---> เปลี่ยนเพื่อนให้เป็นเเฟน #พระเพลิงมารีน <--- [End _ 27Nov]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ---> เปลี่ยนเพื่อนให้เป็นเเฟน #พระเพลิงมารีน <--- [End _ 27Nov]  (อ่าน 16829 ครั้ง)

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 19



เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นหลายรอบ ผมสลึมสลือกดเลื่อนไปเรื่อยๆ เพราะหัวหนักเกินจะลุกขึ้นไหว ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่ามีควิซบ่าย เป็นวิชานอกคณะ เเต่ร่างกายที่อ่อนล้าเเละตัวที่รุมๆ จากพิษไข้ ทำให้ร่างกายปฏิเสธคำสั่งจากสมองโดยสิ้นเชิง มือผมเผลอกดปิด Snooze ไปตอนไหนไม่รู้แต่ข้อดีของมันคือหลับยาว



อ่า...เย็นสบายจัง ผมเอื้อมมือไปสัมผัสอะไรนุ่มๆ หยุ่นๆ ที่เเปะอยู่บนหน้าผาก แล้วก็ลืมตาดูรอบข้าง ห้องนอนผมไม่ได้มืดทึบ เพราะม่านถูกเปิดออกเล็กน้อยทำให้ห้องดูสดใสขึ้น ผมมุ่นคิ้วหรือพ่อกับเเม่กลับมาจากทำงานเเล้วรู้ว่าผมไข้ขึ้น แกล้งตายดีกว่าไม่งั้นโดนดุเเหง

“น้ำ” เสียงพ่ออ่อนโยนจังวันนี้ อ่อนขนาดนี้คงดุผมไม่ลง ผมสัมผัสได้ถึงมืออุ่นๆ ที่แตะลงมาบนเเก้มและซอกคอ ผมเอียงหน้ารับ แล้วไถอ้อนเหมือนลูกแมว แถมยังจับมือไว้ไม่ให้ขยับไปไหนด้วย

แต่..เดี๋ยว มือพ่อควรจะเหี่ยวกว่านี้ และนิ้วด้านๆ แบบนี้!!!

ผมเบิกตาโพลง โยนมือโน่ออกเหมือนจับของร้อน ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างเตียงถึงกับเหวอ

“เข้ามาได้ไง แค่กๆ!!” ผมเผลอตะโกนถามเสียงดัง และก็ส่งผลให้ไอโขลกจนน้ำตาไหล

โน่ยื่นเเก้วน้ำอุ่นมาให้จิบ

“โน่ก็ไขกุญเเจเข้ามาปกตินี่เเหละ กุญเเจบ้านน้ำซ่อนอยู่ใต้กระถางต้นกระเพรา โน่จำได้”

ผมยู่ปาก เกลียดที่เขาจำได้ทุกอย่างเลยพลิกตัวหนี โน่รั้งไว้แล้วจับไม่ให้เเผ่นลดไข้หล่น เขาล็อกไหล่ให้ผมนอนหงาย หยิบเเผ่นเก่าออกไป เปลี่ยนเเผ่นคูลเจลใหม่ แล้วใช้มือเเตะซอกคอดู

“ไข้ลดลงเเล้ว ก่อนหน้านี้ตัวร้อนมาก ต้องเช็ดตัวตั้งสองสามรอบ”

ตอนเเรกก็ไม่คิดอะไร แต่พอเห็นตายิ้มๆ ของโน่ ผมก็รู้สึกเหมือนมีไข้กลับ

“โน่เช็ดตัวหรอ” คนถูกถามอมยิ้ม พยักหน้า เเล้วผมก็ต้องยกผ้านวมขึ้นมาคลุมโปง เห็นใช่มั้ยอ่ะ ฮรือออ

“ไม่เห็นอะไรหรอก ไม่ได้ถอดกางเกงใน”

โน่เลว ฮรือ ผมยังไม่ยอมลดผ้านวมลงหรอกครับ

“นี่ตื่นเเล้วก็กินข้าวต้มหน่อย จะได้กินยาลดไข้” เขาจับไหล่ ผมปัดออก

“น้ำ!!” ดุอีกแล้ว ผมหันมาทำตาขวางพร้อมบึนปากอย่างเด็กเอาเเต่ใจ

“น้ำครับ ทานข้าวหน่อยนะ หรืออยากให้โน่ป้อน”

ผมเชอะหน้าไปอีกทาง โน่ถอนหายใจอย่างอ่อนอก แล้วเขาก็ประคองให้ผมนั่ง เอาหมอนซ้อนๆ ให้ที่หลัง เเล้วประคองถ้วยข้าวมาถือให้ผมตักกิน

“ไปเเปรงฟันก่อน” ผมอุบอิบ แล้วเขาก็ตามใจ

“ยืนไหวมั้ย”

“ไม่ได้เป็นง่อย”

“คนเป็นไข้ เข้าปากเก่งแบบนี้ทุกคนมั้ยนะ” โน่บิดจมูกผม ผมเลยเผลอจะงับมือเขาเเบบที่เคยทำประจำ

“ดุจริงนะหมาเปี๊ยก”

ฮึ่ย!! ผมไม่อยากคุยกันเขาเเล้ว เลยประคองตัวเองที่โลกมึนๆ เดินไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับลงมานั่งที่เตียง พึ่งเห็นว่านาฬิกาเดินไปที่สามโมงเเล้ว

“ควิซ!!” พึ่งนึกได้ครับ มันควิซกันไปตั้งกะบ่ายโมงแล้วมั้ย

“ใช่วันนี้มีควิซโน่เห็นน้ำไม่ไปเรียน โทรมาก็เหมือนปิดเครื่องเลยเเวะมาดู”

“อย่าบอกนะว่าโน่ก็โดดควิซ”

เขาพยักหน้า

“ตั้ง 20 คะเเนน เดี๋ยวก็ไม่มีสิทธิ์ได้เกรดเอหรอก” ผมดุเขา

“ก็ได้บีเป็นเพื่อนน้ำ”

ผมไม่เถียงเค้าเเล้ว กินข้าวดีกว่า

“เดี๋ยวไปหาหมอหน่อย อย่างน้อยมีใบรับรองเเพทย์จะได้ไปบอกอาจารย์ได้”

“แบบนั้นน้ำก็รอดคนเดียวสิ แล้วโน่ล่ะ” อดห่วงเขาไม่ได้อีก

“ก็ทำให้โน่ติดไข้ด้วยสิ”

ผมย่นคิ้วไม่เข้าใจ โน่หัวเราะในลำคอพร้อมใบหน้าชั่วร้าย

“แล้วไข้มันติดกันทางไหนได้บ้างล่ะ” โน่ถามผม พอคิดตามก็เเก้มร้อนผ่าว ร้ายกาจนัก! ผมเอามือฟาดโน่เต็มเเรง เขาก็ยังหัวเราะอยู่แล้วจับข้อมือผมไว้แทน

โน่สบตาผม ดวงตาโน่ตรึงผมไว้ไม่ให้ขัดขืน เขายกเเขนของผมไปใกล้ริมฝีปาก หงายข้อมือผมขึ้นแล้วกดจูบลงแผ่วเบาทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างนุ่มละมุนเเละสายตาเขาไม่ละออกจากใบหน้าผมเลย เส้นเลือดตรงนั้นมันส่งตรงมาถึงหัวใจหรอ ทำไมถึงเต้นเเรงนัก แรงขนาดที่ว่ากลัวโน่จะได้ยินถึงความหวั่นไหวในใจผม

บ้านที่ไม่มีคนอยู่ ห้องนอนที่มีเพียงเเสงสลัว ผมนั่งห้อยขาอยู่บนเตียง และโน่ก็นั่งขัดสมาธิอยู่แนบชิดปลายเท้า แค่ผมก้มหน้าลงไป เราก็จะสัมผัสกันได้มากกว่านี้

“…”

“กินข้าวนะ” โน่เเก้สถานการณ์โดยการวางมือคืนที่ตักผม เขาหันไปหยิบถ้วยข้าวต้มมาถือให้ แล้วให้ผมตักกินเอง กินไปได้ 4-5 คำผมก็วางช้อน คอมันเฝื่อนจนไม่อยากกลืนอะไรลงไปด้วยซ้ำ

“จะไปหาหมอเลย หรือจะกินยาแล้วนอนอีกสักตื่น”

“เอ่อ... ไปเลยก็ได้” ผมไม่อยากกวนเขาให้เสียเวลามากไปกว่านี้

“หน้ายังง่วงอยู่เลย นอนได้ โน่รออยู่ที่นี่เเหละ ไม่ไปไหนหรอก” เขาลูบหัวผมอีกแล้ว เมื่อไหร่จะเลิกอ่อนโยนสักที ผมคงทำหน้างอแงมากมั้ง เขาเลยยื่นนิ้วมาคีบปากเป็ดๆ ไปหนึ่งที ก่อนจะยื่นยาแก้ไข้กับน้ำอุ่นมาให้ ผมรับไปกิน แล้วก็นั่งหลังตรง รอให้อาหารไหลลงสู่กะเพาะก่อน ค่อยลงนอน โน่เดินไปหยิบกีต้าร์โปร่งมาดีดเบาๆ

“กล่อมหรอ” ผมถาม

“อือ” เขาตอบเเล้วก็เล่นเพลงหนูมาลีมีลูกเเมวเหมียว นี่มันเพลงเด็กชัดๆ ผมทำหน้างอใส่เขาทันที โน่หัวเราะเเล้วก็ยังเล่นวนไปจนตาผมชักปรือ ค่อยๆ ไถตัวลงกับที่นอน โน่วางกีต้าร์เดินมาห่มผ้าให้ถึงคอ แล้วก็จูบเเผ่วๆ ที่หน้าผาก

“หายไวไวนะคนเก่ง”

“อือ..” ผมครางรับเบาๆ แล้วหลับไป



หมดฤทธิ์ยาผมรู้สึกตัวอีกรอบ เห็นกลุ่มผมดำๆ ฟุบอยู่ข้างเตียงแล้วก็ต้องอมยิ้ม ผมนึกสนุกวางมือลงไปบนกลุ่มผมของโน่ แล้วก็แทรกนิ้วลงไปในความนิ่ม มันลื่นมือจนจั๊กจี้ แต่ผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อเจ้าของเขาตะปบมือผมไว้ แล้วจับเเน่นดิ้นหนีก็ไม่หลุด

“ซน!” เขาดุผมจนต้องทำหน้ายู่ใส่

“แบบนี้ต้องจับกิน” โน่ว่า แล้วทำท่าจะกัดฝ่ามือ ผมแหกปากลั่นเผลอเล่นเป็นเด็กเลย แต่เจ้าตัวโตไม่กินผมหรอก เขาเเค่เอาฝ่ามือดึงเจ้าไปฟัดกับจมูกเท่านั้น

“หอม”

“ก็ผมโน่” ผมจั๊กจี๋ฝ่ามือจัง

“มือน้ำ” เสียงทุ้มว่าแล้วจุ๊บเบาๆ

“จับจู๋มายังไม่ได้ล้างเลย” ผมเเกล้งเขา

“หึหึ ยิ่งชอบดมใหญ่เลย”

ผมหน้าร้อนผ่าว ไอ้โน่บ้า ลามกที่สุด ผมยกมือจะฟาดก็ไม่ได้ เพราะเขายืดมือไว้เเน่น จะใช้อีกมือก็โดนยึด ดิ้นหนักขึ้น ไอ้หมาตัวใหญ่ก็ปีนขึ้นมาคร่อมไว้ทั้งตัว

มือผมถูกรวมไว้เหนือศีรษะ โน่เเทรกตัวเข้ามากลางหว่างขา แล้วผมก็ทำอะไรเขาไม่ได้นอกจากเอาขาเกี่ยวล็อกสะโพกเขาไว้ ไม่ให้ดิ้นหลุด ผมขู่เจ้าหมายักษ์ด้วยสายตา เพราะเห็นแล้วว่ามันเล็งจะงับจมูกผม ใบหน้าหล่อร้ายก้มลงมาเรื่อยๆ ใกล้จนภาพเบลอมองไม่เห็นรายละเอียดอะไรอีกนอกจากสันจมูก

ผัวะ!!

“โอ๊ะโอ NC 18+” เสียงคุณนายดอกไม้นั่นเอง โน่ดีดตัวออก แต่ด้วยสะโพกเขายังโดนผมล็อกไว้ เลยจังหวะไม่ดี กลิ้งหล่นจากเตียงโครมคราม พ่อวิ่งขึ้นมาสมทบพอดี คงเบรกไม่ทัน เลยชนเเม่เข้ามาในห้องด้วย

“โน่!” พ่อเรียก

คนตัวโตที่ก้นจั้มเบ้า หันไปสวัสดีทั้งที่ยังนั่งอยู่กับพื้น พ่อกับเเม่ขำพรืด แล้วทำท่าจะลีฟซีน

“ขอโทษที่ขัดจังหวะจ้า เห็นบ้านล็อกจากข้างใน เลยจะมาดูเด็กโดดเรียนหน่อย” แม่หมายถึงผม

“ไม่คิดว่าลูกชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝา”

โอ๊ย หวงลูกหน่อยได้มั้ยละ ผมได้แต่บ่นในใจครับ เพราะยังตกอยู่ในอาการเขินอายจนมือสั่น ใจเต้นรัว

“น้ำป่วยครับ ไม่ได้ไปควิซผมเลยเเวะมาดู” โน่รีบอธิบาย เพราะพลังมโนนั้นพ่อเเม่ผมไม่เป็นสองรองใคร

“แล้วท่าเมื่อกี้คือวัดไข้กันหรือจ๊ะ แหม...เเม่นี่อยากป่วยบ้าง”

เดี๋ยวนะ เเม้โน่จะอัพอายุขึ้นมาเเล้วบ้าง แต่ก็เเก่ไม่ทันเเม่หรอก

“อะแฮ่ม!!” ผมกระเเอม ช่วยสนใจคนป่วยคอเเห้งก่อนได้มั้ย

“เอ่อ..เดี๋ยวผมขออนุญาตพาน้ำไปหาหมอนะครับ” โน่พูดอย่างสุภาพ

“จ้า...จะฉีดยงฉีดยาก็เอากันซะให้เรียบร้อย น้ำก็ไม่ต้องเเหกปากดังมากนะลูกนะ น่าจะเจ็บคออยู่”

แม่ครับ ทำไมถึงเรท 18+ กับลูกได้ขนาดนี้ คู่สามีภรรยาปิดประตูออกไป ทิ้งลูกชายไว้กับไอ้หนุ่มใจโฉดทันที โน่เดินยิ้มกริ่มเข้ามาหา ผมนี่ถดตัวหนีเเทบไม่ทัน

“หมอขอฉีดยาหน่อยได้มั้ยครับ ไหนๆ เเม่ก็อนุญาตเเล้ว” ผมปาหมอนใส่หน้าโน่ทันที ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงยอมง่ายอยู่หรอก แต่ตอนนี้แม่ง...ตัวเองก็มีเเฟนอยู่เเล้ว ยังมาสร้างความหวังให้คนอื่นอยู่เรื่อย ผมเกลียดโน่ ผมเกลียดโน่!!





โน่คงเห็นหน้าบอกบุญไม่รับของผม เลยเลิกเเกล้ง ปล่อยให้ผมเดินไปแต่งตัวเสียให้เรียบร้อยกว่าเดิมเพื่อไปหาหมอ เราแวะโรงพยาบาลเอกชนใกล้ๆ บ้าน ได้ยาแก้อักเสบเพราะคอบวมมาชุดใหญ่ แล้วที่เหลือก็เป็นยาตามอาการคือพวกลดน้ำมูก แก้ไอ แก้ไข้ หลักๆ ถ้าทำตัวให้อบอุ่น แล้วพักผ่อนเพียงพอสองวันก็น่าจะหายดี

รถคันสีขาวขับกลับมาส่งผมที่หน้าบ้าน ตอนเเรกโน่จะไม่ลงจากรถ เเต่พ่อกับเเม่ก็มาเกาะประตูรั้วหน้าสลอน อะไรอีกตายายคู่นี้

“น้องโน่” แม่เรียก เขาเดินลงมายิ้มให้ผู้ใหญ่อย่างสุภาพ

“คืนนี้ดึกๆ พ่อกับเเม่มีไปเอ้าท์ติ้งของบริษัทที่ฝรั่งเศส 1 อาทิตย์ จะไม่มีใครอยู่เฝ้าเข้าน้ำที่ป่วย แม่กับพ่อฝากหน่อยได้มั้ย”

ผมตาโต เดี๋ยวนะ อยู่ๆ จะไปกันง่ายๆ แบบนี้เลยหรอ

“พ่อบอกแกไปตั้งนานเเล้ว ยังชวนไปด้วยกันเลย”

จริงด้วยหวะ แต่ผมติดเรียนไง จะขาดได้ไงเป็นอาทิตย์

“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาดูโน่ให้เเต่เช้า”

“เก็บผ้าเก็บผ่อน ย้ายมาอยู่นี้ซะนะลูก หรือจะนอนตั้งเเต่คืนนี้เลย เสื้อผ้าโน่ก็มีอยู่หนิ ในตู้น้ำ”

อ่าเเม่ครับ...หวงลูกชายหน่อยก็ได้มั้ง

เจ้าตัวดีพยักหน้า แล้วก็เอารถจอดข้างถนนฝั่งตรงข้ามบ้านเสร็จสรรพ เดินตามพ่อกับเเม่ต้อยๆ เข้าบ้านไป ทิ้งผมลูกชายตัวจริงยืนเอ๋ออยู่หน้าบ้านอีก ผมเม้มปากอย่างไม่พอใจ ยิ่งพยายามหนีก็เหมือนฟ้าจะพยายามส่งโน่ให้มาใกล้จนหงุดหงิด ผมฟึดฟัดเข้าบ้าน ยิ่งเห็นเเม่คุยเล่นหัวเราะอยู่กับโน่ยิ่งอยากจะสาปให้พายุมาพัดม้วนเอาโน่ออกไปเลย

“หน้างอเป็นตูด” พ่อเดินเข้ามาทัก ผมเลยต้องรีบคลายสีหน้า “พ่อวางเงินไว้ให้ในลิ้นชักนะ เอาไว้สั่งอะไรมากินกัน ไม่ต้องพยายามทำกับข้าวสวีทกันเหมือนในนิยายนะ ครัวบ้านเราไม่ได้ใช้มานาน กลัวจะระเบิด ของในตู้เย็นก็ไม่น่ามีอะไรที่กินได้จริง”

ผมกรอกตา เเล้วก็กอดลาพ่อ เดี๋ยวสักสี่ทุ่มเขาคงออกไปขึ้นเครื่องกัน ผมป่วยเลยน่าจะอยู่ส่งไม่ไหว แม่เห็นผมกอดพ่อก็ทนอิจฉาไม่ไหวเดินมาอ้อนๆ ให้ผมกอดมั่ง ครอบครัวผมน่ารักแบบนี้แหละ ผมโอบเอวเเม่เเล้วหอมเเก้มซ้ายขวา

“อยากได้อะไรเป็นพิเศษมั้ยเรา”

ผมส่ายหน้า ไม่รู้จะฝากซื้ออะไรดี

“แล้วโน่ล่ะ อยากได้อะไรมั้ย”

โน่มันตอบว่าอยากได้นาฬิกาเรือนละล้านไป พ่อเเม่จะซื้อมาให้มันมั้ยละครับ ผมแขวะในใจ ทำไมพาลบ่อยจัง

“อยากได้...ใจคนเเถวนี้อ่ะครับแม่”

“หยอดเก่ง” เเม่ฟาดด้วยจริตโคตรเขิน

“สินสอดเเพงนะเว้ยไอ้หนู” พ่อผมผลักไหล่โน่เเล้วหัวเราะร่วน

มีเเต่ผมหน้าบูดเป็นตูดคนเดียว เลยกลายเป็นว่าเเยกจากทุกคนมาเเบบนั้น ไม่นานโน่ก็ตามเข้ามาในห้อง เขาถือวิสาสะเปิดตู้ ทำเหมือนคุ้นเคยกับห้องผมเสียเต็มประดา เเล้วก็หยิบเสื้อยืดกับกางเกงวอร์มของตัวเองออกมา

“ไม่สงสัยบ้างรึไง ว่าทำไมมีเสื้อผ้าคนอื่นอยู่ในตู้ตัวเอง” โน่ถามผม ผมยักไหล่

“จำไม่ได้จริงๆ หรือน้ำ” เขาถามผมอีกประโยคด้วยเสียงที่เเผ่วเบาลง ผมชี้ไปที่ห้องน้ำเพื่อให้เขารู้ตัวว่าต้องทำอะไร



ผมปีนขึ้นไปห่มผ้าเตรียมนอนโดยไม่รอโน่ วิ่งออกไปใช้ห้องน้ำชั้นล่างเรียบร้อย ไม่ได้ซกมกนะเออ แถมยังเปลี่ยนไฟห้องที่สว่างให้สลัวลงเตรียมหลับ เสียงปล็ดล็อคประตูห้องน้ำทำผมสะดุ้ง แล้วทำไมต้องใจเต้นเพราะลุ้นว่าโน่จะนอนตรงไหนด้วยว่ะ

“หลับเเล้วหรอ” เขาถามอากาศข้องตัว

“กินยาเเล้วยังเจ้าตัวดื้อ”

ไม่ตอบโว้ย กูหลับเเล้ว!!

“ถ้าหลับ...ก็เเปลว่าหอมเเก้มได้”

เตียงยวบ

ฟึ่บ!

เฮือก!!

ผมยันหน้าไอ้คนที่เเปลงร่างเป็นผีอำทับผมทั้งตัวไว้ทัน ตาโนพราวระยับ แล้วก็ยิ้มจนเเก้มยกให้ตายิบหยี ผมฟาดไหล่เขาด้วยความหมั่นไส้ แกล้งเก่งนัก

“อ่าว นึกว่าหลับเเล้ว” ยัง...ยังเเสดงละครเก่งอีก ทำหน้ารู้สึกผิดเสียหน้าถีบเชียว ผมดันตัวโน่ให้นอนลงข้างๆ แล้วยกหมอนข้างมากั้นกลางระหว่างเราไว้

“โน่จำได้นะว่าน้ำติดกอดอะไรสักอย่างตอนนอน เเล้วถ้าเอาหมอนข้างมาให้โน่แล้วน้ำจะกอดอะไร”

กอดตัวเองนี่เเหละ เจ็บเเล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควายเว้ย!! ไม่ทนอีกแล้วฮรือ!!

“เอาหมอนข้างไปกอดเถอะ เราเสียสละ” โน่บอกแล้วคว้าเจ้าก้อนนิ่มยาวๆ โยนมาให้ฝั่งที่ผมตะเเคงหน้าหา

ผมหันไปหน้างอใส่เขา

“ทำหน้าเหมือนอยากกอดโน่”

ถีบเเม่ง! รำคาญนักผมเลยยกเท้าเตะหน้าขาเขาไปใต้ผ้านวมนั้นเเหละ

“ดุจังอะ ทีบนดอยแล้วซุกเอาๆ”

นี่เป็นคนแบบนี้หรอฟระ!?

“เราก็มีค่าเเค่เเก้หนาวสินะ” ดูพ่อคุณเขาตัดพ่อ ฟังเเล้วอยากยันให้ตกเตียง

ผมบิดพุงโน่ด้วยความหมั่นไส้

“โอ้ย เจ็บ โอ้ย น้ำเบาหน่อยครับ น้ำ เดี๋ยวพ่อกับเเม่ได้ยินนะ ชู่ว!”

ติ๊ง!

เร็วกว่าหน่อยข่าวกรองก็พ่อแม่ตูนี่เเหละ ข้อความมาทันที

‘เฮ้ย เบาหน่อยวัยรุ่น’ โอดโอยซะจนผู้ใหญ่คิดไปไหนถึงไหน ผมทุบโน่ไปอีกหนึ่งทีแล้วหันหน้าหนี ได้ใจไอ้หมายักษ์ มันขยับเข้ามาใกล้ทันที แล้วก็เอามือเเทรกๆ เข้ามาตรงซอกคอผม รำค๊าญญญ! จนต้องยกหัวขึ้นเเล้วนอนลงใหม่ มืออีกข้างก็พาดเอว แล้วกระชับอกตัวเองเข้ามาใกล้หลังคนอื่นเค้า อึดอัดจะตาย ไม่รู้หรือไงว่าคนเป็นไข้ต้องระบายเหงื่อออกอ่ะ

ฟืด!

เสียงสูดจมูกเหมือนตัวโรคจิตเลย ขนลุกเกรียวไปหมด เอาจมูกมาไถหลังคอคนอื่นอยู่ได้

“น้ำอย่าดิ้น!” ดุเก่ง!!

“ยิ่งดิ้นยิ่งกอดเเน่นนะบอกไว้ก่อน” เออ...ขู่ก็เก่ง

ผมเลิกท้าทายโน่นอนนิ่งๆ ข่มตาหลับ แล้วท่องพุธโธในใจ หวังเอาธรรมมะเข้าสยบมาร แต่น้ำลืมไปว่าเจ้ามารโน่มันไม่ได้ยินนี่นา

ฟอด!!

เออ...เก่งไปหมดทุกอย่าง หอมก็เก่ง!!

“ฝันดีนะครับ คนเก่งของโน่”

โชคดีนะครับที่ผมใจเเข็งเก่ง ไม่งั้นหันไปจุ๊บๆ กู๊ดไนท์แล้วฮรือ... เกลียดเเม่งที่ชอบอ่อนโยนใส่





พ่อเเม่จากไปไม่ลาสักคำ มีเพียงข้อความในไลน์บอกว่าขึ้นเครื่องเเล้ว ผมนั่งอ่านอยู่บนเตียงที่บัดนี้ไร้วี่เเววเจ้ายักษ์ตัวโตที่กอดให้ความอบอุ่นผมทั้งคืน อาการมึนศีรษะ และไข้ของผมเเทบจะไม่เหลือเเล้ว และคิดว่าคงไปมหาวิทยาลัยได้แล้ว ผมเดินเข้าไปอาบน้ำอุ่น แล้วก็ใส่ชุดนักศึกษาลงมาด้านล่าง ผมเห็นแผ่นหลังในชุดเตรียมไปเรียนของใครอีกคนก้มๆ เงยๆ อยู่หน้าเตา มึงไม่ได้ฟังที่พ่อกูห้ามใช่มั้ยโน่ ผมถลาเข้าอย่างเร็ว กลัวจะมีอะไรระเบิด แต่สิ่งที่เห็นคือโน่เเค่เทโจ๊กใส่ถ้วย แล้วจะไปเทตรงเตาให้หัวใจผมตกไปที่ตาตุ่มเพื่อ

จัดการเก็บหัวใจมาคืนอก แล้วก็เท้าเอวหาเรื่องเขา เจ้าหมาโง่หันหน้ามายิ้มเเฉ่งใส่ แล้วยกถ้วยโจ๊กวางลงบนโต๊ะ สองชาม

“มียาเเก้อักเสบหนิ กินก่อนอาหารเช้า”

ตกลงจะเป็นนักดนตรี หรือจะเป็นหมอ รู้ดีนัก ผมวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องเพื่อไปหยิบยา แล้วก็ลงมากินข้าวเช้า แต่สงสับวิ่งไวเกิน ตอนลงบันได้มาทำท่าจะวูบ โน่รีบมาคว้าไว้ หน้าตาเขาดูตกใจมาก แล้วก็ทำตาดุตามระเบียบ

“ไม่สบายอยู่ ทำอะไรช้าหน่อยสิ โน่รับไม่ทันตกบันไดทำไง!?”

“แล้วทำไมโน่ไม่ไปหยิบให้ตั้งเเต่เเรก!” ผมดื้อกลับเสียงสะบัด เป็นไงดุเก่งนัก

“ขอโทษครับ”

อ่ะ แล้วก็ทำให้ผมเเพ้ด้วยการเป็นฝ่ายยอมสินะ เขาประคองผมไปนั่งลงกับโต๊ะอาหาร แล้วเทน้ำอุ่นๆ มาให้ ผมรับมากินยา แล้วก็ตักโจ๊กเข้าปาก

“รู้หรอว่าเราชอบกระดูกหมู”

“น้ำเคยใช้ให้เราไปซื้อตอนรู้จักกันใหม่ๆ”

จำเก่ง เอาไปสิบคะเเนน

“แล้วมานอนกับเราเเบบนี้ นางฟ้าไม่ว่าหรอ”

“ก็ไม่จำเป็นต้องให้รู้หนิ”

เออ...กูเป็นชู้เค้าสินะ ผมอยากจะฟาดงวงฟาดงาใส่ สงสัยเพราะป่วยครับอาการงอเเงมันเลยมาเต็มสตรีม

“แล้วจะปิดได้ครบอาทิตย์หรือไง”

คราวนี้เขายิ้ม

“แปลว่าอยากในโน่มานอนด้วยทุกคืนใช่มั้ย”

“ขี้ตู่” ผมว่าเขา

“มาได้ นางฟ้าไม่รู้หรอก เราก็แค่บอกว่าเรากลับคอนโดเเล้ว”

“ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอ” ผมคาบช้อนตาโต

โน่ส่ายหน้า ผมก้มลงตักโจ๊ก แอบยิ้ม อย่างน้อยก็ชนะนางฟ้านิดนึง อิอิ...แต่เดี๋ยวสิอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง โน่ให้เกียรติแบบนั้นก็ถูกแล้วหนิ หงึ อยากจะฟึดฟัดขึ้นมาอีกแล้ว ผมจ้วงกินโจ๊กอย่างหงุดหงิด กินเสร็จก็ไม่ล้างด้วย เพราะปล่อยให้โน่บริการไป ผมมันคนป่วยจะเอาเเต่ใจเเค่ไหนก็ได้

หลังจากเก็บกวาดทุกอย่างเสร็จ เราก็เตรียมไปมหาวิทยาลัย ผมใส่ร้องเท้าผ้าใบทั้งที่ยืนอยู่ เเต่พอออกเดิน ก็พึ่งเห็นว่าเชือกหลุด ผมจะก้มลงไปผูก แต่ก็โดนโน่รั้งไหล่ไว้

“ไข้อยู่ อย่าก้มเลย เดี๋ยวเวียนหัว” เขานั่งลงไปผูกเชือกด้านที่หลุดให้ แล้วยังหันไปเช็กด้านที่ไม่หลุดว่ามันเเน่นดีหรือเปล่าด้วย

ผมอึ้ง ไม่คิดว่าโน่จะทำให้ถึงขนาดนี้

“ขอบคุณ” พึมพำเบาๆ แล้วก็เดินไปขึ้นแรบบิทครีม ที่จอดอยู่นอกรั้วบ้าน เป็นโน่อีกที่ล็อกบ้านล็อกรั้วให้อย่างรู้งาน

ในรถโน่เปิดเพลงที่เราเคยชอบฟังด้วยกันเบาๆ เขาฮัมบางท่อนอย่างอารมณ์ดี เขาเเวะจอดข้างทางก่อนถึงมหาวิทยาลัย มันเป็นหน้าร้านดอกไม้ สมัยที่เราเคยมาซื้อตอนกีฬาสีโรงเรียน...เออ ผมก็จำได้ทุกดีเทลเนาะ

โน่กลับมาขึ้นรถพร้อมดอกไม้สีขาวช่อจิ๋ว

“เยี่ยมคนป่วย” เขายื่นให้ผม ตลกมากมั้ย ผมรับมาถือไว้ แล้วก็ไพล่คิดไปถึงตอนนู่น

‘ดอกอะไรหรอ’

‘Lily of the Valley’

‘มีความหมายป่ะ’

‘ความอ่อนหวานของคุณช่วยเติมชีวิตฉันให้สมบูรณ์’

“ความหมายเหมือนจีบ ไม่ได้บอกให้หายป่วย” ผมพูดกับเขา แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ในลำคอ

“รู้ด้วยหรอว่าเเปลว่าอะไร”

“อือ ฉลาด” ผมแอบกัดลิ้นตัวเองเบาๆ มึงความจำเสื่อมอยู่น้ำ อย่าเสร่อทำความเเตก

“ทีเมื่อก่อนไม่เห็นรู้”

“เมื่อก่อนโน่ก็เคยให้เราหรอดอกแบบนี้” แหลเก่งมั้ยครับ

“อื้ม”

“แล้วตอนนั้นให้เพราะอะไรหรอ”

“จีบ”

อิเหี้ย!!! ขออนุญาตอุทานคำหยาบ แล้วหันไปยิ้มกับกระจกข้างอย่างเเนบเนียน ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด แล้วหันกลับมาทำหน้าเรียบตึงเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรอีกครั้ง

“แล้วตอนนี้ล่ะให้เพราะอะไร”

“จีบ...เหมือนตอนนั้น”

เป็นลมตายไปเลย!!

“เเก้มเเดงๆ นะ ไข้ขึ้นหรอ” โน่ยื่นมือมาเเตะหน้าผากผม คนอะไรชั่วร้ายกับหัวใจคนอื่นได้ขนาดนี้







TBC 


ขอบคุณที่รักน้องน้ำค่ะ อิอิ ^^
#พระเพลิงมารีน  สำหรับใครเล่นทวิตนะคะ ไรต์ไถทั้งวัน คุยกันได้นะฮะ

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 20



และเพราะผมป่วยขาดควิซ ส่วนโน่ก็โม้ไปว่าตามไปช่วยพาผมไปโรงพยาบาลเเบบฉุกเฉิน พวกเราทั้งคู่จึงได้รับโอกาสให้ทำรายงานส่งเพื่อเอา 20 คะเเนนเเทนควิซ ยังพอมีทางได้เอผมก็สบายใจขึ้นหน่อย โน่ชวนผมไปทำที่คอนโดช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ผมก็ไม่ขัดอะไร เพราะก่อนหน้านี้เขาก็มาขลุกอยู่บ้านผมตลอดช่วงที่พ่อเเม่ไม่อยู่เเล้ว

คอนโดเดิมที่ห่างหายไปนาน ผมเองก็อดผูกพันกับมันไม่ได้ ได้กลับมาก็หวนคิดถึงวันเก่าๆ โน่เดินนำผมเข้ามาด้านในห้อง ความทรงจำทุกอย่างพุ่งปะทะราวลมก้อนใหญ่ ผมยืนนิ่ง

ทุกอย่างยังเหมือนเดิม โซฟาที่เคยนั่ง หมอนอิงนุ่มที่ผมชอบ ขาตั้งกีต้าร์ แผ่นเสียงที่เราเลือกซื้อมาด้วยกัน ผมถือวิสาสะเดินนำหน้าโน่เข้าไปในส่วนของห้องนอน เตียงกว้างที่เรานอนกอดกัน ตู้เสื้อผ้าที่เเบ่งเป็น 2 ฝั่ง เสื้อผ้าที่ไม่ได้ไปเอากลับของผมก็ยังอยู่ที่เดิม โต๊ะทำการบ้าน ลายสักที่เราชอบถูกปริ้นมาเเปะไว้บนฝาผนัง เรามีเรื่องที่อยากทำด้วยกันตั้งเยอะเเยะ ที่ยังรอวันจะได้ทำมันด้วยกัน

โน่เดินเข้ามาชิดด้านหลัง ผมหันไป แล้วก็ถูกกักไว้ด้วยอ้อมกอดหลวมๆ

ปิ๊กกีต้าร์สลัก NN ที่ให้โน่ไว้ก่อนจากกัน เขาห้อยไว้กับสร้อยคอ ผมยกมือลูบคลำมันอีกครั้ง หลังจากที่ได้สัมผัสเมื่อวันเล่นคอนเสิร์ตที่มหาวิทยาลัย

“จำได้บ้างหรือยัง จำเรื่องของเราได้บ้างมั้ย” โน่ถาม เสียงอ้อน

“จำได้มั้ย จำคนที่ต้องนั่งรถไปไกลๆ เพื่อไปลากมาโรงเรียน”

“จำคนที่ต้องพาเข้าวงเพื่อให้เขาไม่เบื่อโรงเรียน”

“จำคำสัญญา ที่ทำให้โน่ต้องแข่งชนะ”

“จำได้บ้างมั้ยว่าเคยรักโน่”

“แล้วโน่จำได้มั้ยว่าขอสัญญาอะไรไว้กับน้ำ” ผมเริ่มร้องไห้

“โน่จะให้น้ำจำได้ทุกอย่างไปทำไม ในเมื่อตอนนี้น้ำให้อะไรโน่ไม่ได้แล้ว”

ฮึก...ผมสะอื้นตัวสั่น

“โน่มีคนอื่นเเล้ว ฮึก”

“โน่..ฮึก”

เขาไม่ปล่อยให้ผมตัดพ้อต่อ แต่ก้มลงมาปิดปากผมทั้งน้ำตา ผมตั้งใจจะผลักโน่ออกแต่ที่ทำได้คือเเค่รั้งเสื้อไว้ไม่ให้เขาปล่อยปากไปเร็วนัก

ลิ้นอุ่นๆ เเทรกเเนวริมฝีปากเข้ามา และผมก็เปิดรับมันอย่างเต็มใจ เราเเลกจูบกันอย่างอ่อนโยน เเผ่วเบา และเชื่องช้า ราวกับอยากจะหยุดช่วงเวลานี้ไว้ให้นานที่สุด เวลาที่มีเพียงเราสองคนและไม่ต้องเเคร์ความถูกต้องใดใด

เราละใบหน้าออกจากกัน ยามที่ลมหายใจถูกสูบไปจนสิ้น โน่ก้มลงมาเอาหน้าผากคลอเคลียร์หน้าผากผมไว้

“ทำไมเรียนที่นี่”

“ทำตามสัญญา เราพยายามหาน้ำแล้วไม่เจอเลย เฟสบุ๊คก็ปิด ทำไมใจร้าย ทำไมอยู่ๆ ก็หายไปไม่ติดต่อ”

“น้ำขอโทษ”

“รู้มั้ยตอนนั้นใจเราพังแค่ไหน โน่คิดถึงน้ำแทบขาดใจ อยู่ที่ญี่ปุ่นมัน...เหงามาก”

หรอ...หรือนี่คือเหตุผลที่เขาคบกับนางฟ้า

“ถามได้ป่ะ”

“ถามมาตั้งหลายอย่างเเล้วหนิ”

ฮึ่ย! ผมทุบเขาตัดอารมณ์เศร้า

“ทำไมถึงเป็นเเฟนกับนางฟ้าหรอ”

“ถามทำไม...อยากให้เลิก?”

ผมสูดลมหายใจลึก กวนตีนนัก ถามย้อนมาได้

“แล้วถ้าบอกว่าอยากละ จะทำให้มั้ย”

โน่จุ๊บปากผมดังจ๊วบลั่นห้อง

“จะพยายาม”

“อื้อ”

“บอกรักโน่สักคำได้มั้ย บอกให้โน่ชื่นใจหน่อย”

“เราบอกรักคนมีเจ้าของไม่ได้หรอกนะ เลิกกับเขาก่อน แล้วค่อยมาเอาคำว่า ‘รัก’ จากน้ำ”

“รอนะน้ำ”

ผมพยักหน้า ไม่รู้ทำไมในอกถึงได้อุ่นเเปลกๆ เขาเเคร์ผมใช่มั้ย โน่ยังรักผมใช่มั้ย แต่ผมก็กำลังทำร้ายเพื่อนอีกคน ผมควรทำยังไงดี













ใดใดในโลกล้วนขิงเพื่อนรัก ทำอะไรไม่ถูกก็เรียกหาขิง ผมมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่คาเฟ่กลางสยาม กับอิคนหล่อแห่งพระนคร

“เรียกกูมานั่งดูมึงถอนหายใจหรอมมมอิน้องน้ำ?”

“อื้อ เป็นบุญนะที่คนน่ารักอย่างกูยอมให้มึงได้ดูอ่ะอิพิขิง”

“เสียเวลาวอเเวเมียของกูสัส”

ใช่ครับ ผมลากมันออกมาจากการกกกอดพี่ดาริณคนเซ็กซี่ ผู้ชายตัวขาวจัดตาโครตยั่วเหมือนลูกแมว และพร้อมจะฝังเขี้ยวลงบนอกได้ตลอดเวลา คิดภาพพี่เเกแล้วก็ ฮึ่ย อยากบีบ!

“อิน้องน้ำ คิดไม่ซื่ออะไรกับเเฟนกูอยู่รึป่ะ”

“นิดนึง”

ขิงตบหัวผมหน้าเเทบทิ่มหลอด

“สาระ ทำไมต้องมาเล่นตลกห้าบาทสิบบาทกันอยู่เนี่ย”

ผมหัวเราะเเหะ ก่อนจะเอ่ยปากบอกสิ่งที่คั่งค้างอยู่ในใจ

“แล้วโน่มันว่าไง”

“โน่ไม่ตอบว่าทำไมเป็นเเฟนกัน แต่บอกว่าจะไปเลิกให้”

“เห้อ...งั้นมึงก็รอ”

“แต่แบบ นางฟ้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิดใช่มั้ย แล้วเราก็รู้ว่านิสัยนางฟ้าก็เเมนๆ อยู่แบบได้ได้เป็นผู้หญิงง้องแง้งที่จะหาเหตุผลมารำคาญได้ ยังนึกไม่ออกเลยว่าโน่จะเลิกกับเขาได้ยังไง”

“นึกไม่ออกก็เก็บความโสดไว้ชิงโชคเถอะอิน้องน้ำ”

“พิขิงใจร้ายกับหนูอีกแล้ว!!”

“ร้ายกาจ!!! อย่าเอาคำว่าหนูมาหลอกล่อให้กูอ่อนใจ”

“กูควรทำไงอ่ะ เหมือนเเบบก็ทำให้เค้าเเตกเเยกอ่ะ”

“ทำใจ เชื่อกู ยังไงโน่ก็รักมึง คนรักกันยังไงสุดท้ายก็ต้องมาลงเอยด้วยกันได้อยู่ดี ยกเว้นเเต่มึงจะรักเค้าข้างเดียว”

“เออ นั่นดิโน่มันรักกูป่ะวะ” ผมพึมพำกับตัวเอง “ถามเเป๊บ”

ผมพิมพ์ไลน์ส่งไปหาโน่

‘โน่รักเราป่ะ’

ติ๊ง! ไม่นานข้อความก็ส่งกลับมา

‘น้ำ นี่เเฟนเพื่อน ไม่วอเเวดิ’

ผมยื่นข้อความให้ขิงดู เรามองหน้ากันเเล้วขยับปากเป็นคำว่า

‘นางฟ้าหรอ’

‘เราเอง มีอะไรกับโน่รึเปล่า โน่อาบน้ำ’

‘ไม่มีไร บายๆ’

ผมโยนมือถือลงกับโต๊ะอย่างหมดเเรง นี่โน่กำลังโกหกผมอยู่รึเปล่า สรุปว่าเรื่องของเรามีทางเป็นจริงได้ใช่มั้ย









ขิง Part

ผมเเยกจากน้ำเเล้วก็เดินมาที่ห้างสรรพสินค้าที่ดาริณหรือพี่ดาวเเฟนผมช็อปปิ้งอยู่ เขารู้ว่าน้ำน่าจะมีเรื่องกลุ้มใจ เขาจึงไม่ได้ไปที่คอฟฟี่ช็อปด้วย แต่เลือกมาเดินเล่นรอแทน คนตัวเล็กตาเเมวนัดผมไปเจอที่ซูเปอร์มาเก็ต เขาเป็นคนทะลึ่งเลยบอกว่าเดินเล่นอยู่ที่โซนถุงยาง

ไปถึงผมก็เห็นเขานั่งยองๆ ดูโปรดักต์ในมือ ผมเดินไปนั่งลงใกล้ๆ เขาจำกลิ่นน้ำหอมผมได้เลยไม่ตกใจ แล้วยื่นของสองกล่องมาให้ดู เหมือนจะให้ช่วยเลือก ผมรับทั้งสองกล่องใส่ลงไปในตะกร้า เขาหน้ามุ่ยเหมือนไม่ได้ดั่งใจ

“ไม่ได้จะเอาไปใช้กับขิงสักหน่อย”

ดู๊ดูพูด อยากตีปากด้วยปาก เรากวาดกันมาอีกหลายกล่องเเล้วก็เดินโอบเอวดาริณไปคิดเงิน พออยู่กับคนข้างๆ ผมก็ยิ่งเพลียในใจ เรื่องของน้ำ โน่ และนางฟ้า เหมือนมีผมเป็นผู้รู้ผู้เห็นทั้งหมด แต่พูดไม่ได้น้ำท่วมปาก

น้ำป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน ทำให้ไม่สามารถไปเเข่งขันวงดนตรีรอบชิงชนะเลิศระดับเอเชียกับพวกผมได้ โดยที่โน่ไม่รู้ คิดว่าน้ำย้ายไปอยู่กับพ่อเเม่ที่ดูไบ ตอนไปถึงญี่ปุ่นโน่ดูเหงาและหงุดหงิดมากที่ติดต่อน้ำไม่ได้เลย เเน่ซิเพื่อนกูผ่าสมองอยู่จะเอาปัญญาที่ไหนมารับโทรศัพท์มึง แถมการเเข่งขันก็โคตรกดดัน เพราะได้โค้ชจากนานาชาติมาช่วยฝึกสอน เราต้องทำโจทย์เก็บคะเเนนกันทุกสัปดาห์ ทีมเราที่ว่าเเน่จากประเทศไทย เจอเกาหลี ญี่ปุ่นเข้าไปนี่คะเเนนรั้งท้ายตลอด เด็กๆ ประเทศที่ได้รับการสนับสนุนเรื่อง Art & Entertainment ของเขาเด็ดจริง แล้วเหมือนสกิลเขาก็เเน่นกว่าเราด้วย

พวกเราคุยกันทุกวันร้องไห้ด้วยกัน สนิทกันมากขึ้นกว่าอยู่ที่ไทยอีก แล้วโน่ที่เหมือนไม่มีใครเลย ทั้งพ่อเเม่เเละเพื่อนสนิทมีเเต่น้ำก็เริ่มจะเคว้ง

นางฟ้า เป็นนางฟ้าของกลุ่มสมชื่อคอยดูเเลโน่ให้ เพราะผมมีพี่ดาริณอยู่เเล้ว เราโทรคุยกันบ่อยๆ แถมดาริณยังบินมาฝึกงานที่ญี่ปุ่นพอดีด้วย โดยพักอยู่ใกล้ๆ ที่ที่พวกเราเก็บตัว ชูครีมเป็นคนพูดน้อย เลยไม่รู้จะสื่อความกับโน่ยังไง สุดท้ายโน่กับนางฟ้าก็สนิทกันแบบเพื่อนนี่แหละ

แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิด วีคที่เราทำคะเเนนได้ดี ทีมงานที่ตามมาจากไทยจึงชวนกันไปเลี้ยงฉลองที่หอพักด้านนอก พวกเราดื่มกันเเบบปลดปล่อยเต็มที่เพราะเครียดมานาน

คืนนั้นผมเเยกไปนอนกับดาริณ ชูครีมเมาพับไปก่อน โน่กับนางฟ้าก็คงเมาไม่เเพ้กัน แต่สุดท้ายตอนเช้าก็พบว่า...โน่กับนางฟ้านอนอยู่บนเตียงเดียวกัน โดยมีร่องรอยเหมือน...เฮ้อ

นางฟ้าร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง เธอคงตกใจที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเด็กที่รักนวลสงวนตัวอย่างเธอ ตอนเเรกเธอไม่มีกระจิตกระใจจะเเข่งต่อแล้ว แต่โน่ก็สุภาพบุรุษพอที่จะบอกว่าจะรับผิดชอบ โดยการดูเเลนางฟ้าเหมือนเเฟน ผมรีบให้ดาริณไปหายาคุมฉุกเฉินมาให้ พวกเราก็ลุ้นกันหลายเดือนให้ไม่มีอะไรที่น่ากลัวเกิดขึ้น ตอนนี้ผ่านมาเป็นปีแล้วนางฟ้าก็ไม่ท้อง

ตอนเเรกผมนึกว่าถ้ายืนยันได้ว่าไม่ท้อง นางฟ้าจะยอมเลิกกับโน่...แต่ทุกวันนี้เเม้น้ำจะกลับมาเเล้ว พวกเขายังคบกันอยู่ โน่เองก็คงเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่บอกเลิกก่อน ปัญหารักสามเส้าเราสามคนมันจึงดำเนินมาด้วยประการฉะนี้

“คิ้วขมวดเชียวเจ้าเด็ก เป็นอะไร” ดาวทัก เขายื่นนิ้วมานวดหน้าผากให้ผม

“เรื่องน้ำหนะ” พอเอ่ยชื่อนี้ดาริณก็เบะปากคว่ำ ผมโอ๋น้ำมากไปหน่อยจนบางครั้งคุณเเฟนเขาก็หมั่นไส้ เขาจับได้ว่าผมเคยรู้สึกเกินคำว่าเพื่อนกับน้ำ แต่มันก็นานมาเเล้ว ผมช้าเอง น้ำเลยโดนไอ้โน่คาบไป

“น้ำอกหักอยู่ใช่มั้ย เราก็เข้าไปเสียบสิ” ดาริณงอเเง ผมโอบเอวเขาเบาๆ ถึงจะเป็นรุ่นพี่เเต่คงไม่ค่อยกินนมส่วนสูงเลยมาได้เเค่ไหล่ผมเท่านั้นอ่ะ หันไปจุ๊บทีก็พอดีเหม่ง

“มาช่วยขิงคิดดีกว่าว่าจะทำยังไงให้นางฟ้ายอมบอกเลิกโน่ ในเวลาแบบนี้ดาวไม่ควรยุให้ขิงเข้าไปทำให้เรื่องมันยุ่งกว่าเดิม”

“หึ ดาวก็นึกว่ารอเสียบอยู่ เห็นปล่อยมาตั้งนานไม่ยอมทำอะไรสักที”

“เอ้า” ผมโดนด่าเฉย ดาริณหัวเราะคิกคัก จูงมือผมมาเเกว่งไปมาเบาๆ

“โน่เคยบอกนางฟ้าหรือเปล่าว่าเขาชอบน้ำ”

“เอาจริงๆ ใครๆ ก็ดูออกป่ะ ตัวติดกันขนาดนั้นอ่ะ”

“ก็ไม่ได้พูดชัดๆ นางฟ้าอาจจะไม่รู้ตัว เเถมเป็นผู้หญิงด้วย คบกันมาตั้งนานมันก็ต้องมีผูกพันกันบ้างเถอะ โน่เค้าก็ดูเเลดีไม่ใช่หรอ”

ผมพยักหน้า พอรู้มาว่าโน่ถือคติจะไม่ทำให้ผู้หญิงร้องไห้ เพราะไม่ชอบพ่อตัวเองที่เคยทำให้แม่เสียใจ รวมทั้งให้เเฟนเก่าโน่ร้องไห้ด้วย

“ซับซ้อนจังครับดาว”

ดาริณบิดจมูกผม ผมอ้อนเขาด้วยการงุ้ยๆ หน้าลงไปบนไหล่เล็กๆ

“ดีนะเนี่ย ที่เป็นเเฟนกับดาวชีวิตบันเทิงดีทุกวัน ไม่มีดราม่าเลย”

“หรือจะลอง” ผมเลยโดนคนตัวเล็กบิดหูเข้าให้ครับ

เราสองคนขับรถไปหานางฟ้าที่บ้าน ผมกะว่าจะให้ดาริณช่วยพูด เนื่องจากเป็นคนกลางที่สุด เพราะถ้าผมพูดเองน้ำก็เพื่อน นางฟ้าก็เพื่อน ย่อมต้องใจอ่อนให้กับทั้งคู่อยู่เเล้ว





เพื่อนสาวของผมดูตกใจเมื่อเราสองคนมาเยี่ยมโดยไม่บอกกล่าว โชคดีที่เธออยู่คนเดียว พ่อกับเเม่ออกไปธุระด้วยกัน และโน่ที่มาช่วยทำการบ้านเมื่อช่วงเช้าก็กลับออกไปแล้วพร้อมกับบุพการีของนางฟ้า เจ้าเพื่อนมือกีต้าร์ของวงยังคงความสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว

แม่บ้านยกขนมมาให้พวกเราที่ศาลาริมบ่อบัว พวกเรานั่งคุยกันตรงนั้น เพื่อกันใครได้ยิน ดาริณเป็นคนเกริ่นนำเข้าเรื่อง และนางฟ้าก็หน้าเปลี่ยนทันที

“ถ้าไม่ท้องแน่ๆ แล้วก็ปล่อยโน่ไปเถอะ”

ประโยคนั้นทำนางฟ้าร้องไห้ ผมเองก็ตกใจหันไปมองหน้าดาริณเราจับมือให้กำลังใจกันอยู่ใต้โต๊ะ

“ฮึก ตอนนี้เรารักโน่เเล้ว จะให้ปล่อยไปได้ไง”

ผมฟังเเล้วปวดหัวกว่าเดิม ดาริณก็ถอนหายใจยาว

“แต่โน่ไม่ได้รัก จะอยู่กันไปแบบนี้หรอนางฟ้า” ผมพยายามตะล่อม ไม่อยากให้มีคนเสียใจไปมากกว่านี้ ใบหน้าหวานช้ำน้ำตาเงยขึ้นมามองผม

ก็..คบกันมาเรื่อยๆ เรายังรักโน่ได้เลย ทำไมโน่จะไม่รักเราล่ะ”

“นางฟ้า...” ดาริณใช้เสียงอ่อนนุ่มปลอบคุณเป็นน้อง

“ได้เคยถามโน่หรือยัง ที่โน่เขาไม่เเสดงออกอะไร และทำให้ทุกอย่างมันดูสวยงาม ในใจเขาอาจจะกำลังเจ็บมากก็ไดนะ”

“พี่ดาว...พี่ก็รู้ไม่ใช่หรอคะว่าตอนคบขิงอ่ะ ขิงก็ยังรักน้ำ พี่ยังรอได้เลย” ดาริณโดนย้อนก็ถึงกับชะงัก ผมนี่ยิ่งร้อนตัวใหญ่ ต้องรีบช่วยพูด ก่อนที่บ้านตัวเองนี่เเหละจะลุกเป็นไฟ

“มันคนละเเบบกันนะนางฟ้า ตอนนั้นเราพร้อมจะตัดใจจากน้ำ เลยมาคุยกับดาว แต่เรื่องเเกกับโน่มันคือความบังเอิญ โน่มันเป็นสุภาพบุรุษ เเกไม่ควรใช้ความดีของมันมาทำให้มันมีทุกข์”

“น้ำจำไม่ได้ไม่ใช่หรอ แล้วขิงกับพี่ดาว จะทำให้เรื่องมันวุ่นกว่าเดิมไปทำไม!” นางฟ้าขึ้นเสียงบ้าง คราวนี้ผมหน้าชาครับ เหมือนโดนด่าว่าเสือกเรื่องชาวบ้าน

“นางฟ้าเเกฟังนะ น้ำมันไม่ได้ความจำเสื่อมอะไรทั้งนั้นอ่ะ มันรักโน่ เเต่เพราะได้ข่าวว่าเเกสองคนคบกันอยู่มันก็หลีกทางไง มันไม่รู้ความจริงอะไรทั้งนั้น และโน่มันก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่พูดให้เเกเสียหาย เเต่ถ้าเเกยังรั้นต่อไปแล้วมันจะได้อะไร แกจะโกหกตัวเองไปทุกวันหรือไงว่าโน่รักแก”

“ขิงกับพี่ดาวกลับไปเถอะ นี่มันเป็นเรื่องของเรากับโน่”

ผมกำหมัดด้วยความหงุดหงิด ไม่ชอบเลยที่เพื่อนเป็นเเบบนี้ เเล้วยังเป็นเพื่อนที่สนิทมากๆ ทั้งสองคนด้วย เราเล่นดนตรีด้วยกันมานาน ผมที่ชอบน้ำมากๆ ยังไม่กล้าที่จะก้าวข้ามความเป็นเพื่อนเพราะกลัวเรื่องบบนี้ไง กลัวว่าถ้าคำว่าเพื่อนมันสั่นคลอนเเล้วเราจะมองหน้ากันไม่ติดอีกต่อไป

ไม่ใช่หรอก...ผมไม่ได้หงุดหงิด เเต่...ผมกำลังเสียใจที่เรื่องทั้งหมดมันเป็นเเบบนี้





ผมเงียบมาตลอดทางที่ขับรถกลับคอนโดดาริณ ผมย้ายมาอยู่กับเขา เพราะคนตัวเล็กติดที่

เราเดินขึ้นห้อง แล้วนั่งลงบนโซฟากลางห้องเเล้วถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ดาวกับผมหันมามองหน้าแล้วยิ้มออกมาครั้งเเรก รุ่นพี่ตัวเล็กอ้าเเขน เหมือนเรียกให้ผมเข้าไปอ้อน ผมนอนลงบนตักปล่อยให้เขาลูบไล้ศีรษะเบาๆ

“สักยกมั้ยละจะได้หายเครียด” ดาวถาม ดาริณเป็นคนประเภทนี้ครับ หื่นจัดกว่าผมเยอะ

ผมส่ายหน้ากับตักเขา “แค่นอนตักดาวขิงก็สบายใจเเล้ว”

“จะไปดามใจให้น้ำมั้ยละ” ดาวถามเรื่อยๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผมรู้สึกผิดกับเขาเสมอ...ผมใช้ดาวเป็นเครื่องมือเพื่อลืมน้ำ และเขาก็รู้มาตลอด

“ดาว ขิงรักดาว ไม่ได้รักน้ำเข้าใจตรงกันนะ”

ดาริณก้มลงมาจุ๊บหน้าผากผม

“ดาวหยอกเล่น ไปจริงซิ สับจู๋ให้เป็ดกินเเน่”

“ดาวโหดอีกแล้ว” ผมฟัดพุงคนเป็นพี่อย่างหมั่นเขี้ยว รู้สึกโชคดีขึ้นมาเลยที่ความรักของเราเรียบง่ายเเละมีความสุขเเบบนี้



TBC

พิขิงมีเรื่องของตัวเองนะคะ  #ดาวอย่ายั่ว อยู่ในบอร์ดนิยายจบแล้วค่ะ

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw


น้ำ Part

หมดเรื่องงานมหาวิทยาลัย ก็มีกิจกรรมใหม่เข้ามาให้สาขาดุริยางคศิลป์วุ่นวายอีกเเล้ว ‘ประกวดวงดนตรีมหาวิทยาลัยระดับประเทศ ชิงถ้วยพระราชทาน...’ วงของมหาวิทยาลัยเราชิงที่หนึ่งที่สองทุกปี ซึ่งมันเป็นเหมือนการเเข่งขันเเห่งศักดิ์ศรี ถ้ามหาวิทยาลัยอื่นเขามีงานบอลกัน มหาวิทยาลัยเรากับมหาวิทยาลัยเพื่อนซี้ก็งานดนตรีนี่เเหละ

ผมมองโปสเตอร์เเล้วทำหน้าเหม็นเบื่อรู้สึกได้ตะหงิดๆ ถึงความซวยที่จะมาเยือน ที่เเน่ๆ ผมไม่ลงเเข่งหรอก เพราะหลังจากเข้าผ่าตัดครั้งนั้นร่างกายผมก็ไม่ได้กลับมาครบ 100%เหมือนเดิม รู้สึกได้ว่าบางครั้งสมองตัวเองก็ช้าไปบ้าง หรือกล้ามเนื้อมือก็ขยับไม่ได้ดังใจนัก ผมเลยเลือกเรียนประพันธ์เพลงแทนที่จะไปสายนักดนตรี

“น้ำ” อาจารย์เมธีเรียก เเค่เห็นหน้าก็รู้เเล้วว่าหายนะมา

“เห็นโปสเตอร์เเล้วใช่มั้ย”

ผมรับคำ

“วงคณะเราที่จะลงเเข่งอ่ะ ขาดมือกีต้าร์ที่ร้องนำได้”

“อาจารย์มีในใจสองคน น้ำกับโน่”

ผมอธิบายเรื่องข้อจำกัดให้อาจารย์นทีฟัง แล้วปฏิเสธอาจารย์ไปว่าไม่สามารถลงเเข่งขันได้จริงๆ อาจารย์จึงไหว้วานให้ไปช่วยคุยกับโน่ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายยังมีงานกับต้นสังกัดอยู่บ้างอาจจะไม่ว่างมากนัก

“ม.โน่นเขาก็คงให้คนในวงเดียวกับโน่ลงเหมือนกันนะอาจารย์ว่า ชื่อ..อะไรนะ ขิงรึเปล่าที่เล่นเบส เราก็อยากให้มันสมน้ำสมเนื้อ เอามือระดับประเทศมาเเข่งกัน แล้วถ้าน้ำลงเเข่งไม่ได้ อาจารย์ก็อยากให้เป็นผู้จัดการวงให้นะ คอยดูเเล คอยดูซ้อมจะได้เเน่นๆ หน่อย”

อาจารย์เมธียื่นรายละเอียดการเเข่งขันมาให้ คณะจะเปิดออดิชั่นวีคหน้าเพื่อหาผู้เข้าร่วมวง ส่วนโน่นั้นก็ต้องออดิชั่นเหมือนกัน เเต่เเกมั่นใจว่าโน่น่าจะได้เข้าเเน่ๆ เลยมาบอกผมไว้ก่อน

พยักหน้ารับคำอาจารย์ไป แล้วก็ต้องเหนื่อยใจอีกรอบแบบนี้ก็ต้องใกล้ชิดโน่อีกเเล้วสิ หนีไม่พ้นจริงโว้ย

ติ้ง!

‘น้องน้ำพี่รออยู่ใต้ถุนนะ’

ผมอ่านข้อความจากพี่เคน รุ่นพี่ปีสามภาควิชาเดียวกันที่จับฉลากได้ผมเป็นบัดดี้ตอนไปภาคเหนือ เราเเลกไลน์กันตอนก่อนจะเฉลยเพื่อจะได้ตามตัวกันถูก กลับมาจากทริปหลายอาทิตย์แล้วพี่เขาก็ยังติดต่อมาเพื่อเอาขนมมาให้ผมบ่อยๆ

‘วันนี้ที่ร้านทำเค้กแบบใหม่ เลยเอามาให้น้องน้ำชิม’

ผมชิมจนจะเป็นหมูเเล้ว เท่าที่รู้คือพี่ชายของพี่เคนเปิดร้านอาหาร Pub & Resturant นี่เเหละ เเต่มีโซนขายเบเกอรี่พึ่งเปิดใหม่ เขาเลยหาคนช่วยชิมอยู่ตอนนี้และผมก็ตกเป็นเหยื่อ

“หวัดดีครับพี่เคน” ผมยกมือไหว้ตามเเบฉบับรุ่นน้องที่ดี แล้วก็ต้องตาโต เพราะเค้กที่พี่เคนเอามาให้ชิมไม่ใช่ชิ้นเดียวแต่เป็นขนาดสองปอนด์อ่ะ ตกเเต่งมาเสียสวยเหมือนจะเอาไปเซอร์ไพรส์วันเกิดใครได้เลย

“น้ำมีเรียนบ่ายไม่ใช่หรอ เอาไปแบ่งเพื่อนด้วย เเล้วอย่าลืมจดฟีดเเบคมาให้พี่” ผมเงยหน้า ยกมือโอเคให้ พี่เคนตัวสูงกว่าผมเยอะครับ ตัวเเน่น ผิวคล้ำเเดดเหมือนคนชอบเล่นกีฬาเอ้าดอร์ เเล้วก็คงออกทริปถ่ายรูปบ่อยเพราะดูใช้กล้องโปรดี

“แล้วเมื่อกี้ไปคุยอะไรกับอาจารย์เมธี” พี่เขารู้เพราะผมไลน์บอกว่าจะลงมาเจอช้าหน่อย

“เรื่องงานเเข่งดนตรีมหาวิทยาลัยนั้นเเหละ เขาจะให้ไปเป็นผู้จัดการวง วีคหน้าก็มีออดิชั่นนะ พี่สนป่าว”

“น้องน้ำอยากให้ลงหรอ” พี่เคนดูสนใจขึ้นมาทันที ผมยิ้มแล้วพยักหน้า พี่เเกดูเป็นคนรับผิดชอบดี แล้วฝีมือก็โอเคเลย จากที่เห็นตอนล้อมวงฟังเพลงกันที่บนดอย

“คู่เเข่งเยอะมั้ยเนี่ย”

“โห ฝีมือพี่เคนก็ดีเหอะ จะเล่นอะไรอ่ะ”

“น่าจะกีต้าร์อ่ะ เดี๋ยวชวนเพื่อนที่เล่นเบสไปจะได้เข้าคู่กัน”

ผมพยักหน้า “แล้วเจอกันนะพี่เคน”

“ครับ” คนเป็นพี่ขยี้ผมเบาๆ ก่อนเดินจากไป ผมเดินไปขึ้นห้องเรียน ยังไม่ทันจะถึงไหนก็มีมือหนักๆ พาดลงมาตรงไหล่ แล้วเเย่งของในมือผมไปถือให้

“ซื้อมาจากไหน น่ากินจัง” โน่นั่นเอง

“พี่เคนให้มา”

โน่ขมวดคิ้ว “พี่เค้าให้ขนมน้ำบ่อยเนอะ”

“อือ หาคนช่วยชิมอ่ะ “

โน่ไม่ได้พูดอะไรต่อ เราสองคนเดินไปเรียนด้วยกัน ผมบอกเขาเรื่องที่อาจารย์เมธีให้มาขอความช่วยเหลือ โน่โอเคถ้าผมรับว่าจะเป็นผู้จัดการวง หนีกันไม่พ้นจริงโว้ย



ผลออดิชั่นออกมาเป็นเอกฉันท์ โน่ได้ร้องนำไป แต่ตำเเหน่งกีต้าร์ตกเป็นของพี่เคน มีพี่เเฟรงค์เพื่อนสนิทพี่เคนเล่นเบส อะตอมรุ่นเดียวกับผมเล่นคีย์บอร์ด แล้วก็มีพี่ก็อตจิปี4ตีกลอง พอมีพี่ปีสูงในวงเยอะๆ ก็แอบเกร็งไม่ได้

แต่โชคดีที่วันที่เราเข้าเวิร์คชอปละลายพฤติกรรมกันก่อนซ้อม พี่ๆ ก็ให้ความร่วมมือดี อีกอย่างพอคุยกันเรื่องดนตรี เราก็ว่ากันที่ฝีมือ ไม่ค่อยเอาเรื่องอายุมาเป็นตัวกำหนดความสามารถ ผมเอาตารางเรียนของพี่ๆ มาดู เพื่อหาเวลาว่างให้ตรงกันเเล้วจัดตารางซ้อมทันที

โน่ยังไม่เลิกกับนางฟ้าและดูเหมือนช่วงนี้เธอจะมาหาโน่ที่คณะบ่อยๆ เหมือนจะประกาศศักดาความเป็นแฟนเลยอ้ะ นี่ก็มาดูตอนพวกเราซ้อมด้วย นางฟ้านิสัยสนุกสนานเป็นทุนเดิมอยู่เเล้วแถมยังเป็นผู้หญิงเล่นดนตรีด้วยจึงเข้ากับคนอื่นๆ ในวงได้ภายในเวลาไม่นาน จะมานั่งดูซ้อมก็ไม่ขัดเขินอะไร เป็นผมเสียอีกที่รู้สึกเป็นส่วนเกิน

เวลาพักซ้อม ผมเตรียมน้ำเเดงใส่ขวดไว้ให้ทุกคน บางครั้งผมก็อยากเดินเอาไปให้โน่เเต่เป็นนางฟ้าที่เร็วกว่าหยิบไปให้ก่อน หรือไม่เธอก็ซื้อเครื่องดื่มพิเศษเตรียมไว้ให้โน่เเล้ว ผมเลยดูเเลคนอื่นแทน คิดในเเง่ดีก็คือเหนื่อยน้อยลง

“ทำไมน้ำเเดงพี่หวานน้อยกว่าของไอ้เคนอ่ะ” พี่เเฟรงค์โวยวายตอนเรานั่งพัก ผมขมวดคิ้วทันทีก็ว่าตวงเท่ากันทุกคนนี่หว่า

“มึงมันคนไม่มีความรักไงไอ้เเฟรงค์ แดกน้ำตาลก้อนเข้าไปก็ยังรู้สึกจืดเล้ยยยย” พี่ก็อตจิช่วยตอบ ไอ้อะตอมตบมือชอบใจ พี่เคนเอาน้ำเเข็งปาใส่รุ่นน้องเเละก็เพื่อนตัวเอง ส่วนพี่ก็อตจินั้นยังเคารพอยู่

“แล้วของพี่ก็อตจิกับอะตอมหวานป่ะ น้ำว่าน้ำตวงเท่ากันนะ” พี่ปีสูงหัวเราะ หันไปยักคิ้วกับพี่เเฟรงค์

“แม่งตามไม่ทันหวะ”

“ค่อยๆ หยอดไปพี่เดี๋ยวมันก็ซึมๆ ไป”

ไอ้อะตอมหัวเราะคิกคัก ผมยิ่งงงคุยอะไรกันว่ะเนี่ย เเม้เเต่พี่เคนก็ยิ้มบางๆ ผสมโรงไปกับเค้าด้วย

ไม่นานวงคณะก็ซ้อมต่อ ผมเน้นวันซ้อมน้อยเเต่ใช้เวลาในแต่ละครั้งให้มากหน่อยเหมือนกับคืนนี้ที่เราเลิกกันใกล้เที่ยงคืน อะตอมมีอาการท้องร้องโครกครากเรียกร้องความเห็นใจมาตั้งเเต่ครึ่งชั่วโมงที่เเล้วละ

“กินข้าวต้มกันมึงกูเลี้ยงเอง” พี่ก็อตจิเก็บไม้กลองใส่กระเป๋าเเล้วพูดเสียงดัง ไอ้อะตอมกับพี่เเฟรงค์ไปเกาะเเข้งเกาะขาบีบนวดป๋าทันที

ผมหันไปสบตาโน่เป็นเชิงถาม เเล้วก็มองนางฟ้าที่พึ่งงัวเงียลุกจากโซฟา

“นางฟ้าไปกินข้าวต้มด้วยกันมั้ย” พี่เเฟรงค์หันมาถาม

เธอส่ายหน้าหาวหวอด ก่อนจะตอบไปด้วยท่าทางน่ารักว่า “สาวๆ เค้าไม่กินดึกกันหรอกค่ะ”

“แหม...หล่อนก็ผอมมากเเล้วนะยะ” พี่แฟรงค์จีบปากจีบคอพูดเอาฮา

“โน่ ไปส่งเราเลยนะ” นางฟ้าหัวเราะให้พี่เเฟรงค์เเล้วก็ไปเกาะเเขนอ้อนโน่ เขาพยักหน้าแล้วหันมาสบตากับผมขยับปากพูดว่า ‘ไลน์’

โน่ออกไปแล้ว เเละผมก็เดินไปขึ้นรถพี่เคน ส่วนพี่แฟรงค์ลากคนที่เหลือไปขึ้น CRV ของตัวเอง

ผมเปิดไลน์อ่าน โน่พิมพ์มาว่า ‘สั่งกลับไปที่คอนโดด้วย หิว’

ผมย่นจมูกใส่เขาทันที พูดแบบนี้หมายความว่าให้เอาไปส่งให้หรือไง เเล้วบ้านนางฟ้านะก็ไม่ใช่ว่าจะใกล้ๆ ผมว่ามี 1ชั่วโมงอ่ะ

‘กินถ่วงๆ หน่อย เดี๋ยววนไปรับ’

ผมคว่ำหน้าจอลงกับต้นขาตัวเอง เพื่อไม่ให้เเสงสว่างไปกวนพี่เคนที่ขับรถ เเละก็พยายามเกร็งหน้ามากไม่ให้ปลายปากต้องยกขึ้น เพราะดีใจที่โน่จะกลับมาหา

โคตรชู้แต่ดูเร้าใจพิลึก

พี่เคนเปิดเพลงฝรั่งทำนองโรเเมตติคขึ้นมา เเล้วก็ฮัมเบาๆ เสียงเขาก็ดีไม่ใช่เล่นนะ

ไม่นานเราก็มาถึงร้านข้าวต้มข้างมหาวิทยาลัย สั่งของกินมาเต็มโต๊ะ

‘โน่เอาไรบ้าง’ ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ไลน์หาเขา

‘รู้ไม่ใช่หรอว่าชอบอะไร’

ผมเบ้ปากใส่หน้าจอ แล้วหยิบกระดาษบนโต๊ะมาจดให้พนักงาน บอกว่าคิดเงินเเยกเพื่อกลับบ้าน

“สั่งเพิ่มหรือน้ำ” พี่เคนที่นั่งติดกับผมถาม

“สั่งกลับบ้านครับ”

เขาไม่ได้ถามอะไรต่อ เรานั่งกินเเล้วก็พูดคุยเรื่องเกมออนไลน์สลับกับวงดนตรีที่ชอบกันไปเรื่อยเปื่อย พนักงานเอาของที่สั่งกลับบ้านมาวางไว้ข้างๆ ตอนที่เรียกเก็บเงิน พี่ก็อตจิเลี้ยง พวกเราทยอยไปกราบอกป๋ากันเสียงดังเฮฮา แล้วก็ลุกแยกออกมา พี่เเฟรงค์จะขับไปส่งอะตอมกับพี่ก็อตจิที่ลานจอดรถคณะ

“น้ำให้พี่ไปส่งนะ” พี่เคนอาสา

“น้ำลับเองได้ครับพี่เคน”

“อันตรายนะดึกแล้ว” ผมไม่รู้จะบอกยังไงว่าโน่มารอรับอยู่เเล้ว เพราะนางฟ้าประกาศให้ทุกคนรู้โดยทั่วกันว่าเป็นเเฟนโน่

เสียงเรียกเข้าดังขึ้น เป็นเบอร์โน่ เขาโทรมาบอกว่ากำลังจะเลื่อนรถมาหน้าร้านเพราะเห็นผมเเล้ว

“เอ่อ...พี่เคนเดี๋ยวน้ำกลับกับโน่มันลืมงานไว้กับผม” โกหกไปคำโต คนเป็นพี่เห็นรถอีกคันเคลื่อนมาจอดเทียบก็พยักหน้า ยอมโบกมือลาเเต่โดยดี

ผมขึ้นไปบนเเรบบิทครีม เเล้วเอี้ยวเอาถุงกับข้าวไปไว้เบาะหลัง

“สั่งอะไรให้บ้าง” โน่ถาม

“เป็ดพะโล้ หมูกรอบ ยำกุนเชียง ข้าวต้ม” ผมร่ายไป

“เก่ง” เขาดึงมือข้างขาผมไปจับเเล้ววางไว้ตรงหน้าขาตัวเอง มันอุ่นมือก็จริงแต่ในใจกลับรู้สึกขัดเเย้งไม่เบา ก่อนหน้านี้นางฟ้ายังนั่งตรงนี้อยู่เลย

โน่เปิดเพลงในรถมันเป็นจังหวะสนุกที่เขาก็จับมือผมโยกไปมาด้วย เรายิ้มให้กันบ้างในบางจังหวะที่รถติด เขาก้มลงมาหอมเเก้มผมในบางครั้งที่มีเวลาละสายตาจากถนนนานหน่อย ผมเอียงหน้าซบลงไปบนไหล่โน่เเล้วเขาก็โอบผมไว้

เราเดินขึ้นห้องที่คอนโดโน่ไปด้วยกัน สถานที่เเห่งความทรงจำที่ผมไม่เเน่ใจว่านางฟ้าเคยเข้ามาบ้างมั้ย มันจะยังพอมีพื้นที่ตรงไหนที่ยังเป็นของผมคนเดียวอยู่บ้างหรือเปล่า ผมเจ็บลึกๆ กับสถานะตอนนี้ เหมือนผมกำลังทำให้โน่นอกใจนางฟ้า

“เป็นอะไรรึเปล่า ดูเงียบๆ ไป”

โน่ทัก ผมส่ายหน้า รับเอาถุงกับข้าวไปแกะใส่จานให้โน่แล้ววางมันลงตรงโต๊ะอาหาร ผมทำท่าจะไปอาบน้ำแล้วโน่รั้งข้อมือไว้

“นั่งกินเป็นเพื่อนหน่อยสิ”

“จะไปอาบน้ำ จะได้ไม่เเย่งโน่อาบตอนกินเสร็จไง” ผมปฏิเสธเขา

“กินเสร็จเเล้วค่อยอาบด้วยกันก็ได้” โน่ว่า

“ใครจะอาบกับโน่” ผมว่าเขา แต่ยอมนั่งทานเป็นเพื่อนเจ้าตัวโตที่ทำหน้างอเเงเป็นเด็ก แค่คอยคีบกับข้าวลงถ้วยให้เขาก็ยิ้มร่าเริงเเล้ว โน่กินไม่นาน เขาไล่ผมไปอาบน้ำระหว่างที่เขาเก็บล้าง

ผมรีบอาบเเล้วก็ปีนขึ้นไปนั่งเล่นโซเชียลรอบนเตียงไม่นานโน่ก็เดินตัวเย็นขึ้นมารวบตัวผมเข้าไปกอด ผมผลักเขาออกแต่ก็เเพ้เเรงเจ้ามนุษย์ยักษ์โดนฟัดเเก้มจนเบลอไปหมด

“นอนได้เเล้ว” ผมดุเขา โน่หยิบรีโมทมาหรี่ไฟห้องนอนให้เหลือเสียงเพียงนิดเดียว ยังไม่มืดสนิท เขามองหน้าผมเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่กลายเป็นค่อยๆ เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้เเทน

“โน่..” ผมเรียกเขา มือก็ยันไว้ที่ไหล่สองข้าง

“จำสัญญาก่อนที่โน่จะไปแข่งได้มั้ย”

ผมไม่รู้ว่าโน่หมายถึงเรื่องไหน...เเต่ผมเคยบอกว่า ‘ถ้าชนะกลับมาจะให้ทุกอย่าง’

การทวงถามนั้นทำให้ผมหลับตาเเละไม่ออกเเรงผลักโน่อีก

โน่กดจูบลงมาที่มุมปากเเผ่วเบาเเต่เนิ่นนาน ผมรู้ว่าเขากำลังข่มความรู้สึก

“ขอโทษที่เอาเเต่ใจ แต่น้ำทำให้เราควบคุมตัวเองได้ยาก” โน่พึมพำทั้งที่หน้าผากเรายังแนบชิดกันอยู่ เขาดึงผมให้นอนลงหยิบผ้านวมขึ้นมาห่มให้ ก่อนจะลุกออกไป

“ไปไหน” ผมถามขณะที่สายตายังจับอยู่ที่ใบหน้าเขา

“ห้องน้ำ นอนไปก่อนเลย”

ผมพยักหน้า แต่ความรู้สึกชั่วร้ายในหัวก็สั่งให้ผมรั้งโน่ไว้

“โน่…”

“ครับ"

“น้ำให้...ให้ตามสัญญา”

โน่เดินกลับมาที่เตียง เขาก้มลงมาจุมพิตหน้าผากผมอ่อนโยนเเผ่วเบา

“ไม่เป็นไร...โน่รู้ว่ามันยังไม่ควร”

เขาผละถอยไป แล้วปิดประตูห้องน้ำ ผมกัดปาก นึกอยากหยิกตัวเองให้เขียว โน่เขายังรู้ความเลย แล้วมึงเป็นอะไรมากมั้ยว่ะน้ำ เอาตัวไปให้เขาทำไม แค่ให้ใจไปยังเจ็บไม่พอใช่มั้ย

ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกเจ็บไปหมด เจ็บในอกเหมือนมันอยากจะร้องไห้

โน่หายไปนานเเละผมก็หลับไม่ลง พอได้ยินเสียงเปิดประตูก็ต้องเเสร้งเป็นนอนตะเเคงหลับไปแล้ว เตียงด้านหลังยวบลง เขายกศีรษะผมขึ้นเเล้วสอดเเขนเข้ามารองใต้คอ ใช้เเขนอีกฝั่งกอดรอบเอวไว้ ตัวโน่อุ่นเเล้วผมพยายามเก็บสัมผัสนั้นไว้ให้มากที่สุด

เเปลก...เพียงเขากลับมาผมก็หลับได้อย่างสบาย

สายๆ ผมรู้สึกตัวเพราะเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของโน่ งัวเงียชะโงกไปดูก็เห็นเป็นชื่อนางฟ้า เธอโทรมาหลายสาย ผมมองหาโน่ สงสัยคงอาบน้ำ

เขาเดินออกมาด้วยการนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว พร้อมผ้าขนหนูอีกผืนที่หัว

“นางฟ้าโทรมา” ผมรายงาน

“ขอโทษลืมปิดเสียง ตื่นเลยสิขี้เซา” โน่ร่ายยาวเเล้วเดินมานั่งลงที่ข้างเตียง พับขาข้างนึงไว้บนที่นอน ส่วนอีกข้างยันไว้กับพื้น ผมไถตัวไปหนุนต้นขาเขาเเล้วหันหน้าใช้เเขนโอบรอบเอวโน่ไว้

“อ้อนอะไรแต่เช้า” โน่ก้มลงไปจุ๊บขาผมที่งอขึ้นมาบ้าง แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็เเผดร้องขึ้นมาทำลายช่วงเวลาดีๆ ของเราไปเสียหมด

โน่รับสาย ผมได้ยินเสียงนางฟ้าร้องห่มร้องไห้เเว่วมา

‘เดี๋ยวโน่รีบไปหา’

เขาวางโทรศัพท์แล้วก้มลงมามองผม

“หมานางฟ้าโดนรถชน ไม่มีคนพาไปคลินิก” ผมนึกถึงเจ้าหมอปอมตัวเปี๊ยกที่ชอบเห่าเสียงดัง ไปซนอีท่าไหนอีกละเนี่ย ผมยกหัวออกจากตักเขาเป็นสัญญาณให้โน่รีบไปดู เขาก้มลงมาจุ๊บปากของผมหนึ่งที แล้วเดินไปแต่งตัว

“เจอกันที่มหา’ ลัยนะหมาเปี๊ยก”

“อือ”

ผมพยักหน้า แล้วทิ้งตัวนอนลงเหมือนเดิม จากที่เเพลนว่าจะชวนโน่ไปนั่งกินอะไรด้วยกันที่ร้านสเต็กแถวหลังมหา’ ลัยก่อนเรียนเป็นอันต้องพับเก็บไป

Ring Ring

เสียงเรียกเข้าจากเครื่องผม เบอร์พี่เคน ผมนึกว่ามีเรื่องด่วนอะไรเกี่ยวกับวงเลยรีบกดรับ

“น้องน้ำ เที่ยงนี่ว่างรึเปล่า”

“ว่างครับ วันนี้เรียนบ่ายสอง”

“พี่จะชวนมาทานอาหารที่ร้าน”

“มีเมนูใหม่อีกแล้วหรอครับ” เออเซ็งๆ เรื่องโน่อยู่ไปกินฟรีก็จะดีนะ

“ครับ เป็นสเต็ก สั่งเนื้อตัวใหม่เข้ามา อยากลองมั้ย”

“ฟรีป่ะพี่เคน ถ้าฟรีก็ไปหมดอ่ะ ฮะฮ่า” ผมมันคนจริงอยู่ละ

“ฟรีสิครับ เเล้วนี่ตื่นรึยัง อีกครึ่งชั่วโมงพี่ไปรับนะ ส่ง Locationมาเลย”

“ร้านพี่เคนผมรู้จัก เดี๋ยวนั่งเเท็กซี่ไปเองไม่ต้องวนมาหรอกครับ”

“ไปรับได้”

“อ้อม เชื่อผม”

“งั้นกินเสร็จพี่ไปส่งที่มหา’ ลัย ห้ามปฏิเสธ”

“ก็ได้ครับ ตอนอิ่มผมคงเดินไปไหนไม่ไหวแล้ว”

“ฮะฮ่า น่ารัก พี่รอนะ รีบมา”

วางโทรศัพท์แล้วก็ดีดตัวเข้าห้องน้ำไปเลยครับ เดี๋ยวของฟรีจะบินหนีไป เนื้อจ๋ารอพี่น้ำเเป๊บ



หลังกินอิ่มแปล้ พี่เคนก็ขับรถมาส่งที่หน้าคณะ

“เจอกันที่ห้องซ้อมนะน้องน้ำ”

ผมโบกมือลาพี่เขาเเล้วเดินเข้าตึก แขนหนักๆ ตามมาพาดอีกแล้ว

“น้องพูห์เป็นไงบ้าง”

โน่ส่ายหน้า ผมใจหายเห็นมาตั้งเเต่ตัวเล็กๆ ที่นางฟ้าเเอบเอามาเล่นที่โรงเรียน พอรู้ข่าวว่ามันตายผมก็อดสงสารเจ้าของไม่ได้ คงเสียใจน่าดู

“ทำไมมากับพี่เคนละ” โน่ถามบ้าง

“พี่เขาชวนไปกินเสต็กที่ร้าน ก็เลยวนมาส่ง”

“หรอ”

“อิจฉาอะดิ กินฟรีด้วยนะ เนื้อนุ๊มนุ่ม อยากกินสเต็กมาหลายวันละ โดนจานนี้ไปฟินตัวลอยอ่ะ” ผมเม้าท์เพลิน เพราะเนื้อวากิวเอ 5เมื่อสักครู่มันนิพพานจริงๆ

“อยากกินสเต็กทำไมไม่เห็นบอกโน่เลย”

โน่สะกิดจุดสะเทือนใจผมอีกแล้ว “ก็เห็นโน่ยุ่งๆ เลยไม่ได้บอก”

“คราวหลังอยากกินอะไรก็บอกโน่ กับพี่เคนก็ไม่ต้องไปรับขนมเขาบ่อยๆ เป็นอะไรกันหรอถึงต้องไปเอาของเค้าเเบบนั้น”

ผมหยุดเดิน เเล้วหยิบเเขนโน่ออกจากคอ

“แล้วโน่เป็นอะไรกับเราหรอ ถึงมาสั่งให้เราทำนู่นทำนี่”

“น้ำ!”

โน่ขึ้นเสียง แต่ผมรีบวิ่งเข้าห้องเรียนไปก่อน เเล้วก็เลือกไปนั่งที่ว่างที่เดียวที่มีเพื่อนหลายคนกั้นด้วย





TBC 

 #พระเพลิงมารีน  เราส่องอยู่ตามทวิตเตอร์นะคะ ใครเล่นก็เเวะทักกันได้ @sweeterthansw ไปคุยกัยเราเร็วเราเหงา 555



ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
ตอนแรกก็ฟินๆ แต่ตอนนี้น้ำตาท่วม :hao5:
ตอนไปญี่ปุน ยัยนางมารคงไม่ได้จัดฉากเหมือนในละครหรอกนะ :katai1:

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 23



เรียนเสร็จห้าโมง นักศึกษาทยอยออกจากห้อง วันนี้มีนัดซ้อมวงอีกแล้ว ผมเดินออกมาจากห้องก็เห็นโน่ยืนรออยู่ที่ประตู ผมปรับอารมณ์ตัวเองได้พอสมควรเเล้วหลังจากฟังเพลงคลาสสิคในวิชาเรียนไปเพลง

“น้ำ โน่ขอโทษ”

ผมยิ้มๆ ไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็ชวนโน่เดินไปห้องซ้อมที่อยู่อีกตึกด้วยกัน ผมเเวะซื้อน้ำ ขนมและน้ำเเข็งก้อนที่โรงอาหาร โน่รอจะช่วยแต่โทรศัพท์ก็ดังเเทรกเข้ามาเป็นนางฟ้าอีกนั่นเเหละ เขาเเยกตัวออกไปคุย ผมถอนหายใจเบอร์เเรงใส่เเม่ค้าร้านน้ำโดยไม่ตั้งใจ กำลังจะยื่นมือไปรับของทั้งหมด แต่ก็มีผู้ชายสองคนมาตัดหน้า พี่เเฟรงค์กับพี่เคน

เขาคว้ากระติกน้ำใบกลางที่ใส่น้ำแข็งเต็มไปถือ พร้อมด้วยพวกเยลลี่ที่ให้น้ำตาล แล้วก็ขวดน้ำเปล่ากับน้ำเเดง

“กะเเล้วว่าต้องเจอน้องน้ำที่นี่” พี่เเฟรงค์พูดอย่างอารมณ์ดี

“ตัวกะเปี๊ยกจะยกไหวได้ไง พวกพี่เลยมาช่วย” พี่เเฟรงค์พูดต่อ วันนี้สองคนนี้คงไม่มีเรียนเลยใส่ชุดไปรเวท เป็นเสื้อยืดลายเท่กับกางเกงยีนส์ขาด

“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มรับ ที่จริงผมก็ชอบคุยกับพี่เเฟรงค์นะตลกดีเหมือนคนเมาตลอดเวลา ในขณะที่พี่เคนจะดูใจดีแล้วก็สุภาพกว่า

“น้ำ มาเดี๋ยวโน่ช่วย” คนที่วุ่นวายอยู่กับโทรศัพท์ไม่เงยหน้ามาดูสถานการณ์เลย

“พวกพี่เป็นองครักษ์พิทักษ์น้องน้ำ ถือให้เเล้วจ้า”

โน่ยกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองเก้อๆ แล้วเราก็เลยเดินไปห้องซ้อมด้วยกัน อะตอมกับพี่ก็อตจิยืนรออยู่เเล้ว

อะตอมรีบพุ่งตัวมาช่วยพี่เเฟรงค์ถือ ส่วนผมก็ไปไขกุญเเจห้อง พวกนักดนตรีเริ่มวอร์มร่างกายตามเเบบฉบับของตัวเอง ส่วนผมก็ไปเปิดตู้เอาถาดมารองน้ำหก จัดการเทน้ำเปล่าออกจากขวด 500 ml ส่วนหนึ่งแล้วก็เทน้ำเเดงเติมลงไปเขย่าๆ จัดการเเช่ไว้ในกระติกน้ำแข็งให้เย็นชื่นใจเพื่อรอพวกที่หิวโหยจากการซ้อมมาสวาปาม

ผมใช้เมจิกเขียนชื่อไว้ครบทุกขวด แล้วก็มองหาว่าวันนี้นางฟ้าจะเอาอะไรเป็นพิเศษมาให้โน่ไหม

ซ้อมกันไปสักพักพี่ก็อตจิเป็นคนโวยวายขอพัก เพราะพี่เเกเล่นตีกลองเสียเหงื่อสะบัดชุ่มโชกไปทั้งตัว ผมหยิบน้ำเเดงไปส่งให้ผู้อาวุโสสุดคนเเรก ต่อด้วยอะตม แล้วก็สองขวดสุดท้ายเป็นพี่เคนกับพี่แฟรงค์ พี่แฟรงค์เล่นมุขน้ำไม่หวานกับผมอีกแล้ว พวกเรายืนรวมกลุ่มคุยกันสักพักจนโน่มาสะกิด

“ของโน่อ่ะ”

ผมเเลบลิ้น มัวเเต่ชินว่าเดี๋ยวนางฟ้าก็ซื้อพวกน้ำปั่นสตาร์บัคมาให้โน่ ผมเลยไม่ได้เตรียมขวดของเขาไว้ให้

“นางฟ้าไม่มาหรอวันนี้”

“พาพูห์ไปเผาที่วัด” ผมพยักหน้า รีบวิ่งกลับไปที่กระติกน้ำ ซึ่งมีขวดน้ำแดงของตัวเองที่ดูค้างไว้วางอยู่ ผมเขียนชื่อไว้ด้วยโน่เห็น

“กินขวดเดียวกับน้ำก็ได้”

เขาคงหิวมาก ผมเปิดฝาเเล้วยื่นหลอดอีกอันให้รับไปเสียบ เเต่โน่ก็หยิบหลอดเดียวกับผมไปดูด ... ทำไมรู้สึกร้อนวูบที่ปากขึ้นมานะ ผมพาลคิดไปถึงจูบเเผ่วเบาของเขาเมื่อคืน

“โน่เหงื่อจะเข้าตา” ผมเสตาไปเห็นหยดเหงื่อที่หน้าผากหล่นลงมาพอดี เลยหยิบทิชชูยื่นให้เขา โน่บุ้ยปากบอกว่าถือขวดน้ำอยู่ ผมเลยซับให้เอง เขาก้มลงมาให้ผมไม่ต้องเอือมมือไกล

“โน่ นางฟ้าซื้อน้ำมาให้” ผมผละออกมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงมาเเต่ไกล

โน่หันขวับไปมอง “ไหนบอกว่าไปวัด”

“เสร็จเเล้ว ไม่คิดว่าจะเร็ว เลยเเวะมาดูโน่ซ้อม”

“แล้วนี้ทำอะไร เหงื่อออกหรอ เดี๋ยวเราเช็ดให้” นางฟ้าหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อเเล้วซับให้โน่ ทิชชูซอง 5บาทผมดูตลาดล่างไปเลย

“แล้วนี่น้ำอะไร โอ้ยไหนบอกว่าไม่อร่อย เอ้านี่เราซื้อชาเขียวมาให้” นางฟ้าเอาขวดน้ำเเดงออกมาจากมือโน่ แล้วยื่นคืนมาให้ผม

อ่า...โอเค เสร่อเองอีกละ ผมเดินกลับไปรวมกลุ่มกับพวกพี่เเฟรงค์ เห็นพี่เคนใช้เเขนเสื้อซับปาดหน้าตัวเองอยู่ ก็ยื่นทิชชูไปเช็ดให้บ้าง คนที่เขารอให้ผมดูเเลก็มีอีกเยอะเเยะเนาะ

พี่เคนขอบคุณผมเบาๆ หันไปเห็นพี่ก็อตจิเหงื่อชุ่มเกินเยียวยาก็เลยไปหยิบผ้าขนหนูผื่นเล็กในตู้มาชุบน้ำเย็นบิดหมาดๆ ยื่นให้ ไอ้ตอมหยิบทิชชูไปเช็ดเอง ส่วนพี่เเฟรงค์ก็ทำเสียงอ้อนจนน่าตบ ผมเลยเช็ดหน้าไปเเรงๆ ให้เศษทิชชูมาเลอะเทอะ

ผมยืนหัวเราะกับผลงานตัวเอง แล้วก็สัมผัสได้ถึงผ้านุ่มๆ ที่ซับลงมาตรงหน้าผากบ้าง

“เราก็เหงื่อออกอ่ะ ดูเเลแต่คนอื่น ทำไมไม่ดูเเลตัวเองบ้าง” พี่เคนก้มลงมาซับหน้าให้ผม

“ขะขอบคุณพี่เคน”

“ซ้อมต่อเหอะ รำคาญคนจีบกัน” พี่เเฟรงค์โวยวายออกมา

“พี่เเฟรงค์อย่าเเซว” นางฟ้าตะโกนใส่ พี่เเฟรงค์หัวเราะดังมาคราวนี้

“โอ้ย เธอเป็นเเฟนกันเเล้วมันเลยคำว่าจีบ พี่หมายถึงสองคนนี้โว้ย”

รุ่นพี่ปีสามชี้มาทางผม พี่เคนเดินไปตบหัวพี่เเฟรงค์หนึ่งทีเเล้วลากคอไปซ้อมต่อ วงเมาท์เราเลยสลายตัว ผมเดินไปเก็บขวดที่พร่องกันไปเกือบหมดมาเเช่กระติกเหมือนเดิม ส่วนนางฟ้านั่งดูอยู่ที่โซฟา ผมยิ้มให้เธอนิดหน่อยเเล้วก็พยายามทำงานของตัวเองต่อ

วันนี้ตารางเลิกเร็ว เพราะ 3ทุ่มป๋าก็อตจิมีไปเล่นวงที่ร้านเหล้า แน่นอนว่าตัวฮาอย่างพี่เเฟรงค์ไม่ลืมลากพวกเราไปด้วย และใช้บัตรผ่านนักดนตรี เด็กที่อายุไม่ถึง 20อย่างผมเเละอะตอมก็เลยได้ที่นั่งตรงโต๊ะเดียวกับพวกเพื่อนๆ ของคนในวง

ส่วนโน่ก็วนไปส่งนางฟ้าตามหน้าที่เเฟน เขาไลน์มาหาถามว่าอยู่ร้านไหน สั่งเยอะเเยะว่าอย่าเมานู่นนี่ ผมนึกเบื่อความคาราคาซังที่เหมือนโรคไบโพล่าร์ ผมจะมีความสุขตอนอยู่กับเขาสองคน แล้วหัวใจผมก็จะฟีบตอนนางฟ้าโผล่มา โน่บอกจะไปเลิกกับเธอ แต่ทุกวันนี้ยังไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าเลย

ผมเลยปิดมือถือ เพราะไม่อยากสนใจข้อความของโน่อีก

พี่นักร้องประจำวงรู้จากพี่ก็อตจิว่าผมเคยร้องเพลงมาก่อน เลยเชิญขึ้นไปโชว์ฝีมือ ตอนเเรกก็ว่าจะไม่ แต่พอดึกเข้าหน่อย อะตอมมันชงเหล้าให้ไม่เลิกก็กรึ่มๆ เดินขึ้นไปคว้าไมค์มาร้อง

“ฟ้า...ฟ้าไม่ส่งมาให้เธอมีใจ...บอกกันซักคำเป็นไร...ว่าเหตุใดต้องมาทำร้ายกัน จากนี้เรื่องราวที่มีก็ให้ลืมมันไป อย่าจำว่าเคยเป็นใคร...ว่ามีใครที่เคยทำร้ายคนอย่างฉัน.....” เซตเพลงอกหักมา!!

“ให้เธอได้กับเขา...และจงโชคดี...อย่ามีอะไรต้องเสียใจ...ส่วนตัวฉันจะลืมว่าเคยร้องไห้...ลืมว่าเคยต้องเป็นใครที่เธอ....”

“...ไม่เอา!!!” อ่ะอินเนอร์โดนทิ้งมาเต็มทั้งร้าน ไม่ได้ร้องเพลงมานานก็ชักมันครับ ยิ่งเวทีเล็กๆ คนดูร้องตามแบบนี้

“สองรัก!! ฉันรับไม่ไหว เธอมีหนึ่งใจแต่ให้ไปสองรักทั้งเค้าเเหละฉันฝันไปหรือเธอ.... มีใครยอมทนบ้างไหม...สองหัวจิตหัวใจเเบบนี้เลือกสักทีเถอะเอาสักทาง!!”

“เอ้าชน!!” ใครไม่รู้ต้นเสียง แต่เเก้วเหล้าก็มาถึงผมด้วย จับยกซดหมดเเก้ว ดีนะไม่หกไมค์ช็อตปากไปอีก

“...ฉันเดินหลงทางอยู่กลางผู้คน สับสนวุ่นวาย หันไปหาเธอไม่เจอผู้ใด เมื่อเธอมาจากฉันไป ยืนมองท้องฟ้า

ไม่เป็นเช่นเคยฤดูร้อนไม่มีเธอ เหมือนก่อนเหมือนเก่า ขาดเธอ...ฮึก” ผมสำลักอาการสะอื้นของตัวเองจึงรีบส่งไมค์ให้พี่นักร้องประจำวง พี่เคนวิ่งมารับผมลงเวที แล้วพากลับมานั่งที่โต๊ะ

“ขอให้ความรักดียิ่งกว่าที่ฝัน ขอให้คนนั้นดีกว่าฉันทุกอย่างให้เขาคอยรัก คอยดูแล คอยอยู่เคียงข้าง แบบที่ฉันเองไม่เคยทำให้เธอ ขอให้คาดหวังแล้วไม่ต้องผิดพลั้ง ไม่เหมือนความหลังที่เธอเคยพบเจอ ขอให้คราวนี้ได้อย่างใจเธออยู่เสมอ”

ขยี้เข้าไปอีก เพลงที่นักร้องบนเวทีร้องต่อทำให้ผมน้ำตาแตกหนักกว่าเดิม เเล้วคว้าเอาขวดน้ำเมาที่เปิดวางอยู่บนโต๊ะกระดกเข้าปากอย่างแค้นใจ ทำไมต้องโง่รอว่ะ... ทั้งที่เค้าก็เลือกนางฟ้าทุกอย่าง ปฏิเสธไม่ได้สักอย่าง โทรเรียกหาก็ไป ให้ไปส่งก็ไม่เกี่ยงงอน เเล้วเป็นผมหรอที่ต้องรอทุกครั้งไป

“น้ำๆ พอก่อน” พี่เคนเข้ามาดึงขวดเหล้าจากมือผม เเรงยื้อยุดมันทำให้เหล้าหกเลอะไปทั่วตัว

ผมยิ้มทั้งน้ำตา แล้วทำท่าจะขย้อนของเก่าออกมา พี่เขาเลยรีบพาไปห้องน้ำ ผมเเหวะเอาทุกอย่างออกมาทันทีที่โก่งคอที่โถส้วม รสชาติเเละความรู้สึกเเย่ไปหมด น้ำตาก็ไหล เจ็บจนจุกไปทั่วกะเพาะ พี่เคนยังลูบหลังให้เบาๆ

“อ้วกออกมาให้หมดน้ำ อ้วกออกมา” เสียงปลอบดังอยู่ข้างๆ ได้ยินเสียงพี่เเฟรงค์เดินตามเข้ามา เหมือนจะเอาน้ำมาให้ ผมรับมาจิบ แล้วแทบจะนั่งลงกับพื้นเพราะหมดเเรง แต่พี่เคนก็ห้ามไว้ เขาประคองผมที่อ่อนแรงเต็มทีแล้วเอาผ้าเช็ดหน้ามาชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้

“เป็นอะไร ทำไม่ร้องไห้ ทำไมต้องเมาขนาดนี้” เขาไม่ได้ดุ เเต่ถามเหมือนว่ากำลังห่วงมากๆ ผมส่ายหน้าไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี แต่เรื่องหนึ่งที่ผมรู้คือผมไม่ชอบตัวเองที่เป็นเเบบนี้ ต้องมาเมา อ้วก ทรมานเพราะ...อกหักหรอ ผมเองยังไม่รู้เลยว่าสเตตัสตอนนี้คืออะไร

“มือถือผมอ่ะ” หันไปถามเอากับพี่เเฟรงค์ ไอ้พี่ที่ปกติทะลึ่งทะเล้นก็ทำหน้าเป็นห่วงจริงจัง เขาล้วงเครื่องมือสื่อสารมายื่นให้ ผมเปิดเครื่อง ข้อความของโน่อันสุดท้ายคือ

‘คืนนี้ไม่กลับนะ นางฟ้านอนไม่หลับ คิดถึงพูห์’

อ่านเเล้วรู้สึกเหมือนสติเเตก ผมกดโทรออกหาโน่ทันที

“กลับ!”

“นางฟ้ายังร้องไห้อยู่เลย”

“กลับ!”

“น้ำอยู่ไหน ไม่งอเเงดิ”

“กลับ!!”

“น้ำ เมาป่ะเนี่ย ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง”

“ฮึก...ถ้าไม่กลับตอนนี้...ก็ไม่ต้องกลับมาเเล้ว...ฮึกน้ำไม่รอเเล้ว”

ผมกดปิดโทรศัพท์เเล้วทรุดตัวลง หัวใจผมฉีกหมดแล้วอ่ะ ผมว่าผมไม่ไหวเเล้ว ผมไม่เหลือใจไว้ให้ผิดหวังเรื่องโน่อีกแล้ว

“น้ำ พี่ว่าพี่ไปส่งบ้านดีกว่า” พี่เคนพยุงให้ผมลุกขึ้น ผมส่ายหน้า ผมไม่อยากกลับไปที่ไหนก็ตามที่เคยมีเขาอยู่ โน่อยู่ในทุกที่ที่ผมเดินผ่าน เเต่ตรงหน้าผมกลับไม่มีเขายืนอยู่

“ฮือ…" ผมปล่อยโฮออกมาอีก ผมว่าผมคงกดมันไว้นานเกินไป พยายามไม่รู้สึกแล้วมันก็ทำไม่ได้จริงๆ

พี่เคนกับพี่เเฟรงค์ช่วยกันพาผมไปที่รถ อะตอมวิ่งเอากระเป๋าออกมาให้ ผมนั่งซบหน้ากับกระจกหน้าต่าง พี่เคนถามทางไปบ้านก็ไม่ยอมตอบ

“ไม่อยากกลับบ้าน” ผมบอกเขาเเค่นั้น

“งั้นไปนอนบ้านพี่?”

ผมพยักหน้า นึกขอบคุณพี่เคนไม่รำคาญเเล้วปล่อยให้ผมโวยวายอยู่หน้าร้านเหล้า

ถึงพี่เคนจะพูดว่าบ้านเเต่ที่จริงมันคือคอนโดในตัวเมืองที่เขาอยู่กับพี่ชาย เเต่คืนนี้พี่ชายพี่เคนกลับบ้าน ห้องเลยว่าง

“ล้างตัวไหวมั้ย หรือให้พี่เช็ดตัวให้” เขาถามเมื่อเรามายืนด้วยกันในห้องนอน กลิ่นผมคงเกินทน ผมยิ้มอายๆ แล้วก็พยักหน้า อ้วกออกไปเยอะเลยรู้สึกโลกไม่ค่อยเอียงเท่าไหร่เเล้ว

พี่เคนหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดนอนมาให้ ผมรับไปแล้วเข้าไปอาบน้ำ สงสัยเสื้อกับกางนี่ต้องทิ้งเลยมั้ง เเสงโสมหอมรัญจวนใจเหลือเกิน

ผมพับชุดเน่าวางไว้ในห้องน้ำ เเล้วเดินออกมาพร้อมชุดนอน กะว่าจะมาขอถุงจากพี่เคนไว้ใส่ซากอารยธรรมไปทิ้ง เเต่คนตัวสูงกว่าก็มาหยิบชุดเปียกๆ ไปโยนลงเครื่องซักผ้า ผมมองตามอย่างเกรงใจ

“ไปเป่าผมไป๊ หรือต้องให้พี่เป่าให้เหมือนพระเอกในละคร” ผมยู่หน้าเเล้วทำตามที่พี่เขาบอก โต๊ะเครื่องเเป้งของพี่เคนดูเรียบร้อย ขัดกับความเป็นนักดนตรีของเขา

พี่เคนรอให้ผมปิดไดร์ เเล้วก็คุยด้วย

“เมื่อกี้โน่โทรมา”

ผมนิ่งรอฟังพี่เขาพูดต่อ

“พี่บอกว่าน้ำเมามาก เลยพากลับมานอนเเล้ว เขาบอกจะมารับ”

“ผมไม่กลับนะ!”

พี่เคนยิ้ม เดินมาขยี้ผมเบาๆ “พี่รู้เเล้ว บอกว่าถ้าจะมาหาก็ค่อยมาตอนเช้าเถอะ น้ำหลับไปเเล้ว”

“ขอบคุณครับ”

“นอนเถอะ จะตีสามเเล้ว”

“ขอโทษที่รบกวนนะพี่เคน ชีวิตวุ่นวายน่าดู”

“วัยรุ่นก็งี้เเหละ สมัยรับน้องไอ้เเฟรงค์เมาเป็นหมากว่านี้อีก ต้องเเบกมันกลับทุกวันอ่ะ”

ผมยิ้ม เเล้วเริ่มมองหาที่นอนตัวเอง

“นอนนี่เเหละ เดี๋ยวพี่ไปนอนห้องพี่ชาย”

“กวนพี่เคนอีกแล้ว”

“อย่าคิดมาก นอนๆ อ้อ...ดื่มอะไรอุ่นๆ หน่อยมั้ย อ้วกไปหมดแล้วน่าจะหิว พี่อุ่นนมให้ดีกว่า”

ผมน้ำตาจะไหล เเละคงเพราะพี่ชายพี่เคนเป็นเจ้าของร้านอาหาร ในครัวจึงดูยิ่งใหญ่กว่าคอนโดทั่วไป มีโหลคุกกี้วางอยู่เต็มเลย

“หยิบกินได้นะ พี่โค้กเค้าทำเอง”

ผมพยักหน้า แล้วหยิบอันนึงที่ดูเป็นรสช็อกโกเเลตมากิน

“อร่อย!”

“อร่อยก็กินอีก วันหลังพี่เอาไปฝาก”

“ผมอ้วนเเย่ถ้าอยู่กับพี่เคน”

“อ้วนก็ดีสิ เราหนะผอมไปพี่ว่า”

ผมรับแก้วมัคมาจากพี่เคน เเล้วยกมันขึ้นจิบเบาๆ นมอุ่นกำลังดีใส่น้ำผึ้งนิดหน่อยให้รสชาติเหมือนย้อนไปตอนเด็กๆ เลย

พี่เคนยืนรอผมดื่มนมโดยหยิบเอาคุ้กกี้มากินเล่นรอไปด้วย ผมเลยไม่รู้สึกกดดันมาก พอดื่มหมดจะไปล้างพี่เขาก็รับไปเอง แล้วสั่งด้วยเสียงคุณพ่อว่า “ไปนอนครับ”

“ถ้าพี่เข้าไปดูแล้วยังไม่หลับนะ จะตี”

“ดุจัง”

“ถ้าเป็นเด็กดีพี่จะไม่ดุ”

ผมพยักหน้าหงึกแล้ววิ่งเข้าห้องนอนไป พี่เคนเปิดประตูห้องนอนโผล่หน้ามา Good Night แล้วก็ปิดไฟให้ อาจจะเป็นเพราะนมอุ่นๆ ผมเลยหลับไปอย่างรวดเร็ว



TBC 



 :mew1:. ดีใจที่มีคอมเม้นเรื่องนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้ชาเลนจ์เรามากจริง แล้วแบบยิ่งลงเเรกไม่มีคนอ่านใจยิ่งฟ่อว์ ขอบคุณนะคะที่ชอบกัน (คิดเช้าข้างตัวเองว่าชอบ อิอิ)

 :katai4:. ตอนเเต่งตอนนี้ร้องไห้หนักมาก หนักแบบ เหมือนอกหักมา ปล. ขอบคุณเพลงดีๆ ที่เนื้อเพลงแบบเจ็บทุกตัวอักษร 

Credit 

ฟ้า - Tattoo Color https://www.youtube.com/watch?v=m-dK4NbT7L4

ใจนักเลง - คุณพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง https://www.youtube.com/watch?v=sSGzUthHGt8

สองรัก - Zeal https://www.youtube.com/watch?v=Y9nSm9WaEdc

ฤดูร้อน - Paradox https://www.youtube.com/watch?v=baIoWHETFbc

คำยินดี - Klear https://www.youtube.com/watch?v=cEeUFE6tRmQ



ตอนนี้รู้สึกยังไง ก็มาเเชร์กันได้นะคะ รออ่านน๊า #พระเพลิงมารีน 

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw

Chapter 23.1



พี่เคนเดินเข้ามาดูผมในห้อง ซึ่งผมกำลังงัวเงียพึ่งตื่นพอดี เขาบอกโน่มาหาจะมารับกลับ ผมขมวดคิ้ว รับกลับไปไหนอ่ะ ผมตั้งป้อมป้องกันตัวกับโน่ทันที

“ให้เค้าเข้ามาหามั้ย หรือจะให้พี่ไปบอกว่ายังไม่ตื่น”

ผมถอนหายใจ บอกว่าขอล้างหน้าล้างตาเเป๊บเดียว เดี๋ยวออกไป พี่เคนรับทราบ เขาเอาชุดเมื่อคืนที่ปั่นเเห้งเเละรีดเรียบร้อยเเล้วมาเเขวนไว้หน้าตู้ มันมีชั้นในด้วย ผมรู้สึกอายเจ้าของห้องหน่อยๆ

หลังจากอาบน้ำเเละเปลี่ยนชุดเรียบร้อย ผมเดินออกมาจากห้องนอน เห็นโน่นั่งอยู่ตรงโซฟารับเเขก

“น้ำเป็นบ้าอะไรเมื่อคืน” โน่ลุกขึ้นมาประชิดตัวผมทันที เเค่ประโยคเเรกที่เขาถามผมก็ไม่นึกอยากกลับบ้านด้วยเเล้ว พี่เคนมองอย่างเป็นห่วงมาจากในครัว

“มารับกลับบ้านใช่มั้ย ถ้าใช่ก็กลับกันเถอะ เกรงใจพี่เคน” ผมข่มใจพูดออกไป เพราะไม่อยากรบกวนเจ้าของห้องมากกว่านี้ โน่เหมือนพึ่งได้สติเขาพยักหน้า แล้วก็หันไปยกมือไหว้ลาเจ้าของห้อง

รุ่นพี่ที่คณะเดินไปส่งผมกับโน่ถึงชั้นหนึ่ง เราเเยกย้ายกัน แล้วผมก็ขึ้นไปนั่งบนรถคันเดิม

“ไปส่งที่บ้านน้ำ” ผมออกตัว

โน่นิ่งไม่ออกรถ เขาหายใจรุนเเรง ผมรับรู้ได้ว่ากำลังหงุดหงิดและพยายามไม่ระเบิดออกมา ผมก็เลยนั่งเฉยรอเวลา

“ไหนบอกว่าจะรอ” โน่เอ่ยถามในความเงียบ

ผมนิ่งไม่ตอบ

“โน่ยังรอน้ำได้ตั้งนาน ทำไมรอโน่แค่นี้ไม่ได้”

“เเต่โน่ก็ไม่ทำตามสัญญาไง ทำไมน้ำต้องทำตามสัญญาด้วยอ่ะ!”

“น้ำกลัวเเค่ไหน น้ำสิ้นหวังเเค่ไหนรู้มั้ยตอนที่รู้ว่าตัวเองเป็นเนื้องอก แต่น้ำก็คิดว่าน้ำต้องรอด น้ำต้องหาย ถ้าไม่มีน้ำโน่จะอยู่กับใคร แล้วน้ำก็ฟื้นมาเพื่อที่จะรู้ว่า อ๋อ..โน่เป็นเเฟนกับคนอื่นไปแล้ว!”

“ทั้งที่น้ำมาก่อนนางฟ้า แล้วตอนนี้น้ำเป็นอะไร เป็นชู้หรอ ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ พอนางฟ้ามา โน่ก็ไม่หันมาคุยกับน้ำเลยด้วยซ้ำ น้ำต้องไร้ตัวตนอีกนานเเค่ไหนอ่ะ”

“โน่ เเม่งเห็นเเก่ตัว!”

มันยากมากที่จะข่มน้ำตาไม่ให้ไหล ผมร้องไห้และกัดปากตัวเองไว้ไม่ให้เสียงหลุดรอดออกมา

“น้ำฟังก่อน เราคุยกันรู้เรื่องเเล้วไม่ใช่หรอ โน่รักน้ำนะ”

“ไม่อยากได้คำว่ารักโว้ย อยากได้การกระทำ อยากได้ทั้งตัวโน่อ่ะ ไม่ชอบเเบ่งกับใคร แล้วก็ถ้าทำให้ไม่ได้ก็ปล่อยน้ำไปเหอะ น้ำโคตรไม่ชอบตัวเองที่เป็นอยู่ตอนนี้เลย”

ผมบอกเขาไปตรงๆ ใครจะชอบที่ตัวเองต้องมางี่เง่าตามหวงไร้สาระว่ะ โน่ทำให้ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย

“ขอเวลาหน่อยไม่ได้หรอ น้ำไม่รักโน่เเล้วหรอ” เขาทอดเสียงอ่อนลง เขารู้ว่าพูดเเบบไหนแล้วผมจะใจอ่อน

“แล้วทำไมยังต้องเป็นเเฟนกับนางฟ้าอ่ะ เหตุผลคืออะไร”

“โน่เผลอนอนกับนางฟ้าตอนไปญี่ปุ่น โน่อยากรับผิดชอบ เพราะไม่อยากทำให้ผู้หญิงร้องไห้”

หัวใจผมบีบรัดรุนเเรง ผมดีใจที่โน่เป็นคนดี แต่มันเป็นความดีที่โน่ไม่สามารถมีผมในชีวิตได้อีก

“โน่ทำถูกแล้ว ถ้าโน่ไม่อยากให้เค้าร้องไห้ก็ดูเเลเค้าต่อไปเหอะ น้ำดูเเลตัวเองได้ น้ำเป็นผู้ชาย น้ำเข้มเเข็ง”

“น้ำไม่ประชดดิ” โน่เสียงอ่อนลงอีกเอื้อมมือมากอบกุมมือผมไว้

“น้ำไม่ได้ประชด!! แต่ถ้าเราไม่ได้สำคัญขนาดที่ปล่อยให้เราร้องไห้ได้ แต่เค้าร้องไม่ได้ โน่ก็ไม่ควรเอาคำว่ารักมารั้งเราไว้ ไม่ควรเอาอดีตหรือคำสัญญาที่มันเป็นเรื่องของเด็กๆ มาเป็นข้ออ้างเเล้วอ่ะ เริ่มใหม่เหอะ ไปเริ่มกับนางฟ้า เราก็...จะไปเริ่มกับคนอื่น…” ผมพยายามพูดให้เสียงไม่สั่นที่สุด

“พูดแบบนี้คือมีคนอื่นเเล้วใช่มั้ย”

“อือ…” ผมพยักหน้า

“งั้นก็ตามนั้น”

โน่ปล่อยมือ เขาปล่อยมือผมแล้วจริงๆ

ผมกัดฟันตัวเองแน่นแล้วเปิดประตูลงจากรถ เดินเร็วเข้าไปหลบในล็อบบี้คอนโด โน่คงคิดว่าผมมีพี่เคนมั้ง เเต่ก็ดีเเล้วที่มันเป็นเเบบนั้น บางครั้งการยื้อก็ไม่ใช่วิธีเยียวยารักษาทุกอย่าง ผมมองรถสีขาวที่เลี้ยวออกจากคอนโดอย่างรุนเเรง เสียงล้อบดถนนมันทำให้คนเเถวนั้นตกใจ แต่ผมกลับร้องไห้ ผมนั่งร้องไห้หนักมากราวกับจะเอาน้ำตาทั้งชีวิตมาใช้ให้หมดไปในตอนนี้



หลังจากทะเลาะกันวันนั้นผมไม่ได้กลับบ้านเพราะกลัวห่อเหี่ยวจนพ่อเเม่ไม่สบายใจ เอาร่างกายตัวเองไปแปะแหมะไว้ที่คอนโดของพี่ขิงเพื่อนรัก แล้วก็ไล่เจ้าของห้องไปอยู่ห้องพี่ดาริณเเฟนมันเเทน รอจนตาหายบวมผมถึงกลับไปอยู่บ้านตัวเองได้

ผมเจอโน่อีกครั้งตอนซ้อมวง ระหว่างวันเขาก็เว้นระยะห่างไม่มาเกาะเเกะผมเหมือนสมัยก่อน โน่ไม่ค่อยสนิทกับใครในรุ่นเดียวกัน แต่ก็สามารถนั่งเรียนกับเพื่อนๆ คนอื่นได้ เป็นผมอีกที่เเอบมองเขาเป็นระยะ

ห่างก็ไม่ชอบ ใกล้ก็ไม่สบายใจ ผมคงเป็นบ้าไปแล้ว

ตอนซ้อมผมก็อึดอัดมาก ยิ่งเห็นโน่ยังคุยเล่นกับนางฟ้าที่มาเฝ้าได้เป็นปกติ ผมก็ยิ่งเจ็บในใจ เป็นผมที่โง่เองที่ไปรักเขาเสียมากขนาดนั้น

ช่วงพักซ้อมผมหิ้วตะกร้าขวดน้ำไปให้พี่เคน อะตอม พี่เเฟรงค์เเล้วก็พี่ก็อตจิ พวกรุ่นพี่ยังคงเล่นมุขฮากันเหมือนเดิม ผมเลยฝืนหัวเราะได้บ้าง มันเป็นช่วงเดียวเเหละที่ผมละสายตาจากโน่

“น้ำเคยเล่นกีต้าร์ไม่ใช่หรอ ท่อนที่พี่เล่นเมื่อกี้มันเเปลกๆ มั้ย น้ำว่าไง”

ผมไม่ค่อยได้ฟังหรอกครับ เเต่พอรู้ว่าเขาเล่นเพลงอะไรกัน ก็เดินไปหยิบกีต้าร์พี่เคนมาดีดดู

“เทพโคตร!!” พี่เเฟรงค์อุทาน ส่วนพี่เคนเดินมายีหัว

“เก่งจริงตัวเเค่นี้”

ผมเงยหน้ายิ้มให้พี่เคน

“สงสัยพี่ต้องให้น้ำซ้อมให้บ่อยๆ ล่ะ”

ผมย่นจมูก พี่เคนก็เก่งเถอะ เเต่อาจจะเพราะเครียดไปมากกว่าเลยมีติดขัดบ้างเป็นบางช่วง

“ผมไม่ได้เก่งขนาดสอนใครได้หรอกครับ”

พี่เคนหยิบมือผมไปพลิกดู เล่นกีต้าร์ก็รู้กันครับว่าผมฝึกหนักมาเเค่ไหน

“เห้ย...อย่ามาเเต๊ะอั๋งกันในห้องนะเหวย” พี่เเฟรงค์เเซวขึ้นมาทันที พี่เคนหันไปเขกกะโหลกเพื่อน

“นี่ น้ำกับเคนคืนนี้ว่างป่ะ ไปเล่นเเทนเพื่อนที่ร้านหน่อยดิ พึ่งไลน์มาเลยว่ามอเตอร์ไซต์เฉี่ยวแขนหัก” พี่ก็อตจิที่ง่วนกับมือถืออยู่พักนึงแล้วเงยหน้าบอก

“ได้ค่าขนมด้วยนะเว้ย”

แหม...ผมไปตั้งเเต่ไม่ต้องเอาค่าตัวมาล่อเเล้ว ไปอยู่ในบรรยากาศคึกคักแบบนั้นก็ดีเหมือนกันครับจะได้ไม่ต้องนั่งเหงาอยู่ที่บ้าน ผมไลน์บอกเเม่ทันทีว่าคืนนี้ไปเล่นดนตรีกลับดึก

ซ้อมเสร็จ ผมอยู่เก็บกระติกและเเก้วน้ำล้างนิดหน่อย ทุกคนอยู่รอเพราะจะเเห่ไปร้านเหล้าด้วยกัน ยกเว้นโน่ที่ไปส่งนางฟ้าก่อนเเล้ว ผมเห็นเขาเดินควงคู่กันออกไปก็รู้สึกแหละครับ แต่ในเมื่อเลือกถอยออกมาเเล้วก็ต้องอยู่ให้ได้



เราไปถึงร้านตอนใกล้ถึงช่วงวงดนตรีสดพอดี ผมขึ้นไปซาวด์เช็คนิดหน่อยเพราะไม่ใช่กีต้าร์ตัวที่คุ้นมือ จากนั้นก็ทำความรู้จักกับนักดนตรีคนอื่นๆ ในวงเเล้วก็เริ่มเล่น โดยครึ่งเเรกผมเล่นก่อน เพลงที่ใช้ส่วนใหญ่ก็เพลงตลาดทั่วไป ผมก็เล่นไปชิวๆ ไม่ได้ยากอะไร คนในร้านยังสนุกเหมือนเดิม แล้วด้วยหน้าตาที่น่าเอ็นดูของผมละมั้ง รุ่นพี่สาวๆ เอาเหล้ามาชนเต็มเลย ผมเลยดื่มๆ ไปแบบไม่ค่อยระวังตัวเท่าไหร่ ลงจากเวทีด้วยอาการกำลังร่าเริง ผมเลยไปเซิ้งอยู่ที่โต๊ะกับพวกพี่เเฟรงค์เเลอะตอมต่อ

“เมาขนาดนี้กลับบ้านพ่อเเม่จะว่ามั้ย” พี่เคนถามเมื่อร้านใกล้ปิด

ผมส่ายหน้าอ้อแอ้ ไม่ได้เมาหนักเท่าวันก่อน ยังพอรู้เรื่องอยู่เเต่ดูเวลาเเล้วก็ดึกมากเกาะเเขนขอไปนอนห้องพี่เคนเหมือนเดิม

ไม่นานพี่เคนก็ประคองผมขึ้นมาถึงห้อง จัดการหาชุดนอนให้เปลี่ยนเสร็จสรรพ

“น้ำ...มีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่า” เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เเต่ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร พี่เเค่อยากบอกว่าพี่พร้อมรับฟังนะ”

ผมยิ้มขอบคุณ แล้วรับเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ตอนเดินออกมาพี่เคนยังนั่งรออยู่ที่เตียง

“มีอะไรรึเปล่าพี่เคน” พี่ชายใจดียังยิ้มกว้างเหมือนเดิม

“รอส่งเด็กน้อยเข้านอน”

ผมย่นจมูกไม่ได้เป็นเด็กน้อยสักหน่อยอายุเยอะเเล้วเถอะ เขาขยี้หัวผมบอกกู๊ดไนท์ รอผมนอนแล้วก็ยกผ้านวมมาห่มให้ถึงคอ พี่เคนมองหน้าผมเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่าง อาการอึกอักดูไม่มั่นใจไม่สมกับเป็นเขาเลย

“พี่เคน...ผมว่าพี่น่าจะมีอะไรมากกว่าอยากส่งผมเข้านอน”

ร่างสูงตรงหน้าถอนใจรุนแรง ผมเลยพยักหน้าเหมือนเป็นสัญญาณว่าพี่พูดเถอะผมพร้อมฟัง

“น้ำ...ที่จริงตอนจับฉลาดบั๊ดดี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”

“ครับ”

“พี่ตั้งใจได้ชื่อเรา”

“ผมพอจะเข้าใจแล้วครับ”

“พี่ไม่แน่ใจว่าน้ำกับโน่มันมีอะไรเกินคำว่าเพื่อนหรือเปล่า พี่เลยไม่กล้า...”

ชื่อของ ‘เพื่อน’ ที่หลุดออกมาจากปากพี่เคนทำให้ผมต้องแหงนหน้าสูงขึ้น เพราะกลัวบางอย่างมันจะไหลออกจากตา

“ถ้าผมแน่ใจว่าเขาเป็นแค่เพื่อนเมื่อไหร่แล้ว ผมจะบอกพี่นะครับ”

“ขอบคุณนะน้ำ”

“ผมมากกว่าที่ต้องขอบคุณที่รู้สึกดีๆ กับผม”

“นอนเถอะ พี่ไม่กวนแล้ว” พี่เคนยิ้มให้อีกครั้งก่อนเดินไปปิดไฟให้แล้วก็ออกไปจากห้อง

ผมมองเพดานห้องในความมืด ความรู้สึกของพี่เคน ผมรับรู้มาได้สักพักแล้วล่ะ แต่ก่อนหน้านี้ผมยังมั่นใจว่ายังมี

โอกาสลงเอยกับโน่ได้ แต่เหมือนนับวันความสัมพันธ์ของเราจะกลายเป็นเส้นขนานขึ้นทุกที ผมควรลืมเขามั้ย ควรพอแล้วเริ่มต้นใหม่สักที





TBC 

เจ็บอย่างถาโถม เอาให้ตาบวมกันไปข้างนึง จริงๆ ตอนนี้มันยาวมาก เราเลยตัดช่วงเศร้ามาให้ก่อน ตอนหน้าจะดีกว่านี้นะสัญญา เพราะถ้าตอนหน้าเศร้าอีก คนเเต่งอาจจะโดนดักตบได้ 555  (ในเลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่)

ตอนเเต่งเรื่องนี้ ใส่ theme ตรงหัวเรื่องว่าความรักของวัยรุ่น ที่เเบบ รักกันจะเป็นจะตาย รักกันเเทบบ้า เเต่สุดท้ายเราก็ไปด้วยกันไม่ได้ แต่ไม่ bad end นะ เราสุขนิยม 555

เจอกันตอนหน้าค่า

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โน่ถ้าไม่อยากทำให้น้ำต้องร้องไห้มากไปกว่านี้ โน่ต้องเด็ดขาดถ้าไม่รักนางฟ้าก็ต้องบอกเลิกให้ได้
ก่อนที่จะต้องเสียน้ำไปจริง ๆ นะ รับผิดชอบนางฟ้าแค่นี้เราก็ว่ามันมากพอแล้ว เปิดอกไปเลยคุยกันให้รู้เรื่องกับนางฟ้าไป
เพราะยิ่งทำแบบนี้นางฟ้าจะยิ่งคิดเข้าข้างตัวเองว่าโน่รักนางฟ้านะ ในเมื่อโน่ไม่เคยบอกนางฟ้าเลยว่ายังรักน้ำอยู่
และที่ทำแบบนี้ก็แค่จะรับผิดชอบนางฟ้าเท่านั้น มันเหมือนจะเห็นแก่ตัวนะแต่เอาเข้าจริง ๆ ตัวนางฟ้าเองก็น่าจะรู้ว่าเรื่องคืนนั้น
มันก็แค่ความพลาดพลั้งและไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเพราะต่างก็เมาด้วยกันทั้งคู่แล้วจะให้โน่รับผิดชอบคนเดียวแบบนี้เหรอ
นางฟ้าก็น่าจะทำใจได้แล้วนะ แฟร์ ๆ กับโน่มันหน่อยซินางฟ้า

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เลือกพี่เคนไปเลยน้องน้ำ ความรู้สึกของเราต้องเป็นที่หนึ่งสิ อย่าไปเป็นตัวสำรองของใครเพราะเราเองก็มีดีอยู่แล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
chapter 23.2



ไม่กี่วันต่อมานางฟ้าโทรมาหาผมหลังจากที่เราไม่ได้คุยกันนานพอสมควร

“เราอยากเซอร์ไพรส์วันเกิดโน่ตอนซ้อม เราจะส่งซิกให้น้ำไปปิดไฟ แล้วเราจะเอาเค้กเข้ามาในห้อง”

ผมตอบรับความช่วยเหลือไปได้โดยง่าย วันเกิดโน่หรอ แล้วผมต้องเตรียมอะไรให้เค้าด้วยมั้ยนะ ในฐานะเพื่อน อย่างน้อยเราก็เคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ผมตัดสินใจไปซื้อการ์ดใบเล็กๆ มาเขียนอวยพรเขา ถ้ามีโอกาสเหมาะคงให้ แต่ถ้า...โน่ตัวติดกับนางฟ้าตลอด ผมก็คงไม่ให้

และเเล้ววันนั้นก็มาถึง เราซ้อมดนตรีกันตามปกติ และประมาณเกือยสองทุ่ม นางฟ้าก็ไลน์มาบอกว่าเธอจุดเทียนอยู่หน้าห้องเเล้ว

ผมเดินไปปิดไฟโดยไม่บอกไม่กล่าวใคร ทุกคนในวงตะโกนโหวกเหวกด่าว่าอย่างไม่จริงจัง เพราะเหมือนเข้าใจได้ด้วยตัวเองว่าน่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ตามมา ผมเปิดประตูออกไปแล้วนางฟ้าก็เดินเข้ามาพร้อมเค้กวันเกิดที่จุดเทียนเรียบร้อย

พี่เเฟรงค์กรี๊ดเเซวเป็นสาวเลยแล้วช่วยๆ กันดันเจ้าของวันเกิดถูกดันให้เข้าไปยืนใกล้ๆ เค้ก

“น้ำถ่ายรูปให้หน่อยสิ” นางฟ้ายื่นโทรศัพท์ให้ผม ผมรับมาโดยไม่ได้สนใจความรู้สึกตัวเองมากนัก เขาสองคนขยับตัวเข้าชิดกัน โดยมีเเสงเทียนล้อมกรอบหน้าสวยน่ามองและอีกคนก็หล่อดูดี โน่ก้มลงมาเล็กน้อยให้ใบหน้าอยู่ใกล้นางฟ้ามากขึ้น เห็นเเล้วโคตรเจ็บปวด ผมกดถ่ายไปสองเเช๊ะ

นางฟ้ายังไม่รับคืนเพราะจะให้ถ่ายช็อตอธิฐานเเละเป่าเทียนก่อน โดยทุกรูปมีเพียงสองคนในเฟรม

ผมกดถ่ายรัวๆ และเมื่อโน่เป่าเทียนเสร็จ ผมก็ส่งโทรศัพท์คืน แล้วเดินออกมานอกห้องเลย อีกไม่กี่วินาทีต้องมีคนโวยวายแน่ เพราะรูปที่ผมถ่ายเขาสองคนเป็น ‘รูปครึ่งตัวล่าง’ ทั้งหมดเลยหนะสิ!

ก็ตอนมองผ่านกล้องผมไม่ชอบที่เขาสองคนอยู่ด้วยกันนี่นา

ผมกะจะหลบไปอยู่คนเดียวที่สุดระเบียงตึกเรียน รอซ้อมเสร็จเเล้วค่อยเข้าไปดีกว่า ไม่อยากเข้าไปทำให้บรรยากาศวันเกิดโน่เเย่ไปกว่านี้

แต่เท้ายังไม่ทันก้าวไปถึงไหน ข้อมือก็ถูกกระชากไว้ด้วยใครบางคน

โน่!?

“เราไม่กลับเข้าไปนะ”

“งั้นก็ไปที่อื่นกัน”

โน่ไม่อธิบายอะไรให้เข้าใจทั้งนั้น เขาจูงไม่สิ ลากผมไปด้วยเเรงที่ต้านไม่ไหว ไม่นานก็ขึ้นมานั่งอยู่บนเเรบบิทครีมที่จอดอยู่หน้าตึก

โน่ออกรถทันที เขาเเวะจอดที่ร้านเค้กเจ้าดังหลังมหาวิทยาลัย เห็นซื้อเค้กมาก้อนใหญ่จากนั้นก็ขับกลับคอนโด

“ไปไหน” ผมพึ่งได้มีโอกาสถามเขา

“คอนโด”

“อยากเป่าเค้กกับน้ำ”

“อะไรว่ะโน่..” ผมงง เขาเอื้อมมือมาขยี้หัว แล้ววางมันค้างไว้แบบนั้น ผมหุบปากฉับเหมือนโดนปิดสวิทซ์



ห้องที่ผมไม่ได้เหยียบมาสักพัก เเต่ผมกลับรู้สึกสนิทใจเหมือนได้เดินกลับเข้าบ้าน เจ้าของห้องวางเค้กลงบนเคาเตอร์ครัวเเล้วดันหลังผมเข้าไปในห้องนอนเชิงว่าให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัว

“แล้วโน่...”

“ทำมื้อเย็น” เขาตอบแล้วยิ้มกริ่ม ผมเลิกคิ้ว

“ลองดู คิดว่าทำได้”

เอาเถอะอยากทำอะไรก็เชิญ ผมหันไปทางอื่นเสียแต่แล้วก็ได้ยินเสียงสั่นครืดคราดโทรศัพท์ที่มันรัวมาหลายรอบตั้งเเต่บนรถอีกครั้ง ก่อนหน้าโน่ปิดแค่เสียงแต่คราวนี้เขาปิดเครื่องไปเลย

“ไม่รับล่ะ เดี๋ยวนางฟ้าเป็นห่วงหรอก”

โน่ส่ายหน้า เขาเดินเข้ามาใกล้ผมที่ยังยืนค้างอยู่แล้วก็อ้อนเสียงอ่อน

“วันเกิดโน่ โน่อยากฉลองกับน้ำแค่สองคน ตามใจโน่นะ”

ผมได้แต่ถอนหายใจถ้าเขาเอาวันเกิดมาอ้างผมก็ไม่ควรทำวันพิเศษของโน่ให้พัง ส่วนใจผมพังไปอีกนิดคงยังไม่เจ็บเท่าไหร่ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็เดินเข้าห้องนอนไปอาบน้ำตามที่เจ้าของห้องเขาต้องการดีกว่า

เมื่อเดินเข้ามาหัวใจมันก็เจ็บหนึบๆ เกลียดที่ตัวเองรู้จักทุกอย่างในห้องนี้ เสื้อผ้าผมที่ซักสะอาดเเล้วโดนเเขวนไว้ในตำเเหน่งเหมือนทุกที แม้กระทั่งชุดนักเรียนม.ปลาย ก็ยังค้างอยู่ที่นี่ตั้งสองชุด มันทำให้พาลคิดไปถึงช่วงเวลานั้นอีกครั้ง ถึงมันจะสั้นมากๆ แต่ตอนนั้นของเราสองคนมันดีจริงๆ นะ

ผมใช้เวลาในห้องน้ำไม่นานก็สวมเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นสบายๆ ออกมา จัดการผมให้เเห้งเเล้วก็เดินออกไปดูในครัว บนโต๊ะมีไข่พะโล้หอมฉุย แล้วก็กับข้าวไทยๆ ที่คุ้นตามาก

“ขี้โกงหนิ” ผมรู้ทันโน่เเล้ว นี่มันกับข้าวจากแม่บ้านที่บ้านใหญ่ของโน่ชัดๆ มีของโปรดเขาด้วย

“โน่เอาไปอุ่นในเวฟเหอะ” เขาขี้ตู่ได้น่ารักมากในสายตาผม ผมอยากตีหัวใจตัวเองจัง ทำไมถึงหลงกลเขาอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่รู้

“เตรียมไว้ให้ใครหรอ” ผมไม่คิดว่าเขาจะฉลองกับผมตั้งแต่แรก

“ก็ใครชอบกินไข่พะโล้ป้าน้อย ก็เตรียมไว้ให้คนนั้น”

ผมถอนหายใจ เลิกคุยแล้ว หิวด้วย กินดีกว่า เรานั่งกินมื้อเย็นด้วยกันเงียบๆ ทั้งที่วันก่อนผมโกรธเขาเเทบบ้า เเต่วันนี้เขากลับทำให้ผมใจอ่อนได้อีกครั้ง โน่ไม่เลือกนางฟ้า เขาเลือกทิ้งแฟนตัวเองมานั่งกินข้าวเงียบๆ ในที่ของเราในวันเกิดของเขา

“ยังไม่ได้คบกับพี่เคนใช่มั้ย” อยู่ๆ โน่ก็ถาม ทำเอาไข่พะโล้แทบติดคอ

“ยัง”

“ทำไมไม่คบละ”

“อยากให้คบหรอ”

“ถ้าโน่บอกว่าไม่ น้ำจะยังฟังอยู่มั้ย”

“บอกในฐานะอะไรหรอโน่”

“...”

ผมยิ้ม มันเป็นบทสนทนาที่น่าอึดอัดและโน่ก็ระบุสถานะระหว่างเราไม่ได้เต็มปาก

“กินของหวานเถอะ มีลอดช่องใช่มั้ย” ผมพูดเพื่อแก้สถานการณ์ที่อึมครึมเหมือนฝนกำลังอั้นไม่ยอมตก

โน่ลุกไปตักลอดช่องเขียวใส่น้ำแข็งบดมายื่นให้ อานิสงค์ของป้าน้อยแม่ครัวมือเทพของบ้านโน่อีกหนึ่งอย่างครับ ผมชอบกิน...แล้วถ้าเขาตั้งใจจะฉลองกับผมจริงก็ถือว่าทำได้น่ารัก

โน่ไม่กินด้วย เขาเพียงนั่งเงียบๆ มองผม

เมื่อผมวางช้อนขนมไทยลงก็ถึงช่วงไฮไลท์ โน่หยิบเค้กขนาดสองปอนด์ที่วิ่งลงจากรถไปซื้อและสั่งให้พนักงานเขียนข้อความแฮปปี้เบิร์ดเดย์ตัวเองมาวางตรงกลางระหว่างเรา เขาบรรจงปักเทียนลงไปเท่าจำนวนอายุ ส่วนผมก็นั่งเท้าคางดูสีหน้าตั้งอกตั้งใจของเขา

โน่หยิบไฟเช็คขึ้นมาจุดเทียน อ่ะ...ผมช่วยวิ่งไปปิดไฟห้องให้ก็ได้ เขากวักมือเรียกให้ผมไปยืนอยู่ด้านเดียวกัน แล้วก็ล้วงมือถือออกมาจะถ่าย แต่ด้วยที่ปิดเครื่องไปแล้วทำให้โหลดนาน ผมเลยหยิบมือถือตัวเองขึ้นมายื่นให้เขา โน่กอดคอผมแล้วเราก็เซลฟี่กัน

มันเป็นรูปเค้กวันเกิดที่มีหน้าของเราสองคนร่วมเพลง ผมวิ่งเข้าไปในห้องนอนโน่แล้วหยิบกีต้าร์โปร่งออกมา ดีดเป็นทำนองเพลง...อยากจะเกิด ชิงหมาเกิด...เขายกมะเหงกเตรียมเคาะ ผมเลยเปลี่ยนทำนองเป็นเพลงสุขสันต์วันเกิดก็ได้

เราร้องเพลงด้วยกันจนจบสองรอบ โน่ก็หลับตาลงพนมมืออธิฐาน ผมเก็บภาพช่วงนี้ไว้ให้เขาด้วย เขาเป่าเทียนรวดเดียวหมด แล้วผมก็ไปเปิดไฟ กลิ่นควันเทียนยังลอยอยู่จางๆ ในอากาศ

และเพราะเราอยู่กันสองคนจึงไม่มีพิธีรีตองอะไร ไม่ต้องตัดเค้กเป็นชิ้นด้วยซ้ำ ใช้ช้อนสองคันจ้วงเค้กเข้าปาก

“อร่อย"

“ชอบกินของหวานตั้งเเต่เมื่อไหร่”

โน่กินได้ครับ แต่ก็ไม่ใช่สายชอบกินเหมือนผมกับเพื่อนๆ คนอื่น

“ก็กินกับน้ำ กินอะไรก็อร่อย”

“เมื่อไหร่จะเลิกหยอด” ผมเบ้ปาก

“ไม่เลิกหรอก”

ผมเปลี่ยนบทสนทนาด้วยการล้วงเอาการ์ดใบเท่านามบัตรในกระเป๋าตังค์ยื่นให้โน่

“สุขสันต์วันเกิดจากเรา”

เขาไม่ยอมรับ แล้วทำหน้าน่าสงสารใส่ “แทนตัวเองว่าน้ำเหมือนเดิมได้ป่ะ ขอร้อง”

“สุขสันต์วันเกิดจากน้ำ”

คราวนี้ยอมรับเเล้ว เเถมยังยิ้มดีใจเหมือนหมาตัวใหญ่เลย เขาขยับตัวมานั่งเบียดผมทันที ไม่สิผลักผมออกจากเก้าอี้แล้วจัดการรวบตัวผมไปนั่งบนตักแบบหันหน้าเข้าหากันเเทน

“ขอบคุณนะ ขอบคุณที่อยู่กับโน่” เสียงทุ้มเอ่ยซุกหน้าลงกับไหล่

ผมห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มไม่ได้ ผมชอบช่วงเวลานี้จัง ช่วงที่เขาอยู่กับผมแค่สองคน ผมพลิกตัวไปหาโน่แล้วแทรกนิ้วไปตามเส้นผมเขาเบาๆ

“โตขึ้นอีกปีเเล้วนะ”

“ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันนะ” โน่บอก

ผมพยักหน้าลูบผมเขาไปเรื่อยๆ อย่างเพลินมือ

“อยากฉลองวันเกิดกับน้ำทุกปี”

“น้ำไม่ไปซื้อเค้กน่ารักๆ มาให้หรอกนะ” เค้กจากนางฟ้าน่ารักมากครับ ปั้นเป็นรูปคนเล่นกีต้าร์

“ไม่เป็นไรซื้อเองได้ รู้ด้วยว่าตัวเองอยากกินรสอะไร”

ผมขำกับสิ่งที่โน่ตอบ เขาใช้จมูกซุกไซร้ไปตามซอกคอผมกับเเก้มเหมือนหมา

“อยากให้ทุกช่วงชีวิตมีน้ำอยู่ในนั้น”

ผมชะงักมือ หัวใจมันเริ่มประท้วงเตือนอีกรอบว่าไม่ได้

“จะอยู่ได้ไง โน่เป็นแฟนนางฟ้านะ เรามันเเค่ตัวประกอบในเรื่อง”

“ไม่งอนดิ” โน่ทำเสียงอ้อน

“ไม่ได้งอน แต่เราจะอยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้นะโน่ น้ำคือคนมาทีหลัง และน้ำไม่มีสิทธิ์จะเรียกร้อง แต่ในความเป็นจริงน้ำโกรธนางฟ้าแทบบ้า น้ำเจ็บมากนะ ที่ต้องเห็นโน่อยู่กับเค้าตลอดเวลา”

“ขอโทษ”

“คำขอโทษไม่ได้ช่วยให้หายเจ็บ”

“โน่ขอโทษ”

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะประคองใบหน้าหล่อๆ นั้นให้เงยขึ้นมาสบตา

“ยังจะเลิกกับเค้าให้น้ำใช่มั้ย”

“โน่ปิดเครื่องใส่ แล้วก็แสดงออกชัดมากแล้วนะว่าอยากอยู่กับน้ำมากกว่าเค้า”

“รักนางฟ้ารึเปล่า”

เขาส่ายหน้า “รักน้ำ”

ภูมิคุ้มกันไม่เเรงพอ หัวใจผมเต้นดังมากจนกลัวว่าโน่จะได้ยิน เล่นสารภาพเเบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้าเลย

“แล้วคบทำไม”

“ก็เค้าเป็นผู้หญิง เค้าเสียหาย อย่างที่บอกว่าโน่ไม่อยากทำผู้หญิงร้องไห้ เหมือนที่พ่อทำ น้ำก็รู้ว่าโน่ไม่ชอบพ่อแล้ว...โน่ก็ไม่อยากทำเหมือนที่พ่อเคยทำ”

ผมถอนหายใจยาว ชีวิตย้อนเเย้งดีจัง

“แล้วทำไมน้ำไม่ไปเเสดงความเป็นเจ้าของหน่อยละ ทำไมไม่ไปทวงโน่คืน”

“ดูละครมากไปป่ะโน่” ผมบี้แก้มเขา ตัวเองไม่ยอมทำแล้วจะให้คนอื่นเขากลายเป็นคนร้ายเสียได้

“กว่าจะรู้ว่าหึง ใจเเป้วหมดแล้วเหอะ นึกว่าไม่รักกันเเล้ว” โน่ตัดพ้อ

“ใครหึง” ผมถาม

“เห็นรูปที่น้ำถ่ายไปยี่สิบกว่ารูปก็รู้เลย ทำไมเเสบ”

“หมั่นไส้เหอะ เหม็นความรัก รำคาญ อิจฉา พอใจยัง” ผมบ่นออกไป แต่ไม่ได้รู้สึกโกรธรุนเเรงเท่าตอนนั้น

“นั้นเเหละ เเสดงออกเถอะ โน่จะได้รู้ว่าที่จริงเรายังรักกัน รักกันมากๆ”

“ขี้ตู่จัง”

โน่ไม่เถียงต่อ แต่ก้มลงปิดปากผมด้วยปากของเขาเเทน ตอนแรกผมตกใจเเทบผลักเขาออก เเต่ความโหยหาไม่เคยปราณี จากที่ยันไหล่เขาไว้กลายเป็นใช้สองเเขนโอบรอบบ่าดึงรั้งให้บดเบียดแนบชิด ให้เราได้จูบกันถนัดขึ้น โน่เเทรกลิ้นเข้ามาแผ่วเบาแต่กลับรุนแรงจนหัวใจผมโหมกระหนุ่ม ความร้อน ความพลุ่งพล่านต่างประดังประเดเข้าสู่ร่างกายอย่างไม่ขาดสาย โน่จูบหนักขึ้น เสียงลมหายใจเราสองคนหนักตาม มันเป็นสัญญาณอันตรายแต่ร่างกายผมก็ไม่ปฏิเสธเขาเลย โน่เลื่อนมือเข้าไปใต้ชายเสื้อผม เขาสัมผัสช่วงเอวเเผ่วเบาจากนั้นก็ลูบไล้เส้นข้างลำตัว ผมรู้สึกสบายเเละเบาหวิวจากสัมผัสนั้น ไม่นานนิ้วสากๆ ก็สัมผัสโดนส่วนหน้าอกที่ให้ความรู้สึกอ่อนไหว ผมเผลอหลุดเสียงปะหลาดออกไป โน่ยิ้มขำ เขาละมือออกเเล้วจุ๊บปากปิดท้ายเบาๆ ก่อนจะผละหน้าออก ผมมองเขาอย่างงุนงง

“พอก่อน เดี๋ยวห้ามตัวเองไม่ไหว”

ผมที่ยังหายใจในจังหวะไม่ปกติส่ายหน้า

โน่เลิกคิ้ว

“ไม่ต้องห้ามหรอก วันนี้วันเกิดโน่ น้ำตามใจ”

พูดเสร็จก็หน้าร้อนผ่าว จนต้องหลบสายตาอันรุนเเรงของเขา โน่กอดเอวผมเเน่นขึ้นเหมือนไม่รู้ตัวเเล้วผมก็ไม่คิดจะต่อต้าน ปล่อยให้เขาชักนำไปจนสุดทาง

โน่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ โดยมีผมเกี่ยวเอวไปด้วยเหมือนลูกลิง รู้ตัวอีกทีเเผ่นหลังก็เเนบชิดกับเตียงนอนหนานุ่ม ร่างสูงใหญ่ตามมาทาบทับโดยเร็ว ผมยกมือยันหน้าผากโน่ที่กำลังจะก้มลงมาซุกไซร้

“ตะเตียงนี้เคยมีคนอื่นมานอนรึเปล่า”

โน่มองผม เขาจับฝ่ามือผมไปกดจูบเสียงดังลั่น

“ไม่เคย ห้องนี้เป็นของเราสองคน เตียงนี้ก็เก็บไว้ให้น้ำนอนคนเดียว”

สายตาเขาร้อนแรง มันรุนแรงกว่าวันแรกที่เจอกันมาก

“แล้วปกติพาคนอื่นไปนอนที่ไหน”

โน่หัวเราะ บรรยากาศที่ระอุร้อนเมื่อครู่หายไปทันที ร่างสูงใหญ่ถึงขั้นทิ้งตัวลงมานอนเท้าศีรษะอยู่ข้างๆ ผม

“ขำอะไรเล่า”

“หึงหรอคะ”

ผมบิดพุงเขาด้วยความหมั่นไส้

“ก็อยากรู้ เป็นโรครึเปล่าเถอะ”

โน่ยิ้มอีก ยิ้มจนตายิบหยี ผมเกลียดรอยยิ้มเหมือนเด็กเจอของถูกใจของเขา

“ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็น นอกจากนางฟ้าครั้งที่เมา โน่ก็ไม่ได้มีอะไรกับใครอีกเลย...จะว่าไปกับนางฟ้าโน่ก็ไม่เเน่ใจหรอกว่าได้มีอะไรกันรึเปล่า คืนนั้นเมามากเถอะ”

ได้ยินชื่อคนอื่นจากปากโน่เเล้วอารมณ์หวานๆ มันก็พังทะลาย คิ้วผมเผลอขมวดเข้าหากันทันที

“เเล้วตอนนี้เมารึเปล่า ตื่นมาจะจำได้มั้ยว่านอนกับใคร”

“ผมจะเรียกชื่อคุณทั้งคืนเลยครับคืนนี้ คุณน้ำ มารีน”

ผมบิดพุงโน่อีกรอบ ขยันทำให้คนอื่นเขินเก่งนัก โน่คว้ามือผมออกจากพุงเขาเเล้วเอามันไปวางบนบ่าเเทน เขาพลิกตัวมากักขังผมไว้ตรงกลางระหว่างเเขนเเกร่งทั้งสองข้าง

เราสบตากันอีกครั้ง เขาลดหน้าลงมาคงหมายปากผมไว้ แต่โดนสกัดด้วยนิ้วชี้

“ปิดไฟหน่อย”

โน่ยิ้มตาหนีอีกเเล้ว เกลียดจังอ่ะ เเต่เขาก็ยอมเอื้อมมือไปหยิบรีโมทควบคุมไฟของทั้งห้องมากด

“เอาสลัวๆ ได้มั้ย อยากเห็นหน้าน้ำตอนทำ”

โน่ไม่ยอมให้ผมตอบ ริมฝีปากร้อนปรนเปรอจูบให้ลงมาอีกรอบ ก่อนจะใช้จมูกซุกไซร้ไปทั่วลำคอ บางครั้งก็จั๊กจี้ บางครั้งก็วาบหวาม ยอดอกถูกครอบครอง ความรู้สึกเสียววูบวาบเข้ามาทักทายทันที ผมไม่เคย ผมไม่รู้ว่ามันจะพลุ่งพล่านได้มากขนาดนี้ เพียงแค่ลิ้นของผู้ชายคนนึงจะแตะโดนจุดกลมๆ ที่หน้าอกของเรา

โน่ค่อยๆ ถอดเสื้อออกจากตัวผม ตามด้วยกางเกงขายาว เเละชั้นในตัวจิ๋ว เขาจูบลงไปบนส่วนอ่อนไหว ที่ทำให้ผมหน้าเเดงซ่าน จากนั้นเขาก็จูบไล่ไปตรงเนื้ออ่อนๆ ที่ต้นขาด้านใน ผมบิดตัวจะเป็นจะตาย ยกมือขึ้นมาปิดหน้า บางครั้งก็ต้องเอามาปิดปาก เพราะอยู่ๆ เสียงปะหลาดก็หลุดรอดจากลำคอ

ทั้งเขินทั้งรู้สึกวาบหวาม...เกินไป

ฝ่ามือที่ทั้งใหญ่และร้อนวางลงตรงหัวเข่า บีบคลึงแล้วก็ดันให้เเยกออก ผมไม่กล้าสบตาโน่อีกต่อไป ได้ยินเพียงเสียงเขาถอดกางเกงแล้วก็...

“Shit!”

เสียงสบถทำให้ผมลืมตาอีกครั้ง เห็นหน้าโน่เหมือนหงุดหงิดอะไรขึ้นมาสักอย่าง

“เป็นอะไร น้ำไม่โอเคหรอ” ผมถาม ทำเอาเสียความมั่นใจไปนิด

เขาก้มลงมาจุ๊บปาก ใบหน้าดุดันเมื่อครู่คลายลงคงกลัวผมเสียใจ

“ไม่มีคอนด้อม ไม่คิดว่าจะได้ฟีทเจอริ่งกับใครช่วงนี้”

ผมพยักหน้านึกขำกับผู้ชายตัวใหญ่ๆ ที่ตอนนี้ทำหน้างอเเงเหมือนเด็ก ยกมือข้างหนึ่งขึ้นไปลูบไหล่เขาเบาๆ เพื่อปลอบ

“ในกระเป๋าตังค์เรามี ไปเอาดิ”

“น้ำ!!” โน่ขึ้นเสียงดังใส่ผมแล้วก้มลงมาฟัดซอกคออย่างไม่เบาเลย แถมยังงับแก้มงับหูเสียจนจั๊กจี้ไปหมด “พกไว้ใช้กับใครห๊ะ!?”

“ก็ Safe Sex มั้ยละ”

โน่ก้มลงมาจุ๊บปากผมเสียงดังๆ อีกที ก่อนจะผละตัวไปหยิบอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในกระเป๋าตังค์ผม ไม่นานเขาก็เดินกลับมาที่เตียงด้วยซองสี่เหลี่ยมลายหมีสีน้ำตาลดูคิกขุไม่เข้ากับใบหน้า

“ไซส์น้ำ โน่จะใส่ได้มั้ย”

“ไหนดูสิใหญ่แค่ไหนกันเชียว” โน่นั่งอยู่ตรงช่วงขาผมพอดี เลยนึกซนยกนิ้วเท้าไปลูบเป้าเช็กไซส์ของคนขี้อวด

“ได้หมาน้ำได้ จะเอาให้ร้องขอชีวิต”

เขาหยิบข้อเท้าผมออกจากตรงนั้น แล้วลากมันให้ไปวางอยู่อีกด้านของตัวเขา โน่คุกเข่าดึงกางกางของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว แล้วบางอย่างในกางเกงในมันก็ตุงเสียจนผมหน้าร้อนผ่าว โน่เกี่ยวปราการชั้นสุดท้ายลงอย่างเชื่องช้า แต่จังหวะที่มันไหลผ่านสะโพก เจ้าตัวขี้โอ่ก็ดีดเด้งออกมาราวกับมีชีวิต

ผมกลืนน้ำลายเอื้อกลงคอ หรือต้องร้องขอชีวิตตั้งแต่มันยังไม่สอดใส่เข้าไป

“เล็กขนาดนี้ใส่เข้าไปแล้วมันจะหลุดออกมาเองป่ะ” ถึงใจจะกลัว แต่ปากก็ยังแกว่งหาประสบการณ์เสียว

“น้ำครับ” เขาดุเสียงต่ำ ผมยิ้มอย่างได้ใจ

“อย่ารัดโน่จนไม่ปล่อยก็เเล้วกัน” ดูเจ้าตัวโตสิทำไมขี้อวดจัง

ผมฟาดฝ่ามือลงไปบนหน้าอกเขาที่พูดเรื่องน่าอายออกมาได้หน้าตาเฉย

“มันจะเข้าได้จริงๆ ใช่มั้ยโน่” กลับมาที่ความเป็นจริงผมก็กลัวแหละ

“ไว้ใจโน่สิ จะทำให้เจ็บน้อยที่สุด” โน่เอื้อมตัวไปเปิดลิ้นชักเขาหยิบขวดเจลออกมาเทใส่ฝ่ามือ ผมเห็นแล้วต้องย่นคิ้ว

มองอย่างสงสัย

“อันนี้ซื้อไว้นานแล้ว ซื้อมาจากญี่ปุ่นนั้นแหละ”

“นิสัย” นี่กะเผด็จศึกใครกัน

“ซื้อมาไว้ใช้กับน้ำนั้นแหละ นึกว่าจะหมดอายุก่อนได้ใช้แล้วเนี่ย”

“นิสัยหื่น”

โน่ยิ้ม เขาก้มลงมาหอมแก้มผมแล้วจากนั้นก็ไถตัวลงไปตรงหว่างขา รั้งสะโพกของผมขึ้นให้วางบนตักเขา มันเป็นท่าที่รู้สึกอายจนต้องคว้าหมอนหนุนอีกใบมาปิดหน้า

“น้ำ เดี๋ยวหายใจไม่ออก ไฟก็มืดแล้วไง”

“รีบทำเหอะน่า” ผมเกรี้ยวกราดแต่แล้วก็ต้องรีบกัดปากกลั้นเสียงบางอย่าง

โน่จูบผมจนเบลอ จนลืมไปว่ากำลังถูกรุกราน เราใช้เวลาครู่หนึ่งในการปรับสภาพให้ของสองสิ่งที่ไม่เคยเเตะต้องกันมาก่อนอยู่ร่วมกันได้

ผมอึดอัดไม่น้อย ส่วนโน่ก็กัดฟันเเน่นจนเห็นสันกรามคมชวนบาดมือ เราพยายามยิ้มให้กำลังใจกัน เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้มันต้องดีงามไม่น้อย (ไม่งั้นคนทั่วโลกจะชอบกันหรอ)

“พร้อมนะน้ำ”

ไอ้โน่บ้า จะขยับก็ทำสิ จะมาถามกันเพื่อ ผมเบือนหน้าไปอีกทางเพื่อเเก้เขิน แต่โน่ไม่ปล่อย มือใหญ่ล็อคคางผมให้กลับมาสบตาเขาเหมือนเดิม

“อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อย่าหลบกัน โอเค๊?”

ใครจะหน้าด้านหน้าทนขนาดนั้นกันเล่า

โน่เริ่มขยับ จากที่คับเเน่นมากๆ ในตอนเเรกมันก็เริ่มโอเคขึ้น ผมรู้สึกหวิวทุกครั้งเมื่อเขาเคลื่อนตัว เเล้วไหนจะส่วนตรงนั้นที่โน่เอาไปรูดเค้นให้ด้วย ฮือ...รู้สึกดีเเบบจะตายเอา

“อ่าห์~น้ำ” โน่ปล่อยเสียงหนักๆ ออกมา มันทำให้ผมใจเต้น ใบหน้าเขาเหมือนจะเกร็ง เส้นเลือดที่เเขนก็ขึ้นเต็มเลย ผมอมยิ้มนึกสนุก เลยผงกหัวขึ้นจุ๊บๆ ที่หน้าอกเขาบ้าง โน่คงหมั่นเขี้ยว เลยเปลี่ยนท่าเป็นนั่งแล้วให้ผมอยู่คร่อมบนตักเขา

“ซนนัก ขยับเองเลย”

“โน่ใจร้าย ครั้งเเรกของเรานะ”

คำว่าครั้งเเรกคงทำให้เขาฮึกเหิมอะ ผมรู้สึกได้ถึงไอ้เจ้าหนอนยักษ์ที่เต้นระริกอยู่ภายใน ผมตามใจเขาก็ได้ กอดคอเขาไว้แล้วออกเเรงขยับสะโพกตามที่เคยดูในหนัง เรื่องแบบนี้เราก็ต้องศึกษากันมาล่วงหน้าบ้างอะเนาะ เด็กผู้ชายยุคที่เข้าถึงอินเตอร์เนตทุกวันอย่างเราๆ จะมาเขินอายมุดผ้าห่มหนีกันเป็นหนังอินเดียก็ใช่ที่

“เก่งจัง” โน่ชม ผมได้ใจขยับใหญ่เลย เขาหัวเราะเเล้วเอามือมาประคองสะโพกผมไว้ ช่วยกำกับจังหวะให้บ้างในบางที

เราสนุกด้วยกันอีกพักใหญ่ ร่างกายก็เริ่มส่งสัญญาณว่าจะทนไม่ไหว ไม่ใช่เหนื่อยครับ แต่มวลเมฆอัดแน่นใกล้กลั่นตัวเป็นฝนแล้ว

โน่ผลักร่างผมให้นอนหงายลงกับพื้นเตียง ดึงขาข้างหนึ่งไปพาดไว้กับลำตัว ก่อนจะกอดรัดมันไว้เเน่นเป็นหลักยึด เพื่อให้ย้ำตัวเองลึกลงมาในตัวผมมากขึ้น แล้วขยับเอวช้าๆ แต่ทว่ากดย้ำลงได้ตรงจุด

“โน่~น้ำเสียว เสียวไป”

“เเล้วดีรึเปล่า”

ผมกัดริมฝีปากเขินๆ ก่อนจะพยักหน้า

โน่ยิ้ม เขาขยับเอวให้เเรงขึ้นจนผมหายใจเเทบไม่ทัน สองมือกำเเน่นกับผ้าปูที่นอน จังหวะการเคลื่อนตัวที่ทั้งเร็วเเละเเรงทำให้ช่องทางด้านหลังร้อนผ่าวราวกับเป็นเพลิงกัลป์ที่จะเผาผลาญเราสองคนให้ตายไปในกองไฟเเห่งความสุขสม

เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง สอดผสานไปกับเสียงกรีดร้องที่บางครั้งผมก็ห้ามตัวเองไม่ไหว โน่ครางต่ำๆ เป็นระยะ หน้าท้องเราสองคนหดเกร็งไม่ต่างกัน

“น้ำ..” เขาเรียก ผมรู้ว่าอะไรกำลังจะมา

“อื้อ..”

โน่ขยับตัวช่วงสุดท้ายอีกครั้ง แล้วความรู้สึกทั้งหมดก็ทะลักทลายออกมาเป็นหลักฐานว่า...โน่ร้อนเเรงสมชื่อพระเพลิงจริงๆ

“ปล่อยโน่ได้ยัง” เขาก้มลงมาถามที่ข้างแก้ม ทั้งที่เราสองคนยังหายใจหอบแรงๆ ไม่หาย

“ก็ออกไปสิ” ผมว่าเขา

“น้ำเเน่นมากจริงๆ รัดโน่ไม่ปล่อยเลย”

“ปากร้ายกาจ”

เสียงจูบหยาบโลนดังแทนที่บทสนทนาของเรา โน่ยังไม่ถอนตัวออกไป และผมเริ่มรู้สึกได้ว่าเขาพร้อมทำศึกอีกรอบแล้ว

“รอบสอง ไหวมั้ยครับ”

ไอ้โน่คนเลว ผมทำหน้ามู่ทู่ใส่แล้วย้ายสะโพกหนีจากเจ้าสิ่งใหญ่โตที่เข้ายึดพื้นที่ของคนอื่นอย่างน่าไม่อาย แต่พอสิ่งที่เคยคับแน่นหายไป เจ้าปากทางไม่รักดีก็เหมือนจะขยับมุบมิบโหยหาให้มาเติมเต็มอีกรอบ

ผมเลยนอนคว่ำรอ

“ได้น้ำได้ ท่านี้เขาว่าลึกกว่าเดิมนะ”

ผมอยากหันไปด่า เเต่อย่างว่าละนะเด็กผู้ชายวัยคะนองก็ต้องอยากรู้อยากลองเป็นธรรมดา ผมเลยตั้งเข่าขึ้น แนบใบหน้าไปกับหมอนเเล้วหันไปยักคิ้วใส่ตากับโน่อย่างท้าทาย เจ้าหมายักษ์โผเข้ามาสนอง เขารัดตัวผมเเน่นจนเเผ่นหลังเเนบอกกว้าง หัวใจเราสองคนยังเต้นเร็วอยู่เลย ผมหันหน้าไปจูบโน่ ไม่รู้ทำไมต้องทำให้มันลำบาก แต่ก็อยากลองท่าที่เขาว่าลึกและรู้สึกรุนเเรงเหมือนที่โน่บอกนั้นเเหละ เจ้าหนอนยักษ์มุดๆ เข้ามาในตัวผมง่ายกว่าครั้งเเรก

เราบรรเลงท่วงทำนองเเสนหวานร่วมกันอีกครั้ง...จะว่าไปมันก็เป็นบทเพลงที่ไพเราะดีนะ



วันรุ่งขึ้นผมเเละโน่ขาดเรียน ผมไม่ได้มีไข้หรือบาดเจ็บอะไรเหมือนที่เขาเป็นๆ กันหรอก เพราะเมื่อคืนโน่ก็ห้ามใจไว้เเค่สองรอบเท่านั้น เขารอให้ร่างกายผมชินก่อน เเล้วถ้าจะผาดโผนกันมากกว่านี้ก็ค่อยลอง เเต่ด้วยความรู้สึกหวานๆ ที่มันโอบล้อมรอบตัวอยู่ ทำให้เราสองคนไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงไปยอมรับสภาพความเป็นจริงเท่าไหร่

โน่เปิดโทรศัพท์อีกครั้ง และก็เห็นข้อความเเจ้งเตือนสายจากนางฟ้านับสิบข้อความเขาถอนหายใจ เเล้วเอาภาพเค้กวันเกิดจากกล้องผมไปลงโซเชียลแทน

‘จากคนพิเศษ’

โน่เขียนเเคปชั่นเเบบนั้น ผมนี่อยากจะไปเขียนเเฉว่าเดินลงจากรถไปซื้อเองชัดๆ แต่พอมานึกดูอีกที ถ้าผมเป็นนางฟ้าคงหน้าชาอ่ะ เพราะเค้กที่โน่ลงมันหน้าตาไม่เหมือนที่เธอสั่งทำมาพิเศษเลย

“สงสารนางฟ้า” ผมเปรยเบาๆ

“ก็เเค่อยากลงไว้เป็นความทรงจำว่าปีนี้เราอยู่ด้วยกัน”

ผมย่นจมูก “ไม่เอารูปคู่เราลงไปเลยล่ะ”

“หือ นิสัยเเย่กว่าโน่อีกนะน้ำอ่ะ”

ได้ทีว่าผมใหญ่ ผมเบี่ยงตัวหลบออกจากเจ้าตัวโต แต่เขาก็มาคว้าเอวผมไปคลอเคลียไว้กับตัวเหมือนเดิม ร่างกายของเราเปลือยเปล่า แล้วก็เกี่ยวก่ายกันอยู่ใต้ผ้านวมที่นุ่มหนา มันสบายไปหมด จนลืมเรื่องน่าหงุดหงิดใจไปชั่วครู่

นางฟ้าโทรมาอีกแล้ว

บางทีผมก็ยอมรับในความตื้อเก่งของผู้หญิงนะครับ

โน่ไม่รับ และปิดโทรศัพท์เหมือนเดิม

“เดี๋ยวก็ตามไปถึงบ้านหรอก”

“โน่ไม่เคยพาไปบ้าน แล้วก็ไม่เคยพามาที่นี่ จะไปตามที่ไหน”

“เค้าอาจเป็นห่วงส่งข้อความไปบอกก็ยังดี”

“เอามือถือมา”

“อย่ามานิสัยไม่ดีนะโน่”

ขืนเอาโทรศัพท์ผมไปตอบ มีหวังนางฟ้าได้เกลียดผมพอดี

แล้วพูดไม่ทันขาดคำเบอร์นางฟ้าก็โชว์หราบนเครื่องผม รับดีหรือไม่ โทรศัพท์กลายเป็นของร้อนไปเลยสำหรับเราสองคนตอนนี้

“รับสิ” โน่เอาจมูกดุนมือผม

“แล้วเปิดสปีกเกอร์ เดี๋ยวโน่ตอบด้วย”

กดรับก็ได้

“โน่อยู่กับน้ำหรือเปล่า”

“นางฟ้านี่โน่นะ”

“อ๋อ เราเเค่เป็นห่วง ถ้าอยู่กับน้ำก็ไม่เป็นไร แค่นี้นะ”

วางไปเลย งงมั้ยละ

“เดี๋ยวโน่คงไปคุยต่อหน้าอ่ะ เเต่วันนี้ขอฟัดน้ำให้หนำใจก่อนดีกว่า”

“เลยวันเกิดเเล้วเหอะ ไม่ตามใจ” ผมยันหน้าไอ้หมาตัวใหญ่ออกห่างลำตัว

“กอดเฉยๆ ก็ได้” โน่ต่อรอง

“หิวเเล้ว ไปหาข้าวมาให้กินเลย” ผมต่อรอง โน่พยักหน้าทันที เขาลงจากเตียงไปโดยไม่ใส่เสื้อผ้า อุจาดตาจัง เเถมยังมีหน้าหันมายักคิ้วใส่อีก ผมปาหมอนใส่โน่อย่างหมั่นไส้ เขาถึงยอมเดินไปหยิบกางเกงวอร์มมาใส่ รอไม่นานก็มีข้าวต้มหอมกรุ่นมาเสิร์ฟถึงเตียง โน่เอาโต๊ะญี่ปุ่นมากางให้บนเตียงนั้นเเหละ

ไม่ต้องคิดนะครับว่าโน่จะหล่อแล้วก็ทำอาหารเป็นอีก คนที่ไหนมันจะ full option ขนาดนั้น

“ป้าน้อยทำมาให้หรอ”

ร่างสูงพยักหน้ารับ

“แล้วโน่ไม่กินหรอ”

“กินด้วยกันได้มั้ย”

“ไปเอาช้อนมาอีกคันสิ”

“น้ำป้อน กินกับน้ำ”

งอเเงไปแล้วเจ้าตัวโต ผมทำหน้าดุ แล้วชี้ไปที่ครัว โน่ยอมล่าถอยไปแต่โดยดี เพราะไม่อยากโดนผมฟาดใส่ เราทำตัวไร้สาระกันไปจนถึงบ่าย จึงค่อยออกมาซื้อของใช้ด้วยกันที่ซุปเปอร์มาเก็ต ไม่ต้องบอกนะครับว่าเจ้าโน่ซื้ออะไร



- TBC -





แฮ่!!! 

เชื่อว่ามีเเม่ๆ หลายคนกำก้านมะยมเเน่น น้องน้ำยื่่นน่องออกมาให้เเม่ฟาดเดี๋ยวนี้ 

ตอนนี้รู้สึกยังไง แชร์กันมาได้เลยนะคะ รู้สึกยังไงกับโน่กับน้ำบ้าง แบบคิดว่าน้องทำถูกมั้ย หรือไม่ยังไงคุยกันได้เลยค่า 

#พระเพลิงมารีน 

ไปเล่นเเท็กเร็ว 

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
น่าจะรอให้เคลียร์เรื่องฟ้าก่อน แต่เอาเถอะหวังว่าฟ้าจะเข้าใจโน่ เพราะโน่ก็แสดงออกชัดเจนแล้วที่การกระทำเหลือแต่คำพูดเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าโน่จะกล้าที่จะพูดเมื่อไหร่

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 24



ตั้งเเต่วันเกิดโน่ นางฟ้าก็ไม่ได้มาดูตอนวงคณะซ้อมอีก แถมช่วงนี้ก็เป็นโค้งสุดท้ายแล้วก่อนวันเเข่งขันจริง ขนาดผมไม่ได้เป็นคนขึ้นเวทียังตื่นเต้นเลย

โน่กับผมคุยกันมากขึ้นตอนซ้อมเเต่เราก็ไม่ได้เเสดงท่าทีประเจิดประเจ้ออะไรมากให้คนอื่นรู้ถึงความสัมพันธ์ลับๆ เพราะผมยังไม่ได้ตกลงเป็นเเฟนกับโน่

“ถ้าชนะครั้งนี้เป็นแฟนกันนะ โน่ชนะมาทุกเวทีแล้ว ยกเว้นแต่ใจน้ำนี้เเหละที่เอาชนะไม่ได้สักที”

เจ้าตัวโตพูดกับผมในวันที่เราอยู่ด้วยกันในห้องสองต่อสอง ผมยิ้มรับ บอกให้เขาสู้ๆ เอาเถอะ รอให้เขาชนะเเล้วผมค่อยตอบตกลงก็ไม่สาย



ในที่สุดวันเเข่งขันก็มาถึง มีวงจากมหาวิทยาลัยอื่นมาร่วมด้วยมากมาย ห้องพักศิลปินเเบ่งเป็นเต้นท์ๆ หลังเวทีกลางเเจ้ง แต่ทว่ามันก็ไม่ได้ร้อนอะไร เพราะอยู่ใต้ร่มไม้ และมีพัดลมไอน้ำช่วยระบายอากาศ ผมเดินไปทักทายขิงอดีตเพื่อนร่วมวงซึ่งเป็นตัวเเทนจากมหาวิทยาลัยอื่นมาแข่ง พวกเราเดินไปซื้อขนมและน้ำปั่นเจ้าอร่อยกันที่โรงอาหาร แล้วก็นึกได้ว่าช่วงนี้โน่ชอบกินชาเขียวปั่น (ถึงมันจะไม่ได้ต่อเสียงเพราะเย็นจัดก็เถอะ) แต่มีเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะเเข่ง ซื้อไปฝากคงไม่เป็นไร

“พี่ดาริณมาป่ะ”

ขิงส่ายหน้า “ปั่นงาน”

“มึงไม่งอนหรอ”

เพื่อนส่ายหน้าอีก “เลยคำนั้นไปเเล้ว โตๆ กันเเล้วอ่ะ รู้เเค่ว่าเขาให้กำลังใจอยู่ก็โอเค”

“หล่อสัส”

“สมเป็นกู”

“เออสมเป็นมึงขิง”

พวกเราเดินคุยกันมาเรื่อยเปื่อย เมื่อถึงเต้นท์หลังเวทีเราก็แยกกัน ผมเดินไปเต้นท์ที่พักของวง แต่ยังไม่ทันเดินเข้าไปทักทายสมาชิกทั้งห้า สายตาก็เหลือบไปเห็นคนสองคนที่ยืนอยู่ในมุมอับเสียก่อน

โน่กับนางฟ้าที่ในมือถือเเก้วชาเขียวปั่นจากร้านดัง

อ่ะ...ช้าตลอด เเก้วในมือผมเลยก้มลงดูเองเเก้ความหงุดหงิด

แล้วที่พีคกว่า โน่ก้มลงจูบนางฟ้าที่หลับตาพริ้มมันเป็นการเเตะปากการเร็วๆ เเล้วก็เเยกออก แต่ก็เข้าใจได้ว่านั้นเรียกว่าจูบ แล้วสองร่างก็โผเข้ากอดกันเเน่นๆ อีกรอบ ผมตัวเเข็งทื่อ ใจวูบดิ่งเหมือนลิฟต์ที่กำลังวิ่งขึ้นตึกสูงเเล้วอยู่ๆ ก็สายสลิงขาด

คืนวันเกิดที่ผ่านมาผมฝันไปหรอ

คำพร่ำบอกรัก คำสัญญาในคืนนั้นหรือเป็นผมเองที่ละเมอไปคนเดียว

ขาไม่รักดีก้าวถอยออกมาอย่างยากลำบาก ผมเดินออกไปนั่งอยู่ไกลๆ จากพื้นที่แข่งขัน ใช้โรงอาหารคณะตัวเองเป็นที่หลบภัย กะว่าใกล้ๆ ขึ้นคอนเสิร์ตแล้วค่อยไปให้กำลังใจพวกพี่เคนทีเดียว

โน่ไลน์มาหาหลายครั้ง ผมตอบไปแค่ว่าแวะไปช่วยงานด่วนอาจารย์เมธีที่คณะ

พอถึงช่วงเเข่งขัน ผมค่อยเดินไปที่เต้นท์ด้านหลังเวที ทักทายทุกคนแล้วก็ชวนกันบูมเพิ่มพลัง ทุกคนไล่กอดให้กำลังใจกัน แล้วก็วนมาถึงผมกับโน่ ผมไม่อยากกอดเขาเลยให้ตาย

“รอดูโน่ด้วยนะ จะเอาที่หนึ่ง มาให้ได้เลยคอยดู น้ำอย่าลืมสัญญานะ”

ผมพยักหน้าด้วยใจที่หนักอึ้ง แล้วตบไหล่เขาเบาๆ ก่อนจะหันหลังออกมา ผมเลี่ยงไปยืนโซนหลังคนดูทั้งหมดเพราะยังไม่มีอารมณ์จะคุยหรือเจอใครตอนนี้

การเเสดงของแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นไปอย่างสูสี แล้วคนที่มาเชียร์ก็ดูสนุกกันมากเพราะทุกเพลงจากบนเวทีล้วนเป็นเพลงยอดนิยมที่เล่นกันจนพรุนมาทุกผับบาร์เเละร้านเหล้า พอทุกคนร้องตามได้มันก็กลายเป็นคอนเสิร์ตที่น่าประทับใจอันหนึ่ง

วงจากมหาวิทยาลัยเจ้าภาพขึ้นเป็นวงสุดท้าย โน่โดดเด่ดท่ามกลางเเสงไฟ เขาเจิดจรัสเเบบนี้มาตั้งเเต่มัธยม เป็นเป้าสายตา และก็สร้างความสนใจให้ทุกคนได้เสมอ สมกับเป็นเปลวเพลิงที่จะล่อลวงเเมงเม่าทุกตัวเข้าไปติดกับ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมสนใจโน่เพราะเขาทำตัวโดดเดี่ยวจนน่าหมั่นไส้ ขวางโลกเสียจนกลัวว่าจะไม่มีเพื่อน เเต่พอคราวอ่อนเเอก็อยากจะโอบกอดเขาไว้แล้วบอกเขาซ้ำๆ ว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก

ผมเริ่มไม่รู้เเล้วว่าที่ผ่านมาทั้งหมดมันคือสถานการณ์ที่โน่สร้างมาให้ผมนึกสงสารหรือเปล่า ล่อลวงให้ผมเข้าไปติดอยู่ในกับดักหัวใจ หลงรักจนยอมเชื่อคำพูดเขาทั้งหมดแล้วมอบให้เขาทุกอย่าง

คิดมาถึงตรงนี้หัวใจผมก็ดิ่งลงเหวอีกครั้ง รอบตัวผมเงียบสงัด ไม่ได้ยินเเม้เเต่เสียงเพลงที่โน่ขับร้องออกมา รวมถึงสายตาที่พล่าเบลอ

น้ำตากำลังไหล ผมเสียใจที่ตัวเองหลงเชื่อไปกับคำของโน่ซ้ำๆ เขาบอกว่าจะเลิกกับนางฟ้าให้ผมมาสามครั้งเเล้ว เขาบอกเขาเลือกผม แต่ที่จริงมันไม่ใช่เลย ผมคิดไปเอง ผมคิดไปเอง...

ขอบคุณตัวเองที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้จนจบ ผมรอฟังพิธีกรประกาศรางวัล มหาวิทยาลัยขิงได้ที่ 3ที่สองเป็นของใครผมไม่ได้ฟัง และที่หนึ่งตกเป็นของ...โน่

อ่า...ผมยังต้องทำตามสัญญามั้ย

บนเวทีพิธีกรกำลังสัมภาษณ์วงที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ

“เพราะว่ามีนางฟ้ามาให้กำลังใจรึเปล่าครับน้องโน่ การเเสดงวันนี้เลยสุดยอดไปเลย” พิธีกรเอ่ยเเซว โน่ยิ้มๆ ไม่ได้ตอบอะไร

“และผมก็ทราบมานะครับ ว่าทั้งคู่เป็นเเฟนกันตั้งเเต่ตอนเเข่งขันที่ญี่ปุ่น ยังไงก็ขอเชิญน้องนางฟ้าขึ้นมาบนเวที เพื่อกล่าวอะไรกับน้องโน่สักหน่อยครับ”

เสียงโห่เเซวดังลั่น เพราะเเฟนคลับของทั้งคู่ก็มีไม่น้อย บอกเเล้วว่านางฟ้าเป็นคนน่ารัก ตอนคบกับโน่ก็มีเเต่ภาพลักษณ์ดีๆ เเสดงออกไป เลยไม่มีใครแอนตี้การเป็นเเฟนของทั้งคู่

ผมเห็นเเบบนั้น ก็หันหลังกลับ โชคดีที่ลานกิจกรรมอยู่ใกล้ประตูมหาวิทยาลัย วิ่งไม่เท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงบนเวทีเเล้ว ผมขึ้นรถเเท็กซี่แล้วตรงกลับบ้านให้ไวที่สุด



เเละเพราะน้ำจากไปโดยไม่รอฟัง สิ่งที่นางฟ้ากำลังจะพูดบนเวทีคือ...

“น้องนางฟ้ามีเทคนิคให้กำลังใจน้องโน่ยังไงครับ” พิธีกรชงมาได้จังหวะ

นางฟ้าเล่าว่าก่อนขึ้นคอนเสิร์ตเธอเอาน้ำปั่นที่โน่ชอบมาให้กินตามปกติเหมือนทุกวัน เเต่สิ่งนั้นไม่ใช่กำลังใจที่ดีที่สุดที่เธอมอบให้โน่หรอก

กำลังใจที่ดีที่สุดคือการ ‘คืนอิสระให้โน่’ ภายใต้เงื่อนไขต้องชนะการเเข่งขันครั้งนี้เท่านั้น!!

“คืนอิสระคืออะไรครับ” ทั้งพิธีกรกับคนด้านล่างคุยกันอื้ออึง

“นางฟ้าพึ่งมารู้ตัวไม่นานนี้เองค่ะ ว่าเราเป็นเพื่อนกันดีที่สุด ไม่ควรเป็นคนรัก เพราะคนที่อยู่ในใจโน่มาตลอดคือน้ำ..เค้าเป็นเพื่อนอีกคนในวงเราค่ะ เคยเล่นดนตรีมาด้วยกันแต่ต้องหยุดเล่นไปด้วยปัญหาสุขภาพ”

“อ่า ครับ” เสียงถกเถียงกันเริ่มดังเป็นระลอก เด็กๆ ที่เคยอยู่โรงเรียนบันเทิงศิลป์ยิ่งคุยกันออกรส เพราะคู่น้ำโน่ก็เคยชิปกันอยู่สมัยมัธยม

“นางฟ้าได้คบกับโน่ เพราะเกิดอุยัติเหตุระหว่างการแข่งขันที่ญี่ปุ่นนิดหน่อย โน่เขาเป็นสุภาพบุรุษมากๆ เลยให้สถานะแฟนมาค่ะ”

“ครับ”

“ซึ่งจริงๆ ตอนนี้คนที่ควรขึ้นมากล่าวเเสดงความยินดีกับโน่น่าจะเป็นน้ำมากกว่านะคะ ไม่ใช่หนู”

พิธีกรอ้าปากค้าง เเต่ก็ต้องรีบกลับมาเเก้สถานการณ์

“น้องโน่ สรุปน้องน้ำนี่เป็นใครครับ”

“คนที่ทำให้ผมรู้ว่าปลายทางในชีวิตคืออะไร”

แช่! เสียงเคาะสแนร์จากก็อตจิดังลั่นเวที

“น้ำเป็นคนที่ผมรัก และอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาในทุกๆ วันครับ”

“ทุกคนอยากเห็นหน้าน้องน้ำปลายทางของน้องโน่มั้ยครับ ... ผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังครับ ขอเชิญน้องน้ำบนเวทีครับ”

ปึง ปัง แช่! ซาวน์เอฟเฟ็คที่คนทั้งวงพร้อมใจกันเล่น

แต่...ผ่านไปสักพักน้ำก็ยังไม่เเสดงตัว โน่เองก็ชะโงกมองหา ทั้งด้านหน้าเวที และด้านข้างเผื่อว่าน้ำจะหลบอยู่ในเต้นท์

พิธีกรเห็นท่าไม่ดี เลยยตัดเข้าคิวอื่นไปก่อน “อ่า...สงสัยจะเขินนะครับ งั้นเราเข้าสู่ช่วงต่อไปเลยดีกว่า...”

บนเวทีมีพิธีการมอบรางวัลและถ่ายรูปรวมอีกเกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่โน่ค่อนข้างร้อนรนเนื่องจากเขาไม่รู้ว่าน้ำไปไหน แถมพอลงมาล่างเวทีอาจารย์เมธีเจ้าของโปรเจคต์นี้กับคณะบดีและอาจารย์ประจำคณะอีกหลายท่านก็ลากไปเลี้ยงฉลองอีก โน่ปลีกตัวมาไม่ได้ โทรหาน้ำก็ปิดเครื่อง ไลน์ไปก็ไม่ตอบ

ฝ่ายขิงที่เห็นทุกอย่างมาตั้งเเต่ต้น เขาอัดคลิปตอนที่นางฟ้าคืนอิสระให้โน่ แล้วส่งไปให้น้ำดูทางไลน์เพื่อจะได้สบายใจ แต่อนิจจา...ทุกช่องทางการสื่อสารของน้ำถูกปิด



- TBC -

ตอนหน้าจบแล้วนะคะ เจ้าโน่จะไปตามเคลียร์ยังไง โปรดติดตาม


ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
Chapter 25
   
   ตั้งเเต่วันเกิดโน่ นางฟ้าก็ไม่ได้มาดูตอนวงคณะซ้อมอีก ช่วงนี้ก็เป็นโค้งสุดท้ายแล้วก่อนวันเเข่งขันจริง ได้ข่าวว่าจะมีเพื่อนๆ ในวงเก่าผมมาเเข่งด้วย ก็เริ่มตื่นเต้นนิดหน่อย

   โน่กับผมคุยกันมากขึ้นตอนซ้อมเเต่เราก็ไม่ได้เเสดงท่าทีประเจิดประเจ้ออะไรมากให้คนอื่นรู้ถึงความสัมพันธ์ลับๆ เพราะผมยังไม่ได้ตกลงเป็นเเฟนกับโน่

   “ถ้าชนะครั้งนี้เป็นแฟนกันนะ โน่ชนะมาทุกเวทีแล้ว ยกเว้นแต่ใจน้ำนี้เเหละที่เอาชนะไม่ได้สักที”

   เจ้าตัวโตพูดกับผมในวันที่เราอยู่ด้วยกันในห้องสองต่อสอง ผมยิ้มรับ บอกให้เขาสู้ๆ เอาเถอะ รอให้เขาชนะเเล้วผมค่อยตอบตกลงก็ไม่สาย

   ในที่สุดวันเเข่งขันก็มาถึง มีวงจากมหาวิทยาลับอื่นมาร่วมด้วยมากมาย ห้องพักศิลปินเเบ่งเป็นเต้นท์ๆ หลังเวทีกลางเเจ้ง แต่ทว่ามันก็ไม่ได้ร้อนอะไร เพราะอยู่ใต้ร่มไม้ และมีพัดลมไอน้ำช่วยระบายอากาศ ผมเดินไปทักทายขิงซึ่งเป็นตัวเเทนจากมหาวิทยาลัยอื่น พวกเราเดินไปซื้อขนมและน้ำปั่นเจ้าอร่อยกันที่โรงอาหาร แล้วก็นึกได้ว่าช่วงนี้โน่ชอบกินชาเขียวปั่น (ถึงมันจะไม่ได้ต่อเสียงเพราะเย็นจัดก็เถอะ) แต่มีเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะเเข่ง ซื้อไปฝากคงไม่เป็นไร

   “พี่ดาริณมาป่ะ”
   ขิงส่ายหน้า “ปั่นโปรเจคต์”
   “มึงไม่งอนหรอ”
   เพื่อนส่ายหน้าอีก “เลยคำนั้นไปเเล้ว โตๆ กันเเล้วอ่ะ รู้เเค่ว่าเขาให้กำลังใจอยู่ก็โอเค”
   “หล่อสัส”
   “แน่นอน”

   พวกเราเดินคุยกันมาเรื่อยเปื่อย เมื่อถึงเต้นท์หลังเวที ขิงก็เเยกไปที่ส่วนของตัวเอง ส่วนผมเดินไปเต้นท์ของวงมหาวิทยาลัยตัวเองบ้าง ยังไม่ทันเดินเข้าไปทักทาย สายตาก็เหลือบไปเห็นคนสองคนที่หลังเต้นทื

   โน่กับนางฟ้า ในมือถือเเก้วชาเขียวป่ันจากร้านดัง

   อ่ะ...ช้าตลอด เเก้วในมือผมเลยก้มลงดูเองเเก้ความหงุดหงิด

   แล้วที่พีคกว่า โน่ก้มลงจูบนางฟ้าที่หลับตาพร้ิมมันเป็นการเเตะปากการเร็วๆ เเล้วก็เเยกออกจากกัน แต่ก็เข้าใจได้ว่านั้นเรียกว่าจูบ แล้วสองร่างก็โผเข้ากอดกันเเน่นๆ อีกรอบ ผมตัวเเข็งทื่อ ใจวูบดิ่งเหมือนลิฟต์ที่กำลังวิ่งขึ้นตึกสูงเเล้วอยู่ๆ ก็สายสลิงขาด

   คืนวันเกิดที่ผ่านมาผมฝันไปหรอ
   คำพร่ำบอกรัก คำสัญญาในคืนนั้นหรือเป็นผมเองที่ละเมอไปคนเดียว
   ขาไม่รักดีก้าวถอยออกมาอย่างยากลำบาก ผมเดินออกไปนั่งอยู่ไกลๆ ที่โรงอาหารคณะตัวเอง วันเเบบนี้ทุกคนก็ไปกองกันอยู่ที่โซนลานกิจกรรมทั้งหมด ตรงนี้เลยกลายเป็นที่หลบภัยชั้นดี กะว่าใกล้ๆ ขึ้นคอนเสิร์ตแล้วค่อยไปให้กำลังใจพวกพี่เคนทีเดียว


   ผมทำตามที่คิด เพราะพอถึงช่วงเเข่งขัน ผมก็ไปชวนทุกคนบูมก่อนส่งขึ้นเวที ทุกคนไล่กอดให้กำลังใจกัน แล้วก็วนมาถึงผมกับโน่ ผมไม่อยากกอดเขาเลยให้ตาย

   “รอดูโน่ด้วยนะ จะเอาที่ 1 มาให้ได้เลยคอยดู น้ำอย่าลืมสัญญานะ”

   ผมพยักหน้าด้วยใจที่หนักอึ้ง แล้วตบไหล่เขาเบาๆ ก่อนจะหันหลังออกมา ผมเลี่ยงไปยืนโซนหลังๆ เพราะยังไม่มีอารมณ์จะคุยหรือเจอใครตอนนี้

   การเเสดงของแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นไปอย่างสูสี แล้วคนที่มาเชียร์ก็ดูสนุกกันมาก เพราะทุกเพลงที่เปล่งเสียงออกมาจากบนเวทีล้วนเป็นเพลงยอดนิยม ที่เล่นกันจนพรุนมาทุกผับบาร์เเละร้านเหล้า พอทุกคนร้องตามได้มันก็กลายเป็นคอนเสิร์ตที่น่าประทับใจอันหนึ่ง มหาวิทยาลัยเจ้าภาพขึ้นเป็นวงสุดท้าย โน่โดดเด่ดท่ามกลางเเสงไฟ เขาเจิดจรัสเเบบนี้มาตั้งเเต่มัธยม เป็นเป้าสายตา และก็สร้างความสนใจให้ทุกคนได้เสมอ สมกับเป็นเปลวเพลิงที่จะล่อลวงเเมงเม่าทุกตัวเข้าไปติดกับ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมสนใจโน่เพราะเขาทำตัวโดดเดี่ยวจนน่าหมั่นไส้ ขวางโลกเสียจนกลัวว่าจะไม่มีเพื่อน เเต่พอคราวอ่อนเเอก็อยากจะโอบกอดเขาไว้ แล้วบอกเขาซ้ำๆ ว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก

   ผมเริ่มไม่รู้เเล้วว่าที่ผ่านมาทั้งหมดมันคือสถานการณ์ที่โน่สร้างมาให้ผมนึกสงสารหรือเปล่า ล่อลวงให้ผมเข้าไปติดอยู่ในกับดักหัวใจ หลงรักจนยอมเชื่อคำพูดเขาทั้งหมด แล้วมอบให้เขาทุกอย่าง

   คิดมาถึงตรงนี้หัวใจผมก็ดิ่งลงเหวอีกครั้ง รอบตัวผมเงียบสงัด ไม่ได้ยินเเม้เเต่เสียงเพลงที่โน่ขับร้องออกมา รวมถึงสายตาที่พล่าเบลอ

   ผมไม่ได้กำลังจะเป็นลมแต่ผมกลับกำลังน้ำตาไหล ผมเสียใจที่ตัวเองหลงเชื่อไปกับคำของโน่ซ้ำๆ เขาบอกว่าจะเลิกกับนางฟ้าให้ผมมาสามครั้งเเล้ว เขาบอกเขาเลือกผม แต่ที่จริงมันไม่ใช่เลย ผมคิดไปเอง ผมคิดไปเอง...

   ขอบคุณตัวเองที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้จนจบ ผมรอฟังพิธีกรประกาศรางวัล มหาวิทยาลัยขิงได้ที่ 3 ที่สองเป็นของใครผมไม่ได้ฟัง และที่หนึ่งตกเป็นของ...โน่

   อ่า...ผมยังต้องทำตามสัญญามั้ย
   
   “…”

   “เพราะว่ามีนางฟ้ามาให้กำลังใจรึเปล่าครับน้องโน่ การเเสดงวันนี้เลยสุดยอดไปเลย” พิธีกรเอ่ยเเซว โน่ยิ้มๆ ไม่ได้ตอบอะไร

   “และผมก็ทราบมานะครับ ว่าทั้งคู่เป็นเเฟนกันตั้งเเต่ตอนเเข่งที่ญี่ปุ่น ยังไงก็ขอเชิญน้องนางฟ้าขึ้นมาบนเวที เพื่อกล่าวอะไรกับน้องโน่สักหน่อยครับ”

   เสียงโห่เเซวดังลั่น เพราะเเฟนคลับของทั้งคู่ก็มีไม่น้อย บอกเเล้วว่านางฟ้าเป็นคนน่ารัก ตอนคบกับโน่ก็มีเเต่ภาพลักษณ์ดีๆ เเสดงออกไป เลยไม่มีใครแอนตี้การเป็นเเฟนของทั้งคู่

   ผมเห็นเเบบนั้น ก็หันหลังกลับ โชคดีที่ลานกิจกรรมอยู่ใกล้ประตูมหาวิทยาลัย วิ่งไม่เท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินเสียงบนเวทีเเล้ว ผมขึ้นรถเเท็กซี่ บอกให้ไปส่งที่คอนโดขิง ตั้งเเต่ครั้งนั้นที่หนีไปนอนร้องไห้ ผมก็ยังไม่ได้คืนคีย์การ์ดให้เจ้าของตัวจริงเลยคิดว่ามันน่าจะเป็นที่กบดาลได้ดีที่สุด


   เเละเพราะน้ำจากไปโดยไม่รอฟัง สิ่งที่นางฟ้ากำลังจะพูดบนเวทีคือ...

   “น้องนางฟ้ามีเทคนิคให้กำลังใจน้องโน่ยังไงครับ” โชคดีที่พิธีกรชงมาได้จังหวะ

   นางฟ้าเล่าว่าก่อนขึ้นคอนเสิร์ต เธอเอาน้ำปั่นที่โน่ชอบมาให้กินตามปกติ เเต่สิ่งนั้นไม่ใช่กำลังใจที่ดีที่สุดหรอก เพราะตั้งใจจะเอาของที่โน่อยากได้มากที่สุดมาเเสดงความยินดี นั้นคือ ‘คืนอิสระให้โน่’ แต่โน่ต้องชนะการเเข่งขันครั้งนี้นะ!

   “คืนอิสระคืออะไรครับ” ทั้งพิธีกรกับคนด้านล่างคุยกันอื้ออึง

   “นางฟ้าพึ่งมารู้ตัวไม่นานนี้เองค่ะ ว่าเราเป็นเพื่อนกันดีที่สุด และคนที่อยู่ในใจโน่จริงๆ คือน้ำ เพื่อนอีกคนในวง ที่เคยเล่นดนตรีด้วยกัน แล้วต้องหยุดเล่นไปด้วยปัญหาสุขภาพ ซึ่งจริงๆ ตอนนี้คนที่ควรขึ้นมากล่าวเเสดงความยินดีน่าจะเป็นน้ำมากกว่าค่ะ”

   พิธีกรอ้าปากค้าง เเต่ก็ต้องรีบกลับมาเเก้สถานการณ์

   “น้องโน่ สรุปน้องน้ำนี่เป็นใครครับ”

   “คนที่ทำให้ผมรู้ว่าปลายทางในชีวิตคืออะไร”

   ฮิ้วววว!!!

   หล่อมากครับ!!

   คำตอบหล่อสัส!!!   

   อยากเป็นปลายทางของเค้าจังโว้ยยยย!!!

   “น้ำเป็นคนที่ผมรัก และอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาในทุกๆ วันครับ”

   “ทุกคนอยากเห็นหน้าน้องน้ำปลายทางของน้องโน่มั้ยครับ ... ผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังครับ ขอเชิญน้องน้ำบนเวทีครับ”

   ผ่านไปสักพักยังไม่เเสดงตัว โน่เองก็ชะโงกมองหา ทั้งด้านหน้าเวที และด้านข้างเผื่อว่าน้ำจะหลบอยู่ในเต้นท์

   “อ่า...สงสัยจะเขินนะครับ งั้นเราเข้าสู่ช่วงต่อไปเลยดีกว่า...”   

   บนเวทีมีพิธีการมอบรางวัล และถ่ายรูปรวมอีกเกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงที่โน่ค่อนข้างร้อนรน เนื่องจากเขาไม่รู้ว่าน้ำไปไหน แถมพอลงมาล่างเวทีอาจารย์เมธีเจ้าของโปรเจคต์นี้ กับคณะบดีและอาจารย์ประจำคณะอีกหลายท่านก็ลากไปเลี้ยงฉลองอีก โน่ปลีกตัวมาไม่ได้ โทรหาน้ำก็ปิดเครื่อง ไลน์ไปก็ไม่ตอบ

   แต่ขิงที่เห็นทุกอย่างมาตั้งเเต่ต้น เขาอัดคลิปตอนที่นางฟ้าคืนอิสระให้โน่ แล้วส่งไปให้น้ำดูทางไลน์เพื่อจะได้สบายใจ แต่อนิจจา...ทุกช่องทางการสื่อสารของน้ำถูกปิด
   
   
   ผมกลับถึงบ้านด้วยความอ่อนเเรงเดินเข้าไปเคาะห้องพ่อกับเเม่เเล้วงอเเงให้พาไปทะเลหน่อย

   “อกหักหรอวัยรุ่น” คุณพ่อถาม กวักมือเรียกลูกชายไปนั่งบนเตียง คุณนายดอกไม้ขยับตัวเข้ามานั่งพับเพียบอยู่ข้างๆ เช่นกัน

   “ประมาณนั้นครับ”

   คุณพ่อที่เข้าใจลูกเสมอยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกชาย ยกนาฬิกาข้อมือดูมันพึ่งจะสี่ทุ่ม

   “จะไปคืนนี้เลยมั้ย ออกป่านนี้รถไม่ติด

   ผมหันไปมองพ่ออย่างรู้สึกผิด ตั้งเเต่ไปผ่าตัดสมองมา ผมยังไม่มั่นใจในการขับรถยนต์ทางไกลเท่าไหร่ และไม่มั่นใจขนาดที่จะพาครอบครัวไปเสี่ยง คงต้องรบกวนพ่ออีก

   “งั้นไปนอนสักสองคืนเป็นไง จะว่าไปบ้านเราก็ไม่ได้ไปทะเลด้วยกันนานเเล้วเนาะ” แม่ช่วยสนับสนุน แล้วก็กระโดดลงจากเตียงไปเก็บเสื้อผ้าอย่างร่าเริงตามสไตล์สาวเเอคทีฟ

   “โน่หรอ” เมื่อคุณเเม่หันไปสนใจเสื้อเเล้ว พ่อก็หันมาถาม ผมพยักหน้ารับหงอยๆ พ่อทำหน้าเหมือนจะเข้าใจ แล้วก็ดันไหล่ให้ไปเก็บของบ้าง

   ไม่นานครอบครัวชาวเอเจนซี่โฆษณาก็มากองรวมกันอยู่ในรถคันประจำของครอบครัว ระหว่างที่พ่อถอยรถออกจากบ้าน เเม่ก็นั่งหาที่พักไปด้วยผ่านเเอพลิเคชั่นในมือถือ คุณนายกดจองโดยไม่ถามความสมัครใจอะไรทั้งนั้น เนื่องจากคนที่ถือครองทุกบัตรเครดิตในบ้านก็คือเเม่ผมเอง

   คุณพ่อเหยียบคันเร่งเร็วจนไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เราถึงที่พักกันตอนตีหนึ่งพอดี มันเป็นพูลวิลล่า ที่สามารถมองออกไปเห็นทะเลได้ เเต่เพราะเรามามืดแบบนี้จึงเห็นเพียงเเต่ไฟเรือประมงอยู่ไกลๆ เท่านั้น พ่อกับเเม่นอนห้องใหญ่ ส่วนผมก็นอนห้องเล็ก โชคดีที่เป็นเตียง 3.5 ฟุต จึงไม่รู้สึกว่ากว้างเกินไปที่จะนอนคนเดียว

   “เอาฮอร์โมนเมลาโทนินหน่อยมั้ย” แม่หมายถึงฮอร์โมนที่ช่วยทำให้ง่วงง่าย คงกลัวว่าผมจะนอนไม่หลับ

   ผมพยักหน้า ไม่นานก็ได้แคปซูลมาเม็ดหนึ่ง มันดีกว่ายานอนหลับ ผมทานขนมปังรองท้องไปนิดหน่อย แล้วก็กินฮอร์โมนตามลงไป ก่อนจะไปจัดการอาบน้ำชำระร่างกายแล้วนอน

   รุ่งขึ้นผมตื่นตอนสายๆ แล้ว เห็นพ่อกับเเม่ทิ้งโน๊ตเเปะไว้ให้ที่หัวเตียงว่าลงไปวิ่งออกกำลังกายกันที่ชายหาดตั้งเเต่เช้า

   ‘หิวก็สั่ง Room Service นะ ไม่ก็เดินไปที่ร้านอาหารเอง’ แม่พิมพ์ทิ้งไว้อีกข้อความ บ้านผมก็เป็นเเบบนี้แหละ เราเป็นห่วงกัน แต่ทุกคนก็ต้องเข้มเเข็งเเละดูเเลตัวเองได้ ไม่ใช่จะมานั่งโอ๋กันตลอดเวลา

   ผมลงจากเตียง หันไปมองไอโฟนที่กลายเป็นเพียงก้อนทับกระดาษ ผมยังไม่เปิดโทรศัพท์เลยตั้งเเต่เมื่อคืน และอยู่ห่างไกลโลกโซเชี่ยลเเบบสุดโต่งเพราะไม่อยากรับรู้เรื่องราวอะไรทั้งนั้น ไหนๆ มาทะเลเเล้วก็ขอพักใจหน่อยเเล้วกัน

   ม่านกันเเสงถูกผมเปิดออก เเสงแดดด้านนอกยังไม่เเรงนัก มองเห็นสันคลื่นเป็นประกายระยิบระยับอยู่ไกลๆ ผมเดินออกไปที่ระเบียง ลมร้อนหน่อยๆ เเต่ก็ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง กลิ่นทะเล... ผ่อนคลาย

   หลังจากชื่นชมความงามของธรรมชาติได้พักใหญ่ก็กลับเข้ามาในห้อง ท้องเริ่มร้องเพราะเลยเวลาทานอาหารเช้าไปมากแล้ว ผมเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาแล้วเขียนโน๊ตเเปะไว้ที่หน้านอนพ่อกับเเม่ว่าออกไปทานข้าวที่ร้านอาหารของโรงเเรม

   มันเป็นโซนติดทะเล มีทางเดินหินทอดไปสู่เรือนกระจกสีขาวสะอาดตา ประดับด้วยของตกแต่งเเนว Nautica สีฟ้า น้ำเงิน ขาว ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสงบ ผมเข้าไปนั่งที่โต๊ะริมกระจกที่สามารถมองเห็นชายหาดได้ชัดเจน พนักงานเข้ามายื่นเมนูให้ มันมีอาหารฝรั่งฟิวชั่น และอาหารไทย รวมไปถึงเบเกอรี่ และเครื่องดื่มรับวันดีๆ อีกมากมาย

   ผมสั่ง Egg Benedict มาทานคู่กับกาแฟดำ ดูฝรั่งมากครับ แต่สายๆ แบบนี้ยังไม่นึกอยากกินอาหารทะเลที่มีน้ำจิ้มรสเผ็ด และคิดเอาเองว่าคุณนายคงชวนออกไปกินร้านเเบบ Local ที่เเถวเขาตะเกียบอยู่ดี มื้อนี้เลยกินอะไรที่ให้เกียรติโรงเเรมหน่อย

   นั่งละเลียดไป ตาก็มองม้าควบกุบกับผ่านไปบนชายหาด เห็นคู่รักเดินมาด้วยกันก็นึกถึงโน่ขึ้นมาอีก ผมส่ายหน้ากับตัวเองบอกให้เลิกคิด และหลังจากใจเเข็งเเรงกว่านี้อีกหน่อย ผมคงค่อยเข้าไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าความสัมพันธ์ผิดๆ ของเราควรจะจบลง

   ทั้งที่...ตอนนั้นมันก็ดีนะ...เป็นช่วงชีวิตม.ปลายที่มีความสุขมากจริงๆ ได้ทำตามความฝัน มีเพื่อนที่ดี และมีความรักที่อบอุ่นหัวใจ เราไม่ได้รักกันอย่างรุนเเรงบ้าคล่ัง เเต่เหมือนเป็นความผูกพันที่ค่อยๆ ก่อขึ้นจากความหวังดี มันเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับการไล่ตามความฝันของเราทั้งสองคน

   บางครั้งก็อดเผลอคิดไม่ได้ว่าความสุขจะอยู่กับเราไปชั่วนิรันดร์กาล

   แต่ตอนนี้อย่าไปหวังถึง Forever เลย แค่ Always เรายังมีให้กันไม่ได้เลย

   อาหารถูกยกมาเสิร์ฟขัดช่วงจังหวะเหม่อลอยของผม น้ำตาไม่ได้ไหลซึมออกมาเฉกเช่นเมื่อคืน เพราะเมื่อคิดดูให้ดี ผมก็ไม่มีอะไรที่ต้องโกรธโน่อีก ปล่อยให้ทุกอย่างมันดำเนินไปตามที่ควรจะเป็น
   
โน่กับผมก็รักกันเพราะความผูกพัน

   แล้วที่เขาคบกับนางฟ้ามาได้เกือบสองปี น่าจะมีเวลาให้ผูกพันกันมากกว่าผมอีกกระมัง

   ไข่แดงในจานถูกจิ้มให้เเตก จนมันไหลเยิ้มลงมาย้อมขนมปังจนชุ่ม ผมหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้วส่งเข้าปาก สลับกับการจิบกาเเฟดำเพื่อเเก้เลี่ยน ผมใช้เวลาช่วงสายไปอย่างเรื่อยเปื่อยไม่เร่งรีบ เดินกลับมาที่ห้องก็เที่ยงพอดี และเห็นว่าพ่อเเม่เเต่งตัวเรียบร้อยเตรียมออก

   “ไปไหนครับ”

   “มื้อเที่ยงไง”

   ผมทำหน้าเหมือนกินยาขมทันที คุณนายหัวเราะเเล้วบอกให้ไปเเต่งตัว ครอบครัวเราออกไปร้านประจำ จากนั้นก็ไปนั่งคาเฟ่ พูดคุยเรื่องไร้สาระกันบ้าง สลับกับการเล่นโซเชี่ยล ส่วนผมที่ไม่อยากเปิดโทรศัพท์ก็ไปหาหนังสือการ์ตูนในร้านมาอ่าน

   รอจนเเดดร่มลมตก เราก็เคลื่อนพลกลับโรงเเรมเพื่อไปทำกิจกรรมทะเล๊ทะเลกันสักที

   ผมกับพ่อหิ้วชุดของเล่นก่อปราสาททรายลงไปที่ชายหาด พ่อพาผมไปเลือกตำแหน่งทรายชื้นๆ เพื่อปักหลักเล่นทรายเหมือนที่เราทำทุกครั้งเวลามาทะเลด้วยกัน ส่วนเเม่ก็สวมบิกินี พร้อมเสื้อคลุมเเบบแฟชั่นโชว์หุ่นยังเป๊ะลงไปเล่นน้ำอยู่ใกล้ๆ

   ตอนเป็นเด็กที่ไม่ต้องคิดอะไรนี่ดีจังเลยน๊า

   พ่อวิ่งไปตักน้ำทะเลมาเตรียมไว้เพื่ออัดให้ทรายเเน่นๆ ด้วย ระหว่างที่ผมขุดทรายมาใส่บล๊อกแล้ววางโปะลงไป ผมกับพ่อค่อยๆ ก่อไปด้วยกัน เริ่มจากฐานราก ใส่ประตูหน้าต่าง ป้อมปราการและรั้ว จนมันกลายเป็นปราสาทสวยงามหลังใหญ่ ผมเก็บเปลือกหอยเเถวนั้นมาตกเเต่ง พ่อเดินไกลออกไป เพื่อหาอะไรมาประดับให้เพิ่ม
   
แต่ที่จริงผมว่าตอนนี้มันก็สวยมากเเล้วนะ

   เสียดายที่ไม่ได้เอาโทรศัพท์มือถือลงมาที่หาดด้วย แต่พ่อวางโทรศัพท์ทิ้งไว้ เสร็จโจร ผมยืนขึ้นเพื่อถ่าย top view

   ทว่ายังไม่ทันได้ลั่นชัตเตอร์ คลื่นไม่เล็กไม่ใหญ่ก็ซัดเข้ามา

   ปราสาททรายที่ผมสร้างมาเกือบสองชั่วโมงพังไม่มีชิ้นดี ผมยิ้ม ยืนมองดูคลื่นที่ซัดเข้ามาอีกระลอก มันชะล้างร่องรอบการมีอยู่ของปราสาททรายไปเสียหมด    

   อ่า...น้ำตาผมไหล
   ผมว่า...ผมไม่ได้เสียใจกับสิ่งก่อสร้างเล็กๆ นี่หรอก
   ผมกำลังมองว่ามันคือ ‘ความรัก’
   ปราสาททรายหลังนี้ ไม่ต่างจาก ‘ความรักที่ผมมีให้โน่’

   ผมค่อยๆ สร้างมันขึ้นมาอย่างทะนุถนอม ก่อปราสาทขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่งดงาม แล้วจู่ๆ มันก็พังครืนไม่เป็นท่า ไม่ต่างกันเลย เราไม่รู้ว่าจะมีคลื่นซัดมาตอนไหน และเมื่อความรักของเราไม่หนักเเน่นมันคงพอ ต่อให้ภายนอกมันจะดูสวยงามน่าหลงใหล มันก็จากเราไปได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยให้สัมผัส มีเพียงภาพในความทรงจำ ที่รอให้ลางเลือนไปตามกาลเวลา

   ผมร้องไห้หนักขึ้นอีก ทรุดนั่งลงจนกางเกงเปียกน้ำเเต่ผมไม่ได้สนใจ
   สองมือยกขึ้นปิดหน้า
   ทั้งที่คิดว่าทำใจได้เเล้ว
   เเต่ความรักไม่เป็นมิตรกับผมเลย

   “ฮึก…"
   “น้ำ…” เสียงเรียกพร้อมสัมผัสที่หลังทอทำให้ผมสะดุ้ง อีกฝ่ายพยายามเเกะมือผมออก
   โน่...เขาปรากฏตัวอยู่หน้าผม
   มองไม่ชัดหรอก แต่จำได้หมดแหละ ทั้งเสียง รูปร่าง กลิ่นน้ำหอมเย็นๆ แม้กระทั่งอุณหภูมิมือที่สัมผัสกัน เขาร้อนกว่าคนอื่น
   “น้ำ...ที่บอกว่าจะเอาที่หนึ่งมาเเลกคำว่าเเฟนอ่ะ โน่ทำได้แล้วนะ”
   “โน่ชนะมาทุกเวทีแล้ว โน่ขอชนะใจน้ำบ้าง...”
   “ได้มั้ย?”
   “ฮึก...พังหมดแล้ว”
   “ใจน้ำพังหมดแล้ว” ผมส่ายหน้า
   “ปล่อยน้ำไปเถอะนะ อย่าทำให้น้ำเจ็บไปมากกว่านี้อีกเลย”
   “น้ำพูดอะไร”​
   “ถ้าไม่รัก ก็ถือว่าเมตตาในฐานะเพื่อนก็ได้ อย่า..ฮึก...อย่าให้เราหวังไปมากกว่านี้อีกเลย”
   “เราเจ็บ...เจ็บจนจะตายอยู่เเล้วโน่”
   เขาดึงตัวผมไปกอดเเน่น มันทำให้น้ำตายิ่งไหล ผมปล่อยโฮออกมา ร้องไห้หนักกว่าทุกครั้งในชีวิต
   “เป็นอะไร!! รู้ตัวมั้ยว่าพูดอะไรออกมา”
   “ยังไม่เลิกกับเค้า หรือจริงๆ ไม่อยากเลิกกันเเน่!!!”
   “น้ำ ตั้งสติ!” โน่ขึ้นเสียง ผมเลยยิ่งดิ้น
   “รู้อะไรกับเค้าบ้างมั้ย หมาเปี๊ยกขี้โวยวาย แล้วก็โง่ด้วย”
   ผมทุบโน่
   “เลิกเเล้ว ประกาศลั่นมหาวิทยาลัยไปหมด ว่าคนที่โน่รักจริงๆ คือน้ำ คนที่โน่จะคบด้วยก็คือน้ำ”
   “โกหก!! เราเห็นโน่ยังจูบกับนางฟ้าอยู่เลย”
   “ตอนไหน”
   “ในเต้นท์ก่อนขึ้นร้องเพลง”
   “จูบลามั้ยอ่ะ นางฟ้าเเค่อยากพิสูจน์ว่าไม่ได้คิดอะไรกับโน่เเล้ว”
   “แล้วถ้าเค้ายังคิด”
   “ก็ไม่เอาเเล้ว ไม่ให้ไปไหนแล้ว ติดต่อไม่ได้เเล้วใจจะขาดรู้บ้างมั้ย”
   “เป็นห่วงจนเเทบจะบ้า รู้ตัวบ้างมั้ย”
   “ตอนที่หายไปครั้งโน่น ตอนที่บอกว่าไปดูไบ แต่ติดต่อไม่ได้เลย โน่เคว้งมากเลยนะน้ำ”
   “ไม่ไปไหนแล้วได้มั้ย รักกันได้มั้ย รักกันเหมือนที่มันเป็นมาตลอดเถอะนะ”
   “โน่…เราจะเชื่อได้เเค่ไหน”
   “สัญญา...เราจะไม่เเคร์ใครมากกว่าน้ำอีกแล้ว”
   “ต่อให้คนทั้งโลกนี้ต้องร้องไห้ น้ำจะเป็นคนเดียวที่โน่ไม่ยอมให้เสียน้ำตาอีกแล้ว”
   “ฮึก...เรายังร้องอยู่เลยตอนนี้”
   “โน่จะปลอบจนกว่าจะหยุด”
   “ความรักมันก็เหมือนปราสาททราย เห็นมั้ยเเค่คลื่นซัดมาก็พัง”
   “โน่จะช่วยสร้างใหม่ จะสร้างอีกกี่หลังก็ได้ พังอีกแค่ไหนก็จะช่วยสร้างขึ้นมาใหม่”
   “มันก็ไม่เหมือนเดิม”
   “ความรักไม่ใช่ปราสาททราย ใจโน่ไม่ได้อ่อนเเอขนาดนั้น มันจะเข้มเเข็งเเละเเข็งเเรงเพื่อน้ำ”
   “…”
   “ได้มั้ย ไม่ต้องเป็นเเฟนก็ได้ แต่ขอโอกาส อย่าใจร้ายกับโน่ไปมากกว่านี้เลย”
   “…นะครับ”
   ผมสะอื้น
   “เราขอโทษที่ทิ้งโน่ไป ฮึก ขอโทษที่...ไม่เคยบอกอะไรโน่เลย”
   “ไม่เป็นไร เริ่มกันใหม่นะน้ำ”
   “ให้เราเป็นปลายทางของกันเเละกัน ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในทุกๆ วันนะ”
   “โน่ไม่หลอกเราใช่มั้ย”
   “ได้เปิดโทรศัพท์บ้างรึยัง”
   “ยัง”
   “ดูคลิปที่ขิงส่งให้บ้างรึยัง”
   “ยัง”
   “ก็เลยงอแงอยู่เเบบนี้ไง” โน่ยีหัวผม หมั่นเขี้ยวมากมั้ยอ่ะ   
   “คลิปอะไร” ผมหน้างอ เงยหน้าออกจากอกเขาเเล้วถาม
   โน่หยิบโทรศัพท์ เข้าไปในห้องเเชทที่ เอ๊ะ...นั่นมันชื่อพ่อกับเเม่ผมหนิ

   คลิปสั้นๆ แต่ผมกลับน้ำตารื้นอีกครั้ง

   “โน่ไปคุยกับนางฟ้าเเล้ว และยืนยันหนักแน่นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือความผูกพันไม่ใช่ความรัก และเมื่อลองห่างกันดู ใจเราก็ไม่ได้โหยหากันขนาดนั้น นางฟ้าเลยยอมคืนอิสระให้โน่” เขาอธิบายเพิ่ม

   “สงสารนางฟ้า”
   “โน่ก็คิดแบบนั้น...เเต่โน่ก็ยอมให้น้ำร้องไห้อีกไม่ได้แล้ว”​
   “น้ำขอโทษ” ผมรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุเรื่องวุ่นวายทั้งหมด แล้วก็ต้องมุ่นคิ้ว
   “ตามมาได้ยังไง”
   “ก็...” โน่อมยิ้มจนตาหยี “มีเด็กอกหักอยากมาทะเลหรอ”
   “คุยกับพ่อน้ำหรอ” ผมปากบู้บี้ใส่
   โน่พยักหน้า “ก็ติดต่อน้ำไม่ได้เลย เป็นห่วงจนต้องขอเบอร์คุณพ่อมาจากอาจารย์เมธี
   ผมย่นจมูกใส่
   “พ่อดุกว่าปกตินะ เพราะมีคนไปฟ้องว่าโน่ทำเค้าอกหัก”
   “ก็มันจริงนี่นา ใครจะไปรู้ล่ะว่า...นางฟ้าจะขึ้นไปบอกเลิก”
   “เนี่ย...น่ารัก”
   “เเก้มเเดง”
   “โมโหนะ ไม่ใช่เขิน!” ผมขึ้นเสียง
   “โมโหก็น่ารัก อยากฟัดใจจะขาดเเล้ว”​
   “โน่หื่น”

   ผมทุบๆๆๆ จนพอใจ เเละเขาก็ไม่ว่าอะไรเลย
   เเล้วผมก็ลืมไปเลยครับว่าบุพการีอยู่เเถวนี้
   “เป็นวัยรุ่นนี่ดีจังเลยน๊า” เสียงคุณเเม่ครับ
   “ดีกันเเล้วพ่อเเม่ก็หมดความหมายสิ” พ่อผสมโรง
   “ถ้ายังไงคืนนี้ก็ขอค้างด้วยนะครับ รีบมาเลยยังไม่ได้จองโรงเเรมเลย” เจ้าหมาโน่!!
   “ถามคนนู่นเถอะว่าจะให้นอนตรงไหน”​ คุณนายชงมาให้ผม
   แก้มร้อนๆ นะฮะ แต่ก็เเบบ... “ให้โน่นอนในห้องน้ำได้มั้ย”    
   “เตียงเเคบไม่ใช่หรอ” พ่อล้อผมง่ะ!
   “นอนเบียดๆ กันได้ แอร์เย็น” ผมอุบอิบ

   ผู้ใหญ่สองคนไม่ได้ว่าอะไร นอกจากเดินเข้ามาอ้าเเขนกอดผมเเละโน่ไว้ เรากอดกันสี่คน ผมรู้สึกเหมือนน้ำตาจะรื่นๆ อีกแล้ว หันไปมองโน่ก็ตาแดงๆ ไม่เเพ้กัน

   “รักกันดีๆ รักกันนานๆ นะลูก” เเม่เริ่มก่อน

   “จะรักกันได้นานก็ต้องเข้าใจกัน คุยกันมากๆ สื่อสารกันให้เข้าใจ อย่าคิดไปเองคนเดียว ถ้าน้ำฟังโน่สักนิด ก็ไม่ต้องมานั่งร้องไห้เปล่าๆ อยู่ตั้งหลายรอบถูกมั้ย”

   “ครับ” ผมพยักหน้าตอบคุณประภาคาร

   “แล้วก็นะ...ทะเลาะกันบ้างก็ได้ ไม่พอใจอะไรก็บอกกัน ถ้าเราเอาเเต่เก็บปัญหาสะสมไว้มากๆ พอระเบิดออกมามันก็จะตามเเก้ไม่ทัน...ที่โบราณว่าไว้ว่าทะเลาะกันเเล้วลูกดกหนะ นำมาปรับใช้ได้จริงนะ เพราะทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน มันทำให้เราเรียนรู้มุมมองที่ไม่ได้ปั้นเเต่งของอีกฝ่ายมากขึ้น อารมณ์โกรธจะช่วยผลักดันตัวตนที่เเท้จริงออกมา และถ้าเรารับกันได้ ช่วยกันเเก้ปัญหา ความรักมันก็จะยืนยาว” แม่สอนบ้าง นานๆ จะเเสดงด้านสาระออกมาเเต่ผมว่าสิ่งที่คุณนายพูดนั้นคือประสบการณ์จริงที่ใช้ประคับประคองความสัมพันธ์

   “รักกันให้สนุก อยู่ด้วยกันให้มีความสุข”
   “ครับ ขอบคุณที่คุณพ่อคุณเเม่ยอมให้ผมดูเเลน้ำ”

   พ่อยิ้ม ดึงโน่ไปกอดเเน่นๆ ก่อนจะพูดออกมาให้ได้ยินโดยทั่วกัน “พ่อก็เป็นพ่อของทั้งน้ำเเละโน่ แม่เค้าก็เหมือนกัน นับจากวันนี้ไปเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันนะ”

   ผมมองภาพนั้นอย่างมีความสุข
   ใช่....ครอบครัวเดียวกัน
   ปลายทางของผมก็คือ...โน่
   และระหว่างทางคือการประคับประคองความสัมพันธ์ของเราให้มั่นคง
   ในที่สุด...จากเพื่อนก็กลายมาเป็นแฟนกันจนได้

   

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw

บทส่งท้าย
   
   หลังจากผมตกลงเป็นเเฟนกับโน่ เราก็มีช่วงสอบปลายภาคของปีหนึ่งมาให้วุ่นวาย เเลพอปิดเทอมได้จึงเป็นช่วงเวลาของการอัพเดทชีวิตกันเเละกัน ไม่ได้หมายถึงเเค่ผมกับโน่ แต่เป็นกลุ่มเพื่อนสนิทตอนม.ปลายของผม

   กีวี่ คริสตัล ทอย ชูครีม และพ่วงพี่ขิงที่แม้ไม่ได้เป็นเพื่อนในกลุ่มห้องเรียนเดียวกัน แต่ก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่อยู่ในทุกช่วงชีวิตของผมมาด้วย เรานัดกันที่โรงเรียนบันเทิงศิลป์ แม้ว่าน้องๆ จะสอบเสร็จไปแล้วก็ตาม แต่กีวี่บอกว่าอาจารย์ยังเข้ามาทำคะเเนนอยู่ เราจึงแบ่งหน้าที่กันซื้อขนมเจ้าอร่อยๆ ในละเเวกบ้านตัวเองมาฝากคุณครูกัน

   แรบบิทครีมเลี้ยวเข้าลานจอดรถพร้อมๆ กับรถของคุณชายขิง ชูครีมเเวะรับกีวี่ คริสตัลและทอยมาด้วยกัน ทุกคนดูโตขึ้นตามวัย และเเม้ว่าผมจะไม่ได้เจอหน้ากีวี่ คริสตัลและทอยมานานเเล้ว แต่ความรู้สึกสนิทยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือโดนด่าเรื่องไปผ่าตัดแล้วไม่บอก ทุกคนอยากไปเยี่ยม อยากคอยให้กำลังใจในยามที่ผมไม่สบาย

   “พวกเธอเป็นใคร ขนาดโน่ตัวติดกับมันอยู่ทุกวัน ยังไม่รู้เลย ต้องนี่พี่ขิงสามีตัวจริงของน้องน้ำ รู้ลึกรู้จริงเกาะติดทุกสถานการณ์” ขิงหันไปอวดเพื่อทั้งสามของผม โดยไม่ได้เกรงกลัวสายตาอาฆาตของโน่เลย ผมลูบเเขนเจ้าตัวยักษ์ของผมเบาๆ โน่จับมือผมอยู่ข้างหนึ่งด้วยตอนนี้

   “คนหรือเห็บหมาว่ะ” โน่ด่าขิงขำๆ สองคนนี้สนิทกันมากขึ้นตอนไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่นจึงเเซวกันเเรงๆ ได้แล้ว
   คริสตัลอมยิ้ม ผมเห็นเธอหน้าเเดงมาสักพักแล้ว ผมหันกลับมามองโน่ก็เห็นว่าสายตาคมกริบนั้นมองอยู่ที่ใบหน้าน่ารักน้ันอยู่เเล้วเช่นกัน...เดี๋ยวนะโน่!

   “คริสตัลไม่ต้องชิปแล้วนะ โน่ทำสำเร็จเเล้ว ตอนนี้เป็นคนรักตัวจริงของน้ำแล้ว ส่วนขิงก็ได้เเต่ฝันลมๆ เเล้งๆ” แฟนผมก็ไม่ยอมเเพ้เหมือนกันนะเออ

   คริสตัลยกมืออุดปากตามสไตล์ เธอกำลังกรี๊ดอัดฝ่ามือตัวเอง หน้าเเดงจนเปลี่ยนเป็นม่วง แล้วค่อยปล่อยมือออกมาหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ๆ

   “กัปตันทำดีมากค่ะ ฮือ...ใจเเม่ เหมือนเห็นลูกออกเรือนมีผัวเป็นตัวเป็นตน”

   ผมตีคริสตัลเหมือนสมัยเด็กๆ ไม่มีผิด “เป็นสาวเป็นนางทำไมพูดไม่เพราะ”
   “เมื่อก่อนก็เขินอายที่จะพูด แต่พอชิปเข้าทุกวัน คำว่า ‘ผัว’ ก็ให้ความรู้สึกน่าเอ็นดู”

   ผมได้เเต่ส่ายหน้ากับสาวๆ สมัยนี้ เอาล่ะ เราทักทายกันพอประมาณเเล้วก็เคลื่อนตัวไปยังห้องพักครูสักที
   ขิงเดินเข้ามาใกล้ผมกับโน่ เเหวกกลางเราสองคนด้วยครับ ผมเห็นประกายสายฟ้าในอากาศ แต่เจ้าคุณชายก็ไม่สะทกสะท้าน แต่ทำหน้าเหมือนอยากเม้าท์อะไรสักอย่าง

   “ว่ามา” เป็นโน่...เอ๊ะทำไมความคิดเราตรงกัน
   “นางฟ้าจะไปเรียนต่อที่เมกานะ”
   “อ้าว” ผมตกใจไม่น้อยกับข่าวนั้น
   “ทำไมอ่ะ”
   “หือ อิน้องน้ำการมีผัวไม่ได้ช่วยให้ฉลาดขึ้นเลยนะ”
   “ทำไมพิขิงเป็นคนปากร้ายเเบบนี้”
   “น้ำรีบเดินไปดีกว่า เรื่องของคนอื่นไม่ต้องอยากรู้หรอก”

   “เรื่องของเพื่อนน้ำเถอะ” ผมเเย้งโน่ ถึงก่อนหน้านี้ผมจะไม่พอใจอยู่บ้างที่นางฟ้าคบกับโน่ เเต่พอมาคิดๆ ดูเเล้วสถานการณ์ที่บังคับในตอนนั้น และทุกคนก็ยังเด็กอยู่มาก วิธีการรับผิดชอบด้วยการคบกันเป็นเเฟน คงช่วยปลอบจิตใจเปราะบางของนางฟ้าได้ และเขาควรภูมิใจที่คนรักของเขาเป็นคนดี

   ขิงกับโน่มองหน้าเหมือนรู้กัน แล้วก็ไม่ยอมบอกผม เหมือนกลายเป็นหมาปอมตัวเล็กๆ ที่ลาบลาดอร์และไซบีเรียนฮัสกี้ไม่เล่นด้วย ผมเลยทิ้งไอ้ตัวยักษ์ทั้งคู่ไปรวมกลุ่มกับคริสตัลที่เดินนำไปก่อน ปล่อยขิงกับโน่ไว้รั้งท้าย

   คนแรกที่พวกเราเเวะไปหาคือครูไอยดาครูประจำชั้น เธอยังน่ารักเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเหล่ตามองผม

   “แหนะ เปลี่ยนสเตตัสเเล้วหรอจ๊ะน้ำ”

   เพื่อนๆ ก็โห่เเซวเป็นลูกคู่ โน่นี่รีบพรีเซนต์ไปทันทีว่าคบกันเเล้ว เเล้วก็เล่านู่นเล่านี่ให้ครูฟัง พอหายเขินผมก็มองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มเเทน นึกไปถึงวันที่เขามาโรงเรียนครั้งเเรก ใครๆ ก็กลัวโน่ แล้วโน่เองก็สร้างคาเเรคเตอร์ให้ทุกคนกลัวนั้นเเหละ เมื่ออยู่กันไปนานๆ มันกลับไม่ใช่เลย โน่อ่อนโยนกว่าใครๆ

   หลังจากคุยกับครูประจำชั้นจบ พวกเราก็ทยอยเอาขนมไปฝากคุณครูประจำวิชาอื่นๆ แล้วค่อยเเห่ไปนั่งเล่นกันที่สวนเกษตรหลังโรงเรียน ตรงเเครไม้ไผ่ข้างคอกหลวงเเช่ม ความที่ผู้อำนวยการซื้อมาไว้ให้ช่วยผ่อนคลายเด็กๆ คริสตัลซื้อเเตงโมมาให้ญาติผู้ใหญ่ของเราตามเคย เธอเเบ่งให้พวกเราไปป้อน แล้วก็กลับมานั่งรับลมชมวิวกัน

   มันเป็นช่วงชีวิตที่ดีจังเลยนะ

   ผมนึกถึงสมุดบันทึกที่ผมจดเอาไว้ตอนจะขึ้นม.5
   ถึงคุณ...สมุดบันทึก
   ก่อนเปิดเทอม ม.5 เลยเเวะมาเขียน To do list นิดหน่อย
   1. ชนะการเเข่งขันประกวดวงดนตรีนานาชาติระดับ ม.ปลาย และได้ไปชิงเเชมป์ที่ญี่ปุ่น - ผมไม่ได้ไปแต่ก็ไม่เสียดาย เพราะโน่เป็นตัวเเทนทำตามความฝันให้ผมเเล้ว
   2. ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับเพื่อนๆ - แน่นอนอยู่เเล้ว
   3. เตรียมตัวหาข้อมูลมหาวิทยาลัย - ใช่ และตอนนี้ผมก็ได้เรียนกับโน่เหมือนที่เคยสัญญากันไว้
   4. อ้อนพ่อกับเเม่น้อยลง - อันนี้ยากแหะ เพราะพ่อกับเเม่ผมน่ารักขึ้นทุกวัน
   5. ความรักหรอ...ยังไม่ต้องมีก็ได้ - ไม่คิดเลยว่าเรื่องแบบนี้มันจะโผล่มาไม่ทันให้เราตั้งตัว จากบั๊ดดี้ที่กลัวเเทบตาย สุดท้ายก็กลายมาเป็นปลายทางของหัวใจ ความรักทำให้ผมโตขึ้นมาก และเรียนรู้ที่จะพยายามทำให้อีกฝ่ายมีความสุข มันเหมือนเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายหนึ่งที่ทำให้รู้ว่า...เรามีชีวิตทุกวันนี้ไปทำไม และความฝันหลายๆ อย่างของผมกับโน่ก็สำเร็จได้เพราะเรามีความรักช่วยผลักดัน
   จะว่าไปชีวิตของมารีนนี่ดีจังเลยน๊า

   - จบบริบูรณ์ -

จบแล้ว ก็ฝากทิ้งข้อความให้คิดถึงกันสักนิดนึงค่ะ. ^^
#พระเพลิงมารีน

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุก ๆ นะคะ ลุ้นตลอดว่าโน่จะบอกเลิกนางฟ้าเมื่อไหร่

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
สงสารน้ำก็สงสารนะ ความเอ๋อความน่ารักของน้อง แบบลูกเอ้ยยย อยากหอบไปเล่นที่บ้าน

ส่วนโน่ก็ใจดีเกินไป แต่ก็เข้าใจได้ที่มีเหตุผลของความใจดี แต่ต้องเลือกนะโน่


เพิ่งเห็นเรื่องนี้ ถ้ารู้ก่อนว่าดราม่าก็คงไม่อ่าน

แต่ไม่รู้ก็อ่านแล้วจนจบเลย ถ้าไม่อ่านคงเสียดายแย่

เขียนดีมากขนาดนี้ รออ่านเรื่องต่อไปจะได้มั้ยคะ

เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆ นี้นะคะ  :ped149: :ped149: :ped149:

 :3123: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ ofious

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-4
    • @sweeterthansw
สงสารน้ำก็สงสารนะ ความเอ๋อความน่ารักของน้อง แบบลูกเอ้ยยย อยากหอบไปเล่นที่บ้าน

ส่วนโน่ก็ใจดีเกินไป แต่ก็เข้าใจได้ที่มีเหตุผลของความใจดี แต่ต้องเลือกนะโน่


เพิ่งเห็นเรื่องนี้ ถ้ารู้ก่อนว่าดราม่าก็คงไม่อ่าน

แต่ไม่รู้ก็อ่านแล้วจนจบเลย ถ้าไม่อ่านคงเสียดายแย่

เขียนดีมากขนาดนี้ รออ่านเรื่องต่อไปจะได้มั้ยคะ

เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆ นี้นะคะ  :ped149: :ped149: :ped149:

 :3123: :L2: :pig4:


ขอบคุณมากค่ะ เห็นคอมเม้นต์แล้วน้ำตาจะไหล
ขอโทษที่ดราม่านะคะ แต่มันต้องดราม่าจริงๆ แง้ เราก็ร้องไห้หนักมากตอนเเต่ง

ปล. เราลงเล้าไว้อีกสองเรื่องนะคะ ไม่ดราม่า อิอิ ไปอ่านแก้เศร้าได้ #ทฤษฎีอ่อยเธอ #ดาวอย่ายั่วค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุก ๆ มาให้อ่านนะคะ

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ขอบคุณคนเขียนมาก น่ารักทุกคนเลยเสียดายก็ความไม่อธิบายของโน่นี่แหละ ขอให้ฟ้าโชคดีนะไปเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆอาจเจอคนใหม่ๆที่ดีกว่าคนที่ไม่รักเรา สงสารมากจริงๆนะเรื่องนี้ น้ำรอคอยอย่างไม่ได้มีความผิดอะไรแล้วโน่ก็เข้ามาทำตัวเหมือนเดิมทั้งที่ไม่เคลียร์นั่นยิ่งเหมือนพ่อที่เกลียดไม่ใช่เหรอ ย้อนแย้งไป พ่อแม่น้ำดีมากเลยเข้าใจลูกเสมอ มีความคิดอยากให้พี่เคนเป็นพระเอกเหมือนกันนะดูแลดี แต่ทำไงได้นายเอกเรารักโน่5555

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เรื่องน้ำไม่แนวเหมือนพี่ดาวเลย. มันหน่วงๆๆๆจนจะจบ  :เฮ้อ: :pig4:

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เรื่องของน้ำไม่ค่อยสนุกเท่าเรื่องของดาวค่ะ
เรื่องดาวกับขิงชอบมากเลย อันนั้นครบทุกรสจริงๆสนุกมาก
ส่วนเรื่องนี้ไม่ชอบโน่เลย คือทำไรไม่ชัดเจน
ทั้งที่บอกชอบน้ำแต่กลับไปแคร์นางฟ้ามากกว่า อ่านแล้วมันไม่อิน
แล้วน้ำก็ยอมเกินไปด้วยทั้งที่โน่ยังไม่เลิกกับนางฟ้าเลย ส่วนนางฟ้าก็เห็นแก่ตัว

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ Sriwanan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบจังเลยครับ

ออฟไลน์ Sriwanan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านเรื่องไหนก็อินกะเขาทุกเรื่อง น้ำตาหยดแหม่เขขอบคุณนะครับ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
นึกว่าจะแบบมัธยมใสๆที่ไหนได้หน่วงสุดๆ

ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
แอบลุ้นโน่กับน้ำ  เฮ้อกว่าจะแฮปปี้ แอบมีน้ำตาเหมือนกัน ขอบคุณนิยายดีๆน่ารักๆเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ดีงามมากแม่
แต่ขิงกะดารินนี่คุ้นมากๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด