14
จะดูแลอย่างดี
ร้อยเอกไม่ใช่เด็กไร้เดียงสา และไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องใต้สะดือ ผ่านมาเยอะเลยด้วย เรื่องของอารมณ์มันห้ามกันยาก แต่อย่างน้อยการมีเซ็กส์ในห้องน้ำบริษัทก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำไม่ใช่เหรอ
เขาเข้าใจนะ ทุกคนต้องมีด้านมืดในตัวเอง แต่ภานุรักษ์น่ะมืดเกินไปหรือเปล่า ภาพที่เขาเห็น ต่อให้เอาแอลกอฮอล์มาล้างก็คงลบภาพสยิวพวกนั้นไม่ได้หรอก ติดหนึบยิ่งกว่ากาวตราช้างเสียอีก
เหอะ...
ต่อหน้าทำเป็นอยากจีบเมืองน้ำ พยายามหว่านเสน่ห์ เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องที่เมืองน้ำต้องการได้ตรงจังหวะ ลับหลังหวังเคลมลูกเดียว คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ
ร้อยเอกอยากกลั้นใจตายไปซะเดี๋ยวนี้“เสร็จแล้ววว”
แต่ก็ตายไม่ได้ เพราะยังต้องมีชีวิตเพื่อปกป้องเมืองน้ำจากมนุษย์แอคเค่ออย่างภานุรักษ์อยู่
“เสร็จเย็นมากเลย หิวมั้ย เดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน”
“พี่เมืองอยากกินอะไร ผมกินได้หมด แล้วแต่เลย”
ร้อยเอกกัดฟันกรอด ข่มอารมณ์ขุ่นเคืองที่เดือดขึ้นเพียงเพราะเห็นเจ้าของสตูดิโอเปิดประตูเข้ามาเช็กงาน แค่เห็นก็นึกไปถึงข้อความแย่ๆ ที่ภานุรักษ์สื่อถึงเมืองน้ำ อยากเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อแล้วชกหน้าคนอายุมากกว่าแรงๆ พูดถึงเมืองน้ำกี่ทวีต ก็ต่อยกลับคืนเท่านั้น
แต่วิธีที่ว่าไม่ใช่ทางออกสำหรับเรื่องนี้ เขาไม่เชื่อว่าความรุนแรงจะขัดเกลาจิตใจหยาบกระด้างของใครได้
หนทางที่จะจัดการภานุรักษ์ มีไม่กี่วิธีหรอก และแน่นอน หลังจากพาเมืองน้ำไปส่งที่บ้านแล้ว เขาจะเริ่มจัดการทันที
“ช่วยกันคิดหน่อยดิ พี่คิดอะไรไม่ออกแล้ว เหนื่อยมากๆ เลยเนี่ย”
ร้อยเอกดึงความสนใจกลับมายังคนตัวเล็กที่นั่งลงด้านข้างเขา ใบหน้าขาวงอแงคล้ายจะสื่อว่าตัวเองเหนื่อยมากจริงๆ
มันเขี้ยว“ขนาดนั้นเลย?”
“ใช่สิ คิดว่าพี่โกหกเหรอ”
“ผมเปล่านะ”
“เหรอๆๆ”
“เออดิ”
“พูดไม่เพราะเลยอ่ะร้อยเอก”
คนถูกดุถอนหายใจ โมโหภานุรักษ์ก็โมโห อยากบีบปากนุ่มๆ เพราะมันเขี้ยวก็อยากทำ เขาสับสนไปหมดแล้ว
ร้อยเอกอยากเข้ามาในสตูดิโอใจจะขาด กลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับเมืองน้ำ แต่เขาเข้ามาไม่ได้ เลยต้องนั่งบนโขดหินใกล้ลานจอดรถทั้งที่ความเป็นห่วงลอยทะลุกำแพงไปแล้ว แถมยังเจอแจ็คพ็อตตอนที่ภานุรักษ์เดินนำพนักงานคนนั้นไปที่รถเพื่อสานต่อเรื่องในห้องน้ำอีก
กระจกหนาทึบ มองไม่เห็นภาพด้านใน คนพวกนั้นถึงกล้ามีเซ็กส์กันในรถต่อ แต่รถที่โยกเป็นจังหวะเพราะกิจกรรมเร้าใจนั่นน่ะ ไม่กลัวใครเดินผ่านมาเห็นหรือไง
อืม…
แถวนั้นก็มีแค่ร้อยเอกคนเดียวนั่นแหละ“ไปเปลี่ยนชุดสิครับ”
“รอทีมงานมาแจ้งเรื่องค่าตัวก่อนอ่ะ แล้วถึงจะไปเปลี่ยนชุดได้”
“น้องเมืองครับ...”
เหมือนตากระตุกยังไงไม่รู้
คนที่เดินเข้ามาหาเมืองน้ำควรเป็นทีมงานมากกว่าภานุรักษ์ รุ่นพี่ตัวโตระบายยิ้มเมื่อนายแบบตัวจิ๋วขานรับและลุกไปหา บทสนทนามีแต่เรื่องค่าตัว กำหนดโอนเงินที่ย้ำอีกรอบ และคำชมสุดเลี่ยนทำเอาร้อยเอกกลอกตา จังหวะรถโยกลอยเข้ามาในหัวเขาอีกแล้ว
ซวยสุดๆ เลยเว้ย
“แล้วเรื่องบ้านว่าไงครับเนี่ย เพื่อนพี่อยากเข้าไปดูบ้านแล้วนะ”
“เมืองยังไม่คุยกับแม่เลยครับ พอดีแม่เพิ่งกลับจากทำงาน เลยอยากให้แม่พักผ่อนก่อน”
“นานจัง”
เมืองน้ำยิ้มแห้งกับน้ำเสียงนุ่มที่เหมือนประชดประชัน ก้าวเท้าถอยเพื่อเว้นระยะห่างจากคนตรงหน้าที่พยายามจะลูบศีรษะของตน
หลบไม่พ้น ช้าเกินไปสำหรับการหว่านเสน่ห์
“ไม่เป็นไร ค่อยๆ คุยแล้วกันครับ ยังไงก็ไปดูบ้านหลังใหม่มา พี่ว่าโอกาสย้ายก็สูงแหละเนอะ”
ก็ใช่
แต่ว่านะ เรื่องนี้...เมืองน้ำไม่อยากให้พี่รักษ์พูดต่อหน้าร้อยเอกเลย ถ้าฟังไม่เพี้ยน ตอนถูกรุ่นพี่คนนี้ลูบหัว เหมือนได้ยินเสียงจิ๊ปากเบาๆ มั้ยนะ
“วันนี้กลับยังไง”
“กลับกับร้อยเอกครับ น้องมาเป็นเพื่อน”
“อ้อ ไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนแฟนเลยเนอะ”
“…”
“พี่นึกว่าเมืองน้ำจะคบกับอาจารย์พันเอกซะอีก เอ้ย ไม่ใช่สิ อาจารย์พันเอกไม่ใช่เรื่องจริง สิงหาใช่มั้ยที่เคยกิ๊กกัน”
“กลับบ้านกันเถอะพี่เมือง”
เมืองน้ำสะดุ้งกับการถูกดึงให้ก้าวไปอยู่ด้านหลัง ภาพของรุ่นพี่เปลี่ยนเป็นแผ่นหลังของเด็กตัวสูง ขนาดที่ทำให้มองไม่เห็นสีหน้าของภานุรักษ์ และความแข็งแรงที่มีมากกว่า
ร้อยเอกทำให้เมืองน้ำรู้สึกปลอดภัย
“รีบกลับจัง”
“มีธุระต้องทำต่อครับ”
“ไปเดทเหรอ นี่พี่หมดโอกาสจริงๆ แล้วสินะ”
ร้อยเอกยังยืนยันความคิดเดิม...เขาอยากชกหน้ารุ่นพี่คนนี้จริงๆ
“ที่จริง...”
“…”
“บางคนก็ไม่มีโอกาสตั้งแต่แรกแล้วมั้งครับ”
ร่างสูงกำหมัดแน่นในวินาทีที่เห็นภานุรักษ์ขมวดคิ้วใส่เขา อย่างที่คิดเลย แวดล้อมที่เต็มไปด้วยผู้คน หัวหน้าที่ต้องรักษาความเชื่อมั่นในตัวพนักงานจะไม่มีทางทำอะไรเขา
ร้อยเอกจ้องมองเรียบนิ่ง ได้สติอีกครั้งก็ตอนที่มือคู่เล็กดึงแขนเสื้อเขาเบาๆ กระซิบเสียงแผ่ว บอกว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนชุดแล้ว เพราะแบบนั้นเลยต้องปล่อยให้เมืองน้ำกล่าวลารุ่นพี่ตามมารยาท ก่อนจะแยกตัวออกมาเพื่อเข้าไปในห้องแต่งตัว
จริงสิ...ภานุรักษ์ขายคลิปด้วย
“ผมเข้าไปด้วยได้มั้ย”
เมืองน้ำที่หยิบกระเป๋าใส่เสื้อผ้า เตรียมตัวเดินเข้าห้องเปลี่ยนชุดมองคนตัวสูงด้วยความแปลกใจ ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ เมื่อจู่ๆ เจ้าของคำถามก็ก้าวไปยืนในห้องเปลี่ยนชุดก่อนได้คำตอบเสียอีก
“เข้ามาทำไม พี่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้านะ”
“ผมไม่มองพี่หรอก เดี๋ยวหันหลังให้ ไม่อยากให้พี่อยู่คนเดียว”
“พี่ไม่เป็นไรเลย ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนหรอก แค่เปลี่ยนชุดเอง”
“พี่เมืองรู้สึกแย่กับคำพูดพี่รักษ์”
“…”
“ผมเป็นห่วง ไม่อยากอยู่ห่างจากพี่เมืองเกินสามสิบเซ็นเลยครับ”
“เว่อร์แล้วๆ”
“มาเร็ว”
บอกเมืองน้ำไปตรงๆ คงรู้สึกแย่กว่าเดิม เอาไว้จัดการเสร็จค่อยเล่าทีเดียว เขาจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง
ร้อยเอกกวาดมองทั่วห้อง ขณะที่อีกคนก้าวเข้ามาพร้อมกระเป๋าเป้ในอ้อมแขน เมืองน้ำเกี่ยวกระเป๋าไว้บนที่แขวน ก่อนจะร้องเหวอเมื่อถูกมือหนาจับให้หันไปยืนอีกทาง
“เปลี่ยนตรงนี้ เดี๋ยวผมหยิบชุดให้”
แม่งเอ๊ย...
“เมื่อเช้าพี่เปลี่ยนชุดในนี้ด้วยใช่มั้ย”
“ใช่ ทำไมเหรอ”
“เปล่า ถามเฉยๆ”
แม่งติดกล้องแอบถ่ายในห้องแต่งตัว
ไอ้เหี้ย...“ร้อยเอกหยิบกางเกงให้หน่อย”
“ครับ” ร้อยเอกทำตามที่อีกคนบอก ยื่นกางเกงสีครีมให้คนด้านหลังโดยไม่หันมอง ในใจมีแต่คำสบถ หมัดอีกข้างก็กำแน่นจนไม่เหลือพื้นที่ว่าง
ถ้าไม่ยืนบังให้เมืองน้ำ ภานุรักษ์จะมีคลิปแอบถ่ายคนอื่นไปกี่คลิปแล้ว
“ร้อยเอก”
“ว่าไง”
“พี่กลัว”
“พี่เมืองกลัวอะไร”
“ที่เราไปไหนมาไหนด้วยกัน พี่กลัวคนอื่นจะคิดว่า...เพราะร้อยเอกรวย”
เรื่องนี้เขาก็เคยคิด และสารภาพเลยว่ารู้สึกผิดมากที่มองเมืองน้ำในแง่ร้าย
“ถ้าร้อยไม่โอเค ไม่ต้องไปรับไปส่งพี่ก็ได้”
“เรื่องไปรับไปส่ง เราคุยกันจบไปแล้วนะ”
“…”
“ร้อยเต็มใจ แล้วก็ไม่แคร์คนอื่นด้วย ไม่มีอะไรต้องแคร์”
“ร้อย...”
“ร้อยแคร์พี่เมืองคนเดียว”
ต่อให้คนล้านคนมาร้องไห้ใส่เขา ก็ไม่รู้สึกอะไร ไม่มีใครทำให้เป็นห่วงได้เท่าเมืองน้ำ
เห็นเมืองน้ำทำหน้าเศร้านิดเดียว แค่นั้นก็รู้สึกมากกว่าเห็นคนล้านคนมานั่งร้องไห้ข้างหน้าเขาแล้ว
“รีบเปลี่ยนชุดเถอะครับ ในนี้มันแคบ ปลอบพี่เมืองไม่ถนัดเลย”
“ขอบคุณนะ”
“ยินดีครับ”
อยากเล่นมุกให้กำลังใจแล้วเก็บเงินสามร้อยบาท แต่หลายสิ่งหลายอย่างที่วนเวียนอยู่ในหัวทำให้กวนประสาทไม่ออก
“ขาหมูมั้ย มีร้านเปิดใหม่แถวเยาวราช ถ้าอยากกินจะพาไป”
“กิน อยากกินขาหมู!”
“เร็วเชียว”
“แหะ...”
เมืองน้ำน่ะ...
ไม่สมควรถูกใครทำร้ายจริงๆ(⺣◡⺣)♡*
เมืองน้ำใช้เวลาทั้งวันไปกับการทวนหนังสือเพื่อเตรียมสอบวิชาสุดท้าย ข้อเขียนสุดโหดของเมื่อวานทำเอาหมดแรงจนกลับมาเคลียร์งานต่อไม่ไหว เป็นคืนแรกในรอบหลายเดือนที่ได้นอนก่อนห้าทุ่ม แถมยังนอนเต็มอิ่มแบบสุดๆ เลยล่ะ
ส่วนหนึ่งที่ทำให้เข้านอนเร็ว ก็มาจากข้อความของเด็กบ้านติดกันนั่นแหละ
ร้อยเอกบอกให้เมืองน้ำไปอาบน้ำนอน หลังห้าทุ่มห้ามเปิดม่าน เปิดระเบียง หรือแม้แต่เปิดไฟ ไม่งั้นจะมานั่งเฝ้าจนกว่าจะหลับ เป็นความเว่อร์ที่รู้ดีว่าจะเว่อร์ได้มากกว่านี้ถ้าไม่ยอมทำตาม
พอรู้สึกตัวตื่นจากการนอนตอนเย็น เช็กข้อความในโทรศัพท์เสร็จ ก็เดินโซเซเข้าไปอาบน้ำ กลับออกมาพร้อมชุดนอน กินข้าวที่แม่ยกขึ้นมาเสิร์ฟ พร้อมยาแก้ปวดหัวอีกหนึ่งเม็ด ก่อนจะหลับอีกรอบโดยที่ร้อยเอกไม่ต้องส่งข้อความมาย้ำรอบสอง
หนังสือเรียนถูกวางลงเมื่อทวนถึงหน้าสุดท้าย ต่อไปเป็นช่วงเวลาของการเคลียร์งานตัดคลิปที่ยังทำไม่เสร็จ คนตัวเล็กอ้าปากหาว กะพริบเปลือกตาหนักๆ เพื่อปัดไล่ความง่วง ทว่าไม่ดีขึ้น เลยเดินมาทิ้งกายลงบนเตียงพร้อมคว้าโทรศัพท์ติดมือมาด้วย
อย่างที่คิดเลย มีข้อความจากร้อยเอก
101 :
ผมอยู่สยาม เอาอะไรมั้ย
m.nam ☆° :
อะไรอ่ะ
ไปเที่ยวไม่ชวนเลย
101 :
รู้เลยนะว่าหน้าหงิกอยู่
m.nam ☆° :
เอ๊ะๆๆๆ
มีตาทิพย์เหรอพ่อคุณ
101 :
ผมอ่ะยิ่งกว่าตาทิพย์อีกนะพี่เมือง
เห็นมั้ยล่ะ เรื่องเว่อร์ๆ ขอให้บอก ร้อยเอกเว่อร์ได้มากกว่าที่เมืองน้ำคิดอีกนะ
m.nam ☆° :
ฝากซื้อสายชาร์จโทรศัพท์หน่อย อันที่ใช้อยู่จะขาดแล้วอ่ะ
ว่าแต่ไปทำอะไรเหรอ
101 :
คิดถึงผมล่ะสิ
m.nam ☆° :
หลงตัวเองงงงง
101 :
หรือไม่จริง
m.nam ☆° :
จะเอาคำตอบแบบไหนอ่ะ
จริงก็ได้
เพราะไม่เห็นร้อยตั้งแต่เช้าหรอกนะ เลยคิดถึงอ่ะ
101 :
อ่ะๆ จะใช้เหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ให้เต็มที่
ยังไงปลายทางก็คือคิดถึงผมอยู่ดี
ไม่ใช่ร้อยเอกที่นึกสีหน้าเมืองน้ำออกคนเดียวหรอก คนทางนี้ก็พอเดาออกว่าอีกคนกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่
ถ้าอยู่ใกล้ๆ จะฟาดเข้าให้ หมั่นไส้ชะมัด
101 :
ผมมาทำธุระนิดหน่อย กลับเย็นๆ
ว่าจะซื้อเฟรนช์ฟรายส์ไปฝากพี่ด้วย
m.nam ☆° :
เอา
101 :
ยังไม่ถามเลยนะว่ากินมั้ย
m.nam ☆° :
อุ้ย
แต่ยังไงร้อยก็ต้องให้พี่กินอยู่แล้วอ่
รีบกลับมานะ
อยากกินเฟรนช์ฟรายส์
101 :
ไม่อยากเจอหน้าผมไวๆ บ้างเหรอ
m.nam☆° :
อย่าพูดอะไรเลี่ยนๆ ได้มั้ย พี่ขนลุกกกก
101 :
ไม่ได้!
m.nam☆° :
โอ๊ยยยย
รีบๆ กลับมา อยากเจอทั้งของกินทั้งคนซื้อของกินเลย
หิวแล้วว
101 :
แท็ก #พุงไม่แตกไม่ใช่เมืองน้ำ ติดเทรนด์แน่วันนี้
มีแฮชแท็กติดให้ตลอด ไม่รู้จะเคืองเพราะแต่ละแท็กที่คิดให้ล้อเรื่องกินของเมืองน้ำทั้งนั้น หรือเขินกับความเอาใจใส่ของร้อยเอกมากกว่ากัน
พอคิดดูแล้ว...ไอร้อนๆ บนแก้มก็แทนคำตอบได้ดีเลยนะ
เมืองน้ำสัมผัสกลับมาหน้าโฮม เมื่อเด็กตัวสูงขอไปทำธุระต่อ ห้องแชทล่าสุดเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทที่พักนี้คุยแต่เรื่องสอบ เรื่องฝึกงานในเทอมหน้า รวมถึงความสัมพันธ์ของเมืองน้ำกับร้อยเอก
มีแต่คนแปลกใจว่าทำไมคู่กัดที่เป็นเหมือนเส้นขนานถึงมาสนิทสนมกันได้
ไม่ใช่แค่คนอื่น จนถึงตอนนี้เมืองน้ำก็ยังหาเหตุผลไม่เจอ รู้แค่สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้...ดีที่สุดแล้ว
my dad :
จะมาหาก็มา แต่ไม่ต้องเอาแม่มานะ
พ่อไม่อยากเจอ
และคงดีกว่านี้ถ้าความรู้สึกแย่ๆ ไม่หวนกลับมาเพราะข้อความของพ่อ
วันนั้นที่ไปหา ท่านดูโกรธที่เมืองน้ำพยายามไม่พูดถึงเรื่องที่อยากให้ไปอยู่ด้วย บางครั้งก็ทำเสียงกร้าวใส่ มองตาแข็งเหมือนระงับอารมณ์ไม่ได้ ฮีโร่ผู้อบอุ่นและสร้างความเข้มแข็งให้เด็กคนหนึ่งเหมือนลาจากโลกใบนี้ไปแล้ว
พ่อไม่เหมือนเดิม ที่จริงต้องบอกว่าไม่มีใครเหมือนเดิมเลยต่างหาก
เป็นคนสร้างฟองสบู่สีรุ้งไว้รอบๆ ตัวเมืองน้ำ ปล่อยให้ฟองสบู่ก้อนนั้นลอยอยู่บนฟ้า บนโลกที่สวยงาม โลกที่มีแต่ความสุข แล้วก็เป็นตัวท่านเอง ที่เจาะฟองสบู่ที่ตัวเองสร้างไว้ให้ลูกจนแตกสลาย
เมืองน้ำตกลงมาในโลกแห่งความจริง โลกที่เห็นว่าพ่อกับแม่ไม่มีความรักต่อกันแล้ว
จากสีรุ้งก็เหลือเพียงสีเทา และเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องทำใจยอมรับว่าทุกอย่างใกล้ถึงจุดสิ้นสุด
ย้อนเวลากลับไปได้มั้ย...
ไม่อยากให้พ่อกับแม่เลิกกันเลยm.nam☆° :
ร้อยเอก
กลับมาไวๆ นะ
แม่ออกไปธนาคาร พี่ไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวเลย
อยู่ดีๆ ก็กลัวผีอ่ะ _φ(·_·
(⺣◡⺣)♡*
คนอะไร อยู่ดีๆ ก็กลัวผีกะทันหัน
เมืองน้ำไม่ได้กลัวผีหรอก เรื่องกลัวผี เปลี่ยนเป็นร้อยเอกยังน่าเชื่อถือมากกว่า ไม่รู้ว่ารายนั้นคิดอะไรอยู่ แต่ประโยคที่บอกว่าไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว ก็พอเดาได้ว่าลูกหมาของเขาเป็นอะไร
อยากให้ทุกเรื่องที่ทำให้เมืองน้ำคิดมากหายไปสักที และเขาก็อยากกลับบ้านเร็วๆ เหมือนกัน
BIG 9 :
ถึงยังครับ
แจ้งเตือนบนหน้าจอทำเอาร้อยเอกเบ้ปาก
พอเห็นกล้องในห้องแต่งตัว ในหัวของเขามีแต่คำว่าต้องจัดการภานุรักษ์ให้ได้ หมอนั่นน่าจะรู้เต็มอกว่าเขาไม่ชอบหน้า ฉะนั้นการยอมออกมาเจอตรงๆ เลยเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก
ร้อยเอกใช้แอ็กเคาต์ทวิตเตอร์ร้างๆ ของตัวเองเป็นตัวล่อภานุรักษ์ออกมา เขาลบทวีตเก่าๆ ทั้งหมดทิ้ง เปลี่ยนชื่อบัญชี ชื่อโปรไฟล์ และใช้รูปท้องฟ้าเป็นดิสเพลย์เพื่อไม่ให้เห็นหน้า
ใช่ อยากนัดเจอแอคเค่อ ก็ต้องเป็นแอคเค่อเหมือนๆ กัน
ร้อยเอกเสิร์ชดูว่าคนอื่นนัดเจอวิธีไหน ใช้ภาษายังไง พยายามใช้ตามอย่างแนบเนียนและทักไปคุย
สาบานเลยว่าไม่เคยทำอะไรที่โคตรไม่เป็นตัวเองเท่านี้มาก่อน
Wah :
ถึงแล้วคร้าบ
จะไปโรงแรมเลยมั้ย
หรือหาไรกินก่อนดี
BIG 9 :
หาไรกินก่อนดิครับ
พี่หิวอยู่พอดี
Wah :
ครับพี่
งั้นเจอกันที่ร้าน StarBook
ผมใส่เชิ้ตสีขาวนะ เดี๋ยวไปนั่งรอ
BIG 9 :
ได้ครับหวา
บทสนทนาระหว่างภานุรักษ์กับเขาไม่มีอะไรนอกจากเรื่องบนเตียง อีกหนึ่งสิ่งที่เขาเพิ่งรู้คือรุ่นพี่คนนี้ตกลงเรื่องถ่ายคลิปตอนมีเซ็กส์ก่อนทุกครั้ง ถ้าไม่ตกลงจะไม่นัดเจอ ใครอยากเจอก็ต้องยอม
แน่ล่ะ ร้อยเอกตอบตกลง
ไอ้คนใจหยาบจะไม่มีทางได้แตะต้องเขา แค่คิดก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่า ไม่ต้องรอจนถึงโรงแรมหรอก เดี๋ยวก็จัดการเสร็จแล้ว เชื่อมือเขาได้เลย
ใช้เวลาไม่นานในการหาที่จอดรถ ขอบคุณที่วันนี้คนมาใช้บริการไม่มากเท่าวันหยุด ร้อยเอกเข้าไปสั่งเครื่องดื่มในร้านกาแฟและเลือกที่นั่งด้านในสุด ส่งข้อความไปบอกตำแหน่งของตัวเอง ก่อนจุดยิ้มบนริมฝีปากเมื่อเห็นว่าภานุรักษ์ใกล้มาถึงแล้ว
“หวาป้ะครับ”
มาไวกว่าที่คิด
ร้อยเอกไม่ตอบกลับเจ้าของเสียงทุ้มที่ดังขึ้นด้านหลัง พยักหน้ารับเบาๆ เพื่อให้อีกคนอยากเห็นหน้า อยากหัวเราะดังๆ กับแววตาที่ทั้งงุนงง ตกใจ แต่ก็ยังสงวนท่าที วางมาดนิ่งเฉยของภานุรักษ์ตอนเห็นว่าเป็นเขาชะมัด
รุ่นพี่ตัวสูงนั่งลงฝั่งตรงข้าม มีคำถามมากมายลอยมาจากใบหน้าหล่อเหลา
“แปลกใจเหรอครับ ที่เป็นผม”
“ใช่ แปลกใจ...ไม่คิดว่าน้องจะเล่นแอคพวกนี้ด้วย”
ร้อยเอกหัวเราะในลำคอ วางแก้วกาแฟที่ยกขึ้นดื่มลงที่เดิม พลางเคาะปลายนิ้วเบาๆ ขณะพูด
“ทำไมครับ แอคพวกนี้ไม่ดีเหรอ”
“ไม่ใช่ไม่ดี แต่คิดไม่ถึง”
“ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าพี่จะเล่น”
ภานุรักษ์ออกมาเจอเขาเพราะไม่คิดว่าจะเป็นเขา ตลอดเวลาที่เล่นแอคเค่อคงเป็นไปได้สวย นัดเจอกันเพื่อทำเรื่องอย่างว่า จากนั้นก็แยกทาง วินวินทั้งสองฝ่าย เมื่อวานเขาเข้าไปอ่านโพสต์แฟนเก่าของภานุรักษ์อีกรอบ คีย์เวิร์ดหลายๆ อย่างทำให้เดาได้ว่าสาเหตุที่เลิกกันมาจากเรื่องนี้
“เข้าเรื่องเลยนะครับ”
หนีเมียมาเล่นจริงๆ พอเมียรู้ เมียรับไม่ได้ เมียก็เลยขอเลิกตามสเต็ป
ซึ่งก็...ไม่ได้ดูทุกข์ร้อนกับการเลิกกับเมียเท่าไหร่นัก
“พี่รักษ์มีคลิปพี่เมืองกี่คลิป”
นัยน์ตาคู่คมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ทว่าครู่เดียวก็เรียบนิ่งดังเดิม
“คลิปที่แอบถ่ายในห้องแต่งตัว”
“พูดเรื่องอะไร”
“อย่าหนีนะ ไม่งั้นผมจะแจ้งตำรวจ” ตอบกลับโดยเร็ว ทำให้คนที่เตรียมลุกยืนชะงักค้าง “ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง พี่รักษ์ก็ไม่จำเป็นต้องหนี แต่ร้อนรนขนาดนี้ แสดงว่าผมพูดถูก”
“พี่มีธุระว่ะ ต้องกลับก่อน”
“เมื่อวานพี่บอกว่าวันนี้ว่างทั้งวัน อย่าลืมสิครับ”
ภานุรักษ์กัดฟันกรอด สบถในลำคอก่อนจะยกสองแขนขึ้นกอดอก
“รู้ได้ไงว่ามีกล้องแอบถ่าย มโนไปเองรึเปล่า ถึงมีมันก็ไม่ใช่เรื่องของน้องป้ะ”
“ไม่น่าเชื่อนะว่าคำพูดแบบนี้จะหลุดมาจากปากคนที่เป็นเจ้าคนนายคน”
“…”
“ผมย้อนอ่านที่พี่เอาความคิดแย่ๆ มาทวีตถึงพี่เมืองหมดแล้ว แคปไว้หมดแล้วด้วยนะ”
“เกินไปมั้ยวะ มีสิทธิ์อะไรมายุ่งวุ่นวาย”
“ว่าไงครับ จะยอมรับมั้ย”
“…”
“ถ้าพี่ไม่ยอมรับว่าซ่อนกล้องถ่ายคนอื่น ผมจะส่งให้พี่เมืองดำเนินคดี”
“เออ กูถ่ายเองแหละ แล้วไงวะ ก็ถ่ายเก็บไว้ดูเล่นป้ะ คลิปที่ลงทวิตก็ไม่เคยเปิดหน้าใคร คนที่มาหาก็ยอมให้ถ่ายด้วยซ้ำ”
ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ใครต่างก็นับถือจะมีความคิดพวกนี้จริงๆ
ร้อยเอกพยายามสงบสติอารมณ์อย่างมาก ยิ่งคุยยิ่งไม่ชอบ ยิ่งฟังคำพูดของคนตรงหน้ายิ่งทำให้เขาเกลียดชุดความคิดแย่ๆ ของภานุรักษ์
เกลียดมาก
“พี่จะมีอะไรกับใคร จะถ่ายเก็บไว้ปล่อยขาย หรือลงให้ดูฟรี ถ้าอีกฝ่ายยินยอมก็แล้วแต่พี่เลยครับ ไม่ผิด แต่การที่พี่แอบถ่ายคลิปคนอื่น ถึงจะบอกว่าเก็บไว้ดูเล่น แต่มันก็ผิดกฎหมาย”
“…”
“สตูดิโอของพี่เปิดมาหนึ่งปี ใช้งานอาทิตย์ละครั้ง ทุกๆ อาทิตย์จะมีนายแบบนางแบบเข้าไปเปลี่ยนชุด เดือนนึงมีสี่อาทิตย์ หนึ่งปีพี่จะมีคลิปแอบถ่ายสี่สิบแปดคน หนึ่งในนั้นคือพี่เมือง ผมพูดถูกมั้ย”
“ต้องการอะไร ล่อกูออกมาเจอทำไม”
“ลบคลิปแอบถ่ายให้หมด ลบทุกทวีตที่สื่อถึงพี่เมืองด้วย อย่าเอาความคิดหยาบๆ มาใช้กับพี่เมือง”
“…”
“อ้อ แล้วก็อย่าคิดนะครับว่าจะแกล้งปล่อยคลิปเพื่อเอาคืนผม เพราะผมไม่ยอมแน่”
ร้อยเอกแตะนิ้วชี้บนกระดุมเม็ดที่สาม ขณะที่อีกคนมองเขาด้วยความโกรธ
ใช่ หลังกระดุมของเขามีกล้องแอบถ่าย ทุกบทสนทนาถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว บอกแล้วไงว่าเขาจัดการภานุรักษ์ได้แน่นอน
“คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหน ถึงมีอำนาจสั่งให้คนอื่นทำตามได้”
“พี่จะไม่ทำตามก็ได้ แต่พี่ควรจะรู้ไว้ว่าพ่อผมทำให้พี่ต้องยอมทำเพื่อรักษาหน้าที่การงานของตัวเองได้”
“…”
“พี่ก็รู้ว่าในวงการบันเทิงที่พี่หากินอยู่เป็นยังไง บริษัทพ่อผมก็มีอิทธิพลสุดๆ เลยด้วย”
“…”
“งานที่สร้างเงินให้เป็นกอบเป็นกำ กับคลิปแอบถ่ายที่ทำให้เสี่ยงติดคุก ผมว่าเลือกงานดีกว่านะ”
ร้อยเอกไม่เคยยกพ่อไปข่มใคร นี่เป็นครั้งแรก และเขาจะไม่ให้มีครั้งต่อไปถ้าสถานการณ์ไม่บีบบังคับ หวังว่าภานุรักษ์จะชั่งน้ำหนักกับความคุ้มค่าหากเกิดข้อผิดพลาดในสิ่งที่ตัวเองทำ หวังว่ารุ่นพี่คนนี้จะทำตามที่เขาบอก
“เหอะ”
“ว่าไง”
“งั้นกูขอยกเลิกงานที่จะจ้างเมืองน้ำทั้งหมดแล้วกันนะ แลกกับการลบคลิป”
“เท่าไหร่”
“…”
“ค่าจ้างพี่เมือง รวมแล้วเท่าไหร่”
“เหลืออีกห้างาน ค่าจ้างแสนเจ็ด”
“ได้ ผมจะจ่ายให้พี่เมืองเอง แต่พี่รักษ์ต้องบอกพี่เมืองว่าเป็นเงินชดเชยในการยกเลิกสัญญา”
ภานุรักษ์กระตุกยิ้ม ในรอยยิ้มนั้นมีความไม่พอใจแอบแฝง คงจะโกรธและไม่คิดว่าจะมีคนมาลูบคมเขี้ยวของตัวเอง อีกคนไม่ไว้ใจเขาหรอก มองดูก็รู้ เขาเองก็ไม่ไว้ใจรุ่นพี่คนนี้ จะลบคลิปจริงหรือเปล่ายังไม่รู้เลย แต่ตอนนี้เขามั่นใจว่าภานุรักษ์เลือกงาน และถ้าวันไหนเปลี่ยนใจมาเลือกคลิปที่ถ่ายไว้ ภาพในกล้องกระดุมก็พร้อมส่งให้ตำรวจเหมือนกัน
“เงินชดเชย? เมืองน้ำไม่ได้งานยังมีเงินชดเชย แล้วกูที่ต้องหาคนมาถ่ายใหม่ได้อะไรวะ”
“ได้รู้ไงครับว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากคนอื่น”
“…”
“ผมจะจ่ายแค่เงินชดเชยของพี่เมือง อย่าลืมที่ตกลงกันไว้นะ หวังว่าเราจะจบกันแค่ตรงนี้”
จากนี้ไปช่วยอยู่คนละทิศคนละทาง อย่ากลับมาเจอกันอีกเลย
เขาไม่ต้องการให้คนคนนี้อยู่ใกล้เมืองน้ำอีกแล้ว
ไม่ต้องการ(⺣◡⺣)♡*
มีต่อ
30/10/61
** แก้ไขเนื้อหาช่วงที่ร้อยเอกเคลียร์กับพี่รักษ์ เรากลับมาอ่านทั้งเนื้อหาทั้งคอมเมนตอีกรอบ คิดว่าการให้เงินพี่รักษ์เพิ่มไม่โอเคเหมือนกันค่ะ ก็เลยเปลี่ยนตรงจุดนี้ ขอบคุณทุกๆ คอมเมนต์นะคะ