12
วันนี้หลังจากประชุมเสร็จแล้ว น้ำหวานก็ไปหาซื้อหนังสือที่ถูกจันทร์เพื่อนตั้งแต่สมัยยังเด็กไหว้วานให้ซื้อไปฝาก เพราะไหน ๆ วันนี้เข้าก็จะแวะเข้าไปหาที่ร้านอยู่แล้ว
ในขณะที่กำลังเลือกอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มตัวเล็กที่เป็นเพื่อนของทะเลอยู่ใกล้ ๆ เขากำลังพลิกหนังสือในมือไปมาด้วยความตั้งใจ ขนาดน้ำหวานเดินเข้าไปใกล้ก็ยังไม่รู้สึกตัว
“โห..แพงจัง” เป็ดร้องก่อนจะตัดใจค่อย ๆ ดันหนังสือเก็บเข้าชั้นด้วยความเสียดาย เมื่อจะเดินหนีก็ดันชนเข้ากับใครอีกคนที่มายืนขวางอยู่ “อ๊ะ! ขอโทษครับ”
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นไอดอลของตัวเองยืนตรงหน้า “พี่!” เขาร้องเรียกขึ้นมา หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อได้เจอกับคนที่ชื่นชมอีกครั้งแบบนี้
“พี่ซื้อให้ไหม” น้ำหวานว่า
“ซื้อ?” เป็ดเอียงคอเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ
“หนังสือไง เห็นท่าทางอยากได้”
เป็ดตาโตขึ้น ส่ายหน้าโบกมือเป็นพัลวัน “ไม่เป็นไรครับ ๆ ผมไม่ได้อยากได้ขนาดนั้น”
“เหรอ…” น้ำหวานตอบ แต่กลับเอื้อมไปดึงหนังสือเล่มนั้นออกมาจากชั้นแล้วเอามารวมไว้กับหนังสือในมือ
เป็ดมองตามการกระทำของอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจด้วยท่าทีเลิ่กลั่ก “เอ่อ..คือ..พี่..”
“พี่ซื้อให้น่า” น้ำหวานกล่าวจบก็ก้าวเดินนำไปทันที ไม่สนใจอีกคนที่มีท่าทีเกรงใจมากอย่างเห็นได้ชัด
“ผมรับไว้ไม่ได้จริง ๆ ครับ” เป็ดจับชายเสื้อของอีกฝ่ายไว้พร้อมกับบอกออกไป ปกติเขาก็ไม่ใช่คนที่จะรับของจากใครง่าย ๆ อยู่แล้ว นี่ยิ่งเป็นคนที่เพิ่งจะเคยเจอด้วย
“ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก” คนอายุมากกว่าบอก
“ไม่เกรงใจไม่ได้ครับ”
“เอาน่า”
“ไม่ได้จริง ๆ ครับ” เป็ดยืนยันเสียงแข็งด้วยใบหน้าจริงจัง เจ้าตัวยังคงดึงชายเสื้อของอีกฝ่ายแน่น
น้ำหวานยกมือขึ้นจับหัวคนตัวเล็กโยกเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “ไม่ต้องห่วง พี่ซื้อให้เพราะหวังผลหรอก”
เป็ดขมวดคิ้ว รู้สึกสังหรณ์แปลก ๆ แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าคงไม่ใช่ “เอ่อ...ผมไม่มีอะไรจะให้พี่หรอกนะ”
“มีสิ” น้ำหวานตอบ
“พี่ต้องการอะไรจากผม” เป็ดย้อนถาม
“พี่ว่าเราก็น่าจะรู้นะ ว่าพี่ต้องการอะไร”
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองคนอยู่ชั่วครู่ คนอายุน้อยกว่ามองคนตรงหน้าที่ตนแอบปลื้มมานานอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เขาเคยถูกเกย์หลายคนจีบ และก็มั่นใจว่าไม่เคยหวั่นไหวกับใครมาก่อน
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกัน...คนตรงหน้านี้ถึงทำให้เขาหวั่นไหวได้ทั้งที่เพิ่งพบกันแค่สองครั้ง แล้วแถมยังเป็นผู้ชายที่เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะคบได้อีกต่างหาก
คนตัวเล็กกว่าปล่อยมือออกจากชายเสื้อของน้ำหวาน นั่นทำให้เข้าตัวรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
“พี่..จะจีบผมเหรอ” เป็ดถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก เพราะถ้าเกิดมันไม่ใช่ขึ้นมาละก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บแน่
น้ำหวานยกยิ้มมุมปาก เขาหันมายืนเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนจะพูด “ใช่”
เป็ดตะลึงงันไปเมื่อได้ยินคำตอบ “พี่เป็นเกย์เหรอ”
เขาถามเพราะมักจะเห็นข่าวว่าอีกคนมักจะควงนางเอกหรือไม่ก็นางแบบสาวสวยอยู่บ่อย ๆ
“ไม่เชิงหรอก พี่ชอบของสวย ๆ งาม ๆ หรือมองแล้วสบายตาน่ะ”
คนอายุน้อยเปิดปากเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ปิดลง แล้วก็อ้าขึ้นมาอีก เพราะยังเรียบเรียงคำพูดในหัวออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรก่อนดี แต่สุดท้ายก็บอกออกไปห้วน ๆ
“ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย อีกอย่าง..” เป็ดเงยหน้าขึ้นจ้องตาอีกฝ่าย “ผมไม่ชอบคนเจ้าชู้”
“อ้าว” น้ำหวานรู้สึกงงงวย “เรา..ไม่ได้เป็นเกย์เหมือนกับเพื่อนเราเหรอ”
เด็กหนุ่มส่ายหน้า “มีคนเข้าใจผิดอยู่บ่อย ๆ เหมือนกันครับ”
“แล้วเราไม่ชอบพี่เหรอ”
“ไม่ได้เกี่ยวกับชอบหรือไม่ชอบครับ เพราะผมไม่ได้ชอบผู้ชาย”
“ว้า~” น้ำหวานแกล้งร้องขึ้นเหมือนเสียดายเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ขอหนังสือด้วยครับ” เป็ดแบมือไปด้านหน้า
คนอายุมากกว่าทำท่าจะยื่นหนังสือไปให้แต่กลับใช้มือข้างที่ว่างจับมือที่เล็กกว่าของเด็กหนุ่มไว้แล้วออกแรงดึงให้เดินตามมาโดยที่ไม่สนใจอาการตื่นตกใจของอีกฝ่าย และไม่สนใจสายตาของคนในร้านด้วย
“ด-เดี๋ยว อะไรของพี่เนี่ย” เป็ดร้องถามในตอนที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน อีกฝ่ายยังคงไม่ยอมปล่อยมือของเขา และเพราะน้ำหวานตัวใหญ่กว่าค่อนข้างมากเลยทำให้ขัดขืนไม่ไหว
“เปล่านี่”
“เปล่าก็ปล่อยมือผมสิ” เป็ดลดเสียงลงเมื่อพนักงานคิดเงินเหลือบมองมา
“ก็ไม่อยากปล่อยนี่”
เป็ดที่รู้ตัวว่ากำลังโดนกวนประสาทจากคนอายุมากกว่า เงียบไปและทำหน้าบอกบุญไม่รับ
“2,563 บาทค่ะ”
“ครับ” น้ำหวานตอบก่อนจะหันมาหาเด็กที่กำลังยืนหน้าบึ้งอยู่ข้าง ๆ “พี่ขอจ่ายเงินก่อน อย่าหนีพี่ไปไหนนะ”
เป็ดถลึงตาใส่อีกฝ่ายที่พูดจาหน้าไม่อายออกมาก่อนจะว่า “ปล่อยมือผมได้แล้ว”
“รับปากพี่ก่อนสิ” น้ำหวานส่งเสียงออดอ้อน
คนตัวเล็กกว่าตกใจที่ได้เห็นมุมนี้ของคนตรงหน้า เขาเหลือบตาไปเห็นพนักงานด้านหลังแอบขำแล้วก็รู้สึกเขินมาก ๆ
“โอเค ๆ ผมไม่หนีไปไหนก็ได้”
น้ำหวานยิ้มอย่างพอใจ เขาปล่อยมือเล็กให้เป็นอิสระก่อนจะหันไปจ่ายเงินให้เรียบร้อย
เป็ดยืนมองใบหน้าขาวแดงซ่าน ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนแบบนี้มาก่อนเลย ทั้งถึงเนื้อถึงตัวและหน้าไม่อาย แล้วมันเพราะอะไร..ทำไมตนถึงต้องยอมด้วยนะ ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ ให้ตายเถอะ
“เรียบร้อย” น้ำหวานบอกยิ้ม ๆ พร้อมกับยื่นถุงหนังสือไปให้เด็กหนุ่ม
เป็ดมีท่าทีลังเลนิดหน่อย เขายกมือขึ้นไหว้แล้วถึงยื่นมือไปรับมาถือเอาไว้ เขารู้สึกเกรงใจอีกฝ่ายมากที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ให้เขา สำหรับผู้กำกับหนังร้อยล้านแล้วมันคงไม่แพง แต่สำหรับนักเรียนที่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีอย่างเป็ดแล้วนับว่าแพงมาก
“ขอบคุณครับ ถ้าผมตอบแทนอะไรพี่ได้..ก็บอกนะครับ”
“ไม่เป็นไร ๆ ไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่แล้วกัน”
เป็ดค่อย ๆ พยักหน้าอย่างจำยอม ทั้งที่เขาควรจะดีใจหรือตื่นเต้นที่ได้พบกับคนที่ชื่นชมมาตลอด แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก…
/
น้ำหวานตั้งใจพาเด็กหนุ่มไปกินข้าวที่ร้านของทะเลจันทร์ ในระหว่างที่ขับรถมา เป็ดแทบจะไม่พูดอะไรเลยถ้าเขาไม่เอ่ยถาม ตนเข้าใจว่าเด็กมันคงจะตกใจที่จู่ ๆ ก็โดนจีบไม่ทันได้ตั้งตัว
เมื่อถึงที่ร้าน เห็นแค่ทางเข้าเป็ดก็ขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่าที่นี่เป็นร้านของพี่จันทร์ เขาเคยมากับทะเลเพียงครั้งเดียวแต่ก็ยังจำได้
“ผมเคยมาที่นี่” เด็กหนุ่มบอกกับอีกฝ่าย
น้ำหวานเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง แต่ครู่เดียวก็นึกขึ้นได้ว่าเด็กคนนี้เป็นเพื่อนกับทะเล เลยไม่นึกแปลกใจอีก
“ชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามขึ้นในระหว่างที่เดินไปด้วยกัน
เป็ดส่ายหัว “ผมกินอะไรก็ได้ แล้วแต่พี่เลย”
น้ำหวานเผยยิ้มเอ็นดูออกมา เขาชักจะรู้สึกชอบเด็กคนนี้ขึ้นมาซะแล้วสิ ไหนจะหน้าตาจิ้มลิ้มถูกใจ และความใสซื่อน่ารักที่เขาไม่ค่อยได้พบเจอนัก เพราะปกติแล้วคนที่เข้ามาพัวพันด้วย น้ำหวานก็ถูกใจแค่รูปร่างหน้าตา แต่ที่เลิกกันก็เป็นเพราะนิสัยใจคอทั้งนั้น
คนที่น้ำหวานคบด้วยไม่จำแนกว่าเป็นหญิงหรือชาย กะเทยหรือตุ๊ด เขาคบได้ทุกประเภท สเปคของเขาหลักเลยคือชอบคนตัวเล็กและขาว นอกนั้นก็เป็นเรื่องของนิสัย คนที่เข้ามาส่วนใหญ่จะรู้ว่าเขาไม่ชอบคนงี่เง่า แรก ๆ เลยก็จะพยายามทำตัวน่ารัก แต่พอนานไปก็จะงี่เง่าใส่เพราะตนไม่มีเวลาให้
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่เคยคบใครนาน เพราะพอถูกงี่เง่าใส่เพียงแค่ครั้งเดียวเขาก็โบกมือบ๊ายบายให้แล้ว ไม่มีการให้โอกาสครั้งที่สอง เขาเชื่อว่าเมื่อมีครั้งแรกมันต้องมีครั้งที่สองเสมอ พอเป็นแบบนี้บ่อยเข้าก็เลยถูกเขียนข่าวว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ประตูดิน
ถ้าจะให้พูดจริง ๆ คือน้ำหวานชอบคนน่ารัก ซื่อ ๆ และตรงไปตรงมา ซึ่งทั้งสามอย่างนี้เขาเล็งเห็นว่ามันมีอยู่ในตัวของเด็กหนุ่มที่ชื่อเป็ดคนนี้
/
“คุณน้ำหวานนี่เอง เชิญค่ะ ๆ” พี่หมวยเป็นผู้จัดการร้านเดินมาเจอพอดีเลยเอ่ยปากทักทายอย่างคุ้นเคย
“สวัสดีครับพี่ จันทร์อยู่ไหนเหรอครับ”
“น้องจันทร์อยู่ในครัวค่ะ เดี๋ยวพี่ไปตามให้นะคะ”
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมขอสั่งอาหารหน่อยนะครับพี่”
“ได้ค่า เดี๋ยวพี่ให้เด็กเอาเมนูไปให้นะคะ” เธอบอกยิ้มแย้ม ก่อนจะเดินหายไป
น้ำหวานจับข้อมือของเป็ดที่ยืนอยู่เงียบ ๆ ให้เดินตามไปยังโต๊ะที่เป็นที่นั่งประจำของตนและเพื่อน เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อโดนจับเข้าที่ข้อมือ แต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรเพราะเกรงใจอีกฝ่ายและสถานที่
“เรามีอะไรที่ชอบกินหรือเปล่า” น้ำหวานเอ่ยถามขึ้น
“ไม่มีเป็นพิเศษครับ” เป็ดที่ถูกดึงให้มานั่งข้าง ๆ ตอบเสียงเรียบ
“แล้วมีอาหารที่แพ้ไหม”
“ไม่มีครับ” เด็กหนุ่มตอบ
น้ำหวานสั่งอาหารไปสองสามอย่างด้วยตัวเอง ก่อนจะยื่นเมนูคืนพนักงานของร้านไป เขาขยับตัวหันไปมองเด็กหนุ่มที่ดูเงียบผิดไปจากที่เจอกันครั้งแรกมาก
“เป็นอะไรเหรอ” เขาถามพลางใช้นิ้วเกลี่ยแก้มใส
เป็ดสะดุ้งพร้อมกับเอียงตัวหนีโดยอัตโนมัติ “เอ่อ..ไม่ได้เป็นอะไรครับ”
“งั้นหรือ” น้ำหวานพิจารณามองคนอายุน้อยกว่าก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง “ไม่ชอบพี่แล้วเหรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” คนถูกถามตอบไม่เต็มเสียง
“แล้ว?”
“คือ..ผมไม่ได้ไม่ชอบพี่ แต่ว่า..พี่ถึงเนื้อถึงตัวเกินไป ผมเลยตกใจ”
“อ่า...โทษที” คนอายุมากกว่าบอก เขาเองก็ลืมตัวทำไปโดยไม่ได้คิดก่อน เพราะปกติมีแต่คนเข้าหา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน
เป็ดยิ้มบาง ส่ายหน้าน้อย ๆ “ไม่เป็นไรครับ”
คนอายุมากกว่านิ่งราวกับถูกรอยยิ้มของเด็กหนุ่มตรึงเอาไว้ เขามองเป็ดไม่วางตาจนเจ้าตัวต้องเบือนหน้าหนีด้วยความประหม่า
“อ้าว! น้องเป็ด…” จันทร์ที่เดินมาถึงโต๊ะเห็นคนคุ้นหน้าก็ทักขึ้น แต่ก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าทำไมน้องมันถึงมากับเพื่อนของเขาได้
“สวัสดีครับพี่” เป็ดยกมือไหว้ เขายิ้มกว้างให้กับอีกฝ่าย
“ทำไมมานี่ได้ล่ะ” คนอายุมากกว่ารับไหว้พร้อมกับเอ่ยถาม
“เอ่อ…” เด็กหนุ่มไม่รู้จะตอบยังไงดี เขาเหลือบตามองอีกฝ่ายแต่ก็ต้องหลบวูบเมื่อสบเข้าดวงตาคม
“มากับกู” น้ำหวานเป็นฝ่ายตอบ
จันทร์ที่ขมวดคิ้วอยู่เมื่อได้ยินดังนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมา เขาเพิ่งนึกออกว่าตนลืมอะไรบางอย่างไป แต่อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ เขานั่งลงร่วมโต๊ะกับทั้งคู่
“แล้วสั่งอะไรมากินกันหรือยังล่ะ” เขาเอ่ยถามพลางยกน้ำขึ้นมาจิบ
“สั่งแล้ว นี่หนังสือของมึง”
“ขอบใจนะ”
เป็ดมองพี่จันทร์นิ่ง เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายมีบรรยากาศรอบตัวที่เปลี่ยนไปจากที่เคยเจอก่อนหน้านี้อยู่มาก อยากรู้จังว่าเป็นเพราะอะไรนะ
“มองพี่ทำไมเหรอครับ” จันทร์เอ่ยถามเด็กหนุ่ม
คนถูกถามชะงักไป เขาหัวเราะแห้งก่อนจะตอบ “พอดีว่า...มองคนสวยครับ”
“แหนะ ปากหวานนะเรา”
น้ำหวานขมวดคิ้วแน่น “ไหนว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย” เขาถามเด็กหนุ่ม
“ก็ไม่ได้ชอบครับ” เป็ดตอบหน้างอเล็กน้อย
“แล้วชมไอ้จันทร์ทำไม”
“ก็ชมเฉย ๆ ไม่ได้เหรอครับ”
“อ้าว...” น้ำหวานไปต่อไม่ถูก เป็นครั้งแรกที่เจอคนกล้าต่อล้อต่อเถียงเขาแบบนี้
ทะเลจันทร์หัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนดูท่าจะรับมือเด็กคนนี้ไม่ไหวสักเท่าไหร่นัก ใบหน้าเข้มที่มีเคราขึ้นเขียวครึ้มทำหน้าตาเหลอหลา ไม่บ่อยนักหรอกที่จะได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของมัน
“หัวเราะห่าอะไรของมึง”
“หัวเราะมึงนั่นแหละ” จันทร์ว่า เขาเห็นว่าคนอายุน้อยยังคงทำหน้ายุ่งก็เลยตัดสินใจเอ่ยขึ้น “เป็ดยังจำเรื่องที่พี่บอกว่าจะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จักได้หรือเปล่า”
“จำได้ครับ” เจ้าตัวพยักหน้าตอบ
“แล้วมึงยังจำได้หรือเปล่า เรื่องที่กูจะแนะนำเด็กคนหนึ่งให้มึงรู้จักน่ะ”
น้ำหวานขมวดคิ้ว “อย่าบอกนะว่า..”
“ใช่” จันทร์ยกยิ้มมุมปาก “แสดงว่าทั้งสองคนมีดวงสมพงษ์กันนะเนี่ย มาเจอกันเองโดยที่กูยังไม่ได้แนะนำให้เลย”
ทั้งคู่หันมองกัน และเป็ดก็ต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อนเมื่อคนที่นั่งข้างมองตนด้วยสายตาแปลก ๆ
“แค่บังเอิญมั้งครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น
“บนโลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอกนะ” น้ำหวานบอก “ทุกสิ่งที่เกิดบนโลกนี้ล้วนถูกกำหนดมาแล้วทั้งนั้น”
“บทหนังเรื่องใหม่ของมึงหรือไง” จันทร์แซว
“ไอ้ควาย” น้ำหวานด่าแต่ก็หัวเราะกับเพื่อนไปด้วย
ก็มีแต่เด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่นั่งครุ่นคิดไปกับประโยคนั้นของคนที่เขามองเป็นไอดอลมาตลอด มันอาจจะจริงอย่างที่อีกฝ่ายบอกก็ได้ ถ้าการที่เขาพบเจอกับผู้ชายคนนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว มันก็คงไม่แปลกที่ตนจะรู้สึกแปลกไปจากที่เคยเป็นมาตลอด
ถ้าเขาเป็นผู้หญิง...คงไม่ลังเลที่จะตกลงเป็นแฟนกับคนคนนี้ แต่ปัญหาคืออีกฝ่ายดันเป็นผู้ชายนี่สิ เขาไม่ได้รังเกียจเกย์ เพราะทะเลเพื่อนคนเดียวของเขามันก็เป็นเกย์ แต่เขาไม่เคยมีความคิดจะคบกับเพศเดียวกันมาก่อน ไม่เคยมีภาพนั้นอยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ
เป็ดจมอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่ได้ยินว่าคนข้างกายถามอะไร จนมือใหญ่วางลงบนศีรษะนั่นแหละถึงได้รู้สึกตัว เขาหันกลับไปมอง “ครับ”
“พี่ถามว่าคิดอะไรอยู่เหรอ”
คนถูกถามส่ายหน้า “เปล่าครับ”
“ข้าวมาแล้ว กินกันเถอะ” น้ำหวานบอกยิ้มให้พร้อมกับลูบผมเบา ๆ
“..ครับ” เป็ดตอบเสียงเบา ความอุ่นซ่านก่อตัวขึ้นหัวใจของเขาอย่างช้า ๆ เขาคิดได้ว่าถ้ามีพี่ชายอย่างอีกฝ่ายคงดีไม่น้อย
ทะเลจันทร์มองทุกการกระทำของเพื่อนที่มีต่อเด็กตัวน้อยข้าง ๆ แล้วก็ได้แต่ยิ้มอย่างยินดี น้ำหวานมันจะรู้ตัวหรือเปล่านะว่ามันแสดงออกกับเด็กคนนี้ต่างจากคนอื่นที่ผ่านมา ทั้งสายตาและน้ำเสียงที่อ่อนโยน รวมถึงการลูบผมเบา ๆ อย่างเอ็นดูนั้น มันแสดงให้เขาเห็นว่าเป็ดคงจะเป็นคนที่เอาคนอย่างมันได้อยู่หมัดอย่างแน่นอน
/
หลังจากกินข้าวเสร็จ น้ำหวานก็อาสามาส่งที่บ้านของเด็กหนุ่ม ในตอนแรกเป็ดก็บอกให้ส่งแค่ป้ายรถเมล์ก็พอ แต่คนอายุมากกว่าดึงดันไม่ยอมจะไปส่งถึงที่บ้านให้ได้
“ถ้าไม่ให้พี่ไปส่ง งั้นเราก็ไปค้างที่บ้านพี่ก็แล้วกัน”
พอน้ำหวานบอกอย่างนั้น และดูท่าว่าจะพูดจริงทำจริงด้วย เป็ดก็เลยต้องยอมอย่างช่วยไม่ได้
“โกรธพี่เหรอ” คนอายุมากกว่าถามขึ้นในขณะที่รถติดไฟแดง
เป็ดเหลือบมอง “ไม่ได้โกรธครับ”
“งั้น..คิดอะไรอยู่เหรอ” เขาเปลี่ยนคำถาม
“...กำลังคิดว่าจะจัดการกับคนแบบพี่ยังไงดีครับ”
คำตอบที่ตรงไปตรงมาของเด็กคนนี้เรียกเสียงหัวเราะของน้ำหวานได้ดังลั่นรถเลยทีเดียว เป็ดเห็นแบบนั้นก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตางุนงง ไม่เข้าใจว่าตนตอบอะไรตลกตรงไหน
“โอย..” น้ำหวานร้องด้วยความเหนื่อย “เรานี่สุดยอดไปเลย”
เป็ดเอียงคอ “อะไรเหรอครับ”
“พี่ชักจะชอบเราขึ้นมาจริง ๆ แล้วสิ”
เด็กหนุ่มหันกลับมาก้มหน้าลง มือทั้งสองข้างกุมเข็มขัดนิรภัยที่พาดผ่านตัว ริมฝีปากเล็กเม้มแน่น รู้สึกแย่นิดหน่อย..อีกคนพูดเหมือนว่าตอนแรกตั้งใจว่าจะจีบกันเล่น ๆ อย่างนั้นแหละ
เป็ดดึงสติตัวเองให้กลับมา ทำไมตนจะต้องไปรู้สึกไม่ดีด้วย ก็แค่คนเจ้าชู้คนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้เลิกชอบอีกฝ่ายหรอกนะ พี่น้ำหวานก็ยังคงเป็นไอดอลที่เขายังชื่นชอบในผลงานเหมือนเดิมอยู่ดี
“ถามจริง ๆ นะ เราคิดว่าพี่เป็นคนยังไงเหรอ” คนอายุมากกว่าถามอีก
“ในความคิดของผมเหรอ…” เป็ดทำท่านึกอยู่ชั่วครู่ “สำหรับผมแล้วพี่เป็นคนเก่ง ผมชอบผลงานของพี่มากเลย”
“พี่รู้แล้วว่าเราชอบงานพี่” น้ำหวานพูดกลั้วหัวเราะ “แล้วนอกนั้นล่ะ”
“ผมไม่อยากพูดข้อเสียของพี่เลย”
น้ำหวานเลิกคิ้ว “ข้อดีของพี่มีอย่างเดียว นอกนั้นข้อเสียล้วน ๆ เลยเหรอ”
“ผมรู้จักพี่จากในสื่อนี่นา นอกจากเรื่องงานของพี่แล้ว เขาก็เสนอแต่ข่าวคาว ๆ ของพี่ทั้งนั้น”
น้ำหวานพยักหน้าเห็นด้วย “แต่เราก็เพิ่งบอกว่าพี่เจ้าชู้ไม่ใช่เหรอ”
ถึงเป็ดจะไม่ได้ว่าเขาโดยตรง แต่ไอ้การที่บอกกับตนว่า ‘ไม่ได้ชอบผู้ชายและไม่ชอบคนเจ้าชู้’ เนี่ย มันก็คือเขาไม่ใช่หรือไง
“หรือไม่จริงล่ะครับ”
น้ำหวานไหวไหล่ “แต่พี่ไม่ได้เจ้าชู้นะ”
“แล้ว?” เป็ดคิดว่าอีกฝ่ายไม่เห็นต้องมาแก้ตัวกับเขาในเรื่องนี้เลย
“หืม..อย่าเย็นชากับพี่นักสิ”
“ผมเปล่าสักหน่อย”
“เราทำเหมือนกับว่าเรื่องที่พี่บอกไม่เกี่ยวกับเราเลยนี่นา”
“อ้าว ก็แล้วไม่จริงเหรอครับ” เป็ดตอบซื่อ ๆ
“โธ่~”
“ผมสนใจแค่งานของพี่เท่านั้นแหละครับ”
น้ำหวานเหนื่อยใจ ไม่เคยต้องพยายามเข้าหาใครขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิตนี้ เขาถอนหายใจเงียบ ๆ คนเดียว ขอเวลาพักสักครู่แล้วจะขอไปสู้ต่อ
คนอายุน้อยกว่าเหลือบมองคนขับรถที่เงียบไป ทั้งที่เมื่อกี้ยังพูดฉอด ๆ อยู่เลย “พี่โกรธผมเหรอ”
“เปล่าครับ” คนถูกถามตอบเสียงเหนื่อย
“พี่ไม่โกรธ แต่พี่ก็ไม่คุยกับผม” เป็ดอมลมจนแก้มป่อง
“พี่กำลังคิดอยู่ครับ”
“คิด?”
“...คิดว่าจะทำยังไงดีถึงจะเป็นผู้ชายคนแรกที่เราตกหลุมรักได้”
หัวใจดวงน้อย ๆ ของเป็ดเต้นผิดจังหวะเมื่อได้ยินอย่างนั้น แววตาที่เคยหนักแน่นสั่นไหวด้วยความสับสน ตัวเขาในตอนนี้เป็นอะไรกัน…
/
น้ำหวานขับรถมาจอดหน้าบ้านที่เป็นทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก เขาลงจากรถตามเด็กหนุ่มไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายที่ยืนก้มหน้าเงียบ
“นี่เราอาศัยอยู่กับใครเหรอ” เขาถามขึ้นพลางมองเข้าไปในบ้านที่ปิดไฟมืด
“แม่ครับ แต่วันนี้แม่ไม่อยู่ จริง ๆ คือไม่ค่อยอยู่บ้านมากกว่า”
คนอายุมากกว่าพยักหน้ารับรู้ “แล้ว...จะไม่เลี้ยงน้ำเย็นพี่เป็นการขอบคุณที่มาส่งหน่อยหรือ” เขาหาเรื่องที่จะอยู่ต่ออีกสักหน่อย
“เอ่อ..” เป็ดอึกอัก รู้สึกไม่ไว้ใจอีกฝ่ายนัก แต่จะไม่เชิญมันก็น่าเกลียด
“ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไร ไว้เจอกันใหม่นะ”
“ไม่ครับ ๆ เดี๋ยวผมหาน้ำให้พี่กินก่อนก็ได้” เป็ดรีบบอกเมื่อเห็นคนอายุมากกว่าทำท่าจะกลับ เขาควานหากุญแจบ้านในกระเป๋าสะพายก่อนจะไขประตู
น้ำหวานยิ้มกริ่มเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน…
“พี่นั่งที่โซฟาได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมไปรินน้ำให้”
“ขอบใจนะ” น้ำหวานบอกยิ้ม ๆ แล้วทรุดกายนั่งลง เขาใช้สายตาสำรวจไปรอบบ้านหลังเล็ก ทำไมกันนะ...ทำไมเขาไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นเลย บรรยากาศของบ้านนี้เต็มไปด้วยความเหงา
สายตาเหลือบไปเจอเด็กหนุ่มร่างเล็กเดินถือแก้วน้ำเข้ามาพอดี เป็ดยื่นให้และเขาก็รับแก้วมาโดยจงใจให้มือโดนกัน อีกฝ่ายชักมือกลับทันที แก้มใสแดงขึ้นเล็กน้อย
“นั่งด้วยกันก่อนสิ”
เป็ดนั่งข้าง ๆ น้ำหวานบนโซฟาตัวเดียวที่มีอยู่ในบ้าน ความเงียบก่อตัวขึ้นช้า ๆ ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา เด็กหนุ่มรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ต่างจากน้ำหวานที่นั่งด้วยท่าทีสบาย ๆ เหมือนอยู่บ้านตัวเอง พลางเหลือบมองคนข้างกายเป็นระยะ
“พี่ขอเบอร์ติดต่อหน่อยสิ” คนอายุมากกว่าบอกพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ที่ปลดล็อกแล้วให้กับอีกคน
เป็ดยื่นมือไปรับช้า ๆ ก่อนจะกดเบอร์ของตัวเองลงไปแล้วโทรเข้าหาเบอร์ของตัวเอง เขาส่งมือถือคืนให้ แต่แทนที่อีกฝ่ายจะหยิบสมบัติของตัวเองกลับไป แต่มือใหญ่กลับคว้าเข้าที่ข้อมือบาง
คนที่ตัวสูงใหญ่กว่าดึงเด็กหนุ่มเข้ามาชิด เพราะเขาทนกับความน่ารักของอีกฝ่ายไม่ไหวแล้ว ตาชั้นเดียวเบิกกว้างขึ้นมองเขาด้วยความตกใจ
“พี่..จะทำอะไรน่ะ”
“พี่ขอจีบเราได้หรือเปล่า”
เป็ดด่าคนตรงหน้าในใจ ‘ทำมาขนาดนี้แล้ว เพิ่งจะมาขอเนี่ยนะ’
“อย่าเงียบสิ”
“พี่เพิ่งมาขอจีบผมตอนนี้เนี่ยนะ”
น้ำหวานจับหลังมือขึ้นมาหอม เขาสบตากับเด็กหนุ่มตรงหน้า “พี่อยากให้ตัวเองแน่ใจก่อนว่าพี่ชอบเราจริง ๆ ไม่ใช่ถูกใจแค่ที่หน้าตาของเราอย่างเดียว แล้วจะจีบมั่วซั่ว พอไม่ถูกใจก็ทิ้งขว้าง แบบนั้นพี่ทำไมลงจริง ๆ”
ใบหน้าขาวแดงซ่านยามที่อีกฝ่ายพูด เขารับรู้ได้ถึงความจริงใจทั้งหมดผ่านทางน้ำเสียงและแววตา
“ในสายตาเราและคนอื่น ๆ มองว่าพี่เป็นคนเจ้าชู้ แต่พี่อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้น อาจจะฟังดูเหมือนพี่แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ แต่พี่มีเหตุผลนะ เราพร้อมจะรับฟังพี่หรือเปล่า”
คนอายุน้อยกว่าลังเลอยู่นิดหน่อยก่อนตอบ “ผมจะฟังพี่”
น้ำหวานยิ้มออกมา “ขอบใจนะ”
“ผมให้โอกาสคนเสมอ” เป็ดบอก “แต่พี่ช่วยปล่อยผมก่อนได้ไหม”
“โทษที” คนตัวใหญ่ยิ้มแห้งแล้วจึงพูดเข้าเรื่อง “พี่น่ะชอบที่จะคบเพื่อดูนิสัยกันก่อนจะตกลงเป็นแฟนเสมอ ถึงแม้จะหน้าตาถูกใจแต่พี่ก็จะยังไม่ตกลงเป็นแฟนกันในทันที ถ้านิสัยของเขาเป็นในแบบที่พี่ไม่ชอบ..พี่ก็จะไม่ไปต่อทันที นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พี่มีข่าวแบบนั้น”
“แล้วถ้าเกิดผมมีนิสัยที่พี่ไม่ชอบขึ้นมาล่ะ พี่จะยังไปต่อไหม ผมน่ะ..ไม่อยากไปอยู่ในสถานะที่ไม่แน่นอนหรอกนะครับ”
น้ำหวานเงียบเมื่อโดนพูดสวนตรง ๆ เขาคิดตามที่เด็กหนุ่มบอก
“รู้ไหมว่าพี่ไม่เคยเป็นคนเข้าหาใครก่อนเลยนะ...เราเป็นคนแรกที่พี่คิดจะจีบก่อน เพราะหนึ่งวันที่ได้อยู่ด้วยกันทำให้พี่มั่นใจว่าเราทั้งสองคนน่าจะไปด้วยกันได้ดี”
“พี่มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่” เขาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พี่อยากให้เราลองทำความรู้จักพี่ใหม่ตั้งแต่ต้น อยากให้เรารู้จักตัวตนของพี่จริง ๆ ไม่ใช่จากในข่าวพวกนั้น”
เด็กหนุ่มเงียบตัดสินใจอยู่นาน ความจริงเขาก็เริ่มเหนื่อยใจที่มักจะมีแต่ผู้ชายเข้าหาแล้วด้วย หรือว่าดวงของเขามันจะต้องคบกับผู้ชายจริง ๆ หรือไงกัน
“ผม...จะลองดูก็ได้ครับ” เขาตัดสินใจตอบออกไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง ลองก็ลอง เป็นไงเป็นกัน ถ้าไม่โอเคอย่างน้อยก็ได้ใกล้ชิดกับคนที่ชื่นชอบล่ะวะ
น้ำหวานยิ้มอย่างยินดี เขาดึงตัวเด็กหนุ่มเข้ามากอดเสียแน่น จนร่างบาง ๆ แทบจะจมเข้าไปในอก “พี่ดีใจจัง” คนอายุมากกว่าบอกก่อนจะหอมลงบนหัวของเด็กในอ้อมกอด
เป็ดยิ้มขำเมื่ออีกฝ่ายพูดราวกับเด็ก ๆ ความอบอุ่นที่ไม่ได้รับมานานแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ เขาเผลอโอบเอวอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวแล้วฝังใบหน้าลงสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำยาปรับผ้านุ่มปนกับกลิ่นบุหรี่จาง ๆ
“พี่สูบบุหรี่ด้วยเหรอ”
“หืม...นาน ๆ ทีน่ะ” น้ำหวานตอบ “เราไม่ชอบเหรอ”
เป็ดถูหน้าไปมา “เปล่าครับ แค่นึกถึงป๊านิดหน่อย”
จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ ตอนที่ยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เวลาที่ตนเข้าไปกอดป๊าทีไรก็มักจะได้กลิ่นบุหรี่จาง ๆ ออกมาจากตัวท่านเสมอ นานมากแล้ว...ที่ไม่ได้พบกันเลย
‘เป็ดคิดถึงป๊าที่อยู่บนฟ้ามาก ๆ นะครับ’
คนอายุมากกว่าลูบผมเส้นตรงที่ค่อนข้างกระด้างมือนิดหน่อย เขาเองไม่ค่อยมีความทรงจำเกี่ยวกับครอบครัวนัก พ่อแม่ที่แท้จริงทิ้งเขาไว้ที่โรงพยาบาล ส่วนพ่อแม่บุญธรรมก็ยุ่งกับงานจนไม่ค่อยมีเวลาใกล้ชิดกับเขา คนที่เขาผูกพันด้วยก็มีแค่จันทร์ เล็ก แม่ของจันทร์ และครอบครัวของเล็กเท่านั้น
เขาไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของครอบครัวเป็ด แต่เท่าที่สัมผัสได้...เด็กคนนี้คงจะเหงาและว้าเหว่มาก ต่อหน้าคนอื่นทำเป็นร่าเริงได้ แต่ในเวลาที่อยู่คนเดียวกลับกลายเป็นคนละคน
“ไม่ได้เจอท่านมานานแล้วเหรอ”
“อื้ม” เป็ดกลั้นหายใจก่อนจะบอก “ไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว”
น้ำหวานเงียบไป ไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือทำอย่างไรดี ตนเริ่มรู้สึกว่าทั้งตัวเขาเองและเด็กคนนี้มีอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกันอยู่ และทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากปกป้องและดูแลให้ความรักกับเด็กชายขี้เหงาคนนี้เหลือเกิน
“พี่จะดูเราเองนะ”
“...พี่จะมาเป็นพ่อของผมเหรอ” เป็นพูดกลั้วหัวเราะ
“อยากจะเป็นทั้งพ่อ...และผัวเลยล่ะ
เป็ดทุบลงกลางแผ่นหลังกว้าง ไม่ได้รู้สึกโกรธแต่เขินมากกว่า การที่เป็นผู้ชายแล้วต้องมาเป็นเมียของผู้ชายเหมือนกัน...มันดูจั๊กเดียมพิกล
คนอายุมากกว่าหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าแดงของเป็ด เขาเชยคางอีกฝ่ายขึ้นหมายจะหอมแก้มแต่กลับโดนเจ้าของแก้มใสปิดปากเอาไว้เสียก่อน
“ห้ามจูบนะ”
น้ำหวานยิ้มเอ็นดูก่อนจะจับมือของเด็กหนุ่มออก “เปล่าสักหน่อย พี่แค่จะหอมแก้มเอง”
“..นั่นก็ยังไม่ได้ครับ”
“โธ่ แค่นิดหน่อยเองครับ”
เป็ดขมวดคิ้วแน่น ทำปากยื่นอย่างไม่ค่อยพอใจ นี่นอกจากจะมือไวแล้วยังจะใจเร็วอีกนะ
“โอเค ๆ ไม่ทำก็ไม่ทำครับ” คนอายุมากกว่ายกมือขึ้นทั้งสองข้างบ่งบอกว่ายอมแพ้แล้ว ซึ่งถ้าไอ้จันทร์เห็นมันก็คงจะแซวเอาแน่ ๆ
“กลับบ้านไปได้แล้ว” เจ้าตัวดันอีกฝ่ายให้ออกไปแล้วจึงลุกขึ้นยืน เขาเดินไปรอที่หน้าประตูบ้านเพื่อรอส่งแขก
น้ำหวานลุกออกจากโซฟาค่อย ๆ เดินอย่างอ้อยอิ่ง ให้ตายสิ..รู้สึกไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้
“พี่กลับก่อนนะ”
“อื้ม”
“กลับจริง ๆ นะ”
“อื้ออ”
“ไม่รั้งหน่อยเหรอ”
“กลับไปได้แล้วครับ” เด็กหนุ่มเน้นย้ำทีละคำ
น้ำหวานหัวเราะร่วน มือใหญ่ยกขึ้นวางลงบนศีรษะที่เล็กตามขนาดตัว ลูบไปมาอย่างเอ็นดู “ล็อกบ้านดี ๆ นะ”
“ครับ”
เป็นเดินตามออกไปส่งอีกฝ่ายถึงประตูรั้ว
“กลับถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกด้วยนะครับ” เป็ดบอกก่อนน้ำหวานจะก้าวขึ้นรถ
“ได้ครับคุณแฟน…”
เห็นใบหน้าแดงของเด็กตรงหน้าแล้วก็อยากจะวิ่งเข้าไปกอดแล้วฟัดแก้มให้ชื่นใจ ติดตรงที่ไม่อยากจะทำให้เป็ดขวัญหนีดีฝ่อซะก่อน เขาเลยต้องข่มใจเอาไว้ ถ้าถึงวันที่อีกคนยอมเปิดใจ...เขาไม่ปล่อยเอาไว้แน่นอน
TBC…
ได้กลิ่นอนาคตคนเกลียมัวกันมั้ยคะทุกคน