นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 844193 ครั้ง)

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
มาอัพด่วนเลย นะ พี่นาย  :serius2:

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
มานอนรอครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ



 :t3: :t3: :t3: :t3: :t3: :t3: :t3: :t3: :t3:

ืnuttykung

  • บุคคลทั่วไป

fc พี่นายทั้งหลาย เค้าป่าววววน้าาาาาาา

แต่ถ้าจะให้เข้าหา อยากเข้าหาน้อง ๆ แถวนี้มากกว่า นะ แบบ โคแก่ กินหญ้าอ่อน ไรเงี้ย

ป้าว่า ป้าก็เลิกจิก เลิกขบ เลิกกัดแล้วนะ เกรงใจผู้สัญจรผ่านไปมา แล้วพี่นายด้วย




ทามได้จิงเหรอพี่โน๊อา


เด๋ซก็เผลอมากัดๆจิกๆอีกอ่ะ


แต่จะว่าไปถ้าพี่โน๊อากะ      (ขอเรียกว่าพี่ละกันนะคับ) พี่sasi ไม่มากัดๆจิกๆป่วนๆ


มานก็ไม่ฮาดิคับ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
อรุณสวัสดิ์ครับทุกท่าน มาโพสต่อบทที่ 23 ให้จบครับ จบบทที่ 23 อธิคมจะได้โชว์แมนซะที  :z2:

บดินทร์พยักหน้า ท่าทางมุ่งมั่น แล้วพูดพึมพำเสียงเบาว่า "จริงสิพี่ เกรดเอขนาดนี้ เจอได้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่ ตั้งแต่อยู่แพร่มา ร้อยวันพันปีพี่เคยเห็นเทพบุตรหลงมาแบบนี้หรือเปล่าล่ะ ถ้ามีโอกาสผมก็อยากลอง คนเรามันต้องฟังเสียงเรียกร้องของหัวใจตัวเองสิ ถ้าหัวใจบอกว่าใช่ เราต้องรีรอ ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไป ต้องคว้ามันไว้"

อธิคมเดินลงจากสถานีตำรวจ ตามองไปข้างหน้าเห็นพระอาทิตย์กำลังคล้อยต่ำลง แม้เวลาออกเวรจะผ่านไปแล้วกว่าชั่วโมง เขาก็ยังนั่งทำงานอยู่ทั้งที่ทำเสร็จไปมากแล้ว ตอนแรกตั้งใจจะขับรถไปอำเภอสองเพื่อดักซุ่มดูอนุภาพ แต่เขาก็ตัดใจได้ เมื่อวานเขาไปแลวแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นชายหนุ่มเสียที ไม่เข้าใจว่าทำไม รำๆเขาจะสั่งให้สายสืบไปดักซุ่มยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว แต่ในที่สุดก็ไม่ทำ
เบื่อนักก็โทรศัพท์หาธงรบแล้วบ่นให้เพื่อนฟัง แต่ฟังเสียงธงรบก็ดูเบื่อไม่แพ้กัน เพื่อนของเขากำลังนั่งดักซุ่ม "ผู้ร้ายหน้าใส" อยู่กว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว
"แกก็เดินเข้าไปหาเขาเลยสิวะ ไหนบอกว่าเป็นแฟนกันแล้วไง" อธิคมแนะนำ
"ไม่ได้โว้ย วันนี้อยู่ในช่วงเคอร์ฟิว สามวันอัตราย ห้ามตื้อ" ธงรบถอนหายใจดังๆ "ข้าไม่เข้าใจ ยอมเป็นของข้าสมบูรณ์แบบ โดนชุดใหญ่ไปหลายที อาทิตย์ยังคงกฏเหล็กไว้อยู่ไม่ยอมผ่อนปรน"
"อย่างน้อยเขาก็ให้เอ็งสี่วัน พฤหัส ถึงอาทิตย์ไม่ใช่หรือ" อธิคมเตือน
"ใช่ แต่ว่ามันมีกฏเพิ่มอีกสองข้อว่ะเพื่อน" ธงรบเสียงอ่อย
"กฏอะไร" อธิคมถาม
"กฏอะไรเอ็งอย่ารู้เลย รู้แต่ว่าข้าชักจะทนไม่ไหวแล้ว มันเบื่อสุดๆ ข้าก็เลยมานั่งมองอาทิตย์แบบที่เอ็งไปนั่งมองคุณนุไงล่ะ"
...เบื่ออะไร เบื่ออาทิตย์หรือเบื่อกฏ...
อธิคมไม่ค่อยเข้าใจที่ธงรบพูดเท่าใดนัก แต่น้ำเสียงบอกว่าไม่ไหวจริงๆ ธงรบถอนหายใจ อธิคมก็ถอนหายใจดังไม่แพ้เพื่อนแล้วเล่าเรื่องของตัวเอง "ไปทีไรก็ไม่เคยเจอ ไม่รู้ฟ้าเล่นตลกอะไร เวลาไม่อยากให้บังเอิญก็เสือกบังเอิญดีนัก แต่เวลาที่อยากให้บังเอิญก็ไม่ยอมให้บังเอิญเสียบ้างเลย นี่แกแน่ใจหรือว่าคุณนุอยู่ที่นี่"
"แน่สิโว้ย" ธงรบรีบตอบ และเผลอเกือบจะพูดไปว่า...ก็ไอ้วุธมันบอก...หากก็ยั้งปากไว้ได้ทัน "ยังเสือกมาถามอีก ก็คอนเฟิร์มแล้วว่าคุณนุซื้อที่ดิน แกก็รู้ สร้างบ้าน ทะเบียนบ้าน ขอมิเตอร์น้ำไฟก็คุณนุ สัญญาซื้อขายที่ดินก็คุณนุ เอ็งมาถามหาหอกอะไรอีกวะ ป่านนี้ถ้ายังไม่มั่นใจก็ให้ตำรวจไปสืบสวนสอบสวน ไม่ก็ไปดักซุ่มโจมตียี่สิบสี่ชั่วโมงซะเลย ไม่ก็ย้ายกลับมานอนแห้งเหี่ยวที่กรุงเทพฯ ซะ"
"รู้แล้ว พูดไปยังไง ไอ้หอกหัก" อธิคมตวาด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงเนือยว่าๆ "ซุ่มได้ไง เดี๋ยวตำรวจโดนตีกระเจิง"
อธิคมถอนหายใจอีกครั้ง ในใจรู้สึกหวาดหวั่นวั่นอยู่ว่าคนอย่างอนุภาพคงไม่ยอมแน่ หากเป็นเมื่อก่อนตอนที่จีบอนุภาพ เขาก็อาจจะทำ แต่ว่าตอนนี้ไม่อยากเสี่ยง อีกอย่าง เขาก็เห็นด้วยกับที่คชานนท์แนะนะว่า ขอให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ รอจนกวาจะครบกำหนดสามเดือน แล้วค่อยทำให้เป็นเรื่องบังเอิญเจอกัน
...ทั้งที่รอเฝ้ารอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะบังเอิญเสียที...
"ใจเย็นๆ นะอธิคมเพื่อนรัก ถือซะว่าตอนนี้เอ็งกำลังใช้กรรมอยู่"
"กรรมที่เอ็งก่อไว้ละสิไอ้ระยำ" อธิคมรีบแทรก "ถ้าไม่ใข่เพราะเด็กแก คุณนุก็ไม่โกรธสติแตกแบบนี้หรอก"
"ขอโทษว่ะเพื่อน แต่เอ็งแน่ใจหรือว่าเรื่องนี้ ตอนที่คุณนุกลับไป คุณนุยังบอกว่าเข้าใจแล้ว ไม่ต้องอธิบายังไงล่ะ" ธงรบเท้าความเดิม "ข้าว่ามันมีอะไรๆ อยู่นา หรือคุณนุเกิดจะเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝนขึ้นมาทันใดวะ อยู่ดีๆ ก็อาจจะกลัวว่า ชีวิตรักกับคนเจ้าชู้อย่างแกอาจไม่มั่นคง ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า มีความสุขกว่าเยอะ"
"ไอ้" อธิคมชักฉุนเพื่อน ธงรบพูดเหมือนจะให้กำลังใจและปลอบใจในตอนต้นกลับลงท้ายด้วการซ้ำเติม
"ไอ้ห่_ ธง ขอให้พรนี้ย้อนกลับไปหาแกด้วยเถอะ ข้าจะหัวเราะให้ฟันหัก"
"อ้าว อย่ามาแช่งกันแบบนี้สิอธิคมเพื่อนรัก อาทิตย์ยอมเป็นของข้าแล้ว ความสัมพันธ์ก็กำลังคืบหน้า ติดอยู่แค่อย่างเดียวเรื่องสนธิสัญญาห้ามสามวันเว้นสี่วันนี่ล่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ ยอมเป็นของข้าแล้วยังจะมาห้ามไม่ให้โผล่หน้าไปหาจันทร์อังคารพุธอีก ส่วนเรื่องกฏเหล็กเพิ่มเติมอีกสองข้อ ข้าพอทนได้"
"กฏอะไรของเอ็งวะ" อธิคมถาม เริ่มอยากรู้ขึ้นมา หลังจากที่ได้ยินธงรบบ่นเรื่องกฏเพิ่มเติมสองข้อมาหลายครั้งแล้ว
"ช่างเถอะ แกอย่ารู้เลย" ธงรบพูดไม่เต็มเสียง ท่าทางไม่อยากบอกเขา น้ำเสียงของเพื่อนฟังดูเหนื่อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเป็นตื่นเต้น "เฮ่ยคม พอแค่นี้ก่อนนะโว้ย ข้าเห็นอาทิตย์เดินออกมากับใครไม่รู้ ท่าทางสนิทกัน หล่อเท่ห์ไม่หยอก ไม่น่าไว้วางใจผู้ชายในชุดสูทสีดำ แบบนี้ต้องสะกดรอย"
ธงรบวางสายทันทีไม่ทันที่อธิคมจะได้กล่าวคำอำลา สารวัตรหนุ่มสอดโทรศัพท์เข้าประเป๋ากางเกง แล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ ถอนหายใจแรงๆ ด้วยความเบื่อหน่ายเพราะไม่รู้ว่าเวลาที่เหลืออยู่ของวันนี้จะทำอะไรดี
...เหงาเหลือเกิน คิดถึงอนุภาดเหลือเกิน ทรมานเหลือเกิน...นี่คือสิ่งที่เขารู้สึกตอนนี้นอกเหนือจากความเบื่อ
ในที่สุด อธิคมก็คิดออกว่าควรไปตกปลาดีกว่า อย่างน้อยได้นั่งเงียบๆ คนเดียวริมคลอง ลมเย็นๆ เบื่อก็เอนตัวนอนเล่น คิดอะไรเรื่อยเปื่อย
...แต่เอ๊ะ นั่นใครดูคุ้นๆ...
อธิคมกำลังจะเลี้ยวรถออกจากสถานีตำรวจ สองตามองข้ามไปอีกฝั่งของถนน เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำผ่านไป
...อาวุธ! อาวุธมาทำอะไรที่นี่...
อธิคมเปลี่ยนใจกระทันหัน หักพวกมาลัยเลี้ยวขวาตัดข้ามไปอีกด้านของถนนหน้าโรงพัก แล้วขับตามรถโฟร์วีลด์สีดำป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานครคันนั้นไปทันที
อาวุธขับรถไม่ค่อยเร็วนัก ตรงออกนอกเมืองไปยังถนนที่มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก
...คนละทิศกับถนนที่ไปอำเภอสอง..
...จะโล่งใจหรือเปล่าที่อาวุธไม่ได้กำลังจะเดินทางไปหาอนุภาพหรือจะหนักใจดีที่อาวุธอาจจะมาจากอำเภอสองก็ได้...
ถึงทางแยก รถสีดำของอาวุธเลี้ยวซ้าย มุ่งไปยังจังหวัดลำปาง อธิคมจึงเลิกตาม
อธิคมนั่งนิ่งอยู่หลังพวงมาลัยเกือบสิบนาที รู้สึกสับสนในใจปนหวาดระแวง กลัววาอาวุธจะมา "ขโมยปลาย่าง" อย่างที่เขาเคยเหน็นแนม
อาวุธอยู่ที่แพร่ ใกล้กับอนุภาพมาก เหมือนกันเขาที่อยู่ใกล้...
...ใกล้แค่นี้ เพียงครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ถ้าเขาขับรถไปอำเภอสองเดี๋ยวนี้เขาก็อาจจะได้เห็นหน้าอนุภาพ...
ในที่สุดอธิคมก็พ่ายแพ้ต่อความปรารถนา นายตำรวจจึงเลี้ยวรถตรงไปทางเหนือของจังหวัด เผื่อจะเกิด "ความบังเอิญ" ขึ้นมาบ้าง

โชคไม่เข้าข้างอธิคม บ้านของอนุภาพเงียบสนิท พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ความมืดกำลังคืบคลานเข้ามาปกคลุมอำเภอเล็กๆ เหมือนผ้าห่มผืนขนาดมหึมา แต่แทนที่ผ้าห่มจะทำให้อธิคมอบอุ่น แต่กลับรู้สึกหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ
อธิคมอยากจะนั่งคอยจนกวาอนุภาพจะกลับบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น หากเขานั่งคอยอีกสองชั่วโมงก็จะเป็นเวลาสองทุ่ม อนุภาพคงไม่กลับค่ำขนาดนั้น อำเภอเล็กๆ เช่นนี้สองทุ่มทุกอย่างก็เงียบสงบ
...แต่คราวที่แล้ว เขาแวะมาแอบมองตอนสามทุ่ม บ้านก็ยังมืดสนิท ไม่มีแสงไฟเล็ดลอดออกมา อนุภาพไปไหนได้แทบทุกครั้งที่เขามาหา ไปทำอะไร ไปที่ไหน ไปกับใคร ไปทำไม เขาอยากรู้นัก...
อธิคมถอนหายใจหนักๆ ติดต่อกันหลายครั้ง สองจิตสองใจถกเถียงกันอย่างวุ่นวาย
ใจหนึ่งอยากนั่งคอยอยู่ที่นี่จนกว่าชายหนุ่มที่เขาคิดถึงแทบขาดใจจะกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเวลากี่โมงกี่ยามเขาก็จะคอย อีกใจหนึ่งบอกว่า ไม่มีประโยชน์ อย่าพยายามฝืนความเป็นจริงดีกว่า อีกอย่าง จะไว้ใจตัวเองได้อย่างไรว่าจะไม่วิ่งลงไปหาอนุภาพทันทีที่เห็นหน้า

อนุภาพพลิกตัวมานอนหงาย อาการปวดหัวรุมๆ รู้สึกทุเลาลงมากแล้ว แม้จะรู้สึกตัวได้พักหนี่ง แต่เขาก็ยังไม่อยากจะลุก ตั้งแต่อาวุธกลับไป เขาก็ทานยาและนอนพัก อาวุธไม่ทราบว่าเขาไม่สบาย อนุภาพไม่อยากบอกเพราะรู้ว่านายตำรวจคงคะยั้นคะยอพาเขาไปหาหมอ โชคดีที่เขามียากบูโรเฟนอยู่หนึ่งแผง จึงทานไปสองเม็ดและคิดว่าคงจะรู้สึกดีขึ้นในไม่ช้า
บ้านเงียบสนิทและมืด อากาศค่อนข้างเย็น อนุภาพดึงผ้าห่มที่หลุดลุ่ยลงไปกองอยู่ทีเหนือเอวขึ้นมาคลุมถึงคอ รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
...กายอบอุ่น แต่ทำไมหัวใจเขารู้สึกหนาวเย็นยิ่งนัก ทั้งๆ ที่อาวุธเพิ่งบอกรักเขาเมื่อตอนบ่าย ทำไมเขายังรู้สึกไม่อบอุ่นอย่างที่...อย่างที่อธิคมบอกเขา...
...อธิคม...ตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง อีกไม่กีวันก็จะครบกำหนดสามเดือนที่เคยตกลงกัน อธิคมจะทำอะไรอยู่ในขณะที่รู้ว่าเวลาเหลืออยู่อีกไม่เท่าไหร่...
อาวุธบอกรักเขาตรงๆ หลังจากที่ทำท่าอ้ำอึ้งอยู่เกือบห้านาที แต่พอตัดสินใจได้แล้วอาวุธก็ไม่ลังเล คำพูดทุกคำหนักแน่น บ่งบอกความหมาย เขายอมรับว่าคำพูดของอาวุธทำให้เขาต้องคิดอยู่พอสมควร
...เหตุผลของอาวุธนั้นแทบปฏิเสธไม่ได้...
"คุณนุคงไม่อยากขี่รถไฟเหาะตีลังกาทุกวัน"
อนุภาพจำคำพูดของอาวุธได้ อาวุธเปรียบเทียบความสัมพันธ์เหมือนกับที่เขาคิดเอาไว้ในใจ
"ชีวิตผมมันราบเรียบ คบกับผมก็เรียบๆ ไปเรื่อยๆ คงไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาตื่นเต้น"
อาวุธเปรียบเทียบความสัมพันธ์เหมือนการไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ ถอดรองเท้าออก เดินย่ำไปบนหญ้าสีเขียวนุ่มๆ แล้วนั่งปิกนิกกัน
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด ความสัมพันธ์ของเขากับอธิคมนั้นมีเรื่องน่าตื่นเต้นอยู่ร่ำไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระหว่างเขากับอธิคมสองคนกันเอง หรือเรื่องที่มีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่สำคัญคือเรื่องของกษิดิษฐ์กับศรุต ตั้งแต่ครั้งนั้นที่ปะคารมกับกษิดิษฐ์ในโรงละครคราวที่ไปดูละครเวที เขารู้ว่ากษิดิษฐ์ยังไม่ยอมหยุด แล้วคนอื่นๆ อีก ทั้งเก่าและใหม่ จนวันหนึ่งเขาอดบ่นกับสมบัติไม่ได้ เพื่อนรุ่นพี่ปลอบเขาว่า เป็นแฟนคนรูปหล่อก็ต้องทำใจเวลาไปไหนด้วยกัน เพราะจะมีคนมาให้ท่าเขาอยู่ ของแบบนี้ห้ามไม่ได้ หากกลัวว่าใครจะมาทอดสะพานให้แฟนเขา คงต้องขังอธิคมไว้ที่บ้าน
อนุภาพบอกตัวเองว่าตัวเองก็พยายามหนักแน่นแล้ว บอกตัวเองอยู่เสมอว่าอธิคมเลิกเจ้าชู้ ส่วนเรื่องจะเผลอไผลบ้างอันนั้นเขายังไม่อยากคิด และไม่กล้าที่จะคิด ก่อนที่เขาจะหนีมาเชียงใหม่ตอนที่เห็นอธิคมกับ "เด็ก" ของธงรบในห้องพักที่โรงแรมครั้งไปเที่ยวกระบี่ ตอนนั้นเขาบอกตัวเองว่าจะแยกกับอธิคม ลงโทษนายตำรวจเจ้าชู้ให้สาสมเพราะทำอะไรให้เขาเสียใจมาก แต่พอครั้นได้รู้เรื่องว่าเป็นความเข้าใจผิด เขาก็ยังนึกฉุนๆ อยู่บ้าง แต่เมื่อได้ไตร่ตรงและค้นหาความรู้สึกของตัวเองจริงๆ เขาก็ต้องร้องให้ออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อถึงคำตอบที่ได้รับ
เขาจากอธิคมมาไม่ใช่เพราะเรื่องที่กระบี่...
เขาจากอธิคมมาไม่ใช่เพราะความผิดของอธิคม...
เขาจากอธิคมมาเพราะตัวเอง
...เพราะตัวเองที่อ่อนแอเหลือเกิน...
ตอนนี้ทุกอย่างยุ่งเหยิงกว่าเดิม เขากำลังสู้กับความคิดของตัวเองอีกครั้ง แทบทุกครั้ง ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดก็คือใจของตัวเอง ไม่ใช่กษิดิษฐ์ ไม่ใช่ศรุต ไม่ใช่ใครทั้งนั้น
ใจของตัวเองที่เฝ้าถามเจ้าของหัวใจว่า จะอยู่กับคนที่เขารักและต้องคอยหวาดหวั่นกับความไม่แน่นอน ความไม่ชัดเจน ความระแวง รวมถึง "เงา" จางๆ ของอดีตที่ยังเกาะอยู่ในใจเขาอยู่ตลอดเวลา หรือจะอยู่กับคนที่เขารู้สึกดีด้วย และไม่ต้องกังวลกับเรื่องใดเลย นอกจากต้องต่อสู้กับการขจัด "เงา" ในใจให้ออกไป
ตอนนั้น...เขาต่อสู้กับตัวเอง ระหว่างการลืมธนาภพและเริ่มต้นใหม่กับอธิคม
แต่ตอนนี้ แทนที่ธนาภพจะหายไป เขากลับต้องมาว้าวุ่นกับสามคนในชีวิต...
อาวุธกับอธิคม
...และธนาภพที่กายจากไป แต่วิญญาณยังอยู่
...ภาพที่ร่างนั้นนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นยังติดตาเขา...
วิญญาณที่เขารู้สึกเหมือนลอยออกมาจากร่างที่เขาคุ้นเคยตั้งแต่เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อจากเด็กเป็นชายหนุ่ม จนกระทั่งเรียนจบมหาวิทยาลัยและทำงานด้วยกัน
วิญญาณที่เขารู้สึกในวันนั้นว่าลอยมาโอบตัวเขาไว้ไม่ให้ทรุดลงกองกับพื้นพร้อมๆ กับแขนแข็งแรงของอธิคมที่รั้งดึงเขาไว้แนบตัวเมื่อเขาแหวกฝ่ากลุ่มคนที่กำลังมุงดูนักปีนเขาตกเขาคนนั้น...คนที่ชื่อธนาภพ...
หากธนาภพไม่เสียใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ธนาภพคงไม่พลาด
ธนาภพพลาดจริงหรือ...
...ตอนนั้นเขาพูดกับธนาภพว่าอย่าได้เจอกันอีกเลย...
...ไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แต่เขากลับรู้สึกว่าธนาภพยังไม่ไปไหน...

***** end of chapter 23 *****

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
Re: นิยายรักผู้พิŨ
«ตอบ #2404 เมื่อ02-03-2009 07:54:20 »

มาแต่เช้า  :pig4:

วันนี้ให้พี่นาย ทำงานอย่างมีความสุขนะ ไม่เครียด ไม่เครียด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2009 07:56:44 โดย โน๊อา »

CocO naTtH mIlK

  • บุคคลทั่วไป
 :z3: :z3:เริ่มรู้สึกที่จะไม่ชอบ "คุณนุ" ขึ้นมาดื้อๆแล้วอ่ะ

ทำไมเหรอ การที่จะรัก ต้องกลัวอะไรมากมาย สาเหตุที่แท้จริงที่คุณนุกลัวแม้ว่าจะมาจากตัวเองแต่ลึกๆแล้วคงจะไม่อยาก "เสียใจ" มากกว่า เมื่อก่อนก็คิดแบบนี้ครับ หลังจากที่อกหักครั้งแรก....เป็นคนถูกบอกเลิกมันก็เจ็บปวดดีนะ ก้เลยพอจะเข้าใจว่า "สารวัตร" จะรุ้สึกอย่างไรถ้าถูกบอกแบบนั้น

แต่จริงๆก้ต้องบอกว่า "ความรัก" ทำให้อะไรดีขึ้น ถ้าเรารู้จักใช้ความรักในทางที่สร้างสรรค์

สิ่งที่ไม่ชอบอีกอย่างก็คือว่า "อาวุธ" จะมาสารภาพรักทำไม ทั้งๆที่รู้ว่า "เพื่อนสนิท" ของตัวยังรักและหลงคุณนุอยู่ แม้ว่าในชีวิตจริง เหตุการณ์แบบนี้มีมากมาย แทบจะบอกได้ว่า ไม่ใครก็ใครอาจจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมานานมาก มัน "ไม่ช่วยอะไรเลยหรือ"

แบบนี้นะ ก้มีทางเดียว คือ "เชียร์สารวัตร" สู้เพื่อคนที่ตนรักซะบ้าง อย่างน้อยถ้าอะไรจะเกิด ก็จะได้รู้สึกว่าทำเพื่อคนที่ตนรักอย่าง "เต็มภาคภูมิ"

คนเราเมื่อคิดจะรักแล้ว ทำไมต้องคอยรับแต่ความดีของคนรักตัวเอง ทำไมไม่ทำใจเป็นกลางและคิดว่า ไม่มีใครที่ดีไปซะทั้งหมด และเลวไปซะทั้งหมด มีดีและเลวปะปนกันนั่นล่ะ ถึงเรียกว่า "คน"

อยู่กับปัจจุบันและทำปัจจุบันให้ดีสำหรับชีวิตคู่ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดมั้ง

หวัดดีวันจันทร์ค๊าบ....... :bye2:

ออฟไลน์ Fujitaga

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตั้งหน้าตั้งตารอ ดีใจจังพี่นาย เข้ามาต่อให้ตั้งแต่เช้าเชียว อารมณ์ดีอีกแล้วครับท่าน
แต่มาต่อให้ตั้งแต่เช้าขนาดเนี่ย จะทารุณพี่นายป่าวเนี่ย ชักเป็นห่วงแล้วซิ (เดี๋ยวจะไม่สบายแล้วไม่มาต่อให้) ฮิฮิ
ก่อนไปขอ  :กอด1: ทีนึกแล้วกันนะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ พี่นาย....


ืnuttykung

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่านะ

สิ่งที่คุณนุเป็นอยู๋ตอนนี้อ่ะ

เป็นเพราะคุณนุเป็นคนเงียบ ไม่พูด

มีเรือ่งอะไรก็เก็บเงียบไว้คนเดียว

เก็บทุกยอ่างทุกเรือ่งราวเอาไว้ในใจ

วันนึงไอ้เรือ่งที่ไม่ดีมันก็จะตกตะกอนนองก้นอยู๋ในใจ

แล้วสักพักมั้นก็จะกลายเป็นตะกอนสนิมที่กัดกินหัวใจคุณนุ

ถ้าหากได้ลองระบายออกมาบ้างหรอืได้คุยกับใครสักคนนึงแบบหมดเปลือก

พูดแบบเปิดอกไปเลย ปลดปล่อยทุกๆอย่างออกมา

เหมือนไขก๊อกหัวใจ  ให้มันได้ระบายเรือ่งไม่ดีๆออกมาบ้างก็คงดี

คุณนุคงดีขึ้นกว่านี้อีกเยอะ

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
คุณนุน่าเบื่อจริงๆ ยิ่งอ่านยิ่งเซ็งคุณนุ
เลิกกับอธิคมไปคบกะคนน่าเบื่อๆ เหมือนกันไปเหอะงั้น
อีกหน่อยอาจจะได้เห็นกรณีเปรียบเทียบในการจัดการคนเจ้าชู้
ระหว่างคนน่าเบื่อๆ แบบคุณนุ  กับ คนเผ็ดๆ หน่อยแบบอาทิตย์
แนวทางการจัดการคงจะแตกต่างกัน อิอิ
ว่าแต่ว่า
เมื่อไหร่คุณนายจะมาเฉลยกฎเหล็กซะที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ thanagorn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
พี่นายมาแต่เช้าเลย  คริ คริ  อารมณ์ดีเป็นพิเศษ :L1: :L1:

อีก2วันก็สอบเสร็จแล้ว :laugh:  ก็คงต้องเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระสอบแบกกลับบ้าน

 :o12: :o12:  ก็คงไม่ได้เข้ามาอีกนานโข   :เฮ้อ:ไม่อยากเข้าไปในเมืองเพราะ

มันไกลมากๆๆๆๆๆๆๆ :เฮ้อ:  แต่ก็อ่นบนมือถือได้นะแต่มันไม่สะใจอะ  เฮ้อ :เฮ้อ:

ก็คงรอเปิดเทอมมั้งเนี่ย  เฮ้อ  ตั้งปลายเดือนพฤษภาแนะ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
พี่นายมาแต่เช้าเลย  คริ คริ  อารมณ์ดีเป็นพิเศษ :L1: :L1:

อีก2วันก็สอบเสร็จแล้ว :laugh:  ก็คงต้องเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระสอบแบกกลับบ้าน

 :o12: :o12:  ก็คงไม่ได้เข้ามาอีกนานโข   :เฮ้อ:ไม่อยากเข้าไปในเมืองเพราะ

มันไกลมากๆๆๆๆๆๆๆ :เฮ้อ:  แต่ก็อ่นบนมือถือได้นะแต่มันไม่สะใจอะ  เฮ้อ :เฮ้อ:

ก็คงรอเปิดเทอมมั้งเนี่ย  เฮ้อ  ตั้งปลายเดือนพฤษภาแนะ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

จะส่ง จ.ม. (ย่อมาจากคำว่า จดหมาย) ไปให้อ่านเอาป่ะ อ่านจากโทรศัพท์มือถือ ตายกันพอดี ผมอ่านจากไอโฟนยังปวดตาเลยนะนี่
นอกเสียจากว่าจะมีแว่นขยายกลมๆ อันนึง ส่องดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือ จะได้สบายตาขึ้นหน่อย


jokirito

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:คุณนายอายุมากแล้วอ่ะดิ  สายตาเลยไม่ดี

เค้ายังอ่านจากมือถือทุกคืนเลย (ที่บ้านไม่มีคอมฯใช้อ่ะ)

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เครียดแทนสารวัตรอธิคม อยากเจอหน้าแต่เจอไม่ได้

อยากไปหาก็กลัวจะโดนโกรธ เครียดดดดดดด

 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
รักแท้ย่อมมีอุปสรรค เอาเหอะสู้เขาสารวัตร เราจะเป็นกำลังใจให้คุณเอง

ออฟไลน์ ï_Kiss_U♥

  • รักไม่ได้
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2

สู้ต่อไปนะสารวัตร
อุปสรรคมีให้ก้าวข้าม แล้วให้มันผ่านไป :กอด1:

ออฟไลน์ thanagorn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ส่ง จ.ม. มาเลยค๊าบ  แหะๆ

 :call: :call:

จะรอนะรักมากมายถ้าส่งจริงๆนะ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L1: :กอด1:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งทรมาน ไม่เจอๆกันไปเลยล่ะ

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
ส่ง จ.ม. มาเลยค๊าบ  แหะๆ

จะรอนะรักมากมายถ้าส่งจริงๆนะ

ขอบอกเลยนะครับ ถ้าพี่เขาจะส่ง โปรดระบุ ว่าเอาแบบที่พิมพ์ แล้ว print ออกมาเท่านั้นนะครับ

Black Angel

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ส่ง จ.ม. มาเลยค๊าบ  แหะๆ

จะรอนะรักมากมายถ้าส่งจริงๆนะ

ขอบอกเลยนะครับ ถ้าพี่เขาจะส่ง โปรดระบุ ว่าเอาแบบที่พิมพ์ แล้ว print ออกมาเท่านั้นนะครับ

กัดเ็จ็บนะน้อง
กะว่าจะส่งลายมือต้นฉบับให้ซะหน่อย

 :m16:  :m16:  :m16:  :m16:  :m16:  :m16:  :m16:  :m16:  :m16:  :m16:  :m16:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 24 อ่านเล่นๆ ก่อนกลับบ้านครับ อิ อิ
ตอนนี้อธิคมโชว์แมน ครับ บทที่โชว์จริงแมนยกกำลังสองอีก
(โชว์แมนทีไรได้เรื่องทู๊กที)

24

อธิคมถอนหายใจลึกๆ รู้สึกทรมานอย่างที่สุดเท่าที่เคยรู้สึกมา จนป่านนี้อนุภาพก็ยังไม่กลับบ้าน เขานั่งรออยู่ในรถจนเกือบเที่ยงคืน บ้านของชายหนุ่มคนรักของเขาก็ยังมืดสนิท ความหวังที่จะเกิด "ความบังเอิญ" ให้เขาได้เห็นอนุภาพบ้างช่างริบหรี่นัก ในใจอดต่อว่าโชคชะตาไม่ได้ที่แกล้งเขาอยู่ร่ำไป ที่ผ่านมาเกิดเรื่องบังเอิญทำให้เข้าใจผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่จู่ๆ โชคชะตาก็เลิก "บังเอิญ" ไปเสียเฉยๆ เฝ้ารอโอกาสให้เขาบังเอิญเจออนุภาพบ้างก็ไม่มีโอกาส
...เขาโอกาสให้เขาบ้างเถิด ขอร้องล่ะ ขอให้เจออนุภาพซักนิด...
นายตำรวจหนุ่มฟุบหน้าลงกับพวงมาลัย โขกหัวตัวเองเบาๆ อย่างไม่รู้จะทำอะไรดี อีก 10 วันจะคบสามเดือนที่อนุภาพบอกกับเขาว่าให้ "ถอยห่าง" จากกันซักระยะเพื่อทบทวนความสัมพันธ์ของชีวิตคู่
...เขาทบทวนมาตลอด ทบทวนอย่างไรคำตอบก็ยังเหมือนเดิม แทบไม่ต้องใช้ความพยายามด้วยซ้ำ คำตอบเขามีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น...
...คุณนุครับ คำตอบของคุณนุคืออะไร?...

อนุภาพเดินโผเผออกมาจากห้องนอน จำได้ว่ายังไม่ได้ล๊อคกุญแจประตูหน้าบ้านจึงเดินผ่านห้องนั่งเล่นตรงไปล๊อคประตู
หลังจากรู้สึกตัวเมื่อตอนหัวค่ำ เขาก็นอนหลับต่อ พอรู้สึกตัวอีกครั้งกลางดึกจึงลุกขึ้นมาดื่มน้ำอุ่น
อนุภาพไม่ได้เปิดไฟ เขาไม่ค่อยชอบเปิดไฟ บ่อยครั้งที่เดินไปเดินมาในบ้านทั้งที่มืดๆ เขารู้จักพื่นที่ทุกตารางนิ้วในบ้าน คุ้นเคยจนแทบจะหลับตาเดินไปเดินมาได้
บ้านหลังเล็ก สีขาวโพลนทั้งหลัง สร้างขึ้นจากแปลนที่เขากับธนาภพเขียนขึ้น ดัดแปลงนิดหน่อยเพื่อลดขนาดของบ้านลง ลดกระจกรอบห้องนั่งเล่นแบบพาโนรามา ตัดปล่องไฟออก ระเบียงหน้าบ้านแคบลง บันไดเหลือเพียงสามขั้น หากขี้เกียจก็กระโดดลงพื้นหญ้าได้เลย
เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นไม่ไกลจากหน้าบ้านของเขาเท่าใดนัก อนุภาพชะเง้อมองผ่านช่องกระจกเล็กๆ ข้างประตู เห็นไฟท้ายรถสีแดงกำลังเคลื่อนออกไป
...ใครกันผ่านมาแถวนี้ดึกดื่น...
ปกติแทบไม่เคยเห็นใครผ่านมา พื้นที่แถบนี้ห่างจากตัวอำเภอราวสี่กิโลเมตร สงบเงียบ น่าอยู่ สงบจนเขามีเวลาคิดไตร่ตรองอะไรได้หลายอย่าง สงบจนแทบอยากจะนั่งสมาธิทุกวัน แต่อนุภาพสังเกตว่าค่ำๆ บางวันจะมีรถชอบมาจอดอยู่ตรงเนินหัวโค้งใกล้ต้นตะแบบก่อนถึงทางแยกขึ้นเนินมายังหน้ารั้วบ้านเขา จอดแล้วก็ไป เหมือนนั่งคอยอะไรซักอย่าง
อนุภาพล๊อคประตู ดึงผ้าหน้าต่างปิดให้เรียบร้อย เดินกลับไปที่ครัวแล้วถอดปลั๊กไปกาต้มน้ำ รินน้ำใส่แก้วใบใหญ่แล้วถือเดินกลับเข้าไปยังห้องนอน
...คืนนี้กำลังจะผ่านไป เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็รุ่งสาง วันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีของเขาอีกวันหนึ่ง...
...อีกเก้าวันที่เขาจะได้พบกับอธิคมและ "คุย" กันอย่างจริงจังอีกรอบ เขาจะเดินทางไปกรุงเทพฯ และนั่งลงคุยกันที่เก้าอี้ตัวเดิมที่เขานั่งคุยกับอธิคมเมื่อสามเดือนที่แล้ว...

บดิณทร์ยกเท้าเตะล้อรถฮอนด้าซีอาร์วีสีขาวอย่างอารมณ์เสีย ไม่เข้าใจว่ารถใหม่เอี่ยมซื้อมาไม่ถึงปีทำไมถึงเสียได้ จู่ๆ ก็สตาร์ทไม่ติดเสียดื้อๆ
วันนี้บดิณทร์มาตรวจโกดังเก็บของชานเมืองที่บิดาสั่งให้ดูแลความเรียบร้อยก่อนลูกค้าทำการเช่า เสร็จเรื่องโกดัง เขาต้องกลับไปที่ร้านทองเพื่อตรวจบัญชี แล้วหลังจากนั้นตั้งใจว่าจะแวะไปทักทายทำความรู้จักกับสารวัตรคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาประจำที่จังหวัดแพร่
...เขาจะไปแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ว่าเขาเป็นนักธุรกิจคนสำคัญคนหนึ่งของจังหวัดและ "ยินดีต้อนรับ" ผู้พิทักษ์สันติราฎร์คนใหม่ที่ย้ายมาบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชนในจังหวัดนี้
บดิณทร์พึงใจนายตำรวจร่างสูงทันทีที่ได้พบหน้า เขาไม่ปฏิเสธว่ารูปร่างหน้าตาของสารวัตรอธิคมนั้นดึงดูดใจเขามาก แต่เขามองเห็นอะไรบางอย่างในตัวของสารวัตรคนใหม่ ผู้ชายเงียบขรึม ดูหนักแน่น มั่นคง ดูเป็นที่พึ่งให้คนอื่นได้ สายตาเขามองไม่ผิด นายตำรวจคนนี้มี "อะไร" ซ่อนไว้แบบที่คนอย่างเขาเท่านั้นที่จะมองออก ต้องใช้ความรู้สึกและสัญชาตญาณ "พิเศษ" เท่านั้นถึงจะรู้ว่ามาดแมนห้าวเข้มอย่างนายตำรวจนั้นที่จริงแล้วก็เป็นคนที่พิเศษเช่นเขา
แดดเริ่มร้อน ขณะนี้อยู่ในช่วงหน้าหนาวก็จริง แต่แดดตอนบ่ายก็ร้อนไม่ใช่เล่น บดิณทร์กดโทรศัพท์โทรหาพี่สาวเพื่อสอบถามเบอร์ช่างซ่อมรถ แต่พี่สาวเขาไม่รับสาย เขาโทรหาเพื่อนที่รู้จักอีกสองคนแต่ก็ไม่ได้เรื่อง บดิณทร์จึงตัดสินใจเดินไปข้างหน้า เผื่อจะหาความช่วยเหลือได้ อีกไม่ไกลก็จะเข้าเขตเมือง อาจมีร้านซ่อมรถที่พอจะช่วยเขาได้บ้าง
ชายหนุ่มลูกชายคหบดีคนหนึ่งของจังหวัดเดินไปตามถนนไม่นานก็ได้ยินเสียงรถแล่นมา บดิณทร์รีบหันไปมอง ยกมือขึ้นเตรียมโบกรถ แต่เมื่อรถกระบะโฟร์วีลด์สีดำคันนั้นแล่นใกล้เข้ามา มือที่กำลังยกโบกอยู่ก็ค้างเติ่ง ตาค้าง ปากค้าง...
คนขับรถคือคนที่เขาคิดว่าจะไปทำความรู้จักอยู่พอดี...
สารวัตรอธิคม...โชคดีอะไรของเขาเช่นนี้...
เสียงของอธิคมหล่อไม่แพ้ใบหน้า นายตำรวจหนุ่มถามบดิณทร์ว่าให้เขาช่วยเหลืออะไรได้บ้าง บดิณทร์จึงขอให้นายตำรวจช่วย "บำบัดทุกข์" ให้ประชาชนตาดำๆ อย่างเขาด้วยการช่วยดูรถ อธิคมใช้เวลาไม่นานก็บอกว่าสายพานเครื่องยนต์ขาด ต้องเรียกช่างอย่างเดียว
"รถยังใหม่เอี่ยมอยู่เลยครับ เป็นยังงี้ได้ยังไง" บดิณทร์บ่น แต่ใบหน้ายิ้มๆ ราวกับว่าไม่รู้สึกเดือดร้อนใจอะไรมากนัก
"ซีอาร์วีก็แค่นี้ล่ะครับ จะเอาอะไรกับรถที่เอาไว้ให้ผู้หญิงขับหนีน้ำ" อธิคมยักไหล่
"ต้องรถสารวัตรถึงจะเข้มแข็งบึกบึน" บดิณทร์พูด ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
"งั้นเปลี่ยนใหม่เลยครับ" อธิคมสนับสนุน
"คงไม่หรอกครับ ผมไม่ใช่คนทิ้งอะไรง่ายๆ มันเสียก็ซ่อม เดี๋ยวก็ใช้ได้หมือนเดิม" บดิณทร์ยักไหล่ แล้วพูดต่อว่า "ผมต้องรีบไปที่ร้านทองด้วยสิ ขอติดรถสารวัตรเข้าเมืองด้วยคนนะครับ ถึงโน่นจะให้ช่างมาซ่อมแล้วขับไปส่งที่ร้าน"
"ไม่กลัวรถหายหรือครับ" อธิคมถามอย่างห่วงใย
"ไม่หรอกครับ ที่นี่ไว้ใจได้ คนเมืองนี้น่ารัก ไม่เป็นพิษเป็นภัย"
"แต่ว่ามีปัญหาเรื่องยาเสพติดอยู่บ้าง นี่ผมกำลังตามเรื่องนี้อยู่ คุณบดิณทร์เป็นคนกว้างขวางในพื้นที่ ไม่รู้จะช่วยผมได้หรือเปล่า" อธิคมพูด พร้อมเปิดประตูให้บดิณทร์ขึ้นรถ
ลูกชายร้านทองที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดอมยิ้ม ไม่คิดว่านายตำรวจจะทำเช่นนั้น อธิคมเลิกคิ้วอย่างสงสัยที่อยู่ๆ ชายหนุ่มก็อมยิ้ม จากนั้นจึงนึกได้ว่าตัวเองเผลอเปิดประตูรถให้
...เขาชอบเปิดประตูรถให้อนุภาพ...
พักนี้ใจเขาไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว รู้สึกว่าใจล่องลอย ไม่ค่อยมีสมาธิ ลูกน้องที่สถานีตำรวจบางคนก็เคยเปรยกับเขาบ้าง ดาบตำรวจสมโภชบอกว่าเรียกเขาตั้งสองสามครั้งเขาถึงตอบรับ ส่วนจ่าดนูก็บ่นว่า เขาถามคำถามเดิมตั้งสามครั้ง ทั้งๆ ที่จ่าดนูก็ตอบไปแล้ว
...เป็นเพราะอนุภาพ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะอนุภาพคนเดียวเท่านั้น ยิ่งใกล้วันครบกำหนดสามเดือนที่ต้องจากกันเขาก็ยิ่งเบลอ

"ผมหาซื้อเหยื่อพลาสติกไม่ได้ ไม่รู้จังหวัดนี้มีขายหรือเปล่า ตอนนี้กำลังคลั่งไคล้ตกปลา"
...เขา "จำต้อง" ตกปลาต่างหากเล่า...
อธิคมตอบคำถามของบดิณทร์เรื่องการตกปลาเพราะอีกฝ่ายเห็นคันเบ็ดที่วางอยู่ในรถเขา บดิณทร์มีอะไรคล้ายๆ อัสนัย คุยเก่ง หาเรื่องคุยได้แทบจะตลอดเวลา
"ร้านอุดมภัณฑ์ที่ถนนเวียงคำไงครับ อุปกรณ์ตกปลา อุปกรณ์กิจกรรมกลางแจ้งเพียบ ผมรู้จักเข้าของร้านด้วย จะพาไปก็ได้" บดิณทร์เสนอตัว แต่อธิคมปฏิเสธอย่างสุภาพ บอกว่าไม่อยากรบกวน แค่รู้ชื่อร้าน เขาก็ไปเองได้
บดิณทร์แอบลอบมองอธิคมบ่อยครั้ง นายตำรวจคนนี้ดูเรียบนิ่ง ค่อนข้างเก็บตัว ไม่เปิดเผยความรู้สึก พูดน้อย ถามคำตอบคำ ชายหนุ่มเตือนตัวเองว่า โอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์ด้วยท่าทางจะไม่ง่ายเสียแล้ว

สารวัตรอธิคมจอดรถส่งบดิณทร์ที่ฝั่งตรงข้ามร้านทองของชายหนุ่ม บดิณทร์บอกเส้นทางไปยังร้านขายอุปกรณ์ตกปลา และแนะนำว่าให้จอดรถไว้แล้วเดินไปจะสะดวกกว่าเพราะร้านอยู่ไม่ไกล และอยู่ในซอยที่ไม่มีที่จอดรถ
อธิคมข้ามถนนพร้อมกับบดิณทร์ แล้วแยกกับชายหนุ่มอารมณ์ดีที่หน้าร้านขายยา บดิณทร์เดินมาส่งเขาที่หัวมุมแล้วชี้บอกทางไปยังร้านอุดมภัณฑ์อีกครั้ง ก่อนจะเดินย้อนกลับไปยังร้านทองที่ครอบครองเนื้อที่สามคูหาซึ่งชายหนุ่มบอกว่าใหญ่ที่สุดในจังหวัด และยังบอกอธิคมว่าจะลดราคาให้เป็นพิเศษสำหรับเขาคนเดียวเป็นการต้อนรับนายตำรวจคนใหม่
อธิคมเดินทอดน่องไปตามทางเดินเท้าช้าๆ ไม่ถึงสิบเก้าก็ได้ยินเสียงร้องโวยวายทางด้านหลัง เสียงตะโกนร้องว่าให้ช่วยจับโจรปล้นร้านทอง อธิคมหันขวับ ชายร่างบึกบึนผิวสีดำแดงหน้าตาเหี้ยมเกรียมวิ่งมาทางเขา ในมือถือถุงผ้าสีดำ
...ขโมยช่างโชคร้ายจริงๆ...
อธิคมกางขาออกเล็กน้อย ตาจับอยู่ที่ร่างคนที่กำลังวิ่งเข้ามาใกล้ จึงเห็นว่าในมือขวาของขโมยคนนั้นถือปืนสั้นสีดำ อธิคมเตรียมตัว นับเลขถอยหลังตามจังหวะเท้าของหัวขโมย
สี่...สาม...สอง...หนึ่ง...และเมื่อสิ้นสุดที่ศูนย์ ขโมยโชคร้ายก็มาถึงในรัศมีมือและเท้าของอธิคม นายตำรวจยกเท้าเตะสกัดเข้าหน้าท้องของชายร่างหนา ฝ่ายนั้นร้องโอ๊กคำเดียว แล้วตัวงอ ก่อนจะต้องหงายหลังล้มฟาดกับพื้นเพราะถูกหมัดเสยเข้าปลายคาง
...ใครก็รู้ว่าอธิคมเตะหนักและต่อยหนัก...สมัยเรียน อาวุธกับธงรบรู้ดี คนอื่นๆ ก็รู้ดี...
อธิคมยกเท้าเหยียบข้อมือของขโมยที่นอนบิดตัวอยู่บนพื้น บดส้นเท้าลงกับพื้นแรงๆ ขโมยร้องโอดโอย มือแบะออก ปืนหลุดออกจากมือทันใด อธิคมเตะปืนออกห่างตัว แล้วก้มลง กางมือบีบคอคนที่นอนอยู่บนพื้นฟุตบาธแล้วหนีบเอาไว้ราวกับเป็นคีมเหล็กบีบอะไรซักอย่าง
รปภ. ประจำร้านทองวิ่งมาถึงและช่วยอธิคมล๊อคตัวหัวขโมย ชายอีกสองคนวิ่งมาช่วย ตามด้วยบดิณทร์ที่วิ่งหน้าตื่นตามมาพร้อมกับหญิงสาวอีกคน บดิณทร์บอกให้ รปภ. กับชายสองคนนั้นจับตัวขโมยเอาไว้
ขณะที่กำลังเปลี่ยนคนควบคุมตัว ขโมยฮึดสู้ เหวี่ยงถุงที่อยู่ในมือฟาดเข้าที่หน้าของสารวัตรหมัดหนัก แล้วพยายามสะบัดแขน คราวนี้อธิคมได้โอกาสสั่งสอนขโมยที่บังอาจสู้เขา ชายโชคร้ายจึงได้ลิ้มรสกำปั้นลุ่นๆ ซัดเข้าปลายคางอีกรอบ ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นราวถูกน๊อคกลางอากาศ จากนั้นจึงโดนรปภ. ร่างใหญ่เตะเข้าที่ชายโครงอีกหนึ่งครั้งจนต้องนอนบิดตัวร้องโอดโอย
"ฤทธิ์มากนะมึง เดี่ยวรุมประชาทัณฑ์เสียนี่" รปภ. ตะคอก แล้วกระชากแขนขโมยไพร่หลังแล้วใส่กุญแจมือ
"เชน ลากไป รอตำรวจ มัดเชือกให้แน่น อย่าให้หลุดไปได้นะ" บดิณทร์สั่งยาม แล้วกระชากถุงในมือของขโมยมาถือไว้
"ไม่หลุดแน่เฮีย มันลุกขึ้นเดินไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้" รปภ. กระชากร่างของคนที่นอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วลากถูลู่ถูกังกลับไปที่ร้าน บดิณทร์ยื่นถุงผ้าให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แล้วบอกให้กลับร้าน ก่อนจะหันมาขอบคุณอธิคม
"ถ้าไม่ได้สารวัตรเราคงแย่"
"ไม่เป็นไรครับ หน้าที่ของผม ยินดีรับใช้" อธิคมยิ้ม "แล้วนี่ตำรวจ..."
"เดี๋ยวก็มาครับ เรามีปุ่มกดส่งสัญญาณฉุกเฉิน ไม่เกินห้านาที สายตรวจก็มา สารวัตรไม่ต้องเป็นห่วง ขโมยคงหนีไปไหนไม่ไหวหรอก สารวัตรหมัดหนักขนาดนั้น โดนเข้าไปหมัดเดียว ลงไปกองกับพื้น แทบสลบ"
"สองครับ" อธิคมแก้ให้ถูก
"ถ้าสามขโมยคงตายคาที่" บดิณทร์ยิ้มกว้าง
"ถ้าเช่นนั้นผมคงต้องขอตัว"
บดิณทร์ยังกล่าวขอบคุณอธิคมซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนอธิคมต้องบอกว่าไม่เป็นไร และขอตัวไปซื้อของ
"ผมไปเป็นเพื่อน ให้ผมตอบแทนสารวัตรบ้าง บอกแล้วไงว่าผมรู้จักเจ้าของร้าน สารวัตรได้ลดราคาเยอะแน่" บดิณทร์เสนอความช่วยเหลือ
แม้อธิคมพยามปฏิเสธ บดิณทร์ก็ไม่ยอม นายตำรวจจึงต้องเดินเคียงคู่กับลูกชายเจ้าของร้านทองตรงไปยังร้านขายอุปกรณ์ตกปลา
"เลี้ยวขวาตรงโน้น ข้ามถนน ตรงไปอีกนิดเดียวก็ถึง ซื้อของเสร็จ สารวัตรอย่าเพิ่งกลับนะครับ ขอให้ผมเลี้ยงขอบคุณสารวัตรบ้าง เพื่อนผมเพิ่งเปิดร้านอาหารใหม่ รับรองว่าอร่อยถูกใจ คราวนี้ไม่ได้แค่ลดราคา แต่ได้ทานฟรี"
บดิณทร์เดินช้า เพราะมัวแต่คุย พร้อมกับชื่นชมอธิคมไม่ขาดปาก
"มีตำรวจเก่งๆ แบบสารวัตร พวกเราก็รู้สึกปลอดภัย ขอบคุณสารวัตรมากๆ นะครับ"
"บอกแล้วไงครับว่าเป็นหน้าที่ของผม" อธิคมยิ้มบ้างๆ หยุดยืนที่ริมถนน หันมองซ้ายขวาก่อนจะก้าวลงบนพื้นถนนเพื่อข้ามไปฝั่งตรงข้าม บดิณทร์ตามมาติดๆ เมื่อใกล้จะข้ามถึงอีกฝั่งหนึ่งของถนน ชายหนุ่มแตะแขนสารวัตรคนเก่ง แล้วชี้ให้อธิคมเดินไปทางด้านขวา แต่พลันก็อุทานว่า
"อ้าว สารวัตร เลือดออกหรือนี่ เลือดซิบๆ เลย" บดิณทร์ยกมือขึ้นชี้หน้าอธิคม นายตำรวจหนุ่มยกมือขึ้นแตะขมับแต่บดิณทร์รีบพูดขึ้นว่า "ไม่ใช่ด้านนั้นครับ ด้านนี้ ตรงนี้"
พูดเสร็จ ชายหนุ่มผู้หวังดีก็ยื่นมือมาแตะหางคิ้วด้านขวาของนายตำรวจหนุ่ม อธิคมเบี่ยงหน้าเพื่อหลบมือของบดิณทร์ ก้มหน้าลงเล็กน้อย หันไปด้านซ้าย แต่กลับสะดุดเพราะเกือบจะชนคนที่กำลังเดินสวนทาง
อธิคมเงยหน้าขึ้นกำลังจะกล่าวขอโทษ แต่หัวใจเขาหล่นไปอยู่ที่เท้า รู้สึกราวกับโลกหยุดหมุน ทุกอย่างหยุดนิ่งไร้การเคลื่อนไหว
"คุณนุ"
อนุภาพเงยหน้ายืนมองเขาหน้านิ่งเรียบ ปากเม้ม อธิคมบอกตัวเองว่าเห็นแววตาของอนุภาพลุกวาบ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย
อนุภาพเบี่ยงตัวหลบ แล้วเดินจากไป อธิคมครางเรียกชายหนุ่มด้วยเสียงแหบแห้ง แล้วหันหลังเดินตาม
"คุณนุ หยุดก่อนสิครับ"
คำแนะนำที่คชานนท์น้องชายเขาแนะนำนั้นอธิคมลืมไปหมดสิ้น คำแนะนำที่บอกว่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปโดยธรรมชาติ ทำเสมือนว่าเจอกับอนุภาพหรือให้อนุภาพเจอโดยบังเอิญนั้นเกิดขึ้นจริงแล้ว ตลอดเวลาที่มาถึงแพร่ เขารอให้เกิดความบังเอิญอยู่ทุกวัน ทุกเวลา รอแล้วรอเล่าจนอ่อนใจก็ไม่มีวี่แววว่าจะบังเอิญเจออนุภาพเสียที
แต่คราวนี้ บังเอิญที่สุด และซวยที่สุดด้วย...
...ซวยแบบไม่ต้องพึ่งธงรบให้พาซวย...

อนุภาพหยุดเดิน ยืนนิ่ง เพราะอธิคมวิ่งอ้อมมายืนขวางทาง ชายหนุ่มทำหน้าเยือกเย็น เรียบนิ่ง ดวงตาเศร้าๆ มองที่ต้นคอของอธิคมชั่วอึดใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วถามนายตำรวจด้วยเสียงเย็นๆ
"มาธุระหรือครับ"
"คุณนุ" อธิคมจนคำพูด ในชีวิตนายตำรวจเจ้าสำราญ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จนคำพูดเช่นนี้
...จะตอบว่าอย่างไร จะตอบว่าย้ายมาทำงานที่แพร่เพื่อให้ใกล้ชิดอนุภาพ เพื่อรอเวลาครบสามเดือน เพื่อมาหาคนรัก ควรจะตอบแบบนั้นหรือ
แต่ถ้าเขามาทำธุระ เขาก็มาทำธุระของหัวใจ...
"ผม"
"ผมกำลังจะกลับพอดี กรุณาหลีกทางด้วย" อนุภาพกล่าวเสียงเรียบ
"ฟังผมก่อนสิครับ มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณนุกำลังคิด" อธิคมอ้อนวอน
"ผมคิดว่าอะไร สารวัตรรู้หรือว่าผมคิดว่าอะไร"
"คุณนุกำลัง..."
"เข้าใจผิด" อนุภาพเติม อนุภาพทำท่าอึกอัก ปากจะตอบอะไรบางอย่างแต่ก็ยังไม่ตอบ
"ตามสบายนะครับ"
"อยู่เฉยๆ เขาก็เอามือมาแตะคิ้วผม บอกว่ามีแผล ผมพยายามเบี่ยงหน้าหลบแล้ว เขากับผมไม่มีอะไรกัน ผมช่วยจับผู้ร้ายขโมยทองที่ร้านของเค้า คุณนุ อย่าเข้าใจผมผิด" อธิคมอธิบายด้วยเสียงเว้าวอน
"ผมบอกแล้วไงว่าตามสบาย สารวัตรอธิคมถอยไป ผมจะกลับบ้าน" อนุภาพเสียงแข็ง
อธิคมไม่ยอมขยับ ปรายตามองบดิณทร์แวบหนึ่งก็เห็นฝ่ายนั้นทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วก้มหน้าลง หันหลังเดินจากไป
"คุณนุ ผมมาหาแล้ว คุณนุอย่าหนีผมไปอีกเลยนะ"
...ช่างสามเดือน ช่างคำขาดอะไรนั่น ตอนนี้อนุภาพอยู่ตรงหน้าเขา ห่างกันแค่มือเอื้อมถึง...
อธิคมอยากจะรวบร่างนั้นมากอดเหลือเกิน หากริมถนนกลางเมืองแพร่มีเขากับอนุภาพเพียงสองคน เขาจะกอดและจูบอนุภาพเสียเดี๋ยวนี้
"ผมจะกลับบ้าน" อนุภาพพูดแล้วก้าวเท้าออกไปด้านข้าง หลบอธิคม แล้วเดินลิ่วตรงไปที่รถคันใหญ่สีดำที่จอดอยู่ริมถนน เอื้อมมือจะเปิดประตูแต่พลันชะงักเมื่อเสียงอธิคมดังขึ้นไม่ไกลจากหูเขาเท่าใดนัก
"เห็นหน้าผมก็รีบหนีไป รีบกลับบ้านไปทำไม มีใครรออยู่งั้นหรือ" อธิคมน้อยใจ วูบหนึ่งเขานึกถึงอาวุธขึ้นมาทันที เขาทนไม่ได้ ยิ่งเห็นอนุภาพกำลังจะเปิดประตูรถคันนี้เขายิ่งทนไม่ได้
...โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ...
เหมือนรถของอาวุธ!
หรือเป็นรถของอาวุธ!
รถของอาวุธแน่ๆ ถ้าเขาเดินไปด้านหลังและดูป้ายทะเบียนรถ ต้องใช่แน่ๆ เขาจำทะเบียนรถของอาวุธได้ขึ้นใจ...
ไม่ไหวแล้ว...ทนไม่ไหวแล้ว
อนุภาพยื่นมือไปที่จับเปิดประตูรถ อธิคมยื่นมือตาม วางทาบลงไปบนมือของชายหนุ่มที่กำลังจะดึงประตูรถให้เปิดออก
"อย่าไปเลยคุณนุ อย่าไปหาเขาเลย ผมมาแล้ว ผมมาหาแล้ว อยู่กับผม กลับกรุงเทพฯ กับผม" อธิคมเสียงอ่อน อ้อนวอนอนุภาพ นัยน์ตาปวดร้าว ปากเม้มเป็นเส้นตรง กรามขบกันแน่นจนเห็นขึ้นเป็นสัน
เพียงแค่ไม่กี่วินาทีหลังจากที่เขาพูดด้วยความน้อยใจและอารมณ์ชั่ววูบ เขาก็นึกได้ว่าไม่ควรเลย อนุภาพนิ่งไปทันที ทำตัวนิ่งเฉยจนเขาหวั่นใจ
"สารวัตร ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ ผมจะกลับบ้าน" อนุภาพเน้นคำพูดช้าๆ ตาจับอยู่ที่สองมือที่กำลังวางอยู่บนที่จับโครเมี่ยมของประตูรถ
"คุณนุครับ ผมขอโทษ"
"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ช่างเถอะ แล้วก็แล้วกันไป" อนุภาพตอบเสียงเรียบ
...หมายความว่าไง แล้วก็แล้วกันไป อะไรที่ต้องแล้วกันไป...
อธิคมสะอึก อนุภาพดูเยือกเย็นจนเขาไม่อยากจะเชื่อ ความรู้สึกหลากหลายประดังเข้ามาในหัวเหมือนคลื่นยามทะเลบ้าคลั่ง
เมื่อวานก็เห็นอาวุธขับรถคันนี้ในเมืองแพร่ ใช้เส้นทางไปลำปางโดยผ่านหน้าสถานีตำรวจด้วยซ้ำ หยามหน้าเขานัก วันนี้ อนุภาพขับรถคันเดียวกันมาซื้อของในตัวจังหวัด มันหมายความว่ายังไง
...หมายความว่ายังไง...
...อะไรที่แล้วก็แล้วกันไป...หมายความว่าสิ่งที่เขาพูดกระทบกระเทียบเมื่อครู่นี้ให้แล้วกันไป หมายความว่าที่เห็นเขาเดินกับบดิณทร์เมื่อครู่นี้ให้แล้วกันไป หรือหมายถึง "ตัวเขา" อย่างนั้นหรือ
...อาวุธ...อาวุธกำลังขโมยแฟนเขา...
...อีกเก้าวันเท่านั้น เก้าวันเท่านั้นก็จะครบสามเดือนที่เขาถูกยื่นคำขาดให้ห่างกันเพื่อทบทวนความสัมพันธ์ แต่อนุภาพกลับมาสร้างความสัมพันธ์กับอาวุธ
เก้าวันที่เขานั่งนับเข็มนาฬิกา รออย่างใจจดใจจ่อ อาวุธกลับย่องเข้ามาขโมยอนุภาพไปจากเขาหน้าด้านๆ...
จริงอยู่ เขาผิดสัญญาที่ให้อยู่ห่างกันสามเดือน แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ อะไรแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น
"สารวัตรครับ คุณเข้าใจผิด" อนุภาพพูดเสียงเบาๆ มือที่อยู่ใต้อุ้งมือของอธิคมยังไม่ขยับ "ถ้ากำลังคิดว่าผมมีอะไรกับสารวัตรอาวุธ คุณกำลังเข้าใจผิด เหมือนที่สารวัตรบอกผมว่าผมกำลังเข้าใจผิด"
...อนุภาพพูดอะไร เขาไม่เห็นรู้เรื่อง รู้แต่ว่าตอนนี้เขาหูอื้อ รู้แต่ว่าตอนนี้เขาโกรธอาวุธมา รู้แต่ว่าหากไม่ได้เป็นตำรวจ เขาจะตามไปกระทืบอาวุธเดี๋ยวนี้...
อธิคมเริ่มหายใจแรงขึ้น หน้าแดง ตัวสั่น ไม่สนใจรับรู้อะไรทั้งสิ้น นอกจากซัดหน้าขาวๆ นิ่งๆ ของอาวุธด้วยกำปั้นของเขา
"ผมเข้าใจผิดหรือ สามเดือนที่ผ่านมา ผมทรมานหัวใจแทบแย่ คิดถึงคุณนุใจจะขาด แต่คุณนุดูสุขสบายดี ไม่มีท่าทีทุกข์ร้อน ดูสงบเยือกเย็น หรือคุณนุทำใจได้แล้ว" อธิคมตัดพ้อ รู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก น้อยใจที่อนุภาพดูควบคุมตัวเองได้ราวกับไม่เหลือเยื่อใย
"สารวัตรครับ จะให้ผมทำยังไง จะให้นอนร้องให้ทุกวัน หรือเมาหัวราน้ำทุกคืน"
"กลับมาหาผมสิ ทิ้งผมไว้ทำไม"
"เราคุยกันแล้ว"
"ทรมานผมอยู่สามเดือนนี่หรือ คุณนุพูด ผมไม่ได้อยากตกลงด้วยแม้แต่นิดเลย" อธิคมค้าน "คิดว่าผมมาถึงแพร่นี่เพราะอะไร มาเพื่อเห็นว่าคุณนุกำลังจะหลุดลอยจากผมไปหรือยังไง คุณนุครับ บอกผมสิว่าคุณนุจะเลือกใคร จะเลือกเขาหรือเลือกผม" อธิคมเริ่มเสียงสั่น ตอนนี้เขาใกล้จะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
"อย่าให้ผมเลือกนะสารวัตร" อนุภาพหันขวับมามองอธิคม สายตาเย็นเฉียบ มองตาของนายตำรวจนิ่ง "อย่ามาบังคับกันเลือก โดยเฉพาะตอนนี้"
"ทำไมล่ะ ผมยังเลือกคุณนุเลย แม้แต่หนีผมมาที่นี่ผมก็ยังตามมาบังคับให้ผมทนห่างคุณตั้งสามเดือนผมยังยอมทน คุณนุเองกลับมา..." อธิคมอ้ำอึ้ง "คุณนุเองกลับ...กลับ...กลับอยู่เฉยๆ แล้วมาคบกับเพื่อนผมลับหลัง จะให้ผมรู้สึกยังไง"
"สารวัตรกำลังว่าผมนอกใจยังงั้นสิ" อนุภาพตาลุกวาบ กระชากมือออกจากที่จับประตูรถ "อย่าท้านะ ถ้าพูดต่ออีกคำเดียว ผมจะไปตอบตกลงกับสารวัตรอาวุธเดี๋ยวนี้เลย และย้ายกลับกรุงเทพฯ ไปอยู่กับเพื่อนของสารวัตร"
อธิคมนิ่ง เมื่อครู่เขาพูดเพราะความโกรธ น้อยใจ และเสียใจ แต่ครั้นอนุภาพเสียงแข็ง และกำลังขู่เขา อธิคมก็ไม่กล้า
...เขากลัว กลัวที่สุด กลัวว่าจะเสียอนุภาพไป เขาทนไม่ได้ หากต้องเสียอนุภาพไป เขายอมตายเสียดีกว่า
"คุณนุ" อธิคมพึมพำเสียงเบา เสียงห้าวทุ้มหายไปในลำคอ
นายตำรวจหนุ่มลดมือลงช้าๆ ปล่อยให้มือของอนุภาพเป็นอิสระ ใจหนึ่งอยากท้าชายหนุ่ม แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่กล้า ด้วยรู้ว่าอนุภาพนั้นใจเด็ดไม่ใช่เล่น
เขากลัวว่าอนุภาพจะหลุดลอยจากเขาไป ดั่งที่หลุดลอยหายไปจากธนาภพ
...แบบที่ไม่ต้องเจอกันอีก...สภาพเช่นว่านี้ล่ะ ที่เขากลัวยิ่งนัก...


น่าฉงฉานอธิคมเน๊อะ  :เฮ้อ:

MonsterP

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่า ครั้งนี้ คุณนุ ไร้เหตุผลมากๆไงไม่รู้ เวลาอธิคมเจอเด็กเก่าๆมาเกาะแกะ ผมก็โกรธแค้นแทนคุณนุ แต่ผมว่าครั้งนี้ ดูคุณนุทำอะไรลงไปแบบไม่ฉลาด ทำตัวไร้สาระไงไม่รู้เนอะ

Black Angel

  • บุคคลทั่วไป

va_yu

  • บุคคลทั่วไป
เห็นด้วยค่ะ คุณนุ ไร้สาระมากๆ
แรกๆดูเหมือนมีเหตุผลที่จะโกรธอธิคม..แต่หลังๆ
เหมือนคนเอาแต่ใจตัวเองมากกว่า..เหมือนรักแต่ตัวเอง

ชอบคู่ของธงรบ..น่ารักดี...

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
ไม่อยากจะบอกเลยนะ
แต่ว่าผมเริ่มเกลียดคุณนุจริงๆ แล้วล่ะ :m16:
ไร้เหตุผล โลเล ปัญญาอ่อนมากมาย
ถ้าผมเป็นอธิคมคงจะหนีไปอยู่ชายแดนจริงๆ
คุณนุอยากจะคิดอะไรมากมายก็คิดไป
สมมุติว่าถ้าตอนนี้ที่คุณนุแกล้งพูดประชดไปแบบนั้น
แต่พอครบ 9 วันแล้วตัดสินใจกลับไปหาอธิคมจริงๆ
ผมขอแนะนำให้อธิคมหนีไปชายแดนดีกว่า
หมันไส้คนทำตัวเป็นสวยเลือกได้
อยากเลือกมากนักก็หันไปเลือกคนน่าเบื่อๆ เหมือนกันที่นั่งรออยู่ซะเถอะ
เซ็งคุณนุอย่างแรง อ่านๆไปยิ่งจะนำเน่าขึ้นเรื่อยๆเนอะคุณคฑาวุธเนอะ
ทำไปได้ :z10:

จะว่าไปอย่างคุณนุคงไม่เหมาะที่จะมีรักแท้หรอก เพราะตัวเค้าเองไม่เคยมีรักแท้ให้ใคร ถ้ารักจริงๆ จะตัดใจหนีจากมาได้แบบนี้เลยเหรอ (ตั้งแต่ครั้งธนาภพแล้ว) ผมไม่เชื่ออ่ะว่าคุณนุจะรักใครจริง รักแต่ตัวเองมากที่สุด ถ้าคิดจะรักต้องไม่กลัวการเจ็บปวด เข้าใจ๋!!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-03-2009 16:31:45 โดย jokirito »

ออฟไลน์ ลูกหมีน้ำแดง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
 :a5:

พูดไม่ออก บอกไม่ถูก

 :o12:


รักคุณคฑาวุธค่ะ  :L2: เป็นกำลังใจให้ตลอดไปค่ะ

prawy

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่จะหายเศร้าซะทีนะ............. :เฮ้อ:


 :o12:

salemon

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่สงสารคุณนุที่ว่าต้องเจอกับคนเก่าๆของสารวัตร
ที่ต้องความน้อยใจ ในบางครั้งไปเที่ยวเพื่อ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็พบกับคนในอดีต
ซึ่งสารวัตรก็ไม่ได้บอกอย่างเด็ดขาดกับพวกนั้น จะให้ทำไงละ ในเมื่อรักมากก็เจ็บมาก
ในเมื่อคุณนุทำแบบนี้อยากให้สารวัตรเข้าใจก็ได้มั้ง แต่บางครั้งในสิ่งที่กระทำไปมันไม่ได้
เป็นไปตามสิ่งที่ตาเห็น ในใจคุณนุอาจจะลังเล ไม่แน่ใจกับตัวสารวัตรที่บอกว่ารักแต่คุณนุ แต่ยังไม่จัดการขั้นเด็ดขาดเด็กคนในอดีต :เฮ้อ:
ไปๆมาๆ ก็เริ่มเจ็บปวดแทนแหละ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด