ตอนที่ 12 : เหตุผล “จิน”
ลิลิตเดินเข้ามาหาเขาที่เคาน์เตอร์ด้วยสีหน้าจริงจังในเช้าวันถัดไป
“อะไรครับพี่ลิต”
“พี่ขอละนะ วันนี้จะใช้งานอะไรคุณรามิลก็ได้แต่อย่าให้ออกไปส่งของ”
“ผมว่าจะไล่ให้กลับขึ้นไปทำงาน”
“ตื่นๆ ฝันกลางวันอยู่หรือเปล่าเพื่อน” ศีลแวบเข้ามาร่วมวงด้วย รามิลยังมาไม่ถึง จินเดาว่าน่าจะขึ้นไปสั่งงานที่ออฟฟิศก่อน
“แต่มีทางนะถ้าอยากให้กลับไป” ศีลยิ้มอมภูมิ
“ทำยังไง” จินสนใจมากเพราะเขาไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว
“หายโกรธซะ กลับไปเป็นเหมือนเดิมกับคุณรามิล ง่ายๆ แค่นี้ รับรองพรุ่งนี้กลับไปทำงานเหมือนเดิม”
“เออจริง เอ็งฉลาดมาก” ลิลิตเห็นด้วย
“พี่ลิต~” จินลากเสียงยาว
“มันจะไปยากตรงไหน อย่าถือทิฐิเลย คนผิดก็ยอมรับผิดแล้ว ชีวิตมันสั้นเชื่อพี่”
จินหลบตาเจ้านาย ถอนใจออกมาเบาๆ
“เชื่อผมพี่ลิต อย่างนี้แปลว่าใจอ่อนแล้ว” ศีลมองสีหน้าของเพื่อน
“เราไมได้พูด!”
“ดูก็รู้ ทำเป็นถอนใจเฮือกๆ หน้าไม่เศร้าสักนิด วันแรกละน้ำตาหยดติ๋งๆ”
“ศีล~”
“ฮ่าๆ” ศีลหัวเราะลั่นเมื่อพูดแทงใจดำเพื่อน “อะๆ ให้เวลาเล่นตัวอีกสักนิด แต่อย่าลืมที่พี่ลิตเคยบอก ทุกอย่างมีคำว่าสาย ท่องคำนี้เอาไว้จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น”
“อืม”
“จริงสิ วันนี้จินอย่าลืมอบขนมนะ พรุ่งนี้มีคนมารับเค้กวันเกิดสองก้อน”
“ไม่ลืมครับ ผมเตรียมอุปกรณ์ไว้หมดแล้ว”
“งั้นก็พาคุณรามิลไปเป็นผู้ช่วย หน้าร้านจะได้สงบๆ เดี๋ยวพี่กับศีลช่วยกันดูเอง”
“ดีเลย” ศีลเห็นด้วยกับเจ้านาย “มีอะไรจะได้คุยกันเสียที”
“แต่ต้องคุยกันดีๆ นะเว้ย ไม่มีเค้กส่งลูกค้าเอาไปปาหน้าคุณรามิลหมดไม่ได้นะ”
จินหัวเราะขำเจ้านาย ไม่ว่ามีปัญหาแค่ไหน ขอแค่มีสองคนนี้อยู่ก็ทำให้เขาสบายใจได้เสมอ
“สัญญาครับพี่ลิต รับรองว่ามีเค้กส่งลูกค้าแน่นอน”
• • • • • • • •
“ทำได้แน่นะครับ”
จินมองอาการเก้ๆ กังๆ ของรามิลแล้วชักกลัวว่าจะทำเค้กของลูกค้าพังขึ้นมาจริงๆ
“สบายมาก” รามิลจับที่ตีไข่ขึ้นมาถือ จินให้เขาช่วยคนส่วนผสมให้เข้ากัน
“ตะล่อมเบาๆ นะครับ หมุนมือไปทางเดียวกัน” จินสำทับอีกครั้งให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะทำได้ถูกต้อง เขาแอบยิ้ม เมื่อเห็นสีหน้าลังเลไม่แน่ใจของรามิล เจ้าตัวจดๆ จ้องๆ ไม่ยอมทำเสียที
“มานี่ครับผมทำให้ดู”
จินรับที่ตีไข่มาจากรามิล ลงมือทำให้อีกฝ่ายดูว่าต้องทำอย่างไร “เห็นไหมครับไม่ยากเลย”
จินเงยหน้าขึ้นมองลูกศิษย์เพราะเห็นเงียบไป “โอ๊ะ” นิ้วของรามิลแตะแป้งลงบนปลายจมูกของเขา เจ้าตัวยิ้มพอใจที่แกล้งเขาได้
“คุณรามิล~ ทำเลยครับผมไม่ช่วยแล้ว”
“ครับผม”
แม้อีกฝ่ายจะพยายามทำเลียนแบบเขาให้ดีที่สุด แต่แป้งก็ยังกระเด็นขึ้นมาเปื้อนเสื้อผ้า
“ใส่ผ้ากันเปื้อนก่อนครับ” จินหยิบผ้ากันเปื้อนส่งให้รามิล
“ใส่ให้พี่หน่อย” คนพูดยกมือที่ถือที่ตีไข่ขึ้น อีกมือเลอะแป้ง จินจึงจำเป็นต้องใส่ให้ตามที่ขอ เขาคล้องผ้ากันเปื้อนเข้ากับคอของรามิล อีกฝ่ายไม่ยอมหันหลังมาให้ จินจึงต้องสอดมือเข้าไปผูกเชือกที่เอวแทน ใบหน้าของเขาแนบอยู่ใกล้กับอกของรามิลได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายเต้น จินผูกเชือกลวกๆ รีบขยับตัวออกห่าง เพราะหัวใจของเขากำลังเต้นเร็วกว่าอีกฝ่าย
รามิลส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้แต่จินทำหน้านิ่ง เขาหยิบสตรอว์เบอร์รี่สดที่ล้างเตรียมไว้มาเด็ดก้านออก พยายามสนใจงานตรงหน้า ไม่ยอมหันไปมองอีกฝ่ายอีก
“โอ๊ะ!”
จินต้องเตือนตัวเองว่าอย่าสนใจเสียงร้องของรามิล
“ชิด!”
ปล่อยไป
“จินครับ พี่ทำมันหก” เสียงพูดออดอ้อนจนจินอดยิ้มไม่ได้ เขาเงยหน้าขึ้นมองด้วยใบหน้าที่พยายามทำให้ดูดุมากที่สุด
“ผมบอกแล้วใช่ไหมครับว่าให้ระวัง”
“พี่ระวังแล้ว” คนพูดทำตาซื่อใส่เขา “มันหกของมันเอง”
จินต้องกัดริมฝีปากเพื่อไม่ให้ปล่อยเสียงหัวเราะออกมา
“ไม่ทำมันจะหกเหรอครับ มันจะหกเองได้ยังไง”
“พี่ก็ไม่รู้” คำตอบกำปั้นทุบดินนั้นทำให้จินหัวเราะออกมาจนได้ ดวงตาของรามิลเป็นประกาย
“พอเลยครับ ไปล้างมือแล้วมาทำแทนผม คราวนี้ถ้าพังอีกผมจะไล่ให้ออกไปอยู่ข้างนอก”
“ครับ ครับผม” เสียงตอบรับแข็งขัน ก่อนเสียงบ่นเบาๆ จะลอยตามมา “เฮ้อ สงสัยกลายเป็นพวกกลัวเมียรามิลเอ๊ย”
“พูดอะไรนะครับ!” จินได้ยินเสียงแว่วๆ มันเบามากจนเขาไม่แน่ใจว่าเขาได้ยินถูกต้องหรือเปล่า
“อะไรครับ” คนพูดหันมาทำตาใสใส่เขา ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ทำแบบนี้ไม่เข้ากันเลยจริงๆ
“ช่างเถอะครับ รีบมาทำให้เสร็จ”
จินทำเป็นไม่สนใจ แต่หัวใจของเขากำลังเต้นแรง เมื่อกี้เขาได้ยินผิดไปหรือเปล่า หรือว่ามันคือคำๆ นั้นจริงๆ
“วันเกิดพี่ จินทำให้บ้างสิ” รามิลมองเค้กที่จินกำลังแต่งหน้าด้วยผลไม้ให้สวยงาม
“สั่งมาสิครับ ที่ร้านรับทำอยู่แล้ว”
“เฮ้อ ใครเขาหมายถึงอย่างนั้น”
“ก็เหมือนกันแหละครับ ได้เค้กเหมือนกัน”
“จิน”
“ครับ” เสียงของรามิลจริงจังจนจินต้องเงยหน้าจากงานที่ทำขึ้นมอง
“จินคิดว่าเพราะอะไรพี่ถึงอยากให้จินทำให้ จินมองพี่ไม่ออกเหรอ”
จินชะงัก เขาไม่คิดว่าจู่ๆ รามิลจะถามออกมา เขาถอนใจออกมาเบาๆ จ้องตากับรามิลโดยไม่หลบ
“คุณรามิลก็รู้นี่ครับว่าผมเคยตาไม่ถึงมาแล้ว ผมเลยไม่กล้ามองอีก” จินส่งยิ้มให้รามิล เขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ
รามิลขยับเข้าไปใกล้จิน ดวงตาสองคู่ยังจับจ้องกันอยู่
“ถ้าอย่างนั้นจินก็ไม่ต้องเป็นคนมอง เพราะพี่จะบอกกับจินเอง และคราวนี้พี่จะยืนยันในคำพูดของพี่จนกว่าจินจะเชื่อ พี่รักจิน”
ดวงตาของจินเบิกกว้าง สิ่งที่ได้ยินเหนือความคาดคิดของเขา
รามิลมองคนตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนโยน เขายื่นมือไปจับมือของจินมากุมไว้ทั้งสองข้าง พูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง ช้าๆ และชัดเจน
“พี่รักจินครับ”
“ได้ยังไง” จินพูดเหมือนละเมอ เขาถามตัวเองมากกว่าถามรามิล
“พี่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็รักจินเข้าไปแล้ว”
“ผมเป็นผู้ชาย”
“เป็นผู้ชายพี่ก็รัก”
“ผมเป็นพนักงานร้านกาแฟ”
“ได้กินกาแฟอร่อยๆ ทั้งชีวิตก็ดีนะ”
“คุณรามิลเป็นถึงเจ้าของห้าง”
“จินอยากเป็นคนรักเจ้าของห้างไหม สนุกดีนะ”
“คุณรามิล~ผมจริงจังอยู่นะครับ” จินอดโวยไม่ได้ เมื่อเขาพูดจริงจังแต่อีกคนเอาแต่พูดให้เขาใจเต้นแรง
“พี่ก็พูดจริงจัง จริงจังที่สุดแล้ว ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครจริงจังมาก่อนในชีวิต”
“แปลว่าเคยพูดมาแล้วแต่แค่ไม่จริงจัง”
“นั่นไง มีคนหึงพี่”
“ผมไม่ได้หึง!” จินตาโตเมื่ออีกฝ่ายโมเมเข้าข้างตัวเอง
“งั้นจินก็หึงสิ พี่อยากให้จินหึงจะได้รู้ว่าจินรัก”
“ผมไม่ได้รัก!” จินอยากจะบ้าตาย เมื่ออีกฝ่ายแพรวพราวเหลือเกิน
“ไม่เป็นไร พี่จะทำให้จินรักพี่ให้ได้”
“มั่นใจเกินไปแล้วครับ”
“เปล่าพี่ไม่ได้มั่นใจ ยิ่งทำให้จินเสียใจพี่ก็ยิ่งไม่มั่นใจว่าจินจะยอมหันกลับมามองพี่อีกไหม พี่แค่มั่นใจว่าพี่จะใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อเปลี่ยนใจจินคนเดียว”
“คุณรามิล” จินเสียงอ่อน หัวใจของเขาอ่อนกว่าเสียงเป็นร้อยเท่า ความเสียใจความน้อยใจที่มีหายไปสิ้น
“จิน” รามิลกระจับมือที่จับไว้ “พี่รู้ว่าพี่ผิดมาก ที่ปล่อยให้จินเข้าใจผิดแบบนั้น แถมพูดจากำกวมทำให้จินคิดว่าจินเข้าใจถูกต้อง พี่ยอมรับว่าตอนนั้นพี่ไม่ทันคิดถึงใจของจิน แค่คิดว่ามันก็ขำดี” รามิลตัดสินใจพูดความจริงออกไป เขาคิดว่ามันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้จินยกโทษให้
“ทุกอย่างมันตามน้ำไปเรื่อยๆ พี่เริ่มชอบอยู่กับจิน ชอบที่จะได้คุยได้เจอกับจิน พอถึงจุดหนึ่งเรื่องมันก็เลยจุดที่จะยืนยันว่าจินเข้าใจผิดไปแล้ว พอมีความสุขเราก็ไม่อยากเสียมันไป เพราะแบบนั้นพี่ถึงไม่เคยบอกความจริงจินอีก แต่ไม่ใช่ว่าพี่ไม่คิด” รามิลหยุดหายใจ เขาสบตากับดวงตาของจิน
“พี่คิดจะบอกเพราะพี่รู้ตัวแล้วว่าพี่ชอบจินเกินกว่าเพื่อน พี่ชอบจินแบบคนรัก อยากคบกับจิน แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไป”
คงไม่มีใครเชื่อ ถ้าจินจะบอกว่าเขาตัดสินใจได้ทันทีเมื่อได้ยินประโยคนี้ จริงอยู่ที่คำง้องอนของรามิลทำให้เขาใจอ่อน แค่คำที่ทำให้เขาตัดสินใจได้ทันทีคือคำว่าสายเกินไป แม้แต่รามิลเองก็เจอกับคำๆ นี้ สายไปที่จะบอกความจริง แล้วเขาล่ะ อยากสายเกินไปอย่างนั้นหรือ
“จินให้โอกาสพี่ได้ไหม ยังไม่ต้องชอบพี่ก็ได้ ขอแค่ยอมกลับมาเป็นเหมือนเดิม นะครับ”
จินเม้มปากเข้าหากัน ในใจของเขาตอบตกลงแต่สิ่งที่พูดออกไปคือ “ขอคิดดูก่อนนะครับ”
“จิน” รามิลเสียงอ่อน แทบหมดแรง
“ทำให้ผมเห็นก่อนสิครับว่าคุณรามิลทำได้จริงอย่างที่พูด ถ้าแค่พูดแล้วผมเชื่อเลยผมก็ไม่ฉลาดสิครับ”
ดวงตาของรามิลเบิกกว้าง ริมฝีปากคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม หัวใจถูกเติมเต็มอีกครั้ง
“ตกลง พี่จะทำให้จินเชื่อเอง”
“เริ่มจากทำงานให้เสร็จก่อนดีไหมครับ ทำไมถนัดอู้จังเป็นถึงเจ้านาย”
“ก็พี่..”
“ยังจะเถียงอีกเหรอครับ”
“ครับ ไม่เถียงแล้วครับ” รามิลคอตก ก้มหน้าก้มตาทำงานจึงไม่เห็นรอยยิ้มตาวาวของจิน
ก็ถ้าจะเอาคนนี้ให้อยู่ เห็นทีว่าเขาก็คงต้องเล่นบทโหดแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ไม่เคยทำไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้เสียหน่อย
เหมือนกับที่ไม่เคยรัก เขาก็อยากลองดูสักครั้ง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป พยายามเข้านะครับคุณรามิล ผมรอเชียร์อยู่
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin