พิมพ์หน้านี้ - ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: กานดา. ที่ 14-08-2018 21:32:26

หัวข้อ: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 14-08-2018 21:32:26
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


ผลงานเรื่องอื่น ๆ จ้า


น้องหมอ กะ พี่วิศวะ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31657.msg1844928#msg1844928 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31657.msg1844928#msg1844928)

- all my LOVE is for you -
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66894.msg3817452#msg3817452 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66894.msg3817452#msg3817452)


 
:L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 1 [14/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 14-08-2018 21:35:46
(https://uppic.cc/d/TGv) (https://uppic.cc/v/TGv)



จันทร์...หรือทะเลจันทร์ ชายหนุ่มอายุ 35
เจ้าตัวตั้งปฏิญาณเอาไว้ว่าจะไม่ผูกพันกับใครหน้าไหนใด ๆ ทั้งสิ้น
มีกฎในการที่จะนอนกับใคร ๆ ยิบย่อยเยอะแยะไปหมดจนดูเรื่องมาก
ทั้งไม่จูบ ถ้าไม่อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายก็ไม่ได้
และที่สำคัญคือถ้าอายุน้อยก็ไม่เอาอีก
แต่กับเด็กหนุ่มที่ชื่อทะเล...นอกจากที่ชื่อจะเกือบเหมือนกันแล้ว
กลับแหกกฎเขาแทบทุกอย่าง
ทั้งจูบ แถมอายุน้อยกว่ามากจนน่าตกใจ
หมอนี่อายุแค่ 22 เอง ยังเรียนอยู่เลยด้วย!
แต่ทำไมถึงตัดไอ้หมอนี่ออกไปจากชีวิตได้ยากเย็นแท้นะ...




twitter : https://twitter.com/gandabossom
page : https://www.facebook.com/gandastory/



หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 1 [14/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-08-2018 21:39:45
 :L2: ตามมาอ่าน
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 1 [14/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 14-08-2018 21:44:11

1





“แม่..วันนี้จันทร์ไม่เข้าร้านนะครับ”

ลูกชายคนเดียวเดินเกาพุงลงมาจากชั้นสองของบ้านบอกมารดาที่กำลังหยิบจับของลงกระเป๋าเตรียมตัวจะไปทำงาน เจ้าตัวอ้าปากหาวด้วยความง่วงนอน ผมยาวชี้ฟูไม่เป็นทรง

“เมื่อคืนนี้วาดรูปดึกอีกแล้วเหรอเรา?” เธอพูดอย่างรู้ทัน ริมฝีปากสวยที่แต่งแต้มลิปสติกสีชมพูอ่อนแย้มยิ้ม

“อื้อ” เจ้าตัวยิ้มแห้ง พยักหน้าจนผมยาวยุ่ง ๆ นั่นสะบัดไปมา “พอดีจันทร์นอนไม่หลับอีกแล้ว”

“เอาเถอะจ้ะ หนูไปนอนต่อเถอะ แม่ไปร้านก่อนนะ”

จันทร์ยิ้มหวานก่อนจะเดินเข้าไปกอดหอมแม่ด้วยความรัก

“ขับรถดี ๆ นะครับ”

คนเป็นแม่ถอนหายใจ ตบหลังบางของลูกชายอย่างเบามือ “อายุป่านนี้แล้วยังอ้อนแม่เป็นเด็ก ๆ อีกนะ”

ลูกชายที่ตัวสูงกว่าถอยออกมาส่งยิ้มให้แม่ ไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่ท่านพูดเลย เพราะก็โดนพูดใส่แบบนี้เป็นประจำจนชินซะแล้ว และเขาก็ไม่สนด้วย ก็เขารักแม่ของเขานี่นา…



/



จันทร์ หรือชื่อเต็มคือทะเลจันทร์ ชายหนุ่มอายุ 35 แต่ภายนอกกลับดูอ่อนกว่าอายุจริงมาก หลายคนที่ได้รู้อายุจริงของเจ้าตัวแทบไม่มีใครเชื่อเลยสักคน ต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาดูอ่อนกว่าวัยเป็นสิบปีเลยทีเดียว

เขาเป็นจิตรกร แต่ถ้าจะพูดว่ามันเป็นอาชีพนั้น...ก็คงเรียกได้ไม่เต็มปากนัก เพราะถ้าจะให้นับเงินจากการขายผลงานของเขาแล้วมันแทบจะไม่พอกินด้วยซ้ำ ทุกวันนี้รายได้หลักของเขามาจากการเป็นลูกจ้างทำงานที่ร้านของแม่ทั้งนั้น

แม่ของทะเลจันทร์เปิดร้านอาหารที่ชื่อว่าจันทร์ฉายมานานหลายสิบปีแล้ว เป็นกิจการที่ตกทอดมาจากตาและยายอีกที แต่พอร้านมาถึงรุ่นของแม่ ท่านก็ได้ปรับปรุงอะไรหลายอย่างให้ดูสวยและทันสมัยมากขึ้น จนทุกวันนี้มีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดสาย และก็มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ในสมัยก่อนนั้น..ร้านจันทร์ฉายขายแต่อาหารไทยทั่วไป แต่พอเปลี่ยนมือมาเป็นรดาแม่ของจันทร์ เธอก็ได้เพิ่มเมนูอาหารฝรั่งที่ชอบเข้าไปด้วย ประกอบกับที่ทะเลจันทร์ชอบทำขนมเป็นงานอดิเรก พอเห็นว่าลูกชายอยู่ว่าง ๆ ก็เลยชวนมาทำเล่น ๆ ในตอนแรก แต่ผลตอบรับกลับดีเกินคาด เลยกลายเป็นว่าเจ้าตัวต้องลงมือทำอย่างจริงจังซะอย่างนั้น แลกกับการที่ต้องเอาผลงานศิลปะของเจ้าตัวขึ้นตกแต่งในร้านด้วย จนตอนนี้ในร้านก็แทบจะไม่มีที่แขวนอยู่แล้ว



/



จันทร์ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว เจ้าตัวนอนเล่นมือถือกลิ้งไปมาอยู่บนที่นอนอีกพักใหญ่ ๆ แล้วก็คิดได้ว่าไหน ๆ วันนี้ก็ไม่ต้องเข้าร้านแล้วก็ขอออกไปดื่มสักหน่อยดีกว่า เขาไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตามานานแล้วด้วย แถมพวกที่เคยคั่วกันเขาก็ตัดออกไปหมดแล้ว คงเพราะอัดอั้นเกินไปเลยทำให้ไม่มีจินตนาการซะล่ะมั้ง

พอตัดสินใจได้เขาก็จัดการอาบน้ำแต่งตัว ผมยาวถูกมัดไว้เรียบร้อย คืนนี้เขาเลือกเชิ้ตแขนยาวสีขาวเข้ารูป โดยพับแขนเสื้อขึ้นจนถึงข้อศอก ปลดกระดุมลงสองเม็ดพอให้เห็นแผ่นอกขาวบาง จันทร์เป็นคนที่ไม่ออกกำลังกายแถมยังกินน้อยอีกเลยทำให้เป็นคนที่ค่อนข้างผอม เจ้าตัวสอดชายเสื้อเข้าในกางเกงผ้าสีดำแบบพอดีตัว พรมน้ำหอมยี่ห้อ kiehl’s aromatic blends patchouli & fresh rose mist ที่กำลังเป็นกลิ่นโปรดในตอนนี้

เจ้าตัวเลือดบาร์ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมชั้นนำของกรุงเทพที่ผู้คนไม่พลุกพล่านนัก บรรยากาศเงียบ สงบ เหมาะแก่การไปผ่อนคลาย และเพราะมาคนเดียวเขาเลยเลือกที่จะนั่งตรงบาร์เงียบ ๆ คอยให้บาร์เทนเดอร์แนะนำเครื่องดื่มให้

เสียงเพลงที่ทางร้านเปิดทำให้คนอายุเริ่มเยอะแต่หน้ายังเด็กอย่างทะเลจันทร์รู้สึกผ่อนคลายลงมาก เจ้าตัวหลับตาฟังเพลงด้วยสีหน้าเคลบเคลิ้ม ใบหน้าอ่อนเยาว์ยิ้มน้อย ๆ ดูน่ามอง จนคนที่นั่งอยู่ใกล้อดไม่ได้ที่จะเข้ามาทำความรู้จัก

“สวัสดีครับ” ชายหนุ่มที่เพิ่งขยับเข้ามานั่งติดกันเอ่ยทักทาย พออีกฝ่ายหันมาเขาก็ยิ้มให้

“เรารู้จักกันเหรอครับ?” จันทร์เอียงหน้าถามพร้อมกับยิ้มมุมปาก รู้หรอกว่าอีกฝ่ายเข้าหาแนวไหน..ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอแบบนี้เสียเมื่อไหร่กัน

คนถูกย้อนถามหัวเราะในลำคอ “ไม่หรอกครับ..เราไม่ได้รู้จักกัน แต่ผมอยากรู้จักคุณ”

“ไม่ถามผมสักหน่อยหรือว่าอยากไหม?” เจ้าตัวบอกก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นจิบ “บอกก่อนเลยนะว่าไม่อนุญาตให้จีบ พอดีว่าไม่ชอบผูกมัดกับใคร”

อายุอานามตั้งขนาดนี้แล้ว ใครเข้าหาด้วยจุดประสงค์อะไรเขาก็รู้ทันหมดนั่นแหละ ยิ่งสมัยนี้เกย์เป็นที่ยอมรับมากขึ้น และด้วยรูปร่างหน้าตาของทะเลจันทร์ทำให้ไปไหนก็เจอคนเข้าหาตลอด ก็ไม่ได้จะหลงตัวเองหรอกนะ..แต่เขาเองก็นับว่าดูดีเลยทีเดียว

คนแปลกหน้าหัวเราะร่วนหลังจากที่จันทร์พูดจบ “ตรง ๆ แบบนี้ก็ดีครับ ผมชอบ”

จันทร์กระตุกยิ้ม “โทษทีนะ แต่ผมไม่นิยมคนอายุน้อย”

เจ้าตัวมีแววตาของความแปลกใจออกมาวูบเดียวแล้วมันก็หายไป สายตากลับมาสื่อถึงความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง ตนยิ้มด้วยความพึงใจในตัวของคนคนนี้มาก ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา ความเย้ายวนที่แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ และความฉลาดรู้ทันคนของอีกฝ่าย

“รู้ได้ยังไงว่าผมอายุน้อย?”

“ไม่รู้สิ” จันทร์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “คงเป็นออร่าล่ะมั้ง”

คนตรงหน้าแสดงสีหน้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด จันทร์หัวเราะในลำคอ “ผมเองก็บอกไม่ถูกหรอกนะว่ารู้ได้ยังไง อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ก็ได้นะ”

“แต่คุณเองก็ดูอายุไม่เยอะสักเท่าไหร่เลยนะ” อีกฝ่ายว่า

“งั้น...คุณคิดว่าผมอายุเท่าไหร่? ถ้าทายถูกผมยอมให้จีบเลย”

ทะเลจันทร์ท้าทายอีกฝ่าย นี่ยอมเปิดทางให้สุด ๆ แล้วนะ เห็นแก่ที่ว่าหมอนี่ถูกสเป็กเขาหรอก คิ้วเข้ม ตาคมสวย ผิวสีน้ำผึ้งดูสุขภาพดี รูปร่างก็เหมือนอย่างคนที่ออกกำลังกายประจำ ไม่ได้ล่ำกล้ามปูอะไร แต่ดูสมส่วนพอมีกล้ามเนื้อสวยงาม

“อืม…” เจ้าตัวครุ่นคิด “ผมว่าประมาณ 27 มั้ง”

“เสียใจด้วย” จันทร์ยิ้มอย่างผู้ชนะ “คุณตอบผิด”

คนตัวใหญ่กว่าขมวดคิ้วด้วยความขัดใจ “แล้วคุณอายุเท่าไหร่กัน?”

จันทร์ไหวไหล่อย่างไม่สนใจจะตอบนัก “ไม่บอก” เขายกแก้วขึ้นกระดกเครื่องดื่มในนั้นจนหมด ก่อนจะชูแก้วบอกให้บาร์เทนเดอร์ชงให้ใหม่อีกแก้ว

“ถ้าคุณไม่บอก ผมจะคิดว่าคุณโกงผมนะ” เจ้าตัวบอกอย่างไม่พอใจนัก
คนถูกต่อว่าเลิกคิ้วขึ้น “โกงแล้วยังไง ไม่โกงแล้วยังไง”

พอถูกย้อนกลับแบบนี้ก็ทำเอาชายหนุ่มอึ้งไป ก่อนจะบอก “ผมขอโทษ”

“บอกตามตรงนะ ผมไม่คิดจะคบหรือผูกพันกับใครทั้งสิ้น แต่คุณถูกสเป็กผม..สนใจเป็นคู่นอนไหมล่ะ?”

ชายหนุ่มเหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยก เขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน เจ้าตัวแค่นยิ้มออกมาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยินดีนัก “พูดอะไรของคุณน่ะ?”

จันทร์ไหวไหล่ ยกแก้วขึ้นจิบก่อนจะตอบ “ก็อย่างที่บอกไป เราสองคนนัดเจอกันเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ก็เท่านั้น บอกก่อนว่าผมเองไม่ได้นอนกับคนแปลกหน้าไปทั่วนะ คนก่อนก็แบบคุณนี่แหละแล้วก็ป้องกันอย่างดีด้วย เพราะฉะนั้นรับรองได้ว่าสะอาดแน่”

ตาคมสวยจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายที่มองมาทางเขาในขณะพูด คราแรกเขาก็รู้สึกแย่ที่โดนเสนอตำแหน่งที่เป็นแค่คู่นอนให้ อันที่จริงเขาไม่ชอบเรื่อง one night stand เลย แต่พอคิดพิจารณาดูดี ๆ แล้วอีกฝ่ายก็ไม่ได้เสนอว่าจะนอนกับเขาแค่คืนเดียวนี่นา แบบนี้ก็เป็นไปได้ที่ความสัมพันธ์จะพัฒนาไปในทางที่ดีกว่า ถึงแม้มันจะข้ามขั้นตอนไปสักนิด แต่ก็น่าสนใจไม่น้อย

แถมอีกฝ่ายก็ดูน่ากินชะมัด เจ้าตัวเม้มปากพร้อมกับเลียมันอย่างครึ้มอกครึ้มใจ “คืนนี้เลยไหมครับ?”

“วัยรุ่นนี่ใจร้อนจังนะ” ทะเลจันทร์ยิ้มขันแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพราะเขาว่างเว้นจากเรื่องแบบนี้มาพักใหญ่แล้ว และมันก็ทำให้เขาขาดจินตนาการมากจนรู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้าเลยล่ะ



/



สุดท้ายแล้วเขาก็เปิดห้องที่โรงแรมนี้เลย เพราะจะได้ไม่เสียเวลาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น ถึงแม้ว่าคนสวยจะมีท่าทีไม่อยากรู้จักเขาสักเท่าไหร่ก็ตามเถอะ เพื่อความประทับใจแรกเขาเลือกเปิดห้องที่แสนจะแพง ไหน ๆ พ่อก็ทิ้งบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินเอาไว้ให้ก่อนจะหนีไปทำงานที่เมืองนอกเมืองนานานหลายปีและแทบจะไม่ได้กลับมาที่นี่เลยด้วยซ้ำ...ยังไงก็ขอใช้มันหน่อยเถอะ

“จะอาบน้ำก่อนไหม?” เมื่อประตูห้องปิดลงจันทร์ก็เอ่ยถามคนที่ตัวใหญ่กว่า “บอกก่อนว่าต่อให้หน้ามืดยังไง ผมไม่ทำกับคนที่ไม่อาบน้ำนะ”

คนถูกถามขำพรืด “แล้วจะถามผมทำไมล่ะเนี่ย”

“ก็แหม...คุณจ่ายห้องแพงขนาดนี้ ผมก็ถามตามมารยาท”

ใบหน้าคมกระตุกยิ้มมุมปาก “ผมล่ะชอบคุณจริง ๆ” หลังจากที่พูดจบก็คว้าต้นคอของอีกฝ่ายดึงเข้ามาตั้งใจจะบดจูบด้วยความมันเขี้ยว แต่กลับโดนมือเรียวนั่นปิดปากเข้าให้

“อ๊ะ ๆๆ ลืมบอกไปว่าผมไม่จูบนะ” จันทร์บอกยิ้ม ๆ

คนถูกขัดอารมณ์ส่งเสียงไม่พอใจ คิ้วเข้มขมวดแน่น วันนี้เขาโดนคนตรงหน้านี้ขัดใจไปแล้วกี่รอบกันนะ

“ดูทำหน้าเข้าสิ” จันทร์หยอกเย้า ยกมือขึ้นลูบแก้มอีกฝ่ายที่ตัวสูงกว่า “แต่สำหรับคุณ...ผมยอมให้จูบก็ได้ ถือว่าถูกสเป็กหรอกนะ”

แล้วคนเรื่องมากอย่างทะเลจันทร์ก็เป็นฝ่ายรั้งคอของอีกฝ่ายลงมาประทับจูบนุ่มนวลแผ่วเบาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนมากขึ้น นานมากแล้วที่เขาไม่ได้จูบใคร น่าแปลกใจที่เขากลับยอมคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกให้จูบลึกซึ้งแบบนี้

“ไปอาบน้ำด้วยกันไหม?” คนหน้าสวยถามหลังจากที่ถอนปากออกมา แขนทั้งสองข้างยังคงคล้องอยู่ที่คอของชายหนุ่มตรงหน้า

“ไปสิ”

“ว่าแต่...นี่ผมยังไม่ได้ถามชื่อคุณเลย”

อีกฝ่ายหัวเราะในลำคอก่อนจะตอบ “นึกว่าจะไม่ถามชื่อซะแล้ว ผมชื่อทะเล แล้วคุณล่ะ?”

“ชื่อทะเลจริงสิ?” จันทร์ถามตาโต

“อื้ม ก็จริงสิครับ” เขาตอบ

“บังเอิญจัง ผมชื่อจันทร์ แต่ชื่อเต็มคือทะเลจันทร์ล่ะ”

“แปลกจัง อะไรจะบังเอิญขนาดนี้” ทะเลรู้สึกแปลกใจก็จริง แต่เรือนร่างของคนตรงหน้าก็เย้ายวนเกินกว่าที่เขาจะเบี่ยงเบนความสนใจไปที่อื่นได้ เขาค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของจันทร์ออก เผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียน รูปร่างที่ค่อนไปทางผอมแบบนี้ดูไม่มีเนื้อหนังให้ได้จับอย่างเต็มไม้เต็มมือนัก แต่ตุ่มไต่สีชมพูที่หน้าอกก็เชิญชวนเขาเหลือเกิน

“อย่าเพิ่งซนสิ!” จันทร์เอ็ดคนที่กำลังยุ่งกับยอดอกเขาอย่างไม่จริงจังนัก “ขอผมอาบน้ำก่อน”

“ผมอาบด้วย” อีกฝ่ายพูดอย่างกระตือรือร้น

ท่าทีเหมือนเด็กของทะเลเรียกรอยยิ้มขำจากคนตัวเล็กกว่า “ได้สิ”



/



ในห้องน้ำที่แสนกว้างขวาง คนสองคนที่เพิ่งเจอหน้ากันได้ไม่นาน..กอดจูบกันราวกับคู่รัก ทั้งที่เพิ่งรู้จักชื่อกันได้ไม่กี่นาที แต่กอดรัดกันราวกับสัตว์ป่าที่หิวกระหาย

“ผมไม่ทำในห้องน้ำนะ” จันทร์บอก หอบหายใจด้วยแรงอารมณ์ “เดี๋ยวล้มหัวฟาดพื้นมาไม่คุ้มเอา” หลัง ๆ นี้เขายิ่งแข้งขาอ่อนอยู่บ่อย ๆ อายุก็เพิ่มมากขึ้นทุกวัน..ป้องกันเอาไว้ดีกว่า

“ข้อแม้เยอะจังนะคุณ” ชายหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งกระซิบที่ใบหูก่อนจะขบเม้มติ่งหู แก่นกายกลางลำตัวเริ่มมีปฏิกิริยา เขารีบอาบน้ำให้ตัวเองและอีกฝ่ายอย่างเร่งรีบ เรียกเสียงหัวเราะจากจันทร์ดังคิกคัก

“ไม่ต้องรีบก็ได้ ผมไม่หนีไปไหนหรอกน่า”

“ใครจะไปรู้ว่าคนแบบคุณจะเปลี่ยนใจตอนไหนล่ะ” ทะเลพูดจาค่อนขอด หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับคนตรงหน้ามาสักพักก็ทำให้เขารู้สึกว่าคนคนนี้เป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองสุด ๆ ไปเลย

“ดูพูดจาเข้า ผมบอกแล้วว่าจะทำก็ทำสิ” จันทร์พูดกลั้วหัวเราะ “นี่เห็นผมเป็นคนยังไงกันเนี่ย”

คนตัวใหญ่กว่าคว้าเอวบางของจันทร์เข้าประชิดตัว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมวันนี้ถึงได้มีอารมณ์มากกว่าปกติ ริมฝีปากได้รูปกดจูบอย่างเร่าร้อน จนโดนฝ่ามือขาวดันแผ่นอกนั่นล่ะเขาถึงได้ผละออกมา “คนยียวนแบบคุณนี่มัน…” เขากัดฟันพูดอย่างมันเขี้ยว

“ยียวนเหรอ นึกว่าจะบอกว่าผมเป็นคนเย้ายวนเสียอีก”

ทะเลจ้องคนตรงหน้าราวกับจะกลืนเข้าไปทั้งตัว เขาจับอีกฝ่ายขึ้นพาดบ่าจนเจ้าตัวร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ ก้าวขายาวไปที่เตียงนอนขาวสะอาด เมื่อวางคนตัวผอมลงก็ตามขึ้นไปคร่อมไว้ทันทีและก็ไม่ยอมปล่อยให้คนคนนี้กวนประสาทเขาได้อีก

เริ่มจากปิดปากที่ชอบพูดจากวน ๆ ของอีกฝ่ายด้วยจูบ ในขณะที่มือก็ลูบไล้ไปตามผิวเนียนลื่น ทะเลค่อย ๆ พรมจูบที่แนวกราม ลำคอระหง แผ่นอกเรียบ ดูดเม้มจุดไวสัมผัสสีสวยจนเจ้าของครางเสียงต่ำด้วยความพึงใจ ตนจับส่วนที่แสดงถึงความเป็นชายของอีกฝ่ายเคล้าคลึงไปพร้อมกัน

“บริการดีจังเลยน้า~” ทะเลจันทร์บอกเสียงสูงพร้อมกับยิ้มยวน

และเขาก็ตระหนักขึ้นมาได้อีกครั้ง...คนคนนี้เป็นคนที่กวนประสาทชะมัดยาด ไม่ทันไรก็พูดจายียวนจนเขาอยากจะกัดไหล่ขาว ๆ นั่นให้จมเขี้ยว

ทะเลทำเป็นไม่สนใจที่อีกฝ่ายพูด เจ้าตัวผละออกไปหยิบของจำเป็นในกระเป๋า ถุงยางและเจลหล่อลื่นแบบซองที่พกเอาไว้เสมอ หันกลับมาก็เห็นว่าคนบนเตียงกำลังแซวเขาด้วยสายตาแทนคำพูด

“อ้าขาหน่อยสิครับ” คนตัวใหญ่กว่าบอก และจันทร์ก็ทำตาม..ขาเรียวยาวเปิดออกจากกันเผยให้เห็นช่องทางสีสวย เขาฉีกซองเจลหล่อลื่นทาลงที่ด้านหลังของอีกฝ่าย กดนวดกระตุ้นเพื่อให้ช่องทางนั้นผ่อนคลาย

“คุณนี่ใจดีจังเลยนะ” ไม่บ่อยหรอกที่เขาจะเจอฝ่ายรุกบริการดีแบบนี้ ส่วนใหญ่ก็เจอแต่พวกหน้ามืดที่จ้องแต่จะเอาไอ้นั่นเสียบก้นเขาเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจฝ่ายที่ต้องรองรับอย่างเขาเลย

ชายหนุ่มยิ้มบาง “ขอบคุณที่ชมครับ”

จันทร์อดที่จะสะดุ้งไม่ได้เมื่อถูกนิ้วชำแรกเข้ามา นานแล้วที่ไม่ได้มีอะไรกับใคร มันก็ต้องใช้เวลาปรับตัวกันหน่อย โชคดีที่รอบนี้เจอคนดีนะเนี่ย

“ไม่ต้องเกร็งนะ” คนที่อยู่ด้านบนบอกน้ำเสียงนุ่มนวล ถึงแม้ว่าคนตรงหน้านี้จะกวนขนาดไหนก็ตาม แต่เขากลับรู้สึกว่าคนคนนี้ช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน เขาขยับนิ้วสร้างความคุ้นเคยให้กับร่างกายของอีกฝ่าย พอรู้สึกว่าช่องทางคุ้นเคยดีแล้วก็ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไป

“ใส่เข้ามาเถอะ” จันทร์บอกเมื่อถูกอีกคนทำความคุ้นเคยกับตรงนั้นมาสักพักแล้ว ร่างกายของเขาถูกกระตุ้นจนทนแทบไม่ไหว

ชายหนุ่มด้านบนยิ้มก่อนจะหยิบถุงยางมาสวม

จันทร์หลับตาลงรับร่างกายของอีกฝ่ายที่กำลังดันเข้ามา พอไม่ได้ทำนาน...มันก็เจ็บจริง ๆ นั่นแหละ แถมของไอ้หมอนี่ก็ใหญ่ใช้ได้เลย เขากัดฟันเพื่อหวังว่ามันจะบรรเทาความเจ็บนี้ไปได้

“เจ็บเหรอ?” ทะเลถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นอีกฝ่ายหลับตาปี๋ แถมยังกัดฟันแน่นจนกรามขึ้นเป็นสัน อันที่จริงอีกฝ่ายดูท่าทางเชี่ยวมากจนเขารู้สึกแปลกใจที่ด้านหลังแน่นขนาดนี้

“นิดหน่อย” ปากตอบไปแบบนี้เพราะกลัวเสียหน้า แต่ในใจกลับกู่ร้องว่า...เจ็บฉิบหายเลยโว้ย เจ็บจนอยากจะถีบไอ้หมอนี่ให้กระเด็นไปเลย

ทะเลยิ้มขำ...ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าเจ็บจนหน้าดำหน้าแดงยังมาปากแข็งอีก “งั้นผมยังไม่ขยับนะ”

จันทร์มองคนด้านบน ก่อนจะยังตัวรั้งคนด้านบนให้ก้มลงมาจูบ ดูดดึงอย่างเร่าร้อนเพื่อหวังให้ความเจ็บมันหายไป “ขยับเถอะ” เขาบอก ถึงแม้มันจะเจ็บ..แต่เขาก็อยากทำ เพราะรู้ว่าเจ็บไม่นานเดี๋ยวก็ชินและรู้สึกดีไปเอง

“ผมจะค่อย ๆ นะ” เจ้าตัวบอกก่อนจะบดเบียดขยับกายอย่างเชื่องช้า ถึงคนตรงหน้าจะยียวนกวนประสาทมากแค่ไหน แต่ก็ดูน่าทะนุถนอมไปหมดทุกส่วน เหมือนกับแก้วคริสทัล...ที่สวยงาม แต่ก็แตกได้อย่างง่ายดาย

เมื่อรู้สึกได้ว่าช่องทางข้างหลังคลายตัวดึงดูดความเป็นชายของเขาเป็นจังหวะก็แสดงว่าจันทร์ผ่อนคลายจากความเจ็บแล้ว ทะเลค่อย ๆ ดันเข้าไปให้ลึก กระแทกกระทั้นเข้าไปเป็นจังหวะจะโคนจนคนด้านใต้สะท้านด้วยความเสียวกระสัน

จันทร์ครางเสียงแผ่วเมื่อถูกกระแทกโดนจุดที่อยู่ลึกเข้าไปด้านในที่มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำจนโดนมัน เขาสั่นสะท้านไปหมดทั้งตัวจากการถูกกระตุ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับขึ้นรถไฟเหาะ..ที่ถึงแม้มันจะเสียวแต่ก็เหมือนกับได้ปลดปล่อยอารมณ์ที่งุ่นง่านมาหลายวันจนคิดอะไรไม่ออก

เขาชอบที่จะมีเซ็กซ์...แต่ก็ไม่ได้ติดมัน พออายุมากขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งเดือนก็จะมีสักครั้งหรือสองครั้ง และเขาก็ไม่ช่วยตัวเองด้วย เพราะมันก็ไม่เหมือนกับการมีเซ็กซ์แบบนี้

สำหรับเขาแล้ว..เซ็กซ์ช่วยทำให้สมองโล่ง เหมือนการได้ทิ้งขยะออกจากหัว พอได้ปลดปล่อยแล้วก็จะมีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมาเยอะเลย

ทะเลกัดกรามด้วยความเสียว ยิ่งคนด้านใต้เสร็จสมช่องทางก็กระตุกถี่ เขาเลยกระหน่ำไม่ยั้งจนกายบางของจันทร์สะเทือนไปตามแรงอารมณ์ของตน สุดท้ายเขาก็ตามอีกฝ่ายไปติด ๆ เขาถอนกายออกมาจากช่องทางร้อน

ทั้งคู่จ้องตากันไม่กะพริบก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา คนตัวใหญ่กว่าก้มลงไปจูบ จันทร์ตอบรับจูบนั้นก่อนจะพลิกให้อีกฝ่ายนอนลงบนเตียง และตัวเองก็นั่งทับอีกฝ่ายอยู่ด้านบนด้วยท่าทางล่อแหลม

“ผมชักจะติดใจคุณแล้วสิ” ทะเลบอกยิ้ม ๆ มือไม้ลูบไปตามสะโพกของอีกฝ่ายที่ถึงแม้จะผอมแห้งไม่ค่อยมีเนื้อหนังนุ่มมือ แต่ผิวพรรณก็เนียนละเอียดสวยดี

จันทร์จุ๊ปากส่ายหน้าช้า ๆ “ผมก็บอกแล้วว่า..”

“คุณบอกแล้วว่าไม่คิดจะคบใคร” เขาพูดสวนขึ้น

“ก็จำได้นี่”

“ไม่ต้องคบก็ได้ แต่ขอเจอไปเรื่อย ๆ ได้ไหม?” ถามเพราะถูกใจคนตรงหน้าจริง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องรูปร่างหน้าตา นิสัยที่ยียวนกวนประสาทแบบน่ารัก ๆ และก็รวมไปถึงเซ็กซ์..ที่คิดว่าเขาทั้งคู่เข้ากันได้ดีทีเดียว

“อืม..” จันทร์เอียงคอมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา “เจอกันเพื่อมีเซ็กซ์อย่างเดียวเหรอ?”

“ผมหมายถึงอย่างอื่นด้วย เช่น กินข้าว ไปเที่ยว ดูหนัง นี่เห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย?” เขาว่ายิ้มขัน

“ก็เป็นเด็กหนุ่มกลัดมันคนหนึ่ง” จันทร์พูดหยอกอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม พอเห็นทะเลขมวดคิ้วฉับก็หลุดขำออกมา

“แกล้งผมเหรอ?”

“หยอกน่า หยอก หยอก”

พอเห็นว่าคนด้านใต้ยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่เลิก จันทร์ก็ขยับตัวลงมาทับหน้าขาของอีกฝ่าย เขารูดถุงยางที่ใช้แล้วทิ้งไป

“เดี๋ยวพี่ชายคนนี้จะบริการให้อย่างดีเลยนะ”

จันทร์ใช้มือของตนทำให้ส่วนนั้นของทะเลพร้อมรบอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบถุงยางมาสวมให้ เขาขยับตัวขึ้นจับส่วนที่แสดงความเป็นชายจ่อที่ทางเข้า จันทร์สบตากับคนด้านใต้ไม่วางตา กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อมือใหญ่เลือนมาลูบที่สะโพกของตน

“ต่อสิครับ”

ร่างผอมบางกดสะโพกลงไปกอดรัดส่วนที่แข็งแรงนั้นอีกครั้ง อึดอัดเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกดีมากกว่า ตนยอมรับก็ได้ว่าถูกใจพ่อหนุ่มคนนี้อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน อย่างที่บอกไป..รูปร่างหน้าตาก็ถูกสเป็ก แถมเรื่องเซ็กซ์ยังถูกใจอีก ติดอยู่อย่างเดียวคือเขาไม่คิดอยากจะผูกสัมพันธ์กับใครเลยนี่สิ ดูท่าทางแล้วอีกฝ่ายจะเป็นพวกยึดติดเอามาก ๆ เสียด้วย

จันทร์คิดไปก็ไม่หยุดขยับสะโพกเพรียวขึ้นลงอย่างเนิบช้า แต่ดูท่าจะไม่ทันใจคนด้านใต้ อีกฝ่ายเลยขยับสวนขึ้นมาจนทำให้จันทร์สะดุ้งด้วยความตกใจ เจ้าตัวขยับสะโพกเร็วแต่ไม่ได้กระแทกกระทั้นอะไร จันทร์รู้สึกดีเสียจนทรงตัวไม่อยู่ฟุบหน้าลงกับไหล่หนาครางเสียงแผ่ว

“รู้สึกดีจัง…”

พอทะเลได้ยินที่อีกฝ่ายกระซิบใกล้หูแบบนี้แล้วก็กระตุกยิ้มมุมปากออกมา เขาล็อกขาทั้งสองข้างของจันทร์เอาไว้ให้มั่นแล้วพลิกตัวอีกฝ่ายลงนอนกับเตียงเหมือนเดิม

“ดีขนาดนี้ก็รับผมเอาไว้เป็นเพื่อนสิครับ”

“อื้อ~ เพื่อนมีเยอะแล้ว” จันทร์บอกกลั้วหัวเราะ ยังคงดื้อดึงไม่ยอมท่าเดียว

“ทำไมเป็นคนพูดยากพูดเย็นขนาดนี้นะ” เจ้าตัวพึมพำ แต่ก็ไม่ได้หงุดหงิดอะไร เพราะท่าทีของอีกฝ่ายก็ดูอ่อนลงแล้ว เขาขยับกายได้อีกไม่นานก็ปลดปล่อยไปพร้อม ๆ กัน

“เหนื่อยโคตรเลย” จันทร์พูดหอบหายใจแรง แถมยังรู้สึกแสบ ๆ ที่ช่องทางด้านหลังอีก

ชายหนุ่มที่เพิ่งจัดการเก็บถุงยางที่ใช้แล้วทิ้งลงถังขยะไป หยิบผ้าขนหนูไปชุบน้ำแล้วนำมาเช็ดคราบที่เปรอะตามตัวอีกฝ่าย แถมเลยไปเช็ดด้านหลังให้อย่างเบามือด้วย พอจัดการเนื้อตัวของจันทร์จนสะอาดเรียบร้อยแล้วเขาจึงล้มตัวลงนอนข้าง ๆ หยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวทั้งตนเองและอีกฝ่ายให้เรียบร้อย

จันทร์เหลือบมองคนข้างกาย “ดูแลดีแบบนี้ทุกคนเลยเหรอ?”

“คุณคนแรก” ทะเลตอบฉีกยิ้มให้

“ถ้าด่าว่าตอแหลจะแรงไปหรือเปล่า”

ทะเลหัวเราะลั่น “แล้วนี่มันต่างจากด่าผมตรงไหนล่ะเนี่ย”

ทั้งสองเงียบลง เพราะมีเรื่องให้ครุ่นคิดทั้งคู่ ทะเลมองอีกฝ่ายด้วยความพึงพอใจ เขาไม่เคยเจอใครแบบคนตรงหน้านี้มาก่อน มันอาจจะดูเร็วจนเว่อร์ แต่เขารู้สึกชอบคนตรงหน้าจริง ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียงอย่างเดียว แต่ทุกอย่างที่อีกฝ่ายแสดงออกมามันทำให้เขาชอบมากจนถึงขั้นดูแลอีกฝ่ายดีขนาดนี้เป็นคนแรก และอยากจะดูแลต่อไปเรื่อย ๆ

“ผมชอบคุณจริง ๆ นะ”

จันทร์ขยับนอนตะแคงเพื่อจะได้เห็นหน้าอีกฝ่ายชัด ๆ เขาเอื้อมมือไปจับเส้นผมของทะเลแล้วยิ้มให้บาง ๆ “คุณอาจจะแค่ลุ่มหลงไปชั่วครู่ชั่วยาม ไม่แน่หรอกว่าพอถึงพรุ่งนี้...คุณอาจจะลืมผมไปแล้วก็ได้”

ทะเลนิ่งฟังเงียบงัน…

“อย่าบอกว่าชอบใครง่ายขนาดนี้ ใจคนมันก็เหมือนเปลวไฟที่ไหวไปตามลมได้ง่ายแม้เพียงแค่มีลมเบา ๆ และก็ดับได้เมื่อเจอลมแรง”

จันทร์เงียบไปสักช่วงวินาที “แต่ถ้าคุณอยากจะเจอผมอีกจริง ๆ ก็ได้นะ” เจ้าตัวบอกพร้อมกับยิ้มให้ ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ถึงได้ยอมให้อีกฝ่ายมาเจอกันอีก เขาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้

ชายหนุ่มยิ้มออกมา ใจหนึ่งก็รู้สึกแปลก ๆ กับคำพูดของอีกคน ทำไมถึงปิดกั้นตัวเองขนาดนี้กัน หรือก่อนหน้านี้ไปเจอเหตุการณ์ที่ไม่ดีมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ แต่อีกใจก็รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมามันคือเรื่องจริง...ใจคนเป็นสิ่งที่โลเลเอาแน่เอานอนไม่ได้ที่สุดแล้ว

ทั้งสองแลกเบอร์โทรและช่องทางติดต่ออื่น เพราะเห็นว่าจันทร์เป็นคนที่ตื่นไม่เป็นเวลานัก ถ้าโทรหาอาจจะเป็นการรบกวนได้เลยแลกไลน์เอาไว้ด้วย

“นานแล้วนะที่ผมไม่ได้มีเจ้าประจำแบบนี้” จันทร์บอกติดตลก

“ในระหว่างนี้ก็อย่าไปมีคนอื่นล่ะครับ”

จันทร์หันมาแยกเขี้ยวใส่ “ผมไม่ได้มั่วนะ เห็นแบบนี้ก็เลือกเถอะ ไม่ถูกใจก็ขอบาย”

“งั้นแบบนี้แสดงว่าถูกใจผมล่ะสิ” ถามทีเล่นทีจริง

คนหน้าสวยยิ้มมุมปาก ทำท่าเอียงคอครุ่นคิดอยู่นาน จริง ๆ แล้วก็ถูกใจคนตรงหน้าไม่น้อย แต่ก็ไม่อยากยอมรับนัก

“ก็ใช่นะ”

สุดท้ายก็ตอบออกไปจนได้ ทั้งที่เพิ่งพบกันได้ไม่นาน..แต่เขาก็มีความรู้สึกที่บอกไม่ถูกผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยให้ความสนิทสนมกับใครง่ายนัก แต่กับคนนี้...เขาเองก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไม

ทะเลยิ้มกว้าง เขาดีใจที่จะได้เจออีกฝ่ายอีก ถึงแม้จันทร์จะไม่เชื่อที่เขาบอกว่าชอบ แต่ก็ไม่เป็นไร...ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า

“กลับก่อนนะ” จันทร์บอกพร้อมกับลุกขึ้นนั่งหลังจากที่อ่านของความในไลน์จบ แต่ก็ต้องนิ่งหน้าเพราะเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที เขาฝืนลุกขึ้นยืนทั้งที่ขาสั่น แต่ก็พยายามไม่ออกอาการ ก้มลงหยิบเสื้อผ้าที่พื้นขึ้นมาใส่

“ทำไมไม่ค้างล่ะ?” ทะเลถามลุกขึ้นนั่งตามอีกคน เขามองตามจันทร์ที่หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ด้วยท่าทีผิดธรรมชาติ คงจะเจ็บแต่ไม่ยอมพูดออกมาเท่านั้นเอง

“ไม่ล่ะ” จันทร์หันมาตอบในขณะที่กำลังติดกระดุมเสื้อ “ผมจะกลับบ้านไปหาแม่”

“นี่ติดแม่เหรอ?”

จันทร์ขมวดคิ้ว “แม่อยู่บ้านคนเดียว จะทิ้งได้ยังไงล่ะ”

“อ่า...ขอโทษครับ” เจ้าตัวบอกอย่างรู้สึกผิด

จันทร์ยิ้มอย่างไม่ถือโทษ เขาเดินอ้อมไปหาอีกฝ่าย ประคองใบหน้าของทะเลให้เงยขึ้นมาด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง “ไม่เป็นไร ผมไม่โกรธ” แล้วก้มลงจุ๊บปาก “ไปก่อนนะ แล้วเจอกัน”



/



ทะเลจันทร์กลับถึงบ้านแม่ก็เข้านอนไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะถูกเช็ดตัวจากคนที่เพิ่งนอนด้วยมาแล้วก็ตาม แต่เขาจัดการอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดก่อนจะเข้านอนด้วยความเหนื่อยล้า หลังจากที่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ไปกับเซ็กซ์หลังจากที่ไม่ได้ทำมานานก็ทำให้เขานอนหลับลึกอย่างที่ไม่ได้เป็นมาพักใหญ่

อีกไม่นานก็เช้าแล้ว ตื่นมาต้องไปร้านอีก...ขี้เกียจจัง

“ถ้าไม่ไปอีกวันจะโดนแม่ด่าหรือเปล่าเนี่ย” จันทร์รำพันก่อนจะหลับไป




TBC…
ฝากเรื่องใหม่ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 1 [14/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 14-08-2018 22:24:33
 :mc4: ตามติดขอบสนามค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 1 [14/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 15-08-2018 10:05:42
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 2 [22/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 22-08-2018 20:49:16


2




“เดี๋ยวพี่สวยช่วยเตรียมของให้จันทร์หน่อยนะครับ” คนที่ยืนอยู่หน้าเตาอบไฟฟ้าบอกกับลูกมือที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
   
“ได้ค่ะน้องจันทร์” เจ้าของร่างอวบตอบรับก่อนจะเดินไปจัดเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบตามที่ได้รับคำสั่งมา
   
ทะเลจันทร์เปิดเตาอบออกเมื่อครบเวลาที่ได้ตั้งเอาไว้ ดึงถาดรองน้ำที่มีพุดดิ้งอยู่ในนั้นออกมาเช็กว่าเนื้อเนียนสวยดีหรือเปล่า เจ้าตัวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาค่อย ๆ ยกถาดลงมาอย่างระวังไม่ให้น้ำร้อนที่อยู่ในถาดหกโดนตัว
   
“วันนี้พี่ทำได้สวยสมชื่อเลยนะครับ” จันทร์ชม

พี่สวยยิ้มเขินเมื่อถูกหนุ่มหล่อหน้าตาดีอย่างเจ้านายตัวเองเอ่ยชม “ชมแบบนี้พี่ก็เขินแย่สิคะน้องจันทร์ แต่ก็ขอบคุณนะคะ”

ของหวานที่จันทร์เพิ่งจะเพิ่มเข้าไปในเมนูของร้านคือพุดดิ้งที่เสิร์ฟในขวดเล็ก ๆ เป็นของหวานล้างปากที่ขนาดกำลังพอดีสำหรับทุกเพศทุกวัย ด้วยรสชาติที่ไม่หวานมาก ตัดกับความขมของคาราเมลที่ก้นขวดก็ทำให้ลูกค้าหลายคนติดใจไม่น้อย

วิธีทำค่อนข้างง่ายแต่ยุ่งยากนิดหน่อย ตรงที่ต้องระวังไม่ให้มีฟองอากาศในเนื้อขนมก่อนนำเข้าเตาอบ เพราะเนื้อที่ออกมาจะไม่เนียน และถ้าใช้ไฟแรงไปก็จะทำให้หน้าแตกดูไม่สวยงาม

“ต่อไปจันทร์ก็วางใจให้พี่ทำเมนูนี้ได้แล้วล่ะครับ” เจ้าตัวบอกยิ้มหวาน

ต่อมาเขาให้พี่สวยจัดการเอาพุดดิ้งที่อบสุกแล้วลงแช่ในถาดน้ำที่ใส่น้ำแข็งเพื่อให้ขนมเย็นตัวลงก่อนที่จะนำเข้าตู้เย็น จันทร์หันไปช่วยทำอย่างอื่นต่อให้เสร็จ จนลูกน้องบอกให้วางมือได้แล้วถึงได้ยอมออกมาจากครัว ตนตั้งใจจะออกไปรับรองลูกค้าแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน

พอเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามาแล้ว จันทร์ก็ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบางก่อนจะกดรับอย่างช่วยไม่ได้

“ครับ”

(โห ทำไมทำเสียงเย็นชาแบบนี้ล่ะครับ) คนปลายสายส่งเสียงโอดโอย

“แล้วจะให้ผมทำเสียงอ่อนเสียงหวานเหรอ” จันทร์ย้อนอีกฝ่าย

(แบบนั้นก็ดีนะ...ว่าไงครับที่รักอะไรแบบนี้)

เจ้าตัวถอนหายใจ พวกชอบหยอดแบบนี้..เจอมาตลอดจนเบื่อ “ผมว่าผมบอกไปแล้วนะ..”

(ว่าไม่ให้จีบ) ทะเลพูดสวนขึ้นมา (รู้หรอกครับ ผมแค่ล้อเล่นน่ะ)

“รู้ก็ดีครับ” จันทร์บอกสั้น ๆ แล้วก็เงียบรอว่าอีกคนจะพูดอะไรต่อ

(ไปกินข้าวกันไหมครับ?)

“ผมทำงานอยู่นะ” จันทร์บอกเสียงเรียบ

(อ๋อ) พอถูกปฏิเสธแบบนี้ก็ทำเอาทะเลไปไม่เป็นเลย เจ้าตัวเงียบอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ถึงไม่อยากจะยอมแพ้ที่จะจีบอีกฝ่าย แต่เขาก็ไม่เคยต้องเข้าหาใครขนาดนี้มาก่อน

พอเห็นว่าทะเลเงียบไปแบบนี้ จันทร์ก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างลังเล “ช่วยงานที่ร้านของแม่น่ะ แม่ผมเปิดร้านอาหาร สนใจจะมาไหมล่ะ?”

(ไปครับ) ตอบอย่างไม่ต้องคิด (ร้านชื่ออะไร? อยู่แถวไหนเหรอ?)

ลูกชายเจ้าของร้านอยากจะทึ้งหัวตัวเอง ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวกับคู่นอนเลยแม้สักคน แต่ก็ดันมาหลุดปากชวนหมอนี่ เพราะกลัวอีกฝ่ายใจเสียเนี่ยนะ

“อะ- เอ่อ...ร้านจันทร์ฉายน่ะ อยู่แถวxxx”

(ร้านชื่อดังนี่ครับ ผมเคยไปกับครอบครัว) ทะเลอึ้งนิดหน่อยที่ได้รู้ (งั้นเดี๋ยวผมเข้าไปนะครับ)

“มาถึงก็โทรบอกนะ เดี๋ยวออกไปรับ”

ทะเลจันทร์วางสายก่อนจะเดินไปต้อนรับลูกค้าที่เพิ่งเดินเข้ามาและเดินนำไปที่โต๊ะว่าง ก็อย่างที่อีกฝ่ายว่า ร้านของแม่เขาเป็นร้านชื่อดังที่มีประวัติยาวนานกว่า 50 ปี ตั้งแต่รุ่นตากับยายแล้ว และเขาก็คงจะต้องเป็นรุ่นที่สามที่จะสืบทอดร้านนี้ต่อจากผู้เป็นแม่

ลูกชายคนเดียวเคาะประตูออฟฟิศของแม่ก่อนจะเปิดเข้าไป “แม่มีอะไรให้จันทร์ช่วยไหมครับ?”

“หืม” ท่านละสายตาจากเอกสารบนโต๊ะ “ไม่มีหรอกจ้ะ หนูนั่งพักเถอะ”

จันทร์ยิ้มและหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟา วันนี้เขายังรู้สึกเพลียจากเซ็กซ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อคืนอยู่เลย ระหว่างที่รอคู่กรณีมาเลยขอพักสายตาหน่อยดีกว่า

อันที่จริงก็ไม่คิดว่าจะได้เจอหมอนั่นเร็วขนาดนี้ด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้ถึงจะมีคู่นอนในลักษณะนี้ แต่เขาก็จะนัดเจอกันเพื่อมีเซ็กซ์อย่างเดียวเท่านั้น ไม่เคยมีมาเจอนอกรอบ และนาน ๆ จะนัดเจอกันที ต่อให้อีกฝ่ายต้องการอยากจะพบมากแค่ไหนเขาก็จะไม่ไปถ้าไม่อยากมีเซ็กซ์

...จะว่าไปเซ็กซ์กับหมอนั่นก็รู้สึกดีสุด ๆ ไปเลย

“เมื่อคืนหนูกลับบ้านกี่โมงเหรอ?” คนเป็นแม่ถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายดูท่าทางเพลีย ๆ

“น่าจะตีสามครับ” จันทร์ตอบแต่ก็ไม่ได้ลืมตาขึ้น

“จะกลับบ้านไปนอนพักก่อนก็ได้นะลูก”

“ไม่ได้หรอกครับ...นัดเพื่อนไว้ เดี๋ยวเขาจะมาหาที่นี่” เจ้าตัวตัดสินใจบอกสถานะของคนที่จะมาเยือนว่าเป็นเพื่อน เพราะถ้าจะให้บอกแม่ว่าเป็นคู่นอน ก็กลัวว่าแม่จะหัวใจวาย

“ตาน้ำจะมาเหรอ?”

น้ำที่แม่เรียก ชื่อเต็มคือน้ำหวาน...เพื่อนของทะเลจันทร์

“ไม่ใช่ครับ”

“งั้นหนูเล็ก”

“เปล่าครับ เพื่อนอีกคน” จันทร์ลืมตามองแม่ ยิ้มบาง ๆ

คนเป็นแม่ทำหน้าสงสัยว่าลูกของเธอไปมีเพื่อนคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตั้งแต่เล็กแต่น้อยจันทร์ก็มีน้ำหวานเพื่อนข้างบ้านกับหนูเล็กเป็นเพื่อนสนิทแค่สองคน อันที่จริงเธอค่อนข้างหนักใจที่ลูกชายมีเพื่อนน้อยแบบนี้ แต่จันทร์ก็ให้เหตุผลว่าแค่น้ำหวานกับเล็กสองคนก็เพียงพอแล้ว

“ทำไมแม่ไม่เห็นรู้จักเลย”

จันทร์อึกอักไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี เพราะแม่เป็นคนที่รู้จักเขาดีที่สุด แค่มองหน้ากันไม่ต้องถึงกับอ้าปากท่านก็เห็นลิ้นไก่เขาแล้ว เขานั้นไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนคนอื่น แต่ถ้าไม่สนิทกันจริง ๆ เขาจะไม่พามาให้มารดารู้จักหรอก และที่ผ่านมาก็มีแค่น้ำหวานกับเล็กสองคนเท่านั้นเอง

“หรือว่าไม่ใช่แค่เพื่อนกันจ๊ะ?” เธอถาม หรี่ตามองอย่างจับผิด

“แค่เพื่อนครับ” จันทร์รีบตอบ “พอดีว่าคุยกันถูกคอเมื่อคืนนี้เลยแลกเบอร์ติดต่อกันไว้น่ะครับ”

เธอมองใบหน้าอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงของลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน “ครับ ๆๆ เพื่อนก็เพื่อน”

เจ้าตัวยันไม่ทันที่จะแย้งอะไรกับแม่ที่ดูท่าจะไม่เชื่อกันสักเท่าไหร่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน “สงสัยจะถึงแล้วครับ” จันทร์บอกกับแม่ก่อนจะกดรับสาย

“ถึงแล้วเหรอ?”

(ผมรออยู่ด้านหน้าครับ)

“โอเคเดี๋ยวผมออกไปรับ”

จันทร์ขอตัวออกมาเดินตรงไปที่หน้าร้านก็เจอกับอีกฝ่ายยืนยิ้มพร้อมกับโบกมือให้เขาในชุด...นักศึกษา!

“เวรล่ะ” จันทร์พึมพำเสียงเบา..ก็คิดอยู่ว่าน่าจะอายุน้อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะน้อยขนาดนี้ เจ้าตัวยืนอึ้งตะลึงค้างอยู่ที่เดิม ทะเลเลยเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาแทน

“หิวข้าวจังเลย” เจ้าตัวบอกพร้อมกับลูบท้อง

“นี่คุณยังเรียนอยู่เหรอ?” จันทร์ที่ได้สติแล้วเอ่ยถาม

“อ่า…” ทะเลเกาหัวแกรก ๆ “แต่ผมบรรลุนิติภาวะแล้วนะ เรียนปีสี่แล้วครับ”

จันทร์ลูบหน้าตัวเอง “ขอดูบัตรประชาชนก่อน”

คนตัวสูงทำหน้าเหลอหลาที่เห็นว่าอีกฝ่ายดูเครียด ๆ ก่อนจะล้วงกระเป๋าขึ้นมาแล้วหยิบบัตรส่งให้ดู “ผมไม่ได้โกหกนะ”

คนอายุมากกว่ามองค้อน ยื่นมือไปรับบัตรมาดูแล้วก็ถอนหายใจออกมา...อย่างน้อยก็ไม่โดนคดีพรากผู้เยาว์แล้วล่ะวะ

“ไป..หิวข้าวไม่ใช่เหรอ?” จันทร์พูดเสียงเรียบก่อนจะเดินเข้าร้านไปโดยทิ้งให้อีกฝ่ายยืนงงอยู่ตรงนั้น แล้วถึงจะวิ่งตามเข้ามา

จันทร์เลือกที่นั่งริมหน้าต่าง มุมนี้มองออกไปภายนอกจะเห็นสวนของทางร้านที่จัดไว้อย่างสวยงาม เขายื่นเมนูให้ทะเลด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง หงุดหงิดที่ตัวเองไม่รอบคอบ ทั้งที่ถ้ามองพิจารณาดูดี ๆ แล้วก็จะเห็นว่าอีกฝ่ายก็แสดงความเป็นเด็กให้เห็นอยู่ตลอด แต่ดันมาโดนภาพลักษณ์และความเชี่ยวหลอกเอาจนได้

คนมาเยือนรับเมนูไปดู เหลือบมองจันทร์ที่นั่งจ้องเขาด้วยสายตาน่ากลัวอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นพัก ๆ

“มัวแต่มองอยู่นั่น เลือกได้หรือยังครับคุณ”

“ได้แล้วครับ”

ลูกชายเจ้าของร้านโบกมือเรียกพนักงานให้เข้ามารับอาหาร

“ปูนิ่มทอดกระเทียม ผัดผักรวม ปลากะพงทอดน้ำปลา ข้าวสองจานครับ”

“วัยรุ่นนี่กินเก่งจังนะ” จันทร์อดที่จะพูดค่อนขอดไม่ได้

ทะเลรู้สึกถึงความผิดปกติจากอีกฝ่ายตั้งแต่เข้าร้านแล้ว แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร ตอนที่คุยโทรศัพท์ก็ยังดีอยู่แท้ ๆ เลยตัดสินใจถาม “คุณไม่พอใจอะไรผมเหรอ?”

จันทร์จ้องหน้าอีกฝ่าย สายตาของความขี้เล่นและยั่วยวนของเมื่อคืนหายไปแล้ว เหลือเพียงสายตาที่จริงจัง เขาถอนหายใจยาว ๆ เพื่อสงบจิตใจตัวเองก่อนจะเอ่ยขึ้น “ทำไมถึงไม่บอกผมว่าอายุน้อยขนาดนี้”

“ก็คุณไม่ได้ถามผมนี่ อีกอย่างผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิด...บรรลุนิติภาวะแล้วด้วย จะไปเที่ยวไม่ได้เหรอครับ?” ทะเลตอบซื่อ ๆ

ใช่...ความผิดของเขาเองนั่นล่ะที่ไม่ได้ถาม อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลย กว่าจะรู้จักชื่อของแต่ละคนก็เป็นตอนที่เกือบจะมีอะไรกันอยู่แล้ว จันทร์มองหน้าอีกฝ่ายแล้วก็ต้องถอนหายใจยาวเหยียด

“เด็กสมัยนี้หน้าแก่ชะมัด”

ทะเลขำกับคำพูดของอีกฝ่าย ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร เพราะมันคือเรื่องจริง เขาดูโตกว่าอายุจริงหลายปีจนทำให้หลายคนเข้าใจผิดมาตลอด อาจจะด้วยเพราะบิดาทำงานอยู่ต่างประเทศ คนที่เลี้ยงตนมาคือคุณย่า แต่ท่านก็มาเสียตอนที่เขาเรียนอยู่ม.ปลาย หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ต้องดูแลตัวเองมาตลอด เพราะแบบนี้เขาเลยอาจจะดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนที่อายุเท่ากันล่ะมั้ง

“ขำอะไรน่ะ?”

“เปล่าซะหน่อย”

จันทร์มองค้อนเด็กตรงหน้า ก็เห็นอยู่ว่าขำ แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าเปล่า

“อาหารมาแล้วจ้ะ”

เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลังของจันทร์ คนที่ยกอาหารมาก็คือแม่ของเขานั่นเอง

“แม่!” คนเป็นลูกร้องขึ้นพร้อมกับลุกไปรับจานอาหารจากท่านมาวางบนโต๊ะ “จะยกมาเองทำไมเนี่ย?”

“ก็แม่อยากจะเห็นเพื่อนใหม่ของหนูนี่นา” ท่านตอบยิ้มอารมณ์ดีก่อนจะหันไปหาเพื่อนร่วมโต๊ะของจันทร์ที่ยืนมองอยู่ “คนนี้เหรอเพื่อนของจันทร์”

“สวัสดีครับคุณแม่” เจ้าตัวยกมือไหว้ก้มหัวลงอย่างนอบน้อม

“สวัสดีจ้ะ ขอแม่นั่งด้วยคนได้ไหม?”

“เชิญครับ” ทะเลกุลีกุจอไปเลื่อนเก้าอี้ให้กับคนสูงอายุตรงหน้านั่งลง

จันทร์เห็นภาพแบบนี้แล้วก็อดที่จะตั้งคำถามในใจไม่ได้...เด็กคนนี้ดูแลคนอื่นดีแบบนี้เสมอเลยหรือไงกัน หรือว่าแค่ทำเพื่อให้ตนประทับใจ

“ชื่ออะไรเหรอเรา? อายุเท่าไหร่จ้ะ?”

“ชื่อทะเลครับ อายุ 22” เจ้าตัวตอบยิ้มแย้ม เขาชอบคุณแม่ของอีกฝ่าย ท่านพูดจาเนิบช้า ท่าทางใจดี เหมือนกับคุณย่าที่เลี้ยงเขามาเลย

“หืม? ชื่อเหมือนกันเลยลูก” แม่หันไปมองหน้าลูกชายอย่างแปลกใจก่อนจะหันไปหาทะเลอีกครั้ง “แล้วอายุน้อยกว่าขนาดนี้มารู้จักกันได้ยังไงเหรอจ๊ะ?”

เจอคำถามแบบนี้ก็ทำเอาเจ้าตัวไม่รู้จะตอบอย่างไรดี จะบอกความจริงก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เลยตัดสินใจที่จะเบี่ยงประเด็นออกไป “แล้วจันทร์เขาอายุเท่าไหร่เหรอครับ?”

“พี่เขาอายุ 35 แล้วนะ”

คำตอบจากคุณแม่ของอีกฝ่ายทำเอาทะเลตกตะลึงไปเลย เจ้าตัวเบิ่งตาโตมองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ

จันทร์ที่นั่งไขว่ห้างหลังชิดพนักพิงในท่าทีสบาย ๆ หรี่ตามองอีกฝ่าย เขาจิบน้ำก่อนจะพูด “มองอะไรมิทราบ”

ทะเลอ้าปากค้างกับท่าทีที่แตกต่างจากเมื่อคืนราวฟ้ากับเหวของจันทร์ นี่ไม่พอใจอะไรขนาดนั้นเนี่ย

“นี่! เดี๋ยวเถอะ พูดจาแบบนั้นกับน้องได้ยังไงกัน” ฝ่ายมารดาหันไปแว้ดใส่ลูกชาย เธอไม่ชอบให้จันทร์พูดจาไม่ดีต่อหน้า ถ้าจะไปพูดลับหลังก็ว่าไปอย่าง

“แม่อะ” จันทร์ร้องเมื่อมารดาป้องคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงสิบนาที

“โตเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องรู้จัก..”

“มีมารยาท” จันทร์พูดต่อท้ายให้เลย “แม่พูดแบบนี้จนจันทร์อายุ 35 แล้ว จันทร์จำได้ครับ”

“จำได้ก็พูดกับน้องดี ๆ สิ” คนเป็นแม่บอกก่อนจะกันไปหาทะเลที่กำลังมองสองแม่ลูกอย่างสนุกสนาน “ต้องขอโทษแทนพี่เขาด้วยนะลูก”

“ไม่เป็นไรครับ”

“น้องอะไรกัน...จันทร์ลูกคนเดียวหรอก” เจ้าตัวงึมงำในลำคอ ในหัวคิดหาวิธีจะตีตัวออกห่างจากเด็กนี่ เพราะไม่คิดว่าจะเด็กขนาดนี้ ถ้ารู้ก่อนเขาคงไม่ตกลงทำหรอก

อาหารที่สั่งไว้วางบนโต๊ะเรียบร้อย ทะเลชวนให้คนสูงอายุทานด้วยกันแต่ท่านก็ปฏิเสธ เขาเลยขอเสียมารยาทกินคนเดียวเพราะหิวไส้จะขาดแล้ว

“แล้วตอนนี้เรียนอะไรอยู่เหรอจ๊ะ?”

“ผมเรียนเกี่ยวกับการถ่ายภาพอยู่ครับ” เขาเลือกที่จะใช้คำง่าย ๆ ในการตอบ เพื่อที่ท่าจะได้เข้าใจ

“ชอบถ่ายรูปเหรอ?”

“ครับ” ทะเลพยักหน้ายิ้ม ๆ “ผมชอบถ่ายภาพมากเลย”

“ดีแล้วที่ได้เรียนในสิ่งที่ชอบนะ อย่างพี่จันทร์เขาชอบวาดรูปก็เลยไปเรียนทางนั้น ผลงานทั้งหมดที่แขวนในร้านก็เป็นฝีมือของพี่เขาทั้งนั้นเลย”

“โห” เจ้าตัวเหลียวมองไปทั่ว “เยอะจัง”

“เยอะจนไม่มีที่จะแขวนแล้ว นี่ถ้ายังมีมาอีกแม่ว่าจะยืมหูพี่เขาแขวนแทนแล้วล่ะ”

พอท่านพูดจบก็พากันหัวเราะกันสองคนกับทะเล จนคนเป็นลูกเหลือบมองด้วยความหมั่นไส้ นี่ขนาดเขานั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคนยังนินทากันได้ลงคอ ถ้าไม่ได้อยู่ตรงนี้จะขนาดไหนกัน

“เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ” จันทร์ค่อนขอด

ทะเลหันไปยิ้มให้ ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ “ขอโทษครับพี่จันทร์”

“เดี๋ยวเหอะ” คนอายุมากกว่าถลึงตาใส่ เขารู้ว่าเด็กนี่มันตั้งใจกวนประสาท

“อย่าทำแบบนี้กับน้อง”

จันทร์มองแม่อย่างไม่อยากจะเชื่อ ก็ใช่ที่แม่ของเขาเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี แต่นี่ดูท่าจะเข้ากับคนที่เพิ่งเจอกันอย่างทะเลได้ดีมาก แถมดูท่าจะเอ็นดูมากอีกต่างหาก

“ทะเลกินข้าวต่อเถอะจ้ะ แม่ไม่กวนแล้ว” แม่ของจันทร์หันไปบอกทะเล ก่อนจะหันกลับไปหาลูกชาย “ดูแลน้องด้วยนะ”

เจ้าตัวเหลือกตามองบนด้วยความเบื่อหน่าย แต่ก็ต้องตอบรับอย่างช่วยไม่ได้ พอคนเป็นแม่เดินจากไปก็เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนทั้งคู่

“อาหารอร่อยมากเลยนะครับ” ทะเลเอ่ยชมทำลายความเงียบที่แสนอึดอัด

“ใครถามกัน”

พอโดนย้อนแบบนี้ก็ทำเอาหน้าชาเล็กน้อย “ผมถามตรง ๆ เลยนะ คุณไม่พอใจอะไรผมเหรอ?” เขาไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่ ตั้งแต่เข้ามาที่ร้านอีกฝ่ายก็ทำปั้นปึ่งใส่เขามาตลอด

คนถูกถามจ้องหน้าทะเลสักครู่ก่อนจะเปิดปากพูด “โอเค ผมก็จะพูดตรง ๆ เหมือนกัน ผมมีกฎที่เคร่งครัดมากอยู่หนึ่งเรื่องก็คือผมจะไม่มีเซ็กซ์กับเด็ก แต่ในเมื่อมันพลาดไปแล้ว เลยอยากให้เราทั้งสองคนเลิกติดต่อกันจะดีกว่า”

“ผมไม่เข้าใจ คุณไม่มีเหตุผล” ทะเลย้อน

“ถึงผมจะมีเหตุผลคุณก็ไม่ต้องเข้าใจมันหรอก” เจ้าตัวพูดอย่างไม่สนว่าอีกคนจะรู้สึกอย่างไร เขารู้ว่าทะเลชอบเขา เด็กคนนี้แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบ และเขาก็รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายไม่พอใจที่เขาตัดสัมพันธ์แบบนี้

“ถึงผมจะอายุน้อย แต่คุณก็เอาเรื่องอายุมาวัดความเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ไม่ได้หรอกนะ คนบางคนอายุเยอะแล้วแต่นิสัยก็ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ตามอายุเลยด้วยซ้ำ”

“นี่หลอกด่าเหรอ?” จันทร์เลิกคิ้วถาม

“แล้วแต่จะคิด” ทะเลตอบห้วนก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อ อย่าคิดว่าเขาชอบแล้วจะพูดแบบนี้ได้นะ ไม่ยอมหรอกโว้ย!

น่าแปลก...แทนที่เขาจะรู้สึกโมโหที่ถูกเด็กหลอกด่า แต่กลับคิดว่ามันตลกดี คนอายุมากกว่ามองอีกฝ่ายที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวไปด้วยเหลือบตามองเขาด้วยสายตาไม่พอใจไปด้วย ซึ่งมันก็เรียกรอยยิ้มจากเขาได้ไม่ยาก อารมณ์จากที่หงุดหงิดก็ค่อย ๆ คลายลง

“เด็กเอ๊ย~”

ทะเลเงยหน้าขึ้นมองคนพูดปรามาส “เด็กแล้วไง”

“ก็ไม่แล้วไง” เจ้าตัวยักไหล่ “กินต่อเถอะ”

ไม่มีคำพูดใด ๆ ของมาจากปากของทั้งคู่อีก ตอนนี้คนอายุน้อยกว่าตามอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ทันแล้ว ไม่กี่นาทีก่อนยังทำหน้าปั้นปึ่งใส่อารมณ์กับตนอยู่เลย แต่ตอนนี้อย่างกับหน้ามือเป็นหลังเท้า ใบหน้าสวยยิ้มน้อย ๆ ดูอารมณ์ดี ราวกับว่าเมื่อหลายนาทีก่อนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทำเอาทะเลได้แต่คิดว่าคนคนนี้เป็นวัยทองหรือไงกัน

พอท้องอิ่มก็ทำให้ทะเลรู้สึกดีขึ้นมาก เขากินข้าวหมดไปสามจาน กับข้าวทุกอย่างที่สั่งมาหมดไม่มีเหลือ ยังมีบัวลอยที่แม่ของอีกฝ่ายสมนาคุณให้ฟรีก็เกลี้ยง

“เด็ก ๆ นี่กินเก่งดีจัง” จันทร์พูดขึ้นมาหลังจากนั่งเงียบมองอีกคนกินอยู่นาน ในฐานะเจ้าของร้านรุ่นต่อไป เห็นทะเลกินอย่างเอร็ดอร่อยไม่มีเหลือแบบนี้ก็ทำเอาเป็นปลื้มไม่น้อย

“พูดว่าเด็กอีกแล้วนะครับ” คนอายุน้อยว่าก่อนจะลดเสียงลงให้ได้ยินกันแค่สองคน “เดี๋ยวเถอะ...ระวังจะโดนเด็กทำจนร้องอีกนะครับ”

“คิดว่าจะมีครั้งต่อไปหรือไงกัน” จันทร์ยิ้มเยาะก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “เอาล่ะ..กลับบ้านได้แล้วไอ้หนู มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง”

พอโดนเรียกว่าไอ้หนูแบบนี้ก็รู้สึกเหมือนโดนเหยียบหน้าก็ไม่ปาน ทะเลลุกขึ้นเดินตามอีกฝ่ายที่ก้าวขาออกไปก่อน จนถึงลานจอดรถจึงได้มีโอกาสพูด

“ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ”

จันทร์ยิ้มหวาน มือขาวยกขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดูที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อยโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัว เขาไม่เคยมีน้องมาก่อน คิดว่าถ้ามีก็คงได้ทะเลาะกันทั้งวันไม่เลิกล่ะมั้ง...เขามันพวกกวนประสาทซะด้วยสิ

วันนี้เขาเห็นด้านที่เป็นเด็กของทะเลมากมายต่างจากเมื่อคืนลิบลับ ทำให้เขาได้เห็นอีกด้านของเด็กที่พยายามจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ทะเลอาจจะดูโตกว่าเด็กที่อายุเท่า ๆ กัน แต่เจ้าตัวก็ยังผ่านโลกมาไม่เยอะเท่ากับผู้ใหญ่

เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็ก ที่เขาไม่ชอบมีความสัมพันธ์กับคนที่อายุยังน้อยก็เป็นเพราะว่าเด็กมักจะมีความดื้อดึงที่ไม่เข้าท่า และเขาก็รำคาญนิสัยหลาย ๆ อย่าของเด็กด้วย

แต่ตนก็รู้สึกนะ...ว่าเด็กตรงหน้านี้แตกต่างไปจากเด็กคนอื่นที่เคยเจอ

จันทร์เขย่งปลายเท้าแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ กดจมูกลงบนแก้มของคนที่ตัวสูงกว่ามากอย่างแผ่วเบา เขากระซิบข้างใบหู “แล้วจะรอดูนะ”

พูดจบก็เดินจากมา ปล่อยให้เด็กที่อายุน้อยกว่า 13 ปียืนงงอยู่ตรงนั้นร่วมนาที

ไม่เข้าใจคนอย่างทะเลจันทร์เลยพับผ่าสิ...




TBC…
เถียงกันไปเถียงกันมา สรุปว่าทะเลจะจีบจันทร์จริง ๆ ใช่ป้ะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 2 [22/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 23-08-2018 00:18:50
โอ้ๆๆๆ เราชอบนายเอกอายุเยอะกว่า แถมมองเซ็กส์เป็นเรื่องปกติ ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 2 [22/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-08-2018 14:39:13
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 3 [29/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 29-08-2018 20:57:32

3




หลายวันผ่านไปทะเลก็ไม่ได้ติดต่อมาหาจันทร์เลย ในตอนแรกเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนัก แต่พอสามวันผ่านไปก็มีอาการหงุดหงิดเกิดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว พอรู้ตัวก็จะก่นด่าตัวเองอยู่ในใจว่าจะไปคิดถึงไอ้เด็กนั่นมันทำไม
   
ไหนว่าจะไม่ยอมแพ้ไงวะ...นี่แม่งหายไปเลย
   
“พวกเด็กนี่มันเชื่อใจไม่ได้จริง ๆ” เจ้าตัวพึมพำออกมาเสียงเบา ก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิดไม่เข้าท่านี้ออกไป มือซ้ายเอื้อมไปหมายจะหยิบแก้วน้ำที่มุมโต๊ะ แต่พอคว้ามาได้มันกลับหลุดมือตกลงบนพื้นแตกเสียงดัง
   
ทะเลจันทร์ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะเรื่องมือไม้อ่อนจับอะไรก็ไม่มีแรง เพราะตนก็มีอาการแบบนี้มาสักพักแล้ว แต่คราวนี้มันต่างกันตรงที่มีอาการมือสั่นเข้ามาเพิ่ม

คิ้วเรียวขมวดมุ่น เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองไม่ค่อยปกติแล้ว คิดว่าคงต้องหาเวลาไปหาหมอแล้ว

ติ๊ง! เสียงข้อความจากไลน์ดังขึ้นดึงความสนใจจากเรื่องเดิมไป พอหยิบขึ้นมาดูก็เป็นข้อความจากไอ้เด็กที่จันทร์เพิ่งก่นด่าในใจไปหมาด ๆ

[วันนี้วันศุกร์ ไปหาร้านชิล ๆ นั่งดื่มกันไหมครับ?]

หน็อย...หายหัวไปหลายวันยังมีหน้ามาชวนอีกนะ นี่ไม่ได้สำนึกเลยรึไงวะ

[ถ้าเงี่ยนก็ไปหาคนอื่น ฉันไม่มีอารมณ์]

อีกฝ่ายส่งสติกเกอร์รูปแมวหัวเราะกลับมา

[ผมเปล่านะ ไม่ต้องมีอะไรกันก็ได้ ผมแค่อยากเจอพี่]

จันทร์หัวใจกระตุกเมื่ออ่านข้อความจบ และเขาก็ไม่ชอบเอาเสียเลยที่ตัวเองเป็นแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าคนที่เข้ามาแต่ละคนหวังอะไรจากตัวเขา

แต่อนิจจา...ใจหนอใจ เจ็บแล้วไม่เคยจำ

[ที่ไหนก็นัดมาแล้วกัน]




“คืนนี้จันทร์ออกไปข้างนอกนะครับ” จันทร์บอกกับแม่ที่กำลังจะออกไปทำงาน

“หืม? ไปกับใครล่ะ?”

ท่านถามเพราะรู้ว่าตอนนี้น้ำหวานก็ไปต่างประเทศ ส่วนเล็กก็เป็นคนไม่เที่ยว แบบนี้จันทร์จะไปกับใครกัน

“เอ่อ..” จันทร์อ้ำอึ้ง “ก็เจ้าทะเลแหละครับ”

คนเป็นแม่เอียงคอและใช้สายตามองอย่างจับผิด “แม่ขอถามหนูหน่อยนะ เป็นอะไรกับน้องเขากันแน่?”

ที่ถามไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าลูกชายของเธอมีรสนิยมรักชอบเพศเดียวกัน แต่เธอไม่เคยเห็นจันทร์พาใครที่ไหนมาให้เธอได้เจออีกเลยหลังจากที่แฟนเก่าของเจ้าตัวหนีไปแต่งงานโดยไม่บอกไม่กล่าว

ผ่านมานานจนสิบปี...นี่เป็นครั้งแรกที่จันทร์พาคนอื่นนอกเหนือจากเพื่อนสนิทมาที่ร้าน

“เป็นแค่เพื่อนรุ่นน้องครับ” เจ้าตัวตอบไม่เต็มเสียงนัก...จะให้บอกความจริงไปได้ยังไงล่ะ

รดาจ้องอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก นี่มันเห็นเธอโง่นักหรือไงกันถึงดูไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร เธอเลี้ยงลูกชายคนนี้มาด้วยตัวเองตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ทำไมจะมองไม่ออก แต่ก็อย่างว่า...ลูกชายคนเดียวของเธอบทจะไม่พูดเอาอะไรมาง้างก็ไม่บอก ต้องรอให้เจ้าตัวเป็นคนพูดเองเท่านั้น

“เอาเถอะจ้ะ” เธอตัดบทก่อนที่จะเดินไปหาลูกชายคนเดียวใกล้ ๆ มือเล็กที่มีริ้วรอยตามวัยบีบมือของจันทร์ “อย่าปิดใจจนมองไม่เห็นคนดี ๆ ที่เข้ามาหาลูกเลยนะ แม่เองก็แก่แล้ว...แม่อยากเห็นลูกของแม่มีคู่ชีวิตที่จะคอยดูแลกันไปตลอดนะ”

จันทร์บีบมือกลับเบา ๆ เจ้าตัวยิ้มตอบ “ครับ”

คนที่เข้ามาและเริ่มต้นจากเซ็กซ์มันจะไปหาดีได้ที่ไหนกัน และเขาเองก็ไม่คิดที่จะคบใครอีกด้วย ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเริ่มรู้สึกว่าทะเลพิเศษกว่าคนอื่น ๆ ...แต่เขาก็จะต้องกำจัดความรู้สึกนี้ออกไปให้ได้

หลังจากที่ส่งแม่ออกไปทำงานแล้ว จันทร์ก็กลับเข้าห้องวาดรูปของตัวเอง เวลาที่เขาเครียด ๆ ก็มักจะวาดรูปอยู่เป็นประจำ

ภายนอกทะเลจันทร์ดูเหมือนเป็นคนหนักแน่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว...มันก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอกที่เจ้าตัวสร้างขึ้นเพื่อปิดบังตัวเองที่มีอารมณ์หวั่นไหวง่าย เจ้าตัวต้องสร้างกฎให้ตัวเองมากมายเพื่อที่จะไม่ไหวไปตามคำพูดของใครก็ตาม และเมื่อใดที่ตนรู้สึกดีกับคนที่เป็นเพียงแค่เซ็กซ์เฟรนด์แล้วล่ะก็ เขาก็จะรีบตัดความสัมพันธ์นั้นทันที

แต่กับทะเลแล้ว...ไม่รู้ว่าเป็นอะไรถึงทำให้ยังไงก็ไม่สามารถตัดออกไปได้สักที ตอนนี้ทำได้เพียงแค่พยายามกำจัดความรู้สึกของตัวเองออกไปก็เท่านั้น…

เวลาล่วงเลยไปจนตกเย็น คนที่นั่งวาดรูปมานานก็บิดขี้เกียจไล่ความเมื่อย

“ปวดหลังชะมัด” มือเรียวทุบหลังตัวเองดังปึก ๆ “สงสัยจะเริ่มแก่แล้วจริง ๆ สิเนี่ย” เจ้าตัวบ่นพึมพำ ช่วงนี้ร่างกายของเขาไม่ค่อยจะดีนัก มักจะมีอาการแปลก ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเกิดขึ้น แต่ตนก็คิดแค่ว่าคงเป็นเพราะอายุมากขึ้นและนอนพักไม่เพียงพอเลยทำให้ร่างกายไม่ค่อยดี

“วันนี้รีบกินรีบกลับดีกว่า”

จันทร์อาบน้ำเตรียมตัวออกไปตามที่นัดไว้กับเจ้าเด็กจอมตื้อนั่น วันนี้ผิดคาดที่หมอนั่นนัดเขาที่ร้านอาหารริมแม่น้ำ...ไม่ใช่ร้านเหล้าตามที่คาดเอาไว้

คืนนี้เขาแต่งตัวสบาย ๆ ปล่อยผมยาวสยายเพราะขี้เกียจมัด พรมน้ำหอมกลิ่นเดิมที่ตอนนี้กำลังชอบ เจ้าตัวขับรถ prius คันประจำตัว พอถึงที่ร้านก็โทรหาอีกฝ่าย

“ถึงแล้วนะ”

ปลายสายตอบกลับมาว่ามารออยู่สักพักแล้วให้เดินเข้ามาได้เลย จันทร์ถึงได้วางสายและลงจากรถไป

“ผมไม่รู้ว่าพี่ชอบกินอะไรบ้าง เลยยังไม่ได้สั่ง” ทะเลบอกพร้อมกับยื่นเมนูให้เมื่ออีกฝ่ายนั่งลงฝั่งตรงข้าม

จันทร์เลิกคิ้วและอมยิ้ม รู้สึกอารมณ์ดีเมื่อมีคนเอาใจแบบนี้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันแล้ว...คนตรงหน้าก็ใส่ใจเขาเสมอ มือขาวหยิบเมนูขึ้นมาเปิดดู เมื่อตระหนักว่าตัวเองอายุมากขึ้นและสุขภาพก็ใช่ว่าจะดี ทำให้คิดว่าควรจะหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีกับร่างกายดีกว่า

“ของผมเอาเป็นต้มยำปลาเก๋ากับผัดผักบุ้งแล้วกัน” จันทร์บอกกับพนักงานที่มารอรับเมนู เจ้าตัวเหลือบมองดูคนฝั่งตรงข้ามที่ก็เห็นว่ามองเขาไม่วางตา เลยถามเรียกสติ “แล้วคุณล่ะ?”

“อ๋อ เอ่อ..ขอเป็นกุ้งทอดกระเทียมกับผัดเผ็ดไก่ไทยครับ”

เมื่อพนักงานเดินจากไปทะเลก็หันมาสนใจคนตรงหน้าอีกครั้ง อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรกับตน แต่กลับดูสนใจแม่น้ำที่มืดมิดนี้ ลมโชยพัดเบา ๆ ทำเอาเส้นผมยาวพลิ้วไหว ใบหน้าด้านข้างที่สวยงามทำเอาเขาอดไม่ได้ที่จะคว้ากล้องคอมแพคตัวเล็กที่พกติดตัวประจำในกระเป๋าขึ้นมาเก็บภาพของอีกฝ่าย

“ทำอะไรน่ะ?”

“ถามได้ ก็ถ่ายรูปพี่น่ะสิ” เจ้าตัวตอบหน้าตาย ยิ่งเห็นใบหน้าสวยทำหน้าไม่พอใจแบบนี้เขาก็ยิ่งกดชัตเตอร์รัว อยากจะเก็บทุกอิริยาบถของคนตรงหน้าเอาไว้ทั้งหมด ดูท่าแล้วเขาจะหลงคนนี้เข้าอย่างจังซะแล้วสิ

“ไม่ให้ถ่ายเว้ย” มือขาวเอื้อมหมายจะปิดเลนส์กล้องแต่ก็วืด เพราะเด็กตรงหน้าหลบได้

“พูดจาไม่เพราะเลย” ทะเลพูดติอย่างไม่จริงจังนัก ความจริงเขาชอบที่คนตรงหน้าแสดงความเป็นตัวเองต่อหน้าเขาแบบนี้

จันทร์หรี่ตามองทำหน้าเหม็นเบื่อ “ขี้เกียจแอ๊บแล้ว”

“แบบนี้ก็ดี ผมชอบ”

“แล้วแบบไหนที่ไม่ชอบล่ะ ฉันจะได้ทำ” จันทร์เอนหลังลงกับพนักพิง กอดอกมองหน้าอีกฝ่าย และตัดสินใจเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกใหม่

ทะเลย่นจมูก “ไม่มีครับ”

“หึ” คนอายุมากกว่ายิ้มขำกับความเป็นเด็กของอีกฝ่าย เขาเอนหลังลงกับพนักพิงเก้าอี้อีกครั้ง “ตามใจ อยากถ่ายก็ถ่าย”

“ขอบคุณครับ” ทะเลยิ้มกว้างอย่างชอบใจ

“แล้วคิดยังไงถึงเปลี่ยนมาเรียกฉันว่าพี่” จันทร์ถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้

“ก็ไม่เห็นจะแปลก พี่อายุมากกว่าตั้งหลายปีก็ต้องเรียกพี่สิ หรือจะให้เรียกลุง” ทะเลตอบขณะที่กำลังกดดูรูปที่ถ่ายไป เงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับอีกฝ่ายที่กำลังตีหน้ายักษ์ใส่ แต่แทนที่เจ้าตัวจะสลด..กลับยกกล้องขึ้นมาถ่ายเฉย

“ยังจะมีหน้ามาถ่ายรูปอีกนะเด็กเวร”

“แฮะ ๆๆ”

ยังไม่ทันที่จะได้ต่อล้อต่อเถียงกันต่ออาหารก็ยกมาเสิร์ฟพอดี เนื่องจากจันทร์ไม่ใช่คนที่กินเก่งนัก เลยได้แต่มองเด็กกำลังโตก้มหน้าก้มตากินไม่พูดไม่จา

เจ้าตัวหลุดยิ้มออก “หิวขนาดนี้ทำไมไม่สั่งมากินก่อนล่ะ” จันทร์ถามอย่างเอ็นดู

“ไม่ได้ มันเสียมารยาท”

จันทร์เบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ “ถ้ามีมารยาทจริง ก่อนถ่ายรูปฉันก็ต้องขอก่อนไหมล่ะ”

“แฮ่” คนอายุน้อยกว่ายิ้มแห้ง ทำเป็นไม่สนใจคำว่าเหน็บของอีกฝ่ายแล้วก้มหน้ากินต่อ

ที่จริงจันทร์ก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกแต่กลับเอ็นดูอีกฝ่ายเสียมากกว่า นึกถึงวันแรกที่ได้เจอ..หมอนี่ทำวางท่าเป็นผู้ใหญ่ แต่เนื้อแท้จริงแล้วก็ยังเด็กนั่นแหละนะ เจ้าตัวก้มหน้าเขี่ยข้าวในจาน พยายามกลบเกลื่อนรอยยิ้มของตนเอง เดี๋ยวเด็กนี่มันจะได้ใจเอา

“พี่กินอิ่มแล้วเหรอ? เขี่ยข้าวอยู่นั่นแหละ”

คนถูกถามไหวไหล่ “ไม่อร่อย กินไม่ลง”

“หือ?” ทะเลแปลกใจ “ไม่อร่อยเหรอ? ผมว่าอร่อยออก”

“อร่อยกว่าร้านแม่ฉัน?” จันทร์ยกมือขึ้นมาเท้าคางถามด้วยใบหน้าหาเรื่อง

“เอ่อ…” คนอายุน้อยกว่าปั้นหน้าไม่ถูก ก่อนที่จะยิ้มหวาน “แน่นอนว่าร้านแม่อร่อยกว่าครับ”

“ดีมาก” จันทร์บอกยิ้ม ๆ จนอีกฝ่ายตายใจว่าเขาคงจะไม่ว่าอะไรอีก “แต่ว่านะ…”

“ครับ”

“แม่ฉันไม่ใช่แม่นาย จำไว้”

ทะเลยิ้มค้าง...ในใจอยากจะกู่ร้องออกมาใจจะขาด ตอนนี้เขาตามอีกฝ่ายไม่ทันเลย ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรหรือทำแบบไหนคนคนนี้ถึงจะพอใจ เขาเลยตัดสินใจที่จะก้มหน้ากินไปเงียบ ๆ ตามเดิมดีกว่า

เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นทะเลจันทร์เหม่อมองออกไปยังผืนน้ำกว้างที่กำลังสะท้อนแสงไฟยามค่ำคืนอยู่บนผิวน้ำ เส้นผมยาวพลิ้วไหวไปตามสายลมอ่อน ทะเลไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายเป็นคนแบบไหน มองไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

ความเป็นจริงแล้ว...จันทร์ก็นับว่าร้ายกับเขามาก ทั้งที่บอกว่าจะตัดความสัมพันธ์กับเขา แต่ก็มาตามนัดอย่างกับจะให้ความหวังกัน

ทะเลจันทร์ไม่แม้แต่จะยื่นมือมาให้เขาจับ...แต่เขาก็ปล่อยอีกฝ่ายไปไม่ได้ รู้ว่าตนเองนั้นอายุน้อยกว่ามาก แต่เขาก็ไม่เชื่อว่าจะอยู่เคียงข้างกันไม่ได้

เขาอาจจะหลง...รักคนใจร้ายคนนี้แล้วก็เป็นได้




หลังทานข้าวเสร็จ ทะเลเดินไปส่งคนอายุมากกว่าที่รถ เห็นแผ่นหลังบอบบางก็นึกอยากเข้าไปสวมกอดเหลือเกิน แต่พอเห็นความร้ายกาจจากอีกฝ่ายแล้วก็ทำเอาไม่กล้าแตะตัวของจันทร์ตามอำเภอใจอีกเลย

เกิดมาก็เพิ่งจะรู้สึกว่าตัวเองขี้ขลาดก็ครั้งนี้นี่แหละ

ทะเลคิดอะไรเพลิน ๆ ในขณะที่เดินตามหลังจันทร์ เพราะไม่ทันมองว่าอีกฝ่ายหยุดเดินแล้วก็เลยชนเข้ากับร่างบอบบางเต็ม ๆ ทั้งคู่เสียหลักเล็กน้อยเลยทำให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ

วงแขนกว้างของคนอายุน้อยกว่าโอบเข้าที่เอวบางของจันทร์ เพราะกลัวว่าคนที่ตัวเล็กกว่าจะล้ม ตอนนี้เลยใกล้กันมากจนได้กลิ่นหอมสดชื่นมาจากตัวของอีกฝ่าย

ไม่อยากปล่อยมือเลย...อยากจะอยู่แบบนี้ไปนาน ๆ

“จะปล่อยได้หรือยัง?” เมื่อไม่เห็นว่าคนที่ตัวโตกว่าจะปล่อยมือออกจากตัวเขา จันทร์ก็เลยเอ่ยถาม ตาโตของทะเลกะพริบปริบ ๆ เหมือนว่าเพิ่งจะได้สติ ก่อนที่ตาโตสวยของทะเลจะสบตาเข้ากับตน

“ไม่ปล่อยได้ไหมครับ?” เจ้าตัวถามน้ำเสียงอ้อนเจือเสียดาย

“หึ”

ทะเลจันทร์หัวเราะในลำคอ ใบหน้าสวยอมยิ้ม เขาดูไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าตอนนี้อีกฝ่ายเอ็นดูหรือสมเพชเวทนาตนกันแน่ มือขาวยกขึ้นมาจับแก้มของเขา

“เด็กน้อยเอ๊ย~” จันทร์ถอนหายใจเล็กน้อย “วันนี้ไม่ได้หรอกนะ บอกแล้วไงว่าฉันไม่มีอารมณ์”

เหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่ “ไม่..” เขาตั้งใจจะปฏิเสธแต่ก็ถูกนิ้วเรียวของอีกฝ่ายกดลงมาที่ริมฝีปากเสียก่อน

“อย่าพูด” จันทร์บอก เขาคว้าคอของเด็กตรงหน้าให้ก้มลงมาก่อนจะกดจูบอย่างแผ่วเบา ไร้ซึ่งการรุกล้ำใด ๆ แล้วผละออกมา “ไปก่อนนะ บ๊ายบาย”

เมื่อร่างบอบบางจากไป...ทะเลที่ยืนเงียบอยู่ตรงนั้นพึมพำออกมาเสียงเบา

“คุณนี่มันใจร้ายจริง ๆ”


/


“ไอ้เลโว้ย!”

เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียก นั่นเป็นเสียงหนึ่งในเพื่อนสนิทของเขาเอง เห็นตัวเล็ก ๆ ของมันวิ่งมาไกล ๆ

“อะไรของมึงไอ้เป็ด”

ใช่..ชื่อของมันคือเป็ดจริง ๆ มีพี่สาวสองคนชื่อพี่นกกับพี่ไก่ รวมพลพี่น้องตระกูลสัตว์ปีกเลยทีเดียว

“ตามหาตัวตั้งนาน” เจ้าตัวว่าหอบแฮก “พอดีเพื่อนกูเขาหาช่างภาพงานแต่งอยู่ มึงสนป้ะ?”

ทะเลคิดอยู่ครู่เดียวก็ส่ายหน้าปฏิเสธ

“ทำไมวะ?”

“ไม่ว่าง” เขาตอบ เอาเวลาว่างไปหาพี่จันทร์ดีกว่า และเขาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองด้วย

เป็ดใช้หางตามอง “งั้นก็เรื่องของมึง”

“ช่วงนี้ตามจีบคนอยู่เลยไม่ว่าง” ทะเลบอกในขณะที่ออกเดินไปเรียนพร้อมกัน

เพื่อนตัวน้อยหันมามองอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเพื่อนของตนได้ “คนที่เจ้าชู้เป็นพ่อปลาไหลแบบมึงเนี่ยนะกำลังจีบคน?”

“กูไม่ได้เจ้าชู้” ทะเลบอกอย่างไม่พอใจนักที่โดนกล่าวหาแบบนี้

“ไม่เจ้าชู้ห่าอะไร นอนกับคนไปทั่วไม่เรียกว่าเจ้าชู้แล้วจะเรียกว่าอะไรวะ”

“ก็แค่นอนด้วยหรือเปล่าวะ กูไม่ได้คบใครสักคน”

คนหัวโบราณอย่างเป็ดกลอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่าย นี่เพราะมันเป็นเพื่อนหรอกนะถึงไม่อยากจะด่ามัน ทำได้แค่เพียงบอกให้มันระวังและดูแลรักษาตัวเองก็เท่านั้น

“แล้วกูก็ไม่ได้นอนกับใครไปทั่วสักหน่อย เดือน ๆ หนึ่งได้สักคนก็หรูแล้ว”

เพื่อนหน้าตี๋มองค้อนแล้วเบะปากใส่ “พูดอย่างกับคนแบบมึงขาดแคลนคนมานอนด้วยงั้นแหละ”

ทะเลไม่ได้ตอบอะไรทำเพียงแค่เหลือบมองเพื่อนข้างกายแล้วยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย จริงอย่างที่มันว่า...เขาไม่เคยขาดคนที่จะมีเซ็กซ์ด้วย แต่ก็ใช่ว่าตนจะไปนอนกับใครบ่อยนัก

นอกจากการเรียนหนังสือแล้ว เวลาของเขาส่วนใหญ่หมดไปกับการตระเวนถ่ายรูปซะมากกว่า ยิ่งถ้ามีวันหยุดยาวด้วยแล้ว ตนก็มักจะขับรถออกตามต่างจังหวัดเพื่อไปหาสถานที่ถ่ายภาพสวย ๆ อยู่ตลอด

หลายคนที่ไม่เข้าใจก็มักจะหาว่าตนน่ะหมกมุ่น จะมีก็แต่เป็ดนี่แหละที่เข้าใจและก็มักจะติดสอยห้อยตามไปด้วยกันเป็นประจำ

“แต่คนที่มึงนอนด้วยก็ไม่เคยซ้ำหน้าเลยมั้ยล่ะ”

ทะเลยิ้มมุมปากก่อนจะบอก “ต่อไปนี้จะนอนกับคนนี้แค่คนเดียวพอแล้วว่ะ”

“อย่าบอกนะว่า…” เพื่อนรักหันไปมอง ตาตี่เบิ่งโตขึ้น เจ้าตัวพยายามลดเสียงลง “มึงนอนกับเขาไปก่อนแล้ว?”

ทะเลไหวไหล่ “ก็นะ”

“นี่มีมนุษย์ที่ไหนนอนกับเขาก่อนแล้วถึงจะจีบวะ” เป็ดพูดไม่อยากจะเชื่อ

“ก็อย่างกูนี่ไง”

“ถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนกูนะ กูด่าไปแล้ว”

ทะเลหัวเราะออกมา คนตัวใหญ่กอดคอเพื่อนแล้วดึงเข้ามาใกล้ กระซิบที่ข้างหู “ถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนกูนะ...กูจับมึงทำเมียไปแล้ว”

“ไอ้สาดดดดดด” เป็ดวิ่งไล่เตะคนที่กระซิบเสร็จก็วิ่งหนี เพราะเขาดันเกิดมาหน้าหวาน ทำให้มันมักจะชอบพูดย้อนแกล้งแบบนี้ประจำเมื่อถูกตนพูดประโยคเมื่อครู่ใส่

เขารู้ว่าทะเลมันเป็นเกย์ อันที่จริงเขาก็รู้กันหมดทั้งมหา’ลัยน่ะแหละ ตนก็ไม่ได้รังเกียจอะไรกับสิ่งที่มันเป็นหรอก แต่ที่ไม่ชอบใจนักก็คือเกย์ส่วนใหญ่ก็มักจะคิดว่าเขาก็เป็นด้วยนี่สิ

ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผู้หญิงที่เข้ามาหานี่ไม่มีสักคน มีแต่ชายหนุ่มเข้ามาแจกขนมจีบ เฮ้อ...คิดแล้วก็เศร้า

“อย่ามาดูถูกแชมป์นักวิ่งสมัยมัธยมนะมึง” เป็ดว่า

ทะเลหัวเราะร่าหลังจากถูกเตะก้น พวกเขาทั้งคู่เดินเข้าตึกเรียนท่ามกลางสายตาคนรอบข้างที่มองอย่างสงสัยใคร่รู้ หลายคนเคยคิดว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกันด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีข่าวว่าทะเลมักจะนอนกับผู้ชายคนอื่นไม่ซ้ำหน้า ข่าวลือนี้ก็เป็นอันพับเก็บไป

“แล้วคนที่มึงจีบอยู่เป็นแบบไหนเหรอ?” เป็ดถามในระหว่างที่รออาจารย์เข้าสอน

“อืม” เจ้าตัวคิด ริมฝีปากได้รูปเผยยิ้มออกมาเพียงแค่นึกถึง “สวย น่ารัก น่าค้นหา แล้วก็ใจร้าย”

คนถามทำหน้างง “อีหยังวะ ทำไมดูไม่น่าจะอยู่ในคนคนเดียวกันได้เลย”

“เออสิ เป็นคนที่เข้าใจยากชะมัด แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน...กูอดคิดถึงเขาไม่ได้เลย อยากเจอหน้า อยากพูดคุยด้วยทุกวัน แต่ดูท่าเขาไม่ค่อยอยากเจออยากพูดกับกูสักเท่าไหร่เลยว่ะ”

เป็ดทำหน้าเหวอ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเพื่อนที่คบมานานหลายปีเป็นแบบนี้ คำพูดของมันว่าเพ้อแล้ว หน้าตาตอนมันพูดถึงอีกฝ่ายนี่ยิ่งเพ้อหนักเลย เมื่อมันหันมามองหน้าเขาเหมือนจะขอความเห็น เพื่อนอย่างเขาก็ทำได้แค่เพียง

“เลี่ยนฉิบหาย อย่าว่าแต่เขาไม่อยากคุยกับมึงเลย กูก็ไม่อยากคุยกับมึง”

“สัด”

สุดท้ายแล้วพออาจารย์เดินเข้ามา สองเพื่อนรักก็ต้องหุบปากแล้วตั้งใจเรียนกันต่อไป




TBC…
ขอบคุณที่ติดตาม
ขอบคุณที่ชอบ
และขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ  :L2:
เราอาจจะหายไปสักช่วงหนึ่ง เพราะตอนนี้กำลังเตรียมงานรวมเล่มนิยายพี่เอสกับน้องตี๋ที่จบไปอยู่ค่ะ ถ้าใครยังไม่เคยอ่านก็ลองไปอ่านดูได้นะคะ
https://www.readawrite.com/a/99b033a127285855b2eca6b5915391d5 (https://www.readawrite.com/a/99b033a127285855b2eca6b5915391d5)

หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 3 [29/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 31-08-2018 10:47:38
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 3 [29/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 31-08-2018 15:59:41
สนุก ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 4 [17/09/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 17-09-2018 22:26:57
4





วันนี้ทะเลจันทร์มีนัดกับเพื่อนสนิทที่ร้านของแม่หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาสักพัก โดยเฉพาะน้ำหวานที่เพิ่งกลับจากถ่ายหนังที่เยอรมันมา ส่วนเล็กนั้นเขาเจอบ้างประปรายอยู่แล้ว
   
เนื่องจากวันนี้เขาไม่คิดว่าจะไปไหนต่อเลยเลือกแต่งตัวสบาย ๆ อย่างเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาก๊วยสามส่วนสีกรมท่า ผมยาวถูกมัดหลวม ๆ เอาไว้เผยให้เห็นใบหน้าเล็กเรียวที่ดูอ่อนกว่าวัย จันทร์เข้าร้านมาก็เจอกับเพื่อนรักที่กำลังคุยกันอยู่ก่อนแล้ว
   
“ไงมึง” จันทร์เดินเข้าไปทักทายพร้อมกับนั่งลง แล้วหันไปยิ้มให้เล็กที่ส่งยิ้มหวานมาให้เขาอยู่แล้ว
   
น้ำหวานหันมายิ้มกว้าง “สบายดี มึงล่ะ?”
   
“ก็ดี” จันทร์ตอบก่อนจะหันไปหาเล็กและส่งภาษามือถามว่า ‘สบายดีไหม?’
   
‘สบายดี’ เจ้าตัวตอบเป็นภาษามือกลับไป
   
น้ำหวานเพื่อนของทะเลจันทร์ทำงานเป็นผู้กำกับมือฉมังที่คิวงานรัดตัวมาก ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่เหมือนนายแบบ ทำให้มีแต่คนเสียดายที่เจ้าตัวไม่รับงานแสดงเสียเอง หลายคนเคยพยายามที่จะทาบทามแต่ก็โดนเจ้าตัวด่าเปิดเปิงไป ในวงการนี้น้ำหวานขึ้นชื่อเรื่องปากไม่ดีและไม่แคร์ใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าฝีมือของเขาหาใครมาเทียบยากจริง ๆ เลยทำให้ยังมีงานในวงการเข้ามาไม่ขาดสาย
   
ส่วนเล็กที่ต้องใช้ภาษามือคุยกันนั้นเป็นเพราะเจ้าตัวป่วยหนักช่วงขึ้น ม.ต้น ถ้าจะให้อธิบายอย่างง่ายก็คือพอไม่สบายแล้วก็ทำให้ค่อย ๆ สูญเสียการได้ยินไป พอหูไม่ได้ยิน...เล็กก็ไม่ยอมพูดอีกเลย ทำให้พวกเขาและครอบครัวพากันไปเรียนภาษามือเพื่อจะสื่อสารกันให้ได้ กว่าที่เล็กจะกลับมายืนหยัดได้อย่างเข้มแข็ง ร่าเริง และมองโลกในแง่ดีได้อีกครั้งก็ใช้เวลานานหลายปี
   
และกว่าจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างตอนนี้ ทั้งทะเลจันทร์ เล็ก และน้ำหวานก็ผ่านอะไรด้วยกันมามาก ต่างคนต่างก็ประคับประคองกันไป คอยเป็นกำลังให้กันและกันมาตลอด เรียกได้ว่าเหมือนเป็นพี่น้องมากกว่าเพื่อนกันเสียอีก พวกเขาทั้งสามคนรู้จักกันตั้งแต่สมัยยังเด็ก เพราะครอบครัวของพวกเขานั้นเป็นเพื่อนกันอยู่ก่อนแล้ว

“แล้วกลับมารอบนี้มึงจะอยู่กี่วัน?” จันทร์ถามน้ำหวาน

“กูว่าจะพักสักเดือน” เขาตอบพลางสะบัดคอไล่ความเมื่อย “เหนื่อยฉิบหาย”

เล็กยกมือขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีอะไรอยากจะบอก เจ้าตัวอ่านปากได้เลยทำให้ไม่ต้องให้เพื่อนคุยภาษามือด้วยตลอดเวลา

‘ดี ๆ น้ำหวานทำงานหนักมากไปแล้วนะ’

‘เป็นห่วงเหรอ?’ น้ำหวานขยับมือถามยิ้ม ๆ

เล็กพยักหน้าตอบจนผมหยักศกที่ยาวประบ่าสะบัดไปมา น้ำหวานเห็นแล้วเอ็นดูจนอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวเพื่อนที่อายุเท่ากัน

“มึงนี่น้า~”

‘เราทำไมเหรอ?’

“อายุขนาดนี้แล้วทำไมยังน่ารักอยู่เนี่ย”

เล็กขมวดคิ้วเมื่อถูกเพื่อนรักชม หันไปหาจันทร์เพื่อจะให้อีกฝ่ายช่วยด่าน้ำหวานให้หน่อย อายุตนก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว...มาถูกชมว่าน่ารักมันยังไงก็ไม่รู้

“ก็มันจริงนี่ เล็กน่ารักออก” จันทร์บอกพร้อมกับทำภาษามือไปด้วย ในกลุ่มของพวกเขาเล็กเป็นเหมือนน้องชายที่พวกเขาเฝ้าดูแลประคบประหงมมาตลอด ก็เจ้าคนนี้ทั้งตัวเล็ก บอบบาง อ่อนไหวง่าย แถมยังป่วยอยู่บ่อย ๆ

คนขอความช่วยเหลือหน้าหงิกด้วยความขัดใจ

จันทร์มองยิ้ม ๆ ก่อนจะถาม ‘ว่าแต่เล็กเถอะ ช่วงนี้เป็นไงบ้าง?’

‘ก็เรื่อย ๆ แหละ’ เล็กตอบพร้อมรอยยิ้มบาง

‘ยังหางานไม่ได้เหรอ?’ น้ำหวานถามด้วยสายตาเป็นห่วงไม่แพ้จันทร์

‘คนพิการอย่างฉันก็หางานยากแบบนี้เป็นธรรมดา ชินซะแล้วล่ะ’

เพื่อนทั้งสองคนเงียบไปเมื่อคนตรงหน้าตอบพร้อมกับยิ้มอย่างยอมรับชะตากรรมของตัวเอง อันที่จริงครอบครัวของเล็กก็เรียกได้ว่าร่ำรวยที่สุดในกลุ่มพวกเขา เจ้าตัวไม่จำเป็นต้องหางานทำด้วยซ้ำ แต่ก็เพราะเป็นคนที่ดื้อดึงแบบนี้ ขนาดพ่อแม่และพี่ชายยังห้ามไม่ได้เลย

“สู้ต่อไปนะ” จันทร์ยกนิ้วให้

เล็กยิ้มกว้างพร้อมกับเข้าไปกอดจันทร์อย่างออดอ้อน ถึงชีวิตนี้จะมีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่เขาก็ยังมีครอบครัวและเพื่อนอยู่เคียงข้างเสมอและไม่เคยทิ้งกันไปไหน

“ไอ้นี่มันก็อ้อนมึงไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะ” น้ำหวานพูดขึ้นมา

“ไม่ต้องเปลี่ยนไปเลยก็ได้ กูชอบ” จันทร์ว่าพร้อมกับกอดเพื่อนตัวน้อยให้แน่นขึ้นอีก “อยากให้เล็กเจอแต่เรื่องที่ดี ๆ จังเลยนะ”

“นั่นสิ” น้ำหวานพึมพำ ยกมือขึ้นขยี้ผมนิ่มของเล็กไปด้วย





/





เนื่องจากวันนี้ทะเลเลิกเรียนเร็ว เจ้าตัวอยากจะไปเจอหน้าจันทร์ เพราะหลายวันแล้วที่เขาไม่ได้เจออีกฝ่ายเลย โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็แทบจะไม่ตอบ พอนึกถึงคนสวยใจร้ายแล้วน้ำตาก็พานจะไหลออกมา ทำไมเขาจะต้องมาชอบคนใจร้ายแบบนี้ด้วยเนี่ย

ทะเลขับรถมาที่ร้านจันทร์ฉายโดยที่ไม่รู้ตัว ยังงงตัวเองอยู่ตอนที่เดินมาถึงประตูทางเข้าว่ามาที่นี่ได้อย่างไร เขาลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือเปล่า กลัวว่าจะถูกจันทร์เมินใส่ ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงเจ็บปวดแย่เลย

ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนขาดความมั่นใจมาก่อน ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับอีกฝ่าย ตอนนี้ถ้าเป็นเรื่องของจันทร์...เขาก็กลายเป็นคนแบบนั้นไปโดยอัตโนมัติ

“หนูทะเล”

เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคย เขาลังเลว่าจะเรียกอีกฝ่ายว่าอย่างไรดี เพราะจันทร์เคยห้ามไม่ให้เขาเรียกว่าแม่ เจ้าตัวยกมือขึ้นไหว้ “สวัสดีครับคุณ..ป้า”

“ทำไมไม่เข้าไปล่ะ?” รดาเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้

“เอ่อ…”

“มาหาพี่จันทร์เขาเหรอจ๊ะ?”

“คือ…”

พอเห็นเด็กหนุ่มตรงหน้ายืนอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดแบบนี้ท่านก็รู้แล้วว่าลูกชายคนเดียวของเธอต้องไปทำอะไรไว้กับทะเลแน่ ๆ นิสัยแย่จริงเลยลูกคนนี้

“ตามแม่มานี่ มา” ท่านคว้ามือของทะเล ดึงให้เดินตามไปด้วยกัน

ทะเลที่ไม่เคยเจอหน้าแม่มาก่อนรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจเมื่อคนตรงหน้าแทนตัวเองว่าแม่กับตน มือเล็ก ๆ ที่มีริ้วรอยตามวัยมันอบอุ่นจนเขาอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ตั้งแต่เสียคุณย่าไป...นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสถึงความอบอุ่นและอ่อนโยนอีกครั้ง

“ได้โทรมาบอกพี่จันทร์ก่อนหรือเปล่าลูก?” รดาถามเด็กหนุ่มตัวใหญ่ที่เดินเคียงข้างกัน

ทะเลส่ายหน้าพลางยิ้มแห้ง “ไม่ได้บอกครับ”

“วันนี้พี่จันทร์เขามีเพื่อนมาหานะ”

“เอ่อ..” ทะเลดึงมือให้ท่านหยุดเดิน “ผมว่า..ผมกลับดีกว่าครับ ไม่อยากรบกวน”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า” ท่านกุมมือของทะเลเอาไว้ ตบหลังมืออย่างให้กำลังใจ “มีแม่อยู่ด้วยทั้งคน ไม่ต้องกลัวหรอกนะ”

รดาพูดให้กำลังใจทะเล เธอแค่มองตาเด็กหนุ่มตรงหน้าก็รู้แล้วว่ามีใจให้กับจันทร์ ทั้งที่เพิ่งได้เจอกันแค่สองครั้งแท้ ๆ น่าแปลกที่เธอรู้สึกถูกชะตากับเด็กหนุ่มคนนี้เหลือเกิน และก็เชื่อมั่นในเซนส์ของตัวเองด้วยว่าทะเลเป็นเด็กที่ดีและพึ่งพาได้

ทะเลเห็นคนที่เขาชอบนั่งอยู่ไกล ๆ สีหน้าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน พอเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าตัวเห็นเขาเดินมากับแม่ของตัวเอง คิ้วเรียวสวยก็ขมวดทันที

เพื่อนอีกสองคนที่เห็นสีหน้าของจันทร์เปลี่ยนไปต่างก็หันกลับหลังไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นแม่ของจันทร์เดินจับมือมากับเด็กหนุ่มที่ใส่ชุดนักศึกษา ทั้งคู่ลุกขึ้นยืนยกมือไหว้ท่านที่เดินเข้ามาถึงโต๊ะ

“สวัสดีครับคุณแม่” น้ำหวานเอ่ย ในขณะที่เล็กยืนยิ้ม

“สวัสดีจ้ะ” รดารับไหว้ก่อนจะหันไปหาพ่อลูกชายตัวดี “น้องมาหาแหนะ”

จันทร์ถอนหายใจสั้น ๆ ก่อนจะถามทะเลที่ยืนทำหน้ากระอักกระอ่วน “มาทำไมน่ะ?”

“เอ่อ…” เจ้าตัวไม่กล้าบอกว่า...มาเพราะอยากเห็นหน้าพี่

“พูดกับน้องดี ๆ สิ” แม่ตีไหล่บางของจันทร์ “ดุแบบนี้น้องจะกล้าตอบไหม”

“จันทร์ก็ถามปกตินะ”

“มานั่งเถอะจ้ะ” รดาส่ายหน่าย ๆ กับลูกชายคนเดียว ไม่รู้จะอะไรกันนักกันหนากับเด็กคนนี้ จัดแจงหาที่นั่งให้กับทะเลและตัวเองเรียบร้อย

น้ำหวานกับเล็กมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความสงสัยว่าเด็กนี่มันเป็นใครกันถึงได้ยืนมองเพื่อนของเขาตาละห้อย ในขณะที่แม่ของจันทร์ก็ดูเข้าข้างซะเหลือเกิน

“ใครวะ?” น้ำหวานเอ่ยถามเพื่อนรักขึ้นมา

“อ๋อ…” จันทร์ร้องขึ้นเพื่อถ่วงเวลาคิดคำตอบ

“มึงตอบมาเลยไม่ต้องคิด”

“เพื่อนของจันทร์เขาน่ะลูก”

น้ำหวานขมวดคิ้วแล้วย้อนถามคนเป็นแม่อย่างไม่มั่นใจนัก ก็จันทร์มันเคยมีเพื่อนคนอื่นนอกจากพวกเขาที่ไหนกัน เขามองคนแปลกหน้าที่เพิ่งมาถึงอย่างสงสัยใครรู้ แถมหมอนี่ยังเด็ก...กว่าตั้งเยอะ

“เพื่อนเหรอครับ?”

คนแม่ไหวไหล่ “ก็จันทร์เขาบอกแม่แบบนั้นน่ะสิ”

“น้องเป็นเพื่อนมันเหรอ?” น้ำหวานหันไปถามเด็กนักศึกษาตรงหน้าอย่างไม่อ้อมค้อม

คนถูกถามไม่ทันได้ตั้งตัว เหลือบตามองอีกฝ่ายที่นั่งกอดอกมองเขาด้วยสายตาหาเรื่อง ประหนึ่งว่าถ้าตอบเป็นอย่างอื่นเขาหัวขาดแน่ สุดท้ายก็ต้องตอบว่าเป็นเพื่อนอย่างช่วยไม่ได้

“ชื่ออะไรน่ะเรา?” น้ำหวานถามพลางตักเครปเค้กเข้าปาก

“ทะเลครับ แล้ว…”

น้ำหวานเห็นแววตาสงสัยจากเด็กตรงหน้าก็นึกได้ว่าเขาก็ยังไม่ได้แนะนำตัวเหมือนกัน

“พี่ชื่อน้ำหวาน เป็นเพื่อนไอ้จันทร์มัน” เขาบอกแล้วก็จับไหล่ของเล็ก “ส่วนนี่ชื่อเล็ก เพื่อนไอ้จันทร์เหมือนกัน”

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ทะเลบอกน้ำเสียงนอบน้อม

เล็กยิ้มให้เด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างเป็นมิตรก่อนจะส่งภาษามือตอบกลับไป

“เล็กมันบอกว่ายินดีที่ได้รู้จักน่ะ” จันทร์บอกเมื่อเห็นว่าทะเลมองเพื่อนของตนด้วยสายตาสงสัย

ทะเลพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มบาง ๆ ก่อนจะส่งภาษามือที่เมื่อครู่เห็นกลับไปบ้าง เขาเป็นคนหัวไวเห็นแค่ครั้งเดียวก็จำได้แล้ว

‘น่ารักจัง’ เล็กหันไปบอกจันทร์

เจ้าตัวยิ้มแห้งเมื่อเพื่อนบอกแบบนั้น ในขณะที่คนเป็นแม่กับน้ำหวานหัวเราะเบา ๆ ทะเลมองทุกคนอย่างไม่เข้าใจนัก

“พี่สองคนเขาเป็นเพื่อนกับพี่จันทร์มาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยนะ” คนสูงอายุบอก “ซี้ย่ำปึ้ก”

คนฟังยิ้มขำ “ดีจังนะครับ ผมไม่มีเพื่อนซี้มาตั้งแต่สมัยยังเด็กแบบนี้เลย”

“จันทร์เขาก็มีแค่น้ำหวานกับเล็กเป็นเพื่อนแค่สองคนนี่แหละจ๊ะ พี่เขาเป็นพวกนิสัยไม่ดีเลยไม่มีใครทนคบได้น่ะ”

“แม่ก็เว่อร์” จันทร์บอกก่อนจะยกน้ำขึ้นจิบ อันที่จริงก็ไม่ปฏิเสธหรอกว่าสิ่งที่แม่พูดมามันก็เรื่องจริง เพราะเขาก็มีแค่สองคนนี้เท่านั้นแหละที่คบกันมาได้นานขนาดนี้

“แม่ก็พูดเรื่องจริงทั้งนั้นแหละ”

“จ้า” ลูกชายคนเดียวส่ายหัวยิ้มน้อย ๆ

ทะเลมองสองแม่ลูกพูดตอบโต้กันไปมาแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เพราะเขาเองไม่มีแม่มาให้เถียงแบบนี้ ก็เลยรู้สึกว่าภาพตรงหน้ามันน่ารักดี

“ผมก็ว่าจริงนะครับ” ทะเลพูดเห็นด้วย

ได้ยินแบบนั้นจันทร์หันขวับไปมองหน้าคนพูด หน็อย...ไอ้เด็กเวร เป็นใครมาจากไหนถึงกล้ามาพูดเห็นด้วยกับแม่ของเขา

“โห” คนอายุน้อยกว่าถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นสายตาจากอีกฝ่ายที่ใช้มองตน แต่ก็แอบยิ้มขำ

“น้องมันก็แค่เห็นด้วยกับแม่ มึงจะอะไรนักหนาวะ” น้ำหวานที่นั่งสังเกตการณ์ไปด้วยแปลภาษามือให้เล็กไปด้วยบอกเพื่อนที่ส่งสายตาอำมหิตไปให้เด็กตัวโตที่นั่งฝั่งตรงข้าม

“คนที่เห็นด้วยกับแม่กูได้มีแค่กูเท่านั้น”

“เหอะ” น้ำหวานยกยิ้มมุมปาก “มึงนี่มันนิสัยไม่ดีจริง ๆ”

ทุกคนยกเว้นจันทร์หัวเราะออกมา เจ้าตัวสะบัดหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์ น้ำหวานกับเล็กมองทั้งเพื่อนและคนที่มาใหม่มาได้สักพัก นั่นทำให้พวกเขารู้ว่าเด็กนี่คิดอย่างไรกับเพื่อนของพวกตน

พอแม่ของจันทร์ลุกออกไปจากโต๊ะและทะเลขอตัวไปเข้าห้องน้ำ พวกเขาก็ไม่รอช้า รีบเอ่ยปากถามเพื่อนก่อนเลย

“มึงกับเด็กนั่นมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่?”

จันทร์เบนหน้าหนีไปทางอื่น “ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่”

“ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่มึงให้น้องมันมาถึงที่นี่ แถมมารู้จักกับแม่มึงเนี่ยนะ” น้ำหวานว่า ก่อนจะหันไปแปลให้กับเล็กได้เข้าใจอีกครั้ง

“มึงนี่รู้ดีเหมือนหมาเลยนะ” จันทร์ด่าแสยะยิ้ม เขาล่ะเกลียดความรู้มากของมันจริง ๆ สิพับผ่า

“กูหมา มึงก็หมาเหมือนกันล่ะวะ” เขาจ้องตากับจันทร์อย่างไม่ยอมแพ้ “รู้จักกันมาตั้งนาน...อย่าคิดว่ามึงจะหลอกกูได้นะ”

“หึ” เจ้าตัวหัวเราะในลำคอ “เออ กูนอนกับเด็กนั่น”

เล็กตกใจจนตาโตแทบจะถลนออกจากเบ้า ปากบางอ้าค้างอย่างกับจะพูดอะไร..แต่ก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา

“นั่นไง” น้ำหวานตบเข่าฉาด “แต่แค่นอนด้วยกัน...ก็ไม่น่าจะมาหามึงถึงที่นี่ได้หรือเปล่าวะ ปกติมึงไม่เคยให้ใครมายุ่มย่ามกับชีวิตส่วนตัวของมึงนี่”

จันทร์เงียบไปชั่วอึดใจ “กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง”

“แล้วนี่น้องมันอายุเท่าไหร่วะ เกิน 20 หรือยัง?”

“21”

คนฟังถอนหายใจ “เด็กฉิบหาย”

แค่เห็นเด็กทะเลนั่นใส่ชุดนักศึกษาเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเด็กแน่นอน พอมาเทียบกับพวกเขาแล้ว...อายุห่างกันตั้ง 14 ปี

“เออสิ” จันทร์ตอบ กำลังกลุ้มอยู่เลยว่าจะเขี่ยทิ้งยังไงดี ไอ้เด็กนี่ก็ตามติดยิ่งกว่าวิญญาณ

“แต่มึงไม่เอาเด็กไม่ใช่เหรอวะ”

“เจอกันครั้งแรกก็ไม่คิดว่าเด็กขนาดนี้น่ะสิ” จันทร์กัดปากด้วยความเจ็บใจ “แต่มันดันถูกสเปคกูโคตร ๆ เลยเนี่ยสิ”

“กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าให้มีสติ ไม่ใช่พอหิวแล้วเจอของชอบก็คว้าเข้าปากโดยไม่คิดก่อน”

จันทร์มองค้อนน้ำหวานที่พูดจาสั่งสอนตน “ไอ้ควาย”

“ขอโทษครับที่หายไปนาน พอดีคุณป้าเรียกให้ไปช่วยยกของ...”

ร่างสูงของทะเลเดินเข้ามานั่งลงตรงที่เดิม ขัดจังหวะเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังจะเปิดฉากเถียงกันพอดี เจ้าตัวมองหน้าทั้งคู่สลับไปมา

“นี่ผมมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าเนี่ย?”

“ไม่หรอก” น้ำหวานตอบยิ้ม ๆ

‘หิวไหม? ตั้งแต่มายังไม่ได้กินอะไรเลย?’ เล็กขยับมือถามโดยมีน้ำหวานช่วยแปลให้

“พูดช้า ๆ เพื่อนพี่อ่านปากได้”

ทะเลพยักหน้า “ไม่เป็นไรครับ พอดีว่ากินข้าวกับเพื่อนก่อนจะเข้ามาแล้ว”

“แล้วมาเพื่อ” จันทร์ตอกหน้าหวังจะให้อีกฝ่ายเลิกตามเขาสักที ตนไม่ใช่พวกชอบพูดซ้ำซาก ในเมื่อเคยพูดไปแล้วยังดื้อด้าน เขาก็จะทำให้ทนไม่ไหวเอง

“ก็ผมอยากเจอพี่นี่!”

พรูด!!

น้ำหวานสำลักน้ำที่กำลังดื่ม ไม่คิดว่าเด็กนี่จะกล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมาต่อหน้าคนที่เพิ่งรู้จักอย่างพวกเขา

“ก็เจอแล้วนี่ไง กลับไปได้แล้ว ฉันจะคุยกับเพื่อน” จันทร์โบกมือไล่

“เพื่อนพี่ยังไม่ว่าอะไรเลย”

“แต่ฉันว่า”

“พี่รังเกียจอะไรผมหรือไง”

“เดี๋ยว ๆๆ พวกมึงสองคนหยุดเถียงกันได้แล้ว” คนที่นั่งร่วมโต๊ะพูดขัดขึ้น เพราะไม่อยากให้เพื่อนของตนพูดจาทำร้ายจิตใจไอ้เด็กคนนี้เลยต้องรีบห้ามก่อน

จันทร์ถอนหายใจแรง ๆ หนึ่งครั้งก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม

“ใจร้าย” ทะเลว่า

“หา?”

“พี่มันใจร้าย” เจ้าตัวว่าอีกรอบ

“จะพูดอะไรก็เกรงใจเพื่อนฉันด้วย”

“ผมไม่สนหรอก กว่าผมจะได้เจอพี่ ไลน์ไปก็ไม่ค่อยจะตอบ โทรไปก็ไม่รับ มีแต่ต้องมาที่นี่เท่านั้นผมถึงจะได้เจอพี่ ทั้ง ๆ ที่พี่ก็รู้ว่าผมคิดยังไงแท้ ๆ” ทะเลพูดระบายออกมาด้วยความอัดอั้น เขาไม่สนแล้วว่าใครจะมองยังไง

จันทร์หัวเราะจนตัวงอหลังจากที่ฟังเด็กตรงหน้าพูดจบ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกระเง้ากระงอดใส่ตนแบบนี้ แถมคนที่ทำยังเป็นผู้ชายตัวโต ๆ อีก แต่ดูไปก็...น่ารักดีแฮะ

น้ำหวานกับเล็กมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างอึ้ง ๆ พวกเขาไม่เคยเห็นใครตามตื๊อจันทร์แบบนี้มาก่อน ถ้าเป็นปกติเพื่อนของตนนี่ไล่ตะเพิดไปแล้ว แต่นี่กลับหัวเราะออกมาซะอย่างนั้น น้ำหวานกับเล็กแอบแท็กมือกันเบา ๆ เด็กนี่...ในอนาคตคงไม่ใช่แค่เด็กที่เพื่อนของตนคบแค่เพื่อมีเซ็กซ์แน่ จันทร์ผู้ไม่เคยจริงจังกับใคร อาจจะพ่ายให้กับเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมตรงหน้านี่ก็ได้

“หัวเราะอะไรของพี่เนี่ย?” ทะเลพูดหน้างอกว่าเดิม นี่เขาจริงจังนะ มันดูตลกมากหรือยังไง

“ก็...ฮ่ะ ฮ่า ๆๆๆๆๆ” รู้ว่ามันเสียมารยาท แต่จันทร์ก็หยุดหัวเราะไม่ได้จริง ๆ เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ทดแทนอากาศที่เสียไป เจ้าตัวกุมท้องที่หัวเราะจนเกร็งไปหมด กว่าจะหยุดได้…

“โทษที” จันทร์บอกทะเลที่นั่งมองหน้าตนนิ่ง

“ตบหัวแล้วลูบหลังหรือไง” คนอายุน้อยกว่าต่อว่า จันทร์ยังคงยิ้มขำ

“น้องนี่สุดยอดไปเลยนะ” น้ำหวานเอ่ยขึ้น ในขณะที่เล็กยกนิ้วโป้งให้

“เรื่องอะไรเหรอครับ?”

“เรื่องแรก...จันทร์มันเป็นพวกเสือยิ้มยากกับคนที่ไม่สนิทด้วย ส่วนใหญ่ที่เห็นมันยิ้มน่ะ...ตอแหลทั้งนั้น โอ๊ย ๆๆ” น้ำหวานร้องเพราะโดนฝ่ามือขาวของเพื่อนตีเข้าให้

“สม”

น้ำหวานไม่สนใจจันทร์ หันมาพูดกับทะเลต่อ

“มันยิ้มยาก เพราะงั้นเรื่องที่จะหัวเราะขนาดนี้น่ะ โคตรยาก แต่น้องทำได้..พี่นี่ยอมเลย”

ทะเลอดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้ อย่างน้อยก็รู้สึกดีขึ้นมานิด ๆ

“เรื่องที่สอง...แบบน้องเนี่ยพี่เห็นมาเยอะแล้ว แต่จะบอกอะไรให้..น้องเป็นคนแรกที่ไม่โดนมันไล่ตะเพิดออกจากชีวิตมันเหมือนหมูเหมือนหมานะ”

“ไอ้น้ำหวาน!!” จันทร์ตวาดเพื่อนรักที่พูดอะไรไม่เข้าท่าออกไป

“แค่นี้แหละ กูไปละ” น้ำหวานลุกขึ้นยืน แตะแขนเล็กเบา ๆ เรียกให้กลับด้วยกัน ก่อนจะโบกมือลาเพื่อนรัก

สุดท้ายก็เหลือเพียงสองคนบนโต๊ะ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบ...ทะเลมองใบหน้าด้านข้างของจันทร์ อีกฝ่ายนั่งไขว่ห้างเอามือเท้าคางทำเป็นไม่สนใจเขา...แต่ก็ไม่ลุกหนีไปไหน

สิ่งที่พี่น้ำหวานพูดทิ้งเอาไว้สร้างความรู้สึกดี ๆ ให้เขาอย่างมาก จนทำให้ตนรู้สึกมีกำลังใจที่จะเข้าหาอีกฝ่ายต่อไป ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้คิดอยากจะยกธงขาวเสียแล้ว

“กลับบ้านไปได้แล้วไป” จันทร์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน

ทะเลมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง “ผมยังไม่อยากกลับ”

“ฉันไม่ได้ว่างมานั่งเล่นกับเด็กหรอกนะ”

“ผมก็ไม่ได้มาเล่น ๆ นะ”

จันทร์มองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง พอเห็นดวงตาจริงจังที่ไม่มีแววของความขี้เล่นอย่างที่ผ่านมาแล้วก็ทำเอาหวั่นใจเหมือนกัน เขาเบือนหน้าหนีก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย ไม่รู้จะจัดการกับเด็กนี่ยังไงดี

...และก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกส่วนลึกที่มันกำลังเรียกร้องอย่างไรดีเหมือนกัน ทั้งที่พยายามกดมันลงไปให้ลึกแล้ว แต่มันก็ยังไม่สงบลงสักที

ทะเลไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นที่เขาเคยผ่านมา ถึงแม้จุดเริ่มต้นมันจะเหมือนกัน แต่การกระทำของทะเลตั้งแต่ครั้งแรกที่มีอะไรกัน..มันต่างออกไป เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเด็กนี่ใจดีและน่ารัก ซึ่งทั้งหมดนี้มันส่งผลต่อเขาเป็นอย่างมาก

“แล้วจะให้ฉันทำยังไง…” จันทร์เอ่ยถามเสียงเหนื่อย

“พี่ไม่ต้องทำอะไรเลย ขอเพียงแค่อย่างเดียว...อย่าใจร้ายกับผมเลยนะ”

คนอายุมากกว่าหลับตาลงเมื่อได้ฟังการร้องขอด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนแบบนี้ เขาจะใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด…

“ออกไปรอนอกร้านก่อน แล้วเดี๋ยวฉันจะตามออกไป” จันทร์บอกก่อนจะลุกเดินออกไปจากโต๊ะ

ทะเลมองตามเจ้าของแผ่นหลังบาง ทั้งที่ใจร้ายขนาดนี้...แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงชอบอีกฝ่ายเหลือเกิน ก่อนหน้านี้ตนก็เคยคิดนะว่าคนเรามันจะสามารถชอบใครคนหนึ่งได้เร็วขนาดนี้โดยไม่มีเหตุผลได้เลยเหรอ ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันเป็นไปได้ ตราบเท่าที่คนเรายังมีหัวใจอยู่…






“แม่ครับ จันทร์ขอกลับก่อนนะ”

คนเป็นแม่เงยหน้าขึ้นเมื่อลูกชายคนเดียวเปิดประตูเข้ามา เธอเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากลูกชาย “จะออกไปเที่ยวกับตาน้ำและหนูเล็กเหรอ?”

“เอ่อ…” จันทร์แลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างลำบากใจที่จะบอกความจริง

“หรือไปกับหนูทะเลกันจ๊ะ?”

“อ่า...ครับ” สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถโกหกคนเป็นแม่ได้เลยสักครั้งในชีวิตเลยต้องยอมรับออกไป

รดามองลูกชายคนเดียวพร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ร่างผอมบางลุกขึ้นค่อย ๆ เดินเข้าไปหาจันทร์ มือเล็กจับเข้าที่ข้อมือของลูก

“สิบกว่าปีแล้วนะจันทร์ แม่ว่าหนูควรจะลงหลักกับใครสักคนที่คิดจริงจังกับหนูได้แล้ว อย่าปิดหูปิดตาตัวเองเมื่อมีคนดี ๆ เข้ามาหาเลยนะครับ”

“จันทร์อายุเยอะแล้วนะแม่”

“ก็เพราะอายุเยอะแล้วไง แม่ถึงอยากให้มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนหนู วันไหนที่แม่ไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว...หนูจะได้ไม่เหงาไง”

“แม่อย่าพูดแบบนี้สิ...” แค่คิดว่าวันข้างหน้าจะไม่มีแม่อยู่ด้วยในอกก็โหวงไปหมด

“สัจธรรมของโลก ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้หรอก จันทร์ต้องเข้าใจนะ” ท่านยกมือลูบแก้มของจันทร์แผ่วเบา

เจ้าตัวพยักหน้า ความจริงข้อนี้เขารู้และเข้าใจดี…

“ไหนบอกแม่สิว่าน้องเขามีตรงไหนที่หนูไม่ชอบเหรอ?”

“อายุน้อยไป”

“แค่นั้นเหรอ?” คนเป็นแม่เอียงหน้าถามยิ้ม ๆ

จันทร์เม้มปาก เบือนหน้าหนีสายตาของแม่ที่มองมาอย่างรู้ทัน เขาไม่อยากพูดรื้อฟื้นเรื่องเก่าที่เป็นสาเหตุให้เขาเป็นคนไม่คิดจริงจังกับใครอีกเลยแบบนี้

“จันทร์จะเชื่อที่แม่พูดไหมครับ?”

“ครับ” ลูกชายคนเดียวตอบอย่างไม่ลังเล

“ทะเลน่ะ..ถึงน้องจะยังเด็ก แต่แม่ว่าก็เป็นเด็กที่ดีคนหนึ่งเลยนะ โตขึ้นจะต้องเป็นผู้ชายที่ดีมาก ๆ แน่นอน แม่รับรองได้เลย”

จันทร์อมยิ้มเมื่อฟังแม่พูด “จันทร์รู้”

แค่ระยะเวลาไม่นานที่ได้พบกัน เขาก็รู้ว่าพื้นฐานของทะเลเป็นเด็กที่ดี...ดีจนเขาไม่อยากให้เข้ามาเสียเวลากับเขาเลยด้วยซ้ำ

“ลองเปิดใจมองน้องให้ชัดกว่านี้ อย่าเอาอดีตแย่ ๆ มาทำให้ตัวเองพลาดอะไรดี ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเลยนะลูก”

จันทร์พยักหน้าให้แม่พร้อมกับรอยยิ้มบางบนใบหน้า

“เด็กดีของแม่น่ารักที่สุด” รดาเข้าไปสวมกอดทะเลจันทร์ด้วยความรัก “แต่ถ้าเกิดว่าไม่ได้จริง ๆ แม่ก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะ ที่พูดไปทั้งหมดน่ะ แม่ไม่ได้คิดจะบังคับหนูหรอกนะ..แม่แค่เป็นห่วงก็เท่านั้นเอง”

“จันทร์เข้าใจครับ” ลูกชายคนเดียวสวมกอดมารดา แก้มขาววางลงบนไหล่ของแม่ที่เลี้ยงดูเขามาอย่างดี ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 35 ไม่มีสักครั้งที่แม่เจ้ากี้เจ้าการหรือบังคับตน มีแต่ตามใจ ให้คำปรึกษากับข้อคิดดี ๆ และให้กำลังใจกับเขาเสมอมา

กับเด็กทะเลนั่น...เขาควรจะทำยังไงดี คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ปัญหาทุกอย่างมันอยู่ที่เขาคนเดียว เด็กนั่นไม่ได้มีอะไรผิดเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาเองที่ยังฝังใจอยู่กับเรื่องเก่า ๆ จนไม่สามารถก้าวไปพร้อมกับใครได้อีก

ตนยอมรับว่าเข็ดกับเรื่องความรักมากจนปิดใจไม่ให้ใครได้เข้ามาอีก ในช่วงแรกเรียกว่ายังเป็นความกลัวอยู่ พอนานเข้ามันก็เคยชินที่จะอยู่แบบนี้ไปเสียแล้ว

แต่เมื่อมีทะเลเข้ามาในชีวิต...ทุกสิ่งที่เคยเป็นมันก็ไม่เหมือนเดิม





TBC…
มาต่อช้ามากเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ แฮะๆๆ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ ♥
 :L2:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 4 [17/09/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 18-09-2018 06:39:30
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 4 [17/09/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-09-2018 20:22:11
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 5 [28/09/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 28-09-2018 20:15:44
5




ทะเลนั่งรอบนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่หน้าร้าน แต่ผ่านไปหลายนาทีแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะออกมาสักที เจ้าตัวหยิบกล้องที่อยู่ในกระเป๋าออกมา กดดูรูปที่ถ่ายเอาไว้เมื่อครั้งไปกินข้าวด้วยกันเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน
   
ทะเลไม่เคยคิดมาก่อน...ว่าตัวเองจะชอบใครได้ขนาดนี้
   
“จะนั่งดูรูปฉันอีกนานไหมห๊ะ?”
   
เสียงของคนที่เขากำลังรอดังขึ้น นั่นช่วยเรียกสติของเขาที่จมลงไปกับความคิดที่ไม่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ทะเลเงยหน้าขึ้นมองคนสวยใจร้ายที่ยืนมองตนพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างเคย
   
“อ่า...ก็ตั้งใจจะดูจนกว่าพี่จะออกมานี่แหละ” ทะเลเก็บของแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
   
“หึ” จันทร์หัวเราะในลำคอ “แล้ว...จะไปที่ไหนกันดี?”
   
ทะเลขมวดคิ้ว “คือ..ผมไม่เข้าใจที่พี่ถาม”
   
“ฉัน...อยากมีเซ็กซ์”
   
จบประโยคนั้นของคนตรงหน้า ทะเลจ้องหน้าของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่พบแววตาล้อเล่นจากพี่จันทร์เลย
   
“โรงแรมดีไหม?” เขาเสนอขึ้น
   
“เดี๋ยว ๆ ผมไม่ได้มาเจอพี่เพื่อเรื่องนี้นะ” ทะเลคว้าข้อมือบางของอีกฝ่ายที่ทำท่าจะเดินนำออกไปก่อน
   
“ฉันรู้..”
   
“แล้ว…” เจ้าตัวพูดอะไรต่อไม่ออก ความคิดในหัวมันตีกันยุ่งไปหมดจนไม่รู้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องไหนแล้ว
   
“ไปหาที่คุยกันดีกว่าไหม?”
   
คนอายุน้อยกว่าถอนหายใจ ดูท่าแล้วถ้าอยู่ตรงนี้คงจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ตนดึงข้อมือให้อีกฝ่ายเดินตาม “ไปคุยที่บ้านผมแล้วกัน..ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก”
   
“จะไม่รบกวนคนที่บ้านหรือไง?”
   
“ไม่มีใครหรอก...ผมอยู่คนเดียว”
   
จันทร์ไม่ได้พูดอะไรอีก ปล่อยให้เด็กหนุ่มจับข้อมือไว้อย่างนั้น ขาก้าวตามไปอย่างไม่ลังเล
   
“ไปรถผมนะ?”
   
“อืม”
   
รถของทะเลเป็นรถยุโรปยี่ห้อดังอย่างที่คาดไว้ จันทร์คิดอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายต้องเป็นลูกคนมีเงินแน่นอน ไม่อย่างนั้นคืนแรกที่ได้เจอกันคงไม่มีปัญญาเปิดห้องราคาแพงขนาดนั้นได้หรอก
   
“ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพี่กำลังคิดอะไรกันแน่” ทะเลพูดขึ้นตามที่คิดในขณะที่กำลังขับรถ
   
“สำคัญด้วยเหรอ?” จันทร์ย้อนถามเสียงเย้า ตอนนี้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากเมื่อตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว
   
ใบหน้าคมหันไปมองอีกฝ่ายวูบหนึ่ง “สำคัญสิ...ผมชอบพี่นะ”
   
“เธอชอบอะไรในตัวฉัน?”
   
“พี่จะเชื่อในสิ่งที่ผมพูดเหรอ?” ทะเลย้อนถาม ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวเขาพูดอะไรออกไปก็จะมาหาว่าตอแหลอีก
   
จันทร์ยิ้มออกมาบาง ๆ “..เชื่อสิ”
   
ทะเลเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง พี่จันทร์พูดดี ๆ กับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าพอมาคิดดูอีกทีแล้วมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิดก็ได้ อีกคนอาจจะแค่เหนื่อยจนไม่มีแรงจะพูดก็เป็นได้
   
“พูดออกมาเถอะ ฉันจะเชื่อที่เธอพูด” จันทร์ย้ำอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าคนอายุน้อยกว่ามีความเคลือบแคลงใจ
   
“ถ้าจะให้ผมอธิบายความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่ บอกตามตรงว่าผมก็ไม่รู้จะบรรยายมันออกมาให้เป็นคำพูดยังไงดีเหมือนกัน” ทะเลเม้มริมฝีปากตัวเองอย่างใช้ความคิด “ผม...ยอมรับว่าชอบเซ็กซ์ที่มีกับพี่นะ ผมเคยมีอะไรกับใครมาก็หลายคน แต่ก็ไม่เคยรู้สึกหรือทำแบบนี้กับใครเลย ไม่เคยดูแลใครหลังจากที่มีอะไรด้วยแล้วแบบพี่ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่อยากปล่อยพี่ไป อยากจะได้เจอกันบ่อย ๆ เท่าที่จะทำได้”
   
จันทร์เงียบและตั้งใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูด
   
“แล้วก็...ผมไม่เคยมีแม่มาก่อน มีแต่คุณย่าที่เลี้ยงผมมา และพอได้มาพบกับแม่ของพี่...ผมรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับได้เจอคุณย่าอีกครั้ง คุณแม่ของพี่ทำให้ผมรู้สึกดีและอบอุ่นเมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ”
   
จันทร์เอื้อมมือไปลูบท้ายทอยของเด็กที่อายุน้อยกว่าตนเกินรอบ เขาเอ็นดูเด็กคนนี้ นั่นเป็นความรู้สึกที่มีมาตลอดตั้งแต่ต้น…
   
“พี่อาจจะไม่อยากเชื่อ ว่าในระยะสั้น ๆ แค่นี้มันจะทำให้ผมรู้สึกอะไรได้มากขนาดนี้ได้ยังไง แต่..”
   
“ฉันบอกแล้วไงว่าจะเชื่อที่เธอพูด” จันทร์พูดแทรกขึ้นมา
   
“แล้วตอนนี้...พี่คิดอะไรอยู่กันแน่?”
   
“ถึงบ้านก่อน แล้วฉันจะบอก”
   
ทะเลถอนหายใจออกมาก่อนที่จะกลับไปตั้งใจขับรถกลับบ้าน เขาพยายามที่จะมีสมาธิกับการขับรถ แต่มันก็อยากเหลือเกินเมื่ออีกฝ่ายยังคงใช้นิ้วคลึงท้ายทอยของเขาอยู่อย่างนั้น
   
“พี่เอามือออกเถอะ”
   
“หืม ไม่ชอบเหรอ?”
   
“ไม่ใช่ แต่พี่ทำแบบนี้ผมไม่มีสมาธิขับรถ”
   
จันทร์ยิ้มมุมปาก “แต่ฉันชอบนะ ผมเธอนิ่มดี”
   
ทะเลเหนื่อยใจที่จะต่อล้อต่อเถียงกับคนชอบกวนประสาทอย่างคนตรงหน้าแล้ว ตอนนี้ประสาทเขากำลังตึง ๆ อยู่ด้วย เขาพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองเพื่อความปลอดภัยของเขาทั้งคู่จะดีกว่า
   
จันทร์มองถนนไปเรื่อย ๆ ไม่ได้พูดจากวนประสาททะเลอีก ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอารมณ์ของอีกคนกำลังไม่ปกติ มือขาวหดกลับมาวางบนหน้าตักเหมือนเดิม ใช้เวลาไม่นานอย่างที่ทะเลบอก รถยุโรปคันใหญ่ก็เลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านที่เขาเคยขับรถผ่านอยู่หลายครั้ง บ้านของทะเลเป็นบ้านขนาดกลาง การตกแต่งสวนหน้าบ้านก็ดูอบอุ่นสวยงาม
   
“อยู่คนเดียวจริงเหรอ?” จันทร์ถามเมื่อเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในบ้าน
   
“ครับ”

ทะเลเดินเข้าไปเปิดไฟตามจุดต่าง ๆ ทำให้จันทร์ได้เห็นการตกแต่งภายในชัด ๆ มันไม่เหมือนกับบ้านของเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่อาศัยอยู่คนเดียวเลยสักนิด

“บ้านผมอาจจะดูแปลก ๆ ไปหน่อยนะพี่ ผมเคยอยู่กับคุณย่าสองคน ตอนผมขึ้นม.ปลายท่านก็เสียไปน่ะ จนถึงวันนี้..ผมยังไม่เคยย้ายข้าวของของท่านไปไหนเลย” ทะเลบอกเมื่อเห็นสายตาสงสัยของอีกฝ่าย “พี่นั่งรอที่โซฟาก่อนนะ เดี๋ยวผมไปรินน้ำให้”

จันทร์พยักหน้าก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟา เด็กคนนี้เป็นพวกยึดติดอย่างที่เขาเคยคิดไว้จริง ๆ ของใช้ทั้งหลายที่เป็นของผู้สูงอายุกระจัดกระจายตามมุมต่าง ๆ ภายในบ้าน มีภาพถ่ายของเจ้าตัวกับบุคคลที่น่าจะเป็นคุณย่าอยู่บนกำแพง ในรูปทะเลยังดูเด็กกว่าตอนนี้มาก

อีกฝ่ายเดินออกมาพร้อมกับยื่นแก้วน้ำให้เขา “ไม่มีเบียร์เหรอ?” จันทร์ถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

เจ้าตัวขมวดคิ้วก่อนจะตอบ “มีครับ”

“ขอสักกระป๋องสิ” จันทร์ขอพร้อมกับชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว

“...”

“เราสองคนไม่ได้ดื่มด้วยกันมานานแล้วนะ”

คนอายุน้อยกว่าถอนหายใจ “ครับ เดี๋ยวผมไปหยิบให้”

หลังจากที่ร่างสูงของทะเลหายออกไปจันทร์ก็ทิ้งตัวลงกับพนักพิงโซฟา แล้วหลุดยิ้มอารมณ์ดีออกมาโดยไม่รู้ตัว

ทะเลกลับมาพร้อมกับเบียร์สองกระป๋อง เขานั่งลงข้าง ๆ อีกฝ่าย เปิดกระป๋องแล้วยื่นให้จันทร์ที่ยื่นมือมารับพร้อมกับใบหน้าอมยิ้ม

“พี่มีอะไรจะคุยเหรอ?”

“เด็ก ๆ นี่ใจร้อนจัง” จันทร์ว่าก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่ม เหลือบตามองเห็นสายตาของอีกฝ่ายแล้วก็หลุดขำออกมา “โอเค ๆ พูดก็พูด”

คนอายุน้อยกว่าขยับตัวตั้งใจฟังในสิ่งที่คนตรงหน้ากำลังจะพูด บอกตามตรงว่าเขาเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ออกเลยจริง ๆ จันทร์เป็นคนที่เขาไม่เคยคาดเดาได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกันแล้ว อารมณ์ขึ้นลงเดาทางไม่ถูก อย่างตอนนี้ก็เช่นกัน…

“เรื่องความรู้สึกของเธอที่มีต่อฉันนั้น ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่ปฏิเสธมันอีก”

ทะเลมองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“แต่ฉันก็ไม่ได้จะตอบรับมันหรอกนะ บอกตรง ๆ คือเธอพิเศษกว่าคนอื่นที่ผ่านมา แต่ว่าฉันยังไม่พร้อมที่จะมีใครตอนนี้ ถ้าเธออยู่แบบนี้ได้...ฉันก็จะให้เธออยู่ แต่ถ้าอยากจะได้มากกว่านี้..ก็ทางใครทางมัน”

ความรู้สึกของทะเลในตอนนี้คือเหมือนโดนถีบให้ตกลงจากหน้าผา ชาไปหมดทั้งตัว

“อยู่แบบนี้...แบบไหนเหรอครับ?”

“เราจะนัดเจอกันก็ได้ ไปเที่ยว กินข้าว หรือดูหนัง ตามใจที่เธออยากทำ รวมถึงเรื่องมีเซ็กซ์กัน”

คนตัวใหญ่กว่าหลุบตาลงมองฝ่ามือ พยายามคิดให้มันเจ็บน้อยที่สุดเช่นว่ามันคงจะยังเร็วเกินไปที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปล่ะนะ แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนตรงหน้านี้ไม่คิดที่จะคบหากับเขาอย่างแน่นอน

ตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนดีพอที่จะพูดว่าการมีเซ็กซ์มันมีได้เฉพาะคนเป็นแฟนกันเท่านั้นด้วย เป็นครั้งแรกที่รู้สึกเจ็บกับเรื่องนี้เลย มันทำให้เขาย้อนคิดไป...หรือว่ามันเป็นผลกรรมที่เขาเคยทำไว้กับหลาย ๆ คนกันนะ

ทะเลเองก็เคยทำแบบนี้ไว้กับหลายคนในอดีต เหมือนกันเลยกับที่เขากำลังเผชิญ ตอนนั้นเขาก็ไม่เคยคิดถึงจิตใจของใครอีกหลายคนเลยว่าจะรู้สึกอย่างไร

แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันรู้สึกอย่างไร...และเจ็บขนาดไหน…

“แล้วระหว่างเราสองคน...จะเรียกมันว่าอะไรเหรอ?” เขาเงยหน้าขึ้นถามคนอายุมากกว่าที่กำลังจิบเบียร์

“อืม..” จันทร์เอียงคออย่างใช้ความคิด “ก็คงจะเรียกว่า...เซ็กซ์เฟรนด์ล่ะมั้ง”

“อ่า…” ทะเลพยักหน้าน้อย ๆ อย่างเข้าใจ ในอกมันปวดแปลบไปหมด มันก็คงจะเป็นเวรกรรมที่เขาเคยก่อไว้แล้วกลับมาสนองเขาจริง ๆ แล้วล่ะ ตอนนี้เขาก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับผลของมันไป จะไม่ได้เจอกันเขาก็ทำไม่ได้ ก็เพราะว่าตนนั้นรักคนคนนี้ไปแล้ว อย่างน้อยได้อยู่ด้วยกันก็ยังดีกว่าไม่ได้พบกันอีกเลย

“ไม่ดื่มเหรอ?” จันทร์ถามขึ้น “เบียร์ไม่เย็นมันไม่อร่อยนะ”

คนอายุน้อยกว่าดึงสายตาตัวเองกลับมามองใบหน้าสวยที่ถามเขาด้วยใบหน้ายิ้มน้อย ๆ เขาอยากจะรู้จริง ๆ ว่าหัวใจของคนตรงหน้านี้มันทำด้วยอะไร  มือใหญ่เอื้อมไปหยิบกระป๋องเบียร์บนโต๊ะมาเปิดก่อนจะกระดกของเหลวสีอำพันลงคอไปอย่างเร็ว

“เฮ้ ๆๆ รีบเหรอไง?” คนอายุมากกว่าร้องปราม ไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ทะเลกำลังรู้สึกอย่างไร แต่เพื่อตัวเขาเอง...การแสร้งทำเป็นไม่รู้คงจะปลอดภัยที่สุดแล้ว

ทะเลไม่ได้ตอบอะไรออกไป เจ้าตัวยกเบียร์ขึ้นดื่มต่อ พอหมดก็เดินไปหยิบในครัวออกมาเพิ่มอีกหลายกระป๋อง อย่างน้อยถ้าเมาก็คงจะทำให้อาการเจ็บในอกบรรเทาลงไปได้บ้าง

จันทร์เหลือบมองเด็กหนุ่มสายตาเจือความเป็นห่วงโดยไม่รู้ตัว มือขาวเอื้อมไปจับมือที่ใหญ่กว่าของทะเล เมื่อเจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมองก็ทำให้เขาได้เห็นแววตาเจ็บปวด ซึ่งมันทำเอาหัวใจของเขากระตุกอย่างห้ามไม่ได้

เขาวางกระป๋องเบียร์ลงกับโต๊ะ ก่อนจะขยับกายขึ้นคร่อมบนตักของร่างที่สูงใหญ่กว่า ยกแขนขึ้นคล้องคอของทะเลพร้อมกับส่งยิ้มให้

“พี่..เดี๋ยวเบียร์มันหก” คนอายุน้อยกว่าบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

“หกก็หกไปสิ” เขาตอบอย่างไม่ยี่หระ

“...”

จันทร์เห็นอีกฝ่ายจ้องหน้าเขาเขม็งแบบนี้ก็เลยคว้ามันมาถือเอาไว้ เขากระดกมันลงคอทีเดียวหมดกระป๋อง “แบบนี้โอเคหรือยังครับคุณ?”

“หึ” ทะเลหัวเราะในลำคอ บอกตามตรงว่าอารมณ์ของเขายังไม่คงที่นัก แต่ตนก็รู้ตัวว่าต้องทำใจกับเรื่องนี้ให้ได้เร็วที่สุด ในเมื่อไม่สามารถทำอะไรได้...ก็มีแต่ต้องก้มหน้ายอมรับไป

บางทีการมีเซ็กซ์มันก็อาจจะช่วยให้อารมณ์ที่มันกรุ่นอยู่ในอกเย็นลงไปได้บ้างก็เป็นได้ มือใหญ่ค่อย ๆ ลูบไล้สะโพกเล็กกลมกลึงบนตักเขาอย่างเบามือราวกับกลัวว่ามันจะช้ำ

“อย่าทำหน้านิ่งแบบนี้สิ ฉันกลัวนะ” จันทร์ว่า

“ถ้าพี่กลัวผม..พี่คงไม่ทำแบบนี้หรอก”

คนอายุมากกว่ายิ้มขำเมื่อถูกเด็กมันย้อนเข้าให้ เขาปาดนิ้วโป้งลงไปบนริมฝีปากล่างได้รูปของทะเล  “ช่างเจรจานะเรา”

เมื่อเห็นว่าริมฝีปากของคนด้านใต้ยกยิ้ม มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าหล่อเอาไว้แล้วก็ประกบจูบลงไปอย่างแผ่วเบา จันทร์เป็นฝ่ายเริ่มสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับทะเลที่ดูยังไม่ค่อยมีอารมณ์นัก มือขาวค่อย ๆ เลื่อนลงมาหมายจะปลุกเร้าอีกฝ่าย เจ้าตัวยังเป็นเด็กวัยรุ่นเลยไม่ยากเท่าไหร่

ทะเลที่ถูกลูบไล้ไปตามร่างกาย เบือนหน้าออกมาจากจูบ เห็นจันทร์มองด้วยสายตาสงสัย

“ไหนพี่เคยบอกว่าจะไม่ทำกับคนที่ยังไม่ได้อาบน้ำไง?”

“ก็ใช่น่ะสิ”

“วันนี้ผมไปเรียนมาด้วยนะ”

“งั้นเราไปอาบน้ำด้วยกันเนอะ” จันทร์บอกยิ้มจนตาหยี

ทะเลพยักหน้าให้ก่อนจะลุกขึ้นยืนเมื่ออีกฝ่ายขยับออกจากตักเขาไป ขายาวออกเดินนำเข้าไปในบ้านโดยที่มีคนอายุมากกว่าเดินตามมาเงียบ ๆ เขาไม่รู้ว่าทำไมท่าทีของอีกฝ่ายถึงเปลี่ยนไปมาเร็วขนาดนี้ อย่างเมื่อครู่ก็ดูเอาใจเขาดูผิดปกติ นี่คิดจะไถ่โทษหรือไงกัน

เมื่อจันทร์ได้เข้าไปในห้องนอนของเด็กหนุ่ม เจ้าตัวก็เดินสำรวจไปทั่ว จนไปหยุดอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างมีภาพถ่ายอยู่บนนั้นเต็มไปหมด เขาหยิบขึ้นมาดูด้วยความสนใจ

“รูปนี้ที่ไหนเหรอ?” จันทร์ชูรูปในมือขึ้นเพื่อถามเจ้าของมัน

ทะเลที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ “อ่า..เคนย่าครับ อุทยานมาไซมาร่า ผมไปช่วงปิดเทอมมาน่ะ”

คนอายุมากกว่าพยักหน้า หยิบรูปขึ้นมาดูอีกหลายใบอย่างเงียบ ๆ รู้ตัวอีกทีก็ถูกวงแขนกว้างกอดเข้าไปทั้งตัว

“พี่สนใจเหรอ?” ทะเลเอ่ยถามพร้อมกับหอมแก้มของอีกฝ่าย

“สวยดีนะ”

เด็กหนุ่มเห็นคนในอ้อมแขนยังคงดูรูปในมือไม่วางตา เลยถามขึ้น “อยากไปไหม ปิดเทอมนี้ผมพาไปอีกได้นะ”

จันทร์วางรูปลงที่เดิมก่อนจะหมุนตัวเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย “ไม่เป็นไรหรอก ไปอาบน้ำกันดีกว่า”

ทะเลเป็นฝ่ายถอดเสื้อให้กับจันทร์ในขณะที่ร่างผอมบางก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เมื่อร่างกายเปลือยเปล่าทั้งสองคนกอดและจูบกันอย่างดูดดื่มก่อนที่จะพากันเข้าห้องน้ำ

“เดี๋ยวฉันอาบให้” จันทร์บอกพลางหยิบขวดต่าง ๆ ที่วางอยู่ขึ้นมาดู เขาบีบสบู่เหลวมาฟอกตามตัวที่มีกล้ามเนื้อพอดี ๆ ของเด็กหนุ่ม เมื่ออาบน้ำจนสะอาดดีก็เอื้อมมือปิดฝักบัว

“วันนี้พี่บริการดีจัง”

คนถูกชมเหลือบตาขึ้นมอง ริมฝีปากสวยแย้มยิ้มออกมาบาง ๆ แล้วขยับตัวเข้าไปเบียด จูบลงที่แผ่นอกไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงจุดไวสัมผัส ทะเลสะดุ้งเมื่อถูกเขาดูดดึงมันแค่เพียงแผ่วเบา

เสียงครางดังออกมาจากริมฝีปากได้รูปของคนตัวสูงกว่าด้วยความเสียวซ่าน และจันทร์ก็รู้สึกดีเมื่อเห็นอีกฝ่ายเป็นเช่นนั้น อันที่จริงถึงแม้ว่าส่วนใหญ่เขาจะเป็นฝ่ายรับแต่ในบางครั้งก็มีบ้างที่เป็นฝ่ายรุก และตนก็ชอบที่จะเป็นฝ่ายทำอะไรแบบนี้มากกว่า เพราะชอบที่จะเห็นปฏิกิริยาแบบนี้จากคนที่โดนเขาเล้าโลมนั่นเอง

จันทร์ค่อย ๆ พรมจูบต่ำลงไปอีก ผ่านหน้าท้องที่มีกล้ามเล็กน้อย จนมาถึงส่วนสำคัญที่มันกำลังเริ่มแสดงอารมณ์ เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของมัน แววตาของเด็กหนุ่มวัยกลัดมันทำเอาจันทร์อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมา มือขาวจับเข้าที่อาวุธของอีกฝ่าย

“พี่” ทะเลเรียก “ไม่ต้องทำให้ผมหรอก…”

“เถอะน่า...ฉันไม่ได้จะทำให้ใครง่าย ๆ หรอกนะ” เจ้าตัวตอบพร้อมกับขยับมือไปด้วย

“ผมเกรงใจ” เด็กหนุ่มบอก ลมหายใจสะดุดเมื่อถูกกระตุ้นไม่หยุดหย่อน

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันทำก็เพราะอยากทำ ไม่ได้ฝืนใจอะไร” จันทร์บอกก่อนจะรับส่วนที่แสดงความเป็นชายเข้าปากไป เขาเอ็นดูอย่างดีถึงแม้ว่าขนาดของมันจะไม่น่ารักก็ตาม มันใหญ่เกินไปทำให้เอาเข้าปากได้แค่ส่วนหัว ปากเล็ก ๆ ของจันทร์โลมเลียดูดดึงตามท่อนลำ

ทะเลมองคนด้านใต้ที่กำลังใช้ปากกับส่วนนั้นของตน ภาพตรงหน้ากับความรู้สึกที่ได้รับทำเอาเขากัดกรามแน่นด้วยความเสียว ยิ่งอีกฝ่ายช้อนตาขึ้นสบกัน...ก็ทำเอาแทบจะปลดปล่อยเสียเดี๋ยวนั้น ทั้ง ๆ ที่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่พอเป็นคนที่ชอบทำ..มันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจริง ๆ

“พี่..ผมจะ เสร็จ” คนอายุน้อยกว่าบอก

“ก็เสร็จมาเลยสิ”

“ไม่เอา” ทะเลปฏิเสธ “ผมอยากเสร็จในตัวพี่”

จันทร์ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเร่งมือจนเด็กหนุ่มทนไม่ไหวปลดปล่อยออกมาจนหมดในปากของเขา เจ้าตัวคายหยาดหยดของอารมณ์ที่ทะเลเพิ่งปล่อยมาทิ้งไป แล้วส่งยิ้มเยาะให้กับอีกฝ่าย

“พี่แกล้งผม”

“นิดหน่อยเอง” เขาพูดกลั้วหัวเราะพร้อมกับลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวว่าง ๆ ไปตรวจเลือดกันนะ” เมื่อทะเลทำหน้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาบอก “เพื่อความปลอดภัย เธอจะได้เสร็จในตัวฉันได้อย่างที่ขอไง”

คนอายุน้อยกว่าหน้าแดงวาบเมื่อถูกกระซิบที่ใบหูในท้ายประโยค ให้ตายสิ..เขาไม่เคยเจอใครที่ยั่วยวนขนาดนี้มาก่อนจริง ๆ ทำให้กลายเป็นฝ่ายตนที่รู้สึกกระดากอายขึ้นมาแทน

“หึ” จันทร์หัวเราะในลำคอเมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าแดง “ไปต่อกันที่เตียงเถอะ”

ทั้งสองคนพากันออกมาจากห้องน้ำ ทะเลเดินแยกออกไปหยิบเจลหล่อลื่นและถุงยางที่เก็บเอาไว้ หันกลับมาอีกทีก็เห็นว่าพี่จันทร์อยู่บนที่นอนของเขาแล้วเรียบร้อย ผิวขาวตัดกับผ้าห่มและผ้าปูที่นอนสีกรมท่าดูสวยงามจนไม่อยากละสายตาไปไหน

ขายาวก้าวเข้าไปใกล้และขึ้นคร่อมอีกฝ่ายที่ยิ้มให้เขาอยู่แล้ว “พี่นี่มัน…” ทะเลกัดฟันอย่างพยายามระงับอารมณ์ดิบของตัวเอง เพราะกลัวว่าจะพลั้งมือทำอะไรรุนแรงลงไปด้วยความมันเขี้ยว

สำหรับเขาต่อให้พี่จันทร์จะใจร้ายแค่ไหน แต่อีกฝ่ายก็ยังดูบอบบางและแตกหักง่ายอยู่ดี…

“ฉันทำไม?”

“ยั่วแบบนี้กับทุกคนเลยเหรอ?” ทะเลถามด้วยความสงสัย เพราะเขาคงไม่ใช่คนแรกที่เจ้าตัวนอนด้วยอยู่แล้ว เพียงแค่คิดว่าคนที่เขาชอบทำเรื่องแบบนี้กับหลาย ๆ คนแล้ว...ก็รู้สึกจุกในอกขึ้นมา

จันทร์ยกแขนขึ้นคล้องคอแล้วดึงให้ใบหน้าของเด็กหนุ่มลงมาใกล้ เขาหอมแก้มกร้านของทะเล “ไม่ใช่กับทุกคนหรอก..สบายใจได้”

“มันจะสบายใจได้ที่ไหนกันล่ะ” คนอายุน้อยกว่าย้อนเสียงแข็งอย่างไม่พอใจ

“น่า...ฉันสัญญาว่าต่อไปนี้จะมีแค่เธอที่ทำได้ โอเคไหม?”


หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 5 [28/09/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 28-09-2018 20:16:18


ทะเลจ้องหน้าคนที่เพิ่งให้สัญญากับเขาตาไม่กะพริบ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เพียงแต่...การที่ได้ครอบครองร่างกายแต่ไม่ได้ครอบครองหัวใจแบบนี้...มันก็เจ็บใช่เล่นแฮะ

เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะเอาหน้าผากชนกับหน้าผากของจันทร์ “สิ่งที่ผมหวังมันไม่ใช่แค่ร่างกายของพี่นะ”

“ฉันรู้” จันทร์ประคองใบหน้าของเด็กหนุ่ม กดจูบลงไปแผ่วเบา “อย่าพูดอะไรอีกเลย”

ทะเลรู้ดีว่านี่คือการปฏิเสธจากอีกฝ่ายแบบนุ่มนวลที่สุดแล้ว ถ้าเป็นก่อนหน้าไม่นานนี้ก็จะเอ่ยปากไล่ทุกครั้งที่ได้เจอกัน ปิดกั้นเขาทุกช่องทาง อย่างน้อยถ้าเป็นแบบนี้ไปได้เรื่อย ๆ ทะเลก็คิดว่าเขาก็พอจะทนรอจนกว่าคนตรงหน้านี้จะยอมเปิดใจให้กันได้

คนอายุมากกว่าเริ่มจูบเร่าร้อนมากขึ้น เรียวลิ้นหวานกวาดต้อนไปทั่วด้านในปากเขา ตอนนี้ทะเลกลับกลายเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อน เขาถูกดันให้นอนลงในขณะที่พี่จันทร์ขึ้นนั่งบนตัวเขา สะโพกบางนั่งทับลงบนจุดสำคัญที่มันกำลังกลับมาผงาดอีกครั้ง

“ทำไมวันนี้พี่ร้อนแรงจัง?” ทะเลถามเสียงแผ่ว

“บอกไปแล้วไง...ว่าฉันอยากมีเซ็กซ์” เมื่อพูดจบสะโพกบางก็ขยับถูไถไปกับแก่นกายที่แข็งตัวของคนด้านใต้ มือทั้งสองข้างวางอยู่บนอกหนาเพื่อยันตัวเองไม่ให้ล้มหน้าทิ่ม

ทะเลส่งเสียงครางต่ำออกมาด้วยความรู้สึกดี พอถูกยั่วแบบนี้มันทำให้เขาอยากจะสอดใส่เข้าไปในตัวคนด้านบนตอนนี้เลยด้วยซ้ำ อยากจะทำอย่างรุนแรงจนพรุ่งนี้อีกฝ่ายไม่มีแรงจะลุกออกจากเตียงเขาไปไหนได้เลย

แต่ก็ทำได้แค่เพียงคิดเท่านั้นแหละ...พี่จันทร์เป็นคนแรกที่เขาอยากจะให้ความสำคัญ อะไรที่จะทำให้อีกฝ่ายเจ็บหรือบอบช้ำ..เขาจะขอรับมันทั้งหมดเอาไว้เอง เพราะตอนนี้คนคนนี้ก็ตามใจเขามากแล้ว

เขามองออกว่าคนอย่างทะเลจันทร์ไม่ใช่ว่าจะยอมตามใจใครง่าย ๆ เป็นคนที่ใจแข็งมากเลยทีเดียว เขาถึงได้ดีใจที่อย่างน้อยตัวเองก็สามารถสั่นไหวหัวใจของคนตรงหน้านี้ได้บ้าง จนเจ้าตัวยอมรับว่าเขานั้น..พิเศษกว่าใคร ๆ

ดวงตาคมมองคนด้านบนที่บีบเจลลงกับนิ้วเรียวแล้วเอื้อมมือไปด้านหลัง เห็นใบหน้าที่เหยเกเล็กน้อยแล้วเขาเลยเอ่ยถามขึ้น “ให้ผมช่วยพี่ดีกว่าไหม?”

จันทร์เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า “ช่วยหน่อยนะ”

คราวที่แล้วเขายังประทับใจที่เด็กหนุ่มช่วยเขาทำความคุ้นเคยกับช่องทางด้านหลังให้เตรียมรับขนาดแก่นกายที่ใหญ่ของเจ้าตัวได้ แต่ถึงขนาดเตรียมตัวดีมากแค่ไหนมันก็อดที่จะเจ็บแปล๊บในตอนแรกไม่ได้อยู่ดี ก็ไอ้เด็กนี่มันน้อง ๆ ม้าเลยนี่หว่า แค่เห็นเขาก็เสียวท้องน้อยแล้ว

คนตัวเล็กกว่าล้มตัวลงกับฟูกนิ่ม ถูกมือใหญ่จับที่ข้อเท้าเพื่อให้ขาทั้งสองข้างอ้าออกจากกัน เมื่อนิ้วแรกสอดเข้าไป..แน่นอนว่ามันจุกเล็กน้อย ถึงตนจะเห็นว่าเรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องธรรมชาติและชอบมัน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะมีเซ็กซ์บ่อยจนช่องทางด้านหลังชินกับการที่มีอะไรยัดเข้าไปในก้นหรอกนะ กว่าจะรู้สึกดีกับมันได้ก็ต้องใช้เวลาสักหน่อยอยู่ดี

“เจ็บไหมครับ?”

“ไม่เจ็บหรอก มันแค่ตึง ๆ นิดหน่อย” เขาตอบพร้อมกับยิ้มให้เด็กหนุ่มที่มีสีหน้ากังวล “เรื่องธรรมชาติน่ะ เดี๋ยวมันก็ดีเอง”

“ผมจะเบามือนะ”

ประโยคสั้น ๆ จากทะเลทำเอาในอกของเขารู้สึกอุ่นซ่าน ในครั้งแรกเจ้าตัวก็พูดประโยคนี้กับเขา มันเป็นความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ตนรู้สึกดีมาก

“ขอบใจนะ”

“หืม?”

“ที่ใจดีด้วยไง”

ทะเลไม่ได้พูดอะไรตอบกลับทำเพียงแค่ยิ้มและก้มลงจูบคนด้านใต้ ในขณะที่มือก็ทำหน้าที่ของมันไป จนเมื่อร่างกายของอีกฝ่ายพร้อมแล้ว เขาหยิบถุงยางขึ้นมาสวมพร้อมกับไม่ลืมใช้เจลเพื่อลดการเจ็บตัวของคนอายุมากกว่า

เขาอยากจะเรียกเซ็กซ์ครั้งนี้ว่าบทรัก...แต่ในเมื่อเราทั้งคู่ไม่ได้เป็นอะไรกัน และอีกฝ่ายก็ไม่ได้รักเขา มันก็ยังไม่สมควรจะเรียกแบบนั้น และได้แต่หวังว่าใจที่แข็งเหมือนหินของพี่จันทร์จะเปิดรับตนเข้าไปในนั้นสักวันหนึ่ง

“ดีไหมพี่?” ทะเลถามพร้อมกับกระแทกเข้าออกเป็นจังหวะ

“อ๊ะ ดี..มาก” ผิวขาวที่แดงเพราะความร้อนในตัวพุ่งสูงขึ้น บิดเร่าด้วยความเสียวเมื่อเด็กหนุ่มกระแทกโดนจุดกระสัน

ทะเลยิ้มเมื่อนึกถึงครั้งที่แล้วตอนที่อีกฝ่ายเป็นคนขึ้นคร่อมเขา แขนแกร่งดึงร่างเพรียวขึ้นมาในขณะที่ตนนอนลง

จันทร์รู้ว่าเด็กหนุ่มต้องการอะไร เขาไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้ประสา ตาเรียวมองอีกฝ่ายที่จ้องเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์แล้วสะโพกเพรียวก็ขยับอย่างเนิบช้า เขาเลียริมฝีปากเมื่อไล่สายตามองรูปร่างสมส่วนของทะเล มันกระตุ้นอารมณ์ของเขาได้อย่างมากเลยให้ตายเถอะ!

“พี่นี่โคตรเอ็กซ์เลย” เจ้าตัวพูดขึ้น เมื่อคนอายุมากตรงหน้าขยับสะโพกสนองทั้งตัวเองและเขา

“ไอ้..เด็กบ้า!” จันทร์ด่าเสียงกระท่อนกระแท่น

ทะเลยิ้มเผล่ พอใจที่ถูกคนตรงหน้าด่า “ไม่เคยมีใครบอกพี่เหรอว่าพี่น่ะ..”

“หยุดพูดนะ!” คนอายุมากกว่าใช้มือปิดปากเด็กหนุ่มด้านล่าง

คนถูกปิดปากจับข้อมือบางเอาไว้ก่อนจะเลียฝ่ามือนั้นจนเจ้าของมันสะดุ้ง เขาสวนกายขึ้นไปหนัก ๆ เมื่ออีกฝ่ายหยุดขยับจนคนด้านบนร้องเสียงหลงและทรงตัวไม่อยู่จนล้มลงมานอนบนตัวเขา

จันทร์ร้องเสียงดังอย่างไม่อายใคร เขาจุกจนไม่มีแรงแม้จะขยับตัว แต่ก็เสียวมากเช่นกัน ร่างบอบบางสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่เมื่อถูกกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วง

“ไม่ถนัดเลยแฮะ” ทะเลว่าก่อนจะจับพี่จันทร์ที่ตัวเบาหวิวนอนหงายลงที่เดิม

คนอายุมากกว่าที่เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกหอบหายใจแรง ใบหน้าขาวขึ้นริ้วแดงดูน่ามอง ขาเรียวถูกจับอ้าออกกว้างเผยให้เห็นทุกจุดอย่างน่าอาย เขาเห็นทะเลมองด้วยความพึงใจก่อนที่จะจูบที่ข้อเท้าขาวอย่างแผ่วเบา

ร่างกายที่สูงใหญ่แต่สมส่วนเริ่มต้นขยับกายอีกครั้ง มันไม่ได้หนักหน่วงเหมือนเมื่อครู่ แต่ก็เข้าแทรกลึกตรงจุดกระสันภายในซ้ำแล้วซ้ำเล่า จันทร์เสียวจนทรมาน...แต่ก็รู้สึกดี

“อ๊ะ..อา” เจ้าตัวร้อง น้ำตาไหลออกมาเมื่อถูกกระตุ้นมากเกินไป “พอแล้ว..”

“อยากให้ผมหยุดเหรอ?” ทะเลถามแต่ก็ไม่หยุดตัวเอง

จันทร์ส่ายหน้าทั้งน้ำตา

“พี่ไม่ชอบเหรอ?”

ในตอนนี้จันทร์ไม่มีสติพอที่จะรับรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขากันแน่ “ดี..มันรู้สึกดี แต่ทรมาน”

เด็กหนุ่มยิ้มด้วยความพอใจ ก้มลงจูบอีกฝ่ายด้วยความมันเขี้ยวกับความน่ารักของเจ้าตัว ไม่นานนักคนพี่ก็เป็นฝ่ายปลดปล่อยออกมาก่อน ทะเลขยับอีกไม่กี่ครั้งก็ตามไปติด ๆ เขาล้มตัวลงนอนทับร่างเพรียวด้วยความเหนื่อยทั้งที่ยังไม่ถอนกายออกมา

เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังไปทั่วห้อง เหงื่อโทรมกายทั้งที่ก็เปิดแอร์ ทะเลยันตัวขึ้นมากดจูบลงที่แก้มแดงของพี่จันทร์แล้วส่งยิ้มให้

“เอามันออกไปได้แล้ว” จันทร์พยายามขยับตัวแต่ก็เป็นไปไม่ได้เมื่อโดนเด็กที่ตัวใหญ่กว่านอนทับอยู่ แล้วเขาก็หมดแรงที่จะขยับตัวแล้วด้วย

“โถ่…เสียบรรยากาศหมดเลย”

“บรรยากาศอะไร อึดอัดโว้ย!” เขาทุบลงที่แผ่นหลังกว้างของคนด้านบนเบา ๆ อยากจะทุบแรงกว่านี้เหมือนกัน แต่เขาไม่มีแรงพอ

“อย่างน้อยก็น่าจะยิ้มให้หรือจูบกลับบ้าง”

คนอายุมากกว่าจ้องเด็กหนุ่มตาเขม็ง มันเห็นเขาเป็นเพื่อนเล่นหรือไง “เอา ออก ไป เดี๋ยวนี้!” ในเมื่อใช้กำลังไม่ได้ผลก็ต้องใช้อำนาจของความเป็นผู้ใหญ่นี่แหละ

“จ้า ๆๆ” ทะเลตอบรับเสียงอ่อนเสียงหวาน เจ้าตัวขยับออกแล้วค่อย ๆ ถอนกายออกมา เขามองช่องทางที่บวมแดงของอีกฝ่าย

“จะมองเพื่อ!” จันทร์โวยวายขยับขาหนีบเข้าหากัน ถ้ามีแรงมากกว่านี้เขายกขาถีบมันไปแล้ว

“ผมขอโทษนะ” ทะเลบอก “รอบนี้ทำแรงไป”

จันทร์ยิ้มขำ “ตบหัวแล้วลูบหลังนี่หว่า”

“โธ่~ก็อารมณ์มันพาไปนี่พี่” ทะเลจัดการกับถุงยางเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับดึงร่างบางของคนอายุมากกว่าเข้ามากอด

คนถูกกอดทำเพียงหัวเราะในลำคอ อันที่จริงครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ขนาดนี้เหมือนกัน รู้สึกดีมาก..แต่ก็ทรมานมากเช่นกัน เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย เซ็กซ์ของทะเลทำให้เขาพอใจได้สุด ๆ อย่างที่ไม่เคยมีกับใครมาก่อน

“พี่รู้อะไรไหม”

“หืม?” คนที่อยู่ในอ้อมกอด เงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่ม

“พี่เป็นคนที่เข้าใจยากที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมาเลย เดี๋ยวก็ใจร้าย สักพักก็ใจดี บางทีก็น่ารัก แล้วเดี๋ยวก็เซ็กซี่ บอกตามตรงว่าผมตามไม่ทันจริง ๆ นะ”

“พูดแบบนี้..สงสัยฉันคงจะเป็นไบโพลาร์แล้วล่ะมั้ง” จันทร์ยิ้มขำ

“แต่ถึงพี่จะเป็นยังไง” ทะเลกุมมือของอีกฝ่ายขึ้นมา กดจูบลงกับฝ่ามือ “ผมก็ยังชอบพี่นะ ชอบที่พี่ที่เป็นตัวของตัวเองจริง ๆ พี่ที่ใจร้ายและใจดี พี่ที่น่ารักและเซ็กซี่ ถึงตอนนี้พี่ยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจรับใคร...ผมรอได้นะ พี่จะให้ผมอยู่ในฐานะอะไรก็ได้ ผมอยู่ได้ทั้งนั้น”

แววตาของทะเลจันทร์สั่นไหวเมื่อถูกเด็กหนุ่มตรงหน้าสารภาพความในใจอย่างตรงไปตรงมา สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายหลบตาก่อน อย่างที่เขาบอก..ทะเลพิเศษกว่าใครที่เคยผ่านมา และเขาก็ไม่อยากใจอ่อน

“นอนกันได้แล้ว”

เด็กหนุ่มยิ้มอย่างเข้าใจ ก็ในเมื่อเป็นคนเลือกเองว่าเขาจะอยู่ตรงไหนของความสัมพันธ์นี้ ถึงแม้บางครั้งมันอาจจะเจ็บแปล๊บ ๆ อยู่บ้าง แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าจะรอ

แม้ไม่รู้ว่านานแค่ไหน จะมีโอกาสหรือไม่ก็ตาม...




tbc…

สำหรับใครบางคนแล้ว...บางทีการได้เห็นเขาในสายตา ก็ยังดีกว่าไม่ได้พบกันอีกเลย...

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและการติดตามนะคะ  :L2:

ปล. ไม่เคยเขียนนิยายเรื่องไหนนายเอกแซ่บเบอร์นี้เลย  :z1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 5 [28/09/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-09-2018 21:43:19
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 6 [09/10/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 09-10-2018 17:02:13

6





เช้าวันต่อมาทะเลจันทร์ปวดระบมช่วงล่างไปหมดจนไม่อยากจะลุกจากเตียงนุ่มไปไหนเลย แต่เนื่องจากว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของเขา..ก็จำเป็นที่จะต้องไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปทำงานที่ร้านเช่นทุกวัน
   
เมื่อลืมตาขึ้นก็เจอกับใบหน้าของเด็กหนุ่มอยู่ตรงหน้า เจ้าตัวกำลังนอนหลับสนิท เขาใชัช่วงเวลานี้มองใบหน้าหล่อของทะเล ในใจลึก ๆ แล้วก็รู้สึกผิดกับเด็กคนนี้ไม่น้อย ไม่ใช่ว่าเป็นตนที่กักขังเด็กหนุ่มคนนี้ไว้กับความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกนี่ซะเมื่อไหร่กัน แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยเขาไปไหนต่างหาก
   
สุดท้ายแล้ว...ทางนี้ก็คือทางที่ดีที่สุดแล้วที่เขาจะให้กับอีกฝ่ายได้
   
จะว่าไปก็นานมากแล้วที่เขาไม่ได้นอนร่วมเตียงกับใครแบบนี้ ตั้งแต่เลิกรากับแฟนเก่าไปเมื่อสิบกว่าปี ปกติแล้วต่อให้จะเหนื่อยยังไงเขาก็จะกลับไปนอนที่บ้านตลอด เขาปิดกั้นตัวเองจากความสัมพันธ์ทุกรูปแบบที่มันจะเกิดขึ้น
   
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าแม่พูดแบบนั้นแล้วละก็...เขาก็คงจะไม่ยอมให้ทะเลเข้ามาในชีวิตถึงขนาดนี้แม้ว่าอีกฝ่ายจะพิเศษกว่าใครก็ตาม

“จะมองหน้าผมอีกนานไหมครับ?”

จันทร์หลุดออกจากความคิดของตัวเองเมื่ออีกฝ่ายส่งเสียงขึ้นมา เขาส่งยิ้มตอบก่อนถาม “ตื่นนานแล้วเหรอ?”

ทะเลบิดขี้เกียจเล็กน้อย “ครับ ตื่นมาก็เห็นใครบางคนมองหน้าผมนิ่งเลย”

“หึ ไม่ได้มองสักหน่อย แค่คิดอะไรเพลิน ๆ หรอก”

เด็กหนุ่มดึงเอวบางให้เข้ามาใกล้ จมูกโด่งกดลงกับแก้มขาว “ดีจังเลย” เจ้าตัวว่าก่อนจะขยับตัวซุกหน้าลงกับอกของอีกฝ่ายอย่างออดอ้อน

“ดีอะไร” คนถูกกอดถาม ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน

“ดีที่ตื่นมาก็ได้เจอพี่ไง”

จันทร์ก้มมองคนอายุน้อยกว่าที่กำลังออดอ้อนตนอยู่ คำพูดอ้อนของทะเลทำเอาเขาอดที่จะยิ้มไม่ได้ ฝ่ามือขาวตีลงกับไหล่หนา “อย่ามาเว่อร์”

“เว่อร์อะไรกัน ไหนพี่ว่าจะเชื่อผมไง”

“เชื่อแค่เมื่อคืน ตอนนี้ไม่เชื่อแล้ว..”

ทะเลผละออกมาหน้าบูด “ผู้ใหญ่นี่เชื่อไม่ได้ตลอดเลย”

“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ” จันทร์กลับย้อนถาม คิ้วเรียวขมวดด้วยความไม่เข้าใจ อะไรที่ทำให้ทะเลคิดว่าผู้ใหญ่เชื่อไม่ได้กัน

“...” คนอายุน้อยปิดปากเงียบ เขาไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เคยผ่านมา เมื่อครู่เขาแค่หลุดปากไปด้วยความไม่พอใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง

เมื่อจันทร์เห็นว่าเด็กที่นอนข้าง ๆ ไม่ตอบคำถาม ตนเลยยกมือขึ้นจับหัวของทะเลเขย่าไปมา “ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร เมื่อกี้ฉันก็แค่ล้อเล่น ไม่ได้อยากให้เธอรู้สึกไม่ดีหรอกนะ”

ทะเลยิ้มออกมาในทันทีที่เขาพูดจบ ดูท่าเขาจะเอาใจไอ้เด็กนี่เกินไปหน่อยแล้วมั้ง แต่แค่นิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอก..ก็ในเมื่อเขากำลังทำสิ่งที่ใจร้ายที่สุดกับคนที่กำลังชอบเขาอยู่นี่นา

“เดี๋ยวผมทำข้าวเช้าให้กินนะ” ทะเลบอกน้ำเสียงสดใส

จันทร์ทำหน้าแปลกใจ “เธอทำอาหารเป็นด้วยเหรอ”

“ผมอยู่คนเดียวมา 7 ปีแล้วนะครับ แค่นี้จิ๊บ ๆ”

“งั้นไปอาบน้ำด้วยกันไหม” จันทร์ชวน มือบางลูบที่แผ่นอกแน่นไล้ลงต่ำไปเรื่อย ใบหน้าสวยยิ้มมุมปากอย่างยั่วยวน

“อย่าซนสิพี่” ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่แววตาของทะเลราวกับสัตว์ป่าที่พร้อมจะขย้ำสัตว์ที่ตัวเล็กกว่าได้ตลอดเวลา

“หนุ่ม ๆ นี่แข็งแรงดีจัง” มือเรียวคว้าเข้าที่แก่นกายตึงแน่นจากการกระตุ้นของตัวเอง

“พี่ไม่หิวข้าวเหรอ” ทะเลกัดฟันถาม

“หิว...อย่างอื่นมากกว่า”

ทะเลดึงมือขาวออกจากส่วนนั้นของตน จับข้อมือเล็ก ๆ ของพี่จันทร์ทั้งสองข้างไว้ด้วยมือเดียวแล้วกดมันไว้เหนือศีรษะของอีกฝ่าย เขามองแววตาที่แสนซนของคนอายุมากกว่า “ทำไมซนแบบนี้เนี่ย..พี่อยากลุกไม่ขึ้นหรือไง”

“หึ” จันทร์หัวเราะในลำคอ ยิ้มมุมปาก “กลัวไม่ได้มากกว่า”

ดวงตาของเด็กหนุ่มวาวโรจน์ขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินอีกฝ่ายบอกแบบนั้น และเขาก็ไม่ปล่อยให้คนสวยที่นอนอยู่ใต้ร่างเสียหน้า ยั่วมาขนาดนี้แล้วไม่สนองก็เสียน้ำใจกันแย่

/

เช้าวันนั้นกว่าจะได้อาบน้ำก็อีกสองชั่วโมงต่อมา จนตอนนี้เกือบจะเที่ยงแล้ว จันทร์ขาสั่นไปหมดในตอนที่ลุกขึ้นยืน จนทะเลต้องอุ้มไปอาบน้ำจนสะอาดเอี่ยม เขาลงมาชั้นล่างของบ้าน สวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำของเด็กหนุ่ม มันดูใหญ่ไปนิดหน่อยแต่ก็ใส่ได้

ในขณะที่ทะเลกำลังเตรียมมื้อเช้า จันทร์ก็ปลีกตัวไปโทรศัพท์หาแม่

(ว่าไงจ๊ะพ่อลูกชาย)

จันทร์ยิ้มเมื่อได้ยินน้ำเสียงสดใสของมารดา “คิดถึงแม่จัง”

(แหม~ปากหวาน แม่ก็คิดถึงครับ)

“แม่กินข้าวหรือยัง”

(เรียบร้อยแล้วจ้ะ แล้วหนูล่ะ..กินหรือยัง)

“กำลังรอเจ้าทะเลทำให้อยู่ครับ” เขาตอบ เมื่อคืนนี้เขาโทรบอกท่านแล้วว่าออกมากับเจ้านี่ ไม่ได้เอารถออกมา และคงจะค้างที่บ้านของทะเล

(กับน้องคืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ)

คนเป็นลูกหัวเราะเสียงเบา “ก็ไม่ถึงไหนหรอกครับ”

(กับแม่เนี่ย..ไม่ต้องมาปิดบังกันเลยนะพ่อตัวดี)

“อ๊า~ เดี๋ยวจันทร์ขอไปกินข้าวก่อนนะแม่ แล้วช่วงบ่าย ๆ จะเข้าไปที่ร้านนะครับ”

พูดบ่ายเบี่ยงจบก็รีบวางสายทันที เขาไม่อยากจะไปคิดว่ามันไปถึงไหนแล้ว เพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้สำหรับเขามันก็ไม่ได้แย่นัก แต่ถ้าจะให้มากกว่านี้ก็ไม่เอาหรอก ถึงแม้ว่าคนเป็นแม่จะเชียร์แค่ไหนก็ตาม

จันทร์เดินกลับเข้าครัว ร่างเพรียวบางยืนพิงกรอบประตู มองเด็กหนุ่มทำอาหารด้วยรอยยิ้ม

เขาย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนสาย เพียงแค่คิดถึงมัน..เขาก็รู้สึกอยากจะทำให้เด็กหนุ่มตรงหน้ารุ่มร้อนไปหมดทั้งตัว ติดที่ร่างกายมันไม่ไหวแล้ว มันก็นานแล้วที่เขาไม่ได้มีเซ็กซ์ถี่จนปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวขนาดนี้ ครั้งนี้ไม่รู้อะไรเข้าสิงทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ มันอาจจะเป็นเพราะว่าเซ็กซ์ของเขาทั้งคู่เข้ากันได้ดีสุด ๆ หรืออะไรก็ตามแต่ เขาไม่อยากหาเหตุผลหรอก เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน...

“ทำอะไรให้ฉันกินล่ะ” จันทร์เอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้

ทะเลหันมายิ้มให้ “ผมทำข้าวต้มหมูทรงเครื่อง พี่กินได้ไหม”

“ได้สิ”

คนอายุน้อยกว่ายกข้าวต้มทั้งสองชามมาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวโดยที่มีจันทร์เดินตามมาช้า ๆ เพราะช่วงล่างยังไม่ค่อยดีนัก ทั้งสองคนนั่งตรงข้ามกัน ทะเลจ้องมองคนพี่ตาแป๋วเมื่ออีกคนตักอาหารที่เขาทำเข้าปากไป

“เป็นไงพี่..อร่อยไหม”

จันทร์เคี้ยวให้หมดก่อนจะตอบตามจริง “อร่อยดี”

ทะเลฉีกยิ้มกว้างอย่างดีใจ ก่อนจะก้มหน้ากินบ้าง อันที่จริงเขาก็มั่นใจว่าตัวเองทำอาหารได้ดีเลยทีเดียว แต่เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นถึงลูกชายเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง มันเลยทำให้เขาหวั่นใจอยู่บ้าง พอคำตอบออกมาเป็นแบบนี้เขาก็เลยรู้สึกดีใจมาก

ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรระหว่างมื้ออาหาร ไม่ทันที่จะกินเสร็จเสียงออดของบ้านก็ดังขึ้น ทะเลขมวดคิ้ว...คิดไม่ออกว่าตนนัดใครไว้หรือไง

“เดี๋ยวผมไปดูก่อนนะว่าใครมา”

“อืม”

ขายาวก้าวออกไปหน้าบ้านเพื่อดูว่าใครมาหา เห็นเป็ดเพื่อนรักโบกมือให้หย็อย ๆ ที่นอกรั้ว ทะเลถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปหามัน

“เป็นห่าไร ทำหน้าบูดเป็นตูดหมึก” เจ้าตัวถาม แก้มทั้งสองข้างเป็นสีแดงเพราะตนเดินตากแดดเข้ามาที่บ้านของอีกฝ่าย แถมยังยืนรอให้เพื่อนเดินมาเปิดประตูให้อีก

“มาทำห่าอะไร” ทะเลถามน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก

“แล้วทำไมกูจะมาไม่ได้”

“จะมาทำไมไม่โทรมาบอกก่อนล่ะวะ”

“เปิดประตูให้กูเข้าไปได้แล้ว ร้อนโว้ย!” เป็ดไม่ตอบแต่โวยวายเสียงดัง

ทะเลกอดอกมองหน้ามันนิ่ง เขาไม่อยากให้มันมารบกวนช่วงเวลาของเขากับพี่จันทร์ “วันนี้กลับไปก่อนไป”

“ไม่กลับ”

“งั้นมึงก็ยืนตากแดดหัวแดงอยู่ตรงนี้แหละ” พูดจบก็ทำท่าจะเดินหนี

“โถ่~ พี่ครับ..ขอกูเข้าไปพักให้หายร้อน จิบน้ำเย็นสักแก้วก่อนสิ”

ทะเลทำท่าจะด่าไอ้คนหน้าด้านนี่ แต่เสียงของพี่จันทร์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

“โวยวายอะไรกันน่ะ” จันทร์เดินออกมาก็เห็นสองคนนี้เถียงกันไปมาอยู่นั่นแหละ ถึงเขาจะไม่ใช่เจ้าของบ้านก็ตาม แต่ก็รู้สึกเกรงใจคนแถวนี้แทนเหลือเกิน

พอร่างสูงขยับตัวหันกลับมาหาเขา ก็ทำให้จันทร์ได้เห็นหน้าคนที่อยู่นอกรั้ว เป็นเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กพอ ๆ กับเขา ใบหน้าน่ารัก อีกฝ่ายมองมาด้วยใบหน้าแสดงถึงความสงสัย

“เพื่อนผมน่ะพี่ ชื่อเป็ด”

จันทร์ยิ้มบาง “แดดแรงขนาดนี้ก็ให้เพื่อนเข้ามาสิ”

ทะเลหันไปมองค้อนเพื่อนของตัวเอง และก็ต้องเปิดให้มันเข้ามาอย่างช่วยไม่ได้ หันกลับไปอีกทีร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำก็ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว

“ใครวะมึง” เป็ดกระซิบถาม

“คนที่เล่าให้ฟังไง”

เป็ดตาโต ปากอ้าค้าง

“ร้อนไม่ใช่หรือไง เข้าบ้านสิวะ” พูดตัดบทจบก็เดินนำเข้าบ้านไปอย่างไว

/

จันทร์ที่กินข้าวต้มหมดชามแล้ว นั่งอยู่ที่โซฟาอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี อันที่จริงอยากจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เหมือนกัน เพราะแต่งตัวแบบนี้มันก็ไม่ค่อยดีนัก แต่ติดตรงที่มันกำลังตากอยู่ เมื่อคืนนี้ทะเลเป็นคนซักและตากให้เขาไว้เรียบร้อย

“สวัสดีครับพี่..” เป็ดทักทายพร้อมกับยกมือไหว้

“พี่ชื่อจันทร์” คนอายุมากกว่ารับไหว้พร้อมกับยิ้มให้

“ครับพี่จันทร์” เจ้าตัวเรียกพร้อมกับยิ้มตอบ “ผมชื่อเป็ด”

“ชื่อน่ารักจัง”

เจ้าของชื่อยิ้มกว้าง “พี่เป็นคนแรกที่บอกว่าชื่อผมน่ารัก ปกติมีแต่คนบอกว่ามันตลก”

“มันมีพี่สาวสองคนชื่อว่านกกับไก่ด้วยนะพี่” ทะเลพูดเสริม เจ้าตัวเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำเย็นสามขวดเล็กแล้วส่งให้กับสองคนที่นั่งอยู่ “ครอบครัวสัตว์ปีกเลย”

“ตลกตรงไหน ชื่อน่ารัก...เหมาะกับคนน่ารัก”

เพื่อนรักสองคนนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เมื่อจันทร์ใช้ทั้งสายตา คำพูด และน้ำเสียงเหมือนกับจะจีบคนมาใหม่เสียอย่างนั้น

“เอ่อ…” เป็ดกะพริบตาปริบ ๆ

“เฮ้ ๆๆ ทำไมพี่พูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นล่ะ” ทะเลพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ

“เสียงแบบไหนกัน” จันทร์ย้อน

“ก็..ก็..เสียงแบบ ไม่รู้แหละ! พี่ห้ามใช้เสียงแบบนี้กับมัน”

“เอ้า” จันทร์ยิ้มขำ ไม่รู้หรอกว่าตัวเองพูดน้ำเสียงแบบไหนออกไป แต่เขาตลกท่าทางเหมือนหมาขี้หวงของทะเล

“น้ำเสียงพี่เหมือนกำลังจะจีบผมเลย” เป็ดบอกก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ

จันทร์เอียงคอเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มมุมปาก “มันคงเป็นไปเองโดยไม่รู้ตัวน่ะ ก็เราเป็นแบบที่พี่ชอบเลยนี่นา”

เป็ดเหลือบมองเพื่อนรักที่ตอนนี้จ้องเขาตาแทบถลน ให้ตายเหอะ! พี่จันทร์นี่มันเพลย์บอยตัวจริงยิ่งกว่าไอ้เลเพื่อนยากอีกโว้ย ถ้าเป็นคนทั่วไปคงถูกเขาด่าไปแล้ว แต่นี่ดันเป็นคนที่เพื่อนของเขากำลังหลงเลิฟ และตอนนี้คงเป็นตนนี่แหละที่จะโดนมันด่าแทน

“อย่าซีเรียสเลย” จันทร์บอกเด็กหนุ่มทั้งสองคน “พี่ไม่ชอบเด็ก ไม่ต้องห่วงหรอก”

เพื่อนตัวเล็กหันขวับไปมองทะเลทันที ที่จริงเขาเข้าใจว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันแล้ว แต่สิ่งที่คนอายุมากกว่าพูดออกมา ไม่ชอบเด็กเหรอ...รวมถึงไอ้เพื่อนตัวโตของเขาด้วยหรือเปล่าหว่า แบบนี้แปลว่ายังไม่ได้เป็นอะไรกันเหรอเนี่ย

“นี่รวมผมด้วยหรือเปล่า” ทะเลรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยที่ได้ยินอย่างนั้นเลยโพล่งถามออกไป

จันทร์ปรายตามองไปทางคนถาม “เธอสองคนเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือไง”

เด็กหนุ่มฮึ่มฮั่มอยู่ในใจเมื่อถูกคนหน้าสวยย้อนกวน ๆ ไม่ต้องตอบเขาก็รู้ความหมาย ก็ในเมื่อเขากับมันเป็นเพื่อนกัน มันก็ต้องเด็กเหมือนกันน่ะสิวะ

“พี่อายุเท่าไหร่เหรอ” เป็ดถามด้วยความสงสัย

“ลองทายดูสิ”

คนอายุน้อยมองอย่างพิจารณาก่อนจะตอบแบบไม่ค่อยมั่นใจนัก “...28”

จันทร์หัวเราะในลำคอ “ให้โอกาสอีกหนึ่งครั้ง”

“เอ่อ..” เจ้าตัวหันไปมองเพื่อนรักที่กำลังมองมาที่เขาและยิ้มเยาะ “งั้น 26”

“ผิดจ้า~ 35 ต่างหากล่ะ” จันทร์เฉลย

“หา!”

“ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ” ทะเลบอกเมื่อเป็ดหันมามองอย่างขอคำยืนยัน หน้าตามันตลกจริง ๆ สิ

“ทำไมพี่ดูไม่แก่เลยอะ!”

จันทร์ไหวไหล่ “คงเพราะ...ได้มีเซ็กซ์บ่อย ๆ ล่ะมั้ง ได้ผ่อนคลายบ่อย ๆ แล้วหน้ามันก็จะเด็กเอง”

เขาพูดเล่นไปอย่างนั้นแหละ อันที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรกับใครบ่อยขนาดนั้น แต่เพื่อนของทะเลตลกดี ยิ่งเห็นสีหน้าฮา ๆ ของเป็ดแล้วเขายิ่งอยากแกล้ง

“ผมไม่เชื่ออะ” เจ้าตัวโวยวายคิ้วขมวด “ไอ้เลมันก็มีอะไรกับใครไปทั่ว ไหงหน้ามันแก่แบบนี้ล่ะพี่”

“ไอ้เหี้ยนี่!” ถึงทะเลจะด่า แต่เขากลับยิ้มและหัวเราะเพื่อนตัวเองที่พูดด้วยใบหน้าและท่าทางที่ดูเกินจริงไปมากจนดูตลกไปหมด และพี่จันทร์เองก็ตลกมันเหมือนกัน

“ด่ากูทำไม กูพูดเรื่องจริงหรอก” เป็ดย้อน

จันทร์หัวเราะขำเพื่อนสองคนนี้ที่เดี๋ยว ๆ ก็เถียงกันเดี๋ยว ๆ ก็กัดกันอยู่ตลอด เขามองพิจารณาเด็กหนุ่มตรงหน้า เป็ดเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารัก และนิสัยก็น่ารักอีกด้วย เขารู้สึกถูกชะตามาก เจ้าตัวเม้มปากอย่างอดไม่ได้ อยากจะให้น้ำหวานเพื่อนรักได้เจอกับเด็กคนนี้จัง…หมอนั่นมันโสดมานานเกินไปแล้ว!

“พี่มองอะไรน่ะ” ทะเลทักขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายเหม่อมองเพื่อนของเขาแล้วยิ้มอะไรอยู่คนเดียวก็ไม่รู้

“ไม่มีอะไรหรอกน่า~” เขาบ่ายเบี่ยง “ก็แค่เห็นว่าเพื่อนเธอน่ารักดีก็เท่านั้นเอง”

“ไม่ได้นะพี่” ทะเลยกมือกันเพื่อนตัวเล็ก “ไอ้นี่มันไม่ได้ชอบผู้ชาย”

“อ้าวเหรอ” จันทร์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เสียดายจัง”

เป็ดมองหน้าคนอายุมากกว่า “ผมไม่ได้เป็นเกย์นะพี่”

“พี่ก็ไม่ได้จะจีบเราซะหน่อย”

“งั้นใครล่ะ” ทะเลเป็นฝ่ายถาม เห็นอย่างนี้เขาก็เป็นห่วงเพื่อนเหมือนกันนะ ไอ้เป็ดเห็นมันห้าว ๆ แบบนี้ที่จริงมันเป็นพวกซื่อตามคนไม่ทัน ทำให้โดนหลอกเป็นประจำเลยล่ะ

“ก็เป็ดน่ะ..สเปกเพื่อนพี่ เลยอยากจะแนะนำให้รู้จักสักหน่อย”

“จริงเหรอพี่!” เจ้าตัวหูผึง “ผมโสด ๆ แนะนำได้นะครับ”

ตาชั้นเดียวของเป็ดโตขึ้นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้นดูน่ารัก เพราะตั้งแต่เกิดมาเจ้าตัวยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ไปจีบใครก็แห้วตลอด และคนที่เข้ามาจีบก็มีแต่ผู้ชายอีกต่างหาก

“งั้นพี่ขอไลน์เราหน่อยสิ ไว้จะให้เพื่อนของพี่แอดไป”

“ได้ครับ ๆ”

ทะเลมองคนอายุมากกว่าอย่างข้องใจ เพื่อนคนไหนของเจ้าตัวกันนะ เขาเองก็ไม่อยากถามด้วย เพราะถึงถามไปดูท่าก็คงไม่ได้รับคำตอบอยู่ดี

“แต่ว่า...เพื่อนพี่ก็ต้องอายุเท่ากับพี่น่ะสิ” เป็ดพูดขึ้นมาหลังจากที่แลกไลน์กันเรียบร้อย

“ใช่ แต่ไม่ต้องห่วงนะ คนนี้หน้าตาดี รูปร่างดี และที่สำคัญแซ่บมาก”

“พี่ก็..ผมไม่ได้หวังเรื่องแบบนั้นสักหน่อย” เป็ดบอกเกาคอแก้เขิน

“ไม่ต้องอายหรอก” จันทร์บอกพร้อมกับยิ้ม “วัยรุ่นก็แบบนี้ อย่างหมอนี่ก็ทำเอาพี่ปวดเมื่อยไปหมด”

เป็ดหันขวับไปมองหน้าเพื่อนตาโต แก้มแดงเล็กน้อย รู้สึกอายที่ดันไปคิดเรื่องของทะเลกับพี่จันทร์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างระหว่างคนทั้งคู่ 

ทะเลเห็นแบบนั้นก็ใช้ฝ่ามือตะปบหน้าอีกฝ่ายจนร้องโอ๊ย “มองเหี้ยอะไร กูรู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่”

เพื่อนตัวเล็กลูบหน้าตัวเอง ไม่กล้าเถียงหรอก เพราะก็คิดจริง ๆ

“เสื้อผ้าพี่แห้งแล้วมั้ง” ทะเลหันไปบอกคนอายุมากกว่า

“นั่นสิ” เขาค่อยลุก ๆ ขึ้นยืน ก่อนจะหันไปบอกเป็ด “เดี๋ยวพี่ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”

“ครับผม~”

เมื่อร่างเพรียวในชุดคลุมอาบน้ำหายลับสายตาไป ทะเลก็หันไปถามเป็ดที่นั่งทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ “แล้วสรุปว่ามึงมาทำซากอะไร”

“ก็...แค่เบื่อ ๆ เลยมาหาอะไรทำ”

“แล้วมึงคิดว่าที่บ้านกูมีอะไรให้มึงทำ”

“...ไม่รู้ ก็เลยมาหาดูนี่ไง”

ทะเลถอนหายใจกลอกตาไปมาอย่างหน่ายกับคนตรงหน้าที่ตอบคำถามข้าง ๆ คู ๆ อยู่นั่นแหละ “มึงเหงาก็พูดมาเหอะ มันยากตรงไหนกัน”

เป็ดย่นจมูก “ใครเหงา ไม่มีสักหน่อย”

ทะเลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือใหญ่จับหัวเล็กของเพื่อนรักโยกไปมา “เดี๋ยวกูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วจะพาออกไปด้วยกัน”

“โอเค~” เป็ดฉีกยิ้มกว้างจนตาเป็นขีด

ทะเลยิ้มบางพร้อมกับส่ายหน้าไปมา เพื่อนของเขาคนนี้พื้นฐานครอบครัวก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเขามากนักหรอก เท่าที่รู้คือพ่อกับแม่เลิกรากัน พี่สาวสองคนได้ไปอยู่กับพ่อ คนที่เลี้ยงเป็ดมาคือคุณตา พอท่านเสียไปมันก็แทบจะเหลือตัวคนเดียว มีแม่ก็เหมือนไม่มี เป็ดเข้ากับแม่ไม่ค่อยได้นัก เจอหน้ากันก็มีแต่ทะเลาะกัน

เวลาที่เป็ดทะเลาะกับแม่ก็จะหนีออกจากบ้านเป็นประจำ ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีวันหยุดยาวก็จะออกไปสงบสติอารมณ์ด้วยการถ่ายรูปตามที่ต่าง ๆ หรือไม่ก็จะมาหาทะเลที่บ้านแบบนี้ แต่ถ้ามีเวลาว่างเยอะ อย่างวันหยุดยาวก็มักจะหนีออกต่างจังหวัดไปพร้อมกับเขาเลย

อย่างวันนี้ที่ออกมาหาทะเลที่บ้านก็คงจะหนีไม่พ้นมีปัญหากับแม่มาแน่ ๆ

/

“เป็ดกินข้าวหรือยัง” ทะเลจันทร์ถามขึ้น

ตอนนี้ทะเลกำลังพาคนอายุมากกว่ากลับไปส่งที่ร้านจันทร์ฉายเหมือนเดิม โดยพาเป็ดเพื่อนรักติดรถมาด้วยตามที่บอกมันเอาไว้

“ยังเลยครับ”

“งั้นเดี๋ยวไปกินที่ร้านของแม่พี่เลยเนอะ”

เป็ดยิ้มน้อย ๆ รู้สึกดีที่อีกฝ่ายใจดีด้วย “ครับพี่”

“ผมสงสัยอยู่อย่าง” ทะเลพูดขึ้น “ทำไมพี่ถึงแทนตัวเองกับไอ้เป็ดว่าพี่ แต่กับผมดันแทนตัวว่าฉันล่ะ”

“ก็ฉันพอใจแบบนี้” จันทร์ไหวไหล่

คำตอบของอีกฝ่ายทำเอาเขาไปไม่ถูกเลย ในขณะที่คนนั่งเบาะหลังอย่างไอ้เป็ดหัวเราะลั่น ทะเลมองมันผ่านกระจกมองหลังแล้วก็หมั่นไส้

“ตลกอะไรของมึง”

เป็ดเช็ดน้ำตาที่เล็ดออกมาตอนที่หัวเราะ “หัวเราะมึงน่ะแหละ คนชั่ว ๆ อย่างมึงมันต้องเจออย่างพี่จันทร์นี่ สมน้ำหน้า”

“ไอ้เหี้ย” ทะเลด่าเพื่อนแบบไม่เต็มเสียง ยอมรับว่าตนก็ทำเลวไว้เยอะ ตอนนี้ถึงได้ก้มหน้ารับกรรมอยู่นี่ไง

“คนชั่วมันก็ต้องเจอกับคนชั่วมันถึงจะสมน้ำสมเนื้อกันนะ” จันทร์ว่ายิ้มมุมปาก

“พี่ก็เป็นคนชั่วเหรอ” เป็ดถามซื่อ ๆ

ทะเลหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เพื่อนเขาคนนี้มันก็ได้เรื่องอยู่เหมือนกันนะเนี่ย ถึงจะโง่ไปหน่อย..แต่ความโง่ของมันก็ใช้ได้

จันทร์ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร ก็ในเมื่อเขาเป็นคนพูดเอง “บางคนก็พูดว่าพี่เป็นแบบนั้นนะ”

“ถ้าคนที่พูดไม่ได้รู้จักพี่ดีพอก็ไม่น่าจะเก็บมาใส่หัวนะครับ”

“งั้นมึงรู้จักกูดีพอหรือไงถึงมาว่ากูชั่วน่ะ”

“เออสิ ไอ้จ้อนมึงยาวเท่าไหร่กูยังรู้เลย”

“ไอ้เหี้ยนี่ทะลึ่ง” ทะเลว่าพลางขำ

จันทร์เองก็พลอยหัวเราะไปด้วย ทะเลตอนอยู่กับเพื่อนก็คือเด็กผู้ชายธรรมดา...ที่ไม่น่ามาเจอกับเขาเลย แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว เขาก็ต้องไหลไปตามน้ำเพื่อดูว่า...สุดท้ายแล้วที่ปลายทางมันจะไปสิ้นสุดที่ไหนกัน





TBC…
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์และการติดตามนะคะ แง ซึ้งใจมากเลย :hao5:
จะพยายามปั่นให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่ร่างกายและเวลาจะอำนวยนะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 6 [09/10/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-10-2018 17:42:49
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 6 [09/10/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 09-10-2018 22:16:38
จันทร์ฮอตชะมัด พอเข้าบทอัศจรรย์ ทะเลจันทร์กลายเป็นทะเลเพลิงทุกทีเลย  :jul1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 1 [14/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-10-2018 09:11:57
ตามมาจากพี่เอสกะน้องตี๋ค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 1 [14/08/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-10-2018 10:38:11
สิ่งที่ชอบมากอย่างหนึ่งของผู้แต่งก็คือ การเว้นวรรคของไม้ยมก

นาน ๆ ทีจะเจอคนที่ใช้ถูก  แต่เราก็มีใช้ผิดบ่อย ๆ (ฮา)

จะชอบพิมพ์ติดข้างหน้าแล้วเว้นวรรคหลังแทน
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 4 [17/09/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-10-2018 11:54:17
คือสรุปว่าทะเลอายุ 21 หรือ 22 คะ ตอนที่แล้วบอก 22 ห่าง 13 ปี

มาตอนนี้ 21 ห่างกัน 14 ปี  แล้วก็รู้สึกจะมีคำซ้ำที่เจอบ่อยค่ะ

คือ "เจ้าตัว" สำหรับเรายังพอได้อยู่ ยังโอเคอยู่ค่ะ แต่อยากแจ้ง

ให้ทราบเฉย ๆ งงไหมคะ 55 เราก็รู้สึกงงนิด ๆ อธิบายไม่ถูกอะค่ะ

ป.ล. กลัวม่าที่มาจากอาการของจันทร์จังค่ะ   :monkeysad:

ตอนนี้คือระแวงเป็นพัก ๆ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 5 [28/09/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-10-2018 12:02:44
เรื่องดูท่าแล้ว ม่าคงจะไม่เบาเหมือนที่ผ่านมา ต้องใช้ทิชชู่เยอะไหมคะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 7 [22/10/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 22-10-2018 22:42:39



7




เมื่อมาถึงที่ร้านทะเลจันทร์เลือกที่นั่งริมหน้าต่างให้กับทั้งคู่ เป็ดมองดูไปทั่วร้านของคนอายุมากกว่า ก่อนสายตาจะเหลือบมองออกไปที่สวนด้านนอก เจ้าตัวเอ่ยชื่นชมความสวยของที่นี่อยู่ในใจ

“นั่งรอก่อนนะ เดี๋ยวพี่ขอตัวไปหาแม่ก่อน แล้วจะให้เด็กเอาเมนูมาให้ มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง”

“เอ่อ…” เป็ดอึกอัก เมื่อเห็นคนอายุมากกว่าเลิกคิ้วสงสัยก็เลยบอก “อันที่จริงขอแค่ข้าวผัดหมูสักจานก็พอแล้วครับ เกรงใจพี่”

จันทร์ส่ายหน้า ริมฝีปากสวยยิ้มบาง “ไม่ได้สิ มาถึงนี่แล้วจะมากินแบบนั้นได้ยังไง อาหารร้านพี่อร่อยนะ ลองดูแล้วจะติดใจ”

“กิน ๆ ไปเหอะ เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” ทะเลบอกเมื่อเห็นเพื่อนลังเล เขารู้ว่ามันเป็นพวกขี้เกรงใจ

“ก็ได้ครับ” เป็ดพยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดีที่ทะเลมันบอกว่าจะเป็นคนเลี้ยงนะ ถ้าเป็นพี่จันทร์ยังไงเขาคงไม่กล้ารับเอาไว้อยู่ดี

จันทร์ยิ้มตอบก่อนจะหยิกแก้มนิ่มไปหนึ่งที “ต้องแบบนี้สิ”

ทะเลมองมือขาวที่หยิกแก้มไอ้เป็ดด้วยสายตาถมึงทึง เจ้าของมือปรายตามองเขาแล้วยิ้มมุมปากก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป นี่อีกฝ่ายกำลังยั่วประสาทเขาอยู่ใช่ไหม!

“พี่เขาออกจะใจดี ทำไมมึงถึงบอกว่าเขาใจร้ายวะ” เป็ดจำที่ทะเลเคยบอกว่าอีกฝ่ายใจร้ายได้ พอมาเจอตัวจริง ๆ แล้วตนไม่เห็นจะรู้สึกว่าใจร้ายตรงไหนเลย

คนถูกถามถอนหายใจทิ้งหนึ่งเฮือก “เขาใจดีกับมึง แต่ใจร้ายกับกูไง”

เป็ดจ้องหน้าที่แสดงถึงความเหนื่อยของทะเลตาแป๋ว “สู้ ๆ นะมึง ดูสิ..เครียดจนหน้าแก่ขึ้นบานเลย”

“ไอ้ควาย” ทะเลเอื้อมมือไปผลักหัวเล็ก ๆ ของเป็ด แต่เพราะความใสซื่อของมันก็ทำให้ใบหน้าเครียดกลับมามีรอยยิ้มได้

ไม่นานนักพนักงานของร้านก็นำเมนูมาให้พวกเขาสองเล่ม เป็ดรับมาเปิดดูแต่ก็ไม่รู้จะสั่งอะไรดี ก็ราคาแต่ละอย่างสูง ๆ ทั้งนั้น สำหรับคนอื่นแล้วมันอาจจะไม่ได้แพงอะไร แต่คนที่ฐานะทางบ้านไม่ได้ดีแบบเขาแล้ว...จะใช้เงินแต่ละครั้งก็ต้องคิดมากหน่อย และมันก็เป็นนิสัยติดตัวไปแล้ว เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เงินตัวเองก็ตาม เป็ดก็จะระวังในการใช้เงินอยู่เสมอ

“สั่งเลยมึง ไม่ต้องเกรงใจ”

เป็ดพยักหน้ายิ้มน้อย ๆ “ขอบใจนะมึง” รู้สึกดีที่ทะเลมีน้ำใจเอื้อเฟื้อกับเขาเสมอ แต่ลึก ๆ แล้วก็อดที่จะเกรงใจไม่ได้อยู่ดี

ท่าทางน่ารักของเป็ดเรียกรอยยิ้มของเขาได้เสมอ เพราะถึงจะอายุเท่ากัน แต่มันก็เป็นเหมือนน้องชายของเขาคนหนึ่ง นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ตนค่อนข้างตามใจเพื่อนคนนี้ เป็ดมันเป็นคนน่าสงสาร ภายนอกอีกฝ่ายอาจจะดูร่าเริง แต่ภายในกลับบอบช้ำกว่าที่เห็นมาก

เขาไม่เคยเอ่ยถามอะไรมันสักครั้ง เพราะไม่อยากทำให้มันต้องคิดถึงเรื่องแย่ ๆ อย่างน้อยเวลาที่มันมาอยู่กับเขา ก็อยากให้มันรู้สึกผ่อนคลายก็พอ

“แดกเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ มึงแม่งเตี้ยอย่างกับเด็กประถม”

เป็ดเงยหน้าขึ้นแหกตาใส่เพื่อนรัก “ได้! กูจะสั่งให้มึงล้มละลายไปเลย”

“เท่าไหร่ก็ว่ามา” ทะเลทิ้งตัวลงพิงเก้าอีก “กูรวย”

“หมั่นไส้โว้ย~” เป็ดว่าก่อนจะลงมือสั่งอาหาร “ขอเมนูที่แพงที่สุดในร้านเลยนะครับ”

พนักงานยิ้มขำทั้งสองคนก่อนจะลงมือจดตามที่เป็ดสั่ง แล้วถึงขอตัวออกไป

ทะเลส่ายหน้า เพราะสุดท้ายแล้วเพื่อนของเขามันก็สั่งเมนูธรรมดา ๆ ที่ราคาไม่ได้สูงอะไรตามที่มันได้ปรามาสไว้เมื่อครู่

“แค่นั้นจะอิ่มเหรอวะ”

“มึงช่วยดูตัวกูด้วย กินเยอะอย่างมึงไม่ไหวหรอก ท้องจะแตก”

เพื่อนตัวโตหัวเราะในลำคอก่อนจะพูดเปลี่ยนเรื่อง “เออ ปิดเทอมนี้ไปต่างประเทศเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ”

เป็ดส่ายหน้าหวือ “ไม่โว้ย”

“ทำไมวะ ถ้าเรื่องเงินไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก กูออกให้”

“ไม่ ยังไงก็ไม่” เป็ดยืนยันเสียงแข็ง “ทำไมมึงต้องมาออกให้กูด้วย”

“กูไปคนเดียว..กูเหงานี่หว่า” ทะเลหลุบตาลง แกล้งพูดเสียงหงอย ๆ

เพื่อนตัวเล็กขมวดคิ้วจ้องอีกฝ่าย มันก็จริงที่ไอ้ทะเลมันเป็นคนขี้เหงา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเสียเงินเป็นหมื่นเป็นแสนให้ตนไปต่างประเทศด้วยกันสักหน่อย มันเองก็ช่วยเหลือเขามาตลอดในยามที่ขาด ตนก็ไม่อยากจะได้ชื่อว่าเกาะเพื่อนกินหรอกนะถึงต้องปฏิเสธนี่ไง

“ไปกับกูเหอะนะ”

“ทะเล...มึงก็น่าจะรู้นะว่าทำไมกูถึงไม่ไป”

เมื่อใดก็ตามที่เพื่อตัวเล็กเรียกชื่อของเขาเต็ม ๆ นั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่ามันกำลังจริงจัง ทะเลเองก็เพียรพยายามอยากจะให้มันไปกับเขามาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยสำเร็จเลย เขารู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงบอกปฏิเสธเขาอย่างหนักแน่นทุกครั้ง สำหรับเขาเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย แต่กับเป็ดแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น

ในชีวิตนี้ทะเลมีเพื่อนมากมาย แต่คนที่จะเรียกว่าเป็นเพื่อนแท้...ก็มีแค่คนเดียว มันเป็นเพื่อนที่ไม่เคยคบเพื่อหวังอะไรจากเขาเลย จะมีก็แต่เขาเป็นฝ่ายยัดเยียดให้มันมาตลอด ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกอย่างที่มันจะรับไป

“กูขอโทษ” ทะเลบอก “แต่มึงรู้ใช่ไหมว่ากูอยากให้มึงไปจริง ๆ”

เป็ดพยักหน้าพร้อมกับยิ้มบาง “เอาไว้กูเก็บเงินได้ก่อนนะ แล้วจะไปเป็นเพื่อนมึง”

“สัญญา” เขาว่าพร้อมกับยกหมัดขึ้น

“เออ” เป็ดให้สัญญาพร้อมกับยกหมัดขึ้นชกกับเพื่อน...ที่ดีที่สุดของเขา



/



ทะเลจันทร์เดินไปเคาะประตูห้องทำงานของแม่ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเมื่อได้ยินเสียอนุญาต

“สวัสดีครับ” ลูกชายคนเดียวทักทายใบหน้ายิ้มแย้ม

“เป็นยังไงบ้างลูก” คนเป็นแม่ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานเอ่ยถามพร้อมกับอ้าแขนรับกอดจากลูกชาย

“ก็...ดีครับ”

“ดีในแง่ไหนจ๊ะ” ท่านผละออกมาแล้วเอ่ยถาม

จันทร์กลอกตาไปมาอย่างไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี “จันทร์ว่าถามในสิ่งที่แม่อยากรู้มาเลยดีกว่าครับ”

“แหม” เธอตีแขนลูกชายที่กำลังส่งยิ้มล้อมาให้ “หนูก็น่าจะรู้ว่าแม่อยากรู้เรื่องอะไรนะ”

จันทร์หัวเราะในลำคอ “ถ้ากับเจ้าทะเล..จันทร์ไม่สามารถคบกับเด็กคนนี้ได้จริง ๆ ครับ”

คนเป็นแม่มีแววตาผิดหวังฉายออกมาเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มและทำเหมือนกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น “จ้ะ ไม่เป็นไร แม่เข้าใจ”

“แต่ว่า..จันทร์ก็จะไม่ปฏิเสธความรู้สึกที่หมอนั่นมีให้ ก็คงจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ น่ะครับ” จันทร์บอกเพื่อให้แม่สบายใจ

...จนกว่าทะเลจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวและจากเขาไปเอง
และนี่คือสิ่งที่เขาไม่ได้พูดออกไป…

วันนี้เขามาคิดดูอีกครั้งแล้ว การอยู่กับทะเลแบบนี้มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ในเมื่อตัดเด็กนั่นออกจากชีวิตไม่ได้ เขาก็คงต้องอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ช่วงเวลาไม่นานที่ได้ทำความรู้จักกันมันก็ทำให้จันทร์เอ็นดูอีกฝ่ายไม่น้อย นั่นเลยทำให้ตนคิดว่าคงจะอยู่แบบนี้ไปได้ ตราบเท่าที่อีกคนไม่เป็นฝ่ายทิ้งไปก่อน

เพราะจันทร์เองก็ไม่คิดที่จะเป็นฝ่ายนั้นแน่นอน...

คนเป็นแม่สวมกอดลูกชาย เธอแน่ใจว่าที่จันทร์ตกลงที่จะทำแบบนี้เป็นเพราะสิ่งที่เธอพูดไป “แม่รักจันทร์มากที่สุดเลยนะลูก”

“จันทร์ก็รักแม่ที่สุดครับ” ลูกชายกอดตอบ ใบหน้าแย้มยิ้ม ก่อนจะบอก “วันนี้เจ้าทะเลมันพาเพื่อนมาด้วยนะครับ”

“หืม” ท่านผละออก “เพื่อนเหรอจ๊ะ”

“ครับ ไปดูหน้าหน่อยดีไหม” จันทร์รู้ว่าแม่ของเขานั้นชอบเจ้าเด็กทะเลนั่นมาก เอ็นดูอย่างกับเป็นลูกเป็นหลานตัวเอง เพราะฉะนั้นคงไม่แปลกถ้าท่านอยากจะไปเจอเพื่อนของทะเล



/



ทะเลเห็นคุณแม่ของพี่จันทร์เดินยิ้มมาแต่ไกลก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปรับ ในขณะที่เป็ดที่เห็นเพื่อนผลุนผลันออกไปจากโต๊ะก็ไม่วายเดินตามไปด้วยความงุนงง

“สวัสดีครับคุณป้า”

“สวัสดีจ้ะ ๆ” ท่านรับไหว้เด็กหนุ่มทั้งสองคน “เรียกว่าแม่เถอะลูก”

จันทร์หันขวับทันทีที่ได้ยินสิ่งที่แม่พูด เขาสงสัยว่าแม่คงอยากได้ไอ้เด็กนี่เป็นลูกอีกคนจริง ๆ แล้วสินะ

“เอ่อ…” ทะเลเหลือบตามองคนสวยใจร้ายที่จ้องเขาตาเขม็งอยู่ตรงนั้น “คุณป้าไปนั่งก่อนดีกว่านะครับ”

“เฉไฉเก่งจริงนะเรา” ท่านตบแขนทะเลอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ แล้วหันไปหาเป็ดที่มองอยู่ เด็กหนุ่มยิ้มให้เมื่อสบตากับท่าน “ชื่ออะไรเหรอจ๊ะ”

“ชื่อเป็ดครับ”

“ชื่อก็น่ารัก หน้าตาก็น่ารัก”

“ขอบคุณครับ” เจ้าตัวหัวเราะแห้งเมื่อถูกชม คงไม่มีผู้ชายแท้ ๆ ที่ไหนชอบใจนักหรอกเวลาที่ถูกชมว่าน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ ที่จริงเขาก็ค่อนข้างจะชินเสียแล้ว เพราะก็โดนมาตลอด จะมีก็แต่พวกเข้ามาชมแบบมีจุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์นี่แหละที่เขาเกลียดมาก

“เรียนที่เดียวกันเหรอเนี่ย”

“ครับ ผมเรียนมหา’ลัยเดียวกันแล้วก็คณะเดียวกันด้วย”

คนเป็นแม่มองเป็ดที่พูดเจื้อยแจ้วด้วยแววตาเอ็นดู เด็กคนนี้น่ารักมีเสน่ห์ดึงดูดคนให้เข้าหาได้ง่าย แถมยังมนุษยสัมพันธ์ดี กล้าพูดกล้าคุยกับคนที่แม้จะเพิ่งรู้จักกันก็ตาม

“ไว้ว่าง ๆ เอารูปที่พวกหนูถ่ายมาให้แม่ดูด้วยนะจ๊ะ”

เป็ดตาโต “ไอ้เลน่าจะมีอยู่บ้างนะครับ พวกเราสองคนออกต่างจังหวัดเพื่อไปถ่ายรูปด้วยกันอยู่บ่อย ๆ ครับ”

“เหรอจ๊ะ ขอแม่ดูหน่อยได้ไหม”

“ได้สิครับ” ทะเลหยิบไอแพทขึ้นมาเปิดรูปให้ท่านดู “ในรูปนี่คืออุทยานทุ่งแสลงหลวงครับ หลายคนรู้จักว่าที่นี่คือทุ่งหญ้าสะวันนาของเมืองไทย พอกลับจากที่นี่แล้ว..เลยทำให้ผมตัดสินใจไปเคนย่าที่อุทยานมาไซมาร่าช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาเลยครับ”

จันทร์มองเด็กหนุ่มตรงหน้าในมุมที่ตนเพิ่งได้เห็น ทะเลใช้นิ้วเรียวยาวเลื่อนรูปในไอแพทไปเรื่อย ๆ ปากก็บอกอธิบายข้อมูลของรูปที่ไปถ่ายมาไม่หยุดปากพร้อมกับดวงตาเป็นประกายเมื่อได้พูดถึงสิ่งที่รัก ตนเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น และเขาก็ชอบความหลงใหลในเรื่องนี้ของทะเล

เพื่อนของอีกฝ่ายก็เช่นกัน สมแล้วที่เป็นเพื่อนกัน แถมยังปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ง่ายดีเหลือเกิน

“ตรงนี้เรียกว่าทุ่งนางพญาครับ จะอยู่ทางทิศใต้ของอุทยาน บริเวณนี้ล้อมรอบด้วยป่าสนเขาและป่าดิบเขา การเดินทางลำบากนิดหน่อย กว่าจะขับรถไปถึงทุ่งนางพญาก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยนะครับ ระหว่างทางก็จะมีกวางออกมาให้เห็นเป็นระยะ..น่ารักมากเลยครับ”

“มีจุดชมวิวสวย ๆ หลายที่เลยนะครับคุณป้า ช่วงแรกของเส้นทางจะเป็นป่าสนที่ค่อนข้างทึบหน่อย ขับมาสักพักก็จะเป็นทุ่งหญ้า แต่ละช่วงของปีสีของทุ่งหญ้าก็จะแตกต่างกันไป พอถึงที่ก็จะเป็นป่าสนขึ้นสูงอย่างหนาแน่นเลยครับ” เป็ดพูดเสริม

“สวยมากเลยนะเนี่ย” รดามองตามภาพที่ปัดผ่านไปเรื่อย ๆ เธอไม่เคยไปเที่ยวแบบนี้มาก่อน เห็นแบบนี้แล้วก็ทำให้อยากลองไปเที่ยวดูบ้าง

“ถ้าคุณป้าอยากไป ผมพาไปได้นะครับ” ทะเลอาสา

“จริงเหรอจ๊ะ” ท่านย้อนถามเสียงสูงพร้อมยิ้มกว้าง

“ไม่ได้ครับ” จันทร์พูดแทรกขึ้นมาทันทีด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ทำไมล่ะ”

“แม่อายุเยอะแล้วจะไปเที่ยวแบบนั้นได้ยังไงกัน”

“คิดมากน่า นี่แม่ยังแข็งแรงอยู่เลยนะ”

จันทร์ถอนหายใจแรงเมื่อคนเป็นแม่บอกเขาด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก “ไม่เกี่ยวหรอกว่าตอนนี้แม่จะแข็งแรง แต่ถ้าเกิดว่าแม่ไปเป็นอะไรขึ้นมากลางอุทยาน แล้วแม่จะทำยังไง”

ทะเลกับเพื่อนนั่งเงียบเมื่อสองแม่ลูกเริ่มต่อปากกัน เขาเองก็ลืมนึกไปว่าท่านอายุมากแล้ว ไปลำบากแบบพวกเขาคงไม่ดีนัก

“จ้ะ ๆๆ แม่ไม่ไปก็ได้” คนเป็นแม่บอก ยกมือขึ้นลูบต้นแขนของลูกชายเพื่อให้ใจเย็นลง

“ไม่ใช่ว่าจันทร์ไม่อยากให้แม่ไปเที่ยวนะ แต่จันทร์เป็นห่วงแม่” เจ้าตัวพูดน้ำเสียงอ่อนลง “ถ้าแม่ไปในที่ที่ปลอดภัยกว่านี้จันทร์ก็จะไม่ว่าเลย”

“แม่เข้าใจแล้วครับ” ท่านลูบผมลูกชายคนเดียวอย่างอ่อนโยน

“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ” ทะเลบอกแววตาสำนึกผิด “..ที่ชวนโดยไม่คิดให้ดี”

จันทร์มองไปที่อีกฝ่าย เขาไม่ได้ถือโทษอะไรหมอนี่หรอก “อืม ฉันก็ไม่ได้โกรธเธอหรอก แต่ถ้าจะชวนแม่ของฉันไปไหน อย่าพาไปลำบากลำบนก็พอ”

“งั้นเดือนหน้านี้คุณป้าไปเที่ยวกับพวกเราไหมครับ” เป็ดเอ่ยชวนเสียงใส

“เฮ้ย! มึงนี่...” ทะเลเอ็ดเพื่อน ไอ้นี่ทำหน้าซึมได้ไม่นานก็กลับมาร่าเริงได้ทันควัน ดูท่าแล้วมันคงจะชอบคุณแม่ของพี่จันทร์น่าดูเลย

“แล้วจะไปไหนกันล่ะ” จันทร์หันไปถามขัดจังหวะที่ทะเลกำลังตั้งท่าจะว่าเพื่อน อมยิ้มเล็กน้อยเมื่อทะเลจ้องเขาเขม็ง จันทร์รู้สึกชอบใจจริง ๆ ที่ได้แกล้งให้อีกฝ่ายแสดงอาการแบบนี้ได้

“พวกผมว่าจะไปเขาใหญ่กัน”

“หืม” จันทร์กลอกตาอย่างใช้ความคิด “น่าสนใจจัง” เขาพูดพลางเหลือบตามองไปทางทะเลที่มองตนนิ่ง ๆ

“ไปด้วยกันสิพี่” เป็ดชวน “คุณป้าอยากไปไหมครับ”

“ก็ดีจ้ะ นี่จันทร์..แม่ไม่ได้ไปเที่ยวไหนมานานแล้วนะลูก”

“ฉันชวนเพื่อนไปด้วยได้ไหม” จันทร์หันไปถามทะเล

ทะเลยักไหล่ “ก็แล้วแต่พี่สิครับ ผมจะไปห้ามอะไรพี่ได้”

“งั้นตกลงพี่ไปด้วยครับ” เขาหันไปตอบเพื่อนของอีกฝ่ายแทน

“เย้!” เป็ดชูแขนขึ้นสองข้างอย่างดีใจ

พอเห็นเพื่อนของเขาทำตัวเหมือนเด็กแบบนี้แล้ว ทะเลก็อมยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าไปมา “มึงนี่มันก็เหลือเกินจริง ๆ” ว่าพร้อมกับผลักหัวมันไปหนึ่งที

เป็ดร้องโอ๊ยขึ้นมาเมื่อถูกเพื่อนรักลงไม้ลงมือ ตนหันกลับไปมองค้อน แต่ทะเลก็ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร เขาอยากจะด่ามันอยู่หรอก แต่ดันติดที่ว่ามีผู้ใหญ่นั่งอยู่ด้วยเนี่ยสิ

“แล้วพี่จะไปกันกี่คนเหรอ ผมจะได้จองที่พักให้” ทะเลถาม

“อืม” จันทร์คิดสักแป๊บ “เดี๋ยวฉันขอถามเพื่อนก่อนแล้วกัน ได้คำตอบยังไงจะไลน์ไปบอก”

“โอเคครับ” พอทะเลตอบ อาหารที่สั่งไว้ก็มาเสิร์ฟพอดี

“กินกันไปนะจ๊ะหนุ่ม ๆ” ท่านบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืน “แม่ขอตัวไปทำงานต่อนะลูก”

“ครับผม” เป็ดยิ้มกว้าง

“ครับคุณป้า” ทะเลตอบเสียงเรียบพร้อมกับรอยยิ้มบาง

รดาเมื่อได้ยินเด็กหนุ่มเรียกอย่างนั้นทั้ง ๆ ที่เธอแทนตัวเองว่าแม่แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะ เธอขยับมือไปบีบแก้มของทะเลเบา ๆ “เด็กดื้อ” รดาว่าก่อนจะวางมือบนหัวของอีกฝ่ายก่อนจะเดินจากไปพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

ทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของจันทร์ เขาไม่คิดว่าทะเลจะทำตามในสิ่งที่เขาพูดไว้อย่างเคร่งครัดแบบนี้ ขนาดแม่ของตนอนุญาตให้เรียกว่าแม่แล้วแท้ ๆ แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงเรียกแบบเดิม

ยิ่งได้รู้จักมากขึ้น..ก็ยิ่งเห็นความต่างจากคนอื่น ๆ ที่เคยได้พบ ทะเลไม่เหมือนใครที่เขาเคยเจอ ทั้งยึดติด..และจริงจัง…

“อาหารของร้านพี่อร่อยมากเลยครับ” เป็ดชมเปาะ ยกนิ้วโป้งให้ด้วย

“ขอบใจ กินให้เยอะ ๆ เลยนะ”

“สั่งมาเยอะขนาดนี้ แดกเข้าไปให้หมดนะมึง” ทะเลว่า

เป็ดหรี่ตามองเพื่อน ตาตี๋เข้าไปอีก “เคยเห็นกูกินเหลือหรือไง”

“ไม่เคย”

“เออ แล้วจะพูดเพื่อ”

ทะเลหัวเราะก่อนจะหันไปถามคนอายุมากกว่า “พี่ไม่หิวเหรอ”

“แล้วเธอล่ะ..ไม่หิวหรือ”

ทะเลชะงักไปเมื่ออีกฝ่ายย้อนถามตนด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วอ่อนโยนผิดปกติ ทั้งที่เมื่อครู่ยังยียวนกวนประสาทเขาอยู่เลย “เอ่อ..ก็นิดหน่อยครับ”

“แต่ฉันยังไม่หิวเลย” จันทร์ตอบ เพราะปกติเป็นคนกินน้อยอยู่แล้ว “กินกับเพื่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปสั่งข้าวให้”

เป็ดมองตามแผ่นหลังบางของคนอายุมากกว่าที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ ก่อนจะหันไปพูดกับทะเล “พี่เขาแปลก ๆ นะ ทำไมจู่ ๆ ก็พูดดีกับมึงวะ”

เพื่อนตัวสูงเหลือบตามองก่อนจะถอนหายใจ “กูก็ว่างั้น เขาท่าทีเปลี่ยนไปมาเร็วจนบางทีกูก็ตามไม่ทันเลย”

“บางทีอาจจะเป็นวัยทอง”

“พ่อมึง” ทะเลว่ายิ้มขำ

“ใช่ พ่อกูเป็นวัยทอง”

ทะเลหัวเราะในความตลกของเพื่อนตัวเอง “มึงนี่ก็ไปได้เรื่อย ๆ เลยนะ”

“ฮี่ ๆๆ” เป็ดก้มหน้ากินข้าวต่อด้วยความหิว ตั้งแต่เช้าเพิ่งมีข้าวตกถึงท้อง แถมยังเสียพลังไปกับการเดินทางไปหาไอ้เพื่อนไซซ์ยักษ์นี่อีก

“ข้าวมาแล้วครับผมคุณลูกค้า” คนอายุมากกว่าวางจานข้าวลงตรงหน้าทะเล

“เอามาทำอะไรตั้งสองจานครับ”

“ก็เห็นเธอกินเก่ง ฉันก็เลยเอามาให้ทีเดียวเลยไง” ตอบพร้อมกับนั่งลง

“ผมก็ไม่ได้หิวมากหรอกครับ เพิ่งกินข้าวต้มมาเอง”

ใบหน้าสวยมองคนตรงหน้า เหลือบตามองเป็ดวูบหนึ่งด้วยแววตามีเลศนัย มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูด “ต้องกินให้เยอะ ๆ สิ ออกแรงไปเยอะไม่ใช่หรือไง..ไหนจะเมื่อคืน แถมตอนเช้าอีก”

เป็ดสำลักน้ำที่ตัวเองกำลังยกขึ้นจิบ เขามองคนที่เพิ่งพูดจาสองแง่สามง่ามไปเมื่อครู่ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงไม่รู้ว่าเป็นเพราะไอ..หรืออายเรื่องที่เพิ่งได้ฟังมาก็ไม่รู้

“พี่!” ทะเลเอ็ดเสียงเบา ส่งสายตาดุให้กับคนที่กำลังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“นี่พูดเพราะว่าเป็นห่วงหรอกนะ เดี๋ยวจะไม่มีแรงแล้วเป็นลมเป็นแล้งไปล่ะแย่เลย”

ทะเลเบะปาก “พี่เนี่ยนะเป็นห่วงผม”

“เอ้า” จันทร์ร้อง “ถ้าไม่ห่วง ฉันคงถีบหัวเธอส่งไปนานแล้วล่ะ”

 จันทร์พูดและยิ้มอย่างอ่อนโยน ทำเอาคนอายุน้อยกว่ารู้สึกขัดเขินขึ้นมา ทะเลก้มหน้าแอบอมยิ้มด้วยความดีใจ

“แหนะ” เป็ดกระทุ้งศอกใส่เพื่อนเบา ๆ “ตอนนี้ถ้าบานกว่าจานข้าวก็หน้ามึงนี่แหละ” แล้วพูดแซวเมื่อเพื่อนเงยหน้าขึ้นมา

“กิน ๆ ไปได้แล้ว เดี๋ยวกับข้าวเย็นหมด” จันทร์บอก

ทะเลกินข้าวเงียบ ๆ ในขณะที่มองอีกสองคนคุยกันอย่างถูกคอ ตนไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่คนอายุมากกว่าพูดเมื่อครู่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ก็ดีใจ...ที่อย่างน้อยพี่จันทร์ก็พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จะคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมนะ

ว่าอีกฝ่าย...อาจจะเปิดใจให้เขาบ้างแล้ว

ตาคมสวยมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างไม่วางตา อีกฝ่ายเหลือบมองเขาแล้วยิ้มมุมปากเป็นระยะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันเขาก็หลงใหลในตัวของพี่จันทร์มาตลอด เขาชอบ...หรืออาจจะรักคนคนนี้ไปแล้วก็ได้

เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถหาเหตุผลมารองรับมันได้ ความรักก็เช่นกัน เขาเองก็บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงต้องเป็นคนคนนี้ ทั้ง ๆ ที่ถ้านับแค่หน้าตาและเรื่องบนเตียงแล้ว..ก็หาข้อดีอย่างอื่นยากเหลือเกิน

แต่ต้องยอมรับว่าเวลาที่อยู่กับพี่จันทร์แล้ว..เขารู้สึกมีความสุขมากจริง ๆ ถึงแม้มันอาจจะเจ็บอยู่บ้างที่มันไม่ใช่ความสัมพันธ์อย่างที่ตนหวังให้เป็น ช่วงเวลานี้คงจะเป็นเวลาที่จะต้องก้มหน้ารับกรรมในสิ่งที่ตนกระทำมาตลอดล่ะมั้ง เลยทำให้เขาต้องเรียนรู้ถึงความรู้สึกของคนที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตและต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าออกไป

แต่ถึงแม้ว่ามันจะนานแค่ไหน เขาก็เฝ้ารอ…วันที่จะพูดได้อย่างเต็มปากว่าเราคือคนรักกัน

“เฮ้ย” เป็ดยื่นมือไปดีดนิ้วตรงหน้าเพื่อน “กินข้าวแกล้มพี่จันทร์แบบนี้ อร่อยไหมมึง” เป็ดแซวเมื่อเพื่อนหันมาทำหน้ามึนใส่

ทะเลจันทร์หัวเราะพรืดเมื่อเห็นทะเลถูกจับได้ ก่อนจะพูด “พี่ว่า..พี่ก็อร่อยพอตัวเลยนะ ไม่เชื่อลองถามเพื่อนเราดูสิ”

เป็ดแก้มแดง แล้วกระซิบถามคนที่นั่งข้าง ๆ “จริงเหรอวะ”

“พอเลยมึง” ทะเลดันหัวเพื่อนออก “พี่ก็หยุดทะลึ่งได้แล้ว สงสารหนุ่มพรหมจรรย์อย่างไอ้เป็ดมันบ้างเถอะ”

“หน็อยยย” เป็ดโมโหที่ถูกพูดจาสบประมาท เขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยากจะเตะก้นมันสักป้าบ

“จะเก็บไว้ชิงโชคเหรอเรา”

“พี่อะ!” คนถูกแซวร้อง “อย่ารุมกันแบบนี้สิครับ”

จันทร์หัวเราะร่วน “รอเพื่อนพี่นะ รับรองว่า..แซ่บ” พูดจบก็ขยิบตาให้เป็ดหนึ่งที

“ขอถามหน่อยนะครับ..เพื่อนพี่คนไหน” ทะเลถามด้วยความข้องใจ

“เรื่องอะไรต้องบอกเธอ ฉันให้มาจีบเป็ด ไม่ได้จีบเธอสักหน่อย”

“เป็ดมันเพื่อนผม”

“เอาน่า ฉันคัดคนดี ๆ ให้เพื่อนที่แสนน่ารักของเธอก็แล้วกัน” จันทร์บอกเมื่ออีกฝ่ายมองมาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ หมอนี่ก็ดูหวงเพื่อนเกินไปหรือเปล่า แต่จะว่าไป...เขาเองก็หวงไอ้เล็กแบบนี้เหมือนกันนี่นา

“งั้นก็โอเคครับ”

“มึงนี่เป็นเพื่อนหรือเป็นพ่อกูกันแน่ เจ้ากี้เจ้าการเรื่องของกูจัง”

“เรื่องของกู” ทะเลย้อน

จันทร์มองเพื่อนสองคนสลับกันไปมา หรือว่า...มันจะไม่ใช่อย่างเขากับเล็ก ไอ้เด็กทะเลนี่แอบคิดอะไรกับเพื่อนหรือเปล่าเนี่ย



TBC…
ขออภัยที่ให้รอนานหลายวันนะคะ แฮ่~ พอดีช่วงนี้ยุ่ง ๆ กับการทำร้านอยู่ค่ะ  :hao5:
ยังไงก็ตาม...เราขอบคุณทุกคนที่ติดตาม และทุก ๆ คอมเม้นนะคะ  :man1:
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ากำลังใจในการเขียนนิยายมันมาจากคอมเม้นของคนอ่านทุกคนเนอะ

เรื่องนี้เราก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะดราม่ามั้ย หรือถ้าดราม่ามันจะขนาดไหน
เพราะเราเป็นพวกไม่มีพล็อตเรื่องก่อนจะเขียนเลย อาจจะมีเส้นเรื่องอยู่ว่าจะเขียนไปแนวทางไหน
แต่นอกนั้นไม่มีเลยค่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้ขอเป็นแนว Slice of life ไปก่อนนะคะ ฮา~  :z1:

ขอบคุณคุณ Noname_memi ด้วยนะคะที่บอกเรื่องการใช้คำซ้ำของเรา แล้วจะนำไปปรับปรุงค่า ^^
ส่วนเรื่องอายุของเจ้าทะเล ตอนนั้นเราเบลอ ๆ เลยพิมพ์ผิดไป แล้วจะตามไปแก้นะคะ
ถ้าอ่านแล้วติดขัดอะไรที่ตรงไหนแจ้งได้เลยนะคะ  :mew1:


 :L2:











หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 7 [22/10/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-10-2018 17:56:19
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 8 [01/12/2018]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 01-12-2018 14:08:01


8





เช้าวันนี้ทะเลจันทร์ตื่นขึ้นพร้อมกับร่างกายที่ไม่ค่อยปกตินัก เขาเองก็รู้สึกว่าพักนี้ตัวเองเคลื่อนไหวช้าลง เดินลากขาบ้าง มือสั่นและเกร็งเล็กน้อย ซึ่งเจ้าตัวก็คิดแค่ว่ามันน่าจะเกิดจากการนอนไม่พอ และก็ไม่ได้มีอาการแบบนี้บ่อยเลยไม่ได้สนใจมันมาก

แต่วันนี้เขากลับมีอาการสั่นเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมที่เคยเป็น และมันจะสั่นเฉพาะเวลาที่อยู่เฉย ๆ แต่เมื่อขยับตัวอาการจะน้อยลงจนแทบไม่สั่นเลย มันทำให้จันทร์ยังคงสองจิตสองใจว่าจะไปหาหมอเพื่อตรวจดีหรือเปล่า เพราะตัวเขาไม่ชอบไปโรงพยาบาลเอาเสียเลย
   
เช้านี้คนเป็นแม่สังเกตเห็นความผิดปกติของลูกชาย เธอขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่ามือข้างที่วางอยู่บนโต๊ะของจันทร์สั่นผิดปกติ
   
“จันทร์..มือขวาหนูเป็นอะไรน่ะลูก” ท่านถามขึ้นสายตาแสดงถึงความกังวลอย่างปิดไม่มิด
   
“หืม?” เจ้าตัวยกมือขึ้นพลิกไปมา “ไม่รู้เหมือนกันครับ”
   
“มือหนูมันสั่นนะ รู้ตัวหรือเปล่า”
   
เจ้าตัวพยักหน้าพร้อมกับบีบนวดมือของตัวเอง “รู้ครับ แต่ปกติมันไม่สั่นเยอะเท่าวันนี้”
   
“นี่เป็นมานานแล้วเหรอ…” ท่านขมวดคิ้วแน่น รู้สึกแน่นที่หน้าอกขึ้นมา
   
“ก็...สักพักได้แล้วครับ” คนเป็นลูกตอบพร้อมกับยิ้มแห้ง “แต่วันนี้ดูท่าจะเป็นมากกว่าปกตินิดหน่อย”
   
ใจของคนเป็นแม่สั่นไหวเมื่อมีลางสังหรณ์ว่าร่างกายของทะเลจันทร์อาจจะผิดปกติตรงไหนสักที่ “เดี๋ยวแม่พาไปหาหมอนะ”
   
“ไม่ต้องหรอกแม่” คนกลัวโรงพยาบาลโบกมือปฏิเสธ “จันทร์ว่าน่าจะเป็นเพราะพักผ่อนไม่พอ”
   
“ไปตรวจเถอะนะลูก แม่ขอร้อง” รดาเอื้อมไปจับมือของลูกชาย
   
ทะเลจันทร์เงียบไปประมาณหนึ่งวินาทีอย่างชั่งใจ ก่อนจะพยักหน้า “ก็ได้ครับ แต่ว่า..จันทร์ขอไปกับน้ำหวานนะ”
   
“ยังไงก็ได้จ้ะ” ท่านบอก ตอนนี้ขอเพียงแค่ให้จันทร์ยอมไปรับการตรวจก็พอแล้ว

ลูกชายคนเดียวยิ้มตอบ สาเหตุที่ไม่อยากให้แม่ไปด้วยนั้น เป็นเพราะตัวทะเลจันทร์เองก็ไม่มั่นใจว่าผลการตรวจจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าออกมาดีมันก็ดีไป แต่แล้วถ้าเกิดผลออกมาไม่ดีล่ะ

ตนไม่อยากให้ท่านเสียใจ แม่เองก็อายุเยอะแล้ว เขาไม่อยากให้มีเรื่องมากระทบกระเทือนจิตใจ อย่างน้อยถ้าไปกับน้ำหวาน แล้วผลมันออกมาแย่ จะได้ขอให้มันช่วยปิดบังไม่ให้แม่รู้

/

จันทร์โทรนัดแนะกับน้ำหวานให้มารับเขาที่บ้านในช่วงบ่ายหลังจากที่แม่ออกไปทำงานแล้ว เขาจะได้เป็นฝ่ายดักคอมันไว้ก่อนที่จะถูกแม่หว่านล้อม มันยิ่งปฏิเสธแม่ของเขาไม่ค่อยได้อยู่ด้วย อีกอย่างคือมันเป็นคนที่จะทำตามในสิ่งที่รับปากไว้อย่างแน่นอน

“มึงจะไปทำอะไรที่โรงพยาบาลวะ” น้ำหวานเอ่ยถามเมื่ออีกฝ่ายขึ้นมานั่งบนรถได้ไม่ถึงหนึ่งนาที

“ถามมาได้..ไปเดินเล่นมั้ง”

“เอ้า” คนถูกย้อนร้องหน้าเหวอ “ถามดี ๆ ก็กวนตีนกูอีก”

“ไปโรงพยาบาลก็ต้องไปหาหมอสิวะ”

“ไม่สบายเหรอ” น้ำหวานถามน้ำเสียงแสดงถึงความเป็นห่วง

“อืม...นิดหน่อยน่ะ” ทะเลจันทร์ตอบพลางเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาพยายามที่จะไม่คิดมากไปกับอาการผิดปกติของตัวเองแล้ว แต่เมื่อมันแสดงอาการขึ้นมา...มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเครียด

น้ำหวานเหล่มองเพื่อนสนิทที่นั่งข้างกาย พวกเขาคบกันมานานพอที่จะมองอะไรหลายอย่างออกโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องปริปากบอกเลยด้วยซ้ำ ดูท่าแล้วอาการของจันทร์มันจะไม่นิดหน่อยอย่างที่มันพูดแล้ว

“อาการหนักมากไหม”

จันทร์หันกลับมามองเพื่อนรัก ถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะพูด “กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหนักหรือเปล่า”

“อย่าเครียดสิวะ...ยังไงมึงก็มีกูอยู่เป็นเพื่อนนี่ไง” น้ำหวานรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบไปโรงพยาบาล นอกจากที่มันจะเครียดเรื่องอาการป่วยของตัวเองแล้วยังต้องมากลัวการไปโรงพยาบาลอีก

คนหน้าสวยยิ้มบาง “ขอบใจนะ”

ทะเลจันทร์เอนศีรษะไปซบไหล่หนาของเพื่อนรัก คำพูดทื่อ ๆ ของน้ำหวานช่วยให้เขารู้สึกปลอดภัยขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรอยู่คนเดียว นี่ถ้าเล็กอยู่ด้วยก็คงจะดีกว่านี้...แต่โชคไม่ดีที่มันเองก็ไม่ชอบโรงพยาบาลเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นตนก็คงลากมันมาด้วยแล้ว

น้ำหวานปล่อยให้อีกฝ่ายซบอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่ได้พูดอะไรต่อ พวกเขาก็เป็นแบบนี้มาตลอดระยะเวลาที่เติบโตด้วยกันมา บางคนมองว่าเขาสองคนเป็นแฟนกัน บางคนถึงขั้นเชียร์ให้คบกันไปเลย แต่ทั้งตนและมันต่างก็รู้ดีว่าไม่สามารถไปถึงขั้นนั้นได้

เขารักจันทร์..รวมทั้งเล็กด้วย

พวกมันทั้งคู่เป็นทั้งเพื่อนและครอบครัวที่เขาพร้อมจะอยู่เคียงข้างเสมอเมื่อพวกมันเรียกหาและต้องการ…

“เมื่อไหร่มึงจะหาแฟนสักทีวะ” จันทร์ขยับตัวนั่งให้ดี เพราะกลัวว่าน้ำหวานจะเมื่อย ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปนาน

คนขับรถเหลือบมองก่อนตอบด้วยความเฉื่อยชา “ก็มันไม่มีคนที่น่าสนใจนี่หว่า”

“งั้นถ้ามีคนที่น่าสนใจ..มึงจะเอาหรือเปล่า”

“มึงก็พูดไปเรื่อย รู้อยู่ว่ากูชอบคนยาก” น้ำหวานว่ายิ้มมุมปาก ใช่...เขากับจันทร์เป็นประเภทชอบคนยากเหมือนกัน เรื่องมากเหมือนกัน แต่ทุกวันนี้มันต่างกันก็ตรงที่ จันทร์มันเคยโดนแฟนเก่าทิ้งเลยทำให้ไม่อยากคบใครอีก ส่วนเขาน่ะมันเรื่องมากโดยสันดาน

“ก็ถ้ามีคนแบบที่มึงชอบโผล่ขึ้นมา มึงจะคว้าเอาไว้หรือเปล่าละ”

“มึงพูดเหมือนว่าเจองั้นแหละ” น้ำหวานย้อน

เพื่อนรักอย่างจันทร์ขยับตัวดุ๊กดิ๊กพลางยิ้มอย่างชอบใจเมื่อน้ำหวานมีท่าทีอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่เขากำลังพูดขึ้นมาบ้างแล้ว

“ก็เออสิ เป็นแบบที่มึงชอบเลย”

คนขับรถขมวดคิ้ว “แล้วไงวะ” ไม่ได้ตั้งใจจะกวนตีนมันหรอกนะ แต่ตนไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไรกันแน่

“มึงไม่สนใจเหรอ” จันทร์ถามด้วยความแปลกใจ

“สนอะไร..เรื่องความรักน่ะเหรอ”

จันทร์พยักหน้าหงึก “มึงไม่ได้มีแฟนมานานแล้วนี่”

“ไม่ได้เรียกว่าไม่สนใจหรอก แต่กูไม่ได้คิดเรื่องนี้มานานมากแล้ว ชีวิตก็มีแต่ทำงาน จะเอาเวลาที่ไหนไปสนใจ อีกอย่างอายุก็ปูนนี้แล้วด้วย...”

“พูดจาเป็นคนแก่ไปได้” จันทร์พูดกลั้วหัวเราะ

น้ำหวานหัวเราะในลำคอเมื่อถูกแซว “กูแก่มึงก็แก่เป็นเพื่อนกูนี่แหละ”

“แต่กูหน้าเด็กกว่ามึง” ทะเลจันทร์ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ

“เออ กูไม่เถียงมึง”

เพื่อนที่ตัวเล็กกว่าหัวเราะชอบใจ เพียงแค่นี้ก็ทำให้น้ำหวานยิ้มตามได้แล้ว อย่างน้อยก็ดีกว่ามันทำหน้าเครียด บอกตามตรงว่าเห็นแล้วเขารู้สึกไม่สบายใจเลย

“กูขออะไรมึงหน่อยสิ” ทะเลจันทร์ที่เงียบไปเอ่ยขึ้นมา เขากำมือแล้วคลายเป็นจังหวะเมื่อมือมันสั่นขึ้นมา

“ว่า”

“มึงต้องรับปากกูนะ...สัญญาก่อน”

“ก็เรื่องอะไรล่ะ”

“สัญญาก่อนสิ”

“เออ ๆๆ”

“มึงต้องสัญญากับกู..ไม่ว่าผลตรวจของกูจะออกมาเป็นยังไง..สัญญาว่ามึงจะไม่บอกใคร...โดยเฉพาะแม่กู”

น้ำหวานนิ่งอึ้งไปทันที นี่..อาการของเพื่อนเขามันหนักถึงขนาดไหนเนี่ย ปกติมันไม่ใช่คนที่จะมาขอให้เขาสัญญาอะไรพร่ำเพรื่อเลยด้วยซ้ำ ถ้ามาลองย้อนคิดดู จันทร์มันก็ดูผิดปกติตั้งแต่โทรเรียกเขาให้พาไปส่งโรงพยาบาลแล้ว น้ำเสียงมันดูนิ่ง ๆ เหมือนเกิดอะไรขึ้น และตั้งแต่ขึ้นมาบนรถมันก็ดูเซื่องซึม ถึงแม้ว่าปกติมันจะไม่ใช่คนที่ร่าเริงอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้ดูลอย ๆ ไม่มีชีวิตชีวาขนาดนี้

“นี่มึง...อาการหนักจริงเหรอวะ”

“ยังไม่รู้เลย แต่หลายวันนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

พอเจ้าตัวตอบแบบนี้ทำเอาน้ำหวานไม่กล้าถามต่อเลย ที่ว่าไม่ค่อยดีเนี่ยมันขนาดไหน ปกติแล้วจันทร์มันอึดจะตาย ขนาดมีดบาดมันยังไม่ส่งเสียงร้องออกจากปากสักนิด

“แล้วถ้าเกิดว่ามันหนักขึ้นมา..มึงจะไม่บอกแม่จริง ๆ เหรอวะ”

“อืม ท่านอายุมากแล้ว กูกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป อันที่จริงเขาบอกว่าจะพากูมา แต่กู...กลัวว่ะ” จันทร์ตอบ ในเวลานี้เขากลัวไปสารพัด แต่ที่กลัวที่สุดคือถ้าตนเป็นอะไรขึ้นมา...แล้วแม่จะอยู่กับใคร

มือใหญ่เอื้อมไปลูบท้ายทอยของเพื่อนรักอย่างปลอบโยน “อย่าเพิ่งกลัวไปเลย หาหมอก่อน..ยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที”

/

น้ำหวานเลี้ยวรถเข้าไปในโรงพยาบาลชื่อดัง ตนอยู่ข้าง ๆ ทะเลจันทร์ตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มทำประวัติจนหมอเรียกเข้าไปพบเลย

“คนไข้มีอาการอย่างไรบ้างครับ”

“เอ่อ...ช่วงแรก ๆ ผมมักจะมือสั่นบ้าง สองอาทิตย์หลังมานี้รู้สึกว่าตัวเองเดินช้า ลากขา มีอาการกล้ามเนื้อเกร็ง และมือสั่นเวลาที่อยู่เฉย ๆ ครับ แต่พอขยับมันก็จะแสดงอาการน้องลงหรือหายไปเอง”

“มือข้างไหนที่เป็นเหรอครับ”

“เป็นข้างขวาข้างเดียวครับ”

คุณหมอที่เริ่มมีอายุแล้วพยักหน้าช้า ๆ “เดี๋ยวหมอจะขอตรวจเลือด กับทำ MRI หน่อยนะครับ”

น้ำหวานขมวดคิ้วแน่นตั้งแต่ฟังอาการของเพื่อนรักแล้ว เจ้าตัวมองทั้งคนไข้และหมอสลับกันไปมา เมื่อไม่เห็นว่าจันทร์มันตอบโต้อะไรจึงขอเป็นฝ่ายถามแทน “หมอ...เพื่อนผมจะเป็นอะไรมากไหมครับ”

“หมอเองก็ยังตอบแน่ชัดไม่ได้นะครับ แต่อาการที่คนไข้บอกมานี้ใกล้เคียงกับพาร์กินสันมากเลยทีเดียว โรคนี้ส่วนมากจะเป็นในผู้สูงอายุ แต่ในคนอายุน้อยก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีเคสนี้มาก่อน ตามหลักแล้วเราต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคอื่น ๆ ด้วยครับ”

ทะเลจันทร์ถูกทำหลายอย่างตามที่คุณหมอสั่ง คนที่ไม่ชอบโรงพยาบาลอย่างเขาต้องมาเข้าอุโมงค์ที่ดูน่ากลัวแบบนี้ แต่กลับไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวมันเลยแม้แต่น้อย

ในหัวคิดวนอยู่แค่เพียงว่า...พาร์กินสันคืออะไรกัน อยากจะถามหมอว่ามันรักษาหายเหมือนกับที่เป็นหวัดไหม แต่แค่มองสีหน้าของน้ำหวานในตอนที่มันได้ยินสิ่งที่หมอบอกก็ทำให้ปากขยับไม่ออกแล้ว

เขาเคยได้ยินคำว่าพาร์กินสันมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยรู้ว่ามันรุนแรงมากพอที่จะทำให้เพื่อนของเขาหน้าถอดสีได้ขนาดนี้ จันทร์เหลือบมองน้ำหวานที่นั่งเงียบอยู่ข้างกัน มันไม่ได้พูดกับเขาตั้งแต่ที่ออกมาจากห้องตรวจแล้ว

ตอนนี้พวกเขากำลังรอคิวจ่ายเงินกับรอรับใบนัดเพื่อเข้ามาฟังผลทั้งหมดในอีก 2 วันข้างหน้า

“เป็นอะไรเหรอ” เจ้าตัวเอ่ยถามเพื่อนตัวสูงที่นั่งกัดเล็บอยู่ แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ มันจะเป็นแบบนี้เสมอเมื่อมีเรื่องเครียดอยู่ในหัว  จันทร์เลยตีเข้าที่หน้าขาของอีกฝ่ายเบา ๆ

“หืม?” น้ำหวานส่งเสียงในลำคอพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

“กูถามว่ามึงเป็นอะไรเหรอ”

คนถูกถามส่ายหน้าหวือ “เปล่านี่”

“เปล่าห่าอะไร มึงเงียบไปนานมากเลยนะ”

“ก็…กูกำลังคิดอะไรนิดหน่อย”

“แล้วคิดออกหรือยัง”

น้ำหวานถอนหายใจ เอนหลังพิงกับโซฟาของโรงพยาบาลด้วยความเหนื่อยล้า เขารู้ว่าต่อให้คิดจนหัวแทบระเบิด..แต่ทุกอย่างมันก็ยังไม่ได้เรื่องจนกว่าผลตรวจของเพื่อนรักเขาจะออกนั่นแหละ

“ถ้ายังคิดไม่ออก...มึงก็ช่วยตอบคำถามกูก่อนได้ไหม"

“อืม” น้ำหวานขยับตัวนั่งให้ดี “ถามมาสิ”

“พาร์กินสันนี่มันรักษาให้หายได้หรือเปล่า”

จู่ ๆ คนถูกถามก็รู้สึกว่าลำคอแห้งผากขึ้นมา เขาจ้องมองใบหน้าอยากรู้ของทะเลจันทร์อย่างลำบากใจที่จะตอบ

จันทร์ไม่ใช่พวกที่ชอบดูหนัง ในขณะที่ผู้กำกับอย่างเขาต้องดูเยอะเป็นปกติ และมันก็มีอยู่หนึ่งเรื่องที่ทำให้ตนรู้จักโรคที่ชื่อว่าพาร์กินสัน ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียดของโรคมากมายนักก็ตาม

แต่มันก็ทำให้น้ำหวานรู้ว่า...โรคนี้ไม่มีวันรักษาหาย

“กู...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ”

“อ้าว” จันทร์ร้อง “เห็นมึงทำหน้าเครียด ๆ กูก็นึกว่ามึงรู้ซะอีก”

“จะไปรู้ได้ไง กูไม่ใช่หมอสักหน่อย” น้ำหวานตอกกลับ พยายามกลบเกลื่อนอาการของตัวเอง

ทะเลจันทร์หน้าบูดเมื่อโดนเพื่อนกวนประสาทกลับ “กวนตีน เดี๋ยวปั๊ดไม่แนะนำคนที่น่าสนใจให้มึงรู้จักซะเลยนี่!”

“ไม่สนอยู่แล้ว” น้ำหวานไหวไหล่

“ไม่ได้สิ มึงต้องสน”

“อะไรของมึงเนี่ย พูดกลับไปกลับมา ไบโพล่าร์แดกหรือไง” เจ้าตัวพูดกลั้วหัวเราะ

“ก็กูอยากให้มึงสนใจนี่”

“เออ ๆ สนก็สน” น้ำหวานว่า อย่างน้อยดึงความสนใจของจันทร์ออกจากเรื่องเดิมได้ก็ยังดี “แล้วน่าสนใจยังไง..ว่ามาสิ”

“ก็...น่ารักอะ ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ตาชั้นเดียว อารมณ์ดี ช่างพูดช่างเจรจา”

“นี่คนหรือนกขุนทองวะ” น้ำหวานแทรกหัวเราะคึ่ก ๆ เมื่อคำพูดของเพื่อนชวนให้นึกถึงเพลงประจำรายการเจ้าขุนทองที่ได้ดูเป็นประจำเมื่อสมัยยังเด็ก

“ไอ้นี่! คนสิวะ ที่สำคัญอายุน้อย...มึงชอบเด็กไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ใช่เด็กแบบนี้โว้ย”

จันทร์หัวเราะเมื่อน้ำหวานโวย “เชื่อกู ยังไงมึงต้องชอบน้องเขาแน่นอน”

“มึงไปเอาความมั่นใจมาจากไหน”

“อย่าดูถูกมิตรภาพ 35 ปีระหว่างกูกับมึงสิวะ”

น้ำหวานส่งเสียงหึในลำคอ “มึงเคยเห็นกูคบเด็กหรือไง”

“อันที่จริงมันไม่เกี่ยวกับว่าเด็กหรือไม่เด็กหรอก แต่กูคิดว่ามึงกับเด็กนั่นน่าจะเข้ากันได้ดี”

“ตรงไหน? เด็ก ๆ แม่งน่ารำคาญตายชัก”

“รู้อย่างนี้แล้วมึงยังจะเชียร์กูกับไอ้เด็กเวรนั่นอีกนะ” ทะเลจันทร์ว่าส่งสายตาค้อน ๆ ไปให้

“อันที่จริงมันไม่เกี่ยวกับว่าเด็กหรือไม่เด็กหรอก แต่กูก็คิดว่ามึงกับเด็กนั่นน่าจะเข้ากันได้ดี” น้ำหวานก๊อบปี้คำพูดของอีกฝ่ายมาแบบเป๊ะ ๆ

“พ่อมึง!” จันทร์ปิดปากหัวเราะจนตาหยี เจ้าตัวพยายามกลั้นเสียงไม่ให้ดังเกินไป

“คุณทะเลจันทร์ สิริธาดาค่ะ”

“ไป ๆ เขาเรียกมึงแล้ว” น้ำหวานเอ่ยพร้อมกับดันตัวให้มันลุกขึ้น เจ้าตัวหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะยืนขึ้นแล้วเดินไปจ่ายเงินพร้อมกัน

“แพงฉิบ” พอเดินหลุดออกมาจากเคาน์เตอร์จ่ายเงินได้ไม่ไกล จันทร์ก็บ่นอุบ

“เอาน่า ถ้าจ่ายไม่ไหวเดี๋ยวกูดูแลมึงเอง”

จันทร์เบะปาก “เก็บเอาไว้ไปดูแลอนาคตเมียมึงโน่น”

น้ำหวานหัวเราะกับคำแดกดันของเพื่อนรัก ก่อนจะกอดคออีกฝ่ายให้เดินไปพร้อมกัน “ตอนนี้ยังไม่มีเมียก็ดูแลเพื่อนรักอย่างมึงไปก่อนนี่ไง”

“หุบปากไป!”

/

น้ำหวานขับรถพาจันทร์กลับบ้าน เขาเหลือบมองจันทร์เป็นระยะด้วยความสงสัย ก็มันนั่งกดมือถือยิก ๆ พร้อมกับสีหน้าประหลาด ที่เดี๋ยวก็อมยิ้ม สักพักก็ขมวดคิ้ว แล้วเดี๋ยวก็กลั้นหัวเราะ

“คุยกับใครวะ” เจ้าตัวถามออกไปอย่างอดไม่ได้

“เสือกน่า..” จันทร์ว่าดึงมือถือแนบกับอก กลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นว่าตนคุยกับใครอยู่ สายตามันยิ่งดี ๆ เหมือนตาเหยี่ยวอยู่ด้วย

“กูมองไม่เห็นหรอกน่า”

“ไม่เชื่อ”

น้ำหวานกลอกตาด้วยความเบื่อกับคนดื้อที่นั่งข้าง ๆ แล้วหันมาตั้งใจขับรถต่อ แต่พอได้ยินเสียงเตือนของไลน์ที่ทำให้ทะเลจันทร์รีบเปิดดู ก็ทำเอาคันยิบด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“คุยกับทะเลเหรอ” เจ้าตัวถามหยั่งเชิงออกไป เพราะไอ้นี่นอกจากแม่มันแล้ว ก็มีตนกับไอ้เล็กนี่แหละที่มันยอมเปิดใจให้

คนหน้าสวยหันขวับด้วยความตกใจ “ระ รู้ได้ไงอะ!”

น้ำหวานกระตุกยิ้มมุมปากราวกับผู้ชนะ “อย่าดูถูกมิตรภาพ 35 ปีระหว่างกูกับมึงสิวะ” และตนก็เลือกใช้คำพูดของจันทร์มาย้อนใส่เจ้าของวาทะอีกครั้ง

“ไอ้เวร กวนตีนกูอีกแล้ว” จันทร์ด่าอย่างไม่จริงจังนัก เจ้าตัวหัวเราะตั้งแต่ต้นประโยคที่มันพูดออกมาแล้ว

“แสดงว่าคุยกับเด็กนั่นจริง ๆ สินะ”

คนถูกจับได้เม้มปาก แก้มขาวแดงขึ้นเล็กน้อย “อืม”

“ความสัมพันธ์ของมึงสองคน...มันคืออะไรเหรอวะ”

น้ำหวานรู้ว่าตั้งแต่เพื่อนของเขาเลิกกับแฟนเก่าไปมันก็ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอีกเลย และถ้าจันทร์ไม่มีทีท่าผิดวิสัยยามคุยกับเด็กนั่นแบบเมื่อครู่ เขาก็คงจะไม่ถามอย่างนี้ออกไปแน่นอน

“...กูก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน” จันทร์ตอบหลังจากที่เงียบไปสักพัก

“ไม่ใช่อย่างที่เคยผ่าน ๆ มาหรือไง”

“อืม...กูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลยว่ะ”

“ต่างกันยังไงล่ะ”

“มันไม่งี่เง่า ดูแลกูดีมาก แล้วกูกับมันก็เข้ากันได้ดีในหลาย ๆ อย่างเลย อยู่ด้วยแล้วก็...มีความสุขดี”

“ถ้าดีแบบนี้..แล้วทำไมไม่ตกลงคบกับน้องมันไปเลยวะ”

จันทร์ส่ายหน้าริมฝีปากแย้มยิ้มออกมาบาง ๆ “ไม่หรอก วันนี้มันอาจจะยังเป็นความรักความชอบ แต่ใจคนเรามันก็เปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ โลกนี้ไม่มีอะไรยั่งยืนหรอก..มึงก็รู้”

น้ำหวานเงียบฟังในสิ่งที่อีกคนอยากจะบอก

“อีกอย่างนะ...ถ้าเกิดว่ากูป่วยขึ้นมาจริง ๆ กูก็ไม่อยากไปเป็นภาระเด็กมันหรอก ทะเลยังมีอนาคตดี ๆ รออยู่ แล้วสักวันจะต้องเจอคนที่เพียบพร้อมสำหรับมันแน่นอน”

“มึงนี่น้า~” น้ำหวานว่าพร้อมกับยกมือไปจับหัวเพื่อนโยกไปมาเบา ๆ จันทร์มันพวกเจ็บแล้วจำจนวันตาย ต่อให้ยังไงก็ไม่ขอกลับไปเจ็บแบบเดิมอีกแน่ ตนไม่รู้จะสรรหาคำใดมาพูดเพื่อให้มันยอมเปิดใจอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่มันเองก็...ชอบไอ้เด็กทะเลนั่นเหมือนกันแท้ ๆ แต่มันก็เลือกที่จะปฏิเสธหัวใจตัวเองเพราะเรื่องเก่าที่ผ่านไปเป็นสิบปีและความหวังดีไม่เข้าท่านั่น

“กูทำไม” จันทร์ย้อน

“มึงมันดื้อด้าน” เขาว่าหลังจากที่จอดรถติดไฟแดง พร้อมกับเอานิ้วจิ้มหน้าผากมนของอีกฝ่ายไปหนึ่งที

ทะเลจันทร์หัวเราะฝืด “อาจจะเป็นอย่างที่มึงว่าก็ได้มั้ง”

“ไม่ใช่อาจจะ แต่เป็นเลยแหละ”

จันทร์ไม่ได้พูดตอบอะไร ซึ่งก็เหมือนกับเป็นการยอมรับกลาย ๆ แล้วว่าเขามันดื้อด้านจริง ๆ นั่นแหละ

“กูเองอาจจะไม่มีสิทธิ์ให้คำแนะนำมึงได้ เพราะตัวกูก็เป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไม่เคยรู้จักความรักว่ามันมีหน้าตาเป็นแบบไหน”

“หน้าแบบกูกับไอ้เล็ก แล้วก็แม่กูนี่ไง” จันทร์สวนทันทีไม่รอให้อีกคนพูดจบ

น้ำหวานพ่นหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “โทษที” เจ้าตัวบอกเมื่อเห็นเพื่อนรักส่งค้อนให้วงใหญ่

“อย่าลืมสิ…ว่าพ่อกับแม่เขาก็รักมึงนะ”

“เขาสองคนตายไปนานจนกูลืมไปแล้วว่าเขาเคยรักกูหรือเปล่าน่ะสิ” เขาตอบพร้อมกับรอยยิ้มบางเมื่อนึกถึงผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงตนมา แม้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน

น้ำหวานที่เคยเป็นเด็กกำพร้า ถูกรับอุปการะมาตั้งแต่สมัยยังจำความไม่ค่อยได้ บ้านของจันทร์และเล็กรู้จักคุ้นเคยกับบ้านที่รับอุปการะน้ำหวานมาเลี้ยงดูเป็นอย่างดี และเนื่องจากเห็นว่าเด็ก ๆ ทั้งสามคนอยู่ในวัยเดียวกันก็เลยให้เลี้ยงมาด้วยกันราวกับเป็นพี่น้องคลานตามออกมา

ครอบครัวของน้ำหวานไม่ค่อยมีเวลามากนัก ทั้งพ่อและแม่บินไปต่างประเทศอยู่บ่อย ๆ เจ้าตัวเลยถูกนำมาฝากให้รดาแม่ของทะเลจันทร์ดูแลเป็นประจำ นั่นเลยทำให้น้ำหวานรักและผูกพันกับแม่ของจันทร์มากกว่าพ่อกับแม่ที่รับอุปการะเขามาเสียอีก
พ่อและแม่ไม่เคยกอดหรือบอกรักน้ำหวานเลยแม้สักครั้ง นั้นเป็นสิ่งที่ยังคงค้างคาใจมาตลอดว่า...พวกท่านนั้นรักตนหรือเปล่า? มันเป็นคำถามที่เขาคงไม่มีโอกาสได้ยินคำตอบของมันแล้ว

เพราะในวันที่เขาอายุครบ 18 ปี ท่านทั้งสองประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตทั้งคู่ ทรัพย์สมบัติถูกยกให้เป็นของเขาทั้งหมดตามพินัยกรรม และนี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาถูกญาติผู้ใหญ่ของทั้งฝั่งพ่อและแม่มองด้วยสายตาเหยียดหยามมาโดยตลอด

โชคยังดีที่น้ำหวานบรรลุนิติภาวะแล้ว ทำให้ไม่ต้องมีผู้ปกครองมาดูแล ไม่อย่างนั้นแล้วชีวิตที่ต้องตกไปอยู่กับญาติ ๆ คนใดคนหนึ่งของทั้งคู่ คงทำให้เขาไม่เป็นผู้เป็นคนแน่

จันทร์คว้าศีรษะเพื่อนรักให้ซบลงกับไหล่เล็กของตัวเอง

“ปวดคอโว้ย~” น้ำหวานว่าพร้อมกับดึงตัวขึ้น “ไอ้ห่า มึงตัวเล็กกว่ากูตั้งเยอะ คอกูนี่หักดังกร๊อบเลย”

จันทร์หัวเราะเสียงใส “ก็กูตั้งใจจะปลอบมึงนี่นา”

“กูไม่เป็นไรแล้ว เรื่องมันผ่านมานานมาก..จนกูเองแทบจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว” น้ำหวานบอก “แต่ก็ขอบคุณมึงมาก”

เพื่อนที่ตัวเล็กกว่ายิ้มก่อนจะเรียกเพื่อนที่กำลังตั้งใจขับรถต่อ “น้ำหวาน..”

“เออ”

“ถ้าตอนที่มึงกับกูแก่แล้วยังไม่มีใคร..เรามาอยู่ดูแลกันไปเรื่อย ๆ นะ”

น้ำหวานยิ้มมุมปาก “เอาสิ กูจะดูแลมึงแบบยุ่งไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลย”

“ไอ้ควาย” ทะเลจันทร์ด่าไปหัวเราะไป

ถึงแม้ว่ามันจะพูดจากวนตีน แต่เขารู้...ว่าน้ำหวานมันจะดูแลเขาได้ดีกว่าใครแน่นอน

“แต่ถ้าเกิดว่ากูเป็นอะไรไปก่อนแม่...ต้องฝากมึงดูแลแทนกูด้วยนะ”

น้ำหวานเงียบไป ในใจมันรู้สึกวูบโหวงไปหมด เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี จะบอกว่ามันจะไม่มีทางเป็นอะไรอย่างแน่นอนก็ไม่ได้ ก็ในเมื่อตอนนี้ทั้งมันและเขาต่างก็รู้ว่าร่างกายของทะเลจันทร์มีสิ่งที่ผิดปกติสักอย่างอยู่ เพียงแค่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรเท่านั้นเอง

“เออ...แม่มึงก็เหมือนแม่กู อย่าห่วงไปเลย”

จันทร์ยิ้มออกมาบาง ๆ เขาเงยหน้าขึ้นพรูลมหายใจออกมาทางปากด้วยความโล่งใจ เขามั่นใจว่า...น้ำหวานจะทำตามสิ่งที่มันรับปากเสมอ มันไม่เคยผิดคำพูดแม้สักครั้ง

“ขอบคุณมึงมากเลยนะ...ขอบคุณจริง ๆ”





TBC...

ขอโทษที่หายไปนานนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 9 [24/01/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 24-01-2019 00:51:39



9





“เดี๋ยววันฟังผลกูจะมารับนะ ระหว่างนี้มีอะไรก็โทรหาได้ตลอดล่ะ”

น้ำหวานบอกก่อนที่จันทร์จะลงจากรถ เจ้าตัวหันมายิ้มบางก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ผมอีกฝ่ายอย่างที่เคยทำเป็นประจำ น้ำหวานที่ถึงแม้อายุจะปาเข้าไปสามสิบกว่าแล้ว แต่ก็ยังยอมที่จะถูกลูบหัวเหมือนกับเด็ก ๆ โดยไม่มีการโวยวายหรือปัดมือออกแต่อย่างใด

“แล้วจะรอนะ” เขาพูดพร้อมกับเปิดรถแล้วก้าวขาออกไป “ขับรถกลับบ้านดี ๆ ล่ะ”

ใบหน้าคมที่มีหนวดเคราขึ้นรำไรพยักหน้าตอบรับ และขับรถออกไปเมื่อจันทร์ปิดประตูลง เขามองอีกฝ่ายที่เดินเข้าบ้านไปผ่านกระจกมองหลัง แล้วก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเครียดเมื่อนึกถึงผลตรวจว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้เพื่อนของเขาอย่าได้เป็นอะไรร้ายแรงเลย…

ทะเลจันทร์ยืนกดโทรศัพท์ต่อสายหามารดาอยู่ที่ข้างรถของตนเอง สัญญาณดังอยู่ไม่นานปลายสายก็กดรับ

(ว่าไงครับลูกชาย)

“จันทร์จะโทรมาบอกแม่ว่าถึงบ้านแล้วนะครับ”

(จ้า แล้วหมอว่าไงบ้าง)

“หมอนัดไปฟังผลอีกสองวันน่ะครับ”

(โอเคครับ แล้ววันนี้หนูจะเข้าร้านไหม)

“เอ่อ...” เจ้าตัวอึกอักเล็กน้อย “จันทร์ว่าจะไปหาทะเลมันหน่อยน่ะครับ”

(ไปเถอะจ้ะ ถ้าจะค้างก็ไลน์มาบอกแม่หน่อยนะ)

จันทร์หน้าแดงขึ้นมาเมื่อแม่พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงหยอกเย้ากลั้วหัวเราะ บอกตามตรงว่าเขาก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไปหาไอ้เด็กนั่นง่ายนัก เพียงแค่อีกฝ่ายเอ่ยชวนให้ไปหาที่บ้าน...ตนก็ตกปากรับคำทันที หรือมันอาจจะเป็นเพราะว่าตั้งแต่ทะเลเริ่มเข้าสู่ช่วงสอบทำให้พวกเขาไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้วก็ได้

“ยังไงจันทร์จะไลน์หาแม่อีกทีนะครับ”

(จ้า)

เขากดวางสายก่อนจะเข้าไปในบ้านหยิบของใช้จำเป็นพวกเสื้อผ้าและแปรงสีฟัน เผื่อเอาไว้ว่าถ้ากลับบ้านไม่ไหวก็จะได้ค้างที่นั่นเสียเลย

ทุกวันนี้เมื่อเวลาที่จันทร์ต้องการจะมีเซ็กซ์ก็ไม่ต้องไปที่โรงแรมแล้ว เพราะเด็กนั่นมันบังคับให้เขาไปหาที่บ้าน ถ้าไม่ไปมันก็ไม่ยอมทำด้วย ตอนแรกตนก็เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันไม่ยอมไป แต่ในเมื่อในเวลานี้มันไม่มีใครแล้วที่จะเข้ากันได้ดีเหมือนกับทะเล เขาก็ต้องยอม…

ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่าจันทร์คุ้นเคยเหมือนกับเป็นบ้านของตัวเองไปแล้ว เขาคิดว่าที่เด็กนั่นบังคับให้เขามาที่นี่มันอาจจะเป็นเพราะว่าหมอนั่นน่าจะเหงาที่ต้องอยู่บ้านหลังนี้คนเดียวก็เป็นได้ เพราะถึงแม้ว่าคุณย่าจะเสียไปนานมากแล้ว แต่บรรยากาศของบ้านยังเหมือนกับว่าคุณย่ายังคงอยู่..ไม่ไปไหน นั่นคงจะทำให้ทะเลรู้สึกเหงาในบางครั้ง

สำหรับจันทร์แล้ว...ทะเลก็ยังคงเป็นเด็ก ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะผ่านการใช้ชีวิตด้วยตัวเองมานานหลายปี แต่หมอนั่นก็ยังคงเป็นเด็กในสายตาเขาอยู่ดี



/



ทะเลจันทร์ขับรถไปที่บ้านของทะเลด้วยความระมัดระวัง มือของเขายังคงสั่นเป็นระยะ พอเป็นอย่างนี้ก็ทำเอารู้สึกว่าไม่ค่อยอยากขับรถสักเท่าไหร่ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่ในเมื่อเขาก็ยังคงต้องทำงานไปไหนมาไหนเองอยู่แบบนี้

ใช้เวลาไปพอสมควรกว่าที่จันทร์จะถึงบ้านของทะเล หมอนั่นให้กุญแจบ้านสำรองไว้กับเขานานแล้ว อีกฝ่ายยังไม่กลับจากมหาวิทยาลัย ตอนนี้ก็เป็นเวลาเย็นมากแล้วอีกเดี๋ยวก็คงกลับมาถึง วันนี้อากาศค่อนข้างดีจันทร์เลยเดินไปที่สวนข้างบ้าน นั่งลงบนชิงช้าค่อนข้างเก่าที่แขวนกับต้นไม้ใหญ่ ที่ตนเดาว่าคงเป็นของทะเลในวัยเด็ก

“เชือกจะขาดไหมเนี่ย”

จันทร์เงยหน้าขึ้นมองเชือกเส้นใหญ่ที่ดูเก่ามากแล้วก่อนจะพึมพำออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ปลายเท้าเตะเข้ากับพื้นเพื่อให้ชิงช้าขยับไปมา เขาเหม่อลอยแล้วปล่อยให้ตัวเองล่องลอยไปพร้อมกับชิงช้าตัวเก่านี้ หัวสมองมันโล่งไปหมดจนไม่ได้ยินเสียงรอบกาย รู้สึกสงบอย่างที่ไม่ได้เป็นมานาน

“อ๊ะ!” ทะเลจันทร์ร้องเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกดึงเข้าที่เอว

“ผมเรียกตั้งนานทำไมไม่ขานรับ” ทะเลก้มลงถามข้างหู มือที่จับเอวบางเปลี่ยนเป็นกอดหลวม ๆ

“กำลังเพลินเลย” จันทร์หันมาพูดพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง

คนอายุน้อยกว่าขมวดคิ้ว เมื่อครู่ที่เห็นอีกฝ่ายเหม่อลอย ตนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยิน ทะเลมีความรู้สึกไม่ชอบมาพากลขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ปกติแล้วคนคนนี้มักจะหูตาไวเป็นสับปะรด แค่เขาเดินเข้ามาใกล้ก็ได้ยินแล้ว

“พี่ขยับหน่อย ขอผมนั่งด้วยสิ” ทะเลบอกให้คนอายุมากกว่าขยับตัวแบ่งที่ให้เขานั่งด้วย โชคดีที่อีกฝ่ายตัวเล็กเลยพอจะนั่งเบียดกันได้

“ไม่เอาอะ เธอตัวใหญ่..แบบนี้เบียดกันตายชักเลย”

“เลือกเอาระหว่างนั่งเบียดกันกับนั่งตักผม จะเอาแบบไหน”

จันทร์เอียงคอดวงตาใสแจ๋วมองหน้าเด็กหนุ่มพร้อมรอยยิ้มมุมปาก “นั่งตักก็น่าสนอยู่นะ แต่ขอนั่งแบบไม่มีเสื้อผ้าได้หรือเปล่า”
หางคิ้วของทะเลกระตุกเมื่อถูกคนตรงหน้ากวนประสาท เขาเองก็ลืมไปว่าคำขู่ประเภทนี้ใช้ไม่ได้ผลกับผู้ชายตรงหน้านี้หรอก ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปใกล้ ยกมือขึ้นสะกิดต้นแขนอีกฝ่าย

“ไป ๆ ขยับหน่อย ผมจะนั่งด้วย”

จันทร์ยิ้มขำ ขยับตัวตามที่เด็กหนุ่มบอกก่อนจะลอยหน้าลอยตาพูดจาหยอกอีกฝ่าย “เดี๋ยวนี้พูดจาแข็งกร้าวจังนะ ใช่สิ..เรามันไม่ใช่ของใหม่แล้วนี่นา”

ทะเลชะงักค้างไปสักครู่ เขาโอบเอวเล็กของคนอายุมากกว่า “ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ผมยังชอบพี่อยู่เหมือนเดิมนะ”

“พรูด!” จันทร์หลุดหัวเราะเสียงดัง “ไม่เห็นต้องจริงจังขนาดนั้นเลย ฉันแค่พูดเล่นเท่านั้นเอง”

เด็กหนุ่มหน้านิ่งคิ้วขมวดอีกครั้ง “ผมรู้ว่าพี่พูดเล่น แต่ผม..จริงจังนะ”

ชายหนุ่มที่อายุมากกว่าแก้มแดงขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ตัว แต่มันอาจจะเป็นโชคดีของเขาที่แสงสีส้มของพระอาทิตย์ในตอนเย็นช่วยพรางไม่ให้อีกฝ่ายเห็นมัน

ทะเลจันทร์รับรู้ได้ถึงความจริงจังที่เด็กหนุ่มตรงหน้ามอบให้อย่างที่ไม่เคยมีใครให้กับเขาแบบนี้มาก่อน ที่ผ่าน ๆ มาหลายคนต่างพูดว่าจริงจังกับตนทุกคน โชคดีที่เขามันเป็นพวกมองคนออก เมื่อใครก็ตามที่บอกว่าจริงจัง เมื่อนั้นเขาก็จะเลิกติดต่อทันที

กับทะเลนั้น...เขาเองก็อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก ถึงแม้ว่าจุดเริ่มต้นของเขากับเด็กหนุ่มมันก็เหมือนกับหลายคนที่ผ่านเข้ามา ที่เขายอมเปิดใจให้ขนาดนี้มันอาจจะไม่ใช่แค่ว่าหมอนี่ชอบเขาหรอก แต่อาจจะเป็นเพราะจันทร์เองก็แอบชอบทะเลโดยที่ไม่ยอมรับใจตัวเองเหมือนกัน

คนอายุมากกว่ารู้ว่าความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่นี้มันทำร้ายจิตใจของทะเล แต่เขาเองอยากจะให้แน่ใจอะไรหลาย ๆ อย่างก่อน และเมื่อในตอนนี้กลับมีเรื่องร่างกายของตนเข้ามาเพิ่มอีก ที่บอกกับน้ำหวานไปว่าไม่อยากเป็นภาระให้กับคนที่มีอนาคตอย่างทะเลนั่นก็เป็นความรู้สึกจริง ๆ ของเขาเอง

“ฉันก็ชอบ...ที่ได้อยู่กับเธอนะ”

“แต่ก็ไม่ได้ชอบผม”

ทะเลจันทร์ทำเพียงแค่ยิ้มบาง เขาชอบที่จะได้อยู่กับทะเล เพราะอย่างนี้เลยอยากจะขอเห็นแก่ตัวสักนิดหน่อย ขอใช้เวลาในช่วงสั้น ๆ อยู่กับเด็กหนุ่มคนนี้ก่อนจะต้องโบกมือลากันไปในสักวันหนึ่ง

“พี่ไม่ชอบผมบ้างสักนิดเลยเหรอ” ทะเลถาม อันที่จริงเขามีความรู้สึกว่าคนอายุมากกว่าที่นั่งข้าง ๆ กันนี้ก็น่าจะชอบเขาอยู่บ้างเหมือนกันนะ แต่ก็เพราะไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปนั่นแหละ เลยลองหยั่งเชิงถามดูเป็นครั้งแรก

“อืมม…” จันทร์โยกตัวไปมาก่อนจะหันไปยิ้มมุมปากแล้วตอบทีเล่นทีจริง “อาจจะชอบล่ะมั้ง”

“โถ่..พี่!” คนอายุกว่าทำหน้าเซ็ง “ผมอุตส่าห์ตั้งใจรอฟังคำตอบ”

จันทร์หัวเราะเสียงใส ขาเตะเข้ากับพื้นเพื่อโยกชิงช้าอีกครั้ง “หวังว่าเชือกมันจะไม่ขาดนะ”

“ผมว่าไม่นะ” ทะเลเงยหน้าขึ้นมอง “พ่อผมทำเอาไว้ให้อย่างดีเลยล่ะ”

“แล้วตอนนี้พ่อของเธออยู่ไหนเหรอ”

คนถูกถามเงียบไป

“ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะ” จันทร์บอกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทีมึนตึงขึ้นมานิดหน่อยเมื่อตนถามถึงพ่อ

ทะเลถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตอบ “เขาไปทำงานอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ผมยังเด็กน่ะครับ”

จันทร์พยักหน้ารับรู้และไม่ได้ถามอะไรต่ออีก เขาแปลกใจตัวเองมากกว่าที่ดันไปอยากรู้เรื่องส่วนตัวของคู่นอนแบบนี้ ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เป็นครั้งแรกของทั้งสองคนที่เปิดใจคุยเรื่องของกันและกันแบบนี้ มันก็รู้สึกแปลก ๆ ดีเหมือนกัน เพราะนอกจากเป็ดแล้วก็ไม่เคยมีใครที่รู้เรื่องภายในครอบครัวของทะเลเลย ในขณะเดียวกันทะเลจันทร์เองก็ไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวและร่วมถึงเรื่องทั่ว ๆ ไปเหมือนอย่างที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้กับคนที่เป็นเพียงคู่นอนเหมือนกัน

“แล้วพ่อของพี่ล่ะ”

“เลิกกับแม่ฉันไปตั้งนานแล้ว”

“เหมือนกันเลย แม่ผมก็เลิกกับพ่อไปนานมากแล้วเหมือนกัน”

“แล้วไม่ได้ติดต่อกันเลยเหรอ”

“ไม่เลยครับ พี่ล่ะ?”

“ก็มีบ้างนะ นาน ๆ ทีพ่อจะมาหาที่ร้านบ้าง”

“ดีจังนะครับ” ทะเลรำพันขึ้นมา รู้สึกอิจฉาเล็ก ๆ ที่อีกฝ่ายมีครอบครัวที่ดีกว่าเขา

จันทร์ยกมือขึ้นลูบท้ายทอยของเด็กหนุ่มราวกับจะปลอบโยนหัวใจของทะเล เขาพอจะรับรู้ได้จากการพูดคุยว่าครอบครัวของเด็กนี่ไม่ค่อยอบอุ่นนัก และนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่อีกฝ่ายชอบแวะไปเยี่ยมและพูดคุยกับแม่ของตนเป็นประจำก็ได้

“ช่วงนี้พี่แปลกไปนะ”

“ยังไงเหรอ”

“ก็…ดูอ่อนโยนกับผมมากขึ้นมั้ง” ทะเลเองก็ไม่มั่นใจว่าจะเรียกว่าความอ่อนโยนดีหรือเปล่า เพียงแต่ช่วงนี้อีกฝ่ายไม่ค่อยพูดจาทิ่มแทงเขาเหมือนช่วงที่เจอกันแรก ๆ เท่าไหร่แล้ว และก็มักจะสัมผัสเขาเหมือนกับที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้บ่อยขึ้น

“แล้วไม่ดีหรือไง”

ทะเลย่นจมูกเมื่อจันทร์ย้อนถามด้วยน้ำเสียงกวน ๆ ก่อนจะตอบอีกฝ่าย “มันก็..ดีนะ”

แต่...เขากลัวว่าจะคาดหวังกับความสัมพันธ์ที่ยังหาคำตอบไม่ได้นี้มากเกินไปจนทำให้ตัวเองต้องเจ็บปวด และกลัวว่าเมื่อไม่เป็นอย่างใจหวังทุกสิ่งมันจะพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดีน่ะสิ

ทะเลจันทร์ยิ้มบางเมื่อเห็นเด็กหนุ่มมีท่าทีกังวลไม่น้อย เขารู้ว่าทะเลคิดและรู้สึกอย่างไรบ้างไม่ใช่ว่าไม่รู้เลย อีกฝ่ายทั้งกลัวและกังวลต่าง ๆ นานา เห็นแบบนี้ก็ทำเอารู้สึกผิดขึ้นมาเลยแฮะ

เขาคว้าคอของทะเลให้หน้าเข้ามาใกล้กัน ก่อนจะหอมแก้มเด็กหนุ่มด้วยความเอ็นดูปนสงสาร ทะเลมองตนด้วยแววตาไม่เข้าใจ จันทร์ยิ้มมุมปากแล้วกดจูบลงบนริมฝีปากของอีกฝ่าย..แผ่วเบาและเนิ่นนาน

“เข้าบ้านกันดีไหม” จันทร์เอ่ยชวน

เด็กหนุ่มไม่ตอบ แต่กลับคว้าข้อมือของคนอายุมากกว่าให้เดินตาม ได้ยินเสียงหัวเราะของจันทร์ดังขึ้นมาเบา ๆ

“ไม่ต้องรีบนักก็ได้ ฉันไม่หนีหายไปไหนหรอกน่า”


/



ทั้งสองคนพากันขึ้นไปบนห้องนอนของทะเลอย่างเคย เด็กหนุ่มดันคนอายุมากกว่าลงกับที่นอนกว้าง เขาตามขึ้นไปกดจูบริมฝีปากที่มักใช้พูดกวนประสาทอยู่เสมอ จนบวมแดงด้วยความมันเขี้ยว

“อื้อ” ทะเลจันทร์เบี่ยงหน้าออกจากจูบของคนด้านบน “ไปอาบน้ำก่อนไป ตัวเหม็น”

“งั้นก็ไปด้วยกัน” เขาดึงแขนของจันทร์ อีกฝ่ายตัวเบาอยู่แล้ว ทำให้ตัวแทบจะลอยขึ้นมาเมื่อถูกทะเลดึงแขน

“มา..ฉันถอดเสื้อผ้าให้” มือเรียวค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อนักศึกษา แต่เพราะมือของเขามันสั่นเลยทำให้ปลดได้ช้ากว่าปกติ จันทร์หงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อร่างกายขยับได้ไม่ทันใจ

“มือพี่เป็นอะไรน่ะ” ทะเลเอ่ยถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่ามือของคนอายุมากกว่ามันสั่นผิดปกติ เขาจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมามองอย่างพิจารณา

“อ่า...ไม่ต้องไปสนใจหรอก..ก็แค่พักผ่อนไม่เพียงพอน่ะ”

คนอายุน้อยกว่าขมวดคิ้ว เมื่ออีกฝ่ายพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร และก้มหน้าก้มตาแกะกระดุมเสื้อของเขาต่อ เขามองดูมือข้างขวา..แม้ว่ามันจะสั่นไม่มาก แต่ดูแล้วก็น่าลำบากไม่น้อย

“พอเถอะครับ” ทะเลรวบมือของคนที่ตัวเล็กกว่าให้หยุด “วันนี้นอนด้วยกันเฉย ๆ ดีกว่าเนอะ”

จันทร์กะพริบตาถี่อย่างุนงง ก่อนจะย้อนถามเพื่อความแน่ใจว่าตนไม่ได้ฟังผิด “นอน..เฉย ๆ เหรอ”

“ครับ นอนเฉย ๆ” ทะเลย้ำ “ป่ะ ไปอาบน้ำกันดีกว่า”

แล้วคนอายุมากกว่าก็ถูกดันหลังเข้าห้องอาบน้ำ จันทร์โดนอีกฝ่ายถอดเสื้อผ้าออก แถมทะเลยังอาบน้ำฟอกสบู่ให้เขาราวกับเป็นเด็ก ๆ

“พี่แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วขึ้นไปนอนรอเลยนะ ผมอาบน้ำแป๊บเดียวก็เสร็จ”

จันทร์ที่ยังคงงุนงงไม่หาย ยืนอยู่กลางห้องโดยที่ถูกผ้าขนหนูห่อไว้ทั้งตัว มองเด็กหนุ่มที่หายเข้าห้องน้ำไปด้วยใบหน้าที่มีแต่ความสงสัย เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าช้า ๆ หยิบชุดนอนออกมาสวมหลังจากที่เช็ดตัวเรียบร้อย

..นี่มันจะไม่ทำจริง ๆ เหรอ..เขาครุ่นคิดอยู่อย่างนั้นในขณะที่นอนห่มผ้าอยู่บนเตียงเรียบร้อยตามที่ทะเลสั่งไว้

เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำจันทร์ก็หันไปสนใจเด็กตัวโตที่เดินเช็ดตัวท่อนบนออกมา เห็นรูปร่างในแบบที่ชอบเปลือยต่อหน้าแบบนี้แล้วก็อดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้

“พี่จ้องอะไรขนาดนั้น” ทะเลถามเมื่อเห็นคนบนเตียงจ้องเขาตาไม่กะพริบ

“เห็นแล้วหิว..อยากกิน” จันทร์ตอบอย่างที่คิดไม่มีอ้อมค้อม

ทะเลหัวเราะในลำคอกับความตรงไปตรงมาของอีกฝ่าย เขาหันไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินไปปิดไฟในห้องแล้วเดินขึ้นเตียง ดึงคนตัวบางเข้ามากอด

“นี่จะไม่ทำกันจริง ๆ เหรอ” จันทร์เอ่ยถามขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด

เด็กหนุ่มกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น “ไม่ครับ ผมอยากให้พี่พักผ่อนให้เยอะ ๆ ..จะได้แข็งแรง”

หัวใจมันก็แค่ก้อนเนื้อก้อนหนึ่งเท่านั้น ถ้าไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงมันก็ตาย และหัวใจของเขาตอนนี้เหมือนได้ความอบอุ่นของทะเลไปหล่อเลี้ยงให้มันมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

จันทร์ไม่เคยพบเจอใครที่ปฏิบัติกับเขาแบบทะเลมาก่อนเลยในชีวิต คนก่อนหน้านี้พบกันแต่ละครั้งก็มีแต่เรื่องตัณหาราคะ ไม่ได้ใส่ใจอะไรตนมากมายนักหรอก

แต่ทะเลนั้นแตกต่างออกไป เขารู้ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้วว่า..หมอนี่ทั้งอ่อนโยนและอบอุ่น..และนั่นทำให้เขารู้สึกดีเมื่อได้อยู่ใกล้..
ทะเลจันทร์ซุกหน้าลงกับอกของเด็กหนุ่ม โชคดีอีกแล้วที่ในเวลานี้ถึงตนจะยิ้มกว้างขนาดไหนอีกฝ่ายก็ไม่มีทางได้เห็นมัน  ทะเลลูบหลังของเขาอย่างแผ่วเบาราวกับกำลังกล่อมเด็กให้นอนหลับ

เขาหลับตาลงซึมซับความอบอุ่นอ่อนโยนของทะเลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะเมื่อวันใดที่เขาไม่มีขึ้นมา..ก้อนเลือดในอกนี้มันจะได้มีชีวิตต่อไปได้อีกสักหน่อยก็ยังดี

อยากจะเอ่ยคำขอบคุณออกไปแต่ก็เหมือนมีอะไรมาอุดปากเอาไว้ อยากจะตอบแทนสิ่งดี ๆ ที่หมอนี่ทำให้..แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไรดี

คิดไปคิดมา..การไม่อยู่เป็นภาระ และปล่อยให้ทะเลได้ไปเจอคนที่เหมาะสมคงจะเป็นการตอบแทนที่ดีที่สุดแล้วล่ะมั้ง...

“ผมชอบพี่นะ” ทางด้านทะเลก็ไม่รู้อะไรดลใจให้ทะเลพูดประโยคนี้ขึ้นมา เขาหอมกลางศีรษะของคนอายุมากกว่า ความจริงแล้วตนอยากจะพูดว่า ‘รัก’ มากกว่า แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดไปก็จะโดนตอกกลับมาแบบเจ็บ ๆ คัน ๆ ตามสไตล์ของอีกฝ่ายเนี่ยสิ

“อืม ฉันรู้..”

คนที่อยู่ในอ้อมกอดตอบกลับมาเสียงเบาเพราะใบหน้าซุกอยู่กับอกของเขา ทะเลยิ้มกับตัวเอง

“หลับฝันดีนะครับ..” ทะเลกระซิบบอกคนในอ้อมกอด โดยเว้นคำท้ายไว้พูดเพียงในใจเท่านั้น

..ที่รักของผม..




TBC...

กลายเป็นนิยายรายเดือนไปแล้วจริงเหรอเนี่ย...

ยังไงก็ต้องขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 9 [24/01/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-01-2019 10:22:06
ขอบคุณที่กลับมาต่อแล้ว
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 10 [13/03/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 13-03-2019 19:10:35



10





“พี่คุยกับใครเหรอ?” ทะเลที่เพิ่งจะลืมตาตื่นเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนอายุมากกว่ากำลังพิมพ์ไลน์คุยกับใครก็ไม่รู้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างที่ตนไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก
   
จันทร์เลิกคิ้วขึ้น ริมฝีปากยังคงแย้มยิ้มอยู่อย่างนั้น เจ้าตัวดึงโทรศัพท์เข้าชิดกับหน้าอก ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงยียวน “คุยกับคนสำคัญอยู่”
   
เรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น ยอมรับก็ได้ว่ารู้สึกหึงและหวงทั้งที่ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นได้ สำหรับอีกฝ่าย..ตนคงไม่ใกล้คำว่าสำคัญเลยซะด้วยซ้ำ

ถึงแม้ว่าพักหลังมานี้พี่จันทร์จะดีกับเขามากแค่ไหนก็ตาม แต่เราก็ยังคงมีสถานะเป็นแค่คู่นอนกันอยู่ดี ปฏิเสธไม่ได้...ว่าเราทั้งคู่ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ความสัมพันธ์ที่เหมือนกระดาษบาง ๆ แบบนี้ ถ้าหากโดนลมพัดใส่แรง ๆ ล่ะก็คงจะขาดออกจากกันง่าย ๆ ได้เลยสินะ

ทะเลเงียบไป จมอยู่กับความคิดของตัวเองจนคนข้างกายสังเกตเห็น จันทร์ไม่รู้จะทำอย่างไรดี อย่างหมอนี่ก็คงหนีไม่พ้นที่จะคิดมากกับคำตอบของเขาเมื่อครู่แล้วเก็บเอาไปน้อยใจเงียบ ๆ แน่นอน ตนก็ไม่ได้โกหกสักหน่อย...ก็เล็กเป็นคนสำคัญสำหรับเขาจริง ๆ นี่นา

จันทร์เหล่ตามองไอ้เด็กตัวใหญ่แต่ใจน้อยที่นอนนิ่งอยู่ข้าง ๆ กัน

“นี่”

“ครับ” เด็กหนุ่มตอบรับ พยายามทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับจิตใจของตัวเอง ทะเลขยับตัวนอนตะแคงข้างมองใบหน้าสวยของคนที่เขาหลงรัก

“เป็นอะไรเหรอ” จันทร์ถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเด็กนี่คงไม่ตอบเรื่องจริงหรอก

ทะเลเลิกคิ้วขึ้น “เปล่านี่”

จันทร์ถอนหายใจ ถ้าทะเลเป็นเด็กงี่เง่าหรือหึงหวงไม่เข้าท่า ตนก็คงจะถีบหัวส่งได้ง่ายกว่านี้ แต่พอมันเป็นแบบนี้...เขาก็แย่น่ะสิ คนอายุมากกว่ายกมือขึ้นขยี้ผมไม่เป็นทรงของทะเลก่อนจะลูบเบา ๆ

“เด็กเอ๊ย~ ฉันคุยกับเล็กน่ะ จำเล็กได้หรือเปล่า”

ทะเลพยักหน้า จันทร์ยิ้มอย่างพอใจที่เด็กนี่ทำตัวเชื่องเป็นลูกแมวแบบนี้ ถึงจะเหมือนลูกแมวยักษ์ไปหน่อยก็เถอะ

“เล็กไลน์มาบอกว่าหางานได้แล้ว อยากให้ไปเป็นเพื่อนวันที่สัมภาษณ์งานหน่อยน่ะ”

“งาน?” ทะเลขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจนัก ตนจำได้ว่าพี่เล็กหูหนวกและพูดไม่ได้นี่นา แล้วแบบนี้จะทำงานแบบไหนได้บ้างล่ะ

“อืม กว่าจะได้งานนี่ไม่ง่ายเลยนะ”

“พี่ดู...ดีใจมากเลยนะ” ทะเลบอกเมื่อเห็นแววตาเป็นประกายของอีกฝ่าย

“ใช่สิ เล็กน่ะ...น่าสงสารนะ อันที่จริงหมอนั่นไม่ได้พิการตั้งแต่เกิดหรอก”

“ยังไงครับ”

“ฉันจะอธิบายยังไงดีล่ะ เอาเป็นว่า..ช่วงม.ต้นเล็กดันป่วยหนักขึ้นมา เลยทำให้เส้นประสาทมันไม่ทำงานน่ะ”

ทะเลจันทร์เงียบ..มองใบหน้าเด็กหนุ่มที่กำลังตั้งใจฟัง เรื่องของเล็กเป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยอยากพูดถึงนัก เพราะเมื่อนึกย้อนกลับไปแล้ว..ก็อดที่จะเจ็บจี๊ดในใจไม่ได้เลย กว่าที่เล็กจะกลับมาสดใสร่าเริงและมีรอยยิ้มแบบนี้ได้ อีกฝ่ายต้องเสียน้ำตามากมาย..จนเกือบจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ

“แบบนี้ก็ลำบากกันแย่เลยสิครับ”

“ใช่สิ พากันยกโขยงไปเรียนภาษามือกันเป็นหมู่คณะเลยล่ะ” จันทร์ว่าติดตลก

“อ๋อ” ทะเลพยักหน้า สงสัยตั้งแต่ที่เห็นแล้วว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้รู้ภาษามือ แบบนี้นี่เอง

“ที่แย่อีกเรื่องคือเล็กเป็นนักเปียโนน่ะสิ” จันทร์สบตากับทะเล “ความฝันที่จะเป็นนักเปียโนมืออาชีพ...ก็เป็นจบสิ้นกัน”

ทะเลอึ้งไปเมื่อได้ยินเรื่องราวส่วนหนึ่งที่อีกฝ่ายถ่ายทอดให้ได้รับรู้

“ฉันคิดว่าเธอเองก็เป็นคนมีความฝัน...คงจะเข้าใจความรู้สึกนะ”

เด็กหนุ่มพยักหน้า ความฝันของเขาคือการได้ไปร่วมงานกับ National Geographic ทะเลรู้ว่ามันยาก..ทุกวันนี้ถึงได้พยายามในทุก ๆ ทางเพื่อที่จะไปให้ถึงที่ตรงนั้นให้ได้

“เพราะฉะนั้นแล้ว…” จันทร์เงียบไปอึดใจ เขายิ้มบาง ฝ่ามือเรียววางลงบนแก้มของทะเล “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็อย่าละทิ้งความฝันของตัวเองล่ะ สู้ไปจนถึงที่สุดนะรู้ไหม”

ทะเลจันทร์หวังดีกับเด็กหนุ่มคนนี้อย่างจริงใจ จากที่ได้คลุกคลีกันมาพักใหญ่ ๆ ทำให้ได้รู้ว่าทะเลเป็นเด็กที่ดี เขาเลยหวังว่าอยากจะให้เด็กคนนี้ได้เจอแต่สิ่งดี ๆ ...ที่ตนไม่สามารถให้ได้

ทะเลยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ เขาดึงร่างผอมบางของพี่จันทร์เข้ามากอดเอาไว้เต็มแขน แล้วหอมลงบนกลุ่มผมนิ่ม “หนึ่งในความฝันของผมก็มีพี่อยู่ในนั้นด้วยนะ”

คนถูกหยอดคำหวานหัวเราะเสียงใส ตีแผ่นหลังกว้างเบา ๆ “ไม่ต้องมาปากหวานเลย”

“ไม่ได้ปากหวานสักหน่อย ผมพูดเรื่องจริงนะ” คนถูกว่าทำปากยื่น “ฝันอีกอย่างของผมคืออยากให้พี่เป็นของผม..ไม่ได้เหรอครับ”

จันทร์หน้าแดงวาบ เจ้าตัวเอาหน้าซุกลงกับแผงอกของไอ้ตัวดี ให้ตายเถอะ! พักหลังนี้เขาเสียท่ามันตลอด...ไม่ดีกับหัวใจเอาซะเลย หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่สังเกตเห็นนะว่าตนหน้าแดง

“หืม..พี่จะนอนต่อเหรอ”

“อืม”

“นี่พี่เพิ่งตื่นไปเองนะ” ทะเลเหลือบตามองนาฬิกา “นี่ก็เก้าโมงแล้ว..พี่หิวหรือยัง”

“เธอนี่พูดมากจริง ๆ เลย” จันทร์ว่าเอานิ้วอุดหู

“ผมเป็นห่วงพี่นะ นี่มือพี่ก็ยังไม่หายสั่นเลย เป็นอะไรมากหรือเปล่าก็ไม่รู้” คนอายุน้อยกว่าดันตัวออกเล็กน้อย จับมือของคนที่รักข้างเดียวที่กำลังอุดหูออก..มาสอดประสานเอาไว้ด้วยกัน

“เป็นพ่อฉันหรือไงกัน”

ทะเลปากยื่นเมื่อถูกพูดแดกดัน “ไม่ได้เป็นพ่อ แต่อยากเป็นผัวได้หรือเปล่าล่ะ”

จันทร์ตาโตเมื่อได้ยินอย่างนั้น ไอ้เด็กนี่มันชักจะเอาใหญ่แล้ว! เขาดึงมือออกก่อนจะลงมือตบหัวของทะเลไปหนึ่งทีแบบไม่แรงแต่ก็ไม่เบา โทษฐานที่ทำเขาใจเต้นแรงแบบนี้

“โอ๊ย! พี่ตีผมทำไมเนี่ย”

“สมควรโดนแล้ว”

เด็กหนุ่มมีสีหน้างุนงง ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายแก้มแดงเล็กน้อย นั่นทำให้เจ้าตัวเผยยิ้มมุมปากออกมา

“หรือว่า...พี่เขินเหรอ” ทะเลถามน้ำเสียงหยอกเย้า

“เปล่าโว้ย” จันทร์เสียงแข็งเมื่อถูกจับได้

“แหนะ อย่ามาปากแข็งหน่อยเลย ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”

จันทร์ตบหัวของคนอายุน้อยกว่าอีกครั้ง แถมยังแรงกว่าเมื่อครู่อีก แต่ไอ้เด็กนี่มันกลับหัวเราะร่าราวกับถูกใจนักหนา อ้อมแขนแข็งแรงดึงตัวของเขาไปกอดเสียแน่นจนดิ้นไม่หลุด

“ไอ้เด็กบ้านี่ ปล่อย!”

“ไม่ครับ”

“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!”

“ใครจะโง่ปล่อยพี่ไปล่ะ” ทะเลบอกเป็นนัย เพราะคิดว่าตอนนี้อีกฝ่ายนั้นเริ่มมีใจให้กับเขาบ้างแล้ว แต่เนื่องจากเป็นคนดื้อ..ไอ้การที่จะยอมรับหัวใจตัวเองนั้นคงยาก

“ก็มีคนเคยโง่แล้วกัน”

“ไม่ใช่ผมแน่นอน”

“อย่ามั่นใจในตัวเองนักเลย” จันทร์บอก สบตาเข้ากับทะเล เขาไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกความมั่นใจนี้ “คนเราต้องยอมรับความเป็นจริง..ว่าบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ยิ่งจิตใจของคนเราแล้ว..มันอ่อนไหวยิ่งกว่าสายน้ำซะอีก”

คนฟังเผยยิ้มอ่อนโยน เขาไม่น้อยใจหรือเสียใจที่โดนปฏิเสธอีกแล้ว เพราะเมื่ออะไรบางอย่างมันมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็น เขาก็มั่นใจว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว เพียงแต่ต้องอดทนรอเวลาก็เท่านั้นเอง

“พี่รู้ไหม ย่าผมเคยบอกไว้...ไม่ว่าจะช้าหรือนาน ถ้าเราหมั่นให้ความรักไป ความรักจะหวนคืนกลับมาหาเราเสมอ..ผมเองไม่เคยเชื่อคำนี้ของย่า แต่วันนี้ผมจะลองดูว่าผมจะได้ความรักที่ผมให้พี่ไปกลับมาหรือเปล่า เพราะฉะนั้น..พี่คงต้องทนอยู่กับผมไปอีกนานเลยล่ะ”

ทะเลเห็นแววตาสั่นไหวของคนที่อายุมากกว่า อีกฝ่ายเม้มปากแน่น..ไม่ตอบโต้อะไรเขาอีก เด็กหนุ่มก้มลงหอมแก้มพี่จันทร์หนึ่งฟอดเน้น ๆ

จันทร์มองค้อนพลางนวดแก้มตัวเองแล้วด่าไอ้เด็กจอมตื๊อนี่อยู่ในใจ...ไอ้เด็กเปรตเอ๊ย!...เขาไม่เคยเห็นใครดื้อด้านเท่านี้มาก่อนในชีวิต และก็ไม่เคยมีใครทำให้เขาหวั่นไหวได้ขนาดนี้มาก่อนเหมือนกัน

บอกตามตรงว่าเขารู้สึกไม่ดีมาก ๆ ตอนนี้มันเหมือนกับว่าเขาโดนอีกฝ่ายค่อย ๆ กะเทาะกำแพงที่เขาสร้างขึ้นมาป้องกันตัวเองนานหลายปีออกไปทีละน้อย และนั่นทำให้จันทร์รู้สึกไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย

จันทร์กลัว...ว่าตัวเองจะอ่อนแอลงอีกครั้ง เพราะความรักมันทำให้คนเราอ่อนแอได้โดยง่ายดาย กลัวจะกลับกลายไปเป็นคนเก่าที่ช่างโง่เง่า และกลัวที่สุดคือ...การที่จะต้องทำร้ายเด็กหนุ่มคนนี้ ซึ่งเป็นคนที่แสนดีกับเขาเหลือเกิน

ต่างจากผู้ชายหลายคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต พวกเอาแต่ได้..ที่อยากได้อยากครอบครองเขา..ก็เพื่ออยากจะเอาชนะเท่านั้นแหละ

“ผมเองอายุน้อย ยังรอพี่ได้อีกนาน แต่พี่น่ะ...แก่แล้วนะ”

“แก่แล้วไงวะ คิดว่าตัวเองจะไม่แก่บ้างหรือไง” จันทร์ย้อนไอ้เด็กที่พูดจากวนประสาท พร้อมกับเอามือตะปบใบหน้ายียวนที่ทำท่าจะเข้ามาหอมแก้มตนอีกครั้ง

“ผมรู้ว่าคนเราก็ต้องแก่ทั้งนั้น แต่พี่อายุเท่านี้แล้ว...ไม่อยากได้คนดูแลบ้างเหรอ ผมดูแลผู้สูงอายุเก่งนะ การันตีได้จากการที่ผมดูแลย่ามาตลอดหลายปีเลย”

คนอายุมากกว่ายิ้มอบอุ่นเมื่อได้ยินอย่างนั้น มือขาวลูบตรงที่เขาตบไปเมื่อสักครู่ ก่อนจะบอกเสียงนิ่มนวล “เก็บเวลาชีวิตอันมีค่าของตัวเองไว้ทำตามความฝันดีกว่านะ...”

จันทร์กล้ำกลืนท้ายประโยคไป ...อย่ามาเสียเวลากับคนอย่างฉันเลย

ทะเลผ่อนลมหายใจกับความใจแข็งของคนตรงหน้า แต่เขาก็จะไม่ละความพยายามนี้หรอก เขากดจูบที่ริมฝีปากไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว รูปร่างใหญ่โตกดพี่จันทร์ไว้ด้านใต้จนแทบจะจมลงไปกับที่นอน ลิ้นร้อนเกี่ยวพันจนคนอายุมากกว่าหายใจแทบไม่ทัน ทำให้ต้องดันตัวของทะเลออกไป

“พี่อาจจะห้ามใจตัวเองได้ แต่จำไว้ว่าพี่ไม่มีวันห้ามหัวใจผมได้หรอกนะ ผมจะไม่ยอมแพ้ พี่คอยดูเถอะ”

ริมฝีปากแดงเจ่อของจันทร์อ้าออกเพราะหายใจไม่ทันจากจูบร้อนแรงเมื่อครู่ และเมื่อทะเลพูดจบเขาก็ยกยิ้มมุมปาก

“อืม...แล้วจะคอยดูนะ”

ทั้งคู่จ้องตากันไม่กะพริบอยู่ชั่วอึดใจ และทะเลก็เป็นฝ่ายลุกขึ้นก่อน

“พี่ไปอาบน้ำเถอะ ผมจะไปเตรียมข้าวเช้าให้” เจ้าตัวบอกก่อนจะออกจากห้องไป

อันที่จริงทะเลก็ไม่ได้โกรธอีกฝ่ายหรอก เพียงแค่รู้สึกแย่นิดหน่อยที่โดนตอกกลับแบบนั้น และที่อีกคนพูดเหมือนกับว่าตัวเองไม่มีความสำคัญเลย…

ทั้งที่เขาให้ความสำคัญและทะนุถนอมมากขนาดนี้แท้ ๆ …



/



วันต่อมาเป็นวันที่ทะเลจันทร์จะต้องไปฟังผลตรวจที่โรงพยาบาล และน้ำหวานก็เป็นคนมารับเช่นเคย

“มึงคิดว่ากูจะเป็นอะไรมากไหม” จันทร์เอ่ยถามขึ้นในระหว่างทาง

น้ำหวานเหล่ตามองจันทร์ที่ยังดูอารมณ์ปกติดี “กูไม่ใช่หมอ จะไปรู้ได้ยังไง”

“ไอ้ควาย” จันทร์ด่ากลั้วหัวเราะ ก็จริงอย่างที่มันว่า ถึงตอนนี้เขาก็พอจะรู้บ้างแล้วว่าตัวเองน่าจะป่วยอะไรสักอย่าง เพียงแต่มันก็ยังปักใจเชื่ออะไร 100 % ไม่ได้ ต้องรอฟังจากหมอเท่านั้นแหละนะ

“อย่าคิดมากน่า” น้ำหวานปลอบ ฝ่ามือใหญ่บีบนวดเข้าที่ต้นคอของเพื่อนสมัยเด็ก

“กูไม่คิดมากหรอก อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”

“กูก็ไม่อยากให้มึงเป็นอะไรเหมือนกันนะ”

จันทร์เอียงหน้ามองคนที่กำลังขับรถ เจ้าตัวยิ้มเอ็นดู “ห่วงพี่เหรอไอ้น้องชาย”

“พ่อง” น้ำหวานขนลุก แต่ก็หัวเราะขำไปกับอีกฝ่าย

“เออ..แล้วสรุปว่าวันที่เล็กไปสัมภาษณ์งานมึงว่างหรือเปล่า”

น้ำหวานส่ายหน้า “ไม่ว่ะ ต้องเข้าประชุมหนังเรื่องใหม่”

“น่าเสียดาย…”

“มึงก็ชวนไอ้ทะเลไปสิ”

จันทร์เงียบไปชั่วอึดใจ “ไม่ดีกว่า เดี๋ยวกูพาเล็กไปเองก็ได้”

“อ้าว” น้ำหวานร้อง “ทะเลาะกันเหรอ”

“เปล่า..”

“หรือว่ามันงี่เง่าใส่มึง”

“ไม่ใช่..”

“ก็แล้วมันอะไรล่ะ” เริ่มหงุดหงิดด้วยความอยากรู้

ทะเลจันทร์ถอนหายใจ ไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไงดี “คือ…”

“หรือว่าเป็นที่มึงอยากตีตัวห่างออกจากน้องมันเอง” น้ำหวานพูดขัดขึ้นมา เมื่อรถจอดติดไฟแดงพอดี เขาหันไปมองเพื่อนอย่างเต็มตา จันทร์พยักหน้าตอบเชื่องช้าและไม่ได้พูดอะไร

“จันทร์..กูถามมึงจริง ๆ เหอะ เด็กนั่นมันไม่ดีตรงไหนวะ”

“ไม่ใช่ไม่ดี มันดีกว่าทุกคนที่เคยผ่านเข้ามาซะอีก” จันทร์ตอบพร้อมกับยิ้มบาง “คราวนี้คงเป็นกูเอง..ที่ไม่ดี”

น้ำหวานนิ่งอึ้งไปเมื่อได้ยินแบบนั้น “จันทร์...นี่มึงรู้ตัวเองหรือเปล่าว่ามึง..”

จันทร์ยกมือขึ้นปิดปากน้ำหวาน เขารู้ว่ามันกำลังจะพูดอะไรออกมา..ไม่ได้อยากให้ใครต้องมาย้ำ

“ไฟเขียวแล้ว” เขาว่าก่อนจะผลักหน้าของอีกฝ่ายให้หันไปอีกทาง

“เวรเอ๊ย!” คนขับรถสบถด้วยความหงุดหงิด

“ตั้งใจขับรถไป” จันทร์ชี้นิ้วไปด้านถนนแล้วพูดย้ำ

“ทำไมมึงถึงไม่อยากให้กูพูดขนาดนั้น” น้ำหวานถามเสียงห้วน

คนถูกถามเบือนหน้าออกไปมองด้านนอก นั่นเป็นคำถามที่เขาไม่อยากตอบ “มึงรู้อยู่แล้วก็อย่าถามกูจะได้ไหม” จันทร์บอกเสียงเรียบ

น้ำหวานนิ่งไป เพราะไม่คิดว่าเพื่อนเขามันจะตกหลุมรักไอ้เด็กนั่นขึ้นมาจริง ๆ “นี่มึง...จริงเหรอวะ” เขาไม่อยากจะเชื่อ

ทะเลจันทร์หันกลับมา ใบหน้าประดับรอยยิ้มบาง “ไม่อยากจะเชื่อใช่ไหมล่ะ กูเองก็ไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกัน”

“...”

“คนเรานี่แม่ง..เจ็บแล้วไม่รู้จักจำจริง ๆ ความรักน่ะมีแต่ทำให้คนเรากลายเป็นคนโง่ นึกว่าสิบกว่าปีที่ผ่านมากูจะฉลาดขึ้น แต่ดูท่าแล้วก็ไม่ว่ะ…”

น้ำหวานนิ่งเงียบ ฟังอีกฝ่ายระบายออกมา จันทร์มันไม่ใช่คนที่จะพูดเรื่องของตัวเองบ่อยนัก ถึงแม้ว่าจะสนิทกันมากแค่ไหนก็ตาม เจ้าตัวเป็นคนที่เก็บอารมณ์ความรู้สึกเก่งมาก จนเขาเป็นห่วง..ว่าถ้ามันเครียดมาก ๆ เข้า อาจจะเป็นบ้าได้เลยทีเดียว

“ความรักจะทำให้เรากลายเป็นคนโง่ได้ในกรณีที่เราไปรักคนผิด แต่ถ้าได้เจอคนที่ดีแล้ว..ความรักมันก็ทำให้เรามีความสุขไม่ใช่เหรอ จันทร์..ทะเลมันทำให้มึงมีความสุขหรือเปล่า”

“...”

“มึงไม่ต้องตอบกูก็ได้ มึงตอบตัวเองให้ได้ก็พอ…”

“บทหนังเรื่องใหม่ของมึงหรือไงกัน” จันทร์ย้อนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“ไอ้ควาย ยังจะมีอารมณ์มากวนตีนกูอีกนะ”

จันทร์ยักไหล่หนึ่งทีพร้อมกับส่งเสียงหึในลำคอ หลังจากนั้นก็นั่งเงียบไปตลอดทางที่เหลือ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าตนเองรู้สึกยังไง ไม่ต้องให้ใครมาบอกหรอก…



/



“คุณทะเลจันทร์ ขอเชิญพบคุณหมอที่ห้องค่ะ”

ใบหน้าสวยเงยขึ้นจากโทรศัพท์ก่อนจะลุกยืนเต็มความสูง เขาสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกแล้วพ่นลมออกมาทางปากด้วยความตึงเครียด น้ำหวานจับเข้าที่หัวไหล่บางพร้อมกับบีบมันเบา ๆ เพื่อนให้กำลังใจ

“กูเข้าไปเป็นเพื่อนนะ”

“เออ ขอบใจ” จันทร์ยิ้มให้ อย่างน้อยเขาก็อุ่นใจที่มีน้ำหวานเข้าไปด้วยกัน

เมื่อเลื่อนประตูเข้าไปคุณหมอก็ส่งยิ้มให้ทั้งคู่ พร้อมกันรับไหว้ “เชิญนั่งก่อนครับ”

“ผลตรวจของเพื่อนผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ” น้ำหวานถามขึ้นทันที เวลานี้ในใจเขามันว้าวุ่นไปหมด

“เดี๋ยวหมอขอสอบอาการเพิ่มเติมหน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าคนไข้มีอาการฝันร้ายหรือนอนละเมอบ้างหรือเปล่าครับ”

จันทร์ขวมดคิ้วก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ “มีครับ จะว่าไปช่วงนี้ผมฝันร้ายอยู่บ่อย ๆ บางครั้งก็ตกเตียงเลยด้วย แต่เรื่องละเมอผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ”

“จากที่ดูผลตรวจร่างกายทั้งหมดแล้ว รวมถึงอาการที่คนไข้เป็นอยู่ในปัจจุบัน หมอสรุปว่าคนไข้ป่วยเป็นพาร์กินสันนะครับ”

เมื่อน้ำหวานได้รับรู้ว่าจันทร์เป็นอะไร..ฝ่ามือใหญ่ของเพื่อนรักขยับไปกอบกุมมือของบอบบางของจันทร์เอาไว้แล้วบีบเบา ๆ มันเป็นสิ่งที่ตนไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยสักนิด แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

“มันคืออะไรเหรอครับหมอ” จันทร์ถามเสียงเรียบ

“หมอจะอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายนะครับ พาร์กินสันเป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของสมองและระบบประสาทอย่างหนึ่งครับ และนั่นทำให้สื่อประสาทในสมองที่ชื่อว่าโดปามีนมีปริมาณลดลง เลยส่งผลให้คนไข้มีอาการสั่น เกร็ง เคลื่อนไหวช้า และการทรงตัวไม่สมดุลครับ”

จันทร์กะพริบตาปริบ ๆ ในขณะที่ฟัง อยากจะบอกหมอว่าเขาไม่เข้าใจนิดหน่อย แต่งงมาก ๆ

“โรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดได้อย่างไร และในตอนนี้ก็ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ สมัยก่อนคนจะคิดว่าโรคนี้จะเกิดในผู้สูงอายุมากกว่าคนอายุยังน้อยครับ แต่จากสถิติที่ตอนนี้มีคนอายุน้อยเป็นพาร์กินสันถึง 8 % เลยนะครับ”

“แบบนี้ก็แสดงว่าผมโชคดีจับได้ใบแดงเลยสิครับหมอ” เจ้าตัวบอกยิ้ม ๆ

คุณหมอยิ้มรับด้วยความเอ็นดู “คนที่เป็นโรคนี้กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญนะครับ หมออยากให้คุณมองโลกในแง่ดีแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ รักษาสุขภาพจิตของตัวเองให้ดีอย่างนี้ต่อไปนะครับ”

“ผมขอรายละเอียดของโรคนี้มากกว่านี้จะได้ไหมครับ” น้ำหวานเป็นฝ่ายถามขึ้น “อยากรู้ว่าเพื่อนผมจะต้องอยู่กับโรคนี้ยังไงน่ะครับ”

“โรคนี้ยิ่งรู้เร็วได้รับการรักษาเร็วจะดีที่สุดครับ คนอายุน้อยที่เป็นพาร์กินสันส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้มาด้วยอาการสั่นอย่างที่คนไข้เป็น จะมีแค่อาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อ หมอก็จะวินิจฉัยว่าเป็นเรื่องกล้ามเนื้ออักเสบหรือออฟฟิศซินโดรม ได้ยาคลายกล้ามเนื้อไปทานเท่าไหร่ก็ไม่หาย กว่าจะได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก็ผ่านการพบหมอไปแล้วอย่างน้อยสามคนขึ้นไป”

“อ่า..โชคดีอีกแล้ว” จันทร์หันไปพูดและยิ้มให้กับน้ำหวาน

อีกฝ่ายเห็นแบบนั้นก็ส่ายหน้าอย่างปลง ๆ กับจันทร์ เขาอ่านไม่ออกเลยว่าเพื่อนของเขามันกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนบ้างเลย

“อย่างที่บอกไปว่าพาร์กินสันเป็นโรคที่ยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ในปัจจุบันเป็นการใช้ยาเพื่อประคับประคองอาการหรือผ่าตัดเมื่อโรคดำเนินไปสู่ระยะสุดท้าย แต่ก็อย่างที่บอก…” คุณหมอหันไปยิ้มให้คนไข้ “คุณโชคดีที่รู้ตัวเร็ว มีหลักฐานงานวิจัยหลายชิ้นจากต่างประเทศยืนยันว่าการดูแลผู้ป่วยโรคพาร์กินสันตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการปรับยา แนะนำเรื่องอาหารการกิน และออกกำลังกาย รวมถึงการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม สามารถช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจดีกว่าผู้ที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องนะครับ”

“เพื่อนผมควรจะต้องทำอะไรบ้างเหรอครับ”

“การรักษาโรคพาร์กินสันเป็นการรักษาตามอาการครับ ส่วนใหญ่แล้วจะมีการให้ยารับประทานเป็นหลัก เมื่อใช้ยาไปสักระยะหนึ่งก็จะต้องมีการติดตามอาการและการดำเนินไปของโรคเป็นประจำ และอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนขนาดยาหรือตัวยาไปตามอาการด้วยครับ

เริ่มต้นหมอจะจ่ายยาที่ชื่อว่า levodopa ยาตัวนี้จะไปเพิ่มระดับของสารสื่อประสาทโดปามีนในสมอง ซึ่งจะช่วยให้อาการเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวดีขึ้น หมอจะจ่ายยาตัวนี้คู่กับอีกตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ levodopa ถูกทำลายไปก่อนที่ยาจะมีโอกาสดูดซึมเข้าสู่สมอง และช่วยลดอาการผลข้างเคียงของยาอีกด้วย

สิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือคนไข้จะต้องทานยาให้ตรงเวลาและสม่ำเสมอ ในเวลาเดียวกันให้เหมือนกันในทุกวันเพื่อให้สารโดปามีนในสมองคงที่ อย่าเห็นว่าอาการดีขึ้นแล้วก็หยุดยาเองนะครับ ส่วนเรื่องอาหารก็ต้องรับประทานผักและผลไม้ให้เยอะ นั่นจะช่วยเรื่องอาการท้องผูกได้”

“มึงท้องผูกด้วยเหรอ” น้ำหวานหันไปถามจันทร์ หัวคิ้วขมวดมุ่น..เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายมันไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้นี่หว่า

“อือ” จันทร์พยักหน้าถี่ “พักหลังนี้ก็เป็นบ่อย ๆ..แต่ว่าหมอรู้ได้ยังไงเหรอครับ ผมว่าผมไม่ได้บอกนะ”

“เป็นอาการปกติของผู้ป่วยพาร์กินสันส่วนมาก เพราะร่างกายภายนอกขยับได้ช้าแล้ว ภายในก็ช้าไปด้วยเช่นกันครับ แล้วอีกอย่างคือคนไข้ต้องเริ่มออกกำลังกายได้แล้วนะครับ”

ทะเลจันทร์หัวเราะแฮะ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 35 ตนเคยออกกำลังกายแค่ในวิชาพละตอนเรียนหนังสือแค่นั้น หลังจากไม่ได้เรียนหนังสือแล้วสิ่งที่ทำให้เหนื่อยกับการขยับร่างกายก็คงมีแค่เรื่องเซ็กซ์เท่านั้น

คุณหมอยิ้มเอ็นดู “การออกกำลังกายนั้นสำคัญกับผู้ป่วยพาร์กินสันมากนะครับ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยลดอาการแข็งเกร็งและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย และยังช่วยเรื่องการเคลื่อนไหว การทรงตัว การเดิน แถมยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด การหายใจและระบบสมองด้วยครับ”

“ต้องออกกำลังกายแบบไหนบ้างเหรอครับ” น้ำหวานสอบถามต่อไป

“สำหรับผู้ป่วยพาร์กินสันควรจะมีกิจกรรมการออกกำลังกายที่หลากหลายครับ จากข้อมูลจะเห็นว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิก และการออกกำลังกายที่เน้นเพิ่มทักษะการเรียนรู้ สามารถช่วยป้องกันความเสื่อมของเซลล์สมอง และยังสามารถช่วยกลุ่มผู้ป่วยโรคความเสื่อมของระบบประสาทได้ด้วยนะครับ

การออกกำลังกายที่ช่วยเรื่องการเคลื่อนไหวสำหรับผู้ป่วยพาร์กินสันก็จะมี การเต้นรำ ทั้งแอโรบิกและแจ๊ซแดนซ์ โยคะ ไทเก๊ก ปิงปอง กอล์ฟ เทนนิส วอลเลย์บอล รวมถึงการเดินก้าวข้ามสิ่งกีดขวางด้วยครับ

และการออกกำลังกายที่จะช่วยเรื่องระบบภายในของคนไข้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระบบหัวใจและปอด จะเป็นการปีนเขาโดยใช้ไม้ค้ำ การว่ายน้ำด้วยจังหวะที่แตกต่างกัน และการเดินบนสายพานด้วยความชันและอัตราเร็วที่ต่างกันครับ”

“ตายแล้ว..” จันทร์เสียงสูงพร้อมกับหัวเราะแห้ง

“ในหนึ่งสัปดาห์ออกกำลังกายสัก 5 วัน ครั้งละไม่นาน 30-40 นาทีก็เพียงพอแล้วครับ นอกจากนั้นการหยุดพักร่างกายก็สำคัญไม่แพ้กัน คนไข้มีกิจกรรมอะไรที่ชอบทำเป็นพิเศษไหมครับ”

“ผมชอบวาดรูปกับทำขนมครับ”

“ดีเลยครับ ในช่วงเวลาว่างก็หมั่นทำไปเรื่อย ๆ นะครับ เพราะการนั่งนิ่งหรืออยู่เฉย ๆ ไม่ค่อยดีกับผู้ป่วยที่เป็นโรคพาร์กินสันนะครับ” หมอบอกกับจันทร์ก่อนจะหันไปหาน้ำหวาน “คนที่อยู่ใกล้ชิดก็สำคัญนะครับ ถึงแม้ว่าคนไข้จะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ก็ควรที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับโรคนี้ไปด้วยกัน ในปัจจุบันนี้มีข้อมูลให้ศึกษามากมาย และมีคลีนิกเฉพาะของผู้ป่วยด้วย ยังไง..หมอก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ”

ทะเลจันทร์ยิ้มกว้าง อันที่จริงแล้วก็ไม่ใช่ว่าตนไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่มีใครที่ไหนหรอกที่จะไม่กังวลใจเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากทำให้น้ำหวานมันเครียดไปมากกว่านี้ ในเมื่อมันเป็นไปแล้ว..เขาก็จะต้องอยู่กับมันให้ได้



/



“มึงหยุดทำหน้าเครียดสักทีจะได้ไหม” จันทร์ว่าเมื่อเห็นน้ำหวานนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดในระหว่างที่กำลังรอจ่ายเงินและรับยากลับบ้าน

เจ้าตัวถอนหายใจหนัก ๆ หนึ่งครั้ง “กูเป็นห่วงมึง”

“อย่าห่วงกูเลย” จันทร์บอกพร้อมกับตบหลังอีกฝ่ายเบา ๆ “กูอยู่ได้น่า”

“ตอนนี้มึงอยู่ได้เพราะอาการมึงยังไม่หนัก แล้วถ้ามันหนักขึ้นมาใครจะดูแลมึง” น้ำหวานใส่อารมณ์

“ใจเย็น ๆ สิ” จันทร์ว่ายิ้มขำ “วันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากันอีกทีแล้วกันเนอะ”

น้ำหวานทำท่าจะพูดอีกรอบแต่ก็ต้องโดนขัดขึ้นเมื่อพยาบาลเรียกชื่อของจันทร์ขึ้นมา เขาต้องคิดหาวิธีติดต่อไอ้เด็กทะเลนั่นให้ได้ เหตุผลไม่ใช่เป็นเพราะต้องการให้มันมาดูแลเพื่อนเขา แต่ถ้ามันรักจันทร์จริง ๆ มันก็จำเป็นที่จะต้องรู้เรื่องนี้ เพื่อที่จะได้ตัดสินใจในช่วงเวลานี้เลย

ชีวิตของทะเลจันทร์หลังจากวันนี้เป็นต้นไปมันจะไม่เหมือนเดิมไปตลอดกาล ในอนาคตข้างหน้าอีกสิบปีหรือยี่สิบปีมันก็แทบจะไม่ต่างอะไรกับคนพิการด้วยซ้ำ เพราะแบบนี้มันถึงจำเป็นต้องรู้และคิดตัดสินใจ ว่ามันจะเอายังไง...รักต่อไปหรือ...เลิกแล้วหายไปจากชีวิตของจันทร์





TBC…
ขอโทษที่หายไปนานอีกแล้วค่า หายไปนานแค่ไหนเราเองก็ยังจำไม่ได้เลยค่ะ 5555
เพราะชีวิตส่วนตัวของเราตอนนี้กำลังยุ่งมาก ๆ เลยค่ะ เวลาเหนื่อยมาก ๆ เราก็ไม่มีสติจะมาเขียนเลย
เนื่องจากว่าเรื่องนี้เราต้องศึกษาและค้นคว้าข้อมูลค่อนข้างมากอยู่
ถ้าทำตอนไม่มีสติเราเองก็อ่านไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แฮะๆๆ

ทะเลจันทร์หลังจากนี้ก็จะมีข้อมูลของโรคพาร์กินสันเข้ามาเกี่ยวอยู่เรื่อย ๆ
ถ้าเราผิดพลาดเรื่องรายละเอียดส่วนไหนไปก็ต้องขอโทษทุกคนล่วงหน้าเลยนะคะ

ต้องขอบคุณทุกคนที่อ่านและติดตามมาโดยตลอด
แม้จะไม่ได้มากมาย...แต่เราก็ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ
หลังจากนี้จะพยายามมาต่อให้เร็วที่สุด ไม่อยากให้ต้องรอนานกัน

แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ จุ๊บ~

 :L2: :pig4:



หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 10 หน้าที่ 2 [13/03/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-03-2019 15:18:59
 :L2: :pig4:

มาอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 11 หน้าที่ 2 [04/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 04-04-2019 19:22:22


11



อีก 2 อาทิตย์น้ำหวานต้องไปทำงานที่รัสเซียหนึ่งเดือนเต็ม ๆ ข่าวปีนี้ยังบอกด้วยว่าอากาศจะหนาวที่สุดในรอบ 35 ปี คนขี้หนาวอย่างเขาก็เลยต้องลากสังขารตัวเองไปซื้อเสื้อกันหนาวเพิ่มที่ห้างดัง

อันที่จริงเขาเพิ่งเคยรู้สึกไม่มีกะจิตกะใจไปทำงานไกลบ้านแบบนี้เป็นครั้งแรก เพราะห่วงจันทร์ที่เพิ่งจะป่วยด้วยโรคที่ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายได้ ร่างสูงใหญ่ยืนเลือกเสื้อไปก็ถอนหายใจหนัก ๆ ไป

อยากจะกลายเป็นคนไร้ความรับผิดชอบขึ้นมาก็วันนี้แหละ แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้วสู้ทำงานเก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ เผื่อว่าวันหนึ่งถ้าไอ้จันทร์ไม่มีใครขึ้นมาจริง ๆ เขาจะได้มีเงินมีทองมาดูแลมันได้จะดีกว่า

“พี่น้ำหวาน...”

พอเจ้าตัวหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เขากำลังคิดหาวิธีตามหาตัวอยู่พอดี

ทะเลยกมือขึ้นไหว้ “สวัสดีครับ”

“เออ ๆ” น้ำหวานรับไหว้ “แล้วนี่..มาทำอะไรเหรอ” เขาถามเพราะว่าตรงโซนที่เขาอยู่มันขายเสื้อกันหนาวที่ไม่มีทางได้ใส่ในประเทศนี้แน่ ๆ

“ผมวางแผนจะไปสวิสช่วงฤดูหนาวน่ะครับ”

คนอายุมากกว่าพยักหน้ารับ “มาคนเดียวเหรอ”

“มากับเพื่อนครับ มันรออยู่ตรงนั้น” ทะเลชี้ไปที่เพื่อนตัวเล็ก..มันกำลังพลิกดูป้ายราคาแล้วทำตาโตเท่าไข่ห่านอยู่ไม่ไกล

“งั้นเหรอ”

“พี่..มีอะไรหรือเปล่าครับ” คนอายุน้อยกว่าจับได้ถึงความผิดหวังในน้ำเสียงของอีกฝ่ายจึงเอ่ยถามไป

น้ำหวานถอนหายใจ “มันก็มีนั่นแหละ แต่พี่เกรงใจเพื่อนเรา”

“เรื่องอะไรเหรอครับ”

“เรื่องของเพื่อนพี่น่ะ..ไอ้จันทร์”

ทะเลเงียบงันไปชั่วครู่ “ผมคุยได้นะ ถ้าพี่ไม่ว่าอะไรเรื่องที่เพื่อนผมมันจะต้องไปนั่งฟังด้วย”

“เอ่อ…” คนอายุมากเหลือบมองเพื่อนของทะเลที่กำลังมองมาทางนี้ ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก...เป็นแบบเขาชอบเลย แต่นี่ก็ไม่ใช่เวลาที่ตนจะมาคิดแบบนั้น

“มันรู้จักพี่จันทร์นะครับ คงไม่เป็นอะไรหรอก”

น้ำหวานพยักหน้า “โอเค เดี๋ยวซื้อเสื้อผ้าเสร็จแล้วไปเจอกันนะ”

/

พวกเขานัดกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่น เห็นว่าเด็ก ๆ ยังไม่ได้กินข้าวกัน มื้อนี้เขาเลยเป็นเจ้าภาพเลี้ยงสักมื้อ น้ำหวานเลือกตรงส่วนที่เป็นโต๊ะเตี้ยนั่งกับพื้นที่มองออกไปจะเห็นสวนด้านนอก

“เป็ด นี่พี่น้ำหวานเพื่อนของพี่จันทร์”

“สวัสดีครับ” เป็ดยกมือขึ้นไหว้

น้ำหวานรับไหว้ตามมารยาท สายตาจ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่วางตา พอมองใกล้ ๆ แบบนี้แล้วก็ยิ่งรู้สึกอยากได้ แต่มันก็ยังไม่ใช่เวลานี้ไหมล่ะ! เขาด่าตัวเองในใจ

“เห็นว่าเรียนถ่ายรูปกันเหรอ” เขาเริ่มจากการถามไถ่เรื่องทั่วไปก่อน ไม่อยากให้เด็กมันเกร็งกัน

“ใช่ครับ” ทะเลตอบ ก่อนจะย้อนถามบ้าง “แล้วพี่ทำงานอะไรเหรอ”

“อ่า...เป็นผู้กำกับน่ะ”

“หืม มีเรื่องไหนที่ผมพอจะรู้จักบ้างไหมเนี่ย”

“ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเธอจะรู้จักหรือเปล่า” น้ำหวานว่าก่อนจะบอกชื่อหนังที่เป็นฝีมือกำกับของเขาไป ทะเลตาโตอย่างตื่นเต้น ในขณะที่เป็ดดูท่าจะตื่นเต้นมากกว่า เจ้าตัวร้องเสียงดังขึ้นมาอย่างลืมตัว ก่อนจะรีบปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน

“เหี้ยนี่เสียงดังโว้ย”

“พี่! ผม..ผมชอบหนังที่พี่กำกับมากเลย” เป็ดเมินคำด่าของเพื่อน เขาแทบจะพุ่งตัวเข้าไปจับมือคนตรงหน้าให้ได้ ดีที่ถูกทะเลคว้าคอเอาไว้ได้ทัน

“ขอบใจ..” น้ำหวานตอบพลางยิ้มขำ

ทะเลดึงมันให้นั่งลงกับพื้นเหมือนเดิม “ขอโทษที่มันเสียงดังนะพี่”

“ไม่เป็นไร ๆ” หลายวันมานี้เขาเคร่งเครียดมาตลอด พอเจอเด็กหนุ่มน่ารักที่สดใสแบบนี้แล้วก็รู้สึกผ่อนคลายดีเหมือนกัน

“ผมตามข่าวพี่ตลอดเลยนะ” เป็ดพูดต่อ เจ้าตัวขมวดคิ้วพร้อมกับเอียงหน้าน้อย ๆ “พี่ไม่เห็นจะเหมือนที่เขาเขียนในข่าวเลย”

“ยังไงเหรอ”

“เขาว่าพี่ปากไม่ดีแล้วก็ไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น”

น้ำหวานหัวเราะหึในลำคอ “ก็เป็นตามที่ได้ยินนั่นแหละ พี่จะดีเฉพาะกับคนที่ควรดีด้วยเท่านั้น”

“หื้อออ~” คนอายุน้อยส่งเสียงแปลก ๆ ออกมา มองคนที่เป็นไอดอลของตัวเองด้วยสายตาระยิบระยับ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม  “พี่นี่...เท่อย่างที่ผมคิดเอาไว้ไม่มีผิดเลย”

ทะเลเหลือบมองไอ้เพื่อนตัวเล็ก รู้สึกแปลกใจ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันติดตามผลงานของคนตรงหน้า หันไปทางอีกฝ่ายก็ยิ้มให้กับไอ้เป็ด แต่สายตาที่มองมันกลับทำให้เขาขนลุก

“แล้วพี่มีอะไรจะพูดกับผมเหรอครับ” เขาเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีเมื่อรู้สึกว่าไอ้เป็ดเริ่มไม่ปลอดภัยแล้ว

คนถูกถามเบนสายตาไปที่อีกคน “รู้ไหมว่าจันทร์มันไม่ค่อยสบาย”

“ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ก็คิดว่าพี่เขาไม่ปกติ” ทะเลตอบ

“เธอคิดว่ามันผิดปกติตรงไหนบ้าง”

เด็กหนุ่มหลุบตาลงมองฝ่ามือของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายที่รอฟังคำตอบของเขาด้วยใบหน้านิ่ง “ที่ผมเห็นก็ พี่เขามือสั่นเป็นบางครั้งครับ”

“แค่นั้นเหรอ”

ทะเลเม้มปาก ลังเลว่าจะพูดดีไหม “คือ...เวลาที่เราทำกัน ตอนที่พี่เขาอยู่ด้านบน เหมือนกับว่า...ขยับได้ไม่เหมือนก่อน”

เป็ดหน้าแดงเมื่อได้ยินแบบนั้น

“อยากรู้ไหมว่าจันทร์มันป่วยเป็นอะไร”

ทะเลเงียบไป แน่นอนว่าเขาอยากรู้ เพียงแต่ไม่เข้าใจว่าพี่มันจะบิ้วอะไรนักหนา ตอนนี้เขาอยากรู้จนอกจะแตกตายอยู่แล้ว

“มันร้ายแรงมากเลยเหรอพี่” เป็ดเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าเป็นกังวล ถึงแม้ว่าจะเจอพี่จันทร์แค่ครั้งเดียว แต่เขาก็ชอบอีกฝ่ายนะ

“สำหรับพี่ที่เป็นเพื่อนกับมัน ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนักหรอก”

“พี่บอกผมมาเลยเถอะ” เด็กหนุ่มบอกเสียงห้วน

“โอเค ๆ ใจเย็นก่อน” น้ำหวานเข้าใจว่าตัวเองก็พูดโยกโย้ไม่เข้าท่า เพียงแต่เขาอยากดูท่าทีของไอ้เด็กนี่สักหน่อย ว่ามันจะมีอาการอะไรบ้างเมื่อรู้ว่าทะเลจันทร์มันป่วย

“รู้จักโรคพาร์กินสันหรือเปล่า”

หัวคิ้วของทะเลขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาส่ายหน้าบ่งบอกว่าไม่รู้จักโรคนี้มาก่อน

“ใช่ที่นางเอกหนังเรื่อง Love & Other Drugs เป็นหรือเปล่าครับ”

“ใช่” น้ำหวานหันไปตอบเพื่อนตัวน้อยของทะเล

“โรคอะไรวะ”

“กูก็ไม่แน่ใจนะ” เป็ดตอบ “เท่าที่จำได้คือเป็นโรคที่รักษาไม่หาย”

ทะเลหันกลับไปหาน้ำหวานทันที เขาพูดอะไรไม่ออก คำถามทุกอย่างมันมาจุกอยู่ที่ลำคอ

“ก็อย่างที่เพื่อเธอบอกนั่นแหละ...โรคนี้ไม่มีทางรักษาหาย แต่มันก็ไม่ได้ถึงตายหรอกนะ” คนอายุมากกว่าจ้องใบหน้าของเด็ก
หนุ่มที่ขมวดคิ้วมุ่นและฉายแววไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดอย่างเห็นได้ชัด

“พี่จะพูดสั้น ๆ ให้เธอเข้าใจได้ง่ายนะ พาร์กินสันคือโรคที่เกิดจากการเสื่อมของสมองชนิดหนึ่ง หรือที่คนไทยทั่ว ๆ ไปรู้จักกันในชื่อว่าสันนิบาตลูกนกนั่นแหละ พอจะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนใช่ไหม”

“ครับ”

“หลัก ๆ เลยก็จะมีอาการสั่น เคลื่อนไหวช้า ร่างกายแข็งเกร็ง และการทรงตัวขาดสมดุล” น้ำหวานเว้นวรรเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “ตอนนี้มันเพิ่งเริ่ม แต่ในไม่ช้าก็เร็ว..จันทร์มันก็จะสูญเสียการเคลื่อนไหว เรื่องง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันมันก็ทำไม่ได้ เธอจะต้องคอยเช็ดอึเช็ดฉี่มัน อาบน้ำแต่งตัวให้ รอยยิ้มที่เคยมีให้เธอก็จะไม่มีอีก หรืออาจจะถึงขั้นสมองเสื่อม...”

“...”

“คนที่ป่วยเป็นโรคนี้ต้องมีคนที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เธอคิดว่าจะดูแลมันได้ไหม ตอนนี้จันทร์มันคงยังสามารถดูแลตัวเองได้ แต่ในอนาคต..อาจจะสิบ ยี่สิบ หรือสามสิบปี เธอจะสามารถละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อมาดูแลมันได้เหรอ”

“ผม…”

“ยังไม่ต้องให้คำตอบตอนนี้ก็ได้ ลองเอากลับไปคิดให้ดี ไปหาข้อมูลของโรคนี้อ่านให้ละเอียด นี่มันชีวิตของเธอ..พี่ไม่ได้บังคับให้เธอมารับผิดชอบชีวิตของเพื่อนพี่ ตัวเธอเองยังต้องเดินทางไปอีกไกล อย่าคิดอะไรสั้น ๆ ต้องมองให้มันยาวกว่านี้ เข้าใจนะ”

ทะเลพยักหน้ารับ ทั้งที่ในใจตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่จะคิดปฏิเสธการดูแลคนที่เขารักเลยด้วยซ้ำ เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะหาข้าวหาปลาให้กิน อาบน้ำแต่งตัวให้หอมฟุ้ง หรือแม้แต่ดูแลเรื่องการขับถ่ายที่หลายคนไม่สามารถทำได้

ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน...ทะเลเคยดูแลย่าในตอนที่ท่านป่วยหนัก เรื่องที่จะต้องดูแลคนป่วยน่ะเขาเคยผ่านมันมาหมดแล้ว

คนอย่างเขาน่ะ...ไม่ใช่คนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อหรอกนะ

/

“วันนี้จะไปค้างบ้านน้องอีกแล้วเหรอลูก” คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกชายคนเดียวที่กำลังจดว่าในแผนกทำขนมของเขามีอะไรขาดบ้าง

ทะเลจันทร์เงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย “แม่รู้ได้ยังไงเหรอครับ”

“เพราะวันนี้หนูดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษมั้งครับ” ท่านบอกพร้อมกับยิ้ม

คนถูกแซวทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ

“หนูไม่ลองชวนน้องมาบ้านเราบ้างล่ะครับ”

“ไม่ดีกว่าครับ จันทร์เกรงใจแม่” ลูกชายคนเดียวตอบโดยไม่มีลังเล ก็ในเมื่อทุกครั้งที่เขากับอีกฝ่ายเจอกันก็มีแต่เรื่องแบบนั้น

“ไม่ต้องเกรงใจ ๆ จะทำอะไรกันแม่ก็ไม่ว่าหรอกนะครับ”

จันทร์หัวเราะ “แม่ก็..”

“แหม คนเป็นแฟนกัน ถ้าไม่ทำเรื่องอย่างนั้นแล้วจะไปทำอย่างไหนได้ล่ะ”

“แม่เข้าใจผิดแล้ว ผมกับเด็กนั่น..ไม่ได้เป็นแฟนกัน”

คนสูงอายุแปลกใจที่ได้ยินอย่างนั้น “แล้วหนูเป็นอะไรกันเหรอลูก”

“เอ่อ…” จันทร์ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดีถึงจะดูซอฟที่สุด แต่เขาไม่อยากให้แม่เข้าใจผิดไปแบบนั้น เพราะกลัวว่ามันจะวุ่นวายในภายหลัง

“จะเรียกว่าเพื่อนกันก็ได้ครับ”

“เพื่อนกัน? แต่เพื่อนกันเขาก็ไม่นอนด้วยกันหรือเปล่าครับ”

จันทร์หลบตาพร้อมกับเม้มปากเงียบไป

รดาเดินเข้าไปยืนใกล้กับลูกชาย ก่อนจะยกมือขึ้นลูบผมยาวนิ่มมือด้วยความรัก “ถ้ามีอะไรในใจ..พูดให้แม่ฟังบ้างก็ได้นะ”

ทะเลจันทร์ช้อนตาขึ้นมองแม่..คนที่พร้อมจะเข้าใจเขาตลอดเวลา

“ก็อย่างที่จันทร์บอกน่ะครับ เราไม่ได้คบกัน แต่เรามีความสัมพันธ์กัน”

“ที่เขาเรียกกันว่าเพื่อนนอนน่ะเหรอ”

“ครับ” จันทร์พยักหน้า

คนเป็นแม่ถอนหายใจ “แม่เข้าใจนะ แต่น้องเขาอยากจะเป็นแค่นั้นกับลูกแม่หรือเปล่าครับ”

ลูกชายคนเดียวสะอึกเมื่อถูกแม่ย้อนถามเช่นนั้น เขาส่ายหน้าไปมาก่อนจะตอบ “...ไม่ครับ”

“แม่เองก็ไม่อยากจะไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของหนูนะครับ แต่แม่ก็ไม่อยากให้จันทร์ของแม่ทำอะไรลงไปแล้วต้องมารู้สึกผิดในภายหลังนะ”

ทะเลจันทร์หมุนตัวแล้วกอดเข้าที่เอวของแม่ ซุกหน้าลงกับหน้าท้องของท่านพร้อมกับสูดกลิ่นกายของแม่ที่มักจะทำให้เขาสบายใจเสมอ

“จันทร์รู้ แต่การที่จันทร์ทำแบบนี้..บางทีมันอาจจะทำให้รู้สึกผิดน้อยกว่าการที่จันทร์เลือกอีกทางหนึ่งก็ได้นะครับ”

“แล้วน้องเขาดีกับลูกแม่ไหม”

ใบหน้าสวยยิ้มบางเมื่อนึกถึงสิ่งที่ทะเลทำให้มาตลอดเวลาที่ได้รู้จักกัน

“ดีสิครับ ดีมาก ๆ” ดีมากเกินไปจนเขารู้สึกแย่ที่รั้งอีกฝ่ายไว้ทั้งที่ให้ในสิ่งที่ทะเลต้องการไม่ได้

“งั้นน้องเขาไม่ดีที่ตรงไหน หนูถึงไม่เลือกล่ะครับ”

“คนที่ไม่ดีน่ะ…” เจ้าตัวหยุดพูดแล้วเงยหน้าขึ้นทั้งที่ยังไม่คลายอ้อมกอดเกยคางไว้ที่ท้องแม่ “...คือจันทร์เอง”

รดาลูบศรีษะกลมของจันทร์ หัวใจของคนเป็นแม่สั่นไหวเมื่อเห็นแววตาเศร้าของลูกสุดที่รัก คนแก่อายุปาเข้าไปเกือบ 70 อย่างเธอผ่านโลกมามากพอที่จะมองออกว่า..ลูกชายของเธอรู้สึกอย่างไรกับทะเล เธอไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งที่จันทร์ได้เจอคนที่ดีแล้ว แต่กลับเลือกที่จะปฏิเสธหัวใจตัวเองอยู่แบบนี้

“หนูทำแบบนี้แล้วไม่รู้สึกทรมานบ้างเหรอลูก”

จันทร์ไม่ตอบแต่กลับซุกหน้าลงที่เดิม แม่มองออกเสมอว่าเขาคิดและรู้สึกอย่างไร เขาเองก็เป็นคนที่มีความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป ความรู้สึกที่มีต่อทะเล..เขาจะกลืนมันลงไป กลืนมันให้ลงไปลึกที่สุด แล้วพร่ำบอกกับตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ว่าห้ามไปหวั่นไหวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเด็ดขาด

.
.
.



หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 11 หน้าที่ 2 [04/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 04-04-2019 19:29:53
.
.
.

หลายวันมานี้ทะเลค้นหาข้อมูลของโรคพาร์กินสันตามที่พี่น้ำหวานได้บอกเอาไว้ เท่าที่ได้ศึกษาดูแล้ว โรคนี้แม้ไม่ร้ายแรงจนถึงกับเสียชีวิต แต่ก็เป็นโรคที่ทำลายความสุขของคนที่เป็นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ทะเลเอนกายพิงเก้าอี้พร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไอ้เขาน่ะไม่ได้เครียดที่จะต้องดูแลอีกฝ่ายหรอก ตัวก็เล็กแค่นั้น..ไม่ต้องใช้กำลังในการดูแลมากเลย แต่ดูท่าทางพี่จันทร์จะไม่อยากให้เขาดูแลเนี่ยสิ

ทะเลจันทร์เป็นคนดื้อที่มีปมในใจ อีกฝ่ายตั้งกำแพงไว้สูงเกินกว่าที่เขาจะสามารถปีนข้ามไปได้ มีทางเดียวคือต้องค่อย ๆ กะเทาะเข้าไป โดยที่ไม่ให้กำแพงนี้พังครืนลงมาอย่างไม่เป็นท่า

แต่เจ้าตัวก็คอยแต่จะซ่อมแซมรอยที่เขากะเทาะเอาไว้ ไม่ยอมให้ทะเลเข้าไปโดยง่าย ถึงมันจะยากสักแค่ไหน...ก็จะไม่ยอมแพ้ เขาจะอดทนรอวันที่อีกฝ่ายเปิดใจให้

คนที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ได้ยินเสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านก็รู้แล้วว่าทะเลจันทร์มาถึงแล้ว เขาลุกขึ้นยืดเส้นยือสายหลังจากที่นั่งหลังขดหลังแข็งหาข้อมูลอยู่นาน ก่อนจะเดินไปรับที่หน้าบ้าน

“อะ” มือขาวยื่นถุงในมือไปให้คนที่ยืนพิงกรอบประตูรออยู่

“อะไรเหรอครับ”

“รับไปสิ”

ทะเลรับแล้วเปิดออกดูก็เห็นว่าเป็นขนมเค้กหน้าตาน่ากินทีเดียว เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย

“เอามาฝาก พอดีวันนี้ลองสูตรใหม่”

“อ่า..ขอบคุณครับ”

จันทร์ยิ้มตอบก่อนจะเบียดตัวผ่านเข้าไปในบ้าน แต่ก็โดนกอดเข้าที่เอวเสียก่อน อีกฝ่ายแนบหน้าผากลงกับลาดไหล่บางภายใต้เสื้อยืดสีขาวเนื้อนิ่ม

“เป็นอะไรเหรอ”

“เปล่าครับ..แค่คิดถึงพี่”

คนอายุมากกว่าหัวเราะในลำคอด้วยความเอ็นดู เขายกมือขึ้นมาขยี้ผมของเด็กหนุ่ม “จ้า ๆ ก็มาหาแล้วนี่ไง”

ทะเลดันตัวขึ้นยืนตรงก่อนจะจับเอวบางหมุนตัวอีกฝ่ายให้หันมาหา ก่อนจะหอมลงที่แก้มเนียนเบา ๆ “คิดถึงจัง”

“อ้อนอะไรเนี่ย” จันทร์ตบแก้มของทะเลเบา ๆ “ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วันเองนะ”

ทะเลไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มบาง พร้อมกับมองใบหน้าสวยที่ยังดูเด็กกว่าอายุจริงอยู่มาก เขาเกลี่ยผมยาวที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้มใสไปทัดที่ใบหู

“พี่กินข้าวหรือยัง”

“เรียบร้อยแล้ว เธอล่ะ”

ทะเลพยักหน้า “งั้นไปกินเค้กฝีมือพี่ด้วยกันดีกว่า” เขาชอบขนมที่อีกฝ่ายทำ เพราะทุกอย่างจะมีรสชาติที่ไม่หวานมาก มือใหญ่จับข้อมือบางของอีกคนให้เดินตามมา

ทะเลจันทร์มองเด็กหนุ่มด้วยสายตาไม่เข้าใจนัก วันนี้ทะเลดูแปลกไปนิดหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไรนัก ช่วงนี้เขาสองคนค่อนข้างเจอกันบ่อย เพราะหมอนี่ปิดเทอม แต่อีกไม่กี่วันก็เห็นว่าจะไปสวิสอีกหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ

“วันนี้เป็นเค้กอะไรเหรอครับ”

“เป็นเค้กมะตูมน่ะ พวกคุณลุงคุณป้าชอบถามหากันเหลือเกิน เลยลองทำดู”

พวกเขาสองคนนั่งกันที่พรมหน้าทีวี บนโต๊ะเตี้ยมีจานและส้อมวางไว้เรียบร้อย จันทร์ค่อย ๆ แกะเค้กวางบนจานให้อีกฝ่ายชิม

“เป็นไง”

“อร่อยดีครับ หอม ไม่หวานเกินไป เนื้อเค้กก็ฉ่ำดีด้วย” ทะเลโตมากับย่า นั่นเลยทำให้เขาไม่ได้มีปัญหากับการกินมะตูมเลย ออกจะชอบด้วยซ้ำ

“แปลกนะ ปกติแล้วพวกเด็ก ๆ มักไม่ชอบกินอาหารคนแก่แบบนี้”

ทะเลเหลือบตามอง เขายิ้มมุมปาก “ไม่ใช่ชอบแค่อาหารคนแก่นะครับ คนที่แก่กว่าผมก็ชอบ”

จันทร์สำลักขนมที่เพิ่งตักเข้าปากไป ไม่คิดว่าไอ้เด็กนี่จะมาไม้นี้ เขามองปะหลับปะเหลือกใส่ใบหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย ไม่อยากจะไปต่อคำอะไรอีกเพราะไม่รู้ว่าจะโดนแบบเมื่อครู่อีกเมื่อไหร่

ทะเลหัวเราะในลำคอเสียงเบาเมื่อถูกมองอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก เขากินขนมต่อไปในขณะที่ก็แอบมองอาการของอีกฝ่ายไปด้วย เท่าที่รู้มาคือพี่จันทร์เพิ่งเริ่มยาได้ไม่นานนัก

“มองอะไรนักหนา” จันทร์ถาม

“มองคนสวยครับ”

คนถามถลึงตาโตเมื่อได้ยินคำตอบ วันนี้มันเป็นอะไรกัน..หยอดได้หยอดดี

“เดี๋ยวผมล้างเองพี่”

คนอายุน้อยกว่าคว้าข้อมือของอีกฝ่ายที่กำลังจะลุกหนี ในตอนแรกจันทร์ก็ไม่ยอม แต่ก็ถูกเด็กที่ตัวใหญ่กว่าดึงจานออกจากมือแล้วดึงตัวเขาให้ไปคร่อมที่หน้าตักอีกฝ่ายแทน แล้วกอดที่เอวผอมไว้หลวม ๆ

“ยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ” จันทร์ว่าเมื่อทะเลกดท้ายทอยของเขาให้ก้มลงไปหมายจะจูบ

“แค่จูบเองครับ” เด็กหนุ่มกระซิบ

พวกเขาทั้งคู่จูบกันบ่อยจนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายชอบจูบแบบไหน แต่รอบนี้เป็บรสหวานที่มีกลิ่นของมะตูมอบอวลเต็มไปหมด มันประหลาดจนคนอายุมากกว่าหลุดขำ

“หัวเราะอะไรของพี่เนี่ย” ทะเลเอ่ยถาม

“จูบรสนี้แปลกดี ไม่เคยเจอมาก่อนเลย”

ทะเลที่ได้ยินอย่างนั้นก็อดที่จะหัวเราะตามไม่ได้ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาสองคนหัวเราะด้วยกันแบบนี้ จับจ้องใบหน้าสวยของคนที่นั่งอยู่บนตักด้วยแววตาลึกซึ้ง

จันทร์กดจูบและคลอเคลียอยู่กับริมฝีปากของร่างสูงด้วยความเผลอไผล

“พี่…” ทะเลเรียกเสียงเบา

“หืม”

“ขอให้ผมได้ดูแลพี่ได้ไหม”

จันทร์ชะงักไปเล็กน้อย มีความคิดแว๊บเข้ามาว่าหรือเด็กนี่อาจจะรู้ว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า แต่ก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป ก่อนจะย้อนถาม

“ทำไมถึงขออย่างนั้นล่ะ”

ทะเลส่ายหน้าไปมา “ไม่มีอะไรหรอกครับ”

“เอาเวลาไปดูแลตัวเองดีกว่านะ” จันทร์ว่าก่อนจะจุ๊บลงที่ปากอีกคนเบา ๆ

“ผมดูแลคนแก่เก่งนะจะบอกให้” ถึงจะถูกย้อนจนหน้าชาแต่ทะเลก็กลบเกลื่อนมันได้ดี “ก่อนที่ยายจะเสีย ช่วงที่ไม่ได้ไปเรียน..ผมทำให้ท่านทุกอย่างเลยด้วย”

จันทร์ยิ้มบาง ใช้มือเสยผมอีกฝ่ายขึ้นไป “ฉันรู้ว่าเธอเป็นเด็กดี เด็กดีก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของคนที่แก่กว่านะรู้ไหม”

เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนสองคน ทะเลอึดอัดกับสิ่งที่เพิ่งรู้มา แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยกับอีกฝ่ายอย่างไรดี ทั้งหนักใจที่ไม่สามารถทำอะไรกับคนที่ดื้อแพ่งอย่างพี่จันทร์ได้ตอนนี้อีก

คนอายุน้อยกว่ากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แนบแก้มลงกับหน้าอกของอีกฝ่าย จันทร์รู้สึกว่าทะเลดูกังวลใจอะไรบางอย่าง เลยยกแขนขึ้นโอบรอคออีกฝ่ายเอาไว้

“อย่าคิดอะไรมากเลยนะ” เขาปลอบ

ทะเลหลับตาลง ปล่อยให้อีกฝ่ายกอดและลูบหัวไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ที่ย่าเสียไปก็นานแล้วที่ไม่มีใครปฏิบัติกับเขาแบบนี้ เจ้าตัวได้แต่คิดว่า ‘จะทำอย่างไรดีเพื่อให้คนคนนี้อยู่กับตนไปตลอดชีวิตที่เหลือ’

“เพลินเลยนะไอ้หนู”

คนถูกแซวว่าเป็นไอ้หนูลืมตาขึ้นพร้อมกับดวงตาวาวโรจน์ เขาผละออกแล้วเงยหน้าขึ้นจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่ชอบใจนัก

“ผมไม่ใช่ไอ้หนูสักหน่อย”

“เหรอ แล้วคนที่หลับตาพริ้มเหมือนเด็กเมื่อกี้มันคือใครกันน้า~” จันทร์เอียงคอพร้อมกับยิ้มล้อ

ทะเลยิ้มมุมปาก “ลองไหมล่ะว่าผมมันไอ้หนูอย่างที่พี่ว่าจริงหรือเปล่า” ทะเลบอกพร้อมกับอุ้มอีกฝ่ายขึ้นแล้ววางลงกับโซฟาด้านหลัง

“หวา~ กลัวแล้วจ้า” จันทร์ล้อเลียนอย่าไม่กลัว เจ้าตัวหัวเราะคิกคัก แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อก็ถูกอีกคนปิดปากเข้าเสียก่อน

กว่าที่ทะเลจะถอนปากออก ก็ทำเอาคนอายุมากกว่าหน้าแดงเพราะหายใจไม่ทัน ริมฝีปากเจ่อแดงอ้าออกเล็กน้อยเพื่อกอบโกยอากาศเข้าไป สายตาปรือปรอยมองคนที่เขาเพิ่งเรียกไปว่า ‘ไอ้หนู’ ด้วยแรงอารมณ์จากภายใน เพราะทะเลไม่ได้จูบอย่างเดียว แต่ฝ่ามือใหญ่กลับลูบไล้ไปทั่วร่างกายเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของเขา

“พี่น่ะ..ชอบแบบดิบ ๆ นี่เนอะ”

จันทร์หัวเราะในลำคอ “เอากันมากี่รอบแล้ว ก็น่าจะรู้ ๆ กันอยู่”

ฝ่ามือบางขยุ้มคอเสื้อของเด็กหนุ่มลงมาเพื่อจูบอีกรอบ ก่อนจะเคลื่อนมือลงไปกอบกุมจุดสำคัญของทะเล เจ้าตัวกระหยิ่มในใจเมื่อคนด้านบนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกรุกก่อน เขาคลึงจนมันพองตัวแข็งเต็มมือ

ทะเลดันตัวขึ้นจับคนอายุมากกว่าถอดเสื้อยืดออกจากตัว

“จะทำตรงนี้หรือไง ไม่เกรงใจย่าเหรอ” จันทร์ย้อนถามเสียงแผ่ว แต่แววตากลับแสดงความล้อเลียน

ทะเลเหลือบมองรูปของย่าที่แขวนบนผนัง เจ้าตัวรู้สึกผิดขึ้นมาก็เลยฉุดคนอายุมากกว่าขึ้นยืนแล้วอุ้ม

จันทร์ที่ไม่ได้ตั้งตัวคว้าคออีกฝ่ายแทบไม่ทัน เขาหัวเราะขันเมื่อคิดว่าทะเลคงจะเกรงใจจริง ๆ เลยยอมเปลี่ยนที่ทั้งที่อารมณ์กำลังโหมแรงขนาดนี้

พอเข้าไปในห้อง ทะเลก็วางอีกฝ่ายที่หัวเราะไม่หยุดลงกับเตียง แล้วยืนมองคนที่อายุมากกว่าด้วยสายตานิ่ง ๆ เพราะว่าหมันไส้เลยอยากจะแกล้งคนที่เส้นตื้นกับอะไรแปลก ๆ อย่างทะเลจันทร์นิดหน่อย

“โอย..” คนถูกจ้องกุมท้องพร้อมกับหอบหายใจด้วยความเหนื่อย เมื่อเห็นว่าทะเลยืนมองนิ่งก็รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไปขัดอารมณ์ของเด็กหนุ่มวัยกำลังกลัดมัน เขายันตัวขึ้นนั่งที่ขอบเตียง

“โกรธเหรอ” จันทร์ถาม ใบหน้าสวยยังคงอมยิ้มอยู่ เมื่อเห็นว่าทะเลไม่ตอบเจ้าตัวก็จับเข้าที่เป้าของเด็กหนุ่ม พอสัมผัสดูก็รู้ว่ามันหมดอารมณ์ไปแล้ว “เดี๋ยวพี่ชายคนนี้จะปลอบใจน้องชายของเธอเป็นการไถ่โทษเองนะ

“เดี๋ยวพี่! ยังไม่ได้อาบน้ำเลย”

จันทร์เงยหน้า เลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง

“ไปอาบน้ำกันก่อนเนอะ” ทะเลชวนพร้อมกับดึงแขนของร่างที่เล็กกว่าให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับถอดเสื้อผ้าให้

คนอายุมากกว่ายิ้มขำ แต่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

/

หลังจากที่อาบน้ำกันจนสะอาดสะอ้าน ทะเลจันทร์กดร่างสูงใหญ่ให้นอนหงายบนเตียง ก่อนเจ้าตัวจะบริการปลอบใจน้องชายของทะเลให้อย่างดี ริมฝีปากสวยขบเม้มตามท่อนเนื้อร้อนอย่างอ้อยอิ่ง เขาเหลือบตาขึ้นมองเจ้าของมันก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ทะเลมองเขาด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความต้องการที่ล้นปรี่ คิ้วขมวดกันจนปม ดวงตาฉ่ำวาว และนั่นทำให้เขาเกิดความย่ามใจ

“พี่..ผมทนไม่ไหวแล้ว” ทะเลบอก เขายันตัวมองดูการกระทำของอีกฝ่ายแบบไม่คลาดสายตา

“อดทนหน่อยสิ”

“พี่แกล้งผมอีกแล้วนะ”

“เป็นลูกผู้ชายมันต้องอดทนหน่อย” จันทร์ว่าหยอกเย้า ยอมรับก็ได้ว่าแกล้งทะเล เขาครอบปากลงไปรูดรั้งความเป็นชายของเด็กหนุ่ม แต่เมื่อทะเลทำท่าจะปลดปล่อยออกมาเขาก็หยุด เปลี่ยนมาเป็นเลียนิดแตะหน่อยทรมานใจเจ้าของมันไปเรื่อย กว่าที่จะปล่อยให้เด็กหนุ่มวัยกำลังกลัดมันปลดปล่อย เวลาก็ผ่านไปหลายนาทีแล้ว

ทะเลกัดฟัน “หันก้นพี่มา”

“หืม?”

“หันก้นพี่มาทางผม”

“ไม่” จันทร์ส่ายหน้า เขารู้ว่าเด็กนี่ตั้งใจจะทำอะไร และเขาก็ไม่ชอบมันเอาเสียเลย แต่ทะเลก็ดื้อเกินกว่าที่เขาจะสู้แรงไหว สุดท้ายเขาก็ถูกพลิกให้นอนคว่ำหน้า ก้นถูกยกขึ้นสูงอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่าย

จันทร์หน้าแดงด้วยความอาย เจ้าตัวซุกหน้าลงกับหมอนเมื่อลมหายใจร้อนเป่าอยู่ที่ปากทางด้านหลัง เขาสะดุ้งเมื่อฝ่ามือใหญ่จับแก้มก้นทั้งสองข้างแหวกออก

“พี่อย่าขยับสิ” ทะเลบอกกลั้วะหัวเราะเมื่อเจ้าของก้นกลมขยับมันส่ายหนีเขาไปมา ไม่ได้รู้ตัวเลย..ว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นการยั่วเขาโดยไม่รู้ตัว

“จะทำก็รีบ ๆ ทำ มัวแต่จ้องอยู่นั่นแหละ!” จันทร์โวยวายด้วยความอาย

“ได้ครับ ผมจะปลอบใจพี่ชายคนนี้อย่างดีเลยนะ” เด็กหนุ่มย้อนคำที่อีกฝ่ายเคยพูดไว้

เมื่อเรียวลิ้นร้อนแตะลงกับจุดอ่อนไหว ทะเลจันทร์ก็กดหน้าผากของตัวเองลงกับหมอนและใช้มือกำมันไว้แน่น เขาไม่ชอบการกระทำแบบนี้ เพราะมันทำให้สติของเขาเตลิด และควบคุมตนเองไม่ได้

“อย่ากลั้นเสียงสิครับ”

“ไม่ อ๊ะ!” ทะเลจันทร์ใช้มือปิดปากแน่น เขาส่ายหน้าไปมา

ทรมาน… รู้สึกดีเกินไปจนทรมาน

“พี่ห้ามจับของตัวเองนะ”

จันทร์ที่กำลังเอื้อมมือไปสัมผัสส่วนนั้นของตัวเองเพื่อที่จะให้เสร็จเร็วขึ้นหยุดมือทันทีที่โดนทัก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตนจะต้องเชื่อไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่ด้วย

ทะเลฝังหน้าลงกับบั้นท้ายเล็กกลมกลึง อย่าหาว่าอวยกันเลย จุดอ่อนไหวของคนที่เขารักนั้นสวยอย่างไม่มีที่ติ รอยจีบสีชมพูเล็ก ๆ ขมิบเข้าหากันถี่เมื่อตนใช้ลิ้นสะกิดมัน เขารู้ว่าพี่จันทร์ต้องการจนทนไม่ไหวแล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะเอาคืนที่อีกฝ่ายแกล้งไว้ด้วยการอ้อยอิ่งอยู่กับช่องทางรักสีหวาน

“พอ..พอได้แล้ว” คนที่กำลังโก้งโค้งพูดอย่างยากลำบาก สะโพกเล็กกระตุกเป็นจังหวะ เขาต้องการ..ต้องการให้ทะเลสอดใส่เข้ามาจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว!

“หยุดเถอะ..ฉันทนไม่ไหวแล้ว…”

“เป็นลูกผู้ชายก็ต้องอดทนสิครับ”

จันทร์กัดปากตัวเอง ถ้าเป็นเวลาปกติเขาคงจะตบหัวไอ้เด็กนี่มันสักที

“ถ้าพี่ไม่กลั้นเสียง..ผมจะยอมตามใจพี่นะ” เด็กหนุ่มบอก เขาเห็นอีกฝ่ายมีแววลังเล เขายิ้มให้ก่อนจะทำต่อ

คนอายุมากกว่ากัดปากแน่นกว่าเดิม ความคิดในหัวตีกันไปมาว่าจะตัดสินใจยังไงดี สุดท้ายแล้ว..จันทร์คิดในใจว่า ‘ช่างแม่ง’ แล้วยอมปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสของทะเล ละทิ้งความอาย ปลดปล่อยเสียงครางหวานหูไปตามแรงอารมณ์ของตนเอง

ทะเลพอใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาดันตัวขึ้นพร้อมกับสอดนิ้วเข้าไปเพื่อนวดผ่อนคลายให้ช่องทางสวยพร้อมรับตัวตนของเขาเข้าไป ทะเลโน้มตัวลงไปพรมจูบตามแนวกระดูกสันหลังที่นูนขึ้นมา

“พี่ผอมเกินไปแล้วนะ” ทะเลพูดขึ้นมา เขาอยากให้พี่จันทร์มีเนื้อมีหนังมากกว่านี้ แต่อีกฝ่ายก็กินน้อยเหลือเกิน

จันทร์ไม่ได้ตอบอะไร เขายันข้อศอกกับที่นอนนุ่ม ทะเลกดนิ้วลงย้ำกับจุดอ่อนไหวด้านในของตนมากเกินไปแล้ว

“พอ..พอแล้ว ไม่ไหวแล้ว...” เขาพูดเสียงพร่า

“หืม อะไรนะครับ”

“พอได้แล้วโว้ย! ใส่เข้ามาสักที” จันทร์ที่โดนแกล้งจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองใกล้จะเป็นบ้าเต็มที โวยวายใส่เด็กหนุ่ม

ทะเลยิ้มขำ “ใส่เข้าไปตรงไหนเหรอครับ”

จันทร์เอี้ยวตัวมองค้อน หมอนี่มันน่าถีบจริง ๆ ให้ตายเหอะ ‘ก็ได้...จะเล่นกันแบบนี้ใช่ไหม’ เขาคิดแล้วดึงสะโพกให้นิ้วของอีกฝ่ายหลุดออกไป จันทร์ทิ้งตัวลงนอนหงายบนที่นอน ขาเรียวขาวอ้าออกกว้างเผยให้เห็นช่องทางที่หมอนี่หมกมุ่นกับมันมานานหลายนาที เขาเอื้อมมือไปแหวกแก้มก้นทั้งสองออกจากกัน

“ตรงนี้..ใส่เข้ามาเลย”

ทะเลสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ เขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่จวนเจียนจะคลั่งให้มันสงบลง เพราะไม่อย่างนั้นตนอาจจะเผลอทำอะไรรุนแรงกับอีกฝ่ายลงไป ถ้าเทียบกันแล้วพี่จันทร์ก็ตัวเล็กนิดเดียว นั่นยิ่งทำให้ตนอยากจะถนุถนอมให้มาก ๆ เขาสอดใส่อย่างเชื่องช้า แล้วค่อย ๆ ขยับกาย

แต่ดูท่าแล้วมันคงจะไม่ทันใจคนด้านใต้ จันทร์เอื้อมมือไปแตะเอวสอบของเด็กหนุ่ม “ขยับ..เร็ว ๆ หน่อย”

“ผมกลัวพี่เจ็บ”

“...ไม่เป็นไร” จันทร์บอกเสียงแผ่ว เจ็บน่ะมันเจ็บอยู่แล้ว เพียงแค่หวังว่านี่อาจจะทำให้เขาดีขึ้นจากความรู้สึกผิดกับทะเลก็ได้

เด็กคนนี้รักเขา คิดถึงเขาก่อนใคร เป็นห่วงเป็นใย และถะนุถนอมเขาเหลือเกิน ขนาดในเวลานี้...ยังจะออมแรงเอาไว้ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ไหว เพียงเพราะกลัวเขาเจ็บแค่นั้น...ทั้งที่เขาเองไม่มีอะไรดีพอที่จะให้ทะเลมาให้ค่าเลย

“พี่ไหวเหรอ”

“ไหวสิ...มาเลย”

ทะเลโน้มตัวลงไปจูบพร้อมกับค่อย ๆ ขยับกายเร็วขึ้น มือทั้งสองข้างจับเอวผอมแล้วกระแทกหนักจนอีกฝ่ายหวีดร้องออกมาอย่างกลั้นไม่ได้ เขามองใบหน้าของคนที่รัก ปกติพี่จันทร์เป็นคนหน้านิ่ง และมักจะยิ้มยียวนออกมาเมื่ออยากจะกวนประสาทกัน แต่พักหลังนี้ที่แสดงความอ่อนโยนออกมาจนตัวเขารู้สึกได้ แต่ในเวลาที่มีเซ็กซ์...คนคนนี้จะแสดงความต้องการออกมาอย่างตรงไปตรงมาเสมอ

“พี่รู้สึกดีไหม”

“ดี..ดีมาก”

จันทร์ตอบออกมาตามตรง ถึงแม้ว่ามันจะจุกอยู่บ้างเพราะทะเลกระแทกเข้ามาลึกมาก แต่เขาก็รู้สึกดีจนไม่สนใจมันเลย

“ผมจะเสร็จแล้ว” ทะเลขยับกายรัวเร็ว และเมื่อใกล้ที่จะปลดปล่อย เขาก็จะดึงออกมาปลอยข้างนอกเพราะเขาไม่ได้ใส่ถุงยาง และถึงแม้ว่าจะพากันไปตรวจเลือดมาแล้วก็ตาม แต่เขาก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องลำบาก

“ไม่!” จันทร์ใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวเอวของทะเลจนแน่น “ไม่เป็นไร...ปล่อยมาเลย”

ทะเลขมวดคิ้ว “แต่พี่..”

“ไม่เป็นไร”

เมื่อได้ยินแบบนั้นบวกกับว่าทนไม่ไหวอีกต่อไป ทะเลก็ใส่เต็มกำลัง และปลดปล่อยทุกหยาดหยดเข้าไปในตัวของจันทร์ที่ก็เสร็จไปพร้อม ๆ กัน คนอายุน้อยกว่าล้มตัวลงทับบนหน้าอกของอีกฝ่ายทั้งที่ยังไม่ได้ถอนกายออกมา ช่องทางร้อนตอดไม่หยุดจนเขาคลั่งจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

“พี่นี่..สุดยอดไปเลย” ทะเลพูด หอบหายใจแรงด้วยความเหนื่อย เขาไถหัวไปมากับอกของคนอายุมากกว่า

“ผมรักพี่นะ”

“อืม” จันทร์ตอบรับในลำคอ เขาลูบผมนิ่มชื้นเหงื่ออย่างอ่อนโยน

“ผมขออะไรพี่หนึ่งอย่างได้ไหม”

จันทร์เงียบไปเพื่อคิดก่อนที่จะตอบ และเพราะหมอนี่ไม่เคยเอ่ยปากขออะไรเขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว นั่นเลยทำให้จันทร์ตัดสินใจตอบตกลง

“...ว่ามาสิ”

“ชีวิตนี้ผมไม่มีใครอีกแล้ว ผมขอให้พี่อยู่กับผมได้ไหม ในฐานะไหนก็ได้ ขอเพียงแค่..อย่าไล่ผมไปไหนก็พอ”

ความรู้สึกหนักอึ้งก่อตัวขึ้นในจิตใจของทะเลจันทร์
สิบกว่าปีมานี้ เขาคิดว่าตัวเองนั้นคงจะไม่สามารถรักใครได้อีก ไม่ใช่เป็นเพราะลืมรักครั้งเก่าไม่ได้ แต่เพราะเขาสูญเสียความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความรักไปแล้ว
สำหรับเขาความรักมันคือเรื่องไร้สาระ เสียเวลา และประสาทแดก

จนอายุปาเข้าไป 35 ...ก็ไม่มีใครที่จะสั่นคลอนความคิดของเขาได้เลยแม้แต่คนเดียว จันทร์กลายเป็นคนที่ไร้ความรู้สึกไปโดยไม่รู้ตัว การมีเซ็กซ์กับใครแต่ละครั้งก็เป็นไปเพราะความอยากเท่านั้น ไม่เคยมีความรู้สึกใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง
พอทะเลเข้ามาในชีวิต นั่นทำให้เขาเริ่มมีความรู้สึกกลับมา ต้องยอมรับว่าตอนนี้ทะเลจันทร์มีชีวิตชีวาและมีความสุขมากกว่าแต่ก่อนมาก

ถ้าเป็นช่วงก่อนหน้านี้เขาจะไม่ลังเลที่จะปฏิเสธอีกฝ่ายเลย
แต่เวลานี้...มันทำได้ยากนัก
ปราการสูงใหญ่ที่เคยมีมาตลอดราวกับจะพังทลายลงมากองอยู่ที่พื้น
เคยได้ยินมาว่า ‘ความดีจะชนะทุกสิ่ง’ และเขาไม่เคยเชื่อมันมาก่อน
แต่ในตอนนี้...ความดีของทะเล...สามารถเอาชนะเขาได้

ความจริงแล้วทะเลจันทร์อาจจะโหยหาความรักที่ดีมาตลอด แต่เจ้าตัวก็พยายามหลีกหนีมันมาตลอดเหมือนกัน
ในตอนนี้แม้ว่าเขาจะได้เจอคนดี แต่เขาจะมันใจได้อย่างไรว่าจะไม่ถูกหักหลังอีกครั้ง
แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง...ถ้าเขาไม่ลองให้โอกาสคนตรงหน้า
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจะดีหรือเลวร้าย

สุดท้ายแล้วทะเลจันทร์ที่นิ่งเงียบอยู่นาน ก็ตัดสินใจให้คำตอบกับทะเล
“อืม...ได้สิ”




TBC…
อยากจะติด #พี่จันทร์คนดื้อ ให้เหลือเกิน
กว่าจะยอมน้องมันได้
แต่ถึงจะยอมแล้ว พี่เธอก็ยังไม่วายกั๊กใจไว้ส่วนหนึ่งอีก
น่าจับตีก้นเล็ก ๆ นัก ฮึ่มมมม  :fire:

แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่า
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ /จุ๊บ
 :L2:
 

หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 11 หน้าที่ 2 [04/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 17-04-2019 08:17:05
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 12 หน้าที่ 2 [19/04/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 19-04-2019 16:27:26


12




วันนี้หลังจากประชุมเสร็จแล้ว น้ำหวานก็ไปหาซื้อหนังสือที่ถูกจันทร์เพื่อนตั้งแต่สมัยยังเด็กไหว้วานให้ซื้อไปฝาก เพราะไหน ๆ วันนี้เข้าก็จะแวะเข้าไปหาที่ร้านอยู่แล้ว
ในขณะที่กำลังเลือกอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มตัวเล็กที่เป็นเพื่อนของทะเลอยู่ใกล้ ๆ เขากำลังพลิกหนังสือในมือไปมาด้วยความตั้งใจ ขนาดน้ำหวานเดินเข้าไปใกล้ก็ยังไม่รู้สึกตัว
“โห..แพงจัง” เป็ดร้องก่อนจะตัดใจค่อย ๆ ดันหนังสือเก็บเข้าชั้นด้วยความเสียดาย เมื่อจะเดินหนีก็ดันชนเข้ากับใครอีกคนที่มายืนขวางอยู่ “อ๊ะ! ขอโทษครับ”
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นไอดอลของตัวเองยืนตรงหน้า “พี่!” เขาร้องเรียกขึ้นมา หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อได้เจอกับคนที่ชื่นชมอีกครั้งแบบนี้
“พี่ซื้อให้ไหม” น้ำหวานว่า
“ซื้อ?” เป็ดเอียงคอเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ
“หนังสือไง เห็นท่าทางอยากได้”
เป็ดตาโตขึ้น ส่ายหน้าโบกมือเป็นพัลวัน “ไม่เป็นไรครับ ๆ ผมไม่ได้อยากได้ขนาดนั้น”
“เหรอ…” น้ำหวานตอบ แต่กลับเอื้อมไปดึงหนังสือเล่มนั้นออกมาจากชั้นแล้วเอามารวมไว้กับหนังสือในมือ
เป็ดมองตามการกระทำของอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจด้วยท่าทีเลิ่กลั่ก “เอ่อ..คือ..พี่..”
“พี่ซื้อให้น่า” น้ำหวานกล่าวจบก็ก้าวเดินนำไปทันที ไม่สนใจอีกคนที่มีท่าทีเกรงใจมากอย่างเห็นได้ชัด
“ผมรับไว้ไม่ได้จริง ๆ ครับ” เป็ดจับชายเสื้อของอีกฝ่ายไว้พร้อมกับบอกออกไป ปกติเขาก็ไม่ใช่คนที่จะรับของจากใครง่าย ๆ อยู่แล้ว นี่ยิ่งเป็นคนที่เพิ่งจะเคยเจอด้วย
“ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก” คนอายุมากกว่าบอก
“ไม่เกรงใจไม่ได้ครับ”
“เอาน่า”
“ไม่ได้จริง ๆ ครับ” เป็ดยืนยันเสียงแข็งด้วยใบหน้าจริงจัง เจ้าตัวยังคงดึงชายเสื้อของอีกฝ่ายแน่น
น้ำหวานยกมือขึ้นจับหัวคนตัวเล็กโยกเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “ไม่ต้องห่วง พี่ซื้อให้เพราะหวังผลหรอก”
เป็ดขมวดคิ้ว รู้สึกสังหรณ์แปลก ๆ แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าคงไม่ใช่ “เอ่อ...ผมไม่มีอะไรจะให้พี่หรอกนะ”
“มีสิ” น้ำหวานตอบ
“พี่ต้องการอะไรจากผม” เป็ดย้อนถาม
“พี่ว่าเราก็น่าจะรู้นะ ว่าพี่ต้องการอะไร”
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองคนอยู่ชั่วครู่ คนอายุน้อยกว่ามองคนตรงหน้าที่ตนแอบปลื้มมานานอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เขาเคยถูกเกย์หลายคนจีบ และก็มั่นใจว่าไม่เคยหวั่นไหวกับใครมาก่อน
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกัน...คนตรงหน้านี้ถึงทำให้เขาหวั่นไหวได้ทั้งที่เพิ่งพบกันแค่สองครั้ง แล้วแถมยังเป็นผู้ชายที่เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะคบได้อีกต่างหาก
คนตัวเล็กกว่าปล่อยมือออกจากชายเสื้อของน้ำหวาน นั่นทำให้เข้าตัวรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
“พี่..จะจีบผมเหรอ” เป็ดถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก เพราะถ้าเกิดมันไม่ใช่ขึ้นมาละก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บแน่
น้ำหวานยกยิ้มมุมปาก เขาหันมายืนเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนจะพูด “ใช่”
เป็ดตะลึงงันไปเมื่อได้ยินคำตอบ “พี่เป็นเกย์เหรอ”
เขาถามเพราะมักจะเห็นข่าวว่าอีกคนมักจะควงนางเอกหรือไม่ก็นางแบบสาวสวยอยู่บ่อย ๆ
“ไม่เชิงหรอก พี่ชอบของสวย ๆ งาม ๆ หรือมองแล้วสบายตาน่ะ”
คนอายุน้อยเปิดปากเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ปิดลง แล้วก็อ้าขึ้นมาอีก เพราะยังเรียบเรียงคำพูดในหัวออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรก่อนดี แต่สุดท้ายก็บอกออกไปห้วน ๆ
“ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย อีกอย่าง..” เป็ดเงยหน้าขึ้นจ้องตาอีกฝ่าย “ผมไม่ชอบคนเจ้าชู้”
“อ้าว” น้ำหวานรู้สึกงงงวย “เรา..ไม่ได้เป็นเกย์เหมือนกับเพื่อนเราเหรอ”
เด็กหนุ่มส่ายหน้า “มีคนเข้าใจผิดอยู่บ่อย ๆ เหมือนกันครับ”
“แล้วเราไม่ชอบพี่เหรอ”
“ไม่ได้เกี่ยวกับชอบหรือไม่ชอบครับ เพราะผมไม่ได้ชอบผู้ชาย”
“ว้า~” น้ำหวานแกล้งร้องขึ้นเหมือนเสียดายเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ขอหนังสือด้วยครับ” เป็ดแบมือไปด้านหน้า
คนอายุมากกว่าทำท่าจะยื่นหนังสือไปให้แต่กลับใช้มือข้างที่ว่างจับมือที่เล็กกว่าของเด็กหนุ่มไว้แล้วออกแรงดึงให้เดินตามมาโดยที่ไม่สนใจอาการตื่นตกใจของอีกฝ่าย และไม่สนใจสายตาของคนในร้านด้วย
“ด-เดี๋ยว อะไรของพี่เนี่ย” เป็ดร้องถามในตอนที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน อีกฝ่ายยังคงไม่ยอมปล่อยมือของเขา และเพราะน้ำหวานตัวใหญ่กว่าค่อนข้างมากเลยทำให้ขัดขืนไม่ไหว
“เปล่านี่”
“เปล่าก็ปล่อยมือผมสิ” เป็ดลดเสียงลงเมื่อพนักงานคิดเงินเหลือบมองมา
“ก็ไม่อยากปล่อยนี่”
เป็ดที่รู้ตัวว่ากำลังโดนกวนประสาทจากคนอายุมากกว่า เงียบไปและทำหน้าบอกบุญไม่รับ
“2,563 บาทค่ะ”
“ครับ” น้ำหวานตอบก่อนจะหันมาหาเด็กที่กำลังยืนหน้าบึ้งอยู่ข้าง ๆ “พี่ขอจ่ายเงินก่อน อย่าหนีพี่ไปไหนนะ”
เป็ดถลึงตาใส่อีกฝ่ายที่พูดจาหน้าไม่อายออกมาก่อนจะว่า “ปล่อยมือผมได้แล้ว”
“รับปากพี่ก่อนสิ” น้ำหวานส่งเสียงออดอ้อน
คนตัวเล็กกว่าตกใจที่ได้เห็นมุมนี้ของคนตรงหน้า เขาเหลือบตาไปเห็นพนักงานด้านหลังแอบขำแล้วก็รู้สึกเขินมาก ๆ
“โอเค ๆ ผมไม่หนีไปไหนก็ได้”
น้ำหวานยิ้มอย่างพอใจ เขาปล่อยมือเล็กให้เป็นอิสระก่อนจะหันไปจ่ายเงินให้เรียบร้อย
เป็ดยืนมองใบหน้าขาวแดงซ่าน ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนแบบนี้มาก่อนเลย ทั้งถึงเนื้อถึงตัวและหน้าไม่อาย แล้วมันเพราะอะไร..ทำไมตนถึงต้องยอมด้วยนะ ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ ให้ตายเถอะ
“เรียบร้อย” น้ำหวานบอกยิ้ม ๆ พร้อมกับยื่นถุงหนังสือไปให้เด็กหนุ่ม
เป็ดมีท่าทีลังเลนิดหน่อย เขายกมือขึ้นไหว้แล้วถึงยื่นมือไปรับมาถือเอาไว้ เขารู้สึกเกรงใจอีกฝ่ายมากที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ให้เขา สำหรับผู้กำกับหนังร้อยล้านแล้วมันคงไม่แพง แต่สำหรับนักเรียนที่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีอย่างเป็ดแล้วนับว่าแพงมาก
“ขอบคุณครับ ถ้าผมตอบแทนอะไรพี่ได้..ก็บอกนะครับ”
“ไม่เป็นไร ๆ ไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่แล้วกัน”
เป็ดค่อย ๆ พยักหน้าอย่างจำยอม ทั้งที่เขาควรจะดีใจหรือตื่นเต้นที่ได้พบกับคนที่ชื่นชมมาตลอด แต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก…

/

น้ำหวานตั้งใจพาเด็กหนุ่มไปกินข้าวที่ร้านของทะเลจันทร์ ในระหว่างที่ขับรถมา เป็ดแทบจะไม่พูดอะไรเลยถ้าเขาไม่เอ่ยถาม ตนเข้าใจว่าเด็กมันคงจะตกใจที่จู่ ๆ ก็โดนจีบไม่ทันได้ตั้งตัว
เมื่อถึงที่ร้าน เห็นแค่ทางเข้าเป็ดก็ขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่าที่นี่เป็นร้านของพี่จันทร์ เขาเคยมากับทะเลเพียงครั้งเดียวแต่ก็ยังจำได้
“ผมเคยมาที่นี่” เด็กหนุ่มบอกกับอีกฝ่าย
น้ำหวานเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง แต่ครู่เดียวก็นึกขึ้นได้ว่าเด็กคนนี้เป็นเพื่อนกับทะเล เลยไม่นึกแปลกใจอีก
“ชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามขึ้นในระหว่างที่เดินไปด้วยกัน
เป็ดส่ายหัว “ผมกินอะไรก็ได้ แล้วแต่พี่เลย”
น้ำหวานเผยยิ้มเอ็นดูออกมา เขาชักจะรู้สึกชอบเด็กคนนี้ขึ้นมาซะแล้วสิ ไหนจะหน้าตาจิ้มลิ้มถูกใจ และความใสซื่อน่ารักที่เขาไม่ค่อยได้พบเจอนัก เพราะปกติแล้วคนที่เข้ามาพัวพันด้วย น้ำหวานก็ถูกใจแค่รูปร่างหน้าตา แต่ที่เลิกกันก็เป็นเพราะนิสัยใจคอทั้งนั้น
คนที่น้ำหวานคบด้วยไม่จำแนกว่าเป็นหญิงหรือชาย กะเทยหรือตุ๊ด เขาคบได้ทุกประเภท สเปคของเขาหลักเลยคือชอบคนตัวเล็กและขาว นอกนั้นก็เป็นเรื่องของนิสัย คนที่เข้ามาส่วนใหญ่จะรู้ว่าเขาไม่ชอบคนงี่เง่า แรก ๆ เลยก็จะพยายามทำตัวน่ารัก แต่พอนานไปก็จะงี่เง่าใส่เพราะตนไม่มีเวลาให้
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่เคยคบใครนาน เพราะพอถูกงี่เง่าใส่เพียงแค่ครั้งเดียวเขาก็โบกมือบ๊ายบายให้แล้ว ไม่มีการให้โอกาสครั้งที่สอง เขาเชื่อว่าเมื่อมีครั้งแรกมันต้องมีครั้งที่สองเสมอ พอเป็นแบบนี้บ่อยเข้าก็เลยถูกเขียนข่าวว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ประตูดิน
ถ้าจะให้พูดจริง ๆ คือน้ำหวานชอบคนน่ารัก ซื่อ ๆ และตรงไปตรงมา ซึ่งทั้งสามอย่างนี้เขาเล็งเห็นว่ามันมีอยู่ในตัวของเด็กหนุ่มที่ชื่อเป็ดคนนี้

/

“คุณน้ำหวานนี่เอง เชิญค่ะ ๆ” พี่หมวยเป็นผู้จัดการร้านเดินมาเจอพอดีเลยเอ่ยปากทักทายอย่างคุ้นเคย
“สวัสดีครับพี่ จันทร์อยู่ไหนเหรอครับ”
“น้องจันทร์อยู่ในครัวค่ะ เดี๋ยวพี่ไปตามให้นะคะ”
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมขอสั่งอาหารหน่อยนะครับพี่”
“ได้ค่า เดี๋ยวพี่ให้เด็กเอาเมนูไปให้นะคะ” เธอบอกยิ้มแย้ม ก่อนจะเดินหายไป
น้ำหวานจับข้อมือของเป็ดที่ยืนอยู่เงียบ ๆ ให้เดินตามไปยังโต๊ะที่เป็นที่นั่งประจำของตนและเพื่อน เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อโดนจับเข้าที่ข้อมือ แต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรเพราะเกรงใจอีกฝ่ายและสถานที่
“เรามีอะไรที่ชอบกินหรือเปล่า” น้ำหวานเอ่ยถามขึ้น
“ไม่มีเป็นพิเศษครับ” เป็ดที่ถูกดึงให้มานั่งข้าง ๆ ตอบเสียงเรียบ
“แล้วมีอาหารที่แพ้ไหม”
“ไม่มีครับ” เด็กหนุ่มตอบ
น้ำหวานสั่งอาหารไปสองสามอย่างด้วยตัวเอง ก่อนจะยื่นเมนูคืนพนักงานของร้านไป เขาขยับตัวหันไปมองเด็กหนุ่มที่ดูเงียบผิดไปจากที่เจอกันครั้งแรกมาก
“เป็นอะไรเหรอ” เขาถามพลางใช้นิ้วเกลี่ยแก้มใส
เป็ดสะดุ้งพร้อมกับเอียงตัวหนีโดยอัตโนมัติ “เอ่อ..ไม่ได้เป็นอะไรครับ”
“งั้นหรือ” น้ำหวานพิจารณามองคนอายุน้อยกว่าก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง “ไม่ชอบพี่แล้วเหรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” คนถูกถามตอบไม่เต็มเสียง
“แล้ว?”
“คือ..ผมไม่ได้ไม่ชอบพี่ แต่ว่า..พี่ถึงเนื้อถึงตัวเกินไป ผมเลยตกใจ”
“อ่า...โทษที” คนอายุมากกว่าบอก เขาเองก็ลืมตัวทำไปโดยไม่ได้คิดก่อน เพราะปกติมีแต่คนเข้าหา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน
เป็ดยิ้มบาง ส่ายหน้าน้อย ๆ “ไม่เป็นไรครับ”
คนอายุมากกว่านิ่งราวกับถูกรอยยิ้มของเด็กหนุ่มตรึงเอาไว้ เขามองเป็ดไม่วางตาจนเจ้าตัวต้องเบือนหน้าหนีด้วยความประหม่า
“อ้าว! น้องเป็ด…” จันทร์ที่เดินมาถึงโต๊ะเห็นคนคุ้นหน้าก็ทักขึ้น แต่ก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าทำไมน้องมันถึงมากับเพื่อนของเขาได้
“สวัสดีครับพี่” เป็ดยกมือไหว้ เขายิ้มกว้างให้กับอีกฝ่าย
“ทำไมมานี่ได้ล่ะ” คนอายุมากกว่ารับไหว้พร้อมกับเอ่ยถาม
“เอ่อ…” เด็กหนุ่มไม่รู้จะตอบยังไงดี เขาเหลือบตามองอีกฝ่ายแต่ก็ต้องหลบวูบเมื่อสบเข้าดวงตาคม
“มากับกู” น้ำหวานเป็นฝ่ายตอบ
จันทร์ที่ขมวดคิ้วอยู่เมื่อได้ยินดังนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมา เขาเพิ่งนึกออกว่าตนลืมอะไรบางอย่างไป แต่อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ เขานั่งลงร่วมโต๊ะกับทั้งคู่
“แล้วสั่งอะไรมากินกันหรือยังล่ะ” เขาเอ่ยถามพลางยกน้ำขึ้นมาจิบ
“สั่งแล้ว นี่หนังสือของมึง”
“ขอบใจนะ”
เป็ดมองพี่จันทร์นิ่ง เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายมีบรรยากาศรอบตัวที่เปลี่ยนไปจากที่เคยเจอก่อนหน้านี้อยู่มาก อยากรู้จังว่าเป็นเพราะอะไรนะ
“มองพี่ทำไมเหรอครับ” จันทร์เอ่ยถามเด็กหนุ่ม
คนถูกถามชะงักไป เขาหัวเราะแห้งก่อนจะตอบ “พอดีว่า...มองคนสวยครับ”
“แหนะ ปากหวานนะเรา”
น้ำหวานขมวดคิ้วแน่น “ไหนว่าไม่ได้ชอบผู้ชาย” เขาถามเด็กหนุ่ม
“ก็ไม่ได้ชอบครับ” เป็ดตอบหน้างอเล็กน้อย
“แล้วชมไอ้จันทร์ทำไม”
“ก็ชมเฉย ๆ ไม่ได้เหรอครับ”
“อ้าว...” น้ำหวานไปต่อไม่ถูก เป็นครั้งแรกที่เจอคนกล้าต่อล้อต่อเถียงเขาแบบนี้
ทะเลจันทร์หัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนดูท่าจะรับมือเด็กคนนี้ไม่ไหวสักเท่าไหร่นัก ใบหน้าเข้มที่มีเคราขึ้นเขียวครึ้มทำหน้าตาเหลอหลา ไม่บ่อยนักหรอกที่จะได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของมัน
“หัวเราะห่าอะไรของมึง”
“หัวเราะมึงนั่นแหละ” จันทร์ว่า เขาเห็นว่าคนอายุน้อยยังคงทำหน้ายุ่งก็เลยตัดสินใจเอ่ยขึ้น “เป็ดยังจำเรื่องที่พี่บอกว่าจะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จักได้หรือเปล่า”
“จำได้ครับ” เจ้าตัวพยักหน้าตอบ
“แล้วมึงยังจำได้หรือเปล่า เรื่องที่กูจะแนะนำเด็กคนหนึ่งให้มึงรู้จักน่ะ”
น้ำหวานขมวดคิ้ว “อย่าบอกนะว่า..”
“ใช่” จันทร์ยกยิ้มมุมปาก “แสดงว่าทั้งสองคนมีดวงสมพงษ์กันนะเนี่ย มาเจอกันเองโดยที่กูยังไม่ได้แนะนำให้เลย”
ทั้งคู่หันมองกัน และเป็ดก็ต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อนเมื่อคนที่นั่งข้างมองตนด้วยสายตาแปลก ๆ
“แค่บังเอิญมั้งครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น
“บนโลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอกนะ” น้ำหวานบอก “ทุกสิ่งที่เกิดบนโลกนี้ล้วนถูกกำหนดมาแล้วทั้งนั้น”
“บทหนังเรื่องใหม่ของมึงหรือไง” จันทร์แซว
“ไอ้ควาย” น้ำหวานด่าแต่ก็หัวเราะกับเพื่อนไปด้วย
ก็มีแต่เด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่นั่งครุ่นคิดไปกับประโยคนั้นของคนที่เขามองเป็นไอดอลมาตลอด มันอาจจะจริงอย่างที่อีกฝ่ายบอกก็ได้ ถ้าการที่เขาพบเจอกับผู้ชายคนนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว มันก็คงไม่แปลกที่ตนจะรู้สึกแปลกไปจากที่เคยเป็นมาตลอด
ถ้าเขาเป็นผู้หญิง...คงไม่ลังเลที่จะตกลงเป็นแฟนกับคนคนนี้ แต่ปัญหาคืออีกฝ่ายดันเป็นผู้ชายนี่สิ เขาไม่ได้รังเกียจเกย์ เพราะทะเลเพื่อนคนเดียวของเขามันก็เป็นเกย์ แต่เขาไม่เคยมีความคิดจะคบกับเพศเดียวกันมาก่อน ไม่เคยมีภาพนั้นอยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ
เป็ดจมอยู่กับความคิดของตัวเองจนไม่ได้ยินว่าคนข้างกายถามอะไร จนมือใหญ่วางลงบนศีรษะนั่นแหละถึงได้รู้สึกตัว เขาหันกลับไปมอง “ครับ”
“พี่ถามว่าคิดอะไรอยู่เหรอ”
คนถูกถามส่ายหน้า “เปล่าครับ”
“ข้าวมาแล้ว กินกันเถอะ” น้ำหวานบอกยิ้มให้พร้อมกับลูบผมเบา ๆ
“..ครับ” เป็ดตอบเสียงเบา ความอุ่นซ่านก่อตัวขึ้นหัวใจของเขาอย่างช้า ๆ เขาคิดได้ว่าถ้ามีพี่ชายอย่างอีกฝ่ายคงดีไม่น้อย
ทะเลจันทร์มองทุกการกระทำของเพื่อนที่มีต่อเด็กตัวน้อยข้าง ๆ แล้วก็ได้แต่ยิ้มอย่างยินดี น้ำหวานมันจะรู้ตัวหรือเปล่านะว่ามันแสดงออกกับเด็กคนนี้ต่างจากคนอื่นที่ผ่านมา ทั้งสายตาและน้ำเสียงที่อ่อนโยน รวมถึงการลูบผมเบา ๆ อย่างเอ็นดูนั้น มันแสดงให้เขาเห็นว่าเป็ดคงจะเป็นคนที่เอาคนอย่างมันได้อยู่หมัดอย่างแน่นอน

/

หลังจากกินข้าวเสร็จ น้ำหวานก็อาสามาส่งที่บ้านของเด็กหนุ่ม ในตอนแรกเป็ดก็บอกให้ส่งแค่ป้ายรถเมล์ก็พอ แต่คนอายุมากกว่าดึงดันไม่ยอมจะไปส่งถึงที่บ้านให้ได้
“ถ้าไม่ให้พี่ไปส่ง งั้นเราก็ไปค้างที่บ้านพี่ก็แล้วกัน”
พอน้ำหวานบอกอย่างนั้น และดูท่าว่าจะพูดจริงทำจริงด้วย เป็ดก็เลยต้องยอมอย่างช่วยไม่ได้
“โกรธพี่เหรอ” คนอายุมากกว่าถามขึ้นในขณะที่รถติดไฟแดง
เป็ดเหลือบมอง “ไม่ได้โกรธครับ”
“งั้น..คิดอะไรอยู่เหรอ” เขาเปลี่ยนคำถาม
“...กำลังคิดว่าจะจัดการกับคนแบบพี่ยังไงดีครับ”
คำตอบที่ตรงไปตรงมาของเด็กคนนี้เรียกเสียงหัวเราะของน้ำหวานได้ดังลั่นรถเลยทีเดียว เป็ดเห็นแบบนั้นก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตางุนงง ไม่เข้าใจว่าตนตอบอะไรตลกตรงไหน
“โอย..” น้ำหวานร้องด้วยความเหนื่อย “เรานี่สุดยอดไปเลย”
เป็ดเอียงคอ “อะไรเหรอครับ”
“พี่ชักจะชอบเราขึ้นมาจริง ๆ แล้วสิ”
เด็กหนุ่มหันกลับมาก้มหน้าลง มือทั้งสองข้างกุมเข็มขัดนิรภัยที่พาดผ่านตัว ริมฝีปากเล็กเม้มแน่น รู้สึกแย่นิดหน่อย..อีกคนพูดเหมือนว่าตอนแรกตั้งใจว่าจะจีบกันเล่น ๆ อย่างนั้นแหละ
เป็ดดึงสติตัวเองให้กลับมา ทำไมตนจะต้องไปรู้สึกไม่ดีด้วย ก็แค่คนเจ้าชู้คนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้เลิกชอบอีกฝ่ายหรอกนะ พี่น้ำหวานก็ยังคงเป็นไอดอลที่เขายังชื่นชอบในผลงานเหมือนเดิมอยู่ดี
“ถามจริง ๆ นะ เราคิดว่าพี่เป็นคนยังไงเหรอ” คนอายุมากกว่าถามอีก
“ในความคิดของผมเหรอ…” เป็ดทำท่านึกอยู่ชั่วครู่ “สำหรับผมแล้วพี่เป็นคนเก่ง ผมชอบผลงานของพี่มากเลย”
“พี่รู้แล้วว่าเราชอบงานพี่” น้ำหวานพูดกลั้วหัวเราะ “แล้วนอกนั้นล่ะ”
“ผมไม่อยากพูดข้อเสียของพี่เลย”
น้ำหวานเลิกคิ้ว “ข้อดีของพี่มีอย่างเดียว นอกนั้นข้อเสียล้วน ๆ เลยเหรอ”
“ผมรู้จักพี่จากในสื่อนี่นา นอกจากเรื่องงานของพี่แล้ว เขาก็เสนอแต่ข่าวคาว ๆ ของพี่ทั้งนั้น”
น้ำหวานพยักหน้าเห็นด้วย “แต่เราก็เพิ่งบอกว่าพี่เจ้าชู้ไม่ใช่เหรอ”
ถึงเป็ดจะไม่ได้ว่าเขาโดยตรง แต่ไอ้การที่บอกกับตนว่า ‘ไม่ได้ชอบผู้ชายและไม่ชอบคนเจ้าชู้’ เนี่ย มันก็คือเขาไม่ใช่หรือไง
“หรือไม่จริงล่ะครับ”
น้ำหวานไหวไหล่ “แต่พี่ไม่ได้เจ้าชู้นะ”
“แล้ว?” เป็ดคิดว่าอีกฝ่ายไม่เห็นต้องมาแก้ตัวกับเขาในเรื่องนี้เลย
“หืม..อย่าเย็นชากับพี่นักสิ”
“ผมเปล่าสักหน่อย”
“เราทำเหมือนกับว่าเรื่องที่พี่บอกไม่เกี่ยวกับเราเลยนี่นา”
“อ้าว ก็แล้วไม่จริงเหรอครับ” เป็ดตอบซื่อ ๆ
“โธ่~”
“ผมสนใจแค่งานของพี่เท่านั้นแหละครับ”
น้ำหวานเหนื่อยใจ ไม่เคยต้องพยายามเข้าหาใครขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิตนี้ เขาถอนหายใจเงียบ ๆ คนเดียว ขอเวลาพักสักครู่แล้วจะขอไปสู้ต่อ
คนอายุน้อยกว่าเหลือบมองคนขับรถที่เงียบไป ทั้งที่เมื่อกี้ยังพูดฉอด ๆ อยู่เลย “พี่โกรธผมเหรอ”
“เปล่าครับ” คนถูกถามตอบเสียงเหนื่อย
“พี่ไม่โกรธ แต่พี่ก็ไม่คุยกับผม” เป็ดอมลมจนแก้มป่อง
“พี่กำลังคิดอยู่ครับ”
“คิด?”
“...คิดว่าจะทำยังไงดีถึงจะเป็นผู้ชายคนแรกที่เราตกหลุมรักได้”
หัวใจดวงน้อย ๆ ของเป็ดเต้นผิดจังหวะเมื่อได้ยินอย่างนั้น แววตาที่เคยหนักแน่นสั่นไหวด้วยความสับสน ตัวเขาในตอนนี้เป็นอะไรกัน…

/

น้ำหวานขับรถมาจอดหน้าบ้านที่เป็นทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก เขาลงจากรถตามเด็กหนุ่มไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายที่ยืนก้มหน้าเงียบ
“นี่เราอาศัยอยู่กับใครเหรอ” เขาถามขึ้นพลางมองเข้าไปในบ้านที่ปิดไฟมืด
“แม่ครับ แต่วันนี้แม่ไม่อยู่ จริง ๆ คือไม่ค่อยอยู่บ้านมากกว่า”
คนอายุมากกว่าพยักหน้ารับรู้ “แล้ว...จะไม่เลี้ยงน้ำเย็นพี่เป็นการขอบคุณที่มาส่งหน่อยหรือ” เขาหาเรื่องที่จะอยู่ต่ออีกสักหน่อย
“เอ่อ..” เป็ดอึกอัก รู้สึกไม่ไว้ใจอีกฝ่ายนัก แต่จะไม่เชิญมันก็น่าเกลียด
“ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไร ไว้เจอกันใหม่นะ”
“ไม่ครับ ๆ เดี๋ยวผมหาน้ำให้พี่กินก่อนก็ได้” เป็ดรีบบอกเมื่อเห็นคนอายุมากกว่าทำท่าจะกลับ เขาควานหากุญแจบ้านในกระเป๋าสะพายก่อนจะไขประตู
น้ำหวานยิ้มกริ่มเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน…

“พี่นั่งที่โซฟาได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมไปรินน้ำให้”
“ขอบใจนะ” น้ำหวานบอกยิ้ม ๆ แล้วทรุดกายนั่งลง เขาใช้สายตาสำรวจไปรอบบ้านหลังเล็ก ทำไมกันนะ...ทำไมเขาไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นเลย บรรยากาศของบ้านนี้เต็มไปด้วยความเหงา
สายตาเหลือบไปเจอเด็กหนุ่มร่างเล็กเดินถือแก้วน้ำเข้ามาพอดี เป็ดยื่นให้และเขาก็รับแก้วมาโดยจงใจให้มือโดนกัน อีกฝ่ายชักมือกลับทันที แก้มใสแดงขึ้นเล็กน้อย
“นั่งด้วยกันก่อนสิ”
เป็ดนั่งข้าง ๆ น้ำหวานบนโซฟาตัวเดียวที่มีอยู่ในบ้าน ความเงียบก่อตัวขึ้นช้า ๆ ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา เด็กหนุ่มรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ต่างจากน้ำหวานที่นั่งด้วยท่าทีสบาย ๆ เหมือนอยู่บ้านตัวเอง พลางเหลือบมองคนข้างกายเป็นระยะ
“พี่ขอเบอร์ติดต่อหน่อยสิ” คนอายุมากกว่าบอกพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ที่ปลดล็อกแล้วให้กับอีกคน
เป็ดยื่นมือไปรับช้า ๆ ก่อนจะกดเบอร์ของตัวเองลงไปแล้วโทรเข้าหาเบอร์ของตัวเอง เขาส่งมือถือคืนให้ แต่แทนที่อีกฝ่ายจะหยิบสมบัติของตัวเองกลับไป แต่มือใหญ่กลับคว้าเข้าที่ข้อมือบาง
คนที่ตัวสูงใหญ่กว่าดึงเด็กหนุ่มเข้ามาชิด เพราะเขาทนกับความน่ารักของอีกฝ่ายไม่ไหวแล้ว ตาชั้นเดียวเบิกกว้างขึ้นมองเขาด้วยความตกใจ
“พี่..จะทำอะไรน่ะ”
“พี่ขอจีบเราได้หรือเปล่า”
เป็ดด่าคนตรงหน้าในใจ ‘ทำมาขนาดนี้แล้ว เพิ่งจะมาขอเนี่ยนะ’
“อย่าเงียบสิ”
“พี่เพิ่งมาขอจีบผมตอนนี้เนี่ยนะ”
น้ำหวานจับหลังมือขึ้นมาหอม เขาสบตากับเด็กหนุ่มตรงหน้า “พี่อยากให้ตัวเองแน่ใจก่อนว่าพี่ชอบเราจริง ๆ ไม่ใช่ถูกใจแค่ที่หน้าตาของเราอย่างเดียว แล้วจะจีบมั่วซั่ว พอไม่ถูกใจก็ทิ้งขว้าง แบบนั้นพี่ทำไมลงจริง ๆ”
ใบหน้าขาวแดงซ่านยามที่อีกฝ่ายพูด เขารับรู้ได้ถึงความจริงใจทั้งหมดผ่านทางน้ำเสียงและแววตา
“ในสายตาเราและคนอื่น ๆ มองว่าพี่เป็นคนเจ้าชู้ แต่พี่อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้น อาจจะฟังดูเหมือนพี่แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ แต่พี่มีเหตุผลนะ เราพร้อมจะรับฟังพี่หรือเปล่า”
คนอายุน้อยกว่าลังเลอยู่นิดหน่อยก่อนตอบ “ผมจะฟังพี่”
น้ำหวานยิ้มออกมา “ขอบใจนะ”
“ผมให้โอกาสคนเสมอ” เป็ดบอก “แต่พี่ช่วยปล่อยผมก่อนได้ไหม”
“โทษที” คนตัวใหญ่ยิ้มแห้งแล้วจึงพูดเข้าเรื่อง “พี่น่ะชอบที่จะคบเพื่อดูนิสัยกันก่อนจะตกลงเป็นแฟนเสมอ ถึงแม้จะหน้าตาถูกใจแต่พี่ก็จะยังไม่ตกลงเป็นแฟนกันในทันที ถ้านิสัยของเขาเป็นในแบบที่พี่ไม่ชอบ..พี่ก็จะไม่ไปต่อทันที นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พี่มีข่าวแบบนั้น”
“แล้วถ้าเกิดผมมีนิสัยที่พี่ไม่ชอบขึ้นมาล่ะ พี่จะยังไปต่อไหม ผมน่ะ..ไม่อยากไปอยู่ในสถานะที่ไม่แน่นอนหรอกนะครับ”
น้ำหวานเงียบเมื่อโดนพูดสวนตรง ๆ เขาคิดตามที่เด็กหนุ่มบอก
“รู้ไหมว่าพี่ไม่เคยเป็นคนเข้าหาใครก่อนเลยนะ...เราเป็นคนแรกที่พี่คิดจะจีบก่อน เพราะหนึ่งวันที่ได้อยู่ด้วยกันทำให้พี่มั่นใจว่าเราทั้งสองคนน่าจะไปด้วยกันได้ดี”
“พี่มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่” เขาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “พี่อยากให้เราลองทำความรู้จักพี่ใหม่ตั้งแต่ต้น อยากให้เรารู้จักตัวตนของพี่จริง ๆ ไม่ใช่จากในข่าวพวกนั้น”
เด็กหนุ่มเงียบตัดสินใจอยู่นาน ความจริงเขาก็เริ่มเหนื่อยใจที่มักจะมีแต่ผู้ชายเข้าหาแล้วด้วย หรือว่าดวงของเขามันจะต้องคบกับผู้ชายจริง ๆ หรือไงกัน
“ผม...จะลองดูก็ได้ครับ” เขาตัดสินใจตอบออกไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง ลองก็ลอง เป็นไงเป็นกัน ถ้าไม่โอเคอย่างน้อยก็ได้ใกล้ชิดกับคนที่ชื่นชอบล่ะวะ
น้ำหวานยิ้มอย่างยินดี เขาดึงตัวเด็กหนุ่มเข้ามากอดเสียแน่น จนร่างบาง ๆ แทบจะจมเข้าไปในอก “พี่ดีใจจัง” คนอายุมากกว่าบอกก่อนจะหอมลงบนหัวของเด็กในอ้อมกอด
เป็ดยิ้มขำเมื่ออีกฝ่ายพูดราวกับเด็ก ๆ ความอบอุ่นที่ไม่ได้รับมานานแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ เขาเผลอโอบเอวอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวแล้วฝังใบหน้าลงสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำยาปรับผ้านุ่มปนกับกลิ่นบุหรี่จาง ๆ
“พี่สูบบุหรี่ด้วยเหรอ”
“หืม...นาน ๆ ทีน่ะ” น้ำหวานตอบ “เราไม่ชอบเหรอ”
เป็ดถูหน้าไปมา “เปล่าครับ แค่นึกถึงป๊านิดหน่อย”
จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ ตอนที่ยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เวลาที่ตนเข้าไปกอดป๊าทีไรก็มักจะได้กลิ่นบุหรี่จาง ๆ ออกมาจากตัวท่านเสมอ นานมากแล้ว...ที่ไม่ได้พบกันเลย
‘เป็ดคิดถึงป๊าที่อยู่บนฟ้ามาก ๆ นะครับ’
คนอายุมากกว่าลูบผมเส้นตรงที่ค่อนข้างกระด้างมือนิดหน่อย เขาเองไม่ค่อยมีความทรงจำเกี่ยวกับครอบครัวนัก พ่อแม่ที่แท้จริงทิ้งเขาไว้ที่โรงพยาบาล ส่วนพ่อแม่บุญธรรมก็ยุ่งกับงานจนไม่ค่อยมีเวลาใกล้ชิดกับเขา คนที่เขาผูกพันด้วยก็มีแค่จันทร์ เล็ก แม่ของจันทร์ และครอบครัวของเล็กเท่านั้น
เขาไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของครอบครัวเป็ด แต่เท่าที่สัมผัสได้...เด็กคนนี้คงจะเหงาและว้าเหว่มาก ต่อหน้าคนอื่นทำเป็นร่าเริงได้ แต่ในเวลาที่อยู่คนเดียวกลับกลายเป็นคนละคน
“ไม่ได้เจอท่านมานานแล้วเหรอ”
“อื้ม” เป็ดกลั้นหายใจก่อนจะบอก “ไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว”
น้ำหวานเงียบไป ไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือทำอย่างไรดี ตนเริ่มรู้สึกว่าทั้งตัวเขาเองและเด็กคนนี้มีอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกันอยู่ และทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากปกป้องและดูแลให้ความรักกับเด็กชายขี้เหงาคนนี้เหลือเกิน
“พี่จะดูเราเองนะ”
“...พี่จะมาเป็นพ่อของผมเหรอ” เป็นพูดกลั้วหัวเราะ
“อยากจะเป็นทั้งพ่อ...และผัวเลยล่ะ
เป็ดทุบลงกลางแผ่นหลังกว้าง ไม่ได้รู้สึกโกรธแต่เขินมากกว่า การที่เป็นผู้ชายแล้วต้องมาเป็นเมียของผู้ชายเหมือนกัน...มันดูจั๊กเดียมพิกล
คนอายุมากกว่าหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าแดงของเป็ด เขาเชยคางอีกฝ่ายขึ้นหมายจะหอมแก้มแต่กลับโดนเจ้าของแก้มใสปิดปากเอาไว้เสียก่อน
“ห้ามจูบนะ”
น้ำหวานยิ้มเอ็นดูก่อนจะจับมือของเด็กหนุ่มออก “เปล่าสักหน่อย พี่แค่จะหอมแก้มเอง”
“..นั่นก็ยังไม่ได้ครับ”
“โธ่ แค่นิดหน่อยเองครับ”
เป็ดขมวดคิ้วแน่น ทำปากยื่นอย่างไม่ค่อยพอใจ นี่นอกจากจะมือไวแล้วยังจะใจเร็วอีกนะ
“โอเค ๆ ไม่ทำก็ไม่ทำครับ” คนอายุมากกว่ายกมือขึ้นทั้งสองข้างบ่งบอกว่ายอมแพ้แล้ว ซึ่งถ้าไอ้จันทร์เห็นมันก็คงจะแซวเอาแน่ ๆ
“กลับบ้านไปได้แล้ว” เจ้าตัวดันอีกฝ่ายให้ออกไปแล้วจึงลุกขึ้นยืน เขาเดินไปรอที่หน้าประตูบ้านเพื่อรอส่งแขก
น้ำหวานลุกออกจากโซฟาค่อย ๆ เดินอย่างอ้อยอิ่ง ให้ตายสิ..รู้สึกไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้
“พี่กลับก่อนนะ”
“อื้ม”
“กลับจริง ๆ นะ”
“อื้ออ”
“ไม่รั้งหน่อยเหรอ”
“กลับไปได้แล้วครับ” เด็กหนุ่มเน้นย้ำทีละคำ
น้ำหวานหัวเราะร่วน มือใหญ่ยกขึ้นวางลงบนศีรษะที่เล็กตามขนาดตัว ลูบไปมาอย่างเอ็นดู “ล็อกบ้านดี ๆ นะ”
“ครับ”
เป็นเดินตามออกไปส่งอีกฝ่ายถึงประตูรั้ว
“กลับถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกด้วยนะครับ” เป็ดบอกก่อนน้ำหวานจะก้าวขึ้นรถ
“ได้ครับคุณแฟน…”
เห็นใบหน้าแดงของเด็กตรงหน้าแล้วก็อยากจะวิ่งเข้าไปกอดแล้วฟัดแก้มให้ชื่นใจ ติดตรงที่ไม่อยากจะทำให้เป็ดขวัญหนีดีฝ่อซะก่อน เขาเลยต้องข่มใจเอาไว้ ถ้าถึงวันที่อีกคนยอมเปิดใจ...เขาไม่ปล่อยเอาไว้แน่นอน




TBC…
ได้กลิ่นอนาคตคนเกลียมัวกันมั้ยคะทุกคน  :hao3:

 

หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 13 หน้าที่ 2 [18/05/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 18-05-2019 12:24:52


13




“พี่บอกมาเถอะว่าบ้านพี่อยู่ตรงไหน ผมจะไปหา” ทะเลบอกกับอีกฝ่ายเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เมื่อเช้าเขาเพิ่งรู้ข่าวจากพี่น้ำหวานว่าอีกคนอาการไม่ค่อยดีนัก ซึ่งเกิดจากผลข้างเคียงของยา

(ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ดีขึ้นน่า)

“พี่!”

(อย่าเสียงดังสิ...ขอฉันพักก่อนนะ แล้วเดี๋ยวโทรกลับ)

ทะเลจ้องโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ..อีกฝ่ายตัดสายไปแล้ว เขารู้สึกหงุดหงิดที่คนอายุมากกว่าทำตัวดื้อขนาดนี้ เด็กหนุ่มพยายามติดต่อไปที่พี่น้ำหวาน แต่ก็ไม่รับสาย..ดูท่าแล้วอีกฝ่ายจะไม่ว่าง

ร่างสูงเดินวนอยู่ในบ้านราวกับหนูติดจั่น เขาพยายามคิดหาวิธีที่จะได้รู้ว่าบ้านของพี่จันทร์อยู่ที่ไหน

“เออ...ใช่”

ทันทีที่คิดได้เขาก็วิ่งไปคว้ากุญแจรถและกระเป๋าเงินก่อนจะรีบออกเดินทางไปยัง ‘ร้านจันทร์ฉาย’

เวลานี้คนเดียวที่จะให้คำตอบกับเขาได้ก็คือ...คุณแม่

/

ทะเลมาถึงที่ร้านและได้พบกับพนักงานต้อนรับหน้าใหม่ที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน “ผมมาขอพบ..เอ่อ…”

“คะ?”

“ขอพบคุณแม่น่ะครับ”

“ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครเหรอคะ” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ผมเป็น…” เจ้าตัวชะงักไป เขาควรจะบอกว่าตัวเองเป็นใครดี แต่โชคช่วยที่พี่ผู้จัดการผ่านมาพอดี เขาเลยเรียกเอาไว้

“อ้าว น้องทะเล..วันนี้คุณจันทร์ไม่เข้าร้านนะคะ”

“ผมมาขอพบคุณแม่น่ะครับ” เด็กหนุ่มตอบ

“อ๋อ ท่านทำงานอยู่ที่ออฟฟิศค่ะ เชิญน้องเข้าไปได้เลยนะคะ”

ทะเลกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินออกไป เขาเคาะประตูอยู่สองครั้งก็ได้ยินว่าให้เข้าไปได้จึงเปิดประตูเข้าไป

“สวัสดีครับ”

“อ้าว มาได้ยังไงลูก” คนสูงอายุรีบลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ท่านเดินไปหาคนที่เพิ่งมาพร้อมกับทะเลที่เดินเข้าไปประคอง

คนเป็นแม่พาทะเลไปนั่งลงที่โซฟาที่มุมห้อง

“คือผม...ได้ยินมาว่าพี่จันทร์เขาไม่ค่อยสบาย”

ท่านพยักหน้าช้า ๆ “ใช่จ้ะ เห็นว่าเวียนหัวมาได้สองวันแล้ว สงสัยเพราะนอนไม่พอสะสม แม่เลยให้พี่เขาพักอยู่ที่บ้านไป”

ทะเลได้ยินอย่างนั้นก็คิดว่าท่านคงยังไม่รู้เรื่องที่พี่จันทร์ป่วย และเขาก็เลือกที่จะไม่บอกท่าน เพราะคิดว่าเจ้าตัวคงไม่อยากให้คนเป็นแม่รู้ถึงได้ปกปิดแบบนี้

“ผมอยากจะไปเยี่ยม แต่ว่าพี่เขาไม่ยอมบอกที่อยู่…”

“ดีเลยจ้ะ แม่เองก็อยากให้มีใครไปดูพี่เขาหน่อยเหมือนกัน” ท่านพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงยินดีเมื่อได้ยินเด็กหนุ่มที่นั่งด้านข้างบอกอย่างนั้น

ทะเลยิ้ม “ผมก็อยากไปดูแลพี่เขานะครับ แต่เขาไม่ยอมเลย”

“แหม พี่เขาก็เป็นอย่างนี้แหละจ๊ะ อย่าไปถือโทษโกรธเขาเลยนะ”

“ไม่หรอกครับ ผมไม่เคยโกรธเขาเลย แต่บางครั้ง...ผมก็รู้สึกเสียใจที่เขาไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ผมให้ความสำคัญกับเขามาก”

เป็นครั้งแรกที่ทะเลสารภาพความในใจของตัวเองออกมากับใครสักคน สายตาของเขาสบเข้ากับดวงตาของคนอายุมากกว่าที่ทอแววอ่อนโยนอยู่ตลอดเวลา ท่านตบหลังเขาเบา ๆ

“พี่จันทร์เขาเป็นแบบนี้มาตลอด การจะให้เขาเปลี่ยนแปลงมันคงจะยากสักหน่อย แต่แม่เชื่อนะ...ว่าถ้าหนูไม่ล้มเลิกความตั้งใจ สักวันพี่เขาจะเห็นค่าของความรักนี้เอง”

ความอบอุ่นจากคนตรงหน้านี้ทำให้เขารู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งหัวใจ นอกจากคุณย่า...นี่ก็นานแล้วที่เขาไม่ได้รับความอ่อนโยนแบบนี้จากใคร ท่านขยับเข้ามาใกล้แล้วโอบกอดทะเลไว้เต็มวงแขน

“แม่น่ะ...รู้ว่าหนูกับพี่เขาไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่เชื่อแม่เถอะว่าพี่เขารู้สึกพิเศษกับหนูมาก ๆ นะ”

“ผมเชื่อครับ”

เขาเองก็รับรู้ได้เช่นกันว่าทะเลจันทร์มีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน เพียงแต่ว่าคนคนนั้นเป็นพวกดื้อด้าน แถมปากยังไม่ตรงกับใจอีกต่างหาก

รดาผละกายออก มองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาซาบซึ้ง มือที่เต็มไปด้วยริ้วรอยตบลงบนหลังมือของทะเล “ขอบคุณมาก ๆ เลยนะลูก….ที่รักลูกของแม่”

ทะเลส่ายหน้ายิ้ม ๆ “ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก”

“แม่ไม่ได้บังคับหรือกดดันให้หนูต้องอยู่กับลูกแม่นะครับ พี่จันทร์เขาก็นิสัยไม่ค่อยดีด้วย ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว...ก็ไปได้เสมอ แม่จะไม่ห้ามหรือด่าว่าเลย”

เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอเล็กน้อยเพราะก็ยอมรับว่าตอนที่ได้เจอกันครั้งแรกเจ้าตัวก็นิสัยไม่ดีจริง ๆ มักจะพูดหรือทำอะไรที่ไม่นึกถึงใจคนอื่น แต่เขาคิดว่าตอนนี้อีกฝ่ายทำตัวดีขึ้นมากแล้ว อ่อนโยนและ..น่ารักขึ้นมาก

“ผมเองก็จะไม่สัญญาเหมือนกัน เพราะผมก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้ามันจะเป็นยังไง แต่ในเวลานี้...ผมจะรักและดูแลพี่เขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ”

/

ทะเลขับรถออกจากร้านไปตามเส้นทางที่แม่ของพี่จันทร์บอก ไม่นานนักก็มาหยุดอยู่ที่บ้านเดี่ยวหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ใกล้กับบ้านเขาขนาดนี้  เขาหยิบรีโมทประตูรั้วขึ้นมากดให้มันเปิดออกอัตโนมัติก่อนจะขับรถเข้าไป ทะเลมองไปรอบ ๆ บ้านหลังลงจากรถ

ถึงแม้บริเวณบ้านของที่นี่จะไม่ได้ใหญ่เท่ากับบ้านของเขา แต่ก็ดูอบอุ่นและน่ารักเหมือนกับคุณแม่ที่เป็นเจ้าของบ้าน

‘ตอนนี้พี่เขาน่าจะนอนอยู่ในห้องนะจ๊ะ หนูเดินขึ้นบันไดไปห้องของพี่เขาจะอยู่ด้านขวามือ ที่ประตูหน้าห้องจะมีป้ายแขวนเอาไว้ว่าน้องจันทร์กับรูปพระจันทร์เสี้ยว’

ทะเลล้วงกุญแจบ้านออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วจึงไขเข้าไป เขาไม่ได้สนใจบรรยากาศภายในบ้านมากนัก เพราะเป็นห่วงคนนั้นมากกว่าเลยรีบเดินขึ้นไปบนชั้นสอง

เขายิ้มขำเมื่อเห็นป้ายหน้าห้อง สงสัยจะทำไว้ตั้งแต่สมัยอีกฝ่ายยังเด็ก ทะเลค่อย ๆ บิดลูกบิดประตูเข้าไปให้เบาที่สุด ในห้องของพี่จันทร์มืดจนมองแทบไม่เห็นอะไร เขาต้องใช้เวลายืนนิ่ง ๆ สักพักกว่าที่ตาจะปรับเข้ากับความมืดได้ เขาเห็นเตียงใหญ่ตั้งอยู่อีกมุมห้อง ขายาวค่อย ๆ ก้าวเข้าไปช้า ๆ เพราะกลัวว่าจะสะดุดอะไรเข้าแล้วมันจะพานทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งตื่น

เด็กหนุ่มนั่งข้าง ๆ เอื้อมมือไปเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าอย่างเบามือ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่ได้มาอยู่ใกล้ ๆ ความกังวลที่มีอยู่ก็หายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

พี่จันทร์ยังไม่ได้บอกกับเขาเกี่ยวกับโรคที่เป็นอยู่ ทะเลทำเป็นไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอก เขาเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่..แต่ก็ดูเหมือนไม่มีท่าทีว่าจะบอกเลย เจ้าตัวถอนหายใจเบา ๆ อย่างอึดอัด ความอดทนรอของเขาดูท่าว่ามันจะสิ้นสุดลงแล้ว ถ้าคนตรงหน้าไม่ยอมบอก เขาก็ต้องเป็นฝ่ายพูดเอง

ทะเลก้มลงหอมแก้มเนียน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะตื่นก็แทรกตัวเข้าไปใต้ผ้านวมผืนใหญ่ช้า ๆ และดึงร่างบอบบางเข้ามากอดเอาไว้

“เปิดแอร์เย็นขนาดนี้เดี๋ยวก็หนาวตายกันพอดี” เขาบ่นเสียงเบา

จันทร์หลับลึกมากแต่เมื่อเจอกับความอบอุ่นที่คุ้นเคยก็เบียดตัวเข้าหาอัตโนมัติ ก่อนที่ทะเลจะผล็อยหลับตามกันไป

/

ทะเลจันทร์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็รู้สึกแปลกใจเมื่อเจอใครอีกคนนอนอยู่ด้วยกัน แถมยังกอดเขาไว้ซะแน่น เขาพยายามใช้สติที่ยังไม่กลับมาดีนึกว่าทำไมหมอนี่มันถึงมานอนอยู่ในห้องเขาแบบนี้ได้ คำตอบก็มีอยู่เพียงหนึ่งเดียว

...ไอ้นี่มันเข้าไปปะเหลาะแม่ของเขามาแน่นอน

เขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อพื้นที่ส่วนตัวของเขาโดนบุกรุกเข้ามาโดยยังไม่ได้อนุญาต แต่ก็โมโหไม่ลง เพราะเป็นแม่ของเขาเองที่ปล่อยให้เด็กนี่เข้ามาในบ้านและรวมถึงห้องที่เขาหวงนักหนา

เห็นทะเลนอนหลับตาพริ้มแล้วจันทร์ก็รู้สึกหมั่นไส้ เขาดีดหน้าผากไปหนึ่งที แรงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งตื่น เขาหัวเราะที่เห็นหมอนั่นทำหน้าตกใจ

“ใครใช้ให้เธอเสนอหน้ามาที่บ้านฉัน” เขาเอ่ยถาม

ทะเลถอนหายใจหลังจากที่ตั้งสติได้ “ไม่มีใครใช้ครับ ผมเสนอหน้ามาเอง”

“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้อง ทำไมยังดื้ออีกล่ะ”

พี่จันทร์ว่าเขาพร้อมกับใบหน้ายิ้มร้าย คิดไว้อยู่แล้วว่าอีกคนจะต้องไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะคนที่อนุญาตให้ตนมาที่นี่ได้ก็คือคุณแม่ และเขาก็เดาเอาไว้แล้วว่าต้องโดนพูดจาแบบนี้ใส่แน่นอน

“...ก็ผมเป็นห่วงพี่”

“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า...พักสักหน่อยก็ดีขึ้น”

“อย่าพูดแบบนั้น...ในเมื่อโรคที่พี่เป็นมันไม่มีวันหาย”

เกิดความเงียบปกคลุมทั้งสองนานร่วมนาที จันทร์หลบตาวูบ คนอายุมากกว่าดันตัวของทะเลออกไปก่อนจะลุกขึ้นไปที่หน้าต่างแล้วเปิดผ้าม่านออก ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว แสงสีส้มจากพระอาทิตย์สาดเข้ามาผ่านหน้าต่างบานใหญ่

เจ้าตัวยืนเหม่อมองออกไปด้านนอกพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัว เขาหลับตาลงพยายามสงบจิตใจของตัวเอง ยามนี้ร่างกายของทะเลจันทร์อ่อนแอเนื่องจากผลข้างเคียงของยา นั่นทำให้หัวใจของเขาก็พาลไม่มั่นคงไปด้วย และไม่มีสติพอที่จะควบคุมตัวเองได้ดีเหมือนยามปกติ

ทะเลไม่รู้ว่าพี่จันทร์คิดอะไรอยู่ เพราะเขาเห็นแต่เพียงแผ่นหลังของอีกฝ่าย

“...ใครบอกเธอเรื่องนี้”

นาน..กว่าที่ทะเลจันทร์จะเอ่ยถามออกไปได้

“ไม่สำคัญหรอกครับ สำคัญตรงที่ทำไมพี่ถึงไม่บอกผม” เด็กหนุ่มตอบพร้อมกับลุกขึ้นจากที่นอน เดินตรงไปหาคนอายุมากกว่าช้า ๆ

“ไอ้น้ำหวานมันบอกใช่ไหมล่ะ หึ..ก็มีแค่มันที่รู้นี่นะ” จันทร์บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามพร้อมกับแค่นหัวเราะ

ทะเลโอบกอดอีกฝ่ายเอาไว้ทั้งตัว “ทำไมพี่ถึงไม่บอกผมล่ะ” เขาถามย้ำด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“...ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกนี่”

เขาพูดเสียงเบา เพราะหวั่นไหวกับการกระทำของทะเล จันทร์หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงสาเหตุจริง...ว่าตนไม่อยากจะเป็นภาระให้กับเด็กที่มีอนาคตไกลอย่างทะเล

เด็กหนุ่มเจ็บหน้าอกเมื่อได้ยินอย่างนั้น ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น

“ผม...ไม่มีความสำคัญพอที่พี่จะบอกได้เลยเหรอ”

คนอายุมากกว่าใจหายวาบเมื่อทะเลพูดแบบนั้น เขาหลับตาลง...คิดว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ไม่อยากจะทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย...แต่มันก็ทำได้ยากเหลือเกิน

“ฉันเคยบอกเธอไปแล้วนี่..ลืมแล้วเหรอ”

“แต่ก็ไม่สำคัญพอ”

“ทำไมจะต้องเอาเรื่องที่ฉันจะบอกหรือไม่บอกมาเป็นปัญหาด้วย ขนาดแม่ฉันยังไม่บอกเลย..แล้วเธอเป็นใคร”

คนอายุมากกว่าอยากจะตบปากตัวเองที่พูดไม่ดีออกไป ยิ่งเห็นใบหน้าและดวงตาที่ฉายแววเสียใจของเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้ว...มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดมากเข้าไปอีก

เขาควรจะเอ่ยขอโทษออกไป...แต่เขาก็ไม่ได้ทำ

“ก็ถูกของพี่นะ”

จันทร์มองทะเลที่ก้มหน้าก้มตาพูดเสียงสั่นพร่าราวกับว่ากำลังกลั้นน้ำตาเอาไว้

“ผมมันเป็นใครกัน...ตัวเองก็ยังตอบไม่ได้เลย”

หัวใจของทะเลจันทร์กระตุกวูบเมื่อเห็นความเจ็บปวดแฝงอยู่ในดวงตาของอีกฝ่าย

ถึงแม้ว่าจันทร์คิดจะให้โอกาสกับเด็กคนนี้ แต่ความคิดของเขาก็มักจะตีกันในหัวเป็นประจำ หลายต่อหลายครั้งที่ตนคิดว่าจะบอกให้ทะเลเลิกมายุ่งกับเขาสักที ความสัมพันธ์แบบนี้...นานไปก็รังแต่จะทำให้เจ็บกันทุกฝ่าย ถึงยังไงเขาก็หวังดีกับทะเล

ตัวของเขา..หัวใจของเขาเจ็บได้..ไม่เป็นไร
แต่เขาไม่อยากให้เด็กคนนี้มาเจ็บกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้

“ไหนเธอบอกว่าอยู่ในฐานะไหนก็ได้ไง”

เด็กหนุ่มเม้มปากแน่น เขาจำได้และไม่เคยลืมในสิ่งที่ตัวเองพูด

ในตอนนั้นเขาคิดว่าตัวเองน่าจะทำใจได้แล้ว ขอแค่เพียงอีกฝ่ายอยู่ข้าง ๆ ก็คงไม่ต้องการอะไรอีก…แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา

“ผม..ขอโทษ”

“วันหลัง…” จันทร์กลืนน้ำลายแล้วบังคับให้ตัวเองพูดออกไป “ถ้าคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ก็อย่าพูดอีก”

ลมหายใจของทะเลสะดุด ความรู้สึกที่เก็บไว้ข้างในปะทุออกมาราวกับลาวาของภูเขาไฟ ทั้งเศร้า เสียใจ น้อยใจ และโมโหตัวเอง

“ผมขอโทษที่ทำไม่ได้อย่างที่พูด” เขาสูดหายใจเข้าลึกเพื่อระงับอารมณ์ที่มันกำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายใน..ไม่ให้เผลอใส่อารมณ์กับอีกฝ่าย

“พี่รู้หรือเปล่าว่าถ้าเป็นไปได้...ผมเองก็ไม่ได้อยากอายุน้อยกว่าพี่แบบนี้ ผมอยากโตพอที่จะให้พี่รู้สึกว่าผมพึ่งพาและดูแลปกป้องพี่ได้ ไม่ใช่ไอ้หนูที่พี่อยากจะเขี่ยทิ้งทุกเวลาแบบนี้! ผม..รักพี่..รักมากอย่างที่ไม่เคยรักใคร ผมพยายามที่จะปิดหูปิดตาไม่สนใจว่าพี่จะมองผมแบบไหน แต่สุดท้ายแล้ว...ผมมันก็ยังเป็นแค่เด็กอมมือที่ไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย แม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง”

“ไม่ใช่..” ทะเลจันทร์อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่อย่างที่เจ้าตัวคิดเลย

เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างยากลำบาก ขอบตาร้อนผ่าว “ตอนนี้ผมสับสนไปหมดแล้ว พี่พูดมาให้ชัดเลยดีกว่า..ว่าพี่จะเอายังไงกันแน่ ถ้าไม่อยากมีผมอยู่ในชีวิตแล้วก็ไล่ผมเลย”

ทะเลจันทร์จ้องอีกฝ่ายที่พูดจาตัดพ้อกัน ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มตลอดเวลา ในตอนนี้ดวงตาสวยแดงก่ำเต็มไปด้วยน้ำตาคลอหน่วย อย่าว่าแต่อีกฝ่ายสับสนกับเขาเลย ตัวจันทร์เองก็สับสนไม่ต่างกัน

“ไหนบอกว่าไม่ให้ฉันไล่เธอไปไหนไง” จันทร์ย้อนถามเสียงสั่น “...ไหนว่าขอแค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้วไง”

“ตอนนั้นผมคิดว่าผมจะทำได้ตามที่พูด แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามัน..” ทะเลสูดหายใจเมื่อน้ำตามันกำลังจะไหล “มัน..ทรมานมากแค่ไหน เวลาที่ผมถูกพี่ผลักไส ผมคิดว่าผมจะรับได้..กับสถานะแบบนี้ แต่ไม่เลย…”

“...”

“ผมรู้ว่ามันคงทรมานถ้าผมไม่มีพี่ แต่บางที...มันอาจจะดีกว่าหรือเปล่าถ้าเราต้องแยกกันไป พี่เองก็อาจจะดีใจที่ต่อไปจะได้ไม่เห็นผมมาวุ่นวายด้วยนะ”

จันทร์สมควรจะพอใจสิ..ในที่สุดทะเลก็เอ่ยปากขอให้ตนไล่
เขาสมควรจะพอใจ...แต่ทำไมมันถึงปวดหนึบในอกขนาดนี้

"คิดดีแล้วใช่ไหม”

หลังจากที่เขาเอ่ยถาม..น้ำตาของทะเลก็ร่วงลงมาหนึ่งหยด เพียงแค่นั้นมันก็บีบหัวใจของจันทร์เหลือเกิน

เด็กหนุ่มซบหน้าลงกับฝ่ามือ “ไม่รู้..ผม-ไม่รู้”

จันทร์เดินเข้าไปดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดเอาไว้ ลูบหัวลูบหลังปลอบเด็กที่ตัวโตกว่ามากอย่างแผ่วเบา

“ขอโทษนะ..ที่ทำให้เธอทรมานขนาดนี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะให้มันเป็นแบบนี้เลย เธอ...ไม่ควรจะมาเจอคนแบบฉันเลยแท้ ๆ”

ทะเลร้องไห้เงียบ ๆ ในอ้อมกอดของคนที่เขารักมาก ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงต้องมารักคนคนนี้

“ฉันผิดเอง...ที่ไม่สามารถหลุดจากเรื่องไม่ดีในอดีตได้ มันเลยทำให้เธอต้องเจ็บแบบนี้ ฉันจะไม่โทษถ้าเธอจะไปหรอกนะ...ก็ถูกของเธอ มันก็อาจจะดีกว่าถ้าเราต้องแยกกันไป”

จันทร์บอกความในใจ แต่ก็ยังคงหลีกเลี่ยงที่จะพูดเหตุผลอีกข้ออยู่ดี

ทะเลแหงนหน้าขึ้นเช็ดน้ำตาออก เขาพยายามเรียกสติทั้งหมดให้กลับมา ขืนยังเป็นแบบนี้กันทั้งคู่จะต้องแย่ลงจริง ๆ แน่ เมื่อตั้งสติได้แล้วเขาประคองใบหน้าของร่างที่เล็กกว่าให้เงยขึ้นมาสบตากัน

“พี่ฟังผมนะ...ผมว่าเราควรจะเปิดใจคุยกันอย่างจริงจังสักครั้ง”

“...”

“อย่าหลบตาผม”

“อย่าดุสิ” จันทร์ว่าขมวดคิ้ว ดันมือของอีกฝ่ายออกจากแก้มทั้งสองข้าง เจ้าตัวเลยเปลี่ยนไปจับมือของเขาแทน

“ผมอยากให้พี่เปิดใจคุยกับผม..ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่พี่เก็บอยู่ในใจ ผมพร้อมจะฟังทั้งหมด”

จันทร์ส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบางเบา “ไม่หรอก เชื่อสิว่านายไม่อยากรู้”

“ใช่ ผมไม่อยากรู้” ทะเลยอมรับ “ผมไม่อยากรู้ว่าพี่ผ่านอะไรมาบ้าง เพราะผมกลัวว่าผมจะหึง..คนในอดีตของพี่”

จันทร์ก้มหน้าลงแอบยิ้มออกมา ไอ้เด็กนี่...ทำไมมันชอบทำให้เขาใจเต้นแรงแบบนี้เสมอ ๆ เลยนะ น่าหมั่นไส้นัก

“อย่าหลบหน้าผมสิ”

จันทร์เงยหน้าขึ้น “ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะเล่าให้เธอฟังหรอก”

“ถ้ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นพี่จะกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง” ทะเลบอกอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทุกสิ่งทุกอย่างมันมักจะมีที่มาที่ไป และตนคิดว่าไม่มีอะไรที่ตัวเองทำไม่ดีต่ออีกฝ่ายแน่นอน

“ฉันแค่ไม่อยากพูดถึงมันอีก”

“...”

“เรื่องบางเรื่องปล่อยมันไปเถอะ..ปล่อยให้มันตายไปกับความทรงจำของฉันก็พอแล้ว”

ทะเลจับไหลบางของอีกฝ่าย "พี่จะไม่เล่าให้ผมฟังก็ได้..แต่พี่ไม่ควรเอาตัวเองไปจมอยู่กับความทรงจำจนวันตายนะครับ...คนเรามันไม่สามารถลบความทรงจำออกไปจากสมองเราได้อยู่แล้ว เราทำได้แค่เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันยังไงให้มีความสุขมากขึ้น พี่ควรจะปล่อยวางเพื่อให้ตัวเองมีความสุขได้แล้ว ไม่ใช่จมอยู่กับความทุกข์ที่เกิดจากเรื่องในอดีต”

จันทร์นิ่งไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น คำพูดของทะเลเหมือนหอกแหลมแทงลงที่กลางอกจนรู้สึกเจ็บที่ขั้วหัวใจ แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนน้ำหล่อเลี้ยงให้หัวใจที่แห้งผากของเขามีชีวิตขึ้นมา

เขาไม่ได้ร้องไห้มานานมาก..จนจำไม่ได้แล้วว่าร้องไห้ครั้งสุดท้ายน่ะมันเมื่อไหร่กัน ขนาดตอนที่รู้ว่าตัวเองป่วยก็ยังไม่มีน้ำตาสักหยด จันทร์ไม่ได้สะอึกสะอื้นหรือคร่ำครวญ เขาเพียงแค่ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาอย่างเงียบ ๆ

เด็กหนุ่มมองอีกฝ่ายที่ร้องไห้ด้วยใบหน้าเหม่อลอย เขาไม่รู้หรอกว่าน้ำตานี้มันมาจากสาเหตุไหน หยดน้ำที่ไหลกลิ้งลงมาจากดวงตากระทบกับแสงตะวันยามเย็นส่องประกายแวววาวสวยงามราวกับเพชรเม็ดเล็ก ๆ

...แต่ถึงมันจะสวยสักแค่ไหน เขาก็คิดว่ารอยยิ้มของคนตรงหน้าสวยงามมากกว่า

ทะเลใช้นิ้วโป้งเช็ดมันออกจากใบหน้าขาว “พี่ควรจะเริ่มรักตัวเองได้แล้วนะครับ รู้ไหม”

จันทร์ไม่ตอบปล่อยให้เด็กหนุ่มเช็ดน้ำตาให้ เมื่อเห็นว่ามันไม่มีท่าทีจะหยุด อีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นโน้มตัวลงมาจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ขยับมาหอมแก้มและจูบริมฝีปากเบา ๆ

“ผมไม่อยากเห็นพี่ร้องไห้เลย”

“ก็ใครมันทำให้ร้องล่ะ” จันทร์แหวใส่

“ครับ ๆ ผมขอโทษนะ” ทะเลบอกก่อนจะหอมแก้มอีกครั้ง

จันทร์สูดหายใจเข้าปอดให้ลึกก่อนจะเรียกอีกฝ่ายที่กำลังนัวเนียกับแก้มของเขาอยู่ "...นี่"

"ครับ?" ทะเลผละออกมารอฟังในสิ่งที่คนอายุมากกว่าจะพูด

“เธอยอมละทิ้งอนาคตเพื่อคนป่วยอย่างฉันได้เหรอ”

ทะเลชะงักไปเพราะอีกฝ่ายไม่เคยถามเขาเช่นนี้มาก่อน

“รู้หรือเปล่าว่าโรคที่ฉันเป็นมันไม่มีวันหาย..มันมีแต่จะทรุดลงนะ รับได้เหรอที่ต้องมาดูแลคนพิการที่รังแต่จะเป็นภาระอย่างฉัน”
ทะเลยิ้มบาง “ได้สิครับ สำหรับผมพี่ไม่ใช่ภาระนะ”

เขาตอบอย่างไม่ลังเล เพราะได้เตรียมใจเอาไว้ตั้งแต่เริ่มหาข้อมูลแล้ว

“แต่ฉันไม่อยากเป็นคนพรากอนาคตของเธอ ฉันอยากเห็นเธอได้ใช้ชีวิตในอนาคตกับสิ่งที่ตัวเองชอบ”

“การถ่ายรูปคือสิ่งที่ผมชอบ แต่พี่คือคนที่ผมรักนะ ผมก็ต้องเลือกพี่อยู่แล้วสิ”

ใบหน้าขาวแดงวาบ ไอ้เด็กนี่..มันไปเรียนการพูดการจาแบบนี้มาจากที่ไหนกันนะ ถึงมันจะเสี่ยวมาก แต่มันก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้

ฝ่ามือตีลงกับหน้าอกแน่นของทะเลแก้เขิน “ปากดีนักนะ!”

“ผมไม่ได้มีดีแค่ปากนะ...พี่ก็รู้”

จันทร์ถลึงตาใส่ เด็กหนุ่มก็หัวเราะออกมา

“เป็นไบโพลาร์หรือยังไง เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวร้องไห้”

“พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ”

“ก็ใครมันทำให้ฉันร้องไห้ล่ะ”

“แล้วใครทำผมร้องไห้ล่ะ”

“ไอ้นี่ เถียงคำไม่ตกฟาก!” จันทร์เงื้อมือหมายจะตีเด็กหนุ่มตรงหน้า

แต่ทะเลก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร เจ้าตัวยกยิ้มมุมปากแล้วโน้มตัวลงหอมแก้มคนอายุมากกว่าอีกครั้ง..และอีกหลายครั้ง

“หอมแก้มอยู่นั่นแหละ” ถึงปากจะบ่นแต่เจ้าตัวก็เอียงแก้มให้อีกฝ่ายหอมแต่โดยดี

“งั้น...เปลี่ยนเป็นทำแบบนี้แล้วกันนะครับ”

ทะเลกดจูบกับริมฝีปากนิ่มแผ่วเบา ทั้งสองคนสัมผัสกันแต่เพียงภายนอกไม่ได้มีการล่วงเกินใด ๆ

สิ่งนี้ตอกย้ำความรู้สึกของทะเลจันทร์ให้เด่นชัดขึ้นอีก...ว่าตนเองก็ไม่ได้รู้สึกต่างไปจากอีกคน เขา..ที่กดความรู้สึกนี้เอาไว้ในใจส่วนที่ลึกที่สุด แต่หมอนี่มันก็เอาแต่สะกิดให้มันโผล่หน้าออกมาอยู่นั่นแหละ

...ตอนนี้เขาก็กดมันไว้ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว
กำแพงที่เขาสร้างเอาไว้พังลงมาไม่มีชิ้นดี...

"เธอ..สัญญาได้ไหม...ว่าจะเป็นของฉันแค่คนเดียว"

เด็กหนุ่มพยักหน้ายิ้มกว้าง "ครับ ผมจะเป็นของพี่แค่คนเดียว"

"สัญญาแล้วนะ" จันทร์ถามย้ำ

ทะเลกดจูบที่หน้าผาก "ผมสัญญา"

จันทร์กอดเด็กหนุ่มที่ตัวสูงใหญ่กว่าเอาไว้เต็มอ้อมแขน เขารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก..นานแล้วเหมือนกันที่ไม่รู้สึกแบบนี้

ถึงเวลาที่ทะเลจันทร์ต้องยอมรับได้แล้ว…
ว่าเขาเองก็..รักทะเล



tbc.
ห่างหายไปเกือบเดือนอีกล้าววว~~~
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและการติดตามนะคะ
สำหรับตอนนี้ใครอ่านแล้วงงก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เราจะรีไรท์ทั้งหมดอีกครั้งในรวมเล่มค่ะ (แต่กับสนพ.ไหนขออุบไว้ก่อนน้า)
ทุกวันเราจะพยายามพัฒนาการเขียนของเราไปเรื่อย ๆ ขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ /จุ๊บ
 :L2:


หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 13 หน้าที่ 2 [18/05/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 20-05-2019 17:43:21
:กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 14 หน้าที่ 2 [04/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 04-07-2019 14:14:40



14




หลังจากที่เปิดอกพูดคุยกันไป ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ดูเหมือนจะดีขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้ตกลงเรียกความสัมพันธ์นี้ว่าแฟน แต่การกระทำที่มีต่อกันก็ไม่ได้ต่างไปจากคนเป็นแฟนกันเลย

จันทร์ไม่ได้ปฏิเสธทะเลเหมือนอย่างเก่า เขาพยายามไม่คิดถึงเรื่องด้านลบและเปิดใจเพื่อชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น

ก่อนหน้านี้เขาอาจจะคิดว่าตัวเองมีความสุข แต่ความจริงก็คือความจริง เขาปิดหูปิดตาและคิดว่ามีแค่แม่และเพื่อน ๆ อยู่ด้วยกัน..เขาก็มีความสุขแล้ว โดยหลงลืมไปว่าการที่มีคนรักอยู่ด้วยกันแบบนี้มันเป็นความสุขที่เข้ามาเติมเต็มให้หัวใจของเขาพองฟูยิ่งกว่าที่เคยเป็นเสียอีก

ในตอนนี้ทะเลเริ่มเข้าออกบ้านของจันทร์บ่อยขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อจันทร์เริ่มกินยาตามที่หมอสั่งก็ทำให้บางครั้งเขาก็มีอาการเวียนหัวและคลื่นไส้ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยา แต่โชคดีที่มันก็น้อยลงมากแล้ว

“แล้วนี่ไม่ไปสวิสแล้วหรือ” จันทร์ถามขึ้นในวันที่ทะเลมานอนค้างที่บ้าน

“...ชักไม่อยากไปแล้วสิครับ” ทะเลชะงักมือที่กำลังพับเสื้อผ้าใช้แล้วเพื่อจะยัดใส่กระเป๋าของตัวเองไว้ไปซักที่บ้าน

“ใส่ตะกร้าไว้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปซักด้วยกัน”

เด็กหนุ่มทำตามที่อีกฝ่ายบอก เขาเดินไปที่ตะกร้าตรงมุมห้องใส่เสื้อผ้าใช้แล้วลงไป

“ทำไมไม่อยากไปล่ะ” จันทร์ถามต่อเมื่อทะเลเดินกลับมา

“ผมเป็นห่วงพี่” ทะเลบอกพร้อมกับซุกตัวลงใต้ผ้านวมผืนเดียวกัน

คนอายุมากกว่าขมวดคิ้วมุ่น “ห่วงอะไรกันนักหนา ฉันโตแล้วดูแลตัวเองได้น่า”

“แต่พี่ป่วย”

“ฉันรู้ตัวน่ะ” จันทร์ว่าพลางถอนหายใจ “ตอนนี้ร่างกายฉันก็เริ่มปรับตัวเข้ากับยาได้แล้ว”

“แต่อาการมันยังไม่คงที่ ยังไงผมก็ยังห่วงพี่อยู่ดี”

“ไม่เป็นไรหรอก ยังมีไอ้น้ำหวานอยู่ทั้งคน เกิดอะไรขึ้นฉันโทรเรียกมันก็ได้” จันทร์บอกพลางลูบหัวเด็กหนุ่มที่นอนตะแคงหันหน้าเข้าหาตน “ไปเถอะ ประสบการณ์ชีวิตไม่ได้มีกันบ่อย ๆ นะ”

ทะเลคิดตามก่อนจะตอบตกลง อย่างน้อยพี่น้ำหวานก็ยังไม่ได้ไปไหนในตอนที่เขาไม่อยู่

“เดี๋ยวผมฝากให้ไอ้เป็ดมาดูแลพี่บ้างดีไหม” เขาเสนอ

จันทร์ยิ้มมุมปาก “ก็ดีนะ เด็กน่ารัก ๆ แบบนั้นฉันชอบ”

“แล้วผมไม่น่ารักหรือยังไง” ทะเลย้อน ใบหน้าขึงขัง

“ให้มานอนกับฉันแทนเธอด้วยก็ดีนะ”

“พี่!”

จันทร์ยิ้มขำเมื่อเห็นหมอนี่เริ่มออกอาการหัวร้อน “ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะจับเพื่อนเธอทำเมียหรอกน่า เพราะดูท่าตอนนี้มีคนจ้องน้องเขาไว้แล้วนะ”

ทะเลเลิกคิ้ว “ใครอะ?”

“เรื่องอะไรจะบอก”

“เอ้า!” เด็กหนุ่มร้องเสียดายด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“มันไม่ใช่เรื่องของฉันสักหน่อย จะพูดได้ไงล่ะ”

“แบบนั้นพี่ก็ไม่น่าพูดให้ผมอยากรู้แต่แรกหรือเปล่าล่ะ”

“ก็ถ้าไม่พูด เดี๋ยวเธอก็จะคิดไร้สาระไปเรื่อยเปื่อยน่ะสิ”

“ผมไม่คิดอะไรบ้า ๆ แบบนั้นหรอก”

“เหรอออ”

“นอนได้แล้วครับ” ทะเลเปลี่ยนเรื่อง จับผ้าห่มด้านอีกฝ่ายขึ้นมาคลุมจนถึงคอ “หยุดหัวเราะได้แล้วครับ”

เมื่อทะเลบอกแบบนั้น จันทร์ก็เม้มปากกลั้นขำเต็มที่ เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนทำเป็นไม่สนใจอีกฝ่าย เขาเดินไปปิดไฟและตามด้วยผ้าม่าน

จันทร์มองตามการกระทำที่ใส่ใจนั้นด้วยแววตาลึกซึ้ง ถึงทั้งคู่จะรู้จักกันได้ไม่ถึงปี แต่ทะเลก็เรียนรู้และสังเกตว่าตนชอบหรือไม่ชอบอะไร อย่างเช่นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ เรื่องที่เขาชอบนอนในห้องมืดที่ไม่มีแสงอะไรเข้าถึงเลย ทะเลมองและจดจำโดยที่ไม่เคยถาม

ถ้าในวันที่มีทะเลอยู่ด้วยกันเขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรเองเลย ตื่นเช้ามาก็มีเตรียมไว้ให้หมด ทั้งเสื้อผ้ายันอาหารการกิน เด็กคนนี้ดูเคยชินกับการดูแลคนอื่นจนเขาต้องเอ่ยปากถาม

‘ผมเคยดูแลคุณย่ามาก่อนน่ะครับ’

ตอนนี้เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหมอนี่ถึงได้ดูแลเขาดีขนาดนี้ ทะเลทำให้เขารู้สึกโชคดีที่อีกฝ่ายรักเขามากขนาดนี้

จันทร์ได้แต่คิด ...ให้ตายสิ ไม่อยากให้ตัวเองเคยชินกับการที่มีหมอนี่อยู่ในชีวิตเลย นั่นเป็นสิ่งที่เขากลัวที่สุด ยิ่งกว่าการพรากอนาคตของเด็กคนนี้ คือการที่ตนรู้สึกยึดติดจนขาดอีกฝ่ายไปไม่ได้

ถ้าเขายังอยู่กับทะเล หมอนี่อาจจะทำให้เขานิสัยเสียยิ่งกว่าเดิมก็ได้ เด็กนี่จะทนได้หรือเปล่านะ ถ้านานวันเข้ามันอาจจะทำให้ได้เห็นด้านแย่ ๆ ของเขา…

ทะเลจันทร์ก็ได้แต่คิดสงสัย…ถ้ามีวันนั้น..วันที่ทะเลทนไม่ได้จริง ๆ ขึ้นมา...เขาจะเป็นยังไงกัน

ลึก ๆ แล้วเขากลัว...กลัวไปหมดทุกอย่าง  แต่เพราะพักหลังนี้เขาได้เริ่มอ่านหนังสือธรรมะนิดหน่อย เลยทำให้ได้รู้ว่าความกลัวเป็นสิ่งที่ทำลายความสุขสำราญและรบกวนประสาทของคนเราอย่างยิ่ง

ความกลัวถือเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งของมนุษย์เหมือนกันหมด แล้วแต่ว่าใครจะกลัวอะไรแตกต่างกันไป แต่ความกลัวนั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่ใจสร้างขึ้นให้กลัวทั้งนั้น สิ่งที่เป็นตัวตนไม่ได้ทำให้เรากลัวได้เท่าที่ใจเราสร้างขึ้นเอง

สำหรับทะเลจันทร์แล้ว..เรื่องธรรมะเป็นสิ่งที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจได้ แต่เมื่อได้ประสบพบเจออะไรหลายอย่างมันก็ทำให้เข้าตระหนักรู้ถึงสิ่งที่ได้อ่านผ่านหัวไปแล้วบ้าง นั่นทำให้เขารู้สึกว่าธรรมะเป็นสิ่งใกล้ตัวมากกว่าที่คิด และคนเราก็มีอยู่ในตัวทุกคน
ทะเลก็บอกให้เขารู้จัดปลดปลงและปล่อยวางเรื่องในอดีต ไม่ใช่เพื่อใคร..แต่เพื่อตัวเขาเอง

สิ่งที่เด็กนั่นพูดมาก็ถูกทุกอย่าง ในตอนนี้จันทร์ก็เลยเลือกที่จะพยายามปลดตัวเองจากทุกเรื่องที่ผ่านมา และทุกความกลัวที่เคยมี แล้วเลือกที่จะอยู่กับปัจจุบันแทน

แม้มันอาจจะยากในช่วงแรกสักหน่อย เพราะใช้ชีวิตแบบนั้นมานาน แต่เขาสัญญากับตัวเองว่ามันจะต้องค่อย ๆ ดีขึ้น

เพื่อตัวเอง..และคนที่รักเขา


/


“ผมไม่อยู่ด้วยพี่ก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ”

ทะเลกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง คนอายุมากกว่าบีบมือกลับพร้อมกับพยักหน้า

“ต้องนอนให้เพียงพอ กินข้าวกินยาให้ตรงเวลานะครับ” เขาไม่วายกำชับอีก

“รู้แล้วน่า..เป็นพ่อหรือยังไงกัน” จันทร์ว่ายิ้มขำ

“ไม่ได้เป็นพ่อ แต่เป็นผ- อื้อ!”

“หุบปากไปเลย!” จันทร์ยกมือขึ้นปิดปากอีกฝ่ายแน่น

น้ำหวานที่ยืนใกล้ ๆ ส่ายหน้าปลง แล้วขอแยกตัวออกไปเพื่อให้ทั้งสองคนได้ใช้เวลาด้วยกัน

“ปิดปากผมทำไมเล่า!”

“ฉันไม่ตบก็บุญแล้ว!”

เด็กหนุ่มหน้างอ “พูดจาหวาน ๆ ให้ชื่นใจหน่อยก็ไม่ได้”

จันทร์ผลักหัวของอีกฝ่ายเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู ก่อนบอก “ไป ๆ ถึงเวลาแล้ว”

“แล้วจะรีบกลับนะครับ” ทะเลบอกน้ำเสียงอาวรณ์แล้วดึงตัวของคนที่รักเข้ามากอดแน่น

“ฉันก็จะรอเธอกลับมานะ” จันทร์กอดตอบกระซิบเสียงเบา

ประโยคเรียบง่ายนี้มันทำให้ทะเลอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน…

ในที่สุดก็มีบ้านที่รอเขากลับมาแล้ว…


/


“เงียบไปเลยนะมึง”

จันทร์ที่เหม่อมองข้างถนนหันกลับไปหาน้ำหวาน “อะไรมึง”

“ไอ้เด็กนั่นไม่อยู่แล้วเหงาล่ะสิ”

เจ้าตัวยักไหล่ “...คงงั้นมั้ง”

ผ่านมานานแล้วที่เขาไม่ได้อยู่คนเดียว พอคิดว่าช่วงนี้จะไม่มีทะเลคอยมาป้วนเปี้ยนก็อดที่จะใจหายไม่ได้ ตลกตัวเองชะมัด..ก่อนหน้าไม่กี่วันเขายังมีความคิดไม่อยากให้หมอนี่มารักอยู่เลย สงสัยว่าถ้าอีกฝ่ายอมไปจากเขาง่าย ๆ จริงล่ะก็...เขาต้องเฮิร์ทหนักแน่ ๆ

“กูดีใจนะที่มึงยอมเปิดใจอีกครั้ง” น้ำหวานบอก

จันทร์ยิ้มมุมปาก หันไปมองด้านนอกอีกครั้งก่อนจะรำพันออกมา “มันก็แปลกดีนะ…”

“หืม? แปลกยังไงวะ”

“กูที่ไม่ยอมเปิดใจให้ใครมานานเป็นสิบปี..กลับยอมให้ไอ้เด็กที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงปี มึงว่าแม่งง่ายไปไหมล่ะ”

น้ำหวานหัวเราะในลำคอ “ง่ายห่าอะไรล่ะ กูว่าทะเลแม่งเก่งนะที่อดทนมาได้จนตอนนี้ เป็นกูเปิดตูดหนีไปตั้งแต่เดือนแรกแล้ว”
จันทร์หัวเราะเสียงเบา น้ำหวานมันไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูงนัก

“มึงเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่า”

“ถามเหมือนมึงไม่รู้จักกูเลยนะ”

เพื่อนตัวโตหัวเราะเมื่อถูกอีกฝ่ายย้อน “กูลืมไป กูแค่จะบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับเวลาหรอกว่าจะช้าหรือเร็ว เมื่อเจอแล้วคนมันใช่..มันก็ใช่อยู่ดี ไม่สามารถหนีกันไปไหนพ้นได้หรอก”

“เด็กนั่นมันเคยเกือบจะปล่อยมือกูไปแล้วนะ แต่สุดท้ายมันก็ทำไมได้ พอกูถามว่าพูดจริงเหรอ มันก็ร้องไห้ยังกับเผาเต่า”

“มึงมันสันดานเสีย รังแกเด็กดีอย่างไอ้ทะเลได้ลงคอ”

“...กูเองลึก ๆ แล้วก็กลัวนะว่าทะเลมันจะยอมแพ้ไปก่อน แต่ถึงมันจะไป..กูก็ไม่คิดรั้งไว้หรอก”

น้ำหวานตะลึงเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาไม่ได้คิดว่าจันทร์มันจะรู้สึกกับเด็กนั่นมากขนาดนี้ เจ้าตัวยิ้มออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปจับไหล่บอบบางของเพื่อนรักเบา ๆ

“ไหน ๆ ก็เจอคนที่รักมึงจริง ๆ แล้ว..อย่าปล่อยให้มันหลุดมือล่ะ”

จันทร์ยิ้มบาง “กูไม่คิดจะปล่อยแล้วล่ะ แต่ถ้าในอนาคต..ทะเลมันเบื่อที่จะมาดูแลคนที่จะพิการ...กูก็ไม่คิดจะรั้งมันไว้หรอกนะ”

“ถ้าเกิดมีวันนั้นขึ้นมา กูจะเป็นคนรับผิดชอบชีวิตมึงเอง” น้ำหวานพูดด้วยเสียงหนักแน่น

“ขอบใจมึงมาก” เจ้าตัวบอกกลั้วหัวเราะ รู้สึกขอบคุณจากใจจริง

“ไม่ต้องมาขอบจงขอบใจกูหรอก มึงไม่ใช่แค่เพื่อนกูนะ..แต่เป็นครอบครัวกันต่างหาก”

“ปากหวานสมชื่อนะ”

“ไอ้ควาย” น้ำหวานสะบัดหน้าหนีก่อนจะด่าเมื่อถูกอีกฝ่ายหยอกโดยการดึงหนวดเบา ๆ

“ว่าแต่มึงเถอะ เป็นมายังไงถึงไปยุ่มย่ามกับน้องเป็ดของกูได้”

น้ำหวานเลิกคิ้ว “ไหงงั้น น้องเขาไปเป็นของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ น้องมันบอกกูว่าไม่ได้ชอบเป็นผู้ชายนี่หว่า”

"ก็ไม่ใช่ไง"

"แล้วอะไรคือน้องเป็ดของมึง"

"ไอ้ควายเอ๊ย!" จันทร์ว่ายิ้มขำ "มึงจะหึงก็ช่วยดูตาม้าตาเรือก่อนโว้ย"

"ก็มึงพูด.."

"ถ้ากูจะเอาน้องมันทำเมียกูทำไปนานแล้ว ไม่เหลือรอดไปถึงมึงหรอก"

“มั่นใจในตัวเองเหลือเกินนะ” น้ำหวานกัดฟันว่า

เพื่อนตัวเล็กไหวไหล่ “แน่นอนอยู่แล้ว”

น้ำหวานหายใจฟึดฟัดด้วยความขัดใจ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ มันเขี้ยวที่มันกวนตีนแต่ตนกลับทำอะไรไม่ได้

“เอาน่า..อย่าหงุดหงิดไปเลย เดี๋ยวกูบอกอะไรให้ รับรองว่ามึงต้องไม่อยากจะเชื่อแน่นอน”

“ก็อะไรล่ะ”

“กูว่ามึงกับน้องเป็ดต่างหากที่เรียกว่าพรหมลิขิต”

“ไม่ใช่แล้วมั้ง”

“ฟังกูให้จบก่อนสิ” จันทร์ว่า “จำได้หรือเปล่าว่ากูเคยจะแนะนำเด็กคนหนึ่งให้มึง แล้วกูก็เคยบอกน้องว่าจะแนะนำเพื่อนกูให้ ทั้ง ๆ ที่กูยังไม่ได้แนะนำกับใครเลยสักคน มึงกับน้องเขาก็ดั้นด้นมาเจอกันเองจนได้”

“จริงสิ"

"กูจะโกหกมึงเพื่ออะไรล่ะ"

น้ำหวานที่มักจะพูดเรื่องพรหมลิขิตอยู่บ่อยครั้ง ลึก ๆ แล้วก็ไม่ได้ชื่นชมกับมันนักหรอก ชีวิตของเขาถูกพ่อแม่ที่แท้จริงทิ้ง ต้องไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า พอมีพ่อแม่บุญธรรมรับอุปการะมาเลี้ยงก็มีแต่ให้เงินทองใช้จ่ายสบายแต่กลับไม่ได้รับความรักเท่าที่ควร นี่คือพรหมลิขิตขีดเขียนให้ชีวิตของเขาต้องพบเจอแต่เรื่องแบบนี้เหรอ

“แล้ว...มึงกับน้องเป็ดไปถึงขั้นไหนแล้วล่ะ” จันทร์ที่เห็นเพื่อนเงียบไปเหมือนคิดอะไรก็ลองเปลี่ยนเรื่องพูดดู

“กูไม่แน่ใจว่าแบบนี้เรียกว่าแฟนหรือเปล่านะ”

“ยังไงวะ” จันทร์ขมวดคิ้วอย่างงุนงง

“วันนั้นที่พาน้องมันไปร้านมึง ขากลับกูก็พาไปส่งที่บ้าน แล้ว..กูก็ทำประเจิดประเจ้อกับน้องมันมากไปหน่อยมั้ง ถึงเป็ดจะตกลงรับว่าจะลองเรียนรู้กัน แต่นี่แม่ง..ไลน์ไปไม่ค่อยตอบ โทรไปก็ไม่ค่อยรับ”

จันทร์หัวเราะ “มึงไปทำแบบไหนให้น้องมันกลัววะ”

“ก็...แตะเนื้อต้องตัวธรรมดา”

“กูว่าไม่ธรรมดาแล้ว มึงน่ะมันมีคนเข้ามาประเคนร่างกายให้ซะเคยตัว กับเด็กคนนี้มึงต้องค่อยเป็นค่อยไปหน่อยสิวะ ไม่ใช่ทำอะไรตะกรุมตะกราม”

“ช่วยไม่ได้นี่ ช่วงนี้กูของขาดมานานแล้ว”

จันทร์หัวเราะลั่น “น้องมันไม่ได้ชอบผู้ชายมาแต่แรก น่าจะต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร ถ้ามึงคิดจะจริงจังกับน้องมัน..มึงก็ต้องอดทนนะ”

“เออ” น้ำหวานเห็นด้วย “อายุกูก็เท่านี้แล้ว...คิดว่าต้องหาใครสักคนที่คิดจะจริงจังด้วยได้แล้วว่ะ”

“คิดได้แบบนั้นก็ดี”

“โอ้โห~ ก่อนจะบอกกูน่ะบอกตัวเองก่อนดีกว่าไหม” น้ำหวานย้อน

“กูก็จริงจังอยู่นี่ไง” จันทร์บอกกลั้วหัวเราะ

น้ำหวานทำหน้าไม่อยากจะเชื่อนัก แต่ก็ปล่อย ๆ ไป เพราะกลัวว่าไปจำกัดมันมาก จันทร์จะเครียดเอา

“เออ จะว่าไปช่วงนี้...ไอ้เล็กมันไม่ค่อยได้ติดต่อมาหากูเลยว่ะ” น้ำหวานบอกเมื่อนึกขึ้นได้ “มันได้ติดต่อไปหามึงบ้างหรือเปล่า”

ปกติพวกเขาจะใช้วิธีไลน์หากันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ในช่วงนี้..ตั้งแต่ที่เพื่อนของเขามีงานมีการทำ ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เขาเลยถามจันทร์ที่สนิทกับเล็กมากกว่า เพราะอยากรู้ว่าช่วงนี้มันเป็นอย่างไรบ้าง

“ก็ได้คุยกันบ้าง เห็นว่าทำงานราบรื่นดี ไม่มีปัญหาอะไร” จันทร์ตอบ “กูดีใจนะ..ที่เล็กมันได้งานทำสักที แถมยังเป็นงานที่เหมาะกับมันด้วย มันจะได้ไม่ต้องคิดมากอีก”

“นั่นสิเนอะ”

ทั้งสองคนต่างยิ้มออกมาอย่างยินดีที่เพื่อนรักของพวกเขาได้ทำในสิ่งที่ต้องการมานาน   

“แล้วมึงได้ไปดูไอ้เล็กมันที่ทำงานบ้างหรือยังวะ”

จันทร์ส่ายหน้า “ยังเลยว่ะ เคยไปด้วยแค่ตอนสัมภาษณ์งาน”

“ไปไหม” น้ำหวานถามเมื่อเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาแค่ทุ่มครึ่ง

“ไปสิ ๆ” จันทร์รีบตอบตกลง เล็กเริ่มงานมาได้สองอาทิตย์แล้ว ถ้าเขาไม่เกิดอาการเวียนหัวก็คงจะไปตั้งแต่วันแรก ๆ แล้ว แต่พวกเขาเองก็ไม่ได้ห่วงอะไรมาก เพราะที่ทำงานมันก็ไม่ได้ไกลจากที่บ้านมากนัก


/


เพื่อนของเขาทำงานอยู่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของโรงแรมห้าดาว โชคดีที่วันนี้ทั้งจันทร์และน้ำหวานแต่งตัวมาดูดี ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เข้าไปเหยียบแน่นอน

น้ำหวานขอที่นั่งตรงที่สามารถเห็นเปียโนได้ชัดเจน พวกเขาอยากจะเซอร์ไพรส์เพื่อนรัก

“กูขอสั่งห้ามเลยนะมึง” เขาพูดดักคอเมื่อเห็นทะเลจันทร์มองเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

จันทร์เหลือบตามองเล็กน้อย “กูก็แค่มองไหมล่ะ”

“ก็แค่เตือนไว้ก่อน”

จันทร์ถอนหายใจเบา ๆ เขารู้ตัวดีว่าตอนนี้ดื่มไม่ได้อีกแล้ว ถึงอย่างนั้นตนก็ต้องยอมรับว่ายังคงมีความรู้สึกอยากดื่มอยู่

“เอาน่า อย่าเครียดไปเลย ที่ผ่านมาหลายสิบปีมึงก็แดกเหล้าไปตั้งเยอะแล้ว ถือซะว่าที่มึงแดกไปทั้งหมดน่ะ..ชดเชยไปจนมึงแก่เลยละกัน” น้ำหวานพยายามพูดเล่นเพื่อไม่ให้เพื่อนคิดมาก

“เออไอ้ควาย ขอบใจมาก” จันทร์ว่าหัวเราะในลำคอ

พวกเขาสั่งอาหารมาสองสามอย่างมาทานในระหว่างรอเวลาที่เพื่อนรักจะออกมาบรรเลงเปียโนให้แขกในร้านฟัง ทั้งสองคนนั่งคุยกันเรื่องทั่วไปไม่นานนักเล็กก็ออกมาในชุดสูทอย่างเป็นทางการ

เจ้าตัวนั่งประจำที่พลันแววตาสดใสที่เป็นจุดเด่นของเล็กเหลือบมองเห็นเพื่อนรักสองคนที่นั่งอยู่อีกฝั่ง รอยยิ้มดีใจฉายออกมา เขาส่งภาษามือไปให้ว่าเดี๋ยวไปหา ก่อนจะหลับตาลงเพื่อตั้งสมาธิ


/


ใบหน้าน่ารักยิ้มน้อย ๆ ในโลกใบนี้...สิ่งเดียวที่เขาชอบทำก็คือการได้เล่นเปียโน ก่อนที่จะหูหนวกเขามีความฝันว่าจะไปต่างประเทศ แม่มีคอนเนคชั่นหลายที่ และนั่นทำให้เขาสามารถไต่เต้าเป็นนักเปียโนที่มีชื่อเสียงได้

แต่ความฝันทุกอย่างมันก็พังลง ง่ายแสนง่าย…

ซึ่งใช้เวลานาน...กว่าที่เขาจะหยัดยืนได้อีกครั้ง มันทรมานจนอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่เขาก็ไม่มีความกล้าพอที่จะตายจริง ๆ

เล็กเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง จากที่เคยสดใสร่าเริงกลับกลายเป็นเงียบขรึม เขาปิดปากเงียบไม่พูดกับใคร กินอาหารน้อยจนร่างกายที่เล็กอยู่แล้วยิ่งผายผอมเข้าไปอีก

ทั้งพ่อและแม่จะเข้าไปหาเล็กในทุก ๆ วัน แต่เมื่อเขาเห็นท่านร้องไห้และมีท่าทีจะพูดอะไรสักอย่าง ตนก็จะหลับตาลงตัดการรับรู้ทางสุดท้ายที่เหลืออยู่

เล็กอยู่แบบนั้นนานหลายเดือน และสุดท้ายคนที่เรียกสติของเขากลับมาก็คือ..แม่

แม่เขียนจดหมายแนบไว้ที่ถาดอาหารที่วางไว้บนโต๊ะในห้องของเขา ถึงแม้ว่าเล็กจะกินหรือไม่กิน มันก็จะวางไว้บนนั้นอยู่ทุกมื้อ..รอให้เขากิน

แม่ไม่ใช่คนพูดเก่ง ข้อความที่เขียนมาจึงไม่ได้ยาวนัก

‘แม่ขอโทษ...ที่ช่วยอะไรหนูไม่ได้เลย
ขอโทษที่ทำให้หนูเกิดมามีร่างกายที่ไม่แข็งแรง
ขอโทษที่ทำอะไรเพื่อหนูไม่ได้
แต่ขอให้รู้ไว้ว่าแม่รักหนูที่สุดในชีวิตของแม่เลยนะ
ถ้าแลกกันได้..แม่ก็อยากจะเจ็บปวดแทนหนู
แม่ไม่อยากเห็นหนูทรมานแบบนี้เลย
แต่หนูจะต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้นะลูก
หนูยังมีพ่อกับแม่ ยังมีใครคนอื่น ๆ ที่รอหนูกลับมาสดใสร่าเริงอีกครั้ง
แม่เคยสอนหนูว่ายังไงจำได้ไหมครับ
ไม่ว่าจะหกล้มกี่ครั้ง อย่าท้อ เราลุกขึ้นยืนใหม่ได้ ต่อให้ไม่มีขา เราก็จะเดินไปข้างหน้าได้ถ้าใจเราสู้
เพียงแต่บาดแผลครั้งนี้ของหนูมันสาหัสกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา ตอนนี้ความเจ็บมันอาจจะยังไม่ทุเลา
แต่สักวัน..มันจะหายเจ็บ ทุกอย่างจะผ่านไป แม้มันจะทิ้งรอยแผลเป็นอันใหญ่ไว้ แต่หนูจะหายเจ็บ
แม่เชื่อว่าเล็กของแม่เป็นเด็กที่เข้มแข็ง แม่เชื่อว่าหนูจะผ่านมันไปได้ แล้วแม่จะรอวันที่หนูพร้อมที่จะยิ้มให้แม่อีกครั้งนะครับ'

เล็กร้องไห้เป็นครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่อง ปากบางอ้าออกราวกับจะส่งเสียงคร่ำครวญออกมา แต่เหมือนกับว่าลำคอที่เคยเปล่งเสียงมันได้ตีบตันไปแล้ว เขาจิกดึงหูทั้งสองข้างของตัวเองจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ

ความรู้สึกผิดต่อมารดาถาโถมเข้าใส่เล็ก เขาหลงลืมไปว่ายังมีแม่กับพ่อที่รักและเป็นห่วง และไม่ได้ตระหนักว่าท่านก็เจ็บปวดเป็น..เมื่อเห็นลูกชายคนเดียวเป็นแบบนี้

“เล็ก! เล็ก! เป็นอะไรลูก!”

แม่ที่เข้ามาเห็นลูกชายของตัวเองนอนขด มือทั้งสองข้างจิกดึงหูของตัวเอง ร้องไห้หนักราวกับจะขาดใจตายได้ทุกเมื่อ

คนเป็นแม่กอดปลอบลูกชาย ลูบหัวลูบหลังอย่างแผ่วเบา เธอรู้ว่าลูกทรมานมากเพียงใด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงดี เพราะคนที่ต้องเงยหน้าขึ้นจากความทุกข์ทรมานนี้ต้องเป็นเจ้าตัวเพียงคนเดียวเท่านั้น ใครคนไหนก็ไปช่วยไม่ได้..ถ้าตัวเองไม่คิดที่จะก้าวผ่านมันไปให้ได้

ท่านกอดศีรษะของเล็กที่หยุดร้องไห้แล้วไว้แนบอก ค่อย ๆ เอนตัวลงนอน ฝ่ามือลูบเส้นผมรองทรงที่เริ่มยาวของลูก พร้อมกับฮัมเพลงกล่อมเด็กที่เล็กชอบฟัง

ทั้งที่รู้ว่าลูกชายของเธอไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว แต่เธอก็อยากจะทำทุกอย่างให้เป็นปกติ และเธอมั่นใจว่าเล็กจะรับรู้ถึงมันได้
เล็กที่สงบนิ่งลงเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของแม่ ใบหูรับรู้ได้ถึงการสั่นเล็ก ๆ ที่หน้าอก ราวกับว่าแม่กำลังฮัมเพลงให้เขาฟัง

เจ้าตัวกอดเอวคนเป็นแม่แน่น หลับตาลง…

เขารู้สึกสงบลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาตลอดในช่วงหลายวันมานี้ อาจจะเป็นเพราะได้ร้องไห้ออกมา หรืออาจจะเป็นเพราะได้อยู่ในอ้อมกอดของแม่ แต่ที่สำคัญคือจดหมายของแม่..เรียกสติของเขากลับคืนมา แม้มันอาจจะยังไม่ครบ 100% แต่นั่นก็ทำให้เขาคิดอะไรหลาย ๆ อย่างได้

..เปียโนไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิต การที่ยังมีชีวิต มีลมหายใจ นั่นเป็นสิ่งที่น่าดีใจแล้ว ขอเพียงแค่เขาไม่คิดจะยอมแพ้ เขาก็จะยังสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่นี้หาสิ่งที่ชอบต่อไปได้..

เมื่อตั้งสติได้เล็กผละออกจากอ้อมกอดของมารดา ลุกขึ้นนั่งทับขา ใบหน้าเปรอะทั้งน้ำตาน้ำมูกจนดูไม่ได้ ดวงตากลมมองแม่..ที่ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน

“เล็ก..ขอ..โทษ” เล็กค่อย ๆ บอกด้วยน้ำเสียงเพี้ยนไปจากเดิม แถมยังเบาจนแทบไม่ได้ยิน

คนเป็นแม่ยิ้มบาง ท่านยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกชายเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร “แม่รักเล็กนะ” ท่านบอกทีละคำ..หวังว่าลูกชายจะอ่านปากของเธอออก

น้ำตาไหลลงมาอีกเมื่อแม่บอกแบบนั้น เล็กรู้สึกอุ่นซ่านในหัวใจ เขาตั้งใจแล้วว่าต่อจากนี้ไปจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
เขาอยากมีความสุข..ซึ่งแม่เป็นคนที่คอยย้ำเตือนอยู่เสมอว่าความสุขนั้นเขาจะต้องสร้างขึ้นมาด้วยตัวของตัวเอง คนเราไม่ควรยึดสิ่งใดว่านี่คือความสุขของฉัน เพราะเมื่อเราสูญเสียมันไปก็จะเกิดแต่ความทุกข์

..สัจธรรมของชีวิตคือ ความแน่นอนไม่แน่นอน..

นั่นเป็นสิ่งที่แม่เคยบอก เล็กที่ไม่เคยนึกสนใจ กลับนึกถึงคำนั้นได้ในตอนนี้ ก็จริงอย่างที่แม่ว่าไว้ บนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน สิ่งที่คิดว่าดีอาจจะเลว อะไรที่คิดว่ายั่งยืนกลับไม่คงทน

เรื่องที่เขาจะกลายเป็นคนหูหนวก ก็ไม่มีใครคาดถึงมันกลับเกิดขึ้นเขาภาวนาขอให้มันเป็นเพียงฝันร้าย สุดท้ายพอตื่นขึ้นมาฝันร้ายนั้นก็ยังคงอยู่ และนั่นคือเรื่องจริงที่เขาจำต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่อย่างน้อยในวันนี้..เขายังมีแม่กับพ่อและเพื่อนที่โตมาด้วยกันอย่างจันทร์และน้ำหวานเป็นกำลังใจ แม้ชีวิตนี้ที่เคยคิดว่าไม่เหลืออะไรแล้ว..เขาก็ยังคงมีทุกคนเป็นแสงสว่างในยามมืดมน

..และมันก็ถึงเวลาแล้วที่เล็กต้องลุกขึ้นสู้ต่อไป..




TBC…
หายไปนานอีกแน้ววว ต้องขอโทษทุกคนที่ติดตามนะคะ แง TT TT


หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 14 หน้าที่ 2 [04/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 04-07-2019 22:13:26
 :pig4:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 14 หน้าที่ 2 [04/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-07-2019 13:07:35
 :L2: :pig4:

หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 14 หน้าที่ 2 [04/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 05-07-2019 16:05:59
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ
เป็นกำลังใจให้น้องทะเลสู้ ผ่ากำแพงให้ได้ถึงที่สุดค่ะ
ส่วนคู่เพื่อนนี่ก็เชียร์ เป็นสีสันดีค่ะ
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 14 หน้าที่ 2 [04/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: kikie26 ที่ 06-07-2019 08:01:08
ทะเลน่ารักอ่าา

ชอบมิตรภาพของน้ำหวาน จันทร์ และเล็กมากๆ เพื่อนแท้

รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 14 หน้าที่ 2 [04/07/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-07-2019 18:50:01
ได้มาอ่านต่อจากที่เคยอ่านนานมาแล้ว   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
จันทร์ ยอมเปิดใจให้ทะเลซักที   :impress2:

ชอบคู่น้ำหวานกับเป็ด  :-[
เป็ดตลกดี สงสัยฝ่อไปและ ก็พี่น้ำหวานถึงเนื้อถึงตัว ขอเป็นแฟนด้วย  :really2: :serius2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 15 หน้าที่ 2 [13/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 13-08-2019 18:56:04



15




หลังจากที่ทำใจยอมรับความเป็นจริงได้ ว่าเปียโนไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต เล็กก็เริ่มเรียนภาษามือพร้อมกับครอบครัว รวมถึงเพื่อนอีกสองคนก็ขอมาเรียนด้วย

เจ้าตัวไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากหมอไม่รับประกันว่าจะกลับมาได้ยิน 100 % หรือไม่ เขาไม่อยากผิดหวังอีก...เลยขออยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ น่าจะเป็นทางที่ดีกว่า

ผ่านไปไม่นาน..เล็กก็เริ่มมีรอยยิ้มมากขึ้น แต่กลับไม่เปิดปากพูดอีกเลยหลังจากที่พูดขอโทษกับมารดาในครั้งนั้น ในบางครั้งอาจจะมีหลุดพูดออกมาเสียงเบา ๆ แต่พอรู้ตัวก็จะปิดปากเงียบ คนเป็นแม่เคยถามว่าทำไมถึงไม่ยอมเปล่งเสียงพูดออกมา..ทั้ง ๆ ที่ก็ทำได้

‘เล็กกลัวเสียงเพี้ยน แล้วคนอื่นจะหัวเราะ ทำแบบนี้ให้เคยชินไปเลยน่าจะดีกว่าครับ’

แต่ไหนแต่ไรแล้วเล็กเป็นคนที่ซีเรียสกับเรื่องคีย์มากเป็นพิเศษ ผิดเพี้ยนนิดหน่อยก็มักมีอารมณ์หงุดหงิด อาจเพราะเคยเป็นคนที่หูดีกว่าคนทั่วไป แล้วพอกลับกลายมาเป็นแบบนี้ก็น่าจะทำให้หมดความมั่นใจในตัวเองไปไม่น้อย

หลายปีผ่านไปเล็กยอมรับเรื่องที่ตัวเองกลายเป็นคนพิการได้แล้วจริง ๆ เขาเริ่มค้นหาสิ่งที่ตัวเองพอจะทำได้ไปเรื่อย ๆ โดยที่จะไม่รู้สึกเบื่อและหาเงินได้ด้วย

ถึงแม้ว่าฐานะทางบ้านของเขาจะไม่ได้แย่อะไร ออกจะดีมากด้วยซ้ำ แต่เล็กก็ไม่อยากอยู่บ้านเฉย ๆ งอมืองอเท้ารอให้ป๊ากับแม่คอยเลี้ยงดูไปจนแก่

แต่เนื่องจากว่า...ตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมานี้ เขามีแต่เปียโน ไม่เคยคิดที่จะทำอะไรอย่างอื่นสักนิด นั่นเลยทำให้เขาคิดไม่ออกเลยว่าตัวเองจะทำอะไรได้บ้าง

เล็กเลยเริ่มต้นหางาน แต่มองหาเท่าไหร่..มันก็ไม่มีอะไรที่เหมาะกับเขาเลย


/


มีอยู่วันหนึ่งเขาอยู่บ้านคนเดียวเพราะพ่อกับแม่ไปทำธุระ เล็กไม่อยากทำอะไรสักอย่าง เอาแต่นอนกลิ้งไปมาทั้งวัน แต่เขาก็ยังพยายามคิดอย่างหนักว่าตัวเองจะทำงานอะไรได้บ้าง

ตกค่ำเจ้าตัวเดินไปหาอะไรกินที่ในครัว ขากลับเดินผ่านห้องดนตรีที่ไม่..แม้แต่จะมองมาเป็นเวลาหลายปี ทุกครั้งที่เดินผ่านห้องนี้เขาจะทำเหมือนกับว่าลืมไปแล้วว่าบ้านหลังนี้มีห้องนี้อยู่

เล็กหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูนานสองนาน เขาที่กำลังเผชิญหน้ากับการมองหาสิ่งที่จะมาแทนดนตรีที่เขารัก ส่งผลให้เขาเหนื่อยล้าสะสมจนเริ่มอ่อนแอลงอย่างไม่รู้ตัว

มือเรียวสวยเอื้อมไปจับลูกบิดประตูเปิดออก เขาคิดถึงเปียโนเหลือเกิน นานแล้วที่ไม่ได้เห็นและไม่ได้สัมผัส ก่อนหน้านี้..ไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะไม่เข้ามาเยี่ยมเยียนเพื่อนที่แสนดี

เขานั่งลงที่เก้าอี้ ยิ้มให้กับเพื่อนสนิทที่อยู่กันมาตั้งแต่เด็กที่อยู่ตรงหน้านี้ อยากจะเอ่ยถามออกไปว่าไม่เจอกันตั้งนาน..เหงาหรือเปล่า แต่ก็คิดได้ก่อนว่าขนาดเขายังรู้สึกเหงาที่ไม่ได้เจอกัน มันเองก็คงจะเหงาและคิดถึงไม่แพ้กัน

เรียวนิ้วจิ้มลงบนคีย์บอร์ด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียง แต่เขาก็จำได้ว่าเสียงที่ออกมาเป็นยังไง เล็กยังคงจำได้ทุกอย่าง..ทั้งโน๊ตและเสียง เขาไม่เคยลืมเลย

เมื่อได้แตะ..มันก็ทำให้เล็กหยุดที่จะเล่นไม่ได้ เขาเริ่มจากเพลงง่าย ๆ อย่างหนูมาลีที่แม่สอนเป็นเพลงแรกพร้อมกับรอยยิ้มบางแต่งแต้มบนใบหน้า

เมื่อเล่นจบ..เขาหลับตาลงเพื่อมองตัวเองว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไร ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ตนคงทำใจไม่ได้ ถ้าหากเล่นเปียโนแล้วจะไม่ได้ยินเสียงที่ออกมา แต่ในตอนนี้เขากลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาตลอดในเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา

เล็กเริ่มต้นบรรเลงเพลงโปรดของพ่อกับแม่ Nocturne Op.9 No.2 ที่เขามักจะถูกขอให้เล่นอยู่เป็นประจำ เล็กจำได้ทุกจังหวะและตัวโน๊ต เขาบรรเลงอย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด เพลิดเพลินจนไม่ได้รู้สึกว่าพ่อกับแม่กำลังยืนมองอยู่

ริมฝีปากสวยแย้มยิ้มละไมออกมาบาง ๆ ยามที่ได้บรรเลงเปียโน ราวกับว่าเขาได้หลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม..เปียโนคือทุกสิ่งทุกอย่าง เล็กมีความสุขเมื่อได้อยู่กับสิ่งนี้ นั่นคือความจริงที่เขาปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

พ่อกับแม่ยืนมองลูกชายคนเดียวอย่างมีความสุข ท่านทั้งคู่คิดว่าอาจไม่มีโอกาสได้ยินเสียงเปียโนของเล็กไปตลอดชีวิตแล้วเสียอีก วันนี้โชคดีที่กลับมาเร็ว ถ้าช้ากว่านี้..ก็คงจะไม่ได้ฟังเพลงโปรดจากปลายนิ้วของลูกชายคนนี้เสียแล้ว

เพราะทันทีที่เจ้าตัวหันกลับมาเจอพ่อกับ เล็กเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่คนเป็นพ่อกลับยกนิ้วโป้งให้พร้อมกับบอกว่า “พ่อภูมิใจในตัวลูกนะ” ด้วยรอยยิ้ม แม่เองก็ยิ้มกว้างไม่ต่างกัน

เล็กที่ตอนนั้นสามารถอ่านปากได้แล้ว วิ่งเข้าไปกอดท่านทั้งสองคนแน่น ปล่อยโฮออกมาด้วยความโล่งใจ ความหนักอึ้งในอกถูกทิ้งไปแล้วตั้งแต่เขาได้สัมผัสเพื่อนรักอย่างเปียโนอีกครั้งในรอบหลายเดือน


/


หลังจากนั้นเล็กกับแม่ใช้เวลาฝึกซ้อมเปียโนใหม่อีกครั้ง พอหูไม่ได้ยินแล้ว..เสียงที่ออกมามันก็ผิดเพี้ยนไปนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ ในบางครั้งเล็กก็เร่งจังหวะเร็วไปบ้างช้าไปบ้าง

แม่เป็นคนค่อย ๆ กำกับจังหวะให้กับเล็กใหม่อีกครั้ง ถึงแม้มันจะแปลกที่เวลาเล่นแล้วไม่ได้ยินเสียงแบบนี้ แต่เขาก็มีความสุข..เพราะเล็กจดจำได้ทุกบทประพันธ์ที่เคยเล่นไปทั้งหมด

พอเล็กได้ทำความคุ้นเคยกับเพื่อนเก่าอีกครั้งจนคุ้นมือดี แม่ก็คอยหาเพลงสมัยใหม่มาให้เขาฝึกมือไปเรื่อย ๆ เขาลองเอาตัวโน๊ตที่เห็นกับจังหวะที่แม่สอนให้มาจินตนาการดูว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงแบบไหนกันนะ

พอทำไปนาน ๆ เข้า เล็กก็คิดว่าแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน ถึงแม้หูจะไม่ได้ยิน เขาก็ไม่ได้รู้สึกทุกข์ทรมานเท่าเก่า เขาเรียนรู้ที่จะหาความสุขจากสิ่งรอบตัว เลิกคิดเล็กคิดน้อย เพียงเท่านี้ความทุกข์ที่เคยมีก็หายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น


/


‘ทำไมจะมาไม่บอกกันก่อนเลย’ พอถึงช่วงพัก เล็กเดินเข้าไปหาเพื่อนทั้งสองคนที่มองเขาด้วยสายตาเป็นปลื้ม จนเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขิน

“พอดีไปส่งทะเลขึ้นเครื่องมา คิดถึงเลยแวะมาหา” จันทร์ขยับมือตอบพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ

น้ำหวานแตะแขนให้เล็กหันมา ก่อนจะถาม “เลิกงานกี่โมงเหรอ”

‘เดี๋ยวเล่นอีกหนึ่งรอบตอนสี่ทุ่มก็เลิกงานแล้วล่ะ’

“ดี เดี๋ยวพาไปส่งบ้าน” น้ำหวานบอก ก่อนจะเห็นว่าเพื่อนมีสีหน้าลำบากใจ เลยย้อนถาม “มีอะไรเหรอ”

‘พอดีว่า..มีคนรอเราอยู่’

เห็นเล็กตอบอย่างนั้นจันทร์ก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนถาม “ใคร?”

เล็กเลียริมฝีปากก่อนจะเม้มเข้าหากัน

จันทร์ไม่พอใจนักที่เห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกเลย..ที่เล็กตั้งใจจะปิดบังบางสิ่งบางอย่างกับเขา

‘คนนั้นเป็นเพื่อน’ เล็กเห็นจันทร์มีท่าทีไม่พอใจก็ต้องจำยอมตอบ

“เพื่อน?” เจ้าตัวย้อนด้วยความสงสัย “เพื่อนคนนั้นเป็นใคร”

“เฮ้ย..ใจเย็น ๆ โว้ย” น้ำหวานปราม เพราะจันทร์กำลังทำให้เล็กกลัว

ทะเลจันทร์ชะงักไปเมื่อถูกเตือนสติ เห็นเล็กทำหน้าหงอยแบบนี้ ตนก็รู้สึกแย่ที่ไปคาดคั้นอีกฝ่ายอย่างนี้ เขาถอนหายใจก่อนจะตอบ น้ำหวาน “เออ”

‘ถ้าบอกแล้วจันทร์อย่าโกรธนะ’

จันทร์ชั่งใจก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ

‘คนที่มารอรับคือคนที่จันทร์ไม่ชอบ และเคยห้ามเราไปยุ่งด้วย เราเลยไม่กล้าบอก’

จันทร์กะพริบตาถี่ กำลังนึกอยู่ว่าคนที่เล็กพูดถึงน่ะมันคือใคร แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

“ใครวะ” เขาหันไปถามน้ำหวานที่กำลังกินเนื้อในจานข้างหน้า

“กูจะไปรู้เหรอ คนที่มึงไม่ชอบน่ะมีเป็นล้านคนแล้วมั้ง” น้ำหวานตอบพลางเคี้ยวตุ้ย

“ไอ้ควาย มึงก็พูดเกินไป”

เล็กแตะแขนของจันทร์ ‘คนนั้นไง ที่เจอกันตอน ม.1 ในที่เรียนกวดวิชา’

จันทร์อ้าปากค้าง..นานขนาดนั้นใครจะไปจำได้..แต่เขาก็พยายามนึก เรียนพิเศษตอน ม.1 มันมีใครที่ทำให้เขาไม่ชอบหน้าขึ้นมาได้กันนะ

“ไอ้คนนั้นหรือเปล่า” น้ำหวานโพล่งขึ้นมา “มันชื่ออะไรนะ..เคน เชน..อะไรวะ”

“ไอ้เบญ” จันทร์พูดขึ้น เขาจำได้แล้วว่าใคร..ไอ้คนที่เข้ามาเกาะแกะเล็กคนนั้นนี่เอง

เล็กพยักหน้ารัวยิ้มซื่อ ๆ เมื่อจันทร์หันกลับไปมองทางตน ‘คนนั้นแหละ’

“แล้วมันมายุ่งกับเล็กทำไม”

‘พอดีเจอกันที่นี่ อีกคนเข้ามาทักก่อน ตอนแรกก็จำไม่ได้หรอก แต่พอบอกว่าเคยถูกจันทร์ต่อยหน้าที่โรงเรียนสอนพิเศษก็เลยจำได้’

‘แล้วจำไม่ได้หรือไงว่ามันเคยทำอะไรเอาไว้’

จันทร์เลือกที่จะส่งภาษามืออย่างเดียว ทั้งที่ปกติพวกเขาจะพูดพร้อมกับใช้ภาษามือไปด้วย เพราะเล็กไม่อยากให้ใครมองว่าเขาทั้งสองคนผิดปกติเหมือนตน แต่เวลานี้จันทร์กลัวว่าจะควบคุมเสียงตัวเองไม่ได้ เลยใช้เพียงแค่ภาษามือ

‘จำได้สิ’ เล็กตอบพร้อมกับรอยยิ้มบาง

‘แล้วยังจะไปยุ่งกับมันอีกทำไม’

‘เรื่องมันผ่านมานานมากแล้วนะ เบญเองก็ไม่ได้เป็นเหมือนเดิมแล้ว จันทร์ให้อภัยเขาเถอะ’

จันทร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใครมันจะไปให้อภัยได้ง่าย ๆ เบญมันบังคับขโมยจูบเพื่อนของเขาตอนที่ไม่ได้ตั้งตัว จันทร์ที่บังเอิญไปเห็นพอดีก็คว้าคอเสื้ออีกฝ่ายเข้ามาต่อยไปหนึ่งหมัด ก่อนจะลากเล็กหนีไปก็หันไปชี้หน้าด่ามันว่าห้ามมาให้พวกตนเห็นหน้าอีกเป็นครั้งที่สอง หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็ย้ายที่เรียนทันที

เรื่องมันผ่านมานานจนตัวเขาเองก็ลืมหน้าตาของอีกคนไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้โมโห..เมื่อได้รู้ว่ามันกลับเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตของเล็กอีกครั้ง

“แล้วมันมาจีบเล็กอีกเหรอ” จันทร์เอ่ยถาม

เล็กโบกมือไปมา แต่พอเห็นสายตาที่จ้องมองมาของจันทร์ ก็จำยอมต้องพยักหน้า

ทะเลจันทร์คิดเอาไว้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ และเขาก็มองออกว่าเพื่อนของเขารู้สึกอย่างไรกับอีกคน เพราะที่จริงแล้วเล็กไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องให้ใครก็ไม่รู้มารอรับไปส่งบ้านแบบนี้เลย ในเมื่อครอบครัวของเล็กก็มีคนขับรถที่คอยไปรับส่งเล็กไปไหนมาไหนในบางเวลาอยู่แล้ว

เขาตกอยู่ในภวังค์นานเท่าไหร่ไม่รู้ จนเมื่อถูกน้ำหวานตบไหล่นั่นแหละ ถึงได้มีสติกลับมา เล็กไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพราะหมดเวลาพักแล้ว จันทร์หันกลับไปมองเพื่อนอีกคนที่มีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

“มึงเป็นอะไร” น้ำหวานเอ่ยถาม จู่ ๆ มันก็เงียบไปนาน จนเขาเป็นกังวล..ไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไร

คนถูกถามส่ายศีรษะน้อย ๆ “เปล่า..ไม่มีอะไร”

“มึงโกรธไอ้เล็กมันเหรอ”

“กูเปล่า”

“แล้วมึงเป็นอะไร”

จันทร์ไม่ตอบ กวักมือเรียกบริกร “รบกวนคิดเงินด้วยครับ”

น้ำหวานมองเพื่อนรักที่มีท่าทีหวงเล็กอย่างเห็นได้ชัดด้วยความเป็นห่วง ตนไม่แน่ใจว่าความหวงนี้มันอยู่ในระดับไหนกันแน่ เพราะจันทร์มันก็ดูแลอีกฝ่ายมาแต่เล็กแต่น้อย การที่ไม่อยากให้เจอคนที่เคยทำรุ่มร่ามใส่..มันก็น่าจะเป็นเรื่องปกติ

..ถ้าตัวมันเองไม่ได้คิดเกินเลยอะไรกับเพื่อนของตัวเอง..


/


“มึงไม่ทำเกินไปหน่อยเหรอวะ” น้ำหวานถามหลังจากที่ขึ้นรถมาแล้ว

ที่ถามออกไปอย่างนั้นก็เป็นเพราะว่าเห็นสีหน้าของเล็กตอนที่เขาขยับมือบอกว่าขอกลับก่อนแล้วก็อดสงสารไม่ได้

“...”

“มึงไม่เห็นหน้าไอ้เล็กเหรอ” เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบตนจึงถามย้ำอีก

“เห็น” จันทร์ตอบเสียงห้วน

“แล้วมึงไม่สงสารมันหรือไง”

ทะเลจันทร์หลับตาลง พยายามสงบสติอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านของตัวเอง พอย้อนนึกไปถึงใบหน้าของเล็กที่ได้เห็นก่อนจะจากมา ความรู้สึกผิดก็เริ่มก่อตัวขึ้น เขาถอนหายใจระบายความไม่พอใจที่อัดแน่นอยู่ในอกออกมา

“กูขอโทษ”

น้ำหวานส่ายหน้า “คนที่มึงควรขอโทษไม่ใช่กู แต่เป็นไอ้เล็กโน่น!”

“...”

“กูถามหน่อยเถอะ จู่ ๆ มึงเป็นบ้าอะไรขึ้นมา ไอ้เล็กมันไปทำอะไรให้มึงอารมณ์เสียได้ขนาดนี้วะ”

จันทร์ยกมือที่สั่นน้อย ๆ ขึ้นมาลูบหน้า “กูก็..ไม่รู้เหมือนกัน”

เขาหัวเสีย..อาจจะตั้งแต่ที่เล็กบอกว่ามีคนมารอรับ รวมถึงตอนที่รู้ว่าเล็กกลับไปยุ่งกับไอ้เบญนั่นอีก

“มึงเริ่มบ้าตั้งแต่ที่รู้ว่ามีคนอื่นที่ไม่ใช่คนของที่บ้านมารับมันแล้ว”

“...”

“แล้วพอเป็นเรื่องไอ้เบญมึงก็สติแตกเลย”

“...”

“มึงหวงมันมากเกินไปหรือเปล่า มันเองก็ไม่ใช่อายุน้อย ๆ แล้วนะโว้ย”

“กูจะหวงมันไม่ได้หรือไง กูดูแลของกูมาตั้งนาน..”

น้ำหวานไม่อยากจะคิดไปในทางที่ไม่ดี แต่มันก็อดไม่ได้จริง ๆ ดีที่ว่าจันทร์เองมันก็ไม่ได้รู้ว่าตัวเองคิดอะไรลึกซึ้งกับเล็กขนาดนั้น

“แต่สักวันเล็กมันก็จะต้องมีคนของมันเอง ร่างกายมึงเป็นแบบนี้..มึงดูแลมันไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก”

จันทร์อึ้งไป รู้สึกเจ็บที่หน้าอกจนหายใจไม่คล่องนัก นั่นเป็นความจริงที่เขาต้องยอมรับ ในอนาคตข้างหน้า..เขาจะต้องเป็นภาระของใครหลายคน ซึ่งเล็กก็อาจจะต้องเป็นอีกคนที่มาคอยช่วยเหลือดูแลกัน

“...นั่นสิเนอะ”

น้ำเสียงแผ่วเบาแถมยังสั่นเครือของจันทร์ทำเอาน้ำหวานรู้สึกผิดที่พูดออกไปตรง ๆ แบบนั้น

“กู..ขอโทษที่ต้องพูดแบบนั้นนะ”

“ไม่เป็นไร มันก็เป็นเรื่องจริง กูเข้าใจ”

“มึงโอเคไหม”

“อืม กูโอเค” จันทร์ตอบออกไปทั้งที่ข้างในนั้นไม่ได้รู้สึกตามที่ปากพูดสักนิด เป็นครั้งแรก...ที่รู้สึกแย่ได้ขนาดนี้ แต่เขาก็ต้องเก็บกลืนมันลงไปทั้งหมด

น้ำหวานเหลือบตามองเพื่อนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ตนรู้ว่ามันทำร้ายจิตใจของจันทร์ แต่ถ้าไม่พูดเรื่องมันอาจจะบานปลายใหญ่โตมากกว่าที่จะคิดได้ มากที่สุดคือการที่จันทร์มันจะเสียทะเล คนที่จะสามารถดูแลมันไปตลอดชีวิตที่เหลือนี้ได้

ซึ่งจันทร์มันไม่รู้หรอกว่าการที่ไม่มีทะเลน่ะ..มันจะแย่แค่ไหน


/


เล็กเดินออกมาจากที่ทำงานด้วยใบหน้าเศร้าหมอง เขาเดินตรงไปที่รถครอบครัวคันใหญ่ที่ระยะหลังนี้มักจะมาจอดรอรับอยู่ทุกวันที่ตนมีงาน

ชายร่างสูงใหญ่ยิ้มให้เล็กที่กำลังเดินตรงมาแต่ไกล อีกฝ่ายยิ้มตอบกลับมา แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงได้ดูเศร้าสร้อยนัก

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” เบญจับต้นแขนเล็กไว้ เมื่อเล็กเงยหน้าขึ้นมา ก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

เล็กส่ายหน้าช้า ๆ เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า หยิบปากกากับสมุดเล็ก ๆ ขึ้นมา จรดปากกาเขียนลงไป ‘ไม่มีอะไรมากหรอก อย่าห่วงเลย’

เบญไม่อยากจะเซ้าซี้ถามต่ออีก พวกเขาเพิ่งจะได้กลับมาเจอกันในรอบยี่สิบกว่าปีไปไม่นานมานี้ เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว และตนยังไม่มีสิทธิ์พอจะละลาบละล้วง ยิ่งมีเรื่องที่เคยทำไม่ดีเอาไว้เมื่อตอนเด็ก ๆ เขายิ่งต้องให้เกียรติอีกฝ่ายให้มาก

“กลับบ้านกันเถอะ” เขาบอกช้า ๆ อีกฝ่ายพยักหน้าตอบกลับมา เขาจึงเปิดประตูฝั่งคนนั่งให้กับเล็ก

ระหว่างทางกลับบ้าน เล็กเหม่อมองออกไปข้างทาง..คิดถึงจันทร์ ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่มีครั้งไหนเลยที่เราผิดใจกัน ไม่มีสักครั้งที่จันทร์มีทีท่าแบบนี้กับตน

อาจจะเป็นข้อดีที่เขาหูหนวก อย่างน้อยก็ไม่ได้รับรู้ว่าจันทร์ใช้น้ำเสียงแบบไหนกับเขา แต่ถึงอย่างนั้น..ทั้งสีหน้าและท่าทาง..ก็ทำให้เขารู้สึกเสียใจมากอยู่ดี เขากลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่อยากให้อีกคนเห็นมัน

เบญแอบมองคนข้างกายเป็นระยะ เห็นเล็กซึมแบบนี้เขาก็ไม่สบายใจ อึดอัดที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ตอนนี้อยากจะถามไถ่หรือพูดให้กำลังใจ แต่ถ้าไม่ได้อยู่เฉย ๆ ก็ทำไม่ได้สักอย่าง

ตนรู้ว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันไม่ง่ายเลย แต่ผ่านมายี่สิบกว่าปี..เขากลับลืมคนคนนี้ไม่ได้เลย รักครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับเด็กโรงเรียนกางเกงน้ำเงินที่มีแต่ลูกคุณหนูมาเรียน

เขาเจอกับเล็กในโรงเรียนกวดวิชาตอน ม.1 ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายกลับดึงดูดเขาเหลือเกิน

..กระทั่งผ่านไปแล้วกว่ายี่สิบปี คนคนนี้ก็ยังคงดึงดูดเขาไม่เปลี่ยน..

ทั้งดวงตากลม เวลายิ้มแล้วจะมีลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ เหมือนลูกกระต่ายดูแล้วน่ารัก เล็กเป็นคนร่าเริงและมนุษยสัมพันธ์ดี ครั้งแรกที่เข้าไปทักทายแล้วอีกฝ่ายพูดไปด้วยยิ้มไปด้วย ก็ได้สร้างความประทับใจให้เขาไม่น้อย

แต่เพื่อนของเล็กที่ชื่อทะเลจันทร์ดูไม่ค่อยชอบตนนัก อีกคนมักจะมองเขาตาขวาง และพยายามกันเล็กออกจากเขาเมื่อมีโอกาสอยู่เสมอ

จุดเปลี่ยนที่ทำให้เบญไม่ได้เจอกับเล็กอีกเลยคือ วันนั้นเขาเรียนคนละวิชากับเล็ก แต่ก็ได้ไปเจอกันในห้องน้ำระหว่างคาบเรียน เขานึกว่าเล็กอยู่คนเดียว ไม่ทันได้เห็นว่าทะเลจันทร์เดินตามเข้ามาตอนไหน รู้ตัวอีกที..เขาถูกดึงออกจากเล็ก

“มึงทำเหี้ยอะไร!”

และถูกอีกฝ่ายชกเข้าที่หน้าเต็ม ๆ เบญมองเล็กที่มีสีหน้าตกใจอย่างมาก เขาเองก็รู้สึกตกใจไม่แพ้กัน เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะดึงอีกฝ่ายเข้ามาจูบแบบนี้ แต่ความหน้ามืดตามัวก็ทำลายสติที่เคยมีทั้งหมด

“อย่ามาให้พวกกูเห็นหน้าอีกครั้งนะ!”

หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นเล็กและเพื่อนมาที่โรงเรียนกวดวิชาอีกเลย และเบญเองก็ไม่มีความกล้าพอที่จะไปเจอกับเล็กด้วย
เขาใช้ชีวิตต่อไปเรื่อย ๆ เรียนจบ ทำงาน อายุสามสิบเขาก็แต่งงานสร้างครอบครัว แต่หลังจากใช้ชีวิตคู่มาได้สี่ปีเขาก็หย่ากับภรรยา เบญมีลูกสาวหนึ่งคน อายุสองขวบ ซึ่งเขาเป็นฝ่ายได้สิทธิเลี้ยงลูกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เบญได้กลับมาเจอกับเล็กอีกครั้งที่โรงแรมนี้ เขาจำได้ตั้งแต่แรกเห็น เมื่อเดินสวนกันเขาเอื้อมมือไปคว้าแขนของอีกฝ่ายไว้ทันที

“เล็ก?..เล็กใช่ไหม”

เล็กจ้องหน้าคนที่คว้าแขนเขาไว้ เรียวคิ้วขมวดด้วยความงุนงง

“จำเราไม่ได้เหรอ”

เล็กเอียงคอเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า เขาไม่ได้รู้จักคนมากมายนัก จึงใช้เวลานึกไม่นาน

“ที่เคยเรียนกวดวิชาที่เดียวกันไง”

เล็กยกมืออีกข้างขึ้นแกะมือของอีกฝ่ายออกไป เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋า หยิบปากกาและกระดาษขึ้นมาเขียนข้อความลงไปก่อนจะยื่นไปให้ชายตัวใหญ่ตรงหน้า

‘ขอโทษนะ เราหูหนวก อ่านปากของนายไม่ทัน ยังไงช่วยเขียนลงในนี้แทนได้ไหม’

เบญตกตะลึงเมื่อได้อ่านข้อความในกระดาษนั้น เวลานี้มีคำถามที่อยากรู้มากมายผุดขึ้นมา แต่ตนก็เลือกที่จะยังไม่ถามในตอนนี้

‘เราเบญ ที่เคยเรียนกวดวิชาที่เดียวกันไง’

เมื่อได้อ่านเขาก็จำได้แล้วว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ..คนที่ขโมยจูบแรกและจูบเดียวของเขาไปนี่เอง..เล็กยิ้มให้ก่อนจะเขียนตอบกลับ

‘อ๋อ จำได้แล้ว นายที่ขโมยจูบของเราไป’

คนถูกแซวยิ้มแห้ง ‘ขอโทษนะ ที่ตอนนั้นเราไม่มีสติ’

‘ไม่เป็นไร เรื่องมันผ่านไปนานมากแล้ว อย่าคิดมากเลย’ เล็กก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ ‘เราขอตัวไปทำงานก่อนนะ’

เบญจับข้อมือบางของเล็ก เจ้าตัวมีท่าทีอึกอัก อีกคนเห็นอย่างนั้นจึงยื่นกระดาษและปากกากลับไปให้ เพราะรู้ว่าเบญน่าจะอยากบอกอะไรสักอย่าง แต่เพราะเขาหูหนวก..เลยทำให้อีกฝ่ายไม่รู้จะทำอย่างไรดี

‘เราอยากจะคุยกับเล็ก มีทางไหนที่จะติดต่อเล็กได้บ้าง’

เล็กยิ้มให้กับท่าทางน่าเอ็นดูของอีกฝ่าย ความประหม่าที่แสดงออกมา ดูไม่ค่อยเหมาะกับบุคลิกของอีกฝ่ายสักเท่าไหร่นัก ถ้าเขาจำไม่ผิด..เบญไม่ใช่ผู้ชายที่ดูไม่ค่อยมีความมั่นใจแบบนี้นี่นา

เจ้าตัวก้มหน้าเขียนก่อนจะฉีกกระดาษแล้วยื่นให้กับเบญ

‘xxx นี่ไอดีไลน์ของเรานะ’

เบญยิ้มกว้างพร้อมกับโบกมือตอบกลับอีกฝ่าย หัวใจที่ด้านชามานานเริ่มกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้งหลังจากที่ได้เจอกับเล็ก ถึงจะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม เพียงแค่ได้รู้ว่าเล็กไม่ได้โกรธหรือเกลียด จากสิ่งที่เขาได้เคยทำไว้ในอดีต เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

ชายหนุ่มก้มมองกระดาษในมือ นึกถึงอดีตที่เพิ่งจะผ่านไปไม่นาน หลังจากหย่าขาดจากภรรยาไปแล้ว เขาเคยคิดว่าไม่อยากจะเริ่มต้นใหม่กับใครอีก แค่มีลูกอยู่กับเขาก็เพียงพอแล้ว แต่เล็กทำให้เขากลับมามีความรู้สึกที่อยากเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง..ถ้าอีกฝ่ายไม่รังเกียจพ่อหม้ายลูกติดอย่างเขาก็คงจะดี

เบญก้าวขาเดินออกจากโรงแรม ได้แต่คิดถึงคนที่เพิ่งเจอกันไป เป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นอีกฝ่ายถึงได้กลายเป็นแบบนี้ ช่วงเวลาที่ไม่ได้พบเจอกันต่างคนก็ต่างเผชิญหน้ากับอะไรต่าง ๆ นานา พวกเขาน่าจะมีอะไรพูดคุยกันได้เยอะเลย

..เริ่มจากการกลับมาเป็นเพื่อนก่อน หวังว่าเล็กจะให้โอกาสกัน..




TBC...
ขอบคุณสำหรับการติดตามและทุก ๆ คอมเม้นท์นะคะ มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่า
เรื่องบางเรื่องในนิยายอาจจะเกินจริงไปบ้างก็อย่าว่ากันเลยนะคะ
 :L2:

หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 15 หน้าที่ 2 [13/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 13-08-2019 19:36:01
ตามค่ะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 15 หน้าที่ 2 [13/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 14-08-2019 13:30:20
กดเข้ามาอ่านเพราะชื่อเรื่องเลย
อ่านเพลินดีจัง ยิ้มกริ่มไปมา น่ารัก จะพยายามตามอ่านให้ทันนะคะ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 15 หน้าที่ 2 [13/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-08-2019 13:42:41
จันทร์ แค่หวงเพื่อนมากเกินไปใช่ไหม  :really2: :เฮ้อ:
ให้เล็กได้มีคนรัก คนดูแลที่จริงใจสักที   :-[
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 15 หน้าที่ 2 [13/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-08-2019 14:42:00
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 15 หน้าที่ 2 [13/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 15-08-2019 13:06:28
ตกลงจันทร์รู้สึกยังไงกันแน่ แต่หวงเพื่อนใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 15 หน้าที่ 2 [13/08/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 16-08-2019 16:28:49
 :katai1: จันทร์กำลังจะทำให้เรื่ิองมันยุ่งยาก นะเนี่ย ต้องต้มน้ำรอไม่
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 16 หน้าที่ 2 [31/10/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 31-10-2019 14:38:49



16




ท่ามกลางความมืด ทะเลจันทร์นั่งอยู่บนโซฟา เบื้องหน้าคือกระจกบานใหญ่ที่มองออกไปเห็นสวนข้างบ้าน เจ้าตัวเหม่อมองพระจันทร์เสี้ยวบนท้องฟ้ามาพักใหญ่แล้ว

เขานอนไม่หลับ..ในหัวมันวนเวียนคิดถึงแต่ใบหน้าของเล็กที่มองมาในตอนที่เขาเดินออกมาจากร้านโดยไม่ได้ร่ำลากัน...ใบหน้าเสียใจราวกับจะร้องไห้ออกมาทำเขาปวดหน่วงในอกไปหมด

จันทร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะย้ายตัวเองไปที่ห้องวาดรูป เขาไม่ได้เข้ามาในห้องนี้มาพักใหญ่แล้ว เพราะช่วงหลังมานี้ทะเลมักจะนอนที่นี่อยู่บ่อย ๆ จันทร์ก็เลยเลือกที่จะใช้เวลาไปกับหมอนั่นตลอด

เมื่อนึกถึงทะเล..เจ้าตัวรู้สึกโหวงในอกขึ้นมา ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเขาคิดถึงเด็กนั่น

..กว่าจะได้เจอกันก็อีกหลายวันเลย..

ทะเลจันทร์หยิบแก้วไปเปลี่ยนน้ำพร้อมกับเดินไปหยิบแปรงใหม่ในตู้ แล้วกลับมานั่งลงตรงหน้าภาพที่เขายังวาดค้างเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว

เขาเริ่มลงสีต่อ แต่มือซ้ายข้างที่ถนัดของจันทร์ก็สั่นน้อย ๆ ตลอดเวลาจนเจ้าตัวรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถลงสีได้อย่างใจตัวเอง ในหัวมีความคิดผุดขึ้นมาว่าถ้าอาการมันแย่ลงกว่านี้ ตนอาจจะไม่สามารถวาดรูปได้อย่างเดิมอีกต่อไปแล้วหรือเปล่า

..ถ้ามันเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจริง ๆ เขาจะทำอย่างไรดี..

จันทร์หลับตาลง พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง แต่สุดท้ายน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ทุกอย่างพรั่งพรูออกมาพร้อมน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไม่มีท่าทีจะหยุด

หลังจากที่รู้ว่าตัวเองป่วย จันทร์ไม่เคยรู้สึกทุกข์ขนาดนี้มาก่อนจนกระทั่งตอนนี้...ในตอนที่เขารู้ว่าการวาดรูปของเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นานวันเข้าตนอาจจะจับพู่กันไม่ได้อีก...เขาจะทำในสิ่งรักไม่ได้อีกต่อไป

..ชีวิตที่เคยเป็นจะค่อย ๆ หายไปทีละอย่างสินะ..

*ตึ๊ง*

เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้นมาเรียกให้จันทร์หันกลับไปมอง เขานึกถึงทะเลขึ้นมาทันที..อาจจะเป็นหมอนั่น..ขาเพรียวรีบลุกขึ้นยืนแล้วก้าวออกไปที่โต๊ะเล็กข้างประตูทันที

‘ผมอยู่บนเครื่องแล้วนะ โชคดีที่เขามีอินเทอร์เน็ตให้ใช้’

‘พี่นอนหลับหรือยัง..คิดถึงผมไหม?’

‘ผมคิดถึงพี่นะ’

จันทร์อ่านข้อความที่ทะเลพิมพ์มาทั้งน้ำตา เขาคิดถึงทะเล..คิดถึงมาก

‘คิดถึงสิ’ จันทร์ค่อย ๆ พิมพ์ข้อความด้วยมือที่กำลังสั่น

‘ดีใจจัง ^^’

‘แล้วนี่ทำไมพี่ยังไม่นอนอีก มันดึกมากแล้วนะ’

‘ฉันนอนไม่หลับ’ จันทร์พิมพ์ตอบ ใบหน้าสวยยิ้มบางเมื่อนึกถึงว่าถ้าเด็กนั่นอยู่ด้วยจะบ่นเขาด้วยน้ำเสียงแบบไหน

‘มีเรื่องอะไรหรือเปล่า’

จันทร์น้ำตาร่วงเผาะอีกครั้งหลังจากที่มันกำลังจะจางหายไป เขาตัดสินใจบอกความจริงกับทะเลมากกว่าที่จะปิดบังว่ามันไม่มีอะไร เผื่อว่าอย่างน้อยอีกคนอาจจะมีคำแนะนำดี ๆ ให้กันได้บ้าง

‘ฉันทำไม่ดีกับเล็ก’

‘ร้ายแรงมากหรือเปล่า’

เขาเม้มปาก ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปนั้น..มันร้ายแรงแค่ไหน

‘ไม่รู้เหมือนกัน’

‘ถ้าพี่เป็นฝ่ายผิด พี่ก็แค่ขอโทษครับ’

จันทร์นิ่งงัน คำตอบง่าย ๆ ของอีกฝ่ายทำให้เขาคิดออก

..นั่นสิ..

‘ผมว่า...คนเป็นเพื่อนกันก็ต้องให้อภัยกันได้อยู่แล้วนะ’

‘ขอบใจนะ’

จันทร์ตอบกลับ สิ่งที่ขุ่นมัวในจิตใจส่วนหนึ่งถูกปัดเป่าออกไป เขารู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหน่อย แต่ความเศร้าหมองก็ยังคงขุ่นมัวอยู่ในอก..อยากระบายให้ทะเลฟัง แต่ก็กลัวว่าเด็กนั่นจะเป็นห่วงจนเที่ยวไม่สนุกขึ้นมา

‘ผมไม่อยู่ก็อย่าร้องไห้นะครับ’

จันทร์เผยยิ้มบางพร้อมกับน้ำในตาที่กลิ้งหล่นลงมาช้า ๆ เด็กนั่นอาจจะบอกด้วยอารมณ์หยิกแกมหยอก ไม่ได้รู้ว่าเขานั้นกำลังร้องไห้อยู่จริง ๆ เขาแอบคิดนะ...ว่าถ้าทะเลอยู่ตรงนี้ก็คงจะดี

..คงจะได้นอนกอดตัวใหญ่ ๆ ของหมอนั่นจนหลับไปเลย..

‘พี่ต้องรีบนอนนะ สุขภาพจะได้แข็งแรง’

‘อืม’

‘ไว้รอบหน้าพวกเรามาเที่ยวด้วยกันนะครับ’

‘จะดีเหรอ’

‘ดีสิ เปลี่ยนบรรยากาศทำรักสักหน่อย ชีวิตคู่จะได้สดชื่นนน’

จันทร์หัวเราะในลำคอ

‘ไอ้เด็กเวร’

‘อย่าลืมนะว่าเด็กเวรคนนี้แหละที่เป็นผัวพี่’

ใบหน้าขาวแดงซ่านขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่..หนังหน้าของมันทำด้วยอะไรกัน ถึงไม่ได้รู้จักคำว่ายางอายบ้างเลย!

‘แค่นี้นะ! ฉันจะนอนแล้ว’

‘ครับผม นอนหลับฝันดีนะ’

จันทร์เผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นสติกเกอร์ที่ทะเลส่งมา มันเป็นรูปกระต่ายหอมแก้มกระต่ายด้วยกัน น่ารักเกินไป..ไม่เหมาะกับเด็กเปรตอย่างหมอนั่นสักนิด

‘ฝันดี’ จันทร์ส่งกลับไปสั้น ๆ ก่อนจะกดล็อกหน้าจอ

ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ได้คุยกับทะเล ช่วยเยียวยาให้หัวใจของจันทร์อบอุ่นขึ้นมาแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้อยู่ใกล้กันก็ตาม

..ทะเลเป็นแบบนี้เสมอ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน เด็กนี่ใจดีและอ่อนโยนกับเขามาโดยตลอด มีแต่เขาเสียอีกที่ทำให้อีกฝ่ายทุกข์ใจ..

ทะเลจันทร์เดินกลับไปนั่งลงที่เดิม..ตรงหน้ารูปที่เขาวาดค้างเอาไว้ นึกย้อนไปถึงก่อนหน้านี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เครียด เขามักจะวาดรูปไปเรื่อย ๆ

สำหรับเขา...การวาดรูปก็เป็นเหมือนสิ่งที่ช่วยเยียวยาและผ่อนคลายให้จันทร์คลายเครียดไปได้บ้าง

..ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทะเลกลายเป็นคนที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายที่สุด..

ทะเลจันทร์ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเปิดใจยอมรับใครได้อีก หลังจากที่ถูกคนรักเก่าหักหลังเขาก็เข็ดขยาดกับความรักไปเลย นอกจากแม่ น้ำหวาน กับเล็กแล้ว..เจ้าตัวจะไม่ขอมีใครอีก

และถึงแม้จะมีคนคอยเทียวไล้เทียวขื่อมาตลอด จันทร์ก็ไม่เคยใจอ่อนยอมเปิดใจให้ใคร ต่อให้อีกฝ่ายมีหน้าตาที่ดีหรือการงานที่เลิศเลอขนาดไหน เขาก็ไม่ต้องการ

เพราะแบบนั้นถึงได้ไม่มีใครคิดว่าเขาจะใจอ่อนกับเด็กที่อายุอ่อนกว่าถึง 13 ปีได้ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย...ตัวเขาเองก็ไม่เคยมีความคิดแบบนั้น

ถ้าถามว่ามีตรงไหนของทะเลที่เขาถูกใจ...ในตอนแรกมันก็แค่เพียงรูปร่างหน้าตาและลีลาบนเตียงก็เท่านั้น แต่เด็กคนนี้แตกต่างออกไปไม่เหมือนกับหลายคนที่ผ่านมา

..หมอนี่ทั้งใจดีและอ่อนโยนกับคนที่บอกว่าเป็นได้แค่เพื่อนนอนอย่างเขา..

เกิดมา 35 ปี...บอกตามตรงว่าตนไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน ขนาดแฟนคนแรกของจันทร์ก็ไม่ได้อ่อนโยนกับเขาเท่านี้เลย

วันเวลาผ่านไป...เด็กคนนี้ก็แสดงให้เห็นว่าจริงใจกับเขาจริง ๆ ไม่ได้หมาหยอกไก่อย่างที่เคยเจอ ทะเลพยายามยัดเยียดตัวเองเข้ามาในชีวิตของทะเลจันทร์ จนคนรอบตัวของเขาต่างก็ชอบเด็กนี่กันทุกคน...ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวเขาเอง

ถ้าถามว่าเขาทำไมถึงตกลงปลงใจยอมคบกับเด็กที่เขาคอยแต่ปฏิเสธและผลักไสตลอด ก็คงต้องตอบว่าเพราะความดีของทะเลที่ได้ทลายกำแพงสูงตระหง่านของจันทร์เข้าไปโอบกอดเจ้าตัวจนหัวใจที่ด้านชากลับมามีชีวิตอีกครั้ง

..จันทร์ยอมรับอย่างเต็มหัวใจแล้วว่าเขา..รักทะเล..

แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งอีกฝ่ายเบื่อที่จะอยู่กับคนแก่แถมยังขี้โรค จันทร์ก็พร้อมที่จะปล่อยมือของทะเลไปโดยที่ไม่คิดจะรั้งอีกคนเอาไว้แม้แต่น้อย ไม่ใช่เพราะเขาไม่รัก...แต่เพราะรักถึงยอมปล่อยให้ทะเลได้ไปมีความสุขดีกว่าจมอยู่กับภาระอย่างเขา

..และนี่ก็คือความรักที่เขามีให้กับทะเล..



...



เช้าอีกวันจันทร์พอสงบจิตสงบใจของตัวเองลงได้ก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องเมื่อคืนไม่น้อย เขานั่งเหม่อลอยใช้ส้อมเขี่ยอาหารเช้าฝีมือของแม่ไปมา

“ไม่อยากกินเหรอครับ”

“หือ” จันทร์เงยหน้าขึ้น พยักหน้าเบา ๆ

รดาเอียงคอ “หนูเครียดเรื่องอะไร..บอกแม่ได้ไหม”

“..คือ..จันทร์ทำไม่ดีกับเล็กลงไป” เขาก้มหน้าลง “ทะเลบอกว่า..ก็แค่ขอโทษ แต่จันทร์..กลัว”

“โธ่~” คนเป็นแม่ร้องด้วยความเอ็นดูลูกชายคนเดียว เธอลุกขึ้นเดินเข้าไปโอบกอดศีรษะของจันทร์ให้เข้ามาซบลงที่หน้าอก “หนูกลัวอะไรครับ”

จันทร์เม้มปาก “..กลัวว่าเล็กจะไม่ยกโทษให้”

“หนูพูดอย่างกับว่าไม่รู้จักเจ้าเล็กอย่างนั้นแหละ”

“...”

ท่านดันตัวของลูกชายออก ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างดันใบหน้าขาวให้เงยขึ้น “เล็กน่ะ..รักหนูจะตาย หนูยังจะกังวลใจอะไรอีก”

“...คือ”

“หรือว่าจะให้แม่ไปขอโทษเป็นเพื่อนดีไหม”

“ไม่ ๆๆ” จันทร์ส่ายหน้าหวือ

รดาหัวเราะ “อย่ากลัวอะไรไปก่อนเลย รู้ไหมว่าข้อเสียของหนูน่ะคือเป็นพวกชอบคิดไปเองนะ และนั่นมันก็ทำให้จิตใจของหนูมัวหมอง แล้วมันส่งผลเสียกับสุขภาพโดยตรงเลยนะ”

จันทร์ชะงักไป ลืมไปเลยว่าเขายังไม่ได้บอกแม่เรื่องอาการป่วยที่เกิดขึ้น เขาเคยบอกกับน้ำหวานไว้ว่าอย่าบอกแม่เรื่องนี้ โดยลืมนึกไปว่าสักวันอาการของเขามันอาจจะหนักขึ้นจนแม่สังเกตเห็นได้เอง

..เวลานี้เขากลับลังเลว่าจะบอกท่านเรื่องนี้ดีหรือไม่..

“งั้น..” จันทร์เว้นประโยคด้วยความลังเล “..วันนี้จันทร์ขอเข้าไปที่ร้านช้าหน่อยนะครับ จะแวะเข้าไปหาเล็กที่บ้านสักหน่อย”

“จ้า~” ท่านหัวเราะเอ็นดู ยกมือขึ้นลูบผมยาวของจันทร์ “ผมยาวมากแล้ว ให้แม่ตัดให้ไหม”

จันทร์เงยหน้าขึ้น ยิ้มบาง “ก็ดีครับ

หลังกินข้าวเสร็จสองแม่ลูกก็พากันไปตัดผมกันที่สวนหลังบ้าน โดยใช้ผ้าปูรองให้จันทร์นั่ง จะให้เก็บผมที่ตัดออกไปไว้ที่โคนต้นไม้ได้ง่าย แม่ของจันทร์เคยเรียนตัดผมสมัยยังสาว เพราะแบบนี้ทะเลจันทร์เลยไม่ต้องพึ่งพาร้านตัดผมเลยตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ

“รอบนี้เอาสั้นแค่ไหนดีจ๊ะคุณลูกค้า” รดาถามติดตลก ในขณะที่มือก็ใช้หวีสางผมที่ยาวถึงกลางหลังของลูกชาย

จันทร์นิ่งคิดสักพักก็ใช้นิ้วจิ้มไปที่บ่า “ประมาณนี้ได้ไหมครับ”

“หืม? เอาจริงเหรอลูก” ท่านขมวดคิ้ว นานมากแล้วที่จันทร์ไม่เคยขอให้ตัดผมขึ้นสั้นขนาดนั้น

“ครับ” เจ้าตัวพยักหน้า “จันทร์อยากให้หัวมันโล่ง ๆ หน่อย” อันที่จริงก็เสียดายนิดหน่อย แต่เขาอยากให้หัวมันเบาขึ้นสักนิดก็ยังดี
เลือดจะได้ไปเลี้ยงสมองได้สะดวกหน่อย ไม่ใช่เอาไปเลี้ยงผมจนหมด

คนเป็นแม่เข้าใจดี หลังจากนั้นท่านก็ลงมือตัดปลายผมยาวทิ้งจนได้ระดับที่ถูกขอไว้ ก่อนจะตัดแต่งปลายผมให้เป็นทรงสวย ไม่นานก็เรียบร้อย



...



“อุ๊ย! น้องจันทร์ตัดผมใหม่เหรอคะ” ผู้จัดการของร้านที่เจอกับทะเลจันทร์ตรงประตูร้องทักเจ้านายที่เคยมีผมยาวจนถึงกลางหลัง ตอนนี้กลับเหลือสั้นแค่ประบ่าเท่านั้น

“ครับ” เจ้าตัวจับผมที่โดนมัดเอาไว้ครึ่งหัว “แปลก ๆ ไหม จันทร์ไม่ได้ตัดสั้นขนาดนี้มานานแล้ว”

เธอส่ายหน้า “ดูดีมากเลยค่ะ”

จันทร์ยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเอ่ยขอบคุณและขอตัวแยกไปที่ครัวของเบเกอรี่ก่อน วันนี้เขามีคิวสอนงานพี่สวย เพราะตัวเขาเองก็เริ่มไว้ใจให้อีกฝ่ายทำงานแทนหลายอย่างแล้ว เลยอยากจะเริ่มวางมือบ้าง

“สวัสดีครับพี่สวย”

เจ้าของชื่อที่กำลังง่วนเตรียมของหันมามอง เธอตาโตเป็นไข่ห่านเมื่อเห็นลุคใหม่ของเจ้านาย “น้องจันทร์ไปทำอะไรกับหัวมาคะ!”

จันทร์หัวเราะ “แค่ตัดผมเอง”

“โธ่~คนสวยของพี่” เธอโอดครวญด้วยความเสียดาย

จันทร์ยิ้มแหย “สวยอะไรกันครับ”

ฝ่ามืออวบตีเข้าที่ต้นแขนอีกคนเบา ๆ “พี่ไม่ได้ชมพล่อย ๆ นะคะ น้องจันทร์อาจจะไม่สวยเหมือนกับผู้หญิง แต่ถ้าเทียบกับผู้ชายน้องจันทร์สวยมากเลยนะคะ น้องจันทร์ทำหน้าแบบนั้น..น้องจันทร์ไม่เชื่อพี่สวยเหรอคะ”

“พอได้แล้วพี่” คนฟังมึนไปหมดแล้ว ทั้งน้องจันทร์ทั้งสวย

“ก็ได้ค่ะ ๆ” คนถูกขัดทำหน้าตูม

จันทร์ยิ้มขำพลางส่ายหน้า ส่วนตัวเขาไม่ชอบให้ใครมาชมว่าสวยนัก อย่างน้อยเขาก็ผู้ชาย ถึงจะเป็นเกย์ก็เถอะ

จันทร์เองก็ไม่ถือสากับสิ่งที่พี่สวยพูดออกมา เพราะเข้าใจว่าพี่เขาไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี แต่กับคนที่พูดเพราะมีเจตนาที่ไม่ดีละก็...ได้เห็นดีกันแน่

“เริ่มงานกันได้แล้วครับคนสวย” จันทร์พูดแซวจนคนอายุมากกว่าอายม้วน “ต่อไปจันทร์จะวางมือให้พี่เป็นคนคุมงานแทนจันทร์ทั้งหมดแล้วนะครับ”

“วางใจพี่ได้เลยค่ะ” สวยตบอกตัวเองปุก ๆ

จันทร์ยิ้มกว้าง ปกติแล้วเป็นเรื่องยากที่เขาจะไว้ใจใคร แม่เคยบอกว่าเขาไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้นก็ได้ แต่จันทร์ไม่ยอม เพราะกลัวว่าขนมจะออกมาไม่ดีและทำให้ร้านเสียชื่อ จันทร์จึงเข้าร้านมาควบคุมการผลิตแทบทุกวัน

พี่สวยทำงานด้วยกันมานานหลายปี จันทร์ที่เห็นฝีมือและความใส่ใจทั้งหมดแล้วถึงได้ยอมวางมืออย่างสบายใจ







เช้าอีกวันทะเลจันทร์ตั้งใจขับรถไปหาเล็กที่บ้านที่อยู่ไม่ไกลกันนัก เขากดรีโมทให้ประตูรั้วเปิดออก และขับรถเข้าไปจอดให้เรียบร้อย ทั้งจันทร์ น้ำหวาน และเล็กต่างมีกุญแจบ้านของกันและกัน เนื่องจากว่าพวกเขาสนิทสนมกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่แล้ว

“อ้าว” พ่อบ้านเก่าแก่ร้องขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนของเจ้านายเดินเข้าบ้านมา “ขอโทษนะครับที่ผมไม่ได้เปิดประตูให้ คุณเล็กไม่ได้แจ้งว่าคุณจันทร์จะมา...”

จันทร์ยิ้มโบกมือไปมา “ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ไม่ได้บอกเล็กเหมือนกันว่าจะเข้ามาหา”

“อ๋อ..”

“ว่าแต่..เล็กอยู่ไหนเหรอครับ”

“อยู่บนห้องครับ วันนี้ยังไม่ลงมาเลย”

จันทร์พยักหน้า ก่อนจะขอรับหน้าที่ขึ้นไปปลุกเล็กเอง เขาเดินขึ้นไปชั้นสองตามทางที่คุ้นเคย ปีกว่าเกือบสองปีแล้วที่ไม่ได้มาที่นี่ พออายุมากขึ้นทุกคนก็ต่างมีภาระหน้าที่จนไม่ค่อยมีเวลาไปมาหาสู่เหมือนตอนเด็ก ๆ อีก

เจ้าตัวหยุดยืนอยู่หน้าบานประตูสีขาวสะอาดตา จันทร์เกิดอาการประหม่าขึ้นมา ทั้งที่ก็เตรียมใจเอาไว้แล้วแท้ ๆ

ทะเลจันทร์สูดหายใจเข้าปอดลึก เอื้อมมือจับลูกบิดเปิดเข้าไปให้เบาที่สุด โชคดีที่ห้องของเล็กไม่ได้มืดจนมองอะไรไม่เห็น เขาหยุดยืนอยู่ข้างที่นอน กำลังชั่งใจว่าจะเริ่มตรงไหนก่อนดี

พอตัดสินใจได้..จันทร์ก็ค่อย ๆ เปิดผ้าห่มหนาขึ้น แทรกตัวเข้าไปนอนข้างเพื่อนรัก เมื่อเห็นว่าเล็กไม่มีทีท่าจะตื่น เขาก็ดึงอีกคนเข้ามากอดไว้หลวม ๆ

จันทร์อมยิ้มเมื่อเล็กเบียดตัวเข้าหา ทำให้ตนนึกถึงสมัยยังเด็ก..ทั้งจันทร์และน้ำหวานมักจะถูกเอาตัวมาฝากไว้ที่บ้านของเล็กเป็นประจำ แล้วพวกเขาทั้งสามคนก็จะนอนอยู่บนเตียงนี้ เล็กชอบให้เขากอดจนกว่าเจ้าตัวจะหลับไปเสมอ

..นี่ก็นานมากแล้วที่ไม่นอนกอดเล็กเอาไว้อย่างนี้..

ในตอนนี้เขายังไม่อยากปลุกเล็กให้ตื่นขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าจะได้เจอกับเล็กในเวอร์ชันไหน ดวงตาสวยพิจารณาใบหน้ายามหลับของอีกฝ่ายเงียบ ๆ และอาจจะเพราะช่วงนี้เขานอนหลับไม่สนิทนัก ผ่านไปไม่นานจันทร์เข้าสู่ห้วงนิทราไปด้วยความอ่อนเพลีย



...



เล็กรู้สึกตัวตื่นขึ้นมารู้สึกตกใจมากที่ตัวเองถูกจันทร์กอดเอาไว้ ดวงตากลมจ้องมองอีกคน แต่เมื่อเห็นว่าหลับอยู่ก็ถอนหายใจเสียงเบา ด้วยความโล่งใจ เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมเจอหน้าอีกฝ่ายตอนนี้

แต่ถึงอย่างนั้นเล็กก็ลอบมองใบหน้าสวยของจันทร์ที่อยู่ใกล้กันเพียงแค่นิดเดียว นิ้วเรียวขยับเข้าไปแตะแก้มเรียวอย่างแผ่วเบา
ความทรงจำในคืนนั้นผุดขึ้นมาย้ำเตือน ทำเอาเขาปวดหน่วงในอกไปหมด ทั้งสายตาและสีหน้าของจันทร์ในคืนนั้นมันยังคงเด่นชัด
เจ้าตัวผุดลุกขึ้นนั่ง น้ำตาเม็ดใสกลิ้งลงจากดวงตากลมโต เล็กก้มหน้ากอดเข่าร้องไห้ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่กำลังตีรวนอยู่ในอก

เพราะมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่เคยบอกใคร และต่อให้ตายก็จะไม่มีทางพูดออกมา

เขาเคยคิดแบบนั้นจนกระทั่ง...เรื่องคืนนั้นเกิดขึ้น

การถูกคนที่รักมองด้วยสายตาแบบนั้นได้สร้างบาดแผลไว้ในจิตใจ เมื่อนึกถึงเมื่อไหร่ก็น้ำตาตกทุกครั้ง เพราะแบบนี้เขาถึงต้องลางานจนกว่าจะปรับอารมณ์ของตัวเองให้เป็นปกติได้

เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากการที่เล็กดันไปรักคนที่ไม่ควรเกิดความรักแบบนี้ด้วย ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าพวกเขาทั้งคู่ไม่มีทางไปในทางนั้นได้ ที่สำคัญคือเล็กก็ไม่ได้ต้องการแบบนั้นด้วย แต่สมองมันกลับสั่งให้หัวใจรู้สึกตามไม่ได้

เล็กไม่เคยคิดเลยว่ามันจะอึดอัดเท่านี้ ยิ่งนานวันเข้าความรู้สึกนั้นยิ่งกัดกร่อนจิตใจของเขาจนผุพังเหมือนบ้านไม้เก่าขาดการดูแล ที่ในสักวันมันก็อาจจะถล่มลงมาเมื่อมีลมพายุพัดกระหน่ำ

เพราะรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นในสักวัน เล็กถึงได้เปิดใจเพื่อมองหาใครสักคน และคนคนนั้นที่เข้ามาก็คือเบญ...เพื่อนเก่าที่จันทร์เกลียดขี้หน้า

เบญในภาพจำของเล็กเองก็ไม่ได้แย่อะไร เรื่องจูบตอนนั้นถึงจะตกใจ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธอะไร อีกฝ่ายบอกเขาอย่างชัดเจนว่าอยากให้ลองทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้ง

ในตอนแรกเล็กก็ลังเลนิดหน่อย แต่ในเมื่อตัวเขาไม่มีใคร เขาก็ควรจะลองเปิดใจดูไม่ใช่เหรอ เผื่อว่าเล็กจะได้ลืมคนที่อยู่ในหัวใจมานานตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ได้สักที

สิ่งสำคัญก็คือเบญเองก็รับได้ที่เขากลายเป็นแบบนี้

อีกคนบอกว่า...

‘ทุกคนล้วนไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอก ผมเองก็ผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว แถมยังมีลูกสาวอีกหนึ่งคน ถ้าคุณรับได้...เราก็มาลองเรียนรู้กันอีกครั้งได้ไหม’

วันนั้นพวกเขานั่งอยู่ตรงข้ามกันในร้านอาหาร ฝ่ามือใหญ่ยื่นออกมาตรงหน้าเพื่อรอคำตอบจากเขา เล็กก้มมองฝ่ามือนั้นแล้วยิ้มออกมาบาง ๆ อย่างกลั้นไม่อยู่ รู้สึกดีใจขึ้นมาที่ตัวเองจะได้มีใครสักคนที่ในอนาคตเขาอาจจะสามารถได้บอกว่าคนคนนี้เป็นของเขาคนเดียวสักที

เล็กค่อย ๆ วางมือลงบนมือของเบญ อีกฝ่ายยิ้มกว้างพร้อมกับกุมมือของเขาเอาไว้แน่น ปากก็พร่ำบอกว่า ‘ขอบคุณ’

..เล็กหวังว่าเขาจะรักเบญ
และรักจันทร์ในแบบที่ควรเป็นได้สักที..


จันทร์ที่ได้ยินเสียงราวกับมีคนร้องไห้อยู่ใกล้ลืมตาตื่นขึ้น คนที่ร้องไห้อยู่แน่นอนว่าไม่ใช่ใครอื่น เขาลุกขึ้นนั่งพร้อมกับจับไหล่ของเล็ก คนที่กำลังกอดเข่าเงยหน้าขึ้นมา

เขาขยับมือถาม ‘ร้องไห้ทำไม’

เล็กส่ายหน้าไปมา เจ้าตัวพยายามเช็ดน้ำตาออก...แต่เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที

จันทร์เห็นแบบนั้นก็กลัวว่าใต้ตาของเล็กจะแสบจากการโดนถูไปมา เขาเอื้อมไปดึงมือทั้งสองข้างนั้นมาจับเอาไว้

เขารู้ว่าถามอะไรไปตอนนี้ก็คงไม่ได้เรื่องอะไร มีแต่ต้องปล่อยให้เล็กหยุดร้องไห้เอง เขาก็ทำได้แค่คอยเช็ดน้ำตาให้กับเล็กเพียงเท่านั้น

ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ตอนนี้เล็กหยุดร้องไห้แล้ว จันทร์ลุกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กในตู้เสื้อผ้าออกมา เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ แล้วออกมาพร้อมกับผ้าหมาด

ร่างโปร่งนั่งลงตรงหน้าเล็ก เขาบรรจงใช้ผ้าขนหนูเช็ดตามใบหน้าขาวใสที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาอย่างเบามือ ดวงตาแดงช้ำจนเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด

เล็กจ้องมองจันทร์ไม่วางตา เขารู้ว่าคนตรงหน้าต้องรู้สึกผิดเรื่องที่เขาร้องไห้อย่างแน่นอน อาจจะโทษตัวเองว่าเป็นเพราะเรื่องคืนนั้นที่ทำให้เขาร้องไห้หนักขนาดนี้

เขายอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องนั้น แต่มันก็แค่ส่วนหนึ่ง...ไม่ใช่ทั้งหมด

‘สบายใจขึ้นหรือยัง’

จันทร์ขยับมือถาม เล็กเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลามีเรื่องเครียดมากก็จะร้องไห้หนักแบบนี้เสมอ

เล็กยังคงจ้องหน้าอีกคนนิ่ง ก่อนจะเริ่มขยับมือ ‘ตัดผมเหรอ’

คนถูกถามพยักหน้า ‘ดีไหม’

‘แบบเดิมสวยกว่า’

จันทร์ส่งยิ้มบาง ก่อนจะบอกเล็กในสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ ‘ขอโทษนะ’

เล็กยิ้มตอบ ‘เราก็ต้องขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องของเบญ’

ทั้งสองคนนิ่งเงียบไปนานหลายนาทีอย่างไม่รู้จะไปต่อยังไงดี

‘เบญดีกับเล็กหรือเปล่า’ จันทร์ถามในสิ่งที่อยากรู้ เพราะเรื่องเก่าที่ผ่านไปนานแล้ว ยังทำให้เขามีอคติกับอีกคนอยู่

เล็กพยักหน้าหลายที ‘เขาดีกับเรามาก ๆ เลย เบญไม่ได้เป็นคนแบบที่จันทร์คิดเลยนะ’

จันทร์ยังคงยิ้มน้อย ๆ อยู่อย่างนั้น

‘เล็กชอบเบญไหม’

คำถามของจันทร์ส่งผลให้เล็กชะงักไปชั่วครู่ พร้อมกับแก้มใสที่เกิดอาการเห่อร้อนขึ้นมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เขาเลือกที่จะตอบตามความรู้สึกแรกที่ผุดขึ้นมาหลังจากที่ได้เห็นคำถามนั้น

‘ชอบ’

คำถามของจันทร์ไปปลดล็อกอะไรบางอย่างในหัวใจของเล็ก ช่วยทำให้เล็กคิดและแยกแยะได้...ว่าจริง ๆ แล้วตัวเองรู้สึกอย่างไร
เล็กไม่เคยมีคนรักมาก่อน เลยทำให้อาจจะยังไม่ประสาในเรื่องความรัก จนแยกไม่ออกว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันใช่หรือไม่ใช่

..จันทร์สำคัญกับเขามาก..

ความรักที่เล็กมีต่อจันทร์มันลึกซึ้งเกินกว่าคำว่าเพื่อนก็จริง แต่เขารู้ตัวว่าไม่ได้อยากเป็นคนรักของจันทร์เลยแม้แต่น้อย เขาไม่ได้อยากอยู่ในสถานะนั้น แค่อยากอยู่ไปด้วยกันตลอดชีวิต อยากดูแลเอาใจใส่กันไปอย่างนี้เท่านั้นเอง

แต่หลังจากที่จันทร์ถามว่า...ชอบเบญไหม

ในหัวของเล็กมีแต่ภาพของเบญ ตั้งแต่ท่าทีประหม่าในตอนแรกที่ได้กลับมาเจออีกครั้ง ทั้งรอยยิ้มอบอุ่นที่มีให้กัน รวมถึงการดูแลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อีกฝ่ายปฏิบัติต่อเขา

ถึงแม้ว่าหูของเล็กจะไม่ได้ยิน แต่เบญก็พยายามที่จะเรียนรู้ภาษามือง่าย ๆ เอาไว้สื่อสารกัน

เล็กรู้ว่าอีกคนอึดอัดที่ไม่สามารถสื่อสารได้ตามที่ใจปรารถนา

..แต่เขากลับดีใจที่เบญพยายามเพื่อคนอย่างเขาถึงขนาดนี้..

จันทร์ยิ้มเอ็นดูเพื่อนตัวน้อย เขายกมือขึ้นลูบผมหยักศกนิ่มมือของเล็กอย่างเบามือ เล็กเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา...มันลึกซึ้งอย่างบอกไม่ถูก

‘มีอะไร’

เล็กเม้มปากแน่น ก่อนจะตัดสินใจบอก ‘เรารักจันทร์’

คำว่ารักของเล็กแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจของจันทร์ ใบหน้าสวยยิ้มก่อนจะขยับมือตอบ

‘เราก็รักเล็ก’

‘อยากให้จันทร์รู้ว่าถึงเราจะมีใครคนอื่นเข้ามาในชีวิต แต่จันทร์จะยังเป็นอันดับหนึ่งในใจเราเสมอนะ’

ทะเลจันทร์ดึงเล็กเข้ามากอดเอาไว้แนบแน่น ทั้ง ๆ ที่เล็กให้ความสำคัญกับเขามากถึงเพียงนี้ เขาก็ยังทำให้เล็กเสียใจได้ลงคอ ความรู้สึกผิดในอกกลั่นออกมาเป็นน้ำตา ไหลลงกระทบกับไหล่บางของเล็ก

เจ้าตัวดันกายออกจากกอดของจันทร์ ตอนนี้กลายเป็นเขาที่ต้องเช็ดน้ำตาให้จันทร์ซะแล้ว แต่จันทร์ไม่ได้ขี้แยเท่าเขาหรอก ไม่นานอีกคนก็หยุดร้องไห้แล้ว

‘ขอโทษนะ’ จันทร์บอก

เล็กพยักหน้าให้พร้อมกับรอยยิ้ม เขาพุ่งเข้าไปกอดจันทร์อย่างออดอ้อนเหมือนเดิม

หวังว่าหลังจากนี้เป็นต้นไปเราทั้งสองคนคงไม่มีอะไรให้ผิดใจกันอีกแล้ว




tbc…
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ^^


 :L2:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 16 หน้าที่ 2 [31/10/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-11-2019 13:32:19
ปรับความเข้าใจกันแล้ว .........  ดีกันๆ   :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 16 หน้าที่ 2 [31/10/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-11-2019 10:38:28
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 16 หน้าที่ 2 [31/10/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 02-11-2019 13:56:16
ซึ้งดี
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 17 หน้าที่ 2 [14/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 14-11-2019 20:20:42


17




น้ำหวานขับรถมาจอดรอที่หน้าบ้านของเป็ดแต่เช้า วันนี้วันพระ...และเขารู้ว่าจากทะเลมาว่าน้องจะตื่นขึ้นมาตักบาตรทุกวันพระเป็นประจำ

ไม่อยากจะเชื่อว่าจะยังมีเด็กแบบนี้หลงเหลืออยู่ ขนาดเขาเองยังไม่เคยตักบาตรมาเกือบยี่สิบปีแล้ว แต่เพราะเคยได้ยินเรื่องทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันมา...ก็เลยอยากจะทำร่วมกันสักครั้งก็ยังดี

น้ำหวานก้มมองนาฬิกาข้อมือ มันบอกเวลา 6 โมง 45 นาที คนที่ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนปิดปากหาวหวอดใหญ่ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะมีเสียงเปิดประตูดังขึ้น

เป็ดประคองถาดใส่ข้าวปลาอาหารออกมา เจ้าตัวก้มลงใส่รองเท้าแตะจึงไม่ได้สังเกตว่ามีคนยืนรออยู่พร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม พอเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องผงะ

“พี่มาทำอะไรน่ะ” เจ้าตัวถามพร้อมกับเดินออกมา

“มารอตักบาตรด้วย”

คนอายุน้อยกว่าขมวดคิ้ว “ไอ้เลบอกเหรอ”

น้ำหวานพยักหน้าตอบ

“แต่พี่…” เป็ดมองตั้งแต่หัวจรดเท้า “ดูไม่ใช่คนที่ชอบทำบุญตักบาตรเลยนะ”

“เราก็เหมือนกันน่ะแหละ” เขาพูดย้อน

เป็ดถลึงตามองปะหลับปะเหลือก “ผมทำบุญให้ป๊าหรอก!” เขาเดินหนีเพราะกลัวไปไม่ทันพระ

“ทำบุญให้ท่านทุกวันพระเลยเหรอ”

“อื้อ” เป็ดครางตอบ ถึงเขาจะไม่มีเงินมากนัก แต่ยังไงก็ต้องเจียดเงินเพื่อซื้อของเพื่อทำบุญให้กับบุพการีที่ล่วงลับไปแล้วอย่างสม่ำเสมอ

น้ำหวานพยักหน้าเงียบ ๆ ยิ่งรู้จักตัวตนของเด็กคนนี้มากขึ้น...เขาก็รู้สึกประทับใจเด็กคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และบอกกับตัวเองว่าจะไม่ปล่อยมือจากอีกคนไปเด็ดขาด...ต่อให้อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

..ไม่ว่ายังไงก็จะทำทุกทางให้เป็ดชอบเขาให้ได้..

“แล้วพี่...ทำไมจู่ ๆ คิดจะมาใส่บาตรกับผมล่ะ” เป็ดถามคนตัวใหญ่ที่เดินข้างกัน

น้ำหวานยักไหล่ หลีกเลี่ยงที่จะตอบความจริง “ก็ไม่ยังไง พี่แค่อยากทำบุญบ้าง”

“แต่บุญที่พี่จะทำเนี่ยผมเป็นคนซื้อมาหมดเลยนะ” เป็ดพูดกลั้วหัวเราะ

น้ำหวานโอบเข้าที่เอวผอม “ไว้วันพระหน้าพี่จะเป็นคนเตรียมทั้งหมดเองนะครับ เราตื่นเช้ามาอาบน้ำให้เรียบร้อยเตรียมทำบุญอย่างเดียวก็พอ”

เป็ดบิดตัวให้หลุดจากการเกาะกุมของอีกคน กลัวคนแถวบ้านมาเห็นแล้วจะเอาไปนินทากันสนุกปาก

“ขอบคุณนะครับ แต่ไม่ต้องก็ได้”

คนอายุมากกว่าหน้าม้านไปนิด แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้เป็นไร และยังคงพยายามเข้าหาน้องตัวเล็กคนนี้ตามความตั้งใจต่อไป

“ไม่ครับ พี่จะเตรียมมาวันพระหน้า ห้ามปฏิเสธพี่อีก” น้ำหวานมัดมือชก “เอาถาดมาให้พี่ถือมา”

เป็ดถอนหายใจ “ก็ได้ครับ” ส่งถาดที่บรรจุของทำบุญให้กับอีกฝ่ายถือ

น้ำหวานยกยิ้มอย่างพอใจ เพราะไม่ใช่แค่วันพระหน้าที่เขาจะเตรียมมา เพราะวันพระต่อ ๆ ไปเขาก็จะเตรียมทุกครั้ง



...



ทั้งสองคนยืนรออยู่หน้าปากซอย เป็ดมีท่าทีสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ในขณะที่อีกคนภายนอกอาจจะดูสำรวมแต่กลับมองน้องไม่วางตา

“พี่จะมองผมอีกนานไหมเนี่ย” คนถูกจ้องหันไปถาม

“นานจนกว่าจะพอใจ” น้ำหวานตอบยกยิ้มมุมปากแถมยักคิ้วอีกสองจึ้ก

คนน้องกลอกตาขึ้นบนพร้อมกับทำหน้าเหม็นเบื่อ อีกฝ่ายเข้ามาในชีวิตของเขาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ความสัมพันธ์ในตอนนี้ก็อาจจะยังเรียกว่าเป็นแฟนหรือคู่รักยังไม่ได้ แต่เป็ดก็เปิดใจให้กับอีกคนมากขึ้นในทุกวันแล้วนะ

พี่น้ำหวานมักจะจีบแบบถึงเนื้อถึงตัวและตรงไปตรงมาเสมอ ซึ่งเขาก็เริ่มชินแล้ว ดีที่อีกคนเว้นยังที่ว่างให้เขาหายใจหายคออยู่บ้าง ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกรำคาญอะไร

เป็ดทำเป็นไม่สนใจสายตาหวานเยิ้มของอีกฝ่ายที่กำลังจ้องกันอยู่ เขามองตรงไปเพื่อดูว่าพระท่านมาหรือยัง เมื่อเห็นผ้าเหลืองไกลจึงได้สะกิดคนพี่ให้ได้สติ

“พระมาแล้ว”

เป็ดถอดรองเท้า ประนมมือขึ้น “นิมนต์ครับ”

น้ำหวานทำตามน้องทุกอย่าง ก็อย่างที่บอกว่าเขาไม่ได้ทำบุญมานาน จนลืมไปหมดแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง

คนน้องหันมาหยิบขันที่ใส่ข้าวขึ้นมาเป็นอันดับแรก ต่อมาตามด้วยกับข้าวง่าย ๆ ที่ตนเป็นคนทำหนึ่งอย่าง และจบด้วยการถวายน้ำและดอกไม้

เป็ดคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับคนข้าง ๆ ประนมมือขึ้นเพื่อรับพร

“อายุ วัณโน สุขขัง พลัง”

น้ำหวานรู้สึกอิ่มเอมใจจากการที่ได้ทำบุญ ทำให้เขาคิดว่าถ้าได้ทำแบบนี้ทุกวันพระก็น่าจะดีเหมือนกัน ได้อิ่มใจทั้งจากบุญที่ทำ..และจากเด็กที่อยู่ข้าง ๆ กันอีกด้วย



...



“แล้วพี่จะกลับเลยไหม” เป็ดถามระหว่างเดินกลับพร้อมกัน

“ขอนอนด้วยได้หรือเปล่าล่ะ” น้ำหวานตอบ เขารู้ว่าเป็ดจะต้องกลับไปนอนต่อแน่ ๆ

เป็ดหันหน้ากลับไปมองงง ๆ “ห๊ะ?”

“พอดีว่าพี่ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้ก็ง่วงมากแล้วด้วย” น้ำหวานบอกพร้อมกับปิดปากหาวตอนท้ายประโยค

เป็ดครุ่นคิด เอาจริง ๆ สำหรับเขาพี่น้ำหวานก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่สำคัญคือเขาไม่ค่อยไว้ใจนัก

“พี่จะไม่ทำอะไรผมใช่ไหม”

คนถูกถามหัวเราะ “พี่จะทำอะไรเราล่ะ”

“ก็…” เป็ดอ้ำอึ้ง “ไม่รู้หรอก”

พวกเขาทั้งคู่มาหยุดยืนที่หน้าบ้านพอดี ดวงตากลมจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง

“วันนี้วันพระ...พี่ห้ามทำอะไรเกินเลยนะ”

น้ำหวานอยากจะพ่นหัวเราะให้กับความน่ารักของเจ้าเด็กตรงหน้า แต่ก็ทำได้แค่พยักหน้าพร้อมยิ้มบาง

“ครับผม”

..เอาไว้ไม่ใช่วันพระพี่ค่อยทำก็ได้ครับ..

เป็ดยิ้มกว้างก่อนจะเปิดประตูบ้านต้อนรับให้อีกคนเข้าไป เขาน่ะไม่คิดจะให้ขับรถกลับไปทั้งที่ง่วงขนาดนี้หรอก เดี๋ยวไปหลับในกลางทางล่ะแย่เลย…

“พี่นั่งรอที่โซฟาก่อนนะ เดี๋ยวผมขอตัวไปกรวดน้ำก่อน”

น้ำหวานพยักหน้ารับ เขานั่งรอน้องด้วยอาการมึนเพราะความง่วง เมื่อคืนเขาเตรียมงานที่จะต้องไปต่างประเทศเดือนหน้าจนถึงตีห้า คิดว่าไหน ๆ ก็ไม่ได้นอนแล้วเลยออกมาหาเป็ดดีกว่า เขาจอดรถรอที่หน้าบ้านของน้องตั้งเกือบชั่วโมง

อีกอาทิตย์เดียวก็ต้องไปแล้ว...อยากจะใช้เวลาด้วยกันให้มากกว่านี้สักหน่อย ถ้าไม่กลัวว่าน้องมันจะโกรธจนถีบเขาออกจากชีวิตละก็คงจะรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัวไปแล้ว ทุกวันนี้ได้แค่จับนิดแตะหน่อย มากสุดก็แค่หอมแก้มหนึ่งฟืด

นี่เขาอายุก็ปาเข้าไป 35 แล้ว ต้องมาทำเหมือนเด็กน้อยวัยใสแบบนี้...ไม่ชินเอาซะเลย

“ไปกันเถอะ” เป็ดเรียก “บ้านผมมีแค่สองห้อง ห้องผมกับห้องแม่ พี่นอนห้องผมไปแล้วกันนะ” บอกในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันได

“พี่นอนไหนก็ได้” เขามันพวกอยู่ง่ายกินง่าย เพราะบางทีงานของเขาต้องไปออกกองกลางป่ากลางเขามันก็เรื่องมากไม่ได้หรอก

“เชิญครับ” เป็ดเปิดประตูห้องให้ “ห้องผมรกหน่อยนะ”

น้ำหวานกวาดตามองไปรอบห้องเล็ก ๆ นี้ มันเป็นระเบียบมากกว่าที่คิดไว้เยอะ เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น มีแค่ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเขียนหนังสือ ชั้นวางของ โชคดีที่มีเตียงขนาดห้าฟุตอยู่ริมหน้าต่าง

..แบบนี้ค่อยนอนสองคนได้สบายหน่อย..

“พี่นอนได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมลงไปนอนโซฟาข้างล่างเอง” เป็ดบอกพร้อมกับหมุนตัวจะออกจากห้องไป

ไวกว่าความคิด ฝ่ามือใหญ่คว้าเข้าที่ข้อมือเล็กของเป็ด น้องหันมาเอียงคอมองอย่างสงสัย

“นะ- นอนด้วยกันสิ”

..ปัดโธ่! แล้วเขาจะพูดติดอ่างทำไมล่ะโว้ย..

คนอายุน้อยกว่าขมวดคิ้ว มองด้วยสายตาไม่ไว้ใจ “ไม่เอาอะ”

“เถอะน่า พี่ไม่ทำอะไรหรอกครับ” น้ำหวานบอกเสียงนุ่ม เขาง่วงจะตายอยู่แล้ว...ไม่มีอารมณ์มาทำเรื่องพวกนั้นหรอก

“ผมเชื่อใจพี่ได้ใช่ไหม” เป็ดย้อนถามใจอ่อนยวบ

น้ำหวานปล่อยข้อมือบางเปลี่ยนไปลูบหัวอีกฝ่ายเบา ๆ “เชื่อสิว่าพี่จะไม่ทำอะไร เพราะถ้าพี่อยากจะทำพี่จะขอเราก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าจะจูบ…” เขาเว้นวรรคการพูดเล็กน้อย “หรือมีเซ็กซ์”

ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ ก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย “หอมแก้มก็จะไม่ขอก่อนแล้วเหรอ” เป็ดถามเสียงเบา

ใบหน้าคมที่มีไรหนวดขึ้นประปรายยกยิ้ม เดินเข้าไปประชิดเป็ดตัวน้อยจนเจ้าตัวตกใจผงะถอยหลัง แต่เขาก็ไม่ปล่อยไปหรอก ใช้แขนทั้งสองข้างโอบรอบเอวบางเอาไว้...ใกล้ชิดจนแทบจะรวมร่างกันอยู่แล้ว

“อยากให้ขอก่อนหรือเปล่าล่ะ พี่แล้วแต่เราเลย”

“ไม่เอาโว้ย~” เป็ดยกมือขึ้นปิดปากอีกฝ่ายที่กำลังก้มหน้าลงมา “วันนี้วันพระไม่ให้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ!”

น้ำหวานกลั้นหัวเราะ “ครับ ๆ ไม่ทำก็ไม่ทำ นอนกันเถอะ พี่ง่วงแล้ว”

เป็ดเดินตามแรงดึงของอีกฝ่ายไปง่าย ๆ ถูกดันให้เป็นฝ่ายเข้าไปนอนด้านที่ติดกำแพง เขาซุกตัวลงนอนคว่ำเอาหัวหนุนมือมองพี่น้ำหวานที่ขยับตัวขึ้นมาบนเตียง

“มองอะไรตาแป๋วเลย หืม” มือใหญ่บีบจมูกเล็กเบา ๆ ด้วยความมันเขี้ยว น้ำหวานนอนตะแคงมองคนน่ารักที่นอนข้างกัน

“มองเฉย ๆ ไม่ได้เหรอ” เป็ดแค่อยากมอง ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ

“อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้เหงาล่ะสิ”

น้ำหวานรู้มาบ้างว่าแม่ของเป็ดมีแฟนใหม่ และแทบไม่ได้กลับมาบ้านนี้เลย ไม่ได้มาสนใจดูแล มีแต่ส่งเงินจำนวนน้อยนิดให้กับลูกชาย ที่มันก็แทบจะไม่พอใช้ ถ้าเป็ดไม่ทำงานพิเศษด้วยก็คงจะแย่กว่านี้

เป็ดเงียบไปก่อนจะตอบ “ไม่หรอกครับ ผมชินแล้ว” เมื่อได้รับความห่วงใยจากอีกคนมันก็ทำให้เขารู้สึกร้อนที่กระบอกตานิดหน่อย
มือกร้านเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าออก เผยให้เห็นดวงตากลมที่แวววาวเพราะมีน้ำตาเคลือบอยู่ “ถ้าเป็ดลำบากหรือเดือดร้อนอะไรก็บอกพี่ได้นะ”

“ไม่ได้ลำบากอะไรหรอกครับ”

เป็นอย่างที่ทะเลเล่าให้ฟังจริง ๆ เด็กคนนี้ต่อให้ลำบากขนาดไหนก็จะไม่มีทางที่จะปริปากพูดออกมา หรือขอความช่วยเหลือจากใครทั้งสิ้น

“พี่รู้ว่าเราไม่ชอบขอความช่วยเหลือใคร แต่พี่อยากจะเป็นคนที่เราเปิดโอกาสให้พี่ได้ช่วยเหลือคนที่พี่...รักบ้าง”

แววตาของเป็ดสั่นไหว “แต่พี่กับผม...เราไม่ได้เป็นอะไรกัน คงไม่ดีที่พี่จะมาช่วยผมแบบนั้น”

คนอายุมากกว่ายิ้มเมื่อได้ยินแบบนั้น นิ้วเรียวยาวแทรกเข้าไปตามเส้นผมนิ่ม ปลายนิ้วนวดไปตามศีรษะเล็ก

“เรามาคบกันไหม เราจะให้พี่เป็นอะไรก็ได้ ทั้งพี่ แฟน หรือแม้กระทั่ง...สามี”

เป็ดตาโต กำปั้นเล็กทุบลงที่อก แก้มแดงหูแดงไปหมด หัวใจดวงน้อย ๆ ดังกระหน่ำราวกับกลองชุด

“สามีบ้าอะไรล่ะ!”

“พี่ก็บอกอยู่ว่าเราจะให้พี่เป็นอะไรก็ได้ แต่ถ้าได้เป็นสามีก็ดีนะ เป็ดจานนี้น่าจะอร่อย- โอ๊ย ๆๆ” น้ำหวานร้องเมื่อโดนตีเข้าที่แขนรัว ๆ เห็นตัวเล็กแบบนี้ก็แรงเยอะชะมัด

“นี่เราไม่อยากคบกับพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ”

เป็ดเขินจนหน้าดำหน้าแดง ปิดปากเงียบไม่ยอมพูดกับอีกฝ่าย

“พี่เองอายุก็เริ่มเยอะแล้ว อย่าให้พี่รอนานนักเลยคนดี”

น้ำหวานยังคงตื๊อต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก เขาเกิดมาไม่เคยตื๊อหรือพูดจาดี ๆ แบบนี้กับใครมาก่อน สุดท้ายก็มาเสียท่าให้กับเจ้าเด็กตรงหน้านี่แหละ

“นานของพี่นี่ก็แค่เดือนกว่าเองนะครับ ทำไมเป็นคนไม่มีความอดทนแบบนี้” เป็ดว่า

“พี่ก็ไม่ได้อยากจะเร่งเราหรอก” น้ำหวานบอก ดึงร่างที่เล็กกว่าเข้ามากอดไว้แนบอก “แต่ว่าอาทิตย์หน้าต้องไปเมืองนอกตั้งหนึ่งเดือน พี่อยากได้กำลังใจไปทำงาน เลยอยากรู้คำตอบของเราก่อน...ได้ไหม”

หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นรุนแรงราวกับจะเด้งออกมาจากอก

“ไหนในข่าวซุบซิบเขาบอกว่าพี่เป็นผู้ชายปากหมาพูดจาไม่ไว้หน้าใครไง” เป็ดย่นจมูกแดง ๆ แก้เขิน “ไหงตอนนี้ทำมาพูดจาดี”

“พี่พูดดี..เฉพาะกับคนที่พี่รักครับ”

..นี่ถ้าไอ้จันทร์มาได้ยินละก็แซวสามวันแปดวันไม่จบไม่สิ้นแน่..

“เป็นแฟนพี่แล้วมันจะต่างจากตอนนี้ยังไงเหรอ” เป็ดแนบหน้าเข้ากับอกแกร่งแล้วเอ่ยถาม “พี่จะเปลี่ยนไปไหม”

“พี่ก็เป็นแบบนี้แหละ พี่แค่อยากได้สถานะ..เพื่อที่จะมีสิทธิ์ดูแลเราได้ก็เท่านั้นเอง”

“แค่นั้นแน่เหรอ…” เป็ดงุบงิบ

“หืม” น้ำหวานงงนิดหน่อยในตอนแรก แต่ครู่เดียวก็รู้ว่าเจ้าเด็กนี่หมายถึงอะไร เขาเลื่อนฝ่ามือลงไปวางแปะไว้ที่หลัง ลูบขึ้นลงพอให้อีกฝ่ายสยิวกิ้วเล่น ๆ

“อย่างอื่นก็หวังอยู่นะ..รอแค่เราอนุญาตนั่นแหละ”

เป็ดเอื้อมไปจับมือปลาหมึกของคนตัวใหญ่พร้อมดันตัวออก แล้วเงยหน้าขึ้นพูด “งั้นก็รอไปก่อนเหอะ”

“เรื่องนั้นน่ะพี่รอได้อยู่แล้ว” น้ำหวานยิ้มขัน “แต่เรื่องที่พี่รอไม่ได้คือคำตอบของเรานะ”

คนอายุน้อยเม้มปากอย่างชั่งใจ ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายตรง ๆ ได้แต่มองผ่านเลยไปมา ถ้าให้คิดดี ๆ แล้ว...พี่น้ำหวานเพียบพร้อมเกินไปสำหรับเด็กกะโหลกกะลาอย่างเขา ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา ฐานะ หน้าที่การงาน ไม่มีอะไรสักอย่างที่เขาเทียบได้เลย นี่ก็ไม่รู้ว่ามาตกหลุมชอบเขาได้ยังไง แต่ว่า...เขาเองก็ชอบ..จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วเหมือนกัน

“ผม…” เป็ดอ้ำอึ้ง “คือ…”

“จะอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อีกนานไหมเนี่ย” น้ำหวานว่าหัวเราะในลำคอ

“ผมจะพยายาม...เป็นคนรักที่เหมาะสมกับพี่ให้ได้นะครับ”

คนอายุมากกว่าฉีกยิ้มกว้าง คว้าเอวบางเข้ามากอดแน่น หอมลงบนกลุ่มผมนิ่มให้เต็มรัก

“ขอบคุณนะครับ”

“หื้อ~” เป็ดคราง “ผมสิต้องเป็นฝ่ายขอบคุณ..ที่พี่ยอมลดตัวลงมาชอบเด็กแบบผม”

“เด็กแบบเรามันเป็นยังไง”

“ผมรู้ตัวว่าไม่เหมาะสมกับพี่..ถึงได้บอกว่าจะพยายามไง”

น้ำหวานหัวเราะในลำคอด้วยความเอ็นดู “ช่างแม่งความเหมาะสมนั่นเถอะน่า..พี่ชอบที่เราเป็นเราต่างหาก”

ความอิ่มใจตีตื้นขึ้นมาจนแสบจมูกไปหมด เป็ดเช็ดน้ำตาที่ซึมออกมาโดยการถูใบหน้าเข้ากับเสื้อของอีกฝ่าย

“ตัวก็แค่นี้..อย่าคิดอะไรให้มากนักเลย..คิดแค่ว่าจะรักพี่ยังไงดีกว่า”

“ไม่นึกว่าพี่จะเสี่ยวแดกขนาดนี้ กำกับหนังรักมากไปหรือไง”

น้ำหวานหัวเราะออกมา ตบก้นอีกฝ่ายปุ ๆ “หลับได้แล้ว” 

เป็ดทำท่าจะโวยวายที่ถูกแต๊ะอั๋งแต่พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นคนอายุมากกว่าหลับตาลงก็เปลี่ยนใจ เขาอยากให้พี่น้ำหวานได้พักผ่อนให้สบายหลังจากที่ตรากตรำทำงานมาทั้งคืน จนหน้างี้โทรมไปหมด แทนที่อีกฝ่ายจะอยู่บ้าน ก็ดันถ่อมาหาเขาถึงที่นี่

..เพียงแค่อยากได้ยินคำตอบของเขา..

“ตาแก่เอ๊ย…” เป็ดพึมพำ

“...ว่าใครแก่หืม”

เป็ดหัวเราะคิก ๆ เมื่ออีกคนดันได้ยินซะอย่างนั้น มือบางยกขึ้นเกาท้ายทอยคนตัวใหญ่กว่า “หลับ ๆ ฝันดีน้า~”




tbc…
เอาคู่นี้มาฝากคั่นเวลาคู่หลักจ้า~
 :L2:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 17 หน้าที่ 2 [14/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-11-2019 04:47:32
ลงเอยกันด้วยดี  :katai2-1:
น้ำหวาน เป็ด  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 17 หน้าที่ 2 [14/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-11-2019 14:48:36
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 17 หน้าที่ 2 [14/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Hnggnh ที่ 15-11-2019 15:36:22
เรื่องนี้ดีมากๆเลยค่ะ ความรักกับบาดแผล ความรับผิดชอบ ชอบทะเลมากๆ เป็นคาแรคเตอร์ที่นุ่มนวล จริงจัง จริงใจ จันทร์โชคดีมากๆที่เจอทะเลนะ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 17 หน้าที่ 2 [14/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 15-11-2019 15:46:50
 :กอด1: คู่น้องเป็ดน่าร้ากกกกกก
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 17 หน้าที่ 2 [14/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-11-2019 19:22:38
 :กอด1: :pig4: :กอด1: 
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 18 หน้าที่ 3 [27/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 27-11-2019 12:58:20


18




ทะเลคิดว่าการมาต่างประเทศในคราวนี้จะมีความสุขเหมือนกับทุกคราวที่เคยเป็น แต่มันกลับไม่ใช่…

เขาคิดถึงคนที่อยู่ไกลค่อนโลก..ทำอะไรก็เอาแต่คิดถึง ไม่มีความสุขเท่าที่เคย อยากให้ได้มาด้วยกัน..ไม่ว่าจะที่ไหน

..อยากจะบินกลับไปหาตอนนี้เลยด้วยซ้ำ..

“หนาวฉิบหายเลยโว้ย” เด็กหนุ่มบ่นไม่หยุด เขาหงุดหงิดเพราะเกิดอาการขาด ‘ทะเลจันทร์’ นานเกินไปนั่นแหละ

ทะเลยืนอยู่บนทางเดินทอดยาวของยอดเขา Grindelwald First เบื้องหน้ามีแต่หิมะขาวโพลน สวยมาก...แต่ก็แสบตามากเช่นกัน นี่ถ้าไม่มีแว่นกันแดดล่ะก็คงได้ตาบอดแหง ๆ

ปกติเขาจะไปประเทศแถบร้อนมากกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ทะเลเลือกมาเมืองหนาว ไม่คิดว่ามันจะทรมานขนาดนี้ มือที่ใช้กดชัตเตอร์เย็นจนแทบไม่อยากขยับ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้..หามุมสวย ๆ ถ่ายต่อไปเรื่อย

..ไว้ไปฝากคนสวยที่รออยู่ที่บ้าน..

เพียงแค่นึกถึงทะเลจันทร์เขาก็มีรอยยิ้มผุดขึ้นมา ไหน ๆ ก็มาถึงเมืองของช็อกโกแลตทั้งที ตั้งใจว่าจะซื้อไปฝากเยอะ ๆ เลย
เห็นอะไรก็นึกถึงคนที่กำลังรออยู่ไปหมด ไม่รู้จะซื้ออะไรไปฝากดี เพราะอีกฝ่ายบอกว่า ‘ไม่อยากได้อะไร ขอแค่ให้เขากลับไปถึงบ้านปลอดภัยก็พอ’

ให้ตายเถอะ...ตอนที่ได้ยินประโยคนี้ เขาอยากจะกอดหอมให้ชื่นใจสักที แต่ติดที่ว่ามันอยู่กันคนละที่ คอยดู...กลับไปจะกอด ‘ทั้งคืน’ เลยทีเดียวเชียว



...



ทะเลนอนอ่านรีวิวร้านขายช็อกโกแลตชื่อดังในอินเทอร์เน็ต แล้วแคปภาพขนมสีน้ำตาลหลากหลายอย่างส่งไปให้ทะเลจันทร์เลือก เขามันพวกไม่ชอบกินของหวานสักเท่าไหร่เลยไม่รู้เรื่องพวกนี้นัก

สายตาเหลือบมองนาฬิกาบนพนัง เขานัดพี่จันทร์ไว้ตอนบ่ายสามโมงของไทย เพราะไม่ได้วิดีโอคอลคุยกันหลายวัน เลยทำให้ทะเลรู้สึกคิดถึงอีกคนมาก

ความคิดถึงมันมากพอที่จะทำให้เขาบินกลับไปเดี๋ยวนี้เลย แต่คนอายุมากกว่าก็ย้ำว่าห้ามเขากลับไปเด็ดขาด

‘ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องเจอกันอีกต่อไปเลย’

ไม่รู้ว่าทะเลาะกับพี่เล็กหนักแค่ไหน แต่อีกฝ่ายบอกว่ายังไม่อยากให้เขาเห็นสภาพที่ไม่ดี และทะเลก็เคารพคำขอนั้นของพี่จันทร์

เป็ดมันบอกว่าเขาเป็นพวกกลัวเมีย...เพราะไม่ว่าทะเลจันทร์จะบอกหรือห้ามอะไร ทะเลก็ไม่เคยขัดเลย

..อย่าเรียกว่ากลัว ความจริงน่าจะเรียกว่าเกรงใจเพราะรักดีกว่า..

เพราะรักถึงไม่อยากขัดใจ...

เพราะรักถึงยอมได้ทุกอย่าง…

เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่เขาไม่ได้รู้สึกว่าต้องฝืนใจทำเลย



...



เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเรียกให้ทะเลที่กำลังจะเคลิ้มหลับเด้งตัวขึ้นมา เขารีบร้อนเลื่อนหน้าจอ เมื่อเห็นใบหน้าสวยของคนที่คิดถึงก็ทำเอาพูดไม่ออก

“ว่าไง” ทะเลจันทร์เอ่ยทักก่อน ริมฝีปากยิ้มน้อย ๆ ด้วยความเอ็นดู

ทะเลขมวดคิ้ว “นี่..พี่ตัดผมเหรอ”

จันทร์ขยับศีรษะซ้ายขวาจนผมสะบัดไปมา มือบางยกขึ้นจับปลายผมอย่างขัดเขินเมื่อเห็นสายตาของเด็กหนุ่ม

“ใช่ เป็นไง”

“สวย..สวยมากเลย” ทะเลตอบ

..ทะเลจันทร์ผมยาวก็สวย แต่มันคนละแบบกับผมสั้น..

“เซ็กซี่มากเลย” เจ้าตัวยังพร่ำเพ้อต่อ

คนอายุมากกว่าแก้มแดงวาบ “ไอ้เด็กเปรต” จันทร์ด่ากลบเกลื่อน

“รอผมกลับไปก่อนเถอะ” ทะเลหมายมั่นปั้นมือ เขาจะไม่ปล่อยอีกฝ่ายไปอย่างแน่นอน

“ไอ้..” จันทร์ได้แต่กัดปากเพราะด่าไม่ออก เพียงแค่ทะเลมองเขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดอะไร และมันก็ทำให้เขารู้สึกวาบหวามไปหมดทั้งตัว..ราวกับว่าถูกเด็กหนุ่มตรงหน้าเล้าโลมด้วยสายตา

“หรือว่าพี่รอไม่ไหวแล้ว” ทะเลถามยิ้มกรุ้มกริ่ม

จันทร์หน้าแดง “ไอ้เด็กบ้า!”

“ไม่ต้องอายหรอกพี่ พวกเราไม่มีอะไรจะต้องปิดกันแล้วนะครับ” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ่อนหวาน

ทะเลจันทร์เงียบ มันก็นานแล้วที่พวกเขาทั้งสองคนไม่ได้มีอะไรกันเลย แต่มันแปลก...เขาไม่ได้มีความรู้สึกอยากมีเซ็กซ์มากเท่าเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะตอนนี้ความรักของทะเลมันเติมเต็มจนเขาแทบไม่รู้สึกโหยหาการสัมผัสแบบนั้นแล้วก็ได้

“กลับไป..ผมขอทำได้ไหมครับ”

พอถูกขอตรง ๆ แบบนี้ ทำให้จันทร์นึกถึงบทรักที่เขาสองคนมีกัน มันก็ทำให้เขาร้อนรุ่มขึ้นมาได้ไม่ยาก เขายังคงยืนยันว่าชอบลีลาของทะเล..มาก และเรื่องนี้ของพวกเขาเข้ากันได้ดีสุด ๆ

“ไม่เห็นต้องขอเลย..” จันทร์ตอบกลับเสียงเบาหวิว

“อะไรนะครับ” ทะเลสาบานเลยว่าไม่ได้ยินจริง ๆ

“จะทำก็ทำสิ ไม่เห็นต้องขอเลย”

“พี่พูดเองนะครับ” ทะเลหรี่ตา “แล้วอย่าหาว่าผมไม่เตือนละ”

“เออ!” ปลายทางว่าถลึงตาโต “มันจะย้ำอะไรนักหนา”

ทะเลหัวเราะร่วน ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “แล้วพี่คืนดีกับพี่เล็กแล้วเหรอครับ”

“อือ” จันทร์ตอบ “ดีกันแล้วแหละ”

“ดีแล้ว ๆ” ทะเลยิ้มกว้าง เขาดีใจที่ได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายสบายใจขึ้นแล้ว

“ขอบใจนะ”

เด็กหนุ่มเอียงคอ “เรื่องอะไรครับ”

“ที่ช่วยเตือนสติไง”

คนอายุกว่าไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเขาไปช่วยอีกฝ่ายตอนไหน แต่ก็ไม่เอ่ยถามเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัว คนเราถึงจะคบเป็นแฟนกัน ต่อให้ใกล้ชิดมากแค่ไหนก็ควรเว้นระยะให้มีพื้นที่ส่วนตัวกันบ้าง ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องรู้กันทุกอย่าง

“ยินดีที่ได้ช่วยครับ”

ทะเลจันทร์ยิ้มรับ “แล้วนี่เป็นไง เที่ยวสนุกไหม”

“ผมว่า..ผมมาผิดฤดู” ทะเลตอบก่อนจะถอนหายใจ

“ทำไมล่ะ” จันทร์ถาม

“โคตรหนาวเลย นี่ขนาดว่าผมซื้อชุดกันหนาวอะไรมาพร้อมแล้วนะ แต่สำหรับผมมันก็ยังหนาวอยู่ดีอะ รู้งี้น่าจะมาฤดูอื่น” เด็กหนุ่มบ่นกระปอดกระแปด

จันทร์หัวเราะคิก “เลือกเองด้วยนะ”

“แต่ผมว่า..พี่น่าจะชอบที่นี่นะ เห็นเปิดแอร์เย็นเจี๊ยบตลอด” ทะเลเปรย นึกถึงตอนที่นอนด้วยกัน เขามันพวกขี้หนาว ส่วนอีกคนไม่ใช่คนขี้ร้อน..แต่ชอบเปิดแอร์เย็น ๆ แล้วห่มผ้านวมหนา ๆ ให้ลมแอร์เย็นเป่าหน้า

“ไปถึงที่แล้วอาจจะไม่ชอบก็ได้นะ”

“...อยากให้พี่มาด้วยกันจัง” ทะเลบอก “ไปที่ไหนก็คิดถึงแต่พี่”

ทะเลจันทร์ยิ้มเอ็นดู “ทำตัวเป็นเด็กไปได้”

“อื้อ..เด็กก็เด็ก” ทะเลยอมรับ “แต่เป็นเด็กติดเมียนะ”

“ไอ้ทะเล!” จันทร์ว้าก

เจ้าของชื่อหัวเราะกรั่ก ๆ ด้วยความชอบใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายใส่ยศนำหน้าชื่อให้

“หยุดเรียกฉันแบบนั้นได้แล้ว” จันทร์ขมวดคิ้วแน่น

“ไม่ชอบเหรอครับ” ทะเลถามเสียงนิ่ม สายตาจริงจัง

“มันแปลก ๆ”

“ผมถามว่าไม่ชอบเหรอครับ” เขาถามย้ำอีกครั้ง รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก

“มัน..”

“ชอบหรือไม่ชอบครับ” ทะเลย้ำทีละคำ กลั้นยิ้มเต็มที่เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำตัวไม่ถูก

“ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหรอก” จันทร์ตอบอ้อมแอ้ม

ทะเลยิ้มกริ่ม “งั้นแสดงว่าชอบ”

“ไม่คุยด้วยแล้วโว้ย!” จันทร์โวยวายก่อนจะกดตัดสายไปทันที

ทะเลนั่งยิ้มอยู่คนเดียวสักพัก ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าลืมถามเรื่องช็อกโกแลตไป เลยกดวิดีโอคอลหาอีกครั้ง

“อะไรอีก!” ทะเลจันทร์กดรับได้ก็ตวาดแว้ด

เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงใส “ผมจะถามเรื่องช็อกโกแลตครับ”

“อะไรก็ได้แหละ” คนพี่ตอบเสียงเบาลง

“ไม่อยากได้อะไรเป็นพิเศษเหรอครับ”

จันทร์ส่ายหน้า “ไม่ต้องซื้อมาก็ได้” เจ้าตัวเม้มปาก “แค่กลับมาเร็ว ๆ ก็พอ..แค่นี้นะ”

ทะเลฉีกยิ้มกว้างราวกับคนบ้า เขานอนกลิ้งไปมาบนที่นอน อยากจะให้โลกนี้มีประตูไปไหนก็ได้ขอโดเรม่อนจริง ๆ เขาจะได้ใช้มันเปิดไปหาพี่จันทร์ตอนนี้เลย

ทะเลปลอบใจตัวเองว่าให้อดทน พรุ่งนี้เขายังต้องไปซื้อของฝากในเมืองอีกหนึ่งวัน แล้วก็จะได้เดินทางกลับแล้ว

..อดทนอีกนิดเว้ย..



...



ทะเลจันทร์สงบจิตสงบใจตัวเองอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นที่บ้าน ร่างบางนั่งกอดขา ถูไถใบหน้ากับหัวเข่าด้วยความเขินอาย รู้สึกว่าตัวเองทำตัวอย่างกับเด็กวัยรุ่นอย่างไรอย่างนั้น

“อา..บ้าชะมัด” จันทร์บ่นตัวเอง “ทำตัวยังกับสาวน้อยวัยแรกแย้ม”

แก่จน 35 แล้ว...ไม่คิดว่าจะได้มีความรู้สึกแบบนี้อีก แต่ถ้านึกย้อนกลับไป...กับคนเก่าแล้วเขาก็ไม่ได้มีความสุขเท่านี้เลย อาจจะเพราะความรักตอนยังเด็กมันมีแต่ความลุ่มหลงอยู่เต็มไปหมด...ต่างจากตอนนี้ที่มันเรียบง่าย ทะเลเองก็ไม่ได้เอาแต่ใจหรือเรียกร้องอะไรจากเขา..นอกเสียจากความรัก

จันทร์แนบแก้มลงกับหัวเข่า เหม่อมองออกไปยังสวนข้างบ้านที่แม่เพิ่งจ้างให้คนมาจัดสวนใหม่ คิดถึงตัวเองตอนนี้แล้วก็กลัว...คำว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวนี่ท่าจะจริง เพราะยิ่งมีความสุขมากเท่าไหร่..เขาก็ยิ่งกลัว

น่าขำชะมัด...ก่อนหน้านี้เขายังเป็นฝ่ายที่พร้อมจะปล่อยทะเลไปอยู่เลย แต่ในตอนนี้กลับกลัวจะถูกอีกฝ่ายทิ้งขว้าง

ทะเลจันทร์นั่งตัวตรง สะบัดหัวแรง ๆ ไล่ความคิดไม่ดีออกไป เพราะการคิดแบบนั้น...ก็เท่ากับเป็นการดูถูกความรักที่ทะเลมีให้ ถึงอีกฝ่ายจะอายุน้อยกว่ามาก แต่ที่ผ่านมาไม่มีครั้งไหนเลยที่หมอนั่นทำให้เขารู้สึกไม่มั่นคง แบบนี้แล้ว...เขาควรจะต้องเชื่อมั่นสิ

เขาบิดขี้เกียจสองสามทีก็ต้องเตรียมตัวเพื่อไปที่ร้าน หลังจากที่เขาวางมือจากการเข้าครัวทำขนมให้กับพี่สวยทั้งหมด ก็มีเวลาว่างมากขึ้น ทะเลจันทร์เริ่มขยับไปทำงานในออฟฟิศเพื่อรอรับช่วงต่อจากแม่ที่อายุเยอะแล้วแต่เชื่อเถอะว่าแม่ไม่ปล่อยงานให้เขาทำง่าย ๆ หรอก

..คุณรดา สาวมั่นวัยเกือบ 60 ปี สุขภาพร่างกายของแม่แข็งแรงมากกว่าเขาเสียอีก..

ช่วงนี้อาการของจันทร์ค่อนข้างอยู่ตัว อาการสั่นที่มีไม่ได้หายไปแต่เขาก็ปรับตัวที่จะอยู่กับมันได้แล้ว แค่เขาต้องกินยาให้ตรงต่อเวลาตามหมอสั่ง จะขาดก็เรื่องออกกำลังกายที่เขาแสนจะขี้เกียจเหลือเกินนี่แหละ เห็นทะเลมันบ่น ๆ อยู่เหมือนกันว่าจะพาเขาไปออกกำลังกาย เอาเถอะ..ถึงเวลาเมื่อไหร่เขาก็ต้องพยายามเพื่อให้ตัวเองแข็งแรงขึ้นล่ะนะ

จันทร์เดินตรงไปหามารดาที่ออฟฟิศ ตั้งใจจะไปหางานทำนี่แหละ ไม่อยากอยู่ว่าง ๆ ให้แม่เลี้ยง มือขาวเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไปยืนในห้อง

“แม่มีอะไรให้จันทร์ช่วยไหมครับ”

รดานิ่งคิดสักพัก “หนูไปเอารายการที่จะต้องสั่งจากพ่อครัวให้แม่ก็ได้ครับ แล้วก็เช็กอีกทีว่าไม่มีอะไรขาดตกไป เย็นนี้แม่จะได้สั่ง”

ลูกชายคนเดียวพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปตามคำสั่งของมารดา เขาเดินตรงไปหาหัวหน้าพ่อครัว

“พี่พงษ์..รายการของที่ต้องสั่งเรียบร้อยหรือยังครับ”

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“เดี๋ยวพี่กับผมไปเช็กด้วยกันอีกทีนะครับ”

จันทร์เดินนำเข้าไปที่เก็บสต๊อกสินค้า ลูกชายเจ้าของร้านก้ม ๆ มอง ๆ ระหว่างรายการในมือกับของในตู้และห้องเย็น ที่มีทั้งผัก เนื้อสัตว์ และเครื่องปรุงทั้งหลายแหล่

พอเรียบร้อยดีจึงนำใบรายการไปส่งให้กับมารดา งานส่วนใหญ่ของร้านนี้เขาก็รู้แทบทุกอย่างอยู่แล้ว รอแค่ว่าแม่จะปล่อยให้เขาจัดการด้วยตัวเองเมื่อไหร่ ซึ่งดูท่าคงจะอีกนาน…

ทะเลจันทร์เดินออกมารองรับลูกค้าด้านนอก พอไม่มีอะไรทำก็เดินไปรอบ ๆ ร้านเพื่อหาอะไรทำไปเรื่อย ๆ ทั้งรดน้ำต้นไม้ เก็บกวาดขยะ ให้อาหารปลา ทำจนไม่มีอะไรจะทำแล้วจึงขอตัวกลับก่อน



...



ทะเลเดินทางกลับมาถึงไทยในช่วงบ่าย หลังจากรับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยเดินออกมาก็เจอพี่จันทร์ยืนรออยู่แล้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลงทะเลดึงตัวคนรักเข้ามากอดแนบแน่นสูดกลิ่นยาสระผมบนหัวอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง

“คิดถึงที่สุดเลย…”

จันทร์หัวเราะเบา ๆ ตบมือลงกับแผ่นหลังหนา “ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ”

ความสุขใจเอ่อล้นขึ้นมาจนทะเลน้ำตาไหล นานแค่ไหนแล้ว...ที่ไม่มีคนพูดคำนี้กับเขา “ผมคิดถึงพี่…” ทะเลพูดเสียงพร่า
คนอายุมากกว่าดันตัวทะเลออก “ร้องไห้ทำไมน่ะ” จันทร์พูดกลั้วหัวเราะ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของน้องให้อย่างแผ่วเบา “คิดถึงมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

“มากกกกก” ทะเลลากเสียงอ้อน เขาคว้าคนแซวเข้ามากอดให้แน่นเข้าไปอีก ไม่สนสายตาว่าใครจะมองเขาสองคนยังไง

จันทร์หัวเราะเสียงใส ปล่อยให้ทะเลกอดอยู่แบบนั้น เพราะเขาเอง...ก็คิดถึงไม่ได้ต่างกันนักหรอก

“ปะ..กลับบ้านกันดีกว่า” เมื่อพอใจแล้วเด็กหนุ่มก็หยิบกระเป๋าต่าง ๆ ที่ทิ้งไว้กับพื้นขึ้นมาถือ

“ไม่หิวเหรอ” จันทร์ย้อนถาม

ทะเลโน้นตัวลงมากระซิบ “ผมหิวพี่มากกว่า”

“ไอ้เด็กเวรเอ๊ย!” จันทร์ว่า..แต่ตัวเองก็หิวอีกฝ่ายไม่ได้ต่างกันนักหรอก

ทะเลขอเป็นคนขับในขากลับ เขาตรงไปที่ร้านจันทร์ฉายเพื่อแวะเอาของฝากไปให้คุณแม่ก่อนเป็นอันดับแรก

“ไหนว่าหิวไง” จันทร์ค่อนขอด

“หิวน่ะมันหิวหรอก แต่จะเอาลูกเขาไปปู้ยี่ปู้ยำ..ก็ต้องขออนุญาตคุณแม่ก่อนสิครับ” ทะเลตอบกลับ สายตามองไปที่กระจกขณะที่ถอยรถเข้าที่จอด

จันทร์ตีเข้าที่ต้นแขนอีกฝ่ายไปหนึ่งที “ทะลึ่ง”

ทะเลเดินตามลูกชายเจ้าของร้านตรงไปที่ออฟฟิศของคุณแม่ตามคำบอกของผู้จัดการร้าน เขาหิ้วของมาฝากเล็กน้อย และมาเพื่อขอตัวพี่จันทร์ไปค้างที่บ้านของเขาสักวันสองวัน

จันทร์เคาะประตูก่อนตามมารยาท “แม่ครับ” จันทร์เรียก “ดูสิว่าใครมาหา”

“ทะเล! กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ลูก” รดาเดินไปรับคนมาเยี่ยมด้วยตัวเอง

ทะเลยกมือไหว้ “เพิ่งมาถึงเลยครับ ผมเลยแวะเอาของฝากมาให้”

“ขอบใจมากนะจ๊ะ” คนเป็นแม่รับถุงมาถือเอาไว้ “วันหลังไม่ต้องมีของฝากก็ได้นะ ลำบากหนูเปล่า ๆ แค่กลับมาถึงอย่างปลอดภัย
ไม่เจ็บไม่ไข้ก็ถือว่าเป็นของฝากสำหรับแม่แล้ว”

ทะเลตื้นตันจนพูดไม่ออก ยืนก้มหน้ากระบอกตาร้อนผ่าว พอกะพริบตาน้ำตาที่คลอหน่วยก็ไหลลงอาบแก้ม

“แม่ทำไอ้หนูทะเลร้องไห้แล้วว” จันทร์ร้องก่อนจะหัวเราะลั่น

ทะเลเช็ดน้ำตาป้อย ๆ “ก็ผมดีใจนี่นา!” เขาพูดเสียงดังพร้อมรอยยิ้ม ทั้งตา ไม่ได้รู้สึกโกรธหรืออายที่ถูกแซวสักนิด “ตั้งแต่คุณย่าจากไปก็ไม่มีใครพูดแบบนี้กับผมอีกเลย”

“โถ่..ลูกเอ๊ย~” รดากอดเด็กหนุ่มตัวโตด้วยความอบอุ่นทั้งหมดที่มี “ตอนนี้ทะเลก็เป็นเหมือนกับลูกชายอีกคนหนึ่งของแม่แล้วนะ อย่าคิดว่าเราเป็นคนอื่นคนไกลกันเลยนะจ๊ะ”

เด็กหนุ่มลังเลว่าจะกอดอีกฝ่ายตอบกลับดีหรือไม่ เขายกมือขึ้นค้างอยู่อย่างนั้นจนคนเป็นแม่เอื้อมไปจับให้มือของทะเลวางลงบนหลังของเธอ

“ถ้าอยากจะกอดก็กอดเลย”

“ขอบคุณครับ..” ทะเลพูดด้วยความซาบซึ้ง

รดาเหลือบไปเห็นลูกชายของเธอยืนพิงประตูกอดอกมองมาด้วยรอยยิ้มบาง “จันทร์ก็ด้วย..มากอดน้องอีกคนมาเร็ว~”

คนถูกเรียกสะดุ้งก่อนจะส่ายหน้าแหย่ “ไม่เอา”

..ไม่ใช่เด็ก ๆ กันสักหน่อย..

“อย่าปฏิเสธแม่นะจ๊ะ” รดาพูดเสียงนิ่มแต่แฝงไปด้วยความเด็ดขาด

ทะเลจันทร์กลอกตามองบนก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดทั้งแม่ทั้งทะเลอย่างช่วยไม่ได้ แต่เมื่อเห็นว่าทะเลดีใจมากแค่ไหน...มันก็อดไม่ได้ที่เขาจะยิ้มตามไปด้วย



...



“เดี๋ยวคืนนี้ผมขอพาพี่เขาไปนอนค้างที่บ้านผมด้วยสักคืนนะครับ” ทะเลเอ่ยบอกก่อนจะเดินทางกลับ

คนเป็นแม่เอียงคอเล็กน้อย “กลับไปทำไมล่ะลูก ย้ายมาอยู่ที่บ้านแม่ด้วยเลยก็ได้นะจ๊ะ”

“เอ่อ…” ทะเลไม่รู้จะตอบอย่างไรดี “พอดีจะเอาของไปเก็บที่บ้านน่ะครับ” หัวเราะแฮะ ๆ

..จะให้บอกว่าจะพาพี่เขาไปฟาดก็กลัวจะตรงเกินไป..

“อ๋อ~” รดาลากเสียงยิ้มอย่ามีนัย “แม่ก็ลืมไปเลย เอาเถอะจ้ะ..แม่ไม่รบกวนเวลาของหนุ่ม ๆ แล้วล่ะ ขับรถดี ๆ นะจ๊ะ”

จันทร์หน้าแดงตั้งแต่แม่ร้องว่า ‘อ๋อ’ แล้ว เขาเดาว่าแม่ต้องรู้แน่นอนว่าจุดประสงค์ของไอ้หมอนี่มันคืออะไร ก็ดูหน้ามันสิ..แสดงออกซะขนาดนั้น อยากจะตบกะโหลกมันจริง ๆ สิพับผ่า!




tbc…
ทะเลกลับมาป่วนหัวใจแล้วจ้า~~
 :-[
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 18 หน้าที่ 3 [27/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 27-11-2019 18:39:01
 :z1:

 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 18 หน้าที่ 3 [27/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ololl08 ที่ 27-11-2019 18:48:30
 :m25: :m25: :m25:

สวยครับ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 18 หน้าที่ 3 [27/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-11-2019 05:32:59
 รอ    o18 :z1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 18 หน้าที่ 3 [27/11/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 28-11-2019 17:41:12
 :pig4: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 19 หน้าที่ 3 [06/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 06-12-2019 12:46:20



19




“ดะ- เดี๋ยว! หยุดก่อน..อื้อ!”

ทะเลจันทร์ร้องเมื่อถูกจู่โจมทันทีที่เข้ามาในตัวบ้าน เด็กหนุ่มจับร่างบอบบางให้หันกลับมาปะทะกับแผ่นอกแน่น มือหนึ่งกอดเข้าที่เอวเล็ก ส่วนอีกมือช้อนท้ายทอยให้คนอายุมากกว่าเงยหน้าขึ้นรับจูบที่ร้อนแรงไปด้วยอารมณ์

ทะเลดันอีกฝ่ายให้ถอยหลังไปช้า ๆ จนเมื่อชนเข้ากับโซฟากลางบ้านจันทร์ก็หงายหลังลงไปโดยมีทะเลตามลงมาคร่อมอยู่ด้านบน พวกเขาทั้งสองคนหอบหายใจเสียงดัง ดวงตาจ้องมองกันและกันราวกับจะกลืนกิน

“ขึ้นไปข้างบนได้ไหม” จันทร์บอก “จะทำตรงนี้ก็เกรงใจคุณย่า” เขาเหลือบมองผ่านไหล่ของทะเลไปเจอรูปของคุณย่าแขวนอยู่บนกำแพง นั่นช่วยให้อารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านสงบลงด้วยความละอาย

หลานเจ้าของบ้านหัวเราะในลำคอ ก้มลงจุ๊บปากแดงเจ่อ “ไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่าครับ” นั่งเครื่องมาตั้งหลายชั่วโมงจะทำอะไรกับอีกฝ่ายที่เป็นคนรักสะอาดทั้งสภาพแบบนี้ก็สงสาร


.
.
.


ต่างคนต่างถูสบู่ให้กันอย่างไม่รีบร้อน ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างกายผอมลากเรื่อยไปจนถึงบั้นท้ายเล็ก ทะเลบีบมันด้วยความมันเขี้ยวจนเจ้าของมันสะดุ้ง

“บีบทำบ้าอะไรเนี่ย!” จันทร์แว้ดใส่ ทุบกำปั้นลงกับต้นแขน

“อยากให้พี่อ้วนขึ้นกว่านี้อีกสักนิดจัง” ทะเลบอก “เวลาที่ร่างกายเราโดนกัน..เสียงมันน่าจะเร้าใจ” ใบหน้าหล่อยิ้มทะเล้น

ฝ่ามือขาวตบเข้าที่หัวของคนอายุน้อยกว่าจนเจ้าตัวร้องโอ๊ย “ทะลึ่ง!” ตัวเขาก็เท่านี้มาไหนแต่ไรแล้ว ไอ้เรื่องจะให้อ้วนขึ้นคงจะยาก
ทะเลยังลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่แถวด้านหลังของคนรัก เขาบดเบียดตัวตนเสียดสีอย่างจงใจปลุกเร้าอารมณ์ พร้อมกับก้มลงงับติ่งหูและเลียใบหูเบา ๆ จนอีกฝ่ายครางเสียงเครือ ทะเลลากลิ้นลงไปตามลำคอเพรียว

“อย่าทำรอยนะ..” จันทร์บอกเมื่อทะเลพรมจูบไปทั่วลำคอ เขายกแขนขึ้นคล้องคออีกฝ่ายเอาไว้พร้อมกับเอียงใบหน้าให้จูบได้อย่างเต็มที่

คนอายุน้อยกว่าสอดนิ้วไล้ไปตามร่องด้านหลัง พอสะกิดเข้าที่ปากทางทะเลจันทร์ก็กระตุกสั่นราวกับลูกนก นานแล้วที่พวกเขาไม่ได้มีอะไรกัน ทุกการสัมผัสของทะเลเลยสามารถทำให้อารมณ์ของเขากระเจิดกระเจิงได้ไม่ยาก

“ถ้าเขาไปตอนนี้เลยพี่จะเจ็บใช่ไหม” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงพร่า

จันทร์หัวเราะกับความใจร้อนของทะเล “ใจเย็นสิ ฉันไม่ได้จะหนีหายไปไหน” กดจูบกับแก้มสากเพราะเริ่มมีตอหนวดขึ้นบาง ๆ “พวกเรายังมีเวลาอีกทั้งคืน”

คนโดนยั่วกัดฟันฮึ่ม ทะเลยกตัวเบาหวิวของอีกฝ่ายจนลอย แล้วพาคนรักออกจากห้องนอนไปวางบนเตียงกว้าง

ทะเลจันทร์ยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสายตากระหายอยากของเด็กหนุ่ม เขาลุกขึ้นนั่งขยับกายเข้าไปใกล้ส่วนนั้นของทะเลที่มันกำลังชี้หน้าเขาอยู่

“ขอชิมหน่อยนะ” ไม่ทันให้เจ้าของมันอนุญาต..จันทร์แลบลิ้นแตะลงที่ส่วนปลายโดยไม่ใช้มือจับ

“พี่นี่..ช่างยั่วผมจริง ๆ เลยนะ”

คนอายุมากกว่าเงยหน้าขึ้นสบตาร้อนแรงของทะเล จันทร์ยิ้มร้ายก่อนจะยกมือขึ้นมาจับไม่ให้มันดิ้นหนี..ก่อนจะครอบปากเข้าไปลึกเท่าที่จะทำได้...โลมเลียราวกับไอศกรีมแท่งโปรด

ทะเลลมหายใจสะดุดเมื่อได้รับสัมผัสแบบนั้น..มันทำให้เขาตื่นตัวจนแทบทนไม่ไหว เสียงที่เกิดขึ้นฟังดูลามก แต่ก็ยังดูน้อยกว่าสายตาและสีหน้าของทะเลจันทร์อยู่ดี

“พี่..พอเถอะ” เขาดันไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ แทนที่ทะเลจันทร์จะหยุดกลับไม่สนใจ และจากที่ละเลียดชิมเลยกลายเป็นมูมมามจนเจ้าของมันสะท้านไปทั้งตัว

“พี่..หยุดก่อน..ผมจะเสร็จ” ทะเลบอกอีกครั้ง

จันทร์ละปากออก “เสร็จมาเลยสิ” บอกจบก็เอาลูกชายของทะเลเข้าปากอีกรอบ

ชั้นเชิงของทะเลจันทร์ประจวบกับที่ทะเลไม่ได้ปลดปล่อยมานาน เพราะนอกจากที่เขาสองคนจะไม่ได้ร่วมรักกันแล้ว..แม้กระทั่งช่วยตัวเองเขาก็ไม่ได้ทำ

..เลยทำให้เสร็จไวกว่าปกติ..

ทะเลจันทร์ดูดกลืนทุกหยาดหยดเก็บไว้ในปาก ก่อนจะคายใส่ฝ่ามือ

“จะเก็บไว้ทำอะไรเนี่ย” ทะเลขมวดคิ้ว

“ไม่น่าถาม” จันทร์ขยับตัวขึ้นไปบนเตียง ขยับให้อยู่ในท่าคลานเข่าก่อนจะใช้สารคัดหลั่งของทะเลเป็นตัวหล่อลื่นในการขยายช่องทางของตัวเอง

ทะเลมองภาพตรงหน้าด้วยอารมณ์จวนเจียนจะคลั่ง พุ่งตัวขึ้นไปคร่อมทะเลจันทร์ทั้งตัว ก้มลงจูบแผ่นหลังเนียนพลางสอดนิ้วของตัวเองเข้าไปเพิ่ม

“อ๊ะ..อา..” คนด้านใต้ครางอย่างรู้สึกดี เขาไม่รู้สึกเขินอายที่ทำแบบนี้ต่อหน้าทะเล เพราะตนก็ไม่ใช่สาวน้อยวัยใสที่ต้องเหนียมอายอะไร

“ดีไหมครับ” ทะเลถาม ขยับนิ้วเสียดสีกับช่องทางร้อน

“ดี..อ๊ะ..ดีมากเลย” ทะเลจันทร์มือสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ จนทะเลบอกว่าให้เอาออกเขาถึงได้หยุด ร่างกายผอมบางทรุดตัวลงกับเตียงโดยยังยกบั้นท้ายโก้งโค้งอยู่อย่างนั้น

ทะเลเพิ่มนิ้วที่สองเข้าไปนวดคลึงไม่นานนักก็เพิ่มเข้าไปอีกนิ้ว จนรับรู้ได้ว่าช่องทางของอีกฝ่ายพร้อมที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วถึงถอนนิ้วออก ทะเลก้มตัวกดจูบที่หัวไหล่ขาว

“ผมขอเข้าไปนะครับ..”

“ไม่ต้องขอก็ได้..” จันทร์บอกเสียงแผ่ว ขยับสะโพกไปมาจงใจให้ถูกับส่วนนั้นของอีกฝ่าย “เขามาเถอะ”

“พี่นี่มัน…” ทะเลพูดไม่ออก เขาจัดการส่งน้องชายเข้าไปตอบสนองอารมณ์ของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนที่สุด ถึงแม้ส่วนลึกเขาจะปรารถนาในตัวอีกคนมากแค่ไหนก็ตาม

ทะเลจันทร์กัดปาก ความเจ็บแล่นจี๊ดขึ้นมาตามไขสันหลัง เพราะเขาไม่ได้ใช้งานมันมานานร่วมเดือน แต่เขารู้ดีอยู่แล้วว่ามันจะเจ็บแค่ไม่นาน..เดี๋ยวก็รู้สึกดีเอง

“สุดยอด..พี่รัดผมแน่นไปหมดเลย” ทะเลดึงตัวของจันทร์ขึ้นมากอด ปลายนิ้วดันคางของอีกฝ่ายให้หันมารับจูบ เขาตั้งใจจะไม่ขยับกายจนกว่าทะเลจันทร์จะปรับช่องทางเคยชินกับขนาดของเขาก่อน

ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามเรือนกายขาวสวยที่เขาหลงใหล สูดดมกลิ่นกายหอมตามซอกคอและลาดไหล่บาง

“ขยับเถอะ..ฉันทนไม่ไหวแล้ว” คนอายุมากกว่าบอก สะโพกเล็กเป็นฝ่ายโยกขยับเมื่อทะเลไม่ทำสักที

เส้นความอดทนของทะเลขาดผึง สะโพกขยับขับเคลื่อน..แม้ไม่รุนแรงแต่ก็หนักหน่วง ขนาดของมันลึกถึงจุดกระสันภายในของจันทร์ มือบางกำผ้าปูที่นอนแน่นพร้อมกับกรีดร้องเสียงแหลม

..เขาไม่ได้เจ็บ..แต่รู้สึกดีจนเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่..

“ทะเล..ทะเล..” จันทร์เรียกเสียงกระเส่า

“ครับ”

“ฉัน..อยากเห็นหน้าเธอ”

ทะเลจับกายผอมบางค่อย ๆ พลิกหงายอย่างง่ายดาย เขาทั้งคู่สบตาก่อนจะโผเข้าจูบกันอย่างลึกซึ้ง เด็กหนุ่มหยัดตัวขึ้นจับขาเพรียวพาดบ่าแล้วบรรเลงเพลงรักต่อ

“จะเสร็จ..จะเสร็จแล้ว” ทะเลจันทร์บอกเสียงแผ่ว “แรงอีกหน่อยได้ไหม”

ทะเลทำตามคำขอ แต่ก็ไม่กล้าใส่แรงเกินไป...เพราะขนาดตัวที่แตกต่างกันพอสมควรเลยกลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บตัว เขามองร่างบางที่กระเทือนจากแรงกระแทกของเขา

นึกไปถึงครั้งแรกที่ได้เจอกันเขารู้สึกว่าทะเลจันทร์ราวกับแก้วคริสทัลที่ทั้งบอบบางและแตกหักง่าย...แม้ในตอนนี้เขาก็ยังคงรู้สึกแบบนั้นไม่เปลี่ยน

..ทะเลจันทร์ของเขาทั้งตัวเล็กและบอบบางสำหรับเขาเหลือเกิน..

“กอด..กอดหน่อย” จันทร์ร้องขออีกครั้ง และเด็กหนุ่มก็ทำให้อย่างไม่อิดออด เขาใช้ฝ่ามือทั้งสองจับใบหน้าของทะเลไว้แล้วจูบเบา ๆ

..อยากให้ทะเลรับรู้ได้ถึงความรักที่เขามีให้..

“ขอปล่อยในตัวพี่ได้ไหม” เจ้าตัวเอ่ยถาม..ถึงพวกเขาจะพากับไปตรวจเลือดเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่มันทำความสะอาดยาก

“ไม่ต้อง..ปล่อยมาเลย”

เมื่อได้รับอนุญาตทะเลก็เร่งจังหวะเร็วขึ้น บทรักครั้งนี้หนักและเหนื่อยจนคนอายุมากกว่าไม่มีเสียงจะร้องออกมา เมื่อความอุ่นร้อนรินหลั่งเข้ามาในกาย..ทุกอย่างจึงได้สงบลง เหลือไว้แต่เสียงหอบหายใจ

ทะเลยังคงนอนทับและไม่ขยับกายออกจากทะเลจันทร์พักใหญ่ จนเสียงลมหายใจเบาลงเขาถึงขยับถอนตัวออก “ผมรักพี่นะ” เขาบอกก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ผุดพรายออกมาตรงขมับ

“ฉัน..ก็รักเธอ…”

ทะเลเบิกตากว้าง เด็กหนุ่มดันตัวขึ้นมองใบหน้าที่กำลังยิ้มบาง แววตาสั่นไหวราวกับจะร้องไห้ “พี่..ผมหูฟาดหรือเปล่า” เขาพูดเสียงสั่น “พี่..บอกอะไรผม..พูดอีกได้ไหม”

ทะเลจันทร์ประคองใบหน้าคมด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง “ฉันรักเธอ” เขาพูดย้ำก่อนจะกดจูบอีกครั้ง..และอีกครั้ง “ได้ยินหรือยังทะเล..ว่าฉันรักเธอ”

“ได้ยิน..” เด็กหนุ่มน้ำตาซึม “ในที่สุดผมก็ได้ยิน..จากพี่..”

“ร้องไห้อีกแล้ว~” จันทร์ว่ากลั้วหัวเราะ

“ก็ผมดีใจนี่”

คนอายุมากกว่าไม่ได้พูดอะไรต่อ มือขาวยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้เด็กหนุ่มด้านบน “ขอโทษที่ทำให้เธอต้องรอนานนะ..ขอโทษที่ทำให้เจ็บปวดมาตลอด”

ทะเลเบะปากก่อนจะทิ้งตัวนอนทับทะเลจันทร์จนร้องโอ๊ยดังลั่น

“มันหนักโว้ย!” จันทร์พยายามดิ้นหนี

ทะเลกอดจันทร์แล้วพลิกให้อีกฝ่ายอยู่ด้านบน ฝ่ามือใหญ่ลูบแก้มเนียน “บอกรักผมแล้ว..ต้องรับผิดชอบผมด้วยนะ”

จันทร์กระตุกยิ้มมุมปาก “รู้แล้วน่า”

“อย่าคิดจะทิ้งผมอีกล่ะ”

“..อืม” จันทร์ตอบอย่างไม่เต็มปากนัก

“ตอบดี ๆ สิครับ..พี่จะไม่ทิ้งผมใช่ไหม”

ทะเลจันทร์ยิ้มบาง “ฉันจะไม่ทิ้งเธอ”

..เขาน่ะไม่คิดจะทิ้งหรอก แต่ถ้าทะเลอยากจะไป...เขาก็พร้อมที่จะปล่อยไปอย่างที่เคยคิดเอาไว้ตั้งแต่แรก..


.
.
.


ทะเลมักจะพาจันทร์ไปออกกำลังกายในสวนอยู่บ่อย ๆ แต่กว่าที่คนอายุมากกว่าจะยอมไปด้วยนั้น..ก็แทบจะรากเลือดเลยทีเดียว

“ทำไมจะต้องบังคับให้ฉันไปออกกำลังกายด้วยเนี่ย!” จันทร์มักจะแว้ดใส่เขาเป็นประจำเวลาเหนื่อย

“ก็ผมอยากให้พี่แข็งแรง” ทะเลว่ายิ้ม ๆ ในขณะที่มือถือกล้องเอาไว้ถ่ายในขณะที่อีกคนออกกำลังกาย

“แล้วทำไมเธอไม่มาออกด้วยกัน ทำไมต้องเป็นฉันคนเดียว ห๊า!”

ทะเลหัวเราะร่วนยามถูกโวยวายใส่ “คนเดียวที่ไหนครับ เพื่อนเยอะแยะ”

จันทร์หันไปมองรอบ ๆ ลานเต้นแอโรบิก มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น เขาแทบจะเป็นผู้ชายคนเดียวอยู่ในลานนี้เลย เอาจริง ๆ เขาเป็นคนที่เกลียดการออกกำลังกายมาก เพราะมันทั้งร้อนและเหนื่อย

แต่ในเมื่อชีวิตในตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งจำเป็น เวลาที่เหนื่อย ๆ จันทร์เลยชอบที่จะใส่อารมณ์กับทะเล แต่มันเป็นการกระทำสนุก ๆ มากกว่า ไม่ได้จริงจังแต่อย่างใด

“ไปครับ เขาเริ่มอีกรอบแล้ว” ทะเลบอก

ใบหน้าสวยของอีกฝ่ายงอง้ำ แก้มขาวใสที่ปกติแล้วจะดูซีดกลับมีเลือดฝาด ผมที่เริ่มยาวถูกรวบไว้ ปอยผมที่หลุดออกมาเปียกแนบไปกับใบหน้าและลำคอ เขาเก็บภาพนี้ไว้เยอะมาก แถมยังมีไฟล์วิดีโออีกด้วย

“จะถ่ายอะไรนักหนา!” ทะเลจันทร์โวยวายใส่ทะเลจนป้า ๆ ที่อยู่รอบข้างหันมามองแล้วยิ้มให้

เด็กหนุ่มได้แต่หัวเราะตอบไป แต่ก็ไม่หยุดพฤติกรรมนี้ เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาถ่ายต่อไป ใบหน้าหล่อยิ้มแย้มอย่างมีความสุข

จันทร์ที่เห็นแล้วว่าทะเลคงไม่หยุดแน่นอน หันไปสนใจการออกกำลังกายเหมือนเดิม ที่เขาไม่ชอบการออกกำลังกาย เพราะไม่เห็นคุณค่าของการที่จะต้องมาเหนื่อยกับอะไรแบบนี้ ทั้งร้อนและเหงื่อเต็มตัว

..แต่พอทะเลบอกว่ามันดีกับสุขภาพ เขาก็กลับเชื่อมันง่าย ๆ ซะอย่างนั้น..

พอได้มาออกกำลังกายเป็นสัปดาห์ที่สองพร้อม ๆ กับรับยา นั่นก็ทำให้เขาคิดว่ามันก็ไม่เลวเหมือนกัน เขาขยับร่างกายได้ดีขึ้น ไม่ค่อยติดขัดเหมือนสองอาทิตย์ก่อนสักเท่าไหร่แล้ว

“แฟนหรือจ๊ะ”

จันทร์หันไปตามเสียง คนที่ถามเขาเป็นคุณป้าที่กำลังเต้นอยู่ข้าง ๆ ขยับแขนขาไปตามเพลงโดยไม่ต้องมองเลยด้วยซ้ำ

“เอ่อ….ไม่ใช่ครับ แค่น้องเฉย ๆ” เขาตอบพร้อมกับยิ้มแห้งและหันไปสนใจมองคนนำเต้นบนเวทีต่อ

“ป้าว่า...ไม่น่าใช่น้องธรรมดานะ”

“น้องครับ”

“แหม~ไม่ต้องปิดก็ได้จ้ะ สมัยนี้เขาไม่ถือกันแล้ว”

จันทร์ยิ้มแหย ก่อนจะหันไปตั้งใจออกกำลังกายตามเดิม เขาไม่ชอบที่จะตอบเรื่องส่วนตัวกับคนแปลกหน้า และเมื่ออีกฝ่ายตั้งคำถามต่อเขาก็ตอบแค่ว่า ‘ขอตัวก่อนนะครับ’ แล้วปลีกตัวเดินออกมาพร้อมกับใบหน้ามุ่ย

ทะเลที่เห็นอีกฝ่ายเดินออกมาจากกลุ่มทั้งที่ยังเต้นกันไม่จบก็วิ่งเข้าไปหา “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”

“เจอคนนิสัยไม่ดีน่ะ...ไปกันเถอะ” จันทร์ตอบพร้อมกับดึงข้อมือหนาของอีกคนให้เดินตาม

เด็กหนุ่มไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คิดว่าการเต้นแอโรบิกคงไม่ใช่ทางสำหรับอีกฝ่ายแล้ว เพราะถ้ามองจากความเป็นจริง พี่จันทร์เองก็ไม่ใช่คนที่เข้ากับคนง่าย แล้วที่ที่คนเยอะแบบนี้มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสมาคมกับคนอื่น ๆ

ทะเลหยุดเดินพร้อมกับดึงคนอายุมากกว่าให้หยุดเช่นกัน

“ถ้าพี่ไม่ชอบแอโรบิก เราเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นดีไหม”

“อะไรล่ะ”

“ถ้าพี่ชอบที่เงียบ ๆ เราลองเปลี่ยนไปเป็นโยคะก็ได้นะ”

จันทร์เบะปาก “เราบ้าอะไรล่ะ มีแต่ฉันคนเดียวที่ออกกำลังเนี่ย”

“เอ้า อยากให้ผมทำด้วยเหรอ”

จันทร์มองอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง ด่ามันจนปากเปียกปากแฉะแล้วว่าทำไมต้องเป็นเขาคนเดียวที่ออก ทีนี้ยังมีหน้ามาพูดย้อนตนหน้าเป็นอีก มันน่าตบหัวสักป้าบไหม

“โถ่ อย่าโกรธผมเลยนะ” ทะเลว่าเสียงอ่อน ขยับตัวเข้าไปใกล้ คว้ามือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายขึ้นมากุมไว้ “เอางี้ ต่อไปถ้าพี่อยากออกกำลังกายหรือทำอะไรผมก็จะทำเป็นเพื่อนด้วย ดีไหมครับ”

“จริงนะ” จันทร์ย้อนถามหน้านิ่ง และเมื่อทะเลพยักหน้าจันทร์ก็ยิ้มกว้าง

“พี่ก็รู้ว่าผมน่ะตามใจพี่เสมอ”

จันทร์เอื้อมมือไปลูบหัวของเด็กหนุ่มที่อยู่สูงกว่า “เด็กดี”

ทะเลยิ้มพลางเอาหัวดุนมืออีกฝ่าย

“หมาน้อยของฉัน” จันทร์บอกเมื่อเห็นทะเลทำแบบนี้

“เหรอครับ” เด็กหนุ่มทำตาวิบวับ ขยับหน้าเข้าไปกระซิบ “แต่พี่ไม่ชอบท่าหมานี่นา”

จันทร์ถลึงตาโต “ไอ้เด็กเวร!”

“โอ๊ย!” ทะเลร้องเมื่อถูกหยิกเข้าที่เอว

“ไม่ยุ่งด้วยแล้ว” ร่างบางเดินหนี “ห้ามเดินตามมานะ” จันทร์ว่าชี้หน้า

“ไม่ให้ผมตามแล้วพี่จะกลับยังไง..จะนอนที่นี่เหรอครับ” ทะเลเดินตามถามเสียงทะเล้น

คนอายุมากกว่าหยุดเดิน หันกลับมาทำตาขวาง ก่อนจะเตะเข้าให้ที่หน้าแข้งจนทะเลทรุดตัวลงกุมตำแหน่งที่ถูกทำร้าย “รอที่รถ!”

“พี่! เดี๋ยว!” ทะเลตะโกนเรียก แต่อีกฝ่ายก็ไม่หันมาเลย เขารอให้อาการเจ็บทุเลาถึงเดินตามไป ทะเลหลุดยิ้มเมื่อนึกถึงอาการเขินของคนรัก

..ทีงี้มาทำเป็นอาย..เวลาขึ้นเตียงล่ะก็ถึงไหนถึงกันลืมอายไปเลยแท้ ๆ..




tbc…
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 19 หน้าที่ 3 [06/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-12-2019 16:16:15
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 19 หน้าที่ 3 [06/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 06-12-2019 17:22:38
 :pig4: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 19 หน้าที่ 3 [06/12/2019]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 06-12-2019 19:15:25
 :z1:

 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 20 หน้าที่ 3 [10/01/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 10-01-2020 12:54:05




20




หลังจากที่ได้ปรับความเข้าใจกับจันทร์ไป เล็กก็กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีเบญเข้ามาในชีวิต

พวกเขายังไม่ได้ตกลงคบกันแบบจริงจัง สถานะในตอนนี้เรียกว่ายังเป็นเพื่อนกันอยู่ เป็นครั้งแรกที่เล็กเปิดใจว่าจะลองศึกษาใคร ตอนนี้ก็เลยยังคงทำตัวไม่ถูกสักที..

ปัญหาใหญ่ของพวกเขาก็คือการที่สื่อสารไม่ได้อย่างใจคิดนี่แหละ แต่เบญก็ไม่เคยย่อท้อกับเรื่องนี้ อีกฝ่ายพยายามเรียนรู้ภาษามืออย่างตั้งอกตั้งใจ มีการไปเรียนแล้วมาทดลองใช้กับเขาอีก

ในตอนยังเด็กเล็กไม่ได้รู้จักอีกฝ่ายดีพอก็แยกกันเสียก่อน ภาพจำของเขามีแค่...เบญคือคนที่ขโมยจูบแรกของเขาไป
ผ่านไปยี่สิบปี...พวกเราทุกคนต่างเติบโตขึ้นมากน้อยแตกต่างกันไป

เบญในสายตาของเขาเปลี่ยนไปมาก อีกฝ่ายดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น อาจจะเพราะผ่านอะไรมาเยอะ เขารู้ว่าเบญเคยผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว และตอนนี้ก็มีลูกสาวหนึ่งคน ชื่อน้องบัว อายุสองขวบ

ครั้งแรกที่ได้รู้ว่าเบญหย่ายังไม่ตกใจเท่ากับว่ามีลูกแล้ว เล็กกลัวจะมีปัญหาตามมา...แต่เบญก็บอกกับเขาว่าอย่าไปคิดกับสิ่งที่ยังไม่เกิด ซึ่งเขากลับมาคิดดูแล้วมันก็จริงอย่างที่อีกฝ่าว่า โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน..คนที่เกิดมาไม่มีอะไรผิดปกติอย่างเขายังป่วยจนสูญเสียการได้ยิน เพราะฉะนั้นเรื่องที่เขากลัวว่ามันจะไม่ดี...อาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ และเขาก็ยังอยู่ในระยะเรียนรู้ กับเบญนั้น..ถ้ามันไม่ใช่จริง ๆ ก็แค่โบกมือลากันก็เท่านั้นเอง

.
.
.

ผ่านมาสี่เดือนแล้วที่ทั้งสองคนตกลงจะเรียนรู้กัน เบญมักจะไปรอรับเล็กที่ทำงานกลับไปส่งบ้านเป็นประจำ เวลาว่างก็มักจะพากันไปทานข้าวหรือไปในที่ที่เล็กอยากไป เบญไม่ได้ทำงานประจำ เขาทำงานกับครอบครัว เลยทำให้มีเวลาว่างไปมาหาสู่กับเล็กอยู่เสมอ

เล็กออกไปนอกบ้านบ่อยขึ้นจนพ่อกับแม่รู้สึกผิดสังเกต เพราะปกติลูกชายคนเดียวมักจะอยู่บ้าน ถ้าออกไปข้างนอกก็จะมีเพื่อนมารับ หรือไม่อย่างนั้นก็จะให้คนขับรถที่บ้านพาออกไป

‘วันนี้จะออกไปไหนจ๊ะ’ แม่ถาม

เล็กที่กำลังจะมาบอกว่าจะออกไปข้างนอกขยับมือตอบ ‘จะออกไปซื้อหนังสือครับ’

‘ไปกับใครเหรอ’

เล็กคิดมาสักพักแล้วว่าจะบอกครอบครัวเรื่องของเบญ ไหน ๆ แล้วก็บอกมันตอนนี้เลยละกัน ‘ไปกับเพื่อนครับ เป็นคนที่กำลังคุย ๆ กันอยู่’

แม่ตาโตขึ้น ‘ใครเหรอ แม่รู้จักไหม’

‘แม่ไม่รู้จักหรอกครับ’ เล็กยิ้มขำกับความตื่นเต้นของแม่ ‘เรากำลังอยู่ในระยะที่เรียนรู้กันและกันอยู่ ตอนนี้ยังไม่ได้คบกันจริงจังครับ’

‘พามาเจอแม่หน่อยสิ’

‘เล็กจะบอกเขาให้นะครับ’

คนเป็นแม่เข้าไปกุมมือของเล็กเอาไว้ เธอดีใจที่เล็กมีใครสักที ถึงจะไม่เคยบอกให้ลูกหาแฟนสักคน แต่ลึก ๆ แล้วคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็แอบกังวลใจ กลัวว่าถ้าสักวันหนึ่งไม่มีชีวิตอยู่บนโลกแล้วจะมีใครอยู่เคียงข้างลูกของตนไหม

.
.
.

ไม่นานเกินรอเบญก็มานั่งเกร็งอยู่ที่ห้องรับแขกในบ้านของเล็ก หลังจากที่อีกฝ่ายส่งข้อความมาบอกว่า ‘แม่อยากเจอ’

..ไม่ทันได้เตรียมใจว่าจะต้องเจอครอบครัวของเล็กเร็วขนาดนี้..

“สวัสดีครับ” เบญลุกขึ้นยืนเมื่อเล็กพาแม่เข้ามา ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม

“สวัสดีจ้ะ” ท่านรับไหว้พร้อมรอยยิ้มกว้าง “ชื่อเบญใช่ไหมจ๊ะ”

“ครับผม” เขาตอบพร้อมกับนั่งหลังจากที่แม่ของเล็กเป็นฝ่ายนั่งก่อน

“กินอะไรมาหรือยังคะ”

“ยังครับ ว่าจะพาเล็กไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน”

เล็กที่มองสลับไปมาระหว่างแม่กับเบญพยักหน้ายิ้ม ๆ เมื่อถูกพูดถึง เขาจับใจความไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็พอจะรู้ว่าทั้งคู่พูดอะไรกัน
แม่จ้องเบญอย่างพิจารณา เพื่อนของลูกชายคนนี้มารยาทดี สุภาพเรียบร้อย แถมยังรูปร่างหน้าตาดีอีก เมื่อสำรวจจนหมดแล้วแม่จึงหันไปสบตากับลูกชายก่อนจะพยักหน้ายิ้ม ๆ พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้

เล็กปิดปากหัวเราะแบบไม่มีเสียงให้กับความขี้เล่นของแม่ ในขณะที่เบญทำตัวไม่ถูกตั้งแต่โดนจ้องตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว เขายิ้มแห้งเมื่อแม่ของเล็กหันมายิ้มให้อีกครั้ง

“แม่ขอถามตรง ๆ เลยนะจ๊ะ”

เบญพยักหน้า “ครับ”

“เบญชอบลูกชายของแม่ใช่ไหมจ๊ะ”

เบญพยักหน้าตอบด้วยเสียงหนักแน่น “ใช่ครับ”

“มากไหม”

เขาพยักหน้าอีกครั้งพร้อมกับตอบอย่างจริงจัง “มากครับ”

ถามตอบกันอย่างฉะฉานจนเล็กอ่านปากไม่ทัน เจ้าตัวมองสลับไปมาระหว่างแม่กับเบญขมวดคิ้วเอียงคอเกาหัวแกรก ๆ
คนเป็นแม่พยักหน้าช้า ๆ รู้สึกพึงพอใจขึ้นอีกหนึ่งระดับ “แล้วรับเรื่องที่เล็กเป็นได้แน่เหรอจ๊ะ ไม่ใช่ว่านานวันไปเธอจะเบื่อและทอดทิ้งลูกของแม่นะ”

เบญคลี่ยิ้มบางก่อนจะตอบ “ผมเจอกับเล็กครั้งแรกที่โรงเรียนกวดวิชาเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว..ผมรู้สึกชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น น่าเสียดายที่ต้องแยกกันไป ตอนนี้ผมได้กลับมาเจอเขาอีกครั้ง..ความรู้สึกของผมยังคงเดิม..และผมก็หลงรักเขามากขึ้นในทุก ๆ วันที่ได้พบกันครับ”

คนเป็นแม่นิ่งเงียบไปเมื่อได้ฟังความในใจของชายตรงหน้า รู้สึกประทับใจจนพูดอะไรไม่ออก

“ว้าว~” เธอยกมือขึ้นแนบแก้มร้อนของตัวเอง “แม่ล่ะเขินแทนลูกชายของแม่เลย”

เบญหัวเราะแห้งเกาต้นคอแก้เขิน หันไปที่เล็กก็เห็นตากลมฉายแววสงสัยออกมาอย่างปิดไม่มิด

เจ้าตัวเขย่าแขนมารดาแล้วขยับมือถาม ‘คุยอะไรกันเหรอครับ’

‘เบญบอกว่าเขาชอบหนูมาก ๆ หลงรักหนูอย่างหัวปักหัวปำเลยจ้ะ’

เล็กหน้าร้อนวูบ หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาจากอก ก่อนจะหันไปถลึงตามองอีกฝ่ายประหลับประเหลือก ข้อหาพูดอะไรให้แม่ของเขาฟังก็ไม่รู้!

“แล้วเบญทำงานทำการอะไรอยู่เหรอจ๊ะ” แม่ถามต่อ เธอเองก็ไม่อยากละลาบละล้วงเรื่องของใคร แต่กับคนที่เข้าหาเล็ก ก็ต้องแน่ใจว่าสามารถดูแลลูกชายคนเดียวของเธอได้อย่างสบาย

“ทำกิจการของที่บ้านครับ เป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์”

แม่พยักหน้ารับรู้ แค่นี้ก็พอใจแล้ว เธอเป็นคนที่มองคนออก ผู้ชายคนนี้ถึงภายนอกจะดูเกร็งอยู่บ้าง แต่กลับพูดจาฉะฉานด้วยสายตาที่แสดงถึงความเด็ดเดี่ยวจริงใจที่มีต่อเล็กลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ

“คือ…”

“มีอะไรก็พูดมาได้เลยจ้ะ” แม่บอก

“ไม่รู้ว่าคุณป้า..”

“เรียกว่าแม่เถอะ”

“ครับ...ไม่รู้ว่าคุณแม่จะรังเกียจไหมที่ผมเคยมีครอบครัวมาก่อน ตอนนี้ผมหย่ากับภรรยามาได้หนึ่งปี แล้วก็มีลูกสาวอายุสองขวบที่ผมต้องดูแลด้วยครับ”

ระหว่างที่เบญบอกเล่า คราแรกเขาก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ชอบเรื่องที่เขาเคยล้มเหลวกับชีวิตคู่..แถมยังมีลูกน้อยอีก แต่แม่ของเล็กยังคงยิ้มและมองเขาด้วยความเอ็นดู...นั่นทำให้เบญรู้สึกใจชื้นขึ้นมาไม่น้อย

“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก คนเราทุกคนล้วนมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็เพียงพอ ตัวเราเองจะได้ไม่ต้องรู้สึกแย่หรือเสียใจภายหลัง อีกอย่าง...ถ้าในอนาคตเบญได้คบกับเล็กจริง ๆ แม่ก็โชคดีได้มีหลานเลยนะเนี่ย” แม่พูดจบก็ขำคิกคัก

“หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะครับ” เบญยิ้มแห้ง ก็จนป่านนี้แล้วพวกเขายังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องคบเป็นแฟนกันเลยสักครั้ง

“มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ” แม่ว่าก่อนจะป้องปากทำทีเป็นแอบพูด “ถ้าเล็กเขาไม่มีใจก็คงไม่พาเบญมาให้แม่รู้จักหรอกนะจ๊ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกแม่พาใครมาแนะนำกับแม่เลยนะ”

เบญยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำบอกนั้น เขาคิดมาตลอดว่าเล็กจำยอมรับคำขอเขาเพราะความใจดีของอีกฝ่าย มันทำให้เขาไม่กล้าขออะไรที่มากเกินไปกว่านี้

ในตอนนี้เขารู้สึกมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น และต่อจากนี้ไปจะเริ่มเดินหน้ารุกอย่างจริงจัง อายุขนาดนี้แล้วมามัวรออดเปรี้ยวไว้กินหวานก็ดูท่าจะไม่ไหว

..แต่ดูแล้วเขาคิดว่าเล็กน่าจะหวานมากทีเดียว..

.
.
.

เล็กกับเบญส่วนใหญ่จะคุยกันผ่านโปรแกรมแชต และวันนี้เบญได้ชวนเขาไปเที่ยวงาน pet expo ที่เพิ่งจัดขึ้น ซึ่งเขาก็ตอบตกลงทันที และอีกฝ่ายก็ได้ขอในสิ่งที่เขาไม่เคยนึกถึงมาก่อน

‘ผมขอพาลูกไปด้วยได้ไหม’

เขาเคยเห็นรูปของน้องบัวที่เบญโชว์ให้ดู แต่ไม่เคยเจอกันมาก่อน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเจอหรอกนะ เพียงแต่ว่าเขาไม่คุ้นเคยกับเด็ก ๆ เพราะรอบตัวไม่มีเด็กอยู่เลยสักคน

เล็กไม่ตอบกลับในทันที เขาสลับหน้าจอค้นหาคำว่า ‘เด็กสองขวบ’ อยากรู้ว่าสองขวบนี่เด็กขนาดไหน สามารถสื่อสารหรือทำอะไรได้บ้างแล้วหรือยัง เขาอยากรู้ว่าควรจะทำตัวกับเด็กในวัยนี้ได้มากน้อยแค่ไหน

‘ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไร ผมไม่ว่าอะไรหรอก’

‘แค่อยากพาลูกไปเที่ยวด้วยกัน แกชอบสัตว์มาก’

เล็กรีบตอบกลับ ‘ผมไม่ได้ลำบากใจนะ เมื่อกี้ไปเสิร์ชหาข้อมูลเรื่องเด็กสองขวบมาน่ะ กลัวว่าบัวจะไม่ชอบผมมากกว่า’

‘อย่ากังวลไปเลย ลูกผมน่ารักนะ’

อีกฝ่ายบอกพร้อมกับแนบรูปเด็กผู้หญิงใส่ชุดเอี๊ยมสีเหลือง แก้มยุ้ย ตากลมโต ยังมองไม่ออกว่ามีส่วนไหนที่เหมือนเบญ

‘น่ารักมาก ทำไมไม่เห็นเหมือนพ่อเลย’

‘ผมไม่น่ารักจริง ๆ เหรอ’

เล็กหัวเราะกับสติ๊กเกอร์ร้องไห้ของอีกฝ่าย เขาเลยส่งกระต่ายหัวเราะกลับไปบ้าง

‘เพราะผมไม่น่ารักคุณเลยยังไม่รักผมสินะครับ’

นาน ๆ เบญจะหยอดเล็กสักที เล่นเอาใบหน้าขาวขึ้นสี ก้อนเนื้อในอกเต้นไม่เป็นจังหวะ ฝ่ามือขาวยกขึ้นลูบแก้มเมื่อรู้สึกว่าตัวเองยิ้มกว้างเกินไปแล้ว

‘ไม่ใช่อย่างนั้น’

‘เล็ก’

‘คุณรู้สึกรักผมขึ้นมาบ้างหรือยัง’

คนถูกถามเม้มปาก ดวงตาหวานจดจ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์นานสองนาน เล็กถามตัวเองว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไรกับเบญ

‘ผมชอบคุณนะ’

‘แต่มันยังไม่ถึงขั้นนั้น’

เล็กยังไม่ทันที่จะพิมพ์อีกประโยคเสร็จ อีกฝ่ายก็พิมพ์ประโยคเดียวกันส่งมาต่อกัน

‘ผมขอโทษ’ เล็กบอกกับอีกคนด้วยความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาจนแน่นไปทั้งช่องอก

‘ไม่ต้องขอโทษผมหรอก อย่าคิดมากเลย’

ยิ่งเบญบอกแบบนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกแย่ เล็กรีบกดวิดีโอคอลไปหาอีกฝ่ายทันที ไม่นานอีกฝั่งหนึ่งของสายก็กดรับ

เล็กจ้องมองเบญตาละห้อย...ไม่รู้จะสื่อสารกับอีกฝ่ายอย่างไร เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถบอกความในใจกับเบญได้อย่างใจ

ใบหน้าหล่อเห็นคนที่ชอบใบหน้าหงอยลงก็พยายามฝืนยิ้มออกมา เขาใช้นิ้วแตะเลื่อนจอให้มันเล็กลงก่อนจะพิมพ์ข้อความลงไป

‘อย่าห่วงเลย ผมไม่เป็นไรหรอก’

เล็กกดอ่าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบดวงตาเศร้าของเบญ รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามที่จะไม่แสดงความผิดหวังให้เห็น

‘ขอถามหน่อยได้ไหม’

‘ทำไมถึงชอบผมเหรอ’

เขาไม่เห็นว่าตัวเองจะมีข้อดีตรงไหนเลย ทั้งหูหนวก..เป็นใบ้ แถมยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก เบญควรจะหาผู้หญิงสักคนที่เป็นแม่ศรีเรือน พร้อมที่จะดูแลอีกฝ่ายและลูกน้อย

‘ตั้งแต่ที่ได้เจอกันครั้งแรกแล้ว’

‘เล็กนิสัยดี น่ารัก’

‘ยิ้มสวย’

‘ผมเองก็บอกไม่ถูก’

‘แต่ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหน คุณเป็นคนที่อยู่ในใจผมมาโดยตลอด’

‘เมื่อยี่สิบปีที่แล้วผมชอบคุณยังไง ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม’

คนถามไล่อ่านทุกตัวอักษรจนจบ ใบหน้าขาวร้อนไปหมด ตากลมเหลือบมองเบญที่กำลังมองมาที่เขาเหมือนกัน เล็กหลบตาวูบ...หัวใจเต้นแรงขึ้นอีก มือบางยกขึ้นแตะหน้าอกด้วยความตกใจ

แย่แล้ว...เขาจะเป็นโรคหัวใจหรือเปล่าเนี่ย รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจจะหยุดเต้น สายตาจริงจังของเบญทำเอาเล็กสั่นไปหมดทั้งหัวใจและร่างกาย

‘เป็นอะไรหรือเปล่า’

เล็กส่ายหัวแรง ทั้งที่ยังก้มหน้า ไม่..เขาไม่กล้าเงยหน้ามองอีกคนเลย

‘ท่าทางคุณไม่ดีเลย ผมเป็นห่วงคุณจริง ๆ นะ’

เล็กเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายให้เต็มตา บางที...เขาอาจจะรู้สึกกับเบญมากกว่าที่ตัวเองคิดเอาไว้ แค่ยังไม่อยากยอมรับเท่านั้นเอง

‘ผมคิดว่า’

‘ผมน่าจะรักคุณเข้าแล้วล่ะมั้ง’

เล็กเห็นสายตาตกตะลึงของอีกฝ่ายที่มองมา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มบาง นั่นยิ่งทำให้เขาหน้าร้อนมากขึ้นอีก

‘หน้าแดงหมดแล้ว’

‘เพราะใครกันล่ะ’

‘เพราะผมเองครับ’

เล็กเม้มปากกลั้นยิ้ม ดวงตากลมกะพริบมองสบตาอีกฝ่ายสลับกับเบนหนีไปด้วยความเขิน

‘จะมองอะไรนักหนา’

‘ก็เล็กน่ารัก’

‘บ้า ไม่มีผู้ชายอายุ 35 ที่ไหนน่ารักหรอก’

‘เล็กไง’

เล็กมองเบญด้วยใบหน้ายู่อย่างขัดใจ ที่ผ่านมามักจะมีแต่คนบอกว่าเขาน่ารัก แต่ยังไงเขาก็ผู้ชาย..ไม่ได้ชอบใจสักเท่าไหร่หรอกที่ถูกชมว่าน่ารัก แล้วอายุก็เข้าสู่เลขสามกลาง ๆ เข้าไปแล้ว ตีนกาก็เริ่มมาเยือนแบบนี้ จะเอาอะไรมาน่ารักอีก

‘เป็นแฟนผมนะ’

เล็กอ่านทวนประโยคที่เพิ่งถูกส่งมาซ้ำอยู่สามรอบถ้วน ใบหน้าค่อย ๆ เงยขึ้นมองเบญ อ่านปากของอีกฝ่ายได้ความเหมือนเดิม

..เป็นแฟนผมนะ..

เขาพยักหน้าตอบอย่างไม่ลังเลเลย

‘มาขอเป็นแฟนกันอย่างกับวัยรุ่น’ เล็กว่าพร้อมกับยิ้มขำ

‘ความรักจะมักทำให้คนเราทำตัวเหมือนเป็นวัยรุ่นได้เสมอนั่นแหละ’

เล็กหัวเราะไม่มีเสียงกับประโยคโบราณของอีกฝ่าย ‘เหมือนที่เพลงพี่เสกบอกไว้น่ะเหรอ เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอน 14 ตอนที่ฉันมีแฟนคนแรก’

‘ตอน 14 ผมยังไม่มีแฟนเลย’

เล็กทำหน้าไม่อยากเชื่อ

‘แต่ได้จูบแรกจากคุณตอน 15 นะ’

‘นั่นเขาเรียกว่าขโมยจูบครับ’

เบญเป็นฝ่ายหัวเราะบ้าง ไม่แก้ตัวอะไรเพราะนั่นก็เป็นเรื่องจริง รู้สึกขอบคุณเล็กด้วยซ้ำที่ไม่คิดถือโทษ เขาบอกให้อีกฝ่ายไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเที่ยวในวันพรุ่งนี้

‘น้องบัวจะโอเคกับผมจริง ๆ ใช่ไหม’ ถามด้วยความกังวล

คนเป็นพ่อยิ้มเอ็นดู ‘เชื่อผมสิว่าทุกอย่างจะโอเค’

เล็กยิ้มบางก่อนจะพยักหน้า มือบางยกขึ้นโบกบ๊ายบายก่อนจะกดวาง น่าแปลกที่เขากลับเชื่ออีกฝ่ายอย่างง่ายดาย อาจจะเพราะว่าเบญคือคนที่เลี้ยงน้องบัวมากับมือ เลยทำให้เข้ารู้สึกเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะโอเคตามที่อีกฝ่ายว่าก็ได้

..เพราะเขาชอบเบญ...เลยอยากให้ลูกของเบญชอบเขาเหมือนกัน..

.
.
.

เช้าวันต่อมาเบญมาตรงตามเวลาที่นัดไว้อย่างพอดีไม่ขาดไม่เกิน เล็กแปลกใจที่วันนี้อีกฝ่ายเปลี่ยนรถอีกคันมารับ ตากลมมองใบหน้าของเบญสลับกับรถที่ไม่ได้ดับเครื่อง

“บัวอยู่ด้านหลัง อยากเจอไหม” เบญเอ่ยถาม

เล็กยิ้มแห้ง ความกังวลฉายชัดบนใบหน้าอ่อนกว่าวัย มือทั้งสองข้างกำสายสะพายกระเป๋าที่พาดบนลำตัวแน่น

ฝ่ามือใหญ่ขยับไปแตะมือขาว เล็กคลายมันออกจากกัน เปิดโอกาสให้เบญกอบกุมมือเอาไว้

“ไม่เป็นไรหรอก เชื่อผมสิ”

เล็กกะพริบตาก่อนจะพยักหน้า เขากระชับมือของตัวเองเข้ากับมือของเบญ เมื่อความกังวลที่มีถูกปัดเป่าออกไป..เขาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น

คุณพ่อลูกหนึ่งเดินนำโดยจับมือเล็กไปด้วยกัน เขาเปิดประตูรถด้านหลัง บัวที่นั่งอยู่บนคาร์ซีทหันมามองคนพ่อตาแป๋ว เบญมุดตัวเข้าไปปลดสายคาดพร้อมกับอุ้มลูกสาวตัวเล็กออกมา

“บัวครับ นี่เพื่อนของพ่อ สวัสดีค่ะสวย ๆ หน่อย”

มือเล็กป้อมยกขึ้นไหว้ “ฉาหวัดดีค่ะ” พูดจบก็ยิ้มแฉ่งจนตาหยีเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว

น่ารักเสียจนเล็กมองดวยสายตาเป็นประกาย ในรูปว่าน่ารักแล้ว..ตัวจริงน่ารักกว่าหลายเท่า เขารู้ได้ทันทีว่าน้องบัวเป็นเด็กดีมากและคงเข้ากันได้ไม่ยาก

เบญแตะมือลงบนไหล่บางที่จ้องมองลูกเขาไม่วางตา เล็กหันกลับมามองเขา “น่ารักไหม”

เล็กพยักหน้ารัว

เบญหยิบมือถือขึ้นมาพูดให้มันพิมพ์เป็นข้อความก่อนจะยื่นให้เล็กอ่าน ‘ผมว่าพาบัวไปสวัสดีคุณแม่หน่อยดีกว่า’

เล็กพยักหน้าอีกครั้งก่อนจะพาสองพ่อลูกเดินเข้าบ้าน พอแม่เห็นว่าเขาเดินเข้ามาพร้อมกับใครท่านก็รีบลุกขึ้น เล็กรู้ว่าแม่เองก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นน้องบัวไม่น้อยไปกว่าเขาหรอก

“ลูกสาวผมเองครับ ชื่อบัว” เบญแนะนำ “สวัสดีค่ะคุณยายหน่อยครับ”

“ฉาหวัดดีค่ะคุนยาย~”

เล็กเหมือนเห็นออร่าสีชมพูแผ่ออกมาจากบัวตัวน้อย ๆ บนอ้อมแขนของพ่อ เธอน่ารักสดใสเสียจนใคร ๆ ก็ต้องหลงรักแน่...รวมถึงแม่ของเขาด้วย

“น่ารักจังเลยลูก” แม่เดินเข้าไปใกล้ “ขอยายอุ้มหน่อยได้ไหมคะ”

บัวมีท่าทางลังเลนิดหน่อย ดวงตากลมโตหันไปมองหน้าบิดาอย่างขอความเห็น

“ให้คุณยายอุ้มหน่อยนะคะ คุณยายใจดีน้า~” คนพ่อหลอกล่อลูกสาว

บัวหันกลับมาโผเข้าหาแม่ของเล็กในทันที อ้อมแขนเล็ก ๆ กอดคอพร้อมกับเอาหน้าซบลงที่ไหล่ผอมบาง กลิ่นตัวหอมและร่างกายนุ่มนิ่มของบัวทำให้แม่ของเล็กที่ไม่ได้ใกล้ชิดเด็กมานานใจอ่อนระทวยไปหมด เธอหันไปมองลูกชายคนเดียวด้วยสายตาสั่นไหว

..บอกตามตรง อย่าหาว่ารวบรัดเลย เธออยากให้เบญกับเล็กย้ายมาอยู่ด้วยกันเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ..

“วันนี้แต่งตัวสวย ๆ จะไปไหนคะ”

“เที่ยวค่า” บัวตอบน้ำเสียงร่าเริง

เล็กกับเบญมองหน้ากันเมื่อเห็นผู้หญิงทั้งสองคนนั่งคุยกันกระจุ๋งกระจิ๋งราวกับรู้จักกันมานาน

เล็กรู้สึกดีที่เห็นแม่ในมุมแบบนี้ เขารู้ว่าแม่ชอบเด็ก..เขาเองก็ตั้งใจว่าสักวันอาจจะรับอุปการะเด็กมาสักคน แต่พอคิดดูแล้ว พ่อที่พิการแบบนี้จะไปเลี้ยงเด็กสักคนหนึ่งให้โตขึ้นมาดีได้ยังไง...เลยพับความคิดนั้นเก็บไป

เบญเอื้อมไปกุมมือที่วางอยู่บนตักมาสอดประสานไว้ เขาไม่รู้หรอกว่าเล็กกำลังคิดอะไร แต่สายตาของอีกฝ่ายมันบ่งบอกถึงความเศร้าที่อยู่ลึกเข้าไป เบญไม่ได้ปลอบใจด้วยคำพูด เขาหวังว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ถึงความหวังดีของเขาได้ด้วยหัวใจ

.
.
.

พวกเขาทั้งสามคนมาถึงงานในช่วงสายมากแล้ว เบญเลือกที่จะอุ้มลูกสาวเอาไว้ดีกว่าปล่อยให้เดินเอง เขาจับมือของเล็กให้มาจับกันเอาไว้ตอนเดินผ่านคนเยอะเพราะกลัวว่าจะหลงกัน เบญพาตรงไปยังโซน exotic pet หรือสัตว์พิเศษก่อน

“อันนี้เขาเรียกว่างูเหลือมค่ะ” เบญชี้ให้ดูงูในตู้

“งู~เหยือม~” ลูกสาวพูดตาม

“งู เหลือม” คนพ่อเน้นย้ำเมื่อลูกสาวพูดไม่ชัด แต่เด็กน้อยก็ยังคงออกเสียงเหมือนเดิม เขาหัวเราะก่อนจะบอก “เหยือมก็เหยือม”
เดินต่อไปอีกหน่อยก็เป็นโซน pet village มีสัตว์แสนรู้จากฟาร์มหลายชนิดมาจัดแสดง

เขาไปหยุดยืนอยู่ที่ม้าแคระ “ตัวนี้เรียกว่าอะไรคะ”

“ม้า!” บัวพูดเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามองแล้วยิ้มด้วยความเอ็นดู นิ้วเล็กป้อมชี้ไปที่ม้าตรงหน้า หันไปหาบิดาแล้วพูดว่า “น่ายัก~”

เบญพยักหน้าเห็นด้วย จู่ ๆ บัวก็เอียงคอมองไปข้าง ๆ ตัวเขา นิ้วชี้ไปที่เล็กพร้อมกับพูดขึ้นอีกครั้ง “น่ายัก~”

เล็กกำลังเพลินกับการดูนั่นนี่ด้วยดวงตาเป็นประกาย ริมฝีปากยิ้มน้อย ๆ อยู่ตลอดเวลา

“บัว..หนูนี่สมกับเป็นลูกพ่อจริง ๆ”

เด็กน้อยไม่เข้าใจในสิ่งที่พ่อพูดนัก บัวเอนตัวไปข้างหน้าจนคนเป็นพ่อต้องประคองไม่ให้เธอหน้าทิ่มลงพื้น มือเล็กคว้าจับเข้าที่แขนเสื้อของเล็ก

คนถูกจับหันกลับมามองเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ส่งยิ้มหวานให้

“อุ้ม~ อุ้ม~”

เล็กที่พอจะเดาได้ว่าน้องบัวต้องการอะไรหันไปมองเบญอย่างขอความคิดเห็น เมื่อคนพ่อพยักหน้าให้พร้อมกับยิ้มบางเขาจึงรับตัวเด็กน้อยมาอุ้มไว้แนบอก นั่นเป็นความแปลกใหม่ที่เล็กไม่เคยพบ...บัวตัวเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับเขา แต่กลับหนักอึ้งมากกว่าที่คิดเอาไว้

คนที่กำลังอุ้มเจ้าตัวน้อยกระชับวงแขนแน่นขึ้น กลัวว่าบัวจะตกเพราะเธอดันตัวออกเล็กน้อยเพื่อมองหน้าของเล็ก บัวใช้นิ้วจิ้มลงกับแก้มของเล็กเบา ๆ ก่อนจะพูด

"น่ายัก~น่ายัก"

เล็กขมวดคิ้วน้อย ๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองอ่านปากผิดหรือเปล่า เขาหันไปหาคนพ่อส่งสายตาตั้งคำถาม

“บัวบอกว่าคุณน่ารัก” เบญขยับปากบอกพร้อมกับส่งภาษามือที่ไปเรียนมา เขาขอให้ครูสอนประโยคนี้เป็นพิเศษเพื่อการนี้เลย

เล็กมีสีหน้าประหลาด จะเขินก็ไม่ใช่ ตลกก็ไม่เชิง เขารู้สึกว่าถึงแม้ว่าเพศสภาพและหน้าตาของพ่อลูกคู่นี้จะไม่เหมือนกัน..แต่นิสัยเนี่ยเหมือนกันจริง ๆ

คนตัวเล็กกว่าอุ้มบัวเดินหนีสายตาเจ้าชู้ของตัวพ่อไปอีกทาง ทั้งสองคนไปหยุดอยู่ที่ฝูงกระต่าย ดวงตากลมทั้งสองคู่มองสัตว์ตัวน้อยที่ขนฟูดูนุ่มนิ่ม บัวโถมตัวลงไปข้างหน้าพร้อมกับเอื้อมมือหมายจะไปจับ เล็กคว้าไว้แทบไม่อยู่ ดีที่เบญเดินตามมาทันเลยช่วยเขาเอาไว้ได้

“บัว” คนเป็นพ่อเรียกเสียงต่ำ เจ้าตัวน้อยหยุดดิ้นทันที

“อยากได้..ต่าย ๆ” เด็กน้อยพยายามพูด

“ไม่ได้ค่ะ” เบญส่ายหน้า ลูกสาวเบะปากทำท่าจะร้องไห้ “บัว..หนูต้องฟังพ่อนะคะ” ฝ่ามือใหญ่วางบนหน้าอกแล้วลูบเบา ๆ เป็นการบอกให้ลูกใจเย็น

หนูน้อยยอมนิ่งเงียบทั้งที่มีน้ำตาคลอเบ้า ริมฝีปากยังคงเบะอยู่แบบนั้น บัวพยายามควบคุมสติของตัวเอง เธอจ้องมองพ่อไม่วางตา

“กระต่ายตรงนั้นไม่ใช่ของหนูใช่ไหมคะ”

บัวพยักหน้า

“หนูจำที่พ่อสอนไว้ได้ไหม”

บัวพยักหน้าอีกครั้ง “ห้าม..อยากได้..ของคนอื่น”

“เก่งมากค่ะ” เบญลูบน้ำตาที่เปียกแก้มของลูกสาว

เล็กมองภาพเบญกำลังกอดปลอบลูกสาว และนี่เป็นอีกครั้งที่เขาตระหนักได้ว่าเบญนั้นเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ดูได้จากการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กดี มีสติควบคุมตัวเองได้ รู้จักรับฟังเหตุผล

..น้องบัวน่ารักขนาดนี้ก็เป็นเพราะเบญ..

เวลาผ่านไปไม่นานเด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นจากอกของพ่อ การร้องไห้ทำให้ตากับปลายจมูกของบัวแดงเล็กน้อย เบญอุ้มลูกเดินเข้าไปหาเล็กที่ยืนทิ้งระยะห่างไปไม่ไกล

“ขอโทษนะ” คนพ่อบอก เล็กส่ายหน้าหวือพร้อมกับโบกมือแทนการบอกว่าไม่เป็นไร เขายิ้มให้กับคนตัวเล็กก่อนจะก้มลงบอกกับลูกสาว “ขอโทษอาเล็กก่อนนะคะคนเก่ง”

บัวยกมือขึ้นไหว้ก่อนจะพูด “หนู..ขอโทษ”

เล็กเอื้อมไปจับฝ่ามือเล็ก ลูบหัวกลมเบา ๆ อย่างปลอบใจ เด็กน้อยโผเข้าหาให้เขาเป็นฝ่ายอุ้ม ทันทีที่เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดบัวก็ออดอ้อนโดยการซบหน้าลงกับอกเขา

เล็กยิ้มด้วยความเอ็นดู เขาพาบัวไปดูโซนสุนัขและแมวต่อ แต่อุ้มได้ไม่นานก็ต้องคืนเบญไป เด็กคนหนึ่งน้ำหนักไม่ใช่น้อย ๆ เล่นเอาปวดแขนเลย

“กลับกันไหม” เบญถาม เพราะบัวของเขาเริ่มอ้าปากหาวมาสองสามครั้งแล้ว เล็กเหลือบมองเด็กน้อยที่นอนหนุนไหล่คนเป็นพ่อตาปรือแล้วก็เข้าใจ เขาจึงพยักหน้าตอบ

พวกเขาเดินกลับไปขึ้นรถ เบญฝากให้เล็กไปสตาร์ทรถ ส่วนคนเป็นพ่อวางลูกสาวลงบนคาร์ซีทก่อนจะรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย เขาหยิบขวดนมที่เตรียมเอาไว้ออกมาแล้วเทนมกล่องใส่ลงไป บัวเอื้อมมือมารับไปดูดทันที ตากลมค่อย ๆ ปิดลงเมื่อนมใกล้หมดขวด

เล็กเอี้ยวตัวกลับมามองแล้วก็แอบทึ่งกับความเป็นพ่อของเบญ เขารู้สึกประทับใจมาก และนั่นก็ทำให้เล็กคิดว่าเลือกคนไม่ผิดจริง ๆ

.
.
.

เบญมองเล็กที่นั่งเงียบอยู่เบาะข้าง ๆ เขาดีใจที่บัวดูท่าจะรู้สึกดีกับอีกฝ่าย ถึงแม้ว่าเล็กจะไม่สามารถพูดหรือได้ยิน..แต่น่าแปลกที่ทั้งสองคนเหมือนจะสื่อสารกันรู้เรื่อง

ในตอนแรกเบญก็แอบกังวลว่าบัวจะกล้าเข้าหาเล็กหรือเปล่า เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กแล้วล้วนเอาแน่เอานอนไม่ได้ บัวเป็นเด็กดีก็จริง..แต่ก็ใช่ว่าจะเข้ากับทุกคนได้ แต่เมื่อได้เห็นว่าบัวไม่มีอาการกลัวเล็กรวมถึงแม่ของเล็ก แถมยังออดอ้อนเหมือนรู้จักกันมานานก็รู้สึกเบาใจ

เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เล็กมาเป็นพ่อหรือแม่อีกคนของลูกสาว แค่อยากให้ทั้งสองคนได้พบเจอและรู้จักกันไว้ ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้ให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้บัวยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจเรื่องราวที่ซับซ้อน

วันข้างหน้าถ้าเขากับเล็กพัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่านี้ บัวก็คงเข้าใจได้เอง..ว่าความรักนั้นมีหลากหลายรูปแบบ

เบญเอื้อมไปจับมือของเล็กที่วางอยู่บนหน้าตักมาสอดประสานไว้ ก่อนจะยกหลังมือขาวขึ้นมาหอมให้อีกฝ่ายแก้มแดงเล่น ๆ
อยากจะบอกขอบคุณที่ยอมให้โอกาสพ่อหม้ายลูกติดแบบเขา แถมยังดีกับลูกสาวของเขาเหลือเกิน

..อย่าหาว่าใจร้อนเลย เขาอยากจะขอให้อีกฝ่ายมาเป็นครอบครัวเดียวกันเสียตอนนี้เลยด้วยซ้ำ..



tbc…
ขอโทษที่หายไปนาน(อีกแล้ว)ค่า
แล้วก็ขอบคุณที่ติดตามผลงานนะคะ
 :L2:



หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 20 หน้าที่ 3 [10/01/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-01-2020 23:33:18
ดีใจ  ไรท์มา   :mew1: :mew1: :mew1:
ความรักครั้งแรกของเบญ กลับมาหาเบญอีกครั้ง  :impress2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 20 หน้าที่ 3 [10/01/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: pearlluv ที่ 11-01-2020 07:53:55
รอนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ที่มาต่อ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 20 หน้าที่ 3 [10/01/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 11-01-2020 21:27:31
น่ารักดีจัง
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 20 หน้าที่ 3 [10/01/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 12-01-2020 03:53:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 04-03-2020 12:59:40

ตอนจบ





“พี่จะบอกเรื่องโรคที่เป็นกับแม่พี่เมื่อไหร่เหรอ” ทะเลถามขึ้นในเวลาที่อีกฝ่ายกำลังจะเตรียมยาก่อนนอน ตอนนี้คนรักของเขามีอาการคงที่จนแทบไม่มีอาการสั่น ร่างกายปรับตัวรับกับยาได้ดีมาก

จันทร์เหลือบมองใช้ความคิดเล็กน้อย “ไม่ดีกว่า” เขาตอบก่อนจะกินยาให้เรียบร้อย ร่างเพรียวบางในชุดนอนสีฟ้าอ่อนขยับขึ้นไปนอนคู่กันบนเตียงนุ่ม

ทะเลขมวดคิ้วยุ่ง เจ้าตัวขยับตัวตะแคงข้างหันเข้าหาคนรัก “ทำไมพี่ถึงเลือกที่จะไม่บอกคุณแม่ล่ะ”

เสียงถอนหายใจหนักดังขึ้น ไม่ได้เป็นเพราะว่าจันทร์รำคาญอีกฝ่าย แต่เขากำลังคิดหนักต่างหาก

“ฉันกลัวว่าแม่จะเครียด”

“แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าแม่พี่จะเครียดอะ”

จันทร์เงียบไปเล็กน้อย “...เดาเอา”

“นั่นไง” ทะเลจับให้อีกคนตะแคงตัวมาเผชิญหน้ากันดี ๆ “พี่คิดว่าแม่พี่เป็นคนยังไงเหรอครับ”

“...”

“แม่พี่เข้มแข็งใช่ไหม”

จันทร์พยักหน้าตอบ จู่ ๆ เบ้าตาก็รู้สึกร้อนขึ้นมา เพราะเขาเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าแม่ของเขาเข้มแข็งมากแค่ไหน...มากกว่าลูกชายคนนี้เสียอีก

“พี่รู้ไหม” ทะเลพูดเสียงนุ่มนวลเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายขอบตาแดง ๆ “มันไม่แปลกเลยพี่..ที่ท่านจะเครียดหรือว่าเป็นทุกข์ เพราะท่านคือแม่ของพี่ แต่ผมว่ามันก็ยังดีกว่าที่พี่จะปิดบังท่านเรื่องนี้นะครับ”

จันทร์เข้าใจในสิ่งที่ทะเลตั้งใจบอก เพราะเด็กนี่เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผยแบบนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกันแล้ว หมอนี่ไม่เคยปิดบังอะไรเขาเลย ทะเลแสดงความคิดและเผยความรู้สึกให้เขาได้รับรู้เสมอ

..เขาไม่แปลกใจเลยที่ทะเลอยากให้เขาบอกเรื่องนี้กับแม่..

“ฉันเข้าใจ..แต่มันก็กลัวอยู่ดี”

“พี่กลัวอะไรเหรอ”

จันทร์ขยับตัวเข้าใกล้ทะเล ดวงตาสวยจับจ้องเขาอย่างใสซื่อ

“ฉันก็แค่กลัว”

ฝ่ามือใหญ่เอื้อมไปลูบแก้มขาวเนียนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน

“อย่ากลัวสิ พี่ยังมีผมอยู่ตรงนี้ ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ทิ้งพี่แน่นอน”

จันทร์ยิ้มบาง ยกมือขึ้นทาบทับกับฝ่ามือของทะเล “ขอบคุณนะ”

ทะเลยิ้มรับ...แต่ทำไมเขาถึงยังรู้สึกว่าอีกฝ่ายพร้อมที่จะปล่อยมือเขาไปได้เสมอ...ไม่แม้แต่จะคิดรั้งเอาไว้ มันไม่ใช่ความหวาดระแวง แต่มันคือการปล่อยวางและยอมรับได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เขาไม่ได้คลางแคลงใจกับคำว่ารักที่อีกคนบอกเลยแม้แต่น้อย ความรักของทะเลจันทร์เป็นความรู้สึกจริง ๆ แต่มันไม่ใช่ความรักแบบที่ต้องการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกัน ในขณะที่ทะเลต้องการที่จะเป็นเจ้าของอีกฝ่ายทั้งหมด

“พี่ไม่เชื่อผมเหรอ” ทะเลถามเสียงสลด

จันทร์ทำหน้าไม่เข้าใจ “เรื่องอะไรน่ะ”

“เรื่องที่ผมจะไม่ทิ้งพี่”

คนอายุมากกว่าเงียบไปชั่วครู่ กระชับมือเข้ากับฝ่ามือใหญ่แน่นขึ้น

“ไม่ใช่แบบนั้น..” จันทร์ตอบ “ฉันเชื่อว่าเธอจะไม่ทิ้งฉัน ถ้าเธอจะทิ้งก็คงทิ้งไปตั้งแต่รู้เรื่องที่ฉันป่วยแล้วใช่ไหมล่ะ”

“แต่ถ้าเกิดผมเปลี่ยนใจ..พี่ก็ไม่คิดจะรั้ง”

จันทร์ยิ้มบาง ขยับมือลูบศีรษะเด็กหนุ่ม “..จะว่าอย่างนั้นก็ใช่”

ทะเลอึ้งไปเมื่อได้ยินคำตอบนั้น

“ฉันไม่รู้ว่าจะพูดให้เธอเข้าใจยังไงดี..แต่ก็อยากให้เธอเข้าใจความคิดและความรู้สึกของฉัน ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ ตอนนี้ฉันอยู่กับเธอแบบไม่มีความคาดหวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป ไม่ใช่ว่าฉันพร้อมที่จะผลักไสไล่ส่งเธอ แต่ถ้าเธออยากจะไปจากกันเมื่อไหร่..ฉันก็พร้อมยอมรับมัน”

“...พี่จะไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”

จันทร์ยิ้มบาง “แค่คิดก็รู้สึกเจ็บไปหมดแล้ว”

“แล้วทำไม..”

“ความรักไม่ใช่การครอบครอง..เคยได้ยินไหม”

“...”

“รักไม่ใช่การเป็นเจ้าของหรือครอบครองกันและกัน การได้อยู่เคียงข้างกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่คาดหวังถึงอนาคตในภายหน้า ขอเพียงแค่เธอมีความสุข..ฉันก็มีความสุข เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว”

“...”

“เธออาจจะยังโตไม่มากพอที่จะเข้าใจเรื่องนี้ แต่ค่อย ๆ คิดและเรียนรู้ไปก็ได้ พวกเรายังมีเวลาอีกมาก”

ทะเลที่ตั้งใจฟังเงียบไปชั่วครู่ เขาคิดตามในสิ่งที่อีกฝ่ายตั้งใจสื่อสารออกมาอย่างตั้งใจ ความรู้สึกคิดน้อยอกน้อยใจที่เคยมีค่อย ๆ จางลง

ร่างที่ใหญ่กว่าขยับเข้าไปใกล้ทะเลจันทร์ กอดอีกฝ่ายเอาไว้แล้วซุกหน้าลงกับแผ่นอกบางอย่างออดอ้อน

“..ผมว่าผมเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดนะ”

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี แต่ถ้าไม่เข้าใจฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก” จันทร์บอกเสียงนุ่ม นิ้วมือจับผมทะเลเล่น

“ผมขอโทษนะครับ”

“หือ..ขอโทษเรื่องอะไรกัน”

“ที่กล่าวหาว่าพี่ไม่เชื่อผม”

ทะเลจันทร์หัวเราะเสียงแผ่ว “ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้คิดอะไรหรอก ฉันเข้าใจว่าเธอยังเด็ก”

“คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก”

“เอ้า” จันทร์หัวเราะ “หรือไม่จริงล่ะ”

“ก็จริงน่ะสิ ผมถึงได้หงุดหงิด”

“จะหงุดหงิดไปทำไม เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ”

“...พี่หมายความว่าอะไร” ทะเลไม่เข้าใจว่ามันดีตรงไหน

“เธอจะได้ดูแลฉันในยามที่แก่เฒ่าตามที่ได้ตั้งใจไว้ไงล่ะ ไม่ดีเหรอ”

ทะเลได้ฟังแบบนั้นก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เขาถูไถใบหน้าเข้ากับแผ่นอกของอีกฝ่ายด้วยความดีใจ ที่เรื่องอายุน้อยกว่าของเขาก็มีดีมากกว่าที่เคยคาดคิดเอาไว้ ลองคิดดูว่าถ้าเขาอายุมากกว่าหรือเท่ากัน..การดูแลคนป่วยที่อายุมากก็คงจะลำบากน่าดู แถมยังเสี่ยงกับการจากโลกนี้ไปก่อนอีกฝ่ายด้วย

“ผมจะดูแลพี่ให้ดีที่สุดเลยนะครับ อย่าไล่ผมไปไหนนะ”

“ไม่ไล่หรอกน่า” จันทร์หัวเราะเอ็นดูกับท่าทีเด็ก ๆ ของทะเล ก้มลงหอมหัวอย่างเอ็นดู

ปกติแล้วทั้งสองคนไม่ได้นอนกอดกันบ่อยนัก แต่ในค่ำคืนนี้ทะเลผล็อยหลับไปทั้ง ๆ ที่ยังซุกอกบางของจันทร์

ไม่กี่เดือนมานี้เจ้าตัวเพิ่งเรียนจบ ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงกำลังคิดว่าจะทำอะไรต่อไปดี ทะเลจันทร์ถามว่าไม่อยากไปเป็นช่างภาพของเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิกอะไรนั่นแล้วหรือไง ทะเลก็ตอบมาแค่สั้น ๆ ว่าไม่อยากไปแล้ว

จันทร์รู้ว่าตัวเองคือสาเหตุที่ทำให้เด็กนี่ล้มเลิกความฝันที่เคยมีมาตลอด ทะเลไม่เหมือนเขาที่ได้ทำความฝันของตัวเองไปแล้ว แม้มันจะไม่สำเร็จแต่ก็ถือว่าเขาได้ทำมันแล้ว

ก่อนที่จะเจอกัน..ทะเลพัฒนาตัวเองเพื่อความฝันนี้มาตลอด แต่เด็กนี่กลับล้มเลิกเอาง่าย ๆ เพียงเพราะผู้ชายแก่และป่วยอย่างเขา และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเอาซะเลย

หมอนี่มันเป็นพวกยึดติด..แถมยังดื้อหัวชนฝา นั่นเลยทำให้เขาไม่รู้จะจัดการยังไงดี และอาจจะเพราะอายุที่เพิ่มขึ้นเลยทำให้ทุกวันนี้เขาก็ไม่มีแรงจะไปต่อล้อต่อเถียงกับใครแล้วด้วย



.



“พี่..สรุปว่าวันนี้จะบอกแม่ใช่ไหม”

“เออสิวะ” จันทร์ตอบห้วน จะถามย้ำอะไรนักหนา คนยิ่งเครียด ๆ อยู่

“พูดไม่เพราะเลย” ทะเลว่าหน้างอ มันดูน่าถีบมากกว่าน่ารัก

คนอายุมากกว่าไม่สนใจ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทิ้งตัวลงบนที่นอนอีกครั้ง ทะเลที่กำลังจะไปอาบน้ำเห็นคนรักมีสีหน้ากังวลใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“เครียดมากเลยเหรอ” ทะเลนั่งลงข้างกัน

“อือ” จันทร์ตอบ ขยับตัวมาหนุนตักทะเล รู้สึกดีขึ้นเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ลูบศีรษะ “เธอจะอยู่ข้าง ๆ ฉันไหม”

“แน่นอนครับ” ทะเลตอบทันที

“ขอบใจนะ” จันทร์ยิ้มบาง แค่มีทะเลอยู่เคียงข้างกันก็อุ่นใจแล้ว

“ไปอาบน้ำด้วยกันเถอะครับ” ทะเลจับอีกคนให้ลุกขึ้นนั่ง

จันทร์เดินตามแรงจูงไปอย่างว่าง่าย ปล่อยให้ทะเลจับถอดเสื้อผ้าแล้วดึงเข้าห้องน้ำ อีกฝ่ายจับเขาฟอกสบู่ไปทั่วทั้งตัว

“อ๊ะ!” เพราะจันทร์มัวแต่คิดว่าจะเริ่มต้นพูดอย่างไรดีเลยถูกแกล้งเข้าให้ ตีมือทะเลที่กำลังคลึงหัวนมของเขาอยู่นั่น “ทำอะไรห๊ะ!!”

“แฮะ ๆ ก็เห็นว่าเครียด..ก็เลยอยากให้พี่ผ่อนคลาย” เด็กหนุ่มยิ้มแห้ง เขาก็แค่หยอกเล่นเฉย ๆ เอง

จันทร์ขมวดคิ้วแน่น ยกมือขึ้นปิดนมทั้งสองข้าง..ไอ้เวรนี่ก็เล่นคลึงซะแข็งเป็นไตเลย

“ไปเลย เดี๋ยวฉันอาบเอง”

ทะเลหัวเราะก่อนจะต่างคนต่างไปอาบน้ำ



.



“ปะ!” ทะเลยื่นมือไปหาอีกคนที่นั่งทำหน้าสลดอยู่ปลายเตียงหลังจากที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เจ้าตัวยื่นมือมาจับเสียแน่น “ไม่ต้องกลัว ผมอยู่นี่ไง”

ทั้งคู่ลงมาจากชั้นสองก็เจอกับคุณแม่ที่กำลังทำกิจวัตรประจำวันคือการนั่งจิบกาแฟไปอ่านข่าวในไอแพทไป

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณแม่” ทะเลบอกน้ำเสียงสดใส

“อรุณสวัสดิ์จ้า หิวข้าวกันหรือยังครับ แม่ทำอาหารง่าย ๆ วางไว้ให้บนโต๊ะแล้วนะจ๊ะ”

ทะเลฉีกยิ้มกว้าง กล่าวขอบคุณคุณแม่ ก่อนจะหันไปหาคนรักที่เอาแต่เงียบ “พี่หิวหรือยัง กินข้าวก่อนไหม”

จันทร์ส่ายหน้า

รดาลุกขึ้นจากโซฟาเดินตรงมาหาลูกชายคนเดียว ฝ่ามือที่มีริ้วรอยยกขึ้นแนบเข้าที่แก้มของจันทร์ด้วยความเป็นห่วง “จันทร์..หนูไม่สบายหรือเปล่าลูก”

จันทร์เม้มปากอย่างเป็นกังวล “จันทร์มีเรื่องจะบอกแม่”

“ได้สิจ๊ะ” มารดาบอก “มานั่งนี่มา” เธอพาลูกชายนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน โดยที่ทะเลนั่งอีกตัว

จันทร์เงยหน้าขึ้นสบตาคนเป็นแม่ก่อนจะขยับไปมองทะเล อีกฝ่ายยิ้มและพยักหน้าให้กำลังใจ นั่นทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

“จันทร์มีอะไรจะบอกแม่เหรอ” ท่านเอ่ยถามพร้อมกับบีบมือลูกชายเบา ๆ เธอคิดว่าเรื่องมันน่าจะใหญ่พอสมควร ไม่อย่างนั้นลูกของเธอคงไม่แสดงอาการเครียดขนาดนี้

“คือ...จันทร์มีเรื่องที่ไม่ได้บอกแม่...เกี่ยวกับสุขภาพน่ะครับ” เขาเงียบไปชั่วครู่ “แม่จำได้ไหมที่ตอนนั้นจันทร์มือสั่น แล้วแม่ก็บอกให้จันทร์ไปหาหมอ”

“จำได้สิจ๊ะ”

“จันทร์ยังไม่ได้บอกผลให้แม่ฟังเลย…”

“บอกมาเถอะลูก แม่ไม่เป็นไรหรอก”

“หมอบอกว่าจันทร์เป็นพาร์กินสัน”

ทะเลมองสองแม่ลูกที่จ้องหน้ากันเงียบหลังจากที่พี่จันทร์บอกความจริงออกไป ช่วงหลังมานี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโรคที่เป็นหรืออะไร คนรักของเขาอ่อนไหวขึ้นมาก ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแม่แล้ว...ก็จะร้องไห้ได้ง่าย ๆ เลย

“โธ่~” รดาดึงลูกชายเข้ามากอดปลอบ “เรื่องแค่นี้เอง ไม่เห็นต้องร้องไห้เลย”

“จันทร์กลัวว่าแม่จะเครียด” ลูกชายพูดไปน้ำตาก็ไหลพราก

“บนโลกใบนี้เราไม่สามารถไปกำหนดอะไรได้อยู่แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ที่สำคัญคืออยู่ที่ว่าเราจะใช้ชีวิตกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ยังไงต่างหาก”

คนเป็นแม่พูดจบก็ดันตัวลูกชายออก ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ด้วยความอ่อนโยน

“แม่จะเครียดเรื่องที่ในอนาคตหนูไม่มีคนอยู่ดูแลเป็นเพื่อนกันมากกว่านะ” ท่านบอกพร้อมกับยิ้มบาง ก่อนจะหันไปเรียกให้ทะเลให้มานั่งอีกข้าง จับมือของทะเลและจันทร์ให้กอบกุมกันเอาไว้

“แต่ตอนนี้หนูมีทะเล...เท่านี้แม่ก็หายห่วง ถ้าถึงเวลาต้องตาย..ก็ตายตาหลับแล้วล่ะ”

“คุณแม่!!” ทั้งสองคนร้องขึ้นพร้อมกัน

“แม่อย่าพูดแบบนั้นสิ” จันทร์บอกเสียงสั่น

“จันทร์ เกิดแก่เจ็บตายมันเป็นธรรมชาตินะลูก ตอนนี้แม่ยังมีชีวิตอยู่..หนูเลยคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ถ้าวันหนึ่งแม่จากหนูไปแล้ว หนูจะคิดได้ว่าชีวิตคนเรามันก็เท่านี้เอง”

จันทร์พูดอะไรไม่ออก รู้ว่าไม่ช้าก็เร็วเขากับแม่ก็ต้องจากกัน แต่เขาก็ยังไม่ได้ทำใจเรื่องนี้เลย

ทะเลบีบมือคนรักแน่น เขาเข้าใจอีกฝ่ายและรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันทำใจยากมากแค่ไหน ตอนที่คุณย่าของเขาเริ่มป่วยหนัก ทะเลก็คิดว่ายังไงคุณย่าก็ต้องหายดีและต้องอยู่กับเขาต่อไป แต่พอนานวันเข้าอาการของคุณย่าก็ยิ่งทรุดหนักลงเรื่อย ๆ จากที่เดินได้ก็เดินไม่ได้กลายเป็นนอนติดเตียง ตามมาด้วยร่างกายไม่รับอาหาร ไม่มีแรงแม้แต่จะเปล่งเสียงพูดออกมา

ทุก ๆ วันผ่านไปทะเลเรียนรู้ที่จะทำใจยอมรับกับการสูญเสียที่มันต้องเกิดขึ้นในสักวัน เขาตั้งใจว่าจะมีความสุขให้คุณย่าเห็น ไม่อยากให้ท่านทุกข์และเป็นห่วง นั่นจะทำให้ท่านจากไปอย่างไม่สงบ

“ทะเล” รดาเรียกเด็กหนุ่มที่ตอนนี้เหมือนเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งของเธอ

“ครับ”

“แม่ฝากพี่เขาด้วยนะ”

“ไว้ใจผมได้เลยครับ”



.



จันทร์ถามทะเลอีกครั้งถึงเรื่องความฝันที่จะได้ทำงานกับบริษัทชื่อดังที่เคยเล่าให้ฟัง เด็กหนุ่มตอบว่าเลิกคิดเรื่องนั้นไปนานแล้ว

“แล้วไม่รู้สึกเสียดายเหรอ”

ทะเลส่ายหน้าทันที “ผมเสียดายเวลาที่จะไม่ได้อยู่กับพี่มากกว่า ก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าผมไม่มีใคร..และก็ไม่เคยคิดว่าจะมีมาก่อน เลยตั้งความฝันของตัวเองไว้ตรงนั้น แต่ตอนนี้ผมมีพี่เป็นความฝันของผมแล้ว”

“ความฝันอะไรกัน”

“ฝันว่าจะได้อยู่กับพี่ไปจนแก่เฒ่าเลยไงล่ะ”

ใบหน้าขาวร้อนวูบตอนที่ได้ยินคำตอบนั้น “ยิ่งโตยิ่งเสี่ยวนะเอ็ง”

คนอายุน้อยกว่าหัวเราะร่วน

ทะเลเรียนจบมาได้ปีกว่าแล้ว เขาเลิกใช้เงินของพ่อที่ฝากเข้าบัญชีของเขาในทุกเดือน รวมถึงบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินอะไรนั่นด้วย พวกเขาสองคนเหมือนไม่ใช่พ่อลูกกันแล้ว ขนาดวันรับปริญญาทะเลยังไม่บอกอีกฝ่ายเลย คนที่ไปงานของเขากับไอ้เป็ดก็มีแค่คุณแม่กับพี่จันทร์ พี่น้ำหวาน และพี่เล็กแค่นั้น

ตอนนี้โชคดีที่เงินประกันชีวิตของคุณย่ายังมีเหลืออยู่เยอะ นั่นพอให้เขาดำเนินชีวิตอย่างไม่ลำบากมากนัก

เขาพยายามทำงานหาเงินเอง เริ่มแรกก็ลองไปเป็นผู้ช่วยของพี่น้ำหวานก่อน  และนั่นก็ทำให้ได้รู้ว่าการเป็นผู้กำกับนั้นก็ดีเหมือนกัน แต่ที่รู้สึกว่าชอบก็คงจะเป็นการกำกับโฆษณา เพราะใช้เวลาในการทำงานไม่นานมากเท่ากับหนัง

ทะเลทำทุกอย่างที่ได้เงินดีโดยไม่เกี่ยงงาน เพราะตอนนี้เขามีเป้าหมายที่อยากทำอยู่ ก็คือการขอคนรัก ‘แต่งงาน’

มันอาจจะฟังดูเว่อร์เกินไป แต่ทะเลอยากทำจริง ๆ เขาเริ่มจากการหาแหวนให้กับคนรักของเขาก่อน สุดท้ายเขาก็เจอวงที่คิดว่าดีที่สุดก็คือ Cartier trinity ring ทะเลชอบดีไซน์กับความหมายของมัน แหวงวงนี้ประกอบไปด้วยแหวนสามวงร้อยเข้าด้วยกัน มีแหวนทองคำ ทองคำขาว และทองชมพู แทนความหมายว่าความซื่อสัตย์ มิตรภาพ และความรัก

เมื่อเลือกได้แล้ว..ขั้นตอนต่อไปก็คือวัดขนาดนิ้วของทะเลจันทร์ คงเป็นโชคไม่ดีของเขาเองที่อีกฝ่ายเป็นคนไม่ใส่แหวนเลย ไม่อย่างนั้นแล้วทะเลก็คงฉกแหวนไปให้ทางร้านวัดขนาดเอาก็พอ ทะเลอาศัยเวลากลางคืนที่คนรักหลับสนิทแล้วใช้ด้ายเส้นเล็กแอบวัดรอบนิ้วนางข้างซ้ายให้เรียบร้อย

เด็กหนุ่มซื้อแหวนและเอาไปแอบไว้ที่บ้านของคุณย่า ต่อมาก็ต้องคิดว่าจะเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานอย่างไรดี และทะเลก็เลือกที่จะปรึกษากับพี่น้ำหวานเป็นคนแรก อย่างน้อยเขาน่าจะได้ความคิดแปลกใหม่จากผู้กำกับหนังรักคนนี้บ้างก็เป็นได้

“พี่ ผมอยากขอพี่จันทร์แต่งงาน ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ”

น้ำหวานชะงักมือที่กำลังจะตักข้าวกลางวันเข้าปาก ดวงตาคมเข้มเหลือบมองไอ้เด็กข้าง ๆ อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

“แต่งงาน?”

ทะเลพยักหน้ายืนยันว่าอีกคนฟังไม่ผิดหรอก

“เอาจริง?”

เขาพยักหน้าอีกครั้ง “พี่ว่าไม่โอเคเหรอ”

“เปล่า” น้ำหวานตอบ “ทำไมถึงคิดว่าจะขอมันล่ะ” ถามก่อนจะตักข้าวกินต่อ

“ผมแค่อยากทำให้เขามั่นใจขึ้นอีกสักนิดน่ะครับ”

น้ำหวานพยักหน้าเข้าใจ “เดี๋ยวกูช่วยมึงเอง อยากได้แบบไหนบอกมาเลย”

ทะเลยิ้มกว้าง รีบบอกขอบคุณพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัว



.



ทะเลเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งซึ่งมากพอที่จะพาพี่จันทร์กับแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัด และมากพอที่จะจ่ายค่าเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานตามที่หวังเอาไว้ จุดหมายของพวกเขาอยู่ที่หัวหิน เพราะคุณแม่อายุเยอะแล้วเลยไม่อยากให้เดินทางไกลมาก

นอกจากพวกเขาสามคนแล้ว คนอื่น ๆ ก็ไปด้วย ทั้งพี่น้ำหวานกับไอ้เป็ด พี่เล็กกับพี่เบญพร้อมกับลูกสาว เพราะทุกคนตั้งใจจะไปร่วมยินดีด้วยกัน

ก่อนหน้านี้เขาได้ไปเตี๊ยมกับคุณแม่และทุก ๆ คนเอาไว้หมดแล้ว ต่างคนต่างยินดีและรับปากว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพี่น้ำหวานที่เป็นธุระจัดการแทนเขาแทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจัดหาสถานที่และติดต่อพูดคุยกับทางรีสอร์ตเรื่องการจัดสถานที่

“ถ้าคุณแม่ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำก็บอกผมได้เลยนะครับ”

ทะเลที่ทำหน้าที่ขับรถบอกกับอีกฝ่ายที่นั่งอยู่เบาะหลัง ทีแรกเขาก็อยากให้มานั่งเบาะหน้าอยู่หรอก แต่ท่านก็เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว

“โอเคจ๊ะ”

“หรือถ้าหิวอยากกินอะไรก็บอกได้นะครับ”

“จ้า~ จ้า~”

“แล้วพี่หิวไหม” ทะเลเหลือบตาถามคนข้างกายที่นั่งกอดหมอนผ้าห่มเหม่อมองออกไปนอกรถ

จันทร์ส่ายหน้ายิ้ม ๆ “แล้วเธอล่ะ หิวหรือเปล่า” เขาย้อนถามบ้าง เห็นเด็กนี่เอาแต่ห่วงคนโน้นทีคนนี้ทีแล้วก็เอ็นดู

“ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ”

“ถ้าอยากกินอะไรก็บอกนะ เดี๋ยวฉันป้อนให้”

ทะเลอมยิ้ม “ผมไม่ใช่หมานะครับ”

“ก็นึกว่าใช่ซะอีก” จันทร์ขำ

รดาที่นั่งอยู่เบาะหลังมองลูก ๆ ทั้งสองคนพูดคุยหยอกล้อกันด้วยความอิ่มเอมใจ  เธอไม่เคยหวังให้จันทร์แต่งงานมีครอบครัวแบบคนปกติทั่วไป ขอแค่ได้มีใครสักคนเคียงข้างในยามแก่เฒ่า หลังจากที่เธอได้แต่เฝ้าเป็นห่วงมาตลอด ในที่สุดลูกชายคนเดียวของเธอก็ได้พบคนพิเศษเสียที

ถึงแม้ว่าทะเลจะอายุน้อยกว่าจันทร์หลายปี แต่ทั้งคู่ก็เข้ากันได้ดีมาก เด็กคนนี้เป็นเด็กดี อ่อนโยนและมีความรับผิดชอบ ลูกชายของเธอโชคดีที่ได้เจอกับทะเล รดาลุ้นแทบตายกว่าทั้งสองคนจะตกลงปลงใจกันได้

รดาชื่นชมเรื่องเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานที่ทะเลแอบวางแผนเอาไว้ ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นนี้ก็ได้ แต่เพราะว่าเด็กคนนี้จริงจังกับลูกชายของเธอมาก และอาจจะเป็นเพราะเรื่องราวเก่า ๆ ที่เคยผ่านมาทำให้จันทร์กลายเป็นคนที่ไม่เคยมั่นใจกับอนาคตอีกเลย ทะเลเลยอยากทำให้จันทร์มั่นใจในตัวของทะเลมากขึ้นอีกสักนิดก็ยังดีก็เท่านั้นเอง



.



ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่นานทุกคนก็เดินทางมาถึงหัวหินเรียบร้อย ทะเลกับน้ำหวานเลือกรีสอร์ตหรูสไตล์บูติคที่มีชายหาดส่วนตัวเพื่อความเงียบสงบ

ทะเลเลือกพูลวิลล่าที่มีสองห้องนอนให้กับเขากับจันทร์ และคุณแม่

“โห” จันทร์ที่เดินเข้ามาในที่พักแล้วหันมองรอบห้อง “หรูหราหมาเห่ามาก”

ทะเลหัวเราะก๊าก “พี่ไปจำมาจากไหนเนี่ย”

“อะไรกัน เขาใช้กันเยอะแยะไป” จันทร์ว่าก่อนจะเดินไปเปิดประตูเลื่อนตรงสระว่ายน้ำที่มองออกไปเห็นทะเลสุดลูกหูลูกตา

“คุณแม่ชอบไหมครับ” ทะเลเอ่ยถามผู้ใหญ่ที่เพิ่งเดินตามเข้ามา

“ชอบจ๊ะ” ท่านตอบ “แต่มันไม่หรูไปหน่อยเหรอลูก คืนละเท่าไหร่ ให้แม่ช่วยไหม”

“ไม่ต้องครับ ๆ” ทะเลจับมือของแม่ที่ทำท่าจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าถือ “ไม่มากมายหรอกครับ นาน ๆ พวกเราจะมาพักผ่อนกันสักที แค่นี้เล็กน้อยครับ”

รดาวางมืออีกข้างลงบนหลังมือของทะเล เหลือบตามองไปที่ลูกชายคนเดียวที่กำลังรับลมอยู่ด้านนอกห้องพัก “ขอบคุณมากนะจ๊ะ”
เด็กหนุ่มยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ “ผมยินดีมาก ๆ เลยครับ”

“ซุบซิบอะไรกันสองคนน่ะ” จันทร์ทักขึ้น มองทั้งคู่อย่างจับผิด

“เปล่าสักหน่อย” ทะเลลอยหน้าลอยตาตอบ “คุณแม่นั่งพักก่อนไหมครับ หรือถ้าเมื่อยจะไปนวดตัวทำสปาก็ได้นะครับ ผมจะได้พาไป”

“ไม่ต้อง ๆ แม่ขอเข้าไปงีบในห้องดีกว่า ไม่ได้เดินทางไกลแบบนี้มานาน ล้าไปหมดเลย” คนเป็นแม่บอกก่อนจะแยกตัวออกไปทันที อุตส่าห์มาเที่ยวทั้งที..อยากให้ลูก ๆ ทั้งสองคนมีเวลาสวีทกันเสียหน่อย

“มองอะไรอยู่เหรอครับ” ทะเลเดินเข้าไปดึงอีกคนเข้ามากอดจากทางด้านหลัง

นิ้วเรียวชี้ไปบนชายหาด “ตรงนั้นเขาจัดซุ้มอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้”

“สงสัยจะมีใครขอแต่งงานกันมั้งครับ”

จันทร์พยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะเบนสายตาไปจุดอื่นอย่างไม่ใส่ใจนัก

“เย็นนี้เราไปเดินเล่นที่ชายหาดกันไหม”

“ก็ดีนะ”

“หลังจากทานข้าวเย็นแล้วเราค่อยไปเดินกันนะครับ”

“อื้อ” จันทร์ตอบพร้อมกับเอียงหน้าเปิดทางให้ทะเลหอมที่ซอกคอได้ถนัด

ทะเลแอบยิ้มเมื่อคนในอ้อมแขนไม่ได้มีท่าทีสังเกตเห็นถึงความผิดปกติอะไรสักนิด พี่น้ำหวานและคนอื่น ๆ หายเงียบไปเลย คิดว่าน่าจะกำลังเตรียมการกันอยู่

จันทร์หมุนตัวกลับเข้าซุกใบหน้ากับไหล่หนา

“ง่วงไหม” ทะเลเอ่ยถาม

“นิดหน่อย”

“กว่าจะถึงมื้อเย็น ยังพอมีเวลา พี่ไปพักสักหน่อยไหมครับ” ทะเลบอก ถ้าโชคดีทางสะดวกเขาจะขอแว๊บไปดูตรงซุ้มสักหน่อย

“ก็ดีเหมือนกัน” จันทร์เงยหน้าขึ้น “ไปนอนด้วยกันนะ”

เด็กหนุ่มกะพริบตา “ได้สิครับ”

หลังจากล้มตัวลงนอนและทำหน้าที่เป็นหมอนข้างให้กับคนรักจนอีกฝ่ายหลับลง ทะเลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาพี่น้ำหวานทันที ขอโทษที่เขาไม่สามารถปลีกตัวไปช่วยทางนั้นได้เลย พร้อมกับแนบรูปที่พี่จันทร์กำลังนอนซุกอกราวกับลูกแมวตัวน้อย ๆ ไปเป็นหลักฐาน ไม่นานนักอีกคนก็ตอบกลับมา

‘นี่มึงตั้งใจจะบอกหรืออวดกันแน่ ไอ้เด็กเวรเอ๊ย’

ทะเลหัวเราะในลำคอ ‘ตอนนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับคุณพี่ครับ’

อีกฝ่ายส่งภาพในระยะใกล้มาให้หนึ่งรูป เป็นซุ้มไม้สี่เสาที่ถูกผูกด้วยผ้าสีขาวบางพลิ้วไปตามแรงลม

‘เหลือจัดดอกไม้ ไว้ให้แดดร่มกว่านี้หน่อยค่อยจัด มึงก็เลือกดอกไม้ดูแลยากเกิ๊น’

‘ขอโต๊ดกั๊บ’

‘กวนตีน’

‘ฝากพี่ดูแลดอกไม้แทนผมด้วยนะครับ ที่ผมเลือกพวกมันก็เพราะว่ามันสวยแต่บอบบางเหมือนกับเพื่อนพี่นี่แหละครับ’

‘เออ เก็บคำหวานเอาไว้บอกไอ้จันทร์มันเหอะ กูล่ะเลี่ยนแทน’

ทะเลส่งสติ๊กเกอร์หมาหัวเราะก๊ากกลับไปให้ ก่อนจะถูกไล่ให้ไปนอนกกคนในอ้อมกอดต่อ เอาจริง ๆ เขานอนไม่หลับเลยแม้แต่น้อย เมื่อเวลาใกล้เข้ามาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น หัวใจของเขาเต้นรัวจนกลัวว่าคนที่นอนซุกอยู่จะได้ยินเสียงของมัน

เขาใช้เวลานี้คิดเรียบเรียงคำที่จะบอกกล่าวกับคนรัก แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก เด็กหนุ่มอยากจะดิ้นไปมาด้วยความเครียด สุดท้ายก็คิดได้ว่าช่างมันเถอะ

..เดี๋ยวไปลุยเอาหน้างานแล้วกัน..







หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: กานดา. ที่ 04-03-2020 13:00:51
.



เวลาห้าโมงเย็นทะเลก็ขอปลีกตัวออกไปก่อน โดยที่เขาได้เตรียมนัดแนะกับคุณแม่ไปแล้วว่าให้ชวนพี่จันทร์ออกไปเดินที่ชายหาดตามแผน

“ไอ้ทะเลมันไปไหนของมันเนี่ย” จันทร์บ่นอุบ เพราะตื่นมาเขาก็ไม่เห็นมันอยู่ในห้องแล้ว

“เห็นน้องว่ามีธุระนิดหน่อย สงสัยอยากออกไปถ่ายรูปมั้งจ๊ะ”

จันทร์พยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้

“จันทร์พาแม่ไปเดินเล่นที่ชายหาดหน่อยสิ”

“ครับ” ลูกชายคนเดียวยิ้มก่อนจะจับมือเล็กของแม่ให้เดินไปด้วยกัน ตอนที่ออกจากห้องพักก็ไม่ได้สังเกตว่ามีคนมาแอบดูอยู่ที่พุ่มไม้

เมื่อเป็ดเห็นว่าเป้าหมายเดินออกจากห้องเขาก็รีบวิ่งออกไปที่จุดหมายอย่างรวดเร็ว...ไอ้เลโว้ย~~~ พี่จันทร์เมียมึงมาแล้วววว

“อากาศดีจังเลยเนอะลูก” รดาที่เดินควงแขนลูกชายเอ่ยขึ้น “โชคดีที่ไม่มีฝน”

จันทร์ยิ้มเงยหน้าขึ้นรับลม “นั่นสิครับ ถ้ามีฝนคงเที่ยวไม่สนุก”

เดินต่อไปอีกนิดหน่อยจันทร์ก็เห็นซุ้มอยู่ไกล ๆ ตอนนี้มันถูกประดับไปด้วยดอกไม้จนสวยงามแล้ว ดวงตาหรี่ลงเพ่งมองคนที่ยืนอยู่ในนั้น

..ทำไมมันดูคุ้น ๆ วะ..

ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ไอ้คนตัวโย่งน่ะมันไอ้ทะเลไม่ใช่เรอะ! จันทร์หันกลับไปมองมารดา ยังไม่ทันจะได้เอ่ยถามอะไรท่านก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน

“ซุ้มนั้นสวยจัง” นิ้วเรียวชี้ตรงไป “เข้าไปดูใกล้ ๆ ดีไหมจ๊ะ”

จันทร์พยักหน้าช้า ๆ “นั่นมันทะเลหรือเปล่าน่ะแม่”

“ไม่รู้สิจ๊ะ”

ท่านตอบยิ้ม ๆ น้ำเสียงที่แอบแฝงความนัย สร้างความงุนงงให้กับจันทร์เข้าไปใหญ่ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็มั่นใจว่าคนที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ตรงกลางซุ้มไม้นั่นมันก็คนรักของเขานั่นแหละ แต่ทำไมมันต้องแต่งตัวดูดีแถมยังมีช่อดอกไม้เล็ก ๆ แบบเดียวกับที่ใช้ตกแต่งซุ้มอยู่ในมือ

ความจริงเขาไม่อยากคิดว่าทะเลมันจะทำอะไร ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าเป็นในหนังแล้วละก็...ฉากแบบนี้มันพิธีแต่งงานชัด ๆ

รดาดึงลูกชายคนเดียวที่หยุดยืนอยู่กับที่ให้ออกเดินไปด้วยกัน จันทร์เดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้

“นึกว่าพี่จะวิ่งหนีผมซะอีก” ทะเลว่า “ลุ้นแทบแย่”

จันทร์แสยะยิ้ม “ถ้าแม่ไม่ดึงเอาไว้..ก็ไม่แน่”

คนเป็นแม่มองลูก ๆ ทั้งสองต่อปากต่อคำกัน ท่านส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ

“ทั้งสองคนฟังแม่ก่อน” รดาบอก “เอาไว้ค่อยเถียงกันต่อทีหลังนะจ๊ะ”

ท่านจับมือของลูกเขยหนุ่มให้หงายขึ้นพร้อมกับจับมือของจันทร์วางลงบนมือของคนที่เธอจะฝากฝังให้ดูแลลูกชายคนเดียว

“ทะเล”

“ครับ”

“ต่อจากนี้ไปแม่ฝากดูแลจันทร์ด้วยนะครับ”

เด็กหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็กระบอกตาร้อนผ่าว “ขอบคุณที่คุณแม่...ไว้ใจผมนะครับ”

รดาลูบแขนของทะเลเบา ๆ “ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้สิจ๊ะ” บอกก่อนจะถอยหลังออกไปทิ้งระยะให้ทั้งสองคน

ทะเลรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที เขายื่นดอกไม้ที่ตั้งใจเตรียมไว้ให้กับคนรัก

“สำหรับพี่ครับ”

จันทร์รับมาถือเอาไว้ “ขอบใจ”

ทะเลได้แต่อึกอัก นึกไม่ออกว่าจะตนจะต้องพูดอะไรบ้าง สิ่งที่คิดมาก่อนหน้านี้ถูกลืมไปหมดเพียงเพราะความตื่นเต้นเป็นเหตุ ดวงตาจับจ้องใบหน้าของคนรักที่แหงนเงยขึ้นมองมาที่เขาด้วยใบหน้ายิ้มน้อย ๆ ดูเหมือนกำลังรอว่าเขาจะว่าอย่างไรต่อไป

“คือ...ผมตั้งใจเตรียมทั้งหมดนี้เพื่อพี่นะ”

จันทร์มองไปรอบ ๆ จนมาหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มตรงหน้า หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นและ..ดีใจ

“เพื่ออะไรเหรอ” เขาลองย้อนถามทั้งที่รู้

“เพื่อ…” ทะเลล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง กำกล่องแหวนที่เตรียมเอาไว้ออกมาค่อย ๆ เปิดต่อหน้าอีกฝ่าย “ขอพี่แต่งงาน...แต่งงานกับผมนะครับ”

“ไม่คุกเข่าด้วยหรือไง” จันทร์ถามเสียงเย้า

“พี่อยากให้ผมทำเหรอ” ทะเลถามซื่อ ๆ

คนอายุมากกว่าส่ายหน้า แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่ามอง มือขาวยื่นออกไปตรงหน้า เพื่อเป็นคำตอบว่าเขารับคำขอนั้นของทะเล
เด็กหนุ่มมือสั่นในตอนที่ดึงแหวนออกมาแล้วสวมลงบนนิ้วของจันทร์ เขาจับมือบอบบางขึ้นกดจูบที่หลังมือขาว พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความตื้นตัน

จันทร์หัวเราะเสียงเบาอย่างเอ็นดู เขาเขย่งปลายเท้าแล้วกวาดแขนโอบรอบลำคอแกร่งจูบเข้าที่แก้ม

“ขอบคุณที่รักฉัน”



“เย้!!!” เสียงคุ้นหูดังขึ้นด้านหลัง

จันทร์ผละออกจากทะเลด้วยความตกใจ เมื่อคนอายุมากกว่าหันกลับไปก็พบกับทุกคนพร้อมหน้า โดยมีเป็ดกับบัวชูมือขึ้นร้องเย้ ๆ ไม่หยุด

จันทร์ตาโตเป็นไข่ห่าน “นี่เห็นกันหมดเลยเรอะ!”

“ใช่แล้วครับผม” เป็ดตอบอย่างรื่นเริง

“น้ำหวานเขาบันทึกภาพเก็บเอาไว้หมดเลยด้วยนะลูก” รดาบอกลูกชาย

“เชื่อมือกูได้เลย ไม่มีพลาด” น้ำหวานยืนยันทั้งที่มือยังถือกล้องติดไมค์พร้อม

‘ดีใจด้วยน้า~’ เล็กส่งภาษามือบอก

“ผมกับลูกสาวแสดงความยินดีด้วยนะครับ” เบญที่กำลังอุ้มลูกสาวไว้ในอ้อมแขนบอกอย่างสุภาพ

“ฉวย~ฉวย~” น้องบัวร้องบอกพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ดอกไม้ในมือของจันทร์

ทะเลจันทร์กะพริบตาปริบ ๆ ในใจนึกอยากจะด่าไอ้พวกเพื่อน ๆ แต่ติดที่แม่ของเขาเองก็ร่วมมือด้วยนี่แหละที่ทำให้ด่าไม่ออก แถมการพูดคำหยาบต่อหน้าเด็กก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี เขาก็เลยทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ

“อยากได้ไหมคะ” จันทร์เอ่ยถามเด็กน้อยที่ดูจะสนใจในมือของเขามาก

บัวตาโตขึ้นพยักหน้ารัว

“บัว...ไม่เอาลูก นั่นของคุณอาเขานะคะ”

บัวหน้าสลดลง เธอบิดตัวกลับไปกอดคอเอาหัวซบไหล่บิดา “หนู..ขอโทษค่ะ”

จันทร์มองความน่ารักของบัวก่อนจะหันไปหาคนรัก “ดอกไม้ช่อนี้ฉันให้น้องบัวได้ไหม”

“ได้สิครับ” ทะเลตอบยิ้ม ๆ

จันทร์เดินเข้าไปใกล้สองพ่อลูก “บัวคะ หันมาหน่อยสิ อามีอะไรจะให้” เขาเรียกเด็กน้อย บัวค่อย ๆ หันกลับมาตาละห้อย มือขาวยื่นช่อดอกไม้ให้กับบัว

บัวเหลือบมองบิดา เบญเห็นว่าจันทร์เป็นฝ่ายยื่นดอกไม้ให้ลูกสาวเองเลยพยักหน้าอนุญาตให้บัวรับได้ หนูน้อยยิ้มแป้นอย่างดีใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้พร้อมกับบอกขอบคุณก่อนจะยื่นมือไปรับ

“แล้วนี่มากันตั้งแต่วันไหนเนี่ย” จันทร์หันไปถามทุกคน

“ก่อนหน้ามึงหนึ่งวัน มาเตรียมพิธีให้ไอ้หอกนี่” น้ำหวานตอบ

“ฝากไอ้จันทร์ด้วยนะ มันอาจจะดูเหมือนไม่รั้งถ้ามึงจะไป แต่เชื่อกูเถอะ..ถ้ามึงไปจริง ๆ มันคงร้องไห้เป็นเผ่าเต่าแน่”

“ไอ้ควาย!” จันทร์ด่า..มันจะเอาเรื่องนี้มาพูดต่อหน้าเขาแบบนี้ไม่ได้!

เล็กเดินไปส่งจดหมายแผ่นเล็กให้ทะเลที่ยืนฉีกยิ้มอยู่ข้าง ๆ จันทร์ เด็กหนุ่มเปิดอ่าน มันเป็นข้อความสั้น ๆ ใจความว่า

‘พี่มั่นใจว่าทะเลเป็นคนเดียวที่จะดูแลจันทร์ได้ดีที่สุด หลังจากนี้ไปก็ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะครับ’

ทะเลยิ้มให้กับเจ้าของข้อความ อีกฝ่ายตบแขนเขาสองทีก่อนจะเข้าไปกอดเพื่อนรักของตัวเองแน่น

หลังจากที่เล็กถอยหลังออกไป เป็ดตรงเข้ามาเป็นคนสุดท้าย

“ยินดีด้วยนะครับพี่” เพื่อนของทะเลบอก “ผมฝากทะเลด้วยนะครับ มันอาจจะมีอาการงี่เง่าไปบ้าง แต่ตบหัวสักทีสองทีมันก็จะดีขึ้นครับ”

“พ่อมึง” ทะเลว่ากลั้วหัวเราะ “ห่วงตัวเองดีกว่าไหมวะ”

เป็ดแลบลิ้นใส่แล้ววิ่งไปยืนข้างคนรักที่กำลังบันทึกวิดีโอเหตุการณ์ในวันนี้

คนสูงอายุเดินเข้ามาช้า ๆ ท่านล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อหยิบถุงสีแดงเล็ก ๆ ออกมา อีกข้างจับฝ่ามือของเด็กหนุ่มอีกคนให้หงายขึ้นแล้ววางสิ่งนั้นลงไป

“ของรับขวัญจากแม่จ๊ะ”

ทะเลเปิดออกดูก็พบว่าเป็นทองคำ “ผม-”

“รับไว้เถอะน่า” จันทร์บอก เขารู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร “ผู้ใหญ่ให้ของก็อย่าปฏิเสธสิ”

ทะเลก้มลงมองของมีค่าในมืออย่างหนักใจ

“อย่าคิดมากเลย” รดาจับมือของทะเล “แม่ให้รับขวัญหนูเพื่อมาเป็นลูกแม่อีกคนอย่างเป็นทางการนะจ๊ะ”

เด็กหนุ่มเม้มปากและพยายามกลั้นน้ำตา

“ซาบซึ้งที่ได้ทองเยอะเหรอ” จันทร์แซวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ไม่ใช่สักหน่อย!” ทะเลปฏิเสธทันควัน “ผมดีใจ..ในที่สุดผมก็มี..ครอบครัวเป็นของตัวเองสักที”

“โธ่..ลูกเอ๊ย~” รดาเดินเข้าไปกอดเด็กหนุ่มตัวใหญ่ที่เถียงพี่ไปด้วยสะอึกสะอื้นไปด้วย “จากวันนี้ไปพวกเราทุกคนจะเป็นครอบครัวใหญ่ให้กับหนูเองนะครับ”

เธอและจันทร์ไม่เคยถามถึงเรื่องครอบครัวของทะเล รู้แค่ว่าพ่อกับแม่เลิกกัน ทะเลถูกเลี้ยงมาโดยคุณย่า ส่วนแม่หายไปไหนไม่มีใครรู้ ทางพ่อหลังจากที่หย่าก็ย้ายทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่เคยกลับมาดูดำดูดีลูกชายคนนี้อีกเลย แต่ต้องขอบคุณที่ยังมีความรับผิดชอบอยู่บ้างโดยการส่งเงินให้ใช้อย่างไม่ขาดมือ เด็กคนนี้ถึงมีชีวิตอย่างไม่ลำบาก ตอนแรกที่เธอได้รับรู้ถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก และนั่นทำให้เธอตั้งใจอยากจะเติมเต็มในส่วนนี้ให้กับทะเล

น้ำหวานที่กำลังบันทึกภาพตรงหน้าได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ ข้างตัวก็เหลือบตามอง เห็นแฟนตัวเองยืนเบะปากร้องไห้อยู่ก็ใช้มืออีกข้างดึงไหล่บางเข้ามากอดแนบอก

บัวที่ยืนมองตาปริบ ๆ เห็นพี่ชายสองคนร้องไห้ก็ส่งเสียงร้องไห้ดังลั่น เดือดร้อนคนเป็นพ่อต้องกอดปลอบจ้าละหวั่น

ผู้ใหญ่ทุกคนต่างหัวเราะเมื่อเห็นเด็ก ๆ ทั้งสามคนประสานเสียงร้องไห้กันระงม

“มีแต่เด็กขี้แยเว้ย!” น้ำหวานว่าเสียงดังพร้อมกับหัวเราะอย่างเอ็นดู



.



ยามค่ำคืนหลังจากที่ต่างคนต่างแยกย้ายห้องใครห้องมัน จันทร์ยืนรับลมที่ระเบียงห้อง เหม่อมองไปยังทะเลยามมืดมิดด้านหน้า ผืนน้ำสะท้อนเงาของพระจันทร์เต็มดวงสว่างไสวพร้อมกับดาวเป็นประกายระยิบระยับ

..สวยงามจนไม่อยากละสายตาไปไหน..

“เหม่ออะไรครับ” ทะเลดึงคนรักเข้ามากอดไว้

จันทร์พิงตัวเข้ากับอกหนา “สวยดีนะ”

“หืม”

“ภาพข้างหน้าตอนนี้..สวยดี”

“พี่ชอบไหม” ทะเลก้มลงถามข้างใบหูคนรัก

“ชอบ”

“ชอบอะไรครับ”

“ทะเล”

“หืม...ทะเลไหนเอ่ย”

จันทร์กลั้นขำ หมุนตัวเข้าหาคนรัก

“ไหนตอบให้ผมชื่นใจหน่อยสิ” ทะเลเอียงหน้าถามเสียงหยอกเอิน

“ทะเล…” จันทร์ลากเสียงก่อนจะชี้ไปข้างนอก “ทะเลโน้น”

“โถ่~”

“แต่ว่ารักทะเลนี้นะ” นิ้วชี้ข้างขวาเปลี่ยนมาจิ้มลงที่อกของทะเลตรงตำแหน่งหัวใจพอดี

เด็กหนุ่มยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหู ก้อนเนื้อในอกพองฟูด้วยความดีใจ ไม่บ่อยที่อีกฝ่ายจะบอกรักกันแบบนี้

“ผมก็รักพี่...รักมากที่สุด” ทะเลกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น “ขอบคุณที่ยอมเป็นคู่ชีวิตของผมนะครับ”

จันทร์อมยิ้ม “อื้อ”

“ผมดีใจนะ..ที่พี่เลือกให้ผมยังอยู่ในชีวิตพี่”

“ขอบคุณเหมือนกัน ที่เธออดทน..ถึงแม้ว่าฉันจะร้ายกับเธอมาก เธอก็ยังไม่ไปไหน ขอโทษนะ” จันทร์บอกพลางลูบแก้มคนรัก “ขอบคุณที่เกิดมา..เพื่อมาเป็นอีกครึ่งของชีวิตฉัน”


ครึ่งหนึ่งของจันทร์...ก็คือทะเล
..ทะเลจันทร์..



จบ…



จบแล้วนะคะ...กับทะเลจันทร์ บางคนอาจจะคิดว่าเราตัดจบหรือเปล่า
แต่เราคิดว่าประเด็นทุกอย่างในเรื่องนี้มันสมบูรณ์ในตัวของมันหมดแล้วค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่คอยและติดตามนิยายเรื่องนี้มาโดยตลอดเลย
1 ปี 7 เดือนที่ผ่านมาเรามีความสุขที่ได้รับความคิดเห็นจากทุกคนนะคะ
สำหรับเรื่องรวมเล่ม เราขอเขียนตอนพิเศษให้เสร็จแล้วจะมาประกาศอีกครั้งนะคะ
ติดตามได้ที่เพจ https://www.facebook.com/gandastory/
ยังไงก็ต้องรบกวนฝากผลงานเรื่องต่อ ๆ ไปด้วยนะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 21-03-2020 00:13:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-03-2020 12:13:01
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 04-04-2020 23:59:17
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 05-04-2020 08:42:27
แอบโรแมนติก อบอวลไปด้วยความรักขอบคุณนิยายหวานซึ้งเรื่องนี้นะคะ ทั่งความรักของแม่ ของเพื่อน และคนรัก ชอบค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 11-04-2020 12:20:06
จบแล้ววววว  น่ารักทุกคู่เลย
แต่ทำไมเราชอบเป็ดเป็นพิเศษ
เป็ดน่ารักน่ารักน่าบีบมากกกก
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายน่ารักๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 14-04-2020 09:31:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 07-03-2021 21:41:39
กลับมาซ้ำก็ยังละมุนเหมือนเดิม :pig4: :pig4: