ตอนที่ 28 : เยี่ยมไข้"เอาจริงเหรอมึง"
ผมยิ้มขำเมื่อเห็นสีหน้ากังวลของนะโม
"มาถึงนี่แล้ว"
"เปลี่ยนใจยังทัน กลับมะ"
"กลับ"
นะโมถอนใจโล่งอก ทำท่าจะออกรถหลังจากเพิ่งจอดได้ไม่ถึงห้านาที
"มึงนั่นแหละกลับได้แล้ว ขอบใจมากที่มาส่ง ดื้อจริงๆ" ผมอดบ่นเพื่อนไม่ได้ เมื่อนะโมรู้ว่าผมจะมาเยี่ยมคุณปู่ของพี่โชในวันเสาร์ก็อาสามาส่ง หลังจากพยายามคัดค้านผมอยู่นานแต่ไม่เป็นผล
"อ้าวตกลงไม่กลับเหรอ" นะโมชะงักมือ หันมามองหน้าผม
"ไม่ มึงกลัวอะไรวะ กูแค่มาเยี่ยมคุณปู่ไม่ได้มาออกรบ"
"อย่างกับมันต่างกัน" นะโมบ่นพึมพำ "เออตามใจมึง เดี๋ยวกูหาที่รออยู่แถวนี้จะกลับก็โทรมา"
"เดี๋ยวกูกลับเอง มึงจะนั่งรอให้เมื่อยทำไมวะ เกิดพ่อมึงจะใช้รถขึ้นมา"
"กูขอพ่อไว้ทั้งวัน มึงไม่ต้องห่วงกูหรอกห่วงตัวเองเถอะ ระวังจะโดนไล่ออกมา"
"ไม่หรอกน่า" ผมพูดปลอบใจตัวเอง
"ทำไมไม่มากับพี่โชว้าหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ" นะโมยังอดบ่นไม่ได้
"เอาน่าแบบนี้ดีแล้ว" ผมกับนะโมแม้เป็นเพื่อนรักกันแต่เราก็มีมุมมองบางเรื่องที่แตกต่างกัน
"มึงมีเบอร์พี่ธามไหม"
"ไม่มี" ผมส่ายหน้า สงสัยว่าเพื่อนจะเอาไปทำไม "เดี๋ยวนะ" ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คให้แน่ใจ "กูลืมไปวันนั้นน้องธารีเอาโทรศัพท์กูไปเมมเบอร์ให้ เหมือนจะเมมของน้องธันกับพี่ธามให้ด้วย นี่ไง" ผมยื่นโทรศัพท์ให้นะโม
นะโมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา กดบันทึกเบอร์ของพี่ธามก่อนส่งคืนให้ผม
“เอาไปทำไมวะ”
“เออน่า มึงรีบเข้าไปเถอะ ขอให้โชคดี"
"อืม" ผมพยักหน้า สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนลงจากรถของเพื่อน
"เชิญค่ะ"
"ครับ" ผมลุกขึ้นยืน หลังจากนั่งรออยู่ในห้องรับแขกเป็นเวลานาน แม้ผมจะไม่กังวลแต่ใช่ว่าจะไม่ตื่นเต้น หัวใจตอนนี้เต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาจากอก
แม่บ้านพาผมมาที่ห้องนั่งเล่น คุณปู่นั่งเอนอยู่บนโซฟา มีคุณป้านางนั่งบนโซฟาตัวถัดไป ผมไม่เห็นอานรีเดาว่าวันนี้คงไม่ได้แวะมา ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของผม
"สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้คุณปู่ของพี่โชกับป้านาง ยิ้มเก้อเมื่อไม่มีใครทักทายตอบ เป็นช่วงเวลาเดดแอร์ที่สั้นแค่ไม่กี่วินาทีแต่ยาวนานมากสำหรับผม
"นั่งสิ" ป้านางทำลายความเงียบขึ้นมา ผมผ่อนลมหายใจออกด้วยความโล่งอก
"ขอบคุณครับ" ผมนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับคุณปู่ หลังตรง มือประสานกันบนตัก ให้อารมณ์เหมือนเข้าพบครูฝ่ายปกครองอย่างไรอย่างนั้น
“ผมได้ยินจากพี่โชว่าคุณปู่ไม่สบายก็เลยมาเยี่ยมครับ”
“ฉันสบายดี ไม่ตายให้ใครสบายใจง่ายๆ” ผมกลืนน้ำลายลงคอ เสียงคุณปู่ทำเอาประสาทผมสั่นคลอน แต่ยังพยายามทำใจดีสู่เสื้อ ส่งยิ้มจริงใจไปให้
“ผมดีใจที่คุณปู่สบายดีครับ เห็นดีขึ้นแบบนี้ก็เบาใจหน่อย ค่อยหายเป็นห่วง” ผมยิ้มกว้าง พยายามไม่ใส่ใจคำพูดเสียดแทงของอีกฝ่าย
“เจอหน้ากันกี่ครั้ง ริอ่านมาบอกว่าเป็นห่วง”
“แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นผมก็ห่วงครับ ไม่รู้จักสักคน” ผมรีบเม้มปากเบิกตาโตเมื่อเผลอตอบโต้คุณปู่ออกไป ได้แต่ส่งยิ้มแหยไปให้แต่ถูกอีกฝ่ายถลึงตาใส่
“คุณพ่อคะใจเย็นๆ เดี๋ยวความดันขึ้นค่ะ” ป้านางแตะแขนคุณปู่ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมา คงต้องระวังคำพูดให้มากกว่านี้
“ดูมัน เถียงคำไม่ตกฝาก”
ผมอยากบอกว่าผมไม่ได้เถียง ผมแค่อยากชี้แจงแต่ขืนพูดไปคุณปู่คงยิ่งโกรธ ผมจึงได้แต่ยกมือไหว้และเอ่ยคำขอโทษ
“ขอโทษครับ ผมไม่ควรพูดกับคุณปู่แบบนั้น”
“ช่างเถอะ” คุณปู่โบกมือ ผมสุดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามนึกถึงเหตุผลที่มาเข้าไว้
“คุณปู่ยังต้องไปพบคุณหมออยู่ไหมครับ แล้วต้องทานยาอยู่หรือเปล่า”
“เลิกนอกเรื่องได้แล้ว มีอะไรจะพูดก็พูดมา”
“ไม่มีครับ” ผมส่ายหน้างงๆ ไม่รู้ว่าคุณปู่จะให้ผมพูดอะไร
“อย่าบอกนะว่าเราไม่ได้มาเรื่องของโช ธามบอกแล้วสิว่าฉันไม่มีทางเห็นด้วย”
“เปล่าครับผมมาเยี่ยมคุณปู่อย่างเดียว ถ้าผมจะมาคุยเรื่องพี่โช ผมก็ต้องแจ้งแม่บ้านว่าผมมีธุระอยากขอพบคุณปู่สิครับ ไม่ใช่บอกว่ามาเยี่ยม” ผมมองคุณปู่ด้วยดวงตาซื่อๆ
“เด็กนี่มัน..” คุณปู่หยุดพูด หายใจเข้าออกแรงๆ ผมเลยคิดได้ว่าคำพูดของผมอาจไปยั่วโมโหคุณปู่เข้าให้อีกแล้ว
“ขอโทษครับ” ผมรีบยกมือไหว้ ใช้สายตาเหมือนลูกหมาถูกทิ้งมองคุณปู่ตาปริบๆ อย่าโกรธผมเลย
“นึกว่าใคร”
ผมหันไปมองเจ้าของเสียง พี่ธามเดินเข้ามาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาข้างผม
“สวัสดีครับ” ผมยกมือขึ้นไหว้พี่ธาม
“ทำไมกลับมาเร็วล่ะไปตีกอล์ฟกับพ่อไม่ใช่เหรอ” ป้านางทักหลานชาย ผมเลยเดาว่าพี่ธามน่าจะเพิ่งออกไปได้ไม่นาน
“ตอนแรกว่าจะตีด้วยครับแต่ขี้เกียจขึ้นมา เลยขับไปส่งพ่อแล้วกลับมาเลย เดี๋ยวให้ชัยขับไปรับพ่อตอนตีเสร็จแทน”
“อะไรของเรา” ป้านางบ่นหลานชาย พี่ธามหัวเราะเบาๆ ก่อนหันมาคุยกับผม
“ลีมากับใคร โชหรือเปล่า”
“เปล่าครับผมมาเอง พี่โชบอกว่าคุณปู่ไม่สบายผมเลยแวะมาเยี่ยม” ผมส่งยิ้มให้พี่ธาม รู้สึกว่าบรรยากาศในห้องผ่อนคลายขึ้นมาก
“ลีมานานหรือยัง”
“เพิ่งมาครับ”
“พี่เกือบลืมโชมีแข่งใช่ไหม ผลเป็นไงบ้าง”
จากหางตาผมเห็นคุณปู่เหลือบมามอง จากที่ไม่สนใจผมดูตั้งใจฟังขึ้นมาทันที
“ใช่ครับแข่งไปเมื่อวันก่อนโน้น พี่โชชนะ แต่เดี๋ยวต้องมีแข่งอีกหนหนึ่งครับถึงจะรู้ผลที่แท้จริง”
“พี่ว่าจะไปแต่เป็นวันทำงานเลยยุ่งมาก”
“ผมมีรูปครับ” ผมหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า เปิดเข้าแกลอรี่แล้วส่งให้พี่ธามดู เป็นภาพที่จอมขวัญส่งมาให้
พี่ธามเปิดดูไปเรื่อยๆ ผมแอบเห็นคุณปู่มองมาอย่างสนใจ คล้ายอยากดูแต่ไม่ยอมเอ่ยปาก
“คุณปู่ดูนี่สิครับ” พี่ธามเองก็คงรู้จึงเดินไปคุกเข่าลงข้างคุณปู่แล้วเปิดรูปให้ดู คุณปู่ทำท่าไม่สนใจแต่ก็มอง ผมเห็นคุณปู่เผลอยิ้มด้วย
“ขอบใจมาก” พี่ธามส่งโทรศัพท์คืนให้ผม “แข่งอีกทีเมื่อไหร่ให้โชโทรบอกพี่ด้วย พี่จะพยายามหาเวลาไปเชียร์”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมบอกให้”
“ธามก็โทรหาโชเลยสิจะฝากบอกทำไม” ป้านางขัดขึ้นมา พี่ธามเพียงแค่ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร
“โชซ้อมหนักไหม”
“หนักครับ ซ้อมทุกวันวันละหลายชั่วโมง ถ้าเป็นช่วงก่อนแข่งบางทีก็ต้องไปซ้อมเสาร์อาทิตย์ด้วย”
“แบบนี้ก็ไม่มีเวลาไปเที่ยวไหนด้วยกันเลยสิ”
ผมรีบส่ายหน้าแรงๆ “ไม่เป็นไรครับ ว่ายน้ำเป็นสิ่งที่พี่โชรักที่สุด ผมอยากให้พี่โชได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ แค่ได้นั่งมองผมก็มีความสุขแล้วครับ ผมชอบสายตามุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ของพี่โช” ผมไม่รู้ตัวเลยว่าดวงตาและรอยยิ้มของผมอ่อนโยนลงเมื่อพูดถึงใครอีกคน
“เป็นเด็กดีเหมือนกันนะเรา”
“ขอบคุณครับ” ผมหันไปยิ้มให้พี่ธาม เกือบลืมว่าตัวเองนั่งอยู่ที่ไหนถ้าสายตาไม่เห็นคุณปู่เสียก่อน
ผมเห็นคุณปู่นั่งนิ่งเหมือนกำลังใช้ความคิด สายตาเหม่อลอย ผมมองเพลินจนลืมหลบเมื่อคุณปู่สบตา
“นางพาพ่อขึ้นไปพักหน่อย”
“ค่ะคุณพ่อ” ป้านางรีบเข้าไปประคองแขนคุณปู่ลุกขึ้นยืน ผมลุกขึ้นยืนตามทันที มีเพียงพี่ธามที่ยังนั่งอยู่
“แข็งแรงเร็วๆ นะครับคุณปู่ สวัสดีครับ” ผมยกมือขึ้นไหว้ค้อมศีรษะลงด้วยความเคารพ พอเงยขึ้นมาคุณปู่ก็เดินผ่านผมไปแล้ว
“นั่งก่อนสิลี”
ผมหันกลับมามองพี่ธาม “ครับ” ผมพยักหน้าก่อนนั่งลง
“กล้ามากนะเราที่มาหาคุณปู่” น้ำเสียงพี่ธามออกไปทางชื่นชมมากกว่าผมจึงอุ่นใจ
“ผมอยากมาเยี่ยมคุณปู่ครับ พี่โชบอกว่าคุณปู่ความดันขึ้นเพราะเรื่องของผม”
“ก็ไม่เชิง”
“ไม่เชิงเหรอครับ”
“พี่คิดว่าวันนั้นคุณปู่ผิดหวังเพราะพี่มากกว่า” พี่ธามถอนใจเบาๆ
“ที่เห็นดีเห็นงามกับพวกผมเหรอครับ”
พี่ธามคล้ายไม่อยากตอบแต่สุดท้ายก็พยักหน้า “ใช่ พี่ไม่เคยคัดค้านท่านมาก่อน การที่ลุกขึ้นมาเห็นด้วยกับการที่โชชอบลีคงไม่ใช่เรื่องที่คุณปู่คาดคิด ถ้าเป็นเรื่องอื่นคุณปู่คงไม่โกรธเท่านี้ แต่นี่เป็นเรื่องความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย ลีต้องเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนวัยคุณปู่จะยอมรับ”
“ผมเข้าใจครับ”
“แต่พี่อยากให้ลีพยายามต่อไป รับปากพี่ได้ไหม”
ผมสบตากับพี่ธาม “แน่นอนครับ” เป็นคำพูดที่ผมมั่นใจที่สุด
“ขอบใจมาก ไป เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรครับผมกลับเอง” ผมรีบปฏิเสธเพราะนะโมรออยู่
“พี่ไม่ได้จะไปส่งที่บ้านแต่จะพาเราไปส่งร้านกาแฟ”
“ร้านกาแฟ?”
“นะโมรออยู่ไม่ใช่เหรอ”
ผมมองพี่ธามตาโต “พี่ธามรู้ได้ไงครับ”
“นะโมโทรบอกพี่ว่าลีมาที่บ้าน”
ผมเข้าใจได้ในทันทีว่าพี่ธามไม่ได้ขี้เกียจตีกอล์ฟแต่ตั้งใจกลับมาช่วยผม
“ลีมีเพื่อนที่ดี”
“ครับ” ผมยิ้มกว้าง นึกของคุณเพื่อนรักอยู่ในใจ
• • • • • • • •
“พี่โช” ตาของผมเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่กับนะโมในร้านกาแฟ
“กูไม่ได้ตาม” นะโมออกตัวทันทีเมื่อเห็นสีหน้าของผม
“กูยังไม่ได้พูดอะไร” ผมหัวเราะเบาๆ ดึงเก้าอี้ตัวข้างนะโมลงนั่ง พี่ธามนั่งลงข้างพี่โช
“พี่โทรไปบอกโชเอง เห็นนะโมบอกว่าโชไม่รู้ว่ามาแต่พี่คิดว่าโชควรรู้เรื่องนี้”
“ครับ” ผมรับคำเสียงอ่อย รู้สึกเหมือนโดนพี่ธามดุกลายๆ
“แต่พี่ก็ไม่อยากให้โชไปที่บ้านเลยให้มารอที่นี่ พี่คิดว่าพี่พอรู้ว่าลีตั้งใจทำอะไร ดีแล้วที่ไปคนเดียวอย่างน้อยก็ได้แสดงความจริงใจ”
“ครับ” ผมค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย
“ผมกะว่าออกจากบ้านคุณปู่แล้วจะโทรไปเล่าให้พี่โชฟัง” ผมหันไปยิ้มประจบพี่โช ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่รู้ว่าพี่โชโกรธผมหรือเปล่าเพราะสีหน้าเรียบตึงมาก
“ไม่ต้องห่วงทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีใครทำอะไรแฟนนาย” พี่ธามหัวเราะ จ้องมองน้องชายด้วยสีหน้ารู้ทัน ผมเห็นสีแดงบนหน้าพี่โชแม้เพียงชั่วแวบเดียวแต่ผมสาบานว่าผมเห็นจริงๆ พี่โชเขินที่ถูกจับได้ ผมยิ้มแป้นด้วยความโล่งอกปนดีใจที่พี่โชเป็นห่วงผม
“ผมไม่เป็นไรครับ” ผมารีบบอกแต่โดนพี่โชถลึงตาใส่ ผมเลยทำคอย่นให้นะโมกับพี่ธามหัวเราะขำ
“ขอบคุณมากลุง เอ๊ย! พี่ธาม” นะโมยกมือขึ้นไหว้พี่ธาม “ขอโทษที่กวน ผมนึกว่าลุงอยู่บ้านเลยจะฝากดูเพื่อนผมด้วย”
“ไม่เป็นไร”
“เอางี้วันนั้นพี่ธามอยากให้ผมช่วยอะไรก็บอกมา ถือเป็นการตอบแทน”
“เราอย่าลืมที่พูดก็แล้วกัน”
“ไม่ลืมหรอกน่า ทวงได้เลย” นะโมรั้บคำพี่ถามก่อนหันมาหาผม ลีเดี๋ยวมึงกลับกับพี่โชเลยแล้วกัน”
“ไม่เอา มึงอุตส่าห์นั่งรอ”
“ไม่เป็นไร กูจะได้ไปส่องสาวของกูบ้าง”
“พี่ว่าหาข้าวทานก่อนดีไหม” ผมกับนะโมหันไปมองพี่ธามพร้อมกัน
“เอาไง” นะโมให้ผมตัดสินใจ
“ไปครับ” ผมตกลงทันที พี่ธามอุตส่าห์กลับมาช่วยผม
“เดี๋ยวพี่พาไป อยู่ไม่ไกลจากแถวนี้ บรรยากาศดี อาหารอร่อย นะโมจอดรถไว้ที่นี่ไปกับพี่เดี๋ยวพี่วนกลับมาส่ง”
“อ้าว ทำไมละครับ ขับไปเลยง่ายกว่า”
“ร้านนี้ที่จอดรถน้อย เราไปกันแค่สี่คนใช้รถสามคันมันไม่เหมาะ”
“อ๋องั้นก็ได้ ผมไม่มีปัญหา”
เมื่อตกลงกันได้แล้วพวกผมจึงทำการย้ายร้าน ผมเดินนำออกมากับพี่โช ตามด้วยนะโมและพี่ธามปิดท้าย
“โกรธหรือเปล่าครับ” ผมพูดเสียงเบา
“เปล่า”
“ผมไม่ได้บอกเพราะพี่โชมีซ้อมเช้า ผมกลัวเป็นห่วงเดี๋ยวจะไม่มีสมาธิ”
“ใช่”
ผมเลิกคิ้วขึ้น เพราะพี่โชพูดสั้นจนผมต้องตีความเอาเอง
“พี่เป็นห่วง”
หัวใจของผมมันพองโต ต้องพยายามกลั้นยิ้มไม่ให้พี่โชเห็น
“ทำไมถึงอยากมา”
“คุณปู่ไม่สบายผมอยากมาเยี่ยมครับ อีกอย่างผมอยากให้คุณปู่ใจอ่อน”
“ใจอ่อนยอมให้ลีเป็นแฟนกับพี่เหรอ”
ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าเสียงพี่โชมีความร้ายกาจซ่อนอยู่
“ไม่ใช่สิครับ ผมอยากให้คุณปู่ใจอ่อนเรื่องพี่โช อยากให้ยอมรับในสิ่งที่พี่โชเป็น สิ่งที่พี่โชชอบ”
สายตาที่มองผมอ่อนแสง ริมฝีปากของพี่โชคลี่ออกเป็นรอยยิ้มบาง ดูละมุนแปลกตา
“ขอบคุณ” มือแข็งแรงของพี่โชโอบมารอบบ่าของผมดึงเข้าไปเดินชิด ความร้อนจากฝ่ามือไหล่ผ่านเข้าสู่ร่างกาย มันทำให้หัวใจผมเต้นแรง
“แข่งคราวหน้าพี่จะเอาเหรียญมาฝากลี”
ดวงตาของผมเบิกกว้าง ได้แต่จ้องมองใบหน้าด้านข้างของพี่โช หัวใจเต้นตึกตัก
“แทนคำขอบคุณ”
ว่าแล้วเชียววว ผมคอตก จึงไม่เห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย มือที่โอบไหล่ผมกระชับแน่นขึ้น มันอบอุ่นจนผมลืมเรื่องหน้าแตกเมื่อครู่ ดันเผลอคิดไปเสียไกล ลีหนอลี แต่ไม่เป็นไรน่า จากคืบเดี๋ยวมันก็เป็นศอกเอง
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
สปอย**
** นี่ยังเพิ่งเริ่มต้นนะคะ สำหรับคุณปู่กับหนูลี
** หลายคนบอกว่าทำไมพี่โชไม่บอกหนูลีสักที ไม่อยากเห็นพี่โชหึงหนูลีกันเหรอ ><
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin