยักหน้า
“ไม่ตื่นเต้นเหรอ? พี่เพชรเลยนะ”
“รู้แล้ว” ก็เห็นแล้วนี่นา จะให้ตื่นเต้นอะไรอีก
“ผิงไม่ตื่นเต้นแต่เราตื่นเต้น วันนี้พี่ไกด์เดินผ่านกูต้องอารมณ์ดีทั้งวันแน่ๆเลย นี่ถ้า...อื้อ!” เสียงของลูกไม้หายไปทันทีที่ไอ้ฉัตรเอาซาลาเปายัดปาก ก่อนที่ตัวมันจะรีบเดินหนีไปเข้าเรียน
“ไอ้เหี้ยฉัตร!!!!” วิ่งตามไปแล้วล่ะครับ ส่วนไอ้กอล์ฟก็หัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เห้ออออ..” ถอนหายใจให้พวกมันก่อนจะเดินตามไปติดๆ ไอ้พวกนี้นี่พูดไม่เคยจำว่าลูกไม้มันเป็นผู้หญิง!
เรียนเสร็จก็แทบจะสลบเหมือด บทกวีบ้าบออะไรก็ไม่รู้โคตรจะสูบพลังมากๆ นี่ดีนะที่วันนี้มีเรียนตัวเดียว ถ้าควบเช้าบ่ายล่ะก็ได้คลานกลับแน่ๆ มันเพลียชนิดที่ว่าแทบจะไม่มีแรงเดินไปไหนแล้วอ่ะ และก็ไม่รู้ว่าตัวเองแสดงอาการออกมากไปหรือเปล่า น้องและเพื่อนๆถึงได้ลงความเห็นกันว่าให้ผมนั่งเฝ้าของอยู่ที่โต๊ะ ส่วนพวกมันจะไปซื้อข้าวมาให้เอง ก็ดีครับ สบายดีออก ไม่ต้องเดิน.. แต่การนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะกลางโรงอาหารและท่ามกลางผู้คนแบบนี้มันไม่ดีเอาเสียเลยครับ มีแต่คนมอง นี่ขนาดโรงอาหารคณะตัวเองนะเนี่ย...
“พี่ผิงทานน้ำอะไรดีคะ?” บุ๋มบิ๋มวางจานข้าวของตัวเองและชามสุกี้ของผมลงก่อนจะเอ่ยถาม
“เดี๋ยวพี่ไปเองดีกว่า น้องอยากทานน้ำอะไรครับ?” ผมเป็นผู้ชายแถมเป็นพี่อีกต่างหาก ควรที่จะทำให้น้องมากกว่านะ
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูชอบเดิน จะได้ผอมๆไง” น้องยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
“จะดีเหรอ? น้องไปซื้อข้าวให้พี่แล้วนะ” ผมถามอย่างเกรงใจ
“ค่ะ หนูชอบเดิน”
“งั้นน้ำเปล่าก็ได้ ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้น้องก่อนจะก้มหน้าเล่นมือถืออีกครั้งเมื่อน้องมันเดินไปแล้ว ไม่ค่อยชินเลยที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนเยอะๆแบบนี้ มันเหมือนกับว่าทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเอาสายตาไปมองอะไรหรือวางไว้ไหน
“น้องมึงล่ะ?” ไอ้ฉัตรวางข้าวขาหมูของมันลงแล้วถามหาบุ๋มบิ๋ม ตอนนี้มันหงุดหงิดครับที่น้องตาต้าน้องรหัสของมันเบี้ยว เห็นว่าน้องมีนัดอยู่ก่อนแล้วเลยมาไม่ได้
“ไปซื้อน้ำ” พอเพื่อนมาแล้วค่อยยังชั่วขึ้นหน่อย
“มึงคะ ให้ทายยยย ว่าเมื่อกี้กูเจอใคร?” ลูกไม้กลับมาพร้อมกับท่าทางดีใจประหนึ่งถูกหวย
“วิลเลียม เช็คสเปียร์” ไอ้ฉัตรว่าพร้อมตักข้าวเข้าปาก นี่กะจะไม่รอน้องเลยหรือไง
“พ่อมึงสิ มึงอย่าเพิ่งเอ่ยถึงบุคคลที่จะทำให้กูมีแววได้เลี้ยงหมาในเทอมนี้ได้มั้ย แม่ง พูดแล้วเซ็งเลย!”
“แล้วมึงไปเจอใครมาล่ะครับ คราวนี้ผัวคนที่เท่าไหร่ของมึงอีกล่ะ?” ไอ้กอล์ฟครับ ถึงจะทำเป็นถามแบบนั้นแต่สายตามันนั้นไม่ได้ละออกจากชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“คนนี้สามีนัมเบอร์วันเลยค่ะ!” ลูกไม้ยิ้มแก้มแทบแตก
“ใครเหรอคะ?” บุ๋มบิ๋มกลับมาพร้อมกับน้ำเปล่าในมือ
“พี่โปรดไงคะน้องบิ๋ม รู้จักไหม คณะนิติอ่ะค่ะ คนอะไรก็ไม่รู้พ่อของลูกพี่มากกกกกกกก”
“จะใช่เพื่อนของพี่อ้นหรือเปล่าคะ? พี่อ้นเป็นลุงรหัสของน้องสาวหนู...นั่นไงคะ มากันแล้ว” บุ๋มบิ๋มบอกอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหันไปมองบุคคลที่พูดถึง น้องสาวฝาแฝดของตนเองซึ่งผมเคยเจออยู่หลายครั้งเหมือนกัน น้องชื่อนุ่มนิ่ม สองคนนี้หน้าคล้ายกันแต่ไม่ถึงกับเหมือนเลยเพราะเป็นแฝดที่เกิดจากไข่คนละใบ น้องมาพร้อมกับใครอีกคน
“สวัสดีค่ะพี่ๆ” น้องยกมือไหว้ผมและเพื่อนๆทีละคนอย่างเรียบร้อย “ขอนั่งด้วยอีกสักสามคนนะคะพอดีโต๊ะอื่นเต็มหมดแล้ว”
“นั่งเลยๆ” ไอ้ฉัตรว่าพร้อมกับขยับที่ทางให้ได้นั่งกันสบาย กลายเป็นว่าตอนนี้โต๊ะของเรามีสมาชิกมาเพิ่มอีก
“ไหนว่าขอนั่งด้วยอีกสักสามคน ทำไมมีมาแค่สองล่ะน้อง?” ไอ้กอล์ฟเป็นคนเอ่ยถาม
“อ้าว..” นุ่มนิ่มเหมือนมองหาอะไรสักอย่าง ก่อนจะหันมาแนะนำคนที่พามาด้วยให้พวกผมรู้จัก “คนนี้ชื่อพี่อ้นนะคะพี่ๆ ส่วนนี่พี่ลูกไม้ พี่ฉัตร พี่กอล์ฟแล้วก็พี่ผิง”
“น้องผิงคนดัง” คนชื่ออ้นอะไรนี่หันมายิ้มให้ผม ซึ่งผมก็มองตอบกลับไปแต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วทีนี้ทั้งโต๊ะเลยเงียบกันหมด
“เอ้อ! แล้วอีกคนนึงล่ะ?” ไอ้ฉัตรรีบถามเพื่อทำลายบรรยากาศแปลกๆนี่
“อ๋อ ไอ้ชายมันไปซื้อข้าวอยู่ เดี๋ยวก็คงมา รายนี้แม่งเลือกกินโคตร” คนชื่ออ้นเป็นคนตอบ
“เหมือนไอ้นี่เลยยยยยย” ไอ้กอล์ฟไม่ว่าเปล่ามีการชี้โบ๊ชี้เบ๊มาทางผมด้วย ไอ้นี่!
“เออว่าแต่ทำไมเป็นลุงรหัสล่ะ? แบบนี้ก็เป็นพี่พวกเราอ่ะดิ” ลูกไม้ถามคนชื่ออ้น รีบชวนคุยเชียวนะ
“ใช่แล้ว พอดีพี่รหัสของนิ่มเพิ่งซิ่วไปเมื่อเทอมที่แล้วน่ะ พี่ที่เป็นลุงอยู่เลยต้องกลายมาเป็นทั้งพี่และลุงในเวลาเดียวกัน” คนชื่ออ้นอะไรนี่บอกพร้อมกับยิ้มกว้าง เขาไม่ใช่คนหล่อแต่ก็ไม่ใช่คนขี้เหร่ นับว่าเป็นคนที่มีเสน่ห์ในตัวเองพอสมควร แต่ไม่ใช่ไทป์ผมครับ
“นี่มึงอิ่มแล้วเหรอผิง?” ไอ้กอล์ฟเอ่ยถามทันทีที่ผมรวบช้อนส้อมไว้ข้างๆชาม แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบมัน ก็มีคนมายืนค้ำหัวอยู่ข้างๆ
“เอ้าไอ้ชาย มาแล้วเหรอ นึกว่าไปเหมามาทั้งร้านเสียอีก”
“พะ...พี่ๆๆๆๆ พี่..” ลูกไม้ที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับผมหันไปกระซิบกระซาบอะไรไม่รู้กับบุ๋มบิ๋มที่นั่งอยู่ข้างๆกัน แต่ท่าทางนี่ช็อคไปแล้ว ผมเลยหันไปมองตาม ปรากฏว่าที่มายืนค้ำหัวอยู่ข้างๆนี่ก็เพราะว่าเก้าอี้ทุกตัวถูกนั่งเต็มไปหมดแล้ว และไอ้ตัวที่เหลืออยู่ก็คือตัวที่ผมใช้วางกระเป๋าหนังอิตาลีแท้นั่นเองครับ
“มึงหยิบของออกให้พี่เขานั่งดิ” ไอ้ฉัตรที่นั่งข้างๆผมสะกิดใหญ่เลย ผมหันไปมองผู้มาใหม่ก่อนจะหยิบคลัทช์ที่วางไว้อยู่ก่อนแล้วมาถือเอาไว้เอง และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองแสดงสีหน้ายังไงออกไปอีก บรรยากาศมันถึงได้กลับมาแปลกๆอีกครั้ง
“มึงกินอย่างกะแมวดม” ไอ้ฉัตรรีบทำลายบรรยากาศทันทีเลยครับ คงจะเกรงใจคนอื่นๆที่ไม่ได้สนิทและไม่รู้นิสัยของผม
“ไม่อร่อย..” ผมตอบพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมากดระหว่างรอพวกมันกิน
“อย่างพี่ผิงนี่ต้องทานเฉพาะของคนที่บ้านใช่มั้ยคะ?” บุ๋มบิ๋มหมายความว่ายังไงเนี่ย!
“อะไรกันเนี่ยผิงมีของดีแล้วแอบซ่อนเอาไว้ที่บ้านเหรอ?” ลูกไม้เอาอะไรมาพูด?
“ทำไม ต้องให้เชฟส่วนตัวมึงทำให้เท่านั้นเหรอ ถึงจะอร่อยถูกปากอ่ะ?” ผมตาโตทันทีที่ได้ยินคำถามเพื่อน
“นี่เรื่องจริงเหรอเนี่ย? มึงมีเชฟส่วนตัวด้วยเหรอ?” ไอ้ฉัตรได้ทีก็เสริมใหญ่ “กูนึกว่ามีแต่ในละครซะอีก นี่มึงมีจริงๆเหรอผิง?”
“อะ...เออ” ตอบส่งๆก่อนจะหยิบขวดน้ำข้างๆมาเปิดกิน แต่ในระหว่างนั้นมือมันดันไปโดนคนข้างๆที่ก็กำลังหยิบน้ำของตนเองเหมือนกันพอดี
“ขอโทษครับ” มันรีบขอโทษขอโพย
“เออ เปิดปากได้สักทีนะไอ้ชาย นึกว่ามีปากไว้กินข้าวอย่างเดียวเสียอีก” คนชื่ออ้นที่นั่งอยู่ตรงข้ามพูดกับเพื่อนของตนเอง
“ทำไมเรียกว่าชายล่ะคะ พี่คนนี้ไม่ใช่พี่โปรดหรอกเหรอ?” ลูกไม้เอ่ยถามคนชื่ออ้นพร้อมกับมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆผมไปด้วย ตอนนี้หน้ามึงโคตรแดงเลยเพื่อน
“ครับ ไอ้นี่มันคือไอ้โปรดคนดังของประชาชนนี่แหละ แต่ที่เรียกมันว่าชายก็เพราะว่ามันคุณชายมาก เพอร์เฟ็คไปเสียหมด ทั้งรูปร่าง หน้าตา หุ่นดี เรียนเก่ง กีฬาเลิศ ชาติตระกูลรวยยังไงล่ะ” อ้นอธิบาย
“ไม่หรอกครับ ผมก็คนธรรมดานี่แหละ”
“...” ตายไปแล้วจ้าหนึ่งศพ! ลูกไม้พูดไม่ออกไปแล้วหลังจากเจอรอยยิ้มพิฆาตนั่นเข้าไป เหอๆ แบบนี้เนี่ยเหรอที่เรียกว่าเพอร์เฟ็ค?
‘พี่โปรด...คนดังของประชาชน?’ หลังจากแยกย้ายกันกับแก๊งของนุ่มนิ่มแล้ว พวกผมก็พากันเดินมาส่งบุ๋มบิ๋มที่ตึกเรียนครับ เห็นว่าแก๊งนั้นเขามีเรียนอีกทีตอนบ่ายโมงครึ่งเลยกะจะนั่งกินน้ำแข็งไสกันต่อ ผมส่งขนมสองถุงใหญ่ให้น้องพร้อมกับผลไม้อีกสองอย่าง
“เยอะไปแล้วค่ะพี่ผิง” น้องยกมือไหว้ขอบคุณ
“ไม่เป็นไร คราวหน้าอยากทานอะไรบอกนะ” ผมยิ้มให้น้องอีกครั้ง น้องมันก็ไหว้แล้วไหว้อีกอย่างเกรงใจก่อนจะลาไปเข้าเรียนต่อ
“กูอยากเป็นน้องรหัสมึงเลยว่ะผิง” ไอ้กอล์ฟว่า
“ตะกละละมึงอ่ะ”
“หรือมึงไม่อยากฮะฉัตร?”
“เออกูอยาก ฮ่าๆๆๆๆ” แล้วมันสองคนก็ระเบิดหัวเรากัน ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าเหนื่อยใจให้กับพวกมัน
“ไม้ สติมึงยังดีอยู่ไหมเนี่ย?” ไอ้กอล์ฟผลักหัวลูกไม้อีกละ
“ไอ้กอล์ฟ กูบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม้เป็นผู้หญิง”
“ก็มึงดูเพื่อนมึงดิ ทำตัวเป็นกุลสตรีตายล่ะ สติสตังหายไปหมดแล้วเนี่ย กับอีแค่ผู้ชายหล่อๆมานั่งกินข้าวด้วยแค่นี้เอง”
“ทำไมเหมือนมึงอิจฉาเลยวะกอล์ฟ”
“อิจฉาบ้านมึงดิ ไอ้พี่โปรดไรนั่นมีอะไรให้น่าอิจฉาวะ ก็แค่หล่อ รวย เรียนเก่ง ตระกูลผู้ดีแค่นี้เอง”
“ที่มึงพูดมานี่ตรงข้ามกันกับมึงหมดเลยนะ”
“ไอ้เหี้ยฉัตรแม่ง!” แล้วมันสองคนก็วิ่งไล่เตะกันไปครับ นี่โตกันหรือยัง?
“เราว่านะ พี่โปรดคือที่สุดของที่สุดจริงๆ คนอะไรไม่มีที่ติเลย...หน้าโคตรใสอ่ะ สิวสักเม็ดนึงยังไม่มีเลย รูขุมขนนี่มีหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“แล้วคนบ้าอะไรจะไม่มีรูขุมขนล่ะ?” เออ ไอ้นี่!
“นี่ขนาดเรานั่งอีกฝั่งนึงยังโดนออร่าพี่แกกระแทกเข้าหน้าไปเต็มๆอ่ะ ผิงที่นั่งข้างๆแถมติดกันขนาดนั้นไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ?”
“ไม่นี่” ผมส่ายหน้า
“จริงเหรอ? ถ้าเป็นเรานะเราต้องตายตรงนั้นแน่ๆ ต่อให้พี่เขาไม่ใช่สเป็คยังไงแต่หล่อขนาดนั้นก็ต้องมีละลายกันบ้างแหละ อีกอย่างนะ ถึงพี่แกจะดังแต่ก็ไม่เคยมีข่าวลือเรื่องผู้หญิงเหมือนอย่างพี่ไผ่ หรือพี่ไกด์เลย ดี..ดีไปหมด! ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้มานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้ ปกติเคยแต่แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย...” ทำไมมันดูเพ้อๆล่ะเนี่ย
“ถ้าเปลี่ยนจากไอ้พี่โปรดนี่มาเป็นพี่ไผ่หรือพี่ไกด์ มึงก็คงจะพูดแบบนี้เหมือนกันสินะ” ผมส่ายหน้าเหนื่อยใจอีกครั้ง ส่วนไอ้สองคนนั่นหลังจากไล่เตะกันจนเหนื่อยแล้วก็เดินกลับมาถาม
“พวกมึงไปไหนต่อหรือเปล่าวะ?” ไอ้ฉัตรถาม “นี่กูกับไอ้กอล์ฟจะไปสยามว่ะ ว่าจะไปร้านหนังสือเสียหน่อย”
“กูคงกลับเลย แล้วมึงล่ะไม้?” ผมหันไปถามลูกไม้ที่ไม่มีสติอยู่ข้างๆ
“กลับๆ”
“เออมึงไปส่งมันหน่อยก็ดีนะผิง กูกลัวแม่งไปเพ้อบนรถเมล์แล้วนั่งเลยป้ายวุ่นวายโทรมาถามกูอีก” ไอ้กอล์ฟว่าพร้อมกับมองมายังลูกไม้อย่างปลงไม่ตก
“ได้” ผมรับคำ เพราะหอพักของลูกไม้อยู่ในละแวกนี้พอดี แม้จะเป็นคนละทางกับทางกลับแต่ก็ไปส่งเพื่อนได้ไม่มีปัญหา พอมันสองคนแยกไปแล้วเลยหันมาชวนให้ลูกไม้ไปเอารถเป็นเพื่อน ช่วงคาบเกี่ยวระหว่างเวลาพักและเข้าเรียนแบบนี้ จะมีนักศึกษามากเป็นพิเศษ ผมเลยไม่ค่อยชอบเดินไปไหนมาไหนคนเดียวเท่าไหร่
“ผิงๆ” ลูกไม้สะกิด ทำให้ผมที่กำลังจะพิมพ์ไลน์อยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
“อะไร?”
“พี่เพชรๆ เห็นปะ เพิ่งเดินเข้าตึกไปเมื่อกี้”
“เหรอ? ไม่เห็นอ่ะ” ตอบแค่นั้นก็ก้มลงไปพิมพ์ไลน์ต่อ ส่วนไอ้คนที่มาด้วยก็เอาแต่กรี๊ดกร๊าดพี่ไกด์อะไรก็ไม่รู้ แล้วไหนบอกคนที่เป็นที่สุดของที่สุดคือพี่โปรดไงล่ะ?
P : กลับรึยังครับ?
PP_SRWPS : กำลังจะกลับ แต่เดี๋ยวแวะไปส่งเพื่อนก่อน
P : โอเคครับ พี่กำลังจะเข้าเรียนแล้วล่ะ
P : ขับรถดีๆนะครับ
PP_SRWPS : เค
To be continued.............
Talk :
ฝากติดตามด้วยนะครับ
ขอกำลังเป็นคอมเมนต์ให้พัซเซิลอ่านหน่อยครับ ขอบคุณครับ
ป.ล. เจอกันวันเสาร์ครับ