*..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3  (อ่าน 12564 ครั้ง)

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กลัวใจแม็คจริงๆ  :katai1:

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 6 คนที่ต้องการที่พึ่ง (2)












"หรือจริงอย่างที่เขาว่ากัน พอหมดช่วงโปรโมชั่น ความหวานชุ่มฉ่ำในความรักก็มลายหายไป"

 

     เนมนั่งครุ่นคิดขณะกำลังกินข้าว เพราะผ่านมาแล้วห้าวันที่เนมและแม็คขาดการติดต่อ จากจุดเริ่มต้นเพียงแค่แม็คบอกว่า พ่อและแม่ของแม็คจะมาหาที่บ้าน และทางครอบครัวยังไม่รู้เรื่องที่แม็คเป็นเกย์จึงอยากให้เนมกลับไปพักที่คอนโดตัวเองก่อน  ถ้าพ่อแม่ของแม็คกลับไปจะโทรบอกเนมอีกที

 

     เนมไม่ได้งี่เง่า งอแง เพราะเหตุผลก็มีน้ำหนักมากพอ แต่ที่ฉงนใจมากกว่า คือ แม็คส่งมาข้อความเดียวว่า

 

     'ผมยุ่งมาก ไว้จะติดต่อกลับไป

 

     รักนะ แม็ค..'


 

      หลังจากนั้น แม็คก็เงียบหายไป ไม่ส่งข้อความหรือติดต่อมาทางโทรศัพท์อีกเลย

 

      การอยู่ห่างจากแฟนรวมถึงไม่ได้พูดคุยกันตลอดห้าวันติดนั้น มันช่างทรมานเหลือเกิน

 

       เมื่อจู่ๆ แฟนตัวเองเงียบหายไปโดยไม่ได้เกิดจากการทะเลาะหรือผิดใจกันแต่อย่างใด คนที่สับสนกับชีวิตรักของตัวเอง ก็ตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาว่า

 

       ทำไม มีแฟนก็เหมือนไม่มีแฟน...

 

       ยามนี้ นายกันต์ธีร์จึงเซื่องซึมและรู้สึกเหงาอย่างน่าประหลาด

 

 

"เนมเป็นอะไร ทำไมหน้าเครียดๆ โดนพี่ตาดุมาหรอ?"


 

       พี่มิวหัวหน้าของเนมถามเมื่อเห็นรุ่นน้องดูไม่ยิ้มแย้ม

 

"เปล่าครับพี่ เครียดเรื่องอื่นน่ะ"

 

"แฟนหรอ?"


 

   

     เนมพยักหน้ารับ ฟากมิวก็คันปากอยากรู้ใจจะขาดว่าสรุปแล้วเนมมีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆหรือเปล่า?

 

     อยากฟังความจริงจากปากแต่เห็นสีหน้าของเนมแล้ว อย่าเพิ่งสอดรู้ สอดเห็นจะดีกว่า

 

 

"ครับ"

 

"ทะเลาะกันหรอ?"

 

   เนมส่ายหน้า และเงียบไปครู่หนึ่ง แต่เพราะเนมมีเรื่องอึดอัดใจและสงสัยเลยตัดสินใจถามความเห็นจากคนอื่นๆดูบ้างว่า เขามีมุมมองกับเรื่องนี้อย่างไรกันบ้าง

 

"พี่มิวเคยเหงาทั้งๆที่มีแฟนหรือเปล่าครับ?"


 

"บอกไม่ได้อะ ตอนนี้โสดอยู่"

 

    เนมชะงัก มองพี่มิวที่ดูทำหน้าไม่ถูก

 

"ขอโทษครับ ผมไม่รู้"

 

"ไม่เป็นไร แต่ถ้าถามความเห็นของพี่นะ พี่ว่าโสดแล้วเหงา มันเข้าใจได้อยู่ แต่มีแฟนแล้วเหงาพี่ว่าถึงเวลาที่ควรเปิดใจคุยกันแล้วล่ะ คงมีบางอย่างผิดปกติไป ไอ้นัทแกมีแฟน แกลองตอบน้องซิว่าเคยเหงาทั้งๆที่มีแฟนรึเปล่า?"

 

"โอ้ย!..น้องเนม พี่ไม่มีเวลาให้เหงาหรอกค่ะ หาเรื่องทะเลาะกันได้ทุกวี่ทุกวัน"

 

    เนมยิ้มขำที่พี่นัทพูดติดตลก ก่อนจะเอ่ยขอบคุณ

 

"ขอบคุณนะครับพี่ๆ"

 


     หญิงสาวสองคนไม่คิดเซ้าซี้ พอเนมถามจบก็จบกัน ฟากเนมเงียบและก้มหน้าก้มตากินข้าว โดยคิดตามสิ่งที่พี่มิวบอก

 

    ถ้ามีแฟนแล้วยังเหงา? แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติ..

 

     เนมถอนหายใจแล้วคิดว่า คงถึงเวลา ที่เนมต้องเปิดใจคุยกับแม็คและหาเวลามาปรับความเข้าใจกันให้ลงตัวสักที

 

    หลังจบอาหารมื้อกลางวัน เนมเดินเข้าออฟฟิสกับพวกพี่ๆ ในขณะที่ผ่านจุดประชาสัมพันธ์ ก็มีคนเรียกพี่มิว

 

"มิวๆ แผนกมิวน่ะ มีใครชื่อเนมหรือเปล่า? มีคนฝากของมาให้"



"นี่ไง เนม โอ้ยยยย แฟนให้หรอ? น่ารักน่ะเนี่ย"

 


    ใบหน้าแดงจัดทันที เมื่อรุ่นพี่แซวกับของที่มีคนฝากมาเป็นกล่องสีดำผูกโบว์ริบบิ้นสีขาวพร้อมช่อดอกกุหลาบสีแดงสด ที่แนบการ์ดไว้โดยระบุชื่อ ว่า เนม แต่ไม่ได้บอกว่าผู้ส่งเป็นใคร?

 

        เนมรับกล่องมาด้วยรอยยิ้มเขิน

 

 "หรือแม็คจะรู้ว่าน้อยใจ ถึงส่งของมาเซอร์ไพร์ส"

 

      คนที่ยังไม่เปิดกล่องก็คิดเป็นตุเป็นตะในใจว่าแฟนตัวเองซื้อให้แน่ๆ

 

       ในระหว่างเดินขึ้นบันได พี่มิวและพี่นัทแซวมาตลอดจนกระทั่งถึงโต๊ะทำงาน

 


      กลั้นยิ้มไว้เสียตั้งนาน พอหย่อนกายลงนั่ง คนได้รับของขวัญก็ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ ก่อนจะก้มหน้าสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากดอกกุหลาบ จากนั้น เนมค่อยๆเปิดกล่องของขวัญ เพียงเปิดฝากล่อง ใบหน้าที่กำลังปลื้มปริ่มกับดอกกุหลาบ และของขวัญก่อนหน้าแทบช็อค เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน เนมโยนกล่องของขวัญทิ้งลงพื้นทันที เมื่อเห็นหนูขาวถูกผ่าท้องจนไส้ไหลออกมา ในกล่องนั้นมีกระดาษสีขาวขนาดเอห้าที่เขียนข้อความด้วยประโยคเดียวกันราวกับก๊อปปี้ว่า



มึงต้องตาย...

มึงต้องตาย...

มึงต้องตาย...




      ข้อความข่มขู่ที่ไม่ได้เขียนด้วยปากกาหมึกซึมหรือปากกาลูกลื่น แต่เขียนด้วยเลือด สำหรับใครที่ตั้งใจส่งมาให้เสียขวัญ นั่นถือว่าทำสำเร็จ เมื่อคนรับหายใจหอบถี่ ใจเต้นตึกตัก สองมือกุมขมับด้วยความรู้สึกกลัวจับจิต



     รู้ถึงสัจธรรมว่า มีคนรัก...ย่อมมีคนเกลียด



     แต่ใครกันล่ะที่จะเกลียดเนม เพราะเนมไม่เคยสร้างศัตรูที่ไหน? หรือมีคนเกลียดเนมโดยที่เขาไม่รู้อย่างนั้นหรือ?



     ดวงตาคู่คมกวาดตามองทั่วแผนกว่ามีใครน่าสงสัยหรือมีพิรุธรึเปล่า? เนมไม่รู้เลยว่า ใครกันที่บ้าเล่นพิเรนทร์แบบนี้

   


     คิดจนปวดหัว ก่อนจะตั้งสติรีบคว้ากล่องนั้นไปทิ้งขยะ เมื่อกลิ่นเหม็นเน่าเริ่มโชยมา เนมวิ่งลงบันไดไปชั้นล่าง




"ขอโทษนะครับ ตอนมีคนเอาของขวัญมาให้ได้เห็นหน้ารึเปล่า?"
เนมถามพนักงานต้อนรับทันที



"จำไม่ได้หรอกค่ะ แต่เห็นใส่เสื้อวินมอเตอร์ไซต์มานะคะ"



"อ้อ ขอบคุณครับ"



    หลังจากทิ้งกล่องนั้นลงถังขยะ เนมยังคงตัวสั่นเทา เขาตัดสินใจโทรหาแม็ค



    คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าออฟฟิสกำลังร้อนใจ กัดเล็บ เดินวนไปวนมา



"โธ่เอ้ย  แม็ครับสิ"



    กว่าสิบครั้งที่กดโทรไปหาแฟนตัวเองแล้วไม่คิดจะรับสาย เนมเปลี่ยนใจกดโทรหาเพื่อนตัวเองแทน



"เมย์ คุยได้ไหม?"




[ได้นิดนึง ว่าไง?]



   เนมเริ่มเล่าเรื่องให้ฟังที่เกิดขึ้นก่อนหน้าด้วยความกลัวและหวาดระแวง



    คุยได้สักพักจนได้ข้อสรุปว่า เลิกงานแล้ว เมย์จะมาหาเนมที่ออฟฟิส



    ได้แต่เฝ้ารอให้ถึงหกโมงเย็นเร็วๆ เพราะเนมไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน จนได้เวลาเลิกงาน เมย์มาตามนัด และพาเนมไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ จากนั้น ทั้งสองก็แวะกินข้าวและกลับคอนโด



    หลังจากที่เนมเล่าให้ฟังจนหมดเปลือก เมย์ก็ปลอบใจเพื่อนตรงโถงทางเดินที่กำลังเดินไปห้องของเนม



"ใจเย็นๆนะเนม"



"จะพยายาม"



    เมื่อเพื่อนสนิททั้งสองคนเข้าห้องพักเป็นที่เรียบร้อย เมย์เหนื่อยและเหนียวตัวจึงขอเนมอาบน้ำก่อน ในระหว่างที่เมย์ผลุบหายเข้าห้องน้ำไปนั้น



    เสียงข้อความจากเครื่องมือสื่อสารของเนมก็ดังขึ้น เนมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เบิกตาโพลงด้วยความตกใจเป็นรอบที่สองของวัน เมื่อตัวอักษรที่ถูกพิมพ์มาจนเป็นรูปประโยคนั้น ส่งมาว่า



   ถ้าคิดแจ้งตำรวจอีกหน กูฆ่ามึงแน่...



     ใจสั่น เนมหายใจหอบถี่ เขากัดริมฝีปากที่สั่นระริก ก่อนจะทำใจกล้าโทรกลับไปยังเบอร์ที่ส่งข้อความมา แต่พอเนมโทรกลับไป ปลายสายกลับเข้าสู่บริการรับฝากข้อความ



    กดย้ำอยู่อย่างนั้น จนสักพักใหญ่ๆ ที่เมย์เดินออกมาเจอะสีหน้าเพื่อนคล้ายคนไม่สบาย จึงปีนไปนั่งบนเตียงข้างเพื่อน



"โอเคไหมแก?"



"เมย์มันส่งข้อความมาด้วย พอโทรกลับ ดันติดต่อไม่ได้"



   เนมยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนดูเป็นหลักฐาน พอเมย์เห็นก็ตกใจไม่ต่างกัน ไอ้โจรโรคจิตนี้ น่าจะเก็บข้อมูลจากตัวเนมมาเยอะพอสมควร เธอลูบหลัง ลูบไหล่เพื่อนให้สงบสติอารมณ์ เพราะตอนนี้ เนมดูลนลานอย่างเห็นได้ชัด



"เนมทำใจดีๆ ไม่มีใครทำอะไรแกได้หรอกนะ เชื่อฉันนะ"



    ในขณะที่หญิงสาวกำลังปลอบใจเพื่อนอยู่ ไม่นานนัก โทรศัพท์ของเมย์ก็ดังขึ้นมาบ้าง เธอลุกจากเตียงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋า



"ฮัลโหล" ... / ... "โธ่ ตัวเองจะมาหึงอะไรเค้าเนี่ย? เนมมันชอบผู้ชาย มันไม่ชอบผู้หญิงหรอก"... /... โอ้ย! ตัวเอง ไว้ใจได้สิ เนมเป็นเพื่อนกับเค้ามาจะสิบปีแล้ว เนมไม่ทำอะไรเค้าหรอกน่า ตัวเองมานอนด้วยกันไหมล่ะ" ... /... นี่ปอนด์ ถ้าจะมาโกรธเรื่องที่เค้ามานอนกับเพื่อนแค่นี้ ก็ไม่ต้องมาคุยกันเลยนะ จบ.../...




    แต่ละประโยคที่เนมได้ฟังจากปากของเมย์ แม้จะได้ยินแค่เพียงฝั่งเดียว ก็พอคาดเดาได้ว่า เธอและแฟนกำลังทะเลาะกันอยู่



    รู้สึกละอายใจที่เป็นต้นเหตุให้ทั้งสองต้องมีปัญหากัน มองคนที่วางสายกับแฟนและบ่นเป็นหมีกินผึ้ง



"เบื่อปอนด์ว่ะ งอนอะไรไม่เข้าเรื่อง มาว่าฉันว่านอนกับผู้ชายสองคนแบบนี้ได้ไง ไม่น่าไว้ใจ บอกกลัวแกจะทำอะไรฉัน โอ้ยอยากจะบ้า ฉันรู้ดีไงว่า แกไม่สนชะนีอย่างฉันหรอก เฮ้อ..."



      เนมเพิ่งมาคิดได้ว่า เขานั่นแหละที่เห็นแก่ตัว พาเมย์มาลำบากทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องของเมย์ด้วยซ้ำ

 

"ที่ปอนด์พูดก็ถูก ยังไงเราก็เป็นผู้ชายและเราก็มีทุกอย่างเหมือนที่ผู้ชายคนอื่นๆมี ปอนด์คงไม่ไว้ใจ เมย์กลับไปเถอะ"



"ไม่เอา ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแก อย่ามาคิดมากเรื่องฉันเลย เรื่องแกก็หนักพออยู่แล้ว"





"ถ้าอยากให้เราสบายใจ เมย์นั้นแหละควรกลับไปหาปอนด์ เดี๋ยวเราไปส่งข้างล่าง"
เนมลุกพรวดแล้วลากแขนเพื่อนที่นั่งอยู่ปลายเตียงให้ลุกตาม



"แล้วแกอยู่คนเดียวได้หรอ?"



"ได้ดิ"



"แต่ฉันเป็นห่วงแกว่ะ"




"ก็แค่ข้อความข่มขู่ เราคงวิตกจริตไปเอง กลับเถอะเมย์ ขอบใจมากที่เป็นห่วง"



"แน่ใจนะ?"




"อืม"



"ถ้างั้นแกไม่ต้องไปส่งหรอกเนม เดี๋ยวฉันรอจังหวะให้คนมาเปิดประตูแล้วเดินออกไปเองแหละ"



"ไม่เป็นไร"



"อย่าให้ฉันโมโหสิ ฟังฉันนะ แกน่ะ อยู่ในห้องนี่แหละ อย่าออกไปไหน? เข้าใจไหม?"



"อื้ม ก็ได้ ขอบใจ"



      เมื่อเพื่อนเดินพ้นลานสายตา คนที่แสร้งทำตัวปกติอยู่นาน ก็หลุดอาการหวาดระแวงออกมา  เนมกำลังสติหลุด เพราะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน เขากลัวและวิตกกังวล เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมโดยที่มือก็กำโทรศัพท์พลางแนบหูเพราะกำลังโทรออกหาแม็คอยู่หลายรอบ



      ยามนี้ คนที่ต้องการที่พึ่งทางใจ กำลังโมโหที่ติดต่อแฟนไม่ได้ เนมร้อนใจ ปาโทรศัพท์ลงกับเตียง ทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงยกสองมือถูหน้าแรงๆ ก่อนจะขยี้ผมจนยุ่งเหยิง



      ยอมรับว่ากลัว ระแวง และเริ่มจะประสาทเสีย เพราะเนมไม่เคยเจอโจรโรคจิตเช่นนี้ เนมพยายามตั้งสติ หลับตาพร้อมสูดลมหายใจเข้า-ออกช้าๆ เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง กดเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์ เลื่อนหาชื่อของใครบางคน



    เปิดค้างหน้าต่างข้อความนั้นอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะตัดสินใจส่งข้อความไปหา



Read

21.02

พี่ตูน ทำอะไรอยู่หรอ?




Read

21.07

เพิ่งจอดรถ กำลังเข้าบ้าน



Read

21.09

พี่ตูน แม็คอยู่กับพี่ไหม?




Read

21.10

ไม่ได้อยู่ มีอะไรหรือเปล่า?



Read

21.11

โทรหาแม็ค แล้วไม่ยอมรับเลย






Read

21.12

อืม



    เนมอยากระบายเรื่องน่ากลัวนี้ให้พี่ตูนได้รับฟัง เพราะเนมไม่ไหวแล้ว เขาตัดสินใจส่งภาพที่เป็นหลักฐานการโดนข่มขู่ให้พี่ตูนได้ดู





    พี่ตูนอ่านข้อความแล้ว แต่ยังไม่ตอบกลับ..



     นั่งจดจ่อรอข้อความตอบกลับของพี่เนม จนกระทั่ง...





Read

21.14

ให้ไปหาไหม?



     น้ำตาซึมทันทีที่เห็นข้อความ ไม่ได้คาดหวังว่าพี่ตูนจะตอบมาแบบนี้ อย่างมากที่นึกได้ พี่ตูนก็คงถามไถ่อย่างเป็นห่วงหรือตอบพอเป็นมารยาท แต่พอเห็นข้อความที่ส่งว่าจะมาหากัน มันเหนือความคาดหมายจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่



     ยังมีคนสนใจความเป็นไปของเนม มือสั่นๆกำลังกดข้อความไปหาอีกครั้ง



Read

21.16

ไม่ต้องมา แต่เป็นผมไปหาพี่ตอนนี้ได้ไหม?



Read

21.17

อืม จะมาก็มา จะรอ..



   ใบหน้าที่เครียดวิตกกังวลกำลังแต้มยิ้มอย่างคนรอดตาย



   เนมเจอคนที่พึ่งพาได้แล้ว...



   รีบตอบกลับว่าตกลง จากนั้น เนมลุกไปเก็บเสื้อผ้าหลายชุด เพื่อออกไปหาพี่ตูนอย่างไวที่สุด...





 

..........................................



สงสารเนมง่ะ :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-09-2018 22:44:00 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมรู้สึกว่า  คนส่งกล่องนั้นมา  น่าจะเป็นแม็คอ่ะ

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1

ตอนที่ 7 คนของเธอ








 แม้จะเดินทางมาถึงหน้าบ้านของพี่ตูน แต่อาการตระหนกและอาการขวัญเสียยังคงไม่จางหาย เนมลงจากแท็กซี่ก็พบเจ้าของบ้านยืนรอต้อนรับ

 

 

"โอเคไหม?"

 

    มองพี่ตูนด้วยแววตาหม่นๆพลางส่ายหน้า

 

    เนมเริ่มรู้สึกเกรงใจ เพราะพักหลังๆมานี้ ยามใดที่มีปัญหา เนมก็มักพึ่งพาพี่ตูนไปซะทุกครั้ง

 

 

     เป็นความโชคดีของเขาที่นอกจากจะได้แม็คเป็นแฟน ยังพ่วงเพื่อนแฟนที่นิสัยดีและไว้ใจเพิ่มมาอีกด้วย

   

 

     ตูนเบี่ยงตัวหลบให้คนที่แบกกระเป๋าถือใบใหญ่เข้าบ้านไปก่อน

 

 

"ผมขอโทษที่มากวนดึกๆดื่นๆ"

 

"ไม่เป็นไร แล้วอาบน้ำรึยัง?"

 

    เนมส่ายหน้า

 

"ไปอาบน้ำก่อนไป"

 

"ครับ"


 

   เข้ามาในห้องนอนพี่ตูน เนมวางกระเป๋าลงที่พื้นชิดตู้เสื้อผ้า รูดซิปกระเป๋าหยิบเสื้อผ้าออกมา

 

"อ่อ...พี่ตูน เสื้อผ้าที่ผมใส่ของพี่เมื่อคราวก่อน ผมซักแล้วนะแต่ลืมหยิบมา"

 

"ไม่ต้องคืนหรอก เอาไปเหอะ"

 

"อ่อ ขอบคุณครับ"


 

   ได้เสื้อผ้าที่จะใส่นอนคืนนี้และผ้าขนหนูก็ตรงดิ่งไปเข้าห้องน้ำ

 

    สักพักใหญ่ๆ เนมเดินกลับเข้ามาในห้องด้วยสภาพที่ชำระร่างกายจนสะอาดสอ้าน

 

"เมื้อกี้โทรศัพท์ดัง"


 

     เพียงพี่ตูนบอก เนมเปลี่ยนจุดหมายจากเตียงนอน ไปดูเครื่องมือสื่อสารที่วางตรงโต๊ะหน้ากระจก พอรู้ว่าเป็นเบอร์คนรัก เนมรีบโทรกลับไป

 

 

[เนม ผมขอโทษ]  รู้ดีว่าผิดจึงรีบเอ่ยคำขอโทษหวังให้เนมหายโกรธเคืองกัน

 

"ทำไมเงียบหายไป โทรไปเป็นร้อยสายก็ไม่รับ แม็ค เราถามจริงเถอะ เรายังเป็นแฟนกันอยู่ไหม? แม็คยังรักเราอยู่ไหม? ฮืออออ"


 

 

    ความอัดอัดตั้นใจที่เก็บไว้มันระเบิด เนมพรั่งพรูความรู้สึกออกมาจนหมดพร้อมกับหลั่งน้ำตา

 

[ทำไมเนมพูดแบบนั้น ผมรักเนมนะ เนมอย่าเพิ่งโวยวาย ไหนลองเล่าซิเกิดอะไรขึ้น?]


 

     คนกลางอย่างตูนที่นั่งพิงพนักเตียงกำลังทำตัวไม่ถูก เมื่อต้องมาฟังคู่รักที่มีปากเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ฟังคนพูดตัดพ้อแฟนด้วยเสียงสั่นเครือ คนได้ยินก็สงสารจับใจ

 

 

"ฮึกฮืออออ แม็ค รู้ไหม? วันนี้ เราเจออะไร? เราเจอโรคจิตส่งของมาขู่จะฆ่า ในวันที่เราต้องการแม็ค แม็คอยู่ไหน?..ฮือออ"

 


[เนมใจเย็นๆตอนนี้อยู่ไหน?]

 

"อยู่บ้านพี่..."
เกือบหลุดพูด แต่นึกขึ้นได้ ว่าคราวก่อน ที่เนมและแม็คทะเลาะกันรุนแรง ทั้งหมด ทั้งมวลนั่นมาจาก เรื่องของพี่ตูน เนมจำต้องโกหกคำโต เพราะไม่อยากมีปัญหา

 

"เราอยู่ห้องแล้ว"


 

[พรุ่งนี้ ผมพอมีเวลาช่วงเที่ยง เดี๋ยวแวบไปหา ผมต้องรีบวางแล้ว แค่นี้ก่อน เจอกันพรุ่งนี้] แม็คลดเสียงพูดลงแล้วตัดสายโดยไม่คิดฟังเนมตอบรับ

 

"....."

 

   จบการสนทนา วางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างกายและยกมือปิดหน้าร้องไห้ คนที่เฝ้ามองมาตลอด จึงเปลี่ยนตำแหน่ง ขยับตัวไปนั่งใกล้เนมพร้อมวางกล่องทิชชู คนที่ร้องไห้อยู่เงยหน้าหันไปหาพี่ตูนและทันใดนั้น...

 

ฟึ่บ

 

    สองแขนโอบรัดเอวพี่ตูนแน่นพลางซบบ่าร้องไห้  คนที่โดนกอดชะงัก ผลักเนมออกห่าง



     คนที่พยายามบอกตัวเองมาตลอดว่าควรมีระยะห่าง จึงตกใจที่เนมโผกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว ฟากคนที่โดนผลักกำลังเข้าใจผิดคิดว่าพี่ตูนคงรังเกียจ โค้มหัวจะขอโทษที่ล้ำเส้นพี่ตูนมากเกินไป แต่ในจังหวะนั้น การ์ตูนดึงร่างเนมมากอดกระชับอีกครั้ง

 

    มือหนาลูบไหล่ ในขณะที่อีกมือก็ลูบเรือนผมแผ่วเบา หวังช่วยให้ความเศร้า ความเสียใจที่แผ่กระจายทั่วบริเวณตอนนี้ได้จางหายไปบ้างไม่มากก็น้อย

 


"ถ้าคิดว่ากอดแล้วสบายใจขึ้น จะกอดนานเท่าไหร่ก็ได้"

 

    ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้ จึงตอบรับ ด้วยการกระชับกอดแน่นขึ้นและแน่นขึ้น

 

     คนที่นั่งเป็นหลักให้คนอ่อนไหวได้พึ่งพิง ยังคงลูบหลัง ลูบหัวปลอบประโลม

 


     ในระหว่างที่ปลอบใจ ใบหน้าหล่อเซอร์กดลงต่ำจนริมฝีปากสัมผัสลงบนเส้นผมของอีกฝ่าย ตูนจุดรอยยิ้มบางเบา กดริมฝีปากให้จมลงกลางกลุ่มผมกว่าเก่า ปลายจมูกก็สูดดมความหอมสดชื่นจากกลิ่นของยาสระผม

 

      แต่แล้วจู่ๆ ตูนผละออก เบนหน้าหนีไปทางอื่น เมื่อรู้ตัวเองว่า กำลังปล่อยให้ปีศาจครอบงำ ทำไม เขาถึงชั่วได้ขนาดนี้ ที่นึกฉวยโอกาสสัมผัสอีกฝ่าย ในขณะที่เนมยังมีเรื่องทุกข์ใจอยู่


 

"พี่ตูน แม็คไม่เหมือนเดิม แม็คมีคนอื่นแล้วใช่ไหม? ฮืออ" 
คนที่ยังเครียดก็ระบายออกมาอย่างเหลืออด

 

     ตูนหยุดการแตะต้องตัวเนม วงแขนที่กระชับกอดกลับก่อนหน้าก็คลายออกแล้วปล่อยวางข้างลำตัว

 

"พี่เชื่อว่าแม็คไม่มีคนอื่น"

 

"ผมจะเชื่อได้จริงๆหรอ?"

 

"พี่ไม่โกหกหรอก"

 

     ผละมามองพี่ตูนที่ตอบด้วยรอยยิ้มละมุน

 

"พี่ตูน ถ้าผมจะรบกวนนอนค้างที่นี่สักสองสามวันได้ไหม?"

 

"จะนอนไปตลอดก็ไม่มีใครว่า
"


 

    แน่นอนว่าคนบอก กับคนได้ยิน ตีความหมายต่างกัน สำหรับตูนแล้ว การพูดแบบนั้น เขาซ่อนความหมายของความต้องการส่วนตัวที่แท้จริงเอาไว้  ซึ่งตูนรู้ดีว่าเนมก็ซื่อจนดูไม่ออกหรอกว่า ตูนหมายถึงอะไร?

 

      ดีแล้วที่เนมไม่รู้ ตูนจะได้ระบายความรู้สึกสอดแทรกออกไปโดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิด ใบหน้าคมคาย ค่อยๆผุดรอยยิ้ม เมื่อเห็นดวงตาที่เคลือบความเศร้าสลดตอนแรก แทนที่ด้วยความหวังและความสุข 


 

"จริงนะ"

 

"พูดเล่น"


 

    คนที่รู้ว่าพี่ตูนคงเล่นมุกเพื่อต้องการหยุดความอึมครึม เนมจึงไม่ตอบแต่ส่งยิ้มอ่อน

 

     ตูนยิ้มที่เห็นเนมมีสีหน้าที่ดีขึ้น



"เรื่องแม็ค ก็อย่าคิดให้มันมากนัก ปล่อยวางบ้าง เป็นแฟนกันจะหวังแต่ความสุขอย่างเดียวคงไม่มีทาง มันต้องมีทะเลาะกันบ้าง"

 


"...."

 

"ตอนนี้ เนมยังรักแม็คเหมือนเดิมไม่มีลดลงเลยใช่ไหม?"

 

"ใช่ครับ"

 

    ถามให้เจ็บทำไม? คำตอบที่หนักแน่น ทำตูนชะงักไปนิดก่อนแต้มยิ้ม

 

"ถ้ารักก็ควรเข้าใจและลองให้โอกาสแม็คได้แก้ตัวแล้วกัน นอนเถอะ ง่วง"

 

"เดี๋ยวก่อน เรื่องที่ผมมานอนกับพี่ตูน พี่อย่าบอกแม็คนะ ผมไม่อยากให้แม็คหึงผมเรื่องพี่อีก"

 

    คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน คำพูดที่เนมบอกเช่นนั้น นั่นหมายความว่า เนมกับแม็ค เคยทะเลาะกันเรื่องของเขาแล้วอย่างงั้นหรือ?

 

"อืม"


 

    รับคำ จากนั้นไม่ถึงนาที ไฟในห้องก็ดับลง พร้อมกับร่างของชายหนุ่มสองคนที่นอนอยู่บนเตียงเตรียมเข้าสู่ห้วงนิทรา



 

 

.................

 

 

  และแล้วคนที่บอกว่าจะมา ก็มาตามนัดหมาย...

 

  ถึงช่วงเวลาพักเที่ยง เนมเดินไปหาแม็คที่จอดรถรอเยื้องบริษัทไปไม่ไกล

 

    เพียงสอดตัวเข้ามาในรถ เนมยังไม่มีโอกาสได้พูดต่อว่าอะไร แม็คก็ดึงตัวเนมเข้าไปหอมแก้ม

 

"ผมขอโทษ อย่างอนผมเลยนะ"

 

"....."

 

"เนมมีผมอยู่ไม่ต้องกลัวนะ เพียงแต่ช่วงนี้ ผมยุ่งและมีธุระสำคัญที่ต้องทำกับพ่อ รออีกนิด ผมจะพาเนมกลับมาอยู่ด้วยกัน"

 

"แม็คมีคนอื่นรึเปล่า?"
ดันตัวออกห่างจากแม็ค และถามคำถามจริงจัง

 

     เนมเห็นแม็คเงียบ ก้มหน้า

 

     มองคนที่ไม่ว่าจะทำร้ายเนมรุนแรงแค่ไหน?  เนมก็ยังหลงรักผู้ชายคนนี้

 

     หรือเนมกำลังหลงเสน่ห์ในหน้ากากของผู้ชายขาวตี๋คนนี้ที่มีหลากอารมณ์ ใบหน้าอันน่าดึงดูดให้ตกหลุมรักได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า


     ยามอารมณ์ดี ใบหน้าตี๋ช่างดูน่ารัก เหมือนเด็กขี้เล่น ทะเล้น น่าเอ็นดู ยามมีเซ็กซ์กัน ใบหน้าตี๋ก็ฉายความดิบเถื่อนและแบดบอยออกมา ใบหน้าที่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีและลึกซึ้งจนรู้สึกว่า ยิ่งได้มอง ก็ยิ่งหลงใหล


     เช่นเดียวกับยามนี้ ใบหน้าหล่อตี๋ตีหน้าเรียบนิ่ง ทั้งยังสบตาเนมด้วยแววตาที่เฉยจนอ่านไม่ออก ยิ่งทำให้เนมอยากค้นหาว่าแม็คกำลังคิดอะไร?

 


"ผมแค่ยุ่งจนไม่มีเวลา แต่ผมไม่มีใคร?"

 


     แม็คไม่ได้แอบคบใครตามที่เนมกล่าวหา เพราะช่วงนี้ แม็คมีอะไรหลายอย่างให้ต้องทำมากกว่าจะไปสนใจหาใครคนอื่น อีกอย่าง แค่มีเนม แม็คว่ามันก็มีอะไรให้เล่นด้วยอีกตั้งเยอะ...

 


"แน่ใจนะ?"

 

"อืมแน่ใจ ไปกินข้าวเถอะ ผมมีเวลาน้อย"

 

 
   หลังจากนั้นแม็คและเนมเดินทางไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันที่ร้านอาหารปักษ์ใต้ไม่ไกลจากที่ทำงาน ทั้งคู่มีเวลาพูดคุยกันไม่มาก ต้องรีบกิน รีบกลับ เนื่องจากแม็คบอกว่า เวลานัดทำธุระกับพ่อต้องบ่าย ถูกเลื่อนมาเร็วกว่าที่นัดไว้ เมื่อจัดการอาหารกันเสร็จ แม็คจึงรีบมาส่งเนม และเคลื่อนรถออกไป โดยทิ้งคำพูดให้แฟนตัวเองได้ชื่นใจว่า...จะดูแลเนมให้ดีที่สุด...

 


    คนที่ได้กำลังใจมาจากการป้อนคำหวานของแฟนก็ยิ้มกว้างเดินเข้ามาในตัวบริษัท ผ่านตรงจุดประชาสัมพันธ์ พนักงานสาวก็เรียกและชี้ไปที่กล่องแบบเดิม สีเดิม พร้อมช่อกุหลาบเหมือนเมื่อวานเป๊ะ

 

    มันต้องการอะไรจากเนมอีก? คราวนี้ เนมไม่คิดจะเปิดอ่าน เขารับกล่องนั้นมาไปทิ้งที่ถังขยะใหญ่หน้าบริษัทและกดโทรหาแม็ค

 


"แม็คมันส่งมาอีกแล้ว"

 

[จริงหรอ? เนมถ่ายรูปทุกอย่างที่มันส่งมารวบรวมและเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนนะ]

 


"แม็ค เราหลอนจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานแล้ว"

 


[เนมอย่าลน ตั้งสติและพยายามอยู่ในกลุ่มคนพลุกพล่านนะ ผมต้องวางสายแล้ว]
 

"แม็ค เราอยากอยู่กับแม็ค"


 

[ไม่ได้จริงๆ เนมครับ ผมวางก่อนนะ พ่อโทรมา]

 

"อืม"

 

   
     ยังคงหวาดกลัวไม่หาย เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เลยกลายเป็นคนขี้ขลาด ขาดสติไปในทันที เนมพยายามนิ่ง หยุดคิดฟุ้งซ่านและคุยกับตัวเองในใจ ใช้เวลานาน จนได้คำตอบว่า เนมต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้และไม่ควรเอาแต่พึ่งคนอื่นจนมากเกินไป

 

   ถึงเวลาที่เนมควรกล้ากว่านี้ ถ้าอะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยมันไป...



      ถ้าจะตาย มันก็คงต้องตาย...

 

    ยามนี้ คนที่คิดมากจนปลงตกในชีวิต เดินกลับเข้าออฟฟิสเพื่อไปทำงานต่อกับครึ่งวันที่เหลือ

 


     ผ่านพ้นไปด้วยความไม่ดี เพราะเป็นการทำงานที่แทบไม่มีสติหลงเหลือ เนมนั่งฟังการประชุมของระดับหัวหน้าแทบไม่รู้เรื่องว่าเขาพูดและสรุปถึงเรื่องอะไรกันไปบ้าง

 

    ไม่คิดว่า ข้อความข่มขู่ที่ดูเหมือนไร้สาระ จะกลับส่งผลร้ายให้เนมเกิดอาการหลอนประสาท จนไม่หยุดคิดเรื่องนี้



 

     คนที่กำลังเดินออกจากออฟฟิส พยายามสลัดความคิดนั้นทิ้งไป แล้วกดโทรออกหาพี่ตูน


"พี่ตูน ผมเลิกงานแล้ว พี่ถึงบ้านแล้วใช่ไหม?"
โทรถามเพื่อความชัดเจนจะได้ไม่เสียเวลา หากเนมไปถึงแล้วพี่ตูนยังไม่กลับ เขาคงนั่งรอพี่ตูนจนยุงกัดตายหน้าบ้านแน่ๆ

 

"ยังเลย พี่ก็ลืมให้กุญแจบ้านพี่กับเนมไว้ มาหาพี่ที่ออฟฟิสก่อนได้ไหม? พี่มีประชุมด่วนตอนหนึ่งทุ่ม"

 

"ได้ครับ"

 

 
   ตูนบอกตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท จากนั้น เนมโบกแท็กซี่ไปยังเป้าหมายที่พี่ตูนบอกทันที

 

     ใช้เวลานานกว่าปกติกว่าจะเดินทางมาถึงตึกสูงใหญ่ คนที่เดินทางมาถึงกำลังแลกบัตรประชาชนเพื่อเข้าตัวตึก

 

    ถึงชั้นที่หมาย ชายหนุ่มเดินออกมาจากโถงลิฟต์ เลี้ยวซ้ายก็พบชื่อบริษัทตัวใหญ่แปะไว้ตรงทางเข้าประตูกระจกใส ใกล้กัน เนมเห็นปุ่มสีเงินเล็กๆ ใต้ปุ่มนั้นมีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ 'สำหรับบุคคลภายนอก กรุณากดกริ่ง'

 

      ทำตามข้อความ ยืนรอไม่นาน  ก็มีหญิงสาวหน้าตาน่ารักเดินมาเปิดประตู

 

"ผมมาหาพี่ตูนครับ"

 

"อ้อ.. นั่งรอสักครู่นะคะ คุณชานนท์ประชุมอยู่ค่ะ"

 

"ขอบคุณครับ"

 

         คนที่กำลังเดินตามพนักงานสาวไปจุดที่รับรองแขกก็สวนกับผู้ชายคนหนึ่งตรงประตูกระจกใสด้านใน เพราะไม่รู้จัก จึงเดินผ่านโดยไม่ได้สนใจ แต่คำที่อีกฝ่ายหลุดออกมานั่นต่างหากที่ทำให้เนมสนใจจนชะงักเท้าและหันไป

 

"เนม?"

 

       มั่นใจว่า เนมไม่เคยเจอผู้ชายคนนี้มาก่อน ชายหนุ่มที่ดูอายุน่าจะราวสามสิบปลายๆใกล้แตะเลขสี่ที่กำลังเรียกชื่อเนมด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่แน่ใจ



      หรือ เขาคนนี้ คือ พี่ชายของพี่ตูน



"ใช่เนม คนเดียวกับที่ไอ้หมีบอกว่าจะมาหาหรือเปล่า?"



         สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามถามกลับตกเป็นรองทันที เพราะมันมีสิ่งที่เนมสนใจมากกว่านั้น

 

"ใช่ครับ ผมชื่อเนม แต่ทำไมพี่เรียกพี่ตูนแบบนั้นล่ะครับ"

 

"เรียกมาตั้งแต่เด็ก"

 

   เนมยืนนิ่ง แค่คำ ว่า 'หมี' คำเดียว ความทรงจำในวัยเด็กของเขาก็วิ่งแล่น แย่งกันผุดเหตุการณ์ในอดีตราวกับต้องการจะอวดโชว์ความสามารถที่สมองยังคงจดจำสิ่งเหล่านั้นได้ นาทีนี้ หลากเรื่องราวถูกทับซ้อน ตีกันมั่วไปหมด

 

    ยืนนิ่งอยู่นาน จนคัดเรื่องที่พอจะนำมาปะติดปะต่อได้



    พี่ตูนเกิดวันเดียวกันกับเขาและพี่ตูนมีฉายาว่า 'หมี'

 

      ทำไมก่อนหน้านี้ เนมถึงไม่เอะใจ คนที่ยังไม่ชัวร์ในความคิดของตัวเอง จึงถามอีกครั้ง


"พี่ คือ พี่โตหรอครับ?"

 

"อืมใช่"


 

    เบิกตาโพลงอย่างตกใจ ไม่คิดว่า...พี่ตูน...จะเป็นคนเดียวกับ...พี่หมี...พี่ชายที่เนมแสนรัก แสนหวงและเป็นเพื่อนคนเดียวที่ยอมเล่นด้วยกับเนมในวัยเด็ก...

 


****1.1****


เคยมีโอกาสได้พบเจอคนใกล้ตัวที่มีแฟนคนเดียว ไม่นอกใจ ไม่มีใครจริงๆแต่ท่าทางและอาการดูมีพิรุธ และก็เคยเจอคนที่ทำตัวไม่มีพิรุธแต่แอบมีกิ๊กเพียบ ก็แปลกดีเนอะ (ฮ่าๆๆ)..
  :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

     

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

สำหรับแม็ค  เนมคือของเล่นชิ้นใหม่  ของเล่นที่ตอบสนองความสุขทางอารมณ์

แม็คนี่อาจเข้าข่ายโรคจิตหว่ะ

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 7 คนของเธอ (2)







"มาแล้วหรอ?"

 

   คนที่ปล่อยให้ทุกคนพักเบรคระหว่างการประชุมเดินออกมากำลังจะไปเข้าห้องน้ำ กลับชะงักเมื่อเห็นพี่ชายตัวเองยืนคุยกับเนมอยู่

 

    ไม่คิดว่าเนมจะถึงออฟฟิศแล้ว เพราะเห็นเนมไม่โทรหรือส่งข้อความมาบอกก่อน

 

"มาตั้งแต่เมื่อไหร่?"

 

"ทำไมพี่ไม่บอกผม พี่จำได้มานานแล้วใช่ไหมว่าผมคือใคร? พี่หมี"

 

     เรื่องที่มาตอนไหน? มันไม่มีความสำคัญต้องตอบเท่ากับสิ่งที่เนมอยากรู้ในตอนนี้ เพราะการที่ได้รู้ว่าพี่ตูน คือ พี่หมี มันเป็นข่าวดีที่ช่วยกลบความหวาดวิตกจากเรื่องคนโรคจิตที่ส่งของมาข่มขู่และสร้างความปั่นป่วนในจิตใจก่อนหน้าได้

 

     การได้กลับมาโคจรพบกันอีกครั้งกับเพื่อนบ้านสมัยยังเด็ก มันช่วยทำให้เนมลืมเรื่องขนหัวลุกได้เป็นปลิดทิ้ง

 

    หันขวับไปมองพี่ชายตัวเองยักไหล่ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

 

     รู้ตัวเองว่าอาจมีผลเสียตามมา จึงพยายามเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่ให้เนมรู้ แต่ก็ไม่คิดหรอกว่าพี่ชายจะกวนประสาทด้วยการบอกความจริงกับเด็กข้างบ้าน ยืนนิ่งพลันเหลือบเห็นพนักงานในบริษัทที่กำลังเดินผ่านพวกเขาเหล่มอง ตูนคว้าข้อมือเนมเพื่อไปคุยกันข้างนอก

 

     เดินเข้ามาในห้องน้ำและปล่อยข้อมือเนม คนที่เดินนำตกใจ เมื่อเนมพุ่งมากอดจากด้านหลังจนตูนเซถลาไปข้างหน้าเล็กน้อย

 

      อยากอยู่อย่างนี้นานๆ...

 

      คนที่โดนสวมกอดยืนนิ่งรับไออุ่นจากอ้อมแขนของเนม การฉกฉวยโอกาสเล็กๆน้อยๆที่มาพร้อมความรู้สึกละอาย

 

      เมื่อความจริงมันก็ปรากฎทนโท่ว่า เนมเป็นแฟนเพื่อน...

 

     แกะแขนเนมออกแล้วบอก

 

"เดี๋ยวมีคนเห็น"

 

"ผมดีใจมากเลยที่ได้เจอพี่ พี่หมี"

 

"เรียกตูนแบบเดิมเถอะ"

 

"ก็ได้ ผมจำพี่ตูนไม่ได้เลย โตแล้วหล่อขึ้นนะเนี่ย"
บอกแล้วเงยหน้า ดึงแก้มพี่ตูนสองข้างจนยืดไร้รูปทรง

 

"ปล่อยเนม โตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ เล่นอะไร?"

 

"แหม...ทำไมกลัวเจ้านายมาเห็นหรอ?"

 

"กลัวทำไม ก็มันนั่นแหละเจ้านาย"

 

กึก!

 

    ยืนมองอยู่นาน แต่ไม่ทัก เพราะกำลังประเมินสถานการณ์อยู่ว่า น้องชายจะฝืนความรู้สึกที่มีต่อเนมได้มากน้อยแค่ไหน?

 

      ไม่ได้ตกใจในคำพูดของพี่โต สิ่งที่ตกใจ คือ อายที่พี่โตคงเห็นทั้งสองกอดกันเมื่อสักครู่

 

"ผมนึกว่าพี่เป็นพนักงาน พี่เป็นเจ้าของบริษัทหรอ?"

 

     ตูนส่งสายตาพยักเพยิดไปทางพี่ชาย

 

"เปล่า ไม่ใช่ของพี่ ของพี่โต นี่พึ่งใบบุญเขาอยู่"

 

"เหอะ!"

 

    โตยิ้มพลางเลิกคิ้วก่อนจะเดินไปยังโถปัสสาวะเพื่อทำธุระส่วนตัว

 

     ฟากเนมชักไม่แน่ใจว่าพี่น้องกำลังพูดความจริงหรือประชดประชันใส่กัน  จะว่าไป ตั้งแต่รู้จักพี่ตูน เนมก็ไม่ได้ถามเรื่องเกี่ยวกับงานของเขาเลย หรืออีกนัยหนึ่ง เนมไม่เคยคิดจะสนใจเรื่องราวส่วนตัวของพี่ตูนมากไปกว่า การสนใจแต่เรื่องตัวเอง หวังดึงพี่ตูนมาเป็นที่พึ่งและตัวสำรองในระหว่างที่แม็คไม่มีเวลาให้กัน

 

      ช่างเห็นแก่ตัว ที่คิดให้ตัวเองสบายใจอยู่ฝ่ายเดียว

 

"บริษัทของพี่ เกี่ยวกับอะไร?"

 

"ประชุมเสร็จจะบอก"
คนที่แยกจากเนมไปยังโถปัสสาวะบ้าง ปล่อยให้คนที่โดนลากมา ยืนรอตรงหน้ากระจกเงาบานใหญ่

       มองคนที่จัดการธุระเสร็จอย่างเร็วไวก็พากันออกไปข้างนอก

 

"รอที่นี่แล้วห้ามออกไปไหน?"
คนที่เดินตามพี่ตูนต้อยๆเข้าห้องผู้บริหาร รู้สึกเกร็ง เมื่อสายตาของพนักงานบางคนที่ยังทำงานแอบมองเป็นระยะๆ

 

       ยังไม่ทันได้สังเกตออฟฟิศของพี่ตูนอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ก็พอเห็นคร่าวๆว่าที่ทำงานมีการถูกจัดสรรพื้นที่ด้วยการทำห้องกระจกแบ่งย่อยอยู่หลายส่วน

 

       ยามนี้ ทั้งสองอยู่ในห้องที่ตอนแรกสามารถมองด้านนอกได้ทะลุ ปรุโปร่งกลับทึบเมื่อพี่ตูนดึงม่านม้วนมาปิดจนมิด

 

"ผมไม่ใช่เด็กนะ รู้น่า ไม่ต้องบอก"

 

      เบะปาก เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ แล้วเบนหน้าหนีไปทางอื่น

 

"หึๆ...เชื่อก็ได้ครับ น้องเนม แต่เตือนไว้ก่อนอย่ารื้อของมาเล่นและอย่าฉีกเอกสารของพี่นะ"
คนที่พูดจายียวน ก้มหน้าแล้ววางมือลงบนหัวทุย ฟากเนมปัดมือออก พลางขมุบขมิบปากเมื่อรู้ว่าพี่ตูนกวนประสาทกัน

 

"พี่ตูน แม่ง"

 

      ไม่อยู่ฟังเด็กโวยวาย รีบเดินออกจากห้องของตัวเองไปประชุมต่อด้วยรอยยิ้มกว้างกว่าตอนแรก

 

      ในขณะที่เจ้าของห้องเดินลับตาไป ชายหนุ่มที่นั่งรออย่างไม่รู้จะทำอะไรก็คว้าเครื่องมือสื่อสารมากรอกตัวเลขที่จำได้โดยไม่ต้องเข้าหมวดรายชื่อ

 

[ว่าไงครับ เนม]

 

"นึกว่าจะไม่รับโทรศัพท์กัน"

 

      พูดตัดพ้ออย่างไม่จริงจัง เนมพยายามมองโลกในแง่ดีว่า ไม่ได้เจอหน้า ได้ยินเสียงกันบ้างก็ยังดี

 

[ก็อย่างที่เคยบอก ถ้าไม่ยุ่งก็รับได้]

 

"อยากเจอแม็คจัง"
เมื่อมีแม็คเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิต เนมก็กลายเป็นคนติดแฟน จะทำอะไร? เดินซื้อของ? กินข้าวหรือจะไปไหน? ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงแม็คเลย

 

[เนมอย่าทำเสียงแบบนั้น มันทำให้ผมรู้สึกผิด]

 

    ไม่เก่งเรื่องการเดาใจคนอื่นเท่าไหร่ แต่น้ำเสียงของแม็คที่เอ่ยออกมาทำให้เนมแปลกใจไม่น้อย ที่วันนี้แม็คดูนุ่มนวลกว่าทุกครั้ง คนที่ห่างจากการอยู่ด้วยกันมานานแอบถาม

 

"แม็คคิดถึงเราบ้างไหม?"

 


    ใจคอไม่ดีที่แม็คเงียบไปนานกว่าที่ควรจะเป็น หรือ แม็คไม่เหลือความรักให้กัน?

 

[คิดถึงสิ แต่ช่วงนี้ ผมสับสน]

 

"แม็คเป็นอะไรหรอ? เราเป็นแฟนแม็ค มีอะไรก็บอกกันสิ"

 


[ผม...ผม...ขอ...โ]

 

      คนฟังก็ลุ้นจะขาดใจ เพราะปกติ แม็คไม่เคยทำเสียงจริงจังแล้วใช้คำพูดคำจาเหมือนมีลับลมคมใน

 

"แม็ค..มีอะไรหรือเปล่า?"

 


[ผมคุยไม่ได้แล้ว แค่นี้ก่อน ไม่กี่วันนี้ ผมจะไปรับเนมนะ]

 

"เดี๋ยวสิแม็ค...แม็ค"

 

    งงใจกับแม็คเหลือเกิน ที่คิดจะวางก็วาง มือที่กำโทรศัพท์กำลังเคาะลงบนโต๊ะทำงานอย่างคนใช้ความคิด

 

กึก กึก กึก กึก...

 

    ดั่งเสียงนาฬิกาติ๊กต๊อก ที่ดังมาจากการเคาะโทรศัพท์ตัวเอง

 

    ยังคงคิดอยู่อย่างนั้นแต่กลับหาคำตอบไม่เจอ อาจกดดัน คาดหวังว่าจะได้รับคำตอบมากเกินไปจนคิดไม่ตก คนนั่งขมวดคิ้วเป็นปมเริ่มปวดหัว จึงหยุดความฟุ้งซ่านฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงาน เพราะอยากพักสมอง หลับก่อนเถอะ เผื่อมันจะดีขึ้น

.

.

.

.

"ทำไมต้องเอาหน้ามาใกล้ด้วยล่ะพี่ ลืมตามาตกใจ นึกว่าผี?"

 

    ไม่รู้หรอกว่าผ่านไปนานเท่าไหร่? รู้ตัวอีกทีก็ลืมตามาตอนที่รู้สึกถึงลมอุ่นๆเป่ารดตรงริมฝีปากและเห็นใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบ คนตัวโตที่นั่งครึ่งก้นบนพนักแขนเก้าอี้ ขยับตัวห่าง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

 

"มองคนนอนน้ำลายไหลยืด โคตรซกมก"

 


   คนที่นอนฟุบอยู่ รีบเด้งตัวกลับมานั่งตัวตรงใช้หลังมือเช็ดริมฝีปาก

 

"บางเรื่อง ไม่ต้องพูดตรงๆก็ได้ ผมอายเป็นนะ"

 


    สังเกตได้ว่า พอเนมรู้ว่า การ์ตูน คือ ใครในอดีต? เนมแสดงออกถึงความสนิทสนมชัดแจ้งกว่าเดิมหลายเท่า

 

"กลับเหอะ หิว"

 


"แล้วพี่โตล่ะครับ?"

 


    เนมลุกตามพี่ตูนไปติดๆ

 

"กลับไปแล้ว"

 

"อยู่บ้านเดียวกันทำไมไม่มารถคันเดียวกัน ประหยัดตังค์ได้นะพี่"

 

"มันก็เรื่องส่วนตัวนะ"

 

"ไอ้พี่ตูน"

 

"ถ้าพูด 'ไอ้' อีกคำเดียว"


 

"ทำไม? พี่จะลงโทษอะไรผมหรอครับ?"
ยิ้มพลางทำหน้าแป้นแล้น ยักคิ้วยียวน ยั่วโมโหอีกฝ่าย เพราะเนมรู้ดีว่าพี่ตูนใจดีจะตาย...แค่ชอบปากร้ายไปอย่างนั้น

 

      แล้วจู่ๆ ก็หยุดหายใจไปโดยกระทันหัน เมื่อพี่ตูนกระชากแขนจนร่างเนมกระแทกแผงอกและกดหน้าลงต่ำจนริมฝีปากคลอเคลียอยู่ที่ปลายจมูกอีกฝ่าย

 

      มันก็แค่เรื่องบังเอิญ...จะยืนนิ่งอึ้งไปทำไม?

 

     ตั้งสติได้ เนมบิดแขนออกจากการกอบกุม ถอยหลังและหลุบตา จนความเงียบเข้าครอบงำ พี่ตูนก็โพล่งขึ้น

 

"พี่โตไปรับอะตอมบ้านแม่ แล้วนี่หายเครียดแล้วรึไง? มาต่อปากต่อคำ ทำหน้าตาระรื่นแบบนี้"

 

"ก็เครียดแต่ลดลงเมื่อรู้ว่าพี่ตูนคือพี่หมี"

   

"แต่สำหรับพี่พอรู้ว่าเนมคือเด็กข้างบ้าน นี่เครียดกว่าเดิม"

 


    เนมสบตาพี่หมีของเขาในวัยเด็ก

 

"พี่คิดแบบนั้นจริงๆหรอ?"

 


     ประสานสายตากันพอดี จึงเห็นว่าคนที่ถามแบบนั้นกำลังน้อยใจจริงๆ

 

 

"หิวข้าว ไปเหอะ นี่ไม่ใช่เวลามารำลึกความหลัง"

 

"แล้วบอกผมได้รึยัง บริษัทพี่ทำงานเกี่ยวกับอะไร?"

 

"โมบายล์ แอพฯ ชื่อ 'CAB' Click and Build"

 

"แอพฯอะไรหรอ? เปิดให้ดูหน่อยสิ"

 

"จำสมุดหน้าเหลืองได้ไหม?"

 

"จำได้ครับ"

 

"พวกพี่ได้แรงบันดาลใจจากตรงนั้น เปลี่ยนจากสิ่งพิมพ์มาใส่ในรูปแบบแพลตฟอร์ม ออนไลน์ ทำเป็นไดเรคทอรี่รวบรวมรายชื่อธุรกิจ สินค้า และบริการ แต่พี่จะเจาะจงแค่เกี่ยวกับเรื่องบ้าน ทั้ง พวกอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงวัสดุการตกแต่งภายใน ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่มีอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล พี่ยังต้องปรับปรุงไปเรื่อยๆ หยุดไม่ได้ อนาคตข้างหน้า พวกพี่วางแพลนจะพัฒนาเพิ่มหมวด ดีไซน์เนอร์ ผู้รับเหมาฯ เข้าไปด้วย จะได้เป็นการเปิดพื้นที่สร้างอาชีพได้อีกช่องทาง ประมาณนั้น...."

 

        เนมลอบมองคนที่อธิบายไปก็เปิดตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่มีไว้ให้ดาวน์โหลดได้ฟรี ทั้งระบบแอนดรอย์ และ ไอโอเอส ที่รวบรวมความสะดวก สบาย สำหรับคนที่ต้องการสร้างบ้านเอง หรืออยากรีโนเวทบ้านใหม่ ก็ใช้แอพพลิเคชั่นนี้สำรวจหาร้านค้าและการบริการในพื้นที่ใกล้เคียงหรือสามารถเทียบราคาโดยไม่ต้องไปหน้าร้านได้

 

        ตอนแรกเนมก็สงสัยนะว่าให้ดาวน์โหลดฟรีแบบนี้ บริษัทพี่ตูนจะได้อะไร เขาถึงมาเข้าใจว่าจะได้ค่าโฆษณาแบนเนอร์บนแอพพลิเคชั่น รวมถึงค่าคอมมิชชั่นรายปีสำหรับร้านค้าไหนที่ได้ลูกค้าจากการสั่งซื้อผ่านทางแอพพลิเคชั่น CAB

 

        อย่าตัดสินใจใครแค่เพียงด้านเดียว ประโยคนี้แวบเข้ามาในหัวของเนม นึกไม่ถึงว่าคนที่กวนประสาท เหมือนไม่จริงจังอะไร แต่กลับมีความสามารถและความคิดสร้างสรรค์จนเนมนึกทึ่ง

 

"เจ๋งอะพี่ตูน ผมมาอยู่บริษัทพี่ได้ไหม? ผมจะได้หนีไอ้โรคจิตด้วย"

 

"ที่นี่เขารับคนมีความสามารถนะ"

 

"โห่!...พี่ตูน ผมก็มีนะ ความสามารถของผมคือ กินง่าย อยู่ง่าย คุยเก่ง ดื้อบ้างบางเวลา รับไหม? ผมจริงจังนะเนี่ย ตำแหน่งอะไรก็ได้?"

 

"แน่ใจ?"

 

"แน่สิครับ"

 

"เจ้าของบริษัทโสดอยู่"

 

"แล้วเกี่ยวอะไรกับตำแหน่งงานที่ผมจะสมัครอะ"

 

"ดี..ดี..ดี...ซื่อแบบนี้ต่อไปนะ"
ตูนยิ้มมุมปากพลางตบไหล่ปุๆ

 

"อะไรวะ พี่ตูน เฉลยซิ"

 

      คนที่หยุดเท้าแล้วหันหลังกลับมามองอย่างรำคาญก็จูงมือเนมเดินออกไป

 

"อย่าถามมาก หิว"

 

       มองแผ่นหลังพี่ตูนที่เดินนำไปไม่กี่ก้าว ก่อนจะก้มลงมองมือที่กำลังถูกกุมไว้

 

      ทำไมอยู่ดีๆก็เกิดใจเต้นแรงขึ้นมาล่ะวะ...

 

     บ้าหรือเปล่า?...ไอ้เนม ก่อนหน้านี้ อยู่ใกล้กับพี่ตูนมาก็หลายวัน ไม่เห็นจะเป็นอะไร? ทำไมแค่เขาจับมือ อยู่ดีๆก็ใจเต้นแรงอย่างน่าประหลาด

 

     บอกตัวเองว่าคงไม่มีอะไร เพราะพี่ตูนก็คือพี่ชายที่น่ารักของเนมก็เท่านั้นเอง

 

 

      หลังจากแวะกิน บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงข้างทาง ก่อนเข้าหมู่บ้านพี่ตูน คนขับรถก็รับโทรศัพท์ของตัวเองและอยู่ระหว่างการสนทนา

 

"ว่าไง?..." / "เออ..." / "วันไหน?..." / "...ได้"...."

 

       หันไปสบตาพี่ตูนที่เขามองมาครู่หนึ่งก่อนจะวกสายตากลับไปแล้วคุยกับปลายสายอีกไม่กี่ประโยค

 

"มะรืนนี้ พวกไอ้แม็คจะมากินเหล้าที่บ้านพี่"

 

"ถึงคราวมาบ้านพี่แล้วหรอ?"

 

"อืม"

 

"แม็คมาไหม?"

 

"มา"

 

"ไม่เห็นแม็คบอกผมเลย"

 

"....."

 

"น้อยใจจังพี่ บางทีผมก็งงนะว่าแม็คยังเห็นผมเป็นแฟนอยู่หรือเปล่า?"

 

"ไม่ขอออกความเห็น"

 

     มองพี่ตูนที่ตอบตัดบทก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วเอนศรีษะพิงเบาะก่อนจะหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง

 

 

 

       ถึงบ้าน เนมปล่อยให้เจ้าของบ้านอาบน้ำก่อน ส่วนตัวเองก็คุยโทรศัพท์กับแฟน บทสนทนาสั้นๆที่ได้คุยกัน แม็คไม่พูดถึงเรื่องการสังสรรค์ที่จะเกิดขึ้นที่บ้านพี่ตูนเลย

 

       พยายามเข้าใจ แต่พอเกิดเรื่องชวนสะกิดติ่งความคิดมากและฟุ้งซ่าน ก็อดน้อยใจขึ้นมาอีกไม่ได้...

 

      จากอดีต ที่เคยคุยโทรศัพท์กันเป็นชั่วโมงๆ ระยะเวลามันหดลงเรื่อยๆเหลือเพียงระยะเวลาล่าสุด คือ 2 นาที 43 วินาที...

 

       แม็คไม่ดูแล และใส่ใจเหมือนก่อนจนเนมเริ่มเหมือนคนบ้าที่วิ่งไล่ตามอารมณ์ตัวเองไม่หยุด ดีบ้าง แย่บ้าง กลางวันสนุก กลางคืนเครียด มันสลับสับเปลี่ยนอย่างนี้อยู่เสมอ เสมอ...

 

       คนที่หยุดยืนแหงนมองท้องฟ้าตรงระเบียง กำลังสลัดความคิดออกไป แล้วเดินเข้าห้องนอนที่เห็นพี่ตูนอยู่บนเตียงด้วยสภาพพร้อมนอน เนมจึงไปอาบน้ำบ้าง

 

 

 "พี่ตูนง่วงรึยัง?"

   

"ยัง"

 

       คำถามแรก ถามหลังจากที่เนมอาบน้ำเสร็จก็รู้สึกตัวเองตาสว่าง

 

 

"พี่ตูน ตอนที่พี่ต้องย้ายบ้าน พี่ไปอยู่ที่ไหนหรอ?"
รู้ว่าพี่ตูน คือ พี่ชายแสนรักในวัยเด็ก เนมก็ยังไม่มีโอกาสได้ถามไถ่ถึงเรื่องราวในอดีต เนมจำได้ว่าที่ทั้งสองต้องห่างกัน คือ วันที่ครอบครัวพี่หมีมีความจำเป็นต้องย้ายบ้านเพื่อไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่เล็กกว่าเก่า เนื่องจากตอนนั้นครอบครัวของพี่หมีเจอพิษเศรษฐกิจโหมกระหน่ำ

 

"ก็ไกลจากที่เดิม"

 

"พี่คงมีเพื่อนเล่นเยอะแน่ๆ ส่วนผมนะ พอพี่ไป ก็ไม่มีใครเล่นกับผมสักคน ตอนนั้น ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดที่มีแต่คนไม่อยากเข้าใกล้ ผมเอาแต่นั่งคิดถึงพี่ พี่ตูนรู้ไหม? ผมยังเก็บผ้าเช็ดหน้าของพี่ตูนไว้อยู่เลย ตอนที่ผมหกล้มจนเลือดออก แล้วพี่ให้ผมไว้....."

 

      แม้มันจะเป็นเรื่องอดีตที่ผ่านมานานนม แต่น่าแปลกที่ฟังได้ไม่เบื่อ มองคนเล่าความหลังด้วยแววตามีความสุขอย่างคนอยากระบาย ตูนจึงไม่เถียง ไม่ตัดบท เขาแค่นั่งยิ้มและฟังเนมเล่าไปเรื่อยๆ

 

"ผมจะเล่าทำไมก็ไม่รู้ พอแล้วดีกว่า เดี๋ยวพี่จะรำคาญ ว่าแต่พี่ตูน ร้องเพลงกล่อมหน่อยสิ ผมนอนไม่หลับ ผมอยากฟังพี่ตูนร้องเพลง"
คนที่มองตาใส ไร้อาการง่วงหงาว หาวนอนก็พลิกตัวนอนตะแคง เขี่ยหลังมือพี่ตูนยิกๆ

 

"อยากได้เแบบไหน? เป็นชั่วโมง หรือแบบเหมาทั้งวัน"

 

"เหมาสิ ผมอยากฟังหลายเพลง"
กวนมา กวนกลับ ไม่มียอมกัน

 

"ชั่วโมงละห้าพัน เหมาทั้งวันเหลือสามพันห้า"

 

"โห! หน้าเลือด กะพี่-กะน้อง ยังคิดเงินด้วยเหรอ?"

 

"อืม ช่วงนี้ บริษัทยังไม่ได้กำไร"

 

"ฮ่าๆ...น่าสงสารพ่อหนุ่มสตาร์ทอัพ ตอนนี้ ผมมีอยู่ยี่สิบเอาไปทำทุนก่อน"

 

     แกล้งหันหลังไปควักเงินในกระเป๋าสตางค์ที่วางตรงโต๊ะหัวเตียง ยื่นแบงค์ยี่สิบหนึ่งใบไปให้พี่ตูน แต่ใครเล่าจะคิดว่าพี่ตูนแม่งจะหยิบใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นจริงๆ

 

"เอาจริงดิ?" กระพริบตาปริบๆ

 

"อืม...เอาหมดล่ะเวลานี้"

 

"ฮ่าๆ โถๆๆๆพี่ตูน"

 

     มองคนนั่งหน้านิ่ง ก็เบะปากกลอกตาใส่คนกวนประสาท



"เอ่ เอ๊ ... เอ่เอ๊....... โอละเห่เอย..... โอละเห่....."

 

"เหยยยยยยพี่ตูน ไม่ใช่ร้องกล่อมแบบนั้น อย่ากวนตีนดิ"

 

"พูดดีๆ"
ส่งสายตาดุๆไปทางเนม

 

"อ่าขอโทษ พี่ตูนครับ ได้โปรดร้องเพลงให้ผมฟังสักเพลง ผมอยากได้ยินเสียงพี่ร้องใจจะขาด"
คนที่ไม่พูดเปล่ากลับแนบซีกหน้าลงกับต้นแขนอีกฝ่ายถูไถเบาๆอย่างเอาใจ


 

      เขามองคนอายุน้อยกว่ากำลังทำท่าไม่ต่างกับแมวที่ชอบเดินมาวนแล้วเอาหัวมาถูขา

 

"อยากฟังเพลงอะไร?"

 

"เพลงอะไรก็ได้ที่บ่งบอกถึงความรู้สึกของพี่ตูนตอนนี้"

 

      การ์ตูนมองหน้าเนม ที่พอรู้ว่าจะร้องเพลงให้ฟัง แววตาก็ดูเป็นประกาย ท่าทางก็กระตือ รือร้นอย่างเห็นได้ชัด

 

      เพลงที่สื่อความรู้สึกของเขาตอนนี้น่ะหรอ?..     

 

 

"ไม่ต้องบอกฉันถึงวันที่เลยผ่าน ไม่ต้องบอกฉันว่าเคยมีใครคนไหนยังไง? ถ้าเผื่อฉันเผลอ บังเอิญฉันถามเธอไป เธอก็ไม่ต้องตอบฉันเลย..."



      พี่ตูนร้องเพลงทีไร เนมขนลุกทุกที น้ำเสียงและอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาทำคนนั่งฟังเคลิบเคลิ้มและอินไปกับบทเพลงที่ซ่อนความรู้สึกของคนเปล่งน้ำเสียงออกมา

 

     แต่...

 

"จบ"

 

"เฮ้ย! อะไรวะ? กำลังซึ้ง ต่อเถอะนะพี่ตูน ผมอยากฟังจริงๆ"

 

"จริง?"

 

"จริงสิ พี่ตูนร้องต่อน้า...นะ นะครับ"
ทำหน้าอ้อนวอนจนคนขี้ใจอ่อนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ

 
 

"วันวานมันคืนย้อนมาไม่ได้ และวันพรุ่งนี้ยังไม่รู้ ฉันพร้อมจะอยู่ ฉันพร้อมจะตายเพื่อรักคำเดียว ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใคร จะผ่านอะไรมาขอจงอย่าเป็นกังวล นี่คือคนของเธอ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรต่อจากนี้ไป ฉันจะอยู่ดูแลเธอ ด้วยคำว่ารักด้วยใจ"



      เพลง คนของเธอ คือ เพลงที่ตูนคิดว่า มันสื่อถึงความรู้สึกได้ตรงสุดๆแล้วตอนนี้...

 

     คนที่ร้องไปไม่ได้สนใจเนม กระทั่ง พอถึงท่อนจบ ตูนสบตาเนมด้วยรอยยิ้มอบอุ่นจนเนมคิดว่า ถ้าเนมเป็นแฟนพี่ตูนจริงๆ คงเขินอายที่แฟนทำซึ้งและโรแมนติกแบบนี้

 

"ถ้าใครได้ฟังพี่ร้อง ผมว่ามีหลงอะ พี่ร้องเพลงได้มีเสน่ห์มาก จากคนหน้าตางั้นๆพอร้องปุ๊ป แม่งโคตรหล่อ"

 

"หึหึ"

 

"เออ...ตัวจริงก็หล่อ พอร้องแม่งยิ่งโคตรหล่อไปอีก พอใจรึยัง?"

 

"ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย"

 

"ก็พี่หัวเราะกวนตีนอะ...พี่ตูนร้องอีกได้หรือเปล่า? ผมยังไม่ง่วง"

 

"ไม่ได้ ค่าตัวแพง"

 

"โห่ โคตรเล่นตัว"

 

"แน่นอน"

 

   เนมเบะปาก

 

"ถ้าพี่มีแฟน แล้วแฟนได้ฟังพี่ร้องเพลงทุกคืนแบบนี้ คงมีความสุขน่าดู"

 

"มาเป็นแฟนพี่ไหม?"

 

 

ตึก ตึก ตึก ตึก...

 

    มันก็เป็นแค่มุกตลกที่สร้างเสียงหัวเราะ...มันไม่ควรต้องใจเต้นแรงขนาดนี้ไหม? ไอ้เนม

 

     คนที่มั่นใจว่าไม่ได้หูฝาด กำลังนั่งนิ่งอย่างจนคำพูด

 

"ดีใจจนพูดไม่ออกเลยเหรอ? พี่พูดเล่น คนที่เอาแต่ใจ ดื้อด้านแบบนี้ไม่เอาหรอก"

 

"คำก็ด่า สองคำก็ว่า ทำอะไรไม่เคยถูกใจ พี่ตูนเกลียดผมมากเลยรึไง?"

 

"เหนื่อยจะคุยกับเด็ก ฝันดีนะ พี่ฝากปิดไฟด้วย"

 

"เฮ้ย!...อะไรวะพี่ ตัดบทกันแบบนี้เลยหรอ? หรือพี่เกลียดผมจริงๆ"

 

"เนม พี่จะนอน"

 

     หน้าเหวอเมื่อเห็นพี่ตูนเสียงเข้มและไถลตัวลงนอนกระชากผ้าห่มดึงมาคลุมถึงคอพลิกตัวตะแคงหันหลังให้เนมซะอย่างนั้น...

 

    เนมบ่นขมุบขมิบที่ไม่มีคนให้เถียงกลับก็ต้องจำใจข่มตาหลับทั้งๆที่ยังไม่ง่วงเลยสักนิดเดียว...

 

 

................................

โอ้ย! พี่ตูนคะ สงสารพี่จัง เหนื่อยไหมคะ...หุหุ
:mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2018 19:50:42 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

น่าสงสาร   รักชอบเขานะ  แต่เขาดันมีสถานะเป็นแฟนเพื่อนซะงั้น

ไม่เป็นไร  รอเขาเปลี่ยนสถานะก่อนค่อยว่ากัน  อิอิ

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
 

ตอนที่ 8 คนแอบรัก


 

 

 "อยากโชว์ฝีมือปลายจวักอวดแฟนเหรอ?"
  คนที่เดินมาเปิดตู้เย็นหยิบน้ำดื่มในครัวก็เอ่ยถาม หลังจากเห็นเนมง่วนกับการตระเตรียมวัตถุดิบทำอาหาร



"ใช่"

 

      มองคนที่ตั้งอกตั้งใจทำกับข้าวให้แฟนก็นึกอิจฉาแม็คเหมือนกัน...

 

      ตูนอยากเป็นคนนั้นบ้าง...

 

      มันมีเหตุผลอะไรกันที่คนเรามักยอมเจ็บเพื่อรัก...ความรักมักไม่เคยหาเหตุผลได้หรอก...เช่นเดียวกับตูนที่ก็หาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องเฝ้ามอง เฝ้าดู ทำตัวเป็นผู้พิทักษ์ คอยปกป้องเนมให้พ้นจากอันตราย ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่า เนมมีเจ้าของแล้ว ควรปล่อยให้แฟนเขาได้ทำหน้าที่ ไม่ใช่คนแอบรัก คนนี้ที่ไม่มีสิทธิ์ในตัวเนมด้วยซ้ำ

 

       ชอบเนมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แค่พอได้สนิทชิดเชื้อกันกับเด็กข้างบ้านยามเยาว์วัย ความผูกพันก็ก่อตัว บ่มเพาะมานาน จนกระทั่ง ห่างกัน ถึงเริ่มเข้าใจว่า การ์ตูนคิดถึงเนมเหลือเกิน



        ห่างกันโดยไร้ช่องทางการติดต่อ เวลาผ่านไป ตูนคิดถึงเนมน้อยลงก็จริง แต่ก็ยังติดในความทรงจำ ไม่เคยลืมไปจากสมอง แม้พอโตเป็นหนุ่ม ตูนจะมีแฟนมาทั้งชายและหญิงมากมาย แต่ยามใดที่คบใคร ในสมองมักมีเนมแวบเข้าหัวโดยอัตโนมัติ ก็ไม่รู้หรอกว่า เด็กข้างบ้านมามีอิทธิพลกับเขามากขนาดนี้ได้ตอนไหน?



         มีคนหนึ่ง คนที่พอจะทำให้ตูนลืมเนมได้ คือ แฟนคนล่าสุดชื่อ...ตะวัน.. เขาน่ารัก นิสัยดี ออดอ้อนเหมือนเนมไม่มีผิดเพี้ยน  เหมือนจะผ่านไปด้วยดี แต่แล้ว ความตายก็มาพรากกระชากลมหายใจของตะวันจนร่างที่เคยมีวิญญาณ สิ้นลมลงด้วยการประสบอุบัติเหตุ

   

       สามปีที่คบกับตะวัน มันกลายเป็นอดีตที่ทำให้ตูนบันทึกไว้ในความทรงจำอันสวยงาม...

 

      ตะวัน เป็นแฟนคนสุดท้ายของตูน หลังจากนั้น เขาเหนื่อยจะต้องไล่ตามหาใครมาเป็นคนรัก จึงปิดประตูหัวใจ จนเวลาผ่านไปห้าปี...

 

      โชคชะตาก็มาเล่นตลกให้เขาได้โคจรมาพบเนมอีกครั้ง

 

      แต่ในสถานะแฟนเพื่อน...

 

 

"อื้ม ผมกับแม็คไม่ได้เจอกันนาน เจอทั้งทีก็อยากทำอะไรให้เขาประทับใจที่สุด"

 


      คนที่บอกแต่ไม่ได้หันมามองยังคงมุ่งมั่นตั้งใจกับการหั่นตะไคร้



"ไม่กวนแล้ว มีอะไรเรียกนะ"


 

"ครับ"


 

      เป็นครั้งแรกที่อยากทำอาหารให้แฟนตัวเองได้กิน เมนูต้มยำไก่น้ำใสจึงเป็นเมนูแรกที่อยากลอง



      คนที่ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงในหม้อ คอยคนจนใกล้เสร็จ ถึงขั้นตอนสุดท้ายที่รอให้น้ำแกงเดือด



       เมื่อเห็นน้ำเดือดปุด ปุด ปิดแก็ส เตรียมยกหม้อเทใส่ถ้วย แต่เพราะความเลินเล่อและประมาทที่จับหูหม้อไม่มั่น....

 

ฉ่าาาา!



"เชี่ย...โอ้ย"


 

        น้ำต้มยำเดือดจัดหกใส่เท้าตัวเอง เนมรีบวางหม้อ เขย่งเท้าพลางเดินกระเผลกๆไปเปิดก๊อกน้ำตรงอ่างล้างมือ



        ไม่คิดว่าตัวเองจะซุ่มซ่ามได้ขนาดนี้ ก้มมองแผลที่เกิดขึ้นสดๆใหม่ๆ เริ่มแดงและบวม เนมร้องซี้ดเพราะแสบ เขาหลับตาพลางสบถในลำคอ

 

"เนมเป็นอะไร? เฮ้ย"

 

          ได้ยินเสียงร้องดังลั่นมาจากในครัว รีบวิ่งมาดูด้วยความตกใจ เมื่อพื้นครัวเลอะไปด้วยน้ำต้มยำเป็นวงกว้าง ตูนเบียดตัวแทรกไปที่อ้างล่างหน้า คว้ากะละมังที่วางอยู่ใต้ซิงค์ ใส่น้ำจนเต็ม ยกกะละมังและย่อตัวลงนั่งที่พื้นจับเท้าเนมแช่ลงในน้ำ

 



         ทุกอย่างมันดูรวดเร็วไปหมด จนคนเจ็บกลับมาตั้งสติมองดูคนอายุมากกว่านั่งจับเท้าที่สกปรก

 

"พี่ตูน เท้าผม..."
คิดว่าเป็นของต่ำที่บางคนอาจถือสาจึงห้าม



"ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาสนใจตอนนี้ แช่เท้าก่อน"



 

         บอกจบ ช่วงเวลาที่คนเจ็บแช่เท้าในน้ำสะอาด การ์ตูนลุกไปหยิบผ้าถูพื้นตรงส่วนที่น้ำแกงหก จนกระทั่งเรียบร้อย ตูนย่อตัวลงมาใกล้กะละมังแล้วเงยหน้าถามคนที่ยืนกัดปาก ทำหน้าเหยเก



"ยังแสบอยู่ไหม?"



     เนมพยักหน้าแล้วทันใดนั้น...

 

     คนอายุน้อยกว่าเบิกตาโพลงเมื่อได้เห็นคนอายุมากกว่าก้มลงเป่าลมเบาๆรดลงตรงแผลบวมแดงที่เท้า เขาขนลุกเกรียวและใจสั่นที่พี่ตูนกำลังทำให้อย่างอ่อนโยน





    พยายามจะชักเท้ากลับแต่สองมือหนายึดฝ่าเท้าไว้แน่น

 

"ยิ่งเป่า ยิ่งแสบหรอ?"



"ปะ...เปล่าครับ"
หลุบตาลง เลี่ยงการดูกระทำของคนตรงหน้าที่ดูอบอุ่นและทะนุถนอมจนส่งผลต่อหัวใจให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าประหลาด





      ปลายนิ้วลูบไล้แตะเบาๆ ตรงแผล ก่อนจะวางเท้าเนมลงในกะละมังดังเดิม

 



"เดี๋ยวไปเอาผ้าก๊อซมาปิดแผลให้"

 

       ยืนมองทุกขณะที่พี่ตูนทำให้ไม่ละสายตา พี่ตูนห่วงใย ใส่ใจจริงจัง จนอยู่ดีๆก็เกิดคำถามขึ้นมา...



"พี่ตูนชอบกูหรือเปล่าวะ? ..." / "...อย่าหลงตัวเองน่าไอ้เนม พี่ตูนจะชอบมึงได้ไง มึงเป็นแฟนเพื่อนเขา... " / เออก็จริงว่ะ...."



      คนที่คุยกับตัวเองในใจ...กำลังตั้งคำถามกับสิ่งที่พี่ตูนทำดีจนน่าใจหาย รีบสลัดความคิดนี้ทิ้งเมื่อพี่ตูนเดินกลับมา



 

"ดีขึ้นไหม?"

 

"ดีขึ้นครับ ไม่ค่อยแสบแล้ว"


 

 

      พี่ตูนยังคงนั่งบรรจงทำความสะอาดแผล ล้างด้วยน้ำเกลือ ก่อนจะใช้ผ้าก็อซปิดแผล



"พี่ตูน ขอบคุณนะ"

 

"อื้ม ขึ้นไปพักก่อน อย่าเพิ่งเดิน"

 

"เฮ้อ!...ต้มยำของผม"
คนที่มองเศษซากต้มยำอย่างนึกเสียดาย ถ้าทำไม่สำเร็จจะไม่เสียใจขนาดนี้  แต่นี่ทำสำเร็จพร้อมเสิร์ฟแล้วแท้ๆ

 

"ของที่มันเสียไปแล้ว ก็เลิกอาลัย อาวรณ์เถอะ"



"ทำไมล่ะครับ แม้มันจะเสีย แต่บางอย่างเราก็มีโอกาสเอากลับมาซ่อมได้นี่"


"ซ่อมได้อะใช่ แต่ยังไงมันก็ไม่มีวันเหมือนเดิม"

 

       ไม่อยากเถียงให้ทะเลาะกัน เพราะยามนี้พี่ตูนก็มีพระคุณกับเนม จึงตัดบท เดินกระเผลกออกจากครัวไปที่บันได พี่ตูนคงเห็น เนมเดินลำบาก จึงสอดมือเข้าเอวสอบประคองเนมขึ้นบันได ไปจนถึงเตียงของตัวเอง



 

"พักก่อน ถ้าแม็คมาจะเรียก"



"ครับ"


 

     มองคนอายุมากกว่าพ้นลานสายตา เนมลูบช้าๆตรงแผ่นอกตำแหน่งเดียวกับหัวใจ

 

"วันนี้มึงเป็นอะไรวะ ไอ้เนม?"



 

      ต่อปากต่อคำยียวนใส่กันมาได้ก็นานสองนาน กลับไม่รู้สึกแปลกประหลาดเท่าวันสองวันนี้



     นั่งคิดถึงเรื่องพี่ตูนที่นับวัน นับวัน ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดแผก แปลกไปจากเดิม และแล้ว....

     


"อะตอม อย่าซน"


 
     หยุดความคิด เหลียวมองตรงประตูที่อะตอมวิ่งยิ้มเข้ามาหา



"สวัสดีครับพี่โต ให้อะตอมเข้ามาก็ได้ครับ"

 

"เป็นอะไรทำไมมีผ้าพันแผลที่เท้า"




      โตวิ่งตามลูกชายตัวเองเข้ามาในห้องนอนของตูน ก็เห็นเนมนั่งพิงพนักเตียงด้วยใบหน้าเหมือนคนคิดอะไรตลอดเวลา

 

"ผมทำน้ำแกงหกใส่เท้าครับ"

 

"เหรอ? ถ้างั้นอะตอมมาหาพ่อเถอะครับ อย่ากวนอาเนมดีกว่า"
คนที่ก้มตัวลงจับแขนลูกชาย แต่เด็กน้อยเบี่ยงตัว สะบัดแขนไม่ให้จับ

 

"ไม่เป็นไรครับ ผมดูแลได้"

 

"ถ้างั้น พี่ฝากแป๊ปนึงนะ ขอลงไปคุยกับไอ้หมีหน่อย"

 

"ได้ครับ"

 

      พอรู้ความหลังว่าเป็นคนเคยคุ้นมาก่อน ทำให้ทั้งสามสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็ว

 

"อาเนม อะตอมอยากเล่นเครื่องบิน"



      เนมทำหน้านึก และจำได้ถึงคราวก่อน ตอนที่อะตอมเล่นกับพี่ตูน เขาเหลือบมองเท้าตัวเอง ก่อนบอก



"อามีแผล เล่นอย่างอื่นได้ไหม? อ้อ อาว่าเรามาเล่นเกมส์ดูดวิญญาณกันดีกว่า เล่นไหม?"

 

"เล่นฮะๆ"



     เนมดึงข้อมือเด็กมากำและบีบแน่นจนเลือดไม่ไหลเวียนผ่านไปที่มือ กำข้อมือค้างไว้จนฝ่ามือซีดขาวสักพัก จากนั้นเนมค่อยๆคลายมือที่กำไว้ และเป่าลมออกจากปากไปที่ฝ่ามือตัวน้อย

 

"จงดูดวิญญาณณณ"



     มองเด็กตาโต ทำปากจู๋คงดูตื่นตาตื่นใจ



"โว้ววว สนุกฮะ สนุกฮะ"

 

"มามา...เดี๋ยวทำให้อีก"

 

     ขณะที่เนมกำลังจะทำให้อะตอมอีกรอบ พี่โตก็เดินเข้ามาจนประชิดเตียงนอน

 

"อะตอม ไปบ้านคุณย่ากัน"

 

"อะตอมอยากอยู่กับอาเนมฮะ"

 

"ไม่ได้ วันนี้เรามีนัดแล้วครับ"

 

"คราวหน้ามาเล่นก็ได้"

 

"เย้ๆ...จริงนะ สัญญาแล้วนะฮะ ไปกันฮะพ่อ"

 

     พี่โตโน้มตัวมาอุ้มลูกที่นั่งบนเตียง  ก่อนหันหลังไป พี่โตยิ้มกรุ้มกริ่มมองมาอย่างมีเลสนัยจนเนมสงสัย

 

"มีอะไรหรือเปล่าครับพี่โต?"

 

"รู้อะไรหรือเปล่า? ว่าไอ้หมีมีความสุขมากเลยนะที่ได้เจอเนม"

 

"จริงหรอครับ?"

 

"จริง แต่ก็น่าเสียดาย?..."



"เสียดายอะไรครับ?"





    มองคนยิ้มแต่ไม่ตอบ และพาอะตอมเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คนที่อุตส่าห์หยุดคิดเรื่องพี่ตูนก่อนหน้า เวียนวกกลับมาคิดเรื่องเดิมอีกครั้ง



..'ถ้าพี่ตูนมีความสุขอย่างที่พี่โตว่า แล้วจะต้องเสียดายอะไร?'..








****1.1****


ตอนหน้าดุเดือดค่ะ :z1: :z1: :z1: :z1:

DrSlump >>> เผื่อคิดถึง เพื่อนพ่อ (อาทัช+คายัค) นะคะ มีตอนพิเศษ -ยอม 'รับ' - มาฝากค่ะ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67267.210

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แม็ค ถ้าจะขอโทษก็เลิกเลย เปิดทางให้เพื่อนที  :ling1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ดุเดือดเนี่ย  ทะเลาะกันดุเดือด หรือสงคราม 18+ ดุเดือด?

ขอบคุณสำหรับอัพเดตตอนพิเศษเรื่อง อินทัชคายัค ครับ

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 8 คนแอบรัก (2)







"เนมตื่น... แม็คมาแล้วนะ"

 

"ห้ะ...ห้ะ" คนที่โดนเขย่าแขนแรงๆ สะดุ้งตื่นทั้งทำหน้าเลิ่กลั่ก

 

"แม็คมาแล้วหรอ?"

 

"ใช่"

 

      ยังไม่ทันได้เตรียมเตี้ยมกับเนมเรื่องที่มานอนค้างบ้านตูนเลยว่าจะบอกแม็คยังไง? คนที่พอรู้ว่าแฟนมารีบกระเด้งตัวลุกด้วยความกระดี้กระด่าดีใจจนลืมไปว่าตัวเองมีแผลที่เท้า



 "เนม เดี๋ยวล้ม"




       ทันใดนั้น คนที่เตือนวิ่งไปคว้าต้นแขนได้ทันแต่เพราะเนมสะดุดจึงเสียหลักล้มลงไปทั้งคู่ สภาพที่เห็น คือ ผู้ชายสองคนนอนทับกันอยู่บนพื้น โดยริมฝีปากของตูนแนบลงไปกับแก้มของอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ

 

      คนทั้งสองรู้ดีว่าทั้งหมดนี้ คือ อุบัติเหตุ แต่ถ้าคนที่มาเห็นผลลัพธ์ตอนนี้ จะบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจก็คงทำใจได้ยากลำบาก



"เนม!"


 

       ไม่ใช่พี่ตูนที่เรียก ทันใดนั้น เนมเอี้ยวหน้าไปมองตรงทางเข้าห้องนอน เห็นแฟนตัวเองยืนมองด้วยแววตาวาวโรจน์ ทั้งสองผละออกจากกัน เนมรีบหยัดกายลุกขึ้นนั่งและพยายามจะยืน ยังไม่ทันทรงตัวให้ดี แม็คก็กระชากแขนอย่างแรง จนเนมล้มอีกรอบ

 

"โอ้ย...แม็ค เบาๆ เราเจ็บ"

 

      คนที่ไม่ได้สังเกตแฟนตัวเองเลยว่าเพิ่งได้รับบาดเจ็บมา ยืนโกรธเกรี้ยวแรงอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหอบหายใจรุนแรง แม็คไม่พอใจที่เห็นแฟนเล่นเลิฟซีนกับเพื่อนตัวเองอยู่



"เนม อยู่บ้านไอ้ตูนได้ไง?"



"เอ่อเออะ...คือเราโทรหาพี่ตูนจะถามเรื่องงาน แล้วเขาบอกว่าจะมีกินเหล้าวันนี้พอดีเลยมา ทำไมแม็คไม่บอกเราบ้างล่ะว่าจะมา แม็คไม่คิดอยากเจอเราบ้างหรือไง?"



"มาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
คนที่นึกอยากเปลี่ยนเรื่องก็เปลี่ยน และถามคำถามที่ทำให้เนมชะงัก เหล่มองพี่ตูนก่อนตอบ


"มะ...มาเมื่อเช้า"



     แสยะยิ้มร้าย เหลือบมองเพื่อนสนิทสลับกับเนม พลางคิดในใจไปเองว่า...แม่งเลวทั้งแฟน-ทั้งเพื่อนกูเลยหรือ?



"เหอะ!...ทำไมต้องโกหก?"

 

"ปะเปล่านะ เราไม่ได้โกหก"

 

"ไอ้ตูน บอกผมว่าเนมเมื่อวาน"
เนมมองหน้าพี่ตูนก่อนจะหลุดเสียงจิ๊ในลำคอ



     เรื่องราวที่เกิดขึ้น พี่ตูนไม่ผิด เนมต่างหากที่ผิดที่เลือกโกหก ปิดบังแฟนตัวเองจนเกิดเรื่อง

 

"มึงไม่ต้องว่าเนมหรอก ทั้งหมดนี่กูผิดเอง"

 

"อย่ามาพระเอก"
ด่าเพื่อนตัวเอง ก่อนจะบีบแขนเนมจนเนมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

 

"ทำแบบนี้นานรึยัง?"

 

"ทะ...ทำอะไรแม็ค?...."

 

"แอบเอากับเพื่อนผมนานรึยัง?"



     ก็ยอมรับว่าเรื่องนี้ เนมผิด แต่การที่แม็คมาว่าเนมอย่างเสียๆหายๆแบบนี้ เนมก็รู้สึกโกรธและเสียใจ

 

"เฮ้ย...แม็ค เราเป็นแฟนแม็คนะ เออ...เราผิดเว้ยที่มานอนบ้านพี่ตูน แต่ทำไมต้องพูดดูถูกกันขนาดนี้ แม่งโคตรเสียใจ"



"เหอะ!...แล้วเนมไม่คิดว่าผมจะเสียใจ? การกระทำที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้จะเชื่อใจได้ไงว่าไม่ได้แอบเอากันลับหลัง ลองคิดดูดีๆไอ้ตูนมันเพื่อนผม การที่เนมสนิทกับเพื่อนผมจนมานอนค้างได้ขนาดนี้ มันไม่น่าสงสัยหน่อยเหรอ?"



"....." ชะงัก ขมริมฝีปากเข้าหากันแน่นและก้มหน้า แม้เรื่องมีเซ็กซ์กันมันไม่เป็นความจริง แต่เนมเถียงไม่ออก เพราะเขาสนิทกับพี่ตูนจริงๆ เนมไม่คิดว่า การสนิทกับเพื่อนแฟนมากเกินไปจะส่งผลให้ความสัมพันธ์เขาและแม็คกำลังสั่นคลอน



"บอกซิ ได้กันมาแล้วกี่ครั้ง?"



"ไอ้แม็ค กูแม่งไม่เข้าใจ มึงเป็นคนแบบไหนกันวะ? ถึงพูดจาไม่ให้เกียรติแฟนตัวเองแบบนี้ การที่เนมนอนบ้านกู ไม่ได้หมายความว่าเนมต้องมีอะไรกับกู หัดเชื่อใจแฟนมึงบ้าง และกูจะบอกให้ว่าเนมไม่เคยคิดนอกใจมึง"

 

"แต่มึงพยายามทำให้เนมนอกใจกู?...ใช่ไหม?"



"....."

 

       ทำไมวะ ทำไม? ทำไมกูต้องมีใจให้กับคนที่มีเจ้าของด้วยวะ....คนที่อยากแก้ตัวใจจะขาดก็นึกอายปาก



        มันชักจะไปกันใหญ่ ฟากเนมรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้เพื่อนสองคนทะเลาะกัน  เมื่อเนมเป็นคนก่อปัญหา เขาก็ต้องเป็นคนแก้ เนมเอื้อมมือไปบีบมือแม็คแล้วเอ่ย

 

"แม็ค กลับไปคุยกันที่บ้านเถอะ เราจะพูดความจริงให้แม็คฟังทุกอย่าง และถ้ายังไม่สบายใจ ต่อจากนี้ เราจะไม่มาบ้านพี่ตูน ไม่ยุ่งกับพี่ตูนอีกเลย โอเคไหม?"


 

       เนมสวมกอดแม็ค แล้วซบหน้าลงบนบ่า แต่แม็คกลับดันกายออกห่าง ฉุดกระชาก ลากแล้วเหวี่ยงร่างลงกับเตียง



"โอ้ย...แม็ค เราเจ็บ"
คนที่ไม่ถนอมร่างเนมกำลังจ้องมองแฟนตัวเองด้วยแววตาวาวโรจน์ดุจสัตว์ร้ายที่พร้อมขย้ำ เขมือบเหยื่ออย่างไร้ความเมตตาปราณี



    แม็คผุดรอยยิ้มน่ากลัวดั่งปีศาจ เขาขึ้นไปนั่งคร่อมกายเนม ปลดกระดุมกางเกงยีนส์ตัวเองพร้อมรูดซิปแล้วดึงกางเกงให้หลุดออกจากสะโพกอย่างไม่มียางอายว่าเพื่อนตัวเองก็ยืนอยู่ แถมยังใช้ห้องนอนของตูนเตรียมการพลอดรักอีกต่างหาก



"แม็คทำอะไร?"



"ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้ว ผมว่ามีอะไรกันสามคนก็น่าสนใจ ไอ้ตูน ยืนนิ่งอยู่ทำไม? อยากได้ไม่ใช่เหรอแฟนกู? มาลองด้วยกันดิ"




     ไม่รู้แล้วว่า เพื่อนเขาต้องการประชดหรือกามวิปริตจริงๆ ตูนมองแม็คที่ซุกหน้าไซ้ซอกคอเนมต่อหน้าต่อตา



     และแล้วคนที่เก็บความอดทนไว้ได้นาน กลับพังทลายลง...


ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

 

     พุ่งไปกระชากไหล่แม็คให้หันมาและต่อยหน้าหลายหมัด แม็คตั้งสติได้ ถีบตูนจนล้มลงไปกองที่พื้น กระโดดลงไปคร่อมร่างตูนที่พลาดท่า  ทั้งสองยังคงชกต่อยกันหมัดต่อหมัด ซัดกันนัว



      เนมหยัดกายขึ้นมามองเหตุการณ์น่ากลัวด้วยความตระหนกตกใจ ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย เนมขอร้องและบอกห้ามอยู่หลายที กลับไม่มีใครฟัง จนกระทั่ง เนมคว้าขวดน้ำที่มีอยู่ข้างเตียงหมุนฝาออกและสาดใส่ทั้งคู่



"หยุดนะ ก็บอกให้หยุดไงวะ"

 


    ทั้งสองชะงักและแยกออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงเนมตวาดพร้อมสาดน้ำใส่



    เท็นและเป๊กที่เพิ่งเข้าบ้านตูนมาได้ยินเสียงตึงตัง เอะอะ...โวยวายด้านบนรีบวิ่งขึ้นบันไดมาก็ตกใจ หน้าเหวอ เมื่อเห็นหน้าเพื่อนสองคนฟกช้ำและบางแผลก็มีเลือดไหล

 

"เชี่ย ไอ้แม็ค-ไอ้ตูนมีเรื่องอะไรกันวะ?"

 


      เนมถลาไปหาแม็ค และผลักพี่ตูนออกห่าง ถ้าพี่ตูนไม่เริ่มก่อน เรื่องก็คงไม่จบแบบนี้




"ทำไมต้องใช้กำลัง? ทำไมพี่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยวะ"




"....."



       ตูนมองคนที่ตวาดใส่ปาว ปาว แล้วจู่ๆก็หันตัวไปคุยกับแม็ค

 

"แม็ค แม็คเป็นอะไรไหม?"
เนมใจหวิว เมื่อเห็นหน้าแฟนตัวเองมีแต่แผล เขากอดแม็ค และในขณะคนที่โดนกอดอยู่นั้น หันหน้าไปทางตูนที่จ้องมองมาพอดีจึงแสยะยิ้มพลางยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เพื่อนตัวเอง

 

"ขอบคุณนะที่เป็นห่วงแม็ค"


 

      เน้นคำว่า...แม็ค...เผื่อเรียกสติให้ใครบางคนได้ตระหนักรู้ว่าตอนนี้ เนมเลือกห่วงใคร...



     เนมประคองแม็คให้ลุกขึ้นยืนเพื่อจะพาออกไปจากห้อง การสังสรรค์คืนนี้ ทั้งคู่คงไม่อยู่ร่วมแน่ๆ จังหวะที่เนมพยุงคนเจ็บเดินผ่านพี่ตูน เขาปรายตามองแล้วบอกด้วยคำที่ตูนโคตรเจ็บปวด

 

"ผมเคยมองว่าพี่เป็นคนดีได้ยังไงวะ?"


 

    เมื่อโทสะเกิด อารมณ์ร้ายๆก็ปะทุขึ้น...เนมไม่รู้เลยว่าการพูดไม่คิด นั้นส่งผลต่อจิตใจใครคนหนึ่งขนาดไหน



"กูขอโทษนะไอ้เท็น ไอ้เป๊ก วันนี้กูขอบายว่ะ"
 

"เออๆ รีบไปหาหมอซะไอ้แม็ค"



    ยืนมองทั้งคู่เดินออกไปจากห้องด้วยแววตาหม่นหมอง ไม่ใช่แค่การใช้คำพูดร้ายๆราวหอกทิ่มแทงใจหรอกที่ทำให้ตูนเสียใจ แต่มันยังคือการที่เนมไม่คิดจะถามไถ่กันสักคำว่า พี่ตูนเป็นอะไรมากหรือเปล่า?



     ขณะที่เห็นตูนยืงนิ่งราวกับปูนปั้นมาได้สักพัก เท็นกระซิบกระซาบกับเป๊กถึงสถานการณ์อันน่าฉงน ว่าทำไมสามคนต้อง ทะเลาะกัน ถ้าไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์ที่มาจากความรัก..

 

     เท็นกะหันไปจะบอกเพื่อนอีกคนอย่างเป็นห่วง แต่หุบปากฉับเสียก่อนเมื่อเห็นตูนตาแดงก่ำ  เท็นกับเป๊กมองหน้ากัน ก่อนจะเห็นตูนเดินกลับไปนั่งที่เตียง สองมือประสานกัน ก้มหน้าลงมองพื้น

 

    เท็นบีบแขนเป๊กเหมือนบอกห้าม...เพราะรู้ว่าเพื่อนจะพูดอะไร แต่เป๊กไม่ฟัง

 

"มึงชอบเนมใช่ไหม?"




"....."



    การกระทำของตูนในวันนี้ ฉายชัดถึงอะไรหลายๆอย่าง คนกลางอย่างเท็นและเป๊กก็ไม่ได้คิดจะเลิกคบหรือต่อต้านเพื่อนตัวเองที่แอบรักแฟนเพื่อน เพราะถึงอย่างไร ทั้ง ตูน และแม็คก็คือ เพื่อนของทั้งคู่อยู่ดี เพียงแต่การที่ถามออกไปนั้น เป๊กรู้ดีว่า คงไม่มีใครอยากให้ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นมาหรอก ความรู้สึกเหมือนผู้พ่ายแพ้อยู่ตลอดเวลา เพราะทำได้แค่แอบรักแฟนเพื่อนตัวเองอย่างรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ขยับสถานะได้มากกว่านั้น

 

    เท็นกับเป๊กยืนรอคำตอบแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังก้มหน้านิ่งในท่าเดิม จึงคิดว่า ถามผิดเวลาไปหน่อย...

 

"ถ้ามึงไม่ตอบกูคิดว่าใช่นะ โอเค เรื่องของหัวใจกูคนกลาง ไม่เข้าข้างใคร ถึงยังไงกูก็เพื่อนมึง กูพร้อมฟังเสมอ ถ้าจะไปหาหมอก็บอก พวกกูรออยู่ข้างล่าง"



     ความเงียบก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เท็นและเป๊กออกจากห้องพร้อมงับประตูให้



   ...ผมเคยมองว่าพี่เป็นคนดีได้ยังไงวะ...

   

     ประโยคที่เนมบอกมันเจ็บจนจำขึ้นใจ...

 

     ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ทำดีหลายครั้ง หลายคราวกลับไร้ค่า เพียงเพราะทำผิดพลาดครั้งเดียว  ยามนี้ เนมคงมองเขาไม่ต่างกับโจรชั่วช้าฆ่าคนมาหลายร้อยคน...



      คนที่เพิ่งได้สติรู้ตัวว่าเจ็บจนชาจากแผลที่หางคิ้ว ก็ตอนก้มหน้าแล้วเห็นเลือดไหลหยดติ๋ง ติ๋ง ลงพื้น ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงลงเดินไปหาเพื่อนเพื่อช่วยพาไปโรงพยาบาล   

 

      ยามนี้ ตูนเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า...



      ต่อให้ทำดีเท่าไหร่? ถ้าไม่ใช่คนที่รัก ทำไปก็ไร้ค่า ไร้ความหมายในสายตาเขาอยู่ดี...ถึงเวลาที่ตูนควรหยุดความรู้สึกนี้ เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ของเนมและแม็คสั่นคลอน


       เป็นได้แค่เพื่อน แค่พี่ชาย แค่ได้ชิดใกล้ก็พอแล้ว...



       ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ในเมื่อก็รู้อยู่เต็มอกว่า ความรักที่มีให้เนม มัน ถูกที่ แต่ผิดเวลา...ควรบอกตัวเองว่า พอเถอะและถอยออกมา เยียวยาหัวใจตัวเองสักที....



..................................


1. แม็คเป็นอะไร? บอกเลยว่าแม็คเป็นโรคจิตค่ะ 555+ 

2. เรื่องนี้ไม่มีใครดี  มีแต่คนเลวน้อย เลวมาก  แต่คนที่เลวน้อยที่สุดบอกเลย พี่ตูนนนนนนนนนค่ะ (อวยค่ะอวย)  :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ กอด-กอด

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เกลียดแม็คอ่ะ  เกลียดเนมด้วย  สงสารพี่การ์ตูน

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 9 คนสำคัญ







"ที่พี่เรียกเรามาคุย เพราะพักหลังๆมานี้ เนมทำงานหลุดทั้งพิมพ์วันที่, สถานที่นัดคุยกับซัพพลายเออร์ผิดบ่อยควรปรับปรุงเรื่องการตรวจทานเอกสารบ้าง เนมมีปัญหากับที่บ้านรึเปล่า?"



"เปล่าครับ ผมขอโทษนะครับ ผมคงกดดันตัวเองมากไป ไม่ว่ายังไงจากนี้ผมจะพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก"




"ดีค่ะ"



      ฝืนยิ้มให้หัวหน้าตัวเอง ทั้งๆที่ใจหดหู่ คนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มัวแต่คิดเรื่องของใครคนหนึ่ง





      ตั้งแต่มีเรื่องทะเลาะกันวันนั้น เนมพาแม็คไปโรงพยาบาล จากนั้น กลับไปนอนบ้านแฟนดังเดิม เพื่อคอยดูแลแผลฟกช้ำรวมถึงปรับความเข้าใจกันให้เรียบร้อย ผิดกับอีกคนที่เนมไม่ยอมเคลียร์ปัญหาจนระยะเวลาผ่านไปเจ็ดวันถึงเพิ่งมาสำนึกได้ภายหลังว่าไม่ควรพูดกับพี่ตูนเช่นนั้น





       ปล่อยเวลานานไปทำให้ตอนนี้ ขลาดกลัวเกินกว่าจะโทรไปถามไถ่อาการหรือแม้แต่จะขอโทษ



     

"เนมฟังอยู่ไหม?"



"ห้ะ...หาครับ ฟังครับ"



"เนมต้องตั้งใจกว่านี้นะ เพราะประสิทธิภาพการทำงานของเนมส่งผลต่อการประเมินเรื่องปรับเงินเดือนสิ้นปีนี้ด้วย"



"ครับ ขอบคุณที่เตือนกันครับพี่"





    ไม่คิดว่าความรักจะมีอิทธิพลต่อหัวใจเนม จนคนที่เคยทำงานดีกลับแย่ลงเพราะไม่สามารถแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้



     หลังจากได้รับคำเตือน เนมเดินออกมาจากห้องประชุมเล็กที่หัวหน้าเรียกคุยเป็นการส่วนตัว



      ถึงแม้ว่าเรื่องโรคจิตที่ส่งซากสัตว์และข้อความข่มขู่ได้ซาลง แต่เนมก็ยังคงมีเรื่องใหม่ให้คิดมากและหนักใจอยู่ดี

 

      กันต์ธีร์หยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วเปิดแอพพลิเคชั่นไลน์เข้าไปยังหน้าต่างของคนที่อยากขอโทษ



      มองโพร์ไฟล์ขนาดเล็กของพี่ตูนเป็นภาพซิลลูเอทของคนยืนหันหลังมองออกไปนอกหน้าต่างพลันเหลือบมองข้อความที่คุยกันล่าสุด

Read

15.30

เบื่อ 




 

Read

15.32

มานี่มา



       ข้อความที่เคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว แต่ทำไมพอได้กลับมาอ่านอีกครั้งความรู้สึกถึงไม่เหมือนเดิม



"ปากหมาใส่เขา แต่ตัวเองมานั่งเศร้ากับผลลัพธ์ที่ทำ น่าสมเพชไหมละมึง?"



       ด่าตัวเองแรงๆให้สำนึก เมื่อเพิ่งมารู้สึกผิดตอนเวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์ คนที่นั่งเครียดฟุบหน้าลงกับท่อนแขน มิวที่นั่งข้างๆเอียงคอมองรุ่นน้องที่ไม่ยอมทำงาน ทำการ ก็สะกิดเรียก



"เนมเป็นอะไร? เครียดเรื่องงานหรอ?"


"เอ่อ!"



"ระบายได้นะ"




       คนที่อึดอัดมากพอสมควร มองหน้าคนถามก่อนตัดสินใจเล่า



"พอดี ผมทะเลาะกับรุ่นพี่ที่สนิทกันน่ะครับและดันไปด่าเขาด้วย"


"เรื่องนี้ เนมคิดว่าใครผิด?"


"ผม"


"ถ้ารู้สึกผิดก็ขอโทษ"


"ผมไม่กล้า"




       ถ้าทำง่ายอย่างที่พูดก็คงดีน่ะสิ เนมนั่งกัดปากแรงจนเจ็บ ดวงตาเหม่อลอยแต่ในหัวยังคงนั่งนึกหนทางออก จนคนที่เห็นปฏิกิริยาพูดขึ้นมาอีกครั้ง


"แต่การที่เนมแคร์และกังวลอยู่ตอนนี้ มันก็แสดงให้เห็นว่า พี่คนนั้นสำคัญ"



     มันก็คือความจริง แม้พี่ตูนไม่ใช่แฟน...แต่เป็นคนสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน..



    ถ้ามีคนถามว่าใครคือคนสำคัญในชีวิตคุณ? เนมตอบได้ไม่รีรอว่า คนในครอบครัว เพื่อนสนิท แฟน แต่น่าแปลกเนมดันนึกหน้าพี่ตูนได้ก่อนแม็คเสียอีก


"ขอบคุณนะพี่มิว เดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" บอกแล้วลุกจากที่นั่งเดินลงบันไดไปชั้นล่าง เพื่อตัดสินใจโทรหาพี่ตูน



    เนมจะไม่ปล่อยให้ความกลัวมามีผลกระทบจนเสียคนดีๆในชีวิตไปอีกแล้ว




 [....]



"พี่ตูน?"


[มีเรื่องอะไรด่วนไหม?]



"ผะ...ผมขอโทษ"




[ครับ พี่ประชุมก่อน]


"...."



   คนที่รู้สึกไม่ดี เมื่อได้ยินเสียงเย็นชาจากปลายสาย เนมรีบส่งข้อความส่งผ่านไลน์ย้ำไปอีกทีอย่างไม่สบายใจ



Read

14.23

พี่โกรธผมอยู่เหรอ? ผมขอโทษนะ...พี่หมี T.T

.

.

.

.

       ตั้งแต่ส่งข้อความไป พี่ตูนอ่านก็จริงแต่ไม่ยักกะตอบกลับ คนที่นั่งไม่ติด เริ่มกระวนกระวายอย่างไม่สบายใจและกลัวว่าจะสูญเสียคนสำคัญคนนี้ไป จึงเดินทางมาถึงบ้านพี่ตูนในเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง แต่สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าคือบ้านมืดตึ้บ เนมกดโทรหา พี่ตูนอีกครั้งแต่ไม่รับสาย เจ้าตัวจึงจำใจหย่อนกายลงนั่งรอที่พื้นตรงประตูรั้วหน้าบ้าน...



      การง้อที่ดีที่สุด คือ การมาเจอหน้ากัน


แปะ... แปะ... แปะ...



       สามสิบนาทีแล้วที่กันต์ธีร์ยังคงนั่งพิงประตูรั้วเหล็กด้วยแสงสว่างที่สาดส่องลงมาเพียงน้อยนิด เนมนั่งตบแขนแปะ แปะหลังจากโดนยุงรุมกัดอย่างหนักหน่วง



      คนที่เปลี่ยนจากตีแขนเป็นเกาแกร็กๆอย่างรู้สึกรำคาญตัว ไม่นานนัก เสียงโทรศัพท์มือถือแผดเสียงดัง เนมหยุดเกา ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงรีบคว้ามาดู ว่าใครกันที่โทรมา





"ฮัลโหล"



[เนมอยู่ไหน? ผมรอกินข้าวอยู่]



"ขอโทษ เราไม่รู้ว่าแม็ครอ แม็คกินก่อนเลย เรามากินข้าวกับเมย์อะ"



   เนมลุกขึ้นเดินไปเดินมาระหว่างคุยโทรศัพท์กับแม็ค


[ทำไมไม่บอกผมล่ะเนม แล้วจะกลับกี่โมง?]



"น่าจะถึงห้าทุ่ม นี่ยังนั่งคุยกับเมย์อยู่เลย ถ้าแม็คง่วงแม็คนอนก่อนเลยนะ"



[อืม เนมอย่าทำแบบนี้บ่อยๆนะ ผมไม่ชอบ ถ้าจะไปไหนก็บอกกันก่อน ถ้าจะมาก็ไขกุญแจบ้านเองนะ ผมวางกุญแจไว้ที่เดิม]



"ได้ครับ แม็ค"


       เกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของเนม? ทำไมถึงรู้สึกว่าเขากำลังให้ความสำคัญพี่ตูนมากกว่าแม็ค?



      คนที่เดินไป เดินมา พลางสะบัดแขน สะบัดขาไล่ยุงไปด้วย ก้มมองนาฬิกาข้อมือดูก็ผ่านไปชั่วโมงหนึ่งแล้วที่ไร้วี่แววพี่ตูนจะมา สงสัยคงต้องยอมถอดใจ เพราะเนมรอไม่ไหว คว้าเครื่องมือสื่อสารจะโทรหา ขณะที่ล้วงไปหยิบโทรศัพท์เตรียมกรอกเบอร์ เนมเห็นแสงไฟหน้ารถสว่างวาบในระยะสายตา ถอยกรูดเมื่อรถยนต์แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าบ้าน



        ฉีกยิ้มกว้าง เมื่อไม่กี่วินาทีต่อมา ได้เห็นใครลงมาจากรถ




"มาทำไม?"



     แม้เสียงเย็นชานั้นจะทำให้เนมใจตกไปที่ตาตุ่ม แต่พอรู้ว่าตัวเองผิดและไม่อยากเสียพี่ชายอันเป็นที่รักไป เขาก็พยายามส่งยิ้มและตอบเสียงหนักแน่น



"มาง้อพี่"



กึก!



    ชะงักจ้องมองแววตาที่ฉายชัดถึงความรู้สึกผิดเหมือนเด็กที่เผลอทำลายข้าวของในบ้านพังเสียหาย คนที่ยืนมองผู้ชายตัวโตแต่ทำท่า ทำทางเหมือนเด็กชายวัยห้าขวบก็ถอนใจ



"ง้อทำไม? พี่ไม่ได้โกรธ"


"แต่ตอนผมโทรมา น้ำเสียงพี่ไม่ดี"



"ตอนเนมโทรมา พี่ประชุมกันเครียด จะให้เสียงลั้ลล้ารึไง?"



"พี่ไม่ได้โกรธผมจริงหรอ?"





"อืม"




"ขอบคุณนะพี่ที่ไม่โกรธ ผมมันปากหมาเอง ผมมันแย่ ผมมัน...."


      คนที่กำลังต่อว่าตัวเองชะงัก เมื่อพี่ตูนยื่นมือมาปิดปาก



"พอได้แล้ว ไม่อยากฟัง"



      เนมอมยิ้มที่ดูรู้ว่าพี่ตูนไม่โกรธกันจริงๆ ทำไมพี่ตูนถึงเป็นคนดีขนาดนี้ คำต่อว่าก่อนหน้า ว่าเคยมองพี่เป็นคนดีได้ยังไง?...ทำเนมรู้สึกละอายใจและอยากตบปากตัวเองที่ปากหมาไม่เข้าเรื่อง

   

      ดึงมือพี่ตูนออกแล้วถาม


"พี่ตูนกินข้าวมารึยัง? เราไปกินข้าวกันไหม?"



"พี่ซื้อมาแล้ว อย่าบอกนะว่ายังไม่ได้กินข้าว?" คนที่เลิกคิ้วขึ้นสูงมองคนอายุน้อยกว่าทำหน้าแหย



โคร่กกกก...

       เสียงดังฟังชัดขนาดนี้ คงไม่ต้องเอาคำตอบ ทันใดนั้น คนที่ถือถุงพลากสติกใสใส่ถุงบะหมี่ต้มยำทะเลน้ำข้นแบบพิเศษก็จับยัดใส่มืออีกฝ่าย



"ไม่เป็นไร เอาของพี่ไปกิน"


"อ้าว แล้วพี่ตูนล่ะครับ?"


"กินมาแล้ว เอาไปเหอะ"


"เหรอ? ถ้างั้นผมขอกินนะ ผมหิว ขอบคุณมากเลยครับ
" คนที่ว่าติดตลกทั้งยังลูบท้ายทอยแก้เขินที่ท้องมันพยศส่งเสียงร้องออกมาต่อหน้าพี่ตูนให้ได้อายจนแก้มแดงราวกับลูกมะเขือเทศ


"อืม"

       เดินเข้าตัวบ้านพร้อมกัน คนที่มาอาศัยบ้านเขาได้ไม่นาน แต่รู้หมดทุกซอก ทุกมุม ก็ขออนุญาตพี่ตูนจัดการหยิบถ้วย ช้อน ส้อม อย่างไม่เกรงใจ ส่วนพี่ตูนก็ไม่ว่าอะไร เขาแค่หนีหายขึ้นไปอาบน้ำเท่านั้นเอง



        คนหิวจัดกำลังนั่งสูดเส้นบะหมี่เข้าปากอย่างไม่กลัวติดคอ ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ คนที่อาบน้ำเสร็จลงมาหาเนมก็ตกใจที่เห็นเนมเดินไปล้างภาชนะที่อ่างล้างมือแล้ว



      ...กินไวแบบนี้ ท่าทางคงหิวมากสินะ...


      ถอนใจอีกครั้ง ก่อนเดินไปหย่อนกายนั่งที่โซฟา ไม่นานเนมก็เดินตามมานั่งด้วย


"ทาซะ"



     เนมโคลงศรีษะมองคนที่โยนยาหม่องน้ำขวดเล็กลงบนตักของเขาด้วยความไม่เข้าใจ พอเห็นพี่ตูนไล่สายตามองแขนของเนมถึงรู้ว่าเพราะอะไร



       พี่ตูนแอบสังเกตรายละเอียดเล็กๆน้อยในตัวเนม ผิดกับเนมที่แม่งไม่สนห่าอะไรเลย


      ไม่สน ไม่ใส่ใจ ไม่เคยคิดถามพี่ตูนว่าอาการเป็นอย่างไร? ดีขึ้นหรือยัง?



        มึงนี่แย่จริงๆเลยนะ...

       คนที่เหยาะยาหม่องใส่ปลายนิ้วแล้วทาตามตุ่มแดง พลันเหลือบมองหางคิ้วพี่ตูนที่ยังมีผ้าก็อซปิดไว้ รวมถึงรอยช้ำที่แม้จางลงแต่ก็ดูรู้ว่าผ่านการมีเรื่องชกต่อยมาไม่นาน

       

"พี่ยังเจ็บอยู่ไหม?
" เนมถามพลางมองด้วยแววตาสลด



      ฟากพี่ตูนส่ายหน้า และยังจ้องมองเนมนิ่งๆไม่กะพริบตา



"แล้วพี่กับแม็คหายโกรธกั...."



"เนมอย่ามาที่นี่อีก"


     ... ทำไม?...คือ คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาจากสมอง



      เกิดความสงสัยว่าทำไมพี่ตูนไม่ให้มา และเกิดความสงสัยในตัวเองขึ้นมาว่า ทำไมถึงใจหวิว ทำไมถึงเสียใจ?



   


"ทำไมล่ะครับ?"


"ปัญหาที่ผ่านมามันเกิดขึ้นเพราะอะไร? ฉะนั้น อย่ามาให้แม็คมันได้ว่า"



"....."



"มันต้องเป็นอย่างนี้จริงๆเหรอพี่ตูน?"



"ใช่"



        เม้มปากแน่นพลางมองหน้าพี่ตูน


       เนมกำลังสับสน เขารู้ดีว่าถ้าไม่อยากทะเลาะกับแฟน การไม่มาบ้านหลังนี้ ก็น่าจะเป็นทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่อีกใจหนึ่ง กลับใจหายวาบเมื่อรู้ว่าหลังจากนี้ เนมจะไม่มีโอกาสได้มาพักที่บ้านหลังนี้อีกแล้ว



         คนที่อยากหลอกตัวเองไปก่อน จึงหลับตา เอนศรีษะพิงพนักโซฟา



"ขอผมพักสายตาแป๊ปนะพี่..."

       

        นอนหลับตาเพราะอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เมื่อสุดท้ายเนมควรให้ความสำคัญกับแม็คเป็นอันดับแรก


       ไม่เคยรู้สึกจิตใจปั่นป่วนเท่าวันนี้มาก่อน คนที่เค้นหาคำตอบว่า จะมีวิธีไหนที่ได้มาเจอพี่ตูนอีก อยู่ดีๆก็เกิดนึกโหยหาความอบอุ่น ความปากร้ายใจดีจากอีกฝ่าย


      นานนับสิบนาทีที่คนหวังจะพักสายตา ทว่า กลับมีหยาดน้ำใสเอ่อล้นขอบตา จนเนมต้องรีบใช้ปลายนิ้วซับน้ำตากันไม่ให้ไหลมากกว่านี้



"โอ้ยแสบ...แสบ...พี่ตูน ผมแสบตา ขอน้ำหน่อย"


       คนที่ลืมว่าใช้มือทายาหม่องก่อนหน้าจึงสะดุ้งเฮือก เพราะแสบตาจนต้องไหว้วานคนตาดีหาน้ำมาให้ ฟากตูนตกใจรีบไปหยิบน้ำดื่ม คว้าหลอดมาหยอดใส่ตาข้างที่เนมแสบ เนมลืมตามาพร้อมกระพริบตาถี่ๆ ทำอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกว่าดีขึ้น แม้จะยังมีเคืองตาอยู่บ้างเล็กน้อย เนมจับข้อมือพี่ตูนให้หยุด พอเนมลืมตามาทั้งสองข้าง ถึงเห็นว่า ใบหน้าของเราสองใกล้กันมากเกินไปส่งผลให้หัวใจเต้นกระหน่ำรุนแรง



ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก...


      ใจยังคงเต้นแรงต่อเนื่อง เมื่อแววตาที่จ้องมองมาแฝงความอ่อนโยน ความรัก ความจริงใจแต่จะในรูปแบบไหน? เนมไม่กล้าคิดไปเอง

 

        ราวกับเล่นเกมส์จ้องตา ที่ไม่มีใครลดละเบี่ยงหน้าหนีไปก่อน ยิ่งมองเหมือนยิ่งมีแรงดึงดูด ให้อยากเข้าใกล้กันมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น



        เสี้ยววินาทีนั้น กันต์ธีร์ใจสั่น หวั่นไหว เมื่อพี่ตูนไม่ยอมถอยห่าง แต่กลับเคลื่อนใบหน้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจเป่ารดลงตรงริมฝีปากกัน

        ทว่า....



"อ้าวเนมมาเหรอ?"



        ริมฝีปากของทั้งสองที่แตะกันอย่างผิวๆ ต้องรีบผละห่าง ตูนถอยกลับขยับไปนั่งตัวตรงเกร็ง จนพี่ชายหรี่ตามอง ก่อนจะทำเนียนเป็นไม่รู้ ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น...



        ไอ้หมีคิดจะตีท้ายครัวเพื่อนมันหรือ?...



"สวัสดีครับพี่โต"


"อืม"


"นี่ เกาเหลาหมูพิเศษที่ฝากซื้อ อ้อ....แล้วช่วยออกไปเลื่อนรถหน้าบ้านด้วยไอ้หมี"




กึก!



     คนที่กินข้าวของพี่ตูนไปก่อนหน้าชะงัก



"สรุปพี่ตูนยังไม่ได้กินข้าวหรอครับ?"


     ตูนไม่ยอมตอบ แต่ลุกหนีไปเลื่อนรถตัวเองเพื่อให้พี่ชายได้เข้ามาจอดรถในโรงจอด ฟากเนมพออยู่กับพี่โตสองคน เขามองหน้าอย่างมีคำถาม

"วันนี้ ไอ้หมีประชุมทั้งวัน ยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยง"


    เหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังที่บ่งบอกเวลาว่ายามนี้ คือ สี่ทุ่ม



    ได้ยินดังนั้น ความรู้สึกผิดแล่นปราดทั่วร่าง เนมรีบลุกหาที่หลบมุมสงบๆเพื่อโทรหาแฟนตัวเอง



[แยกกับเมย์แล้วเหรอ?]


"..ยังน่ะแม็ค วันนี้ เราขอนอนบ้านเมย์คืนนึงนะ"



[.....]


"แม็คไม่ให้หรอ?"



[ทำไมเพิ่งมาบอก]



"พอดีเมย์ทะเลาะกับแฟนมาเลยอยากขอคำปรึกษา"


[แค่คืนนี้คืนเดียวนะ แต่พรุ่งนี้ เนมต้องกลับมานอนกับผม]


"อ...อื้ม ขอบคุณนะ"



   วางสายแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินกลับไปในบ้านพี่ตูนเพื่อบอกว่าขอนอนค้างด้วย ถึงต่อให้เจ้าของบ้านขับไล่หรือต่อว่าอย่างไรก็จะไม่สนใจ ขอใช้ความด้านได้ อายอดที่มีเพียงเพราะรู้แล้วว่า เขาจะไม่ยอมเสียคนสำคัญคนนี้ไปแน่นอน...





****1.1****

อย่างที่เคยบอกก่อนหน้า เรื่องนี้ไม่ยาวนะคะ

 ไม่กี่ตอนก็จบแล้วค่า :mew1: :mew1:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ   

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เนมทำตัวราวกับนางวันทองนะเธอหน่ะ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 9 คนสำคัญ (2)








แม็ค                                                                             

ข้อดี                 
                                                           

1. ดูแล เอาใจใส่

2. รัก



พี่ตูน

ข้อดี
       

1. ใจเย็น

2. ดูแล เอาใจใส่

3. อยู่ด้วยกันยามมีปัญหาทุกครั้ง

4. เป็นพี่ชายที่คอยปกป้องเนมและรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

5. สร้างเสียงหัวเราะได้

6. เป็นห่วงอย่างจริงใจและเป็นผู้ฟังที่ดีเสมอ

7. เสียสละ

 

........................                                         

 

แม็ค                                                       

ข้อเสีย


1. ขี้หึงเกินไป

2. มีรสนิยมทางเซ็กซ์ที่สวนทางกัน แม็คมีความต้องการทางเพศที่รุนแรง ซาดิสม์ ดิบเถื่อนเกินไป

3. ไม่สม่ำเสมอเหมือนก่อน

 

พี่ตูน

ข้อเสีย


1. ชอบดุ ชอบกวนประสาท

2. ปากร้าย ใจดี

 

 

"ปากร้ายใจดีมันใช่ข้อเสียหรอวะ?"

 

      คนที่นั่งหน้าเครียดจรดปากกาเขียนแยกย่อยถึงข้อดี-ข้อเสียระหว่างพี่ตูนกับแม็ค เหตุที่ต้องมานั่งจับจด เขียนเป็นข้อๆ เพราะเนมรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป มีบางครั้งคราวที่ดันไปคิดถึงพี่ตูน จึงตั้งใจเขียนเพื่อหาข้อสรุป แม้ว่าผลลัพธ์ที่เขียนออกมาปรากฎว่าข้อเสียของสองฝ่าย มีพอๆกัน แต่ข้อดีนั้น พี่ตูนนำโด่ง

 

     ยกกระดาษขึ้นมามองใกล้ๆถึงสิ่งที่เขียน จู่ๆ เนมชะงักพลางบ่นพึมพำลำพัง

 

"แล้วทำไมกูต้องเอาพี่ตูนมาเปรียบเทียบกับแม็ควะ?"

 

    ชักกลัวหัวใจตัวเอง รีบหาความเห็นเพิ่มเติม เผื่อได้มุมมองที่ต่างจากเดิม จึงโทรไลน์หาพี่สาวที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ เนมเช็คเวลาดูแล้วว่าที่พี่น้ำอยู่น่าจะราวห้าทุ่มกว่า

 

 

"พี่น้ำคุยได้ไหม?"

 

[ได้ เป็นไงบ้างเนม ช่วงนี้หายเงียบไปเลยนะ ติดแฟนน่าดูนะเรา]

 

       คนที่รู้ว่าเนมมีแฟนก็แซวแหย่ แต่พี่น้ำยังไม่รู้ความคืบหน้าล่าสุดว่า ตอนนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองกำลังดิ่งลง ตกต่ำแค่ไหน?


 

"พี่น้ำ จำที่เนมเล่าได้ไหม? เรื่องพี่หมี?"




[อืม...จำได้เด็กอ้วนข้างบ้านคนนั้น]
 

         เมื่อรู้ว่าพี่สาวจำได้  เนมจึงเริ่มเล่าเรื่องที่แม็คลและพี่ตูนทะเลาะกันจนถึงขั้นชกต่อยให้พี่สาวฟัง ไม่เว้นแม้กระทั่ง ความรู้สึกของเนมที่ผิดแผก แปลกไปจากเดิม



[พี่ว่าเนมต้องถามใจตัวเองมากกว่าถามพี่]

 

"พี่น้ำหมายความว่ายังไง?"



[เนมอาจยังไม่รู้ตัว พี่ว่า เนมชอบตูนแล้วล่ะ]

 

"......"

 

[สมมติว่า ถ้าพี่เป็นแม็ค แล้วมารู้ว่า แฟนเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เมื่อนั้น พี่คงแพ้แล้ว แพ้ที่ปล่อยให้ใครคนนึงเข้ามาจนเกิดการเปรียบเทียบ ความรักนะเนม ถ้ามี 'คนที่สาม' เข้ามา มันจะวุ่นวาย และสุดท้ายก็ต้องจบลง.....]



      เนมอึ้งที่พี่น้ำพูดตรงๆ แต่ก็ไม่นึกโกรธที่พี่น้ำพูดแบบนี้ คนที่ยังมีคำถามมากมายในหัวที่ต้องการถามต่อ แต่ทว่า หัวหน้าเดินมา จึงต้องรีบวาง

 

"พี่น้ำแค่นี้ก่อนนะ เนมต้องทำงานแล้ว"

 


[โอเคเนม มีอะไรก็อัพเดทบอกกันนะ]

 

"ครับ"


 

       นั่งนึกบทสรุปของความสัมพันธ์ที่กำลังพังทลาย...อาจไม่ใช่พี่ตูน ไม่ใช่แม็ค แต่เป็นเนมที่เลวเอง...

 

"นี่กูกำลังนอกใจแฟนเหรอวะ?"
พึมพำเบาๆ แต่แล้วพี่มิวก็ทักขึ้นมา

 

"เนม!"

 

"ครับ?"

 

"บ่ายนี้ พี่ตาบอกให้เนมไปดูพื้นที่กับพี่ ติดงานอะไรอยู่หรือเปล่า?

 


"ไม่ติดครับ"

 

"ถ้างั้นก็ไปกันเลย"


 

"ครับ"

 .

.

.

.

       และแล้วก็มาถึงพื้นที่ที่ทั้งสองมาดูเพื่อเตรียมจัดงานแถลงข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์บริษัท พี่มิวกำลังคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลส่วนนี้

 

"วันที่คุณบอกจะจัดงาน เราเช็คให้แล้ว มีลูกค้าท่านอื่นจองห้องประชุมหมดแล้วครับ คงเหลือแค่ลานตรงนี้"
บอกพร้อมผายมือและหมุนตัวเป็นครึ่งวงกลม

 

"อ้อค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ส่วนเรื่องของต่างๆ เราสามารถใช้อะไรได้บ้างคะ?"

 

"ได้หมดครับ บอกจำนวนที่ต้องการมาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหน้าขาว เก้าอี้ ชุดโซฟาสีน้ำเงิน เราให้ยืมใช้ในวันงานได้หมดครับ"

 

"พาไปดูชุดโซฟาได้ไหมคะ? พอดีมีผู้บริหารสิบเอ็ดท่านค่ะ อยากรู้ว่าพอรึเปล่า?"



"ได้ครับ"


 

          ตอนนี้ เนมเดินไปพลางจดรายละเอียดที่ทั้งสองกำลังสนทนา เพื่อเตรียมทำสรุปส่งให้พี่มิวในภายหลัง เมื่อได้รู้รายละเอียดทั้งหมดของการเช่าพื้นที่ว่าทางฝั่งเราจะได้รับอะไรบ้าง? ต่อไปก็เป็นเรื่องของการสรุปราคา



"ลดไม่ได้แล้วหรอคะ?"


 

"ลดไม่ได้จริงๆครับ เก้าหมื่นหกนี่ถูกสุดแล้ว ถ้าวันงานมีไฟล์ภาพหรือวีดิโอพรีเซ็นต์ที่ต้องการขึ้นจอโปรเจกเตอร์ เดี๋ยวผมหาเจ้าหน้าที่คุมเรื่องภาพ และไลท์ แอนด์ซาวน์ให้ครับ"

 

"ขอบคุณค่ะ ถ้านั้น มิวรบกวนคุณเชษฐาส่งใบเสนอราคามาให้ด้วยนะคะ มิวจะได้นำไปให้หัวหน้าพิจารณาอีกที"

 

"ครับ"




   คนที่คุยกับเจ้าหน้าที่เสร็จก็หันมาถามเนม



"เนมถ่ายรูปเก็บหมดแล้วใช่ไหม?"

 

"ครับ เรียบร้อยทั้งถ่ายภาพและจดรายละเอียดที่เขาบอกครับพี่"

 

"โอเคจ้ะ ถ้างั้นมิวขอตัวก่อนนะคะ"


 

    หลังจากที่มิวแยกย้ายกับเจ้าหน้าที่ให้เช่าลานทำกิจกรรม มิวลงบันไดเลื่อนกับเนมแล้วบอก

 

"เนมกลับบ้านเลยก็ได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศแล้ว"


"ครับ"


"ถ้างั้นเราแยกกันเลยนะ พี่มีธุระต่อ"

 
"ครับ สวัสดีครับพี่"


 

      แยกกับพี่มิว เนมต้องการเดินเล่นพักผ่อนสักหน่อย เพราะช่วงนี้ เนมไม่ค่อยได้เดินห้างสักเท่าไหร่ และอาจแวะหาซื้อขนมนมเนย ของใช้ต่างๆไปไว้ที่บ้านแม็คด้วย



      ขณะที่เนมกำลังเดินไปยังบันไดเลื่อนอีกแห่งใกล้กันกับส่วนโรงภาพยนตร์ จังหวะที่เขาเดินผ่าน สายตาปะทะกับแม็คที่กอดคอเด็กนักเรียนมาอย่างกระหนุงกระหนิง
 

       คนที่ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกจ้องมองอยู่ ก้มหน้าเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มก่อนจะยกมือขยี้ผมอย่างน่ารัก น่าเอ็นดู


       อยู่กับคนอื่น ทำไมแม็คดูเป็นคนอบอุ่นกว่าอยู่กับเรา


      คนที่นึกเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเด็กนักเรียนมอปลายก็รู้สึกชาวาบ ใจหวิวขึ้นมา เนมถอนหายใจยาว กระพริบตาถี่เมื่อรู้สึกว่าขอบตาเริ่มร้อนผ่าว จากนั้น เขาควักโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเพื่อโทรหาคนที่กำลังหวานแหววกับคนอื่น


     เนมยืนหลบมุมอยู่หลังเสาต้นใหญ่ ไม่นาน

 

"แม็ค อยู่ไหนหรอ? คุยได้หรือเปล่า?"

 

[ผมไม่สะดวกคุยน่ะเนม ผมอยู่กับพ่อ]

 

     มือสั่นกว่าเก่า เขากำโทรศัพท์แน่น...ถ้าเป็นเยลลี่คงเละคามือไปแล้ว

 

"อยู่กับพ่อ? แม็คคงยุ่ง ถ้างั้นคืนนี้ เราไปนอนค้างบ้านพี่ตูนก็ได้ใช่ไหม?"

 

[เนมอย่ายั่วโมโห ผมกลับไม่ดึก กุญแจบ้านซ่อนไว้ที่เดิม ผมต้องวางสายแล้ว]

 

"เหอะๆ พ่อแม็คนี่ดูเด็กกว่าแม็คอีกนะ ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย"

 

[นะเนม เนมอยู่ไหน?]

 

       ดูสุ้มเสียงปลายสายจะตระหนกตกใจจนเห็นได้ชัด เนมทำตัวลีบพลางลอบมองคนเลิกลั่ก ลนลานกวาดสายตาไปทั่ว

 

"แม็คนอกใจเราทำไม?"

 

      บอกแค่นั้น ก็กดวางสาย จากที่ต้องการหาซื้อของใช้ ของกินเข้าบ้านแฟน ยามนี้ นายกันต์ธีร์เปลี่ยนใจไปร้านเหล้าแทน แม้มันจะเพิ่งห้าโมงเย็นเองก็เถอะ...



    เมื่อต่างฝ่าย ต่างไม่เหมือนเดิม คงถึงเวลาที่ทั้งสองควรยุติความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักไว้ตรงนี้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด..



..........................................


อย่างที่เคยบอกก่อนหน้า เรื่องนี้ไม่ยาวนะคะ

 ไม่กี่ตอนก็จบแล้วค่า


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-10-2018 08:03:44 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เจอคาหนังคาเขาแบบนี้  เลิกไปเลยเหอะ  เพราะเราดูออกตั้งแต่แรกแล้วว่า  แม็คไม่ได้รักจริงหรอก  แม็คต้องการแค่เซ็กส์    ในขณะที่พี่หมีการ์ตูนนั้น  รักจริงหวังแต่งนะเออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 10 คนเลว





"แม็คมีคนอื่น"


   คนที่พอจับจองที่นั่งในบาร์และดื่มเบียร์ได้สักพักก็โทรหาเพื่อนสนิท ด้วยความอยากระบายความในใจถึงความโมโหปนเสียใจที่จับได้ว่าแฟนตัวเองมีคนอื่น



   โดนสวมเขามานานเท่าไหร่แล้ว?



   พระอาทิตย์ยังไม่ทันลาลับขอบฟ้า เนมก็ดื่มเบียร์เป็นแก้วที่สองแล้ว เขาแค่หวังจะให้แอลกอฮอลล์ช่วยลดความเครียดในตอนนี้ไปก่อน 

 


[แกรู้ได้ไง?]


"วันนี้ เราเห็นแม็คควงเด็กไปดูหนัง"


[เฮ้ย จริงอะ?]



    บอกความสัมพันธ์ล่าสุดที่ไปไม่รอดให้เพื่อนฟังทั้งๆที่ขอบตาก็ร้อนผ่าว

 

"อืม"


[แม็คได้โทรง้อรึเปล่า?]

 

"โทรมา แต่ไม่รับ ไม่รู้จะพูดอะไร"


[แล้วจะทำไงต่อไป?]

 

"ไม่รู้ สับสนเหมือนกัน ว่าควรให้โอกาสหรือเลิกดี"

 

[ถ้าเป็นฉันนะเนม ถ้าจะให้โอกาสก็ควรอภัยได้จริงๆ ต้องสามารถลืมเรื่องเก่าๆที่เขาทำผิดพลาดไปได้ แต่ถ้าคิดแล้วว่า ใจมันไม่ไหวที่จะลืมสิ่งที่เขาทำกับเรา ฉันจะเลิกว่ะ]



     ฟังเพื่อนด้วยอาการมึนๆ เขาเริ่มตัวร้อน หน้าร้อนวูบวาบ จนรู้ว่าตัวเองดื่มเร็วไป จึงลดสปีดให้ช้าลงด้วยการพักแล้วนั่งฟังเพื่อนพร้อมระลึกถึงอดีต



     ปล่อยทิ้งไว้นานไม่ดีแน่ๆ...





"เมย์ ถ้าเราเริ่มมีใจให้คนอื่นแล้วล่ะ เราผิดมากไหม?"


[ตอบแบบคนกลางก็ผิดกันทั้งคู่ แต่ถ้าแกกับแม็คต่างฝ่ายต่างปันใจให้คนอื่นแล้ว เลิกเถอะ อย่ารั้งกันไว้อีกเลย มันไม่ใช่ชีวิตคู่ที่จะเดินไปด้วยกันแล้วอะ]



.

.

.

.

[เนมไปหามึงใช่ไหม?]


     เพิ่งจะพักเบรคจากการประชุมกับทีมไอที เดเวล็อปและโปรแกรมเมอร์ เรื่องการมีปัญหาของระบบแอพพลิเคชั่นที่ไม่ค่อยสเถียร ก็ตกใจเมื่อเห็นเบอร์ของคนที่โทรมาปรากฎบนหน้าจอ



     ตั้งแต่ที่มีเรื่องชกต่อยกัน ยอมรับว่าตัวเองผิดแต่ก็ไม่เคยได้หาโอกาสโทรไปขอโทษหรือปรับความเข้าใจกับแม็ค ตูนถึงแปลกใจที่แม็คยอมลดศักดิ์ศรีโทรมาหากันก่อน



"เปล่า ตอนนี้ กูอยู่ออฟฟิศ"



[โกหก กูไม่เชื่อ]



"ไอ้แม็คอย่าพาล กูไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง จะโกหกมึงเพื่ออะไร?"  ตูนพูดด้วยนำเสียงราบเรียบ แต่ลึกๆหัวใจเต้นตึกตักอย่างอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อฟังจากน้ำเสียงแม็คแล้วดูลนลาน กระวนกระวายไม่น้อย



[กูมีเรื่องที่ทำให้เนมเข้าใจผิด กูโทรไปหาเนมแล้วแต่ไม่รับเลย กูอยากคุยกับเนมให้รู้เรื่อง]



"เนมไม่ได้มาหากู และเนมก็ไม่ได้โทรหากูด้วย"



[ไอ้ตูน ถ้าเนมโทรหรือไปหามึง มึงรีบโทรมาบอกกูนะ กูขอร้อง]



"อืม"

 [โอเค...ขอบใจ]



      แม้ปากอยากถามแม็คว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่ตูนรู้ดีว่า เขาถามจากคนที่ทำให้แม็คร้อนรนจนเป็นบ้าดีกว่า



      นาทีแล้ว นาทีเล่า ผ่านไปหลายสาย คนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาของแม็คและเนม ชักเริ่มกระวนกระวายไม่ต่าง เมื่อเนมไม่รับสายการ์ตูนเช่นกัน ใกล้เวลาที่ต้องเข้าประชุมอีกรอบซึ่งก็ไม่รู้ด้วยว่าจะสรุปข้อมูลจบลงที่เมื่อไหร่ เผลอๆวันนี้ อาจเลทไปถึงสามทุ่มก็เป็นได้



      ใบหน้าหล่อเซอร์ยามนี้ถูกฉาบด้วยความทุกข์ใจ เพราะนอกจาก เรื่องงานที่ทำให้หนักใจแล้วกลับมีเรื่องอื่นสร้างความหนักใจไม่ต่างกัน



"เฮ้อ...ทำไม่เนมชอบทำให้พี่เป็นห่วงแบบนี้นะ"

.

.

.

.

 "ไม่ต้องทอนครับ"
 


       ยื่นเงินให้แท็กซี่ แล้วก้าวเท้าลงมาจากรถ ในเวลาห้าทุ่มครึ่ง คนที่กลับมาจากการดื่มเบียร์ที่แม้จะนั่งในร้านนานหลายชั่วโมง แต่เนมไม่ได้ดื่มเยอะอย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก เขาแค่นั่งแช่และคิดได้ว่าไม่ควรเมามาย ความเป็นจริงจึงดื่มไปแค่สามแก้วเท่านั้น เพียงเหลือบเห็นเบอร์โทรโชว์ที่เครื่องเป็นเบอร์ของพี่การ์ตูนที่กระหน่ำโทรมาเป็นสิบสาย มันก็จุดประกายความคิดของเนมได้ว่า คืนนี้ เขาควรนอนที่ไหน? นั่นจึงทำให้เนมรู้จุดประสงค์ว่า ถ้าจะมาหาพี่ตูน เขาไม่ควรเมาจนไร้สติ



      นาทีนี้  พี่ตูนยังไม่รู้ว่าเนมมาหา แต่เนมรู้ดีว่าพี่ตูนเป็นคนปากร้ายใจดี ด่าให้ตายยังไง พี่ตูนไม่มีทางปฏิเสธเนมได้ลงคอ ดังนั้น เนมจึงจะ...





"ฮัลโหล พี่ตูนครับ ลงมารับผมหน่อย ผมอยู่หน้าบ้านพี่"
 

[อะไรของเนม? นี่มันกี่โมงก็ยามแล้ว]

 

"ขอโทษนะครับ ถ้าพี่ตูนไม่สะดวกเดี๋ยวผมเดินออกไปเรียกแท็กซี่ก็ได้ครับ" บอกเสียงสลด



 [เดี๋ยวลงไป]

 

   ยกยิ้มกรุ้มกริ่มทันที ที่พอเนมบอกไปเช่นนั้น อีกฝ่ายก็ไม่รีรอที่จะตอบตกลงกลับมา เนมรอไม่นาน พี่ตูนก็ลงมาเปิดประตูในสภาพเสื้อกล้ามสีขาวตัวย้วยใหญ่กับกางเกงผ้าข้าห้าส่วน




"ทำไมเมามาล่ะเนม? พี่โทรไปก...ไ"





 ฟึ่บ

    การ์ตูนตัวแข็งเป็นแท่งปูน เมื่อเนมถลามาสวมกอดอย่างแรง

 

"แม็คมีคนอื่นพี่ตูน แม็คมีคนอื่น"

 

     อย่างนี้นี่เอง...

    ที่แม็คโทรมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน มันเป็นเพราะเนมจับได้ว่าแฟนตัวเองมีคนอื่น คนที่พอปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว ก็บอกเนม



"ใจเย็น ขึ้นไปอาบน้ำก่อน ตัวเหม็นมาก"


    ช้อนตามองคนบ่นก่อนริมฝีปากเริ่มสั่นระริก ตูนดันร่างเนมออก แล้วเลื่อนมือไปจับมืออีกฝ่ายเพื่อช่วยประคองคนที่ทรงตัวไม่ดีนักขึ้นห้อง



    โยนผ้าขนหนูผืนใหม่ให้เนมพร้อมไล่ไปอาบน้ำ ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยสมองที่ยังครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่


'เนมทะเลาะกับแม็ค แล้วเคลียร์กันรึยัง? แล้วกูควรโทรบอกแม็คไหม?  แล้วเนมมาหากูทำไม?'



      มีคำถามมากมายผุดขึ้นในหัวไม่หยุดหย่อน จนกระทั่ง คนที่นอนหงายก่ายหน้าผากเปลี่ยนเป็นพลิกตัวตะแคงข้าง แล้วบอกตัวเองว่าควรเลิกคิดไปเอง แล้วรอถามเจ้าตัวต้นปัญหาเลยแล้วกัน



"ให้ปิดไฟเลยไหมครับ?"


     กว่าสามสิบนาทีที่เนมหายไปและเดินเข้าห้องมาด้วยผ้าขนหนูหนึ่งผืนที่พันกายไว้หมิ่นเหม่


"อยากเล่าอะไรก่อนไหม?"

 

"ปิดไฟก็เล่าได้ครับ"

 

"ตามใจ"

 


    เมื่อในห้องมืดลง คนที่เว้นที่ไว้ให้เนมนอนด้วยก็รับรู้ถึงน้ำหนักของคนที่ทิ้งลงบนเตียง


"ทำไมถึงรู้ว่าแม็คนอกใจ ไปเจอแม็คอยู่กับคนอื่นเหรอ?"



"...."



      ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก


      เนิ่นนานหลายนาทีที่เนมเงียบฉี่ แต่ตูนไม่เซ้าซี้ด้วยความเข้าใจไปเองว่าไม่แน่เนม อาจกำลังนอนร้องไห้อยู่


      และแล้ว ทันใดนั้น คนที่นอนตะแคงข้างขนอ่อนลุกชูชัน เมื่อมีปลายนิ้วทั้งสามไล่ไต่ตามสะโพก สีข้าง ไปยังเนินไหล่


"เนม จะทำอะไร?"
 

      คนที่พอรู้ว่าเนมจะทำอะไรแทรกขึ้นเสียงดังเพื่อเรียกสติเนมว่าสิ่งที่ทำมันไม่โอเคกับใครทั้งนั้น



     บอกจบ คนที่จรดปลายนิ้วลงบนผิวสัมผัสอีกฝ่ายเลื่อนฝ่ามือช้าๆลูบผ่านท้องน้อยไล่ลงถึงขอบกางเกงและล้วงเข้าไปจับอาวุธอันทรงพลังของพี่การ์ตูน ก่อนจะแนบเสี้ยวหน้าซบตรงแผ่นหลัง

 

"เนมถ้าเมาก็นอน แต่อย่าเล่นแบบนี้!"
ตูนปรามเสียงดัง ใจดีมาตลอดก็ทำให้เด็กมันได้ใจสินะ ถึงเวลาที่เขาควรดุด่าให้เนมได้สำนึกบ้าง



"แล้วถ้าผมบอกว่าไม่เมาล่ะครับ"


"ถ้าจะเอาเพราะประชด ไปเอากับคนอื่น"

 

     กลืนน้ำลายก่อนตอบพร้อมกับจับข้อมือเนมแน่น ยามนี้ แก่นกายของการ์ตูนกำลังอยู่ในอุ้งมือเย็นๆของอีกฝ่าย ที่สำคัญ เนมใช้ปลายนิ้วหยอกเย้า เขี่ยส่วนปลายสีสดเล่นจนตูนเริ่มสะกดอารมณ์หื่นไม่ไหว เขาพยายามดึงมือเนมออก แต่เนมกลับกำมันแน่นกว่าเดิม จนตูนเผลอคำรามในคอ



"ผมไม่ได้ประชด" คนที่บอกเสร็จ ก็ลากปลายลิ้นเลียวนบนหัวไหล่



"เนม! กลับบ้าน"

 

     ใช้แรงบีบข้อมือเนมแน่นกว่าเดิม จนเนมร้องโอย ตูนได้จังหวะ พลิกตัวลุกขึ้นนั่ง แต่เนมยังไม่วายรั้งไหล่พี่การ์ตูนไม่ให้ไปห่างกัน แล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างลูบไล้ริมฝีปากพี่ตูนช้าๆ ก่อนจะใช้ริมฝีปากแตะปากพี่ตูนผิวๆและผละ


"ถ้าไม่มีแม็คแล้ว พี่ตูนจะคบกับผมไหม?"



     สมองกลับไม่ได้ประมวลผลหาคำตอบให้แก่คนตรงหน้า ทว่า มันดันไปดึงความจำจากคำพูดของเพื่อนที่เกิดขึ้นในอดีตของวันนี้     



'ไอ้ตูน ถ้าเนมโทรหรือไปหามึง มึงรีบโทรมาบอกกูนะ กูขอร้อง'

 



***1.1***


**โอ้ยยยยยยยยยยยยย!!!...**
 - เนมนี่ มาถามพี่เขาทั้งที่ลูบๆคลำๆไปแล้วด้วยนะ 555
 - ต่ายแล้ววววววว น้องจะไม่รอเคลียร์กับพี่แม็คก่อนหยอออ...
- พี่ตูนเอาไง ว่ามา พี่พระเอกพอเนอะ (หราาาาา) 555   



 
DrSlump >> ทำไมเก่ง? จังคะ แหะๆ (แต่ก็มีบางส่วนที่ยังบอกไม่ได้ด้วยเรื่องเกี่ยวกับแม็ค)
❤❤❤❤
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-10-2018 20:15:40 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เนมทำแบบนี้ไม่ได้ลูกกกก ใจเย็นก่อน  :katai1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

โอ๊ะโอ...วันทองสองใจ 

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 10 คนเลว (2)





      มันไม่ใช่แค่เรื่องที่หนึ่งนาทีก็ตัดสินใจได้เลย เรื่องสำคัญแบบนี้มันละเอียดอ่อนและต้องใช้เวลานานกว่านั้น แต่คนที่ยังนิ่งงันพลันครุ่นคิดทั้งเรื่องแม็คและเนมท่ามกลางความมืดมิดในห้องนอน ไม่รู้เลยว่าแค่ช่วงเวลาไม่กี่อึดใจ อีกฝ่ายกำลังคิดทำอะไรอยู่



     เร็วกว่ารถไฟชินคันเซ็น เห็นจะเป็นเนมที่ยามนี้ เจ้าตัวเลื่อนตัวลงไปยังหว่างขาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับแก่นกายของอีกฝ่าย เนมอ้าปากรับแท่งร้อนกลืนเข้าไปทีละนิดๆ ดึงดูดรูดราวกับว่าได้ลิ้มชิมรสไอศกรีมที่ถูกใจ เนมขยับโยกศรีษะขึ้นลงจนแก่นกายมีปฏิกิริยาแข็งขืนขึ้นกว่าเดิม



"นะ..เนมหยุด"




      บอกหยุดก็หยุด แต่เพียงปากเท่านั้นแหละที่เนมถอนริมฝีปากออกมาเพื่อพอ เมื่อเนมเปลี่ยนมาใช้มือเรียวกำแท่งร้อนแล้วใช้ปลายนิ้วสะกิดเบาๆตรงส่วนปลายจนตูนกัดปากอย่างระงับความเสียวกระสัน



"แต่พี่เองก็อยากนะครับ"




      ของแบบนี้ มันโกหกกันได้ที่ไหน? ในเมื่อหลักฐานปรากฏอยู่ทนโท่ว่าพี่ตูนตอบสนองต่อสิ่งที่เนมทำจนแก่นกายพี่ตูนแข็งจัด หากนำไปฟาดปากใครคงแตก



"อย่าทำแบบนี้ ขอล่ะ"
ประท้วงขึ้นมาเสียงแผ่ว เขาไม่คิดว่าเนมจะยังดำเนินบทรักต่อ ตูนก็เข้าใจอยู่หรอกว่าเนมจะไปบอกเลิกแม็ค แต่ก็ควรที่จะสะสางปัญหาให้รู้เรื่องก่อนที่จะทำแบบนี้มั้ย?



    กัดฟันกรอด ข่มอารมณ์สุดฤทธิ์ มันยากมากนะ เมื่อคนที่แอบชอบมาตลอดกำลังมาช่วยออรัลและยั่วให้อารมณ์ขึ้น แค่เนมแตะ สัมผัส ลูบไล้ ยังไม่ได้สอดใส่ ตูนแทบคลั่งตายอยู่แล้ว



     'แฟนเพื่อน แฟนเพื่อน'




     ราวกับท่องคาถากันผี ตูนตั้งสติโถมตัวควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองเพื่อโทรหาแม็ค มือหนาปัดป่ายจนไปแตะโดนสีข้างอีกฝ่ายถึงเพิ่งรู้ว่า เนมเปลือยกายมานอนบนเตียงเหมือนว่าวางแผนมาก่อนแล้ว





    ได้ยินพี่ตูนตอบเช่นนั้น ร่างเขาก็เกร็งตัวแข็งอย่างตั้งใจแสดงออกให้รู้ว่าไม่เล่นด้วย  เนมพอจะเดาได้นะว่าพี่ตูนก็ชอบเขาเหมือนกัน เนมแค่อยากให้พี่ตูนทำตามหัวใจตัวเอง เพราะเนมสามารถจัดการเรื่องความสัมพันธ์กับแม็คได้เองอยู่แล้ว



"รีแลกซ์หน่อยครับพี่ตูน อย่ากังวลเรื่องแม็คเลย เดี๋ยวผมเคลียร์เอง"
ความมืดมันทำให้เห็นเค้าลางๆ แต่ไม่ถึงกับชัดขนาดรู้ว่าเนมกำลังทำสีหน้าแบบไหน?



        ทำไมเนมถึงพูดไม่รู้สึกรู้สา ราวกับว่า สิ่งที่เราทำกัน มันคือการชวนออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะยามเช้าอย่างไรอย่างนั้น


"พี่...อ้ะ เนมอย..."




       แค่พี่ตูนอ้าปากจะพูด เนมรีบใช้ปากออรัล ทั้งอม ทั้งดูดดุน ในขณะที่มือก็ช่วยรูดรั้งไปด้วย จนคนใจแข็งหลุดร้องเสียงครางกระเส่า ยิ้มพลันหยัดกายคลานขึ้นไปหาคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนพิงพนัก ยามนี้ เนมขึ้นไปนั่งทับแก่นกายของพี่ตูน



"อยากเปิดไฟไหมครับ?"


"ไม่"


"กลัวรู้สึกผิดเหรอ?"
โน้มหน้าไปกระซิบบอก ก่อนขบเม้มติ่งหู



"เฮ้ย เนมพี่ไม่โอเค"


"ผมบอกแล้วไงครับ เรื่องนี้ผมจัดการเอง"




       บอกจบ คนที่นั่งอยู่บนตัวของคนอายุมากกว่าเริ่มร่อนสะโพกบดคลึงแก่นกายที่ยังไม่ได้สอดใส่ แก้มก้นถูไถแก่นกายของพี่ตูนที่กระตุกเป็นระยะๆ  ถ้าพี่ตูนยังใจแข็งก็คงต้องยั่วอีกหน่อย



       นับถือใจคนตรงหน้าจริงๆ พี่ตูนอดทน สกัดกลั้นอารมณ์ไม่ให้หวั่นไหวตามสิ่งที่ทำ เขายังคงนั่งนิ่ง จนเนมบีบเจลหล่อลื่นมาป้ายช่องทางรักของตนเองจนชุ่ม ก่อนก้มลงไปซุกซบหน้าลงลาดไหล่



"แฉะแล้วนะ พี่ตูน"



"เนม"



     ฟังคำคนที่เอาแต่เรียกชื่อครั้งแล้ว ครั้งเล่าก็นึกเบื่อ เมื่อไหร่พี่ตูนจะเอาของพี่เข้ามาในตัวผมสักที?



"เนมขอนะพี่ตูน ได้โปรด เอาเข้ามาสักที"



      ตูนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขารู้สึกปวดหน่วงหนึบและเริ่มอึดอัดจวนระเบิด ช่างไม่ดีต่อใจ เมื่อเด็กร้องอ้อนพร้อมยกสะโพกลอยขึ้น เอื้อมมือไปด้านหลังจับแท่งร้อนของตูนถูวนตรงร่องรัก เนมบรรจงริเริ่มเองทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนนี้ ส่วนหัวแก่นกายเข้าไปในโพรงนุ่มเรียบร้อย ไร้การเปิดทางขยายขนาด เนมแค่ต้องการกระตุ้นไฟราคะในอกใครบางคนเสียก่อน



     ฟิต แน่น รัดรึงเกินไป ไม่ไหวแล้ว ความอึดอัดได้พังทลายลง


    ราคะกำเนิด อารมณ์เตลิด เกิดเป็นกามารมณ์ ตูนผลักร่างเนมนอนราบไปกับเตียงและคร่อมทับ ไซ้คอ ไล้ลามมาพรมจูบทั่วแผ่นอกลงต่ำไปยังหน้าท้อง ขณะเดียวกัน ปลายนิ้วของตูนถูวนเบาๆตรงรูรัก ก่อนจะสอดสองนิ้วเข้าไปจนสุดปลายดึงเข้า-ดึงออกจนคนถูกกระทำแหงนหน้ามองเพดาน ร่างกายบิดเร้าเพราะความซาบซ่าน วาบหวามในอก



"อ้า อ้ะ อ้ะ...เสียวอะ...พี่ตูน จูบเนมหน่อยครับ"



     เสียงแผ่วเอื้อนเอ่ยจนคนตัวโตโน้มตัวลงไปจูบ ขบเม้ม ดึงดูดริมฝีปากล่างเบาๆ ก่อนสอดเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปาก เนมส่งเสียงครางอื้ออึงในคอไม่หยุดหย่อน เพราะแพ้ความช่ำชองของพี่ตูน ไม่คิดว่าจะใช้ลิ้นเก่ง นิ้วเก่งขนาดนี้


จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ


     จากนั้น พี่ตูนทั้งดูด ทั้งขบ ทั้งเลียอย่างกระหาย เขาประทับรอยจูบ ทิ้งรอยจ้ำแดงๆ ไว้ตามเรือนกาย ก่อนจะผละออกมา สวมถุงยางและกดแท่งร้อนของตัวเองเข้าไปจนสุด แม้อากาศในห้องจะเย็นฉ่ำแค่ไหน แต่นาทีนี้ สองคนเนื้อตัวเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ สองมือจับต้นขาเนมให้ยกสูงขึ้น ดันกายเข้าหากระแทกกระทั้นอย่างเร่าร้อนรุนแรง จนเนมตัวโยกคลอน ส่วนมือของเนมก็รูดรั้งแก่นกายของตัวเองไปด้วย


พั่บ พั่บ พั่บ


    นาทีนี้ เนมยอมรับว่าตัวเองเป็นคนเลว เมื่อสัมผัสได้ว่า กาาร่วมรักกับพี่ตูนมันอบอุ่นปนความเสียวกระสัน มากกว่ามีเซ็กซ์กับแม็คเป็นไหนๆ

 

     ใครจะว่าแรดร่านก็ช่าง เนมปล่อยเบลอ เขาแค่อยากได้สัมผัสแท่งร้อนที่กดลึกเข้ามาจนวาบหวามรัญจวนใจ ร่างกายกระตุก ปลายเท้าจิกเกร็ง  เนมใช้มือลูบไล้กายหยาบ และพูดจาทะลึ่งตึงตัง ยั่วให้คนข้างบนมีอารมณ์จนถึงขีดสุด


"อ่าาาาห์ อ้ะ..พี่ตูน...อ้ะ โคตรเสียวเลยครับ"



"เจ็บหรือลึกไปบอกนะ พี่จะพอ ซี้ดดอ่าาาห์"
บอกพร้อมคำรามเสียงต่ำ


     เสียงหอบหายใจทั้งสองผสานกันกึกก้อง พร้อมกายสั่นสะท้านด้วยเพลิงสวาท ตูนกัดปากเสียวรับรู้ถึงความอุ่นนิ่มโอบรับทุกขณะ บางจังหวะตอดรัดจนตูนแทบคลั่ง

 

   ความปวดหนึบเสียวซ่านแล่นปราดทั่วร่าง ก่อนเสียงคำรามดังลั่นครั้งสุดท้าย เนมก็ได้รู้ว่า...

พรวด
 

     รับรู้ถึงแรงฉีดพ่นของของเหลวอุ่น เนมรีบเร่งรูดรั้งของตัวเองอย่างเร็วไว  ไม่นาน เนมก็ถึงสวรรค์
           

    ยามนี้ แท่งร้อนจัดที่สวมถุงยางอนามัยค่อยๆดึงออกอย่างเชื่องช้า ต่างฝ่ายต่างจัดการทำความสะอาดให้แก่กันและกัน จากนั้น ร่างเปลือยของสองคนนอนทิ้งตัวลงบนเตียงตระกองกอดกันอย่างเหนื่อยอ่อน...


       จุ๊บ...


       เนมจูบแก้มพี่การ์ตูน ก่อนซุกหน้าลงตรงซอกคอ



"ฝันดีนะครับ พี่ตูน"

 

.

.

.

.

        ย้อนกลับไป ในช่วงที่เนมเข้าห้องน้ำเพื่อไปชำระร่างกายให้สะอาด เขาส่งข้อความไลน์ไปบอกแม็คให้รู้ไว้ก่อนจะเดินทางไปหาพรุ่งนี้



............

Read

00:15

ความสัมพันธ์คู่เราตอนนี้แม่งไม่เวิร์คแล้ว เลิกกันเถอะแม็ค



         

         และหลังจากเสร็จกิจแห่งกามเนมก็ไม่ได้คิดจะเช็คโทรศัพท์มือถือตัวเองอีกเลย





03:45

เนมผมเผลอหลับ สะดุ้งตื่นมาเจอข้อความ เนมอยู่ไหน? อยู่กับใคร? ให้ผมไปรับนะ



04:00

ผมโทรหาตอนนี้ได้ไหม?



04:25

เนมอย่าเป็นแบบนี้ ผมเลว ผมรู้ ผมขอโทษ เด็กคนนั้นผมไม่ได้จริงจังด้วยแค่ลองควงเพื่อพิสูจน์ใจตัวเอง ถ้าเนมมาหาผมพรุ่งนี้ ผมจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง แต่เนมกลับมาหาผมนะ...กลับมาหากันก่อน



05:00

ผมนอนไม่หลับ เนมอยู่ไหน? บ้านตูนหรือเปล่า?




05:10

เนม อย่าเลิกกันเลย



............



05:02

ไอ้ตูน เนมไปบ้านมึงไหม?



05:15

เนมบอกเลิกกู




............................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2018 22:03:03 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เนม...เธอนี่ฝ่ายนึงยังไม่เคลียร์ให้ชัดเจน

ก็ไปยั่วคนดี ๆ ให้ทำชั่วซะงั้น  เธอนี่มัน.......เฮ้อ...

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เนม ก็..........สองใจ  :เฮ้อ:

แม็ค ก็....... พิสูจน์ใจตัวเอง  :really2:

ตูน ก็........ยับยั้งใจไม่ได้  o22 o22 o22

แต่ดูตูนจะอ่อนโยน เข้ากับเนม ดีกว่าแม็ค 
ที่เอาแต่ความต้องการของตัวเอง ไม่สนใจคู่ของตัวเอง
สามคนอลเวงแล้ว   3p  ไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 11 คนเก่า และคนรักคนใหม่






"ตื่นแล้วเหรอ? พี่ตูน"


 

       ปรือตามาพบพี่ตูนกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงนักเตียงด้วยท่อนบนเปลือยเปล่า ช่วงล่างมีผ้าห่มคลุมไว้ เนมเหลือบมองดวงตาคู่คมดูอ่อนล้าราวกับอดนอนมาหลายชั่วโมง



       ตูนไม่ตอบ เขายังคงคิดถึงเรื่องการกระทำที่ผิดพลาดมหันต์


      ความพยายามทั้งหมดของกู....

 
      ช่วงเวลาที่ผ่านมา ความอดทนของตูนไม่ต่างกับการก่อปราสาททราย เขาค่อยๆโกยเม็ดทรายมาปั้นแต่ง บรรจงสร้างปราสาทให้เป็นรูปเป็นร่าง ไม่นานก็แล้วเสร็จ ได้ปราสาทแสนสวยทรงสูงตั้งตระหง่าน ทว่า ความพยายามในการสร้างปราสาทอันยาวนานกลับพังทลายเมื่อโดนคลื่นซัดเข้าฝั่ง ปราสาทนั้นสลายไปกับสายน้ำชั่วพริบตา เฉกเช่น ความอดทนของตูนตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลย

 

       ...อดทนมาได้ตั้งนาน แพ้การออน ท็อป เสียอย่างนั้น...

 

"พี่ตูนไม่ได้นอนเหรอ?"
ถามอีกครั้งพลางกระเถิบตัว แนบศรีษะลงบนแผงอกกว้าง จรดปลายนิ้วลากไล้ไต่เล่นตามตัวคนที่เพิ่งผ่านการร่วมรักมาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง

 

"พี่มันเป็นเพื่อนที่ใช้ไม่ได้"
เมื่อกามราคะได้พัดพาความดีงามให้หายไปยามมีเซ็กซ์กับแฟนคนอื่น พอสำนึกได้ ถึงมาเครียด นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย จนถึงบัดนี้


 

05:02

ไอ้ตูน เนมไปบ้านมึงไหม?

 

05:15

เนมบอกเลิกกู


 

        หวนนึกข้อความไลน์ที่แม็คส่งมา เขาไม่ตอบ เพราะยังตั้งตัวไม่ติด และข้อความเพื่อนทำให้ตูนรู้สึกผิดจับขั้วหัวใจ


        เวลาที่ส่งคงบอกได้ชัดเจน ว่าแม็คคงนอนไม่หลับไม่ต่างกัน   
       

      จะโทษเนมฝ่ายเดียวก็คงไม่ถูก หากตูนมีความหนักแน่นมากพอ เรื่องเหล่านี้ก็คงไม่เกิด

 

"ทำไมพี่ว่าตัวเองแบบนั้นล่ะครับ"
ถามเสียงแผ่ว ช้อนตามองคนที่กดสายตาลงมาจ้องเนมเช่นกัน

 

"เรามีอะไรกันนะเนม ทำไมถึงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"

 

      พี่การ์ตูนเป็นคนดีจริงๆ เนมดึงมือพี่ตูนมาวางบนแก้มของตัวเอง

 

"เนมจะเลิกกับแม็คอยู่แล้ว พี่ตูนไม่ต้องรู้สึกผิดและอย่าโทษตัวเองเลยนะ ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะเนม เนมจะคุยกับแม็คเอง"

 

"...."



     คนที่นอนกอดตูนตอนแรกยันกายขึ้นไปจุ๊บปากพี่ตูนผะแผ่วแล้วบอก

 

"เมื่อคืน เนมมีความสุขมากนะ การที่เนมมีเซ็กซ์กับพี่มันมีอะไรมากกว่าการเอาเพื่อความมันส์หรือปลดปล่อยอารมณ์ พี่ตูนทำให้เนมสัมผัสได้ว่าการที่เรามีเซ็กซ์กัน คือ การบอกรักทางอ้อม"


 

     มองเนมที่ยิ้มทั้งปาก ทั้งแววตาแถมซ่อนความประทับใจในนั้นก็แอบถอนหายใจยาวเขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้เนมรู้สึกเช่นนั้น แต่ถ้าถามตูน ตูนก็แค่ให้รักนำพาทุกอย่างไหลไปตามหัวใจในทุกห้วงอารมณ์ของการร่วมรักกันก็เท่านั้น



     การ์ตูนอมยิ้ม ถึงเครียดก็เครียดไม่สุด เพราะคนตรงหน้านี้ล่ะมั้ง



     ตูนยกมือบดคลึงริมฝีปากล่างเนมไปเงียบๆ



"พี่ตูนรักเนมใช่ไหม?"

 

"ไม่นะ แค่หวังฟัน เรื่องเมื่อคืนก็ลืมมันไปซะ"


 

     เล่นมุกได้อย่างนี้ แสดงว่าคงหายเครียดแล้ว เนมยิ้มกว้างจนปากฉีกถึงหู ก่อนจะขึ้นไปนั่งคร่อมตักคนตัวโต เนมคงยั่วได้ไม่มาก เพราะยังเจ็บและแสบตรงช่องทางรักอยู่ไม่น้อยเลยแค่โน้มหน้าไปซบลาดไหล่และเอียงหน้ากระซิบบอก

 

"ถ้าจะหวังฟัน จากนี้ พี่ตูนก็ฟันเนมบ่อยๆนะ"

 

"เนม!"
ตูนปรามด้วยใบหน้าแดงก่ำ ทำไมก่อนหน้า เนมดูไม่ทะลึ่งตึงตังขนาดนี้ หรือเจ้าตัวเพิ่งออกลายให้เห็น

 

"ไปอาบน้ำกัน พี่จะไปบ้านแม็คด้วย"
ตูนรีบตัดบทดันเนมออกห่าง

 

"ไม่ต้องครับ"


 

"เนม เรื่องนี้เราต่างก็ผิด พี่คงไม่ปล่อยให้เนมไปคนเดียวหรอก"

 


   ไหนๆเรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว เขาคงไม่ปล่อยให้เนมไปเผชิญชะตากรรมคนเดียวแน่ๆ

.

.

.

.

"ฮัลโหลแม็ค"

 

[เนมครับ ผมกำลังเข้าหมู่บ้านไอ้ตูน เนมอยู่บ้านมันใช่ไหม?]

 

    แปลกใจว่ารู้ได้ยังไง แต่ไม่ว่าจะเคลียร์กัน ณ บ้านหลังไหน? ก็คงได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน

 

"ใช่"


 

[โอเคครับ ผมใกล้ถึงแล้ว]



      เนมวางสายหันไปบอกพี่ตูน

 

"พี่ตูนไม่ต้องไปแล้ว"




"ทำไม?"

 

"แม็คกำลังมาหา"


.

.

.

.

ฟึ่บ!

 

"ผมขอโทษนะเนม สำหรับเรื่องราวที่ผ่านมา เนมรู้ไหม? เมื่อคืนที่เนมไม่กลับบ้าน ผมจะบ้าตายอยู่แล้ว"
วงแขนที่โอบกอดรัดแน่นทำให้เนมเริ่มอึดอัดและหายใจไม่ออก ทันทีที่เห็นเนมยืนรออยู่หน้าประตูบ้านแม็ควิ่งโผเข้าหา



    วันนี้ พี่โตพาอะตอมไปบ้านแม่ จึงช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งสามได้สะสางปัญหา รักสามเศร้า เราสามคนนี้ให้จบลงสักที

 

    แม้ใจกระตุกอย่างรู้สึกผิดกับเรื่องเมื่อคืน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เนมคิดดีแล้ว

 

"สนใจกันด้วยหรอ?"


 

"เนม อย่าประชด ไม่เห็นไลน์ที่ส่งไปรึไง?"
ผละออกมาใช้มือลูบแก้มเนียน

 

"...."



"เนมครับ เรากลับบ้านนะ"



"คุยกันที่นี่แหละแม็ค"



"ก็ได้ เนม ถ้าผมบอกความจริงทุกอย่าง เนมสัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธ"
ลูบแก้มก่อนเลื่อนมาจับมือเนมทั้งสองข้าง และทั้งคู่ยังคงสนทนากันเหมือนไม่มีตูนยืนอยู่ตรงนี้



       ตอนที่อยู่ในสถานะคนไม่มีสิทธิ์ ตูนไม่มีความขุ่นเคือง หึงหวงแต่อย่างใด แต่พอได้เป็นเจ้าข้าว เจ้าของเขาแล้ว บอกเลยว่าเห็นแบบนี้ หัวใจก็เจ็บนิดหน่อยเหมือนกัน

 

 "ไม่โกรธครับ เราไม่มีทางโกรธแม็คอีกแล้ว เราไปคุยกันบนห้องนะ"
คนที่รู้อนาคตแล้วว่าจะทำเช่นไร จึงหันไปบอกเสียงหนักแน่นกับคนรักที่กำลังกลายเป็นคนเก่า  แล้วหันไปหาคนรักคนใหม่

 

 "พี่ตูนครับ เนมขอใช้ห้องนอนพี่คุยกับแม็คหน่อยนะ"


 

"ได้ แต่พี่ไปด้...."

 

"พี่ตูนรอเนมอยู่ข้างล่างแหละครับ"



"เนม พี่จะไ.."



"เนมขอนะ"



"เฮ้อ ก็ได้"


 

     คนที่มาใหม่อย่างแม็คมองตูนสลับกับเนมด้วยความฉงน สองคนนั้นดูสนิทสนมเกินกว่าทุกทีและแววตาไอ้ตูนทำไมต้องอาลัยอาวรณ์ขนาดนั้น



     ไม่อยากเชื่อเซนส์ตัวเอง แต่ลึกๆใจมันบอกว่า สองคนนี้กุมความลับอะไรบางอย่าง

 

     ถึงห้อง ประตูปิดลง แม็คสวมกอดเนมพลางใช้ริมฝีปากคลอเคลียแก้มอีกฝ่าย เนมดันอกแม็คออกห่าง

 

"แม็คก็ยังไม่วายเห็นเราเป็นแค่คนตอบสนองทางเซ็กซ์เหรอ?"


 

"เปล่า ผมคิดถึงเนม อยากกอด อยากจูบ อยากทำทุกอย่าง เนมที่ผ่านมาผมเหี้ยเอง แต่ตอนนี้ผมรัก.เ.."


 

"พอเหอะแม็ค เราเลิกกันเถอะ เรามีอะไรกับพี่ตูนแล้ว"

 

"เมื่อกี้เนมว่าอะไรนะ?"

 

'เรามีอะไรกับพี่ตูนแล้ว'


 

     ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจให้จวนแหลก มันอึดอัดและทรมาน ช่างเจ็บปวดแปลบปลาบอะไรเช่นนี้ แม็คทั้งโกรธทั้งเสียใจ และไม่เคยมีใครกล้าหยามกันขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะยิ่งเป็นเนมด้วยแล้วล่ะก็....
 

เพี้ยะ!


      แม็คตบหน้าเนมสุดแรง เขาโมโหจนมือสั่น ตัวสั่น กระชากคอเสื้อของเนมเหวี่ยงร่างเนมจนแผ่นหลังกระแทกกับบานตู้เสื้อผ้าอย่างจัง

 

"มึงทำแบบนี้กับกูได้ไง?"


 

     มองคนเปลี่ยนสรรพนามทั้งยังส่งสายตามาด้วยความกรุ่นโกรธ ถามว่ากลัวไหม? เนมบอกเลยว่ากลัวมากและยิ่งไปกว่านั้น เนมเจ็บและแสบบนใบหน้าจนฝืนกลั้นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดเอาไว้



"ห้ามว่าพี่ตูน เรื่องนี้เราเลวเอง เราเริ่มก่อน เราชอบพี่ตูนแล้ว จากนี้ เราจะคบกับพี่ตูน"

 


      ในตอนแรกแม็คตั้งใจบอกความจริง โดยใช้วิธีปรับความเข้าใจกันอย่างละมุนละม่อม ทว่า นาทีนี้ กลับผิดแผนเมื่อได้ยินสิ่งที่ทำให้บาดลึกทางจิตใจ แม็คโกรธจัดจนอารมณ์โมโหรุนแรงที่ได้ยินว่าคนรักปันใจไปให้ใครคนอื่น

 

ปั่ก

 

       กระชากแขนเนมเหวี่ยงลงบนเตียง จากนั้น เขาปาโทรศัพท์มือถือใส่หน้าอีกฝ่าย
 

"โอ้ย!...แม็คเจ็บนะ เป็นบ้าอะไร? แค่เราบอกเลิกทำไมต้องทำกันแรงขนาดนี้ด้วยวะ"


       เหมือนโดนไฟช๊อต รู้สึกเจ็บแปลบ-ชาวาบทั้งตัว  เนมยกมือกุมโหนกแก้มที่โทรศัพท์กระแทก เนมไม่กล้าใช้กำลังหรือสู้กับคนอารมณ์ร้อนเช่นนี้ เพราะเชื่อว่า ถ้าสู้คงมีแต่แพ้กับแพ้อยู่ดี



      เนมน้ำตาคลอ ตอนที่คบกับแม็คก็รู้ว่า แม็คใจร้อน อารมณ์รุนแรง แต่จะเน้นหนักไปทางเซ็กซ์มากกว่า ส่วนช่วงเวลาคบกัน อย่างมากก็มีปากเสียง ไม่เคยมีทำร้ายร่างกายเหมือนครั้งนี้ ลูบสองบาดแผลใหม่บนใบหน้าของตัวเองด้วยความเจ็บปวดจนพูดได้ยากลำบาก


"กูไม่คิดเลยนะว่ามึงจะทำให้กูเสียใจได้มากขนาดนี้"

 


     เอี้ยวตัวมองเห็นโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของตัวเองที่เคยโดนโจรปล้นไปเมื่อหลายเดือนก่อนและแม็คมาช่วยไว้ในตอนนั้น มันปรากฎอยู่ตรงหน้า



    นั่นจึงทำให้คนที่เริ่มฉลาดปะติดปะต่อเรื่องราวได้


"เหอะ! ทำหน้าอย่างนั้น คิดว่าไง? คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยมึงได้พอดีเหรอ? มันไม่มีหรอกเว้ย... เรื่องบังเอิญบนโลกใบนี้น่ะ! ทั้งหมดกูตั้งใจให้มันเกิดขึ้น"

 

"ฮึกฮือ แม็คทำแบบนี้ทำไม?"
เนมปล่อยโฮ ใช้หลังมือปาดน้ำตา



      ใบหน้าชาวาบ หัวใจเต้นแรงกว่าเดิม วินาทีต่อจากนี้ เนมไม่รู้แล้วว่าเรื่องไหนมันคือเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก...


"แก้แค้น"





***1.1***

:man1: :man1: :man1: :man1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2018 08:26:58 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อุ้ย  เผยปมแก้แค้นออกมา

แก้แค้นอะไร?

เนมไปทำอะไรไว้  ทำไมแม็คจึงต้องแก้แค้น  จึงได้วางแผนเป็นฉาก ๆ เรื่อยมา?

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด