ตอนที่ 5: ความงอแง (1)“ขอบคุณทุกคนมาก กลับกันดีๆ” ชลนทียืนส่งทีมงานที่ลานจอดรถ งานจัดช่วงเช้าถึงบ่ายโมง หลังจากปิดงาน เคลียร์พื้นที่เรียบร้อยทีมงานก็พร้อมเดินทางกลับ
“คุณชลกลับพรุ่งนี้ใช่ไหมคะ”
“ใช่ ฝากคุณสองเลี้ยงข้าวเย็นทีมงานแทนผมที” ชลนทีหยิบธนบัตรใบละพันส่งให้โปรเจ็คเมเนเจอร์สามใบ บริษัทให้งบค่ากินอยู่ของพนักงานในการทำงานนอกสถานที่อยู่แล้ว แต่ชลนทีให้เพิ่มเพราะอยากให้ทีมงานได้พักผ่อน แวะนั่งดื่ม กินลมชมวิวให้สมกับความเหนื่อย
“คุณชลเห็นอินกับคูนไหมคะรถจะออกแล้ว” คนถามเกรงใจเจ้านายแต่ก็ต้องถาม เพราะมีหน้าที่ดูแลทีมงานที่มา
“คุณสองออกได้เลย สองคนนั่นกลับพร้อมผม”
“กลับพร้อมคุณชลนทีเหรอคะ!” หญิงสาวเผลอทำเสียงแปลกใจ การติดรถเจ้านายมาทำงานไม่ใช่เรื่องแปลก เพื่อกระจายคนให้พอดีกับรถ แต่การที่เจ้านายอยู่พักผ่อนต่อแล้วชวนลูกน้องอยู่ด้วยมันฟังชอบกล เธอไม่เคยได้ยินว่ากลุ่มนี้สนิทกัน
“ใช่ ผมถูกคอกับทั้งสองคนเลยชวนอยู่ต่อ ไหนๆ ห้องก็เหลือจะได้ไม่ต้องนั่งเบียดกันกลับ”
“อ๋อค่ะ” หญิงสาวพยักหน้า เธอไม่ติดใจอะไร เพราะรู้ว่าอินเป็นลูกน้องที่นิสัยดีมาก ส่วนคูนสายเอนเตอร์เทนอยู่แล้ว
สนิทกันเร็วก็ไม่แปลก “งั้นสองไปเลยนะคะ สวัสดีค่ะ”
“ครับ” ชลนทีพยักหน้ารับ เขายืนส่งทีมงานจนรถออก อดคิดไม่ได้ว่าศิระจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าคิดจะคบกันจริงๆ อีกหน่อยคนในบริษัทก็ต้องรู้ เพื่อนเขามั่นใจกับความรู้สึกของตัวเอง แล้วใช่ไหม ชลนทีชะงักความคิดเขาส่ายหัวเบาๆ ก่อนยิ้มกว้างออกมา คงไม่ต้องคิดแล้วมั้งหึงขนาดนั้น
ขณะเดียวกัน...
“มึงไม่ไปส่งคนอื่นกลับกรุงเทพฯ เหรอวะ” คูนใช้เท้าเขี่ยทรายข้างเก้าอี้ อินชวนเขาลงมานั่งเล่นริมทะเล
“อย่าเลย ขี้เกียจเป็นจุดสนใจว่าทำไมยังไม่กลับ”
“ก็จริง แล้วเมื่อคืนมึงเป็นยังไงบ้างวะ วันนี้มัวแต่ยุ่งกูเลยลืมถาม”
“ไม่มีอะไร กูกลับห้องตอนตีหนึ่งกว่าคุณชลหลับไปแล้ว กูเลยนอนที่โซฟา เช้าก็ออกมาช่วยเตรียมงานแต่เช้า คุณชลยังไม่ตื่น คุณศิระเป็นไงบ้าง”
“มึงควรถามมากกว่าวากูเป็นไงบ้าง” คูนโวยวายเมื่อเพื่อนถามถึงเพื่อนร่วมห้องอีกคน
“อย่างคูนหัวถึงหมอนก็หลับ กินง่ายอยู่ง่ายจะถามทำไม”
“เออมึงพูดถูก กูกู๊ดไนท์เสร็จก็หลับเป็นตาย ต่างกับมึงนิดเดียวตอนกูตื่นมาคุณศิระไม่อยู่ในห้องแล้ว”
“อืม เห็นลงไปวิ่งที่หาด”
“ไหนมึงบอกไม่มองหาแล้วไงวะ” คูนหรี่ตามองเขา ดวงตาเป็นประกายล้อเลียน
“มันเห็นเอง” อินหลบตาเพื่อน เขาเห็นศิระโดยบังเอิญจริงๆ แต่เผลอยืนมองอยู่นาน
“แล้วเราจะเอาไง จะนั่งเล่นอยู่อย่างนี้เหรอวะ จะออกไปข้างนอกก็ไม่มีรถ จะขึ้นห้องก็เกรงใจ แล้วเย็นนี้เราต้องกินข้าวเองหรือเปล่า กินในนี้โคตรแพง หรือจะลองเดินเลาะหาดไปเรื่อยๆ”
“สองคนนั้นคงไม่ยอมให้เราหาอะไรกินเอง”
“รู้ได้ยังไงวะ คู่นั้นอาจขับออกไปเที่ยวข้างนอก อาจมีนัด หรือไม่ก็ไปกินข้าวกับเจ้าของรีสอร์ทก็ได้”
“รู้สิ เพราะรู้ถึงชอบ” ผมยิ้มให้กับดวงตาขี้สงสัยของคูน ศิระเป็นคนดุและจริงจังเวลาทำงานแต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นเจ้านายที่ใจดีมาก อินอดย้อนไปถึงวันที่ทำให้หัวใจของเขาเริ่มเปลี่ยนไปไม่ได้
เพราะงานที่หนักมากทำให้พักผ่อนน้อย ประกอบกับเป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงทำให้เขาเป็นไข้ตัวร้อน แต่ต้องมาทำงานเพราะมีประชุมเสนอไอเดียให้กับแผนกของศิระฟัง
อินบังเอิญเจอศิระที่หน้าห้องประชุม เขาส่งยิ้มซีดเซียวทักทายชายหนุ่ม ศิระขมวดคิ้วเข้าหากัน จับไหล่เขาไว้ให้หยุดเดิน ดึงให้หมุนตัวเข้าหา ยื่นใบหน้าคมเข้มเข้ามาใกล้
“ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดๆ”
“เปล่าครับ” อินส่ายหน้าไปมา จู่ๆ ก็รู้สึกวูบ มือใหญ่ของศิระคว้าเขาไว้ทันก่อนจะร่วงลงไป
“ไม่สบายก็บอกว่าไม่สบาย เดี๋ยวผมสั่งเลื่อนการประชุมให้ ไปพักเถอะ”
“ไม่เป็นไรครับผมไหว” อินไม่อยากเป็นตัวถ่วงของงาน โดยเฉพาะงานสำคัญของบริษัท
“ห่วงงานเป็นเรื่องดีแต่ห่วงตัวเองก่อน ไม่ไหวก็อย่าฝืน”
“ครับ”
“ไปเถอะ เดี๋ยวผมเข้าไปบอกข้างในเอง”
“ขอบคุณครับ” อินยกมือขึ้นไหว้ศิระ ตัวเขาร้อนผ่าวด้วยพิษไข้ แต่หัวใจกลับเต้นแรง มันเป็นความประทับใจแรกที่อินจำได้ดี แต่มันไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น
เย็นนั้นเขาออกจากบริษัทหลังเลิกงาน ตั้งใจว่าจะเรียกแท็กซี่กลับบ้านเพราะนั่งมอเตอร์ไซด์ไปต่อรถเมล์ไม่ไหว ระหว่างยืนรอรถอยู่ริมถนน เสียงแตรรถก็ดังขึ้น เมื่อหันไปมองรถสีดำสนิทจอดอยู่ตรงนั้น
“ขึ้นมาสิ” คนขับลดกระจก ชะโงกหน้ามาพูดกับเขา อินเตรียมตัวปฏิเสธแต่เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทัน
“เร็ว! รถคันหลังมาแล้วผมจอดตรงนี้ไม่ได้”
“ครับ” อินรีบเปิดประตูรถขึ้นไป คิดเอาไว้ว่าเดี๋ยวจะขอให้ศิระจอดส่งเขาลงข้างหน้า
“ทำไมยังอยู่ ผมนึกว่าคุณลากลับบ้านไปแล้ว”
“ผมไม่ได้เป็นอะไรมากครับ กินยาแล้วดีขึ้นก็เลยอยู่ทำงานต่อ”
“ผมไม่เห็นว่าสีหน้าของคุณจะดีขึ้นสักนิด กำลังจะกลับบ้านใช่ไหม”
“ครับ”
“อยู่แถวไหน”
อินบอกที่ตั้งของบ้านพัก เขาเช่าบ้านหลังเล็กๆ อยู่ โชคดีที่บริษัทอยู่ชานเมือง ทำให้ที่พักราคาไม่แพงมากนัก เขาใช้ระยะเวลาเดินทางมาทำงานประมาณสามสิบนาที
“เดี๋ยวผมไปส่ง ใกล้ถึงคุณบอกทางผมอีกที”
“ไม่เป็นไรครับ! ผมกลับเองได้” อินรีบปฏิเสธ เขาไม่สนิทกับชายหนุ่มพอที่จะรบกวน
“คุณไม่สบายกลับเองไหวเหรอ เดี๋ยวผมไปส่งให้ ถือซะว่าดวงเราสมพงษ์กันผมถึงขับออกมาเจอคุณพอดี”
“มันไม่ใช่เรื่องของดวงนี่ครับ ผมเกรงใจ” อินพูดเสียงอ่อย เขาไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกันตรงไหน
“จะเกรงใจทำไม ต่อให้ไม่ใช่คุณผมก็ไปส่ง”
อินลอบมองใบหน้าด้านข้างของคนพูด ผู้ชายคนนี้ใจดีกว่าที่เขาคิดมาก ขณะที่หลายคนในแผนกไม่รู้ว่าเขาป่วยแต่ศิระกลับมองออก
“ปวดหัวไหม เอนเบาะนอนไปก่อน ใกล้ถึงแล้วผมปลุกขึ้นมาถามทางเอง”
“ขอบคุณครับ” อินยอมแพ้เพราะพิษไข้ที่ขึ้นสูง เขารู้สึกอ่อนเพลีย ร่างกายล้าไปหมด จึงทำตามคำพูดของอีกฝ่าย ก่อนที่สติจะเลือนหาย อินรู้สึกถึงมือที่วางลงบนหน้าผาก พร้อมกับเสียงบ่นเบาๆ “ตัวร้อนยังฝืน”
สัมผัสของศิระทำให้หัวใจของเขาอบอุ่น และนับจากวันนั้นอินไม่เคยละสายตาจากชายหนุ่มได้อีกเลย
“อิน!”
“หือ” อินรีบปรับสายตา เขามัวคิดอะไรเพลินๆ จนเกือบลืมว่าคุยค้างอยู่กับคูน
“กูว่าสงสัยมึงจะพูดถูกว่ะ”
“เรื่องอะไร”
“โน่นไง!”
อินมองตามสายตาของคูน ถึงเห็นร่างสูงของศิระและชลนทีกำลังเดินตรงมาทางพวกเขา
“ลงมาเดินเล่นเหรอ” เขาอดแปลกใจไม่ได้ ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะลงมา
“กูว่า..” คูนยิ้มจืด “สงสัยมาหาเราวะ กูเขียนโน้ตบอกคุณชลไว้ว่าจะลงมานั่งเล่นริมทะเลกับมึง”
อินได้แต่ส่งสายตาไปหาเพื่อน ไม่รู้ว่าควรชมหรือควรเตะสักทีกับความซื่อและตรงของคูน
“ไม่ร้อนกันหรือไง”
อินมองชลนที อดทึ่งกับบสิ่งที่เห็นไม่ได้ ชายหนุ่มตรงหน้าใส่เสื้อฮาวายแขนสั้นสีเหลืองสดใสกับกางเกงสามส่วนสีกากี รองเท้าผ้าสีขาวใบไม่ใส่ถุงเท้า เป็นลุคที่แปลกตาออกไปแต่ยังดูดีเหมือนเดิม ขณะที่ศิระใส่เสื้อเชิ้ตผ้าลินินแขนยาวสีขาวกับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม กระดุดเสื้อเริ่มติดเม็ดที่สาม ทำให้มองเห็นแผงอกข้างในรำไร
อินเผลอสบตากับศิระ ดวงตาของอีกฝ่ายเป็นประกายคล้ายจับได้ว่าเขามอง ชายหนุ่มรีบเบือนสายตาไปมองทางอื่น พยายามบังคับไม่ให้ตัวเองหน้าแดง แต่เขาคิดว่าทำได้ไม่ดีนัก เพราะคูนหันมามองเขา ดวงตาของเพื่อนเบิกกว้างขึ้น
“เป็นไข้แดดเหรอวะทำไมหน้าแดง หรือร่มไม่บังแดดมึง”
คูนเงยหน้าขึ้นมองร่มสีรุ้งขนาดใหญ่ของรีสอร์ทที่กางอยู่เหนือศีรษะ อินได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของศิระ เขานึกอยากฆาตรกรรมเพื่อนเป็นครั้งแรก
“ตัวร้อนไหม” คูนยื่นมือไปแตะหน้าผากเพื่อนด้วยความเป็นห่วง “ก็ไม่ร้อนนี่หว่า” เพราะไม่แน่ใจเขาจึงเลื่อนมือลงไปแตะที่ซอกคอ วางทาบไว้จนแน่ใจ จังหวะที่เขาดึงมือออกสายตาปะทะเข้ากับดวงตาของศิระ คูนรู้สึกเย็นสันหลังวาบ ดวงตาคู่นั้นนิ่งมาก มากจนชวนขนหัวลุก
“เมื่อกี้คุณชลว่าอะไรนะครับ” คูนหันหน้าเจื่อนๆ ของตัวเองไปทางชลนที ศิระไม่ได้พูดสักคำแต่สายตาก็ทำให้เขาเจื่อนโดยไม่รู้สาเหตุ
“ถามว่าไม่ร้อนเหรอ แต่ช่างมันเถอะ ผมจะออกไปข้างนอก พวกคุณพร้อมไปเลยหรือเปล่า หรือต้องขึ้นไปที่ห้องก่อน”
“ไปข้างนอก? ไปไหนเหรอครับ”
“ผมชวนศิระออกไปหาอะไรกิน”
“อ๋อ ผมไปได้เลยครับ อินต้องขึ้นไปเอาอะไรหรือเปล่า" คูนหันไปถามเพื่อน อินส่ายหน้า เขาหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์มาครบ อย่างอื่นไม่ต้องใช้
"เปลี่ยนเสื้อดีไหม ตอนกลางคืนอากาศเย็น" อินก้มลงมองเสื้อตัวเองก่อนเงยหน้าขึ้นมองศิระ "เป็นหวัดง่ายไม่ใช่เหรอ"
"เออจริง มึงขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อดีกว่า ไม่งั้นก็เอาแจ็คเก็ตยีนส์กูทับก็ได้ เอาไหมเดี๋ยวกูไปหยิบให้" คูนเห็นด้วยกับศิระไม่อยากให้เพื่อนป่วย
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวขึ้นไปเปลี่ยนเอง" อินลุกขึ้นยืน "รอสักครู่ครับผมรีบไปรีบมา" คูนทำท่าจะลุกตามเขาแต่ถูกชลนทีรั้งไว้
"คูนผมวานสั่งเบียร์ให้หน่อย เอาขวดเล็กก็พอช่วงนั่งรอ สั่งให้ตัวเองด้วยนะ"
"ได้ครับ"
อินออกเดินโดยไม่รอเพื่อน รู้ว่าคูนคงอยากนั่งดื่มเบียร์ดูสาวๆ ใส่ชุดว่ายน้ำอยู่ริมทะเลมากกว่า แต่ที่เขาไม่รู้คือร่างสูงของศิระเดินตามเขามาด้วย
"ทำไมเมื่อคืนถึงเปลี่ยนห้อง"
อินชะงักหันไปมอง เป็นจังหวะที่ศิระเดินขึ้นมาเทียบข้าง
"ผมอยู่ทำงานดึกครับ กลัวคุณศิระหลับไปก่อน"
"คิดจริงๆ เหรอว่าผมจะล็อคห้อง" สายตาที่มองมารู้ทัน
"ก็ปกติผมล็อคนี่ครับ มีคนเคาะถึงไปเปิดให้ ไม่ล็อคมันอันตรายเผื่อใครเอาการ์ดเปิดเข้ามา" อินสบตาโดยไม่หลบ เขามองตอบศิระด้วยสายตาเหมือนคนไม่รู้เรื่อง มันยากแต่เขาคิดว่าเขาทำได้ดี
"หึๆ" ดวงตาของศิระเป็นประกาย อินเผลอเม้มปาก แอบขัดใจที่อีกฝ่ายไม่ยอมเชื่อ
"คืนนี้อินย้ายกลับมานอนที่ห้องผม"
อินหันขวับไปมอง ดวงตาของเขาเบิกกว้างก่อนรีบปรับสีหน้า "ทำไมต้องย้ายครับผมว่าแบบนี้ก็ดีแล้ว ยังไงก็นอนห้องละสองคน อีกแค่คืนเดียวผมขี้เกียจขนของไปมา"
"เพื่อนอินนอนดิ้นไม่รู้เหรอ"
"นอนดิ้น! คูนเหรอครับ" อินสบตาศิระด้วยความฉงน อย่างคูนเหรอนอนดิ้น หลับนิ่งเหมือนตายมากกว่า
"ใช่ เมื่อคืนผมแทบไม่ได้นอน สะดุ้งตื่นทั้งคืน"
อินเผยอปากค้าง ได้แต่มองศิระ เขาอยากเถียงแต่ไม่รู้จะเถียงยังไง ในเมื่ออีกฝ่ายยืนการหนักแน่น
"วันนี้นึกว่าจะทำขายหน้าต่อหน้าลูกค้ากับนักข่าวแล้ว ผมง่วงมาก" ศิระยกมือขึ้นตบต้นคอ
"แล้วจะออกไปข้างนอกอีกเหรอครับ" อินถามด้วยความหวังดี คนหน้าดุนิ่งไปก่อนหันมาทำหน้ามุ่ยใส่เขา เป็นสีหน้าที่อินไม่คิดว่าจะได้เห็น
"ผมง่วงแต่ก็อยากพักผ่อน มาทะเลทั้งทีคุณจะไม่ให้ผมออกไปไหนเหรอ"
"เดี๋ยวครับ ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลย" อินเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อคนตัวโตกลายร่างเป็นเด็กงอแง "เอาเถอะครับ เดี๋ยวผมบอกคูนให้นอนที่โซฟา จะได้ไม่รบกวนการนอนของคุณศิระ"
"เพื่อนคุณกรน"
"หา!"
"ตกใจทำไม ผมเจอมากับตัว"
"...."
อินพูดอะไรไม่ออก เพราะทั้งหมดที่ศิระพูด เขาไม่เคยเจอสักครั้ง คูนมานอนที่บ้านเช่าเขาบ่อยๆ ไม่เคยกรนให้ได้ยินเลย
"เอาตามนี้ ผมจะได้พักบ้าง นี่คีย์การ์ดห้องผม" ศิระยื่นคีการ์ดมาให้เขา “เปลี่ยนเสื้อแล้วอย่าลืมย้ายของ”
อินยืนอึ้งเมื่อคนพูดยัดคีการ์ดใส่มือเขา แล้วหมุนตัวเดินกลับไปทางทิศเดิมกับที่เดินมา ชายหนุ่มก้มลงมองคีย์การ์ดในมือก่อนเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างออกไป สมองยังจับต้นชนปลายไม่ถูก เกิดอะไรขึ้นกับศิระ หรือคูนนอนกรนจริงๆ เพราะทำงานเหนื่อย แล้วทีนี้เขาจะทำยังไงดี โธ่นึกว่าจะรอดแล้ว คิดสิคิด คิดเร็วเข้าอิน!
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin