ตอนที่ 11 : ความคืบหน้า "คูนไปไหนอิน” ชุดามองโต๊ะที่ว่างเปล่าของลูกน้อง
"ไปเข้าห้องน้ำครับ พี่ชุดามีอะไรหรือเปล่าครับ"
"คุณชลให้ไปหาเรื่องงาน เอาอะไรไปจดรายละเอียดมาด้วย"
"ไปตอนนี้เลยหรือเปล่าครับ"
"ใช่ แต่รอดูนมาก่อนก็ได้ ค่อยไปพร้อมกัน"
"ครับ"
"เสร็จแล้วกลับมาอัปเดตให้พี่ฟังด้วยว่าเรื่องอะไร"
"ได้ครับ ผมว่าน่าจะเรื่องงานของคุณไตรรัตน์ เพราะตอนนี้ผมดีลงานกับคุณชลเรื่องเดียว"
" อืม มาโน่นแล้วไปเถอะ" ชุดาเห็นคูนเดินเข้ามาแล้วจึงบอกอิน
"นั่งสิ"
"ครับ" พวกเขานั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต้ะทำงานของชลนที
"วันเสาร์อาทิตย์พวกคุณติดธุระอะไรไหม"
"ผมไม่ติดครับ"
"ผมก็ไม่ติดครับ"
"ถ้าอย่างนั้นทั้งสองคนออกไปเซอร์เวย์สถานที่จัดงานกับผม"
"ครับ" อินตอบรับ ถ้าเป็นเรื่องงานเขาไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว แต่คูนขมวดคิ้วเข้าหากัน
“คุณชลครับ ไม่ใช่ทีมพี่สองต้องเป็นคนไปดูเหรอครับ ปกติพวกผมมีหน้าที่ออกแบบงานส่งไปให้พี่สอง ทางพี่สองจะเป็นคนหาสถานที่เอง แล้วเอาทั้งหมดไปเสนองานกับลูกค้า”
“งานนี้ผมเป็นคนออกหน้า ผมอยากให้มันออกมาดีที่สุด คุณเป็นคนออกแบบ จะไม่ดีกว่าเหรอถ้าคุณได้เลือกสถานที่ที่ทำให้คุณทำงานได้ง่าย และงานออกมาสวยที่สุด”
“ก็เขาทำกันมาอย่างนี้” คูนบ่นกับตัวเองเบาๆ แต่ร่างสูงดันได้ยิน
“อะไรนะ”
“เปล่าครับเปล่า”
“คือมันมีเรื่องของงบด้วยครับคุณชล” อินช่วยอธิบายแทนเพื่อน “ทางคุณสองต้องควบคุมให้อยู่ในงบด้วย พวกผมจะไม่รู้รายละเอียดเรื่องพวกนี้ ถ้าเลือกไปพอคิดค่าใช้จ่ายแล้วมันเกินก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี ทางทีมพี่สองถึงต้องเป็นคนเลือกโรงแรมที่จะนำไปเสนอครับ ลูกค้าเลือกที่ไหนแล้ว ทางผมก็จะปรับงานที่ลูกค้าอนุมัติแล้วให้เข้ากับสถานที่อีกที”
“ผมเข้าใจแล้ว พูดแค่นี้ก็จบ”
“อ้าว” คูนอุทานแต่ต้องรีบหุบปากเมื่อสายตาของชลนทีตวัดมามอง ใครจะรู้ว่าต้องอธิบาย ตัวเองเป็นถึงหัวหน้าฝ่ายการตลาด
“งั้นพวกผมไม่ต้องไปแล้วใช่ไหมครับ” คูนถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ไป”
“อ้าว!” ยิ่งคุยเขาก็ยิ่งพูดคำนี้จนเริ่มจะติดปากแล้ว
“เราจะตระเวนดูหลายๆ ที่ คุณเลือกมาสักสามสี่ที่เอาที่คุณคิดว่างานจะออกมาดี แล้วผมจะให้ทางคุณสองติดต่อเข้าไปคุยเรื่องราคา”
คูนอยากถามว่าแล้วแบบนี้งานมันไม่ซ้ำซ้อนเหรอ แต่เห็นสายตาของอินที่ส่งมา เขาจึงเงียบเสีย ไปก็ไป
“คิดอะไรของเขาวะ” คูนส่ายศีรษะ พวกเขาเพิ่งเดินออกมาจากห้องทำงานของชลนที
“ก็คงอยากให้งานออกมาดีที่สุด คุณชลไม่เคยลงรายละเอียดเรื่องงานเลยอาจจะไม่รู้มาก่อนก็ได้”
“แล้วเมื่อกี้ทำไมมึงไม่ให้กูท้วง”
“มีเหตุผลสองข้อ หนึ่งท้วงไปก็เห็นอยู่ว่าเปลี่ยนใจคุณชลยาก สองไม่อยากทำงานแบบสุดฝีมือสักครั้งโดยไม่มีงบมากำหนดเหรอ คุณชลดูทุ่มกับงานคราวนี้มาก มันก็เป็นโอกาสของเราด้วยเหมือนกันที่จะได้แสดงฝีมือ ดังนั้นไม่ว่าเหตุผลของคุณชลคืออะไร เราก็ได้ประโยชน์ด้วย”
“เออจริง”
“มาทำงานให้ดีที่สุดดีกว่า จะได้มีผลงานดีๆ เก็บไว้”
“ตกลง” คูนเห็นด้วยในทันที ปกติออกแบบไปร้อย โดนหั่นโน่นนี่เหลืองานแค่หกสิบเปอร์เซ็นต์เพราะงบคำเดียว คราวนี้จะได้แสดงผลงานเสียที
• • • • • • • •
คูนหันไปมองหน้าอิน เลขาของชลนทีบอกให้พวกเขาออกไปเจออีกฝ่ายที่ลานจอดรถหน้าบริษัทได้เลย พวกเขารีบเก็บข้าวของที่ต้องใช้แล้วรีบตามออกมา แต่ปรากฏว่ามีรถจอดรออยู่สองคันและคนขับสองคน คือชลนทีและศิระ
“คูนมานั่งรถผม อินไปกับศิระ”
“ครับ” อินกับคูนพยักหน้า เดินแยกไปขึ้นรถคนละคัน ใครจะกล้าค้าน คนหนึ่งเป็นผู้จัดการฝายการตลาด อีกคนเป็นลูกชายเจ้าของบริษัท
“คุณศิระไปดูโรงแรมกับเราด้วยเหรอครับ” คูนถามทันทีเมื่อชลนทีขึ้นมาบนรถเรียบร้อยแล้ว
“คุณเห็นยังไงล่ะ” ชลนทีหันไปมองคนถาม ดวงตาเป็นประกายขำ
“โธ่ คุณชลก็รู้ว่าผมหมายถึงอะไร”
“ผมรู้ แต่ผมสงสัยว่าคุณจะถามทุกเรื่องเลยเหรอ”
“ขอโทษครับ” คูนหน้าจืดลงทันตาเมื่อถูกอีกฝ่ายทัก
“หึๆ” ชลนทีสตาร์ทรถก่อนขับตามรถของศิระไป เขาไม่ได้รำคาญหรอกแต่ชอบแหย่อีกฝ่ายเท่านั้นเอง จะซื่อไปถึงไหน
ขณะเดียวกัน...
อินลอบมองใบหน้าด้านข้างของศิระด้วยสายตาครุ่นคิด อีกฝ่ายเหมือนรู้ว่าถูกมองจึงละสายตาจากถนนหันมายิ้มให้เขา
“ผมถามเรื่องหนึ่งได้ไหมครับ” อินตัดสินใจถามออกไป
“ถามมาสิ”
“ตั้งใจหรือเปล่าครับเรื่องแยกรถเป็นสองคัน”
“หึๆ” คนขับหัวเราะเบาๆ ก่อนหันมายิ้มตาพราวให้เขา “ตั้งใจอยู่แล้ว”
เมื่อคนตอบดันตอบตรง คนถามเลยอดหน้าแดงไม่ได้
“พี่ไม่เกี่ยวกับงานนี้ แต่อยากไปด้วยเลยขอเจ้าชล”
“ไปรถคันเดียวกันก็ได้นี่ครับ แบบนี้มันขี้โกง คุณศิระใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ” อินย่นจมูก เดี๋ยวนี้ร้ายขึ้นทุกวัน
“พี่ยอมรับ” คนผิดยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน “ก็พี่อยากอยู่ใกล้อิน”
“เพลาๆ บ้างก็ได้ครับ เกินไปแล้ว” อินบ่นเบาๆ ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่น แต่เพราะหัวใจของเขาอ่อนลงทุกที
“อย่าโกรธเลย พี่อาจฉลาดหลายเรื่องแต่พี่โง่เรื่องอิน ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่ช้าไปแบบนี้”
อินหันออกไปมองนอกหน้าต่าง หัวใจของเขาเพิ่มจังหวะการเต้นของหัวใจอย่างรวดเร็ว
“อิน”
อินไม่ตอบ เขาเงีบบเสียงรอฟังอีกฝ่ายพูด
“พี่อาจช้าไป แต่มันยังไม่สายไปใช่ไหม”
อินคิดกลับไปกลับมาว่าเขาควรตอบอย่างไรดี ถ้าตอบว่าสายไปหัวใจของใครกันแน่ที่เจ็บหนัก เขาหรือศิระ เขาควรถือทิฐิเพียงเพราะอีกฝ่ายยังไม่รู้ใจตัวเองจริงหรือ หรือควรโกรธเพียงเพราะคนๆ หนึ่งพูดกับเขาตรงๆ ว่ายังไม่ได้รัก
ความรักเป็นเรื่องซับซ้อน ใกล้กันเกินไป สนิทกันเกินไป คุ้นชินเกินไป เมื่อต่างฝ่ายต่างถอยจากกันก็ทำให้เห็นอะไรชัดเจนยิ่งขึ้น ศิระรู้ตัวว่าชอบเขา ส่วนเขารู้ตัวว่ายังรักอีกฝ่ายแม้จะโดนปฏิเสธก็ตาม อะไรคือสาเหตุให้คนรักกันสองคนควรแยกจาก เพียงเพราะคิดว่าฉันต้องเอาคืนอย่างนั้นเหรอ มันคุ้มค่าจริงหรือเปล่าที่เขาจะยอมแลกความรักกับความสะใจ สุดท้ายกลายเป็นต้องเจ็บทั้งสองคน ความสะใจให้ชัยชนะแต่ไม่ให้ควมสุขที่แท้จริง
“อิน” น้ำเสียงที่เรียกเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ กังวลใจ อินหันกลับไปมองศิระ เขายิ้มให้อีกฝ่าย
“ผมยังไม่มีใครครับ”
ศิระพ่นลมหายใจออกเบาๆ หัวใจของเขาโล่งขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบ
“แล้วก็ยังไม่คิดจะมีเร็วๆ นี้ด้วย อยากใช้ชีวิตสบายๆ แบบนี้มากกว่าครับ”
คนกำลังยิ้มถึงกับหน้าแห้ง แต่ครู่เดียวก็กลับมายิ้มได้ “แบบนี้ก็ดีนะ พี่โอเค”
อินขมวดคิ้วเข้าหากันหันไปมองหน้าคนพูด รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของศิระทำให้อินเริ่มคิดได้ ใบหน้าของเขาแดงเรื่อ แบบนี้คือตอนนี้ใช่ไหม ตอนที่อยู่ด้วยกันแบบนี้
“เจ้าเล่ห์ชะมัด” คนบ่นหน้าแดงเรื่อแต่คนได้ยินยิ้มกริ่ม ศิระคิดว่าเขาอยู่แบบนี้ก็ได้ ขอแค่ยังมีอีกคนอยู่ใกล้ๆ ก็พอ
• • • • • • • •
“สวัสดีครับ”
อินกับคูนหยุดพูด พวกเขากำลังเดินดูห้องจัดเลี้ยงโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่ง ตอนที่โทรศัพท์ของชลนทีดังขึ้นมา
“ครับคุณตรี..วันนี้เหรอครับ ผมไม่ได้อยู่บริษัทครับออกมาดูสถานที่จัดการให้คุณไตรรัตน์”
“ไม่ต้องมาครับผมเกรงใจ ทางผมจะเป็นคนเซอร์เวย์ให้และนำไปเสนอในที่ประชุม รับรองว่าจะดูให้อย่างดีที่สุดครับ”
คูนกลั้นยิ้มหันหน้าไปทางอื่น กว่าจะจบงานคุณชลจะรอดไหมหนอ
“จัดงานต่างจังหวัดด้วยเหรอครับ” คิ้วของชลนทีขมวดเข้าหากัน “คุณไตรรัตน์ยังไม่ได้คุยกับผมครับ...อ๋อครับ ได้ครับ”
“ครับ เดี๋ยวค่อยนัดกันอีกที ผมขอคุยกับคุณไตรรัตน์ก่อน ขอบคุณครับ”
“มีอะไรหรือเปล่า” ศิระถามขึ้นเมื่อเห็นชลนทีถอนใจยาว สีหน้ากลุ้มใจ
“คุณตรีอยากจัดงานเปิดตัวสินค้าอีกครั้งที่พัทยา คุณไตรรัตน์อนุมัติแล้ว เพิ่งคุยกันเสร็จเลยรีบโทรมาบอกฉันก่อน”
“ไม่ใช่แค่นั้นใช่ไหม” ศิระเดาได้ไม่ยากจากสีหน้าของเพื่อน
“อืม เห็นว่าจะจัดที่โรงแรมเพื่อนของคุณไตรรัตน์ กึ่งๆ เปิดตัวสินค้ากับพาตัวแทนจำหน่ายที่ยอดถึงไปพักผ่อนทีเดียวเลย จะให้ทางเราจัดใทั้งห้หมด แต่คุณตรีจะพาไปดูสถานที่ด้วยตัวเองก่อน เห็นว่าจะนัดศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้”
“หึๆ ไปดูสถานที่สองคืนเลยเหรอ” ศิระอดแซวเพื่อนไม่ได้
ชลนทีถอนใจยาว หันไปมองหน้าคูน
“คุณต้องไปกับผมด้วย”
“หา!” คูนเบิกตากว้าง ไม่คิดสักนิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับตัวเอง
“ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอยากให้พวกคุณเห็นสถานที่จริง”
“ครับ” เสียงคนตอบรับจ๋อยสนิท เขายังจำสีหน้าของคุณตรีได้ดีตอนชลนทีเรียกเขาให้ขึ้นไปเดินคุย ไม้กันหมาหน้าตาเหมือนเขานี่เอง
“อินต้องไปไหมครับ” เอาวะ ถ้าเลี่ยงไม่ได้มีเพื่อนไปด้วยก็ยังดี
“ไปสิ พวกคุณทำงานด้วยกันก็ไปทั้งคู่”
“ครับ” คูนค่อยยิ้มออกมาได้ ส่วนอินไม่มีปัญหาอะไร เขาไม่ใช่ตัวแปรสำคัญ
“ไปด้วยสิ” คนไม่ได้ถูกเชิญพูดขึ้น อินหันไปมองก็เจอเข้ากับสายตากรุ่มกริ่มของศิระ
“ดีเลย ไปเยอะๆ ยิ่งดี” ชลนทีถอนใจยาวๆ อีกครั้ง “เดี๋ยวฉันคุยกับคุณไตรรัตน์แล้วมาบอกวันนัดอีกที ทางโน้นคงดีใจที่นายไปด้วย”
“ได้”
“พวกคุณทำงานต่อเถอะ เซลล์รออยู่”
“ครับ”
อินหันไปยิ้มให้เซลล์ที่หลบไปยืนห่างๆ ตามมารยาทอันดี เป็นสัญญาณว่าพวกเขาเสร็จธุระแล้วพาชมต่อได้เลย
ระหว่างเดินชมสถานที่ ความคิดของพวกเขาสี่คนต่างไปคนละทิศคนละทาง คูนกำลังกลุ้มใจกับตำแหน่งใหม่ที่ตัวเองได้รับ ชลนทีกำลังเหนื่อยใจกับน้องสาวเจ้าของงานและคิดหาทางหนีทีไล่ อินคิดถึงอาการใจบางของตัวเอง และศิระคิดว่าเขาควรทำอย่างไรให้ได้เจ้าของหัวใจกลับคืนมา
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin