ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทะเลจันทร์ ☾ ตอนที่ 21(จบ) หน้าที่ 3 [04/03/2020]  (อ่าน 18718 ครั้ง)

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ กานดา.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
    • facebook page


18




ทะเลคิดว่าการมาต่างประเทศในคราวนี้จะมีความสุขเหมือนกับทุกคราวที่เคยเป็น แต่มันกลับไม่ใช่…

เขาคิดถึงคนที่อยู่ไกลค่อนโลก..ทำอะไรก็เอาแต่คิดถึง ไม่มีความสุขเท่าที่เคย อยากให้ได้มาด้วยกัน..ไม่ว่าจะที่ไหน

..อยากจะบินกลับไปหาตอนนี้เลยด้วยซ้ำ..

“หนาวฉิบหายเลยโว้ย” เด็กหนุ่มบ่นไม่หยุด เขาหงุดหงิดเพราะเกิดอาการขาด ‘ทะเลจันทร์’ นานเกินไปนั่นแหละ

ทะเลยืนอยู่บนทางเดินทอดยาวของยอดเขา Grindelwald First เบื้องหน้ามีแต่หิมะขาวโพลน สวยมาก...แต่ก็แสบตามากเช่นกัน นี่ถ้าไม่มีแว่นกันแดดล่ะก็คงได้ตาบอดแหง ๆ

ปกติเขาจะไปประเทศแถบร้อนมากกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ทะเลเลือกมาเมืองหนาว ไม่คิดว่ามันจะทรมานขนาดนี้ มือที่ใช้กดชัตเตอร์เย็นจนแทบไม่อยากขยับ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้..หามุมสวย ๆ ถ่ายต่อไปเรื่อย

..ไว้ไปฝากคนสวยที่รออยู่ที่บ้าน..

เพียงแค่นึกถึงทะเลจันทร์เขาก็มีรอยยิ้มผุดขึ้นมา ไหน ๆ ก็มาถึงเมืองของช็อกโกแลตทั้งที ตั้งใจว่าจะซื้อไปฝากเยอะ ๆ เลย
เห็นอะไรก็นึกถึงคนที่กำลังรออยู่ไปหมด ไม่รู้จะซื้ออะไรไปฝากดี เพราะอีกฝ่ายบอกว่า ‘ไม่อยากได้อะไร ขอแค่ให้เขากลับไปถึงบ้านปลอดภัยก็พอ’

ให้ตายเถอะ...ตอนที่ได้ยินประโยคนี้ เขาอยากจะกอดหอมให้ชื่นใจสักที แต่ติดที่ว่ามันอยู่กันคนละที่ คอยดู...กลับไปจะกอด ‘ทั้งคืน’ เลยทีเดียวเชียว



...



ทะเลนอนอ่านรีวิวร้านขายช็อกโกแลตชื่อดังในอินเทอร์เน็ต แล้วแคปภาพขนมสีน้ำตาลหลากหลายอย่างส่งไปให้ทะเลจันทร์เลือก เขามันพวกไม่ชอบกินของหวานสักเท่าไหร่เลยไม่รู้เรื่องพวกนี้นัก

สายตาเหลือบมองนาฬิกาบนพนัง เขานัดพี่จันทร์ไว้ตอนบ่ายสามโมงของไทย เพราะไม่ได้วิดีโอคอลคุยกันหลายวัน เลยทำให้ทะเลรู้สึกคิดถึงอีกคนมาก

ความคิดถึงมันมากพอที่จะทำให้เขาบินกลับไปเดี๋ยวนี้เลย แต่คนอายุมากกว่าก็ย้ำว่าห้ามเขากลับไปเด็ดขาด

‘ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องเจอกันอีกต่อไปเลย’

ไม่รู้ว่าทะเลาะกับพี่เล็กหนักแค่ไหน แต่อีกฝ่ายบอกว่ายังไม่อยากให้เขาเห็นสภาพที่ไม่ดี และทะเลก็เคารพคำขอนั้นของพี่จันทร์

เป็ดมันบอกว่าเขาเป็นพวกกลัวเมีย...เพราะไม่ว่าทะเลจันทร์จะบอกหรือห้ามอะไร ทะเลก็ไม่เคยขัดเลย

..อย่าเรียกว่ากลัว ความจริงน่าจะเรียกว่าเกรงใจเพราะรักดีกว่า..

เพราะรักถึงไม่อยากขัดใจ...

เพราะรักถึงยอมได้ทุกอย่าง…

เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่เขาไม่ได้รู้สึกว่าต้องฝืนใจทำเลย



...



เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเรียกให้ทะเลที่กำลังจะเคลิ้มหลับเด้งตัวขึ้นมา เขารีบร้อนเลื่อนหน้าจอ เมื่อเห็นใบหน้าสวยของคนที่คิดถึงก็ทำเอาพูดไม่ออก

“ว่าไง” ทะเลจันทร์เอ่ยทักก่อน ริมฝีปากยิ้มน้อย ๆ ด้วยความเอ็นดู

ทะเลขมวดคิ้ว “นี่..พี่ตัดผมเหรอ”

จันทร์ขยับศีรษะซ้ายขวาจนผมสะบัดไปมา มือบางยกขึ้นจับปลายผมอย่างขัดเขินเมื่อเห็นสายตาของเด็กหนุ่ม

“ใช่ เป็นไง”

“สวย..สวยมากเลย” ทะเลตอบ

..ทะเลจันทร์ผมยาวก็สวย แต่มันคนละแบบกับผมสั้น..

“เซ็กซี่มากเลย” เจ้าตัวยังพร่ำเพ้อต่อ

คนอายุมากกว่าแก้มแดงวาบ “ไอ้เด็กเปรต” จันทร์ด่ากลบเกลื่อน

“รอผมกลับไปก่อนเถอะ” ทะเลหมายมั่นปั้นมือ เขาจะไม่ปล่อยอีกฝ่ายไปอย่างแน่นอน

“ไอ้..” จันทร์ได้แต่กัดปากเพราะด่าไม่ออก เพียงแค่ทะเลมองเขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดอะไร และมันก็ทำให้เขารู้สึกวาบหวามไปหมดทั้งตัว..ราวกับว่าถูกเด็กหนุ่มตรงหน้าเล้าโลมด้วยสายตา

“หรือว่าพี่รอไม่ไหวแล้ว” ทะเลถามยิ้มกรุ้มกริ่ม

จันทร์หน้าแดง “ไอ้เด็กบ้า!”

“ไม่ต้องอายหรอกพี่ พวกเราไม่มีอะไรจะต้องปิดกันแล้วนะครับ” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ่อนหวาน

ทะเลจันทร์เงียบ มันก็นานแล้วที่พวกเขาทั้งสองคนไม่ได้มีอะไรกันเลย แต่มันแปลก...เขาไม่ได้มีความรู้สึกอยากมีเซ็กซ์มากเท่าเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะตอนนี้ความรักของทะเลมันเติมเต็มจนเขาแทบไม่รู้สึกโหยหาการสัมผัสแบบนั้นแล้วก็ได้

“กลับไป..ผมขอทำได้ไหมครับ”

พอถูกขอตรง ๆ แบบนี้ ทำให้จันทร์นึกถึงบทรักที่เขาสองคนมีกัน มันก็ทำให้เขาร้อนรุ่มขึ้นมาได้ไม่ยาก เขายังคงยืนยันว่าชอบลีลาของทะเล..มาก และเรื่องนี้ของพวกเขาเข้ากันได้ดีสุด ๆ

“ไม่เห็นต้องขอเลย..” จันทร์ตอบกลับเสียงเบาหวิว

“อะไรนะครับ” ทะเลสาบานเลยว่าไม่ได้ยินจริง ๆ

“จะทำก็ทำสิ ไม่เห็นต้องขอเลย”

“พี่พูดเองนะครับ” ทะเลหรี่ตา “แล้วอย่าหาว่าผมไม่เตือนละ”

“เออ!” ปลายทางว่าถลึงตาโต “มันจะย้ำอะไรนักหนา”

ทะเลหัวเราะร่วน ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “แล้วพี่คืนดีกับพี่เล็กแล้วเหรอครับ”

“อือ” จันทร์ตอบ “ดีกันแล้วแหละ”

“ดีแล้ว ๆ” ทะเลยิ้มกว้าง เขาดีใจที่ได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายสบายใจขึ้นแล้ว

“ขอบใจนะ”

เด็กหนุ่มเอียงคอ “เรื่องอะไรครับ”

“ที่ช่วยเตือนสติไง”

คนอายุกว่าไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเขาไปช่วยอีกฝ่ายตอนไหน แต่ก็ไม่เอ่ยถามเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัว คนเราถึงจะคบเป็นแฟนกัน ต่อให้ใกล้ชิดมากแค่ไหนก็ควรเว้นระยะให้มีพื้นที่ส่วนตัวกันบ้าง ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องรู้กันทุกอย่าง

“ยินดีที่ได้ช่วยครับ”

ทะเลจันทร์ยิ้มรับ “แล้วนี่เป็นไง เที่ยวสนุกไหม”

“ผมว่า..ผมมาผิดฤดู” ทะเลตอบก่อนจะถอนหายใจ

“ทำไมล่ะ” จันทร์ถาม

“โคตรหนาวเลย นี่ขนาดว่าผมซื้อชุดกันหนาวอะไรมาพร้อมแล้วนะ แต่สำหรับผมมันก็ยังหนาวอยู่ดีอะ รู้งี้น่าจะมาฤดูอื่น” เด็กหนุ่มบ่นกระปอดกระแปด

จันทร์หัวเราะคิก “เลือกเองด้วยนะ”

“แต่ผมว่า..พี่น่าจะชอบที่นี่นะ เห็นเปิดแอร์เย็นเจี๊ยบตลอด” ทะเลเปรย นึกถึงตอนที่นอนด้วยกัน เขามันพวกขี้หนาว ส่วนอีกคนไม่ใช่คนขี้ร้อน..แต่ชอบเปิดแอร์เย็น ๆ แล้วห่มผ้านวมหนา ๆ ให้ลมแอร์เย็นเป่าหน้า

“ไปถึงที่แล้วอาจจะไม่ชอบก็ได้นะ”

“...อยากให้พี่มาด้วยกันจัง” ทะเลบอก “ไปที่ไหนก็คิดถึงแต่พี่”

ทะเลจันทร์ยิ้มเอ็นดู “ทำตัวเป็นเด็กไปได้”

“อื้อ..เด็กก็เด็ก” ทะเลยอมรับ “แต่เป็นเด็กติดเมียนะ”

“ไอ้ทะเล!” จันทร์ว้าก

เจ้าของชื่อหัวเราะกรั่ก ๆ ด้วยความชอบใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายใส่ยศนำหน้าชื่อให้

“หยุดเรียกฉันแบบนั้นได้แล้ว” จันทร์ขมวดคิ้วแน่น

“ไม่ชอบเหรอครับ” ทะเลถามเสียงนิ่ม สายตาจริงจัง

“มันแปลก ๆ”

“ผมถามว่าไม่ชอบเหรอครับ” เขาถามย้ำอีกครั้ง รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก

“มัน..”

“ชอบหรือไม่ชอบครับ” ทะเลย้ำทีละคำ กลั้นยิ้มเต็มที่เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำตัวไม่ถูก

“ไม่ใช่ว่าไม่ชอบหรอก” จันทร์ตอบอ้อมแอ้ม

ทะเลยิ้มกริ่ม “งั้นแสดงว่าชอบ”

“ไม่คุยด้วยแล้วโว้ย!” จันทร์โวยวายก่อนจะกดตัดสายไปทันที

ทะเลนั่งยิ้มอยู่คนเดียวสักพัก ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าลืมถามเรื่องช็อกโกแลตไป เลยกดวิดีโอคอลหาอีกครั้ง

“อะไรอีก!” ทะเลจันทร์กดรับได้ก็ตวาดแว้ด

เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงใส “ผมจะถามเรื่องช็อกโกแลตครับ”

“อะไรก็ได้แหละ” คนพี่ตอบเสียงเบาลง

“ไม่อยากได้อะไรเป็นพิเศษเหรอครับ”

จันทร์ส่ายหน้า “ไม่ต้องซื้อมาก็ได้” เจ้าตัวเม้มปาก “แค่กลับมาเร็ว ๆ ก็พอ..แค่นี้นะ”

ทะเลฉีกยิ้มกว้างราวกับคนบ้า เขานอนกลิ้งไปมาบนที่นอน อยากจะให้โลกนี้มีประตูไปไหนก็ได้ขอโดเรม่อนจริง ๆ เขาจะได้ใช้มันเปิดไปหาพี่จันทร์ตอนนี้เลย

ทะเลปลอบใจตัวเองว่าให้อดทน พรุ่งนี้เขายังต้องไปซื้อของฝากในเมืองอีกหนึ่งวัน แล้วก็จะได้เดินทางกลับแล้ว

..อดทนอีกนิดเว้ย..



...



ทะเลจันทร์สงบจิตสงบใจตัวเองอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นที่บ้าน ร่างบางนั่งกอดขา ถูไถใบหน้ากับหัวเข่าด้วยความเขินอาย รู้สึกว่าตัวเองทำตัวอย่างกับเด็กวัยรุ่นอย่างไรอย่างนั้น

“อา..บ้าชะมัด” จันทร์บ่นตัวเอง “ทำตัวยังกับสาวน้อยวัยแรกแย้ม”

แก่จน 35 แล้ว...ไม่คิดว่าจะได้มีความรู้สึกแบบนี้อีก แต่ถ้านึกย้อนกลับไป...กับคนเก่าแล้วเขาก็ไม่ได้มีความสุขเท่านี้เลย อาจจะเพราะความรักตอนยังเด็กมันมีแต่ความลุ่มหลงอยู่เต็มไปหมด...ต่างจากตอนนี้ที่มันเรียบง่าย ทะเลเองก็ไม่ได้เอาแต่ใจหรือเรียกร้องอะไรจากเขา..นอกเสียจากความรัก

จันทร์แนบแก้มลงกับหัวเข่า เหม่อมองออกไปยังสวนข้างบ้านที่แม่เพิ่งจ้างให้คนมาจัดสวนใหม่ คิดถึงตัวเองตอนนี้แล้วก็กลัว...คำว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวนี่ท่าจะจริง เพราะยิ่งมีความสุขมากเท่าไหร่..เขาก็ยิ่งกลัว

น่าขำชะมัด...ก่อนหน้านี้เขายังเป็นฝ่ายที่พร้อมจะปล่อยทะเลไปอยู่เลย แต่ในตอนนี้กลับกลัวจะถูกอีกฝ่ายทิ้งขว้าง

ทะเลจันทร์นั่งตัวตรง สะบัดหัวแรง ๆ ไล่ความคิดไม่ดีออกไป เพราะการคิดแบบนั้น...ก็เท่ากับเป็นการดูถูกความรักที่ทะเลมีให้ ถึงอีกฝ่ายจะอายุน้อยกว่ามาก แต่ที่ผ่านมาไม่มีครั้งไหนเลยที่หมอนั่นทำให้เขารู้สึกไม่มั่นคง แบบนี้แล้ว...เขาควรจะต้องเชื่อมั่นสิ

เขาบิดขี้เกียจสองสามทีก็ต้องเตรียมตัวเพื่อไปที่ร้าน หลังจากที่เขาวางมือจากการเข้าครัวทำขนมให้กับพี่สวยทั้งหมด ก็มีเวลาว่างมากขึ้น ทะเลจันทร์เริ่มขยับไปทำงานในออฟฟิศเพื่อรอรับช่วงต่อจากแม่ที่อายุเยอะแล้วแต่เชื่อเถอะว่าแม่ไม่ปล่อยงานให้เขาทำง่าย ๆ หรอก

..คุณรดา สาวมั่นวัยเกือบ 60 ปี สุขภาพร่างกายของแม่แข็งแรงมากกว่าเขาเสียอีก..

ช่วงนี้อาการของจันทร์ค่อนข้างอยู่ตัว อาการสั่นที่มีไม่ได้หายไปแต่เขาก็ปรับตัวที่จะอยู่กับมันได้แล้ว แค่เขาต้องกินยาให้ตรงต่อเวลาตามหมอสั่ง จะขาดก็เรื่องออกกำลังกายที่เขาแสนจะขี้เกียจเหลือเกินนี่แหละ เห็นทะเลมันบ่น ๆ อยู่เหมือนกันว่าจะพาเขาไปออกกำลังกาย เอาเถอะ..ถึงเวลาเมื่อไหร่เขาก็ต้องพยายามเพื่อให้ตัวเองแข็งแรงขึ้นล่ะนะ

จันทร์เดินตรงไปหามารดาที่ออฟฟิศ ตั้งใจจะไปหางานทำนี่แหละ ไม่อยากอยู่ว่าง ๆ ให้แม่เลี้ยง มือขาวเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไปยืนในห้อง

“แม่มีอะไรให้จันทร์ช่วยไหมครับ”

รดานิ่งคิดสักพัก “หนูไปเอารายการที่จะต้องสั่งจากพ่อครัวให้แม่ก็ได้ครับ แล้วก็เช็กอีกทีว่าไม่มีอะไรขาดตกไป เย็นนี้แม่จะได้สั่ง”

ลูกชายคนเดียวพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปตามคำสั่งของมารดา เขาเดินตรงไปหาหัวหน้าพ่อครัว

“พี่พงษ์..รายการของที่ต้องสั่งเรียบร้อยหรือยังครับ”

“เรียบร้อยแล้วครับ”

“เดี๋ยวพี่กับผมไปเช็กด้วยกันอีกทีนะครับ”

จันทร์เดินนำเข้าไปที่เก็บสต๊อกสินค้า ลูกชายเจ้าของร้านก้ม ๆ มอง ๆ ระหว่างรายการในมือกับของในตู้และห้องเย็น ที่มีทั้งผัก เนื้อสัตว์ และเครื่องปรุงทั้งหลายแหล่

พอเรียบร้อยดีจึงนำใบรายการไปส่งให้กับมารดา งานส่วนใหญ่ของร้านนี้เขาก็รู้แทบทุกอย่างอยู่แล้ว รอแค่ว่าแม่จะปล่อยให้เขาจัดการด้วยตัวเองเมื่อไหร่ ซึ่งดูท่าคงจะอีกนาน…

ทะเลจันทร์เดินออกมารองรับลูกค้าด้านนอก พอไม่มีอะไรทำก็เดินไปรอบ ๆ ร้านเพื่อหาอะไรทำไปเรื่อย ๆ ทั้งรดน้ำต้นไม้ เก็บกวาดขยะ ให้อาหารปลา ทำจนไม่มีอะไรจะทำแล้วจึงขอตัวกลับก่อน



...



ทะเลเดินทางกลับมาถึงไทยในช่วงบ่าย หลังจากรับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยเดินออกมาก็เจอพี่จันทร์ยืนรออยู่แล้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลงทะเลดึงตัวคนรักเข้ามากอดแนบแน่นสูดกลิ่นยาสระผมบนหัวอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง

“คิดถึงที่สุดเลย…”

จันทร์หัวเราะเบา ๆ ตบมือลงกับแผ่นหลังหนา “ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ”

ความสุขใจเอ่อล้นขึ้นมาจนทะเลน้ำตาไหล นานแค่ไหนแล้ว...ที่ไม่มีคนพูดคำนี้กับเขา “ผมคิดถึงพี่…” ทะเลพูดเสียงพร่า
คนอายุมากกว่าดันตัวทะเลออก “ร้องไห้ทำไมน่ะ” จันทร์พูดกลั้วหัวเราะ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของน้องให้อย่างแผ่วเบา “คิดถึงมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

“มากกกกก” ทะเลลากเสียงอ้อน เขาคว้าคนแซวเข้ามากอดให้แน่นเข้าไปอีก ไม่สนสายตาว่าใครจะมองเขาสองคนยังไง

จันทร์หัวเราะเสียงใส ปล่อยให้ทะเลกอดอยู่แบบนั้น เพราะเขาเอง...ก็คิดถึงไม่ได้ต่างกันนักหรอก

“ปะ..กลับบ้านกันดีกว่า” เมื่อพอใจแล้วเด็กหนุ่มก็หยิบกระเป๋าต่าง ๆ ที่ทิ้งไว้กับพื้นขึ้นมาถือ

“ไม่หิวเหรอ” จันทร์ย้อนถาม

ทะเลโน้นตัวลงมากระซิบ “ผมหิวพี่มากกว่า”

“ไอ้เด็กเวรเอ๊ย!” จันทร์ว่า..แต่ตัวเองก็หิวอีกฝ่ายไม่ได้ต่างกันนักหรอก

ทะเลขอเป็นคนขับในขากลับ เขาตรงไปที่ร้านจันทร์ฉายเพื่อแวะเอาของฝากไปให้คุณแม่ก่อนเป็นอันดับแรก

“ไหนว่าหิวไง” จันทร์ค่อนขอด

“หิวน่ะมันหิวหรอก แต่จะเอาลูกเขาไปปู้ยี่ปู้ยำ..ก็ต้องขออนุญาตคุณแม่ก่อนสิครับ” ทะเลตอบกลับ สายตามองไปที่กระจกขณะที่ถอยรถเข้าที่จอด

จันทร์ตีเข้าที่ต้นแขนอีกฝ่ายไปหนึ่งที “ทะลึ่ง”

ทะเลเดินตามลูกชายเจ้าของร้านตรงไปที่ออฟฟิศของคุณแม่ตามคำบอกของผู้จัดการร้าน เขาหิ้วของมาฝากเล็กน้อย และมาเพื่อขอตัวพี่จันทร์ไปค้างที่บ้านของเขาสักวันสองวัน

จันทร์เคาะประตูก่อนตามมารยาท “แม่ครับ” จันทร์เรียก “ดูสิว่าใครมาหา”

“ทะเล! กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ลูก” รดาเดินไปรับคนมาเยี่ยมด้วยตัวเอง

ทะเลยกมือไหว้ “เพิ่งมาถึงเลยครับ ผมเลยแวะเอาของฝากมาให้”

“ขอบใจมากนะจ๊ะ” คนเป็นแม่รับถุงมาถือเอาไว้ “วันหลังไม่ต้องมีของฝากก็ได้นะ ลำบากหนูเปล่า ๆ แค่กลับมาถึงอย่างปลอดภัย
ไม่เจ็บไม่ไข้ก็ถือว่าเป็นของฝากสำหรับแม่แล้ว”

ทะเลตื้นตันจนพูดไม่ออก ยืนก้มหน้ากระบอกตาร้อนผ่าว พอกะพริบตาน้ำตาที่คลอหน่วยก็ไหลลงอาบแก้ม

“แม่ทำไอ้หนูทะเลร้องไห้แล้วว” จันทร์ร้องก่อนจะหัวเราะลั่น

ทะเลเช็ดน้ำตาป้อย ๆ “ก็ผมดีใจนี่นา!” เขาพูดเสียงดังพร้อมรอยยิ้ม ทั้งตา ไม่ได้รู้สึกโกรธหรืออายที่ถูกแซวสักนิด “ตั้งแต่คุณย่าจากไปก็ไม่มีใครพูดแบบนี้กับผมอีกเลย”

“โถ่..ลูกเอ๊ย~” รดากอดเด็กหนุ่มตัวโตด้วยความอบอุ่นทั้งหมดที่มี “ตอนนี้ทะเลก็เป็นเหมือนกับลูกชายอีกคนหนึ่งของแม่แล้วนะ อย่าคิดว่าเราเป็นคนอื่นคนไกลกันเลยนะจ๊ะ”

เด็กหนุ่มลังเลว่าจะกอดอีกฝ่ายตอบกลับดีหรือไม่ เขายกมือขึ้นค้างอยู่อย่างนั้นจนคนเป็นแม่เอื้อมไปจับให้มือของทะเลวางลงบนหลังของเธอ

“ถ้าอยากจะกอดก็กอดเลย”

“ขอบคุณครับ..” ทะเลพูดด้วยความซาบซึ้ง

รดาเหลือบไปเห็นลูกชายของเธอยืนพิงประตูกอดอกมองมาด้วยรอยยิ้มบาง “จันทร์ก็ด้วย..มากอดน้องอีกคนมาเร็ว~”

คนถูกเรียกสะดุ้งก่อนจะส่ายหน้าแหย่ “ไม่เอา”

..ไม่ใช่เด็ก ๆ กันสักหน่อย..

“อย่าปฏิเสธแม่นะจ๊ะ” รดาพูดเสียงนิ่มแต่แฝงไปด้วยความเด็ดขาด

ทะเลจันทร์กลอกตามองบนก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดทั้งแม่ทั้งทะเลอย่างช่วยไม่ได้ แต่เมื่อเห็นว่าทะเลดีใจมากแค่ไหน...มันก็อดไม่ได้ที่เขาจะยิ้มตามไปด้วย



...



“เดี๋ยวคืนนี้ผมขอพาพี่เขาไปนอนค้างที่บ้านผมด้วยสักคืนนะครับ” ทะเลเอ่ยบอกก่อนจะเดินทางกลับ

คนเป็นแม่เอียงคอเล็กน้อย “กลับไปทำไมล่ะลูก ย้ายมาอยู่ที่บ้านแม่ด้วยเลยก็ได้นะจ๊ะ”

“เอ่อ…” ทะเลไม่รู้จะตอบอย่างไรดี “พอดีจะเอาของไปเก็บที่บ้านน่ะครับ” หัวเราะแฮะ ๆ

..จะให้บอกว่าจะพาพี่เขาไปฟาดก็กลัวจะตรงเกินไป..

“อ๋อ~” รดาลากเสียงยิ้มอย่ามีนัย “แม่ก็ลืมไปเลย เอาเถอะจ้ะ..แม่ไม่รบกวนเวลาของหนุ่ม ๆ แล้วล่ะ ขับรถดี ๆ นะจ๊ะ”

จันทร์หน้าแดงตั้งแต่แม่ร้องว่า ‘อ๋อ’ แล้ว เขาเดาว่าแม่ต้องรู้แน่นอนว่าจุดประสงค์ของไอ้หมอนี่มันคืออะไร ก็ดูหน้ามันสิ..แสดงออกซะขนาดนั้น อยากจะตบกะโหลกมันจริง ๆ สิพับผ่า!




tbc…
ทะเลกลับมาป่วนหัวใจแล้วจ้า~~
 :-[

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ololl08

  • http://lifeoftoys.com/
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • เว็บไซต์รวบรวมของเล่นสนุกๆมากมาย
 :m25: :m25: :m25:

สวยครับ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 รอ    o18 :z1:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :pig4: ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ กานดา.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
    • facebook page



19




“ดะ- เดี๋ยว! หยุดก่อน..อื้อ!”

ทะเลจันทร์ร้องเมื่อถูกจู่โจมทันทีที่เข้ามาในตัวบ้าน เด็กหนุ่มจับร่างบอบบางให้หันกลับมาปะทะกับแผ่นอกแน่น มือหนึ่งกอดเข้าที่เอวเล็ก ส่วนอีกมือช้อนท้ายทอยให้คนอายุมากกว่าเงยหน้าขึ้นรับจูบที่ร้อนแรงไปด้วยอารมณ์

ทะเลดันอีกฝ่ายให้ถอยหลังไปช้า ๆ จนเมื่อชนเข้ากับโซฟากลางบ้านจันทร์ก็หงายหลังลงไปโดยมีทะเลตามลงมาคร่อมอยู่ด้านบน พวกเขาทั้งสองคนหอบหายใจเสียงดัง ดวงตาจ้องมองกันและกันราวกับจะกลืนกิน

“ขึ้นไปข้างบนได้ไหม” จันทร์บอก “จะทำตรงนี้ก็เกรงใจคุณย่า” เขาเหลือบมองผ่านไหล่ของทะเลไปเจอรูปของคุณย่าแขวนอยู่บนกำแพง นั่นช่วยให้อารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านสงบลงด้วยความละอาย

หลานเจ้าของบ้านหัวเราะในลำคอ ก้มลงจุ๊บปากแดงเจ่อ “ไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่าครับ” นั่งเครื่องมาตั้งหลายชั่วโมงจะทำอะไรกับอีกฝ่ายที่เป็นคนรักสะอาดทั้งสภาพแบบนี้ก็สงสาร


.
.
.


ต่างคนต่างถูสบู่ให้กันอย่างไม่รีบร้อน ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างกายผอมลากเรื่อยไปจนถึงบั้นท้ายเล็ก ทะเลบีบมันด้วยความมันเขี้ยวจนเจ้าของมันสะดุ้ง

“บีบทำบ้าอะไรเนี่ย!” จันทร์แว้ดใส่ ทุบกำปั้นลงกับต้นแขน

“อยากให้พี่อ้วนขึ้นกว่านี้อีกสักนิดจัง” ทะเลบอก “เวลาที่ร่างกายเราโดนกัน..เสียงมันน่าจะเร้าใจ” ใบหน้าหล่อยิ้มทะเล้น

ฝ่ามือขาวตบเข้าที่หัวของคนอายุน้อยกว่าจนเจ้าตัวร้องโอ๊ย “ทะลึ่ง!” ตัวเขาก็เท่านี้มาไหนแต่ไรแล้ว ไอ้เรื่องจะให้อ้วนขึ้นคงจะยาก
ทะเลยังลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่แถวด้านหลังของคนรัก เขาบดเบียดตัวตนเสียดสีอย่างจงใจปลุกเร้าอารมณ์ พร้อมกับก้มลงงับติ่งหูและเลียใบหูเบา ๆ จนอีกฝ่ายครางเสียงเครือ ทะเลลากลิ้นลงไปตามลำคอเพรียว

“อย่าทำรอยนะ..” จันทร์บอกเมื่อทะเลพรมจูบไปทั่วลำคอ เขายกแขนขึ้นคล้องคออีกฝ่ายเอาไว้พร้อมกับเอียงใบหน้าให้จูบได้อย่างเต็มที่

คนอายุน้อยกว่าสอดนิ้วไล้ไปตามร่องด้านหลัง พอสะกิดเข้าที่ปากทางทะเลจันทร์ก็กระตุกสั่นราวกับลูกนก นานแล้วที่พวกเขาไม่ได้มีอะไรกัน ทุกการสัมผัสของทะเลเลยสามารถทำให้อารมณ์ของเขากระเจิดกระเจิงได้ไม่ยาก

“ถ้าเขาไปตอนนี้เลยพี่จะเจ็บใช่ไหม” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงพร่า

จันทร์หัวเราะกับความใจร้อนของทะเล “ใจเย็นสิ ฉันไม่ได้จะหนีหายไปไหน” กดจูบกับแก้มสากเพราะเริ่มมีตอหนวดขึ้นบาง ๆ “พวกเรายังมีเวลาอีกทั้งคืน”

คนโดนยั่วกัดฟันฮึ่ม ทะเลยกตัวเบาหวิวของอีกฝ่ายจนลอย แล้วพาคนรักออกจากห้องนอนไปวางบนเตียงกว้าง

ทะเลจันทร์ยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสายตากระหายอยากของเด็กหนุ่ม เขาลุกขึ้นนั่งขยับกายเข้าไปใกล้ส่วนนั้นของทะเลที่มันกำลังชี้หน้าเขาอยู่

“ขอชิมหน่อยนะ” ไม่ทันให้เจ้าของมันอนุญาต..จันทร์แลบลิ้นแตะลงที่ส่วนปลายโดยไม่ใช้มือจับ

“พี่นี่..ช่างยั่วผมจริง ๆ เลยนะ”

คนอายุมากกว่าเงยหน้าขึ้นสบตาร้อนแรงของทะเล จันทร์ยิ้มร้ายก่อนจะยกมือขึ้นมาจับไม่ให้มันดิ้นหนี..ก่อนจะครอบปากเข้าไปลึกเท่าที่จะทำได้...โลมเลียราวกับไอศกรีมแท่งโปรด

ทะเลลมหายใจสะดุดเมื่อได้รับสัมผัสแบบนั้น..มันทำให้เขาตื่นตัวจนแทบทนไม่ไหว เสียงที่เกิดขึ้นฟังดูลามก แต่ก็ยังดูน้อยกว่าสายตาและสีหน้าของทะเลจันทร์อยู่ดี

“พี่..พอเถอะ” เขาดันไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ แทนที่ทะเลจันทร์จะหยุดกลับไม่สนใจ และจากที่ละเลียดชิมเลยกลายเป็นมูมมามจนเจ้าของมันสะท้านไปทั้งตัว

“พี่..หยุดก่อน..ผมจะเสร็จ” ทะเลบอกอีกครั้ง

จันทร์ละปากออก “เสร็จมาเลยสิ” บอกจบก็เอาลูกชายของทะเลเข้าปากอีกรอบ

ชั้นเชิงของทะเลจันทร์ประจวบกับที่ทะเลไม่ได้ปลดปล่อยมานาน เพราะนอกจากที่เขาสองคนจะไม่ได้ร่วมรักกันแล้ว..แม้กระทั่งช่วยตัวเองเขาก็ไม่ได้ทำ

..เลยทำให้เสร็จไวกว่าปกติ..

ทะเลจันทร์ดูดกลืนทุกหยาดหยดเก็บไว้ในปาก ก่อนจะคายใส่ฝ่ามือ

“จะเก็บไว้ทำอะไรเนี่ย” ทะเลขมวดคิ้ว

“ไม่น่าถาม” จันทร์ขยับตัวขึ้นไปบนเตียง ขยับให้อยู่ในท่าคลานเข่าก่อนจะใช้สารคัดหลั่งของทะเลเป็นตัวหล่อลื่นในการขยายช่องทางของตัวเอง

ทะเลมองภาพตรงหน้าด้วยอารมณ์จวนเจียนจะคลั่ง พุ่งตัวขึ้นไปคร่อมทะเลจันทร์ทั้งตัว ก้มลงจูบแผ่นหลังเนียนพลางสอดนิ้วของตัวเองเข้าไปเพิ่ม

“อ๊ะ..อา..” คนด้านใต้ครางอย่างรู้สึกดี เขาไม่รู้สึกเขินอายที่ทำแบบนี้ต่อหน้าทะเล เพราะตนก็ไม่ใช่สาวน้อยวัยใสที่ต้องเหนียมอายอะไร

“ดีไหมครับ” ทะเลถาม ขยับนิ้วเสียดสีกับช่องทางร้อน

“ดี..อ๊ะ..ดีมากเลย” ทะเลจันทร์มือสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ จนทะเลบอกว่าให้เอาออกเขาถึงได้หยุด ร่างกายผอมบางทรุดตัวลงกับเตียงโดยยังยกบั้นท้ายโก้งโค้งอยู่อย่างนั้น

ทะเลเพิ่มนิ้วที่สองเข้าไปนวดคลึงไม่นานนักก็เพิ่มเข้าไปอีกนิ้ว จนรับรู้ได้ว่าช่องทางของอีกฝ่ายพร้อมที่จะเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วถึงถอนนิ้วออก ทะเลก้มตัวกดจูบที่หัวไหล่ขาว

“ผมขอเข้าไปนะครับ..”

“ไม่ต้องขอก็ได้..” จันทร์บอกเสียงแผ่ว ขยับสะโพกไปมาจงใจให้ถูกับส่วนนั้นของอีกฝ่าย “เขามาเถอะ”

“พี่นี่มัน…” ทะเลพูดไม่ออก เขาจัดการส่งน้องชายเข้าไปตอบสนองอารมณ์ของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนที่สุด ถึงแม้ส่วนลึกเขาจะปรารถนาในตัวอีกคนมากแค่ไหนก็ตาม

ทะเลจันทร์กัดปาก ความเจ็บแล่นจี๊ดขึ้นมาตามไขสันหลัง เพราะเขาไม่ได้ใช้งานมันมานานร่วมเดือน แต่เขารู้ดีอยู่แล้วว่ามันจะเจ็บแค่ไม่นาน..เดี๋ยวก็รู้สึกดีเอง

“สุดยอด..พี่รัดผมแน่นไปหมดเลย” ทะเลดึงตัวของจันทร์ขึ้นมากอด ปลายนิ้วดันคางของอีกฝ่ายให้หันมารับจูบ เขาตั้งใจจะไม่ขยับกายจนกว่าทะเลจันทร์จะปรับช่องทางเคยชินกับขนาดของเขาก่อน

ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามเรือนกายขาวสวยที่เขาหลงใหล สูดดมกลิ่นกายหอมตามซอกคอและลาดไหล่บาง

“ขยับเถอะ..ฉันทนไม่ไหวแล้ว” คนอายุมากกว่าบอก สะโพกเล็กเป็นฝ่ายโยกขยับเมื่อทะเลไม่ทำสักที

เส้นความอดทนของทะเลขาดผึง สะโพกขยับขับเคลื่อน..แม้ไม่รุนแรงแต่ก็หนักหน่วง ขนาดของมันลึกถึงจุดกระสันภายในของจันทร์ มือบางกำผ้าปูที่นอนแน่นพร้อมกับกรีดร้องเสียงแหลม

..เขาไม่ได้เจ็บ..แต่รู้สึกดีจนเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่..

“ทะเล..ทะเล..” จันทร์เรียกเสียงกระเส่า

“ครับ”

“ฉัน..อยากเห็นหน้าเธอ”

ทะเลจับกายผอมบางค่อย ๆ พลิกหงายอย่างง่ายดาย เขาทั้งคู่สบตาก่อนจะโผเข้าจูบกันอย่างลึกซึ้ง เด็กหนุ่มหยัดตัวขึ้นจับขาเพรียวพาดบ่าแล้วบรรเลงเพลงรักต่อ

“จะเสร็จ..จะเสร็จแล้ว” ทะเลจันทร์บอกเสียงแผ่ว “แรงอีกหน่อยได้ไหม”

ทะเลทำตามคำขอ แต่ก็ไม่กล้าใส่แรงเกินไป...เพราะขนาดตัวที่แตกต่างกันพอสมควรเลยกลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บตัว เขามองร่างบางที่กระเทือนจากแรงกระแทกของเขา

นึกไปถึงครั้งแรกที่ได้เจอกันเขารู้สึกว่าทะเลจันทร์ราวกับแก้วคริสทัลที่ทั้งบอบบางและแตกหักง่าย...แม้ในตอนนี้เขาก็ยังคงรู้สึกแบบนั้นไม่เปลี่ยน

..ทะเลจันทร์ของเขาทั้งตัวเล็กและบอบบางสำหรับเขาเหลือเกิน..

“กอด..กอดหน่อย” จันทร์ร้องขออีกครั้ง และเด็กหนุ่มก็ทำให้อย่างไม่อิดออด เขาใช้ฝ่ามือทั้งสองจับใบหน้าของทะเลไว้แล้วจูบเบา ๆ

..อยากให้ทะเลรับรู้ได้ถึงความรักที่เขามีให้..

“ขอปล่อยในตัวพี่ได้ไหม” เจ้าตัวเอ่ยถาม..ถึงพวกเขาจะพากับไปตรวจเลือดเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่มันทำความสะอาดยาก

“ไม่ต้อง..ปล่อยมาเลย”

เมื่อได้รับอนุญาตทะเลก็เร่งจังหวะเร็วขึ้น บทรักครั้งนี้หนักและเหนื่อยจนคนอายุมากกว่าไม่มีเสียงจะร้องออกมา เมื่อความอุ่นร้อนรินหลั่งเข้ามาในกาย..ทุกอย่างจึงได้สงบลง เหลือไว้แต่เสียงหอบหายใจ

ทะเลยังคงนอนทับและไม่ขยับกายออกจากทะเลจันทร์พักใหญ่ จนเสียงลมหายใจเบาลงเขาถึงขยับถอนตัวออก “ผมรักพี่นะ” เขาบอกก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ผุดพรายออกมาตรงขมับ

“ฉัน..ก็รักเธอ…”

ทะเลเบิกตากว้าง เด็กหนุ่มดันตัวขึ้นมองใบหน้าที่กำลังยิ้มบาง แววตาสั่นไหวราวกับจะร้องไห้ “พี่..ผมหูฟาดหรือเปล่า” เขาพูดเสียงสั่น “พี่..บอกอะไรผม..พูดอีกได้ไหม”

ทะเลจันทร์ประคองใบหน้าคมด้วยฝ่ามือทั้งสองข้าง “ฉันรักเธอ” เขาพูดย้ำก่อนจะกดจูบอีกครั้ง..และอีกครั้ง “ได้ยินหรือยังทะเล..ว่าฉันรักเธอ”

“ได้ยิน..” เด็กหนุ่มน้ำตาซึม “ในที่สุดผมก็ได้ยิน..จากพี่..”

“ร้องไห้อีกแล้ว~” จันทร์ว่ากลั้วหัวเราะ

“ก็ผมดีใจนี่”

คนอายุมากกว่าไม่ได้พูดอะไรต่อ มือขาวยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้เด็กหนุ่มด้านบน “ขอโทษที่ทำให้เธอต้องรอนานนะ..ขอโทษที่ทำให้เจ็บปวดมาตลอด”

ทะเลเบะปากก่อนจะทิ้งตัวนอนทับทะเลจันทร์จนร้องโอ๊ยดังลั่น

“มันหนักโว้ย!” จันทร์พยายามดิ้นหนี

ทะเลกอดจันทร์แล้วพลิกให้อีกฝ่ายอยู่ด้านบน ฝ่ามือใหญ่ลูบแก้มเนียน “บอกรักผมแล้ว..ต้องรับผิดชอบผมด้วยนะ”

จันทร์กระตุกยิ้มมุมปาก “รู้แล้วน่า”

“อย่าคิดจะทิ้งผมอีกล่ะ”

“..อืม” จันทร์ตอบอย่างไม่เต็มปากนัก

“ตอบดี ๆ สิครับ..พี่จะไม่ทิ้งผมใช่ไหม”

ทะเลจันทร์ยิ้มบาง “ฉันจะไม่ทิ้งเธอ”

..เขาน่ะไม่คิดจะทิ้งหรอก แต่ถ้าทะเลอยากจะไป...เขาก็พร้อมที่จะปล่อยไปอย่างที่เคยคิดเอาไว้ตั้งแต่แรก..


.
.
.


ทะเลมักจะพาจันทร์ไปออกกำลังกายในสวนอยู่บ่อย ๆ แต่กว่าที่คนอายุมากกว่าจะยอมไปด้วยนั้น..ก็แทบจะรากเลือดเลยทีเดียว

“ทำไมจะต้องบังคับให้ฉันไปออกกำลังกายด้วยเนี่ย!” จันทร์มักจะแว้ดใส่เขาเป็นประจำเวลาเหนื่อย

“ก็ผมอยากให้พี่แข็งแรง” ทะเลว่ายิ้ม ๆ ในขณะที่มือถือกล้องเอาไว้ถ่ายในขณะที่อีกคนออกกำลังกาย

“แล้วทำไมเธอไม่มาออกด้วยกัน ทำไมต้องเป็นฉันคนเดียว ห๊า!”

ทะเลหัวเราะร่วนยามถูกโวยวายใส่ “คนเดียวที่ไหนครับ เพื่อนเยอะแยะ”

จันทร์หันไปมองรอบ ๆ ลานเต้นแอโรบิก มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น เขาแทบจะเป็นผู้ชายคนเดียวอยู่ในลานนี้เลย เอาจริง ๆ เขาเป็นคนที่เกลียดการออกกำลังกายมาก เพราะมันทั้งร้อนและเหนื่อย

แต่ในเมื่อชีวิตในตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งจำเป็น เวลาที่เหนื่อย ๆ จันทร์เลยชอบที่จะใส่อารมณ์กับทะเล แต่มันเป็นการกระทำสนุก ๆ มากกว่า ไม่ได้จริงจังแต่อย่างใด

“ไปครับ เขาเริ่มอีกรอบแล้ว” ทะเลบอก

ใบหน้าสวยของอีกฝ่ายงอง้ำ แก้มขาวใสที่ปกติแล้วจะดูซีดกลับมีเลือดฝาด ผมที่เริ่มยาวถูกรวบไว้ ปอยผมที่หลุดออกมาเปียกแนบไปกับใบหน้าและลำคอ เขาเก็บภาพนี้ไว้เยอะมาก แถมยังมีไฟล์วิดีโออีกด้วย

“จะถ่ายอะไรนักหนา!” ทะเลจันทร์โวยวายใส่ทะเลจนป้า ๆ ที่อยู่รอบข้างหันมามองแล้วยิ้มให้

เด็กหนุ่มได้แต่หัวเราะตอบไป แต่ก็ไม่หยุดพฤติกรรมนี้ เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาถ่ายต่อไป ใบหน้าหล่อยิ้มแย้มอย่างมีความสุข

จันทร์ที่เห็นแล้วว่าทะเลคงไม่หยุดแน่นอน หันไปสนใจการออกกำลังกายเหมือนเดิม ที่เขาไม่ชอบการออกกำลังกาย เพราะไม่เห็นคุณค่าของการที่จะต้องมาเหนื่อยกับอะไรแบบนี้ ทั้งร้อนและเหงื่อเต็มตัว

..แต่พอทะเลบอกว่ามันดีกับสุขภาพ เขาก็กลับเชื่อมันง่าย ๆ ซะอย่างนั้น..

พอได้มาออกกำลังกายเป็นสัปดาห์ที่สองพร้อม ๆ กับรับยา นั่นก็ทำให้เขาคิดว่ามันก็ไม่เลวเหมือนกัน เขาขยับร่างกายได้ดีขึ้น ไม่ค่อยติดขัดเหมือนสองอาทิตย์ก่อนสักเท่าไหร่แล้ว

“แฟนหรือจ๊ะ”

จันทร์หันไปตามเสียง คนที่ถามเขาเป็นคุณป้าที่กำลังเต้นอยู่ข้าง ๆ ขยับแขนขาไปตามเพลงโดยไม่ต้องมองเลยด้วยซ้ำ

“เอ่อ….ไม่ใช่ครับ แค่น้องเฉย ๆ” เขาตอบพร้อมกับยิ้มแห้งและหันไปสนใจมองคนนำเต้นบนเวทีต่อ

“ป้าว่า...ไม่น่าใช่น้องธรรมดานะ”

“น้องครับ”

“แหม~ไม่ต้องปิดก็ได้จ้ะ สมัยนี้เขาไม่ถือกันแล้ว”

จันทร์ยิ้มแหย ก่อนจะหันไปตั้งใจออกกำลังกายตามเดิม เขาไม่ชอบที่จะตอบเรื่องส่วนตัวกับคนแปลกหน้า และเมื่ออีกฝ่ายตั้งคำถามต่อเขาก็ตอบแค่ว่า ‘ขอตัวก่อนนะครับ’ แล้วปลีกตัวเดินออกมาพร้อมกับใบหน้ามุ่ย

ทะเลที่เห็นอีกฝ่ายเดินออกมาจากกลุ่มทั้งที่ยังเต้นกันไม่จบก็วิ่งเข้าไปหา “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”

“เจอคนนิสัยไม่ดีน่ะ...ไปกันเถอะ” จันทร์ตอบพร้อมกับดึงข้อมือหนาของอีกคนให้เดินตาม

เด็กหนุ่มไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่คิดว่าการเต้นแอโรบิกคงไม่ใช่ทางสำหรับอีกฝ่ายแล้ว เพราะถ้ามองจากความเป็นจริง พี่จันทร์เองก็ไม่ใช่คนที่เข้ากับคนง่าย แล้วที่ที่คนเยอะแบบนี้มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสมาคมกับคนอื่น ๆ

ทะเลหยุดเดินพร้อมกับดึงคนอายุมากกว่าให้หยุดเช่นกัน

“ถ้าพี่ไม่ชอบแอโรบิก เราเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นดีไหม”

“อะไรล่ะ”

“ถ้าพี่ชอบที่เงียบ ๆ เราลองเปลี่ยนไปเป็นโยคะก็ได้นะ”

จันทร์เบะปาก “เราบ้าอะไรล่ะ มีแต่ฉันคนเดียวที่ออกกำลังเนี่ย”

“เอ้า อยากให้ผมทำด้วยเหรอ”

จันทร์มองอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง ด่ามันจนปากเปียกปากแฉะแล้วว่าทำไมต้องเป็นเขาคนเดียวที่ออก ทีนี้ยังมีหน้ามาพูดย้อนตนหน้าเป็นอีก มันน่าตบหัวสักป้าบไหม

“โถ่ อย่าโกรธผมเลยนะ” ทะเลว่าเสียงอ่อน ขยับตัวเข้าไปใกล้ คว้ามือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายขึ้นมากุมไว้ “เอางี้ ต่อไปถ้าพี่อยากออกกำลังกายหรือทำอะไรผมก็จะทำเป็นเพื่อนด้วย ดีไหมครับ”

“จริงนะ” จันทร์ย้อนถามหน้านิ่ง และเมื่อทะเลพยักหน้าจันทร์ก็ยิ้มกว้าง

“พี่ก็รู้ว่าผมน่ะตามใจพี่เสมอ”

จันทร์เอื้อมมือไปลูบหัวของเด็กหนุ่มที่อยู่สูงกว่า “เด็กดี”

ทะเลยิ้มพลางเอาหัวดุนมืออีกฝ่าย

“หมาน้อยของฉัน” จันทร์บอกเมื่อเห็นทะเลทำแบบนี้

“เหรอครับ” เด็กหนุ่มทำตาวิบวับ ขยับหน้าเข้าไปกระซิบ “แต่พี่ไม่ชอบท่าหมานี่นา”

จันทร์ถลึงตาโต “ไอ้เด็กเวร!”

“โอ๊ย!” ทะเลร้องเมื่อถูกหยิกเข้าที่เอว

“ไม่ยุ่งด้วยแล้ว” ร่างบางเดินหนี “ห้ามเดินตามมานะ” จันทร์ว่าชี้หน้า

“ไม่ให้ผมตามแล้วพี่จะกลับยังไง..จะนอนที่นี่เหรอครับ” ทะเลเดินตามถามเสียงทะเล้น

คนอายุมากกว่าหยุดเดิน หันกลับมาทำตาขวาง ก่อนจะเตะเข้าให้ที่หน้าแข้งจนทะเลทรุดตัวลงกุมตำแหน่งที่ถูกทำร้าย “รอที่รถ!”

“พี่! เดี๋ยว!” ทะเลตะโกนเรียก แต่อีกฝ่ายก็ไม่หันมาเลย เขารอให้อาการเจ็บทุเลาถึงเดินตามไป ทะเลหลุดยิ้มเมื่อนึกถึงอาการเขินของคนรัก

..ทีงี้มาทำเป็นอาย..เวลาขึ้นเตียงล่ะก็ถึงไหนถึงกันลืมอายไปเลยแท้ ๆ..




tbc…
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
 :L2:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ กานดา.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
    • facebook page




20




หลังจากที่ได้ปรับความเข้าใจกับจันทร์ไป เล็กก็กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีเบญเข้ามาในชีวิต

พวกเขายังไม่ได้ตกลงคบกันแบบจริงจัง สถานะในตอนนี้เรียกว่ายังเป็นเพื่อนกันอยู่ เป็นครั้งแรกที่เล็กเปิดใจว่าจะลองศึกษาใคร ตอนนี้ก็เลยยังคงทำตัวไม่ถูกสักที..

ปัญหาใหญ่ของพวกเขาก็คือการที่สื่อสารไม่ได้อย่างใจคิดนี่แหละ แต่เบญก็ไม่เคยย่อท้อกับเรื่องนี้ อีกฝ่ายพยายามเรียนรู้ภาษามืออย่างตั้งอกตั้งใจ มีการไปเรียนแล้วมาทดลองใช้กับเขาอีก

ในตอนยังเด็กเล็กไม่ได้รู้จักอีกฝ่ายดีพอก็แยกกันเสียก่อน ภาพจำของเขามีแค่...เบญคือคนที่ขโมยจูบแรกของเขาไป
ผ่านไปยี่สิบปี...พวกเราทุกคนต่างเติบโตขึ้นมากน้อยแตกต่างกันไป

เบญในสายตาของเขาเปลี่ยนไปมาก อีกฝ่ายดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น อาจจะเพราะผ่านอะไรมาเยอะ เขารู้ว่าเบญเคยผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว และตอนนี้ก็มีลูกสาวหนึ่งคน ชื่อน้องบัว อายุสองขวบ

ครั้งแรกที่ได้รู้ว่าเบญหย่ายังไม่ตกใจเท่ากับว่ามีลูกแล้ว เล็กกลัวจะมีปัญหาตามมา...แต่เบญก็บอกกับเขาว่าอย่าไปคิดกับสิ่งที่ยังไม่เกิด ซึ่งเขากลับมาคิดดูแล้วมันก็จริงอย่างที่อีกฝ่าว่า โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน..คนที่เกิดมาไม่มีอะไรผิดปกติอย่างเขายังป่วยจนสูญเสียการได้ยิน เพราะฉะนั้นเรื่องที่เขากลัวว่ามันจะไม่ดี...อาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ และเขาก็ยังอยู่ในระยะเรียนรู้ กับเบญนั้น..ถ้ามันไม่ใช่จริง ๆ ก็แค่โบกมือลากันก็เท่านั้นเอง

.
.
.

ผ่านมาสี่เดือนแล้วที่ทั้งสองคนตกลงจะเรียนรู้กัน เบญมักจะไปรอรับเล็กที่ทำงานกลับไปส่งบ้านเป็นประจำ เวลาว่างก็มักจะพากันไปทานข้าวหรือไปในที่ที่เล็กอยากไป เบญไม่ได้ทำงานประจำ เขาทำงานกับครอบครัว เลยทำให้มีเวลาว่างไปมาหาสู่กับเล็กอยู่เสมอ

เล็กออกไปนอกบ้านบ่อยขึ้นจนพ่อกับแม่รู้สึกผิดสังเกต เพราะปกติลูกชายคนเดียวมักจะอยู่บ้าน ถ้าออกไปข้างนอกก็จะมีเพื่อนมารับ หรือไม่อย่างนั้นก็จะให้คนขับรถที่บ้านพาออกไป

‘วันนี้จะออกไปไหนจ๊ะ’ แม่ถาม

เล็กที่กำลังจะมาบอกว่าจะออกไปข้างนอกขยับมือตอบ ‘จะออกไปซื้อหนังสือครับ’

‘ไปกับใครเหรอ’

เล็กคิดมาสักพักแล้วว่าจะบอกครอบครัวเรื่องของเบญ ไหน ๆ แล้วก็บอกมันตอนนี้เลยละกัน ‘ไปกับเพื่อนครับ เป็นคนที่กำลังคุย ๆ กันอยู่’

แม่ตาโตขึ้น ‘ใครเหรอ แม่รู้จักไหม’

‘แม่ไม่รู้จักหรอกครับ’ เล็กยิ้มขำกับความตื่นเต้นของแม่ ‘เรากำลังอยู่ในระยะที่เรียนรู้กันและกันอยู่ ตอนนี้ยังไม่ได้คบกันจริงจังครับ’

‘พามาเจอแม่หน่อยสิ’

‘เล็กจะบอกเขาให้นะครับ’

คนเป็นแม่เข้าไปกุมมือของเล็กเอาไว้ เธอดีใจที่เล็กมีใครสักที ถึงจะไม่เคยบอกให้ลูกหาแฟนสักคน แต่ลึก ๆ แล้วคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็แอบกังวลใจ กลัวว่าถ้าสักวันหนึ่งไม่มีชีวิตอยู่บนโลกแล้วจะมีใครอยู่เคียงข้างลูกของตนไหม

.
.
.

ไม่นานเกินรอเบญก็มานั่งเกร็งอยู่ที่ห้องรับแขกในบ้านของเล็ก หลังจากที่อีกฝ่ายส่งข้อความมาบอกว่า ‘แม่อยากเจอ’

..ไม่ทันได้เตรียมใจว่าจะต้องเจอครอบครัวของเล็กเร็วขนาดนี้..

“สวัสดีครับ” เบญลุกขึ้นยืนเมื่อเล็กพาแม่เข้ามา ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม

“สวัสดีจ้ะ” ท่านรับไหว้พร้อมรอยยิ้มกว้าง “ชื่อเบญใช่ไหมจ๊ะ”

“ครับผม” เขาตอบพร้อมกับนั่งหลังจากที่แม่ของเล็กเป็นฝ่ายนั่งก่อน

“กินอะไรมาหรือยังคะ”

“ยังครับ ว่าจะพาเล็กไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน”

เล็กที่มองสลับไปมาระหว่างแม่กับเบญพยักหน้ายิ้ม ๆ เมื่อถูกพูดถึง เขาจับใจความไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็พอจะรู้ว่าทั้งคู่พูดอะไรกัน
แม่จ้องเบญอย่างพิจารณา เพื่อนของลูกชายคนนี้มารยาทดี สุภาพเรียบร้อย แถมยังรูปร่างหน้าตาดีอีก เมื่อสำรวจจนหมดแล้วแม่จึงหันไปสบตากับลูกชายก่อนจะพยักหน้ายิ้ม ๆ พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้

เล็กปิดปากหัวเราะแบบไม่มีเสียงให้กับความขี้เล่นของแม่ ในขณะที่เบญทำตัวไม่ถูกตั้งแต่โดนจ้องตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว เขายิ้มแห้งเมื่อแม่ของเล็กหันมายิ้มให้อีกครั้ง

“แม่ขอถามตรง ๆ เลยนะจ๊ะ”

เบญพยักหน้า “ครับ”

“เบญชอบลูกชายของแม่ใช่ไหมจ๊ะ”

เบญพยักหน้าตอบด้วยเสียงหนักแน่น “ใช่ครับ”

“มากไหม”

เขาพยักหน้าอีกครั้งพร้อมกับตอบอย่างจริงจัง “มากครับ”

ถามตอบกันอย่างฉะฉานจนเล็กอ่านปากไม่ทัน เจ้าตัวมองสลับไปมาระหว่างแม่กับเบญขมวดคิ้วเอียงคอเกาหัวแกรก ๆ
คนเป็นแม่พยักหน้าช้า ๆ รู้สึกพึงพอใจขึ้นอีกหนึ่งระดับ “แล้วรับเรื่องที่เล็กเป็นได้แน่เหรอจ๊ะ ไม่ใช่ว่านานวันไปเธอจะเบื่อและทอดทิ้งลูกของแม่นะ”

เบญคลี่ยิ้มบางก่อนจะตอบ “ผมเจอกับเล็กครั้งแรกที่โรงเรียนกวดวิชาเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว..ผมรู้สึกชอบเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น น่าเสียดายที่ต้องแยกกันไป ตอนนี้ผมได้กลับมาเจอเขาอีกครั้ง..ความรู้สึกของผมยังคงเดิม..และผมก็หลงรักเขามากขึ้นในทุก ๆ วันที่ได้พบกันครับ”

คนเป็นแม่นิ่งเงียบไปเมื่อได้ฟังความในใจของชายตรงหน้า รู้สึกประทับใจจนพูดอะไรไม่ออก

“ว้าว~” เธอยกมือขึ้นแนบแก้มร้อนของตัวเอง “แม่ล่ะเขินแทนลูกชายของแม่เลย”

เบญหัวเราะแห้งเกาต้นคอแก้เขิน หันไปที่เล็กก็เห็นตากลมฉายแววสงสัยออกมาอย่างปิดไม่มิด

เจ้าตัวเขย่าแขนมารดาแล้วขยับมือถาม ‘คุยอะไรกันเหรอครับ’

‘เบญบอกว่าเขาชอบหนูมาก ๆ หลงรักหนูอย่างหัวปักหัวปำเลยจ้ะ’

เล็กหน้าร้อนวูบ หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาจากอก ก่อนจะหันไปถลึงตามองอีกฝ่ายประหลับประเหลือก ข้อหาพูดอะไรให้แม่ของเขาฟังก็ไม่รู้!

“แล้วเบญทำงานทำการอะไรอยู่เหรอจ๊ะ” แม่ถามต่อ เธอเองก็ไม่อยากละลาบละล้วงเรื่องของใคร แต่กับคนที่เข้าหาเล็ก ก็ต้องแน่ใจว่าสามารถดูแลลูกชายคนเดียวของเธอได้อย่างสบาย

“ทำกิจการของที่บ้านครับ เป็นบริษัทนำเข้ารถยนต์”

แม่พยักหน้ารับรู้ แค่นี้ก็พอใจแล้ว เธอเป็นคนที่มองคนออก ผู้ชายคนนี้ถึงภายนอกจะดูเกร็งอยู่บ้าง แต่กลับพูดจาฉะฉานด้วยสายตาที่แสดงถึงความเด็ดเดี่ยวจริงใจที่มีต่อเล็กลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ

“คือ…”

“มีอะไรก็พูดมาได้เลยจ้ะ” แม่บอก

“ไม่รู้ว่าคุณป้า..”

“เรียกว่าแม่เถอะ”

“ครับ...ไม่รู้ว่าคุณแม่จะรังเกียจไหมที่ผมเคยมีครอบครัวมาก่อน ตอนนี้ผมหย่ากับภรรยามาได้หนึ่งปี แล้วก็มีลูกสาวอายุสองขวบที่ผมต้องดูแลด้วยครับ”

ระหว่างที่เบญบอกเล่า คราแรกเขาก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ชอบเรื่องที่เขาเคยล้มเหลวกับชีวิตคู่..แถมยังมีลูกน้อยอีก แต่แม่ของเล็กยังคงยิ้มและมองเขาด้วยความเอ็นดู...นั่นทำให้เบญรู้สึกใจชื้นขึ้นมาไม่น้อย

“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก คนเราทุกคนล้วนมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็เพียงพอ ตัวเราเองจะได้ไม่ต้องรู้สึกแย่หรือเสียใจภายหลัง อีกอย่าง...ถ้าในอนาคตเบญได้คบกับเล็กจริง ๆ แม่ก็โชคดีได้มีหลานเลยนะเนี่ย” แม่พูดจบก็ขำคิกคัก

“หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะครับ” เบญยิ้มแห้ง ก็จนป่านนี้แล้วพวกเขายังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องคบเป็นแฟนกันเลยสักครั้ง

“มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ” แม่ว่าก่อนจะป้องปากทำทีเป็นแอบพูด “ถ้าเล็กเขาไม่มีใจก็คงไม่พาเบญมาให้แม่รู้จักหรอกนะจ๊ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกแม่พาใครมาแนะนำกับแม่เลยนะ”

เบญยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำบอกนั้น เขาคิดมาตลอดว่าเล็กจำยอมรับคำขอเขาเพราะความใจดีของอีกฝ่าย มันทำให้เขาไม่กล้าขออะไรที่มากเกินไปกว่านี้

ในตอนนี้เขารู้สึกมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น และต่อจากนี้ไปจะเริ่มเดินหน้ารุกอย่างจริงจัง อายุขนาดนี้แล้วมามัวรออดเปรี้ยวไว้กินหวานก็ดูท่าจะไม่ไหว

..แต่ดูแล้วเขาคิดว่าเล็กน่าจะหวานมากทีเดียว..

.
.
.

เล็กกับเบญส่วนใหญ่จะคุยกันผ่านโปรแกรมแชต และวันนี้เบญได้ชวนเขาไปเที่ยวงาน pet expo ที่เพิ่งจัดขึ้น ซึ่งเขาก็ตอบตกลงทันที และอีกฝ่ายก็ได้ขอในสิ่งที่เขาไม่เคยนึกถึงมาก่อน

‘ผมขอพาลูกไปด้วยได้ไหม’

เขาเคยเห็นรูปของน้องบัวที่เบญโชว์ให้ดู แต่ไม่เคยเจอกันมาก่อน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเจอหรอกนะ เพียงแต่ว่าเขาไม่คุ้นเคยกับเด็ก ๆ เพราะรอบตัวไม่มีเด็กอยู่เลยสักคน

เล็กไม่ตอบกลับในทันที เขาสลับหน้าจอค้นหาคำว่า ‘เด็กสองขวบ’ อยากรู้ว่าสองขวบนี่เด็กขนาดไหน สามารถสื่อสารหรือทำอะไรได้บ้างแล้วหรือยัง เขาอยากรู้ว่าควรจะทำตัวกับเด็กในวัยนี้ได้มากน้อยแค่ไหน

‘ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไร ผมไม่ว่าอะไรหรอก’

‘แค่อยากพาลูกไปเที่ยวด้วยกัน แกชอบสัตว์มาก’

เล็กรีบตอบกลับ ‘ผมไม่ได้ลำบากใจนะ เมื่อกี้ไปเสิร์ชหาข้อมูลเรื่องเด็กสองขวบมาน่ะ กลัวว่าบัวจะไม่ชอบผมมากกว่า’

‘อย่ากังวลไปเลย ลูกผมน่ารักนะ’

อีกฝ่ายบอกพร้อมกับแนบรูปเด็กผู้หญิงใส่ชุดเอี๊ยมสีเหลือง แก้มยุ้ย ตากลมโต ยังมองไม่ออกว่ามีส่วนไหนที่เหมือนเบญ

‘น่ารักมาก ทำไมไม่เห็นเหมือนพ่อเลย’

‘ผมไม่น่ารักจริง ๆ เหรอ’

เล็กหัวเราะกับสติ๊กเกอร์ร้องไห้ของอีกฝ่าย เขาเลยส่งกระต่ายหัวเราะกลับไปบ้าง

‘เพราะผมไม่น่ารักคุณเลยยังไม่รักผมสินะครับ’

นาน ๆ เบญจะหยอดเล็กสักที เล่นเอาใบหน้าขาวขึ้นสี ก้อนเนื้อในอกเต้นไม่เป็นจังหวะ ฝ่ามือขาวยกขึ้นลูบแก้มเมื่อรู้สึกว่าตัวเองยิ้มกว้างเกินไปแล้ว

‘ไม่ใช่อย่างนั้น’

‘เล็ก’

‘คุณรู้สึกรักผมขึ้นมาบ้างหรือยัง’

คนถูกถามเม้มปาก ดวงตาหวานจดจ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์นานสองนาน เล็กถามตัวเองว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไรกับเบญ

‘ผมชอบคุณนะ’

‘แต่มันยังไม่ถึงขั้นนั้น’

เล็กยังไม่ทันที่จะพิมพ์อีกประโยคเสร็จ อีกฝ่ายก็พิมพ์ประโยคเดียวกันส่งมาต่อกัน

‘ผมขอโทษ’ เล็กบอกกับอีกคนด้วยความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นมาจนแน่นไปทั้งช่องอก

‘ไม่ต้องขอโทษผมหรอก อย่าคิดมากเลย’

ยิ่งเบญบอกแบบนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกแย่ เล็กรีบกดวิดีโอคอลไปหาอีกฝ่ายทันที ไม่นานอีกฝั่งหนึ่งของสายก็กดรับ

เล็กจ้องมองเบญตาละห้อย...ไม่รู้จะสื่อสารกับอีกฝ่ายอย่างไร เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถบอกความในใจกับเบญได้อย่างใจ

ใบหน้าหล่อเห็นคนที่ชอบใบหน้าหงอยลงก็พยายามฝืนยิ้มออกมา เขาใช้นิ้วแตะเลื่อนจอให้มันเล็กลงก่อนจะพิมพ์ข้อความลงไป

‘อย่าห่วงเลย ผมไม่เป็นไรหรอก’

เล็กกดอ่าน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบดวงตาเศร้าของเบญ รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามที่จะไม่แสดงความผิดหวังให้เห็น

‘ขอถามหน่อยได้ไหม’

‘ทำไมถึงชอบผมเหรอ’

เขาไม่เห็นว่าตัวเองจะมีข้อดีตรงไหนเลย ทั้งหูหนวก..เป็นใบ้ แถมยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก เบญควรจะหาผู้หญิงสักคนที่เป็นแม่ศรีเรือน พร้อมที่จะดูแลอีกฝ่ายและลูกน้อย

‘ตั้งแต่ที่ได้เจอกันครั้งแรกแล้ว’

‘เล็กนิสัยดี น่ารัก’

‘ยิ้มสวย’

‘ผมเองก็บอกไม่ถูก’

‘แต่ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหน คุณเป็นคนที่อยู่ในใจผมมาโดยตลอด’

‘เมื่อยี่สิบปีที่แล้วผมชอบคุณยังไง ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม’

คนถามไล่อ่านทุกตัวอักษรจนจบ ใบหน้าขาวร้อนไปหมด ตากลมเหลือบมองเบญที่กำลังมองมาที่เขาเหมือนกัน เล็กหลบตาวูบ...หัวใจเต้นแรงขึ้นอีก มือบางยกขึ้นแตะหน้าอกด้วยความตกใจ

แย่แล้ว...เขาจะเป็นโรคหัวใจหรือเปล่าเนี่ย รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจจะหยุดเต้น สายตาจริงจังของเบญทำเอาเล็กสั่นไปหมดทั้งหัวใจและร่างกาย

‘เป็นอะไรหรือเปล่า’

เล็กส่ายหัวแรง ทั้งที่ยังก้มหน้า ไม่..เขาไม่กล้าเงยหน้ามองอีกคนเลย

‘ท่าทางคุณไม่ดีเลย ผมเป็นห่วงคุณจริง ๆ นะ’

เล็กเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายให้เต็มตา บางที...เขาอาจจะรู้สึกกับเบญมากกว่าที่ตัวเองคิดเอาไว้ แค่ยังไม่อยากยอมรับเท่านั้นเอง

‘ผมคิดว่า’

‘ผมน่าจะรักคุณเข้าแล้วล่ะมั้ง’

เล็กเห็นสายตาตกตะลึงของอีกฝ่ายที่มองมา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มบาง นั่นยิ่งทำให้เขาหน้าร้อนมากขึ้นอีก

‘หน้าแดงหมดแล้ว’

‘เพราะใครกันล่ะ’

‘เพราะผมเองครับ’

เล็กเม้มปากกลั้นยิ้ม ดวงตากลมกะพริบมองสบตาอีกฝ่ายสลับกับเบนหนีไปด้วยความเขิน

‘จะมองอะไรนักหนา’

‘ก็เล็กน่ารัก’

‘บ้า ไม่มีผู้ชายอายุ 35 ที่ไหนน่ารักหรอก’

‘เล็กไง’

เล็กมองเบญด้วยใบหน้ายู่อย่างขัดใจ ที่ผ่านมามักจะมีแต่คนบอกว่าเขาน่ารัก แต่ยังไงเขาก็ผู้ชาย..ไม่ได้ชอบใจสักเท่าไหร่หรอกที่ถูกชมว่าน่ารัก แล้วอายุก็เข้าสู่เลขสามกลาง ๆ เข้าไปแล้ว ตีนกาก็เริ่มมาเยือนแบบนี้ จะเอาอะไรมาน่ารักอีก

‘เป็นแฟนผมนะ’

เล็กอ่านทวนประโยคที่เพิ่งถูกส่งมาซ้ำอยู่สามรอบถ้วน ใบหน้าค่อย ๆ เงยขึ้นมองเบญ อ่านปากของอีกฝ่ายได้ความเหมือนเดิม

..เป็นแฟนผมนะ..

เขาพยักหน้าตอบอย่างไม่ลังเลเลย

‘มาขอเป็นแฟนกันอย่างกับวัยรุ่น’ เล็กว่าพร้อมกับยิ้มขำ

‘ความรักจะมักทำให้คนเราทำตัวเหมือนเป็นวัยรุ่นได้เสมอนั่นแหละ’

เล็กหัวเราะไม่มีเสียงกับประโยคโบราณของอีกฝ่าย ‘เหมือนที่เพลงพี่เสกบอกไว้น่ะเหรอ เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอน 14 ตอนที่ฉันมีแฟนคนแรก’

‘ตอน 14 ผมยังไม่มีแฟนเลย’

เล็กทำหน้าไม่อยากเชื่อ

‘แต่ได้จูบแรกจากคุณตอน 15 นะ’

‘นั่นเขาเรียกว่าขโมยจูบครับ’

เบญเป็นฝ่ายหัวเราะบ้าง ไม่แก้ตัวอะไรเพราะนั่นก็เป็นเรื่องจริง รู้สึกขอบคุณเล็กด้วยซ้ำที่ไม่คิดถือโทษ เขาบอกให้อีกฝ่ายไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเที่ยวในวันพรุ่งนี้

‘น้องบัวจะโอเคกับผมจริง ๆ ใช่ไหม’ ถามด้วยความกังวล

คนเป็นพ่อยิ้มเอ็นดู ‘เชื่อผมสิว่าทุกอย่างจะโอเค’

เล็กยิ้มบางก่อนจะพยักหน้า มือบางยกขึ้นโบกบ๊ายบายก่อนจะกดวาง น่าแปลกที่เขากลับเชื่ออีกฝ่ายอย่างง่ายดาย อาจจะเพราะว่าเบญคือคนที่เลี้ยงน้องบัวมากับมือ เลยทำให้เข้ารู้สึกเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะโอเคตามที่อีกฝ่ายว่าก็ได้

..เพราะเขาชอบเบญ...เลยอยากให้ลูกของเบญชอบเขาเหมือนกัน..

.
.
.

เช้าวันต่อมาเบญมาตรงตามเวลาที่นัดไว้อย่างพอดีไม่ขาดไม่เกิน เล็กแปลกใจที่วันนี้อีกฝ่ายเปลี่ยนรถอีกคันมารับ ตากลมมองใบหน้าของเบญสลับกับรถที่ไม่ได้ดับเครื่อง

“บัวอยู่ด้านหลัง อยากเจอไหม” เบญเอ่ยถาม

เล็กยิ้มแห้ง ความกังวลฉายชัดบนใบหน้าอ่อนกว่าวัย มือทั้งสองข้างกำสายสะพายกระเป๋าที่พาดบนลำตัวแน่น

ฝ่ามือใหญ่ขยับไปแตะมือขาว เล็กคลายมันออกจากกัน เปิดโอกาสให้เบญกอบกุมมือเอาไว้

“ไม่เป็นไรหรอก เชื่อผมสิ”

เล็กกะพริบตาก่อนจะพยักหน้า เขากระชับมือของตัวเองเข้ากับมือของเบญ เมื่อความกังวลที่มีถูกปัดเป่าออกไป..เขาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น

คุณพ่อลูกหนึ่งเดินนำโดยจับมือเล็กไปด้วยกัน เขาเปิดประตูรถด้านหลัง บัวที่นั่งอยู่บนคาร์ซีทหันมามองคนพ่อตาแป๋ว เบญมุดตัวเข้าไปปลดสายคาดพร้อมกับอุ้มลูกสาวตัวเล็กออกมา

“บัวครับ นี่เพื่อนของพ่อ สวัสดีค่ะสวย ๆ หน่อย”

มือเล็กป้อมยกขึ้นไหว้ “ฉาหวัดดีค่ะ” พูดจบก็ยิ้มแฉ่งจนตาหยีเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว

น่ารักเสียจนเล็กมองดวยสายตาเป็นประกาย ในรูปว่าน่ารักแล้ว..ตัวจริงน่ารักกว่าหลายเท่า เขารู้ได้ทันทีว่าน้องบัวเป็นเด็กดีมากและคงเข้ากันได้ไม่ยาก

เบญแตะมือลงบนไหล่บางที่จ้องมองลูกเขาไม่วางตา เล็กหันกลับมามองเขา “น่ารักไหม”

เล็กพยักหน้ารัว

เบญหยิบมือถือขึ้นมาพูดให้มันพิมพ์เป็นข้อความก่อนจะยื่นให้เล็กอ่าน ‘ผมว่าพาบัวไปสวัสดีคุณแม่หน่อยดีกว่า’

เล็กพยักหน้าอีกครั้งก่อนจะพาสองพ่อลูกเดินเข้าบ้าน พอแม่เห็นว่าเขาเดินเข้ามาพร้อมกับใครท่านก็รีบลุกขึ้น เล็กรู้ว่าแม่เองก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นน้องบัวไม่น้อยไปกว่าเขาหรอก

“ลูกสาวผมเองครับ ชื่อบัว” เบญแนะนำ “สวัสดีค่ะคุณยายหน่อยครับ”

“ฉาหวัดดีค่ะคุนยาย~”

เล็กเหมือนเห็นออร่าสีชมพูแผ่ออกมาจากบัวตัวน้อย ๆ บนอ้อมแขนของพ่อ เธอน่ารักสดใสเสียจนใคร ๆ ก็ต้องหลงรักแน่...รวมถึงแม่ของเขาด้วย

“น่ารักจังเลยลูก” แม่เดินเข้าไปใกล้ “ขอยายอุ้มหน่อยได้ไหมคะ”

บัวมีท่าทางลังเลนิดหน่อย ดวงตากลมโตหันไปมองหน้าบิดาอย่างขอความเห็น

“ให้คุณยายอุ้มหน่อยนะคะ คุณยายใจดีน้า~” คนพ่อหลอกล่อลูกสาว

บัวหันกลับมาโผเข้าหาแม่ของเล็กในทันที อ้อมแขนเล็ก ๆ กอดคอพร้อมกับเอาหน้าซบลงที่ไหล่ผอมบาง กลิ่นตัวหอมและร่างกายนุ่มนิ่มของบัวทำให้แม่ของเล็กที่ไม่ได้ใกล้ชิดเด็กมานานใจอ่อนระทวยไปหมด เธอหันไปมองลูกชายคนเดียวด้วยสายตาสั่นไหว

..บอกตามตรง อย่าหาว่ารวบรัดเลย เธออยากให้เบญกับเล็กย้ายมาอยู่ด้วยกันเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ..

“วันนี้แต่งตัวสวย ๆ จะไปไหนคะ”

“เที่ยวค่า” บัวตอบน้ำเสียงร่าเริง

เล็กกับเบญมองหน้ากันเมื่อเห็นผู้หญิงทั้งสองคนนั่งคุยกันกระจุ๋งกระจิ๋งราวกับรู้จักกันมานาน

เล็กรู้สึกดีที่เห็นแม่ในมุมแบบนี้ เขารู้ว่าแม่ชอบเด็ก..เขาเองก็ตั้งใจว่าสักวันอาจจะรับอุปการะเด็กมาสักคน แต่พอคิดดูแล้ว พ่อที่พิการแบบนี้จะไปเลี้ยงเด็กสักคนหนึ่งให้โตขึ้นมาดีได้ยังไง...เลยพับความคิดนั้นเก็บไป

เบญเอื้อมไปกุมมือที่วางอยู่บนตักมาสอดประสานไว้ เขาไม่รู้หรอกว่าเล็กกำลังคิดอะไร แต่สายตาของอีกฝ่ายมันบ่งบอกถึงความเศร้าที่อยู่ลึกเข้าไป เบญไม่ได้ปลอบใจด้วยคำพูด เขาหวังว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ถึงความหวังดีของเขาได้ด้วยหัวใจ

.
.
.

พวกเขาทั้งสามคนมาถึงงานในช่วงสายมากแล้ว เบญเลือกที่จะอุ้มลูกสาวเอาไว้ดีกว่าปล่อยให้เดินเอง เขาจับมือของเล็กให้มาจับกันเอาไว้ตอนเดินผ่านคนเยอะเพราะกลัวว่าจะหลงกัน เบญพาตรงไปยังโซน exotic pet หรือสัตว์พิเศษก่อน

“อันนี้เขาเรียกว่างูเหลือมค่ะ” เบญชี้ให้ดูงูในตู้

“งู~เหยือม~” ลูกสาวพูดตาม

“งู เหลือม” คนพ่อเน้นย้ำเมื่อลูกสาวพูดไม่ชัด แต่เด็กน้อยก็ยังคงออกเสียงเหมือนเดิม เขาหัวเราะก่อนจะบอก “เหยือมก็เหยือม”
เดินต่อไปอีกหน่อยก็เป็นโซน pet village มีสัตว์แสนรู้จากฟาร์มหลายชนิดมาจัดแสดง

เขาไปหยุดยืนอยู่ที่ม้าแคระ “ตัวนี้เรียกว่าอะไรคะ”

“ม้า!” บัวพูดเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามองแล้วยิ้มด้วยความเอ็นดู นิ้วเล็กป้อมชี้ไปที่ม้าตรงหน้า หันไปหาบิดาแล้วพูดว่า “น่ายัก~”

เบญพยักหน้าเห็นด้วย จู่ ๆ บัวก็เอียงคอมองไปข้าง ๆ ตัวเขา นิ้วชี้ไปที่เล็กพร้อมกับพูดขึ้นอีกครั้ง “น่ายัก~”

เล็กกำลังเพลินกับการดูนั่นนี่ด้วยดวงตาเป็นประกาย ริมฝีปากยิ้มน้อย ๆ อยู่ตลอดเวลา

“บัว..หนูนี่สมกับเป็นลูกพ่อจริง ๆ”

เด็กน้อยไม่เข้าใจในสิ่งที่พ่อพูดนัก บัวเอนตัวไปข้างหน้าจนคนเป็นพ่อต้องประคองไม่ให้เธอหน้าทิ่มลงพื้น มือเล็กคว้าจับเข้าที่แขนเสื้อของเล็ก

คนถูกจับหันกลับมามองเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ส่งยิ้มหวานให้

“อุ้ม~ อุ้ม~”

เล็กที่พอจะเดาได้ว่าน้องบัวต้องการอะไรหันไปมองเบญอย่างขอความคิดเห็น เมื่อคนพ่อพยักหน้าให้พร้อมกับยิ้มบางเขาจึงรับตัวเด็กน้อยมาอุ้มไว้แนบอก นั่นเป็นความแปลกใหม่ที่เล็กไม่เคยพบ...บัวตัวเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับเขา แต่กลับหนักอึ้งมากกว่าที่คิดเอาไว้

คนที่กำลังอุ้มเจ้าตัวน้อยกระชับวงแขนแน่นขึ้น กลัวว่าบัวจะตกเพราะเธอดันตัวออกเล็กน้อยเพื่อมองหน้าของเล็ก บัวใช้นิ้วจิ้มลงกับแก้มของเล็กเบา ๆ ก่อนจะพูด

"น่ายัก~น่ายัก"

เล็กขมวดคิ้วน้อย ๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองอ่านปากผิดหรือเปล่า เขาหันไปหาคนพ่อส่งสายตาตั้งคำถาม

“บัวบอกว่าคุณน่ารัก” เบญขยับปากบอกพร้อมกับส่งภาษามือที่ไปเรียนมา เขาขอให้ครูสอนประโยคนี้เป็นพิเศษเพื่อการนี้เลย

เล็กมีสีหน้าประหลาด จะเขินก็ไม่ใช่ ตลกก็ไม่เชิง เขารู้สึกว่าถึงแม้ว่าเพศสภาพและหน้าตาของพ่อลูกคู่นี้จะไม่เหมือนกัน..แต่นิสัยเนี่ยเหมือนกันจริง ๆ

คนตัวเล็กกว่าอุ้มบัวเดินหนีสายตาเจ้าชู้ของตัวพ่อไปอีกทาง ทั้งสองคนไปหยุดอยู่ที่ฝูงกระต่าย ดวงตากลมทั้งสองคู่มองสัตว์ตัวน้อยที่ขนฟูดูนุ่มนิ่ม บัวโถมตัวลงไปข้างหน้าพร้อมกับเอื้อมมือหมายจะไปจับ เล็กคว้าไว้แทบไม่อยู่ ดีที่เบญเดินตามมาทันเลยช่วยเขาเอาไว้ได้

“บัว” คนเป็นพ่อเรียกเสียงต่ำ เจ้าตัวน้อยหยุดดิ้นทันที

“อยากได้..ต่าย ๆ” เด็กน้อยพยายามพูด

“ไม่ได้ค่ะ” เบญส่ายหน้า ลูกสาวเบะปากทำท่าจะร้องไห้ “บัว..หนูต้องฟังพ่อนะคะ” ฝ่ามือใหญ่วางบนหน้าอกแล้วลูบเบา ๆ เป็นการบอกให้ลูกใจเย็น

หนูน้อยยอมนิ่งเงียบทั้งที่มีน้ำตาคลอเบ้า ริมฝีปากยังคงเบะอยู่แบบนั้น บัวพยายามควบคุมสติของตัวเอง เธอจ้องมองพ่อไม่วางตา

“กระต่ายตรงนั้นไม่ใช่ของหนูใช่ไหมคะ”

บัวพยักหน้า

“หนูจำที่พ่อสอนไว้ได้ไหม”

บัวพยักหน้าอีกครั้ง “ห้าม..อยากได้..ของคนอื่น”

“เก่งมากค่ะ” เบญลูบน้ำตาที่เปียกแก้มของลูกสาว

เล็กมองภาพเบญกำลังกอดปลอบลูกสาว และนี่เป็นอีกครั้งที่เขาตระหนักได้ว่าเบญนั้นเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ดูได้จากการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กดี มีสติควบคุมตัวเองได้ รู้จักรับฟังเหตุผล

..น้องบัวน่ารักขนาดนี้ก็เป็นเพราะเบญ..

เวลาผ่านไปไม่นานเด็กน้อยก็เงยหน้าขึ้นจากอกของพ่อ การร้องไห้ทำให้ตากับปลายจมูกของบัวแดงเล็กน้อย เบญอุ้มลูกเดินเข้าไปหาเล็กที่ยืนทิ้งระยะห่างไปไม่ไกล

“ขอโทษนะ” คนพ่อบอก เล็กส่ายหน้าหวือพร้อมกับโบกมือแทนการบอกว่าไม่เป็นไร เขายิ้มให้กับคนตัวเล็กก่อนจะก้มลงบอกกับลูกสาว “ขอโทษอาเล็กก่อนนะคะคนเก่ง”

บัวยกมือขึ้นไหว้ก่อนจะพูด “หนู..ขอโทษ”

เล็กเอื้อมไปจับฝ่ามือเล็ก ลูบหัวกลมเบา ๆ อย่างปลอบใจ เด็กน้อยโผเข้าหาให้เขาเป็นฝ่ายอุ้ม ทันทีที่เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดบัวก็ออดอ้อนโดยการซบหน้าลงกับอกเขา

เล็กยิ้มด้วยความเอ็นดู เขาพาบัวไปดูโซนสุนัขและแมวต่อ แต่อุ้มได้ไม่นานก็ต้องคืนเบญไป เด็กคนหนึ่งน้ำหนักไม่ใช่น้อย ๆ เล่นเอาปวดแขนเลย

“กลับกันไหม” เบญถาม เพราะบัวของเขาเริ่มอ้าปากหาวมาสองสามครั้งแล้ว เล็กเหลือบมองเด็กน้อยที่นอนหนุนไหล่คนเป็นพ่อตาปรือแล้วก็เข้าใจ เขาจึงพยักหน้าตอบ

พวกเขาเดินกลับไปขึ้นรถ เบญฝากให้เล็กไปสตาร์ทรถ ส่วนคนเป็นพ่อวางลูกสาวลงบนคาร์ซีทก่อนจะรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย เขาหยิบขวดนมที่เตรียมเอาไว้ออกมาแล้วเทนมกล่องใส่ลงไป บัวเอื้อมมือมารับไปดูดทันที ตากลมค่อย ๆ ปิดลงเมื่อนมใกล้หมดขวด

เล็กเอี้ยวตัวกลับมามองแล้วก็แอบทึ่งกับความเป็นพ่อของเบญ เขารู้สึกประทับใจมาก และนั่นก็ทำให้เล็กคิดว่าเลือกคนไม่ผิดจริง ๆ

.
.
.

เบญมองเล็กที่นั่งเงียบอยู่เบาะข้าง ๆ เขาดีใจที่บัวดูท่าจะรู้สึกดีกับอีกฝ่าย ถึงแม้ว่าเล็กจะไม่สามารถพูดหรือได้ยิน..แต่น่าแปลกที่ทั้งสองคนเหมือนจะสื่อสารกันรู้เรื่อง

ในตอนแรกเบญก็แอบกังวลว่าบัวจะกล้าเข้าหาเล็กหรือเปล่า เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กแล้วล้วนเอาแน่เอานอนไม่ได้ บัวเป็นเด็กดีก็จริง..แต่ก็ใช่ว่าจะเข้ากับทุกคนได้ แต่เมื่อได้เห็นว่าบัวไม่มีอาการกลัวเล็กรวมถึงแม่ของเล็ก แถมยังออดอ้อนเหมือนรู้จักกันมานานก็รู้สึกเบาใจ

เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เล็กมาเป็นพ่อหรือแม่อีกคนของลูกสาว แค่อยากให้ทั้งสองคนได้พบเจอและรู้จักกันไว้ ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้ให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้บัวยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจเรื่องราวที่ซับซ้อน

วันข้างหน้าถ้าเขากับเล็กพัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่านี้ บัวก็คงเข้าใจได้เอง..ว่าความรักนั้นมีหลากหลายรูปแบบ

เบญเอื้อมไปจับมือของเล็กที่วางอยู่บนหน้าตักมาสอดประสานไว้ ก่อนจะยกหลังมือขาวขึ้นมาหอมให้อีกฝ่ายแก้มแดงเล่น ๆ
อยากจะบอกขอบคุณที่ยอมให้โอกาสพ่อหม้ายลูกติดแบบเขา แถมยังดีกับลูกสาวของเขาเหลือเกิน

..อย่าหาว่าใจร้อนเลย เขาอยากจะขอให้อีกฝ่ายมาเป็นครอบครัวเดียวกันเสียตอนนี้เลยด้วยซ้ำ..



tbc…
ขอโทษที่หายไปนาน(อีกแล้ว)ค่า
แล้วก็ขอบคุณที่ติดตามผลงานนะคะ
 :L2:




ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดีใจ  ไรท์มา   :mew1: :mew1: :mew1:
ความรักครั้งแรกของเบญ กลับมาหาเบญอีกครั้ง  :impress2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ pearlluv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ที่มาต่อ  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
น่ารักดีจัง

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ กานดา.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
    • facebook page

ตอนจบ





“พี่จะบอกเรื่องโรคที่เป็นกับแม่พี่เมื่อไหร่เหรอ” ทะเลถามขึ้นในเวลาที่อีกฝ่ายกำลังจะเตรียมยาก่อนนอน ตอนนี้คนรักของเขามีอาการคงที่จนแทบไม่มีอาการสั่น ร่างกายปรับตัวรับกับยาได้ดีมาก

จันทร์เหลือบมองใช้ความคิดเล็กน้อย “ไม่ดีกว่า” เขาตอบก่อนจะกินยาให้เรียบร้อย ร่างเพรียวบางในชุดนอนสีฟ้าอ่อนขยับขึ้นไปนอนคู่กันบนเตียงนุ่ม

ทะเลขมวดคิ้วยุ่ง เจ้าตัวขยับตัวตะแคงข้างหันเข้าหาคนรัก “ทำไมพี่ถึงเลือกที่จะไม่บอกคุณแม่ล่ะ”

เสียงถอนหายใจหนักดังขึ้น ไม่ได้เป็นเพราะว่าจันทร์รำคาญอีกฝ่าย แต่เขากำลังคิดหนักต่างหาก

“ฉันกลัวว่าแม่จะเครียด”

“แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่าแม่พี่จะเครียดอะ”

จันทร์เงียบไปเล็กน้อย “...เดาเอา”

“นั่นไง” ทะเลจับให้อีกคนตะแคงตัวมาเผชิญหน้ากันดี ๆ “พี่คิดว่าแม่พี่เป็นคนยังไงเหรอครับ”

“...”

“แม่พี่เข้มแข็งใช่ไหม”

จันทร์พยักหน้าตอบ จู่ ๆ เบ้าตาก็รู้สึกร้อนขึ้นมา เพราะเขาเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าแม่ของเขาเข้มแข็งมากแค่ไหน...มากกว่าลูกชายคนนี้เสียอีก

“พี่รู้ไหม” ทะเลพูดเสียงนุ่มนวลเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายขอบตาแดง ๆ “มันไม่แปลกเลยพี่..ที่ท่านจะเครียดหรือว่าเป็นทุกข์ เพราะท่านคือแม่ของพี่ แต่ผมว่ามันก็ยังดีกว่าที่พี่จะปิดบังท่านเรื่องนี้นะครับ”

จันทร์เข้าใจในสิ่งที่ทะเลตั้งใจบอก เพราะเด็กนี่เป็นคนตรงไปตรงมาและเปิดเผยแบบนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกันแล้ว หมอนี่ไม่เคยปิดบังอะไรเขาเลย ทะเลแสดงความคิดและเผยความรู้สึกให้เขาได้รับรู้เสมอ

..เขาไม่แปลกใจเลยที่ทะเลอยากให้เขาบอกเรื่องนี้กับแม่..

“ฉันเข้าใจ..แต่มันก็กลัวอยู่ดี”

“พี่กลัวอะไรเหรอ”

จันทร์ขยับตัวเข้าใกล้ทะเล ดวงตาสวยจับจ้องเขาอย่างใสซื่อ

“ฉันก็แค่กลัว”

ฝ่ามือใหญ่เอื้อมไปลูบแก้มขาวเนียนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน

“อย่ากลัวสิ พี่ยังมีผมอยู่ตรงนี้ ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ทิ้งพี่แน่นอน”

จันทร์ยิ้มบาง ยกมือขึ้นทาบทับกับฝ่ามือของทะเล “ขอบคุณนะ”

ทะเลยิ้มรับ...แต่ทำไมเขาถึงยังรู้สึกว่าอีกฝ่ายพร้อมที่จะปล่อยมือเขาไปได้เสมอ...ไม่แม้แต่จะคิดรั้งเอาไว้ มันไม่ใช่ความหวาดระแวง แต่มันคือการปล่อยวางและยอมรับได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เขาไม่ได้คลางแคลงใจกับคำว่ารักที่อีกคนบอกเลยแม้แต่น้อย ความรักของทะเลจันทร์เป็นความรู้สึกจริง ๆ แต่มันไม่ใช่ความรักแบบที่ต้องการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกัน ในขณะที่ทะเลต้องการที่จะเป็นเจ้าของอีกฝ่ายทั้งหมด

“พี่ไม่เชื่อผมเหรอ” ทะเลถามเสียงสลด

จันทร์ทำหน้าไม่เข้าใจ “เรื่องอะไรน่ะ”

“เรื่องที่ผมจะไม่ทิ้งพี่”

คนอายุมากกว่าเงียบไปชั่วครู่ กระชับมือเข้ากับฝ่ามือใหญ่แน่นขึ้น

“ไม่ใช่แบบนั้น..” จันทร์ตอบ “ฉันเชื่อว่าเธอจะไม่ทิ้งฉัน ถ้าเธอจะทิ้งก็คงทิ้งไปตั้งแต่รู้เรื่องที่ฉันป่วยแล้วใช่ไหมล่ะ”

“แต่ถ้าเกิดผมเปลี่ยนใจ..พี่ก็ไม่คิดจะรั้ง”

จันทร์ยิ้มบาง ขยับมือลูบศีรษะเด็กหนุ่ม “..จะว่าอย่างนั้นก็ใช่”

ทะเลอึ้งไปเมื่อได้ยินคำตอบนั้น

“ฉันไม่รู้ว่าจะพูดให้เธอเข้าใจยังไงดี..แต่ก็อยากให้เธอเข้าใจความคิดและความรู้สึกของฉัน ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ ตอนนี้ฉันอยู่กับเธอแบบไม่มีความคาดหวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป ไม่ใช่ว่าฉันพร้อมที่จะผลักไสไล่ส่งเธอ แต่ถ้าเธออยากจะไปจากกันเมื่อไหร่..ฉันก็พร้อมยอมรับมัน”

“...พี่จะไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”

จันทร์ยิ้มบาง “แค่คิดก็รู้สึกเจ็บไปหมดแล้ว”

“แล้วทำไม..”

“ความรักไม่ใช่การครอบครอง..เคยได้ยินไหม”

“...”

“รักไม่ใช่การเป็นเจ้าของหรือครอบครองกันและกัน การได้อยู่เคียงข้างกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่คาดหวังถึงอนาคตในภายหน้า ขอเพียงแค่เธอมีความสุข..ฉันก็มีความสุข เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว”

“...”

“เธออาจจะยังโตไม่มากพอที่จะเข้าใจเรื่องนี้ แต่ค่อย ๆ คิดและเรียนรู้ไปก็ได้ พวกเรายังมีเวลาอีกมาก”

ทะเลที่ตั้งใจฟังเงียบไปชั่วครู่ เขาคิดตามในสิ่งที่อีกฝ่ายตั้งใจสื่อสารออกมาอย่างตั้งใจ ความรู้สึกคิดน้อยอกน้อยใจที่เคยมีค่อย ๆ จางลง

ร่างที่ใหญ่กว่าขยับเข้าไปใกล้ทะเลจันทร์ กอดอีกฝ่ายเอาไว้แล้วซุกหน้าลงกับแผ่นอกบางอย่างออดอ้อน

“..ผมว่าผมเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดนะ”

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี แต่ถ้าไม่เข้าใจฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก” จันทร์บอกเสียงนุ่ม นิ้วมือจับผมทะเลเล่น

“ผมขอโทษนะครับ”

“หือ..ขอโทษเรื่องอะไรกัน”

“ที่กล่าวหาว่าพี่ไม่เชื่อผม”

ทะเลจันทร์หัวเราะเสียงแผ่ว “ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้คิดอะไรหรอก ฉันเข้าใจว่าเธอยังเด็ก”

“คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก”

“เอ้า” จันทร์หัวเราะ “หรือไม่จริงล่ะ”

“ก็จริงน่ะสิ ผมถึงได้หงุดหงิด”

“จะหงุดหงิดไปทำไม เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ”

“...พี่หมายความว่าอะไร” ทะเลไม่เข้าใจว่ามันดีตรงไหน

“เธอจะได้ดูแลฉันในยามที่แก่เฒ่าตามที่ได้ตั้งใจไว้ไงล่ะ ไม่ดีเหรอ”

ทะเลได้ฟังแบบนั้นก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เขาถูไถใบหน้าเข้ากับแผ่นอกของอีกฝ่ายด้วยความดีใจ ที่เรื่องอายุน้อยกว่าของเขาก็มีดีมากกว่าที่เคยคาดคิดเอาไว้ ลองคิดดูว่าถ้าเขาอายุมากกว่าหรือเท่ากัน..การดูแลคนป่วยที่อายุมากก็คงจะลำบากน่าดู แถมยังเสี่ยงกับการจากโลกนี้ไปก่อนอีกฝ่ายด้วย

“ผมจะดูแลพี่ให้ดีที่สุดเลยนะครับ อย่าไล่ผมไปไหนนะ”

“ไม่ไล่หรอกน่า” จันทร์หัวเราะเอ็นดูกับท่าทีเด็ก ๆ ของทะเล ก้มลงหอมหัวอย่างเอ็นดู

ปกติแล้วทั้งสองคนไม่ได้นอนกอดกันบ่อยนัก แต่ในค่ำคืนนี้ทะเลผล็อยหลับไปทั้ง ๆ ที่ยังซุกอกบางของจันทร์

ไม่กี่เดือนมานี้เจ้าตัวเพิ่งเรียนจบ ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงกำลังคิดว่าจะทำอะไรต่อไปดี ทะเลจันทร์ถามว่าไม่อยากไปเป็นช่างภาพของเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิกอะไรนั่นแล้วหรือไง ทะเลก็ตอบมาแค่สั้น ๆ ว่าไม่อยากไปแล้ว

จันทร์รู้ว่าตัวเองคือสาเหตุที่ทำให้เด็กนี่ล้มเลิกความฝันที่เคยมีมาตลอด ทะเลไม่เหมือนเขาที่ได้ทำความฝันของตัวเองไปแล้ว แม้มันจะไม่สำเร็จแต่ก็ถือว่าเขาได้ทำมันแล้ว

ก่อนที่จะเจอกัน..ทะเลพัฒนาตัวเองเพื่อความฝันนี้มาตลอด แต่เด็กนี่กลับล้มเลิกเอาง่าย ๆ เพียงเพราะผู้ชายแก่และป่วยอย่างเขา และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเอาซะเลย

หมอนี่มันเป็นพวกยึดติด..แถมยังดื้อหัวชนฝา นั่นเลยทำให้เขาไม่รู้จะจัดการยังไงดี และอาจจะเพราะอายุที่เพิ่มขึ้นเลยทำให้ทุกวันนี้เขาก็ไม่มีแรงจะไปต่อล้อต่อเถียงกับใครแล้วด้วย



.



“พี่..สรุปว่าวันนี้จะบอกแม่ใช่ไหม”

“เออสิวะ” จันทร์ตอบห้วน จะถามย้ำอะไรนักหนา คนยิ่งเครียด ๆ อยู่

“พูดไม่เพราะเลย” ทะเลว่าหน้างอ มันดูน่าถีบมากกว่าน่ารัก

คนอายุมากกว่าไม่สนใจ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทิ้งตัวลงบนที่นอนอีกครั้ง ทะเลที่กำลังจะไปอาบน้ำเห็นคนรักมีสีหน้ากังวลใจก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“เครียดมากเลยเหรอ” ทะเลนั่งลงข้างกัน

“อือ” จันทร์ตอบ ขยับตัวมาหนุนตักทะเล รู้สึกดีขึ้นเมื่อถูกฝ่ามือใหญ่ลูบศีรษะ “เธอจะอยู่ข้าง ๆ ฉันไหม”

“แน่นอนครับ” ทะเลตอบทันที

“ขอบใจนะ” จันทร์ยิ้มบาง แค่มีทะเลอยู่เคียงข้างกันก็อุ่นใจแล้ว

“ไปอาบน้ำด้วยกันเถอะครับ” ทะเลจับอีกคนให้ลุกขึ้นนั่ง

จันทร์เดินตามแรงจูงไปอย่างว่าง่าย ปล่อยให้ทะเลจับถอดเสื้อผ้าแล้วดึงเข้าห้องน้ำ อีกฝ่ายจับเขาฟอกสบู่ไปทั่วทั้งตัว

“อ๊ะ!” เพราะจันทร์มัวแต่คิดว่าจะเริ่มต้นพูดอย่างไรดีเลยถูกแกล้งเข้าให้ ตีมือทะเลที่กำลังคลึงหัวนมของเขาอยู่นั่น “ทำอะไรห๊ะ!!”

“แฮะ ๆ ก็เห็นว่าเครียด..ก็เลยอยากให้พี่ผ่อนคลาย” เด็กหนุ่มยิ้มแห้ง เขาก็แค่หยอกเล่นเฉย ๆ เอง

จันทร์ขมวดคิ้วแน่น ยกมือขึ้นปิดนมทั้งสองข้าง..ไอ้เวรนี่ก็เล่นคลึงซะแข็งเป็นไตเลย

“ไปเลย เดี๋ยวฉันอาบเอง”

ทะเลหัวเราะก่อนจะต่างคนต่างไปอาบน้ำ



.



“ปะ!” ทะเลยื่นมือไปหาอีกคนที่นั่งทำหน้าสลดอยู่ปลายเตียงหลังจากที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เจ้าตัวยื่นมือมาจับเสียแน่น “ไม่ต้องกลัว ผมอยู่นี่ไง”

ทั้งคู่ลงมาจากชั้นสองก็เจอกับคุณแม่ที่กำลังทำกิจวัตรประจำวันคือการนั่งจิบกาแฟไปอ่านข่าวในไอแพทไป

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณแม่” ทะเลบอกน้ำเสียงสดใส

“อรุณสวัสดิ์จ้า หิวข้าวกันหรือยังครับ แม่ทำอาหารง่าย ๆ วางไว้ให้บนโต๊ะแล้วนะจ๊ะ”

ทะเลฉีกยิ้มกว้าง กล่าวขอบคุณคุณแม่ ก่อนจะหันไปหาคนรักที่เอาแต่เงียบ “พี่หิวหรือยัง กินข้าวก่อนไหม”

จันทร์ส่ายหน้า

รดาลุกขึ้นจากโซฟาเดินตรงมาหาลูกชายคนเดียว ฝ่ามือที่มีริ้วรอยยกขึ้นแนบเข้าที่แก้มของจันทร์ด้วยความเป็นห่วง “จันทร์..หนูไม่สบายหรือเปล่าลูก”

จันทร์เม้มปากอย่างเป็นกังวล “จันทร์มีเรื่องจะบอกแม่”

“ได้สิจ๊ะ” มารดาบอก “มานั่งนี่มา” เธอพาลูกชายนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน โดยที่ทะเลนั่งอีกตัว

จันทร์เงยหน้าขึ้นสบตาคนเป็นแม่ก่อนจะขยับไปมองทะเล อีกฝ่ายยิ้มและพยักหน้าให้กำลังใจ นั่นทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

“จันทร์มีอะไรจะบอกแม่เหรอ” ท่านเอ่ยถามพร้อมกับบีบมือลูกชายเบา ๆ เธอคิดว่าเรื่องมันน่าจะใหญ่พอสมควร ไม่อย่างนั้นลูกของเธอคงไม่แสดงอาการเครียดขนาดนี้

“คือ...จันทร์มีเรื่องที่ไม่ได้บอกแม่...เกี่ยวกับสุขภาพน่ะครับ” เขาเงียบไปชั่วครู่ “แม่จำได้ไหมที่ตอนนั้นจันทร์มือสั่น แล้วแม่ก็บอกให้จันทร์ไปหาหมอ”

“จำได้สิจ๊ะ”

“จันทร์ยังไม่ได้บอกผลให้แม่ฟังเลย…”

“บอกมาเถอะลูก แม่ไม่เป็นไรหรอก”

“หมอบอกว่าจันทร์เป็นพาร์กินสัน”

ทะเลมองสองแม่ลูกที่จ้องหน้ากันเงียบหลังจากที่พี่จันทร์บอกความจริงออกไป ช่วงหลังมานี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโรคที่เป็นหรืออะไร คนรักของเขาอ่อนไหวขึ้นมาก ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแม่แล้ว...ก็จะร้องไห้ได้ง่าย ๆ เลย

“โธ่~” รดาดึงลูกชายเข้ามากอดปลอบ “เรื่องแค่นี้เอง ไม่เห็นต้องร้องไห้เลย”

“จันทร์กลัวว่าแม่จะเครียด” ลูกชายพูดไปน้ำตาก็ไหลพราก

“บนโลกใบนี้เราไม่สามารถไปกำหนดอะไรได้อยู่แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ที่สำคัญคืออยู่ที่ว่าเราจะใช้ชีวิตกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ยังไงต่างหาก”

คนเป็นแม่พูดจบก็ดันตัวลูกชายออก ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ด้วยความอ่อนโยน

“แม่จะเครียดเรื่องที่ในอนาคตหนูไม่มีคนอยู่ดูแลเป็นเพื่อนกันมากกว่านะ” ท่านบอกพร้อมกับยิ้มบาง ก่อนจะหันไปเรียกให้ทะเลให้มานั่งอีกข้าง จับมือของทะเลและจันทร์ให้กอบกุมกันเอาไว้

“แต่ตอนนี้หนูมีทะเล...เท่านี้แม่ก็หายห่วง ถ้าถึงเวลาต้องตาย..ก็ตายตาหลับแล้วล่ะ”

“คุณแม่!!” ทั้งสองคนร้องขึ้นพร้อมกัน

“แม่อย่าพูดแบบนั้นสิ” จันทร์บอกเสียงสั่น

“จันทร์ เกิดแก่เจ็บตายมันเป็นธรรมชาตินะลูก ตอนนี้แม่ยังมีชีวิตอยู่..หนูเลยคิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ถ้าวันหนึ่งแม่จากหนูไปแล้ว หนูจะคิดได้ว่าชีวิตคนเรามันก็เท่านี้เอง”

จันทร์พูดอะไรไม่ออก รู้ว่าไม่ช้าก็เร็วเขากับแม่ก็ต้องจากกัน แต่เขาก็ยังไม่ได้ทำใจเรื่องนี้เลย

ทะเลบีบมือคนรักแน่น เขาเข้าใจอีกฝ่ายและรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันทำใจยากมากแค่ไหน ตอนที่คุณย่าของเขาเริ่มป่วยหนัก ทะเลก็คิดว่ายังไงคุณย่าก็ต้องหายดีและต้องอยู่กับเขาต่อไป แต่พอนานวันเข้าอาการของคุณย่าก็ยิ่งทรุดหนักลงเรื่อย ๆ จากที่เดินได้ก็เดินไม่ได้กลายเป็นนอนติดเตียง ตามมาด้วยร่างกายไม่รับอาหาร ไม่มีแรงแม้แต่จะเปล่งเสียงพูดออกมา

ทุก ๆ วันผ่านไปทะเลเรียนรู้ที่จะทำใจยอมรับกับการสูญเสียที่มันต้องเกิดขึ้นในสักวัน เขาตั้งใจว่าจะมีความสุขให้คุณย่าเห็น ไม่อยากให้ท่านทุกข์และเป็นห่วง นั่นจะทำให้ท่านจากไปอย่างไม่สงบ

“ทะเล” รดาเรียกเด็กหนุ่มที่ตอนนี้เหมือนเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งของเธอ

“ครับ”

“แม่ฝากพี่เขาด้วยนะ”

“ไว้ใจผมได้เลยครับ”



.



จันทร์ถามทะเลอีกครั้งถึงเรื่องความฝันที่จะได้ทำงานกับบริษัทชื่อดังที่เคยเล่าให้ฟัง เด็กหนุ่มตอบว่าเลิกคิดเรื่องนั้นไปนานแล้ว

“แล้วไม่รู้สึกเสียดายเหรอ”

ทะเลส่ายหน้าทันที “ผมเสียดายเวลาที่จะไม่ได้อยู่กับพี่มากกว่า ก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าผมไม่มีใคร..และก็ไม่เคยคิดว่าจะมีมาก่อน เลยตั้งความฝันของตัวเองไว้ตรงนั้น แต่ตอนนี้ผมมีพี่เป็นความฝันของผมแล้ว”

“ความฝันอะไรกัน”

“ฝันว่าจะได้อยู่กับพี่ไปจนแก่เฒ่าเลยไงล่ะ”

ใบหน้าขาวร้อนวูบตอนที่ได้ยินคำตอบนั้น “ยิ่งโตยิ่งเสี่ยวนะเอ็ง”

คนอายุน้อยกว่าหัวเราะร่วน

ทะเลเรียนจบมาได้ปีกว่าแล้ว เขาเลิกใช้เงินของพ่อที่ฝากเข้าบัญชีของเขาในทุกเดือน รวมถึงบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินอะไรนั่นด้วย พวกเขาสองคนเหมือนไม่ใช่พ่อลูกกันแล้ว ขนาดวันรับปริญญาทะเลยังไม่บอกอีกฝ่ายเลย คนที่ไปงานของเขากับไอ้เป็ดก็มีแค่คุณแม่กับพี่จันทร์ พี่น้ำหวาน และพี่เล็กแค่นั้น

ตอนนี้โชคดีที่เงินประกันชีวิตของคุณย่ายังมีเหลืออยู่เยอะ นั่นพอให้เขาดำเนินชีวิตอย่างไม่ลำบากมากนัก

เขาพยายามทำงานหาเงินเอง เริ่มแรกก็ลองไปเป็นผู้ช่วยของพี่น้ำหวานก่อน  และนั่นก็ทำให้ได้รู้ว่าการเป็นผู้กำกับนั้นก็ดีเหมือนกัน แต่ที่รู้สึกว่าชอบก็คงจะเป็นการกำกับโฆษณา เพราะใช้เวลาในการทำงานไม่นานมากเท่ากับหนัง

ทะเลทำทุกอย่างที่ได้เงินดีโดยไม่เกี่ยงงาน เพราะตอนนี้เขามีเป้าหมายที่อยากทำอยู่ ก็คือการขอคนรัก ‘แต่งงาน’

มันอาจจะฟังดูเว่อร์เกินไป แต่ทะเลอยากทำจริง ๆ เขาเริ่มจากการหาแหวนให้กับคนรักของเขาก่อน สุดท้ายเขาก็เจอวงที่คิดว่าดีที่สุดก็คือ Cartier trinity ring ทะเลชอบดีไซน์กับความหมายของมัน แหวงวงนี้ประกอบไปด้วยแหวนสามวงร้อยเข้าด้วยกัน มีแหวนทองคำ ทองคำขาว และทองชมพู แทนความหมายว่าความซื่อสัตย์ มิตรภาพ และความรัก

เมื่อเลือกได้แล้ว..ขั้นตอนต่อไปก็คือวัดขนาดนิ้วของทะเลจันทร์ คงเป็นโชคไม่ดีของเขาเองที่อีกฝ่ายเป็นคนไม่ใส่แหวนเลย ไม่อย่างนั้นแล้วทะเลก็คงฉกแหวนไปให้ทางร้านวัดขนาดเอาก็พอ ทะเลอาศัยเวลากลางคืนที่คนรักหลับสนิทแล้วใช้ด้ายเส้นเล็กแอบวัดรอบนิ้วนางข้างซ้ายให้เรียบร้อย

เด็กหนุ่มซื้อแหวนและเอาไปแอบไว้ที่บ้านของคุณย่า ต่อมาก็ต้องคิดว่าจะเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานอย่างไรดี และทะเลก็เลือกที่จะปรึกษากับพี่น้ำหวานเป็นคนแรก อย่างน้อยเขาน่าจะได้ความคิดแปลกใหม่จากผู้กำกับหนังรักคนนี้บ้างก็เป็นได้

“พี่ ผมอยากขอพี่จันทร์แต่งงาน ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ”

น้ำหวานชะงักมือที่กำลังจะตักข้าวกลางวันเข้าปาก ดวงตาคมเข้มเหลือบมองไอ้เด็กข้าง ๆ อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

“แต่งงาน?”

ทะเลพยักหน้ายืนยันว่าอีกคนฟังไม่ผิดหรอก

“เอาจริง?”

เขาพยักหน้าอีกครั้ง “พี่ว่าไม่โอเคเหรอ”

“เปล่า” น้ำหวานตอบ “ทำไมถึงคิดว่าจะขอมันล่ะ” ถามก่อนจะตักข้าวกินต่อ

“ผมแค่อยากทำให้เขามั่นใจขึ้นอีกสักนิดน่ะครับ”

น้ำหวานพยักหน้าเข้าใจ “เดี๋ยวกูช่วยมึงเอง อยากได้แบบไหนบอกมาเลย”

ทะเลยิ้มกว้าง รีบบอกขอบคุณพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัว



.



ทะเลเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งซึ่งมากพอที่จะพาพี่จันทร์กับแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัด และมากพอที่จะจ่ายค่าเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานตามที่หวังเอาไว้ จุดหมายของพวกเขาอยู่ที่หัวหิน เพราะคุณแม่อายุเยอะแล้วเลยไม่อยากให้เดินทางไกลมาก

นอกจากพวกเขาสามคนแล้ว คนอื่น ๆ ก็ไปด้วย ทั้งพี่น้ำหวานกับไอ้เป็ด พี่เล็กกับพี่เบญพร้อมกับลูกสาว เพราะทุกคนตั้งใจจะไปร่วมยินดีด้วยกัน

ก่อนหน้านี้เขาได้ไปเตี๊ยมกับคุณแม่และทุก ๆ คนเอาไว้หมดแล้ว ต่างคนต่างยินดีและรับปากว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพี่น้ำหวานที่เป็นธุระจัดการแทนเขาแทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจัดหาสถานที่และติดต่อพูดคุยกับทางรีสอร์ตเรื่องการจัดสถานที่

“ถ้าคุณแม่ปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำก็บอกผมได้เลยนะครับ”

ทะเลที่ทำหน้าที่ขับรถบอกกับอีกฝ่ายที่นั่งอยู่เบาะหลัง ทีแรกเขาก็อยากให้มานั่งเบาะหน้าอยู่หรอก แต่ท่านก็เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว

“โอเคจ๊ะ”

“หรือถ้าหิวอยากกินอะไรก็บอกได้นะครับ”

“จ้า~ จ้า~”

“แล้วพี่หิวไหม” ทะเลเหลือบตาถามคนข้างกายที่นั่งกอดหมอนผ้าห่มเหม่อมองออกไปนอกรถ

จันทร์ส่ายหน้ายิ้ม ๆ “แล้วเธอล่ะ หิวหรือเปล่า” เขาย้อนถามบ้าง เห็นเด็กนี่เอาแต่ห่วงคนโน้นทีคนนี้ทีแล้วก็เอ็นดู

“ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ”

“ถ้าอยากกินอะไรก็บอกนะ เดี๋ยวฉันป้อนให้”

ทะเลอมยิ้ม “ผมไม่ใช่หมานะครับ”

“ก็นึกว่าใช่ซะอีก” จันทร์ขำ

รดาที่นั่งอยู่เบาะหลังมองลูก ๆ ทั้งสองคนพูดคุยหยอกล้อกันด้วยความอิ่มเอมใจ  เธอไม่เคยหวังให้จันทร์แต่งงานมีครอบครัวแบบคนปกติทั่วไป ขอแค่ได้มีใครสักคนเคียงข้างในยามแก่เฒ่า หลังจากที่เธอได้แต่เฝ้าเป็นห่วงมาตลอด ในที่สุดลูกชายคนเดียวของเธอก็ได้พบคนพิเศษเสียที

ถึงแม้ว่าทะเลจะอายุน้อยกว่าจันทร์หลายปี แต่ทั้งคู่ก็เข้ากันได้ดีมาก เด็กคนนี้เป็นเด็กดี อ่อนโยนและมีความรับผิดชอบ ลูกชายของเธอโชคดีที่ได้เจอกับทะเล รดาลุ้นแทบตายกว่าทั้งสองคนจะตกลงปลงใจกันได้

รดาชื่นชมเรื่องเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานที่ทะเลแอบวางแผนเอาไว้ ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นนี้ก็ได้ แต่เพราะว่าเด็กคนนี้จริงจังกับลูกชายของเธอมาก และอาจจะเป็นเพราะเรื่องราวเก่า ๆ ที่เคยผ่านมาทำให้จันทร์กลายเป็นคนที่ไม่เคยมั่นใจกับอนาคตอีกเลย ทะเลเลยอยากทำให้จันทร์มั่นใจในตัวของทะเลมากขึ้นอีกสักนิดก็ยังดีก็เท่านั้นเอง



.



ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่นานทุกคนก็เดินทางมาถึงหัวหินเรียบร้อย ทะเลกับน้ำหวานเลือกรีสอร์ตหรูสไตล์บูติคที่มีชายหาดส่วนตัวเพื่อความเงียบสงบ

ทะเลเลือกพูลวิลล่าที่มีสองห้องนอนให้กับเขากับจันทร์ และคุณแม่

“โห” จันทร์ที่เดินเข้ามาในที่พักแล้วหันมองรอบห้อง “หรูหราหมาเห่ามาก”

ทะเลหัวเราะก๊าก “พี่ไปจำมาจากไหนเนี่ย”

“อะไรกัน เขาใช้กันเยอะแยะไป” จันทร์ว่าก่อนจะเดินไปเปิดประตูเลื่อนตรงสระว่ายน้ำที่มองออกไปเห็นทะเลสุดลูกหูลูกตา

“คุณแม่ชอบไหมครับ” ทะเลเอ่ยถามผู้ใหญ่ที่เพิ่งเดินตามเข้ามา

“ชอบจ๊ะ” ท่านตอบ “แต่มันไม่หรูไปหน่อยเหรอลูก คืนละเท่าไหร่ ให้แม่ช่วยไหม”

“ไม่ต้องครับ ๆ” ทะเลจับมือของแม่ที่ทำท่าจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าถือ “ไม่มากมายหรอกครับ นาน ๆ พวกเราจะมาพักผ่อนกันสักที แค่นี้เล็กน้อยครับ”

รดาวางมืออีกข้างลงบนหลังมือของทะเล เหลือบตามองไปที่ลูกชายคนเดียวที่กำลังรับลมอยู่ด้านนอกห้องพัก “ขอบคุณมากนะจ๊ะ”
เด็กหนุ่มยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ “ผมยินดีมาก ๆ เลยครับ”

“ซุบซิบอะไรกันสองคนน่ะ” จันทร์ทักขึ้น มองทั้งคู่อย่างจับผิด

“เปล่าสักหน่อย” ทะเลลอยหน้าลอยตาตอบ “คุณแม่นั่งพักก่อนไหมครับ หรือถ้าเมื่อยจะไปนวดตัวทำสปาก็ได้นะครับ ผมจะได้พาไป”

“ไม่ต้อง ๆ แม่ขอเข้าไปงีบในห้องดีกว่า ไม่ได้เดินทางไกลแบบนี้มานาน ล้าไปหมดเลย” คนเป็นแม่บอกก่อนจะแยกตัวออกไปทันที อุตส่าห์มาเที่ยวทั้งที..อยากให้ลูก ๆ ทั้งสองคนมีเวลาสวีทกันเสียหน่อย

“มองอะไรอยู่เหรอครับ” ทะเลเดินเข้าไปดึงอีกคนเข้ามากอดจากทางด้านหลัง

นิ้วเรียวชี้ไปบนชายหาด “ตรงนั้นเขาจัดซุ้มอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้”

“สงสัยจะมีใครขอแต่งงานกันมั้งครับ”

จันทร์พยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะเบนสายตาไปจุดอื่นอย่างไม่ใส่ใจนัก

“เย็นนี้เราไปเดินเล่นที่ชายหาดกันไหม”

“ก็ดีนะ”

“หลังจากทานข้าวเย็นแล้วเราค่อยไปเดินกันนะครับ”

“อื้อ” จันทร์ตอบพร้อมกับเอียงหน้าเปิดทางให้ทะเลหอมที่ซอกคอได้ถนัด

ทะเลแอบยิ้มเมื่อคนในอ้อมแขนไม่ได้มีท่าทีสังเกตเห็นถึงความผิดปกติอะไรสักนิด พี่น้ำหวานและคนอื่น ๆ หายเงียบไปเลย คิดว่าน่าจะกำลังเตรียมการกันอยู่

จันทร์หมุนตัวกลับเข้าซุกใบหน้ากับไหล่หนา

“ง่วงไหม” ทะเลเอ่ยถาม

“นิดหน่อย”

“กว่าจะถึงมื้อเย็น ยังพอมีเวลา พี่ไปพักสักหน่อยไหมครับ” ทะเลบอก ถ้าโชคดีทางสะดวกเขาจะขอแว๊บไปดูตรงซุ้มสักหน่อย

“ก็ดีเหมือนกัน” จันทร์เงยหน้าขึ้น “ไปนอนด้วยกันนะ”

เด็กหนุ่มกะพริบตา “ได้สิครับ”

หลังจากล้มตัวลงนอนและทำหน้าที่เป็นหมอนข้างให้กับคนรักจนอีกฝ่ายหลับลง ทะเลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาพี่น้ำหวานทันที ขอโทษที่เขาไม่สามารถปลีกตัวไปช่วยทางนั้นได้เลย พร้อมกับแนบรูปที่พี่จันทร์กำลังนอนซุกอกราวกับลูกแมวตัวน้อย ๆ ไปเป็นหลักฐาน ไม่นานนักอีกคนก็ตอบกลับมา

‘นี่มึงตั้งใจจะบอกหรืออวดกันแน่ ไอ้เด็กเวรเอ๊ย’

ทะเลหัวเราะในลำคอ ‘ตอนนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับคุณพี่ครับ’

อีกฝ่ายส่งภาพในระยะใกล้มาให้หนึ่งรูป เป็นซุ้มไม้สี่เสาที่ถูกผูกด้วยผ้าสีขาวบางพลิ้วไปตามแรงลม

‘เหลือจัดดอกไม้ ไว้ให้แดดร่มกว่านี้หน่อยค่อยจัด มึงก็เลือกดอกไม้ดูแลยากเกิ๊น’

‘ขอโต๊ดกั๊บ’

‘กวนตีน’

‘ฝากพี่ดูแลดอกไม้แทนผมด้วยนะครับ ที่ผมเลือกพวกมันก็เพราะว่ามันสวยแต่บอบบางเหมือนกับเพื่อนพี่นี่แหละครับ’

‘เออ เก็บคำหวานเอาไว้บอกไอ้จันทร์มันเหอะ กูล่ะเลี่ยนแทน’

ทะเลส่งสติ๊กเกอร์หมาหัวเราะก๊ากกลับไปให้ ก่อนจะถูกไล่ให้ไปนอนกกคนในอ้อมกอดต่อ เอาจริง ๆ เขานอนไม่หลับเลยแม้แต่น้อย เมื่อเวลาใกล้เข้ามาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น หัวใจของเขาเต้นรัวจนกลัวว่าคนที่นอนซุกอยู่จะได้ยินเสียงของมัน

เขาใช้เวลานี้คิดเรียบเรียงคำที่จะบอกกล่าวกับคนรัก แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก เด็กหนุ่มอยากจะดิ้นไปมาด้วยความเครียด สุดท้ายก็คิดได้ว่าช่างมันเถอะ

..เดี๋ยวไปลุยเอาหน้างานแล้วกัน..








ออฟไลน์ กานดา.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
    • facebook page
.



เวลาห้าโมงเย็นทะเลก็ขอปลีกตัวออกไปก่อน โดยที่เขาได้เตรียมนัดแนะกับคุณแม่ไปแล้วว่าให้ชวนพี่จันทร์ออกไปเดินที่ชายหาดตามแผน

“ไอ้ทะเลมันไปไหนของมันเนี่ย” จันทร์บ่นอุบ เพราะตื่นมาเขาก็ไม่เห็นมันอยู่ในห้องแล้ว

“เห็นน้องว่ามีธุระนิดหน่อย สงสัยอยากออกไปถ่ายรูปมั้งจ๊ะ”

จันทร์พยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้

“จันทร์พาแม่ไปเดินเล่นที่ชายหาดหน่อยสิ”

“ครับ” ลูกชายคนเดียวยิ้มก่อนจะจับมือเล็กของแม่ให้เดินไปด้วยกัน ตอนที่ออกจากห้องพักก็ไม่ได้สังเกตว่ามีคนมาแอบดูอยู่ที่พุ่มไม้

เมื่อเป็ดเห็นว่าเป้าหมายเดินออกจากห้องเขาก็รีบวิ่งออกไปที่จุดหมายอย่างรวดเร็ว...ไอ้เลโว้ย~~~ พี่จันทร์เมียมึงมาแล้วววว

“อากาศดีจังเลยเนอะลูก” รดาที่เดินควงแขนลูกชายเอ่ยขึ้น “โชคดีที่ไม่มีฝน”

จันทร์ยิ้มเงยหน้าขึ้นรับลม “นั่นสิครับ ถ้ามีฝนคงเที่ยวไม่สนุก”

เดินต่อไปอีกนิดหน่อยจันทร์ก็เห็นซุ้มอยู่ไกล ๆ ตอนนี้มันถูกประดับไปด้วยดอกไม้จนสวยงามแล้ว ดวงตาหรี่ลงเพ่งมองคนที่ยืนอยู่ในนั้น

..ทำไมมันดูคุ้น ๆ วะ..

ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ไอ้คนตัวโย่งน่ะมันไอ้ทะเลไม่ใช่เรอะ! จันทร์หันกลับไปมองมารดา ยังไม่ทันจะได้เอ่ยถามอะไรท่านก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน

“ซุ้มนั้นสวยจัง” นิ้วเรียวชี้ตรงไป “เข้าไปดูใกล้ ๆ ดีไหมจ๊ะ”

จันทร์พยักหน้าช้า ๆ “นั่นมันทะเลหรือเปล่าน่ะแม่”

“ไม่รู้สิจ๊ะ”

ท่านตอบยิ้ม ๆ น้ำเสียงที่แอบแฝงความนัย สร้างความงุนงงให้กับจันทร์เข้าไปใหญ่ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็มั่นใจว่าคนที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ตรงกลางซุ้มไม้นั่นมันก็คนรักของเขานั่นแหละ แต่ทำไมมันต้องแต่งตัวดูดีแถมยังมีช่อดอกไม้เล็ก ๆ แบบเดียวกับที่ใช้ตกแต่งซุ้มอยู่ในมือ

ความจริงเขาไม่อยากคิดว่าทะเลมันจะทำอะไร ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าเป็นในหนังแล้วละก็...ฉากแบบนี้มันพิธีแต่งงานชัด ๆ

รดาดึงลูกชายคนเดียวที่หยุดยืนอยู่กับที่ให้ออกเดินไปด้วยกัน จันทร์เดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้

“นึกว่าพี่จะวิ่งหนีผมซะอีก” ทะเลว่า “ลุ้นแทบแย่”

จันทร์แสยะยิ้ม “ถ้าแม่ไม่ดึงเอาไว้..ก็ไม่แน่”

คนเป็นแม่มองลูก ๆ ทั้งสองต่อปากต่อคำกัน ท่านส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ

“ทั้งสองคนฟังแม่ก่อน” รดาบอก “เอาไว้ค่อยเถียงกันต่อทีหลังนะจ๊ะ”

ท่านจับมือของลูกเขยหนุ่มให้หงายขึ้นพร้อมกับจับมือของจันทร์วางลงบนมือของคนที่เธอจะฝากฝังให้ดูแลลูกชายคนเดียว

“ทะเล”

“ครับ”

“ต่อจากนี้ไปแม่ฝากดูแลจันทร์ด้วยนะครับ”

เด็กหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็กระบอกตาร้อนผ่าว “ขอบคุณที่คุณแม่...ไว้ใจผมนะครับ”

รดาลูบแขนของทะเลเบา ๆ “ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้สิจ๊ะ” บอกก่อนจะถอยหลังออกไปทิ้งระยะให้ทั้งสองคน

ทะเลรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที เขายื่นดอกไม้ที่ตั้งใจเตรียมไว้ให้กับคนรัก

“สำหรับพี่ครับ”

จันทร์รับมาถือเอาไว้ “ขอบใจ”

ทะเลได้แต่อึกอัก นึกไม่ออกว่าจะตนจะต้องพูดอะไรบ้าง สิ่งที่คิดมาก่อนหน้านี้ถูกลืมไปหมดเพียงเพราะความตื่นเต้นเป็นเหตุ ดวงตาจับจ้องใบหน้าของคนรักที่แหงนเงยขึ้นมองมาที่เขาด้วยใบหน้ายิ้มน้อย ๆ ดูเหมือนกำลังรอว่าเขาจะว่าอย่างไรต่อไป

“คือ...ผมตั้งใจเตรียมทั้งหมดนี้เพื่อพี่นะ”

จันทร์มองไปรอบ ๆ จนมาหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มตรงหน้า หัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นและ..ดีใจ

“เพื่ออะไรเหรอ” เขาลองย้อนถามทั้งที่รู้

“เพื่อ…” ทะเลล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง กำกล่องแหวนที่เตรียมเอาไว้ออกมาค่อย ๆ เปิดต่อหน้าอีกฝ่าย “ขอพี่แต่งงาน...แต่งงานกับผมนะครับ”

“ไม่คุกเข่าด้วยหรือไง” จันทร์ถามเสียงเย้า

“พี่อยากให้ผมทำเหรอ” ทะเลถามซื่อ ๆ

คนอายุมากกว่าส่ายหน้า แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่ามอง มือขาวยื่นออกไปตรงหน้า เพื่อเป็นคำตอบว่าเขารับคำขอนั้นของทะเล
เด็กหนุ่มมือสั่นในตอนที่ดึงแหวนออกมาแล้วสวมลงบนนิ้วของจันทร์ เขาจับมือบอบบางขึ้นกดจูบที่หลังมือขาว พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความตื้นตัน

จันทร์หัวเราะเสียงเบาอย่างเอ็นดู เขาเขย่งปลายเท้าแล้วกวาดแขนโอบรอบลำคอแกร่งจูบเข้าที่แก้ม

“ขอบคุณที่รักฉัน”



“เย้!!!” เสียงคุ้นหูดังขึ้นด้านหลัง

จันทร์ผละออกจากทะเลด้วยความตกใจ เมื่อคนอายุมากกว่าหันกลับไปก็พบกับทุกคนพร้อมหน้า โดยมีเป็ดกับบัวชูมือขึ้นร้องเย้ ๆ ไม่หยุด

จันทร์ตาโตเป็นไข่ห่าน “นี่เห็นกันหมดเลยเรอะ!”

“ใช่แล้วครับผม” เป็ดตอบอย่างรื่นเริง

“น้ำหวานเขาบันทึกภาพเก็บเอาไว้หมดเลยด้วยนะลูก” รดาบอกลูกชาย

“เชื่อมือกูได้เลย ไม่มีพลาด” น้ำหวานยืนยันทั้งที่มือยังถือกล้องติดไมค์พร้อม

‘ดีใจด้วยน้า~’ เล็กส่งภาษามือบอก

“ผมกับลูกสาวแสดงความยินดีด้วยนะครับ” เบญที่กำลังอุ้มลูกสาวไว้ในอ้อมแขนบอกอย่างสุภาพ

“ฉวย~ฉวย~” น้องบัวร้องบอกพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ดอกไม้ในมือของจันทร์

ทะเลจันทร์กะพริบตาปริบ ๆ ในใจนึกอยากจะด่าไอ้พวกเพื่อน ๆ แต่ติดที่แม่ของเขาเองก็ร่วมมือด้วยนี่แหละที่ทำให้ด่าไม่ออก แถมการพูดคำหยาบต่อหน้าเด็กก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี เขาก็เลยทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ

“อยากได้ไหมคะ” จันทร์เอ่ยถามเด็กน้อยที่ดูจะสนใจในมือของเขามาก

บัวตาโตขึ้นพยักหน้ารัว

“บัว...ไม่เอาลูก นั่นของคุณอาเขานะคะ”

บัวหน้าสลดลง เธอบิดตัวกลับไปกอดคอเอาหัวซบไหล่บิดา “หนู..ขอโทษค่ะ”

จันทร์มองความน่ารักของบัวก่อนจะหันไปหาคนรัก “ดอกไม้ช่อนี้ฉันให้น้องบัวได้ไหม”

“ได้สิครับ” ทะเลตอบยิ้ม ๆ

จันทร์เดินเข้าไปใกล้สองพ่อลูก “บัวคะ หันมาหน่อยสิ อามีอะไรจะให้” เขาเรียกเด็กน้อย บัวค่อย ๆ หันกลับมาตาละห้อย มือขาวยื่นช่อดอกไม้ให้กับบัว

บัวเหลือบมองบิดา เบญเห็นว่าจันทร์เป็นฝ่ายยื่นดอกไม้ให้ลูกสาวเองเลยพยักหน้าอนุญาตให้บัวรับได้ หนูน้อยยิ้มแป้นอย่างดีใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้พร้อมกับบอกขอบคุณก่อนจะยื่นมือไปรับ

“แล้วนี่มากันตั้งแต่วันไหนเนี่ย” จันทร์หันไปถามทุกคน

“ก่อนหน้ามึงหนึ่งวัน มาเตรียมพิธีให้ไอ้หอกนี่” น้ำหวานตอบ

“ฝากไอ้จันทร์ด้วยนะ มันอาจจะดูเหมือนไม่รั้งถ้ามึงจะไป แต่เชื่อกูเถอะ..ถ้ามึงไปจริง ๆ มันคงร้องไห้เป็นเผ่าเต่าแน่”

“ไอ้ควาย!” จันทร์ด่า..มันจะเอาเรื่องนี้มาพูดต่อหน้าเขาแบบนี้ไม่ได้!

เล็กเดินไปส่งจดหมายแผ่นเล็กให้ทะเลที่ยืนฉีกยิ้มอยู่ข้าง ๆ จันทร์ เด็กหนุ่มเปิดอ่าน มันเป็นข้อความสั้น ๆ ใจความว่า

‘พี่มั่นใจว่าทะเลเป็นคนเดียวที่จะดูแลจันทร์ได้ดีที่สุด หลังจากนี้ไปก็ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะครับ’

ทะเลยิ้มให้กับเจ้าของข้อความ อีกฝ่ายตบแขนเขาสองทีก่อนจะเข้าไปกอดเพื่อนรักของตัวเองแน่น

หลังจากที่เล็กถอยหลังออกไป เป็ดตรงเข้ามาเป็นคนสุดท้าย

“ยินดีด้วยนะครับพี่” เพื่อนของทะเลบอก “ผมฝากทะเลด้วยนะครับ มันอาจจะมีอาการงี่เง่าไปบ้าง แต่ตบหัวสักทีสองทีมันก็จะดีขึ้นครับ”

“พ่อมึง” ทะเลว่ากลั้วหัวเราะ “ห่วงตัวเองดีกว่าไหมวะ”

เป็ดแลบลิ้นใส่แล้ววิ่งไปยืนข้างคนรักที่กำลังบันทึกวิดีโอเหตุการณ์ในวันนี้

คนสูงอายุเดินเข้ามาช้า ๆ ท่านล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อหยิบถุงสีแดงเล็ก ๆ ออกมา อีกข้างจับฝ่ามือของเด็กหนุ่มอีกคนให้หงายขึ้นแล้ววางสิ่งนั้นลงไป

“ของรับขวัญจากแม่จ๊ะ”

ทะเลเปิดออกดูก็พบว่าเป็นทองคำ “ผม-”

“รับไว้เถอะน่า” จันทร์บอก เขารู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร “ผู้ใหญ่ให้ของก็อย่าปฏิเสธสิ”

ทะเลก้มลงมองของมีค่าในมืออย่างหนักใจ

“อย่าคิดมากเลย” รดาจับมือของทะเล “แม่ให้รับขวัญหนูเพื่อมาเป็นลูกแม่อีกคนอย่างเป็นทางการนะจ๊ะ”

เด็กหนุ่มเม้มปากและพยายามกลั้นน้ำตา

“ซาบซึ้งที่ได้ทองเยอะเหรอ” จันทร์แซวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ไม่ใช่สักหน่อย!” ทะเลปฏิเสธทันควัน “ผมดีใจ..ในที่สุดผมก็มี..ครอบครัวเป็นของตัวเองสักที”

“โธ่..ลูกเอ๊ย~” รดาเดินเข้าไปกอดเด็กหนุ่มตัวใหญ่ที่เถียงพี่ไปด้วยสะอึกสะอื้นไปด้วย “จากวันนี้ไปพวกเราทุกคนจะเป็นครอบครัวใหญ่ให้กับหนูเองนะครับ”

เธอและจันทร์ไม่เคยถามถึงเรื่องครอบครัวของทะเล รู้แค่ว่าพ่อกับแม่เลิกกัน ทะเลถูกเลี้ยงมาโดยคุณย่า ส่วนแม่หายไปไหนไม่มีใครรู้ ทางพ่อหลังจากที่หย่าก็ย้ายทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่เคยกลับมาดูดำดูดีลูกชายคนนี้อีกเลย แต่ต้องขอบคุณที่ยังมีความรับผิดชอบอยู่บ้างโดยการส่งเงินให้ใช้อย่างไม่ขาดมือ เด็กคนนี้ถึงมีชีวิตอย่างไม่ลำบาก ตอนแรกที่เธอได้รับรู้ถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก และนั่นทำให้เธอตั้งใจอยากจะเติมเต็มในส่วนนี้ให้กับทะเล

น้ำหวานที่กำลังบันทึกภาพตรงหน้าได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ ข้างตัวก็เหลือบตามอง เห็นแฟนตัวเองยืนเบะปากร้องไห้อยู่ก็ใช้มืออีกข้างดึงไหล่บางเข้ามากอดแนบอก

บัวที่ยืนมองตาปริบ ๆ เห็นพี่ชายสองคนร้องไห้ก็ส่งเสียงร้องไห้ดังลั่น เดือดร้อนคนเป็นพ่อต้องกอดปลอบจ้าละหวั่น

ผู้ใหญ่ทุกคนต่างหัวเราะเมื่อเห็นเด็ก ๆ ทั้งสามคนประสานเสียงร้องไห้กันระงม

“มีแต่เด็กขี้แยเว้ย!” น้ำหวานว่าเสียงดังพร้อมกับหัวเราะอย่างเอ็นดู



.



ยามค่ำคืนหลังจากที่ต่างคนต่างแยกย้ายห้องใครห้องมัน จันทร์ยืนรับลมที่ระเบียงห้อง เหม่อมองไปยังทะเลยามมืดมิดด้านหน้า ผืนน้ำสะท้อนเงาของพระจันทร์เต็มดวงสว่างไสวพร้อมกับดาวเป็นประกายระยิบระยับ

..สวยงามจนไม่อยากละสายตาไปไหน..

“เหม่ออะไรครับ” ทะเลดึงคนรักเข้ามากอดไว้

จันทร์พิงตัวเข้ากับอกหนา “สวยดีนะ”

“หืม”

“ภาพข้างหน้าตอนนี้..สวยดี”

“พี่ชอบไหม” ทะเลก้มลงถามข้างใบหูคนรัก

“ชอบ”

“ชอบอะไรครับ”

“ทะเล”

“หืม...ทะเลไหนเอ่ย”

จันทร์กลั้นขำ หมุนตัวเข้าหาคนรัก

“ไหนตอบให้ผมชื่นใจหน่อยสิ” ทะเลเอียงหน้าถามเสียงหยอกเอิน

“ทะเล…” จันทร์ลากเสียงก่อนจะชี้ไปข้างนอก “ทะเลโน้น”

“โถ่~”

“แต่ว่ารักทะเลนี้นะ” นิ้วชี้ข้างขวาเปลี่ยนมาจิ้มลงที่อกของทะเลตรงตำแหน่งหัวใจพอดี

เด็กหนุ่มยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหู ก้อนเนื้อในอกพองฟูด้วยความดีใจ ไม่บ่อยที่อีกฝ่ายจะบอกรักกันแบบนี้

“ผมก็รักพี่...รักมากที่สุด” ทะเลกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น “ขอบคุณที่ยอมเป็นคู่ชีวิตของผมนะครับ”

จันทร์อมยิ้ม “อื้อ”

“ผมดีใจนะ..ที่พี่เลือกให้ผมยังอยู่ในชีวิตพี่”

“ขอบคุณเหมือนกัน ที่เธออดทน..ถึงแม้ว่าฉันจะร้ายกับเธอมาก เธอก็ยังไม่ไปไหน ขอโทษนะ” จันทร์บอกพลางลูบแก้มคนรัก “ขอบคุณที่เกิดมา..เพื่อมาเป็นอีกครึ่งของชีวิตฉัน”


ครึ่งหนึ่งของจันทร์...ก็คือทะเล
..ทะเลจันทร์..



จบ…



จบแล้วนะคะ...กับทะเลจันทร์ บางคนอาจจะคิดว่าเราตัดจบหรือเปล่า
แต่เราคิดว่าประเด็นทุกอย่างในเรื่องนี้มันสมบูรณ์ในตัวของมันหมดแล้วค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่คอยและติดตามนิยายเรื่องนี้มาโดยตลอดเลย
1 ปี 7 เดือนที่ผ่านมาเรามีความสุขที่ได้รับความคิดเห็นจากทุกคนนะคะ
สำหรับเรื่องรวมเล่ม เราขอเขียนตอนพิเศษให้เสร็จแล้วจะมาประกาศอีกครั้งนะคะ
ติดตามได้ที่เพจ https://www.facebook.com/gandastory/
ยังไงก็ต้องรบกวนฝากผลงานเรื่องต่อ ๆ ไปด้วยนะคะ
 :L2:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
แอบโรแมนติก อบอวลไปด้วยความรักขอบคุณนิยายหวานซึ้งเรื่องนี้นะคะ ทั่งความรักของแม่ ของเพื่อน และคนรัก ชอบค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จบแล้ววววว  น่ารักทุกคู่เลย
แต่ทำไมเราชอบเป็ดเป็นพิเศษ
เป็ดน่ารักน่ารักน่าบีบมากกกก
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายน่ารักๆค่ะ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
กลับมาซ้ำก็ยังละมุนเหมือนเดิม :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด