Chapter 39 Sunset
สุดท้ายแล้วชีวิตของผมก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางแถมมาป่วยอีก ผมว่าชีวิตคนเรามันก็ต้องมีอุปสรรคกันบ้าง แต่ทำไมผมเหนื่อยแบบนี้ ผมอยากมีครอบครัวเป็นของตัวเองมาตลอด แต่ตอนนี้ผมกลับเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่เอาไหน
ตีสองแล้วผมก็ยังนอนไม่หลับ เมื่อก่อนผมคงนั่งกินเหล้า สูบบุหรี่แต่ผมเลิกแล้วเลยเหลือแต่ชาจีนร้อนๆ ที่พี่ซันเอามาฝากกับขนมธัญพืชของลูก
กว่าครึ่งปีแล้วที่ผมรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ผมยังคงกังวล พะวักพะวง ผมอยากหายจากสิ่งที่ตัวเองเป็นแต่มันไม่ง่ายเลย มันดีขึ้น...แต่ช้ามาก มากจนหงุดหงิด
ยังดีที่ตอนนี้จันทร์ต้องไปโรงเรียนทุกวัน ผมไม่อยากให้เขาเห็นเวลาผมอ่อนแอ เวลาที่ผมร้องไห้แต่ไม่รู้ว่าร้องเพราะอะไร หัวใจวูบโหวงและว่างเปล่า
ผมส่งโปรเจ็คสำเร็จในที่สุด มันเป็นความสำเร็จเดียวในช่วงนี้ เหลือแค่รอใบปริญญาส่งมาที่บ้าน ผมไม่คิดจะเข้าพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร เพื่อนผมจบกันไปหมดแล้ว รุ่นน้องก็ไม่ได้รู้จักกันเท่าไหร่
การจมกับตัวเองไม่ได้ช่วยอะไรผมเลยเริ่มออกไปดูร้าน ไปช่วยงานเจ้าบ้านเยว่ สิ้นเดือนบ้านเราจะตรวจบัญชีจากฝ่ายบัญชี เป็นธรรมเนียมเดิมๆ ที่สืบทอดมาตั้งแต่อดีต แม้จะมีระบบบัญชีที่ทันสมัยแล้วในยุคนี้แต่บ้านเราก็ยังพร้อมใจกันมานั่งตรวจ แต่ไม่ละเอียดเท่าไหร่หรอกเพราะช่อฟ้าเติบโตขึ้นมาก เราก็แค่สุ่มตรวจหรือดูตัวเลขที่มันสำคัญๆ ผมฝึกทำมาก่อนพอมาช่วยทำมันก็ยังจำได้
“ตอง ดูยอดนี้ให้พี่หน่อยจ้ะ”
“ครับพี่จิน”
พี่จินเริ่มบ่นๆ เหมือนกันว่าอยากเป็นแม่บ้านเต็มตัวแล้ว แต่คงอีกหลายปีรอให้เจิ้นโตอีกนิดก่อน เจิ้นกำลังจะอายุสิบห้าเหมือนที่เจ้าจันทร์ก็กำลังจะห้าขวบ
เจิ้นกับจันทร์เกิดวันเดียวกัน
แต่เราไม่เคยจัดงานวันเกิดด้วยกันหรอก ทั้งคู่อายุต่างกันเกินไป เจิ้นมีกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกัน จันทร์ก็ไม่รู้เรื่อง จะว่าไปสองคนนี้ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันเท่าไหร่เลย
“แล้วเกรดเจ้าจันทร์เป็นยังไงบ้าง”
“อีกคนเดียวก็ที่โหล่แล้วครับ”
พี่จินหัวเราะ เราต่างรู้ว่าเจ้าจันทร์ช้ากว่าคนอื่น แต่ผมไม่คิดจะกดดันลูก พี่จินก็ไม่กดดันผม
“ตองไม่ต้องคิดมากนะ เดี๋ยวอีกหน่อยเราก็รู้ว่าจันทร์ถนัดอะไร ตอนเจิ้นพี่ก็ลุ้นหลายปีเลยกว่าจะดูออก”
“ครับ โตขึ้นจันทร์เขาอยากเป็นอะไรผมก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่ถ้าเขาไม่เก่งอะไรเลยผมก็กลัวลูกอยู่ในสังคมไม่ได้”
พี่จินเลื่อนมือมาบีบมือผมเบาๆ
“ตองมีพี่อยู่ ถ้าตองกับจันทร์มีปัญหาอะไรก็กลับมาหาพี่ หรืออีกหลายๆ ปีข้างหน้าถ้าเกิดเราตายไปกันก่อน จันทร์ก็ยังมีเจิ้น เจิ้นรักตอง เขาไม่ทิ้งจันทร์ของตองหรอก เดี๋ยวพี่สั่งเจิ้นให้เตรียมมรดกเผื่อจันทร์ด้วย”
พี่จินพูดยิ้มๆ แล้วขยิบตาให้ผม ถึงจะดูพูดเล่นแต่ผมรู้ว่าพี่จินจะทำแบบนั้นจริงๆ
“ขอบคุณครับ มีพี่จินเป็นพี่สาวนี่ดีจัง”
“ปากหวาน เดี๋ยวตองไปรับลูกแล้วใช่ไหม? พี่ว่าจะทำบัวลอยเย็นนี้ ไว้ให้คนขับรถเอาบัวลอยไปให้ที่บ้านนะจ๊ะ”
“ขอบคุณครับ”
การอยู่ในบ้านกับผมสองคนอาจจะทำให้ลูกซึมซับอารมณ์แย่ๆ ของผมไป ผมเลยจะพาเจ้าจันทร์ไปทำกิจกรรมนอกบ้านในวันหยุด ไปพิพิธภัณฑ์ ไปงานอีเวนท์ของเด็ก งานอีเวนท์สัตว์เลี้ยง มันทำให้ผมไม่ฟุ้งซ่านด้วยเหมือนกัน
เจ้าจันทร์ชอบสัตว์เล็กๆ โดยเฉพาะเจ้ากระต่ายหูยาว คงเพราะคุ้นเคยกับบรรรดาตุ๊กตาของตัวเอง ผมคงต้องทำใจว่าชีวิตนี้จะต้องอยู่ร่วมกับเจ้าหูยาวศัตรูหัวใจเบอร์หนึ่งของผม ผัวก็บ้ากระต่าย ลูกก็ชอบกระต่าย ทำไมพี่ซันดูไม่ออกเลยนะว่าผมไม่ได้ชอบเจ้าพวกหูยาวนี่เลย หลังๆ ผมก็ไม่ได้ปิดบังแล้วด้วย ไม่ได้แกล้งชอบเอาใจเขาสักนิด...แต่เขาสบายใจก็ช่างเขาเถอะ
“จั๋นอยากจับ”
“จับไม่ได้นะครับ คุณกระต่ายตัวนิดเดียวเอง เขาอาจจะตกใจจันทร์นะลูก”
กระต่ายน้อยนอนหลับอยู่ในกรง กระต่ายมันเฉาง่ายการไปจับไปเล่นบ่อยๆ มันไม่ดีเลย เจ้าของกระต่ายก็ยิ้มๆ กับคำอธิบายของผม
เจ้าจันทร์ทำปากยู่แต่ก็พยักหน้าเข้าใจ เราจูงมือกันไปดูกระต่ายในกรงทีละตัว มันมีทั้งพันธุ์หูสั้น หูยาว บางตัวก็ตัวใหญ่ บางตัวก็ตัวนิดเดียว ผมก็ไม่ได้มีความรู้มากนัก แต่ก็สนุกดีเพราะมีงานแข่งวิ่งกระต่ายด้วย
จะมีลู่วิ่งให้เจ้าของเอากระต่ายมาแข่งวิ่งกัน เจ้าจันทร์ไม่รู้เชีร์ยตัวไหนแต่หัวเราะกริ๊ดกร๊าดสนุกใหญ่ ผมเลยซื้อพวงกุญแจกระต่ายในงานให้ลูกหนึ่งอัน
“จั๋นอยากได้ตัวหูยาวๆ”
“รอจันทร์โตอีกนิดก่อนนะ ต้องโตก่อนถึงเลี้ยงได้”
“จั๋นอยากโต”
“ต้องกินนมเยอะๆ”
“อื้อ! ”
หลอกลูกกินนมได้สำเร็จ เอาให้สูงกว่าพ่อเลยนะ
พี่ซันกับผมเราตัดสินใจจะพาเจ้าจันทร์ไปเที่ยวทะเลกัน ลูกไม่เคยไปเลยแล้วไหนๆ ก็ปิดเทอมพอดีกับช่วงที่พี่ซันมาหา เขามารอบนี้ก็เอาชุดจีนมาให้เจ้าจันทร์ด้วย
เป็นชุดจีนคนละแบบที่พวกเราใส่อยู่บ้านกันที่เซี่ยงไฮ้ แบบที่ไม่ใช่แค่ชุดคลุมที่ดึงทีเดียวชุดก็หล่นหายไปเลย มันเป็นชุดคอจีนเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวสำหรับเด็ก สีขาวปักลายพระจันทร์สีทอง มีหมวกเข้าชุดด้วย
“ลูกใครหล่อจัง”
“ใส่แล้วดูแพงมาก นี่ไหมทองของจักรพรรดิเท่านั้นที่ใช้ได้ ไม่รวยจริงหาซื้อไม่ได้นะ”
ใครเขาชมเด็กว่าดูแพง พี่ซันนี่น่าตี...แล้วคนรวยรุ่นจิ๋วก็ไม่ได้สนใจอะไรจะแพงไม่แพงเลย มือเล็กหิ้วกระต่ายไปนั่งเล่นขุดทรายจนชุดเลอะ พี่ซันบ่นใหญ่ว่าไม่รู้จักรักษาของ แต่ตัวเองก็ไปเล่นกับลูก เลอะเทอะทั้งลุงทั้งหลาน ตอนนี้ผมทำกะบะทรายให้ลูกเล่น มีพวกแม่พิมพ์รูปหอย รูปปราสาท เจ้าจันทร์เขาจะมีจินตนาการของเขา สร้างเมืองบ้าง ทำสวนสัตว์บ้าง
“ลุงอยู่อันนี้ กับนี่”
“ทำไมต้องอยู่ในหอยกับกะทะด้วย?”
ผมมองเจ้าจันทร์ส่งกะทะจากชุดของเช่นเชฟรุ่นจิ๋วให้พี่ซันถือ
“จั๋นอยู่นี่กับนี่”
“คนปกติเขาไม่อยู่ในหลุมนะ”
“จั๋นขายนี่ให้ลุง”
“ไม่ซื้อได้ไหม ฉันจะเอาตะหลิวไปทำอะไร อ๋อ ฉันมีกะทะ เอามาก็ได้ ขายเท่าไหร่”
“สองบาท”
“แพงมาก บาทเดียวได้ไหม?”
“ได้! ”
จันทร์ส่งตะหลิวพลาสติกอันเล็กให้พี่ซัน สักพักเจ้าตัวเล็กก็มาแย่งตะหลิวกลับ
“ขายแล้วมาแย่งคืนได้ไง”
“ลุงเก่ง ลุงแบ่ง จั๋นแบ่งลุง จั๋นเก่ง”
“ทีเมื่อกี๊มาขาย พอจะเอาคืนมาบอกให้แบ่ง ตัวแค่นี้รู้จักโกงกับเขาแล้วหรอ? หัดไว้ๆ นะไว้ไปโกงพวกเยว่ ยึดเงินมาให้หมด เอามาซื้อตะหลิวอีกสิบอัน”
“จั๋นซื้อตุลิ้ว”
“ตะหลิว ตุลิ้วไม่มี”
ผมยิ่งฟังก็ยิ่งขำ คนหนึ่งก็พูดไทยไม่ชัดแต่พยายามจะสอนเด็กพูดไม่ชัดออกเสียงให้ถูก ผมปล่อยลุงกับหลานเขาเล่นกันไป ส่วนตัวเองแยกไปจัดกระเป๋า จะพาลูกไปทะเลครั้งแรกพ่อลูกอ่อนแบบผมต้องเตรียมตัวเยอะมาก ไหนจะหมวก จะชุด จะเสื้อกันหนาว ยาแก้แพ้ นมผง ขนมอีก กระต่ายอีก หอบหิ้วไปทั้งบ้าน
เราเดินทางกันช่วงสายของวันต่อมาด้วยรถตู้คันใหญ่ ข้างในรถปรับเบาะเป็นสี่เบาะเป็นระบบไฟฟ้ายืดขาเอนหลังได้หมด แถมมีจอทีวีด้วย อาเฟยย้ายคาร์ซีทจากรถผมมาไว้ที่เบาะหนึ่งในรถตู้ ผมเตรียมพวกการ์ตูนกับสารคดีสัตว์เล็กมาเปิดด้วย เจ้าตัวเล็กตื่นเต้นตั้งแต่ขึ้นรถ
ผมนั่งข้างลูกส่วนพี่ซันนั่งเบาะตรงข้ามกับชิวซี ส่วนอาเฟยนั่งหน้ากับคนขับรถ
“ทำไมฉันต้องมานั่งกับแกด้วย”
“สลับที่กับหยางอวิ๋นสิครับ คุณก็ไปนั่งกับเสี่ยวเยว่แทน”
“มายุ่งไรเมียฉัน”
ชิวซีส่ายหัวขำๆ ผมว่าเขาชินกับการโดนจิกกัดแล้วล่ะ ส่วนพี่ซันก็ไม่มีอะไรทำพอว่างก็แขวะชาวบ้านชาวช่อง ผมว่าผมตื่นเต้นแล้วนะ ดูพี่ซันตื่นเต้นกว่าอีก ส่วนลูกตาแป๋วดูการ์ตูนสักพักก็หลับ ผมก็เริ่มง่วงเหมือนกัน
“ตอง ผ้าห่ม”
“ขอบคุณครับ”
ผมห่มผืนนึงให้ลูก อีกผืนสำหรับตัวเอง ในหูได้ยินเสียงพี่ซันทะเลาะกับชิวซีเบาๆ ไม่สิ เขาทะเลาะของเขาคนเดียว
เจ้าจันทร์ตกใจทะเลร้องไห้จ้าตอนผมอุ้มไปเดินริมหาด เสียงคลื่นกับความเวิ้งว้างคงทำให้ลูกกลัวเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน เราเลยมั่งเล่นทรายกันแถวหน้าบ้านพักแทน พรุ่งนี้ค่อยลองไปเล่นทะเลใหม่
พี่ซันจองบ้านพักหลังใหญ่ริมหาดของรีสอร์ทที่มีสามห้องนอน หนึ่งห้องด้านล่างกับห้องครัวและห้องรับแขก อีกสองห้องใหญ่อยู่ด้านบน มีสระว่ายน้ำ
คนขับรถนอนห้องด้านล่างกับอาเฟย ชิวซีกับพี่ซันนอนด้วยกัน ส่วนผมก็นอนกับลูก มาถึงลูกก็ยังง่วงผมเลยให้นอนต่อ ผมก็นอนไปกับลูกด้วย ถ้าลูกอยู่ด้วยพี่ซันจะไม่ได้สนิทสนมกับผมมากนัก เราไม่อยากทำให้ลูกเห็น เราอยากเป็นแค่ลุงกับพ่อในสายตาลูก แต่ถ้าช่วงกลางวันเวลาเจ้าจันทร์ไปโรงเรียนมันก็มีบ้าง...เขินจัง
เมื่อก่อนเราจะสนิทสนมกันตอนกลางคืน พอมีลูกก็ต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นกลางวัน แรกๆ ผมก็ไม่ชิน ฟ้ายังสว่างอยู่เลย แต่ก็นะ...ผมก็อยากเอาใจพี่ซันเหมือนกัน
เราไม่ได้ร้อนแรงเหมือนเมื่อหลายปีก่อน ผมดูออกว่าพี่ซันอึดอัด เขาชอบกัด...ชอบฟาด ลักษณะความสัมพันธ์ของเราบนเตียงค่อนข้างรุนแรง แล้วผมก็ชอบที่ร่างกายตัวเองมีร่องรอยที่พี่ซันฝากไว้
แต่ผมมีลูกแล้ว พี่ซันเคยทำรอยจูบจางไว้ที่แผ่นอกของผม เจ้าตัวเล็กก็ถามตอนเราอาบน้ำด้วยกันว่ามันคือรอยอะไร ลูกจำได้หมดว่าผมมีแผล ไม่มีแผล ผมกับพี่ซันเลยต้องกอดกันแบบนุ่มนวล
มันมีความสุข พี่ซันก็มีความสุข...แต่มันไม่ใช่เรา
ผมยังจำภาพตัวเองที่ขยันเอาอกเอาใจเขาได้ เราจูบกันริมบ่อปลา...กอดกันในศาลากลางสวน จมอยู่ในกองหมอนของห้องกระจกในวันฝนตก
เสียงผีผา...กลิ่นชาหอมกรุ่น...กับอ้อมกอดของพี่ซัน...คงต้องรอลูกโตก่อน พี่ซันอย่าเพิ่งรีบแก่จนทำไม่ไหวนะ
เจ้าจันทร์ตื่นเต้นกับว่ายน้ำในสระครั้งแรก ผมจอุ้มลูกนั่งลงในห่วงยางของเด็ก เจ้าตัวเล็กตกใจทำตาโต แต่พอเห็นผมเกาะห่วงอยู่ข้างๆ ก็เริ่มสนุก สระส่วนตัวไม่ได้ใหญ่มากนักเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงขอบอีกฝั่งแล้ว
พี่ซันนั่งจิบไวน์กับชิวซีริมสระ ส่วนอาเฟยยืนคุยกับคนขับรถอยู่หน้าบ้าน ผมไม่ค่อยเห็นพี่ซันดื่มอย่างอื่นเลยนอกจากชาจักรพรรดิของเขา สงสัยจะอารมณ์ดี
ผมส่งลูกเข้านอนเรียบร้อยก็ออกมานั่งเล่นกับพี่ซันที่ริมสระ แสงไฟสลัวกับลมเย็นๆ เป็นทริปพักผ่อนจริงๆ พี่ซันก็ดูสบายใจ เขาไม่ค่อยได้เที่ยวหรอก วันๆ ทำแต่งาน พี่ซันมาบริหารงานเองเต็มตัวได้สองสามปีแล้ว เขาไม่เป็นจักรพรรดิว่างงานอีกต่อไป
“พี่ซันอย่าหักโหมนะครับ ต้องพักผ่อนด้วย”
“มาหาอวิ๋นนี่ไง รู้สึกดีกว่านอนอยู่บ้านเฉยๆ ตั้งเยอะ”
“ไว้อะไรๆ เข้าที่อีกนิด ผมพาลูกไปหาพี่ซันที่จีนบ้าง”
“บ้านเราก็เหมือนเดิม...ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอก”
มือหนาดึงมือผมไปกุมไว้ อบอุ่นจัง...
“บางที...ผมก็คิดถึงวันเก่าๆ เหมือนกัน ตอนไปทิเบตก็ด้วย ไม่รู้ป่านนี้เอ็ดเวิร์ดเป็นไงบ้าง”
“โดนส่งไปเรียนเมืองนอก ช่วงวุ่นวายนี่แหละ แต่กลับมาแล้วนะ พี่เพิ่งเจอเมื่อสองสามเดือนก่อน ยังโง่เหมือนเดิม เพื่อนอวิ๋นคนนี้ไม่ฉลาดขึ้นเลย”
“พี่ซันก็ไปว่าเขา...อคตินะเนี่ย”
“พี่เกลียดมัน มาขโมยเมียพี่ไปถึงทิเบต”
“ได้แค่ปักกิ่งเหอะ มันไปต่อไม่ถูก ตองเลยลักพาตัวเองไปกันจนถึงทิเบต”
พี่ซันส่ายหัวแล้วเราก็มองหน้ากันขำๆ
“อยากขโมยพี่บ้างไหม? รู้สึกอยากโดนขโมย ไม่อยากไปนอนกับชิวซี ขโมยพี่ไปนอนในห้องด้วยหน่อย”
พี่ซันก้มหน้าลงมาจุ้บปากผม กลิ่นไวน์หอมๆ คลึงเคล้าไปบนกลีบปากผมเมื่อเขาเริ่มทำให้มันเปลี่ยนจากจุ้บไปเป็นจูบ เราจูบกันอยู่สักพักก็กลับมานั่งกันเหมือนเดิม ผมเอนตังพิงไหล่เขากอดแขนเขาไว้
“รอลูกโตก่อนเนอะ”
“พี่ต้องขยันออกกำลังกายเยอะๆ ละ กว่าเจ้าลูกกระต่ายจะโต เดี๋ยวถึงวันนั้นตองจะหาว่าพี่ทำไม่ไหว ต้องเข้าวัดทำสมาธิ หักห้ามใจด้วย”
“พี่ซัน...ตองทำให้พี่ซันอึดอัดหรือเปล่า...ถ้าพี่ซันอยากมีคนอื่นบ้างตองไม่ว่านะ...นี่พูดจริงๆ นะครับ”
พี่ซันหันมาหรี่ตามองผมก่อนจะบีบหูผมอย่างแรง นี่นับเป็นการลงไม้ลุงมือครั้งแรกของเขาเลย
“พี่ไม่ได้บ้ากามนะตอง”
“แค่กินตองตั้งแต่ตองอายุสิบห้า”
“ก็ตองอ่อยพี่ อ่อยตั้งแต่สองขวบแล้ว เด็กอะไรมาร้องอ้อแอ้ๆ โชว์เหงือกอยู่นั่นแหละ ไม่รู้หรอว่าเห็นเหงือกแล้วใจเต้นแรง”
ผมขำกับท่าทางฮึดฮัดของเขา คนบ้าอะไรเห็นเหงือกแล้วหวั่นไหว
“สองขวบนั่นโรคจิตแล้วนะครับ”
“ไม่รู้ละ พี่ตั้งใจของพี่ไว้แล้ว...รอมาทั้งชีวิตยังรอได้ รออีกหน่อยก็ไม่เป็นไร ตองเถอะ ออกกำลังกายไว้บ้างนะ ถึงเวลาพี่บอกเลยว่าจะจับมัดไว้กับตัว ไม่ปล่อยไปไหน ไม่ให้ใครเห็น ซ่อนไว้ในแจกันบ้านพี่นั่นแหละ”
“อยากโดนมัดเร็วๆ จัง”
“ช่วยให้ความร่วมมือในการอดทน ถือศีลของผมหน่อยครับคุณกันติชา คุณกำลังทำให้ผมตบะแตกนะครับ เขยิบออกไปด้วย อย่ามาแตะ ผมหวงตัว”
“ตองกอดนิดเดียวเอง”
“นิดเดียวก็ไม่ได้ กลับขึ้นไปหาลูกคุณเดี๋ยวนี้”
“ลูกหลับแล้วนะ ขอจูบอีกทีนะครับ”
“ตองกำลังจะลวนลามพี่อีกแล้วนะ”
“ไม่ได้หรอ? อยากลวนลามพี่ซันจัง”
“เฮ้อ...ให้จูบทีเดียวนะ ห้ามทำพี่ใจแตก”
ใจแตกอะไรกัน! ผมถูกจูบจนปากบวมเดินตัวลอยขึ้นมานอนเหอะ ผมว่าผมไม่ควรไปแหย่พี่ซันจริงๆ ต้องปล่อยเขาถือศีลกินเจไปไม่งั้นความรักอันนุ่มนวลที่เราพยายามเก็บอาการกันไว้จะได้ฟูลคอร์สก่อนเวลาอันควร
ผมกับลูกตื่นเช้ามาเดินเล่นกัน ปกติเจ้าจันทร์ต้องไปโรงเรียนก็จะตื่นเช้าอยู่แล้ว ผมก็ไม่อยากจะให้ลูกตื่นสายวันปิดเทอมเท่าไหร่ ไม่งั้นเปิดเทอมมาไม่ยอมตื่นเช้าแน่ๆ
“ลุง! ลุง! ”
เจ้าจันทร์ชี้ไปที่อาเฟยกับพี่ซัน ทั้งคู่จ็อกกิ้งกันอยู่ริมหาด พี่ซันออกกำลังกายทุกเช้าแม้แต่ตอนมาหาผมเขาก็จะไปวิ่งกับอาเฟยรอบหมู่บ้าน นานๆ ทีชิวซีก็ไปวิ่งด้วย แต่ชิวซีจะชอบเล่นโยคะหรือพวกศิลปะการต่อสู้ที่ใช้ความอ่อนตัวของร่างกายมากกว่า
“ลุงวิ่งอยู่ครับ ให้ลุงวิ่งก่อนนะ”
“จั๋นวิ่งงง”
“จันทร์ไม่วิ่งครับ เดี๋ยวล้ม เดินกับพ่อก่อน”
เจ้าจันทร์จูงมือผมเดินไปตามหาด แต่พอเริ่มเป็นทรายเปียกน้ำทะเลก็ต้องอุ้มไว้แทนเพราะเจ้าตัวเล็กเริ่มกลัว ผมเลยยืนตรงที่ทรายเปียกๆ นี่แหละให้ลูกปรับตัวกับเสียงคลื่น
แล้วเช้าวันหยุดพักผ่อนของผมก็จบลงเร็วกว่าที่คิด เมื่อผมหันไปชี้ไปลูกดูพี่ซันกับอาเฟยที่กำลังวิ่งกลับมา...ห่างออกไปประมาณสามร้อยเมตร...สุริยะ หยางล้มลงตรงหน้าผม
เสียงตะโกนของอาเฟยดังลั่นหาด เท้าของผมออกวิ่งไปที่ตรงที่พี่ซันล้มลง มือหนากุมอยู่ที่แผ่นอกซ้าย เจ้าจันทร์เริ่มร้องไห้ ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด
ชิวซีปรากฏตัวในเวลาอันรวดเร็วพร้อมยาดม ทุกคนโดนกันออกไปรวมถึงผมด้วย ชิวซีตรวจเช็คพี่ซันอยู่สักพักก็หันไปคุยเสียงเครียดกับอาเฟย แต่ผมฟังภาษาจีนของพวกเขาออก ยังไม่ต้องทำ CPR แต่ต้องรีบส่งโรงพยาบาล
ฝ่ายพยาบาลของรีสอร์ทพาพี่ซันส่งโรงพยายบาลที่ใกล้ที่สุด ผมกับลูกตามมารอหน้าห้องฉุกเฉินด้วยกัน อาเฟยยืนหน้าเครียดอยู่ข้างๆ เขาโทรติดต่อใครไม่รู้เยอะแยะไปหมด ชิวซีเองก็ด้วย
“เราจะย้ายหยางหวางไปที่กรุงเทพฯ ครับ ฮอลล์กำลังมา ผมกับอาเฟยจะไปกับหยางหวางก่อน คนรถจะพาหยางอวิ๋นกับเสี่ยวเยว่ตามไป”
“ครับ”
ชิวซีอธิบายขั้นตอนต่อไปให้ผมเข้าใจ ด้วยข้อจำกัดของฮอล์ที่รับรองคนได้ไม่หมด แล้วเจ้าจันทร์คงไม่พร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ที่เสียงดัง
ผมกับลูกเริ่มออกเดินทางในตอนที่ฮอล์มาพอดี หมอบอกว่าพี่ซันเป็นความดันโลหิตสูง แต่มีอาการเจ็บหน้าอกด้วยอาจจะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ ให้โรงพยาบาลทางกรุงเทพฯ ที่อุปกรณ์พร้อมกว่าตรวจให้ละเอียดอีกที
ที่พี่ซันติดยาดม ที่เขาบ่นว่าเหนื่อย...ไม่ใช่เพราะว่าเขารีบแก่แบบที่ผมชอบแซวเขา แต่อาจจะเพราะพี่ซันไม่สบาย พี่ซันไม่เคยป่วยต่อหน้าผม เขาไม่เคยต้องนอนโรงพยาบาล เขาดูแลสุขภาพตัวเองจะตาย ทั้งเรื่องอาหารการกิน เขาก็ออกกำลังกาย คนร่างกายแข็งแรงมาตลอดล้มลงต่อหน้าผม...
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วไปหมด ผมตั้งตัวไม่ทันเลยสักนิด...
ผมกลัว...กลัวว่าจะเสียพี่ซันไป
ผมเสียพี่ซันไปไม่ได้...อย่าเป็นอะไรนะ...อย่าทิ้งผมไป
====================
ที่ลุงมียาดม ไม่ใช่เพราะลุงแก่นะคะ T___T ทั้งตอนเหนื่อย ตอนที่อาเฟยทักให้ไปตรวจสุขภาพตอนปีนรั้ว คือแอบๆ กระซิบว่าลุงป่วยนะ แต่ป่วยหนักไม่หนักยังไง เราไปลุ้นกันตอนหน้าจ้า