Setting Sun ☀ อาณาจักรพระอาทิตย์ : ประกาศร่วมเล่ม หน้า 1 (5 March 19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Setting Sun ☀ อาณาจักรพระอาทิตย์ : ประกาศร่วมเล่ม หน้า 1 (5 March 19)  (อ่าน 125986 ครั้ง)

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
พี่ซันเคลมได้รวดเร็วทันใจยิ่งกว่าฟาส8 ซะอีก กินเด็กแล้วเป็นอมตะใช่ไหม :hao6:

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
น้องตองแค่ง้อ พี่ซันถึงขั้นทนไม่ไหวจัดหนักไปเลย

เขินมากเลย พรากผู้เยาว์ คุกนะคะ คิกๆ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :pighaun: มันดีงามมากๆๆ คุณสุริยะนี่แน่จริงๆ  o13 เจิ้นนี่สู้ไม่ได้เลย  :hao3: ncสวยงามมากค่ะ ภาษาดู Art มากมันทำให้อ่านแล้วรู้สึกว่าสวยงามมากไม่ได้รู้สึกว่ามันบ่อยหรือมากเกินไป...ชอบมากค่ะ คนอ่าน อ่านแล้ว happy ค่ะ
แต่ว่า.... จะunhappy ก็ตอนที่คุณแบมบอกว่า ดราม่าจะยาวเนี่ยหละค่ะ ...  :ling3: ทำใจไม่ได้  :katai1:

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ณ ตอนเจิ้นคือใครเราไม่รู้จักรู้จักแต่พี่ซันค่ะ ฮอตมากค่ะแดดดี้อร้ายยยยยยย

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
โอ้ยยยย จะสำลักความหื่น เอ้ย!! ความหวานของอิพี่ซันตายละจร้า เห็นน้องยอม(เพราะสู้ไม่ได้) เข้าหน่อยนี่จัดชุดใหญ่เลยนะ น้องก็นะ ไม่อยากจะพูด... แต่คนอ่านชชอบนะแบบนี้ 5555

เห็นหวานๆ แถมพี่ซันก็หลงน้องขนาดนี้ คิดล่วงหน้าไปถึงตอนที่ต้องแยกกันแล้วแบบ เศร้าแทนเลยอะ ลุงหยางของมูนนี่กระอักเลือดตายแน่!!!

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
ตองอ้อนแบบนี้เข้าทางพี่ซัน พี่ซันน้องยังเด็กนะ :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
สงสัยพี่ซันจะกลัวแก่จริงๆ รีบกินเด็ก 55+
เทียบกับเจิ้นที่มัวแต่เลี้ยงต้อย ชั้นเชิงต่างกันจริงๆ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตอนนี้สุริยะหยาง เป็นอมตะแล้วจ้า

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter 6 Magnolia

เช้าตรู่ในห้องนอนพระอาทิตย์คือความโกลาหล

ผมตาร้อนผ่าวลำคอแห้งผากและหนาวสั่น ท่ามกลางความมึนงงคือแสงทั้งห้องสว่างไสว และเจ้าบ้านหยางกำลังเกรี้ยวกราดด้วยภาษาจีนใส่โทรศัพท์

ร่างกายเหนื่อยล้าไปหมดแม้แต่เสียงจะเรียกเขาก็ยังไม่มี ตัวผมถูกห่อด้วยผ้านวมจนเหมือนขนมปังก้อนใหญ่ ผมคงจะป่วย...ไม่ป่วยสิแปลกโดนพี่ซันเอาแต่ใจขนาดนั้น

“ทนอีกนิดนะตอง”

น้ำเสียงเขาร้อนรนยามนั่งลงที่ข้างเตียง มืออุ่นวางทาบกับหน้าผากผม สีหน้าเจ้าเล่ห์และร้ายกาจเวลานี้เหลือเพียงความกังวล

ปวดหัวไปหมดจนร้องไห้ออกมา แล้วก้อนแป้งอย่างผมก็โดนดึงเข้าไปในอ้อมกอดพระอาทิตย์ อันที่จริงผมควรจะดีขึ้นแต่พี่ซันนั่นแหละ...ทำผมป่วย

พระอาทิตย์นิสัยไม่ดี



ห้องนอนของเจ้าบ้านหยางถูกปรับเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาล ผมตื่นมาอีกครั้งก็เจอสายน้ำเกลือผูกติดกับมือและกลิ่นยาฆ่าเชื้อเข้ามาแทนที่กลิ่นใบชาหอมๆ

ฉากกั้นห้องนอนถูกเปิดเผยให้เห็นโซฟาด้านนอกที่มีคุณพยาบาลกับคุณแม่บ้านที่ผมมักจะเจอไม่บ่อย พี่ซันเป็นคนหวงบ้านอย่างร้ายกาจ เขาไม่ชอบเห็นใครมาเดินอยู่ในบ้านเขาแม้แต่แม่บ้านตัวเอง

ทั้งวันคือการพักผ่อนอย่างแท้จริง ตื่นมากินข้าว กินยา และนอนหลับ ผมไม่เห็นพี่ซันเลยทั้งวันแต่รู้สึกได้ว่าเขามา ฝ่ามืออุ่นที่แนบกับหน้าผากผมในความรับรู้อันลางเลือน

กลิ่นใบชาหอมหวานปะปนไปกับกลิ่นโคโลญจน์ราคาแพงที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ เสียงกระซิบทุ้มต่ำที่เอ่ยให้ผมหายไวๆ ...จะเป็นใครไปได้นอกจากพระอาทิตย์นิสัยไม่ดีของผม



หลังจากอยู่ในความดูแลของคุณหมอ พยาบาลและแม่บ้านมาสามวันเต็มๆ ผมก็หายป่วย แต่เสื้อผ้าของผมถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดจากที่มักจะได้ใส่แต่ชุดคลุมผ้าลื่นๆ ผมมีชุมคลุมขนสัตว์ฟูๆ สวมทับอีกชั้นจนอุ่น

อากาศของจีนแผ่นดินใหญ่กำลังเย็นลงเรื่อยๆ คุณแม่บ้านตอนนี้ปรากฏตัวบ่อยขึ้นคอยเอาถุงน้ำร้อนสำหรับกอดอุ่นๆ มาให้ผมหิ้วติดตัวไปไหนต่อไหนด้วย

แต่คนที่ผมเจอน้อยลงกว่าเดิมคือสุริยะ หยาง...เขาเริ่มยุ่งแล้วกับงานเปิดตัวพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่เสิ่นเจิ้น เขาต้องบินไปอยู่ที่นั่น...และผมไปด้วยไม่ได้เพราะกำลังจะเปิดเทอมในวันมะรืนนี้

บ้านหรูหราอลังการเงียบเหงาจนผมเบื่อ พี่ซันใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในความเงียบสงบแบบนี้ได้ยังไงกัน? ก่อนจะมีผม เขา...มีคนอื่นอยู่ด้วยหรือเปล่า?



“เป็นเด็กดีไหมอวิ๋น”

“ไม่ดีครับ ทำแจกันแตกไปสองใบ”

เสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังผ่านสายโทรศัพท์มา พี่ซันโทรหาผมทุกวันตอนหกโมงเย็น เวลาที่ผมมานั่งๆ นอนๆ อยู่ในกองหมอนนุ่มในห้องวิวสวนของเขา ฟังเพลงบรรเลงจากผีผาที่เขาชอบ...ใช้ชีวิตเป็นคนขี้เกียจอย่างโดดเดี่ยว

“รวมกันคงร้อยล้านพอดี...พี่คงจนแล้วล่ะ”

เราคุยกันเรื่องไร้สาระอยู่นอนสองนานจนเขาไล่ไปนอน ผมมีห้องนอนใหม่แล้ว...ห้องทีมีรูปปลาแสนสวยอยู่บนหัวเตียง กลิ่นกายอันคุ้นเคยจากหมอนของพี่ซันทำให้ผมต้องคว้ามันมากอด

ขาของผมขยับเสียดสีกันไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ ร่างกายเริ่มร้อนผ่าวทั้งๆ ที่ผมหายป่วยแล้ว...มือขยับเลื่อนลงไปในผ้าห่ม

ผมกำลังทำเรื่องน่าอาย...

“อะ...พี่ซัน”

ฟุ้งซ่านและล่องลอยอย่างควบคุมไม่ได้



“เสียดายไม่ได้เห็นเธอใส่ชุดนักเรียน”

เขาโทรมาแต่เช้าตอนผมกำลังกินข้าว ชุดนักเรียนของผมเป็นปกกาลาสีแต่มีสูททับกับกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน ถุงเท้าขาวยาวถึงหน้าแข้งและรองเท้าหนังมันปลาบสีดำสนิท

มีหมวกทรงกลมๆ หนึ่งใบ กับกระเป๋าสะพายทรงเหลี่ยมๆ ด้วย อย่างกับในหนังการ์ตูนแน่ะ อาจจะเพราะอากาศที่นี่เย็นกว่าที่ไทยมันเลยเยอะกว่า

“ก็ปกตินี่ครับ”

“กินข้าวให้หมดถ้วยนะตอง”

ตัวไม่อยู่ก็ยังวางอำนาจมาถึงนี่...เอาแต่ใจที่สุด

“พี่ซันจู้จี้”

“หึ...ตั้งใจเรียนล่ะ สุดสัปดาห์เจอกัน”

วันคืนผ่านไปอย่างเชื่องช้า ผมทำเรื่องน่าอายไปหลายครั้งในห้องนอนพี่ซัน เสียงทุ้มนุ่มของเขาที่ดังผ่านโทรศัพท์ทำให้ความคิดถึงกลายเป็นความทรมาน

จนกระทั่งในที่สุดก็ถึงวันที่เขากลับมา ตรงกับวันหยุดที่ผมเรียนภาษาจีนพอดี สมาธิของผมไม่ได้อยู่กับบทเรียนอย่างที่ควรจะเป็นเลย หูคอยแต่จะเงี่ยฟังเสียงลิฟต์

และการรอคอยของผมก็สิ้นสุดลงหลังจบคาบภาษาจีนไปสักพัก พี่ซันในวันนี้อยู่ในชุดสูทสีดำสนิท ดวงตาเหนื่อยล้าเล็กน้อยแต่ในยามเขามองผม...สายตาเขาช่างร้อนแรง



ไม่มีคำพูดอะไรระหว่างเรา...ผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเขาด้วยความเต็มใจ เขย่งตัวรับจูบร้อนผ่าวราวกับน้ำชาชงใหม่ๆ จนปากชื้นฉ่ำและเห่อร้อน

ชุดคลุมถูกดึงรั้งออกและเท้าผมก็ไม่แตะพื้นอีกเลย แขนแข็งแรงโอบอุ้มผมไปยังชั้นสอง...ไปยังห้องนอนที่ผมโดนทิ้งให้นอนโดดเดี่ยวอยู่เป็นอาทิตย์

ความคิดถึงทำให้ผมเต็มใจถูกเขาแกล้ง...ยอมให้เขากัด...และปล่อยตัวไปกับสัมผัสของเขาอย่างง่ายดาย ผมเสพติดสัมผัสของสุริยะ หยางจนถอนตัวไม่ขึ้น

เข้าโอ้โลม...หยอกเย้า...และพาผมปีนป่ายก้อนเมฆไปกับเขา

“ไปโรงเรียนเป็นไงบ้าง”

ร่างกายของผมเลอะเทอะซุกกอยู่กับร่างกายแสนอบอุ่น...ดีกว่าถุงน้ำร้อนที่ผมเดินกอดไปกอดมาอยู่หลายวันเยอะเลย...เขาไม่ได้เข้ามาในตัวผม ก็แค่สัมผัสกันและกัน

“ก็ปกติครับ”

“โดนแกล้งหรือเปล่า”

“ใครจะมาแกล้งผมล่ะ...”

“พี่ไง”

คนละแกล้งแล้ว...สายตาวิบวับของเขาทำให้อดไม่ได้ต้องยกมือฟาดไหล่แกร่งสักที

“ถ้าผมโดนคนที่โรงเรียนแกล้งแบบที่พี่ซันแกล้งผม...”

“พี่จะฆ่ามัน”

สายตาจริงจังของเขาทำให้ผมใจเต้นรัว...ที่เขาทำมันเรียกว่าหวงใช่ไหม? เขากำลังหวงผมไม่อยากให้ไปสนิทสนมกับใครใช่ไหม?

“คนขี้หวง”

ผมแกล้งจูบปลายคางเขาเล่น...ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่มคิดว่าระยะห่างหลายวันที่เกิดขึ้นทำให้เราเหมือนมีแรงดึงดูดเข้าหากันเป็นพิเศษ

“ตองเป็นของพี่...พี่ก็หวงสิ”

“ผมเป็นผู้ชายนะครับ ไม่มีใครสนใจผมทำนองนั้นหรอก”

“....หึ ก็พี่นี่ไงหรือต้องให้ทวนความจำ หืม?”

มือหนาเลื่อนจากเอวมาบีบขย้ำก้นผมอีกแล้ว ผมพยายามประท้วงแล้วนะ...แต่จูบของเขาก็ปิดกลั้นเสียงของผมไปหมด การต่อต้านของผมช่างไร้ค่า...เมื่อสุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายยกแขนขึ้นเกาะไหล่ที่มีรอยสักรูปพระอาทิตย์และสองขาถูกยกขึ้นเกาะเกี่ยวกับสะโพกแกร่ง

การกลั่นแกล้งของสุริยะ หยางหวานละมุนเหมือนกับยอดชาอ่อนที่เขาชมชอบเหลือเกิน



วันอาทิตย์ของเรา ผมถูกเอาใจจนเหลิงไปหมด...พี่ซันเป็นคนช่างเอาใจจนผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ เรากุมมือกันเดินเล่นในสวนหินของเขา...และเสื้อผ้าของผมก็ไม่เรียบร้อยอีกแล้ว

อยู่กับพี่ซันเขาชอบให้ผมแต่งตัวไม่เรียบร้อย แล้วผมก็ขี้เกียจจะคัดค้าน จะไปสู้อะไรกับเขาล่ะในเมื่อผมชอบให้เขาสัมผัสไปแล้ว

เสื้อคลุมที่ผมใส่ประจำมันไม่จำเป็นอีกต่อไปเพราะผมมีเขาอยู่ข้างๆ ถูกโอบกอด...และหยอกเย้าจนตัวอุ่นร้อนอยู่เรื่อย

“หนาวไหมอวิ๋น”

“อา...”

ผมนั่งอยู่บนตักเขาในเก๋งจีนกลางสวน เสื้อคลุมร่วงหล่นลงจากไหล่ จมไปกับอ้อมกอดของเขา...วิวต้นไผ่ด้านหน้าช่างให้ความรู้สึกเย็นสบายต่างจากร่างกายผมร้อนรุ่ม

มือซุกซนขยับนิ้วบีบคลึงหัวนมผมจนมันเจ็บ...แต่เขาก็ไม่หยุด ฟันคมก้มลงขบเม้มลาดไหล่สลับกับทิ้งจูบชื้นฉ่ำไปทั่วบริเวณ

“ตัวอุ่นหรือยังหืม...”

“พี่ซันแกล้งอีกแล้วนะ”

เขายอมหยุดมือแล้วหัวเราะกรุ้มกริ่มจนผมเขิน ผมดูออกว่าเขาระมัดระวังกลัวผมจะป่วยหนักอีก และผมก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้

ชอบความเขินอายที่เกิดขึ้น...ชอบที่เขาแตะนิดแตะหน่อยจนหัวใจเต้นแรง...ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ แต่...ผมชอบมันจริงๆ



“ตุ๊กตากระต่าย?”

ผมกลับมาจากโรงเรียนก็เจอตุ๊กตากระต่ายตัวใหญ่วางอยู่บนโซฟา ยี่ห้อมันบ่งบอกว่ามาจากยุโรปซึ่งมันช่างดูแปลกแยกจากทุกอย่างในบ้านหลังนี่

มันตัวเกือบเท่าๆ กับหมอนข้างเลย มีโบว์สีฟ้าผูกอยู่ตรงคอด้วย และ...นุ่มมาก พอดีมือไปหมด

“ชอบไหม?”

พี่ซันในชุดจีนแบบที่เขาชอบใส่เดินออกมาจากหลังฉากกั้นที่ด้านหลังเป็นทางเดินที่มีห้องกระจกชมสวน เขาคงไปนอนฟังผีผาอย่างเช่นทุกที

“ของผมหรอ?”

“แมวเขาไม่ทำตัวใหญ่ พี่ว่ากระต่ายก็เหมาะกับตองดีเหมือนกัน”

“ชอบครับ ขอบคุณครับ”

ไม่เคยได้ของขวัญที่น่ารักขนาดนี้มาก่อนเลย ถึงตุ๊กตากับเด็กวัยรุ่นอายุสิบห้าจะไม่ค่อยเข้ากันแต่ผมชอบมันมาก เพราะพี่ซันให้ก็ส่วนหนึ่ง อีกอย่างก็คือ...ผมไม่เคยมีตุ๊กตาตัวโปรดของตัวเองมาก่อน

“รางวัลล่ะ?”

“รางวัล?”

“ที่พี่ซื้อให้...”

นิ้วเขายกขึ้นแตะเรียวปากตัวเอง ผมหน้าร้อนผ่าว...แต่ก็เดินไปหาเขา สองมือยดกับแขนแกร่งและเขย่งตัวขึ้นจูบปากนุ่ม และคนประสบการณ์เยอะกว่าก็เปลี่ยนเป็นคนไล่ต้อนผมจนปลายลิ้นของผมเต็มไปด้วยชากลิ่นเดียวกับลิ้นของเขา

“พี่ซันจูบคนมาเยอะแล้วสิครับ”

“เยอะ...แต่ต่อไปมันจะมีแค่เธอ”

“จริงหรอครับ”

“จริงสิ...”

เราจูบกันอีกครั้งจนผมแข้งขาอ่อนเขาถึงยอมให้ผมหันเหความสนใจไปที่ตุ๊กตาตัวใหญ่ คงแพงน่าดูแต่กับพี่ซันคงไม่เท่าไหร่...ตั้งชื่อว่าอะไรดีนะ?

“ปั้นชา”

ชา...ทีพี่ซันชอบ เอาชื่อนี้แล้วกัน เพราะตอนนี้ผมก็ชอบดื่มชาไปแล้วด้วย



ที่นอนของปั้นชาคือโซฟาในห้องชุด ผมไม่ถนัดนอนกอดตุ๊กตาเท่าไหร่...ที่ผมถนัดนอนกอดคือผู้ชายตัวใหญ่แข็งแรงไม่ใช่ความนุ่มนิ่มแบบตุ๊กตา

อ้อมกอดของพี่ซันถูกผมยึดเอาไว้แล้ว จนกลายเป็นว่าผมจะนอนไม่หลับถ้าไม่มีเขานอนกอด ยามห้าทุ่มที่เขาชอบลงไปดื่มชาด้านล่างมีผมเกาะลงไปด้วยทุกคืน

เสื้อผ้าผมน้อยชิ้นลงทุกทีจนเสียดายเสื้อผ้าดีๆ ที่เขาสั่งตัดมาใส่ไว้เต็มตู้ ตอนนี้มันเหลือเพียงผ้าบางๆ ที่ปกปิดอะไรไม่ได้เลย

สุริยะ หยางสัมผัสผมอย่างเอาแต่ใจจนมันกลายเป็นความเคยชิน...และในที่สุดผมก็เป็นฝ่ายสัมผัสเขาก่อนบ้าง และเขาก็ชอบมาก...ชอบมากจริงๆ

ผมมีความสุขมาก...สุขจนกลัวว่ามันจะเป็นแค่ฝันไป



“ดอกไม้นี่สวยจัง ดอกอะไรหรอครับ?”

“ดอกอวี้หลาน...แมกโนเลีย”

ดอกแมกโนเลียต้นใหญ่ปลูกอยู่ข้างๆ เก๋งจีนที่เรานั่งกันประจำ มันไม่ออกดอกเลยจนกระทั่งฤดูหนาวแรกที่ผมมาอยู่กับพี่ซันกำลังจะผ่านไป

สวนหินสีเขียวของเขาเลยถูกแต้มด้วยดอกสีขาวชมพูอมม่วงนี้ กลิ่นหอมลอยปะปนไปกับกลิ่นชาหอมๆ เข้ากันอย่างน่าประหลาด

“ดอกมันน่ารัก”

“บานได้สิบวันเท่านั้นเอง...ออกดอกย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิปีละครั้ง บนนี้ลมแรงปลูกดอกไม้ต้นเล็กยาก ไม่ค่อยทนกันเท่าไหร่”

“หรอครับ...มันเก่งจัง”

“ร่วงหมดก็ไม่สวย ชอบหรอ? ปลูกเพิ่มอีกต้นดีไหม? เอาเป็นสีอื่นแล้วย่างฤดูใบไม้ผลิปีหน้าเรามาดูมันออกดอกด้วยกัน”

“ไม่เอาครับ...ผมชอบต้นนี้แล้ว แค่ต้นเดียวก็พอ”

คำพูดของสุริยะ หยางทำให้ผมหวาดกลัว เสียงทุ้มนุ่มที่ชอบชมว่าผมสวย...ทำให้ผมหลงอยู่ในวังวนของเขา แต่สุดท้ายผมก็จะโตขึ้น วัยเยาว์จะผ่านพ้นไปในที่สุด

ดอกไม้จะมีช่วงเวลาที่สวยงามบานสะพรั่งที่สุดแต่มันก็จบลง สถานะของผมก็เหมือนดอกไม้ของพระอาทิตย์ ผมตัวสูงขึ้นหนึ่งเซ็น และเริ่มมีหนวด

ถึงมันจะหนวดบางๆ แต่ก็มี พี่ซันถึงกับขมวดคิ้วตอนผมหอมแก้ม ถึงเขาจะขำๆ แล้วเอ่ยเย้าว่าผมโตแล้ว แต่มันคือความเปลี่ยนแปลง

ผมไม่อาจตัวเล็กเท่านี้ไปได้ตลอด...ผมอาจจะสูงกว่าพี่ซันก็ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เสียงของผมแหบพร่าแล้วเพราะร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลง แม้มันจะช้า...แต่มันก็เริ่มขึ้นแล้ว

ถึงเวลานั้นผมไม่รู้จะเอาอะไรไปรั้งเขาไว้กับตัวเองได้เลย ผมไม่เก่ง...ไม่ได้มีทรัพย์สมบัติ ไม่มีอนาคต มีแค่สมองกับสองมือและร่างกายที่เขายังถูกอกถูกใจ

สถานะของผมช่างไม่มั่นคงเหมือนกับดอกแมกโนเลียที่มีอายุเพียงสิบวัน...เวลาของผมมันเริ่มเดินแล้ว ตอนนี้อาจจะอยู่แค่วันแรกหรือวันที่สอง

“ตอง เป็นอะไร”

ผมนั่งตัวเกร็งอยู่บนตักเขา คิ้วพาดเฉียงขมวดมุ่น...ผมไม่มีความลับกับพี่ซันสักเรื่อง แต่เรื่องนี้ผมพูดไม่ได้ ให้ตายก็บอกเขาไม่ได้

กลัว...กลัวว่ามันจะทำให้เขาคิดตาม...แล้วรู้ตัวไวเกินไปจนปล่อยมือผมเร็วขึ้น

“หนาวครับ กอดตองหน่อยได้ไหม”

“อ้อนพี่อีกแล้ว”

“ขออ้อนไม่ได้หรอ...อย่าหวงกับตองสิครับคนใจร้าย”

เขายังคงแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์แบบที่ผมหลงใหล ร่างกายผมถูกจับเอนลงกับพื้นพรมนุ่ม กลิ่นน้ำชาและดอกไม้ยังคงหอมหวาน

กอดของเขาวันนี้...ยังคงอบอุ่นเหมือนที่แล้วมา

อวี้หลานดอกหนึ่งร่วงหล่นลงจากต้น...สายลมพัดพามันมานอนนิ่งอยู่ตรงหน้าผม ราวกับสัญญาณเตือนแรกให้ผมผมต้องเตรียมตัว

“อวิ๋น...อา...”

“ยะ...อย่า อย่ากัด”

“พี่รู้...ว่าตองชอบให้พี่กัด”

เขารู้จักผมดีเหลือเกิน...เหมือนกับผมเป็นดอกไม้ในสวนสวยของเขา ต่างจากผมที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยนอกจากความใจดีที่เขาหยิบยื่นให้

วันหนึ่ง...ดอกไม้ดอกใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่ผมที่ร่วงหล่นและตายไป



ไม่ ผมจะไม่เป็นดอกอวี้หลานที่ร่วงหล่นมีอายุแค่สิบวัน ผมจะต้องเป็นแจกันที่ประเมินค่าไม่ได้จนเขาต้องเก็บไว้อย่างดี เป็นแจกันแสนสวยที่มีเพียงใบเดียวในโลกจนเขาไม่อาจปล่อยมือไป

หรืออีกอย่าง...ผมจะต้องเป็นยอดใบชาชั้นดีที่เขาต้องขวนขวายหามาเก็บไว้กับตัว ต่อให้ผมเป็นแค่เศษชาที่แห้งกรอบเขาก็ยังหวงแหน

ผมจะไม่เป็นความสวยงามที่วันหนึ่งก็หมดความหมาย...

สุริยะ หยางไม่ได้ชมชอบความงามเช่นนั้น...เขาชอบของแพง ของหายาก ของที่มีคุณค่าและยิ่งมีชิ้นเดียวในโลกนั้นยิ่งเย้ายวนใจ ไม่งั้นเขาจะมาจับธุรกิจพิพิธภัณฑ์ทำไม เสาะแสวงหาพาตัวเองไปงานประมูลศิลปะต่างๆ เพื่ออะไร

ผมจะไม่แข่งกับดอกไม้สารพัดที่อาจจะปลิวเข้ามาในชีวิตเขา ใช้ความหอมและความสวยดึงความสนใจได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวแล้วจบลง พวกนั้นไม่ใช่คู่แข่งที่ผมต้องกลัว

แจกันปากบิ่นในตู้เก็บอุณหภูมิของเขายังท้าทายกว่า...หรือใบชาที่เขาละเลียดมันอย่างช้าๆ พวกนั้นต่างหากที่ผมจะต้องพาตัวเองเข้าไปแทนที่

ทุกอย่างสำหรับจักรพรรดิพระอาทิตย์เช่นเขานั้นได้มาง่ายดายเพียงแค่พลิกฝ่ามือ ผมจะต้องใคร่ครวญให้ดี แผนการของผมไม่ใช่แค่แผนหลอกเด็ก

ผมต้องวางแผนสำหรับอนาคตตัวเองอย่างจริงจัง...ผมโดนผลักไสจกเยว่มารอบหนึ่งแล้ว ครั้งนี้มันจะต้องไม่กลับไปซ้ำรอยเดิม

“อวิ๋น...”

“อื้อ...พี่ซัน”

ความรักของพระอาทิตย์จะต้องเป็นของผมคนเดียว ใครก็อย่ามาแย่ง ไม่ให้!

-----------------------------------

เริ่มวางแผนละ เอ๊ะ นี่กันติชาหรือศศิมณฑล? 5555555555+

พี่ซันชะล่าใจไม่อธิบายอะไรน้องไง น้องก็ไม่ถามด้วยนะ น้องโนสนโนแคร์เตรียมเขมือบหัวพี่ซันแล้ว โดนแน่!

ปมเรื่องจะคล้ายๆ กันแต่ว่าการแสดงออกและการรับมือจะแตกต่างจาก ในปกครอง นะคะ 555+ ใบ้ว่าต่อไปอาจจะต้องช่วยกันปลอบใจพี่ซันคนแซ่บ เพราะก้อนเมฆของพี่ซันรว้ายมากกกกกกกกกก (โฆษณาชวนเชื่อ)


ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
โอ้ยยพี่ซันร้ายกว่าเจิ้นเย๊อะะะะ อะไรทำให้น้องอวิ๋นเด็กดีกลายเป็นเด็กแสบไปได้ ใสๆทั้งพ่อทั้งลูก ทั้งเจิ้นทั้งพี่ซัน ทำน้องๆใจแตก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เพราะมีแผน เลยมีมูนนี่โผล่มานี่ก็แผนพ่อตองใช่ไหม 555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
พ่อกระต่ายช่างวางแปนเหมือนใครกันนะ 55

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Jingjaij

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รู้เลยอ่ะว่าเจ้าจันทร์ช่างมโนเหมือนใคร น้องตองของพี่ซันน่ารักมากก เจ้าคิดเจ้าวาวแผน

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
อ่านมากี่ตอนมันก็ยังให้ความรู้สึกร้อนแรง  :haun4: :haun4: :haun4: หรือเราหมกมุ่นหว่า  :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ตองกับจันทร์ช่างเหมือนกันสมเป็นพ่อลูกจริง ชอบให้กัด

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ตองก็เจ้าแผนการเหมือนกัน

พี่ซันระวังดีๆ

 :laugh:

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบวิธีคิดของน้องตองคนแซ่บมากค่ะ คู่แข่งคือแจกันปากบิ่นกับยอดชาล้ำค่า โอ๊ยยยคู่นี้เค้าเหมาะกันจริงๆ น้องตองวางแผนแล้ว อบคุณค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
น้องตองส่อแววร้ายกาจตั้งแต่เล็กเลยนะเนี่ย  มิน่า ยิ่งอยู่กันไป พี่ซันถึงได้ทั้งกลัว ทั้งเกรง อยู่ในโอวาทสุดๆ ชอบๆๆๆ

จะรอดูน้องตองวางแผนจัดการพระอาทิตย์จร้า ^^

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
พี่ซันว่าร้าย ตองร้ายกว่า :mew1: :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
พี่ซันกับเจิ้นมีนิสัยคล้ายกันเลยอ่ะ ใช้การกระทำมากกว่าคำพูด
สุดท้ายคนรักที่อายุน้อยกว่าความคิดอ่านน้อยกว่าก็ไม่เข้าใจ การกระทำต่างๆ ของผู้ใหญ่อยู่ดี
ถึงแม้การกระทำมันจะชัดเจนก็เถอะ
ไม่เป็นไรนะเจิ้นมาม่าของพี่ซันชามใหญ่กว่าเจิ้นแนนอน 555+

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
ใครจะร้ายกว่ากันนะคะ5555555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยยย เพลียใจกับกันติชา พี่ซันคะ น้องยังสิบห้าเอง
ฝึกให้ตองร้ายแต่เด็ก มิน่าสุริยะ หยาง ถึงไปไหนไม่รอด

ตองที่พี่ทำไม่เรียกว่าแกล้งนะ
แต่ทำเหมือนแกล้งให้ตองอยาก และไม่จากไป

ยกนิ้วให้พี่ซันเลยค่ะ กระตุ้นมาทุกวันจนได้เรื่องเลย
โอ๋ สงสารตอง คิดว่าโดนผลักไสจากเยว่หรอ
แต่ถึงจริง พี่ซันก็ยินดีดูแลทั้งตัว ทั้งใจไปตลอดเนาะ

นี่ไงๆๆ จะเอาไปว่าลูกไม่ได้เลยนะตอง ไวกว่าเจ้าจันทร์อีก

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
พ่อกระต่ายลูกกระต่ายเจ้าแผนการเหมือนกันเลย  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ แต่เป็นความเหมือนที่แตกต่าง
ของเจ้าจันทร์ยังรับมือไม่ค่อยเป็น วางแผนแบบเด็กๆใสๆ รับมือกับสิ่งต่างๆยังไม่ค่อยได้
แต่ของตองกันติชานี่คือของจริง รู้ตั้งแต่เนิ่นๆว่าตัวเองชอบพี่ซัน
และพร้อมที่จะหาทางให้ตัวเองได้อยู่จุดสูงสุดและอยู่นานสุด
ชอบบบบ อยากอ่านตอนต่อไปแล้วววว :hao7: o13

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter 7 Rabbit Army

ช่วงเวลาที่ชอบที่สุดของผมคงเป็นตอนเช้า...ในห้องนอนของพระอาทิตย์

ผมตื่นมาในอ้อมแขนอุ่นแสนสบาย ไหล่แกร่งที่โอบกอดผมไว้มีลอยสักรูปพระอาทิตย์ ร่างกายผมมีเพียงชุดคลุมที่ไม่ได้ถูกผูกเอาไว้ ขาเปลือยก่ายเกยอยู่บนขาแกร่งข้างหนึ่ง...

“ตื่นแล้วหรอ”

“ครับ...”

สุริยะ หยางอ้าปากหาวดันตัวขึ้นจากเตียง แขนข้างหนึ่งค้ำกับที่นอนและมืออีกข้างยกขึ้นแนบลงกับหน้าผากผม คิ้วพาดเฉียงขมวดเล็กน้อยก่อนเขาจะก้มตัวลงมาจูบที่ข้างแก้ม...หัวใจผมเต้นรัวกับความอ่อนโยนอันแสนเป็นธรรมชาติของเขา

“วันนี้ไม่มีไข้ แสดงว่าเมื่อคืนพี่ไม่ได้ทำแรง”

“พี่ซันทะลึ่ง! ”



“อย่าหลับตาสิ”

“ก็อย่ามองสิครับ”

“ไม่มองแล้วพี่จะโกนหนวดให้อวิ๋นได้ไง หืม? ”

ผมไม่เคยโกนหนวดเองเลย ช่างเป็นวัยรุ่นที่ปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงได้ห่วยแตก...สุริยะ หยางคนนิสัยไม่ดีต่างหากชอบมาอุ้มผมนั่งบนขอบอ่างล้างหน้าแล้วก็วุ่นวาย

“มีนิดเดียวเอง ทำเองก็ได้”

“พี่อยากทำให้”

“งั้นผมโกนให้พี่ซันบ้าง”

“อย่าเลย เดี๋ยวเนื้อพี่หาย”

อยากจะเบะปากใส่แต่กลัวใบมีดบาด เขาหัวเราะเพราะเห็นท่าทีอึดอัดของผม แต่มือพี่ซันเบามากเลย การมีคนดูแลนี่มันสบายจัง

พี่ซันบอกว่าเสียงของผมกำลังจะแตกหนุ่ม นมก็จะเจ็บ เขาเรียกว่านมแตกพาน

“แต่น่าจะเจ็บน้อยกว่าโดนพี่กัด”

“พี่ซันทะลึ่ง! ”

เขาชอบหยอกล้อให้ผมเขิน สายตาและน้ำเสียงของเขาทำให้ผมทำตัวไม่ถูก คนขี้แกล้ง! ไม่รู้จะแกล้งอะไรนักหนา เห็นผมยอมเข้าหน่อยก็เลยได้ใจ

“เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวตองจะทะลึ่งบ้าง”

“สู้หรอ? ”

ผมยกสองแขนเท้าเอวทำหน้าดุ แล้วเขาก็ทำตามแต่ทำปากเบะด้วย มันตลกมากจนหมดหลุดขำ การขัดขืนของผมครั้งแรกจบลงด้วยเสียงหัวเราะ



รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

จำไม่ได้แล้วว่าได้ยินมาจากไหนแต่ถ้าผมจะชนะสุริยะ หยางผมต้องรู้จักเขาให้มากกว่านี้ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปผมจะต้องสังเกตลักษณะนิสัยเขาอย่างจริงจัง

เรารับมื้อเช้ากันสายกว่าปกตินิดหน่อย แต่ถึงจะสายอาหารก็ยังอุ่นร้อนถูกจัดวางรออยู่ในห้องกินข้าว และยังคงไม่มีคนงาน แม่บ้าน พ่อบ้านหรือเลขาปรากฏตัว ต่างจากบ้านเยว่...บางทีตอนเช้าเลขาก็มาแจ้งเรื่องงานกับเจ้าบ้านแล้ว

พี่ซันหวงบ้าน หวงความเป็นส่วนตัว โลกของเขาตอนนี้ผมถือบัตรผ่านเอาไว้คนเดียว

พี่ซันเป็นผู้บริหารที่ใช้เงินและใช้คนเก่ง กิจการเขาใหญ่โตแต่เวลาว่างเขาเหลือเฟือ เขารวยจนไม่รู้จะรวยยังไงเรื่องที่เขาใส่ใจจึงมักจะเป็นเรื่องละเอียดลออชวนจุกจิก

อย่างเช่น...ลายบนตัวปลาคาร์ฟ เขาคิดว่าการที่ผมนั่งเล่นอยู่ตรงนั้นบ่อยๆ จะดูโหงวเฮ้งปลาคาร์ฟเป็นหรอ? และใช่...ปลาทุกตัวของสุริยะ หยางต้องมีลวดลายมงคลเสริมดวงชะตาเท่านั้น

รสนิยมคนรวยมากแบบที่ผมคงไม่มีทางเข้าใจ

ผมอยู่กับเยว่มานาน นานพอจะรู้ว่าบ้านหลังนี้ทุกอย่างต้องถูกหลักฮวงจุ้ย มีของแก้เคล็ดถูกวางอย่างแนบเนียนในบางจุด



เพราะผมเป็นคนธรรมดา วิธีที่ที่จะทำให้ผมมีคุณค่าที่ง่ายที่สุดคือการตั้งใจเรียน ตอนอยู่กับเยว่ไม่ว่าเจ้าบ้านเยว่ให้ทำอะไรผมก็ทำ หัดทำบัญชี หัดดูหุ้นหรือการลงทุนเล็กๆ น้อยๆ พอมาอยู่กับหยาง ผมก็ตั้งใจเรียนภาษาจีนกับหัดทำบัญชี

ที่บ้านเยว่ใครคุมบัญชีคนนั้นเป็นใหญ่ในบ้าน ผมจะต้องทำให้ได้...เราจะต้องเป็นเหมือนบ้านพี่จิน ถึงพี่เขยผมจะเป็นคนทำงานแต่พี่จินต่างหากที่ถือเงิน ผมจะต้องยึดเงินทุกหยวนของสุริยะ หยางมาดูแลทั้งหมดให้ได้

พี่ซันไม่ใช่แค่รับปากส่งๆ เรื่องเรียนบัญชี เขาให้เลขาของเขามาสอนผมดูค่าใช้จ่ายในบ้าน ไม่น่าเชื่อว่าแค่ห้องบ้านสองชั้นบนยอดตึกนี่มีค่าใช้จ่ายมหาศาล ผมรู้ว่าเขานิยมของแพง แต่ไม่คิดว่าจะแพงขนาดนี้

ห้องทำงานของพี่ซันมีตู้โชว์เก็บอุณหภูมิสำหรับแจกันเก่าแก่โดยเฉพาะ...และมันหน้าตาน่าเกลียดมาก ผมหาความเชื่อมโยงของมันกับมูลค่าสามสิบกว่าล้านบาทไม่เจอ คู่แข่งของผมไม่ได้สวยเลยสักนิด ก็แค่แพง เหอะ...

ผมอาจจะเข้าไม่ถึงศิลปะเอง แต่เป็นผม...ผมคงไม่ซื้อมันมา มันเป็นแจกันอ้วนๆ ที่ขอบบิ่น มีลวดลายประหลาดๆ แถมมีหูจับสองข้างเหมือน...โอ่งอ้วนๆ มีหูหิ้ว

โอ่งมังกรในละครจักรๆ วงศ์ๆ ของไทยยังน่าซื้อกว่าแจกันใบนี่ แต่พี่ซันขนาดเอามันมาไว้ในห้องทำงานผมจะไปกล้าออกความเห็นอะไร ยังมีอีกหลายอย่างที่เป็นวัสดุเครื่องใช้ของเขาที่ผมก็ต้องขมวดคิ้ว

อย่างเช่นที่ทับกระดาษลายเสือที่ไม่เหมือนเสือ มันเป็นดินปั้นหน้าตาประหลาดอีกแล้ว หางก็หัก อาจจะคล้ายๆ หมามากกว่าเสือด้วยซ้ำ

“มันเป็นของเก่า สิบล้านมั้ง”

เขาให้อำนาจผมเข้าห้องทำงานชั้นบนของเขาได้ เพราะมันไม่มีอะไร พี่ซันไม่มีเอกสารสำคัญเก็บในบ้านเลย งานที่เขาเอามาทำที่บ้านก็คือ...การดูพวกนิตยสารศิลปะ งานออกแบบหลากหลายจากทั่วโลก ร่วมงานประมูลภาพถ่าย ออกงานการกุศล หรืองานเลี้ยงสารพัดที่ถูกเชิญ

เลขาของพี่ซันบอกว่าพวกเอกสารสำคัญทั้งหมดถูกเก็บไว้ในตู้เซฟธนาคารแล้ว ดังนั้นบัญชีในบ้านที่ผมจะต้องรับผิดชอบก็แค่พวกค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ที่ไม่ต้องทำบัญชีเป็นก็ทำได้

ทุกเดือนจะต้องแบ่งเงินก้อนเป็นหลายๆ ส่วน ส่วนที่ว่าไม่ใช่เหมารวมพวกค่าน้ำ ค่าไฟใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นประเภทของอาหารล้วนๆ ! ค่ากินที่แพงหูดับทั้งๆ ที่มีพี่ซันกับผมสองคน ค่าน้ำค่าไฟไม่ต้องเพราะจ่ายรวมกับอาคารนี้ทั้งหลัง ฝ่ายบัญชีของเครืออาณาจักรพระอาทิตย์จะเป็นคนดูแล ค่าทำความสะอาดก็บัญชีดูแลเพราะเป็นเจ้าเดียวกับบริษัทรับทำความสะอาด แม่บ้าน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาณาจักรพระอาทิตย์เช่นกัน แทบจะทุกอย่างจ่ายในนามบริษัททั้งหมด

สรุปว่าผมก็ไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากคำนวณว่าแต่ละวันๆ พี่ซันจะกินอะไร แล้วผมจะกินอะไร ที่แปลกใจคือผมมีเงินเดือนของตัวเองด้วย พี่ซันบอกว่าไว้เป็นค่าขนมไปโรงเรียน

จ่ายผ่านระบบเงินเดือนของบริษัทพี่ซันเหมือนกัน ถ้านับเป็นเงินไทยคือผมมีเงินเดือนเดือนละหมื่น มันอาจจะน้อยสำหรับคนทำงาน แต่ผมยังไม่จบมัธยมต้นด้วยซ้ำ ถ้าตีเป็นค่าขนมอย่างเดียวมันก็แพงมาก ประโยชน์อะไรก็ไม่มี แถมอยู่นี่ก็ไม่ได้ใช้เงินเลย

มีบัตรเครดิตอีกสองใบที่ผมต้องรับมาดูแล วงเงินตีเป็นเงินไทยคือใบละหนึ่งล้านบาท คุณเลขาพี่ซันบอกว่าให้ผมเก็บไว้เผื่อมีเรื่องจำเป็นเพราะพี่ซันไม่ชอบให้ใครไปยุ่งกับเขา ถ้าเขาอยากได้อะไรจะได้ใช้บัตรเครดิตนี่ได้เลย เงินเดือนพี่ซันบริษัทคำนวณให้มาแล้วคือเดือนละสองล้าน ไม่รวมเงินลงทุนด้านอื่นๆ

ผู้ชายเจ้าเล่ห์มีรายได้เดือนละสองล้านยังไม่นับบัตรเครดิตวงเงินสูงลิบลิ่วของเขาอีก แต่ค่าใช้จ่ายแทบจะเป็นศูนย์เพราะทุกอย่างถูกใช้จ่ายในนามบริษัท งานการก็ไม่ทำ ผมอยู่กับเขาก็ไม่เห็นเขาจะใช้เงินอะไร มิน่า...ค่ากินของเขาถึงแพงแบบว่าเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านได้ มีเงินเหลือเฟือไปซื้อปลาคาร์ฟที่มีลวดลายมงคล และซื้อแจกันประหลาดมาแช่ในตู้เก็บอุณหภูมิ คงไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรแล้วจริงๆ

ถ้าจะยึดพี่ซันไว้กับตัวเองผมคงต้องรู้ดีเทลพวกนี้ให้หมด ต้องเข้าใจความสนใจอันละเอียดลออเกินกว่าเหตุของเขา ต้องเข้าใจความพิถีพิถันทุกขั้นตอนการใช้ชีวิต

ซึ่ง....บอกตรงๆ ปวดหัวอ่ะ ไม่ไหวหรอก ผมต้องหาทางลัดให้ตัวเอง ผมจะไม่ลงมือทำอะไรเองทั้งนั้น แต่ผมต้องจำให้ได้ว่าใครที่รับผิดชอบอันไหน และผมจะต้องใช้คนให้ถูกกับงาน

เรื่องอาหารการกินแสนจะยากเย็นของพี่ซันผมต้องไปหาคุณแม่บ้าน

เรื่องเสื้อผ้าผมต้องติดต่อห้องเสื้อแบรนด์ไหน

เรื่องสำคัญก็ต้องติดต่อเลขาของเขา แต่เลขาพี่ซันก็มีหลายคน คนผมเจอบ่อยๆ รับหน้าที่ดูแลเรื่องส่วนตัว

คนเหล่านี้ต่างหากที่ผมจะต้องทำความรู้จัก



ทุกอย่างมีขั้นตอนและระยะเวลาของมัน ความรู้สึกของผมต่อเรื่องการใช้ชีวิตของสุริยะ หยางก็เช่นกัน มันค่อนข้างเป็นความไม่เข้าใจ และไม่อาจจะเข้าใจได้ในเร็ววัน อาจจะเพราะผมอยู่กับเยว่ ทุกคนทำงานหนักเพื่อความเจริญก้าวหน้าขององค์กร จนกระทั้งเจิ้นเกิดอะไรก็ดีขึ้นพี่จินถึงได้วางมือแล้วเป็นแม่บ้านอย่างที่หวัง แม้แต่ผมช่วงที่ผ่านมาก็โดนกดดันทั้งด้านการเรียนและการวางตัว

แต่สุริยะ หยางอายุแค่ยี่สิบห้ายี่สิบหก กลับใช้ชีวิตหรูหราแถมเป็นตัวร้ายชอบแกล้งผมอีก คนเราเนี่ยแข่งเรือแข่งพายมันแข่งกันได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนามันไม่ได้จริงๆ

เพราะเวลาว่างอันมากมายของเขาทำให้ผมต้องขลุกอยู่กับเขาเกือบทั้งวัน...ความสนใจของผมมันถึงเทไปทางเขาหมด อันนี้ที่ผมหงุดหงิด

ไม่ว่าจะตอนเขาขยับตัว หยิบของ ชวนคุย หรือยิ้มที่ตีความหมายไม่ออกมันอยู่ในสายตาผมทั้งหมด แล้วอีกอย่างที่ผมเคยชินคือการถูกเขาจูบ

พี่ซัน...เป็นคนบ้าจูบ ปากผมเห่อร้อนเพราะถูกเขาจูบครั้งแล้วครั้งเล่า เอวผมเหมือนที่วางแขนประจำตัวเขา แล้วทั้งตัวผมอาจจะเป็นหมอนเน่าประจำตัวเขาถึงชอบกอดตลอดเวลา

ชอบหิ้วผมไปมุมนั้นที มุมนี้ทีกับสารพัดกิจกรรมในบ้านของเขา พี่ซันเป็นคนติดบ้าน ไม่จำเป็นเขาแทบไม่ออกไปไหนเลย และผมก็ชอบ...ชอบที่เขาไม่ไปไหน และผูกตัวติดอยู่กับผมทั้งวัน

มันอาจจะเป็นเพราะผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ต้องการของใครสักคน ผมไม่มีญาติ ไม่มีพี่น้อง ต่อให้ตระกูลเยว่รับผมไปเลี้ยง มันก็เหมือนไม่ใช่ที่ของผมจริงๆ ... ผมกลัวว่าตัวเองจะโดดเดี่ยวอีกครั้ง

ที่นี่พี่ซันให้ชีวิตใหม่กับผม...เขาไม่ใช่แค่เลี้ยงผมไว้เฉยๆ เขาใส่ใจ เรื่องมากมายที่เราคุยกันทำให้ผมรู้สึกได้ว่าเขาสนใจจริงๆ เขาถามถึงการเรียนภาษาจีนของผม ถามว่าผมชอบอะไร ไม่ชอบอะไร

ไม่แปลกใจเลยที่ผม...จะหวั่นไหว และเริ่มรู้สึกในบางครั้งว่าพี่ซันเป็นของผมคนเดียว เขาไม่มีญาติ ไม่มีพี่น้อง ไม่มีใครที่จะให้ความสนใจ หมายความว่าไม่มีใครที่จะมาแย่งตำแหน่งของผมตรงนี้

ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นยังไงกันแน่ มันเหมือนกับที่คนปกติเขารักใครสักคนหรือเปล่า หรือแค่คนหวงของเพราะไม่เคยมีมาก่อน แต่ผมไม่เคยมีความรัก ผมกลัวว่ามันจะเป็นแค่...ผมเข้าใจผิดไปเอง

ทุกอย่างที่พี่ซันทำให้ผมสับสน เขาอยู่ในสถานะผู้ปกครองของผมแต่ว่า...สิ่งที่เขาทำมันไม่ใช่ สิ่งที่เราทำมันไกลกว่านั้นไปนานแล้ว ต่อให้มันเป็นความหลงหรือความรัก

เขาต้องเป็นของผมคนเดียว



“เป็นอะไร หืม...”

“เปล่าครับ...”

ผมทิ้งตัวลงในอ้อมแขนเขา มองมือหนาที่ยกขึ้นลูบไล้เรียวขาของผมที่เกยอยู่บนท่อนขาแข็งแรงผมปล่อยให้เขาสัมผัส...และเงยหน้าขึ้นรับจูบของเขา เราจูบกันครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนเช้าเขาก็จูบ...ตอนไหนเขาก็จูบ เป็นคนบ้าจูบ!

สายตาเขาชอบอ้อยอิ่งอยู่ที่ปากของผม มือเขาก็มักจะเลื่อนลงจากเอวสัมผัสก้นผม บีบบ้าง...ลูบบ้าง ยั่วเย้าให้ผมหลุดเสียงตลก เขาชอบแกล้ง นิสัยเสียแก้ไม่หายจนเลิกจะใส่ใจแล้ว

“ทำไมขมวดคิ้ว”

แสงไฟสีส้มอ่อนจากหัวเตียงเป็นอีกอย่างที่เพิ่มเข้ามา ผมได้เห็นสีหน้าของเขายามค่ำคืนในที่สุด ผมชอบนัยน์ตาของเขาที่สะท้อนเงาผมอยู่ในนั้น...ชอบมาก

“คิดอะไรนิดหน่อยครับ”

“เรื่อง?”

“ความลับครับ”

เขาก้มหน้าลงมาจูบผมอีกแล้ว ไม่เบื่อหรือไงกัน...

“จะบอกว่าพี่หล่อใช่ไหม หืม อวิ๋น?”

ผมแกล้งย่นจมูกใส่เขา เสียงหัวเราะในลำคอของเขากลายเป็นว่าผมชอบมันมาก จากที่คิดว่าเขาแค่หยอกล้อแต่เขาชอบหัวเราะแบบนี้เวลาผม...พยายามอ้อนเขา

พี่ซันทำผมนิสัยเสีย วิธีการพูดของเขาชอบทำให้ผมเผลออ้อนอยู่เรื่อย แล้วตอนนี้เขาก็ชอบเกาผมเหมือนเกาลูกแมวสักตัว

“แชมพูกลิ่นใหม่หรอ?”

“ครับ...ชอบไหม”

เขาก้มลงมาจรดปลายจมูกกับหัวผม วันนี้ผมไปห้างใกล้ๆ มา ซื้อของเข้าบ้านหลายอย่าง ของใช้ส่วนตัวพี่ซันก็ด้วย ปกติเลขาพี่ซันจะดูแลทั้งหมด แต่ไหนๆ การทำบัญชีของผมก็ไม่เวิร์คแล้ว ก็รับหน้าที่นี้มาทำด้วยซะเลย

แต่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรอยู่ดี...เลขาพี่ซันมีลิสต์ของใช้ส่วนตัวอยู่แล้ว ผมก็แค่ซื้อตามนั้นเฉยๆ ก็ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ อยู่ว่างๆ น่าเบื่อจะตาย

“หอมดี สบู่กลิ่นไหมด้วยหรือเปล่า”

เขายกมือผมขึ้นจูบ ผมหน้าร้อนผ่าวเพราะสายตาวาววับของเขาจับจ้องมา เม้มปากกลั้นยิ้มเมื่อเขาแกล้งงับมือผมเบาๆ

“ไม่ใช่ของกินนะครับ”

“หรอ ทำไมพี่ว่าน่ากิน”

“ไม่ให้กิน”

“อืม...ไม่ให้ก็ไม่กิน”

เราคุยกันเรื่องไร้สาระอีกหลายอย่าง พี่ซันจริงๆ แล้วเป็นคนอารมณ์ดี

และเสียงหัวเราะของผมก็หยุดลงเมื่อเขารั้งตัวผมขึ้นไปนั่งคร่อมตัก สองมือผมยึดไว้กับไหล่กว้างเอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อยให้เขาได้จูบไปทั่วลาดไหล่

ผมเลิกใส่ชุดนอนแล้ว สารพัดเสื้อผ้าที่เขาตัดให้มีชุมคลุมแบบเดียวกับที่เขาใช้ ชุดคลุมผืนบางสบายตัว พี่ซันบอกว่าเป็นผ้าไหมชนิดหนึ่ง

และถึงเขาไม่บอก...ผมก็ดูออกว่าเขาชอบเวลาที่ได้แกะสายคาดเอวของผมที่สุด เขาชอบที่จะได้เห็นผมเกือบจะเปล่าเปลือยอยู่ในสายตาของเขา...จูบของเขาขยับเคลื่อนไปทั่วแผ่นอก...พี่ซันชอบกัดด้วย

เขาชอบกัดนมผม...ผมรู้แล้วว่าความรู้สึกประหลาดที่ผมเป็นมันคือ...การมีอารมณ์ร่วม ไม่ว่าเขาจะจับจะแตะตรงไหน ผมโอนอ่อนผ่อนตามเขาไปหมด

ผมถูกแตะต้องจนหมดแรง...จนเขาพอใจ จนผมร่วงหล่นบนก้อนเมฆ และมันก็จบลง ในวันที่ผมมีเรียนเขาจะไม่เอาแต่ใจจนผมตื่นไม่ไหว...



“อื้อ...”

“อรุณสวัสดิ์”

ผมตาปรือเพราะความง่วงงุน คิ้วขมวดเพราะถูกเขาจูบไม่ทันตั้งตัว พี่ซันเป็นมนุษย์ตื่นเช้า เขาตื่นก่อนผมที่ต้องไปโรงเรียนอีก เวลาจะปลุกผมเขาจะเริ่มด้วยการจูบและมือหนามักจะเลื่อนลงจากเอวผมมาบีบเคล้นสะโพกผม จากนั้นก็เลื่อนมาสัมผัสตรงนั้น...

วิธีการปลุกของเขาช่างเอาแต่ใจ จนผมตัวเบาโหวงแล้วเขาหัวเราะอารมณ์ดีนั่นแหละผมถึงได้ไปอาบน้ำ

นอกจากการรังแกผมตอนเช้า อีกอย่างที่เขาโปรดปรานเป็นพิเศษคือการบังคับให้ผมกินข้าว เขาเคยบอกว่าอาหารแต่ละวันอย่ากินซ้ำกัน พยายามกินให้มันหลายๆ สี แล้วก็ปรับเปลี่ยนรสชาติร่างกายจะได้สมดุล แล้วมันก็มีจานแปลกๆ ที่ผมไม่เคยกินเพียบ

“อ่ะ กินนี่ด้วย”

จานนี้ที่เขาคีบตะเกียบป้อนผมเป็นผักแปลกๆ ที่รสชาติเปรี้ยวๆ เค็มๆ มันไม่อร่อยเลยสักนิดแต่พี่ซันบอกว่าดีต่อสุขภาพ

“พี่ซันชอบบังคับ”

“ก็กินดีๆ พี่จะได้ไม่ต้องบังคับ”

“มันไม่อร่อยนี่ครับ”

“กินๆ ไปเหอะ ของแพงทั้งนั้น”

เขาชอบเล่นมุกอวดรวยใส่ผม วันนี้พี่ซันไม่ออกไปไหน แต่เขาจะยุ่งกับเรื่องการสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ในเจิ้งโจว เรื่องบริหารถูกโยนให้คนที่เขาจ้างมา ส่วนตัวเองก็มารับบทวิศวะกรคุมงานก่อสร้าง

พี่ซันเขาชอบลงมือทำเอง บ้านนี้เลยไม่มีแม่บ้านอยู่ประจำ อะไรทำเองได้ก็ทำ ส่วนเรื่องทำความสะอาดบ้านก็แค่สุดสัปดาห์ที่บริษัททำความสะอาดจะมา

เขาไม่เคยพาผมไปทำงานด้วยหรอก เขาบอกว่าเขตก่อสร้างมันอันตรายเกิดอะไรตกมาทับผมขี้เกียจขุดขึ้นมาอีก เหอะ...คนนิสัยไม่ดี ผมไม่ได้ซุ่มซ่ามสักหน่อย



หลายครั้งเขาจะบินไปคุมงานครั้งละหลายๆ วัน ยอมรับว่าผมค่อนข้างกังวล การที่เขาอยู่ไกลสายตาอาจจะมีดอกไม้ต่างถิ่นมาดึงความสนใจ แต่ผมจะไม่เลียนแบบเมียน้อยในละคร

เพราะผมไม่ใช่...ผมสำคัญมากกว่านั้น เขายังคงโทรหาผมทุกคืนครั้งละนานๆ กล่อมผมให้นอนฝันดี ต่อให้เขาไปหาคนอื่นหลังจากวางสาย พวกนั้นก็แค่ผ่านมาและจะผ่านไป

ผมไม่ตาม ไม่งอแง ไม่อ้อนให้เขากลับมาไวๆ ....แต่ผมใช้ช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ทำความรู้จักตุ๊กตาของเขา



“หยางหวางชอบอาหารจานร้อนค่ะ ถ้าเป็นโจ๊กเป๋าฮื้อเห็ดหอมจะชอบเป็นพิเศษ”

“แต่อาหารไม่เห็นจะซ้ำกันเลยนี่ครับ”

“ใช่ค่ะ แต่บางวันก็จะบ่นอยากทาน เมนูอื่นก็ต้องเลื่อนไปก่อน”

“แล้ว...ถ้าเกิดไม่ใช่คุณแม่บ้านทำให้ สมมุติคุณแม่บ้านติดธุระ ผมจะต้องไปซื้อที่ไหนหรอครับ เพราะผมคงทำเองไม่เป็นแน่ๆ หยางหวางอยากทานขึ้นมาผมจะทำยังไงดี”

“ภัตรคารประจำของหยางหวางชื่อ....ค่ะ สั่งล่วงหน้าได้หนึ่งวันเขาจะมาส่งตอนเช้า แต่ถ้าอยากรับเป็นมื้ออื่นให้คุณชิวซีจัดการให้ก็ได้ค่ะ เบอร์โทรศัพท์คุณชิวซีแทบจะเสกทุกอย่างให้หยางหวางได้หมด”

“ชิวซี? ”

“พ่อบ้านส่วนตัวหยางหวางค่ะ”

“ผมไม่เคยเจอเลย...”

“คุณชิวซีน่าจะอายุใกล้ๆ อวิ๋นค่ะ แก่กว่าไม่กี่ปียังอายุน้อยอยู่ เขาจะมาจัดการเรื่องในบ้าน เรื่องส่วนตัวบางอย่าง เขาน่าจะมาทุกวันตอนตีห้า ปกติชาของหยางหวางคุณชิวซีก็เป็นคนจัดการค่ะ หยางเขาชอบรสมือคุณชิวซี บางทีดึกๆ ก็เรียกหาให้มาชงชาให้ มื้อเช้าบางครั้งคุณชิวซีก็รับมื้อเช้าพร้อมหยางหวางค่ะ แต่หลังๆ นี้หยางหวางรับมื้อเช้ากับอวิ๋นเขาก็ไม่ได้มาแล้ว”

บัตรผ่านเข้าสู่โลกส่วนตัวของผมไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว ชิวซี...คนที่ผมไม่เคยเจอคืออีกคนที่เข้ามาเดินอยู่ในบ้านนี้แต่ผมไม่เคยเห็น

ตอนดึกๆ ที่ผ่านมา ในช่วงแรกที่ผมมาอยู่ที่นี่แล้วพี่ซันลงไปดื่มชาดึกๆ เขาอาจจะไม่ได้อยู่คนเดียวแต่เรียกหาชิวซีด้วยก็ได้

“คุณชิวซีเขาอยู่ใกล้ๆ หรอครับ ดึกๆ ถึงมาได้ เกรงใจเขาจัง”

“อยู่อีกฟากของสวนค่ะ ดูแลศาลาพระอาทิตย์...พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของหยางหวาง อวิ๋นเคยเดินข้ามสวนไปไหมคะ? หลังแนวต้นไผ่นั่นเป็นอีกฟากของตึกค่ะ คุณชิวซีพักอยู่ที่นั่น”

ผมรู้ว่าพื้นที่บนนี้ค่อนข้างกว้าง เพราะเครืออาณาจักรพระอาทิตย์มีสามตึกใหญ่สูงเท่ากัน ด้านบนของบ้านเราคล้ายมาริน่าเบย์แซนด์ที่ทั้งสามตึกใช้ดาดฟ้าร่วมกัน

แต่ผมนึกว่าอีกส่วนหนึ่งมันน่าจะเป็นลานจอดฮอล์ หรือพวกแทงก์น้ำที่เขานิยมสร้างไว้บนดาดฟ้า ไม่ได้คิดว่าอีกฟากของแนวต้นไผ่...เลยจากเก๋งที่ผมกับพี่ซันมักใช้เวลาร่วมกัน

เขาซ่อนใครอีกคนไว้

“งั้นก่อนผมมาอยู่ ข้างบนนี้ก็มีหยางหวางกับคุณชิวซีสองคนหรอครับ? ”

“ค่ะ”

หลุมดำในอกกัดกินผมจนเหวอะหวะ ตำแหน่งที่ผมยืนสั่นคลอนอย่างน่ากลัวตั้งแต่ยังไม่เจอหน้าคุณชิวซีอะไรนี่เลยด้วยซ้ำ

เขามาก่อน...และอยู่มานาน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ผมภาวนาว่าเขาอย่าได้คิดเหมือนผม อย่าได้คิดจะยึดครองสุริยะ หยาง ให้เขาเป็นแค่พ่อบ้านไม่ได้เกินเลยไปกว่านั้น

ผมมาทีหลังและมันยากมากที่จะเข้าไปแทนที่อันดับหนึ่งของพี่ซัน มันยังไม่แน่ชัดว่าระหว่างเขากับพี่ซันเป็นยังไงกันแน่ แล้วถ้าเกิดเขาเป็นคนสำคัญของพี่ซันจริง...มันก็ต้องหาวิธีการจัดการอย่างแนบเนียน

จะไม่โวยวาย ไม่ร้ายกาจ จะเป็นคนนิสัยดี คุณชิวซีน่าจะเป็นห้องสมุดชั้นดีให้ผมเรียนรู้ความเป็นสุริยะ หยาง แล้วต่อให้เขาเป็นเบอร์หนึ่ง คงช้ำใจตายไปนานแล้วที่มีผมมาเดินไปเดินมาอยู่กับหยางหวางของเขา

บางทีผมอาจจะได้เพื่อนใหม่...ตุ๊กตาตัวสำคัญเลยด้วยซ้ำ

แผนการครอบครองพระอาทิตย์ ก็ต้องเริ่มจากจัดการพวกดาวเคราะห์ที่วนเวียนอยู่รอบๆ ให้รู้ตำแหน่งตัวเองซะก่อน แล้วถ้างอแงมาก ก็โน่น ไปเป็นดาวพลูโตที่สุดท้ายก็โดนไล่ออกจากกลุ่มไป

“งั้นชวนเขามาทานข้าวกับผมได้ไหมครับ ทานคนเดียวไม่อร่อยเลย”

สงครามแรกของผมเลยนะ จะให้ไปหาเขาถึงที่ได้ไง ต้องมารบในสมรภูมิที่ผมคุ้นเคยสิ...ผมว่าผมต้องการกองทัพหนุนหลัง แล้วบนนี้ก็ไม่มีใครเลย ไม่มีอะไรที่เป็นของผมสักอย่าง...แต่ผมจะแพ้ไม่ได้

จะว่าไปก็มีอยู่อย่าง....เจ้าหูยาวปั้นชา

เอาเหอะ มันไม่ใช่คนแต่มันตัวใหญ่อยู่นะ คุณชิวซีอาจจะเห็นแล้วแปลกใจก็ได้ แบบว่ามองดูก็รู้เลยว่าสุริยะ หยางเห่อผมขนาดซื้ออะไรน่ารักขนาดนี้ให้ ข่มไว้ก่อน ได้ผลไม่ได้ผลมันก็อยู่ที่หน้างาน มันอาจจะเป็นความน่ารักชนะทุกอย่างก็ได้

“ปั้นชา ไปกินข้าวกับพี่ตองนะวันนี้ ไปเป็นกองทัพเท้าปุยกัน”

มันปัญญาอ่อนอ่ะ...แต่คนมันหลงทางก็ต้องการที่ยึดเหนี่ยวจิตใจกันทั้งนั้น ไม่งั้นเครื่องรางของขลังจะขายดีหรอ แล้วของขลังแบบเร่งด่วนของผมจะเป็นตุ๊กตาน่ารักไม่ได้หรือไง? สู้เขาปั้นชา ไม่งั้นเราได้ไปนอนที่อื่นกันทั้งคู่นะ จะเป็นกระต่ายสบายๆ รวยๆ ก็สู้หน่อย ไม่งั้นถ้าวันไหนไม่มีข้าวกินพี่ตองจะขายแกทิ้งตัวแรกเลยคอยดู



--------------------------

ชวนวิเคราะห์ตัวละครค่ะ

ถ้าอ่าน ใน ปกครอง ทุกคนก็จะรู้สึกว่าพี่ซันร้ากว่าเจิ้นเยอะเพราะว่า เจิ้นโตมาในบ้านที่มีผู้ใหญ่ มีปู่ มีพ่อแม่ อยู่ในสายตาผู้ใหญ่นั่นเอง เจิ้นก็จะเรียบร้อยกว่า แถมมูนนี่เป็นขวัญใจคนทั้งบ้านด้วย ถึงเจิ้นอยากจะแซ่บก็ยังเกรงใจผู้ใหญ่อยู่



ส่วนพี่ซัน อายุน้อยร้อยล้านหยวน (? ) ญาติพี่น้องไม่มี ใหญ่สุดในถิ่นนี้ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น บุคลิกของพี่ซันก็จะมั่นใจ เปิดเผย ไม่มีใครต้องเกรงใจ เยว่ก็เป็นแค่ญาติห่างๆ หวงบ้านหวงช่องอีกไม่มีใครอยู่ในสายตา จะกินเด็กสักคนก็ง่ายมาก อิอิ เอาแต่ใจนิสัยไม่ดีสุดๆ



กันติชา ก็เป็นเด็กมีปัญหา อายุ 15 ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เลี้ยงหลานที่จะมาแทนที่ตัวเองอยู่ห้าปีก็โดนไล่มา พอมาเจอพี่ซันให้อยู่ด้วย มาโอ๋ มาเอาใจก็ยังเด็กเนาะ ก็ติดพี่ซัน หวงพี่ซัน เพราะอยากเป็นคนสำคัญ ไม่อยากเสียไปอีกก็จะร้ายๆ หน่อย



แต่กันติชาก็ยังเด็ก การแสดงออกอาจจะเกินวัยแต่ก็จะยังมีมุมเด็กๆ ขี้กลัว ขี้กังวล ยังอ้อน ยังน้วยพี่อยู่ ยังต้องการที่พึ่ง ไม่มีใครก็เลยเอากระต่ายหูยาวมาเป็นทัพเสริม



ตองกับมูนนี่จะต่างกันตรงที่ตองต้องสู้หน่อยแต่มูนนี่ไม่ต้องสู้อะไรเลย ตองก็จะโตขึ้น เรียนรู้การใช้ชีวิต แต่มูนนี่ก็อย่างที่ทุกคนได้อ่านค่ะ 555+ สู้แบบน้องงงง สู้แบบเฮ้อ อ่อนอกอ่อนใจ เอาความน่ารักชนะทุกอย่างล้วนๆ



ปั้นชากับสินเชื่อจะเป็นตุ๊กตากระต่ายในเชิงสัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน ก็ต้อง...ตีความกันเองนะคะ อิอิ >___<



แบมว่าทุกคนน่าจะพอมองภาพออกแล้วเนาะ สปอยล์เยอะมากเลยอ่ะ >___< ใครรู้ทันต้องอุ้บอิ้บไว้ก่องน้า

ออฟไลน์ heaven13

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
อยากอ่านในมุมของพี่ซันด้วยค่ะ

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สู้ตายค่ะน้องตอง เก็บข้อมูลให้ได้เยอะๆนะ หัวหน้าแก๊งกระต่าย ขอบคุณค่ะคุณแบม

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
มองภาพไม่ออกค่ะ ได้แต่เดา
อยากรู้เรื่องราวการไปมีเมียมีลูก
ส่วนตัวละครใหม่ ขิวซี ผู้สร้างหลุมดำให้ตองสั่นคลอนแม้ยังไม่ได้เจอ จะเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุไหมนั้น น่าสนใจค่ะ
ตองกับเจ้าจันทร์ช่างวางแผนเหมือนกัน แต่ของตองดูมีที่มาที่ไป มีวิธีคิดที่ใช้ได้ แต่โดนเลี้ยงบนหอคอยเหมือนกัน
ลุงหยางนี่ ตอนนี้ยังไม่เห็นมุมอื่น นอกจากมุมหื่นค่ะ

รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ aomy20

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :-[ :ling2: :ling2: พี่ซันทำน้องตองใจแตกไม่พอยังทำให้น้องสับสน มโนเพ้อต่างๆๆนาๆๆ จนตอนนี้ต้องให้ปั้นชามาเป็นทัพหลังช่วยกันคนอื่นออกเพราะความมโนของน้อง ทำให้เกิดกองทัพเท้าปุย หึ หึ แค่คิดก็ขำแหละน้องตองจะมีแผนอะไรมาจัดการพี่ซันเนี่ย แต่ที่แน่ๆๆ ศศิมณฑลรับนิสัยจอมวางแผนมาเต็มๆเลย 55555555555555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด