Hymn for the Weekend
— กันต์
“อะไร” ภัทรถามในตอนที่ผมเอื้อมมือเข้าไปกอดไว้ เขากำลังนอนอ่านหนังสืออยู่หันมามองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
“กอดแค่นี้หน้าแดงเลยตี๋” ผมแซวพร้อมกับยิ้มล้อๆ ภัทรทำหน้าสงสัยก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงด้วยท่าทางจริงจังก่อนจะเอามือมาจับที่แขนผม
“ไม่สบายหรือเปล่า”
“เปล่า” ผมตอบพร้อมกับยิ้ม ภัทรชอบให้ผมอ้อนบ้าง ไม่ก็ทำตัวน่ารักๆกับเขาบ้าง แต่ผมก็ไม่เคยทำ ไอ้ตี๋จับไหล่ผมก่อนจะเขย่า ดูก็รู้ว่าอยากแกล้ง
“ใครแดกมึงเข้าไป คายแฟนกูออกมา”
“เดี๋ยวกูเตะคว่ำ” พอผมทำหน้ายุ่งแล้วว่าแบบนั้น ภัทรก็หัวเราะเสียงดัง
ยายเสียไปนานแล้วแต่ผมยังคิดถึงทุกอย่างที่พูดกับยายไว้อยู่เลย เพียงแต่มันไม่เหลือโอกาสให้ผมแก้ตัวแล้ว แต่กับภัทรผมจะทำทุกอย่างที่อยากทำ เมื่อไหร่ที่เขาต้องไป ผมจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดอยู่แบบนี้
“ภัทร”
“ครับ”
“มีอะไรบอกกูได้นะ กูอาจจะช่วยอะไรมึงไม่ได้ แต่ว่า..” ผมหลบตาคนที่มองตรงมา
“ไหนมึงบอกมาก่อน ว่ามีอะไรบ้างตอนนี้” ภัทรวางหนังสือไว้ที่หัวเตียงก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด ผมแนบแก้มตัวเองชิดกับแก้มเขา ผมไม่เคยสังเกตเลยว่ากอดของเขาอุ่นมากขนาดนี้
“ทุกอย่างปกติ ตอนนี้ห่วงอย่างเดียว”
“ห่วงอะไร” ภัทรถาม เสียงเขาดังทุ้มอยู่ข้างหูผม
“ห่วงมึง”
“ไหนบอกรักสิ กันต์รักภัทรนะ แบบนี้” เขาว่าพลางขำ
“มึงนี่ได้คืบแล้วจะเอาศอก”
“ศอกนี่สำนวนเหรอ” เขาถามพร้อมกับผละตัวออก
“ศอกกูนี่แหละ”
ภัทรหัวเราะพร้อมกับจับหัวผมโคลงไปมาก่อนจะบอก
“ฟังนะ”
“ฟังอยู่”
เขายิ้มให้ผม
“ถ้าต่อไปนี้เกิดอะไรขึ้น กูขอแค่อย่างเดียวกันต์” ภัทรจ้องผมนิ่ง
“ถ้ามึงยังจับมือกูไว้ กูสัญญาว่าจะไม่ปล่อยไปไหน” มือใหญ่เอื้อมมาสอดไว้กับมือผม เขาบีบมันแน่น
“แต่ถ้ามึงอยากไปเมื่อไหร่ก็ขอแค่บอก”
“ภัทร” ผมเรียกชื่อเขา ผมอยากจะถามถึงเรื่องที่บ้านเขาบ้าง ไหนจะเรื่องแม่ของเขา แต่ผมกลับกลืนทุกคำพูดลงคอไป
“กูรักมึงนะ” ผมเลือกจะบอกในสิ่งที่ควรจะบอกแทน ถ้าเขาจะไป เขาจะได้รู้ว่าผมรักเขาเหมือนกัน ภัทรยิ้มกว้างจนตาเรียวนั้นแทบจะปิด
“กูรู้นะว่ามึงเห็นข้อความพวกนั้นแล้ว”
ผมพยักหน้า แปลกใจเหมือนกันที่ภัทรเลือกที่จะพูด
“ตั้งแต่เด็กจนโตที่บ้านกูไม่เคยสนใจอะไรกูด้วยซ้ำ ทีเรื่องแบบนี้ดันมาวุ่นวาย” ภัทรบอกพร้อมกับแค่นยิ้ม
“ภัทร ยังไงแม่ก็รักมึง” ผมบอกแล้วลูบแก้มเขาเบาๆ ภัทรดึงมือผมเข้าไปจูบ
“ไม่ใช่แม่ทุกคนหรอกนะกันต์ ที่จะรักลูก”
“ภัทร”
“ถึงเขารัก ก็คงรักไม่เท่าที่เขารักพี่ชายกับน้องสาวกู”
ผมเป็นลูกคนเดียว ผมไม่เคยแชร์ความรักของพ่อแม่กับใคร ผมถึงไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ภัทรเป็น แต่ผมมั่นใจนะว่าไม่มีครอบครัวที่ไหนไม่หวังดีกับลูก
“ไม่ต้องคิดมาก แค่มึงรักกูก็พอแล้ว มึงคนเดียวก็พอ” ริมฝีปากบางบอกก่อนจะยิ้มหวาน
“กูไม่อยากทำให้มึงมีปัญหากับที่บ้าน”
“มึงทำอะไรที่ไหน มีแต่กูนี่ที่ทำ” เขายิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย สายตาวาววับ เขาแกล้งผมอีกแล้ว
“มึงแม่งลากลงต่ำตลอด”
ภัทรหัวเราะก่อนจะเริ่มหัวข้อใหม่
“มันบอกกูว่าอยากคุยกับมึง”
“ใคร” ผมมองตาเขา พอรู้ว่าเป็นใครผมก็ส่ายหน้า
“กูไม่...”
ภัทรยิ้มให้ก่อนจะลูบมือผมเบาๆ
“ถ้าห่วงความรู้สึกกู ไม่เป็นไร กูอยากให้มันจบ”
อันที่จริงผมไม่เหลืออะไรให้คุยกับเขาแล้ว แต่ในใจกลับรู้สึกค้างคากับหลายสิ่ง
ว่ากันว่าวันบางวันก็ไม่ใช่วันของเรา วันนี้ผมมีเรียนเช้าและทำพาร์ทไทม์ตอนบ่าย ตอนบ่ายผมทำแก้วแตกไปสามใบ เรียกได้ว่าค่าจ้างวันนี้แทบจะไม่เหลือ ในตอนที่เดินออกมาทิ้งขยะหลังร้านผมก็เห็นรถคันที่คุ้นตา เห็นแค่รถผมก็จำได้แล้ว
Kant : ภัทร มารับที่ร้านหน่อย
Patr : เหนื่อยเหรอวันนี้
Kant : ถึงแล้วโทรมานะ
“ปกติขอมารับยังหนีกูกลับ เป็นอะไรวันนี้” ภัทรถามในตอนที่เรากำลังเดินกลับไปที่รถ ผมเอื้อมมือไปจับมือเขาไว้แน่น
“ครับ?” ภัทรหันมามองผมก่อนจะดึงผมเข้าไปใกล้ เมื่อเห็นว่าเจ้าของรถยุโรปคันสวยมองตรงมาที่เรา ผมไม่เข้าใจว่ากันย์มาที่นี่ทำไม
“กลับบ้านกัน” ภัทรบอกเสียงเรียบ
“อืม”
“แม่” ภัทรว่าเสียงเบา เขามองตรงไปยังหน้าหอพักผม ผมเห็นผู้หญิงสองคนแต่งตัวดียืนอยู่ตรงทางเข้าและกำลังเดินตรงมาที่เรา
ผมเคยคิดว่าผมจะรับมือเรื่องนี้ได้แต่ผมคิดผิด ผมยกมือไหว้คนที่น่าจะเป็นแม่ของเขา แต่เขาไม่แม้จะมองมาที่ผมด้วยซ้ำ มีแค่น้องสาวของเขาที่หันมายิ้มบางๆให้
“มาทำอะไรกัน” ภัทรถาม ตั้งแต่คบกันมาผมไม่เคยเห็นเขาหัวเสียขนาดนี้มาก่อน
“เกินไปรึเปล่าภัทร” แม่เขาบอก ผมที่ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงยืนบีบมือตัวเองไว้แน่น ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย
“เคยเห็นหัวแม่บ้างรึเปล่า”
ผมว่าผมเข้าใจแม่ของเขานะ คงไม่มีแม่ที่ไหนอยากให้ลูกชายของตัวเองคบกับผู้ชายด้วยกัน แล้วยิ่งเขามีหน้ามีตาในสังคมด้วย อีกอย่างฐานะแบบผม ไม่คู่ควรกับลูกชายเขาเลย
“ทำอย่างกับแม่เคยเห็นหัวผม”
“ภัทร! แกเห็นคนอื่นดีกว่าแม่เหรอ”
“แม่คะ พอเถอะ”
“เธอก็เหมือนกัน” แม่ของเขามองตรงมาที่ผม ผมรู้ รู้มาตลอดว่ามันจะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นสักวัน แต่แค่ผมไม่รู้ว่าผมผิดตรงไหน ผมก็แค่รักเขา
...เราก็แค่รักกัน...
— กันย์
ภัทรฉลาดพอที่จะรู้ว่าควรให้ผมเจอเขาเมื่อไหร่ ผมพยายามไปหากันต์หลายครั้ง ทั้งที่มหาวิทยาลัยทั้งที่ทำงานเขา หลังจากนั้นเพื่อนผมก็ไม่เคยปล่อยให้คนของเขาอยู่คนเดียว
คืนนี้เป็นคืนที่ผมจะต้องบินกลับไปเรียนต่อแล้ว ภัทรถึงได้นัดกับผมที่สวนใกล้กับบ้านของผมในตอนย่ำค่ำ
“ไง” ผมเอ่ยทักคนที่เพิ่งมาถึง มุมปากที่มักจะยิ้มเสมอวันนี้กลับเหยียดตึง ผมมองเขาให้เต็มตา กันต์ผอมลงมากถ้าเทียบกับเมื่อก่อน ผมรองทรงของเขาตอนนี้ยาวประบ่า กันต์อยู่ในชุดลำลองสบายๆ ที่ผมไม่เคยเห็น ข้อมือสวยของเขาสวมนาฬิกาสีเงินเหมือนกับที่อยู่บนข้อมือภัทร
“เดินคุยกันไหม” ผมถามเขา กันต์ส่ายหน้าน้อยๆ เขาสบตาผมชั่วครู่ก่อนจะหันไปหาอีกคน
“ไม่เป็นไร คุยกันเถอะ” ภัทรบอก
“ภัทร”
“จะรออยู่ตรงนี้นะ” เพื่อนผมวางมือบนหัวเขาเพื่อบอกว่าเขาจะนั่งรออยู่ตรงนี้
ผมออกเดินพร้อมกับชำเลืองคนที่ก้าวเท้าตามมาในระยะห่างที่พอดี เราเดินสวนกับคนที่กำลังวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น ผมสูดอากาศดีในสวนเข้าปอด แต่ก่อนผมกับกันต์มักจะเจอกันที่ห้องผมบ้างโรงแรมบ้างเพื่อมีอะไรกัน ผมไม่เคยได้ไปไหนมาไหนกับเขาแบบนี้เลย ผมไม่เคยเห็นว่าเขาในชุดลำลองแบบนี้ดูดีแค่ไหน
“สบายดีไหม”
“ก็ เรื่อยๆ”
ผมก้าวเท้าให้สั้นลงเพื่อที่จะได้เดินไปพร้อมๆกับเขา กันต์เหลือบมองผมอยู่หน่อย ก่อนจะมองตรงไปข้างหน้า
“ผอมลงหรือเปล่า” ผมรู้ว่ามันเสียมารยาทที่จะทักเขาแบบนี้ แต่ผมแค่เป็นห่วง
“นิดหน่อย”
เป็นเพราะเราไม่ได้เป็นแม้กระทั่งเพื่อนกันมาก่อน ผมเลยไม่รู้จะพูดอะไรในตอนนี้ ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องเก่าๆ มันไม่มีส่วนไหนเลยที่น่าพูดถึง
ตอนนี้กันต์ดูอึดอัด แต่ผมกลับอยากแค่เดินไปข้างๆเขาแบบนี้
“จริงๆอยากมาขอโทษ”
“เรื่องอะไร”
“ที่ผ่านๆมา”
กันย์หยุดที่สะพานข้ามน้ำเล็กๆ เขามองทอดออกไปและในที่สุดก็หันมามองหน้าผม
“ก็ผิดด้วยกันทั้งคู่”
“แต่กู ทิ้งมึงไป” ผมคิดอยู่ตลอด ว่าถ้าผมซื่อตรงกับตัวเองในตอนนั้น ถ้าผมเลือกเขา ตอนนี้เราจะเป็นยังไง
“มึงเลือกถูกแล้ว ตอนนั้นถ้ามันยังคาราคาซังอยู่คงไม่ดีกับใครสักคน” กันต์ยิ้ม เขาน่าจะยิ้มให้กับสิ่งที่ผ่านมา
“กูเองก็ต้องขอบคุณที่มึงเลือกแบบนั้น ไม่อย่างนั้นกูคงไม่ก้าวออกมาสักที” ใบหน้าสวยของเขามองตรงมาที่ผม ผมรู้หลายๆอย่างมาจากแพท ว่าที่ผ่านมาเขาเจ็บแค่ไหน
“ดีขึ้นหรือยัง”
“ดีแล้ว แล้วมึงล่ะ” ลักยิ้มตรงข้างแก้มเขาค่อยๆบุ๋มลง ผมละสายตาจากคิ้วเรียงเป็นระเบียบของเขาออกมามองที่คลองน้ำใส
“ก็ มั้ง แล้วมึงเรียนจะจบแล้วเหรอ”
เขาพยักหน้าน้อยๆ
“แล้วจะทำงานอะไรต่อไป”
“ยังไม่รู้เหมือนกัน”
ผมมองหน้าเขาแล้วเอาแต่ถามตัวเองว่าทำไมที่ตรงนี้ถึงไม่เป็นผม
“แล้วอยู่ที่นู่น ดีไหม”
ผมยิ้มกับคำถามที่คิดว่าไม่น่าจะได้ยิน ผมเผื่อใจอยู่เยอะทีเดียว ผมคิดว่ากันต์เจอผมแล้วจะวิ่งเข้ามาต่อยหรือไม่ก็เกลียดกัน ไม่คิดว่าเขาจะยังยืนคุยกับผมอยู่แบบนี้
“ก็ดี แต่คิดถึงมึง” ผมตอบตามจริง
“กูตกใจนะ ที่มึงคบกับภัทร”
กันต์เงียบลงไป เขาไม่พูดอะไรต่อและดูเหมือนว่าเขาหมดเรื่องที่จะคุยแล้วจริงๆ
“กอดได้ไหม ครั้งสุดท้าย” ผมถาม
“ไม่...”
ก่อนเขาจะได้ตอบผมก็รวบตัวเขาเข้ามากอดไว้แน่น ผมกดจมูกลงบนผมของกันต์และทันที่ที่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคยน้ำตาผมก็ไหล
“ขอโทษนะกันต์ กูขอโทษ”
ลูกหมีเคยบอกผมว่า ความรักที่ดีจะไม่ทำร้ายกัน แต่ผมทำร้ายเขาไปเยอะเหลือเกิน ตอนนั้นผมยื่นข้อเสนอให้เราเป็นแค่ sex-friend ที่ผมรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาชอบผมมากแค่ไหน ผมผูกมัดเขาไว้ทุกทาง ทำทุกอย่างอย่างเห็นแก่ตัว
กันต์ยืนกำหมัดแน่น ไหลของเขาสั่น ผมรู้ว่าเราก็ต่างเสียใจ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ผมก็เป็นคนที่ทำให้เขาร้องไห้อยู่ดี
“กูรักมึงนะ” ผมบอกด้วยเสียงที่เบาจนแทบไม่ได้ยิน กันต์ดันตัวผมออก เขาปาดน้ำตาลวกๆ
“อย่า” เขาว่าเมื่อผมเอื้อมมือจะจับหัวเขาเหมือนที่แต่ก่อนชอบทำ ผมกำมือของตัวเองแม้ว่ามันจะสั่น
“ถ้ามึงไม่เหลือใคร กูจะยืนอยู่ที่เดิม” ผมพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดมาตลอดสองปี ต่อให้เขาจะเกลียดผมไปแล้ว ผมก็ยอม ขอแค่ให้ผมได้รอ ไม่ว่าเราจะกลับมาเป็นเพื่อน หรือแค่เพื่อนร่วมโลก ผมอยากเป็นแค่คนที่หวังดีต่อเขา
กันต์ปาดน้ำตาออกจากแก้มใสแต่ซูบผอมของเขาก่อนจะจ้องมาที่ผมนิ่ง
“ต่อให้กูไม่มีใคร กูก็จะยืนด้วยขาตัวเอง”
— กันต์
น้ำตาที่ผมคิดว่าแห้งไปนานแล้วไหลลงมาไม่หยุด ผมร้องไห้ให้กับตัวเองที่เมื่อก่อนโง่เขลา ร้องไห้ให้กับความผิดพลาดในอดีตที่ผมให้อภัยตัวเองไปแล้ว ร้องไห้ให้กับความรักครั้งเก่า ผมไม่โทษอะไรสักอย่าง โทษแค่ตัวเองเมื่อก่อนเท่านั้น บางทีก็ต้องขอบคุณเขาเหมือนกันที่ทำให้ผมโตขึ้น
ผมไม่แม้จะเอื้อมมือไปกอดแผ่นหลังที่เคยชอบไว้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด
...กอดของกันย์ มันไม่ได้อุ่นอีกต่อไปแล้ว...
ดูเหมือนเราจะคุยกันเสร็จแล้ว ผมเดินกลับมาทางเดิมที่เราเดินมา ผมก้าวเท้าให้เร็วก่อนจะออกวิ่ง เพื่อพบว่าภัทรยังนั่งอยู่ที่เดิม
“รู้ไหม มึงไม่เคยร้องไห้ให้กูเลยกันต์” ภัทรว่าแบบนั้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงผมเข้าไปกอด ผมกอดเขาไว้แน่น แผ่นหลังกว้างของภัทรทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยขึ้น
TBC.
__________________________________
เขียนไปถอนหายใจไป 55555555
พึ่งถึงครึ่งเรื่อง อยู่ด้วยกันก่อนนะคะ T^T