อาวุธ สู้ๆ
เต้นเชียร์ อาวุธ
เห็นป่ะ ยังมีคนเชียร์อาวุธเลย มีไร ไปลุยผู้ชายเซ็กซี่คนนี้นะคร้าบ
บทที่ 19
็Have a good weekend นะครับ รักและเอ็นดูผู้เขียนด้วยน๊า (แล้วอย่าลืมสั่งซื้อคดีรักภาคนหนึ่งล่ะ ไม่ก็ช่วยโฆษณาหน่อยก็ยังดี) ขอบคุณครับผม
อ้อ มีงานโครงการหลวงที่สยามกินพาราก่อน นะครับ อาหารเพียบ ไปช่วยอุดหนุนกันหน่อย ผมก็ไปยืนขายสตรอเบอร์รี่อยู่แถวนั้นล่ะ (คอยดูนะ จะต้องมีคนเหน็บแนมแหง็มๆ)
19
"โธ่โว้ย บ้าจริงๆ" อธิคมตบพวงมาลัยรถคู่ชีพ ขว้างโทรศัพท์ลงบนคอนโซล แล้วหักรถลงข้างทาง เหยียบเบรกจนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ หัวทิ่มแล้วส่งเสียงโวยวายลั่น
"โอ๊ย พ่อแก้วแม่แก้ว อะไรวะๆ" ธงรบสะดุ้งตื่น หันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่ก "ไอ้คม หยุดทำไม กำลังหลับฝันหวานว่าได้อึ๊บอาทิตย์"
อธิคมถอนหายใจหนักๆ แล้วซบหน้าลงกับพวงมาลัย เคาะหน้าผากของตัวเองกับพวงมาลัยรถช้าๆ อย่างอัดอั้นตันใจ
"คม บอกพี่ซิน้อง เป็นอะไรไป" ธงรบยื่นหน้าเข้าไปหาเพื่อน
"คุณนุ" อธิคมพูดเสียงเบา กัดฟันกรอดๆ "คุณนุ ทิ้งรถเช่าไว้ที่สนามบินหัวหิน หมวดโจ้เพิ่งโทรมาบอก เอเม็กซ์ที่เช่ารถน่ะ คุณนุโทรไปบอกให้ศูนย์บัตรเครดิตเช่าให้ ตัวเองไปรับรถแล้วทิ้งไว้ที่สนามบิน ร้ายจริงๆ หลอกให้เราคิดว่าจะขับรถลงใต้ อุตส่าห์ไปเติมน้ำมันที่ปราณบุรี แล้วย้อนขึ้นมาหัวหิน"
"เก่งแฮะ เป็นแฟนตำรวจต้องให้ได้อย่างนี้ ไม่งั้นจะหนีการตามล่าจากแกพ้นหรือ" ธงรบอมยิ้ม ชมคนที่หนีอธิคมพ้น
"ไอ้เสาธง ระวังจะโดนถีบออกนอกรถ" อธิคมขู่เสียงอู้อี้เพราะยังฟุบหน้าอยู่
"เดี๋ยวคุณนุก็เงินหมด กลับมากรุงเทพฯ เองล่ะ ไปรอที่กรุงเทพฯ เถอะวะเพื่อน" ธงรบแนะนำก่อนจะร้องโอดโอยเพราะคนที่ก้มหน้ากับพวงมาลัยขว้างหมัดซ้ายมาชกแขน
"แนะนำดีๆ" ธงรบเสียงอ่อย
"แกไม่ต้องพูดอะไรเลย" อธิคมเค้นเสียง กระแทกหน้าผากตัวเองกับพวงมาลัยอีกจนแตรรถดังลั่น
"เอ้า เอาเข้าไป คนได้แตกตื่นกันล่ะทีนี้ แกจะด่าว่าข้าพาซวยอีกละสิ ที่ขับรถมาหัวหินนี่แกลากข้ามานะโว้ย" ธงรบกระแทกตัวลงกับเบาะ ถอนหายใจหนักเช่นกัน
"ธงรบ คุณนุไปไหนวะ ทำไมใจแข็งนัก แค่นี้โกรธอะไรนักหนา" เสียงอธิคมอ่อนล้า น่าสงสาร
"ใครไม่โกรธมั่งล่ะ นอนเปลือยกายกอดกันกลมอยู่บนเตียง เอ็งไม่โดนกระทืบก็บุญแล้ว" ธงรบบ่นอุบอิบแล้วสะดุ้งโหยงเพราะอธิคมเงยหน้าขึ้นมามองตาขวาง
"เออๆ ข้าพาซวย ไม่ต้องย้ำ จะช่วยพูดให้" ธงรบรับปากหน้ามุ่ย "แต่คุณนุจะเชื่อหรือวะ เดี๋ยวก็หาว่าคู่ซี้กันก็ต้องเข้าข้างกัน รับผิดแทนกัน เด็กข้าก็เด็กเอ็ง เพราะคุณนุรู้แล้วว่าแต่ก่อนเราแชร์กัน"
"เอ็งมันปากไม่ดีไปบอก"
"คุณนุถามนี่หว่า ปฏิเสธได้หรือ ข้าก็กะจะไม่บอก แต่โดนสายตานิ่งๆ สะกดจิต ข้าเลยพูดออกไปหมดเลย ยกเว้นเรื่องของบางคนที่แม้แต่หนังโป๊ยังไม่กล้าซื้อลิขสิทธิ์ไปทำออกขาย" ธงรบแก้ตัว
"อดีต นั่นมันอดีต" อธิคมเน้นเสียง "ข้ากลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้ว เหลือแต่เอ็งที่ยังเป็นคน..."
"...เลว แกจะว่าแบบนี้ใช่ไหมไอ้ฤาษี" ธงรบโวยวาย "แล้วก่อนเปิดประตูไม่รู้จักส่องรูดูซะก่อน ประตูห้องโรงแรมเขาทำรูไว้ทำไมวะ เป็นตำรวจมือปราบคนเก่งซะเปล่า นี่โจรจะเข้าห้อง คงยิงเอ็งตายพอดี"
"ก็ข้ามึนๆ แล้วงัวเงียเพิ่งตื่นนี่หว่า ใครจะไปคิดว่าเมียแกจะกระโดดเข้าปล้ำข้าทันทีที่เปิดประตูวะไอ้หอกหัก" อธิคมเถียง
"ไม่ใช่เมียโว้ย" ธงรบไม่ยอมแพ้ "นั่นนะกิ๊ก เมียข้าต้องอาทิตย์คนเดียวเท่านั้น"
"คงได้เขาหรอก" อธิคมสบประมาท "ข้าจะบอกอาทิตย์ จะบอกว่าแกระยำแค่ไหน ทำให้คุณนุเสียใจจนหนีไป อาทิตย์เขาห่วงคุณนุยังกะอะไรดี เขาจะต้องโกรธมาก แกจะกลายเป็นซาตานในสายตาของอาทิตย์ทันที คราวนี้ล่ะ แกจะถูกรุมด่า คุณตฤณก็จะทวงคำสัญญาหาว่าแกทำตัวไม่ดี ทำให้คุณนุผิดหวัง ไอ้วุธอีก"
ธงรบขมวดคิ้ว ประโยคแรกๆแน่ใจว่าอธิคมด่าเขา แต่ประโยคหลังๆ ชักไม่แน่ใจว่าด่าใครกันแน่
"ด่าข้าหรือด่าตัวเองกันละนั่น คุณตฤณกับอาวุธมาเกี่ยวอะไรวะ" ธงรบเกาหัวแกรกๆ ไม่เข้าใจเพื่อนที่นั่งพร่ำรำพันเสียยืดยาว
อธิคมนั่งถอนหายใจอยู่ครู่ใหญ่แล้วออกรถเลี้ยวกลับเข้ากรุงเทพฯ ในใจยังรู้สึกกังวลเพราะไม่มีแววจะตามอนุภาพได้ ธงรบพยายามปลอบใจให้เขาใจเย็นและขอเปลี่ยนขับรถ อธิคมแวะปั้มน้ำมัน ดื่มกาแฟไปสามถ้วยติดๆ กันแล้วไปนอนแผ่อยู่เบาะหลังปล่อยให้ธงรบพาเขาเข้ากรุงเทพฯ
"ธงรบ คืนนี้ไปเมากันหน่อยนะ เมาให้ลืมซักพัก" อธิคมพึมพำจากเบาะหลัง
"เดี๋ยวก็พากันซวยอีกหรอก" ธงรบพูดไม่เต็มเสียง
"โทรไปเรียกอาวุธให้มารอหิ้วเรากลับบ้านเหมือนเคยสิวะ" อธิคมบอกเสียงหงุดหงิด ยกเท้าขึ้นกระแทกเบาะข้างคนขับ
"มันคงยอมหรอก นี่ถ้ารู้ว่าเราทำอะไรไป มีหวังโดนเทศน์หลายกัณฑ์" ธงรบพูดเสียงเรียบ
อธิคมไม่ตอบ นอนเงียบจนหลับไป ธงรับหันไปมองเพื่อนแล้วส่ายหน้าช้าๆตั้งใจขับรถเข้ากรุงเทพฯ พยายามคิดว่าจะหาทางช่วยอธิคมอย่างไรก็คิดไม่ออกจึงหยุดพักความคิดเอาไว้ แล้วตกลงทำถามที่อธิคมร้องขอ
...เมาก็เมาวะ แต่ส่งอธิคมเพื่อนรักกลับบ้านล๊อคประตูให้แน่นหนาเสียก่อน เขาถึงจะไปตามตื๊ออาทิตย์เสียหน่อย คิดถึงพ่อตะวันรอนจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว...
ธงรบจ่ายเงินค่าเหล้าไปเกือบหนึ่งหมื่นบาท ทำลายสถิติแพงที่สุดตั้งแต่เคยดื่มเหล้ากับอธิคมหรือใครๆ อธิคมเมาพับไม่ได้สติ เขาดื่มประคองตัวเองได้สบายมากเพราะคอแข็งกว่าอธิคมอยู่แล้ว เมื่อจัดการโยนอธิคมบนเตียง ห่มผ้าให้ เขาก็ล๊อคประตูห้องชุดอธิคมให้แน่นหนา พร้อมแขวนป้าย "ห้ามรบกวน" พร้อมเติมลายมือตัวโย้เย้ของตัวเองว่า "ห้ามปล้ำ" ไว้หน้าห้อง แล้วเดินไปที่รถ เปิดจีพีเอสเพื่อตรวจหาพิกัดของ "ตี๋น้อย" ของเขา
...คุ้มสุดๆ ที่เสียเงินซื้อจีพีเอสแล้วแอบติดไว้ในรถของอาทิตย์ ตอนนี้ตี๋หนุ่มอยู่ที่ไหนเขารู้ได้หมด...
อาทิตย์ยังไม่กลับบ้าน สัญญาณบอกว่าตี๋เข้มยังอยู่ข้างนอก
...The Riverrine -- ผับดารา!
...อืม ชักไม่ค่อยปลอดภัย กลัวว่าเดินเข้าไปแล้วเกิดจ๊ะเอ๋กับดารานักร้องน้องรักที่เขาเคยมีอะไรด้วย อย่ากระนั้นเลย หลอกให้อาทิตย์ออกมาข้างนอกดีกว่า...
ธงรบไปถึงผับ The Riverine ริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในครึ่งชั่วโมง เดินหารถของตี๋หนุ่มไม่นานก็พบ แล้วจัดการ "เคาะ" แรงๆ ให้สัญญาณกันขโมยทำงาน ก่อนจะเดินไปหยุดรออยู่ห่างๆ
...อ้าวเฮ่ย...อาทิตย์ทำไมดูแก่ขึ้นวะ...
ธงรบขมวดคิ้ว เขม้นตามอง "ตี๋เข้ม" ร่างสูงเพรียวที่เดินออกมา หน้าตาเหมือนอาทิตย์ราวกับแกะ แต่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า ร่างนั้นบางกว่าอาทิตย์เล็กน้อย และสูงกว่าราวสิบเซ็นติเมตร ผมตัดสั้น ท่าทางมั่นใจ และเดินเร็วมาก
อาทิตย์เวอร์ชั่นผู้ใหญ่เดินตรงไปที่รถเบ็นซ์เอสแอลเคสีดำแล้วกดรีโมทเพื่อปิดเสียงสัญญาณกันขโมย ธงรบกระหายอยากจะรู้จึงรีบเดินเข้าไปใกล้แล้วส่งเสียงทัก
ตี๋ห้าวหันขวับ เลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่เห็นชายหนุ่มตัวใหญ่ยืนอยู่ใกล้
"ผมไม่ใช่อาทิตย์ครับ อาทิตย์อยู่ที่บ้าน คุณคือ..."
"ธงรบ แล้วคุณคือ..."
"สุริยะ พี่ชายอาทิตย์ คุณทักคนผิด ขอตัวนะครับ แฟนผมรออยู่ข้างใน" พี่ชายอาทิตย์พูดเร็วแล้วก้มศรีษะให้ธงรบเล็กน้อยก่อนเดินลิ่วกลับเข้าไปในผับ ปล่อยให้ธงรบส่ายหน้าอย่างผิดหวัง
...ซวยจริงๆ นึกว่าจะได้ตื้อตี๋น้อยให้ชื่นใจ กลับมาเจอตี๋ใหญ่แทน ท่าทางดุไม่ใช่น้อย..
...แต่เอ ลูกชายบ้านนี้หน้าตาหล่อเหลาจริงแฮะ สุริยะตอนอายุเท่าอาทิตย์ก็คงน่ารักไม่แพ้กัน บ้านนี้มีลูกชายกี่คนกันนี่ ชื่อความหมายเดียวกันเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ลองเข้าไปตรวจดูข้อมูลในศูนย์ข้อมูลตำรวจ...
...อาทิตย์จ๋า ธงรบคิดถึงอาทิตย์จังเลย...พรุ่งนี้เจอกันนะถ้าไอ้คมไม่จับพี่ขังคุกเสียก่อน...
อาวุธหันไปมองอนุภาพที่นั่งทานอาหารอยู่เงียบๆ ด้วยสายตาคิดคำนึง เขาขอตัวชายหนุ่มออกมารับโทรศัพท์เรื่องงาน ทั้งที่จริงแล้วเป็นโทรศัพท์ของธงรบที่โทรมาโวยวายเรื่องอธิคม ก่อนจะลงท้ายว่าให้เขาไปรับตัวกลับบ้านด้วยหากเมากันทั้งสองคน
"เราอยู่เชียงใหม่" อาวุธบอกเสียงเรียบ
"ไปทำอะไรวะ" ธงรบถาม
"ก็มาทำงานสิธงรบ ใครจะมัวแต่ตระเวนราตรีเหมือนนายล่ะ"
ธงรบไม่สนใจคำเหน็บแนม พูดต่อว่า "งั้นข้าก็ต้องพาไอ้คมกลับบ้านละสิ"
"ดื่มเหล้าแล้วจะได้อะไรขึ้นมาธงรบ เกิดเมาเหล้าแล้วมีเรื่องซวยซ้ำสองขึ้นมา คราวนี้จะไปกันใหญ่ เหล้ามันแก้ปัญหาได้งั้นหรือ" อาวุธอด "เทศน์" ไม่ได้
"ครับๆ หลวงพี่ เข้าใจครับ แต่ไอ้คมมันอยากเมา เมาให้ลืมซักคืน มันจะแย่อยู่แล้ว เป็นเอามาก นี่หมดสภาพตั้งแต่กลับจากหัวหินแล้ว เอาแต่นอนแล้วทำท่าจะคลุ้มคลั่งลุกขึ้นมาฆ่าข้าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นี่ไปไหนไม่ได้เลย มันบอกว่าข้าต้องรับผิดชอบ"
"นี่ล่ะน๊าคนเจ้าชู้ ทำอะไรก็ได้รับอย่างนั้น" อาวุธซ้ำเติม
"คร้าบคุณพี่ ซึ้งแล้วครับ ว่าแต่ว่า ถ้าเอ็งมีตาทิพย์สืบหาตัวคุณได้เหมือนคราวที่แล้วก็ช่วยหน่อยนะโว้ย ถือซะว่าเอาบุญ ข้าจะได้หลุดพ้นจากการถูกจองจำซะที จะไปหาตี๋น้อยของข้าก็ไม่ได้ ติดแหง็กอยู่กับเพื่อนรักของเอ็งมาตั้งสามคืนสองวันแล้ว เหมือนแพ็คเก็จฮันนี่มูนเลยให้ตายสิ" ธงรบบ่น สลับกับการถอนหายใจ
อาวุธทอดสายตาจับอยู่ที่อนุภาพ หลังจากได้ยินเรื่องราวจากการบอกเล่าของธงรบแล้วเขาก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้มากขึ้น ธงรบเล่าให้เขาฟังอย่างละเอียด ละเอียดจนต้องตัดเนื้อหาบางตอนออกเพราะฝ่ายนั้นมักจะเล่าเกิน ในใจรู้สึกทั้งสงสารทั้งขำอธิคม ทั้งกังวลใจ ทั้งสับสน
...และทั้งห่วงใยอนุภาพ...
...อนุภาพจะทนอธิคมได้มากแค่ไหน...นานแค่ไหน...
ไม่ใช่สิ...อนุภาพอาจไม่ต้องทนพฤติกรรมอธิคมเท่าใดนัก แต่อาจต้องสู้กับสภาพการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งที่เป็นความเข้าใจผิดหรือในอนาคตอาจไม่ใช่การเข้าใจผิดก็ได้
อนุภาพไม่ใช่คนแบบที่จะรับมือกับอะไรแบบนี้ อนุภาพเหมาะกับคนแบบเขามากกว่า
...มีชีวิตเรียบง่าย สงบ ราบรื่น มีกันและกันเพียงสองคน ไม่มีอดีตหรือตัวแปรอื่นใดจะมาสอดแทรกให้ปวดหัวเหมือนอธิคม
"ธงรบ ดูแลเพื่อนให้ดี อย่าพากันไปสร้างเรื่องอะไรอีกล่ะ ถ้าเราช่วยได้ก็จะช่วย ตอนนี้ตามคดีอยู่ที่ลำปางกับน่าน อาจต้องไปถึงเชียงราย รออีกหน่อย คุณนุอาจต้องการใช้เวลาสงบสติอารมณ์เงียบๆ" อาวุธปลอบ แล้วยิ้มบางๆ ให้อนุภาพที่หันหน้ามองมาทางเขา
"ข้าก็พูดกรอกหูมันจนล้นทะลักออกมาแล้ว แต่มันก็ไม่รับฟัง" ธงรบโอดครวญ "นี่กะว่าจะไปตามคุณพ่อจูเนียร์ของมันมาช่วย ข้าไม่ไหวแล้ว นอนผวาตลอด กลัวไอ้คมมันแค้นลุกขึ้นมากระทืบข้าตอนนอนหลับ แต่ว่า คืนนี้ขอพาไอ้คมมันไปเมาตามเจตนารมณ์ของมันก่อนเถอะ ไม่งั้นมันจะต้องกระทืบข้าแน่ๆ เลยว่ะ"
...เจตนารมณ์ของใครกันแน่ ธงรบหาเรื่องดื่มเหล้าล่ะสิ...
อาวุธสงสัยว่าอธิคมหรือธงรบกันแน่ที่บอกว่าอยากเมาเพื่อลืมเรื่องปวดหัวซักคืน
"ตามใจ แต่ส่งเพื่อนให้ถึงบ้านนะธง อย่ารอให้เมาก่อนแล้วก่อนคลานกลับบ้าน" อาวุธสั่ง อีกฝ่ายรับคำ ล้อเลียนว่าเขาเป็นพ่อคนที่สองแล้ววางสายไป
อาวุธเดินกลับมาหาอนุภาพที่โต๊ะอาหารแล้วชวนคุยเรื่องสร้างบ้านที่จังหวัดแพร่ ก่อนจะวกเข้าเรื่องที่กำลังเป็นปัญหาหนักใจของธงรบ
"คุณนุจะกลับกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ครับ ถ้าไม่รีบกลับ ผมจะขับรถกลับวันอาทิตย์ อยากกลับพร้อมกันไหมครับ"
"คิดว่าพรุ่งนี้มะรืนนี้คงกลับครับ คงไม่ได้อยู่นานขนาดนั้น ผมว่าจะไปดูที่ก่อนแล้วค่อยเข้ากรุงเทพฯ วันนี้ทั้งวันไม่ได้ทำอะไรเลย" ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
"ถือซะว่าวันนี้พักผ่อน ท่าทางคุณนุดูเหนื่อยๆ พรุ่งนี้เช้าผมจะพาไป ขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง จะได้คุยกับช่างด้วย ผมรู้จักผู้รับเหมากับเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้างที่โน่น รับรองว่าได้ราคาดี งานเนี้ยบ"
"ขอบคุณครับ สารวัตรสมกับที่ผู้กองว่าเป็น..." อนุภาพชม เลี่ยงที่จะเอ่ยชื่ออธิคม หากใช้คำว่า "ผู้กอง" เพราะคิดว่าจะให้อาวุธเข้าใจว่าเขาหมายถึงผู้กองธงรบ
"มิสเตอร์เพอร์เฟ็ค" อาวุธหัวเราะเบาๆ "ผมรู้นะว่าสองคนนั่นพูดถึงผมยังไง"
"พูดถึงแต่ด้านดี" อนุภาพยิ้มมุมปาก มองหน้ายิ้มๆ ของอาวุธแล้วอดเปรียบเทียบกับอธิคมไม่ได้
หากเทียบความหล่อเหลา อธิคมนั้นกินขาด แต่อาวุธเป็นผู้ใหญ่กว่า สง่าคนละแบบกับอธิคม อาวุธนั้นสุขุม เยือกเย็น จริงจัง และควบคุมตัวเองได้ดีเยี่ยม ส่วนอธิคม สนุกสนานร่าเริง มั่นคงเช่นกันแต่ก็ดูใจร้อน มุทะลุ
อนุภาพลองคิดเล่นๆ ว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมผู้ร้าย อาวุธคงเป็นคนถือวิทยุสื่อสารคอยสั่งการ อธิคมคงถือปืนวิ่งเข้าไปลุย ส่วนธงรบคงนั่งฟังเพลงรออยู่ในรถ
สามคน...สามทหารเสือ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังฉงนอยู่ว่าเป็นสามทหารเสือได้ยังไง...
"คุณนุครับ อย่าหาว่าผมละลาบละล้วงเลยนะครับ ที่มาเชียงใหม่นี่เพราะทะเลาะกันใช่ไหม" อาวุธถามคำถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
อนุภาพหลุบตามองพื้นโต๊ะอาหาร มือเขี่ยข้าวในจานอย่างไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี
"คุณนุ ผมขอโทษ" อาวุธกล่าวเสียงนุ่ม "ถ้าไม่อยากพูดก็ได้ครับ ผมจะไม่ถามอีกแล้ว ทานของหวานไหมครับ แต่ที่นี่ไม่ค่อยอร่อยหรอก ต้องไปอีกที่"
"ไม่เป็นไรครับ ทะเลาะกันจริงก็ต้องบอกว่าทะเลาะ แต่นี่ไม่ได้ทะเลาะ ผมเพียงแค่อยากอยู่เงียบๆ ซักสองสามวัน พอคิดอะไรได้แล้วก็จะกลับไปเอง" อนุภาพตอบเสียงนุ่มเช่นกัน แล้วเปลี่ยนเรื่องถามอาวุธว่าจะออกเดินทางไปแพร่กี่โมง
"แต่เช้าเลย ซักแปดโมงเช้า ตื่นไหวไหมครับ" อาวุธหยอก เขามองออกว่าอนุภาพเป็นคนตื่นเช้า เขาจำได้ถึงตอนที่พบอนุภาพวิ่งออกกำลังกายที่ถนนเลียบชายหาดครั้งนั้น ใกล้บ้านริมทะเลของอธิคม
"เจ็ดโมงยังได้เลย" อนุภาพท้า
"หกโมงดีกว่ามั๊ง ปกติผมตื่นตีห้านิดๆ" อาวุธหัวเราะ แล้วยกมือขึ้นเรียกบริกร
...อธิคมตื่นเก้าโมงครึ่ง หากไม่ต้องไปทำงาน...
"งั้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นระหว่างทางดีไหมครับ" อนุภาพเสนอทางเลือก
...จะได้โรแมนติก...อาวุธเติมในใจ ขับรถไป ดูพระอาทิตย์ขึ้นไปด้วย แบบที่นทีเคยชอบทำตอนที่เขาพาชายหนุ่มรอนแรมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเป็นอาทิตย์ๆ ไกลแสนไกลจากประเทศไทย
...นที...คนที่ตอนนี้อยู่ไกลแสนไกลจากเขา
อาวุธไม่พูดอะไรต่อ เอาแต่มองหน้าอนุภาพยิ้มๆ แล้วปล่อยใจให้นึกถึงอดีตของตนอีกครั้ง
ภาพของนทีเลือนจางไปจากเขานานพอสมควร แต่ยิ่งมองอนุภาพแล้วยิ่งทำให้เขานึกถึงอดีตคนรัก เวลาที่เขาใช้ร่วมกับนทีนั้นสั้นมาก...สั้นจนเขาเสียดาย
ยิ่งมอง สองคนนี้ยิ่งคล้ายกัน...
อาวุธยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่อนุภาพตรึงสายตาเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเพราะชายหนุ่มคล้ายกับอดีตคนรัก ตอนนั้นเขานึกไม่ออก คิดแต่เพียงว่าอนุภาพดูหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยพบกันมาก่อน แต่ครั้งที่สองเมื่อเห็นที่ถนนริมหาด อนุภาพในชุดกีฬา เหงื่อซึมเต็มหน้า ยิ้มกว้างสดใสกับนัยน์ตาเศร้าๆ ท่าทางรั้นๆ ทำให้เขานึกถึงนทีได้ไม่ยาก
...อา...เขาช่างปรารถนาอนุภาพนัก ไม่ใช่เพราะจะให้เป็นตัวแทนของคนในอดีต เขารู้ว่าอดีตก็คืออดีต นทีจากเขาไปแล้วไม่มีวันกลับ ชายหนุ่มอยู่ในส่วนลึกของหัวใจที่แบ่งเอาไว้สำหรับความทรงจำ แต่หัวใจเขายังโหยหาความรัก เขาเป็นมนุษย์ เขาอยู่โดยปราศจากความรักไม่ได้ แม้ตอนนี้ยังไม่มั่นใจว่ารักอนุภาพ แต่รู้ว่า "ความชอบ" ที่เริ่มทวีคูณ จะทำให้เขา "รัก" ได้ไม่ยาก
------
ยังมิจบบทนะครับ แต่ละบทมันยาวววววว