[แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)  (อ่าน 65050 ครั้ง)

ออฟไลน์ gibari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ยยยย อยากจะรู้ว่าตอนนี้น้ำทะเลตรงที่ทั้งคู่อยู่รสชาดมันจะเป็นยังไงหรือคะ เค็มไหม หรือว่าหวานจนต่อมรับรสมันเพี้ยนไปหมดแล้วอ่ะคะะะะะ

ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ก็ยังอยากบอกอยู่เสมอ ว่าชอบตอนที่แจ็คและเท็นอยู่ด้วยกันแบบนี้ คุยเล่นกวนกันไปเรื่อยๆ สักพักก็หยอดๆ จีบๆ กันไปมาให้ทั้งตัวเองและอีกฝ่ายได้เขินแบบไปไม่เป็น มันดจีย์~ กับหัวจิตหัวใจมากจริงๆ เลยนะคะ

รอคอยตอนจบที่ยังไม่อยากให้จบนะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ต้องมีตากล้อง1คนมาถ่ายภาพเก็บใว้แล้วแน่ๆ

เพราะช่างภาพมา2คน

คนนึงอยู่กับกลุ่มพี่ธีย์

 อีกคนต้องแฝงในเงามืดข้างชิงช้าแน่ๆ

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ตอนนี้เห็นใจเท็นมากๆ เอ็นดูไปหมด เท็นคือลูกรักไปแล้ว

เราว่าที่เท็นเป็นแบบนั้น เพราะไม่มีคนให้ปรึกษา ไม่มีคนคอยห้าม หรือเตือนสติ

ทั้งตอนเด็กที่อยู่กับแจ็ค เราไม่อยากว่าแจ็คนะ แต่ที่แจ็คทำ ที่ทิ้งเพื่อนไปหาแฟน

ที่บอกว่าทิ้งเพราะ ตอนที่อยู่ด้วยกันคือแชร์กันทุกอย่าง ตัวติดกันตลอด แจ็คคือที่ยึดเหนี่ยวของเท็น

แต่เท็นกลับไม่ได้เป็นที่ยึดเหนี่ยวของแจ็คอ่ะ พอมันเวลาหายไป แค่นิดเดียวก็รู้สึก

และมันเฟลมากๆ (อินมากเพราะเคยเป็นแบบนั้น)

อะไรหลายๆอย่างมันหล่อหลอมให้เท็นเป็นแบบนั้น

เราไม่โทษเท็นเลยที่ตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นลงไป

แต่ตอนนี้ เราว่าสถานการณ์มันเลวร้ายกับเท็นเกินไป

ช่วยให้เท็นหลุดจากความรู้สึกแบบนั้นทีนะแจ็ค  :กอด1:

ปล.สู้ๆน้าคนเขียน

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
หวานแล้วก็เตรียมตัวรับความวุ่นวาย ลุ้นไปด้วยกันจ้า

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0


#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 22
กุญแจสำคัญ (PART 2/2)



แจ็คพยายามคิดว่าทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดี แต่สายตาของเขาก็เอาแต่จับจ้องมองคนที่นั่งถัดจากพี่ตั้บ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเป็นห่วงไอ้เท็นจนแทบไม่หลงเหลือสมาธิไปใส่ใจปาร์ตี้รอบกองไฟปลอม ๆ

ตรงนี้คงมีแค่ไอ้แหลมที่ดูปกติถ้าไม่นับตากล้องอีกสองคน ส่วนคนอื่น ๆ ก็เรียกได้ว่าฝืน ไอ้ธีร์ถูกถามโง่ ๆ ว่า ‘ที่เลิกกับแฟนเป็นเพราะเกมหรือเปล่า ได้ข่าวว่ามีมือที่สาม เป็นเรื่องจริงไหม?’

‘เอาจริงนะ ต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นก็ขอให้รู้ไว้เลยว่าผมจะไม่มีวันโทษเกม มันคนละเรื่องกันเลย’

แน่นอนว่ามันกลัวไอ้โซ่ไม่สบายใจ แต่ไอ้ธีร์ก็ลืมไปว่าแฟนมันเป็นเด็กดีและเข้าใจอะไรได้ง่ายเกินกว่าจะมาหงอยเพราะคำถามที่รู้ดีว่าจงใจปั่น

‘หัวหน้าทีมผมไม่เชี่ยอย่างที่ใคร ๆ คิดหรอกนะครับ’
‘จริง เพราะเชี่ยได้มากกว่านั้น’
‘ผ่ามพาม!’

พอเห็นว่าแฟนเด็กยิ้มให้เป็นการบอกว่าไม่เป็นไร ไอ้ธีร์จึงเก็บสีหน้าไว้ได้พร้อมตบมุกไอ้แหลมกับพี่ตั้บ ซีนนี้คงเอาไปใส่ซาวด์เอฟเฟ็คฮา ๆ ได้

คำถามผ่านไปหลายข้อมีทั้งคำถามที่เข้าหูและที่ชวนให้ขมวดคิ้ว อยากเคืองพี่ต๋องแต่ก็เข้าใจว่าพี่แกคงคิดไปเองว่าทุกคนกลับมาเป็นเพื่อนกันอย่างสนิทใจแล้ว ความจริงเป็นอย่างไรมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากเลี่ยงที่จะพูดถึง

‘พี่เท็นรู้สึกยังไงกับกระแสโซเชียลที่มาทางแง่ลบมากกว่าบวก’

ยังเป็นคำถามที่พอตอบได้ ตอนนั้นไอ้เท็นยังคงปกติดี วูบหนึ่งแจ็ครู้สึกเหมือนได้เห็น TEN1O คนนั้น คนที่ตอบโต้ได้อย่างฉะฉานโดยไม่แคร์ใคร ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงคิดว่านั่นเป็นนิสัยของมันคนใหม่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เพราะแจ็ครู้ดีว่าที่ไอ้เท็นเป็นอยู่ก็แค่พยายามเข้มแข็งเพื่อไม่ให้คนอื่นพบจุดอ่อนเท่านั้น

‘ปกติครับ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ผมบังคับให้ทุกคนมารักไม่ได้นี่นะ’

เขาเห็นว่าไอ้ธีร์เบ้ปากนิด ๆ

“พี่แจ็คคิดยังไงกับทีมตัวเองครับ แบบว่าอยากลาออกจากงานไปเป็นนักกีฬาเต็มตัวไหมถ้ามีต้นสังกัดใหญ่ติดต่อมา?” คำถามแบบนี้ค่อยดีขึ้นมาหน่อย

“ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกทุกคนอยากอยากเป็นจริง ๆ แต่บ้านเรายังไม่ได้สนับสนุนตรงนี้มากเลยทำให้ทิ้งงานประจำหรือการเรียนไม่ได้ หลังจากแข่งทัวร์นาเมนท์ใหญ่จนได้แชมป์ก็เกิดคำถามว่าความจริงแล้วทุกคนต้องการอะไร พวกเราอยากเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตเต็มตัวจริง ๆ หรือเปล่า?”

เขาเว้นจังหวะไป เอาเข้าจริงแจ็คก็อยากจะให้คำตอบนี้ยืดเวลาคลิปเพื่อกินเวลาคำถามไร้สาระข้ออื่น

“พวกเรารักที่จะอยู่ตรงนี้ แต่การเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตเต็มตัวก็ยังไม่ได้ตอบโจทย์ทุกคน ตอนแรกมีแค่ไอ้ธีร์คนเดียวที่พร้อมเพราะมันว่างงาน”

“ว่างไรครับ กูสตรีมทุกวันเหอะ” คำตอบของหัวหน้าทีมเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง

“พี่ตั้บเลี้ยงลูก ดูแลร้านเกม ส่วนไอ้แหลมฝึกงาน ไอ้โซ่เรียนหนัก ผมเองก็ต้องพัฒนาเกม หลายครั้งที่เก็บไปนอนคิดว่าจะเอายังไงดี ควรทิ้งการเป็นผู้พัฒนาเกมไปเลยดีไหมหรือจะเลิกเล่นเกมง่ายกว่าถ้าจะต้องเลือก? ผมเคยหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ จนวันหนึ่งที่พี่ตั้บนัดทุกคนมานั่งกินหมูกระทะด้วยกันหน้าร้าน มันเป็นคนมองน้อง ๆ อยู่ตลอดก็เลยดูออกง่ายนั่นแหละว่าทุกคนอึดอัดกับสิ่งที่ทำอยู่มากแค่ไหน ไม่ใช่เพราะไม่รักกับตรงนี้นะครับ แต่เป็นเพราะทุกคนโฟกัสไปที่การซ้อมเพื่อแข่งให้ชนะมากเกินไป จนลืมไปว่าการเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตมันไม่ต้องบ้าระห่ำซ้อมไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพื่อแชมป์ขนาดนั้นก็ได้ เพราะพวกเรายังมีความชอบอื่นที่ต้องทำอยู่”

“แต่ถ้าไม่ซ้อมก็เสียเปรียบทีมอื่นเปล่าพี่ ชั่วโมงบินเยอะกว่าย่อมได้เปรียบอยู่แล้ว”

“ก็จริงครับ ก็อย่างที่บอกว่าพวกเราแข่งเพราะอยากแข่ง ชนะก็เป็นเรื่องดี ถ้าแพ้ก็ไม่เป็นไร มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เล่นเกมมีแพ้มีชนะอยู่แล้ว เรื่องใช้เวลาซ้อมทั้งวันทั้งคืนให้เป็นเรื่องของคนที่พร้อมทำตรงนี้ดีกว่า”

“พวกพี่ดูเหมือนไม่จริงจังกันเลยอะ อันนี้พูดตรง ๆ ได้ใช่ไหม ไม่ว่ากันนะครับ”

“พวกเราจริงจังได้เท่าที่ทำได้แหละครับ”

“ถ้าผมเป็นพวกพี่นะ สมมติถ้าไม่ซ้อมจริงจังแต่ลงแข่งแล้วแพ้บ่อย ๆ ผมคงไม่มีใจอยากแข่งต่อ แหะ ๆ” ตากล้องอีกคนพูดถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง อย่างน้อยเรื่องแพ้ก็ยังเกิดขึ้นแค่ไม่กี่ครั้งสำหรับทีมเขา

“มันก็แล้วแต่คนนะ อย่างที่ไอ้แจ็คบอกนั่นแหละว่าตอนแรกทุกคนก็อยากเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตเต็มตัว แต่พอเวลาผ่านไปความคิดก็เปลี่ยน” ไอ้ธีร์เสริม

“ยังไงครับ?”

“รู้ไหมว่านักกีฬาอีสปอร์ตจะเริ่มมีประสิทธิภาพช้าลงตอนอายุเท่าไหร่?” แจ็คเป็นฝ่ายยิงคำถาม และตากล้องทั้งคู่ก็หันไปมองหน้ากัน

“ไม่รู้ดิพี่ สักสามสิบห้าไหม?”

“ยี่สิบแปดถึงสามสิบก็เริ่มคิดอะไรช้าแล้วครับ ระบบประมวลผลเสียเปรียบพวกเด็กอายุยี่สิบต้น ๆ เป็นไหน ๆ”

“อ่า มันเกี่ยวด้วยเหรอพี่?”

“เกี่ยวสิ ร่างกายคนเรามันก็แก่ตัวไปตามเวลานั่นแหละ” ไอ้ธีร์พูด “เพราะงั้นพวกเราเลยไม่ฝักใฝ่การเป็นนักกีฬาฟูลไทม์ ก็นะ เรื่องที่น่าทำยังมีอีกเยอะ”

“เป็นอาชีพที่ค่อนข้างอายุสั้นเหมือนกันนะ แล้วถ้าเริ่มมีอายุพวกนักกีฬาอีสปอร์ตเขาจะไปทำอะไรกินล่ะ?” ตากล้องถามอีกครั้ง

“เยอะแยะไป ทำงานเบื้องหลังก็ได้ มีหลายฝ่ายให้เข้าไปคลุกคลีกับตรงนั้นถ้าคุณยังชอบเกมอยู่ ต่อให้ไม่ได้ลงแข่งแล้วก็ยังเล่นมันทุกวันได้” ทุกคนหันไปทางไอ้เท็นที่อยู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาหลังจากเป็นฝ่ายนั่งฟังอยู่นาน

“เช่น?”

“สตรีมก็ได้ เป็นยูทูปเบอร์ก็ได้ หรือจะเป็นฝ่ายประสานงานในองค์กรก็ได้”

“แล้วพวกพี่คิดไว้ยังว่าจะไปทำอะไรต่อถ้าวันหนึ่งไม่ได้ลงแข่งแล้ว?” ตากล้องรัวคำถามไม่หยุด คราวนี้เขาพยักหน้าให้หัวหน้าทีมเป็นคนตอบกับเรื่องที่พวกเขาเคยคุยกันมาสักพักแล้ว

“พวกเราตั้งใจว่าจะทำรายการเกี่ยวกับเกมน่ะ”

“เออน่าสนใจอะ พวกอัปเดตข่าวสารเกมไรงี้เปล่าพี่?”

“ประมาณนั้นเลย”

“โอเคงั้นคำถามต่อไปนะครับ ข้อนี้เป็นคำถามของเชร์” กล้องแพลนไปยังเด็กลูกครึ่ง “เป็นเกย์จริงเปล่าครับ?”

เชี่ย อย่างฮุค

“ผมไม่ได้เป็น แต่แฟนผมเป็น -- ผ่ามพาม!!” พูดเองตบมุกเอง ทุกคนเลิ่กลั่กกลอกตามองกัน มันก็น่าคิดอยู่หรอก ก็มันเล่นลงรูปใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่กันต์บ่อยขนาดนั้น พอมีคนไปทักก็ไม่เห็นจะปฏิเสธเหมือนตอนที่ถูกจับจิ้นกับพวกเขา แต่ไอ้แหลมก็เลอะเทอะไปเรื่อยจนเหมือนว่าคำตอบเมื่อครู่เป็นเรื่องขำ ๆ ไปจนได้นั่นแหละ

“คำถามนี้ของโซ่ จู๊กมาสเตอร์ในตำนาน”

“...ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ แหะ” เด็กน้อยยิ้มอย่างขลาดอายพลางลูบท้ายทอย

“ด้วยฝีมือการเล่นที่เหมือนกินแผ่นเกมมาเกิด ไม่คิดจะไปเล่นเกมที่ดังที่สุดในตอนนี้แล้วหาทีมเทพ ๆ อยู่เหรอครับ มีคนเสียดายฝีมือคุณนะ”

“เกมที่ดังที่สุดไม่ใช่เกมที่สนุกที่สุดสำหรับโซ่น่ะสิครับ ความชอบโซ่ไม่ค่อยเหมือนคนส่วนใหญ่ด้วย ส่วนเรื่องฝีมือก็ขอบคุณมากเลยนะครับที่ชม แต่ไม่มีอะไรน่าเสียดายหรอกครับ เพราะฝีมือโซ่ที่เล่นไปมันไม่สูญเปล่าเพราะมีคนในทวิชกับยูทูปคอยตามดูอยู่ตลอดเลย”

“ตัดส่วนนี้ออกจากคลิปได้ไหม กูเลี่ยนทุ่งดอกไม้” ไอ้แหลมทำท่าจะคายของเก่า เรียกเสียงหัวเราะจากพี่ ๆ ได้เป็นอย่างดี

“พี่แหลมก็อิจฉาโซ่อยู่เรื่อยเลยนะครับเนี่ย”

“แล้วที่มีข่าวลือว่าพี่เท็นเคยไปล่อซื้อโซ่เข้าทีมบลูไวเปอร์นี่จริงมากแค่ไหนครับ อันนี้คำถามจากทางบ้านนะ”

หลายคนยิ้มค้างกับคำถามใหม่ แจ็ครู้สึกได้ถึงลางร้ายที่เริ่มคืบคลานมาทีละนิด และมันเข้าถึงตัวไอ้เท็นก่อน

“อืมครับ เคย”

ไม่ใช่แค่แจ็คคนเดียวที่หันไปมองเจ้าของคำพูด ตอนนี้แววตาคู่นั้นเรียบเฉยเกินกว่าจะจับจุดอ่อนได้ แต่ถึงอย่างนั้นแจ็คก็ยังไม่สบายใจกับการให้คำตอบข้อนี้

“แล้วเป็นไงต่อครับ?”

“ตอนนั้นพี่เท็นแค่ชวนเล่น ๆ น่ะครับ โซ่ยังตื่นเต้นอยู่เลยที่ทีมดังมาชวนเข้าทีมด้วย รู้สึกเป็นเกียรติมาก” เด็กเด๋อรีบแก้สถานการณ์ให้โดยไม่มีใครร้องขอ แต่ดูเหมือนว่าไอ้เท็นจะไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือนี้สักเท่าไหร่นัก

“ผมโดนปฏิเสธ เพราะโซ่รักทีมมากเกินกว่าจะทิ้งไปหาชื่อเสียงที่ผมพยายามหลอกล่อน่ะ”

แจ็คสบตากับอีกฝ่ายพร้อมส่ายหน้าช้า ๆ เป็นเชิงห้าม ‘ไม่ต้องพูดขนาดนั้นก็ได้’ เขาบอกในใจและหวังว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ แต่ไอ้เท็นกลับเงียบไป ตอนนั้นแจ็ครู้สึกได้ถึงลางบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สบายใจยิ่งไปกว่าเดิม

“ทำไมต้องอยากให้โซ่เข้าทีมบลูไวเปอร์อะครับ?”

ไอ้ธีร์หันไปสบตากับไอ้เท็นหลังจากสิ้นสุดคำถาม กับเรื่องที่เคยได้คำตอบแล้วน่ะ แจ็คไม่อยากให้ใครก็ตามมาขยี้จนบรรยากาศแย่ลงเลย แต่เขาก็หยุดคำถามเพียงเท่านี้ไม่ได้

“ตอนนั้นผมแค่อยากแย่งมา มันก็เท่านั้น”

“เพราะอะไรพี่ เพราะเรื่องตอนมอปลายที่คนเขาลือกันว่าพวกพี่ทะเลาะกันหรือเปล่า แล้วถ้าใช่นั่นเรียกว่าเป็นการเอาคืนพวกพี่ธีร์ได้ไหม?”

“...”

“...”

เกินขอบเขตไปแล้ว ถ้าเป็นเพื่อนที่เพิ่งดีกันคงหัวเราะแห้ง ๆ แล้วยอมรับความผิดในอดีตได้อาจมีความรู้สึกผิดติดอยู่ในใจ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายนักถ้าหากว่าเปิดใจคุยกันแล้ว แต่วินาทีนี้มันไม่ใช่ ไอ้ธีร์กับไอ้เท็นยังคงติดอยู่กับอดีตที่ไม่เคยสะสาง ในความทรงจำของทั้งคู่มีแต่เรื่องราวแย่ ๆ ฝังอยู่ในใจ ซึ่งการอธิบายอะไรก็ตามออกมาในตอนนี้ก็มีแต่จะเป็นการจุดชนวนมากกว่าเคลียร์เรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจชาวเน็ต

“พวกนี้มันหยอกกันเล่นน่ะไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่เหลือคำถามอีกเยอะไหม ไม่มีอะไรมาถามผู้จัดการทีมบ้างเหรอ เหงาปากนะครับ” พี่ตั้บพยายามเปลี่ยนบรรยากาศแม้ว่าจะไม่ใช่คนถนัดเรื่องนี้ แต่ที่เป็นอยู่ก็ยากที่จะกู่กลับแล้ว เมื่อไอ้ธีร์กับไอ้เท็นยังไม่ยอมละสายตาจากกัน

“โอเคครับงั้นคำถามต่อไป ในอนาคตพี่ธีร์คิดว่าจะพาทีมไปในทิศทางไหนอะครับ – แต่อันนี้ตอบไปแล้วงั้นข้ามเลยดีกว่า คำถามนี้ขอถามพี่เท็นอีกทีนะครับว่าพี่รู้สึกยังไงตอนออกจากทีม Numb2r เพื่อไปอยู่ทีมที่เก่งที่สุด ณ ตอนนั้น แล้วเพราะอะไรที่ทำให้ต้องออกจากทีมครับ?”

เท็นไม่ได้ตกใจกับคำถามที่เคยเห็นมาก่อนแล้ว ชายหนุ่มนั่งนิ่ง ปล่อยให้เสียงฟืนแตกในกองไฟช่วยทำลายความเงียบ ซึ่งถ้าโกหกไปไอ้แจ็คและคนอื่น ๆ คงไม่คิดอะไร ส่วนไอ้ธีร์ก็คงคาดเดาไว้อยู่แล้วว่าเขาต้องประดิดประดอยคำพูดให้สวยหรูเกินจริง

แต่ไม่ว่าจะอธิบายไปในทางไหน TEN1O ก็เปลี่ยนความคิดใครไม่ได้อยู่ดี เขาควรโกหกหรือพูดความจริงดีล่ะ ทางไหนที่เขาสามารถเสี่ยงได้บ้าง ต่อให้ปากจะบอกว่า ‘ไม่เป็นไร’ แต่เอาเข้าจริงจะมีใครหน้าไหนอยากถูกด่า

ต้องตอบแล้ว เขาไม่มีเวลามานั่งคิดขนาดนั้นว่าจิตวิทยาแบบไหนถึงจะดี เพราะตอนนี้ทุกคนคงไม่เกลียดเขามากไปกว่าที่เคยแล้ว

ถ้าอย่างนั้นมันจะเป็นอย่างไรถ้าหากว่าวันนี้เท็นจะพูดความจริงสักครั้ง ความจริงที่คิดว่าคงไม่มีวันได้พูดมันนอกจากยมบาลจะถามตอนตกนรกไป

“ผมเสียใจ”

แค่เปิดประโยคไอ้ธีร์ก็แค่นหัวเราะเหมือนว่ามันเก็บอาการไม่ไหวแล้ว ก็แน่ล่ะ ใครจะไปเชื่อว่าคนเลว ๆ อย่าง TEN1O จะกล้าพูดคำว่าเสียใจ ทั้งที่ปีก่อนยังยิ้มเยาะ ตอบโต้อย่างฉะฉานในงานแข่งขันอย่างนั้น

“แม้แต่ตอนที่ผมคิดร้ายกับคนในทีม ผมก็ยังเสียใจอยู่”

“อาการโลดเต้นในโซเชียลตอนได้ไปแข่งไต้หวันนั่นเรียกว่าเสียใจด้วยไหมวะเพื่อน?” แจ็คหันไปมองคนข้างตัวจนไอ้แหลมต้องระเบิดหัวเราะกลบเกลื่อนเหมือนว่าคำถามไอ้ธีร์โคตรตลก

“ตอนนั้นไม่เกี่ยว”

“แล้วตอนไหนที่เรียกว่าเสียใจ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิวะ” คนตลกเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง ตากล้องหันไปสบตากันเมื่อหน้าที่ถามไม่ใช่ของตนเองอีกต่อไปแล้ว

“ยอมรับว่าครั้งนึงกูคิดอะไรเป็นเด็ก ไม่สิ ตลอดเวลาที่ผ่านมากูทำตัวเป็นเด็กมาตลอด แต่เรื่องนี้จะโทษกูคนเดียวก็ไม่ได้หรือเปล่านะ?” เท็นไม่อยากยอมแพ้ เขายอมรับความผิดในส่วนที่ทำลงไป แต่ไม่ว่าอย่างไร วันนี้ไอ้ธีร์ก็ต้องจุกกับความชั่วช้าที่เคยทำกับเขาเหมือนกัน

“งั้นโทษใครดี ทุกคนในโลกเลยว่าไง?”

“พี่ธีร์ครับ”

“ไม่ต้องไปไกลขนาดนั้นก็ได้ เดินไปส่องกระจกซะสิจะได้รู้คำตอบ”

“โอ้โห คำพูดคำจา คิดว่ากูจะเจ็บมากไหมอะครับ ทุกคนผิดหมดยกเว้นมึงงี้เหรอหื้อ?”

“หยุดถ่ายก่อน” แจ็คหันไปห้ามตากล้องแล้วมองเพื่อนทั้งสองคนที่ยังตอบโต้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“ใช่ มันจริงที่ตอนนั้นกูบ้าบอโทษทุกคน ทั้งครอบครัว เพื่อน หรือใครก็ตาม ก็ถ้าไม่พากันทำเหมือนกูเป็นเศษสวะกูจะคิดอะไรแบบนั้นได้เหรอ มึงเองก็คือหนึ่งในนั้น”

“กูทำอย่างนั้นเมื่อไหร่ มึงช่วยอธิบายชัด ๆ หน่อยซิ?” ไอ้ธีร์เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม

“ทุกอย่างที่มึงทำเหมือนไม่เคยเห็นกูเป็นเพื่อนไง”

คนถูกกล่าวหาถึงกับเลือดขึ้นหน้า สองมือกำหมัดแน่นกับเรื่องผิดเพี้ยนที่อีกคนพูด จริงอยู่ที่เมื่อก่อนเขาเคยพูดไม่ดีกับไอ้เท็น และชอบแกล้งจนลืมคิดว่ามันจะรู้สึกอย่างไร ซึ่งถ้าเอาเรื่องนั้นมาพูดเขาอาจจะยอมเงียบเพราะความผิดจุกอกในใจก็ได้ แต่ไอ้การบอกว่าเขาไม่เคยเห็นว่าแม่งเป็นเพื่อนนี่ชักจะเกินไปหน่อยว่ะ

“แต่คนอย่างมึงไม่เคยรู้ตัวหรอก คิดว่าตัวเองถูกเสมอ อยู่ยอดพิรามิดที่ทุกคนต้องยอมให้”

เท็นรู้สึกคลื่นไส้เหมือนจะอ้วกความในใจออกมา เขาไม่สามารถห้ามปากตัวเองได้อีกต่อไป ไม่แม้แต่จะหันไปสบตากับไอ้แจ็คเพื่อตั้งสติแล้วสงบสติอารมณ์ ชายหนุ่มปล่อยให้ตนเองสาดความเจ็บปวดเหล่านั้นใส่คนที่เป็นต้นเหตุ ถึงจะรู้ดีว่าต่อให้พูดความจริงจนคอแห้งเป็นผงอย่างไรคนอย่างไอ้ธีร์ก็ไม่มีวันสำนึกได้

“แล้วมันใช่เรื่องที่ทำให้มึงต้องทำลายทุกอย่างไหม โกรธกูก็มาลงกับกูคนเดียวสิวะ จะต่อยหน้า จะด่า จะหอกหักอะไรทำได้ทั้งนั้น แต่มึงเสือกเลือกหักหลังทุกคนไปอยู่ทีมฝั่งตรงข้าม ตอนที่เล่าแผนให้พวกนั้นฟังน่ะมึงคิดอะไรอยู่?”

‘กูถูกบังคับให้เล่า’ ถ้าบอกอย่างนี้แล้วจะมีใครเชื่อไหม?

พอเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบคำถามธีร์จึงเข้าไปกระชากคอเสื้อให้ลุกขึ้นยืน “ทำไม อยู่ดี ๆ ก็เป็นใบ้ขึ้นมาหรือไง หรือว่าความจริงมันคายออกมายาก เพราะเคยชินกับการโกหก?”

เท็นพยายามแกะมือแกร่งออกก่อนจะเปลี่ยนเป็นคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายบ้าง ตอนนี้ทั้งคู่กระชากลากดึงกันจนห่างออกไป แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็ยังได้ยินเสียงคำพูดคำจาเสียดแทงที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้กันและกันอย่างชัดเจน

ท่ามกลางสายตาทุกคนที่ตกใจไม่แพ้กัน แหลมคือคนแรกที่ลุกขึ้นเตรียมจะวิ่งไปห้ามรุ่นพี่ แต่ก็ถูกแจ็คคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน

“อะไรของมึงวะพี่?!” เด็กลูกครึ่งขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นพี่แจ็คส่ายหน้าห้ามไม่ให้เขาเข้าไปขวางทั้งคู่

โซ่มองสองคนนั้นด้วยความเป็นห่วง เด็กหนุ่มกลัวเหลือเกินว่าพี่ธีร์จะน็อตหลุดจนลงไม้ลงมือ และถ้าเป็นอย่างนั้นพี่แจ็คคงรู้สึกแย่แน่ ทั้งคู่ยังคงกระชากลากดึงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ขณะที่พี่ตั้บหันไปเอามือปิดเลนส์กล้องไว้หลังจากรู้ว่าถูกแอบถ่ายอยู่

“ปล่อยพวกมันเถอะ”

ทั้งสามคนมองหน้าแจ็คซึ่งก็คงเป็นห่วงทั้งคู่ไม่ต่างกัน แววตาคู่นั้นยังคงทอดมองไปยังเพื่อนสนิททั้งสอง พวกเขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของแจ็คจากการเป็นคนกลาง

“ทำไมถึงกล้าใช้คำว่าเพื่อน ไม่อายปากตัวเองหน่อยเหรอ?”

“คนที่ต้องอายปากน่าจะเป็นมึงมากกว่ามั้ง กูไม่เคยหยุดสงสัยได้เลยว่าทำไมมึงถึงกล้ากลับมาหาคนที่เคยเอามีดแทงหลังไว้ จะบอกว่าจนตรอกก็คงแรงไป งั้นใช้คำว่าหน้าหนาน่าจะเหมาะกว่า”

“มึงเข้าใจอะไรผิดเปล่าธีร์ ทุกวันนี้กูพยายามเข้าหามึงหรือเปล่าก็ไม่ ไอ้แจ็คคือคนเดียวที่กูอยากได้คืน ต้องให้พูดกรอกหูอีกทีไหมเผื่อสมองกลวง ๆ ของมึงจะตามไม่ทัน?” เท็นไม่ได้อยากพูดแบบนี้ทั้งที่พี่ตั้บกับโซ่ยืนมองอยู่ แต่ปากเขามันก็ดีแต่พ่นคำร้าย ๆ ออกไปเพราะอยากเอาชนะ

“นั่นแหละที่กูวางใจไม่ได้ คนอย่างมึงน่ะเหรอจะกลับตัวกลับใจไม่วายได้แว้งกัดคนอื่นอีก ตั้งแต่วันแรกที่คิดจะไปมึงเคยนึกถึงหน้าคนที่เรียกว่าเพื่อนบ้างไหม?!”

“นึกสิ!!! กูนึกอยู่ตลอด!!! แต่ตอนนั้นกูทำอะไรได้บ้าง?!!! จะหันหลังกลับก็ทำไม่ได้เพราะกูทนกับสิ่งที่พวกมึงทำกับกูไม่ไหวแล้ว!!!”

“พวกมึงที่ว่าคือใคร ไอ้แจ็คด้วยไหม หรือว่าพี่ตั้บ ไอ้นาย? ตอนนั้นมีใครบ้างที่ทำให้มึงเสียใจได้นอกจากกูคนที่รู้ตัวแล้วว่าปากไม่ดี?!!!” ธีร์ต้องการคำตอบที่ทำให้เขาหุบปากได้ ไอ้เท็นจะงี่เง่ากับเขาแค่ไหนก็ว่ามาแต่ต้องไม่ใช่การพาลไปถึงคนอื่น “แล้วถ้าทุกคนที่มึงพูดถึงคือกูคนเดียว มึงต้องเห็นชีวิตกูฉิบหายก่อนหรือเปล่ามึงถึงจะพอใจ?!!!”

“ใช่ กูอยากให้มึงเจอแต่เรื่องฉิบหาย กูอยากให้ทุกคนเกลียดมึงเหมือนที่กูเป็น!!!”

“งั้นก็เกลียดกูจนตายไปเลยไอ้เหี้ย!!!”

ตั้บวางมือลงบนศีรษะน้องเล็กที่ตกใจจนสะดุ้งเมื่อไอ้ธีร์ออกหมัดแรกใส่หน้าไอ้เท็น ไอ้แหลมยังคงยืนอยู่ไม่สุข มันเอาแต่หันไปมองไอ้แจ็คว่าเมื่อไหร่จะอนุญาตให้เข้าไปหาไอ้ธีร์ ขณะที่ตอนนี้คนที่ใจแหลกสลายไม่แพ้สองคนนั้นก็คือเจ้าของร่างผอมสูงงที่ยืนอยู่ตรงนี้

หมัดแรกชาไปทั้งหน้า และเท็นไม่ได้ปล่อยให้ตนเองต้องเจ็บปวดฝ่ายเดียวเมื่อครั้งนี้เขามีโอกาสได้เอาคืนกับสิ่งที่อยากทำมาตลอด ชายหนุ่มง้างหมัดต่อยหน้าอีกคนจนแทบคว่ำ ก่อนจะใช้จังหวะนั้นเข้ารวบตัวจนล้มลงไปกลิ้งกับผืนทรายกันทั้งคู่

สำหรับผู้ชายสองคนที่คุยกันด้วยโทสะคงไม่มีเหตุผลดี ๆ จากไหนมาช่วยแก้ไขได้แล้ว ทั้งคู่ยื้อดึงกัน แลกคนละหมัดทุกครั้งที่มีจังหวะ มันรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนต่อยหรือคนถูกต่อย และคนที่ยืนมองอยู่จากตรงนั้น

ไม่มีใครสนเสื้อผ้าราคาแพงที่เปรอะเปื้อนไปด้วยทรายและน้ำทะเล ธีร์คว้าคอเสื้ออีกฝ่ายให้ลุกขึ้น และเท็นก็มีสติมากพอที่จะสวนหมัดไปก่อน ทั้งคู่โถมเข้าหากันอีกครั้ง ธีร์รัวหมัดติดกันสามครั้งก่อนเท็นจะเอาแขนบล็อกไว้แล้วสวนกลับไปจนร่างกายเสียการทรงตัว

ไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวเสียใจ เพราะเรื่องเหล่านั้นทั้งคู่เคยพบเจอและผ่านมันไปแล้ว

“จะโกรธกูยังไงก็ได้ แต่ไอ้แจ็คเคยทำอะไรให้หรือไงมึงถึงได้หักหลังมันแบบนั้น?!!!”

ภาพรอยยิ้มแรกของเด็กหนุ่มมอสองคนนั้นลอยเข้ามาในความคิด เท็นยังจำได้ดีว่าแววตาของแจ็คประหม่าแค่ไหนตอนรวบรวมความกล้าเข้ามาทักเขาก่อน แม้แต่ตอนที่อีกฝ่ายมีแฟน... เท็นก็หาเหตุผลอะไรมาอ้างไม่ได้เลยว่ามันมีเรื่องไหนบ้างที่แจ็คทำให้เขาต้องเจ็บปวด

หวงเพื่อนงั้นเหรอ มันไม่ใช่เรื่องที่ฟังขึ้นเลยสักนิด

“พูดมา!!! อธิบายเหตุผลคับโลกของมึงสิว่าเพราะเกลียดกูมากถึงไปลงกับไอ้แจ็ค!!!”

เท็นไม่สามารถอธิบายความผิดใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเขาได้เลย แม้ว่าแจ็คจะให้อภัยแล้ว แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างความจริงได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยทำเรื่องผิดพลาดไปอย่างคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี

“คนอย่างไอ้แจ็คมันเคยทำไม่ดีกับใครด้วยหรือไง ไม่หรอกเท็น ยิ่งเป็นมึงกูยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ กูพยายามทำความเข้าใจว่ามึงอาจจะเผลอไปกับอะไรก็ตามที่ทำให้มึงกับบลูแอบคบกัน กูพยายามไม่คิดเรื่องนั้น แต่ช่วงเวลาที่มันลำบาก ตอนที่มันคิดจะฆ่าตัวตายน่ะมึงอยู่ที่ไหน?!!!!”

“...”

เขาอ่อนไหวง่ายเหลือเกินเมื่อเป็นเรื่องไอ้แจ็ค เท็นปล่อยให้ไอ้ธีร์กระชากคอเสื้อตนเองจนร่างกายเซไปตามแรง ขณะที่ตอนนี้สายตาของเขามันเอาแต่จ้องมองไปยังใครอีกคนที่เป็นเจ้าของหัวใจ

ชายหนุ่มรู้ว่าเรื่องเหล่านั้นมันเลวร้ายแค่ไหน พอถูกตอกย้ำอีกครั้งเขาก็รู้สึกอยากจะตาย ๆ ไปเสีย ผู้ชายที่ชื่อเท็นไม่ควรมีอยู่บนโลกใบนี้ คนอย่างเขาไม่มีค่าใด ๆ เลย

“ที่กูทำมันผิดมากขนาดที่ต้องทำลายกันขนาดนี้เลยเหรอ บอกกูสิเท็น คิดอะไรอยู่ก็พูดมันออกมา!!! บอกให้กูรู้ในสิ่งที่กูเคยมองข้ามไป!!!”

“กูขอโทษ...”

“...”



(ต่อด้านล่างนะคะ)

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0

มือที่เคยกำคอเสื้ออีกคนแน่นหยุดชะงัก ดวงตาที่คลอไปด้วยหยดน้ำซึ่งกลั่นออกมาจากความเสียใจในอดีตนั้นไม่ได้ทำให้ภาพตรงหน้าพร่ามัวไปเลย หมัดที่เตรียมซัดหน้าอีกฝ่ายนั้นถลอกจนแดง มันค้างอยู่กลางอากาศเพียงเพราะเห็นว่าเท็นกำลังตัวสั่นจนน้ำตาไหลอาบแก้มกับประโยคแผ่วเบานั้น

“กู... ขอโทษ...!!!”

“...”

เสียงสะอึกสะอื้นตรงหน้าไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้น แต่ธีร์รู้สึกเหมือนมันดังก้องราวกับว่าอีกฝ่ายตะโกนมันอยู่ข้างหู สองมือที่เคยทำร้ายร่างกายอดีตเพื่อนนั้นไม่มีที่วาง เขาเพียงแค่ยืนหอบหายใจขณะที่คนตรงหน้าเขาเหมือนจะสติหลุดไปแล้วหลังจากปล่อยโฮออกมา

“กูขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่กูทำลงไป กู --” เท็นรู้ตัวว่าเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง และเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย เขาเหมือนกำลังจะตายเพราะความผิดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทุกอย่างมันย้ำเตือนว่าผู้ชายอย่างเท็นนั้นแย่แค่ไหน

เป็นอีกครั้งที่ย้อนมาทบทวนตนเองว่ากล้าดีอย่างไรถึงคิดจะขอไอ้แจ็คไว้แล้วเลือกเป็นศัตรูกับไอ้ธีร์ต่อไป ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วคนกลางจะไม่สบายใจ แต่เขาก็ยังเลือกเห็นแก่ตัวได้ลง

“กูมันโง่แล้วกูก็รู้ว่าไม่มีอะไรมาลบล้างเรื่องที่เกิดขึ้นได้ กูมันห่วยแตก ระยำ เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลก แต่ทุกวันนี้กูไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว กูพยายามเป็นคนดีเพื่อชดเชยตอนที่กูไม่ได้อยู่กับไอ้แจ็คในช่วงเวลานั้น มึงช่วยเข้าใจกูหน่อยได้ไหมวะ...”

ไม่ใช่เรื่องที่ธีร์คาดไว้เลยว่าจะได้เห็นน้ำตาอีกฝ่ายกับสองมือที่กำเสื้อเขาแน่น ยิ่งตอนที่แลกหมัดกันจนเลือดกบปากอย่างนี้ มือที่กำแน่นค่อย ๆ คลายออก ธีร์ยังคงจ้องมองศีรษะคนตรงหน้าซึ่งก้มลงพร้อมไหล่ที่สั่นเทา

พอเอาเข้าจริง คนจิตใจหยาบช้าอย่างธีร์ก็ไม่สามารถทนด่าไอ้เท็นต่อได้โดยเฉพาะตอนที่เห็นว่ามันกำลังฟูมฟายเพราะรู้สึกผิดอย่างนี้

“กูเกลียดมึงจริง ๆ ธีร์ แต่ในขณะเดียวกันกูก็หลอกตัวเองมาตลอดว่ากูไม่ได้รักมึง ทั้งที่ความจริงแล้วกูคาดหวังมาตลอดว่าสักวันหนึ่งมึงจะหันมาทำดีกับกูบ้าง...”

“...”

ตอนนั้นพวกเขาเป็นอย่างไร?

ตอนที่ยังใส่ชุดนักเรียน... ตอนที่ต่างฝ่ายยังมีกันและกันในชีวิต เป็นคนสำคัญที่ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องนึกถึงและไม่ลืมที่จะชวนไปด้วย

ธีร์เคยเป็นคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงในโรงเรียน เขาได้รับการยอมรับจากใครต่อใครจนได้ใจ หลายครั้งที่ธีร์ลืมนึกถึงความรู้สึกคนอื่น มันมีทั้งจำได้และหลงลืมไปตามกาลเวลา แต่ถึงอย่างนั้นบทเรียนชีวิตก็เริ่มสอนให้เขารู้ว่าควรทำและไม่ควรทำอะไร

หลายครั้งที่เคยต่อว่าเพื่อนตอนเล่นเกม แม้ในใจจะไม่ได้คิดร้าย แต่เมื่อโตขึ้นธีร์ก็รู้ว่าการแก้ตัวว่า ‘ทำไมต้องคิดมากกับเรื่องแค่นี้’ มันใช้ไม่ได้กับผู้ถูกกระทำ ธีร์ยอมรับในส่วนที่ตนเองได้สร้างบาดแผลให้เท็น แต่ถึงอย่างนั้นก่อนหน้านี้เขาก็ไม่สามารถทำใจให้อภัยอีกฝ่ายได้เลย

“ที่ทำทุกอย่างเพราะกูอยากให้ทุกคนคิดว่ากูไม่ได้จนตรอก กูยังมีที่ให้ไป กูอยู่เหนือกว่าคนอื่น ทั้งที่ความจริงแล้วกูกลัวการอยู่คนเดียวมากกว่าอะไรทั้งนั้น กูพยายามทำให้ตัวเองโดดเด่นเพราะอยากได้รับความสนใจ เพราะในชีวิตจริงมันไม่มีอะไรมาเติมเต็มหัวใจกูได้แล้ว ส่วนเรื่องบลู... กูไม่ได้ชอบเธอเลย ตอนนั้นกูแค่คิดว่าจะทำยังไงก็ได้ขอแค่ให้ผู้หญิงคนนั้นทิ้งไอ้แจ็ค กูอยากได้มันกลับมา ชีวิตกูมันดูมีค่าแค่ตอนมีมันเท่านั้น มึงเข้าใจหรือเปล่าวะ...?”

ถ้าเป็นสิบปีที่แล้ว ธีร์คงแค่นหัวเราะกับประโยคเมื่อครู่เพราะคิดว่า ‘มันมีด้วยเหรอคนที่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเพื่อน’ จนกระทั่งมีใครสักคนเข้ามาเปลี่ยนความคิดเขา เด็กคนนั้นที่ทำให้ธีร์ได้รู้ว่าคนอื่นมีสิทธิ์ที่จะคิดและรู้สึกอย่างอิสระ โดยไม่ต้องไปชี้หน้าบอกว่าแบบนั้นมันไม่มีจริง

“สิบปีที่ผ่านมา กูอยู่กับความสุขจอมปลอมแบบที่มึงเคยตราหน้าไว้ ไม่มีวันไหนเลยที่กูรู้สึกว่าได้เป็นตัวเอง กูฝืนมานานมากเกินไปแล้วธีร์ แม้กระทั่งเมื่อกี้ที่กูพยายามตอบโต้มึงด้วยคำพูดแย่ ๆ นั่น กูก็รู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างมันพังลงไปอีกแล้วและคงไม่มีอะไรทำให้กูยืนขึ้นได้อีก กูเหนื่อยธีร์... กูยอมแล้ว ถ้าเป็นไปได้กูก็อยากขอโทษทุกคน ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยมีแผลในใจเพราะกู...”

โซ่จับมือพี่แจ็คไว้ก่อนจะสอดประสานเรียวนิ้ว เด็กหนุ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันคือการปลอบรุ่นพี่หรือว่าปลอบตัวเองกันแน่ เสียงของพี่เท็นที่เคล้าไปด้วยน้ำตานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด มันถูกส่งมายังทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ได้โดยไม่ต้องตะโกนบอกให้รู้ว่าในหัวใจดวงนั้นมันพังไม่เป็นท่ามากแค่ไหน

“กูรู้ดีว่าต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่มาพูดอีกสักร้อยครั้งมึงก็คงไม่ให้อภัย แต่มึงฟังไว้หน่อยได้ไหมวะธีร์ คำขอโทษจากปากเพื่อนเหี้ย ๆ คนนี้ มึงช่วยรับไว้ได้ไหม...”

“...”

ธีร์ไม่รู้ตัวว่าหยดน้ำอุ่น ๆ มันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สิ่งที่เขารู้ก็คือ... เราทั้งคู่ไม่สามารถหยุดน้ำตาได้ น่าแปลกเหลือเกินที่ก่อนหน้านี้เขาโมโหจนเหมือนอยากฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย แต่พอเห็นว่าคนที่เคยหยิ่งจองหองกำลังร้องไห้อยู่ตรงหน้า และพยายามอธิบายความเจ็บปวดในใจจนแทบฟังไม่เป็นภาษา... หัวใจเขาก็รู้สึกเหมือนมันพังลงไปไม่ต่างกันเลย

“ทำไมเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้?”

ทั้งคู่สบตากัน ธีร์เลียริมฝีปากและพยามกลืนความอ่อนแอลงไป ระหว่างทบทวนทุกอย่างว่าแท้จริงแล้วความผิดครั้งนั้นมันรุนแรงแค่ไหน ใครต้องเป็นคนแบกรับไว้ ชายหนุ่มเอาแต่คิดว่าตนเองยอมรับผิดในส่วนที่เคยทำแย่ ๆ แล้ว และอคติว่ามันก็สมควรที่ไอ้เท็นจะเจอเรื่องห่วยแตกมาตลอดเพราะเรื่องที่มันก่อไว้นั้นร้ายแรงกว่าเขามากโข

“ถ้ามึงเดินมาหากูแล้วพูดคำว่าขอโทษตั้งแต่แรก...”

เขามัวแต่คิดว่าแผลของตนเองใหญ่แค่ไหนจนลืมเงยหน้ามองว่าคนที่ยิ้มได้ก็อาจจะเจ็บปวดอยู่เหมือนกัน

เวลาสิบปีที่เสียไป... ทุกคนมัวแต่จมอยู่กับความโกรธ จนแทบลืมไปแล้วว่าช่วงเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันนั้นมันดีมากแค่ไหน

ตอนกอดคอกันถ่ายรูปตลก ๆ แล้วเอาไปแปะบนบอร์ดในห้องนอน

ตอนลองแทงบอลเป็นครั้งแรกจนหมดตัว ตอนนั้นพวกเขาต้องหารเศษเหรียญกันซื้อมาม่าหนึ่งถ้วย กินกันคนละไม่กี่คำ แต่มันก็อิ่มไปทั้งหัวใจ

วันเหล่านั้นมันช่างมีค่า แต่ก็ถูกความไม่เข้าใจเพียงไม่กี่ครั้งกลบไปจนมิด

“กูก็จะได้บอกมึงว่ากูก็ขอโทษเหมือนกัน”

หัวใจเหมือนถูกราดด้วยทิงเจอร์ มันเจ็บปวดแต่ขณะเดียวกันก็ช่วยเยียวยาบาดแผลไปด้วย มันเป็นเวลาที่ควรจะยิ้ม แต่เท็นกลับร้องไห้หนักกว่าเดิมกับภูเขาลูกใหญ่ที่เขาไม่เคยคิดว่าจะยกมันออกไปจากบ่าได้

น้ำตาบนใบหน้าธีร์ยังคงไหล ทั้งคู่ห้อภัยกันกับความผิดพลาดในวัยเด็กด้วยการสวมกอดอีกฝ่าย ตุ้บตั้บไม่สามารถห้ามน้ำตาได้ ชายหนุ่มร่างท้วมหันหลังให้พลางเงยหน้าขึ้นแล้วพรูลมหายใจทางริมฝีปาก

รู้สึกเหมือนเรื่องมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานอย่างไรอย่างนั้น เหมือนว่าเขาเพิ่งเห็นไอ้เด็กนักเรียนสามคนนั่นสะพายเป้เดินท่าเรียกตีนเข้ามาในร้านเกมพร้อมคำทักทายที่สุดแสนจะปีนเกลียว ใช่ ช่วงเวลาแบบนั้นแหละที่เขายังจำได้

ช่วงเวลาที่มีธีร์ แจ็ค เท็น อยู่ด้วยกันไม่ใช่แค่ธีร์กับแจ็คเพียงสองคน

“...”

ธีร์ได้แต่ลูบศีรษะปลอบประโลมอีกฝ่าย ยิ่งนึกถึงเรื่องที่ไอ้เท็นอาจจะป่วยจริง ๆ แล้วก็รู้สึกผิดอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เขาพูดจาทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายไปสักเท่าไหร่ ซึ่งมันคงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ไอ้เท็นจะได้ยินมัน

“...”

ริมหาดกับจุดที่ทุกคนอยู่นั้นไม่ได้ไกลมากนัก ธีร์หันไปสบตากับเพื่อนสนิทที่ยืนมองอยู่ตรงจุดเดิมไม่ไปไหน เขาพยายามทำอย่างเต็มที่แล้วไอ้แจ็ครับรู้ได้ใช่ไหม ไม่ว่าจะเป็นการให้อภัยคนที่ไม่คิดว่าจะให้ได้ รวมถึงการพูดคำว่าขอโทษกับคนที่ปากบอกว่าเกลียดมาตลอดสิบเอ็ดปี ซึ่งไอ้แจ็คก็ยิ้มบาง ๆ พร้อมพยักหน้าราวกับอยากบอกว่าผู้ชายคนนี้ทำดีที่สุดแล้ว และไอ้เท็นก็คงเหมือนกัน


รอยแผลเป็นในวันนั้นยังคงอยู่
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้เรียนรู้ก็คือ




...มันไม่เจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว





TBC


คนแบบพี่ธีร์มันไม่ได้ใจแข็งอะไรขนาดนั้นร้อก แข็งได้อย่างเดียวนั่นแร๊ะ
(ปากแข็งๆๆๆ)
#ดันโอ่งลงทะเลแล้วกระโดดเข้าไปข้างในพร้อมปิดฝามิดชิดโดยไม่คิดจะออกมาพบเจอโลกภายนอกอีก







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2019 23:42:49 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ซึ้งมากอะตอนนี้ รู้สึกถึงความเจ็บปวดของทั้งสองคน

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คิดไม่ถึงว่าจะเสียน้ำตาเพราะสองคนนี้

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น้ำตานองหน้าเลยกับตอนนี้

ออฟไลน์ gibari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รู้สึกขอบคุณตัวเองที่อ่านตอนอยู่ในห้อง ไม่ใช่ที่สาธารณะ .... แต่ยังไงพรุ่งนี้ต้องตาบวมแน่ๆอ่ะ
เนี่ย... พอจะพิมพ์อะไรน้ำตามันก็เอ่อมาอีกแล้วอ่ะค่ะ
10 ปี กับความโดดเดี่ยว มีแค่ตัวเองมาตลอด ทั้งที่ลึกๆ แล้ว ก็อยากจะมีใครซักคนที่เข้าใจกันจริงๆ แล้วก็อยู่ข้างกันแบบนี้ ซึ่งแจ็คก็เป็นคนนั้น ที่เท็นอยู่ด้วยแล้วมีความสุข ต่างฝ่ายต่างก็เติมเต็มให้กัน และเข้าใจกัน ดูๆ แล้ว เท็นก็ยอมลงทุกอย่างเลย ถึงแม้ว่าจะเจ็บแค่ไหนก็คงไม่อยากทำให้แจ็คต้องเจ็บปวดอ่ะ
สงสารกับความคิดวูบนึงของเท็น ที่อยากให้ตัวเองหายไป อยากจะกอด หอมหัว ลูบหลัง ทำยังไงก็ได้ ให้แผลในใจมันเบาบางที่สุด โอ้ย... หมอนเปียก ช่วงนี้ฝนตกด้วย มันจะขึ้นราไหมคะเนี่ย  :m15:

รอคอยตอนต่อไปนะคะ ระหว่างนี้คงเอาหมอนไปผึ่งพัดลมก่อนล่ะนะคะ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาไหลพรากๆเลยจ้า

ออฟไลน์ TheSpaceOfM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮือออ น้ำจาจะไหล มันเป็นตอนที่เหมือนเป็นการปลดล็อคทุกความรู้สึกที่เท็น แจ็ค ธีร์และตัวละครอื่นๆต้องแบกจากผลของการกระทำในอดีต จากนี้มันจะไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว เหลือเพียงความทรงจำ ดีใจกับเท็น แจ็ค ธีร์มากจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
รัองไห้หนักมาก สงสารเท็น  :o12:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ดีใจกับเท็น แจ็ค ธีร์  และคนอื่นๆ :mew1:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ฮือๆ

ยิ้มทั้งน้ำตา

จุกในใจ

แต่ก็อิ่มเอมใจเช่นกัน

สามสหาย เขาคืนดีกันแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
เป็นตอนที่อ่าแล้วได้ทั้งน้ำตาและรอยยิ้ม  ขอบคุณคนแต่งในความอิ่มของอารมณ์ :mew1:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ตอนนี้มีน้ำตาซึมด้วย :mew6: เคลียร์กันแล้วเจ็บตัวครั้งนี้ถือว่าคุมนะเท็นธีร์  o13

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เข้าใจกันแล้ว อย่าทำร้ายใจกันอีกนะ แก่แล้ว 5555

 :กอด1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Lalinnovel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2

ออฟไลน์ martiney

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออ่านตอนต่อไปอยู่น้าาาาา

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0

#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 23 (ตอนจบ)
เมื่อจุดจบคือการเริ่มต้นใหม่



เท็นไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาสะดุ้งตื่นเพราะกลัวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงความฝัน แม้ความเจ็บบนใบหน้ายังคงอยู่ แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่กล้าปักใจเชื่อว่าพระเจ้าจะให้อภัยเขาง่าย ๆ คนอย่างเท็นเหมือนต้องจมอยู่กับความทุกข์ทรมานไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะตาย นั่นคือสิ่งที่เขาคิดมาตลอด

กวาดสายตาไปรอบห้องระหว่างทบทวนว่าจบหมัดสุดท้ายแล้วเป็นอย่างไร ไอ้ธีร์ตบบ่าเขาเบา ๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายแยกตัวไปก่อนใช่ไหม ใช่ มันเกิดขึ้น หลังจากนั้นไอ้แจ็คก็ตรงเข้ามาหาและชวนเขากลับห้อง

ไม่มีใครพูดอะไรอีกหลังจากนั้น ซึ่งคนฉลาดอย่างมันคงรู้ได้ไม่ยากว่าคนโง่อย่างเขาคิดอะไร ในทีแรกไอ้แจ็คบอกว่าจะออกไปซื้ออุปกรณ์ทำแผล แต่เพียงครู่เดียวมันก็กลับมาพร้อมสำลีกับเบตาดีนซึ่งได้มาจากเด็กรอบคอบอย่างโซ่ที่พกพาติดกระเป๋ามาด้วย

เท็นไม่ได้ต้องการยาดี ๆ จากไหน เขาแค่อยากกอดไอ้แจ็คเพื่อยืนยันกับตนเองว่าทุกอย่างคือเรื่องจริงไม่ใช่สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นจนเก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะ ซึ่งร่างกายอุ่น ๆ กับมือที่เอื้อมมากอดตอบก็ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้นว่าหมัดที่แลกกันไปนั้นได้ปลดปล่อยความทุกข์ใจในอดีตจนหมดสิ้นแล้ว

“ตื่นแล้วเหรอ?”

“...”

เขาเอาแต่จ้องหน้าคนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาพร้อมถุงพะรุงพะรังเต็มมือ จนถึงตอนนี้ก็ไม่กล้าคิดเต็มร้อยว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะต้องราบรื่น ซึ่งถ้าถามว่าเท็นกลายเป็นคนกลัวทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาก็คงตอบได้ง่าย ๆ ว่าตั้งแต่เริ่มอยากได้คำว่าเพื่อนอีกครั้ง

“เห็นมึงนอนอยู่เลยไม่อยากปลุก กูซื้อกาแฟกับขนมปังมาให้ อ้อ... มีโจ๊กด้วยนะ ถึงจะไม่ใช่เจ้าโปรดแถวบ้านกู แต่จากหน้าตาก็คิดว่าน่าจะอร่อย”

“มึงได้นอนบ้างไหม?” เท็นไม่สนใจมื้อเช้าที่อีกฝ่ายกำลังเอาออกจากถุง ตอนนี้เขาสนแค่ว่าไอ้แจ็คได้พักผ่อนบ้างหรือยังหลังจากเกิดเรื่องขึ้นตั้งแต่เมื่อคืน

เท็นค่อนข้างมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงไม่อยู่เฉย หลับตานอนอย่างสบายใจ คนที่แคร์คนอื่นเก่งกว่าตัวเองอย่างไอ้แจ็คคงตรงเข้าไปหาไอ้ธีร์และพี่น้องมัน พร้อมทำอะไรก็ตามเพื่อให้ทุกคนสบายใจขึ้น

“น่าจะเกือบสี่สิบนาทีถ้าจำไม่ผิด” ไอ้แจ็คคงรู้ตัวว่าโกหกไม่เนียน ซึ่งคนนอนไม่พอก็เอาแต่อมยิ้มขณะยื่นขนมปังให้เขา “กูตื่นเพราะหิว เดี๋ยวอิ่มจะไปนอนต่อแล้ว”

ถูกอ่านใจออกจนหมดเปลือก เท็นรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กมัธยมในโรงเรียนสอนดนตรีคนนั้นอีกครั้ง คนที่มีแต่ความกังวลและไม่มั่นใจกับอะไรสักอย่างเดียว

“กูอยากให้มึงรีบกินรีบไปนอน แต่ถ้าทำแบบนั้นเดี๋ยวจะเป็นกรดไหลย้อน เพราะงั้นอดทนไปนอนในรถตอนขากลับได้ไหมวะ?” เท็นสบตากับอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง และเพียงครู่เดียวไอ้แจ็คก็ยิ้มพลางพยักหน้าเป็นคำตอบก่อนจะย้ายมานั่งข้าง ๆ เขา

“เข้าใจเรื่องกรดไหลย้อน แต่ถ้าให้อดทนรอหลับบนรถตอนขากลับก็กลัวจะทนไม่ไหว” แจ็คยิ้มกับตนเองก่อนจะหันไปสบตากับอีกฝ่ายที่มองมาอย่างสงสัย “กูจะนอนบนเตียงตรงนั้น เพราะเราสองคนจะกลับกันพรุ่งนี้”

“พรุ่งนี้? เราสองคน?” อยากให้ไอ้เท็นเห็นหน้าตัวเองเหลือเกิน มันทั้งตลกและน่าเอ็นดูในเวลาเดียวกัน “หมายถึงกูกับมึงน่ะเหรอ?”

“อยู่กันแค่นี้คิดว่ากูหมายถึงลิงที่ไหนล่ะ” แจ็คหัวเราะ “พวกนั้นจะกลับกันตอนเที่ยง กูว่ามันคงดีกว่าถ้ามึงกับไอ้ธีร์จะให้เวลากันหน่อย” แจ็คอธิบายพร้อมอ้าปากเป็นเชิงบอกให้อีกฝ่ายทำตาม เขาจะได้ยัดขนมปังเข้าปากมันเสียที “จะได้ไม่ต้องอึดอัดเวลาอยู่บนรถด้วยกัน”

“มันยังรู้สึกแย่อยู่ใช่ไหม?” สีหน้าไอ้เท็นเก็บความกังวลไว้ได้ไม่มิด ซึ่งเขาก็พยักหน้า

“แต่ไม่ใช่เพราะถูกมึงต่อยนะ” แจ็คเว้นจังหวะไประหว่างนึกถึงหน้าเพื่อนสนิทที่นั่งคุยกันตลอดทั้งคืน “แต่เป็นเพราะมันรู้สึกผิดกับมึงน่ะ”

“...”

“มึงสองคนมีหลายอย่างที่ต่างกันสุดขั้ว แต่ก็มีบางมุมที่เหมือนกันจนแทบเรียกว่าแฝด ยกตัวอย่างเช่นเรื่องขี้งอน” เขาส่ายศีรษะหน่าย ๆ ที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้ตอนอายุใกล้จะสามสิบแล้ว “มึงอยากให้มันแสดงออกว่าแคร์ อยากให้มันรู้สึกผิดบ้าง ส่วนมันก็อยากได้ยินคำขอโทษ อยากให้มึงสำนึกผิดเหมือนกัน”

“ด่ากูในใจอยู่ล่ะสิ?”

“มันก็ต้องมีบ้าง เพราะถ้าด่าออกเสียงเดี๋ยวหาว่ากูซ้ำเติมอีก”

“เอาสักหมัดไหมล่ะจะได้เสมอกัน” เท็นบีบกรามคนข้าง ๆ จนปากจู๋ ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางความเงียบในห้องพัก ก่อนแจ็คจะเป็นฝ่ายจับข้อมือเขาอาไว้

“ถ้าจูบตอนนี้จะเจ็บแผลหรือเปล่า?”

“น่าจะ แต่สักทีคงไม่น่าถึงขั้นโคม่าหรอกมั้ง?” พอได้ยินคำตอบจากไอ้คนปากเก่งแจ็คก็ยิ้มขำ ก่อนจะเอียงใบหน้าปรับองศารับจูบที่อีกฝ่ายเป็นคนเริ่มก่อน

ไอ้เท็นจูบเหมือนคนไม่กลัวเจ็บ แม้ว่าเขาจะระวังแล้วแต่มันกลับบดขยี้หนักกว่าเดิมจนถอนริมฝีปากออกร้องเสียงหลง

“นั่นไง”

“เพราะไอ้เหี้ยธีร์เลย แม่ง” คนเจ็บบ่นอุบอิบ แจ็คจึงก้มลงเล็กน้อยพลางเพ่งมองรอยแผลตรงริมฝีปากอีกคน ยังปากดีได้อยู่ แบบนี้ค่อยสมกับเป็นไอ้เท็นหน่อย

คำพูดประโยคเดียวที่ต่างฝ่ายอยากได้ยิน คนอื่นคงคิดว่าทำไมไอ้เท็นกับไอ้ธีร์ถึงยอมลดทิฐิแล้วขอโทษกันไปเรื่องจะได้จบ ๆ แต่ทุกอย่างมันง่ายนิดเดียวเสมอเพราะไม่ใช่เรื่องตัวเอง คงมีแค่คนที่เผชิญเรื่องราวเหล่านั้นถึงจะเข้าใจที่สุดว่าการอ้าปากขอโทษแต่ละครั้งมันมีความยากมากน้อยแค่ไหน
 
“ถ้าตอนนั้นกูยอมเป็นฝ่ายขอโทษมันก่อน มึงคิดว่าไอ้ธีร์จะให้อภัยกูไหมวะ?”

“กูคิดว่าไม่” แจ็ครู้จักไอ้ธีร์ดีที่สุด ไม่ว่าจะตอนนั้นหรือตอนนี้ เขายังคงยืนยันว่ามันเป็นคนดี แต่ไอ้ธีร์ตอนอายุสิบแปดที่เพิ่งถูกทำร้ายความรู้สึกคงไม่ใจกว้างให้อภัยได้เท็นได้ง่าย ๆ “มึงก็เหมือนกัน ต่อให้เป็นฝ่ายยอมขอโทษก่อน แต่ถ้าใจยังมีอคติกับมันอยู่ ขอโทษให้ตายสักร้อยรอบคำว่าเพื่อนของมึงสองคนก็ยังมีความหมายเท่ากับคนอื่น”

“นั่นสินะ” เขาเห็นด้วยกับไอ้แจ็ค เอาเข้าจริงเท็นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในช่วงเวลานั้นมันมีอะไรที่จะทำให้ทุกอย่างลงตัวได้ในเมื่อต่างฝ่ายต่างก็มีอคติต่อกัน

ในช่วงเวลานั้นใช่ว่าเท็นจะไม่มีความคิดดี ๆ มันเคยมีเสี้ยววินาทีสั้น ๆ ที่เขาคิดว่าถ้าเกิดเปิดใจให้กว้างแล้วทำความเข้าใจไอ้ธีร์หน่อย มันอาจจะเปลี่ยนพฤติกรรมของอีกฝ่ายได้ แต่ตอนนั้นเขาก็เอาแต่คิดว่าเป็นความผิดไอ้ธีร์ฝ่ายเดียว ทั้งที่มันก็แย่ทั้งคู่ที่ไม่เคยหันหน้าเข้าหากัน และปรับตัวเข้าหาสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น

แต่เขากับมันเลือกที่จะปล่อยให้อารมณ์ควบคุมทุกอย่าง

“แต่ไอ้ธีร์โอเคแล้วใช่เปล่าวะ?”

“ได้ฟาดหน้ามึงไปตั้งหลายชุดไม่โอเคขึ้นก็แย่ละ”

ทันทีที่พูดจบเท็นก็หรี่ตามองคนข้าง ๆ พร้อมเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม พูดก็พูดเถอะ ไอ้ธีร์ก็เจ็บหนักเหมือนกันล่ะวะ เผลอ ๆ เขาได้ออกหมัดเยอะกว่าด้วย งานนี้คนที่คุ้มคือ TEN1O เห็น ๆ

“มันฝากมาให้” ไอ้แจ็คโยนถุงเล็ก ๆ มาและเขาก็รับไว้ได้พอดี “มันเป็นคนออกไปซื้อเองเลยนะ”

“กะจะให้กูสำนึกบุญคุณว่างั้น มันซื้อให้เพราะต้องซื้อของตัวเองด้วยน่ะสิ”

“มึงก็เห็นความดีมันหน่อยเท้ออออ” เท็นยิ้มจนเจ็บแผลกับเสียงยานคางจากปากไอ้แจ็คที่ไม่ได้ยินบ่อย ๆ

เขากำลังดีใจกับถุงยาโง่ ๆ นี่อย่างเก็บอาการไม่ได้ แต่ถ้าจะให้นั่งน้ำตาคลอเพราะนึกซาบซึ้งไอ้ธีร์ล่ะก็... ยังเร็วไปล้านปีว่ะ

“เดี๋ยวกูขอนอนสักสามชั่วโมงนะ”

“ทำไม ก็นอนยาวไปเลยดิไหน ๆ ก็ไม่ต้องรีบกลับอยู่แล้ว”

“เสียดายเวลา” เท็นมองตามแผ่นหลังเจ้าของคำพูดที่ลุกขึ้นยืนบิดเนื้อบิดตัวก่อนจะหันมายิ้มให้เขา “ผมอยากไปเที่ยวกับคุณก่อนกลับกรุงเทพอะ งงอะไรวะ?”

“งั้นคุณก็ไม่ต้องนอนเลยดิวะ ผมเสียดายเวลาสามชั่วโมง”

“งั้นก็ลุกไปเตรียมตัวเลยครับ ผมพร้อมตั้งแต่เมื่อวานแล้วเผื่อคุณไม่รู้”

เท็นยกเท้าขึ้นยันหลังไอ้คนขี้คุย ซึ่งไอ้แจ็คก็ถอยหลังมาก้าวหนึ่งเขาจึงออกแรงยันมันจนเซไปด้านหน้า ไม่มีอีกแล้วบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกังวล พอถึงตอนนี้เท็นก็ได้รู้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปจมอยู่กับความกลัวอีกแล้ว

ตราบใดที่ยังมีไอ้แจ็คอยู่ตรงนี้



*


ใช่ว่าแลกหมัดปรับความเข้าใจแล้วทุกอย่างจะจบ เท็นนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์พลางอ่านแถลงการของพี่ต๋องในเฟซบุ๊กถึงทริปสัมภาษณ์ทีมขี้ซุยบราเทอร์และ TEN1O ที่จำต้องเลื่อนไปก่อนเนื่องด้วยเหตุผลบางประการ เขารู้สึกผิดที่ทำให้ผู้ใหญ่เสียงาน แต่ในขณะเดียวกันก็นึกขอบคุณทริปนั้นที่ทำให้เขากับไอ้ธีร์หายเป็นหมาบ้า

เท็นตั้งใจจะไปขอโทษพี่ต๋องถึงที่และขอรับผิดชอบทุกอย่างด้วยการอัดคลิปให้ใหม่โดยออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด แต่คงต้องขอเวลาพี่แกหน่อยเพราะไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เขากับไอ้ธีร์จะมองหน้ากันได้โดยไม่มีใครออกหมัดก่อน

แต่แผนที่วางไว้คงล่มแล้วเพราะคนที่เพิ่งนึกถึง อยู่ ๆ แฟนคลับเขาก็เข้ามาโพสต์ให้กำลังใจในเฟซบุ๊กและไอจีอย่างล้นหลามแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันผิดปกติเกินไป เท็นยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกระทั่งเห็นรูปหน้าช้ำ ๆ ของไอ้ธีร์ที่ถูกแคปมาจากไอจีมันพร้อมแคปชั่นว่า

‘หายกันแล้วนะห่า ยาที่ให้ไปอะทาด้วย ใครหายช้าเป็นหมา เคนะ’

เท็นเพิ่งได้เรียนรู้ว่าคนเรารู้สึกอบอุ่น่ใจได้แม้ว่าใบหน้าปราศจากรอยยิ้ม ชายหนุ่มนั่งนิ่ง บอกตามตรงว่าให้ตายอย่างไรก็คงไม่ชิน เท็นนั่งจ้องรูปนั้นอยู่สักพักโดยไม่ได้ตอบข้อความใครก่อนจะคว้ามือถือเอามาเสิร์ชชื่อไอจีไอ้ธีร์เพื่อเข้าไปเช็กดูว่าคอมเมนท์ใต้รูปนั้นไปในทิศทางไหน ซึ่งคราวนี้แฟนคลับของมันก็ไม่ได้ใจร้ายกับเขานัก มากสุดก็คอมเมนท์ประมาณว่า

‘อยากสะใจที่รู้ว่าพี่ต่อยพี่เท็นนะครับ แต่พอเห็นหน้าพัง ๆ ของพี่แล้วผมก็ขอสะใจตรงนี้ก่อน’

อาจเป็นเพราะโพสต์ของพี่ต๋องที่ทำให้คนดูเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นคลิปทริปของขี้ซุยบราเทอร์ถึงล่มทั้งที่สมาชิกหลายคนในนั้นก็อัปรูปลงให้เห็นอยู่ว่าไปทะเลด้วยกัน สิ่งที่ไอ้ธีร์ทำมันมีความเสี่ยงแค่ไหนทำไมเท็นจะไม่รู้ การโพสต์รูปหน้ายับ ๆ ลงแบบนั้นก็มีแต่จะทำให้คนอื่นสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นซึ่งการคาดเดาก็คงไม่ได้ยากอะไรเลย

แต่ไอ้ธีร์ก็คงเป็นไอ้ธีร์ คนที่เลือกดาหน้าเข้าหาปัญหามากกว่าจะซุกไว้ใต้พรมเหมือนเขา มันคงเลือกให้ทุกคนรู้ความจริงไปเลยว่าร่องรอยบอบช้ำที่เกิดขึ้นมาจากการสะสางความในใจกับอดีตเพื่อนชั่ว ๆ ที่เคยทำเรื่องไม่ดีไว้มากมายโดยไม่แคร์ว่ากระแสสังคมจะโต้กลับมาแบบไหน และเท็นหวังว่าคนจันไรอย่างไอ้ธีร์คงทบทวนมาดีแล้วว่าจะรับมืออย่างไร


jjack: ตื่นยัง?
TEN1O: สักพักแล้ว
jjack: เห็นแล้วใช่ไหม?
TEN1O: ทั้งของพี่ต๋อง ทั้งของไอ้ธีร์เลย
jjack: โอเคเปล่า?
TEN1O: เป็นห่วงเหรอ?
jjack: เออครับ เป็นห่วงมาก ทีนี้จะตอบผมได้ยัง?
TEN1O: ไอ้ธีร์ยอมเชือดคอตัวเองให้ดูขนาดนั้น ผมยิ่งกว่าโอเคอีก
jjack: 555555555555555555555555
TEN1O: ขำไร -_-
jjack: มันไลน์มาบอกกูตั้งแต่เช้าแล้วว่าถ้ามึงสะใจให้ด่าพ่อแทนด้วย เพราะมันต้องใช้ความกล้ามากที่จะโพสต์แบบนั้น
jjack: แต่ถ้าโอเคก็ดีแล้ว


เขาจะโอเคเต็มร้อยได้อย่างไรในเมื่อเห็นไอ้ธีร์ทำอย่างนั้น จริงอยู่ที่เมื่อก่อนเกลียดมันเข้ากระดูกดำ แต่พอเห็นมันพยายามทำดีด้วยก็พังไม่เป็นท่าเลย เอาง่าย ๆ ตอนนี้เท็นกำลังรู้สึกผิดที่เห็นอีกฝ่ายออกหน้ารับความอับอายอยู่ฝ่ายเดียว


TEN1O: ตอนนี้กูโคตรอยากเจอมึงเลยว่ะแจ็ค
jjack: ทำงานอยู่เนี่ยสิ แต่ตอนเที่ยงผมไม่มีนัดกินข้าวกับใครนะ เผื่อคุณอยากจองคิว
TEN1O: ไม่ได้อยากกินข้าวกับคุณอะครับ ผมอยากกอด
jjack: ผมก็อยาก
TEN1O: งั้นตอนเที่ยงไปหานะ
jjack: อย่ามาช้าล่ะ ผมจะรอ (:


เพราะอยู่ใกล้มืออีมูนเลยถูกจับมาถูกับหน้า แม้ว่าเจ้าตัวจะส่งเสียงขู่ฟ่อแต่เท็นก็ยังฟัดหอมลูกสาวสายโหดเพราะเขาไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วกับผีเสื้อที่บินสวนกันเหมือนนกแตกรังในวันมีภัยธรรมชาติ

เขาจะตายเพราะมีความสุขไหม เท็นอยากซึมซับความรู้สึกแบบนี้นาน ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากได้รับมากเกินไปเพราะกลัวว่าวันไหนวันหนึ่งพระเจ้าจะมาทวงคืนไปเพราะท่านเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคนอย่างเขาไม่ควรมีสิ่งที่เรียกว่าความสุขนาน ๆ

หลังจากนึกอย่างนั้นได้ก็สบตากับพี่ซัน เจ้าหมาหน้าซื่อที่มองมาเหมือนอยากบอกว่าขณะที่เขามีไอ้แจ็คคอยปลอบ คอยอยู่ข้าง ๆ ตอนนี้ไอ้ธีร์ก็คงกำลังแบกรับคำพูดคนอีกมากมายที่ไม่ได้มีแค่ด้านดี


TEN1O: มีอะไรที่กูพอจะทำได้ไหมวะแจ็ค?
TEN1O: จริงอยู่ที่กูโดนด่ามาเยอะแล้ว แต่ถ้ากูเงียบแล้วปล่อยให้ไอ้ธีร์โพสต์แบบนั้นอยู่ฝ่ายเดียวกูก็กลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิด มันต้องมีคนคิดว่ากูกับมันทะเลาะกันมากกว่าจะเข้าใจว่าเพิ่งปรับความเข้าใจกัน
TEN1O: กูอยากให้ทุกอย่างมันเท่ากัน ไม่ใช่ใครคนหนึ่งต้องออกมารับแทนเพราะคิดว่าตัวเองเข้มแข็งกว่า
jjack: อะไรที่ทำได้น่ะเหรอ


ไอ้แจ็คปล่อยให้เขาจ้องโทรศัพท์อยู่เกินครึ่งนาทีเหมือนประโยคที่จะพิมพ์ต่อไปนี้มันต้องอธิบายยาวในรวดเดียว หรือไม่มันก็คงอยากให้เขาร้อนใจไปกับการรอ

jjack: เป็นตัวของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่มึงควรเป็นที่สุดเวลาอยู่กับเพื่อน



*


เรื่องรอยแผลบนใบหน้าเกมเมอร์สองคนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลมาเกือบอาทิตย์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระทู้ในเว็บบอร์ดดัง แท็กทวิตเตอร์ หรือการอัดคลิปสรุปลงยูทูป มีให้เลือกเสพทุกทาง บางคนมีข้อมูลที่เป็นความจริงซึ่งก็คงไม่ได้มาจากไหนนอกจากปากของ TEN1O ที่เคยระบายให้เพื่อนใหม่ฟังจนถูกเอาไปเล่าต่อจนถึงตอนนี้ แต่ขณะเดียวกันก็มีคนพูดไปเรื่อยเปื่อย ปรุงแต่งสารพัดจากเรื่องที่ฟังมาอีกทีแต่อธิบายรู้ลึกเหมือนเรียนในห้องเดียวกัน

ก็เหมือนทุกครั้งที่ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ แล้วการอธิบายทุกอย่างก็คงไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากทำให้เรื่องยุ่งเหยิงยิ่งขึ้น เท็นเลือกที่จะปล่อยผ่านไปโดยไม่เข้าไปอ่าน บทเรียนตลอดสิบปีที่ผ่านมามันสอนให้ชายหนุ่มรู้แล้วว่าคนเราไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ว่าทุกคนคิดกับตนเองอย่างไร


ต่อให้โดนด่าแรงแค่ไหนมันก็คุ้มค่าแล้วกับสิ่งที่ได้คืนมา


พี่ซันไม่ต้องตื่นมาปลอบพ่อกลางดึกอีกแล้ว อย่างน้อยก็ช่วงนี้ที่เขาสามารถนอนยาวได้ถึงเช้าโดยไม่สะดุ้งตื่นเพราะฝันร้าย เท็นรู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่ทั้งที่ทุกวันยังเหมือนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าที่เคย เท็นไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับคำว่าเพื่อนสนิทจากไอ้ธีร์และคนในทีมขี้ซุยฯ เพราะการได้เคลียร์กับมันซึ่ง ๆ หน้าโดยไม่หลงเหลือความขุ่นเคืองใจต่อกันเพียงเท่านั้นมันก็เกินพอแล้ว

เท็นกำลังทำความรู้จักกับคำว่า ‘ปล่อยวาง’ เพื่ออยู่กับปัจจุบันที่พอดีโดยไม่โลภมากว่าจะต้องได้มากกว่านี้ ซึ่งความไม่รู้จักพอมันมีแต่จะทำให้เขาไม่มีความสุข

“ทำไมถึงชวนเราออกมา?”

เท็นเห็นเด็กผู้หญิงอวบซ้อนทับร่างคนตรงหน้า แต่แววตา น้ำเสียง และคำถามที่ส่งมานั้นต่างจากเมื่อตอนมอหกอย่างสิ้นเชิง ไม่มีบลูที่ยิ้มเก่งและพร้อมจะยอมเขาทุกเรื่องอีกแล้ว ซึ่งเท็นก็ไม่ได้แปลกใจเลยสักนิดกับสิ่งที่อีกฝ่ายเลือกแสดงออกหลังจากที่เขารวบรวมความกล้าติดต่อเธอไปหาเพราะอยากนัดเจอกันสักครั้ง

“เราจะกลับถ้าเท็นบอกว่าแค่เรียกมาเยาะเย้ยเรื่องคืนดีกับธีร์แล้ว”

“เราไม่ได้คืนดีกับมันหรอก เรากับมันก็แค่ทำในสิ่งที่ควรทำมานานแล้ว”

บลูไม่ต่างจากวันที่เจอกันในห้างครั้งล่าสุด เขายังจำทุกคำพูดของเธอในวันนั้นได้เป็นอย่างดี วันที่ทำให้คนโง่คนนี้ตาสว่างว่าเคยทำร้ายไอ้แจ็คไว้มากมากมายเท่าไหร่ 

“สั่งอะไรก่อนไหม กาแฟ หรือว่าน้ำผลไม้ดี?”

“เราไม่ได้ตั้งใจจะนั่งนานขนาดนั้น เท็นมีอะไรก็รีบพูดมาเถอะ เราฝากลูกไว้กับแม่ไว้แค่ไม่กี่ชั่วโมง”

“อ่า นั่นสินะ” ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงหมดความอดทนแล้วลุกออกไปโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร บลูมีสิทธิ์ที่จะขยะแขยงการมีตัวตนของเขา เพราะเรื่องเมื่อตอนนั้นมันค่อนข้างรุนแรงกับหัวใจเด็กผู้หญิงอย่างเธอเหลือเกิน

“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ มันไม่ใช่เท็นเลยนะรู้ตัวหรือเปล่า?” บลูนั่งกอดอกแค่นยิ้มขณะมองมา และเขาก็พอนึกออกว่าตอนนี้ตนเองคงมีสภาพแบบที่ไม่ชอบเอาเสียเลย

“ตอนนี้บลูก็ไม่ใช่บลูคนนั้นเหมือนกัน”

“...” ดูเหมือนว่าคำพูดของเขาจะเป็นเชื้อเพลิงมากกว่าน้ำดับไฟ แววตาของเธอจึงถ่ายทอดความไม่พอใจออกมาอย่างเก็บไม่มิด “มีอะไรก็รีบพูด เพราะถ้าจะเรียกมาเพื่อพูดจาค่อนแคะเราก็คงไม่อยากทนนั่งฟังนาน ๆ”

“เราควรเงียบเพื่อให้บลูเข้าใจว่าเราสำนึกผิดหรือตอบว่า ‘นั่นสิ ไม่ใช่เราเลย’ มากกว่าจะพูดอย่างนั้น ขอโทษนะถ้าทำให้ไม่พอใจ แต่ที่พูดไปอย่างนั้นก็เพราะเราอยากไม่อยากให้บลูเอาแต่คิดว่าเราคนเดียวคือคนที่ควรมองเห็นความผิด เพราะตอนนั้นเราสองคนก็ทำมันด้วยกัน”

“...”

“เรารู้ตัวดีบลู แล้วก็เข้าใจทุกอย่างถ่องแท้แล้วด้วย ไม่ว่าจะตอนที่พยายามทำร้ายทุกคนหรือตอนที่ไม่เหลืออะไรแล้ว ถ้าบลูคิดว่าเราควรจมอยู่กับความรู้สึกผิดมากกว่าอะไร เราบอกไว้ตรงนี้เลยว่าบลูสมหวังมานานมากแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นเราไม่เหลือเพื่อนที่จริงใจสักคนเดียว แต่นั่นคือผลจากการกระทำทุกอย่าง แล้วมันก็สมเหตุสมผลดีแล้ว”

เท็นทิ้งจังหวะไปเพื่อรอดูท่าทีอีกฝ่าย ซึ่งการที่หญิงสาวยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ลุกเดินหนีออกไปมันก็เป็นข่าวดีสำหรับนาทีนี้

“ที่พูดไปอาจดูเหมือนชวนทะเลาะ แต่เราก็อยากบอกให้บลูรู้ว่าเราไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเลยสักนิด เราแค่อยากให้บลูเข้าใจว่าต้นเหตุมันเกิดจากเรา แต่บลูก็คือส่วนหนึ่งเหมือนกัน บลูจะโกรธเราแค่ไหนก็ได้เพราะเราทำเรื่องแย่ ๆ กับบลูไปมากมายจริง ๆ แต่อย่าทำเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำฝ่ายเดียวได้ไหม เราเองก็เสียใจแล้วเราก็รู้สึกผิดกับบลู”

หญิงสาวสบตากับชายหนุ่มที่เธอเคยรัก พร้อมความจริงที่ว่าเธอนั้นยัดเยียดความผิดให้คนตรงหน้ามาตลอด บลูไม่อยากยอมรับว่าเธอมองข้ามความผิดของตนเองแล้วโบ้ยว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเท็นทั้งนั้น

ลึก ๆ บลูกลัวและรู้สึกผิดกับแจ็ค แต่ก็โทษอีกฝ่ายว่าถ้าไม่ใช้ความดีความอบอุ่นเข้าหาก่อนมีหรือคนอย่างเธอจะหวั่นไหว แต่นั่นก็เป็นแค่เรื่องที่เอาไว้หลอกตัวเองเมื่อครั้งยังเป็นเด็กไร้เหตุผล พอโตขึ้นหญิงสาวก็ได้เรียนรู้ว่าการโทษคนอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความผิดในใจนั้นมันช่วยแค่ตอนที่เธออยากได้รับความเห็นใจ แต่ความผิดที่มากับความจริงนั้นยังคอยตอกย้ำมาตลอดซึ่งหญิงสาวหลีกหนีมันไม่ได้

บลูไม่อยากยอมรับเพราะคิดว่าเท็นคงเป็นคนหนึ่งที่ชาตินี้คงไม่มีวันเข้าใจอะไร และการตอบตกลงมาเจอกันในวันนี้นั้นยอมรับว่าเธอมาเพราะคาดหวังคำขอโทษและสีหน้าหงอย ๆ มากกว่าจะเป็นการพูดถึงความผิดที่เคยทำร่วมกัน


แม้จะเข้าใจทุกอย่าง แต่การออกปากให้อภัยผู้ชายคนนี้ก็ช่างเป็นเรื่องยากเหลือเกิน


“ผ่านไปสิบเอ็ดปี มันนานเกินไปถ้าจะอธิบายเรื่องที่บลูรู้ดีอยู่แล้ว แต่เราก็ยังอยากขอโทษอยู่ดี ไม่ว่าจะเรื่องที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ”

“เท็นคิดว่ามันจะช่วยให้อะไรดีขึ้นเหรอ?”

“ไม่เลย เราคงไม่คาดหวังถึงขนาดนั้น” ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ ขณะสบตากับหญิงสาวตรงหน้า ท่ามกลางเสียงดนตรีเบา ๆ ที่เปิดคลอในร้านกาแฟในช่วงสายของวันศุกร์

“เราไม่ได้ใจดีเหมือนแจ็คนะ แค่มองหน้าเท็นนาน ๆ เรายังทำไม่ได้เลย”

“บลูจะได้อดทนแค่วันนี้วันเดียว ถ้าได้พูดทุกอย่างจนหมดเรื่องคาใจแล้วเราสัญญาว่าจะไม่โผล่มาทำให้ปวดหัวอีก”

คนอย่างเท็นกำลังพูดอย่างเจียมตัวกับเธองั้นเหรอ ฟ้าจะผ่า ฝนจะตกไหม ใจหนึ่งก็คิดว่าอีกฝ่ายคงคิดอยากขอโทษจริง ๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้มีแผนอะไรอยู่หรือไม่

“บอกตามตรงว่าเราค่อนข้างแปลกใจ”

“...”

“คนอย่างเท็นขอโทษใครเป็นด้วยเหรอ หรือเพราะอยากสร้างภาพให้แจ็ครู้สึกดีขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้นเราบอกไว้เลยนะว่ามันเปล่าประโยชน์ เพราะทุกวันนี้เรากับแจ็คเป็นแค่เพื่อนในเฟซบุ๊ก เขาไม่สนหรอกว่าเราจะโอเคกับเท็นหรือเปล่า”

“แจ็คมันไม่รู้ว่าเรามาเจอบลู”

“...”

“ถ้ามันรู้มันคงอยากห้ามมากกว่าจะสนับสนุนให้เรามานั่งตรงหน้าบลูแบบนี้”

ไม่ว่าใครก็คงเดาออกได้ง่าย ๆ ว่าการไปเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่เคยทำร้ายจิตใจนั้นจะมีผลลัพธ์อย่างไร บางคนอาจนั่งร้องไห้เสียใจก่อนให้อภัย แต่เท็นคิดว่าไอ้แจ็คมันคงรู้เหมือนกันว่าบลูจะมาแบบไหน หลังจากถูกเขาไล่เหมือนหมูเหมือนหมาในวันนั้น

“ถ้าอยากจดจำแบบนั้นก็ไม่เป็นไรนะเราเข้าใจ จุดประสงค์ที่เราเรียกบลูมาวันนี้ไม่ใช่เพราะอยากให้ยกโทษหรือขอกลับไปเป็นเพื่อนกัน เพราะสิ่งเดียวที่เราอยากทำมากที่สุดตอนนี้คือขอโทษ”

เธอทั้งโกรธและไม่อยากเชื่อ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปสิบเอ็ดปีแล้วแต่ความรู้สึกเมื่อตอนนั้นเหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ตอนแจ็คเข้ามาในห้อง ตอนที่สองเพื่อนสนิทกำลังจะแตกหัก พร้อมคำว่าผู้หญิงไร้ค่าที่ออกมาจากสายตาแม้เท็นจะไม่ได้พูดมัน

เธอทั้งเสียใจ โกรธ สับสนปนเปกันไปหมด บลูกลายเป็นคนโง่ที่พยายามหาทางตามไปถึงไต้หวันเพื่อแสดงให้เท็นเห็นว่าเธอไม่ยอมแพ้ให้ความรักและพร้อมจะเป็นคนเลวในสายตาแจ็คขอแค่เขาให้โอกาสเธอ

มันทั้งบ้าและขาดสติ แต่ตอนนั้นเด็กสาวโง่ ๆ คนหนึ่งไม่สามารถปล่อยมือใครไปสักคนได้เพราะเธออ่อนแอเกินไป จะกลับไปหาแจ็คก็ละอายใจ แต่การวิ่งขอความรักจากคนที่ไม่เห็นค่าก็ไม่ใช่วิธีที่ฉลาดเลย

บลูอยู่กับความเจ็บปวดที่มาจากความโง่เง่าของตนเองนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ ตอนนั้นมองเห็นแค่คำว่าความรักโดยที่ไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไร บางทีสิ่งที่รู้สึกอาจเป็นเพียงความเหงาหรือความเห็นแก่ตัวที่ไม่อยากเสียใครไป บลูละอายใจแต่ก็ไม่กล้ายอมรับความผิดในส่วนของตนเองต่อหน้าเท็น

โชคดีที่มีสามีใจเย็นและเข้าใจ เธอจึงพยายามปรับมุมมองความคิดให้กว้างขึ้นจนทุกวันนี้เป็นคนที่ดีกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว แต่พอเป็นเรื่องเมื่อตอนมอหกมันก็เหมือนมีใครเอามีดมากรีดแผลเก่าให้เธอต้องเจ็บเพราะความรู้สึกที่เผลอไผลไป ความสุขชั่วครั้งชั่วคราวที่อยากได้นั้นทำร้ายคนรักดี ๆ อย่างแจ็คโดยอ้างว่า ‘ไม่ได้ตั้งใจ’ ไม่ได้เลย

มีโอกาสหลายครั้งที่จะยับยั้งชั่งใจ แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นก็เลือกที่จะปล่อยให้เลยเถิด

ในวันที่รวบรวมความกล้าทักไปหาแจ็ค... วันนั้นบลูไม่กล้าคาดหวังว่าจะได้รับการให้อภัยเช่นกัน ตอนนี้บลูเห็นเงาตนเองซ้อนทับที่นั่งของเท็น มองเห็นความรู้สึกผิดจากแววตาคู่นั้นที่พยายามบอกให้รู้แม้ว่าอคติของเธอมันยังบังอยู่มากมาย




(ต่อด้านล่างนะคะ)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2019 00:09:56 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
วันนั้นกับวันนี้ต่างกันแค่ไหน ก็คงเป็นการให้อภัยจากปากแจ็คโดยไม่มีการพูดจาค่อนแคะแม้แต่ประโยคเดียว ขณะที่เธอพยายามฆ่าเท็นให้ตายคามือด้วยความเจ็บปวดในอดีต

“ขอโทษที่เราเข้าไปเป็นความทรงจำแย่ ๆ ในชีวิตช่วงหนึ่งนะ”

ความรู้สึกมากมายประดีประดังเข้ามาพร้อมกันจนเรียบเรียงไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ หญิงสาวเม้มริมฝีปากพลางลดระดับสายตาลงเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตาพร้อมมือที่วางอยู่บนหน้าขาซึ่งค่อย ๆ กำเข้าหากัน

มันคือสิ่งที่อยากได้ยินมาตลอดหรือเปล่า? หญิงสาวเองก็ไม่แน่ใจ แต่ที่รู้ ๆ คือคำพูดนี้ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อจิตใจ อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอยั้งปากไม่ให้พ่นคำพูดแย่ ๆ ออกไปได้

“เราคิดอยู่นานว่าจะเอายังไงดี ปล่อยเลยผ่านไปเลยดีไหม ยังไงก็ใช้ชีวิตกันคนละทางไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องเผชิญหน้าอะไรกันอยู่แล้ว ผู้ชายเลว ๆ แบบเราคงกล้าเลือกวิธีนั้นได้โดยไม่ต้องละอายใจเลย”

“นั่นสิ มันไม่ส่งผลอะไรต่อชีวิตกันและกันเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่รู้อย่างนี้แล้วยังจะพยายามทำไม?” บลูเงยหน้าขึ้น แววตาของเธอซ่อนความสงสัยไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว “ทำไปเพื่ออะไรเหรอเท็น?”

มันเป็นเรื่องที่ชายหนุ่มถามตนเองก่อนตัดสินใจเอ่ยปากชวนอีกฝ่ายมาที่นี่ และสิบเอ็ดปีที่ผ่านไปเท็นไม่เคยคิดว่าคำตอบมันจะออกมาอย่างง่ายดายแบบนี้

“เหมือนเราเคยเล่นเกมไม่ผ่านเลยลักไก่ใช้สูตรโกงเพื่อข้ามมันไป แล้วพอโตขึ้นก็นึกได้ว่าถ้าวันหนึ่งเกิดตายไปทั้งที่ยังไม่ได้เคลียร์ด่านนั้นให้จบเราก็คงนอนตายตาไม่หลับ ก็เลยอยากกลับไปแก้ไขให้มันถูกต้องน่ะ”

“...”

“จะผ่านหรือไม่ผ่านมันไม่ใช่ปัญหาแล้ว เพราะอย่างน้อยเราก็ได้พยายาม บลูคิดอย่างนั้นไหม?”

เจ้าของชื่อไม่ได้พยักหน้าเห็นด้วยหรือปฏิเสธว่า ‘ไม่’ ให้คนฟังหน้าชา บลูเพียงจ้องมองมาเหมือนอยากรู้ว่าภายในสมองกลวง ๆ ที่ซ่อนอยู่ข้างในหัวผู้ชายคนนี้มันคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งคู่ปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปโดยไม่มีใครพูดอะไรอีก และพอถึงตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้วที่จะแยกทางกับผู้หญิงคนนี้ คนที่เขาเคยทำร้ายด้วยความตั้งใจ

“เรารบกวนเวลาบลูมามากแล้ว ยังไงก็ขอบคุณนะที่ยอมทนนั่งฟังทั้งที่จะไม่มาก็ได้”

“...”

“หลังจากนี้ก็ขอให้เจอแต่คนดี ๆ อยู่ท่ามกลางคนที่รักและเข้าใจ ขอให้บลูเป็นภรรยากับคุณแม่ที่มีความสุขเก่ง ๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยนะ”

เท็นรู้ว่าคำอวยพรของเขาไม่ได้มีค่ามากถึงขนาดนั้น แต่มันก็คงดีกว่าการลุกไปจ่ายเงินแล้วออกไปจากร้านโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ ในเมื่อวันนี้ได้พูดอย่างที่ตั้งใจแล้ว การอวยพรครั้งสุดท้ายมันคงไม่ได้ทำให้บรรยากาศแย่ลงไปกว่าเดิมนักหรอกมั้ง...

“รถเราจอดฝั่งตรงข้าม เดี๋ยวเราไปเช็กบิลแล้วจะออกทางขวามือ” เท็นชี้นิ้วไปทางด้านหลัง มันคงดีถ้าบลูจะเลือกไปทางซ้ายแทนที่จะเดินไปทางเดียวกันแล้วพบว่าเขายังยืนอยู่ข้างรถเพราะยังหากุญแจไม่เจอ

ชายหนุ่มโบกมือลาด้วยสีหน้าและท่าทางสุดแสนจะอึดอัด แถมยังกล้าพูดแบบไม่มีเสียงว่า ‘บาย’ ด้วย ...ให้ตาย ทุกอย่างดูโง่ไปหมด ตั้งแต่จำความได้ครั้งแรกก็คงเป็นตอนเพิ่งรู้จักไอ้แจ็คที่เขาดูกล้า ๆ กลัว ๆ อย่างนี้

“เดี๋ยว”

ขายาวหยุดชะงักเพราะเสียงที่เรียกรั้งท้าย ชายหนุ่มหันกลับไปด้านหลังก่อนจะพบว่าหญิงสาวที่เคยพูดจาทิ่มแทงจิตใจกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนกำลังลุกขึ้นยืนพร้อมมองมาด้วยแววตาที่เขาคาดเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร

“มีธุระต่อหรือไง บลูยังไม่ได้สั่งกาแฟสักแก้วเลยนะ”

ทั้งคู่สบตากันนิ่ง ก่อนที่เท็นจะเป็นฝ่ายยิ้มออกมาก่อน ชายหนุ่มกลับไปนั่งที่เดิมแม้ว่ายังนึกไม่ออกถึงบทสนทนาต่อไป เขากับบลูต่างก็โตขึ้นเมื่อนึกถึงสิบเอ็ดปีก่อน มันมากจนทั้งคู่สามารถยิ้มออกมาได้แม้ว่าในใจยังคงหลงเหลือร่องรอยบาดแผลอยู่


และปล่อยวางความโกรธเคืองไว้กับอดีต



*


ถนนในกรุงเทพฯ ยังคงติดแหงกจนแทบไม่ขยับ เท็นพรูลมหายใจทางริมฝีปากพลางเคาะปลายนิ้วกับพวงมาลัยระหว่างเดินทางไปร้านอุปกรณ์ไอทีเพื่ออัปเกรดคอมพิวเตอร์สุดที่รัก ความจริงสภาพการใช้งานของมันยังดีจนเรียกได้ว่าเพอร์เฟ็ค แต่เขาอยากได้ลื่นมากกว่านี้ แบบที่ไอ้แจ็คเห็นต้องร้องว้าว

บลูกลับถึงบ้านแล้ว เขารู้ได้จากรูปคู่กับลูกตัวน้อยที่ส่งมาให้ผ่านทางแชตเฟซบุ๊ก แม้จะไม่มีคำพูดประกอบ แต่เท็นก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เธอยังไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเต็มร้อย แต่อย่างน้อยการยอมถอยหลังคนละก้าวก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเกลียดกันต่อไปเรื่อย ๆ

ระหว่างรถติดบนถนนก็เปิดดูเพจเกมเพื่ออัปเดตข่าวสาร แม้จะเป็นการแข่งขันกระชับมิตรเอาฮา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาอยากลงแข่ง มันเป็นเพราะความเคยชินตลอดสิบปีที่ผ่านมาที่ไม่ว่างานไหนก็ต้องมี TEN1O พอถึงตอนที่ทำได้แค่มองเฉย ๆ จึงทำให้โหยหาการแข่งขันมากกว่าที่เคย


jjack: กูซื้อไอ้นี่มา มึงคิดว่าลูกจะเล่นเปล่าวะ?


เท็นยิ้มขำกับข้อความที่มาพร้อมรูปของเล่นหมากับแมว ซึ่งเจ้าตัวคงแอบสั่งซื้อข้ามน้ำข้ามทะเลจากต่างประเทศโดยไม่บอกไม่กล่าวสักคำ เขาจับสังเกตได้จากซองพลาสติกตรงฉากหลังที่มีภาษาอังกฤษและภาษาจีนปะปนกันอยู่


TEN1O: ก็ต้องลองดูแล้วว่ามันอยากเอาใจพ่อใหม่ไหม?
jjack: ปกติลูกชอบเล่นอะไร?
TEN1O: เล่นผมอะ คุณคิดว่าไง?
jjack: กลัวคุณหัวล้านสิครับ ต้องคิดอะไรอีก
TEN1O: คนละผมดิไอ้ห่า กูเนี่ยกู
jjack: 555
TEN1O: ว่าแต่ซื้อให้แค่ลูกเหรอครับ แล้วพ่อมันล่ะ นึกถึงบ้างหรือเปล่า?
jjack: อยากได้อะไรก็บอกผมสิครับ ตัดพ้อเอาแบ๊วเหรอ
TEN1O: หัดเดาหน่อยแจ็ค เซอร์ไพรส์ผม
jjack: ผมไม่ค่อยชอบทำอะไรแบบนั้นเพราะไม่อยากให้คุณช็อกตายเพราะดีใจน่ะ
TEN1O: แต่ผมอยากลองช็อกสักครั้งในชีวิตว่ะ จัดให้หน่อยได้ไหมวะ?
jjack: งั้นคืนนี้คุณมาค้างบ้านผม เดี๋ยวสอนให้
TEN1O: ใครจะสอนใคร เดี๋ยวมึงรู้


แม้บนถนนจะรถติดจนแทบขยับไม่ได้ แต่เท็นก็ยังคงยิ้มกับข้อความของ ‘เพื่อนสนิท’ ที่ทักมาทุกครั้งเมื่อละสายตาจากงานหรือกิจวัตรประจำวัน มันกลายเป็นความเคยชินไปแล้วที่เท็นใช้ชีวิตกับการมีอยู่ของไอ้แจ็ค และเขาอยากให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ


jjack: มาไหม?
TEN1O: ท้ามาขนาดนี้ไม่ไปก็เสียเชิงแย่เปล่าวะ?
jjack: โอเค จะได้บอกแม่หุงข้าวเพิ่ม


 แม้จะเป็นร้านซักรีดเล็ก ๆ แต่บรรยากาศและความรู้สึกที่มอบให้เขานั้นมันใหญ่โตเกินกว่าจะอธิบายได้ เท็นรักความธรรมดาที่แสนเรียบง่ายของครอบครัวไอ้แจ็ค ชอบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจนรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งในบ้านหลังนั้น

น้องสาวและน้องชายของมันก็เป็นกันเอง พักหลังเขาจึงแวะซื้อขนมไปให้ทุกครั้งเพราะอยากแย่งตำแหน่งเพื่อนพี่ชายที่ดีที่สุดมาจากโซ่ ซึ่งเด็กคนนั้นค่อนข้างทำคะแนนไว้ได้สวยจนน่าหมั่นไส้นิด ๆ 

ไหนจะแม่ไอ้แจ็คที่ใจดีจนน่าเกรงใจ ท่านทั้งคุยเก่ง เป็นที่ปรึกษาที่พอได้รับคำแนะนำเมื่อไหร่เป็นต้องได้ทางออกทุกที ไหนจะดูแลและรักเขาไม่ต่างจากลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองอีก แม่ไอ้แจ็คน่ะ --

แม่...

“...”

สายตาจับจ้องอยู่กับคำว่าแม่บนหน้าจอโทรศัพท์ขณะนึกถึงใบหน้าใครอีกคนที่ไม่ได้เจอมานานกว่าสิบปี เท็นรู้สึกว่ามันเนิ่นนาน แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจแตกสลายในวันนั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

ความอึดอัดตีรวนเข้ามาในอกไม่ต่างจากรถบนถนน แม้แสงสว่างจากหน้าจอจะดับไปแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังฝังตนเองให้จมอยู่กับความรู้สึกบางอย่างที่พยายามลืมทุกครั้งเมื่อนึกถึง ลืมว่าครั้งหนึ่งได้ตัดสินใจหายไปจากชีวิตผู้หญิงที่ให้เขาลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ ปิดกั้นทุกหนทางรับรู้และการติดต่อ

นอกจากเป็นเพื่อนที่แย่ เป็นความทรงจำไม่ดีของบลู เท็นก็ยังเป็นลูกชายที่ไม่เอาไหน เด็กหนุ่มอายุสิบแปดคนนั้นเอาแต่โทษว่ามันเป็นความผิดของทุกคนในโลกที่ผลักไสให้เขาเป็นคนเลวร้าย และหายใจมาจนถึงตอนนี้ได้ด้วยการหลอกตัวเอง

เท็นกล้าขอโทษทุกคน แต่เลือกเพิกเฉยการมีตัวตนของผู้หญิงที่เรียกว่าแม่ ชายหนุ่มปลอบใจตัวเองว่าก็สมควรแล้วที่ท่านสูญเสียเขาไป เท็นเอาความเจ็บใจยึดหลักเป็นหนึ่งโดยไม่สนว่านอกจากการแอบคบหากับคนขับรถแล้ว ผู้หญิงคนนั้นรักลูกชายคนนี้มากแค่ไหน

เพราะถ้าตัดเรื่องใส่ร้ายพ่อกับเรื่องผัวเก็บออกไป เท่าที่จำได้แม่ก็แทบไม่เคยทำร้ายจิตใจเขาเลย

เท็นตระหนักได้ว่านิสัยเสียส่วนหนึ่งของเขาเป็นเพราะการเลี้ยงดูที่ถูกตามใจมากเกินไป เด็กคนนั้นควรได้รับความผิดหวังหรือเสียใจจากการถูกสั่งสอนบ้าง แต่เขาแทบไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นจนกล้าจองหองกับพ่อแม่

แต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของเธอเสียทีเดียว แม่ก็แค่เพิ่งมีลูกคนแรกจึงไม่รู้ว่าควรเลี้ยงดูแบบไหนเด็กผู้ชายคนหนึ่งถึงจะเติบโตมาเป็นคนดีที่มีความสุขได้ ผู้หญิงที่ไม่เคยลำบากกับอะไรจึงใช้เงินกับการตามใจหล่อเลี้ยงลูกชายเพียงคนเดียว

แม่พยายามด้วยวิธีของแม่แล้ว มันก็ผิดที่ตัวเขาด้วยที่ไม่รู้จักเรียนรู้และทำความเข้าใจว่าโลกใบนี้มันกว้างแค่ไหน แม่ตามใจลูกได้ทุกอย่าง แต่ลูกชายคนนี้กลับโกรธจึงหาทางหนีไปจากชีวิตเธอโดยไม่ยอมคิดอีกแง่ว่าแม่ก็อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองเหมือนกัน

แม่จะรักใครก็ได้ทั้งนั้น เหมือนที่พ่อทำ และเท็นก็คงเสียใจถ้ามีใครหนีไปจากชีวิตเพราะเขาแค่อยากรักใครสักคน แต่เท็นช่างเป็นลูกชายที่ใจร้ายเหลือเกินที่คิดว่าแม่จะอยู่ได้แม้ว่าไม่มีเขา ซึ่งความจริงเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่เท็นก็รู้อยู่แก่ใจ

ใช่ แม่อยู่ได้ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านไปนั้นแม่สุขสบายจริงหรือไง ทำไมถึงไม่คิดได้ให้ไวกว่านี้

ชายหนุ่มกดโทรหาใครอีกคนที่เป็นความสบายใจ แม้อีกฝ่ายเพิ่งให้รอยยิ้มมาแต่ว่าเท็นก็ทำหายไปแล้วและไม่รู้เลยว่าวันนี้มันจะกลับมาหาเขาอีกทีเมื่อไหร่

ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ใช้ไปกับการรอสาย ซึ่งไอ้แจ็คก็ไม่เคยปล่อยให้เขาต้องรอนานนอกเสียจากว่ามันจะถูกเจ้านายเรียกพบส่วนตัว และเพียงครู่เดียวอีกฝ่ายก็กดรับ แต่เท็นกลับไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน

( ว่าไง ถึงกับโทรมาเลยเหรอ? )

ทั้งที่ควรเป็นไปได้ด้วยดีเหมือนทุกครั้ง รอเวลาไอ้แจ็คเลิกงาน หลังจากนั้นก็ไปกินข้าวเย็นที่บ้านมัน อยู่เล่นเกมกันจนดึกดื่น คลอเคลียกอดจูบเหมือนอย่างที่ทำจนกลายเป็นเรื่องปกติอะไรทำนองนั้น แต่สิ่งที่คิดไว้ก็พังไม่เป็นท่าแล้ว

“แจ็ค”

( ว่าไง เป็นอะไรหรือเปล่า? )

อาจเพราะน้ำเสียงและความเป็นตัว TEN1O ในโลกออนไลน์ที่ทำให้ไอ้แจ็ครู้ได้ทันทีว่าเขาคงกำลังรู้สึกแย่ เท็นไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน หรือบางทีเขาแค่อยากได้ยินเสียงอีกฝ่ายเพราะคิดว่าต่อให้เกิดอะไรขึ้นเท็นก็คงผ่านมันไปได้ขอแค่ได้รับกำลังใจจากคน ๆ นี้

“งานยุ่งอยู่ไหม?”

( กูว่างมากเลยตอนนี้ )

“ไม่เอาดิ อย่าโกหก”

( เออ ยุ่ง แต่ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าต่อให้ทำงานจนตัวขวิดแค่ไหนก็จะหาเวลามาคุยด้วยจนได้ อย่ากังวลนักสิวะ )

เท็นเงียบไป ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คนแข็งกร้าวอย่างเขากลายเป็นคนไม่หลงเหลือความมั่นใจจนกลัวไปหมดอย่างนี้ เสียงคลิ๊กเมาส์ เสียงแป้นคีย์บอร์ดเข้ามาในสายเป็นระยะ รวมถึงเสียงเพื่อนร่วมงานที่หันมาถามความเห็นเกี่ยวกับปัญหาของตัวเกมที่ต้องรีบแก้ไข เท็นจึงหลับตาลงพลางหายใจเข้าลึก ๆ

( ให้ไปหาหรือเปล่า? )

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้น ที่โทรหาก็เพราะอยากได้ยินเสียง”

( แน่ใจเหรอ จากระดับเสียงของมึงกูสัมผัสได้แต่กลิ่นมาคุมากกว่าจะเป็นอารมณ์อยากโรแมนติกนะ? )

“แค่นึกถึงเรื่องบางเรื่องแล้วไม่สบายใจเฉย ๆ แต่ได้ยินเสียงมึงกูก็ดีขึ้นแล้ว”

( แล้วมันพอไหม? )

“ถ้าตอบว่าไม่มึงจะ...”

( กอดมึงไว้จนกว่ามึงจะหายรู้สึกแย่กับทุกเรื่องในโลก )



(ต่อด้านล่างนะคะ)



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด